Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือเตรียมสอบธรรมสนามหลวงนักธรรมตรี

คู่มือเตรียมสอบธรรมสนามหลวงนักธรรมตรี

Published by suanvang, 2021-07-18 14:27:21

Description: คู่มือเตรียมสอบธรรมสนามหลวงนักธรรมตรี

Keywords: คู่มือเตรียมสอบ,นักธรรมตรี

Search

Read the Text Version

๘. คำว่ำ มำตคุ ำม ในสงั ฆำทิเสส สิกขำบทที่ ๒ และ ๓ ต่ำงกนั อย่ำงไร ? (๒๕๖๐) ในสิกขำบทท่ี ๒ หมำยรวมทงั้ หญิงท่ีรเู้ ดียงสำและไม่รู้ เดียงสำ โดยท่ีสดุ แม้เกิดในวนั นัน้ ส่วนในสิกขำบทท่ี ๓ หมำยเฉพำะหญิงที่รเู้ ดียงสำแล้ว เท่ำนัน้ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 295

กณั ฑท์ ี่ ๖ นิสสคั คิยปำจิตตีย์ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) นิสสคั คิยปำจิตตีย์ คำว่ำ นิสสคั คิยปำจิตตีย์ แยกแปลไว้ ๒ ศพั ท์ คือ ๑) ปำจิตติยะ แปลวา่ การลว่ งละเมดิ อนั ยงั กุศลใหต้ กไป ๒) นิสสคั คยิ ะ แปลว่า ทาใหส้ ละสงิ่ ของ นิสสคั คิยปำจิตตีย์ แปลวา่ วตี กิ กมะชอ่ื วา่ ปาจติ ตยี อ์ นั ทาให้ สละสง่ิ ของเป็นชอ่ื แหง่ สกิ ขาบท เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 296

จีวรวรรคท่ี ๑ ไตรจีวร คือ จีวร ๓ ผนื ทท่ี รงอนุญาตใหภ้ กิ ษุอธษิ ฐานไวใ้ ช้ มี ๓ อยา่ ง ไดแ้ ก่ ๑) สงั ฆาฏิ (ผา้ คลมุ ) ๒) อตุ ตราสงค์ (ผา้ หม่ ) ๓) อนั ตรวาสก (ผา้ นุ่ง) อติเรกจีวร คือ จีวรที่ไมใ่ ช่จีวรอธิษฐำน จีวรที่เกินจำเป็น คือเกินจำนวนที่กำหนด ไดแ้ ก่ ผา้ มขี นาดกวา้ ง ๔ น้ิว ยาว ๘ น้ิว ขน้ึ ไปนอกจากผา้ อธษิ ฐาน เขา้ องคก์ าหนดแหง่ ผา้ ตอ้ งวกิ ปั (มอบให้ ภกิ ษุอน่ื เป็นเจา้ ของรว่ มกบั ตน) เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) จีวรวรรคที่ ๑ กำรพินทผุ ำ้ หมายถงึ การทาจุดตาหนิลงบนบรขิ าร การพนิ ทุ กระทาโดยใชด้ นิ สอหรอื ปากกา เขยี นเครอ่ื งหมายเป็นจุดเรยี งกนั เป็น สามเหลย่ี ม ∴ ลงบนบรขิ าร ถา้ เป็นผา้ กจ็ ะกระทาไวท้ ม่ี มุ ผา้ พรอ้ มบรกิ รรมคาถาวา่ อมิ พนิ ฺ ทกุ ปปฺ กโรมิ (เราทาเครอ่ื งหมายดว้ ยจดุ น้ี) หน่ึงจุดต่อหน่ึงครงั้ บางวดั อาจเปลย่ี นคากลางเป็น กปปฺ พนิ ฺทุ˚ กไ็ ด้ แลว้ ใหม้ กี ารทาวกิ ปั เกย่ี วกบั จวี รและสงั ฆาฏดิ ว้ ย ถา้ ไมก่ ระทา ถอื วา่ อาบตั ิ มโี ทษเป็นปาจติ ตยิ ์ *จวี รและองั สะ ควรพนิ ทุ เพราะใชห้ ม่ ผา้ นิสที นะ ผา้ เชด็ หน้า และยา่ มผา้ ไมต่ อ้ งพนิ ทุ เพราะไมไ่ ดใ้ ชน้ ุ่งหม่ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 297

จีวรวรรคท่ี ๑ จีวรกำล หมายถงึ คราวทเ่ี ป็นฤดถู วายจวี ร (คอื อยจู่ าพรรษา แลว้ ถา้ ไมไ่ ดก้ รานกฐนิ นบั แต่วนั ปวารณาไป ๑ เดอื น ถา้ ไดก้ ราน กฐนิ เพมิ่ ออกไปอกี ๔ เดอื นในฤดหู นาว) อกำลจีวร หมายถงึ จวี รอนั เกดิ ขน้ึ นอกเขตจวี รกาล นอกเขต อานิสงสก์ ฐนิ ปวำรณำกำหนดปัจจยั หมายถงึ ปวารณาทก่ี าหนดชนิด สงิ่ ของ เชน่ จวี ร หรอื บณิ ฑบาต เป็นตน้ หรอื กาหนดจานวนสง่ิ ของ เชน่ ผา้ กผ่ี นื บณิ ฑบาตมรี าคาเท่าไร เป็นตน้ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ปัตตวรรคท่ี ๓ สิกขำบทท่ี ๓ ภกิ ษุรบั ประเคนเภสชั ทงั้ ๕ คือ เนยใส เนย ข้น น้ำมนั น้ำผงึ้ น้ำอ้อย แลว้ เกบ็ ไวฉ้ นั ไดเ้ พยี ง ๗ วนั เป็นอยา่ ง ยง่ิ ถา้ ใหล้ ว่ ง ๗ วนั ไป ตอ้ งอาบตั นิ สิ สคั คยิ ปาจติ ตยี ์ ผำ้ จำนำพรรษำ ไดแ้ ก่ ผา้ ทท่ี ายกถวายแก่ภกิ ษุผปู้ วารณา ออกพรรษาแลว้ อจั เจกจีวร แปลว่า “จีวรรีบร้อน” คอื จวี รทท่ี ายกมเี หตุ จาเป็นจะตอ้ งรบี ถวายก่อนกาหนด ทรงอนุญาตใหร้ บั ลว่ งหน้าได้ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 298

ปัตตวรรคที่ ๓ สิกขำบทที่ ๑๐ ภิกษุรอู้ ย่แู ละน้อมลำภที่เขำจะถวำยสงฆม์ ำเพ่ือตน ต้อง อำบตั ินิสสคั คิยปำจิตตีย์ ลำภ ไดแ้ ก่ ปัจจยั ๔ คอื จวี ร บณิ ฑบาต เภสชั และของท่ี เป็นกปั ปิยะ (ของทบ่ี รโิ ภคใชส้ อย) อน่ื อำกำรน้อมลำภ คอื น้อมลาภทเ่ี ขาเตรยี มไวต้ งั้ ใจจะถวาย สงฆ์ แต่ยงั ไมท่ นั จะไดถ้ วาย ลกั ษณะแห่งอำบตั ิ ๑) น้อมมาเพอ่ื ตน เป็นอาบตั นิ ิสสคั คยิ ปาจติ ตยี ์ ๒) น้อมมาเพอ่ื บุคคลอ่นื เป็นอาบตั ปิ าจติ ตยี ์ ๓) น้อมมาเพอ่ื เจดยี แ์ ละเพอ่ื สงฆห์ มอู่ น่ื เป็นอาบตั ทิ ุกกฎ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. ภิกษุรอู้ ยู่ น้อมลำภท่ีเขำจะถวำยสงฆม์ ำเพื่อตนต้องอำบตั ิ อะไร ? ลำภนัน้ ได้แก่ อะไรบำ้ ง ? (๒๕๕๙) ลำภ ได้แก่ จีวร บิณฑบำต เสนำสนะ และเภสชั ซ่ึงเรียกว่ำ ปัจจยั ๔ และของที่เป็นกปั ปิ ยะอย่ำงอ่ืนอีก ฯ ต้องอำบตั ินิสสคั คิยปำจิตตีย์ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 299

๒. ภิกษุรอู้ ยู่ น้อมลำภท่ีเขำน้อมไปจะถวำยสงฆ์ มำเพื่อตน เพอ่ื บคุ คลอ่ืน เพื่อเจดีย์ เพ่ือสงฆห์ ม่อู ่ืน จะเป็นอำบตั ิอะไรได้บำ้ ง ? (๒๕๕๓) ๑) น้อมมำเพ่ือตน เป็นอำบตั ินิสสคั คิยปำจิตตีย์ ๒) น้อมมำเพ่ือบคุ คลอ่ืน เป็นอำบตั ิปำจิตตีย์ ๓) น้อมมำเพื่อเจดียแ์ ละเพื่อสงฆห์ ม่อู ่ืน เป็นอำบตั ิทกุ กฎ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๓. มีผนู้ ำอำหำรบิณฑบำตมำถวำยแก่สงฆ์ ภิกษุแนะนำให้ถวำย แก่ตนเองและได้มำ เช่นนี้จะต้องอำบตั ิหรอื ไม่ ? ถำ้ ต้อง จะต้อง อำบตั ิอะไร ? (๒๕๕๖) ต้องอำบตั ิ ฯ ต้องอำบตั ินิสสคั คิยปำจิตตีย์ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 300

๔. อติเรกจีวร อติเรกบำตร ได้แก่ จีวรและบำตรเช่นไร? จีวรและบำตรชนิดนี้ ภิกษุเกบ็ ไว้ได้ก่ีวนั ? (๒๕๕๕) ได้แก่ จีวรและบำตรนอกจำกจีวรและบำตรที่อธิษฐำน ฯ เกบ็ ไว้ได้เพียง ๑๐ วนั เป็นอย่ำงยิ่ง ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๕. เภสชั ๕ ได้แก่อะไรบำ้ ง ? ภิกษุรบั ประเคนแล้วเกบ็ ไว้ฉันได้ ก่ีวนั เป็นอย่ำงย่ิง ? (๒๕๕๑, ๒๕๕๔, ๒๕๕๗) ได้แก่ เนยใส เนยข้น น้ำมนั น้ำผงึ้ น้ำอ้อย ฯ เกบ็ ไว้ได้ ๗ วนั ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 301

๖. เภสชั ๕ มีอะไรบำ้ ง ? น้ำตำลทรำยจดั เขำ้ ในเภสชั ประเภทใด ? (๒๕๖๑) มี เนยใส เนยข้น น้ำมนั น้ำผงึ้ น้ำอ้อย ฯ น้ำตำลทรำยจดั เข้ำในน้ำอ้อย ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๗. ภิกษุต้องอำบตั ิ นิสสคั คิยปำจิตตีย์ หรอื อำบตั ิปำจิตตีย์ มีวิธีแสดงอำบตั ิต่ำงกนั อย่ำงไร ? (๒๕๖๐) ๑) นิสสคั คิยปำจิตตีย์ ต้องเสียสละวตั ถอุ นั เป็นเหตใุ ห้ ต้องอำบตั ินัน้ เสียก่อนจงึ แสดงอำบตั ิได้ ๒) อำบตั ิปำจิตตียน์ ัน้ ภิกษุพึงแสดงอำบตั ิได้เลย ไม่มี วตั ถใุ ดๆ ท่ีต้องสละ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 302

กณั ฑท์ ่ี ๗ ปำจิตตีย์ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ปำจิตตีย์ คำว่ำ ปำจิตตีย์ คอื ปาจติ ตยี ท์ ไ่ี มต่ อ้ งสละสงิ่ ของ เรยี กว่า สทุ ธกิ ปาจติ ตยี ์ แปลวา่ ปาจติ ตยี ล์ ว้ น เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 303

มสุ ำวำทวรรคท่ี ๑ สิกขำบทท่ี ๑ พดู ปด ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ สมั ปชำนมสุ ำวำท (พดู ปด) คอื รตู้ วั อยกู่ ล่าวเทจ็ มีลกั ษณะ ผพู้ ดู จงใจพดู ใหค้ ลาดจากความจรงิ หรอื แสดง อาการอน่ื ดว้ ยเจตนาใหผ้ ฟู้ ังเขา้ ใจเป็นอยา่ งอน่ื เชน่ เขยี นหนงั สอื เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) มสุ ำวำทวรรคที่ ๑ สิกขำบทที่ ๒ ด่ำภิกษุ ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ โอมสวำท (คำด่ำ) คอื คาพดู เสยี ดแทงใหเ้ จบ็ ใจ พรอ้ มดว้ ย จติ ปรารถนาจะใหเ้ ขาเจบ็ ใจ วตั ถสุ ำหรบั อ้ำงขึน้ ด่ำ ไดแ้ ก่ กาเนิด, ชอ่ื , โคตร, การงาน, ศลิ ปะ, โรค, รปู พรรณสณั ฐาน, กเิ ลส, อาบตั ,ิ คาสบประมาท รวม เป็น ๑๐ เรยี กวา่ อกั โกสวตั ถุ แปลว่ำ เรอ่ื งสำหรบั ด่ำ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 304

มสุ ำวำทวรรคที่ ๑ สิกขำบทที่ ๕ ภิกษุนอนในที่มงุ ท่ีบงั อนั เดียวกบั อนุปสมั บนั เกิน ๓ คืนขึน้ ไป ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ อนุปสมั บนั คอื คฤหสั ถผ์ ชู้ าย (รวมถงึ สามเณร) ทไ่ี มใ่ ชภ่ กิ ษุ มสุ ำวำทวรรคที่ ๑ สิกขำบทที่ ๖ ภิกษุนอนในที่มงุ ที่บงั อนั เดียวกบั ผหู้ ญิง ต้อง อำบตั ิปำจิตตีย์ มำตคุ ำม (หญิง) คอื หญงิ มนุษย์ แมเ้ กดิ ในวนั นนั้ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) มสุ ำวำทวรรคท่ี ๑ สิกขำบทท่ี ๘ ภิกษุบอกอตุ ตริมนุสสธรรม ที่มีจริงแก่ อนุปสมั บนั ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ อตุ ตริมนุสสธรรม คือ ธรรมอนั ยวดย่ิงของมนุษย์ คณุ วิเศษ ไดแ้ ก่ ฌาน, วโิ มกข,์ สมาธ,ิ สมาบตั ,ิ มรรคผล เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 305

๑. พดู อย่ำงไร ช่ือว่ำส่อเสียดภิกษุ ? ภิกษุพดู อย่ำงนัน้ ต้องอำบตั ิ อะไร ? (๒๕๕๙) เกบ็ ควำมขำ้ งนี้ ไปบอกข้ำงโน้น เกบ็ ควำมขำ้ งโน้น มำ บอกข้ำงนี้ ด้วยประสงคจ์ ะให้เขำรกั ตน หรือให้เขำแตกกนั ช่ือ ว่ำส่อเสียดภิกษุ ฯ ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒. ภิกษุนอนในท่ีมงุ ที่บงั เดียวกนั กบั สำมเณร จะเป็นอำบตั ิอะไร หรอื ไม่ ? (๒๕๕๓, ๒๕๖๑) นอนได้ ๓ คืน ไม่เป็นอำบตั ิ เกินกว่ำนัน้ ต้องอำบตั ิ ปำจิตตีย์ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 306

๓. ภิกษุนอนในท่ีมงุ ท่ีบงั อนั เดียวกบั อนุปสมั บนั เป็นอำบตั ิ หรอื ไมอ่ ย่ำงไร ? (๒๕๕๑) ถ้ำเป็นผชู้ ำย เกินกว่ำ ๓ คืน เป็นอำบตั ิปำจิตตีย์ ถำ้ เป็นผหู้ ญิง แม้ในคืนแรก เป็นอำบตั ิปำจิตตีย์ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๔. ในปำจิตตีย์ ภิกษุต้องอำบตั ิเพรำะพดู เรอ่ื งจริง มีหรอื ไม่ ? เพรำะเหตใุ ด ? (๒๕๖๐) มี ฯ เพรำะบอกอตุ ตริมนุสสธรรมท่ีมีจริงแก่อนุปสมั บนั ตำมสิกขำบทท่ี ๘ แห่งมสุ ำวำทวรรค และเพรำะบอกอำบตั ิ ชวั่ หยำบของภิกษุแก่อนุปสมั บนั เว้นไว้แต่ได้รบั สมมติ ตำม สิกขำบท ที่ ๙ แห่งมสุ ำวำทวรรค ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 307

ภตู คำมวรรคที่ ๒ สิกขำบทท่ี ๔ ภิกษุเอำเตียง ตงั่ ฟกู เก้ำอี้ ของสงฆไ์ ปตงั้ ใน ท่ีแจ้งแล้ว เมื่อหลีกไปจำกท่ีนัน้ ไม่เกบ็ เองกด็ ี ไม่ใช้ ให้ผอู้ ่ืนเกบ็ กด็ ี ไม่มอบหมำยแก่ผอู้ ่ืนกด็ ี ต้องอำบตั ิ ปำจิตตีย์ วิธีไม่ต้องอำบตั ิ คอื เกบ็ เอง ใชใ้ หผ้ อู้ น่ื เกบ็ หรอื มอบหมาย แกผ่ อู้ น่ื เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. ภิกษุนำเก้ำอี้ของสงฆไ์ ปใช้ท่ีกลำงแจง้ แล้ว เมอ่ื จะหลีกไป พงึ ปฏิบตั ิอย่ำงไร? ถำ้ ไม่ปฏิบตั ิเช่นนัน้ ต้องอำบตั ิอะไร? (๒๕๕๒, ๒๕๕๕, ๒๕๕๘) พึงปฏิบตั ิอย่ำงนี้ คือ เกบ็ เอง ใช้ให้ผอู้ ื่นเกบ็ หรอื มอบหมำย แก่ผอู้ ื่น ฯ ถำ้ ไม่ปฏิบตั ิเช่นนัน้ ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 308

โภชนวรรคท่ี ๔ สิกขำบทที่ ๗ ภิกษุฉันของเคี้ยวของฉันท่ีเป็ นอำหำรในเวลำ วิกำล คือ ตงั้ แต่เที่ยงแล้วไปจนถึงวนั ใหม่ ต้อง อำบตั ิปำจิตตีย์ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) โภชนวรรคท่ี ๔ สิกขำบทที่ ๑๐ ภิกษุกลืนกินอำหำรท่ียงั ไมม่ ีผใู้ ห้ คือ ยงั ไม่ได้ รบั ประเคน ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ องคแ์ ห่งกำรประเคน มี ๕ คือ ๑) ของไมใ่ หญ่โต หรอื หนกั เกนิ ไป พอคนปานกลางยกไดค้ นเดยี ว ๒) ผปู้ ระเคนเขา้ มาอยใู่ นหตั ถบาส (บ่วงมอื หรอื ทใ่ี กลต้ วั นงั่ หา่ งกนั ไมเ่ กนิ ๑ ศอกคอื เกบ็ เอง ใชใ้ หผ้ อู้ ่นื เกบ็ หรอื มอบหมายแกผ่ ูอ้ ่นื ๓) เขาน้อมเขา้ มา ๔) กริ ยิ าทน่ี ้อมเขา้ มาใหน้ นั้ ดว้ ยกายกไ็ ด้ ดว้ ยของเน่ืองดว้ ยกายกไ็ ด้ ดว้ ยการโยนใหก้ ไ็ ด้ ๕) ภกิ ษุรบั ดว้ ยกายกไ็ ด้ ดว้ ยของเน่ืองดว้ ยกายกไ็ ด้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 309

๑. ภิกษุ ก อำพำธ ได้รบั คำแนะนำให้ฉันอำหำรในเวลำวิกำล เพ่ือช่วยให้หำย ป่ วยเรว็ แล้วฉันตำมคำแนะนำนัน้ มีวินิจฉัย ตำมพระวินัยอย่ำงไร ? (๒๕๕๓) มีวินิจฉัยว่ำ ภิกษุ ก ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒. ลกั ษณะกำรประเคนประกอบด้วยองคอ์ ะไรบำ้ ง ? กำรช่วยกนั ยกโตะ๊ อำหำรขึน้ ประเคนกด็ ี กำรจบั ผำ้ ปโู ตะ๊ ประเคน กด็ ี ทงั้ ๒ วิธีนี้ถกู ต้องหรอื ไม่? เพรำะเหตไุ ร ? (๒๕๕๒) ประกอบด้วยองค์ ๕ คือ ๑) ของท่ีจะพึงประเคนนัน้ ไมใ่ หญ่โตหรอื หนักเกินไป พอ คนปำนกลำง ยกได้คนเดียว ๒) ผปู้ ระเคนเข้ำมำอย่ใู นหตั ถบำส ๓) เขำน้อมเข้ำมำ ๔) กิริยำท่ีน้อมเข้ำมำให้นัน้ ด้วยกำยกไ็ ด้ ด้วยของเนื่อง ด้วยกำยกไ็ ด้ ด้วยโยนให้กไ็ ด้ ๕) ภิกษุรบั ด้วยกำยกไ็ ด้ ด้วยของเน่ืองด้วยกำยกไ็ ด้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 310

ไมถ่ กู ทงั้ ๒ วิธี เพรำะไมต่ ้องลกั ษณะองคป์ ระเคน คือ ๑) กำรช่วยกนั ยกโตะ๊ อำหำรขึน้ ประเคนผิดลกั ษณะองคท์ ่ี ๑ ๒) กำรจบั ผำ้ ปโู ตะ๊ ประเคนผิดลกั ษณะ องคท์ ี่ ๓ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) อเจลกวรรคท่ี ๕ สิกขำบทที่ ๗ ถ้ำเขำปวำรณำ (บอกให้ขอ, หรือเปิ ดโอกำสให้ขอ) ให้รบั ปัจจยั ๔ เพียง ๔ เดือน พึงขอเขำได้เพียงกำหนด นัน้ เท่ำนัน้ ถ้ำขอให้เกินกำหนดนัน้ ไปต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ เว้นไว้แต่เขำปวำรณำอีก หรือปวำรณำเป็นนิตย์ คำว่ำ “ปัจจยั ๔” ไดแ้ ก่ เภสชั เรยี กวา่ คลิ านปัจจยั ปัจจยั ๔ หมายถงึ ปัจจยั ทวั่ ๆ ไป ไดแ้ ก่ จวี ร บณิ ฑบาต เสนาสนะ และเภสชั กำหนดกำลปวำรณำ ถา้ เขาปวารณาซ้าอกี ขอไดเ้ พยี ง คราวละ ๔ เดอื น ถา้ เขาปวารณาเป็นนิตย์ ขอไดเ้ สมอไป เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 311

๑. ภิกษุขอปัจจยั ๔ ต่อผทู้ ่ีปวำรณำไว้ มีพระพทุ ธำนุญำตให้ ปฏิบตั ิอย่ำงไร? (๒๕๕๕) ให้ปฏิบตั ิดงั นี้ ถำ้ เขำปวำรณำโดยมีกำหนดเวลำ พึงขอได้ เพียงกำหนดเวลำนัน้ แต่ถำ้ เขำปวำรณำโดยไม่ได้กำหนดเวลำ พงึ ขอได้เพียง ๔ เดือนเท่ำนัน้ เว้นไว้แต่เขำปวำรณำอีก หรือ ปวำรณำเป็นนิตย์ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) สรุ ำปำนวรรคที่ ๖ สิกขำบทที่ ๑ ภิกษุด่ืมน้ำเมำ ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ ลกั ษณะน้ำเมำ ๑) เมรยั ไดแ้ ก่ น้าอนั มรี สหวานทุกอยา่ งทเ่ี ป็นเอง เชน่ น้าตาลสด แตเ่ มอ่ื ลว่ งเวลาแลว้ รสหวานนนั้ กลายเป็นรสเมา ๒) สรุ ำ ไดแ้ ก่ เมรยั ทเ่ี ขากลนั่ สกดั เพอ่ื ใหร้ สเมาแรงขน้ึ ลกั ษณะแห่งอำบตั ิ อาบตั สิ กิ ขาบทน้ี เป็นอจิตตกะ (คอื ไมม่ เี จตนา สาคญั วา่ มใิ ช่ น้าเมาดม่ื เขา้ ไปกค็ งเป็นอาบตั )ิ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 312

สรุ ำปำนวรรคท่ี ๖ สิกขำบทที่ ๑๐ ภิกษุซ่อนบริขำร คือ บำตร จีวร ผำ้ ปนู ัง่ กล่อง เขม็ ประคดเอว ส่ิงใดส่ิงหน่ึงของภิกษุอ่ืน ด้วยคิดว่ำ จะล้อเล่น ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ ลกั ษณะแห่งอำบตั ิและอนำบตั ิ ๑) ซ่อนบาตร จวี ร กลอ่ งเขม็ ของเพอ่ื นภกิ ษุ เป็นอาบตั ิ ปาจติ ตยี ์ ๒) ซ่อนผา้ อาบน้าฝน ดา้ ย ของเพอ่ื นภกิ ษุ เป็นอาบตั ทิ กุ กฎ ๓) ซอ่ นของสามเณรทกุ อยา่ ง เป็นอาบตั ทิ กุ กฎ ๔) ไมไ่ ดล้ อ้ เลน่ เหน็ วางของไมด่ ี ชว่ ยเกบ็ ไวใ้ ห้ ไม่เป็นอาบตั ิ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. พระ ก. นำเบียรม์ ำให้พระ ข. ดื่ม โดยหลอกว่ำเป็นน้ำอดั ลม พระ ข. หลงเชื่อจึงด่ืมเข้ำไป ถำมว่ำ พระ ก. และ พระ ข. ต้อง อำบตั ิอะไรหรอื ไม่ ? (๒๕๕๒) พระ ก. เป็นอำบตั ิปำจิตตียเ์ พรำะพดู ปด พระ ข. เป็นอำบตั ิปำจิตตียเ์ พรำะด่ืมน้ำเมำ แม้ไมร่ กู้ ต็ ้องอำบตั ิ เพรำะสิกขำบทนี้เป็นอจิตตกะ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 313

๒. ภิกษุซ่อนผำ้ อำบน้ำฝน บำตร จีวร กล่องเขม็ ด้ำย ของเพือ่ น ภิกษุหรอื สำมเณรเพื่อล้อเล่น เป็นอำบตั ิอะไรบำ้ ง ? (๒๕๕๑) ซ่อนผำ้ อำบน้ำฝน ด้ำย ของเพื่อนภิกษุ เป็นอำบตั ิทกุ กฎ ซ่อนบำตร จีวร กล่องเขม็ ของเพ่ือนภิกษุ เป็นอำบตั ิปำจิตตีย์ ซ่อนของสำมเณรทุกอย่ำง เป็นอำบตั ิทุกกฎ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๓. ภิกษุซ่อนบำตร จีวร รม่ และรองเท้ำของเพ่ือนภิกษุเพื่อ ล้อเล่น ต้องอำบตั ิอะไรบำ้ ง ? (๒๕๖๑) ซ่อนบำตร จีวร ต้องอำบตั ิปำจิตตีย์ ฯ ซ่อนรม่ รองเท้ำ ต้องอำบตั ิทกุ กฏ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 314

รตนวรรคท่ี ๙ สิกขำบทที่ ๓ ภิกษุเข้ำบำ้ นโดยไมไ่ ด้บอกลำภิกษุอื่นท่ีมีอยู่ ในวดั ก่อนเข้ำไปในบำ้ นในเวลำวิกำล ต้องอำบตั ิ ปำจิตตีย์ เว้นไว้แต่กำรด่วน ลกั ษณะแห่งอำบตั ิและอนำบตั ิ ๑) ถา้ เขา้ บา้ นในเวลาทเ่ี ป็นกาล ตงั้ แตเ่ ชา้ ถงึ เวลาก่อนเทย่ี ง วนั ไมต่ อ้ งอาบตั ิ ๒) ถา้ เขา้ บา้ นในเวลาวกิ าล คอื ตงั้ แตห่ ลงั เทย่ี งวนั ไป ตอ้ ง อาบตั ปิ าจติ ตยี ์ เวน้ ไวแ้ ตม่ กี จิ ดว่ น (หรอื ผอู้ ยใู่ นนิสสยั ) เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. ภิกษุเข้ำบำ้ นโดยไมไ่ ด้บอกลำภิกษุอ่ืนผมู้ ีอย่ใู นอำวำส ต้อง อำบตั ิอะไรหรอื ไม่ ? จงอธิบำย (๒๕๕๕, ๒๕๖๒) ถำ้ เข้ำบำ้ นในเวลำที่เป็นกำล ตงั้ แต่เช้ำถงึ เวลำก่อนเท่ียง วนั ไม่ต้องอำบตั ิ ถำ้ เข้ำบำ้ นในเวลำวิกำล คือ ตงั้ แต่หลงั เที่ยงวนั ไป ต้อง อำบตั ิปำจิตตีย์ เว้นไว้แต่มีกิจด่วน (หรอื ผอู้ ย่ใู นนิสสยั ) ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 315

๒. ภิกษุเข้ำบำ้ นโดยไม่ได้บอกลำภิกษุอื่นผมู้ ีอย่ใู นอำวำส ต้อง อำบตั ิอะไรหรอื ไม่ ? จงอธิบำย (๒๕๕๕, ๒๕๖๒) ถ้ำเข้ำบำ้ นในเวลำที่เป็นกำล ตงั้ แต่เช้ำถงึ เวลำก่อนเที่ยง วนั ไมต่ ้องอำบตั ิ ถ้ำเข้ำบำ้ นในเวลำวิกำล คือ ตงั้ แต่หลงั เท่ียงวนั ไป ต้อง อำบตั ิปำจิตตีย์ เว้นไว้แต่มีกิจด่วน (หรอื ผอู้ ย่ใู นนิสสยั ) ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 316

กณั ฑท์ ี่ ๘ เสขิยวตั ร เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เสขิยวตั ร คำว่ำ เสขิยวตั ร คอื วตั รหรอื ธรรมเนียมปฏบิ ตั ทิ ภ่ี กิ ษุจะตอ้ ง ศกึ ษา จดั เป็น ๔ หมวด คอื ๑) สำรปู วา่ ดว้ ยธรรมเนยี มควรประพฤตใิ นเวลาเขา้ บา้ น ๒) โภชนปฏิสงั ยตุ วา่ ดว้ ยธรรมเนียมรบั บณิ ฑบาตและฉนั อาหาร ๓) ธมั มเทสนำปฏิสงั ยตุ วา่ ดว้ ยธรรมเนียมไมใ่ หแ้ สดงธรรม แกบ่ คุ คลผแู้ สดงอาการไมเ่ คารพ ๔) ปกิณณะ วา่ ดว้ ยธรรมเนยี มถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ และ บว้ นน้าลาย เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 317

เสขิยวตั ร โภชนปฏิสงั ยตุ ที่ ๒ สิกขำบทท่ี ๑ ภิกษุพึงทำควำมศึกษำว่ำ เรำจกั รบั บิณฑบำตโดยเคำรพ อธิบำยสิกขำบท คำว่ำ “เคำรพ” หมายถงึ สอนใหแ้ สดงความเออ้ื เฟ้ือในบุคคล ผใู้ หแ้ ละของทเ่ี ขาให้ ไมร่ บั ดว้ ยอาการดหู มน่ิ หรอื ทาดงั รบั เอามาเล่น เอามาทง้ิ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เสขิยวตั ร โภชนปฏิสงั ยตุ ที่ ๒ สิกขำบทท่ี ๔ ภิกษุพึงทำควำมศึกษำว่ำ เรำจกั รบั บิณฑบำตพอเสมอขอบปำกบำตร อธิบำยสิกขำบท คำว่ำ “ขอบ” หมายถงึ ขอบลา่ ง ตามธรรมเนยี มในบดั น้ี รบั มากสอ่ ความโลภ ใชไ้ มไ่ ด้ รบั มากสอ่ เมตตา ไมเ่ ป็นการเสยี หาย เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 318

เสขิยวตั ร โภชนปฏิสงั ยตุ ท่ี ๒ สิกขำบทที่ ๕ ภิกษุพึงทำควำมศึกษำว่ำ เรำจกั ฉันบิณฑบำตโดยเคำรพ อธิบำยสิกขำบท คำว่ำ “จกั ฉันโดยเคำรพ” หมายถงึ การฉนั โดยปกติ ไมแ่ สดง อาการดหู มน่ิ หรอื รงั เกยี จวา่ เป็นของเลว หรอื เมอ่ื ฉนั ตงั้ หน้าตงั้ ตาฉนั ไมฉ่ นั พลาง ทากจิ อ่นื ไปพลาง น้ีกจ็ ดั วา่ ฉนั โดยเคารพเช่นกนั เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เสขิยวตั ร โภชนปฏิสงั ยตุ ท่ี ๒ สิกขำบทท่ี ๖ ภิกษุพึงทำควำมศึกษำว่ำ เมื่อฉัน บิณฑบำต เรำจกั แลดแู ต่ในบำตร อธิบำยสิกขำบท คำว่ำ “จกั แลดแู ต่ในบำตร” หมายถงึ หา้ มการแลดสู งิ่ อน่ื หรอื ทากจิ อน่ื พลาง ฉนั พลาง แตจ่ ะแลดดู ว้ ยคดิ วา่ สง่ิ ใดยงั ไมพ่ อ จะไดใ้ หส้ ง่ิ นนั้ แก่ภกิ ษุผฉู้ นั อยใู่ กลไ้ มห่ า้ ม เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 319

เสขิยวตั ร โภชนปฏิสงั ยตุ ท่ี ๒ สิกขำบทท่ี ๑๒ ภิกษุพึงทำควำมศึกษำว่ำ เรำจกั ไม่มองดบู ำตรของผอู้ ่ืนด้วยคิดจะยกโทษ อธิบำยสิกขำบท คำว่ำ “จกั ไม่มองดบู ำตร” หมายถงึ หา้ มแลดบู าตรผอู้ ่นื ดว้ ย ตงั้ ใจจะคอ่ นขอดวา่ ฉนั มมู มาม (ฉนั อาหารเป้ือนเปรอะเลอะเทอะ) แต่ แลดดู ว้ ยคดิ จะใหข้ องขบฉนั ซง่ึ ยงั ไมไ่ ดร้ บั ไมห่ า้ ม เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เสขิยวตั ร โภชนปฏิสงั ยตุ ท่ี ๒ สิกขำบทที่ ๑๗ ภิกษุพึงทำควำมศึกษำว่ำ เรำจกั ไม่พดู ทงั้ ที่ยงั มีคำข้ำวอย่ใู นปำก อธิบำยสิกขำบท คำว่ำ “จกั ไมพ่ ดู ” นนั้ คอื ขณะทม่ี ขี า้ วอยใู่ นปาก หา้ มไมใ่ ห้ พดู ใหก้ ลนื หรอื คายแลว้ จงึ พดู ได้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 320

เสขิยวตั ร ปกิณกะที่ ๔ (หมวดเบด็ เตลด็ ) มี ๓ สิกขำบท สิกขำบทท่ี ๑ ภกิ ษุพงึ ทาความศกึ ษาวา่ เราไมเ่ ป็นไข้ จกั ไม่ ยนื ถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ สิกขำบทท่ี ๒ ภกิ ษุพงึ ทาความศกึ ษาวา่ เราไมเ่ ป็นไข้ จกั ไม่ ถา่ ยอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ หรอื บว้ นน้าลายลงในของเขยี ว (พชื พนั ธไุ์ ม)้ สิกขำบทท่ี ๓ ภกิ ษุพงึ ทาความศกึ ษาวา่ เราไมเ่ ป็นไข้ จกั ไม่ ถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ หรอื บว้ นน้าลายลงในน้า อธิบำยสิกขำบท เกย่ี วกบั การถา่ ยอุจจาระ ปัสสาวะ หรอื บว้ น เขฬะ (น้าลายหรอื เสลด) ดว้ ยอาการและในสถานทอ่ี นั ไมส่ มควร ปรบั อาบตั ทิ ุกกฎ ยกเวน้ ภกิ ษุอาพาธ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. วตั รท่ีภิกษุสำมเณรจะต้องศึกษำเรียกว่ำอะไร ? มีทงั้ หมดกี่ ขอ้ ? (๒๕๕๗) เรียกว่ำ เสขิยวตั รฯ มีทงั้ หมด ๗๕ ข้อฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 321

๒. เสขิยวตั ร คืออะไร ? แบง่ เป็นก่ีหมวด ? หมวดท่ี ๒ ว่ำด้วยเรอ่ื ง อะไร ? (๒๕๕๓, ๒๕๖๒) คือ วตั รหรอื ข้อปฏิบตั ิท่ีภิกษุจะต้องศึกษำ ฯ หมวดท่ี ๒ ว่ำด้วยเรือ่ ง โภชนปฏิสงั ยตุ คือ กิริยำมำรยำทที่ ควรประพฤติในกำรรบั บิณฑบำต และกำรฉันภตั ตำหำร ฯ แบง่ เป็น ๔ หมวด คือ ๑) สำรปู ว่ำด้วยกิริยำมำรยำทที่ควรประพฤติ ในเวลำเข้ำ ไปในหมบู่ ำ้ น ๒) โภชนปฏิสงั ยตุ ว่ำด้วยกิริยำมำรยำทที่ควรประพฤติใน กำรรบั บิณฑบำต และกำรฉันภตั ตำหำร ๓) ธมั มเทสนำปฏิสงั ยตุ ว่ำด้วยกิริยำมำรยำท ในกำร แสดงธรรมแก่ผอู้ ่ืน ๔) ปกิณณกะ ว่ำด้วยกิริยำมำรยำท ในกำรถ่ำยอจุ จำระ ปัสสำวะและบว้ นน้ำลำย ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๓. เสขิยวตั ร คืออะไร ? ภิกษุไม่ปฏิบตั ิตำม ต้องอำบตั ิอะไร ? (๒๕๕๖, ๒๕๕๙, ๒๕๖๑) คือ ธรรมเนียมที่ภิกษุต้องศึกษำ ฯ ต้องอำบตั ิทกุ กฎ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 322

๔. ในกำรรบั บิณฑบำต ภิกษุพึงปฏิบตั ิอย่ำงไรจงึ ถกู ต้องตำม เสขิยวตั ร ? จงตอบมำเพียง ๒ ขอ้ (๒๕๕๘, ๒๕๖๑) ๑) รบั โดยเคำรพ แลดแู ต่ในบำตร ๒) รบั แกงพอสมควรแก่ข้ำวสกุ ๓) รบั แต่พอเสมอขอบปำกบำตร ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๕. ในเสขิยวตั รมีสิกขำบทท่ีพระพทุ ธเจำ้ ทรงบญั ญตั ิให้ภิกษุ ช่วยกนั รกั ษำส่ิงแวดล้อมโดยอนุโลมไว้อย่ำงไร ? (๒๕๕๕) ทรงห้ำมไม่ให้ภิกษุผไู้ ม่เป็นไข้ ถำ่ ยอจุ จำระ ถ่ำยปัสสำวะ และบว้ นน้ำลำยลงในของเขียวและในน้ำ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 323

๖. ภิกษุนัง่ ในบำ้ นพดู เสียงดงั จะต้องอำบตั ิอะไร ? (๒๕๕๕) ต้องอำบตั ิทุกกฎ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๗. ข้อว่ำ เรำจกั รบั บิณฑบำตโดยเคำรพ นัน้ มีอธิบำยอย่ำงไร ? (๒๕๕๓) มีอธิบำยว่ำ รบั โดยแสดงควำมเอื้อเฟื้ อ ในบคุ คลผใู้ ห้ ไมด่ หู ม่ิน และให้แสดงควำมเอื้อเฟื้ อในของที่เขำให้ ไม่ทำดงั รบั เอำมำเล่นหรอื เอำมำทิ้งเสีย ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 324

๘. ภิกษุฉันพลำงทำกิจอื่นพลำง จะต้องอำบตั ิอะไรหรอื ไม่ ? (๒๕๕๔, ๒๕๖๒) พดู ทงั้ ที่ยงั มีอำหำรอย่ใู นปำก ต้องอำบตั ิทกุ กฏ พดู ไมม่ ีอำหำรอย่ใู นปำกไมต่ ้องอำบตั ิ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๙. ภิกษุฉันพลำงพดู พลำง จะต้องอำบตั ิอะไรหรอื ไม่ ? (๒๕๖๐) พดู ทงั้ ท่ียงั มีอำหำรอย่ใู นปำก ต้องอำบตั ิทุกกฎ ฯ พดู ไมม่ ีอำหำรอย่ใู นปำก ไม่ต้องอำบตั ิ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 325

กณั ฑท์ ี่ ๙ อธิกรณสมถะ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) อธิกรณ์ ๔ คำว่ำ อธิกรณ์ คอื ชอ่ื แหง่ เรอ่ื งทเ่ี กดิ ขน้ึ แลว้ จะตอ้ งจดั ตอ้ ง ทาใหล้ ลุ ว่ งไป มี ๔ ประเภท คอื ๑) วิวำทำธิกรณ์ คอื ววิ าท ไดแ้ ก่ การเถยี งกนั ปรารภพระ ธรรมวนิ ยั น้ีจะตอ้ งไดร้ บั ชข้ี าดวา่ ถกู วา่ ผดิ ๒) อนุวำทำธิกรณ์ คอื ความโจทกลา่ วหากนั ดว้ ยอาบตั ิ น้ี จะตอ้ งไดร้ บั วนิ จิ ฉยั วา่ จรงิ หรอื ไมจ่ รงิ ๓) อำปัตตำธิกรณ์ คอื กริ ยิ าทต่ี อ้ งอาบตั หิ รอื ถูกปรบั อาบตั ิ น้จี ะตอ้ งทาคนื คอื ทาใหพ้ น้ โทษ ๔) กิจจำธิกรณ์ คอื กจิ ธรุ ะทส่ี งฆจ์ ะพงึ ทา เชน่ ใหอ้ ุปสมบท น้จี ะตอ้ งทาใหส้ าเรจ็ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 326

อธิกรณสมถะ ๗ คำว่ำ อธิกรณสมถะ คอื ชอ่ื แหง่ สกิ ขาบทหรอื แหง่ ธรรม แปลวา่ “สาหรบั ระงบั อธกิ รณ์” มี ๗ ประการ คอื ๑) สมั มขุ ำวินัย คอื ความระงบั อธกิ รณ์ทงั้ ๔ นนั้ ก. ในทพ่ี รอ้ มหน้าสงฆ์ ข. ในทพ่ี รอ้ มหน้าบุคคล ค. ในทพ่ี รอ้ มหน้าวตั ถุ ง. ในทพ่ี รอ้ มหน้าธรรมวนิ ยั ๒) สติวินัย คอื ความทส่ี งฆส์ วดประกาศใหส้ มมตแิ ก่พระอรหนั ตว์ า่ เป็นผมู้ สี ตเิ ตม็ ท่ี เพอ่ื จะไมใ่ หใ้ ครโจทกด์ ว้ ยอาบตั ิ ๓) อมฬู หวินัย คอื ความทส่ี งฆส์ วด ประกาศใหส้ มมตแิ กภ่ กิ ษุ ผู้ หายเป็นบา้ แลว้ เพอ่ื จะไมใ่ หใ้ ครโจทก์ ดว้ ยอาบตั ทิ เ่ี ธอทาในเวลาเป็นบา้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๔) ปฏิญญำตกรณะ คอื ความปรบั อาบตั ติ ามปฏญิ ญาของจาเลย ผรู้ บั เป็นสตั ย์ (การแสดงอาบตั )ิ ๕) เยภยุ ยสิกำ คอื ความตดั สนิ เอาตามคาของคนมากเป็นประมาณ ๖) ตสั สปำปิ ยสิกำ คอื ความลงโทษแก่ผผู้ ดิ ๗) ติณวตั ถำรกวินัย คอื ความใหป้ ระนีประนอมกนั ทงั้ ๒ ฝ่าย ไม่ ตอ้ งชาระความเดมิ (ดงั กลบไวด้ ว้ ยหญา้ ) กำรใช้สมถะระงบั อธิกรณ์ ๑) สมั มขุ ำวินัย เป็นเครอ่ื งระงบั อธกิ รณ์ไดท้ ุกอยา่ ง ๒) สติวินัย, อมฬู หวินัย, ตสั สปำปิ ยสิกำ ทงั้ ๓ อยา่ งระงบั เฉพาะ อนุวาทาธกิ รณ์ ๓) ปฏิญญำตกรณะ, ติณวตั ถำรกวินัย ทงั้ ๒ อยา่ ง ใชร้ ะงบั เฉพาะ อาปัตตาธกิ รณ์ และอนุวาทาธกิ รณ์ ๔) เยภยุ ยสิกำ ใชเ้ ป็นเครอ่ื งระงบั เฉพาะววิ าทาธกิ รณ์ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 327

๑. อธิกรณ์ คืออะไร ? กำรตดั สินอธิกรณ์ตำมเสียงข้ำงมำก เรียกว่ำอะไร ? (๒๕๕๔) คือ เรอื่ งท่ีเกิดขึน้ แล้วจะต้องจดั ต้องทำ ฯ เรียกว่ำ เยภยุ ยสิกำ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒. อธิกรณ์ คืออะไร ? เมือ่ เกิดขึน้ แล้วต้องทำอย่ำงไร ? (๒๕๕๒) คือ เรอ่ื งท่ีเกิดขึน้ แล้วจะต้องจดั ต้องทำ ฯ ต้องระงบั ด้วยอธิกรณสมถะอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งตำม สมควรแก่อธิกรณ์นัน้ ๆ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 328

๓. อธิกรณ์ อธิกรณสมถะ คืออะไร ? (๒๕๕๗) อธิกรณ์ คือ เรอ่ื งเกิดขึน้ แล้วจะต้องจดั ต้องทำ อธิกรณสมถะ คือ ธรรมเครอ่ื งระงบั อธิกรณ์ ฯ มี ๔ ประกำร คือ ๑) วิวำทำธิกรณ์ ควำมเถียงกนั ว่ำ สิ่งนัน้ เป็นธรรมเป็น วินัย ส่ิงนี้ไมใ่ ช่ธรรมไมใ่ ช่วินัย ๒) อนุวำทำธิกรณ์ ควำมโจทกก์ นั ด้วยอำบตั ินัน้ ๆ เช่น เป็นอำบตั ิทุกกฎ ๓) อำปัตตำธิกรณ์ อำบตั ิทงั้ ปวง เช่น อำบตั ิ ทำให้พ้น โทษ ๔) กิจจำธิกรณ์ กิจท่ีสงฆจ์ ะพึงทำ เช่น กำรให้ อปุ สมบท ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๔. กำรเถียงกนั ด้วยเรอื่ งอะไรจึงจดั เป็นวิวำทำธิกรณ์ ? (๒๕๕๖, ๒๕๕๘, ๒๕๖๑) กำรเถียงกนั ว่ำ ส่ิงนัน้ เป็นธรรมเป็นวินัย ส่ิงนี้ไม่ใช่ ธรรมไมใ่ ช่วินัย ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 329

๕. วิวำทำธิกรณ์กบั อนุวำทำธิกรณ์ ต่ำงกนั อย่ำงไร ? (๒๕๕๑) ๑) วิวำทำธิกรณ์ คือ กำรเถียงว่ำ ส่ิงนัน้ เป็นธรรมเป็น วินัย สิ่งนี้ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย ๒) อนุวำทำธิกรณ์ คือ กำรโจทกก์ นั ด้วยอำบตั ิ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๖. อธิกรณสมถะ คืออะไร ? มีก่ีอย่ำง ? กำรตดั สินตำมเสียง ข้ำงมำก เรียกว่ำอะไร ? (๒๕๕๑) คือ ธรรมเครอื่ งระงบั อธิกรณ์ ฯ มี ๗ อย่ำง คือ ๑) สมั มขุ ำวินัย คือ ควำมระงบั อธิกรณ์ทงั้ ๔ นัน้ -ในที่พรอ้ มหน้ำสงฆ์ -ในท่ีพรอ้ มหน้ำบคุ คล -ในท่ีพรอ้ มหน้ำวตั ถุ -ในท่ีพรอ้ มหน้ำธรรม ๒) สติวินัย คือ ควำมท่ีสงฆส์ วดประกำศให้สมมติแก่ พระอรหนั ตว์ ่ำ เป็นผมู้ ีสติเตม็ ท่ี เพื่อจะไมใ่ ห้ใครโจทกด์ ้วย อำบตั ิ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 330

๓) อมฬู หวินัย คือ ควำมท่ีสงฆส์ วดประกำศให้สมมติ แก่ภิกษุ ผหู้ ำยเป็นบำ้ แล้วเพื่อจะไมใ่ ห้ใครโจทกด์ ้วยอำบตั ิที่ เธอทำในเวลำเป็ นบำ้ ๔) ปฏิญญำตกรณะ คือ ควำมปรบั อำบตั ิตำมปฏิญญำ ของจำเลยผรู้ บั เป็นสตั ย์ (กำรแสดงอำบตั ิ) ๕) เยภยุ ยสิกำ คือ ควำมตดั สินเอำตำมคำของคนมำก เป็ นประมำณ ๖) ตสั สปำปิ ยสิกำ คือ ควำมลงโทษแก่ผผู้ ิด ๗) ติณวตั ถำรกวินัย คือ ควำมให้ประนีประนอมกนั ทงั้ ๒ ฝ่ ำย ไม่ต้องชำระควำมเดิม (ดงั กลบไว้ด้วยหญ้ำ) ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าวนิ ยั มขุ โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 331

บนั ทึก ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________

บนั ทึก ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________

บนั ทึก ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________ ______________________________________________________________


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook