อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ กล้�ำกรายแทรกซึมเข้าสู่หัวใจ สิ่งท่ีเคยหวงแหนสุดถนอม ไม่เคย ยอมให้ใครมาก่อนเลย ก็ยอมพลีให้หมดส้ิน อา! ความรักช่างมี อทิ ธพิ ลอะไรเช่นน้ัน ในขณะท่ีความรักของข้าพเจ้าและวิมลมานดำ� เนินไปด้วยดี เหมือนเดินอยู่ในสวนดอกไม้นั่นเอง ข่าวร้ายก็เกิดข้ึน เสมือนสาย ฟ้าฟาดลงกลางใจของเราทั้งสอง เมื่อวันหนึ่งพระราชบิดาเรียก ขา้ พเจ้าเขา้ เฝา้ ‘จตุรงคพล’ พระบิดาตรัสตอนหน่ึง ‘ระยะน้ีไม่ค่อยได้เห็น หนา้ เจา้ หายไปไหนทุกวันๆ?’ ‘หามิได้เสด็จพ่อ ลูกอยู่ แต่เห็นเสด็จพ่อมีพระราชภารกิจ 400 มากจงึ มิได้มารบกวน’ ขา้ พเจา้ ทูล ใจไมค่ อ่ ยดีนกั ‘ไดย้ นิ วา่ ไปชอบลกู สาวนายชา่ งทองอยมู่ ใิ ชห่ รอื ?’ ตรสั ถาม อยา่ งตรงไปตรงมาตามพระราชอธั ยาศยั ของพระองค ์ ขา้ พเจา้ สะดงุ้ ขนึ้ ทง้ั ตวั ไมน่ กึ เลยวา่ เสดจ็ พอ่ จะทรงทราบ เมอื่ พระองคท์ รงทราบ แลว้ กไ็ มม่ อี ะไรทจ่ี ะปดิ บงั ตอ่ ไป รสู้ กึ เปน็ ทางดเี สยี ดว้ ยซ้�ำ ขา้ พเจา้ จงึ ทลู รับว่า ‘ใช่ พะย่ะค่ะ’ เสดจ็ พอ่ ทรงพระสรวลนอ้ ยๆ มองขา้ พเจา้ ดว้ ยสายพระเนตร สงสารแกมสงั เวชใจ ‘ลกู คดิ วา่ พอ่ จะไมร่ ูอ้ ย่างนัน้ หรอื ?’ ขา้ พเจา้ ยงั คงกม้ หนา้ นง่ิ ‘ลกู รกั ’ เสดจ็ พอ่ ตรสั ตอ่ ไป “อยา่ วา่ แตเ่ รอ่ื งใกลแ้ คน่ เี้ ลย เรอ่ื งไกลถงึ สดุ ปลายเขตแดนของเรา พอ่ กท็ ราบ พอ่ เปน็ พระเจา้ แผน่ ดนิ หพู ญา ตากษตั รยิ ์ ลกู จำ� ไว ้ ยอ่ มไดย้ นิ และ
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า เห็นไกลเสมอ ‘ลกู รักเขามากหรือ?’ เสด็จพอ่ ทรงกลับมาถามเรอ่ื งนใ้ี หม่ ‘รักมากพะยะ่ ค่ะ’ ‘เขาสมกบั ลูกดีหรอื ’ ‘เขาสวยมากพะยะ่ คะ่ ’ ‘ลูกต้องการหญิงสวยอย่างเดียวเท่านั้นหรอื ?’ ‘เขาดีด้วย พะย่ะคะ่ ‘ดีอย่างไร เล่าใหพ้ อ่ ฟงั ได้ไหม?’ ‘กิริยามารยาทดี สุภาพเรียบร้อย ท�ำงานเก่ง รู้จักข่มใจเม่ือ โกรธ พะย่ะคะ่ ’ ‘ถา้ พอ่ จะหาคนอยา่ งนีใ้ ห ้ ลกู จะเอาไหม?’ ‘ลกู มีแลว้ พะยะ่ ค่ะ’ ข้าพเจา้ ตอบอยา่ งเกรงพระทัยเต็มท่ี 401 ‘ลูกรู้ตัวไหมวา่ ลูกเปน็ ใคร?’ เสด็จพอ่ ถามต่อไป ‘ทราบ พะยะ่ ค่ะ หม่อนฉนั เปน็ ลูกของเสดจ็ พ่อ’ ‘แลว้ พ่อของลกู เป็นอะไร?’ ‘เปน็ พระเจา้ แผ่นดนิ พะย่ะคะ่ ” ‘แลว้ ลูกเป็นอะไร?’ ‘เปน็ เจ้าชาย พะยะ่ คะ่ ’ ‘แล้วลูกสะใภ้ควรจะเป็นอะไร ควรจะเป็นเจ้าหญิงหรือเป็น ผูห้ ญิงชาวบา้ นธรรมดา เป็นแม่ค้าขายทองหรือท�ำทองขาย?’ ตอนน้ีข้าพเจ้านิ่ง ข้าพเจ้าไม่เห็นส�ำคัญเลย จะเป็นเจ้าหญิง หรือหญิงหักฟืนขาย ก็มีความเป็นหญิงเท่าเทียมกัน อวัยวะทุก ส่วนของเจ้าหญิงไม่มีอะไรพิเศษหรือวิจิตรพิสดารยิ่งไปกว่าหญิง
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ ขายขนมเบอ้ื ง เมอ่ื บาดเจบ็ เลอื ดทอ่ี อกมากเ็ ปน็ สเี ดยี วกนั เจา้ หญงิ ก็รู้จักหิวกระหาย และความรู้สึกอ่ืนๆ เหมือนๆ กัน มีความรู้สึก ทางเพศรสเหมอื นคนธรรมดาสามญั ทว่ั ๆ ไป มนษุ ยใ์ นโลกนเ้ี หมอื น กอ้ นหนิ กอ้ นอฐิ หลายๆ กอ้ น ทถี่ กู นำ� ไปวางทต่ี า่ งกนั เทา่ นนั้ กอ้ นหนง่ึ วางอยู่บนเจดีย ์ คนก็กราบไหว้บูชา อีกก้อนหนึ่งใช้ปูลาดถนนเป็น ทางเดนิ คนกเ็ หยยี บยำ่� แตเ่ นอ้ื แทข้ องกอ้ นอฐิ ไมม่ อี ะไรแตกตา่ งกนั เลย เจา้ หญงิ อาจจะดกี วา่ หญงิ ธรรมดากต็ รงทมี่ โี อกาสดกี วา่ ในการ ปรบั ปรงุ ตน และมโี อกาสการศกึ ษาดกี วา่ แตค่ ณุ คา่ ของคนวดั กนั ท ่ี ความประพฤติและน�้ำใจ มิใช่วัดกันท่ีชาติตระกูล เมื่อมองในแง่นี้ เจา้ หญงิ ทมี่ คี วามประพฤตไิ มด่ ี จติ ใจตำ�่ กย็ อ่ มเปน็ คนเลวเหมอื นกบั 402 คนเลวอ่ืนๆ ข้าพเจ้าเองเป็นเจ้าชาย แต่ข้าพเจ้าก็มองไม่เห็นว่า ขา้ พเจา้ จะวเิ ศษไปกวา่ ผชู้ ายธรรมดาตรงไหน มคี วามรสู้ กึ สขุ ทกุ ข ์ หวิ กระหายและใครใ่ นกามารมณเ์ หมอื นเดก็ หนมุ่ ชาวบา้ นธรรมดา ทว่ั ไป นเ่ี พยี งแตข่ า้ พเจา้ คดิ เทา่ นนั้ นะทา่ น ขา้ พเจา้ ไมก่ ลา้ พดู อยา่ งนี ้ กบั เสดจ็ พอ่ ดอก มนั เปน็ การหา้ วหาญและไรม้ รรยาทเกนิ ไปส�ำหรบั บุตรทีด่ ี ‘พอ่ ไดม้ องดสู ตรที เี่ หมาะสมกบั ลกู ไวแ้ ลว้ ’ เสดจ็ พอ่ ตรสั ตอ่ ไป ด้วยสีพระพักตร์เฉย ‘เขาเป็นเจ้าหญิงท่ีมีทั้งความงามและความด ี พรอ้ ม พอ่ เชอ่ื วา่ เจา้ เห็นจะตอ้ งชอบ’ ขา้ พเจ้ายงั คงนง่ั เฉย มิไดท้ ูลอะไรเสดจ็ พอ่ เลย เม่อื พระองค์ ทรงเห็นข้าพเจ้าเฉยอยู่จึงตรัสต่อไปว่า ‘ลูกรัก ภรรยาท่ีเหมาะสม มคี วามสำ� คญั ในชวี ติ มนษุ ย ์ เวลานลี้ กู อายยุ งั นอ้ ย อาจจะถอื ความรกั ในวัยหนุ่มเป็นส่ิงส�ำคัญเหนือส่ิงอื่นใด แต่เม่ือลูกอายุมากกว่าน้ ี
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า ลกู จะเหน็ เองวา่ ความรกั อยา่ งเดยี วไมเ่ พยี งพอในการทจ่ี ะครองชวี ติ ใหร้ าบรนื่ แบบครอบครวั ลกู จะตอ้ งคำ� นงึ ถงึ ความเหมาะสมทางการ ศึกษา บุคลิกภาพ ความโน้มเอียง และที่ส�ำคัญท่ีสุดอีกอย่างหนึ่ง คอื ความเหมาะสมทางสงั คม หมายความวา่ ตอ้ งใหส้ งั คมยอมรบั วา่ ถูกต้อง เหมาะแล้ว สมแล้ว ลูกยังต้องอยู่ในสังคม และสังคมที่ลูก อยู่นั้นมิใช่สังคมธรรมดา แต่เป็นสังคมชั้นสูง ชายาของลูกจะต้อง เข้ากับสังคมและส่ิงแวดล้อมรอบตัวได้อย่างสนิทแนบเนียน ลูกจะ ทนไหวหรอื ถา้ ชายาอนั เปน็ ทร่ี กั ของลกู ถกู รงั เกยี จเหยยี ดหยามจาก คนรอบดา้ น ลกู ตอ้ งไมล่ มื วา่ สงั คมในเมอื งเรายงั มกี ารถอื ชนั้ วรรณะ ถอื ชาติ ถอื ตระกลู กนั อยา่ งรนุ แรง’ พระราชบดิ าทรงหยดุ เพยี งเทา่ นัน้ คอยสังเกตกริ ิยาของข้าพเจ้าว่าจะมคี วามรสู้ ึกประการใด 403 ข้าพเจ้ายังคงน่ังเฉย แม้ปากจะมิได้พูด แต่ใจของข้าพเจ้าก็ คดิ คดิ ถงึ ตวั เองและวมิ ลมาน ยอดหญงิ ทซี่ งึ่ ขา้ พเจา้ รกั อยา่ งถอนตวั ไมข่ น้ึ ทำ� ไมมนษุ ยจ์ งึ ยอมตวั อยภู่ ายใตก้ ารจองจ�ำของสงั คม ซง่ึ มแี ต่ ความหลอกหลอนสับปลับและแปรผัน ท�ำไมมนุษย์จึงยอมตัวเป็น ทาสของสังคมจนแทบจะกระดิกกระเดี้ยตัวมิได ้ จะท�ำอะไรจะคิด อะไรก็ต้องคำ� นึงถึงความรู้สกึ ของสงั คมไปเสียหมด สังคมจึงกลาย เปน็ เครอื่ งจองจำ� ชนดิ หนง่ึ ทม่ี นษุ ยซ์ งึ่ สำ� คญั ตวั วา่ เจรญิ แลว้ ชว่ ยกนั สรา้ งขน้ึ เพอ่ื ผกู พนั มดั ตวั เองใหอ้ ดึ อดั รำ� คาญ มนษุ ยย์ งิ่ เจรญิ ขน้ึ ก็ ดูเหมือนจะมีเสรีภาพน้อยลงท้ังทางกายและทางใจ ดูๆ แล้วความ สะดวกสบาย และเสรภี าพของมนษุ ยจ์ ะสสู้ ตั วด์ ริ จั ฉานบางประเภท มิได้ มันมีเสรีภาพที่จะท�ำอะไรตามใจชอบอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น ฝงู วหิ คนกกา มนษุ ยเ์ ราเจรญิ กวา่ สตั ว ์ ตามทม่ี นษุ ยเ์ ราเองชอบพดู
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ กนั แตด่ เู หมอื นพวกเราจะมคี วามสขุ นอ้ ยกวา่ สตั ว ์ ภาระใหญท่ ต่ี อ้ ง แบกไว ้ คอื เรอื่ งกาม เรอื่ งกนิ และเรอ่ื งเกยี รตนิ นั้ เปน็ ภาระหนกั องึ้ ของมนุษยชาติ สัตว์ดิรัจฉานตัดไปได้อย่างหนึ่งคือเร่ืองเกียรต ิ คง เหลอื แตเ่ รอื่ งกามและเรอ่ื งกนิ นกั พรตอยา่ งทา่ นนต้ี ดั ไปไดอ้ กี อยา่ ง คอื เรอ่ื งกาม คงเหลอื แตเ่ รอ่ื งกนิ อยา่ งเดยี ว ปลดภาระไปไดอ้ กี มาก และการกนิ อยา่ งนกั พรตกบั การกนิ อยา่ งผบู้ รโิ ภคกามกด็ เู หมอื นจะ มีข้อท่ีแตกต่างกันไป ผู้บริโภคกามและยังหนาแน่นอยู่ด้วยความ รู้สึกทางโลกิยวิสัย เมื่อกิน บางทีก็กินเพื่อย่ัวยุกามให้ก�ำเริบ และ ตอ้ งกนิ อยา่ งมเี กยี รต ิ กนิ ใหส้ มเกยี รต ิ มใิ ชก่ นิ เพยี งเพอ่ื ใหร้ า่ งกายน้ ี ดำ� รงอยไู่ ดอ้ ยา่ งสมณะ ความจรงิ รา่ งกายคนเรามไิ ดต้ อ้ งการอาหาร 404 อะไรมากนกั เมอื่ หวิ รา่ งกายกต็ อ้ งการอาหารเพยี งเพอ่ื บ�ำบดั ความ หิวเท่าน้ัน แต่เม่ือมีเกียรติเข้ามาบวกด้วย จึงกลายเป็นเรื่องกิน อยา่ งเกยี รตยิ ศ และแลว้ กม็ ภี าระตามมาอยา่ งหนกั หนว่ ง คนจำ� นวน มากเบอื่ เรอ่ื งน ี้ แตจ่ ำ� ตอ้ งทำ� เหมอื นโคหรอื ควายซงึ่ เหนอ่ื ยหนา่ ยตอ่ แอกและไถ แต่จำ� ใจตอ้ งลากมันไป ลากมนั ไป อนจิ จา เมื่อเห็นข้าพเจ้านิ่งอยู่นาน พระราชบิดาจึงตรัสข้ึน เหมือน ทรงทราบถึงความคิดของขา้ พเจ้าวา่ ‘ลูกรัก สังคมเป็นปัญหาใหญ่และเป็นเรื่องส�ำคัญ เมื่อลูกยัง อยใู่ นสงั คม ลกู กจ็ ะตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บแบบแผนของสงั คม แม ้ ระเบียบแบบแผนน้ัน บางอย่างเราจะรู้สึกว่าไม่เห็นจำ� เป็นเลย แต่ เมื่อสังคมยอมรับปฏิบัติกันเสียแล้ว เราก็ต้องท�ำ ทั้งๆ ที่ไม่อยาก ทำ� “พอ่ เองเปน็ กษตั รยิ ์ เปน็ ใหญใ่ นหมชู่ นแหง่ แควน้ ปญั จาละนี้ แต ่ พอ่ กย็ งั ตอ้ งงอ้ สังคม ทั้งๆ พอ่ มอี สิ ระทจ่ี ะทำ� อะไรหรอื ไมท่ �ำอะไร
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า ‘อีกอย่างหน่ึง เดิมทีมนุษย์เราก็อยู่กันอย่างสัตว์ป่าทั่วๆ ไป แต่เม่ือกาลเวลาล่วงมา มนุษย์รู้จักกันอยู่กันเป็นหมู่เหล่า รู้จัก เปลี่ยนแปลงแก้ไขสภาพเดิมมาสู่สภาพใหม่อยู่เร่ือยๆ การจัด ระเบยี บสงั คมขน้ึ นนั้ เดมิ ทกี เ็ พอื่ ความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ยส�ำหรบั หมู่นั้น คณะน้ัน และการวางกฎเกณฑ์ของสังคมขึ้น ก็เพ่ือป้องกัน มใิ หค้ นเอารดั เอาเปรยี บกนั เพอ่ื มใิ หป้ ลาใหญก่ นิ ปลาเลก็ สตั วใ์ หญ ่ รงั แกสตั วเ์ ลก็ อยา่ งพอ่ นถี้ า้ เปรยี บดว้ ยปลา พอ่ กเ็ ปน็ ปลาใหญท่ สี่ ดุ ในหนองน้ี และเป็นสัตว์ใหญ่ท่ีสุดในป่าน้ี พ่อมีอ�ำนาจสั่งประหาร ชีวิตคนได้โดยไม่มีใครกล้าขัดแย้ง แต่พ่อก็ไม่กล้าท�ำอย่างน้ัน ใคร ท�ำผิด เรามีคณะผู้พิพากษาพิจารณาความผิด เปิดโอกาสให้ผู้ถูก กลา่ วหาแถลงเรอ่ื งของตนซ่ึงอาจถูกใสค่ วามกไ็ ด้ เกียรติของหมู่คณะหรือของสังคมน้ัน อยู่ที่ความมีระเบียบ 405 ลูกจะสังเกตเห็นอย่างหน่ึงว่า หมู่ใด คณะใดไม่มีระเบียบ หมู่นั้น คณะนั้นก็ไร้เกียรติ การจัดระบบสังคมก็เพื่อความมีระเบียบ และ ระเบยี บท�ำให้งามน่าดูน่าชม แตกตา่ งจากสตั ว์ดิรจั ฉาน ครอบครัวเป็นรากฐานของสังคม เป็นรากฐานของประเทศ การปรับปรุงสังคมจึงต้องตั้งต้นไปจากครอบครัว ถ้าสภาพของ ครอบครัวคลอนแคลนเสียแล้ว ก็เหมือนเรือซึ่งมีรูร่ัวมากมาย จะ แล่นไปไกลได้สักเท่าใด แม้จะประดับประดาธงทิว ตกแต่งอย่าง สวยงามแต่เพียงหลอกตาเท่านั้น คนในเรืออลเวงวุ่นวายอยู่ตลอด เวลา จะหาความสขุ ไดอ้ ย่างไร ในครอบครัวแต่ละครอบครัว แม่บ้านหรือภรรยามีความ ส�ำคัญอย่างย่ิงยวด มีภรรยาดีเป็นศรีแก่บ้านเรือนและลูกหลาน ม ี
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ ภรรยาไม่ดีเหมือนน�ำขยะมูลฝอยมากองไว้ในบ้าน ลูกต้องคิดว่า สตรีท่ีจะมาร่วมสุขร่วมทุกข์กับลูกน้ัน มิได้เป็นเพียงแต่เพียงชายา ของลกู อยา่ งเดยี ว แตเ่ ขาจะต้องเป็นแม่ของลกู เราดว้ ย ลกู ท่มี แี มด่ ี มีสง่าราศี เป็นโชคดีของเด็กอย่างล้นเหลือ ลูกท่ีมีแม่ไม่ดี ไม่สม ศักดิ์ศรีแห่งสกลุ เป็นการทรมานจติ ใจลกู ในอนาคตใหบ้ อบช้�ำ’ พระบิดาตรัสเพียงเท่าน้ันแล้วก็หยุดอยู่ ดูเหมือนพระองค ์ มีประสงค์จะให้ข้าพเจ้าพูดบ้าง ข้าพเจ้าไม่มีอะไรจะทูล เพราะไม่ สนใจกับผหู้ ญงิ ที่พระบิดาตรสั นนั้ เลย แตก่ ็อดถามไมไ่ ดว้ า่ ‘เสด็จพ่อจะให้หม่อมฉันอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงองค์ใด?’ ข้าพเจ้าคิดวา่ คงจะเปน็ เจา้ หญิงองค์ใดองค์หน่ึงในหัสตินาปรุ นครนี้ 406 ‘เจ้าหญิงจุฬารัตน์ แห่งสาคลนคร แคว้นมัททะ’ พระราช บิดาตรัสอย่างภาคภมู ิพระทัย ความจรงิ กเ็ ปน็ เรอื่ งนา่ ภาคภมู อิ ยนู่ ะทา่ น เจา้ หญงิ แหง่ แควน้ มัททะได้รับความนิยมยกย่องอย่างสูงยิ่งว่างามที่สุดในชมพูทวีป จนถึงกับขัตติยนารีแห่งแคว้นนี้มักจะมีนามว่า มัทที หรือมัทรีอยู ่ เสมอ แทนท่ีจะมีพระนามเฉพาะพระองค์ แต่กลับเฉลิมพระนาม ตามช่ือแคว้น เพ่ือให้เป็นท่ีรู้ว่าเจ้าหญิงผู้มีพระนามว่ามัทรีน้ัน มา จากแคว้นมัททะ เป็นถิ่นคนงามอย่างแท้จริงเหมือนม้าซ่ึงมาจาก แควน้ กมั โพชะ กเ็ ปน็ ทเ่ี ชอื่ ถอื ไดว้ า่ ตอ้ งเปน็ พนั ธม์ุ า้ ดี และผา้ ซงึ่ มา จากแควน้ กาส ี ซงึ่ เรยี กวา่ กาสกิ พสั ตร ์ จะไดใ้ ชก้ เ็ พราะคนชนั้ สงู ม ี ฐานะร่�ำรวยเทา่ น้ัน และแล้วสมเด็จพระราชบิดาได้น�ำพระราชสาสน์การติดต่อ ระหวา่ งพระองคแ์ ละพระเจา้ กรงุ สาคละใหข้ า้ พเจา้ ดู ใจความสำ� คญั
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า ในพระราชสาสนห์ ลายฉบบั กค็ อื เรอื่ งเจา้ หญงิ จฬุ ารตั นแ์ ละขา้ พเจา้ เมื่ออ่านพระราชสาสน์แล้ว ข้าพเจ้ารู้สึกเห็นพระทัยในความ ปรารถนาดแี หง่ สมเดจ็ พระราชบดิ าทม่ี ตี อ่ ขา้ พเจา้ อนง่ึ เลา่ พระเจา้ กรุงสาคละก็มิใช่ใครอื่น คือพระสหายสนิทแห่งพระชนกนาถ ของข้าพเจ้าเอง ท่านท้ังสองได้เจรจาตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ใน การทีจ่ ะใหข้ า้ พเจ้าและเจ้าหญิงจุฬารตั นอ์ ภิเษกสมรสกนั ‘ลูกรัก’ พระบิดาตรัสในที่สุด ‘เช่ือพ่อเถอะ ลูกควรจะ อภิเษกกับเจ้าหญิงจุฬารัตน์ เพ่ือความสมบูรณ์ถูกต้องเหมาะสม แหง่ ราชบลั ลงั กห์ สั ตนิ าปรุ ะตอ่ ไปภายหนา้ และลกู ทงั้ สอง คอื หมาย ถงึ หลานจฬุ ารตั นด์ ว้ ย จะเปน็ เสมอื นฉตั รแกว้ แหง่ แควน้ มทั ทะและ ปญั จาละ แตไ่ มเ่ ป็นไร ยงั มีเวลาอยู่อีก ลกู ไปคดิ เสยี ให้ด’ี ข้าพเจ้าออกจากที่เฝ้าด้วยความรู้สึกท่ีบอกไม่ถูก ฝ่ายหน่ึง 407 ขา้ พเจา้ รกั อกี ฝา่ ยหนงึ่ ขา้ พเจา้ ตอ้ งกตญั ญู สมเดจ็ พระราชบดิ านน้ั ข้าพเจ้ารักด้วยและกตัญญูด้วย ส่วนวิมลมานข้าพเจ้าทั้งรักและ สงสารย่ิง นึกถึงว่าข้าพเจ้าจะต้องอภิเษกกับเจ้าหญิงจุฬารัตน์ด้วย แล้ว ก็ให้รู้สึกสงสารจับใจ ดวงใจของเธอจะต้องชอกช�้ำระบมสัก เพียงใดหนอ ข้าพเจ้าคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ข้าพเจ้าจะบอกความจริง แก่นางเสียที ดังนั้น เย็นวันนั้นเอง ข้าพเจ้าคงปลอมเป็นสุรนันทะ มหาดเลก็ ไปบา้ นชา่ งทอง และไดพ้ บนางผมู้ นี ยั นต์ าคมแตห่ วาน ม ี ใบหน้าเอบิ อมิ่ นา่ รัก น่าถนอมอยูเ่ สมอ เราคงไปสนทนากนั ทส่ี วนหลงั บา้ น และทมี่ า้ หนิ ออ่ นรมิ สระ นนั้ เอง ขา้ พเจา้ มอี าการตรองอยา่ งลกึ ซงึ้ ไมร่ า่ เรงิ เหมอื นอยา่ งเคย นางเหน็ อาการดังนนั้ จงึ ถามว่า
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ ‘สุรนันทะ ท่านมีเร่ืองเดือดร้อนอะไรหรือ จึงดูหม่นหมอง ไมส่ ดชนื่ เหมอื นทเี่ คยเป็น?’ แทนท่ีจะตอบค�ำถามของนาง ข้าพเจา้ กลับถามว่า ‘ที่รัก ถ้าข้าพเจ้ามีฐานะเปล่ียนแปลงไป ท่านจะรักข้าพเจ้า อยู่หรือ?’ นางตอบให้ข้าพเจ้าช่ืนใจว่า ‘ไม่ว่าท่านจะเป็นเศรษฐี หรือ คนยาก จะเป็นคนวรรณะตระกูลใด ข้าพเจ้าก็คงรักท่านอย่างเดิม ข้าพเจ้ามิได้รักท่านตรงที่ท่านเป็นอะไรอื่น แต่รักตรงที่ท่านเป็น สุรนันทะต่างหาก’ ฟงั ดซู ทิ า่ น เธอผนู้ ชี้ อบพดู สน้ั ๆ แตม่ คี วามหมายกนิ ใจยงิ่ นกั 408 ‘มิได้รักท่านตรงท่ีท่านเป็นอะไรอื่น แต่รักตรงที่ท่านเป็นสุรนันทะ ต่างหาก’ ช่างเป็นถ้อยค�ำที่ไพเราะอ่อนหวานและนุ่มนวลเสียน ่ี กระไร ความสงสารและความเหน็ ใจประดงั ขนึ้ มาเตม็ อก แตใ่ นทส่ี ดุ เห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะปกปิดนางไว ้ เพราะในไม่ช้านางจะ ต้องทราบเร่ืองท้ังหมด ข้าพเจ้าจึงเล่าเรื่องท้ังส้ินให้นางทราบ นาง ฟงั อยา่ งตง้ั อกตง้ั ใจ ทแี รกๆ ดเู หมอื นจะตนื่ เตน้ ตกใจมาก แตแ่ ลว้ ก็ ระงบั ไว้ได้ตามวิสยั แหง่ สตรที ่ีมีความอดทนและมจี ริยางาม เธอลดตัวลงจากม้าหินอ่อน ท�ำความเคารพข้าพเจ้าเย่ียง พลเมอื งทด่ี จี ะพงึ ปฏบิ ตั ติ อ่ เจา้ ชายของตน และไมก่ ลา้ ขน้ึ มานงั่ รว่ ม แท่นอกี ขา้ พเจา้ ตอ้ งดึงแขนนางขึน้ มา พรอ้ มด้วยพูดวา่ ‘ไหนบอกวา่ รกั ขา้ พเจา้ ตรงทเ่ี ปน็ สรุ นนั ทะ มใิ ชเ่ พราะวรรณะ ตระกลู ใด?’
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า ‘แตเ่ วลาน’ี้ นางพดู เงยหนา้ มองขา้ พเจา้ มนี ำ�้ ตาเออ่ ทเี่ บา้ ตา ทง้ั สอง ‘พระองคม์ ใิ ชส่ รุ นนั ทะ แตเ่ ปน็ เจา้ ชายจตรุ งคพล รชั ทายาท แหง่ หสั ตนิ าปรุ นคร หมอ่ มฉนั เปน็ เปน็ เพยี งชาวบา้ นธรรมดาเทา่ นนั้ หมอ่ มฉนั ไมก่ ลา้ อาจเออื้ มนงั่ รว่ มแทน่ กบั พระองค ์ ขอใหห้ มอ่ มฉนั เป็นพลเมอื งที่ดขี องพระองคเ์ ถดิ ’ ขา้ พเจา้ ไมย่ อมปลอ่ ยมอื นาง และขอรอ้ งวงิ วอนใหน้ างนง่ั บน ม้าหินอ่อนอย่างเดิม สนทนากันอย่างเดิม ต้องใช้เวลาวิงวอนเสีย นาน นางจึงยอม และข้าพเจ้าก็พูดปลอบใจนางว่า ถึงจะเป็นอย่าง ไรๆ ขา้ พเจา้ คงจะรกั นางไมส่ รา่ งซา คนเดยี วทข่ี า้ พเจา้ ขอมอบหวั ใจ ท้ังหมดไว้ใหค้ ือนางนนั่ เอง และข้าพเจา้ กพ็ ูดเพม่ิ เตมิ วา่ ‘ท่ีรัก ความสุขของข้าพเจ้าท้ังหมดรวมอยู่ที่ท่าน ข้าพเจ้าจะ 409 สุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ท่านแต่ผู้เดียว ถ้าท่านโกรธหรือเกลียดข้าพเจ้า เมื่อใด ข้าพเจ้าจะมีความทุกข์เม่ือน้ัน ตราบใดท่ีท่านยังรักข้าพเจ้า อย ู่ ขา้ พเจา้ เชอื่ วา่ ขา้ พเจา้ มคี วามสขุ สขุ เพราะระลกึ วา่ ขา้ พเจา้ เปน็ คนรกั ของทา่ น ไมว่ า่ จะลำ� บากยากเขญ็ หรอื ตกอย ู่ ณ แหง่ หนตำ� บล ใด ข้าพเจ้าขอยึดเอาความรักของท่านเป็นท่ีพึ่งทางจิต ขอให้ความ รกั ของทา่ นเปน็ เพอ่ื นใจของขา้ พเจา้ อยตู่ ลอดไป ขา้ พเจา้ ขอปฏญิ าณ วา่ ขอรกั ทา่ นแตผ่ เู้ ดยี ว สำ� หรบั ดวงใจรกั นน้ั ขา้ พเจา้ ขอมอบใหท้ า่ น จนหมดสิ้น ถ้าข้าพเจ้าจะต้องอภิเษกสมรสกับผู้อ่ืน ก็ขอให้ท่าน เข้าใจว่า ข้าพเจ้าจ�ำใจต้องท�ำ เพราะเกรงพระทัยพระชนกนาถผู้มี พระคุณล้นเกล้าต่อข้าพเจ้า หน้าที่นั้นข้าพเจ้าไม่อยากให้บกพร่อง ส่วนหัวใจเป็นสิทธิของข้าพเจ้าแต่ผู้เดียว ข้าพเจ้าขอมอบดวงใจ ดวงนีไ้ วใ้ นความคมุ้ ครองท่านด้วย’
๓๓ ไ ม่ มี ค ว า ม สุ ข ใ ด เ ส ม อ ด้ ว ย ค ว า ม ส ง บ 410 และแลว้ ขา้ พเจา้ กข็ ออนญุ าตจบั หตั ถเ์ บอ้ื งขวาของนางชขู นึ้ เสมออก ของข้าพเจ้า แสงอันเรืองอุไรของทินกรเมื่อจวนย�่ำสนธยาสาดมา กระทบมือนาง มองดูสะอาดสุกใสประดุจแผ่นทองค�ำ ข้าพเจ้าก ็ ก้มลงจุมพิตเพียงแผ่วเบา ถ่ายปราณและความรู้สึกท้ังมวลลงบน หลงั หตั ถแ์ ละองคลุ ที สี่ วยงาม และไดน้ ำ� หตั ถน์ น้ั มาวาง ณ อรุ ประเทศ เบ้ืองซ้ายของข้าพเจ้า เป็นท�ำนองมอบหัวใจให้อยู่ในอุ้งมือของนาง เป็นหัวใจที่แท้จริง และเต็มไปด้วยความรู้สึก ส่วนหัวใจท่ีผู้อื่น จะเอาไปนน้ั เปน็ หวั ใจทต่ี ายซาก เหมอื นกลว้ ยทย่ี นื ตน้ ตาย เมอ่ื ถกู ตดั เครอื ออกแล้ว
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า 411
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ สาวนอ้ ยไดโ้ อนออ่ นผอ่ นตาม คำ� พดู และอาการของขา้ พเจา้ ทำ� ใหน้ างสงสารอยา่ งจบั จติ ประดจุ อสรพษิ งเู หลอื มรา้ ยถกู มดั รดั กาย ดว้ ยใยกลว้ ยตานี กพ็ ลนั นอนสงบนง่ิ จดุ ออ่ นของมวลนารอี ยตู่ รงท่ ี ถูกเว้าวอนด้วยค�ำหวาน วันเวลาท่ีจะคบกันอย่างนี้ เหลืออยู่น้อย เตม็ ทแี ลว้ ความพลดั พรากจะมาถงึ ในไมช่ า้ จงึ ตามใจขา้ พเจา้ เสมอื น เพชฌฆาตตามใจนกั โทษประหารในวันสดุ ทา้ ย ดงั นน้ั นางจงึ เอยี งศรี ษะลงวางบนไหลเ่ บ้อื งซ้ายของข้าพเจ้า อย่างนุม่ นวล เหมือนพระพายกระพือพัดเมฆามากระทบไหล่เขาก ็ ปานกนั รสสมั ผสั ทนี่ มุ่ นวลเยา้ ยวนใหเ้ กดิ ความวาบหวามในดวงจติ แสดงฤทธ์ิออกมาเป็นการเคล้าเคลียอย่างถนอม ท่านอย่าพึงนึก 412 โทษวิมลมานเลยว่าเหมือนหญิงใจง่าย ถ้าท่านเคยมีความรัก ท่าน จะเห็นใจผทู้ ตี่ กอยูใ่ นหว้ งรักว่ากระวนกระวายสักปานใด ‘องค์ชาย’ นางพูด ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงสะท้อน จากภเู ขา ‘หมอ่ มฉนั ไมม่ หี วั ใจจะรกั ใครไดอ้ กี แลว้ นอกจากองคช์ าย เพียงผูเ้ ดียว ผเู้ ดยี วเท่านั้น’ ‘น้องหญิง’ ข้าพเจ้าพูด ‘ขอให้ข้าพเจ้าเรียกท่านว่าน้องหญิง เถิด เป็นค�ำที่ไพเราะนุ่มนวล ข้าพเจ้าขอสัญญาอีกคร้ังว่า ข้าพเจ้า ขอมอบดวงใจนี้ให้น้องหญิงเพียงผู้เดียว ความรักของข้าพเจ้าที่ม ี ต่อน้องหญิงน้ันมากล้นเกินที่จะสรรหาค�ำใดมาพูดให้เหมือนความ รู้สึกของดวงใจได้ ขอให้น้องหญิงรับทราบไว้ว่า ความรักท้ังหมดที่ ขา้ พเจา้ มตี อ่ สงิ่ ใดๆ ในโลกน ้ี เมอ่ื นำ� มารวมกนั แลว้ ยงั ไมเ่ ทา่ ความรกั ที่ข้าพเจ้ามีต่อน้องหญิง ถ้าข้าพเจ้าจ�ำต้องแต่งงานกับหญิงอื่น ก็ เป็นเพราะความรู้สึกกตัญญู อยู่ในโอวาทของสมเด็จพระราชบิดา
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า ผมู้ พี ระคณุ ลน้ เกลา้ แตค่ วามรกั ขา้ พเจา้ ไดม้ อบใหน้ อ้ งหญงิ หมดแลว้ การแต่งงานจึงเป็นเพียงหน้าท่ี ส่วนความปรารถนาแห่งดวงใจนั้น เป็นเรือ่ งทีใ่ ครบังคับกันไมไ่ ด้’ ‘ขอขอบพระคณุ องคช์ าย ทกี่ รณุ าประทานเกยี รตใิ หห้ มอ่ มฉนั มากถงึ ปานน้ี ชาตนิ ห้ี มอ่ มฉนั อาภพั อบั โชค สงิ่ ทหี่ มอ่ มฉนั ตอ้ งการ มักไม่ค่อยได้ แต่สิ่งที่พยายามหลีกหนีมักจะมีมาหาอยู่เสมอๆ เพียงได้สดับพระด�ำรัสขององค์ชายเท่าน้ี หม่อมฉันก็ช่ืนใจแล้ว อยา่ งน้อยเกดิ มาชาตหิ นงึ่ ก็มคี นทรี่ ักหม่อมฉนั จรงิ ๆ และผู้นั้นเปน็ ผู้สูงศักดิ์ต่อไปภายหน้าจะเป็นจอมคนในแผ่นดิน ส�ำหรับความรัก ของหมอ่ มฉนั ทมี่ ตี อ่ องคช์ ายนนั้ ไดข้ นึ้ ถงึ ทส่ี ดุ จะไมข่ นึ้ และไมล่ ดอกี คงจะรกั ษาอยใู่ นระดบั น ี้ ความสขุ ของหมอ่ มฉนั อยทู่ ไ่ี ดร้ กั องคช์ าย 413 และทราบว่าองค์ชายรักหม่อมฉันเหมือนกัน’ นางพูดเท่าน้ีแล้วก็ ก้มหนา้ นิ่งอยู่ ‘ความสุขของข้าพเจ้าก็อยู่ที่ได้รักน้องหญิง และทราบว่า นอ้ งหญงิ กร็ กั ขา้ พเจา้ ตอบ ขา้ พเจา้ ไมต่ อ้ งการอะไรอกี แลว้ รชั สมบตั ิ ในปฐพมี ณฑลนร้ี วมกนั ยงั ไมม่ คี า่ เทา่ นอ้ งหญงิ ขา้ พเจา้ ไมป่ รารถนา สง่ิ ใดๆ ที่ไม่มนี อ้ งหญิงรวมอยดู่ ้วย’ วมิ ลมานเงยหนา้ ขนึ้ แววแหง่ ปตี ฉิ ายออกมาจากใบหนา้ และ แววตาของนาง แต่ถึงกระน้ันก็ยังมีน้�ำตาพร่างพรายอยู่ท่ีเบ้าตา ท้ังสอง แต่ไม่ประหลาดเลยใช่ไหมท่าน ผู้หญิงนั้นดีใจก็ร้องไห ้ เสยี ใจกร็ อ้ งไห ้ เหมอื นผชู้ ายสว่ นใหญด่ ใี จกด็ ม่ื เมรยั เสยี ใจกด็ ม่ื สรุ า เลยไม่รู้ว่าเขาด่ืมเพราะดีใจหรือเสียใจกันแน่ ท�ำงานเหนื่อยมาก ก็ด่ืมสุรา อ้างว่าเพื่อบ�ำบัดความระโหยให้ซาสร่าง เมื่อว่างมาก
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ เกินไปกด็ ื่มสรุ า โดยอ้างวา่ ไมท่ ราบจะท�ำอะไร ข้าพเจ้าประคองเธอให้ซบลงที่แผ่นอก เหมือนพ่อนกหรือ แม่นกกางปีกออกปกป้องลูกน้อยซึ่งส่ันสะท้านเพราะลมหนาว สาวน้อยธิดาช่างทองผู้มีนามว่าวิมลมานมีอาการเหมือนคนเริ่ม เจ็บไข้ อย่างนี้เองดรุณีวัยก�ำดัดผู้ไม่เคยรู้สัมผัสเชิงชู้สาว เร่ิมรู้สึก ร้อนๆ หนาวๆ เมอื่ ถูกชม ‘ข้าแต่ท่านผู้บ�ำเพ็ญตบะ เร่ืองของข้าพเจ้าถ้าจะเล่าให้ค่อน ขา้ งละเอยี ด ทา่ นจะตอ้ งทนฟงั ถงึ ๒ หรอื ๓ คนื เวลานกี้ จ็ วนจะถงึ ก่ึงมัชฌิมยามแล้ว ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านพักผ่อนบ้าง จึงขอเล่า อย่างรวบรัดว่าข้าพเจ้าและวิมลมานต่างสัญญาว่าจะรักกัน แม้จะ 414 ครองกันแต่เพยี งใจกต็ าม ในทสี่ ดุ พธิ มี งคลอภเิ ษกสมรสของขา้ พเจา้ กบั เจา้ หญงิ จฬุ ารตั น์ แห่งสาคลนครก็มาถึง พิธีมโหฬารปานว่าจะมีมหรสพทั่วแคว้น ปญั จาละ ประชาชนในชนบทมากหลายเดนิ ทางมาสนู่ ครหลวงหสั ตนิ า ปรุ ะเพอื่ ชมพธิ อี ภเิ ษก และโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ชมเจา้ หญงิ จฬุ ารตั น ์ ผู้นามกระเดื่องว่างามเลิศปานนางฟ้า ธงทิวปลิวไสว มีไฟหลากส ี หอ้ ยยอ้ ยระยา้ ทกุ ถนนหนทางประดบั ประดาอยา่ งวจิ ติ รเพรศิ พราย มเี สยี งชโยโหร่ อ้ งแสดงความยนิ ดปี รดี าอยเู่ ปน็ ระยะๆ ความงดงาม อำ� ไพพรรณในวนั อภเิ ษกสมรสของขา้ พเจา้ นนั้ สดุ ทจี่ ะนำ� มาพรรณนา ได้ ขอให้ขา้ พเจา้ เลา่ ขา้ มไปเถดิ แตส่ ิ่งหนง่ึ ซง่ึ ข้าพเจา้ เล่าขา้ มไมไ่ ด้ คือความสงสารและเห็นใจวิมลมาน ในขณะท่ีคนท้ังหลายก�ำลัง สนุกกันนั้น ใครเล่าจะซึมเศร้าและหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวเท่า วิมลมาน และข้าพเจ้าเองก็ไม่มีอารมณ์อันบรรเจิดเฉิดฉายเย่ียง
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า คู่สมรสอ่ืนๆ แม้จะพยายามอ�ำพรางกิริยาให้ร่าเริงสักเพียงใดก ็ ไมส่ ำ� เรจ็ ทา่ นผบู้ ำ� เพญ็ ตบะ ขา้ พเจา้ มไิ ดถ้ อื วมิ ลมานเปน็ เพยี งเพอ่ื น อารมณ์ แต่ข้าพเจ้าถือเธอเป็นเพ่ือนใจ เมื่อขาดเธอเสียแล้ว จิตใจ ของขา้ พเจ้าจะเปน็ ประการใด ขอใหท้ ่านได้โปรดตรองดเู ถดิ เจา้ หญงิ จฬุ ารตั นเ์ ปน็ สตรที ส่ี วยงามสมคำ� เลอื่ งลอื นอกจากน ี้ ยังมีพระอัธยาศัยงามน่ารัก แต่ความรักของข้าพเจ้าได้มอบให้ธิดา ช่างทองเกล้ียงหัวใจเสียแล้ว ประกอบกับความสงสารท่ีคิดว่าเธอ จะระทมเศร้าสกั ปานใด ในเหตุการณค์ รั้งน้ีดว้ ยแลว้ ทำ� ใหข้ า้ พเจา้ เห็นการเอาอกเอาใจของเจ้าหญิงจุฬารัตน์เป็นเร่ืองร�ำคาญ ถ้า เจา้ หญงิ จฬุ ารตั นส์ นทิ สนมกบั ขา้ พเจา้ อยา่ งนอ้ ง ขา้ พเจา้ จะรกั นอ้ ง คนน้เี ปน็ ทีส่ ุด รักอยา่ งนอ้ งนะทา่ น คนเราคบกนั ไดร้ กั กนั ไดห้ ลายฐานะ อยา่ งเพอ่ื นอยา่ งพอ่ี ยา่ ง 415 นอ้ ง ตอ้ งคอยดสู งั เกตดใู หด้ วี า่ เขาหยบิ ยน่ื ความสนทิ สนมใหเ้ ราใน ฐานะใด ถา้ เขาหยบิ ยน่ื ความสนทิ สนมใหเ้ ราในฐานะเพอื่ น แลว้ เรา ไปแสดงทา่ ทแี บบคนรกั เขา้ เขาอาจจะรงั เกยี จขน้ึ มาทนั ที ความเปน็ เพ่ือนก็พลอยเสียไปด้วย หรือเขารักเรานับถือเราอย่างพ่ีอย่างน้อง ก็ท�ำนองเดียวกัน แต่ทั้งนี้ข้าพเจ้ามิได้ปฏิเสธเร่ืองการแปรสภาพ ของความรกั หมายความวา่ ความรกั อยา่ งเพอื่ นอยา่ งญาตใิ นขน้ั ตน้ อาจจะแปรสภาพเป็นความรักอย่างคนรักในข้ันต่อมา เร่ืองจะเป็น ประการใด กิริยาท่ีแสดงออกเป็นเคร่ืองบ่งอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ถ้า เขาตอ้ งการจะคบกบั เราในขอบเขตจำ� กดั เรากอ็ ยา่ แสดงอะไร อยา่ ท�ำอะไรให้เลยขอบเขตที่ฝ่ายหน่ึงต้องการ เพราะการท�ำเลยขอบ เขตน้ันนอกจากจะก่อความร�ำคาญให้เขาแล้ว เมื่อหลายคร้ังหลาย
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ หนเข้า เขาอาจจะเบ่ือหน่ายและเกลียดชังเอาก็ได้ จึงกลายเป็น เรื่องไม่อยากพบ ไม่อยากเข้าใกล้ เพราะเกรงจะถูกเอาอกเอาใจ น่าร�ำคาญ สภุ าษิตมีอยู่ว่า “จงใหเ้ ทา่ ที่เขาตอ้ งการ และจงท�ำเทา่ ท่ ี เขาตอ้ งการใหท้ �ำ” เมือ่ ไดค้ วามพอเหมาะพอดีทุกอย่างก็เรยี บรอ้ ย ขา้ พเจา้ อยรู่ ว่ มดว้ ยเจา้ หญงิ จฬุ ารตั นเ์ ปน็ เวลา ๒ ป ี ทา่ มกลาง ความนิยมชมช่ืนของสมเด็จพระราชบิดา และพระประยูรญาต ิ แต่ด้วยความหงอยเหงาเปล่าเปล่ียวของข้าพเจ้า เราไม่มีโอรส หรือธิดาด้วยกันเลย คราวน้ีผู้ใหญ่ก็เดือดร้อนอีก แต่ข้าพเจ้า ไม่เดือดร้อน วนั หนง่ึ เมอื่ ตะวนั บา่ ยคลอ้ ยไปมากแลว้ เราทง้ั สอง หมายถงึ 416 เจา้ หญงิ และขา้ พเจา้ กา้ วลงสอู่ ทุ ยาน เพอ่ื พกั ผอ่ นและเดนิ เลน่ เยน็ ๆ ใจ ในขณะที่เดินมาถึงพุ่มไม้แห่งหน่ึง งูใหญ่เลื้อยออกมา เจ้าหญิง ตกพระทัยมากจนสุดจะยับย้ัง เธอวิ่งหนีงูและบังเอิญพระชงฆ์ไป กระแทกเขา้ กบั แงห่ นิ กอ้ นหนงึ่ ซงึ่ วางไวเ้ ปน็ รปู ตา่ งๆ ประดบั แอง่ นำ�้ ในอุทยานเป็นบาดแผลเพียงเล็กน้อย พระโลหิตไหลซึมออกมา ข้าพเจา้ เขา้ ประคองนางและนำ� กลบั สู่พระราชฐาน ตอ่ มาบาดแผลเพยี งเลก็ นอ้ ยคอ่ ยขยายโตขนึ้ แผลลกึ ลงไปๆ ทลี ะนอ้ ย แพทยห์ ลวงพยายามรกั ษาเทา่ ไรกไ็ มห่ าย ความเจบ็ ปวด รวดรา้ วเพม่ิ ทวขี นึ้ ทกุ วนั ปากแผลเรม่ิ เขยี วและขอบแผลแขง็ ความ ทุกข์ทรมานแห่งเจ้าหญิงจุฬารัตน ์ ท�ำให้ข้าพเจ้าปวดร้าวใจไปด้วย วมิ ลมานทราบขา่ วนว้ี ติ กกงั วลยงิ่ นกั เธอขออนญุ าตเขา้ เยยี่ มเจา้ หญงิ ดว้ ยความหว่ งใย ดซู ทิ า่ น นำ้� ใจแหง่ วมิ ลมานซง่ึ ขา้ พเจา้ มอบความรกั ให้ เธอไม่ผูกพยาบาทแม้ในสตรีซึ่งมาแย่งคนรักของตน ในท่ีสุด
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า เจ้าหญิงจุฬารัตน์ก็ส้นิ พระชนม์ดว้ ยโรคน้ี การสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงจุฬารัตน์ ก่อให้เกิดความ สะเทอื นใจแกข่ า้ พเจา้ อยา่ งมาก แมข้ า้ พเจา้ จะมไิ ดร้ กั พระนางอยา่ ง ทรี่ กั วมิ ลมาน แตค่ วามสงสารในดวงจติ กม็ มี ากอยู่ ทา่ นเอย แมแ้ ต่ สุนัขท่ีมันจงรักภักดีต่อเรา เราก็ยังอดสงสารมันมิได้ แล้วมนุษย์ท ่ี เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติเม่ือมาจงรักภักด ี เราจะไม่มีนำ้� ใจนึกถึง เขาบ้างเทียวหรือ ตลอดเวลาท่ีนางมีก�ำลังกายอ่อนลงๆ น้ัน แวว พระเนตรฉายแตค่ วามภกั ดอี อกมาอยา่ งชดั เจน ขา้ พเจา้ อยเู่ ฝา้ ใกล้ พระนางตลอดเวลา คอยปลอบพระทัย แต่พระนางก็ดูเหมือนจะ ทรงทราบดีว่า ความรักที่ข้าพเจ้ามีต่อพระนางน้ันน้อยเกินไป เม่ือ เทียบกับความรักและภักดีท่ีพระนางมีต่อข้าพเจ้า พระนางพร่�ำ 417 ร�ำพันถึงแต่ชื่อของข้าพเจ้าเสมือนเป็นเทพเจ้าประจ�ำองค์ อนิจจา จฬุ ารตั น์ ถา้ เธอมากอ่ นวมิ ลมาน เธอจะไดร้ บั ความรกั จากขา้ พเจา้ มใิ ชน่ อ้ ย แต่เธอเขา้ มาเมอ่ื หัวใจของขา้ พเจา้ ไมว่ ่างเสียแล้ว เวลาล่วงไป ๖ เดือน ข้าพเจ้ากราบทูลสมเด็จพระราชบิดา เพอื่ ขอพระบรมราชานมุ ตั ทิ ำ� การอภเิ ษกสมรสกบั วมิ ลมาน พระองค์ ทรงอนญุ าตแม้จะไม่ส้จู ะเต็มพระทัยนกั กต็ าม ตลอดระยะเวลา ๒ ปีท่ีผ่านมา ข้าพเจ้าและวิมลมานมิได้พบกันเลย แต่ความรักของ เรายังคงแนบสนิทดังเดิม เม่ือเจ้าหญิงจุฬารัตน์สิ้นพระชนม์แล้ว ข้าพเจ้าและวิมลมานจึงได้พบกัน ความสดช่ืนกลับมาสู่ดวงใจของ เราทั้งสองอีกคร้ังหน่ึง เรามิได้ดีใจในการจากไปของเจ้าหญิงจุฬา- รตั น ์ แตเ่ ราก็พอใจทีไ่ ดม้ โี อกาสมาคบกันอย่างที่เคยมา
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ ระยะเวลา ๒ ปีเศษ ท�ำให้วิมลมานเป็นผู้ใหญ่ข้ึน และเคร่ง ขรึมลงมาก ไม่ร่าเริงเหมือนก่อน แต่ยังคงอ่อนหวานนุ่มนวลอย่าง เดมิ เมอ่ื วมิ ลมานเขา้ อยใู่ นพระราชวงั แลว้ โดยพระบรมราชานมุ ตั ิ ของสมเดจ็ พระราชบดิ า สถาปนาใหเ้ ธอเปน็ เจา้ หญงิ วมิ ลมาน รสู้ กึ เธอมคี วามสขุ ขนึ้ และสดใสยงิ่ ขนึ้ แตเ่ รอื่ งหนงึ่ ซงึ่ ทำ� ความลำ� บากใจ แก่ข้าพเจ้าอยู่เสมอ คือการประชดประชันกระทบกระแทกเสียดส ี จากพระญาติบางพระองค์ ซ่ึงยังคงฝังพระทัยแน่นอยู่กับเรื่องเช้ือ สายสกุลวงศ์ เนื่องจากวิมลมานมาอยู่ในพระราชวังเสียนาน เสวยแต่ของ 418 ซงึ่ คนุ้ แตก่ บั ลนิ้ ของชาววงั บางครง้ั จงึ อยากเสวยอาหารซงึ่ ปรงุ อยา่ ง ธรรมดาเหมือนอย่างที่เคยเสวยเมื่ออยู่บ้านช่างทองบ้าง ก็สั่งคน ห้องเครื่องให้ปรุงอย่างท่ีเธอปรารถนา พร้อมทั้งบอกวิธีไปให้เสร็จ เม่ือต่อหน้าเขาก็รับค�ำและเคารพนบนอบดี แต่พอลับหลังจึงแอบ เอาไปซุบซิบนินทากันว่าเป็นชาติไพร่ ปรุงอาหารให้กินดีๆ ก็ไม ่ อยากกิน อยากกินของเลวๆ คนชาติไพร่จะยกข้ึนมาอย่างไรก็ไม ่ วายด้ินรนลงไปหาท่ีต่�ำอีก พูดไปด่าว่าเสียดสีไป พร้อมด้วยออก นามเจ้าหญิงอันเปน็ ท่ีรักของข้าพเจา้ บังเอิญวันหนึ่ง ขณะที่คนห้องเครื่องก�ำลังพูดกันอยู่น้ัน ข้าพเจ้าและวิมลมานมีกิจธุระบางอย่างท่ีจะต้องเดินผ่านทางห้อง เครื่องไป ได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน ข้าพเจ้าถึงกับตกตะลึงไม่นึก ว่าจะได้ยินค�ำพูดอย่างน้ีจากคนห้องเคร่ือง วิมลมานเม้มริมฝีปาก แน่น เหมือนจะข่มความรู้สึกเร่าร้อนให้จมหายลงไป ข้าพเจ้าเรียก
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า คนหอ้ งเครอ่ื งออกมาพบ และสง่ั ใหท้ ำ� อาหารอยา่ งทวี่ มิ ลมานสงั่ ให ้ ข้าพเจ้าเปน็ เวลา ๗ วนั และทกุ ๆ มอื้ ด้วย วมิ ลมานเดนิ ตอ่ ไปไมไ่ หว จงึ กลบั เขา้ หอ้ งดว้ ยดวงใจทเี่ ตม็ ไป ดว้ ยโทมนสั เธอฟบุ ลงทห่ี มอนและรอ้ งไห้ เพอ่ื นทป่ี ลอบใจผหู้ ญงิ ได ้ เสมอ เมื่อประสบทุกข์โทมนัสอย่างรุนแรงคือนำ้� ตา ข้าพเจ้าปลอบ เธอ ขอร้องเธอไมใ่ หถ้ ือค�ำพดู พลอ่ ยๆ ของหญงิ พวกนนั้ ‘หม่อมฉันอยากกลับไปอยู่บ้าน จะอย่างไรๆ มันก็เคยให้ ความสขุ แกห่ มอ่ มฉนั มาตง้ั แตน่ อ้ ยคมุ้ ใหญ ่ ถา้ หมอ่ มฉนั รกั พระองค ์ นอ้ ยกวา่ น ้ี หมอ่ มฉนั คงไมต่ อ้ งทนทกุ ขท์ รมานอยอู่ ยา่ งน ้ี สง่ิ เดยี วที่ คอยปลอบใจหมอ่ มฉนั ใหม้ คี วามสขุ อยบู่ า้ ง คอื ความรกั ความถนอม ของพระองค ์ ความรกั มนั ใหค้ วามทรมานทง้ั สมหวงั และผดิ หวงั เมอื่ 419 ความรักสมหวังแล้ว เร่ืองก็น่าจะจบ แต่เร่ืองของโลกช่างมากเสีย จรงิ ๆ’ นางพดู ดว้ ยเสยี งสะอนื้ ‘อดทนหน่อย ที่รัก’ ข้าพเจ้าพูดปลอบโยน ‘โอกาสแห่ง ความสุขอย่างแท้จริงของเราท้ัง ๒ คน คงมีสักวันหน่ึงเป็นแน่แท ้ ความรักมีความศักดิ์สิทธ์ิอยู่ในตัวของมัน เรายึดมั่นในความรัก และรกั ษาความสจุ รติ ไว ้ แลว้ มนั จะคอ่ ยๆ ทำ� ลายอปุ สรรคสงิ่ กดี ขวาง ไปไดเ้ อง’ อีก ๒ ปีที่ข้าพเจ้าอภิเษกสมรสกับวิมลมาน แต่ไม่ปรากฏ ร่องรอยว่าจะมีโอรสหรือธิดาเลย คราวน้ีข้าพเจ้าเดือดร้อนกังวล มาก วิมลมานก็เดือดร้อนไม่น้อยกว่าข้าพเจ้า สมเด็จพระราชบิดา ก็เร่งเร้าอยู่เสมอ ว่าถ้าวิมลมานไม่สามารถมีโอรสได้ ก็จะหาสตรี อ่ืนมาให้ข้าพเจ้าเพ่ือมีโอรสสืบสันตติวงศ์ แต่พอย่างเข้าปีที่ ๓
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ วิมลมานก็ตั้งครรภ์ น�ำปีติปราโมชมาให้ข้าพเจ้าอย่างใหญ่หลวง พวกเราส่วนใหญ่ยังเช่ือกันอยู่ว่า ผู้ไม่มีบุตร เมื่อตายแล้วจะต้อง ตกนรกขมุ ปตุ ตะ ขา้ แตท่ า่ นผบู้ ำ� เพญ็ พรตในเรอ่ื งน ้ี ทา่ นหรอื ศาสดา ของท่านมีความคดิ อยา่ งไร?” “ดูกอ่ นราชกมุ าร” อานนท์กลา่ วตอบ “บุคคลบางพวกเดอื ด ร้อนเพราะว่าไม่มีบุตร บางพวกเดือดร้อนเพราะมีบุตรมากเกินไป บางพวกถือว่าผู้มีบุตรย่อมได้รับความบันเทิงเริงใจเพราะบุตร ผู้มี โคย่อมได้รับความบันเทิงเพราะโค บุคคลจะบันเทิงได้ก็เพราะม ี สงิ่ ยดึ ถอื เมอ่ื ไมม่ สี งิ่ ยดึ ถอื ความบนั เทงิ เรงิ ใจกไ็ มม่ ี แตพ่ ระศาสดา ของข้าพเจ้าตรสั ว่า 420 ‘ผ้มู ีบตุ รยอ่ มเศรา้ โศกเพราะบุตร ผมู้ โี คยอ่ มเศรา้ โศกเพราะโค บคุ คลยอ่ มเศร้าโศกเพราะมีสิ่งยดึ มัน่ ถอื ม่ัน เมอื่ ปลอ่ ยวางไดแ้ ลว้ ไมย่ ดึ มนั่ ถอื มนั่ ความทกุ ขก์ ไ็ มม่ ี ความ โศกกส็ ิ้นสญู ’” พระอานนท์กล่าวจบ พระราชกุมารจตุรงคพลมีพระพักตร์ ตรองอยูค่ รหู่ นงึ่ แลว้ เลา่ ต่อไปว่า “ข้าแต่ท่านผู้บ�ำเพ็ญตบะ เม่ือวิมลมานมีครรภ์ได้ ๗ เดือน เธอสุบินนิมิตประหลาด คือสุบินว่าเธอได้เสวยแผ่นดินในแคว้น ปญั จาละและแควน้ ใกลเ้ คยี งหมดสน้ิ ถงึ กระนน้ั กย็ งั ไมอ่ มิ่ ยงั อยาก เสวยอกี โหราจารยท์ ำ� นายวา่ พระนางจะมโี อรสเปน็ ชาย และโอรส นั้นประสูติมาเพื่อจะเผาผลาญแผ่นดินให้วอดวาย แต่มีวิธีแก้อยู ่ อยา่ งหนง่ึ คอื ใหพ้ ระนางไปประสตู ใิ นปา่ ใกลแ้ มน่ ำ้� คอื ปา่ นนั้ จะตอ้ ง
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า อย่รู ิมแมน่ ้�ำดว้ ย สมเด็จพระราชบิดาทรงทราบข่าวน้ีด้วยความหนักพระทัย แตท่ รงใหป้ ฏบิ ตั ติ ามทโ่ี หราจารยท์ ำ� นาย ประการหนงึ่ อยทู่ พ่ี ระองค ์ ไม่สู้จะโปรดวิมลมานเป็นทุนอยู่แล้ว คราวนี้ข่าวก็แพร่สะพัดไปว่า วิมลมานเป็นกาลีบ้านกาลีเมือง จะมีโอรสมาเผาผลาญแผ่นดิน ท้ังน้ีเทวดาประจ�ำเศวตฉัตรคงจะลงโทษเพราะวิมลมานไม่มีเลือด กษัตริย์ เป็นหญิงธรรมดา เม่ือวิมลมานจ�ำต้องออกจากพระนคร ไปอยู่ป่า ข้าพเจ้าก็ต้องไปด้วย ข้าพเจ้าออกมาส�ำรวจสถานที่ และ พอใจที่ซ่ึงท่านและข้าพเจ้าก�ำลังอาศัยอยู่เวลานี้ มหาดเล็กของ ข้าพเจ้าผู้จงรักภักดีได้ช่วยกันปลูกสร้างกระท่อมและแผ้วถางทาง พอสบาย วมิ ลมานรสู้ กึ มีความสขุ มากขน้ึ เมื่อมาอยใู่ นป่าเสยี ได้ 421 เม่ือวิมลมานประสูติพระโอรสแล้ว เรื่องจึงแจ่มแจ้งข้ึนว่า เรอ่ื งทโ่ี หรท�ำนายวา่ ลกู ของขา้ พเจา้ จะเกดิ มาเพอื่ เผาผลาญแผน่ ดนิ นน้ั เปน็ เรอ่ื งการยยุ งของผซู้ งึ่ เกลยี ดชงั วมิ ลมานอยา่ งทส่ี ดุ และให ้ สนิ บนโหราจารยอ์ ยา่ งมาก สมเดจ็ พระราชบดิ ารบั สง่ั วา่ เมอ่ื ประสตู ิ แล้วให้เสด็จกลับพระนคร แต่ทั้งข้าพเจ้าและวิมลมานตกลงใจจะ ไมก่ ลบั เสยี แลว้ เราพอใจดว้ ยความสขุ อยา่ งสงบในปา่ น ้ี ขา้ พเจา้ เคย พบฤๅษผี สู้ ำ� เรจ็ วชิ าชน้ั สงู สามารถดอู นาคตไดเ้ หมอื นมองเหน็ ภาพ ในกระจกใส และเลา่ เรอื่ งสบุ นิ นมิ ติ ของวมิ ลมานใหท้ า่ นทราบ ทา่ น พูดว่าความจริงจะกลับตรงกันข้ามกับที่โหรท�ำนาย คือลูกชายของ ข้าพเจ้าจะเป็นใหญ่เป็นโตในกาลภายหน้า จะน�ำความรุ่งเรืองมาสู ่ แคว้นปัญจาละและแคว้นใกล้เคียง โดยวิธีซึ่งไม่เคยมีกษัตริย์องค์ ใดเคยทำ� มากอ่ นเลย”
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ “ข้าแต่ท่านผู้บำ� เพ็ญตบะ” พระราชกุมารตรัส “ข้าพเจ้าเบ่ือ พระนครหลวง เบื่อความวุ่นวาย สับปลับของสังคม ความแก่งแย่ง แข่งดีและใส่ร้ายป้ายสีในสังคม ซึ่งมุ่งมั่นแต่จะแสวงหาประโยชน์ ของตน โดยไม่ค�ำนึงถึงความเดือดร้อนของใครอ่ืนเลย ข้าพเจ้าถือ เป็นโชคของชีวิตอย่างใหญ่หลวงที่ได้อาศัยอยู่ ณ ที่น้ี ข้าพเจ้ามี ความสุข เพราะไม่ต้องเป็นทาสของใคร เป็นอิสระอย่างแท้จริง ม ี อีกหลายแง่หลายมุมท่ีข้าพเจ้าปรารถนาจะเล่าสู่ท่านฟัง แต่เวลาก ็ ล่วงเลยมาแล้ว ข้าพเจ้าใคร่จะฟังโอวาทจากท่านผู้ทรงศีลพอเป็น มงคลแก่โสต และเป็นอาภรณ์ประดับใจ” พระราชกุมารตรัสดังน้ ี แล้วประทับเฉยอยู่ 422 ปลายมชั ฌมิ ยามแลว้ แสงจนั ทรส์ ลวั สอ่ งเขา้ มาทางหนา้ ตา่ ง มองออกไปภายนอกเห็นเงาไม้ซ่ึงอยู่ไกลตะคุ่มๆ เสียงไก่ป่าขัน เจื้อยแจ้ววิเวกวังเวง เสียงน�้ำค้างตกถูกใบไม ้ เมื่อพระพายพัดผ่าน เปน็ ครง้ั คราวดงั เปาะๆ พระพทุ ธอนชุ าผปู้ ระเสรฐิ กระชบั อตุ ตราสงค ์ ใหแ้ นบกายแล้วกลา่ วว่า “ราชกุมาร พระศาสดาของข้าพเจ้าตรัสไว้ว่า ‘ไม่มีความสุข ใดเสมอดว้ ยความสงบ’ ความสขุ ชนดิ นสี้ ามารถหาไดใ้ นตวั เรานเ่ี อง ตราบใดท่ีมนุษย์ยังวิ่งวุ่นแสวงหาความสุขจากท่ีอ่ืน เขาจะไม่พบ ความสุขท่ีแท้จริงเลย มนุษย์ได้สรรค์สร้างส่ิงต่างๆ ขึ้น เพ่ือล่อให้ ตวั เองวงิ่ ตาม แตก่ ต็ ามไมเ่ คยทนั การแสวงหาความสขุ โดยปลอ่ ยใจ ให้ไหลเลื่อนไปตามอารมณ์ท่ีปรารถนาน้ัน เป็นการลงทุนที่มีผล ไม่คุ้มเหนื่อย เหมือนบุคคลลงทุนวิดน�้ำในบึงใหญ่เพื่อต้องการ ปลาเล็กๆ เพียงตัวเดียว มนุษย์ส่วนใหญ่มัววุ่นวายอยู่กับเร่ืองกาม
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า เรอื่ งกนิ และเรอ่ื งเกยี รต ิ จนลมื นกึ ถงึ สง่ิ หนงึ่ ซง่ึ สามารถใหค้ วามสขุ แก่คนได้ทุกเวลา สิ่งนั้นคือดวงจิตท่ีผ่องแผ้ว เรื่องกามเป็นเรื่องที ่ ต้องด้ินรน เร่ืองกินเป็นเร่ืองที่ต้องแสวงหา และเร่ืองเกียรติเป็น เรื่องที่ต้องแบกไว้ เมื่อมีเกียรติมากข้ึน ภาระที่จะต้องแบกเกียรติ เป็นเร่ืองใหญ่ย่ิงของมนุษย์ผู้หลงว่าตนเจริญแล้ว ในหมู่ชนที่เพ่ง มองแต่ความเจริญทางด้านวัตถุน้ัน จิตใจของเขาเร่าร้อนอยู่ตลอด เวลา ไม่เคยประสบความสงบเย็นเลย เขายินดีท่ีจะมอบตัวให้จม อยู่ในคาวของโลกอย่างหลับหูหลับตา เขาพากันบ่นว่าหนักและ เหนด็ เหนอ่ื ย พรอ้ มๆ กนั นน้ั เขาไดแ้ บกกอ้ นหนิ วงิ่ ไปบนถนนแหง่ ชีวิตอย่างไม่รู้จักวาง ราชกุมารเอย คนในโลกส่วนใหญ่เต็มไปด้วย ความกลับกลอกและหลอกลวง หาความจริงไม่ค่อยได้ แม้แต่ใน 423 การนับถือศาสนา ด้วยอาการดังกล่าวน้ี โลกจึงเป็นเสมือนระงมอยู่ด้วยพิษไข ้ อันเร้ือรังตลอดเวลา ภายในอาคารที่มหึมา ประดุจปราสาทแห่ง กษตั รยิ ์ มลี มพดั เยน็ สบาย แตส่ ถานทเี่ หลา่ นนั้ มกั บรรจเุ ตม็ ไปดว้ ย คนซงึ่ มจี ติ ใจเรา่ รอ้ นเปน็ ไฟอยเู่ ปน็ อนั มาก ภาวะอยา่ งนนั้ จะมคี วาม สขุ สผู้ มู้ ใี จสงบอยโู่ คนไมไ้ ดอ้ ยา่ งไร ราชกมุ าร การแสวงหาทางออก อยา่ งทา่ นนเ้ี ปน็ เรอื่ งประเสรฐิ แท้ การแยง่ กนั เปน็ ใหญเ่ ปน็ โตนน้ั ใน ที่สุดทุกคนก็รู้เองว่าเหมือนแย่งกันเข้าไปกอดกองไฟ มีแต่ความ รุ่มร้อนกระวนกระวาย เสนาบดีดื่มน้�ำด้วยภาชนะทองค�ำ กับคน จนๆ ดื่มน�้ำด้วยภาชนะท่ีท�ำด้วยกะลามะพร้าว เมื่อมีความพอใจ ยอ่ มมคี วามสขุ เทา่ กนั ความจรงิ มนั อยทู่ คี่ ณุ ภาพของนำ�้ ไมใ่ ชค่ ณุ ภาพ ของภาชนะ นเ่ี ปน็ ขอ้ ยนื ยนั วา่ ความสขุ นนั้ อยทู่ คี่ วามรสู้ กึ ทางใจเปน็
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ ส�ำคัญ อย่างท่านอยู่ท่ีนี่มีความพอใจ แม้กระท่อมจะมุงด้วยใบไม้ ท่านก็มีความสุขกว่าอยู่ในพระราชฐานอันโอ่อ่า แน่นอนทีเดียว คนท่ีประสบความสำ� เร็จในชีวิตนั้นมิใช่คนใหญ่คนโต แต่เป็นคนที่ รสู้ กึ วา่ ชวี ติ ของตนมคี วามสขุ สงบเยอื กเยน็ ปราศจากความเรา่ รอ้ น กระวนกระวาย ราชกมุ าร ทา่ นลองเลอื กดเู ถดิ จะเอาอยา่ งไหน คอื คนพวกหนง่ึ ตำ�่ ตอ้ ยกวา่ แตม่ คี วามสขุ มากกวา่ อกี พวกหนงึ่ ยงิ่ ใหญ ่ กว่าแตม่ คี วามสขุ นอ้ ยกว่า” “ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้าต้องเลือกเอาประการแรก คือต่�ำต้อย กวา่ แต่มคี วามสุขมากกวา่ ” “ราชกมุ าร ลาภและยศนน้ั เปน็ เหยอ่ื ของโลกทน่ี อ้ ยคนนกั จะ 424 สละและวางไดห้ รอื ไดแ้ ลว้ จะไมเ่ มา จงึ มเี รอ่ื งแยง่ ลาภแยง่ ยศกนั อย ู่ เสมอ เหมอื นปลาทแ่ี ยง่ เหยอ่ื กนั กนิ ไกท่ แี่ ยง่ ไสเ้ ดอื นกนั แลว้ จกิ ตี กนั ทำ� ลายกันจนพนิ าศกันไปทั้ง ๒ ฝา่ ยน่าสังเวชสลดจิตยิง่ นัก ถ้า มนุษย์ในโลกนี้ลดความโลภลง มีการเผ่ือแผ่เจือจาน โอบอ้อมอารี ถ้าเขาลดโทสะลง มีความเห็นอกเห็นใจกัน มีเมตตากรุณาต่อกัน และลดโมหะลง ไม่หลงงมงาย ใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหาและ ด�ำเนินชีวิต โลกน้ีจะน่าอยู่อีกมาก แต่ช่างเขาเถิด หน้าท่ีโดยตรง และเร่งด่วนของเราคือ ลดความโลภ ความโกรธ และความหลง ของเราเองใหน้ อ้ ยลง แลว้ จะประสบความสขุ ความเยอื กเยน็ ขน้ึ มาก เหมอื นคนลดไขไ้ ด้มากเท่าใด ความสบายกายก็มีมากขนึ้ เท่านั้น” ขณะน้ันสตรีผู้หนึ่งเดินมาหน้ากระท่อม เธอจูงมือเด็กน้อย คนหน่ึงมาด้วย เข้ามาใกล้และนมัสการพระพุทธอนุชา พระราช- กมุ ารจตรุ งคพลจงึ แนะนำ� ขนึ้ วา่
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า “ทา่ นผบู้ ำ� เพญ็ ตบะ นค่ี อื วมิ ลมานภรรยาของขา้ พเจา้ และน ่ี คือบุตรน้อยของข้าพเจ้า” ท้ังสองนมัสการพระอานนท์อีกคร้ังหน่ึง เจา้ ชายจงึ ตรสั ถามตอ่ ไปวา่ “ทา่ นผเู้ จรญิ นามและประวตั คิ วามเปน็ มาแหง่ ขา้ พเจา้ ทา่ นกไ็ ดท้ ราบตลอดแลว้ ทำ� ไฉนขา้ พเจา้ จะไดท้ ราบ นามของทา่ นบา้ ง สำ� หรบั เรอื่ งราวของทา่ น ถา้ ทา่ นยงั ไมร่ บี จารกิ ไป ท่ีอื่น ขา้ พเจา้ คงได้ฟงั ในวันพรุ่งน้”ี “ราชกุมาร อาตมาภาพมีนามว่า ‘พระอานนท์’ อนุชาแห่ง พระมหาสมณโคดมศากยมุนี ออกบวชจากศากยตระกูล” พระราชกุมารและวิมลมานแสดงอาการตื่นเต้นยินดีเป็น อย่างยิ่ง ก้มลงกราบอีกคร้ังหนึ่งแล้วตรัสว่า “ท่านผู้ประเสริฐ เป็น ลาภและเป็นมงคลอันสูงย่ิงส�ำหรับข้าพเจ้าท่ีมงคลบาทของท่าน 425 ผู้ประเสริฐเหยียบย่างลง ณ บริเวณกระท่อมนี้ ข้าพเจ้ารู้จักนาม และเกียรติคุณของท่านดีอยู่แล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นองค์จริงเท่าน้ัน ตั้งแต่บัดนี้จวบจนสิ้นลมปราณ ข้าพเจ้าท้ังสองขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆว์ า่ เปน็ ทร่ี ะลกึ เปน็ ผนู้ ำ� ทางในการดำ� เนนิ ชวี ติ ของขา้ พเจา้ หลกั คำ� สอนในศาสนานชี้ า่ งเพยี บพรอ้ มไปดว้ ยเหตผุ ล และตรงไปตรงมาดีเหลอื เกิน” พระพุทธอนุชาอนุโมทนาต่อเจ้าชายและครอบครัว พร้อม ด้วยอวยพรให้มีความสุขความสงบ และเมื่อเขาลากลับไปยัง กระทอ่ มอกี หลงั หนง่ึ แลว้ ทา่ นกช็ กั อตุ ตราสงคข์ น้ึ คลมุ กาย หนั ศรี ษะ ไปทางทศิ อดุ ร นอนดว้ ยสหี ไสยาการตะแคงขวา ซอ้ นเทา้ ใหเ้ หลอื่ ม กัน มีสติสัมปชัญญะ ก้าวลงสู่นิทรารมณ์อันสงบสงัด ลมพัดมา เบาๆ แสงจนั ทรส์ ลวั ยงั คงสาดสอ่ งเขา้ มา มองรปู กายของพระพทุ ธ-
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ อนุชาประดจุ ก้อนทองอ�ำไพพรรณ ตลอดเวลา ๔๐ ปีหลังพุทธปรินิพพาน พระพุทธอนุชา ผปู้ ระเสรฐิ เทย่ี วจารกิ ไปโปรยปรายธรรมรตั นะ เพอื่ ประโยชนส์ ขุ แก่ มวลชนชาวชมพทู วปี แทนองคพ์ ระบรมศาสดา เกยี รตคิ ณุ ของทา่ น กึกก้องระบือไปท่ัว พร้อมๆ กันน้ัน แสงสว่างแห่งพระธรรมก็ส่อง ฉายเขา้ ไปทำ� ลายความมดื ในดวงใจของประชาชน หรอื ประหนง่ึ ฝน โปรยปรายลงมาชำ� ระล้างสิ่งโสโครกในดวงจิต คือกิเลสาสวะน้อย ใหญ ่ บคุ คลผตู้ อ้ งการไดร้ บั แลว้ ซงึ่ ความสะอาด สวา่ ง และสงบ ได้ ลม้ิ รสแหง่ ความสขุ ซงึ่ เกดิ จากธรรม เปน็ ความสขุ ซง่ึ เลศิ กวา่ สขุ ใดๆ 426
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า 427
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ ประวตั ิของ อาจารย์วศนิ อินทสระ 428 ชาติภูมิ เกดิ วนั จนั ทรท์ ี่ ๑๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๔๗๗ ท ี่ หมบู่ า้ นทา่ ศาลา อำ� เภอ รตั ตภมู ิ จงั หวดั สงขลา เมอื่ จำ� ความได ้ พอ่ แมไ่ ดย้ า้ ยไปอยทู่ ี่ หมบู่ า้ นตากแดด ตำ� บลปากรอ อ�ำเภอเมอื ง จงั หวัดสงขลา การบรรพชาอปุ สมบท บวชเป็นสามเณรเมอ่ื อายุ ๑๓ ปี ท่วี ดั บปุ ผาราม เขตธนบุร ี กรุงเทพฯ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๐ และอปุ สมบทเปน็ ภกิ ษ ุ เมอ่ื พ.ศ. ๒๔๙๗ ลาสกิ ขาเมอื่ วนั ท่ี ๒๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๗
พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า การศกึ ษา • มัธยม ๘ (สมัครสอบ) • นักธรรมเอก • เปรยี ญ ๗ (ป.ธ. ๗) • ศาสนศาสตรบณั ฑติ จาก มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลัย • ศลิ ปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาปรัชญา จาก มหาวทิ ยาลยั บาณารสั ประเทศอนิ เดีย • ปริญญาดษุ ฎีบัณฑติ กติ ตมิ ศักด ์ิ สาขาพุทธศาสตร์ จากมหาวิทยาลยั มหามกฏุ ฯ หน้าทก่ี ารงาน 429 สอนวชิ าศลี ธรรม • ทโ่ี รงเรียนราชนิ ี • ทโี่ รงเรยี นพณชิ ยการสลี ม (ดำ� รงตำ� แหนง่ อาจารย์ผูป้ กครอง) • ทโี่ รงเรยี นเตรียมทหาร และด�ำรงต�ำแหนง่ หัวหน้าแผนกสารบัญ มียศเปน็ ร้อยโท • สอนวิชาพทุ ธปรชั ญาเถรวาท-มหายาน ท่ีมหาวิทยาลยั รามคำ� แหง ประมาณ ๑๒ ป ี ตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๒๑ ถงึ พ.ศ. ๒๕๓๓ • สอนวิชาพุทธศาสนาในประเทศไทยและวิชาจริยศาสตร์ ทม่ี หาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตรป์ ระมาณ ๑๐ ป ี ตงั้ แต ่ พ.ศ. ๒๕๓๓ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๓ • สอนเกี่ยวกบั ศาสนาและปรชั ญา ท่มี หาวทิ ยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลยั ตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๐๖ ถึง พ.ศ. ๒๕๕๒ (เป็นระยะเวลา ๔๖ ปเี ต็ม)
อ . ว ศิ น อิ น ท ส ร ะ • สอนพิเศษวันอาทิตยเ์ กีย่ วกบั ความรทู้ างพระพทุ ธศาสนาแก่ ประชาชนท่วั ไป ท่ีมหาวิทยาลยั มหามกฏุ ฯ (วัดบวรนิเวศวิหาร) ตง้ั แต ่ พ.ศ. ๒๕๒๕ จนถงึ พ.ศ. ๒๕๕๓ (เปน็ ระยะเวลา ๒๘ ปเี ตม็ ) • บรรยายพเิ ศษในทตี่ า่ งๆ ตามท่ไี ดร้ บั เชญิ • บรรยายธรรมทางวทิ ย ุ โดยออกเปน็ รายการสดบา้ ง ใชเ้ ทปบ้าง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๙ จนถึง พ.ศ. ๒๕๕๐ (เปน็ ระยะเวลา ๑๑ ปเี ตม็ ) การประพันธ์ เขียนหนังสือประเภทต่างๆ เช่น นวนิยายอิงหลักธรรม อธิบายหลัก 430 ธรรม ฯลฯ ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๖ มาจนถึงปัจจุบัน มีผลงานประมาณ ๒๐๐ กวา่ ชื่อเรือ่ ง บางชือ่ เรือ่ งกม็ หี ลายเล่ม เช่น ทางแหง่ ความด ี เป็นต้น ทำ� นติ ยสาร • เปน็ บรรณาธกิ ารนติ ยสารธรรมจกั ษ ุ ของมลู นธิ มิ หามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๒๙ ถงึ พ.ศ. ๒๕๓๙ • เปน็ บรรณาธิการนติ ยสารศภุ มติ ร ของมลู นิธิส่งเสรมิ กจิ การศาสนา และมนุษยธรรม (กศม.) ของวดั มกุฏกษตั ริยาราม ต้งั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๓๔ ถงึ พ.ศ. ๒๕๕๑
รางวัลพเิ ศษ พ ร ะ อ า น น ท์ พุ ท ธ อ นุ ช า ปี พ.ศ. ๒๕๑๗ ได้รับโล่รางวัลชมเชย ประเภทสารคดี จากคณะกรรมการ จัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ จากหนังสือเรื่อง “จริยาบถ” และในป ี พ.ศ. ๒๕๑๘ จากหนงั สือเร่ือง “จรยิ ศาสตร”์ ปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ไดร้ บั รางวลั พระราชทานเสาเสมาธรรมจกั ร ในฐานะ “ผบู้ ำ� เพญ็ คณุ ประโยชนแ์ กพ่ ระพทุ ธศาสนา ประเภทวรรณกรรม” เนอ่ื งใน โอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสนิ ทร์ ๒๐๐ ปี ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ ไดร้ บั เกยี รตคิ ณุ บตั รรางวลั ชมเชย ประเภทสรา้ งสรรคด์ า้ นศาสนา จากกระทรวงศึกษาธิการ จากบทความเรื่อง “หลักกรรมกับ การพึง่ ตนเอง” ๒๒ เมษายน ๒๕๕๒ ไดร้ บั โลพ่ ทุ ธคณุ ปู การ ระดบั กาญจนเกียรตคิ ณุ พรอ้ มเกยี รต-ิ บคณตั ระ กในรรฐมานกะา ร“วผัฒบู้ นำ� เธพรญ็รมคแณุ หปง่ รชะาโตยช ิ กนรแ์ ะกทพ่ รรวะงพวฒัทุ ธนศธารสรนมา” จาก4 31 ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ได้รับรางวัล “ปูชนียบุคคล ด้านภาษาไทย” เนื่องในวันภาษา ไทยแห่งชาติ ประจำ� ป ี พ.ศ. ๒๕๕๓ จากกระทรวงวฒั นธรรม เรอ่ื งพระอานนทพ์ ทุ ธอนุชา หนังสือเรือ่ ง พระอานนท ์ พทุ ธอนชุ า นอกจากจะไดร้ บั ความนยิ มอย่าง แพร่หลายในสังคมไทยแล้ว สารานุกรมวรรณกรรมโลกในศตวรรษที่ ๒๐ (Encyclopedia of World Literature in the 20th Century) ได้น�ำเรื่อง พระ อานนท ์ พทุ ธอนชุ า ไปสดดุ ไี วใ้ นหนงั สอื ดงั กลา่ วนนั้ เปน็ ทำ� นองวา่ ไดช้ ที้ างออก ใหแ้ ก่สงั คมไทยทส่ี ับสนวนุ่ วายอย่ดู ว้ ยปัญหานานปั การ
พระอานนท์ พทุ ธอนชุ า โดย อ.วศิน อนิ ทสระ ชมรมกัลยาณธรรม หนังสือดลี ำ� ดบั ท่ี ๒ ๑ ๔ พมิ พค์ รั้งที่ ๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๖ จ�ำนวนพมิ พ์ ๔,๐๐๐ เล่ม จดั พมิ พโ์ ดย ชมรมกัลยาณธรรม ๑๐๐ ถนนประโคนชยั ตำ� บลปากน�้ำ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั สมทุ รปราการ ๑๐๒๗๐ โทรศพั ท ์ ๐-๒๗๐๒-๗๓๕๓ และ ๐-๒๗๐๒-๙๖๒๔ ภาพประกอบ / ออกแบบปก สวุ ดี ผอ่ งโสภา ออกแบบรปู เลม่ คนขา้ งหลงั ตดั คำ� อะตอ้ ม, ณชิ า พสิ จู นอ์ กั ษร อาจารยจ์ นั ทราและคณะ เพลต บรษิ ทั นครแผน่ พมิ พ ์ จำ� กดั โทร. ๐-๒๔๓๘-๘๔๐๘ พมิ พ์ บริษทั สำ� นกั พิมพ์สุภา จ�ำกัด ๑๑๘ ซอย ๖๘ ถนนจรญั สนทิ วงศ์ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐ โทร. ๐-๒๔๓๕-๘๕๓๐ สพั พทานัง ธมั มทานัง ชนิ าติ การให้ธรรมะเป็นทาน ยอ่ มชนะการใหท้ ั้งปวง www.kanlayanatam.com
... อานนท์ เมอ่ื เราลว่ งลบั ไปแลว้ เธอทงั้ หลายอาจจะคดิ วา่ บดั นพ้ี วกเธอไมม่ ศี าสดาแลว้ จะวา้ เหวไ่ รท้ พี่ ง่ึ อานนทเ์ อย พงึ ประกาศใหท้ ราบทวั่ กนั วา่ ธรรมวนิ ยั อนั ใดทเี่ ราไดแ้ สดงแลว้ บญั ญตั แิ ลว้ ขอใหธ้ รรมวนิ ยั อนั นนั้ จงเปน็ ศาสดาของพวกเธอแทนเราตอ่ ไป เธอทงั้ หลายจงมธี รรมวนิ ยั เปน็ ทพ่ี งึ่ อยา่ ไดม้ สี งิ่ อน่ื เปน็ ทพ่ี ง่ึ เลย w w w . k a n l a y a n a t a m . c o m
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434