กฎหมายโรงแรม 123 และกฎกระทรวง ก�ำหนดประเภทและหลักเกณฑก์ ารประกอบธรุ กิจโรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ และหาก นายอุดมสิน วงศ์ณะรัตน์ ผู้ย่ืนค�ำขอรับใบอนุญาตได้พิสูจน์หรือให้ค�ำรับรองยืนยันว่าในขณะย่ืนขอ เปิดด�ำเนินธุรกิจโรงแรม มิได้มีหรือปล่อยปละละเลยโดยใช้หรือยินยอมให้ใช้สถานประกอบการ เป็นสถานที่กระท�ำความผิดเก่ียวกับยาเสพติด นายทะเบียนก็สามารถออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจ โรงแรมให้แก่ผู้ขอรับใบอนญุ าตรายน้ีได้ ตามมาตรา ๑๘ แหง่ พระราชบญั ญตั ิโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ จงั หวดั บรุ รี มั ย์ จงึ ขอหารอื กรณดี งั กลา่ ววา่ ความเหน็ ของจงั หวดั ถกู ตอ้ งหรอื ไมห่ ากไมถ่ กู ตอ้ งสอดคลอ้ ง หรือเป็นไปตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร ผลเปน็ ประการใดโปรดแจง้ ใหจ้ ังหวดั บรุ รี ัมยท์ ราบด้วย จักขอบคณุ ย่งิ จึงเรยี นมาเพอ่ื โปรดพิจารณา ขอแสดงความนับถือ (นายเสริม ไชยณรงค)์ รองผ้วู า่ ราชการจังหวดั ปฏบิ ัติราชการแทน ผูว้ ่าราชการจังหวัดบรุ ีรมั ย์ ทีท่ ำ� การปกครองจังหวดั กลุม่ ปกครอง โทร. ๐ ๔๔๖๑ ๑๒๖๗ สำ�นกั การสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
124 กฎหมายโรงแรม ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/๑๔๕๖ กรมการปกครอง ถนนอษั ฎางค์ เขตพระนคร กทม. ๑๐๒๐๐ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๕ เรอื่ ง หารอื การขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม และขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตใหต้ งั้ สถานบรกิ าร เรยี น ผู้วา่ ราชการจังหวัดตรงั อา้ งถึง หนงั สอื จงั หวดั ตรงั ท่ี ตง ๐๐๑๗.๑/๙๑๗๕ ลงวนั ท่ี ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๔ ตามทจี่ งั หวดั ตรงั ไดห้ ารอื แนวทางปฏบิ ตั ิ ในการขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม และการขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตใหต้ งั้ สถานบรกิ าร กรณบี รษิ ทั แหลมทองรว่ มเสรมิ กจิ จำ� กดั ไดย้ นื่ คำ� ขอ ตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมตรงั และคำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตใหต้ งั้ สถานบรกิ ารหอ้ งอาหาร ศรตี รงั ความละเอียดแจ้งแล้ว น้ัน กรมการปกครองพจิ ารณาตามข้อหารอื ของจังหวัดตรังแล้ว จึงเหน็ ว่า ประเด็นท่ีหนึ่ง การขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมโดยผู้ให้เช่าไม่ยินยอม ให้ใช้อาคาร และไดบ้ อกเลิกสัญญาเชา่ โดยถูกตอ้ งตามกฎหมายแล้วจะอนุญาตให้ตอ่ อายใุ บอนุญาต ไดห้ รือ ไมเ่ หน็ ว่า ตามพระราชบญั ญตั ิโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๑๘ กำ� หนดให้นายทะเบียนออก ใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอรับใบอนุญาตได้ เมื่อเห็นว่าสถานท่ีต้ัง ขนาด ลักษณะ ส่ิงอ�ำนวยความสะดวก หรือมาตรฐานการประกอบธุรกิจของโรงแรมแต่ละประเภทเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ก�ำหนดไว้ ใน กฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา ๑๓ และประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ืองหลักเกณฑ์และวิธีการ ในการพิจารณาการขออนุญาต และการออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม ออกตามความ ในมาตรา ๑๕ แหง่ พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ข้อ ๑ กำ� หนดว่าผู้ใดประสงคจ์ ะประกอบ ธุรกิจโรงแรมให้ย่ืนค�ำขอรับใบอนุญาตตามแบบ ร.ร. ๑ ท้ายประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ือง ก�ำหนดแบบคำ� ขอรับใบอนุญาต คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนุญาต ค�ำขอโอน / รับโอน ใบอนุญาต คำ� ขอหรือ การแจ้งความประสงค์ท่ัวไป และใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ตอ่ นายทะเบยี นทอ้ งทที่ โี่ รงแรมตง้ั อยพู่ รอ้ มดว้ ยเอกสารหลกั ฐานแสดงความเปน็ เจา้ ของ อาคารหรอื สถานท่ีที่ใช้ประกอบธุรกจิ โรงแรมหรือหนงั สือแสดงความยนิ ยอมให้ใชอ้ าคารหรือสถานท่ี ท่ีขออนุญาตประกอบกิจการพาณชิ ย์ ในกรณที ่อี าคารหรือสถานทน่ี ้ันเปน็ ของผู้อ่ืน ประกอบกับขอ้ ๔ (๔) สำ�นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 125 ประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบบั เดยี วกนั ใหน้ ายทะเบยี นพจิ ารณาไมอ่ นญุ าตใหป้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรม ในกรณที ดี่ นิ และอาคารที่ใชเ้ ปน็ ทตี่ ง้ั โรงแรม ผขู้ ออนญุ าตไมเ่ ปน็ ผถู้ อื กรรมสทิ ธิ์ หรอื ไมม่ สี ทิ ธคิ รอบครอง หรือไม่มสี ิทธใิ ช้ประโยชนท์ ดี่ นิ และอาคารดงั กล่าว เชน่ สิทธิในการเช่า การยินยอมให้ใชป้ ระโยชน์ ในทดี่ ินและอาคารเพ่ือประกอบธรุ กิจโรงแรม เป็นตน้ และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องหลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม ออกตามความในมาตรา ๒๑ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ขอ้ ๑ วรรคสอง กำ� หนดวา่ ในกรณที ม่ี กี ารแก้ไขหรอื เปลย่ี นแปลงเอกสารทย่ี น่ื ไวเ้ ดมิ นายทะเบยี นอาจขอเอกสารหลกั ฐานหรอื ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จากผทู้ ย่ี นื่ คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตเพอ่ื ประกอบ การพจิ ารณาได้ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ขอต่ออายใุ บอนุญาตประกอบธุรกจิ โรงแรม เปน็ เพียงผู้เช่า อาคารหรือสถานที่ในการประกอบธุรกจิ โรงแรม ไม่ไดเ้ ปน็ เจา้ ของอาคารท่ีใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ผขู้ อตอ่ อายใุ บอนุญาตต้องยื่นหลักฐานเอกสารท่ีมีการเปลี่ยนแปลงจากที่ย่ืนไว้เดิมให้นายทะเบียน พจิ ารณา จงึ ต้องย่นื คำ� ขอตามแบบ ร.ร. ๑/๑ ขอต่ออายุใบอนุญาตพรอ้ มดว้ ยหนงั สอื แสดงความยนิ ยอม ให้ใช้อาคารจากเจา้ ของอาคารมาแสดงดว้ ย เมอื่ ปรากฏวา่ ผู้ใหเ้ ชา่ ไมย่ นิ ยอมจะใหเ้ ชา่ อาคารตอ่ ไปและ ไดบ้ อกเลกิ สญั ญาเชา่ แลว้ แมว้ า่ คดฟี อ้ งขบั ไลจ่ ะอยรู่ ะหวา่ งการพจิ ารณาของศาล ยงั ไมม่ คี ำ� พพิ ากษา ถงึ ทส่ี ดุ กต็ าม กถ็ อื ไดว้ า่ ผู้ใหเ้ ชา่ ไมย่ นิ ยอมใหเ้ ชา่ อาคารอกี ตอ่ ไป ทำ� ใหผ้ ขู้ อตอ่ อายใุ บอนญุ าตไมม่ สี ทิ ธิ ใช้ประโยชน์ ในท่ีดินและอาคารดังกล่าวและผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตไม่มีหลักฐานการยินยอมให้ ใช้ อาคาตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม และเป็นเหตุตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องหลักเกณฑ์ และ วธิ กี ารขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม ขอ้ ๕ (๔) คอื อาคารทข่ี ออนญุ าตผขู้ ออนญุ าต ไม่มีสิทธิครอบครอง และศาลไม่คุ้มครองสิทธิ์และมีเหตุท่ีนายทะเบียนไม่อนุญาตให้ได้ ดังนั้น นายทะเบียนจึงไม่อาจอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมให้กับผู้ขอต่ออายุใบอนุญาต โดยหลักฐาน ทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลงผขู้ อตอ่ อายใุ บอนญุ าต ไมม่ สี ทิ ธคิ รอบครองในทดี่ นิ และอาคารของผอู้ นื่ หรอื ไมม่ สี ทิ ธิ ใชป้ ระโยชน์ในทีด่ ินและอาคาร เพอ่ื ประกอบธุรกิจโรงแรมได้ หากนายทะเบยี นพิจารณาไม่อนุญาต นายทะเบยี นตอ้ งแจง้ เหตทุ ี่ไมส่ มควรอนญุ าตใหผ้ ขู้ อตอ่ ใบอนญุ าตทราบ เพอ่ื โตแ้ ยง้ แสดงพยานหลกั ฐาน ตามมาตรา ๓๐ แหง่ พระราชบัญญัติวธิ ีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ก่อนออกคำ� สงั่ ดว้ ย ประเด็นที่สอง การขอต่ออายุใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการโดยผู้ ให้เช่าไม่ยินยอม ให้ใชอ้ าคารและไดบ้ อกเลกิ สญั ญาเชา่ อาคารแลว้ ไดห้ รอื ไม่ เหน็ วา่ พระราชบญั ญตั สิ ถานบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๐๙ และทแ่ี ก้ไขเพมิ่ เตมิ มาตรา ๘ กำ� หนดวา่ ถา้ อาคารหรอื สถานทที่ ขี่ ออนญุ าตตงั้ สถานบรกิ ารตามมาตรา ๔ เปน็ ของผอู้ น่ื ในชนั้ ขออนญุ าตตง้ั สถานบรกิ าร ผขู้ ออนญุ าตตอ้ งมหี นงั สอื แสดงวา่ ไดร้ บั ความยนิ ยอม จากเจา้ ของอาคารหรือสถานที่นน้ั และกฎกระทรวง กำ� หนดหลกั เกณฑ์เก่ยี วกับการขออนญุ าตและ การดำ� เนินกจิ การ ขอ้ ๑ (ซ) ขอ้ ๔ (๑) และ (๓) และข้อ ๗ ก�ำหนดให้นำ� หลกั เกณฑก์ ารขออนญุ าต ตงั้ สถานบรกิ าร มาใชบ้ งั คบั กบั การขออนญุ าตใหต้ อ่ อายใุ บอนญุ าตใหต้ งั้ สถานบรกิ ารดว้ ย โดยก�ำหนด ว่าพนักงานเจ้าหน้าที่จะต่ออายุใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการได้ เมื่อผู้ขอต่ออายุใบอนุญาตให้ต้ัง สถานบริการได้ย่ืนค�ำขอต่ออายุใบอนุญาตและมีหลักฐานหนังสือแสดงความยินยอมให้ ใช้อาคาร จากเจ้าของอาคารหรอื สถานที่ ในกรณที ่ีอาคารหรอื สถานที่นัน้ เปน็ ของผ้อู นื่ เม่ือขอ้ เทจ็ จริงปรากฏว่า สำ�นกั การสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
126 กฎหมายโรงแรม ผู้ให้เช่าไม่ยินยอมจะให้เช่าอาคารต่อไป และได้บอกเลิกสัญญาเช่าแล้วและได้ฟ้องขับไล่ซ่ึงคดีอยู่ ระหวา่ งการพจิ ารณาของศาล และศาลไมอ่ นญุ าตใหค้ มุ้ ครองชว่ั คราว จงึ เปน็ กรณที ปี่ รากฏชดั แจง้ วา่ เจา้ ของอาคารไมย่ นิ ยอมให้ใชอ้ าคาร แมย้ งั ไมม่ คี ำ� พพิ ากษาถงึ ทส่ี ดุ กต็ าม กถ็ อื ไดว้ า่ ผู้ใหเ้ ชา่ ไมย่ นิ ยอม ใหเ้ ชา่ อาคารอกี ตอ่ ไป ทำ� ใหผ้ ขู้ อตอ่ อายใุ บอนญุ าตใหต้ ั้งสถานบรกิ าร ไมม่ ีหนงั สือแสดงความยนิ ยอม จากเจ้าของอาคาร มายื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์กฎหมาย มาตรา ๗ และมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. ๒๕๐๙ และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม และข้อ ๔ และข้อ ๗ แหง่ กฎกระทรวงกำ� หนดหลกั เกณฑเ์ กยี่ วกบั การขออนญุ าตและการดำ� เนนิ กจิ การสถานบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๙ ดังนั้นพนักงานเจ้าหน้าท่ี จึงไม่อาจพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ และจังหวัดตรังได้มีพระราชกฤษฎีกาก�ำหนดเขตพื้นที่เพ่ือการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่ จังหวัดตรงั พ.ศ. ๒๕๔๖ ไว้ ดงั นน้ั หากไมส่ ามารถอนญุ าตให้ตอ่ อายุใบอนญุ าตได้ จะอนุญาตใหย้ ้าย สถานทข่ี ออนญุ าตได้ แตต่ อ้ งยา้ ยเขา้ ไปอยู่ในเขตพนื้ ทเี่ พอื่ การอนญุ าต ตามคำ� สง่ั กระทรวงมหาดไทย ที่ ๗/๒๕๕๑ ข้อ ๑๒ หรอื พนื้ ท่ีท่ีได้รบั การยกเวน้ ตามพระราชกฤษฎกี าดงั กลา่ ว หากพนกั งานเจา้ หนา้ ที่ พิจารณาไม่อนุญาต พนักงานเจ้าหน้าท่ีต้องแจ้งให้ผู้อนุญาตได้รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมโี อกาสได้โตแ้ ยง้ และแสดงพยานหลกั ฐานของตนตามมาตรา ๓๐ แหง่ พระราชบญั ญตั วิ ธิ ปี ฏบิ ตั ิ ราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ก่อนออกคำ� สัง่ ตอ่ ไป จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ และถือเปน็ แนวทางปฏิบตั ติ อ่ ไป ขอแสดงความนับถือ (นายสกุ ิจ เจริญรตั นกลุ ) อธิบดกี รมการปกครอง ส�ำนกั การสอบสวนและนติ ิการ ส่วนรักษาความสงบเรยี บร้อย ๓ โทร./โทรสาร ๐ - ๒๓๕๖ - ๙๕๕๙ สำ�นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 127 ท่ี ตง ๐๐๑๗.๑/๙๑๗๕ ศาลากลางจังหวัดตรงั ถนนพัทลุง ตง ๙๒๐๐๐ ๓๐ มถิ ุนายน ๒๕๕๔ เร่อื ง การขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมตรัง และหอ้ งอาหารศรีตรงั เรยี น อธิบดีกรมการปกครอง สง่ิ ทสี่ ง่ มาดว้ ย ๑. ส�ำเนาค�ำขอต่ออายใุ บอนุญาตประกอบธรุ กจิ โรงแรม จำ� นวน ๑ ชุด ๒. สำ� เนาคำ� ขอต่ออายใุ บอนุญาตใหต้ ้ังสถานบรกิ าร จ�ำนวน ๑ ชุด ๓. สำ� เนาคำ� ฟอ้ ง คดีหมายเลขด�ำท่ี ๙๗๗/๒๕๕๒ จ�ำนวน ๑ ชดุ ๔. สำ� เนาหนังสอื สญั ญาเชา่ อาคาร จ�ำนวน ๓ ชดุ ๕. ส�ำเนาหนงั สือของบรษิ ัทแหลมทองรว่ มเสรมิ กจิ จ�ำกดั จำ� นวน ๑ ฉบับ ดว้ ยจงั หวดั ตรงั ไดร้ บั คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมตรงั และคำ� ขอตอ่ อายุ ใบอนญุ าตใหต้ ง้ั สถานบรกิ ารหอ้ งอาหารศรตี รงั ของบรษิ ทั แหลมทองรว่ มเสรมิ กจิ จำ� กดั ซง่ึ อำ� เภอเมอื งตรงั ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานและข้อเท็จจริงเบื้องต้นเพื่อประกอบการพิจารณาของจังหวัดแล้ว ปรากฏว่าอาคารหรือสถานท่ีที่ใช้ ในการประกอบธุรกิจโรงแรมตรังและห้องอาหารศรีตรังเป็นของ เทศบาลนครตรัง และเทศบาลนครตรังมีหนังสือยืนยันว่าเทศบาลนครตรังไม่ประสงค์ให้บริษัท แหลมทองรว่ มเสริมกิจ จ�ำกดั เช่าอาคารของเทศบาล และไดแ้ จง้ บอกเลกิ สัญญาเชา่ กบั บรษิ ทั ฯ แลว้ และไดด้ ำ� เนนิ การฟอ้ งขบั ไลบ่ รษิ ทั ตอ่ ศาลจงั หวดั ตรงั เมอื่ วนั ท่ี ๑ กนั ยายน ๒๕๕๒ ขณะน้คี ดีอยู่ระหว่าง การพจิ ารณาของศาล จงั หวัดไดต้ รวจสอบเอกสารท่ีเกย่ี วข้องแล้วปรากฏวา่ ขอ้ เท็จจรงิ เพิ่มเตมิ ดงั นี้ ๑. วันท่ี ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ เทศบาลนครตรังได้ตกลงท�ำสัญญากับบริษัทแหลมทอง ร่วมเสริมกจิ จ�ำกดั ใหเ้ ชา่ อาคารโรงแรมตรงั เป็นเวลา ๑๘ ปี นับตั้งแตว่ ันที่ ๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๓๓ ถึงวันท่ี ๓๑ มกราคม ๒๕๕๑ วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เทศบาลนครตรังได้ตกลงท�ำสัญญากับบริษัทแหลมทอง ร่วมเสริมกจิ จำ� กัด ให้เชา่ อาคารโรงแรมตรัง เปน็ เวลา ๑ ปี นบั ตงั้ แต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ ถงึ วนั ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๒ วันท่ี ๓๐ มกราคม ๒๕๕๒ เทศบาลนครตรังได้ตกลงท�ำสัญญากับบริษัทแหลมทอง รว่ มเสรมิ กจิ จำ� กดั ใหเ้ ชา่ อาคารโรงแรมตรงั เปน็ เวลา ๒ เดอื น นบั ตง้ั แตว่ นั ที่ ๑ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๒ สำ�นกั การสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
128 กฎหมายโรงแรม ๒. หลงั จากสญั ญาเชา่ สนิ้ สดุ ลงเมอื่ วนั ท่ี ๓๑ มนี าคม ๒๕๕๒ เทศบาลนครตรงั ไมป่ ระสงค์ ใหบ้ รษิ ทั แหลมทองรว่ มเสริมกจิ จ�ำกดั อาศยั อยู่ในสถานที่เช่าอีกต่อไป จงึ ได้มีหนังสอื แจ้งใหบ้ ริษัท แหลมทองร่วมเสริมกิจ จ�ำกัด ส่งมอบอาคารโรงแรมตรังและให้ย้ายออกพร้อมขนย้ายทรัพย์สิน ให้แล้วเสร็จภายในวันท่ี ๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ แต่บริษัทแหลมทองร่วมเสริมกิจ จ�ำกัด เพิกเฉย เทศบาลนครตรงั จงึ ยน่ื คำ� ฟอ้ งตอ่ ศาลจงั หวดั ตรงั เมอ่ื วนั ที่ ๑ กนั ยายน ๒๕๕๒ เพอ่ื ขอใหศ้ าลพพิ ากษา บงั คับใหบ้ รษิ ทั แหลมทองรว่ มเสริมกจิ จ�ำกัด ออกไปจากสถานท่ีเช่า ซึง่ ขณะนีค้ ดีอยู่ในระหวา่ งการ พจิ ารณาของศาลชัน้ ตน้ คดหี มายเลขดำ� ที่ ๙๗๗/๒๕๕๒ ๓. บรษิ ทั แหลมทองรว่ มเสรมิ กจิ จำ� กดั มหี นงั สอื แจง้ ยนื ยนั วา่ บรษิ ทั ไมไ่ ดม้ กี ารขอคมุ้ ครอง ชั่วคราวการใช้อาคารโรงแรมตรัง เพราะบริษัทในฐานะผู้เช่ายังคงมีสิทธิใช้อาคารที่เช่าจนกว่าศาล จะมีค�ำพพิ ากษาหรอื มีคำ� ส่งั เปน็ อย่างอนื่ จังหวัดตรังพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีบริษัทแหลมทองร่วมเสริมกิจ จ�ำกัด ได้ย่ืนค�ำขอ ต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมตรังและห้องอาหารศรีตรัง ยังมีประเด็นข้อพิพาทโต้แย้ง สิทธิการใช้อาคารที่เช่าเพื่อประกอบธุรกิจโรงแรมตรังและห้องอาหารศรีตรังระหว่างบริษัท ฯ กบั เทศบาลนครตรงั จงั หวดั จงึ ไมอ่ าจออกคำ� สง่ั ทางการปกครองในการอนญุ าตจนกวา่ จะมคี ำ� พพิ ากษา ถึงที่สุด แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นปัญหาทางข้อกฎหมายและยังไม่มีแนวทางปฏิบัติมาก่อน จึงขอหารอื วา่ ความเห็นจงั หวดั ถูกตอ้ งหรอื ไม่ และหากไม่ถกู ต้องจะมีแนวทางปฏบิ ัติอย่างไร จึงเรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณา ผลประการใด กรุณาแจ้งให้จังหวัดทราบด้วย เพื่อจะได้ ด�ำเนินการในสว่ นท่ีเกีย่ วข้องตอ่ ไป ขอแสดงความนบั ถือ (นายไมตร ี อินทสุ ตุ ) ผู้วา่ ราชการจงั หวัดตรงั ท่ีทำ� การปกครองจงั หวัด กลุ่มงานปกครอง โทร. ๐ - ๗๕๒๑ - ๘๐๔๓ สำ�นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 129 ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๓๒๐๔ กรมการปกครอง ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๕ เรอื่ ง หารอื การยนื่ คำ� ร้องขอรับโอนใบอนุญาตกรณผี ปู้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมถึงแกค่ วามตาย เรียน ผวู้ า่ ราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช อ้างถึง หนังสือจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่ี นศ ๐๐๑๗.๑/๒๓๒๖ ลงวนั ท่ี ๒ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๔ ตามท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราชได้หารือแนวทางปฏิบัติ กรณีนางสาววาสนา วัชรสินธุ์ น้องสาวนายอภินันท์ วัชรสินธุ์ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมผู้ตาย ขอรับโอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ โรงแรมอลงกตรสี อรท์ ตามใบอนญุ าตเลขที่ ๕/๒๕๔๙ โดยไดย้ น่ื คำ� รอ้ งขอรบั โอน ณ ทวี่ า่ การอำ� เภอขนอม เมอ่ื วนั ที่ ๑๖ มิถนุ ายน ๒๕๕๓ ความละเอยี ดแจ้งแลว้ นน้ั กรมการปกครองพิจารณาตามข้อหารอื ของจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว เห็นว่า ประเด็นท่ีหน่ึง ทายาทหรือผู้จัดการมรดกยังไม่ได้จัดการแบ่งมรดกให้กับทายาทคนใด ผู้จัดการมรดกหรือทายาทท่ีจะมีสิทธิได้รับมรดก จะยินยอมหรือมอบอ�ำนาจให้ผู้อื่นเป็นผู้รับโอน ใบอนญุ าตประกอบธุรกิจโรงแรมได้หรือไม่ เห็นว่า พระราชบญั ญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๔๓๗ มาตรา ๒๕ กำ� หนดวา่ ในกรณผี ปู้ ระกอบธรุ กจิ ถงึ แกค่ วามตาย และทายาทมคี วามประสงคด์ ำ� เนนิ ธรุ กจิ โรงแรมตอ่ ไป ให้ผู้จัดการมรดกหรือทายาทซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๖ หรือกรณีที่มี ทายาทหลายคน ใหท้ ายาทดว้ ยกนั นน้ั ตกลงตง้ั ทายาทคนหนง่ึ ซง่ึ มคี ณุ สมบตั แิ ละไมม่ ลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม มาตรา ๑๖ ยืน่ ค�ำขอต่อนายทะเบียนเพือ่ ขอรบั โอนใบอนญุ าต ภายในหนงึ่ ร้อยแปดสบิ วันนบั แตว่ นั ท่ี ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตาย ถ้ามิได้ยื่นค�ำขอภายในระยะเวลาที่ก�ำหนดให้ถือว่าใบอนุญาตส้ินอายุ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่านางสาววาสนา ฯ เป็นเพียงน้องสาวของนายอภินันท์ ฯ เจ้าของมรดก ผู้ประกอบธรุ กิจโรงแรม แต่ก็เป็นเพียงทายาทโดยธรรมล�ำดับที่ ๓ เนือ่ งจากนายอภนิ ันท์ ฯ เจา้ มรดก มนี ายอลงกต วัชรสินธ์ุ ผูเ้ ปน็ บตุ ร ทายาทล�ำดบั ท่ี ๑ และมีนายสนอง วัชรสนิ ธุ์ บิดา และนางจ้วิ ลา้ น วชั รสินธ์ุ มารดา เปน็ ทายาทลำ� ดบั ที่ ๒ และมนี างจันทิมา วชั รสินธ์ุ เปน็ ภรรยา โดยชอบด้วยกฎหมาย ซง่ึ กฎหมายก�ำหนดให้ไดร้ บั ส่วนแบ่งเสมอื นเป็นทายาทช้นั บตุ ร ถือได้วา่ เปน็ ทายาทล�ำดบั ที่ ๑ เช่นกนั ฉะน้ัน เมอื่ ยงั มที ายาทลำ� ดบั ที่ ๑ และลำ� ดับที่ ๒ ท�ำให้นางสาววาสนาฯ ผูข้ อรับโอน ซ่งึ เปน็ ทายาท ล�ำดับที่ ๓ ถูกตัดไม่ให้ได้รับมรดกโดยผลของกฎหมาย จึงเป็นทายาทท่ีมีสิทธิในทรัพย์มรดกของ นายอภนิ นั ทฯ์ เจา้ มรดก ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา ๑๖๒๙, ๑๖๓๐ และมาตรา ๑๖๓๕ ประกอบกบั ศาลกย็ งั ไมไ่ ดม้ คี ำ� สั่งต้ังนางสาววาสนาฯ เป็นผู้จัดการมรดกของนายอภนิ ันทฯ์ ผ้ตู ายด้วย ดงั นัน้ นางสาววาสนาฯ จงึ มสี ทิ ธขิ อรับโอนใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ โรงแรมได้ ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
130 กฎหมายโรงแรม ประเดน็ ทส่ี อง ผู้จัดการมรดกตามค�ำส่งั ศาล จำ� นวน ๓ ใน ๔ จะยินยอมให้นางสาววาสนา วิชรสินธุ์ เป็นผู้รับโอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้หรือไม่ เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณชิ ย์มาตรา ๑๗๒๖ กำ� หนดวา่ ถา้ มีผ้จู ัดการมรดกหลายคน การทำ� การตามหนา้ ทข่ี องผู้จดั การ มรดกนนั้ ตอ้ งถอื เอาเสยี งขา้ งมาก เวน้ แตจ่ ะมขี อ้ กำ� หนดพนิ ยั กรรมเปน็ อยา่ งอน่ื กรณนี แ้ี มจ้ ะมที ายาท ซ่ึงเป็นผู้จัดการมรดกตามค�ำส่ังศาล จ�ำนวน ๓ ใน ๔ คน ซ่ึงถือเป็นเสียงข้างมาก ตกลงยินยอมให้ นางสาววาสนาฯ เป็นผู้รับโอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมก็ตาม แต่เมื่อนางสาววาสนาฯ ไม่ได้เป็นผู้จัดการมรดกหรือเป็นทายาทท่ีมีสิทธิในทรัพย์มรดกของนายอภินันท์ฯ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ตามมาตรา ๒๕ จึงไม่สามารถเป็นผู้รับโอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมดังกล่าวได้ จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบและถือเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ติ อ่ ไป ขอแสดงความนับถอื (นายสกุ จิ เจรญิ รัตนกลุ ) อธบิ ดกี รมการปกครอง สำ� นกั การสอบสวนและนิตกิ าร ส่วนรักษาความสงบเรียบรอ้ ย ๓ โทร./โทรสาร ๐ - ๒๓๕๖ - ๙๕๕๙ ส�ำ นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 131 ที่ นศ ๐๐๑๗.๑/๒๓๒๖ ศาลากลางจังหวดั นครศรธี รรมราช ถนนราชด�ำเนิน นศ ๘๐๐๐๐ ๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๔ เร่ือง หารอื กรณกี ารย่นื คำ� ร้องขอรบั โอนใบอนุญาตในกรณีผปู้ ระกอบธุรกิจโรงแรมถงึ แก่ความตาย เรยี น อธิบดกี รมการปกครอง สิง่ ท่ีสง่ มาด้วย เอกสารประกอบ จำ� นวน ๑ ชุด ด้วยจังหวัดได้รับหนังสือหารือจากอ�ำเภอขนอม กรณีส่งเร่ืองขอโอน/รับโอนใบอนุญาต ประกอบธุรกิจโรงแรม กรณีผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมถึงแก่ความตาย (นายอภินันท์ วัชรสินธุ์) ของนางสาววาสนา วัชรสนิ ธ์ุ (น้องสาวผเู้ สียชีวิต) ซึง่ นายอภินนั ท์ วัชรสนิ ธุ์ เป็นผู้ได้รับอนญุ าต ให้ประกอบธุรกิจโรงแรม อลงกตรีสอร์ท ตามใบอนุญาตเลขท่ี ๕/๒๕๔๙ ได้เสียชีวิตเม่ือวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๓ และ นางสาววาสนา วัชรสนิ ธ์ุ ไดย้ ืน่ ค�ำรอ้ งขอรับโอน ณ ทว่ี ่าการอำ� เภอขนอม เมอ่ื วันที่ ๑๖ มถิ ุนายน ๒๕๕๓ โดยผูข้ อรบั โอนไดห้ มายเหตุในคำ� รอ้ งวา่ อยรู่ ะหว่างการดำ� เนินการ ร้องขอต่อศาลเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ต่อมาผู้ยื่นค�ำร้องได้ส่งเอกสารการเป็นผู้จัดการมรดก และหลกั ฐานประกอบเพม่ิ เติมให้ อำ� เภอขนอมจึงได้หารอื จงั หวัดใน ๒ ประเดน็ คือ ประเดน็ ทหี่ นง่ึ กรณผี จู้ ดั การมรดกยงั ไมไ่ ดจ้ ดั การแบง่ ปนั มรดกใหก้ บั ทายาทผู้ใด ผจู้ ดั การมรดก หรอื ทายาททจ่ี ะมสี ทิ ธไิ ดร้ บั มรดกดงั กลา่ ว จะตกลงยนิ ยอมหรอื มอบอำ� นาจใหค้ นอน่ื ทำ� การแทนในกจิ การ บางอยา่ งในกรณดี งั กล่าวไดห้ รอื ไม่ ประเดน็ ทสี่ อง การกระทำ� ทผ่ี จู้ ดั การมรดกตามคำ� สง่ั ศาลและเปน็ ทายาทโดยชอบธรรมได้ จ�ำนวน ๓ คน ในทัง้ หมด ๔ คน ยนิ ยอมให้ นางสาววาสนา วชั รสินธุ์ เปน็ ผู้รับโอนใบอนุญาตประกอบ ธรุ กจิ โรงแรม อลงกตรสี อร์ท ขัดต่อกฎหมายหรือไมอ่ ย่างไร จังหวัดได้พิจารณาประเด็นข้อหารือดังกล่าวประกอบข้อกฎหมายต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องแล้ว มีความเหน็ ดงั นี้ ประเด็นท่ีหน่ึง เห็นว่า ตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ในกรณีผู้ประกอบธุรกิจถึงแก่ความตาย และทายาทมีความประสงค์ด�ำเนินธุรกิจโรงแรมต่อไป ให้ผู้จัดการมรดกหรือทายาทซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๖ หรือกรณี ทม่ี ที ายาทหลายคน ใหท้ ายาทดว้ ยกนั นน้ั ตกลงตง้ั ทายาทคนหนงึ่ ซง่ึ มคี ณุ สมบตั แิ ละไมม่ ลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม ตามมาตรา ๑๖ ยื่นค�ำขอต่อนายทะเบียนเพ่ือขอรับโอนใบอนุญาต ภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวัน นบั แตว่ นั ทผ่ี ปู้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมตายถา้ มไิ ดย้ น่ื คำ� ขอภายในระยะเวลาทก่ี ำ� หนดใหถ้ อื วา่ ใบอนญุ าตสน้ิ อายุ ส�ำ นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
132 กฎหมายโรงแรม ดงั นัน้ เม่อื ทายาทและผจู้ ัดการมรดกจำ� นวน ๓ คน จากทั้งหมด ๔ คน ไดท้ �ำหนังสือยินยอมตกลง มอบหมายให้ นางสาววาสนา วัชรสินธุ์ ซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมคนหน่ึงของนายอภินันท์ วัชรสินธุ์ (ผู้เสียชีวิต) แม้มิใช่ทายาทโดยธรรมในล�ำดับที่จะมีสิทธิรับมรดกก็ตาม และมีคุณสมบัติครบถ้วน ทกี่ ฎหมายกำ� หนดเปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การรบั โอน/และตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม จงึ เปน็ การกระทำ� ทส่ี ามารถกระท�ำได้ เพราะกฎหมายมไิ ดก้ ำ� หนดว่าจะตอ้ งเป็นทายาททมี่ สี ทิ ธิไดร้ ับมรดกแต่อยา่ งใด ประเดน็ ทส่ี อง เหน็ วา่ ตามประมวลกฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา ๑๗๒๖ กำ� หนดวา่ ถ้าผู้จัดการมรดกมีหลายคน การท�ำการตามหน้าท่ีของผู้จัดการมรดกน้ันต้องถือเสียงข้างมาก เวน้ แตจ่ ะมขี อ้ กำ� หนดพนิ ยั กรรมเปน็ อยา่ งอน่ื ถา้ เสยี งเทา่ กนั เมอื่ มผี มู้ สี ว่ นไดเ้ สยี รอ้ งขอ ก็ใหศ้ าลเปน็ ผู้ชี้ขาด ดังนั้นการท่ีผู้จัดการมรดกตามค�ำส่ังศาล และเป็นทายาทโดยชอบธรรม จ�ำนวน ๓ คน จากทั้งหมด ๔ คน ยนิ ยอมให้ นางสาววาสนา วชั รสนิ ธุ์ เป็นผรู้ บั โอนใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ โรงแรม อลงกตรสี อรท์ ถอื เปน็ เสียงข้างมากจึงสามารถด�ำเนินการไดแ้ ละไมข่ ดั ตอ่ กฎหมายแต่อยา่ งใด จึงใคร่ขอหารือว่าความเห็นของจังหวัดถูกต้อง หรือไม่ อย่างไร เพ่ือจะได้ถือปฏิบัติได้ อยา่ งถูกต้องต่อไป จงึ เรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและพจิ ารณา ขอแสดงความนับถอื วา่ ท่ี ร.ต. (ฐติ วฒั น เชาวลิต) รองผ้วู ่าราชการจงั หวัด ปฏิบัตริ าชการแทน ผวู้ า่ ราชการจังหวดั นครศรีธรรมราช ทีท่ ำ� การปกครองจังหวดั (กลุม่ งานปกครอง) โทร. ๐ - ๗๕๓๕ - ๖๑๓๓ , ๐ - ๗๕๓๑ - ๐๐๙๖ สำ�นกั การสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 133 ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๓๗๕๙ กรมการปกครอง ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๒๒ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๕ เรอ่ื ง หารือคุณสมบตั ิผู้ประกอบกิจการโรงแรมรสี อรท์ บา้ นกลางเขา เรยี น ผู้ว่าราชการจงั หวัดอทุ ยั ธานี อ้างถงึ หนงั สือจังหวัดอทุ ัยธานี ท่ี อน ๐๐๑๗.๑/๑๕๕๐๒ ลงวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๔ ดว้ ยจงั หวดั อทุ ยั ธานี ไดร้ บั คำ� รอ้ งขอโอนใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมรสี อรท์ บา้ นกลางเขา ของนายสมยศ ผูกใจเพ่ือน ต้ังอยู่เลขที่ ๑๖๑ หมู่ที่ ๗ ต�ำบลดอนขวาง อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี จงั หวัดอทุ ัยธานี ใหก้ บั นายชัยศิริ ผูกใจเพ่ือน อายุ ๔๒ ปี อยู่บ้านเลขท่ี ๑๓๒/๙ ถนนวงศาโรจน์ ต�ำบลอุทัยใหม่ อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โดย คณะกรรมการพิจารณากล่ันกรอง ฯ ไดอ้ อกตรวจสถานที่ เมอ่ื วนั ท่ี ๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ และตรวจสอบคณุ สมบตั ขิ องผรู้ บั โอนใบอนญุ าต ประกอบธุรกิจโรงแรม ของนายชัยศิริ ผูกใจเพ่ือน พบว่าบุคคลดังกล่าว เป็นข้าราชการพลเรือน ตำ� แหนง่ รองผู้อ�ำนวยการแขวงการทางอุทยั ธานี แขวงการทางอทุ ัยธานี กระทรวงคมนาคม โดยมติ ทป่ี ระชมุ คณะกรรมการกลน่ั กรองฯ ใหท้ ำ� การหารอื คณุ สมบตั ขิ องบคุ คล ดงั กลา่ ววา่ มลี กั ษณะตอ้ งหา้ ม หรอื ขดั ตอ่ การรบั โอนใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม หรอื ขอ้ หา้ มหนงั สอื สง่ั การ ระเบยี บภายในของ ทางราชการท่มี ลี กั ษณะตอ้ งห้ามต่อการด�ำรงตำ� แหน่งของราชการหรอื ไม่ กรมการปกครองพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ คณุ สมบตั ขิ องผรู้ บั โอนใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม ตามมาตรา ๒๔ แหง่ พระราชบัญญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ถ้าเป็นบคุ คลธรรมดาจะต้องมคี ุณสมบัติ และไม่มีลกั ษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญตั ิโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ กรณี นายชัยศิริ ผูกใจเพ่ือน เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ด�ำรงต�ำแหน่งรองผู้อ�ำนวยการแขวงการทางอุทัยธานี แขวงการทางอทุ ยั ธานี กระทรวงคมนาคม กฎหมายมไิ ดบ้ ญั ญตั ไิ วว้ า่ ผรู้ บั โอนใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมซึ่งเป็นขา้ ราชการพลเรอื นสามัญ จะทำ� การรบั โอนไมไ่ ดแ้ ตอ่ ย่างใด ดงั นน้ั นายชยั ศริ ิ ผกู ใจเพอื่ น สำ�นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
134 กฎหมายโรงแรม จงึ สามารถเป็นผู้รับโอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม เปน็ ผู้มคี ณุ สมบตั แิ ละไม่มีลักษณะต้องห้าม ในการประกอบธุรกจิ โรงแรมได้ จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดทราบและดำ� เนินการในส่วนทเ่ี ก่ียวข้อง ขอแสดงความนับถอื (นายสถาพร ศิรภิ กั ด)ี รองอธบิ ดี ปฏิบตั ริ าชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ส�ำนักการสอบสวนและนิตกิ าร สว่ นรักษาความสงบเรยี บร้อย ๓ โทร./โทรสาร ๐ - ๒๓๕๖ - ๙๕๕๙ สำ�นักการสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 135 ท่ี อน ๐๐๑๗.๑/๑๕๕๐๒ ศาลากลางจงั หวัดอทุ ยั ธานี ถนนศรอี ุทัย อน ๖๑๐๐๐ ๙ ธนั วาคม ๒๕๕๔ เรือ่ ง หารอื คุณสมบัตผิ ู้ประกอบกจิ การโรงแรมรสี อรท์ บ้านกลางเขา เรียน อธิบดีกรมการปกครอง ส่งิ ทส่ี ่งมาดว้ ย คำ� ร้องขอโอนกจิ การโรงแรมฯ จำ� นวน ๑ ชดุ ดว้ ยจงั หวดั อทุ ยั ธานไี ดร้ บั คำ� รอ้ งขอโอนใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมรสี อรท์ บา้ นกลางเขา ของนายสมยศ ผกู ใจเพอ่ื น ตงั้ อยเู่ ลขที่ ๑๖๑ หมทู่ ่ี ๗ ตำ� บลดอนขวาง อำ� เภอเมอื งอทุ ยั ธานี จงั หวดั อทุ ยั ธานี โดยไดย้ น่ื คำ� รอ้ งขอโอนใบอนญุ าตโรงแรมใหก้ บั นายชยั ศริ ิ ผกู ใจเพอื่ น อายุ ๔๒ ปี อยบู่ า้ นเลขที่ ๑๓๒/๙ ถนนวงศาโรจน์ ต�ำบลอุทัยใหม่ อ�ำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี โดยคณะกรรมการพิจารณา กล่ันกรองฯไดอ้ อกตรวจสถานท่เี มื่อวันท่ี ๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๔ คณะกรรมการพิจารณากลั่นกรองฯ ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้รับโอนใบอนุญาตราย นายชัยศริ ิ ผกู ใจเพื่อน ปรากฏข้อเทจ็ จรงิ ว่า นายชยั ศิริฯ ด�ำรงตำ� แหนง่ รองผูอ้ ำ� นวยการแขวงการทาง อุทัยธานี แขวงการทางอุทัยธานี กระทรวงคมนาคม เปน็ ขา้ ราชการพลเรือนสามญั ท่ปี ระชุมมคี วามเหน็ ให้หารือคุณสมบัตินายชัยศิริ ฯ ว่ามีลักษณะต้องห้ามหรือขัดต่อการรับโอนใบอนุญาต ฯ โรงแรม หรือมีข้อห้ามหนังสือส่ังการ ระเบียบในของทางราชการที่มีลักษณะต้องห้ามต่อการด�ำรงต�ำแหน่ง ของข้าราชการหรือไม่ จงั หวดั อทุ ยั ธานมี คี วามเหน็ ในกรณดี งั กลา่ ว การทจี่ ะพจิ ารณาคณุ สมบตั ผิ ปู้ ระกอบกจิ การโรงแรม ตามกฎหมายโรงแรมนนั้ ควรทจี่ ะตอ้ งพจิ ารณาจากเกณฑค์ ณุ สมบตั ใิ นมาตรา ๑๖ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ เทา่ น้นั ในกรณดี ังกลา่ วจงึ มคี วามเหน็ ว่า นายชัยศิริ ฯ ผูร้ บั โอนใบอนุญาต มคี ณุ สมบตั ติ ามมาตรา ๑๖ แหง่ พระราชบญั ญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ สามารถเปน็ ผรู้ บั โอนใบอนญุ าต โรงแรมรีสอร์ทบ้านกลางเขาได้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาความเห็นของจังหวดั ถูกต้องหรือไม่ อยา่ งไร ขอแสดงความนบั ถอื (นายวนั ชัย โอสคุ นธ์ทพิ ย)์ ผวู้ ่าราชการจงั หวัดอทุ ัยธานี ทที่ �ำการปกครองจังหวัด กลมุ่ งานปกครอง โทร./โทรสาร ๐ - ๕๖๕๑ - ๑๔๔๔ สำ�นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
136 กฎหมายโรงแรม ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/๓๗๖๐ กรมการปกครอง ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรอื่ ง สอบถามกรณีการพจิ ารณาตามกฎหมายควบคมุ อาคาร เรียน ผู้อำ� นวยการสำ� นกั การโยธา อา้ งถึง หนังสือส�ำนกั การโยธา ท่ี กท ๐๙๐๗/อ. ๔๐๐ ลงวันท่ี ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕ ตามที่ส�ำนักการโยธา สอบถามกรณี บริษัท วี อาร์ วัน อินเตอร์เนชั่นแนล จ�ำกัด ได้ย่ืนหนงั สอื แจ้งความประสงค์จะดดั แปลงอาคารตึก ๑๕ ชน้ั ช้นั ใต้ดนิ ๑ ชัน้ เชือ่ มตกึ ๑๐ ชนั้ เพอ่ื ใช้เป็นสำ� นักงานโรงแรม (๗๘ หอ้ ง) – จอดรถยนต์ ตามมาตรา ๓๙ ทวิ ตามแบบ กทม. ๑ และกรุงเทพมหานครได้ออกใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะดัดแปลงอาคารตามแบบ โดยส�ำนัก การโยธาไดต้ รวจสอบแลว้ อาคารบางสว่ นเปน็ โรงแรม แตอ่ าคารทข่ี ออนญุ าตนน้ั อย่ใู กลว้ ดั ไตรมติ ร วิทยารามวรวิหาร จึงได้สอบถามกรมการปกครองว่ากรุงเทพมหานคร จะต้องรอความเห็นชอบ ในหลักการจากกรมการปกครองในเรื่องต�ำแหน่งท่ีต้ังของโรงแรมก่อนที่จะพิจารณาออกใบอนุญาต ตามกฎหมายควบคุมอาคารหรือไม่ นั้น กรมการปกครองพิจารณาแลว้ เห็นวา่ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ือง หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารในการพจิ ารณาการขอใบอนญุ าต และการออกใบอนญุ าตใหป้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรม ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๕๒ ข้อ ๑ (๔) ก�ำหนดให้ผูป้ ระสงคจ์ ะประกอบธุรกิจโรงแรม ต้องยื่นหลกั ฐาน แสดงว่าอาคารท่ีใช้ ในการประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ใบอนุญาตให้ ใช้อาคารตามกฎหมายว่าด้วยการ ควบคุมอาคาร ดังน้ัน ผู้ใดประสงค์จะประกอบธุรกิจโรงแรม จึงต้องย่ืนหนังสือแจ้งความประสงค์ จะดัดแปลงอาคาร เพือ่ ให้ได้ใบอนุญาตตามกฎหมายควบคมุ อาคารเสียกอ่ น จึงสามารถยืน่ ค�ำขอรบั ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ส�ำหรับกรณีผู้ใดจะได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม กรมการปกครองในฐานะนายทะเบยี นโรงแรมกรงุ เทพมหานคร จะพจิ ารณาตามหลกั เกณฑแ์ ละเงอื่ นไข ส�ำ นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 137 ที่ก�ำหนดไว้ในกฎกระทรวงก�ำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ กรุงเทพมหานครจึงไม่ต้องรอความเห็นชอบในหลักการจากกรมการปกครอง ก่อนที่จะพิจารณา ออกใบอนุญาตตามกฎหมายควบคุมอาคารแตอ่ ยา่ งใด จงึ เรยี นมาเพอ่ื ทราบ ขอแสดงความนับถือ (นายสถาพร ศิรภิ ักด)ี รองอธิบดี ปฏิบตั ิราชการแทน อธบิ ดกี รมการปกครอง สำ� นักการสอบสวนและนิตกิ าร สว่ นรกั ษาความสงบเรียบร้อย ๓ โทร./โทรสาร ๐ - ๒๓๕๖ - ๙๕๕๙ สำ�นักการสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
138 กฎหมายโรงแรม ท่ี กท ๐๙๐๗/อ. ๔๐๐ สำ� นกั การโยธา ๑๑๑ ถนนมติ รไมตรี เขตดินแดง กทม. ๑๐๔๐๐ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕ เร่ือง สอบถามกรณกี ารพิจารณาตามกฎหมายควบคุมอาคาร เรยี น อธิบดีกรมการปกครอง ตามที่ บริษัท วี อาร์ วัน อินเตอร์เนช่ันแนล จ�ำกัด โดย นายวิชิต ลีนุตพงษ์ และนางสาววิชิตา ลีนุตพงษ์ ได้ย่ืนหนังสือแจ้งความประสงค์จะดัดแปลงอาคาร ตึก ๑๕ ช้ัน ชน้ั ใตด้ นิ ๑ ชน้ั เชอื่ มตกึ ๑๐ ชนั้ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ สำ� นกั งานโรงแรม (๗๘ หอ้ ง) – จอดรถยนต์ ทถ่ี นนตรมี ติ ร แขวงตลาดน้อย เขตสัมพนั ธวงศ์ ตามมาตรา ๓๙ ทวิ ตามแบบ กทม. ๑ เลขทรี่ บั ๑๖๐ ลงวนั ที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๕๔ และกรุงเทพมหานคร ได้ออกใบรับหนังสือแจ้งความประสงค์จะดัดแปลงอาคาร ตามแบบ กทม. ๖ เลขที่ ๑๖๐ / ๒๕๕๔ ลงวันที่ ๒๔ มนี าคม ๒๕๕๔ นัน้ ส�ำนักการโยธา ได้ตรวจสอบแล้ว การย่ืนแจ้งความประสงค์จะดัดแปลงอาคารดังกล่าว มีการใช้สอยอาคารบางส่วนเป็นอาคารประเภทโรงแรม ซึ่งอาคารท่ีขออนุญาตอยู่ใกล้วัดไตรมิตร วิทยารามวรวหิ าร โดยมรี ายละเอียดตามผงั ปโู ฉนดท่แี นบ ดังนนั้ จึงขอสอบถามกรมการปกครองว่า กรุงเทพมหานคร จะต้องรอความเห็นชอบในหลักการจากกรมการปกครองในเร่ืองต�ำแหน่งท่ีตั้ง ของโรงแรมก่อนที่จะพจิ ารณาออกใบอนุญาต ตามกฎหมายควบคมุ อาคาร หรือไม่ จึงเรียนมาเพ่อื โปรดทราบ ขอแสดงความนบั ถอื กองควบคมุ อาคาร (นายพินติ เลิศอดุ มธนา) โทร. ๐ ๒๒๔๖ ๐๓๓๒ ผู้อ�ำนวยการกองควบคมุ อาคาร โทรสาร ๐ ๒๒๔๗ ๐๑๐๔ ปฏิบตั ิราชการแทนผู้อำ� นวยการสำ� นกั การโยธา ส�ำ นักการสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 139 ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/๔๓๒๘ กรมการปกครอง ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เรือ่ ง หารือการพิจารณาค�ำขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธุรกิจโรงแรมทพิ ย์ช้างล�ำปาง เรียน ผูว้ า่ ราชการจังหวัดล�ำปาง อ้างถงึ หนังสอื จงั หวัดลำ� ปาง ท่ี ลป ๐๐๑๗.๑/๑๘๙๒๗ ลงวนั ที่ ๑๔ กนั ยายน ๒๕๕๔ ตามทจ่ี งั หวดั ล�ำปางไดห้ ารอื แนวทางปฏบิ ัติ กรณีบริษทั ทิพยช์ า้ ง ล�ำปาง จ�ำกัด โดยนางอรนรี อังควัฒนากระวี ได้ยื่นค�ำขอตอ่ อายุใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ โรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปาง ซ่ึงใบอนุญาตฯ ส้ินสุดลงเมื่อวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓ โดยแนบค�ำสั่งศาลจังหวัดล�ำปางที่ได้มีค�ำสั่งแต่งต้ัง นางอรนรี ฯ เปน็ ผจู้ ดั การมรดก เป็นหลกั ฐานประกอบการพจิ ารณาตอ่ อายุใบอนุญาต ความละเอยี ด แจ้งแลว้ น้นั กรมการปกครองพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ บรษิ ทั จำ� กดั ยอ่ มเลกิ กนั ดว้ ยเหตตุ า่ ง ๆ ตามมาตรา๑๒๓๖ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แม้ปรากฏว่านายทรงชัย เจนตวณิชย์ ผู้เป็นกรรมการ บริษัททพิ ย์ชา้ ง จ�ำกัด จะได้ถงึ แกค่ วามตาย ก็ไมเ่ ปน็ เหตใุ หบ้ ริษทั ทิพยช์ ้าง จ�ำกดั เลิกกนั และมผี ล ให้ใบอนุญาตฯ ส้ินอายุแต่อย่างใด ซึ่งกรรมการของบริษัททิพย์ช้าง จ�ำกัด ที่เหลืออยู่ก็สามารถ ประกอบธรุ กจิ โรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปางตอ่ ไปได้ ตามความในมาตรา ๑๑๔๔ มาตรา ๑๑๕๙ แหง่ ประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม เม่ือต่อมาศาลได้มีค�ำส่ัง แต่งตง้ั นางอรนรี อังควฒั นากระวี เป็นผจู้ ดั การมรดกของนายทรงชยั ฯ นางอรนรี ฯ จึงมีสิทธแิ ละหนา้ ที่ จะกระท�ำการท่ีจ�ำเป็นแทนนายทรงชัยฯ เจ้ามรดกได้ ตามมาตรา ๑๗๑๙ แห่งประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ และแมว้ ่าวนั ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ นางอรนรีฯ ไดย้ ื่นค�ำขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบ ธุรกิจโรงแรมในนามบริษัททิพย์ช้าง ลำ� ปาง จำ� กัด กต็ าม ต่อมาเมอ่ื วนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ก็ไดแ้ ก้ไขข้อบกพรอ่ งด้านเอกสาร โดยไดย้ ื่นคำ� ขอต่ออายใุ บอนญุ าตฯ ในนามบริษทั ทพิ ยช์ ้าง จ�ำกัดแลว้ ถอื ไดว้ า่ นางอรนรฯี ผจู้ ดั การมรดกของนายทรงชยั ฯ เปน็ ตวั แทนกระทำ� การแทนบรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั ในฐานะตัวการแล้ว เม่ือบริษัททิพย์ช้าง จ�ำกัด ได้ทราบ และยอมรับการกระท�ำของนางอรนรีฯ จึงถอื ได้วา่ บรษิ ัททิพยช์ า้ ง จ�ำกัด ในฐานะตัวการได้ให้สตั ยาบันแกก่ ารกระท�ำนั้นแล้ว จึงมผี ลผกู พนั บรษิ ัททิพย์ชา้ ง จ�ำกัด ในฐานะตัวการ ตามความในมาตรา ๘๒๓ และมาตรา ๑๑๖๗ แห่งประมวล กฎหมายแพง่ และพาณชิ ย์ ดงั นนั้ จงึ ถอื วา่ บรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั ไดย้ น่ื คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบ ธุรกิจโรงแรมทิพย์ช้างล�ำปาง ต้ังแต่วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ ก่อนวันที่ใบอนุญาตจะส้ินอายุแล้ว ตามความในมาตรา ๒๑ แหง่ พระราชบญั ญัตโิ รงแรม ส�ำ นกั การสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
140 กฎหมายโรงแรม ส่วนกรณีกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างโรงแรมทิพย์ช้างล�ำปาง ตกเป็นของบรรษัท บรหิ ารสินทรัพย์ไทยแลว้ น้นั เห็นวา่ การประกอบธรุ กจิ โรงแรมผปู้ ระกอบธรุ กิจโรงแรม ตอ้ งย่นื ค�ำขอฯ พร้อมเอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของอาคารหรือสถานท่ีท่ีใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม หรอื หนงั สอื แสดงความยนิ ยอมให้ใชอ้ าคารหรอื สถานที่ ในกรณที อ่ี าคารหรอื สถานทน่ี นั้ เปน็ ของผอู้ นื่ และสำ� เนาหนงั สอื สำ� คญั แสดงกรรมสทิ ธห์ิ รอื สทิ ธคิ รอบครองในทดี่ นิ ทจ่ี ะใชเ้ ปน็ ทต่ี ง้ั โรงแรมตามความ ในมาตรา ๑๘ แหง่ พระราชบญั ญตั โิ รงแรม ประกอบกบั ขอ้ ๑ (๕) และ (๗) แหง่ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการในการพิจารณาการขออนุญาต และการออกใบอนุญาตให้ประกอบ ธรุ กจิ โรงแรม เมอ่ื ปรากฏวา่ บรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั ผยู้ น่ื คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธุรกิจโรงแรม ทพิ ยช์ า้ งลำ� ปาง ไมไ่ ดเ้ ปน็ เจา้ ของกรรมสทิ ธใ์ิ นทดี่ นิ และสง่ิ ปลกู สรา้ งและไมม่ สี ทิ ธคิ รอบครองในทดี่ นิ แล้ว เน่ืองจากที่ดินและส่ิงปลูกสร้างแปลงดังกล่าวได้โอนไปเป็นของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ตามพระราชก�ำหนดบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยแล้ว ซ่ึงแม้ว่าคดีจะอยู่ในระหว่างท่ีศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยแต่เม่ือศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มีค�ำวินิจฉัยก็ต้องถือว่าบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ยงั คงเปน็ เจา้ ของกรรมสทิ ธใิ์ นทดี่ นิ และสงิ่ ปลกู สรา้ งของโรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปางอยู่ ดงั นน้ั นายทะเบยี น โรงแรมจงั หวดั ลำ� ปางจงึ ไมอ่ าจอนญุ าตใหป้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมใหก้ บั บรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั ผขู้ อตอ่ อายุ ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม โดยไมม่ หี ลกั ฐานแสดงกรรมสทิ ธใ์ิ นทด่ี นิ และอาคาร หรอื ไมม่ สี ทิ ธคิ รอบ ครองหรอื ใชป้ ระโยชน์ในทีด่ ินและอาคารของผอู้ น่ื เพอ่ื ประกอบธรุ กจิ โรงแรมได้ ตามความในขอ้ ๔ (๔) และ (๖) แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบบั ดงั กล่าวข้างตน้ และข้อ ๕ (๔) แหง่ ประกาศกระทรวง มหาดไทย เรื่องหลักเกณฑแ์ ละวิธีการขอตอ่ อายุใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม แตอ่ ย่างไรก็ตาม หากบรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั สามารถเจรจาตกลงทำ� สญั ญาปรบั โครงสรา้ งหนก้ี บั บรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ย์ไทยได้ และบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยยินยอมให้เช่าหรือยินยอมให้ ใช้ประโยชน์ในท่ีดินและอาคาร เพอ่ื ประกอบธุรกจิ โรงแรมตอ่ ไป บริษัททพิ ยช์ ้าง จำ� กัด ก็สามารถขอต่ออายุใบอนญุ าตเพื่อประกอบ ธุรกิจโรงแรมต่อไปได้ หากนายทะเบียนโรงแรมจังหวัดล�ำปางพิจารณาไม่อนุญาตก็ต้องแจ้งเหตุ ท่ีไมส่ มควรอนญุ าตให้ผู้ขอต่ออายุใบอนญุ าตทราบ เพอ่ื โตแ้ ยง้ แสดงพยานหลักฐานตามมาตรา ๓๐ แห่งพระราชบัญญัติวธิ ีปฏบิ ัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ กอ่ นออกคำ� สั่งตอ่ ไป จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ และถือเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิต่อไป ขอแสดงความนบั ถอื (นายสถาพร ศริ ิภกั ดี) รองอธบิ ดี ปฏบิ ัตริ าชการแทน อธบิ ดกี รมการปกครอง สำ� นกั การสอบสวนและนติ กิ าร สว่ นรักษาความสงบเรียบร้อย ๓ โทร./โทรสาร ๐ - ๒๓๕๖ - ๙๕๕๙ สำ�นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 141 ท่ี ลป ๐๐๑๗.๑/๑๘๙๒๗ ศาลากลางจงั หวัดล�ำปาง ถนนวชริ าวุธดำ� เนนิ ลป ๕๒๐๐๐ ๑๔ กันยายน ๒๕๕๔ เรอื่ ง การพจิ ารณาคำ� ขอตอ่ อายใุ บอนุญาตประกอบธรุ กิจโรงแรมทพิ ย์ชา้ งลำ� ปาง เรยี น อธบิ ดกี รมการปกครอง ดว้ ยเมอ่ื วนั ท่ี ๕ ตลุ าคม ๒๕๕๓ บรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง ลำ� ปาง จำ� กดั โดยนางอรนรี องั ควฒั นากระวี ได้ย่ืนต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมทิพย์ช้างล�ำปาง ซึ่งได้ครบอายุ ๕ ปี เมื่อวันท่ี ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๓ และไดแ้ นบคำ� สงั่ ศาลจงั หวดั ลำ� ปาง ลงวนั ที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ที่ไดม้ คี ำ� สงั่ แต่งตั้งนางอรนรี อังควัฒนากระวี เป็นผู้จัดการมรดกของนายทรงชัย เจนตวนิชย์ อดีตสามี เปน็ หลักฐานประกอบการพจิ ารณาต่ออายใุ บอนญุ าต จงั หวดั ลำ� ปางไดต้ รวจสอบคำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตฯ และเอกสารประกอบพจิ ารณาคำ� ขอฯ พบว่าใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม (เดิม) เมื่อปี ๒๕๔๙ นายทะเบียนโรงแรมจังหวัดล�ำปาง ไดอ้ นญุ าตใหบ้ รษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั โดยนายทรงชยั เจนตวนชิ ย์ เปน็ ผรู้ บั อนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม และต่อมาเมื่อวันท่ี ๘ ธันวาคม ๒๕๕๑ นายทรงชัย เจนตวนิชย์ ได้ถึงแก่ความตาย นางอรนรี องั ควฒั นากระวี ผรู้ อ้ ง ซงึ่ เปน็ อดตี ภรยิ าโดยชอบดว้ ยกฎหมายของนายทรงชยั ฯ จงึ ไดร้ อ้ งขอตอ่ ศาล จังหวัดล�ำปาง ขอให้ศาลมคี �ำส่งั ตั้งนางอรนรี ฯ เปน็ ผ้จู ัดการมรดกและเมอ่ื วนั ท่ี ๕ ตลุ าคม ๒๕๕๓ ไดย้ น่ื คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมในนามบรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง ล�ำปาง จำ� กดั โดยนางอรนรี อังควัฒนากระวี แทนบริษัททิพย์ช้าง จ�ำกัด ผู้รับใบอนุญาตเดิม และต่อมาจังหวัดได้ตรวจพบว่า กรรมสิทธ์ิในที่ดินและส่ิงปลูกสร้างโรงแรมทิพย์ช้างล�ำปางตกเป็นของบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซ่ึงได้จดทะเบียนโอนที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของ บสท. เมื่อวันท่ี ๑๒ มกราคม ๒๕๕๐ ซง่ึ จงั หวดั พจิ ารณาเหน็ วา่ กรรมสทิ ธใิ์ นทด่ี นิ และสงิ่ ปลกู สรา้ งโรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปางเปน็ ของบรรษทั บริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) นางอรนรีฯ หรอื ผู้ใดย่อมไมม่ อี ำ� นาจ ในการจดั การกบั ทด่ี นิ และสง่ิ ปลกู สรา้ ง ของโรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปาง เวน้ เสยี แตว่ า่ จะไดร้ บั การยนิ ยอมให้ใชอ้ าคารโรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปางในการ ประกอบธุรกิจโรงแรมจาก บสท. ก่อน ประกอบกับเม่ือปี พ.ศ. ๒๕๔๙ จังหวัดได้เคยอนุญาตให้ บริษัททิพย์ช้าง จ�ำกัด ต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปาง ไม่ใชบ่ รษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง ลำ� ปาง จำ� กดั ดงั นนั้ กรณที บ่ี รษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง ลำ� ปาง จำ� กดั โดยนางอรนรี องั ควฒั นากระวี ซ่งึ เปน็ อีก นิติบุคคลหนึ่งนอกเหนือจากบริษัททิพย์ช้าง จ�ำกัด ย่ืนค�ำขอต่ออายุในอนุญาตฯ ทั้งท่ีไม่เคยได้รับ ใบอนญุ าตใหป้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมมากอ่ น จงึ ไมส่ ามารถทจ่ี ะพจิ ารณาตอ่ อายปุ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมใหก้ บั ส�ำ นักการสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
142 กฎหมายโรงแรม บริษัททิพย์ช้าง ล�ำปาง จ�ำกัด โดยนางอรนรี องั ควฒั นากระวี ได้ และกอ่ นทน่ี ายทะเบยี นโรงแรม จงั หวดั ลำ� ปางจะมคี ำ� สงั่ ไมอ่ นญุ าตใหบ้ รษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง ล�ำปาง จ�ำกัด โดยนางอรนรี อังควัฒนากระวี ต่ออายุใบอนุญาตจึงไดม้ ีหนังสือแจ้งบริษัททิพยช์ ้าง ลำ� ปาง จำ� กดั โดยนางอรนรี อังควัฒนากระวี ไดท้ ราบขอ้ เทจ็ จรงิ อยา่ งเพยี งพอและมโี อกาสได้โตแ้ ยง้ และแสดงพยานหลกั ฐานของตนตามมาตรา ๓๐ แหง่ พระราชบัญญตั ิวิธปี ฏบิ ัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ตอ่ มานางอรนรี องั ควฒั นากระวี ไดช้ แ้ี จงขอ้ เทจ็ จรงิ ใหน้ ายทะเบยี นโรงแรมจงั หวดั ลำ� ปาง ดงั น้ี ๑. บสท. ได้บังคับโอนท่ีดินซึ่งเป็นท่ีต้ังของโรงแรมทิพย์ช้างลำ� ปาง ตามพระราชก�ำหนด บรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ย์ไทย พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๗๖ ซง่ึ เปน็ การบงั คบั โอนทข่ี ดั ตอ่ กฎหมายรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๑ ซึ่งศาลจงั หวดั ลำ� ปางไดส้ ง่ คำ� รอ้ งของบรษิ ัททพิ ย์ชา้ ง จำ� กดั ในคดีแพ่งหมายเลขด�ำท่ี ๖๙๗/๒๕๕๐ ระหว่าง บสท. โจทก์ บริษัททิพยช์ ้าง จำ� กัด ที่ ๑ นายทรงชัย เจนตวนชิ ย์ ที่ ๒ จ�ำเลย ไปยงั ศาลรฐั ธรรมนญู เพอื่ ขอใหพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั วา่ พระราชกำ� หนดบรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ย์ไทย พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๗๖ ขดั หรือแย้งต่อรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒, ๓, ๔ ๔๐ และ ๘๑ หรอื ไม่ และส�ำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไดม้ หี นงั สอื แจง้ วา่ เมอื่ วนั ท่ี ๖ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๒ ตลุ าการประจำ� คดไี ดป้ ระชมุ ปรกึ ษามคี ำ� สงั่ ใหร้ บั คำ� รอ้ งดงั กลา่ วไวพ้ จิ ารณาวนิ จิ ฉยั ตามรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๐ มาตรา ๒๑๑ วรรคหน่งึ แล้ว คำ� ขอโอนของ บสท. ดงั กลา่ ว เปน็ ค�ำขอโอนฝา่ ยเดียว ซงึ่ ขณะนี้มกี ารโต้แยง้ กรรมสทิ ธิว์ ่าการบังคับโอนตามพระราชกำ� หนด บสท. มาตรา ๗๖ ขดั ตอ่ กฎหมายหรอื ไม่ หากขดั ตอ่ กฎหมายการโอนกเ็ ปน็ โมฆะ ซงึ่ การขดั ตอ่ กฎหมายรฐั ธรรมนญู มาตรา ๒๑๑ แม้ศาลจังหวัดล�ำปางยังต้องรอค�ำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จึงขอให้พิจารณา ใหเ้ ปน็ ไปตามบทบัญญัตแิ ห่งกฎหมายรัฐธรรมนญู มาตรา ๓ วรรค ๒ ท่ีบญั ญตั ิวา่ เจ้าหนา้ ทีข่ องรฐั จะต้องปฏบิ ตั ิหน้าที่ให้เป็นไปตาม นิติธรรม หรือหลักแห่งความถูกตอ้ งและเป็นธรรม จงึ ขอพิจารณาว่า กรรมสิทธ์ิในทรัพย์ยังเป็นของเจ้าของเดิมอยู่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีค�ำวินิจฉัยว่าการโอนใหก้ บั เจา้ ของใหม่ ตามพระราชกำ� หนดบรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ย์ไทย ตามมาตรา ๗๖ ขดั ตอ่ รฐั ธรรมนญู หรอื ไม่ หรอื ชอบดว้ ยกฎหมายหรอื ไม่ ซง่ึ หากมคี ำ� วนิ จิ ฉยั ของศาลรฐั ธรรมนญู แลว้ กพ็ รอ้ มจะปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บ ทจ่ี ะตอ้ งไปขอหนงั สอื ยนิ ยอมจาก บสท. ตอ่ ไป และขอให้ ถอื วา่ คำ� ขออนญุ าตท่ีไดย้ นื่ ตอ่ อำ� เภอเมอื งลำ� ปาง แลว้ ในวนั ท่ี ๒๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๓ เพ่อื ขอตอ่ ใบอนุญาตเดิมยงั ไม่ถงึ ทส่ี ุด จนกวา่ ศาลรัฐธรรมนญู จะมีค�ำวินิจฉัยว่าการโอนให้เจ้าของใหม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จากเหตุผลดังกล่าวนางอรนรี ฯ ในฐานะผู้จัดการมรดกขอใช้สิทธิในการขอต่ออายุใบอนุญาตโรงแรมทิพย์ช้าง โดยใช้เอกสารเดิม ในการขออนุญาต ส�ำ นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 143 ๒. โรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปางมคี วามประสงคจ์ ะขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตเดมิ ของบรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั ซ่งึ ทายาทมคี วามประสงคท์ จ่ี ะด�ำเนินกิจการตอ่ แต่เน่อื งจากไมม่ คี วามเขา้ ใจในด้านเอกสาร จึงได้ยนื่ ต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมทิพย์ช้างล�ำปางในนามของบริษัททิพย์ช้างล�ำปาง จ�ำกัด และเมื่อได้รับแจ้งจากจังหวัดว่าย่ืนต่ออายุใบอนุญาตในนามของ บริษัททิพย์ช้าง ล�ำปาง จ�ำกัด ไมถ่ กู ตอ้ งและตอ่ เมอื่ วนั ท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ จงึ ยนื่ ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตในนามของบรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั ผู้บรหิ ารโรงแรมทิพย์ชา้ งลำ� ปางก็ไมไ่ ด้นง่ิ นอนใจ หรอื เพกิ เฉยทจ่ี ะไมป่ ฏบิ ตั ติ ามกฎหมายแตป่ ระการใด และไดม้ กี ารตดิ ตอ่ กบั บสท. เพอื่ ทำ� การปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนี้ บสท. จงึ ใหเ้ สนอแผนปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนี้ ขณะนีอ้ ยรู่ ะหว่างรวบรวมเอกสาร จงั หวดั ไดพ้ จิ ารณาคำ� ชแ้ี จงขอ้ เทจ็ จรงิ ของนางอรนรี องั ควฒั นากระวี ดงั กลา่ วขา้ งตน้ แลว้ เหน็ ว่าบรษิ ทั ทิพยช์ า้ ง จำ� กัด เจ้าของกรรมสิทธิเ์ ดมิ ในทด่ี ินและส่งิ ปลูกสรา้ งของโรงแรมทพิ ย์ช้างล�ำปาง ได้ประสบภาวะขาดทุนสะสมเรื่อยมาจนไม่อาจจะช่วยช�ำระหน้ีให้กับธนาคารกรุงศรีอยุธยา จ�ำกัด (มหาชน) ในขณะนนั้ ได้ และตอ่ มาหนดี้ งั กลา่ วกถ็ กู โอนมายงั บสท. แตผ่ บู้ รหิ ารโรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปาง ก็ไมไ่ ดน้ ง่ิ นอนใจพยายามทจ่ี ะเจรจาขอปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนกี้ บั บสท. ซึ่งอยู่ในขั้นตอนในการจัดทำ� แผนการดำ� เนนิ งานแลเตรียมหลกั ทรัพย์เพอ่ื ค�ำ้ ประกันหนี้ใหก้ บั บสท. ในการขอปรบั ปรงุ โครงสรา้ งหนี้ ดงั กล่าว สำ� หรบั กรณที ่บี ริษัททิพย์ช้าง ล�ำปาง จ�ำกดั โดยนางอรนรี องั ควฒั นากระวี ไดย้ ่นื คำ� ขอ ตอ่ อายุใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ โรงแรมทพิ ย์ช้างล�ำปางแทนท่ีจะย่นื ตอ่ อายใุ บอนุญาต ฯ ในนามของ บริษัททิพย์ช้าง จ�ำกัด ก็เนื่องจากเข้าใจผิดว่าเมื่อศาลจังหวัดล�ำปางมีค�ำส่ังแต่งตั้งให้นางอรนรี องั ควัฒนากระวี เปน็ ผจู้ ดั การมรดกของนายทรงชัย เจนตวนิชยแ์ ลว้ จะสามารถยนื่ ขอต่ออายุใบอนญุ าต ในนามบรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง ลำ� ปาง จำ� กดั โดยนางอรนรี องั ควฒั นากระวี ได้ จงึ ไดย้ น่ื คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าต ฯ ในนามของบริษทั ทพิ ย์ชา้ งลำ� ปาง จำ� กัด ยอ่ มถือไดว้ า่ ผบู้ ริหารโรงแรมทพิ ยช์ ้างลำ� ปางได้แสดงความ ประสงค์ที่ต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมทิพย์ช้างล�ำปาง ก่อนที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ โรงแรม (เดมิ ) จะสิ้นอายใุ บอนุญาตแล้ว หากพิจารณาตามขอ้ กฎหมายในกรณีน้จี งั หวัดตอ้ งพจิ ารณา ไมต่ อ่ อายใุ บอนญุ าตและคืนคำ� ขอตอ่ อายใุ บอนุญาตฯ ตามมาตรา ๑๗ แหง่ พระราชบญั ญตั ิโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ และเมื่อนายทะเบียนโรงแรมจังหวัดล�ำปางมีค�ำส่ังให้คืนค�ำขอต่ออายุใบอนุญาต ฯ โรงแรมทพิ ยช์ า้ งลำ� ปางตอ้ งหยดุ ประกอบธรุ กจิ โรงแรมทนั ทตี ามกฎหมาย และเมอ่ื หยดุ ประกอบธรุ กจิ โรงแรม บรษิ ทั ทพิ ยช์ า้ ง จำ� กดั ก็ไมม่ รี ายไดท้ จ่ี ะนำ� ไปชำ� ระหนี้ใหก้ บั บสท. และการเจรจาปรบั ปรงุ โครงสรา้ ง หนกี้ บั บสท. ทจี่ ะมขี นึ้ ในอนาคตกจ็ ะเปน็ ไปโดยยากยงิ่ ขนึ้ จะเปน็ การซำ้� เตมิ ผทู้ มี่ คี วามตง้ั ใจทปี่ ระกอบธรุ กจิ ในภาวะเศรษฐกจิ เช่นน้ี จงึ ขอหารือกรมการปกครองวา่ หากบรษิ ทั ทพิ ย์ช้าง จำ� กดั ไดเ้ จรจาปรบั ปรงุ โครงสร้างหนีก้ ับ บสท. และ บสท. ไดย้ นิ ยอมให้บรษิ ัททพิ ย์ช้าง จ�ำกดั ประกอบธรุ กิจโรงแรมไดต้ ่อไป จังหวัดจะสามารถพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตให้กับบริษัททิพย์ช้าง จ�ำกัด โดยใช้ค�ำขอเม่ือวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ซง่ึ เปน็ คำ� ขอทเี่ ลยระยะเวลาทก่ี ฎหมายกำ� หนดไดห้ รอื ไม่ เนอื่ งจากจงั หวดั พจิ ารณา ส�ำ นกั การสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
144 กฎหมายโรงแรม เห็นว่าผู้บริหารโรงแรมทิพย์ช้างล�ำปาง ได้แสดงความประสงค์ในการต่ออายุใบอนุญาตเมื่อวันท่ี ๕ ตุลาคม ๒๕๕๓ แล้ว ผลเปน็ ประการใดขอใหแ้ จง้ ให้จงั หวดั ทราบด้วยเพื่อจกั ไดเ้ ป็นแนวทางปฏบิ ัติ ตอ่ ไป จึงเรียนมาเพือ่ โปรดทราบและพิจารณาดำ� เนนิ การตอ่ ไป ขอแสดงความนับถอื (นายอธิคม สพุ รรณพงศ์) ผวู้ า่ ราชการจังหวัดลำ� ปาง ที่ทำ� การปกครองจังหวดั กลุ่มงานปกครอง โทร./โทรสาร ๐ - ๕๔๒๖ - ๕๐๑๑ ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 145 ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/๔๖๗๒ กรมการปกครอง ถนนอัษฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๕ มนี าคม ๒๕๕๕ เร่ือง การขอยกเว้นการยื่นแบบแปลนแผนผังประกอบการขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม “แม่ยมพาเลส” และขอหารอื การขออนุญาตประกอบธุรกจิ โรงแรม เรยี น ผ้วู ่าราชการจงั หวดั แพร่ อ้างถึง หนงั สือจงั หวัดแพร่ ที่ พร ๐๐๑๗.๑/๑๓๑๒๖ ลงวนั ที่ ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๕๔ ด้วย นายสมัคร วุฒิศิริศาสตร์ ได้ย่ืนค�ำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมต่อ นายทะเบยี นโรงแรมจงั หวดั แพร่ โดยขอยกเวน้ การยน่ื แบบแปลนแผนผงั ในการขออนญุ าตจงั หวดั แพร่ มีความเห็นว่า กรณีดังกล่าวเป็นการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นการขอโดย ผขู้ ออนุญาตรายใหม่ มิใช่ผู้ขออนญุ าตรายเดิม และมิใชก่ ารขอต่ออายุใบอนญุ าต ทง้ั นี้ ผู้ขออนญุ าต จะต้องด�ำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ และข้อ ๑ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เรื่องหลักเกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการ พิจารณาการขอใบอนุญาต และการออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยเฉพาะในส่วน ของแบบแปลนแผนผังพร้อมรายการประกอบแบบแปลน ซึ่งเป็นส่วนส�ำคัญที่จะใช้ในการประกอบ การพิจารณาอนุญาต ในดา้ นความปลอดภัยแกผ่ ู้เข้าพกั ในโรงแรม ดงั นนั้ ผขู้ ออนญุ าตควรทจี่ ะตอ้ ง ย่ืนแบบแปลนแผนผงั ประกอบคำ� ขอรับใบอนญุ าต กรมการปกครองพจิ ารณาแล้วเหน็ ว่า ๑. ในการขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมตามพระราชบญั ญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ นนั้ ผขู้ ออนญุ าตจะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎกระทรวงกำ� หนดประเภทและหลกั เกณฑก์ ารประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ ประกอบกับประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่ือง หลักเกณฑ์และวิธีการในการพจิ ารณา การขอใบอนญุ าตและการออกใบอนญุ าตใหป้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรม ขอ้ ๑ (๒) กำ� หนดใหย้ น่ื เอกสารหลกั ฐาน แบบแปลนแผนผังพร้อมรายการประกอบแบบแปลน ในการขอใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ โรงแรมดว้ ย อนั เปน็ เอกสารหลกั ฐานสำ� คญั ทกี่ ฎหมายกำ� หนดใหต้ อ้ งมมี าประกอบการขออนญุ าต และประกาศดงั กลา่ ว ไม่ได้มีข้อยกเว้นไว้ ความเห็นของจงั หวดั แพรถ่ กู ต้องแล้ว สำ�นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
146 กฎหมายโรงแรม ๒. กรณี ทจ่ี กั ตอ้ งดำ� เนนิ การใหเ้ ปน็ ไปตามกฎกระทรวงฉบบั ที่ ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๓๕) กฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๒ (พ.ศ. ๒๕๓๖) และกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามพระราชบัญญตั ิ ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ หรอื ไมน่ ัน้ ให้จังหวัดแนะน�ำ บริษทั วงศ์วฒุ ิ จ�ำกัด ดำ� เนนิ การตดิ ตอ่ หนว่ ยงานที่เกย่ี วข้องต่อไป จงึ เรยี บมาเพื่อโปรดทราบ และถือเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิต่อไป ขอแสดงความนบั ถอื (นายสถาพร ศิริภกั ด)ี รองอธิบดี ปฏบิ ัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง สำ� นกั การสอบสวนและนิติการ ส่วนรกั ษาความสงบเรยี บร้อย ๓ โทร. ๐ - ๒๓๕๖ - ๙๖๖๓ โทรสาร ๐ - ๒๓๕๖ - ๙๖๖๒ ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 147 ที่ พร ๐๐๑๗.๑/๑๓๑๒๖ ศาลากลางจังหวัดแพร่ ถนนไชยบรู ณ์ พร ๕๔๐๐๐ ๑๐ สงิ หาคม ๒๕๕๔ เร่อื ง ขอยกเว้นการยื่นแบบแปลนแผนผังประกอบการขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม “แมย่ มพาเลส” และขอหารอื การอนุญาตประกอบธุรกจิ โรงแรม เรยี น ปลดั กระทรวงมหาดไทย อา้ งถึง ๑. หนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๔๑๑๘ ลงวนั ท่ี ๒๓ เมษายน ๒๕๕๔ ๒. หนงั สือจังหวดั แพร่ ที่ พร ๐๐๑๗.ง ๑/๑๑๔๕๓ ลงวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ สง่ิ ทีส่ ง่ มาดว้ ย สำ� เนาหนังสือขอยกเว้นการย่ืนแบบแปลนแผนผงั ประกอบการขออนุญาตประกอบ ธรุ กิจโรงแรม “แม่ยมพาเลส” จ�ำนวน ๑ ฉบบั ตามหนังสือท่ีอ้างถึง กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งค�ำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการ ส่งเสริมและก�ำกับธุรกิจโรงแรม กรณี การยื่นค�ำร้องขอต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม “แมย่ มพาเลส” และอทุ ธรณก์ ารตอ่ อายใุ บอนญุ าตโรงแรม “แมย่ มพาเลส” ใหน้ ายทะเบยี นจงั หวดั แพร่ แจง้ ใหผ้ ขู้ ออนญุ าตฯ ทราบ ซงึ่ ผอู้ ทุ ธรณ์ไมต่ ดิ ใจในการวนิ จิ ฉยั อทุ ธรณแ์ ตอ่ ยา่ งใด พรอ้ มทง้ั ขอถอนอทุ ธรณ์ การตอ่ อายใุ บอนญุ าตโรงแรม “แมย่ มพาเลส” และมมี ตยิ นื่ คำ� ขอใหมใ่ นนามนติ บิ คุ คล บรษิ ทั วงศว์ ฒุ ิ จำ� กดั โดยจงั หวดั แพร่ได้รายงานให้กระทรวงมหาดไทยทราบแลว้ ความละเอยี ดแจ้งแล้ว นัน้ บัดน้ี นายสมคั ร วุฒศิ ิรศิ าสตร์ ได้ยืน่ คำ� ขอรบั ใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม (แบบ ร.ร. ๑) ใหม่ ในนามนิติบุคคล บรษิ ทั วงศ์วุฒิ จำ� กัด ต่อนายทะเบยี นโรงแรมจังหวัดแพร่และคณะกรรมการ พิจารณากลั่นกรองการด�ำเนินการตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ไดท้ ำ� การตรวจสอบ สถานทขี่ ออนญุ าต และประชมุ พจิ ารณาแลว้ มมี ตใิ หจ้ งั หวดั แพรห่ ารอื กระทรวงมหาดไทย กรณกี ารขอรับ การยกเว้นการย่ืนแบบแปลนแผนผังเพื่อประกอบการขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม และกรณี ยื่นเรื่องราวขออนุญาตใหม่ จังหวัดแพร่พิจารณาเห็นว่า เพื่อให้การพิจารณาออกใบอนุญาต ประกอบธุรกิจโรงแรม “แม่ยมพาเลส” เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ท่เี กยี่ วข้อง จึงขอหารือความเห็นของจงั หวัดแพร่วา่ ถกู ตอ้ งหรือไมห่ รือควรมแี นวทางปฏิบัติอย่างไร ในกรณีการขอยกเว้นของผ้ขู ออนุญาตฯ ดังน้.ี - สำ�นักการสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
148 กฎหมายโรงแรม ๑. กรณีผู้ขออนุญาตฯ ขอรับการยกเว้นแบบแปลนแผนผังประกอบการขออนุญาตฯ โดยใหเ้ หตผุ ลวา่ ได้ดำ� เนินธรุ กิจโรงแรมต่อเนื่องกนั มาเปน็ เวลานาน กอ่ นทีพ่ ระราชบญั ญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ มีผลบังคับใช้ จนถึงปัจจุบัน แบบแปลนแผนผังได้ช�ำรุดเสียหายไปตามกาลเวลา และทางโรงแรมไดป้ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บของทางราชการมาโดยตลอด มกี ารตรวจสอบอาคารโดยผไู้ ดร้ บั อนญุ าต ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามกฎหมายว่าด้วยวิศวกรรมทุกปี จังหวัดแพร่มีความเห็นว่า กรณีดงั กล่าวเปน็ การขอรับใบอนญุ าตประกอบธุรกิจโรงแรม ซ่ึงเป็นการขอโดยผู้ขออนุญาตรายใหม่ มใิ ชผ่ ขู้ ออนญุ าตรายเดมิ และมใิ ชก่ ารขอตอ่ อายใุ บอนญุ าต ทง้ั นี้ ผขู้ ออนญุ าตจะตอ้ งดำ� เนนิ การใหเ้ ปน็ ไป ตามมาตรา ๑๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ิโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ และขอ้ ๑ ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวนั ท่ี ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๕๒ เรอื่ ง หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการพจิ ารณาการขอใบอนญุ าต และการออก ใบอนุญาตใหป้ ระกอบธุรกจิ โรงแรม โดยเฉพาะในส่วนของแบบแปลนแผนผังพรอ้ มรายการประกอบ แบบแปลน ซ่ึงเป็นส่วนส�ำคัญท่ีจะใช้ในการประกอบการพิจารณาอนุญาต ในด้านความปลอดภัย แก่ผู้เข้าพกั ในโรงแรม ดังนน้ั ผ้ขู ออนุญาต ควรทจ่ี ะต้องยื่นแบบแปลนแผนผงั ฯ ประกอบค�ำขอรับ ใบอนุญาต ๒. กรณีการย่นื เร่ืองราวขอรับใบอนุญาตใหม่ ของ บรษิ ทั วงศ์วุฒิ จ�ำกัด โดยนายสมัคร วฒุ ิศิริศาสตร์ จังหวดั แพร่พจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ เป็นการเริ่มตน้ ขออนญุ าตเหมอื นกบั การขออนญุ าต ประกอบธุรกิจโรงแรมที่มีการสร้างอาคารใหม่ โดยผู้ขออนุญาตฯ จักต้องด�ำเนินการให้เป็นไปตาม กฎกระทรวงฉบบั ท่ี ๓๓ (พ.ศ. ๒๕๓๕) กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๒๒ (พ.ศ. ๒๕๓๘) และกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามพระราชบัญญัตคิ วบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพจิ ารณาดำ� เนนิ การตอ่ ไป ผลเปน็ ประการใดกรณุ าแจง้ ใหจ้ งั หวดั แพร่ ราบด้วย จักขอบคุณยิ่ง ขอแสดงความนบั ถือ (นายเสรี ค�ำภีรธัมโม) รองผวู้ ่าราชการจงั หวัด ปฏบิ ัตริ าชการแทน ผู้วา่ ราชการจงั หวัดแพร่ ที่ทำ� การปกครองจังหวัด กลุม่ งานปกครอง โทร./โทรสาร ๐ ๕๔๕๑ ๑๐๓๗ สำ�นกั การสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 149 บันทึกขอ้ ความ สว่ นราชการ สน.สก. (สรร. ๓) โทร. ๐ – ๒๓๕๖ – ๙๖๖๓ ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๑๙๒ วนั ที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๔ เร่อื ง หารือการเก็บคา่ ธรรมเนียมโรงแรม เรยี น ผอ.ศบปช. ๑. ต้นเรอ่ื ง ๑.๑ ศบปช. แจง้ ว่าได้รบั แจ้งจาก สรร. ๓ ว่านายทะเบยี นโรงแรมกรุงเทพมหานคร อนญุ าตให้โรงแรมแมน้ ศรี เลกิ กจิ การตง้ั แตว่ นั ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ อนญุ าตให้โรงแรมเพนทเฮาส์ เลิกกิจการต้ังแต่วันท่ี ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ และอนุญาตให้โรงแรมฮอลลีวู๊ด เลิกกิจการต้ังแต่ วันท่ี ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ และให้ ศบปช. ด�ำเนนิ การในส่วนที่เกยี่ วข้องตอ่ ไป ๑.๒ ศบปช. ขอหารือว่าโรงแรมทงั้ ๓ แหง่ ท่ีได้ประกอบธุรกิจโรงแรมในระหวา่ งการ ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าต ตงั้ แตว่ นั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔ จนถงึ วนั ทน่ี ายทะเบยี นอนญุ าตใหเ้ ลกิ กจิ การ แต่ละแห่งนั้น จะต้องเสียค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาต หรือค่าธรรมเนียมอ่ืนใดหรือไม่ อยา่ งไร (เอกสาร ๑) ๒. ขอ้ กฎหมาย ๒.๑ พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ (เอกสาร ๒) มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และใหม้ อี ำ� นาจแตง่ ตง้ั นายทะเบยี น ออกกฎกระทรวงกำ� หนดคา่ ธรรมเนยี มไมเ่ กนิ อตั ราทา้ ยพระราชบญั ญตั ิ นี้ ยกเว้นคา่ ธรรมเนียม และกำ� หนดกจิ การอืน่ หรือออกประกาศเพื่อปฏิบัติการตาม พระราชบญั ญัตนิ ี้ มาตรา ๑๙ ใบอนุญาตฉบับหนึ่งให้ใช้กับโรงแรมท่ีระบุชื่อไว้ในใบอนุญาตเท่านั้น และให้มอี ายหุ ้าปีนบั แตว่ ันทอ่ี อกใบอนญุ าต มาตรา ๒๑ การขอต่ออายุใบอนุญาต ให้ย่ืนค�ำขอก่อนวันที่ใบอนุญาตสิ้นอายุ เมอ่ื ไดย้ น่ื คำ� ขอแลว้ ใหถ้ อื วา่ ผยู้ นื่ คำ� ขออยใู่ นฐานะผรู้ บั ใบอนญุ าตจนกวา่ จะมคี ำ� สง่ั ถงึ ทส่ี ดุ ไมอ่ นญุ าตให้ ตอ่ อายใุ บอนญุ าต ถ้าผลการตรวจสอบปรากฏว่าโรงแรมีลักษณะถูกต้องตามที่ก�ำหนดไว้ในกฎกระทรวง ท่ีออกตามมาตรา ๑๓ ให้นายทะเบียนต่ออายุใบอนุญาตให้ หากมีกรณีที่ไม่ถูกต้องให้นายทะเบียน สง่ั ใหแ้ ก้ไขใหถ้ กู ตอ้ งภายในระยะเวลาทก่ี ำ� หนด เมอื่ แก้ไขแลว้ ใหต้ อ่ อายใุ บอนญุ าตได้ ถา้ หากไมแ่ ก้ไข ภายในระยะเวลาทก่ี �ำหนดใหม้ คี ำ� สัง่ ไมต่ ่ออายใุ บอนุญาต ส�ำ นกั การสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
150 กฎหมายโรงแรม ผทู้ ย่ี น่ื คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตไมท่ นั กำ� หนดเวลาตามวรรคหนงึ่ ถา้ ประสงคจ์ ะประกอบธรุ กจิ โรงแรมต่อไป และได้มายื่นค�ำขอต่ออายุใบอนุญาตภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ใบอนุญาตส้ินอายุ ให้ถือว่าได้ย่ืนค�ำขอต่ออายุภายในระยะเวลาที่ก�ำหนด และการประกอบธุรกิจโรงแรมในระหว่างนั้น ให้ถือเสมือนว่าเป็นการด�ำเนินการของผู้รับใบอนุญาต แต่เมื่อได้รับอนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต ผนู้ นั้ จะตอ้ งเสยี คา่ ปรบั เพม่ิ อกี รอ้ ยละยสี่ บิ ของคา่ ธรรมเนยี มตอ่ อายใุ บอนญุ าต หากพน้ กำ� หนดหกสบิ วนั ต้องด�ำเนนิ การเสมอื นขออนุญาตใหม่ มาตรา ๔๔ ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมต้องช�ำระค่าธรรมเนียมรายปีตามหลักเกณฑ์วิธีการ และอตั ราทก่ี ำ� หนดในกฎกระทรวงตลอดเวลาทย่ี งั ประกอบธรุ กจิ ถา้ มไิ ดเ้ สยี คา่ ธรรมเนยี มภายในเวลา ท่ีก�ำหนดให้เสียเงินเพิ่มอีกร้อยละห้าต่อเดือน และถ้ายังไม่ยินยอมเสียค่าธรรมเนียมโดยไม่มีเหตุ อันสมควรให้นายทะเบียนมีอ�ำนาจส่ังให้ผู้นั้นหยุดด�ำเนินกิจการไว้จนกว่าจะได้เสียค่าธรรมเนียม และเงินเพิ่มครบจ�ำนวน และให้น�ำความในมาตรา ๔๐ วรรคสี่ รวมท้ังบทก�ำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง มาใชบ้ ังคับโดยอนโุ ลม ๒.๒ อตั ราค่าธรรมเนยี มท้ายพระราชบัญญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ (เอกสาร ๓) ๑. ใบอนญุ าต ฉบับละ ๕๐,๐๐๐ บาท ๒. ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ ๒๐๐ บาท ๓. การต่ออายุใบอนุญาตคร้ังละกึ่งหนึ่งของค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประเภทนั้น ๆ แตล่ ะฉบับ ๔. ค่าธรรมเนยี มประกอบธรุ กิจโรงแรม ปีละ ๘๐ บาทตอ่ ห้อง โดยให้คดิ ค่าธรรมเนียมตามจ�ำนวนหอ้ งพกั ของโรงแรม ในการออกกฎกระทรวงกำ� หนดคา่ ธรรมเนยี มจะกำ� หนดอตั ราคา่ ธรรมเนยี มใหแ้ ตกตา่ งกนั โดยคำ� นึงถงึ ขนาด ลกั ษณะหรอื ประเภทของโรงแรมก็ได้ ๒.๓ กฎกระทรวงก�ำหนดค่าธรรมเนียม หลักเกณฑ์ และวิธีการช�ำระค่าธรรมเนียม ส�ำหรบั ประกอบธุรกจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ (เอกสาร ๔) ขอ้ ๑ ให้กำ� หนดคา่ ธรรมเนยี ม ดงั ต่อไปนี้ (๑) ใบอนุญาตโรงแรมประเภทที่ ๑ ฉบับละ ๑๐,๐๐๐ บาท (๒) ใบอนญุ าตโรงแรมประเภทท่ี ๒ ฉบับละ ๒๐,๐๐๐ บาท (๓) ใบอนญุ าตโรงแรมประเภทท่ี ๓ ฉบับละ ๓๐,๐๐๐ บาท (๔) ใบอนญุ าตโรงแรมประเภทที่ ๔ ฉบบั ละ ๔๐,๐๐๐ บาท (๕) ใบแทนใบอนญุ าต ฉบบั ละ ๒๐๐ บาท (๖) การตอ่ อายใุ บอนญุ าตครงั้ ละกงึ่ หนงึ่ ของคา่ ธรรมเนยี มใบอนญุ าตโรงแรมแตล่ ะประเภท (๗) ค่าธรรมเนยี มประกอบธุรกิจโรงแรม ปลี ะ ๘๐ บาทตอ่ ห้องพัก สำ�นกั การสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 151 ข้อ ๒ คา่ ธรรมเนยี มประกอบธรุ กจิ โรงแรม ใหค้ ดิ คำ� นวณตามจำ� นวนหอ้ งพกั ของโรงแรม ข้อ ๓ ให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมช�ำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมในปีแรก พรอ้ มกบั การช�ำระคา่ ธรรมเนียมใบอนุญาต และต้องช�ำระค่าธรรมเนียมประกอบธรุ กิจโรงแรมตอ่ ไป ทุกปีภายในวันท่ีครบกำ� หนดรอบปีการช�ำระค่าธรรมเนียมในปีแรก ขอ้ ๔ ให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมย่ืนค�ำขอช�ำระค่าธรรมเนียมตามกฎกระทรวงน้ี ต่อนายทะเบียนในท้องที่ท่ีโรงแรมนนั้ ตง้ั อยู่ ๒.๔ กฎกระทรวงยกเวน้ คา่ ธรรมเนยี มสำ� หรบั การประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๓ (เอกสาร ๕) ๓. ข้อพจิ ารณา สรร. ๓ พิจารณาแล้ว มีประเดน็ ต้องพิจารณา ดงั นี้ ๓.๑ การชำ� ระคา่ ธรรมเนยี มใบอนญุ าต ประจำ� ปี ๒๕๕๔ เหน็ วา่ มาตรา ๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ก�ำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงก�ำหนด คา่ ธรรมเนยี มตามอตั ราทา้ ยพระราชบญั ญตั นิ ี้ และยกเวน้ คา่ ธรรมเนยี ม ประกอบกบั กฎกระทรวงกำ� หนด คา่ ธรรมเนยี ม หลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารชำ� ระคา่ ธรรมเนยี มสำ� หรบั การประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ ขอ้ ๑ (๑) (๒) (๖) ขอ้ ๓ และขอ้ ๔ กำ� หนดใหช้ ำ� ระคา่ ธรรมเนยี มใบอนญุ าตโรงแรมประเภทที่ ๑ ฉบบั ละ ๑๐,๐๐๐ บาท คา่ ธรรมเนยี มใบอนญุ าตโรงแรมประเภทที่ ๒ ฉบบั ละ ๒๐,๐๐๐ บาท แตก่ ารตอ่ อายใุ บอนญุ าต แต่ละประเภทให้ช�ำระครั้งละกึ่งหน่ึงของค่าธรรมเนียมใบอนุญาตโดยใหย้ น่ื คำ� ขอชำ� ระคา่ ธรรมเนยี ม ตอ่ นายทะเบยี นในทอ้ งทท่ี โ่ี รงแรมตงั้ อยู่ เมอ่ื ผปู้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมแตล่ ะแหง่ ขา้ งตน้ ไดย้ น่ื ค�ำขอตอ่ อายุ ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมประจำ� ปี ๒๕๕๔-๒๕๕๘ แตน่ ายทะเบียนยงั ไม่ได้ออกใบอนญุ าตให้ และผขู้ ออนญุ าตยงั ประกอบธรุ กจิ โรงแรมตลอดมา ซงึ่ มผี ลตามมาตรา ๒๑ วรรคแรก ถอื วา่ อยใู่ นฐานะ ผู้ได้รับใบอนุญาตจนกวา่ จะมีคำ� ส่งั ถงึ ท่ีสดุ ไม่อนุญาตใหต้ อ่ อายใุ บอนญุ าต ดังนัน้ โรงแรมแตล่ ะแหง่ จงึ ต้องช�ำระคา่ ธรรมเนียม ดงั นี้ ๓.๑.๑ โรงแรมแมน้ ศรี เปน็ โรงแรมประเภทที่ ๑ การขอตอ่ อายใุ บอนญุ าต จงึ ตอ้ งชำ� ระ คา่ ธรรมเนียมการตอ่ อายุใบอนุญาต เปน็ จ�ำนวนเงนิ ๕,๐๐๐ บาท ๓.๑.๒ โรงแรมเพนท์เฮ้าส์ เป็นโรงแรมประเภทที่ ๒ การขอต่ออายุใบอนุญาต จึงต้องช�ำระค่าธรรมเนยี มการตอ่ อายใุ บอนุญาต เป็นจำ� นวนเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ๓.๑.๓ โรงแรมฮอลลีวู๊ด เป็นโรงแรมประเภทที่ ๑ การขอต่ออายุใบอนุญาต จงึ ตอ้ งช�ำระค่าธรรมเนยี มการตอ่ อายใุ บอนญุ าต เป็นจำ� นวนเงนิ ๕,๐๐๐ บาท ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
152 กฎหมายโรงแรม ๓.๒ การชำ� ระคา่ ธรรมเนยี มประกอบธรุ กจิ โรงแรม ประจำ� ปี ๒๕๕๔ เหน็ วา่ อตั ราคา่ ธรรมเนยี ม ทา้ ยพระราชบญั ญตั ิโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกบั กฎกระทรวงก�ำหนดคา่ ธรรมเนยี มหลกั เกณฑ์ และวธิ กี ารชำ� ระคา่ ธรรมเนยี มสำ� หรบั การประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๑ (๗) ข้อ ๒ และ ขอ้ ๓ กำ� หนดใหค้ ดิ คา่ ธรรมเนยี มประกอบธรุ กจิ โรงแรม ปลี ะ ๘๐ บาท ตอ่ หอ้ ง โดยใหค้ ดิ คา่ ธรรมเนยี ม ตามจ�ำนวนห้องพักของโรงแรม โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมช�ำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจ โรงแรมในปแี รกพรอ้ มกบั การชำ� ระคา่ ธรรมเนยี มใบอนญุ าต และตอ้ งชำ� ระคา่ ธรรมเนยี มประกอบธรุ กจิ โรงแรมต่อไปทุกปีภายในวันท่ีครบก�ำหนดรอบปีการช�ำระค่าธรรมเนียมในปีแรก แต่ในปี ๒๕๕๓ ไดม้ กี ฎกระทรวงยกเวน้ คา่ ธรรมเนยี ม โดยยกเวน้ โรงแรมท่ีไดร้ บั อนญุ าตกอ่ นวนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๓ ไดร้ ับการยกเวน้ ไม่ตอ้ งเสียค่าธรรมเนียมประกอบธรุ กจิ โรงแรมในปี ๒๕๕๔ ตามกฎกระทรวงยกเวน้ คา่ ธรรมเนยี มสำ� หรบั การประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๓ เมอ่ื ขอ้ เทจ็ จรงิ ปรากฏวา่ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมแตล่ ะแหง่ ขา้ งตน้ ไดย้ นื่ คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม ไวก้ อ่ นวนั ที่ใบอนญุ าต เดมิ จะส้นิ อายุ (วนั ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๓) จงึ ถอื ว่าผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมแต่ละแหง่ อยู่ในฐานะ ผ้ไู ดร้ บั ใบอนญุ าตจนกวา่ จะมคี ำ� สงั่ ถงึ ทส่ี ดุ ไมอ่ นญุ าตใหต้ อ่ อายใุ บอนญุ าต ตามมาตรา ๒๑ และอยใู่ นฐานะ ผู้ไดร้ บั อนุญาตกอ่ นวนั ท่ี ๘ มถิ นุ ายน ๒๕๕๓ จึงไดร้ ับยกเวน้ ไมต่ อ้ งเสยี คา่ ธรรมเนียมประกอบธรุ กจิ โรงแรมในปี ๒๕๕๔ ตามกฎกระทรวงดังกล่าว ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมแต่ละแห่งข้างต้น จงึ ไม่ตอ้ งช�ำระค่าธรรมเนยี มประกอบธุรกิจโรงแรมในปี ๒๕๕๔ ๓.๓ แจง้ ให้ ศบปช. แจ้งผู้ประกอบธรุ กจิ โรงแรมแตล่ ะแห่งขา้ งตน้ ช�ำระคา่ ธรรมเนียม ตามจ�ำนวนดังกลา่ ว ๔. ข้อเสนอ จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และพจิ ารณาด�ำเนนิ การตอ่ ไป (นายอมรฤทธิ์ เอมะปาณ) นอภ.สตกึ รกน. ผอ.สรร.๓ สำ�นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 153 บนั ทึกข้อความ สว่ นราชการ ฝ่ายโรงแรม โทร. ๐ – ๒๓๕๖ – ๙๖๖๓ ที่ มท ๐๓๐๗.๘/๓๑๓ วันท่ี ๒๒ กนั ยายน ๒๕๕๔ เรื่อง ขอหารือการการปฏิบตั ติ าม พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ เรยี น ผอ.สรร ๓. ตามที่ ศบปช. ไดร้ ับแจง้ จาก สรร.๓ วา่ นายทะเบียนโรงแรมกรงุ เทพมหานครได้อนญุ าต ให้โรงแรมที่อยู่ระหว่างการยื่นค�ำขอต่ออายุใบอนุญาตเลิกกิจการได้และให้ ศบปช. ด�ำเนินการ ต่อไป ดังน้ี ๑. โรงแรมแมน้ ศรี ไดร้ บั อนญุ าตใหเ้ ลกิ กจิ การไดต้ ง้ั แตว่ นั ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เปน็ ตน้ ไป ตามหนงั สอื สรร.๓ ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๕๔ ลงวันท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ ๒. โรงแรมเพนท์เฮ้าส์ ได้รับอนุญาตให้เลิกกิจการได้ตั้งแต่วันท่ี ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ เป็นต้นไป ตามหนังสอื สรร.๓ ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๕๓ ลงวันที่ ๒๔ มิถนุ ายน ๒๕๕๔ ๓. โรงแรมฮอลลวี ดู๊ ไดร้ บั อนญุ าตใหเ้ ลกิ กจิ การไดต้ งั้ แตว่ นั ท่ี ๑๑ กนั ยายน ๒๕๕๔ เปน็ ตน้ ไป ตามหนังสอื สรร.๓ ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๑๗๑ ลงวนั ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๔ กรณนี ม้ี ขี อ้ กฎหมายท่ี ศบปช. ตอ้ งพจิ ารณาและบงั คบั ใชค้ อื พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๒๑ วรรคแรก ทบ่ี ญั ญตั ใิ จความวา่ เมอื่ ไดย้ น่ื คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตไวแ้ ลว้ ใหถ้ อื วา่ ผยู้ น่ื คำ� ขอ อยู่ในฐานะผู้รับใบอนุญาตจนกว่าจะมีค�ำสั่งถึงท่ีสุดไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาต และข้อ ๑ (๖) ของกระทรวง ก�ำหนดค่าธรรมเนยี ม หลักเกณฑ์ และวิธกี ารช�ำระค่าธรรมเนยี มสำ� หรับการประกอบ ธรุ กจิ โรงแรมตอ้ งชำ� ระคา่ ธรรมเนยี มการตอ่ อายใุ บอนญุ าตครง้ั ละกงึ่ หนงึ่ ของคา่ ธรรมเนยี มใบอนญุ าต โรงแรมแต่ละประเภท ขอ้ เทจ็ จรงิ ดงั กล่าวพบวา่ ใบอนุญาตประกอบธรุ กจิ โรงแรมท้ัง ๓ แหง่ ข้างตน้ สน้ิ อายใุ นวนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๓ และผปู้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมไดย้ นื่ คำ� ขอตอ่ อายใุ บอนญุ าตไวก้ อ่ น วนั ที่ใบอนุญาตจะส้นิ อายแุ ล้วและพบวา่ โรงแรมทง้ั ๓ แห่งยงั คงประกอบธรุ กจิ โรงแรมอยู่ในระหว่าง วนั ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๔ จนถงึ วนั ทนี่ ายทะเบยี นโรงแรมกรงุ เทพมหานครอนญุ าตใหเ้ ลกิ กจิ การโรงแรม แมจ้ ะยงั ไมม่ คี ำ� สงั่ อนญุ าตใหต้ อ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมกต็ าม และ ณ วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๓ โรงแรมทั้ง ๓ แห่ง ข้างต้นไม่มีค่าธรรมเนียมค้างช�ำระกับนายทะเบียนโรงแรมกรุงเทพมหานคร แตอ่ ยา่ งใด สำ�นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
154 กฎหมายโรงแรม กรณีมีปัญหาในการบังคับใช้กฎหมายว่าการที่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมได้ประกอบธุรกิจ โรงแรมในระหว่างการต่ออายุใบอนุญาต คอื วันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๔ ถึงวนั ทน่ี ายทะเบียนโรงแรม กรุงเทพมหานครอนุญาตให้เลิกกิจการ จะต้องช�ำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตหรือ ค่าธรรมเนียมอ่ืนใดในระหว่างท่ีประกอบธุรกิจโรงแรมห้วงเวลาดังกล่าวหรือไม่อย่างไร ศบปช. ขอหารือ สรร.๓ ในฐานะเป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่ด�ำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม เพอ่ื โปรดพจิ ารณาวา่ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมแมน้ ศรี ผปู้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรมเพนทเ์ ฮา้ สแ์ ละผปู้ ระกอบ ธุรกิจโรงแรมฮอลลีวู๊ด ซ่ึงนายทะเบียนโรงแรมกรุงเทพมหานครอนุญาตให้เลิกกิจการแล้วนั้น จะต้องเสียค่าธรรมการต่ออายุใบอนุญาตหรือค่าธรรมเนียมอื่นใดอีกหรือไม่อย่างไร ผลประการใด ขอได้โปรดแจง้ ให้ ศบปช. ทราบดว้ ย เพ่อื จะได้ด�ำเนินการในสว่ นท่ีเกยี่ วขอ้ งต่อไป (นายวรกติ ต ิ ศรที พิ ากร) ผอ.ศบปช. สำ�นกั การสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 155 ดว่ นท่ีสดุ กระทรวงมหาดไทย ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/ว ๓๒๓๐ ถนนอัษฎางค์ เขตพระนคร กทม. ๑๐๒๐๐ ๕ ตลุ าคม ๒๕๕๒ เรื่อง หารอื ขอ้ ปฏิบตั ติ ามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคมุ อาคาร เรยี น ผู้วา่ ราชการจังหวดั ทกุ จังหวดั สงิ่ ทสี่ ่งมาดว้ ย หนังสือกรมโยธาธิการ ที่ มท ๐๗๑๐/๗๕๑๙ ลงวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๒ ด้วยกรมการปกครองได้หารือกรมโยธาธิการและผังเมืองกรณี ตามมาตรา ๓๒(๑) แหง่ พระราชบัญญัติควบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบัญญัตคิ วบคุมอาคาร (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ ก�ำหนดให้โรงแรมเป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ ซ่ึงเมื่อก่อสร้าง หรอื ดดั แปลงเสรจ็ แลว้ ตอ้ งแจง้ ใหเ้ จา้ พนกั งานทอ้ งถน่ิ ทำ� การตรวจสอบการกอ่ สรา้ งอาคารหรอื ดดั แปลง อาคารเพอ่ื ออกใบรบั รองการกอ่ สรา้ งอาคารหรอื ดดั แปลงอาคารตามแบบ อ. ๖ และขอ้ ๔ แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบญั ญัติควบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ก�ำหนดวา่ ในกรณีท่ีเจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารซ่ึงไม่เป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ตามมาตรา ๓๒ ประสงค์จะใช้อาคารดังกล่าวเพ่ือกิจการประเภทควบคุมการใช้หรือเจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครอง ซง่ึ เปน็ อาคารประเภทควบคุมการใช้ตามมาตรา ๓๒ ประสงค์จะเปล่ียนการใช้อาคารไปใชเ้ ปน็ อาคาร ส�ำหรับอีกกิจการหนึ่ง ให้เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารย่ืนค�ำขอเปลี่ยนการใช้อาคาร ตามแบบ ข. ๓ ต่อเจ้าพนกั งานทอ้ งถิ่นพร้อมด้วยเอกสารตามทีร่ ะบุไว้ในแบบ ข. ๓ เมอื่ เจ้าพนกั งาน ทอ้ งถนิ่ เห็นว่าถกู ต้องให้ออกใบอนุญาตตามแบบ อ.๕ แต่ตามขอ้ ๙ แห่งกฎกระทรวงก�ำหนดประเภท และหลักเกณฑก์ ารประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ� หนดว่า อาคารส�ำหรับใช้เปน็ โรงแรมทตี่ ง้ั อยู่ ในทอ้ งทที่ ม่ี กี ฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคมุ อาคารใชบ้ งั คบั ตอ้ งมหี ลกั ฐานแสดงวา่ ไดร้ บั อนญุ าตให้ใชอ้ าคาร เป็นโรงแรม หรือมีใบรับรองการตรวจสภาพอาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ดังนี้ หากมกี ารนำ� อาคารท่ีไมใ่ ชอ่ าคารประเภทควบคมุ การใช้ เชน่ อาคารทอี่ ยอู่ าศยั หรอื อาคารพาณชิ ยท์ ม่ี พี น้ื ท่ี ประกอบกจิ การไมถ่ งึ ๘๐ ตารางเมตร เปน็ ตน้ มายนื่ ขออนญุ าตใชอ้ าคารดงั กลา่ วประกอบธรุ กจิ โรงแรม ซ่ึงเปน็ อาคารควบคมุ การใช้ โดยมไิ ด้มีการขออนญุ าตเปล่ยี นการใชอ้ าคารและน�ำหลักฐานใบรบั รอง การตรวจสภาพอาคาร (แบบ ร. ๑) มายน่ื ประกอบการพิจารณาอนญุ าตของนายทะเบยี นโรงแรมด้วย ถา้ นายทะเบยี นโรงแรมอนญุ าตตามขอ้ ๙ แหง่ กฎกระทรวงกำ� หนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบ ธุรกิจโรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ จะขัดกับหลักเกณฑ์ของกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารมาตรา ๓๒ และกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ท่ีออกตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคุมอาคารหรือไม่ ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
156 กฎหมายโรงแรม กรมการปกครองได้รับหนังสือแจ้งจากกรมโยธาธิการและผังเมืองว่า กรมโยธาธิการและ ผังเมืองได้พิจารณาโดยได้น�ำเร่ืองดังกล่าวหารือคณะกรรมการควบคุมอาคารแล้วมีความเห็นว่า ตามมาตรา ๓๓ วรรคหน่ึง แหง่ พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยพระราชบญั ญัติ ควบคมุ อาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ กำ� หนดห้ามมิใหเ้ จ้าของหรือผูค้ รอบครองอาคารซ่ึงไมเ่ ป็น อาคารประเภทควบคุมการใช้ ใช้หรือยินยอมให้บุคคลใดใช้อาคารดังกล่าวเพื่อกิจการตามมาตรา ๓๒ เวน้ แต่จะไดร้ บั ใบอนญุ าตจากเจา้ พนกั งานทอ้ งถ่ิน หรอื ไดแ้ จง้ เจ้าพนกั งานท้องถ่ิน ตามมาตรา ๓๙ ทวิ แลว้ และตามข้อ ๔ แหง่ กฎกกระทรวง ฉบับท่ี ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิ ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ก�ำหนดให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร ซ่ึงไม่เป็นอาคารประเภท ควบคุมการใชต้ ามมาตรา ๓๒ ถ้าประสงคจ์ ะใชอ้ าคารดงั กลา่ วเพือ่ กจิ การประเภทควบคุมการใช้ ให้ เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารย่ืนค�ำขออนุญาตเปล่ียนการใช้อาคารตามแบบ ข. ๓ เม่ือเจ้า พนักงานท้องถ่ิน ได้รับค�ำขอและด�ำเนินการตรวจสอบแล้วเห็นว่าถูกต้องก็จะออกใบอนุญาตเปลี่ยน การใชอ้ าคารตามแบบ อ. ๕ ให้ ดงั นนั้ การจะเปลย่ี นการใชอ้ าคารจากอาคารอยอู่ าศยั หรอื อาคารพาณชิ ย์ ท่ีมิได้เป็นอาคารควบคุมการใช้ตามมาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และพระราชบัญญัติ ควบคมุ อาคาร (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นโรงแรม ซึ่งเป็นอาคารควบคุมการใชต้ ามมาตรา ๓๒ จะต้องอนุญาตเปล่ียนการใชอ้ าคารกอ่ น เมือ่ ไดร้ ับใบอนุญาตเปล่ยี นการใชอ้ าคารแล้ว จงึ จะดำ� เนินการ ขออนุญาตประกอบกจิ การโรงแรมตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงแรมได้ สำ� หรบั ใบรบั รองการตรวจสอบอาคาร (แบบ ร.๑) นนั้ มีเจตนารมณเ์ พ่อื ตรวจสอบสภาพอาคารและอปุ กรณป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของอาคารสามารถ ใช้งานได้ เพอ่ื ความปลอดภยั ในการใชอ้ าคาร ซงึ่ เปน็ เจตนารมณท์ แี่ ตกตา่ งจากการ ออกใบอนญุ าตเปลยี่ น การใชอ้ าคาร (แบบ อ.๕) ที่ตอ้ งการตรวจตราการใช้อาคารให้เปน็ ไปตามข้อกำ� หนดกฎหมายที่ก�ำหนด กฎเกณฑ์ไวเ้ พอ่ื ความเหมาะสมสำ� หรบั การใชอ้ าคารแตล่ ะประเภท ดว้ ยเหตนุ ้ี ใบรบั รองการตรวจสอบ อาคาร (แบบ ร.๑) จงึ ไมส่ ามารถใชแ้ ทนใบอนญุ าตเปลี่ยนการใชอ้ าคาร (แบบ อ. ๕) ได้ จงึ เรียนมาเพ่อื ทราบและถือเปน็ แนวทางปฏบิ ตั ิต่อไป ขอแสดงความนบั ถอื (นายวิบลู ย์ สงวนพงศ)์ รองปลดั กระทรวงมหาดไทย รกั ษาราชการแทน ปลดั กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง ส�ำนักการสอบสวนและนติ กิ าร โทร./โทรสาร ๐-๒๓๕๖-๙๕๕๔ ส�ำ นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 157 ท่ี มท ๐๗๑๐/๗๕๑๙ กรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง ถนนพระรามที่ ๖ เขตพญาไท กรุงเทพ ฯ ๑๐๔๐๐ ๓ กนั ยายน ๒๕๕๒ เรือ่ ง หารือขอ้ ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการควบคมุ อาคาร เรยี น อธบิ ดีกรมการปกครอง อ้างถึง หนังสือกรมการปกครอง ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๑๐๓๗๖ ลงวันที่ ๒๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๒ ตามหนงั สอื ทอี่ า้ งถงึ กรมการปกครองขอหารอื กรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื งวา่ ตามมาตรา ๓๒ (๑) แหง่ พระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แก้ไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั คิ วบคุมอาคาร (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ กำ� หนดให้โรงแรมเปน็ อาคารประเภทควบคมุ การใช้ ซงึ่ เมอ่ื กอ่ สรา้ งหรอื ดดั แปลง เสร็จแล้ว ต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นท�ำการตรวจสอบการก่อสร้างอาคารหรือดัดแปลงอาคาร เพอื่ ออกใบรบั รองการกอ่ สรา้ งอาคารหรอื ดดั แปลงอาคารตามแบบ อ. ๖ และขอ้ ๔ แหง่ กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบัญญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ก�ำหนดวา่ ในกรณีทเี่ จา้ ของอาคาร หรอื ผูค้ รอบครองอาคารซ่ึงไมเ่ ป็นอาคารประเภทควบคมุ การใชต้ ามมาตรา ๓๒ ประสงค์จะใช้อาคารดังกล่าวเพ่ือกิจการประเภทควบคุมการใช้ หรือเจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครอง อาคารซง่ึ เปน็ อาคารประเภทควบคมุ การใชต้ ามมาตรา ๓๒ ประสงคจ์ ะเปลย่ี นการใชอ้ าคารไปใชเ้ ปน็ อาคาร ส�ำหรับอีกกิจการหน่ึง ให้เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารย่ืนค�ำขออนุญาตเปล่ียนการใช้อาคาร ตามแบบ ข.๓ ต่อเจ้าพนักงานท้องถิน่ พรอ้ มดว้ ย เอกสารตามท่ีระบุไว้ในแบบ ข.๓ เมือ่ เจ้าพนกั งาน ทอ้ งถน่ิ เหน็ วา่ ถกู ตอ้ งใหอ้ อกใบอนญุ าตตามแบบ อ.๕ แตต่ ามขอ้ ๙ แหง่ กฎกระทรวงกำ� หนดประเภท และหลกั เกณฑก์ ารประกอบธุรกจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ กำ� หนดวา่ อาคารส�ำหรับใชเ้ ปน็ โรงแรมทีต่ งั้ อยู่ในท้องท่ีท่ีมีกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารใช้บังคับต้องมีหลักฐานแสดงว่า ได้รับอนุญาตให้ ใชอ้ าคารเปน็ โรงแรม หรอื มีใบรบั รองการตรวจสภาพอาคารตามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคมุ อาคาร ดังน้ี หากมีการน�ำอาคารท่ีไม่ใช่อาคารควบคุมการใช้ เช่น อาคารท่ีอยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ ท่ีมีพื้นที่ส�ำหรับประกอบกิจการไม่ถึง ๘๐ ตารางเมตร เป็นต้น มาย่ืนขออนุญาตใช้อาคารดังกล่าว ส�ำ นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
158 กฎหมายโรงแรม ประกอบธุรกิจโรงแรมซ่ึงเป็นอาคารควบคุมการใช้ โดยมิได้มีการขออนุญาตเปล่ียนการใช้อาคาร และนำ� หลกั ฐานใบรบั รองการตรวจสอบอาคาร (แบบ ร.๑) มายน่ื ประกอบการพจิ ารณาของนายทะเบยี น โรงแรมด้วย ถา้ นายทะเบียนโรงแรมอนญุ าตตามขอ้ ๙ แหง่ กฎกระทรวงกำ� หนดประเภทและหลกั เกณฑ์ การประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ จะขดั กับหลกั เกณฑข์ องกฎหมายว่าด้วยการควบคมุ อาคาร มาตรา ๓๒ และกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ทอี่ อกตามกฎหมายว่าดว้ ยการควบคุมอาคาร หรอื ไม่ ความละเอียดแจ้งแลว้ น้นั กรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื งขอเรยี นวา่ ไดน้ ำ� เรอื่ งดงั กลา่ วหารอื คณะกรรมการควบคมุ อาคารแลว้ มคี วามเหน็ วา่ ตามมาตรา ๓๓ วรรคหนงึ่ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัตคิ วบคมุ อาคาร (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ก�ำหนดหา้ มมิใหเ้ จ้าของหรอื ผคู้ รอบครอง อาคารซงึ่ ไมเ่ ปน็ อาคารประเภทควบคมุ การใช้ ใชห้ รอื ยนิ ยอมใหบ้ คุ คลใดใชอ้ าคารดงั กลา่ วเพอื่ กจิ การ ตามมาตรา ๓๒ เวน้ แตจ่ ะไดร้ บั ใบอนุญาตจากเจา้ พนักงานท้องถิน่ หรอื ได้แจ้งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา ๓๙ ทวิ แลว้ และตามข้อ ๔ แหง่ กฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความ ในพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ กำ� หนดใหเ้ จา้ ของหรอื ผคู้ รอบครองอาคาร ซงึ่ ไมเ่ ปน็ อาคาร ประเภทควบคมุ การใชต้ ามมาตรา ๓๒ ถา้ ประสงคจ์ ะใชอ้ าคารดงั กลา่ วเพอื่ กจิ การประเภทควบคมุ การใช้ ให้เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารยื่นค�ำขออนุญาตเปล่ียนการใช้อาคารตามแบบ ข. ๓ ต่อเจา้ พนักงานทอ้ งถิน่ พร้อมด้วยเอกสารตามทรี่ ะบไุ ว้ในแบบ ข. ๓ เมอ่ื เจ้าพนักงานท้องถ่ินได้รบั ค�ำขอ และดำ� เนนิ การตรวจสอบแลว้ เหน็ วา่ ถกู ตอ้ งกจ็ ะออกใบอนญุ าตเปลยี่ นการใชอ้ าคารตามแบบ อ. ๕ ให้ ดังน้ัน การจะเปลี่ยนการใช้อาคารจากอาคารอยู่อาศัยหรืออาคารพาณิชย์ที่มิได้เป็นอาคารควบคุม การใชต้ ามมาตรา ๓๒ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซงึ่ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิ ควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และพระราชบัญญตั คิ วบคุมอาคาร (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นโรงแรม ซึ่งเป็นอาคารควบคุมการใช้ตามมาตรา ๓๒ จะต้องขออนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคาร ก่อนเม่ือได้รับใบอนุญาตเปล่ียนการใช้อาคารแล้ว จึงจะด�ำเนินการขออนุญาตประกอบกิจโรงแรม ตามกฎหมายว่าดว้ ยโรงแรมได้ สำ� หรบั ใบรับรองการตรวจสอบอาคาร (แบบ ร.๑) นน้ั มีเจตนารมณ์ เพื่อตรวจสอบสภาพอาคาร และอุปกรณ์ประกอบต่าง ๆ ของอาคารเป็นประจ�ำทุกปี เพื่อให้อาคาร มคี วามมัน่ คงแข็งแรง และอปุ กรณ์ประกอบต่าง ๆ ของอาคารสามารถใชง้ านได้ เพื่อความปลอดภยั ในการใช้อาคาร ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ท่ีแตกต่างจากการออกใบอนุญาตเปล่ียนการใช้อาคาร (แบบ อ. ๕) ที่ตอ้ งการตรวจการใช้อาคารให้เปน็ ไปตามขอ้ กำ� หนดของกฎหมายที่กำ� หนดกฎเกณฑ์ไว้ ส�ำ นักการสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 159 เพื่อความเหมาะสมส�ำหรับการใช้อาคารแต่ละประเภท ด้วยเหตุน้ี ใบรับรองการตรวจสอบอาคาร (แบบ ร.๑) จึงไมส่ ามารถใช้แทนใบอนุญาตเปล่ยี นการใชอ้ าคาร (แบบ อ.๕) ได้ จึงเรียนมาเพ่อื โปรดทราบ ขอแสดงความนับถอื (นายสรุ ชัย พรภัทรกลุ ) ผูอ้ �ำนวยการส�ำนกั ควบคุมและตรวจสอบอาคาร รกั ษาการในตำ� แหนง่ วิศวกรใหญ่ ปฏิบัตริ าชการแทนอธบิ ดีกรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง ส�ำนักควบคมุ และตรวจสอบอาคาร โทร. ๐-๒๒๙๙ ๔๓๖๐ โทรสาร ๐-๒๒๙๙ ๔๓๖๗ ไปรษณียอ์ เิ ลก็ ทรอนิกส์ [email protected] ส�ำ นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
160 กฎหมายโรงแรม ที่ มท ๐๓๐๗.๖/ว ๗๐๖ กระทรวงมหาดไทย ถนนอัษฎางค์ เขตพระนคร กทม. ๑๐๒๐๐ ๒ มีนาคม ๒๕๕๓ เรือ่ ง ข้อหารอื เกยี่ วกบั การใช้ใบรบั รองการตรวจสอบอาคารเปน็ หลักฐานในการขอรบั ใบอนุญาต ประกอบธรุ กจิ โรงแรม เรียน นายทะเบยี นโรงแรมกรุงเทพมหานคร และนายทะเบียนโรงแรมจงั หวดั ทุกจังหวัด อา้ งถงึ หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนท่ีสดุ ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/ว ๓๒๓๐ ลงวันท่ี ๕ ตลุ าคม ๒๕๕๒ สง่ิ ทสี่ ง่ มาดว้ ย หนงั สือส�ำนักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า ด่วนท่สี ดุ ที่ นร ๐๙๐๑/๐๐๔๙ ลงวนั ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๓ ตามท่ีกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้จังหวัดทราบและถือปฏิบัติกรณีกรมการปกครอง ไดร้ บั แจง้ การตอบขอ้ หารอื จากกรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื งวา่ คณะกรรมการควบคมุ อาคารไดพ้ จิ ารณา มคี วามเหน็ ตามขอ้ หารอื กรมการปกครอง ตามมาตรา ๓๓ วรรคหนงึ่ แหง่ พระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยพระราชบัญญตั ิควบคุมอาคาร (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ก�ำหนดหา้ มมใิ ห้เจ้าของหรือ ผคู้ รอบครอง ซงึ่ ไมเ่ ปน็ อาคารประเภทควบคมุ การใชต้ ามมาตรา ๓๒ ถา้ ประสงคจ์ ะใชอ้ าคารดงั กลา่ ว เพื่อกิจการประเภทควบคุมการใช้ ให้เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารยื่นค�ำขออนุญาตเปล่ียน การใช้อาคารตามแบบ ข. ๓ เมื่อเจา้ พนักงานท้องถิ่นไดร้ บั คำ� ขอและด�ำเนินการตรวจสอบแลว้ เหน็ ว่า ถูกต้องก็จะออกใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคารตามแบบ อ.๕ ให้ ดังน้ัน การเปล่ียนการใช้อาคาร จากอาคารอยู่อาศยั หรอื อาคารพาณชิ ย์ทมี่ ไิ ด้เปน็ อาคารควบคุมการใชต้ ามมาตรา ๓๒ แหง่ พระราช บัญญตั ิควบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึง่ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และพระราชบญั ญตั คิ วบคุมอาคาร (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ เปน็ โรงแรม ซึง่ เปน็ อาคาร ควบคมุ การใชต้ ามมาตรา ๓๒ จะตอ้ งอนญุ าตเปลย่ี นการใช้อาคารก่อน เมอ่ื ได้รบั ใบอนุญาตเปล่ยี น การใชอ้ าคารแล้ว จงึ จะดำ� เนนิ การขออนญุ าตประกอบกจิ การโรงแรมตามกฎหมายว่าดว้ ยโรงแรมได้ สำ� หรบั ใบรบั รองการตรวจสภาพอาคาร (แบบ ร. ๑) นน้ั มเี จตนารมณเ์ พอื่ ตรวจสอบสภาพอาคารและอปุ กรณ์ ประกอบต่างๆ ของอาคารสามารถใชง้ านได้ เพือ่ ความปลอดภยั ในการใชอ้ าคาร ซง่ึ เป็นเจตนารมณ์ ทีแ่ ตกต่างจากการออกใบอนญุ าตเปลยี่ นการใช้อาคาร (แบบ อ. ๕) ทต่ี อ้ งการตรวจตราการใช้อาคาร ให้เปน็ ไปตามข้อก�ำหนดของกฎหมายท่กี �ำหนดหลักเกณฑ์ไวเ้ พือ่ ความเหมาะสมส�ำหรับการใชอ้ าคาร แตล่ ะประเภท ดว้ ยเหตนุ ้ี ใบรับรองการตรวจสอบอาคาร (แบบ ร.๑) จงึ ไมส่ ามารถใชแ้ ทนใบอนญุ าต เปลย่ี นการใชอ้ าคาร (แบบ อ. ๕) ไดน้ น้ั ในการนก้ี ระทรวงมหาดไทยไดห้ ารอื กรณดี งั กลา่ วใน ๒ ประเดน็ ทเี่ กย่ี วขอ้ งตอ่ คณะกรรมการ กฤษฎีกา ซ่ึงคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ ๕) ได้ตอบข้อหารือว่า สำ�นักการสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 161 ประเดน็ ที่ ๑ เหน็ ว่า มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญตั คิ วบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แก้ไข เพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๔๓ กำ� หนดให้โรงแรมเป็นอาคาร ประเภทควบคุมการใช้ ประกอบกับมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ได้ก�ำหนดห้ามมิให้ เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารซ่ึงไม่เป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ ใช้หรือยินยอมให้บุคคลใด ใช้อาคารเพ่ือกิจการตามมาตรา ๓๒ และห้ามเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารเปล่ียนการใช้อาคาร ประเภทควบคุมการใช้ส�ำหรับกิจการหน่ึงไปใช้เป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ส�ำหรับอีกกิจการหน่ึง เว้นแต่จะไดร้ ับอนุญาตจากเจา้ พนกั งานทอ้ งถิน่ หรอื ไดแ้ จง้ ใหเ้ จ้าพนักงานท้องถ่นิ ทราบแล้ว และขอ้ ๔ แห่งกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๒๘) ออกตามความในพระราชบญั ญัตคิ วบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ก�ำหนดให้เจ้าของอาคารหรือครอบครองอาคาร ซ่ึงเป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ประสงค์ จะเปลี่ยนการใช้อาคารไปใช้เป็นอาคารส�ำหรับอีกกิจการหนึ่ง ต้องยื่นค�ำขอเปล่ียนการใช้อาคาร ต่อเจ้าพนกั งานท้องถน่ิ เมื่อข้อเท็จจริงในเร่ืองน้ีปรากฏว่า อาคารดังกล่าวเป็นอาคารที่พักอาศัย-พาณิชยกรรม- จอดรถยนต์ ซ่ึงมิได้เป็นอาคารควบคุมการใช้ หากประสงค์จะเปลี่ยนการใช้อาคารเป็นโรงแรม ซึ่งเป็นอาคารประเภทควบคุมการใช้ตามมาตรา ๓๒ ก็ต้องได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา ๓๓ วรรคหนึ่ง แหง่ พระราชบัญญัติควบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซ่ึงแก้ไขเพมิ่ เติมโดย พระราชบัญญัตคิ วบคมุ อาคาร (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ และข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวง (ฉบับท่ี ๑๐ ) ฯ และเมื่อได้รับอนุญาตเปล่ียนการใช้อาคารแล้ว จึงจะด�ำเนินการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ โรงแรมได้ ส�ำหรับใบรับรองการตรวจสอบอาคารตามข้อ ๙ แห่งกฎกระทรวงก�ำหนดประเภทและ หลักเกณฑก์ ารประกอบธุรกจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ นนั้ เหน็ ว่า เป็นการรับรองสภาพอาคารในเรื่อง โครงสร้างและอุปกรณ์ต่าง ๆ ท้ังนี้ เพ่ือความมั่นคงแข็งแรงและความปลอดภัยในการใช้อาคาร เป็นหลักอันเป็นวัตถุประสงค์ท่ีแตกต่างจากการเปลี่ยนประเภทการใช้อาคาร นายทะเบียน จึงไม่สามารถใช้ ใบรับรองดังกล่าวเป็นหลักฐานในการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมแทน ใบอนุญาตเปล่ยี นการใชอ้ าคารได้ ประเด็นท่ี ๒ เห็นว่า อาคารควบคุมการใช้ที่เป็นอาคารประเภทอื่นที่ไม่ใช่โรงแรม หากต่อมาประสงค์จะขออนุญาตใช้อาคารนั้นประกอบธุรกิจโรงแรม เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร กต็ อ้ งขออนญุ าตเปลย่ี นการใชอ้ าคารตอ่ เจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ ตามมาตรา ๓๓ วรรคสอง แหง่ พระราชบญั ญตั ิ ควบคมุ อาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ซง่ึ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ อาคาร (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๓๕ ประกอบกบั ข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวง (ฉบบั ที่ ๑๐) ฯ เช่นกนั ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
162 กฎหมายโรงแรม ดังน้ัน จึงขอให้นายทะเบียนโรงแรมได้ถือปฏิบัติให้เป็นไปตามความเห็นของคณะกรรมการ กฤษฎกี าโดยเครง่ ครัด จงึ เรยี นมาเพ่อื ทราบและถอื ปฏบิ ัติต่อไป ขอแสดงความนบั ถือ (นายมานติ วฒั นเสน) ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง สำ� นกั การสอบสวนและนิตกิ าร โทร./โทรสาร ๐-๒๓๕๖-๙๕๕๙ ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 163 ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/๑๘๕๘๙ กระทรวงมหาดไทย ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๕ ตุลาคม ๒๕๕๘ เรื่อง หารือการขอรับใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ โรงแรม โดยใช้ชอื่ ว่า “เฮอื นนานาตะวนั แดง” และ การขอรบั ใบอนญุ าตใหต้ งั้ สถานบริการ โดยใชช้ ่อื ว่า “ตะวันแดงสาดแสงเดอื น ณ แพร”่ เรียน ผู้ว่าราชการจงั หวดั แพร่ อา้ งถึง หนงั สือจังหวัดแพร่ ที่ พร ๐๐๑๘.๑/๑๐๕๐๘ ลงวนั ท่ี ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ตามทจี่ งั หวดั แพรไ่ ดร้ บั คำ� ขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม ของ บรษิ ทั ศศบิ ตุ ร จำ� กดั (มหาชน) โดยใชช้ อื่ วา่ “เฮอื นนานาตะวนั แดง” เปน็ โรงแรมประเภท ๓ จำ� นวน ๑๐๓ หอ้ ง ประกอบดว้ ย อาคารเฮือนนานาตะวนั แดง จ�ำนวนหอ้ งพัก ๕ หอ้ ง อาคารเฮอื นนานาจอมสวรรค์ จ�ำนวนห้องพัก ๖๒ ห้อง และ อาคารเฮือนเชตวัน จ�ำนวนห้องพัก ๓๖ ห้อง และได้ยื่นค�ำขอรับใบอนุญาตให้ตั้ง สถานบริการ โดยใช้ช่ือว่า “ตะวันแดงสาดแสงเดือน ณ แพร่” จังหวัดแพร่พิจารณาแล้วเห็นว่า เพอ่ื ใหก้ ารพิจารณาออกใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม และการออกใบอนุญาตให้ต้งั สถานบรกิ าร เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย และปฏบิ ตั ถิ กู ตอ้ งตามกฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง จงึ ขอหารอื ความเหน็ ของจงั หวดั วา่ ถูกตอ้ งหรอื ไม่ และมีแนวทางปฏิบัตอิ ย่างไร ดงั นี้ ๑. การย่ืนขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมของ บริษัท ศศิบุตร จ�ำกัด (มหาชน) เปน็ การยืน่ ขออนญุ าตตง้ั โรงแรม โดยใชอ้ าคารทีต่ ้งั อยูบ่ นโฉนดทีด่ ิน ๓ แปลง ตงั้ อยหู่ า่ งกนั เกินกว่า ๑ กโิ ลเมตร รวมเปน็ โรงแรมเดยี วกนั มชี อ่ื วา่ “เฮอื นนานาตะวนั แดง” ซงึ่ จงั หวดั พจิ ารณาวา่ การประกอบ ธุรกิจโรงแรมตอ้ งตง้ั อยู่ในบรเิ วณเดียวกัน ๒. อาคารโรงแรมทงั้ ๓ แหง่ นั้น มีอาคารเฮือนนานาตะวันแดง ตั้งอยู่ในเขตให้ใชบ้ ังคับ ผังเมืองรวมเมืองแพร่ จ�ำนวน ๕ ห้อง ซ่ึงเป็นท่ีดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (พื้นท่ีสีเขียว) จะขออนุญาตใช้ทด่ี ินในพน้ื ท่ีดงั กลา่ วประกอบธุรกิจโรงแรมได้หรือไม่ ๓. อาคารทข่ี อใชเ้ ปน็ โรงแรมทง้ั ๓ แหง่ ตง้ั อยหู่ า่ งกนั เปน็ ระยะทางเกนิ กวา่ หนง่ึ กโิ ลเมตร และแตล่ ะแห่งมหี อ้ งพักไมถ่ งึ ๘๐ ห้อง แตเ่ มือ่ รวมกันแล้วมจี �ำนวน ๑๐๓ ห้อง ไม่ตอ้ งทำ� รายงาน วเิ คราะหผ์ ลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการสง่ เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ น้ัน สำ�นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
164 กฎหมายโรงแรม กระทรวงมหาดไทยพิจารณาข้อหารอื แลว้ มีความเห็น ดงั น้ี ประเด็นท่ีหน่งึ พระราชบญั ญตั ิโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๑๘ ก�ำหนดใหน้ ายทะเบยี น ออกใบอนญุ าตใหแ้ กผ่ ขู้ อรบั ใบอนญุ าตได้ เมอ่ื เหน็ วา่ สถานทต่ี งั้ ขนาด ลกั ษณะ สงิ่ อำ� นวยความสะดวก หรอื มาตรฐานการประกอบธรุ กจิ เปน็ ไปตามหลกั เกณฑท์ ก่ี ำ� หนดไว้ในกฎกระทรวงทอี่ อกตามมาตรา ๑๓ และนายทะเบียนพิจารณาไม่อนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมได้ ถ้าเห็นว่าอาคารหรือสถานที่ตั้ง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ก�ำหนดไว้ ในกฎกระทรวงก�ำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบ ธรุ กจิ โรงแรม ขอ้ ๔ (๓) ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอื่ ง หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการพจิ ารณา การขอใบอนุญาตและการออกใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรม ในกรณีสถานที่ต้ังของโรงแรม จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่เป็นกรรมสิทธ์ิของตนหรือมีสิทธิครอบครองในท่ีดินที่เป็นท่ีต้ังของโรงแรม จากข้อเท็จจริง บริษัท ศศิบุตร จ�ำกัด (มหาชน) ย่ืนค�ำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม เฮือนนานาตะวันแดง โดยแต่ละอาคาร ได้ต้ังอยู่บนโฉนดท่ีดิน ๓ แปลง อยู่ห่างกันเกินกว่า หนงึ่ กโิ ลเมตร จงึ มอิ าจนำ� พนื้ ทต่ี งั้ อาคารแตล่ ะโฉนดซง่ึ อยหู่ า่ งกนั มารวมกนั เพอื่ พจิ ารณาขอรบั ใบอนญุ าต ประกอบธรุ กจิ โรงแรมไดอ้ นั เปน็ การขดั ตอ่ เจตนารมณข์ องกฎหมายโรงแรม และตามกฎกระทรวงกำ� หนด ประเภทและหลกั เกณฑก์ ารประกอบธรุ กิจโรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๒๐ วรรคสอง การมสี ถานบริการ เกี่ยวกบั การยกเว้นจ�ำนวนหอ้ งพักไม่เกนิ ๘๐ หอ้ ง มิให้น�ำมาใชบ้ ังคับแก่โรงแรมทีต่ ั้งอยู่ในเขตพ้ืนท่ี เพอื่ การอนญุ าตใหต้ งั้ สถานบรกิ าร และโรงแรมทต่ี งั้ อยนู่ อกเขตพน้ื ทเี่ พอ่ื การอนญุ าตใหต้ ง้ั สถานบรกิ าร หรือโรงแรมที่ต้ังอยู่ในท้องที่ งดอนุญาตให้ตั้งสถานบริการซึ่งมีสถานบริการตามมาตรา ๓ (๕) แหง่ พระราชบญั ญตั สิ ถานบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๐๙ ซงึ่ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยแหง่ พระราชบญั ญตั สิ ถานบรกิ าร (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งจำ� นวนหอ้ งพักโรงแรม ๘๐ หอ้ งของโรงแรมจะต้องต้ังอยู่ในพน้ื ทเี่ ดียวกนั ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายโรงแรมด้วย จึงจะน�ำมาประกอบการพิจารณาอนุญาตต้ังสถานบริการ ทจ่ี ะไดร้ บั การยกเวน้ ดงั กลา่ วได้ ดงั นน้ั นายทะเบยี นโรงแรมจงั หวดั แพรพ่ จิ ารณาทจี่ ะมคี ำ� สงั่ ไมอ่ นญุ าต ให้ประกอบธุรกิจโรงแรมในลักษณะดังกล่าวได้ ซ่ึงจังหวัดพิจารณาว่าการประกอบธุรกิจโรงแรม ต้องต้ังอยู่ในบริเวณเดียวกนั ความเห็นของจังหวัดถูกต้องแลว้ ประเดน็ ทสี่ อง การพจิ ารณาอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมจะตอ้ งเปน็ ไปตามพระราชบญั ญตั ิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกับประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๕๒ เร่อื ง หลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารในการพจิ ารณาการขอใบอนญุ าตและการออกใบอนญุ าตใหป้ ระกอบธรุ กจิ โรงแรม ตามข้อ ๔ (๕) จะต้องดูกฎหมายอ่ืนท่ีเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๑๘ มาตรา ๒๗ ประกอบกฎกระทรวงให้ใช้บังคบั ผงั เมอื งรวมเมอื งแพร่ พ.ศ. ๒๕๕๔ ได้ก�ำหนดวา่ ในเขต ท่ีได้มีกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผงั เมืองรวมแล้ว หา้ มบุคคลใดใช้ประโยชน์ท่ดี ินผดิ ไปจากท่ีไดก้ �ำหนด ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 165 ไว้ในผังเมืองรวม หรือปฏิบัติการใด ๆ ซึ่งขัดกับข้อก�ำหนดของผังเมืองรวมนั้น จากข้อเท็จจริง อาคารเฮือนนานาตะวันแดง ตั้งอยู่ในเขตให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองแพร่ จ�ำนวน ๕ ห้อง ซ่ึงเป็นท่ีดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (พ้ืนท่ีสีเขียว) จะขออนุญาตใช้ที่ดินในพ้ืนที่ดังกล่าว ประกอบธรุ กจิ โรงแรมไม่ได้ ดังน้ัน บรษิ ัท ศศิบุตร จ�ำกัด (มหาชน) ยื่นค�ำขอรับใบอนญุ าตประกอบ ธุรกิจโรงแรมโดยน�ำอาคารเฮือนนานาตะวันแดง ตั้งอยู่ในเขตให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองแพร่ (พืน้ ทีส่ ีเขียว) เพอ่ื จะประกอบธรุ กจิ โรงแรมมิได้ ประเด็นที่สาม การพิจารณาอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจะต้องเป็นไปตาม พระราชบญั ญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกบั ประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวนั ท่ี ๑๔ ตลุ าคม ๒๕๕๒ เรอื่ ง หลักเกณฑ์และวธิ กี ารในการพจิ ารณาในการขอใบอนญุ าตและการออกใบอนญุ าตให้ประกอบ ธรุ กจิ โรงแรมตามขอ้ ๔ (๕) จะต้องดูกฎหมายอื่นท่ีเก่ียวข้องด้วย ซึ่งพระราชบัญญัติส่งเสริมและ รกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ้ มแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ไดป้ ระกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม เรอ่ื ง กำ� หนดประเภทและขนาดของโครงการหรอื กจิ การซง่ึ ตอ้ งจดั ทำ� รายงานการวเิ คราะหผ์ ลกระทบ สิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติ และแนวทางการจัดท�ำรายงานการวิเคราะห์ ผลกระทบส่ิงแวดลอ้ ม ฉบบั ลงวนั ท่ี ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ ได้กำ� หนดประเภทและขนาดของโครงการ หรอื กจิ การ ลำ� ดบั ท่ี ๓๐ โรงแรมหรอื สถานทพี่ กั ตากอากาศ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรงแรมทม่ี จี ำ� นวนหอ้ งพัก ตงั้ แต่ ๘๐ หอ้ งขนึ้ ไป หรอื มพี น้ื ท่ีใชส้ อยตงั้ แต่ ๔,๐๐๐ ตารางเมตรขน้ึ ไป ตอ้ งจดั ทำ� รายงานการวเิ คราะห์ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เสนอในขั้นขออนุญาตก่อสร้างหรือหากใช้วิธีการแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารโดยไม่ยื่นขอรับใบอนุญาต ให้เสนอรายงานในขั้นการแจ้ง ตอ่ เจา้ พนกั งานทอ้ งถนิ่ และขอ้ ๕ ตามประกาศดงั กลา่ ว ไดก้ ำ� หนดให้ใชบ้ งั คบั สำ� หรบั การขยายขนาด ของโครงการหรือกจิ การ ซงึ่ ต้องจัดท�ำรายงานการวิเคราะหผ์ ลกระทบส่ิงแวดล้อมโดยอนโุ ลม ดังน้ัน บรษิ ทั ศศบิ ตุ ร จำ� กดั (มหาชน) ไดน้ ำ� อาคารทขี่ อใชเ้ ปน็ โรงแรมทงั้ ๓ แหง่ คอื อาคารเฮอื นนานาตะวนั แดง อาคารเฮอื นนานาจอมสวรรค์ และอาคารเฮือนเชตวัน ตง้ั อยหู่ ่างกันเกนิ กว่าระยะทาง ๑ กิโลเมตร ในกรณดี งั กลา่ วกรมการปกครองหารอื ไปยงั สำ� นกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม และส�ำนกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มเห็นวา่ โรงแรมทง้ั ๓ แหง่ ดงั กลา่ ว ไมไ่ ดเ้ ปน็ โครงการหรอื กจิ การเดยี วกนั การพจิ ารณาขนาดของโครงการหรอื กจิ การวา่ ตอ้ งจดั ทำ� รายงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือไม่ จึงพิจารณาแยกแต่ละแห่ง ทั้งน้ี ประกาศกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม ฉบับลงวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ ไดก้ �ำหนดขนาดของโครงการ หรือกิจการซึ่งต้องจัดท�ำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมประเภทโรงแรม โดยพิจารณา จากจ�ำนวนห้องพกั และพืน้ ที่ใชส้ อย ซ่งึ ถ้าอาคารท่ขี อใชเ้ ปน็ โรงแรมแต่ละแห่ง มขี นาดจำ� นวนห้องพัก และพนื้ ที่ใชส้ อยตามประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม และไดย้ น่ื ขออนญุ าตกอ่ สรา้ ง สำ�นักการสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
166 กฎหมายโรงแรม ในชว่ งเวลาทปี่ ระกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ฉบบั ลงวนั ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ มผี ลใชบ้ งั คบั และมจี ำ� นวนหอ้ งพกั ตงั้ แต่ ๘๐ หอ้ งขนึ้ ไป หรอื มพี นื้ ที่ใชส้ อยตงั้ แต่ ๔,๐๐๐ ตารางเมตรขน้ึ ไป ยอ่ มเขา้ ขา่ ยตอ้ งจดั ทำ� รายงานการวเิ คราะหผ์ ลกระทบสงิ่ แวดลอ้ มตามประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อม ฉบบั ดังกลา่ ว จงึ เรียนมาเพือ่ โปรดทราบ ขอแสดงความนบั ถอื (นายอภินนั ท์ ซื่อธานวุ งศ์) รองปลดั กระทรวงมหาดไทย ปฏบิ ัตริ าชการแทน ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง ส�ำนักการสอบสวนและนิตกิ าร โทร. / โทรสาร ๐-๒๓๕๖-๙๕๕๙ ส�ำ นกั การสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 167 ท่ี มท ๐๐๑๘.๑/๑๐๕๐๘ ศาลากลางจงั หวดั ถนนไชยบูรณ์ พร ๕๔๐๐๐ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘ เรื่อง หารือการขอรับใบอนุญาตประกอบธรุ กิจโรงแรม โดยใช้ชื่อวา่ “เฮือนนานาตะวันแดง” และ การขอรบั ใบอนญุ าตใหต้ ัง้ สถานบรกิ าร โดยใช้ชือ่ วา่ “ตะวันแดงสาดแสงเดอื น ณ แพร่” เรียน ปลัดกระทรวงมหาดไทย อ้างถงึ ๑. พระราชบัญญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ๒. พระราชบัญญัตสิ ถานบรกิ าร พ.ศ. ๒๕๐๙ ด้วยจังหวัดแพร่ได้รับค�ำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม (แบบ ร.ร.๑) ของ บรษิ ทั ศศิบตุ ร จ�ำกดั (มหาชน) โดย น.ส.กนกพร แตก้ ุล อยบู่ า้ นเลขที่ ๑๔๒ หม่ทู ี่ ๑๐ ต�ำบลป่าแมต อำ� เภอเมอื งแพร่ จงั หวดั แพร่ เพอื่ ขออนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม โดยใชช้ อื่ วา่ “เฮอื นนานาตะวนั แดง” เปน็ โรงแรมประเภท ๓ จ�ำนวน ๑๐๓ หอ้ ง ประกอบดว้ ย ๑. อาคารเฮอื นนานาตะวันแดง ตงั้ อยูเ่ ลขท่ี ๖๕ หมู่ที่ ๗ ต�ำบลนาจักร อำ� เภอเมอื งแพร่ จำ� นวนห้องพกั ๕ หอ้ ง ๒. อาคารเฮือนนานาจอมสวรรค์ ต้ังอยู่เลขที่ ๒๒๕/๔ ซอย ๒ ถนนยันตรกิจโกศล ต�ำบลในเวียง อำ� เภอเมืองแพร่ จ�ำนวนห้องพกั ๖๒ ห้อง ๓. อาคารเฮือนเชตวัน ต้งั อยู่เลขท่ี ๒๐/๒ ซอยตันอนสุ รณ์ ถนนเชตวนั อ�ำเภอในเวียง อ�ำเภอเมืองแพร่ จ�ำนวนห้องพัก ๓๖ ห้อง และได้ย่ืนค�ำขอรับใบอนุญาตให้ต้ังสถานบริการ โดยใชช้ อื่ วา่ “ตะวนั แดงสาดแสงเดอื น ณ แพร”่ ตง้ั อยเู่ ลขท่ี ๖๕ หมทู่ ี่ ๗ ตำ� บลนาจกั ร อำ� เภอเมอื งแพร่ พร้อมกบั ได้สง่ แบบแปลนแผนผงั และรายการคำ� นวณประกอบแบบแปลนใหจ้ ังหวดั พิจารณา จงั หวดั แพรพ่ จิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ เพอ่ื ใหก้ ารพจิ ารณาออกใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม และการออกใบอนญุ าตใหต้ งั้ สถานบรกิ าร เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย และปฏบิ ตั ถิ กู ตอ้ งตามกฎหมาย ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง จึงขอหารอื ความเห็นของจังหวัดว่าถกู ต้องหรอื ไม่ และมีแนวทางปฏิบัตอิ ย่างไร ดังน้ี ๑. การย่ืนขออนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ของ บริษัท ศศิบุตร จ�ำกัด มหาชน โดย น.ส.กนกพร แตก้ ลุ เปน็ การยนื่ ขออนญุ าตตงั้ โรงแรม โดยมอี าคารทต่ี ง้ั อยบู่ นโฉนดทดี่ นิ ๓ แปลง ตัง้ อยู่ห่างกนั เกนิ กว่า ๑ กโิ ลเมตร รวมเปน็ โรงแรมเดียวกัน โดยใชช้ อื่ ว่า “เฮอื นนานาตะวนั แดง” ซึ่งจงั หวัดพจิ ารณาวา่ การประกอบธุรกจิ โรงแรมต้องต้ังอยู่ในบริเวณเดยี วกัน ส�ำ นักการสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
168 กฎหมายโรงแรม ๒. อาคารโรงแรมท้งั ๓ แหง่ นั้น มีอาคารเฮือนนานาตะวนั แดงตง้ั อยู่ในเขตให้ใชบ้ ังคับ ผังเมืองรวมเมืองแพร่ จ�ำนวน ๕ ห้อง ซึ่งเป็นท่ีดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม (พ้ืนท่ีสีเขียว) จะขออนญุ าตใช้ที่ดนิ ในพน้ื ทดี่ ังกลา่ วประกอบธุรกจิ โรงแรม ไดห้ รอื ไม่ ๓. อาคารทข่ี อใชเ้ ปน็ โรงแรม ทง้ั ๓ แหง่ ตง้ั อยหู่ า่ งกนั เปน็ ระยะทางเกนิ กวา่ หนง่ึ กโิ ลเมตร และแต่ละแห่งมหี อ้ งพักไมถ่ งึ ๘๐ หอ้ ง แต่เม่อื รวมกนั แลว้ มจี ำ� นวน ๑๐๓ ห้อง ไมต่ ้องทำ� รายงาน วิเคราะห์ผลกระทบส่ิงแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพส่ิงแวดล้อม แหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ จึงเรียนมาเพ่ือโปรดพิจารณา ผลเป็นประการใด กรุณาแจ้งให้จังหวัดแพร่ทราบด้วย จักขอบคุณยง่ิ ขอแสดงความนบั ถือ (นายศกั ดิ์ สมบุญโต) ผูว้ ่าราชการจังหวัดแพร่ ที่ท�ำการปกครองจงั หวดั กลมุ่ งานปกครอง โทร. / โทรสาร ๐ ๕๔๕๑ ๑๐๓๗ ส�ำ นกั การสอบสวนและนติ กิ าร กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 169 ท่ี มท ๐๓๐๗.๖/๑๕๔๖๔ กรมการปกครอง ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๑๘ สงิ หาคม ๒๕๕๘ เรอ่ื ง หารอื การนำ� หอ้ งชุดในอาคารชุดออกให้เชา่ รายวนั ในลกั ษณะโรงแรม เรยี น ผจู้ ดั การนติ บิ คุ คลอาคารชุดเดอะไลทเ์ ฮา้ ส์ อ้างถึง หนงั สือนิติบุคคลอาคารชุดเดอะไลทเ์ ฮ้าส์ ลงวนั ท่ี ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ สง่ิ ที่สง่ มาด้วย สำ� เนาหนงั สือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๕๑๗.๓/ว ๔๑๖๐ ลงวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๔๗ ตามทนี่ ติ บิ คุ คลอาคารชดุ เดอะไลทเ์ ฮา้ ส์ ตงั้ อยเู่ ลขที่ ๘ ถนนเจรญิ นคร แขวงคลองตน้ ไทร เขตคลองสาน กรงุ เทพฯ ไดห้ ารอื เกยี่ วกบั การทเี่ จา้ ของหอ้ งชดุ บางสว่ นไดน้ ำ� หอ้ งชดุ ในอาคารชดุ ออก ใหเ้ ช่ารายวันในลกั ษณะโรงแรมจ�ำนวนหนงึ่ ซึ่งเปน็ ชาวต่างชาตแิ ละชาวไทย นำ� หอ้ งชดุ ของตัวเอง ออกให้เช่ารายวันในลักษณะโรงแรม สร้างความเดือดร้อนร�ำคาญใจให้กับเจ้าของร่วมคนอื่น ๆ ทพี่ กั อาศยั ในอาคารชุดตามปกตอิ ยา่ งมาก ว่าจะสามารถท�ำไดห้ รอื ไม่ น้ัน กรมการปกครองพิจารณาแลว้ เหน็ วา่ ประเด็นท่ีหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ มาตรา ๔ ได้ให้ค�ำนิยาม “โรงแรม” ว่าสถานท่ีพักท่ีจัดต้ังข้ึนโดยมีวัตถุประสงค์ในทางธุรกิจ เพ่ือให้บริการท่ีพักชั่วคราว สำ� หรับ คนเดินทางหรือบุคคลอ่นื ใดโดยมีคา่ ตอบแทน จากข้อเท็จจริงถ้าเจ้าของหอ้ งชุดในอาคารชดุ เดอะไลท์เฮ้าส์ น�ำห้องให้เช่าต่�ำกว่ารายเดือนจะเข้าองค์ประกอบค�ำนิยามเป็นโรงแรม ซ่ึงจะต้อง ไดร้ บั อนญุ าตจากนายทะเบยี นซ่งึ เจา้ ของหอ้ งชดุ จะตอ้ งยน่ื คำ� ขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรม ตอ่ นายทะเบยี น มฉิ ะนน้ั จะตอ้ งระวางโทษจำ� คกุ ไมเ่ กนิ หนง่ึ ปหี รอื ปรบั ไมเ่ กนิ สองหมน่ื บาท หรอื ทงั้ จำ� ทง้ั ปรบั และปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหม่ืนบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่ ในฐานประกอบธุรกิจโรงแรม โดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต มาตรา ๕๙ ประกอบมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบญั ญัตโิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ประเดน็ ทส่ี อง การพจิ ารณาอนญุ าตประกอบธรุ กจิ โรงแรมจะตอ้ งเปน็ ไปตามพระราชบญั ญตั ิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ ประกอบกฎกระทรวงกำ� หนดประเภทและหลกั เกณฑก์ ารประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ และการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรมจะต้องดูกฎหมายอ่ืนที่เกี่ยวข้องด้วย ซ่ึงพระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ มีเจตนารมณ์เพ่ือสนองความต้องการของประชาชน ซึ่งต้องอาศัยในอาคารชุดเดียวกันมีกรรมสิทธิ์ในห้องชุดในอาคารนั้นแยกจากกันเป็นสัดส่วน และสามารถจัดระบบค่าใช้จ่ายการบ�ำรุงรักษาอาคารร่วมกันได้ โดยก�ำหนดมาตรการควบคุมการ ส�ำ นักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง
170 กฎหมายโรงแรม จัดต้ังอาคารชดุ ใหเ้ หมาะสม เพอื่ เป็นหลกั ประกันใหแ้ ก่ผ้ทู ่ีจะมาซอ้ื หอ้ งชดุ เพอ่ื อยอู่ าศยั ดังจะเหน็ ได้ จากกฎหมายอาคารชุดบัญญัติให้มีการจัดต้ังนิติบุคคลอาคารชุดนี้มาดูแลและจัดการรักษาทรัพย์ ส่วนกลางมีผู้จัดการเป็นนิติบุคคลอาคารชุด ทั้งน้ี การด�ำเนินงานของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด จะต้องเป็นไปตามมติของเจ้าของร่วมภายใต้บังคับกฎหมายอาคารชุด และไม่ขัดต่อข้อบังคับตาม มาตรา ๓๓ และ มาตรา ๓๖ แห่งพระราชบญั ญตั อิ าคารชุด พ.ศ. ๒๕๒๒ ดงั นัน้ เจา้ ของหอ้ งชดุ ในอาคารชดุ เดอะไลทเ์ ฮา้ ส์ จะนำ� อาคารชดุ ดงั กลา่ วมาทำ� เปน็ โรงแรม ซงึ่ ตง้ั อยใู่ นอาคารและโฉนดทด่ี นิ เดียวกันจึงเป็นการน�ำอาคารชุดไปใช้เพื่อกิจการอ่ืน ซ่ึงขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายอาคารชุด ซ่ึงมีผลต่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันของเจ้าของร่วมในทรัพย์ส่วนกลางตามท่ีก�ำหนดไว้ ในข้อบังคับ ประกอบกับการด�ำเนินการดังกล่าวอยู่นอกกรอบวัตถุประสงค์และอ�ำนาจหน้าท่ีของนิติบุคคลอาคารชุด และผจู้ ัดการนติ ิบคุ คลอาคารชดุ ตามนยั มาตรา ๓๓ และมาตรา ๓๖ แหง่ พระราชบญั ญตั อิ าคารชดุ พ.ศ. ๒๕๒๒ จึงมอิ าจน�ำอาคารชดุ ดงั กล่าวน�ำมาขอรบั ใบอนญุ าตประกอบธุรกจิ โรงแรมได้แตอ่ ย่างใด จึงเรยี นมาเพื่อทราบ ขอแสดงความนับถอื (นายศักดชิ์ ยั แตงฮ่อ) ผอู้ ำ� นวยการสำ� นักการสอบสวนและนิตกิ าร ปฏบิ ัตริ าชการแทน อธิบดกี รมการปกครอง สำ� นกั การสอบสวนและนิตกิ าร สว่ นรักษาความสงบเรยี บร้อย ๓ โทร. / โทรสาร ๐ – ๒๓๕๖ - ๙๕๕๙ สำ�นกั การสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
กฎหมายโรงแรม 171 นิตบิ คุ คลอาคารชดุ เดอะไลทเ์ ฮ้าส์ ๘ ถนนเจรญิ นคร แขวงคลองตน้ ไทร เขตคลองสาน กรงุ เทพมหานคร ๑๐๖๐๐ โทร ๐๒ ๘๖๑ ๒๖๐๐ แฟกซ์ ๐๒ ๘๖๑ ๒๖๐๑ ท่ี LH – co71/2558 ๑๔ สิงหาคม ๒๕๕๘ เรอ่ื ง หารือการนำ� หอ้ งชุดในอาคารชดุ ออกให้เชา่ รายวนั ในลักษณะโรงแรม เรียน นายทะเบียนโรงแรม กรุงเทพมหานคร เนอื่ งจากมเี จา้ ของหอ้ งชดุ ในอาคารชดุ เดอะไลทเ์ ฮา้ ส์ จำ� นวนหนงึ่ ประกอยดว้ ยชาวตา่ งชาติ ๕ ราย ไดแ้ ก่ ห้องชดุ เลขที่ ๘/๑ ชัน้ ๓๐-๓๑, ๘/๓ ช้ัน ๓๐-๓๑, ๘/๔ ชนั้ ๓๐-๓๑, ๘/๕๘ ชน้ั ๒๒ และ ๘/๑๘๗ ชน้ั ๑๒A และชาวไทย ๑๐ ราย ได้แกห่ ้องชดุ เลขท่ี ๘/๖๑ ช้ัน ๒๒, ๘/๖๔ ช้นั ๒๒, ๘/๖๖ ชั้น ๒๑, ๘/๑๐๔ ชน้ั ๑๘, ๘/๑๕๖ ชัน้ ๑๕, ๘/๑๗๙ ชัน้ ๑๔, ๘/๒๑๐ ช้นั ๑๒, ๘/๒๓๔ ชน้ั ๑๐, ๘/๒๔๖ ช้ัน ๙, และ ๘/๒๕๓ ช้นั ๙ นำ� ห้องชดุ ของตวั เองออกให้เชา่ รายวันในลักษณะโรงแรม สรา้ งความเดือดรอ้ นรำ� คาญใจใหก้ บั เจา้ ของรว่ มคนอ่ืน ๆ ท่ีพกั อาศยั อยู่ในอาคารชุดตามปกตอิ ยา่ งมาก นิติบุคคลอาคารชุดฯ จึงใคร่ขอหารือเพื่อความชัดเจนว่าการกระท�ำดังกล่าวมีความผิดตาม พระราชบญั ญัตโิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ หรอื ไม่ เพือ่ ที่จะได้แจง้ ให้บรรดาเจ้าของรว่ มเหล่าน้ีทราบต่อป จงึ เรยี นมาเพอื่ ตอบขอ้ หารือของนติ ิบุคคลอาคารชดุ ฯ ด้วย จกั เปน็ พระคุณยง่ิ ขอแสดงความนับถือ (นายธนกฤต กล้าแขง็ ) ผจู้ ดั การนติ บิ คุ คลอาคารชดุ เดอะไลท์เฮา้ ส์ สำ�นักการสอบสวนและนติ ิการ กรมการปกครอง
172 กฎหมายโรงแรม ที่ มท ๐๓๐๗.๖/๒๓๕๙ สำ� เนาคฉู่ บบั กรมการปกครอง ถนนอษั ฎางค์ กทม. ๑๐๒๐๐ ๒๘ มนี าคม ๒๕๕๙ เรื่อง หารอื กรณรี า้ นอาหารตงั้ อยใู่ นบรเิ วณหรอื ใกลพ้ น้ื ทต่ี งั้ ของโรงแรมตอ้ งเปน็ สว่ นหนงึ่ ของโรงแรมหรอื ไม่ เรยี น ผู้วา่ ราชการจังหวัดนครสวรรค์ อา้ งถงึ หนังสือจงั หวดั นครสวรรค์ ท่ี นว ๐๐๑๘.๑/๓๐๐๑๑ ลงวนั ที่ ๑๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๘ ตามทจ่ี งั หวดั นครสวรรคข์ อหารอื กรณนี ายธงชยั มงคลชยั อรญั ญา ยน่ื คำ� ขออนญุ าตประกอบ ธุรกิจโรงแรมประเภท ๑ โดยจังหวัดได้ตรวจสอบลักษณะอาคาร สภาพที่ต้ังและสภาพส่ิงแวดล้อม แล้วเห็นว่า ควรอนุญาตให้ประกอบธุรกิจโรงแรมประเภท ๒ ซ่ึงไม่ตรงกับค�ำขอของผู้ประกอบการ จึงหารือกรณีร้านอาหารต้ังอยู่ในบริเวณหรือใกล้พื้นท่ีตั้งของโรงแรมต้องเป็นส่วนหน่ึงของโรงแรม หรอื ไม่ และแนวทางปฏบิ ัติทช่ี ดั เจน ความละเอียดแจ้งแล้ว นนั้ กรมการปกครองพจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ การทนี่ ายทะเบยี นโรงแรมพจิ ารณาอนญุ าตใหป้ ระกอบ ธุรกิจโรงแรมประเภทใด จักต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพ้ืนที่ให้ได้ข้อยุติว่า ผู้ประกอบ ธุรกิจโรงแรมได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไขส�ำหรับโรงแรมแต่ละประเภทตามกฎกระทรวง กำ� หนดประเภทและหลักเกณฑก์ ารประกอบธรุ กจิ โรงแรม พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๒ และข้อ ๑๘ หรอื ข้อ ๑๙ หรือไม่อยา่ งไร อาทิ สภาพอาคารโรงแรม กับสภาพพน้ื ท่ีร้านอาหารมีการแบง่ แยกชัดเจนหรือไม่ มเี อกสารความเปน็ เจา้ ของกจิ การแตล่ ะประเภทหรอื ไม่ มกี ารใหบ้ รกิ ารอาหารแกผ่ เู้ ขา้ พกั หรอื ไม่ หรอื มพี ฤตกิ ารณก์ ารกระทำ� ท่ีมีเจตนาจะหลกี เลยี่ งกฎหมายหรือไม่ ประกอบกบั แนวทางปฏบิ ัตติ ามค�ำส่งั กระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๙๐/๒๕๕๑ เรอื่ ง การปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ กำ� หนด ใหม้ คี ณะกรรมการกลั่นกรองการดำ� เนินการตามพระราชบญั ญตั โิ รงแรม พ.ศ. ๒๕๔๗ เพื่อท�ำหนา้ ท่ี พจิ ารณาตรวจสอบกลนั่ กรองการพจิ ารณาอนญุ าตเสนอความเหน็ ตอ่ นายทะเบยี นโรงแรมพจิ ารณาใช้ ดลุ พนิ จิ ได้อย่างถกู ตอ้ งตามกฎหมายท่ีกำ� หนดไว้แลว้ ดงั น้นั เพอื่ ป้องกันมใิ หผ้ ้ปู ระกอบธุรกจิ โรงแรม หลกี เลยี่ งไมป่ ฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปตามทก่ี ฎหมายกำ� หนด ใหน้ ายทะเบยี นโรงแรมเขม้ งวดตรวจสอบใหผ้ ยู้ น่ื คำ� ขอ ประกอบธรุ กจิ โรงแรมดงั กลา่ วปฏบิ ัตใิ ห้เป็นไปตามท่หี ารือโดยเครง่ ครัด จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดทราบและถือปฏบิ ตั ติ ่อไป ขอแสดงความนบั ถือ (นายชำ� นาญวิทย์ เตรัตน์) รองอธิบดี ปฏบิ ตั ริ าชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง สำ� นกั การสอบสวนและนติ กิ าร สว่ นรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ย ๓ โทร. / โทรสาร ๐ – ๒๓๕๖ - ๙๕๕๙ ส�ำ นกั การสอบสวนและนิตกิ าร กรมการปกครอง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347