Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่องดีๆที่บ้านเรา

เรื่องดีๆที่บ้านเรา

Published by Thalanglibrary, 2020-11-09 04:09:25

Description: สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ได้ริเริ่มดำเนินโครงการประกวดเรียงความ หัวข้อ “เรื่องดีๆ ที่บ้านเรา” ในปี ๒๕๕๕ นี้ เป็นปีแรก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่สงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ได้มีโอกาสถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ ในรูปแบบวรรณกรรม นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการถ่ายทอด เล่าเรื่องราวจากผู้อาวุโสของครอบครัวหรือของหมู่บ้าน เล่าขานถึงตำนานหรือวิถีชีวิต ที่มีความสุขให้เด็กและเยาวชนเกิดความประทับใจและภาคภูมิใจในเรื่องราวที่ผ่านมา เป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่จะเชื่อมโยงอดีตสู ่ปัจจุบัน และร่วมกันหาแนวทางที่จะสร้างสรรค์สังคมให้สงบสุข และส่งต่อความดีเพื่อส่วนรวม ตลอดจนเป็นการสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานด้านวรรณศิลป์แก่เด็ก เยาวชน และประชาชน ทั้งนี้ มีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดรวม ๑,๐๔๓ ผลงาน แบ่งเป็นระดับประถมศึกษา จำนวน ๑๓๗ ผลงาน ระดับมัธยมศึกษา จำนวน ๗๗๘ ผลงาน ระดับอุดมศึกษาและประชาชนทั่วไป จำนวน ๑๒๘ ผลงาน โดยคณะกรรมการได้พิจารณาคัดเลือกผลงานที่มีคุณค่า ทั้งในด้านเนื้อหา การใช้ภาษา และความคิดสร้างสรรค์ จนได้ผู ้ที่มีผลงานโดดเด่นเพื่อรับรางวัลป

Search

Read the Text Version

100 เรือ่ งดีๆ ทบ่ี ้านเรา เพ่ือให้รับรู้ว่าเด็กน้อยคนนี้เป็นสมาชิกใหม่ของชาวมุสลิม และน่ันเป็นการเริ่ม ต้นการเรียนครั้งแรกของเด็กน้อย เพราะการเรียนรู้นั้นจะเริ่มต้ังแต่อยู่ในเปล จนถึงหลมุ ฝังศพ วิถีชีวิตในชุมชนนี้ส่วนใหญ่แล้ว จะใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายอยู่คลุกคลี กบั ธรรมชาตทิ งั้ สน้ิ ไมค่ อ่ ยวนุ่ วายเหมอื นคนในเมอื ง ชมุ ชนของเราอยไู่ ดม้ าจนถงึ ปจั จบุ นั นกี้ เ็ พราะวา่ เราไมน่ ำ� ความแตกตา่ งมาเปน็ ไมท้ คี่ อยขวางกน้ั เสน้ ทางแหง่ ความสัมพันธ์ของประชาชนท่ีอาศัยอยู่ในชุมชนแห่งน้ี ในแต่ละวันก็จะมาหาสู่ กนั เป็นเร่อื งธรรมดา ความผกู พันในวถิ ีชีวิตของชาวบ้านก่อใหเ้ กดิ ความรสู้ ึกดีๆ ซง่ึ กนั และกัน รอยยมิ้ ท่เี คยใหย้ งั คงแจม่ ใสดงั่ ดอกไมท้ ีเ่ บกิ บาน วนั ไหนมตี ลาด ก็จะเป็นบรรยากาศอีกแบบหนึ่ง อย่างชุมชนของเราก็จะมีตลาดนัดวันจันทร์ ท่ีใหญ่ที่สุดในชุมชน ท่ีเต็มไปด้วยผู้คนท่ัวทุกพ้ืนท่ีที่กำ� ลังเฮฮากับการเลือกซื้อ สินค้าหลากชนิดราวกับอยู่ในห้างใหญ่ๆ สินค้าก็จะเป็นสินค้าราคาย่อมเยา บ้างก็ราคาถูกกว่ามาตรฐานท่ัวไป บรรยากาศรอบๆ ตัวก็สดชื่นไปด้วยกล่ิน ของตลาดจรงิ ๆ อกี อย่างคนที่นีม่ กั จะท�ำงานหลายๆอยา่ งมกี ารประกอบอาชพี ท�ำสวนยางพาราคิดเป็นร้อยละ ๘๐ รองลงมา ได้แก่อาชีพท�ำนาและท�ำสวน ประมาณร้อยละ ๘ และคา้ ขายรบั ราชการประมาณร้อยละ ๒ การท�ำสวนนิยม ปลูกผลไม้ ไดแ้ ก่ ลองกอง มะพร้าว เงาะ ทเุ รียน ซง่ึ การปลกู ยางพาราในชมุ ชน บูกิต จะเห็นได้เกือบท่ัวไปเนื่องจากยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจของภาคใต้ จากการสอบถามชาวบา้ น ทำ� ให้ทราบว่า ชาวบา้ นจะเรมิ่ กรดี ยางในชว่ งเชา้ มดื เพราะจะได้น้�ำยางในปริมาณที่มากกว่ากรีดยางในช่วงเวลาอ่ืนๆ การหยุดพัก การกรีดยางในฤดูแล้ง ใบไม้ผลัดใบหรือฤดูท่ีมีการผลิใบใหม่จะหยุดพัก การกรดี ยาง เนื่องจากมีผลตอ่ การเจรญิ เติบโตของใบและตน้ ยาง อาชีพท�ำสวน ยางพารา เสมอื นหนง่ึ วา่ เปน็ รากทหี่ ยงั่ ลกึ ลงกลางใจของชาวบา้ น เจรญิ งอกงาม ดว้ ยความเอาใจใส่ ความทมุ่ เททงั้ แรงกายและแรงใจ ทำ� ใหต้ น้ ไมต้ น้ นย้ี นื ตน้ ดว้ ย

เร่ืองดๆี ท่ีบา้ นเรา 101 ความม่ันคง หากมีส่ิงใดมากระทบก็พร้อมที่จะเผชิญกับส่ิงนั้นอย่างเต็มก�ำลัง เพื่อรักษาไว้ซึ่งวิถีชีวิตของความเป็นชาวบ้านอย่างแท้จริง และในส่วนของการ ทำ� นา ผคู้ นสว่ นใหญอ่ าจเพยี งมองแคว่ า่ เปน็ อาชพี ทตี่ อ้ ยตำ�่ เปน็ อาชพี ไมม่ เี กยี รติ แตเ่ ราเป็นคนหนง่ึ ท่รี ู้ดกี ว่า การท�ำอาชีพนค้ี ำ� วา่ เกียรตไิ มส่ ำ� คญั สง่ิ ท่สี �ำคญั คือ การพยายามท�ำอย่างดีที่สุด เพื่อให้ผู้อื่นมีชีวิตรอด แม้ว่าตัวเองจะต้องทนกับ ความทกุ ขย์ าก ตวั เขากท็ นได้ เพอื่ แลกกบั รอยยม้ิ แหง่ ความสขุ รอยยมิ้ แหง่ ความ สดใส เพอ่ื แลกกับความภาคภมู ใิ จท่ไี ด้เป็นกระดกู สนั หลังของชาติ แคน่ ้นั กพ็ อ เพียงและคุ้มค่าแล้ว ส่วนสินค้าที่สร้างช่ือเสียงให้กับชุมชนก็คือ ส้มแขก เละทเุ รยี นกวน ความใกลช้ ดิ กบั ธรรมชาติ ความคุ้นเคยกบั ลำ� ธารสายเก่าท�ำให้ ชาวบ้านสามารถเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างในการดำ� เนินชีวิตได้รู้จักการเอา ตน้ ทนุ เดิมทีม่ ีคณุ ค่าใชป้ ระโยชน์ และสร้างช่ือเสยี งแก่ชุมชน ซง่ึ เปน็ ภมู ิปญั ญา ทคี่ นในชมุ ชนไดเ้ รยี นรจู้ ากประสบการณข์ องชวี ติ ไมเ่ พยี งแคใ่ นชมุ ชนเรา แตย่ งั มชี มุ ชนอนื่ ทมี่ สี นิ คา้ สรา้ งชอ่ื เสยี งใหก้ บั ประเทศ เชน่ เรอื กอและจ�ำลอง เปน็ เรอื มีลักษณะเป็นเรือยาวที่ต่อด้วยไม้กระดานโดยท�ำให้ส่วนหัว และท้ายสูงขึ้น จากล�ำเรือ เพื่อให้ดูสวยงาม และนิยมทาสีแล้วเขียนลวดลายด้วยสีฉูดฉาด เป็นลายไทย หรือลายอินโดนีเซียซึ่งเป็นศิลปะพื้นบ้านที่งดงามที่ชาวบ้าน ประดษิ ฐข์ ้นึ มา และยังมใี บสีทอง เป็นพันธุไ์ มท้ ี่มตี ้นก�ำเนิดเขตป่าทบึ มีไม้เถา ขนาดใหญ่ ใบออ่ นมขี นสนี ำ้� ตาลแดง มหศั จรรยห์ นงึ่ เดยี วในโลก ทป่ี ระชาชนนำ� มาใช้ส�ำหรับประดับบ้านและเป็นของที่ระลึก น้ีคือการท�ำอาชีพแบบบ้านๆ แตก่ ลายเปน็ สนิ คา้ ทตี่ อ้ งการของตลาดในประเทศและประเทศเพอื่ นบา้ น ซงึ่ สง่ิ เหล่าน้ีท�ำให้ชุมชนมีภาพอุดมสมบูรณ์ด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ มากด้วยความสงบและร่มเย็น คนในอดีตได้เล่าต่อกันมาเสมอว่า ถ้ารุ่นลูก รุ่นหลาน มีอายุยืนยาวไปทกุ คนจะไดเ้ รยี นรู้ว่า บา้ นคือทพี่ ่งึ สำ� หรับเราได้ดที ี่สดุ ชุมชนบูกิตเป็นชุมชนที่ก�ำลังพัฒนาไปทีละก้าวทีละขั้น และจะค่อยพัฒนาไป

102 เร่อื งดๆี ทีบ่ ้านเรา เร่ือยๆไม่มีวันหยุดน่ิง เพราะเราเช่ือว่า อะไรก็ตามท่ีมีความหยุดน่ิง นั้นแสดง ความหมายให้เหน็ ว่า...มนั วิ่งอยทู่ ่ีเดิม. กค็ ือวา่ ไมเ่ จรญิ ...ส่งิ เดยี วท่เี ราในฐานะ ลูกหลานและเป็นคนในชุมชนน้ีพอจะท�าได้บ้าง ก็คงเป็นเพียงการพยายาม ด�ารงตนในสังคมน้ีด้วยหนทางท่ีถูกต้องดีงาม ความรักความเอื้ออาทรระหว่าง กันในหมู่คนเป็นบ่อเกิดของความสงบและสีสันแก่สถานท่ีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแห่ง หนใดกป็ รากฏสงิ่ น้ี แมว้ า่ จะมเี หตกุ ารณเ์ ลวรา้ ย ยา�่ แย่ ลกึ เพยี งใด เรากส็ ามารถ ดา� รงอยไู่ ดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ และอกี สงิ่ หนง่ึ ทท่ี า� ใหเ้ รารกั และมอิ าจลมื ชมุ ชนนไี้ ด้ คือ การได้เห็นความรักความสามัคคี แนวทางและวิถีการด�าเนินชีวิตของ ชาวบ้านท่ีแสนจะเรียบง่ายแต่อยู่บนหลังเศรษฐกิจพอเพียงประกอบกับมี วัฒนธรรมท่ีเป็นแนวทางและเป็นหลักที่ใช้ยึดเหน่ียวจิตใจในการด�าเนินชีวิต ประจา� วนั เราโชคดีท่ีได้เกิดมาเป็นเจ้าของทรัพย์อันมหัศจรรย์ ก็ทรัพย์อะไรเล่า จะล้�าค่าน่าหวงแหนไปกว่า ความสวยงามตระการตาของธรรมชาติท่ีอุดม สมบรู ณ์ ทงั้ ภเู ขาเขยี วขจี นา�้ ใสสายธารนอ้ ยใหญไ่ หวทางหลอ่ เลยี้ งชวี ขี องเราทกุ คนเปน็ มาแตช่ า้ นาน ชมุ ชนจะดไี ดค้ งไมไ่ ดอ้ ยแู่ คเ่ พยี งทรพั ยใ์ นดนิ สนิ ในนา้� ทอ่ี ดุ ม สมบรู ณเ์ พยี งอยา่ งเดยี ว แตแ่ นน่ อนวา่ จะเกดิ ชมุ ชนดไี ดก้ ต็ อ้ งประกอบกบั การมี คนดอี าศยั อยใู่ นชมุ ชนนด้ี ว้ ยเชน่ กนั รวมทง้ั ศลิ ปวฒั นธรรมทป่ี ระณตี ละเอยี ดออ่ น ความสวยงามของจติ ใจของผคู้ นทนี่ ดี้ ง่ั นา�้ ใสทไ่ี หลเออื่ ยตลอดเวลา เพอ่ื หลอ่ เลย้ี ง ชุบชีวิตให้ชุ่มช้ืน ความรัก ความผูกพัน ความห่วงใย ที่ทุกคนมีให้แก่กันคือ ภาพที่น่าจดจ�าที่มอิ าจลืมไปได้เลย

เร่ืองดๆี ท่ีบ้านเรา 103 เรื่องดีๆ ทีบ่ ้านเรา เด็กหญงิ ซารีนา สาแล จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันประกอบด้วย จังหวัดปตั ตานี จงั หวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสตูล และบางอ�ำเภอของจังหวัดสงขลา มีอัตลักษณ์ พเิ ศษ เน่อื งจากประชาชนเป็นชนชาตพิ นั ธุ์มลายแู ละนับถอื ศาสนาอิสลามเปน็ สว่ นใหญ่ จงึ มขี นบธรรมเนยี มประเพณี วถิ ชี วี ติ ภาษา และวฒั นธรรมทแ่ี ตกตา่ ง จากจังหวัดอ่ืนๆทางภาคใต้ ซ่ึงอัตลักษณ์พิเศษเฉพาะน้ี จึงเป็นพื้นที่ที่สะท้อน ความแตกต่างและสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจน ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยิน บทเพลงบทหนึง่ ร้องไว้วา่ “ โอ.้ ..โอ้...สลาแต รเู มาะกีตอ นบี งยะลา โกตา บอื รแู ม โอ้...โอ้...สลาแต รเู มาะกตี อ อาดอ โอแร สาแก ฮแี ต ราโมะปาแย บเู กะ สงู ัย กายูกาแย ยาลากีตอ อาดอ เมาะจิ กะแว บึรยาแลแน สลาแต รูเมาะกตี อ (ซ้�ำ) มารีกีตอ สีแป สลาตัน รูเมาะกี่ตอ ปัตตานี นอื การอ ยังมัสโฮ กาวาแส สอื ฆอรอ รามยั โอรงั มดู อ อาดอดืองนั ซาโย สาแต แจนอ ดอดอ มูกัตยาลอ ตือปี กัวลอตบี อ บือดีเกบาระ บูดายอ กีตอ นาวี สอื บายอ โอรงั โมตังบลากอ บรึ ซูกอรยี อ กตี อ สามอ สามอ มารกี ตี อ จือรีตอ สอื ฆอรอ วลี ายะห์ กตี อ โอ้ นารอ บันดา ยงั กายอ วีลายะห์ สตูล รามยั โอรังมลายู อาดอนัด ยงี อ ตือปะ ญูวาบอื ลี ทงุ่ วา้ ละงู โอรัง ตนี อ ลาวา บูเกะตายง ปาโจ รามยั ฮารี ฮารี มารกี ตี อ บาเกะ สอื มูลา มารกี ีตอ ปรื ฆี นารอ สามอ ปาตานี นารา ยาลา รเู มาะกตี อ ”

104 เร่ืองดีๆ ท่ีบ้านเรา บทเพลงบทนพี้ ส่ี าวของฉนั เลา่ ใหฟ้ งั วา่ เปน็ ความทรงจำ� ดๆี ครง้ั ทพ่ี ส่ี าว เข้ามหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทรใ์ หม่ ๆ ไดเ้ ขา้ รว่ มโครงการคา่ ยพัฒนาเยาวชน สอู่ ดุ มศกึ ษาเมอื่ ปี ๒๕๔๙ รนุ่ พม่ี หาวทิ ยาลยั พยายามถา่ ยทอดใหร้ นุ่ นอ้ งๆไดฟ้ งั ไดร้ อ้ ง ได้เขา้ ใจ ให้ส�ำนกึ รัก และห่วงแหนบ้านเกดิ ถน่ิ ใตข้ องเรา จากบทเพลงน้ี ไดส้ ะทอ้ นใหเ้ ราไดเ้ หน็ ถงึ ขนบธรรมเนยี มประเพณี วถิ ชี วี ติ ความเปน็ อยขู่ องชาว มลายูได้อย่างดีเนื้อหาในบทเพลงเริ่มต้นเพลงโดยการกล่าวถึง ๕ จังหวัด ชายแดนใต้บ้านเราน้ันมีของดีมากมายมีท้ังภูเขา แม่น�้ำ พันธ์ุไม้นานาชนิด อยากจะเชิญชวนให้มาท่องเท่ียวปักษ์ใต้ เช่น จังหวัดปัตตานี คนมลายู จะเรียกว่า ปาตานี เป็นจังหวัดท่ีมีช่ือเสียงมีผู้คนหล่ังไหลเข้ามาท่องเท่ียว มาท�ำงาน ซือ้ ขายสนิ ค้าตา่ งๆนานา เชน่ ( ซาโย หมายถงึ แกงกะททิ ใี่ ส่ผักผล ไม้นานาชนิด สาแต หมายถึง กะทิ แจนอ หมายถึง ขนมลอดช่อง ดอดอ หมายถงึ ขนมไทยชนดิ หนง่ึ รสชาตคิ ลา้ ยกบั ขนมกะละแม แตม่ สี ดี �ำออกสนี ำ�้ ตาล เขม้ ซึง่ ทำ� มาจากแป้งขา้ วเจ้าผสมกะทิ มะพรา้ วและนำ�้ ตาลแวน่ กวนใหเ้ ข้ากนั ) อกี ทงั้ ยงั มีการละเล่นท่ีเรียกกนั วา่ บือดเี กบาระหรอื ดีเกฮูลู ซง่ึ เป็นการละเล่น พื้นบ้านแถบจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับความนิยมมากของชาวไทยมุสลิม มักจะใช้แสดงในงานมาแกปูโละ (งานแต่งงาน) งานเข้าสุหนัด งานเมาลิด งานฮารรี ายอแล้ว คำ� วา่ “ลเิ ก” หรือ “ดเิ กร์” เปน็ ศัพทเ์ ปอรเ์ ซีย มีความหมาย ๒ ประการ คือ ๑. เพลงสวดสรรเสริญพระเจ้า ซึ่งเรียกการสวดดังกล่าวน้ีว่า “ดิเกร์เมาลิด” ๒. กลอนเพลงโต้ตอบ นิยมเล่นกันเป็นกลุ่มคณะ เรียกว่า “ บือดีเกบาระหรือดีเกฮูลู ” บ้างก็ว่าได้รับแบบอย่างมาจากคนพื้นเมืองเผ่า ซาไก เรียกว่า มโนห์ราคนซาไก บ้างก็ว่าเอาแบบอย่างการเล่นลำ� ตัดของไทย ผสมเข้าไปด้วย น่ีคือความหมายท่ีมาจากฟากนักวิชาการ ทว่า ในความเชื่อ ของชาวบ้านอย่าง เจะปอ สะแม หวั หน้าคณะลิเกแหลมทราย อ�ำเภอหนองจกิ จังหวัดปัตตานี ท่ีโด่งดังมาจากภาพยนตร์โฆษณาชุด ‘ส�ำนึกรักบ้านเกิด’

เรื่องดีๆ ทีบ่ ้านเรา 105 กลับต่างออกไป โดยเจะปอให้ความหมายว่า “ฮูลู หมายถึง คนท่ีอยู่ห่างไกล ความเจรญิ เชน่ อยูเ่ ชงิ เขา อยหู่ า่ งทะเล นี่คอื ฮลู ู เพราะฉะนนั้ ลเิ กฮลู จู งึ เป็นการ ละเล่นของคนท่ีอยู่ห่างไกล แต่ในมาเลย์เรียกบือดีเกบาระซึ่งบาระแปลว่า ทศิ ตะวนั ตก คอื คนมาเลยร์ บั ศลิ ปะนไ้ี ปจากปัตตานี ทอี่ ยูท่ างทศิ ตะวันตกของ เขา ทีม่ าเลยเ์ ลยเรยี กวา่ บอื ดเี กบาระหรือลเิ กปารตั แต่รปู แบบไมต่ า่ งกนั เลย” หวั หนา้ คณะคนเดมิ เลา่ วา่ การแสดงดเี ก มตี น้ เคา้ มาจากการละเลน่ ของชาวบา้ น ทเ่ี หนด็ เหนอ่ื ยจากการทำ� งานในแตล่ ะวนั และมกี จิ กรรมรว่ มกนั คอื การรอ้ งเพลง ในตอนเย็น อุปกรณ์ให้จงั หวะคอื ภาชนะที่หาไดใ้ กล้มอื จ�ำพวก หม้อ กระทะ คนหนึ่งร้อง คนหน่งึ เคาะ อีกหลายๆ คนช่วยกนั ประสานเสยี ง ตอ่ มากพ็ ฒั นา ให้มีเครื่องดนตรี ท่ีใช้กันทัว่ ไปคอื ฆ้อง ขลยุ่ และรำ� มะนา ส�ำหรบั รูปแบบการ ละเลน่ จะคล้ายกบั การแสดงล�ำตัดหรอื เพลงฉ่อยในภาคกลาง กลา่ วคือ การตั้ง วงของแต่ละคณะ จะมีสมาชิกท่ีเป็นลูกคู่ประมาณ ๑๐ คนข้ึนไป ผู้ร้องเพลง และผขู้ บั รอ้ งมปี ระจำ� คณะอยา่ งนอ้ ย ๒-๓ คน และถา้ ผชู้ มคนใดสนใจอยากรว่ ม แสดง หรือเสนอความคิดเหน็ ก็สามารถขึ้นไปสมทบบนเวทีได้ ส่วนเคร่อื งแตง่ กายจะนยิ มใช้เสือ้ ผา้ สีสันสดใส เดิมมผี า้ โพกหัว สวมเส้ือคอกลม และนุ่งโสรง่ แบบมุสลิม มีบางครั้งท่ีอาจจะเหน็บขวานมาแสดง ท้ังนี้เพื่อข่มขวัญคู่ต่อสู้ แต่ในปัจจุบันการแต่งกายเปล่ียนไปตามสมัยนิยม โดยมากจะแต่งกาย เหมอื นกนั ทง้ั คณะ เอกลกั ษณท์ สี่ �ำคญั อกี ประการหนง่ึ กค็ อื การขบั รอ้ งพรอ้ มแสดงทว่ งทา่ ประกอบ “ท่าร่ายร�ำจะบ่งบอกถึงธรรมชาติ และการห่วงหาอาทรต่อกัน เช่น การท�ำมือเป็นลูกคล่ืน ท่ากวักมือเพื่อชักชวนพ่ีน้องท่ีไปอยู่ในมาเลเซียให้กลับ มายังบ้านเกิด ท่าปลาแหวกว่าย ท่าชักอวน คือจะประกอบกับการตบมือ เป็นจังหวะให้เกิดความสนุกสนานเน้ือหาท่ีเอามาร้องโต้กันจะเก่ียวกับวิถีชีวิต หรืออาชพี เปน็ การแลกเปลยี่ นประสบการณ์ซึ่งกนั และกนั เช่นในวดี ีโอตวั อย่าง

106 เรอ่ื งดีๆ ทบี่ ้านเรา จากโฆษณาส�ำนึกรักบ้านเกิด “...บ้านใครใครก็รัก บ้านใครใครก็หวง เต่าเล ปะการัง กุ้งกั้ง เราก็ห่วง โอะ โอ้ โอะ โอ กือเละมารี กลับมา มาช่วยเป็นหู เป็นตา ดูแลทะเลบ้านเรา...” (บือดีเกบาระหรือดีเกฮูลู สืบค้นจากข้อมูล จาก www.pattanitoday.com, www.rakbankerd.com ) การละเลน่ บอื ดเี กบาระหรอื ดเี กฮลู ู เปน็ การละเลน่ ทใ่ี หค้ วามสนกุ สนาน ร่ืนเริง ซึ่งพี่สาวของดิฉันเล่าต่อไปว่าพี่และเพื่อนๆได้มีโอกาสเป็นตัวแทน ของนักศึกษามหาวทิ ยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วิทยาเขตปัตตานี เม่อื ปี ๒๕๕๒ เข้า รว่ มโครงการคา่ ยเยาวชนสมั พนั ธ์ปอ้ งกนั และปราบปรามทจุ ริตคอร์รัปชัน่ ทผี่ งึ้ หวานรสี อรท์ จงั หวดั กาญจนบรุ ี ทางพโ่ี หนง่ ผจู้ ดั กจิ กรรมคา่ ยอยากใหพ้ วกพโี่ ชว์ การแสดงดเี กฮลู ู พวกพๆี่ จงึ ฝกึ ซอ้ มการแสดงดเี กฮลู ู และบทเพลงอนาชดี ภาษา มลายู เพ่ือไปแสดงในกิจกรรมรอบกองไฟท่ีค่ายเยาวชน คืนนั้นท้ัง ๑๐ คน ผูช้ ายใส่เสือ้ ตอื โละบอื ลางอ กางเกง และผูกผ้าโสร่งบาตกิ ท่เี อวแลว้ โผกผา้ บน ศรี ษะสว่ นผหู้ ญงิ สวมใสเ่ สอื้ กรู ง เพอื่ นๆชอบเสอ้ื ผา้ ทพ่ี ๆ่ี สวมใสต่ า่ งพากนั ขอถา่ ย รูปกับพวกเรา การแสดงของพวกเราได้รับค�ำช่ืนชม เพ่ือนๆ แสดงดีเกฮูลู ตามพวกพี่ๆ รอบกองไฟและหลงั จากการแสดงสิน้ สุดลงไดร้ ับเสียงปรบมือจาก ผจู้ ดั กจิ กรรมและเพอ่ื นๆ ทมี่ าจากหลายๆ สถาบนั ในประเทศไทย ฉนั รสู้ กึ ภมู ใิ จ อย่างมากท่ีพวกพ่ีๆได้น�ำการแสดงศิลปะพื้นบ้านชายแดนใต้ไปเผยแพร่การ แสดง ขนบธรรมเนยี มประเพณีวฒั นธรรมของชาวมลายมู สุ ลมิ ภาคใต้ ปัจจุบัน นี้จะเห็นได้ว่าเยาวชนรุ่นใหม่หันมาสนใจการละเล่นดังกล่าวมากข้ึนเรื่อยๆ ซึ่ง ในสถานศกึ ษาหลายแหง่ ทางภาคใตไ้ ดจ้ ดั หลกั สตู รทอ้ งถน่ิ จดั การเรยี นการสอน การละเล่นดีเกและอื่นๆ ครู อาจารย์ ปราชญ์ชาวบ้าน พ่อแม่ ผู้ปกครอง หน่วยงานต่างๆ ก็ให้การสนับสนุนจนกระทั่งมีการจัดแข่งขันการแสดง ดังกล่าวข้ึนอย่างต่อเนื่องในงานวัฒนธรรมที่มอ.ปัตตานีจัดขึ้นทุกๆ ปีฉันก็เคย ไปดมู าแลว้ สนุกมาก

เร่อื งดๆี ท่บี ้านเรา 107 ความสนุกยังไม่ได้มีเท่าน้ี แต่ฉันอยากให้ทุกคนท�ำความรู้จักกับ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราก่อน เริ่มจากจังหวัดปัตตานีประกอบด้วย อำ� เภอเมืองปัตตานี สายบรุ ี ทุ่งยางแดง ยะหร่ิง ยะรงั โคกโพธิ์ มายอ หนองจิก แม่ลาน อาชีพหลกั ของประชาชนส่วนใหญค่ ล้ายๆ กนั ในทุกจังหวดั เช่น กรีดยางพารา ทำ� นาท�ำสวนผลไม้พื้นถิ่นท้ังทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง ลกู ู ลางสาด ฯลฯ คา้ ขาย รบั ราชการ สถานทท่ี อ่ งเทยี่ วทน่ี า่ สนใจ เมอื งโบราณ ยะรัง มัสยิดกรือเซะ มัสยิดกลางปัตตานี น้�ำตกทรายขาว หาดแฆแฆ หาดตือโละกาโปร์ กุโบร์โต๊ะปันยัง อุทยานศึกษาธรรมชาติแหล่งป่าชายเลน อ�ำเภอยะหรง่ิ สวนสมเด็จ หอศลิ ปวฒั นธรรม นอกจากนยี้ งั มสี ถาบันการศึกษา ท่ีโด่งดังในจังหวัดชายแดนใต้น้ันคือมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต ปัตตานี จังหวัดปัตตานี จึงไม่เคยเงียบเหงา ถึงแม้ว่านับต้ังแต่เหตุการณ์ ความรนุ แรงในจงั หวัดชายแดนใตป้ ะทุข้ึนในปี ๒๕๔๗ “ ไฟใต้ ” แต่ประชาชน ไม่เคยหว่ันกลัวจนต้องอพยพย้ายถ่ินฐานไปที่อื่นไม่ ยังคงอาศัยอยู่ในพ้ืนท่ี และต่างก็ต้องด�ำเนินชีวิตต่อไป ในส่วนของจังหวัดนราธิวาสก็เช่นกันไม่ได้ แตกต่างไปจากจังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาสคนมลายูจะเรียกว่า นารอ ( บันดา ยงั กายอ หมายถงึ เป็นจังหวัดท่ีรำ่� รวย มีชอ่ื เสียง) เพราะมกี ารค้าขาย สนิ คา้ มากมาย และตดิ ตอ่ แลกเปลย่ี นสนิ คา้ กบั ประเทศมาเลเซยี จงึ รบั วฒั นธรรม มาด้วย มอี ำ� เภอเมอื งนราธิวาส ย่ีงอ ระแงะ บาเจาะ สุไหงปาดี สุไหงโกลก ตากใบ “อาดอนดั ยงี อ ตอื ปะญวู าบอื ลี ” หมายถงึ มตี ลาดนดั ทม่ี ชี อ่ื คอื ตลาด ยง่ี อ เปน็ สถานทคี่ า้ ขายและมสี ถานทที่ อ่ งเทยี่ วทนี่ า่ สนใจคอื บเู กะตายง น�้ำตก ปาโจ ผู้คนมาเท่ียวไม่ขาดสาย มัสยิดตือโละมาเนาะที่สร้างด้วยไม้ท้ังหมด ไม่ได้ตอกด้วยตะปู หาดนาราทัศน์ ฯลฯ จังหวัดยะลา คนมลายูจะเรียกว่า นีบง เป็นจังหวดั ทีมีพนื้ ทก่ี วา้ งขว้าง มผี คู้ นมากมาย มีอำ� เภอเมอื งยะลา ยะหา รามัน กรงปนี ัง บันนังสตา ธารโต เบตง โกตาบารู บือรูแม อีกทั้งยงั มี

108 เร่อื งดๆี ทบ่ี ้านเรา “โอแร สาแก หมายถึง คนซาไก” “ ฮีแต ราโมะปาแย ” หมายถงึ ตัวด�ำผม ยาว มี “เมาะจิ กะแว หมายถึง พี่ ปา้ น้า อา” สถานท่ที ่องเที่ยวทนี่ า่ สนใจ สวนขวัญเมือง สนามช้างเผือก ( บอ่ น้�ำพรุ อ้ น ถ้ำ� ปยิ ะมติ ร สวนดอกไม้เมือง หนาวทเี่ บตง) ซงึ่ ดฉิ นั เคยไปเทยี่ วมาแลว้ สวยงามมากไมน่ กึ วา่ ทจี่ งั หวดั ชายแดน ใตข้ องเราจะมสี วนแบบน้ดี ้วยยิง่ ตอนน้ีสวนแหง่ นี้ได้ท�ำท่พี กั ใหก้ ับนกั ท่องเทยี่ ว ที่มาแวะเที่ยวชมได้ค้างคืนพักแรมรับอากาศหนาวเย็นของอ�ำเภอเบตง ดิฉันอยากเชิญชวนมาเท่ียวชมที่น่ีรับรองว่ามาแล้วต้องประทับใจ ที่ส�ำคัญ ราคาไม่แพงเลย จงั หวดั สงขลา คนมลายจู ะเรียกว่า สือฆอรอ “ รามัย โอรงั มูดอ หมายถึง เป็นจังหวัดท่ีเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาว” มีอ�ำเภอเมืองสงขลา หาดใหญ่ สะเดา นาทวี ระโนด สทงิ พระ จะนะ เทพา สะบ้ายอ้ ย รัตภมู ิ สิงหนคร ควนเนียง “ มูกัตยาลอ กัวลอตบี อ หมายถึง ท�ำประมงทเ่ี ทพา” “โมตัง หมายถึง ท�ำสวนยางพารา โดยเฉพาะท่ีอ�ำเภอนาทวี สะบ้าย้อย สถานท่ีท่องเท่ียวท่ีน่าสนใจ แหลมสน หาดสมิหลา เกาะหนู เกาะแมว เกาะยอ ทะเลสาบสงขลา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ น้�ำตกโตนงานช้าง สถานทอ่ี นรุ กั ษส์ ตั วน์ ำ้� สวนสาธารณะสงขลา เมอื งหาดใหญ่ ตลาดการคา้ เปดิ ทา้ ยหาดใหญ่ อะควอเรยี ม ไอซโ์ ดม สวนสตั วส์ งขลาและสวนนำ้� นำ้� ตกบรพิ ตั ร สะพานตณิ สลู านนท์ หาดแกว้ ตลาดน�้ำคลองแห มสั ยิดบ้านเหนอื ตอนที่ดฉิ นั เป็นนักศึกษาฝึกสอน ฉันและคณะครูได้มีโอกาสพานักเรียนโรงเรียนตลาดนัด บาซาเอไปจดั คา่ ยอบรมคณุ ธรรมจรยิ ธรรมทหี่ มบู่ า้ นมสั ยดิ บา้ นเหนอื ทน่ี ม่ี มี สั ยดิ แห่งหน่ึงชาวบ้านเรียกกันติดปากว่ามัสยิดบ้านเหนือ เป็นท้ังมัสยิด โรงเรียน จัดการเรียนการสอนเด็กกอ่ นวัยเรยี น ตาดกี า ศนู ยก์ ารศึกษานอกโรงเรยี นและ หนว่ ยงานหรอื องคก์ รในหมบู่ า้ นกต็ งั้ อยทู่ นี่ เ่ี ชน่ กนั ผคู้ นรว่ มมอื กนั ท�ำงาน อกี ทงั้ ยงั จดั บริการเป็นสถานทจี่ ดั ค่าย หอ้ งประชมุ สัมมนา อบรม บรรยาย มีที่พกั และหอ้ งน้ำ� บริการคนท่ีมาเท่ียวพกั และจงั หวดั สตูล คนมลายจู ะเรียกว่า สตงู

เรื่องดีๆ ที่บ้านเรา 109 มีคนมลายูอาศัยเป็นจ�ำนวนมาก มีอ�ำเภอเมืองสตูล ทุ่งว้า ละงู ควนกาหลง ควนโดน (โอรัง ตนี อ ลาวา หมายถงึ มผี ู้หญิงท่ีหน้าตาสวยงาม) อาชพี หลัก ทำ� นา สวนยางพารา มะพร้าว ประมง ท�ำไม้กวาด หัตกรรมจักสาน ค้าขายสิน้ คา้ บรเิ วณแถบชายแดนสดุ เขต “วงั ประจนั ” ซงึ่ ตดิ ตอ่ กบั ประเทศมาเลเซยี สถาน ท่ีท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา น้�ำตกโตนงาช้าง บ่อน�้ำร้อนท่ี ตำ� บลทงุ่ นยุ้ อทุ ยานแหง่ ชาตทิ ะเลบนั อทุ ยานแหง่ ชาตหิ มเู่ กาะเภตรา หาดปาก บารา ถ�ำ้ ภูภาเพชร เป็นตน้ ส่วนตัวฉันเองจะรู้จักคุ้นเคยกับจังหวัดปัตตานีเพราะเติบโตมาใน จังหวัดปัตตานี อยู่อ�ำเภอยะรัง ซ่ึงต้ังอยู่ใกล้ๆ กับตัวเมืองจังหวัดปัตตานี ชื่อหมู่บ้านบินยาลีมอ ใกล้ๆ บ้านของฉันนั้นมีเมืองโบราณยะรัง ชาวบ้านท่ีน่ี จะเรียกวา่ บ้านจาเละ มลี กั ษณะเปน็ เหมอื นซากอาคารท่ีก่อสร้างด้วยอิฐ และมี ซากของโบราณวตั ถจุ ำ� นวนมาก พอ่ ของฉนั เคยทำ� งานเปน็ ชา่ งขดุ ทเี่ มอื งโบราณ แหง่ น้ี พอ่ เลา่ ใหฟ้ งั วา่ สมยั กอ่ นทน่ี เี่ ปน็ เมอื งๆ หนง่ึ มี ราญอฮเี ญา ราญอแมเราะ ฮฺ ราญอบีรูเป็นผู้ปกครองเมือง (ชื่อเรียกราชาหรือเจ้าเมืองท่ีชาวบ้านใช้เรียก ในสมยั นน้ั ) เจา้ เมอื งนบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม การเมอื ง เศรษฐกจิ การคา้ ในแถบนี้ เขม้ แขง็ ศาสนาอสิ ลามไดเ้ จรญิ รงุ่ เรอื งขน้ึ ควบคไู่ ปกบั การคา้ มกี ารกอ่ สรา้ งมสั ยดิ ขน้ึ เพอ่ื ใชเ้ ปน็ ทปี่ ระกอบศาสนกจิ มสั ยดิ ทส่ี ำ� คญั คอื มสั ยดิ กรอื เซะ ซงึ่ เปน็ มสั ยดิ ใหญ่ประจำ� เมือง และมสั ยิดบา้ นดาโตะ๊ บริเวณทเี่ ป็นทา่ เรอื ทางตอนเหนอื ของ อ่าวปัตตานี นอกจากนั้นยังมีมัสยิดและสุเหร่าในเขตชุมชนอิสลามถูกสร้างข้ึน อกี หลายแหง่ อยา่ งทเี่ ราไดเ้ หน็ ในปจั จบุ นั น้ี ถา้ กลา่ วถงึ ชมุ ชนอสิ ลามปจั จบุ นั เรา จะนกึ ถงึ เห็นภาพ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวมุสลมิ ท่ีนับถือ ศาสนาอิสลามอย่างน่าสนใจซ่ึงแตกต่างจากชาวอ่ืนๆ ชาวมุสลิมทางภาคใต้ เป็นเช้อื ชาติไทย สัญชาติไทย นับถอื ศาสนาอิสลาม สงั คมไทยยงั รจู้ ักวฒั นธรรม มลายมู สุ ลมิ ในจงั หวดั ชายแดนใตน้ อ้ ยมาก ทง้ั ภาษาซง่ึ ชาวมสุ ลมิ ใชภ้ าษามลายู

110 เรอื่ งดๆี ท่บี า้ นเรา สื่อสารระหว่างมุสลิมด้วยกัน นับถือศาสนาอิสลามมีพระเจ้าองค์เดียวกันคือ อัลลอฮฺ ด�ำเนินวิถชี วี ติ ในขอบเขตของศาสนา ความไม่รูจ้ ัก ไม่เขา้ ใจท�ำใหเ้ กดิ ช่องว่างระหว่างคนในสังคมไทยข้ึน แต่มันคงไม่อยากหากเราจะท�ำความรู้จัก และเข้าใจคนใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการมาเท่ียว สัมผัสกับชุมชน มสุ ลมิ ชาวใตห้ รอื ศกึ ษาคน้ ควา้ จากตำ� รา หนงั สอื สอ่ื ตา่ งๆ ซงึ่ ฉนั ไดอ้ า่ นหนงั สอื เล่มหน่ึงในห้องสมุดของโรงเรียนคร้ันเรียนประถมศึกษา ฉันอยากจะแนะน�ำ หนงั สอื เลม่ นใ้ี หแ้ กท่ า่ นผอู้ า่ นไดอ้ า่ นแลว้ จะไดเ้ ขา้ ใจวถิ ชี วี ติ ในทอ้ งถน่ิ ความเปน็ อยู่ของ ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ง่ายมากย่ิงข้ึน นั่นคือ หนังสือทักษะ วฒั นธรรมคมู่ อื วธิ กี ารขดั กนั ฉนั มติ รชายแดนใต้ ของอาจารยแ์ พร ศริ ศิ กั ดด์ิ ำ� เกงิ ภาควิชามานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นผู้เขียน จัดพิมพ์โดย ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร, ๒๕๕๒ เนื้อหาในเรื่องจะน�ำเสนอถึงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของผู้คนใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ท้ังชาวไทยพุทธ มุสลิมและ จีน โดยเฉพาะชาวมุสลิมนับถือศาสนาอิสลามนับต้ังแต่เกิดมา แต่ฉันอยาก จะน�ำเสนอเพ่ิมเติมเกี่ยวกับก่อนท่ีจะมีเด็กทารกเกิดข้ึนมาน้ันพ่อกับแม่เล่าว่า ผ้เู ปน็ พอ่ แมข่ องเด็กนัน้ ต้องนิกะฮฺกนั ก่อน (แต่งงาน)อย่างถูกตอ้ งตามหลักการ ศาสนา ไม่ใช่ท้องก่อนแต่งเพราะหากเป็นเช่นน้ันหมายถึงว่าบุคคลผู้นั้นได้ทำ� ซินา (ผดิ ประเวณ)ี ซ่ึงศาสนาหา้ มปรามอย่างยิ่ง และเม่ือมเี ดก็ ทารกมสุ ลมิ เกิด ผู้เป็นพ่อต้องอาซานท่ีหูข้างขวา อีกอมะฮฺ ท่ีหูข้างซ้าย พออายุได้ ๗ วันก็จะ แงเกาะและเข้าสุนัตส�ำหรับเด็กผู้หญิง ส�ำหรับชาวพุทธก็จะพาเด็กขึ้นเปล เปดิ ปาก พาเดก็ ลงเปล เมอ่ื เดก็ มสุ ลมิ อายไุ ด้ ๗ ปตี อ้ งฝกึ หดั ใหส้ มาแย (ละหมาด) และวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีการด�ำเนินชีวิตอ่ืนๆ อีกมาก ซ่ึงหากท่านผู้อ่านที่สนใจสามารถหาอ่านได้ นอกจากน้ี การจัดการศึกษาใน พ้ืนที่นี้จะมีการเรียนการสอนด้านศาสนาอิสลามด้วยเห็นได้จากในโรงเรียน ของรัฐจัดการเรียนการสอนอิสลามศึกษาแบบเข้มในโรงเรียนเพื่อให้เด็กมุสลิม

เรอื่ งดีๆ ท่บี ้านเรา 111 ได้เรียนรู้เก่ียวกับศาสนาอิสลาม อีกทั้งยังมีโรงเรียนตาดีกาสอนศาสนาเรียน วนั เสาร์ วนั อาทติ ย์ สอนหลกั การอา่ นอลั กรุ อาน กรี ออาตี นอกจากนยี้ งั มสี ถาบนั การศึกษาปอเนาะ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาควบคู่กับสามัญ และในระดับ มหาวิทยาลัยก็มีเช่นกัน ท่ีวิทยาลัยอิสลามศึกษา มอ.ปัตตานี มหาวิทยาลัย อิสลามยะลา ทต่ี �าบลโสรง่ และมหาวิทยาลัยนราธวิ าส ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้ล้าหลัง ถึงแม้จะเกิด เหตุการณค์ วามไม่สงบในพ้ืนทีอ่ ยา่ งต่อเนื่องจนถึงขณะน้ี แตก่ ไ็ ม่ได้ส่งผลท�าให้ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีการด�าเนินชีวิตของชาวไทยมุสลิม และชาวไทยพุทธที่อยู่ร่วมกันในพื้นที่ต้องห่างหายไป แต่กลับท�าให้มีผู้คน อยากท�าความรู้จักและเข้าใจพวกเรามากขึ้นเพ่ือต้องการให้เกิดความสงบสุข ในการอยู่ร่วมกันของชนชาวไทยทุกคนท่ีอาศัยอยู่บนพ้ืนแผ่นดินของ ประเทศไทย ฉนั คดิ วา่ อกี ไมน่ านสถานที่ ๕ จงั หวดั ชายแดนภาคใตจ้ ะไดร้ บั ความ สนใจจากผู้คนท้ังในประเทศ และประเทศเพ่ือนบ้านมาเที่ยวกันมากย่ิงขึ้น เพราะเรากา� ลงั จะเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซยี นในอกี ไมก่ ป่ี ขี า้ งหนา้ หากเราดปู ระเทศ ในอาเซยี นหลายประเทศมปี ระชากรทน่ี บั ถอื ศาสนาอสิ ลามเหมอื นกบั เราอกี ทงั้ ยังใช้ภาษามลายูติดต่อสื่อสารได้ จึงเป็นเร่ืองง่ายที่จะได้เข้าใจกันและกัน ฉันขอพร (ดุอาอฺ) จากเอกองค์อัลลอฮฺพระเจ้าของฉันให้ปกป้อง คุ้มครอง ทกุ คนใหร้ อดพน้ จากสง่ิ ทไี่ มด่ ี หรอื ความชว่ั รา้ ยทเ่ี กดิ ขน้ึ บนโลกนข้ี อใหท้ กุ คนมี ความสุขความเจริญ ประพฤตปิ ฏบิ ัตติ นเปน็ แบบอยา่ งที่ดีให้แกเ่ ยาวชนรุน่ หลัง ไดส้ บื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ขนบธรรมเนยี มประเพณี วถิ กี ารดา� เนนิ ชวี ติ ตอ่ ไป และปฏิบัติคุณงามความดีให้มากเมื่อตอนมีชีวิตอยู่เพ่ือท่ีพระเจ้าจะทรง ตอบแทนความดที เี่ ราไดก้ ระทา� ไวค้ รงั้ ยงั มชี วี ติ บนโลกนใ้ี นโลกอาครี ตั (โลกหนา้ เป็นโลกท่ีถาวรเป็นโลกที่ช�าระความดีความช่ัว) และขอให้ทุกคนช่วยกันดุอาอฺ ตอ่ อลั ลอฮใฺ หช้ ายแดนใตข้ องเราเกิดความสงบสุข สันติ กนั เถดิ

112 เรื่องดๆี ทบี่ ้านเรา เร่ืองดๆี ท่บี ้านเรา เดก็ หญิงซลู ฟา ยอเเมง็ จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งประกอบด้วยสงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นพื้นท่ีที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรต่างๆ ทั้งยางพารา นาข้าว สวนลองกอง ทุเรยี น ฯลฯ ผคู้ นทมี่ ีน�ำ้ ใจ มีไมตรี มคี วาม เอ้ือเฟื้อเผื่อแผ่ให้กันและกัน ภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรมเป็นเวลา ยาวนาน เอกลักษณ์ท่ีส�ำคัญของพ้ืนท่ีจังหวัดชายแดนภาคใต้คือ มีผู้คนนับถือ ศาสนาอิสลามเป็นจ�ำนวนมาก ถึงกระนั้นพี่น้องประชาชน ในพ้ืนที่โดยเฉพาะ เยาวชนรุ่นใหม่ที่จะเป็นก�ำลังในการพัฒนาประเทศ ยังมีความรู้เก่ียวกับ ศาสนาอิสลามและวิถีชีวิตมุสลิมไม่มากนัก อาจโดยคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เปน็ เรอ่ื งทย่ี ากแกก่ ารเขา้ ใจ รวมไปถงึ การเผยแพรอ่ ยใู่ นวงจ�ำกดั จงึ ทำ� ใหเ้ ราซง่ึ อาศัยอยู่ในพื้นที่น้ีไม่สามารถอธิบายแก่คนต่างพ้ืนที่ได้เข้าใจถึงความเป็นไป เหล่านี้ เราจึงต้องไม่หยุดที่จะศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะจากการบอกเล่า ของคนเฒา่ คนแกซ่ ึ่งเปรยี บเสมือนปราชญช์ าวบา้ นท่ีควรแก่การศกึ ษาอย่างย่ิง ฉันมพี ี่นอ้ ง ๒ คน ฉนั เป็นคนโตท่ีอาศัยอยู่กบั แมแ่ ละตากับยายเพราะ พ่อของฉันทำ� งานอยู่ ประเทศซาอุดิอารเบีย จึงไม่แปลกท่ีฉันจะได้ฟังเรื่องเล่า จากผู้อาวโุ สท้ังสองบ่อยคร้งั ยายเลา่ ว่า “ อิสลามเปน็ ช่ือศาสนามอี ลั ลอฮเป็น พระเจ้า มีนบีมูฮัมมัดเป็นศาสนทูต ผู้นับถือศาสนาอิสลามเรียกว่า “มุสลิม” ถ้าเปน็ ผ้ชู ายเรียกว่า มสุ ลมี ีน ส่วนผู้หญงิ เรียกวา่ มุสลมี ะห์ ฉนั หมดความสงสัย ไปข้อหน่ึงที่ว่า ฉันช่ือมุสลีมะห์ เพราะฉันเป็นมุสลิมเพศหญิงน่ีเอง ยายเล่าว่า อสิ ลาม หมายถงึ การนอบน้อมยอมตนต่อพระประสงค์ของพระเจา้ ผทู้ รงสร้าง

เรือ่ งดีๆ ท่ีบา้ นเรา 113 ทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิต อัลลอฮสูงส่งและย่ิงใหญ่เกินกว่าที่ มนุษยอ์ ย่างเราจะมองเหน็ หรือจินตนาการได้ แตพ่ ระเจ้ามอี ยู่จริง เชน่ เดียวกับ เรารวู้ า่ ในบรรยากาศน้นั มีอากาศ เรามองไม่เห็นแต่เราสมั ผสั ได้จากการหายใจ และเม่ือมลี มกระทบรา่ งกายของเรา ในตอนน้ีสมองฉันก็นึกย้อนเวลาพร้อมกับจินตนาการจากค�ำบอกเล่า ของยาย ยายเลา่ ให้ฟงั วา่ พอ่ แม่ของยายคือทวด ทา่ นเปิดสอนสถาบันปอเนาะ ชอ่ื ปอเนาะฮแู ตกอแล ฉนั กพ็ อนกึ ภาพออกเพราะปอเนาะ สเุ หรา่ (บาลาเซาะห)์ หอ้ งนำ้� กย็ งั มใี ชจ้ นถงึ ปจั จบุ นั แตแ่ ตกตา่ งจากปจั จบุ นั ยายบอกวา่ สมยั ประมาณ ๔๐ ปี ผ้คู นจากทุกหมูบ่ ้านตา่ งสนใจมาปลกู สรา้ งปอเนาะเลก็ ๆ เพื่อเป็นท่ีพกั ชว่ั คราวในการศกึ ษาหาความร้เู ร่ืองศาสนาจากทวด (พอ่ ของยาย) ไม่วา่ จะเปน็ วัยรนุ่ วยั กลางคน หรือคนเฒ่า คนแก่ ก็มาเรียนอัลกรอุ าน ละฮาดิษ รวมไปถึง วชิ าตา่ งๆ ทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ชวี ติ ประจำ� วนั ยามเชา้ ๆ คนทมี่ ารำ่� เรยี นในละแวกใกลๆ้ ก็ไปกรีดยาง ท�ำนา ส่วนลูกๆที่อยู่ในวัยเรียนก็พักท่ีปอเนาะไม่อนุญาตให้กลับ บา้ นถ้าไมค่ รบ ๔๐ วัน เพอื่ ป้องกันการหนีเรียนหรือเปน็ การตกลงใหป้ กครอง เข้าใจตรงกันเม่ือถึงเดือน ๑๐ ของปฏิทิน อิสลามทวดก็จะกวนอาซูรอ วยั รนุ่ ชายกจ็ ะชว่ ยกวนอาซรู อ ผหู้ ญงิ กจ็ ะชว่ ยเตรยี มเครอ่ื งปรงุ และสลบั ชว่ ยกนั กวนเมอื่ ออกมาเปน็ กวนอาซรู อกแ็ จกจา่ ยใหช้ าวบา้ นไดก้ นิ กนั ถว้ นหนา้ จะเหน็ ว่าคนสมัยก่อนไม่ว่าจะท�ำอะไรก็ตามก็มาจากค�ำส่ังใช้ของคนที่เรียกว่า “บาบอ”เป็นส่วนใหญ่ บา้ นยายฉนั ซงึ่ เป็นลกู ของบาบอกข็ ายของให้กับโต๊ะปา เก (ผู้ชายทมี่ าเลา่ เรยี น) ขายต้งั แตไ่ ม้จิ้มฟันยันเรอื รบมีทงั้ สบู่ นำ้� มัน ข้าวสาร กะโป๊ะ ลูกชิน้ และจะขายขา้ วยำ� ในตอนเช้า ตอนนัน้ แม่ของฉันกย็ งั เล็กมากแต่ ยายกบ็ อกวา่ แมฉ่ นั ไมค่ อ่ ยงอแง แมฉ่ นั จะเลย้ี งนอ้ งเพราะยายมลี กู หลายคน และ เม่ือถึงเดือน ๓ ของปฏิทนิ อสิ ลามเรียกวา่ เป็นเดอื นทท่ี า่ นนบีประสตู ิ เดือนนมี้ ี ประเพณีการท�ำเมาลิดนบี เมื่อเดือนนี้มาถึงทวดฉันรวมถึงโต๊ะปาเกก็แทบ จะไม่ต้องหุงข้าวเพราะชาวบ้านจะเวียนกันท�ำ เมาลิดท่ีบ้าน และเรียกบาบอ และโตะ๊ ปาเกมารว่ มรบั ประทานอาหารรวมไปถงึ ดอู ารข์ อพรใหพ้ ระเจา้ คมุ้ ครอง

114 เรื่องดีๆ ท่บี ้านเรา เมอ่ื ถึงเดือนรอมฎอนเปน็ เดอื นทีฉ่ ันชอบบรรยากาศเดอื นนี้มากที่สุด เพราะบา บอจดั ตง้ั เวรใหช้ าวบา้ นปรงุ อาหารใหก้ บั ผชู้ ายทกุ บา้ นมาละศลี อดทสี่ เุ หรา่ พรอ้ ม กบั บาบอและโตะ๊ ปาเก (เรยี กวา่ บาลาเซาะห)์ จากนนั้ กล็ ะหมาดมฆั รบิ พรอ้ มกนั ถ้าเปน็ สมยั ฉนั เดก็ ๆ ฉนั จะวิง่ เล่นจนเขาอาซานอีซา ฉนั ก็จะกลับไปอาบน้�ำและ เดินมาบาลาเซาะห์ เพื่อละหมาดอีซาและละหมาดตรอเวียะห์(ละหมาดสุนัต เฉพาะในเดอื นรอมฎอนเทา่ น้นั ) ละหมาดรอเวยี ะห์ จะละหมาด ๒๓ รอ๊ กอะห หรือ ๑๑ ร๊อกอะห กไ็ ด้ แตฉ่ นั ชอบละหมาด ๒๓ ร๊อกอะห พอเสรจ็ เร็วกจ็ ะรีบ กลบั ไปนอน เพอ่ื ต่ืนกินขา้ วหวั ร่งุ ความรู้เด็กอย่างฉันก็อยากจะไปดูเพ่ือผู้ชายเขาเล่นจุดประทัด แตแ่ ม่ห้าม เวลาละหมาดจะได้ยินเสียงคนจุดประทัด บางครงั้ ฉันตกใจจนอ่าน ฟาตีฮะหผิดๆถูกๆ แต่ก็พยายามละหมาดจนเสร็จ คนที่ละหมาดตรอเวียะห์ ส่วนใหญ่เป็นคนเฒ่าคนแก่ ยายแม่จะละหมาดไม่ขาดเว้นแต่ประจ�ำเดือนมา พอชาวบ้านละหมาดเสร็จจะกินของหวานที่เหลือจากช่วงละศีลอดเพื่อเก็บ ภาชนะล้างใหเ้ รยี บร้อย จากนั้นกแ็ ยกยา้ ยกลบั บ้าน ยายเลา่ อกี วา่ ทวดจะสรา้ งบา้ นตดิ กบั บาลาเซาะหเ์ พราะงา่ ยตอ่ การสอน และคุมเด็กปอเนาะ ตากับยายก็รีบกลับบ้านไปนอนเพื่อจะได้ต่ืนมากินข้าว ตอนหัวรุ่งประมาณตี ๓ ยายจะเป็นคนตืน่ มาท�ำก่อนคนอืน่ ทวดฉันจะเป็นคน ท่ีให้สัญญาณว่าต่ืนมาท�ำกับข้าวได้ โดยตีกลองยาวใหญ่ท่ีท�ำจากหนังวัวซึ่ง ปัจจบุ นั กต็ งั้ ทบ่ี าลาเซาะหน์ น้ั แหละ เม่ือถึงเวลาตี ๓ ทวดก็จะตี ๓ ที เปน็ การ ใหส้ ญั ญาณใหช้ าวบา้ นตนื่ มาท�ำกบั ขา้ วเพราะสมยั กอ่ นไมม่ ไี มโครโฟน ไมม่ ไี ฟฟา้ ใช้ก็เลยใช้สัญญาณท่ีตกลงร่วมกันของชาวบ้าน ยายจะอุ่นอาหารต้มน้�ำด้วยไม้ ฟืนเลยต้องใชเ้ วลานานหน่อย เสรจ็ แล้วจะปลกุ คนในบ้านให้ต่ืนมากนิ ข้าว ฉันรู้ ถงึ บรรยากาศทย่ี ายเลา่ เวลาหวั รงุ่ นนั้ อากาศเยน็ แตล่ ะคนตอ้ งปลกุ หลายสบิ ครง้ั ถึงจะตื่น ถ้าไม่ตื่นก็กลัวจะเหน่ือยเพราะกลางวันต้องอดอาหารและเป็นการ ดีกว่าถ้าเราต่ืนเพราะกินข้าวช่วงนี่ได้บุญด้วย ครอบครัวยายก็ตื่นทุกวัน ลูกๆ ยายท่ีเล็กๆ ถ้าไม่ปอซอตาก็ให้ตื่นมากินข้าวเฉยๆ บางคร้ังอาจจะให้ฝึก

เรอื่ งดีๆ ทบี่ า้ นเรา 115 ปอซอคร่ึงวันเช้า พอพักเท่ียงก็กินข้าว กินข้าวเสร็จต่างแยกย้ายไปละหมาด ตะหญุด(ละหมาดซุนนะหในชว่ งกลางคืน) และอา่ นอลั กลุ อาน รอเสียงอาซาน เพือ่ ละหมาดซุบฮิ (ละหมาดใกล้ร่งุ เช้า) โตะ๊ ปาเกกพ็ ร้อมกนั ที่บาลาเซาะหเ์ พื่อ อาซานและอีกอมะห การละหมาดและการอ่านอัลกุรอานในเดือนรอมฎอนนี้ เปน็ เดอื นทแ่ี ขง่ กนั ทำ� ความดี จะเหน็ วา่ จะมคี นอา่ นอลั กรุ อานมากกวา่ เดอื นอน่ื ๆ เราสามารถละหมาดทบ่ี งั คบั และท่เี ป็นซุนนะห (ส่งเสรมิ ให้ละหมาด) มากมาย เช่น ละหมาดบังคับมี ๕ เวลา ละหมาดซุนนะหฎฮา ละหมาดตรอเวียะห ละหมาดตะหญูด ละหมาดวีตีร ละหมาดรอวาตีบ ละหมาดวูฎฆ ละหมาด เตาบตั ละหมาดซโู กร เปน็ ตน้ ผทู้ ต่ี อ้ งการใกลช้ ดิ กบั พระเจา้ สามารถทจ่ี ะทำ� การ ละหมาดได้โดยมีหลักเกณฑ์ท่ีต้องทราบ ซึ่งเราสามารถศึกษาจากบาบอ หรอื ต�ำรา และอัลกรุ อาน ในเดือนรอมฎอนผู้คนจะบริจาคทานซ้ือน�้ำตาลทราย ลูกอินทผาลัม มอบให้กันและกัน ตกเย็นจะไปช่วยท�ำกับข้าวที่บาลาเซาะห์ใน วนั ทเี่ ปน็ เวรของเรา วนั ทไ่ี มใ่ ชเ่ วรกเ็ ขา้ ครวั ทบี่ า้ นทำ� กบั ขา้ วยายชอบทำ� แกงเตม็ หมอ้ เพอื่ แจกชาวบา้ นใกลเ้ คยี ง ญาตพิ นี่ อ้ งดว้ ย พอแกงเสรจ็ ยายกช็ อบสงั่ แมใ่ ห้ ไปแจกแกงใหท้ วด (แม่ของยาย) ใหน้ ้า ใหอ้ า ใหเ้ มาะลง เมาะแย กะเมาะ แม่ ฉันจะเลือกบ้านที่ไม่ไกลจากบ้านของยายจะได้ไม่ต้องเดินมาก น้องๆของแม่ก็ เช่นเดยี วกันเดนิ พาปิน่ โตแจกจา่ ยเช่นเดียวกัน เมื่อมีชาวบ้านเกิดลูกตัวน้อยๆก็จะมาตามทวดให้ไปอาซานและเปิด ปากเดก็ ทารก เมอ่ื อายุ ๗ วนั กจ็ ะต้ังช่ือ ทำ� การคิตนั (การขลบิ อวยั วะเพศหญงิ ) โกนผมรวมถึงท�ำอาหารกินเล้ียงเรียกว่า “อากีเกาะฮ” ส่วนเด็กผู้ชายเมื่ออายุ ประมาณ ๗ ขวบ จะเขา้ สนุ ตั (การขลบิ ปลายอวัยวะเพศชาย) สมยั กอ่ นต้องนง่ั บนลำ� ตน้ กลว้ ยใหห้ มอชาวบา้ นมาขลบิ ให้ แตส่ มยั นหี้ มอสมยั ใหมก่ ส็ ามารถทำ� ได้ แตใ่ นงานเลยี้ งทกุ งานกไ็ มพ่ น้ บาบอทจ่ี ะตอ้ งไปอา่ นดอู ารค์ ลา้ ยๆ กบั เปดิ ประทนุ งานเลย้ี งทกุ ๆงาน เมื่อมีคนแต่งงาน “นีกะฮ” ฝ่ายชายเป็นคนเตรียมสินสอด ฝ่ายหญิง มวี าลี (ผปู้ กครอง) พยาน ๒ คน โต๊ะอิหม่ามหรอื บาบอเป็นคนแต่งงานให้โดย

116 เรื่องดๆี ท่บี ้านเรา ใหผ้ ชู้ ายกลา่ วตอ่ หนา้ พยานและญาตๆิ และใหฝ้ า่ ยหญงิ ฟงั และรบั คำ� กลา่ วนนั่ ถอื เป็นอันเสร็จสิ้น “การนีกาฮ” เป็นการป้องกันไม่ให้กระท�ำการผิดประเวณี “การซนิ า” เพราะการซนิ าเปน็ บาปใหญ่โทษถ้าเป็นชายโสด หญิงโสด ต้องโบย ร้อยที เม่ือมีคนตายในหมู่บ้านชาวบ้านก็จะช่วยขุดหลุมฝังศพ อาบนำ้� ศพ เพ่ือท�ำการละหมาดเป็นครั้งสุดท้ายและท�ำการฝังหลุมที่กูโบร์ บ้านยายฉัน สมยั กอ่ นเมอ่ื เปน็ คนตายถา้ เปน็ เพศชายทวดฉนั จะตกี ลอง ๒ ที ถา้ เปน็ เพศหญงิ จะตี ๑ ที เป็นการประกาศใหผ้ ชู้ ายในหมู่บา้ นโต๊ะปาเกใหม้ าละหมาดศพพรอ้ ม กัน เมื่อจัดการศพเรียบร้อยชาวบ้านมักท�ำบุญโดยการหุงข้าวทุกวันเป็นเวลา ๗ วนั โดยเชญิ บาบอไปอ่านอัลกุรอานทบี่ า้ นคนตายทกุ คนื จนถงึ วนั ทเี่ จด็ และ จะมีการเฝ้ากูโบร์จนครบ ๗ วันเช่นเดียวกัน เร่ืองน้ีเป็นประเด็นท่ีโต้เถียงกัน ระหวา่ งชาวบา้ นรนุ่ กอ่ นกบั คนทม่ี กี ารศกึ ษารนุ่ ใหม่ เนอ่ื งจากประเพณบี างอยา่ ง ไมใ่ ชข่ องอสิ ลามแทแ้ ตไ่ ดร้ บั มาจากพราหมณ-์ ฮนิ ดบู า้ ง พทุ ธบา้ ง ทำ� ใหม้ นั แทรก เขา้ มาอยใู่ นประเพณคี วามเชอ่ื โดยไมร่ ตู้ วั ส�ำหรบั เรอื่ งเมอ่ื มคี นตาย ศาสนาบอก วา่ ใหร้ ีบจัดการกบั ศพใหเ้ รว็ ทส่ี ดุ จากน้ันให้สำ� รวจผตู้ ายมหี นี้หรอื ไม่ถ้ามใี หร้ บี จ่ายและถ้ามีลูกก�ำพร้าก็ให้ญาติๆ ช่วยดูแล การท�ำอาหารเล้ียงกันเพื่อนบ้าน นั่นแหละที่ต้องช่วยกันท�ำให้บ้านที่มีคนตายเพราะเขาก�ำลังทุกข์ก�ำลังล�ำบาก ก�ำลังขาดก�ำลังใจ ย่ิงมีลูกเล็กๆด้วยแล้วไม่สมควรอย่างยิ่งท่ีเขาจะต้องมาเล้ียง คนทม่ี าแสดงความเสยี ใจโดยการเลี้ยงขา้ ว ส่วนการเฝา้ กโู บร์นน้ั “มีฮาดิษหนึง่ บอกวา่ เมอ่ื มีคนหนึง่ ตายความดี ๓ ประการท่ีจะตามเขาไป ๑ ลกู ท่ซี อและห์ท่ี หมน่ั ขอดอู าหใ์ ห้ ๒ ซอดาเกาะหท์ เ่ี ปน็ คณุ ประโยชน์ ๓ ความรทู้ เ่ี ราสอนคนและ เป็นคุณประโยชน์ให้กับคนที่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะฉะนั้นแล้วความดีอื่นๆที่นอก เหนอื จากนี้ เชน่ การเฝา้ กโู บร์ การท�ำบญุ คนตาย การใหโ้ ต๊ะครซู ึง่ ไม่เกีย่ วข้อง กนั ทางสายเลอื ดมาทำ� ใหถ้ อื วา่ เปน็ การกระทำ� ทเี่ รยี กวา่ “อตุ รกิ รรม” คอื คดิ ขน้ึ มาว่ามันดีก็เลยกระท�ำตามจนเป็นประเพณี อิสลามไม่ใช่ศาสนาท่ีเกิดจาก ความเชื่อ แต่มาจากพระเจา้ ดังนนั้ เรือ่ งเลา่ ขาน ประเพณีตา่ งๆ ทีไ่ ม่ใชข่ องแท้

เรอ่ื งดีๆ ท่บี า้ นเรา 117 จะค่อยเส่ือมสลายไปจากคนรุ่นไปท่ีมีการศึกษาเปล่ียนวิถีการคิดสู่การปฏิบัติ เพราะเป้าหมายของเรามิใช่ใครชนะหรือแพ้ แต่หมายถึงการงานท่ีอัลลอฮฺทรง ตอบรับว่าถูกต้องและเป็นหน้าที่ของคนเฒ่าคนแก่ คนหนุ่มคนสาว คนทุก คนที่จะตอ้ งเผยแพร่ความรทู้ ่ถี ูกตอ้ งสสู่ ังคมรวมถงึ พีน่ ้องตา่ งศาสนกิ ด้วย อิสลามขาวสะอาดและบริสุทธิ์เพราะมาจากพระผู้เป็นเจ้าไม่มีศาสนา ไหนท่ีเป็นศาสนาท่ีอัลลอฮฺรับประกันว่าถูกต้องเหมือนอิสลาม เพราะฉะนั้นจึง ไม่แปลกอะไรทว่ี ถิ ชี วี ติ ทุกอยา่ งมสี ายสัมพนั ธ์ เพอื่ ให้อลั ลอฮฺพอใจและตอบรบั การท�าความดขี องเรา การท�าเมาลิดนบี การทา� บุญคนตาย ล้วนไมใ่ ช่แบบฉบับ ที่ท่านนบมี ฮู มั หมัด (ซล.) ทรงทา� เปน็ แบบอยา่ งสิ่งไหนที่นบีทา� เราคนร่นุ ใหมก่ ็ จะสานต่อสิ่งไหนท่ีนบีไม่ได้ท�าฉันก็ไม่กล้าปฏิบัติตามเพราะไม่มีใครรับประกัน ได้ว่าเราจะได้เข้าสวรรค์ของอัลลอฮฺหรือไม่ ฉันก็ได้สัญญากับตัวเองว่าจะต้ังใจ สานต่อเรื่องดีๆและจะเปลย่ี นแปลงเร่อื งไม่ดีออกจากสังคม เรอ่ื งราวทด่ี ฉิ นั ไดเ้ ลา่ ทง้ั หมดนน้ั ตอ้ งการสอื่ ใหเ้ หน็ วา่ คนรนุ่ ใหมต่ อ้ งใฝ่ รู้ใฝ่เรียน ความรู้ในโลกมีอยู่มากมาย ประเพณีวัฒนธรรมของคนที่น่ีมีพื้นฐาน มาจากศาสนา เพราะศาสนาอิสลามคือวถิ ชี ีวิต (muslim way of life) แตส่ ่งิ ตา่ งๆเหล่านกี้ า� ลังจะเปล่ียนแปลงคนรนุ่ ใหม่ เยาวชนส่วนใหญก่ า� ลังหลงอยู่กับ เทคโนโลยี ตดิ การคยุ โทรศพั ท์ เล่นเฟสบคุ๊ (facebook) โดยไม่สนใจความเป็น ไปของสงั คม ปญั หาทต่ี ามมาคอื สงั คมขาดกา� ลงั ทจี่ ะพฒั นาหรอื สานตอ่ เรอ่ื งเลา่ ดีๆที่คนเฒ่าคนแก่ได้เก็บไว้ ปัญหาใหญ่ท่ียังแก้ไม่ได้คือ เยาวชนติดยา ด่ืมใบกระท่อม สูบบุหร่ี ต้ังแต่ยังอายุน้อยๆ เมื่อสังคมเป็นเช่นนี้แล้วลูกหลาน เราก็เสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อได้ง่าย ดิฉันอยากจะประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ใหญ่ ในสงั คมชว่ ยแกไ้ ขเรอื่ งยาเสพตดิ ทหี่ าซอ้ื งา่ ยยงิ่ กวา่ นา้� ดมื่ และสง่ เสรมิ การศกึ ษา เพราะการศึกษาท�าให้สังคมเจริญ ประเทศชาตพิ ฒั นา

118 เรือ่ งดีๆ ทบ่ี ้านเรา เรอื่ งดีๆ ที่บา้ นเรา นางสาวณัชชา สุราตะโก “...โอ่ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา โอ่ โอ ปักษ์ใต้บ้านเรา แม่น�้ำภูเขาทะเล กว้างไกล อยา่ ไปไหน กลับใต้บ้านเรา อยา่ ไปไหน กลบั ใต้บา้ นเรา...” ทุกครั้งท่ีได้ฟังเพลงน้ีดิฉันจะรู้สึกได้ถึงความงดงามของภาษาถิ่น วฒั นธรรม สถานที่ท่องเทย่ี วทางธรรมชาติท่สี วยงามและอาชีพท่หี ลากหลาย ของคนใต้ ท้ังยังรู้สึกได้ถึงลักษณะนิสัยใจคอของคนใต้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี ยิ้มแย้มแจ่มใสและร่าเริงอยู่เสมอ ในฐานะท่ีดิฉันเป็นหน่ึงในเยาวชนคนใต้ ดิฉันอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวอันดีงามของคนใต้ให้ทุกคนได้รับรู้ โดยเฉพาะ เรื่องราวในจังหวัดที่ดิฉันรักและภาคภูมิใจมากท่ีสุด นั่นคือจังหวัดสงขลา ซ่ึงเป็นจงั หวดั ที่ดฉิ ันเกิดและอาศยั อยนู่ ั่นเอง จงั หวดั สงขลาเปน็ จงั หวดั ทมี่ พี น้ื ทใี่ หญเ่ ปน็ อนั ดบั ๓ ของภาคใต้ มผี คู้ น หลากหลายเช้ือชาติ ทั้งไทยพุทธ จีน และอิสลาม ท�ำให้เกิดการผสมผสาน ระหวา่ งประเพณแี ละวฒั นธรรมทางศาสนา กอ่ เกดิ เปน็ วฒั นธรรมทม่ี คี วามเปน็ เอกลักษณเ์ ฉพาะของจงั หวัดสงขลา ดิฉันเกดิ ที่ตำ� บลสทงิ หมอ้ อำ� เภอสงิ หนคร จังหวัดสงขลา พ่อของดิฉันมีอาชีพเป็นชาวประมงซ่ึงเป็นอาชีพหลักอย่างหนึ่ง ของคนจงั หวดั สงขลา แมข่ องดฉิ นั มอี าชพี รบั จา้ งท�ำงานโรงงานทา่ นจงึ ฝากดฉิ นั และพ่ไี ว้กับคุณปู่ คุณย่า บ่อยครง้ั ท่ดี ิฉันและพ่จี ะแวะไปเท่ียวเล่นที่บ้านคณุ ตา คณุ ยายซงึ่ อยใู่ กลก้ นั ตำ� บลสทงิ หมอ้ นี้ มชี อื่ เสยี งเรอื่ งการปน้ั หมอ้ ปน้ั ดนิ เผามาก แม่มักจะซ้ือชุดหม้อปั้นดินเผาส�ำหรับเด็กเล่นหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “หม้อตุก”

เรื่องดๆี ท่บี า้ นเรา 119 มาใหด้ ฉิ นั และพนี่ อ้ งเลน่ อยเู่ สมอ ดฉิ นั ยงั จำ� เรอ่ื งราวทเี่ กดิ ขน้ึ ไดด้ ี มอี ยคู่ รง้ั หนงึ่ ดิฉันกับพ่ีอยากเล่นหม้อตุกมากเลยบอกให้คุณตาพาไปซ้ือ คุณตาเลยพาดิฉัน กับพี่นั่งรถเข็นไม้ซ่ึงคุณตาท�ำเองแล้วคุณตาก็ลากพาพวกเราไป คุณตาเล่าไป ตามทางวา่ สมัยทคี่ ุณตาท�ำรถเขน็ คันนี้ คุณตาใช้เลอ่ื ยมอื เลื่อยตกแตง่ ไมเ้ อาเอง เพราะในสมัยน้ันยังไม่มีเลื่อยกล คุณตาต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่า จะไดไ้ ม้ที่เรียบแบบน้ี ดิฉันรสู้ ึกทงึ่ ในตัวของคุณตามากทีเดียว คุณตาบอกพวก เราเสมอว่าเกิดเป็นมนุษย์ต้องท�ำในสิ่งที่มีคุณค่า มีประโยชน์ต่อผู้อื่นให้มากๆ ใหส้ มกบั ทไ่ี ดช้ อื่ วา่ เปน็ สตั วป์ ระเสรฐิ ระยะทางทค่ี ณุ ตาพาพวกเราไปกวา่ จะถงึ ที่ หมายนั้นนับว่าไกลพอสมควร ท่านเดินลากรถเข็นไปตามทางถนนลูกรังซึ่ง ล�ำบากมาก ดิฉันกับพี่ที่นั่งอยู่รู้สึกสงสารท่านก็เลยบอกว่าไม่อยากซ้ือแล้วให้ คณุ ตาพาพวกเรากลบั บา้ นเถอะ คณุ ตากบ็ อกวา่ เมอ่ื ตดั สนิ ใจและลงมอื ท�ำอะไร ไปแล้วก็ต้องท�ำให้ถึงท่ีสุด ดิฉันกับพี่ก็เลยลงมาเดินเป็นเพ่ือนคุณตา สองข้าง ทาง ท่ีพวกเราทั้งสามคนเดินผ่านนั้นเป็นทุ่งนาท่ีเต็มไปด้วยต้นข้าวเขียวขจี คุณตาเล่าว่าการท�ำนาน้ันต้องใช้ความพยายามและความอดทนสูงมากเพราะ ค่าตอบแทนท่ีได้รับบางครั้งไม่คุ้มทุน แต่ส่ิงท่ีชาวนาได้รับคือ ความภาคภูมิใจ ท่ีได้ปลูกข้าวเลี้ยงคนทั้งประเทศ ท่านจึงสอนฉันและพี่ว่า ให้กินข้าวให้หมด เพื่อเป็นการขอบคุณชาวนา ระหว่างทางดิฉันเห็นวัดวัดหน่ึงเลยถามคุณตาว่า น่ันคือวัดอะไร ท่านตอบว่านั่นคือวัดโลการาม ภายในร้ัวของวัดมีต้นไม้ใหญ่ ต้นหน่ึงและมีรูปปั้นงูตัวใหญ่ยักษ์พันอยู่ บนหัวของงูใหญ่ยักษ์ตัวนี้มีหงอนสี แดง ดวงตาของงตู วั น้กี ็มีสแี ดงดว้ ย ดฉิ นั ยนื จอ้ งรปู ปั้นงตู วั นน้ั จนรู้สึกกลวั มาก คุณตาคงจะรับรู้ถึงความรู้สึกของดิฉันจึงพาดิฉันและพี่เดินไปทางอื่น ระหว่าง ทางทา่ นกบ็ อกวา่ นนั่ คอื รปู ปน้ั ทวดงตู าหลวงรองทมี่ าปกปกั ษร์ กั ษาวดั โลการาม เดิมทที า่ นเป็นพระมาจากภาคเหนอื เดนิ ทางธดุ งคล์ งใต้และได้มาปักกรด ณ ท่ี แหง่ น้ี มชี าวบา้ นน�ำของมาถวายท่านทกุ วัน จนวันหนง่ึ ชาวบ้านทีน่ �ำอาหารมา ถวายไม่เห็นท่านแต่กลับพบงูตัวใหญ่ยักษ์ด้วยความตกใจจึงพากันวิ่งหนี

120 เร่ืองดๆี ท่บี า้ นเรา หลงั จากนนั้ กม็ คี นเขา้ ไปตดั ไมท้ ำ� ลายปา่ ในเขตพนื้ ทขี่ องวดั งใู หญย่ กั ษท์ ช่ี าวบา้ น เชื่อกันว่าเป็นร่างหน่ึงของพระตาหลวงรองได้ออกมาขับไล่ไม่ให้คนเหล่าน้ัน เข้าไปตัดไม้ทำ� ลายป่า ชาวบ้านจึงได้สร้างรูปปั้นทวดงูตาหลวงรองขึ้นเพื่อเป็น ทส่ี กั การบชู า ดฉิ นั สงสยั วา่ ทำ� ไมถงึ เรยี กวา่ ทวด แตต่ อนนนั้ ไมไ่ ดค้ ดิ อะไรมากจงึ ไม่ได้ถามคณุ ตา ดิฉันรจู้ ากพ่อในภายหลงั ว่า คนอำ� เภอสงิ หนคร จังหวัดสงขลา มกั เรยี กบคุ คลสำ� คญั ทต่ี ายไปแลว้ และเชอ่ื วา่ กลบั ชาตมิ าเกดิ ในรา่ งของสตั วต์ า่ งๆ ว่าทวด เช่น ทวดงูตาหลวงรอง ทวดหัวเขาแดงหรือทวดจระเข้ ทวดเขาเขียว และทวดหมุ ซงึ่ เปน็ ผดู้ แู ลสสุ านของคนทนี่ บั ศาสนาครสิ ต์ เปน็ ตน้ หลงั จากทเี่ ดนิ ผ่านวัดมาได้ไม่นานนักก็ถึงโรงงานปั้นหม้อปั้นดินเผา ซ่ึงเป็นบ้านไม้ ๒ ชั้น ชั้นล่างเป็นใต้ถุนมีอุปกรณ์ปั้นหม้อวางอยู่ หลังจากที่เลือกหม้อตุกชุดที่ชอบใจ ได้แล้วพวกเราก็เดินทางกลับ ระยะทางไปกลับครั้งนั้นนับว่าไกลมากทีเดียว ส�ำหรับดิฉันและพี่ที่ยังเล็กอยู่มาก แต่เราก็ไม่รู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยมากนัก อาจเป็นเพราะเรื่องเล่าระหว่างทางมากมายท่ีคุณตาเล่าให้ฟัง หรืออาจเป็น เพราะได้ของเล่นช้ินที่ต้องการแล้วจึงหายเหน่ือยเป็นปลิดทิ้ง ดิฉันยังจ�ำได้ว่า เมอ่ื ครงั้ ทค่ี ณุ ตาซอ้ื รถกระบะสนี �้ำเงนิ มาใหมๆ่ ทา่ นพาพวกลกู ๆ หลานๆ ไปเทย่ี ว หาดทรายแกว้ หาดทรายแกว้ นน้ั เปน็ สว่ นหนง่ึ ของทะเลสาบสงขลา อยทู่ างดา้ น ทศิ เหนอื ของชายหาดแหลมสมหิ ลา หากเดนิ ตามชายหาดจากหาดทรายแกว้ ลง มาทางทศิ ใตเ้ รอ่ื ยๆ กจ็ ะเจอกบั แหลมสมหิ ลาหาดทรายแกว้ นนั้ เปน็ หาดทรายที่ น�้ำทะเลมีแสงระยิบระยับออกมาคล้ายกับว่ามีเพชรมากมายอยู่ใต้ท้องทะเล ดฉิ นั ถามพ่อว่าในทะเลมเี พชรไหม พอ่ บอกวา่ ในอดีตเคยมี แล้วทา่ นก็เลา่ เรอ่ื ง เกาะหนู-เกาะแมวให้ดิฉันฟังพร้อมท้ังช้ีไปยังเกาะหนู-เกาะแมวท่ีอยู่ตรงหน้า ในตอนน้ันดิฉันรู้สึกว่าเกาะหนูและเกาะแมวมีชีวิตจริงๆ และก�ำลังเล่นไป ตามบทที่พ่อพูด ดิฉันคิดว่าน่ันคงเป็นภาพท่ีดิฉันจินตนาการไปเอง ดิฉัน รูส้ กึ สนุกมากทุกคร้ังท่ีได้ไปเท่ียวทะเล เพราะดฉิ ันชอบเลน่ น้�ำทะเลมาก เม่ือมี โอกาสไปเท่ียวที่หาดทรายแก้วดิฉันก็มักจะด�ำน�้ำบริเวณตื้นๆ เล่นงมหาหอย

เร่อื งดๆี ทบี่ ้านเรา 121 ในทะเลกบั พ่ี เรอื่ งเลา่ ทงั้ หมดทเี่ ลา่ มานนั้ เปน็ ความทรงจ�ำในวยั เดก็ ตอนทดี่ ฉิ นั อาศยั อยทู่ ตี่ ำ� บลสทิงหม้อ อ�ำเภอสิงหนคร จังหวดั สงขลา เม่ือแม่คลอดน้องสาวคนท่ี ๑ แล้ว คุณตากับคุณยายก็พาครอบครัว ของดิฉันย้ายมาอยู่ที่ต�ำบลปริก อ�ำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และให้พวกเรา อาศยั อยทู่ ีบ่ ้านเดมิ ของทา่ น ซึง่ เป็นบา้ นคร่ึงไม้ครงึ่ ปนู ๒ ชั้น ตอนทเ่ี พ่งิ มาอยู่ แรก ๆ ดฉิ ันรสู้ ึกกลัวมากทีเดียวเพราะมแี ต่ปา่ รกทบึ มสี วนยางพาราตลอดทาง ถนนก็คับแคบและเป็นถนนลูกรังสีแดงอิฐอีกด้วย คุณตากับคุณยายย้ายมาอยู่ กับพวกเราท่ีนี่ ท่านบอกว่าจะได้ท�ำงานได้สะดวกยิ่งข้ึน แม่พาดิฉันกับพ่ีไป สมคั รเรยี น ทโ่ี รงเรยี นบา้ นตะเคยี นเภา ซงึ่ เปน็ โรงเรยี นประถมอยไู่ มไ่ กลจากบา้ น มากนัก แต่ทว่าโรงเรียน ปิดรับสมัครนักเรียนแล้ว ดิฉันกับพ่ีจึงต้องหยุดเรียน หนึ่งปี ระหว่างน้ันพวกเราสองคนก็หาประสบการณ์โดยการตามคุณตากับคุณ ยายไปเก็บลูกปาล์มที่ไร่ด้วยความสงสัยว่าลูกปาล์มท่ี สีส้มๆ เหลืองๆ แดงๆ พวกนจี้ ะท�ำอะไรไดบ้ ้างก็เลยถามคณุ ยายดู ท่านบอกว่าในลูกปาลม์ จะมีน้ำ� มัน ซึ่งสามารถนำ� ไปท�ำน้�ำมันปาล์มได้ ส่วนเม็ดในสีดำ� ของลูกปาล์มสามารถนำ� ไป ผลิตเป็นเคร่ืองประดับได้ ดิฉันจึงถามคุณยายอีกว่าท�ำเองเลยหรือเปล่า ทา่ นบอกวา่ ทา่ นกบั คณุ ตาแคเ่ กบ็ ลกู ปาลม์ ไปสง่ ทโ่ี รงงานเทา่ นนั้ คณุ ยายบอกวา่ สมยั กอ่ นนน้ั ทา่ นกบั คณุ ตาทำ� งานนแ้ี คส่ องคนคณุ ตาจะแทงทลายปาลม์ ใหต้ กลง บนพื้นแล้วขนใส่รถสามล้อพ่วง ส่วนคุณยายก็น่ังเก็บลูกปาล์มท่ีร่วงลงพ้ืนใส่ กระสอบแล้วพาไปใส่ในรถสามล้อพ่วงคันเดียวกัน เมื่อเต็มรถสามล้อพ่วงแล้ว คุณตาก็จะขับไปส่งท่ีโรงงานซึ่งอยู่ไกลมากทีเดียว กว่าจะทำ� เสร็จในแต่ละวัน พวกท่านต้องท�ำงานจนมืดค่�ำจึงจะได้กลับบ้าน ดิฉันฟังแล้วรู้สึกสงสาร พวกท่านมาก แตก่ ร็ ้สู กึ ภาคภมู ิใจในตวั ของคณุ ตากับ คณุ ยายมากเช่นเดยี วกัน คณุ ยายบอกวา่ เดมิ ทีทีไ่ ม่มรี ถกระบะการเดนิ ทางไปตามทตี่ า่ งๆ ต้องเดินดว้ ย เท้าท�ำให้เสียเวลามาก แต่กลับได้ประสบการณ์ดีๆ มากกว่า เช่น ระหว่าง การเดินทาง คุณตากจ็ ะทักทายเพื่อนบา้ นไปด้วย ทำ� ใหท้ กุ คนจำ� คุณตาไดเ้ ป็น

122 เร่อื งดีๆ ทีบ่ ้านเรา อย่างดี อีกประการหนึ่งเม่ือมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็จะเล่าสู่กันฟัง หากเป็น เร่อื งท่ีคุณตาสนใจทา่ นก็จะเขา้ ไปฟังดว้ ย ดิฉนั เชื่อวา่ ประสบการณส์ องข้างทาง ทเ่ี ดนิ ไปนน้ั คุม้ ค่าและมีประโยชนม์ ากจริงๆ หลังจากท่ีดฉิ นั กับพไ่ี ด้เรยี นทโี่ รงเรียนบา้ นตะเคยี นเภาแลว้ คุณตากับ คุณยายก็มักจะกลับไปอยู่ท่ีสิงหนครหน่ึงเดือนแล้วจึงกลับมาท�ำงานท่ีนี่ ประมาณ ๒-๓ เดือนจากนั้นก็จะกลับไปที่สิงหนครอีกคร้ังหน่ึง เม่ือคุณตากับ คุณยายกลับมาจากสิงหนครท่านได้น�ำลูกสุนัขสองตัวมาให้ครอบครัวของฉัน เลี้ยง ลูกสุนัขตัวแรกมีขนสีขาวลายสีเทาอมน้�ำตาล พ่อตั้งชื่อลูกสุนัขว่า ทด และตงั้ ชอื่ ลกู สนุ ขั อกี ตวั ทมี่ ขี นสขี าวลายสสี ม้ อมนำ้� ตาลวา่ แทน พวกเราชว่ ยกนั ดูแลลูกสุนัขน้อยอย่างดี คุณตากับคุณยายก็ช่วยดูแลด้วย วันหนึ่งมีชาวไทย เชื้อสายจีนกลุ่มหน่ึงซึ่งรู้จักกับคุณตาคุณยาย มาขอลูกสุนัขไปเลี้ยงหน่ึงตัว พ่อกับแม่ไม่ขัดข้องแต่ฉันกับพ่ีไม่ยอมเพราะรู้สึกรักและผูกพันกับลูกสุนัขมาก แตถ่ ึงอยา่ งนัน้ ก็ไม่อาจขดั ใจผใู้ หญไ่ ด้ พอ่ กับแม่จึงใหท้ ดแกพ่ วกเขาไป หลงั จาก น้ันประมาณหน่ึงเดือนพวกเขาก็เอาทดกลับมาคืนให้ โดยบอกว่าทดไปท�ำลาย ขา้ วของภายในบา้ นของเขา ทดกดั เสอื้ ผา้ รองเทา้ และขับถ่ายไม่เป็นท่เี ปน็ ทาง จนพวกเขาสุดจะทนเลยนำ� ทดมาคืนให้ ตอนนั้นดิฉันรู้สึกดีใจมากๆ เพราะคิด วา่ ถา้ เปน็ คนอน่ื หากเจอเหตกุ ารณแ์ บบนก้ี อ็ าจจะฆา่ ทดทงิ้ ไปแลว้ กเ็ ปน็ ได้ ทำ� ให้ ดฉิ นั สงสยั ในวา่ ท�ำไมทดถงึ ไปทำ� ลายขา้ วของของพวกเขา ท้ังท่ีพอทดกลับมาก็ ไมม่ ที ที า่ วา่ จะทำ� อะไรแบบนนั้ ไดเ้ ลย คณุ ตาจงึ บอกวา่ เพราะสนุ ขั มคี วามซอ่ื สตั ย์ ต่อเจา้ ของของมนั มาก ดิฉันจึงคิดว่าตงั้ แตน่ าทแี รกทีพ่ วกเราได้พบกัน ทดคงให้ ค�ำม่ันสญั ญากับตัวเองแล้ววา่ เจา้ ของของทดกค็ อื พวกเราเทา่ นัน้ คณุ ตายังบอก อีกว่าสาเหตุที่พวกเขาไม่ฆ่าทด ก็คงเพราะเกรงใจคุณตากับคุณยายและพ่อ กับแม่ ที่สำ� คัญคอื ร้สู ึกผิดตอ่ ฉนั และพ่ีท่พี วกเขามาพรากทดไป คุณยายบอกว่า ความจรงิ ถ้าพวกเขาใช้ความอดทนมากกว่านกี้ ็อาจจะเล้ยี งดูทดไดเ้ พราะแมแ้ ต่

เรอ่ื งดีๆ ทบ่ี ้านเรา 123 หยดน�้ำอันน้อยนิดที่ย้อยลงกระทบหินทุกวันหินยังกร่อนได้เลย หากใช้ความ พยายามอยา่ งสม�ำ่ เสมอทกุ ๆ วนั สดุ ทา้ ยก็จะถงึ ความส�ำเรจ็ ได้เหมอื นกัน เร่ือง ราวของทดไดถ้ กู คณุ ตา คณุ ยาย พอ่ และแมน่ ำ� เอามาเปน็ ตวั อยา่ งในการอธบิ าย ถึงเรอ่ื งราวแห่งความสัตย์ซื่อและความกตัญญรู คู้ ุณใหฉ้ ันกบั พี่และน้องฟัง ชุมชนทด่ี ฉิ นั อาศยั อย่นู ั้นชาวบา้ นสว่ นใหญ่นบั ถอื ศาสนาอสิ ลาม มขี อ้ หา้ มวา่ หา้ มแตะตอ้ งสนุ ขั เดด็ ขาด วนั หนงึ่ ดฉิ นั และพป่ี น่ั จกั รยานไปโรงเรยี นทด กว็ ง่ิ ตามมาดว้ ยตอนทด่ี ฉิ นั และพร่ี ตู้ วั วา่ ทดวงิ่ ตามมานนั้ กป็ น่ั จกั รยานมาไดค้ รง่ึ ทางแลว้ พวกเราจงึ ตอ้ งไลท่ ดระหวา่ งทางแตท่ ดกไ็ มย่ อมกลบั บา้ นสดุ ทา้ ยกต็ าม มาจนถึงโรงเรียน โชคดีที่ชาวบ้านไม่ถือสาและแม่ก็ขับรถตามมาพอดีเลย สามารถพาทดกลบั บา้ นได้ ตอนแรกดฉิ นั กลวั วา่ คนในชมุ ชนจะทำ� รา้ ยมนั แตก่ ลบั ไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดข้ึนเลย ทุกคนยังคงท�ำกิจกรรมของตัวเองต่อไป ดิฉันรู้สึกภูมิใจในชุมชนของดิฉันมากที่ผู้คนรู้จักการเคารพสิทธิเสรีภาพของกัน และกนั แมจ้ ะตา่ งศาสนา ตา่ งความเชื่อ แต่ทกุ คนก็อย่รู ว่ มกันได้ เพราะทกุ คน อาศยั อยบู่ นผนื แผน่ ดนิ เดยี วกนั ชมุ ชนเดยี วกนั อ�ำเภอเดยี วกนั จงั หวดั เดยี วกนั ท่ีส�ำคัญคืออยู่ใต้ร่มธงไทยเหมือนกัน พ่อกับแม่พูดเสมอว่าคนใต้เป็นคนใจดี มีมิตรไมตรีกับทุกคน เป็นคนขยันและจริงจังกับการท�ำหน้าท่ีของตนเอง อย่างมาก คุณตาบอกด้วยว่าแม้ภาษาถ่ินใต้จะฟังดูหยาบๆ เพราะพูดส้ันๆ และฟงั ดูเหมอื นพดู ตะเบง็ เสียง จึงท�ำให้รู้สกึ เหมือนวา่ ขูแ่ ต่ความจริงแล้วคนใต้ เป็นคนจริงใจมากโดยเฉพาะ คนจงั หวัดสงขลา คณุ ตาบอกว่าภาษาถิน่ ใต้น้นั มี ความแตกต่างกันตามแต่ละจังหวัด และในแต่ละจังหวัดก็มีภาษาถิ่นใต้หลาย สำ� เนยี งอกี ดว้ ย ทา่ นยงั บอกอกี วา่ ภาษาถน่ิ ใตข้ องจงั หวดั สงขลาเปน็ ภาษาถน่ิ ใต้ ทฟี่ ังดแู ลว้ นุ่มนวลที่สดุ เร่ืองเล่าดีๆ ที่คุณตา คุณยาย พ่อและแม่เล่าให้ฟังและคอยว่ากล่าว ตักเตอื น อบรมส่งั สอนดิฉนั รวมทงั้ เร่ืองราวตา่ งๆ ทีด่ ิฉนั ได้พบเจอด้วยตนเอง

124 เรือ่ งดๆี ทบ่ี ้านเรา บนผืนแผ่นดินใต้ จังหวัดสงขลาน้ี ได้หล่อหลอมจิตใจของดิฉันให้เป็นคนรัก และภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด ดิฉันเชื่อว่าทุกๆ คนท่ีอยู่ในจังหวัดสงขลาและ ที่อาศัยอยู่ในภาคใต้บนผืนแผ่นดินไทยแห่งนี้คงจะได้รับรู้เรื่องราวในอดีตที่มี คุณค่าควรแก่การจดจ�าและระลึกถึง ไม่ว่าจะเป็นภาษาถ่ินใต้ ต�านานเล่าขาน เร่ืองต่างๆ ตลอดจนวัฒนธรรมประเพณีและวิถีชีวิตของคนใต้ท่ีนับถือศาสนา ตา่ งกนั แตก่ ส็ ามารถอาศยั อย่รู ว่ มกนั ได้ เพราะทกุ คนเคารพในสทิ ธเิ สรภี าพของ กันและกัน ดิฉันเชื่อม่ันว่าสิ่งท่ีทรงคุณค่าเหล่าน้ีจะน�าพาความสงบสุขร่มเย็น ใหค้ งอย่คู จู่ งั หวดั สงขลาและภาคใต้ ไปตราบนานเท่านาน

เรื่องดีๆ ทบี่ า้ นเรา 125 เร่อื งดีๆ ท่บี ้านเรา นายปญุ ญพฒั น์ แก้วทอง “เมือ่ วยั เยาวท์ วดเราเคยนง่ั เลา่ วฒั นธรรมอันเกา่ ท่ีทรงค่า สืบบุรุษต้นตระกลู แตน่ านมา ใหเ้ หน็ คา่ สิ่งดๆี ในบา้ นเรา แต่ละถ่นิ วฒั ธรรมก็โดดเด่น เปรียบดงั เช่นอญั มณีนา่ รักษา มีคุณค่ามอี ตั ลักษณต์ ระการตา อุ่นอุราคร้ังท่เี หน็ เปน็ สุขใจ” จงั หวดั ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตลู และสงขลา ๕ จงั หวัดชายแดน ภาคใต้ของประเทศไทย ล้วนแตม่ สี ิ่งที่งดงาม มีคุณค่า มที รพั ยากรธรรมชาตทิ ่ี อุดมสมบรู ณท์ ้ังบนบกและในนำ้� ผคู้ นหลากหลายเชอ้ื ชาติ ศาสนา หลายทีม่ า รวมเขา้ กนั กบั การสรรคส์ รา้ งของบรรพชน จนหลอมรวม เกดิ เปน็ ต�ำนานในการ ด�ำรงอยู่ของวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิต ซ่ึงล้วนเป็นสิ่งอันทรงคุณค่า จนเปน็ เรือ่ งดีๆ ท่บี า้ นเรา บ้านเรา แสนสขุ ใจ แมน้ จะอยู่ทีไ่ หน ไม่สขุ ใจ เหมอื นบา้ นเรา .... เสียง เพลง แว่วลอยออกมาจากบ้านทรงไทยภาคใต้โบราณ ทรงเครื่องสับ มีใต้ถุน หลังคาทรงปั้นหยา ที่คุณทวดของข้าพเจ้าอาศัยอยู่เป็นระยะเวลากว่า ๖๐ ปี มาแล้ว คุณทวดนางสุนีย์ อรุณรัตน์(โกไศยากานนท์) ท่านเป็นชาวไทยพุทธ เชอ้ื สาย จนี ชวี ติ คณุ ทวดผา่ นรอ้ นผา่ นหนาวมาแลว้ ถงึ ๕ รชั สมยั ทา่ นเกดิ ปลาย รัชสมัยรัชกาลที่ ๕ ผ่านการเปล่ียนแปลงมามากล้น ท้ังเปล่ียนแปลงจาก ธรรมชาติ จากมนุษย์ จวบจนปัจจบุ ันคุณทวดมีอายุถึง ๙๓ ปี ความชราจาก กาลเวลาทแ่ี ปรผนั ไมท่ ำ� ใหค้ วามทรงจำ� ในชว่ งชวี ติ ของทา่ นนนั้ เลอื นหายไป แต่

126 เร่ืองดๆี ที่บา้ นเรา กลับกลายชัดเจนข้ึน จนกลายเป็นว่าความทรงจำ� น้ี คือ ความสุขยามที่นึกถึง ยามใดท่ี ลูก หลาน และเหลนๆ กลับมาเยยี่ มเยอื น มักจะไปน่ังล้อมเพื่อรอฟงั ความทรงจำ� ของคณุ ทวดที่ เป็นเรอื่ งดๆี ท่ีบา้ นเรา คณุ ทวดเลา่ วา่ ชวี ติ ของทา่ นใชช้ วี ติ อยถู่ งึ ๕ จงั หวดั คณุ ทวดเกดิ ทส่ี งขลา คุณทวดมาโตท่ีปัตตานี คุณทวดมาอยู่ที่นราธิวาส คุณทวดแสวงหาหนทางทำ� กินทส่ี ตลู บ�ำรุงตระกลู ทยี่ ะลา คณุ ทวดเกดิ ทส่ี งขลา ความทรงจ�ำของจงั หวดั สงขลา มเี พยี งไมม่ ากนกั คุณทวดเกิดท่ีน่ี โตท่ีอื่น ความทรงจ�ำน้ันมีเพียงจากการบอกเล่าของแม่ทวด และการไดก้ ลบั ไปเยยี่ มเยอื นสงขลาเทา่ นนั้ มสี �ำนวนบทหนงึ่ ทข่ี า้ พเจา้ มกั ไดย้ นิ จากคณุ ทวด เมือ่ ยามเลา่ เรอ่ื งเก่ยี วกับถนิ่ ก�ำเนิด ทีว่ า่ “สงขลามีบอ่ ทง้ิ ท�ำหม้อ เกาะยอท�ำอา่ ง บอ่ ยางท�ำเคย” สำ� นวนน้ที า่ นบอกวา่ สงขลานั้นมีบ่อ มาจาก ท่ีว่า จังหวัดสงขลาน้ันมีต�ำบลท่ีมีค�ำข้ึนต้นว่า บ่อ มากมาย ส่วนท้ิงท�ำหม้อ มาจากต�ำบลจะทิ้งพระ ซ่ึงมีอาชีพการปั้นหม้อขาย ถัดมา เกาะยอท�ำอ่าง ชาวบ้านบนเกาะยอก็มีอาชีพท�ำโอ่งขาย ส่วนที่ว่า บ่อยางท�ำเคย มาจาก ภมู ศิ าสตรข์ องต�ำบลบอ่ ยาง ทอ่ี ยใู่ กลก้ บั ชายทะเล ชาวบอ่ ยางจงึ มอี าชพี ท�ำการ ประมง และทำ� เคย เปน็ อาชีพเสรมิ ตอ่ มาเมือ่ ปีพุทธศกั ราช ๒๓๕๘ หลังจาก ย้ายตัวเมอื งจากฝ่งั แหลมสน มาเป็นฝ่ังตำ� บลบอ่ ยาง จวบจนปจั จบุ ัน จึงท�ำใหม้ ี ความเจริญอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเมืองชายทะเล จึงมีการย้ายถิ่นท่ีอยู่ ท้ังชาวไทย ชาวจีนและชาวมุสลิม จึงมีการน�ำวัฒนธรรมมาหลอมรวมกัน จึงท�ำใหบ้ า้ นเมอื งจังหวดั สงขลา มกี ารท่อี ยอู่ าศยั ทัง้ แบบจนี อิสลามหรือแม้แต่ ชาวต่างชาติ มธี รรมชาตทิ างทะเลทส่ี มบรู ณ์ สวยงามเปน็ ที่เลอื งลือโดยเฉพาะ “ สมิหลา ” ท่านเล่าว่า เม่ือก่อนมีแต่คนจะไปประชันความสวยกับนางเงือก ทห่ี าดสมหิ ลาอยเู่ ปน็ ประจำ� หาดทรายกข็ าวสะอาดงามตา และไปสงขลาจะตอ้ ง ร้จู ัก “ ขนมทอด หนมคา้ งคาว ” แม่ทวดเคยบอกคณุ ทวดตอนเด็กๆ ว่าเป็น ขนมไทยโบราณที่สบื ทอดกันมากว่า ๑๐๐ ปี เปน็ ขนมท่ีมีรูปใสคล้ายค้างคาว กรอบนอก เนอื้ ในนมุ่ ลน้ิ มรี สชาตอิ รอ่ ย ซงึ่ เปน็ ขนมทที่ า่ นวา่ ทกุ ครงั้ ทไ่ี ปสงขลา

เรอื่ งดีๆ ทบี่ ้านเรา 127 ก็จะต้องซ้ือ หนมค้างคาว มานั่งกินเล่นที่หาดสมิหลา ทุกคร้ังไป อีกสิ่งหน่ึงท่ี ท่านจ�ำได้เก่ียวกับจงั หวัดสงขลา คอื วัดมัชฌิมาวาส เป็นวัดทท่ี า่ นจำ� ความได้ เน่อื งจากญาตทิ า่ นมักบวชที่วัดแห่งนี้ เปน็ วดั ทมี่ ีอายุเก่าแก่ถงึ ๔๐๐ ปี เลา่ ขาน กันวา่ วดั แห่งนี้สรา้ งขึ้นจาก ผู้คนหลากหลาย ท้งั ชาวไทยพุทธ มสุ ลมิ รว่ มกัน สร้างขึ้น นับเป็นส่วนหน่ึงของความทรงจ�ำที่คุณทวดกล่าวถึงจังหวัดสงขลา ในอดตี แตใ่ นปจั จบุ ัน จากเมืองหลากหลายวฒั นธรรม จังหวดั สงขลากไ็ ด้กลาย มาเป็นเมืองท่องเทย่ี ว เมืองทา่ เศรษฐกิจ สมดังคำ� ขวญั ท่ีว่า “ นกนำ้� เพลินตา สมหิ ลาเพลนิ ใจ เมอื งใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานตณิ ฯ ถ่ินธุรกิจแดนใต้ ” ทา่ นโตทปี่ ตั ตานี คณุ ทวดเลา่ วา่ เปน็ ชว่ งชวี ติ ทส่ี นกุ สนาน ทา่ นไดย้ า้ ย ตามครอบครัวมาอาศัยอยู่ในปัตตานี เพ่ือท�ำการค้าขาย ท่านเล่าว่า ท่านต้อง เปล่ียนการแต่งกาย มาใช้ผ้าบาเต๊ะ ซ่ึงเป็นฝีมือของชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัด ปัตตานี อีกทั้งยังเป็นวัฒนธรรมท้องถ่ิน ท่ีแสดงให้เห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะท่ี การแต่งกายแบบนี้ท�ำให้คุณทวดไม่แตกแยก เปรียบเสมือนเป็นคนในท้องถ่ิน นอกจากการแต่งกายคุณทวดยังได้รับวัฒนธรรมทางภาษา คือ ภาษายาวี ทา่ นสามารถพดู คยุ และคา้ ขายกบั ผคู้ นในทอ้ งถนิ่ ไดเ้ สมอื นกบั เปน็ ภาษาทต่ี ดิ ตวั ตั้งแต่ก�ำเนิด ท�ำให้ท่านดูกลมกลืนกับชาวมุสลิมได้อย่างดี และท่านยังมี บทกลอ่ มเดก็ ทท่ี ่านเคยกลอ่ มใหข้ ้าพเจ้าฟังเม่อื ยังเด็กเปน็ ภาษายาวที ี่วา่ “ บูฤง ปูนา แอกอ ลือบะ มาตี สาและ แดแฮ กายู สะยุ สุนา ตาเระ กอื บะ เมาะ เนาะ อูและ แมะตีโต บอื ราด”ู ซง่ึ มคี ำ� แปลที่วา่ นกเปลา้ หางดก ตายคาก่งิ ไม้ เป่าปีสีซอ แมจ่ ะกลอ่ ม ให้นอน บทกล่อมนี้นับว่าเป็นพื้นฐานท่ีท�ำให้ข้าพเจ้าสามารถพูดภาษายาวี คุณทวดยังเล่าว่า ที่ปัตตานี มีการแสดงท่ีน่าประทับใจ แล้วเป็นเอกลักษณ์ท่ี โดดเดน่ อย่างหน่ึงนั้น การแสดงพ้นื เมอื ง คณุ ทวดยงั เล่าอีกวา่ คณุ ทวดเคยเปน็ ตัวแทนหมู่บ้าน ท�ำการแสดงระบ�ำตารีกีปัส เป็นการแสดงนาฏศิลป์พื้นเมือง ของชาวไทยมุสลิมทางภาคใต้ของประเทศไทย เป็นการระบ�ำที่ใช้พัดในการ

128 เรือ่ งดีๆ ทบี่ า้ นเรา ประกอบการแสดง พร้อมท�ำนองเพลงท่ีได้รับอิทธิพลมาจากประเทศมาเลเซีย คืออินัง ตงั ลุง เป็นเพลงผสมผสานระหว่างมลายกู ับจนี ทีม่ คี วามไพเราะ น่าฟงั ลลี าทา่ รำ� ออ่ นช้อยงดงาม เป็นการแสดงทีเ่ ปน็ เอกลกั ษณ์ และสร้างชือ่ เสียงให้ กับจังหวัดปัตตานีที่ท�ำให้คุณทวดจดจ�ำท่วงท�ำนอง และท่าร�ำมาถึงปัจจุบัน ขา้ พเจา้ สงั เกตเหน็ มดี ทม่ี ลี กั ษณะ เรยี วและคด สว่ นโคนกวา้ ง วางอยใู่ ตฐ้ านพระ คุณทวดเล่าว่ากริชน้ันถือเป็นอาวุธประจ�ำกายที่ส�ำคัญซ่ึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึง ความเป็นชายชาตรี ฐานะทางสังคม เศรษฐกิจ ยศถาบรรดาศักด์ิของผู้เป็น เจ้าของและตระกูล และนิยมใช้กันแพร่หลายทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิม ในภาคใตข้ องไทย กรชิ เลน่ นเี้ ปน็ แบบสกลุ ชา่ งบูกสิ มใี บกริช ๗ คด ดา้ มแบบ หวั ลกู ไก่ ของบรรพบรุ ษุ ทค่ี ณุ ทวดไดเ้ กบ็ ไวใ้ หล้ กู หลานรู้ เพราะเปน็ สงิ่ ทส่ี ะทอ้ น เห็นถึงคุณค่าของภูมิปัญญาเกี่ยวกับการประดิษฐ์เคร่ืองศาสตราวุธโบราณของ ชาวไทยมลายูโบราณ ส่วนทางด้านอาหาร คุณทวดเล่าว่า อาหารพ้ืนเมืองท่ี จังหวัดปตั ตานี เปน็ ภมู ปิ ญั ญา วิถีชวี ติ ของชาวมสุ ลมิ เปน็ ส่วนใหญท่ คี่ ิดค้นและ ดดั แปลงใหเ้ หมาะสมกบั สภาพแวดลอ้ ม มที งั้ อาหารคาว หวาน ทเี่ ลอ่ื งชอื่ ไกก่ อ และ ขา้ วย�ำ (นาซกิ าบ)ู นาซิ ตปู ะซูตง ซาเตะ รอเยา๊ ะ ข้าวหมกไก่ ของคาว เหล่าน้ี ส่วนของหวาน ตลือบอ ปโู ละซามา ซาแบกเู วาะ (ขนมครก) จโู จ และ อาหารพ้ืนเมืองประเภทหมัก อีกอย่างหนึ่งท่ีมาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของ ชาวอำ� เภอสายบรุ ี จงั หวดั ปตั ตานี คอื การผลติ บดู ู เปน็ ทรี่ จู้ กั กนั อยา่ งแพรห่ ลาย มกี ารสบื ทอดกนั มาตงั้ แตส่ มยั บรรพบรุ ษุ นบั วา่ เปน็ อาหารหลกั ของชาวปตั ตานี อาหารเหล่าน้ีนับว่าผ่านฝีมือของคุณทวดท่ีได้รับมาจากการถ่ายทอดจาก เพ่อื นชาวมุสลมิ มาแล้วทงั้ นัน้ แล้วทา่ นยงั ไดถ้ ่ายทอดให้ คณุ ยาย คณุ แม่ และ ลูกหลานๆ เพราะ ท่านว่า พระพุทธเจ้าสอนธรรมว่า กรรมจะเป็นส่ิงเดียวที่ ติดตามคนไป ด่ังบทกลอนที่ว่า “พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง โททนต์เสน่ง คง ส�ำคัญหมายในกายมี นรชาติวางวาย มลายส้ินท้ังอินทรีย์ สถิตทั่วแต่ช่ัวดี ประดับไว้ในโลกา” ท่านบอกว่าตายไปก็เอาอะไรไปก็ไม่ได้ สถู้ า่ ยทอดใหล้ ูกหลานสบื ตอ่ ไวด้ ีกว่า เพื่อทส่ี ิ่งเหล่านี้จะไมส่ ญู หายไปไหน

เร่ืองดๆี ทบ่ี า้ นเรา 129 ท่านมาอยทู่ น่ี ราธวิ าส หลงั จากท่ที า่ นเตบิ โตมาในจงั หวัดปตั ตานี ก็ได้ แต่งงานมีครอบครัว แล้วย้ายมาอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส ท่านว่า ชีวิตท่านที่ นราธิวาส เปรยี บเหมือนการเดนิ ทางสูป่ ่าเขา ได้มคี วามสขุ กับธรรมชาติ ท่านได้ มาท�ำสวนที่นราธิวาส ได้ท่องเที่ยวอยู่ในพื้นท่ีธรรมชาติของจังหวัดนราธิวาส ท่านว่าธรรมชาติที่นราธิวาสนี้ช่างสมบูรณ์ ท่านเห็น ย่านดาโอ๊ะ หรือ ใบไม้ สีทอง มาก่อนที่จะเป็นของที่ระลึก ใบไม้สีทองน้ันหาชมได้จากน�้ำตกบาโจ เป็นพรรณไม้เถาเล้ือยชนิดพิเศษ อาศัยอิงอยู่กับไม้ใหญ่ตามที่โล่งริมล�ำธาร ใบไม้สีทองน้ันมีความงดงาม รูปร่างคล้ายหัวใจที่มีขนอ่อนนุ่มราวก�ำมะหยี่ ปกคลุมและท่ีส�ำคัญคือใบไม้จะค่อยๆ เปล่ียนจากสีเขียวเป็นสีทอง นับเป็น ความมหัศจรรย์ของนราธิวาสจริงๆ สถานท่ีต่อมาก็คือสถานที่ที่มี ธรรมชาติ ในดนิ แดนเงยี บสงบ “ พรโุ ตะ๊ แดง” ปา่ ไมผ้ ลดั ใบสดุ พิเศษ แตกต่างจากป่าไม้ ผลดั ใบประเภทอนื่ ๆ เพราะ ปา่ พรทุ พี่ บในบรเิ วณทลี่ มุ่ ตำ่� หรอื แอง่ ทม่ี นี ำ้� จดื ไหล เอื่อยเร่ือยรินผ่านตลอดเวลาเช่นน้ีน้ันมีอยู่ไม่มากนัก คุณทวดบอกว่า พรุโต๊ะแดง เป็นป่าพรุแห่งสุดท้าย ของเมืองไทยและเป็นป่าพรุท่ีเข้าถึงได้ง่าย ที่สุดใน เนื่องด้วยมีการจัดท�ำเส้นทางเป็นสะพานไม้ เหนือพ้ืนดินอันเป็น หยนุ่ ตม ทอดยาวคดโคง้ ผ่านดงพชื พรรณเขยี วครมึ้ ซึ่งมีแสงแดดสอ่ งลอดลงมา เพียงร�ำไรท�ำให้ร้วู า่ สถานทีแ่ หง่ น้คี อื มรกตอันงดงามของนราธิวาส คณุ ทวดแสวงหาหนทางท�ำกนิ ทสี่ ตลู ภายหลงั จากการสรา้ งครอบครวั คุณทวดจึงตัดสินใจออกเดินทางแสวงหาหนทางท�ำกิน เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่ ครอบครวั ลกู ๆ ตอ้ งเรยี นหนงั สอื ทา่ นจงึ ตดั สนิ ใจมาจงั หวดั สตลู จากการชกั ชวน ของญาติพนี่ อ้ งท่อี ย่จู ังหวัดสตลู ใหม้ าร่วมกันทำ� สวนปาล์ม ณ ต�ำบลผังปาลม์ ๔ อ�ำเภอ กวนกาหลง เพ่ือสรา้ งรายได้หาเงนิ ส่งเสียลกู ๆ จนเรยี นจบ ท�ำงาน รบั ราชการและกิจการสว่ นตวั คุณทวดมาอยจู่ งั หวดั สตูลเพอ่ื ท่ีจะท�ำสวนปาลม์ โดยทไี่ มม่ ีความรูอ้ ะไรเลยเก่ยี วกับการปลกู ปาล์ม การดูแล การค้าขาย แตท่ ่าน กไ็ ดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากคนในพนื้ ทท่ี ที่ �ำสวนอยกู่ อ่ นแลว้ นบั เปน็ ความงดงาม ของน�ำ้ ใจของคนควนกาหลง ทา่ นบอกวา่ ท�ำงานตั้งแต่เชา้ จรดเย็นเกือบทุกวนั

130 เรอ่ื งดๆี ท่ีบา้ นเรา ปลูกต้นปาล์ม ถางป่า แต่ก็มีบางครั้งที่ได้ไปเท่ียวงานประจ�ำปีนั้นก็คือ การ แข่งขันว่าวของจังหวัดสตูล เป็นงานประจ�ำปีที่สนุกสนาน มีว่าวที่สวยงาม ลวดลายแปลกตา รวมกบั ความสนกุ ของการเลน่ จนหนมุ่ ๆสาวๆ ลกู เดก็ เลก็ แดง คนแกค่ นเฒา่ ตา่ งกเ็ ทยี่ วงานทส่ี นกุ สนานและมอี าหารพน้ื เมอื งทนี่ า่ รบั ประทาน เชน่ น้ี บางครงั้ ไปเทย่ี วเกาะ ตา่ งๆของสตูลอยู่เรอ่ื ยๆ ถา้ นอกเหนือจากการทำ� สวนแลว้ ท่านบอกวา่ สตลู เปน็ เมอื งทส่ี งบ สะอาด ธรรมชาตบิ ริสทุ ธ์ิ ท้องทะเล ของจังหวดั สตูลงามตามาก น้ำ� ทะเลใส เปน็ สีฟ้าครามทสี่ ะทอ้ นแสงไดส้ วยงาม อดุ มไปด้วยสตั ว์ทะเลนานาชนิด ตดั กบั ปา่ เขาลำ� เนาไพรทเี่ ขียวขจี ความงามน้ี ยังตรึงตราอยู่ในความทรงจ�ำของท่านแม้นได้จากสตูลมาแล้วเป็นเวลากว่า ๔๐ ปกี ็ตาม บำ� รุงตระกูลที่ยะลา คณุ ทวดเล่าถึงจังหวัดยะลา ผา่ น ถอ้ ยค�ำท่รี อ้ ย เรียงเป็นจงั หวะ ทว่ งทำ� นอง นำ�้ เสียงอันหวนคำ� นึง โดยบทเพลง “ ยะลา” งามโอ้ยะลา จติ ใจใฝ่หายะลาเมอื งแกว้ งามผงั เมอื งงาม สวยงาม เพรศิ แพร้ว สมเปน็ เมอื งแก้วอาจิณ งามโอน้ บิ ง จิตใจลุม่ หลงนิบงงามสิ้น งามสาวนบิ ง ขอจงได้ยนิ ทุกนางงามส้ินตรงึ ใจ บาโกยเหมือนสวรรค์ หลกั เมืองนัน้ งามกระไร วัดถ�้ำเพลินใจ และยงั อาลยั เขอื่ นบางลาง วดั ถำ้� เพลนิ ใจ และยงั อาลยั เขอ่ื นบางลาง งามโอย้ ะลา ประเสรฐิ นกั หนา ประชาสรรค์สรา้ ง งามทั้งนำ้� ใจ รักไม่จืดจาง เหลอื เกินกล่าวอา้ งคำ� ชม บทเพลงนี้ ทำ� ใหข้ ้าพเจ้ารู้ว่า จังหวดั ยะลาเป็นเมืองท่นี ่าอยู่ คูส่ นั ตสิ ขุ อย่างยิ่ง เมืองยะลานา่ อยู่ จึงท�ำให้ลูกๆ หลานของคุณทวด ตา่ งก็ย้ายถน่ิ ฐาน มาอยทู่ จี่ งั หวดั ยะลา เพอ่ื มาศกึ ษาเลา่ เรยี น มารบั ราชการเปน็ ใหญเ่ ปน็ โต สรา้ ง ครอบครัว ท�ำการค้าขาย นับว่ายะลาเป็นสถานท่ีบ�ำรุงตระกูลของท่านให้มี

เร่ืองดีๆ ท่ีบา้ นเรา 131 ความเจรญิ รงุ่ เรอื ง เพราะยะลาเปน็ เมอื งเศรษฐกจิ มวี ฒั นธรรมอนั ดงี ามมากมาย ตลอดช่วงชีวิตท่ีผ่านมาที่ท่านได้ใช้ชีวิต มาถึง ๕ จังหวัด มีส่ิงหน่ึง ท่ีคุณทวดของข้าพเจ้า บอกว่าเป็นเรื่องอันดีงามนั้นก็คือ พวกเราแตกต่าง แต่ไม่แตกแยกกัน แม้ว่ามีวัฒนธรรมท่ีแตกต่างกัน ทั้งทางด้านที่อยู่อาศัย การด�ารงชีวิต อาหารการกนิ หรอื ประเพณที ่ีเกย่ี วกับการศาสนา พวกเราอย่กู ัน อยา่ งช่วยเหลอื เกื้อกูลกนั ตอนท่ีแม่ของทวด ทา่ นเสยี ชวี ิตลง ชาวบ้านมุสลมิ ใน ละแวกท่ีอยู่อาศัยต่างก็มาช่วยงานฌาปนกิจกิจศพ ไม่แยกแยะว่าเราเป็นคน ศาสนาไหน นบั ถอื อะไร แตท่ กุ คนกช็ ว่ ยกนั เพราะพวกเรามคี วามรกั ความผกู พนั มคี วามสามคั คตี อ่ กนั ไมว่ า่ พวกเราจะมาจากตา่ งทต่ี า่ งถนิ่ ตา่ งสถานะแตส่ งิ่ หนง่ึ ที่พวกเราเทิดทูนไวเ้ หนอื หัว นั้นกค็ ือ สถาบนั พระมหากษตั ริย์ คณุ ทวดกลา่ ววา่ ถ้าในหลวง ราชินี พระราชวงศ์ ไม่เสด็จมาพัฒนาบ้านเมืองเรา ท�าโครงการ พระราชด�าริมากมาย เพอ่ื พัฒนาให้คนมีความสขุ เราไม่มที ่ีอยู่ ทา่ นก็สร้างท่ีอยู่ ให้ เราไมม่ ขี า้ วกนิ ทา่ นกห็ าทใ่ี หป้ ลกู เราไมม่ คี วามรู้ ทา่ นกส็ รา้ งโรงเรยี นใหเ้ รยี น เราไม่มอี าชพี ทา่ นก็สรา้ งอาชีพให้เรา รวมถงึ ให้รจู้ ักความพอเพียง พออยู่ พอ กนิ พอใช้ เพอ่ื สรา้ งชมุ ชนใหน้ า่ อยแู่ ละจะเปน็ เรอ่ื งดๆี ทบี่ า้ นเราตลอดไปชวั่ กาล นานโดยได้อยู่กันอย่างมีความสุขสมดังพระราชด�ารัสในพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อยหู่ วั “...ในภาษาทกุ ภาษากต็ อ้ งมคี า� วา่ เมตตา คอื เออื้ เฟอ้ื ซง่ึ กนั และ กนั มองคนอนื่ ในทางทจี่ ะชว่ ยเหลอื เขามากกวา่ ทจ่ี ะไปแยง่ ชงิ เขา ทกุ ภาษา ทกุ ศาสนา กม็ ี จิตใจน้หี รอื วิธีการน้ี ขอให้ทา่ นทงั้ หลายท�าต่อไปดว้ ยความแนว่ แน่ และด้วยความสุจริตใจจะเป็นทางท่ีจะชว่ ยส่วนรวมให้ อยูเ่ ยน็ เป็นสุข...” กาลเวลาแม้จะแปรเปลี่ยนไปหลายๆ สิ่งรอบตัวก็เปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ โดดเดน่ ของบ้านเรา หรอื เรือ่ งดีๆ เราบา้ นเรา มนั กจ็ ะคงอยู่ ถ้าพวกเราชว่ ยกัน สืบสาน เล่าขาน และเราต้อง “...รักกันไว้เถิด เราเกิดร่วมแดนไทย จะเกิด ภาคไหนก็ไทยด้วยกัน เช้ือสายประเพณีไม่มีกีดกั้น เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชน ทกุ คนคือไทย....” เพยี งส่ิงน้จี ะทา� ใหเ้ รือ่ งๆทบี่ า้ นเราคงอยู่ถาวรไปชว่ั กาลเวลา

132 เรื่องดีๆ ท่ีบ้านเรา เร่ืองดๆี ที่บา้ นเรา นายโภคนิ จันทร์ทติ ย์ ในระบบสุริยะจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วยกาแล็คซ่ี หมน่ื แสนล้านรวมเข้าดว้ ยกนั ระบบสุรยิ ะจำ� นวนมากมายหล่อหลอมรวมกันใน ความวา่ งเปลา่ และเควง้ ควา้ งสดี ำ� มดี าวเคราะหส์ ฟี า้ ใสลอยตวั อยใู่ นระบบสรุ ยิ ะ จักรวาล ดาวเคราะห์ดวงนั้นคือ “โลก” ภายใต้สถานการณ์อดีตและปัจจุบัน โลกได้มีอารยธรรมต่างๆก่อกำ� เนิดขน้ึ มามากมาย อารยธรรมทเ่ี กา่ แก่ไดก้ อ่ ขน้ึ ทั่วทุกมมุ โลก ในอดีตมนุษย์ได้อยู่ร่วมกันภายใต้ความแตกต่าง ท้ังความแตกต่าง ทางชนชั้น ความแตกต่างทางความเชอ่ื ความแตกต่างทางแนวคดิ เม่ือมคี วาม แตกต่างก็ย่อมมีความเห็น แนวคิดที่ได้ตรงกัน ความคิดเห็นตรงกันข้าม คนละมมุ กเ็ หมอื นการมองกรวย ทค่ี นหนงึ่ มองกว็ า่ เปน็ สามเหลย่ี ม คนหนง่ึ มอง กว็ า่ เปน็ วงกลม คนหนง่ึ มองกว็ า่ เหน็ แตจ่ ดุ เลก็ ๆ แตค่ วามจรงิ แลว้ มนั กค็ อื กรวย ทล่ี ม้ อยสู่ ามารถมองไดห้ ลายมมุ มองจากมมุ หนง่ึ คอื สามเหลย่ี ม มองจากมมุ หนงึ่ คอื วงกลม แต่สดุ แล้วความจริงของแต่ละมุมมนั ก็คือกรวยอันเดยี วกัน ในโลกของเรามีความแตกต่างทางวัฒนธรรมสูงมาก แม้แต่ประเทศ เลก็ ๆอย่างประเทศไทย ก็มคี วามแตกต่างนั้นเฉกเชน่ เดยี วกบั ประเทศน้อยใหญ่ อืน่ ๆ ประเทศไทยมหี า้ ภาค มีภาคเหนอื ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ แตล่ ะภาคยอ่ มมวี ฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ งกนั ไปตามลกั ษณะภมู ปิ ระเทศ

เรื่องดีๆ ท่ีบา้ นเรา 133 ภาคใตข้ องประเทศไทยมี ๑๔ จงั หวดั แตล่ ะจงั หวดั มอี าณาเขตตดิ ทะเล ยกเวน้ จงั หวดั “ยะลา” จงั หวดั ยะลา เปน็ จงั หวดั เดยี วในภาคใตท้ ไ่ี มม่ อี าณาเขต ตดิ ทะเล เปน็ จงั หวดั ทอี่ ยู่ ณ ใต้สุดของสยามประเทศ โดยได้มเี ขตแดนติดกับ ประเทศมาเลเซีย หลากหลายวัฒนธรรมได้หล่อหลอมรวมกันอยู่ในจังหวัดเล็กๆใต้สุด ของประเทศ ยะลาได้รวบรวมความแตกต่างท่ีอยู่ร่วมกันอย่างลงตัวไว้ได้ อยา่ งมหศั จรรย์ คนไทย คนจนี คนมลายู คนชวา ได้ตั้งรกรากไวใ้ นจังหวัดนี้ ข้าพเจ้าเป็นเพียงนักเรียนมัธยมคนหนึ่งท่ีหลงใหลความเป็นอยู่ของ คนในจงั หวดั ตวั เอง อนั เน่อื งมาจากความหลากหลายทางวฒั นธรรม ทางสภาพ สังคม ความคิด ศาสนา น้ันมีความหลากหลายและแตกต่างเป็นอย่างมาก แตค่ นในจังหวดั ยะลาสามารถอยู่ร่วมกนั ได้อย่างมีความสขุ วถิ ชี วี ติ ของคนในจงั หวดั ยะลามคี วามเหมอื นทแี่ ตกตา่ งสามารถรวมกนั ไดอ้ ย่างกลมกลืน โดยในรุง่ เช้า หากได้ตื่นมาจะได้ยินเสียงละหมาดของผนู้ ับถอื ศาสนาอิสลาม ซึ่งเปน็ บรรยากาศทม่ี ีอยู่เปน็ ประจ�ำทุกวัน ซง่ึ หากเปน็ คนพุทธ หรอื คนไทยเชอ้ื สายจนี กย็ อ่ มถอื ไดว้ า่ นค้ี อื ขอ้ ไดเ้ ปรยี บของพวกเขา เพราะเสยี ง ละหมาดน้ันจะปลุกพวกเขาจากการหลับใหลท�ำให้ได้ต่ืนมาพบกับบรรยากาศ ยามเช้าที่น่าหลงใหล กล่าวได้ว่าคนในจังหวัดไม่มีการรังเกียจหรือร�ำคาญ ในกจิ วตั รของคนแตล่ ะศาสนา แตท่ กุ คนนนั้ กลบั เปดิ ใจยอมรบั ในความแตกตา่ ง ท่ไี ม่ไดส้ รา้ งความเสยี หายและมองเป็นข้อดีที่จะท�ำใหเ้ กิดประโยชนแ์ กต่ นเอง บอ่ ยครั้งทขี่ ้าพเจ้าจะต้องชว่ ยเหลือในงานบริจาค ท้งั เป็นผู้บรจิ าคเอง หรือแม้กระท่ังเป็นผู้ขอรับบริจาค ข้าพเจ้าเคยให้บริจาคแก่งานบุญทั้งของ ศาสนาตนเองและศาสนาอ่ืน ซึ่งตัวข้าพเจ้าเองน้ันก็ได้ให้การช่วยเหลือทุกคร้ัง แต่ภาพท่ีน่ายินดีนั้นคือทุกๆคนร่วมกันช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็น พุทธ คริสต์ อิสลาม และคนไทยเช้อื สายจีน ทุกๆคนร่วมแรงร่วมใจกนั พรอ้ มท่จี ะช่วยเหลอื

134 เรอื่ งดีๆ ท่ีบ้านเรา คนในจังหวัดของตัวเองอย่างเต็มที่ ครั้งหน่ึงข้าพเจ้าเคยเข้าร่วมค่ายเยาวชน ส�ำนึกรักท้องถิ่น รุ่นท่ี ๖ ในช่วงที่ข้าพเจ้าเข้าค่ายอยู่น้ันเป็นช่วงเดียวกับที่ ประเทศญป่ี นุ่ ไดป้ ระสบภยั พบิ ตั คิ รงั้ รา้ ยแรงทส่ี ดุ ทเี่ คยประสบมา นนั้ คอื โดนทงั้ สนึ ามขิ นาดใหญ่ อกี ทงั้ แผน่ ดนิ ไหวทมี่ คี วามรนุ แรงมาก ในตอนนน้ั หลายประเทศ ท่ัวโลกได้ให้การช่วยเหลือญ่ีปุ่นเป็นอย่างมาก แม้แต่ประเทศไทยก็ได้ให้การ ช่วยเหลือหลายต่อหลายด้านส่งคนไปช่วยเหลือ ให้เงินสนับสนุน สนับสนุน ทางด้านอาหาร คนไทยก็ได้ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี แต่ในจังหวัดเล็กๆ อยา่ งยะลาน้นั ก็ได้ใหก้ ารช่วยเหลืออย่างเตม็ ทเ่ี ช่นเดยี วกนั โดยคา่ ยท่ขี า้ พเจา้ ร่วมกิจกรรมอยู่ตอนนั้น ได้ให้เด็กๆ ในค่ายออกเรี่ยไรเงินพร้อมกับเจ้าหน้าท่ี เทศบาลนครยะลาของคนในจังหวัดยะลา ในตอนแรกข้าพเจ้าเกิดความท้อแท้ เพราะเงินท่ีได้มาตอนแรกน้ันได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่เม่ือข้าพเจ้าเดิน รบั บรจิ าคตอ่ ไป ทำ� ใหข้ า้ พเจา้ เปลย่ี นความคดิ ทำ� ใหข้ า้ พเจา้ ไดเ้ หน็ มมุ ทส่ี วยงาม ของคนในจังหวัด ภาพของคนในจังหวัดที่ช่วยเหลือคนต่างประเทศช่วยเหลือ คนอีกประเทศหนึ่งท่ีไม่เคยรู้จักไม่เคยพบเจอโดยใบหน้าท่ีเปี่ยมด้วยความสุข ของคนบริจาคเงินท�ำให้ข้าพเจ้ามีก�ำลังใจและมีความสุขอย่างประหลาด ในวันนน้ั การรับบรจิ าคเงนิ ไดด้ �ำเนินจนเสร็จสิ้น ในคราวแรกขา้ พเจา้ คิดวา่ เงนิ คงไดไ้ ม่เทา่ ไหร่เพราะในแคต่ วั เมืองเล็กๆจำ� นวนเงนิ คงไดไ้ มม่ าก แตห่ ากไดเ้ กิด สงิ่ อศั จรรยใ์ จอกี ครงั้ เมอื่ จ�ำนวนเงนิ มากเกนิ ทขี่ า้ พเจา้ คาดหมาย นน้ั เปน็ สงิ่ หนง่ึ ทีท่ �ำใหข้ ้าพเจ้าไดป้ ระจกั ษว์ า่ คนยะลามีน้�ำใจจรงิ ๆ จากทีข่ า้ พเจ้าได้กลา่ วมาหลายๆคนคงไม่เช่ือวา่ เรือ่ งราวเหลา่ นีเ้ กิดข้นึ ในดนิ แดนทเี่ ปน็ พน้ื ทส่ี แี ดงดนิ แดนทรี่ อ้ นระอไุ ปดว้ ยเสยี งปนื และระเบดิ ตามขา่ ว แต่ความจริงแล้วทุกอย่างมิได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิด ภายใต้ความมืดมิดนั้น ยงั คงมแี สงสวา่ ง แสงสวา่ งจากใจของชาวยะลาท่ใี ฝ่หาความสงบสขุ ข้าพเจ้าอยู่จังหวัดยะลามาต้ังแต่ก�ำเนิด ข้าพเจ้าได้ท่องเท่ียวไป หลายจังหวัดในประเทศไทยแต่ละที่ยอมมีความแตกต่างกันไป แต่ข้าพเจ้า

เรือ่ งดีๆ ท่ีบา้ นเรา 135 กลับรู้สึกว่ายะลาเป็นสถานที่ท่ีน่าอยู่ท่ีสุด เป็นเมืองท่ีปราศจากความวุ่นวาย โกลาหล เปน็ เมืองทข่ี า้ พเจ้าสามารถเดนิ ข้ามถนนไดอ้ ย่างไมล่ ังเลและบอ่ ยครง้ั ในการข้ามถนนข้าพเจ้าจะไดร้ ับน�้าใจจากผูค้ นบนทอ้ งถนน ท่ใี หค้ นเดินขา้ มไป ก่อนนับเปน็ ความสุขเลก็ ๆท่ีท�าให้ข้าพเจา้ ยิม้ ไดท้ ้ังวนั นา�้ ใจนอ้ ยใหญจ่ ากคนนบั พนั นบั หมนื่ ในจงั หวดั นย้ี งั คงมปี รากฏอยทู่ กุ ๆ วนั แมแ้ สงสวา่ งแหง่ ความสงบสขุ ของเมอื งนจี้ ะรบิ หรก่ี ต็ ามแตช่ าวเมอื งทกุ ๆ คน ยงั คงศรทั ธาในเพอ่ื นตา่ งศาสนายงั คงศรทั ธาในความดแี ละยงั คงศรทั ธาวา่ สกั วนั ความสงบและปลอดภยั จะหวนกลบั คนื มาให้ไดร้ ู้สกึ ชืน่ มน่ื อกี คร้ัง นี้แหละครบั เรอ่ื งดๆี ทีบ่ ้านเรา เรื่องดๆี ของเมอื งเล็กๆ ท่ีชาวเมืองยังคงเติมความสุขให้กนั และกันอยู่ทุกวนั

136 เร่อื งดีๆ ทบ่ี า้ นเรา เรือ่ งดๆี ท่ีบา้ นเรา นางสาวยาดวู ัล หะยีแวมงิ จากหลายปีท่ีผ่านมา ปัญหาที่เกิดข้ึนในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นบั วา่ เปน็ ปญั หาทเี่ กดิ ความรนุ แรงและความสญู เสยี มากมาย สง่ ผลใหป้ ระชาชน เพ่ิมความหวาดกลัวกันอย่างแพร่หลายและนับว่าเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหน่ึง ที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องการความช่วยเหลือจากรัฐบาลเพื่อมาแก้ไขปัญหา ในเรอ่ื งนี้ และดว้ ยกระแสความรนุ แรงทเี่ กดิ ขน้ึ ในปจั จบุ นั ทำ� ใหเ้ ยาวชนมองขา้ ม ในเรื่องดีๆ ท่ีบ้านเรา ด้วยสาเหตุที่มาจากสถานการณ์ความรุนแรงเพิ่มความ โหดร้ายไปมากแค่ไหน ก็ย่ิงเป็นโอกาสดีที่เราจะฟื้นฟูประวัติศาสตร์ของพ้ืนท่ี บ้านเรา ซึ่งเรียกได้ว่าในปัจจุบันประวัติศาสตร์เหล่าน้ีแทบจะถูกมองข้ามใน คณุ ค่า ท้ังๆ ที่ประวัติศาสตร์เหล่านก้ี เ็ ปน็ สงิ่ หนง่ึ ท่จี ะสะทอ้ นเรอื่ งดีๆ จากพนื้ ท่ี บ้านเราใหเ้ ยาวชนในพื้นที่ ๕ จังหวดั ชายแดนใตแ้ ละเยาวชนไทยทุกคนได้ร้จู ัก คุณค่าของการอยูร่ ว่ มกนั อย่างสมานฉันทก์ ัน เมื่อพ้ืนที่ ๕ จังหวัดชายแดนใต้ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่ง กองเลือด ในฐานะทเี่ ราเป็นลูกหลานของพน้ื ทนี่ ค้ี นหนึ่ง เราจะมีวธิ กี ารอยา่ งไร ในการสะท้อนส่ิงดีๆ จากพื้นที่บ้านเราให้คนทั้งโลกได้รับรู้ถึงต�ำนานที่เล่าขาน กันมาจากรุ่นสู่รุ่น เนื่องจากสิ่งนี้อาจจะเป็นโอกาสดีอย่างหนึ่งที่ท�ำให้เยาวชน ทุกคนมีความสนใจที่จะไขว่คว้าสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิตโดยไม่ต้องใช้เวลาท่ีเหลือ ของชวี ติ ไปหวาดระแวงกบั สถานการณค์ วามรนุ แรงทเี่ กดิ ขนึ้ ในบา้ นเรา หากเรา

เร่อื งดีๆ ท่ีบา้ นเรา 137 มกี ารบอกเลา่ ถงึ ตำ� นานในวนั วานของบา้ นเราทแี่ สนจะอบอนุ่ และรม่ เยน็ อกี ทงั้ ความสามคั คี ความปรองดองและความผกู พนั รกั ใครท่ ่ีมตี ่อกัน ส่ิงนีอ้ าจจะเป็น สิ่งหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความกลัวของผู้คนได้ เมื่อบรรเทาความกลัวได้ส�ำเร็จ จากที่ว่ากลัวอาจจะเปล่ียนมาเป็นความร่วมมือร่วมกันระดมความคิดท่ีจะหา ทางแก้ไขปญั หานี้ จากตำ� นานเร่อื งเล่าท่ีถูกมองข้ามมายาวนาน ขอถือโอกาสน้ี ในการถา่ ยทอดเรอื่ งเล่าผา่ นบทความนี้ พ่อแม่ดิฉันเคยเล่าว่า “สมัยก่อนบ้านเราน่าอยู่มาก ต่างคนก็ต่าง ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่มีการแบ่งชนช้ันกัน” แม่บอกว่าจากประสบการณ์ ทแี่ มเ่ คยผา่ นมาและจากเรอ่ื งเลา่ ทตี่ ายายของแมเ่ ลา่ มา สถานการณใ์ นบา้ นและ สภาพโดยรอบของพ้ืนท่ีบ้านเราในสมัยของตายายของแม่เป็นวัยรุ่นกับสมัยแม่ เดก็ ๆ มนั ชา่ งสอดคลอ้ งกนั นกั แตม่ าวนั น้ี สงิ่ ทด่ี งี ามกลบั ถกู กลนื ไปกบั กาลเวลา ท่ีผ่านพ้นไป เราอาจจะสงสัยกันอยู่ใช่มั้ยว่าท�ำไมบ้านเราสมัยก่อนถึงน่าอยู่ แต่เดีย่ วนก้ี ลับโหดรา้ ยยิง่ นัก เนอื่ งมาจากคนสมัยก่อน เขาจะถือว่าทกุ คนคอื พี่ นอ้ งกนั แมว้ า่ จะหลากหลายในศาสนาทอี่ ยใู่ นพนื้ ทบี่ า้ นหรอื จะเปน็ การสวนทาง กันในหลักศรัทธาหรือจะเป็นความเช่ือท่ีถือกันคนละอย่าง แต่สมัยก่อนน้ัน จะถอื คณุ ค่าความเป็นคนเท่าเทยี มกนั หรือจะพดู สัน้ ๆ ไดใ้ จความวา่ “แตกตา่ ง แตไ่ มแ่ ตกแยก” ทกุ คนลว้ นต่างให้เกยี รตกิ นั และอีกทง้ั มกี ารแบง่ ปันกนั มีมาก ก็ให้มาก มีน้อยก็ให้น้อย น้ีแหละคือสาเหตุของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ถึงแม้ความเป็นจริงแล้วโลกอิสลามกับโลกไทยพุทธนั้นมีความแตกต่างกัน แต่ ด้วยความผูกพันกัน ใกล้ชิดกัน ท�ำให้ความเป็นมิตรที่ดีท้ังสองฝ่ายในตอนน้ัน ไรพ้ รมแดน และหว้ งเวลาของการดำ� รงชวี ติ ทจี่ ะอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งสงบสขุ ไมจ่ �ำเปน็ ว่าต้องเป็นส่ิงเดียวกันเสมอ หรือจะกล่าวคือความเป็นชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ประเพณี และภาษาไมใ่ ชป่ จั จยั ทจี่ ะท�ำใหท้ ง้ั สองตอ้ งแตกแยก ถงึ แมว้ า่ ฝา่ ยหนง่ึ

138 เรอ่ื งดๆี ทีบ่ ้านเรา จะเป็นอสิ ลามและอีกฝา่ ยหนง่ึ จะเปน็ ไทยพทุ ธ แต่สง่ิ ท่แี ตกตา่ งกันเราสามารถ เอามาผูกพันกันได้โดยปลูกฝังความรัก ความห่วงใยและความสามัคคีต่อกัน และถึงแม้ว่าการศึกษาและการค้นคว้าในช่วงเวลาเรียนหนังสืออาจจะมีเน้ือหา ของการเชื่อมโยงกลุ่มชาติพันธ์ุต่างๆ ท่ีเขามีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์ของ ปตั ตานี แตแ่ มก่ บ็ อกวา่ สมยั นนั้ เขาไมเ่ อาประวตั ศิ าสตรเ์ หลา่ นน้ั ใหม้ าเปน็ ปญั หา ในการด�ำรงชีวติ รว่ มกัน ไม่วา่ ช่วงเวลาที่เคยผา่ นมาของประวัติศาสตร์เหลา่ นัน้ จะมีภาวะวิกฤตต่อบ้านเมืองเช่นไร แต่สถานการณ์เหล่านั้นมันกลายเป็นอดีต สำ� หรบั พวกเขาไปแล้ว แม่ก็บอกอกี ว่าแม่ก็ไมร่ เู้ หมือนกันวา่ เหตุใดท่ที ำ� ให้พวก เขามีแรงจูงใจที่จะลืมเร่ืองในอดีตท่ีบรรพบุรุษเคยประสบมา คงอาจจะเป็น เพราะความทีอ่ ยากให้ท้งั สองฝา่ ยสมานฉนั ท์กนั รว่ มมือกันสรา้ งสุข สรา้ งสนั ติ สรา้ งรอยยมิ้ ใหแ้ กก่ นั และกันเลยตัดสนิ ใจท่ีจะลมื เรอื่ งนี้ กอ็ าจเปน็ ไปได้ พดู ถงึ วฒั นธรรม เรารหู้ รอื ไมว่ า่ วฒั นธรรมคอื อะไร? วฒั นธรรมคอื แบบ พฤติกรรมท่ัวไปในชีวิตประจ�ำวันของเราและเป็นระบบคุณค่าท่ีทางสังคม ใหค้ วามสำ� คัญ เช่น สงิ่ ก่อสรา้ ง ศิลปะ หรือการกระท�ำต่างๆ คา่ นยิ มเปน็ ความ คิดหนึ่งท่ีสามารถจะอธิบายถึงรูปแบบของวัฒนธรรม อาจจะเรียกได้ว่าเป็น แผนที่ที่คอยชี้แนะถึงทางของชีวิตก็ได้ ส่วนประเพณีก็หมายถึงกิจกรรมท่ีมี การปฏิบัติสืบเน่ืองกันมาจากรุ่นสู่รุ่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วมีความส�ำคัญต่อการ ด�ำเนินชีวิตอยู่ในสังคม ตัวอย่างเช่น การแต่งกาย ภาษา วัฒนธรรม ศาสนา กฎหมาย คุณธรรม ความเช่ือ เป็นต้น มันเป็นกฎระเบียบอย่างหน่ึงในการ ประพฤติปฏิบัติหรือการวางตัวต่อบุคคลภายในสังคม ประเพณีเรียกได้ว่ารับ อิทธิพลมาจากส่ิงแวดล้อมจากภายนอกที่เข้ามาสู่สังคมบ้านเราทำ� ให้เราเอา ความหลากหลายเหล่านั้นเข้าผสมผสานเข้าไปในการด�ำรงชีวิตของเรา ดังนั้น วัฒนธรรมและประเพณีคือปัจจัยส�ำคัญของการด�ำรงชีวิตในแต่ละวันของเรา

เรอื่ งดีๆ ทีบ่ า้ นเรา 139 แม่บอกฉันอยู่เสมอว่าถึงแม้ว่าบ้านเราจะมีหลากหลายทางด้านศาสนา จะรัก และปรองดองกนั มากขนาดไหนเราทกุ คนกย็ งั ศรทั ธาในศาสนาตวั เองอยา่ งไมม่ ี วันออกนอกกรอบของศาสนา ณ วนั นว้ี นั ท่บี ้านเรารอ้ นแรงและลกุ เปน็ ไฟแบบ นี้ ไมใ่ ชป่ ญั หาของความแตกตา่ ง แตเ่ ปน็ ปญั หาของความไมเ่ ขา้ ใจดา้ นความเปน็ อยู่ของกนั และกนั มากกวา่ แต่บางเหตุการณ์ปัญหากเ็ กดิ ขน้ึ มาจากอดีต ดงั นั้น ประวตั ศิ าสตรก์ เ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ เชน่ เดยี วกนั ทจ่ี ะสรา้ งผลงานของการกระท�ำใหก้ บั คนในปัจจุบัน ณ เวลาน้ีดิฉันคิดว่าแม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปก่ียุคสมัย คนไทย ทกุ คนกค็ วรใชป้ ระโยชนจ์ ากประวตั ศิ าสตรเ์ หลา่ นนั้ นำ� ไปในแนวทางทด่ี แี ละให้ เกิดความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปให้มากท่ีสุดและหากเราได้แต่ปิดบังโอกาส ของเยาวชนทกุ คนดว้ ยการสรา้ งสถานการณค์ วามรนุ แรงขึน้ มา โอกาสที่เราจะ พฒั นาศกั ยภาพในดา้ นตา่ งๆ ทขี่ ณะนมี้ นั ทำ� ใหเ้ ราตอ้ งสญู เสยี อะไรหลายๆ อยา่ ง ไปในชวี ติ คงเป็นไปไดย้ าก การอยรู่ ว่ มกันในสงั คมและในบ้านเราท่ีจะท�ำใหเ้ กิด สนั ตสิ ขุ นนั้ เพยี งแคเ่ ราเคารพและใหเ้ กยี รตใิ นความแตกตา่ งกนั ทง้ั ทางชาตพิ นั ธ์ุ ศาสนา ความเชื่อ และวัฒนธรรมประเพณี ส่ิงนี้จะเป็นหัวใจส�ำคัญท่ีจะสร้าง ความสนั ตสิ ขุ ของบา้ นเราโดยไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งแบง่ เขตแบง่ แดนกนั ในประวตั ศิ าสตร์ เราทง้ั สองฝา่ ยอาจจะมคี วามขดั แยง้ กนั บา้ ง แตถ่ า้ หากทง้ั สองฝา่ ยมคี วามจรงิ ใจ และความรักในการอยู่ร่วมกัน และความเป็นธรรมที่มีให้ต่อกัน เงื่อนไขต่างๆ ทถี่ กู นำ� เสนอเขา้ มาสบู่ า้ นเรากไ็ มจ่ ำ� เปน็ อกี ตอ่ ไป และการทเี่ รามกี ารจดั วางแผน เพื่อน�ำไปสู่การอนุรักษ์ทรัพยากรของบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อรักษาแหล่ง เรียนรู้ แหล่งท่องเท่ียวและอีกท้ังเพ่ือรักษาส่ิงดีๆ ที่เคียงคู่บ้านเรามายาวนาน หากเราไดร้ บั การสนับสนุนส่งเสริมจากรฐั หลายๆ ดา้ นน้นั สถานท่ีส�ำคัญตา่ งๆ ก็จะยังคงเคียงคู่บ้านเราตลอดไป และดิฉันเช่ือว่าเยาวชนชายแดนใต้ โดยส่วนใหญ่แล้วล้วนต้องการสิทธิเสรีภาพในการดำ� รงชีวิตบนพื้นแผ่นดินเกิด

140 เรอื่ งดีๆ ท่บี ้านเรา ของเรา และอีกทั้งยังต้องการมีส่วนร่วมในบทบาทต่างๆ ในสังคม อย่าได้เอา ประวัติศาสตร์เหลา่ น้ันมากดี กั้นเส้นทางสคู่ วามก้าวหนา้ ของทัง้ สองฝา่ ยอีกเลย แม่บอกกับฉันอยู่เสมอว่าไม่ว่าจะเป็นทางด้านการค้า การเมือง การเผยแพร่ ศาสนา ศลิ ปวฒั นธรรมและประเพณี เราทกุ คนลว้ นแลว้ มสี ทิ ธติ์ อ่ สงิ่ นน้ั ไมม่ ขี ดี จ�ำกัดว่าส่ิงน้ีเป็นสิทธ์ิของใคร แต่เราทุกคนในพ้ืนท่ีล้วนแล้วมีสิทธิ์ในส่ิงนั้น เหมอื น ๆ กัน เมือ่ ความเป็นจริงถกู เปลง่ ประกายออกมา สิ่งทีด่ ีงามก็จะสะท้อน ใหเ้ ห็นดงั่ ดาวที่ไมม่ ีวนั ดบั แสง แตเ่ พยี งแค่รอโอกาสท่ีจะเปล่งแสงออกมาใหค้ น ทั้งโลกได้รับรู้ถึงความสง่างามของมัน เม่ือความรุนแรงคืออ�ำนาจท่ีมาบดบัง ความดงี ามของบา้ นเรา ศกั ยภาพในการปกครองกเ็ รมิ่ เสอ่ื มลง การบรหิ ารจดั การ ต่อความขัดแย้งที่หาจุดจบไม่เจอ และอีกท้ังการแย่งชิงอ�ำนาจในการปกครอง เรม่ิ เพมิ่ พนู ความโหดรา้ ยมากยง่ิ ขนึ้ แลว้ เมอื่ ไหรบ่ า้ นเราจะมโี อกาสเปลง่ ประกาย แสงน้ันออกมา แสงทเี่ ราทกุ คนในพื้นทรี่ อคอยใหม้ นั กลับมาสอ่ งแสงนัน้ อกี คร้ัง หากเรายังมีจิตส�ำนึกว่าแผ่นดินท่ีเราอยู่น้ีก็ต้องการความสงบสุขเช่นกัน เราก็ ควรไตรต่ รองถงึ ทกุ ข์สุขของคนรอบข้างสักนดิ เรากจ็ ะพบวา่ แท้จรงิ แลว้ จุดจบ ของเร่ืองร้ายๆ น้มี ันอยูแ่ คเ่ ออื้ มเท่าน้ัน ท่เี รามองไม่เห็นอาจเปน็ เพราะว่าเราไม่ ลองเอื้อมมอื เข้าสมั ผัสดู เราอย่าได้ทำ� ให้ประวตั ศิ าสตรม์ นั ตอ้ งมาซ�ำ้ รอยกนั อกี เลย แผลเก่ายังไม่หายดี แผลใหม่กเ็ กิดขน้ึ มาอีก “อิสลามกบั ไทยพทุ ธ หรอื ไทย พทุ ธกบั อสิ ลามอยดู่ ว้ ยกนั ไมไ่ ด้ ใครบอกวา่ อยดู่ ว้ ยกนั ไมไ่ ด”้ สดุ ทา้ ย การเยยี วยา สถานการณ์ต่างๆที่เกิดข้ึนในจังหวัดชายแดนใต้ก็ถูกด�ำเนินการแก้ไขปัญหา ความไมส่ งบ ความขัดแย้ง ความสูญเสยี จะต้องถกู สยบดว้ ยคณุ ธรรม ดฉิ ันเคย อ่านหนังสือประวัติศาสตร์ปัตตานีเล่มหนึ่ง จากท่ีได้อ่านมาคร่าวๆ ก็สามารถ สรุปใจความสั้นๆ ว่ามันสงบสุขด่ังที่แม่ของดิฉันได้เล่าไว้จริงๆ เรื่องมีอยู่ว่า “ปตั ตานใี นชว่ งนนั้ ถกู ปกครองดว้ ยกษตั รยิ แ์ ละราชนิ ที ย่ี ตุ ธิ รรม ในรชั สมยั ทส่ี รา้ ง

เรอื่ งดๆี ทีบ่ ้านเรา 141 ความเจรญิ รงุ่ เรอื งใหก้ บั ปตั ตานไี ดม้ ากทสี่ ดุ หลงั จากกษตั รยิ ท์ ก่ี อ่ ตงั้ เมอื งปตั ตานี สิ้นพระชนม์นั้นคอื รชั สมยั ของราชินฮี เี ญา รองลงมาคือราชินกี ูนิง ความเจรญิ รุ่งเรืองเหล่าน้ันเกิดข้ึนมา เมื่อปัตตานีเปิดท�ำการค้าต่างๆ กับชาวต่างชาติ การปกครองบ้านเมืองก็ผ่านไปโดยดี มีแต่ความสงบรายล้อมรอบๆ กายของ กษัตริย์และราษฎร แต่ก็มีบ้างท่ีเกิดสงครามกับประเทศเพ่ือนบ้าน แต่ศึก สงครามเหลา่ นนั้ กผ็ า่ นไปโดยดเี ชน่ กนั ดว้ ยความเกง่ กลา้ สามารถของราชนิ ฮี เี ญา จนสามารถปกปอ้ งบา้ นเมอื งได้ ราชนิ ฮี เี ญา เรยี กไดว้ า่ เปน็ ราชนิ ที เี่ ตม็ เปย่ี มดว้ ย ความสามารถหลากหลายด้าน ทั้งการปกครองที่เข้มแข็ง ทั้งทางด้านการค้า ท่ีเจริญรุ่งเรือง ท้ังด้านการสร้างความสัมพันธไมตรีต่อประเทศเพื่อนบ้านและ ประเทศอนื่ ๆ อกี หลายประเทศ ท�ำใหเ้ มอื งปตั ตานใี นสมยั นน้ั มชี อื่ เสยี งและเปน็ ที่รู้จักกันไปท่ัวทั้งทวีปและอีกท้ังความก้าวหน้าทางด้านการค้าท่ีเรียกได้ว่า ใหญพ่ อๆ กบั ประเทศใหญๆ่ อกี ด้วย ทำ� ใหป้ ัจจบุ ันนี้ ปัตตานไี ดเ้ ป็นทร่ี ู้จักกนั ทางประวัติศาสตร์ว่าเป็นเมืองท่าท่ีเก่าแก่ เรียกได้ว่าสมัยที่มีการเล่าขานถึง ต�ำนานมากท่ีสุดคือ รัชสมัยของราชินีฮีเญา ศาสนาอิสลามเข้ามามีบทบาท ในปัตตานีเมื่อไหร่ ก็ตอนที่พญาท้าวนภาผู้ซ่ึงก่อตั้งเมืองปัตตานีและได้มีโอรส องค์หน่ึง มีพระนามว่า พญาอินทิรา ต่อมาเมื่อพญาท้าวนภาส้ินพระชนม์ พญาอินทิราผู้ซ่ึงเป็นโอรสก็ได้เป็นกษัตริย์สืบต่อจากพระบิดาและเม่ือ พญาอนิ ทริ าไดเ้ ปน็ กษตั รยิ เ์ มอื งปตั ตานี กไ็ ดเ้ ปลย่ี นศาสนามาเปน็ นบั ถอื ศาสนา อสิ ลามและเมอ่ื เปลยี่ นศาสนาพระองคก์ ไ็ ดเ้ ปลย่ี นพระนามใหม่ มนี ามวา่ สลุ ตา่ น อิสมาอีล ชาห์ ซิลลุลลอฮ์ฟิลอลาม ท�ำให้ในเวลาต่อมา เชื้อสายของศาสนา อิสลามก็ถูกสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และเหตุท่ีทางการค้าของเมืองปัตตานี ในสมัยน้ันเป็นท่ีรุ่งเรืองและมากด้วยพ่อค้าจากต่างชาติมาร่วมค้าขายด้วย ก็เพราะว่าการปกครองของปัตตานีในช่วงระยะเวลานั้นเข้มแข็งและสามารถ

142 เร่ืองดๆี ที่บา้ นเรา คุ้มครองและให้ความเป็นธรรมกับพ่อค้าทุกชาติ แต่พอส้ินสุดของรัชสมัย ของราชินีท้ัง ๔ พระองค์ คือ ราชินีฮีเญา ราชินีบีรู ราชินีอูงู และราชินีกูนิง ความวุ่นวายและความรุนแรงของการปกครองในปัตตานีก็เกิดขึ้น ต่างคนต่าง กอ็ ยากเปน็ ผ้ปู กครองเมอื งปัตตานี ทำ� ให้ในบางครง้ั กเ็ กดิ การนองเลือดในพวก กนั เอง จนสดุ ทา้ ยท�ำใหเ้ มอื งปตั ตานกี ็ตกเป็นของประเทศสยาม และท�ำให้อยู่ ภายใตก้ ารปกครองของสยามในเวลาตอ่ มาจนถงึ ปจั จุบัน” ความพยายามในการสมานฉันท์ท้ังในอดีตและปัจจุบันจึงไม่มีผลใดๆ เกดิ ขนึ้ เนอื่ งจากการสรา้ งความเขา้ ใจรว่ มกนั จำ� เปน็ ตอ้ งหนั กลบั ไปมองอดตี เพอ่ื ใหร้ จู้ ักตวั ตนท่แี ทจ้ ริงของปัตตานี รวมถึงเราต้องเขา้ ใจถึงบริบทของเหตุการณ์ ในแต่ละยุคแต่ละสมัยอย่างครบถ้วนและเป็นธรรม ซึ่งน่าจะช่วยให้เกิด ความเขา้ ใจและเหน็ ใจตอ่ กนั มากกวา่ ทผี่ า่ นมา ดว้ ยนามของลกู หลานของจงั หวดั ชายแดนใต้คนหน่ึง ดิฉันมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้เกิดมาใต้ร่มเงา ของพน้ื ทีท่ ่เี ราชาวจงั หวัดชายแดนใต้เรยี กเหมอื นๆ กันว่า “บา้ นเรา” บ้านเราสอนให้เรารู้อะไรหลายๆ อย่าง เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีท่ีสุด ของพวกเรา สอนให้เราได้รู้ว่าวันคืนต่อแต่น้ีไป คือวันคืนท่ีแสนดีท่ีเราใฝ่ฝัน และทุกก้าวที่ผ่านไปจะน�ำเราไปสู่วันแห่งชัยชนะและยังสอนให้เรารู้ว่าวันใหม่ จะมีความหมายอะไร ถ้าเรายังย�ำ่ เดินบนเสน้ ทางความผดิ พลาดเก่าๆ อะไรคอื ค�ำสอนให้ฉันและเธอได้เรียนรู้ภายในบ้าน สถานการณ์ความรุนแรงในบ้านเรา ทั้งหมดท่ีเกิดข้ึนในบ้านเราล้วนแล้วคือข้อคิดให้แก่ตัวเราทั้งนั้น ความรุนแรง เหลา่ นกี้ เ็ รยี กไดว้ า่ เปน็ หนง่ึ อปุ สรรค ดงั นนั้ เราจงจำ� ไวว้ า่ อปุ สรรคอนั ยากลำ� บาก มันทำ� ให้เราไดร้ ้วู า่ ตวั เองเขม้ แขง็ มากขนาดไหน ตอ้ งขอขอบคุณ คณุ พอ่ คณุ แม่ มากที่สอนให้ฉันรู้จักท่ีจะเข้มแข็งต่อสถานการณ์ความรุนแรงเหล่านี้ ขอบคุณ ส�ำหรับความเอื้ออาทรและบางเหตุการณ์ท่ีสอนให้ฉันรู้จักหัวใจตัวเอง

เรอ่ื งดๆี ที่บา้ นเรา 143 ขอบคุณส�าหรับข้อคิดท่ีมอบให้ฉัน และขอขอบคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน ในความการณุ ทค่ี อยเกอ้ื หนนุ เปน็ กา� ลงั ใจ และคอยเปน็ ทป่ี รกึ ษาและคอยพฒั นา ศักยภาพการเรียนรู้ของฉัน และรวมไปถึงเพื่อน ๆ ของดิฉันทุกคน ขอบคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างท่ีร่วมสร้างความทรงจ�าอันมีค่า ขอบคุณทุกคนมากที่ท�าให้ฉันรู้ ว่าโลกกว้างใบน้ียังไม่เดียวดาย ขอบคุณนัยน์ตาสองท่ีคอยทอดมองฉัน ด้วยความหว่ งใย สุดท้ายนี้ ดิฉันได้แต่หวังว่าสถานการณ์ของบ้านเราจะบรรเทาความ รุนแรงลงไปบ้าง ไม่วันนี้ก็คงต้องมีสักวันหนึ่งที่บ้านเราจะสงบสุขและร่มเย็น ดง่ั เชน่ อดตี ทผ่ี า่ นมาอกี สกั ครง้ั เราอยบู่ นโลกนท้ี า่ มกลางสถานการณค์ วามรนุ แรง ได้ ไม่ใช่เพราะว่าเราแข็งแรงแต่เป็นเพราะว่าเราเข้มแข็งต่างหาก วันพรุ่งน้ี กา� ลงั เดนิ ทางมา อปุ สรรคเบอ้ื งหนา้ แมย้ งิ่ ใหญม่ ากแคไ่ หนเรากจ็ ะรว่ มกนั จบั มอื กนั ฝันฝา่ ไป ทุกขย์ ากอยา่ งไร เราจะไมท่ ง้ิ กนั เพราะเราเช่ือวา่ การกระท�าทดี่ ี ท่ีสุดแล้ว ผลออกมาคือความผิดหวัง มันบอกกับเราได้อย่างหน่ึงว่า มันต้องมี สักวิธีท่ีดีกว่าน้ี วันนี้เราอาจจะยังหาวิธีแก้ไขไม่พบแต่สักวันหนึ่งเราจะได้เห็น ความส�าเร็จของบ้านเรานั้นคือ “ความสันติ” โบกสะบัดธงแห่งชัยชนะ ณ ทพี่ วกเราชาวจังหวัดชายแดนใตย้ ืนอยู่

144 เรือ่ งดๆี ที่บา้ นเรา เรื่องดีๆ ที่บ้านเรา นายอทิ ธกิ ร ทองแกมแกว้ บ้านเมืองของเรามีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีเรื่องราวที่น่าสนใจ ต่อการดำ� รงอยขู่ องคนรุ่นหลัง ท่ีมอี ิทธิพลท้งั ทางดา้ นขนบธรรมเนียมประเพณี วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ อันเป็นบ่อเกิดแห่งวัฒนธรรมของคนในชาติ มีจุดเร่ิมต้นมาจากรากเหง้าของคนในท้องถ่ิน รวมเป็นวัฒนธรรมสูงสุด จนน�ำ ไปสู่แนวทางแห่งการปฏิบัติร่วมกันของคนในสังคมท่ีสามารถหล่อหลอมชาติ บ้านเมืองของเราให้มีความเจริญม่ันคงส่งผลให้กลายเป็นแหล่งอารยธรรม ท่ีทรงคุณค่ามาต้ังแต่สมัยโบราณอันมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ท่ีโดดเด่น ด้วยความหลากหลายของชาติพันธ์ุท่ีมาอยู่รวมกันบนผืนแผ่นดินถิ่นขวานทอง แห่งน้ีอย่างมคี วามสขุ เรอื่ งราวตา่ ง ๆ ในทอ้ งถ่ินของประเทศไทย โดยเฉพาะในพืน้ ท่ีภาคใต้ ตอนลา่ ง นบั ตั้งแตจ่ งั หวดั สงขลาลงไป ปรากฏเร่อื งราวตา่ งๆ ที่มคี วามส�ำคญั ท้ังทางด้านประวัติศาสตร์และวีถีชีวิตท่ีมีอิทธิพลต่อการด�ำรงอยู่ของผู้คน โดยเฉพาะวิถสี ามวฒั นธรรม สามศาสนา นั่นคอื วิถีชาวไทยพทุ ธ วิถชี าวไทย มสุ ลมิ และวถิ ชี าวจนี ทมี่ าอยรู่ วมกนั บนผนื แผน่ ดนิ ถน่ิ นมี้ าอยา่ งชา้ นาน ทง้ั สาม เชอ้ื ชาตนิ ลี้ ว้ นมบี ทบาทสำ� คญั ตอ่ การสรา้ งสรรคผ์ ลงานและพฒั นาประเทศไทย ให้มีความเจริญก้าวหน้า นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันส่ิงเหล่านี้ล้วนทำ� ให้เราได้ รับรู้ว่าผู้คนถิ่นน้ีอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุขแม้จะต่างเช้ือชาติต่างศาสนา

เร่ืองดีๆ ทบ่ี า้ นเรา 145 เพราะสิ่งส�ำคัญที่ทุกคนต่างมีเหมือนกันนั่นก็คือไมตรีจิตและความเอ้ืออาทร ตอ่ กันฉนั ท์พีฉ่ นั ท์นอ้ ง เรอ่ื งราวและภาพประทบั ใจนี้ยงั คงมใี ห้เห็นและประทับ อยใู่ นใจของผูค้ นทน่ี ี่มานาน ข้าพเจ้าเป็นหน่ึงในเยาวชนที่มีความสนใจและมีใจรักในความเป็น เอกลกั ษณข์ องทอ้ งถนิ่ โดยเฉพาะของดที ม่ี อี ยใู่ นบา้ นเรา ทง้ั ในบา้ นของขา้ พเจา้ และทอ้ งถ่นิ ของขา้ พเจ้าเอง ลว้ นมเี ร่ืองราวดีๆ ทีน่ า่ สนใจและน้อยคนนกั จะได้ รจู้ กั ไดเ้ หน็ และไดส้ มั ผสั กบั เรอ่ื งราวทจ่ี ะไดเ้ รยี งรอ้ ยเปน็ ถอ้ ยคำ� ทงั้ จากคำ� บอก เล่าของบุคคลส�ำคัญในครอบครัว และจากการที่ข้าพเจ้าเองได้สัมผัสและรับรู้ ที่ส�ำคัญไปกว่านั้น เร่ืองราวต่างๆ เหล่าน้ีมีคุณค่าและส่งผลต่อจิตใจของผู้คน ในสังคมโดยเฉพาะวัฒนธรรมในท้องถ่ินที่นับวันจะย่ิงเลือนหายไปจากสังคม ในยุคปัจจุบัน อันเนื่องมาจากกระแสของความเจริญ แต่จิตใจของมนุษย์กลับ ไม่เจริญไปตามกระแสวัฒนธรรมของโลกภายนอก ดังน้ันเรื่องราวดังจะกล่าว ตอ่ ไปนี้ ถอื เปน็ เร่อื งราวที่สามารถยกระดบั ความเจริญของมนษุ ยท์ มี่ มี าแต่ครัง้ โบราณผา่ นความเชื่อ เร่ืองราว ปรชั ญา ที่จะสามารถท�ำใหส้ ังคมท้องถิน่ ของเรา มีความส�ำคัญและจะคอยย้�ำเตือนบุคคลรุ่นหลังให้ส�ำนึกและเห็นความส�ำคัญ ของเร่ืองราวดี ๆ ในวถิ ีท้องถิน่ เรื่องราวดีๆ ในบ้านของข้าพเจ้าเรื่องแรก นั่นคือ การแทงหยวก ง า น ศิ ล ป ก ร ร ม ป ร ะ เ ภ ท ห นึ่ ง ที่ เ กิ ด จ า ก ภู มิ ป ั ญ ญ า ใ น ก า ร ส ร ร ใ ช ้ วั ส ดุ ทรพั ยากรธรรมชาตมิ าสรา้ งเปน็ ผลงานศลิ ปะเพอ่ื ใชใ้ นงานพธิ กี รรมหรอื กจิ กรรม บางอยา่ งในชวี ติ ประจำ� วนั เปน็ ศลิ ปะทม่ี ลี กั ษณะแตกตา่ งไปจากศลิ ปะแขนงอนื่ จัดอยู่ในประเภทงานเครื่องสดหมู่ งานช่างสลัก ซ่ึงเรียกกรรมวิธีในการ แทงหยวก โดยใชป้ ลายมีดฉลุให้เปน็ ลวดลายว่า “สลักหยวก” การแทงหยวก นิยมกันมาแตโ่ บราณ เพือ่ การนำ� เอาหยวกน้นั มาใช้ประดบั ตกแต่งส่ิงตา่ งๆ ท้ัง ในงานอวมงคลและงานมงคล ถือเป็นการสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรมท่ีช่าง

146 เร่ืองดๆี ทีบ่ า้ นเรา ต้องใช้ทักษะและความช�ำนาญสูง ซ่ึงช่างแทงหยวกจะต้องเรียนรู้จนสามารถ จดจ�ำลวดลายได้ ตลอดจนต้องฝกึ ฝน ทงั้ ในดา้ นการเขยี นลวดลายและการแทง หยวกให้ช�ำนาญ เพราะในการแทงหยวกจะไม่มีการเขียนแบบลวดลายลงบน หยวก ชา่ งแทงหยวกคนใดเขยี นแบบลวดลายลงบนหยวกกอ่ นแสดงวา่ ชา่ งผนู้ นั้ ยังไม่มีความช�ำนาญพอและจะท�ำให้หยวกมีรอยช้�ำ อีกทั้งไม่นิยมใช้ตัวแบบ ลวดลายทาบลงบนหยวก แลว้ ฉลตุ ามแบบในการแทงหยวกแมจ้ ะใชล้ วดลายไม่ วจิ ิตร มากนกั ลวดลายท่ใี ชม้ ักจะเป็นลวดลายงา่ ยๆ ไมซ่ บั ซ้อนแสดงถึงความ ออ่ นพลว้ิ ดงั นน้ั ชา่ งแทงหยวกจงึ เปน็ ผทู้ ม่ี คี วามรคู้ วามชำ� นาญในการแทงหยวก เป็นอย่างดี การแทงหยวกถือเป็นหน่ึงในภูมิปัญญาของท้องถิ่น ที่นับวันจะหา ชา่ งฝมี อื และผสู้ บื สานศลิ ปะแขนงนไี้ ดย้ ากนกั แมจ้ ะปรากฏในชา่ งหลวงเปน็ สว่ น ใหญ่ แต่ระดับช่างท้องถ่ินยังถือเป็นเอกลักษณ์จนได้รับการยกย่องให้เป็น “แทงหยวกสกุลช่างสงขลา” ของดีเหล่าน้ี ข้าพเจ้ามีความสนใจและได้สัมผัส กับงานด้านน้ีมาตั้งแต่เมื่อครั้งท่ีข้าพเจ้าได้ไปอบรมยังสถาบันทักษิณคดีศึกษา ในตอนแรกข้าพเจ้ามีความคิดที่จะแทงหยวกให้เหมือนอย่างคุณปู่เพราะท่าน เปน็ ช่างแทงหยวกประจำ� หม่บู ้าน แต่เหตผุ ลด้วยความทที่ ่านชราภาพมากแล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีโอกาสที่จะได้รับการถ่ายทอดจากท่าน ข้าพเจ้าได้สืบค้นข้อมูล ทางอินเตอร์เน็ต จึงเห็นข้อมูลของการฝึกอบรมการแทงหยวก ณ สถาบันดัง กล่าวจึงถือเป็นโอกาสท่ีดีท่ีข้าพเจ้าจะได้เรียนรู้สิ่งดีๆ เหล่าน้ี แม้ตัวข้าพเจ้า จะมาอบรมตัวคนเดียว แต่ด้วยใจรักและหวังที่จะเป็นช่างอย่างคุณปู่ให้ได้จึง ทุ่มเทในการฝึกอบรมกับสถาบันดังกล่าวอย่างเต็มที่ หลังจากที่เข้าร่วมอบรม การแทงหยวกแลว้ นน้ั ขา้ พเจา้ มคี วามคดิ ขน้ึ มาวา่ การอบรมในแตล่ ะครงั้ รฐั มกั จะเสยี งบประมาณไปมาก แตผ่ ลทไี่ ดก้ ลบั นอ้ ยและบางครง้ั อาจไมไ่ ดเ้ ลย จนคนื สุดท้ายข้าพเจ้ามาน่ังคิดพูดคุยกับเพ่ือนๆท่ีมาอบรมในวันน้ันบางส่วนและ เสนออาจารย์ที่อบรมว่า จะจัดตั้งชมรมข้ึนมาเพื่อที่จะอนุรักษ์งานช่างแขนงน้ี

เร่อื งดๆี ทีบ่ า้ นเรา 147 ใหค้ งอยู่ และสร้างเยาวชนท่ีดใี นทอ้ งถ่นิ ให้มีสว่ นรว่ มในการอนุรักษว์ ฒั นธรรม ของท้องถิ่น จวบจนวันนี้ ชมรมของข้าพเจ้าสามารถน�ำความปีติยินดีมาสู่ ครอบครวั สงั คม และทอ้ งถนิ่ จากการทไ่ี ดร้ บั คดั เลอื กใหเ้ ปน็ กลมุ่ เยาวชนดเี ดน่ แห่งชาติ สาขาศิลปวัฒนธรรม(การแทงหยวก)ประจ�ำปี ๒๕๕๔ ถือเป็น เรอ่ื งราวดๆี ในบา้ นเรา ทส่ี ามารถท�ำใหบ้ คุ คลภายนอกไดร้ บั รวู้ า่ ทอ้ งถน่ิ ของเรา ยังมีสิ่งดีๆ และเล็งเห็นความส�ำคัญของงานช่างแขนงนี้ให้ด�ำรงคงอยู่สืบไป ท่ีส�ำคัญข้าพเจ้าเองมีอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้ท�ำความฝันที่ตนเองหวังไว้ ทจ่ี ะเป็นช่างแทงหยวกทดี่ ีตามคุณปขู่ องขา้ พเจา้ อย่างสมเกียรติ เรอ่ื งราวตอ่ มาทถ่ี อื เปน็ สงิ่ ดี ๆในทอ้ งถน่ิ ของขา้ พเจา้ ทไี่ มค่ อ่ ยจะพบเหน็ ได้บอ่ ยนักและนอ้ ยคนนักจะรูจ้ กั นั่นคอื ทองสูง หุ่นเชิดขนาดใหญซ่ ึ่งเป็นการ ละเล่นอย่างหน่ึงในช่วงเทศกาลงานประเพณีของคนในท้องถิ่นแถบลุ่มน้�ำ ทะเลสาบสงขลามาอยา่ งยาวนาน ตง้ั แตเ่ ดก็ ๆ ขา้ พเจา้ จำ� ความไดว้ า่ เมอ่ื ถงึ งาน ทอดกฐนิ ของวดั ควนลงั ทีไร ทางบ้านจะพาไปรว่ มงานทกุ ครง้ั และสงิ่ ที่ต้องพบ เป็นประจ�ำคือ ทองสูง หุ่นเชิดขนาดใหญ่ มีสีหน้าหุ่นดูหน้าเกรงขามย่ิงนัก เดก็ ๆ ส่วนใหญ่มกั จะมายนื ดู มองการเชดิ ห่นุ ตัวนี้ ซึ่งขา้ งในหนุ่ นัน้ จะมีคนเชิด คนหนงึ่ ทจ่ี ะคอยแบกรบั ตวั หนุ่ เชดิ ตามจงั หวะดนตรไี ปมาตามเสยี งวงกลองยาว ทบ่ี รรเลงภายในงานกอ่ นทจี่ ะแหก่ ฐนิ เดก็ ๆอยา่ งเรา ชอบทจี่ ะไปใกลต้ วั หนุ่ มาก เพราะหนุ่ ตวั ใหญ่มีมอื ที่ยาว เวลาหุ่นเต้นไปตามจงั หวะเคร่อื งประโคม มอื กจ็ ะ ส่ายไปส่ายมา เด็กจะกลัวมาก แต่สนุกกับการที่ได้ว่ิงหนี ถ้าเป็นเด็กที่ยังไม่รู้ ประสา ก็จะร้องไห้ ผู้ใหญ่กจ็ ะคอยปลอบ คุณยายขา้ พเจา้ ทา่ นเป็นชาวควนลัง โดยกำ� เนดิ ท่านเล่าให้ฟังว่า หุ่นนม้ี อี ยูด่ ว้ ยกนั ๒ ตัว หนุ่ หนง่ึ ชายมชี อ่ื วา่ ไอท้ ่อม ส่วนหุ่นทองสูงหญิง มีชื่อว่า ทองแจ่ม ทองสูงท้ังสองตัวจะถูกเก็บไว้ที่วัดม่วง คอ่ มซง่ึ อยใู่ นเขตตำ� บลควนลงั เชน่ เดยี วกนั ทองสงู ผชู้ าย หรอื ไอท้ อ่ มจะแตง่ แตม้ ด้วยสีด�ำให้ดูน่ากลัว ส่วนทองแจ่มซึ่งเป็นทองสูงผู้หญิงก็ใช้สีท่ีสวยงามให้สม

148 เรือ่ งดีๆ ทบ่ี า้ นเรา กบั ทเ่ี ปน็ ผหู้ ญงิ ทงั้ น้ี ทองสงู ทงั้ สองตวั นเี้ ปรยี บไดก้ บั ผเี ปรตทอี่ ยากจะมสี ว่ นรว่ ม ในงานบุญของหมู่บ้าน เรียกได้ว่า งานบุญประจ�ำปีของชาวม่วงค่อมและ ท้องถ่ินควนลัง แม้ผีเปรตก็ยังขอมีส่วนร่วม กล่าวกันว่าไอ้ท่อมและทองแจ่ม เป็นทองสูงท่ีชาวม่วงค่อมและชาวควนลังให้ความเคารพนับถือ จะต้องเก็บ หัวทองสูงท้ังสองไว้ในห้องท่ีมิดชิด ห้ามมิให้ใครข้ามโดยเด็ดขาด ปีหนึ่งๆ ไอท้ อ่ มกบั ทองแจม่ จะมโี อกาสออกมากระโดดโลดเตน้ ระบ�ำรำ� ฟอ้ น สนกุ สนาน กบั ลกู หลานไดเ้ พยี งครง้ั สองครง้ั โดยเฉพาะงานเดอื นสบิ (รบั เปรต-สง่ เปรต)และ งานทอดกฐนิ ประจำ� ปี เทา่ นน้ั ถอื เปน็ อกี หนง่ึ สงิ่ ทถ่ี อื เปน็ ของดที มี่ อี ยใู่ นบา้ นเรา ที่นับวันจะย่ิงเลือนหายไปจากท้องถ่ิน หากผู้คนยังคงด�ำรงไว้ซึ่งประเพณีอันดี งามและความเอาใจใส่ในการดูแลของดีเหล่าน้ีไว้ ด้วยการสืบสานเรื่องราวดีๆ ใหย้ งั คงอยไู่ วก้ บั ทอ้ งถนิ่ ของตนกจ็ ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ การสรา้ งสรรคว์ ถิ อี นั งดงาม นใี้ ห้ย่ังยืนสบื ไป อีกหน่ึงเรื่องราวต่อมาถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ถือเป็นสิ่งที่ตัวข้าพเจ้ามี ความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง นั่นคือ เอกสารและตำ� ราโบราณหรือที่คนพ้ืนถ่ิน ทางใต้เรียกกันว่า “หนังสือบุด” หน่ึงในมรดกท่ีตกทอดกันมาอายุกว่าร้อยปี ซงึ่ เปน็ สมบตั ทิ ท่ี รงคณุ คา่ ยง่ิ ตอ่ การศกึ ษาเรอื่ งราวอนั เกยี่ วขอ้ งกบั ประวตั ศิ าสตร์ ในด้านของต�ำรับยาแผนโบราณ การดูฤกษ์ยามในพิธีต่างๆ และคาถาอาคม อันเก่ยี วข้องกบั การปอ้ งกนั ตัวของคนในสมยั ก่อน ต�ำราเหล่าน้ี ปัจจบุ ันคุณตา ของข้าพเจ้าเป็นผู้ครอบครอง และเป็นผู้ถ่ายทอดเร่ืองราวการอ่านหนังสือ โบราณและการดูฤกษ์ยามบางส่วนให้กบั ตวั ขา้ พเจ้าเอง ซ่งึ ขา้ พเจ้ามคี วามยินดี เป็นอย่างย่ิงท่ีได้เรียนรู้ต�ำราเหล่าน้ีโดยส่วนตัวข้าพเจ้าเองคิดว่า ต่อไปจะหา ผู้สืบทอดในส่ิงเหล่าน้ีได้ยากนักและคนรุ่นหลังไม่ค่อยจะให้ความส�ำคัญกับ ส่ิงเหลา่ นี้ ท้งั ๆ ที่ส่งิ เหลา่ นเี้ องคือรากฐานของความเจรญิ ของเราในยคุ ปัจจบุ นั คุณตาของข้าพเจ้าเคยเล่าให้ฟังว่า การจะเรียนรู้ส่ิงเหล่าน้ีเป็นส่ิงท่ียากนัก

เรือ่ งดีๆ ทบ่ี า้ นเรา 149 เพราะตอ้ งเปน็ คนทไี่ วใ้ จและเปน็ คนดี เพราะในบางครง้ั หากน�ำไปใชใ้ นทางทผ่ี ดิ ก็อาจจะเป็นโทษกับตัวผู้เรียนรู้เอง ข้าพเจ้าหวังเพียงว่าท่ีได้เรียนรู้มาน้ีเพ่ือ ท่ีจะอนุรักษ์สิ่งดีๆ นี้ไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต และแล้ววันนี้ ขา้ พเจา้ ไดน้ ำ� สงิ่ เหลา่ นมี้ าใชป้ ระโยชนไ์ ดจ้ รงิ นนั่ คอื น�ำความรจู้ ากการอา่ นตำ� รา โบราณ ซ่ึงเป็นอักษรไทยโบราณท่ีเขียนโดยคนไทยสมัยก่อน ไปสอบเข้าใน โครงการรับตรงพิเศษของคณะโบราณคดี เอกวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัย ศิลปากร วังท่าพระ ซึ่งในวันท่ีสอบปฏิบัติในวันนั้น เพ่ือนๆ หลายคนจะสอบ ความถนดั ในดา้ นดนตรไี ทย มเี พยี งขา้ พเจา้ คนเดยี วทนี่ �ำสง่ิ เหลา่ นไ้ี ปสอบปฏบิ ตั ิ และสิ่งท่ีคุณตาสอนมามีประโยชน์ในด้านการแปลความตัวอักษรไทยโบราณ เปน็ ขอ้ ความ ทเี่ ราเขา้ ใจ จนสงิ่ เหลา่ นสี้ ามารถทำ� ใหข้ า้ พเจา้ สอบไดค้ ณะดงั กลา่ ว อย่าง ภาคภูมิใจท่ีเรามีของดีในบ้าน คนในบ้านที่สามารถท�ำให้ตัวเราประสบ ความส�ำเร็จได้ ข้าพเจ้าเช่ือแน่ว่าทุกคนล้วนมีของดีอยู่ในตัวหรืออาจไม่มีในตัว แต่อาจจะมีในบ้านหรอื สิง่ ข้างๆ ตัวเรา ถ้าเราร้แู ละสามารถน�ำสง่ิ เหลา่ น้นั มาใช้ ให้เกิดประโยชนก์ บั ตัวเอง ผลท่ีได้มาน้ันก็คือ ความสุข ซ่ึงถือเป็นส่งิ ทเี่ ราได้ท�ำ ด้วยมอื ของเราเอง และส่งิ ตา่ งๆเหล่าน้ีก็อาจจะส่งผลทดี่ ีตอ่ ไปในภายภาคหนา้ อีกดว้ ย ขา้ พเจา้ มคี วามเชอ่ื วา่ สงิ่ ตา่ งๆทป่ี รากฏใหเ้ ราทกุ คนไดเ้ หน็ บนโลกใบน้ี ยังคงมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายที่น่าจดจ�ำ เป็นส่ิงที่ประทับใจและเป็นส่ิงดี งาม ท่ีสามารถทำ� ให้เรามีความสุข แม้จะเป็นเพียงความสุขท่ีไม่ย่ังยืนในช่วงท่ี เราได้สัมผัส แต่อาจจะเป็นความสุขท่ีย่ังยืนเมื่อเราได้กลับหวนไปคิดอีกครั้ง ขา้ พเจ้าเช่ือแน่ว่า ในท้องถิน่ ของเรา ยังคงมเี รอ่ื งราวดีๆ มากมายทเ่ี ราไม่เคยได้ รบั รู้ ไมเ่ คยไดส้ มั ผสั อาจจะเปน็ สงิ่ ใกลต้ วั ทเี่ ราเองคดิ ไมถ่ งึ แตส่ ง่ิ เหลา่ นน้ั ยงั คง ให้เราได้ตดิ ตามคน้ หา ท่ีส�ำคัญหากทกุ คนร่วมกนั สร้างสรรคส์ ิ่งดีๆ เหลา่ นี้ไวใ้ ห้ กบั ทอ้ งถน่ิ ของตน กจ็ ะถอื เปน็ สง่ิ ทดี่ ที เ่ี ราจะไดร้ ว่ มกนั สบื สาน อนรุ กั ษว์ ฒั นธรรม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook