บทที่ 2 การชาระเงนิ ดว้ ยบตั รพลาสติก 51 บัตรเครดิตเร่ิมใช้งานประมาณ พ.ศ.2503 เป็นบัตรสินเชื่อหมุนเวียนที่ผู้ถือบัตรสามารถ ใช้ชาระค่าสินค้าตามวงเงินท่ีธนาคารหรือสถาบันผู้ออกบัตรกาหนด และผู้ออกบัตรจะส่งใบเรียก เก็บเงินเมื่อสิ้นสุดวงรอบการใชเ้ งินในแต่ละเดือน โดยผู้ถือบัตรสามารถชาระหน้ีภายในระยะเวลา ท่ีกาหนดโดยไม่เสยี ดอกเบ้ียหรือยกยอดใช้จ่ายคงเหลอื บางส่วนไปยังเดือนถัดไป โดยจ่ายดอกเบี้ย ตามข้อกาหนดของสถาบนั ผ้อู อกบัตร บัตรเครดิตแต่ละใบสามารถใช้ได้ในร้านค้าเครือข่ายท่ีรับบัตร ซ่ึงปัจจุบันมีเครือข่าย บัตรเครดิตหลายค่าย ได้แก่ Visa, MasterCard, China Union Pay (CUP), Japan Credit Bureau (JCB) เปน็ ต้น ดงั ภาพท่ี 2-18 ภาพท่ี 2-19 และภาพที่ 2-20 นอกจากการใช้ชาระค่าสินคา้ บัตรเครดิตยังสามารถใชเ้ บกิ ถอนเงนิ สดจากตู้เอทีเอ็ม โดย ค่าธรรมเนยี มเบิกถอนเงนิ สดในปจั จุบันคือร้อยละ 3 และดอกเบย้ี ที่คิดจากยอดเงินทีเ่ บิกจากบัตร เงนิ สดคือร้อยละ 28 ต่อปี ภาพที่ 2-18 ผู้ให้บริการเครือข่ายบตั รเครดติ ท่ีมา: Instabill, 2016 ภาพที่ 2-19 บัตรเครดิตเครือข่าย China Union Pay (CUP) ทม่ี า: ผู้เขยี น
52 การเงินและระบบชาระเงินอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ภาพที่ 2-20 บตั รเครดิตเครือข่าย Japan Credit Bureau (JCB) ทม่ี า: ผูเ้ ขียน นอกจากน้ียังมบี ัตรอีกประเภทหนึ่งเรียกว่า “บัตรถอนเงินสด” ซึ่งเป็นบัตรสินเช่ือเงินสด ท่ีสามารถใช้ถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็ม โดยผู้ถือบัตรต้องเสียค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด เช่นเดียวกับการใช้บัตรเครดิตถอนเงินสด เช่น บัตร UOB Cash Plus ของธนาคารยูโอบี และ บตั รกดเงนิ สด Ready Credit ของธนาคารซติ ี้แบงค์ เป็นต้น ดงั ภาพที่ 2-21 ภาพที่ 2-21 บัตรกดเงนิ สดธนาคารยโู อบีและธนาคารซติ แ้ี บงค์ ที่มา: ผูเ้ ขียน 2.4.1 ประเภทบตั รเครดติ แบง่ ตามข้อกาหนดการชาระค่าใชจ้ ่าย บตั รเครดิสามารถแบ่งตามข้อกาหนดการชาระค่าใช้จ่ายได้เปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 2.4.1.1 บตั รสนิ เชอื่ วงเงนิ หมุนเวียน (Revolving Credit Card) บัตรสินเช่ือวงเงินหมุนเวียน หมายถึง ผู้ถือบัตรสามารถจ่ายชาระหนี้ทั้งหมดหรือคืนเงิน เป็นรายงวด ซึ่งข้อกาหนดการชาระเงนิ ข้ันต่าคือร้อยละ 10 ของยอดใชจ้ ่ายแต่ละเดือน ปัจจุบันบัตร ประเภทนเ้ี ป็นที่นยิ ม เนอ่ื งจากผู้ท่มี ีรายไดข้ นั้ ตา่ 15,000 บาท สามารถสมัครได้ ดงั ภาพที่ 2-22
บทที่ 2 การชาระเงินด้วยบัตรพลาสตกิ 53 (ก) บัตรเครดติ ธนาคารกสกิ รไทย (ข) บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา ภาพที่ 2-22 บตั รสนิ เชื่อวงเงินหมนุ เวยี นของธนาคารกสิกรไทยและธนาคารกรงุ ศรีอยุธยา ท่มี า: ผ้เู ขยี น 2.4.1.2 บัตรชาร์จการ์ด (Charge Card) เป็นบัตรสาหรับผู้ที่มีวินัยทางการเงินสูง เนื่องจากต้องชาระค่าใช้จ่ายในใบเรียกเก็บเงิน เต็มจานวนทุกเดือน ส่วนใหญ่ใช้สาหรับการเดินทางหรอื เลี้ยงรับรองแขก ตัวอย่างบัตรประเภทนี้ ไดแ้ ก่ บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรส บัตรไดเนอรค์ ลบั เป็นตน้ ดงั ภาพท่ี 2-23 ภาพท่ี 2-23 บตั ร Charge Card อเมริกนั เอ็กซ์เพรส ที่มา: Hans Braxmeier & Simon Steinberger GbR, 2018 2.4.2 บตั รเครดิต แบง่ ตามพ้นื ท่ีการใช้บตั ร สามารถแบง่ บัตรเครดติ ตามพ้นื ที่การใช้บัตรไดเ้ ปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ 2.4.2.1 บตั รเครดติ ที่ใช้งานภายในประเทศ (Domestic Credit Card, Local Credit Card) บัตรเครดิตท่ีออกโดยธนาคารในประเทศ และสามารถใช้ซ้ือสินค้าได้เฉพาะในประเทศ เช่น บัตร BBL ของ ธนาคารกรงุ เทพฯ เป็นต้น
54 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ โดยส่วนใหญ่ บัตรประเภ ทนี้ไม่ได้รับความนิยม เน่ืองจากไม่สามารถใช้งาน ในบางร้านคา้ รวมทั้งไม่สามารถนาไปใช้ในต่างประเทศ 2.4.2.2 บตั รเครดิตที่ใช้งานทั่วโลก (International Credit Card) บั ต ร เค ร ดิ ต ท่ี อ อ ก โ ด ย ค ว า ม ร่ ว ม มื อ ร ะ ห ว่ า ง ธ น า ค า ร กั บ เค รื อ ข่ า ย บั ต ร เค ร ดิ ต สามารถนาบัตรไปใช้งานได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น บัตรเครดิตกรุงศรีวีซ่า บัตรเครดิตไทยพาณชิ ยม์ าสเตอร์การด์ เป็นต้น บตั รประเภทดังกลา่ วเป็นท่นี ิยมใชง้ านในปจั จบุ นั นอกจากนี้มีการออกบัตรเครดิตร่วม (Co-Brand Card, Affinity Card) คือบัตรเครดิตท่ี เกิดจากความร่วมมือระหว่างผ้อู อกบัตรกับบริษัทหรือห้างร้าน ทาให้ผู้ถือบัตรไดร้ ับเอกสิทธิ์พิเศษ เช่น มสี ว่ นลด สามารถใช้แลกรบั ของรางวลั มีการเงินคืนเข้าบญั ชเี ครดติ เปน็ ตน้ ดงั ภาพท่ี 2-24 ภาพที่ 2-24 บัตรเครดติ รว่ มโฮมโปร วซี ่า ทมี่ า: ผูเ้ ขยี น 2.4.3 กระบวนการชาระเงินด้วยบตั รเครดติ 2.4.3.1 การชาระเงินของเครอื ข่ายบัตรเครดติ แบบปิด เครือข่ายบัตรเครดิตแบบปิด คือผู้ออกบัตรจะจ่ายเงินให้ร้านค้าที่รับบัตรโดยตรง ซง่ึ ไม่ผา่ นเครือข่ายผูใ้ ห้บริการบัตรเครดิต เช่น บตั รอเมรกิ นั เอ็กซเ์ พรส บัตรไดเนอรค์ ลบั ฯลฯ ตัวอย่างเช่น นายธงไชยใช้บัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรส จ่ายค่าอาหารเพื่อรับรองผู้บริหาร ต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ท่ีภัตตาคารห้าดาวในกรุงเทพฯ จานวน 35,000 บาท ซึ่งภัตตาคารยินดีรับบัตรอเมริกันเอ็กซ์เพรส ดังน้ันบริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรส จะเป็นผู้รับผิดชอบออกเงินแทนนายธงไชย ต่อมาเมื่อบริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรสส่งใบแจ้งหนี้ ไปยังนายธงไชย ดังน้ันนายธงไชยต้องชาระหนี้ตามช่องทางชาระเงินที่บริษัทอเมริกันเอ็กซ์เพรส ได้กาหนดไว้ล่วงหน้า เช่น การหักจากบัญชีเงินฝากธนาคารอัตโนมัติ การชาระเงินผ่านช่องทาง
บทที่ 2 การชาระเงินดว้ ยบตั รพลาสตกิ 55 ต่างๆ ของธนาคารพ าณิ ชย์ท่ีร่วมรายการ การชาระด้วยเช็คส่วนตัวทางไป รษณี ย์ การชาระดว้ ยตนเองทส่ี านักงาน การชาระผา่ นช่องทางอิเล็กทรอนกิ ส์ เปน็ ต้น 2.4.3.2 การชาระเงินของเครอื ขา่ ยบตั รเครดิตแบบเปดิ เครือข่ายบัตรเครดิตแบบเปิด คือระบบท่ีมีการใช้บริการจากเครือข่ายบัตรเครดิต เช่น Visa หรือ MasterCard เป็นต้น ลูกค้าสามารถใช้บัตรเครดิตที่มีการระบุเครือข่าย ท่ีด้านหนา้ บัตร ไปใช้ซอ้ื สนิ คา้ /บริการจากสถานทต่ี า่ งๆ ได้ทัว่ โลก ตัวอย่างเช่น เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าจากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าต่างๆ และลูกค้ามีการ ชาระเงินผ่านบัตรเครดิต ร้านค้าก็จะส่งข้อมูลบัญชีบัตรเครดิตของลูกค้าพร้อมท้ังข้อมูลใบเสร็จ สนิ ค้า ไปยังธนาคารของรา้ นค้า ต่อมาธนาคารของร้านค้าจะส่งต่อข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิต เพ่ือตรวจสอบข้อมูลบัตรเครดิต จากนั้นผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเครดิตส่งข้อมูลต่อไปยังธนาคาร ของลกู ค้า เมอื่ ธนาคารของลกู ค้าตรวจสอบขอ้ มูลวงเงินในบัญชีบัตรเครดติ และทาการตัดยอดเงิน ในบัญชีบัตรเครดิตของลกู ค้าแลว้ จึงชาระเงนิ ให้แกธ่ นาคารของร้านคา้ จากน้ันธนาคารของร้านค้าทาการโอนเงินเข้าบัญชีของร้านค้า และสุดท้ายธนาคาร ของลูกค้าส่งบิลเรียกเก็บเงินให้ลูกค้าทราบ เพ่ือให้ชาระหนี้ภายในระยะเวลาที่ธนาคารกาหนด ดงั ภาพที่ 2-25 ภาพที่ 2-25 กระบวนการชาระเงินดว้ ยบัตรเครดิต ทมี่ า: ผเู้ ขียน
56 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 2.4.4 ขอ้ ดีของบัตรเครดิต - สะดวกสบาย - ปลอดภัย - เปน็ แหล่งเงินทนุ สารอง - ใช้ไดท้ ่ัวโลก - คุ้มครองสิทธผิ บู้ รโิ ภค - สทิ ธปิ ระโยชน์เพิ่มเติม - ความคลอ่ งตวั - ใช้สงั่ ซอื้ สินค้าทางอนิ เทอรเ์ นต็ 2.5 บัตรเติมเงิน บัตรเติมเงินมีลักษณะคล้ายบัตรเดบิต คือมีเงินสดในบัตรและสามารถใช้ซื้อสินค้า แทนเงินสดในร้านค้าที่รับบัตรได้ แต่มีความแตกต่างคือบัตรเดบิตมีการผูกกับบัญชีธนาคาร ในขณะท่บี ตั รเติมเงนิ มจี านวนเงนิ ท่ีถกู บนั ทกึ ในตวั บัตร การใช้เงินในบัตรเติมเงิน สามารถอ่านจากข้อมูลที่ถูกเก็บในแถบแม่เหล็ก หรือการอ่าน โดยใช้คลื่นวิทยุ (Radio Frequency Identification: RFID) ทางโทรศัพท์หรือเครื่องรับรหัสบัตร แบบตัวเลข 2.5.1 คุณลกั ษณะบัตรเติมเงนิ เจ้าของบัตรเติมเงินต้องชาระเงินไว้ล่วงหน้าให้แก่ผู้ออกบัตรเงินสดอิเล็กทรอนิกส์ (Prepaid) โดยมูลค่าเงินท่ีได้ชาระล่วงหน้าแล้วนั้นจะถูกบันทึกในส่ืออิเล็กทรอนิกส์ (Stored Value) ซึ่งในที่น้ีคือบัตรพลาสติกนั่นเอง ต่อมาเจ้าของบัตรเติมเงินสามารถนาบัตรไปใช้ซื้อสินค้า ห รื อ บ ริ ก า ร จ า ก ร้ า น ค้ า ท่ี ย อ ม รั บ ร ะ บ บ ช า ร ะ เงิ น ข อ ง ผู้ อ อ ก บั ต ร เงิ น ส ด อิ เล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ (Multipurpose) 2.5.2 เครือข่ายบตั รเตมิ เงิน เครือข่ายบัตรเตมิ เงิน แบ่งเปน็ 3 ประเภท คือ 1) บัตรเติมเงนิ แบบปิด (Closed System Prepaid Cards) 2) บัตรเติมเงินแบบกึ่งปิด (Semi-Closed System Prepaid Cards) และ 3) บัตรเติมเงินแบบเปิด (Open System Prepaid Cards) โดยมรี ายละเอียด ดังนี้
บทที่ 2 การชาระเงนิ ดว้ ยบตั รพลาสตกิ 57 2.5.2.1 บตั รเติมเงนิ แบบปิด บัตรเติมเงินแบบปิด คือ บัตรท่ีออกโดยห้างร้านใด ๆ และสามารถนาไปใช้ในร้านค้า ท่ีออกบัตรเท่าน้ัน เช่น บัตรของขวัญ บัตรคูปองเงินสด บัตรสมนาคุณ เช่น บัตรเงินสดเชลล์- ธนาคารกรุงเทพ บัตรกิฟ๊ ทก์ าร์ด เทสโก้ โลตสั เป็นต้น 2.5.2.2 บตั รเติมเงนิ แบบกง่ึ ปดิ บัตรเติมเงินแบบกึ่งปดิ คือ การมีบุคคลที่สามทาหน้าที่สร้างเครือข่ายบัตร ทาให้สามารถ ใช้บัตรในร้านค้าได้มากกว่า 1 ร้าน โดยส่วนใหญ่ร้านค้าจะต้ังอยู่ในพ้ืนที่หรือภูมิศาสตร์เดียวกัน เช่น การใช้บัตรนักศึกษาซื้ออาหาร สินค้าในร้านต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย บัตรคูปองทีวีดิจิตอล เป็นตน้ 2.5.2.3 บัตรเตมิ เงินแบบเปิด บัตรเติมเงินแบบเปิด คือ การมีเครือข่ายบัตรเครดิต เช่น Visa หรือ MasterCard เป็นผู้ประสานงานทาให้บัตรเติมเงินมีเลขบัตร 16 หลักเช่นเดียวกับบัตรเครดิต สาหรับข้อมูล จานวนเงินจะเก็บในฐานข้อมูลกลาง ช่วยให้สามารถใช้ซ้ือสินค้าในร้านที่รับบัตรเครดิตรวมท้ังใช้ ซ้ือสินค้าทางอินเทอร์เนต็ เหมาะสาหรับบุคคลท่ีมีรายน้อยหรอื ไม่มรี ายได้ เช่น นกั เรียน นักศึกษา เปน็ ต้น ดงั ภาพท่ี 2-26 ภาพท่ี 2-26 บัตรเติมเงนิ แบบเปิด ท่มี า: ผเู้ ขียน การประยุกต์ใช้บัตรเติมเงินในปัจจุบันค่อนข้างหลากหลายเช่น คูปองศูนย์อาหาร บัตรซื้อสินค้าร้านสะดวกซ้ือ บัตรชาระเงินค่าเชื้อเพลิงรถยนต์ บัตรซื้อต๋ัวหนัง บัตรที่จอดรถ ซอ้ื สินคา้ ออนไลน์ บตั รชาระค่าผ่านทาง เปน็ ต้น
58 การเงนิ และระบบชาระเงินอเิ ล็กทรอนิกส์ 2.6 สรปุ บัตรพลาสติกแบ่งตามลักษณะบัตรได้ 2 ประเภท คือ บัตรแถบแม่เหล็ก (Magnetic Stripe Cards) คือมีแถบแม่เหล็กอยู่ด้านหลังบัตร ส่วนบัตรอีกประเภทคือบัตรอัจฉริยะ (Smart Card) ที่มีการฝังชิพคอมพิวเตอร์ในบัตร โดยบัตรอัจฉริยะมีความปลอดภัยในการใช้งาน มากกว่าบัตรแถบแม่เหล็กเน่ืองจากข้อมูลถูกเข้ารหัสก่อนการจัดเก็บ อย่างไรก็ตามบัตรพลาสติก ในปัจจุบันจะมีทั้งแถบแม่เหล็กและชิพภายในบัตรเดียวกัน เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต บตั รพนักงาน เป็นตน้ ในการอ่านข้อมูลจากบัตรพลาสติก ต้องใช้เคร่ืองอ่านท่ีมีการสัมผัสกับบัตรเรียกว่าบัตร ส ม าร์ ท ก าร์ ด แ บ บ สั ม ผั ส (Contact Smart Cards) เช่ น บั ต ร เค รดิ ต บั ต ร เอ ที เอ็ ม บัตรประจาตัวประชาชน หรือซิมการ์ดโทรศัพท์ เป็นต้น หรือบัตรท่ีสามารถอ่านข้อมูลได้โดยไม่ ต้องสัมผัสกับบัตรเรียกว่าบัตรสมาร์ทการ์ดแบบไร้สัมผัส (Contactless Smart Cards) เช่น บตั รเก็บเงนิ ทางด่วนบัตรโดยสาร ของรถไฟฟา้ บที ีเอสและรถไฟฟ้าใตด้ ิน เปน็ ตน้ บัตรพลาสติกที่แบ่งตามวิธีการเติมเงินมี 3 แบบได้แก่ (1) บัตรท่ีใช้ซ้ือสินค้าก่อน แล้วจึง จ่ายเงินเม่ือได้รับใบทวงหนี้จากธนาคาร เช่น บัตรเครดิต (2) บัตรที่ถูกตัดยอดเงินทันที ที่ซื้อสินค้าหรือบริการ เช่น บัตรเอทีเอ็ม บัตรเดบิต เป็นต้น (3) บัตรที่ต้องเติมเงินก่อนการใช้ซื้อ สนิ ค้าหรอื บรกิ าร เช่น บัตรเติมเงนิ เปน็ ต้น
บทที่ 2 การชาระเงนิ ดว้ ยบัตรพลาสตกิ 59 คาถามทา้ ยบท 1. จงอธบิ ายความแตกต่างของส่งิ ตอ่ ไปน้ี ก) Credit Card : Debit Card ข) Magnetic Stripe Card : Smart Card ค) Online Magnetic Stripe Cards : Offline Magnetic Stripe Cards ง) Contact Smart Cards : Contactless Smart Cards Dual จ) Offline Debit Card : Online Debit Card ฉ) Revolving Credit Card : Charge Card ช) Domestic Credit Card : International Credit Card ซ) Closed System Prepaid Cards : Semi-Closed System Prepaid Card 2. จงยกตวั อย่างการประยกุ ต์ใช้งานบัตรพลาสติกแบบ Magnetic Stripe Card ในปัจจุบัน 3. จงยกตัวอยา่ งการประยกุ ต์ใช้งานบตั รพลาสติกแบบ Smart Card ในปัจจุบนั 4. เพราะเหตใุ ดจึงมีการกล่าวว่าการใช้บตั รพลาสติกแบบ Smart Card ชว่ ยให้ข้อมูลมีความ ปลอดภัยในการใชง้ านมากกว่าบัตรพลาสติกแบบ Magnetic Stripe Card 5. จงอธบิ ายลกั ษณะและการใช้งานบตั ร Smart Card แบบ Contact Smart Card 6. จงอธบิ ายลกั ษณะและการใชง้ านบตั ร Smart Card แบบ Contactless Smart Card 7. จงอธบิ ายเก่ยี วกบั ประโยชนข์ องการใช้บัตรเครดิต 8. จงอธบิ ายเกย่ี วกบั ประโยชน์ของการใช้บตั รเดบิต 9. จงอธบิ ายกระบวนการชาระเงินด้วยบตั รเครดติ 10. จงอธบิ ายกระบวนการชาระเงนิ ดว้ ยบัตรเดบติ 11. จงระบเุ ครอื ข่ายบัตรเครดติ ทร่ี จู้ กั มาอยา่ งน้อย 3 ชื่อ 12. จงอธิบายเก่ียวกบั ประโยชน์ของการใช้บัตรสมารท์ การ์ด 13. จงระบขุ อ้ เสียของการใช้บตั รเครดิต
60 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 14. จากภาพท่กี าหนดใหต้ ่อไปน้ี จงระบุว่าเป็นบตั รอะไร ก) ข) ค) ง) ฉ)
บทท่ี 2 การชาระเงนิ ดว้ ยบัตรพลาสตกิ 61 15. จงใช้ข้อความใน ก-ฉ เพื่อตอบคาถามขอ้ 15.1 - 15.6 (ก) บัตรเครดติ ยูเนี่ยนเพย์คลาสสิก (ข) บตั รเครดติ อิออน โกลด์ (ค) บตั รเตมิ เงนิ KTB e-Money Card (ง) บตั รเครดติ รว่ มนายอินทร์-กสกิ รไทย (จ) เทสโก้ โลตัส วซี ่า แพลทนิ ัม (ฉ) บตั รเอทเี อม็ ธนาคารไทยพาณชิ ย์ 15.1 นายเหลียงเฉาว้าวเป็นชาวจีน ได้เดินทางเข้ามาทาธุรกิจในประเทศไทยต้ังแต่ปี พ.ศ. 2555 โดยปกตินายเหลียงเฉาว้าวจะเดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน เฉลย่ี เดอื นละ 3 ครัง้ ดงั น้นั นายเหลียงเฉาวา้ วควรใชบ้ ตั รแบบใด เพราะอะไร 15.2 ป้าแก้วเป็นเกษตรกรปลูกมันสาปะหลัง นอกจากนี้ยังปลูกผักสวนครัวเพ่ือลด ภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัว ป้าแก้วชอบไปเดินซ้ือและขายของในตลาดนัด ไม่ชอบเดินทาง ไปห้างสรรพสินค้าเน่ืองจากสินค้าราคาแพง รวมทั้งไม่ซ้ือของทางอนิ เทอรเ์ น็ตเพราะรู้สึกกลัว จากการดขู ่าว ดงั นั้นปา้ แก้วควรใช้บตั รแบบใด เพราะอะไร 15.3 นางสาวตรีชฎา ชอบขายและซื้อสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต ท้ังน้ีเนื่องจาก นางสาวตรีชฎาต้องใช้เงินลงทุนในการสต๊อกสินค้าจานวนมาก จึงไม่ค่อยมีเงินสดในการซื้อ สนิ ค้าออนไลน์ท่ตี นเองชอบ ดงั นน้ั นางสาวตรีชฎาควรใชบ้ ัตรแบบใด เพราะอะไร 15.4 เด็กชายนิยมไทยเป็นนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรียนวิชาการใช้อินเทอร์เน็ต ในห้องเรียน ได้ค้นหาข้อมูลกระเป๋าหนังสือมือสองในอินเทอร์และพบว่ามีราคาถูก สภาพ ค่อนข้างดีมากจึงอยากซ้ือมาใช้งานทดแทนกระเป๋าใบเดิมที่ใช้งานมาต้ังแต่ ป.4 ดังน้ันเมื่อ กลับถึงบ้านได้ทดลองซ้ือสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ตแต่ไม่สามารถซื้อได้ เนื่องจากเว็บไซต์รับ ชาระเงนิ ด้วยบตั รเท่านั้น ดงั นนั้ เด็กชายนิยมไทยควรใช้บตั รแบบใด เพราะอะไร 15.5 นางสาวแก้วเขียวช่ืนชอบการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น จึงเปล่ียนช่ือเป็น นางสาวโอเคนะ โดยในแต่ละฤดกู ารท่องเที่ยวของประเทศญ่ีปุ่น จะมีการจัดโปรโมช่ันสาหรับ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซ่ึงนางสาวโอเคนะมีความต้ังใจเดินทางไปเที่ยวทุกเมืองในประเทศ ญปี่ นุ่ จากขอ้ มูลดงั กลา่ วนางสาวตรีชฎาควรใช้บตั รแบบใด เพราะอะไร 15.6 นายเอ็ดเวิร์คเป็นผู้บริการระดับสูงของธุรกิจส่งออกทุเรียนของประเทศไทย ใน แต่ปีนายเอ็ดเวิร์คจะมีการประชุมเพ่ือเจรจาธุรกิจกับกลุ่มผู้บริหารในประเทศต่างๆ โดยเป็น การประชุมเพื่อซ้ือขายทุเรียนล่วงหน้า ซ่ึงในการประชุมแต่ละครั้ง นายเอ็ดเวิร์คเล้ียงรับรอง ผู้บริหารท่ีมาทาความร่วมมือส่ังซื้อทุเรียนครั้งละหลายสิบคน และปีละหลายๆ ครั้ง จาก ข้ อ มู ล ดั ง ก ล่ า ว น า ย เ อ็ ด เ วิ ร์ ค ค ว ร ใ ช้ บั ต ร แ บ บ ใ ด เ พ ร า ะ อ ะ ไ ร
62 การเงนิ และระบบชาระเงินอเิ ล็กทรอนิกส์ บันทกึ
บทที่ 3 การชาระเงินด้วยเชค็ หลงั จากทไี่ ด้ศึกษาในบทนี้แล้ว นกั ศึกษาสามารถ: 1. อธบิ ายความหมายของเชค็ ได้ 2. อธิบายเก่ียวกับคณุ สมบตั ิเช็คแตล่ ะประเภทได้ 3. อธิบายกระบวนการหกั บญั ชีเชค็ ด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ได้ 4. อธบิ ายกระบวนการเรยี กเกบ็ เงนิ ตามเช็คภายในเขตสานกั หักบัญชีได้ 5. อธบิ ายกระบวนการเรยี กเก็บเงนิ ตามเช็คข้ามเขตสานักหักบญั ชีได้ 6. อธิบายกระบวนการหกั บญั ชีเช็คดว้ ยภาพเชค็ ได้ 7. อธบิ ายวิธใี ชเ้ ช็คอยา่ งถูกตอ้ งได้
64 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ ในการชาระเงินค่าสินคา้ และบรกิ ารตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั รวมท้งั การชาระเงินที่มีมูลค่า คอ่ นขา้ งสูง เชน่ การซื้อรถยนต์ การสัง่ ซือ้ สินคา้ ของรา้ นคา้ การชาระเงินเพ่ือซือ้ พัสดุการเรียนการ สอนของภาครัฐบาล หากชาระด้วยเงินสดอาจเกิดปัญหาความผิดพลาดเนื่องจากต้องมีการตรวจ นับธนบัตรจานวนมาก รวมท้ังเกิดความไม่ปลอดภัยเนื่องเงินสูญหายหรือถูกปล้นสดมภ์ระหว่าง การเดินทาง ดังนั้นจึงมีการออกกฏหมายเป็นประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เมื่อ พ.ศ. 2535 (กฎหมายดอตคอม, 2558) ให้บุคคลหรือองค์กรนิติบุคคลรวมทั้งหน่วยงานรัฐบาลสามารถใชเ้ ชค็ เพ่ือสง่ั จา่ ยชาระหนี้ได้ ทั้งนี้จากสถิติการใช้เช็คเรียกเก็บเงินในประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2561ข) พบว่าในปี พ.ศ. 2556 มีการใช้งานเช็คเป็นมูลค่ามากที่สุดคือ 40319.12 พันล้านบาท แต่มีแนวโน้มการใช้งานลดลงต้ังแต่ปี พ.ศ. 2557 – พ.ศ. 2560 อย่างไร ก็ตามมูลค่าการใช้งานเช็คเรียกเก็บในปัจจุบันยังคงมีมูลค่าสูงถึง 35878.61 พันล้านบาท ดงั ภาพท่ี 3-1 ภาพที่ 3-1 มูลคา่ เช็คเรยี กเก็บของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2560 ที่มา: ผเู้ ขียน
บทท่ี 3 การชาระเงนิ ด้วยเช็ค 65 3.1 ความหมายและประเภทของเชค็ 3.1.1 ความหมายของเชค็ เช็ค หมายถึง หนังสือตราสารซ่ึงผู้เขียนเช็คหรือเรียกว่า “ผู้สั่งจ่าย” ส่ังธนาคารให้ชาระ เงินจานวนหน่ึงใหแ้ ก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า “ผู้รับเงิน” หรือผู้ทรงเช็ค โดยเช็คสามารถสัง่ จา่ ย โดยลูกค้าท่ีเป็นบุคคลธรรมดาเรียกว่า “เช็คบุคคลธรรมดา” หรือส่ังจ่ายโดยนิติบุคคลเรียกว่า “เช็คนิติบุคคล” ทั้งนี้มีเช็คบางประเภทท่ีต้องสั่งจ่ายโดยธนาคารเท่าน้ัน ได้แก่ แคชเชียร์เช็ค เชค็ ของขวัญและดร๊าฟท์ (ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์คมุ้ ครองผใู้ ชบ้ ริการทางการเงิน, 2557ค) ภาพท่ี 3-2 ภาพรวมของเชค็ ที่มา: ผเู้ ขียน 3.1.2 ผู้ทเี่ กี่ยวขอ้ งกับเชค็ ผู้ท่ีเก่ียวข้องกับเช็คประกอบด้วย 4 ฝ่าย ดังภาพท่ี 3-3 ดังน้ี (ธนาคารแห่งประเทศไทย ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บรกิ ารทางการเงิน, 2557ค) - ผู้สั่งจ่ายเช็ค คือ ผู้ที่เปิดบัญชีธนาคารประเภทกระแสรายวัน และออกใบ สั่งจ่ายเช็ค - ผู้รับเงินหรือผู้ทรงเช็ค คือ ผู้ที่รับเช็คและนาเช็คไปฝากเข้าบัญชี หรือ เบกิ เงนิ สดกับธนาคาร - ธนาคารผู้สง่ เรยี กเก็บ (Sending Bank) คือ ธนาคารของผู้รับเช็ค - ธนาคารผู้จ่าย (Paying Bank) คือ ธนาคารของผอู้ อกเช็ค
66 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ภาพที่ 3-3 การจา่ ยเชค็ ทีม่ า: ผูเ้ ขียน 3.1.2 ประเภทของเชค็ ประเภทของเช็คท่ีแบง่ ตามธุรกรรมทางการเงินมี 7 ประเภทดงั น้ี 3.1.2.1 เชค็ เงนิ สด หรอื เชค็ ผู้ถอื (Cash or Bearer’s Cheque) เช็คผถู้ ือ หมายถึง เชค็ ทีผ่ ูถ้ ือสามารถนาไปข้นึ เงินกับทางธนาคารได้โดยทันทีหรือฝากเข้า บัญชีธนาคารก็ได้ นอกจากน้ีหากต้องการโอนเช็คให้แก่ผู้อื่นก็เพียงส่งมอบเช็คให้บุคลอื่น ไปเบิกเงินกับธนาคารโดยไม่ต้องเขียนสลักหลังแต่ประการใด แต่ถ้าหากข้อความ “หรือผู้ถือ” ใน เช็คถูกขีดฆ่าเป็น “หรือผู้ถือ” จะส่งผลให้เช็คกลายเป็นเช็คจ่ายตามคาส่ัง ทาให้ผู้ถือเช็คต้อง ดาเนินการตามระเบียบของการใชเ้ ช็คจ่ายตามคาสงั่ ดังภาพท่ี 3-4
บทที่ 3 การชาระเงนิ ดว้ ยเช็ค 67 ภาพท่ี 3-4 เช็คผู้ถือ ที่มา: ผเู้ ขยี น 3.1.2.2 เช็คระบชุ ื่อผู้รับเงิน หรือเชค็ จ่ายตามคาสง่ั (Order’s Cheque) เช็คจ่ายตามคาสั่ง หมายถึง เช็คที่ผู้สั่งจ่ายต้องระบชุ ื่อผู้รบั เงนิ ในเชค็ และผู้รับเงินต้องนา เช็คไปเบิกเงินด้วยตนเอง หากต้องการโอนเช็คให้ผู้อ่ืน ก็ต้องทาการสลักหลังโดยการเซ็นชื่อ ด้านหลังเช็ค ดงั ภาพที่ 3-5 ภาพท่ี 3-5 เชค็ จา่ ยตามคาสง่ั ท่มี า: ผู้เขียน
68 การเงนิ และระบบชาระเงนิ อิเลก็ ทรอนิกส์ 3.1.2.3 เช็คสาหรับผู้เดินทางหรือเช็คเดินทางต่างประเทศ (Traveler’s Cheque) เช็คสาหรบั ผเู้ ดินทางใช้สาหรับผทู้ ่ีต้องการเดินทางไปต่างประเทศแต่ไมต่ ้องการพกเงินสด จานวนมากๆ โดยการซื้อเช็คจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยจากนั้นนาเช็คไปข้ึนเงินจาก ธนาคารในตา่ งประเทศหรอื นาไปซ้อื สินค้าในรา้ นค้า โดยจะไดร้ ับเงนิ ทอนเป็นเงนิ สด 3.1.2.4 เช็คทธ่ี นาคารรับรอง (Certified Cheque) ธนาคารจะตรวจสอบจานวนเงินในบัญชีผู้ส่ังจ่าย หากมีจานวนเงินเพียงพอ ธนาคารจึง ออกเชค็ ให้ โดยนายธนาคารรับรองวา่ เปน็ เช็คท่ีถูกต้องและมีการประทับตราวา่ “ใช้ได”้ หรือ “ใช้ เงินได้” หรือ “Good” พร้อมลงวันที่และลายเซ็นของนายธนาคาร หากปรากฏภายหลังว่าเช็ค รับรองฉบบั นั้นไมม่ ีเงิน นายธนาคารต้องรบั ผิดชอบชดใช้เงินตามเชค็ ท่ีไดร้ บั รอง 3.1.2.5 แคชเชียร์เชค็ (Cashier’s Cheque or Treasurer’s Cheque) แคชเชยี รเ์ ช็คเปน็ เชค็ ธนาคารทส่ี ามารถซอื้ ดว้ ยเงินสด โดยมคี า่ ธรรมเนียมฉบบั ละ 20 บาท ในตวั เชค็ จะระบชุ อื่ ผ้รู ับเงิน และมลี ายเซน็ ของพนกั งานทมี่ ีอานาจ เซน็ รบั รองกากบั ส่วนใหญ่มกี าร ใช้แคชเชียร์เช็คภายในพ้ืนท่ีท้องถิ่นของธนาคารท่ีออกเช็ค แต่หากนาเช็คไปเรียกเก็บเงินข้ามเขต สานกั หักบัญชี ผูถ้ ือเช็คตอ้ งเสียค่าธรรมเนยี มหม่นื ละ 10 บาท ดงั ภาพที่ 3-6 และภาพท่ี 3-7 ภาพท่ี 3-6 แคชเชยี รเ์ ช็ค ที่มา: ผู้เขียน
บทท่ี 3 การชาระเงินดว้ ยเชค็ 69 ภาพท่ี 3-7 แคชเชยี ร์เชค็ ของธนาคารไทยพาณชิ ย์ ทมี่ า: ผู้เขียน 3.1.2.6 ต๋ัวแลกเงนิ หรือดร๊าฟท์ (Banks Draft) ตั๋วแลกเงินคือเช็คที่ออกโดยธนาคารซึ่งสามารถซ้ือด้วยเงินสด โดยมีค่าธรรมเนียมอัตรา หมื่นแรก 10 บาท หม่ืนต่อไปหม่ืนละ 5 บาท (ขั้นต่า 10 บาท สูงสุด 1,000 บาท) ด้านหน้าของ ต๋ัวแลกเงินมีการระบุชื่อผู้รับเงินพร้อมลายเซ็นของพนักงานผู้มีอานาจ เมื่อมีการนาต๋ัวแลกเงินไป เรียกเก็บเงิน ผู้เรียกเก็บเงินไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แม้เป็นการเรียกเก็บเงินข้ามเขตสานักหัก บัญชี ดังน้นั ตัว๋ แลกเงนิ ธนาคารจงึ มีความแตกตา่ งจากแคชเชยี ร์เช็ค ดังภาพที่ 3-8 ภาพท่ี 3-8 ตั๋วแลกเงิน ท่มี า: ผู้เขยี น
70 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 3.1.2.7 เคาน์เตอร์เช็ค (Counter Cheque) เคาน์เตอร์เช็คเป็นเช็คของธนาคาร ใช้ในกรณีท่ีเจ้าของบัญชีต้องการใช้เงินแต่ไม่ได้พก สมุดบัญชไี ปธนาคาร โดยธนาคารจะออกเคาน์เตอร์เช็คให้เจา้ ของบัญชีทาการเขียนสั่งจา่ ยเงิน แต่ สามารถใช้เชค็ ได้เฉพาะภายในธนาคารและไม่สามารถโอนสลกั หลงั ให้แกบ่ คุ คลอน่ื 3.1.3 การสลักหลังเช็ค การสลักหลังเช็ค หมายถึง การเขียนข้อความโอนเช็คให้แก่บุคคลอื่นพร้อมลงลายมือชื่อ หรือการลงลายมือช่ือเพียงอย่างเดียวที่ด้านหลังของเช็ค ท้ังน้ีการสลักหลังเช็คสามารถกระทาได้ 2 แบบ ไดแ้ ก่ 3.1.3.1 การสลักหลังเฉพาะ การสลักหลังเฉพาะ หมายถึง การท่ีผู้โอนหรือเรียกว่าผู้สลักหลังทาการระบุช่ือผู้รับโอน เชค็ พร้อมลงลายมอื ช่อื ของตนเองไวด้ ้านหลังเชค็ 3.1.3.1 การสลักหลงั ลอย การสลักหลังลอย หมายถึง การท่ีผู้สลักหลังลงลายมือชื่อของตนเองไว้ด้านหลังเช็คแต่ไม่ได้ ระบชุ ่ือผ้รู ับโอนเช็ค 3.1.4 เชค็ ขีดครอ่ ม เช็คขีดคร่อม หมายถึง การขีดเส้นขนานตัดในแนวเฉียงบริเวณมุมบนซ้ายด้านหน้าของ เช็ค และมีการระบขุ อ้ ความระหว่างเส้นสองเสน้ ดงั กลา่ ว โดยเช็คขดี ครอ่ มมี 2 ประเภท ได้แก่ 3.1.4.1 เช็คขีดคร่อมท่ัวไปคือเช็คขีดคร่อมที่สามารถนาฝากเข้าบัญชีของ ธนาคารใดกไ็ ด้ แบง่ เป็น 3 แบบ ไดแ้ ก่ ก) & co หมายถึง ผู้รับเช็คต้องนาฝากเข้าบัญชีธนาคารตามชื่อ ผู้รับเงินท่ีระบุไว้ด้านหน้าเช็ค แต่หากต้องการฝากเข้าบัญชีบุคคลอ่ืน ผู้ทรงเช็คต้องทาการลง ลายมือชื่อสลักหลังด้วย ข) Not Negotiable หมายถึง เช็คไม่สามารถโอนต่อไปให้บุคคล อื่นด้วยการสลกั หลังได้หรือห้ามเปลี่ยนมือ ดังนั้นจงึ ตอ้ งฝากเขา้ บญั ชีของบุคคลท่ีมชี ่ือตามท่ีระบุไว้ ด้านหน้าเช็คเทา่ นั้น ค) A/c Payee Only หมายถึง เช็คไม่สามารถโอนด้วยการสลัก หลงั ต้องนาฝากเขา้ บญั ชีธนาคารของบุคคลที่มีชอื่ ตามทรี่ ะบุไว้ดา้ นหน้าเช็คเท่านั้น
บทท่ี 3 การชาระเงินดว้ ยเชค็ 71 ท้ั ง น้ี ห า ก มี ก า ร ขี ด เ ฉ พ า ะ เ ส้ น ส อ ง เ ส้ น ใ น แ น ว ข น า น โ ด ย ไ ม่ ไ ด้ เ ขี ย น ข้ อ ค ว า ม ใ ด ๆ หมายความว่าผู้รับเช็คจะเบิกเงินสดไม่ได้ โดยตอ้ งนาฝากเข้าบัญชีธนาคารเท่านน้ั แม้ว่าจะเป็นเช็ค “จ่ายผู้ถือ” หรอื เช็ค “จา่ ยตามคาส่งั ” ก็ตาม 3.1.4.2 เช็คขีดคร่อมเฉพาะคือเช็คขีดคร่อมที่มีการระบุชื่อธนาคารเพ่ือให้ ผู้รับเช็คนาเช็คไปฝากเฉพาะธนาคารตามท่ีได้ผู้ส่ังจ่ายได้ระบุไว้ สามารถใช้ได้ท้ังเช็ค “จ่ายผู้ถือ” และเช็ค “จ่ายตามคาสงั่ ” 3.1.5 เครอ่ื งอ่านอกั ขระหมึกแม่เหล็กเรยี กวา่ เอ็มไอซีอาร์ เครื่องอ่านอักขระหมึกแม่เหล็กเรียกว่าเอ็มไอซีอาร์ (Magnetic-Ink Character Reader : MICR) คอื เคร่ืองอ่านข้อมลู และประมวลผลข้อความหรือเครื่องหมายที่มีการพิมพด์ ว้ ยหมึกแม่เหล็ก สามารถร้จู าอักขระท่เี ปน็ หมกึ แม่เหล็ก (Magnetic-Ink Character Recognition) โดยเช็คทุกใบจะ มเี ลขเอ็มไอซอี าร์ (MICR Number) สีดาชัดเจนตาแหนง่ ด้านล่างของเชค็ ดงั ภาพท่ี 3-9 ภาพที่ 3-9 ความหมายของตัวเลขในเชค็ ทมี่ า: ผเู้ ขยี น ก่อนการใช้เช็ค ธนาคารจะใช้เคร่ือง MICR ในการเข้ารหัส โดยใช้ชื่อธนาคาร รหัสสาขา เลขทบี่ ัญชแี ละเลขท่เี ช็ค ให้กลายเป็นตวั เลขทเ่ี ข้ารหสั เรียกว่าเลขเอ็มไอซีอาร์ เมือ่ มีการใช้เช็คเพ่ือ ชาระหนี้ เช็คจะถูกใช้เพ่ือฝากเข้าบัญชีธนาคารหรือถอนเงินสด ดังน้ันเช็คจึงถูกส่งกลับมาสู่
72 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารที่ออกเชค็ อกี ครง้ั จากน้ันธนาคารจะตรวจสอบหมายเลขเอ็มไอซอี าร์ เพ่อื พสิ จู นต์ ัวตนของ เจ้าของเชค็ และยนื ยนั เช็ค (มยุรี สขุ มา, 2553) 3.1.5 การใชเ้ ช็คให้ถูกวิธี การใช้เช็คถูกวิธีจะช่วยให้กระบวนการคัดแยกเช็ค ณ ธนาคารพาณิชย์และศูนย์หักบัญชี อิเล็กทรอนิกส์เป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว โดยผู้ใช้เช็คควรปฏิบัติดังน้ี (ธนาคารแห่งประเทศ ไทย ศูนย์ค้มุ ครองผใู้ ชบ้ ริการทางการเงิน, 2557ค) - ไม่ควรพิมพ์ เขียน สลักหลัง ลงลายมือช่ือ ขีดคร่อม ประทับตรา ขูด ลบ ขีด ฆา่ ในพืน้ ที่แถบว่างหรือล้าเข้าไปในพ้ืนท่ีแถบว่าง - ไมค่ วรพับเช็ค หรือทาให้ยับ หรอื ทาใหเ้ ชค็ เปยี กช้นื - หากเป็นเช็คต่อเน่ือง ควรฉีกเช็คตามแนวปรุอย่างระมัดระวัง เพ่ือไม่ให้เช็ค เสียหาย 3.1.6 ข้อดีของการใชเ้ ชค็ - ผู้สั่งจ่ายเช็คสามารถกาหนดเวลาในการบริหารเงินสดในบัญชีธนาคารได้ ส่งผลให้เกิดสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ เนื่องจากสามารถจัดสรรเงินสดไปใช้สาหรับดาเนิน กจิ กรรมทจ่ี าเปน็ กอ่ น - การใชเ้ ช็คชว่ ยให้มคี วามปลอดภัยมากกวา่ การชาระดว้ ยเงนิ สด - การใช้เชค็ จะมีหลักฐานการทาธุรกรรมทางการเงินช่วยให้สามารถตรวจสอบ รายการย้อนหลังได้ละเอยี ดและงา่ ยกวา่ การทาธรุ กรรมเก่ียวกับเงินสด 3.1.7 ขอ้ พิจารณาก่อนการใช้เช็ค - วนั ท่ีทส่ี งั่ จ่ายในเชค็ มรี ะยะเวลาไมเ่ กิน 6 เดือน - ข้อความจานวนเงนิ ตวั อกั ษรและตวั เลข ตอ้ งมีความหมายเดยี วกัน 3.2 การหักบญั ชีเช็คด้วยวธิ อี ิเล็กทรอนิกส์ 3.2.1 ความหมายของเขตสานักหักบญั ชี เขตสานักหักบัญชี หมายถึง การกาหนดเขตพื้นที่การฝากเช็คเพื่อใช้คิดค่าธรรมเนียมของ ธนาคาร โดยจะเรยี กเกบ็ จากผทู้ ่ีนาเชค็ ไปเข้าบัญชี (ผฝู้ ากเชค็ ) ปกตจิ ะแบง่ เปน็ 1) กรงุ เทพฯ และ ปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และปัจจุบันเพิ่มนครปฐม และ
บทที่ 3 การชาระเงนิ ด้วยเชค็ 73 บางอาเภอ เช่น กระทุ่มแบน (จ.สมุทรสาคร) ซ่ึงเป็นเขตท่ีธนาคารรับฝากเช็คเข้าบัญชีโดยไม่เก็บ ค่าธรรมเนียมจากผู้ฝากเช็ค 2) นอกเหนือจากนั้นจะเป็นเช็คในเขตภูมิภาคซ่ึงจะมีเขตสานัก หักบัญชีในแต่ละจังหวัด หากมีการเรียกเก็บเงินตามเช็คข้ามจังหวัด (ข้ามเขตสานักหักบัญชี) ธนาคารจะเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนียมจากเงินตามเช็คตามอตั ราทีก่ าหนด 3.2.2 ตราสารทีใ่ ชใ้ นการหักบัญชี ตราสารที่ใช้ในการหักบัญชีในประเทศไทยได้แก่ เช็ค ดร๊าฟท์หรือต๋ัวแลกเงิน และต๋ัว สัญญาใช้เงิน ซ่ึงมีสกุลเงินบาทและเป็นไปตามตามมาตรฐานท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยกาหนด โดยตราสารดังกล่าวต้องเป็นของธนาคารสมาชิกและเป็นตราสารของลูกค้าที่ธนาคารสมาชิก ไดร้ ับรองการจ่ายเงิน 3.2.3 ระบบหกั บญั ชีเชค็ ในเขตกรุงเทพฯ และปรมิ ณฑล เดิมการหกั บัญชีระหวา่ งธนาคาร เรม่ิ ต้นโดยบคุ คลากรของธนาคารสมาชิกทาการคัดแยก เช็คเป็นรายธนาคารแล้วนามาแลกเปลี่ยนระหว่างกัน จากน้ันจึงคานวณดุลการหักบัญชี ซ่ึง การดาเนินงานดังกล่าวมีความผิดพลาดเกิดข้ึน ทาให้การคานวณดุลการหักบัญชีเกิดความล่าช้า ส่งผลกระทบต่อไปยังการดาเนินการของตลาดเงิน ยิ่งไปกว่าน้ันปริมาณการใช้เช็คก็ยังเพิ่มสูงข้ึน รวมทั้งปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ จึงส่งผลให้ลูกค้าบางส่วนไม่สามารถฝากเช็คได้ทัน กาหนดเวลาปิดรบั เชค็ ต่อมาจึงมีการแก้ปัญหาโดยนาระบบการหักบัญชีเช็คด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Cheque Clearing System: ECS) ไปใช้ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเป็นการส่งข้อมูล ทางอิเล็กทรอนิกส์จึงทาให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น ช่วยให้ธนาคารสมาชิกสามารถขยายเวลารบั ฝากเช็คได้นานข้ึนรวมทั้งกระบวนการทางานมีความปลอดภัย โดยเป็นการส่งข้อมูลท่ีอ่านจากตวั เช็คจากนั้นจึงคานวณดุลและบันทึกบัญชีลูกค้า โดยไม่ต้องใช้ตัวเช็คจริงท้ังในการเรียกเก็บและ การคนื เชค็ ซง่ึ มกี ารดาเนินการตง้ั แตว่ นั ท่ี 16 กรกฎาคม 2539 เป็นตน้ มา สมาชิกระบบการหักบัญชีเช็คด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ คือธนาคารทุกแห่งในเขต จังหวัดกรุงเทพฯ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร และ จงั หวัดนครปฐมรวมทง้ั บางสาขาในจังหวดั อยธุ ยา สมาชิกในระบบการหักบัญชีเช็คด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ มี 2 ประเภทได้แก่ สมาชิก ออนไลน์ (สมาชิกท่ีนาส่งท้ังข้อมูลและตัวเช็ค) สมาชิกออฟไลน์ (lสมาชิกที่นาส่งเฉพาะตัวเช็ค) ปจั จบุ ันเป็นสมาชิกออนไลน์ท้ังหมด
74 การเงนิ และระบบชาระเงินอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 3.2.4 ขน้ั ตอนการดาเนินงานรอบการหักบัญชปี กติ (Normal Round) ผู้ดาเนินการหักบัญชีคือศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยธนาคารสมาชิกจะมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เชื่อมต่อออนไลน์กับศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ และสาขาธนาคารของตนเอง เมื่อสาขาธนาคารได้รับเช็คจากลูกค้าก็จะอ่านข้อมูลจาก Code Line ซ่ึงพิมพ์ด้วยหมึกแม่เหล็ก (Magnetic Ink Character Recognition - MICR) แล้วจึง สง่ ข้อมลู ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ไปยังสานกั งานใหญ่ของตนเอง สาหรบั ธนาคารสมาชกิ ออนไลน์จะส่งขอ้ มลู เชค็ เรยี กเก็บแบบอเิ ล็กทรอนิกส์ผา่ นเครือข่าย ส่อื สารมายังศนู ย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ ในขณะทธี่ นาคารสมาชิกออฟไลนจ์ ะส่งตัวเช็คให้ศูนย์หัก บญั ชีอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ต่อมาศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ดาเนินการอ่านและจัดทาข้อมูลเช็คเรียกเก็บ จากนั้น ทาการคานวณดุลโดยมีการดึงข้อมูลเช็คมูลค่าสูง (High Value Cheque) มูลค่าตั้งแต่ 10 ล้าน บาทขึ้นไปส่งให้ธนาคารผู้จ่ายทาการตรวจสอบ โดยหากมีการปฏิเสธการจ่ายเงินดังนั้นระบบ จะนาข้อมูลเช็คมูลค่าสูงดังกล่าวออกแล้วจึงทาการคานวณดุลสุทธิใหม่ ต่อมาศูนย์หักบัญชี อิเล็กทรอนิกส์จะส่งข้อมูลเช็ครับเข้าให้แก่ธนาคารสมาชิกเพ่ือให้ใช้เป็นข้อมูลในการตัดเงิน จากบัญชีลูกค้าต่อไป พร้อมทั้งศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ก็ทาการชาระดุลการหักบัญชีสุทธิผ่าน ระบบบาทเนต จากนนั้ ในชว่ งเย็นวันเดยี วกนั ธนาคารสมาชิกออนไลน์จะส่งตวั เชค็ จริงให้แก่ศนู ย์หกั บัญชี อิเล็กทรอนิกส์เพื่อดาเนินการอ่าน คัดแยก และตรวจสอบเปรียบเทียบกับข้อมูลท่ีศูนย์หักบัญชี อิเล็กทรอนิกส์ได้รับในระหว่างวัน โดยจะมีการคัดแยกเป็นรายธนาคาร รายสาขา รวมท้ังมีการ เรียงลาดับเช็คตามหมายเลขบัญชีธนาคารก่อนการส่งมอบให้แก่ธนาคารผู้จ่ายสาหรับ การตรวจสอบเชค็ ต่อไป ดงั ภาพท่ี 3-10 ทั้งนี้ระบบหักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์มีการดาเนินงานแบบ One-Day Clearing คือ มีการ ดาเนินการการแลกเปล่ียนเช็ค การดาเนินการชาระดุลระหว่างธนาคาร และการบันทึกบัญชีลูกค้า ภายในวันท่ีลกู คา้ นาฝากเชค็ ชว่ ยให้ลกู ค้าสามารถถอนเงนิ สดไดใ้ นวนั ทาการถดั ไป
บทท่ี 3 การชาระเงนิ ด้วยเช็ค 75 ภาพที่ 3-10 ระบบการหักบัญชเี ช็คด้วยวธิ ีอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ทีม่ า: ผเู้ ขียน 3.2.5 ขน้ั ตอนการดาเนนิ งานรอบการหักบัญชีเช็คคืน (Electronic Cheque Return: ECR) การหักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารรอบเช็คคืน หากธนาคารผู้จ่ายเงินตามเช็คไม่สามารถ ตัดบัญชีลกู ค้าไดห้ รือตรวจสอบแล้วไมถ่ ูกต้อง ธนาคารผถู้ กู เรียกเกบ็ (Paying Bank) ส่งข้อมูลเช็ค คืนให้ศูนย์หักบัญชีฯ ทางระบบออนไลน์เพ่ือประมวลผลและคานวณดุลการหักบัญชีรอบเช็คคืน รวมท้ังชาระดุลการหักบัญชีรอบเช็คคืน ธนาคารสมาชิกแลกเปล่ียนเช็คคืนระหว่างธนาคาร พร้อมเหตุผลการคืนเช็คทศ่ี ูนยห์ ักบัญชีฯ 3.2.6 ค่าธรรมเนยี มการหักบญั ชี - สาหรับธนาคารผูเ้ รยี กเก็บ (Sending Bank) จ่ายคา่ ธรรมเนียม 0.20 บาท/ฉบับ - สาหรับธนาคารผู้จ่าย (Paying Bank) จ่ายค่าธรรมเนียม 0.40 บาท/ฉบับ หากตอ้ งการให้ศูนย์หักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์คัดแยกเช็คเป็นรายสาขาและเรยี งหมายเลขบัญชีลูกค้า 0.60 บาท/ฉบบั ทั้งน้ีจากสถิติการใช้เช็คเรียกเก็บในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2560 ปี (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2561ข) พบว่าปี พ.ศ. 2556 มีการใช้งานมูลค่าสูงสุด
76 การเงินและระบบชาระเงนิ อิเลก็ ทรอนิกส์ คือ 35,980 พันล้านบาท แต่กลับมีแนวโน้มการใช้งานลดลงเป็น 31,642 พันล้านบาท ในปี พ.ศ. 2560 ดงั ภาพที่ 3-11 ภาพที่ 3-11 มูลค่าเชค็ เรยี กเกบ็ ภายในเขตกรงุ เทพฯ และปริมณฑลปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2560 ทมี่ า: ผเู้ ขียน 3.3 การเรยี กเกบ็ เงนิ ตามเช็คภายในเขตสานกั หักบัญชี ผู้ดาเนินงานในระบบการเรียกเก็บเงินตามเช็คภายในเขตสานักหักบัญชี (Bill for Collection: B/C) คอื สานักหกั บญั ชจี ังหวัด ภายใต้การกากับของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมี ลกั ษณะเปน็ ระบบการหักบัญชีเชค็ ระหว่างธนาคารในตา่ งจังหวดั ภายในเขตสานักหกั บัญชเี ดยี วกนั เดิม ระยะเวลาการเรียกเก็บเงินของเช็คภายในจังหวัด 3-7 วัน เมื่อปรับปรุงระบบใหม่ โดยใชร้ ะบบ One-Day Clearing ทาให้ลดระยะเวลาดาเนนิ การไดเ้ ปน็ ภายในวันเดยี ว 3.3.1 สมาชิกของสานักหกั บญั ชี สมาชิกของสานักหักบัญชีประกอบด้วยธนาคารพาณิชย์ท่ีมีสาขาอยู่ในสานักหักบัญชี และธนาคารท่ีเป็นสมาชิกสานักบัญชีอาเภอ โดยมีค่าธรรมเนียมรายปีของแต่ละสานักงานหรือ แต่ละสาขาจานวน 1,000 บาท
บทท่ี 3 การชาระเงนิ ด้วยเช็ค 77 3.3.2 ขั้นตอนการดาเนนิ งานรอบการหักบัญชปี กติ (Normal Round) เริ่มต้นจากธนาคารสมาชิกรับฝากเช็คจากลูกค้า จากนั้นธนาคารทาการบันทึกข้อมูลเช็ค เข้าสู่ระบบเป็นรายฉบับ ต่อมาทาการคัดแยกเช็คตามรายธนาคารแล้วจึงส่งข้อมูลดังกล่าว ใหส้ าขาหลักทาการรวบรวม จากนน้ั ขอ้ มลู เช็คและตวั เช็คจะถกู ส่งให้สานักหกั บญั ชี ต่อมาสานักหักบัญชีดาเนินการจัดทางบพิสูจน์การหักบัญชีและคานวณดุลการหักบัญชี ตามรายธนาคารและรายสาขา รวมทั้งทาการบันทึกข้อมูลเช็ครับเข้าลงในส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือส่งให้แก่ธนาคารสมาชิกพร้อมตัวรายงาน ในขณะเดียวกันสานักหักบัญชีทาการส่งงบพิสูจน์ การหักบัญชีท่ีรวมกับรอบการหักบัญชีเช็คคืน ให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทยเพ่ือทาการชาระดุล การหักบัญชผี า่ นระบบบาทเนตในวนั ทาการเดียวกัน ดังภาพที่ 3-12 3.3.3 ขน้ั ตอนการดาเนินงานรอบการหักบัญชเี ช็คคืน (Electronic Cheque Return: ECR) ในวันทาการถัดไป สาขาธนาคารดาเนินการแยกเช็คคืนและนาข้อมูลเช็คคืนพร้อมด้วย เหตุผลการคืนเช็คเข้าสู่ระบบ แต่สาหรับกรณีสาขาธนาคารท่ีต้ังอยู่ในพื้นท่ีห่างไกลสามารถ ส่งข้อมูลพร้อมเหตุผลและภาพถ่ายเช็คคืนให้แก่สาขาหลักผ่านการโทรสาร จากนั้นสาขาหลัก จะบนั ทกึ เหตผุ ลการคืนเช็คเข้าสู่ระบบของสาขาหลกั แล้วจึงส่งข้อมูลใหส้ านักหกั บัญชีต่อไป ภาพที่ 3-12 ระบบการเรยี กเก็บเงนิ ตามเช็คภายในเขตสานกั หักบญั ชี ทีม่ า: ผู้เขียน
78 การเงินและระบบชาระเงินอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จากสถิติการใช้เช็คภายในเขตสานักหักบัญชี ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 (ธนาคารแห่ง ประเทศไทย, 2561ข) พบว่าปี พ.ศ. 2555 มีการใช้งานเป็นมูลค่าสูงสุด 3,810.58 พันล้านบาท แต่กลบั มแี นวโนม้ การใช้งานลดลงเป็น 3,189.44 พนั ลา้ นบาท ในปี พ.ศ. 2560 ดงั ภาพที่ 3-13 ภาพท่ี 3-13 มูลคา่ เช็คภายในเขตสานกั หกั บัญชี ปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2560 ทมี่ า: ผู้เขยี น 3.4 การเรียกเกบ็ เงนิ ตามเช็คขา้ มเขตสานักหักบัญชี การเรียกเก็บเงินตามเช็คข้ามเขตสานักหักบัญชี (Bill for Collection: B/C) มี 2 วิธี คือ การเรยี กเก็บต้นทางและการเรียกเกบ็ ปลายทาง 3.4.1 การเรยี กเก็บปลายทาง การเรยี กเกบ็ ปลายทางผา่ นสานักหกั บัญชจี งั หวดั โดยธนาคารผรู้ บั ฝากเช็คจะส่งเชค็ ไปยัง ธนาคารของตนเองซ่ึงเป็นสาขาท่ีตั้งอยู่ในเขตสานักหักบัญชีเดียวกับที่สาขาธนาคารผู้จ่ายต้ังอยู่ โดยผฝู้ ากเชค็ จะทราบผลภายใน 5 วนั ทาการ นบั ถัดจากวันที่ฝากเชค็ ดงั ภาพท่ี 3-14 3.4.2 การเรยี กเกบ็ ตน้ ทาง กรณีธนาคารผู้รับฝากเช็คไม่มีสาขาท่ีต้ังในท้องถิ่นเดียวกับสาขาธนาคารผู้จ่าย ดังน้ัน ธนาคารผู้รับฝากเช็คจะดาเนินการเรียกเก็บเงินผ่านสานักงานใหญ่ของตนเองในจังหวัดกรุงเทพฯ โดยศนู ยห์ กั บัญชีฯ จะประมวลผลขอ้ มลู ผา่ นระบบ B/C-3D ดงั ภาพท่ี 3-15
บทที่ 3 การชาระเงินด้วยเชค็ 79 เม่ือเรียกเก็บได้ ธนาคารผู้จ่ายจะแจ้งผลการเรียกเก็บเงินต่อธนาคารผู้รับฝากเช็คและ บันทกึ ขอ้ มลู ส่งใหศ้ ูนย์หักบญั ชีฯ ภายใน 3 วนั ทาการ นบั ตัง้ แตว่ ันแลกเปล่ยี นเช็คระหว่างธนาคาร ภาพท่ี 3-14 วธิ กี ารเรยี กเก็บเชค็ แบบปลายทาง ทม่ี า: ผู้เขยี น ภาพที่ 3-15 วธิ ีการเรยี กเก็บเชค็ แบบตน้ ทาง ทีม่ า: ผู้เขยี น
80 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเลก็ ทรอนิกส์ จากสถิติการใช้เช็คข้ามเขตสานักหักบัญชี ปี พ.ศ. 2555 – พ.ศ. 2560 (ธนาคารแห่ง ประเทศไทย, 2561ข) พบว่ามีแนวโน้มการใช้งานเพ่ิมข้ึนในทุก ๆ ปี โดยในปี พ.ศ. 2560 มีการ ใช้งานเช็คขา้ มเขตสานกั หักบญั ชคี ดิ เปน็ มลู คา่ 1047.64 พนั ล้านบาท ดังภาพที่ 3-16 ภาพที่ 3-16 มลู ค่าเช็คขา้ มเขตสานักหกั บญั ชี ปี พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2560 ทมี่ า: ผเู้ ขยี น 3.5 การหกั บัญชเี ชค็ ดว้ ยภาพเช็คและระบบการจดั เก็บภาพเชค็ การหกั บัญชีเชค็ ด้วยภาพเชค็ และระบบการจัดเกบ็ ภาพเชค็ (Imaged Cheque Clearing and Archive System) มีวัตถุประสงค์เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการหักบัญชีเช็คให้มีมาตรฐาน เทียบเทา่ ระดบั สากล ชว่ ยส่งเสริมศกั ยภาพการแขง่ ขนั ทางเศรษฐกจิ ของประเทศ ลักษณะการทางานคือการเรียกเก็บเงินตามเช็คระหว่างธนาคารโดยใช้ภาพเช็คแทนการ ใช้เช็คจริง สามารถเรียกเก็บเงินตามเช็คท่ัวประเทศครอบคลุมถึงการเรียกเก็บเงิน ตามเช็คข้าม เขตสานกั หักบญั ชีฯ ภายในระยะเวลา 1 วนั ทาการ 3.5.1 นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในการพฒั นาระบบ ICAS นโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในการพัฒนาระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็ค และระบบการจัดเก็บภาพเช็คมี 3 องค์ประกอบได้แก่ 1) การหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็ค 2) การมี ระบบงานเดียว 3) การเรยี กเกบ็ เงินตามเชค็ เพียงสถานท่ีแห่งเดียว
บทที่ 3 การชาระเงินด้วยเชค็ 81 - การหกั บญั ชเี ชค็ ดว้ ยภาพเช็ค (One-day Clearing) หมายถึง การหักบญั ชีเช็คด้วย ภาพเช็คเท่านน้ั ไม่มกี ารขนสง่ ตวั เชค็ เวลาการเรียกเก็บเงินตามเชค็ ทั่วประเทศเพียง 1 วันทาการ - การมีระบบงานเดียว (One Cheque Clearing System) หมายถึง การลด ระบบการหักบัญชีเชค็ จากเดมิ มี 3 ระบบงาน คือ 1) ระบบการหักบัญชเี ช็คด้วยวธิ ีอิเลก็ ทรอนิกส์ 2) ระบบการหักบัญชเี ช็คในต่างจังหวัด และ 3) ระบบการเรียกเก็บเงินตามเช็คข้ามเขตสานกั หกั บญั ชีใหเ้ หลอื เพยี งระบบงานเดียวคอื การหักบัญชีเช็คดว้ ยภาพเชค็ และระบบการจัดเกบ็ ภาพเช็ค - การเรียกเก็บเงินตามเช็คเพียงสถานท่ีแห่งเดียว (One Clearing House) หมายถึง การเรียกเก็บเงินตามเช็คด้วยระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บ ภาพเช็ค ทาใหส้ ามารถดาเนินการโดยศูนยห์ ักบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ที่กรุงเทพฯ เพยี งแหง่ เดยี ว โดย ทาหน้าที่หักบัญชีเช็คระหว่างธนาคารทั่วประเทศโดยไม่ต้องใช้สานักหักบัญชีกว่า 80 แห่งทั่ว ประเทศ ทั้งนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ใช้งานระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและระบบ การจัดเก็บภาพเช็คในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเม่ือปี พ.ศ. 2555 และดาเนินการครอบคลุม ทกุ จงั หวัดเมอื่ ปี พ.ศ. 2556 3.5.2 มาตรฐานภาพเช็คท่ีส่งเรียกเก็บในระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและ ระบบการจดั เก็บภาพเช็ค ธนาคารสมาชิกจะต้องสง่ ไฟล์ภาพเช็คเรียกเก็บเงินแตล่ ะฉบับผ่านระบบการหักบัญชเี ช็ค ดว้ ยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็คจานวน 3 ภาพ ตามขอ้ กาหนดดังต่อไปนี้ 1. ภาพสเี ทาดา้ นหน้าของเชค็ (Grayscale) ดงั ภาพท่ี 3-17 2. ภาพขาวดาด้านหน้าของเช็ค (Black & White) ดังภาพท่ี 3-18 3. ภาพขาวดาด้านหลงั ของเช็ค (Black & White) ดงั ภาพที่ 3-19 ทั้งนี้ภาพสีเทาถูกใช้เพ่ือตรวจสอบการแก้ไขและการปลอมแปลงเช็ค ส่วนภาพขาวดา ถูกใช้เพ่อื ตรวจสอบลายมือชือ่ ผ้จู ่ายและสลักหลัง
82 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเลก็ ทรอนิกส์ ภาพที่ 3-17 ตัวอย่างภาพสีเทาดา้ นหน้าของเช็ค ที่มา: ผู้เขียน ภาพที่ 3-18 ตวั อย่างภาพขาวดาดา้ นหนา้ ของเช็ค ทีม่ า: ผเู้ ขียน
บทที่ 3 การชาระเงนิ ด้วยเช็ค 83 ภาพที่ 3-19 ตัวอย่างภาพขาวดาด้านหลังของเช็ค ทม่ี า: ผู้เขยี น 3.5.3 กระบวนการเรียกเก็บเงินของเช็คในระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและ ระบบการจัดเกบ็ ภาพเชค็ เม่ือลูกค้านาเช็คไปฝากที่ธนาคาร ธนาคารผู้รับเช็คจะสแกนภาพเช็คท้ังด้านหน้าและ ดา้ นหลงั พร้อมทั้งจดั ทาข้อมลู ของเช็คฉบบั ดงั กลา่ ว สง่ ผ่านระบบอิเลก็ ทรอนกิ สอ์ อนไลน์ไปยังศูนย์ หักบัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อให้ทาการคัดแยกภาพเช็คและข้อมูลก่อนส่งต่อ ไปยังธนาคารผู้จา่ ย เพือ่ ตรวจสอบและอนมุ ตั ติ ดั จา่ ยเงินตามข้อมลู ในเช็คตอ่ ไป ในกรณีที่เช็คถูกปฏิเสธการจ่าย ดังน้ันธนาคารผู้จ่ายจะแจ้งผลเช็คคืนผ่านระบบ อิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ไปยังศูนย์หักบัญชี เพื่อทาการแจ้งข้อมูลต่อไปยังธนาคารผู้เรียกเก็บ เงิน หลังจากน้ันธนาคารผู้เรียกเก็บเงินจะนาส่งตัวเช็คคืนซ่ึงเป็นตัวเช็คฉบับจริง พร้อม แนบใบแจง้ ผลการคนื เชค็ ให้แก่ลูกคา้ ทีน่ าเชค็ ไปฝาก ในการน้ี ข้อมูลและภาพเช็คท่ีส่งเข้าเรียกเก็บดังกล่าวจะถูกเก็บไว้ในระบบการเรียก เก็บเงินของเช็คในระบบการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คและระบบการจัดเก็บภาพเช็ค ณ ศูนย์หักบัญชีของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานทางกฎหมายและ กระบวนการทางศาลแทนการใช้ตวั เช็คจริง ดงั ภาพที่ 3-20
84 การเงนิ และระบบชาระเงินอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ภาพท่ี 3-20 กระบวนการเรยี กเก็บเงนิ ของเช็คในระบบการหักบัญชเี ชค็ ดว้ ยภาพเชค็ และระบบการจดั เกบ็ ภาพเชค็ ท่ีมา: ผเู้ ขียน 3.5.4 การรกั ษาความปลอดภัย 3.5.4.1 การป้องกันการปลอมแปลงเชค็ ในการป้องกันการปลอมแปลงเช็ค ธนาคารแห่งประเทศไทยกาหนดให้ใช้กระดาษ ก ร ะ ด า ษ CBS 1 ( London Clearing Banks Paper Specification No. 1 ) ที่ มี ก า ร ฝั ง ลายน้ากลาง (Common Watermark) ในเน้ือกระดาษแบบเต็มรูป ซึ่งมีความกว้างและความสูง ไม่น้อยกว่า 2 เซนติเมตร อย่างน้อย 1 รูป รวมทั้งมีภาพลายน้าที่กระจายอยู่ทั่วไปบนตัวเช็ค ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเม่ือยกขึ้นส่องกับแสงสว่าง เพื่ออานวยความสะดวกให้ธนาคาร ผูร้ บั ฝากเช็คสามารถตรวจสอบเชค็ ของธนาคารอ่ืนไดอ้ ยา่ งรวดเร็วเม่อื ไดร้ บั เชค็ จากลกู ค้า นอกจากน้ีธนาคารผู้ออกเช็ค สามารถใส่ลายน้าที่มีรูปแบบเฉพาะของตนเองควบคู่กับ ลายน้ากลางเพื่อประโยชน์ในการควบคุมภายในของธนาคารเอง โดยลายน้าของธนาคารต้อง ไมอ่ ยตู่ ดิ หรอื บดบังลายนา้ กลาง
บทที่ 3 การชาระเงนิ ดว้ ยเชค็ 85 3.5.4.2 การปอ้ งกนั การแก้ไขขอ้ ความบนตัวเชค็ ลักษณะกระดาษที่ใช้ในการพิมพ์เช็ค เป็นกระดาษ CBS 1 ประเภท Laser Grade ท่ี มีการเคลือบผิวกระดาษ CBS1 ด้วยกรรมวิธีพิเศษเพื่อให้เกิดการยึดเกาะโทนเนอร์ (Toner) ได้ดี สามารถปอ้ งกันการลบ ขูด เม่ือมีการแก้ไขข้อมูลที่พิมพ์จากเครื่องพิมพ์เลเซอร์จะมีการท้ิงร่องรอย ให้เห็นได้อย่างชัดเจน นอกจากน้ีจะมีการพิมพ์ข้อความหรือลวดลายลักษณะพิเศษบนหน้าเช็ค ด้วยหมกึ ทมี่ ีคณุ ลักษณะพเิ ศษเชน่ กัน ดงั ภาพท่ี 3-21 ภาพท่ี 3-21 รปู ลายนา้ กลางบนเช็ค ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2558จ 3.5.5 การรกั ษาความมั่นคงปลอดภยั ของระบบ มีการใช้วธิ ีการต่างๆ ดงั น้ี - มีการเข้ารหัสด้วยกระบวนการทางคณิตศาสตร์เรียกว่า Hashing (หรอื Digital Fingerprinting) - การใช้ลายเซ็นต์ดิจิตอล (Digital Signature) เพือ่ ตรวจสอบความถกู ต้องของ ข้อมลู (Data Integrity) และยนื ยนั การทาธรุ กรรมของเจา้ ของ ลายมือชอื่ (Non-repudiation) - มกี ารกาหนดใหม้ ีการยืนยนั ตัวบคุ คลกอ่ นการเขา้ ใช้งาน - มีการการจัดการสิทธใิ์ นการเขา้ ถึงข้อมลู - มกี ารจดั เก็บขอ้ มลู การส่งออกหรือรบั เข้าในระบบเครือข่าย - มีการจดั เตรยี มระบบและเครอื ข่ายสารอง สาหรบั กรณฉี กุ เฉิน 3.5.6 ข้อจากัดระบบการหกั บัญชีเช็คดว้ ยภาพเช็คและระบบการจดั เกบ็ ภาพเชค็ ข้อจากดั ระบบการหักบญั ชเี ช็คดว้ ยภาพเช็คและระบบการจดั เก็บภาพเชค็ เป็นดงั นี้ - ธนาคารผจู้ ่ายตอ้ งตรวจสอบลายมอื ชอ่ื ผ้สู ง่ั จ่ายบนภาพเช็คให้ชดั เจน
86 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ - ไม่ควรใช้ตราประทับ ตรานูนหรือตราสีบนตัวเช็ค เน่ืองจากจะส่งผลใหภ้ าพ สแกนเช็คไม่ชัดเจน เกิดความผิดพลาดในการตรวจสอบข้อมูลลายมือชื่อและข้อมูลสาคัญต่าง ๆ จากภาพเช็คและยังผดิ เง่อื นไขของการใช้สี ตามเงือ่ นไขของตราประทบั จากภาพ ดงั ภาพที่ 3-22 ตวั อย่าง ตน้ ฉบบั เช็คที่มตี ราประทบั ด้านหน้า ภาพท่ี 3-22 ภาพเช็คต้นฉบบั ท่มี า: ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2558จ เมื่อสแกนเป็นภาพสีเทาจะเห็นได้ว่าลายมือชื่อของผู้มีอานาจมีความไม่ชัดเจน เนอื่ งจากเป็นภาพซ้อนทบั กับภาพตราประทบั ดงั ภาพท่ี 3-23 ภาพท่ี 3-23 ภาพสเี ทาด้านหนา้ ของเชค็ ทีม่ า: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2558จ
บทที่ 3 การชาระเงนิ ดว้ ยเชค็ 87 เม่ือสแกนเป็นภาพขาวดาจะปรากฏลายมือช่ือท่ีไม่ชัดเจนมากยิ่งข้ึนเนื่องจาก ตราประทบั รบกวนลายมือช่ือผสู้ ง่ั จา่ ยและข้อมูลสาคัญของเช็ค ดงั ภาพท่ี 3-24 ภาพที่ 3-24 ภาพขาวดาด้านหน้าของเชค็ ทม่ี า: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2558จ เมอ่ื สแกนเช็คทีใ่ ช้ตราประทบั สีเป็นภาพสเี ทาจะปรากฏดงั ภาพที่ 3-25 ภาพที่ 3-25 ภาพสเี ทาด้านหน้าของเชค็ ท่ใี ชต้ ราประทบั สี ท่มี า: ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2558จ เมอ่ื สแกนเชค็ ที่ใช้ตราประทับสเี ปน็ ภาพขาว-ดาจะปรากฏดังภาพท่ี 3-26
88 การเงินและระบบชาระเงินอิเลก็ ทรอนิกส์ ภาพท่ี 3-26 ภาพเช็คที่มตี ราประทับซ้อนกบั ลายมอื ชื่อผู้ส่งั จา่ ยและข้อมลู สาคัญของเชค็ ทมี่ า: ธนาคารแหง่ ประเทศไทย, 2558จ 3.6 สรุป เช็คเป็นหนงั สอื ตราสารท่ผี ู้ส่ังจ่าย สัง่ ธนาคารให้ใชเ้ งินแกผ่ รู้ ับเงิน ซง่ึ สามารถแบง่ เชค็ ตาม ธุรกรรมทางการเงินได้ 7 ประเภท ได้แก่เช็คเงินสด เช็คจ่ายตามคาสั่ง เช็คสาหรับผู้เดินทาง เช็คท่ีธนาคารรับรอง เคานเ์ ตอร์เช็ค แคชเชียรเ์ ช็ค และดร๊าฟทธ์ นาคาร ในการส่ังจ่ายเช็คสามารถส่ังจ่ายในนามเช็คบุคคลธรรมดา หรือเช็คนิติบุคคล ในขณะท่ี เช็คบางประเภทต้องสั่งจ่ายโดยธนาคารเท่านั้น เช่น แคชเชียร์เช็ค เช็คของขวัญ และดร๊าฟท์ ธนาคาร เป็นต้น สาหรับการส่ังจ่ายเช็คอย่างปลอดภัยควรทาการสลักหลังเฉพาะหรือสลักหลัง ลอย หรือขีดคร่อมเพื่อป้องกันกรณีเช็คหายทาให้ผู้ท่ีเจอเช็คไม่สามารถนาเช็คไปขึ้นเงินได้ ทั้งน้ี ควรรักษาเช็คให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่ควรพิมพ์ เขียน สลักหลัง ลงลายมือช่ือ ขีดคร่อม ประทับตรา หรือขูด ลบ ขดี ฆ่าในพ้นื ที่วา่ งของเชค็ ไมค่ วรพบั หรอื ทาให้เชค็ เปยี กและหากเป็นเช็ค ต่อเนื่องผู้สั่งจ่ายต้องฉีกเชค็ ตามแนวปรุอย่างระมัดระวัง ระบบการหักบัญชเี ชค็ ในอดีตประกอบด้วย 3 ระบบงาน ไดแ้ ก่ (1) ระบบการหักบญั ชีเช็ค ด้วยวธิ อี เิ ลก็ ทรอนิกส์ซึ่งใชส้ าหรับหักบญั ชีเช็คในเขตกรงุ เทพฯ และปรมิ ณฑล (2) ระบบการเรียก เก็บเงินตามเช็คภายในเขตสานักหักบัญชี (3) ระบบการเรียกเก็บเงินตามเช็คข้ามเขตสานักหัก บัญชี แต่ปัจจุบันมีการลดเหลือเพียงระบบเดียวคือการหักบัญชีเช็คด้วยภาพเช็คท่ีสามารถเรียก เกบ็ เงนิ ตามเช็คท่วั ประเทศภายในเวลาเพยี ง 1 วันทาการ
บทท่ี 3 การชาระเงนิ ดว้ ยเช็ค 89 คาถามท้ายบท 1. เชค็ คอื อะไร จงอธบิ าย 2. ผูท้ เ่ี กี่ยวขอ้ งกับเชค็ มีก่กี ลมุ่ ใครบา้ ง 3. จงอธิบายคุณลักษณะ Bearer’s Cheque 4. จงอธบิ ายคณุ ลักษณะ Order’s Cheque 5. Traveler’s Cheque มีประโยชนอ์ ย่างไร 6. Banks Draft และ Cashier’s Cheque มีความแตกตา่ งกันหรือไม่ จงอธิบาย 7. การสลกั หลงั เชค็ มีก่ีวธิ ี อะไรบา้ ง 8. การขดี ครอ่ มเช็ค ทาเพ่อื อะไร และมขี ้อกาหนดอย่างไร 9. จงอธบิ ายระบบการหกั บัญชีเช็คด้วยวธิ ีอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 10. จงอธิบายเก่ียวกับข้อดีของการหักบัญชเี ช็คด้วยวธิ อี เิ ลก็ ทรอนิกส์ 11. จงอธบิ ายระบบการเรียกเก็บเงนิ ตามเชค็ ข้ามเขตสานักหักบัญชี 12. จงอธิบายเกย่ี วกับขอ้ ดอ้ ยของการเรยี กเก็บเงินตามเช็คขา้ มเขตสานักหกั บญั ชี 13. จงอธบิ ายวิธใี ชเ้ ชค็ ทีถ่ กู ตอ้ ง 14. การเรียกเก็บเงินตามเช็คข้ามเขตสานักหักบัญชีแบบเรียกเก็บต้นทางแตกต่างจากการ เรยี กเกบ็ ปลายทางอยา่ งไร 15. จงอธิบายระบบการหกั บญั ชีเช็คด้วยภาพเช็ค (ICAS) 16. การหกั บัญชีเช็คด้วยภาพเช็ค (ICAS) มขี ้อดีอะไรบ้าง 17. หากท่านเก็บเชค็ ได้ ควรทาอย่างไร 18. จงอธบิ ายลกั ษณะเชค็ ท่ีไม่สามารถนาไปใช้ขนึ้ เงนิ ทธี่ นาคาร 19. จงอธิบายระบบการเรียกเก็บเงินตามเช็คภายในเขตสานักหักบัญชี เม่ือนางสาวเสาวดีรบั เชค็ จากธนาคารไทยพาณิชยส์ าขาตรังจากนายสมบตั ิ แล้วนาไปฝากเข้าบัญชีของนางสาว เสาวดที ่ีธนาคารกรงุ ศรีอยุธยา สาขาตรัง
90 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ 20. จงวเิ คราะหว์ ่าเชค็ ต่อไปน้ี สามารถนาไปชาระหนไี้ ด้หรือไม่ และจา่ ยให้แก่ผู้ใด ก) ตอบ ข) ตอบ ค) ตอบ
บทที่ 3 การชาระเงนิ ด้วยเช็ค 91 ง) ตอบ จ) ตอบ ฉ) ตอบ
92 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเล็กทรอนิกส์ 21. จงใช้ภาพเชค็ ดา้ นลา่ ง เพ่อื ตอบคาถามข้อ 21.1 - 21.5 ก) ข) ค)
บทท่ี 3 การชาระเงนิ ด้วยเช็ค 93 ง) 21.1 นางสาวกรวิมลต้องการจ่ายเช็คให้นางสาวหทัยรัตน์ แต่มีความกังวลว่านางสาว หทัยรัตน์อาจจะทาเช็คหายได้ ดังน้ันนางสาวกรวิมลควรออกเช็คแบบ ก) หรือแบบ ข) เพราะ อะไร 21.2 นางสาวพรอินทร์เปิดร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ได้ขายสินค้าในร้านให้แก่นาย วโรดมและนายปิยะ ซ่ึงนายวโรดมและนายปิยะจ่ายเงินในรูปแบบเช็ค ท้ังน้ีเนื่องจากนางสาวพร อินทร์มักไม่ได้มาขายสินค้าในร้านด้วยตนเอง ดังนั้นจึงมอบหมายนายสมพรซึ่งเป็นลูกจ้าง ให้รับ และจัดการเช็คแทนตนเอง ในกรณีน้ีนางสาวพรอินทร์ ควรแจ้งนายวโรดม และนายปิยะให้ออก เชค็ แบบ ก) หรอื แบบ ข) เพราะอะไร 21.3 นายวิรุณซ้ือรถยนต์มือสองจากนางสาวสายฝน ในราคา 1 แสนบาท โดยการ ชาระเงินในรูปแบบเช็ค ทั้งน้ีนางสาวสายฝนจะนาเงินจานวน 1 แสน บาท ไปชาระหน้ีท่ีกู้ยืม นางสาวอนงค์อีกทีหนึ่ง ในกรณีนี้นางสาวสายฝนควรแนะนาให้นายวิรุณเขียนเช็คแบบ ก) หรือ แบบ ข) จงึ จะสามารถดาเนินการตามวัตถปุ ระสงค์ของนางสาวสายฝน จงให้เหตผุ ลประกอบ 21.4 นายพรสินต้องการเขียนเช็คเพื่อจ่ายเงินเดือนของเดือนมกราคม 2562 ให้แก่ พนกั งานในบริษทั จานวน 10 คน ดังน้ันนายพรสินควรเขียนเช็คลกั ษณะใด เพราะอะไร 21.5 จงวิเคราะห์จุดแข็ง จดุ ออ่ นของรูปแบบการเขยี นเช็คในข้อ ก) ถงึ ง)
94 การเงนิ และระบบชาระเงินอิเลก็ ทรอนิกส์ 22. จากภาพประกอบด้านล่าง คือนางสาวสมใจได้รับเช็คจากนายกาพล ซ่ึงเป็นเช็คธนาคาร กรุงเทพฯ เม่ือวันที่ 21 ธันวาคม 2561 แต่นางสาวสมใจ ไม่ได้นาเช็คไปเรียกเก็บเงินในทันที ต่อมา เม่ือเวลาผ่านไป 3 เดือน นางสาวสมใจนึกได้ว่ายังไม่ได้นาเช็คไปเรียกเก็บเงิน ดังนั้น ต้นเดือนเมษายน 2562 นางสาวสมใจจึงนาเช็คไปฝากเข้าบัญชีธนาคารของตนเอง ซึ่งเปิดไว้กับ ธนาคารกรุงไทย แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยแจ้งว่าเช็คไม่สามารถใช้เรียกเก็บเงินได้ ในกรณนี ้นี างสาวสมใจควรทาอยา่ งไร เพราะอะไร ภาพประกอบคาถามข้อ 22 ตอบ
บทท่ี 4 การโอนเงินทางระบบอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หลังจากทีไ่ ดศ้ ึกษาในบทนี้แลว้ นกั ศกึ ษาสามารถ: 1. อธิบายเกยี่ วกบั ความหมายของการโอนเงินทางอิเล็กทรอนกิ ส์ได้ 2. อธิบายเกยี่ วกบั ระบบการโอนเงนิ ผา่ นไปรษณยี ์ได้ 3. อธบิ ายวิธกี ารระบบการโอนเงินรายใหญ่ได้ 4. อธิบายระบบการโอนเงินแบบทลี ะรายการได้ 5. อธบิ ายระบบการโอนเงนิ แบบทีละหลายรายการได้ 6. อธบิ ายระบบการโอนเงนิ แบบนาเงนิ เข้าบญั ชีอตั โนมัติได้ 7. อธิบายระบบการโอนเงนิ แบบหกั เงนิ จากบัญชอี ัตโนมตั ิได้ 8. อธบิ ายระบบการโอนเงนิ ระหวา่ งประเทศได้
96 การเงินและระบบชาระเงนิ อิเล็กทรอนิกส์ การโอนเงินทางระบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นระบบการโอนเงินท่ีมีความสาคัญต่อการพัฒนา ประเทศ ซึ่งช่วยอานวยความสะดวกแก่กิจกรรมต่างๆ ของประชาชน เช่น การโอนเงินทางด้าน การศึกษาภายในประเทศหรอื ต่างประเทศ การโอนเงินเพื่อชาระค่าสินค้าและบริการ การโอนเงิน เพื่อชาระค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ เป็นต้น นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมการแข่งขันทางการค้า ระหว่างประเทศแก่ภาคธุรกิจในการนาเข้าหรือส่งออกสินค้ากับต่างประเทศ ช่วยให้ผู้จ่ายเงิน สามารถโอนเงนิ ไปยังผู้รบั ท่ีอยู่ตา่ งพืน้ ที่หรือต่างประเทศไดส้ ะดวก ผรู้ ับเงินสามารถเบิกจ่ายเงินได้ รวดเร็ว ส่งเสริมความน่าเชื่อถือในการติดต่อการค้าระหว่างกัน โดยปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้ บริการโอนเงินทางระบบอิเลก็ ทรอนิกส์หลากหลายองค์กร ได้แก่ ไปรษณีย์ ธนาคารพาณิชย์ และ ธนาคารแห่งประเทศไทยเปน็ ต้น 4.1 การโอนเงนิ ผา่ นไปรษณยี ์ ไปรษณีย์ไทยก่อต้ังเม่ือปี พ.ศ. 2423 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัว ซ่ึงขณะนั้นมีชื่อเป็น “กรมไปรษณีย์” ต่อมาปี พ.ศ. 2441 กรมไปรษณีย์และกรมโทร เลขถูกรวมเข้าด้วยกันเรียกว่า “กรมไปรษณีย์โทรเลข” ท้ังน้ีในปี พ.ศ. 2428 รัฐบาลได้ตรา กฏหมายเรยี กว่า \"พระราชบญั ญตั กิ ารไปรษณยี ์ไทย จุลศักราช 1248\" วันท่ี 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 ได้มีการจัดต้ัง “การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.)” ซ่ึงมีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจตามพระราชบัญญัติการส่ือสารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2519 โดย รบั ผดิ ชอบกิจการด้านปฏิบัตกิ ารและการใหบ้ รกิ ารไปรษณยี ์ แทนกรมไปรษณยี ์โทรเลข ในภายหลังรฐั บาลต้องการจดั ต้ังรัฐวิสาหกิจเพื่อเพ่ิมประสิทธภิ าพการทางานให้เทียบเทา่ ภ าคเอกช น ดังนั้นวั นท่ี 8 กรกฎ าคม 2546 คณะรัฐ มนตรี จึงมีมติให้แ ปร ส ภ า พ การสื่อสารแห่งประเทศไทย เป็น 2 บริษัท ได้แก่ บริษัทไปรษณีย์ไทยจากัด และบริษัทกสท โทรคมนาคมจากัด (มหาชน) ตามแผนแม่บทพัฒนากิจการโทรคมนาคม และพระราชบัญญัติ ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 ซ่ึงบริษัทไปรษณีย์ไทยได้จดทะเบียนจัดต้ังเป็นบริษัทเม่ือวันท่ี 14 สงิ หาคม 2546 (บริษทั ไปรษณยี ไ์ ทย จากัด, 2561) ปัจจุบันประเทศไทยมีท่ีทาการไปรษณีย์มากกว่า 1,400 แห่ง กระจายท่ัวประเทศและ มีท่ีทาการไปรษณีย์รับอนุญาต (เอกชนท่ีได้รับอนุญาต ให้ดาเนินการรับ/ส่งส่ิงของในพ้ืนท่ี ท่ไี มม่ บี ริการของไปรษณีย)์ จานวนมากกว่า 1,000 แหง่
บทท่ี 4 การโอนเงินทางระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ 97 ไปรษณีย์ไทยมีบริการทางการเงิน (พศ.2561) หลายประเภทได้แก่ ธนาณัติออนไลน์ บริการโอนเงินด่วนระหว่างประเทศ (Western Union) บริการชาระเงินผ่านทางไปรษณีย์ (Pay@Post) ธนาณัติ-ตวั๋ แลกเงนิ บรกิ ารไปรษณยี เ์ ก็บเงิน (C.O.D) ธนาณัตอิ ิเล็กทรอนกิ ส์ระหว่าง ประเทศ บริการเตมิ เงินออนไลน์ (U Top Up) บริการฝาก ถอน โอน ผ่านไปรษณยี ์ (Bank@post) บรกิ ารกระเปา๋ เงินไปรษณีย์ โดยมรี ายละเอียดดงั นี้ (บริษทั ไปรษณยี ไ์ ทย จากัด, 2561) 4.1.1 ธนาณัติออนไลน์ ธนาณัติออนไลน์เป็นบริการฝากส่งเงินด่วนพิเศษถึงผู้รับปลายทางภายในประเทศ ผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีทันสมัย ผู้รับเงินและผู้ส่งเงินไม่ต้องมีบัญชีเงินฝาก แต่สามารถใช้ บัตรประจาตัวประชาชนเพื่อดาเนินการส่งเงิน และหลังจากการส่งธนาณัติ 15 นาที ผู้รับเงิน สามารถใช้บัตรประจาตัวประชาชนเพ่ือดาเนินการรับเงิน ณ ที่ทาการไปรษณีย์ได้ท่ัวประเทศ นอกจากนส้ี ามารถฝากสง่ ข้อความไมเ่ กนิ 100 ตวั อกั ษร (รวมเวน้ วรรค) ให้แกผ่ ู้รับเงิน สาหรับเง่ือนไขในการใช้บริการ คือ สามารถฝากส่งเงินสูงสุดได้ไม่เกินฉบับละ 50,000 บาท โดยการฝากส่งเงินไปยังผู้รับรายเดียวกันในแต่ละวันมีจานวนไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีอัตราค่าบริการ (พ.ศ. 2555) เริ่มต้นจานวน 50 บาท สาหรับการฝากไม่เกิน 10,000 บาท และเพิ่มข้ึนคร้ังละ 10 บาท ของทุก ๆ การฝาก 10,000 บาท และการส่งข้อความถึงผู้รับมีอัตรา 10 บาท โดยข้อความมีความยาวไมเ่ กนิ 100 ตัวอกั ษร 4.1.2 บรกิ ารโอนเงนิ ด่วนระหวา่ งประเทศ Western Union บริการโอนเงินด่วนระหว่างประเทศเวสเทิร์นยูเนี่ยน สามารถฝากส่งและรับเงิน ภายใต้ความร่วมมือระหว่างบริษัทไปรษณีย์ไทยจากัดกับบริษัทเวสเทิร์นยูเน่ียน โดยมีวงเงิน ในการฝากส่งต่อวันของผู้รบั ปลายทางแต่ละคนไม่เกิน 2,000 เหรียญสหรัฐฯ และอัตราค่าบริการ ขึ้นอย่กู บั จานวนเงนิ ท่ีฝากสง่ และประเทศปลายทาง 4.1.3 บริการชาระเงินผ่านทางไปรษณีย์ (Pay@Post) บริการรับชาระเงินค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ ครอบคลุมทุกกลุ่มธุรกิจ เช่น สาธารณูปโภค ธุรกิจเช่าซื้อ บัตรเครดิต เป็นต้น โดยปัจจุบันไปรษณีย์ไทยมีบริษัทคู่ค้า รว่ มให้บรกิ ารกวา่ 200 บริการ สาหรับอัตราค่าบริการ สามารถแบ่งตามประเภท ได้แก่ การชาระเงินในกลุ่ม สาธารณูปโภคพื้นฐานและกลุ่มธุรกิจอ่ืนทางราชการมีอัตรา 10 บาท การชาระเงินในธุรกิจอ่ืน ๆ มีอัตรา15 บาท โดยไม่นับรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่บริการสาหรับบริษัทคู่ค้าของไปรษณีย์จะไม่มี คา่ ธรรมเนียม เชน่ บัตรเครดติ ซิตีแ้ บงค์ ซิตแี้ บงค์เรดดเี้ ครดิต บัตรเครดิตกรุงศรอี ยธุ ยา เปน็ ต้น
98 การเงินและระบบชาระเงินอเิ ล็กทรอนิกส์ ภาพท่ี 4-1 สัญลกั ษณก์ ารบริการชาระเงนิ Pay@Post ณ ทีท่ าการไปรษณีย์ ที่มา: บริษทั ไปรษณยี ์ไทยจากัด, 2561 4.1.4 ธนาณตั ิ-ตว๋ั แลกเงิน ธนาณตั ิ-ต๋ัวแลกเงิน สามารถแบง่ ได้เปน็ 4 ประเภท โดยมรี ายละเอียดดงั น้ี 4.1.4.4 ต๋ัวแลกเงนิ ไปรษณีย์ ตั๋วแลกเงินไปรษณีย์เป็นบริการตราสารสั่งจ่ายเงินซึ่งมักใช้เป็นของขวัญในโอกาสต่าง ๆ โดยสามารถส่งต๋ัวแลกเงินไปรษณีย์ไปให้ผู้รับเพื่อนาไปรับเงิน ณ ท่ีทาการไปรษณีย์ได้ท่ัวประเทศ ปัจจุบันมีต๋ัวแลกเงิน 7 ชนิดราคา ได้แก่ 5 บาท 10 บาท 20 บาท 50 บาท 100 บาท 200 บาท และ 500 บาท 4.1.4.1 ธนาณตั ิธรรมดา ธนาณัติธรรมดาเป็นบริการส่งเงินภายในระยะเวลา 1 – 5 วันทาการนับจากวันที่ฝากส่ง ผ่านช่องทางไปรษณีย์รับรอง โดยสามารถฝากส่งเงินได้ไม่เกินฉบับละ 50,000 บาท และการฝาก ส่งถึงผรู้ ับรายเดยี วกัน ณ ที่ทาการไปรษณียเ์ ดียวกนั มมี ูลคา่ ไม่เกนิ 100,000 บาท โดยผู้รบั เงนิ ใช้ บัตรประจาตัวประชาชนหรอื บัตรทที่ างราชการออกให้ ในการขอรับเงิน 4.1.4.2 ธนาณัติดว่ นพิเศษ ธนาณัติด่วนพิเศษเป็น บริการส่งเงินถึงผู้รับด้วยรวดเร็ว ภายในระยะเวลา 1 – 2 วันทาการ นับจากวันที่ฝากสง่ และสามารถตรวจสอบการส่งไดจ้ ากระบบ Trace & Trace ในเว็บไซต์ของไปรษณีย์ไทย โดยสามารถฝากส่งเงินได้ไม่เกินฉบับละ 50,000 บาท และ การฝากส่งถงึ ผ้รู ับรายเดียวกัน ณ ที่ทาการไปรษณยี ์เดียวกันไม่เกิน 100,000 บาท โดยผู้รับเงนิ ใช้ บตั รประจาตัวประชาชนหรือบตั รทีท่ างราชการออกให้ ในการขอรับเงนิ 4.1.4.3 ธนาณัตริ ะหวา่ งประเทศ ธนาณัติระหว่างประเทศเปน็ บรกิ ารธนาณัตทิ รี่ บั หรือสง่ เงนิ ระหวา่ งผู้ส่งเงนิ หรอื รบั เงิน ณ ทีท่ าการไปรษณยี ์ในประเทศไทยกับผู้สง่ เงินหรือรับเงิน ณ ที่ทาการไปรษณียใ์ นต่างประเทศ โดยมี ระยะเวลาดาเนนิ การ 2 สปั ดาห์ นบั จากวันทีฝ่ ากส่ง
บทท่ี 4 การโอนเงินทางระบบอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 99 สาหรับเงื่อนไขการใช้บริการคือสามารถฝากส่งเงินสูงสุดไม่เกินวันละ 2,000 ดอลลาร์ สหรัฐ/คน โดยมีการเทียบค่าเงินบาทเป็นเงินตราต่างประเทศตามอตั ราแลกเปล่ียนท่ีไปรษณีย์ไทย กาหนด 4.1.5 บริการไปรษณยี ์เกบ็ เงนิ (C.O.D) บรกิ ารไปรษณยี เ์ กบ็ เงินเป็นบริการฝากส่งสงิ่ ของทางไปรษณีย์ โดยมีการเรียกเก็บเงนิ จาก ผู้รับของตามจานวนเงินท่ีระบุไว้บนห่อซอง ณ ที่ทาการไปรษณีย์ปลายทางและจัดส่งเงินให้แก่ ผ้ฝู ากส่ง ซงึ่ มี 3 แบบ คอื - ไปรษณยี ภณั ฑเ์ ก็บเงนิ คือ การฝากส่งจดหมายลงทะเบียนหรือจดหมายรบั ประกัน - พัสดไุ ปรษณยี เ์ กบ็ เงิน คือ การฝากสง่ พัสดุไปรษณยี ์ - ไปรษณยี ์ด่วนพเิ ศษเกบ็ เงนิ คอื การฝากสง่ ไปรษณยี ์ดว่ นพิเศษ 4.1.6 ธนาณัติอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ระหว่างประเทศ ธนาณัติอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศ เป็นธนาณัติที่สั่งจ่ายเงินหรือรับเงินระหว่างผู้รับ หรือผู้ส่งในประเทศไทยกับผู้ส่งหรือผู้รับในต่างประเทศ ผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ EUROGIRO ซึ่งเปน็ ผใู้ ห้บริการด้านเทคโนโลยีการรับและส่งเงนิ ระหว่างประเทศ โดยมวี งเงินฝากสูงสุดต่อฉบับ ไม่เกินวันละ2,000 ดอลลาร์สหรัฐ/คน และหน่วยเงินท่ีใช้ในการรับฝากและจ่ายเงินจะเทียบ ค่าเงินตราต่างประเทศตามอัตราแลกเปล่ียนที่ไปรษณีย์ไทยกาหนด ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยให้บริการร่วมกับประเทศต่าง ๆ รวม 14 ประเทศ ได้แก่ ประเทศญ่ีปุ่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศโปแลนด์ ประเทศเวียดนาม ประเทศมาดากัสการ์ ประเทศฝร่ังเศส ประเทศอิสราเอล ประเทศศรีลังกา ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศตุรกี ประเทศฮังการี ประเทศสเปนและประเทศบราซลิ 4.1.7 บรกิ ารเตมิ เงนิ ออนไลน์ (U Top Up) บริการเติมเงินออนไลน์เป็นบรกิ ารเติมเงินโทรศัพท์มือถือผ่านท่ีทาการไปรษณีย์ โดยเป็น บริการเติมเงินโทรศัพท์มือถือในระบบเครือข่าย AIS, Dtac, Hutch และ TOT Prepaid จานวน 50 บาท 100 บาท 300 บาท และ 500 บาท
100 การเงินและระบบชาระเงนิ อเิ ล็กทรอนิกส์ ภาพที่ 4-2 บริการเติมเงินออนไลน์ (U Top Up) ท่ีมา: บรษิ ัทไปรษณยี ์ไทย จากดั , 2561 4.1.8 บรกิ ารฝาก ถอน โอน ผ่านไปรษณยี ์ (Bank@post) บริการฝาก ถอน โอน ผ่านไปรษณีย์ เป็นบริการฝากเงิน โอนเงินระหว่างบัญชีธนาคาร หรือโอนเงินกับธนาคารท่ีร่วมบริการผ่านไปรษณีย์ไทย ซึ่งมีดาเนินการเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2554 จานวน 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรงุ ศรีอยุธยา ธนาคารซีไอเอม็ บีไทย ธนาคารไทยเครดิต ฯ ธนาคารทิสโก้ ธนาคารทีเอ็มบี และธนาคารยูโอบี โดยสามารถฝากเงินและรับเงินได้ที่ไปรษณีย์ 1,400 แห่งทั่วประเทศ ช่วยให้เกิดความรวดเร็ว สะดวกสบาย ในการจัดการบัญชีเงินฝาก เช่นเดียวกบั การทาธุรกรรมผา่ นเคานเ์ ตอรธ์ นาคาร ทั้งน้ีการฝากเงิน ณ ท่ีทาการไปรษณีย์โดยไม่จาเป็นต้องแสดงสมุดบัญชีธนาคาร สาหรับ กรณีรับเงินโอนจากธนาคาร ผู้รับเงินสามารถใช้รหัส PIN CODE ท่ีได้รับจากผู้โอนเพ่ือแจ้งรับเงิน ณ จุดให้บริการทท่ี าการไปรษณีย์ โดยสามารถฝากเงินสดแตล่ ะรายการไม่เกิน 50,000 บาท และ การฝากเงินสดแตล่ ะบญั ชใี นแต่ละวันมีจานวนไม่เกิน 100,000 บาท สาหรับค่าบริการการฝากแต่ละรายการมีอัตรา 10 – 15 บาท โดยผู้รับเงิน ณ ที่ทาการ ไปรษณยี ์ไมต่ ้องเสยี ค่าบรกิ าร ส่วนผู้สง่ เงินชาระคา่ บรกิ ารตามท่ีธนาคารตน้ ทางกาหนด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356