Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือเตรียมสอบธรรมสนามหลวงนักธรรมตรี

คู่มือเตรียมสอบธรรมสนามหลวงนักธรรมตรี

Published by suanvang, 2021-07-18 14:27:21

Description: คู่มือเตรียมสอบธรรมสนามหลวงนักธรรมตรี

Keywords: คู่มือเตรียมสอบ,นักธรรมตรี

Search

Read the Text Version

๑๙. มจั จวุ รรค คือ หมวดความตาย. ๑. ชรปู นีตสสฺ น สนฺติ ตาณา. เมอ่ื สตั วถ์ กู ชรานําเขา้ ไปแลว้ ไมม่ ผี ปู้ ้องกนั ส.ํ ส. ๑๕/๓ (คาํ อ่าน : ชะ-ร-ู ปะ-นี-ตดั -สะ, นะ, สนั -ต,ิ ตา-นา) คำว่ำ ชรำ คือ ควำมแก่ เป็นธรรมชำติอย่ำงหน่ึงท่ีจะต้องเกิด ขน้ึ กบั คนและสตั วท์ ุกตวั ตน เมอ่ื เกดิ ขน้ึ มำแลว้ ไมม่ ใี ครเลยทจ่ี ะไมแ่ ก่ ทุกคนลว้ นบ่ำยหน้ำส่คู วำมแก่ตงั้ แต่เกดิ คอื เม่อื เกดิ ขน้ึ มำแลว้ ย่อม แกข่ น้ึ เรอ่ื ย ๆ จำกวยั เดก็ สวู่ ยั หนุ่ม จำกวยั หนุ่มสวู่ ยั ชรำ ไมม่ ใี ครทไ่ี ม่ แก่ และควำมแก่น้ีเป็นสภำพท่ไี ม่สำมำรถหำ้ มได้ ไม่ว่ำเรำจะชะลอ อยำ่ งไรกไ็ มส่ ำมำรถหำ้ มควำมแก่เอำไวไ้ ด้ ดงั นนั้ พงึ รบี สรำ้ งคุณงำม ควำมดเี อำไวใ้ หม้ ำก ๆ ก่อนทจ่ี ะแก่จนไมส่ ำมำรถทำควำมดไี ด้ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒๐. มิตตวรรค คือ หมวดมิตร. ๑. มาตา มิตตฺ ํ สเก ฆเร. มารดาเป็นมติ รในเรอื นของตน ส.ํ ส. ๑๕/๕๐ (คาํ อา่ น : มา-ตา, มดิ -ตงั , สะ-เก, คะ-เร) คำว่ำ มติ ร คอื เพ่อื นรกั ใคร่คุน้ เคย มอี ยู่ ๒ จำพวก คอื กลั ยำณ- มติ ร ไดแ้ ก่ มติ รทด่ี ี และ ปำปมติ ร ไดแ้ ก่ มติ รชวั่ หรอื มติ รทไ่ี มด่ ี มติ ร เป็นปัจจัยภำยนอกท่ีสำคัญอย่ำงหน่ึง ในกำรท่ีจะพำบุคคลไปสู่ ควำมสำเร็จได้ มำรดำเป็ นผู้ท่ีมีควำมเมตตำในบุตร ปรำรถน ำ ควำมสุขควำมเจรญิ ให้แก่บุตรอยู่เสมอ หวงั ควำมเจรญิ ก้ำวหน้ำให้ บุตรอยำ่ งไมม่ เี งอ่ื นไข มำรดำจงึ เป็นมติ รสำหรบั บุตร เพรำะมำรดำจะ คอยช่วยเหลือบุตร คอยบำรุงรักษำบุตร เล้ียงดูทะนุถนอม คอย สนบั สนุนบุตรใหไ้ ดร้ บั กำรศกึ ษำเลำ่ เรยี นทด่ี ี ชว่ ยเหลอื บุตรอยำ่ งไมม่ ี เงอ่ื นไขอยำ่ งแทจ้ รงิ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 45

๒๑. ยาจนวรรค คือ หมวดการขอ. ๑. น ตํ ยาเจ ยสสฺ ปิ ยํ ชิคึเส. ไมค่ วรขอสงิ่ ทร่ี วู้ า่ เป็นทร่ี กั ของเขา ข.ุ ชา.ตกิ . ๒๗/๑๐๐ (คาํ อา่ น :นะ, ตงั , ยา-เจ, ยดั -สะ, ปิ-ยงั , ช-ิ คงิ -เส) คำว่ำ ขอ คอื พดู ใหเ้ ขำใหส้ งิ่ ทต่ี อ้ งกำร ธรรมดำคนทัง้ หลำยย่อม มสี ง่ิ ของท่เี ป็นท่รี กั หรอื หวงแหน ไม่อยำกให้ใครเอำไปครอบครอง หรอื ไม่อยำกเสยี สงิ่ ของสง่ิ นัน้ ไป บุคคลทงั้ หลำยไม่ควรขอสงิ่ ของท่ี เป็นทห่ี วงแหนเช่นนัน้ ของผอู้ ่นื เพรำะอำจทำใหเ้ ขำหงุดหงดิ รำคำญ ใจ หรอื ทำให้เขำโกรธก็เป็นได้ ดงั นัน้ เม่อื จะขอสงิ่ ใดจำกใคร พึง พจิ ำรณำใหด้ วี ่ำ สงิ่ ของนัน้ เป็นของมคี ่ำมำกหรอื ไม่ หรือเป็นของท่ี เขำหวงแหนมำกหรอื ไม่ ถ้ำเป็นของทม่ี คี ่ำมำกหรอื เขำหวงแหน ไม่ พงึ ขอเลย เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒๒. ราชวรรค คือ หมวดพระราชา. ๑. ราชา รฏฺฐสสฺ ปญญฺ านํ. พระราชา เป็นเครอ่ื งปรากฏของแวน่ แควน้ ส.ํ ส. ๑๕/๕๗ (คาํ อ่าน : รา-ชา, รดั -ถดั -สะ, ปัน-ยา-นงั ) คำว่ำ พระรำชำ คอื เจำ้ แห่งนคร เป็นเจำ้ แผ่นดนิ เป็นผู้ปกครอง ประเทศ เป็นท่พี ่งึ ของประชำชนในประเทศ พระรำชำจงึ ต้องเป็นผู้ ทรงศลี ทรงธรรม และมปี รชี ำสำมำรถ ประเทศใดทม่ี พี ระรำชำผทู้ รง ธรรม มคี วำมรคู้ วำมสำมำรถในกำรปกครองประเทศ มคี วำมเขม้ แข็ง ประเทศจะเป็นทร่ี จู้ กั และไดร้ บั ควำมยกย่องจำกคนในประเทศอ่นื ๆ แต่หำกพระรำชำไม่ทรงธรรมและไม่มคี วำมสำมำรถในกำรปกครอง ประเทศแล้ว คนทัง้ หลำยในประเทศนัน้ ๆ ย่อมจะได้รับควำม เดอื ดรอ้ น ยำกจนขน้ แคน้ อกี ทงั้ ไดร้ บั ควำมอบั อำยอกี ดว้ ย เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 46

๕ . ข้ อ ป ฏิ บัติ แ ล ะ ข้ อ ห้ า ม ใ น ก า ร เ ขี ย น เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ข้อปฏิบตั ิในการเขียน ๑.เขยี นอธบิ ายกระททู้ โ่ี จทยใ์ หม้ า และหากระทูม้ า เชอ่ื มอกี ๑ กระทู้ ความยาว ๒ หน้ากระดาษ ขน้ึ ไป เวน้ บรรทดั ๒.ขอ้ ความทเ่ี น้นตวั เขม้ คอื โครงสรา้ งของกระทูท้ ่ี ตอ้ งเขยี นตอ้ งท่องจาใหไ้ ด้ ๓.เขยี นผดิ สามารถใชน้ ้ายาลบคาผดิ ได้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 47

กระดาษหวั ตวั อยา่ ง ๐๐๔-๙๙ กระทู้ ตรี ๒๖ กนั ยายน ๒๕๖๓ สติ โลกสฺมิ ชาคโร. สตเิ ป็นธรรมเครอ่ื งต่นื ในโลก. บดั น้จี กั ไดบ้ รรยายขยายความตาม เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) กระดาษตอ่ ๑. ห้ามเขียนเลขอารบิค ให้ใช้เลขไทย ไดแ้ ก่ 1. ไมฆ่ า่ สตั ว์ 2. ไมล่ กั ทรพั ยย์ ไดแ้ ก่ ๑) ไมฆ่ า่ สตั ว์ ๒) ไมล่ กั ทรพั ยย์ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 48

กระดาษตอ่ ๒. ห้ามใช้ปากกาแดง อธบิ ายความวา่ สติ หมายถงึ ความ ระลกึ ได้ เช่น ระลกึ ถงึ สง่ิ ทก่ี ระทา ๓. ห้ามขีดเส้นใต้ เน้นคา หรือ “........” อธบิ ายความวา่ “สต”ิ หมายถงึ ความ ระลกึ ได้ เช่น ระลกึ ถงึ สงิ่ ทก่ี ระทา เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 49

๖ . ก ร ะ ทู้ ย อ ด นิ ย ม เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ิธรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) กระทู้รบั ยอดนิยม ท่ีมาใน ขทุ ทกนิกาย ธรรมบท อตฺตา หิ อตตฺ โน นาโถ. ตนแลเป็นทพ่ี ง่ึ ของตน. ปญุ ญฺ ํ สขุ ํ ชีวิตสงฺขยมหฺ ิ. บญุ นำสขุ มำใหใ้ นเวลำสน้ิ ชวี ติ . ธมมฺ จารี สขุ ํ เสติ. ผปู้ ระพฤตธิ รรมยอ่ มอยเู่ ป็นสขุ . ปาปานํ อกรณํ สขุ .ํ กำรไมท่ ำบำปนำควำมสขุ มำให.้ ที่มาใน องั คตุ ตรนิกาย ปัญจกนิบาต ททมาโน ปิ โย โหติ. ผใู้ หย้ อ่ มเป็นทร่ี กั . เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 50

เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ธิ รม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 51

เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ิธรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) อตตฺ า หิ อตตฺ โน นาโถ. ตนแลเป็นท่ีพง่ึ ของตน. ท่ีมาใน ขทุ ทกนิกาย ธรรมบท อธิบายความว่า ตน หมายถึง ร่างกายและจติ ใจ ท่เี รียกว่าอตั ภาพหรอื ตวั ตนของเรา เป็นทพ่ี ง่ึ ของตน หมายถงึ ใหพ้ ง่ึ ตวั เองใหม้ าก ในขอบเขตทส่ี ามารถ ทาได้ ในขณะท่ยี งั อยใู่ นวยั หรอื ในภาวะหน่ึงๆ พระสมั มาสมั พุทธเจา้ ตรสั สอนให้ คนเราพ่งึ ตนเอง ซ่ึงทาได้ ๒ อย่าง คือ ๑) ทางร่างกาย อาศัยแรงกายทางาน ประกอบสมั มาอาชพี ดารงชวี ติ เพอ่ื ใหช้ วี ติ ดารงอยไู่ ด้ ๒) ทางจติ ใจ อาศยั ร่างกายน้ี เป็นส่วนหน่ึงทจ่ี ะตอบสนองใหท้ าสง่ิ ต่างๆ เช่น ทาความดี ทาบุญกุศล ทพ่ี ง่ึ อยา่ ง อ่นื ทค่ี นเราจะยดึ เป็นทพ่ี ง่ึ ไปตลอดชวี ติ ไมว่ า่ บดิ ามารดา ครอู าจารย์ ยอ่ มจะทาได้ โดยยาก การสงั่ สมทรพั ยส์ นิ เงนิ ทองไวเ้ พอ่ื ใหเ้ ราพง่ึ ตนเองไดใ้ นโลกน้ี เพราะเม่อื สน้ิ ชวี ติ ลงทรพั ยเ์ หลา่ นนั้ ไมส่ ามารถนาตดิ ตวั ไปได้ ส่วนการสงั่ สมบุญกุศลเป็นการ ทาทพ่ี ง่ึ ใหแ้ กต่ นเองในโลกหน้า ดงั นนั้ เราจงึ ตอ้ งทาบุญดว้ ยตนเอง อยา่ ไปหวงั พง่ึ ผอู้ น่ื เพราะเมอ่ื ละจากโลกน้ีไปแลว้ ยอ่ มไดไ้ ปเกดิ ในสคุ ตโิ ลกสวรรค์ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 52

ปญุ ญฺ ํ สขุ ํ ชีวิตสงฺขยมหฺ ิ. บญุ นําสขุ มาให้ในเวลาสิ้นชีวิต. ท่ีมาใน ขทุ ทกนิกาย ธรรมบท อธิบายความว่า บุญ หมายถงึ สงิ่ เกดิ ขน้ึ ในจติ ใจ แลว้ ทาใหจ้ ติ ใจใส สะอาดบรสิ ุทธิ์ ปราศจากความเศรา้ หมองขนุ่ มวั บุญเป็นชอ่ื ของความสขุ และ ความสาเรจ็ เป็นผลจากการประกอบกรรมดี เกดิ ขน้ึ ไดด้ ้วยอาการ ๓ อย่าง คอื ๑) ทานมยั บญุ สาเรจ็ ดว้ ยการใหท้ าน ๒) ศลี มยั บุญสาเรจ็ ดว้ ยการรกั ษา ศลี ๓) ภาวนามยั บุญสาเร็จด้วยการเจรญิ สมาธิ บุคคลใดเม่อื สงั่ สมบุญอยู่ เสมอ ย่อมมีชีวติ ท่ีสูงกว่าคนธรรมดา เม่อื มีชีวติ อยู่ย่อมดารงชีวิตอยู่ด้วย ความสุขกายสบายใจ และเม่อื สน้ิ ชวี ติ ไปแล้วบุญยอ่ มนาความสขุ มาให้ คอื มี สคุ ตเิ ป็นทไ่ี ป ดงั นนั้ เราควรสงั่ สมบญุ ไวม้ าก ๆ ในขณะทย่ี งั มชี วี ติ อยู่ ละโลก ไปจะไดไ้ มไ่ ปอบาย เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ธมมฺ จารี สขุ ํ เสติ. ผปู้ ระพฤติธรรมยอ่ มอยเู่ ป็นสขุ . ที่มาใน ขทุ ทกนิกาย ธรรมบท อธิบายความว่า ผปู้ ระพฤตธิ รรม หมายถงึ บุคคลทล่ี ะเวน้ ความชวั่ สรา้ งสมอบรมแต่กรรมดี ดว้ ยการหมนั่ ทาบญุ รกั ษาศลี เจรญิ ภาวนา อนั เป็น หนทางแห่งการสร้างบารมแี ละเข้าสู่ความพ้นทุกข์ เม่อื เป็นอยู่ด้วยอาการ อยา่ งน้ี คอื ใชช้ วี ติ ดว้ ยการประพฤตธิ รรม ใชห้ ลกั ธรรมเป็นหลกั ในการดาเนิน ชวี ติ เขายอ่ มหา่ งไกลจากอบายมุขคอื ทางแหง่ ความเส่อื มทุกประเภท และหนั หน้าเขา้ สู่ความสุขความเจรญิ โดยส่วนเดยี ว ดงั นัน้ บุคคลผูท้ ่ีประพฤตติ าม ธรรมอย่เู สมอ จงึ เป็นบุคคลทห่ี ่างจากความทุกข์ มคี วามสุขเป็นผลทจ่ี ะไดร้ บั เพราะการกระทาของเขา เป็นสาเหตแุ หง่ ความสขุ โดยสว่ นเดยี ว เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 53

ปาปานํ อกรณํ สขุ .ํ การไม่ทาํ บาปนําความสขุ มาให้. ท่ีมาใน ขทุ ทกนิกาย ธรรมบท อธิบายความว่า บาป หมายถงึ ความชวั่ ทุกขนิด ทบ่ี ุคคลทาแล้วนา ความเดอื ดรอ้ นมาให้ การไมท่ าบาปทาได้ ๓ ทาง คอื ๑) กายกรรม ไดแ้ ก่ ไม่ ฆา่ สตั ว์ ไม่ลกั ทรพั ย์ ไม่ประพฤตผิ ดิ ในกาม ๒) วจกี รรม ไดแ้ ก่ ไม่พดู ปด ไม่ พดู ส่อเสยี ด ไมพ่ ดู คาหยาบ ไมพ่ ดู เพอ้ เจอ้ ๓) มโนกรรม ไดแ้ ก่ ไม่โลภอยาก ไดข้ องของผอู้ ่นื ไม่พยาบาทปองรา้ ย เหน็ ถูกตามทานองคลองธรรม คนทไ่ี ม่ ทาบาป ไดช้ ่อื ว่า เป็นผมู้ ปี ัญญา ละเวน้ บาปทงั้ ปวง เป็นผมู้ ีโอกาสไดบ้ าเพญ็ คุณความดใี หเ้ กดิ ขน้ึ เช่น การใหท้ าน รกั ษาศลี เจรญิ ภาวนา ใหเ้ กิดปัญญา พจิ ารณาสงั ขารใหเ้ หน็ เป็นไตรลกั ษณ์ทว่ี ่าสงิ่ ทงั้ ปวงไมเ่ ท่ียง เป็นทุกข์ และไม่ มตี วั ตน สงิ่ เหล่าน้ีเม่อื เกดิ ขน้ึ ในจติ ใจได้ ย่อมเป็นทางใหพ้ บความสุข เป็นต้น ทางไปสสู่ วรรคต์ ลอดจนถงึ นิพพานได้ ดงั นนั้ ผหู้ วงั ความสขุ ในชวี ติ ตอ้ งไม่ทา บาปทงั้ ทางกาย วาจา และใจ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ิธรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ททมาโน ปิ โย โหติ. ผใู้ ห้ย่อมเป็นที่รกั . ท่ีมาใน องั คตุ ตรนิกาย ปัญจกนิบาต อธิบายความว่า ผู้ให้ หมายถงึ ผู้บรจิ าคสง่ิ ของของตนให้แก่ผู้อ่นื ด้วยความบริสุทธิใ์ จ โดยไม่หวงั สิ่งตอบแทน การให้มี ๒ ประเภท คือ ให้ สงิ่ ของอยา่ งหน่งึ และใหธ้ รรมะ ใหค้ วามรู้ คาแนะนา หรอื การใหอ้ ภยั อย่างหน่ึง การให้ นาความสุขและประโยชน์มาใหท้ งั้ แก่ผู้ให้และผูร้ บั เพราะผูใ้ หไ้ ด้สละ ความตระหน่ีออกจากจติ ใจ แบ่งปันช่วยเหลอื สงั คม ผูร้ บั ไดส้ ง่ิ ของไปใชเ้ ตมิ เตม็ สงิ่ ทข่ี าด ช่วยบรรเทาความหวิ กระหาย ชว่ ยใหช้ วี ติ มคี วามสขุ ได้ และจะมี ความรกั เคารพนบั ถอื และรสู้ กึ ซาบซง้ึ ในน้าใจของผใู้ ห้ ผทู้ ร่ี จู้ กั ใหท้ านยอ่ มเป็น ผมู้ นี ้าใจ สามารถยดึ เหน่ียวน้าใจของผอู้ ่นื ไว้ได้ ทาให้เกิดมติ รภาพทด่ี ตี ่อกนั กอ่ ใหเ้ กดิ ความรรู้ กั สามคั คใี นหมคู่ ณะ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ิธรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 54

กระท้รู บั ยอดนิยม คาํ ถาม ๑.อตตฺ า หิ _______ นาโถ. ก.สขุ ํ ๒._____ สขุ ํ ชีวิตสงฺขยมหฺ ิ. ข.ปาปานํ ๓.ธมมฺ จารี _____ เสติ. ค.อตฺตโน ๔._____ อกรณํ สขุ .ํ ง.ททมาโน ๕.________ ปิ โย โหติ. จ.ปญุ ญฺ ํ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ิธรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 55

๗ . ตั ว อ ย่ า ง ก า ร เ ขี ย น อ ธิ บ า ย หั ว ข้ อ ก ร ะ ทู้ ธ ร ร ม เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 56

กระท้ตู งั้ คาแปล บดั น้จี กั ไดบ้ รรยายขยายความตามธรรมภาษติ ทไ่ี ดล้ ขิ ติ ไว้ ณ เบ้อื งต้น เพ่อื เป็นแนวทางแห่งการประพฤติปฏิบัติของ สาธุชนผใู้ คร่ในธรรมสบื ไป อธบิ ายความวา่ ๑)ใหค้ วามหมายของหวั ขอ้ เรอ่ื ง.......... ๒)มกี อ่ี ยา่ ง อะไรบา้ ง ๓)อธบิ ายประเดน็ ทเ่ี ป็นหวั ขอ้ กระทตู้ งั้ ๔)ใชค้ าเชอ่ื มกระทู้ น้สี มดว้ ยธรรมภาษติ ทม่ี าใน.................วา่ กระท้รู บั คาแปล เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) อธบิ ายความว่า ๑)ใหค้ วามหมายของหวั ขอ้ เรอ่ื ง............ ๒)มกี อ่ี ยา่ ง อะไรบา้ ง ๓)อธบิ ายกระทรู้ บั โดยใชห้ ลกั เหตุและผล สรปุ ความว่า ๑)ขน้ึ ตน้ ดว้ ยผลในกระทรู้ บั ............. ๒)ตามดว้ ยสาเหตุ จากกระทตู้ งั้ ๓)แสดงประโยชน์ของการนา ไปปฏบิ ตั ิ สมดว้ ยธรรมภาษติ ทไ่ี ดล้ ขิ ติ ไว้ ณ เบ้อื งตน้ วา่ กระท้ตู งั้ คาแปล มนี ยั ดงั ไดพ้ รรณนามาดว้ ยประการฉะน้ี ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 57

สติ โลกสมฺ ิ ชาคโร. สติเป็นธรรมเครอ่ื งตื่นในโลก. บดั น้ีจกั ไดบ้ รรยายขยายความตามธรรมภาษิตท่ไี ด้ลิขติ ไว้ ณ เบอ้ื งตน้ เพอ่ื เป็นแนวทางแห่งการประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องสาธุชนผู้ ใครใ่ นธรรมสบื ไป อธิบายความว่า สติ หมายถงึ ความระลกึ ได้ เช่น ระลกึ ถงึ สง่ิ ทก่ี ระทาและคาทพ่ี ูดแมน้ านได้ หรอื ความระลึกไดก้ ่อนจะทา จะพูด จะคดิ ระลึกถงึ สง่ิ ท่ผี ่านมาแล้วเพ่อื ให้เกดิ ความรอบคอบ ไม่ใหผ้ ดิ พลาดขน้ึ อกี เป็นคุณธรรมท่ปี ้องกนั ความฟุ้งซ่าน เพราะ กเิ ลสอาสวะทงั้ หลายท่คี อยเขา้ มาครอบงาจติ ใจ ความระลกึ ได้น้ี ควรเป็นการระลกึ ชอบทเ่ี ป็นสมั มาสติ ซง่ึ จะเป็นเครอ่ื งปลุกใหต้ น่ื เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) อย่เู สมอ ใหร้ เู้ ท่าทนั เหตุการณ์ทพ่ี บเจออยา่ งทนั เวลา ทาใหต้ ่นื จาก ความหลบั ใหล คอื กเิ ลส ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่เปิด โอกาสใหก้ เิ ลสเขา้ ครอบงาจติ ใจได้ ผู้มสี ติจงึ มคี วามรอบคอบ ทา ผิดพลาดน้อย รู้เท่าทนั เหตุการณ์รอบข้างทนั ท่วงที มีสติ จึงมี ความสุข นี้ สมด้วยธรรมภาษิ ต ท่ี มาใน สังยุตตนิ กาย สคาถวรรค ว่า สติมา สขุ เมธติ. คนมีสติ ย่อมได้รบั ความสขุ . เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 58

อธิบายความว่า ผมู้ สี ตมิ นั่ คงอย่เู สมอ ย่อมไม่ประมาท ไม่ ตกเป็นทาสของอารมณ์ทน่ี ่าปรารถนา มรี ูป เสยี ง กลนิ่ รส สมั ผสั ทเ่ี กดิ ขน้ึ เขา้ มากระทบใจ สตจิ ะช่วยใหจ้ ติ ใจไมห่ วนั่ ไหว คอื ไมย่ นิ ดี จนเหลงิ เม่อื ไดร้ บั อารมณ์ทน่ี ่าปรารถนา และไม่แสดงอาการเศรา้ โศกเสยี ใจเมอ่ื ไดร้ บั อารมณ์ทไ่ี มน่ ่าปรารถนา ผมู้ สี ตมิ นั่ คงจะทาให้ เกดิ ความสงบ ซง่ึ เป็นยอดแห่งความสุข เพราะสุขอ่นื ยงิ่ กว่าความ สงบยอ่ มไมม่ ี เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) สรปุ ความว่า สตเิ ป็นคุณธรรมทช่ี ่วยใหค้ นเราไม่ประมาท มคี วามรอบคอบ ทาอะไรผดิ พลาดน้อย คนมสี ตยิ ่อมเป็นคนต่ืนตวั ทาสง่ิ ใดย่อมสดช่นื กระปร้ีกระเปร่า เม่อื เกิดเหตุการณ์รอบข้าง สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ทนั เวลา ไม่เป็นคนหลับใหลตาม อานาจกเิ ลส จงึ เป็นคนมคี วามสุข สงบกายและใจ แมย้ ามประสบ ปัญหาหรอื อารมณ์ร้ายมากระทบก็น่ิงไม่หวนั่ ไหว สามารถแก้ไข สถานการณ์ได้ ยอ่ มไดร้ บั ความสขุ ใจในทส่ี ดุ สมด้วยธรรมภาษิต ท่ีได้ลิขิตไว้ ณ เบอื้ งต้น ว่า สติ โลกสมฺ ิ ชาคโร. สติเป็นธรรมเครอ่ื งต่ืนในโลก. มีนัยดงั ได้พรรณนามาด้วยประการฉะนี้ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 59

๘ . อ ธิ บ า ย พุ ท ธ ภ า ษิ ต ที่ เ ค ย ออกสอบ สนามหลวง เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ปี ๒๕๖๒ หมวดทาน ๑. ททํ มิตตฺ านิ คนฺถติ. ผใู้ ห้ ยอ่ มจะผกู ไมตรไี วไ้ ด.้ ส.ํ ส. ๑๕/๓๑๖. (คำอำ่ น : ทะ-ทงั , มดิ -ตำ-นิ, คนั -ถะ-ต)ิ ผใู้ ห้ คอื ผทู้ ม่ี จี ติ ใจโอบออ้ มอำรี เออ้ื เฟ้ือเผอ่ื แผ่ เสยี สละใหป้ ัน สง่ิ ของของตนเองแก่ผอู้ น่ื ดว้ ยจติ ใจทบ่ี รสิ ทุ ธิ ์ดว้ ยตอ้ งกำรบญุ กุศล หรอื ตอ้ งกำรช่วยเหลอื บคุ คลผมู้ คี วำมเออ้ื เฟ้ือเผอ่ื แผ่ดงั กล่ำว ยอ่ ม เป็นผทู้ บ่ี คุ คลอน่ื เคำรพนบั ถอื กำรใหน้ นั้ ก่อใหเ้ กดิ ควำมประทบั ใจทงั้ แก่ผใู้ หแ้ ละผรู้ บั ผใู้ หก้ ม็ คี วำมสขุ ใจทไ่ี ดใ้ ห้ ผูร้ บั กม็ คี วำมประทบั ใจใน ตวั ผใู้ ห้ เพรำะฉะนนั้ กำรใหป้ ันสง่ิ ของแก่กนั และกนั จงึ เป็นกำรสรำ้ ง มติ รภำพทด่ี ี และผใู้ หย้ อ่ มไดร้ บั มติ รภำพทด่ี ตี อบแทนกลบั มำ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 60

ปี ๒๕๖๑ หมวดชนะ ๒. สพพฺ ทานํ ธมมฺ ทานํ ชินาติ. การใหธ้ รรมะ ชนะการใหท้ งั้ ปวง. ข.ุ ธ. ๒๕/๖๓. (คำอำ่ น : สบั -พะ-ทำ-นงั , ทำ-มะ-ทำ-นงั , ช-ิ นำ-ต)ิ คำวำ่ ทำน หมำยถงึ กำรให้ หรอื กำรสละใหด้ ว้ ยควำมยนิ ดี กำร ใหม้ อี ยู่ ๒ ประเภท คอื ๑) อำมสิ ทำน กำรสละสง่ิ ของของตนเองเพอ่ื มอบใหค้ นอน่ื เกดิ จำกควำมเมตตำกรุณำในจติ ใจ ๒) ธรรมทำน กำร ใหธ้ รรมะ ใหข้ อ้ คดิ ใหค้ ำแนะนำเพอ่ื กำรดำเนนิ ชวี ติ ใหถ้ ูกตอ้ งตำม หลกั ธรรมทำงพระพทุ ธศำสนำ กำรใหส้ องอยำ่ ง คอื กำรใหส้ งิ่ ของ กบั กำรใหธ้ รรมะนนั้ พระพทุ ธเจำ้ ทรงสรรเสรญิ วำ่ กำรใหธ้ รรมะ ประเสรฐิ ทส่ี ดุ เพรำะเป็นกำรใหป้ ัญญำ เป็นกำรใหส้ งิ่ ทเ่ี ลศิ ทส่ี ดุ ใน ชวี ติ เป็นกำรใหท้ จ่ี ะทำใหค้ นพน้ จำกควำมทกุ ขไ์ ด้ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ปี ๒๕๖๐ หมวดกรรม ๓. สาธุ ปาเปน ทกุ ฺกร.ํ ความดี อนั คนชวั่ ทาํ ยาก. ข.ุ อุ. ๒๕/๑๖๗. (คำอำ่ น : สำ-ทุ, ปำ-เป-นะ, ทกุ -กะ-รงั ) ควำมชวั่ คอื สงิ่ ทท่ี ำแลว้ สรำ้ งควำมเสยี หำยเดอื ดรอ้ นใหแ้ ก่ตนเอง และคนรอบขำ้ ง สรำ้ งควำมฉิบหำยใหส้ งั คม ไมก่ ่อประโยชน์ใด ๆ ธรรมดำคนทท่ี ำควำมชวั ่ มำโดยตลอด ทำชวั ่ เป็นนสิ ยั หรอื ทำชวั่ จน ชนิ ยอ่ มไมค่ ดิ ถงึ กำรสรำ้ งคณุ งำมควำมดี เพรำะวนั ๆ คดิ แตจ่ ะทำ ควำมชวั ่ ตำมนิสยั แหง่ ตน หำกจะใหค้ นทท่ี ำควำมชวั่ มำโดยตลอดนนั้ มำสรำ้ งคณุ งำมควำมดี เขำยอ่ มมองเหน็ เป็นเรอ่ื งยำก เพรำะไมเ่ คย ทำหรอื ไมค่ นุ้ ชนิ กบั กำรทำควำมดี แต่ตรงกนั ขำ้ ม ถำ้ ใหเ้ ขำทำควำม ชวั ่ เขำจะสำมำรถทำไดโ้ ดยทนั ที และมองเหน็ เป็นเรอ่ื งงำ่ ย เพรำะทำ เป็นประจำอยแู่ ลว้ นนั่ เอง เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ิธรรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 61

ปี ๒๕๕๙ หมวดบคุ คล ๔. ผาตึ กยิรา อวิเหฐยํ ปร.ํ ควรทาํ แต่ความเจรญิ อยา่ เบยี ดเบยี นเขา. ข.ุ ชา.สตฺตก.๒๗/๒๑๒ (คำอ่ำน : ผำ-ตงิ , กะ-ย-ิ รำ, อะ-ว-ิ เห-ถะ-ยงั , ปะ-รงั ) บุคคลผหู้ วงั ควำมเจรญิ พงึ ทำแต่ควำมดี คอื สง่ิ ทเ่ี ป็นประโยชน์ ทงั้ ทเ่ี ป็นประโยชน์แก่ตนเองและแก่สว่ นรวม ผทู้ ส่ี รำ้ งประโยชน์คอื คณุ งำมควำมดใี หแ้ ก่ตนเองและสงั คมนนั้ ยอ่ มไดร้ บั กำรยกย่อง สรรเสรญิ กำรยอมรบั นบั ถอื จำกผอู้ น่ื อกี อยำ่ งหน่งึ ตอ้ งงดเวน้ จำก กำรเบยี ดเบยี นผอู้ น่ื ดว้ ย ไมว่ ่ำจะเป็นคนหรอื สตั วท์ งั้ หลำยกต็ ำม เพรำะสง่ิ มชี วี ติ ทกุ ประเภทลว้ นตอ้ งกำรอยอู่ ยำ่ งสงบสขุ ด้วยกนั ทงั้ นนั้ เมอ่ื ไมม่ กี ำรเบยี ดเบยี นกนั ไมม่ กี ำรเอำรดั เอำเปรยี บกนั กำรอยู่ ร่วมกนั ในสงั คมยอ่ มเป็นไปไดด้ ว้ ยควำมรม่ เยน็ เป็นสขุ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ปี ๒๕๕๗ หมวดความสขุ ๕. อพพฺ ยาปชชฺ ํ สขุ ํ โลเก. ความไมเ่ บยี ดเบยี น เป็นสขุ ในโลก. ข.ุ อุ.๒๕/๘๖. (คำอ่ำน : อบั -พะ-ยำ-ปัด-ชงั , ส-ุ ขงั , โล-เก) ควำมไมเ่ บยี ดเบยี น คอื ควำมปรำรถนำคดิ ใหอ้ น่ื มคี วำมสขุ เป็น จติ ทป่ี ระกอบดว้ ยเมตตำ มองสรรพสตั วท์ งั้ หลำยเป็นเพอ่ื นเกดิ แก่ เจบ็ ตำยเหมอื นกนั ผทู้ ม่ี จี ติ คดิ ดว้ ยควำมไมเ่ บยี ดเบยี นคนอน่ื จงึ พรอ้ มทจ่ี ะใหก้ ำรช่วยเหลอื ควำมคดิ มงุ่ รำ้ ยเบยี ดเบยี นคนอน่ื จะเผำ ไหมใ้ หจ้ ติ ใจรุ่มรอ้ น หำกตงั้ จติ ปรำรถนำใหผ้ อู้ น่ื สตั วอ์ น่ื มคี วำมสขุ จติ ใจของผคู้ ดิ กย็ อ่ มจะมคี วำมสขุ ไปดว้ ย คดิ ดว้ ยจติ ท่คี ดิ จะออกจำก กำม ไมม่ งุ่ รำ้ ย ไมเ่ บยี ดเบยี นใคร ดงั นนั้ แมโ้ ลกจะวุ่นวำย แต่ใจเรำก็ เป็นสขุ เพรำะควำมสขุ ทแ่ี ทเ้ รมิ่ ตน้ ทจ่ี ติ ใจของเรำเอง เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอติคณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 62

ปี ๒๕๕๓ หมวดวาจา ๖. โมกฺโข กลยฺ าณิยา สาธ.ุ เปลง่ วาจางาม ยงั ประโยชน์ใหส้ าํ เรจ็ . ข.ุ ชา.เอก. ๒๗/๒๘ (คำอำ่ น : โมก-โข, กนั -ละ-ยำ-นิ-ยำ, สำ-ทุ) คำวำ่ เปลง่ วำจำงำม หมำยถงึ กำรพดู แต่สง่ิ ทด่ี ี อนั หมำยถงึ วำจำ ทเ่ี ป็นวจสี จุ รติ ๔ ประกำร คอื พดู แต่คำทไ่ี พเรำะอ่อนหวำน พดู แต่คำ ทเ่ี ป็นควำมจรงิ พดู แต่คำทม่ี สี ำระประโยชน์ และพดู แต่คำทก่ี ่อใหเ้ กดิ ควำมสมคั รสมำนสำมคั คี คนทพ่ี ดู ดมี วี จไี พเพรำะเสนำะโสต ยอ่ มใช้ วำจำของตนเองทำประโยชน์ใหส้ ำเรจ็ ได้ ทงั้ ประโยชน์ตนเองและ ประโยชน์สว่ นรวม ดงั นนั้ เมอ่ื จะพดู สงิ่ ใดออกไป พงึ พจิ ำรณำใหด้ ี เสยี ก่อนว่ำควรหรอื ไมค่ วร แลว้ จงึ พดู ออกไป เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ ากระทูธ้ รรม โดย พระอตคิ ณุ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปริยตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 63

ธรรมวิภาคและคิหิปฏิบตั ิ นักธรรมชนั้ ตรี เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ทกุ ะ หมวด ๒ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 64

๑. ธรรมมีอปุ การะมาก * ๑. สติ ความระลึกได้ ๒. สมั ปชญั ญะ ความรตู้ วั อธิบาย ๑. สติ ความระลกึ ไดท้ งั้ ๓ กาล คอื ระลกึ ถงึ สงิ่ ทล่ี ว่ งมาแลว้ , ระลกึ ถงึ สง่ิ ปัจจุบนั , ระลกึ ถงึ สงิ่ อนั จกั เกดิ ขน้ึ ในอนาคต ๒. สมั ปชญั ญะ ความรตู้ วั คอื ความรตู้ วั ทวั่ พรอ้ มในขณะ กาลงั คดิ พดู ทา สติสมั ปชญั ญะนี้ จดั เป็น “พหปุ การธรรม” คือ ธรรมมี อปุ การะมาก เพราะทาใหเ้ ป็นผไู้ มป่ ระมาทในการทากจิ การงาน ใด ๆ และเป็นอุปการะใหธ้ รรมเหล่าอน่ื เกดิ ขน้ึ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. ธรรมมีอปุ การะมาก มีอะไรบา้ ง ? ท่ีว่ามีอปุ การะมากนัน้ เพราะเหตไุ ร ? (๒๕๕๓) มี ๒ อย่าง คือ ๑) สติ คือ ความระลึกได้ ๒) สมั ปชญั ญะ คือ ความรตู้ วั ฯ เพราะทาให้เป็นผไู้ ม่ประมาทในการทากิจการงานใด ๆ และเป็นอปุ การะให้ธรรมเหล่าอ่ืนเกิดขึน้ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 65

๒. คนที่ทาอะไรมกั พลงั้ พลาด เพราะขาดธรรมอะไร ? (๒๕๖๒) เพราะขาดธรรมมีอปุ การะมาก มี ๒ อย่าง คือ ๑) สติ คือ ความระลึกได้ ๒) สมั ปชญั ญะ คือ ความรตู้ วั ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๓. สติ แปลว่าอะไร ? เพราะเหตไุ รจึงชื่อว่าเป็นธรรมมีอปุ การะ มาก ? (๒๕๖๐) สติ แปลว่า ความระลึกได้ ฯ เพราะทาให้เป็นผไู้ ม่ประมาทในการทากิจการงานใด ๆ และเป็นอปุ การะให้ธรรมเหล่าอื่นเกิดขึน้ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 66

๒. ธรรมค้มุ ครองโลก * ๑.หิริ ความละอายต่อบาป ๒.โอตตปั ปะ ความเกรงกลวั ผลของบาป อธิบาย ๑. หริ ิ เชน่ ไมอ่ ยากขโมยเงนิ แม่ เพราะคดิ วา่ เป็นสง่ิ ไมด่ ,ี ๒. โอตตปั ปะ ไมอ่ ยากขโมยเงนิ แม่ เพราะกลวั แมจ่ บั ไดแ้ ลว้ โดนลงโทษ ธรรมค้มุ ครองโลก เรียกอีกช่ือว่า “ธรรมเป็นโลกบาล”, “เทวธรรม” เพราะเป็นคุณธรรมทท่ี าใหบ้ คุ คลรงั เกยี จและเกรง กลวั ต่อบาปทุจรติ ไมก่ ลา้ ทาความชวั่ ทงั้ ในทล่ี บั และทแ่ี จง้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๔. ธรรมค้มุ ครองโลก มีก่ีอย่าง ? อะไรบา้ ง ? (๒๕๕๕, ๒๕๖๑) มี ๒ อย่าง ฯ ได้แก่ ๑) หิริ คือ ความละอายต่อบาป ๒) โอตตปั ปะ คือ ความกลวั ต่อผลของบาป ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 67

๕. หิริและโอตตปั ปะ ได้ชื่อว่า ธรรมเป็นโลกบาล เพราะเหตไุ ร ? (๒๕๕๖) เพราะเป็นคณุ ธรรมท่ีทาให้บคุ คลรงั เกียจและเกรง กลวั ต่อบาปทุจริต ไมก่ ล้าทาความชวั่ ทงั้ ในที่ลบั และที่แจง้ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๖. การท่ีบคุ คลพบงูพิษแล้วสะด้งุ กลวั ว่าจะถกู กดั ตาย จดั เป็น โอตตปั ปะได้หรอื ไม่ ? เพราะเหตใุ ด ? (๒๕๕๑) ไมไ่ ด้ ฯ เพราะไมใ่ ช่ความเกรงกลวั ต่อบาป ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 68

๗. สงั คมทุกวนั นี้เกิดความว่นุ วาย เพราะขาดธรรมอะไร บา้ ง ? (๒๕๖๐, ๒๕๖๒) เพราะขาดธรรมเป็นโลกบาล ๒ อย่าง คือ ๑) หิริ คือ ความละอายแก่ใจในการประพฤติชวั่ ๒) โอตตปั ปะ คือ ความเกรงกลวั ต่อผลของการ ประพฤติชวั่ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๓. ธรรมอนั ทาให้งาม* ๑. ขนั ติ ความอดทน ๒. โสรจั จะ ความสงบเสงี่ยม อธิบาย ๑. ขนั ติ ไดแ้ ก่ อดทนต่อความลาบากตรากตรา อดทนตอ่ ทกุ ขเวทนา อดทนต่อความเจบ็ ใจ อดทนตอ่ กเิ ลส ๒. โสรจั จะ คอื ความสงบเสงย่ี ม ในทางโลก ดคู นงามทห่ี น้าตา สว่ นในทางพทุ ธศาสนา ดคู น งามกนั ทม่ี คี ุณธรรมอนั ทาใหง้ าม ๒ ประการน้ี เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 69

๘. ในทางโลก ดคู นงามที่หน้าตา ส่วนในทางพทุ ธศาสนา ดคู นงามท่ีไหน ? (๒๕๕๙) ในทางพระพทุ ธศาสนา ดคู นงามกนั ท่ีมีคณุ ธรรมอนั ทาให้งาม ๒ ประการ คือ ๑) ขนั ติ คือ ความอดทน ๒) โสรจั จะ คือ ความสงบเสงี่ยม ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๔.บคุ คลหาได้ยาก * ๑.บพุ พการี บคุ คลผทู้ าอปุ การะก่อน ๒.กตญั ญกู ตเวที บคุ คลผรู้ อู้ ปุ การะที่ท่านทาแล้วและ ตอบแทน อธิบาย ตวั อยา่ งคขู่ องบุคคลทเ่ี ป็นบุพการแี ละกตญั ญกู ตเวที คทู่ ่ี ๑ คอื มารดาบดิ ากบั บุตรธดิ า คทู่ ่ี ๒ คอื ครอู าจารยก์ บั ศษิ ย์ คทู่ ่ี ๓ คอื พระราชากบั ราษฎร คทู่ ่ี ๔ คอื พระพทุ ธเจา้ กบั พทุ ธบรษิ ทั เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 70

๙. ในโลกนี้ มีบคุ คลประเภทใดบา้ งที่หาได้ยาก ? (๒๕๕๙) มี ๒ ประเภท คือ ๑) บพุ พการี คือ บคุ คลผทู้ าอปุ การะก่อน ๒) กตญั ญกู ตเวที คือ บคุ คลผรู้ อู้ ปุ การะที่ท่านทาแล้ว และตอบแทน ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑๐. บพุ พการีและกตญั ญกู ตเวที ได้แก่บคุ คลเช่นไร ? (๒๕๖๒) จงยกตวั อย่างมาสกั ๒ คู่ (๒๕๕๒, ๒๕๕๔) บพุ พการี ได้แก่ บคุ คลผทู้ าอปุ การะก่อน กตญั ญกู ตเวที ได้แก่ บคุ คลผรู้ อู้ ปุ การะท่ีท่านทาแล้ว และตอบแทน ฯ ค่ทู ี่ ๑ คือ มารดาบิดากบั บตุ รธิดา ค่ทู ่ี ๒ คือ ครอู าจารยก์ บั ศิษย์ ค่ทู ่ี ๓ คือ พระราชากบั ราษฎร ค่ทู ี่ ๔ คือ พระพทุ ธเจา้ กบั พทุ ธบริษทั ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 71

ติกะ หมวด ๓ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. รตั นะ ๓ * ๑. พระพทุ ธ ๒. พระธรรม ๓. พระสงฆ์ อธิบาย ๑. พระพทุ ธ คอื พระพทุ ธเจา้ ๒. พระธรรม คอื คาสงั่ สอนของพระพทุ ธเจา้ (คาสงั่ คอื พระ วนิ ยั , คาสอนคอื พระธรรม รวมเรยี ก “พระธรรมวนิ ยั ”) ๓. พระสงฆ์ คอื ผปู้ ฏบิ ตั ติ ามคาสงั่ สอนของพระพุทธเจา้ ช่อื วา่ รตั นะ เพราะเป็นของมคี ุณคา่ และหาไดย้ าก เหมอื นเพชรนิล จนิ ดามคี า่ มาก นาประโยชน์ และความสขุ มาใหแ้ ก่ผเู้ ป็นเจา้ ของ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 72

๑. พระรตั นตรยั กบั ไตรสรณคมน์ เป็นอย่างเดียวกนั หรอื ต่างกนั อย่างไร ? การเปล่งวาจาถึงรตั นะ ๓ เป็นที่พ่ึง จดั เป็นอย่างไหนใน ๒ อย่างนัน้ ? (๒๕๕๙) ต่างกนั ฯ คือ ๑) พระรตั นตรยั ได้แก่ หมวด ๓ แห่งรตั นะ คือ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ๒) ไตรสรณคมน์ ได้แก่ การถงึ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะ ฯ การเปล่งวาจาถึงรตั นะ ๓ เป็นที่พ่ึงจดั เป็นไตรสรณคมน์ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒. รตั นะ ๓ มีอะไรบา้ ง ? รตั นะ ๓ นัน้ มีคณุ อย่างไร ? (๒๕๕๗, ๒๕๖๒) รตั นะ ๓ อย่าง ได้แก่ พระพทุ ธ พระธรรม และพระสงฆ์ ฯ มีคณุ อย่างนี้ คือ ๑. พระพทุ ธเจา้ รดู้ ีรชู้ อบด้วยพระองคเ์ องก่อนแล้วสอน ผอู้ ื่นให้รตู้ าม ๒. พระธรรมย่อมรกั ษาผปู้ ฏิบตั ิไมใ่ ห้ตกไปในท่ีชวั่ ๓. พระสงฆป์ ฏิบตั ิชอบตามคาสอนของพระพทุ ธเจ้าแล้ว สอนผอู้ ื่นให้กระทาตาม ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 73

๓. พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ ได้ช่ือว่ารตั นะ เพราะเหตไุ ร ? (๒๕๖๐) เพราะเป็นของมีคณุ ค่าและหาได้ยาก เหมือนเพชรนิล จินดามีค่ามาก นาประโยชน์ และความสขุ มาให้แก่ผเู้ ป็น เจา้ ของ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๔. ในรตั นะ ๓ พระธรรม ได้แก่อะไร ? ให้คณุ แก่ผปู้ ฏิบตั ิตาม อย่างไร ? (๒๕๕๓, ๒๕๕๘) ได้แก่ พระธรรมวินัยที่เป็นคาสงั่ สอนของพระพทุ ธเจ้า ฯ ย่อมรกั ษาผปู้ ฏิบตั ิไม่ให้ตกไปในท่ีชวั่ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 74

๒. คณุ ของรตั นะ ๓ * ๑. พระพทุ ธเจ้ารดู้ ีรชู้ อบด้วยพระองคเ์ องก่อนแล้วสอน ผอู้ ื่นให้รตู้ ามด้วย ๒. พระธรรมย่อมรกั ษาผปู้ ฏิบตั ิตาม ไมใ่ ห้ตกไปในที่ชวั่ ๓. พระสงฆป์ ฏิบตั ิชอบตามคาสงั่ สอนของพระพทุ ธเจ้า แล้ว สอนให้ผอู้ ื่นกระทาตามด้วย เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. พระพทุ ธเจา้ ทรงเป็นบพุ พการีของพทุ ธบริษทั อย่างไร ? (๒๕๖๑) พระพทุ ธเจา้ ทรงกระทาอปุ การะแก่พทุ ธบริษทั ก่อน ด้วย การทรงแนะนาสงั่ สอน ให้รดู้ ีรชู้ อบตามพระองค์ เพ่ือให้ได้ บรรลปุ ระโยชน์ทงั้ ๓ คือ ๑) ประโยชน์ในโลกนี้ ๒) ประโยชน์ในโลกหน้า ๓) ประโยชน์อย่างย่ิงคือพระนิพพาน จึงช่ือว่า เป็นบพุ พการี ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 75

๒. พระสงฆใ์ นรตั นตรยั มีคณุ อย่างไร ? (๒๕๕๑) คือ ท่านผสู้ อนให้ประชมุ ชนประพฤติชอบด้วย กาย วาจา ใจ ตามพระธรรมวินัย ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๓.อาการที่พระพทุ ธเจา้ ทรงสงั่ สอน ๓ * ๑. ทรงสงั่ สอนเพ่ือให้ผฟู้ ังรยู้ ิ่งเหน็ จริงในธรรมที่ควรรู้ ควรเหน็ ๒. ทรงสงั่ สอนมีเหตผุ ลที่ผฟู้ ังอาจตรองตามให้เหน็ จริงได้ ๓. ทรงสงั่ สอนเป็นอศั จรรย์ คือ ผปู้ ฏิบตั ิตามย่อมได้ ประโยชน์โดยสมควรแก่ความปฏิบตั ิ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 76

๑. อาการท่ีพระพทุ ธเจา้ ทรงสงั่ สอนมีกี่อย่าง ? ข้อว่า “ทรงสงั่ สอนเป็นอศั ศจรรย”์ นัน้ คืออย่างไร ? (๒๕๕๒) มี ๓ อย่าง ฯ คือ ผปู้ ฏิบตั ิตามย่อมได้ประโยชน์โดยสมควรแก่ความ ปฏิบตั ิ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒. พระพทุ ธเจ้าคือใคร ? ทรงสงั่ สอนเป็นอศั จรรยอ์ ย่างไร ? (๒๕๕๔) คือ พระพทุ ธเจ้ารดู้ ีรชู้ อบด้วยพระองคเ์ องก่อนแล้ว สอน ผอู้ ่ืนให้รตู้ าม ฯ ทรงสงั่ สอนเป็นอศั จรรย์ คือ ผปู้ ฏิบตั ิตามย่อมได้ ประโยชน์โดยสมควรแก่ความปฏิบตั ิ ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 77

๔. โอวาทของพระพทุ ธเจ้า ๓ อย่าง * ๑. เว้นจากทจุ ริต คือ ประพฤติชวั่ ด้วยกาย วาจา ใจ ๒. ประกอบสจุ ริต คือ ประพฤติดีด้วยกาย วาจา ใจ ๓. ทาใจของตนให้หมดจดจากเครอ่ื งเศร้าหมอง มีโลภ โกรธ หลง เป็นต้น อธิบาย โอวาทของพระพทุ ธเจา้ เรยี กวา่ โอวาทปาตโิ มกข์ หมายถงึ เป็นหวั ใจของพระพทุ ธศาสนา เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. พระโอวาทของพระพทุ ธเจา้ หรอื ท่ีเรียกกนั ว่า หวั ใจพระศาสนา มีกี่ขอ้ ? อะไรบา้ ง ? (๒๕๕๑, ๒๕๕๓) มี ๓ ข้อ ฯ คือ ๑) เว้นจากทจุ ริต คือ ประพฤติชวั่ ด้วยกาย วาจา ใจ ๒) ประกอบสจุ ริต คือ ประพฤติดีด้วยกาย วาจา ใจ ๓) ทาใจของตนให้หมดจดจากเครือ่ งเศร้าหมองใจ มีโลภ โกรธ หลง ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 78

๕. ทจุ ริต ๓ * ๑. กายทุจริต ประพฤติชวั่ ด้วยกาย ๒. วจีทุจริต ประพฤติชวั่ ด้วยวาจา ๓. มโนทจุ ริต ประพฤติชวั่ ด้วยใจ อธิบาย ๑. กายทุจรติ มี ๓ ไดแ้ ก่ ๑)ฆา่ สตั ว์ ๒)ลกั ทรพั ย์ ๓)ประพฤตผิ ดิ ในกาม ๒. วจที ุจรติ มี ๔ ไดแ้ ก่ ๑)พดู เทจ็ ๒)พดู สอ่ เสยี ด ๓)พดู คา หยาบ ๔)พดู เพอ้ เจอ้ ๓. มโนทุจรติ มี ๓ ไดแ้ ก่ ๑)โลภอยากไดข้ องเขา ๒)พยาบาท ปองรา้ ยเขา ๓)เหน็ ผดิ จากคลองธรรม เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. ทจุ ริต คืออะไร ? พดู ใส่รา้ ยผอู้ ่ืน จดั เข้าในทจุ ริตข้อไหน ? (๒๕๖๑) คือ ความประพฤติชวั่ ฯ จดั เข้าในวจีทุจริต ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 79

๒. ทุจริต คืออะไร ? ความเหน็ ว่าคณุ ของบิดามารดา ครบู า อาจารยไ์ มม่ ีบญุ บาปไมม่ ี จดั เป็นทจุ ริตข้อไหน ? (๒๕๕๓) คือ ประพฤติชวั่ ด้วย กาย วาจา ใจ ฯ จดั เป็นมโนทจุ ริต ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๓. เหน็ ผิดจากคลองธรรม คือเหน็ อย่างไร ? จดั เข้าในทุจริตข้อไหน ? (๒๕๕๔) คือ เหน็ ผิดจากความเป็นจริง เช่น เหน็ ว่า บญุ บาปไมม่ ี บิดามารดาไม่มีพระคณุ เป็นต้น ฯ จดั เข้าในมโนทุจริต ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 80

๖. อกศุ ลมลู ๓ * ๑. โลภะ อยากได้ของเขา ๒. โทสะ คิดประทษุ รา้ ยเขา ๓. โมหะ หลงไม่รจู้ ริง อธิบาย อกศุ ลมลู เป็นรากเหงา้ ของอกศุ ล ควรละเพราะเมอ่ื อกุศลมลู เหลา่ น้ีมอี ยู่ อกุศลอ่นื ทย่ี งั ไมเ่ กดิ กเ็ กดิ ขน้ึ ทเ่ี กดิ แลว้ กเ็ จรญิ มากขน้ึ ควรละเสยี ดว้ ยทาน ศลี ภาวนา เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. รากเหง้าของอกศุ ลเรียกว่าอะไร ? มีอะไรบา้ ง ? เพราะเหตใุ ดจึงควรละเสีย ? (๒๕๕๔) เรียกว่า อกศุ ลมลู มี โลภะ โทสะ โมหะ เพราะเมือ่ อกศุ ลมลู เหล่านี้มีอยู่ อกศุ ลอื่นท่ียงั ไม่เกิดก็ เกิด ขึน้ ที่เกิดแล้วกเ็ จริญมากขึน้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 81

๒. มลู เหตทุ ่ีทาให้บคุ คลทาความชวั่ เรียกว่าอะไร ? มีอะไรบา้ ง ? เมอ่ื เกิดขึน้ แล้วควรปฏิบตั ิอย่างไร ? (๒๕๕๒) เรียกว่า อกศุ ลมลู มี ๑) โลภะ อยากได้ ๒) โทสะ คิดประทษุ รา้ ยเขา ๓) โมหะ หลงไม่รจู้ ริง เมอ่ื เกิดขึน้ แล้วควรละเสีย ด้วยทาน ศีล ภาวนา เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๗. อปัณณกปฏิปทา ๓ * ๑. อินทรียสงั วร สารวมอินทรีย์ ๖ ๒. โภชเน มตั ตญั ญตุ า รจู้ กั ประมาณในการกินอาหารแต่ พอสมควรไม่มากไมน่ ้อย ๓. ชาคริยานุโยค ประกอบความเพียรเพื่อจะชาระใจให้ หมดจด ไมเ่ หน็ แก่นอนมากนัก อธิบาย การสารวมอนิ ทรยี ์ ๖ คอื ตา หู จมกู ลน้ิ กาย ใจ ไมใ่ หย้ นิ ดี ยนิ รา้ ย เมอ่ื เหน็ รปู ไดย้ นิ เสยี ง ดมกลน่ิ ลม้ิ รส กายสมั ผสั รู้ ธรรมารมณ์ ประโยชน์ทไ่ี ด้ คอื ไมเ่ กดิ ความยนิ ดี ไมเ่ กดิ ความยนิ รา้ ยในเวลาเหน็ รปู ไดย้ นิ เสยี ง เป็นตน้ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 82

๑. การสารวมอินทรีย์ ได้แก่ การกระทาอย่างไร? เมื่อกระทาเช่นนัน้ แล้วจะได้รบั ประโยชน์อะไร ? (๒๕๕๕) การสารวมอินทรีย์ ๖ คือ ตา หู จมกู ลิ้น กาย ใจ ไม่ให้ ยินดี ยินรา้ ย เมอื่ เหน็ รปู ได้ยินเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส กายสมั ผสั รธู้ รรมารมณ์ ได้ประโยชน์ คือ ไม่เกิดความยินดี ไมเ่ กิดความยินรา้ ย ในเวลาเหน็ รปู ได้ยินเสียง เป็นต้น เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๘. บญุ กิริยาวตั ถุ ๓ * ๑. ทานมยั บญุ สาเรจ็ ด้วยการบริจาคทาน ๒. สีลมยั บญุ สาเรจ็ ด้วยการรกั ษาศีล ๓. ภาวนามยั บญุ สาเรจ็ ด้วยการเจริญภาวนา อธิบาย บญุ กริ ยิ าวตั ถุ คอื สง่ิ เป็นทต่ี งั้ แหง่ การบาเพญ็ บุญ เป็น หลกั การทาบุญเป็นทต่ี งั้ แหง่ อานสิ งส์ เป็นทางมาแหง่ บุญ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 83

๑. สิ่งเป็นที่ตงั้ แห่งการบาเพญ็ บญุ เรียกว่าอะไร ? โดยย่อมีอะไรบา้ ง ? (๒๕๖๒) เรียกว่า บญุ กิริยาวตั ถุ โดยย่อมี ๓ คือ ๑) ทานมยั บญุ สาเรจ็ ด้วยการบริจาคทาน ๒) สีลมยั บญุ สาเรจ็ ด้วยการรกั ษาศีล ๓) ภาวนามยั บญุ สาเรจ็ ด้วยการเจริญภาวนา เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒. บญุ กิริยาวตั ถุ คืออะไร ? โดยย่อมีเท่าไร ? อะไรบา้ ง ? (๒๕๕๘) คือ สิ่งเป็นที่ตงั้ แห่งการบาเพญ็ บญุ มี ๓ อย่าง ได้แก่ ๑) ทานมยั คือ บญุ สาเรจ็ ด้วยการบริจาคทาน ๒) สีลมยั คือ บญุ สาเรจ็ ด้วยการรกั ษาศีล ๓) ภาวนามยั คือ บญุ สาเรจ็ ด้วยการเจริญภาวนา เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 84

๓. การทาบญุ โดยย่อ มีกี่อย่าง ? อะไรบา้ ง ? (๒๕๕๖) มี ๓ อย่าง คือ ทาน ศีล ภาวนา เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๙. สามญั ญลกั ษณะ ๓ * ๑. อนิจจตา ความเป็นของไมเ่ ท่ียง ๒. ทุกขตา ความเป็นทุกข์ ๓. อนัตตตา ความเป็นของไมใ่ ช่ตน อธิบาย เรยี กวา่ ไตรลกั ษณ์ เพราะเป็นลกั ษณะ ๓ ทม่ี เี สมอกนั แก่ สงั ขารทงั้ ปวง เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 85

๑. ไตรลกั ษณะ ได้แก่อะไรบา้ ง ? (๒๕๕๓) ๑) อนิจจตา คือ ความเป็นของไมเ่ ที่ยง ๒) ทุกขตา คือ ความเป็นทุกข์ ๓) อนัตตตา คือ ความเป็นของไม่ใช่ตน ฯ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๒. คาต่อไปนี้มีความหมายว่าอย่างไร? (๒๕๕๕) ๑) สมั ปชญั ญะ ๒) กตญั ญกู ตเวที ๓) กายทจุ ริต ๔) มาตาปิ ตอุ ปุ ัฏฐาน ๕) ปพุ เพกตปญุ ญตา ๑) สมั ปชญั ญะ คือ ความรตู้ วั ๒) กตญั ญกู ตเวที คือ บคุ คลผรู้ อู้ ปุ การะที่ท่านทาแล้ว และตอบแทน ๓) กายทุจริต คือ ความประพฤติชวั่ ทางกาย ๔) มาตาปิ ตอุ ปุ ัฏฐาน คือ การบารงุ มารดาบิดาของตน ให้เป็ นสขุ ๕) ปพุ เพกตปญุ ญตา คือ ความเป็นผไู้ ด้ทาความดีไว้ใน ปางก่อน เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 86

๓. จงให้ความหมายของคาต่อไปนี้ (๒๕๕๖) ก) พาหสุ จั จะ ข) อกศุ ลมูล ค) อินทรียสงั วร ง) อนัตตา จ) กามฉันท์ ก) พาหสุ จั จะ คือ ความเป็นผศู้ ึกษามาก ข) อกศุ ลมลู คือ รากเหงา้ ของอกศุ ล ค) อินทรียสงั วร คือ ความสารวมอินทรีย์ ง) อนัตตา คือ ความเป็นของไมใ่ ช่ตน จ) กามฉันท์ คือ ความพอใจรกั ใครใ่ น อารมณ์ท่ีชอบใจมีรปู เป็นต้น เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 87

จตกุ กะ หมวด ๔ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. วฑุ ฒิ ๔ ๑. สปั ปรุ ิสสงั เสวะ คบสตั บรุ ษุ ๒. สทั ธมั มสั สวนะ ฟังคาสงั่ สอนท่าน ๓. โยนิโสมนสิการะ ตริตรองโดยอบุ ายท่ีชอบ ๔. ธมั มานุธมั มปฏิปัตติ ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรม อธิบาย วุฑฒิ ๔ เป็นธรรมอนั เป็นเหตุแหง่ ความเจรญิ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 88

๒. จกั ร ๔ * ๑. ปฏิรปู เทสวาสะ อย่ใู นประเทศอนั สมควร ๒. สปั ปรุ ิสปู ัสสยะ คบสตั บรุ ษุ ๓. อตั ตสมั มาปณิธิ ตงั้ ตนไว้ชอบ ๔. ปฟุ เพกตปญุ ญตา ความเป็นผไู้ ด้ทาความดีไว้ในปาง ก่อน อธิบาย จกั ร ๔ เป็นธรรมเป็นดจุ ลอ้ รถนาไปสคู่ วามเจรญิ ทาใหผ้ ู้ ประพฤตติ ามถงึ ความเป็นใหญ่, ความมอี านาจ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. ธรรมดจุ ล้อรถนาไปส่คู วามเจริญ เรียกว่าอะไร ? จงบอกมาสกั ๒ ขอ้ (๒๕๕๘) เรียกว่า จกั ร ๔ ฯ ๑) ปฏิรปู เทสวาสะ คือ อย่ใู นประเทศอนั สมควร ๒) สปั ปรุ ิสปู ัสสยะ คือ คบสตั บรุ ษุ ๓) อตั ตสมั มาปณิธิ คือ ตงั้ ตนไวช้ อบ ๔) ปพุ เพกตปญุ ญตา คือ ความเป็นผไู้ ด้ทาความดีไว้ใน ปางก่อน ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 89

๓. อคติ ๔ * ๑. ฉันทาคติ ลาเอียงเพราะรกั ใครก่ นั ๒. โทสาคติ ลาเอียงเพราะไมช่ อบกนั ๓. โมหาคติ ลาเอียงเพราะโง่เขลา ๔. ภยาคติ ลาเอียงเพราะกลวั อธิบาย อคติ ๔ คอื การกระทาสง่ิ ทไ่ี มค่ วรทา ซง่ึ เป็นความประพฤตทิ ่ี ผดิ ดว้ ยความไมเ่ ทย่ี งธรรม บคุ คลผรู้ กั ษาความยตุ ธิ รรมไวไ้ ด้ ควร เวน้ จากอคติ ๔ ประการ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. บคุ คลผรู้ กั ษาความยตุ ิธรรมไว้ได้ ควรเว้นจากธรรมอะไร ? ธรรมนัน้ มีอะไรบา้ ง ? (๒๕๕๑, ๒๕๕๕, ๒๕๕๘) ควรเว้นจากอคติ ๔ ฯ ๑) ความลาเอียงเพราะรกั ใครก่ นั เรียกว่า ฉันทาคติ ๒) ความลาเอียงเพราะไมช่ อบกนั เรียกว่า โทสาคติ ๓) ความลาเอียงเพราะเขลา เรียกว่า โมหาคติ ๔) ความลาเอียงเพราะกลวั เรียกว่า ภยาคติ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 90

๔.อนั ตรายของภิกษุสามเณรผบู้ วชใหม่ ๔ * ๑. อดทนต่อคาสงั่ สอนไม่ได้ ๒. เป็นคนเหน็ แก่ปากแก่ท้อง ๓. เพลิดเพลินในกามคณุ ๔. รกั ผหู้ ญิง อธิบาย ภกิ ษุสามเณรผบู้ วชใหม่ ควรเวน้ อนั ตราย ๔ อยา่ งน้ี เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. ภิกษุสามเณรผบู้ วชใหม่ ควรเว้นอนั ตราย ๔ อย่าง คืออะไรบา้ ง ? (๒๕๕๙) ๑) อดทนต่อคาสอนไมไ่ ด้ คือ เบอื่ หน่ายต่อคาสงั่ สอน ขีเ้ กียจทาตาม ๒) เป็นคนเหน็ แก่ปากแก่ท้อง ๓) เพลิดเพลินในกามคณุ ทะยานอยากได้สขุ ยิ่งๆ ขึน้ ไป ๔) รกั ผหู้ ญิง ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 91

๕. ปธาน ๔ ๑. สงั วรปธาน เพียรระวงั บาปไม่ให้เกิด ๒. ปหานปธาน เพียรละบาปท่ีเกิดแล้ว ๓. ภาวนาปธาน เพียรให้กศุ ลเกิดขึน้ ๔. อนุรกั ขนาปธาน เพียรรกั ษากศุ ลไว้ อธิบาย ปธาน หมายถงึ ความพากเพยี ร เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๖. อธิษฐานธรรม ๔ ๑. ปัญญา รอบรสู้ ่ิงท่ีควรรู้ ๒. สจั จะ จริงใจ ทาสิ่งใดกใ็ ห้ได้จริง ๓. จาคะ สละส่ิ งท่ีเป็ นข้าศึกต่อความจริงใจ ๔. อปุ สมะ สงบใจจากสิ่ งที่เป็ นข้าศึกของความสงบ อธิบาย อธษิ ฐานธรรม คอื ธรรมทค่ี วรตงั้ ไวใ้ นใจ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หนา้ 92

๗. ปาริสทุ ธิศีล ๔ ๑. ปาติโมกขสงั วร สารวมในพระปาติโมกข์ ๒. อินทรียสงั วร สารวมอินทรีย์ ๓. อาชีวปาริสทุ ธิ เลี้ยงชีวิตในทางที่ชอบ ๔. ปัจจยปัจจเวกขณะ พิจารณาปัจจยั ก่อน บริโภค อธิบาย ปารสิ ทุ ธศิ ลี ๔ คอื ขอ้ ปฏบิ ตั ทิ ท่ี าใหศ้ ลี บรสิ ทุ ธิ์ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๘. อารกั ขกมั มฏั ฐาน ๔ ๑. พทุ ธานุสสติ ระลึกถึงคณุ พระพทุ ธเจา้ ๒. เมตตา แผไ่ มตรีจิตแก่สตั วท์ งั้ ปวง ๓. อสภุ ะ พิจารณารา่ งกายตนเหน็ ว่าไมง่ าม ๔. มรณัสสติ นึกถงึ ความตายอนั จกั มีแก่ตน อธิบาย อารกั ขกมั มฏั ฐาน ๔ คอื การเจรญิ ธรรมเป็นเครอ่ื งรกั ษาใจ เก็งสอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชน้ั ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 93

๙. พรหมวิหาร ๔ * ๑. เมตตา ความรกั ใคร่ ๒. กรณุ า ความสงสาร ๓. มทุ ิตา ความพลอยยินดี ๔. อเุ บกขา ความวางเฉย อธิบาย พรหมวหิ าร ๔ คอื ธรรมเป็นเครอ่ื งอยขู่ องพรหม เป็นธรรม เครอ่ื งอยขู่ องทา่ นผใู้ หญ่ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) ๑. พรหมวิหาร ๔ มีอะไรบา้ ง ? (๒๕๕๓) มี ๔ อย่าง คือ เมตตา กรณุ า มทุ ิตา อเุ บกขา ฯ เพราะเป็นธรรมเครอื่ งอย่ขู องท่านผใู้ หญ่ ฯ เกง็ สอบธรรม สนามหลวง นกั ธรรมชนั้ ตรี วชิ าธรรมวภิ าค โดย พระอตคิ ุณ ฐติ วโร, ดร. ร.ร.พระปรยิ ตั ธิ รรม วดั พระธรรมกาย (ส.ค. ๒๕๖๓) หน้า 94


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook