2 คำนำ หลกั สูตรการฝึ กอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ เล่มน้ี พฒั นามาจากคูม่ ือการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ของสานกั งาน ลูกเสือแห่งชาติ ที่มุ่งสร้างองคค์ วามรู้ เจตคติและทกั ษะทางลูกเสือที่เนน้ ทกั ษะการดารงชีวติ (Living Skills) เป็นส่วนใหญ่ซ่ึงยงั ไม่ครอบคลุมถึงทกั ษะชีวติ (Life Skills )ท่ีจาเป็นในการ ป้องกนั ปัญหาสังคมปัจจุบนั ผกู้ ากบั ลูกเสือจึงควรไดร้ ับการเสริมสร้างความรู้ ความเขา้ ใจ ในเร่ือง ทกั ษะชีวติ และกระบวนการเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ซ่ึงจะเป็ นภูมิคุม้ กนั ปัญหา เพิม่ เติมจาก เน้ือหาวชิ าที่มีอยเู่ ดิม เพราะการจดั กิจกรรมลูกเสือที่เสริมสร้างทกั ษะการดารงชีวิตเพียงดา้ นเดียว ไมเ่ พียงพอที่จะทาใหเ้ ดก็ และเยาวชนไทยสามารถเผชิญปัญหาสังคมที่มีความสลบั ซบั ซอ้ นมาก ยงิ่ ข้ึนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถมั ภส์ มเด็จพระศรีนคริน ทราบรมราชชนนี สานกั งานลูกเสือแห่งชาติ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน และ สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงไดร้ ่วมกนั พฒั นาหลกั สูตรการ ฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือเพื่อเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ควบคูก่ บั การเสริมสร้างทกั ษะการดารงชีวติ ดว้ ย ขบวนการลูกเสือ โดยกาหนดใหม้ ีกิจกรรมเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ในรายวชิ า และบูรณาการทกั ษะ ชีวติ เฉพาะดา้ นท่ีเป็ นภูมิคุม้ กนั ปัญหาสังคมใหก้ บั ลูกเสือซ่ึงสอดคลอ้ งกบั คูม่ ือการฝึกอบรม ผกู้ ากบั ลูกเสือ ของสานกั งานลูกเสือแห่งชาติ และหลกั สูตรการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ น้ีไดร้ ับการอนุมตั ิจากคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติเรียบร้อยแลว้ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ ขอขอบคุณ สานกั งานลูกเสือแห่งชาติ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน (สพฐ.) สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) และคณะทางานพฒั นาหลกั สูตรการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ทุกท่าน หวงั เป็นอยา่ งยงิ่ วา่ หลกั สูตรการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ เล่มน้ี จะเกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพฒั นาเด็กและเยาวชนต่อไป สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถมั ภส์ มเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มกราคม 2558
3 สำรบัญ โครงสร้างรายวชิ าในหลกั สูตรการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ หนา้ รายชื่อวชิ าในหลกั สูตรการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ 5 ตารางการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ 6 7 บทพิเศษ ก คาแนะนาทว่ั ไป 11 บทพิเศษ ข คาแนะนาทว่ั ไป (การปฐมนิเทศ) 15 บทพิเศษ ค คาแนะนาทว่ั ไป (การแต่งกายในการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ) 18 บทพเิ ศษ ง คาแนะนาท่วั ไป (การบูชาพระรัตนตรัย) 23 บทพเิ ศษ จ คาแนะนาท่วั ไป (การถวายราชสดุดีพระบรมรูปรัชกาลที่ 6) 26 บทพิเศษ ฉ คาแนะนาทวั่ ไป (พิธีรอบเสาธงในตอนเชา้ ระหวา่ งการฝึกอบรมไม่มีอาวธุ 27 ประจากาย) 29 บทพิเศษ ช คาแนะนาทวั่ ไป (พธิ ีรอบเสาธงในตอนเชา้ ระหวา่ งการฝึกอบรมมีอาวธุ 31 ประจากาย) 32 บทพเิ ศษ ซ คาแนะนาทวั่ ไป (การใชค้ าบอกก่อนการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีฯ) บทพเิ ศษ ฌ คาแนะนาทวั่ ไป (การตรวจตอนเชา้ ในการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ 33 34 ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ) 35 บทพิเศษ ญ คาแนะนาทวั่ ไป (การตรวจสมุดบนั ทึก) 37 บทพเิ ศษ ฎ คาแนะนาทวั่ ไป (กิจกรรมยามวา่ ง) บทพเิ ศษ ฏ คาแนะนาทวั่ ไป (บทบาทของวทิ ยากรประจาหมู่) 39 บทพเิ ศษ ฐ คาแนะนาทวั่ ไป (การฝึกอบรมโดยระบบฐานและวธิ ีปฏิบตั ิ) 45 บทเรียนที่ 1 วตั ถุประสงคข์ องการฝึกอบรม 61 บทเรียนที่ 2 กิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทกั ษะชีวติ 71 บทเรียนท่ี 3 จุดมุง่ หมาย วธิ ีการ และธรรมชาติของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 86 บทเรียนท่ี 4 ประวตั ิและกิจการลูกเสือโลก 109 บทเรียนที่ 5 ประวตั ิและโครงสร้างของการลูกเสือไทย 120 บทเรียนที่ 6 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 126 บทเรียนท่ี 7 เกมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 135 บทเรียนที่ 8 วนิ ยั ความเป็ นระเบียบเรียบร้อย และสัญญาณตา่ ง ๆ 140 บทเรียนท่ี 9 เง่ือนลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ บทเรียนที่ 10 การผจญภยั
บทเรียนที่ 11 หลกั สูตรและวชิ าพิเศษลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 4 บทเรียนท่ี 12 การวางแผนกาหนดการฝึกอบรม บทเรียนท่ี 13 การปฐมพยาบาล (ประชุมกอง คร้ังที่ 1) 145 บทเรียนที่ 14 การชุมนุมรอบกองไฟ 159 บทเรียนท่ี 15 ระบบหมู่และการประชุมคณะกรรมการดาเนินงานของกองลูกเสือ 170 บทเรียนท่ี 16 แผนที่ - เขม็ ทิศ 183 บทเรียนท่ี 17 การผกู แน่น (ประชุมกองคร้ังที่ 2) 189 บทเรียนท่ี 18 การบริหารงานในกองลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 198 บทเรียนที่ 19 บทบาทและหนา้ ท่ีของผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 212 บทเรียนที่ 20 ลูกเสือกบั การอนุรักษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 217 บทเรียนที่ 21 การทดสอบสมรรถภาพ (ประชุมกอง คร้ังท่ี 3) 226 บทเรียนที่ 22 พธิ ีการลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 231 บทเรียนที่ 23 การเดินทางไกล และอยคู่ า่ ยพกั แรม 236 บทเรียนท่ี 24 การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ 243 คาปราศรัยคร้ังสุดทา้ ย 251 บรรณานุกรม 255 285 288
5 โครงสร้ำงรำยวชิ ำในหลกั สูตร ผ้กู ำกบั ลูกเสือสำมัญรุ่นใหญ่ ข้นั ควำมรู้เบื้องต้น วชิ ำแกน 1. ประวตั ิและกิจการลูกเสือโลก 2.ประวตั ิและโครงสร้างของการลูกเสือไทย 3. วนิ ยั ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสัญญาณต่าง ๆ 4. ระบบหมู่และการประชุมคณะกรรมการกอง 5. เกมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 6. พิธีการลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 7. การชุมนุมรอบกองไฟ 8. การวางแผนกาหนดการฝึ กอบรม 9. คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 10. การบริหารงานในกองลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 11. การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ วชิ ำเฉพำะ 1. จุดหมาย วธิ ีการและธรรมชาติของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 2. บทบาทและหนา้ ที่ของผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 3. ระบบหมู่และการประชุมคณะกรรมการกอง 4. หลกั สูตรและวชิ าพิเศษลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ วชิ ำพเิ ศษ 1. แผนท่ี เขม็ ทิศ 2. ลูกเสือกบั การอนุรักษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 3. การปฐมพยาบาล 4. ทกั ษะทางลูกเสือ 5. กิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทกั ษะชีวติ
6 รำยชื่อวชิ ำในกำรฝึ กอบรมผู้กำกบั ลูกเสือสำมญั รุ่นใหญ่ ข้ันควำมรู้เบือ้ งต้น ลำดบั ที่ วชิ ำ เวลำ(นำที) บทเรียนที่ 1 วตั ถุประสงคข์ องการฝึกอบรม 30 บทเรียนท่ี 2 กิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทกั ษะชีวติ 45 บทเรียนท่ี 3 จุดมุ่งหมาย วธิ ีการ และธรรมชาติของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 บทเรียนที่ 4 ประวตั ิและกิจการลูกเสือโลก 45 บทเรียนที่ 5 ประวตั ิและโครงสร้างของการลูกเสือไทย 45 บทเรียนท่ี 6 คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 60 บทเรียนที่ 7 เกมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 30 บทเรียนท่ี 8 วนิ ยั ความเป็นระเบียบเรียบร้อย และสัญญาณต่าง ๆ 75 บทเรียนท่ี 9 เง่ือนลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 60 บทเรียนท่ี 10 การผจญภยั 120 บทเรียนที่ 11 หลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 บทเรียนที่ 12 การวางแผนกาหนดการฝึ กอบรม 60 บทเรียนท่ี 13 การปฐมพยาบาล (ประชุมกอง คร้ังที่ 1)) 75 บทเรียนท่ี 14 การชุมนุมรอบกองไฟ 180 บทเรียนที่ 15 ระบบหมู่และการประชุมคณะกรรมการดาเนินงานของกองลูกเสือ 60 บทเรียนที่ 16 แผนท่ี – เขม็ ทิศ 60 บทเรียนท่ี 17 การผกู แน่น (ประชุมกอง คร้ังที่ 2) 90 บทเรียนท่ี 18 การบริหารงานในกองลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 บทเรียนที่ 19 บทบาทและหนา้ ท่ีของผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 บทเรียนที่ 20 ลูกเสือกบั การอนุรักษธ์ รรมชาติและสิ่งแวดลอ้ ม 45 บทเรียนท่ี 21 การทดสอบสมรรถภาพ (ประชุมกอง คร้ังท่ี 3) 75 บทเรียนท่ี 22 พิธีการลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 บทเรียนท่ี 23 การเดินทางไกล และอยคู่ า่ ยพกั แรม 45 บทเรียนที่ 24 การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ 45 ภาคผนวก รวม (24 ช่ัวโมง 30 นำที ) 1,470
7 ตำรำงกำรฝึ กอบรมวชิ ำผู้กำกบั ลกู เสือสำมัญรุ่นใหญ่ ข้ันควำมรู้เบื้องต้น ระหวา่ งวนั ที่............................................. ณ...................................................................................... _________________________ วนั ท่ี 1 ของกำรฝึ กอบรม (วนั ที่............................................) เวลา 08.00 น. รายงานตวั , ลงทะเบียน 08:30 น. พธิ ีเปิ ดการฝึกอบรม (ในหอ้ งประชุม) 60 นาที - ประธานจุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย - ถวายราชสดุดี - กล่าวรายงาน - ประธานในพิธีกล่าวเปิ ดการฝึกอบรม พิธีทางการลูกเสือ - พิธีรอบเสาธง (ชกั ธง สวดมนต์ สงบน่ิง) - ถ่ายภาพ (ถา้ มี) 09:30 วตั ถุประสงคข์ องการฝึกอบรม 09:30 น. กิจกรรมลูกเสริมเสือสร้างทกั ษะชีวติ 45 นาที 10:30 น. จุดหมาย วธิ ีการ และธรรมชาติของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 นาที 11:30 น. ประวตั ิและกิจการลูกเสือโลก 30 นาที 12:00 น. พกั รับประทานอาหาร 13:00 น. ประวตั ิและโครงสร้างของการลูกเสือไทย 30 นาที 13.30 น. คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 60 นาที 14:30 น. เกมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 30 นาที 15:00 น. พกั – เครื่องดื่ม 15:15 น. วนิ ยั ความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสญั ญาณตา่ ง ๆ 75 นาที 16.30 น. เง่ือนลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 60 นาที 17:30 น. พกั กิจกรรมยามวา่ ง ประชุมวทิ ยากร 18:00 น. ชกั ธง รับประทานอาหาร 19:00 น. การผจญภยั 120 นาที 21:00 น. สวดมนต์ นอน
วนั ที่ 2 ของกำรฝึ กอบรม (วนั ท่ี ) 8 เวลา 05:00 น. ตื่นนอน 45 นาที 60 นาที 05:30 น. กายบริหาร ระเบียบแถว 75 นาที 30 นาที 07:00 น. รับประทานอาหาร 60 นาที 07:30 น. รับตรวจ 60 นาที 90 นาที 08:00 น. พิธีรอบเสาธง 150 นาที 08:30 น. หลกั สูตรลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 09:15 น. การวางแผนกาหนดการฝึ กอบรม 10:15 น. การปฐมพยาบาล (เปิ ดประชุมกองคร้ังท่ี 1) 11:30 น. การชุมนุมรอบกองไฟ (ภาคทฤษฎี) 12:00 น. พกั รับประทานอาหาร 13:00 น. ระบบหมู่ และการประชุมคณะกรรมการดาเนินงาน ของกองลูกเสือ 14:00 น. แผนท่ี - เขม็ ทิศ 15:00 น. พกั - เครื่องด่ืม 15:15 น. ผกู แน่น (เปิ ดประชุมกองคร้ังที่ 2) 105 17:00 น. พกั กิจกรรมยามวา่ ง ประชุมวทิ ยากร 18:00 น. ชกั ธง รับประทานอาหาร 19:00 น. ชุมนุมรอบกองไฟ 21:30 น. สวดมนต์ นอน วนั ท่ี 3 ของกำรฝึ กอบรม (วนั ท่ี …………………………) เวลา 05:00 น. ต่ืนนอน ทาความสะอาด 05:30 น. กายบริหาร ทบทวนระเบียบแถว 07:00 น. รับประทานอาหาร 07:30 น. รับตรวจ 08:00 น. พิธีรอบเสาธง
9 08:30 น. การดาเนินงานในกองลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 นาที 09:15 น. บทบาทและหนา้ ท่ีของผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 นาที 10:00 น. ลูกเสือกบั การอนุรักษธ์ รรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม 45 นาที 10:45 น. การทดสอบสมรรถภาพ (พิธีเปิ ดประชุมกอง คร้ังท่ี 3) 75 นาที 12:00 น. รับประทานอาหาร เลือกผูแ้ ทนรุ่น 13:00 น. พิธีการลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 45 นาที 13:45 น. การเดินทางไกลและอยคู่ ่ายพกั แรม(ภาคทฤษฎี) 45 นาที 14:30 น. การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ 45 นาที 15:15 น. พกั - เครื่องด่ืม 15:30 น. พธิ ีปิ ดการฝึกอบรม - อภิปรายซกั ถามปัญหา - ผแู้ ทนผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมกล่าวแสดงความรู้สึก - ผอู้ านวยการฝึกประกาศผลการฝึกอบรม - มอบวฒุ ิบตั ร ห่วงสวมผา้ ผกู คอ - ผอู้ านวยการฝึกอบรมกล่าวปราศรัยคร้ังสุดทา้ ย - ทบทวนคาปฏิญาณ พธิ ีปิ ดทางการลูกเสือ - พิธีรอบเสาธง (สวดมนต์ สงบนิ่ง ชกั ธง) - ร้องเพลงสามคั คีชุมนุม จบั มือลา - เดินทางกลบั ********************************************
กำรประชุมกอง คร้ังท่ี 1 เวลำ 75 นำที 10 1. พิธีเปิ ด (ชกั ธง สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2. เกม (เพลง) (10 นาที) 3. วชิ าการปฐมพยาบาล (5 นาที) (40 นาที) 1. บรรยาย 2. แบง่ กลุ่มศึกษาเป็นฐาน ( 5 นาที) ( 10 นาที) ฐานที่ 1 การใชผ้ า้ พนั แผล ( 5 นาที) ฐานที่ 2 การผายปอด ฐานท่ี 3 การเขา้ เฝื อกและการทาเปล (10 นาที) ฐานที่ 4 การเคล่ือนยา้ ยผปู้ ่ วย (5 นาที) 3. เกมทดสอบ (45 นาที) 4. ผกู้ ากบั การเล่าเรื่องส้ันที่เป็ นคติ 5. พิธีปิ ด (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลิก) (15 นาที) ( 10 นาที) กำรประชุมกองคร้ังที่ 2 เวลำ 90 นำที ( 5 นาที) นายหมูต่ รวจ 1. พิธีเปิ ด (ชกั ธง สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) (10 นาที) 2. เกม (45 นาที) 3. วชิ าการ การผกู แน่น ( 10 นาที) ( 10 นาที) - ผกู ประกบ 2 และผกู ประกบ 3 - กากบาท - ทแยง 4. ทดสอบทาเสาธงลอย 5. ผกู้ ากบั การเล่าเรื่องส้ันที่เป็ นคติ 6. พธิ ีปิ ด (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชกั ธง เลิก) กำรประชุมกองคร้ังท่ี 3 เวลำ 75 นำที นายหมู่ตรวจ 1. พธิ ีเปิ ด (ชกั ธง สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 2. การทดสอบสมรรถภาพ 3. ผกู้ ากบั การเล่าเรื่องส้นั ที่เป็ นคติ 4. พิธีปิ ด (นดั หมาย ตรวจเครื่องแบบ ชกั ธง เลิก)
คำแนะนำทวั่ ไป 11 บทพเิ ศษ ก. การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ จดั ข้ึนเพ่ือใหเ้ ป็ นการต่อเน่ือง กบั การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ความรู้ทวั่ ไป และเพอ่ื ใหเ้ กิดมีความเขา้ ใจวา่ กิจการลูกเสือ สามญั รุ่นใหญ่สนองความตอ้ งการและพฒั นาลูกเสือในช่วงอายุ 15 – 18 ปี อยา่ งไร และช่วยผกู้ ากบั ลูกเสือสามารถปฏิบตั ิตามบทบาทหนา้ ท่ีของตนไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 1. เป้ำเหมำย ส่งเสริมใหเ้ ป็นผกู้ ากบั ลูกเสือที่มีความรู้ความสามารถและเขา้ ใจในกิจการลุกเสือสามญั รุ่นใหญ่ เพิ่มข้ึน 2. วตั ถุประสงค์ของกำรฝึ กอบรม เม่ือจบการฝึกอบรมน้ีแลว้ ผูเ้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถดงั ต่อไปน้ี 1 .ช้ีแจงเก่ียวกบั กิจการลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ได้ 2. บอกแนวทางปฏิบตั ิเก่ียวกบั กฎหมาย ระเบียบขอ้ บงั คบั ท่ีจาเป็นเก่ียวกบั การบริหารงาน ในกองลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ได้ 3. สามารถปฏิบตั ิงานและดาเนินการฝึกอบรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ได้ 4. สาธิตการปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ทกั ษะและพธิ ีการของลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ได้ 5. บอกแนวทางพฒั นาตนเองของผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ กำรขออนุญำตจัดกำรฝึ กอบรมและกำรทำรำยงำน ก่อนจะเปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ไดท้ าการขอ อนุญาตไปตามลาดบั ช้นั ผรู้ ับผดิ ชอบในการดาเนินงานน้นั มีดงั น้ี ส่วนกลำง ใหข้ ออนุญาตพร้อมเสนิโครงการต่อสานกั งานคณะกรรมการบริหารลูกเสือ แห่งชาติ ส่วนภูมภิ ำค ใหข้ ออนุญาตพร้อมเสนอโครงการต่อสานกั งานศึกษาธิการเขต เขตการศึกษา โดยเสนอผา่ นสานกั งานคณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั หรือสานกั งานคณะกรรมการลูกเสืออาเภอ ตามลาดบั การขออนุญาตเป็ ดการฝึ กอบรม ใหเ้ สนอล่วงหนา้ อยา่ งนอ้ ย 30 วนั เมื่อไดร้ ับคาแนะนาแลว้ และเห็นควรอนุมตั ิใหเ้ ปิ ดการฝึกอบรมได้ ใหส้ านกั งาน คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติหรือสานกั งานคณะกรรมการลูกเสือจงั หวดั ตอบอนุญาตไปก่อน วนั เปิ ดการฝึกอบรมอยา่ งนอ้ ย 15 วนั ในใบอนุญาตเปิ ดการฝึกอบรมน้นั ใหม้ ีขอ้ ความต่อไปน้ีดว้ ย 1. ช่ือผอู้ านวยการฝึกอบรม พร้อมท้งั วุฒิทางลูกเสือ 2. ชื่อคณะผใู้ หใ้ หก้ ารฝึกอบรมพร้อมท้งั วฒุ ิทางลูกเสือ
12 3. จานวนผูเ้ ขา้ รับการฝึกอบรม (ไม่ควรเกิน 40 คน ถา้ เกินใหแ้ บ่งเป็น 2 กอง ๆ ละ 40 คน) 4. สถานท่ีฝึกอบรม สถานท่ีเรียน อุปกรณ์ และสิ่งอานวยความสะดวกอ่ืน ๆ 5. ระยะเวลาฝึกอบรม และตารางฝึกอบรมประจาวนั 6. ท่ีพกั นอน, การรับประทานอาหาร, หอ้ งน้า, หอ้ งส้วม ฯลฯ 7. คา่ ธรรมเนียมในการเขา้ รับการฝึกอบรมเป็นรายบุคคล 8. แจง้ ขอซ้ือ “เอกสารประกอบ” และวฒุ ิบตั รไปพร้อมกบั ขออนุญาตเปิ ดการฝึกอบรมดว้ ย (สาหรับส่วนกลาง) ผมู้ ีอานาจอนุญาต จะไดต้ อบอนุญาตเปิ ดการฝึกอบรมไป ส่วน “เอกสารประกอบ” และ “วฒุ ิบตั ร” ติดต่อขอซ้ือไดท้ ่ีองคก์ ารคา้ ของคุรุสภาและกองลูกเสือ กรมพลศึกษา ตามลาดบั กำรรำยงำนผลกำรฝึ กอบรม เมื่อสิ้นสุดการฝึกอบรมแลว้ ใหผ้ อู้ านวยการฝึกอบรมส่งรายงานผลการฝึกอบรมไปยงั ผมู้ ี อานาจอนุญาตเปิ ดการฝึกอบรม ภายใน 15 วนั พร้อมเงินสมทบทุน บี.พ.ี คนละ 5 บาท ในรายงานใหแ้ นบ 1. รายชื่อผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม (ชายก่ีคน หญิงก่ีคน) แบ่งเป็นหมู่ 1 ชุด 2. ความคิดเห็นและความรู้สึกของผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม การประเมินผล 3. ขอ้ เสนอแนะของผอู้ านวยการฝึกอบรมโดยทว่ั ไป 4. สาหรับส่วนภูมิภาคเงินสมทบทุน บี.พ.ี คนละ 5 บาท ใหส้ านกั งานศึกษาธิการเขต เขต การศึกษาจดั ส่งใหส้ านกั งานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติพร้อมสาเนารายช่ือวิทยากรและผู้ เขา้ รับการฝึกอบรมอยา่ งละ 1 ชุด เพอ่ื เก็บเป็นขอ้ มูลสถิติต่อไป กำรเตรียมกำรฝึ กอบรมโดยทว่ั ไป จำนวนผู้เข้ำรับกำรฝึ กอบรม เพ่อื ที่จะใหก้ ารเรียนไดผ้ ลดี ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมทุกคนควรจะไดม้ ีส่วนร่วมแสดงความ คิดเห็นอยา่ งเตม็ ที่ การแสดงความคิดเห็นจะช่วยใหเ้ กิดการคุน้ เคยเป็นกนั เองในกลุ่มสมาชิกที่มี จานวนไมม่ ากนกั การฝึกอบรมท่ีมีจานวนสมาชิก 40 คน แบ่งออกเป็นหมู่ ๆ ละ 6 – 8 คน ทางานร่วมกบั วทิ ยากรจะไดผ้ ลดีที่สุด ในกรณีท่ีมีจานวนผสู้ มคั รเขา้ รับการฝึกอบรมมากกวา่ น้ี ควรจดั แบง่ การ ฝึกอบรมเป็ น 2 กอง สถำนทฝี่ ึ กอบรม ควรพิจารณาคดั เลือกสถานท่ีฝึกอบรมและการตระเตรียมส่ิงอานวยความสะดวกตา่ ง ๆ อยา่ ง รอบคอบ เพ่ือผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมจะไดร้ ู้สึกสะดวกสบายและอบอุน่ ใจ ควำมสะดวกทค่ี วรจัดให้มี - หอ้ งประชุมใหญ่ หอ้ งสาหรับหมูท่ างาน
13 - เกา้ อ้ีท่ีสบาย - โตะ๊ สาหรับเขียนหรือทางาน - สถานท่ีสาหรับแสดงผลงานของหมู่ หนงั สือ อุปกรณ์การสอน แผนภูมิ ฯลฯ - อุปกรณ์และความสะดวกเกี่ยวกบั การจดั เล้ียงอาหาร - ท่ีเรียนกลางแจง้ - หอ้ งน้า หอ้ งส้วม น้าดื่มน้าใช้ ไฟฟ้าสาหรับกลางคืน - ท่ีหลบั นอนสาหรับผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม และคณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรม อปุ กรณ์ - ป้ายช่ือ ผา้ ผกู คอประจาการฝึกอบรม - เคร่ืองเขียน-กระดาษสาหรับเขียนแผนภูมิแผน่ ใหญ่ สีเมจิก (มีเพยี งพอสาหรับใชส้ ่วนกลาง และในการใหห้ มู่ไปทางาน) - วสั ดุอุปกรณ์อยา่ งอ่ืน เหมาะสมกบั โครงการท่ีกาหนดให้ - หนงั สือตา่ ง ๆ ที่เก่ียวขอ้ ง - ธงชาติ เสาธงพร้อมเชือก - เครื่องฉายภาพยนตร์ ฉายภาพขา้ มศีรษะ ภาพน่ิง และจอ กำรจัดอุปกรณ์ หีบอุปกรณ์เป็นเครื่องมือที่สาคญั ของหมูท่ ี่จะช่วยใหก้ ารฝึ กอบรมบรรลุวตั ถุประสงค์ บนฝา หีบดา้ นนอกเขียนชื่อหมูต่ ามประเภทของลูกเสือ บนฝาหีบดา้ นในติดรายการอุปกรณ์ในหีบ ในหีบ อุปกรณ์ควรมรส่ิงเหล่าน้ีจดั ใส่ไวล้ ่วงหนา้ ก่อนการเปิ ดฝึกอบรม ดงั น้ี - ผา้ ผกู คอ-ห่วงสวมผา้ ผกู คอ - เคร่ืองหมายหมู่ - เครื่องหมายตาแหน่งนายหมู่ และรองนายหมู่ - เคร่ืองตาแหน่งพลาธิการ - ป้ายช่ือ - เขม็ กลดั ซ่อนปลาย - เขม็ เยบ็ ผา้ พร้อมดา้ ย - ไมบ้ รรทดั - สีเมจิก - เชือกผกู เงื่อน - สมุดจดบนั ทึกของผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม - ขอ้ บงั คบั พระราชบญั ญตั ิ กฎกระทรวง (ตามประเภทของลูกเสือ)
14 - กรรไกร - คตั เตอร์ - อุปกรณ์ใชฝ้ ึกอบรมอ่ืนตามประเภทลูกเสือ กำรเลยี้ งอำหำร - ควรจดั เคร่ืองด่ืม ไวร้ บรองเม่ือผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมมาถึงคา่ ย จะช่วยใหบ้ รรยากาศเป็ นกนั เอง - การฝึกอบรมน้ีจะจดั อาหารเล้ียงทุกม้ือ พธิ ีทำงศำสนำ การร่วมพิธีทางศาสนา เป็นเร่ืองของความสมคั รใจแต่ควรจะจดั ใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมไดม้ ี โอกาสท่ีจะประกอบพิธีกรรมทางศาสนาตามวธิ ีการของตน ค่ำธรรมเนียม คา่ ธรรมเนียมควรรวมถึงค่าอาหารและคา่ อุปกรณ์ในการฝึ กอบรมดว้ ย เช่น ค่ากระดาษ คา่ หนงั สือเอกสารท่ีแจก ค่าวฒุ ิบตั ร คา่ วอ๊ กเก๊ิล คา่ สมทบทุน บี.พี ค่าเคร่ืองด่ืม ค่าซกั ฟอกผา้ ปูที่นอน ปลอกหมอน ค่าขนส่ง ฯลฯ ส่วนจะเก็บเป็นเงินคนละเทา่ ใดน้นั สุดแลว้ แตค่ วามสะดวกและเศรษฐกิจ ของทอ้ งถ่ินน้นั ๆ เป็นสาคญั โดยยดึ ระเบียบของกระทรวงการคลงั ผู้เข้ำรับกำรฝึ กอบรม ผทู้ ่ีมีความสนใจตอ้ งเขา้ รับการฝึกอบรมข้นั ความรู้ทวั่ ไปก่อน การแนะนาชกั ชวนของผอู้ านวยการลูกเสืออาเภอหรือจงั หวดั หรือแมแ้ ต่ผกู้ ากบั กลุ่มหรือผู้ กากบั ลูกเสือที่เป็นเพ่ือนฝงู กนั จะทาใหผ้ ทู้ ่ีประสงคจ์ ะเขา้ มาช่วยเหลือกิจการลูกเสืออยแู่ ลว้ มีความ มนั่ ใจ เขา้ มาสมคั รเร็วข้ึน ผมู้ ีสิทธิเขา้ รับการฝึกอบรม การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ จดั ข้ึนเพ่อื สนองความ ตอ้ งการของผกู้ ากบั ลูกเสือโดยตรง ผสู้ มคั รเขา้ รับการฝึ กอบรมควรมีอายอุ ยา่ งนอ้ ย 21 ปี มีความรู้อยา่ งต่า ม.3 หรือเทียบเท่าโดย ปกติตอ้ งเป็นผทู้ ี่ไดผ้ า่ นการฝึ กอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ความรู้ทว่ั ไปมาแลว้ ส่วนผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสืออ่ืน เช่นผกู้ ากบั กลุ่ม ผสู้ อนลูกเสือ จะสมคั รเขา้ รับการฝึกอบรมดว้ ย ก็ได้ แตต่ อ้ งผา่ นการอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ความรู้ทวั่ ไปมาแลว้ การแต่งกาย แตง่ เครื่องแบบลูกเสือชุดฝึก (กางเกงขาส้นั หมวก ตามประเภทของลูกเสือ) ควรนาเครื่อง แต่งกายอยา่ งอ่ืนท่ีเหมาะสมกบั งานภาคปฏิบตั ิกลางแจง้ ไปดว้ ย
คำแนะนำทวั่ ไป 15 บทพเิ ศษ ข. กำรปฐมนิเทศ 1. กำรใช้สมุดจดวชิ ำ - หนา้ ที่ 1 บอกใหท้ ราบถึงการฝึกอบรมเป็นตน้ วา่ วชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ รุ่นที่…….. ระหวา่ งวนั ที่............................................................................................................... ณ คา่ ยลูกเสือ.............................................................................................................. - หนา้ ท่ี 2 รายช่ือคณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรม เขียนเย้อื งไปทางซา้ ยเพอ่ื จะเหลือดา้ นขวาของ หนา้ กระดาษไวส้ าหรับขอลายเซ็น - หนา้ ท่ี 3 รายช่ือผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมในหมู่ ปฏิบตั ิเช่นเดียวกบั หนา้ ท่ี 2 - หนา้ ท่ี 4 ขอ้ ความของประธานผกู้ ล่าวเปิ ดหรือผรู้ ายงานที่เป็นใจความสาคญั - หนา้ ที่ 5 ตารางฝึกอบรม - หนา้ ท่ี 6 เป็ นหนา้ ที่ท่านจะตอ้ งบนั ทึกเกี่ยวกบั คาบรรยายของผบู้ รรยายแตล่ ะวชิ าควรจะมี รูปแบบดงั น้ี หวั ขอ้ วชิ าท่ีบรรยาย - ผบู้ รรยายคือใคร - บรรยายเมื่อไร วนั ท่ีเทา่ ไร ควรเขียนท่ีมุมทางซา้ ยแต่ละหนา้ ต่อจากน้นั แตล่ ะบรรทดั ควรมี หวั ขอ้ ยอ่ ยลงไปตามลาดบั - สมุดโนต้ วชิ าเหมือนกระจกเงาของแตล่ ะคน วนั สุดทา้ ยก่อนเดินทางไกลหรือก่อนปิ ดการ ฝึกอบรม วทิ ยากรประจาหมู่มีหนา้ ที่ตรวจและใหข้ อ้ คิดเห็นในสมุดของผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม สมุดจดวชิ ำของผ้เู ข้ำรับกำรฝึ กอบรม - กิจกรรมยามวา่ งจะอยทู่ า้ ยสมุดวชิ า อาจจะใหม้ ีการสอบในเร่ืองต่อไปน้ี 1. คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 2. การฝีมือ 3. เงื่อน 4. ทกั ษะที่ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมเลือกเอง เป็ นทกั ษะใหม่ท่ีนามาแสดง 5. ทกั ษะอ่ืนใดท่ีผอู้ านวยการฝึกจะกาหนด - การสเก็ตภาพประจาวนั - เกม (จดเพื่อความจาของผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม) - การชุมนุมรอบกองไฟ (มีกิจกรรมอะไรบา้ ง) - อุปกรณ์การฝึก (ที่ควรจดจา)
16 - ขอ้ ควรจาของผเู้ ขา้ รับการฝึ กอบรม หรือสิ่งที่ควรนาไปปฏิบตั ิ 2. กำรจัดหมู่ - ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมทุกคน ใชผ้ า้ ผกู คอของการฝึกอบรมตามที่กาหนดและติดเครื่องหมาย ประจาหมู่ ป้ายช่ือ (ผเู้ ป็นนายหมู่และรองนายหมูใ่ หต้ ิดเคร่ืองหมายตาแหน่งดว้ ย) นอกจากน้ี ผอู้ านวยการฝึกอบรมจะเป็นผกู้ าหนดใหม้ ีการแต่งกายลาลอง ฯลฯ ตามโอกาสอนั ควร - คณะวทิ ยากรใชผ้ า้ ผกู คอวดู แบดจข์ องกิลเวลล์ อตั รากาลงั ของหมู่เป็ นไปตามขอ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชาติ วา่ ดว้ ยการปกครองหลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษฯลฯ (หมู่ลูกเสือสารอง 4-6 คน หมูล่ ูกเสือสามญั 6-8 คน หมู่ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ 4-8 คน หมูล่ ูกเสือ วสิ ามญั 4-6 คน) 3. ตำรำงฝึ กอบรมประจำวนั เวลา 05.30 น. ตื่นนอนกายบริหาร ระเบียบแถว สวนสนาม เวลา 07.00 น. รับประทานอาหาร เวลา 07.30 น. รับตรวจ เวลา 08.00 น. ประชุมรอบเสธง รับฟังรายงานการตรวจ การเล่นเพ่ือสุขภาพ เวลา 09.00 น. การฝึกอบรม กิจกรรม เวลา 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวนั เวลา 13.00 น. การฝึกอบรม กิจกรรม เวลา 18.00 น. ชกั ธงลง รับประทานอาหารเยน็ เวลา 19.00 น. การฝึกอบรม กิจกรรม เวลา 21.30 น. สวดมนต์ นอน 4.กำรเตรียมจัดสถำนทเ่ี ป็ นไปตำมทผ่ี ้อู ำนวยกำรฝึ กอบรมกำหนด 5.กำรตรงต่อเวลำและรักษำควำมสะอำด เป็ นไปตำมตำรำงกำรฝึ กอบรมและข้อกำหนด 6.กำรสูบบุหรี่ ห้ำมสูบระหว่ำงเวลำกำรบรรยำยและกำรปฏิบัตกิ จิ กรรม 7.กำรรักษำพยำบำล เป็ นหน้ำทขี่ องผู้รับกำรฝึ กอบรมจะต้องปฏบิ ัตแิ ละรักษำตัวเอง และค่ำยฝึ กอบรม จะจัดเจ้ำหน้ำทฝี่ ่ ำยบริกำร และให้ควำมสะดวกตลอกเวลำกำรฝึ กอบรม 8.วธิ ีดำเนินกำรฝึ กอบรมขึน้ อยู่กบั จุดหมำยและวตั ถุประสงค์ของกำรฝึ กอบรม ซึ่งผู้อำนวยกำร ฝึ กอบรมจะเน้นในเร่ืองระบบกำรเป็ นผู้นำด้วยกำรสำธิตโดยวธิ ีกำรของระบบหมู่และกองและส่งเสริม ให้มีกำรเรียนรู้ด้วยวธิ ีปฏบิ ัติ ตำมนโยบำยของคณะกรรมกำรฝ่ ำยฝึ กอบรมลูกเสือไทยและลกู เสือโลก 9.หน้ำท่หี มู่บริกำร ใหเ้ ป็นไปตามขอ้ กาหนดเพือ่ ความเหมาะสม แต่ละสถานที่ในการฝึกอบรม โดยกาหนดหมู่ บริการไวเ้ ป็ นประจาวนั และหนา้ ท่ีหมูบ่ ริการแตล่ ะวนั จะสิ้นสุดลง เวลา 18.00 น.
17 หนา้ ที่หมู่บริการ อาจกาหนดไวว้ นั ละ 1 หรือ 2 หมู่ ตามความเหมาะสม และมีหนา้ ที่ในการ ปฏิบตั ิดงั ตอ่ ไปน้ี 9.1 การเตรียมและชกั ธงชาติข้ึนสู่ยอดเสาในเวลาเชา้ เวลา 08.00 น. และการชกั ธงเวลา 18.00 น. การชกั ธงข้ึนและการชกั ธงลง ใหป้ ฏิบตั ิตามขอ้ บงั คบั คณะลูกเสือแห่งชาติ 9.2 การทาความสะอาดสถานที่ใชร้ ่วมกนั เช่น ห้องน้า หอ้ งส้วม หอ้ งเรียน บริเวณรอบเสาธง 9.3 การจดั สถานที่ชุมนุมรอบกองไฟ การเตรียมสถานที่ ทาพวงมาลยั แจกนั ป่ า การทาความ สะอาดหลงั การชุมนุมรอบกองไฟ 9.4 การรักษาความสะอาดในบริเวณการอยคู่ า่ ยพกั แรม เช่น การกาจดั ขยะมูลฝอย เศษแกว้ แตก การกลบหลุมบ่อ ฯลฯ เป็นตน้ 9.5 การช่วยเหลือจดั อุปกรณ์ เตรียมอุปกรณ์ท่ีจะใชใ้ นการฝึกอบรมตามท่ีวทิ ยากรกาหนด 9.6 หนา้ ที่อื่นใดท่ีไดร้ ับมอบหมาย 10. กำรวดั ผลหรือกำรประเมนิ ผลในระหว่ำงกำรฝึ กอบรม ผ้ทู จ่ี ะผ่ำนกำรฝึ กอบรมหรือไม่ผ่ำนกำร ฝึ กอบรมพจิ ำรณำจำกสิ่งต่อไปนีค้ ือ 10.1 ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมจะตอ้ งไม่ขาดการฝึกอบรม นอกจากจะไดร้ ับอนุญาตจาก ผอู้ านวยการฝึกอบรมเป็นผพู้ ิจารณาเป็นราย ๆ ไป 10.2 ระบบหมู่ 10.3 ความต้งั ใจและสนใจในการเขา้ ร่วมกิจกรรมในระหวา่ งการฝึกอบรม 10.4 การสอบกิจกรรมยามวา่ ง 10.5 สมุดจดวชิ า 10.6 ผอู้ านวยการฝึกอบรมเป็นผปู้ ระเมินผลจากการสงั เกตพิจารณาของวทิ ยากรประจาหมู่ และวทิ ยากรอ่ืน ๆ
คำแนะนำทว่ั ไป 18 บทพเิ ศษ ค. กำรแต่งกำยในกำรฝึ กอบนม วชิ ำผ้กู ำกบั ลูกเสือ ข้ันควำมรู้เบือ้ งต้น 1. ผ้เู ข้ำรับกำรฝึ กอบรม 1.1 แต่งเคร่ืองแบบลูกเสือ - ชาย กางเกงขาส้นั - หญิง เครื่องแบบฝึก 1.2 ผา้ ผกู คอ - ใชผ้ า้ ผกู คอสาหรับการฝึกอบรม ซ่ึงคณะอนุกรรมการ ลูกเสือฝ่ าย ฝึกอบรมเป็ นผกู้ าหนด (สีน้าเงินมีตราขวานสับ ขอนไม)้ 1.3 หมวก - การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสารอง สวมหมวกทรง ออ่ น (เบเรต)์ สี เขียว - การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั สวมหมวกปี กวา้ ง - การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ สวม หมวกทรงอ่อน (เบเรต)์ สีเลือดหมู - การฝึกอบรวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั สวมหมวกทรง ออ่ น (เบเรต)์ สีเขียว 1.4 ป้ายช่ือ - ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมทุกคนท่ีเหนือกระเป๋ าขา้ งขวาเมื่อ แต่งเครื่องแบบครบ 1.5 เคร่ืองหมายหมู่ -ใชอ้ นุโลมตามเคร่ืองแบบลูกเสือตามกฎกระทรวง ประเภทสารองใชผ้ า้ สีเป็นรูปสามเหลี่ยมดา้ นเทา่ ติดใหม้ ุม แหลมอยดู่ า้ นบน ประเภทสามญั และวสิ ามญั ใชร้ ิบบิ้นสี เป็นแถบยาว สามญั รุ่นใหญใ่ ชเ้ คร่ืองหมายส่ีเหล่ียมติดที่ ไหล่ 1.6 เคร่ืองหมายนายหมู่ -สารอง ใชแ้ ถบผา้ สีเหลือง กวา้ ง 1 ซม. ยาวรอบแขนเส้ือ และรองนายหมู่ ขา้ งซา้ ย ติดที่ ปลายแขนเส้ือขา้ งซา้ ย ใหข้ ีดแรกห่างจากปลายแขนเส้ือ 5 ซม. ขีดท่ี 2 ห่างจากขีดแรก 1 ซม. - สามญั ใชแ้ ถบผา้ สีขาว กวา้ ง 1.5 ซม. ยาวตามกระเป๋ ารูป ส่ีเหล่ียมผนื ผา้ สามญั รุ่นใหญ่ ใชส้ ีเลือดหมู วสิ ามญั ใชส้ ี แดง ลกั ษณะเช่นเดียวกบั ลูกเสือสามญั ติดที่กระเป๋ าเสือ ขา้ งซา้ ย (ดูกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยเครื่องแบบลูกเสือ)
19 2. ผ้ใู ห้กำรฝึ กอบรม 2.1 แต่งเครื่องแบบลูกเสือ - ชาย กางเกงขาส้ัน - หญิง เครื่องแบบฝึก 2.2 ผา้ ผกู คอ - ใชผ้ า้ ผกู คอกิลเวลล์ - สวมสายบีดตามคุณวฒุ ิ 2.3 หมวก - ใชเ้ ช่นเดียวกบั ผเู้ ขา้ รับการฝึกปบรม หรือใชห้ มวกตาม ประเภทของลูกเสือซ่ึงระบุไวใ้ นกฎกระทรวงวา่ ดว้ ย เคร่ืองแบบ 2.4 ป้ายช่ือ - ทุกคนมีป้ายชื่อติดที่อกเส้ือเหนือกระเป๋ าเส้ือขา้ งขวา 3.โอกำสในกำรแต่งกำย 3.1 ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม แต่งเคร่ืองแบบครบ คือ การแต่งเคร่ืองแบบลูกเสือตามที่กาหนดไวใ้ นกากระทรวงวา่ ดว้ ย เคร่ืองแบบลูกเสือ โอกาสที่จะแต่งเครื่องแบบครบ คือ ก. ในพิธีเปิ ด-ปิ ดการฝึกแบรม ข. ในพิธีประชุมรอบเสาธง (ตอนเชา้ ) ค. เม่ือไดร้ ับอนุญาตใหอ้ อกไปนอกบริเวณค่ายฝึกอบรม ง. เม่ืออานวยการฝึกอบรมจะนดั หมายเป็นกรณีพเิ ศษ แต่งกายอย่างอ่ืน 1. แต่งกายลาลอง คือ การแต่งกายสุภาพ ใชเ้ ส้ือมีแขน ประกอบหมวก ผา้ ผกู คอ เครื่องหมาย หมู่ เครื่องหมายนายหมู่ รองนายหมูแ่ ละป้ายช่ือ (หา้ มสวมรองเทา้ แตะ) 2. แต่งกายตามสบาย คือ การแต่งกายสุภาพ (ใชเ้ ส้ือมีแขน-หา้ มสวมรองเทา้ รองเทา้ แตะ) แต่ ไม่ตอ้ งมีหมวก ผา้ ผกู คอ ส่วนเคร่ืองหมายอ่ืนๆ ควรติดไวเ้ พื่อจะไดท้ ราบหมูแ่ ละหนา้ ท่ี โอกาสท่ีจะแต่งตามสบาย มกั เป็นการเรียนตอนกลางคืน หรือเมื่อเลิกจากการฝึกอบรม ประจาวนั แลว้ 3.2ผ้ใู ห้กำรฝึ กอบรม 3.2.1ผ้อู ำนวยกำรฝึ กอบรม มีหนา้ ที่ควบคุมดูแลการฝึกปบรมตลอดเวลา ฉะน้นั ตอ้ งอยใู่ นเคร่ืองแบบครบตลอดเวลา จนกวา่ จะเสร็จสิ้นการฝึกอบรมประจาวนั 3.2.2วิทยำกรผ้บู รรยำย เมื่อมีการบรรยายตอ้ งแต่งเครื่องแบบครบ 3.2.3วทิ ยำกรประจำหมู่
20 ระหวา่ งปฏิบตั ิหนา้ ท่ีในการดูแลแนะนาหมู่ ให้แตง่ เครื่องแบบครบจนกวา่ จะเสร็จสิ้นงาน ประจาวนั คณะผู้ให้กำรฝึ กอบรมและงำนในหน้ำที่ ผู้อำนวยกำรฝึ ก การฝึกอบรมตอ้ งมีสมาชิกคนหน่ึงในคณะกรรมการการฝึกอบรม เป็นผอู้ านวยการฝึกอบรม ผอู้ านวยการฝึกอบรมตอ้ งเป็ นผมู้ ีวฒุ ิไดร้ ับเคร่ืองหมายวดู แบดจ์ 4 ทอ่ น (L.T) หรือ 3 ท่อน (A.L.T) มาแลว้ ผอู้ านวยการฝึกอบรมตอ้ งไดร้ ับแตง่ ต้งั จากผมู้ ีอานาจอนุญาตให้เปิ ดการฝึกอบรม (ตามท่ี ระเบียบสานกั งานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ) หนา้ ท่ีของผอู้ านวยการฝึกอบรมมีดงั ต่อไปน้ี - จดั หาสถานที่ฝึกอบรมท่ีเหมาะสมพร้อมอุปกรณ์การฝึกอบรม - คดั เลือกคณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรม - ช้ีแจงวตั ถุประสงคแ์ ละมอบหมายงานใหค้ ณะผใู้ หก้ ารฝึ กอบรม - ควบคุม ดูแล การฝึกอบรมน้นั ไดบ้ รรลุถึงวตั ถุประสงคท์ ี่กาหนดไวโ้ ดยวธิ ีการอนั เหมาะสม - รายงานผลการฝึกอบรม วทิ ยำกร เป็นผสู้ อนบทเรียนต่าง ๆ วทิ ยาตอ้ งเลือกวธิ ีสอนที่เหมาะสมท่ีสุด เพอ่ื ใหบ้ รรลุถึง วตั ถุประสงคข์ องบทเรียนน้นั วทิ ยำกรประจำหมู่ มีหนา้ ท่ีช่วยเหลือใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมประเมินผลวา่ ไดป้ ระสบผลสาเร็จตามความ ตอ้ งการของเขาหรือไม่ วทิ ยากรประจาหมู่ แตล่ ะคนอยปู่ ระจาหมู่ของตนตลอดเวลาทางการฝึกอบรมและเป็ นความ จาเป็นอยา่ งยง่ิ ที่วทิ ยากรประจาหมู่ จะตอ้ งอยปู่ ระจาไดต้ ลอดเวลาฝึกอบรม วทิ ยากรประจาหมู่ส่งเสริมใหส้ มาชิกทุกคนในหมู่ (หมู่หน่ึง ๆ มีสมาขิก 6-8 คน) แสดงความ คิดเห็นของตนออกมาในท่ีประชุมหมู่ และวทิ ยากรประจาหมูเ่ องตอ้ งระวงั ไมแ่ สดงออกมาวา่ ความ คิดเห็นของตนเป็ นความคิดท่ีถูกตอ้ งเพยี งความคิดเดียว วทิ ยากรประจาหมู่จะตอ้ งมีความรอบรู้ในเรื่องการฝึกอบรมและสามารถใหค้ วามกระจา่ งแก่ผู้ เขา้ รับการฝึกอบรมในหวั ขอ้ ต่อไปน้ี (ในกรณีที่มีปัญหาในบทเรียนใดใหส้ อบถามจากวทิ ยากรเจา้ ของ วชิ าหรือผอู้ านวยการฝึก) - วตั ถุประสงคท์ วั่ ไปของการฝึกอบรม - วตั ถุประสงค์ วธิ ีสอน และบทบาทของวทิ ยากรประจากมู่ของแจ่ละบทเรียน - วชิ าความรู้เย้อื งตน้ น้ีมีความสัมพนั ธ์กบั การฝึกอบรมข้นั ความรู้ช้นั สูงอยา่ งไร - ความตอ้ งการของผกู้ ากบั ในการอบรมคร้ังน้ีมีอะไรบา้ ง
21 - ความจาเป็ นท่ีวทิ ยากรประจาหมู่ ตอ้ งอยกู่ บั หมู่ตลอดเวลา - การช่วยเหลือใหค้ าแนะนาในโอกาสต่าง ๆ - เร่ืองพเิ ศษเฉพาะผเู้ ขา้ รับการอบรมบางคน (ถา้ มี) - การบริหารการฝึกอบรมอยา่ งละเอียด วทิ ยากรแต่ละทา่ นควรรับผดิ ชอบงานเพียงดา้ นเดียวเพ่ือใหเ้ กิดประสิทธิภาพในการฝึกอบรม วทิ ยำกรสนับสนุน (ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ) มีหนา้ ท่ีใหบ้ ริการเกี่ยวกบั การฝึกอบรมตามที่คณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรมตอ้ งการและบารุงรักษา เคร่ืองอุปกรณ์การสอนวธิ ีน้ีจะช่วยใหก้ ารฝึกอบรมดาเนินไปอยา่ งเรียบร้อย เปิ ดโอกาสใหผ้ ใู้ หก้ าร ฝึกอบรมมีโอกาสช่วยผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมไดม้ ากข้ึน แขกผู้มำเยยี่ ม ถา้ จาเป็นจะเชิญใหพ้ บปะกนั ระหวา่ งหยดุ พกั รับประทานเคร่ืองด่ืมหรืออาหาร วุฒิบัตร เม่ือจบการฝึกอบรมแลว้ ใหแ้ จกวฒุ ิบตั รแกฝ้ ้เู ขา้ รับการฝึกอบรมวฒุ ิบตั ร จะขอซ้ือไดจ้ ากกอง ลูกเสือ กรมพลศึกษา กำหนดกำร หนงั สือคูม่ ือเล่มน้ีมิไดว้ างกาหนดฝึกอบรมใหแ้ น่นอนเพ่ือทา่ นปฏิบตั ิตาม แตไ่ ดจ้ ดั ใหม้ ี รายการวชิ าหลายอยา่ ง ซ่ึงท่านอาจจะนามาใชใ้ นการฝึกอบรมได้ บทเรียนบางบทมีรูปแบบสมบูรณ์ ในตวั เองพร้อมกบั วธิ ีการสอนใหเ้ ลือกไดด้ ว้ ย ส่วนบางวชิ าไดม้ ีโครงการใหป้ ฏิบตั ิ หรือจดั เป็นกลุ่ม สนใจเพอื่ ใหท้ ุกคนทางานตามที่ชอบ จะทาในระหวา่ งการฝึกสอน กำหนดกำร โครงสร้ำงของหลกั สูตรกำรฝึ กอบรม บทเรียนตา่ ง ๆ ไดจ้ ดั เรียงลาดบั ไวก้ ่อนหลงั ตามลกั ษณะของบทเรียนน้นั ๆ เช่น เริ่มดว้ ยการ เขา้ ใจเร่ืองเดก็ แลว้ ไปวา่ ดว้ ยเร่ืองกิจการลูกเสือ และกิจการลูกเสือจะช่วยเดก็ ไดอ้ ยา่ งไร แลว้ แผน กาหนดการ ลงทา้ ยดว้ ยภาระและหนา้ ที่ของผกู้ ากบั ลูกเสือ เมื่อเป็ นเข่นน้ี เสลาจะมีการฝึ กอบรม กค็ วรไดส้ อนบทเรียนต่าง ๆ ตามลาดบั ที่ไดเ้ สนอแนะ ไวน้ ้ีการยดื หยนุ่ และเปล่ียนแปลงในโครงสร้างของการฝึกอบรมน้ียอ่ มทาไดเ้ พ่ือใหส้ อดคลอ้ งความ ตอ้ งการหรือความจาเป็นของทอ้ งถ่ิน ระยะเวลาการฝึกอบรมน้นั ควรติดต่อกนั ไป จึงจะไดผ้ ลดี คณะผ้ใู ห้กำรฝึ กอบรม ควรมีดงั ต่อไปน้ี 1. ผอู้ านวยการฝึก (เอ.แอล.ที. หรือ แอล.ที.) 1 คน 2. วทิ ยากรผบู้ รรยาย 5 คน
22 3. วทิ ยากรประจาหมู่ ๆ ละ 1 คน 5 คน 4. วทิ ยากรสนบั สนุน - ผรู้ ับผดิ ชอบโครงการ - ฝ่ ายสถาน - ฝ่ ายพสั ดุอุปกรณ์ - ฝ่ ายเอกสาร - ฝ่ ายการเงิน 5. พยาบาล (ตามความเหมาะสม) 6. แม่ครัวและคณะ 7. คนงานดูแลสถานที่ หอ้ งน้า หอ้ งส้วม (ตามความจาเป็ น) คณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรมต้งั แต่หมายเลข 1 ถึง 4 ควรไดม้ ีคาสง่ั แต่งต้งั ใหป้ ฏิบตั ิงานเป็นทางราชการ)
คำแนะนำทวั่ ไป 23 บทพเิ ศษ ง. กำรบูชำพระรัตนตรัย การฝึกอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือและการฝึกอบรมลูกเสือ-เนตรนารีของไทยเราน้นั จะมีพิธี ทางศาสนาพทุ ธเขา้ มาเกี่ยวขอ้ งอยดู่ ว้ ยเสมอ เช่น พิธีเปิ ดการฝึกอบรม พธิ ีฟังธรรมเทศนาก่อนเดิน ทางไกล พิธีเขา้ ประจากองลูกเสือเป็นตน้ ฯลฯ ดงั น้นั เพื่อเป็นแนวทางในการถือปฏิบตั ิที่ถูกตอ้ งใน แนวเดียวกนั จึงมีขอ้ เสนอแนะในดา้ นต่าง ๆ ดงั น้ี 1.กำรจัดโต๊ะหมู่บูชำ การจดั โตะ๊ หมู่บูชามีจุดประสงคเ์ พือ่ เป็ นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมเครื่องบูชาตามคติ นิยมของชาวพทุ ธ ศาสนพธิ ีต่าง ๆ ทางพระพุทธศาสนานิยมอนั เชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานไวใ้ น พิธีดว้ ย เพอื่ ใหพ้ ระรัตนตรัยครบสมบูรณ์ การอนั เชิญพระพทุ ธรูปมาประดิษฐานน้นั ควรทาสถานที่ ประดิษฐานใหเ้ หมาะสม ในปัจจุบนั ถือเป็นเอกลกั ษณ์ของชาติไทย พร้อมท้งั เป็ นวฒั นธรรมประเพณี ที่สาคญั กลายเป็นมรดกของชาติส่วนหน่ึง การจดั โตะ๊ หมู่บูชา โตะ๊ หมูม่ ีจานวนโตะ๊ แตกต่างกนั คือ หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 7 หมู่ 9 แต่ท่ีนิยมใชก้ นั คือหมู่ 5 หมู่ 7 หมู่ 9 การใชโ้ ตะ๊ หมู่ขนาดใดข้ึนอยกู่ บั พ้ืนท่ี และอุปกรณ์ท่ีมีอยเู่ ป็นสาคญั เครื่องบูชาท่ีใชใ้ นการต้งั โตะ๊ หมูบ่ ูชาคือพานพุม่ หรือพานดอกไม้ แจกนั ดอกไม้ กระถางไม้ กระถางธูป เชิงเทียน โดยมีปริมาณท่ีมากนอ้ ยแตกตา่ งกนั ไป ตามจานวนของโตะ๊ หมูท่ ี่ใช้ โดยมี หลกั เกณฑก์ ารจดั ที่สาคญั คือ การจดั ต้งั เคร่ืองบูชาทุกชนิดจะตอ้ งไมส่ ูงกวา่ พระพุทธรูปที่ประดิษฐาน ที่โตะ๊ หมู่บูชา การจดั โตะ๊ หมู่บูชาในพิธีของราชการ (ท่ีไมใ่ ช่เก่ียวกบั นานาชาติ) มกั นิยมต้งั ธงชาติ และพระบรมฉายาลกั ษณ์ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ร่วมกบั โตะ๊ หมูบ่ ูชาเพื่อใหค้ รบท้งั 3 สถาบนั คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ มีหลกั ในการจดั คือ ต้งั โตะ๊ หมู่บูชาไวต้ รงกลาง ต้งั ธงชาติทางดา้ นขวา ของโตะ๊ หมู่บูชา และต้งั พระบรมฉายาลกั ษณ์หรือพระบรมฉายาทิสลกั ษณ์ไวท้ างดา้ นซา้ ยของโตะ๊ หมู่ 2.กำรแสดงควำมเคำรพของผู้เป็ นประธำน ณ ทบ่ี ูชำและผ้รู ่วมพธิ ี เม่ือประธานในพธิ ีลุกจากท่ีนง่ั เพ่อื บูชาพระรัตนตรัย ผรู้ ่วมพิธียนื ข้ึน เม่ือประธานเร่ิมจุดธูป เทียน ผรู้ ่วมพิธีประนมมือเสมออก ประธานในพธิ ีจะรับเทียนขนวนและจุดเทียนเล่มทางซา้ ยมือของ ประธานก่อน จึงจุดเทียนเล่มทางขวามือ เมื่อจุดเทียน 2 เล่ม จึงจุดธูป เมื่อประธานในพิธีจุดธูปเทียน เสร็จแลว้ จะลงนงั่ คุกเขา่ และเตรียมกราบเบญจางคประดิษฐ์ ในกรณีประธานในพิธีเป็น ชาย นง่ั คุกเขา่ ปลายเทา้ ต้งั นงั่ บนส้นเทา้ มือท้งั สองวางบนหนา้ ขาท้งั สอง (ทา่ เทพบุตร) ในกรณีประธานในพิธีเป็ น หญิง นงั่ คุกเข่าปลายเทา้ ราบ นงั่ บนส้นเทา้ มือท้งั สองวางบนหนา้ ขาท้งั สองขา้ ง (ท่าเทพธิดา) การกราบเบญจางคประดิษฐ์ จงั หวะท่ี 1 (อญั ชลี) ยกมือข้ึนประนมระหวา่ งอกปลายนิ้วชิดกนั ต้งั ข้ึนแนบตวั ไมก่ างศอก
24 จงั หวะที่ 2 (วนั ทา) ยกมือพร้อมกม้ ศีรษะ โดยใหป้ ลายนิ้วช้ีจรดหนา้ ผาก จงั หวะที่ 3 (อภิวาท) ทอดมือลงกราบ ใหม้ ือและแขนท้งั สองขา้ งลงพร้อมกนั มือควา่ ห่างกนั เล็กนอ้ ย พอใหห้ นา้ ผากจรดพ้นื ระหวา่ งมือได้ ชำย ให้กำงศอกท้งั สองข้ำง ต่อจำกเข่ำขนำนไปกบั พืน้ หลงั ไม่โก่ง หญงิ ให้ศอท้งั สองข้ำงคร่อมเข่ำเลก็ น้อย ทาสามจงั หวะใหค้ รบสามคร้ัง แลว้ ยกมือข้ึนจบ โดยใหป้ ลายนิ้วช้ีจรดหนา้ ผากแลว้ ปล่อยมือ ลง การกราบไม่ควรใหช้ า้ หรือเร็วเกินไป เม่ือประธานกราบผรู้ ่วมพิธียกมือประนมข้ึนใหน้ ิ้วช้ีจรดหนา้ ผาก พร้อมท้งั กม้ ศีรษะเลก็ นอ้ ย (การจดั ที่บูชาพระรัตนตรัยสาหรับประธานในพิธีเป็ นสามญั ชนไมน่ ิยมต้งั แท่นสาหรับกราบพระ แต่ อาจใชพ้ รมปูกบั พ้ืนท่ีหนา้ โตะ๊ หมูบ่ ูชาสาหรับประธานเทา่ น้นั เม่ือประธานบูชาพระรัตนตรัยเสร็จแลว้ จะยนื ข้ึนถอยหลงั 1 กา้ ว ยนื ตรง คอ้ มศีรษะคาราวะ คร้ังเดียวตรงโตะ๊ หมูบ่ ูชาซ่ึงถือไดว้ า่ เคารพต่อธงชาติและพระบรมฉายาลกั ษณ์ไปพร้อมกนั แลว้ ให้ ประธานปฏิบตั ิเช่นเดียวกนั น้ีท้งั ชายและหญิงท้งั ที่อยใู่ นและนอกเครื่องแบบ หมำยเหตุ การเสนอขอ้ ปฏิบตั ิใหป้ ระธานคานบั คร้ังเดียว ณ ที่บูชา มีเหตุผลหลายประการดงั น้ี คือ 1. ตามประกาศสานกั งานนายกรัฐมนตรี เร่ือง ใหถ้ ือพระราชสมภพเป็นวนั เฉลิมฉลองของ ชาติไทย ลงวนั ที่ 21 พฤษภาคม 2503 ตีพิมพใ์ นราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 77 ตอนท่ี 43 วนั ที่ 24 พฤษภาคม 2503 หนา้ 1452 จึงถือไดว้ า่ พระมหากษตั ริยไ์ ทยและชาติไทยเป็ นอนั หน่ึงอนั เดียวกนั การคานบั คร้ังเดียวจึงเป็นการเคารพท้งั ชาติไทยและพระมหากษตั ริยโ์ ดยนยั ดงั กล่าว 2. การคานบั คร้ังเดียว เม่ือตอ้ งการแสดงความเคารพส่ิงท่ีตนยกยอ่ งบูชาเกินจานวน 1 ข้ึนไป ซ่ึงประดิษฐาน ณ ที่ใกลเ้ คียงกนั น้นั นอกจากน้นั ยงั มีตวั อยา่ งในกรณีอื่น ๆ เช่น ในพธิ ีบรรพชา อุปสมบทจะทาความเคารพบิดามารดา และผมู้ ีอุปการคุณดว้ ยการกราบเพียงคร้ังเดียว หรือในที่ประชุม ผทู้ ่ีเขา้ ไปในภายหลงั จะทาความเคารพผเู้ ป็ นประธานเพยี งคร้ังเดียว ซ่ึงถือไดว้ า่ ทาความเคารพผอู้ ยใู่ น ที่ประชุมท้งั หมด 3. การคบั นบั เพียงคร้ังเดียว สานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ ไดม้ ีหนงั สือที่ ศธ 0303/5541 ลงวนั ท่ี 27 กรกฎาคม 2531 เร่ืองขอหารือเรื่องการแสดงความเคารพ ณ ที่บูชา ไปยงั เลขาธิการพระราชวงั ซ่ึงสานกั พระราชวงั ไดม้ ีหนงั สือตอนที่ พร 001/3735 ลงวนั ที่ 17 สิงหาคม 2531 โดยสานกั พระราชวงั ไดพ้ จิ ารณาแลว้ เห็นวา่ การแสดงความเคารพโดยดารคานบั เพยี งคร้ังเดียวเป็น การถูกตอ้ งแลว้
25 เอกสำรอ้ำงองิ 1. ศูนยส์ ่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย และกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ การ จดั ต้งั โตะ๊ หมู่บูชา; หนา้ 6-7 และ 79,หสน.อาทรการพมิ พ,์ 2535. 2. สานกั งานคณะกรรมการวฒั นธรรมแห่งชาติ, มารยาทไทย; หนา้ 33-35 และ 46-48, โรงพมิ พก์ าร ศาสนา,ม.ป.ป.
คำแนะนำทว่ั ไป 26 บทพเิ ศษ จ. กำรถวำยรำชสดุดีพระบรมรูปรัชกำลที่ 6 ในพธิ ีเปิ ดกำรฝึ กอบรมผู้บงั คับบัญชำลูกเสือ 1. เคร่ืองบูชา จดั ต้งั ไวห้ นา้ พระบรมรูป ควรมีเครื่องทองนอ้ ยและพานสาหรับวางพวงมาลยั หรือข่อดอกไม้ ถา้ ไม่มีเคร่ืองทองนอ้ ยใหจ้ ดั เครื่องบูชาดงั น้ี ก. ธูป 1 ดอก ข. เทียน 1 เล่ม ค. พานสาหรับวางพวงมาลยั หรือขอ่ ดอกไม้ 2. พธิ ีกร พธิ ีกรเชิญประธานในพธิ ีจุดธูปเทียนถวายราชสักการะ ภายหลงั ที่ประธานไดจ้ ุดธูป เทียนบูชาพระรัตนตรัยแลว้ 3.ประธานในพิธี (1) เดินไปยงั หนา้ พระบรมรูป ถวายคานบั (ตามระเบียบสานกั พระราชวงั ) รับพวงมาลยั หรือ ช่อดอกไมจ้ ากเจา้ หนา้ ที่ ถวายไวบ้ นพานที่หนา้ พระบรมรูป แลว้ จุดเทียน จุดธูป ตามลาดบั (2) เสร็จแลว้ นง่ั ลงคุกเข่า ประนมมือ ถวายบงั คม 3 คร้ัง แลว้ ลุกข้ึนยนื ถวายคานบั อีกคร้ังหน่ึง (3) ถอยออกมานงั่ เตรียมถวายราชสดุดี กา้ วเทา้ ซา้ ยไปขา้ งหนา้ คร่ึงกา้ วคุกเขา่ ลง ต้งั เข่าซา้ ยนง่ั ลงบนส้นเทา้ ขวา มือขวาแบคว่าวางลงบนเข่าขวา แขนซา้ ยวางพาดบนเขา่ ซา้ ยเอียงไปทางขวาเล็กนอ้ ย เม่ือร้องเพลงราชสดุดี ใหก้ ม้ หนา้ เล็กนอ้ ยและใหเ้ งยหนา้ ข้ึนตามเดิมเม่ือเพลงจบ (ถา้ ถือหมวกอยดู่ ว้ ย ใหป้ ฏิบตั ิตามคูม่ ือระเบียบแถวของสานกั งานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ) 4. ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม และแขกผรู้ ับเชิญอื่น ๆ ปฏิบตั ิดงั น้ี (1) เมื่อประธานเดินจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทุกคนยนื อยใู่ นท่าตรง (2) เม่ือประธานลงนงั่ คุกเขา่ ถวายบงั คม ใหท้ ุกคนนง่ั ลงในท่าเตรียมถวายราชสดุดี (3) เมื่อประธานถอยมานงั่ ในทา่ เตรียมถวายราชสดุดี พธิ ีกรจะนาถวายราชสดุดี ใหท้ ุกคนร้อง ตามพร้อมกนั 5. เมื่อจบบทถวายราชสดุดีแลว้ พิธีกรจะสง่ั ใหท้ ุกคน “ลุก” ทุกคนลุกข้ึนยนื เมื่อประธานเดิน ไปนง่ั ยงั ที่แลว้ ใหท้ ุกคนนงั่ ลง หมำยเหตุ สาหรับประธานพธิ ีและผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมท่ีเป็นสตรี เม่ือเวลาถวายราชสดุดี เพือ่ ความ เหมาะสมใหน้ งั่ คุกเข่าไดท้ ้งั สองขา้ งมือท้งั สองวางขนานกนั ไวบ้ นเขา่ ท้งั คู่
คำแนะนำทว่ั ไป 27 บทพเิ ศษ ฉ. พธิ ีรอบเสำธงในตอนเช้ำระหว่ำงกำรฝึ กอบรม (ไม่มีอำวธุ ประจำกำย) การประชุมรอบเสาธง สาหรับการฝึกอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ ใหม้ ีพิธีคนหน่ึงซ่ึงไดร้ ับ มอบหมายจากผอู้ านวยการฝึ กเป็นผดู้ าเนินการ และใหม้ ีการปฏิบตั ิในการชกั ธงชาติข้ึนสู่ยอดเสา ตามลาดบั ดงั น้ี 1.ใหพ้ ิธีกรยนื อยหู่ นา้ เสาธง หนั หลงั ใหเ้ สาธง ห่างประมาณ 3 กา้ ว 2.ใชค้ าสัง่ เรียก “กอง” ใชส้ ัญญาณมือเรียกแถวรูปคร่ึงวงกลม 3.ใหห้ มูแ่ รกอยทู่ างซา้ ยมือของผเู้ รียกเสมอ ทุกคนจะตอ้ งจดั แถวโดยการสะบดั หนา้ ไปทาง ขวามือระยะเคียงระหวา่ งบุคคลภายในหมู่ 1 ช่วงศอกโดยใหใ้ ชม้ ือซา้ ยทาบสะเอวและดนั ศอกซา้ ยให้ เป็นแนวเดียวกบั ลาตวั ระยะเคียงระหวา่ งหมู่ 1 ช่วงแขน โดยใหร้ องนายหมูบ่ กแขนซา้ ยข้ึนวดั ระยะ แลว้ เอาลง 4.ใหห้ มูถ่ ดั ไปเขา้ แถวจดั ระยะเคียงตอ่ จากหมู่แรก เรียงกนั ไปตามลาดบั จนครบทุกหมู่เป็น รูปคร่ึงวงกลม ใหห้ มู่สุดทา้ ยอยทู่ างขวามือของผเู้ รียก ตรงกบั หมู่แรก คือรองนายหมู่ของหมู่ สุดทา้ ยจะตอ้ งยนื ตรงกบั นายหมูข่ องหมูแ่ รก 5.เม่ือพธิ ีกรเห็นวา่ จดั รูปแถวเรียบร้อยแลว้ จะสั่ง “นิ่ง” ทุกคนสะบดั หนา้ กลบั และคนท่ยี กศอกซา้ ย มือทาบสะโพกกล็ ดมือซา้ ยลง ยนื อยใู่ นท่าตรง ระวงั อยา่ ใหว้ งกวา้ งเกินไปนกั จะทาให้ไดย้ นิ เสียงพูด ไมช่ ดั เจน 6.เม่ือทุกคนพร้อม พิธีกรสง่ั “ตามระเบียบ-พกั ” แลว้ สั่งกองอยใู่ นทา่ ตรงเสียก่อนจึงสง่ั ใหห้ มู่ บริการเขา้ ไปเริ่มพิธีการชกั ธงชาติ ในขณะเดียวกนั พิธีกรกลบั เขา้ ไปเขา้ แถวกบั วทิ ยากรอ่ืนท่ีเขา้ แถว อยหู่ ลงั เสาธง เม่ือจะออกคาส่ังทุกคร้ังใหก้ า้ วไปขา้ งหนา้ 1 กา้ ว ส่งั เสร็จใหก้ ลบั เขา้ แถวตามเดิม 7.นายหมูบ่ ริการหรือลูกเสือในหมู่บริการรวม 2 คน วงิ่ ออกไปยนื ห่างจากเสาธงชาติประมาณ 3 กา้ ว 8.ท้งั สองคนทาวนั ทยหตั ถพ์ ร้อมกนั คนทางขวามือเดินเขา้ ไป 2 กา้ ว ยนื เทา้ ชิดแกเ้ ชือกธงท่ี ผกู ติดเสาธงออก ถอยหลงั กลบั ไปยนื อยทู่ ่ีเดิม แยกเชือกธงเส้นที่จะชกั ข้ึนใหค้ นอยทู่ างซา้ ยมือถือไว้ ส่วนธงชาติอยทู่ ่ีคนทางขวา อยา่ ใหเ้ ส้นเชือกหยอ่ น ยนื เตรียมพร้อม แลว้ พธิ ีกรสงั่ “กอง เคารพธงชาติ” ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมทุกคนอยใู่ นท่าตรง ผใู้ หก้ ารฝึกอบรม ซ่ึงยนื แถวหนา้ กระดานอยหู่ ลงั เสาธง ทาวนั ทยหตั ถ์ 9.ลูกเสือตามท่ีกาหนดในหมู่บริการ นาร้องเพลงชาติ ลูกเสือทุกคนร้องเพลงชาติ พอเริ่มร้อง เพลงใหผ้ ชู้ กั ธง “คนทางซา้ ย” คอ่ ย ๆ สาวเชือกใหธ้ งข้ึนสู่ยอดเสาชา้ ๆ ใหส้ ายเชือกตึง ส่วนคน
28 ทางขวาผอ่ นสายเชือกใหธ้ งค่อย ๆ ข้ึนไปและคุมสายเชือกใหต้ ึงเสมอกนั ผชู้ กั ธงจะตอ้ งกะระยะวา่ พอร้องเพลงชาติจะจบกะให้ระยะธงชาติห่างจากปลายเสาประมาณ 50 เซนติเมตร พอเพลงชาติจบ จึง กระตุกเชือกใหธ้ งชาติถึงปลายเสาพอดี เสร็จแลว้ คนทางขวาเขา้ ไปผกู เชือกให้เรียบร้อยแลว้ ถอยหลงั กลบั มา 10. ผเู้ ชิญธงทาวนั ทยหตั ถพ์ ร้อมกนั แลว้ กลบั หลงั หนั วงิ่ ไปเขา้ แถวตามเดิม และอยใู่ นท่าตรง ผใู้ หก้ ารฝึกอบรมเอามือลงพร้อมกบั ผชู้ กั ธง 11. พธิ ีกรสั่ง “หมู่บริการนาสวดมนต”์ ทุกคนถอดหมวก ประนมมือแลว้ สวดมนตอ์ ยา่ งยอ่ เสร็จแลว้ พธิ ีกรสงั่ “สงบน่ิง” ลูกเสือทุกคนรวมท้งั ผใู้ หก้ ารฝึกอบรมยนื สงบนิ่ง 1 นาที แลว้ เงยหนา้ ข้ึน (ตามคู่มือการฝึ กระเบียบแถวฯ) 12. พิธีกรส่ัง “กอง-ตามระเบียบ-พกั ” แลว้ พธิ ีกร ทาวนั ทยหตั ถเ์ ชิญผอู้ านวยการฝึก 13. ขณะท่ีผอู้ านวยการฝึกเดินไปหนา้ เสาธง พิธีกรสั่ง “กอง-ตรง” ทุกคนเคารพดว้ ยทา่ ตรง ผอู้ านวยการฝึกทาวนั ทยหตั ถ์ตอบ พธิ ีกรสัง่ “ตามระเบียบ-พกั ” 14. ผอู้ านวยการฝึกกล่าวปราศรัย ดาเนินการเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั เช่น การรายงาน การตรวจ ให้โอวาทตามข้นั ตอน จบพิธีแลว้ สัง่ “กอง-ตรง” ทุกคนเคารพดว้ ยทา่ ตรง ผอู้ านวยการฝึก ทาวนั ทยหตั ถต์ อบ พิธีกรสั่ง “ตามระเบียบ-พกั ” 15.พธิ ีกรนดั หมายแลว้ ส่งั “กอง-ตรง” “กอง-แยก” หมายเหตุ กรณีการฝึกอบรมผูก้ ากบั ลูกเสือสารองและลูกเสือสารองใหเ้ ปล่ียนคาสง่ั จาก “กอง” เป็น “แพค็ ”
คำแนะนำทว่ั ไป 29 บทพเิ ศษ ช. พธิ ีรอบเสำธงในตอนเช้ำในระหว่ำงกำรฝึ กอบรม (มอี ำวุธประจำกำย) การประชุมรอบเสาธง สาหรับการฝึกอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือหรือลูกเสือ ใหม้ ีพธิ ีกรคน หน่ึงซ่ึงไดร้ ับมอบหมายจากผอู้ านวยการฝึกเป็นผดู้ าเนินการ และใหม้ ีการปฏิบตั ิในการชกั ธงชาติข้ึน สู่ยอดเสาธงตามลาดบั ดงั น้ี 1. ใหพ้ ธิ ีกรยนื อยหู่ นา้ เสาธง หนั หลงั ใหเ้ สาธงห่างประมาณ 3 กา้ ว 2. ใชค้ าสัง่ เรียก “กอง” ใชส้ ญั ญาณมือเรียกแถวคร่ึงวงกลม 3. ใหห้ มูแ่ รกอยทู่ างซา้ ยมือของผเู้ รียกเสมอ ทุกคนจะตอ้ งจดั แถวโดยการสะบดั หนา้ ไปทาง ขวามือระยะเคียงระหวา่ งบุคคลภายในหมู่ 1 ช่วงศอก โดยใหร้ องนายหมูย่ กแขนซา้ ยทาบสะเอวและ ดนั ศอกซา้ ยใหเ้ ป็นแนวเดียวกบั ลาตวั ระยะเคียงระหวา่ งหมู่ 1 ช่วงแขน โดยใหร้ องนายหมู่ยกแขนซา้ ย ข้ึนวดั ระยะแลว้ เอาลง 4. ใหห้ มู่ถดั ไปเขา้ แถวจดั ระยะเคียงตอ่ จากหมู่แรกเรียงกนั ไปตามลาดบั จนครบทุกหมู่เป็นรูป คร่ึงวงกลม ใหห้ มูส่ ุดทา้ ยอยูท่ างขวามือของผเู้ รียกตรงกบั หมู่แรก คือ รองนายหมูข่ องหมูส่ ุดทา้ ย จะตอ้ งยนื ตรงกบั นายหมูข่ องหมูแ่ รก 5. เมื่อพธิ ีกรเห็นวา่ จดั รูปแถวเรียบร้อยแลว้ จะส่งั “นิ่ง” ทุกคนสะบดั หนา้ กลบั และคนท่ียก ศอกซา้ ยมือทาบสะโพกก็ลดมือซา้ ยลง ยนื อยใู่ นท่าตรง ระวงั อยา่ ใหว้ งกวา้ งเกินไปนกั จะทาใหไ้ ดย้ นิ เสียงพูดไม่ชดั เจน 6. เม่ือทุกคนพร้อม พิธีกรสงั่ “ตามระเบียบ-พกั ” แลว้ สัง่ กองอยใู่ นทา่ ตรงเสียก่อนจึงสั่งให้ หมูบ่ ริการเขา้ ไปเร่ิมพิธีการชกั ธงชาติ ในขณะเดียวกนั พิธีกรกลบั เขา้ ไปเขา้ แถวกบั วทิ ยากรอื่นท่ีเขา้ แถวอยหู่ ลงั เสาธง เม่ือจะออกคาสง่ั ทุกคร้ังใหก้ า้ วไปขา้ งหนา้ 1 กา้ ว สง่ั เสร็จใหก้ ลบั เขา้ แถวตามเดิม 7. นายหมู่บริการหรือลูกเสือในหมู่บริการรวม 2 คน ฝากพลองไวก้ บั คนถดั ไปวง่ิ ออกไปยนื ห่างจากเสาธงชาติ ประมาณ 3 กา้ ว 8. ท้งั สองคนทาวนั ทยหตั ถพ์ ร้อมกนั คนทางขวามือเดินเขา้ ไป 2 กา้ ว ยนื เทา้ ชิดแกเ้ ชือกธงท่ี ผกู ติดเสาธงออก ถอยหลงั กลบั ไปยนื อยทู่ ่ีเดิม แยกเชือกธงเส้นที่จะชกั ข้ึนใหค้ นอยทู่ างซา้ ยมือถือไว้ ส่วนธงชาติอยทู่ ี่คนทางขวา อยา่ ใหเ้ ส้นเชือกหยอ่ น ยนื เตรียมพร้อม แลว้ พธิ ีกรสั่ง “กอง เคารพ-ธงชาติ วนั ทยา-วธุ ” 9. ลูกเสือตามที่กาหนดในหมู่บริการนาร้องเพลงชาติ ลูกเสือทุกคนร้องเพลงชาติ พอเร่ิมร้อง เพลงใหผ้ ชู้ กั ธง คนทางซา้ ยคอ่ ย ๆ สาวเชือกใหธ้ งข้ึนสู่ยอดเสาชา้ ๆ ใหส้ ายเชือกตึง ส่วนคนทางขวา ผอ่ นสายเชือกใหธ้ งค่อย ๆ ข้ึนไป และคุมสายเชือกใหต้ ึงเสมอกนั ผชู้ กั ธงจะตอ้ งกะระยะวา่ พอเพลงชาติจบ
30 กะใหร้ ะยะธงชาติห่างจากปลายเสาประมาณ 50 เซนติเมตร พอเพลงชาติจบ จึงกระตุกเชือกใหธ้ งชาติ ถึงปลายเสาพอดีเสร็จแลว้ คนทางขวาเขา้ ไปผกู เชือกให้เรียบร้อย แลว้ ถอยหลงั กลบั มา 10. ผเู้ ชิญธงทาวนั ทยหตั ถพ์ ร้อมกนั แลว้ กลบั หลงั หนั วง่ิ ไปเขา้ แถวตามเดิม และรับไม่พลอง มาจากท่ีฝากไวท้ าวนั ทยาวธุ พธิ ีกรสั่ง “เรียบ-อาวธุ ” 11. พิธีกรส่ัง “หมูบ่ ริการนาสวดมนต”์ แลว้ สงั่ “สงบนิ่ง” ลูกเสือทุกคนรวมท้งั ผใู้ หก้ าร ฝึกอบรมยนื สงบน่ิง 1 นาที แลว้ เงยหนา้ ข้ึน (ตามคูม่ ือการฝึกระเบียบแถวฯ) 12. พธิ ีกรสัง่ “กอง-ตามระเบียบ-พกั ” แลว้ พธิ ีกรเชิญผอู้ านวยการฝึก 13. ขณะที่ผอู้ านวยการฝึกเดินไปหนา้ เสาธง พิธีกรส่ัง “กอง-ตรง” วนั ทยา-วธุ ” ผอู้ านวยการ ฝึกทาวนั ทยหตั ถต์ อบ พิธีกรสง่ั “เรียบ-อาวธุ , ตามระเบียบ-พกั ” 14. ผอู้ านวยการฝึกกล่าวปราศรัย ดาเนินการเก่ียวกบั กิจวตั รประจาวนั เช่น การรายงาน การ ตรวจ ใหโ้ อวาทตามข้นั ตอน จบพธิ ีแลว้ สัง่ “เรียบ-อาวธุ ” “กอง-ตรง” “วนั ทยา-วธุ ” ผอู้ านวยการฝึกทา วนั ทยหตั ถต์ อบ พธิ ีกรสง่ั “ตามระเบียบ-พกั ” 15. พิธีกรนดั หมายแลว้ ส่ัง “กอง-ตรง” “กอง-แยก” หมำยเหตุ 1. กรณีที่ไมม่ ีพลอง ไม่ตอ้ งสั่ง “วนั ทยาวธุ ” 2. กรณีท่ีนายหมู่มีอาวธุ คนเดียวไม่สัง่ วนั ทยาวธุ แตต่ วั นายหมูต่ อ้ งทาวนั ทยาวธุ
คำแนะนำทวั่ ไป 31 บทพเิ ศษ ซ. กำรใช้คำบอกก่อนกำรร้องเพลงสรรเสริญพระบำรมีในกำรฝึ กอบรมผู้กำกบั ลกู เสือ และลกู เสือ ในการฝึกอบรมลูกเสือหรือผูก้ ากบั ลูกเสือ จะมีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีอยเู่ สมอ ก่อนจะมีการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีน้นั ควรใชค้ าบอกต่างกนั ดงั ต่อไปน้ี 1.ในกรณีท่ีมีพระบรมรูปหรือพระบรมฉายาลกั ษณ์อยใู่ นท่ีชุมนุมน้นั ดว้ ย ใหใ้ ชค้ าบอกวา่ “กองตรง ถวายคานบั ” แลว้ ใหห้ มูบ่ ริการนาข้ึนเพลงสรรเสริญพระบารมี 2.ในกรณีที่ไม่มีพระบรมรูปหรือพระบรมฉายาลกั ษณ์อยูใ่ นท่ีชุมนุมน้นั ใหใ้ ชค้ าบอกวา่ “ทุกคนหนั หนา้ ไปทางทิศ.....(ที่พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั กาลงั ประทบั อย)ู่ “กองตรง ถวายคานบั ” แลว้ ใหห้ มูบ่ ริการนาข้ึนเพลงสรรเสริญพระบารมี 3.ในกรณีผกู้ ากบั ลูกเสือและลูกเสือมีอาวธุ อยใู่ หค้ าบอกวา่ “กองตรง วนั ทยาวธุ ” แลว้ หมูบ่ ริการนาข้ึนเพลงสรรเสริญพระบารมี เม่ือจบเพลงแลว้ ใชค้ าบอกวา่ “กอง เรียบอาวธุ ” “เลิกแถว” หรือแลว้ แตก่ รณี
คำแนะนำทว่ั ไป 32 บทพเิ ศษ ฌ. กำรตรวจในตอนเช้ำของกำรฝึ กอบรมผ้กู ำกบั ลกู เสือ ข้นั ควำมรู้เบื้องต้น เพ่อื เป็ นแรงจูงใจใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมเกิดความคิดริเร่ิม และเกิดแนวความคิดในทาง สร้างสรรค์ ในอนั ท่ีจะก่อใหเ้ กิดพฒั นาการเป็นรายบุคคล และพฒั นาเป็นหมูค่ ณะในดา้ นความ รับผดิ ชอบและสร้างความมีวินยั ในตนเองและหมูค่ ณะ เป็ นการช่วยทาใหก้ ารฝึกอบรมตามหลกั สูตร บรรลุตามแนวทางตรวจในการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี 1. แนวกำรตรวจ ควรตรวจในเร่ือง 1.1 เครื่องแบบและการแตง่ กาย 1.2 ความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในท่ีพกั 1.3 หนา้ ที่หมู่บริการ 2. ผ้ตู รวจประกอบด้วย 2.1 หวั หนา้ สายตรวจ มีหนา้ ที่ตรวจในเร่ืองเคร่ืองแบบ การแตง่ กายเคร่ืองแบบและความ สะอาดของร่างกายโดยเคร่งครัด 2.2 ผชู้ ่วยสายตรวจ มีหนา้ ท่ีตรวจในเรื่องความเป็ นระเบียบเรียบร้อยภายในที่พกั , ความ สะอาดและการสุขาภิบาลโดยทวั่ ไป 2.3 กาหนดวทิ ยากรคนหน่ึงคนใดใหเ้ ป็นผมู้ ีหนา้ ที่ตรวจ หนา้ ท่ีของหมู่บริการ 3. วธิ ีกำรตรวจ 3.1 ตรวจตรงตามเวลาท่ีกาหนด (ผูอ้ านวยการฝึกจะเป็นผูก้ าหนดตามความเหมาะสม) 3.2 ตรวจโดยเคร่งครัดในเรื่องเคร่ืองแบบและการแต่งกาย 3.3 ตรวจในเร่ืองความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในที่พกั ความสะอาดและการสุขาภิบาล 3.4 ดาเนินการตรวจตามระเบียบและวธิ ีการที่กาหนด 3.5 ไม่จาเป็นใหม้ ีคะแนนในการตรวจ (แต่ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ความมุ่งหมายของผูอ้ านวยการ ฝึกอบรม แต่ไม่มีการมองธงเขียวเหมือนข้นั ความรู้ช้นั สูง) 4. กำรรำยงำน 4.1 การตรวจในวนั แรกตอ้ งรายงานทุกคน 4.2 การตรวจในวนั ต่อไปควรกาหนดใหม้ ีผแู้ ทนออกมารายงานเพียงสายละ 1 คน และควรจะ เป็นหวั หนา้ สายตรวจ 4.3 ควรมีการสับเปล่ียนสายตรวจตามความเหมาะสม 4.4 ผมู้ ีหนา้ ที่ตรวจหนา้ ท่ีของหมู่บริการตอ้ งรายงานทุกวนั 5. หน้ำท่ี ผอู้ านวยการฝึกอบรมมีหนา้ ที่พิจารณาต้งั สายตรวจ กาหนดหนา้ ท่ีการตรวจให้ เป็ นไปตามระเบียบโดยเคร่งครัด
คำแนะนำทวั่ ไป 33 บทพเิ ศษ ญ. กำรตรวจสมุดบันทกึ การตรวจสมุดบนั ทึกเป็นส่วนหน่ึงของการประเมินผลการฝึกอบรม เพ่ือทราบความสนใจ และความเขา้ ใจของผูเ้ ขา้ รับการฝึ กอบรมความเป็ นระเบียบเรียบร้อย อุปนิสัยใจคอท่าที ทศั นคติ ความคิดเห็น ความเชื่อท้งั หลาย ยอ่ มแสดงอยใู่ นตวั อกั ษรและการบนั ทึกเพมิ่ เติมขยายความของแตล่ ะ บุคคล ในการฝึกอบรมทุกคราว ผอู้ านวยการฝึกจะแจง้ ให้ทราบแตแ่ รกเมื่อเวลาช้ีแจงวตั ถุประสงค์ จะตอ้ งส่งสมุดใหต้ รวจทุกคน ก่อนการปิ ดการฝึกอบรม 1 วนั เพื่อดูความเรียบร้อยและจะถือเป็นการ ประเมินผลอยา่ งหน่ึงดว้ ย วธิ ีตรวจ ทาได้ 2 วธิ ี คือ 1.ใหว้ ทิ ยากรประจาหมูน่ ้นั ๆ คอยดูแลสมุดบนั ทึกของทุกคนแต่ละวนั ใหบ้ นั ทึกใหค้ รบทุกวชิ า คอยกระตุน้ เตือนใหส้ อบกิจกรรมยามวา่ ง ใหเ้ สร็จทนั เวลาก่อนปิ ดการฝึกอบรม คอยแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาด ในการบนั ทึกใหส้ มบูรณ์ 2.ตรวจโดยวทิ ยากรท้งั หมดช่วยกนั ในวนั สุดทา้ ยของการฝึกอบรม เป็นการดูความเรียบร้อย ของสมุดขอ้ สาคญั ที่สุด ก็คือ ทุกคนจะตอ้ งผา่ นกิจกรรมยามวา่ งที่ไดก้ าหนดไวใ้ หแ้ ลว้ เสร็จ ถา้ ยงั มิไดท้ า จะตอ้ งขอร้องใหผ้ นู้ ้นั ทดสอบกิจกรรมน้นั ๆ โดยทนั ทีเป็ นรายบุคคลจนเป็นที่พอใจ ในการตรวจถา้ ใช้ 2 วธิ ีร่วมกนั ก็จะดียง่ิ ข้ึน เพราะวทิ ยากรประจาหมู่จะคอยดูแลคอยเตือน ใหส้ มาชิกในหมูท่ างานต่อเน่ืองกนั ถา้ ไมเ่ สร็จวนั สุดทา้ ยก็จะทางานไมท่ นั หรือรีบร้อนเกินไป เมื่อผูต้ รวจไดต้ รวจเสร็จแลว้ ใหเ้ ขียนกากบั ลงท่ีปกสมุดบนั ทึกดา้ นใน ซ่ึงเป็นที่บนั ทึก รายการกิจกรรมยามวา่ ง ดว้ ยคาวา่ ตรวจแลว้ ลงวนั เดือน ปี กากบั ไว้ ควรจะไดป้ ระทบั ตราสานกั งานลูกเสือน้นั ๆ ไวท้ ่ีหนา้ ปกสมุดบนั ทึก เป็นเคร่ืองหมายดว้ ยกจ็ ะ ดี
คำแนะนำทว่ั ไป 34 บทพเิ ศษ ฎ. กจิ กรรมยำมว่ำง เป็นท่ียอมรับกนั วา่ กิจกรรมยามวา่ งเป็นอุปกรณ์ในการฝึ กอบรมอยา่ งไดผ้ ลดีเพราะวา่ 1. กิจกรรมยามวา่ ง ช่วยใหผ้ อู้ านวยการฝึกอบรมสามารถประเมินผลความสามารถของผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมวา่ ไดร้ ับความรู้แลว้ มากนอ้ ยเพียงไร หากวา่ เห็นอะไรยงั บกพร่องจะทราบไดว้ า่ ควรจะ สอบอะไรเพิ่มเติมให้ 2. ฝ่ ายผเู้ ขา้ รัยการฝึกอบรมเอง ก็ปรารถนาจะทดสอบความรู้ของตนเองวา่ ไดร้ ับความรู้ไป มากนอ้ ยเพยี งไรและมีโอกาสท่ีจะเสาะหาความรู้ ความเขา้ ใจจากวทิ ยากรในประเดน็ ท่ีตนเองยงั ไม่ เขา้ ใจชดั เจน 3. กิจกรรมยามว่างเป็ นจุดหน่ึงที่จะดึงคณะผูใ้ ห้การฝึ กอบรมและผูเ้ ขา้ รับการฝึ กอบรม เขา้ หากนั ท้งั เป็ นจุดที่จะช่วยขจดั ความกระดากอายใหส้ ลายตวั ไป การพดู ถึงเรื่องกิจกรรมยามวา่ ง บางคราวนาไปสู่การพูด การหารือในปัญหาอยา่ งอ่ืน เพอื่ ให้ เกิดความสนิทสนมกนั มากยงิ่ ข้ึน 3. กิจกรรมยามวา่ งเป็ นการสาธิตทางปฏิบตั ิเก่ียวกบั มาตรฐานการทดสอบที่ดี และควรให้ผา่ น การทดสอบด้วยผลงานท่ีคณะผูใ้ ห้การฝึ กอบรมทาไปเกี่ยวกบั เรื่องน้ี จะสร้างความทรงจาไวแ้ ก่ ผเู้ ขา้ รับฝึกอบรมไปอีกนาน ขอ้ ควรระลึกมีวา่ เมื่อใดใหก้ ิจกรรมยามวา่ งแก่ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมไปทาแลว้ ควรใหม้ ี ระยะเวลาเพียงพอท่ีทุกคนจะไดไ้ ปศึกษาหาความรู้ ทาความเขา้ ใจกบั กิจกรรมยามวา่ งท่ีใหไ้ ปก่อน คร้ันแลว้ จึงนดั หมายใหม้ าทาการทดสอบ การทากิจกรรมยามวา่ งน้นั เป็นเร่ืองของผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมแตล่ ะคน ท่ีจะไปศึกษาหาความ ชานาญเพ่มิ เติมเอาเอง ถา้ สงสยั จะถามหรือขอคาแนะนาจากเพ่อื นฝงู หรือวทิ ยากรกไ็ ด้ กจิ กรรมยำมว่ำงอำจจัดให้มีในวชิ ำต่อไปนี้ 1. คาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ 2. การฝีมือ, การสเกต็ ภาพ 3. เง่ือน 4. ทกั ษะอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดท่ีผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมจะเลือกเอง อนั เป็ นทกั ษะใหม่ (ไมใ่ ช่ทกั ษะ ที่ตนเคยรู้มาแลว้ ) 5. กิจกรรมยามวา่ งอยา่ งอ่ืนที่ผอู้ านวยการฝึกจะเห็นควร
คำแนะนำทว่ั ไป 35 บทพเิ ศษ ฏ. 1.คำทใี่ ช้เรียกวทิ ยำกรประจำหมู่ “วทิ ยากรประจาหมู่” สานกั งานลูกเสือโลก เขตเอเชีย-แปซิฟิ ก ใชภ้ าษาองั กฤษวา่ “Counsellor” ในศูนยฝ์ ึกลูกเสือกิลเวลลป์ าร์คของประเทศองั กฤษใชค้ าวา่ “Tutor” ท้งั 2 คำ มีควำมมุ่งหมำยอยู่ตรงกนั ทวี่ ่ำ 1. เป็นเคร่ืองมือที่สาคญั ในการฝึกอบรม 2. ทาใหส้ มาชิกในหมูเ่ กิดความสะดวกสบายในการฝึกอบรม 3. ช่วยใหก้ ารฝึกอบรมดาเนินไปตามวตั ถุประสงคท์ ่ีวางไว้ 4. ช่วยเสนอแนะช้ีแจงงานของหมูแ่ ละเขา้ ร่วมสงั เกตกิจกรรมของหมู่ 5. ช่วยเหลือเป็ นรายบุคคลใหไ้ ดป้ ระสบผลสาเร็จในการฝึ กอบรม 6. เป็นผปู้ ระสานงานระหวา่ งคณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรมและผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมโดยทาหนา้ ที่ เป็นผแู้ ทนของหมู่ 2.บทบำทของวทิ ยำกรประจำหมู่ โดยสังเขป ก.ก่อนกำรฝึ กอบรม (Pre-Course) 1. ศึกษาและทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั นโยบาย วตั ถุประสงค์ หลกั สูตร และวธิ ีการของการ ฝึกอบรม ตลอดจนกลวธิ ีต่าง ๆ ท้งั ใหมแ่ ละเก่า 2. ตรวจสอบ ทบทวนตารางฝึกอบรมและพยายามจดจา 3. เตรียมตวั เอง, เอกสารและอุปกรณ์ที่จาเป็น 4. ติดต่อผบู้ รรยายแต่ละวชิ าเพ่ือขอความรู้และเอกสารเตรียมไวล้ ่วงหนา้ 5. ติดต่อเจา้ หนา้ ท่ีฝ่ ายเอกสารและฝ่ ายอุปกรณ์ (Training Material Designer) ข.ระหว่ำงกำรฝึ กอบรม (On Course) 1. ใหก้ ารตอ้ นรับเมื่อผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมมาลงทะเบียน รายงานตวั แนะนาให้รู้จกั เพือ่ น สมาชิกร่วมหมูน่ าเขา้ ท่ีพกั 2. ปฐมนิเทศหมูข่ องตน-แจกสมุด-ป้ายช่ือ เสนอแนะงานหนา้ ท่ีในหมู่ (อยา่ กาหนดเอง) 3. นาเขา้ ห้องพธิ ีเปิ ดการฝึกอบรม 4. เสนอแนะช่วยเหลือ ยว่ั ยใุ หห้ มู่ของตนทางาน 5. ช่วยเหลือเป็ นรายบุคคลในกรณีที่จาเป็ น 6 .ดูแลสุขภาพ อนามยั ความเป็นระเบียบและสวสั ดิการต่าง ๆ ของหมู่ 7. เป็นที่ปรึกษาเสนอแนะในดา้ นวชิ าการ ช่วยใหเ้ กิดขอ้ วินิจฉยั และขอ้ ตกลงในการอภิปราย ปัญหาต่าง ๆ 8. อานวยความสะดวกในดา้ นอุปกรณ์การทางานของหมู่ การพิมพเ์ อกสาร การแจกเอกสาร
36 9. สาธิตกลวธิ ีและทกั ษะตา่ งๆ 10. ประสานงานระหวา่ งคณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรม กบั ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรม 11. สังเกตความเป็นอยู่ การศึกษา ทา่ ที ความสนใจท่ีหมูม่ ีต่อคณะผใู้ หก้ ารฝึกอบรมต่อ หลกั สูตรและต่อวธิ ีการฝึกอบรมของผูร้ ับการฝึกอบรม ซ่ึงวทิ ยากรประจาหมู่ปราจาอยู่ เพอ่ื เสนอต่อ ผอู้ านวยการฝึกอบรม ค.หลงั กำรฝึ กอบรม (After Course) 1. ประเมินผล รายงาน ต่อผอู้ านวยการฝึกไดท้ ราบ 2. ติดต่อช่วยเหลือตามท่ีไดร้ ับคาร้องขอ
คำแนะนำทวั่ ไป 37 บทพเิ ศษ ฐ. กำรฝึ กอบรมโดยระบบฐำนและวธิ ีกำรปฏิบตั ิ วตั ถุประสงค์ เพื่อใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ทวั่ ถึงในเวลาอนั จากดั และไดป้ ฏิบตั ิในการเขา้ เรียนเป็นฐานอยา่ ง ถูกตอ้ ง ระบบฐำน เป็นวธิ ีการเสริมการใหค้ วามรู้ในทางตรง ซ่ึงจะก่อใหเ้ กิดประโยชนห์ ลายประการ คือ 1. ช่วยใหส้ มาชิกเขา้ ใจในแง่ปัญหาและเน้ือหาวชิ าไดด้ ี 2. ช่วยใหส้ มาชิกซกั ถามหรืออภิปรายไดอ้ ยา่ งอิสระ 3. ช่วยใหส้ มาชิกรับการถ่ายทอดความรู้อยา่ งกวา้ งขวางและเกิดทกั ษะ กำรปฏบิ ัติเกยี่ วกบั ฐำน 1. จดั วชิ าใหเ้ หมาะสม 2. ผปู้ ระจาฐานมีความรู้และมีการเตรียมการล่วงหนา้ 3. เครื่องมือ อุปกรณ์ ตอ้ งพร้อมในสภาพใชก้ ารไดด้ ี 4. ที่ต้งั ฐานแต่ละฐานตอ้ งเหมาะสม มีระยะทางเท่ากนั และมีพ้นื ท่ีพอเพยี งในการฐานเพือ่ ไม่ใหเ้ กิดการรบกวนซ่ึงกนั และกนั 5. ตอ้ งรักษาเวลาในการเขา้ รับการฝึกอบรมตามฐานใหต้ รงต่อเวลา วธิ ีกำรเข้ำฐำน การฝึกอบรมไดแ้ บง่ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมเป็นหมูห่ รือกลุ่มอยแู่ ลว้ การเขา้ ฐานใหจ้ ดั สมาชิก แตล่ ะหมู่หรือกลุ่มไดห้ มุนเวียนไปไดท้ ุกฐาน ๆ ละ 1 หมู่ หรือกลุ่ม หรือ 2 หมู่ หรือกลุ่ม ก. ผ้เู ข้ำฐำนมีอำวุธ (ไมพ้ ลองหรือไมง้ ่าม) ทุกคน เม่ือไดย้ ินสญั ญาณเร่ิมการฝึกตามฐาน (ใชส้ ัญญาณนกหวดี เป่ ายาว 1 คร้ัง หรือจุดประทดั 1 คร้ัง ไม่ควรใชอ้ าวธุ ปื นเพราะอาจเกิดอนั ตราย และไมป่ ระหยดั ) วง่ิ เขา้ ฐานตามที่กาหนด เขา้ แถวรูปหนา้ กระดาน โดยนายหมู่ยนื อยูห่ นา้ วทิ ยากร ผปู้ ระจาฐาน ห่างจากวทิ ยากรประมาณ 3 กา้ ว เม่ือเขา้ แถวเรียบร้อยแลว้ นายหมู่สง่ั “หมู่....ตรง” (บอกชื่อหมู่) “วนั ทยา-วธุ ” เฉพาะนายหมู่ เรียบอาวธุ และกา้ วไปขา้ งหนา้ 1 กา้ ว (กา้ วเทา้ ซา้ ยไป ขา้ งหนา้ 1 กา้ ว เทา้ ขวาชิด) ทาวนั ทยาวธุ และรายงานวา่ “หมู.่ ...พร้อมท่ีจะไดร้ ับการฝึกแลว้ ครับ (คะ่ )” จากน้นั นายหมู่เรียบอาวธุ ถอยหลงั เขา้ ท่ีเดิม (กา้ วเทา้ ซา้ ย ถอยหลงั 1 กา้ ว เทา้ ขวาชิด) ทาวนั ทยาวธุ แลว้ สั่ง “เรียบ-อาวธุ ” ตามระเบียบ, พกั ” เร่ิมฝึกอบรมในฐาน ตามคาแนะนาของวทิ ยากรประจาฐาน เมื่อหมดเวลาจะไดย้ นิ เสียงสญั ญาณนกหวดี หรือประทดั (เป่ ายาว 1 คร้ัง หรือสียงประทดั 1 คร้ัง) ให้ ทุกคนเขา้ แถวใหเ้ รียบร้อย เมื่อไดย้ นิ เสียงสญั ญาณนกหวดี เป่ ายาว 2 คร้ัง หรือเสียงประทดั 2 คร้ัง ให้
38 นายหมู่ส่ัง “หมู.่ ...ตรง” “วนั ทยา-วธุ ” นายหมูก่ ล่าวขอบคุณวทิ ยากรผปู้ ระจาฐานดว้ ยคาวา่ “หมู่... ขอขอบคุณครับ (ค่ะ)” (นายหมู่ไม่ตอ้ งกา้ วไปขา้ งหนา้ ) จากน้นั สั่ง “เรียบ – อาวธุ ” “ขวา – หนั ตามขา้ พเจา้ ” แลว้ เคล่ือนไปฐานตอ่ ไป ข. ผู้เข้ำฐำนมีอำวธุ เฉพาะนายหมู่ เม่ือนายหมู่นาหมูม่ าเขา้ ฐานและเขา้ แถวหนา้ วทิ ยากร ประจาฐานเรียบร้อยแลว้ นายหมูส่ ัง่ “หมู.่ ..ตรง” นายหมูท่ าวนั ทยาวธุ และเรียบอาวธุ และกา้ วไป ขา้ งหนา้ 1 กา้ ว ทาวนั ทยาวธุ (การรายงานเช่นเดียวกนั กบั มีอาวธุ ท้งั หมู่) แลว้ เรียบอาวุธ ถอยหลงั เขา้ ที่เดิม ทาวนั ทยาวธุ แลว้ เรียบอาวธุ และสั่ง “ตามระเบียบ, พกั ” เร่ิมฝึกอบรมในฐานตามคาแนะนา ของวทิ ยากรประจาฐาน เม่ือหมดเวลาจะไดย้ นิ เสียงสัญญาณนกหวดี หรือประทดั (เป่ ายาว 1 คร้ัง หรือ เสียงประทดั 1 คร้ัง) ใหท้ ุกคนเขา้ แถวใหเ้ รียบร้อย เมื่อไดย้ นิ เสียงสัญญาณนกหวดี หรือประทดั 2 คร้ัง ใหน้ ายหมู่สัง่ “หมู.่ ...ตรง” นายหมู่ทาวนั ทยหตั ถ์ นายหมู่กล่าวขอบคุณวทิ ยากรประจาฐานดว้ ยคาวา่ “หมู.่ ..ขอขอบคุณครับ (คะ่ )” (นายหมู่ไม่ตอ้ งกา้ วไปขา้ งหนา้ ) นายหมูท่ าเรียบอาวธุ แลว้ สั่ง “ขวา – หนั ตามขา้ พเจา้ ” แลว้ เคลื่อนไปฐานต่อไป ค. ผู้เข้ำฐำนไม่มอี ำวุธ เม่ือนายหมู่นาหมู่มาเขา้ ฐานและเขา้ แถวหนา้ วทิ ยากรผปู้ ระจาฐาน เรียบร้อยแลว้ นายหมูส่ ัง่ “หมู่...ตรง” นายหมู่ทาวนั ทยหตั ถ์ แลว้ ลดมือลง กา้ วไปขา้ งหนา้ 1 กา้ ว ทา วนั ทยหตั ถ์ แลว้ รายงานเช่นเดียวกนั กบั ขอ้ ก. และ ข. เสร็จแลว้ ถอยหลงั เขา้ ที่เดิม ทาวนั ทยหตั ถ์ ลดมือ ลงและสั่ง “ตามระเบียบ, พกั ” เมื่อยนิ เสียงสัญญาณหมดเวลา 1 คร้ัง ใหท้ ุกคนเขา้ แถวใหเ้ รียบร้อย และเม่ือไดย้ นิ สญั ญาณ 2 คร้ัง ใหน้ ายหมูส่ ง่ั “หมู่...ตรง” นายหมู่ทาวนั ทยหตั ถ์ และกล่าวขอบคุณวทิ ยากรประจาฐานลดมือลง แลว้ สง่ั “ขวา – หนั ตามขา้ พเจา้ ” แลว้ เคล่ือนไปฐานตอ่ ไป หมำยเหตุ 1. ในกรณีท่ีเขา้ ฐานมากกวา่ หน่ึงหมู่ใหม้ ีการรายงานทุกหมู่ 2. วทิ ยากรประจาฐานรับความเคารพโดยการทาวนั ทยหตั ถต์ อบโดยตลอด รอ จนกระทงั่ นายหมูก่ ลบั เขา้ ที่ ส่ังหมู่ เรียบอาวธุ หรือลดมือลงจากการทาวนั ทยหตั ถ์ จึงเอามือลง
เรื่อง วตั ถุประสงค์ของกำรฝึ กอบรม 39 บทเรียนที่ 1 เวลำ 30 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ - กล่าวตอ้ นรับ - วตั ถุประสงคข์ องหลกั สูตร - เทคนิคการฝึกอบรม จุดหมาย ส่งเสริมใหผ้ กู้ ำกบั ลูกเสือ มีควำมรู้ควำมสำมำรถและเขำ้ ใจในกำรฝึกอบรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ วตั ถุประสงค์ของกำรฝึ กอบรม เม่ือจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1. มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั กิจการลูกเสือโดยทว่ั ไปได้ 2. มีความรู้เก่ียวกบั กฎหมายระเบียบขอ้ บงั คบั ท่ีจาเป็นในการบริหารงานในกองลูกเสือ สามญั รุ่นใหญ่ได้ 3. มีความรู้ความเขา้ ใจและปฏิบตั ิเกี่ยวกบั วธิ ีดาเนินการฝึ กอบรมลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ได้ 4. มีความรู้ความเขา้ ใจและปฏิบตั ิเกี่ยวกบั ทกั ษะและพิธีการของลูกเสือสามญั รุ่นใหญไ่ ด้ 5. มีความรู้เกี่ยวกบั แนวทางพฒั นาตนเองของผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือได้ วธิ ีสอน/กจิ กรรม บรรยาย สื่อกำรเรียนรู้ ส่ือประกอบการบรรยาย เนื้อหำวชิ ำ กล่ำวต้อนรับ เทคนิคกำรฝึ กอบรม 1. กำรอภิปรำยกลุ่ม (Group Discussion) 1.1 กำรอภิปรำยกลุ่มคืออะไร การอภิปรายกลุ่ม คือการท่ีสมาชิกในกลุ่มแสดงความคิดเห็น ตอบโตก้ นั ในเร่ืองใดเรื่องหน่ึงท่ีกาหนดให้เพ่อื หาขอ้ ยตุ ิท้งั น้ีภายใตก้ ารนาของผนู้ ากลุ่ม 1.2 จำนวนสมำชิกภำยในกลุ่ม 5 - 8 คน และผู้นำกล่มุ 1.3 กำรเตรียมสำหรับกำรนำกล่มุ อภปิ รำย ผนู้ ากลุ่มจะตอ้ งเตรียม
40 - ความพร้อมของตวั เอง - วางแผนการอภิปราย - กาหนดวตั ถุประสงคข์ ้นั ตน้ สาหรับการอภิปราย - สรุปยอ่ ขอ้ มูลที่ทราบเกี่ยวกบั เรื่องท่ีจะอภิปราย - หาขอ้ มูลเพิม่ เติมถา้ จาเป็ น - จดั อุปกรณ์และเตรียมการ - จดั ทาโครงการอภิปราย โดยใหม้ ีขอ้ สาคญั ดงั น้ี - วตั ถุประสงค์ - จดั ลาดบั หวั ขอ้ เรื่องท่ีจะอภิปราย (กาหนดเวลา) - บนั ทึกคากล่าวแนะนาขอ้ เร่ือง - บนั ทึกจุดสาคญั ของเรื่อง ปัญหาท่ีจะหยบิ ยกมาพิจารณาขอ้ มูลจากเอกสาร - การวเิ คราะห์วิจยั ตวั อยา่ ง ฯ - บนั ทึกการใชโ้ สตทศั นูปกรณ์ - บนั ทึกการสรุปหรือยอ่ ที่น่าจะเป็นไปไดข้ องเรื่องท่ีจะอภิปราย - เตรียมสถานท่ี การจดั เตรียมสถานท่ีสาหรับอภิปรายกลุ่มอาจเป็ นรูปวงกลม รูปตวั ยู รูปส่ีเหลี่ยมจตั ุรัส หรือรูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ก็ไดต้ ามความเหมาะสมของสถานที่ท่ีมีอยู่ 1.4 กำรดำเนินกำรอภปิ รำย ตอนที่ 1 การเริ่มและบทนา 1. จดั บรรยากาศใหเ้ ป็นประชาธิปไตย 2. ช้ีแจงวตั ถุประสงคข์ องการอภิปรายและเร่ืองต่าง ๆ ท่ีเป็นภูมิหลงั ของการอภิปราย 3. ช้ีแจงความหมายหรือใหค้ าจากดั ความในวธิ ีการและคาศพั ทต์ า่ ง ๆ ที่อาจก่อใหเ้ กิด การเขา้ ใจผดิ ตอนที่ 2 การเสนอเรื่อง การนาเร่ือง การสรุปยอ่ หวั ขอ้ อภิปราย ข้นั ที่ 1 การเสนอเร่ืองอภิปรายเร่ืองแรกใชบ้ ทนาเขา้ สู่เรื่อง เปิ ดโอกาสใหถ้ าม หากจาเป็นอาจต้งั คาถามใหผ้ เู้ ขา้ ร่วมอภิปรายคิดแลว้ ตอบ ข้นั ท่ี 2 การแนะแนวการอภิปรายสนบั สนุนให้เกิดการร่วมมือกนั อยา่ งจริงจงั พยายาม อยเู่ บ้ืองหลงั การอภิปราย ไมใ่ ชอ้ านาจหนา้ ท่ีในฐานะเป็นผูน้ า ป้องกนั ไม่ให้ ผกู ขาดการอภิปรายโดยคนใดคนหน่ึง ใช้เทคนิคในการใชค้ าถาม เพื่อให้ การอภิปรายดาเนินไปใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ ข้นั ท่ี 3 การสรุปยอ่ แต่ละข้นั ตอนหรือขอ้ เรื่อง อภิปราย ควรใหค้ วามกระจ่างชดั กบั ขอ้ ถกเถียงที่สาคญั ๆ แลว้ สรุปผลการอภิปราย
41 ตอนท่ี 3 การปิ ดการอภิปราย ทบทวนวตั ถุประสงคท์ ี่เก่ียวเน่ืองกบั ผลการอภิปรายที่สรุป ไดจ้ ากกลุ่ม เนน้ ขยายขอ้ ความสาคญั ของเร่ือง เรียบเรียงเพม่ิ เติมสิ่งท่ีตกหล่น บกพร่อง แสดงความ ขอบคุณต่อผเู้ ขา้ ร่วมอภิปรายและปิ ดการอภิปรายตามกาหนดเวลา 1.5 กำรใช้คำถำมในกำรอภปิ รำยกล่มุ คาถามเป็นเคร่ืองมือที่มีประสิทธิภาพในการแนะแนว การกระตุน้ และก่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจ ในทิศทางท่ีถูกตอ้ งในการอภิปราย ประโยชน์ของคำถำม 1. เพอื่ กระตุน้ ความสนใจ ส่งเสริมแนวความคิดและใหส้ มาชิกไดเ้ ขา้ ร่วมในการอภิปราย 2. เพ่อื รวบรวมขอ้ มูล คน้ หาสาระสาคญั และสรุปผลของการอภิปราย 3. เพือ่ เปล่ียนแนวโนม้ ของการอภิปราย และจากดั หรือต้งั จุดจบในการอภิปราย ประเภทของคำถำม คาถามที่มีประโยชน์และสามารถผลิตคาตอบน้นั ไมใ่ ช่คาถามประเภทปลายเปิ ด ดว้ ยการใช้ คาวา่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” หรือคาถาม ใคร ทาไม อยา่ งไร ที่ไหน เมื่อไร อะไร 1. คำถำมสำหรับนำเร่ือง เป็นคาถามที่ใชถ้ ามในกลุ่มทวั่ ไปไม่เฉพาะเจาะจงเพ่ือเปิ ดการ อภิปราย หรือกระตุน้ การอภิปราย ผนู้ ากลุ่มจะตอ้ งต้งั คาถามใหร้ ัดกมุ เพื่อให้ผเู้ ขา้ ร่วมการอภิปราย ไดค้ ิด 2. คำถำมระบุผ้ตู อบ เป็นคาถามระบุผตู้ อบ ดว้ ยการเรียกชื่อผตู้ อบกระตุน้ ใหบ้ ุคคลผนู้ ้นั ได้ ร่วมการอภิปราย เป็นการป้องกนั การผกู ขาดการอภิปราย และการสนทนานอกเร่ืองกลบั สู่การ อภิปราย ตามวตั ถุประสงค์ 3. คำถำมย้อนหลงั และคำถำมผ่ำน ผนู้ ากลุ่มอภิปรายตอ้ งไม่ตอบคาถามของสมาชิกก่อนการ อภิปราย นอกจากคาถามท่ีตอ้ งการขอ้ มูลเพมิ่ เติม ซ่ึงผนู้ ากลุ่มเป็นคนเดียวท่ีจะตอบได้ หลีกเลี่ยงการ ตอบคาถามดว้ ยความคิดเห็นของตนเอง ควรต้งั คาถามยอ้ นใหส้ มาชิกคนอ่ืน ๆตอบคาถามเพิม่ เติม 4. คำถำมติดตำมผล เป็นคาถามเพอื่ ใหก้ ารอภิปรายดาเนินไปใหถ้ ึงเป้าประสงค์ ถ้ำต้องกำรคำตอบทพ่ี อใจท่ำนต้องถำมด้วยคำถำมทด่ี ี ขอ้ สุดทา้ ย ทาจิตใจใหส้ งบไม่วา่ อะไรจะเกิดข้ึนจงรักษาอารมณ์น้นั ไว้ 1.6 กำรอภิปรำยกลุ่มทถี่ ูกต้อง ประธานซกั ถาม ภาพท่ี 1 สมาชิกตอบโตร้ ะหวา่ งกนั
42 กำรอภปิ รำยกลุ่มทถ่ี ูกต้องไม่ใช่ลกั ษณะของผู้สอนและผ้ฟู ังดังปรำกฏในภำพท่ี 2 ประธานบรรยาย ภาพท่ี 2 สมาชิกรับฟัง กำรอภิปรำยกลุ่มทถี่ ูกต้องไม่ใช่ลกั ษณะของผ้สู อนและผู้ฟังดงั ปรำกฏในภำพท่ี 3 ประธานซกั ถาม ภาพที่ 3 สมาชิกตอบ - ผนู้ ากลุ่มจะตอ้ งไม่สอนหรือส่งั แตท่ าหนา้ ที่เป็นประธานหรือประสานให้เกิดการอภิปราย - ผนู้ ากลุ่มจะตอ้ งรับฟัง รวบรวมและประมวลความคิดของสมาชิกกลุ่ม ไมใ่ ชค้ วามคิดของ ตนเองแทรกแซงความคิดของสมาชิกในกลุ่ม 2. กำรระดมสมอง (Brainstorming) 2.1 กำรระดมสมอง คืออะไร การระดมสมองเป็นกลวธิ ีอยา่ งหน่ึงที่จะรับเอาความคิดเห็น หลาย ๆ ความคิดมาจากกลุ่มบุคคลเพ่ือที่จะแกป้ ัญหาหรือปรับปรุงส่ิงใดส่ิงหน่ึง 2.2 กำรเตรียมกำรสำหรับกำรระดมสมอง - จดั ใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมระดมสมองนง่ั ลอ้ มเป็นวงรีใหท้ ุกคนสามารถมองเห็นหนา้ กนั ได้ ควรมีสมาชิกอยรู่ ะหวา่ ง 10 – 15 คน - เลือกประธานและเลขากลุ่ม ถา้ เห็นวา่ เลขาคนเดียวอาจจดไม่ทนั อาจต้งั เพมิ่ อีกได้ 2.3 ระเบยี บวิธีกำรระดมสมอง - ไม่มีการอภิปรายหรือประเมินผลความคิดเห็นใด ๆ ในขณะท่ีเสนอความคิดเห็นน้นั ๆ - ไมค่ วรใหผ้ ูเ้ ขา้ ร่วมระดมสมองหวั เราะเยาะความคิดเห็นของคนอ่ืน
43 - เลขานุการตอ้ งบนั ทึกความเห็นไวท้ ้งั หมด แมค้ วามเห็นน้นั จะประหลาดเพยี งใดก็ตาม - ความคิดเห็นของคนใดคนหน่ึงอาจไดร้ ับการขยายเพิ่มเติมจากคนอื่น ๆ ได้ - คาถามท่ีใชใ้ นการระดมสมองไม่ตอ้ งการคาตอบที่ยาว ตอ้ งการความคิดเห็นใน ส่ิงท่ีจะทาเท่าน้นั ส่วนจะทาอยา่ งไรเอาไวพ้ จิ ารณาภายหลงั 2.4 วธิ ีดำเนินกำรระดมสมอง - ประธานจะตอ้ งย้าคาถาม หรือปัญหาอยบู่ อ่ ย ๆ เพอื่ ใหไ้ ดค้ วามคิดเห็นมา - ประธานจะถามสมาชิกใหแ้ สดงความคิดเห็นเป็ นรายคนจนรอบวง - ทุกคนตอ้ งแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกประธานถาม ถา้ ไมม่ ีความคิดเห็นใหใ้ ชค้ าวา่ “ขอผา่ น” และ ถา้ จะเสริมความคิดเห็นของผใู้ ดใหก้ ลา่ ววา่ “เห็นดว้ ยกบั ความคิดเห็น ของคุณ …..และขอเสริมวา่ …..” - ในหน่ึงรอบของการถาม จะแสดงความคิดเห็นไดเ้ พยี งคนละความคิดเห็นเดียว เทา่ น้นั - ประธานถามคาถามโดยรวดเร็ว จากคนหน่ึงไปยงั อีกคนหน่ึงโดยลาดบั จนรอบวง เม่ือทุกคนพดู จนครบรอบวงแลว้ เรียกวา่ “ครบหน่ึงรอบ”ประธานก็จะเร่ิมตน้ รอบท่ีสอง รอบที่สาม ๆ ต่อเนื่องกนั ไปจนกระทง่ั ครบรอบท่ีผูเ้ ขา้ ร่วมกล่าวคา “ขอผา่ น” ทุกคน ประธานจึงหยดุ ถามตอนน้ีประธานและเลขานุการอาจเพ่ิมความคิดเห็นของตนลงไป ดว้ ยก็ได้ - การระดมสมองควรกาหนดเวลาแน่นอนลงไปเช่นกาหนดใชเ้ วลา 10 นาที และ ใหม้ ีผรู้ ักษาเวลาคนหน่ึง เมื่อหมดเวลาผรู้ ักษาเวลาจะกล่าววา่ “หมดเวลา” หรือ ใชส้ ญั ญาณหมดเวลา 2.5 กำรประมวลผล - การประมวลผลความคิดเห็นใหก้ ระทาภายหลงั การประชุมระดมสมองเสร็จแลว้ - ต้งั กรรมการประมวลผลข้ึน 2 -3คน เพ่ือพิจารณาความคิดเห็นเป็นรายๆไป ตามลาดบั - การประมวลความคิดเห็นอาจทาเวลาอื่นหรือสถานท่ีอ่ืนก็ได้ ไม่จาเป็ นตอ้ งกระทา ภายหลงั การประชุมระดมสมองทนั ที - วธิ ีการเริ่มตน้ ประมวลผลกค็ ือ ตดั ความคิดเห็นซ่ึงเป็นไปไมไ่ ดเ้ ลยหรือไม่ตรง เป้าหมายหรือไม่ตอ้ งการออกเสีย - รวมเอาความคิดเห็นท่ีใกลเ้ คียงกนั เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั - ความคิดเห็นตา่ งๆ ที่เหลือจากการกลนั่ กรองมาแลว้ อาจนาไปใชใ้ นการศึกษาข้นั ต่อไปได้ จึงควรรอการตดั สินคร้ังสุดทา้ ยไวก้ ่อนหรือเกบ็ ไวเ้พอ่ื นาไปพจิ ารณาในโอกาสตอ่ ไป
44 2.6 สรุป การระดมสมองมีความสาคญั ทาใหเ้ กิดผลดี ดงั น้ี - ผรู้ ่วมกิจกรรมระดมสมองมีความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั เน้ือหาในเร่ืองที่จะนามาระดมสมอง - มีการต่อเนื่องความคิดออกไปอยา่ งหลากหลาย และกวา้ งขวางยงิ่ ข้ึน - เป็นการรวมความคิดรวบยอดในเร่ืองท่ีระดมสมอง - ทุกคนไดพ้ ูด ไดแ้ สดงความคิดเห็นเป็ นการเปิ ดโอกาสใหท้ ุกคนไดแ้ สดงออกทางความคิด - เป็นการฝึกการทางานเป็นกลุ่ม
45 เร่ือง กจิ กรรมลูกเสือเสริมสร้ำงทักษะชีวติ บทเรียนท่ี 2 เวลำ 45 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. ความหมาย ความสาคญั ของทกั ษะชีวติ และทกั ษะการดารงชีวติ ในการพฒั นาเยาวชน 2. องคป์ ระกอบของทกั ษะชีวติ ทกั ษะชีวติ ทว่ั ไป และทกั ษะชีวติ เฉพาะ 3. ลกั ษณะและกระบวนการเรียนรู้ของกิจกรรมลูกเสือที่เสริมสร้างทกั ษะชีวติ จุดหมำย เพอื่ ใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมมีความรู้และเขา้ ใจถึงความสาคญั ของการจดั กิจกรรมลูกเสือเพ่ือ เสริมสร้างทกั ษะชีวติ ใหช้ ดั เจนข้ึน และสอดคลอ้ งกบั ปริบทท่ีเป็นปัญหาต่อเด็กและเยาวชนในแตล่ ะ ช่วงวยั วตั ถุประสงค์ เมื่อจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการอบรมควรจะสามารถ 1. บอกความหมาย ความสาคญั และอธิบายองคป์ ระกอบของทกั ษะชีวติ ได้ 2. บอกผลของการเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ควบคู่กบั ทกั ษะการดารงชีวติ ท่ีมีต่อเยาวชนได้ 3. บอกลกั ษณะและกระบวนการเรียนรู้ของกิจกรรมลูกเสือท่ีเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ได้ วธิ ีสอนและกจิ กรรม 1. นาเขา้ สู่บทเรียน เตรียมความพร้อมผเู้ขา้ รับการอบรม ใหส้ งั เกตความแตกต่างของกิจกรรมลูกเสือ 2 แบบ จากการชมวดี ีทศั น์ 2. ใหช้ มวดี ีทศั น์ เร่ือง “ขยะน้ีมีมูลค่า” 3. ประชุมกลุ่มยอ่ ย เพอ่ื หาขอ้ สรุป ในประเด็นต่อไปน้ี (ใบงานที่ 1) 3.1 มีความรู้สึกอยา่ งไรตอ่ กิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ 3.2 กิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ มีขอ้ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร 4. รายงาน /อภิปราย/สรุป และเพิ่มเติมวา่ “กิจกรรมลูกเสือท่ีเสริมสร้างทกั ษะชีวติ มีจุดเนน้ ที่การได้ ลงมือทา คิด วเิ คราะห์ แลกเปลี่ยนความเห็นในกลุ่ม จนเกิดความคิดรวบยอดที่ชดั เจน และไดป้ ระยกุ ตใ์ ช้ ใหเ้ กิดประโยชนต์ ่อตนเองหรือผอู้ ่ืนอยา่ งเป็นรูปธรรม” 5. บรรยาย 5.1 ความหมาย ความสาคญั ของทกั ษะชีวติ และทกั ษะการดารงชีวติ 5.2 องคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ ทกั ษะชีวติ ทว่ั ไปและทกั ษะชีวติ เฉพาะ 5.3 ลกั ษณะและกระบวนการเรียนรู้ของกิจกรรมลูกเสือที่เสริมสร้างทกั ษะชีวติ
46 6. ประชุมกลุ่มยอ่ ย เพอ่ื หาขอ้ สรุป ในประเด็น“ท่านมีขอ้ เสนอแนะอะไรบา้ ง ในการจดั กิจกรรมเพ่อื เสริมสร้างใหล้ ูกเสือมีพฒั นาการดา้ นทกั ษะชีวติ มากยงิ่ ข้ึน” (ใบงานท่ี 2) 7. รายงาน/อภิปราย/สรุป 8. ซกั ถาม/ เสนอแนะ /สรุปบทเรียน สื่อกำรสอน 1. วดี ีทศั น์ เรื่อง “ขยะน้ีมีมูลค่า” 2. ใบงาน 3. ใบความรู้เร่ือง “กิจกรรมลูกเสือสร้างทกั ษะชีวติ ไดอ้ ยา่ งไร” สาหรับวทิ ยากร และผเู้ ขา้ รับการอบรม 4. Power point เร่ือง “กิจกรรมลูกเสือสร้างทกั ษะชีวติ ไดอ้ ยา่ งไร” สาหรับวทิ ยากร กำรประเมินผล 1. สังเกตการมีส่วนร่วม การซกั ถาม และการแสดงความคิดเห็นระหวา่ งการอบรม 2. การสัมภาษณ์
47 ใบงำนท่ี 1 หมู่ของทา่ นร่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรุป ในประเดน็ ต่อไปน้ี 1. มีความรู้สึกอยา่ งไรต่อกิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ 2. กิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ มีขอ้ แตกต่างกนั อยา่ งไร ใบงำนที่ 2 หมู่ของท่านร่วมกนั อภิปรายและหาขอ้ สรุป ในประเด็นต่อไปน้ี “ท่านมีขอ้ เสนอแนะอะไรบา้ ง ในการจดั กิจกรรม เพือ่ เสริมสร้างใหล้ ูกเสือ มีพฒั นาการดา้ นทกั ษะชีวติ มากยง่ิ ข้ึน” ใบควำมรู้ เร่ือง กจิ กรรมลูกเสือสร้ำงทกั ษะชีวติ 1. ควำมหมำย ควำมสำคญั ของทกั ษะชีวติ และทกั ษะกำรดำรงชีวติ ทกั ษะชีวติ เป็นความสามารถทางจิตสังคม ท่ีจะปรับตวั และจดั การกบั ปัญหาตา่ ง ๆ รอบตวั ในสภาพสังคมปัจจุบนั และเตรียมพร้อมสาหรับการปรับตวั ในอนาคต ปัญหาที่พบในเด็กและเยาวชน ไทยในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ - การรู้ไม่เทา่ ทนั สื่อตา่ ง ๆ เช่น o สื่อโฆษณาสินคา้ ขนม ลูกอม ของเล่น เครื่องสาอาง ยาลดน้าหนกั ฯลฯ อนั จะ นาไปสู่ปัญหาสุขภาพท้งั ระยะส้นั และระยะยาว o ส่ือ online ท่ีสามารถติดต่อเขา้ ถึงตวั ไดโ้ ดยตรงอนั เป็นช่องทางใหถ้ ูกหลอกลวง ไดง้ ่าย o ส่ือลามก สื่อความรุนแรงที่เป็นแบบอยา่ งใหเ้ กิดการเลียนแบบ o ปัญหาเด็กติดเกม
48 - ปัญหาเรื่องเพศ เอดส์ และการต้งั ครรภใ์ นวยั เรียน - ปัญหาสิ่งเสพติด - ปัญหาความรุนแรง ทกั ษะกำรดำรงชีวติ เป็นความสามารถท่ีใชใ้ นกิจวตั รประจาวนั ในเรื่องพ้ืนฐานของชีวติ เพื่อความอยรู่ อดทางกาย ส่วนใหญ่มกั เป็ นทกั ษะทางกายภาพ เช่น การอาบน้าแปรงฟัน การแต่งตวั การทาอาหาร การออกกาลงั กาย การผกู เงื่อนเชือก การใชช้ ีวติ ในค่าย การใชแ้ ผนท่ีเขม็ ทิศ ดงั น้นั นอกจากการมีทกั ษะการดารงชีวติ เพื่อความอยรู่ อดพ้ืนฐานในชีวิตประจาวนั แลว้ เด็กและเยาวชนทุกคนจาเป็นตอ้ งมีทกั ษะชีวติ ดว้ ย เพ่อื ความอยรู่ อดในสงั คมปัจจุบนั และเตรียมพร้อม สาหรับเผชิญปัญหาตา่ ง ๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 2. องค์ประกอบทกั ษะชีวิต ทกั ษะชีวติ ทวั่ ไปและทกั ษะชีวติ เฉพำะ 63 แผนภำพที่ 1 องค์ประกอบของทกั ษะชีวติ องค์ประกอบทกั ษะชีวติ ทกั ษะชีวติ มี 12 องคป์ ระกอบ จดั เป็น 6 คู่ โดยแบง่ ตามพฤติกรรมการเรียนรู้ 3 ดา้ น ดงั น้ี 1. ด้ำนพุทธิพสิ ัย จดั ไวต้ รงกลางของแผนภาพเพราะเป็นองคป์ ระกอบร่วมและเป็นพ้ืนฐาน ของทุกองคป์ ระกอบ - ความคิดวิเคราะห์วจิ ารณ์ เป็ นความสามารถท่ีจะวเิ คราะห์ แยกแยะ ขอ้ มูล ข่าวสาร ปัญหา และสถานการณ์ต่าง ๆ รอบตวั มีความสาคญั ต่อการตดั สินใจ และความเช่ือในเร่ืองต่าง ๆ
49 - ความคิดสร้างสรรค์ เป็ นความสามารถในการคิดออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง โดยไมย่ ดึ ติด อยใู่ นกรอบ มีความสาคญั ต่อการพฒั นาตนเอง และการคิดหาทางเลือกที่หลากหลายเพ่อื การตดั สินใจ แกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั 2. ด้ำนจิตพสิ ัย หรือ เจตคติ มี 2 คู่ คือ คู่ที่ 1 ความตระหนกั รู้ในตนเอง และ ความเห็นใจผอู้ ื่น คู่ท่ี 2 เห็นคุณค่าตนเอง และ ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม - ความตระหนกั รู้ในตนเอง เป็ นความสามารถในการคน้ หาและเขา้ ใจในจุดดีจุดดอ้ ยของ ตนเอง และความแตกต่างที่ตนเองมีกบั บุคคลอ่ืน ไมว่ า่ จะในแง่ความสามารถ เพศ วยั ระดบั การศึกษา ศาสนา สีผวิ ทอ้ งถิ่น สุขภาพ ฯลฯ - ความเขา้ ใจ/เห็นใจผอู้ ื่น เป็น ความสามารถในการเขา้ ใจความรู้สึกและ เห็นอกเห็นใจ บุคคลท่ีแตกต่างกบั เรา ไมว่ า่ จะในดา้ นเพศ วยั ระดบั การศึกษา ศาสนา สีผวิ ทอ้ งถิ่น วยั สุขภาพ ฯลฯ องคป์ ระกอบน้ีจะมีผลสะทอ้ นกลบั ใหเ้ กิดความตระหนกั รู้ในตนเองมากข้ึน - เห็นคุณคา่ ตนเอง เป็ นความรู้สึกวา่ ตนเองมีคุณค่า เช่น ความมีน้าใจ รู้จกั ให้ รู้จกั รับ คน้ พบ และภูมิใจในความสามารถดา้ นตา่ ง ๆ (สงั คม ดนตรี กีฬา ศิลปะ การเรียน ฯลฯ) ของตนเอง โดยมิไดม้ ุ่งสนใจอยแู่ ตใ่ นเรื่องรูปร่าง หนา้ ตา เสน่ห์ หรือความสามารถทางเพศ ฯลฯ เทา่ น้นั - ความรับผดิ ชอบต่อสังคม เป็ นความรู้สึกวา่ ตนเองเป็นส่วนหน่ึงของสังคมและมีส่วน รับผดิ ชอบในความเจริญหรือเส่ือมของสังคม ท้งั 2 องคป์ ระกอบจะช่วยเสริมซ่ึงกนั และกนั เพราะคน ที่เห็นคุณคา่ ตนเองจะมีแรงจูงใจที่จะทาดีกบั ผอู้ ื่นและสงั คมมากข้ึน เป็นวงจรสะทอ้ นกลบั ใหเ้ กิด ความภูมิใจและเห็นคุณค่าตนเองมากข้ึน 3. ด้ำนทกั ษะพสิ ัยหรือทกั ษะ ประกอบดว้ ย 3 คู่ คือ คูท่ ่ี 1 การส่ือสารและการสร้างสมั พนั ธภาพ คูท่ ่ี 2 การตดั สินใจและการแกไ้ ขปัญหา คู่ที่ 3 การจดั การกบั อารมณ์และความเครียด - ทกั ษะการสร้างสมั พนั ธภาพและการสื่อสาร เป็นความสามารถในการใชค้ าพูดและภาษา ท่าทางเพอื่ สื่อสารความรู้สึกนึกคิดของตนเองและความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกนึกคิดของอีกฝ่ ายหน่ึง - ทกั ษะการตดั สินใจและแกไ้ ขปัญหา เป็ นความสามารถในการรับรู้ปัญหาและสาเหตุ ของปัญหา หาทางเลือกไดห้ ลากหลาย วเิ คราะห์ขอ้ ดีขอ้ เสียของแต่ละทางเลือก และตดั สินใจเลือก ทางเลือกในการแกป้ ัญหาท่ีเหมาะสม - ทกั ษะการจดั การกบั อารมณ์และความเครียด เป็ นความสามารถในการรับรู้อารมณ์ตนเอง ประเมินและรู้เทา่ ทนั วา่ อารมณ์จะมีอิทธิพลตอ่ พฤติกรรมของตนอยา่ งไร และเลือกใชว้ ธิ ีจดั การกบั อารมณ์ ที่เกิดข้ึนไดเ้ หมาะสม การจดั การความเครียดเป็ นความสามารถในการรับรู้ระดบั ความเครียดของตนเอง รู้สาเหตุ หาทางแกไ้ ข และมีวิธีผอ่ นคลายความเครียดของตนเองอยา่ งเหมาะสม
50 ทกั ษะชีวติ ทวั่ ไป และทกั ษะชีวติ เฉพำะ เม่ือแบง่ เด็กออกเป็น 3 กลุ่ม คือเด็กปกติ เด็กกลุ่มเส่ียง และเด็กท่ีมีปัญหาแลว้ ทกั ษะชีวติ จะ เป็ นกลยทุ ธ์สาคญั ในการส่งเสริมภูมิคุม้ กนั ทางสงั คม ใหก้ บั เดก็ ปกติและเด็กทุกคน สาหรับเด็กกลุ่มเส่ียง ตอ้ งมีการสอนทกั ษะชีวติ เฉพาะแตล่ ะปัญหา มีครูที่ปรึกษาและระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียนรองรับ เด็กที่มีปัญหาแลว้ ใชก้ ารดูแลเป็นรายบุคคล และระบบส่งต่อยงั วชิ าชีพเฉพาะที่เก่ียวขอ้ ง ดงั น้นั นอกจากการสร้างทกั ษะชีวติ ทว่ั ไป 12 องคป์ ระกอบดงั กล่าวแลว้ ยงั สามารถสร้างทกั ษะ ชีวติ เฉพาะเพ่ือป้องกนั เดก็ กลุ่มเสี่ยงในปัญหาเฉพาะเรื่อง เช่น เพศและเอดส์ ยาเสพติด ประชาธิปไตย และความเป็นพลเมือง สิ่งแวดลอ้ ม ฯลฯ โดยใชป้ ัญหาเป็นตวั ต้งั ในการสร้างทกั ษะชีวติ แต่ละองคป์ ระกอบ เพือ่ ป้องกนั ปัญหาน้นั ๆ ตวั อยา่ งเช่น ทกั ษะชีวติ ในเร่ืองเพศและเอดส์ องค์ประกอบ วตั ถุประสงค์ ทกั ษะชีวติ คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์ รู้/เขา้ ใจ ธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงตามพฒั นาการทางเพศของตนเอง วเิ คราะห์สถานการณ์เส่ียงทางเพศได้ คิดสร้างสรรค์ มีแนวทางป้องกนั /แกไ้ ข ปัญหาและสถานการณ์เสี่ยงทางเพศได้ ตระหนกั รู้ในตน ตระหนกั วา่ เพศและโรคเอดส์เป็นเรื่องใกลต้ วั และรู้เทา่ ทนั สถานการณ์เสี่ยง เขา้ ใจ/เห็นใจผอู้ ่ืน เขา้ ใจ/เห็นใจ ผทู้ ี่ไดร้ ับผลกระทบ/มีปัญหา ทางเพศและโรคเอดส์ ความภาคภูมิใจ ตระหนกั ถึงคุณค่าภายในตนเองซ่ึงเป็นคุณค่าท่ีแทแ้ ละสร้างไดเ้ อง ไม่ใช่ ในตนเอง รูปลกั ษณ์ภายนอกและวตั ถุซ่ึงเป็นคุณคา่ เทียมท่ีไม่ยง่ั ยนื เพราะตอ้ งอาศยั ปัจจยั ภายนอก เกิดความภาคภูมิใจในคุณค่าของตนเอง รับผดิ ชอบต่อสงั คม มีเพศสัมพนั ธ์เม่ือมีความพร้อมที่จะรับผดิ ชอบ ปลอดภยั และไมเ่ กิดผล กระทบใด ๆ ตามมา การสื่อสาร สามารถปฏิเสธการมีพฤติกรรมเสี่ยง เตือนเพื่อนท่ีเสี่ยง หาคาปรึกษา ให้ การสร้างสมั พนั ธภาพ คาปรึกษาที่ดีแก่ผอู้ ื่นได้ การตดั สินใจ ตดั สินใจดว้ ยเหตุผล สามารถหาทางออกที่เหมาะสมในปัญหาต่าง ๆ ได้ การแกไ้ ขปัญหา การจดั การกบั อารมณ์ จดั การกบั อารมณ์และความรู้สึกทางเพศได้ มีวธิ ีระบายออกไดเ้ หมาะสม การจดั การความเครียด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293