๒๓๔ กาลคร้ังหน่งึ ...เมื่อฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๓๖ กาลคร้ังหน่งึ ...เมื่อฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
บทสรุปของคณะแพทย์ ทีม่ คี วามเหน็ ตอ่ ผ้เู ข้ารว่ มโครงการ ท�ำ ความรจู้ กั กบั แพทยแ์ ละพยาบาลทม่ี าดว้ ยใจ การจดั ท�ำ โครงการเรยี นรู้ ดกู ายใจ ดว้ ยธรรมะ ธรรมชาติ ในครง้ั น้ี ไดร้ บั ความรว่ มมอื จากคณะแพทยแ์ ละพยาบาลจากโรงพยาบาล ศรนี ครนิ ทร์ โดยการประสานงานของคณุ ไกรวาส แจง้ เสม พยาบาล ภาควชิ าวสิ ญั ญวี ทิ ยา คณะแพทยศาสตร์ ซง่ึ คณุ หมอและพยาบาลทม่ี า ชว่ ยในโครงการกล็ ว้ นแตม่ าดว้ ยใจ ดว้ ยจติ วญิ ญาณของความเปน็ แพทย์ และพยาบาลทด่ี โี ดยไมม่ คี า่ ตอบแทนใด ๆ เลย อาตมารสู้ กึ ซาบซง้ึ ในความเสยี สละ เรม่ิ ตง้ั แต่ ศ.นพ.สมบรู ณ์ เทยี นทอง หวั หนา้ ภาค วชิ าวสิ ญั ญวี ทิ ยา ทเ่ี หน็ ความส�ำ คญั ของโครงการจงึ อนญุ าตใหแ้ พทยใ์ น ภาควชิ า คอื รศ.พญ.วมิ ลรตั น์ ศรรี าช รศ.พญ.พนารตั น์ รตั นสวุ รรณ ย้ิมแย้ม ในส่วนของพยาบาลก็มี คุณวินิตา จิราระร่ืนศักด์ิ คณุ กาญจนา อปุ ปญั คณุ ไกรวาส แจง้ เสม และดว้ ยความสนใจเปน็ การ ส่วนตัวถึงเร่ืองท่ีเก่ียวกับความปวดว่าการปฏิบัติธรรมจะมีส่วนช่วยได้ มากนอ้ ยอยา่ งไร ศ.นพ.สมบรู ณ์ จงึ ไดม้ าเยย่ี มโครงการพรอ้ มทง้ั รว่ ม สงั เกตการณแ์ ละไดม้ กี ารทดลองปฏบิ ตั ธิ รรมในโครงการดว้ ย บคุ คลตอ่ มา รศ.พญ.วมิ ลรตั น์ ศรรี าช คณุ หมอทา่ นนเ้ี ปน็ คณุ หมอทม่ี คี วามสนใจ ในการปฏบิ ตั ธิ รรมอยกู่ อ่ นแลว้ คณุ หมอไดท้ �ำ การตรวจเยย่ี มผปู้ ว่ ย รว่ ม สงั เกตการณใ์ นโครงการ ทง้ั ใหค้ �ำ แนะน�ำ ในสง่ิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ผปู้ ว่ ย รว่ ม วิเคราะห์สถานการณ์ของผ้ปู ่วยบางราย ทำ�ให้เกิดความร้คู วามเข้าใจ เปน็ อยา่ งดี ๒๓๗กาลคร้ังหน่ึง...เมอ่ื ฉนั หดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๓๘ กาลคร้งั หน่ึง...เมือ่ ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. ในส่วนของแพทย์ที่ต้องอดทนเหนื่อยตรวจร่างกายให้กับผู้ เขา้ รว่ มโครงการอยตู่ ลอดทงั้ วนั คอื ในวนั ท่ี ๑๖ มกราคม ๒๕๕๑ และ ๑๔ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ เปน็ การตรวจร่างกายและเกบ็ ตัวอยา่ งเลือด ของผปู้ ว่ ยดว้ ยโรคมะเรง็ ทเี่ ขา้ โครงการในวนั เรม่ิ ตน้ โครงการ และกอ่ น สิ้นสุดโครงการหน่ึงวัน นอกจากนั้นยังเข้าร่วมปฏิบัติธรรมใน โครงการด้วยน่นั ก็คอื รศ.พญ.พนารตั น์ รัตนสวุ รรณ ยม้ิ แย้ม แพทย์ท่ีต้องบอกว่าหาเวลาว่างได้ยากมาก น่ันคือ ผศ.พญ.เออ้ื มแข สขุ ประเสรฐิ แพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญดา้ นอายรุ ศาสตรม์ ะเรง็ วทิ ยา โรงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ แตก่ ย็ งั เสยี สละเวลาอนั มคี า่ เหลา่ นน้ั มา เป็นวิทยากร ให้ความรู้เก่ียวกับเร่ืองของโรคมะเร็งให้แก่ผู้เข้าร่วม โครงการและเม่ือไหร่ท่ีมีเวลาว่าง คุณหมอก็จะแวะมาตรวจเย่ียม พรอ้ มทง้ั ใหก้ �ำ ลงั ใจกบั ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการอยเู่ สมอ สว่ นคณุ หมออกี ทา่ น หนง่ึ ดว้ ยความตง้ั ใจอนั เปน็ กศุ ล จงึ เดนิ ทางมาจากกรงุ เทพฯ และไดร้ ว่ ม เป็นวิทยากรให้ความรู้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ทำ�การตรวจร่างกาย วดั ความดนั รวมถงึ อยปู่ ฏบิ ตั ธิ รรมในโครงการกบั ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการเพอ่ื เป็นขวัญและก�ำ ลังใจในระยะเวลาหน่งึ คือ พญ.ป่นิ นภัส ยังไม่หมด เทา่ น้ี ตอ่ มากค็ อื พยาบาลทเ่ี สยี สละเวลามาชว่ ยเกบ็ ตวั อยา่ งเลอื ด พรอ้ ม กับเป็นผู้ช่วยแพทย์ในการตรวจผู้ป่วยซ่ึงได้แก่ท้ัง ๓ ท่านน้ีคือ คณุ กาญจนา อปุ ปญั คณุ วนิ ติ า จริ าระรน่ื ศกั ด์ิ และพยาบาลทเ่ี ปรยี บ เสมือนหน่ึงบุคคลหลักในโครงการเพราะช่วยประสานงานด้านแพทย์ รวมทง้ั เอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งในโครงการบางสว่ น คอื คณุ ไกรวาส แจง้ เสม และพยาบาลผอู้ ยเู่ บอ้ื งหลงั คอยดำ�เนนิ งานดา้ นเอกสาร อกี ทา่ นหนง่ึ คอื คณุ พรนภา บญุ ตาแสง
ทั้งโครงการเรียนรู้ดูกายใจด้วยธรรมะ ธรรมชาติ และ หนังสือกาลคร้ังหนึ่งเม่ือฉันหัดเดินเล่มน้ี จะเกิดขึ้นในรูปแบบของ โครงการที่ดูอุ่นใจและหนังสือท่ีมีเหตุผลช่วยให้คิดสะกิดใจไม่ได้ หาก ขาดซง่ึ คณะแพทย์และพยาบาลดังที่ได้เอ่ยนามมาแลว้ ทุกท่าน อาตมาในฐานะผู้จัดทำ�โครงการเรียนร้ดู กู ายใจดว้ ยธรรมะ ธรรมชาติ ขอขอบคณุ ขอบใจคณะแพทย์และพยาบาลทุกท่านทีไ่ ด้ร่วม สรรค์สร้างโครงการ ตลอดจนหนังสือกาลครั้งหน่ึงเมื่อฉันหัดเดิน เล่มนี้ จนประสบความสำ�เร็จตามท่ีอาตมาหวังไว้ทุกประการ ด้วย บุญกุศลท่ีท่านทั้งหลายได้สร้างไว้ ขออ�ำ นวยอวยพรให้ท่านทั้งหลาย อันได้แก่แพทย์และพยาบาลผู้เสียสละทุกท่าน ประสบพบความสำ�เร็จ ตามท่ีท่านปรารถนาไว้แลว้ ดว้ ยดีทุกประการเทอญ ขอเจริญพร ขอ้ มูลของผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการโดยความเหน็ ของแพทย์ จากการรว่ มเฝ้าสังเกตการณต์ ลอดโครงการ หลงั จากสน้ิ สดุ โครงการ คณะแพทยท์ มี่ สี ว่ นชว่ ยในโครงการ อันได้แก่ ศ.นพ.สมบูรณ์ เทียนทอง รศ.พญ.วิมลรัตน์ ศรรี าช ผศ.พญ.เออ้ื มแข สขุ ประเสรฐิ และรศ.พญ.พนารตั น์ รตั นสวุ รรณ ยม้ิ แยม้ ได้ทำ�การวิเคราะห์ข้อมูลจากการเก็บตัวอย่างเลือด ตรวจร่างกาย พรอ้ มทง้ั ผลจากการตอบแบบสอบถาม เกย่ี วกบั ดชั นชี วี้ ดั สขุ ภาพจติ คน ไทยฉบบั สมบรู ณแ์ ละแบบวดั คณุ ภาพชวี ติ ผปู้ ว่ ยโรคมะเรง็ ซงึ่ ขอ้ มลู เหลา่ นี้ได้ทำ�การเก็บไว้ตั้งแต่ตอนเร่ิมต้นโครงการและก่อนสิ้นสุดโครงการ ๒๓๙กาลคร้งั หน่งึ ...เมอื่ ฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๔๐ กาลครัง้ หน่ึง...เมอื่ ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. หน่ึงวัน จากระยะเวลาในการดำ�เนินโครงการทง้ั หมด ๓๒ วัน โดย แพทย์ผู้ทำ�การตรวจร่างกายให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ก็คือ รศ.พญ.พนารตั น์ รตั นสวุ รรณ ยม้ิ แยม้ สว่ นพยาบาลผชู้ ว่ ยเกบ็ ตวั อยา่ ง เลือดของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการ ได้แก่ คณุ กาญจนา อปุ ปัญ คณุ วนิ ิตา จริ าระรน่ื ศักดิ์ และคุณไกรวาส แจง้ เสม ดงั มีรายละเอียดผลของ ข้อมูลผู้เข้าร่วมโครงการโดยความเห็นร่วมกันของแพทย์ในโครงการ ดังนี้ ๑. ข้อมลู ของผู้ท่เี ข้ารว่ มโครงการ มที งั้ หมด ๑๒ คน ประกอบดว้ ยผหู้ ญงิ ๑๑ คน ผชู้ าย ๑ คน ๑.๑ ขอ้ มูลโดยทั่วไปของผู้เข้ารว่ มโครงการ ๑.๑.๑ อายุเฉลย่ี ของผู้เขา้ รว่ มโครงการ อยทู่ ่ี ๕๐ ปี โดยมีอายสุ ูงสุดคอื ๖๒ ปี และต่�ำ สุดที่ ๓๘ ปี ๑.๑.๒ การวินิจฉัยโรค พบว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มากที่สุดคือ ๖ ราย ผปู้ ่วยมะเรง็ ปอด ๒ ราย นอกจากนนั้ มมี ะเรง็ ตับ มะเร็งเมด็ เลอื ด มะเรง็ ลำ�ไส้ใหญแ่ ละมะเร็งรังไข่อย่างละ ๑ ราย โดยในผู้ป่วยท่ีเข้าโครงการจนจบทั้งหมด ๑๒ รายน้ีมีข้อมูลช้ินเน้ือ ยืนยนั วา่ เปน็ มะเรง็ อย่างแน่ชัด ๑๐ ราย สว่ นอกี ๒ ราย ผู้ปว่ ยสงสยั วา่ จะเป็นมะเร็งเนอ่ื งจากคลำ�ก้อนได้แตย่ งั ไม่ได้พสิ จู นช์ ้ินเนือ้ ๑.๑.๓ ระยะของโรค ผปู้ ่วยจ�ำ นวน ๔ รายอยใู่ นระยะ แพร่กระจาย คือมีรอยโรคที่กระจายไปยังอวัยวะห่างไกลออกไปแล้ว สว่ นอกี ๖ รายเปน็ ผปู้ ว่ ยทเี่ คยไดร้ บั การวนิ จิ ฉยั วา่ เปน็ มะเรง็ แตไ่ ดร้ บั การรักษาระยะแรกไปแล้ว เช่นการผ่าตัด การให้เคมีบำ�บัดหรือรังสี รักษา และกำ�ลังอยู่ในระหว่างการติดตามผลว่าโรคมะเร็งจะกลับมา
หรอื ไม่ ผ้ปู ่วยกล่มุ นส้ี ว่ นใหญเ่ ป็นมะเร็งเตา้ นมและรังไข่ โดยบางราย อยู่ในระหว่างการรับประทานยาต้านฮอร์โมน ซ่ึงเป็นยาที่ใช้ในการ ป้องกนั การกลบั เปน็ ซ�ำ้ ของโรคมะเร็งอยู่ ๑.๒ ขอ้ มูลดา้ นสขุ ภาพร่างกาย ๑.๒.๑ น้ำ�หนกั ตัวและดัชนมี วลกาย สามารถแบง่ ผปู้ ว่ ยออกเปน็ ๒ กลมุ่ ตามคา่ ดชั นมี วลกาย หรือท่ีเรยี กว่า BMI (Body Mass Index) สตู รในการคำ�นวณ BMI คือ น้ำ�หนกั ตัว (กิโลกรัม)/ ส่วนสูง (เมตร)๒ น�ำ้ หนกั ตวั ทเ่ี หมาะสมค�ำ นวณจากดชั นมี วลกาย (BMI) ดงั น้ี BMI = ๑๘.๕-๒๒.๐ นำ้�หนักปกติ BMI < ๑๘.๕ ผอมเกนิ ไป BMI > ๒๓.๐ น�้ำ หนักเกนิ หรอื อ้วนเกนิ ๑. ผู้ปว่ ยทีม่ ีดัชนีมวลกายปกตหิ รือนอ้ ยกว่าปกติ คือ ผ้ปู ่วยท่เี ปน็ ที่ทราบกนั ดวี า่ น�้ำ หนกั อย่ใู นเกณฑป์ กตถิ งึ ผอมเลก็ น้อย - มีผูเ้ ข้ารว่ มโครงการท่จี ดั เข้าในกลุ่มน้ีทงั้ หมด ๗ ราย - หลงั จากเขา้ รว่ มโครงการจนจบ ผปู้ ว่ ยกลมุ่ นมี้ นี �้ำ หนกั ตวั เปลี่ยนแปลงเลก็ นอ้ ย - ผ้ปู ่วย ๓ รายมนี ำ�้ หนักตวั คงที่ ไมเ่ พิ่มไมล่ ด - ผู้ป่วย ๒ รายน�ำ้ หนกั ตวั ลดลงเลก็ นอ้ ย เฉลย่ี ประมาณ ๑.๗๕ กโิ ลกรัมตอ่ คน - ผู้ปว่ ย ๒ รายน้ำ�หนักตัวเพ่ิมข้ึน โดยเฉล่ียประมาณ ๑.๒๕ กโิ ลกรัม - แตไ่ มม่ ผี ใู้ ดทนี่ �้ำ หนกั ตวั เปลยี่ นแปลงจนเกนิ หรอื ต�่ำ กวา่ ๒๔๑กาลครั้งหนึ่ง...เม่ือฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๔๒ กาลครง้ั หนง่ึ ...เมอ่ื ฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. ค่าปกติ ๒. กลุ่มผู้ป่วยที่ตั้งแต่แรกมีดัชนีมวลกายท่ีสูงกว่าปกติ หรอื อว้ นกวา่ ปกติ - มผี ้เู ขา้ ร่วมโครงการทจ่ี ดั อยู่ในกลุม่ น้ที ้งั หมด ๕ ราย - หลงั จากจบโครงการ ผปู้ ว่ ยทกุ รายมนี �ำ้ หนกั ตวั ลดลง โดยคา่ เฉล่ยี ของนำ้�หนักทล่ี ดลงคือ ๓.๒ กิโลกรัมตอ่ คน - ในจำ�นวนน้ีมีผปู้ ว่ ย ๒ รายทตี่ อนแรกมา มดี ชั นมี วล กายอยใู่ นค่าสูงกว่าปกติ และกลับมาเปน็ ปกติหลังจบโครงการ ๑.๒.๒ การตรวจร่างกายทบี่ ่งช้ีขนาดของมะเร็ง มผี ปู้ ว่ ยสองรายทมี่ กี อ้ นมะเรง็ ทคี่ ลำ�ไดจ้ ากภายนอก คอื ตอ่ มน�้ำ เหลืองเหนือไหปลารา้ และมผี ปู้ ว่ ย ๑ รายทขี่ นาดของกอ้ นยบุ ลงอยา่ งชดั เจน อกี ๑ รายขนาดเท่าเดิม สว่ นคนอื่นรอยโรคอยู่ใน บรเิ วณที่ไมส่ ามารถวัดขนาดไดจ้ ากภายนอก ๑.๒.๓ ความดนั โลหติ (Blood Pressure) มผี ู้ปว่ ย ๑ รายทเ่ี รมิ่ ต้นดว้ ยความดันทีส่ งู กวา่ ปกติ คอื มากกว่า ๑๔๐ / ๙๐ มิลลิเมตรปรอท ซงึ่ ผปู้ ว่ ยเปน็ ความดนั สงู มาแต่ แรก หลังเขา้ ร่วมโครงการความดนั กลบั มาอยูใ่ นเกณฑป์ กติ โดย ไมไ่ ด้ รับประทานยาความดัน ซ่ึงความดันตัวแรกคือ Systolic Blood Pressure ลดลงถงึ ๓๕ มิลลเิ มตรปรอท ๑.๒.๔ ระดบั ความเขม้ ขน้ ของเมด็ เลอื ดแดง (Hematocrit) ผู้ปว่ ย ๘ รายเรม่ิ ตน้ ดว้ ยค่าความเขม้ ขน้ ของเม็ดเลือด แดงปกติ คือมีค่ามากกว่า ๓๐ มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร หลังจากจบ โครงการ ผูป้ ว่ ย ๕ ราย มคี ่าความเขม้ ขน้ ของเม็ดเลือดแดงเ ปลย่ี นไป ในแนวทางทเี่ ข้มข้นขน้ึ โดยมคี า่ เฉลย่ี ของการเพม่ิ ขึน้ ที่ ๒ มิลลิกรมั ตอ่
เดซิลิตร ผปู้ ว่ ย ๓ ร าย มคี วามเข้มข้นของเมด็ เลอื ดแดงลดลง โดย ลดลงเฉลีย่ ๑ มลิ ลกิ รมั ต่อเดซิลติ ร แตอ่ ยา่ งไรก็ ตามยังคงอยู่ในค่า ปกติไมถ่ งึ ระดับซดี (Anemia) ผู้ป่วย ๓ รายมีภาวะโลหติ จางแตต่ ้น หลังจบโครงการมีผู้ ปว่ ย ๑ ราย ทม่ี คี วามเขม้ ขน้ ของเลอื ดเพม่ิ ขน้ึ โดยเพม่ิ ขน้ึ ๐.๕ มลิ ลกิ รมั ตอ่ เดซลิ ติ ร ผู้ป่วยอีกหนึ่งรายลดลง ๑.๘ มิลลิกรัมต่อ เดซลิ ิตร และผู้ ปว่ ยรายสุดท้ายลดลงมากที่สุดคอื ๓ มลิ ลกิ รัมตอ่ เดซลิ ติ ร แต่ผู้ปว่ ย รายสุดท้ายนี ้ เปน็ โรคมะเรง็ เมด็ เลอื ดขาวกระจายเขา้ ไขกระดกู ดงั นน้ั การท่ผี ปู้ ่วยซีดลงมาก อาจจะเกย่ี วเนอ่ื งกบั โรคมะเรง็ ท่เี ป็นอยู่ ๑.๒.๕ จำ�นวนเม็ดเลอื ดขาว (White Blood Cell Count) ผปู้ ว่ ยสว่ นใหญม่ จี �ำ นวนเมด็ เลอื ดขาวลดลงเลก็ นอ้ ยหลงั จบโครงการ แตอ่ ย่างไรก็ตาม ปรมิ าณทลี่ ดลงไมไ่ ดร้ นุ แรงจนถงึ ระดบั ทีจ่ ะเกดิ ปญั หาเร่อื งเสีย่ งตอ่ การตดิ เชอ้ื ๑.๒.๖ จำ�นวนเกลด็ เลือด (Platelet Count) จำ�นวนเกล็ดเลือดไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัย สำ�คัญในผปู้ ว่ ยทกุ รายยังอยู่ในเกณฑป์ กตทิ กุ ราย ๑.๒.๗ การตรวจวดั ระดบั ไขมนั ไมด่ ชี นดิ Cholesterol ในร่างกาย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้ประโยชน์ชัดเจน เนื่องจากมีผู้ป่วย จำ�นวน ๑๐ รายมรี ะดบั Cholesterol ท่ีลดลงอยา่ งชัดเจน โดยมีค่า เฉล่ียของการลดลงอยู่ที่ ๔๑ มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร ระดับสูงสุดของ Cholesterol ทลี่ ดลงคอื ๑๑๕ มิลลกิ รัมต่อเดซิลติ ร มผี ูป้ ่วยเพยี งสอง ๒๔๓กาลคร้งั หนง่ึ ...เมอ่ื ฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๔๔ กาลครัง้ หนึง่ ...เม่ือฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk. รายทม่ี รี ะดับ Cholesterol ที่เพม่ิ ขึ้นหลังจบโครงการ โดยมีคา่ เฉลี่ย ของการเพม่ิ ขน้ึ คอื ๓๐ มลิ ลกิ รมั ตอ่ เดซลิ ติ ร อาจเพราะผปู้ ว่ ยหนง่ึ ราย มโี รคประจำ�ตัวเป็นโรคไขมนั ในเลอื ดสูงอยกู่ อ่ น และผปู้ ่วยอกี หน่ึงราย เปน็ โรคมะเร็งตับ ซงึ่ บางท กี ารอุดตนั ท่อน้�ำ ดีเล็ก ๆ ในตับอาจก่อให้ เกิดภาวะ Cholestasis ท่ีอาจเป็นเหตผุ ลของการข้ึน ของไขมนั ในเลอื ด ชนดิ Cholesterol ได้ ๑.๓ ขอ้ มลู ด้านประโยชนอ์ ่ืน ๆ ทไ่ี ดร้ บั จากโครงการ ที่ เกบ็ ขอ้ มูลโดยการสัมภาษณ์ของแพทยแ์ ละพยาบาล ผู้ป่วยทั้ง ๑๒ ราย ได้ประโยชน์จากการเข้าร่วม โครงการ โดยผู้ป่วยทีม่ ีความปวดจาก มะเร็งกอ่ นเข้าโครงการ มกี าร ลดลงของระดบั ความปวดอย่างชดั เจน ๗ ราย โดยท่ีไมต่ ้องได้รับยา แกป้ วด ๑ ราย ความปวดที่รนุ แรงมากลดลงจนผปู้ ว่ ยพอทนได้ แตผ่ ู้ ปว่ ยรายน้ีได้ยาแผนปจั จบุ ันต า้ นการอกั เสบรว่ มดว้ ย นอกจากนน้ั ผปู้ ว่ ย ทง้ั ๑๒ รายไดป้ ระโยชนใ์ นด้านจติ ใจอยา่ งชดั เจน ผู้ปว่ ยมีความกงั วล ใจลดลง นอนหลบั ไดด้ ขี นึ้ ร้สู ึกจิตใจโลง่ โปร่งสบายมากขึน้ ๒. ขอ้ มลู ของผเู้ ขา้ รว่ มโครงการทไี่ มส่ ามารถอยู่ จนครบตามกำ�หนด มผี ปู้ ว่ ย ๖ รายทจ่ี ดั อยใู่ นกลมุ่ น้ี ๕ รายเปน็ ผหู้ ญงิ ๑ ราย เปน็ ผชู้ าย ในแงก่ ารวนิ ิจฉยั มีผปู้ ่วยมะเร็งเตา้ นม ๒ ราย มะเร็งปอด ๑ ราย มะเรง็ ปากมดลกู ๑ ราย มะเรง็ ตบั ๑ รายและมะเรง็ สมอง ๑ ราย ผูป้ ว่ ย ๔ ราย เป็นมะเรง็ จัดอยูใ่ นระยะแพรก่ ระจาย สว่ น ๑ รายเปน็ ผปู้ ว่ ยทไ่ี ดร้ บั การรกั ษาแลว้ และยงั ไมม่ รี อยโรคปรากฏในขณะน้ี
เท่าที่มีข้อมูลพบว่า แม้ผู้ป่วยจะไม่ได้เข้าร่วมโครงการจน ครบ แต่ผปู้ ว่ ยสว่ นใหญม่ ีนำ�้ หนักตวั ลดลงหลงั เข้าโครงการ คา่ เฉลยี่ ของการลดลงคือ ๒.๙ กิโลกรมั ตอ่ คน มีผ้ปู ่วย ๑ รายมนี ้ำ�หนกั ขน้ึ ๐.๕ กโิ ลกรมั มผี ปู้ ว่ ยสองรายทไ่ี ดร้ บั การเจาะเลอื ดตรวจกอ่ นและหลงั เขา้ โครงการ พบวา่ ทงั้ สองรายมรี ะดบั ไขมนั Cholesterol ลดลงอยา่ ง ชัดเจน โดยมีผ้ปู ่วยหน่งึ รายลดลงถงึ ๑๒๒ มิลลิกรมั ตอ่ เดซิลิตร ขอ้ มลู ดา้ นผลตอ่ จติ ใจและรา่ งกายหลงั เขา้ รว่ มโครงการ พบ วา่ ผู้ปว่ ยทุกราย รายงานว่าไดป้ ระโยชนใ์ นดา้ นจติ ใจ ร้สู ึกดขี น้ึ ลด ความกังวล ความหวาดกลัวลดลง และมีผู้ป่วย ๓ รายทร่ี ายงานว่า อาการปวดลดลงอยา่ งชดั เจนโดยไม่จ�ำ เปน็ ต้องใช้ยาใด สรปุ ผลของผ้เู ขา้ ร่วมโครงการทุกราย จากตวั แทนแพทยโ์ ดย ผศ.พญ.เออ้ื มแข สขุ ประเสรฐิ ผปู้ ว่ ยทกุ รายไดร้ บั ประโยชนจ์ ากการเขา้ รว่ มโครงการ โดย ประโยชน์ที่เห็นชัดเจนท่ีสุดได้ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ในด้านจิตใจ ผปู้ ว่ ยรสู้ กึ มคี วามสขุ สงบมากขน้ึ ความกงั วลและหวาดกลวั ลดลง ดา้ น รา่ งกายทเ่ี หน็ ชดั เจนคอื สญั ญาณทแี่ สดงใหเ้ หน็ วา่ ผปู้ ว่ ยมสี ขุ ภาพทแี่ ขง็ แรงหรอื ทเ่ี รยี กวา่ Fitness ดขี นึ้ โดยถา้ ผปู้ ว่ ยมมี วลกายสงู หรอื มภี าวะ อว้ นกอ่ นเขา้ โครงการ ผปู้ ว่ ยจะมนี �้ำ หนกั ตวั ทลี่ ดลงอยา่ งชดั เจน ไขมนั ชนดิ Cholesterol ลดลงอย่างชดั เจน และไม่มีผลขา้ งเคียงเรอ่ื งโลหติ ๒๔๕กาลคร้งั หน่งึ ...เมื่อฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๔๖ กาลครั้งหน่ึง...เมอ่ื ฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. จางหรือเรือ่ งเม็ดเลอื ดขาวลดอย่างมีนยั ส�ำ คญั ผลประโยชน์ที่ไดใ้ นแง่ ผปู้ ว่ ยมะเรง็ ทน่ี า่ สนใจคอื มผี ปู้ ว่ ยบางรายทก่ี อ้ นมะเรง็ ยบุ ลงจากการ ตรวจร่างกาย และอาการปวดจากมะเร็งลดลงในผู้ป่วยส่วนมาก และลดลงอยา่ งชดั เจนโดยทีไ่ มจ่ �ำ เป็นต้องใช้ยาแกป้ วด
๒๔๘ กาลครั้งหน่งึ ...เมอื่ ฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. วิปสั สนากรรมฐาน กบั การมาเยือนอีกครง้ั ของมะเรง็ ร้าย สมประสงค์ สลี าดเลา ข้าพเจ้ารับราชการครูโรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย (พ.ศ.๒๕๑๙ - ๒๕๔๗) และเป็นเจ้าของโรงเรียนกวดวิชา ปจั จบุ นั เปน็ ขา้ ราชการบ�ำ นาญมาตง้ั แตพ่ .ศ.๒๕๔๗และเปน็ เจา้ ของโรงเรยี นอนบุ าล เอกชน ทตี่ อ้ งกลา่ วถงึ สถานภาพทางอาชพี เพราะคดิ วา่ จะเปน็ สาเหตุ หลกั ของการเกดิ โรคมะเรง็ ของขา้ พเจา้ เนอื่ งจากงานสอน งานเอกสาร การสอนในสว่ นรบั ผดิ ชอบของงานประจ�ำ ในหนา้ ท่ี และงานสอนพเิ ศษ กวดวชิ า ขา้ พเจ้าท�ำ งานไมม่ วี นั เสาร์-อาทิตย์ ไม่มีปิดเทอม เร่มิ งาน สอนจากเวลา ๐๖.๐๐ - ๒๒.๐๐ น. ของทกุ วนั ตง้ั แตพ่ .ศ. ๒๕๓๓ เปน็ ตน้ มา จนปี พ.ศ. ๒๕๔๔ ขา้ พเจา้ รสู้ กึ เหนอ่ื ยมากกวา่ ปกติ หายใจ หอบ ออ่ นเพลีย จะเพม่ิ กาแฟเปน็ วนั ละ ๒-๓ แกว้ หรอื เพมิ่ เครอื่ ง ชูกำ�ลังใด ๆ ก็ไม่ฟ้ืนเร็วเหมือนที่ผ่านมา จึงไปตรวจร่างกายที่โรง พยาบาลเอกชนในจังหวัดร้อยเอ็ด พบก้อนเน้ือท่ีบริเวณทรวงอก (เต้านม) ดา้ นซา้ ย ๓ ก้อน หมอผา่ ตดั ก้อนทใี่ หญ่ทสี่ ุดส่งไปตรวจที่ สถาบันมะเร็ง เม่ือรู้ผลก็ไปรับการรักษาตัวที่สถาบันมะเร็งท่ี กรงุ เทพมหานคร โดยการใหท้ านยาอยู่ ๖ เดอื น หลังจากนน้ั ก็นัด ตรวจละเอียด ๓ วนั เพอื่ ผ่าตดั และให้เคมีบ�ำ บดั แตข่ า้ พเจ้าเขา้ ตรวจ ไดถ้ งึ วนั ที่ ๒ กต็ ดั สนิ ใจเดนิ จากสถาบนั มะเรง็ มา และไมก่ ลบั ไปอกี เลย ข้าพเจ้าเลือกไปรักษาสมุนไพรของหมอเจนขจรศิลป์ ที่ จงั หวดั นครนายก รกั ษาอยไู่ ด้ ๑๘ เดอื นโดยประมาณ กอ้ นเนอื้ ทเี่ หลอื
อยยู่ บุ หายไป รา่ งกายแข็งแรงข้ึน (ในระหว่างการรกั ษา ๑๘ เดอื น ต้องควบคมุ อาหาร ทานไดเ้ ฉพาะผกั ที่หมอกำ�หนด ห้ามเน้ือทุกชนิด) มีกำ�ลังใจคิดขยายงานต่อ คือดำ�เนินการจัดตั้งโรงเรียนอนุบาล ประมาณปลายปี ๒๕๔๖ เริม่ ซื้อท่ดี นิ ด�ำ เนินการกอ่ สรา้ งอาคารเรยี น ตดิ ตอ่ ธนาคาร ตลอดจนเปดิ สอนกวดวชิ าควบคกู่ นั ไป เม่ือความโลภเกาะตดิ ความเครียดครอบงำ� เวลาและงาน เร่งรีบรัดตวั ปลายปี ๒๕๔๗ ถึงตน้ ปี ๒๕๔๘ ข้าพเจ้ารู้สึกเหนื่อยมาก หายใจขัด เจอก้อนเนื้อท่ีทรวงอกกลับมาอีก แต่ความประมาทท่ีเคย รักษาหายด้วยสมนุ ไพร และห่วงงาน ห่วงเงินเป็นท่ีหน่ึง ข้าพเจ้าก็ ปลอบตัวเองว่าเด๋ียวนะรออีกหน่อย โรงเรียนอนุบาลก็ยังไม่เสร็จ เรียบร้อยดี ธนาคารก็ยังไมจ่ บ จึงสง่ั ยาสมุนไพรเจา้ เกา่ โดยติดตอ่ หมอเจนทางไปรษณีย์ สัง่ ยามารกั ษาไปพลาง ๆ ควบคูก่ ับการทำ�งาน หนัก เมอื่ รู้สกึ ไม่ไหวจึงลาออกจากงานประจำ� แต่กย็ ังศึกษาตอ่ ปริญญาโท วชิ าเอกบริหารการศกึ ษา ภาวะความเครยี ดและเรง่ งาน ประกอบกบั ความวิตกกังวลสูง ยังไมข่ า้ มปี (ปลายปี ๒๕๔๘ อาการ ทรุดลงมาก) สภาพขา้ พเจา้ แยม่ าก ท้งั ร่างกายและจติ ใจสบั สน คดิ ไม่ ตก หาทางออกใหก้ บั ตัวเองไมไ่ ด้ หว่ งงานท้ัง ๆ ท่ีรา่ งกายก็เจ็บป่วย ทกุ ข์หนัก เลยตอ้ งหนั หนา้ เข้าวดั (ไม่เห็นทุกขก์ ็ไม่เห็นวัด) ซ่ึงเป็นวัด ที่ใกล้โรงเรียน โชคดีที่เจ้าอาวาสวัดนี้ชอบสอนสมาธิ(สายสมถ- กรรมฐาน) เวลาเชา้ ทก่ี วาดลานวดั ทา่ นเปดิ เทปธรรมะของหลวงพอ่ จรญั ให้ฟังเป็นประจำ�หลาย ๆ เรื่อง ญาติธรรมท่ีเคยปฏิบัติวิปัสสนา กรรมฐานท่ี ส�ำ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมสวนเวฬวุ นั จงั หวดั ขอนแกน่ ซงึ่ เปน็ สาขา ๒๔๙กาลครง้ั หนึ่ง...เม่อื ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.
๒๕๐ กาลครั้งหน่งึ ...เมอื่ ฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk. ของหลวงพ่อจรัญ มอบหนังสือของหลวงพ่อหลายเล่มให้ข้าพเจ้าได้ ศึกษาเกี่ยวกับธรรมรักษาโรค กรรมฐานรักษามะเร็ง ข้าพเจ้าเกิด ศรทั ธาอยากไปศกึ ษาและปฏบิ ตั ธิ รรมตอ่ ทส่ี �ำ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมสวนเวฬวุ นั โดยคำ�ชักชวนของคณุ แม่ไพรวัลย์ รัถฐากรู ญาติธรรม (ข้าพเจ้าขอ อนญุ าตกล่าวนามทา่ น เพราะถอื วา่ ทา่ นเปน็ ผูม้ พี ระคณุ ช้ที างธรรมให้ ขา้ พเจา้ มวี นั นี้) ขา้ พเจา้ ไดไ้ ปปฏบิ ตั ธิ รรมในโครงการครง้ั แรกวนั ท่ี ๑๒-๑๗ ตลุ าคม ๒๕๔๙ ในชว่ งปฏบิ ตั วิ ปิ สั สนากรรมฐานแบบงู ๆ ปลา ๆ ของ ข้าพเจา้ ขา้ พเจา้ ได้ต้ังจิตอธิษฐานตามประสาคนอยากหายปว่ ย และ อยากได้กราบหลวงพ่อสักคร้ัง จากแรงอธิษฐานจิตในกรรมฐานคร้ัง นนั้ ทำ�ใหข้ า้ พเจา้ เกดิ ปตี อิ ย่างมากมีกำ�ลังใจสูง เมอื่ ลากรรมฐานแลว้ วันท่ี ๑๙ ตุลาคม ๒๕๔๙ ขา้ พเจ้าโทรศพั ทใ์ หแ้ ฟนทท่ี ำ�งานอย่อู ยุธยา กลบั มาด่วน เพือ่ เดนิ ทางไปกราบหลวงพอ่ ท่ีวดั อมั พวัน จ.สงิ หบ์ ุรี (ตามนิมิต) จุดเกิดความหวงั ใหมใ่ นจิต ครงั้ นน้ั ขา้ พเจา้ ไดก้ ราบหลวงพอ่ จรญั ใกล้ ๆ สมใจหวงั ใน ช่วงเย็นข้าพเจา้ ได้รับศลี ๘ และรับกรรมฐานจากหลวงพ่อ ในการ เทศนอ์ บรมนำ�กรรมฐานในคร้ังน้ันช่วงวันพระ มีคนเข้ารับกรรมฐาน มากมาย ขา้ พเจา้ ไมก่ ลา้ ประมาณ ในใจความตอนหนึง่ หลวงพ่อ กล่าวว่า “มหี ญงิ คนหนึง่ เปน็ มะเร็งเตา้ นมระยะสดุ ท้าย ทำ�กรรม ฐานแลว้ หายได”้ ขา้ พเจา้ ไดย้ นิ น�ำ้ ตาไหลพรงั่ พรไู มร่ สู้ กึ ตวั คดิ ไดอ้ ยา่ ง เดยี ววา่ หลวงพอ่ เมตตาขา้ พเจา้ แลว้ ก�ำ ลงั ใจพงุ่ สดุ ขดี เกดิ ความหวงั เต็มเปีย่ มว่า “ฉนั หายแน่”
ครงั้ นนั้ ขา้ พเจา้ ปฏบิ ตั อิ ยทู่ ว่ี ดั อมั พวนั พรอ้ มกบั สามเี ปน็ เวลา ๓ วัน เมือ่ กราบลาหลวงพอ่ ได้ยามะขามรกั ษาโรค ๑๐๘ มาด้วย แลว้ เดนิ ทางกลับรอ้ ยเอ็ดอยา่ งคนมีความหวงั ชว่ งท่ีพบพระผ้บู ิณฑบาตชวี ิตข้าพเจา้ ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๔๙ – ๑ มกราคม ๒๕๕๐ ทส่ี �ำ นกั ปฏบิ ตั ิ ธรรมสวนเวฬุวนั มโี ครงการปฏบิ ตั ธิ รรมเพื่อพฒั นาจิต ส่งท้ายปีเกา่ ต้อนรับปีใหม่ คร้ังนี้ข้าพเจ้าลำ�บากใจอย่างย่ิง เนื่องจากวันที่ ๒๕ ธนั วาคม ขา้ พเจา้ จะเดินทางมาปฏิบตั ธิ รรมรว่ มโครงการกบั ทาง ส�ำ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมสวนเวฬวุ นั เปน็ วนั เดยี วกบั ทส่ี ามตี อ้ งเขา้ รบั การผา่ ตดั ทโ่ี รงพยาบาลรอ้ ยเอด็ “จะสรา้ งความดตี อ้ งมมี าร” มคี ณุ แมไ่ พรวลั ย์ อกี น่นั แหละช้ีแนะว่า คราวนส้ี ามีเปน็ หน้าท่ขี องหมอ เราช่วยไดก้ ค็ ือ “ไปปฏบิ ตั ธิ รรมส่งบญุ มาให้” ขา้ พเจา้ ตดั สนิ ใจไปเขา้ โครงการพรอ้ มกบั คณุ แมไ่ พรวลั ยใ์ น ช่วง ๒ – ๓ วันแรก ข้าพเจ้าปวดมาก (มะเร็ง) ถึงกับนอนรอ้ งไห้ ในห้องกรรมฐาน คิดว่าคงตายแน่ พระคณุ เจา้ ผ้บู ิณฑบาตชวี ิตคือ พระลกู ศษิ ยข์ องพระเดชพระคณุ หลวงพอ่ ฯ “พระอาจารยว์ โิ รจน์ จกกฺ วโร” ซ่ึงเป็นผู้ท่ีรับผิดชอบดูแลโครงการฯ กล่าวกับข้าพเจ้าว่า “โยมเป็น มะเร็งมาทำ�ไมไม่บอกอาตมาก่อน” เหมือนเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ขา้ พเจ้าร้สู กึ ปตี มิ ีก�ำ ลงั ใจ นกึ ในใจว่า “พระทน่ี ก่ี ็สนใจโยมทเี่ ป็นมะเรง็ ด้วยหรือ” พระคุณเจา้ ทา่ นก็แนะนำ�วธิ นี อนกำ�หนด มอื วางหน้าท้อง ดทู อ้ งยบุ ทอ้ งพอง ขา้ พเจา้ รสู้ กึ ดี คลายปวดคลายกงั วล และนอนหลบั ได้งา่ ยขน้ึ มาก ๒๕๑กาลคร้งั หนงึ่ ...เม่อื ฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.
๒๕๒ กาลคร้ังหน่งึ ...เมื่อฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๑ มกราคม ๒๕๕๐ วนั ลากรรมฐาน ท่านเมตตาเขียนตารางปฏิบัติกรรมฐานให้ข้าพเจ้านำ�มา ปฏิบัติต่อที่บ้าน พร้อมกับหนังสือแพทย์ทางเลือกเล่มหนึ่ง ของ ดร.รสสคุ นธ์ พมุ่ พนั ธว์ุ งศ์ พระคณุ เจา้ ทา่ นบอกใหข้ า้ พเจา้ ลองมาศกึ ษา ดู กลบั บา้ นก�ำ ลงั ใจดขี นึ้ มาก สามหี ายดแี ลว้ เหลอื แตต่ วั เอง ตอน นนั้ รา่ งกายทรดุ มาก มะเรง็ กระจายสู่ต่อมนำ�้ เหลือง เขา้ ระยะที่ ๔ ปวดและเหนอื่ ยมาก ทานขา้ วไม่ได้ ท้องอืด นอนภาวนาสวดมนต์ ในห้องพระตลอด จดุ ธปู อธษิ ฐานจติ ถงึ หลวงพ่อ แล้วนึกถึงบทค�ำ สอนต่าง ๆ ของหลวงพอ่ ทำ�ให้ขา้ พเจา้ นึกขนึ้ ไดว้ ่า ไหน ๆ กจ็ ะตาย แล้ว “สวดมนตใ์ ห้สะใจก่อนเถอะ” วันน้ันเป็นวันโกน ข้าพเจ้าสวดบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคณุ ๑๐๘ จบ (ต้งั แต่ ๑ ทุ่มถึง ๖ โมงเช้า) คนื ตอ่ มาเปน็ วนั พระ ขา้ พเจา้ สวดบทพาหงุ มหากาฯ ๑๐๘ จบ (ตงั้ แต่ช่วงเย็นถงึ ๖ โมงเช้า) แปลกมากทข่ี า้ พเจา้ สวดมนตต์ ลอดสองคืน แลว้ กลางวนั ไม่เพลียมากเหมือนเดิม มีใจอยากดูหนังสือแพทย์ทางเลือกที่พระ อาจารย์วิโรจน์ท่านให้มา ซ่ึงตั้งแต่กลับมาไม่เคยหยิบมาดูเลย ไดเ้ จอสูตรอาหารมากมายส�ำ หรับผูป้ ว่ ยมะเรง็ ขา้ พเจ้าสนใจสตู รน�้ำ ผักป่ันเพราะอาหารข้าพเจา้ ทานไมค่ ่อยได้แล้ว เลยลองทำ�ดู ครงั้ แรก ๆ ป่ันตามสตู ร รสชาตไิ มไ่ ดเ้ รื่อง แตก่ ต็ ้องทานเน่อื งจากเปน็ ทางเลอื กสดุ ทา้ ยของเราเชน่ กนั หลงั จากนนั้ ๑ สปั ดาหผ์ า่ นไป รสู้ กึ มเี รี่ยวแรงมากขน้ึ ท�ำ กรรมฐานได้บ้าง หน่งึ เดอื นผ่านไป ขา้ พเจา้ เดนิ ได้คลอ่ ง ปฏบิ ัตธิ รรมตาม ตารางพระอาจารย์ได้ดีขึ้น รา่ งกายและจติ ใจเขม้ แข็งข้ึน เหมอื นได้ ชวี ติ กลบั มาใหม่ ดว้ ยเมตตาบารมขี องพระเดชพระคณุ หลวงพอ่ ฯ ได้ ๒๕๓กาลครง้ั หนงึ่ ...เมือ่ ฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๕๔ กาลคร้ังหนึง่ ...เม่ือฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk. ส่งชีวติ ขา้ พเจ้ามาใหพ้ ระอาจารยว์ โิ รจนบ์ ณิ ฑบาตชีวติ ขา้ พเจา้ ไว้ (เป็น ความเชอ่ื สว่ นตวั ของขา้ พเจา้ ) ซงึ่ ขา้ พเจา้ จะไมม่ วี นั ลมื พระคณุ ของทา่ น เลย จากวนั นน้ั ถงึ วนั น้ี (๘ ม.ค. ๕๐ – ๒๕ ก.พ. ๕๑) ขา้ พเจา้ ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมะเร็งระยะสุดท้าย ด้วยน้ำ�ผักปั่นและวิปัสสนา กรรมฐานเป็นส่วนใหญ่ จนเม่อื ๑๕ มกราคม – ๑๕ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๕๑ ไดเ้ ขา้ รว่ ม “โครงการเรยี นรดู้ กู ายใจดว้ ยธรรมะ ธรรมชาติ” ตามแนวทางสตปิ ฏั ฐาน ๔ ของพระธรรมสิงหบุราจารย”์ ซง่ึ พระ อาจารย์วิโรจน์ร่วมกับพระคุณเจ้าอีกหลายรูปร่วมกันรับผิดชอบโครง การฯ เป็นโครงการทีด่ ีมาก ๆ ท�ำ ใหข้ ้าพเจ้าได้พบกับตัวเองจรงิ ๆ เรยี นรู้ดแู ลตนเองท่ีจะอยกู่ ับโรคมะเร็งร้าย ดังพทุ ธศาสนสุภาษติ ทีว่ า่ “อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ ” ที่เร่ิมจากทรวงอกซา้ ยเข้าส่ตู ่อมน้�ำ เหลือง กระจายเขา้ กระดูก กะโหลกศรษี ะ ปวดในกระดกู ตง้ั แต่ศรีษะจรด ปลายเท้า ทุกรูขมุ ขน ไมท่ ราบจะอธิบายอยา่ งไร โดยไมพ่ งึ่ ยาแก้ ปวดแม้แตเ่ มด็ เดียว โครงการนพี้ เิ ศษกว่าโครงการอืน่ ๆ มาก ได้ รับการเรยี นรู้โดยประสบการณ์ตรงและจรงิ ๆ จากสิ่งเหลา่ นคี้ อื ๑. อาหารท่ปี ลอดสารพิษ ๒. อากาศ (ออกซิเจนจากลมหายใจสยบมะเร็งได)้ ๓. วิปัสสนากรรมฐานรักษามะเรง็ ได้จริง (เปน็ ความเชอ่ื สว่ นตัว) ทป่ี ระสบกบั ตวั ขา้ พเจา้ เองและอยากนำ�มาเล่าในท่นี ี้ “วปิ ัสสนากรรมฐานช่วยข้าพเจ้าไดอ้ ยา่ งไร” ในการเปน็ ผปู้ ว่ ยมะเรง็ ระยะสุดทา้ ยท่ีกระจายจากทรวงอก (เตา้ นม) เขา้ กระดกู ตงั้ แตก่ ะโหลกศรษี ะซา้ ย แขนซา้ ย อกซา้ ย ขา
ขวา ซึง่ ยืนรบั น�ำ้ หนกั ไวไ้ มค่ ่อยได้ อาการปวดเริ่มจาก ๘๐-๙๐ ถึง ระยะขับพิษทวีขึ้นเป็น ๑๒๐-๑๕๐ แต่ยังใช้วิปัสสนากรรมฐานตามดู ตามรู้อยู่กับปัจจุบัน ช่วยข้าพเจ้าได้ ไม่ทราบจะอธิบายอย่างไร “เปรยี บเทยี บความปวดกเ็ หมอื นกบั คนถกู สนุ ขั ไลต่ ามเหา่ คนยงิ่ วง่ิ หนี หรอื แสดงอาการตอ่ สู้ สนุ ขั ก็ยง่ิ ไดใ้ จ ยิ่งไล่เห่าและสง่ เสียงดงั มากขนึ้ ถา้ หากคนยืนดอู ยู่น่งิ ๆ สุนัขกจ็ ะยืนเห่าสักพกั หนึง่ เมือ่ ไมม่ อี ะไร เปลย่ี นแปลงเพมิ่ เตมิ เหา่ เทา่ ไรคนกย็ นื เฉยอยู่ สนุ ขั กจ็ ะเงยี บไปเอง” นนั่ คอื “ความปวด” กร็ ูว้ ่ากายปวด ใจยงั เฉย ๆ ไม่รู้ไม่ช้ี ไม่ยนิ ดี ยินรา้ ยกแ็ ล้วกันไป ใจก็เลยรสู้ ึกสบาย ว่าจะปวดหรือไมป่ วด โรค จะหายหรือไม่หายก็เป็นไปเชน่ น้ันเอง ขอใจเราทำ�ดที ีส่ ุดในขณะนัน้ ก็ พอแล้ว และแน่นอนท่คี ิดอย่างน้ไี ด้ ท�ำ อย่างนีไ้ ด้ ใจก็ต้องมกี �ำ ลงั ใจ (บารมี) จากหนังสือพุทโธโลยี “สร้างกุศลให้จิต ทำ�ดีต้องมี อปุ สรรค” กลา่ วถงึ บารมี แปลว่าอะไร “กำ�ลังใจ” ใจสู้ ใจทน ใจเดด็ เดยี่ ว ใจเมตตาเหลา่ นี้ ขา้ พเจา้ ไดม้ าจากพระคณุ เจา้ ทดี่ แู ลโครงการฯ ทที่ า่ นเปน็ พอ่ -แม่ ครบู าอาจารย์ คอยดแู ลและใหก้ ำ�ลงั ใจตลอดเวลา ส่ิงมหัศจรรยท์ ี่เกิดกบั ขา้ พเจ้า วนั ท่ี ๙ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ ระหวา่ งชวั่ โมงปฏบิ ตั กิ รรมฐาน ในอริ ยิ าบถน่งั ขา้ พเจ้าเดิน ๑ ชั่วโมง น่ัง ๑ ชวั่ โมง ซ่ึงเปน็ วัน ทข่ี ้าพเจ้าปวดมาก ๆ เพราะอยู่ในระยะขับพิษหนักมาหลายวัน ถ่าย อุจจาระเป็นมูกเลือดอยู่หลายวัน มีอาการแปรปรวนแต่ละวันไม่ซำ้� แบบกัน แตว่ นั นี้มาแปลก ข้าพเจา้ มีไขร้ ้อน ๆ หนาว ๆ เหนอ่ื ย มาก เวทนาสุด ๆ ไม่ทราบว่าจะท�ำ อยา่ งไรดี ก�ำ หนดอย่างไรกไ็ ม่ ไหว ข้าพเจ้าจงึ ต้งั จิตอธษิ ฐานถงึ หลวงพ่อ ๒๕๕กาลคร้ังหนึ่ง...เม่ือฉนั หดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๕๖ กาลคร้ังหน่งึ ...เมือ่ ฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. ในขณะนง่ั กรรมฐานอยรู่ ะยะหนง่ึ นานเทา่ ไหรข่ า้ พเจา้ ไม่ ทราบแนช่ ดั มแี สงวาบสวา่ งกลางหนา้ ผาก ระหวา่ งควิ้ เหมอื นไฟฉาย ส่อง ในแสงสวา่ งนน้ั ข้าพเจา้ เห็นรปู พระสงฆไ์ มช่ ดั เจนนกั ข้าพเจา้ มสี ติอยจู่ งึ ก�ำ หนด “เหน็ หนอ” เป็นภาพหลวงพ่อชัดเจนขึน้ ข้าพเจา้ กำ�หนดเห็นหนอ เหน็ หนอ นานเท่าไหร่ไมท่ ราบ แต่ตอ้ งสะดุง้ เมื่อ มเี สยี งดงั “โกะ๊ ” ทไ่ี หลซ่ า้ ย เหมอื นมคี นดงึ ใหแ้ ขนและไหลห่ ลดุ ออก จากอก ขา้ พเจา้ ลมื ตาข้ึนมอื ทีว่ า่ ทับกนั อยู่บนตักคอื ขวาทับซา้ ย มอื ซา้ ยเลอ่ื นออกมาเกอื บพน้ ตกั ขา้ พเจา้ นง่ั นกึ ถงึ เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ อยา่ ง งง ๆ สดู ลมหายใจเข้าออกลกึ ๆ ไดด้ ี โล่งอก หายใจไมต่ ดิ ขดั เหมือนทผ่ี ่านมา ข้าพเจ้ารูส้ ึกปีติเปน็ อย่างมาก จากวนั นนั้ ถงึ วนั นที้ ข่ี า้ พเจา้ กลบั มาอยบู่ า้ นทำ�กรรมฐานตอ่ ปฏบิ ตั ติ นโดยใช้แนวทางสตปิ ฏั ฐาน ๔ ของพระเดชพระคุณหลวงพอ่ ฯ ทเี่ รียนรู้จากโครงการฯ มาตลอด อาการป่วยของขา้ พเจ้าดขี ึน้ มาก สุขภาพจิตไมต่ อ้ งพูดถึง “ใจเกนิ รอ้ ย” สขุ ภาพกาย อาการแน่นใน ทรวงอกเหมอื นมีลูกโปง่ อดั แน่นอยู่ขา้ งในหายไป หายใจลึก-ยาวได้ สะดวก อาการปวดลดลงเหลอื ๕๐-๖๐ ซึ่งเปน็ ธรรมดาของขา้ พเจา้ ในเวลา ๑ เดอื นท่ีขา้ พเจ้าเข้าโครงการฯ เวลาปเี ศษทขี่ า้ พเจา้ รอดชวี ติ มา ขา้ พเจา้ มน่ั ใจวา่ โรคมะเรง็ จะหายได้ หรอื ถ้ายังไม่หายกอ็ ยไู่ ดอ้ ย่างไม่มีปญั หา และใชช้ วี ติ อยู่ เหมือนคนปกติทวั่ ๆ ไปไดอ้ กี นาน เพราะทุกวนั นี้กม็ ีหลายคนกลา่ ว กบั ขา้ พเจา้ เสมอวา่ “ไมบ่ อกไมร่ นู้ ะนวี่ า่ คณุ เปน็ มะเรง็ ระยะสดุ ทา้ ย” นี่ กห็ มายความวา่ เราไมป่ ว่ ยแลว้ ขา้ พเจา้ จงึ คดิ วา่ “ไมม่ จี อมยทุ ธใดจะ ได้ชัยชนะมาโดยปราศจากบาดแผล” ชีวติ ที่เหลือข้าพเจา้ ขออทุ ิศไว้ เพ่ือสร้างความดีในพระพุทธศาสนา จะนานเท่าใดแล้วแต่เวลาและ
โอกาส เพราะ “ใจเปน็ สขุ แลว้ ” จากทใ่ี ชค้ วามพยายามรกั ษาโรครา้ ย ระยะเวลาผา่ นไปอกี ประมาณ ๑ เดอื น ขา้ พเจา้ รสู้ กึ แขง็ แรงดี อาการเจบ็ ปว่ ยนอ้ ยลงมาก จงึ เขา้ รบั การตรวจเชค็ รา่ งกายอยา่ งละเอยี ดทกุ ระบบ ทำ�แมมโมแกรม เอกซเรยป์ อด ตบั หวั ใจ เลอื ด กระดกู ทโ่ี รงพยาบาลรอ้ ยเอด็ ธนบรุ ี จงั หวดั รอ้ ยเอด็ เมอ่ื วนั ที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๑ ผลการตรวจเชค็ รา่ งกาย ปกตทิ กุ อย่าง ไมพ่ บเซลล์มะเร็งในร่างกาย นางสมประสงค์ สีลาดเลา บ้านเลขที่ ๓๓ ถ.มีโชคชัย ต.ในเมอื ง อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ๔๕๐๐๐ เรียนร้ดู กู ายใจด้วยธรรมะ ธรรมชาติ สายัณห์ นกเทยี น ดิฉนั ช่ือ นางสายณั ห์ นกเทียน เป็นชืี่อที่ทกุ คนท่ัวไปรจู้ กั ถา้ ตามบัตรประชาชน ดฉิ ันชอื่ นางนนทิญา นกเทยี น เปน็ คนจงั หวดั เพชรบรุ ี แตม่ าท�ำ การคา้ ทจ่ี งั หวดั ขอนแกน่ เปน็ เวลา ๒๑ ปี มคี รอบครวั แลว้ มลี กู ชาย ๓ คน การงานทำ�การค้า ชอ่ื รา้ น “สายณั ห์” บิดา มารดาของดฉิ นั มลี กู สาว ๖ คน แตด่ ฉิ นั เปน็ คนที่ ๒ เปน็ เดก็ บา้ นนอก ชีวิตครอบครัวความเป็นอยู่เปน็ แบบบา้ นนอก พอมีพอกนิ มคี วามสุข สบายไมอ่ าจลมื แตท่ �ำ ไมดฉิ นั จงึ ลมื ความพอมพี อกนิ ไปอยา่ งนา่ เสยี ดาย ๒๕๗กาลครัง้ หน่ึง...เมอื่ ฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๕๘ กาลครง้ั หนง่ึ ...เม่ือฉนั หดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk. จริง ๆ เพราะดิฉันขาดสตินั่นเอง จบประถมบ้านนอกโรงเรียนวัด แล้วเรียนต่อชั้นมัธยมท่ี ต�ำ บลและอ�ำ เภอ ในทส่ี ดุ กจ็ บปรญิ ญาตรที ตี่ วั จงั หวดั ดา้ นนาฏศลิ ป์ และ ภาษาไทย ชอบความออ่ นหวานและชีวติ แบบไทย ๆ ดิ้นรนด้วยตนเอง จนจบปรญิ ญาตรี เพราะเปน็ คนมงุ่ มน่ั กบั ตวั เองเสมอมา ถา้ เอาดไี มไ่ ด้ กเ็ สยี ชาตเิ กดิ จะจดจอ่ อยกู่ บั ค�ำ วา่ ตอ้ งมงุ่ มนั่ ทกุ อยา่ ง ไมว่ า่ การงาน การมคี รอบครวั แตค่ รอบครวั มนั เปน็ เรอ่ื งใหญ่ ท�ำ ใหด้ ฉิ นั ฟงุ้ ซา่ นหรอื เป็นการเพิ่มความเครียดสะสมโดยที่ตัวเองไม่สามารถถอดออก หรือ ทางธรรมะวา่ วางเสยี จนพอกเขา้ ไป พอกเขา้ ไป แตด่ ฉิ นั กแ็ สดงออก โดยการเข้าวัดปฏิบัติธรรม เพราะเป็นสิ่งเดียวท่ีทำ�ให้ดิฉันพบกับ ความสุข ความสบายกาย สบายใจท่ีแท้จริง ดิฉนั ชอบเสยี งธรรมะ ชอบการสวดมนตเ์ พราะเปน็ บทสวด ทที่ ำ�ใหด้ ิฉันเปน็ สุข สดช่ืนอย่างลึกล้ำ� การทำ�บญุ ทานกเ็ ปน็ การสร้าง กุศลผลบุญ แต่ถ้าเพ่ิมการปฏิบัติธรรมเข้าไป ย่ิงทำ�ให้เข้าใจมากขึ้น ดฉิ ันไป ๆ มา ๆ ท่ีสำ�นักปฏิบัตธิ รรมแหง่ นที้ ่เี ปรยี บเสมอื นบา้ นของ ดฉิ นั ยง่ิ ในปี พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๔๗ เปน็ ปที องของการทำ�บญุ ท�ำ ทาน การ สร้างกุศล สรา้ งบารมีของดิฉัน เหมอื นว่าดิฉันเตรยี มพรอ้ มไวร้ องรับ เหตกุ ารณ์ท่ีจะเกดิ ขึ้นกบั ตนเอง อย่างไรอย่างนน้ั ตอ่ มาดิฉนั ไดห้ ยุด ปฏิบัติธรรมไป ๓ ปี แต่ไม่หยุดการทำ�บุญทำ�ทาน คิดจะหยุด ปฏบิ ตั ธิ รรมไปจรงิ ๆ เพราะยง่ิ คดิ กย็ ง่ิ ทอ้ มแี ตป่ ญั หามาใหแ้ ก้ ปญั หา แตล่ ะอยา่ งหนกั ๆ ทง้ั นนั้ แลว้ เหตกุ ารณท์ ไ่ี มค่ าดฝนั กเ็ กดิ ขนึ้ ดฉิ นั ไป ตรวจรา่ งกายประจ�ำ ปเี มอ่ื วนั ท่ี ๒๔ เมษายน ๒๕๕๐ หมอบอกวา่ ดฉิ นั เปน็ มะเรง็ ทที่ รวงอกดา้ นซา้ ย มะเรง็ ท�ำ รา้ ยจติ ใจดฉิ นั อยา่ งแรง ดฉิ นั จิตตกจนกล้ันลมหายใจในคนื หน่งึ เพอื่ ท่จี ะไดห้ มดลมหายใจ แต่ก็ไม่
สำ�เร็จ เพราะไม่ใช่ทางแก้ปัญหา แต่เป็นการหนีปัญหาอย่างขาด สตสิ มั ปชญั ญะ ดิฉนั จิตตก สับสนกับการทเ่ี ปน็ โรคมะเร็ง อ้างวา้ ง จะทำ� อย่างไรดี เห็นไหมคะ ถึงแม้จะเข้าวัดเตรียมตัวมาขนาดไหน มีครูบาอาจารย์คอยเกื้อหนุนก็ยังสับสนวุ่นวายเป็นอย่างมาก ดิฉัน ทำ�การรกั ษาดว้ ยเคมีบ�ำ บัดไป ๓ ครง้ั ตบั กไ็ ม่รับยา ตับแข็ง ดิฉัน สับสนอยู่ ๗ เดือน พอประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๐ ครูบาอาจารย์ คือท่านพระครูปลดั สทิ ธวิ รวัฒน์ เรยี กให้ดฉิ ันมาเขา้ กรรมฐานเพราะจะชว่ ยให้หายจากโรคมะเร็งทเ่ี ปน็ อยู่ ถึงตอนน้ดี ิฉันก็ เร่ิมหูตาสว่างข้ึนมาว่า ทำ�ไมเราถึงจิตบอด ตาบอด หูบอด ไปได้ อยา่ งไร ดงั ค�ำ กลา่ วของพระเดชพระคณุ หลวงพอ่ จรญั ทว่ี า่ “สวดมนต์ เปน็ ยาทา วิปัสสนาเปน็ ยากิน” ลืมไปเลยเพราะจติ ตกนน่ั เอง พรอ้ ม กับความฟุ้งซ่านเข้าปิดบัง จุดประกายนี้เองท่ีทำ�ให้ดิฉันได้เร่ิมเข้าวัด ปฏบิ ตั ธิ รรม ศกึ ษาธรรมะให้เขา้ ใจถ่องแทย้ ่งิ ขึน้ ไดเ้ ข้ารว่ มโครงการ เฉลมิ พระเกยี รติ และในทสี่ ดุ กถ็ งึ เวลาของการรอคอย โครงการเรยี น รู้ดูกายใจด้วยธรรมะ ธรรมชาติ (โครงการเพ่ือผู้ป่วยโรคมะเร็ง) ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๕ มกราคม - ๑๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ ของพระอาจารย์ วิโรจน์ ท่านเป็นพระท่เี มตตาสูงสุด ท่านมีแต่ให้ การปฏิบัติธรรมของดิฉันมีพื้นฐานมาบ้างแล้ว ก็พอรู้บ้าง แตบ่ างส่ิงบางอยา่ งที่รู้ กร็ ไู้ มจ่ รงิ ทีจ่ ริงก็ไม่รู้ ต้องปรบั ตัวใหม่ ต้อง เรมิ่ ใหมห่ มดทกุ อยา่ ง เรมิ่ ตงั้ แตก่ ารปรบั รา่ งกาย การปรบั ใจ การปรบั เวลา การอยู่ร่วมกนั เปน็ หม่คู ณะ ด้านความเปน็ อยูห่ ลาย ๆ อยา่ ง ธรรมะจดั สรรใหด้ ฉิ นั ไดม้ าพบสง่ิ ทด่ี ที ส่ี ดุ แตไ่ ดย้ าก เพราะโครงการ นตี้ อ้ งเขา้ ร่วมถงึ ๓๒ วัน ดฉิ นั คิดว่าดิฉนั จะท�ำ ได้หรือไม่ ดฉิ ันคิดไป ๒๕๙กาลครงั้ หนง่ึ ...เมื่อฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๖๐ กาลครง้ั หน่ึง...เม่อื ฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. ต่าง ๆ นานา แตพ่ อมเี วลาบวกกบั ความอดทนของตวั เองทีม่ าพรอ้ ม กับศรัทธา ความมุง่ มน่ั ยดึ ถอื ในพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างไม่ ย่อท้ออยู่แล้ว แต่ถ้าจะมีบ้างก็อยู่ในช่วงท่ีฟุ้งซ่าน ขาดสติ การ ปฏบิ ตั ธิ รรมเพอ่ื การรกั ษาโรคมะเรง็ ทดี่ ฉิ นั เปน็ อยู่ มนั จะชนะจติ ใจดฉิ นั ไดอ้ ยา่ งไร พระอาจารยว์ โิ รจนท์ า่ นเปน็ พระอาจารยห์ มอ เปน็ พระสงฆ์ ทร่ี ักษา ทา่ นใช้อาหารเป็นยา ใชอ้ าหาร ๓๐% ใชก้ รรมฐาน ๗๐% ท่านให้รักษากายและใจ ใจเป็นอนั ดับหนึ่ง ถ้าเราชนะแล้ว เราก็จะ ชนะต่อโรคทกุ อย่างทเ่ี ราเป็นอยู่ ท่านสง่ั ทา่ นสอนให้มีความอดทน ใหฝ้ นื เจรญิ สติ หมน่ั ภาวนา ใหก้ �ำ หนดขวายา่ งหนอ ซา้ ยยา่ งหนอ พอง หนอ ยบุ หนอ อาหารดี อากาศดี อารมณด์ ี พกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ ไม่ เครียด ทกุ อยา่ งก็ดีหมด กายและใจดี จิตดีทกุ อย่างพา่ ยแพ้ มะเรง็ พา่ ย กรรมฐานตอ่ เนื่อง แตต่ อ้ งท�ำ ทุกชั่วขณะจติ ตอ้ งทำ�อยูต่ ลอด เวลา การรักษาของท่านเป็นไปตามที่ดิฉันคาดหวัง คือต้อง ทำ�กรรมฐานให้มากทส่ี ุด ดิฉนั ทนทุกขก์ ับเวทนาปวดทส่ี ดุ แต่ฉนั ก็ฝืน เวทนาในการปฏิบัติมากจรงิ ๆ เมือ่ เข้ามาแลว้ กต็ อ้ งปฏิบตั ใิ หค้ ้มุ จน มีวันหน่ึง เหตุการณ์ที่ดิฉันเคยอ่านในหนังสือกฎแห่งกรรม- ธรรมปฏบิ ตั ิ ของหลวงพอ่ จรญั กเ็ กดิ ขน้ึ กบั ดฉิ นั ปฏบิ ตั กิ รรมฐาน เดนิ ๑ ช่วั โมง นัง่ ๑ ชว่ั โมง ในวันท่ี ๒ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ เวลาประมาณ ๑๐.๓๐น. ตอนทดี่ ฉิ นั ก�ำ ลงั นง่ั สมาธอิ ยู่ กป็ วดรา้ วทช่ี ายโครงดา้ นซา้ ย ไปจนถงึ ส่วนทีด่ ิฉันเปน็ มะเร็ง ลมกอ็ อกหดู า้ นซ้าย ออกจมกู น�้ำ ตา แตก ดิฉันก�ำ หนด รู้หนอ รูห้ นอ ปวดหนอ ปวดหนอ หายหนอ หาย หนอ แลว้ อทุ านออกมาในใจวา่ เราหายแลว้ พอเวลาพกั ทานขา้ ว ทา่ น พระอาจารย์วิโรจน์เดินไปท่ีโต๊ะอาหารแล้วถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง
โยมสายัณห”์ ดิฉนั ตอบทันทีวา่ “วันน้ดี ฉิ ันดมี ากจรงิ ๆ เจา้ ค่ะ” ตอบ ทา่ นพร้อมกับความร้สู ึกท่ปี ีติท่สี ดุ เพราะปฏบิ ตั ธิ รรมมาแล้ว ๑๕ วัน ยงั ไมร่ สู้ กึ อะไร แต่วนั นี้รู้สึกปตี ิอย่างมหาศาล ก็ตอบไปตามความรู้สกึ ทเี่ ราได้รบั ต้งั แตว่ นั น้ันมา ดิฉนั เช่อื ม่ัน มุ่งมน่ั รน่ื เริงในการปฏิบัติ ธรรมอย่างไม่ย่อท้อ อาหารในการรักษาของท่านพระอาจารย์วิโรจน์ ท่านใช้ อาหารท่ไี ม่มเี นือ้ สัตว์ ใช้ไขบ่ า้ งก็เปน็ บางเวลา เนน้ น�ำ้ ผักปน่ั เปน็ หลกั สลดั น�้ำ โหระพา ขา้ วกล้อง เห็ด ๓ อยา่ ง แต่ทุกอย่างตอ้ งผ่านการ ลา้ งดว้ ยนำ�้ เอนไซม์อยา่ งดี อาหาร ๓๐% เท่าน้ัน ทา่ นเน้นการเจรญิ สติ ๗๐% แลว้ ก็ไดผ้ ลตามคติกรรมฐานท่ีว่า กินนอ้ ย นอนนอ้ ย พดู น้อย ทำ�ความเพียรมาก ผลท่ีได้รับก็ดีกับผู้เข้าร่วมโครงการทุกคน จะเบาสบาย สบายท้ังกายและใจ ขอกราบนมัสการขอขอบพระคุณท่านพระอาจารย์วิโรจน์ โดยการทดแทนบุญคณุ ทา่ นเปน็ พระอาจารยห์ มอ ทสี่ ามารถนำ�วธิ ี การแพทย์ทางเลือกมารักษาร่วมกับการเจริญกรรมฐานจนผู้ป่วยโรค มะเร็งชนะใจตนเอง และน�ำ ไปปฏิบัติต่อที่บ้านจนประสบความส�ำ เร็จ ดฉิ นั เปน็ ผปู้ ว่ ยโรคมะเรง็ จะนำ�คณุ งามความดที ท่ี า่ นมอบใหไ้ ปบอกตอ่ ไปปฏิบตั ติ อ่ และชว่ ยบ�ำ รงุ พระพทุ ธศาสนาจนกว่าชวี ติ จะสิ้นสุดลง นางสายณั ห์ นกเทยี น ๙๐/๓๙ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแกน่ ๒๖๑กาลคร้ังหนึ่ง...เมื่อฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.
๒๖๒ กาลครง้ั หนงึ่ ...เมือ่ ฉันหัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. ญาณิกา ผานาค ดิฉันช่อื นางญาณกิ า ผานาค อายุ ๕๔ ปี สถานภาพ หม้าย อาชีพแม่บ้าน ก่อนเข้าโครงการ ดำ�เนินชีวิตอย่างเรียบง่าย อยู่กบั ลกู ชาย ๒ คน ตามอตั ภาพของตัวเอง ค้าขาย ชอบปลูกผกั กนิ เอง เล้ยี งหมู พอเดือนมนี าคม ๒๕๔๙ ไปตรวจรา่ งกาย ทราบวา่ เป็นมะเรง็ ที่เตา้ นมซ้าย ไดร้ บั การผ่าตดั เม่ือเดือน พฤษภาคม ๒๕๔๙ ณ โรงพยาบาลราชพฤกษ์ ขอนแก่น ได้รบั เคมบี ำ�บัด ๔ ครั้ง หลัง จากนน้ั คณุ หมอใหก้ นิ ยาตอ่ อกี ๕ ปี เวลากนิ ยาจะมอี าการรอ้ นวบู วาบ ไปท่วั ตัว อารมณฉ์ ุนเฉยี วงา่ ย โกรธง่าย โมโหรา้ ย ชอบนอน ชอบอยู่ คนเดียว ส่วนมากชอบคิดในทางลบก่อนเสมอ ไมม่ ีเหตุผลเลย วนั ที่ ๑๕ มกราคม - ๑๕ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ ไดเ้ ข้า โครงการเรียนร้ดู กู ายใจดว้ ยธรรมะ ธรรมชาติ โครงการเพอื่ ผูป้ ว่ ย มะเร็ง วนั แรกทำ�อะไรไมค่ ่อยถกู คดิ มากเพราะไมเ่ คยปฏบิ ตั ธิ รรมมา ก่อน นเ่ี ปน็ คร้งั แรก วางตวั ไมถ่ กู เลย แต่วา่ บุญยงั มอี ยู่ ไดม้ าพบกับ ทา่ นพระอาจารยว์ โิ รจน์ พระอาจารยเ์ ต้ พระอาจารยต์ น้ ทา่ นมเี มตตา มาก และตวั ของเราเองกม็ คี วามศรทั ธาในทางพทุ ธศาสนามาก ในการ ทำ�วิปัสสนากรรมฐาน ใหม่ ๆ ก็ล�ำ บาก ต้องอดทน พระอาจารยท์ ่าน สอนใหอ้ ดทนใหม้ าก ๆ เพราะเราต้องตอ่ สู้เพ่ือพรงุ่ นใ้ี ห้ได้ พอถึงวนั สดุ ทา้ ยกท็ ำ�ได้เหมอื นทีพ่ ระอาจารย์สอน จบโครงการน้ีแล้ว เม่ือกลับ ไปอยบู่ า้ นจะน�ำ ไปปฏบิ ตั ติ อ่ และปฏบิ ตั ติ วั เองใหเ้ หมอื นอยใู่ นโครงการ ให้มากที่สุดเท่าท่ีจะท�ำ ได้ ส่วนเร่ืองอาหารก็จะปฏิบัติให้เหมือนอยู่ใน โครงการ สงิ่ ทไี่ ดก้ ลบั บา้ นไปดว้ ย คอื ความอดทน ความสงบ รตู้ วั
เอง รา่ งกาย จติ ใจเข้มแขง็ ขึน้ เปลย่ี นความคิด คือ ในโลกนม้ี ีเรา เทา่ นนั้ ตายคนเดยี ว ไปคนเดยี ว อดตี อนาคตไมเ่ กย่ี ว อยกู่ บั ปจั จบุ นั เทา่ นน้ั ตอนนเ้ี ปน็ โรคมะเรง็ โรคความดนั โลหติ สงู โรคเบาหวานดว้ ย แต่เดย๋ี วนี้ได้หายจากโรคความดนั สูง คุณหมอป่นิ ทา่ นช่วยวัดความดัน ให้ตอนเช้าน้ี ปรากฏว่า ความดนั ปกตดิ ี เพราะเหตทุ ่วี า่ อยทู่ ีน่ ไ่ี ดร้ บั การปฏบิ ตั ธิ รรม กราบพระ สวดมนต์ ส�ำ รวมจิต แผเ่ มตตา อุทิศส่วน กศุ ลและอโหสิกรรม กรวดน้ำ�ให้เจา้ กรรมนายเวร ขณะน้ีสบายใจขึ้นมาก ไม่กังวลอะไรอีกแล้ว นอกจาก ปฏบิ ตั ธิ รรมและดกู ายใจของตวั เองเทา่ นน้ั การทดี่ ฉิ นั ไดเ้ ขา้ วดั ครงั้ นี้ คุ้มคา่ มาก ๆ เลย ได้ประโยชน์มาก หาไมไ่ ด้แล้ว ไมม่ ขี ายในตลาด โลกเลย นอกจากมที ีเ่ ดียวในโลก คือ ทส่ี �ำ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมสวนเวฬวุ นั มีดีหลายอย่าง ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนได้รับการเอาใจใส่ดีมากเป็นพิเศษ จากพระอาจารยว์ โิ รจน์ จกกฺ วโร ผปู้ ว่ ยทกุ คนกไ็ ดร้ บั การรกั ษา มคี ณุ หมอมาคอยดูแลอยู่ประจำ� อาทิ คณุ หมอป่ิน และอีกหลายท่านแตก ต่างสาขาออกไป เห็นแลว้ ภาคภูมใิ จในครง้ั นมี้ าก หาทีไ่ หนไมไ่ ดเ้ ลย พรอ้ มไปทกุ อยา่ ง การกลบั บา้ นครงั้ นต้ี อ้ งปฏบิ ตั ติ วั ใหม่ ใหอ้ ยใู่ นสงั คม ของปจั จุบันใหไ้ ด้ ด้านการจดั ระเบียบชีวติ ประจำ�วันและความเปน็ อยู่ เมอื่ ก่อนเคยรับประทานอาหารแบบทัว่ ไป ก็เปลยี่ นมาเป็นรบั ประทานแต่ ผกั อย่างเดยี ว ไมร่ บั ประทานเนื้อ หมู ปู ปลา อาหารทะเลทกุ ชนิด ปฏบิ ัติตนใหม่ เคยคิดมาก ตอ่ ไปกจ็ ะไมค่ ดิ มาก ไม่อยู่คนเดยี ว จะ ปฏบิ ัติธรรมใหม้ าก ท�ำ ใหต้ ัวเองดขี ึน้ จะไมร่ บั สารก่อมะเร็งเขา้ ไปอีก ไม่เครียด ท�ำ ใจใหส้ งบ เมอื่ กลับไปอยทู่ ีบ่ ้าน จะน�ำ เอาความรูท้ ่ไี ด้รบั จากการเขา้ โครงการน้ี พรอ้ มทงั้ จำ�ค�ำ สงั่ สอนของทา่ นพระอาจารยท์ กุ ๒๖๓กาลครั้งหน่ึง...เมอ่ื ฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.
๒๖๔ กาลครั้งหน่ึง...เมอื่ ฉนั หดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk. ทา่ นที่สอน จะนำ�ไปปฏิบตั ใิ หเ้ ต็มทเี่ ท่าทีจ่ ะทำ�ได้ กราบนมัสการพระ อาจารยม์ าดว้ ยความเคารพ และกราบขอบพระคณุ เจ้าหนา้ ที่ ท่มี ีส่วน ชว่ ยเหลอื และผทู้ เ่ี กยี่ วขอ้ งในทกุ ๆ ดา้ นในโครงการน้ี ทใี่ หค้ วามเมตตา ช่วยเหลือดแู ลมาโดยตลอด ขอบคุณส�ำ หรับการทักทาย “มะเร็ง” เพญ็ ประภา อนวชั พงศ์ ข้าพเจ้าช่ือ นางเพ็ญประภา อนวัชพงศ์ อายุ ๓๘ ปี ประกอบอาชพี เป็นพนักงานบริษัทเอกชน มีบตุ ร ๒ คน เป็นบตุ รชาย ๑ คนและบุตรสาว ๑ คน อายุ ๑๐ ปี และ ๖ ปตี ามลำ�ดับ ข้าพเจ้า ทำ�งานเปน็ พนกั งานควบคมุ คณุ ภาพในหอ้ งปฏิบตั ิการ หรือท่เี รยี กกนั ว่าห้องแล็บ (Laboratory) จบการศึกษาระดับปริญญาโททางด้าน วิทยาศาสตร์ สาขาเคมี ท�ำ งานอย่ไู ด้ประมาณ ๙ ปี กข็ อยา้ ยมาทำ� ในสว่ นของงานดา้ นเอกสารและระบบคณุ ภาพ เนอ่ื งจากการท�ำ งาน ในห้องแล็บนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเวลาในการทำ�งานใหม่ จากเดิม ๐๘.๐๐ - ๑๗.๐๐น. เปน็ การท�ำ งานแบบ ๒ กะ คอื ๐๘.๐๐ - ๒๐.๐๐น. และ ๒๐.๐๐ - ๐๘.๐๐น. ซึ่งการท�ำ งานในลกั ษณะเชน่ น้ี สง่ ผลให้ ข้าพเจ้ามีเวลาพักผ่อนน้อย โดยในแต่ละวันมีเพียง ๓-๔ ชั่วโมง ร่างกายจึงเริ่มทรดุ โทรม แตด่ ้วยความทค่ี ิดวา่ ตนเองเป็นคนเกง่ คน แข็งแรง เพราะไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยเลยแม้สักคร้ังเดียว จึงยังคงโหม งานหนกั เชน่ นตี้ อ่ ไปเรอื่ ย ๆ แถมยงั รสู้ กึ ภมู ใิ จวา่ ตนเองเปน็ คนท่ี “อดึ ”
ในทส่ี ดุ รา่ งกายเร่มิ รับไมไ่ หว มอี าการออ่ นเพลีย อารมณท์ ีเ่ คยเยน็ ก็ กลับร้อนดังไฟ หงุดหงดิ โมโหง่าย โดยเฉพาะหากลกู ๆ ไมเ่ ชอื่ ฟงั คำ� สัง่ สอน กจ็ ะถกู ว่ากล่าวตกั เตือนอย่เู สมอ ๆ ชีวิตการทำ�งานท่ีทุ่มเทในบทบาทของพนักงานท่ีมีความ จงรกั ภกั ดีต่อองค์กร และเปน็ ผมู้ ีความรูค้ วามสามารถ รวมถงึ อยาก นำ�ความรู้ท่ีได้จากการศึกษาเล่าเรียน มาพัฒนาปรับปรุงองค์กรให้ กา้ วหนา้ จึงลืมคิดถงึ ตวั เอง ห่วงตวั เอง รักตัวเอง และลมื ดแู ลตัวเอง บทบาทของความเป็นแม่ที่ต้องการดูแลและปลูกฝังรากฐานทางการ ศึกษาใหก้ บั ลูก ทำ�ใหข้ า้ พเจ้าต้องเคร่งเครยี ด และจรงิ จงั กับการตัง้ ใจ สอนหนังสือลกู ทุกครั้งหลงั เลิกงาน เวลาท่มี ีใหก้ ับตนเองจริง ๆ น้ัน ถ้าไม่นับเวลานอนพักผ่อนแล้ว เรียกได้ว่ามีแค่ ๒ ชั่วโมงต่อวัน การท่มุ เททำ�แตล่ ะบทบาทต้ังแต่ ภรรยา แม่ และลูกจ้าง ทำ�ใหเ้ กดิ เป็นความเครียดโดยไม่รู้ตัว มันกลายเป็นภัยมืดที่แอบแฝงเอาไว้ ประกอบกับการเรียน และการทำ�งานท่ีต้องอยู่กับสารก่อมะเร็ง (Carcinogen) เป็นเวลานานหลายสิบปี กลายเป็นสาเหตุสำ�คัญท่ี ข้าพเจา้ ตอ้ งพบกบั ค�ำ วา่ “มะเรง็ ” ตน้ เดอื นมกราคม ๒๕๔๙ ขา้ พเจา้ มอี าการเจบ็ คดั ตงึ บรเิ วณ เตา้ นม คล้ายจะมีรอบเดือน แต่หลงั จากรอบเดือนผา่ นไป ๑-๒ วันก็ ปวดนอ้ ยลงจนหาย จงึ ไมไ่ ด้สงสยั อะไร ต่อมาเดือนกมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๙ อาการเจ็บและคดั ตึงเตา้ นมกม็ าอกี แตค่ ราวนเ้ี ปน็ ท่ีน่าสงั เกตวา่ หลัง จากรอบเดือนหยุด อาการคัดตึงกลับไม่หายไปอยา่ งเคย นกึ สังหรณ์ ใจจงึ ลองคล�ำ บรเิ วณเตา้ นม และตรวจพบสงิ่ ทคี่ าดวา่ นา่ จะเปน็ กอ้ นของ ความผดิ ปกติ ขา้ พเจา้ จงึ รบี มาพบคณุ หมอ ผลการตรวจท�ำ ใหข้ ้าพเจ้า มีอาการ “ล้มทั้งยนื ” เพราะรวู้ ่าความตายกำ�ลังเปดิ ประตูรออยู่ข้าง ๒๖๕กาลครง้ั หนึง่ ...เมือ่ ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.
๒๖๖ กาลครัง้ หนึ่ง...เมอื่ ฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. หนา้ แลว้ คณุ หมอแจง้ วา่ ขา้ พเจา้ เปน็ “มะเรง็ เตา้ นม” ตอ้ งเขา้ รบั การ รกั ษาดว้ ยวธิ ีผ่าตัด เคมีบำ�บัด และฉายแสง เรียกว่าเป็นการรกั ษา แบบครบวงจรของการรักษามะเร็งเลยทีเดียว ในใจคิดว่ามาถึงตรงนี้ แลว้ หากไมส่ ู้ ไมร่ กั ษา โอกาสทมี่ นั จะลกุ ลามยากเกนิ เยยี วยาตอ้ งตาม มาแน่นอน หลังฟังผลจากคณุ หมอ ขา้ พเจา้ ก็นอนไมห่ ลับ มันเหมอื น ฝนั รา้ ย รอ้ งไหเ้ สยี ใจ ค�ำ วา่ “ท�ำ ไม” ผดุ ขนึ้ มาในสมองมากมาย ท�ำ ไม เราเป็นมะเรง็ ท�ำ ไมเราตอ้ งเปน็ ดว้ ยทั้ง ๆ ทอ่ี ายเุ รากย็ งั ไม่มากเลย ท�ำ ไมเจา้ กรรมนายเวรตอ้ งลงโทษเราดว้ ย เราไปท�ำ เวรท�ำ กรรมกบั ใคร ไวท้ ำ�ไมกรรมต้องมาตอบสนองเราสาสมอย่างนี้ ทั้ง ๆ ที่เราก็ไมเ่ คย คดิ ร้าย หรอื ทำ�ร้ายใครเลย สารพดั คำ�ถามทีต่ ้องการคำ�ตอบ แต่สิง่ แรกท่ีตอบได้ก็คือ สาเหตขุ องการเป็นมะเร็ง คงเน่ืองมาจาก ๑. กรรมพนั ธ์ุ เพราะมคี ุณป้าป่วยเปน็ มะเรง็ เตา้ นมเช่น เดยี วกัน และเสียชีวิตแลว้ ในปที ี่ ๗ ๒. การอยกู่ บั สารกอ่ มะเรง็ เปน็ เวลานาน โดยจากสภาพ การเรยี นและการทำ�งาน ท�ำ ใหห้ ลกี เลย่ี งไมไ่ ด้ แมจ้ ะมกี ารปอ้ งกนั แลว้ แตอ่ าจจะไมไ่ ดผ้ ล ๑๐๐% จงึ ยงั คงมีการสัมผัส และสูดดมโดยไม่รูต้ ัว เรียกว่าเปน็ การตายแบบ“ผ่อนส่ง” ๓. ความเครยี ด เนือ่ งจากเปน็ คนทจี่ ริงจังกับชวี ติ ท้งั ใน เรื่องงานและครอบครัว รวมถงึ ขาดการพกั ผ่อนทเี่ พียงพอ ท�ำ ให้เกดิ ความเครียดทางอ้อมโดยไมร่ ตู้ ัว เมื่อวเิ คราะหถ์ ึงสาเหตุแลว้ กต็ อ้ งทำ�ใจยอมรับสภาพท่เี กดิ ขน้ึ ความออ่ นแอและสน้ิ หวงั กลบั กลายเปน็ พลงั ทจี่ ะผลกั ดนั ใหข้ า้ พเจา้
ตอ้ งสู้ และสูใ้ หถ้ งึ ที่สุด บอกกับตัวเองวา่ เราจะยงั ตายไม่ได้ เพราะ ชีวิตของเรายังมีหลายส่ิงท่ียังทำ�ไม่เสร็จ และหลายส่ิงที่ยังไม่ได้ทำ� ลูกเรา ๒ คน จะเป็นเชน่ ไร หากขาดเราไป และเราจะไดม้ ีโอกาส ชื่นชมความสำ�เร็จของเขาในวันที่เขาเติบโตและจบการศึกษาหรือ ข้าพเจ้าเปรียบลูกเป็นเสมือน “ต้นกล้า” ต้นเล็ก ๆ ที่ข้าพเจ้าเฝ้า ทะนถุ นอม เอาใจใส่ รดนำ้�พรวนดนิ คอยดแู ลไม่ใหแ้ มลงมารบกวน แตล่ ะวนั ทผ่ี า่ นไป ขา้ พเจ้าจะเฝา้ มองดกู ารเจริญเตบิ โตของตน้ กลา้ ทัง้ ๒ ต้นน้อี ย่างชื่นชม ซึง่ หากขา้ พเจา้ ต้องมาตายลงไป คงไม่มโี อกาส ได้เห็นต้นกล้ากลายเป็นต้นไม้ใหญ่ท่ีให้ดอกซ่ึงมีกล่ินหอมและสีสัน สวยงาม ให้ผลซึ่งมีรสชาติหอมหวานแสนอร่อยไม่แพ้ต้นพ่อพันธุ์และ แมพ่ ันธ์ุ คดิ ไดอ้ ยา่ งนนั้ กจ็ ะตอ้ งอยแู่ ละ “สเู้ พ่อื ลูก” จำ�ไดว้ ่าความร้สู ึก เศรา้ เสยี ใจและเปน็ ทกุ ขม์ าครอบง�ำ อยู่ ๓ วนั จงึ จางหายไป กลายเปน็ พายแุ ละพลงั ทย่ี ง่ิ ใหญ่ ซงึ่ พรอ้ มจะทะยานไปขา้ งหนา้ อยา่ งไมเ่ กรงกลวั ๑๖ มนี าคม ๒๕๔๙ เปน็ วันทต่ี อ้ งเข้ารับการรกั ษาดว้ ยวิธี ผา่ ตัด เพ่อื น ๆ และคนทรี่ ูจ้ กั ต่างมาเยยี่ มมากมาย สร้างความอบอุ่น และก�ำ ลงั ใจท่มี ีอยแู่ ล้วใหท้ วีคณู ขึน้ ไปเรอื่ ย ๆ บญุ กศุ ลและคณุ ความ ดที เี่ คยท�ำ ไวก้ บั ทกุ ๆ คน กลบั มาตอบสนองใหเ้ หน็ กใ็ นเวลานเี้ อง เสรจ็ สนิ้ การรกั ษาดว้ ยการผา่ ตัด กม็ าถงึ การรกั ษาดว้ ยเคมบี �ำ บัด ๖ คอรส์ (Courses) หรอื เรยี กกนั ทวั่ ไปวา่ ๖ เขม็ ตลอดระยะเวลาของการรกั ษา ด้วยเคมีบำ�บัด ข้าพเจ้ามีอาการแพ้อย่างรุนแรงเมื่อเทียบกับผู้ป่วย รายอ่นื ๆ กติ ตศิ ัพท์การแพ้ยาเคมบี �ำ บดั ทำ�ใหข้ ้าพเจ้ากลายเป็นบคุ คล ตวั อยา่ งทคี่ ณุ หมอมกั พดู ใหค้ นไขร้ ายอน่ื ฟงั เสมอ ๆ ความทรงจำ�ทเี่ คมี บำ�บัดฝากไว้บนร่างกายของข้าพเจ้า ทำ�ให้ข้าพเจ้ากลายเป็นแขกรับ เชิญ หรือวิทยากรรับเชิญของโรงพยาบาลท่ีทำ�การรักษา ในการ ๒๖๗กาลครงั้ หนงึ่ ...เมื่อฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๖๘ กาลคร้งั หน่งึ ...เมอื่ ฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. ถ่ายทอดประสบการณ์และการต่อสู้กับเคมีบำ�บัด จนสามารถผ่าน สภาวะความไมส่ ขุ สบายของผลขา้ งเคียงได้ ขา้ พเจ้าจงึ ขออธษิ ฐานจติ และปวารณาตัวเองว่าจะขอเอาประสบการณแ์ ละอุทาหรณ์ของการ เจ็บปว่ ย เป็นครสู อนประสบการณจ์ ริงของชวี ติ และให้กำ�ลงั ใจแก่ ผู้ปว่ ยมะเรง็ เตา้ นมรายอน่ื ๆ ใหเ้ ขากลบั มามีพลังและก�ำ ลงั ใจท่ีจะ ต่อสกู้ ับโรคร้ายเช่นเดยี วกบั ตนเอง โคง้ สดุ ทา้ ยของการรกั ษา คอื การฉายแสง ซงึ่ การฉายแสง ไม่ใช่วิธีการรักษาที่น่ากลัวอย่างที่คิด ข้าพเจ้าสามารถผ่านการรักษา ไปไดด้ ว้ ยดี สนิ้ สดุ การรกั ษาเมอ่ื วนั ที่ ๑๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๙ ขา้ พเจา้ กลายเปน็ คนทมี่ หี นา้ ตาไมส่ วยงามเหมอื นเดมิ ผวิ หนงั ทหี่ ยาบกระดา้ ง และเสื่อมโทรม ใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยกระ และริ้วรอย ผมซ่ึงร่วงไป หมดทง้ั ศรี ษะ รปู รา่ งซงึ่ ผอมเหมอื นผตี ายซาก เรยี่ วแรงทเี่ คยมมี ากมาย กลายเป็นคนหอบและเหน่ือยง่าย เม็ดเลือดขาวที่มีค่าในระดับตำ่�กว่า ปกติ คอื มีเพียง ๒,๓๐๐-๒,๗๐๐ (ปกตคิ วรอยู่ที่ ๕,๐๐๐ - ๑๐,๐๐๐) จะท�ำ อยา่ งไรดใี หเ้ มด็ เลอื ดขาวสามารถเพม่ิ จำ�นวนขนึ้ มาได้ เพราะหาก เมด็ เลอื ดขาวเพมิ่ มากเทา่ กบั คนปกติ โอกาสในการเกดิ โรคภยั ไขเ้ จบ็ และเช้ือมะเร็งลุกลามย่อมเป็นไปได้ยากอย่างแน่นอน เวลาผ่านไป เกอื บปี เมด็ เลอื ดขาวมีคา่ เพิ่มข้นึ มาเพียงเลก็ น้อย คอื ๓,๕๐๐-๓,๗๐๐ ซ่ึงก็ยังถือว่าอยู่ในระดับตำ่�กว่าเกณฑ์ ข้าพเจ้าพยายามออกก�ำ ลังกาย ลดความเครียดให้น้อยลง วางเฉยใหม้ ากขนึ้ มองโลกในแง่ดี ปรับ เปล่ยี นวถิ ีการด�ำ รงชวี ิตแบบใหม่ ใสใ่ จตัวเองมากขนึ้ หว่ งลูกนอ้ ย ลง ทานอาหารตามแนวธรรมชาตบิ ำ�บัด โดยงดเนื้อสตั วจ์ ำ�พวก หมู ไก่ อาหารทะเล ยงั มกี ารทานปลาบา้ งแตไ่ มม่ ากนกั จะทาน ๓-๔ ครง้ั ใน ๑ สปั ดาห์ (เนอ่ื งจากโปรตนี เปน็ วตั ถดุ บิ ทถ่ี กู ปอ้ นใหก้ บั เซลลม์ ะเรง็ )
เซลลม์ ะเรง็ เปน็ เซลลท์ มี่ คี วามผดิ ปกตจิ ากการแบง่ ตวั โดยมกี ารแบง่ ตัวเร็วมากกว่าเซลล์ปกติหลายเท่า แต่หากร่างกายของเรามีเซลล์ เม็ดเลอื ดขาวท่ีมีคณุ ภาพและมปี รมิ าณมาก เซลลเ์ ม็ดเลือดขาวก็จะ คอยจดั การกับเซลลท์ ่ผี ดิ ปกติ ตามกลไกของรา่ งกาย ขา้ พเจา้ ไดศ้ กึ ษาจากหนงั สอื หลายเลม่ พบวา่ การทำ�สมาธิ สามารถกระตนุ้ ใหร้ า่ งกายสรา้ งเมด็ เลอื ดขาวได้ ประกอบกบั การได้ รู้จักกับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย เขาใช้วิธีการรักษาดว้ ยการ นงั่ สมาธเิ พยี งอยา่ งเดยี ว โดยท�ำ อยนู่ านเกอื บ ๑๐ ปี และสงิ่ มหศั จรรย์ นัน่ คือ เขาหายจากการเปน็ โรคมะเรง็ นเี่ ป็นอีกจุดหน่งึ ที่จดุ ประกาย ความคิดในตัวของข้าพเจ้าว่า ข้าพเจ้าต้องใช้วิธีนี้ในการรักษาเช่น เดียวกัน ย้อนกลับไปเมื่อคร้ังรักษาตัวอยู่ท่ีโรงพยาบาล ในขณะที่ รา่ งกายรู้สึกดี ไมท่ รมาน ข้าพเจ้าก็จะหาเวลาวา่ งอ่านหนังสือธรรมะ นกึ ขอบคณุ มะเร็งเหมือนกันวา่ ท�ำ ให้เรามเี วลาได้ “พักผ่อนและรรู้ ส พระธรรม” อยากเข้าใกล้พุทธศาสนาให้มากข้ึน หนังสือธรรมะของ หลวงพ่อจรญั แหง่ วัดอมั พวนั จ.สงิ ห์บรุ ี เป็นหนังสอื ธรรมะทีม่ ีมาก ที่สุดในบรรดาหนังสือธรรมะทั้งหมด ซึ่งก็ได้มาจากผู้ใจบุญที่แวะมา เยยี่ มเยยี นไมข่ าดสายนน่ั เอง ขา้ พเจา้ ไดอ้ า่ นไดศ้ กึ ษากร็ วู้ า่ มหี ลายคน ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งและโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ สามารถหายได้ ด้วย“กรรมฐาน”ในใจของข้าพเจ้าตอนนนั้ อยากรูจ้ ัก“กรรมฐาน” เพอ่ื ที่จะไดน้ ำ�มาใชใ้ นการรักษาตนเองเชน่ เดียวกัน นับเป็นโชควาสนาของข้าพเจ้าเม่ือทราบข่าวว่า“สำ�นัก ปฏบิ ตั ิธรรมสวนเวฬุวัน ขอนแก่น” ซึ่งเปน็ วดั ในสาขาหลวงพ่อจรัญ จดั โครงการ “เรยี นรู้ดกู ายใจด้วยธรรมะ ธรรมชาต”ิ ด้วยวิธีสมาธิ ๒๖๙กาลครง้ั หนงึ่ ...เมอ่ื ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.
๒๗๐ กาลครง้ั หนึง่ ...เมือ่ ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. บ�ำ บดั และการรกั ษาแบบธรรมชาตบิ �ำ บดั ตามแนวทางของแพทยท์ าง เลือก ข้าพเจ้าไม่รอช้าที่จะขอเข้าร่วมในโครงการน้ี ซ่ึงมีระยะเวลา ทงั้ หมด ๓๒ วนั (ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๕ มกราคม ๒๕๕๑ - ๑๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑) โดยเงื่อนไขของผ้ทู ่จี ะเขา้ ร่วมโครงการคอื จะเป็นผู้ปว่ ยมะเรง็ ระยะใดก็ได้ แต่ต้องสามารถช่วยเหลือตนเองได้ และไมใ่ ชย้ าใด ๆ ใน ขณะอยู่ในโครงการรวมถึงทานอาหารท่ีจัดเตรียมให้เท่านั้น ข้าพเจ้า ไม่รู้สึกหนักใจกบั เงอ่ื นไขทก่ี �ำ หนด แต่สิง่ ท่หี นกั ใจคอื ท�ำ อย่างไรจึงจะ สามารถเขา้ รว่ มโครงการไดต้ ลอด ๓๒ วัน เพราะข้าพเจ้าท�ำ งานใน บรษิ ทั เอกชน แนน่ อนวา่ การลาไปในลกั ษณะเชน่ น้ี ผบู้ งั คบั บญั ชายอ่ ม ไมอ่ นุญาตอยา่ งแนน่ อน แตด่ ้วยความหวังและความตงั้ ใจอย่างมงุ่ มน่ั ก่อนนำ�รายละเอยี ดของโครงการไปเสนอต่อผบู้ งั คบั บญั ชา ขา้ พเจ้าได้ จดุ ธปู และระลกึ ถงึ หลวงพอ่ จรญั ใหท้ า่ นชว่ ยดลบนั ดาลใหผ้ บู้ งั คบั บญั ชา เห็นดว้ ย และอนมุ ตั ใิ ห้ขา้ พเจา้ ได้มาร่วมในโครงการนี้ และแลว้ ปาฏหิ ารยิ ก์ ม็ จี รงิ ผบู้ งั คบั บญั ชาอนมุ ตั ใิ หข้ า้ พเจา้ มาร่วมในโครงการได้ตลอด ๓๒ วนั โดยถอื วา่ เปน็ การสง่ ข้าพเจ้าไป “อบรม” ในใจของข้าพเจ้ารู้สึกปีติข้ึนมาทันที พระเดชพระคุณของ หลวงพอ่ ในครงั้ น้ี ลูกซาบซึง้ และจะขอจดจ�ำ ไปจนกวา่ ชวี ติ จะหาไม่ วนั แรกทมี่ าลงทะเบียน พระอาจารย์วิโรจน์ซ่งึ เปน็ ผรู้ บั ผิด ชอบโครงการ ได้ทักทายข้าพเจ้าด้วยคำ�พูดที่ทำ�ให้ข้าพเจ้ารู้สึกไม่ สบายใจนกั นนั่ กค็ อื “หน้าตาโยมดูไม่ดเี ลยนะ ดซู ีด ๆ เหมอื นคน ปว่ ย (ทั้ง ๆ ท่ีขา้ พเจา้ ผ่านการรกั ษามานานเป็นปีแลว้ ) แต่ไม่เป็นไร หากโยมไดท้ านอาหาร ไดท้ านนำ้�ผัก โยมกจ็ ะดขี ้นึ เอง” ข้าพเจ้าเก็บเอาคำ�พูดของพระอาจารย์มาคิดทบทวน เน่ืองจากภายหลังการรักษาด้วยวิธีแพทย์แผนปัจจุบันนั้น ข้าพเจ้าได้
จดั ระเบียบชวี ติ และดูแลเรอื่ งอาหารเป็นพเิ ศษ เน้นผกั ปลอดสารพษิ คอยควบคุมปริมาณโปรตีน ไขมัน และเกลือ ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับ แนวทางอาหารธรรมชาติบำ�บดั ที่พระอาจารย์จะจดั ให้ แต่แลว้ ทำ�ไม พระอาจารย์จึงพดู วา่ หากข้าพเจ้าไดท้ านอาหาร ทานน�ำ้ ผัก จะดดู ี ขึน้ นั่นคือสงิ่ ทข่ี ้าพเจา้ อยากรูจ้ ริง ๆ วันท่สี องหลังจากลงทะเบยี นเสร็จ มีการตรวจร่างกายและ ตรวจเลือดผู้เข้าร่วมโครงการ โดยการตรวจเลือดเป็นการตรวจ หาความเขม้ ข้นของเลอื ด เซลล์เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลอื ด วันตอ่ มาพระอาจารยว์ ิโรจน์สอนการปฏบิ ตั ิธรรมทีเ่ รยี กว่า “อานาปานสติ” คอื การนง่ั สมาธโิ ดยกำ�หนดลมหายใจเขา้ -ออก ซงึ่ หากเปน็ ผปู้ ว่ ยทมี่ พี น้ื ฐ า น ด้ า น ก ร ร ม ฐ า น ม า บ้ า ง ก็ จ ะ ส อ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ธ ร ร ม แ บ บ “กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน” คือการดูการเคลื่อนไหวของร่างกาย ช่ัวโมงการปฏบิ ัติธรรมในแตล่ ะวัน จะแบง่ เปน็ ๔ ชว่ ง คอื ๑. ช่วงเชา้ มดื เวลา ๐๔.๐๐ - ๐๖.๐๐น. มีพระอาจารย์ ตน้ เปน็ ผสู้ อน ซึง่ ท่านจะน�ำ ท�ำ วตั รเช้าและฝกึ โยคะ ๒. ชว่ งเชา้ เวลา ๐๘.๐๐ - ๑๑.๐๐น. ฝึกปฏิบตั ธิ รรมที่ “ลานดิน” เพ่ือใหเ้ ท้าไดส้ ัมผัสกบั พื้นดิน เปน็ การนวดฝา่ เท้ารกั ษาโรค ไปในตวั และผลพลอยไดค้ อื รบั อากาศบรสิ ทุ ธใิ์ ตต้ น้ ไม้ นบั ไดว้ า่ เปน็ การ นำ� “ธรรมะและธรรมชาติ” มาจับคู่กันได้อย่างลงตัว โดยมี พระอาจารย์เต้เป็นผู้สอน ๒๗๑กาลคร้งั หนง่ึ ...เมอ่ื ฉนั หดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๗๒ กาลคร้ังหน่งึ ...เมื่อฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๓. ชว่ งบ่าย เวลา ๑๒.๓๐ - ๑๖.๓๐น. ฝึกปฏิบตั ิธรรมที่ ห้องกรรมฐาน พระอาจารย์เตเ้ ป็นผ้สู อนเชน่ เคย ๔. ชว่ งเยน็ เวลา ๑๗.๐๐ - ๒๐.๐๐น. ฝึกปฏิบัตธิ รรมที่ ห้องกรรมฐาน พระอาจารยว์ ิโรจน์เป็นผู้สอน ในแตล่ ะวนั หลงั เสรจ็ สน้ิ การปฏบิ ตั ธิ รรม ผเู้ ขา้ รว่ มโครงการ ก็จะรับฟังการบรรยายให้ความรู้และให้แนวคิดในการดำ�รงชีวิต จาก พระอาจารยว์ โิ รจน์ ซง่ึ เวลาทท่ี กุ คนตอ้ งเขา้ นอนคอื ๒๑.๐๐ - ๐๓.๐๐น. เพราะเปน็ เวลาทเ่ี หมาะสมที่สดุ ตอ่ การพกั ผ่อนของรา่ งกาย อาหารท่ีโครงการจัดให้น้ัน เป็นอาหารธรรมชาติบำ�บัด ตามแนวทางของแพทย์ทางเลือก พระอาจารย์วิโรจน์ท่านคัดสรร วัตถุดิบท่ีมาจากแหล่งซ่ึงปลอดสารพิษ รวมถึงมีกรรมวิธีในการ เตรยี ม การประกอบอาหารท่พี ถิ ีพิถนั เปน็ พเิ ศษ แหลง่ โปรตีนท่ผี ู้เข้า ร่วมโครงการไดร้ บั มาจาก เตา้ หู้ เหด็ ถั่ว ลกู เดือย ไข่ (ไขท่ ใ่ี ช้มา จากฟาร์มทีเ่ ล้ยี งไก่ด้วยเอนไซม)์ ขา้ พเจา้ จึงรู้สกึ ปลอดภัยและมั่นใจ ทีส่ ุด ตลอดทั้งวันจะมีการจัด “นำ้�ผักปั่นและนำ้�เอนไซม์” ซ่ึง ขา้ พเจา้ จะทานน�ำ้ ผกั ปนั่ ไดถ้ งึ วนั ละ ๔ ลติ ร เมอ่ื เวลาผา่ นไป ๒ สปั ดาห์ มกี ารเปลยี่ นแปลงระยะเวลาการปฏบิ ัตธิ รรมใหม่ ดังน้ี ๑. ชว่ งเชา้ มืด ยังคงมกี ารทำ�วัตรเช้าแต่งดการเรยี นโยคะ ให้ฝึกปฏิบตั ธิ รรมในช่วง ๐๕.๐๐ - ๐๖.๐๐น. แทน ๒. ช่วงเชา้ กจิ กรรมเหมอื นเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ๓. ชว่ งบา่ ย-ชว่ งเย็น เปลี่ยนแปลงเวลา จาก ๑๒.๓๐- ๑๖.๓๐น. เปน็ ๑๒.๓๐ - ๑๘.๐๐น. ๒๗๓กาลครั้งหนง่ึ ...เม่ือฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.
๒๗๔ กาลครง้ั หนง่ึ ...เมือ่ ฉนั หดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk. รวมท้งั เพ่มิ ระยะเวลาการปฏิบตั ิธรรม จากเดิน-นง่ั อย่าง ละ ๓๐ นาที เป็น เดิน-นงั่ อยา่ งละ ๔๕ นาที เมอื่ เขา้ สสู่ ปั ดาหส์ ดุ ทา้ ยของโครงการ ไดม้ กี ารเปลยี่ นแปลง เวลาในการปฏิบัตธิ รรม ดงั น้ี ๑. ช่วงเช้ามืด งดทำ�วัตรเช้า แต่ให้ปฏิบัติธรรมตั้งแต่ ๐๔.๐๐ - ๐๗.๐๐น. ๒. ช่วงเชา้ กิจกรรมเหมอื นเดมิ ไม่มกี ารเปลี่ยนแปลง ๓. ชว่ งบา่ ย-ชว่ งเยน็ เปลย่ี นแปลงเวลา จาก ๑๒.๓๐ - ๑๘.๐๐น. เปน็ ๑๒.๐๐ - ๒๐.๓๐น. รวมทงั้ เพม่ิ ระยะเวลาการปฏบิ ตั ธิ รรม จากเดนิ -นง่ั อย่าง ละ ๔๕ นาที เปน็ เดนิ -นงั่ อย่างละ ๖๐ นาที และใหก้ ำ�หนดเวทนา ทเ่ี กดิ ขน้ึ ไปดว้ ย ซง่ึ เปน็ การท�ำ “วปิ สั สนากรรมฐานเตม็ รปู แบบ”จรงิ ๆ ก่อนปิดโครงการ มีการตรวจร่างกายและตรวจเลือดเช่น เดิม ตัวข้าพเจา้ ซ่งึ มปี ญั หาของเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำ�มาตลอด กลบั มี ค่าท่เี พิม่ ข้ึน จาก ๔,๑๐๐ เปน็ ๔,๗๐๐ (ภายในระยะเวลาเพียง ๑ เดอื น) รวมถงึ มคี วามเขม้ ขน้ ของเลอื ดเพม่ิ ขน้ึ จาก ๓๗.๑ เปน็ ๔๑.๗ แสดงว่าวาจาของพระอาจารย์วิโรจน์ศักดิ์สิทธ์ิจริง ๆ หน้าตาของ ขา้ พเจา้ ไมซ่ ีดเซยี วและดูมีเลอื ดฝาดมากขึน้ โดยเฉพาะรมิ ฝปี ากทด่ี ูจะ แดงเปน็ พิเศษ (จนต้องบอกใคร ๆ ว่า“ทาลปิ ธรรมะ”) วันปิดโครงการ พระอาจารย์วิโรจน์ได้แจกอุปกรณ์ซึ่ง เปรยี บไดเ้ สมอื น “ยาวเิ ศษ” ทจี่ ะตอ่ ลมหายใจของเราใหม้ ชี วี ติ ยนื ยาว ยาเหล่าน้ันได้แก่ หนังสือธรรมะ หนังสือธรรมชาติบำ�บัด หนังสือ เอนไซม์ น้ำ�เอนไซม์เข้มข้นและน้ำ�ผ้ึงเพื่อให้พวกเราเอาไปกระจายต่อ ลกู ประค�ำ สำ�หรับการสวดอิตปิ โิ ส ๑๐๘ จบ บาตรบุญ พระสมเดจ็
พระนเรศวร ฯลฯ และที่ขาดไมไ่ ดค้ อื วุฒบิ ตั ร แสดงการจบหลักสูตร ของโครงการ แตเ่ หนือส่ิงอืน่ ใดทส่ี ำ�คญั ทีส่ ดุ นน่ั คอื ความรแู้ ละความ เขา้ ใจเกย่ี วกบั “กรรมฐานและการดแู ลตนเองตามแนวทางธรรมชาติ บำ�บัด” พระอาจารย์เต้ซึ่งเป็นพระอาจารย์ที่คอยดูแลการ ปฏบิ ตั ธิ รรม “กรรมฐาน” ฝากใหพ้ วกเราทกุ คน หมนั่ ฝึกปฏบิ ัตธิ รรม ใหเ้ หมือนอยทู่ ่วี ัด “เพราะยิง่ คุณโยมท�ำ มากเท่าไหร่ ผลดกี ็จะตกอยู่ กับตัวของคุณโยมมากเท่านั้น อาตมาเป็นก�ำ ลังใจให้นะ และฝาก ดูแลเร่อื งอาหารการกนิ ของตนเองดว้ ย” ประโยคน้ที ุกคนสัญญาว่า จะจดจ�ำ และนำ�ไปปฏบิ ัตใิ ห้มากทีส่ ดุ เทา่ ท่ีโอกาสจะอ�ำ นวย พระอาจารย์ต้นฝาก“ซีดีโยคะ”ให้ทุกคนนำ�ไปปฏิบัติท่บี ้าน เพอ่ื เปน็ การผอ่ นคลายกลา้ มเนอ้ื สรปุ วา่ ทกุ คนในโครงการกลบั บา้ นไป พรอ้ มกบั “เสบยี งบญุ และเสบยี งความร”ู้ เตม็ สมองและสองมอื พรอ้ ม ทง้ั รา่ งกายท่ี “แขง็ แรง กระปรก้ี ระเปรา่ จติ ใจทเ่ี ขม้ แขง็ และสดชน่ื ” มองจากภายนอกแล้วไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า น่ีคือ “ผู้ป่วยโรค มะเรง็ ” พรอ้ มทง้ั การได้ท�ำ บญุ สรา้ งกศุ ลทย่ี ง่ิ ใหญท่ ส่ี ดุ ในชวี ติ นน่ั คอื “การเจรญิ วปิ สั สนากรรมฐาน” พระอาจารย์โน๊ตฝาก “บาตรบุญ” ซึง่ เปน็ กระปุกออมสิน ทแ่ี สนนา่ รกั (รปู รา่ งหนา้ ตาคลา้ ยบาตรจ�ำ ลอง) ใหพ้ วกเราน�ำ ไปหยอด สตางคท์ กุ ครงั้ เมอ่ื มกี ารสวดมนต์ และหากเมอื่ ไหรก่ ต็ ามทอ่ี ยากท�ำ บญุ ก็ให้พวกเรานำ�สตางค์จากกระปุกออมสินบาตรบุญน้ีมาทำ�บุญ เป็น เสมอื นการสะสมบญุ ไว้กบั ธนาคารพระพทุ ธศาสนาเลยทีเดียว กราบนมสั การขอขอบพระคณุ พระคณุ เจา้ ทกุ รปู ทมี่ สี ว่ นชว่ ย ๒๗๕กาลครั้งหนึ่ง...เมอ่ื ฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk.
๒๗๖ กาลคร้งั หนึง่ ...เมื่อฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk. เหลอื ใหโ้ ครงการน้ีเกิดข้นึ มาได้ เปน็ “การต่อลมหายใจ ตอ่ เสน้ ทาง เดินของชีวิตให้ยาวนานข้ึน” โดยมีธรรมะเป็นเคร่ืองชี้นำ�แนวทาง ให้กับผูป้ ่วยโรคมะเร็งทกุ คนท่เี ขา้ รว่ มในโครงการ ข้าพเจา้ ขอตั้งสจั จะ วาจาและตั้งจิตอธษิ ฐานวา่ “จะขอทดแทนพระคุณของพระสงฆ์อันมี ค่ามหาศาลนี้ ด้วยการปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนท่ีดี จะทำ�นุ บ�ำ รงุ และจรรโลงพระพทุ ธศาสนา ใหอ้ ยคู่ สู่ งั คมไทยตลอดไป ตราบ เท่าทย่ี ังมีลมหายใจอย่”ู ใจเปน็ นาย กายเป็นบา่ ว ชุมพร บุษเนตร ขา้ พเจา้ นางชมุ พร บษุ เนตร อายุ ๕๒ ปี อาชพี รบั ราชการ ครู ไดป้ ระจกั ษ์ชดั เจนแลว้ กบั ขอ้ ความขา้ งต้น ซ่งึ เปน็ ค�ำ พูดของทา่ น พระครูปลัดสิทธิวรวัฒน์ ผู้อำ�นวยการสำ�นักปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จงั หวดั ขอนแกน่ ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้าพเจา้ เคยปรารภกบั เพอ่ื น รว่ มงานวา่ “อยากสวดมนตไ์ หวพ้ ระกอ่ นนอน อยากฝกึ ปฏบิ ตั ธิ รรม บา้ ง แตไ่ มม่ เี วลา” เชา้ ตอ้ งทำ�........ตอ้ ง..........เยน็ ตอ้ ง...........ตอ้ ง...........และ สารพัดจะตอ้ งท�ำ ตารางชีวิตแตล่ ะวัน ไมม่ ีช่วงเวลาใดจะเบียดเบยี น เวลาสวดมนต์ไหว้พระเข้ามาได้เลย ท้ายสุดเพื่อนบอกว่า “นอนสวดมนตก์ ไ็ ดแ้ ลว้ หลบั สบาย” ขา้ พเจา้ ตอบทนั ทวี า่ “ไมไ่ ดเ้ พราะ เวลาน้นั ต้องดูทวี ี รายการดี ๆ ทั้งนั้น” นี่คอื ขอ้ อ้างที่ส�ำ คัญ และอ้าง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332