Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แฟ้มสะสมงานเด็กชายธนชัย ปาละวงค์

แฟ้มสะสมงานเด็กชายธนชัย ปาละวงค์

Published by patcharanan, 2023-04-19 16:04:49

Description: ๗๔๒ เด็กชายธนชัย ปาละวงค์_

Search

Read the Text Version

131  นักเรียนถูกปล่อยปละละเลยใหเ้ ล่นโทรศัพทห์ รอื เลน่ คอมพวิ เตอรโ์ ดยไม่มกี ารควบคมุ ดแู ล เปน็ บางครงั้  นกั เรยี นถกู ปลอ่ ยปละละเลยใหเ้ ล่นโทรศพั ท์หรอื เล่นคอมพิวเตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดแู ล บอ่ ยครั้ง  สภาพแวดลอ้ มทีใ่ กลช้ ิดทำให้นักเรียนมีพฤตกิ รรมเลียนแบบ เชน่ ผูด้ ูแลเล่นเกมคอมพวิ เตอร์ หรอื มือถอื อยา่ งไมร่ ะมดั ระวัง  นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ทกี่ ้าวร้าวรุนแรง เมื่อถูกหา้ ม ยึด หรอื จำกดั เวลาใน การเลน่ เกม  ผูด้ แู ลขาดความเขา้ ใจในสื่อออนไลนไ์ ม่สามารถแนะนำให้นักเรยี นเลน่ เกมอย่างระมดั ระวงั ได้ ๓) ยาเสพตดิ  นกั เรียนได้รับการดูแลเลยี้ งดูจากผ้ปู กครองและผดู้ ูแลเป็นอย่างดี  นกั เรยี นสามารถรับร้ถู ึงโทษของยาเสพตดิ  นักเรียนอยู่ในสภาพแวดล้อม ครอบครัวหรือชุมชน ที่มีการใช้สารเสพติดหรือมีความ เกย่ี วขอ้ งกบั ยาเสพติด และการกระทำผดิ กฎหมาย  นักเรียนถกู ชกั ชวนจากผอู้ ่นื ได้ง่าย  นักเรยี นมพี ฤติกรรม เลยี นแบบหรือทำตามผอู้ ่ืน  นกั เรยี นเคยทดลองใช้ยาเสพตดิ  นักเรียนใชย้ าเสพตดิ  นกั เรียนถกู หลอกใชใ้ ห้เปน็ ผู้สง่ -รับ ยาเสพตดิ  นกั เรยี นเปน็ ผู้ขายหรอื ผซู้ ้ือยาเสพตดิ ๔) โรคระบาดในมนษุ ย์  นกั เรยี นไดร้ บั การดูแลเลยี้ งดูจากผู้ปกครองและผดู้ แู ลเปน็ อยา่ งดี  นักเรยี นมผี ู้ดูแลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรยี นมกั ถูกท้ิงให้อยตู่ ามลำพังหรอื ไม่มีผดู้ แู ล  นักเรยี นรจู้ กั วธิ ีการป้องกนั และสามารถดแู ลตนเองใหป้ ลอดภัยจากโรคระบาดได้ ร่างกาย  นกั เรยี นไมส่ ามารถดูแลตนเองจากโรคระบาดได้ เช่น การใส่แมส ลา้ งมอื ทำความสะอาด  นักเรียนอาศยั หรือใชช้ วี ติ อยู่ในสภาพแวดลอ้ มทเี่ ปน็ แหลง่ แพรเ่ ชอื้ โรค  นกั เรยี นอยใู่ กล้ชดิ กบั ผูป้ ว่ ย เชน่ บุคคลในครอบครวั เพอ่ื น  ผใู้ กลช้ ดิ หรอื บุคคลในครอบครัวเป็นโรคระบาดและนกั เรียนไมส่ ามารถปอ้ งกันตัวเองได้  นักเรยี นป่วยเป็นโรคระบาดและไมส่ ามารถปอ้ งกนั การแพรก่ ระจายเชื้อจากตนเองไปส่ผู ้อู ่ืน ได้

132 ๕) ภัยไซเบอร์  นกั เรยี นไดร้ บั การดูแลเลย้ี งดจู ากผปู้ กครองและผู้ดูแลเป็นอย่างดี  นักเรยี นสามารถแบ่งเวลาในใช้สอื่ เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลนแ์ ละทำกจิ กรรมอน่ื ๆ โดยไม่มี ภาวะพฤติกรรมตอ่ ต้าน  นกั เรยี นถูกปลอ่ ยปละละเลยใหเ้ ล่นโทรศัพทห์ รอื เลน่ คอมพวิ เตอรโ์ ดยไมม่ กี ารควบคมุ ดแู ล เปน็ บางครั้ง  สภาพแวดลอ้ มทใ่ี กล้ชิดทำให้เดก็ มพี ฤตกิ รรมเลยี นแบบ เช่น ผดู้ แู ลใชส้ อ่ื เครอื ข่ายสังคม ออนไลนอ์ ย่างไมร่ ะมัดระวงั  ผ้ดู แู ลขาดความเขา้ ใจในใชส้ อื่ เครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์ ไม่สามารถแนะนำ ให้เดก็ ใชอ้ ยา่ ง ระมดั ระวังได้  นักเรียนถกู ปลอ่ ยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศัพท์หรอื เลน่ คอมพิวเตอร์โดยไม่มกี ารควบคุม ดแู ล บอ่ ยครัง้ นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมหรืออารมณท์ ่ีก้าวรา้ วรุนแรง เมื่อถกู ห้าม ยดึ หรอื จำกัดเวลาในใช้สอื่ เครอื ขา่ ยสังคมออนไลน์และทำกิจกรรมอ่นื ๆ ๖) การพนนั  นกั เรยี นไดร้ ับการดูแลเลย้ี งดูจากผูป้ กครองและผดู้ ูแลเปน็ อยา่ งดี  นกั เรยี นสามารถรับรถู้ ึงโทษของการเลน่ การพนัน  นกั เรยี นอยใู่ นครอบครวั ชมุ ชนหรอื สภาพแวดล้อม ทมี่ ีการเลน่ พนนั  นักเรียนถกู ชกั ชวนจากเพ่ือนหรอื ผใู้ กล้ชดิ ใหเ้ ล่นการพนัน  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมอยากทดลอง เลยี นแบบการเลน่ การพนันตามเพื่อนหรอื ผู้ท่อี ย่ใู กลช้ ิด  นักเรียนมพี ฤติกรรมสอ่ ไปทางการเลน่ หรือตดิ การพนนั ๗) มลภาวะเป็นพษิ  นกั เรียนไดร้ ับการดูแลเลยี้ งดูจากผ้ปู กครองและผดู้ ูแลเป็นอย่างดี  นกั เรียนรู้จักวิธีการปอ้ งกนั และสามารถดแู ลตนเองใหป้ ลอดภยั จากมลภาวะตา่ ง ๆ ได้  นักเรียนอยใู่ นสภาพแวดล้อมทีเ่ ป็นแหลง่ มลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดิน ทางนำ้  นกั เรยี นไมส่ ามารถดแู ลตนเองจากมลภาวะได้ เชน่ การใสแ่ มสเพ่อื ปอ้ งกนั มลภาวะทาง อากาศ  นกั เรียนป่วยหรือเป็นโรคท่ีเกดิ จากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดนิ ทางนำ้ เชน่ โรคระบบทางเดนิ หายใจ โรคท่เี ก่ียวกับการได้ยนิ เสยี ง โรคทางระบบทางเดินอาหาร และสุขภาวะทางกายอ่นื ๆ ที่ เกดิ จากมลภาวะเป็นพษิ ๘) โรคระบาดในสัตว์  นกั เรียนได้รบั การดูแลเลย้ี งดูจากผปู้ กครองและผดู้ แู ลเป็นอย่างดี  ครอบครัวนกั เรยี นรจู้ กั วธิ ีการปอ้ งกนั และสามารถดแู ลสตั วเ์ ล้ียงและคนในครอบครวั ให้ ปลอดภัยจากโรคระบาดหรอื โรคติดต่อจากสัตวไ์ ด้

133  ครอบครวั นักเรียนไม่มีความรู้ในการดแู ล ป้องกนั โรคต่าง ๆ จากสัตว์เลี้ยง  นกั เรียนอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มหรอื ชุมชนทม่ี กี ารเลย้ี งสตั ว์ ทำการปศุสตั ว์  นกั เรียนอยใู่ นสภาพแวดล้อมหรอื ชมุ ชนทม่ี ีการเกดิ โรคระบาดสัตว์  นกั เรยี นปว่ ยหรือติดเชอ้ื จากโรคต่าง ๆ จากสตั วเ์ ลีย้ ง หรอื โรคระบาดในสตั ว์ เชน่ โรคพิษ สนุ ัขบ้า โรคไข้เลอื ดออก ไข้หวดั นก โรคฉ่ีหนู โรคอหวิ าในสัตว์ โรคเชอื้ ราผวิ หนงั โรคเกย่ี วกบั พยาธิในสตั ว์ เป็นตน้ ๙) โรคภาวะทพุ โภชนาการ นกั เรยี นสามารถรับประทานอาหารทม่ี ีประโยชน์ ถกู ต้องตามหลกั โภชนาการ ครบ 5 หมู่  นกั เรยี นรจู้ ักโทษของอาหารที่ไม่มปี ระโยชนต์ อ่ รา่ งกาย  นักเรยี นสามารถออกกำลังกายไดอ้ ย่างสมำ่ เสมอ  ผ้ปู กครองดแู ลและมคี วามรู้ความเข้าใจดา้ นโภชนาการอย่างถกู ต้อง  นักเรียนรบั ประทานทไ่ี มม่ ปี ระโยชน์ ไมถ่ ูกต้องตามหลกั โภชนาการ  ผูป้ กครองขาดความรู้และไมม่ ีเวลาในการดูแลจดั อาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ  นกั เรยี นมีนำ้ หนกั ผิดปกติไมส่ ัมพนั ธ์กบั ส่วนสูงหรอื อายุ  นักเรยี นป่วยเปน็ โรคขาดสารอาหาร  นักเรยี นปว่ ยเป็นโรคขาดสารอาหารหรอื มปี ญั หาทางดา้ นสุขภาพต้งั แต่กำเนิด ๔.๕ ภยั สังคมในเทศกาลตา่ ง ๆ ๑) ถูกจีป้ ลน้ /ถูกวง่ิ ราวทรพั ย์/ถูกล้วงกระเปา๋  นักเรยี นรู้จักวิธีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถูกจีป้ ลน้ /ถูกวง่ิ ราวทรัพย/์ ถกู ลว้ งกระเปา๋ และผปู้ กครองดแู ลอย่างใกลช้ ดิ  นกั เรยี นไมร่ ู้จกั วธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู จีป้ ล้น/ถูกว่ิงราวทรพั ย์/ถกู ลว้ งกระเปา๋ แตผ่ ู้ปกครองดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ  นกั เรียนรู้จักวธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถูกจ้ีปลน้ /ถูกวิ่งราวทรพั ย/์ ถกู ล้วงกระเปา๋ และมีผ้ดู ูแลใกลช้ ิดบางเวลา  นักเรยี นไมร่ ้จู กั วธิ กี ารปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู จีป้ ล้น/ถกู วงิ่ ราวทรพั ย/์ ถูกลว้ งกระเปา๋ และมีผู้ดูแลใกลช้ ดิ บางเวลา  รู้นักเรียนจกั วิธีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู จปี้ ลน้ /ถกู วงิ่ ราวทรัพย/์ ถกู ลว้ งกระเปา๋ แต่ถูกทิง้ ใหอ้ ย่ตู ามลำพังหรือไม่มีผ้ดู แู ล  นักเรยี นไมร่ ู้จกั วธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู จี้ปลน้ /ถกู ว่ิงราวทรพั ย์/ถูกลว้ งกระเป๋า และถูกท้งิ ให้อยตู่ ามลำพงั หรอื ไม่มผี ดู้ แู ล

134 ๒) ถกู ล่อลวง/ถกู หลอก  นกั เรยี นร้จู กั วิธีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู ลอ่ ลวง/ถกู หลอก และผู้ปกครองดแู ลอยา่ ง ใกล้ชิด  นักเรียนไมร่ ู้จักวธิ ีการปอ้ งกันตนเองตอ่ การถกู ลอ่ ลวง/ถูกหลอก แต่ผปู้ กครองดูแลอยา่ ง ใกล้ชดิ  นกั เรียนรู้จักวิธีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถูกล่อลวง/ถกู หลอกและมผี ดู้ แู ลใกลช้ ิดบางเวลา  นักเรยี นไมร่ ู้จกั วธิ กี ารปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถูกลอ่ ลวง/ถูกหลอกและมผี ดู้ ูแลใกล้ชิดบางเวลา  นกั เรียนรู้จักวธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถูกลอ่ ลวง/ถกู หลอกแต่ถกู ทงิ้ ให้อยูต่ ามลำพงั หรือไม่ มีผู้ดแู ล  นักเรยี นไม่รูจ้ กั วธิ ีการปอ้ งกันตนเองตอ่ การถกู ลอ่ ลวง/ถูกหลอก และถกู ทงิ้ ให้อยตู่ ามลำพงั หรือไมม่ ผี ู้ดแู ล ๓) ถกู ลกั พาตวั  นกั เรยี นรู้จกั วิธีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู ลกั พาตวั และผูป้ กครองดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ  นกั เรียนไม่รู้จกั วธิ กี ารปอ้ งกันตนเองตอ่ การถกู ลกั พาตวั แตผ่ ูป้ กครองดูแลอยา่ งใกลช้ ดิ  นกั เรยี นรู้จกั วธิ กี ารปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู ลกั พาตวั และมผี ดู้ ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นักเรยี นไม่รู้จกั วธิ กี ารปอ้ งกันตนเองตอ่ การถกู ลกั พาตวั และมผี ้ดู ูแลใกลช้ ดิ บางเวลา  นักเรยี นรจู้ กั วิธกี ารปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู ลกั พาตวั แต่ถกู ทง้ิ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรอื ไม่มีผดู้ แู ล  นักเรียนไมร่ ู้จักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองตอ่ การถกู ลักพาตวั และถูกทง้ิ ใหอ้ ยูต่ ามลำพังหรือไมม่ ี ผูด้ แู ล ๔) ถกู วางยาด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ  นักเรยี นร้จู กั วิธีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู วางยาด้วยวิธีการตา่ ง ๆ และผู้ปกครองดแู ลอย่าง ใกล้ชดิ  นักเรียนไมร่ ู้จักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองตอ่ การถกู วางยาดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ แตผ่ ูป้ กครองดแู ล อย่างใกลช้ ิด  นกั เรียนรู้จักวิธีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู วางยาดว้ ยวธิ ีการตา่ ง ๆ และมผี ดู้ แู ลใกลช้ ดิ บาง เวลา  นักเรยี นไมร่ จู้ กั วธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถูกวางยาดว้ ยวธิ กี ารต่าง ๆ และมีผ้ดู ูแลใกลช้ ดิ บางเวลา  นกั เรยี นรู้จักวิธกี ารปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถกู วางยาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ แตถ่ กู ทิ้งให้อยตู่ ามลำพัง หรือไม่มผี ู้ดูแล

135  นกั เรียนไม่ร้จู กั วธิ ีการปอ้ งกนั ตนเองตอ่ การถูกวางยาดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ และถูกทิ้งให้อย่ตู าม ลำพังหรอื ไมม่ ีผดู้ แู ล ๕) อนาจารข่มขืนกระทำชำเรา  รจู้ ักวิธกี ารป้องกนั ตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา และผปู้ กครองดูแลอยา่ งใกล้ชดิ  ไมร่ ู้จกั วธิ กี ารปอ้ งกนั ตนเองต่อการอนาจารขม่ ขนื กระทำชำเรา แตผ่ ปู้ กครองดแู ลอย่าง ใกล้ชดิ  รูจ้ กั วธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเราและมผี ดู้ ูแลใกลช้ ิดบางเวลา  ไมร่ ู้จกั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราและมีผ้ดู แู ลใกลช้ ดิ บางเวลา  รจู้ ักวิธีการป้องกันตนเองตอ่ การอนาจารข่มขืนกระทำชำเราแต่ ถูกท้งิ ให้อยู่ตามลำพังหรอื ไม่ มผี ูด้ ูแล  ไมร่ ้จู ักวิธีการปอ้ งกนั ตนเองต่อการอนาจารขม่ ขนื กระทำชำเรา และถูกท้งิ ใหอ้ ย่ตู ามลำพงั หรือไมม่ ีผดู้ ูแล ลงช่ือ...............................................ผู้บนั ทกึ ข้อมลู (นางสาวพชั รนนั ท์ ไชยวงศ์) ตำแหน่ง พนักงานราชการ

136 แบบรวบรวมข้อมูลผเู้ รียน ตามกรอบคิดแนวเชิงนิเวศ (Ecological System) และกรอบการประเมินของฟานไดจ์ค (The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities) ช่อื -นามสกุลนักเรียน เดก็ ชายธนชยั ปาละวงค์ ชอื่ เลน่ น้องตอ่ ระดบั ชัน้ เตรยี มความพรอ้ ม ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรบั บริการ ที่บ้าน ช่ือสถานศกึ ษา ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง อำเภอ เกาะคา จงั หวดั ลำปาง ขอ้ มูล ณ วันที่ ๒๖ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

137 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรียน ข้อมูลของผเู้ รยี น ๑. ขอ้ มลู ของผูเ้ รยี น ชื่อ-นามสกลุ นกั เรยี น เดก็ ชายธนชัย ปาละวงค์ ชอื่ เล่น นอ้ งตอ่ อายุ ๑๔ ปี เพศ ชาย เช้อื ชาติ ไทย ประเภทความพกิ าร บุคคลทม่ี ีความบกพร่องทางสตปิ ญั ญา โรคประจำตวั ภูมแิ พ้  ลกั ษณะความพกิ าร นักเรียนมีภาวะบกพร่องทางสติปัญญา ระดับการเรียนรู้ที่ช้ากว่าอายุจริงของนักเรียน สามารถ ส่ือสารเป็นประโยค ข้อความ ได้ แต่ยังไม่สามารถเขียนเป็นข้อความหรือประโยคได้ นักเรียนมีภาวะ กล้ามเนือ้ ออ่ นแรงในร่างกายซกี ซา้ ย มอี าการชา อยู่บ่อยครงั้ จึงทำใหก้ ารทรงตวั ของนักเรียนไมแ่ ข็งแรงเมื่อ เทยี บกับคนปกตใิ นกลุ่มอายุเดยี วกนั  พฤติกรรมของผูเ้ รยี น พฤตกิ รรมสว่ นบคุ คล นกั เรียนแสดงพฤติกรรมท่ีไม่ยอมให้ความร่วมมือในการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน มีพฤติกรรม ท่ีติดโทรศัพท์ การเรียนรู้ทางด้านวิชาการจะช้ากว่าอายุพัฒนาการจริงของนักเรียน ผู้ปกครองต้องคอย กระตุ้นเตือนทางวาจาอยู่บ่อยคร้ังในการทำกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับนักเรียน เมื่อนักเรียนถูก ผปู้ กครองกระตุ้นบ่อยๆจะแสดงพฤติกรรมท่ีไม่พอใจ หงดุ หงดิ เป็นบางครั้ง พฤตกิ รรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถรับรู้ส่ิงเร้าต่างๆรอบตัวผ่านการมอง การสัมผัสผ่านผิวหนัง และการได้ยินเสียง สิ่งแวดล้อมรอบตวั โดยมกี ารตอบสนองดว้ ยการแสดงสีหน้า ย้ิม หัวเราะ และสามารถใชแ้ ขนและมือท้ังสอง ข้างเพื่อสัมผัสสิ่งต่างๆรอบตัว ได้แก่ การหยิบ การกำวัตถุ เป็นต้น นักเรียนควรได้รับการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ผ่านการมอง การฟัง และการใช้มือสัมผัส โดยมีผู้ช่วยเหลือในการทำกิจกรรมทุกขั้นตอน ดว้ ยการกระตุน้ เตอื นดว้ ยวาจา หรือกระตุ้นเตือนทางกายร่วมด้วย จงึ จะสามารถกลบั มาทำกจิ กรรมต่อได้ กลุ่มบริหารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

138 ภาพนักเรยี น กลมุ่ บริหารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

139 รวบรวมขอ้ มลู ผ้เู รยี น ขอ้ มูลความสามารถผเู้ รยี น  ความสามารถพ้ืนฐานของผเู้ รียน จดุ อ่อน ๑.๑ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านร่างกาย ๑. นักเรยี นมีกล้ามเนอ้ื ขาทั้งสองขา้ งอ่อนแรง จุดเด่น กลา้ มเนอ้ื ขาทัง้ สองขา้ งมกี ารเกร็ง กระตกุ ๑. นักเรียนสามารถยกแขนทง้ั สองขา้ งตา้ นแรงโนม้ ๒. นกั เรยี นไมส่ ามารถเคลอ่ื นไหวลำตวั โดยการคลาน ถ่วง ไปดา้ นซา้ ย ขวาขา้ งลำตวั ไดด้ ้วยตนเอง เพอ่ื ได้ สัมผัสส่ิงต่างๆรอบตวั ๒. นักเรียนสามารถเคลอ่ื นไหวศีรษะไปด้านซ้าย ขวา ในทา่ นอนหงาย ท่านอนคว่ำ ไดด้ ว้ ยตนเอง ๓. นกั เรียนสามารถมองตามส่งิ ที่สนใจไดด้ ว้ ยการ กลอกตาและหันศรี ษะไปด้านซ้าย ขวา มองตาม สงิ่ ของ วัตถุ ที่นกั เรยี นมคี วามสนใจ ๑.๒ ความสามารถพืน้ ฐานทางดา้ นอารมณ์ จติ ใจ จดุ เดน่ จุดออ่ น ๑. เมอ่ื ผ้ดู ูแลส่งเสียงเรยี กชอ่ื นักเรียนตอบสนองโดย ๑. นกั เรยี นจำเสยี งเฉพาะสมาชกิ ในบา้ น เม่อื มคี น การมองหาและแสดงสหี น้ายม้ิ แปลกหนา้ มาเรียกชอื่ นักเรยี นจะตอบสนองโดยการ มองหน้าและกระพรบิ ตา ๒. นักเรียนสามารถแสดงอารมณผ์ า่ นทางสหี น้าได้ ๒. นักเรียนไมส่ ามารถสอื่ สารกบั ผู้อื่นได้ดว้ ยวาจา เชน่ เมอื่ พ่อของนักเรยี นมาหา นักเรียนจะแสดง อารมณด์ ีใจ ตื่นเต้น ทุกครงั้ ท่ีเหน็ พอ่ มาหา ๓. นกั เรยี นตอบสนองตอ่ เสยี งเพลง การต์ ูนท่ีตนเอง ๓. เมอ่ื ผู้ดแู ลทำกจิ วัตรประจำวนั ให้นกั เรียนแสดงสี ช่ืนชอบได้โดยการยิ้ม หนา้ ส่งเสยี งโวยวาย รอ้ งไห้ และตอ่ ตา้ นดว้ ยการ เกรง็ กล้ามเนอื้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

140 รวบรวมข้อมูลผู้เรียน ข้อมลู ความสามารถผู้เรยี น ๑.๓ ความสามารถพน้ื ฐานทางดา้ นสังคม จดุ ออ่ น นกั เรียนไม่มโี อกาสในการออกไปข้างนอกบ้านเพอ่ื จุดเดน่ มปี ฏสิ มั พันธก์ ับคนภายในชุมชน เนอ่ื งจากผู้ดแู ล นักเรยี นรู้จักบคุ คลภายในครอบครัวของตนเอง ไดแ้ ก่ นกั เรยี นทำงานรบั จ้างในตวั อำเภอเกาะคาทำให้ใน ยาย พ่อ แม่ พ่ีชาย อา โดยแสดงสหี นา้ ย้มิ และ ระหวา่ งวันนักเรียนจะอาศัยอยู่กบั อาซ่ึงเป็นบุคคลท่มี ี มองตามเมื่อเหน็ หน้าหรือไดย้ นิ เสยี งและนกั เรยี นไดม้ ี ความบกพรอ่ งทางรา่ งกายหรอื สุขภาพหรอื การ โอกาสได้รจู้ กั บคุ คลภายนอกครอบครวั ได้แก่ เคลื่อนไหว ทำใหน้ กั เรียนไมม่ ีโอกาสในการออกไปข้าง ครูประจำช้นั นกั กายภาพบำบัด นักกจิ กรรมบำบดั นอก นักจติ วิทยาคลินกิ แพทย์ พยาบาล และอสม ประจำ หม่บู ้าน ๑.๔ ความสามารถพืน้ ฐานทางดา้ นสตปิ ญั ญา จดุ เดน่ จดุ ออ่ น นักเรยี นสามารถรบั รูส้ ง่ิ เรา้ รอบตวั ผ่านการมอง รบั รู้ นกั เรยี นมขี ้อจำกดั ด้านการสอื่ สารดว้ ยภาษา การสัมผัสผา่ นทางผวิ หนงั ไดย้ ินเสียงจากธรรมชาติ สิ่งแวดลอ้ มรอบตัว มกี ารตอบสนองผา่ นการแสดงสี หน้า ย้มิ หัวเราะ รอ้ งไห้ และสามารถใชแ้ ขนรวมไปถงึ มอื ทงั้ สองขา้ งเพอ่ื สัมผสั สง่ิ ต่างๆรอบตวั และเออ้ื มมือ ไปยงั เปา้ หมายได้ กลุ่มบริหารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

141 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รยี น ข้อมลู ความสามารถผเู้ รียน ๑.๕ ความสามารถพื้นฐานทางดา้ นทักษะจำเปน็ เฉพาะความพิการ จดุ เด่น จุดออ่ น นักเรยี นได้รบั การบริหารกลา้ มเน้อื และข้อตอ่ เพอื่ คง ๑. ร่างกายของนักเรียนมกี ารผดิ รูปของกระดูกสนั หลงั สภาพจากผู้ปกครองและนกั กายภาพบำบัด และได้รับ คด การจัดท่ายืนทรงตัว หรอื ทำกจิ กรรมในทา่ ทางท่ี ๒. กล้ามเนอ้ื ขาทง้ั สองข้างของนักเรียนออ่ นแรง ถูกตอ้ ง ทำใหไ้ ม่มีการผดิ รูปของข้อตอ่ ๓. นกั เรียนมีการเคลอ่ื นไหวรา่ งกายโดยการคบื การเคล่อื นไหวในลักษณะท้องตดิ พืน้ ในการ เคล่อื นไหวรา่ งกายไปในทิศทางตา่ งๆในบรเิ วณท่อี ยู่ อาศัย ๔. นักเรยี นมีการเคลอ่ื นไหวที่ผิดปกตใิ นรูปแบบเกรง็ กระตุก ในระหวา่ งเวลาทผ่ี ู้ดแู ลทำกายภาพให้ นักเรยี น ๕. นกั เรียนสามารถนง่ั ทรงตวั ยืนทรงตัวไดโ้ ดยมผี ู้ ช่วยเหลอื กลมุ่ บริหารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

142 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รียน กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework การรวบรวมข้อมลู ผู้เรียนตามกรอบการประเมิน The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. การเขา้ ใกล้-ถอนหนี (Approach-Withdrawal) การดปู ฏิกริ ิยาของเด็กในการเผชิญสงิ่ ใหม่ ประสบการณ์ บคุ คล/สถานที่ สง่ิ ของ ความคดิ ๑.๑ อะไรทเี่ ปน็ ตวั ชบี้ อกวา่ เดก็ เขา้ ร่วม สิ่งทสี่ นใจ ๑.๒ อะไรทเี่ ป็นตวั ชี้บอกว่าเด็กไมเ่ ข้าร่วม สงิ่ ทไี่ มส่ นใจ ๑.๓ มอี ะไรที่สงั เกตเหน็ ว่าจูงใจเด็กบ้าง ยม้ิ ดใี จ ๑.๔ อะไรทส่ี งั เกตเหน็ วา่ เดก็ ไม่สนใจ/หลีกหนบี ้าง ไมย่ อมทำ ๒. ชอ่ งทางการเรียนร้ดู ้านประสาทการรับรู้ (Sensory Learning Channels) ๒.๑ เด็กรบั ข้อมลู ได้โดยวธิ ใี ดบา้ ง การส่ือสาร ๒.๒ เด็กตอบสนองตอ่ เสียงอย่างไร มีปฏกิ ริ ิยาในการโต้ตอบ ๒.๓ เด็กตอบสนองต่อสิ่งเรา้ ทางสายตาอย่างไร มองตามสิ่งของ ๒.๔ เด็กตอบสนองตอ่ การสัมผัสอยา่ งไร มีปฏิกริ ิยาในการโตต้ อบในการสมั ผัส ๒.๕ เด็กใช้ประสาทสัมผสั มากกวา่ หนึ่งอยา่ งในเวลา ใช่ เดยี วกนั หรอื ไม่ ๒.๖ เดก็ แสดงตวั ชี้แนะการรว่ มหรือไมเ่ ข้าร่วมในการ ใช่ ตอบสนองขอ้ มูลทางประสาทสมั ผสั เฉพาะหรอื ไม่ ๓. สถานะทางชีวพฤติกรรม (Biobehavioral State) ชุดของสภาพการณ์ดา้ นชวี พฤตกิ รรมและกายภาพต้ังแต่การนอนหลับจนถึงการต่ืนนอนและการรอ้ ง ๓.๑ สภาพปจั จุบนั ของเดก็ คอื อะไร รา่ งกายแข็งแรง ไมส่ มบูรณ์ กล้ามเน้อื ขาลีบ ๓.๒ เด็กสามารถควบคมุ /เปลี่ยนสภาพของตนได้ ได้ หรือไม่ ๓.๓ เด็กใชเ้ วลาในการตนื่ ตวั มากน้อยแค่ไหน มาก ๓.๔ มชี ่วงกว้างของแต่ละสภาพเทา่ ใดท่ีเดก็ แสดงให้ มมี าก เหน็ และมแี บบแผนการเปลย่ี นแปลงอะไรระหว่าง สภาพ ๓.๕ มตี ัวแปรอะไรบ้างทีก่ ระทบต่อสภาพเดก็ ไมม่ ี กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

143 รวบรวมข้อมลู ผเู้ รยี น กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๔. การตอบสนองปฏิกริ ิยาตอบสนองของรา่ งกายในสภาพแวดลอ้ ม (Orienting Response) ๔.๑ มปี ัจจัยอะไรบ้างท่ที ำใหเ้ ด็กการตอบสนองไป ความชอบ ในทิศทางนน้ั ไดช้ ดั แจง้ ๔.๒ เด็กแสดงการตอบสนองต่อทิศทางออกอยา่ งไร มปี ฏกิ ิริยาโตต้ อบ ๔.๓ ประสาทการรับรชู้ ่องทางใดทป่ี รากฏเชอ่ื มโยง ประสาทสมั ผสั ทัง้ ๕ กบั การตอบสนอง (ขอ้ มลู ประสาทการรับรู้ท่กี ระตนุ้ ใหม้ กี ารตอบสนองและประสาทการรบั รู้ทใ่ี ช้ ประโยชน์) ๕. ความจำ (Memory) ๕.๑ เด็กใช้/คุ้นกับส่งิ เร้าที่คุ้นชินหรอื ไม่ ใช่ ๕.๒ การนำเสนอสิ่งเรา้ จำเปน็ ตอ้ งใชเ้ วลานานหรอื กี่ ๓ ครั้ง ครั้งกอ่ นทีเ่ ดด็ จะคนุ้ ชิน ๕.๓ เด็กเขา้ รว่ มอีกครงั้ ไหมเมื่อเปล่ยี นแปลง เข้าร่วม ลกั ษณะของสงิ่ เรา้ ๕.๔ การตอบสองแตงต่างไปหรือไม่ แตกตา่ ง ๕.๕ เดก็ แสดงการตองสนองแตกต่างหรือไม่กบั แตกต่าง บุคคลท่ีคยุ้ เคยและไมค่ ุ้นเคย ๕.๕ เดก็ แสดงการรับรหู้ รอื ไมว่ า่ สิง่ ของนนั้ ยงั อยู่แม้ รบั รู้ จะไมอ่ ยู่ในสายตาตอนน้ัน ๕.๖ เดก็ เชอ่ื มโยงเหตกุ ารณท์ ก่ี ำลังเผชิญกับส่ิงท่ี ไม่ ตามมาไหม ๕.๗ เด็กแสดงการคาดเดาตอ่ ส่ิง/เหตุการณ์ท่ีกำลงั ไม่ เผชญิ หรอื ไม่ ๕.๘ เดก็ แสดงอาการหรือไมเ่ มื่อสงิ่ ท่เี กิดใหม่ไม่ตรง ใช่ กับความคาดหวงั ๕.๙ เด็กสามารถเรียนร้กู จิ วัตรงา่ ย ๆ ได้หรอื ไม่ ได้ ๕.๑๐ กจิ วัตรทีใ่ หเ้ ดก็ เรยี นรจู้ ำไดไ้ หม ได้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

144 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรยี น กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework ๖. ปฏิสมั พนั ธท์ างสังคม (Social Interactions) หนั ๖.๑ เดก็ หนั ไปหาบุคคลหรอื ไม่ ใช่ ๖.๒ เดก็ แสดงความผูกพนั วา่ มคี วามปลอดภัยกับ บคุ คลสำคัญในชวี ิตของเขา/เธอหรอื ไม่ ใช่ ๖.๓ เดก็ มีสว่ นรว่ มในการผลดั เปลี่ยนกนั เมอ่ื เริม่ มี ปฏิสมั พันธ์หรอื ไม่ ใช่ ๖.๔ เดก็ มสี ่วนรว่ มในการผลดั เปล่ียนกนั เมอ่ื คนอน่ื เริม่ ปฏิสัมพนั ธ์หรอื ไม่ ๓ รอบ ๖.๕ เดก็ ผลดั เปลีย่ นกรี่ อบกอ่ นท่จี ะไมร่ ่วม ใช่ ๖.๖ เด็กเพ่ิมการผลดั เปลย่ี นการมีปฏิสัมพันธ์มาก ขึ้น เพื่อตอบสนองต่อปฏสิ มั พันธ์ของคูห่ รือไม่ ๗. การสอื่ สาร (Communication) ใช่ ๗.๑ เดก็ แสดงให้เหน็ ความตง้ั ใจในการสอ่ื สารผา่ น การใช้งานของสญั ญาณ การเปลง่ เสยี ง ทา่ ทาง ฯลฯ ใช่ หรือไม่ อธิบายการสอื่ สารทใ่ี ช้ ใช่ ๗.๒ เดก็ ใชส้ ญั ญาณอย่างสอดคล้องกนั หรอื ไม่ ๗.๓ เดก็ ใช้การสอื่ สารแตกต่างกันหรือไม่ อธิบาย ใช่ การส่อื สารและความความหมายท่นี ่าจะเปน็ ใช่ ๗.๔ เมอื่ นำเสนอตวั เลือกเด็กตัดสนิ ใจเลอื กหรอื ไม่ ใช่ ๗.๕ เด็กใช้ท่าทางเหมอื นบุคคลท่ัวไปใช้หรอื ไม่ ๗.๖ เด็กสามารถใช้ของหนึ่งอย่างหรอื สญั ลักษณ์ ใช่ แทนกิจกรรมหรอื วัตถุหรือไม่ ๗.๗ เด็กแสดงใหเ้ หน็ ความเขา้ ใจในการสอ่ื สารโดย ไม่ใช่ นักเรยี นสามารถสื่อสารได้โดยไม่ผา่ นการ ใช้สญั ลักษณห์ รอื ไม่ (การไดย้ นิ ภาพ หรอื การ สือ่ สารทางสญั ลักษณ์ สัมผัส) ๗.๘ เด็กใช้การสอ่ื สารทางสญั ลกั ษณ์หรอื ไม่ อธิบาย กล่มุ บริหารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

145 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรียน กรอบการประเมนิ The Van Dijk Framework ๘. การแก้ปญั หา (Problem solving) ๘.๑ เดก็ แสดงใหเ้ หน็ สาเหตุและผลกระทบหรอื ไม่ ไม่ ๘.๒ เดก็ แสดงความเข้าใจในวิธกี าร/จดุ สิ้นสุดหรอื ไม่ การใชข้ นั้ ตอนกลางเพ่อื แกป้ ญั หาหรอื ไม่ ๘.๓ เดก็ แสดงความเขา้ ใจในหน้าที่ของวตั ถทุ ว่ั ไป ไม่ หรอื ไม่ ๘.๔ เด็กมวี ิธกี ารแกป้ ญั หาอยา่ งไร ยังไม่มวี ิธีการแก้ปัญหาด้วยตนเองส่วนใหญ่จะมคี รู คอยชี้แนะในการแกป้ ญั หา ๘.๕ เดก็ รักษาความสนใจและคงอยู่กบั สงิ่ น้นั หรือไม่ ใช่ กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

146 รวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รยี น กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคดิ ตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๑ ดา้ นสภาพแวดล้อมของผู้เรียน (Microsystem)  บุคคลภายในครอบครัวทผ่ี ู้เรียนไวว้ างใจ ยายเลื่อม เป็นผู้ดูแลหลักและเป็นบุคคลในบ้านท่ีนักเรียนไว้วางใจมากที่สุด ในทุกๆวันยายเลื่อม ได้ดูแลกิจวัตรประจำวันทั้งหมดของนักเรียน ได้แก่ การประกอบอาหาร การจัดกิจกรรมตามตารางกิจวัตร ประจำวนั ให้กับนกั เรยี น  ลกั ษณะที่อย่อู าศัย (หอ้ งอะไรบ้าง / ความสะอาด) ที่อยู่อาศัยเป็นบ้านปูนช้ันเดียว อยู่ติดกับถนนในหมู่บ้าน มีลานหน้าบ้านจัดกิจกรรมการเรียน การสอน มุมการเรียนรู้ได้ รวมถึงสามารถจอดรถยนต์ได้ บ้านล้อมรอบด้วยรั้วปูน ปิดประตูไว้ตลอดเวลา และเปิดเม่ือมีผู้เข้าออกบ้าน ทางทิศใต้จะมีบ้านปูนของป้าอีกหน่ึงหลังที่อาศัยอยู่ในพื้นท่ีเดียวกัน ข้างด้านหน้า ของบ้านมีวัดบ้านป่าแข มีการต่อเติมหลังบ้านให้เป็นห้องครัวแยกออกมาจากตัวบ้าน มีห้องนอนทั้งหมด ๒ ห้องนอนอยู่ชั้นบนบ้านและมี ๑ ห้องโถงสำหรับชั้นล่างของบ้านเพื่อเป็นท่ีอยู่อาศัย สภาพบ้านมีอากาศถ่ายเท สะดวก แสงสว่างเพียงพอ มีการเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท มีห้องน้ำอยู่ในบ้าน สภาพโดยทั่วไปของท่ี อยู่อาศัยมีความสะอาด มกี ารจดั มมุ เก็บของเปน็ สดั ส่วน มคี วามเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ย • ลักษณะห้องนำ้ (ระบรุ ายละเอียด) มีห้องน้ำแบบนั่ง แบ่งมุมสำหรับวางเครื่องซักผ้า ถังอาบน้ำ มีชั้นวางอุปกรณ์ทำความสะอาด ร่างกายและอุปกรณ์ ทำความสะอาดห้องน้ำเป็นสัดส่วน สะอาด ห้องน้ำมีความกว้าง โล่งสบาย มีประตูแบบกลอนปดิ มิดชดิ ปพู นื้ ด้วยกระเบ้ือง มีไฟและแสงสว่างสองท่ัวถงึ • ลักษณะห้องนอน (ระบรุ ายละเอยี ด) มกี ารนอนรวมกัน ห้องนอนมีการกางมุ้ง ที่นอนจะเป็นลักษณะ ๖ ฟุต มีการพับผ้าห่มเก็บเรียบร้อย หลังจากต่ืนนอน ห้องนอนมีประตูปิดมิดชิด ห้องเก็บของมีตู้เส้ือผ้า ราวแขวนผ้า ในการเก็บเส้ือผ้าไว้เป็น สัดส่วน และมตี ู้ลน้ิ ชกั ในการเกบ็ ของ อุปกรณ์ ต่างๆ ได้แก่ กระดาษชำระ เอกสาร เป็นตน้ และมโี ทรทัศนอ์ ยู่ใน ห้องโถง จำนวน ๑ เครอื่ ง • พ้ืนทีใ่ นการฝกึ /ทำกจิ กรรมกับผเู้ รียน (ระบรุ ายละเอียด) นกั เรยี นทำกิจวตั รทุกอย่างในหอ้ งโถงหน้าบ้านบ้านร่วมกับผู้ปกครอง การทำกจิ กรรมร่วมกับครู นัก กายภาพบำบัด นกั กจิ กรรมบำบดั นักจติ วทิ ยาในการฝึกพฒั นานกั เรยี นโดยชมุ ชน กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

147 ๒.๒ ด้านความสมั พันธ์และปฏิสมั พันธร์ ะหวา่ งบุคคลทเ่ี กยี่ วข้องของผ้เู รียน (Mesosystem)  ลักษณะของครอบครัวและความสมั พนั ธ์ของบคุ คลในครอบครวั ครอบครวั มคี วามรกั ใคร่ สามคั คี ช่วยเหลือซ่ึงกนั และกัน และให้ความเอาใจใส่แก่นักเรยี น ในบทบาทของพ่อ แม่ สมาชิกในครอบครวั เปน็ อย่างดี  ความสมั พันธก์ บั บคุ คลในหอ้ งเรียน/โรงเรยี น นักเรียนได้มีการฝึกและได้รู้จัก ครูพัชรนันท์ ซึ่งเป็นครูประจำชั้นโดยให้บริการทาง การศึกษาพิเศษและคำแนะนำแก่ผู้ปกครองของนักเรียน โดยครูอนุชา เป็นครูกายภาพบำบัดประจำอำเภอ เกาะคาร่วมให้บริการและร่วมประเมินศักยภาพแก่นักเรียน ให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ปกครองด้านการ ดูแลนักเรียนเก่ียวกับกล้ามเนื้อ การเคลื่อนไหว และข้อต่อ ครูรักศิธร เป็นครูกิจกรรมบำบัดมีหน้าที่ให้ คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ปกครองด้านการบูรณาการประสาทความรู้สึก การปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับ ศักยภาพของนักเรียน และครูศศิกมล เป็นครูจิตวิทยาคลินิกมีหน้าท่ีให้คำปรึกษาและคำแนะนำแก่ผู้ปกครอง เร่ืองพฤติกรรมทไ่ี มพ่ งึ ประสงค์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมของนักเรยี น  ความสมั พนั ธก์ บั บคุ คลอนื่ ๆ เชน่ ญาตพิ ี่น้อง เพ่ือน เพ่ือนบา้ น คนในชุมชน เป็นต้น เพ่ือนบ้านมาเย่ียมเยือนบุคคลในครอบครัวบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ได้เข้ามาในห้องที่นักเรียน พักอาศยั อยู่ เนอื่ งจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของโรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19)  สถานการณ์ปัจจุบนั ทส่ี ่งผลกระทบกับผู้เรยี น เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นักเรียนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และนักเรียนไม่ได้รับวัคซีนเพื่อป้องกันโรคทำให้สมาชิกครอบครัวต้องคอย ระมัดระวงั ตนเองและลดการออกไปพบเจอผ้คู นและจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่ิงของมีราคาแพงข้ึนทำให้ รายได้ท่ไี ด้รับไม่เพยี งพอต่อการนำไปใช้ทัง้ ครอบครวั โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลนักเรียนที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เชน่ คา่ นม ค่าผา้ ออ้ มสำเร็จรูป ค่าอาหาร ค่าไฟฟา้ และคา่ จิปาถะอน่ื ๆ  สถานท่ีทำงานของพอ่ แม/่ ผู้ปกครอง สถานท่ีทำงานของพ่อแม่ ผู้ปกครอง จะอยู่ในอำเภอเกาะคา โดยยายเลื่อมจะประกอบ อาชพี รับจ้างทว่ั ไป เช่น การก่อสร้าง เป็นต้น กลุม่ บริหารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

148 รวบรวมขอ้ มลู ผ้เู รยี น กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๓ ด้านสง่ิ แวดล้อมและสภาพสงั คมท่ีมผี ลต่อครอบครัว (Exosystem) สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ หรือ การจดั ส่ิงอำนวยความสะดวกของชมุ ชนทผ่ี เู้ รียนอาศัย อยู่ ชุมชนท่ีนักเรียนอาศัยอยู่เป็นชุมชนที่อยู่ร่วมกันแบบเครือญาติ มีการให้ความช่วยเหลือ และแบ่งปันกันระหว่างครอบครัว บ้านของนักเรียนอยู่ในเขตอำเภอเกาะคาและสามารถเรียกใช้บริการ รถฉกุ เฉนิ สำหรับพานกั เรียนหรือสมาชิกในบ้านไปพบแพทย์ไดเ้ มือ่ เวลาเจบ็ ป่วยหรือประสบอบุ ัติเหตุ ๒.๔ ด้านวัฒนธรรม ประเพณี ค่านยิ มของสงั คม (Macrosystem) ครอบครัวของนักเรยี นนับถอื ศาสนาพุทธ เชื่อในการทำความดี แต่ยังมีความเชือ่ เรือ่ งเวรกรรมทที่ ำ ให้นักเรียนมีความพิการ สมาชิกในครอบครัวดูแลนักเรียนด้วยความรักและคิดว่าเป็นหน้าที่ของสมาชิกใน ครอบครัวท่ตี อ้ งช่วยเหลอื กัน ๒.๕ ด้านสงิ่ ต่างๆทอี่ าจกระทบตอ่ ผูเ้ รยี น เช่น กฎหมาย การไดร้ บั สทิ ธิดา้ นตา่ งๆ เทคโนโลยี หรอื แอพพลเิ คชนั่ ทเี่ ก่ียวข้องกับผู้เรยี นในชวี ติ ประจำวัน (Chronosystem) นักเรียนได้รับการให้บริการทางการศึกษาจากศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง โครงการ ปรับบา้ นเป็นห้องเรยี นเปลี่ยนพ่อแม่เปน็ ครู ห้องเรียนอำเภอเกาะคา โดยไม่เสียค่าใชจ้ ่าย อกี ทั้งนักเรียนสามารถ เขา้ ถึงสอ่ื เทคโนโลยผี า่ นทางโทรศัพท์ แท็บเลต และโทรทัศนโ์ ดยมผี ปู้ กครองกำกับดแู ล ๓. ความคาดหวังของผ้ปู กครองทมี่ ตี ่อตัวผ้เู รียน ๑) ผปู้ กครองมคี วามคาดหวังให้นักเรียนมีพัฒนาการที่ดีขน้ึ มชี ีวติ อยู่ต่อไปให้นานท่ีสดุ ต้องการให้ นักเรียนสามารถสื่อสารความต้องการ การบอกความรู้สึกของตนเองแก่ผู้ดูแลได้รวมถึงสามารถช่วยเหลือตนเอง ในกิจวตั รประจำวันของตนเองได้ ๒) ผู้ปกครองไม่ได้มีความคาดหวังให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้านวิชาการหรือทักษะอาชีพ เนื่องจากผปู้ กครองกลวั ทจ่ี ะตง้ั ความหวงั ไวแ้ ล้วพฒั นาลกู ไมถ่ ึงเป้าหมายทต่ี ั้งไว้ ๔. เปา้ หมายหลกั ทผ่ี เู้ รยี นควรไดร้ บั การพัฒนา/ส่งเสรมิ ๑) นักเรียนควรได้รับการพัฒนาด้านการส่ือสารโดยใช้อุปกรณ์ช่วย เน่ืองจากเป็นส่ิงท่ีผู้ปกครอง เหน็ ความสำคัญและจากการประเมินความสามารถพ้ืนฐานเบอ้ื งตน้ ๒) นักเรียนสามารถแสดงออกถึงความต้องการและตอบสนองต่อส่ิงเร้าได้ สามารถนำทักษะนี้ไป เป็นแนวทางจัดการเรียนการสอนและพฒั นาไปสู่การสื่อสารของนักเรียน กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

149 รวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รยี น กรอบแนวคิดตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๕. เปา้ หมายหลกั ท่ผี เู้ รียนควรได้รับการป้องกนั /แกไ้ ขปญั หา ๑) นักเรียนมีปัญหาด้านสุขภาพ ทำให้มีขอ้ จำกัดในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ครูผู้สอนควรศึกษา ข้อมลู ของนักเรยี นโดยละเอียด เพ่ือใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการวางแผนการจัดการศกึ ษา ๒) ครูผู้สอนควรจัดกิจกรรมให้มีความเหมาะสมกับความสามารถของนักเรียนและเพื่อให้นักเรยี น สามารถเรียนรู้ไดอ้ ย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ . ผู้บันทกึ ขอ้ มูล…………………………………………… (นางสาวพชั รนนั ท์ ไชยวงศ์) ตำแหนง่ พนักงานราชการ วนั ที่ ๒๖ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

150 ๖ ประเมินครั้งท่ี ๑ แบบคดั กรองบคุ คลทม่ี คี วามบกพร่องทางสตปิ ญั ญา ช่ือ-นามสกุล (ด.ช. / ด.ญ. / นาย / นางสาว)........เ..ด..ก็...ช..า..ย..ธ..น...ช..ยั.....ป...า..ล..ะ..ว..ง..ศ...์ ............................................ วนั เดือน ปี เกดิ ..........๒...๖.....ก...มุ ..ภ..า..พ...นั...ธ..์ .๒...๕...๕..๑..........................อาย…ุ ……๑…๔………..... ปี ...............๓............เดอื น ระดบั ชัน้ .. ..........ก..า..ร..ศ...ึก..ษ...า..ข..ัน้...พ...ื้น..ฐ..า..น..............วนั เดอื น ปี ท่ีประเมิน.........๒...๗.....พ...ฤ...ษ..ภ...า..ค..ม.....๒...๕...๖...๕............. คำชี้แจง ๑ แบบคดั กรองฉบับนี้เป็นแบบคัดกรองเพ่ือประโยชนใ์ นทางการจดั การศึกษาเท่านั้น ๒ วเิ คราะห์ลักษณะ/พฤติกรรม ของเด็กซ่ึงเป็นลักษณะหรือพฤติกรรม ที่เด็กแสดงออกบ่อยๆ โดยให้ทำ เครือ่ งหมาย /ลงในช่อง “ ใช่ ” หรอื “ไม่ใช่ ” ที่ตรงกับลักษณะหรือพฤติกรรมน้ันๆ ของเด็ก ๓ ผูท้ ำการคดั กรองเบอื้ งตน้ ตอ้ งผ่านการอบรมวิธีการใช้ และการประเมิน ตามแบบคดั กรองนี้ และควรสอบถาม ขอ้ มลู เพิม่ เติมจากผู้ท่อี ยู่ใกล้ชดิ เดก็ มากทีส่ ดุ เช่น ผปู้ กครองหรือครู เพ่ือใหเ้ กิด ความชัดเจน ถูกตอ้ ง ๔ ผูค้ ดั กรองควรจะมอี ยา่ งน้อย ๒ คนขนึ้ ไป ท่ี ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวเิ คราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ทกั ษะการสื่อสาร ๑ ใชภ้ าษาไมส่ มวัย ✓ ๒ ไม่เขา้ ใจคำสั่ง ไมส่ ามารถทำตามคำส่ังได้ ✓ ทักษะการดแู ลตนเอง ✓ ๓ ไมส่ ามารถ หรอื สามารถดูแลตวั เองในชวี ิตประจำวันไดน้ อ้ ย ✓ ในการรับประทานอาหาร / การอาบนำ้ / แปรงฟนั / การแตง่ กาย ๔ ไมส่ ามารถทำความสะอาดหลังการขับถา่ ย ✓ ✓ ทักษะการดำรงชวี ิตภายในบ้าน ๕ ตอ้ งกระตุน้ ในการปฏิบัติกิจวตั รประจำวนั อย่เู สมอ ✓ ๖ ช่วยเหลอื ตนเองในชีวิตประจำวันได้ต่ำกว่าวยั ✓ ทักษะทางสงั คม/การปฏิสัมพันธก์ บั ผูอ้ นื่ ✓ ๗ ชอบเลน่ กบั เด็กท่ีมอี ายนุ ้อยกวา่ หรอื ไม่สามารถเล่นกับเพอื่ นตามวยั ๘ เลน่ เลียนแบบผู้อ่นื อย่างไมเ่ หมาะสมกับวยั ✓ ทกั ษะการรจู้ กั ใชท้ รัพยากรในชมุ ชน ✓ ๙ มีปัญหาด้านพฤติกรรมในการใช้ส่ิงของสาธารณะประโยชน์ เช่น ชอบ ✓ ทำลายหรอื ใช้อยา่ งไม่ระมัดระวัง ๑๐ ไม่รูจ้ ักวธิ กี ารใช้ การจดั เก็บ และการดแู ลรักษาของส่วนรวม ทักษะการรจู้ ักดแู ลควบคุมตนเอง ๑๑ เอาแต่ใจตนเอง มีอารมณโ์ กรธ ฉุนเฉียวบ่อย ๆ ๑๒ ไม่สามารถควบคมุ ตนเองทำตามสง่ิ ท่ตี ้องทำ ทกั ษะการนำความร้มู าใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน

151 ที่ ลักษณะ / พฤติกรรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ๑๓ ลืมง่าย / จำในส่งิ ทีเ่ รียนมาแลว้ ไมไ่ ด้ ✓ ๑๔ ไมส่ ามารถนำทกั ษะทีเ่ รยี นร้ไู ปแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้าได้ ✓ ทกั ษะการทำงาน ✓ ๑๕ ชว่ งความสนใจสั้น ไมส่ ามารถรบั ผดิ ชอบงานท่ีตอ้ งทำ ✓ ๑๖ ทำตามคำสงั่ ตอ่ เน่อื ง ๒คำสัง่ ข้ึนไปไดย้ าก สบั สนงา่ ย ✓ ทักษะการใชเ้ วลาว่าง ✓ ๑๗ สนใจส่ิงรอบตัวนอ้ ย ๑๘ ใชเ้ วลาวา่ งแสดงพฤตกิ รรมทไ่ี ม่เหมาะสม ✓ ทักษะการรกั ษาสขุ ภาพอนามยั และความปลอดภัย ✓ ๑๙ ดูแลสุขภาพตนเองได้น้อย เช่น ล้างมือไม่เป็น หรือไม่รู้จักรับประทาน อาหารที่เปน็ ประโยชน์ ๒๐ มีความระมัดระวงั เรอื่ งความปลอดภัยตนเองนอ้ ย หมายเหตุ ท้ังน้ีพฤติกรรมดังกลา่ วตอ้ งเทียบเคยี งกับพัฒนาการของเด็กท่ัวไป เกณฑ์การพจิ ารณา แต่ละทักษะจะต้องมีผลการวิเคราะห์พฤติกรรมทักษะว่าใช่ทั้ง ๒ข้อ แสดงว่าไม่ผ่านทักษะนั้น และ หากว่าพบทักษะการปรับตัวไม่ผ่านตั้งแต่ ๒ ทักษะข้ึนไป แสดงว่ามีแนวโน้มท่ีจะเป็นบุคคล ท่ีมีความบกพรอ่ ง ทางสติปัญญา ให้จัดบริการช่วยเหลือทางการศกึ ษาพิเศษ และสง่ ต่อใหแ้ พทยต์ รวจวินิจฉัย ตอ่ ไป ผลการคดั กรอง  ไมพ่ บความบกพร่อง  พบความบกพรอ่ ง ความคิดเหน็ เพม่ิ เตมิ .........ม..ีแ...น...ว..โ.น...้ม...ท..ี่.จ..ะ..เ..ป..็น...บ...ุค...ค..ล...ท..่ี.ม..ีค...ว..า..ม...บ..ก...พ...ร..่อ...ง...ท...า..ง..ส..ต...ิป..ั.ญ...ญ...า....ใ.ห...้จ...ัด..บ...ร..ิก...า.ร..ช...่ว..ย..เ..ห...ล..ือ...ท..า...ง.ก...า..ร..ศ...ึก..ษ...า......... .........พ...เิ .ศ..ษ......แ..ล..ะ...ส..ง่ ..ต..อ่...ใ.ห...แ้ ..พ...ท..ย...ต์ ..ร..ว..จ..ว..นิ...จิ..ฉ...ยั ..ต..อ่...ไ.ป................................................................................................. ลงชือ่ .................................................. ใบวุฒบิ ัตร เลขที.่ ....ศ...ก..ศ....ล..ป....๒...๐.../.๒...๕...๖...๐......................(ผคู้ ัดกรอง) (.....น...า..ง..ส..า..ว..ป...ิย..ะ..น...ชุ .....ต..๊ิบ...ว..ง..ศ..์.....) ลงช่ือ .................................................. ใบวุฒิบตั ร เลขท่ี.....ศ...ก..ศ....ล..ป....๒...๖.../.๒...๕...๖...๓......................(ผ้คู ดั กรอง) (...น..า..ง..ส..า..ว..พ...ชั...ร..น..ัน...ท..์...ไ..ช..ย..ว..ง..ศ...์ ...) ลงชอื่ .................................................. ใบวุฒิบตั ร เลขท.่ี .....ศ..ก..ศ....-.ล...ป...๘...๗.../.๒...๕...๖...๑......................(ผคู้ ัดกรอง) (.......น...า..ง..ส..า..ว..น...นั ..ท...ิช..า.....ก..ะ..ร..โิ..ส......)

152 ๑๐ คำยนิ ยอมของผู้ปกครอง ขา้ พเจา้ (นาย / นาง / นางสาว)..............น...า..ง..เ.ล..อื่...ม.....ป..า..ล...ะ..ว..ง..ศ..์................................. เป็นผปู้ กครองของ (ด.ช. / ด.ญ./ นาย / นางสาว) .......เ.ด...ก็..ช...า..ย..ธ..น...ช..ัย.....ป...า..ล..ะ..ว..ง..ศ..์.............................................................................  ยนิ ยอม  ไมย่ นิ ยอม ใหด้ ำเนนิ การคัดกรอง (ด.ช./ ด.ญ./ นาย / น.ส.)......เ..ด..ก็..ช...า..ย..ธ..น...ช..ยั.....ป...า..ล..ะ..ว..ง..ศ...์ ... ตามแบบคัดกรองนี้ เมือ่ พบว่ามแี นวโน้มเป็นผู้ทม่ี คี วามบกพรอ่ งตามแบบคัดกรองขา้ งต้น  ยินดี  ไมย่ ินดี ใหจ้ ัดบริการช่วยเหลอื ทางการศกึ ษาพิเศษต่อไป ลงชื่อ.................................................ผู้ปกครอง (.........น...า..ง..เ.ล..อื่...ม.....ป..า..ล...ะ..ว..ง..ศ..์........)

153 แบบประเมนิ หลักสตู รสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน สำหรบั ผูเ้ รยี นพิการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจงั หวดั ลำปาง ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ระดับการศกึ ษาภาคบงั คับ : ระดบั ชั้นประถมศึกษา (ปีท่ี ๒) ชอ่ื -สกุล เด็กชายธนชัย ปาละวงศ์ อายุ ๑๔ ปี ๓ เดอื น วนั ทป่ี ระเมนิ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คำช้แี จง ๑. แบบประเมนิ ตามหลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขัน้ พนื้ ฐานสำหรับผู้เรียนพกิ าร ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง ฉบับปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๕ ใช้ประเมนิ สำหรับเดก็ ทอ่ี ยใู่ นระดบั การศึกษาภาคบังคับ ๒. แบบประเมินฉบบั น้สี ามารถใชไ้ ดก้ ับผรู้ ับการประเมนิ ทุกประเภทความพกิ าร เกณฑก์ ารประเมินผล ๑. ผลการประเมนิ กอ่ นการพัฒนา ระดบั ๔ หมายถงึ ไม่ตอ้ งช่วยเหลือ/ทำได้ด้วยตนเอง ระดบั ๓ หมายถึง กระตุ้นเตอื นดว้ ยวาจา ระดับ ๒ หมายถงึ กระตุ้นเตือนดว้ ยท่าทาง และวาจา ระดบั ๑ หมายถึง กระต้นุ เตือนทางกาย ทา่ ทาง และวาจา ระดับ ๐ หมายถงึ ตอบสนองผดิ หรือไม่มกี ารตอบสนอง ๒. สรุป ๒.๑ หน่วย ฯ หมายถงึ จัดการเรียนการสอนตามหนว่ ยการจัดการเรยี นรู้ ๒.๒ IEP / IFSP หมายถึง จดั การเรยี นการสอนตามแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล หรือแผนการให้บริการช่วยเหลอื เฉพาะครอบครวั

154 ๑. สาระการดำรงชวี ติ ประจำวันและการจัดการตนเอง คำชแ้ี จง ใหท้ ำเครือ่ งหมาย ลงในช่องผลการประเมินที่ตรงตามสภาพความเป็นจริง ผลการประเมนิ สรปุ ท่ี ตัวชว้ี ดั กอ่ นการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ ดป ๑.๑/๓  ดูแลความสะอาดสขุ อนามัยของตนเอง ๒ ดป ๑.๑/๔   ดแู ลสุขอนามัยได้อยา่ งเหมาะสมตามเพศของ ตนเอง ๓ ดป ๑.๑/๕  ปฏบิ ตั ิตนตามมาตรการการป้องกันโรค ๔ ดป ๑.๒/๔  เลือกเคร่ืองแตง่ กายหรือเคร่ืองประดับตาม ความชอบสว่ นตวั ๕ ดป ๑.๒/๕   เลอื กเคร่ืองแตง่ กายไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ และโอกาส ๖ ดป ๑.๓/๒  บอกเลือกใช้อุปกรณแ์ ละห้องน้ำภายในบา้ น ห้องนำ้ สาธารณะได้อยา่ งถูกต้อง ตรงตามเพศ ของตนเอง ๗ ดป ๑.๓/๓  ทำความสะอาดตนเองและห้องน้ำ หลังใช้ห้องนำ้ และแต่งกายให้แลว้ เสร็จก่อนออกจากห้องน้ำ ๘ ดป ๑.๖/๔   ข้ามถนนอย่างปลอดภัย ๙ ดป ๒.๑/๓  ออกกำลงั กาย เลน่ กีฬา หรือนนั ทนาการตาม ความถนดั และความสนใจ ๑๐ ดป ๓.๑/๒  บอกอารมณ์พื้นฐานของตนเอง

155 ผลการประเมิน สรปุ ท่ี ตวั ช้ีวดั ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๑๑ ดป ๓.๑/๕  แสดงสีหน้า อารมณแ์ ละสนทนาตอบโต้ เมื่อไดร้ ับคำชมเชย คำติชม หรอื คำเตือน จากผอู้ นื่ ๑๒ ดป ๓.๑/๖  มีความยดื หยนุ่ เม่ือมีการเปลี่ยนแปลงเวลา หรอื จากสถานที่หนงึ่ ไปอีกสถานท่หี น่ึง ๑๓ ดป ๓.๑/๗  ตีความหมายสหี น้า ท่าทาง ภาษากาย และ นำ้ เสยี งของผู้อื่นและตอบสนองอารมณ์ของผู้อ่นื ๒. สาระการเรียนรแู้ ละความรูพ้ ื้นฐาน คำช้ีแจง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งผลการประเมนิ ท่ตี รงตามสภาพความเปน็ จริง ที่ ตวั ชวี้ ัด ผลการประเมนิ สรุป ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ รพ ๑.๑/๓  ใชก้ ารฟัง การดู การสมั ผสั เพื่อแสดงความสนใจ ตอ่ สอ่ื บคุ คลและมสี ่วนรว่ มในสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวติ ประจำวัน ๒ รพ ๑.๑/๔  เลียนแบบการแสดงออกในการสอ่ื สารกบั บุคคลอน่ื ทคี่ ุน้ เคยหรือไมค่ ุน้ เคยในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ ๓ รพ ๑.๑/๗  ใชก้ ระบวนการส่ือสารในการแสวงหาขอ้ มูล ข่าวสารในการตดิ ตามความเคล่อื นไหวตา่ ง ๆ ในสงั คม สำหรบั การดำรงชวี ิตและการประกอบ อาชีพ

156 ท่ี ตวั ชว้ี ดั ผลการประเมิน สรุป ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๔ รพ ๑.๒/๑  ใช้กระบวนการอา่ นในการเลือกภาพ คำ ทอี่ อกเสียงเหมือนเสียงพยญั ชนะตน้ ท่ีเป็นช่อื ของตนเอง สิง่ ของ บุคคลอื่นได้ ๕ รพ ๑.๒/๒  ระบุชื่อสง่ิ ของ บคุ คลท่ีรจู้ กั ในหนงั สอื ภาพ หรือสอ่ื รูปแบบอน่ื ๆ ๖ รพ ๑.๓/๓  เขยี นพยัญชนะไทย สระ วรรณยกุ ต์ ได้ตาม ศักยภาพเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษดว้ ยวธิ ีการ ตา่ ง ๆ ไดต้ ามศกั ยภาพ ๗ รพ ๓.๑/๑  บอกประวัตคิ วามเป็นมาของตนเอง และครอบครัวโดยใชร้ ูปแบบท่ีหลากหลาย ๘ รพ ๖.๑/๒  บอกประโยชน์ส่ิงของเครื่องใชท้ เี่ ป็นเทคโนโลยี ในชวี ิตประจำวัน โดยการบอก ชี้ หยิบหรอื รปู แบบการสื่อสารอื่น ๆ

157 ๓. สาระสังคมและการเป็นพลเมืองทเ่ี ข้มแข็ง คำช้ีแจง ใหท้ ำเคร่ืองหมาย ลงในช่องผลการประเมินทีต่ รงตามสภาพความเป็นจรงิ ที่ ตวั ช้ีวดั ผลการประเมนิ สรปุ ก่อนการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ สพ ๑.๑/๒  ปฏิบตั หิ น้าท่ขี องตนเองในการเป็นสมาชกิ ทีด่ ี ของครอบครวั ๒ สพ ๑.๑/๔  ปฏบิ ัติตนตามบทบาทหนา้ ที่ของตนเอง ในการเป็นสมาชิกที่ดีของโรงเรยี น ๓ สพ ๑.๑/๖  ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตนเอง ในการเป็นสมาชิกท่ดี ขี องชุมชนและสังคม ๔ สพ ๓.๑/๒  ปฏบิ ตั ิตาม ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญกู ตเวที ๕ สพ ๓.๒/๑  เข้าใจ ตระหนักถงึ ความสำคัญต่อศาสนพิธี พธิ ีกรรมและวันสำคัญทางศาสนาท่ตี นเอง นับถือ

158 ๔. สาระการงานพน้ื ฐานอาชพี คำชแ้ี จง ใหท้ ำเครื่องหมาย ลงในชอ่ งผลการประเมินที่ตรงตามสภาพความเปน็ จริง ที่ ตวั ชว้ี ัด ผลการประเมิน สรุป ก่อนการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ กอ ๑.๑/๓  เก็บของเลน่ – ของใช้สว่ นตวั หรือของสมาชกิ ในครอบครวั จนเป็นนสิ ยั ลงชอื่ ......................................ผูป้ ระเมิน ลงชอื่ ......................................ผู้ประเมนิ (นางสาวพชั รนนั ท์ ไชยวงศ์) (นายอนุชา โสส้มกบ) ตำแหน่ง พนักงานราชการ ตำแหนง่ ครู ลงชื่อ.......................................ผปู้ ระเมนิ (นางสาวนนั ทิชา กะรโิ ส) ตำแหน่ง ครู

159 แบบประเมนิ ความสามารถพน้ื ฐาน หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน สำหรบั ผู้เรียนพกิ าร ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจงั หวัดลำปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ทกั ษะจำเป็นเฉพาะความบกพร่องทางสตปิ ญั ญา ชอ่ื -สกุล………เ…ด็ก…ช…าย…ธ…น…ชัย……ป…า…ละ…ว…งศ…์ ……………………………………………. วันท่ีประเมิน ………๒…๕……พ…ฤ…ษ…ภา…ค…ม…๒…๕…๖…๕………………………………………. วนั /เดอื น/ปี เกิด ……๒๖……ก…ุม…ภ…าพ…ัน…ธ…์ ๒…๕…๕…๑………………………………………. อาย…ุ …๑…๔…….ป…ี ……๓…..…เดือน คำชีแ้ จง ๑. แบบประเมินตามหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐานสำหรับผู้เรียน พิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ใช้ประเมิน สำหรับเด็กทอี่ ย่ใู นระดับการศึกษาภาคบงั คับ ๒. แบบประเมนิ ฉบับนี้สามารถใชไ้ ด้กับผรู้ ับการประเมนิ ทุกประเภทความพิการ เกณฑ์การประเมินผลก่อนพัฒนา ระดับ ๔ หมายถึง ไมต่ ้องช่วยเหลอื /ทำได้ด้วยตนเอง ระดับ ๓ หมายถึง กระตนุ้ เตือนด้วยวาจา ระดับ ๒ หมายถึง กระตุน้ เตือนดว้ ยท่าทาง และวาจา ระดบั ๑ หมายถงึ กระตุน้ เตือนทางกาย ท่าทาง และวาจา ระดบั ๐ หมายถึง ตอบสนองผิดหรอื ไมม่ กี ารตอบสนอง

160 หมายเหตุ กระตุ้นเตอื นทางกาย หมายถงึ ผ้สู อนจบั มอื ทำ เมอ่ื เด็กทำได้ลดการชว่ ยเหลือลงโดยให้ แตะข้อศอกของเด็กและกระต้นุ โดยพดู ซำ้ ใหเ้ ดก็ ทำ กระตนุ้ เตือนด้วยท่าทาง หมายถงึ ผู้สอนชใ้ี ห้เด็กทำ/ผงกศีรษะเมื่อเด็กทำถกู ต้อง/ส่ายหนา้ เม่ือเดก็ ทำไม่ถูกตอ้ ง กระตุ้นด้วยวาจา หมายถงึ ผู้สอนพูดให้เด็กทราบในสิ่งท่ผี สู้ อนต้องการใหเ้ ด็กทำ

161 สาระทกั ษะจำเป็นเฉพาะความพิการ มาตรฐานที่ ๕.๓ ทักษะจำเป็นเฉพาะความบกพร่องทางสติปัญญา ตัวชว้ี ดั ๕.๓.๑ สามารถสื่อสารไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์ ข้อที่ ตัวชว้ี ดั ระดบั ความสามารถ สรปุ ก่อนการพัฒนา ๑ สป ๑.๑/๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP สื่อสารไดเ้ หมาะสมกับสถานการณ์  ตัวชี้วัด ๕.๓.๒ สามารถดแู ลตนเองและความปลอดภัยในชีวติ ประจำวัน ข้อที่ ตัวชวี้ ัด ระดบั ความสามารถ สรุป ก่อนการพัฒนา ๑ สป ๑.๒/๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP  ดแู ลตนเองและความปลอดภัยใน ชีวิตประตจำวั วชันว้ี ัด ๕.๓.๓ การควบควบคุมตนเองในสถานการณ์ตา่ งๆ การนับถือตนเอง และสำนึกรผู้ ิดชอบชัว่ ดี ขอ้ ท่ี ผลการเรยี นรู้ที่คาดหวงั ระดบั ความสามารถ สรุป ก่อนการพัฒนา การควบคุมตนเองขณะอยู่ท่ีบ้าน ๑ สป ๑.๓.๑/๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP สามารถพดู /สื่อสารใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์**  การควบคุมตนเองในห้องเรยี น  ๑ สป ๑.๓.๒/๑ สามารถปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของ หอ้ งเรียนได*้ *

162 ระดับความสามารถ สรุป ข้อท่ี ผลการเรยี นร้ทู ่ีคาดหวัง ก่อนการพัฒนา การควบคุมตนเองในชุมชน/ทส่ี าธารณะ ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ สป ๑.๓.๓/๑   สามารถควบคุมตนเองในการทำ  ๒ สกปจิ ก๑รร.๓ม.ร๓ว่ /ม๒กับผู้อนื่  ใน  ๓ ทสสชปาุมำมช๑านร.๓ถ/.ค๓ทว/ส่ี บ๓าคธุมาอรณาระมไณด้*์ต*นเองในการ   กิจกรรมร่วมกับผอู้ ่ืนเมื่อสถานการณ์  เปลี่ยนแปลงได*้ * การสำนึกรผู้ ดิ ชอบช่ัวดีตอ่ การกระทำความดที ี่ตนเองกระทำ ๑ สป ๑.๓.๔/๑  สามารถแสดงความซ่ือสตั ย์ท่ีตนเอง กระทำได้**  ๒ สป ๑.๓.๔/๒ สามารถแบง่ ปนั สิง่ ของได*้ * ตวั ชี้วดั ๕.๓.๔ มปี ฏสิ มั พันธ์ทางสงั คมกับผู้อ่นื อยา่ งเหมาะสม ขอ้ ท่ี ผลการเรียนร้ทู ีค่ าดหวัง ระดบั ความสามารถ สรุป ก่อนการพัฒนา ๑ สป ๑.๔/๑ มปี ฏสิ มั พันธ์ทางสังคมกบั ผู้อ่ืน ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP อยา่ งเหมาะสม 

163 ตัวช้ีวัด ๕.๓.๕ ปฏบิ ัติตนตามตารางกจิ วัตรประจำวนั และแก้ปญั หาใน ชีวติ ประจำวนั ระดับความสามารถ สรุป ข้อที่ ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง ก่อนการพัฒนา ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP วันทำการ (วนั จนั ทร์-ศกุ ร์)   กจิ วตั รประจำวนั ก่อนไปโรงเรียน  ๑ สป ๑.๕.๑/๑    สามารถปฏบิ ตั ิตนตามตารางกจิ วัตร   กิจกรรมในปโรระงจเรำยีวนันก่อนไปโรงเรียนได้ **  ๒ สกปอ่ น๑ไป.๕โ.ร๑ง/เร๒ยี นได้ สามารถปฏิบัตติ นตามตารางกิจกรรมใน กิจวัตรปรโะรจงำเรวียันนหไลดัง้ เ*ล*กิ เรยี น  ๓ สป ๑.๕.๑/๓ สามารถปฏบิ ตั ิตนตามตารางกิจวตั ร วันหยุด (ปวรนั ะเจสำาวรนั ์ –หลวังนั เลอิกาเทริตยี ยน์)ได้**  กจิ กรรมชหว่ ลงงัเชเล้ากิ เรียนได้ ๑ สป ๑.๕.๒/๑ สามารถปฏบิ ตั ิตนตามตารางกจิ วตั ร  กิจกรรมรปะหระวจา่ งำววันนั ช่วงเช้าได้** ๒ สป ๑.๕.๒/๒ สามารถปฏบิ ัตติ นตามตารางกิจวตั ร กิจกรรมปรระะหจวำา่วงันวชันว่ ไงดเ้*ย*็น  ๓ สป ๑.๕.๒/๓ สามารถปฏบิ ัตติ นตามตารางกจิ วัตร  การตัดสนิ ปใจระจำวนั ช่วงเยน็ ได้** ๑ สป ๑.๕.๓/๑ สามารถตัดสินใจเลือกส่ิงของ ในชวี ิตประจำวนั ของตนเองได้**

164 ตัวช้ีวดั ๕.๓.๖ รจู้ ักใช้ทรพั ยากรในชุมชน ขอ้ ท่ี ผลการเรียนรูท้ ่คี าดหวัง ระดบั ความสามารถ สรุป ก่อนการพัฒนา ๑ สป ๑.๖/๑ ใชส้ งิ่ ของสาธารณะอย่างเหมาะสม ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP  ตัวชีว้ ดั ๕.๓.๗ การปฏบิ ตั ิตนตามกฎระเบียบ ปฏิบัตติ ามกฎหมาย และการรู้จกั การไม่ละเมิดสิทธิของผู้อน่ื ระดบั ความสามารถ สรปุ ขอ้ ท่ี ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวงั ก่อนการพัฒนา ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP การปฏบิ ัตติ นตามกฎระเบียบของสังคมในชีวิตประจำวัน  ๑ สป ๑.๗.๑/๑  สามารถปฏบิ ตั ติ นตามกฎระเบยี บของ  การปฏบิ ตั สติ งั นคตมาไมดก้ ฎหมายท่ีเกย่ี วข้องกับตนเองในการเป็นพลเมืองดี   ๒ สป ๑.๗.๒/๑  สามารถปฏิบัติตนตามกฎหมายท่ี   เก่ยี วขอ้ งกับตนเองในการเป็น การไมล่ ะเมพิดลสเิทมือธิขงดอี*ง*ผู้อืน่ ๓ สป ๑.๗.๓/๑ ไม่ละเมดิ สิทธิทางรา่ งกายของผู้อนื่ ** สป ๑.๗.๓/๒ ไมล่ ะเมดิ สทิ ธิทางทรัพย์สนิ ของ ผู้อนื่ **

165 ตัวช้ีวัด ๕.๓.๘ สามารถใชเ้ ทคโนโลยีสงิ่ อำนวยความสะดวกเครือ่ งช่วยในการ เรียนรู้ ข้อที่ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ / ระดับความสามารถ สรปุ ผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวงั ก่อนการพัฒนา ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ สป ๑.๕/๑  ใช้อุปกรณช์ ่วยในการสื่อสารทางเลือก ๒ สป ๑.๕/๒  ใชอ้ ุปกรณ์ชว่ ยในการเข้าถงึ คอมพิวเตอรเ์ พื่อการเรยี นรู้  ๓ สป ๑.๕/๓ ใช้โปรแกรมเสริมผ่านคอมพวิ เตอร์เพื่อ ชว่ ยในการเรียนรู้ ตวั ชี้วัด ๕.๓.๙ การใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ ขอ้ ที่ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ / ระดบั ความสามารถ สรปุ ผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวงั ก่อนการพัฒนา ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ดา้ นดนตรี การเล่นเครอ่ื งดนตรี ๑ สป ๑.๙.๑/๑  สามารถฟังเพลงหรือดนตรีตามความ ๒ สสปนใ๑จข.๙อ.ง๑ต/น๒เองได*้ *  สามารถเล่นเครื่องดนตรตี ามความสนใจ ของตนเองได*้ *

166 ขอ้ ท่ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ / ระดบั ความสามารถ สรุป ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง ก่อนการพัฒนา ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หนว่ ยฯ IIP/FCSP การร้องเพลง / การแสดงออกทางการเคลื่อนไหว ๓ สป ๑.๙.๑/๓  สามารถร้องเพลงและแสดงออก ทางการเคลอื่ นไหวตามจงั หวะเพลง ด้านศลิ ปะท่เี หมาะสม**  ๑ สป ๑.๙.๒/๑ การสร้างสรรคผ์ ลงานตามความถนดั และความสนใจ  ๒ สป ๑.๙.๒/๒ สามารถสร้างสรรค์ผลงานในเชงิ ศลิ ปะ ไดต้ ามความถนดั และความสนใจ** ดา้ นกีฬาและนันทนาการ กจิ กรรมกีฬาอนชุ น YA (Young Athletes) ๑ สป ๑.๙.๓/๑  สามารถเล่นกีฬาอนุชน YA (Young Athletes) ตามความสนใจและความ เหมาะสม** กิจกรรมกีฬา Special Olympics ๒ สป ๑.๙.๓/๑  สามารถเลน่ กีฬา Special Olympics ตามความสนใจและความเหมาะสม**

167 ตวั ชว้ี ดั ๕.๓.๑๐ ทักษะด้านการท่องเที่ยว การใชย้ านพาหนะ และการดแู ลความ ปลอดภยั ของตนเองจากบุคคลหรอื สง่ิ แวดล้อมที่ไมป่ ลอดภัย ขอ้ ท่ี สภาพท่พี ึงประสงค์ / ระดบั ความสามารถ สรุป ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวงั ก่อนการพัฒนา หน่วยฯ IIP/FCSP การท่องเที่ยว ๔๓๒๑๐ ๑ สป ๑.๑๐.๑/๑   สามารถเลอื กสถานท่ีท่องเทีย่ วได้ตาม   ความสนใจ ๒ สป ๑.๑๐.๑/๑   สามารถเลอื กปฏิบัติตนให้เหมาะสมกบั สถานทที่ ่องเทีย่ ว**   การใช้ยานพาหนะส่วนบคุ คล   ๑ สป ๑.๑๐.๒/๑ สามารถใช้ยานพาหนะได้อย่าง ปลอดภยั ** การปฏบิ ตั จิ ากบุคคลท่ไี ม่ปลอดภยั ๑ สป ๑.๑๐.๓/๑ สามารถแก้ปัญหา / หลกี เลย่ี งอนั ตราย จากบคุ คลได้** การปฏบิ ัตติ นจากสงิ่ แวดลอ้ มทไ่ี ม่ปลอดภยั ๑ สป ๑.๑๐.๓/๑ สามารถแก้ปัญหา / หลกี เลยี่ งอนั ตราย จากบุคคลได*้ *

168 ตัวชี้วดั ๕.๓.๑๑ ทกั ษะการใช้ทรพั ยากรในชุมชนไดอ้ ย่างเหมาะสม ขอ้ ที่ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ / ระดับความสามารถ สรุป ผลการเรยี นรู้ทคี่ าดหวัง ก่อนการพัฒนา ๔ ๓ ๒ ๑ ๐ หน่วยฯ IIP/FCSP การรู้จักวธิ รี กั ษาห้องนำ้ สาธารณะ  ๑ สป ๑.๑๑.๑/๑ สามารถบำรงุ รักษาห้องนำ้ สาธารณะ  ได*้ *  การรจู้ ักวธิ ใี ช้สวนสาธารณะ สป ๑.๑๑.๒/๑ สามารถบำรุงรกั ษาตน้ ไม้ อุปกรณ์ เคร่ืองเล่นในสวนสาธารณะได้** การรูจ้ กั ใชส้ ิ่งแวดล้อม สป ๑.๑๑.๓/๑ สามารถบำรุงรกั ษาแหล่งทอ่ งเท่ยี ว** ที่มา * สำนกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ. (๒๕๖๒). หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวัยสำหรับเด็ก ** ทม่ี ีความตอ้ งการจำเป็นพิเศษ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๒. อดั สำเนา. สำนกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ. (๒๕๕๘). (ร่าง) แนวทางการจดั กิจกรรมตาม หลกั สตู รสำหรบั เด็กท่ีมีความต้องการจำเปน็ พเิ ศษระยะแรกเริ่ม ของศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช ๒๕๕๘. อดั สำเนา ลงชอ่ื ......................................ผูป้ ระเมนิ ลงชอ่ื ......................................ผ้ปู ระเมิน (นางสาวพชั รนนั ท์ ไชยวงศ์) (นายอนุชา โสส้มกบ) ตำแหน่ง พนักงานราชการ ตำแหนง่ ครู ลงช่ือ.......................................ผปู้ ระเมิน (นางสาวนันทิชา กะริโส) ตำแหน่ง ครู

169 ชือ่ -สกลุ เด็กชายธนชยั ปาละวงค์ วันทีป่ ระเมนิ ๒๕ พ.ค. ๖๕ แบบประเมินทางกิจกรรมบำบดั ผปู้ ระเมนิ นางสาวสริ ินยา นนั ทชยั ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง 1. ลักษณะโดยท่ัวไป (General appearance) เด็กผู้ชายรปู รา่ งสมสว่ น มีภาวะนำ้ หลายยดื พดู คยุ สื่อสารเปน็ คำ 1- 2 คำ ฟังเข้าใจคำส่งั สามารถทำตามคำสงั่ ได้ 1 ข้ันตอน ไม่ระมดั ระวงั ส่ิงแวดล้อมรอบตัว 2. การประเมินความสามารถดา้ นการเคลอ่ื นไหว (Motor Function) 2.1 ทกั ษะกล้ามเน้ือมัดใหญ่ (Gross Motor) รายการ ระดับความสามารถ (ระบอุ ายุทท่ี ำได)้ รายการประเมิน ระดับความสามารถ (ระบุอายุท่ีทำได้) ประเมิน ทำได้ด้วย ทำได้แต่ต้อง ทำไม่ได้ ทำได้ดว้ ย ทำได้แต่ต้อง ทำไมไ่ ด้ ตนเอง ช่วยเหลือ ตนเอง ช่วยเหลอื ชนั คอ √ วิง่ √ พลิกตะแคงตวั √ เดินขึน้ -ลงบนั ได (เกาะราว) √ พลิกคว่ำหงาย √ กระโดด 2 ขา √ นั่งไดเ้ อง √ เดนิ ขน้ึ -ลงบนั ได (สลับเทา้ ) √ คลาน √ ป่นั จักรยาน 3 ลอ้ √ เกาะยืน √ ยืนขาเดียว √ ยนื √ กระโดดขาเดียว √ เดิน √ 2.2 การข้ามแนวกลางลำตัว (Crossing the Midline) • สามารถมองตามข้ามแนวกลางลำตวั  มี □ ไมม่ ี • สามารถนำมือทง้ั สองข้างมาใชใ้ นแนวกลางลำตัว  มี □ ไม่มี 2.3 ข้างทถี่ นัด (Laterality) □ ซา้ ย  ขวา 2.4 การทำงานร่วมกนั ของรา่ งกายสองซกี (Bilateral integration)  มี □ ไม่มี 2.5 การควบคมุ การเคลื่อนไหว (Motor control) • สามารถเปลีย่ นรปู แบบการเคลือ่ นไหว  มี □ ไม่มี • ความสามารถในการเคล่ือนไหว (Mobility)  มี □ ไมม่ ี • รปู แบบการเคล่ือนไหวทผ่ี ิดปกติ □ มี □ อาการส่ัน (Tremor) □ การบดิ หมุนของปลายมือปลายเท้าคล้ายการฟ้อนรำ (Chorea) □ การเคล่ือนไหวของแขนขาสะเปะสะปะ (Athetosis) □ ความตึงตัวของกล้ามเนือ้ ไมแ่ น่นอน (Fluctuate)  ไมม่ ี • มีการเดินสะเปะสะปะ เหมือนการทรงตัวไม่ดี (Ataxic Gait) □ มี  ไมม่ ี • เดนิ ตอ่ ส้นเท้า □ ทำได้  ทำไม่ได้ • ทดสอบ Finger to Nose Test □ ทำได้  ทำไม่ได้ □ มีการกะระยะไมถ่ ูก (Dysmetria) • ทดสอบการเคลื่อนไหวสลับแบบเรว็ (Diadochokinesia) □ ทำได้  ทำไม่ได้ 2.6 การวางแผนการเคล่ือนไหว (Praxis) *มแี บบทดสอบมาตรฐาน* - การเลียนแบบทา่ ทาง □ ทำได้  ทำไม่ได้ - การเลียนแบบเคล่ือนไหว □ ทำได้  ทำไม่ได้ 2.7 การประสานงานของกลา้ มเน้ือมัดเลก็ (Fine coordination) ....................... Normal.............................................

170 แบบประเมินทกั ษะการเคล่ือนไหวของกล้ามเน้อื มดั เลก็ ระดบั ความสามารถ รายการประเมิน ทำไดด้ ว้ ยตนเอง ทำไดแ้ ต่ตอ้ งใหก้ ารชว่ ยเหลือ ทำไม่ได้ การสบตา (eye contact) √ การมองตาม (eye following) √ การใช้แขนและมือ √ ➢ การเอื้อม (Reach Out) ➢ การกำ (Grasp) 1. การกำ (Power grasp) •การกำแบบตะขอ (Hook) √ •การกำทรงกลม (Spherical grasp) √ √ •การกำทรงกระบอก (Cylindrical grasp) √ การหยิบจับ (Precise grasp) 2. ➢ การนำ (Carry /hold ) √ ➢ การปลอ่ ย (Release) √ การใช้สองมือ การใช้กรรไกร √ การใช้อปุ กรณ์เคร่ืองใช้ในการรบั ประทานอาหาร √ การใชม้ อื ในการเขียน √ ความคลอ่ งแคลว่ ของการใช้มอื √ การประสานสมั พันธ์ระหว่างมือกบั ตา √ (eye-hand coordination) การควบคมุ การเคลือ่ นไหวริมฝปี าก √ ➢ การปิดปาก (Lip Closure) ➢ การเคลื่อนไหวล้ิน (Tongue) √ ➢ การควบคมุ ขากรรไกร (Jaw control) √ ➢ การดดู (Sucking) / การเปา่ √ ➢ การกลืน (Swallowing) √ ➢ การเคย้ี ว (Chewing) √ ความผดิ ปกติอวัยวะในช่องปากที่พบ 1. ภาวะลิ้นจุกปาก (Tongue thrust) □ พบ  ไมพ่ บ 2. ภาวะกัดฟัน (Tooth Grinding) □ พบ 3. ภาวะนำ้ ลายไหลยืด (Drooling)  ไม่พบ 4. ภาวะลิ้นไกส่ ้ัน  พบ □ ไมพ่ บ 5. ภาวะเคล่ือนไหวลน้ิ ได้น้อย □ พบ  ไมพ่ บ 6. ภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ □ พบ  ไมพ่ บ □ พบ  ไม่พบ หมายเหตุ (ข้อมลู เพ่ิมเติม)

171 กาารประเมนิ การรบั ความร้สู กึ 1. ตระหนักรู้ถงึ สง่ิ เร้า  มี □ ไม่มี 2. การรับความรู้สกึ (Sensation) ใส่ N=Normal (ปกต)ิ I=Impaired (บกพร่อง) L=Loss (สญู เสยี ) การรับความรู้สกึ ทางผิวหนงั (Tactile) - การรับรถู้ ึงสัมผัสแผ่วเบา (Light touch) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสีย - แรงกด (Pressure) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี - อณุ หภูมิ (Temperature) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สญู เสีย - ความเจบ็ (Pain) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี - แรงสั่นสะเทอื น (Vibration) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสยี การรบั ความรู้สกึ จากกล้ามเนอ้ื เอ็นและข้อ (Proprioceptive):  ปกติ □ บกพร่อง □ สูญเสีย การรับความร้สู กึ จากระบบการทรงตัว (Vestibular) : □ ปกติ  บกพร่อง □ สญู เสีย การรับข้อมลู จากการมองเห็น (Visual) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสีย การรบั ข้อมลู จากการได้ยนิ (Auditory) :  ปกติ □ บกพรอ่ ง □ สูญเสยี การรับข้อมูลจากตมุ่ รับรส (Gustatory) :  ปกติ □ บกพร่อง □ สญู เสยี 3. กระบวนการรบั รู้  มี □ ไม่มี การรบั รโู้ ดยการคลำ (Stereognosis)  มี □ ไม่มี การรับรู้การเคลื่อนไหว (Kinesthesis)  มี □ ไมม่ ี การตอบสนองต่อความเจ็บปวด (Pain Response)  มี □ ไม่มี การรบั รู้สว่ นต่างๆของรา่ งกาย (Body Scheme)  มี □ ไมม่ ี การรับรู้ซา้ ย-ขวา (Right-Left Discrimination) □ มี  ไมม่ ี การรับรรู้ ูปทรง (Form constancy) □ มี  ไม่มี การรับรตู้ ำแหนง่ (Position in space) □ มี  ไม่มี การรบั ร้ภู าพรวม (Visual-Closure) □ มี  ไม่มี การรบั รู้การแยกภาพ (Figure Ground) □ มี  ไมม่ ี การรับรูค้ วามลกึ (Depth Perception) □ มี  ไมม่ ี การรบั รู้มติ ิสมั พันธ์ (Spatial Relation)

173 แบบประเมนิ ประสิทธภิ าพการทำหนา้ ทีข่ องสมองในการบูรณาการความรู้สึก พฤติกรรม/การแสดงออก การแปลผล หมายเหตุ Hyperactive พบ (poor integration) ไม่พบ (good integration) Distractivity Tactile Defensiveness √ Gravitational Insecurity Visual Defensiveness √ Auditory Defensiveness √ √ √ √ *ใช้แบบประเมินพฤติกรรมการประมวลความรสู้ ึก* การประเมินการใช้สตปิ ัญญา ความคดิ ความเขา้ ใจ 1. ระดบั ความรูส้ กึ ตวั :  ปกติ □ ผดิ ปกติ 2. การรับร้วู ัน เวลา สถานท่ี และบคุ คล .............................disoriented of time and place…………..……….….. ....................................................................................................................................................................................... 3. การจดจำ................................................................................................................................................................. 4. ชว่ งความสนใจหรอื สมาธิ  มี .......... นาที □ ไม่มี 5. ความจำ  มี □ ไมม่ ี 6. การเรยี งลำดบั □ มี  ไมม่ ี 7. การจดั หมวดหมู่ □ มี  ไม่มี 8. ความคดิ รวบยอด □ มี  ไม่มี

174 แบบแจกแจงปัญหาและการตั้งเป้าประสงค์ ➢ สรปุ ปญั หาของนักเรียน ๑. พฒั นาการล่าช้าในด้านทกั ษะวิชาการ เช่น ทกั ษะการรบั รู้ทางสายตาดา้ น form constancy, position in space, visual closure, spatial relation ทักษะดา้ นความคดิ ความเขา้ ใจ การเรยี งลำดับ จัดหมวดหมู่ การรับรวู้ นั เวลา เป็นตน้ ➢ เปา้ ประสงค์ ๑. ครอบครวั มีความรู้ ทกั ษะ และเจตคติทด่ี ีในการดแู ล เห็นความสำคญั ของการฝึกฝนทกั ษะต่าง ๆ ใหข้ ้อมูลและ ทางเลือกต่าง ๆ ในการตัดสนิ ใจเพื่อใหเ้ ด็กสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดว้ ยตนเอง รวมทั้งการให้กำลงั ใจและ คอยสนับสนุน ๒. เพิม่ ชว่ งความสนใจ และสมาธิในการทำกิจกรรมการเรียนได้อย่างต่อเนอ่ื งท่ีเหมาะสมตามวัย ๓. ส่งเสรมิ ทกั ษะในชวี ติ ประจำวัน (Activities of daily living training) โดยเนน้ พัฒนาการในการช่วยเหลือ ตนเอง และการระบายออกทางพฤติกรรมท่ีเหมาะสม รวมทงั้ ทกั ษะด้านสังคมในการใช้ชีวติ อยู่รว่ มกับผ้อู ื่น (ลงชอ่ื ) ( นางสาวสิรนิ ยา นนั ทชยั ) นักกิจกรรมบำบัด วันท่ี ๒๕ พ.ค. ๖๕

175 ๑ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบัด ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง วันทีร่ ับการประเมิน ..๑...๗......พ.....ต.......ร..ี.๕..... ผูป้ ระเมิน ..น..า..ย..อ..น.ุ.ช..า..โ..ส...ส...ม..ก..ั.บ................ ๑. ขอ้ มลู ทัว่ ไป ชือ่ ……ด….ช….…ร…น…ชัย………ป…าล…ะว…ง…ก็ ……….....………… ชอื่ เลน่ ...ต.่..อ.......................... เพศ ✓ ชาย  หญงิ วัน เดอื น ปีเกิด...๒....ร่....ก....พ......6..๕..๕...๑......... อายุ .......ปี..........เดือน โรคประจาตวั ...-.............................. การวนิ ิจฉัยทางการแพทย์……………...................................................................................................... อาการสาคัญ (Chief complaint) …บ…กพ…ร่…อง.…ทา…ง…ส…ติป…ัญ…ญ…า…ส…าม…าร.ถ..ช…่วย…เพ…ือ…ต…น…เอ…งไ…ด้…เ…พื่อ…น…7…หา…ได…้ป..…กต…ิ … ขอ้ ควรระวัง.....-...................................................................................................................................... หอ้ งเรียน ....ป..รั.บ..บ..้.า..น....า....อ.....เ.ก..า.ะ..ค..า........................ครูประจาช้นั .....น..า.ง..ส..า.ว...ท..ั.น....น..น...ท.์...ไ..ช..ย..ว.ง..ส.ี............... ๒. การสงั เกตเบอ้ื งตน้ ปกติ ผดิ ปกติ การสงั เกต ปกติ ผิดปกติ ๙. เทา้ ปกุ การสงั เกต ✓ ๑๐. เท้าแบน ะ ๑. ลกั ษณะสีผิว ๑๑. แผลกดทับ ๒. หลังโกง่ ะ ๑๒. การหายใจ . ๓. หลังคด ๑๓. การพูด ๔. หลงั แอน่ . ๑๔. การมองเหน็ . ๕. เข่าชิด ๑๕. การเค้ยี ว . ๖. เข่าโกง่ . ๑๖. การกลืน ๗. ระดับข้อสะโพก . . ๘. ความยาวขา ๒ ขา้ ง . . . . เพ่ิมเติม .......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรับปรุงครง้ั ที่ ๓ วันท่ี ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

176 ๒ ๓. พัฒนาการตามวัย ความสามารถ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ความสามารถ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ๖. นง่ั ทรงตัว ๑. ชนั คอ . ๗. ลกุ ขนึ้ ยืน . ๘. ยนื ทรงตวั . ๒. พลิกคว่าพลิกหงาย . ๙. เดิน ๑๐. พดู . ๓. คบื . ะ ๔. คลาน . ๕. ลุกข้นึ นง่ั r เพม่ิ เติม ....-............................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................... ................................. ๔. การประเมินทางกายภาพบาบดั มาตรฐานท่ี ๑ การเพ่มิ หรือคงสภาพองศาการเคล่อื นไหวของข้อต่อ ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสงั เกต ๑.๑ เพ่มิ หรือคง ๑. ยกแขนขึ้นได้ / เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว สภาพองศาการ  ไม่เตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว เคลื่อนไหวของ  จากัดการเคลื่อนไหว ร่างกายส่วนบน เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................ ๒. เหยยี ดแขนออกไป  เต็มชว่ งการเคล่อื นไหว ด้านหลงั ได้ ะ ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคล่ือนไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................ ๓. กางแขนออกได้  เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว  จากัดการเคลื่อนไหว เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................ ๔. หุบแขนเข้าได้ r เต็มช่วงการเคลื่อนไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากัดการเคล่ือนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงคร้งั ที่ ๓ วันที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

177 ๓ ตวั บ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสังเกต ๕. งอขอ้ ศอกเขา้ ได้ - เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคล่ือนไหว  จากดั การเคลื่อนไหว ๖. เหยียดขอ้ ศอกออกได้ เพมิ่ เตมิ ................................. r เต็มชว่ งการเคล่ือนไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  จากัดการเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ๗. กระดกข้อมือลงได้ ................................................ / เต็มช่วงการเคลื่อนไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  จากดั การเคลอ่ื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ๘. กระดกข้อมือขึ้นได้ ................................................ rเต็มช่วงการเคล่ือนไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว  จากัดการเคลือ่ นไหว เพมิ่ เตมิ ................................. ๙. กามอื ได้ ................................................ / เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคลื่อนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ ๑๐. แบมือได้ / เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  ไมเ่ ตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากดั การเคล่อื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ๑.๒ เพิ่มหรือคง ๑. งอขอ้ สะโพกเข้าได้ ................................................ สภาพองศาการ เคลอ่ื นไหวของ r เต็มช่วงการเคลื่อนไหว ร่างกายสว่ นลา่ ง  ไม่เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคลื่อนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครง้ั ที่ ๓ วนั ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

178 ๔ ตัวบ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต ๒. เหยยี ดขอ้ สะโพก กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ r เต็มช่วงการเคลื่อนไหว ออกได้ ๓. กางข้อสะโพกออกได้  ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว ๔. หบุ ข้อสะโพกเข้าได้  จากัดการเคล่อื นไหว ๕. งอเขา่ เขา้ ได้ เพ่ิมเตมิ ................................. ๖. เหยียดเขา่ ออกได้ ................................................ r เต็มชว่ งการเคลอื่ นไหว ๗. กระดกข้อเทา้ ลงได้  ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว ๘. กระดกข้อเทา้ ขน้ึ ได้  จากัดการเคลอ่ื นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว ะ ไมเ่ ตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากัดการเคล่อื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................  เต็มชว่ งการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  จากัดการเคล่อื นไหว เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................ / เต็มช่วงการเคลอื่ นไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่ือนไหว  จากดั การเคล่ือนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ r เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคลอื่ นไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ - เตม็ ชว่ งการเคลื่อนไหว  ไม่เตม็ ชว่ งการเคล่อื นไหว  จากัดการเคลื่อนไหว เพิ่มเตมิ ................................. ................................................ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครัง้ ท่ี ๓ วันที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๓

179 ๕ ตวั บง่ ชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๙. หมนุ ข้อเทา้ ได้  เต็มช่วงการเคล่อื นไหว ๑๐. งอนว้ิ เทา้ ได้ ะ ไม่เตม็ ชว่ งการเคลอ่ื นไหว  จากัดการเคล่ือนไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................  เตม็ ชว่ งการเคลือ่ นไหว  ไม่เตม็ ช่วงการเคลื่อนไหว  จากดั การเคล่ือนไหว เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................ มาตรฐานท่ี ๒ การปรบั สมดุลความตึงตัวของกลา้ มเนื้อ ตัวบง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ข้อสังเกต ๒.๑ ปรับสมดลุ ๑. ปรับสมดุลความ r ระดบั ๐  ระดบั ๑  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ความตงึ ตวั ตึงตวั กล้ามเนื้อ  ระดับ ๓  ระดับ ๔ ของกลา้ มเนื้อ ยกแขนข้นึ ได้ เพม่ิ เตมิ ................................. รา่ งกายสว่ นบน ................................................. ๒. ปรบั สมดุลความ r ระดับ ๐  ระดับ ๑ ตงึ ตัวกล้ามเนื้อ เหยียดแขนออกไป  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ ด้านหลังได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๓. ปรบั สมดลุ ความ ะ ระดบั ๐  ระดับ ๑ ตึงตวั กลา้ มเนื้อ กางแขนออกได้  ระดับ ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๔. ปรบั สมดุลความ  ระดบั ๐  ระดบั ๑ ตึงตัวกลา้ มเนื้อ หบุ แขนเขา้ ได้  ระดับ ๑+  ระดับ ๒  ระดบั ๓  ระดับ ๔ เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรงุ คร้ังท่ี ๓ วนั ท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

180 ๖ ตัวบง่ ช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ขอ้ สังเกต ๕. ปรับสมดุลความ r ระดับ ๐  ระดับ ๑ ตงึ ตวั กล้ามเน้ือ  ระดับ ๑+  ระดบั ๒ งอข้อศอกเข้าได้  ระดบั ๓  ระดับ ๔ เพ่ิมเตมิ ................................. ................................................. ๖. ปรบั สมดุลความ / ระดบั ๐  ระดับ ๑ ตงึ ตวั กล้ามเนื้อ  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ เหยยี ดข้อศอกออกได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๗. ปรบั สมดลุ ความ r ระดบั ๐  ระดับ ๑ ตึงตวั กล้ามเนื้อ  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ กระดกข้อมือลงได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ๘. ปรับสมดลุ ความ ................................................. / ระดับ ๐  ระดับ ๑ ตงึ ตวั กลา้ มเนื้อ  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ กระดกข้อมือข้นึ ได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ................................................. ๙. ปรับสมดลุ ความ  ระดับ ๐  ระดับ ๑ ตึงตัวกลา้ มเน้ือ ะ ระดบั ๑+  ระดับ ๒ กามือได้  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๑๐. ปรับสมดุลความ  ระดับ ๐  ระดบั ๑ ตึงตวั กล้ามเน้ือ  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ แบมือมอื ได้  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ๒.๒ ปรับสมดลุ ๑. ปรบั สมดุลความตึงตัว ................................................. r ระดบั ๐  ระดับ ๑ ความตึงตวั กลา้ มเน้ืองอสะโพก  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ของกลา้ มเน้ือ เข้าได้  ระดับ ๓  ระดบั ๔ รา่ งกายสว่ นลา่ ง เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ แบบประเมินทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงคร้งั ท่ี ๓ วนั ที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

181 ๗ ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ทาได้ ทาไม่ได้ ข้อสงั เกต กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ๒. ปรบั สมดุลความตึงตวั / ระดบั ๐  ระดบั ๑ กลา้ มเน้อื เหยยี ด  ระดบั ๑+  ระดบั ๒ สะโพกออกได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพ่มิ เตมิ ................................. ................................................. ๓. ปรับสมดลุ ความตึงตวั r ระดบั ๐  ระดับ ๑ กลา้ มเน้อื กางสะโพก  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ออกได้  ระดับ ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๔. ปรับสมดุลความตงึ ตัว r ระดับ ๐  ระดับ ๑ กล้ามเนอ้ื หุบสะโพก  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ เข้าได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๕. ปรับสมดลุ ความตึงตัว r ระดับ ๐  ระดบั ๑ กล้ามเนอ้ื งอเขา่ เข้าได้  ระดบั ๑+  ระดบั ๒  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิ่มเตมิ ................................. ๖. ปรับสมดุลความตึงตวั ................................................. r ระดับ ๐  ระดบั ๑ กล้ามเนอ้ื เหยยี ดเขา่  ระดับ ๑+  ระดับ ๒ ออกได้  ระดับ ๓  ระดับ ๔ เพมิ่ เตมิ ................................. ................................................. ๗. ปรบั สมดุลความตงึ ตัว  ระดบั ๐  ระดบั ๑ กล้ามเนือ้ กระดก ข้อเท้าลงได้ ะ ระดบั ๑+  ระดบั ๒  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพม่ิ เตมิ ................................. ................................................. ๘. ปรับสมดุลความตึงตวั  ระดบั ๐  ระดับ ๑ กลา้ มเนื้อกระดก  ระดบั ๑+  ระดับ ๒ ข้อเท้าขึน้ ได้  ระดบั ๓  ระดบั ๔ เพิม่ เตมิ ................................. ................................................. แบบประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรุงครงั้ ท่ี ๓ วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook