Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเรียน-การสอนบาลี (เล่ม ๒) วัดปากน้ำ

การเรียน-การสอนบาลี (เล่ม ๒) วัดปากน้ำ

Published by จรัญ ชูแก้ว, 2021-01-05 05:46:42

Description: การเรียน-การสอนบาลี (เล่ม ๒) วัดปากน้ำ

Search

Read the Text Version

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 135 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๗. ในอาขยาตแบง กาลโดยยอ ไวเ ทาไร ? ก. ๓ ข. ๔ ค. ๕ ง. ๖ ๘. คำวา “กาล” หมายถึงอะไร ? ก. เวลา ข. สถานที่ ค. ตาย ง. คำประพนั ธ ๙. วภิ ัตติอาขยาตหมวดสตั ตมีบอกความกำหนด แปลวา “พึง” มขี อสังเกต อยา งไร ? ก. ไมม นี ิบาตกำกบั ไว ข. มนี ิบาตคอื เจ, ยทิ, สเจ อยดู ว ย ค. มนี ิบาตคือ อปเฺ ปว นาม อยดู ว ย ง. มีนิบาตคือ ยนนฺ ูน อยดู วย ๑๐. วภิ ัตตฝิ ายปรัสสบท เปน เครื่องหมายใหรวู าจกอะไร ? ก. กตั ตวุ าจก ข. กมั มวาจก ค. ภาววาจก ง. เหตุกมั มวาจก ๑๑. มิ ปญ จมีวภิ ัตติ ขึ้นประธานวา อะไร ? ก. ตฺวํ ข. ตุมฺเห ค. อหํ ง. มยํ ๑๒. อุ อัชชัตตนวี ภิ ตั ติ ขึ้นประธานวาอะไร ? ก. โส ข. เต ค. ตวฺ ํ ง. ตุมฺเห ๑๓. บุรุษในอาขยาต แบงเปนเทาไร ? ก. ๒ ข. ๓ ค. ๔ ง. ๕ ๑๔. สสฺ ํ กาลาตปิ ตตวิ ภิ ัตติ เปน บุรุษ และวจนะอะไร ? ก. ประถมบุรุษ เอกวจนะ ข. มัธยมบุรุษ เอกวจนะ ค. มัธยมบุรุษ พหุวจนะ ง. อุตตมบุรุษ เอกวจนะ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 135

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 136 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๑๕. คำวา “ธาต”ุ หมายถงึ อะไร ? ก. ศัพททเ่ี ปน มลู ราก ข. ศัพทเ รยี กพรหม ค. ศพั ทเรยี กกระดกู ง. ศัพททเ่ี ปนสารเนื้อเดียว ๑๖. ธาตโุ ดยยอแบง ออกเปนเทา ไร ? ก. ๒ ข. ๓ ค. ๔ ง. ๕ ๑๗. กิริยาศัพทใดตอไปนคี้ ือธาตุท่เี รยี กหากรรม ? ก. ขยี ติ ข. มรติ ค. กโรติ ง. ชาคโรติ ๑๘. กิริยาศัพทใ ดตอไปน้ีจดั อยูใ นหมวด กี ธาตุ ? ก. สยติ ข. ภุ ฺชติ ค. สณุ าติ ง. จนิ าติ ๑๙. “สสฺ ติ” ในหมวดภวิสสนั ติ เม่อื ลบ สสฺ ทิง้ แลว หุ ธาตมุ ีรูปเปน อะไร ? ก. โห ข. หหุ ค. โหห ง. หุหุ ๒๐. กิรยิ าศัพทใ ดตอไปน้ใี ชศพั ทพ เิ ศษสำหรับนำหนา กิริยา ? ก. อปุ สงฺกมติ ข. มนสิกโรติ ค. นิกฺขมติ ง. อปุ จจฺ คา ๒๑. อกัมมธาตไุ มน ยิ มใชใ นวาจกใด ? ก. กตั ตุวาจก ข. กัมมวาจก ค. ภาววาจก ง. เหตกุ ตั ตุวาจก ๒๒. สกัมมธาตไุ มนิยมใชในวาจกใด ? ก. กัตตุวาจก ข. กมั มวาจก ค. ภาววาจก ง. เหตุกมั มวาจก ๒๓. บทการติ กัมมในประโยคเหตุกตั ตุวาจกตองประกอบดว ยวิภตั ติอะไร ? ก. ปฐมาวิภตั ติ ข. ทุตยิ าวิภัตติ ค. ตตยิ าวิภตั ติ ง. ฉัฏฐวี ภิ ัตติ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 136

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 137 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๒๔. “นา” ปจ จยั ในหมวด “กี” ธาตุ มรี ูปไดหลายอยา ง ยกเวนขอ ใด ? ก. แปลงเปน ณา เชน กณี าติ ข. แปลงเปน ย เชน นายเร ค. แปลงเปน  เชน ชฺ า ง. คงรปู เปน นา เชน ชินาติ ๒๕. กริ ิยาศัพทตอ ไปน้ี ศัพทใดมไิ ดลงปจ จัยนอกแบบ ? ก. เฆปปฺ ติ ข. รนุ ฺธิติ ค. มุยฺหติ ง. ปาปณุ าติ ตอนที่ ๓ ใหนกั เรียนทำเคร่อื งหมายถูก ( ) หนาขอที่ถูกตอง และทำเครอื่ งหมายผดิ ( ) หนาขอ ท่ผี ดิ (ปญ หามี ๒๕ ขอ ๆ ละ ๑ คะแนน) ( ) ๑. คำวา “อาขยาต” หมายถึงศัพทกลาวกริ ยิ า ( ) ๒. วิภัตติอาขยาตคือ “หิ มิ ม” เม่ือลงแลวคงรูปอยูอยางเดิมเทานั้น ไมเ ปลีย่ นแปลงอะไรเลย ( ) ๓. อา หยิ ตตฺ นี ปรสั สบท มักรัสสะเปน อ ( ) ๔. โอ หยิ ตฺตนีและอชชฺ ตตฺ นี มีใชอยทู ั่วไป ( ) ๕. อุ แปลงเปน อึสุ ได ( ) ๖. สฺสา กาลาตปิ ตฺติ ปรสั สบท หามรัสสะเปน อ ( ) ๗. กรฺ ธาตุ แปลงเปน กาห ได ในเมอื่ ประกอบวภิ ัตตหิ มวด ภวสิ สฺ นตฺ ิ ( ) ๘. ปโรกขฺ า มที ีใ่ ชอยู ๒ วิภตั ตเิ ทา น้นั คอื อ อุ ปฐมบรุ ุษ ปรสั สบท ( ) ๙. อ อาคม ลงหนาธาตุ ในวภิ ัตตหิ มวด หยิ ตตฺ นี อชชฺ ตตฺ นี และกาลาตปิ ตตฺ ิ ( ) ๑๐. อิ อาคม ลงท่หี นาธาตุ ในวิภัตตหิ มวด หิยตฺตนี ( ) ๑๑. ส อาคม ลงทายธาตแุ ละปจ จัย ในวภิ ตั ตหิ มวด ภวิสสฺ นฺติ และกาลาติปตตฺ ิ ( ) ๑๒. ห อาคม ลงทา ยธาตทุ ุกตัว ในวภิ ตั ตหิ มวด อชชฺ ตตฺ นี ( ) ๑๓. อํ (นิคคหติ ) อาคม ลงท่ตี น ธาตุ ในหมวด รุธฺ ธาตุ เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 137

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 138 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ( ) ๑๔. มจุ ฺ ธาตุ ถา ลงในหมวด รธุ ฺ ธาตุ แปลวา พน ถาลงในหมวด ทิวฺ ธาตุ แปลวา ปลอ ย ( ) ๑๕. พุธฺ ธาตุ ลง ย ปจ จัยแลว แปลง ย กับทสี่ ดุ ธาตเุ ปน ชฺฌ ( ) ๑๖. จรุ ฺ ธาตุ ลง เณ ปจจัยแลว ใหพฤทธิ์ อุ เปน โอ แลว ลบ ณ ท้ิง ( ) ๑๗. กิริยาศัพท คอื “จินตฺ ยต”ิ เปน ธาตุท่ีไมเรยี กหากรรม ( ) ๑๘. กิรยิ าศพั ท คอื “อตถฺ ”ิ ใชไดท ้งั เอก. และพห.ุ ( ) ๑๙. วาจก คือ กลาวบทท่เี ปน ประธานของกิรยิ า ( ) ๒๐. กริ ิยาศพั ททีก่ ลา วถึงผทู ำ ซ่งึ ทำหนาท่ปี ระธานในประโยค ชอ่ื กมั มวาจก ( ) ๒๑. ในประโยคกตั ตวุ าจก ยกตวั กรรมข้ึนเปนประธานในประโยค ( ) ๒๒. บทกตั ตาในประโยคกมั มวาจก ตอ งประกอบดว ยปฐมาวิภตั ติ ( ) ๒๓. บทเหตกุ รรม ในประโยคเหตกุ มั มวาจก ตอ งประกอบดว ยทตุ ยิ าวภิ ตั ติ ( ) ๒๔. ในภาววาจก กิริยาตองใชอกัมมธาตุ ย ปจจัย วิภัตติฝายอัตตโนบท ประถมบรุ ษุ เอกวจนะ ( ) ๒๕. เณ ณย ณาเป ณาปย ปจจัย เปน ปจจยั เนอ่ื งดว ย ณ เมื่อลงแลว ตอ งลบ ณ ท้งิ เสมอ 138

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 139 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เฉลยแบบฝกหดั ประเมนิ ผลนักเรยี น เรอ่ื ง อาขยาต หนวยที่ ๑ - ๕ ตอนท่ี ๑ ใหน กั เรยี นตอบคำถามตอ ไปนใี้ หถ กู ตอ ง (ปญ หามี ๕ ขอ ๆ ละ ๑๐ คะแนน) ๑. วภิ ัตตอิ าขยาตเปน เครอ่ื งหมายใหร ู กาล บท วจนะ บรุ ุษ วตตฺ มานา ปรสฺสปทํ ปุริส. เอก. พห.ุ ป. ติ. อนตฺ .ิ ม. ส.ิ ถ. อุ. มิ. ม. ปจฺ มี ปรสสฺ ปทํ ปรุ ิส. เอก. พห.ุ ป. ตุ. อนตฺ .ุ ม. หิ. ถ. อุ. ม.ิ ม. ภวสิ สฺ นตฺ ิ ปรสฺสปทํ ปุรสิ . เอก. พห.ุ ป. สฺสต.ิ สสฺ นฺต.ิ ม. สฺสส.ิ สสฺ ถ. อุ. สสฺ าม.ิ สสฺ าม. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 139

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 140 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ๒. วิภตั ติอาขยาตทงั้ หมดมี ๘ หมวด วตั ตมานา บอกปจ จบุ ันกาล ปจจุบนั แท แปลวา “อย”ู ปจ จบุ ันใกลอดตี แปลวา “ยอ ม” ปจจุบันใกลอ นาคต แปลวา “จะ” ปญ จมี บอกความบังคบั ความหวงั ความออ นวอน ความบงั คบั แปลวา “จง” ความหวงั แปลวา “เถดิ ” ความออนวอน แปลวา “ขอ…จง” สัตตมี บอกความยอมตาม ความกำหนด ความรำพึง ความยอมตาม แปลวา “ควร” ความกำหนด แปลวา “พึง” ความรำพึง แปลวา “พึง” ปโรกขา บอกอดตี กาลลว งแลวไมม กี ำหนด แปลวา “แลว ” หยิ ตั ตนี บอกอดีตกาลลวงแลววานน้ี แปลวา “แลว” ถามี อ นำหนา แปลวา “ได… แลว ” อชั ชตั ตนี บอกอดีตกาลลวงแลววันนี้ แปลวา “แลว” ถามี อ นำหนา แปลวา “ได… แลว ” ภวิสสนั ติ บอกอนาคตแหงปจจบุ นั แปลวา “จกั ” กาลาติปตติ บอกอนาคตแหงอดีต แปลวา “จัก…แลว” ถามี อ นำหนา แปลวา “จักได… แลว” ๓. ธาตทุ านจดั ไวเ ปน ๘ หมวด ดงั นี้ คือ ๑. หมวด ภู ธาตุ ลง อ เอ ปจจยั ประจำหมวด ๒. หมวด รุธฺ ธาตุ ลง อ เอ ปจจยั ประจำหมวด ๓. หมวด ทิวฺ ธาตุ ลง ย ปจ จยั ประจำหมวด ๔. หมวด สุ ธาตุ ลง ณุ ณา ปจ จยั ประจำหมวด ๕. หมวด กี ธาตุ ลง นา ปจ จยั ประจำหมวด 140

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 141 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๖. หมวด คหฺ ธาตุ ลง ณฺหา ปจ จยั ประจำหมวด ๗. หมวด ตนฺ ธาตุ ลง โอ ปจ จยั ประจำหมวด ๘. หมวด จรุ ฺ ธาตุ ลง เณ ณย ปจ จัย ประจำหมวด ๔. กริ ยิ าศพั ทท ่ีประกอบดวยวิภัตติ กาล บท วจนะ บรุ ุษ จดั เปนวาจก คอื กลา วบท ท่ีเปนประธานของกิริยา ๕ อยาง คือ กัตตุวาจก ๑ กัมมวาจก ๑ ภาววาจก ๑ เหตุกัตตวุ าจก ๑ เหตุกมั มวาจก ๑ กิริยาศัพทใดกลาวผูทำ คือ แสดงวาเปนกิริยาของผูทำน้ันเอง กิริยาศัพทน้ัน ชอ่ื กัตตุวาจก มอี ทุ าหรณวา “สูโท โอทนํ ปจติ. พอ ครวั หงุ อยู ซ่งึ ขา วสกุ ” กิริยาศัพทใดกลาวกรรม สิ่งที่บุคคลพึงทำ คือ แสดงวาเปนกิริยาของกรรมนั้น เอง กิริยาศัพทน้ัน ชื่อกัมมวาจก มีอุทาหรณวา “สูเทน โอทโน ปจิยเต. ขาวสุก อัน พอครัว หุงอย”ู กิริยาศัพทใดกลาวแตสักวา ความมี ความเปน เทานั้น ไมกลาว กัตตาและ กรรม กริ ยิ าศัพทน ั้น ช่ือวา ภาววาจก มีอุทาหรณว า “เตน ภูยเต. อนั เขา เปน อย”ู กิรยิ าศัพทใดกลาวผใู ชใหคนอ่นื ทำ คอื แสดงวาเปน กริ ิยาของผูใชใ หผอู ืน่ ทำนน้ั กริ ยิ าศพั ทน นั้ ชอื่ เหตกุ ตั ตวุ าจก มอี ทุ าหรณว า “สามโิ ก สทู ํ โอทนํ ปาเจต.ิ นาย ยัง (ใช) พอ ครัว ใหห ุงอยู ซงึ่ ขา วสุก” กิริยาศัพทใดกลาวส่ิงท่ีเขาใชใหบุคคลทำ คือ แสดงวาเปนกิริยาของสิ่งนั้น กิริยาศัพทนั้น ชื่อเหตุกัมมวาจก มีอุทาหรณวา “สามิเกน สูเทน โอทโน ปาจาปยเต. ขาวสกุ อันนาย ยัง (ใช) พอครวั ใหห ุงอย”ู ๕. ปจ จยั นัน้ จดั เปน ๕ หมวดตามวาจก ดังนี้ ๑. กตั ตวุ าจก ลงปจ จยั ๑๐ ตวั คอื อ, เอ, ย, ณ,ุ ณา, นา, ณหา, โอ, เณ, ณย ๒. กัมมวาจก ลง ย ปจจัย กบั ทั้ง อิ อาคม หนา ย ๓. ภาววาจก ลง ย ปจ จยั ๔. เหตุกตั ตุวาจก ลงปจ จยั ๔ ตวั คือ เณ, ณย, ณาเป, ณาปย ๕. เหตุกัมมวาจก ลงปจจัย ๑๐ ตัวน้ันดวย, ลงเหตุปจจัยคือ ณาเป ดวย, ลง ย ปจจัยกับทง้ั อิ อาคม หนา ย ดวย 141

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 142 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ข, ฉ, ส ปจจัย ๓ ตวั น้ี ใชป ระกอบกับธาตุ แลว ออกสำเนยี งคำแปลวา “ ปรารถนา” อุทาหรณ ดงั นี้ ข ปจจัย เชน ภชุ +ฺ ข = พภุ กุ ฺข+ติ สำเรจ็ รปู เปน พภุ กุ ฺขติ - ปรารถนาจะกิน ฉ ปจจัย เชน ฆสฺ+ฉ = ชิฆจฉฺ +ติ สำเรจ็ รูปเปน ชฆิ จฉฺ ติ - ปรารถนาจะกนิ ส ปจ จยั เชน หรฺ+ส = ชิคสึ +ติ สำเรจ็ รปู เปน ชิคึสติ - ปรารถนาจะนำไป อาย, อยิ ปจจัย ๒ ตวั นี้ ใชส ำหรบั ประกอบกบั นามศพั ท ทำนามศัพท ใหเปน กิรยิ าศัพทม คี ำแปลวา “ประพฤติ” อุทาหรณ เชน อาย ปจจยั เชน จิร+อาย+ติ สำเรจ็ รูปเปน จิรายติ - ประพฤติชาอยู อิย ปจจยั เชน ปุตฺต+อิย+ติ สำเรจ็ รปู เปน ปตุ ตฺ ิยติ-ประพฤตเิ พยี งดังบตุ ร. ตอนที่ ๒ ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบที่ถูกตองท่ีสุดเพียง ขอ เดยี ว (ปญ หามี ๒๕ ขอ ๆ ละ ๒ คะแนน) ๑. ง ๒. ง ๓. ก ๔. ง ๕. ค ๖. ข ๗. ก ๘. ก ๙. ข ๑๐. ก ๑๑. ค ๑๒. ข ๑๓. ข ๑๔. ง ๑๕. ก ๑๖. ก ๑๗. ค ๑๘. ง ๑๙. ค ๒๐. ข ๒๑. ข ๒๒. ค ๒๓. ข ๒๔. ค ๒๕. ค ตอนท่ี ๓ ใหน กั เรยี นทำเครอื่ งหมายถกู ( ) หนา ขอ ทถี่ กู ตอ ง และทำเครอื่ งหมายผดิ ( ) หนา ขอ ทีผ่ ดิ (ปญหามี ๒๕ ขอ ๆ ละ ๑ คะแนน) ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. ๑๑. ๑๒. ๑๓. ๑๔. ๑๕. ๑๖. ๑๗. ๑๘. ๑๙. ๒๐. ๒๑. ๒๒. ๒๓. ๒๔. ๒๕. เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 142

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 143 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò แผนการสอนบาลไี วยากรณ หนว ยท่ี ๖ เรือ่ ง “การแปลมคธเปน ไทยและไทยเปนมคธ ในวาจกทั้ง ๕ ทใี่ ชกิริยาอาขยาตคมุ พากย” ๑. การใชก ริ ิยาอาขยาตคมุ พากย ๒. การแปลมคธเปนไทยและการแปลไทยเปนมคธ เวลาทำการสอน ๓ คาบ สาระสำคญั ในการวัดผลประเมินผลของนักเรียนผูไดศึกษาความรูพ้ืนฐานดานบาลี ไวยากรณมาถึงขั้นนี้แลว วิธีการสำคัญอยางหนึ่งที่ผูสอนนิยมใชในการวัดผลความรู ความเขาใจถึงเน้ือหาท่ีไดเรียนผานมาแลว คือ วิธีการแปลมคธเปนไทยและการแปล ไทยเปนมคธ ดังตัวอยางท่ีจะนำมาทดสอบในท่ีนี้ “จะเปนไปในลักษณะ ประโยคที่มี กิริยาอาขยาตเปน กริ ยิ าคุมพากย โดยแสดงตามวาจกทง้ั ๕” จุดประสงค ๑. นักเรียนรูและเขาใจถึงการแปลมคธเปนไทยในวาจกทั้ง ๕ ที่ใชกิริยา อาขยาตคุมพากย ๒. นักเรียนรูและเขาใจถึงการแปลไทยเปนมคธในวาจกทั้ง ๕ ท่ีใชกิริยา อาขยาตคมุ พากย เน้อื หา ๑. การใชก ริ ยิ าอาขยาตคุมพากย ๒. แปลมคธเปน ไทยตามวาจกท้งั ๕ ๓. แปลไทยเปนมคธตามวาจกทั้ง ๕ 143

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 144 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) กิจกรรม ๑. ประเมนิ ผลกอนเรยี น ๒. ครนู ำเขา สูบทเรียน และอธบิ ายเนอ้ื หา ๓. บตั รคำ ๔. ครสู รุปเนอื้ หาท้งั หมด ๕. ประเมินผลหลังเรียน ๖. ใบงาน - ใหนักเรียนแตงวาจกและบอกชนิดของวาจกทก่ี ำหนดให ๗. กิจกรรมเสนอแนะ ครสู อนควรใหน ักเรียน - แตงวาจกและบอกชนิดของวาจกได สอื่ การสอน ๑. ตำราทใ่ี ชประกอบการเรียน-การสอน ๑.๑ หนงั สอื พระไตรปฎก ๑.๒ หนงั สือพจนานกุ รม มคธ-ไทย โดย พนั ตรี ป. หลงสมบุญ สำนักเรยี นวดั ปากน้ำ ๑.๓ หนงั สือพจนานกุ รม ฉบบั ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ๑.๔ หนงั สือพจนานกุ รมพุทธศาสน ฉบบั ประมวลศพั ท โดย พระธรรมปฎก (ป.อ.ปยตุ ฺโต) ๑.๕ หนงั สอื คมู อื บาลไี วยากรณ นพิ นธ โดย สมเดจ็ พระมหาสมณเจา ฯ ๑.๖ หนงั สือปาลทิ เทศ ของ สำนกั เรียนวัดปากนำ้ ๑.๗ คมั ภีรอภิธานัปปทีปก า ๑.๘ หนงั สือพจนานุกรมธาตุ ภาษาบาลี ๑.๙ หนังสืออุภัยพากยป ริวัตน 144

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 145 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๒. อปุ กรณท ี่ควรมปี ระจำหอ งเรยี น ๒.๑ กระดานดำ-แปรงลบกระดาน-ชอลก หรือ กระดานไวทบอรด ๒.๒ เครอ่ื งฉายขามศรี ษะ (Over-head) ๒.๓ คอมพวิ เตอรแ ละเคร่ืองโปรเจคเตอร ๓. บตั รคำ ๔. ใบงาน วิธวี ัดผล-ประเมินผล ๑. สอบถามความเขา ใจ ๒. สังเกตพฤติกรรมการมสี วนรว มในกิจกรรม ๓. สงั เกตความกา วหนา ดา นพฤตกิ รรมการเรยี นรูข องผูเรยี น ๔. ตรวจใบงาน ๕. ตรวจแบบประเมนิ ผลกอนเรยี น-หลงั เรียน 145

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 146 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò การแปลมคธเปน ไทยและไทยเปน มคธ ในวาจกทัง้ ๕ ทใี่ ชก ริ ยิ าอาขยาตคุมพากย ๑. การใชกริ ยิ าอาขยาตคุมพากย กริ ิยาอาขยาตมีวิธีใช ดังนี้ ๑. กิริยาอาขยาตกับนามนาม หรือปุริสสัพพนาม ซ่ึงเปนประธาน ของประโยค ตองมวี จนะและบรุ ษุ ตรงกัน ดงั น้ี เอก. พห.ุ นาม กิริยา นาม กิริยา ชโน กโรติ ชนา กโรนตฺ ิ โส โหติ เต โหนฺติ ตฺวํ สณุ าสิ ตุมเฺ ห สณุ าถ อหํ ภนิ ทฺ สิ สฺ ามิ มยํ ภนิ ฺทสิ ฺสาม ๒. กิริยาอาขยาตนี้โดยทวั่ ไปเรียงไวท า ยประโยค เชน บาลี : อาจรโิ ย อตตฺ โน สิสสฺ านํ โอวาทํ เทติ ฯ แปล : อ.อาจารย ใหอ ยู ซงึ่ โอวาท แกศ ษิ ย ท. ของตน ฯ - บางทีก็เรียงไวหนาประโยคโดยมุงเนนความหรือเปนประโยคคำถาม เนน ความ เชน บาลี : สณุ าตุ เม ภนฺเต สงโฺ ฆ ฯ แปล : ขาแตท านผเู จริญ อ.สงฆ ขอจงฟง (ซงึ่ คำ) ของขา พเจา ฯ - ประโยคคำถาม เชน บาลี : นตถฺ ิ เต โกจิ อาปจุ ฉฺ ิตพพฺ ยุตฺตโก ฯ แปล : อ.ใครๆ ผูควรแลว แกบ คุ คลอันทานพงึ อำลา ยอ มไมม หี รอื ฯ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 146

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 147 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๓. วิธีใชมัธยมบุรุษ และอุตตมบุรุษ จะไมเขียนตัวประธานลงดวยก็ได แตต อ งใชก ิริยาใหถ ูกตามวจนะ และบรุ ษุ ดังน้ี บาลี : เตนหิ ตํ อาปจุ ฉฺ าหิ ฯ แปล : ถา อยางนั้น อ.ทา น จงอำลา ซงึ่ บุคคลนัน้ ฯ บาลี : กมมฺ ฏานํ เม กเถถ ฯ แปล : อ.พระองค ท. ขอจงตรัสบอก ซง่ึ กัมมัฏฐาน แกขาพระองค ฯ บาลี : วปิ สฺสนาธุรํ ปูเรสสฺ ามิ ฯ แปล : อ.ขาพระองค ยังวปิ ส สนาธรุ ะ จกั ใหเตม็ ฯ บาลี : เตนหิ เอกโต ว คจฺฉาม ภนฺเต ฯ แปล : ขา แตทานผูเจรญิ ถา อยางนั้น อ.เรา ท. จงไป โดยความเปน อันเดยี วกนั ฯ ๔. คณุ นาม ท่เี นอื่ งดว ยกิริยา วา มี วาเปน เรยี งไวห ลงั นามนาม ซงึ่ เปน เจาของ หนา กริ ิยา วามี วาเปน นั้น (วิกติกตั ตา) ดังนี้ บาลี : สคุ นธฺ ํ ปุปผฺ ํ สพฺเพสํ มนาป โหติ ฯ แปล : อ.ดอกไม หอม เปนท่ีชอบใจ ของชน ท. ทัง้ ปวง ยอมเปน ฯ - แมจ ะไมเรียงกริ ิยาวา มี วา เปน ไวด ว ยกไ็ ด ดงั นี้ บาลี : อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ฯ แปล : อ.ตนแล เปน ทพ่ี ่งึ ของตน ยอมเปน ฯ ๕. อัพยยศัพท คือนิบาตและปจจัยบางตัว เชน สเจ, เตนหิ, ยถา, เอวํ เปน ตน เรยี งไวเ ปน ตัวที่ ๑ ของประโยค เชน บาลี : สเจ ปาป น กเรยฺยาส,ิ สุขํ ลภิสฺสสิ ฯ แปล : ถาวา อ.เจา ไมพึงทำ ซ่ึงบาปไซร, อ.เจา จกั ได ซ่งึ สุข ฯ บาลี : ตทา สาวตฺถยิ ํ สตตฺ มนุสฺสโกฏโิ ย วสนตฺ ิ ฯ แปล : ในกาลนั้น อ.โกฏิแหง มนุษย ท. ๗ ยอมอยู ในเมอื งชือ่ วาสาวตั ถี ฯ - นิบาตท่ีเปน ตนขอความบางตัว เชน ห,ิ จ, ปน, ตุ เปน ตน เรยี งไวเ ปน ตัวท่ี ๒ ของประโยค เชน 147

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 148 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) บาลี : กุหึ ปน ตวฺ ํ วสสิ ฯ แปล : ก็ อ.เจา ยอมอยู ในทไี่ หน ฯ ๖. อาลปนะ ตามสำนวนอรรถกถา เรียงอาลปนะไวตนประโยคบาง ทายประโยคบา ง ดงั นี้ บาลี : ภนฺเต มา มํ นาเสถ ฯ แปล : ขา แตท า นผูเจริญ อ.ทา น ท. ขอจงอยายงั ขาพเจา ใหฉิบหาย ฯ บาลี : เอวํ กโรถ มหาราช ฯ แปล : ขา แตมหาราชเจา อ.พระองค ท. ขอจงทรงทำ อยา งน้ี - อาลปนะ ตามสำนวนบาลีเรียงไวเ ปน ที่ ๒ ในขอความอนั นน้ั เชน บาลี : สงฆฺ มภฺ นเฺ ต อปุ สมปฺ ทํ ยาจามิ ฯ แปล : ขา แตท านผูเจริญ ขา พเจา ขออยู ซ่งึ อุปสมบท กะสงฆ ฯ - ถา มสี พั พนามหรอื นบิ าตอยู เรยี งอาลปนะไวเ ปน ท่ี ๓ บา ง เปน ที่ ๔ บา ง ดงั นี้ บาลี : ธมฺมํ หิ โว ภกิ ขฺ เว เทเสสสฺ ามิ ฯ แปล : แนะ ภิกษุ ท. ก็ อ.เรา จกั แสดง ซง่ึ ธรรม แกเธอ ท. ฯ บาลี : กุหึ ปน ตฺวํ อาวโุ ส วสฺสาวาสํ วสิ ฯ แปล : ดูกอ นผมู ีอายุ ก็ อ.ทาน อยูแ ลว อยูจำพรรษา ในท่ไี หน ฯ ๗. มา ศัพท ซ่ึงแปลวา อยา นิยมใชกับกิริยาที่ลงวิภัตติหมวดปญจมี และหมวดอชั ชตั ตนี ดังน้ี บาลี : มา มํ ภนเฺ ต นาเสถ ฯ แปล : ขาแตทา นผเู จรญิ อ.ทา น ท. ขอจงอยา ยงั ขา พเจา ใหฉ ิบหาย ฯ บาลี : มา เอวํ กริ ฯ แปล : อ.เจา อยา ทำแลว อยางน้ี ฯ - แตกม็ ีใชกบั วิภัตตหิ มวดสตั ตมบี า ง ดงั นี้ บาลี : มาวมเฺ ถ ปุฺ สฺส ฯ แปล : อ.บคุ คล อยาพงึ ดหู มิน่ ซ่งึ บุญ ฯ 148

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 149 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๘. สวน น, โน ศัพท ซง่ึ แปลวา ไม ใชไดก บั วภิ ตั ตอิ าขยาตทว่ั ไป แตไม ใชกับวภิ ตั ตหิ มวดปญ จมี ดงั น้ี บาลี : ภนเฺ ต ตุมฺเห สปปฺ ายํ น กโรถ ฯ แปล : ขา แตท า นผเู จริญ อ.ทา น ท. ยอมไมก ระทำ ซง่ึ ความสบาย ฯ บาลี : ปฏึ น ปสาเรสฺสามิ ฯ แปล : อ.เรา จกั ไมเหยยี ดออก ซ่ึงหลงั ฯ บาลี : โน เจ สกฺขสิ ฺสติ ฯ แปล : หากวา อ.พระผเู ปนเจา จกั ไมอ าจไซร ฯ ๙. ในประโยคทเ่ี ปนคำถาม ถามี กึ ศัพท หรือศพั ทท ่เี ปล่ียนแปลงมาแต กึ ศพั ท เรยี งศพั ทนั้นไวห นา ดังนี้ บาลี : กึ ตยา ปพพฺ ชิตุ น วฏฏ ติ ฯ แปล : อ.อันอันทา น บวช ยอมไมค วร หรือ ฯ บาลี : กจจฺ ติ ถฺ ปริสุทธฺ า ฯ แปล : อ.ทา น ท. เปนผูบรสิ ุทธแ์ิ ลว ยอมเปน แลหรอื ฯ - ในประโยคคำถาม ถาไมมี กึ ศัพทอยูขางหนา ควรเรียงกิริยาไวหนา นิบาต ดงั น้ี บาลี : สกฺขสิ ปน ตฺวํ คหปติ เอเกน ปสเฺ สน สตตฺ มาเส นิปชชฺ ติ ุ ฯ แปล : ดูกอนคฤหบดี ก็ อ.ทาน ยอ มอาจ เพื่ออันนอน โดยขาง ขา งเดยี ว ตลอดเดือน ท. ๗ หรอื ฯ บาลี : ทียติ ปน คหปติ กุเล ทานํ ฯ แปล: แนะคฤหบดี ก็ อ.ทาน ในตระกูล อนั ทาน ใหอยหู รอื ฯ ๑๐. ศัพทท่ีเปนกิริยาวิเสสนะ คือแสดงลักษณะของกิริยาที่แปลกจาก กิริยาอื่น ใชทุติยาวิภัตติ เปนวิเสสนะของกิริยาบทใด เรียงไวหนากิริยาบทน้ัน หรือหนาบทอ่ืน ท่เี นอ่ื งดว ยกริ ิยาบทนน้ั ดังนี้ 149

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 150 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) บาลี : ธมมฺ จารี สุขํ เสติ ฯ แปล : อ.บุคคลผูประพฤติซง่ึ ธรรมโดยปกติ ยอมอยู เปนสขุ ฯ บาลี : ทกุ ฺขํ เสติ ปราชโิ ต ฯ แปล : อ.คนผูพา ยแพแ ลว (แตผ ูอนื่ ) ยอ มอยู เปน ทุกข ฯ ๑๑. นามนาม ท่ีเปนประธานของประโยค ท่ีเปนเอกวจนะหลายศัพท ควบดวย จ ศัพท ตอ งประกอบคณุ นามก็ดี กิรยิ ากด็ ี ของนามนามเหลานั้น เปน พหุวจนะ โดยมาก ดังน้ี บาลี : เทสนาวสาเน กุมารโก จ กมุ ารกิ า จ โสตาปนฺนา อเหสุ ฯ แปล : ในกาลเปนท่ีจบแหงเทศนา อ.กุมารดวย อ.กุมารีดวย เปนโสดาบัน ไดเปน แลว ฯ ๑๒. ถาคุณนาม ที่เนื่องดวยกิริยาวามี วาเปน หลายบท ใหเรียงไวหนา กิรยิ านนั้ แตบทเดยี ว นอกนั้นใหเรียงไวหลงั กริ ิยา (วกิ ตกิ ตั ตา) ดงั น้ี บาลี : เตน โข ปน สมเยน เวสาลี สุภิกฺขา โหติ สุสสฺสา สุลภปณ ฑฺ า ฯ แปล : ก็ โดยสมัยน้ันแล อ.เมืองไพศาลี เปนเมืองมีภิกษาดี เปนเมืองมีขาวกลางาม เปนเมืองมีกอ นขา วหาไดโ ดยงา ย ยอมเปน ฯ ๑๓. กิริยาอาขยาตในทองนิทานใช ๒ วิภัตติคือ วัตตมานา ๑ อัชชัตตนี ๑ แตใชอัชชัตตนี มากกวาวัตตมานา ดังนี้ บาลี : เตน สมเยน พทุ ฺโธ ภควา ราชคเห วิหรติ คิชฌฺ กูเฏ ปพพฺ เต ฯ แปล : โดยสมัยนั้น อ.พระผูมีพระภาค พุทธเจา เสด็จประทับอยู ที่เขาคิชฌกูฏ ใกลก รุงราชคฤห ฯ บาลี : อถโข ภควา ภิกฺขู อามนฺเตสิ ฯ แปล : ลำดบั นั้นแล อ.พระผมู พี ระภาคเจา ตรสั เรยี กแลว ซง่ึ ภกิ ษุ ท. ฯ 150

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 151 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๒. การแปลมคธเปน ไทยและแปลไทยเปน มคธ ลำดบั การแปลมคธเปนไทยและแปลไทยเปนมคธในวาจกท้งั ๕ ของอาขยาต ดงั น้ี ๑. ประโยคกตั ตุวาจก : แปลมคธเปน ไทย มีลำดบั การแปลดังน้ี ๑. อาลปนะ ๒. นิบาตตน ขอความ ๓. กาลสัตตมี ๔. ประธาน ๕. บทที่เนือ่ งดวยประธาน ๖. กิริยาคุมพากย (อาขยาต) ๗. บททเ่ี น่อื งดว ยกิริยาคมุ พากย (อาขยาต) ตวั อยางประโยคกัตตุวาจก บาลี : อยํ๑ มหาชโน๒ กหุ ึ๓ คจฉฺ ต๔ิ ฯ ไทย : อ.มหาชน๒ น้ี๑ จะไป๔ ในที่ไหน๓ ฯ อยํ : บทท่เี นื่องดวยประธาน ประธาน มหาชโน : บทที่เนอื่ งดว ยกิริยาคมุ พากย กริ ยิ าคมุ พากย กุหึ : คจฉฺ ติ : บาลี : ภนฺเต๑ สเจ๒ อยยฺ า๓ อมิ ํ๔ เตมาสํ๕ อธิ ๖ วเสยยฺ ุ๗ ฯ ไทย : ขา แตทานผูเ จรญิ ๑ ถา วา ๒ อ.พระผเู ปน เจา ท.๓ พึงอย๗ู ในท่นี ๖้ี ตลอดหมวดแหงเดอื นสาม๕ นี้ ไซร๔ ฯ ภนเฺ ต : อาลปนะ สเจ : นิบาตตน ขอ ความ อยยฺ า : ประธาน อิมํ เตมาสํ อิธ : บทที่เนอื่ งดว ยกิรยิ าคมุ พากย วเสยยฺ ุ : กิรยิ าคมุ พากย เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 151

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 152 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò บาลี : ตสฺม๑ึ สมเย๒ สตฺถา๓ ปริสมชฺเฌ๔ ธมมฺ ํ๕ เทเสติ๖ ฯ ไทย : ในสมัย๒ น้ัน๑ อ.พระศาสดา๓ ยอ มทรงแสดง๖ ซึง่ ธรรม๕ ในทามกลางแหงบริษัท๔ฯ ตสมฺ ึ สมเย : กาลสัตตมี สตฺถา : ประธาน ปรสิ มชฺเฌ ธมฺมํ : บทท่ีเนื่องดว ยกริ ิยาคมุ พากย เทเสติ : กิรยิ าคมุ พากย ประโยคกตั ตวุ าจก : แปลไทยเปน มคธ มีวธิ ีการดงั น้ี ๑. อาลปนะเรียงไวเปนตวั ท่ี ๑ หรือ ๒ หรือตวั สดุ ทาย กไ็ ด ๒. นิบาตตนขอความบางตัวเรียงไวเปนตัวท่ี ๑ เชน สเจ, เตนหิ, ยถา, เอวํ เปน ตน บางตวั เรยี งไวเปน ตวั ที่ ๒ เชน หิ, จ, ปน, ตุ, เจ เปนตน ๓. กาลสตั ตมี เรยี งไวเปนตวั ที่ ๑ หรือตอจากนบิ าตตนขอ ความทต่ี องเรยี งไว เปน ตวั ที่ ๑ ๔. ประธาน เรยี งไวต อจากบทกาลสตั ตมแี ละนบิ าตตนขอ ความ ๕. บททเี่ น่ืองดวยประธาน เรียงไวหนาประธาน ๖. กิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวตัวสุดทายของประโยค, ท่ีเรียงไวตน ประโยคก็มีบาง เชน ประโยคคำถามที่ไมใส กึ ศัพทไว ประโยคคำสั่ง ประโยคเนน ความ เปนตน ๗. บทที่เน่ืองดวยกิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวหนากิริยาคุมพากย (อาขยาต) ตวั อยางประโยคกัตตุวาจก ดงั น้ี ไทย : อ.มหาชน๑ น้ี๒ จะไป๓ ในท่ไี หน๔ ฯ บาลี : อย๒ํ มหาชโน๑ กหุ ึ๔ คจฉฺ ติ๓ ฯ อ.มหาชน : ประธาน น้ี : บทที่เนื่องดวยประธาน จะไป : กิรยิ าคมุ พากย ในทไ่ี หน : บททเี่ น่ืองดวยกิริยาคมุ พากย เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 152

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 153 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ไทย : ดูกอนอาวุโส๑ ไดยินวา๒ อ.อุบาสิกา๓ น้ัน๔ ยอมรู๕ ซึ่งจิต๖ ของชน ท.๗ เหลา อนื่ ๘ฯ บาลี : อาวุโส๑ สา๔ กิร๒ อปุ าสิกา๓ ปเรสํ๘ ชนานํ๗ จิตตฺ ๖ํ ชานาต๕ิ ฯ ดูกอ นอาวโุ ส : อาลปนะ ไดย ินวา : นบิ าตตนขอ ความ อ.อุบาสิกา : ประธาน นัน้ : บทท่เี น่อื งดวยประธาน ยอมรู : กิรยิ าคมุ พากย ซ่ึงจติ ของชน ท. เหลาอน่ื : บททีเ่ นือ่ งดวยกิรยิ าคมุ พากย ไทย : ในขณะ๑ น้ัน๒ อ.เมฆใหญ๓ ต้ังข้ึนแลว๔ ฯ บาลี : ตสฺมึ๒ ขเณ๑ มหาเมโฆ๓ อุฏหิ๔ ฯ ในขณะ นั้น : กาลสตั ตมี อ.เมฆใหญ : ประธาน ต้งั ข้ึนแลว : กริ ยิ าคมุ พากย ๒. ประโยคกัมมวาจก : แปลมคธเปนไทย มีลำดบั การแปลดังนี้ ๑. อาลปนะ ๒. นบิ าตตนขอ ความ ๓. กาลสัตตมี ๔. ประธาน ๕. บททเ่ี นอื่ งดว ยประธาน ๖. ตัวอนภิหติ กตั ตา ๗. บทที่เนอื่ งดวยตวั อนภหิ ติ กัตตา ๘. กิริยาคมุ พากย (อาขยาต) ๙. บททีเ่ น่อื งดวยกิรยิ าคมุ พากย (อาขยาต) เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 153

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 154 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ตวั อยา งประโยคกมั มวาจก บาลี : ตทา๑ มยา๒ เอโก๓ คตี สทโฺ ท๔ สุณิยเต๕ ฯ ไทย : ในกาลน้ัน๑ อ.เสียงแหง เพลงขับ๓ เสียงหนง่ึ ๒ อนั เรา๔ ฟง อย๕ู ฯ ตทา : กาลสัตตมี มยา : ตัวอนภิหติ กัตตา เอโก : บทท่เี นือ่ งดวยประธาน คตี สทฺโท : ประธาน สณุ ยิ เต : กิริยาคมุ พากย บาลี : ภนเฺ ต๑ โสสานิเกน๒ ภกิ ฺขุนา๓ มจฉฺ าทีนิ๔ วตฺถนู ๕ิ วิวชฺชิยนเฺ ต๖ ฯ ไทย : ขาแตทา นผเู จรญิ ๑ อ.วตั ถุ ท.๕ มปี ลาเปนตน ๔ อันภกิ ษุ๓ ผอู ยใู นปาชาเปนวตั ร๒ ยอมเวน ๖ ฯ ภนฺเต : อาลปนะ โสสานเิ กน : บทที่เนื่องดว ยตัวอนภิหติ กตั ตา ภิกฺขนุ า : ตวั อนภหิ ติ กัตตา มจฉฺ าทีนิ : บททเี่ นื่องดว ยประธาน วตถฺ ูนิ : ประธาน วิวชฺชยิ นฺเต : กริ ยิ าคมุ พากย บาลี : กุมาร๑ เมธาวินา๒ ห๓ิ ปคุ คฺ เลน๔ อปฺปมาเทน๕ อตตฺ า๖ รกขฺ ยิ เต๗ ฯ ไทย : ดูกอ นกมุ าร๑ ก็๓ อ.ตน๖ อันบุคคล๔ ผูมีปญ ญา๒ ยอมรกั ษา๗ ดว ยความไมป ระมาท๕ ฯ กุมาร : อาลปนะ เมธาวนิ า : บททเ่ี นื่องดวยตัวอนภิหิตกัตตา หิ : นิบาตตน ขอ ความ ปุคคฺ เลน : ตวั อนภหิ ิตกตั ตา อปฺปมาเทน : บททเ่ี น่ืองดว ยกิริยาคุมพากย เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 154

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 155 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò อตตฺ า : ประธาน รกขฺ ยิ เต : กิริยาคมุ พากย ประโยคกัมมวาจก : แปลไทยเปน มคธ มวี ิธีการดงั น้ี ๑. อาลปนะเรียงไวเปน ตัวท่ี ๑ หรอื ๒ หรือตัวสุดทาย กไ็ ด ๒. นิบาตตนขอความบางตัวเรียงไวเปนตัวที่ ๑ เชน สเจ, เตนหิ, ยถา, เอวํ เปนตน บางตวั เรียงไวเปนตวั ที่ ๒ เชน ห,ิ จ, ปน, ต,ุ เจ เปนตน ๓. กาลสตั ตมี เรยี งไวเ ปน ตัวท่ี ๑ หรอื ตอจากนบิ าตตนขอความที่ตองเรียงไว เปนตวั ท่ี ๑ ๔. ประธาน เรียงไวห นากริ ิยาคุมพากย (อาขยาต) ๕. บทท่เี น่อื งดว ยประธาน เรียงไวห นาประธาน ๖. ตัวอนภิหิตกัตตา เรียงไวเปนตัวที่ ๑ หรือหลังกาลสัตตมีและนิบาต ตน ขอความ ๗. บทท่ีเน่อื งดว ยตัวอนภิหติ กตั ตา เรยี งไวหนา ตัวอนภหิ ติ กตั ตา ๘. กิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวตัวสุดทายของประโยค, ท่ีเรียงไวตน ประโยคก็มีบาง เชน ประโยคคำถามที่ไมใส กึ ศัพทไว ประโยคคำสั่ง ประโยคเนน ความ เปนตน ๙. บทที่เนื่องดวยกิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวหนากิริยาคุมพากย (อาขยาต) ตัวอยางประโยคกมั มวาจก ไทย : ขา แตทา นผเู จรญิ ๑ อ.วตั ถุ ท.๒ มปี ลาเปนตน๓ อันภิกษุ๔ ผอู ยใู นปา ชาเปน วัตร๕ ยอมเวน ๖ ฯ บาลี : ภนฺเต๑ โสสานิเกน๕ ภิกฺขนุ า๔ มจฉฺ าทนี ิ๓ วตฺถูน๒ิ ววิ ชฺชิยนเฺ ต๖ ฯ ขาแตทา นผเู จรญิ : อาลปนะ อ.วัตถุ ท. : บทที่เน่ืองดว ยตวั อนภหิ ติ กัตตา มีปลาเปน ตน : ตัวอนภหิ ติ กตั ตา เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 155

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 156 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò อันภิกษุ : บททเี่ นื่องดวยประธาน ผอู ยปู า ชาเปน วตั ร : ประธาน ยอมเวน : กริ ิยาคุมพากย ไทย : ขาแตม หาราชเจา ๑ เพราะวา ๒ อ.ขาพระองค๓ อันดาบส๔ นี้๕ ยอมแชง๖ ฯ บาลี : อมิ ินา๕ หิ๒ ตาปเสน๔ อหํ๓ อภสิ ปย าม๖ิ มหาราช๑ ฯ ขา แตม หาราชเจา : อาลปนะ เพราะวา : นิบาตตน ขอ ความ อ.ขาพระองค : ประธาน อนั ดาบส : ตัวอนภิหิตกัตตา นี้ : บทที่เนือ่ งดวยตวั อนภหิ ิตกตั ตา ยอ มแชง : กิรยิ าคมุ พากย ไทย : ในวนั ๑ นั้น๒ อ.ผล ท.๓ ของมะมวง๔ อันเด็ก ท.๕ ยอื้ แยงอย๖ู ฯ บาลี : ตสฺม๒ึ ทวิ เส๑ ทารเกหิ๕ อมพฺ สสฺ ๔ ผลานิ๓ วิลุมปฺ ยนฺเต๖ ฯ ในวนั น้นั : กาลสัตตมี อ.ผล ท. : ประธาน ของมะมวง : บทที่เนื่องดวยประธาน อนั เดก็ ท. : ตวั อนภิหิตกัตตา ยอ้ื แยงอยู : กิริยาคมุ พากย ๓. ประโยคภาววาจก : แปลมคธเปน ไทย มีลำดบั การแปลดงั นี้ ๑. อาลปนะ ๒. นิบาตตน ขอความ ๓. กาลสัตตมี ๔. ตวั อนภหิ ติ กัตตา ๕. บทท่ีเน่อื งดว ยตวั อนภหิ ติ กตั ตา เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 156

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 157 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๖. กิริยาคมุ พากย (อาขยาต) ๗. บทท่ีเน่ืองดว ยกริ ยิ าคุมพากย (อาขยาต) ตัวอยา งประโยคภาววาจก บาลี : ตาต๑ เยน๒ ปุคฺคเลน๓ อนุตีเร๔ คจฉฺ ยเต๕ ฯ ไทย : ดกู อ นพอ ๑ อันบคุ คล๓ ใด๒ ยอ มไป๕ ในทไ่ี ปตามซงึ่ ฝง๔ ฯ ตาต : อาลปนะ เยน : บททเ่ี น่ืองดวยตัวอนภิหติ กตั ตา ปุคคฺ เลน : ตัวอนภิหติ กตั ตา อนุตีเร : บททเี่ นอ่ื งดว ยกริ ยิ าคมุ พากย คจฺฉยเต : กริ ยิ าคุมพากย บาลี : กถ๑ํ ปน๒ มยา๓ ปฏปิ ชฺชเต๔ ฯ ไทย : ก๒็ อันขาพเจา๓ จะปฏบิ ัติ๔ อยางไร๑ ฯ กถํ : บทท่ีเนือ่ งดวยกิริยาคุมพากย ปน : นบิ าตตนขอความ มยา : ตัวอนภิหติ กัตตา ปฏปิ ชฺชเต : กริ ิยาคมุ พากย บาลี : ตสมฺ ๑ึ ปน๒ กาเล๓ โจรภเยน๔ ชเนห๕ิ กลิ มยเต๖ ฯ ไทย : ก็๒ ในกาล๓ น้นั ๑ อันชน ท.๕ ยอมลำบาก๖ เพราะภยั แตโจร๓ ฯ ตสมฺ ึ กาเล : กาลสตั ตมี ปน : นบิ าตตน ขอ ความ โจรภเยน : บทที่เนอ่ื งดว ยกิริยาคุมพากย ชเนหิ : ตัวอนภหิ ติ กัตตา กลิ มยเต : กริ ยิ าคมุ พากย เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 157

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 158 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò ประโยคภาววาจก : แปลไทยเปน มคธ มวี ธิ ีการดงั นี้ ๑. อาลปนะ เรยี งไวเ ปนตัวท่ี ๑ หรอื ๒ หรอื ตวั สุดทาย ก็ได ๒. นิบาตตนขอความบางตัวเรียงไวเปนตัวที่ ๑ เชน สเจ, เตนหิ, ยถา, เอวํ เปนตน บางตวั เรียงไวเ ปน ตวั ท่ี ๒ เชน หิ, จ, ปน, ตุ, เจ เปน ตน ๓. กาลสตั ตมี เรยี งไวเปน ตัวที่ ๑ หรือตอ จากนบิ าตตน ขอ ความทต่ี องเรียงไว เปนตวั ที่ ๑ ๔. ตวั อนภิหติ กัตตา เรยี งไวเ ปนตวั ท่ี ๑ หรือตอจากตัวกาลสัตตมี ๕. บทที่เน่อื งดวยตวั อนภหิ ติ กัตตา เรียงไวห นา ตัวอนภิหิตกัตตา ๖. กิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวตัวสุดทายของประโยค, ที่เรียงไว ตนประโยคก็มีบาง เชน ประโยคคำถามท่ีไมใส กึ ศัพทไว ประโยคคำสั่ง ประโยค เนนความ เปน ตน ๗. บทท่ีเน่ืองดวยกิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวหนากิริยาคุมพากย (อาขยาต) ตัวอยางประโยคภาววาจก ไทย : ดกู อ นพอ ๑ อนั บคุ คล๒ ใด๓ ยอ มไป๔ ในที่ไปตามซง่ึ ฝง ๕ ฯ บาลี : ตาต๑ เยน๓ ปคุ ฺคเลน๒ อนุตเี ร๕ คจฺฉยเต๔ ฯ ดกู อนพอ : อาลปนะ อันบคุ คล : ตัวอนภิหิตกัตตา ใด : บทที่เน่ืองดวยตัวอนภหิ ิตกัตตา ยอมไป : กิริยาคมุ พากย ในทไ่ี ปตามซ่งึ ฝง : บทท่เี น่อื งดวยกริ ิยาคมุ พากย ไทย : ก็๑ อันสุนขั ๒ ยอมนอน๓ ในภายใต๔ แหง เรอื น๕ ฯ บาลี : ฆรสสฺ ๕ ปน๑ เหฏา๔ สนุ เขน๒ สียเต๓ ฯ ก็ : นิบาตตน ขอความ อนั สุนขั : ตวั อนภิหติ กตั ตา เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 158

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 159 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ยอมนอน : กริ ยิ าคมุ พากย ในภายใต แหงเรอื น : บททเี่ น่ืองดว ยกิริยาคุมพากย ไทย : ในกาล๑ น้ัน๒ อันเด็ก๓ ท. ยอมเลน๔ ในแมน ำ้ ๕ ฯ บาลี : ตสมฺ ๒ึ กาเล๑ นทยิ ๕ํ ทารเกห๓ิ ทิพพฺ ยเต๔ ฯ ในกาล นน้ั : กาลสัตตมี อันเด็ก ท. : ตัวอนภิหติ กัตตา ยอมเลน : กิรยิ าคมุ พากย ในนำ้ : บทท่ีเน่อื งดว ยกิรยิ าคุมพากย ๔. ประโยคเหตุกตั ตุวาจก : แปลมคธเปน ไทย มีลำดบั การแปลดงั นี้ ๑. อาลปนะ ๒. นิบาตตน ขอความ ๓. กาลสตั ตมี ๔. ประธาน ๕. บทที่เนอ่ื งดว ยประธาน ๖. ตัวการิตกรรม ๗. บทท่เี น่อื งดว ยตวั การิตกรรม ๘. กริ ิยาคมุ พากย (อาขยาต) ๙. บททเ่ี น่ืองดว ยกิริยาคมุ พากย (อาขยาต) ตวั อยางประโยคเหตุกตั ตุวาจก บาลี : เตนห๑ิ ตาต๒ ตวฺ ํ๓ มม๔ ปตุ ฺตกํ๕ โอตาเรหิ๖ ฯ ไทย : ขา แตพอ ๒ ถา อยางนัน้ ๑ อ.ทา น๓ ยังบตุ รนอย๕ ของเรา๔ จงใหข ามลง๖ ฯ เตนหิ : นิบาตตน ขอความ ตาต : อาลปนะ ตฺวํ : ประธาน มม : บทที่เนือ่ งดวยการิตกรรม เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 159

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 160 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ปุตตฺ กํ : การติ กรรม โอตาเรหิ : กิรยิ าคุมพากย บาลี : ตทา๑ ราชา๒ นิเวสเน๓ ปจเฺ จกพุทฺธํ๔ โภเชสิ๕ ฯ ไทย : ในกาลนน้ั ๑ อ.พระราชา๒ ทรงยงั พระปจเจกพุทธเจา๔ ใหฉ นั แลว๕ ในพระราชวัง๓ ฯ ตทา : กาลสัตตมี ราชา : ประธาน นเิ วสเน : บทที่เน่ืองดว ยกริ ิยาคุมพากย ปจฺเจกพทุ ธฺ ํ : การติ กรรม โภเชสิ : กิริยาคมุ พากย บาลี : เคเห๑ นปิ นโฺ น๒ มาณโว๓ พุทเฺ ธ๔ มนํ๕ ปสาเทสิ๖ ฯ ไทย : อ.มาณพ๓ ผูน อนแลว ๒ ในเรอื น๑ ยังใจ๕ ใหเลื่อมใสแลว๖ ในพระพุทธเจา๔ ฯ เคเห นปิ นโฺ น : บททเ่ี นอ่ื งดวยประธาน มาณโว : ประธาน พุทฺเธ : บททเ่ี น่อื งดวยกิรยิ าคุมพากย มนํ : การติ กรรม ปสาเทสิ : กิริยาคมุ พากย ประโยคเหตกุ ัตตวุ าจก : แปลไทยเปนมคธ มวี ธิ ีการดังน้ี ๑. อาลปนะ เรียงไวเ ปน ตวั ที่ ๑ หรอื ๒ หรอื ตัวสุดทาย กไ็ ด ๒. นิบาตตนขอความบางตัวเรียงไวเปนตัวท่ี ๑ เชน สเจ, เตนหิ, ยถา, เอวํ เปน ตน บางตัวเรียงไวเปนตวั ที่ ๒ เชน หิ, จ, ปน, ต,ุ เจ เปน ตน ๓. กาลสัตตมี เรยี งไวเปน ตัวท่ี ๑ หรือตอจากนิบาตตน ขอ ความทต่ี อ งเรียงไว เปน ตัวที่ ๑ ๔. ประธาน เรยี งไวเปนตวั ที่ ๑ หรือตอ จากตวั กาลสัตตมี ๕. บททีเ่ น่ืองดว ยประธาน เรียงไวห นาประธาน เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 160

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 161 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò ๖. ตัวการิตกรรม เรียงหลังประธาน หนาตัวกรรมและกิริยาคุมพากย (อาขยาต) ๗. บทที่เนื่องดวยตวั การติ กรรม เรยี งไวหนา ตัวการติ กรรม ๘. กิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวตัวสุดทายของประโยค, ที่เรียงไว ตนประโยคก็มีบาง เชน ประโยคคำถามท่ีไมใส กึ ศัพทไว ประโยคคำส่ัง ประโยค เนนความ เปนตน ๙. บทท่ีเน่ืองดวยกิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวหนากิริยาคุมพากย (อาขยาต) ตวั อยางประโยคเหตุกัตตุวาจก ไทย : ขา แตพ อ ๑ ถา อยางนนั้ ๒ อ.ทา น๓ ยังบตุ รนอย๔ ของเรา๕ จงใหข ามลง๖ ฯ บาลี : เตนหิ๒ ตาต๑ ตวฺ ํ๓ มม๕ ปุตฺตกํ๔ โอตาเรหิ๖ ฯ ขา แตพอ : อาลปนะ ถา อยา งนัน้ : นิบาตตน ขอความ อ.ทา น : ประธาน ยังบตุ รนอ ย : การติ กรรม ของเรา : บทท่ีเนือ่ งดวยการติ กรรม จงใหขามลง : กริ ยิ าคุมพากย ไทย : ในวนั ๑ นน้ั ๒ อ.บิดา๓ ยังธิดา๔ ใหกรออยู๕ ซึง่ ดา ย๖ ฯ บาลี : ตสฺม๒ึ ทวิ เส๑ ปตา๓ ธตี รํ๔ ตนตฺ ๖ึ วฏฏ าเปต๕ิ ฯ ในวนั นน้ั : กาลสัตตมี อ.บดิ า : ประธาน ยงั ธดิ า : การิตกรรม ใหกรออยู : กริ ยิ าคมุ พากย ซึ่งดาย : บทท่เี นื่องดว ยกิรยิ าคุมพากย เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 161

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 162 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๕. ประโยคเหตุกมั มวาจก : แปลมคธเปน ไทย มีลำดับการแปลดังน้ี ๑. อาลปนะ ๒. นบิ าตตนขอ ความ ๓. กาลสัตตมี ๔. ประธาน ๕. บทที่เนอ่ื งดวยประธาน ๖. ตวั อนภหิ ติ กตั ตา ๗. บทที่เนือ่ งดว ยตวั อนภหิ ิตกัตตา ๘. ตัวการติ กรรม ๙. บทท่ีเนอ่ื งดว ยตัวการิตกรรม ๑๐. กิรยิ าคุมพากย (อาขยาต) ๑๑. บททเี่ นื่องดว ยกริ ยิ าคุมพากย (อาขยาต) ตวั อยา งประโยคเหตุกมั มวาจก บาลี : สามิเกน๑ สเู ทน๒ โอทโน๓ ปาจาปย เต๔ ฯ ไทย : อ.ขา วสุก๓ อนั นาย๑ ยงั พอ ครัว๒ ใหหุงอยู๔ ฯ สามเิ กน : ตวั อนภหิ ิตกตั ตา สูเทน : การติ กรรม โอทโน : ประธาน ปาจาปย เต : กริ ิยาคุมพากย บาลี : ตสฺมึ๑ ปน๒ ทวิ เส๓ ปต รา๔ ธีตรํ๕ ปปุ ผฺ านิ๖ วุณาปยนฺเต๗ ฯ ไทย : ก็๒ ในวนั ๓ นนั้ ๑ อ.ดอกไม ท.๖ อันบดิ า๔ ยงั ธิดา๕ ใหร อ ยอยู๗ ฯ ตสมฺ ึ ทวิ เส : กาลสัตตมี ปน : นบิ าตตน ขอความ ปตรา : ตวั อนภหิ ิตกัตตา ธีตรํ : การิตกรรม ปปุ ผฺ านิ : ประธาน วณุ าปย เต : กิรยิ าคมุ พากย เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 162

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 163 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò บาลี : อาวโุ ส๑ พาเลน๒ เมธาว๓ี กุลปุตฺโต๔ นาสาปยเต๕ ฯ ไทย : ดกู อ นผูมอี าย๑ุ อ.กุลบตุ ร๔ ผูม ีปญญา๓ อันคนพาล๒ ใหฉ ิบหายอยู๕ ฯ อาวุโส : อาลปนะ พาเลน : ตวั อนภิหิตกัตตา เมธาวี : บทที่เน่ืองดว ยประธาน กลุ ปุตฺโต : ประธาน นาสาปยเต : กิรยิ าคมุ พากย หมายเหตุ : กิรยิ าคุมพากยใ นเหตุกมั มวาจก เปนอกมั มธาตกุ ็มี ประโยคเหตุกัมมวาจก : แปลไทยเปน มคธ มวี ธิ กี ารดังน้ี ๑. อาลปนะเรยี งไวเ ปนตัวท่ี ๑ หรือ ๒ หรอื ตัวสุดทา ย กไ็ ด ๒. นิบาตตนขอความบางตัวเรียงไวเปนตัวท่ี ๑ เชน สเจ, เตนหิ, ยถา, เอวํ เปน ตน บางตัวเรยี งไวเปน ตัวที่ ๒ เชน ห,ิ จ, ปน, ตุ, เจ เปน ตน ๓. กาลสัตตมี เรียงไวเ ปน ตวั ท่ี ๑ หรือตอ จากนบิ าตตน ขอ ความท่ีตอ งเรยี งไว เปน ตัวที่ ๑ ๔. ประธาน เรยี งไวหนา กิริยาคมุ พากย (อาขยาต) ๕. บทที่เน่อื งดว ยประธาน เรียงไวห นาประธาน ๖. ตัวอนภิหติ กัตตา เรยี งไวเปน ตวั ที่ ๑ หรือหลังกาลสตั ตมี ๗. บททเี่ น่ืองดว ยตวั อนภหิ ติ กตั ตา เรยี งไวหนาตวั อนภหิ ติ กัตตา ๘. ตวั การติ กรรม เรียงหลงั ตัวอนภหิ ติ กัตตา หนาประธานและกิริยาคุมพากย (อาขยาต) ๙. บททเ่ี นื่องดวยตวั การิตกรรม เรยี งไวหนา ตวั การติ กรรม ๑๐. กิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวตัวสุดทายของประโยค, ท่ีเรียงไวตน ประโยคก็มีบาง เชน ประโยคคำถามท่ีไมใส กึ ศัพทไว ประโยคคำส่ัง ประโยคเนน ความ เปน ตน ๑๑. บทท่ีเนื่องดวยกิริยาคุมพากย (อาขยาต) เรียงไวหนากิริยาคุมพากย (อาขยาต) เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 163

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 164 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ตัวอยางประโยคเหตุกัมมวาจก ไทย : อ.ขา วสกุ ๑ อนั นาย๒ ยงั พอ ครัว๓ ใหห ุงอยู๔ ฯ บาลี : สามิเกน๒ สูเทน๓ โอทโน๑ ปาจาปยเต๔ ฯ อ.ขาวสกุ : ประธาน อันนาย : ตัวอนภิหิตกัตตา ยงั พอครวั : การิตกรรม ใหหุงอยู : กริ ิยาคุมพากย ไทย : ก็๑ อ.จีวร๒ อันพระเถระ๓ ยงั สามเณร๔ ใหเ ย็บอย๕ู ฯ บาลี : เถเรน๓ ปน๑ สามเณรํ๔ จวี ร๒ํ สพิ ฺพาปยเต๕ ฯ ก็ : นบิ าตตน ขอความ อ.จีวร : ประธาน อนั พระเถระ : ตวั อนภหิ ิตกตั ตา ยังสามเณร : การติ กรรม ใหเยบ็ อยู : กริ ิยาคมุ พากย ไทย : ในขณะ๑ นน้ั ๒ อ.ประต๓ู แหงพระนคร๔ อนั พระราชา๕ ยงั บคุ คล๖ ใหป ดอยู๗ ฯ บาลี : ตสฺม๒ึ ขเณ๑ รฺา๕ ปคุ คฺ ลํ๖ นครสสฺ ๔ ทฺวาร๓ํ รนุ ธฺ าปยเต๗ ฯ ในขณะ น้ัน : กาลสตั ตมี อ.ประตู : ประธาน แหงพระนคร : บทท่เี นื่องดว ยประธาน อันพระราชา : ตวั อนภิหติ กัตตา ยังบุคคล : การติ กรรม ใหปด อยู : กริ ยิ าคมุ พากย เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 164

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 165 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ประโยคมคธตอ ไปนีใ้ หน กั เรียนแปลเปนไทย กัตตุวาจก ๑. ธมโฺ ม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ ฯ ๒. สปปฺ รุ ิสา สพฺเพสุ สตฺเตสุ เมตตฺ ํ กโรนฺติ ฯ ๓. สปปฺ รุ ิโส รโห จ อาวี จ ปาปกมฺมํ น กรสิ สฺ ติ ฯ ๔. อิมสสฺ ปรุ สิ สฺส ปตุ โฺ ต ปพฺพชิ ฯ ๕. เอสา อิตฺถี นหานาย นทึ คจฉฺ ิ ฯ กัมมวาจก ๑. ตสฺมึ ปน ทิวเส มาตาปตหู ิ อมฺพผลานิ ขาทยิ นฺเต ฯ ๒. ทารเกหิ ปานียํ ปุนปปฺ ุนํ ปวิยสิ ฺสเต ฯ ๓. สทา หิ ปณฺฑเิ ตน กลยฺ าณํ กริยเต ฯ ๔. รโฺ  นาคเรหิ สุงกฺ า ทียนฺเต ฯ ๕. จีวรภาชเกน พหนู ิ จีวรานิ ภกิ ขฺ นู ํ วิภชิยนฺเต ฯ ภาววาจก ๑. อาตาปนา ภิกขฺ นุ า นจิ จฺ ํ ชาครยเต ฯ ๒. ปมตตฺ สฺส ธเนน อจิเรน ขยี เต ฯ ๓. เตน พาเลน อปาเยสุ มุยหฺ เต ฯ ๔. เสฏ โิ น มาตรา สาสเน ปสที ยเต ฯ ๕. สกเุ ณหิ รุกฺเข นสี ีทยเต ฯ เหตกุ ัตตวุ าจก ๑. มหลฺลกกาเล ปพฺพชติ า ชนา วปิ สฺสนํ ภาวเยยยฺ ฯุ ๒. เสฺว ทายกา อมฺเห ภตตฺ ํ โภชาเปสฺสนฺติ ฯ ๓. มยํ สามเณรํ ภาชนํ คาหาเปสสฺ าม ฯ ๔. ราชา วฑฒฺ กึ นาเสสฺสติ ฯ ๕. ปณฑฺ โิ ต อตตฺ านํ ปมํ ตสมฺ ึ คเุ ณ ปตฏิ  าเปยยฺ ฯ 165

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 166 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) เหตุกัมมวาจก ๑. ปณฑฺ ิเตน อตฺตโน กิเลสา เขปเยยยฺ ุ ฯ ๒. เตนหิ ตยา ถปตึ ฆรํ การาปเยถ ฯ ๓. อมิ นิ า ปรุ ิเสน กมุ ารา นิปาตาปย นเฺ ต ฯ ๔. อทิ านิ ปน พาเลน ปุรสิ ํ หตฺถี วสิ สฺ ชฺชาปยเต ฯ ๕. เกน อยํ กุลปตุ ฺโต ปพพฺ าชาปยเต ฯ 166

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 167 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò เฉลยแปลเปนไทย กัตตวุ าจก ๑. อ.ธรรม แล ยอ มรกั ษา ซ่ึงบุคคลผปู ระพฤตซิ ึง่ ธรรมโดยปกติ ฯ ๒. อ.สตั บรุ ุษ ท. ยอมกระทำ ซ่งึ เมตตา ในสัตว ท. ทงั้ ปวง ฯ ๓. อ.สัตบุรุษ จักไมกระทำ ซึง่ กรรมอันลามก ในที่ลับดว ย ในทีแ่ จง ดวยฯ ๔. อ.บุตร ของบรุ ษุ น้ี บวชแลว ฯ ๕. อ.หญิง น่ัน ไปแลว สูแมน ้ำ เพื่ออันอาบน้ำ ฯ กัมมวาจก ๑. ก็ ในวันนัน้ อ.ผลของมะมว ง ท. อนั บดิ าและมารดา ท. ยอ มเคย้ี วกิน ฯ ๒. อ.นำ้ อันบคุ คลพงึ ดืม่ อันเดก็ ท. จกั ด่ืม บอย ๆ ฯ ๓. จริงอยู อ.กรรมอันงาม อนั บณั ฑิต ยอ มกระทำ ในกาลทกุ เมื่อ ฯ ๔. อ.สวย ท. อนั ชาวพระนคร ท. ยอมถวาย แกพ ระราชา ฯ ๕. อ.จีวร ท. มาก อันภิกษุ ผูแบงซึ่งจวี ร ยอมแบง แกภกิ ษุ ท. ฯ ภาววาจก ๑. อนั ภกิ ษุ ผมู คี วามเพยี รเปน เครอื่ งยงั กเิ ลสใหร อ นทว่ั ตน่ื อยู เนอื งนติ ย ฯ ๒. อนั ทรพั ย ของชนผูประมาทแลว ยอ มสนิ้ ไป โดยกาลไมนาน ฯ ๓. อนั คนพาลนั้น ยอมหลง ในอบาย ท. ฯ ๔. อนั มารดา ของเศรษฐี ยอมเล่ือมใส ในพระศาสนา ฯ ๕. อนั นก ท. ยอ มจบั บนตน ไม ฯ เหตกุ ตั ตุวาจก ๑. อ.ชน ท. ผบู วชแลว ในกาลแหง ตนเปน คนแก ยงั วปิ ส สนา พงึ ใหเ จรญิ ฯ ๒. อ.ทายก ท. ยงั เรา ท. จักใหฉนั ซง่ึ ภัตร ในวันพรุง ฯ ๓. อ.เรา ท. ยังสามเณร จักใหถือเอา ซ่ึงภาชนะ ฯ ๔. อ.พระราชา ยังนายชาง จักใหฉ บิ หาย ฯ ๕. อ.บณั ฑติ ยังตน พึงใหต ัง้ อยูเฉพาะ ในคุณนัน้ กอน ฯ 167

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 168 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) เหตุกัมมวาจก ๑. อ.กเิ ลส ท. ของตน อนั บัณฑติ พึงใหส้ินไป ฯ ๒. ถา อยางนัน้ อ.เรอื น อันทา น ยังชางไม พงึ ใหก ระทำ ฯ ๓. อ.กมุ าร ท. อนั บุรษุ น้ี ยอ มใหตกไป ฯ ๔. ก็ อ.ชาง อันคนพาล ยงั บรุ ษุ ใหป ลอ ยอยู ในกาลน้ี ฯ ๕. อ.กลุ บุตร น้ี อันใคร ยอมใหบ วช ฯ 168

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 169 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ประโยคภาษาไทยตอไปนีใ้ หน ักเรียนแปลเปนมคธ กตั ตวุ าจก ๑. ก็ อ.บณั ฑติ ท. ยอ มกระทำ ซึ่งกรรมอนั งาม เพื่อประโยชนเกอ้ื กลู เพ่ือความสขุ แกตนดวยนนั่ เทียว แกชน ท. เหลาอ่ืนดวย ฯ ๒. อ.ทายก ท. ไดแ ลว ซง่ึ โอกาสเทยี ว เพ่อื อนั ถวาย ซงึ่ ภตั ร แกภ ิกษุ ท. ฯ ๓. ก็ อ.เรา จักแสดง ซง่ึ ธรรม แกชน ท. ในธรรมสภา ในเวลาเย็น ในวันน้ี ฯ ๔. อ.ภกิ ษุ ท. นงั่ แลว ในเรอื น ของเศรษฐี ผูมโี ภคะ ฯ ๕. อ.อาพาธ เกิดขน้ึ แลว แกเ ศรษฐี ฯ กมั มวาจก ๑. อ.ศษิ ย ท. อันอาจารย จงกลาวสอน เนอื งนติ ย ฯ ๒. อ.ความสุข อันสตั ว ท. ยอ มปรารถนา ในกาลทกุ เมอ่ื ฯ ๓. อ.ศษิ ย ผูเปน ที่รัก ของตน อนั อาจารย จะสงไป สสู ำนัก ของทาน ฯ ๔. อ.พระราชา อนั ชน ท. ยอมนับถือ ฯ ๕. อ.พระพทุ ธเจา อนั คนผรู วู เิ ศษ ท. ยอ มบชู า ฯ ภาววาจก ๑. อันชน ท. เหลา นนั้ ไมป ระมาทอยู ฯ ๒. อันสตั ว ท. ผมู ีศีลเปนท่รี ัก จกั พน จากอบาย ฯ ๓. อันศรี ษะ ของทา น พงึ แตก โดยสวนเจด็ ในกาลน้ี แน ฯ ๔. อนั แสงสวาง แหง ปญญา ยอมรุงเรือง กวา แสงสวาง ท. ทงั้ ปวง ฯ ๕. อนั พระราชา ยอมเสด็จไป สพู ระอทุ ยาน ดว ยบริวาร ใหญ ฯ เหตุกตั ตุวาจก ๑. อ.บดิ าและมารดา ท. ยงั บตุ ร ของตน ยอมใหศ ึกษา ซง่ึ ศิลปะ ฯ ๒. อ.เศรษฐี ยงั บุรษุ ผูฉลาด ใหนมิ นตแ ลว ซึง่ ภกิ ษุ ท. ฯ ๓. อ.ทา น ท. ยงั ชนผกู ระทำซง่ึ การงาน ท. จงใหฉ าบ ซงึ่ ฝา ของโรงอโุ บสถ ฯ 169

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 170 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ๔. อ.พระราชา ยงั กมุ าร นี้ ใหบ รรพชาแลว ในสำนัก ของพระเถระ ฯ ๕. อ.มาณพ ยงั หนทาง ใหหมดจดแลว โดยเดอื น ท. ๒ ฯ เหตุกมั มวาจก ๑. อ.พระราชวงั ของพระราชา อนั ใคร ยังนายชาง ใหสรางอยู ฯ ๒. อ.ชา ง เชอื กน้ี อันพระราชา ยงั ควาญชา ง ใหฝ กอยู ในกาลนี้ ฯ ๓. ถาวา อ.เหตนุ ้ี อนั ทา น ยงั เรา จักใหร ูแลวไซร, อ.โจรน้ัน อนั เรา ยงั บคุ คล จักใหฆาแลว ฯ ๔. อ.สะพาน น้ี อันเศรษฐี ยงั นายชา ง ยอ มใหกระทำ ดวยทรัพย ท. มาก ฯ ๕. อ.นก อันบรุ ษุ ยงั ทารก ท. ยอ มใหจบั ฯ 170

เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) ¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 171 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò เฉลยแปลเปนมคธ กัตตวุ าจก ๑. ปณฺฑิตา ปน อตฺตโน เจว ปเรสฺจ หติ าย สขุ าย กลยฺ าณํ กโรนฺติ ฯ ๒. ทายกา ภิกฺขนู ํ ภตฺตํ ทาตุ โอกาสํ ว ลภึสุ ฯ ๓. อชชฺ ปน สายํ ธมฺมสภายํ ชนานํ ธมมฺ ํ เทเสสสฺ ามิ ฯ ๔. ภกิ ฺขู โภคโิ น เสฏิโน เคเห นสิ ที ึสุ ฯ ๕. เสฏ โิ น อาพาโธ อปุ ปฺ ชชฺ ิ ฯ กมั มวาจก ๑. อาจริเยน สสิ ฺสา นจิ จฺ ํ โอวทยิ นตฺ ุ ฯ ๒. สทา สตเฺ ตหิ สุขํ ปตถฺ ิยเต ฯ ๓. อาจรเิ ยน อตฺตโน ปโ ย สสิ โฺ ส ตว สนฺติกํ เปสิยเต ฯ ๔. ชเนหิ ราชา มานยิ เต ฯ ๕. วิฺูหิ พทุ โฺ ธ ปูชยิ เต ฯ ภาววาจก ๑. เตหิ ชเนหิ น ปมชชฺ ยเต ฯ ๒. ปยสเี ลหิ สตฺเตหิ อปายโต มุจจฺ ยสิ ฺสเต ฯ ๓. นูน อิทานิ ตว สเี สน สตฺตธา ภชิ ชฺ เยถ ฯ ๔. ปฺ าย ปภาย สพฺพาหิ ปภาหิ วโิ รจยเต ฯ ๕. รฺา มหนฺเตน ปรวิ าเรน อยุ ยฺ านํ คจฉฺ ยเต ฯ เหตกุ ัตตวุ าจก ๑. มาตาปตโร อตตฺ โน ปตุ ตฺ ํ สปิ ปฺ  สิกฺขาเปนตฺ ิ ฯ ๒. เสฏ  ปณฑฺ ติ ปุริสํ ภิกฺขู นมิ นตฺ าเปสิ ฯ ๓. ตมุ เฺ ห กมมฺ กาเร อโุ ปสถาคารสฺส ภิตตฺ ึ ลิมฺปาเปถ ฯ ๔. ราชา อิมํ กุมารํ เถรสฺส สนตฺ เิ ก ปพฺพาเชสิ ฯ ๕. มาณโว ทฺวีหิ มาเสหิ มคฺคํ วิโสธยิ ฯ 171

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 172 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò เหตกุ มั มวาจก ๑. เกน วฑฺฒกึ รฺโ นิเวสนํ การาปยเต ฯ ๒. อิทานิ รฺา หตถฺ าจรยิ ํ อยํ หตฺถี ทมาปยเต ฯ ๓. สเจ เต มํ อทิ ํ ชานาปยสิ สฺ า, มยา ปุคฺคลํ โส โจโร ฆาตาปย สิ ฺสา ฯ ๔. เสฏ ินา ถปตึ พหูหิ ธเนหิ อยํ เสตุ การาปยเต ฯ ๕. ปรุ ิเสน ทารเก สกโุ ณ คาหาปยเต ฯ ใหน กั เรยี นใชศ พั ทท ใ่ี หไ วน ี้ เพม่ิ เตมิ กบั ศพั ทอ น่ื ๆ ประกอบเปน ประโยคตาง ๆ จะเปน วาจกใดก็ได อยางนอ ย ๒ ประโยค ขอ ศัพทนาม ศพั ทก ริ ยิ า (ธาตุ) ๑. เสฏ ี คมฺ ๒. กุมาร ภุชฺ ๓. อมหฺ ทา ๔. เถร สุ ๕. ปตุ ตฺ ทสิ ฺ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 172

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 173 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò นามศพั ท นามศพั ท – กิริยาศพั ท – คำแปล อยยฺ (ปุง.) เตมาส (นปุง.) คำแปล ปริสมชฌฺ (นปงุ .) พระผเู ปน เจา อุปาสิกา (อติ .) หมวดสามแหงเดือน,ประชุมแหงเดือนสาม จติ ฺต (นปงุ .) ทามกลางแหงบริษทั มหนตฺ (วิ.) อุบาสิกา มหาเมฆ (ปุง.) จิต คตี สททฺ (ปุง.) ใหญ โสสานิก (วิ.) เมฆใหญ มจฉฺ าทิ (วิ.) เสียงแหงเพลงขับ เมธาวี (ว.ิ ) ผอู ยูป าชาเปน วัตร อปปฺ มาท (ปงุ .) มปี ลาเปนตน ตาปส (ปงุ .) มปี ญญา อมพฺ (ปุง.) ความไมป ระมาท อนตุ ีร (วิ.) ดาบส โจรภย (นปงุ .) มะมวง นที (อิต.) อนั ไปตามซึ่งฝง ปุตตฺ ก (ปงุ .) ภยั แตโ จร นิเวสน (นปงุ .) แมน้ำ ปจฺเจกพุทธฺ (ปงุ .) ลูกนอ ย, ลูกชาย นิปนนฺ (ว.ิ ) ทเี่ ปนทอี่ ยู, นิเวศน, ตำหนัก พทุ ฺธ (ปงุ .) พระปจ เจกพุทธเจา นอนแลว พระพทุ ธเจา เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 173

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 174 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò นามศัพท คำแปล ตนตฺ ิ (อติ .) ดาย, สาย, เชือก, แบบแผน สามกิ (ปุง.) นาย, เจานาย, สามี สทู (ปุง.) พอครัว โอทน (ปงุ ., นปุง.) ขา ว, ขาวสกุ , ขา วสวย ปุปผฺ (นปุง.) ดอกไม พาล (ปงุ .) คนพาล, คนเขลา กลุ ปตุ ตฺ (ปงุ .) กุลบุตร นคร (นปุง.) เมือง, นคร ทวฺ าร (นปงุ .) ประตู, ชอง, ทวาร ธมมฺ จารี (วิ.) ผูประพฤติซึ่งธรรมโดยปกติ, ผูมีอันประพฤติซึ่งธรรม เปน ปกติ สปปฺ ุริส (ปุง.) สัตบรุ ษุ , สปั บรุ ษุ สตตฺ (ปุง.) สัตว เมตตฺ า (อิต.) เมตตา, ความรัก, ความเยอ่ื ใย ปาปกมมฺ (นปุง.) กรรมชว่ั , กรรมอันลามก, บาปกรรม นหาน (นปุง.) การอาบ, การอาบนำ้ มาตาปตุ (ปงุ .) บดิ าและมารดา, พอและแม ปานยี (นปุง.) น้ำอนั ..พงึ ด่ืม, น้ำ, นำ้ ดมื่ กลยฺ าณ (นปุง.) กรรมอนั งาม, กรรมดี นาคร (ปุง.) ชนผเู กิดในนคร, ชนผอู ยูในนคร, ชาวพระนคร สงุ กฺ (ปุง., นปงุ .) สวย, ภาษี, อากร จวี รภาชก (ว.ิ ) ผแู จกซงึ่ จีวร พหุ (ว.ิ ) มาก เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 174

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 175 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò นามศพั ท คำแปล อาตาป (ว.ิ ) ผูมีความเพียรเปนเคร่ืองยังกิเลสใหเรารอน, ผูยังกิเลส ปมตตฺ (ว.ิ ) ใหแ หง ไป อจิร (วิ.) ผูประมาทแลว อปาย (ปุง.) ไมนาน สาสน (นปงุ .) อบาย, โลกอนั ปราศจากความเจรญิ สกุณ (ปงุ .) ศาสนา, คำสอน มหลลฺ กกาล (ปงุ .) นก กาลแหง ตนเปน คนแก, กาลแหง ตนเปน ผถู อื เอาซง่ึ ความ ปพฺพชติ (ว.ิ ) เปน แหง คนแก วปิ สฺสนา (อติ .) ผบู วชแลว, บรรพชาแลว ทายก (ปงุ .) วิปส สนา, ปญญาอันเหน็ แจง ภาชน (นปุง.) ทายก, ผูใ ห วฑฺฒกี (ปุง.) ภาชนะ ปม (วิ.) นายชาง คุณ (ปงุ .) ท่ี ๑, กอน กเิ ลส (ปุง.) คุณ หติ (นปงุ .) หติ า (อติ .) กเิ ลส, เคร่ืองเศรา หมอง สขุ (นปุง.) ประโยชน, ประโยชนเ กอื้ กลู ทาตุ (อพั . ปจ จัย) สุข, ความสขุ , ความสบาย โอกาส (ปุง.) เพือ่ อนั ให ธมมฺ สภา (อิต.) โอกาส, ชอง อาพาธ (ปุง.) ธรรมสภา, โรงเปนทีก่ ลาวกบั เปนทีแ่ สดงซ่งึ ธรรม อาพาธ, ความเจ็บไข, ความปว ยไข เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 175

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 176 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅÁ‹ ò นามศพั ท คำแปล สิสสฺ (ปงุ .) ศษิ ย, ลกู ศษิ ย ปย (วิ.) เปน ทีร่ ัก สนฺติก (นปงุ .) สำนกั ปยสีล (ว.ิ ) ผูม ีศลี เปน ทร่ี กั สีส (นปงุ .) ศีรษะ สตฺตธา (อพั .นบิ าต) โดยสว นเจ็ด ปริวาร (ปุง.) บรวิ าร, เครอื่ งหอ มลอ ม อุยยฺ าน (นปุง.) อุทยาน, สวน สิปฺป (นปุง.) ศลิ ปะ อุโปสถาคาร (ปงุ ., นปงุ .) โรงแหงอุโบสถ ภิตตฺ ิ (อติ .) ฝา, ฝาเรือน มคคฺ (ปงุ .) ทาง, หนทาง, มรรค หตฺถาจริย (ปุง.) อาจารยผ ูฝก ซ่ึงชาง, ควาญชาง เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 176

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 177 ÇªÔ ÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò กริ ยิ าศพั ท คำแปล ที่มาของกริ ยิ าศพั ท วเสยฺยุ พงึ อยู วส+ฺ อ+เอยฺยุ เทเสติ ยอ มแสดง ทิส+ฺ เณ+ติ ชานาสิ ยอ มรู า+นา+สิ อฏุ  หิ ตัง้ ขึ้นแลว อุ+า+ห+อี สุณิยเต ฟงอยู สุ+ณา+ย+อิ+เต ววิ ชชฺ ยิ เต ยอ มเวน ว+ิ วชฺ+ย+อ+ิ เต รกขฺ ิยเต ยอมรักษา รกฺข+ย+อ+ิ เต อภิสปย ามิ ยอมแชง อภิ+สป+ฺ ย+อิ+มิ วลิ ุมปฺ ย นฺเต ยอ มย้อื แยง ว+ิ ลุปฺ+ย+อิ+อนฺเต คจฺฉยเต ยอ มไป คมฺ++ย+เต ปฏปิ ชชฺ เต จะปฏบิ ัติ ปฏ+ิ ปทฺ+ย+เต กิลมยเต ยอมลำบาก กิลมฺ+ย+เต สียเต ยอ มนอน ส+ี ย+เต ทิพฺพยเต ยอ มเลน ทวิ +ฺ ย+เต โอตาเรหิ จงใหขา มลง โอ+ตร+ฺ เณ+หิ โภเชสิ ใหกนิ แลว ภุชฺ+เณ+ส+อี ปสาเทสิ ใหเ ล่ือมใสแลว ป+สทฺ+เณ+ส+อี วฏฏ าเปติ ใหกรออยู วฏฏ +ณาเป+ติ ปาจาปย เต ใหห ุงอยู ปจฺ+ณาเป+ย+อ+ิ เต วณุ าปย นเฺ ต ใหร อยอยู ว+ุ ณา+ณาเป+ย+อ+ิ อนฺเต นาสาปย เต ใหฉบิ หายอยู นสฺ+ณาเป+ย+อิ+เต สพิ พฺ าปยเต ใหเ ยบ็ อยู สวิ ฺ+ณาเป+ย+อ+ิ เต เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 177

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 178 ÇÔªÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò กริ ยิ าศัพท คำแปล ที่มาของกริ ิยาศพั ท รุธฺ+ณาเป+ย+อ+ิ เต รุนฺธาปย เต ใหปดอยู รกฺข+อ+ติ กร+ฺ โอ+อนตฺ ิ รกฺขติ ยอ มรักษา กรฺ+อ+อิ+สสฺ ติ ป+วช+ฺ อ+อี กโรนฺติ ยอมกระทำ คมฺ+อ+อี ขาทฺ+ย+อิ+อนเฺ ต กรสิ ฺสติ จักกระทำ ปา+ย+อิ อาคมหนา ย+อิ+สสฺ เต กรฺ+ย+อิ+เต ปพพฺ ชิ บวชแลว ทา+ย+อ+ิ อนเฺ ต วิ+ภชฺ+ย+อิ+อนเฺ ต คจฉฺ ิ ไปแลว ชาครฺ+ย+เต ขี+ย+เต ขาทยิ นเฺ ต ยอ มเคีย้ วกนิ มหุ ฺ+ย+เต ป+สทฺ+ย+เต ปวิยิสฺสเต จกั ดื่ม นิ+สท+ฺ ย+เต ภู+ณย+เอยฺยุ กริยเต ยอมทำ ภุชฺ+ณาเป+สสฺ นฺติ คห+ฺ ณาเป+สสฺ าม ทียนเฺ ต ยอ มให นสฺ+เณ+สสฺ ติ ปฏ+ิ า+ณาเป+เอยยฺ วภิ ชิยนฺเต ยอมแจก ขี+ณาเป+ย+อ+ิ เอยฺยุ ชาครยเต ตื่นอยู ขียเต ยอมส้นิ ไป มุยหฺ เต ยอมหลง ปสที ยเต ยอ มเล่ือมใส นิสที ยเต ยอ มนั่ง ภาวเยยยฺ ุ พึงใหเจรญิ โภชาเปสฺสนฺติ จกั ใหกนิ คาหาเปสฺสาม จักใหถอื เอา นาเสสสฺ ติ จกั ใหฉ บิ หาย ปติฏ าเปยฺย พึงใหต ัง้ อยเู ฉพาะ เขปเ ยยฺยุ พงึ ใหส ้นิ ไป เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 178

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 179 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò กริ ิยาศพั ท คำแปล ท่มี าของกิรยิ าศพั ท กรฺ+ณาเป+ย+อิ+เอถ การาปเ ยถ พึงใหกระทำ น+ิ ปต+ฺ ณาเป+ย+อ+ิ อนเฺ ต ว+ิ สช+ฺ ณาเป+ย+อิ+เต นปิ าตาปย นเฺ ต ยอ มใหต กไป ป+วช+ฺ ณาเป+ย+อิ+เต ลภฺ+อ+อุ วิสฺสชชฺ าปย เต ยอมใหปลอย ทิส+ฺ เณ+สสฺ ามิ นิ+สทฺ+อ+อุ ปพพฺ าชาปย เต ยอ มใหบวช อุ+ปท+ฺ ย+อี โอ+วทฺ+ย+อิ+อนตฺ ุ ลภสึ ุ ไดแ ลว ปตฺถ+ย+อ+ิ เต ปส ฺ+เณ+ย+อิ+เต เทเสสฺสามิ จกั แสดง มานฺ+ย+อิ+เต ปูชฺ+ย+อิ+เต นิสที สึ ุ นัง่ แลว ป+มท+ฺ ย+เต มุจ+ฺ ย+อ+ิ สฺสเต อุปปฺ ชฺชิ เกิดขึ้นแลว ภทิ ฺ+ย+เอถ ว+ิ รุจฺ+ย+เต โอวทิยนฺตุ จงกลา วสอน สกิ ขฺ +ณาเป+อนตฺ ิ นิ+มนตฺ +ณาเป+ส+อี ปตฺถยิ เต ยอมปรารถนา ลิป+ฺ ณาเป+ถ วิ+สธุ ฺ+ณย+อี เปสิยเต ยอมสงไป กรฺ+ณาเป+ย+อ+ิ เต มานยิ เต ยอ มนบั ถอื ปูชิยเต ยอมบชู า ปมชฺชยเต ประมาทอยู มจุ ฺจยสิ ฺสเต จกั พน ภชิ ฺชเยถ พึงแตก วิโรจยเต ยอมรงุ เรือง สิกขฺ าเปนฺติ ยอมใหศ กึ ษา นิมนฺตาเปสิ ใหน ิมนตแ ลว ลิมฺปาเปถ จงใหฉาบ วิโสธยิ ใหห มดจดวิเศษแลว การาปย เต ใหกระทำอยู เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 179

¡ÒÃàÃÂÕ ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 180 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò กริ ิยาศพั ท คำแปล ทมี่ าของกิริยาศพั ท ทมาปย เต ยอมใหฝ ก ทม+ฺ ณาเป+ย+อิ+เต ชานาปยสิ ฺสา จกั ใหรแู ลว า+นา+ณาเป+ย+อิ อาคมหนา ย+อ+ิ สสฺ า ฆาตาปย ิสฺสา จักใหฆ า แลว วธ+ฺ ณาเป+ย+อิ อาคมหนา ย+อ+ิ สสฺ า คาหาปยเต ยอมใหจับ คหฺ+ณาเป+ย+อิ+เต ธาตุบางตัว ลงปจจัยประจำหมวดธาตุ แตมิไดใสไวในที่น้ี เพราะเกรงวาจะ สับสน ผศู กึ ษาพงึ กำหนดดตู ามปจ จัยประจำหมวดธาตุนน้ั ๆ เถดิ . คำยอ ปุง. : ปุงลงิ ค นปงุ . : นปุงสกลงิ ค อติ . : อิตถลี ิงค ว.ิ : วเิ สสนะ อัพ. : อพั ยยศพั ท เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 180

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 181 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅ‹Á ò แบบประเมินผลตนเองกอ นเรียน หนว ยที่ ๖ จดุ ประสงค เพ่ือประเมินความรูเดิมของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง “การแปลมคธเปน คำส่ัง ไทยและแปลไทยเปน มคธ ในวาจกทงั้ ๕ ทใี่ ชก ริ ยิ าอาขยาตคมุ พากย” ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบที่ถูกตอง ที่สุดเพียงขอเดยี ว ๑. คำวา “อุปาสโก ภตตฺ ํ ภุชฺ ิสฺสติ” ตรงกับขอใด ? ก. อ.ภัตร อนั อบุ าสก ยอ มบรโิ ภค ข. อ.อุบาสก ท. บรโิ ภคแลว ซงึ่ ภตั ร ค. อ.อบุ าสก จกั บริโภค ซงึ่ ภัตร ง. อ.อบุ าสก ยอ มบริโภค ซงึ่ ภัตร ๒. คำวา “ทกุ ฺกฏํ กมฺมํ ปณฑฺ ิเตน น กรเิ ยถ” ตรงกบั ขอใด ? ก. อ.บณั ฑติ ไมพงึ กระทำ ซ่งึ กรรม อนั ชั่ว ข. อันบณั ฑิต ยอ มไมก ระทำ ซ่งึ กรรม อนั ชั่ว ค. อ.กรรม อนั ชัว่ อนั บัณฑติ ยงั บคุ คล ไมใหก ระทำแลว ง. อ.กรรม อนั ชั่ว อนั บณั ฑิต ไมพงึ กระทำ ๓. คำวา “อวสฺสํ ปน สตฺเตน มรยเต” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. ก็ อนั สตั ว ยอ มตาย แนแ ท ข. ก็ อนั บุคคล ยอ มตาย เพราะสัตว แนแ ท ค. ก็ อันสัตว พึงตาย แนแ ท ง. ก็ อนั สตั ว ยงั บคุ คล ยอมใหต าย แนแท ๔. คำวา “ปต า ปุตตฺ ํ ภกิ ฺขู วนฺทาเปส”ิ ตรงกับขอ ใด ? ก. อ.บดิ า ไหวแลว ซ่งึ ภิกษุ ท. ดวยบุตร ข. อ.บตุ ร ยงั บิดา ใหไ หวแลว ซึง่ ภกิ ษุ ท. ค. อ.ภกิ ษุ ท. อนั บดิ า ยังบุตร ยอมใหไหว ง. อ.บิดา ยังบตุ ร ใหไหวแ ลว ซงึ่ ภิกษุ ท. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 181

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 182 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò ๕. คำวา “เสฏ นิ า ปนายํ วหิ าโร การาปยสิ สฺ เต” ตรงกับขอใด ? ก. ก็ อ.วหิ ารน้ี อันเศรษฐี ยังบุคคล ใหกระทำอยู ข. ก็ อ.วิหารน้ี อนั เศรษฐี จกั กระทำ ค. ก็ อ.วิหารนี้ อนั เศรษฐี ยังบุคคล จกั ใหก ระทำ ง. ก็ อ.วหิ ารน้ี อันเศรษฐี ยงั บคุ คล จักไดใหก ระทำแลว ๖. คำวา “อ.เรา เค้ยี วกินอยู ซึง่ ผลไม ท.” ตรงกบั ขอใด ? ก. ผลานิ ขาทติ ข. ผลานิ ขาทามิ ค. ผลานิ ขาทสิ ง. ผลานิ ขาทาม ๗. คำวา “อ.ศาลา อนั ชา ง จกั ทำลาย” ตรงกับขอ ใด ? ก. หตถฺ ินา สาลา ภินทฺ ิยสิ สฺ เต ข. หตฺถี สาลํ ภินฺทิสสฺ ติ ค. หตฺถนิ า สาลา ภินฺทสิ สฺ ติ ง. หตถฺ ี สาลํ ภินทฺ ยิ สิ สฺ เต ๘. คำวา “อันทาน พึงตาย เพราะมารยาของหญงิ ” ตรงกับขอ ใด ? ก. ตยา อติ ถฺ ีมายาย มิยฺเยยยฺ าสิ ข. ตฺวํ อิตถฺ มี ายาย มิยเฺ ยถ ค. ตยา อติ ฺถีมายาย มิยเฺ ยถ ง. ตยา อิตฺถีมายาย มเรยยฺ าถ ๙. คำวา “อ.พระเถระ ยงั สามเณร ใหต ม แลว ซ่ึงน้ำ” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. เถโร สามเณรํ อทุ กํ ปาเจสสฺ ติ ข. เถโร สามเณรํ อทุ กํ ปจิ ค. เถโร สามเณเรน อุทกํ ปาจาปย ิ ง. เถโร สามเณรํ อุทกํ ปาเจสิ ๑๐. คำวา “อ.นก อนั มาดา ยังธิดา จงใหป ลอ ย” ตรงกบั ขอ ใด ? ก. มาตยุ า ธตี รํ สกโุ ณ โมเจตุ ข. มาตรา ธีตรํ สกโุ ณ มุจฺ าปยตํ ค. มาตยุ า ธตี า สกุณํ โมเจตุ ง. มาตรา ธตี ยุ า สกุณา มุจฺ าเปตุ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 182

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 183 ÇÔªÒºÒÅäÕ ÇÂҡó àÅ‹Á ò แบบประเมนิ ผลตนเองหลังเรียน หนว ยที่ ๖ จดุ ประสงค เพ่ือประเมินผลความกาวหนาของนักเรียนเก่ียวกับเรื่อง “การแปล คำสง่ั มคธเปนไทยและแปลไทยเปนมคธ ในวาจกท้ัง ๕ ท่ีใชกิริยา อาขยาตคมุ พากย” ใหนักเรียนอานคำถามแลวเขียนวงกลมลอมรอบขอคำตอบที่ถูกตอง ทส่ี ดุ เพยี งขอ เดยี ว ๑. คำวา “อปุ าสโก ภตฺตํ ภุ ฺชสิ ฺสต”ิ ตรงกับขอ ใด ? ก. อ.อบุ าสก ท. บรโิ ภคแลว ซึง่ ภัตร ข. อ.ภตั ร อันอบุ าสก ยอ มบรโิ ภค ค. อ.อบุ าสก ยอมบรโิ ภค ซ่ึงภตั ร ง. อ.อบุ าสก จกั บรโิ ภค ซึง่ ภัตร ๒. คำวา “ทกุ ฺกฏํ กมมฺ ํ ปณฑฺ ิเตน น กรเิ ยถ” ตรงกบั ขอใด ? ก. อ.กรรม อันชั่ว อันบณั ฑติ ไมพ ึงกระทำ ข. อ.กรรม อันชว่ั อนั บณั ฑติ ยงั บคุ คล ไมใ หก ระทำแลว ค. อันบณั ฑิต ไมพ ึงกระทำ ซง่ึ กรรม อนั ชว่ั ง. อนั บณั ฑิต ยอ มไมกระทำ ซ่งึ กรรม อนั ช่วั ๓. คำวา “อวสฺสํ ปน สตเฺ ตน มรยเต” ตรงกบั ขอใด ? ก. ก็ อันสตั ว พงึ ตาย แนแท ข. ก็ อนั สตั ว ยังบคุ คล ยอมใหตาย แนแ ท ค. ก็ อันสัตว ยอมตาย แนแ ท ง. ก็ อนั บคุ คล ยอ มตาย เพราะสัตว แนแ ท ๔. คำวา “ปตา ปุตฺตํ ภิกขฺ ู วนฺทาเปส”ิ ตรงกบั ขอใด ? ก. อ.บดิ า ยงั บุตร ใหไหวแลว ซงึ่ ภกิ ษุ ท. ข. อ.ภิกษุ ท. อันบิดา ยังบุตร ยอมใหไ หว ค. อ.บดิ า ไหวแ ลว ซ่งึ ภกิ ษุ ท. ดว ยบตุ ร ง. อ.บตุ ร ยังบดิ า ใหไหวแลว ซ่งึ ภิกษุ ท. เน้อื ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 183

¡ÒÃàÃÕ¹ - ¡ÒÃÊ͹ 184 ÇªÔ ÒºÒÅÕäÇÂҡó àÅÁ‹ ò ๕. คำวา “เสฏฐ ินา ปนายํ วิหาโร การาปยิสฺสเต” ตรงกับขอใด ? ก. ก็ อ.วหิ ารนี้ อันเศรษฐี จกั กระทำ ข. ก็ อ.วิหารน้ี อันเศรษฐี ยังบคุ คล จกั ใหก ระทำ ค. ก็ อ.วิหารนี้ อนั เศรษฐี ยงั บุคคล จักไดใ หกระทำแลว ง. ก็ อ.วิหารน้ี อนั เศรษฐี ยงั บุคคล ใหกระทำอยู ๖. คำวา “อ.เรา เค้ียวกนิ อยู ซึง่ ผลไม ท.” ตรงกบั ขอใด ? ก. ผลานิ ขาทสิ ข. ผลานิ ขาทติ ค. ผลานิ ขาทาม ง. ผลานิ ขาทามิ ๗. คำวา “อ.ศาลา อันชา ง จกั ทำลาย” ตรงกับขอใด ? ก. หตฺถี สาลํ ภินฺทิสสฺ ติ ข. หตถฺ ี สาลํ ภินทฺ ิยิสฺสเต ค. หตฺถินา สาลา ภนิ ฺทิยิสฺสเต ง. หตถฺ นิ า สาลา ภนิ ฺทิสสฺ ติ ๘. คำวา “อนั ทา น พึงตาย เพราะมารยาของหญงิ ” ตรงกับขอ ใด ? ก. ตยา อติ ฺถีมายาย มิยฺเยถ ข. ตยา อติ ถฺ มี ายาย มยิ ฺเยยยฺ าสิ ค. ตยา อิตถฺ ีมายาย มเรยยฺ าถ ง. ตฺวํ อติ ฺถีมายาย มิยเฺ ยถ ๙. คำวา “อ.พระเถระ ยงั สามเณร ใหตม แลว ซ่ึงนำ้ ” ตรงกับขอ ใด ? ก. เถโร สามเณรํ อทุ กํ ปจิ ข. เถโร สามเณรํ อทุ กํ ปาเจสิ ค. เถโร สามเณรํ อุทกํ ปาเจสฺสติ ง. เถโร สามเณเรน อุทกํ ปาจาปย ิ ๑๐. คำวา “อ.นก อนั มาดา ยังธดิ า จงใหป ลอ ย” ตรงกบั ขอใด ? ก. มาตยุ า ธตี รํ สกุโณ โมเจตุ ข. มาตรา ธีตุยา สกณุ า มุฺจาเปตุ ค. มาตุยา ธีตา สกณุ ํ โมเจตุ ง. มาตรา ธตี รํ สกุโณ มุฺจาปยตํ เนือ้ ใน ไวยากรณ (àÅÁ‹ 2) 184


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook