Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กาลครั้งหนึ่งเมื่อฉันหัดเดิน

กาลครั้งหนึ่งเมื่อฉันหัดเดิน

Published by Thalanglibrary, 2020-11-28 11:41:50

Description: กาลครั้งหนึ่งเมื่อฉันหัดเดิน

Search

Read the Text Version

ไดเ้ ป็นปี ๆ อยา่ งนน้ั เรอ่ื ยมา อยู่อยา่ งมคี วามสุขกับชวี ติ แต่ความคดิ ทอี่ ยากปฏบิ ตั ธิ รรมยงั ตดิ คา้ งในใจอยตู่ ลอดเวลา เพยี งแต่ “ไมม่ เี วลา” เท่าน้นั เอง วนั ที่ ๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๐ ขา้ พเจา้ ปวดทอ้ งอยา่ งรนุ แรง หมอตรวจพบมกี อ้ นเนอ้ื งอกทต่ี บั ๑.๖ ซม. และตอ่ มน�้ำ เหลอื งโต หลงั จากทราบผล จากคนที่ท�ำ งานทุกอย่างไดป้ กติ กลายเป็นคนปว่ ยหนัก ทนั ที ไร้เร่ยี วแรง นอนสนิ้ หวงั ส้ินกำ�ลงั ใจ ไม่อยากท�ำ งาน ไมอ่ ยาก เจอหนา้ ผคู้ น จมอยกู่ บั ความคดิ ท�ำ ไมชวี ติ เราเหมอื นฝนั เรายงั มกี �ำ ลงั ยังมีสติปัญญาพอท่ีจะทำ�ประโยชน์ให้สังคม ให้ประเทศชาติได้อีก มากมาย ตลอดเวลาแหง่ การด�ำ เนนิ ชีวติ เรียบ ราบรืน่ มีความสุขมา โดยตลอด พอชีวติ สะดุด กส็ ะดุดมากจนไม่มกี �ำ ลังจะลุกขึน้ มาตอ่ สู้ได้ ขา้ พเจา้ ตดั สนิ ใจเตรยี มตวั ตาย ปรกึ ษากบั สามี ตกลงทกุ อยา่ งเรยี บรอ้ ย โทรศพั ทห์ านอ้ งสาว ตดิ ตอ่ เขา้ รบั การรกั ษาทโ่ี รงพยาบาลศรนี ครนิ ทร์ จังหวัดขอนแก่น ระหว่างรอ น้องสาวให้หนังสือกฎแห่งกรรมและ หนงั สอื สวดมนต์เลม่ เลก็ ๆ ของหลวงพอ่ จรญั ฐิตธมโฺ ม มาให้อา่ น และบอกลองสวดมนตด์ ู เผอ่ื จะสบายใจขน้ึ บ้าง ถา้ อยากปฏบิ ตั ธิ รรมก็ ไปที่สำ�นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมสวนเวฬุวนั จ.ขอนแกน่ เปน็ สาขาของหลวงพอ่ จรญั ฐิตธมโฺ ม ข้าพเจ้าจึงลุกข้ึนมาสวดมนต์ตามหนังสือ สวดบทอิติปิโส เทา่ อายบุ วกหนงึ่ ทกุ เชา้ ก่อนเร่ิมวันใหม่ ทกุ เยน็ ก่อนนอนเปน็ ประจำ� ทกุ วนั เปน็ ทนี่ า่ แปลกใจวา่ ขา้ พเจา้ สบายใจขน้ึ มาก มกี ำ�ลงั ใจ สามารถ ไปทำ�งานได้ตามปกติ พูดคุยกับเพ่ือนร่วมงานได้ ว่างก็อ่านหนังสือ กฎแหง่ กรรม จติ ใจเริ่มดีขน้ึ ตารางชีวติ เริ่มเปล่ยี นโดยข้าพเจ้าไม่ร้สู กึ ตวั จากท่ีเคยพูดวา่ “ไม่มีเวลาสวดมนต์ ไหว้พระ” กลายเป็น เรม่ิ ๒๗๗กาลครัง้ หนงึ่ ...เม่อื ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.

๒๗๘ กาลครงั้ หนึ่ง...เมื่อฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk. ต้นชีวิตประจำ�วันด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ และสิ้นสุดการด�ำ เนิน ชีวติ ประจ�ำ วนั โดยการสวดมนตไ์ หว้พระ ได้อย่างมคี วามสุขเรื่อยมา กลางเดอื นพฤศจกิ ายน ๒๕๕๐ ขา้ พเจา้ ชวนพส่ี าวคนโตมา เข้าปฏิบัติธรรมท่ีสำ�นักปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จ.ขอนแก่น โดยการ แนะน�ำ ของนอ้ งสาว (มาฝกึ ปฏบิ ตั ธิ รรมเพอ่ื รอรบั การรกั ษาตามวธิ กี าร ของแพทยแ์ ผนปจั จบุ นั ) ประทบั ใจมาก บรเิ วณกวา้ งขวาง รม่ รนื่ สงบ เงยี บ ร่มเย็น เป็นบรรยากาศที่เหมาะสมยิ่งกบั คำ�วา่ “ส�ำ นักปฏิบตั ิ ธรรม” ข้าพเจ้ามีโอกาสกราบพระอาจารยว์ โิ รจน์ จกกฺ วโร และได้ ทราบว่าท่านมี “โครงการเรียนรู้ดูกายใจด้วยธรรมะ ธรรมชาติ” (โครงการเพ่ือผปู้ ว่ ยมะเร็ง) กราบเรียนให้ท่านทราบถงึ อาการเจ็บป่วย ทา่ นถามประโยคแรกว่า “โยมกลวั ตายไหม” ขา้ พเจา้ คงออกอาการ กลัวตายจนทา่ นรคู้ ำ�ตอบ ท่านพูดอกี ว่า “กลวั ท�ำ ไม ใคร ๆ กต็ อ้ ง พบ จะช้า จะเร็วเท่าน้ันเอง มาลองเขา้ โครงการดู ๑๕ มกราคม ถงึ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ โยมตดั สินใจเอง” ข้าพเจ้าคดิ ในใจว่า อีกนานเหลอื เกนิ เราจะมีชวี ติ อยไู่ ดถ้ ึงวันเขา้ โครงการหรือเปล่าหนอ ข้าพเจ้ากลับเข้ารับการรักษาท่ีโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น อีกคร้ังหนึ่ง แล้วตัดสินใจไม่รับการรักษาโดยการผ่าตัด แต่เข้ามาลงทะเบียนปฏิบัติธรรมในโครงการเฉลิมพระเกียรติ ๕ ธนั วาคมอีกคร้งั หน่ึง ตั้งแตว่ ันท่ี ๕-๑๑ ธนั วาคม ๒๕๕๐ ข้าพเจา้ เริ่มรู้สึกศรัทธา เร่ิมซึมซับ เริ่มมองเห็นความแตกต่างของชีวิต อยู่ ปฏิบัติธรรมจนครบกำ�หนดโครงการ กลับบ้านก็นำ�แนวทางท่ีได้ไป ปฏิบตั ติ ่อ ก็สามารถปฏบิ ตั ไิ ด้ ไปทำ�งานตามปกติไดเ้ หมือนเดิม ถาม ตวั เองว่า “ทำ�ได้อยา่ งไร” คำ�ตอบชดั เจน “ใจส่งั กายปฏิบตั ”ิ นัน่ คือ

ความจรงิ แหง่ “ใจเปน็ นาย กายเป็นบา่ ว” วันที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๕๑ ครอบครวั พร้อมญาติมาสง่ ขา้ พเจา้ เขา้ “โครงการเรยี นรดู้ กู ายใจดว้ ยธรรมะ ธรรมชาต”ิ ความ รสู้ กึ ของข้าพเจ้าวนั นน้ั ทงั้ ดีใจ ท่ีมโี อกาสเข้ารว่ มโครงการ ท้งั หว่ันใจ กลวั กงั วล สารพดั อารมณแ์ ละความรสู้ กึ เราจะสไู้ หวไหม? อาการจะ เปน็ อยา่ งไร? เราจะท�ำ อย่างไร? จะอยูอ่ ยา่ งไร? จะกลบั บ้านในสภาพ ไหน? ทกุ ค�ำ ถามล้วนเปน็ ค�ำ ถามชวี ิตส�ำ หรบั ข้าพเจ้าท้ังสิน้ ใครจะให้ คำ�ตอบไดน้ อกจากเรา เร่ิมต้นโครงการด้วยการเจาะเลือด ตรวจสุขภาพ ช่ังน้ำ� หนกั มคี ณุ หมอ คณุ พยาบาล ผลดั เปลย่ี นกนั เขา้ มาดแู ลใหค้ วามอบอนุ่ ใจตลอดชว่ งระยะเวลาปฏบิ ตั ธิ รรมในโครงการ ซง่ึ แบง่ ออกเปน็ ๓ ชว่ ง มพี ระอาจารยท์ ม่ี คี วามรู้ มเี มตตาสงู อยคู่ อยแนะนำ� แกป้ ญั หา ตอบ คำ�ถามตลอด คือ พระอาจารย์วิโรจน์ พระอาจารย์ต้น และ พระอาจารยเ์ ต้ ด้านอาหาร เปน็ อาหารแบบธรรมชาติ ไมม่ กี ารปรงุ แต่ง มาก ไม่มเี น้อื สตั ว์ มีประโยชน์ต่อร่างกาย ท่ีสำ�คัญมีสารอาหารครบ ถว้ น โดยเฉพาะน้ำ�นมธัญพืช นำ้�ผักป่ัน ตลอดระยะเวลาการเข้าร่วมโครงการ อาการป่วยของ ขา้ พเจา้ มอี าการเจบ็ ปวดบา้ งเปน็ บางวนั มผี นื่ ขนึ้ บา้ ง ขบั ถา่ ยมากผดิ ปกตบิ า้ ง ซง่ึ พระอาจารยบ์ อกวา่ เปน็ การขบั พษิ ออกจากรา่ งกาย แลว้ อาการกค็ อ่ ยบรรเทาไป ขา้ พเจา้ ตงั้ ใจวา่ จบจากโครงการแลว้ คงทำ�ตวั ใหเ้ หมอื นในโครงการมากทส่ี ดุ โดยเฉพาะดา้ นอาหาร อารมณ์ อากาศ และทสี่ �ำ คญั คอื การปฏบิ ตั กิ รรมฐาน แตค่ งทำ�ไดต้ ามสภาพการด�ำ รง ชวี ติ และเวลาที่จะอำ�นวย ๒๗๙กาลครง้ั หนึ่ง...เมอื่ ฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.

๒๘๐ กาลคร้ังหนึง่ ...เมอื่ ฉนั หดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk. ขอกราบขอบพระคณุ ทา่ นทมี่ อี ปุ การคณุ ทกุ ทา่ น ทเี่ สยี สละ แรงกายแรงใจ เป็นกำ�ลังใจให้เราตลอด ท่านเหนื่อยกว่าเราหลาย เทา่ นกั กราบขอบพระคณุ อกี ครง้ั คะ่ บรรยากาศนี้ ความรสู้ กึ น้ี ความ สำ�นกึ ในบญุ คุณครง้ั นี้ คงตดิ แนน่ ในใจของข้าพเจ้าไปอกี นานเทา่ นาน ดังบทกลอนขา้ งลา่ งนี้ สายตามองด้วยห่วงใยใช่จับผิด ผองญาติมิตรปฏิบัติธรรมตามมุ่งหวัง สงบจิตวางใจได้หรือยัง ปัญหาใครมีบ้างหยั่งถามไป เหนื่อยหรือเปล่าหิวหรือไม่ใครเพลียจัด ช่วยปัดเป่าปัญหาพาแก้ไข ปฏิบัติธรรมแล้วดื่มนมข้าวแทนข้าวไป นอนหลับได้สามทุ่มคุมกายใจ ดื่มน้ำ�ไปให้ขับถ่ายได้ปกติ เจ็บจุกนิดดื่มน้ำ�ผักพักเหนื่อยได้ หายปฏิบัติต่อผ่อนคลายให้สบาย อย่ากังวลโรคหายได้ใจอดทน ความเมตตาท่านมีให้เต็มดวงจิต เช้าสายค่ำ�ตามติดดูแลใกล้ แก้ปัญหาธรรมะทั้งโรคภัย หาที่ไหนไม่มีให้ซื้อขายกิน โยมขอกราบขอบพระคุณพระคุณเจ้า ที่ขจัดปัดเป่าความสับสน จะนำ�ไปปฏิบัติขัดเกลาตน ให้เป็นคนรู้กายตัวหัวใจเรา

สมพงษ์ แสงสวา่ ง ก่อนที่ข้าพเจ้าจะเข้ามาใน โครงการเรียนรู้ดูกายใจด้วย ธรรมะ ธรรมชาติ ไดร้ บั การรักษาทางแพทยแ์ ผนปัจจบุ นั มาแลว้ ซงึ่ เปน็ ความหวงั ทคี่ ดิ วา่ จะหายจากโรคนไี้ ด้ แตอ่ าการกไ็ มไ่ ดด้ ขี น้ึ มากนกั ต่อมามีผู้แนะนำ�ให้ลองปฏิบัติธรรมดูบ้าง จึงตัดสินใจมา และหวงั วา่ การปฏบิ ตั ธิ รรมจะชว่ ยไดไ้ มม่ ากกน็ อ้ ย เพราะเปน็ ทางเลอื ก หนึ่งที่น่าจะปฏิบัติดู ทั้งท่ีรู้อยู่ว่า อาการเจ็บปวดของเราไม่ธรรมดา คือปวดมาก เดินตอ้ งใช้ไมค้ �ำ้ ตลอด ยงั วิตกอย่วู ่า จะไหวหรือไมก่ บั เวลา ๑ เดอื นทจ่ี ะตอ้ งอยปู่ ฏบิ ตั ิ เพราะแนวทางวปิ สั สนากรรมฐานนนั้ ตัวข้าพเจ้าไม่มีความเข้าใจเลย พอเข้ามาท่ีสำ�นักปฏิบัติธรรมสวน เวฬวุ ันวันแรก ได้รับการตอ้ นรับเป็นอย่างดี ความมน่ั ใจและกำ�ลังใจ เพิม่ ขนึ้ ทนั ที ระหว่างปฏิบัติธรรม ข้าพเจ้าได้รับการอบรมในหลาย ๆ เรอ่ื ง คอ่ ยมคี วามเขา้ ใจในสง่ิ ทไี่ มเ่ คยรเู้ คยเหน็ ท�ำ ใหไ้ ดค้ ดิ ในทางบวก มากขนึ้ ขอ้ คดิ ตา่ ง ๆ เรมิ่ ทยอยเขา้ มาในสมองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง บางครง้ั มคี วามวติ กกงั วล เนอื่ งจากการปฏบิ ตั ทิ เ่ี ขม้ งวด พอมสี ตนิ กึ ถงึ ค�ำ สอน ของครบู าอาจารยแ์ ล้วกท็ ำ�ใหส้ งบลงได้ ผลของการเยยี วยาสิง่ ทไ่ี ดร้ ับหลงั เขา้ ร่วมโครงการ ด้านจิตใจ ข้าพเจ้ารู้สึกว่าจิตใจคลายความกังวลลงได้ รวู้ า่ การท�ำ บญุ ไมใ่ ชแ่ ตก่ ารใหท้ านสง่ิ ของเทา่ นน้ั หากแตบ่ ญุ ทจ่ี ะท�ำ ให้ ตวั เราพน้ จากกรรมตา่ ง ๆ คอื การท�ำ วปิ สั สนากรรมฐานตา่ งหาก และ การทำ�บุญก็มิได้จำ�กัดการทำ�อยู่ท่ีวัดเท่านั้น ทำ�ได้ทั่วไปท่ีบ้านหรือ ๒๘๑กาลครง้ั หนึง่ ...เม่ือฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.

๒๘๒ กาลครง้ั หนึ่ง...เมอื่ ฉันหัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. ทท่ี อี่ �ำ นวยกส็ ามารถท�ำ ไดท้ ง้ั นนั้ ทส่ี �ำ คญั จติ ใจตอ้ งเขม้ แขง็ มสี ตมิ น่ั คง รจู้ กั อดทน อดกลน้ั ตอ่ ความเจบ็ ปวดไดม้ ากขนึ้ รจู้ กั วา่ การเจบ็ ปวดมนั เปน็ ธรรมดาของสังขาร ด้านร่างกาย ข้าพเจา้ ร้สู กึ ว่าการเจ็บปวดของโรคมะเรง็ ยัง คงเทา่ เดมิ ในความรสู้ กึ แตจ่ รงิ ๆ แลว้ การทรี่ า่ งกายไดร้ บั การปฏบิ ตั ิ อยา่ งถกู ตอ้ งในเรอื่ งของอาหาร และน�ำ้ ผกั ปนั่ ตลอดจนน�้ำ ดมื่ เอนไซม์ คอื ตวั ทที่ �ำ หนา้ ทขี่ บั พษิ ของเสยี ตา่ ง ๆ ออกจากรา่ งกาย เพราะสงั เกต วา่ เพยี ง ๑ เดือนท่ผี ่านมา ระบบขับถา่ ยของขา้ พเจา้ ดีขนึ้ มาก ซงึ่ มา ดเี อามากประมาณ ๒ อาทติ ยส์ ดุ ท้ายน้ีเอง การรกั ษาโรคคงไม่ดีขึ้น ทนั ที ส�ำ หรบั ตวั เราทม่ี อี าการหนักเช่นน้ี การรบั ไปปฏิบตั ิต่อทบ่ี า้ นน่า จะช่วยให้หายจากโรคได้ ท้ังน้ีต้องใช้เวลามากขึ้น อีกอย่างหน่ึงที่ ข้าพเจา้ ไดจ้ ากการปฏบิ ตั ธิ รรม คอื อาการของความดันลดลง จาก ๑๓๙ เหลือ ๑๑๐-๑๒๐ เท่านั้น การท่ฝี ึกหายใจยาว ๆ คอื ตวั ชว่ ยให้ ความดันดขี ึ้น ฉววี รรณ ไพบลู ยว์ ัฒนผล ตง้ั แต่วนั แรกทข่ี า้ พเจา้ ไดเ้ ขา้ มารว่ มในโครงการนี้ ขา้ พเจ้า มคี วามร้สู กึ วา่ มีความอบอุ่นทง้ั กายและใจ และร้สู ึกว่าได้พบเพือ่ นรว่ ม งานที่ดมี าก ทกุ คนเป็นคนดีท่สี ดุ ให้ความอบอุ่นเปน็ กันเองและไดใ้ ห้ คำ�แนะนำ�ทดี่ ีท่ีสุด และลกู ก็ได้รับความเมตตาจากพระคณุ เจ้าด้วยคะ่

ประวัติการปว่ ย เริ่มปว่ ยเมือ่ วันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๕๑ ขา้ พเจา้ มอี าการ ปวดมากท่ีเต้านมด้านซ้ายแล้วลามมาด้านขวา แต่ข้าพเจ้าไม่อยากจะ รกั ษาทางแพทยแ์ ผนปจั จบุ นั เพราะคดิ วา่ คงไมห่ าย พอดขี า้ พเจา้ ไดอ้ า่ น หนงั สอื ประวัติหลวงพ่อจรญั ฐิตธมโฺ ม ขา้ พเจ้าก็เลยคดิ วา่ จะมาปฏิบัติ ธรรมตามท่ีหลวงพ่อแนะนำ�ให้ปฏิบัติด้านกรรมฐาน ข้าพเจ้ามีความ สนใจในดา้ นนอี้ ยแู่ ลว้ กเ็ ลยตดั สนิ ใจมาทสี่ �ำ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมสวนเวฬวุ นั ผลสรุปจากการตรวจ จากการคลำ�ดูก้อนที่เต้านมครั้งที่ ๑ พบว่าจะมีก้อนแข็ง มาก คร้ังที่ ๒ จะค่อย ๆ นิ่มลง แต่ก็ยังมีก้อนอยู่ประมาณ ๓ เซนตเิ มตร จากการตรวจครงั้ ที่ ๓ พบวา่ กอ้ นจะคอ่ ย ๆ ลดลงจนเหลอื ประมาณ ๑ เซนติเมตร จนคุณหมอบอกวา่ ไมม่ อี ะไรเลย เปน็ ปกตดิ ี

๒๘๔ กาลคร้งั หนึง่ ...เมอื่ ฉันหดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. ทับทมิ สิงหท์ อง เมอื่ พ.ศ. ๒๕๔๔ ขา้ พเจา้ มอี าการปวดทอ้ งมาก จงึ ไปตรวจ ที่โรงพยาบาล คณุ หมอตรวจพบเน้ืองอกในล�ำ ไสใ้ หญ่ ปรากฏว่าเปน็ เน้ือรา้ ยจึงตัดล�ำ ไส้ใหญ่ท้ิงไปหน่งึ ฟุต แล้วให้ยาเคมบี ำ�บดั อยไู่ ด้ ๕ ปี ก็ตรวจพบว่ามีก้อนเน้ือขึ้นท่ีตับ จึงให้ยาเคมีบำ�บัดเป็นครั้งท่ีสอง ขา้ พเจา้ มอี าการเบือ่ อาหาร อ่อนเพลีย รับประทานอาหารไดน้ อ้ ยลง มีอาการทรงกบั ทรดุ รสู้ กึ ว่าอยไู่ ดไ้ ม่นาน รู้ข่าวจากคุณหมวย (ญาติ ธรรม) วา่ มโี ครงการมะเรง็ ทขี่ อนแกน่ มารทู้ หี ลงั วา่ เปน็ สำ�นกั ปฏบิ ตั ิ ธรรมสวนเวฬวุ ัน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า เป็นผู้โชคดีมากและมีบุญมากท่ีได้ มารว่ มโครงการน้ี เหมอื นกบั ชวี ติ นไ้ี ดต้ ายแลว้ เกดิ ใหม่ ไดป้ ฏบิ ตั ธิ รรม และได้ท้ังอาหารรักษาโรคด้วยความเมตตาอย่างสูงของพระคุณเจ้า รวมทั้งคณุ หมอและพยาบาลทกุ คน ลูกหลานรอบขา้ งใหค้ วามสะดวก สบายทกุ อยา่ ง พรอ้ มทงั้ อาหารทอ่ี ยอู่ าศยั เสอื้ ผา้ เพยี บพรอ้ ม ขา้ พเจา้ จงึ มคี วามสขุ และปลม้ื ปตี เิ ปน็ อยา่ งยงิ่ ดว้ ยชวี ติ ใหม่ คงจะมชี วี ติ อยู่ ได้ ปฏิบตั ธิ รรมและบ�ำ รงุ พระพุทธศาสนาดว้ ยสติ และก�ำ ลังที่มีอยู่ เพราะ ร่างกายแข็งแรงกว่าเดิมมาก ดา้ นจิตใจก็ดมี าก และกจ็ ะใชช้ ีวิตแบบนี้ ตลอดไป สุดท้ายขอกราบนมัสการพระคุณเจ้าด้วยความเคารพ อยา่ งสงู

อม้ ผาเงิน ดฉิ นั ชอ่ื ยายอม้ ผาเงนิ อายุ ๖๒ ปี สถานภาพ หมา้ ย อาชพี แมบ่ า้ น เปน็ โรคมะเรง็ เมด็ เลอื ดขาว และโรคหวั ใจโต กอ่ นเขา้ โครงการไดร้ บั การรกั ษาอยโู่ ดยทานยารกั ษาโรคหวั ใจโตอยเู่ ปน็ ประจ�ำ รวมทง้ั ไดท้ �ำ เคมบี �ำ บดั เรยี บรอ้ ย ในวนั ท่ี ๑๕ มกราคม-๑๕ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๑ ไดเ้ ขา้ โครงการเรยี นรดู้ กู ายใจดว้ ยธรรมะ ธรรมชาติ โครงการ เพอ่ื ผปู้ ว่ ยมะเรง็ วนั แรกทเ่ี ขา้ โครงการกป็ ฏบิ ตั ไิ ดบ้ า้ ง ไมไ่ ดบ้ า้ ง แตพ่ อ ผา่ นไป ๓-๔ วนั มอี าการปวดขามากจนอยากกลบั บา้ น แตพ่ อปฏบิ ตั ไิ ป สกั ระยะหนง่ึ ตอ่ มากห็ ายเลยไมอ่ ยากกลบั แลว้ ใชค้ วามอดทนตอ่ อาการ ปวดจนประสบความส�ำ เรจ็ ทกุ วนั นด้ี ขี น้ึ มาก ไมม่ อี าการอะไรเลย ดขี น้ึ ตามล�ำ ดบั รสู้ กึ แจม่ ใส สดชน่ื ปฏบิ ตั ธิ รรมไดม้ ากขน้ึ หนา้ ใส ยม้ิ เกง่ มาก ในการเรม่ิ ตน้ ทจ่ี ะเขา้ ปฏบิ ตั วิ ปิ สั สนากรรมฐาน ใหม่ ๆ รสู้ กึ ล�ำ บาก มาก ใชค้ วามอดทนสงู พระอาจารยท์ า่ นสอนใหอ้ ดทนมาก ๆ พอถงึ วนั สน้ิ โครงการกท็ �ำ ไดเ้ หมอื นทพ่ี ระอาจารยส์ อนทกุ อยา่ ง เดย๋ี วนด้ี ฉิ นั รสู้ กึ วา่ สบายมาก เมอ่ื จบโครงการแลว้ กจ็ ะไปปฏบิ ตั ธิ รรมทบ่ี า้ นตอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชนม์ ากทส่ี ดุ สว่ นเรอ่ื งอาหาร ดฉิ นั ตง้ั ใจวา่ จะปฏบิ ตั ใิ หเ้ หมอื นอยู่ ในโครงการเลย เลกิ อาหารทเ่ี ปน็ สารพษิ ไมร่ บั ประทานเอาสารพษิ จาก อาหารเข้าไปอีก จะปฏิบัติธรรม กราบพระ สวดมนต์ ส�ำ รวมจิต แผเ่ มตตา อทุ ศิ สว่ นกศุ ล และอโหสกิ รรมใหเ้ จา้ กรรมนายเวร การทด่ี ฉิ นั ไดเ้ ขา้ มาในโครงการน้ี รสู้ กึ คมุ้ คา่ มาก ไดป้ ระโยชนม์ าก กราบนมสั การ พระอาจารยม์ าดว้ ยความเคารพ และกราบขอบพระคณุ เจา้ หนา้ ท่ี ทม่ี ี สว่ นชว่ ยเหลอื และเกย่ี วขอ้ งในทกุ ๆ ดา้ นในโครงการน้ี ทใ่ี หค้ วามเมตตา ชว่ ยเหลอื ดแู ลมาโดยตลอด กราบนมสั การมาดว้ ยความเคารพยง่ิ ๒๘๕กาลคร้งั หน่งึ ...เมือ่ ฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk.

๒๘๖ กาลคร้งั หน่ึง...เมือ่ ฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk. อมร โสมชาติ ข้าพเจ้า นางสาวอมร โสมชาติ อายุ ๔๕ ปี อาชีพรบั ราชการ ปัจจุบันอาศัยและทำ�งานอยู่ท่ีจังหวัดระยอง อยู่กับมารดา ทา่ นอายุ ๗๒ ปี เปน็ ขา้ ราชการบ�ำ นาญ ขา้ พเจา้ เปน็ ลกู คนโต มนี อ้ ง สาวอีก ๒ คน สมรสแล้วท้ังคู่ ก่อนที่จะทราบว่า ป่วยเป็นมะเร็ง ข้าพเจา้ ดำ�เนนิ ชีวิตแบบเรียบง่าย ไมม่ อี ะไรโลดโผน เรียนจบแล้วก็มี งานทำ� มีอาชพี มรี ายได้ตามสมควร สถานะครอบครวั เป็นครอบครัว ระดบั กลาง ไมร่ ำ�่ รวย พอมีพอใช้อย่างประหยดั ลักษณะงานทที่ ำ�เป็น งานวชิ าการและบรกิ ารประชาชน ใชค้ อมพวิ เตอรเ์ ปน็ เครอื่ งมอื หลกั ใน การทำ�งาน ฉะน้นั จงึ ต้องนง่ั อยู่หนา้ เคร่อื งคอมพิวเตอร์ทง้ั วันต้งั แต่ เช้าถึงเย็นปริมาณงานในแต่ละวันค่อนข้างมาก มีความเครียดเกิดข้ึน เสมอ ๆ ท้ังจากตัวงานและผู้มาติดต่อ รวมทั้งเพื่อนร่วมงานด้วย ขา้ พเจา้ เปน็ คนไมค่ ่อยดูแลตัวเอง ทานอาหารตามใจมาก ตามความ อยาก ไม่ระมัดระวังในการกิน และตอนนั้นเข้าใจว่าตัวเองเป็นคน สุขภาพแขง็ แรง และไมค่ อ่ ยป่วยกระเสาะ กระแสะ จึงละเลยสุขภาพ เม่ือเดือนกันยายน ๒๕๔๘ ข้าพเจ้าได้ไปตรวจร่างกาย เพราะคลำ�พบก้อนท่ีเต้านมข้างซ้าย จงึ ไปพบแพทย์และไดท้ ราบว่าตัว เองปว่ ยเปน็ มะเรง็ ระยะที่ ๓ ตน้ ๆ แลว้ และยงั พบอกี วา่ ลามไปทตี่ อ่ ม น�้ำ เหลอื งแลว้ ๑ ตอ่ ม จงึ เขา้ รกั ษาโดยตดั เตา้ นมออก เมอื่ เดอื นตลุ าคม ๒๕๔๘ และรักษาต่อดว้ ยการใหเ้ คมบี �ำ บดั ๖ ครัง้ ฉายรังสี ๒๕ คร้ัง ครัง้ แรกท่ที ราบวา่ เป็นมะเรง็ คิดว่า ท�ำ ไมเราถึงโชคร้าย เปน็ โรคร้าย แรง แต่พอไปรักษา จงึ ทราบวา่ มคี นป่วยเป็นโรคนีเ้ ยอะมาก และกย็ ัง โชคดีอยู่บ้างที่ยังไม่มีอาการเจ็บปวดจากมะเร็ง จึงมีก�ำ ลังใจรักษาตัว

และท�ำ ใจไดร้ ะดบั หนง่ึ แตท่ เ่ี สยี ใจมาก คอื ทำ�ใหแ้ มร่ อ้ งไห้ น�ำ้ ตาไหล จากการที่เราไม่ดแู ลตวั เอง และทำ�ใหแ้ มล่ �ำ บากทเ่ี หน็ เราตอ้ งนอนโรง พยาบาล นอนลกุ ไมข่ น้ึ ขณะทใี่ หเ้ คมบี ำ�บดั แมแ้ พทยท์ ร่ี กั ษากบ็ อกเพยี ง ว่า ถ้าโรคไม่กลับมาอีกภายในระยะเวลา ๕ ปี ก็จะมีโอกาสมีชีวิต ยนื ยาวตอ่ ไปได้ แตอ่ กี นานเทา่ ใดไมท่ ราบได้ ท�ำ ใหไ้ ดค้ ดิ วา่ จากนช้ี วี ติ เราคิดอะไรระยะยาวไมไ่ ด้อีกแล้ว หลงั จากท�ำ การรักษาจนจบคอรส์ ขา้ พเจ้ากก็ ลับไปทำ�งาน เหมอื นเดมิ กบั ตอนกอ่ นปว่ ย สว่ นเรอื่ งการรบั ประทานอาหาร กล็ ดการ ทานเน้ือสัตว์ลงประมาณ ๕๐% ไม่ได้เคร่งครัดกับการท�ำ การเปล่ียน อาหารมากนัก เพียงแต่งดของหมักดอง เพราะแพทย์ที่รักษาก็ไม่ได้ ห้ามอะไร แต่ข้าพเจ้านอนดึก (ประมาณเที่ยงคืน-ตีหน่ึง) และดู โทรทศั น์ครงั้ ละนาน ๆ นอกจากนี้ยงั มีจดุ เดือดต่�ำ อารมณ์ฉุนเฉียว งา่ ย กเ็ ขา้ ใจสงสยั ตวั เองจะใกลเ้ ข้าส่วู ยั ทอง จึงมอี ารมณเ์ ชน่ นั้น เม่ือปลายปี ๒๕๕๐ ข้าพเจ้าได้รับข่าวการจัด โครงการ เรยี นรดู้ กู ายใจดว้ ยธรรมะ ธรรมชาติ จากครอบครวั ของนอ้ งสาว ซงึ่ มาปฏิบัติธรรมเป็นประจำ�ที่สำ�นักปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวันแห่งน้ี ข้าพเจ้าจึงตดั สนิ ใจมาเขา้ รว่ มโครงการ ด้วยความหวงั เพยี งว่า จะได้ ปฏบิ ตั ธิ รรม ไดธ้ รรมะจากพระคณุ เจา้ ไดแ้ นวคดิ ทจี่ ะกลบั ไปใชใ้ นการ ด�ำ เนินชีวติ ร่วมกับโรคภยั ท่ีเป็นอยู่ตอ่ ไป ไมม่ ีความคาดหวัง ถึงขนาด ว่า จะหายป่วยด้วยโรคมะเร็ง ต้องการรู้วิธีจัดการและช่วยใจตัวเอง เม่ือถึงเวลาที่อาจจะต้องเจ็บปวด มีเวทนาทางร่างกายในอนาคตข้าง หนา้ ๒๘๗กาลคร้งั หน่งึ ...เม่อื ฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.

๒๘๘ กาลครงั้ หนึง่ ...เมื่อฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. เม่อื เริม่ ปฏิบตั ติ ามโปรแกรมของโครงการ จึงเห็นวา่ พระ อาจารยจ์ ดั โครงการน้ีข้ึนมา โดยมกี ารคดิ และวางแผนเปน็ ระบบ เปน็ ข้ันตอน มีหลกั ฐานอ้างอิงทางวชิ าการ ทำ�การศกึ ษามาแล้วเปน็ อยา่ ง ดี เรมิ่ จาก เร่อื งแรก ที่เหน็ ก่อนและประทับใจ คอื สถานทีพ่ ัก ท่จี ัด ใหอ้ ยา่ งสะดวก สบาย สะอาด ไมแ่ ออดั เรอ่ื งทส่ี อง พเี่ ลยี้ ง ผดู้ แู ล อำ�นวยความสะดวกทกุ ขนั้ ตอน ความเป็นอยอู่ ย่างเอาใจใส่ เรื่องท่ีสาม คือ โปรแกรมอาหาร ฝ่ายครัวท่ีพิถีพิถัน ระมัดระวังในทกุ ข้ันตอนของการปรุง กว่าจะมาเป็นอาหารวางบนโตะ๊ ใหท้ านกัน เรอื่ งทสี่ ี่ คอื ทมี พระอาจารยอ์ นั ประกอบดว้ ยพระอาจารย์ วโิ รจน์ จกกฺ วโร ผเู้ ปน็ เจา้ ของโครงการ รวมถงึ พระอาจารยต์ น้ พระ อาจารยเ์ ต้ และพระอาจารยโ์ นต๊ พระอาจารยท์ ง้ั ๔ รปู ใหค้ วามเมตตา กับพวกเราเป็นอย่างมาก สรรหาส่ิงทีด่ ีมาให้ จดั อาหารดี ที่พักดี จดั วทิ ยากรผู้มคี วามรู้ ทงั้ ทางโลกและทางธรรม มาให้ความรู้ อดทน ใจเยน็ ในการขดั เกลาพวกเรา สอนใหร้ จู้ กั บญุ ทย่ี งิ่ ใหญ่ คอื การปฏบิ ตั ิ ธรรม สอบอารมณ์ เมอื่ มีสภาวะจากการปฏิบตั ิ รบั ฟังเร่อื ง อดึ อัด ใจ ทกุ ขใ์ จทุกเรอื่ ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องสุขภาพ พระอาจารย์ จัดทีมแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มาดูแลตลอด โครงการ ทำ�ใหม้ ีความอนุ่ ใจตลอดเวลาที่อยู่ในความดูแลของทา่ น ข้าพเจ้าได้ทราบว่าก่อนเริ่มโครงการ พระอาจารย์ได้เข้า กรรมฐาน ๑ เดอื น เพื่อดูวา่ จะจัดโปรแกรมการปฏิบตั ธิ รรมให้ผู้เขา้ ร่วมโครงการอย่างไร น่ีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งท่ีแสดงถึงความละเอียด

รอบคอบและเอาใจใส่ของพระอาจารย์ ขา้ พเจา้ ไมเ่ คยคิดเลยว่าตัวเองจะสามารถปฏบิ ตั ธิ รรม โดย การเดนิ จงกรมและนง่ั สมาธอิ ยา่ งตอ่ เนอื่ งวนั ละเปน็ สบิ ชว่ั โมง ถงึ แมว้ า่ จิตจะยังวุ่นวาย สภาวะไม่ชัดเจน เพราะไม่เคยได้รับการฝึกฝน จึง เหน่ือยมาก แตก่ ็สขุ ใจและภูมใิ จในตัวเองอยูไ่ ม่นอ้ ย อยา่ งน้อยชาติน้ี ข้าพเจ้าก็คิดว่าตัวเองหลุดพ้นจากคำ�ว่า “เสียชาติเกิด” แล้วอย่าง แน่นอน ส่วนชีวิตทเี่ หลือจากนไ้ี ป ไมว่ า่ จะส้นั หรอื ยาวก็ไมส่ ำ�คัญแล้ว เพราะข้าพเจ้าถอื เป็นก�ำ ไร เปน็ ก�ำ ไรที่คุ้มค่ากับการมีชวี ิตอยู่ เพราะ เป็นเวลาแห่งการฝกึ ฝน ขดั เกลาตัวเอง เป็นเวลาของการไดเ้ ป็นคนดี ยิ่งขึ้น เป็นลูกท่ีดีของแม่ ถ้ามีเวลามากก็กำ�ไรมาก ถ้ามีเวลาน้อยก็ กำ�ไรนอ้ ย แตถ่ ึงอย่างไรก็เปน็ กำ�ไรอยู่ดี อกี ไมน่ าน เรากจ็ ะตอ้ งกลบั สโู่ ลกภายนอกทเ่ี ปน็ ชวี ติ จรงิ ๆ ของพวกเรา มคี รอบครวั ภาระการงาน การประกอบอาชพี ซง่ึ แนน่ อน วา่ จะมีส่งิ มากระทบเรามากมาย ข้าพเจา้ ตระหนกั ดีวา่ มกี ารบ้านที่ ยากแสนยากรออยู่ ในช่วงชีวิตต่อจากนี้ไป ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำ� สอนของพระอาจารยท์ กุ ทา่ นให้ได้มากที่สดุ เทา่ ท่ีจะทำ�ได้ ไมว่ ่าจะเป็น เรื่องอาหารหรือการปฏิบัติกรรมฐาน เพื่อไม่ให้พระอาจารย์เหนื่อย เปลา่ และรดู้ ีว่า คนทจี่ ะได้รับประโยชน์สูงสดุ จากการปฏิบัตเิ ช่นนี้ คือ ตวั เราเอง อกี อยา่ งหนง่ึ ทข่ี า้ พเจา้ แปลกใจเมอ่ื ไดเ้ หน็ คอื เพอ่ื นคนอน่ื ๆ ทเ่ี ขา้ รว่ มโครงการ บางทา่ นป่วยมาก ยงั ไมไ่ ด้ทำ�การรกั ษาทางแพทย์ แผนปัจจุบนั เลย บางท่านมีอาการปวดจากมะเร็งแบบสุด ๆ ตอนตน้ โครงการทกุ ท่านดูไม่สบาย หนา้ ตาผิวพรรณหมองคลำ้�บา้ ง ซีดบา้ ง ออ่ นเพลียบ้าง จุกแนน่ หายใจไมอ่ อกบ้าง เมื่อเวลาผา่ นไป หลายคน ๒๘๙กาลครัง้ หนง่ึ ...เมือ่ ฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.

๒๙๐ กาลคร้งั หนึ่ง...เม่อื ฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk. หรอื จะเรียกไดว้ า่ ทกุ คนอาการดขี นึ้ มาก หนา้ ตาสดใสข้นึ หากเป็นคน อื่นบอกเล่าให้ฟัง ไม่ได้ประสบกับตัวเอง ก็คงจะเชื่อได้ยากว่า การ ปฏบิ ัตธิ รรมจะช่วยให้อาการปว่ ยดขี ้ึนในระยะเวลาสัน้ ๆ น่คี ืออ�ำ นาจ ของพระพุทธคณุ อยา่ งแท้จรงิ เม่ือจบโครงการออกไปแล้ว ข้าพเจ้าตั้งใจจะนำ�ความรู้ แนวคิด และธรรมะท่ีเป็นประโยชน์เหล่าน้ี ไปขยายต่อให้กับคนใน ครอบครวั เพื่อน ๆ บุคคลอ่ืน ๆ ท่เี รารกั ไดท้ ราบและปฏิบตั ิ เพราะ อยากให้เขาเหล่านั้นได้พบกบั สิ่งดี ๆ เหมอื นท่ีข้าพเจา้ ได้พบจากการ เขา้ ร่วมโครงการน้ี ข้าพเจา้ จะจดจำ�คำ�สอนของพระอาจารย์ เพ่ือเป็นกำ�ลงั ใจ ในการเอาชนะกิเลสของตนเอง พระอาจารย์พูดเสมอว่า “ให้อดทน การจะท�ำ ความดตี อ้ งฝนื ใจท�ำ สงิ่ ทไี่ มอ่ ยากท�ำ ทกุ อยา่ งทท่ี �ำ เปน็ ครงั้ แรกจะยากเสมอ เม่ือท�ำ อกี คร้งั ต่อ ๆ ไปก็จะง่ายขน้ึ เรื่อย ๆ ของดี ตอ้ งไดม้ ายาก ถา้ ไมย่ ากกไ็ มใ่ ชข่ องดี ตอ้ งอยงู่ า่ ย จติ ใจเขม้ แขง็ และ มสี จั จะ ใหถ้ ามตวั เองเสมอวา่ เราเดด็ ขาดพอไหม?” อกี ๒-๓ เดอื น ขา้ พเจา้ จะตอ้ งไปพบแพทยเ์ พอ่ื ตรวจดกู อ้ นทเี่ ตา้ นมอกี ครงั้ หนงึ่ ขา้ พเจา้ หวงั วา่ จะไดแ้ จง้ ขา่ วดจี ากผลตรวจกลบั มาใหพ้ ระอาจารยท์ ราบดว้ ย แต่ ไม่วา่ ผลจะเป็นอย่างไรกต็ อ้ งยอมรบั อยดู่ ี ขอกราบขอบพระคณุ พระครปู ลดั สทิ ธวิ รวฒั น์ ผอู้ ำ�นวยการ ส�ำ นกั ปฏบิ ตั ธิ รรมสวนเวฬวุ นั ทอ่ี นญุ าตใหเ้ กดิ โครงการนขี้ น้ึ มาสำ�หรบั ผปู้ ว่ ยอยา่ งพวกเรา และยงิ่ กวา่ ขอบพระคณุ ตอ่ ทา่ นพระอาจารยว์ โิ รจน์ จกฺกวโร และทีมงานทุกฝ่ายที่มีส่วนในโครงการน้ีทุกท่าน ขอกราบ นมสั การดว้ ยหัวใจ

สง่ิ ทีไ่ ดจ้ ากโครงการเรียนรู้ดูกายใจด้วยธรรมะ ธรรมชาติ ๑. ความรู้เกี่ยวกับอาหารของผู้ป่วยโรคมะเร็ง รวมถึงวิธี ปฏบิ ตั ติ วั เพอื่ ไมใ่ หโ้ รคก�ำ เรบิ หรอื ลกุ ลามดว้ ยวธิ กี ารของแพทยท์ างเลอื ก ๒. ความรเู้ ร่ืองการปฏบิ ัติกรรมฐานท่ีถูกตอ้ ง ๓. มีความอดทนเพิ่มข้นึ ทั้งทางร่างกายและจติ ใจ ๔. ไดข้ ้อคิด แนวทางการจัดการจิตใจของตนเอง รวมทัง้ มกี �ำ ลงั ใจในการดำ�รงชีวติ อยู่ดว้ ยหลกั ธรรมะของพระพทุ ธเจา้ ๕. ได้ความรู้เรื่องการออกกำ�ลังกายแบบโยคะที่เหมาะ สำ�หรบั ผ้ปู ่วยและผ้ไู มป่ ว่ ย จิวัสสา ปิยทบั ทมิ ดฉิ ันชื่อ นางสาว จิวสั สา ปยิ ทับทมิ อายุ ๔๘ ปปี ่วยเป็น มะเรง็ ในรังไข่ระยะท่ี ๑ ไดผ้ า่ ตัดออกไปหมดแลว้ แต่ก็ไม่ได้รับการ รกั ษาทางเคมีบำ�บดั เพราะไมค่ ิดวา่ จะตอ้ งหายขาดอยา่ งแนน่ อน เมือ่ ดฉิ นั รู้ตวั ว่าเป็นโรคมะเร็งกม็ ีความตกใจอยา่ งมาก ซ่ึง เป็นโรคที่นา่ กลัวมากส�ำ หรับตวั เอง ไม่เคยคดิ วา่ ตวั เองจะต้องเปน็ โรค น้ีมากอ่ น เคยคดิ ว่าตวั เองแข็งแรง คงจะไมเ่ ปน็ แนน่ อน และไม่เคย ตรวจสขุ ภาพของตวั เอง แตก่ ็ได้ยินเพื่อน ๆ ชอบไปตรวจกนั มามาก ตวั เองก็ไมเ่ คยสนใจ น่ีแหละท่ีเรยี กวา่ เปน็ ความประมาทอยา่ งร้าย แรงท่ีทำ�กับตัวเอง เพราะตัวเองเป็นคนที่ชอบทำ�บุญและเข้าวัด ๒๙๑กาลคร้งั หน่งึ ...เมือ่ ฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.

๒๙๒ กาลครั้งหนึ่ง...เมอื่ ฉนั หัดเดิน Once upon a time, when I learn to walk. ปฏบิ ตั ธิ รรมมาตลอดร่วม ๑๕ ปี คิดว่าบญุ กุศลทต่ี ัวเองทำ�ไว้น้นั จะ ไมท่ �ำ ใหต้ วั เองจะตอ้ งประสบปญั หาเชน่ นเ้ี ลย นนั่ เปน็ ความคดิ ทผ่ี ดิ และ ประมาทอยา่ งมาก ขา้ พเจ้าคดิ วา่ ข้าพเจา้ ยังมีความโชคดี ท่บี ุญกศุ ลทีท่ ำ�ไวใ้ น อดตี นน้ั กย็ งั ไดช้ ว่ ยน�ำ พาใหเ้ ราไดม้ าพบกบั หลวงพอ่ จรญั ฐติ ธมโฺ ม วดั อัมพวนั จงั หวดั สิงห์บุรี เพราะไดท้ ราบว่า ท่านสามารถน�ำ ผ้ปู ฏบิ ตั ิ ธรรมรักษาโรคมะเร็งให้หายได้ แตต่ อ้ งมคี วามอดทนอย่างสูงมาก ๆ ก็เลยพาตัวเองมาหาหลวงพ่อที่วัดอัมพวัน ได้มากราบท่านแต่ท่าน อาพาธงดใชเ้ สียงมาหลายปแี ล้ว ทา่ นได้แผ่เมตตาให้กบั ข้าพเจ้าอย่าง มาก โดยมองหน้าข้าพเจา้ นานมากเหมอื นกบั ท่านร้วู ่า เรามที กุ ข์มาก ข้าพเจ้ามีนำ้�ตาซึมแต่ก็ปล้ืมปีติมาก คิดว่าจะไปปฏิบัติธรรมที่วัดเพื่อ รกั ษาตวั เอง แตเ่ หน็ วา่ คนมากเหลอื เกนิ เราจะท�ำ ไดห้ รอื เปลา่ ไมร่ จู้ กั ใครเลยด้วย ก็นัง่ คดิ อยู่สองจิตสองใจวา่ จะเอาอย่างไรดี ข้าพเจ้าเห็นน้องคนหน่ึงที่มาปฏิบัติธรรมน่ังอยู่ ถามน้อง วา่ “ปฏบิ ตั ิธรรมอยทู่ ่ีน่หี รอื ” น้องบอกว่า “ใช”่ กเ็ ลยเลา่ เรือ่ งราวให้ นอ้ งฟงั นอ้ งใจดสี มชื่อ นอ้ งเขาชอ่ื “ด”ี เคา้ แนะน�ำ ใหไ้ ปทว่ี ดั ตาลเอน อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ท่ีนั่นจะมีโครงการปฏิบัติธรรม เฉลมิ พระชนมายคุ รบ ๘๐ พรรษา ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ เป็นเวลา ๗ วัน คนไม่มาก มีพระมาสอบอารมณ์ด้วยก็เลยสนใจ พระอาจารยท์ ด่ี แู ลกเ็ ปน็ ลกู ศษิ ยข์ องหลวงพอ่ จรญั นน่ั คอื พระครสู มหุ ์ จริ ยุทธ์ อธิฉนโฺ ท จงึ รีบไปในวนั นั้นเลย ไดเ้ ขา้ ร่วมในโครงการ พระ อาจารยท์ า่ นมเี มตตามาก ขา้ พเจา้ รว่ มปฏบิ ตั มิ าตลอดถงึ เดอื นธนั วาคม ๒๕๕๐ พระอาจารย์ท่านแนะนำ�ให้เข้าร่วม โครงการเรียนรู้ดูกายใจ ด้วยธรรมะ ธรรมชาติ ใช้สมาธิบำ�บัดรักษาโรคมะเร็งที่สำ�นักปฏิบัติ

ธรรมสวนเวฬวุ นั จ.ขอนแกน่ โดยพระอาจารย์วโิ รจน์ จกกวฺ โร เปน็ เวลา ๑ เดอื นเต็ม ระหว่างวนั ท่ี ๑๕ มกราคม - ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ เมอื่ ไดม้ าเขา้ รว่ มโครงการ รสู้ กึ มคี วามประทบั ใจเปน็ อยา่ ง มาก เพราะไดร้ บั ความรมู้ ากมายเกยี่ วกบั โรคมะเรง็ พระอาจารยว์ โิ รจน์ ท่านได้เชิญวิทยากรจากหลายแขนงมาบรรยายให้เราได้ทราบ มี คุณหมอเออื้ มแข ซง่ึ รเู้ รื่องราวเก่ียวกบั โรคมะเร็ง มาอธิบายให้เราได้ ทราบว่า โรคมะเร็งเกิดขึ้นได้อย่างไร มีวิธีการรักษาอย่างไรได้บ้าง ทำ�ให้เราได้รับรู้ข่าวสารของเร่ืองมะเร็งได้เพ่ิมขึ้น และอีกคนท่ีสำ�คัญ เก่ียวกับเรื่องอาหาร ก็คือ ดร.รสสุคนธ์ ท่านก็ได้ให้ความรู้ในเร่ือง ของอาหารธรรมชาตอิ ย่างแท้จรงิ ซงึ่ แต่ละคนกไ็ มส่ ามารถเชิญมาได้ ง่าย ๆ เลย แต่ก็มาใหก้ บั โครงการนี้ดว้ ยความเต็มใจอยา่ งย่งิ นับว่า เป็นบุญกุศลอย่างยิ่งสำ�หรับผู้เข้าร่วมโครงการ ทำ�ให้ข้าพเจ้ามีความ ปลาบปล้มื ยินดเี ป็นอย่างยง่ิ กบั โครงการนเ้ี ป็นทีส่ ดุ ทสี่ �ำ คญั ท่สี ดุ ก็คือ พระอาจารย์วโิ รจน์ จกฺกวโร ทไี่ ดส้ อน การปฏิบัติธรรมให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ ท่ีว่าสำ�คัญท่ีสุดก็เพราะถ้า ขาดสงิ่ นเ้ี พยี งสงิ่ เดยี วกไ็ มส่ ามารถทจ่ี ะรกั ษาโรคมะเรง็ ไดอ้ ยา่ งแนน่ อน นบั เปน็ ขนั้ ตอนทข่ี าดเสยี ไมไ่ ด้ เพราะถงึ แมว้ า่ จะไดร้ บั สารอาหารอยา่ ง ดแี ลว้ อากาศดแี ล้ว แต่ถ้ายังมีความเครียดอยู่ ก็ไมส่ ามารถจะมชี วี ิต อยรู่ อดได้ พระอาจารย์ทา่ นจงึ ไดย้ ้ำ�นักย้ำ�หนาวา่ “จบโครงการแลว้ ต้องน�ำ ไปปฏบิ ตั ิตลอด หา้ มขาด” ในเร่ืองของการปฏิบัติธรรมน้ัน ถึงแม้ดิฉันจะปฏิบัติแล้ว ยงั ไมไ่ ดส้ มาธมิ ากเทา่ ไหรก่ ต็ าม แตก่ ถ็ อื วา่ ไดร้ บั ผลของการปฏบิ ตั เิ พมิ่ ๒๙๓กาลครง้ั หนึง่ ...เมอ่ื ฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.

๒๙๔ กาลคร้งั หนึง่ ...เม่อื ฉันหัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk. มากขน้ึ เรมิ่ เขา้ ใจในการปฏบิ ตั ิ ซง่ึ ถา้ เราทำ�จรงิ ผลกอ็ อกมาจรงิ อยา่ ง ทเี่ ราคาดไมถ่ งึ พระอาจารยท์ า่ นเกง่ และมเี มตตาสงู มาก ในการคดิ คน้ วิธีการประพฤติปฏิบัติตนในรูปแบบเช่นน้ี ช่วงแรกท่านไม่ให้เราเกิด อาการเครียด ให้ปฏบิ ัติแบบคอ่ ยเป็นคอ่ ยไป แลว้ ค่อย ๆ เพิ่มเวลาข้นึ เป็นข้ันเป็นตอน และผู้ปฏิบัติก็ตั้งใจ ผลออกมาเป็นท่ีพอใจอย่างยิ่ง รวมถึงตัวข้าพเจ้าเองด้วยท่ีได้เรียนรู้ว่าถ้าเรามีความเพียรอย่าง สม�ำ่ เสมอและเอาจรงิ เอาจงั แลว้ ผลกอ็ อกมาดอี ยา่ งทเ่ี ราคาดไมถ่ งึ เลย เพราะการปฏบิ ตั ธิ รรมนนั้ ตอ้ งทำ�อยา่ งไมห่ วงั ผล ทำ�ไปเรอื่ ย ๆ อดทน ท�ำ ตลอด ทำ�บอ่ ย ๆ ไมว่ า่ จะเกดิ อาการอะไรออกมากต็ อ้ งปฏบิ ตั ติ อ่ ไป ตลอด อาการป่วยของข้าพเจ้าไม่ได้มีอาการมากเท่ากับผู้ปฏิบัติ ทา่ นอ่นื เพราะขา้ พเจ้าเปน็ แค่ระยะท่ี ๑ เทา่ น้นั แตห่ ลงั จากได้เข้า โครงการแล้วรู้สึกร่างกายแข็งแรงข้ึน จิตใจก็ดีขึ้นมาก เพราะได้รับ อาหารดีต่อสุขภาพ ความมีเมตตา ความเป็นห่วงเป็นใยจาก พระอาจารย์ทุกรูป และพ่ีเล้ียงท่ีคอยให้บริการด้วยสายตาที่ยิ้มแย้ม มีความจริงใจ ข้าพเจ้ารู้สึกมีความสุขย่ิงตลอดระยะเวลา ๑ เดือน ท�ำ ใหม้ กี �ำ ลงั ใจทจ่ี ะออกไปตอ่ สกู้ บั ชวี ติ ในสงั คมภายนอกไดอ้ ยา่ งมคี วาม หวงั วา่ โรคท่ีเปน็ อยูอ่ าจจะหายได้ แตถ่ ้าไมห่ าย กส็ ามารถทจี่ ะอยู่กับ มันได้โดยที่โรคน้ันไม่สามารถมาทำ�อันตรายกับเราได้ นับว่า ผลพลอยได้คือ เราได้เรียนรู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรกับโรคร้ายที่เป็นอยู่ จากโครงการดี ๆ ท่ีส�ำ นกั ปฏิบัตธิ รรมสวนเวฬุวันแหง่ น้ี ข้าพเจา้ อยากให้มโี ครงการดี ๆ เช่นน้ีอีกตลอดไป เพราะ สมัยนี้คนเป็นโรคร้ายชนิดนี้อย่างมากมายและมันทรมานอย่างมากใน

การรกั ษาทางแพทยแ์ ผนปจั จบุ นั แตถ่ า้ เรามารกั ษาแบบธรรมชาติ และ การปฏิบัติธรรมยังมีโอกาสหายได้มากกว่า เป็นโครงการที่ดีเยี่ยม ขอใหม้ กี ารจดั โครงการนี้อีกในอนาคตข้างหนา้ น้นี ะคะ สดุ ทา้ ยนตี้ อ้ งกราบขอบพระคณุ อยา่ งสงู กบั พระอาจารยท์ กุ รูป อาทิ พระอาจารย์วิโรจน์ พระอาจารย์ต้น พระอาจารย์เต้ พระอาจารยโ์ นต๊ ตลอดจนพระคณุ เจา้ ทกุ รปู ทมี่ สี ว่ นในการจดั โครงการ น้ี ขอบคุณผู้มีส่วนช่วยเหลือในโครงการอันมีแม่ครัว ผู้ช่วยงานครัว และเจ้าหนา้ ท่ีบริการทุกทา่ น รวมทง้ั คณุ หมอ พยาบาลและผทู้ ่ีมีส่วน เกย่ี วข้องทกุ ๆ คน การเขยี นครงั้ นี้ออกมาจากความร้สู ึกท่จี ริงจากใจ ของข้าพเจา้ เลยคะ่ กราบนมัสการมาด้วยความเคารพอยา่ งสูงค่ะ ทัชพร ยาโพนทนั ขา้ พเจ้า นางทชั พร ยาโพนทัน ปจั จุบนั อายุ ๔๒ ปี เกิด มาเปน็ ลูกสาวคนโตในบรรดาพนี่ อ้ ง ๔ คน ซึ่งเปน็ ลกู สาวทง้ั หมด จบ การศกึ ษาระดบั ปวส. ตง้ั แต่เรยี นจบมาก็ทำ�งานมาตลอด ถงึ จะเป็น ลูกชาวนา แตพ่ ่อแม่กส็ ่งเสียลูก ๆ เรียนจบกันหมดทกุ คน บางคนก็ เรยี นจบปรญิ ญาโท มขี า้ พเจา้ คนเดยี วทไ่ี มเ่ รยี นตอ่ เพราะสนกุ กบั การ ท�ำ งานและการใช้ชีวติ โสดจนอายุ ๒๙ ปี จึงแตง่ งาน มีบุตรสาวคน แรกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๖ และมีบตุ รสาวคนทส่ี องเมอ่ื ปี พ.ศ. ๒๕๔๙ นี่ แหละก�ำ ลงั เริม่ ตน้ เข้าสู่เร่ืองของมะเรง็ ๒๙๕กาลครัง้ หนึ่ง...เม่ือฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk.

๒๙๖ กาลครัง้ หนึง่ ...เมอ่ื ฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk. เมื่อคลอดบตุ รสาวคนท่สี อง อายุ ๓๙ ปยี ่าง ๔๐ ปี ก็ เลย้ี งลูกดว้ ยนมตวั เอง และตรวจเช็ครา่ งกายเปน็ ประจ�ำ ทุกปี เปน็ คน ท่ีมีสขุ ภาพดี แขง็ แรง ไม่มีโรคภยั ไข้เจ็บ การรบั ประทานอาหารก็รบั ประทานแบบธรรมดา ๆ ชอบรบั ประทานผักมากเปน็ พิเศษ เน้ือสัตว์ ประเภทเนอื้ วัวกน็ าน ๆ รับประทานคร้งั อาหารทะเลก็อาจปีละครั้ง อาหารพวกที่ฝร่ังเอาเข้ามาเปิดขายในประเทศก็ไม่ชอบ ไม่ชอบรับ ประทานจุก ๆ จกิ ๆ แตท่ ำ�ไม? ตอ้ งเป็น “มะเรง็ ” ประเภทเครื่องดมื่ ท่มี แี อลกอฮอลก์ น็ าน ๆ จะดม่ื สังสรรคก์ บั เพอ่ื น ๆ อันน้พี ดู สมยั เมือ่ ยงั โสด แตพ่ อแตง่ งาน ทกุ อยา่ งเลกิ หมด กระทงั่ เพอื่ น ๆ กพ็ ลอยหาย หนา้ หายตาเพราะตา่ งคนตา่ งมคี รอบครวั พดู ถงึ เมอื่ คลอดบตุ รสาวคน ทส่ี องกเ็ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมตวั เองเพราะเชอ่ื วา่ ดี มปี ระโยชน์ แถมลดอตั รา เส่ียงการเป็นมะเร็งเต้านมได้ด้วย แต่ตอนน้ีข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะเลิกใช้ ทฤษฏนี ไ้ี ดแ้ ลว้ เพราะคนทเ่ี ปน็ มะเรง็ เตา้ นม สว่ นมากกเ็ ลย้ี งลกู ดว้ ยนม แม่ท้ังนน้ั อาการเรม่ิ แรกของข้าพเจา้ ไม่เหมอื นใครเลย ให้นมลกู อยู่ ดี ๆ เตา้ นมกแ็ ขง็ ขน้ึ มา (เตา้ นมซา้ ย) แตไ่ มเ่ จบ็ โบราณทา่ นวา่ น�้ำ นม มันหลงรู ให้เอาเส้นผมแหย่ที่นำ้�นมออกมา แต่ข้าพเจ้าก็ทำ�ไม่เป็น หรอก ปลอ่ ยไว้จนเกดิ อาการเจ็บ ๆ หาย ๆ จนต้องไปหาหมอทโ่ี รง พยาบาล (ตอนนลี้ ูกสาวอายุ ๑ ขวบแล้ว) ตรวจคร้งั แรกหมอบอกว่า ไม่เป็นอะไร เป็นแค่เต้านมอักเสบ ให้ยาแก้อักเสบมารับประทาน อาการก็ยิ่งไปกนั ใหญ่ เจ็บ ๆ หาย ๆ จนข้าพเจา้ ท้งิ ยาแก้อักเสบและ ยาแก้ปวดหมอไปเลย ทนปวดหลายวันจนคุณป้าต้องพาไปหาหมอ กลางบา้ น (หมอโบราณ) เพื่อเปา่ ใหห้ ายปวด ปรากฏว่าหายปวดเป็น ปลิดทิ้ง คิดว่าจะรักษากับหมอโบราณ แต่อาการของมะเร็งมันมาก

เหลอื เกนิ ตอ้ งไปหาหมอแผนปจั จบุ นั ดว้ ย กร็ กั ษาโดยการใหเ้ คมบี �ำ บดั ผลการใหย้ าเคมกี ค็ อื ผมรว่ ง เลบ็ ด�ำ นอกนน้ั กไ็ มม่ อี ะไรเพราะไมม่ อี าการ แพอ้ ะไร แตใ่ หย้ าเคมบี �ำ บดั ๗ ครง้ั ปรากฏวา่ น้�ำ หนกั ตวั ขน้ึ เปน็ ๗๑ กโิ ลกรมั จากเดมิ ๖๐ กโิ ลกรมั เพราะรบั ประทานเกง่ มาก แอบมา ทราบทหี ลงั วา่ หมอใหย้ าอยากอาหารผสมกบั ยาเคมดี ว้ ย จากนน้ั หมอ กใ็ หไ้ ปฉายแสงอกี ๓๐ ครง้ั (๓๐ แสง) ท�ำ ตามทห่ี มอแนะน�ำ ทกุ อยา่ ง พรอ้ มทง้ั หนกั ใจวา่ มนั จะมผี ลอะไรตามมาอกี นะ ประมาณปลายเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๐ มีญาติซ่ึงเป็น อาจารย์ได้มาปฏบิ ัตธิ รรมท่สี �ำ นกั ปฏบิ ัตธิ รรมสวนเวฬวุ นั เอาใบสมคั ร โครงการเรียนรู้ดูกายใจด้วยธรรมะ ธรรมชาติสำ�หรับคนที่เป็นโรค มะเร็งมาให้ ข้าพเจา้ เกิดความสนใจขน้ึ มาทันที ยังไงกต็ ้องเขา้ มารว่ ม โครงการใหไ้ ด้ ถึงกบั มาย่ืนใบสมัครเกอื บจะกอ่ นใคร ๆ พอดีฉายแสง ได้ ๒๙ แสงแล้ว ก็ขอคุณหมอว่าขอหยุดแค่ ๒๙ แสงเพราะจะไป ปฏิบัติธรรมแล้ว ผลจากการฉายแสง ทำ�ให้บริเวณใต้รักแร้ซึ่งเป็น ผวิ หนงั ท่อี อ่ นบางเป็นแผลเหมอื นน�ำ้ ร้อนลวก ตอ้ งทนหลายวนั ดที ไ่ี ด้ น�ำ้ เอนไซม์มาประคบบริเวณแผล ประมาณ ๓-๔ วนั กแ็ หง้ สนิท จน สะเก็ดออกหมด การมาเขา้ รว่ มโครงการในครงั้ นี้ ขา้ พเจา้ มคี วามประทบั ใจ มากมาย พระคุณเจ้าที่กรุณามาเป็นพระวิทยากรก็มีเมตตามากท่ีสุด ท่านท่ีกรุณามาเป็นพี่เล้ียงก็ใจดีมีเมตตาทุกท่าน ทำ�ให้สุขภาพกาย สุขภาพใจดีขึ้นเป็นลำ�ดับ ข้าพเจ้าจะนำ�แนวทางการปฏิบัติธรรม วปิ สั สนากรรมฐานไปใช้ที่บ้าน ดำ�รง ชวี ติ ใหเ้ หมอื นกับตอนท่ีเขา้ ร่วม โครงการ สำ�หรับเพื่อนทเี่ ขา้ รว่ มโครงการกป็ ระทับใจทกุ ท่าน แตล่ ะ ทา่ นก็มีโรคภยั ไขเ้ จบ็ ตา่ ง ๆ กนั ไป ทุกคนต่างก็เหน็ ใจซึ่งกนั และกัน ๒๙๗กาลคร้งั หน่ึง...เมอ่ื ฉันหดั เดนิ Once upon a time, when I learn to walk.

๒๙๘ กาลคร้งั หนงึ่ ...เม่ือฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. เพราะพวกเราเหมอื นกบั มชี ะตากรรมเดยี วกนั ขา้ พเจา้ สงสารทา่ นทเี่ จบ็ ป่วยมากกว่าเพราะข้าพเจ้ากม็ ีสขุ ภาพแขง็ แรง ชว่ ยเหลือตัวเองได้ดี ก็ ต้องชว่ ยเหลือคนทช่ี ่วยตวั เองไม่ค่อยได้ ส�ำ หรบั พระอาจารยท์ เ่ี ปน็ วทิ ยากรทกุ ทา่ นมเี มตตามาก ให้ ค�ำ แนะนำ�กับผูเ้ ข้าร่วมโครงการเปน็ อยา่ งดี ทำ�ให้พวกเราทุกคนสดใส ถงึ แมจ้ ะมบี างคนทยี่ งั มเี รอ่ื งกงั วล แตเ่ รอื่ งนที้ กุ ๆ คนกต็ อ้ งทำ�ใจเพราะ ว่า พวกเราปฏบิ ตั ิธรรมเพ่อื ใหม้ สี มาธิ มีสติปัญญา และพร้อมเสมอท่ี จะเผชญิ หนา้ กบั อุปสรรคตา่ ง ๆ ข้าพเจ้าเองก็หวงั วา่ วธิ ีปฏบิ ัตใิ นขณะ ท่เี ขา้ ร่วมโครงการ การรบั ประทานอาหารต่าง ๆ ถ้าเอาไปปฏิบัติท่ี บ้าน ขา้ พเจ้าจะตอ้ งหายจากการเจบ็ ป่วยจากโรคภัยไขเ้ จบ็ น้ี นบั เป็น บญุ ของขา้ พเจา้ ทมี่ โี อกาสเขา้ รว่ มโครงการนี้ เพราะบารมขี องหลวงพอ่ จรญั ฐติ ธมโฺ ม และพระวโิ รจน์ จกกฺ วโร ซง่ึ เปน็ ผดู้ ำ�เนนิ การโครงการ น้ี ท�ำ ใหผ้ ทู้ ห่ี มดหนทางเรมิ่ มแี สงสวา่ งทจ่ี ะรกั ษาสขุ ภาพและชวี ติ ใหอ้ ยู่ นานเท่าทจ่ี ะทำ�ได้ สำ�หรับการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานน้ัน ข้าพเจ้ารู้สึกว่า สบายใจ คลายกงั วลมาก ถงึ แมใ้ นการปฏบิ ตั ิ ข้าพเจ้าจะท�ำ ได้ไม่ดคี ือ น่ังไมไ่ ดน้ าน เกิดเวทนาเจ็บปวด เพราะขาของขา้ พเจา้ ข้างขวาได้รับ การผา่ ตดั นงั่ ไมถ่ นดั แตว่ า่ ขา้ พเจา้ กอ็ ดทนท�ำ ถงึ แมจ้ ะเหนอื่ ยแตพ่ อได้ พักผ่อน ต่นื เช้ามาก็สดชื่นแจม่ ใสเหมือนเดิม ทำ�ให้ข้าพเจ้าคิดถงึ การ มองดูกายใจของตนเอง พิจารณาความเจ็บปวดท่ีเกิดข้ึนขณะน่ัง วิปัสสนากรรมฐาน ข้าพเจ้าจะพยายามฝึกฝนปฏิบัติธรรมเป็นประจำ� ทุกวันเพื่ออานิสงส์ เพ่ือสร้างบญุ ให้เกดิ กบั ตวั เองและคนรอบข้าง ซงึ่ เรม่ิ จากภายในครอบครัวของตัวเองก่อน ความเปน็ อยใู่ นขณะเขา้ ร่วมโครงการในครั้งน้ี ซ่งึ ครั้งแรก

คดิ ว่าเปน็ การใช้ยาสมนุ ไพรบ�ำ บดั พร้อมกับการปฏบิ ตั ิธรรม แต่กลาย เป็นว่ามีนำ้�ผักป่ัน และอาหารจากพืชผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยอาหารท่ีรับประทานสามารถจะไปสร้างเซลล์ในร่างกายให้ฟ้ืนตัว เร็วและขบั เซลลร์ ้ายออกมา ซึ่งคณะผูเ้ ข้าร่วมโครงการแตล่ ะทา่ นล้วน หนา้ ตาสดใสขนึ้ มา ตวั ขา้ พเจา้ เองกเ็ หน็ ไดช้ ดั ถงึ การเปลยี่ นแปลง เชน่ ผมที่เกิดใหม่ ดำ�เป็นมัน เล็บท่ีดำ�จากเคมีบำ�บัดก็เริ่มออกเป็นสีชมพู แผลจากการฉายรงั สกี แ็ หง้ เรว็ ซง่ึ การขบั พษิ ของแตล่ ะคนไมเ่ หมอื นกนั บางวันข้าพเจ้าขบั ถา่ ยวนั ละ ๕-๖ รอบ ตกค�ำ่ มาจับไข้ แตพ่ อต่ืนเช้า มากห็ นา้ ตาสดใส ไมม่ อี าการไขต้ กคา้ ง แตพ่ อชว่ งบา่ ยนัง่ ปฏบิ ัติธรรม ก็จะหลับท่าเดียวเหมอื นกัน ส�ำ หรบั ด้านผูจ้ ดั อาหารให้รับประทานน้นั ทกุ คนล้วนใจดี ยม้ิ แยม้ แจม่ ใส มเี มตตาทกุ คน คณะพเี่ ลย้ี งกใ็ จดมี เี มตตา ถา้ จะเปรยี บ เทยี บกบั การไปพกั โรงแรมระดบั ๕ ดาวไดเ้ ลยทเี ดยี ว ขา้ พเจา้ รสู้ กึ ดใี จ และเป็นบญุ จริง ๆ ท่ไี ด้มารว่ มโครงการนี้ ข้าพเจา้ จะตัง้ ใจปฏบิ ตั ติ น ในชีวิตประจ�ำ วัน ใหโ้ รคภยั หายวันหายคนื ใหไ้ ด้ และจะเขยี นมาเลา่ ให้ ฟังว่า ผลเปน็ อยา่ งไรในโอกาสตอ่ ไป ๒๙๙กาลคร้ังหนึง่ ...เมื่อฉนั หัดเดนิ Once upon a time, when I learn to walk.

๓๐๐ กาลคร้งั หน่งึ ...เมอื่ ฉนั หดั เดิน Once upon a time, when I learn to walk. สฐุ ิตา เลศิ วนชิ สธุ า ขา้ พเจ้า นางสฐุ ิตา เลศิ วนิชสธุ า อายุ ๕๑ ปี เกิดท่ี จงั หวดั สุพรรณบุรี พอมคี รอบครวั กไ็ ปคา้ ขายท่กี รุงเทพฯ ไดไ้ ปตรวจ สขุ ภาพก็รู้วา่ เปน็ มะเร็งท่ีปอด ระยะ ๔ ข้าพเจ้าไม่ได้สบู บุหรี่ ไม่ได้ กนิ เหลา้ แตส่ าเหตทุ เ่ี ปน็ มะเรง็ คดิ วา่ มาจากความเครยี ด ชวี ติ กอ่ นปว่ ย ข้าพเจ้าเป็นคนเครียดง่าย วิตกกังวลกับเรื่องไม่เป็นเร่ือง ไม่ค่อย แสดงออก ก่อนที่จะรู้ว่าเป็นมะเร็ง ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่า ข้าพเจ้า เหนอื่ ยงา่ ย กเ็ ลยไปรกั ษาตวั ทโ่ี รงพยาบาลจฬุ า ณ ตอนนนั้ หมอบอก ใหท้ ำ�อะไรขา้ พเจา้ กท็ ำ� ขา้ พเจา้ ใหเ้ คมบี ำ�บดั กเ็ กดิ ผลขา้ งเคยี ง ผมรว่ ง อ่อนเพลยี คล่นื ไส้ พอดีน้องสาวอยทู่ ีจ่ ังหวัดมหาสารคามมเี พ่อื นเป็น อาจารยอ์ ยทู่ ขี่ อนแกน่ ไดโ้ ทรไปบอกวา่ มโี ครงการบ�ำ บดั ดว้ ยธรรมชาติ ขา้ พเจา้ ตดั สนิ ใจเพยี งคนื เดยี ว พอตอนเชา้ กน็ ง่ั รถมา ตอน มายังไมร่ ้วู ่า ๓๐ วนั เราจะตอ้ งทำ�อะไรบ้างเพราะเป็นโครงการแรก ยังทำ�สมาธไิ ม่คอ่ ยได้ รู้สกึ อดึ อดั หายใจติดขดั มาท�ำ ได้ชว่ งหลัง ๆ แต่ก็ทำ�ได้ไม่นาน ตอนน้ันมีความรู้สึกว่า พระอาจารย์ให้ทำ�สมาธิ ทง้ั วัน มนั หนกั เกินไปส�ำ หรบั ขา้ พเจ้า เพราะข้าพเจ้ายงั ทำ�ไมไ่ ด้ กท็ ำ� บ้างไม่ทำ�บ้าง ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เพิ่งจะมารู้ก่อนปิดโครงการ ๒ - ๓ วันว่า การท�ำ สมาธทิ ำ�ใหจ้ ติ ใจสงบ คลายเครยี ดได้ ก่อนหนา้ น้ีไม่เคยรู้เลยว่า การทำ�สมาธิเป็นอย่างไร ประโยชน์ของการเข้า โครงการนี้ ท�ำ ใหข้ ้าพเจ้ารูว้ ่า มะเร็งไมใ่ ชโ่ รค แต่เป็นเซลล์ทผี่ ดิ ปกติ ไดร้ บั ความรเู้ กยี่ วกบั อาหาร การใชช้ วี ติ ประจ�ำ วนั และการปฏบิ ตั ธิ รรม รสู้ กึ ประทับใจกบั โครงการดี ๆ แบบนคี้ ะ่
















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook