Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเรียน-การสอนบาลี (เล่ม ๒) วัดปากน้ำ

การเรียน-การสอนบาลี (เล่ม ๒) วัดปากน้ำ

Published by จรัญ ชูแก้ว, 2021-01-05 05:46:42

Description: การเรียน-การสอนบาลี (เล่ม ๒) วัดปากน้ำ

Search

Read the Text Version

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 85 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò สรปุ ตารางแสดงองคป ระกอบของวาจกทั้ง ๕ วาจก เหตกุ ตั ตา กัตตา กรรม กิริยา (ธาต+ุ ปจ จยั +วภิ ัตติ) กตั ตุ. ----- ป. (อ.) ทุ. (ซงึ่ ) อกัมม.-สกมั ม./ สยกตฺตา อวุตตฺ กมฺม กัมม. ----- ต. (อัน) ป. (อ.) ปจจัย ๑๐ ตวั / ปรสั ส. อนภิหติ กตตฺ า วตุ ตฺ กมฺม สกมั ม. / ย+อิ (อิย) / ภาว. ----- ต. (อนั ) อนภหิ ิตกตฺตา ---- ป. เอก.อัตตโน. เหตุกตั ตุ. ป. (อ.) ทุ. (ยัง) อกมั ม. / ย ปจจยั / เหตกุ ตฺตา การิตกมมฺ ทุ. (ซึง่ ) อวตุ ตฺ กมฺม อตั ตโน. อกมั ม.-สกมั ม. / เหตุกัมม. ต. (อนั ) ท.ุ -ต. (ยัง) ป. (อ.) เณ,ณย,ณาเป,ณาปย / อนภิหติ กตตฺ า ทุ.-การิตกมฺม วตุ ฺตกมมฺ ต.-ตตยิ าการิตฺตกมมฺ ปรสั ส. สกัมม. / ปจจัย ๑๐ ตวั +ณาเป+ย+อิ =ณาปย / อัตตโน. ๑.๓ วธิ ีสลบั วาจก ในวาจกทั้ง ๕ ดังที่กลาวมาแลวนี้ บางคราวในการแปลภาษามคธกลับมา เปนภาษาไทย บางประโยคแปลตามรูปของประโยค และตามวาจกเดมิ ไดความดี, แต บางคราวก็ขัดของตอภาษาไทย คือแปลตามวาจกเดิมไมสูจะไดเน้ือความสนิท ดังน้ัน เพ่ืออนโุ ลมใหเหมาะสมถกู ตอ งกับภาษานยิ ม ทานจงึ มวี ธิ ีใชส ลบั วาจก คอื กลับกนั ได เชน ประโยคท่ีเปนกัตตุวาจก เฉพาะประกอบกับธาตุที่มีกรรม อาจกลับ ความใหเปน กมั มวาจกได อ.ุ วา “ชโน กมฺม กโรติ. ชนทำอยซู ึง่ การงาน.” เปลยี่ นเปน กัมมวาจกวา “ชเนน กมมฺ  กริยเต. การงานอันชนทำอย.ู ” ดังน้กี ไ็ ด กัตตุวาจก เฉพาะธาตุไมมีกรรม อาจกลับความใหเปนภาววาจกก็ได อุ. วา โส คจฺฉติ เขาไปอยู. เปลยี่ นเปน ภาววาจก วา “เตน คจฉฺ ยเต๑ . อันเขาไปอย.ู ” ดังนก้ี ไ็ ด และในฐานะเชนเดียวกัน แตภาววาจกจะกลับไปกัมมวาจกหาไดไม เพราะ ภาววาจกใชไ ดเฉพาะกบั อกมั มธาตุเทา นน้ั ๑ คจฺฉิยเตติป ทิสฺสติ. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 85

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 86 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อน่งึ ประโยคเหตุกัตตวุ าจก อาจกลับเปน เหตุกัมมวาจกได และในทำนองเดียวกัน ประโยคเหตุกัมมวาจก ก็อาจกลับเปนประโยค เหตกุ ัตตุวาจกได หลักสำคัญของการเปลี่ยนมีอยูเพียงวา ใหเปล่ียนตัว กัตตา กรรม และ ปจ จยั ใหถ กู ตอ งตามวาจกทปี่ ระสงคจ ะเปลย่ี น ดงั ทไี่ ดอ ธบิ ายไวแ ลว ในวาจกนน้ั ๆ ก็นับ วา เปน อันใชได ถาแมในการแปลถอื ความก็เชน เดียวกัน เชน เห็นประโยคท่ีเปนกัมมวาจกวา “ภาริย เม กมฺม กริยเต. กรรมหนัก อันเรายอมทำ.” อาจแปลกลับเปนประโยคกัตตุวาจกก็ไดวา “เรายอม ทำกรรมหนกั .” เชนน้เี ปนตน หรือประโยคเหตุกัตตุวาจกวา “เคห ฌาเปสิ. (เขา) ยังเรือนใหไหมแลว.” อาจแปลกลบั เปนประโยคกัตตุวาจกกไ็ ดว า “(เขา) เผาแลวซ่ึงเรือน” เชนนีเ้ ปนตน ๑.๔ ความสำคญั ของวาจก ในการพูดหรือการแตงหนังสือ ท่ีผูพูดหรือผูแตงตองการใหผูอ่ืนเขาใจความ ประสงคในถอ ยคำของตน หรือในการท่ีเราจะอานหนังสอื ท่ีทา นแตง ไว วาจกจดั วาเปน สำคัญอยางยิ่งประการหน่ึง เพราะถาผูพูด ผูแตง หรือผูอานไมเขาใจ หรือไมมีความ ชำนาญพอเพียงในวธิ ีการใชวาจกแลว ยอ มทำเน้อื ความท่ตี นประสงคใ หเ สยี ไป หรอื มิ ฉะนนั้ ก็อานไมเ ขาใจความหมายท่ีทานแตง ไว การกำหนดวาจกใหแ มน ยำ จึงเปนเครื่องอปุ กรณอ นั สำคญั ย่งิ เพราะในคำพูด ประโยคหนงึ่ ๆ ตองมีวาจกประจำอยูเสมอ จะละเวน เสียมไิ ด เวนแตใ นบางประโยคที่ ไมจ ำตอ งใชกริ ิยาเทา น้ัน แตกม็ เี ปน สว นนอย ฉะนั้น ผูศึกษาจึงควรกำหนดจดจำความหมายของวาจกทั้ง ๕ น้ีใหแมนยำ จักไดเปนผูฉลาดในการใชคำพูดไดถูกตอง ไมผิดพลาดทั้งในการพูด การเขียน และ ในการแปลประโยคตาง ๆ ทีท่ านไดรอ ยกรองไวแ ลว 86

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 87 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๒. ปจจัย ยังมีศัพทอีกพวกหนึ่ง สำหรับใชลงประกอบกับธาตุ ใชลงขางหนาวิภัตติ เปนเคร่อื งแสดงใหทราบถงึ วาจก การทจ่ี ะกำหนดวาจกใหแ มน ยำ ตอ งอาศัยกลุม ศัพท ที่ประกอบนี้เปนเคร่ืองสังเกต เพราะทุกวาจกตางมีกลุมศัพทเหลานี้เปนเคร่ืองชี้บอก ซ่ึงกลุม ศัพทเ หลา นี้นักปราชญทางดา นภาษาบาลบี ญั ญัติเรยี กวา “ปจ จยั ” ๒.๑ ความหมายของปจจัย คำวา “ปจ จัย” น้นั ไดม นี กั วชิ าการหลายแขนงใหความหมายไวแ ตกตางกันไป ดงั ตอไปน้ี คือ ปจฺจย (ป.ุ ) ธรรมเปนแดนอาศัยซ่ึงกันและกันเปนไป, ธรรมเปนท่ีอาศัย เปน ไป, ธรรมเปน แดนอาศัยซงึ่ เหตเุ ปนไป, เหตอุ นั ใหผ ลเปน ไป, ท่ีพึ่ง, ท่ีพำนัก, หัวหนา, เหตุ, มูลเคา, ความเช่ือ, ความค้ำจุน, ความชว ยเหลือ, ความอิม่ ใจ อ.ุ ปจฺจยํ เวทยนตฺ ิ ชนท. ยอ มเสวย ความอิ่มใจ, ปจจัย ชื่อของสวนที่ปรุงธาตุเปนเครื่องบอกวาจก มี อ เปนตน และสวนท่ีปรุงธาตุใหเปนนามมี กฺวิ เปนตน ช่ือเครื่องอาศัยของบรรพชิต ๔ อยาง คือ จีวร (ผา) บิณฑบาต (อาหาร) เสนาสนะ และเภสัช เรียกปจจัย ๔ ปจจัย ๔ อีก อยางหน่งึ คือ กรรม จิต อุตุ และอาหาร. วิ. ปฏิจจฺ ผลเมตสมฺ า เอตตี ิ ปจฺจโย. รปู ฯ ๓๔๗ ว.ิ ปฏิจจฺ เอตสฺมา อตฺโถ เอตีติ ปจจฺ โย. ปฏยิ นฺติ อเนน อตถฺ าตวิ า ปจจฺ โย. รูปฯ ๕๕๒ วิ. ปฏิจฺจ เอตสฺมา ผลเมตีติ ปจฺจโย. ปตปิ ุพฺโพ, อิ คมเน, อ. แปลง ปติ เปน ปจฺจ อิ เปน อย ปฏิ ใน วิ. น้ัน รปู ฯ วาแปลง ปติ เปน ปฏิ. อภฯิ ลง ณ ปจ. ฝายอภิธรรมวา ปจฺจย นี้ไมใชเหตุ แตเปนภาวะที่ อดุ หนุนใหมีกำลงั ใหเ กดิ ผล. (พจนานกุ รม มคธ-ไทย โดย พนั ตรี ป. หลงสมบญุ สำนกั เรยี นวดั ปากนำ้ จดั พิมพ ๒๕๔๐ หนา ๔๑๕) 87

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 88 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ปจจยั น. เหตุอันเปนทางใหเกิดผล, หนทาง, เชน การศึกษาเปน ปจจัยใหเกิดความรูความสามารถ, คำ “ปจจัย” กับ คำ “เหตุ” มักใชแทนกันได; เคร่ืองอาศัยยังชีพ, เคร่ืองอาศัยของ บรรพชิตมี ๔ อยาง คือ ผานุง ผาหม (จีวร) อาหาร (บิณฑบาต) ท่ีอยูอาศัย (เสนาสนะ) ยารักษาโรค (เภสัช) รวมเรียกวา จตุปจจัย คือ ปจจัย ๔, โดยปริยาย หมายถึง เงินตราก็ได; สว นเตมิ ทายศัพทเ พ่อื แสดงความหมาย. (ป.). (พจนานกุ รม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ.๒๕๒๕ หนา ๕๒๕) ปจ จยั ๑. เหตุที่ใหผลเปนไป, เหตุ, เครื่องหนุนใหเกิด ๒. ของสำหรับ อาศยั ใช, เครอื่ งอาศยั ของชวี ติ , สง่ิ จำเปน สำหรบั ชวี ติ มี ๔ อยา ง คอื จวี ร (ผา นงุ หม ) บณิ ฑบาต (อาหาร) เสนาสนะ (ทอ่ี ยอู าศยั ) คลิ านเภสัช (ยาบำบดั โรค) (พจนานุกรมพุทธศาสน ฉบับประมวลศัพท โดย พระธรรมปฎก (ป.อ. ปยตุ โฺ ต) หนา ๑๖๑) ในหนังสือคูมือเลมน้ีจะใหความหมายของคำวา “ปจจัย” เชนเดียวกันกับ นักวชิ าการทา นอน่ื ๆ คือ “ชอื่ ของสวนทป่ี รุงธาตเุ ปนเครอ่ื งบอกวาจก มี อ ปจ จยั เปน ตน ” ๒.๒ วธิ ีใชปจ จัย ปจจัยน้ัน ใชสำหรับประกอบศัพทลงทายธาตุ ขางหนาวิภัตติ เปนเคร่ือง แสดงใหทราบถงึ วาจก ตัวอยา งเชน ธาตุ ปจ จัย วภิ ัตติ บทสำเรจ็ กรฺ โอ ติ กโรติ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 88

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 89 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò คำวา กโรติ จงึ ประกอบดว ย กรฺ ธาตุ โอ ปจจัย ติ วัตตมานาวภิ ัตติ กริ ิยา ศัพทน ี้บงใหท ราบวา เปนกตั ตุวาจก แปลวา ยอ มทำ ๒.๓ ประเภทของปจจัย ปจ จัยน้นั ทา นก็จัดไวเปน ๕ หมวด ตามวาจก เมือ่ จะกลา วรวมเปน ตัว ๆ ใน อาขยาตนี้ ทานจัดปจจยั ไว ๒๑ ตวั คือ :- กตั ตุวาจก มีปจ จัย ๑๐ ตัว คือ อ, เอ, ย, ณ,ุ ณา, นา, ณหฺ า, โอ, เณ, ณย ใชลงตวั ใดตัวหน่ึงเปนเครอื่ งหมาย และปจจัยเหลานี้ ทา นจัดลงในธาตุ ๘ หมวด ดงั ที่ ไดอ ธบิ ายไวแลวในหมวดธาตุขา งตน กัมมวาจก มีปจจยั ๑ ตวั คือ ย และลง อิ อาคมหนา ย ภาววาจก มีปจ จัย ๑ ตัว คือ ย เหตุกัตตุวาจก มีปจจัย ๔ ตัว คือ เณ, ณย, ณาเป, ณาปย ใชลงตัวใด ตวั หนึ่งเปนเครอ่ื งหมาย เหตุกัมมวาจก ใชลงปจจัย ๑๐ ตัว ๆ ใดตัวหนึ่งในกัตตุวาจกน้ันดวย ลง ปจจัยในเหตกุ ตั ตวุ าจกอกี ตวั หน่ึง คอื ณาเป ดวย ลง ย ปจ จยั อิ อาคมหนา ย ดวย รวมลงพรอมกัน เปนอันวาเหตุกัมมวาจก ไมมีปจจัยของตนเอง ตองยืมปจจัยในกัมม วาจกและเหตุกตั ตุวาจก ท้ัง ย ปจจัย อิ อาคม ของกัมมวาจกมาใชเ ปนเครือ่ งหมาย นอกจากน้ียังมี ปจจัยพิเศษ สำหรับประกอบกับธาตุและนามศัพทอีก ๕ ตวั คอื ข, ฉ, ส, อาย, อยิ ซึ่งทานมิไดจ ัดลงในวาจกไหน แตเมื่อสงั เกตตามที่ใชใ น ปกรณทัง้ หลาย มีปรากฏใชแ ตใ นกัตตวุ าจกท้ังนั้น วาจกอื่นหามีไม ฉะนั้น จงึ นาจะลง สนั นษิ ฐานไดวา ปจ จัยท้ัง ๕ ตวั นี้ใชล งในกัตตุวาจกเทา น้นั 89

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 90 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ๒.๔ วธิ ลี งและเปล่ยี นแปลงปจจยั ในวาจก ปจจยั ในกตั ตุวาจก อ เมอ่ื ลงประกอบกบั ธาตแุ ลว ไมม เี ปลยี่ นแปลง เปน แตล บออกเฉย ๆ และก็ คงทำกิริยาศัพทใหคงอยูตามเดิม คลายกับมิไดลง อ ปจจัยเลย แตอาศัยเสียงที่อาน เปนเครอ่ื งสังเกต คือมีเสยี งสระ -ะ อยูทา ยธาตุและหนาวภิ ตั ติ เชน หรติ, ลภต,ิ อกิ ฺขติ เอ เม่ือลงประกอบกับธาตุ ยอมทำเสียงของพยัญชนะที่สุดธาตุใหเปนเสียง สระ เ- เชน วเทหิ, มุ ฺเจติ, จินเฺ ตสิ ย เมื่อลงประกอบกับธาตุ โดยมากถาธาตุต้ังแตอายุ ๒ ตัวข้ึนไป มักแปลง กับพยัญชนะท่ีสุดธาตุเปนพยัญชนะน้ันๆ ดังไดแสดงไวแลวในหมวด ทิวฺ ธาตุ และ ถาธาตุตวั เดยี วมักคง ย ไว เชน ขยี ติ ณุ เม่อื ลงประกอบกับธาตุ พฤทธิเ์ ปน โณ เชน สุโณติ, สว โุ ณติ ณา เมือ่ ลงประกอบกบั ธาตุ คงไวต ามรูปเดิม เชน สณุ าติ, วณุ าติ นา เมื่อลงประกอบกับธาตุ คงไวตามรูปเดิม เชน ชินาติ, ลุนาติ บางคราว ลบเสียบาง เชน ชฺ า, แปลงเปน ณา บาง เชน วกิ กฺ ณี าติ, อุปจณิ าติ. แปลงเปน ย บา ง เชน นายติ ณหฺ า เมื่อลงประกอบกับธาตุ คงไวตามรูปเดมิ เชน คณฺหาติ ลบ อา แหง ณฺ หา เสียบา ง เชน คณฺหนฺต,ิ ปฏิคคฺ ณฺหตุ โอ เมื่อลงประกอบกับธาตุ ยอมทำพยัญชนะที่สุดธาตุใหเปนเสียงสระ โ- เชน ชาคโรต,ิ สกโฺ กติ แตบางคราวแปลงเปน อุ บา ง เชน กุรเุ ต แปลงเปน อว บา ง เชน กพุ พฺ ติ เณ-ณย เมื่อลงประกอบกับธาตุ ลบ ณ เสียคงไวแตสระ เ- และพยัญชนะ คือ -ย ปจจัย ๒ ตัวนี้ เปน ปจจยั ที่เน่ืองดว ย ณ เมอ่ื ลงแลว มีอำนาจดงั น้ี คอื :- ถาพยัญชนะหนาธาตุเปนรัสสะ คือ เปน อ, อิ, อุ ไมมีพยัญชนะสังโยคคือ ตัวสะกด ตองทำทฆี ะดงั น้ี 90

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 91 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò อ ทีฆะเปน อา อิ ทีฆะเปน อี หรอื วิการเปน เอ อุ ทฆี ะเปน อู หรอื วกิ ารเปน โอ แตถาเปนทีฆะอยูแลว ก็คงไวตามเดิมไมเปล่ียนแปลง พึงตรวจดูตามที่ได อธิบายไวแ ลว ในหมวด จรุ ฺ ธาตุ อน่ึง พึงทราบไวเปนพิเศษอีกวา ณ ปจจัย หรือปจจัยที่เนื่องดวย ณ ในท่ี ทกุ แหง มวี ธิ ลี งและเปลย่ี นแปลงทำนองเดยี วกนั นเ้ี สมอไป แตม ยี กเวน อยู ๓ ตวั เทา นน้ั คือ ณุ, ณา, ณฺหา เพราะปจจัย ๓ ตัวนี้ คงไวไมลบ และไมมีอำนาจท่ีจะทำอะไรแก พยัญชนะตนธาตุเหมอื น ณ ปจ จยั และปจจยั ทเี่ นอ่ื งดวย ณ ตัวอื่นๆ จะเปลยี่ นแปลง บาง ก็เปนการเปล่ียนแปลงตัวเองเทานั้น มิไดเปล่ียนแปลงสระของพยัญชนะตนธาตุ ใหเ ปน อยางอืน่ . ปจจัยในกัมมวาจก ย เมื่อลงประกอบกับธาตุแลว โดยมากคง ย ไว ถาคงไวเชนนั้น ตองลง อิ อาคมขา งหนา ย อีกดว ย เชน ปจิยเต คหยิ เต ถา คงไวไมลง อิ อาคม ตอ งซอ น ยฺ เชน สยุ ยฺ เต อนึ่ง บางคราว แปลงกับพยัญชนะท่ีสุดธาตุเปนพยัญชนะน้ันๆ คือ ตามแต พยัญชนะท่ีสุดธาตุจะเปนพยัญชนะอะไร ก็แปลงเปนพยัญชนะตัวน้ันเพิ่มเขามาเปน ตัวสะกดอกี ตวั หน่งึ เชน ปจฺจต,ิ วจุ จฺ ต,ิ วชิ ชฺ ติ ถาพยัญชนะท่ีสุดธาตุใชเปนตัวสะกดไมได ก็ใหแปลงเปนพยัญชนะท่ีเปน ตวั สะกดไดใ นวรรคเดยี วกนั เชน ลพฺภติ, วยุ ฺหติ วิธแี ปลงเชน นเี้ หมอื นกบั ย ปจจัยในหมวด ทิวฺ ธาตุ แตก ารที่จะสังเกตทราบ ไดว า เปน ย ปจ จยั ในกตั ตวุ าจกหรือกัมมวาจก ตองแลวแตเหตุทีใ่ ช คือ ถา ประกอบ กับธาตุในหมวด ทิวฺ เปนกัตตุวาจก ถาประกอบกับธาตุนอกน้ี และเปนสกัมมธาตุ เทา นน้ั เปน กัมมวาจก 91

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 92 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ปจ จัยในภาววาจก ย เมอ่ื ลงประกอบกบั ธาตแุ ลว คงไวต ามรปู เดมิ ไมม วี ธิ เี ปลย่ี นแปลงอะไร และ ตางจากกมั มวาจก คอื ไมต อ งลง อิ อาคมหนา ย เชน คจฺฉยเต๒, ภูยเต และลงที่อกมั ม ธาตุอยางเดียว. ปจ จัยในเหตุกัตตุวาจก เณ-ณย ๒ ตวั น้ี เมื่อลงประกอบกับธาตแุ ลว มีวิธีเหมอื นดังที่ไดอธิบายแลว ในกตั ตวุ าจก ตางกนั เพยี งวา ถาปจ จยั ๒ ตวั นี้ ลงประกอบกับธาตุในหมวด จรุ ฺ ธาตุ ก็เปนกัตตุวาจก ถาลงประกอบกับธาตุอ่ืนนอกจากหมวด จุรฺ ธาตุแลว เปนเหตุกัตตุ วาจก. ณาเป เมื่อลงประกอบกับธาตุแลว ลบ ณ เสีย คงเหลือไวแต -าเป เปน เครื่องปรากฏแสดงใหท ราบได เชน อาโรจาเปส,ิ คณหฺ าเปติ ณาปย เม่ือลงประกอบกับธาตุแลว ลบ ณ เสีย คงเหลือไวแต -าปย เปน เคร่อื งปรากฏแสดงใหท ราบได เชน ปาจาปยติ, การาปยติ ปจจัยในเหตุกมั มวาจก สำหรบั ปจ จัยในวาจกน้ี ไมมเี ฉพาะ ตองอาศยั ปจจัยในกัตตุวาจก และ ณาเป ปจจัยในเหตุกัตตุวาจก ประกอบกันเปนเคร่ืองลงท่ีธาตุ และตางจาก ณาเป ปจจัยใน เหตุกุตตุวาจกเพียงลง อิ อาคมหนา ย ประจำเสมอไป ซึ่งจะขาดเสียมไิ ด เชน ปาจา ปย เต, การาปย เต, ปติฏาปย เต ๒.๕ ปจ จยั พเิ ศษ – อพั ภาส ข, ฉ, ส ปจจัย ๓ ตัวนี้ มีวิธีเปล่ียนแปลงแปลกจากปจจัยตัวอ่ืนมาก วิธีนี้ ทา นเรยี กวา “อพั ภาส” ๒ คจฉฺ ิยเตตปิ  ทสิ ฺสติ. 92

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 93 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò คำวา “อัพภาส” ไดแก การท่ีทำ เทฺวภาวะ พยัญชนะเพ่ิมลงขางหนาธาตุ อกี ตวั หนึ่ง โดยมากนยิ มใชเฉพาะปจจัย ๓ ตวั คือ ข, ฉ, ส สว นปจ จัยนอกน้ี กม็ บี า ง แตม เี ปน สว นนอ ย เชน พวก อ ปจ จยั ตวั อยา งเชน ชโุ หต,ิ ททาต,ิ จงกฺ มติ เปนตน คำวา “เทวฺภาวะ” หมายความวา การทำพยัญชนะใหเ ปน ๒ ตวั คอื เพม่ิ พยญั ชนะซอ นเขา มาอีกตัวหนง่ึ แตก ารที่จะเพ่ิมเขา มานี้ ตองถือพยญั ชนะทอ่ี ยูต น ธาตุ เปนหลัก คือ พยัญชนะตัวตนของธาตุเปนพยัญชนะอะไร และอาศัยอยูกับสระอะไร ตอง เทฺวภาวะ เพ่ิมพยัญชนะท่ีเปนเชนเดียวกันน้ันกับสระเชนน้ัน ซอนลงขางหนา ของพยัญชนะที่เปนตน ธาตนุ น้ั เชน ฆสฺ ธาตุ ในความกนิ ตอ งทำเทวฺ ภาวะ คือเพิ่ม ฆ เขา ขางหนา พยญั ชนะตน ธาตุอกี ตัวหน่งึ เปน ฆฆสฺ หรฺ ธาตุ ในความนำไป ทำ เทฺวภาวะ ห ไวข า งหนาเปน หหรฺ เปน ตน ประเภทของ เทฺวภาวะ เทวฺ ภาวะ แบงเปน ๒ คอื เทวฺ ภาวะพยญั ชนะ และเทฺวภาวะสระ เทฺวภาวะพยัญชนะ ไดแก พยัญชนะท่ีถูกทำเทฺวภาวะนั้น เรียกวา “พยัญชนะอพั ภาส” เทฺวภาวะสระ ไดแก สระที่ติดกันอยูกับพยัญชนะน้ัน ซ่ึงจะถูกทำเทฺวภาวะ ตามพยัญชนะดว ย เรียกวา “สระของพยญั ชนะอัพภาส” ตามหลกั ท่ีทา นนยิ ม กอ นที่จะทำ เทวฺ ภาวะ ตองลงปจจัยและวภิ ตั ตทิ ต่ี ัวธาตุ นั้นใหส ำเรจ็ เสียกอน เชน คุปฺ ธาตุ ตอ งลง ฉ ปจ จัย ติ วิภตั ติ เปน คปุ ฉติ เสียกอน แลวจงึ เทฺวภาวะ เปน คุคปุ ฉติ เปนตน ตอนนั้ จึงทำวธิ เี ปล่ยี นแปลงเปนลำดบั ไป พยัญชนะที่เปนตัวอัพภาส โดยมากตองเปลี่ยนแปลงใหเปนพยัญชนะอื่นอีก ตอ หนงึ่ แตท ี่คงไวกม็ อี ยบู า ง คอื เดมิ เปนมาอยา งไรก็คงใหเ ปน อยอู ยางน้ัน ขอ น้ไี มสู จะเปนขอยุงยากอะไรนัก แตที่แปลงเปนพยัญชนะอื่นบาง ตองอาศัยมีหลักเกณฑ สำหรบั เปลีย่ นแปลง วธิ เี ปลย่ี นแปลงนั้น มีหลักดังตอไปนี้ :- 93

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 94 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) วธิ ีแปลงพยญั ชนะเปนอัพภาส ๑. ถา พยัญชนะอัพภาส เปน ก วรรค ตอ งเปลีย่ นเปน จ วรรค ขอ สำคญั ของ การเปลี่ยน ตอ งใหตรงตามลำดับอักษรของวรรคน้นั คือ ก เปน อกั ษรท่ี ๑ ก็ตอ งแปลงใหเ ปน จ ซึง่ เปนอักษรที่ ๑ ใน จ วรรคเหมือนกนั ตัวอนื่ กแ็ ปลงโดยทำนองนี้ คอื ข (พยัญชนะท่ี ๒) แปลงเปน ฉ (พยญั ชนะที่ ๒) ค (พยัญชนะที่ ๓) แปลงเปน ช (พยัญชนะท่ี ๓) ฆ (พยัญชนะท่ี ๔) แปลงเปน ฌ (พยญั ชนะท่ี ๔) ง (พยญั ชนะท่ี ๕) แปลงเปน  (พยญั ชนะที่ ๕) ก. แปลง ก เปน จ เชน จงฺกมติ (ยอมจงกรม) เดมิ เปน กมฺ ธาตุ ลง อ ปจ จยั ติ วภิ ัตติ เปน กมติ, ทำ เทวฺ ภาวะ ก ไวข างหนา เปน กกมติ แปลง ก ตัวอัพภาสเปน จ ไดรูปเปน จกมติ, แลวลงนิคคหิตอาคมท่ี จ เปน จกมติ, ตามหลักอาเทสนิคคหิต เม่ือมี ก อยหู ลงั แปลงนคิ คหิตเปน งฺ ได จำสำเรจ็ รูป จงฺกมต.ิ ข. แปลง ค เปน ช เชน ชิคุจฺฉติ (ยอมเกลียดชัง) เดิมเปน คุปฺ ธาตุ ลง ฉ ปจจัย ติ วิภัตติ เปน คุปฉติ, ทำ เทฺวภาวะ คุ ไวข า งหนา เปน คคุ ปุ ฉติ แปลง ค ตวั อพั ภาสเปน ช ไดร ปู เปน ชุคุปฉติ, แปลงสระ อุ ที่ ชุ เปน อิ เปน ชิคุปฉติ, ฉ ปจจัย อยูเบื้องหลัง มีอำนาจใหแปลงท่ีสุดธาตุเปน จ ตามหลักของ พยัญชนะสังโยค คือพยัญชนะท่ี ๑ ซอนหนาพยัญชนะท่ี ๑-๒ ในวรรคของตนได จงึ สำเร็จรปู เปน ชคิ ุจฺฉติ ค. ในท่ีบางแหงท่ีมีลำดับอักษรผิดกันมาแตเดิม ก็มีวิธี คือ ตอง แปลงใหตรงตามลำดับกันเสียกอน แลวจึงแปลงตอไป เชน ชิฆจฺฉติ (ยอมปรารถนาจะกิน) เดิมเปน ฆสฺ ธาตุ ลง ฉ ปจจัย ติ วิภัตติ เปน ฆสฉติ, เทฺวภาวะ ฆ ไวขางหนา เปน 94

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 95 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ฆฆสฉติ, จะแปลง ฆ เปน ช ทีเดียวยังไมไดกอน เพราะ ฆ เปนพยัญชนะท่ี ๔ สวน ช เปนพยัญชนะที่ ๓ ยังผิดลำดับ กันอยู ฉะนั้น จึงจำเปนตองแปลงเปน ค ซึ่งเปนพยัญชนะ ท่ี ๓ เปน คฆสฉติ เพื่อไดลงลำดับกับ ช เสียกอน, ตอน้ันจึง แปลง ค เปน ช ได แลวมีรูปเปน ชฆสฉติ, เอาสระ อ แหง ช เปน อิ เปน ชิฆสฉติ, ฉ ปจจัยอยูเบื้องหลัง มีอำนาจใหแปลง ท่สี ดุ ธาตุเปน จฺ ดงั กลา วแลว จงึ สำเร็จรปู เปน ชฆิ จฺฉติ ๒. ถาพยัญชนะอัพภาสอยูในวรรคอื่น ซึ่งนอกจาก ก วรรคที่กลาวแลว โดยมากมักแปลงเปน พยญั ชนะวรรคเดียวกัน ดงั ที่ทา นตงั้ เกณฑไ ววา พยญั ชนะอัพภาสเปน อกั ษรที่ ๒ ใหแปลงเปนอกั ษรที่ ๑ เปน อักษรท่ี ๔ ให แปลงเปนอักษรที่ ๓ ตัวอยา งเชน จจฺเฉท (ตัดแลว) เดิมเปน ฉิทฺ ธาตุ ในความตัด ลง อ ปจจัย อ วิภัตติเปน ฉิท, ทำ เทฺวภาวะ ฉิ ไวขางหนา เปน ฉิฉิท, แลวแปลง ฉ (อกั ษรที่ ๒) เปน จ (อักษรท่ี ๑) จงึ เปน จฉิ ิท, เอา อิ แหง จิ เปน อ แลว ซอ น จฺ ไดร ปู เปน จจฉฺ ทิ , พฤทธิ์ อิ แหง ฉทิ ฺ เปน เอ สำเรจ็ รปู เปน จจเฺ ฉท พุภุกฺขติ (ยอมปรารถนาจะกิน) เดิมเปน ภุชฺ ธาตุ ในความกิน ลง ข ปจ จยั ติ วภิ ตั ตเิ ปน ภชุ ขต,ิ ทำ เทวฺ ภาวะ ภุ ไวข า งหนา เปน ภภุ ชุ ขต,ิ แปลง ภ (อักษรท่ี ๔) เปน พ (อักษรท่ี ๓) จึงเปน พุภุชขติ, ข ปจจัย อยูเ บอื้ งหลัง มีอำนาจใหแ ปลงที่สดุ ธาตเุ ปน กฺ สำเร็จรูปเปน พภุ ุกฺขติ ๓. อีกอยางหนึ่ง ยังมีพยัญชนะอัพภาสบางตัว ซ่ึงหาไดแปลงตามหลัก ดังกลาวมาแลวน้ีเสมอไปไม ยังอาจแปลงเปนอยางอื่นไดอีก ซึ่งทานกำจัดไดเฉพาะ ธาตบุ างตัว เชน ใหแปลงพยญั ชนะอัพภาส คอื กิ แหง กติ ฺ ธาตุ เปน ต เชน ติกิจฺฉติ มา แหง มานฺ ธาตุ เปน ว เชน วมี สติ 95

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 96 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ห แหง หรฺ ธาตุ เปน ช เชน ชิคึสติ วธิ ีทำเชนนี้ ยอ มมอี ยโู ดยสว นนอย. สระแหง พยญั ชนะอัพภาส ในที่นี้หมายถึง สระท่ีติดอยูกับพยัญชนะท่ีเปนตัวอัพภาส เพราะพยัญชนะ ทุกตัว ยอมมีสระติดประจำอยูเสมอ ก็สระของพยัญชนะอัพภาสเชนน้ี ตามท่ีเปนไป โดยมาก มักแปลงเปนอยางอื่นอีกตอหนึ่ง แตคงที่ไวก็มีบาง แตเปนสวนนอย เชน พภุ ุกฺขติ เฉพาะท่ีแปลงพงึ สังเกต ดังตอไปน้ี :- ก. สระท่ีติดอยูกับพยัญชนะอัพภาสทั้งหมด มีนิยมใหรัสสะเสมอ ถึงแม เดิมจะเปน ทีฆะอยูก็ตาม ข. สระที่ติดอยูกับพยัญชนะอัพภาส จะเปนสระอะไรก็ตาม หรือจะ มากนอยเทาไรก็ตาม แตเม่ือถึงคราวแปลง ยอมแปลงเปน ๒ ตัว เทา นนั้ คือ ๑. แปลงเปน อ เชน ททาต,ิ ทธาต,ิ ชหาติ ๒. แปลงเปน อิ เชน ชคิ ึสต,ิ ชิฆจฉฺ ต,ิ ชคิ จุ ฺฉติ คำแปลของ ข, ฉ, ส ปจจยั ปจจัย ๓ คือ ข, ฉ, ส เมื่อใชประกอบกับธาตุแลวออกสำเนียงคำแปลวา “ปรารถนา” ท่ีเปนเชนน้ี ก็เฉพาะธาตุบางตัวเทานั้น แตบางตัวก็หาออกสำเนียง คำแปลเชนนั้นไม เมอื่ เปน เชน น้ี พึงสังเกตตามหลักดงั ที่ทานวางไวดังน:้ี - ข, ฉ, ส ๓ ตัวนี้ ก. ถาประกอบกับธาตุ เฉพาะธาตุ ๕ ตัวน้ีเทานั้น คือ ภุชฺ, ฆสฺ, หร,ฺ ส,ุ ปา ตอ งออกสำเนยี งคำแปลวา “ปรารถนา” ไวข า งหนา คำแปลของธาตเุ สมอ เชน 96

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 97 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò (ภชุ )ฺ พุภกุ ขฺ ติ ปรารถนาจะกิน (ฆสฺ) ชฆิ จฺฉติ ปรารถนาจะกนิ (หร)ฺ ชิคสึ ติ ปรารถนาจะนำไป (สุ) สุสสฺ สู ติ ปรารถนาจะฟง (ปา) ปว าสติ ปรารถนาจะดมื่ ข. ถาไปประกอบกับธาตุอื่น นอกจาก ๕ ตัวดังที่กลาวมาแลว นั้น ไมต องออกสำเนียงคำแปลวา “ปรารถนา” เชน ติติกฺขติ ยอมอดกลน้ั (ข ปจ จัย) ชิคุจฉติ ิ ยอ มเกลียดชัง (ฉ ปจ จยั ) ติกิจฉฺ ติ ยอ มรกั ษา (ฉ ปจจยั ) วีมส ติ ยอ มทดลอง (ส ปจจยั ) ข, ฉ, ส ปจ จยั ซง่ึ นอกจากทใี่ หล งในธาตุ ๕ ตวั และแปลวา “ปรารถนา” แลว มักนิยมใหลงในธาตุ ๔ ตัว ดังที่กลาวแลวนี้เทาน้ัน คือ ติชฺ, คุปฺ, กิตฺ, มานฺ ดังอุทาหรณ ที่ยกไวแ ลวตามลำดบั ขางตน อำนาจแปลงธาตุของ ข, ฉ, ส ปจ จัย ปจจัย ๓ ตวั เมอ่ื ลงประกอบกับธาตุแลว มักไมคงธาตุไว ยอ มตองแปลงธาตุ เสมอไป แตการแปลงนน้ั ทา นกำหนดไวดังนี้ :- ข ปจ จยั มอี ำนาจใหแ ปลงทสี่ ดุ ธาตเุ ปน ก ฉ ปจจัย มีอำนาจใหแ ปลงทส่ี ดุ ธาตุเปน จ ส ปจจัย มอี ำนาจใหแปลงตวั ธาตทุ ้ังหมดเปน อยา งอื่น คือ ใหแ ปลง มานฺ ธาตุ เปน ม ใหแปลง หรฺ ธาตุ เปน คึ ใหแ ปลง ปา ธาตุ เปน วา เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 97

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 98 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) วธิ ลี งนคิ คหติ อาคม พยัญชนะอพั ภาสบางตวั มีนิยมใหลงนิคคหติ อาคมไดบ าง แตเ มอ่ื ลงแลว ให แปลงนิคคหติ นัน้ เปนพยญั ชนะทสี่ ุดวรรค ๕ ตัว คือ ง, , ณ, น, ม ตวั ใดตวั หนึ่ง คอื :- ถา อยูใน ก วรรค ใหแปลงเปน งฺ ถา อยใู น จ วรรค ใหแปลงเปน ฺ ถาอยูใน ฏ วรรค ใหแ ปลงเปน ณฺ ถา อยูใ น ต วรรค ใหแ ปลงเปน นฺ ถาอยใู น ป วรรค ใหแ ปลงเปน มฺ อาย - อยิ ปจ จัย อาย - อยิ ปจ จยั ๒ ตวั น้ี ตา งจากปจ จยั อน่ื คอื อาจนำไปใชล งในนามศพั ท และ ทำนามศัพทนั้นใหเปนกิริยาได ซึ่งปจจัยเหลาอื่นลวนมีกำหนดใหลงไดเฉพาะที่ธาตุ เทาน้ัน ฉะน้ัน นามศัพทจึงอาจเปนมูลแหงกิริยาศัพทไดเชนเดียวกับธาตุ ในเมื่อใช ปจ จยั ๒ ตัวนีป้ ระกอบเขา ดังน้ัน จึงตองถือเปนหลักไดตอไปอีกวา ท่ีตั้งท่ีเกิดอันเปนรากเหงาของ อาขยาตนัน้ มี ๒ คือ ธาตุอยา ง ๑ นามศพั ทอ ยาง ๑ ธาตใุ ชไ ดท ว่ั ไปสำหรบั ปจ จยั อนื่ นามศพั ทใ ชไ ดเ ฉพาะปจ จยั ๒ ตวั เทา นนั้ อาย - อยิ ปจ จยั ๒ ตัวน้ี เม่ือใชประกอบกบั นามศพั ทแลว ตองออกสำเนยี ง คำแปลวา “ประพฤติ” และบางคำก็ตอคำวา “เพียงดัง” ซ่ึงเปนคำอุปมาเพิ่มเขามา อีก หลักท่ีจะพงึ สังเกตในท่ีนี้ มีอยดู งั น้ี :- ก. ถาประกอบกับนามศัพทท่ีเปนนามนาม มีสำเนียงคำแปลวา “ประพฤติ เพียงดงั ” เชน ปตุ ตฺ ยิ ติ ยอ มประพฤติใหเปน เพยี งดังบตุ ร ข. ถาประกอบกับนามศัพทที่เปนคุณนาม มีสำเนียงคำแปลวา “ประพฤติ” เชน จิรายติ ประพฤติชา อยู 98

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 99 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ปจจยั ทใ่ี ชนอย มปี จ จยั ทปี่ รากฏอยใู นมลู กจั จายน ซงึ่ ไมส จู ะใชใ นปกรณท ง้ั หลายอกี ๘ ตวั ไดแก อล, อาร, อาล, อ,ิ อ,ี อณุ า, ปปฺ , ยริ และปจ จยั เหลา น้ี ทา นมไิ ดก ลา วไวใ นบาลไี วยากรณ โดยเหตุท่ีมีใชนอยที่สุด แตก็พึงทราบไว เพื่อเปนเคร่ืองประดับความรู จะไดยกมา แสดงพรอ มทัง้ อทุ าหรณ ดงั ตอไปน้ี :- อล เปนปจ จัยนอกหมวดธาตุ อุ. โชตลติ ยอ มรุงเรอื ง อาร เปนปจจยั นอกหมวดธาตุ อุ. สนตฺ รารติ ยอ มขาม อาล เปนปจจัยนอกหมวดธาตุ อุ. อปุ กฺกมาลติ ยอ มกา วไป อิ เปนปจจยั สำหรบั หมวด รุธฺ อุ. รุนธฺ ิติ ยอ มกัน้ -ปด อี เปนปจจัยสำหรบั หมวด รุธฺ อุ. รนุ ธฺ ตี ิ ยอมก้ัน-ปด อณุ า เปนปจจยั สำหรบั หมวด สุ อ.ุ ปาปุณาติ ยอมถงึ -บรรลุ ปปฺ เปน ปจ จยั สำหรับหมวด คหฺ อุ. เฆปปฺ ติ ยอมถอื เอา ยริ เปนปจจัยสำหรับหมวด ตนฺ อ.ุ กยิรา พงึ ทำ ๒.๖ ความสำคัญของปจ จยั ปจจัยยอมเปนสำคัญในการศึกษาอาขยาตสวนหน่ึง เพราะธาตุทุกตัวท่ีใช ประกอบเปนกิริยาศัพทจะขาดปจจัยเสียมิได และปจจัยน้ียังเปนเคร่ืองชี้ในทราบถึง วาจกอีก การแปลก็ดี การผกู ประโยคกด็ ี จำเปนตองทราบและใชก ริ ิยาใหถ ูกตอง และ กิริยาที่ใชในการประกอบประโยคยอมตองหมุนเวียนไปตามลักษณะของวาจก สวน วาจกที่จะเปนรูปขึ้นไดก็ตองอาศัยปจจัยเขาประกอบ จำเปนที่ผูศึกษาจะตองเขาใจ และใชปจจัยใหถูกตองชัดเจน จึงจะแปลและผูกประโยคใหถูกตอง มิฉะนั้นแลวอาจ เขา ใจวาจกผดิ ๆ พลาด ๆ โดยทเ่ี ขา ใจไมถ ถ่ี ว นในปจ จยั ทำใหก ารแปลและผกู ประโยค พลอยผดิ จากความเปน จรงิ ไปดว ย เพราะฉะนน้ั ปจ จยั จงึ นบั วา เปน สว นแหง เครอ่ื งปรงุ ท่ี สำคัญมากสวนหน่ึงแหงอาขยาต ในการที่จะประกอบธาตุใหเปนกิริยาศัพท ความ สำคญั ของปจจยั นน้ั พอสรุปเปน ขอ ๆ ไดดงั น้ี 99

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 100 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ๑. ประกอบกบั ธาตใุ หเ ปน กริ ยิ าศพั ท เพราะกริ ยิ าศพั ทจ ะขาดปจ จยั ไมไ ด ๒. เปน เคร่อื งบง ใหท ราบถึงวาจกวา ปจจัยตัวนี้เปนวาจกอะไร ๓. วาจกจะเปน รปู ปรากฏขึ้นมาตอ งอาศัยปจจยั ประกอบ ๔. การแปลก็ดี การผูกประโยคก็ดี จำตองเขาใจและใชปจจัยใหถูกตอง ชดั เจน ************************ จบอาขยาต 100

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 101 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò แบบประเมินผลตนเองกอนเรยี น หนวยท่ี ๕ จุดประสงค เพ่ือประเมินความรเู ดมิ ของนักเรยี นเก่ยี วกับเรื่อง “วาจก ปจ จัย” คำส่งั ใหนักเรียนอานขอความตอไปน้ี แลวทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอคำตอบท่ีถูกตอง และทำเครื่องหมายผิด ( ) หนาขอ คำตอบที่ผิด ( ) ๑. วาจก คอื กลาวบททเ่ี ปนประธานของกริ ิยา ( ) ๒. อ เอ ย ณุ ณา นา ณฺหา โอ เณ ณย เปน ปจ จยั ประจำของกัตตุวาจก ( ) ๓. กริ ยิ าศพั ทท ก่ี ลา วถงึ ผทู ำ ซงึ่ ทำหนา ทปี่ ระธานในประโยค ชอ่ื กมั มวาจก ( ) ๔. ประโยควา “เตน ภยู เต” เปน ประโยคภาววาจก ( ) ๕. ย ปจจัย พรอมทัง้ อิ อาคมหนา ย ใชล งในประโยคเหตุกตั ตวุ าจก ( ) ๖. ในประโยคกตั ตวุ าจก ยกตัวกรรมข้ึนเปนประธานในประโยค ( ) ๗. เณ ณย ณาเป ณาปย ปจจยั เปน เครื่องหมายเหตุกมั มวาจก ( ) ๘. บทกตั ตาในประโยคกมั มวาจก ตอ งประกอบดวยปฐมาวภิ ตั ติ ( ) ๙. บทเหตกุ รรม ในประโยคเหตุกมั มวาจก ตอ งประกอบดว ยทุตยิ าวภิ ัตติ ( ) ๑๐. ประโยควา “สามิเกน สูเทน โอทโน ปาจาปยเต” เปน เหตกุ ัตตุวาจก ( ) ๑๑. บทวา “ปาเจติ” เปนกริ ยิ าในเหตุกตั ตุวาจก ( ) ๑๒. ในภาววาจก กิริยาตองใชอกัมมธาตุ ย ปจจัย วิภัตติฝายอัตตโนบท ประถมบุรุษ เอกวจนะ ( ) ๑๓. ข, ฉ, ส ปจจัย เปนไปในความปรารถนา และตอ งทำอัพภาสธาตุดวย ( ) ๑๔. อาย อิย ปจจัย ใชประกอบกับนามศัพท ทำใหเปนกิริยาศัพท เปนไป ในความประพฤติ ( ) ๑๕. เณ ณย ณาเป ณาปย ปจจัย เปนปจจัยเนื่องดวย ณ เมื่อลงแลว ตอ งลบ ณ ท้งิ เสมอ 101

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 102 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò แบบประเมินผลตนเองหลังเรยี น หนวยที่ ๕ จุดประสงค เพ่ือประเมินความกาวหนาของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง “วาจก คำส่ัง ปจ จัย” ใหนักเรียนอานขอความตอไปน้ี แลวทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอคำตอบที่ถูกตอง และทำเครื่องหมายผิด ( ) หนาขอ คำตอบที่ผดิ ( ) ๑. วาจก คอื กลา วบททีเ่ ปน ทตุ ยิ าวภิ ตั ติของกิริยา ( ) ๒. อ เอ ย ณุ ณา นา ณหฺ า โอ เณ ณย เปน ปจ จยั ประจำของเหตกุ มั มวาจก ( ) ๓. กริ ยิ าศพั ทท ก่ี ลา วถงึ ผทู ำซงึ่ ทำหนา ทป่ี ระธานในประโยค ชอ่ื กตั ตวุ าจก ( ) ๔. ประโยควา “เตน ภูยเต” เปนประโยคกตั ตุวาจก ( ) ๕. ย ปจจัย พรอ มท้งั อิ อาคมหนา ย ใชล งในประโยคกัมมวาจก ( ) ๖. ในประโยคกมั มวาจก ยกตวั กรรมขึ้นเปนประธานในประโยค ( ) ๗. เณ ณย ณาเป ณาปย ปจจัย เปนเครื่องหมายเหตกุ ัตตุวาจก ( ) ๘. บทกัตตาในประโยคกมั มวาจก ตองประกอบดว ยตติยาวิภัตติ ( ) ๙. บทเหตุกรรม ในประโยคเหตกุ มั มวาจก ตองประกอบดว ยปฐมาวิภตั ติ ( ) ๑๐. ประโยควา “สามเิ กน สเู ทน โอทโน ปาจาปยเต” เปนเหตกุ ัมมวาจก ( ) ๑๑. บทวา “ปาเจติ” เปน กิรยิ าในภาววาจก ( ) ๑๒. ในกัมมวาจก กิริยาตองใชอกัมมธาตุ ย ปจจัย วิภัตติฝายอัตตโนบท ประถมบรุ ุษ เอกวจนะ ( ) ๑๓. อาย อยิ ปจจัย เปนไปในความปรารถนา และตองทำอพั ภาสธาตดุ วย ( ) ๑๔. ข ฉ ส ปจจัย ใชประกอบกับนามศัพท ทำใหเปนกิริยาศัพท เปนไปใน ความประพฤติ ( ) ๑๕. ณุ, ณา ปจจัย เปน ปจจยั เนือ่ งดวย ณ เม่อื ลงแลวตอ งลบ ณ ทิง้ เสมอ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 102

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 103 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เฉลยแบบประเมนิ ผล หนวยที่ ๕ ขอ กอ นเรียน หลงั เรยี น ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 103

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 104 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ภาคผนวก กริ ยิ าอาขยาต การเรียนอาขยาตก็เพื่อจะไดทราบกิริยาศัพท กิริยาศัพทยอมมีมูลมาจาก ธาตเุ ปน สว นมาก ฉะนน้ั ในทน่ี จ้ี ะไดน ำกริ ยิ าศพั ทพ รอ มทง้ั ธาตแุ ละเครอ่ื งปรงุ ประกอบกบั วิธีทำจนสำเร็จรูปมาแสดงพอเปนตัวอยาง เพื่อเปนการสะดวกแกผูศึกษาจะไดสังเกต และจดจำวิธีทำไว ดังตอไปนี้ :- อ อกฺกมติ ยอมเหยยี บ อา บทหนา กมฺ ธาตุ ในความกา วไป อ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ รัสสะ อา เปน อ ซอน ก.ฺ อกโฺ กจฉฺ ิ ไดด าแลว กสุ ฺ ธาตุ ในความดา อ ปจ จัย อี วิภัตติ แปลง อี เปน จฺฉิ ดวยอำนาจ กุสฺ ธาตุ ในความดา ลบท่ีสุดธาตุเสีย พฤทธิ์ อุ ที่ กุ เปน โอ ลง อ อาคมตน ธาตุ ซอน กฺ. อกฺโกสติ ยอมดา อา บทหนา กสุ ฺ ธาตุ ในความดา อ ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ รัสสะอา เปน อ พฤทธิ์ อุ แหง กุ เปน โอ ซอน กฺ. อกฺขายติ ยอมกลาว อา บทหนา ขา ธาตุ ในความกลาว ย ปจจัย ติ วิภัตติ รัสสะ อา เปน อ ซอน กฺ. อกตฺถ ไดทำแลว กรฺ ธาตุ ในความทำ อ ปจจัย ตฺถ อัชชัตตนีวิภัตติ ลบ ท่ีสดุ ธาตุ ลง อ อาคมหนา ธาตุ. อกสุ ไดทำแลว กรฺ ธาตุ ในความทำ อ ปจจัย อุ อชั ชัตตนีวภิ ัตติ แปลง กรฺ เปน กา เอา อุ เปน อส ุ ลง อ อาคมหนาธาต.ุ อกาสิ ไดทำแลว กรฺ ธาตุ ในความทำ อ ปจจัย อี อัชชตั ตนวี ิภัตติ แปลง กรฺ เปน กา เอา อี เปน อิ ลง ส อาคมหลงั ธาต.ุ อคจฺฉา ไดไป-ถึงแลว คมฺ ธาตุ ในความไป-ถึง อ ปจจัย อา หิยัตตนีวิภัตติ แปลง คมฺ เปน คจฺฉ ลง อ อาคมหนาธาต.ุ อคจฺฉิสฺสา จักไดไป-ถึงแลว คมฺ ธาตุ ในความไป, ถึง อ ปจจัย สฺสา วิภัตติ แปลง คมฺ เปน คจฺฉ ลง อ อาคมหนาธาตุ และ อิ อาคมหลงั ธาต.ุ 104

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 105 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò อคมา ไดไป-ถึงแลว คมฺ ธาตุ ในความไป, ถึง อ ปจจยั อา วภิ ัตติ ลง อ อาคม อคมาสิ อคฺฆาเปสิ หนาธาต.ุ อจจฺ าวทติ ไดไป-ถึงแลว คมฺ ธาตุ ในความไป, ถงึ อ ปจจยั อี วภิ ัตติ รัสสะ อี เปน อจเฺ จติ อจฺฉติ อิ ลง อ อาคมหนาธาตุ ลง ส อาคม ทีฆะ อ ท่สี ดุ ธาตเุ ปน อา. อจฉฺ าเทติ ใหต ีราคาแลว อคฺฆ ธาตุ ในความมีราคา-มคี า ณาเป ปจจัย อี วภิ ัตติ อจฉฺ นิ ฺทิ รัสสะ อี เปน อิ ลง ส อาคม. อจฉฺ นิ ฺทติ ยอ มกลา วลว งเกนิ -พดู เกยี้ ว อต+ิ อา บทหนา วทฺ ธาตุ ในความกลา ว อจฺฉุปติ อจเฺ ฉชชฺ ิ อ ปจ จัย ติ วิภตั ติ แปลง ติ ที่ อติ เปน ตยฺ แลว เอาเปน จจฺ . ยอมลวงไป อติ บทหนา อิ ธาตุ ในความไป ย ปจจัย ติ วิภัตติ อชนิ ิ อเชสิ แปลง อิ ธาตุ เปน เอ แปลง ติ เปน ตฺย แลว เอาเปน จจฺ . ยอมอย-ู น่ัง อาสฺ ธาตุ ในความอยู-นงั่ ย ปจ จยั ติ วิภัตติ เอา ย กบั ส ทส่ี ดุ ธาตเุ ปน จฺฉ รสั สะ อา เปน อ. ยอ มนงุ หม อา บทหนา ฉทฺ ธาตุ ในความปกปด เณ ปจ จยั (กตั ตวุ าจก) ติ วิภัตติ ทีฆะตนธาตุ เพราะปจจัยท่ีเนื่องดวย ณ รัสสะ อา เปน อ ซอ น จฺ. ไดต ดั แลว ฉิทฺ ธาตุ ในความตดั อ ปจ จัย อี วิภตั ติ รัสสะ อี เปน อิ ลงนคิ คหิตอาคม แลว แปลงเปน นฺ ลง อ อาคมหนา ธาตุ ซอ น จ.ฺ ยอมแยง-ชิง-ปลน อา บทหนา ฉิทฺ ธาตุ ในความตัด อ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ ลงนิคคหติ อาคม แลว แปลงเปน นฺ ซอน จ.ฺ ยอมถูกตอง-ทาบลง-ดามลง อา บทหนา ฉุปฺ ธาตุ ในความถูกตอง อ ปจจัย ติ วภิ ัตติ รสั สะ อา เปน อ ซอ น จ.ฺ ไดต ัดแลว ฉทิ ฺ ธาตุ ในความตัด ย ปจจัย อี วภิ ัตติ รสั สะ อี เปน อิ เอา ย กับ ทฺ ทีส่ ดุ ธาตุเปน ชฺช พฤทธ์ิ อิ แหง ฉทิ ฺ เปน เอ ลง อ อาคม หนาธาตุ ซอน จ.ฺ ไดช นะแลว ชิ ธาตุ ในความชนะ นา ปจ จัย อี วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ ลง อ อาคมหนาธาต.ุ ไดชนะแลว ชิ ธาตุ เอ ปจ จัย อี วิภตั ติ รัสสะ อี เปน อิ ลง ส อาคม. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 105

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 106 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อชฺฌาจรติ ยอมลวงละเมิด-ประพฤติผิด อธิ+อา บทหนา จรฺ ธาตุ ในความ ประพฤติ อ ปจ จยั ติ วิภตั ติ แปลง อธิ เปน อชฌฺ . อชฌฺ คา ไดบรรลุแลว อธิ บทหนา คมฺ ธาตุ ในความถึง อ ปจจัย อา วิภัตติ แปลง อธิ เปน อชฌฺ ลบท่สี ดุ ธาตุ ลง อ อาคมหนาธาตแุ ลวลบเสยี . อชฺฌายติ ยอมศึกษา-เลาเรียน-ทองบน อธิ บทหนา อิ ธาตุ ในความเลาเรียน อ ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง อธิ เปน อชฺฌ พฤทธิ์ อิ เปน เอ แลว เอาเปน อาย. อชฺฌาวสติ ยอมครอบครอง อธิ+อา บทหนา วสฺ ธาตุ ในความอยู อ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ แปลง อธิ เปน อชฌฺ . อชฺฌเุ ปกขฺ ติ ยอมเพง-วางเฉย อธิ+อุป บทหนา อิกฺข ธาตุ ในความเห็น อ ปจจัย ติ วิภตั ติ แปลง อธิ เปน อชฌฺ พฤทธิ์ อิ แหง อิกฺข เปน เอ. อชเฺ ฌสติ ยอมเชื้อเชิญ-ขอรอง อธิ บทหนา เอสฺ ธาตุ ในความเชิญ อ ปจจัย ติ วิภตั ติ แปลง อธิ เปน อชฺฌ. อชฺโฌหรติ ยอมกลืนกิน อธิ+โอ บทหนา หรฺ ธาตุ ในความนำไป อ ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง อธิ เปน อชฌฺ . อตถฺ ยอมมี-เปน อสฺ ธาตุ ในความมี - ความเปน อ ปจจัย ถ วิภัตติ แปลง ถ เปน ตฺถ แลว ลบท่สี ุดธาตุ. อตฺถิ มี-เปนอยู อสฺ ธาตุ อสฺ ธาตุ ในความมี - ความเปน อ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ แปลง ติ เปน ตถฺ ิ แลว ลบที่สดุ ธาต.ุ อททฺ กขฺ ิ ไดเ หน็ แลว ทสิ ฺ ธาตุ ในความเหน็ อ ปจ จยั อี วภิ ตั ติ รสั สะ อี เปน อิ แปลง ทสิ ฺ เปน ทกขฺ ซอ น ทฺ รสั สะ อา เปน อ ลง อ อาคมหนาธาตุ. อททฺ ส ไดเ ห็นแลว ทสิ ฺ ธาตุ ในความเห็น อ ปจ จยั อา หิยตั ตนวี ิภัตติ ลบ อิ ตนธาตุ ซอน ทฺ รสั สะ อา เปน อ ลง อ อาคมหนาธาตุ. อทาสิ ไดใหแลว ทา ธาตุ ในความให อ ปจจัย อี วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ ลง อ อาคม หนาธาตุ และ ส อาคม. อธิวาเสติ ยอมยัง...ใหอยูทับ, รับ-อดกลั้น อธิ บทหนา วสฺ ธาตุ ในความอยู เณ ปจจัย (เหตุกัตตุวาจก) ติ วภิ ตั ติ ลบ ณ เสยี ทฆี ะตนธาตุ 106

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 107 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò อนฺตรธายิ หายไปแลว อนฺตร (ระหวาง) บทหนา ธา ธาตุ ในความทรงไว อเนวตฺ ิ อนพุ นธฺ ิ ย ปจ จัย อี วภิ ตั ติ รัสสะ อี เปน อ.ิ อนุโภติ ยอมไปตาม อนุ บทหนา อิ ธาตุ ในความไป อ ปจจัย ติ วิภัตติ อนโุ มทติ อนยุ ุฺชติ แปลง อุ แหง อนุ เปน อว แลวแปลง อิ ธาตุ เปน เอ. อนุรชุ ฌฺ ติ ติดตามแลว อนุ บทหนา พนฺธฺ ธาตุ ในความผูก อ ปจจัย อี วิภัตติ อปโพเธติ รัสสะ อี เปน อ.ิ อปรชฺฌติ ยอมเสวย อนุ บทหนา ภู ธาตุ ในความมี-เปน อ ปจจัย ติ วิภัตติ อปโลเกสุ อเปติ พฤทธ์ิ อู แหง ภู ธาตุ เปน โอ. อพรฺ วิ ยอมชื่นชม อนุ บทหนา มุทฺ ธาตุ ในความบันเทิง ติ วิภัตติ พฤทธ์ิ อพฺภาจกิ ฺขิ อุ เปน โอ. ยอมตามประกอบเนอื ง ๆ อนุ บทหนา ยุชฺ ธาตุ ในความประกอบ อ ปจจยั ติ วภิ ตั ติ ลง นิคคหิตอาคม หนา ธาตุ แลว แปลงเปน . ยอมยินดี อนุ บทหนา รุธิ ธาตุ ในความยินดี-รักใคร ย ปจจัย ติ วิภัตติ ลบ อิ ทีส่ ุดธาตุ แลว แปลง ย ปจ จัยกบั ธฺ เปน ชฺฌ. ยอ มนำปราศ (ซง่ึ ความหลบั ), ตน่ื อยู อป บทหนา พธุ ฺ ธาตใุ นความตน่ื เณ ปจจัยในกัตตุวาจก ติ วิภัตติ ลบ ณ เสีย พฤทธิ์ อุ แหง พุธฺ เปน โอ. ยอมผิด อป บทหนา รธฺ ธาตุ ในความเบียดเบียน-ทำราย ย ปจจัย ติ วภิ ัตติ แปลง ธฺ ทสี่ ดุ ธาตุกบั ย เปน ชฺฌ. อำลา-บอกเลา-แจงความแลว อป บทหนา โลกฺ ธาตุในความเห็น- แลดู เณ ปจ จัย ในกัตตุวาจก อุ วภิ ตั ติ ลง ส อาคม. ยอมหลีกไป อป บทหนา อิ ธาตุ ในความไป อ ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง อิ เปน เอ. ไดก ลา วแลว พรฺ ู ธาตุ ในความกลา ว อ ปจ จยั อี วภิ ตั ติ รสั สะ อี เปน อิ พฤทธ์ิ อู ท่ี พรฺ ู เปน โอ แลว เอาเปน อว ลง อ อาคมหนาธาต.ุ กลาวตูแลว อภิ+อา บทหนา จิกฺขฺ ธาตุ ในความกลาว อ ปจจัย อี วภิ ัตติ แลว รสั สะ แปลง อภิ เปน อพฺภ. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 107

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 108 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อภภิ วติ ยอมครอบงำ อภิ บทหนา ภู ธาตุ ในความมี-เปน อ ปจจัย ติ วิภตั ติ พฤทธิ์ อู แหง ภู เปน โอ แลว เอาเปน อว. อภิตถฺ วิ ชมเชยแลว อภิ บทหนา ถุ ธาตุ ในความชมเชย อ ปจจัย อี วิภัตติ แลวรัสสะ พฤทธ์ิ อุ ท่ี ถุ เปน โอ แลวเอาเปน อว ซอ น ต. อภิรหุ ติ ยอมขึ้น อภิ บทหนา รุหฺ ธาตุ ในความงอก อ ปจ จัย ติ วภิ ตั ติ. อภวิ าเทสิ กราบไหวแลว อภิ บทหนา วที ธาตุ ในความกราบไหว-ชมเชย เณ ปจจัยในกัตตุวาจก อี วิภัตติ แลวรัสสะ ทีฆะ ตนธาตุ ลบ อี ที่ ที ลง ส อาคม. อภิสฺสป สาป-แชงแลว อภิ บทหนา สปฺ ธาตุ ในความสาป-แชง อ ปจจัย อี วภิ ัตติ แลว รัสสะ ซอน สฺ. อภสิ งฺขโรติ ยอมปรุงแตง อภิ+ส บทหนา กรฺ ธาตุในความทำ โอ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ แปลงนคิ คหิตที่ ส เปน งฺ แลว แปลง ก แหง กรฺ เปน ข. อลงกฺ โรติ ยอมประดับ อล ศพั ทเปนบทหนา กรฺ ธาตุ ในความทำ โอ ปจ จยั ติ วิภัตติ แปลงนิคคหิตที่ อล เปน งฺ (ศัพทน้ีถาแปลใชเต็มที่ก็วา “ยอมทำซึง่ การประดับ” หรอื “ยอ มกระทำใหพ อ” อลตถฺ ไดไดแลว ลภฺ ธาตุ ในความได อ ปจจัย อี วิภัตติ เพราะ ลภฺ ธาตุ แปลง อี เปน ตฺถ ลบทสี่ ุดธาตุ ลง อ อาคมตนธาต.ุ อลตถฺ  ไดไดแลว ลภฺ ธาตุ ในความได อ ปจจัย อึ วิภัตติ เพราะ ลภฺ ธาตุ แปลง อึ เปน ตฺถ ลบท่สี ุดธาตุ ลง อ อาคมตน ธาต.ุ อลภสิ ฺส จักไดไดแลว ลภฺ ธาตุ ในความได อ ปจจัย สฺสา วิภัตติ รัสสะ อา แหง สฺสา เปน อ ลง อิ อาคมที่สุดธาตุและปจจัย และลง อ อาคม หนา ธาตุ. อวจ ไดก ลา วแลว วจฺ ธาตุ ในความกลาว อ ปจ จยั อ วภิ ตั ติ ลง อ อาคม หนา ธาต.ุ อโวจ ไดกลาวแลว วจฺ ธาตุ ในความกลาว อ ปจจัย อา วิภัตติ แลวรัสสะ เสยี เอา อ ที่ ว แหง วจฺ เปน อุ แลว พฤทธ์ิ อุ เปน โอ ลง อ อาคม หนาธาตุ. 108

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 109 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò อวชาเนยฺย พึงดูหม่ิน อว บทหนา า ธาตุ ในความรู นา ปจจัย เอยฺย วิภัตติ แปลง า เปน ชา. อวฌายนฺติ ยอ มซบเซา อว บทหนา เฌ ธาตุ ในความเพง อ ปจ จยั อนฺติ วิภตั ติ แปลง เอ ที่ เฌ เปน อาย. อวตถฺ ริ ทวมทับแลว อว บทหนา ถรฺ ธาตุ ในความลาด-ปู อ ปจ จยั อี วิภัตติ รสั สะ อี เปน อิ ซอ น ตฺ. อวมฺเถ พงึ ดูหม่นิ อว บทหนา มนฺ ธาตุ ในความร-ู สำคัญ ย ปจจัย เอถ วภิ ตั ติ แปลง ย ปจจยั กับ นฺ ทีส่ ุดเปน ธาตุ ฺ. อเวกฺขติ ยอ มเล็งเหน็ อว บทหนา อิกขฺ ฺ ธาตุ ในความเห็น อ ปจ จยั ติ วิภัตติ พฤทธ์ิ อิ แหง อกิ ฺขฺ เปน เอ. อสโฺ สสิ ไดฟงแลว สุ ธาตุ ในความฟง อ ปจจัย อี วิภัตติ ลง อ อาคมตน ธาตุ ซอน สฺ พฤทธิ์ อุ แหง สุ เปน โอ รัสสะ อี เปน อิ ลง ส อาคม. อสสฺ าเทติ ยอ มยนิ ดี อา บทหนา สทฺ ธาตุ ในความยนิ ดี เณ ปจ จยั (กตั ตวุ าจก) ติ วภิ ตั ติ เพราะปจ จยั ทเ่ี นอื่ งดว ย ณ ทฆี ะ อ แหง สทฺ เปน อา ซอ น ส.ฺ อหาสิ ไดลักแลว หรฺ ธาตุ ในความนำไป อ ปจจัย อี วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ ลง อ อาคมหนา ธาตุ และลง ส อาคม แลว ลบที่สดุ ธาตุ ทีฆะ อ ท่ี ห เปน อา. อากฑตฺ ิ ฉดุ -ครามาแลว อา บทหนา กฑฺฒ ธาตุ ในความ ฉดุ -ครา อา ปจ จัย อี วภิ ตั ติ รัสสะ เปน อิ. อากริ ติ ยอมเรย่ี ราย-โปรย อา บทหนา กิรฺ ธาตุ ในความโรย-โปรย อ ปจจยั ติ วภิ ัตต.ิ อาโกเฏสิ เคาะแลว อา บทหนา กุฏ ธาตุ ในความเคาะ-ตี-ทุบ เณ ปจจัย (กัตตุวาจก) อี วภิ ตั ติ รสั สะ อี เปน อิ เพราะ ณ ปจจยั พฤทธ์ิ อุ ท่ี กุ เปน โอ แลวลง ส อาคม. อาจิกฺขิ บอกแลว อา บทหนา จิกฺขฺ ธาตุ ในความกลาว อ ปจจัย อี วิภัตติ แลว รสั สะ อี เปน อิ. 109

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 110 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò อาณาเปสิ สั่ง-บงั คบั แลว อา บทหนา า ธาตุ ในความรู ณาเป ปจจยั อี วิภัตติ แลวรัสสะเสีย ลง ส อาคม แปลง า ธาตุ เปน ณา ถาจะแปลตาม อาทิยติ รูปเดิมก็ตองวา “ยัง...ใหรูท่ัว” ก็เทากับ อาาเปสิ น่ันเอง เมื่อแปล อานยึสุ ถือเอาความจึงเปนรูปสยกัตตาวา “สั่ง-บังคับแลว” ศัพทนี้ เม่ือเปน อาปุจฉฺ ิ รปู นามกิตก ถาเปนนามนาม เปน อาณตตฺ ิ ก็มี อาณาปน ก็มี แปลวา อามนเฺ ตสิ คำสั่ง-บังคบั บา ง ความสง่ั -บงั คบั บา ง ถาเปน คุณนาม เปน อาณาโก อาราเธสิ ผูส่ัง-บังคับ. ท่ีเปนรูป อาณา เฉย ๆ ก็มี เชน ราชาณา อำนาจของ อาโรเจสิ พระราชา อาณาจกกฺ  จักรคอื อำนาจ อาณาปวตฺติฏ าน ทีเ่ ปน ทเ่ี ปนไป อาโรเปสิ แหงอำนาจ อาณ ปวตฺเตติ ยังคำส่ังใหเปนไป (ออกคำสั่ง) เปนกริ ยิ ากิตกไดรปู เปน กมั มวาจกวา อาณตโฺ ต อนั ...สั่ง-บงั คับแลว กม็ ี เปน เหตุกัตต.ุ วา อาณาเปตฺวา สัง่ บงั คบั แลว กม็ ี แตใ น อภธิ านปปฺ ทปี ก าสจู ิ ทา นกลา ววา เปน อาณฺ ธาตุ ในความสง ไป, แตไ ดค น ดใู นปทานกุ รม Rhys Davids และ Childers กลา ววา เปน า ธาตุท้งั นั้น. ยอมถือเอา อา บทหนา ทา ธาตุในความให ย ปจจัย (กัมมวาจก) อิ อาคม ติ วภิ ตั ต.ิ นำมาแลว อา บทหนา นี ธาตุ ในความนำไป อ ปจจัย อุ วิภัตติ แลวแปลงเปน อึสุ พฤทธิ์ อี ที่ นี เปน เอ แลวเอาเปน อย. อำลาแลว อา บทหนา ปุจฺฉ. ธาตุ ในความถาม อ ปจจัย อี วิภัตติ แลว รสั สะ. เรยี กมาแลว อา บทหนา มนตฺ ฺ ธาตุ ในความปรึกษาหารือ เณ ปจจยั (กตั ตวุ าจก) อี วภิ ตั ติ แลวรัสสะ ลง ส อาคม. ใหย ินดีแลว อา บทหนา ราธฺ ธาตุ ในความสำเรจ็ พรอม-ยนิ ดี เณ ปจ จยั (เหตกุ ตั ตวุ าจก) อี วภิ ตั ติ รสั สะ อี เปน อิ แลว ลง ส อาคม. บอกแลว อา บทหนา รุจฺ ธาตุ ในความชอบใจ เณ ปจจัย (กัตตุวาจก) อี วภิ ตั ติ รสั สะ อี เปน อิ พฤทธ์ิ อุ ท่ี รุ เปน โอ แลว ลง ส อาคม. ยกขนึ้ แลว อา บทหนา รปุ ฺ ธาตุ ในความปลกู เณ ปจ จยั (กตั ตวุ าจก) อี วิภตั ติ รัสสะ อี เปน อิ พฤทธ์ิ อุ ท่ี รุ เปน โอ แลว ลง ส อาคม. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 110

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 111 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò อาวภิ วิสฺสนฺติ จกั ม-ี เปนแจง อาวิ บทหนา ภู ธาตุ ในความมี - ความเปน อ ปจจัย สสฺ นตฺ ิ วภิ ัตติ พฤทธิ์ อู แหง ภู เปน โอ แลว เอาเปน อว แลว ลง อิ อาคม. อาวณุ ิ รอ ยแลว อา บทหนา วุ ธาตุ ในความรอ ย ณา ปจจยั อี วิภตั ติ รัสสะ อี เปน อิ. อาสึสติ ยอ มหวงั อา บทหนา สสึ ฺ ธาตุ ในความหวงั อ ปจ จัย ติ วิภตั ต.ิ อาห กลา วแลว พรฺ ู ธาตใุ นความกลาว อ ปจจยั อ ปโรกขาวภิ ตั ติ แปลง พรฺ ู เปน อาห. อจิ ฺฉติ ยอ มปรารถนา อสิ ฺ ธาตุ ในความอยาก ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ย กบั สฺ ท่สี ุดธาตเุ ปน จฺฉ. อิชฺชเต ยอ มบชู า ยชฺ ธาตุ ในความบูชา ย ปจ จยั เต วภิ ัตติ แปลง ย กับ ชฺ ทีส่ ดุ ธาตุเปน ชฺช แปลง ย แหง ยชฺ ธาตุเปน อ.ิ อิชฌฺ นตฺ ุ จงสำเรจ็ อธิ ฺ ธาตุ ในความสำเร็จ ย ปจจยั อนฺตุ วิภัตติ แปลง ย กบั ธฺ ที่สุด ธาตุเปน ชฌฺ . อุกขฺ ิปติ ยอมยกขึ้น อุ บทหนา ขิปฺ ธาตุ ในความทิ้ง-ขวาง-โยน อ ปจจัย ติ วิภตั ติ ซอ น กฺ. อุคฺคณฺหาติ ยอมเรียน อุ บทหนา คหฺ ธาตุ ในความถอื เอา ณหฺ า ปจ จยั ติ วภิ ัตติ ซอ น คฺ. อคุ ฺโฆเสสิ ปาวรองแลว อุ บทหนา ฆุสฺ ธาตุ ในความกึกกอง-เกรียวกราว เณ ปจจยั ในกัตตุวาจก อี วภิ ตั ติ รสั สะ อี เปน อิ ลง ส อาคม ซอน ค.ฺ อจุ จฺ นิ าติ ยอ มเลอื กเก็บ อุ บทหนา จิ ธาตุ ในความกอ -สัง่ สม นา ปจจยั ติ วภิ ัตติ ซอ น จฺ. อชุ ฺฌายิ ยกโทษ-โพนทนาแลว อุ บทหนา เฌ ธาตุ ในความเพง อ ปจจัย อี วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ แปลง เอ ท่ี เฌ เปน อาย ซอน ช.ฺ อุทกิ ขฺ ติ ยอมแลด-ู เหน็ อุ บทหนา อกิ ขฺ ฺ ธาตุ ในความเห็น อ ปจ จัย ติ วิภตั ติ ลง ท อาคมท่ี อกิ ฺขฺ. อปุ จฺจคา เขาไปลวงแลว อุป+อติ บทหนา คมฺ ธาตุ ในความไป-ถึง ยา ปจจัย อ หิยตั ตนีวภิ ตั ติ แปลง ติ เปน ตฺย แลว เอาเปน จจฺ ลงทสี่ ุดธาตุ. 111

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 112 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) อปุ จฺฉชิ ชฺ ิ เขาไปตัดแลว อุป บทหนา ฉทิ ฺ ธาตุ ในความตดั ย ปจ จยั อี วิภตั ติ รัสสะ อี เปน อิ แปลง ย กบั ทฺ ทีส่ ุดธาตุเปน ชชฺ ซอน จฺ หนาธาตุ. อุปปฺ ชชฺ ติ ยอมเกิดขึ้น อุ บทหนา ปทฺ ธาตุ ในความถึง ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ย กับ ทฺ ที่สดุ ธาตุ เปน ชชฺ ซอน ปฺ หนา ธาตุ. อปุ ธาเรติ ใครครวญอยู อุป บทหนา ธรฺ ธาตุ ในความทรงไว เณ ปจจัย ใน กัตตุวาจก ติ วิภตั ติ ทฆี ะ อ ท่ี ธ เปน อา. อปุ ธาวสึ ุ วิ่งเขาไปแลว อุป บทหนา ธาวฺ ธาตุ ในความว่ิง-แลน อ ปจจัย อุ วภิ ตั ติ แปล อุ เปน อสึ ุ. อุปนสิ ีทนตฺ ิ ยอมเขาไปนงั่ ใกล อุป+นิ บทหนา สทฺ ธาตุ ในความจม อนฺติ วภิ ตั ติ แปลง สทฺ เปน สีทฺ. อุปปริกขิสสติ ยอมเขาไปน่ังใกล อุป + ป บทหนา อิกฺข ธาตุ ในความเห็น อ ปจ จัย สฺสติ วภิ ตั ติ ลง อิ อาคมหลังธาตุและปจ จยั ลง ร อาคม อปุ สงกฺ มึสุ เขา ไปแลว อุป+ส บทหนา กมฺ ธาตุ ในความกาวไป อ ปจ จยั อุ วิภัตติ แปลง อุ เปน อึสุ แปลงนิคคหิตท่ี ส เปน งฺ ดวยอำนาจพยัญชนะ ก วรรคอยูเบ้ืองหลัง. อุเปติ ยอมเขาถึง อุป บทหนา อิ ธาตุ ในความถงึ อ ปจ จยั ติ วภิ ัตติ แปลง อิ ธาตุ เปน เอ. อมุ มฺ หิ นตฺ ิ ยอ มถา ยปส สาวะรด อุ บทหนา มหิ ฺ ธาตุ อ ปจ จยั อนตฺ ิ วภิ ตั ติ ซอ น ม.ฺ อสุ ฺสหติ ยอมอาจ อุ บทหนา สหฺ ธาตุ ในความอดกลั้น อ ปจจัย ติ วิภัตติ ซอ น ส.ฺ อุสฺสาปยิสฺสติ จักยัง...ใหยกขึ้น อุ บทหนา สี ธาตุ ในความนอน ณาปย ปจจัย สฺสติ วภิ ตั ติ ซอ น สฺ ลง อิ อาคมหลังธาตุและปจ จัย. อหุ ทนตฺ ิ ยอ มถา ยอจุ จาระรด อุ บทหนา หทฺ ธาตุ อ ปจจัย อนฺติ วิภตั ต.ิ เอธติ ยอมประสบ-ได เอธฺ ธาตุ ในความได อ ปจ จยั ติ วภิ ัตต.ิ โอทหสึ ุ ตง้ั ลง-เงีย่ -คอยฟงแลว โอ บทหนา ธา ธาตุ ในความทรงไว อ ปจจยั อุ วิภตั ติ แปลง อุ เปน อสึ ุ แปลง ธา ธาตุ เปน ทห.ฺ 112

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 113 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò โอรมสิ สฺ ติ จกั งดเวน โอ บทหนา รมฺ ธาตุ ในความเลน-ยินดี อ ปจจยั สฺสติ ลง อิ โอสรนฺติ อาคมหลังธาตแุ ละปจจัย. กถยึสุ ยอมรวมลง-ประชุม โอ บทหนา สรฺ ธาตุ ในความไป-ถึง อ ปจจัย กนฺทติ กปเฺ ปติ อนตฺ ิ วภิ ตั ติ. กยริ า กาหติ ก กิลมิสสฺ ติ กุชฌฺ ติ กลา ว-บอกแลว กถฺ ธาตุ ในความกลาว ย ปจจยั อุ วภิ ตั ติ แปลง อุ กปุ ปฺ ติ กพุ ฺพนฺติ เปน อสึ .ุ ยอมคร่ำครวญ กทิ ธาตุ ในความครวญ อ ปจจัย ติ วิภัตติ ลง กุรุเต นิคคหติ อาคม ที่ ก แลวแปลงเปน นฺ เพราะมี ท อยหู ลงั ลบ อิ ท่ี ทิ ยอมสำเร็จ-คิดนึก-ดำริ กปฺป ธาตุ ในความสำเร็จ เณ ปจจัยในกัตตุ วาจก ติ วิภตั ติ. พึงทำ กรฺ ธาตุ ในความทำ ยิร ปจจัย เอยฺย วิภัตติ แปลง เอยฺย เปน อา ลบที่สุดธาตุ. จักทำ กรฺ ธาตุ อา ปจจยั สฺสติ วภิ ตั ติ เพราะภวสิ สฺ นตฺ ิ วิภัตติ แปลง กรฺ เปน กาห ลบ สฺส แหง สฺสติ วิภตั ตเิ สยี คงไวแต ติ. จักลำบาก-เหน็ดเหน่ือย กิลมฺ ธาตุ ในความลำบาก อ ปจจัย สฺสติ วิภตั ติ ลง อิ อาคมหลงั ธาตุและปจจัย. ยอมโกรธ กธุ ฺ ธาตุ ในความโกรธ ย ปจ จัย ติ วิภัตติ แปลง ย กับ ธฺ ทสี่ ดุ ธาตเุ ปน ชฺฌฺ. ยอมกำเรบิ กุปฺ ธาตุ ในความกำเรบิ ย ปจ จยั ติ วิภตั ติ แปล ย กับ ปฺ ทีส่ ดุ ธาตุเปน ปปฺ (บางแหง หมายความวา โกรธ กม็ ี). ยอมทำ กรฺ ธาตุ ในความทำ โอ ปจจัย อนฺติ วิภัตติ แปลง โอ เปน อุ แปลง อุ เปน อ แปลง อ เปน พ แลวซอน พฺ เอา อ ที่ ก แหง กรฺ ธาตุ เปน อุ ลบทส่ี ดุ ธาตุเสยี . ยอมทำ กรฺ ธาตุ ในความทำ โอ ปจจัย เต วิภัตติ แปลง โอ เปน อุ แลว เอา อ ท่ี ก แหง กรฺ ธาตุ เปน อ.ุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 113

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 114 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ขมาเปสิ ข ขายติ ยัง...ใหอดโทษแลว ขมฺ ธาตุ ในความอด ณาเป ปจจัย อ วิภัตติ ลง ส อาคม. ขยี นตฺ ิ ยอมปรากฏ เข ธาตุ ในความปรากฏ อ ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง เอ ขุพภฺ ติ ท่ี เข เปน อาย. ยอ มแคน เคอื ง-คอ นขอด ขี ธาตุ ในความโกรธ ย ปจ จยั อนตฺ ิ วภิ ตั ต.ิ ขุเ สติ ยอมกำเริบ-ปนปวน ขุภฺ ธาตุ ในความกำเริบ ย ปจจัย ติ วิภัตติ เขปนฺติ แปลง ย กบั ภฺ ท่สี ดุ ธาตเุ ปน พฺภ. ยอมดา ขสุ ฺ ธาตุ ในความดา เณ ปจ จัยในกตั ตวุ าจก ติ วภิ ัตติ. คชฺชติ ยอมยัง...ใหส้ินไป ขิ ธาตุ ในความส้ิน ณาเป ปจจัย อนฺติ วิภัตติ พฤทธิ์ อิ ท่ี ขิ เปน เอ ลบ ณา คงไวแ ต เป. คเณติ ค ครหติ คเวสนตฺ ิ ยอมคำรน-กระหึ่ม คชฺชฺ ธาตุ ในความออกเสียง-รอง อ ปจจัย ติ คายติ วิภัตติ. ยอมนับ-คำนวณ คณฺ ธาตุ ในความนับ เณ ปจจัยในกัตตุวาจก คิชฺฌติ ติ วภิ ตั ติ ไมท ีฆะตน ธาต.ุ ยอ มติเตียน ครหฺ ธาตุ ในความตเิ ตยี น อ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ. คลิ ติ ยอ มแสวงหา คเวสฺ ธาตุ ในความแสวงหา อ ปจ จัย อนฺติ วิภัตต.ิ คูหยติ ยอมขับรอ ง เค ธาตุ ในความขับรอง อ ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ เอา เอ แหง เค เปน อาย. ยอมกำหนัด-ยินดี-มักมาก คิธฺ ธาตุ ในความอยากจัด ย ปจจัย ติ วภิ ัตติ แปลง ย กบั ธฺ ทสี่ ุดธาตุ เปน ชฌฺ . ยอ มกลืนกนิ คิลฺ ธาตุ ในความกลนื อ ปจจยั ติ วภิ ัตติ. ยอมซอน คุหฺ ธาตุ ในความซอน ณฺย ปจจัย ในกัตตุวาจก ติ วิภัตติ ลบ ณ แหง ณฺย เสีย ทฆี ะตน ธาตุ. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 114

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 115 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò โคเปติ ยอมคุมครอง คุปฺ ธาตุ ในความคุมครอง เณ ปจจัย ในกัตตุวาจก ติ วิภัตติ พฤทธิ์ อุ แหง คปุ ฺ เปน โอ. ฆเฏสิ ฆ ฆาตเย พากเพียร-สืบตอแลว ฆฏ ธาตุ ในความสืบตอ เณ ปจจัยในกัตตุ ฆรุ ฆุ รุ ายติ เฆปฺปติ วาจก อ วภิ ัตติ รสั สะ อี เปน อิ ไม ทฆี ะตอ นธาตุ ลง ส อาคม. พึงยังบุคคลอื่นใหฆา หนฺ ธาตุ ในความฆา ณฺย ปจจัยในเหตุกัตตุ วาจก เอยฺย วิภัตติ แปลง หนฺ เปน ฆาต ลบ ยฺย ท่ีสุดแหง เอยฺย คงไวแ ต เอ แลว ลบ ณ แหง ณฺย ปจจัย เหลือไวแ ต ย. ยอมประพฤติเสียงดัง คุรุ ๆ (ยอมกรนดังครืดครอก) ฆุรุฆุรุ นามศัพทบทหนา อาย ปจจัย ติ วภิ ตั ต.ิ ยอมถือเอา คหฺ ธาตุในความถือเอา ปฺป ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง คหฺ เปน เฆ. จงฺกมติ จ จาเลต๓ิ ยอมกาวไป-จงกรม กมฺ ธาตุในความกาวไป อ ปจจัย ติ วิภัตติ จาเวติ จมุ ฺพติ ทำ เทฺวภาวะ ก ไวข างหนา ลงนิคคหติ อาคมเหมือนพยัญชนะอัพภาส เจตยติ แปลง ก เปน จ แลวแปลงนคิ คหติ เปน ง.ฺ ยอมยัง...ใหไหว-สั่น-กระดิ่ง จลฺ ธาตุ ในความไหว เณ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ ทฆี ะ อ ตน ธาตุ เปน อา เพราะปจจยั ที่เนื่องดวย ณ. ยอ มยงั ...ใหเคล่อื น จุ ธาตุ ในความเคลือ่ น เณ ปจจัย ติ วิภตั ตพิ ฤทธ์ิ อุ ท่ี จุ เปน โอ แลว เอาเปน อาว. ยอมจูบ จุพฺ ธาตุ ในความประกอบแหงปาก อ ปจจัย ติ วิภัตติ ลง นคิ คหติ อาคมที่ จุ แลวแปลงเปน มฺ เพราะมี พ อยูหลงั ลบ อ ท่ี พ ยอมจงใจ-ตั้งใจ เจตฺ ธาตุ ณฺย ปจ จยั ในกตั ตวุ าจก ติ วภิ ตั ติ. ๓ ธาตุนี้ แปลโดยพยัญชนะ ใชใ นอรรถแหง เหตกุ ตั ตุ เชน สุนโข นงคฺ ถฏ จาเลติ สนุ ขั ยอ มยังหางใหไหว. แปลโดยอรรถ เปน สยกตั ตุ กไ็ ดวา สุนขั ยอ มกระดิกซง่ึ หาง. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 115

ฉนิ ฺทติ ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 116 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ฉฑฺเฑสิ ฉิชชฺ สึ ุ ฉ ชคฺฆติ ยอมตัด ฉิทฺ ธาตุ ในความตัด อ ปจจัย ติ วิภัตติ ลง นิคคหิตอาคม ชเนติ หนาธาตุ แลว แปลงนคิ คหิตเปน นฺ เพราะ ท อยูเบ้ืองหลงั . ชมฺภสิ ทิ้งแลว ฉฑฑฺ ธาตุ ในความทิ้ง เณ ปจจัย ในกัตตุวาจก อี วิภัตติ รสั สะ ชหนฺติ อี เปน อิ ลบ ณ เหลือไวแต เอ. ขาดแลว ฉทิ ฺ ธาตุ ในความขาด ย ปจจัย อุ วิภตั ติ แปลง ย กบั ทฺ ทส่ี ดุ ชายติ ธาตเุ ปน ชฺช แปลง อุ เปน อึส.ุ ชาเลส๔ิ ชิคสึ ติ ช ยอ มซกิ ซี้-หวั เราะ ชคฆฺ ฺ ธาตุ ในความหวั เราะ อ ปจ จยั ติ วภิ ัตติ. ยอมยงั ...ใหเ กิด ชนฺ ธาตุ ในความเกิด เณ ปจ จัย ติ วิภัตต.ิ ยอมเหยียดกาย-บิดกาย ชภฺ ธาตุ อ ปจจัย ติ วิภัตติ ลงนิคคหิต ตน ธาตุ แลวแปลงเปน มฺ เพราะมี ภ อยูหลงั . ยอ มละ หา ธาตุ ในความละ อ ปจจยั อนฺติ วภิ ตั ติ ทำ เทฺวภาวะ หา ไวข า งหนา ธาตุ แลว แปลง ห ซึ่งเปน ตวั อัพภาส เปน ช รัสสะอา ที่ หา เปน อ. ยอมเกิด ชนฺ ธาตุ ในความเกิด ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ชนฺ ธาตุ เปน ชา. ยงั ...ใหล กุ โพลง-จุดแลว ชลฺ ธาตุ ในความโพลง เณ ปจ จยั อี วภิ ตั ติ แลวรสั สะเสยี ทฆี ะตน ธาตุ ลง ส อาคม. ยอมปรารถนาจะนำไป หรฺ ธาตุ ในความนำไป ส ปจจัย ติ วิภัตติ ทำเทฺวภาวะ ห ไวหนาธาตุ แลวแปลงเปน ช เอาสระแหงพยัญชนะ อพั ภาสเปน อิ ดวยอำนาจ ส ปจ จยั แปลง หรฺ เปน ค.ึ ๔ ธาตนุ ี้ แปลโดยพยญั ชนะใชใ นอรรถแหง เหตกุ ตั ตุ เชน ปทปี  ชาเลสิ (เขา) ยงั ประทปี ใหล กุ โพลงแลว . แปลโดยอรรถเปน สยกตั ตุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ก็ไดวา (เขา) จุดแลวซึ่งประทปี . 116

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 117 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ชิยยฺ ติ ยอ มแก ชรฺ ธาตุ ในความคร่ำครา อ ปจ จัย ติ วิภัตติ แปลง ชรฺ เปน ชยิ ฺย. ชริ ติ ยอมเจริญ-แกข ึน้ ชิรฺ ธาตุ อ ปจ จัย ติ วภิ ัตต.ิ ชวี ติ ยอ มเปน อยู ชีวฺ ธาตุ อ ปจจัย ติ วิภัตต.ิ เชยยฺ พึงชนะ ชิ ธาตุ ในความชนะ อ ปจจยั เอยยฺ วภิ ัตติ ลบ อิ แหง ชิ โชเตติ ยอมยัง.. ใหโพลง - สวา ง ชุตฺ ธาตุ เณ ปจจยั ติ วิภตั ติ พฤทธ์ิ อุ ท่ี ชุ เปน โอ ฌาเปส๕ิ ฌ ฌายสิ ยัง...ใหไ หมแ ลว-เผาแลว ฌาปฺ ธาตุในความไหม-เผา เณ ปจ จยั อี วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ ลง ส อาคม. ยอมซบเซา เฌ ธาตุ ในความคิด อ ปจจัย สิ วิภัตติ แปลง เอ แหง เฌ เปน อาย.  ปยึสุ ตั้งไว-วางไวแ ลว ปฺ ธาตุ ในความต้งั ไว ย ปจ จยั อุ วิภัตติ แปลง อุ เปน อสึ .ุ สสฺ ติ จกั ต้งั -ดำรงอยู า ธาตุ ในความตั้งอยู อ ปจจัย สสฺ ติ วิภัตติ ลบ อา ท่ี า. าติ ยอมตงั้ า ธาตุ ในความตัง้ อยู อ ปจ จยั ติ วิภตั ต.ิ ฑยฺหเร ฑ อันไฟยอมไหม-เผา ทหฺ ธาตุ ในความทำใหเปนเถา ย ปจจัย อนฺติ วิภัตติ แปลง ทหฺ เปน ฑหฺ แลวแปร ห ไวเบื้องหลัง ย ไวเบื้องหนา แปลง อนฺติ เปน เร. ๕ ธาตนุ ้ี แปลโดยพยญั ชนะ ใชใ นอรรถแหง เหตกุ ตั ตุ เชน โส เคห ฌาเปสิ เขา ยงั เรอื นใหไ หมแ ลว . แปลโดยอรรถเปน สยกตั ตุ กไ็ ด วา เขา เผาแลว ซง่ึ เรอื น. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 117

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 118 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ฑหติ ยอมไหม-เผา ทหฺ ธาตุ ในความทำใหเ ปนเถา อ ปจ จยั ติ วิภตั ติ แปลง ทหฺ เปน ฑห.ฺ ฑส ติ ยอ มกดั ฑสฺ ธาตุ ในความกดั อ ปจ จยั ติ วภิ ัตติ. ตชฺเชสฺสติ ต ติกจิ ฉฺ ติ จกั คกุ คาม ตชชฺ ฺ ธาตุ ในความข-ู คกุ คาม เณ ปจ จยั ในกตั ตุวาจก สฺสติ ตฏิ  ติ ติตกิ ขฺ ติ วิภตั ติ. ตีเรติ ยอมเยียวยา-รักษา กิตฺ ธาตุ ในความรักษา ฉ ปจจัย ติ วิภัตติ ทำ ตสุ สฺ ติ เทฺวภาวะ กิ ไวขางหนาธาตุ แลวแปลง ก เปน ต ดว ยอำนาจ ฉ ปจจัย แปลงที่สดุ ธาตเุ ปน จฺ. ยอ มตงั้ อยู า ธาตุ ในความตงั้ อ ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ แปลง า เปน ตฏิ  . ยอมอดกลั้น ติชฺ ธาตุ ในความอดกลั้น ข ปจจัย ติ วิภัตติ ทำ เทวฺ ภาวะ ติ ไวข า งหนา ธาตุ ดว ยอำนาจ ข ปจ จยั แปลงทสี่ ดุ ธาตเุ ปน ก.ฺ ยอมไตรตรอง ตีรฺ ธาตุ ในความไตรตรอง เณ ปจจัย ในกัตตุวาจก ติ วภิ ตั ติ. ยอมยินดี-แชมช่ืน ตุสฺ ธาตุ ในความยินดี ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ย กับ สฺ ทส่ี ุดธาตุเปน สฺส. ถ ถเกติ ยอมปด ถกฺ ธาตุ เณ ปจจยั ในกัตตุวาจก ติ วภิ ตั ต.ิ ถนุ าติ ยอ มชมเชย-ยกยอง ถุ ธาตุ นา ปจจัย ติ วิภตั ต.ิ เถเนติ ยอ มลกั -ขโมย เถนฺ ธาตุ เณ ปจจยั (กตั ตวุ าจก) ติ วิภตั ติ. โถเมติ ยอมชมเชย-ยกยอง โถมฺ ธาตุ เณ ปจ จยั (กตั ตุวาจก) ติ วิภัตติ. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 118

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 119 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ทกขฺ ิสฺสติ ท ทชฺชา ททาติ จกั เห็น ทิสฺ ธาตุ ในความเหน็ อ ปจจัย สสฺ ติ วิภตั ติ แปลง ทสิ ฺ ธาตุ ทธาติ เปน ทกขฺ ลง อิ อาคมหลังธาตุ. ทมฺมิ พึงให ทา ธาตุ ในความให อ ปจจัย เอยฺย วิภัตติ แปลง ทา ธาตุ ทยิ ฺยติ ทปิ ปฺ ติ เปน ทชฺช แปลง เอยยฺ เปน อา. ทสิ สฺ ติ ยอมให ทา ธาตุ ในความให อ ปจจัย ติ วิภัตติ ทำเทวฺภาวะ ทา ทสิ ฺสต๖ิ ทียติ ไวขา งหนาธาตุ รัสสะ อา แหง พยัญชนะอพั ภาสเปน อ. ยอ มทรงไว ธา ธาตุ ในความทรงไว อ ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ ทำ เทวฺ ภาวะ ธา ทเู สติ เทเสติ ไวข า งหนา ธาตุ แปลง ธ ซ่งึ เปน พยัญชนะท่ี ๔ เปน ท ซึ่งเปน พยญั ชนะ ที่ ๓ แลว รัสสะ อา แหง พยัญชนะอัพภาส. ยอมให ทา ธาตใุ นความให อ ปจจัย มิ วภิ ัตติ เพราะ มิ อยหู ลงั เอา อา แหง ทา เปน นิคคหติ แลว แปลงเปน ม.ฺ ยอ มให ทา ธาตุ ในความให ย ปจ จัย ติ วภิ ัตติ เอา อา แหง ทาเปน อิ ซอ น ยฺ. ยอมสอ งสวาง ทิปฺ ธาตุ ย ปจ จยั ติ วิภตั ติ แปลง ย กับ ปฺ ทสี่ ุดธาตุ เปน ปปฺ . ยอ มเหน็ ทสิ ฺ ธาตุ ในความเหน็ อ ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ แปลง ทสิ ฺ เปน ทสิ สฺ . อนั ... ยอ มเห็น, ยอ มปรากฏ ทสิ ฺ ธาตุ ย ปจจัย (กมั มวาจก) ติ วิภตั ติ แปลง ย กบั สฺ ทสี่ ดุ ธาตุ เปน สฺส. อนั ... ยอ มให ทา ธาตุ ย ปจ จัย อิ อาคม ติ วภิ ตั ติ แปลง อา ท่ี ทา เปน อิ แลว ทฆี ะ อิ เปน อี ทีเ่ ปน ทยิ ยฺ ติ กม็ ี ตางแตซอ น ยฺ และไมมที ีฆะ เทานัน้ . ยอ มประทุษรา ย ทสุ ฺ ธาตุ ในความประทษุ รา ย เณ ปจจยั ในกัตตุวาจก ติ วภิ ตั ติ ลบ ณ คงไวแ ต เอ แลว ทฆี ะ อุ ตนธาตเุ ปน อู. ยอ มแสดง ทสิ ฺ ธาตุ เณ ปจจยั ในกัตตวุ าจก ติ วิภตั ติ ลบ ณ คงไวแ ต เอ แลวพฤทธ์ิ อิ ตนธาตุเปน เอ. ๖ ธาตนุ ้ี ถา แปลถอื เอาความเปน กตั ตวุ าจก กไ็ ดว า ยอ มปรากฏ วธิ แี ละเปลย่ี นแปลงดใู น ทสิ สฺ ติ ตวั ตน . เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 119

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 120 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò นหายติ น นายเร นิทฺทายติ ยอมอาบ นหา ธาตุ ในความทำใหส ะอาด ย ปจ จัย ติ วภิ ตั ติ. นพิ ฺพาติ ยอมรู า ธาตุ ในความรู ย ปจจัย (กัมมวาจก) อนฺติ วิภัตติ แปลง นพิ พฺ นิ ทฺ ติ า เปน นา แปลง อนฺติ เปน เร. นิมฺมิเลติ ยอมประพฤติหลบั นิ บทหนา ทา ธาตุ ในความหลบั อาย ปจ จยั ติ นยิ ฺยาเทสิ วิภัตติ ซอ น ท.ฺ นริ ุชฺฌติ ยอ มดบั นิ บทหนา วา ธาตุ ในความดับ อ ปจจยั ติ วภิ ัตติ แปลง ว นิวตฺตติ นิสที ิ แหง วา เปน พ ซอ น พฺ. ยอมเบ่ือหนาย นิ บทหนา วิทฺ ธาตุ ในความปล้ืมใจ-ยินดี อ ปจจัย ติ วิภัตติ ลงนิคคหิตอาคมที่ วิ แลว แปลงเปน นฺ เพราะมี ท อยู หลงั แลวแปลง ว เปน พ ซอ น พฺ. ยอมหลับ (ตา) นิ บทหนา มิลฺ ธาตุ ในความกะพริบตา เณ ปจจัย ในกตั ตุวาจก ติ วิภัตติ ซอ น ม.ฺ มอบใหแ ลว นิ บทหนา ยตฺ ธาตุ ในความอปุ การะ-อดุ หนุน เณ ปจจยั ในกตั ตวุ าจก อี วิภตั ติ รสั สะ อี เปน อิ เพราะปจจัยเน่อื งดว ย ณ ทีฆะ อ ท่ี ย เปน อา แปลง ตฺ เปน ท ซอ น ย.ฺ ยอมดับ นิ บทหนา รุธฺ ธาตุ ในความดับ ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ย กบั ธฺ ที่สุดธาตุ เปน ชฺฌ. ยอ มกลบั นิ บทหนา วตฺตฺ ธาตุ ในความเปน ไป อ ปจจยั ติ วิภัตต.ิ นั่งแลว นิ บทหนา สทฺ ธาตุ ในความจม อ ปจจัย อี วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ แปลง สทฺ เปน สที ฺ. ปกกฺ ามิ ป หลีกไปแลว ป บทหนา กมฺ ธาตุ ในความกาวไป อ ปจ จัย อี วภิ ัตติ รสั สะ อี เปน อิ ทีฆะ อ ตนธาตุ เปน อา ซอ น กฺ. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 120

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 121 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ปฺาเปสิ ปูลาด-แตงต้ังแลว ป บทหนา ปฺ ธาตุ เณ ปจจัย ในกัตตุวาจก อี วิภัตติ แลวรัสสะ ทีฆะตนธาตุ ซอน ฺ ลง ส อาคม (ไมทีฆะตน ธาตุกม็ ี เชน ปฺ เปต)ิ . ปฏิยาเทสิ ตกแตงแลว ปฏิ บทหนา ยตฺ ธาตุ เณ ปจจยั ในกตั ตุวาจก อี วภิ ตั ติ แลว รัสสะ ทฆี ะ อ ที่ ย เปน อา แปลง ตฺ เปน ท ลง ส อาคม. ปฏิสาเมสิ เก็บงำแลว ปฏิ บทหนา สมฺ ธาตุ เณ ปจจัย ในกัตตุวาจก อี วิภัตติ แลว รสั สะ ทีฆะตนธาตุ ลง ส อาคม. ปเณติ ยอ มบญั ญัติ-แตงต้ัง ปณฺ ธาตุ เณ ปจ จยั ในกตั ตวุ าจก ติ วิภตั ติ ปติฏ หิ ต้ังอยูเฉพาะ-ดำรงอยแู ลว ป บทหนา า ธาตุ ในความตั้งอยู อ ปจจยั อี วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ แปลง า ธาตุ เปน ติฏ ลง ห อาคม (บางมตวิ า ปฏิ บทหนา แปลง ฏ เปน ต และแปลง า เปน ห) ปตฏิ  าสิ ตั้งอยเู ฉพาะแลว ป หรือ ปฏิ บทหนา า ธาตุ อ ปจ จัย อี วภิ ัตติ รสั สะ อี เปน อิ, ถา ป เปน บทหนา แปลง า ธาตุ เปน ตฏิ  ทฆี ะ อ ท่ี ตฏิ  เปน อา ลง ส อาคม. ปทาเลสิ ทำลายแลว ป บทหนา ทลฺ ธาตุ เณ ปจจัยในกัตตุวาจก อี วิภัตติ แลวรัสสะ ลง ส อาคม ทฆี ะ อ ท่ี ท เปน อา. ปปโฺ ปติ ยอ มถงึ ป บทหนา อปปฺ ธาตุ โอ ปจจยั ติ วภิ ตั ติ. ปยริ ปุ าสติ ยอมเขาไปหา ปริ+อุป บทหนา อาสฺ ธาตุ ในความน่ัง อ ปจจัย ติ วิภตั ติ ลง ย อาคมท่ี อุป เปน ปรยิ ปุ แลวแปร ร ไวห ลัง ย ไวห นา เปน ปยริ ปุ . ปรามสติ ยอมลบู คลำ-จบั ตอ ง-ยึดม่นั ป+อา บทหนา มสฺ ธาตุ อ ปจ จัย ติ วภิ ตั ติ ลง ร อาคมท่ี อา. ปรทิ เหสสฺ ติ จกั นงุ หม ปริ บทหนา ธา ธาตใุ นความทรงไว เอ ปจจยั สฺสติ วิภตั ติ แปลง ธา เปน ทห. ปรภิ าสติ ยอ มวา ปริ บทหนา ภาสฺ ธาตุ ในความกลาว อ ปจ จยั ติ วิภัตติ. ปรยิ าปุณาติ ยอมเรียน ปริ บนหนา อาปฺ ธาตุ ในความถึง-บรรลุ อุณา ปจจัย ติ วภิ ัตติ ลง ย อาคม. 121

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 122 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ปริสกกฺ ติ ยอ มตะเกียกตะกาย ปริ บทหนา สกฺ ธาตุ ในความพยายาม ย ปจจยั ติ วภิ ัตติ แปลง ย เปน ก. ปรหิ ายติ ยอ มเสอ่ื มรอบ ปริ บทหนา หา ธาตุ ในความเสอ่ื ม ย ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ (แปลง อา ที่ หา เปน อิ ก็มี เชน ปหิยิ เสอ่ื มรอบแลว ) ปลายึสุ หนไี ปแลว ป บทหนา ลา ธาตุ ในความไป ย ปจ จัย อุ วิภตั ติ แปลง อุ เปน อสึ .ุ ปเลติ ยอ มบินไป ปลฺ ธาตุ ในความไป เณ ปจ จัย ในกตั ตวุ าจก ติ วภิ ัตติ ปสฺสติ ยอมเห็น ทิสฺ ธาตุ ในความเห็น อ ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ทิสฺ เปน ปสฺส. ปหิณิ สงไปแลว ป บทหนา หิ ธาตุ ในความไป นา ปจจัย อี วิภัตติ แลว รสั สะ แปลง นา เปน ณา. ปหยี ติ อนั ... ยอ มละ ป บทหนา หา ธาตุ ย ปจ จยั อ อาคม ติ วิภัตติ แปลง อา ที่ หา เปน อิ ทฆี ะ อิ เปน อ,ี ทีเ่ ปน ปหยิ ยฺ ติ กม็ ี ตางกนั แตซ อน ยฺ และไมทฆี ะเทานัน้ . ปโหติ ยอมเพียงพอ ป บทหนา หุ ธาตุ ในความมี-เปน อ ปจจัย ติ วิภัตติ พฤทธิ์ อุ ท่ี หุ เปน โอ. ปาปณุ าติ ยอ มบรรล-ุ ถงึ ป บทหนา อาปฺ ธาตุ ในความถงึ อณุ า ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ ปลนฺธสิ สฺ ามิ จักประดับ-ตกแตง ปลธิ ธาตุ อ ปจจัย สฺสามิ วิภัตติ ลง นิคคหิต อาคมที่ ล แลวแปลงเปน นฺ. ปวติ ยอมดื่ม ปา ธาตุ ในความด่ืม อ ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ปา ธาตุ เปน ปว. ปวาสติ ยอมปรารถนาจะดื่ม ปา ธาตุ ส ปจจัย ติ วิภัตติ ทำเทฺวภาวะ ปา ไวข า งหนา ธาตุ แปลงสระแหงพยญั ชนะอัพภาสเปน อิ เพราะ ส ปจจัย อยูเบือ้ งหลัง แปลง ปา ธาตุ เปน วา. ปเ หติ ยอมกระหยิ่ม-รักใคร ปหฺ ธาตุ ในความปรารถนา เณ ปจจัย ใน กตั ตวุ าจก ติ วภิ ัตติ 122

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 123 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ปเุ รติ ยอมยงั ...ใหเ ต็ม ปรู ฺ ธาตุ ในความเต็ม เณ ปจจยั ติ วิภัตต.ิ เปเสสิ สงไปแลว ปสฺ ธาตุ เณ ปจ จัย ในกตั ตวุ าจก อี วิภตั ติ แลวรสั สะ พฤทธิ์ อิ ท่ี ป เปน เอ ลง ส อาคม. โปเถติ ยอมโบย-ตี โปถฺ ธาตุ ในความกล้ิง-หมุน เณ ปจจัย ในกัตตุวาจก ติ วภิ ัตติ โปเสติ ยอมเลี้ยงดู ปุสฺ ธาตุ ในความเล้ียง-ปรนปรือ เณ ปจจัย ในกัตตุ วาจก พฤทธ์ิ อุ ที่ ปุ เปน โอ ลบ ณ. ผลสิ ฺสติ ผ ผาเลติ จักแตก-สำเร็จ-เมล็ดผล-ผล ผลฺ ธาตุ ในความผลิ อปจจัย สฺสติ ผนุ าติ วภิ ตั ติ ลง อิ อาคมหลงั ธาตแุ ละปจ จยั . ผลุ ฺลติ ยอมผา ผาลฺ ธาตุ ในความขีด-ทำใหเปนรอย เณ ปจจัย ในกัตตุ- ผสุ ติ วาจก ติ วิภตั ติ. ยอ มฝด-โปรย ผุ ธาตุ นา ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ. ยอมบาน-แตก ผุลฺลฺ ธาตุ อ ปจจยั ติ วิภตั ต.ิ ยอมถกู ตอง ผสุ ฺ ธาตุ อ ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ. พนฺธติ พ พยฺ ากาสิ ยอมผกู -มัด พนธฺ ฺ ธาตุ อ ปจจยั ติ วิภัตติ. พรฺ เู หยยฺ ไดทำใหแจง-ไดยืนนัย-ไดกลาวทายแลว วิ บทหนา กรฺ ธาตุ ใน ความทำ แปลง ว ที่ วิ เปน พ พฤทธิ์ อิ ท่ี วิ เปน เอ แลวเอาเปน อย สนธกิ บั พ เปน พยฺ ลง อ อาคมหนา ธาตุ. พึงเจริญ-พอกพูน พฺรูหฺ ธาตุ ในความเจริญ-รุงเรือง อ ปจจัย เอยฺย วิภตั ติ. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 123

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 124 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ภกฺขามิ ภ ภเชติ ภชชฺ ติ ยอมกิน ภกฺขฺ ธาตุ ในความกิน-บริโภค อ ปจจัย มิ วภิ ตั ติ. ภชฺ ติ ยอ มคบหา ภชฺ ธาตุ เอ ปจ จยั ในกัตตุวาจก ติ วิภัตต.ิ ภาเชติ ยอมค่งั ภชชฺ ธาตุ อ ปจจยั ติ วภิ ตั ต.ิ ภาติ ยอมหกั ภฺชฺ ธาตุ อ ปจจัย ติ วิภตั ติ. ภายนฺติ ยอมแบง ภชฺ ธาตุ ในความแจก-ใหป น เณ ปจจัย ในกตั ตุวาจก ติ วภิ ตั ติ. ยอมสองสวาง ภา ธาตุ อ ปจ จยั ติ วิภัตติ. ภาสติ ยอ มกลัว ภี ธาตุ ในความกลัว อ ปจจัย อนตฺ ิ วิภัตติ พฤทธิ์ อี ที่ ภี ภิชชฺ สิ ฺสติ เปน เอ แลวเอาเปน อาย. ภนิ ฺทนฺติ ยอ มกลาว ภาสฺ ธาตุ ในความพดู อ ปจ จัย ติ วภิ ตั ติ. จกั แตก-ทำลาย ภทิ ฺ ธาตุ ในความแตก-ทำลาย ย ปจจยั สสฺ ติ วภิ ตั ติ ภุ ชฺ สฺสุ แปลง ย กบั ทฺ ที่สุดธาตเุ ปน ชฺช ลง อิ อาคมหลังธาตแุ ละปจจยั . ยอมทำลาย ภิทฺ ธาตุ อ ปจจัย อนฺติ วิภัตติ ลง นิคคหิตอาคม แลว แปลงเปน นฺ เพราะมี ท อยหู ลัง. จงบริโภค ภุชฺ ธาตุ ในความบริโภค อ ปจจัย สฺสุ วิภัตติ ลงนิคคหิต อาคม แลวแปลงเปน ฺ เพราะมี ช อยหู ลงั . มฺ ิสฺสติ ม มทฺทิตถฺ มาเนติ จักสำคัญ-รู มฺน ธาตุ ในความรู ย ปจจัย สฺสติ วิภัตติ แปลง ย กับ มาเปสิ นฺ ท่ีสุดธาตเุ ปน ฺ ลง อิ อาคมหลังธาตแุ ละปจจยั . ยำ่ ยี-เหยียบยำ่ แลว มทฺทฺ ธาตุ อ ปจจยั ตถฺ วิภัตติ ลง อิ อาคมหลัง ธาตุและปจจัย. ยอ มนับถอื มานฺ ธาตุ ในความนับถอื เณ ปจจยั ในกตั ตวุ าจก ติ วิภตั ติ ลบ ณ แหง เณ เสีย. เนรมิต-สรา งแลว มาปฺ ธาตุ ในความกอ สราง เณ ปจ จัย ในกตั ตวุ าจก อี วภิ ัตติ แลว รัสสะ อี เปน อิ ลบ ณ แหง เณ ลง ส อาคม. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 124

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 125 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò มาราเปสิ ยงั ...ให ๆ ตาย-ใหฆาแลว มรฺ ธาตุ ในความตาย ณาเป ปจจัย อี วภิ ตั ติ มาเรสิ มินาติ รัสสะ อี เปน อิ ลบ ณ แหง ณาเป ทีฆะตน ธาตุ ลง ส อาคม. มยี ติ ยัง...ใหต าย-ฆา แลว มรฺ ธาตุ เณ ปจจยั อี วภิ ตั ติ รัสสะ อี เปน อิ ลบ มยิ ฺยติ มิลายิ ณ แหง เณ ทีฆะตน ธาตุ ลง ส อาคม. โมกฺขนตฺ ิ ยอมนบั -ตวง มา ธาตุ ในความนับ-วดั นา ปจ จัย ติ วภิ ัตติ แปลงอา ที่ มา เปน อิ. อัน...ยอมนบั มา ธาตุ ในความนับ ย ปจ จยั อิ อาคมหนา ย ติ วิภตั ติ แปลง อา ที่ มา เปน อิ แลวทีฆะ. ยอ มตาย มรฺ ธาตุ อ ปจจยั ติ วิภัตติ แปลง มรฺ ธาตุเปน มิยฺย. เหีย่ วแหง -รวงโรยแลว มเิ ล ธาตุ อ ปจ จัย อี วภิ ัตติ แลวรัสสะ อี เปน อิ พฤทธิ์ เอ ท่ี เล เปน อาย. ยอมพน โมกขฺ ฺ ธาตุ ในความพน -หลดุ อ ปจจยั อนฺติ วิภตั ต.ิ ยมาม ย ยาจติ ยอมยุบยับ ยมฺ ธาตุ ในความฉิบหาย อ ปจจัย ม วิภัตติ ทีฆะที่สุด ยาติ ยาเปติ ธาตเุ ปน อา เพราะลง ม วภิ ัตติ. ยชุ ฺชติ ยอ มขอ ยาจฺ ธาตุในความขอ อ ปจ จัย ติ วภิ ตั ติ. ยอ มไป ยา ธาตุ ในความไป-ถงึ -บรรลุ อ ปจ จยั ติ วิภัตต.ิ ยชุ ฺเฌติ ยอ มยงั ...ใหเ ปน ไป ยา ธาตุ ในความเปน ไป ณาเป ปจจยั ติ วภิ ัตต.ิ ยอมควร ยุชฺ ธาตุ ในความมั่นคง-แข็งแรง ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ย กบั ชฺ ท่ีสดุ ธาตุเปน ชฺช. ยอมรบ ยธุ ฺ ธาตุ ในความรบ ย ปจ จัย ติ วิภัตติ แปลง ย กบั ธฺ ที่สดุ ธาตเุ ปน ชฌฺ . เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 125

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 126 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ร รเจติ ยอ มรอยกรอง-แตง-ประพันธ รจฺ ธาตุ เณ ปจ จยั (กตั ตุวาจก) ติ วภิ ัตติ รชฺ ติ ยอ มกำหนดั -ยอ ม-ยินดี รชฺ ธาตุ อ ปจจยั ติ วภิ ัตติ ลงนคิ คหติ อาคมที่ ร แลว แปลงเปน ฺ เพราะมี ช อยูเบื้องหลงั . ริฺจติ ยอมทอดท้ิง ริจฺ ธาตุ ในความแยกออก-พราก อ ปจจัย ติ วิภัตติ ลงนิคคหติ อาคมที่ ริ แลวแปลงเปน ฺ เพราะมี จ อยูเบ้อื งหลัง. รจุ ฺจติ ยอ มชอบใจ รุจฺ ธาตุ ในความชอบใจ ย ปจจยั ติ วภิ ัตติ แปลง ย กบั จฺ ที่สุดธาตเุ ปน จจฺ . รชุ ฺชติ ยอ มเสยี ดแทง รชุ ฺ ธาตุ ในความเบียดเบยี น ย ปจ จัย ติ วิภตั ติ แปลง ย กบั ชฺ ที่สุดธาตเุ ปน ชฺช. รุหติ ยอ มงอก รุหฺ ธาตุ ในความงอก อ ปจ จัย ติ วิภัตติ. โรเจสิ ชอบใจแลว รุจฺ ธาตุ ในความชอบใจ เณ ปจ จยั (กัตตุวาจก) อี วภิ ัตติ รสั สะ อี เปน อิ เพราะปจจัย เน่อื งดว ย ณ พฤทธ์ิ อุ ที่ รุ เปน โอ. โรทติ ยอมรองไห รุทฺ ธาตุ ในความหล่ังออกซึ่งน้ำตา อ ปจจัย ติ วิภัตติ พฤทธ์ิ อุ ท่ี รุ เปน โอ. โรเปติ ยอมปลูก รุปฺ ธาตุ ในความปลูก เณ ปจจัย (กัตตุวาจก) ติ วิภัตติ พฤทธ์ิ อุ ท่ี รุ เปน โอ. โรเสติ ยอมเดือดดาล-โกรธ-ข้ึง รุสฺ ธาตุ เณ ปจจัย (กัตตุวาจก) ติ วิภัตติ พฤทธ์ิ อุ ท่ี รุ เปน โอ. ล ลงฺฆติ ยอ มกระโดด ลงฺฆฺ ธาตุ เณ ปจ จัย (กัตตวุ าจก) ติ วิภัตติ. ลจฉฺ สิ จักได ลภฺ ธาตุ อ ปจจัย สฺสสิ วิภัตติ แปลง สฺสสิ วิภัตติกับที่สุดธาตุ เปน ฉสิ ซอ น จฺ. ลชฺชติ ยอ มละอาย ลชชฺ ธาตุ อ ปจ จัย ติ วิภัตต.ิ ลพฺภติ อัน...ยอมได ลภฺ ธาตุ ในความได ย ปจจัย (กัมมวาจก) ติ วิภัตติ แปลง ย กับ ภฺ ท่ีสุดธาตุเปน พฺภ. 126

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 127 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ลขิ ติ ยอมเขียน-ขดี -ขูด ลิขฺ ธาตุ อ ปจจัย ติ วภิ ัตต.ิ ลุ จฺ สึ ุ ถอน-ย้อื แยงแลว ลุจฺ ฺ ธาตุ ในความถอน-ทิ้ง-ฉุดขึ้น อ ปจจยั อุ วภิ ัตติ แปลง อุ เปน อึสุ. เลหติ ยอมเลยี ลหิ ฺ ธาตุ ในความเสยี อ ปจจัย ติ วิภัตติ พฤทธิ์ อิ ท่ี ลิ เปน เอ. วชชฺ ุ ว วเฺ จสิ พึงกลา ว วทฺ ธาตุ อ ปจ จยั เอยยฺ ุ วภิ ัตติ แปลง วทฺ เปน วชชฺ ฺ แลวลบ วฑฺฒติ เอยยฺ คงไวแต อุ. วฑฺเฒติ ลวงแลว วจฺ ธาตุ ในความลวง เณ ปจ จัย (กตั ตุวาจก) อี วิภัตตริ ัสสะ วณเฺ ณสิ อี เปน อิ ลง ส อาคม. ยอ มเจริญ วฑฒฺ ฺ ธาตุ ในความเจริญ อ ปจจัย ติ วิภตั ต.ิ วตฺตสิ ยอมตัก-คด วฑฺฒฺ ธาตุ ในความโปรยลง-ตัก เณ ปจจัย (กัตตุวาจก) วทติ ฺถ ติ วภิ ตั ต.ิ วนฺทติ ยกยอ งแลว -พรรณนาแลว วณฺณ ธาตุ ในความยกยอ ง-กลา ว เณ ปจจัย วลฺเชติ (กัตตวุ าจก) อี วิภตั ติ รัสสะ อี เปน อิ ลง ส อาคม. ววตถฺ เปติ ยอมประพฤติ วตตฺ ฺ ธาตุ ในความเปน ไป อ ปจจัย สิ วิภัตต.ิ กลา วแลว วทฺ ธาตุ ในความกลาว-พูด อ ปจจัย ตถฺ วภิ ัตติ ลง อิ อาคม วหติ วายติ หลังธาตแุ ละปจจยั . วายมติ ยอมไหว วนทฺ ฺ ธาตุ ในความกราบไหว- ชมเชย อ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ. วาเรติ ยอมใชส อย วลชิ ธาตุ เอ ปจจยั ติ วภิ ตั ติ ลงนิคคหติ อาคมท่ี ล แลว แปลง เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) เปน ฺ เพราะมี ช อยหู ลงั . ยอ มตง้ั ลงตา ง-กำหนด ว+ิ อว บทหนา ถปฺ ธาตุ ในความตงั้ ไว- วางไว เณ ปจจัยในกัตตวุ าจก ติ วภิ ัตติ ลบ อิ ที่ วิ ซอ น ตฺ ยอมนำไป วหฺ ธาตุ ในความนำไป อ ปจจัย ติ วภิ ัตติ. ยอ มฟงุ ไป วา ธาตุ ในความไป-ถึง-เปนไป ย ปจจยั ติ วิภตั ติ. ยอมพยายาม วายมฺ ธาตุ ในความหมนั่ -ขยนั อ ปจ จัย ติ วภิ ตั ต.ิ ยอมหา ม วรฺ ธาตุ ในความหา ม-กัน เณ ปจจยั ในกตั ตุวาจก ติ วภิ ัตติ ทีฆะ อ ที่ ว เปน อา. 127

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 128 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò วิกตฺเถยฺย พึงยกยอ วิ บทหนา กตถฺ ฺ ธาตุ ในความชมเชย-ยกยอ ง อ ปจ จัย เอยยฺ วชิ ฺชติ๗ วชิ ฺฌิ วิภัตติ. วชิ มฺภติ มีอยู วิทฺ ธาตุ ในความมี-เปน ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ย กับ ทฺ วชิ ายิ วินฺทติ ทีส่ ุดธาตุ เปน ชชฺ . วนิ สสฺ ติ แทงแลว วิธฺ ธาตุ ในความแทง-เจาะ-ไช ย ปจจัย อี วิภัตติ รัสสะ อี วนิ าติ วิปฺปสที ติ เปน อิ แปลง ย กับ ธฺ ทีส่ ุดธาตุ เปน ชฺฌ. วิโรจติ ยอมเหยียดหยัด วิ บทหนา ชภฺ ธาตุ ในความบิดกาย-เหยียดกาย วหิ รติ วเิ หเติ อ ปจ จยั ติ วิภตั ติ ลงนคิ คหติ อาคมที่ ช แลวแปลงเปน มฺ วเิ หเติ คลอดแลว วิ บทหนา ชนฺ ธาตุ ในความเกิด ย ปจ จยั อี วิภัตติ รสั สะ อี เปน อิ แปลง ชนฺ เปน ชา. ยอมประสพ วิทฺ ธาตุ ในความได-ประสพ อ ปจจัย ติ วิภัตติ ลง นิคคหติ อาคมท่ี วิ แลวแปลงเปน นฺ ยอมฉิบหาย วิ บทหนา นสฺ ธาตุ ในความไมเห็น-หาย ย ปจจัย ติ วิภตั ติ แปลง ย กับ สฺ ทส่ี ุดธาตุ เปน สสฺ . ยอ มทอ วิ ธาตุ ในความทอ นา ปจจยั ติ วิภัตต.ิ ยอมแจมใส-ผองใส วิ+ป บทหนา สิทฺ ธาตุ ในความซานไป-แผไป อ ปจจยั ติ วภิ ตั ติ ทีฆะ อิ ท่ี สิ เปน อี ซอ น ปฺ ยอ มสองสวา ง-รงุ โรจน วิ บทหนา รจุ ฺ ธาตุ ในความสองสวา ง-ชอบใจ อ ปจ จยั ติ วิภัตติ พฤทธ์ิ อุ ท่ี รุ เปน โอ. ยอมอยูอาศัย วิ บทหนา หรฺ ธาตุ ในความเปนไป-เปนอยู อ ปจจัย ติ วภิ ตั ต.ิ ยอ มเบยี ดเบยี น วิ บทหนา เหฺ ธาตุ ในความทำใหล ำบาก เอ ปจ จยั ติ วิภตั ต.ิ ยอ มเบียดเบียน วิ บทหนา เหฺ ธาตุ ในความทำใหลำบาก เอ ปจ จยั ติ วิภัตต.ิ ๗ ศัพทน ้ี บางแหงทานเปนรปู กมั มวาจกกม็ ี แต วทิ ฺ ธาตุ ตองเปน ไปในความไดประสพและลง ย ปจจัยในกมั มวาจก เชน น วชิ ชฺ เต ชคติปปฺ เทโส ประเทศคอื แผนดนิ (อันใครๆ ) ยอ มหาไมไ ด. หรอื จะแปล วา ประเทศคือแผนดนิ ยอ มไมม ี ก็ไดเชนกนั . เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 128

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 129 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò วจุ ฺจติ อัน...ยอมกลา ว วจฺ ธาตุ ย ปจ จัย ติ วิภตั ติ แปลง ว แหง วจฺ ธาตเุ ปน วสุ สฺ ติ โวทาเปยฺย วุ แลว แปลง ย กับ จฺ ทสี่ ุดธาตเุ ปน จจฺ . โวโรเปสิ อนั ...ยอมอยู วสฺ ธาตุ ย ปจจัย ติ วิภตั ติ แปลง ว แหง วสฺ ธาตเุ ปน วุ โวหเรยฺย แลว แปลง ย กบั สฺ ทีส่ ุดธาตเุ ปน สฺส. พงึ ยงั ... ใหผ อ งแผว ว+ิ โอ บทหนา ทา ธาตุ ในความชำระ ณาเป ปจจัย เอยยฺ วภิ ัตติ ลบ อิ ที่ วิ แลว สนธกิ ับ โอ เปน โว. ปลงลงแลว วิ+โอ บทหนา รุปฺ ธาตุ ในความปลูก-หวาน เณ ปจจัย ในกัตตวุ าจก อี วภิ ตั ติ แลว รัสสะ ลบ อิ ท่ี วิ สนธิกับ โอ เปน โว พฤทธิ์ อุ ท่ี รุ เปน โอ ลง ส อาคม. พงึ กลา ว ว+ิ โอ บทหนา หรฺ ธาตุ ในความนำไป อ ปจจยั เอยยฺ วิภตั ติ ลบ อิ ที่ วิ แลว สนธิกับ โอ เปน โว. ส สกฺกเุ ณยฺย พึงอาจ สกกฺ ฺ ธาตุ ในความอาจ อณุ า ปจ จยั เอยยฺ  วิภตั ติ. สงกฺ ลิ ิสสฺ ติ จักเศราหมอง ส บทหนา กิลิสฺ ธาตุ อ ปจจัย สฺสติ วิภัตติ แปลง นคิ คหติ ท่ี ส เปน งฺ สงฺขุภิ กำเรบิ -กระฉอนแลว ส บทหนา ขุภฺ ธาตุ ในความไหวพรอ ม-ปนปวน อ ปจ จยั อี วภิ ัตติ รสั สะ อี เปน อิ แลว แปลงนิคคหิตที่ ส เปน งฺ สงฺคณฺหาติ ยอมสงเคราะห ส บทหนา คหฺ ธาตุ ในความถือเอา ณฺหา ปจจัย ติ วภิ ัตติ แปลงนคิ คหิตที่ ส เปน งฺ เพราะมี ค อยูห ลัง. สจฉฺ กิ โรติ ยอ มทำใหแ จง สจฉฺ ๘ิ บทหนา กรฺ ธาตุ ในความทำ โอ ปจ จยั ติ วภิ ตั ต.ิ สชเฺ ชสิ จัดแจง-เตรียมแลว สชฺชฺ ธาตุ ในความเตรียม-จัดแจง เณ ปจจัย ใน กตั ตวุ าจก อี วิภัตติ แลวรัสสะ อี เปน อิ ลง ส อาคม. สนฺตปเฺ ปสิ ยัง...ใหอิ่มหนำ-เลี้ยงดูแลว ส บทหนา ตปฺปฺ ธาตุ ในความอิ่ม เณ ปจ จยั อี วภิ ตั ติ แลว รสั สะ ลง ส อาคม แปลงนคิ คหติ ท่ี ส เปน นฺ ๘ สจฺฉิ น้ี ตามอภิ. กลา ววา เปนปจ จกั ขัตถนบิ าต คือเปนนิบาตลงในอรรถวาทำใหแ จง ใหใส เปนจำพวกอัพยยศพั ท. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 129

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 130 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò สนฺธาเรสุ ทรงไวพรอมแลว ส บทหนา ธารฺ ธาตุ ในความทรง-ต้ัง-รับ-วาง เอ สนฺธาวิสสฺ  สนฺนยหฺ ติ ปจ จยั อุ วภิ ัตติ ลง ส อาคม แปลงนคิ คหติ ที่ ส เปน นฺ สนนฺ ิปตึสุ จักแลนไปพรอมแลว ส บทหนา ธาวฺ ธาตุ ในความว่ิงไป อ ปจจัย สมเนวสฺ ติ สฺส วิภัตติ ลง อิ อาคมหลังธาตแุ ละปจจยั แปลงนคิ คหติ ท่ี ส เปน นฺ สมฺปชชฺ ติ ยอมผกู สอด (สวมเกราะ) ส บทหนา นหฺ ธาตุ ในความผูก ย ปจจยั สมฺปฏิจฉฺ ิ ติ วภิ ตั ติ แปลง ย กบั หฺ ทส่ี ดุ ธาตเุ ปน ยหฺ แปลงนคิ คหติ ที่ ส เปน นฺ ประชุมกันแลว ส+นิ บทหนา ปตฺ ธาตุ ในความตกไป อ ปจจัย สมปฺ าเปสิ สมมฺ สติ อุ วภิ ตั ติ แปล อุ เปน อสึ ุ แปลงนคิ คหิตเปน นฺ สมาทเปติ ยอมคนหา ส+อนุ บทหนา อิสฺ ธาตุ ในความแสวงหา อ ปจจัย สมิชฌฺ ติ ติ วิภัตติ แปลงนิคคหิตท่ี ส เปน ม พฤทธ์ิ อุ ที่ อนุ เปน โอ แลว สมีรติ เอาเปน อว พฤทธิ์ อิ แหง อิสฺ ธาตุ เปน เอ. ยอมถึงพรอม-สำเร็จ ส บทหนา ปทฺ ธาตุ ในความถึง ย ปจจัย ติ วิภัตติ แปลง ย ปจ จัยกบั ทฺ ที่สุดธาตเุ ปน ชฺช แลวแปลงนคิ คหติ ที่ ส เปน มฺ รับพรอมแลว ส+ปฏิ บทหนา อสฺ ธาตุ ในความปรารถนา ย ปจจัย อิ วิภัตติ รัสสะ อี เปน อิ แปลง ย กับ สฺ ที่สุดธาตุเปน จฺฉ แปลง นคิ คหิตที่ ส เปน มฺ ยงั ...ใหถ งึ พรอ มแลว ส+ ป บทหนา อาปฺ ธาตุ ในความถงึ เณ ปจ จยั อี วภิ ตั ติ รสั สะ อี เปน อิ ลง ส อาคม แปลงนคิ คหติ ท่ี ส เปน มฺ ยอมพจิ ารณา ส บทหนา มสฺ ธาตุ ในความจับตอง-ลูบคลำ อ ปจ จยั ติ วิภตั ติ แปลงนคิ คหิตที่ ส เปน มฺ ยอ มยัง...ใหถ อื เอาพรอม-ชกั ชวน ส+อา บทหนา ทา ธาตุ ในความ ให ณาเป ปจจัย ติ วิภัตติ ลบ อา ที่ ทา และ ณ ที่ ณาเป แปลง นคิ คหิตที่ ส เปน มฺ ยอ มสำเรจ็ ส บทหนา อิธฺ ธาตุ ในความสำเรจ็ ย ปจ จยั ติ วภิ ตั ติ แปลง ย กบั ธฺ ท่สี ุดธาตเุ ปน ชฌฺ แปลงนิคคหิตที่ ส เปน ม. ยอมหว่นั ไหว ส บทหนา อรี ฺ ธาตุ ในความไหว-ส่ัน-สะเทอื น อ ปจ จยั ติ วิภตั ติ แปลงนิคคหิตที่ ส เปน ม. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 130

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 131 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò สมทุ าจรติ ยอมรองเรียก ส+อุ+อา บทหนา จรฺ ธาตุ ในความประพฤติ-เท่ียวไป อ ปจจัย ติ วิภตั ติ แปลงนิคคหติ ท่ี ส เปน ม แลว ลง ท อาคมที่ อา. สโมสรติ ยอ มประชมุ กนั ส+โอ บทหนา สรฺ ธาตุ ในความแลนไป อ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ แปลงนิคคหิตท่ี ส เปน ม. สลลฺ กฺเขยยฺ พึงกำหนดพรอม ส บทหนา ลกฺขฺ ธาตุ ในความกำหนด อ ปจจัย เอยยฺ วภิ ตั ติ แปลงนคิ คหิตท่ี ส เปน ลฺ เพราะมี ล อยูเบอื้ งหลงั . สลฺลปติ ยอมเจรจา ส บทหนา ลปฺ ธาตุ ในความกลา ว-พดู อ ปจ จยั ติ วิภตั ติ แปลงนิคคหติ ท่ี ส เปน ลฺ เพราะมี ล อยเู บอ้ื งหลงั . สว ิทหิ จดั แจงแลว ส+ วิ บทหนา ธา ธาตุ ในความทรงไว อ ปจ จยั อี วภิ ตั ติ รัสสะ อี เปน อิ แปลง ธา เปน ทห.ฺ สเวเชติ ยอมยัง...ใหสลด ส บทหนา วิชิ ธาตุ ในความกลัว-หวาดหวั่น เณ ปจ จัย ติ วิภัตติ พฤทธิ์ อิ ท่ี วิ เปน เอ แลวลบ อิ ท่ี ชิ. สส นฺเทติ ยอมสนทนา-เปรียบ ส บทหนา สนฺทฺ ธาตุ ในความหลั่งไหล เอ ปจจัย ติ วภิ ตั ต.ิ สาเธติ ยอ มยัง...ใหส ำเรจ็ สาธฺ ธาตุ ในความสำเร็จ เณ ปจจัย ติ วิภัตติ. สาเวติ ยอมยัง...ใหไดยิน-สวดประกาศ สุ ธาตุในความฟง เณ ปจจัย ติ วภิ ตั ติ พฤทธ์ิ อุ ที่ อุ เปน โอ แลวเอาเปน อาว. สกุ ขฺ สิ สฺ ติ จักแหง สุกฺขฺ ธาตุ ในความแหง อ ปจจัย สฺสติ วิภัตติ ลง อิ อาคม หลังธาตแุ ละปจจยั . เสวนฺติ ยอมสองเสพ-คบหา สิวฺ ธาตุ ในความสองเสพ-คบหา อ ปจจัย อนฺติ วิภตั ติ พฤทธิ์ อิ ท่ี สิ เปน เอ. โสจติ ยอมเศราโศก สุจฺ ธาตุ ในความแหง อ ปจจัย ติ วิภัตติ พฤทธ์ิ อุ ท่ี สุ เปน โอ. โสเธนตฺ ิ ยอมยัง...ใหหมดจด สุธฺ ธาตุในความสะอาด-หมดจด เณ ปจจัย อนตฺ ิ วิภัตติ พฤทธ์ิ อุ ที่ สุ เปน โอ. โสสสฺ ามิ จกั ฟง สุ ธาตใุ นความฟง อ ปจ จยั สสฺ ามิ วภิ ตั ติ พฤทธิ์ อุ ท่ี สุ เปน โอ. 131

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 132 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò หฺต๙ิ ห หนตฺ ๑ิ ๐ ยอมเดอื ดรอ น-เบียดเบียน หนฺ ธาตุ ในความเบียดเบยี น ย ปจจยั ติ หรติ วิภัตติ แปลง ย กบั นฺ ทสี่ ดุ ธาตุ เปน ฺ. หรายติ ยอมเบียดเบียน-ฆา หนฺ ธาตุ ในความฆา-เบียดเบียน-กำจัด-กระทบ หสติ หึสติ อ ปจ จัย ติ วภิ ัตต.ิ ยอมนำไป หรฺ ธาตุ ในความนำไป อ ปจจยั ติ วิภัตต.ิ หเี ฬติ ยอมละอาย หเร ธาตุ อ ปจ จัย ติ วภิ ตั ติ พฤทธ์ิ เอ ที่ เร เปน อาย. ยอ มหวั เราะ หสฺ ธาตุ ในความรา เริง อ ปจ จยั ติ วิภัตติ ยอมเบียดเบียน หิสิ ธาตุ ในความ-เบียดเบียน-ทำราย อ ปจจัย ติ วภิ ัตติ ลงนคิ คหิตอาคมที่ หิ เปน หึ ลบ อิ ท่ี ส.ิ ยอ มเยยหยัน-ดหู มนิ่ หิฬฺ ธาตุ ในความนา ติ เณ ปจ จัย ในกตั ตุวาจก ติ วิภัตต.ิ จบภาคผนวก กิริยาอาขยาต ๙ ศพั ทน ี้ ใชใ นอรรถแหงกมั มวาจกกไ็ ด เชน กุชฺ โร ทนฺเตสุ หฺเต ชาง (อันเขา) ยอ มฆา ในเพราะ งา ท. ตโต วาตาตโท เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) โฆโร สฺชาโต ปฏิหฺติ แตนัน้ ลมและแดดอนั กลา อนั เกิดขึ้นแลว (อนั วหิ าร) ยอมกำจดั เสยี ได. ๑๐บางแหงใช น ท่ีสุดธาตุท่ีเปนตัวสะกดก็มี เชน ผล เว กทลึ หนฺติ ผลกลวยแล ยอมฆา ซึ่งตนกลวย. สีต อุณฺหํ ปฏิหนฺติ (เสนาสนะ) ยอ มกำจดั เสยี ได ซง่ึ เยน็ รอน. น้เี ฉพาะเอก. สวนพหุ.คงตามรปู เดิม เชน หนนฺติ โภคา ทมุ ฺเมธ โภคะ ท. ยอ มฆา ซง่ึ คนมปี ญญาทราม. 132

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 133 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò แบบฝก หัดประเมนิ ผลนักเรยี น เร่ือง อาขยาต รวมหนว ยที่ ๑ - ๕ จุดประสงค เพื่อประเมินความรูค วามเขาใจของนกั เรียนเกย่ี วกบั เร่อื ง “อาขยาต” หนวยการเรียนการสอนที่ ๑–๕ คำสัง่ แบบฝกหัดทั้งหมดมี ๓ ตอน ใหเวลาในการทำแบบฝกหัด รวม ๓ ชัว่ โมง ตอนที่ ๑ ใหนกั เรยี นตอบคำถามตอ ไปน้ีใหถ กู ตอง (ขอละ ๑๐ คะแนน) ตอนที่ ๒ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบ ทีถ่ ูกตอ งท่สี ดุ เพียงขอ เดยี ว (ขอ ละ ๒ คะแนน) ตอนที่ ๓ ใหนักเรียนทำเคร่ืองหมายถูก ( ) หนาขอที่ถูกตอง และ ทำเครือ่ งหมายผิด ( ) หนา ขอ ทีผ่ ิด (ขอละ ๑ คะแนน) ตอนท่ี ๑ ใหน กั เรยี นตอบคำถามตอ ไปนใ้ี หถ กู ตอ ง (ปญ หามี ๕ ขอ ๆ ละ ๑๐ คะแนน) ๑. วิภัตติอาขยาตเปนเคร่ืองหมายใหรูอะไร ? จงเขียนวิภัตติอาขยาตหมวด วัตตมานา ปญ จมี และภวสิ สนั ติ เฉพาะฝา ยปรัสสบทมาดู ? ๒. วภิ ตั ตอิ าขยาตทงั้ หมดมกี ห่ี มวด ? แตล ะหมวดบอกกาลอะไร ? และมคี ำแปล ประจำหมวดวา อะไร ? ๓. ธาตุทานจัดไวเ ปน กีห่ มวด ? อะไรบาง ? และหมวดนน้ั ลงปจ จยั อะไร ? ๔. อะไรจัดเปนวาจก มีเทาไร ? อะไรบาง ? แตละวาจกมีความหมายวาอะไร จงตอบพรอ มยกอทุ าหรณประกอบดว ย ? ๕. ปจจยั ทานจัดลงในวาจกไวอ ยา งไร ? ข ฉ ส อาย อิย ปจจัย มวี ธิ ใี ชอยางไร ? จงตอบพรอ มยกอุทาหรณประกอบดวย ? เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 133

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 134 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ตอนที่ ๒ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบที่ถูกตอง ทีส่ ุดเพียงขอเดยี ว (ปญ หามี ๒๕ ขอ ๆ ละ ๒ คะแนน) ๑. คำวา “อาขยาต” มีวเิ คราะหว า อยางไร ? ก. อาขยฺ าติ ตนฺติ อาขยฺ าตํ ข. กิรยิ ํ อาขฺยาติ เตนาติ อาขยฺ าตํ ค. กิรยิ ํ อาขฺยาติ เอตถฺ าติ อาขยฺ าตํ ง. กริ ยิ ํ อาขยฺ าตีติ อาขฺยาตํ ๒. เครื่องปรงุ อาขยาตที่จะขาดไมไดเลยคอื อะไรบาง ? ก. วภิ ตั ติ วาจก ปจ จยั ข. กาล ธาตุ ปจจยั ค. บท วจนะ บุรษุ ง. วิภตั ติ ธาตุ ปจ จัย ๓. อนฺติ วิภตั ติ ในหมวดวตตฺ มานา แปลงเปน อะไรไดบาง ? ก. แปลงเปน เร ข. แปลงเปน เอ ค. แปลงเปน อา ง. แปลงเปน า ๔. ในประโยควา “ภิกขฺ ุ คามํ ปณฺฑาย ปวิสติ.” ศพั ทใดเปน กิริยาอาขยาต ? ก. ภกิ ขฺ ุ ข. คามํ ค. ปณฺฑาย ง. ปวิสติ ๕. วิภตั ติใดตอ ไปนเ้ี ปน วภิ ัตตอิ าขยาต ? ก. โย ข. นา ค. เอยยฺ ง. สฺมึ ๖. อี อชั ชัตตนีวิภตั ติ ประถมบรุ ุษ เอกวจนะ ปรัสสบท ใชแ ทนวิภตั ติใดได ? ก. อุ ประถมบุรษุ พหุวจนะ ปรัสสบท ข. โอ มธั ยมบรุ ษุ เอกวจนะ ปรสั สบท ค. ตฺถ ประถมบุรษุ เอกวจนะ ปรัสสบท ง. อึ อตุ ตมบรุ ุษ เอกวจนะ ปรัสสบท เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 134


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook