แบบประเมินแผ่นพบั เรื่อง เศรษฐศาสตรเ์ บ้อื งตน้ กลุ่มท่.ี ................................................. สมาชิกของกลุ่ม 1. .............................................................................. 2. .............................................................................. 4. .............................................................................. 3. .............................................................................. 6. .............................................................................. 5. .............................................................................. ลาดบั คณุ ภาพผลงาน รายการประเมิน 4321 ที่ 1 ความสาคญั ของวชิ าเศรษฐศาสตร์ 2 ขอบข่าย และเป้าหมายของการศกึ ษาวชิ าเศรษฐศาสตร์ 3 ปญั หาพ้นื ฐานทางเศรษฐศาสตร์ 4 กจิ กรรมทางดา้ นเศรษฐศาสตร์ 5 ความคิดริเริม่ สรา้ งสรรค์ รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่อื ..............................................................................ผูป้ ระเมนิ / /....................... ........................... ........................ ดมี าก = 4 3 ดี = 2 1 พอใช้ = ปรบั ปรงุ = เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17-20 ดมี าก 13-16 ดี 9-12 พอใช้ 5-8 ปรบั ปรงุ
2.1 เรอื่ ง กิจกรรมทางดา้ นเศรษฐศาสตร์ ตอนที่ 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอธิบายคาหรอื ขอ้ ความท่เี กีย่ วกบั กิจกรรมทางดา้ นเศรษฐศาสตรท์ ก่ี าหนดให้ ในผงั มโนทศั น์ การผลติ กจิ กรรมทางดา้ น ปจั จยั เศรษฐศาสตร์ การผลติ การบริโภค การแลกเปลีย่ น การกระจาย รายได้
ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาพ แลว้ ตอบคาถาม คาช้ีแจง ภาพท่ี 1 1. ปจั จยั การผลติ ของภาพน้มี อี ะไรบา้ ง 2. โรงงานน้จี ะผลติ สนิ คา้ ใหไ้ ดก้ าไรสูงข้นึ ควรเนน้ ในเรื่องใด
ภาพท่ี 2 1. บุคคลในภาพน้คี วรมหี ลกั ในการบริโภคอยา่ งไร 2. ทาอยา่ งไรผูบ้ รโิ ภคในภาพน้จี ะไม่เสยี เปรยี บผผู้ ลติ
2.1 เรื่อง กจิ กรรมทางดา้ นเศรษฐศาสตร์ ตอนที่ 1 คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอธิบายคาหรือขอ้ ความท่เี กี่ยวกบั กิจกรรมทางดา้ นเศรษฐศาสตรท์ ก่ี าหนดให้ ในผงั มโนทศั น์ การสรา้ งอรรถประโยชน์ การผลติ สนิ คา้ ของปจั จยั การผลติ ข้นึ มาใหมเ่ พอื่ ข้นึ มาใหม่ ก่อใหเ้กดิ สนิ คา้ และบริการ การเกบ็ รกั ษาสนิ คา้ เพอื่ ทีด่ ิน ทาใหม้ คี ณุ ภาพดี แรงงาน การผลติ ทุน การเคลอื่ นยา้ ยสนิ คา้ ปจั จยั สูผ่ บู้ ริโภค การผลติ ผูป้ ระกอบการ การให้ บริ การ กจิ กรรมทางดา้ น การบริโภค ด้านต่าง ๆ เศรษฐศาสตร์ การแลกเปลีย่ น การกระจาย การใชป้ ระโยชน์ รายได้ จากสงิ่ ของและ กระบวนการทีบ่ ุคคล บรกิ ารเพอื่ สนอง ทงั้ สองฝ่ายมกี ารมอบ การกระจายรายไดร้ ะหวา่ ง ความตอ้ งการของ สงิ่ ของทตี่ นครอบครองให้ เจา้ ของปจั จยั การผลติ ทกุ มนุษย์ กนั โดยมสี อื่ กลางในการ ประเภทในการผลติ สนิ คา้ แลกเปลยี่ น เชน่ เงิน และบรกิ ารมรี ายไดเ้ ป็น สงิ่ ของ ค่าเช่า ค่าจา้ ง ดอกเบ้ยี และกาไร
ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาพ แลว้ ตอบคาถาม คาช้ีแจง ภาพท่ี 1 1. ปจั จยั การผลติ ของภาพน้มี อี ะไรบา้ ง ทดี่ ิน เสน้ ใย เครือ่ งจกั ร อปุ กรณ์ โรงงาน ผูป้ ระกอบการ 2. โรงงานน้จี ะผลติ สนิ คา้ ใหไ้ ดก้ าไรสูงข้นึ ควรเนน้ ในเร่อื งใด 1) สนิ คา้ มคี ณุ ภาพตามมาตรฐาน 2) สนิ คา้ ตรงตามความตอ้ งการของผูซ้ ้อื จานวนมาก 3) มคี วามสอดคลอ้ งกบั รายได้ 4) มกี ารกระจายสนิ คา้ ไปยงั ผูซ้ ้อื ใหไ้ ดม้ าก
ภาพที่ 2 1. บคุ คลในภาพน้คี วรมหี ลกั ในการบริโภคอยา่ งไร ควรเลอื กซ้อื สงิ่ ของทใี่ หป้ ระโยชนส์ าหรบั ตนมากทีส่ ดุ เลอื กซ้อื สนิ คา้ ตามรายไดท้ ีต่ นมอี ยโู่ ดยคานงึ ถงึ ความพอใจและ ประโยชนส์ งู สุด 2. ทาอยา่ งไรผูบ้ ริโภคในภาพน้จี ะไม่เสยี เปรยี บผผู้ ลติ เลอื กซ้อื สนิ คา้ ทีม่ คี ณุ ภาพ และดูฉลาก วนั ผลติ วนั หมดอายุ ฟงั ขา่ วสารขอ้ มูลเกยี่ วกบั สนิ คา้ และบรกิ าร เพอื่ ไมใ่ หห้ ลงผดิ ในการซ้อื สนิ คา้ เมือ่ สนิ คา้ มคี ณุ ภาพไม่เป็นไปตามทีโ่ ฆษณาหรือตามฉลากกส็ ามารถรอ้ งเรยี นและแจง้ ความตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ (หมายเหตุ นกั เรียนอาจตอบเป็นอย่างอนื่ ใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของครูผสู้ อน)
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ช่ือ – สกุล การแสดงความ การรบั ฟงั การตง้ั ใจ การร่วม รวม ลาดบั ความรว่ มมือ คิดเห็น ความคดิ เหน็ ทางาน ปรบั ปรงุ 20 ของผรู้ บั การ ที่ ผลงานกลมุ่ ประเมนิ คะแนน 43214321432143214321 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ ดมี าก = 4 3 หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ ีการมอบหมายให้หัวหนา้ กลุ่ม ดี = 2 เป็นผปู้ ระเมิน หรือให้ตวั แทนกลุ่มผลดั กนั ประเมนิ 1 หรือให้มกี ารประเมินโดยเพื่อน โดยตวั นกั เรียนเอง พอใช้ = ตามความเหมาะสมกไ็ ด้ ปรบั ปรุง = เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 – 20 ดีมาก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5 – 8 ปรบั ปรงุ
2 เศรษฐศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 เวลาเรียน 6 ชวั่ โมง มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตวั ช้ีวดั ส 3.1 ม.4-6/1 อภปิ รายการกาหนดราคาและค่าจา้ งในระบบเศรษฐกจิ สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ระบบเศรษฐกิจของโลกในโลกยุคปจั จุบนั มผี ลต่อการกาหนดราคาและค่าจา้ ง โดยรฐั บาล มบี ทบาทในการแทรกแซงและควบคุมราคาเพอื่ การแจกจ่ายและจดั สรรในทางเศรษฐกจิ สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 1) ระบบเศรษฐกิจของโลกในปจั จบุ นั ผลดแี ละผลเสยี ของระบบเศรษฐกจิ แบบตา่ ง ๆ 2) ตลาดและประเภทของตลาด ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของตลาดประเภทตา่ ง ๆ 3) การกาหนดราคาตามอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน การกาหนดราคาในเชงิ กลยทุ ธท์ ม่ี ใี นสงั คมไทย 4) การกาหนดค่าจา้ ง กฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และอตั ราค่าจา้ งแรงงานในสงั คมไทย 5) บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและการควบคมุ ราคาเพอ่ื การแจกจ่ายและจดั สรรในทางเศรษฐกจิ 3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ - สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น 4.1 ความสามารถในการส่อื สาร 4.2 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ - ทกั ษะการคิดแกป้ ญั หา 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ - กระบวนการทางานกลุ่ม คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) รายงานสรุป เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกิจในโลกปจั จบุ นั การวดั และการประเมินผล 7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1) ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง หน่วยเศรษฐกิจ 2) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม 3) ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง ระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนิยม 4) ใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม 5) ใบงานท่ี 2.1 เร่อื ง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ 6) ใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง การกาหนดราคา 7) สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม 7.3 การประเมินหลงั เรียน - แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 7.4 การประเมินช้ินงาน / ภาวะงาน (รวบยอด) - ประเมนิ รายงานสรุป เรอื่ ง ระบบเศรษฐกิจในโลกปจั จบุ นั
การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แบบประเมนิ รายงานสรปุ เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกจิ ในโลกปจั จุบนั รายการประเมนิ คาอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน 1. การเปรียบเทยี บ ดมี าก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ผลดีและผลเสยี เขยี นเปรยี บเทยี บผลดี ของระบบ และผลเสยี ของระบบ เขยี นเปรียบเทยี บผลดี เขยี นเปรียบเทยี บผลดี เขยี นเปรยี บเทยี บผลดี เศรษฐกิจ เศรษฐกจิ ประเภทตา่ งๆ แบบตา่ งๆ ไดถ้ ูกตอ้ งครบถว้ น ทกุ และผลเสยี ของระบบ และผลเสยี ของระบบ และผลเสยี ของระบบ ประเด็น 2. การเปรียบเทยี บ เศรษฐกจิ ประเภทตา่ งๆ เศรษฐกจิ ประเภทต่างๆ เศรษฐกจิ ประเภทต่างๆ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี เขยี นเปรียบเทยี บขอ้ ดี ของตลาดประเภท และขอ้ เสยี ของตลาด ไดถ้ กู ตอ้ ง ไดถ้ ูกตอ้ ง ไดถ้ กู ตอ้ ง ต่างๆ ประเภทตา่ งๆ ได้ ถกู ตอ้ งครบถว้ น ทกุ เกอื บทกุ ประเดน็ บางประเดน็ บางประเด็น ประเดน็ แตส่ านวนวกวน เขยี นเปรยี บเทยี บขอ้ ดี เขยี นเปรียบเทยี บขอ้ ดี เขยี นเปรยี บเทยี บขอ้ ดี และขอ้ เสยี ของตลาด และขอ้ เสยี ของตลาด และขอ้ เสยี ของตลาด ประเภทต่างๆ ได้ ประเภทตา่ งๆ ได้ ประเภทตา่ งๆ ได้ ถกู ตอ้ ง ถูกตอ้ ง ถูกตอ้ ง เกอื บทุกประเดน็ บางประเด็น บางประเด็น แต่สานวนวกวน 3. การกาหนดราคา อธิบายการกาหนดราคา อธบิ ายการกาหนดราคา อธิบายการกาหนดราคา อธบิ ายการกาหนดราคา ตามอปุ สงคแ์ ละ ตามอปุ สงค์ อปุ ทาน ตามอปุ สงค์ อุปทาน ตามอุปสงค์ อุปทาน ตามอปุ สงค์ อปุ ทาน อปุ ทาน พรอ้ มยกตวั อย่าง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง ประกอบไดถ้ ูกตอ้ ง ประกอบถกู ตอ้ ง ประกอบถูกตอ้ ง ประกอบไดถ้ ูกตอ้ ง 4. บทบาทของรฐั ใน ชดั เจน ค่อนขา้ งชดั เจนเป็นสว่ น ค่อนขา้ งชดั เจนเป็นบาง แต่ไม่ชดั เจน การแทรกแซงราคา ใหญ่ ตอน และการควบคุม อธบิ ายบทบาทของรฐั ใน อธบิ ายบทบาทของรฐั ใน อธิบายบทบาทของรฐั ใน อธบิ ายบทบาทของรฐั ใน ราคาเพื่อการ การแทรกแซงราคาและ การแทรกแซงราคาและ การแทรกแซงราคาและ การแทรกแซงราคาและ แจกจา่ ย การควบคุมราคาเพ่อื การควบคุมราคาเพ่อื การควบคุมราคาเพอ่ื การควบคุมราคาเพอ่ื การแจกจา่ ย การแจกจ่าย การแจกจ่าย การแจกจา่ ย พรอ้ มยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตวั อย่าง ประกอบไดถ้ ูกตอ้ ง ประกอบถูกตอ้ ง ประกอบถูกตอ้ ง ประกอบไดถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน ค่อนขา้ งชดั เจน ค่อนขา้ งชดั เจน แตไ่ ม่ชดั เจน เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางตอน
รายการประเมนิ คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน 5. การนาเสนอ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1) ผลงาน นาเสนอผลงาน นาเสนอผลงาน เรยี งตามลาดบั ขนั้ ตอน นาเสนอผลงาน นาเสนอผลงาน เรยี งตามลาดบั ขนั้ ตอน อยา่ งถกู ตอ้ ง ชดั เจน อยา่ งถูกตอ้ ง เป็นบาง และเขา้ ใจง่าย เรยี งตามลาดบั ขน้ั ตอน เรียงตามลาดบั ขน้ั ตอน ขนั้ ตอน แต่ไมช่ ดั เจน อย่างถกู ตอ้ ง ค่อนขา้ ง อยา่ งถูกตอ้ ง แต่ ชดั เจน และเขา้ ใจงา่ ย ค่อนขา้ งวกวน เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17-20 ดมี าก 13-16 ดี 9-12 พอใช้ 5-8 ปรบั ปรุง กจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2
หน่วยเศรษฐกิจและระบบเศรษฐกิจ กจิ กรรมที่ 1 วิธีสอนแบบบรรยาย วิธีสอนโดยการจดั การเรยี นรูแ้ บบร่วมมอื : เทคนิคการ เวลา 2 ชวั่ โมง ตอ่ เร่อื งราว (Jigsaw) 1. ครูนาภาพกจิ กรรมต่าง ๆ ท่เี ป็นกิจกรรมทางดา้ นเศรษฐกิจ มาใหน้ กั เรียนดูและใหน้ กั เรยี นแสดงความ คดิ เหน็ ว่า ใครเป็นผูผ้ ลติ ใครเป็นผูบ้ รโิ ภค ถา้ นกั เรยี นเป็นผูบ้ รโิ ภคดงั ในภาพนกั เรียนจะปฏบิ ตั ิ อย่างไร ผูผ้ ลติ ในภาพดงั กล่าวจะตอ้ งดาเนนิ การอย่างไรจงึ จะเกดิ ผลดที ส่ี ดุ 2. ครูชว่ ยอธบิ ายสรปุ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ กิจกรรมทางเศรษฐกจิ ไมว่ า่ จะเป็นกิจกรรมท่เี กย่ี วขอ้ งกบั การ ผลติ การบริโภค การแลกเปลย่ี น การแจกจ่ายสนิ คา้ และบริการไปยงั ผูบ้ ริโภคจะดาเนนิ การอยา่ ง ประหยดั และตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนในสงั คมใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ ผูด้ าเนนิ กจิ กรรมทาง เศรษฐกจิ เรยี กวา่ หน่วยเศรษฐกจิ 3. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ ในเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี - หน่วยเศรษฐกจิ - ระบบเศรษฐกิจ 4. ครูแบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น ใหส้ มาชิกในแต่ละกลมุ่ มหี มายเลขประจาตวั หมายเลข 1,2,3,4 เรยี กวา่ กลุม่ บา้ น ( Home Groups ) 5. สมาชิกแต่ละหมายเลขของกลมุ่ บา้ นแยกยา้ ยกนั ไปหาสมาชกิ ท่มี หี มายเลขเดยี วกนั รวมกนั เป็นกลุ่มใหม่ เรยี กวา่ กลมุ่ ผูเ้ชยี่ วชาญ ( Expert Groups) จากนนั้ สมาชิกกลุ่มผูเ้ชยี่ วชาญแตล่ ะหมายเลขร่วมกนั ศกึ ษาหาความรูแ้ ละชว่ ยกนั ทาใบงาน ดงั น้ี - กลุ่มหมายเลข 1 ศึกษาความรู้ เรื่อง หน่วยเศรษฐกิจ และทาใบงานท่ี 1.1 - กลุม่ หมายเลข 2 ศกึ ษาความรู้ เร่ือง ระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม และทาใบงานท่ี 1.2 - กลมุ่ หมายเลข 3 ศึกษาความรู้ เร่ือง ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ ม และทาใบงานท่ี 1.3 - กลุ่มหมายเลข 4 ศึกษาความรู้ เรื่อง ระบบเศรษฐกิจแบบผสม และทาใบงานท่ี 1.4
6. สมาชิกกลุ่มผูเ้ช่ยี วชาญแต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของใบงานท่รี บั ผดิ ชอบแลว้ กลบั ไป รวมกลุ่มเดมิ ท่เี รยี กวา่ กลมุ่ บา้ น สมาชิกแต่ละหมายเลขผลดั กนั อธิบายความรูจ้ ากใบงานท่ตี น รบั ผดิ ชอบใหส้ มาชกิ หมายเลขอน่ื ฟงั สมาชิกในกลมุ่ ผลดั กนั ถามขอ้ สงสยั จนมคี วามเขา้ ใจชดั เจน 7. ครูสมุ่ เรียกตวั แทนกลมุ่ แต่ละกล่มุ ออกไปเฉลยคาตอบในใบงานหนา้ ชน้ั เรียน โดยเรียงตามลาดบั ตงั้ แต่ ใบงานท่ี 1.1 – 1.4 และครเู ป็นผูต้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง 8. ครูและนกั เรียนสรปุ ประเดน็ สาคญั ของความรูใ้ นเรอื่ ง หน่วยเศรษฐกจิ และระบบเศรษฐกิจประเภทต่าง ๆ
ตลาดและการกาหนดราคาในระบบเศรษฐกิจ กจิ กรรมท่ี 2 วิธีสอนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยการจดั การเรียนรูแ้ บบร่วมมือ : เทคนิคการ เวลา 4 ชวั่ โมง จดั ทีมแข่งขนั (Team Games Tournament), เทคนิคคคู่ ิด 1. ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งตลาดสนิ คา้ ท่นี กั เรียนรูจ้ กั ซง่ึ อาจเป็นตลาดสนิ คา้ ในทอ้ งถ่นิ ท่นี กั เรียน มภี ูมลิ าเนาอยู่ หรือตลาดสนิ คา้ ในจงั หวดั ต่าง ๆ ทน่ี กั เรยี นเคยไปซ้อื ของ หรอื จากการอา่ น/ฟงั ขา่ ว และ ใหช้ ว่ ยกนั วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของตลาด 2. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ ความหมายของตลาดในระบบเศรษฐกจิ และอธบิ ายความรูเ้ กย่ี วกบั เร่ือง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ ในหวั ขอ้ ดงั น้ี 1) ความสาคญั ของตลาดในระบบเศรษฐกิจ 2) ขนาดของตลาด 3) คนกลางในตลาด 4) ประเภทของตลาด 3. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ ง เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น และใหแ้ ต่ละกลมุ่ ศึกษาความรูเ้พม่ิ เตมิ เกย่ี วกบั เร่อื ง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ จากนน้ั ช่วยกนั ทาใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ โดยใหแ้ ต่ละคนปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ดงั น้ี - สมาชกิ คนท่ี 1 มหี นา้ ทอ่ี ่านคาถามและแยกแยะประเด็นทโ่ี จทยก์ าหนด - สมาชิกคนท่ี 2 วเิ คราะหห์ าแนวทางตอบคาถามอธิบายใหไ้ ดม้ าซง่ึ แนวคาตอบ - สมาชกิ คนท่ี 3 รวมรวมขอ้ มลู และเขยี นคาตอบ - สมาชิกคนท่ี 4 สรุปขน้ั ตอนทงั้ หมด ตรวจคาตอบ 4. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.1 และชว่ ยกนั สรุปประเดน็ สาคญั เกย่ี วกบั เรื่อง ตลาด ในระบบเศรษฐกจิ 5. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเรอ่ื ง การกาหนดราคาตามอุปสงคแ์ ละอุปทานในประเด็นต่อไปน้ี - ความหมายของอุปสงคแ์ ละอุปทาน - ปจั จยั ท่มี ผี ลต่อการกาหนดอุปสงค์ - ปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ การกาหนดอปุ ทาน 6. นกั เรียนกลุ่มเดมิ แต่ละกลุม่ จบั คู่กนั เป็น 2 คู่ ศกึ ษาหาความรูเ้พมิ่ เตมิ จากหนงั สอื เรียน และ
หนงั สอื อ่านเพม่ิ เติม จากนน้ั ร่วมมอื กนั ทาใบงานท่ี 2.2 เรื่อง การกาหนดราคา 7. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.2 และประเดน็ สาคญั 8. ครูอธบิ ายความรูใ้ หแ้ ก่นกั เรยี นในหวั ขอ้ เรอ่ื ง ตอ่ ไปน้ี 1) หลกั เกณฑใ์ นการกาหนดราคาตามอุปสงคแ์ ละอุปทาน 2) การเปลย่ี นแปลงของราคาดุลยภาพและปรมิ าณดลุ ยภาพ 3) ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของการกาหนดราคาตามอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน 4) การกาหนดราคาในเชิงกลยทุ ธท์ ่มี ใี นสงั คมไทย 5) ขอ้ ดี – ขอ้ เสยี ของการกาหนดเชงิ กลยุทธใ์ นสงั คมไทย 6) บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและการควบคุมราคาเพอ่ื การแจกจ่ายและจดั สรร ในทางเศรษฐกิจ 7) การกาหนดค่าจา้ ง อตั ราค่าจา้ งแรงงานในสงั คมไทยและกฎหมายท่เี ก่ียวขอ้ ง 9. นกั เรยี นศกึ ษาความรูเ้พมิ่ เตมิ จากหนงั สอื เรียน หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เติม แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ นกั เรยี นกลุ่มเดมิ แต่ละกลุ่มชว่ ยกนั ตง้ั คาถามจากการฟงั ครูอธบิ ายและจากการศกึ ษาความรู้ เพม่ิ เตมิ กล่มุ ละ 10 ขอ้ 10. นกั เรียนแต่ละกลุ่มผลดั กนั ถามคาถาม และใหก้ ลมุ่ อน่ื เป็นฝ่ายตอบหมนุ เวยี นกนั ไปโดยมี จานวนขอ้ คาถามตามความเหมาะสมของเวลา กลมุ่ ทม่ี หี นา้ ทถ่ี ามจะเป็นผูเ้ฉลย และครูเป็น ผูต้ รวจสอบความถกู ตอ้ ง 11. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นแต่ละกลมุ่ ไปทบทวนความรูจ้ ากหนงั สอื เรียน หนงั สอื อา่ นเพมิ่ เติม เรือ่ ง ตลาดและการกาหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ เพอื่ เตรยี มการแข่งขนั การตอบปญั หาใน ชวั่ โมงต่อไป 12. นกั เรียนและครชู ว่ ยกนั จดั สถานท่สี าหรบั การแขง่ ขนั ตอบปญั หา ดงั น้ี - โตะ๊ หมายเลข 1 เป็นโตะ๊ แข่งขนั สาหรบั นกั เรียนท่มี คี วามสามารถในระดบั เก่ง - โตะ๊ หมายเลข 2 เป็นโตะ๊ แข่งขนั สาหรบั นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถในระดบั ปานกลาง (ค่อนขา้ งเก่ง) - โตะ๊ หมายเลข 3 เป็นโตะ๊ แข่งขนั สาหรบั นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถในระดบั ปานกลาง (ค่อนขา้ งออ่ น) - โตะ๊ หมายเลข 4 เป็นโตะ๊ แขง่ ขนั สาหรบั นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถในระดบั ออ่ น ในกรณีท่มี นี กั เรียนจานวนมาก โตะ๊ หมายเลข 1 2 3 4 อาจมซี า้ กนั หลายโตะ๊ เพอื่ ใหน้ กั เรยี น ทุกคนมโี อกาสแขง่ ขนั
13. นกั เรียนแต่ละคนไปนงั่ ตามโตะ๊ ทค่ี รูจดั ไว้ ครูแจกซองคาถามใหท้ กุ โตะ๊ ซ่งึ มคี าถามเป็น 2 เท่าของ จานวนนกั เรยี น 14. เรมิ่ การแข่งขนั ใหน้ กั เรียนผลดั กนั ทาหนา้ ท่ี ดงั น้ี - นกั เรียนคนท่ี 1 หยบิ ซองคาถาม 1 ซอง เปิดอา่ นคาถาม แลว้ วางลงกลางโตะ๊ - นกั เรยี นอกี 3 คน แข่งขนั กนั ตอบคาถาม โดยเขยี นคาตอบลงในกระดาษคาตอบของตนสง่ ให้ คนอ่าน - คนอา่ นคาถามทาหนา้ ทใ่ี หค้ ะแนน - สมาชิกในทมี แข่งขนั จะผลดั กนั ทาหนา้ ท่อี ่านคาถามจนครบทกุ คาถาม ใหท้ ุกคนไดต้ อบคาถาม จานวนเทา่ กนั - สมาชกิ ทุกคนรวมคะแนนของตน โดยใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ ร่วมกนั รบั รองว่าถกู ตอ้ งพรอ้ มเซน็ ช่ือ 15. นกั เรยี นทุกคนกลบั เขา้ กล่มุ เดมิ นาคะแนนทไ่ี ดร้ บั มารวมกนั เป็นคะแนนของทมี ทมี ทไ่ี ดค้ ะแนนสูงสุดจะ ไดร้ บั การประกาศชมเชย 16. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทารายงานสรุป เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกิจในโลกปจั จุบนั โดยมขี อบข่าย ดงั น้ี 1) การเปรยี บเทยี บผลดแี ละผลเสยี ของระบบเศรษฐกิจแบบตา่ ง ๆ 2) การเปรยี บเทยี บขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของตลาดประเภทตา่ ง ๆ 3) การกาหนดราคาตามอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน 4) บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและการควบคมุ ราคาเพอ่ื การแจกจ่าย • นกั เรียนทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน เศรษฐศาสตร์ ม. 4 - ม.6 2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ (1) นราทพิ ย์ ชตุ ิวงศ์ และชลดา จามรกลุ . พ้นื ฐานเศรษฐศาสตรจ์ ลุ ภาค. กรุงเทพมหานคร : คณะเศรษฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , 2541. (2) พอพนั ธ์ อยุ ยานนท.์ พฒั นาการเศรษฐกิจไทย ในประมวลสาระชดุ วชิ าไทยศกึ ษา
หน่วยท่ี 3 สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช. นนทบุรี : โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช, 2546. (3) รตั นา สายคณิต. การพฒั นาเศรษฐกิจ ในเอกสารการสอนชุดวชิ าสงั คมศกึ ษา 3 : เศรษฐศาสตรส์ าหรบั ครู หน่วยท่ี 14 สาขาวชิ าศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั - ธรรมาธิราช. นนทบุรี :โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช,2546. (4) รตั นา สายคณิต และคณะ. พ้นื ฐานเศรษฐศาสตรม์ หภาค. กรุงเทพมหานคร : คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , 2540. (5) วนั รกั ษ์ มง่ิ มณีนาคนิ . หลกั เศรษฐศาสตรม์ หภาค. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 14. กรุงเทพมหานคร : 3) ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง หน่วยเศรษฐกจิ 4) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนิยม 5) ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ ม 6) ใบงานท่ี 1.4 เรือ่ ง ระบบเศรษฐกิจแบบผสมผสาน 7) ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ 8) ใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง การกาหนดราคา 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ http://www.bot.or.th http://www.mof.go.th http://www.idis.ru.ac.th http://www.mfa.go.th/business/1092.php http://www.itd.or.th/th/comment/reply/354
แบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 คาช้ีแจง ใหก้ า ทบั ตวั อกั ษรหนา้ ขอ้ ความท่เี ป็นคาตอบท่ถี ูกทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว 1. ขอ้ ใดจดั เป็นหน่วยเศรษฐกิจ ก. บรษิ ทั หา้ งรา้ น หา้ งหุน้ ส่วน ข. ครวั เรอื น ธุรกจิ องคก์ รรฐั บาล ค. บริษทั หา้ งสรรพสนิ คา้ องคก์ ารโทรศพั ท์ ง. สหกรณ์ ธนาคาร บรษิ ทั เงนิ ทุนหลกั ทรพั ย์ 2. ขอ้ ความใดสมั พนั ธก์ บั ระบบเศรษฐกจิ ก. การดาเนนิ กจิ กรรมต่างๆ ของรฐั บาลทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ธุรกิจ ข. การดาเนินงานต่างๆ ทม่ี คี วามเก่ียวขอ้ งกบั ผผู้ ลติ จานวนมาก ค. การนาปจั จยั การผลติ ออกสูต่ ลาดในรูปแบบตา่ งๆ เพอื่ ประโยชนต์ ่อผผู้ ลติ แต่คานึงถงึ ความเป็นธรรมของผูบ้ ริโภค ง. ความร่วมมอื กนั ของมนุษยใ์ นการสรา้ งและใชท้ รพั ยากร เพอ่ื สนองความตอ้ งการของสมาชกิ ใน สงั คมทม่ี กี ารปฏบิ ตั คิ ลา้ ยคลงึ กนั 3. ขอ้ ใดจดั เป็นลกั ษณะของระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม ก. มกี ิจกรรมทแ่ี สดงถงึ การคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพของแรงงาน ข. รฐั จะเขา้ ไปควบคมุ กจิ การสาธารณูปโภค และกิจการธนาคาร ค. การดาเนินกิจกรรมทางดา้ นเศรษฐกจิ โดยผ่านกลไกราคา ง. เอกชนสามารถดาเนินกิจการทางดา้ นอุตสาหกรรมร่วมกบั รฐั บาลได้ 4. ในระบบเศรษฐกิจท่มี ผี ูผ้ ลติ นอ้ ยราย จะส่งผลสาคญั ในเรือ่ งใด ก. ผูผ้ ลติ มกี าไรมาก ข. ทาใหเ้กดิ การผกู ขาดการผลติ ค. ผูบ้ รโิ ภคเลอื กซ้อื สนิ คา้ ไดน้ อ้ ยลง ง. มกี ารทาลายทรพั ยากรธรรมชาตลิ ดนอ้ ยลง 5. ขอ้ ใดเป็นขอ้ ดขี องระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นยิ ม ก. การแขง่ ขนั กนั ขายสนิ คา้ ทาใหค้ ุณภาพของสนิ คา้ ดขี ้นึ ข. มกี ารกระจายรายไดข้ องประชาชนสูงข้นึ อยา่ งเทา่ เทยี มกนั ค. เอกชนสามารถตดั สนิ ใจผลติ สนิ คา้ ไดอ้ ย่างเสรไี ม่ถกู จากดั จากรฐั บาล ง. ผูบ้ ริโภคและผูผ้ ลติ มสี ทิ ธิเสรภี าพเทา่ เทยี มกนั ในเร่อื งของการตดั สนิ ใจผลติ และบริโภค
6. ลกั ษณะเดน่ ของระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนยิ มเป็นอย่างไร ก. รฐั และเอกชนร่วมมอื กนั ประกอบธุรกจิ ขนาดใหญ่ เพอื่ ประโยชนข์ องประเทศ ข. รฐั ควบคุมกจิ การธนาคาร อตุ สาหกรรมขน้ั พ้นื ฐาน และกจิ การสาธารณูปโภค ค. ผูผ้ ลติ ตอ้ งแบ่งปนั ผลประโยชน์ เพอื่ เป็นสวสั ดกิ ารประชาชน ง. ผูป้ ระกอบกิจการธุรกจิ ขนาดใหญ่มเี สรีภาพในการผลติ 7. ระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนิยมมขี อ้ เสยี อย่างไร ก. การลงทุนในธุรกิจตา่ งมตี น้ ทุนมาก แต่มกี าไรนอ้ ย ข. รฐั บาลเขา้ ไปแทรกแซงกลไกราคาต่อผูผ้ ลติ ทุกประเภท ค. ประชาชนไมม่ เี สรีภาพอย่างเต็มท่ใี นการทาธุรกจิ ท่ตี อ้ งการ ง. มกี ารผกู ขาดราคาสนิ คา้ ทเ่ี อกชนเป็นผูผ้ ลติ และประชาชนไม่ไดร้ บั สวสั ดกิ ารจากรฐั บาล 8. ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ มมขี อ้ ดอี ยา่ งไร ก. ประชาชนมอี านาจตอ่ รองราคาสนิ คา้ ข. เอกชนมแี รงจูงใจในการผลติ หรอื คดิ คน้ ส่งิ ใหม่ๆ ค. ธุรกจิ ขนาดใหญ่มกี าไรมาก เพราะมกี ารรวมกลุ่มกนั ง. ประชาชนไดร้ บั การดูแลเกยี่ วกบั สวสั ดกิ ารจากรฐั ค่อนขา้ งดี 9. ระบบเศรษฐกิจแบบผสมมลี กั ษณะเดน่ อย่างไร ก. รฐั ไม่แทรกแซงราคาสนิ คา้ หรือธุรกจิ ทุกขนาด ข. รฐั มหี นา้ ท่อี านวยความสะดวกแก่ผูป้ ระกอบการขนาดเลก็ ค. รฐั เขา้ ไปดาเนนิ กจิ กรรมอุตสาหกรรมประเภทการบริการและการท่องเท่ยี ว ง. รฐั บาลมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ หลายดา้ น เพอื่ ใหเ้กิดความเป็นธรรมทางเศรษฐกจิ 10. ขอ้ ดขี องระบบเศรษฐกจิ แบบผสมคืออะไร ก. รฐั บาลสามารถเขา้ ไปควบคมุ หรืออกกฎหมายเพอ่ื กากบั ถา้ เอกชนดาเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ จนสรา้ งความเดอื ดรอ้ นตอ่ ประชาชน ข. รายไดข้ องแรงงานมจี านวนเทา่ เทยี มกนั ทกุ คน สง่ ผลใหป้ ระชาชนมคี วามตง้ั ใจในการทางาน ในองคก์ รธุรกจิ อยา่ งเต็มท่ี ค. เอกชนมกี าลงั ใจในการผลติ สนิ คา้ ตามนโยบายของรฐั บาล ง. การบริหารงานขององคก์ รธุรกิจมปี ระสทิ ธภิ าพ
11. ขอ้ เสยี ของระบบเศรษฐกจิ แบบผสมคืออะไร ก. การบริหารงานของรฐั ในกจิ การอุตสาหกรรมบางประเภทขาดประสทิ ธิภาพเมอื่ เทยี บกบั เอกชน ข. เอกชนมบี ทบาทสาคญั ในการแข่งขนั กนั ผลติ สนิ คา้ กบั รฐั บาล ทาใหเ้กิดการเปรยี บเทยี บ ค. รายไดจ้ ากการผลติ สนิ คา้ ตอ้ งถูกนามาแบง่ ปนั ใหร้ ฐั ในรูปแบบของการเสยี ภาษี ง. เอกชนมพี ลงั อานาจการตอ่ รองการผลติ และการบริการกบั รฐั บาล 12. ขอ้ ความเก่ยี วกบั ตลาด ขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก. ประเทศใดใชน้ โยบายการคา้ เสรกี บั ประเทศตา่ งๆ ตลาดสนิ คา้ จะกวา้ งขวาง ข. พ่อคา้ คนกลางจะเป็นผูท้ ่มี อี านาจในการคา้ ขายทใ่ี กลช้ ดิ ประชาชนมากท่สี ดุ ค. ตลาดจะมอี าณาเขตกวา้ งขวางเพยี งใดข้นึ อยู่กบั นโยบายของรฐั ง. สนิ คา้ ขนาดเลก็ เคลอ่ื นยา้ ยไดง้ า่ ย จะมอี าณาเขตแคบ 13. ขอ้ ใดเป็นตลาดปจั จยั การผลติ ก. ตลาดหลกั ทรพั ย์ ข. ตลาดเส้อื ผา้ อาหาร ค. ตลาดซ้อื ขายเครื่องสูบนา้ ง. ตลาดซ้อื เงนิ ตราต่างประเทศ 14. ตลาดทม่ี กี ารแข่งขนั อยา่ งสมบูรณม์ ลี กั ษณะสาคญั ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. ธุรกิจรายใหมม่ นี อ้ ย ผูข้ ายมอี ทิ ธิพลในการกาหนดราคา ข. ผูซ้ ้อื และผูข้ ายจะตอ้ งมคี วามรูเ้กยี่ วกบั สภาวะตลาด ค. สนิ คา้ ทซ่ี ้อื หรอื ขาย จะตอ้ งมลี กั ษณะอย่างเดยี วกนั ง. การตดิ ตอ่ ซ้อื ขายจะตอ้ งกระทาโดยสะดวก 15. ขอ้ ความใด ไมส่ อดคลอ้ งกบั กฎของอปุ สงค์ (Law of demand) ก. เมอื่ ทเุ รยี นมรี าคาถูก คนก็จะซ้อื ทุเรียนมากข้นึ ข. เมอ่ื เงาะมรี าคาแพง คนกจ็ ะซ้อื เงาะจานวนนอ้ ยลง ค. เมอ่ื โทรศพั ทม์ อื ถอื ราคาลดลง คนก็จะซ้อื โทรศพั ทม์ อื ถอื มากข้นึ ง. เมอ่ื ยางพารามรี าคาแพงข้นึ มผี ลใหต้ ลาดต่างประเทศงดซ้อื ยางพาราของไทย 16. ปจั จยั ท่มี ผี ลตอ่ การกาหนดอปุ สงคค์ อื อะไร ก. ราคาสนิ คา้ รายไดเ้ฉลย่ี ของครวั เรอื น จานวนประชากร ข. ฤดูกาล รายไดเ้ฉลย่ี ของครวั เรอื น ประเภทของสนิ คา้ ค. ราคาสนิ คา้ จานวนประชากร รฐั บาล ประเภทสนิ คา้
ง. การเปลย่ี นแปลงราคาสนิ คา้ จานวนสนิ คา้ 17. “ถา้ ราคาสนิ คา้ ลดลง ผูผ้ ลติ สนิ คา้ ออกมาจาหน่ายลดลง ถา้ ราคาสนิ คา้ เพมิ่ ข้นึ ผูผ้ ลติ สนิ คา้ จะผลติ สนิ คา้ ออกมา จาหน่ายเพม่ิ ข้นึ ” ขอ้ ความดงั กลา่ วสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ก. อุปสงค์ ข. อปุ ทาน ค. กฎของอุปสงค์ ง. กฎของอุปทาน 18. ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อการกาหนดอุปทานคอื อะไร ก. รายไดเ้ฉลย่ี ของครวั เรือน ข. จานวนผูผ้ ลติ หรือผขู้ าย ค. ความนิยมของผูผ้ ลติ ง. ฤดูกาล 19. ระดบั ราคาทจ่ี านวนสนิ คา้ ท่ผี ูบ้ ริโภคตอ้ งการซ้อื ขณะนน้ั จะเทา่ กบั จานวนสนิ คา้ ทผ่ี ูผ้ ลติ จะผลติ ออกมา จาหน่ายในขณะเดยี วกนั พอดี เรยี กว่าอะไร ก. ราคาดุลยภาพ ข. ราคายตุ ธิ รรม ค. ราคาของผูผ้ ลติ ง. ราคาของผูบ้ รโิ ภค 20. หลกั เกณฑใ์ นการกาหนดราคาสนิ คา้ ในเชงิ กลยุทธ์ ขอ้ ใดไมถ่ กู ตอ้ ง ก. กาหนดราคาขายแตกต่างกนั ข้นึ อยูก่ บั ลกั ษณะของผซู้ ้อื ข. กาหนดราคาขายใหแ้ ตกต่างกนั ตามปริมาณสนิ คา้ ท่ซี ้อื ค. กาหนดราคาสนิ คา้ ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องผูถ้ อื หนุ้ ง. กาหนดราคาสนิ คา้ ตามชว่ งเวลาทต่ี ่างกนั 21. การแทรกแซงดา้ นราคาของรฐั สามารถทาไดห้ ลายรูปแบบ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. การควบคมุ ราคาสนิ คา้ ไม่ใหส้ ูงข้นึ ข. รฐั กาหนดราคาสนิ คา้ ทกุ ประเภท ค. การรบั จานาสนิ คา้ เกษตร ง. การประกนั ราคา 22. กลไกสาคญั ทเ่ี ป็นตวั กาหนดค่าจา้ งคืออะไร ก. การกาหนดราคาของรฐั ข. อปุ สงคต์ อ่ ผูบ้ ริโภค และอุปทานของผูผ้ ลติ ค. อุปสงคต์ อ่ แรงงาน และอุปทานของแรงงาน
ง.อปุ สงคต์ ่อแรงงาน และการกาหนดราคาของผผู้ ลติ 23. ประเทศสว่ นใหญ่ในโลกมรี ะบบเศรษฐกิจแบบใด ก. ทนุ นยิ ม ข. เสรีนิยม ค. แบบผสม ง. สงั คมนยิ ม 24. อตั ราค่าจา้ งขนั้ ตา่ ของกรุงเทพมหานคร วนั ละเท่าใด ก. 200 บาท ข. 206 บาท ค. 260 บาท ง. 266 บาท 25. พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองแรงงานฉบบั ปจั จุบนั มคี วามสาคญั ในขอ้ ใดมากท่สี ุด ก. กาหนดราคาค่าจา้ งของแรงงานทวั่ ประเทศ ข. ควบคุมนายจา้ งใหม้ สี วสั ดกิ ารท่ดี ตี อ่ แรงงาน ค. แกไ้ ขปญั หาขอ้ ขดั แยง้ ระหว่างลกู จา้ งและนายจา้ ง ง. กาหนดราคาค่าจา้ งขนั้ ตา่ สาหรบั แรงงานในโรงงาน เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรียน หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ขอ้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 เฉลย ข ง ค ข ก ข ค ง ง ก ขอ้ 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 เฉลย ก ก ค ก ง ก ง ข ก ค ขอ้ 21 22 23 24 25 เฉลย ข ค ค ข ค
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4-6 เวลา 2 ชวั่ โมง เศรษฐศาสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ระบบเศรษฐกจิ ในโลกปจั จุบนั เรอื่ ง หน่วยเศรษฐกจิ และระบบเศรษฐกจิ สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด ระบบเศรษฐกจิ แบบตา่ ง ๆ ลว้ นมที ง้ั ผลดแี ละผลเสยี แตกตา่ งกนั และมผี ลตอ่ การกาหนดราคา และค่าจา้ ง ตวั ช้ีวดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ส 3.1 ม.4-6/1 อภปิ รายการกาหนดราคาและค่าจา้ งในระบบเศรษฐกจิ 2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธบิ ายประเภทของระบบเศรษฐกจิ ของโลกในปจั จุบนั ได้ 2) วเิ คราะหผ์ ลดแี ละผลเสยี ของระบบเศรษฐกจิ แบบตา่ ง ๆได้ สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง - ระบบเศรษฐกิจของโลกในปจั จบุ นั ผลดแี ละผลเสยี ของระบบเศรษฐกจิ แบบตา่ ง ๆ 3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น - สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ 4.2 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ - กระบวนการทางานกลุ่ม
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. ม่งุ มนั่ ในการทางาน กิจกรรมการเรียนรู้ (วิธีสอนแบบบรรยาย วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรูแ้ บบร่วมมือ : เทคนิค การต่อเร่ืองราว (Jigsaw)) นกั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 ชวั่ โมงที่ 1 1. ครูนาภาพกิจกรรมต่าง ๆ ท่เี ป็นกิจกรรมทางดา้ นเศรษฐกจิ มาใหน้ กั เรยี นดู เชน่ - การซ้อื ขายสนิ คา้ ในตลาดสด ตลาดนดั ในหา้ งสรรพสนิ คา้ - ชา่ งเสรมิ สวยกาลงั เสรมิ สวยใหแ้ ก่ลกู คา้ 2. ครูใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั แสดงความคิดเหน็ ในประเดน็ ต่อไปน้ี - ใครเป็นผูบ้ รโิ ภค - ถา้ นกั เรยี นเป็นสว่ นหนึ่งของผูบ้ รโิ ภคในภาพ นกั เรียนจะปฏบิ ตั ิอยา่ งไร อธบิ ายเหตผุ ล - ใครเป็นผูผ้ ลติ - ผูผ้ ลติ ในภาพนนั้ จะตอ้ งดาเนินงานอยา่ งไร จึงจะเกิดผลดที ่สี ดุ 3. ครูชว่ ยอธบิ ายสรปุ ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจวา่ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจไมว่ ่าจะเป็นกจิ กรรมท่เี กย่ี วขอ้ งกบั การผลติ การ บริโภค การแลกเปลย่ี น การแจกจ่ายสนิ คา้ และบรกิ ารไปยงั ผูบ้ ริโภค จะตอ้ งดาเนนิ การอย่างประหยดั และ ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนในสงั คมใหไ้ ดม้ ากทส่ี ดุ ผูด้ าเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกิจ เรยี กวา่ หน่วย เศรษฐกิจ 4. ครูอธบิ ายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ ในเรือ่ งตอ่ ไปน้ี 1) หน่วยเศรษฐกจิ - ประเภทของหน่วยเศรษฐกิจ - ความสมั พนั ธข์ องหน่วยเศรษฐกจิ 2) ระบบเศรษฐกิจ
- ระบบเศรษฐกิจแบบทนุ นยิ ม (Capitalism) - ระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนิยม (Socialism) - ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม (Mixed economy) 5. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และอ่อน โดยแบง่ กลมุ่ ไวล้ ว่ งหนา้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนในกลมุ่ มหี มายเลข 1,2,3,4 เรยี กกลมุ่ น้วี ่า กลมุ่ บา้ น ( Home Groups ) 6. สมาชกิ แต่ละหมายเลขของกลมุ่ บา้ นแยกยา้ ยกนั ไป หากลมุ่ สมาชิกใหม่ทม่ี หี มายเลขเหมอื นกนั หมายเลข 1 ไปรวมกบั หมายเลข 1 หมายเลข 2 ไปรวมกบั หมายเลข 2 หมายเลข 3 ไปรวมกบั หมายเลข 3 หมายเลข 4 ไปรวมกบั หมายเลข 4 เรียกกล่มุ ใหม่วา่ กลุ่มผูเ้ช่ยี วชาญ (Expert Groups) สมาชกิ กลุ่มผูเ้ชยี่ วชาญแต่ละหมายเลข อาจมจี านวนมากในกรณีทน่ี กั เรยี นในหอ้ งมี จานวนมาก ดงั นนั้ ครูอาจใหส้ มาชกิ ท่มี หี มายเลขเดยี วกนั แยกออกเป็น 2 กลุม่ ย่อย เช่น หมายเลข 1 มี 2 กลมุ่ คือ - กลมุ่ หมายเลข 1 มี 2 กลุ่ม กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 ก และกลมุ่ 1 ข - กลมุ่ หมายเลข 2 มี 2 กลุ่ม กลมุ่ คือ กลุ่ม 2 ก และกลุ่ม 2 ข - กลุ่มหมายเลข 3 มี 2 กลมุ่ กลุ่ม คือ กลุ่ม 3 ก และกล่มุ 3 ข เป็นตน้ 7. สมาชกิ กลุ่มผูเ้ชยี่ วชาญ (Expert Groups) แต่ละหมายเลขร่วมกนั ศึกษาหาความรู้ และช่วยกนั ทา ใบงาน ดงั น้ี - กลมุ่ หมายเลข 1 ศึกษาความรูเ้รือ่ ง หน่วยเศรษฐกิจ และทาใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง หน่วยเศรษฐกิจ - กลุ่มหมายเลข 2 ศกึ ษาความรูเ้รื่อง ระบบเศรษฐกจิ แบบทุนนยิ มและทาใบงานท่ี 1.2 เรอื่ งระบบ เศรษฐกิจแบบทุนนยิ ม - กลมุ่ หมายเลข 3 ศกึ ษาความรูเ้รื่อง ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ ม และทาใบงานท่ี 1.3 เรือ่ ง ระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนิยม - กลมุ่ หมายเลข 4 ศกึ ษาความรูเ้รื่อง ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม และทาใบงานท่ี 1.4 เร่ือง ระบบ เศรษฐกิจแบบผสม
ชวั่ โมงท่ี 2 1. ครูสนทนาและซกั ถามนกั เรียนถงึ ความรูท้ ่นี กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ไดศ้ กึ ษาและทาใบงานวา่ กล่มุ ใด มปี ญั หาท่สี งสยั ในเรอ่ื งใด ครูอธบิ ายเพมิ่ เตมิ จนนกั เรยี นมคี วามเขา้ ใจชดั เจน 2. นกั เรียนกลุม่ ผูเ้ชยี่ วชาญ (Expert Groups ) แตล่ ะหมายเลขชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของ การทาใบงานท่ตี นรบั ผดิ ชอบ 3. สมาชกิ กลุ่มผูเ้ชีย่ วชาญแตล่ ะหมายเลขกลบั ไปยงั กลุ่มเดมิ ทเ่ี รยี กวา่ กลุ่มบา้ น ( Home Groups) แลว้ ใหแ้ ตล่ ะหมายเลขผลดั กนั อธบิ ายความรูจ้ ากใบงานทต่ี นรบั ผดิ ชอบใหส้ มาชิกหมายเลขอน่ื ฟงั กรณีถา้ มสี มาชกิ คนใดสงสยั ใหซ้ กั ถามจนมคี วามเขา้ ใจตรงกนั 4. ครูสมุ่ เรยี กตวั แทนแต่ละกลุ่มออกไปเฉลยคาตอบในใบงานหนา้ ชนั้ เรียน เรียงตามลาดบั ตง้ั แต่ ใบงานท่ี 1.1 - 1.4 โดยใหก้ ลมุ่ อ่นื ท่มี ผี ลงานแตกต่างกนั ไปไดเ้สนอเพ่ิมเติม 5. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ ประเด็นสาคญั ของความรใู้ นเร่ือง หน่วยเศรษฐกจิ และระบบเศรษฐกจิ ประเภทต่าง ๆ ตลอดจนขอ้ ดแี ละขอ้ จากดั ของระบบเศรษฐกิจแต่ละประเภท การวดั และประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบก่อนเรียน รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.3 ใบงานท่ี 1.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 1.4 ใบงานท่ี 1.4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรียน เศรษฐศาสตร์ ม.4-ม.6 2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพม่ิ เตมิ (1) นราทพิ ย์ ชุตวิ งศ์ และชลดา จามรกุล. พ้นื ฐานเศรษฐศาสตรจ์ ุลภาค. กรงุ เทพมหานคร : คณะเศรษฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , 2541. (2) พอพนั ธ์ อยุ ยานนท.์ พฒั นาการเศรษฐกจิ ไทย ในประมวลสาระชุดวชิ าไทยศึกษา
หน่วยที่ 3 สาขาวิชาศลิ ปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธิราช. นนทบรุ ี : โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช, 2546. (3) รตั นา สายคณิต. การพฒั นาเศรษฐกิจ ในเอกสารการสอนชุดวิชาสงั คมศกึ ษา 3 : เศรษฐศาสตรส์ าหรบั ครู หน่วยท่ี 14 สาขาวิชาศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั - ธรรมาธริ าช. นนทบรุ ี :โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช,2546. (4) รตั นา สายคณิต และคณะ. พ้นื ฐานเศรษฐศาสตรม์ หภาค. กรงุ เทพมหานคร : คณะ เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , 2540. (5) วนั รกั ษ์ มง่ิ มณีนาคนิ . หลกั เศรษฐศาสตรม์ หภาค. พมิ พค์ รง้ั ท่ี 14. กรงุ เทพมหานคร : 3) ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง หน่วยเศรษฐกิจ 4) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม 5) ใบงานท่ี 1.3 เร่อื ง ระบบเศรษฐกิจแบบสงั คมนยิ ม 6) ใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ http://www.bot.or.th http://www.mof.go.th http://www.idis.ru.ac.th http://www.mfa.go.th/business/1092.php http://www.itd.or.th/th/comment/reply/354
1.1 เร่อื ง หน่วยเศรษฐกจิ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี หน่วยเศรษฐกจิ ท่สี าคญั ไดแ้ ก่ หน่วยเศรษฐกจิ ประเภทใดบา้ ง จงอธบิ าย
1.1 เรือ่ ง หน่วยเศรษฐกิจ คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 1. ครวั เรือน เป็นหน่วยเศรษฐกิจทีอ่ าจเป็นบุคคลเพยี งคน เดยี วหรือหลายคนร่วมกนั ตดั สนิ ใจ เพอื่ ใชท้ รพั ยากรไม่วา่ จะ หน่วยเศรษฐกิจท่สี าคญั เป็นเงนิ ทรพั ยส์ นิ และแรงงานใหเ้กิดประโยชนม์ ากทสี่ ุด ไดแ้ ก่ หน่วยเศรษฐกิจ สมาชกิ ครวั เรอื นอาจเป็นเจา้ ของปจั จยั การผลติ เป็นแรงงาน ประเภทใดบา้ ง จงอธบิ าย และเป็นผูป้ ระกอบกจิ การใดกิจการหนง่ึ 2.ธุรกจิ เป็นบุคคลหรือกล่มุ บคุ คลทที่ าหนา้ ทีใ่ นการนาเอา ปจั จยั การผลติ ตา่ ง ๆ แลว้ นาไปจา่ ยใหแ้ ก่ผบู้ รโิ ภค จดุ ม่งุ หมายสาคญั คอื การแสวงหากาไรสงู สุดจากการ ประกอบการของตน 3.องคก์ รรฐั บาล เป็นหน่วยงานของรฐั ส่วนราชการ ต่าง ๆ มี หนา้ ทีแ่ ละความสมั พนั ธ์ กบั หน่วยงานอนื่ ๆ ในระบบ เศรษฐกิจ และอาจเป็นเจา้ ของปจั จยั การผลติ ผูผ้ ลติ ผูบ้ รโิ ภค ในคราวเดียวกนั
1.2 เร่อื ง ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ระบบเศรษฐกิจแบบ ทุนนิยม มลี กั ษณะสาคญั อย่างไร ระบบเศรษฐกิจแบบ ทุนนิยม มขี อ้ ดอี ย่างไร ระบบเศรษฐกจิ แบบ ทุนนิยม มขี อ้ เสยี อย่างไร
1.2 เรือ่ ง ระบบเศรษฐกจิ แบบทนุ นิยม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี เอกชนมกี รรมสทิ ธิใ์ นทรพั ยส์ นิ มเี สรีภาพในการผลติ สามารถตดั สนิ ใจในการผลติ ว่าจะผลติ อะไร ผลติ อยา่ งไร ระบบเศรษฐกิจแบบ ผลติ เพอื่ ใคร โดยรฐั บาลไมม่ สี ่วน ทุนนยิ ม มลี กั ษณะสาคญั เขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งและควบคมุ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ มกี าร อย่างไร แข่งขนั กนั เพอื่ เป็นปจั จยั สาคญั ในการป้องกนั การ แสวงหากาไรเกินควร ระบบเศรษฐกจิ แบบ 1. เกิดแรงจูงใจในการผลติ และการทางานทาให้ ทนุ นิยม มขี อ้ ดอี ยา่ งไร เศรษฐกิจของประเทศขยายตวั อย่างรวดเรว็ 2. การแขง่ ขนั การผลติ จะทาใหค้ ณุ ภาพของงานและ ระบบเศรษฐกิจแบบ คณุ ภาพของสนิ คา้ ดีข้นึ ทุนนยิ ม มขี อ้ เสยี อย่างไร 3.บคุ คลในระบบเศรษฐกจิ มอี ิสระในการใชท้ รพั ยากร หรือ ประกอบกิจการทีต่ อ้ งการ 4. ผูบ้ ริโภคมโี อกาสบรโิ ภคสนิ คา้ และบรกิ ารตา่ งๆ ทเี่ ป็น ธรรมมากข้นึ 1.การกระจายรายไดข้ องประชาชนไมเ่ ทา่ เทยี มกนั คนมี ทรพั ยส์ นิ มากหรือนายทนุ ย่อมแสวงหารายไดจ้ าก ทรพั ยส์ นิ ไดม้ าก 2.อาจเป็นเหตทุ าใหว้ กิ ฤตกิ ารณท์ างเศรษฐกจิ มี ความรุนแรง เมอื่ มเี หตกุ ารณท์ ที่ าใหเ้กดิ การขาด แคลน ในบางครงั้ รฐั บาลจาเป็นตอ้ งควบคมุ ราคา 3.ผูผ้ ลติ อาจจะรวมตวั กนั ผกู ขาดการผลติ สนิ คา้ และ บริการ ทาใหผ้ ูบ้ ริโภคตอ้ งบรโิ ภคในราคาสูง
1.3 เรือ่ ง ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนิยม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนิยม มลี กั ษณะสาคญั อยา่ งไร ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนยิ ม มขี อ้ ดอี ย่างไร
ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนิยม มขี อ้ เสยี อย่างไร
1.3 เรื่อง ระบบเศรษฐกจิ แบบสงั คมนิยม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี 1. รฐั บาลเขา้ ไปเป็นผูค้ วบคมุ และโอนกจิ การ ธนาคารทงั้ หมดเป็นของรฐั ระบบเศรษฐกิจ 2. รฐั จะเขา้ ไปควบคมุ อตุ สาหกรรมขนั้ พ้นื ฐาน แบบสงั คมนยิ ม และอุตสาหกรรมหนกั ต่าง ๆ ไว้ และควบคมุ มลี กั ษณะสาคญั อย่างไร กจิ การสาธารณูปโภค 3. รฐั เขา้ ไปจดั สวสั ดกิ ารใหก้ บั ประชาชน 4. รฐั เปิดโอกาสใหเ้อกชนมกี รรมสทิ ธใิ์ น ทอี่ ยู่ อาศยั มอี สิ ระในการประกอบอาชีพในธุรกิจขนาด ยอ่ ม มเี สรีภาพในการเลอื กซ้อื สนิ คา้ และบรกิ าร ระบบเศรษฐกิจ 1.ประชาชนไดร้ บั การดูแลเกยี่ วกบั สวสั ดิการจาก แบบสงั คมนยิ ม รฐั ค่อนขา้ งดี มขี อ้ ดอี ยา่ งไร 2.รฐั บาลมกี าลงั ทรพั ยม์ ากพอในการดาเนนิ โครงการตา่ ง ๆ ทีเ่ ป็นประโยชนต์ ่อประชาชนส่วน ใหญ่ 3.เป็นการลม้ เลกิ การผกู ขาดธุรกิจของเอกชนใน ธุรกิจบางชนิด ทาใหเ้ศรษฐกจิ ไมค่ ่อยผนั แปร ข้นึ ลงมากนกั
ระบบเศรษฐกจิ 1. ถา้ การวางแผนการดาเนนิ กจิ การขนาดใหญ่ แบบสงั คมนิยม โดยรฐั ไมด่ ี ทาใหก้ ารตดั สนิ ใจและการจดั สรร มขี อ้ เสยี อย่างไร ทรพั ยากรไม่ก่อใหเ้กดิ ประโยชนส์ งู สุด และ ผูบ้ รโิ ภคไม่มโี อกาสเลอื กบริโภคสนิ คา้ มากนกั 2.ประชาชนไมม่ เี สรภี าพอย่างเต็มทีใ่ นการ ทา ธุรกจิ ทีต่ นมคี วามรู้ ความสามารถ ทาใหข้ าด กาลงั ใจในการปรบั ปรุงกจิ การใหเ้กดิ ประสทิ ธิภาพ 3. ขาดแรงจูงใจในการผลติ หรอื คิดคน้ สงิ่ ใหม่ ๆ
1.4 เร่อื ง ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามตอ่ ไปน้ี ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม มลี กั ษณะสาคญั อย่างไร
ขอ้ ดขี องระบบเศรษฐกิจ แบบผสม คอื อะไร ขอ้ เสยี ของระบบ เศรษฐกิจแบบผสม คอื อะไร
1.4 เรอ่ื ง ระบบเศรษฐกิจแบบผสม คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ี ระบบเศรษฐกจิ แบบผสม 1. เอกชนและรฐั บาล มสี ่วนร่วมในการใชก้ ลไกราคา และ มลี กั ษณะสาคญั อย่างไร การวางแผนในการตดั สนิ ใจเพอื่ ใหเ้กดิ ประโยชนแ์ ละความ เป็นธรรมมากทสี่ ุด 2. เอกชนและรฐั บาลสามารถเป็นเจา้ ของปจั จยั การผลติ สนิ คา้ และบริการ กจิ กรรมทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่เอกชน จะเป็นผูด้ าเนนิ การ ยกเวน้ ในการผลติ สนิ คา้ และบริการ บางประเภทเกยี่ วกบั ความมนั่ คงของชาติ หรือกจิ การที่ เอกชนไม่นยิ มลงทุน 3. รฐั มอี านาจเขา้ ไปแทรกแซงหากมกี ารคา้ กาไรเกนิ ควร หรอื ธุรกิจมกี ารดาเนินการทจี่ ะนาไปสู่การผกู ขาด 4. รฐั จะเขา้ ไปควบคมุ ส่งเสริม และอานวยความสะดวก แก่ผูป้ ระกอบการ ดว้ ยการสรา้ งโครงสรา้ งพ้นื ฐานทาง เศรษฐกิจ เพอื่ อานวยความสะดวกและกระตนุ้ เศรษฐกิจ ใหข้ ยายตวั อยา่ งรวดเรว็
ขอ้ ดขี องระบบเศรษฐกจิ 1.มคี วามคลอ่ งตวั ในการดาเนนิ การ เพราะสามารถปรบั ตวั แบบผสมผสาน ใหเ้ขา้ กบั สถานการณข์ องสภาพเศรษฐกจิ ได้ ถา้ เป็นเอกชน คืออะไร ดาเนินกจิ กรรมทางเศรษฐกิจจนเกดิ ปญั หา รฐั บาลกอ็ าจเขา้ ไปควบคมุ หรอื ออกกฎหมายได้ 2.เอกชนมกี ารแข่งขนั ผลติ สนิ คา้ ทาใหเ้กิดสนิ คา้ มดี ุลยภาพ ประชาชนสามารถเลอื กบรโิ ภคได้ 3. เอกชนสามารถเขา้ ถงึ บรกิ ารของรฐั ทงั้ ในระบบ สาธารณูปโภค การศึกษา สาธารณสขุ ขอ้ เสยี ของระบบ 1. เอกชนอาจถูกควบคมุ กิจการจากรฐั เศรษฐกจิ แบบผสม 2.การทรี่ ฐั เขา้ มาวางแผนบางสว่ น ทาใหไ้ ม่มปี ระสทิ ธิภาพ คืออะไร เพยี งพอตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ อย่างรวดเรว็ 3. การวางแผนจากส่วนกลางเพอื่ ประสานประโยชนข์ องรฐั กบั เอกชนใหเ้กดิ ผลดีตอ่ ส่วนรวมนนั้ ในทางปฏบิ ตั ิทาได้ ยาก 4. การบริหารงานของรฐั ในกิจการอุตสาหกรรมบางประเภท หรือ การบริการจานวนมากยงั ขาดประสทิ ธภิ าพ เมอื่ เทียบ กบั การบรหิ ารงานของเอกชน
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ ช่ือ – สกุล การแสดงความ การรบั ฟัง การตง้ั ใจ การรว่ ม รวม ลาดบั ความร่วมมือ คิดเห็น ความคดิ เหน็ ทางาน ปรบั ปรุง 20 ของผรู้ บั การ ที่ ผลงานกลมุ่ ประเมิน คะแนน 43214321432143214321 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ ดมี าก = 4 3 หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ธิ กี ารมอบหมายใหห้ วั หนา้ กลุ่ม ดี = 2 เป็นผปู้ ระเมนิ หรอื ใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิ 1 หรอื ใหม้ กี ารประเมนิ โดยเพ่อื น โดยตวั นกั เรียนเอง พอใช้ = ตามความเหมาะสมก็ได ้ ปรบั ปรุง = เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 – 20 ดมี าก 13 – 16 ดี 9 – 12 พอใช้ 5 – 8 ปรบั ปรุง
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 4 ชวั่ โมง เศรษฐศาสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ระบบเศรษฐกจิ ในโลกปจั จุบนั เร่อื ง ตลาดและการกาหนดราคาในระบบเศรษฐกจิ สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ตลาดแต่ละประเภทตา่ งกม็ ที งั้ ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี แตกต่างกนั ซง่ึ การกาหนดราคาในตลาดเสรนี นั้ มปี จั จยั สาคญั หลายประการ ตวั ช้ีวดั /จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ส 3.1 ม.4-6/1 อภปิ รายการกาหนดราคาและค่าจา้ งในระบบเศรษฐกจิ 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) วเิ คราะหข์ อ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของตลาดประเภทตา่ งๆ ได้ 2) อธบิ ายการกาหนดราคาตามอปุ สงค์ อปุ ทาน การกาหนดราคา ค่าจา้ ง และกฎหมาย ทเ่ี ก่ียวขอ้ งได้ 3) อธิบายบทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและควบคมุ ราคาได้ สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง 1) ตลาดและประเภทของตลาด ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของตลาดประเภทต่างๆ 2) การกาหนดราคาตามอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน การกาหนดราคาในเชงิ กลยุทธท์ ่มี ใี นสงั คมไทย 3) การกาหนดค่าจา้ ง กฎหมายท่เี ก่ยี วขอ้ ง และอตั ราค่าจา้ งแรงงานในสงั คมไทย 4) บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและการควบคุมราคาเพอื่ การแจกจ่ายและจดั สรร ในทางเศรษฐกจิ 3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ - สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 4.2 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ - ทกั ษะการคิดแกป้ ญั หา 4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ - กระบวนการทางานกลุ่ม คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ( วิธสี อนแบบบรรยาย วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรูแ้ บบร่วมมอื : เทคนิคการจดั ทีมแข่งขนั (Team Games Tournament) , เทคนิคคู่คิด ) ชวั่ โมงที่ 1 1. ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ยกตวั อย่างตลาดสนิ คา้ ในทอ้ งถ่นิ ท่นี กั เรยี นรูจ้ กั ซ่งึ อาจเป็นตลาดสนิ คา้ ในทอ้ งถ่นิ ท่ี นกั เรียนมภี มู ลิ าเนา หรอื ตลาดสนิ คา้ ในจงั หวดั ตา่ ง ๆ ทน่ี กั เรยี นเคยไปซ้อื ของหรอื เท่ยี ว และใหช้ ่วยกนั วเิ คราะหค์ วามสาคญั ของตลาด 2. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ ตลาดมคี วามหมาย 2 นยั คือ ตลาดสนิ คา้ ท่ผี ูซ้ ้อื ผขู้ ายมาติดตอ่ ซ้อื ขายกนั และหมายถงึ การตดิ ต่อกนั ระหว่างผซู้ ้อื และผูข้ ายในทางใดทางหนึง่ หรอื หลายทาง ครูอธบิ ายเกยี่ วกบั เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ ในประเด็นต่อไปน้ี 1) ความสาคญั ของตลาดในระบบเศรษฐกิจ 2) ขนาดของตลาด 3) คนกลางในตลาด 4) ประเภทของตลาด 3. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลาง ค่อนขา้ งออ่ น และ ออ่ น และใหแ้ ต่ละกลมุ่ ศกึ ษาความรูเ้พม่ิ เติมเกีย่ วกบั เรอ่ื ง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ จาก หนงั สอื เรียน
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั ทาใบงานท่ี 2.1 เร่ือง ตลาดในระบบเศรษฐกิจ โดยใหแ้ ต่ละคนปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ดงั น้ี - สมาชิกคนท่ี 1 มหี นา้ ทอ่ี ่านคาถามและแยกแยะประเดน็ ทโ่ี จทยก์ าหนด - สมาชกิ คนท่ี 2 วเิ คราะหห์ าแนวทางตอบคาถามอธิบายใหไ้ ดม้ าซง่ึ แนวคาตอบ - สมาชกิ คนท่ี 3 รวมรวมขอ้ มูลและเขยี นคาตอบ - สมาชิกคนท่ี 4 สรุปขน้ั ตอนทง้ั หมด ตรวจคาตอบ 5. สมาชกิ แตล่ ะกลมุ่ เรมิ่ ทาแบบฝึกหดั จากคาถามขอ้ ท่ี 1 โดยสมาชิกคนท่ี 1 เร่ิมปฏบิ ตั หิ นา้ ทอ่ี ่านคาถามและ แยกแยะประเดน็ ท่โี จทยก์ าหนด หรอื สง่ิ ท่เี ป็นประเดน็ สาคญั ของคาถาม เมอื่ ถงึ คาถามหรือโจทยข์ อ้ ท่ี 2 ก็ เลอ่ื นใหส้ มาชกิ คนท่ี 2 เลอ่ื นข้นึ มาทาหนา้ ท่แี ทนคนท่ี 1 สมาชกิ คนท่ี 3 เลอ่ื นข้นึ มาทาหนา้ ทแ่ี ทนสมาชกิ คน ท่ี 2 สมาชกิ คนท่ี 4 เลอ่ื นข้นึ มาทาหนา้ ทแ่ี ทนสมาชิกคนท่ี 3 สมาชกิ คนท่ี 1 กลบั มาทาหนา้ ทแ่ี ทนสมาชิกคน ท่ี 4 หมนุ เวยี นเปลย่ี นหนา้ ทก่ี นั ไปเรื่อย ๆ จนครบคาถาม ซ่งึ รวมแลว้ สมาชกิ ทุกคนจะไดท้ าหนา้ ท่ที ุกบทบาท สมาชิกทกุ คนร่วมมอื กนั ทาแบบฝึกหดั หรอื ตอบคาถามทก่ี าหนดไวจ้ นเสรจ็ เรียบรอ้ ย มกี ารพงึ่ พาอาศยั กนั ช่วยเหลอื กนั และมกี ารอธบิ ายใหก้ นั จนเขา้ ใจ จนสมาชิกทุกคนสามารถทาแบบฝึกหดั ไดค้ รบทุกคน 6. ครูและนกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.1 จากนนั้ ชว่ ยกนั สรุปประเดน็ สาคญั เกยี่ วกบั เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ ชวั่ โมงท่ี 2 1. ครูตงั้ คาถามใหน้ กั เรยี นตอบ ดงั น้ี - นกั เรียนจะตดั สนิ ใจซ้อื สนิ คา้ นนั้ จะตอ้ งคานงึ ถงึ เร่อื งใดบา้ ง - นกั เรียนคิดว่าก่อนทผ่ี ูผ้ ลติ จะผลติ สนิ คา้ และบริการนนั้ มหี ลกั ในการตดั สนิ ใจผลติ อยา่ งไร 2. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจเรอ่ื ง การกาหนดราคาตามอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี - ความหมายของอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน - ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การกาหนดอปุ สงค์ - ปจั จยั ทม่ี ผี ลตอ่ การกาหนดอุปทาน 3. ครูใหน้ กั เรียนกล่มุ เดมิ จบั คู่กนั เป็น 2 คู่ ศกึ ษาหาความรูเ้พมิ่ เติมจากหนงั สอื เรยี น และจากหนงั สอื อ่านเพมิ่ เตมิ จากนน้ั ร่วมมอื กนั ทาใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง การกาหนดราคา 4. นกั เรียนทงั้ 2 คู่ ของแตล่ ะกลมุ่ ผลดั กนั เฉลยคาตอบใบงานท่ี 2.2 และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 5. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั เฉลยคาตอบในใบงานท่ี 2.2 และสรปุ ประเด็นสาคญั
ชวั่ โมงท่ี 3 1. ครูทบทวนความรูข้ องนกั เรยี นเก่ียวกบั เรอื่ ง การกาหนดราคาตามอปุ สงคแ์ ละอุปทาน โดยใหน้ กั เรยี น ชว่ ยกนั เลา่ ถงึ ปจั จยั สาคญั ทม่ี ผี ลตอ่ การกาหนดอุปสงค์ และอุปทาน 2. ครูอธบิ ายความรูใ้ หแ้ ก่นกั เรียนในหวั ขอ้ เรื่อง ต่อไปน้ี 1) หลกั เกณฑใ์ นการกาหนดราคาตามอุปสงคแ์ ละอุปทาน 2) การเปลย่ี นแปลงของราคาดลุ ยภาพและปริมาณดลุ ยภาพ 3) ขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของการกาหนดราคาตามอุปสงคแ์ ละอปุ ทาน 4) การกาหนดราคาในเชงิ กลยทุ ธท์ ่มี ใี นสงั คมไทย 5) ขอ้ ดี – ขอ้ เสยี ของการกาหนดราคาเชงิ กลยทุ ธใ์ นสงั คมไทย 6) บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและการควบคุมราคาเพอ่ื การแจกจ่ายและจดั สรรในทาง เศรษฐกิจ 7) การกาหนดค่าจา้ ง อตั ราค่าจา้ งแรงงานในสงั คมไทยและกฎหมายทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 3. นกั เรยี นศึกษาความรูเ้พม่ิ เติม จากหนงั สอื เรยี น หนงั สอื อา่ นเพม่ิ เตมิ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ 4. นกั เรียนกลุม่ เดมิ แต่ละกลมุ่ ชว่ ยกนั ตงั้ คาถามจากความรูท้ ่ไี ดจ้ ากฟงั ครูอธบิ ายและจากการศึกษา ความรู้ เพม่ิ เตมิ โดยตง้ั คาถามกลมุ่ ละ 10 ขอ้ 5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ จบั สลากหมายเลขกลุม่ แลว้ ผลดั กนั ถามคาถามกลุม่ อน่ื ดงั น้ี - กลุ่มหมายเลข 1 เป็นฝ่ายถาม กลมุ่ หมายเลข 2 เป็นฝ่ายตอบ - กลุ่มหมายเลข 2 เป็นฝ่ายถาม กลุ่มหมายเลข 3 เป็นฝ่ายตอบ - กลุ่มหมายเลข 3 เป็นฝ่ายถาม กล่มุ หมายเลข 4 เป็นฝ่ายตอบ - กลุ่มหมายเลข 4 เป็นฝ่ายถาม กลุ่มหมายเลข 5 เป็นฝ่ายตอบ - กลมุ่ หมายเลข 5 เป็นฝ่ายถาม กลุ่มหมายเลข 1 เป็นฝ่ายตอบ กลุ่มท่มี หี นา้ ทถ่ี ามจะตอ้ งเป็นผูเ้ฉลยคาตอบโดยมคี รูเป็นผูต้ รวจสอบความถูกตอ้ ง 6. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ ไปทบทวนความรูจ้ ากหนงั สอื เรียน และหนงั สอื อ่านเพม่ิ เตมิ เพอื่ เตรยี มการแขง่ ขนั ตอบปญั หาในชวั่ โมงต่อไป
ชวั่ โมงท่ี 4 1. นกั เรยี นและครูช่วยกนั จดั สถานทส่ี าหรบั การแขง่ ขนั ตอบปญั หา ดงั น้ี - โตะ๊ หมายเลข 1 เป็นโตะ๊ แขง่ ขนั สาหรบั ผูเ้รียนทม่ี คี วามสามารถในระดบั เก่ง - โตะ๊ หมายเลข 2 เป็นโตะ๊ แขง่ ขนั สาหรบั ผูเ้รียนท่มี คี วามสามารถในระดบั ปานกลาง (ค่อนขา้ ง เก่ง) - โตะ๊ หมายเลข 3 เป็นโตะ๊ แขง่ ขนั สาหรบั ผูเ้รียนท่มี คี วามสามารถในระดบั ปานกลาง (ค่อนขา้ ง อ่อน) - โตะ๊ หมายเลข 4 เป็นโตะ๊ แข่งขนั สาหรบั ผเู้รยี นท่มี คี วามสามารถในระดบั อ่อน โตะ๊ หมายเลข 1 โตะ๊ หมายเลข 2 โตะ๊ หมายเลข 3 โตะ๊ หมายเลข 4 12 3 4 12 3 4 12 3 4 ในกรณีท่มี ผี ูเ้รียนจานวนมาก โตะ๊ หมายเลข 1, 2, 3, 4 อาจจะซา้ กนั หลายโตะ๊ เพอื่ ใหผ้ ูเ้รยี นทุกคน ไดม้ โี อกาสแขง่ ขนั 2. การจดั การแข่งขนั มกี ารจดั โตะ๊ แขง่ ขนั ท่มี ตี วั แทนแตล่ ะกลุม่ ซ่งึ มที งั้ เก่ง ปานกลาง (ค่อนขา้ งเก่ง) ปานกลาง (ค่อนขา้ งออ่ น) อ่อน ครูจะจดั โตะ๊ แขง่ ขนั โดยกาหนดใหผ้ ูเ้รียนแตล่ ะกลุ่ม ซง่ึ มี ความสามารถแตกตา่ งกนั แยกยา้ ยกนั ไปแขง่ ขนั ในโตะ๊ ทจ่ี ดั ไวต้ ามความสามารถ ตวั อยา่ งเชน่ นกั เรียนทเ่ี ก่งของแตล่ ะกลมุ่ จะมาแขง่ ขนั ในโตะ๊ ท่จี ดั ไวส้ าหรบั คนเก่ง นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถ อยูใ่ นระดบั ปานกลาง (ค่อนขา้ งเก่ง) ของแต่ละกลุ่มกจ็ ะมาแข่งขนั กนั ในโตะ๊ ทจ่ี ดั ไวส้ าหรบั คนทม่ี ี ความสามารถปานกลาง (ค่อนขา้ งเก่ง) นกั เรยี นทม่ี คี วามสามารถอยูใ่ นระดบั ปานกลาง (ค่อนขา้ ง ออ่ น) ของแต่ละกล่มุ ก็จะมาแข่งขนั กนั ในโตะ๊ ท่จี ดั ไว้ สาหรบั คนทม่ี คี วามสามารถอยูใ่ นระดบั ปานกลาง (ค่อนขา้ งอ่อน) ผูเ้รียนท่มี คี วามสามารถอยใู่ นระดบั ออ่ นของแตล่ ะกลมุ่ กจ็ ะเขา้ ไป แขง่ ขนั กนั ในโตะ๊ ท่จี ดั ไวส้ าหรบั คนทม่ี คี วามสามารถอยูใ่ นระดบั ออ่ น
3. การดาเนินการแข่งขนั ควรปฏบิ ตั ิตามขน้ั ตอน ดงั น้ี 1) ครูแจกซองคาถามใหท้ ุกโตะ๊ ซ่งึ มคี าถามเท่ากบั จานวนนกั เรียน ซง่ึ ถา้ มเี วลามากอาจจะมี คาถามเป็น 2 หรอื 3 เทา่ ของจานวนนกั เรยี น โดยตอบเป็น 2 หรือ 3 รอบกไ็ ด้ ครูควรช้แี จง ใหน้ กั เรียนทราบวา่ ทกุ คนจะผลดั กนั เป็นผูอ้ า่ นคาถาม ขอใหอ้ า่ นชา้ ๆ ชดั ๆ ผูอ้ ่านคาถามจะ มหี นา้ ท่อี ่านคาเฉลย และใหค้ ะแนนผูท้ ่ตี อบถูก ตามลาดบั ดงั นน้ั ครูจะตอ้ งมคี าเฉลยทช่ี ดั เจน ใส่ซองใหน้ กั เรยี นควบคู่ไปกบั คาถาม อาจจะเริ่มข้นึ จากคาถามง่ายๆ ไปถงึ ยากกไ็ ด้ คาถาม แตล่ ะขอ้ นน้ั ครูอาจจะเป็นผูก้ าหนดเวลาต่อขอ้ กไ็ ด้ 2) เริ่มการแขง่ ขนั ➢ นกั เรยี นคนท่ี 1 หยบิ ซองคาถาม 1 ซอง เปิดอา่ นคาถาม แลว้ วางลงกลางโตะ๊ ➢ นกั เรียนอกี 3 คน แข่งขนั กนั ตอบคาถาม โดยเขยี นคาตอบลงในกระดาษคาตอบของตน สง่ ใหค้ นอ่านคนท่ี 1 ➢ คนทอ่ี า่ นคาถามทาหนา้ ท่ใี หค้ ะแนน ผูท้ ต่ี อบถกู ได้ 2 คะแนน ผูท้ ต่ี อบผดิ ได้ 0 คะแนน ➢ สมาชกิ ในทมี แข่งขนั จะผลดั กนั ทาหนา้ ท่อี า่ นคาถามจนคาถามหมดโดยใหท้ กุ คนไดต้ อบ คาถามจานวนเท่ากนั ➢ ใหท้ กุ คนรวมคะแนนของตนเอง โดยมสี มาชกิ ทกุ คนในกล่มุ รบั รองร่วมกนั วา่ ถูกตอ้ ง อาจจะใหเ้ซน็ ชื่อรบั รองดว้ ยกไ็ ด้ และอาจจะมกี ารคิดคะแนนในรูปของโบนสั ได้ เชน่ ผูท้ ไ่ี ดค้ ะแนนสูงสุดในแต่ละโตะ๊ จะไดโ้ บนสั 10 คะแนน ผูท้ ไ่ี ดค้ ะแนนรองอนั ดบั 1 ไดโ้ บนสั 8 คะแนน ผูท้ ่ไี ดค้ ะแนนรองอนั ดบั 2 ไดโ้ บนสั 6 คะแนน ผูท้ ไ่ี ดค้ ะแนนรองอนั ดบั 3 ไดโ้ บนสั 4 คะแนน (ผสู้ อนอาจจะออกแบบการแขง่ ขนั เป็นอย่างอนื่ ) 3) การใหค้ ะแนนทมี ผูช้ นะ ผูท้ ไ่ี ปทาการแข่งขนั จะกลบั เขา้ กลมุ่ เดมิ นาคะแนนการแขง่ ขนั แตล่ ะ คนมารวมกนั เป็นคะแนนของทมี ทมี ทไ่ี ดค้ ะแนนสูงสุดจะไดร้ บั รางวลั คือคาชมเชย หรือการ ประกาศชมเชยบนป้ายนเิ ทศ 4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นทารายงานสรุปเรือ่ ง ระบบเศรษฐกจิ ในโลกปจั จบุ นั โดยมขี อบขา่ ยดงั น้ี 1) การเปรียบเทยี บผลดแี ละผลเสยี ของระบบเศรษฐกิจแบบต่าง ๆ 2) การเปรียบเทยี บขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของตลาดประเภทต่าง ๆ 3) การกาหนดราคาตามอุปสงคแ์ ละอุปทาน 4) บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและการควบคมุ ราคาเพอ่ื การแจกจ่าย
• นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 2 การวดั และประเมินผล วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 2.2 ใบงานท่ี 2.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ประเมนิ รายงานสรปุ เรื่อง แบบประเมนิ รายงานสรปุ เรอื่ ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ ระบบเศรษฐกจิ ในโลกปจั จุบนั ระบบเศรษฐกิจในโลกปจั จบุ นั สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น แบบทดสอบหลงั เรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 8.1 สอ่ื การเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี น เศรษฐศาสตร์ ม.4-ม.6 2) หนงั สอื คน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ (1) นราทพิ ย์ ชตุ ิวงศ์ และชลดา จามรกุล. พ้นื ฐานเศรษฐศาสตรจ์ ุลภาค. กรุงเทพมหานคร : คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั , 2541. (2) พอพนั ธ์ อยุ ยานนท.์ พฒั นาการเศรษฐกจิ ไทย ในประมวลสาระชดุ วชิ าไทยศกึ ษา หน่วยที่ 3 สาขาวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. นนทบรุ ี : โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สุโขทยั ธรรมาธริ าช, 2546. (3) รตั นา สายคณิต. การพฒั นาเศรษฐกจิ ในเอกสารการสอนชดุ วชิ าสงั คมศึกษา 3 : เศรษฐศาสตรส์ าหรบั ครู หน่วยที่ 14 สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั สุโขทยั - ธรรมาธิราช. นนทบรุ ี :โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช,2546. (4) รตั นา สายคณิต และคณะ. พ้ืนฐานเศรษฐศาสตรม์ หภาค. กรงุ เทพมหานคร : คณะ เศรษฐศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , 2540. (5) วนั รกั ษ์ มง่ิ มณีนาคนิ . หลกั เศรษฐศาสตรม์ หภาค. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 14. กรงุ เทพมหานคร : 3) ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง ตลาดในระบบเศรษฐกจิ 4) ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การกาหนดราคา
8.2 แหล่งการเรยี นรู้ 1) หอ้ งสมดุ 2) แหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ http://www.bot.or.th http://www.mof.go.th http://www.idis.ru.ac.th http://www.mfa.go.th/business/1092.php http://www.itd.or.th/th/comment/reply/354
ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด) คาช้ีแจง รายงานสรุป เรอื่ ง ระบบเศรษฐกิจในโลกปจั จุบนั ใหน้ กั เรียนทารายงานสรุปเร่ือง ระบบเศรษฐกิจในโลกปจั จบุ นั โดยใหค้ รอบคลุม หวั ขอ้ ดงั น้ี 1) การเปรียบเทยี บผลดแี ละผลเสยี ของระบบเศรษฐกิจแบบตา่ งๆ 2) การเปรียบเทยี บขอ้ ดแี ละขอ้ เสยี ของตลาดประเภทตา่ งๆ 3) การกาหนดราคาตามอปุ สงคแ์ ละอุปทาน 4) บทบาทของรฐั ในการแทรกแซงราคาและการควบคมุ ราคาเพอ่ื การแจกจา่ ย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362