Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ ส32102 สังคมศึกษา 2-สาระเศรษฐศาสตร์-ครูจิตปิ่น ทองวิจิตร

แผนการจัดการเรียนรู้ ส32102 สังคมศึกษา 2-สาระเศรษฐศาสตร์-ครูจิตปิ่น ทองวิจิตร

Published by dlit_sm037, 2021-04-07 03:32:19

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ ส32102 สังคมศึกษา 2-สาระเศรษฐศาสตร์-ครูจิตปิ่น ทองวิจิตร

Search

Read the Text Version

5. แนวทางปฏิบตั /ิ ผลทค่ี าดวา่ จะไดร้ บั จากการนาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยุกตใ์ ช้ คือ การพฒั นาทส่ี มดุลและยงั่ ยนื พรอ้ มรบั ต่อการเปลย่ี นแปลงในทกุ ดา้ น ทง้ั ดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม ความรู้ และเทคโนโลยี สรุปปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทางสายกลาง พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิค้มุ กนั ในตัวที่ดี เงอ่ื นไขความรู้ เงือ่ นไข คณุ ธรรม (รอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวงั ) (ซ่ือสตั ย์ สุจริต ขยนั สติปัญญา แบ่งปัน) นาสู่ ชีวิต/เศรษฐกิจ/สงั คม/สิ่งแวดลอ้ ม สมดุล/มน่ั คง/ยง่ั ยืน

เศรษฐกจิ พอเพยี งกบั ทฤษฏีใหมต่ ามแนวพระราชดาริ เศรษฐกิจพอเพยี งและแนวทางปฏบิ ตั ขิ องทฤษฎใี หม่ เป็นแนวทางในการพฒั นาไปสูค่ วามสามารถใน การพงึ่ ตนเอง ในระดบั ตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นขน้ั ตอน โดยลดความเสย่ี งเก่ียวกบั ความ ผนั แปรของธรรมชาติ หรือการเปลย่ี นแปลงจากปจั จยั ต่าง ๆ โดยอาศยั ความพอประมาณและความมเี หตุผล การสรา้ งภูมคิ มุ้ กนั ทด่ี ี มคี วามรู้ ความเพยี รและความอดทน สตปิ ญั ญา การชว่ ยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั และความ สามคั คี เศรษฐกิจพอเพยี งมคี วามหมายกวา้ งกว่าทฤษฎใี หม่ โดยท่ีเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นกรอบแนวคดิ ทีช่ ้ีบอก หลกั การและแนวทางปฏบิ ตั ิของทฤษฎีใหม่ ในขณะท่แี นวพระราชดารเิ กยี่ วกบั ทฤษฏใี หม่หรอื เกษตรทฤษฎี ใหม่ ซ่งึ เป็นแนวทางการพฒั นาภาคเกษตรอย่างเป็นขน้ั ตอนนน้ั เป็นตวั อย่างการใชห้ ลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ในทางปฏิบตั ิ ท่เี ป็นรูปธรรมเฉพาะในพ้นื ทท่ี ่เี หมาะสม ทฤษฎใี หม่ตามแนวพระราชดาริ อาจเปรยี บเทยี บกบั หลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ซง่ึ มอี ยู่ 2 แบบ คือ แบบพ้นื ฐาน กบั แบบกา้ วหนา้ ไดด้ งั น้ี ความพอเพียงในระดบั บุคคลและครอบครวั โดยเฉพาะเกษตรกร เป็นเศรษฐกิจพอเพยี งแบบพ้ืนฐานเทียบ ไดก้ บั ทฤษฎใี หม่ขน้ั ท่ี 1 ท่มี งุ่ แกป้ ญั หาของเกษตรกรท่อี ยูห่ า่ งไกลแหล่งนา้ ตอ้ งพง่ึ พานา้ ฝนและประสบความ เส่ยี งจากการทน่ี า้ ไมพ่ อเพยี ง แมก้ ระทงั่ สาหรบั การปลกู ขา้ วเพอ่ื บริโภค และมขี อ้ สมมตวิ ่า ทด่ี นิ พอเพยี งในการ ขดุ บอ่ เพอื่ แกป้ ญั หาในเร่อื งดงั กล่าว จากการแกป้ ญั หาความเส่ยี งเรอื่ งนา้ จะทาใหเ้กษตรกรสามารถมขี า้ วเพอื่ การบริโภคยงั ชีพในระดบั หนึง่ ได้ และใช้้ ทด่ี นิ ส่วน อน่ื ๆ สนองความตอ้ งการพ้นื ฐานของครอบครวั รวมทง้ั ขายในสว่ นทเ่ี หลอื เพอื่ มรี ายไดท้ ่จี ะใชเ้ป็นค่าใชจ้ า่ ยอ่นื ๆ ทไ่ี มส่ ามารถผลติ เองได้ ทงั้ หมดน้เี ป็นการสรา้ งภูมคิ มุ้ กนั ในตวั ใหเ้กดิ ข้นึ ในระดบั ครอบครวั อยา่ งไรก็ตาม แมก้ ระทงั่ ในทฤษฎใี หม่ขนั้ ท่ี 1 กจ็ าเป็นท่เี กษตรกรจะตอ้ งไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากชมุ ชน ราชการ มลู นิธิ ตามความเหมาะสม ความพอเพียงในระดบั ชมุ ชนและระดบั องคก์ รเป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบกา้ วหน้า ซึ่งครอบคลมุ ทฤษฏใี หมข่ น้ั ที่ 2 เป็นเร่อื งของการสนบั สนุนใหเ้กษตรกรรวมพลงั กนั ในรูปกลมุ่ หรอื สหกรณ์ หรือการท่ธี ุรกิจ ต่าง ๆ รวมตวั กนั ในลกั ษณะเครอื ข่ายวสิ าหกิจ กล่าวคอื เมอื่ สมาชกิ ในแตล่ ะครอบครวั หรอื งคก์ รตา่ ง ๆ มคี วามพอเพยี งขนั้ พ้นื ฐานเป็นเบ้อื งตน้ แลว้ ก็จะรวมกลมุ่ เพอ่ื ร่วมมอื กนั สรา้ งประโยชนใ์ หแ้ ก่กลุ่มและส่วนรวมบนพ้นื ฐานของการไม่เบยี ดเบยี นกนั การ แบง่ ปนั ชว่ ยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั ตามกาลงั และความสามารถของตน ซ่งึ จะสามารถทาใหช้ ุมชนโดยรวมหรือ เครอื ขา่ ยวสิ าหกิจนน้ั ๆ เกดิ ความพอเพยี งในวถิ ปี ฏบิ ตั ิอยา่ งแทจ้ ริง ความพอเพียงในระดบั ประเทศ เป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบกา้ วหน้า ซึ่งครอบคลมุ ทฤษฎใี หม่ขน้ั ท่ี 3 ซ่งึ ส่งเสรมิ ใหช้ มุ ชนหรอื เครอื ข่ายวสิ าหกิจสรา้ งความร่วมมอื กบั องคก์ รอ่นื ๆ ในประเทศ เช่น บริษทั ขนาดใหญ่ ธนาคาร สถาบนั วจิ ยั เป็นตน้

การสรา้ งเครือข่ายความร่วมมอื ในลกั ษณะเช่นน้ี จะเป็นประโยชนใ์ นการสบื ทอดภูมปิ ญั ญา แลกเปลย่ี นความรู้ เทคโนโลยี และบทเรยี นจากการพฒั นา หรือร่วมมอื กนั พฒั นาตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง ทาใหป้ ระเทศอนั เป็นสงั คมใหญซ่ ง่ึ ประกอบดว้ ยชมุ ชน องคก์ รและธรุ กจิ ตา่ งๆ ทด่ี าเนนิ ชีวติ อย่างพอเพยี ง กลายเป็นเครอื ข่ายชุมชนพอเพยี งท่เี ชอื่ มโยงกนั ดว้ ยหลกั ไม่เบยี ดเบยี น แบ่งปนั และช่วยเหลอื ซ่งึ กนั และกนั ไดใ้ นท่สี ุด การสรา้ งขบวนการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจพอเพยี ง สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ (สศช.) เสนอใหร้ เิ ริม่ การสรา้ ง ขบวนการขบั เคล่ือนเศรษฐกิจพอเพียง เพอ่ื สานตอ่ ความคิดและเช่อื มโยงการขยายผลทเ่ี กดิ จากการนาปรชั ญา ฯ ไปใชอ้ ยา่ งหลากหลาย รวมทงั้ เพอื่ จุดประกายใหเ้กดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจทถ่ี กู ตอ้ ง ซง่ึ จะนาไปสูก่ ารยอมรบั และการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้กิดผลในทางปฏบิ ตั ิในทกุ ภาคส่วนของสงั คมอยา่ งจรงิ จงั จาก พระบรมราชโองการและพระราชดารสั ของพระองค์ นับตง้ั แตป่ ี 2517 เป็นตน้ มา จะ พบว่าพระองคท์ า่ นไดท้ รงเนน้ ยา้ แนวทางการพฒั นาท่อี ยู่บนพ้นื ฐานของการพงึ่ ตนเอง ความพอมพี อกนิ พอมี พอใช้ การรูจ้ กั ความพอประมาณ การคานงึ ถงึ ความมเี หตุผล การสรา้ งภมู คิ ุม้ กนั ทด่ี ใี นตวั และทรงเตอื นสติ ประชาชนคนไทยไมใ่ หป้ ระมาท ตระหนกั ถงึ การพฒั นาตามลาดบั ขนั้ ตอน ทถ่ี กู ตอ้ งตามหลกั วชิ า ตลอดจนมี คุณธรรมเป็นกรอบในการดารงชีวติ ซง่ึ ทง้ั หมดน้เี ป็นทร่ี ูจ้ กั กนั ภายใตช้ อ่ื วา่ เศรษฐกจิ พอเพยี ง สศช. จึงไดเ้ชิญผูท้ รงคณุ วฒุ จิ ากสาขาต่าง ๆ มารวมกนั กลนั่ กรองพระราชดารสั ฯ สรุปเป็นนยิ าม ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง และไดอ้ ญั เชิญมาเป็นปรชั ญานาทางในการจดั ทา แผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี 9 และ แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ 10 เพอ่ื ส่งเสริมใหป้ ระชาชนทกุ ระดบั มคี วามเขา้ ใจและนาไปประกอบการดาเนนิ ชีวติ การขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจพอเพยี ง มเี ป้ าหมายหลกั เพอ่ื สรา้ งเครือข่ายเรียนรู้ ใหม้ กี ารนาหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งไปใชเ้ป็นกรอบความคดิ เป็นแนวทางในการปฏบิ ตั ิ ตลอดจนเป็นสว่ นหนง่ึ ของวถิ ชี วี ติ ของคนไทยใน ทกุ ภาคสว่ น วตั ถปุ ระสงคข์ องการขบั เคลื่อน เพอ่ื สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจทถี่ ูกตอ้ ง เกยี่ วกบั หลกั เศรษฐกิจ พอเพยี งใหป้ ระชาชนทกุ คนสามารถนาหลกั ปรชั ญาฯ ไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม และปลกู ฝงั ปรบั เปลยี่ น กระบวนทศั น์ ในการดารงชวี ติ ใหอ้ ยูบ่ นพ้นื ฐานของเศรษฐกจิ พอเพยี ง การขบั เคลอ่ื นเศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นการเสริมพลงั ใหป้ ระเทศไทยสามารถพฒั นาไปไดอ้ ย่างมนั่ คง ภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ตั น์ โดยใหค้ วามสาคญั กบั การสรา้ งรากฐานทางเศรษฐกิจและสงั คมใหเ้ขม้ แขง็ รกั ษา ความสมดลุ ของทนุ และทรพั ยากรในมติ ิตา่ ง ๆ ตลอดจนสามารถปรบั ตวั พรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลงตา่ ง ๆ ได้ อยา่ งรูเ้ท่าทนั และนาไปสู่ ความอยเู่ ย็นเป็นสุขของประชาชนชาวไทย การขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจพอเพยี งจะเป็นในลกั ษณะเครอื ข่ายและการระดมพลงั จาก ทกุ ภาคส่วน (1) เครอื ขา่ ยดา้ นผนู้ าทางความคดิ

(2) เครอื ข่ายดา้ นประชาสงั คม (3) เครอื ขา่ ยดา้ นส่อื มวลชนและประชาชน (4) เครือขา่ ยดา้ นสถาบนั การศกึ ษาและเยาวชน (5) เครือข่ายดา้ นองคก์ รภาคธุรกจิ เอกชน (6) เครือขา่ ยดา้ นองคก์ รภาครฐั (7) เครอื ข่ายดา้ นวชิ าการ (8) เครือขา่ ยดา้ นสถาบนั การเมอื ง ทม่ี า : สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ. (2548) . เศรษฐกจิ พอเพยี งคืออะไร. กรงุ เทพฯ : ไมป่ รากฏสถานท่พี มิ พ.์

2.1 เรื่อง เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรบั ประชาชน คาช้ีแจง 1. ใหน้ กั เรยี นหาขอ้ มลู / ข่าวสาร จากแหล่งการเรยี นรูต้ า่ ง ๆ ท่แี สดงว่า ประชาชนไดน้ าหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั 2. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มลู / ขา่ วสาร ในขอ้ 1 แลว้ ตอบคาถาม ตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด เรื่อง สาระสาคญั โดยยอ่

1. บคุ คลหรือกลุ่มบคุ คลไดป้ ฏบิ ตั ิตนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา่ งไร จงอธบิ าย พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ 2. ผลของการปฏบิ ตั ใิ นขอ้ 1 สง่ ผลดตี ่อตนเอง ครอบครวั สงั คมและประเทศอยา่ งไร จงอธบิ าย พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ 3. นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จากการปฏบิ ตั ติ นของบคุ คล/กลมุ่ บุคคลในเรอ่ื งน้อี ยา่ งไร และสามารถนาไปประยกุ ต์ ใชใ้ นการปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ

2.1 เรอื่ ง เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรบั ประชาชน คาช้ีแจง 1. ใหน้ กั เรยี นหาขอ้ มลู / ข่าวสาร จากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่าง ๆ ท่แี สดงวา่ ประชาชนไดน้ าหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั 2. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มูล / ขา่ วสาร ในขอ้ 1 แลว้ ตอบคาถาม ตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด เรื่อง สาระสาคญั โดยยอ่ 1. บคุ คลหรือกลุม่ บคุ คลไดป้ ฏบิ ตั ติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งไร จงอธิบาย พรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ

2. ผลของการปฏบิ ตั ิในขอ้ 1 ส่งผลดตี ่อตนเอง ครอบครวั สงั คมและประเทศอยา่ งไร จงอธบิ าย พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ 3. นกั เรยี นไดข้ อ้ คิดจากการปฏบิ ตั ิตนของบุคคล/กลมุ่ บุคคลในเรอื่ งน้อี ย่างไร และสามารถนาไปประยกุ ต์ ใชใ้ นการปฏบิ ตั ติ นอยา่ งไร จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ( การตอบข้นึ อยกู่ บั การแสดงความคิดเหน็ ของนกั เรยี น โดยข้นึ อยู่กบั ดุลยพินจิ ของผสู้ อน )

2.2 เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพยี งสาหรบั เกษตรกร คาช้ีแจง 1. ใหน้ กั เรยี นหาขอ้ มลู / ข่าวสาร จากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่าง ๆ ทแ่ี สดงวา่ เกษตรกรไดน้ าแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการประกอบอาชีพบนพ้นื ฐานหลกั การทฤษฎใี หม่ 2. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มูล / ขา่ วสาร ในขอ้ 1 แลว้ ตอบคาถาม ตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด เรื่อง สาระสาคญั โดยยอ่ 1. บุคคลหรือกลมุ่ บคุ คลไดป้ ฏบิ ตั ิตนบนพ้นื ฐานหลกั การทฤษฎใี หมอ่ ย่างไร จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่าง ประกอบ

2. ผลของการปฏบิ ตั ใิ นขอ้ 1 สง่ ผลดตี ่อตนเอง ครอบครวั สงั คม และประเทศอย่างไร จงอธิบาย พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ 3. นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จากการปฏบิ ตั ิตนของบคุ คล/กลมุ่ บคุ คลในเรอ่ื งน้อี ยา่ งไร และสามารถนาไปประยกุ ต์ ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิตนอย่างไร จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ

2.2 เรื่อง เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรบั เกษตรกร คาช้ีแจง 1. ใหน้ กั เรยี นหาขอ้ มลู / ข่าวสาร จากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่าง ๆ ท่แี สดงว่า เกษตรกรไดน้ าแนวคดิ เศรษฐกจิ พอเพยี งไปประยุกตใ์ ชใ้ นการประกอบอาชีพบนพ้นื ฐานหลกั การทฤษฎใี หม่ 2. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มลู / ขา่ วสาร ในขอ้ 1 แลว้ ตอบคาถาม ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด เร่ือง สาระสาคญั โดยยอ่

1. บุคคลหรือกลุม่ บคุ คลไดป้ ฏบิ ตั ิตนบนพ้นื ฐานหลกั การทฤษฎใี หมอ่ ย่างไร จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อยา่ ง ประกอบ 2. ผลของการปฏบิ ตั ิในขอ้ 1 สง่ ผลดตี อ่ ตนเอง ครอบครวั สงั คม และประเทศอย่างไร จงอธบิ าย พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ 3. นกั เรยี นไดข้ อ้ คิดจากการปฏบิ ตั ติ นของบคุ คล/กลมุ่ บุคคลในเรื่องน้อี ยา่ งไร และสามารถนาไปประยกุ ต์ ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิตนอย่างไร จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ ( การตอบข้นึ อยู่กบั การแสดงความคิดเหน็ ของนกั เรียน โดยข้นึ อยู่กบั ดลุ ยพนิ จิ ของผสู้ อน )

2.3 เร่ือง เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรบั ภาคอตุ สาหกรรม การคา้ และการบริการ คาช้ีแจง 1. ใหน้ กั เรยี นหาขอ้ มลู / ขา่ วสาร จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่าง ๆ ท่แี สดงวา่ ภาคอตุ สาหกรรม การคา้ และการบรกิ าร ไดน้ าปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ช้ 2. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มูล / ข่าวสาร ในขอ้ 1 แลว้ ตอบคาถาม ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด เร่ือง สาระสาคญั โดยยอ่

1. บคุ คลหรือกลุม่ บคุ คลไดน้ าหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยกุ ตป์ ฏบิ ตั ิในภาคอตุ สาหกรรม การคา้ และการบริการอยา่ งไรบา้ ง จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ 2. ผลของการปฏบิ ตั ใิ นขอ้ 1 สง่ ผลดตี ่อสงั คม และประเทศอยา่ งไร จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ 3. นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จากการปฏบิ ตั ติ นของบุคคล/กลมุ่ บุคคลในเรื่องน้อี ย่างไร และสามารถนาไปประยกุ ต์ ใชใ้ นการปฏบิ ตั ติ นอย่างไร จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ

2.3 เร่ือง เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรบั ภาคอตุ สาหกรรม การคา้ และการบริการ คาช้ีแจง 1. ใหน้ กั เรยี นหาขอ้ มลู / ขา่ วสาร จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่าง ๆ ท่แี สดงวา่ ภาคอตุ สาหกรรม การคา้ และการบรกิ าร ไดน้ าปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ช้ 2. ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ มูล / ข่าวสาร ในขอ้ 1 แลว้ ตอบคาถาม ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนด เร่ือง สาระสาคญั โดยยอ่

1. บุคคลหรือกลุม่ บุคคลไดน้ าหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกตป์ ฏบิ ตั ใิ นภาคอุตสาหกรรม การคา้ และการบริการอย่างไรบา้ ง จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ 2. ผลของการปฏบิ ตั ใิ นขอ้ 1 สง่ ผลดตี ่อสงั คม และประเทศอยา่ งไร จงอธิบายพรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ 3. นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ จากการปฏบิ ตั ติ นของบุคคล/กลมุ่ บคุ คลในเร่ืองน้อี ยา่ งไร และสามารถนาไปประยกุ ต์ ใชใ้ นการปฏบิ ตั ิตนอย่างไร จงอธบิ ายพรอ้ มยกตวั อยา่ งประกอบ ( การตอบข้นึ อยู่กบั การแสดงความคิดเหน็ ของนกั เรียน โดยข้นึ อยู่กบั ดุลยพินิจของผสู้ อน )

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ชื่อ – สกลุ การแสดงความ การรบั ฟงั การตง้ั ใจ การรว่ ม รวม ลาดบั ความร่วมมือ คดิ เหน็ ความคิดเห็น ทางาน ปรบั ปรุง ของผรู้ บั การ 20 ที่ ผลงานกลมุ่ ประเมนิ คะแนน 43214321432143214321 เกณฑ์การให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ ดีมาก = 4 หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กลุ่ม เดกี ณฑ์การตดั สินคณุ =ภาพ 3 เป็นผปู้ ระเมิน หรือใหต้ วั แทนกลุม่ ผลดั กนั ประเมิน พชอ่วใงชค้ ะแนน ร=ะดับคุณภ2าพ หรือให้มีการประเมนิ โดยเพ่ือน โดยตวั นกั เรียนเอง ปรบั 1ป7รุง– 20 = ดมี าก 1 ตามความเหมาะสมก็ได้ 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5 – 8 ปรบั ปรุง

4 เศรษฐศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลาเรยี น 6 ชวั่ โมง  มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั ส 3.1 ม.4-6/3 ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของระบบสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกิจในระดบั ชุมชน และประเทศ ม.4-6/4 วเิ คราะหป์ ญั หาทางเศรษฐกจิ ในชุมชนและแนวทางแกไ้ ข  สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด สหกรณ์มคี วามสาคญั ตอ่ การพฒั นาเศรษฐกิจทงั้ ในระดบั ชุมชนและประเทศ และมสี ่วนในการ แกป้ ญั หาชมุ ชน  สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 1) ววิ ฒั นาการของสหกรณ์ในประเทศไทย 2) ความหมาย ความสาคญั และหลกั การของระบบสหกรณ์ 3) ตวั อยา่ งและประเภทของสหกรณ์ในประเทศไทย 4) ความสาคญั ของระบบสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกิจในชุมชนและประเทศ 5) ปญั หาเศรษฐกิจในชมุ ชน 6) แนวทางการพฒั นาเศรษฐกจิ ของชมุ ชน 7) ตวั อยา่ งของการรวมกลุ่มทป่ี ระสบความสาเรจ็ ในการแกป้ ญั หาทางเศรษฐกจิ ของชุมชน 3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น -  สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น

4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต - กระบวนการปฏบิ ตั ิ - กระบวนการทางานกล่มุ  คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน 4. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง  ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) บทความวเิ คราะห์ เรอ่ื ง สหกรณก์ บั การพฒั นาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน  การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมนิ กอ่ นเรยี น - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1) ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ความรูเ้บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั สหกรณ์ 2) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ประวตั ิความเป็นมาของสหกรณ์ 3) ใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง ววิ ฒั นาการของสหกรณใ์ นประเทศไทย 4) ใบงานท่ี 1.4 เรือ่ ง สหกรณใ์ นประเทศไทย 5) ใบงานท่ี 1.5 เรื่อง สบื คน้ ขอ้ มูลกิจการสหกรณ์ 6) ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง สบื คน้ ขอ้ มูลการพฒั นาเศรษฐกิจของชุมชน 7) ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 8) สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม 7.3 การประเมินหลงั เรยี น - แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ประเมนิ บทความวเิ คราะห์ เรอื่ ง สหกรณก์ บั การพฒั นาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ บทความวเิ คราะห์ เรอื่ ง สหกรณก์ บั การพฒั นาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน รายการประเมนิ คาอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน 1. การวเิ คราะห์ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ความสาคญั ของ เขยี นวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ สหกรณใ์ นการ ความสาคญั ของ เขยี นวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ ความสาคญั ของ พฒั นาเศรษฐกิจใน สหกรณ์ในการ พฒั นา สหกรณใ์ นการ พฒั นา ระดบั ชุมชน เศรษฐกจิ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ เศรษฐกจิ ในระดบั ชมุ ชน ในระดบั ชมุ ชน พรอ้ มยกตวั อย่าง สหกรณ์ในการ พฒั นา สหกรณ์ในการ พฒั นา พรอ้ มยกตวั อย่าง ประกอบไดถ้ ูกตอ้ ง ประกอบไมถ่ กู ตอ้ ง ชดั เจน เศรษฐกิจ เศรษฐกิจ ในระดบั ชมุ ชน ในระดบั ชมุ ชน พรอ้ มยกตวั อย่าง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง ประกอบไดถ้ ูกตอ้ ง ประกอบไดถ้ กู ตอ้ ง ค่อนขา้ งชดั เจน ชดั เจนบางส่วน 2. การวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ ความสาคญั ของ สหกรณ์ในการ สหกรณใ์ นการพฒั นา สหกรณใ์ นการพฒั นา สหกรณ์ในการพฒั นา สหกรณใ์ นการพฒั นา พฒั นาเศรษฐกจิ เศรษฐกจิ ระดบั เศรษฐกิจระดบั เศรษฐกิจระดบั เศรษฐกจิ ระดบั ระดบั ประเทศ ประเทศ พรอ้ ม ประเทศ พรอ้ ม ประเทศ พรอ้ ม ประเทศ พรอ้ ม ยกตวั อย่างประกอบได้ ยกตวั อย่างประกอบได้ ยกตวั อยา่ งประกอบได้ ยกตวั อยา่ งประกอบไม่ 3. การวเิ คราะห์ ถกู ตอ้ ง ชดั เจน ถูกตอ้ ง ค่อนขา้ งชดั เจน ถกู ตอ้ ง ชดั เจนบางส่วน ถกู ตอ้ ง ปญั หาเศรษฐกิจใน เขยี นวเิ คราะหป์ ญั หา ชุมชนและ เศรษฐกจิ ในชมุ ชนและ เขยี นวเิ คราะหป์ ญั หา เขยี นวเิ คราะหป์ ญั หา เขยี นวเิ คราะหป์ ญั หา แนวทางแกไ้ ข เสนอแนวทาง แกไ้ ข เศรษฐกิจในชุมชนและ เศรษฐกจิ ในชุมชนและ เศรษฐกจิ ในชมุ ชนและ อย่างมเี หตผุ ล และมี เสนอแนวทาง แกไ้ ข เสนอแนวทาง แกไ้ ข เสนอแนวทาง แกไ้ ข ความเป็ นไปได ้ อยา่ งมเี หตุผล และมี อยา่ งมเี หตุผล และมี อย่างไม่มเี หตผุ ล ความเป็ นไปได ้ ความเป็ นไปได ้ สมควร เป็นส่วนใหญ่ เป็นบางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 11-12 ดีมาก 9-10 ดี 7-8 พอใช้ 5-6 ปรบั ปรงุ

 กิจกรรมการเรยี นรู้  นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 สหกรณก์ บั การพฒั นาเศรษฐกจิ ไทย เวลา 4 ชวั่ โมง กิจกรรมท่ี 1 วธิ ีสอนโดยการจดั การเรียนรูแ้ บบร่วมมอื : เทคนิคคคู่ ิด, เทคนิคโตะ๊ กลม, วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ 1. นกั เรียนผลดั กนั เลา่ ประสบการณเ์ ดมิ หรอื ความรูเ้ดมิ เกี่ยวกบั สหกรณ์ท่นี กั เรยี นรูจ้ กั หรือเคยเป็นสมาชกิ 2. นกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปลกั ษณะสาคญั ของสหกรณ์ ครูอธบิ ายความรูเ้พมิ่ เติมเก่ยี วกบั ลกั ษณะสาคญั และ หลกั การของสหกรณ์ 3. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปาน กลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน และใหส้ มาชิกแตล่ ะกลมุ่ จบั คู่กนั ดงั น้ี - คู่ท่ี 1 ศกึ ษาความรูเ้ร่ือง ลกั ษณะสาคญั ของสหกรณ์ และหลกั ปฏบิ ตั ใิ นการดาเนินธุรกจิ ของสหกรณ์ และช่วยกนั ทาใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ความรูเ้บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั สหกรณ์ - คู่ท่ี 2 ศกึ ษาความรูเ้รื่อง ประวตั คิ วามเป็นมาของสหกรณ์ และช่วยกนั ทาใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ประวตั คิ วามเป็นมาของสหกรณ์ - คู่ท่ี 3 ศกึ ษาความรูเ้รือ่ ง ววิ ฒั นาการของสหกรณใ์ นประเทศไทย และช่วยกนั ทาใบงานท่ี 1.3 เร่ือง ววิ ฒั นาการของสหกรณ์ในประเทศไทย 4. นกั เรียนแตล่ ะคู่ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของใบงาน และใหน้ กั เรยี นคู่ท่ี 1-3 ผลดั กนั อธบิ าย ความรูใ้ นใบงานท่คี ู่ของตนรบั ผดิ ชอบใหค้ ู่อ่นื ฟงั 5. ครูสมุ่ เรยี กนกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มออกไปเฉลยคาตอบในใบงาน กลมุ่ ละ 1 ใบงาน และใหก้ ลมุ่ อ่นื ทม่ี ี ผลงานแตกต่างกนั ออกไปไดน้ าเสนอเพม่ิ เติม 6. ครูนาภาพกิจกรรมสหกรณ์ตา่ งๆ ในประเทศไทย มาใหน้ กั เรียนวเิ คราะหว์ า่ เป็นกิจกรรมสหกรณ์ ประเภทใด 7. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาความรูเ้ รอื่ ง ประเภทของสหกรณ์ และปจั จยั ทท่ี าใหส้ หกรณป์ ระสบผลสาเรจ็ จากหนงั สอื เรยี น หรือหนงั สอื อา่ นเพม่ิ เติม หรอื แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 8. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั ทาใบงานท่ี 1.4 เร่ือง สหกรณใ์ นประเทศไทย โดยปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 1) สมาชกิ คนท่ี 1 ของกลมุ่ เขยี นคาตอบขอ้ ท่ี 1 แลว้ ส่งใบงานไปยงั คนท่ี 2 2) สมาชิกคนท่ี 2 ตรวจสอบความถูกตอ้ งของคาตอบของสมาชกิ คนท่ี 1 แลว้ เขยี นคาตอบ เพม่ิ เติม ในกรณีท่คี าตอบไมส่ มบรู ณ์ หรอื แกไ้ ขในส่วนท่ยี งั ไมถ่ ูกตอ้ ง จากนน้ั เขยี น คาตอบในขอ้ 2

ฯลฯ 9. สมาชิกในกลมุ่ คนต่อไปปฏบิ ตั ิ เชน่ เดยี วกบั สมาชกิ คนท่ี 2 ทุกคนมโี อกาสไดอ้ า่ น และเขยี น คาตอบหมนุ เวยี นกนั ไปเร่ือยๆ จนเสรจ็ ทุกคาถาม 10. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.1 และช่วยกนั สรุปประเดน็ สาคญั ท่ที าให้ สหกรณ์ประสบความสาเร็จ 11. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั สบื คน้ ขอ้ มูลการดาเนินกิจการของสหกรณท์ ่นี กั เรยี น สนใจ 1 แหง่ แลว้ รายงานสรปุ ตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด ในใบงานท่ี 1.5 เร่อื ง สบื คน้ ขอ้ มูลกิจการ สหกรณ์ 12. นกั เรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน และผลดั กนั เสนอแนะเพม่ิ เตมิ 13. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรปุ แนวทางการดาเนนิ กจิ การสหกรณ์ใหป้ ระสบความสาเรจ็ และ ความสาคญั ของสหกรณใ์ นการพฒั นาเศรษฐกจิ เศรษฐกจิ ในชุมชนของไทย เวลา 2 ชวั่ โมง กิจกรรมท่ี 2 วธิ ีสอนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ , กระบวนการแกป้ ญั หา 1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี ใหญ่ ใหแ้ ขง่ ขนั กนั เขยี นปญั หาทางเศรษฐกจิ ในชุมชนบนกระดาน/บอรด์ หนา้ ชนั้ เรยี น กลุ่มใดเขยี นไดจ้ านวนมากท่สี ุดในเวลาทก่ี าหนด 5 นาที หรอื ตามความเหมาะสมจะเป็น ฝ่ ายชนะ 2. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกนั รวมปญั หาในขอ้ 1 จดั เป็นจาพวกเดยี วกนั 3. นกั เรยี นรวมกล่มุ กนั ตามความสมคั รใจ กลมุ่ ละ 5-7 คน ร่วมมอื กนั ศกึ ษาความรู้ และขอ้ มูลเกย่ี วกบั เศรษฐกิจของไทย จากหนงั สอื เรยี น หนงั สอื อ่านเพมิ่ เตมิ และแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ 4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั หาข่าวเกยี่ วกบั การพฒั นาเศรษฐกจิ ของชมุ ชนต่างๆ มาร่วมกนั วเิ คราะห์ ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดใหใ้ นใบงานท่ี 2.1 เร่ือง สบื คน้ ขอ้ มลู การพฒั นาเศรษฐกิจของชมุ ชน 5. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มผลดั กนั นาเสนอผลงาน การสบื คน้ ขอ้ มลู ตามหวั ขอ้ ทก่ี าหนดในใบงานท่ี 2.1 6. นกั เรยี นชว่ ยกนั เสนอขอ้ คิดทไ่ี ดจ้ ากการร่วมมอื กนั พฒั นาเศรษฐกจิ ในชมุ ชน และแนวทางการพฒั นา เศรษฐกิจของชุมชน 7. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมมอื กนั เขยี นบทความวเิ คราะห์ เร่อื ง สหกรณก์ บั การพฒั นา เศรษฐกิจในชมุ ชน  นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4  ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรียน เศรษฐศาสตร์ ม.4-ม.6 2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพิม่ เติม (1) เชิญ บารุงวงศ์ และกฤษฎา ประศาสนว์ ฒุ ิ. หลกั การ อดุ มการณ์สหกรณแ์ ละวิธีการสหกรณ์ ในประมวลสาระชดุ วชิ าความรูท้ วั่ ไปเก่ยี วกบั สหกรณ์ หน่วยท่ี 1 สาขาวิชาส่งเสรมิ การเกษตร และสหกรณ์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. นนทบรุ ี : โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช, 2546. (2) บุญมี จนั ทรวงศ.์ ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาสหกรณใ์ นภาคเกษตร. กรุงเทพ ฯ : กรมส่งเสรมิ สหกรณ์, 2543 (3) โอภาวดี เขม็ ทอง. วิวฒั นาการสหกรณใ์ นตา่ งประเทศในประมวลสาระชดุ วชิ าความรู้ ทวั่ ไปเก่ียวกบั สหกรณ์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช. นนทบรุ ี :โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช, 2546. 3) สอ่ื การสอน ภาพกจิ กรรมสหกรณ์ 4) ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ความรูเ้บ้อื งตน้ เก่ียวกบั สหกรณ์ 5) ใบงานท่ี 1.2 เรื่อง ประวตั คิ วามเป็นมาของสหกรณ์ 6) ใบงานท่ี 1.3 เร่อื ง ววิ ฒั นาการของสหกรณใ์ นประเทศไทย 7) ใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง สหกรณใ์ นประเทศไทย 8) ใบงานท่ี 1.5 เร่ือง สบื คน้ ขอ้ มูลกิจการสหกรณ์ 9) ใบงานท่ี 2.1 เรอื่ ง สบื คน้ ขอ้ มูลการพฒั นาเศรษฐกิจของชุมชน 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ http://www.kwc.ac.th/3Society.htm http://www.irctcoop.com/manual.htm http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php http://www.sangkomdelivery2u.ob.tc/Econ3.html http://sites.google.com/site/banrainarao/column/commu_econ_02 http://www.oknation.net/blog/friendshelpingfriends/2009/08/14/entry-3 http://vclass.mgt.psu.ac.th/~465-521/2005-2/Assignment-02/MPA_14_05/co_op.htm

แบบทดสอบก่อนเรยี น – หลงั เรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 คาช้ีแจง ใหก้ า  ทบั ตวั อกั ษรหนา้ ขอ้ ความท่เี ป็นคาตอบท่ถี กู ทส่ี ดุ เพยี งขอ้ เดยี ว 1. สหกรณ์เป็นการรวมตวั ของกลมุ่ บุคคลท่มี จี ดุ มงุ่ หมายอย่างเดยี วกนั โดยมหี ลกั การสาคญั ในขอ้ ใด ก. มสี ทิ ธเิ สมอกนั แตม่ ่งุ ช่วยเหลอื ผทู้ ่มี ฐี านะยากจน ข. มกี ฎระเบยี บขอ้ บงั คบั ตรงตามกฎหมาย ไม่มกี ารแกไ้ ข ค. ยดึ หลกั ประชาธิปไตย ไม่แสวงหากาไร มกี ารแบ่งปนั ผลประโยชนอ์ ย่างยตุ ธิ รรม ง. มปี จั จยั การผลติ เช่นเดยี วกบั ธุรกจิ ทวั่ ไป แต่มกี ารบรหิ ารจดั การภายในชมุ ชนเท่านน้ั 2. บดิ าแห่งการสหกรณข์ องโลกคอื ใคร ข. นายแพทยว์ ลิ เลยี ม คงิ ก. นายฟรตี ริก วลิ เฮลม์ ไรฟ์ไฟเซน ง. โรเบริ ต์ โอเวน ค. นายเฮอรม์ มั ซูลซ์ 3. สหกรณแ์ รกท่เี กิดข้นึ ในโลก ก่อตง้ั จากกลมุ่ อาชพี ใด ก. ทอผา้ ข. เกษตร ค. ประมง ง. รา้ นคา้ 4. สหกรณแ์ หง่ แรกของไทย จดั ตงั้ ข้นึ ทจ่ี งั หวดั ใด ข. พษิ ณุโลก ก. กรุงเทพมหานคร ง. ปทมุ ธานี ค. เชยี งใหม่ 5. สหกรณใ์ ดทม่ี วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ ลดค่าใชจ้ า่ ยในครอบครวั ก. สหกรณ์การเกษตร ข. สหกรณ์ออมทรพั ย์ ค. สหกรณร์ า้ นคา้ ง. สหกรณบ์ รกิ าร 6. รา้ นสหกรณ์บา้ นสนิ ใช้ ซง่ึ เป็นรา้ นสหกรณแ์ ห่งแรกของไทยอยูท่ ่จี งั หวดั ใด ก. เชยี งราย ข. พษิ ณุโลก ค. กรงุ เทพมหานคร ง. พระนครศรีอยธุ ยา

7. สหกรณ์จะประสบความสาเร็จนนั้ ข้นึ อยกู่ บั ปจั จยั สาคญั หลายประการ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. ผูม้ ที นุ ทรพั ยค์ อยสนบั สนุน ข. สมาชกิ มคี วามรูใ้ นระบบสหกรณ์ ค. คณะกรรมการดาเนินงานมคี วามซอ่ื สตั ย์ ง. ผูจ้ ดั การและเจา้ หนา้ ท่มี คี วามรูค้ วามสามารถ 8. ขอ้ ใดเป็นปญั หาสาคญั ของเศรษฐกิจในชมุ ชน ก. ประชาชนจานวนมากอยู่ในวยั เดก็ มากกวา่ ผใู้ หญ่ ข. ความยากจน ขาดแคลนบคุ ลากรทม่ี คี วามรู้ ค. เสน้ ทางการคมนาคมไม่สะดวก ง. ระบบการส่อื สารลา่ ชา้ 9. แนวทางการแกป้ ญั หาเศรษฐกจิ ในชุมชนโดยการสรา้ งความเขม้ แขง็ ในชุมชนท่สี าคญั คือขอ้ ใด ก. ประชาชนร่วมมอื กนั แกป้ ญั หา และรูจ้ กั ใชท้ รพั ยากรในทอ้ งถน่ิ อย่างคมุ้ ค่า ข. ตวั แทนองคก์ รของรฐั เขา้ ไปชว่ ยแนะนาแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ค. ร่วมมอื กนั สรา้ งเสน้ ทางการคมนาคมและสาธารณสมบตั ิ ง. ประชาชนทุกคนรวมตวั กนั จดั ตง้ั สหกรณก์ ารเกษตร 10. ชมุ ชนไมง้ ามเป็นชุมชนทส่ี มาชกิ ทุกคนร่วมมอื กนั พฒั นาอาชีพและใชท้ รพั ยากรอยา่ งเหมาะสม จะสง่ ผลดตี อ่ ชมุ ชนมากทส่ี ุดในขอ้ ใด ก. สามารถอนุรกั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติใหย้ งั่ ยนื ข. สมาชิกในชุมชนมรี ายไดท้ ่มี นั่ คง ค. เป็นชุมชนตวั อยา่ งของชมุ ชนอน่ื ง. พฒั นาชมุ ชนใหเ้ขม้ แขง็ เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ขอ้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลย ค ง ก ข ค ง ก ข ก ง

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 เวลา 4 ชวั่ โมง เศรษฐศาสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 สหกรณแ์ ละการรวมกล่มุ เพอ่ื การพฒั นา ชมุ ชนของไทย เร่ือง สหกรณก์ บั การพฒั นาเศรษฐกิจไทย  สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด การดาเนินงานของสหกรณแ์ ตล่ ะประเภทจนประสบความสาเร็จนนั้ สง่ ผลดตี ่อการพฒั นาเศรษฐกจิ ทงั้ ในระดบั ชุมชนและประเทศชาติ  ตวั ช้ีวดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ส 3.1 ม.4-6/3 ตระหนกั ถงึ ความสาคญั ของระบบสหกรณใ์ นการพฒั นาเศรษฐกิจ ในระดบั ชมุ ชนและประเทศ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายความรูเ้บ้อื งตน้ เกย่ี วกบั สหกรณ์ได้ 2) อธิบายววิ ฒั นาการของสหกรณ์ และประเภทของสหกรณใ์ นประเทศไทยได้ 3) วเิ คราะหป์ จั จยั ทท่ี าใหส้ หกรณ์ประสบผลสาเร็จได้ 4) วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกจิ ได้  สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง 1) ววิ ฒั นาการของสหกรณใ์ นประเทศไทย 2) ความหมาย ความสาคญั และหลกั การของระบบสหกรณ์ 3) ตวั อย่างและประเภทของสหกรณ์ในประเทศไทย 4) ความสาคญั ของระบบสหกรณ์ในการพฒั นาเศรษฐกิจในชมุ ชนและประเทศ 3.2 สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถน่ิ -  สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน

4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต - กระบวนการทางานกลุม่  คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. อยูอ่ ยา่ งพอเพยี ง กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรูแ้ บบร่วมมอื : เทคนิคคู่คิด, เทคนิคโตะ๊ กลม วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลมุ่ )  นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 ชั่วโมงท่ี 1-2 1. นกั เรยี นผลดั กนั เลา่ ประสบการณ์เดมิ หรือความรูเ้ดมิ เกยี่ วกบั สหกรณ์ทน่ี กั เรยี นรูจ้ กั หรือเคยเป็นสมาชกิ เช่น 1) สหกรณ์รา้ นคา้ 2) สหกรณ์โรงเรยี น 3) สหกรณก์ ารเกษตร 4) สหกรณ์นิคม 5) สหกรณก์ ารประมง 6) สหกรณอ์ อมทรพั ย์ ฯลฯ 2. นกั เรียนช่วยกนั สรปุ ลกั ษณะสาคญั ของสหกรณ์ ครูอธิบายความรูเ้พมิ่ เตมิ เก่ียวกบั ลกั ษณะสาคญั และ หลกั การของสหกรณ์ 3. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 6 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปาน กลางค่อนขา้ งอ่อน และออ่ น (โดยครูจดั กลมุ่ ไวล้ ่วงหนา้ ) ใหน้ กั เรียนแต่ละคนในกลุ่มจบั คู่กนั เป็น 3 คู่ แต่ ละคู่ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ดงั น้ี

- คู่ท่ี 1 ศึกษาความรูเ้ร่อื ง ลกั ษณะสาคญั ของสหกรณ์ และหลกั ปฏบิ ตั ิในการดาเนินธุรกจิ ของสหกรณ์ และชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1.1 เร่ือง ความรูเ้บ้อื งตน้ เกีย่ วกบั สหกรณ์ - คู่ท่ี 2 ศึกษาความรูเ้ร่ือง ประวตั คิ วามเป็นมาของสหกรณ์ และชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง ประวตั ิความเป็นมาของสหกรณ์ - คู่ท่ี 3 ศึกษาความรูเ้รือ่ ง ววิ ฒั นาการของสหกรณใ์ นประเทศไทย และชว่ ยกนั ทาใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง ววิ ฒั นาการของสหกรณใ์ นประเทศไทย 4. นกั เรียนแต่ละคู่ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของใบงานท่ชี ่วยกนั ทา และผลดั กนั อธิบาย ประเดน็ สาคญั ของเรอ่ื งท่ศี ึกษา 5. นกั เรียนแตล่ ะคู่ของแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั อธบิ ายความรตู้ ามหวั ขอ้ ในใบงานท่คี ู่ของตนรบั ผดิ ชอบ เรียงตามลาดบั จากคู่ท่ี 1 ถงึ คู่ท่ี 3 และใหส้ มาชิกท่มี คี วามสงสยั ไดซ้ กั ถามจนมคี วามเขา้ ใจกระจา่ ง ชดั เจน ในกรณีท่ยี งั ไมเ่ ขา้ ใจใหถ้ ามครูผูส้ อน 6. ครูสุม่ เรียกนกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกไปเฉลยคาตอบในใบงาน กล่มุ ละ 1 ใบงาน และใหก้ ลมุ่ อน่ื ท่มี ี ผลงานแตกตา่ งกนั ออกไปไดน้ าเสนอเพม่ิ เตมิ โดยมีครูเป็นผูต้ รวจสอบความถูกตอ้ ง ช่ัวโมงที่ 3 1. ครูนาภาพกิจกรรมสหกรณ์ตา่ งๆ ในประเทศไทย มาใหน้ กั เรียนดูและชว่ ยกนั คิดวา่ กจิ กรรมดงั กลา่ วจดั เป็น กจิ กรรมท่อี ยู่ในสหกรณ์ประเภทใด เช่น สหกรณก์ ารเกษตร สหกรณร์ า้ นคา้ สหกรณ์ออมทรพั ย์ สหกรณ์ นคิ ม ตวั อยา่ งกจิ กรรม ไดแ้ ก่ 1) การรวมกล่มุ การเกษตร 2) การจาหน่ายสนิ คา้ ของสหกรณ์ 3) การฝากเงนิ การกเู้งนิ ของสมาชกิ ในชมุ ชน หรอื ในโรงงาน 4) ภาพการรวมกล่มุ ของชาวประมง 2. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั ศกึ ษาความรูเ้รื่อง ประเภทของ สหกรณ์ และปจั จยั ท่ที าใหส้ หกรณ์ประสบผลสาเรจ็ จากหนงั สอื เรียน หนงั สอื อ่านเพมิ่ เตมิ หรือแหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ 3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั ทาใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง สหกรณใ์ นประเทศไทย โดยปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1) สมาชิกคนท่ี 1 ของกลมุ่ เขยี นคาตอบขอ้ ท่ี 1 แลว้ ส่งใบงานไปยงั คนท่ี 2 2) สมาชิกคนท่ี 2 ตรวจสอบความถูกตอ้ งของคาตอบของสมาชกิ คนท่ี 1 แลว้ เขยี นคาตอบ เพม่ิ เติม ในกรณีทค่ี าตอบไม่สมบรู ณ์ หรอื แกไ้ ขในสว่ นทย่ี งั ไม่ถกู ตอ้ ง จากนน้ั เขยี น

คาตอบในขอ้ 2 แลว้ สง่ ใบงานไปยงั คนท่ี 3 3) สมาชกิ คนท่ี 3 ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาตอบของสมาชกิ คนท่ี 2 แลว้ เขยี นคาตอบ เพมิ่ เติม ในกรณีท่คี าตอบไมส่ มบูรณ์ หรอื แกไ้ ขในสว่ นท่ยี งั ไม่ถกู ตอ้ ง จากนนั้ เขยี น คาตอบในขอ้ 3 ใหส้ มาชิกในกลมุ่ คนตอ่ ไปดาเนินกจิ กรรมเช่นเดยี วกนั น้จี นครบทกุ ขอ้ 4. สมาชกิ ในกลุ่มแต่ละกล่มุ จะไดม้ โี อกาสอ่านและเขยี นคาตอบหมนุ เวยี นกนั ไปเรอ่ื ยๆ จนเสรจ็ ทกุ คาถาม 5. สมาชกิ ในกลุ่มทกุ คนช่วยกนั ทบทวนความถกู ตอ้ งของการทาใบงาน 6. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.1 และชว่ ยกนั สรปุ ประเด็นสาคญั เกยี่ วกบั ลกั ษณะของสหกรณ์แตล่ ะประเภท และปจั จยั สาคญั ท่ที าใหส้ หกรณ์ประสบความสาเร็จ 7. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกนั สบื คน้ ขอ้ มูลการดาเนินกจิ การของสหกรณท์ ่นี กั เรยี น สนใจมา 1 แหง่ แลว้ รายงานสรุปตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด ในใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง สบื คน้ ขอ้ มูลกิจการ สหกรณ์ ชั่วโมงท่ี 4 1. ครูสนทนากบั นกั เรียนถงึ การดาเนนิ งานการสบื คน้ ขอ้ มูลกจิ การสหกรณข์ องแต่ละกล่มุ ว่า มวี ธิ กี ารดาเนนิ การในการทางาน หรือมขี น้ั ตอนการทางานอย่างไร มกี ารแบง่ หนา้ ทก่ี นั อยา่ งไร มปี ญั หาและอุปสรรค ตลอดทง้ั การแกไ้ ขปญั หาอย่างไร 2. ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุ่มจบั สลากเพื่อนาเสนอผลงาน ตามหวั ขอ้ ท่กี าหนด โดยมกี ลมุ่ อ่นื ทเ่ี ป็น ฝ่ายฟงั ไดช้ ว่ ยกนั เสนอแนะเพมิ่ เติม ดงั น้ี - กลมุ่ ท่ี 1 นาเสนอผลงาน กลุ่มท่ี 2 เสนอแนะเพม่ิ เตมิ - กลุ่มท่ี 2 นาเสนอผลงาน กลุ่มท่ี 3 เสนอแนะเพม่ิ เติม - กลุ่มท่ี 3 นาเสนอผลงาน กลมุ่ ท่ี 4 เสนอแนะเพมิ่ เติม - กลุ่มท่ี 4 นาเสนอผลงาน กลมุ่ ท่ี 5 เสนอแนะเพมิ่ เตมิ - กลุ่มท่ี 5 นาเสนอผลงาน กลุ่มท่ี 1 เสนอแนะเพม่ิ เติม 3. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปแนวทางการดาเนินกจิ การสหกรณ์ใหป้ ระสบความสาเรจ็ และ ความสาคญั ของสหกรณใ์ นการพฒั นาเศรษฐกจิ

 การวดั และประเมนิ ผล วิธีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.3 ใบงานท่ี 1.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.4 ใบงานท่ี 1.4 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.5 ใบงานท่ี 1.5 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์  สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) หนงั สอื เรยี น เศรษฐศาสตร์ ม.4-ม.6 2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ (1) เชญิ บารุงวงศ์ และกฤษฎา ประศาสนว์ ุฒิ. หลกั การ อดุ มการณ์สหกรณแ์ ละวธิ กี ารสหกรณ์ ในประมวลสาระชดุ วชิ าความรูท้ วั่ ไปเกยี่ วกบั สหกรณ์ หน่วยท่ี 1 สาขาวชิ าสง่ เสรมิ การเกษตร และสหกรณ์ มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. นนทบรุ ี : โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช, 2546. (2) โอภาวดี เขม็ ทอง. ววิ ฒั นาการสหกรณ์ในตา่ งประเทศในประมวลสาระชดุ วชิ าความรู้ ทวั่ ไปเกยี่ วกบั สหกรณ์ มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช. นนทบรุ ี : โรงพมิ พ์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช, 2546. 3) สอ่ื การสอน ภาพกจิ กรรมสหกรณ์ 4) ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง ความรูเ้บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั สหกรณ์ 5) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ประวตั คิ วามเป็นมาของสหกรณ์ 6) ใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง ววิ ฒั นาการของสหกรณ์ในประเทศไทย 7) ใบงานท่ี 1.4 เรื่อง สหกรณ์ในประเทศไทย 8) ใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง สบื คน้ ขอ้ มูลกจิ การสหกรณ์

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ http://www.kwc.ac.th/3Society.htm http://www.irctcoop.com/manual.htm http://www.sangkomdelivery2u.ob.tc/Econ3.html http://sites.google.com/site/banrainarao/column/commu_econ_02 http://www.oknation.net/blog/friendshelpingfriends/2009/08/14/entry-3

สอ่ื การสอน ภาพกิจกรรมสหกรณ์ การรวมกลุ่มการเกษตร การจาหน่ายสนิ คา้ สหกรณ์ การฝากเงนิ การกเู้งนิ ของสมาชกิ ในชมุ ชน การรวมกล่มุ ของชาวประมง

1.1 เรอ่ื ง ความรูเ้ บ้อื งตน้ เกีย่ วกบั สหกรณ์ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. สหกรณ์มลี กั ษณะสาคญั อย่างไร 2. หลกั ปฏบิ ตั ิในการดาเนนิ ธุรกิจของสหกรณ์ โดยทวั่ ไป มอี ะไรบา้ ง

1.1 เรอื่ ง ความรูเ้ บ้อื งตน้ เกยี่ วกบั สหกรณ์ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. สหกรณ์มลี กั ษณะสาคญั อยา่ งไร 1) เป็นธุรกิจทีม่ ปี จั จยั การผลติ คอื คน เงิน ทรพั ยากร และการจดั การ 2) เกิดจากการรวมคน รวมทนุ ดว้ ยความสมคั รใจ เพอื่ ชว่ ยกนั แกไ้ ขปญั หาทางเศรษฐกิจ และสงั คม 3) มวี ตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ช่วยเหลอื ตนเอง และช่วยเหลอื ซง่ึ กนั และกนั 4) เป็นนติ บิ ุคคล มกี ารจดทะเบยี นถกู ตอ้ งตามกฎหมาย 5) สมาชกิ ทกุ คนมสี ทิ ธิเสมอภาคเท่าเทียมกนั 6) มกี ฎหมายสหกรณ์ และขอ้ บงั คบั สหกรณเ์ ป็นแนวทางในการดาเนินธุรกจิ 2. หลกั ปฏบิ ตั ิในการดาเนินธุรกจิ ของสหกรณ์ โดยทวั่ ไป มอี ะไรบา้ ง 1) เปิดรบั สมาชกิ ทวั่ ไป 2) สมาชกิ คนหน่งึ ออกเสยี งลงคะแนนไดเ้ สยี งเดียว 3) จา่ ยเงินปนั ผลตามสว่ นแห่งการซ้อื ของสมาชิก 4) จ่ายดอกเบ้ยี ตามหนุ้ ในอตั ราจากดั 5) เป็นกลางในลทั ธศิ าสนาและการเมอื ง 6) ขายสนิ คา้ ตามราคาตลาด และขายดว้ ยเงนิ สด 7) ส่งเสรมิ การศึกษาอบรมทางสหกรณ์

1.2 เรอื่ ง ประวตั คิ วามเป็นมาของสหกรณ์ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขยี นขอ้ ความในกรอบวา่ งท่มี คี วามสมั พนั ธเ์ ชื่อมโยงกบั ขอ้ ความท่กี าหนดให้  การปฏวิ ตั ิ มกี ารนาเครื่องจกั ร อุตสาหกรรม มาทางานแทนคน ผลท่เี กดิ ของประเทศ องั กฤษ ผูป้ ระกอบการ รายยอ่ ย ลม้ ละลาย ปญั ห า สาคั ญ แนวทางแกป้ ญั หา

 แนวทางสาคญั เกี่ยวกบั สหกรณ์ บดิ าแหง่ การสหกรณ์ คอื ใคร ของโลก ผลท่ี ไดร้ ั บ ปญั หาทเ่ี กิดข้นึ ทดลองจดั ตง้ั ชมรม สหกรณ์ท่นี วิ ฮาโมนี สหรฐั อเมริกา

 นายแพทยว์ ลิ เลยี ม การดาเนนิ งาน ชาวเมอื งไปรตนั บุคคลผมู้ ี ประเทศองั กฤษ สว่ นสาคญั ตอ่ การริเริ่มกจิ การ นายเฮอรม์ นั ชลู ซ์ การดาเนนิ งาน ผลทไ่ี ดร้ บั ชาวเยอรมนั สหกรณ์ นายฟรีดรกิ วลิ เฮลม์ ไรฟ์ไฟเซน ชาวเยอรมนั การดาเนนิ งาน ผลทไ่ี ดร้ บั ผลทไ่ี ดร้ บั

1.2 เร่อื ง ประวตั คิ วามเป็นมาของสหกรณ์ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขยี นขอ้ ความในกรอบวา่ งทม่ี คี วามสมั พนั ธเ์ ชอ่ื มโยงกบั ขอ้ ความท่กี าหนดให้  การปฏวิ ตั ิ มกี ารนาเคร่อื งจกั ร เกิดภาวะวา่ งงาน อตุ สาหกรรม มาทางานแทนคน ผลท่เี กดิ ของประเทศ องั กฤษ ผูป้ ระกอบการ เศรษฐกจิ ตกตา่ รายย่อย ในประเทศ ลม้ ละลาย องั กฤษ แนวคดิ ทนี่ าไปสู่ แนวทางแกป้ ญั หา ปญั ห ระบบสหกรณ์ า สาคั ญ มคี วามขดั แยง้ ในสงั คมระหวา่ ง นายทุนกบั กรรมกร

 โรเบริ ต์ โอเวน แนวทางสาคญั จดั ตงั้ ชมรมสหกรณ์ เก่ยี วกบั สหกรณ์ ร่วมผลติ สงิ่ ของ บดิ าแห่งการสหกรณ์ คอื ใคร เครือ่ งใชใ้ นหมู่ ของโลก สมาชิก ผลท่ี ไดร้ ั บ ไม่ประสบ ความสาเรจ็ อปุ สรรค ปญั หาท่เี กิดข้นึ ทดลองจดั ตง้ั ชมรม ค่าใชจ้ ่าย สหกรณท์ ่นี วิ ฮาโมนี สหรฐั อเมรกิ า สถาบนั การเมอื ง และศาสนา ต่อตา้ น

 นายแพทยว์ ลิ เลยี ม การดาเนนิ งาน ชวนคนงาน ชาวเมอื งไปรตนั รวมทนุ จดั ตงั้ บคุ คลผมู้ ี ประเทศองั กฤษ สมาคมการคา้ เพอื่ ส่วนสาคญั ตอ่ จาหน่ายสนิ คา้ การริเรมิ่ กจิ การ นายเฮอรม์ นั ชลู ซ์ การดาเนนิ งาน ชาวเยอรมนั ผลทไ่ี ดร้ บั สหกรณ์ จดั ตงั้ สหกรณ์ หาทนุ ในหมู่ ไมป่ ระสบ นายฟรดี รกิ วลิ เฮลม์ ช่างฝีมอื ความสาเรจ็ ไรฟ์ไฟเซน และพอ่ คา้ แต่เป็นแบบอย่าง ชาวเยอรมนั สหกรณร์ า้ นคา้ การดาเนนิ งาน จดั ตงั้ สหกรณ์ ผลท่ไี ดร้ บั ผลท่ไี ดร้ บั หาทนุ ข้นึ ในหมู่ พฒั นากลายเป็น เกษตรกร สหกรณต์ น้ แบบ ในชนบท ของโลก

1.3 เรอ่ื ง วิวฒั นาการของสหกรณ์ในประเทศไทย ตอนท่ี 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนนาหมายเลขบนขอ้ ความท่กี าหนดให้ ไปเรยี งลาดบั ในกรอบดา้ นล่าง ตามลาดบั เหตกุ ารณ์ 1 2 3 ประกาศพระราชบญั ญตั ิสหกรณ์ รา้ นสหกรณ์แหง่ แรก การจดั ตง้ั สนั นิบาตสหกรณแ์ หง่ ท่อี าเภอเสนา จงั หวดั ประเทศไทย เพอ่ื เป็นสถาบนั การให้ ฉบบั แรก พระนครศรีอยธุ ยา การศึกษาแก่สมาชกิ สหกรณท์ ง้ั ในพ.ศ. 2471 ช่อื รา้ นสหกรณ์บา้ นสนิ ใช้ ประเทศ ติดต่อประสานงานกบั สหกรณ์ต่างประเทศ 4 5 6 จดั ตง้ั สหกรณ์วดั จนั ทร์ การควบกิจการสหกรณ์ ประกาศกฎกระทรวงเกษตรและ หาทนุ เขา้ ดว้ ยกนั ควบกจิ การเป็น สหกรณ์ กาหนดสหกรณไ์ ว้ 6 ไมจ่ ากดั สนิ ใช้ ขนาดใหญ่ ดาเนนิ ธุรกิจ จงั หวดั พษิ ณุโลก ประการ แบบอเนกประสงค์ 7 9 การดาเนนิ การขยายกิจการ 8 พระราชวงศเ์ ธอ กรมหมน่ื พทิ ยา สหกรณ์ ระยะแรกนน้ั มขี อ้ จากดั การรเิ ริม่ จดั ตง้ั สหกรณ์เชา่ ซ้อื ทด่ี นิ ลงกรณ์ จดั ตง้ั สหกรณ์ ชนดิ ไรฟ์ เรื่อง ทนุ และขอ้ จากดั ในทาง ไฟเซน ทป่ี ระเทศเยอรมนั เพอ่ื ท่จี งั หวดั ปทมุ ธานี ปรบั ใชก้ บั ไทย จุดม่งุ หมายทจ่ี ะ กฎหมาย อปุ ถมั ภค์ นจน 10 สหกรณห์ าทนุ แปรสภาพเป็น สหกรณ์การเกษตร มาจนถงึ ปจั จุบนั

ตอนที่ 2 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. วตั ถปุ ระสงคส์ าคญั ของการจดั ตงั้ สนั นบิ าตสหกรณ์ แห่งประเทศไทย คืออะไร 2. สหกรณ์ตามประกาศกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2516 แบง่ เป็นกีป่ ระเภท อะไรบา้ ง

1.3 เรอ่ื ง วิวฒั นาการของสหกรณ์ในประเทศไทย ตอนที่ 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนนาหมายเลขบนขอ้ ความทก่ี าหนดให้ ไปเรยี งลาดบั ในกรอบดา้ นลา่ ง ตามลาดบั เหตกุ ารณ์ 1 2 3 ประกาศพระราชบญั ญตั สิ หกรณ์ รา้ นสหกรณ์แหง่ แรก การจดั ตงั้ สนั นิบาตสหกรณแ์ หง่ ทอ่ี าเภอเสนา จงั หวดั ประเทศไทย เพอื่ เป็นสถาบนั การให้ ฉบบั แรก พระนครศรอี ยธุ ยา การศึกษาแก่สมาชกิ สหกรณ์ทงั้ ในพ.ศ. 2471 ชอ่ื รา้ นสหกรณ์บา้ นสนิ ใช้ ประเทศ ติดตอ่ ประสานงานกบั สหกรณ์ตา่ งประเทศ 4 5 6 จดั ตง้ั สหกรณว์ ดั จนั ทร์ การควบกจิ การสหกรณ์ ประกาศกฎกระทรวงเกษตรและ หาทนุ เขา้ ดว้ ยกนั ควบกจิ การเป็น สหกรณ์ กาหนดสหกรณไ์ ว้ 6 ไมจ่ ากดั สนิ ใช้ ขนาดใหญ่ ดาเนนิ ธุรกจิ จงั หวดั พษิ ณุโลก ประการ แบบอเนกประสงค์ 7 9 การดาเนินการขยายกิจการ 8 พระราชวงศเ์ ธอ กรมหมนื่ พทิ ยา สหกรณ์ ระยะแรกนน้ั มขี อ้ จากดั การรเิ รม่ิ จดั ตง้ั สหกรณเ์ ชา่ ซ้อื ท่ดี นิ ลงกรณ์ จดั ตงั้ สหกรณ์ ชนิดไรฟ์ เรอ่ื ง ทุนและขอ้ จากดั ในทาง ไฟเซน ทป่ี ระเทศเยอรมนั เพอ่ื ท่จี งั หวดั ปทุมธานี ปรบั ใชก้ บั ไทย จดุ ม่งุ หมายท่จี ะ กฎหมาย อปุ ถมั ภค์ นจน 10 สหกรณห์ าทนุ แปรสภาพเป็น สหกรณก์ ารเกษตร มาจนถงึ ปจั จบุ นั 9 47 1 8 2 5 10 3 6

ตอนที่ 2 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี 1. วตั ถปุ ระสงคส์ าคญั ของการจดั ตง้ั สนั นบิ าตสหกรณ์ แหง่ ประเทศไทย คืออะไร 1) เพอื่ เป็นสถาบนั สาหรบั ใหก้ ารศกึ ษาแก่สมาชกิ สหกรณท์ วั่ ประเทศ 2) เพอื่ ตดิ ต่อประสานงานกบั สถาบนั สหกรณต์ า่ งประเทศ 3) เพอื่ ใหเ้กดิ ความสมั พนั ธ์ และความช่วยเหลอื ร่วมมอื กนั ระหว่างสหกรณส์ ากล ในดา้ นอนื่ ๆ ทีม่ ใิ ช่เกยี่ วกบั การดาเนินธุรกิจ 2. สหกรณต์ ามประกาศกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. 2516 แบง่ เป็นก่ีประเภท อะไรบา้ ง แบง่ เป็น 6 ประเภท คือ 1) สหกรณก์ ารเกษตร 2) สหกรณน์ คิ ม 3) สหกรณป์ ระมง 4) สหกรณอ์ อมทรพั ย์ 5) สหกรณร์ า้ นคา้ 6) สหกรณบ์ รกิ าร

1.4 เร่อื ง สหกรณใ์ นประเทศไทย ตอนที่ 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอธบิ ายลกั ษณะของสหกรณ์ในประเทศไทย แตล่ ะประเภท 1. สหกรณจ์ ำกดั 2. สหกรณไ์ ม่จำกดั 3. สหกรณก์ ำรเกษตร 4. สหกรณ์ประมง 5. สหกรณท์ ีด่ ิน

6. สหกรณ์ร้ำนคำ้ 7. สหกรณ์ออมทรพั ย์ 8. สหกรณ์บริกำร 9. สหกรณเ์ ครดิต ยเู นี่ยน

ตอนท่ี 2 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนอธบิ ายปจั จยั ท่ที าใหส้ หกรณป์ ระสบผลสาเรจ็ และความสาคญั ของสหกรณ์ ปัจจยั ทีท่ ำใหส้ หกรณ์ ประสบผลสำเร็จ ควำมสำคญั ของ สหกรณ์ในกำรพฒั นำ เศรษฐกิจ

1.4 เรอื่ ง สหกรณ์ในประเทศไทย ตอนท่ี 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนอธิบายลกั ษณะของสหกรณ์ในประเทศไทย แตล่ ะประเภท 1. สหกรณจ์ ำกดั สหกรณ์ท่สี มาชิกมีความรับผิดชอบจากัดเพียงไม่เกิน จานวนค่าหุ้นทีย่ งั ใช้ไม่ครบมูลค่าท่ตี นถอื 2. สหกรณ์ไมจ่ ำกดั สหกรณ์ซึ่งสมาชิกทุกคนมคี วามรับผิดชอบร่วมกนั ในหนที้ ั้งปวงของสหกรณ์ โดยไม่จากดั 3. สหกรณก์ ำรเกษตร เป็นสหกรณ์ท่ีผ้ปู ระกอบอาชีพทางการเกษตรรวมตวั 4. สหกรณ์ประมง จัดต้ังมีจดุ ม่งุ หมายให้สมาชิกช่วยเหลือกัน เพื่อแก้ไข ความเดือดร้อน ในการประกอบอาชีพของสมาชิก จัดตั้งในหม่ชู าวประมง เพ่ือแก้ไขปัญหาและอุปสรรค ในการประกอบอาชีพ 5. สหกรณ์ทดี่ ิน เป็นสหกรณ์ทมี่ ีการดาเนินการจัดสรรท่ดี ินทากินมา ให้แก่ราษฏร ผ้ปู ระกอบอาชีพทางการเกษตร

6. สหกรณร์ ้ำนคำ้ เป็นสหกรณ์สาหรับผ้บู ริโภคทั่วไป โดยการจัดจาหน่าย สินค้า เครื่องอุปโภคบริโภคที่จาเป็นในครอบครัวให้แก่ 7. สหกรณอ์ อมทรัพย์ สมาชิก เพ่ือลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว 8. สหกรณบ์ ริกำร เป็นสหกรณ์สาหรับผ้ทู ี่มีรายได้ประจาท่ัวไป ท่ตี ้องการ ออมทรัพย์เป็นประจา และช่วยเหลือกันด้วยการให้ก้ยู ืม 9. สหกรณ์เครดิต เมื่อเกิดความจาเป็ น ยเู นี่ยน เป็นสหกรณ์ที่จัดตง้ั ขึน้ สาหรับผ้ตู ้องการแก้ไขปัญหาการ ประกอบอาชีพ รวมท้ังการส่งเสริมอาชีพ เพ่ือให้เกิด ความมั่นคง และรักษาอาชีพด้งั เดิมท่ดี ีให้คงอย่ตู ่อไป เป็นสหกรณ์ทีจ่ ัดตั้งขึน้ ในกล่มุ ประชากรทม่ี ภี ูมิลาเนา หรือมกี ารประกอบอาชีพหลกั ทมี่ คี วามสัมพันธ์กนั และ อย่ใู นเขตพืน้ ท่ีดาเนินการของสหกรณ์ที่จัดตง้ั มกี ารนา เงินของตนมาสะสมเป็นกองทุน มกี ารบริหารจัดการให้ สมาชิกก้ยู ืม

ตอนท่ี 2 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนอธบิ ายปจั จยั ทท่ี าใหส้ หกรณ์ประสบผลสาเร็จ และความสาคญั ของสหกรณ์ สมาชกิ มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในระบบสหกรณ์ ปัจจยั ทีท่ ำใหส้ หกรณ์ คณะกรรมการดาเนินงานปฏบิ ตั ิงาน ประสบผลสำเร็จ ดว้ ยความซอื่ สตั ย์ ผูจ้ ดั การและเจา้ หนา้ ทีม่ คี วามรูค้ วามสามารถ ไดร้ บั การสนบั สนุนจากรฐั บาล ควำมสำคญั ของ ช่วยแกไ้ ขปญั หาในการประกอบอาชพี สหกรณ์ในกำรพฒั นำ และสง่ เสรมิ การประกอบอาชพี ใหม้ นั่ คง เศรษฐกิจ ยกระดบั ความเป็นอยู่ของประชาชน ใหด้ ีข้นึ สง่ เสรมิ ใหป้ ระชาชนออมทรพั ย์ สะสมทุน สรา้ งชุมชนใหเ้ขม็ แขง็ ดว้ ยการรวมกลมุ่ กนั ร่วมมอื กบั ธุรกจิ ประเภทตา่ งๆ ทาใหเ้กิดผลดีตอ่ การตลาด การคมนาคม ธนาคาร และการประกนั ภยั เป็นสว่ นหนงึ่ ของการพฒั นาชมุ ชน และประเทศ