Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรการฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ_ขั้นความรู้เบื้องต้น_(1)

หลักสูตรการฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ_ขั้นความรู้เบื้องต้น_(1)

Published by DaiNo Scout, 2021-11-13 08:06:54

Description: หลักสูตรการฝึกอบรมผู้กำกับลูกเสือวิสามัญ_ขั้นความรู้เบื้องต้น_(1)

Search

Read the Text Version

47 เอกสำรควำมรู้เก่ียวกบั วยั รุ่น 1. ควำมหมำยของวัยรุ่น มีผใู้ ห้ความรู้เกี่ยวกบั “วยั รุ่น” ไวห้ ลายท่านดงั น้ี เฮอร์ลอ็ ค (Hurlock)(1949 อา้ งถึงในเพญ็ รัตน์. 2524:3) กล่าวถึงวยั รุ่น เป็นระยะที่สาคญั ที่สุด เก่ียวกบั การพฒั นาในดา้ นร่างกายและจิตใจ เป็นช่วงเวลาของการเจริญงอกงามและการเปล่ียนแปลงใน ทุกๆดา้ นคือ ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสงั คม เป็นช่วงเวลาที่รับส่ิงใหมๆ่ ท้งั ทางดา้ นประสบการณ์ ความรับผดิ ชอบ ความสัมพนั ธ์กบั เพือ่ นและผใู้ หญ่ ความเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็วมกั จะก่อใหเ้ กิดปัญหา เก่ียวกบั การปรับตวั การเปล่ียนแปลงจากวยั รุ่นไปสู่วยั ผใู้ หญใ่ นระยะแรก จึงดูเสมือนวา่ ปัญหาต่างๆ เกิดข้ึนพร้อมกนั ในตวั เดก็ เด็กวยั รุ่นจ่ึงไมส่ ามารถปรับตวั ใหท้ นั ตอ่ ปัญหาเหล่าน้นั สุพตั รา สุภาพ (2525:42) ไดก้ ล่าวถึงพฤติกรรมวยั รุ่น วา่ เป็นวยั ที่เร่ิมแตกเน้ือหนุ่มสาว(Puberty) จนกระทง่ั บรรลุนิติภาวะ ซ่ึงมีผลกระทบกระเทือนต่อความเจริญดา้ นอื่น ๆ ดว้ ย เช่น มีการแปรปรวนทาง อารมณ์ เป็นเหตุหน่ึงที่ทา ใหม้ ีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น รัก ชอบอะไร ก็รักจนหลง ชอบจนคลง่ั ที่เป็น เช่นน้ี เพราะมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย ถา้ ผดิ หวงั หรือไม่ไดด้ งั ใจจะเสียใจมาก หรือมีเร่ืองกระทบกระเทือน เลก็ นอ้ ยก็จะหนีออกจากบา้ น บางรายถึงกบั แสดงความอาฆาตพยาบาทหรือโตต้ อบอยา่ งรุนแรง ถึงขนาด ยกพวกตีกนั ซ่ึงบางคร้ังผใู้ หญไ่ ม่เขา้ ใจ ทาใหเ้ กิดปัญหาในการมีความสมั พนั ธ์ต่อกนั โยธิน ศนั สนยทุ ธ (2533:191-192) ไดก้ ล่าวถึง วยั รุ่นเป็ นวยั ท่ีเร่ิมในช่วงอายตุ ้งั แตเ่ ดก็ มีการ เปลี่ยนแปลงทางร่างการ (12-13ปี ) จนอายทุ ่ีเด็กสามารถมีงานทา ซ่ึงในแตล่ ะสังคมจะสิ้นสุดระยะอายไุ ม่ เท่ากนั อยา่ งไรก็ตาม โดยทวั่ ไปวยั รุ่นจะสิ้นสุดระยะอายปุ ระมาณ 20 ปี วยั รุ่นเป็นวยั ที่เดก็ มีพฒั นาการท่ี รวดเร็ว มีการเปล่ียนแปลงในหลายดา้ น ไมว่ า่ จะเป็ นการเปล่ียนแปลงทางร่างกาย การเปล่ียนแปลงกลุ่ม ของสังคมหรือการเปลี่ยนแปลงทางสติปัญญา การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วน้ีทาใหเ้ ด็กตอ้ งปรับตวั ซ่ึงการ ปรับตวั นามาซ่ึงความวติ กกงั วลความเครียดของอารมณ์ ความโกรธฯลฯ นกั จิตวทิ ยา Stangley hall เรียก ระยะวยั รุ่นวา่ เป็ นวยั พายบุ ุแคม (Storm and Stress) นนั่ ก็คือ เด็กวยั รุ่นจะไมม่ ีความมน่ั คงทางอารมณ์ มี ความขวญั ผวาของอารมณ์ และอารมณ์ก็มกั เป็นอารมณ์ที่รุนแรง มีความกดดนั สูง และสายตาของคน โดยทวั่ ไปกเ็ รียกวา่ วยั รุ่น เป็ นวยั ปัญหาวยั อลวน เพราะฉะน้นั วยั รุ่นจึงจดั เป็นวยั หน่ึงท่ีบุคคลในสังคมให้ ความสนใจและคิดวา่ เป็นปัญหาพฤติกรรมส่วนหน่ึงของสงั คม สรุปวา่ วยั รุ่นเป็นวยั ที่มีอารมณ์เปล่ียนแปลงไดง้ ่าย ความเชื่อมนั่ ความตอ้ งการ ตลอดจนความ ปรารถนาต่าง ๆ เป็นไปอยา่ งรุนแรงปราศจากความย้งั คิด ชอบทาอะไรตามใจหรือตามความนึกคิดของตน ตอ้ งการเป็นที่ยอมรับนบั ถือในหมู่เพ่ือนฝงู โดยพยามทา อะไรใหค้ ลา้ ย ๆ กนั เลียนแบบตามกนั จึงมี วยั รุ่นเป็ นจานวนไมน่ อ้ ยที่มีปัญหาและอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่ีเลวร้าย ไดต้ กเป็นทาสของยาเสพติด วยั รุ่น เป็นวยั ท่ีเร่ิมต้งั แตอ่ ายุ 12-20 ปี มีการเปลี่ยนแปลงทางดา้ นร่างกาย อารมณ์ สังคมและสติปัญญา จากการ เปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วหรือท่ีเรียกวา่ พายบุ ุแคม (Strom and Stress)น้ี ส่งผลต่อการปรับตวั ความวติ กกงั วล ความเครียดทางอารมณ์ ทาใหแ้ สดงพฤติกรรมตา่ งๆออกมาอาจไมเ่ ป็นท่ียอมรับของสังคมหรือพฤติกรรม เบี่ยงเบนนนั่ เอง

48 2. พฤติกรรมวัยรุ่น วยั รุ่นเป็ นวยั ที่มีโอกาสพฤติกรรมเบี่ยงเบนไดง้ ่ายมากที่สุด พฤติกรรมเบี่ยงเบนของวยั รุ่นมีต้งั แต่ ความเบี่ยงเบนระดบั นอ้ ย ๆ เช่น ด้ือร้ัน กา้ วร้าว จนกระทงั่ พฤติกรรมเบ่ียงเบนระดบั สูง เช่น การกระทา ผดิ ของเดก็ และเยาวชน นกั จิตวทิ ยาสรุปพฤติกรรมวยั รุ่น เนื่องมาจากความตอ้ งการ 3 ประเภทไดแ้ ก่ 1. ความตอ้ งการทางกาย หรือความตอ้ งการทางสรีระ ไดแ้ ก่ ความตอ้ งการข้นั พ้ืนฐานของชีวติ เช่น ความตอ้ งการอาหารเพื่อบรรเทาความหิวกระหาย ความตอ้ งการขบั ถ่ายของเสีย แต่ถา้ เขาไม่ไดร้ ับ การตอบสองจนเป็นท่ีน่าพอใจกจ็ ะแสดงพฤติกรรมออกมาเพ่อื ใหไ้ ดส้ ่ิงที่ยงั ขาดอยู่ 2. ความตอ้ งการทางสงั คม เพราะวา่ มนุษยเ์ ป็นสัตวส์ ังคมจึงตอ้ งอยรู่ วมกนั เป็นสังคมแต่ละอยา่ ง เป็นเหตุใหเ้ กิดพฤติกรรมตา่ ง ๆ 3. ความตอ้ งการทางใจ เป็ นความตอ้ งการที่เกิดความคิดมน่ั ใจวา่ ตนจะมีชีวติ อยรู่ อดไดแ้ ลว้ ซ่ึง เป็นผลมาจากความคิดหรือเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การตอ้ งการความรัก ความมน่ั คงปลอดภยั ความยกยอ่ งนบั ถือ ความตอ้ งการเป็นส่วนหน่ึงของหมู่คณะ และความตอ้ งการเป็นอิสระ เป็นตวั ของ ตวั เอง 3. ควำมต้องกำรของวยั รุ่น วยั รุ่นมีความตอ้ งการทางดา้ นจิตใจหรือความตอ้ งการดา้ นอารมณ์ ความตอ้ งการทางกาย และ ความตอ้ งการทางสงั คมแตกตา่ งไปจากเด็กเล็กและผใู้ หญ่ ดงั ต่อไปน้ี 1) ความตอ้ งการอยากรู้อยากเห็น 2) ความตอ้ งการความรัก 3) ความตอ้ งการความปลอดภยั 4) ความตอ้ งการเป็นท่ียอมรับในสงั คม 5) ความตอ้ งการไดร้ ับอิสระ 6) ความตอ้ งการท่ีจะหาเล้ียงตนเอง 7) ความตอ้ งการปรัชญาชีวิตท่ีน่าพอใจ ความตอ้ งการตา่ ง ๆ เหล่าน้ีเป็นแรงจูงใจที่นาไปสู่การกระทา หรือพฤติกรรมต่าง ๆ ในทางที่ สังคมยอมรับหรือไปสู่พฤติกรรมเบ่ียงเบนท่ีสงั คมไมย่ อมรับ 4. ควำมสนใจของวยั รุ่น วยั รุ่นมีความสนใจส่ิงตา่ งๆ รอบตวั จะมีมากโดยเฉพาะกิจกรรมเป็ นกลุ่มเพอื่ นท่ีเป็นการสร้าง ประสบการณ์และบงั เกิดผลดีดา้ นการใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ ความสนใจของวยั รุ่นสรุปไดด้ งั น้ี 1) สนใจเร่ืองสุขภาพ 2) สนใจเรื่องเพศ 3) สนใจการเลือกอาชีพ

49 4) สนใจสนั ทนาการ 5) สนใจคน้ ควา้ 6) สนใจสร้างนิสัยการเรียนดี 7) สนใจเรื่องคุณสมบตั ิส่วนตวั 8) สนใจเร่ืองปรัชญาชีวิต จากลกั ษณะความตอ้ งการและความสนใจของวยั รุ่นที่กล่าวขา้ งตน้ จะเห็นไดว้ า่ วยั รุ่นเป็นระยะ ของการมีสภาพหลกั การเหตุผล เขาตอ้ งการใหผ้ ใู้ หญ่มีหลกั การเช่นเดียวกบั เขาในบางคร้ังความคิด ความ ปรารถนาที่จะใหผ้ ทู้ ี่ตนรักและสนใจ เป็นเช่นที่เขา้ ปรารถนาวยั รุ่นจะแสดงออกในลกั ษณะกา้ วร้าว ดึงดนั ประชดประชนั ตา่ ง ๆ จนกลายเป็นพฤติกรรมที่เบี่ยงเบน เช่นวยั รุ่นตอ้ งการอยใู่ นครอบครัวอบอุ่น รัก ปรองดองกนั ถา้ พอ่ แมม่ ีปากเสียงกนั จะเห็นวา่ วยั รุ่นขดั ใจและแสดงปฏิกิริยาต่อตา้ น ถา้ ผใู้ หญ่ไมเ่ ขา้ ใจ ใชก้ ารบีบบงั คบั โดยไรเหตุผล ยง่ิ ทาใหว้ ยั รุ่นเกิดความคบั ขอ้ งใจมากข้ึน จึงแสดงพฤติกรรมเบี่ยงเบนออกมา เช่น หนีไปมว่ั สุมกบั เพือ่ นชอบเท่ียวไม่อยากอยบู่ า้ น ส่งผลใหเ้ กิด ปัญหาอื่น ๆ ตามมา 5. พฤติกรรมทเ่ี ป็ นปัญหำ พฤติกรรมท่ีเป็ นปัญหาของวยั รุ่น 6 ปัจจยั ดงั น้ี 1) เกิดจากตวั เด็กเอง คือสภาพร่างกายและปัญหาส่วนตวั อาจจะมาจากสาเหตุดงั น้ี 1.1 อาหาร การขาดอาหารไดอ้ าหารไมเ่ พยี งพอ 1.2 ปัญหาโรคทางกายเฉพาะตวั 1.3 ความพิการหรือความบกพร่องของบุคลิกภาพ 1.4 เด็กท่ีมีปัญหาพฒั นาการทางบุคลิกภาพ มีวฒุ ิภาวะต่า มีปัญหาทางดา้ นการ ปรับตวั 1.5 ความกดดนั และผดิ ปกติของอารมณ์เพศ 2) เกิดจากความบีบค้นั ทางใจ นบั จากสภาพแวดลอ้ มใกลช้ ิด คือครอบครัวและภาวะสังคม รอบตวั ที่เกี่ยวขอ้ งไดแ้ ก่ 2.1 สภาพครอบครัวยงุ่ เหยงิ พอ่ แม่ไม่ปรองดองกนั ทะเลาะเบาะแวง้ กนั 2.2 ครอบครัวแตกแยก พอ่ แม่แยกทางกนั เดก็ ไม่อาจหาที่พ่ึงยดึ เป็นแบบแผนได้ 2.3 ความบีบค้นั ท่ีไดร้ ับมีมากมาย นบั จากพอ่ แม่ไม่มีเวลาสนใจ เอาใจใส่ลูก เดก็ เกิดความวา้ เหว่ 3) สภาพแวดลอ้ มที่เด็กไดร้ ับ เช่น สภาพท่ีต้งั ของบา้ น โรงเรียน เดก็ ขาดตวั อยา่ ง และการ ชกั นา ไปในทางเสื่อมเสียเป็ นส่วนใหญ่

50 4) กลุ่มเพ่ือน การทาตามคา่ นิยมกลุ่มในทางที่ผดิ เป็นสาเหตุสาคญั ของการกระทาผดิ ของ วยั รุ่นไดม้ าก 5) สภาพเศรษฐกิจ ภาวะเศรษฐกิจในครอบครัวและชุมชนท่ีทรุดโทรม เป็นเหตุใหญ่ที่สุด ของคดีอาชญากรวยั รุ่น 6) ส่ือมวลชน หนงั สือตา่ งๆที่มีจาหน่ายมากมายไมไ่ ดร้ ับการควบคุมอยา่ งจริงจงั 6. ปัญหำประเภทต่ำง ๆ ของนักเรียนวัยรุ่น นกั เรียนแต่ละคนที่เขา้ มาอยรู่ ่วมกนั ในสังคมในโรงเรียนท่ีมีสภาพแวดลอ้ มและบุคลิกภาพของ นกั เรียนที่แตกต่างกนั อาจนาไปสู่ปัญหาหรือ ในการปรับตวั ในห้องเรียนและนอกห้องเรียนดงั น้ี 1) ปัญหาดา้ นการเรียนมีดงั น้ี 1.1 ความไม่เขา้ ใจบทเรียนของนกั เรียน 1.2 วางแผนการเลือกสาขาวิชาที่จะเรียนให้เหมาะสมกบั สติปัญหาและความถนดั ของเด็ก 1.3 ปัญหาทางดา้ นส่วนตวั พฤติกรรมที่แสดงออกท่ีเป็นปัญหามีดงั น้ี 1.3.1 ความผดิ ปกติทางนิสยั 1.3.2 การมีนิสัยสะเพร่า 1.4 มีความไม่ซื่อสตั ว์ ทาการทุจริตลกั ขโมย 2) ปัญหาการบีบค้นั ทางจิตใจ อนั เกิดจากสาเหตุตา่ งๆมีดงั น้ี 2.1 ลกั ษณะอาการทางดา้ นประสาท 2.2 อาการเฉ่ือยชา เหม่อลอย 2.3 อาการช่างกงั วล 2.4 ลกั ษณะความไมม่ นั่ ใจดว้ ยการย้าคิด 2.5 อาการย้าทา 3) ปัญหาทางดา้ นบุคลิกภาพ 3.1 ความกงั วลเรื่องบุคลิกลกั ษณะของตน 3.2 การแสดงความเป็ นคนข้ีอาย ไมก่ ลา้ แสดงออก 3.3 การแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะกบั วยั 3.4 การแสดงพฤติกรรมไม่สมกบั เพศหรือท่ีเรียกวา่ กระเทย

51 7. กำรแก้ไขปัญหำวยั รุ่น ผอ่ งพรรณ เกิดพทิ กั ษ์ (2529:1) กล่าวคือการใหค้ าปรึกษาวา่ เป็นกระบวนการท่ีแสดงถึงมนุษย สัมพนั ธ์ท่ีละเอียดอ่อนระหวา่ งบุคคล โดยผใู้ หค้ าปรึกษาจะใหค้ วามช่วยเหลือและคาปรึกษา แก่ผมู้ ารับคาปรึกษา เพื่อใหบ้ ุคคลท่ีมารับคาปรึกษาหรือเรื่องราวท่ีนามาปรึกษาสามารถใชพ้ ลงั ปัญญา และความสามารถของตนเองในการตดั สินใจ ตกลงที่จะเลือกจะทาอยา่ งหน่ึงอยา่ งใดในวถิ ีทาง ที่เหมาะสมท่ีเขาปรารถนา ในท่ีสุดบุคคลท่ีมาขอรับคาปรึกษาจะสามารถป้องกนั ปัญหา แกป้ ัญหาและ พฒั นาตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ผกา สัตยธรรม (2535,175-188) กล่าววา่ การส่งเสริมใหเ้ ด็กมีสุขภาพจิตท่ีดีน้นั เป็นการกระทาที่ ควบคู่ไปกบั การป้องกนั ไมใ่ หเ้ ด็กสุขภาพจิตเสีย หรือสุขภาพจิตไม่ดี การส่งเสริมสุขภาพจิตของเดก็ น้นั มี ผเู้ ก่ียวขอ้ งอยดู่ ว้ ย บิดามารดา ครู อาจารย์ และผเู้ ก่ียวขอ้ งกบั เด็กในดา้ นตา่ ง ๆ ควรใหค้ วามช่วยเหลือและ คาปรึกษาแก่วยั รุ่นเพื่อใหส้ ามารถใชพ้ ลงั ปัญญาและความสามารถของตนเองในการติดสินใจจนสามารถ ป้องกนั แกไ้ ขปัญหาและพฒั นาตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสมดง้ น้ี 1. บิดามารดาควรส่งเสริมให้เดก็ มีสุขภาพกายดี เพราะผทู้ ่ีจะมีสุขภาพจิตดีไดต้ อ้ งอาศยั การมี สุขภาพกายดีเป็นเบ้ืองตน้ ซ่ึงตรงกบั คากล่าวที่วา่ สุขภาพจิตท่ีแจม่ ใสยอ่ มอยใู่ นร่างกายที่สมบูรณ์ การไม่ ปล่อยใหเ้ ด็กอดอยากขาดอาหารเป็ นตน้ ทางโรงเรียนก็ควรช่วยจดั รายการอาหารกลางวนั สาหรับเด็กท่ีไม่ มีอาหารรับประทานดว้ ย 2. บิดา มารดา ครูอาจารยค์ วรฝึกใหเ้ ดก็ มีอารมณ์เยน็ อารมณ์ดี เป็นคนมองโลกในแง่ดี มีความ แจม่ ใสร่าเริงเบิกบาน เมื่อเดก็ มีอารมฉุนเฉียว ควรอธิบายใหเ้ ขา้ ใจถึงความไม่ดีของความโกรธ เพราะเป็น การเกิดโทษแก่ตนเองเช่น อาจทาใหห้ วั ใจเตน้ แรง ควบคุมสติไม่อยเู่ กิดความทุกขแ์ ก่ตนฝ่ ายเดียว 3. ฝึกใหเ้ ดก็ รู้จกั ตนเองอยา่ งแทจ้ ริงในดา้ นต่าง ๆ เช่น รู้จกั นิสัยของตน รู้จกั นิสยั ของตนเอง รู้จกั พิจารณาตนเองวา่ มีขอ้ ดีขอ้ เสียท่ีจะตอ้ งแกไ้ ขอยา่ งไร อาจเขียนขอ้ ดี ขอ้ เสีย ขอ้ เสนอแนะท่ีจะแกไ้ ขใหม้ ี นิสยั ดีข้ึน และปฏิบตั ิในสิ่งที่ดีข้ึนต่อไป ในทางจิตวทิ ยาเช่ือวา่ พฤติกรรมทุกชนิดยอ่ มมีสาเหตุเมื่อครูพบพฤติกรรมที่เป็ นปัญหาอาจจะ วเิ คราะห์ไดจ้ ากสาเหตุท่ีเกิดดงั น้ี 1. การพฒั นาการทางกายไดแ้ ก่ความไมค่ รบถว้ น ความสมบูรณ์ของอวยั วะเช่น พกิ าร ตาบอด ขา ดว้ น ผอมเกินไป อว้ นเกินไป 2. พฒั นาการทางสงั คมไดแ้ ก่สังคมครอบครัว สงั คมรอบ ๆ ตวั เพ่อื น ๆ เพื่อนบา้ น ครอบครัวท่ี พอ่ แมแ่ ตกแยกหรือครอบครัวท่ีอบอุ่น จะมีผลต่อพฤติกรรมของเดก็ 3. พฒั นาการทางจิตใจไดแ้ ก่ สะเทือนใจอยา่ งรุนแรงเนื่องจากพอ่ แม่ตายต้งั แต่ยงั เลก็ ๆ ขาดความ รักความอบอุ่นในครอบครัว หนา้ ตาข้ีเหล่ มีแผลเป็นชดั เจน เกิดในครอบครัวที่ต่าตอ้ ย ครอบครัวยากจน ถูกบีบค้นั มาก พอ่ แม่ไมใ่ หค้ วามสนใจ เป็นตน้ เดก็ ที่มีพฒั นาการทางจิตใจดี สุขภาพก็จะดี มองคนในแง่ดี เป็นคนรักคนอ่ืน พร้อมท่ีจะช่วยเหลือเก้ือกูลผอู้ ่ืนอยา่ งเห็นไดช้ ดั

52 บทสรุป เมื่อพบนกั เรียนท่ีมีปัญหาในโรงเรียนสิ่งแรกที่ควรคานึงถึงคือ พฤติกรรมทุกชนิดตอ้ งมี สาเหตุ ทางท่ีดีแลว้ ควรหาพฤติกรรมน้นั เกิดมาจากสาเหตุใด โดยวเิ คราะห์จากสถานการณ์ในอดีตและ ปัจจุบนั ของเด็ก ท้งั ทางดา้ นร่างกาย จิตใจ และสังคมของเดก็ เมื่อทราบสาเหตุแลว้ อาจจะใชว้ ธิ ีการแกไ้ ข ปัญหาโดยการใหค้ าปรึกษาทางจิตวทิ ยา การปรับพฤติกรรม ฯลฯ ซ่ึงมีวตั ถุประสงคเ์ พือ่ ใหเ้ ดก็ ลดการ กระทาท่ีเป็ นปัญหาลง เบญจพร ปัญญายง (อา้ งในกรมสุขภาพจิต 2544:14-19) กล่าวถึงการเผา้ ระวงั ปัญหาสุขภาพจิต เดก็ วยั เรียน สรุปไดว้ า่ ปัญหาทางจิตเวชในเดก็ พบประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทวั่ ไป เด็กบางคน เทา่ น้นั ที่ตอ้ งการประเมินสภาพจิตและรักษาในคลินิก แต่โดยส่วนใหญ่พอ่ แมแ่ ละครูแนะแนวสามารถให้ การช่วยเหลือไดโ้ ดยใหค้ าแนะนาในระยะเร่ิมแรกก่อนเกิดปัญหารุนแรงหลงั จากมีโปรแกรมการเฝ้าระวงั โรคทางจิตเวชท่ีดีทาใหพ้ บปัญหาสุขภาพจิตในเด็กจานวนมากข้ึน การช่วยเหลือจะส่งผลดีถา้ ทีมผรู้ ักษามี ความต้งั ใจใจการช่วยเหลือใหก้ าลงั แก่เด็กและพอ่ แม่ เม่ือครูประจาช้นั พบเดก็ ที่มีปัญหาควรทา ความตก ลงและวางแผนร่วมกบั พอ่ แม่จากน้นั แนะนา เขา้ โปรแกรมเฝ้าระวงั ปัญหาสุขภาพจิต ควรหลีกเล่ียงท่ีจะ ระบุวา่ เดก็ มีปัญหา ถา้ ปัญหาน้นั ยงั ไมร่ ุนแรงและมีอาการช่วงส้นั ๆ ครูและครูแนะแนวท่ีผา่ นการฝึกงาน หรือการอบรมสุขภาพจิตสามารถใหก้ ารช่วยเหลือเบ้ืองตน้ ได้ และถา้ หากยงั ไมไ่ ดผ้ ลจึงส่งตอ่ เพอ่ื พบ จิตแพทยเ์ ด็กตอ่ ไป

53 ตัวอย่ำงกำรจัดกจิ กรรม แผนกำรจัดกจิ กรรมลูกเสือวสิ ำมญั 2 ช้ันมธั ยมศึกษำป่ี ที่ 5-6 , ประกำศนียบัตรวชิ ำชีพ (ปวช.1,2,3) หน่วยที่ 14 รักและหวงแหนสำธำรณสมบัตขิ องชุมชน ชำติ แผนกำรจัดกจิ กรรมที่ 25 ช่วยดูแลรักษำสำธำรณสมบัติของชุมชน ชำติ (เวลำ 2 ช่ัวโมง) 1. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ มีจิตสานึกในการดูและรักษาสาธารณสมบตั ิ ชุมชน ชาติ ตามคติพจน์ของลูกเสือวสิ ามญั “บริการ” 2. เนื้อหำ กิจกรรมบริการ ดูแล รักษา สาธารณสมบตั ิ ชุมชน ชาติ 3. สื่อ วสั ดุ อปุ กรณ์ 3. 1 แผนภูมิแสดง “บริการ” 3. 2 แบบสารวจสาธารณสถานท่ีใกลบ้ า้ น ท่ีวดั ที่โรงเรียน (สถานศึกษา) 3. 3 แบบรายงานผลกการปฏิบตั ิกิจกรรมการบริการสาธารณสมบตั ิ 3. 4 เพลง “บริการ” 3. 5 เรื่องส้นั ท่ีเป็นคติ “นกกระจาบ” 4. กจิ กรรม 4. 1 พิธีเปิ ด (ชกั ธง สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4. 2 เพลง “บริการ” 4. 3 กิจกรรมการสอนตามเน้ือหา 4.3.1 ผกู้ ากบั ลูกเสือทบทวนคาปฏิญาณของลูกเสือ และคติพจน์ของลูกเสือสารอง “ทา ดีท่ีสุด” คติพจน์ลูกเสือสามญั “จงเตรียมพร้อม” คติพจน์ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ “มองไกล” ลูกเสือวสิ ามญั “บริการ” 4.3.2 ผกู้ ากบั ลูกเสือไดม้ อบหมายงานการสารวจสาธารณสมบตั ิในพ้ืนท่ีใกล้ สถานศึกษาก่อนเวลาเรียนวชิ าน้ี 4.3.3 ผแู้ ทนลูกเสือ แต่ละหมู่ออกมานาเสนอรายงานการสารวจสาธารณสมบตั ิ ตามที่ผู้ กากบั ไดม้ อบหมาย 1) ที่บา้ น 2) ท่ีวดั 3) ท่ีโรงเรียน (สถานศึกษา) 4.3.4 ลูกเสือแตล่ ะหมู่รวมกนั คิด และเลือกกิจกรรมที่จะปฏิบตั ิร่วมกนั ในการดูแลรักษา สาธารณสมบตั ิ

54 4.3.5 หมู่ลูกเสือวางแผนการปฏิบตั ิกิจกรรมบริการตามคติพจนข์ องลูกเสือวสิ ามญั โดย กาหนดเวลาปฏิบตั ิกิจกรรม ในเวลาเรียนใหบ้ ริการในสถานศึกษา นอกเวลาเรียน วนั เสาร์ อาทิตย์ บริการ ท่ีบา้ น และวดั 4.4 ผกู้ ากบั เล่าเรื่องส้ันท่ีเป็นคติ “นกกระจาบ” 4.5 พธิ ีเปิ ด (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลิก) 5. กำรประเมินผล 5.1 ดูจากผลการสารวจสาธารณสมบตั ิท่ีใกลบ้ า้ น ที่วดั และที่โรงเรียน (สถานศึกษา) 5.2 ดูจาก การปฏิบตั ิกิจกรรมการบริการสาธารณสมบตั ิ ตามที่แต่ละหมู่ไดเ้ ลือกบริการท้งั ที่ โรงเรียน ท่ีใกล้ และท่ีวดั

55 แบบสำรวจสำธำรณสมบตั ิ ทบ่ี ้ำน ทว่ี ดั ท่ีโรงเรียน ช่ือ – สกุล ........................... .................................ช้นั . ................เลขที่................ หมู่........................... สถำนทตี่ ้งั สำธำรณสมบตั ิ กจิ กรรมบริกำร คุณประโยชน์ของสำธำรณสมบัตทิ เี่ ลือกบริกำร ที่ใกลบ้ า้ น .................................... 1. .................................... 2. ที่วดั .................................... 1. .................................... 2. ท่ีโรงเรียน/แผนก ..................................... 1. ..................................... 2. ลงช่ือ................................................. ผสู้ ารวจ -----------/-------------------------/-------------

56 แบบรำยงำนผลกำรปฏิบตั ิกจิ กรรมบริกำร สำธำรณสมบตั ิของชุมชน ชำติ ชื่อ – สกลุ ........................... .................................ช้นั . ................เลขท่ี................ หมู่........................... วนั เดือน ปี กิจกรรมที่บริการ หมายเหตุ ขอรับรองวา่ เป็นความจริง ลงชื่อ................................................. ผปู้ ฏิบตั ิงาน -----------/-------------------------/------------- ความเห็นผกู้ ากบั กองลูกเสือ ลงช่ือ.................................................ผกู้ ากบั กองลูกเสือ (..........................................) -----------/-------------------------/-------------

57 เพลง บริกำร (สร้อย) บริการ บริการ งานท่ีพวกเราทา เป็นประจา เราทาไป ไมเ่ คยคิดรายงาน เฮ้ เราทาไมเ่ คยคิดเบ่ือ เพราะเราน้นั เป็นลูกเสือ เช่ือมนั่ ในบริการ (สร้อย) เราทาไมเ่ คยคิดหนี เพราะเราเป็ นเนตรนารี หนา้ ที่ใหบ้ ริการ (สร้อย) เร่ืองส้ันทเี่ ป็ นคติ นกกระจำบ นกกระจาบฝงู หน่ึงถูกนายพรานใชต้ าข่ายจบั ไป หวั หนา้ นกกระจาบและนกท่ีเหลือไดห้ าวธิ ีเพ่อื ให้ รอดพน้ จากตาขา่ ย เม่ือฝงู นกถูกนายพรานดบั จบั ไดใ้ ชก้ ลวธิ ีความสามคั คี ทาใหร้ อดพน้ จากตาข่าย นายพรานไดอ้ ยา่ งปลอดภยั คติเตือนใจคือ คนเดียวหวั หาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลบั บา้ นได้

58 แผนกำรจัดกจิ กรรมลกู เสือวิสำมัญ 2 ช้ันมัธยมศึกษำปี ที่ 5-6 ประกำศนียบัตรวชิ ำชีพ (ปวช.1,2,3) หน่วยท่ี 15 รับผดิ ชอบ ปัญหำสังคม แผนกำรจัดกจิ กรรมท่ี 26 วชิ ำสังคมสงเครำะห์ เวลำ 2 ชั่วโมง 1. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1.1 อธิบายความรู้และช้ีแจงเร่ืองตา่ ง ๆ ท่ีเป็นปัญหาสงั คมได้ 1.2 ปฏิบตั ิตามคติพจน์ของลูกเสือวสิ ามญั คือบริการได้ 1.3 อธิบายบทบาทและทาหนา้ ท่ีช่วยเหลือสงเคราะห์ผปู้ ระสบภยั ตา่ ง ๆได้ 2. เนื้อหำ 2.1. สาเหตุท่ีทาใหเ้ กิดปัญหาทางสังคม 2.2. ความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั การประชาสงเคราะห์ และการสงั คมสงเคราะห์ 2.3. จิตวทิ ยาเบ้ืองตน้ ของผรู้ ับการสงเคราะห์ ประเภทตา่ ง ๆ 2.4. แนวทางปฏิบตั ิต่อผรู้ ับการสงเคราะห์ประเภทต่าง ๆ 2.5. การออกหน่วยช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั และการรับบริจาคสิ่งของเหลือใช้ 3. ส่ือ วสั ดุอปุ กรณ์ 3. 1 แผนภาพ วดี ีทศั น์ ผปู้ ระสบภยั 3. 2 ส่ิงของเคร่ืองใช้ ถุงยงั ชีพ 3. 3 ใบความรู้ 3. 4 เพลง “เราคือพนี่ อ้ ง” 3. 5 เรื่องส้นั ท่ีเป็นคติ “ความสามคั คี” 4. กจิ กรรม 4. 1 พธิ ีเปิ ด (ชกั ธง สวดมนต์ สงบน่ิง ตรวจ แยก) 4. 2 เพลง “เราคือพีน่ อ้ ง” 4. 3 กิจกรรมการสอนตามเน้ือหา 4.3.1 ผกู้ ากบั ลูกเสือนาปัญหาท่ีเกิดข้ึนรายวนั ในหนา้ หนงั สือพิมพ์ สนทนากบั ลูกเสือวสิ ามญั 4.3.2 ผกู้ ากบั ลูกเสือใหล้ ูกเสือแบง่ กลุ่ม เพื่อหาสาเหตุเบ้ืองตนของปัญหาท่ีเกิดข้ึน นาเสนอต่อ กลุ่มลูกเสือพร้อมหาวธิ ีแกไ้ ขปัญหาเบ้ืองตน้ 4.3.3 แบ่งกลุ่มลูกเสือจดั ทาแผนโครงการออกหน่วยช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั และรับบริจาคสิ่งของ 4.3.4 ผกู้ ากบั ลูกเสือและลูกเสือร่วมกนั สรุปบทเรียน 4.4 ผกู้ ากบั ลูกเสือเล่าเรื่องส้นั ที่เป็นคติ “ความสามคั คี”

59 4.5 พธิ ีปิ ด (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลิก) 5. ประเมนิ ผล 5.1 กลุ่มลูกเสือวสิ ามญั ตอ้ งจดั โครงการบริการ หรือออกหน่วยช่วยเหลือชุมชนอยา่ งนอ้ ย 3 คร้ัง 5.2 กลุ่มลูกเสือจดั ทาสรุปโครงการรายงานตอ่ ผกู้ ากบั ลูกเสือวิสามญั

60 ตัวอย่ำงแผนกำรจัดกจิ กรรม แผนกำรจัดกจิ กรรมลูกเสือวสิ ำมญั 1 ช้ันมธั ยมศึกษำปี ท่ี 4, ประกำศนียบตั รวชิ ำชีพ (ปวช.1) หน่วยท่ี 13 จิตอำสำ บริกำร แผนกำรจัดกจิ กรรมท่ี 18 ก้ภู ัยใกล้ตัว/กำรปฐมพยำบำล เวลำ 1 ชั่วโมง 1. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1.1 ลูกเสือแจง้ ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่ใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุได้ 1.2 ลูกเสือทาการปฐมพยาบาลผปู้ ระสบเหตุ คนเป็นลม แมลงกดั ตอ่ ย ขอ้ เทา้ แพลงและผวิ หนงั ถลอกได้ 2. เนื้อหำ 2.1. หน่วยงานที่ใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ 2.2. การปฐมพยาบาลคนเป็นลม 2.3. การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยถูกแมลงกดั ตอ่ ย 2.4. การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยขอ้ เทา้ แพลง 2.5. การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยผวิ หนงั ถลอก 3. สื่อ วสั ดุอุปกรณ์ 3. 1 ใบความรู้ที่ 1 หน่วยงานท่ีใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ 3. 2 ใบความรู้ที่ 2 การปฐมพยาบาลคนเป็นลม 3. 3 ใบความรู้ที่ 3 การปฐมพยาบาลผถู้ ูกแมลงกดั ต่อย 3. 4 ใบความรู้ท่ี 4 การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยขอ้ เทา้ แพลง 3. 5 ใบความรู้ที่ 5 การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยผวิ หนงั ถลอก 3. 6 เพลง “ลูกเสือธีรราช” 3. 7 เรื่องส้นั ที่เป็นคติ “คุณธรรมของครู” 4. กจิ กรรม 4. 1 พธิ ีเปิ ด (ชกั ธง สวดมนต์ สงบนิ่ง ตรวจ แยก) 4. 2 เพลง “ลูกเสือธีรราช”

61 4. 3 กิจกรรมการสอนตามเน้ือหา 4.3.1 ผกู้ ากบั ลูกเสือนาสนทนาเร่ือง อุบตั ิเหตุที่เกิดข้ึน และพบไดบ้ อ่ ยสอบถาม ประสบการณ์ที่ลูกเสือไดพ้ บและใหล้ ูกเสือท่ีเคยผา่ นประสบการณ์ดงั กล่าวเล่าถึงสาเหตุของอุบตั ิเหตุและ การได้รับการช่วยเหลือหรือการขอความช่วยเหลือในชีวิตประจาวนั ให้ลูกเสือแต่ละหมู่บอกถึง หน่วยงานที่ใหบ้ ริการช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั หรืออุบตั ิเหตุ 4.3.2 ผกู้ ากบั ลูกเสือแจกใบความรู้ที่ 1 หน่วยงานที่ใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุ สนทนาวธิ ีการ แจง้ เหตุไปยงั เจา้ หนา้ ที่ 4.3.3 ผกู้ ากบั ลูกเสือบรรยาย และสาธิตการปฐมพยาบาล เรื่อง - คนเป็นลม - คนถูกแมลงกดั ต่อย - ผปู้ ่ วยขอ้ เทา้ แพลง - ผปู้ ่ วยผวิ หนงั ถลอก 4.3.4 แบง่ ลูกเสือออกเป็น 4 กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มฝึกปฏิบตั ิการปฐมพยาบาลท่ีผโู้ ดยศึกษา เพ่ิมเติมจากใบความรู้ตามกลุ่มดงั น้ี กลุ่มท่ี 1 การปฐมพยาบาลคนเป็นลม กลุ่มท่ี 2 การปฐมพยาบาลผถู้ ูกแมลงกดั ต่อย กลุ่มท่ี 3 การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยขอ้ เทา้ แพลง กลุ่มท่ี 4 การปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยผวิ หนงั ถลอก 4.3.5 ใหล้ ูกเสือแตล่ ะกลุ่มออกมาสาธิตการปฐมพยาบาล 4.3.6 ผกู้ ากบั ลูกเสือสรุปบทเรียนจากการออกมาสาธิต โดยเสริมส่วนท่ียงั ไม่สมบูรณ์ 4.4 ผกู้ ากบั ลูกเสือเล่าเร่ืองส้ันที่เป็นคติ “คุณธรรมของครู” 4.5 พธิ ีปิ ด (นดั หมาย ตรวจเคร่ืองแบบ ชกั ธง เลิก) 5. กำรประเมินผล 5.1 ลูกเสือบอกถึงหน่วยงานท่ีใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอุบตั ิเหตุไดถ้ ูกตอ้ ง 5.2 สาธิตการปฐมพยาบาลผปู้ ่ วยเป็นลม คนถูกแมลงกดั ต่อย ผปู้ ่ วยขอ้ เทา้ แพลง ผปู้ ่ วยผวิ หนงั ถลอกไดถ้ ูกตอ้ ง

62 บทเรียนที่ 3 เร่ือง กจิ กรรมลกู เสือเสริมสร้ำงทกั ษะชีวติ เวลำ 45 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. ความหมาย ความสาคญั ของทกั ษะชีวติ และทกั ษะการดารงชีวิต ในการพฒั นาเยาวชน 2. องคป์ ระกอบของทกั ษะชีวติ ทกั ษะชีวติ ทวั่ ไป และทกั ษะชีวติ เฉพาะ 3. ลกั ษณะและกระบวนการเรียนรู้ของกิจกรรมลูกเสือที่เสริมสร้างทกั ษะชีวติ จุดหมำย เพอื่ ใหผ้ เู้ ขา้ รับการอบรมมีความรู้และเขา้ ใจถึงความสาคญั ของการจดั กิจกรรมลูกเสือท่ีเสริมสร้าง ทกั ษะชีวติ ใหช้ ดั เจนข้ึน และสอดคลอ้ งกบั ปริบทที่เป็ นปัญหาต่อเดก็ และเยาวชนในแต่ละช่วงวยั วตั ถุประสงค์ เม่ือจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการอบรมควรจะสามารถ 1. บอกความหมาย ความสาคญั และอธิบายองคป์ ระกอบของทกั ษะชีวติ ได้ 2. บอกไดว้ า่ การเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ร่วมกบั ทกั ษะการดารงชีวติ จะมีผลพฒั นาเยาวชนใหด้ ีข้ึนอยา่ งไร 3. บอกลกั ษณะและกระบวนการเรียนรู้ของกิจกรรมลูกเสือท่ีเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ได้ วธิ สี อนและกจิ กรรม 1. นาเขา้ สู่บทเรียน เตรียมความพร้อมผูเ้ ขา้ รับการอบรม ใหส้ งั เกตความแตกต่างของกิจกรรมลูกเสือ 2 แบบ จากการชมวดี ีทศั น์ 2. ใหช้ มวดี ีทศั น์ เรื่อง “ขยะน้ีมีมูลคา่ ” หรืออ่ืน ๆ ที่เหมาะสม 3. ประชุมกลุ่มยอ่ ย เพอื่ หาขอ้ สรุป ในประเด็นต่อไปน้ี (ใบงานที่ 1 ใน power point) 3.1 มีความรู้สึกอยา่ งไรต่อกิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ 3.2 กิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ มีขอ้ แตกต่างกนั อยา่ งไร 4. รายงาน /อภิปราย/สรุป และเพม่ิ เติมวา่ “กิจกรรมลูกเสือที่เสริมสร้างทกั ษะชีวติ มีจุดเนน้ ท่ีการไดล้ งมือ ทา คิด วเิ คราะห์ แลกเปล่ียนความเห็นในกลุ่ม จนเกิดความคิดรวบยอดที่ชดั เจน และไดป้ ระยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิด ประโยชนต์ ่อตนเองหรือผูอ้ ่ืนอยา่ งเป็นรูปธรรม” 5. บรรยาย 5.1 ความหมาย ความสาคญั ของทกั ษะชีวติ และทกั ษะการดารงชีวติ 5.2 องคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ ทกั ษะชีวติ ทวั่ ไปและทกั ษะชีวติ เฉพาะ 5.3 ลกั ษณะและกระบวนการเรียนรู้ของกิจกรรมลูกเสือท่ีเสริมสร้างทกั ษะชีวติ 6. ประชุมกลุ่มยอ่ ย เพือ่ หาขอ้ สรุป ในประเด็น“ท่านมีขอ้ เสนอแนะอะไรบา้ ง ในการจดั กิจกรรมเพื่อ เสริมสร้างใหล้ ูกเสือมีพฒั นาการดา้ นทกั ษะชีวติ มากยงิ่ ข้ึน” (ใบงานที่ 2 ใน power point) 7. รายงาน/อภิปราย/สรุป

63 8. ซกั ถาม/ เสนอแนะ /สรุปบทเรียน สื่อกำรสอน 1. วดี ีทศั น์ เรื่อง “ขยะน้ีมีมูลคา่ ” 2. ใบงาน 3. ใบความรู้เร่ือง “ลูกเสือสร้างทกั ษะชีวติ ไดอ้ ยา่ งไร” สาหรับวทิ ยากร และผเู้ ขา้ รับการอบรม 4. Power point เร่ือง “ลูกเสือสร้างทกั ษะชีวติ ไดอ้ ยา่ งไร” สาหรับวทิ ยากร กำรประเมนิ ผล 1. สังเกตการมีส่วนร่วม การซกั ถาม และการแสดงความคิดเห็นระหวา่ งการอบรม 2. การสัมภาษณ์

64 ใบงำนท่ี 1 ประชุมกลุ่มยอ่ ย เพอ่ื หาขอ้ สรุป ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี 3.1 มีความรู้สึกอยา่ งไรตอ่ กิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ 3.2 กิจกรรมลูกเสือท้งั 2 แบบ มีขอ้ แตกตา่ งกนั อยา่ งไร ใบงำนที่ 2 ประชุมกลุ่มยอ่ ย เพื่อหาขอ้ สรุป ในประเด็น “ทา่ นมีขอ้ เสนอแนะอะไรบา้ ง ในการจดั กิจกรรม เพอื่ เสริมสร้างใหล้ ูกเสือมีพฒั นาการดา้ นทกั ษะชีวติ มากยงิ่ ข้ึน” ใบควำมรู้ เรื่อง ลูกเสือสร้ำงทักษะชีวติ ได้อย่ำงไร 1. ควำมหมำย ควำมสำคญั ของทกั ษะชีวติ และทกั ษะกำรดำรงชีวติ ทกั ษะชีวติ เป็นความสามารถทางจิตสงั คม ท่ีจะปรับตวั และจดั การกบั ปัญหาต่าง ๆ รอบตวั ใน สภาพสงั คมปัจจุบนั ซ่ึงเกิดผลกระทบที่ร้ายแรงมากข้ึนเร่ือย ๆ และมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว จาเป็นตอ้ งรู้เทา่ ทนั เพ่ือสามารถป้องกนั ตนเองไม่ใหต้ กเป็ นเหยอื่ และเตรียมพร้อมสาหรับการปรับตวั ใน อนาคต ตวั อยา่ งปัญหาท่ีพบบ่อย ไดแ้ ก่ -การรู้ไมเ่ ทา่ ทนั ส่ือต่าง ๆ เช่น ส่ือโฆษณาสินคา้ ขนม ลูกอม ของเล่น เครื่องสาอาง ยาลดน้าหนกั อนั นาไปสู่ปัญหาสุขภาพท้งั ระยะส้นั และระยะยาว ส่ือ online ท่ีสามารถติดต่อเขา้ ถึงตวั ไดโ้ ดยตรงอนั เป็นช่องทางใหถ้ ูกหลอกลวงไดง้ ่าย สื่อลามก สื่อความรุนแรงที่เป็นแบบอยา่ งใหเ้ กิดการเลียนแบบ - ปัญหาเดก็ ติดเกม เป็นตน้ - ปัญหาเร่ืองเพศ เอดส์ และการต้งั ครรภใ์ นวยั เรียน - ปัญหายาเสพติด - ปัญหาความรุนแรง ทกั ษะกำรดำรงชีวติ เป็นความสามารถท่ีใชใ้ นกิจวตั รประจาวนั ในเร่ืองพ้ืนฐานของชีวติ เพื่อ ความอยรู่ อดทางกาย ส่วนใหญ่มกั เป็นทกั ษะทางกายภาพ เช่น การอาบน้าแปรงฟัน การแต่งตวั การ ทาอาหาร การออกกาลงั กาย การผกู เง่ือนเชือก การใชช้ ีวติ ในค่าย การใชแ้ ผนท่ีเขม็ ทิศ ฯลฯ ดงั น้นั นอกจากการมีทกั ษะการดารงชีวติ เพ่ือความอยรู่ อดพ้นื ฐานในชีวติ ประจาวนั แลว้

65 เดก็ และเยาวชนทุกคนจาเป็นตอ้ งมีทกั ษะชีวติ ดว้ ย เพื่อความอยรู่ อดในสังคมปัจจุบนั และเตรียมพร้อม สาหรับปัญหาตา่ ง ๆ ท่ีทุกคนจาเป็นตอ้ งเผชิญอยา่ งหลีกเลี่ยงไม่ได้ 2. องค์ประกอบทกั ษะชีวิต ทกั ษะชีวติ ทว่ั ไปและทกั ษะชีวติ เฉพำะ องค์ประกอบทกั ษะชีวติ ทกั ษะชีวติ มี 12 องคป์ ระกอบ จดั เป็น 6 คู่ โดยแบง่ ตามพฤติกรรมการเรียนรู้ 3 ดา้ น ดงั น้ี 1. ดา้ นพุทธิพิสัย จดั ไวต้ รงกลางของแผนภาพ เพราะเป็นองคป์ ระกอบร่วมและเป็นพ้ืนฐานของ ทุกองคป์ ระกอบ - ความคิดวิเคราะห์วิจารณ์ เป็ นความสามารถที่จะวเิ คราะห์ แยกแยะ ขอ้ มูล ขา่ วสาร ปัญหา และ สถานการณ์ต่าง ๆ รอบตวั มีความสาคญั ต่อการตดั สินใจ และความเชื่อในเร่ืองต่าง ๆ - ความคิดสร้างสรรค์ เป็ นความสามารถในการคิดออกไปอยา่ งกวา้ งขวาง โดยไม่ยดึ ติดอยใู่ น กรอบ มีความสาคญั ต่อการพฒั นาตนเอง และการคิดหาทางเลือกท่ีหลากหลายเพ่อื การตดั สินใจ แกไ้ ข ปัญหาตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั hghjhgfgjjhgff jhhgffdsdsds6 3 แผนภาพท่ี 1 องค์ประกอบของทกั ษะชีวติ 2. ดา้ นจิตพสิ ัย หรือ เจตคติ มี 2 คู่ คือ คูท่ ่ี 1 ความตระหนกั รู้ในตนเอง และ ความเห็นใจผอู้ ่ืน คูท่ ่ี 2 เห็นคุณค่าตนเอง และ ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม

66 - ความตระหนกั รู้ในตนเอง เป็ นความสามารถในการคน้ หาและเขา้ ใจในจุดดีจุดดอ้ ยของ ตนเอง และความแตกตา่ งท่ีตนเองมีกบั บุคคลอื่น ไม่วา่ จะในแง่ความสามารถ เพศ วยั ระดบั การศึกษา ศาสนา สีผวิ ทอ้ งถ่ิน สุขภาพ ฯลฯ - ความเขา้ ใจ/เห็นใจผอู้ ื่น เป็น ความสามารถในการเขา้ ใจความรู้สึกและ เห็นอกเห็นใจบุคคล ท่ีแตกต่างกบั เรา ไมว่ า่ จะในดา้ นเพศ วยั ระดบั การศึกษา ศาสนา สีผวิ ทอ้ งถิ่น วยั สุขภาพ ฯลฯ องคป์ ระกอบน้ีจะมีผลสะทอ้ นกลบั ใหเ้ กิดความตระหนกั รู้ในตนเองมากข้ึน - เห็นคุณคา่ ตนเอง เป็ นความรู้สึกวา่ ตนเองมีคุณคา่ เช่น ความมีน้าใจ รู้จกั ให้ รู้จกั รับ คน้ พบ และภูมิใจในความสามารถดา้ นตา่ ง ๆ (สงั คม ดนตรี กีฬา ศิลปะ การเรียน) ของตนเอง โดยมิไดม้ ุ่งสนใจ อยแู่ ต่ในเรื่องรูปร่าง หนา้ ตา เสน่ห์ หรือความสามารถทางเพศ เทา่ น้นั - ความรับผดิ ชอบต่อสังคม เป็ นความรู้สึกวา่ ตนเองเป็นส่วนหน่ึงของสงั คมและมีส่วน รับผดิ ชอบในความเจริญหรือเส่ือมของสงั คม ท้งั 2 องคป์ ระกอบจะช่วยเสริมซ่ึงกนั และกนั เพราะคนท่ี เห็นคุณคา่ ตนเองจะมีแรงจูงใจที่จะทาดีกบั ผอู้ ื่นและสังคมมากข้ึน เป็นวงจรสะทอ้ นกลบั ใหเ้ กิดความ ภูมิใจและเห็นคุณคา่ ตนเองมากข้ึน 3. ดา้ นทกั ษะพิสยั หรือทกั ษะ ประกอบดว้ ย 3 คู่ คือ คูท่ ่ี 1 การส่ือสารและการสร้างสมั พนั ธภาพ คู่ที่ 2 การตดั สินใจและการแกไ้ ขปัญหา คูท่ ่ี 3 การจดั การกบั อารมณ์และความเครียด - ทกั ษะการสร้างสัมพนั ธภาพและการส่ือสาร เป็นความสามารถในการใชค้ าพูดและภาษาท่าทาง เพอื่ ส่ือสารความรู้สึกนึกคิดของตนเองและความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกนึกคิดของอีกฝ่ ายหน่ึง - ทกั ษะการตดั สินใจและแกไ้ ขปัญหา เป็ นความสามารถในการรับรู้ปัญหาและ สาเหตุของ ปัญหา หาทางเลือกไดห้ ลากหลาย วเิ คราะห์ขอ้ ดีขอ้ เสียของแตล่ ะทางเลือก และตดั สินใจเลือกทางเลือกใน การแกป้ ัญหาท่ีเหมาะสมท่ีสุด - ทกั ษะการจดั การกบั อารมณ์และความเครียด เป็ นความสามารถในการรับรู้อารมณ์ตนเอง ประเมินและรู้เทา่ ทนั วา่ อารมณ์จะมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของตนอยา่ งไร และเลือกใชว้ ธิ ีจดั การกบั อารมณ์ที่ เกิดข้ึนไดเ้ หมาะสม การจดั การความเครียดเป็นความสามารถในการรับรู้ระดบั ความเครียดของตนเอง รู้ สาเหตุ หาทางแกไ้ ข และมีวธิ ีผอ่ นคลายความเครียดของตนเองอยา่ งเหมาะสม ทกั ษะชีวติ ทวั่ ไป และทกั ษะชีวติ เฉพำะ เมื่อแบ่งเด็กออกเป็ น 3 กลุ่ม คือเดก็ ปกติ เด็กกลุ่มเส่ียง และเด็กที่มีปัญหาแลว้ ทกั ษะชีวติ จะเป็ น กลยทุ ธ์สาคญั ในการส่งเสริมภูมิคุม้ กนั ทางสังคม ให้กบั เด็กปกติและเด็กทุกคน สาหรับเด็กกลุ่มเส่ียงตอ้ ง มีการสอนทกั ษะชีวิตเฉพาะแต่ละปัญหา มีครูท่ีปรึกษาและระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียนรองรับ เด็กท่ีมี ปัญหาแลว้ ใชก้ ารดูแลเป็นรายบุคคล และระบบส่งต่อยงั วชิ าชีพเฉพาะที่เกี่ยวขอ้ ง

67 ดงั น้นั นอกจากการสร้างทกั ษะชีวิตทวั่ ไป 12 องค์ประกอบดงั กล่าวแลว้ ยงั สามารถสร้างทกั ษะ ชีวิตเฉพาะเพื่อป้องกนั เด็กกลุ่มเส่ียงในปัญหาเฉพาะเร่ือง เช่น เพศและเอดส์ ยาเสพติด ประชาธิปไตยและ ความเป็ นพลเมือง ส่ิงแวดล้อม โดยใช้ปัญหาเป็ นตัวต้ังในการสร้างทกั ษะชีวิตแต่ละองค์ประกอบ เพื่อ ป้องกนั ปัญหาน้นั ๆ ตวั อยา่ งเช่น ทกั ษะชีวติ ในเร่ืองเพศและเอดส์ องค์ประกอบทกั ษะ วตั ถุประสงค์ ชีวติ รู้/เขา้ ใจ ธรรมชาติและการเปล่ียนแปลงตามพฒั นาการทางเพศของตนเอง คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์ วเิ คราะห์สถานการณ์เสี่ยงทางเพศได้ มีแนวทางป้องกนั /แกไ้ ข ปัญหาและสถานการณ์เส่ียงทางเพศได้ คิดสร้างสรรค์ ตระหนกั วา่ เพศและโรคเอดส์เป็นเรื่องใกลต้ วั และรู้เทา่ ทนั สถานการณ์เสี่ยง ตระหนกั รู้ในตน เขา้ ใจ/เห็นใจ ผทู้ ่ีไดร้ ับผลกระทบ/มีปัญหา ทางเพศและโรคเอดส์ เขา้ ใจ/เห็นใจผอู้ ่ืน ตระหนกั ถึงคุณคา่ ภายในตนเองซ่ึงเป็นคุณค่าท่ีแทแ้ ละสร้างไดเ้ อง ไม่ใช่ เห็นคุณค่าตนเอง รูปลกั ษณ์ภายนอกและวตั ถุซ่ึงเป็นคุณคา่ เทียมที่ไม่ยง่ั ยนื เพราะตอ้ งอาศยั ปัจจยั ภายนอก รับผดิ ชอบสังคม มีเพศสัมพนั ธ์เม่ือมีความพร้อมท่ีจะรับผดิ ชอบ ปลอดภยั และไม่เกิดผลกระทบ ใด ๆ ตามมา การสื่อสาร สามารถปฏิเสธการมีพฤติกรรมเสี่ยง เตือนเพอ่ื นท่ีเส่ียง หาคาปรึกษา ให้ การสร้างสมั พนั ธภาพ คาปรึกษาที่ดีแก่ผอู้ ่ืนได้ การตดั สินใจ ตดั สินใจดว้ ยเหตุผล สามารถหาทางออกที่เหมาะสมในปัญหาต่าง ๆ ได้ การแกไ้ ขปัญหา การจดั การอารมณ์ จดั การกบั อารมณ์และความรู้สึกทางเพศได้ มีวธิ ีระบายออกไดเ้ หมาะสม การจดั การความเครียด

68 ทกั ษะชีวติ สำหรับลกู เสือต้ำนภยั ยำเสพติด องค์ประกอบทกั ษะ วตั ถุประสงค์ ชีวติ รู้/เขา้ ใจ ภยั อนั ตราย และวเิ คราะห์ความเสี่ยงต่อปัญหายาเสพติดได้ คดิ วเิ ครำะห์วจิ ำรณ์ มีแนวทางในการป้องกนั ตนเองจากปัญหายาเสพติด คิดสร้ำงสรรค์ ตระหนกั วา่ ปัญหายาเสพติดเป็นเร่ืองใกลต้ วั ตอ้ งรู้เทา่ ทนั และหลีกเล่ียงได้ ตระหนักรู้ในตน เขา้ ใจ/เห็นใจ ผไู้ ดร้ ับผลกระทบจากปัญหายาเสพติด เข้ำใจ/เห็นใจผู้อ่ืน ภูมิใจ และเห็นคุณค่าของตนเอง ใหค้ วามสาคญั กบั คุณค่าภายในตนเองซ่ึงเป็น เห็นคุณค่ำตนเอง คุณคา่ ที่แทแ้ ละสร้างไดเ้ อง ไมใ่ ช่รูปลกั ษณ์ภายนอกและวตั ถุซ่ึงเป็นคุณค่าเทียม ท่ีไมย่ ง่ั ยนื เพราะตอ้ งอาศยั ปัจจยั ภายนอก รับผดิ ชอบสังคม รับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม หลีกเล่ียงยาเสพติด และตระหนกั วา่ ทุกคนตอ้ ง มีส่วนร่วมในการป้องกนั ปัญหายาเสพติด กำรสื่อสำร สามารถปฏิเสธการมีพฤติกรรมเส่ียง เตือนเพือ่ นที่เสี่ยง หาคาปรึกษา ให้ กำรสร้ำงสัมพนั ธภำพ คาปรึกษาท่ีดีแก่ผอู้ ่ืนได้ กำรตัดสินใจ ตดั สินใจดว้ ยเหตุผล สามารถหาทางออกท่ีเหมาะสมในปัญหาต่าง ๆ ได้ กำรแก้ไขปัญหำ กำรจัดกำรอำรมณ์ จดั การกบั อารมณ์และความเครียดได้ มีวธิ ีระบายออกไดเ้ หมาะสม ไม่ใชย้ าเสพ กำรจัดกำรควำมเครียด ติด

69 ทกั ษะชีวติ สำหรับลูกเสือประชำธิปไตยและควำมเป็ นพลเมือง องค์ประกอบทกั ษะ วตั ถุประสงค์ ชีวติ คิดวเิ ครำะห์วจิ ำรณ์ รู้/เขา้ ใจ หลกั การประชาธิปไตยที่ถูกตอ้ ง และหนา้ ท่ีพลเมือง คิดสร้ำงสรรค์ มีแนวทางที่เหมาะสมในการส่งเสริ มประชาธิปไตยและความเป็ นพลเมืองสาหรับ ตนเองและผอู้ ื่น ตระหนักรู้ในตน ตระหนกั วา่ ประชาธิปไตยตอ้ งเร่ิมที่ตนเองก่อน รักษาและใชส้ ิทธิของตนเองในทาง ท่ีถูกตอ้ ง เข้ำใจ/เห็นใจผ้อู ื่น เคารพสิทธิผอู้ ่ืน เขา้ ใจ ยอมรับ และเคารพในความคิดเห็น ความเช่ือ ของผอู้ ื่นท่ี แตกตา่ งจากตนเอง เห็นคุณค่ำตนเอง ตระหนกั และเห็นคุณคา่ ของความเป็นพลเมืองไทย รับผดิ ชอบสังคม ใหค้ วามสาคญั ในการมีส่วนร่วมรับผดิ ชอบสงั คมและประเทศชาติ กำรส่ือสำร สามารถสร้างความเขา้ ใจ จดั การความขดั แยง้ ชกั ชวน รณรงค์ ปฏิเสธ ใหค้ าปรึกษา กำรสร้ำงสัมพนั ธภำพ หาคาปรึกษา สร้างและรักษาสัมพนั ธภาพที่ดีกบั ผอู้ ่ืน กำรตัดสินใจ ตดั สินใจดว้ ยเหตุผล สามารถหาทางออกท่ีเหมาะสมในปัญหาตา่ ง ๆ ได้ กำรแก้ไขปัญหำ กำรจัดกำรอำรมณ์ จดั การกบั อารมณ์และความเครียดได้ มีวธิ ีระบายออกไดเ้ หมาะสม ไมใ่ ชอ้ ารมณ์และ กำรจัดกำร ความรุนแรงในการแกป้ ัญหา ควำมเครียด

70 3. ลกั ษณะและกระบวนกำรเรียนรู้ของกจิ กรรมลูกเสือทเ่ี สริมสร้ำงทกั ษะชีวติ กระบวนกำรเรียนรู้ทสี่ ร้ำงทกั ษะชีวติ ทกั ษะชีวติ เกิดข้ึนไดจ้ ากการเรียนรู้เองตามธรรมชาติ ข้ึนกบั ประสบการณ์และการมีแบบอยา่ งท่ี ดี จึงไม่มีทิศทางการเรียนรู้ที่แน่นอน และกวา่ จะเรียนรู้ก็อาจชา้ เกินไป จาเป็ นตอ้ งมีกระบวนการเรียนรู้ที่ สร้างทกั ษะชีวติ ใหเ้ ดก็ ในทิศทางที่ชดั เจนและตรงกบั ปัญหาของเดก็ แตล่ ะวยั ซ่ึงทาได้ 2 วธิ ีการใหญ่ ๆ คือ 1. สร้างทกั ษะชีวติ ใน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ 2. สร้างทกั ษะชีวติ ในกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ท้งั กิจกรรมในหอ้ งเรียนและนอกหอ้ งเรียน 8 โดยใชก้ ระบวนการเรียนรู้ท่ียดึ ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลาง ซ่ึงมีลกั ษณะ 5 ประการ ไดแ้ ก่ 1. การสร้างความรู้ (construction) เป็นการจดั กิจกรรมใหผ้ เู้ รียนไดม้ ีส่วนร่วมทางสติปัญญาและ ทางความคิด ไดม้ ีการอภิปรายแลกเปล่ียนความคิดและประสบการณ์ เพ่อื สร้างองคค์ วามรู้ใหมร่ ่วมกนั ซ่ึง ทาใหเ้ กิดทกั ษะชีวติ 2 องคป์ ระกอบที่เป็นแกนหลกั คือ ความคิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์ และความคิดสร้างสรรค์ การอภิปรายแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นดว้ ยเหตุผล ทาใหเ้ กิดความเขา้ ใจและ ยอมรับผูอ้ ่ืนมากข้ึน ขณะเดียวกนั ก็ไดไ้ ตร่ตรองและทาความเขา้ ใจตนเองดว้ ย เป็นองคป์ ระกอบทกั ษะ ชีวติ ดา้ นจิตพิสัยคือการตระหนกั รู้ตนเองและเขา้ ใจ/เห็นใจผอู้ ่ืน 2. การมีปฏิสมั พนั ธ์ (Interaction) ท้งั ระหวา่ งผเู้ รียนดว้ ยกนั และระหวา่ งผเู้ รียนกบั ผสู้ อน รวมท้งั แหล่งเรียนรู้อ่ืน ๆ ท่ีหลากหลาย เพื่อทากิจกรรมร่วมกนั ใหบ้ รรลุเป้าหมาย ทาใหเ้ กิดองคป์ ระกอบ

71 ทกั ษะชีวติ ดา้ นทกั ษะพสิ ยั ท้งั 3 คู่ คือ การส่ือสารและสร้างสัมพนั ธภาพ การตดั สินใจและแกไ้ ขปัญหา การจดั การอารมณ์และความเครียด การยอมรับจากกลุ่ม การทางานสาเร็จ การไดร้ ับคาชม ทาใหเ้ กิดความภูมิใจและเห็นคุณค่า ตนเอง เม่ือประกอบกบั กบั ความตระหนกั วา่ ตนเองเป็นส่วนหน่ึงของกลุ่ม จึงนาไปสู่ความรับผดิ ชอบมาก ข้ึน เกิดองคป์ ระกอบทกั ษะชีวติ ดา้ นจิตพสิ ัย คือเห็นคุณค่าตนเองและรับผดิ ชอบสงั คม 3. จดั กิจกรรมอยา่ งเป็นกระบวนการ (Process Learning) การเรียงลาดบั กิจกรรม การออกแบบ กลุ่ม และการออกแบบงานในแตล่ ะกิจกรรมตอ้ งช่วยใหผ้ เู้ รียนเกิดความเขา้ ใจชดั เจนและทากิจกรรมท่ี มอบหมายไดส้ าเร็จตามวตั ถุประสงค์ 4. การมีส่วนร่วมทางกาย ไดล้ งมือทาดว้ ยตนเอง (Physical Participation) ช่วยกระตุน้ ให้ ผเู้ รียนเกิดความสนใจ สนุกสนานเพลิดเพลิน เกิดการรับรู้และเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 5. มีการประยกุ ตใ์ ช้ (Application) เป็นการเชื่อมโยงองคค์ วามรู้ท่ีไดก้ บั ชีวิตจริงของผเู้ รียน ได้ นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กิดประโยชนท์ ้งั ต่อตนเองและผอู้ ่ืนอยา่ งเป็นรูปธรรม ทาใหเ้ ห็นประโยชน์และคุณคา่ ของการเรียนรู้ท่ีไดร้ ับ และกระตุน้ ความตอ้ งการเรียนรู้มากยง่ิ ข้ึน ขบวนกำรลกู เสือ (Scout movement) - ตามคานิยามของลูกเสือโลก เป็นกระบวนการเรียนรู้และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเน่ืองสาหรับเยาวชน เพอื่ สร้างเยาวชนที่มีจิตใจเสียสละ รับผดิ ชอบและอุทิศตนแก่สงั คม ดว้ ยวธิ ีการลูกเสือ - จากแนวการจดั กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน 2552 - สพฐ. เป็นกระบวนการทางการศึกษาส่วนหน่ึง ซ่ึงมุ่งพฒั นา สมรรถภาพของบุคคล ท้งั ทางสมอง ร่างกาย จิตใจ และศีลธรรม เพอ่ื ใหเ้ ป็ นบุคคลที่มีความประพฤติดีงาม ไมก่ ระทาตนเป็ นปัญหาของสังคม ดารงชีวติ อยา่ ง มีความหมาย และสุขสบาย หลกั กำรลูกเสือ (Scout principle) ลูกเสือโลกเนน้ หนา้ ท่ีหลกั 3 ประการ 1. หนา้ ท่ีต่อพระเจา้ /ศาสนา (ดา้ นจิตวญิ ญาณ) คือการแสวงหาและดาเนินชีวติ อยา่ งมีคุณคา่ และมี ความหมาย 2. หนา้ ท่ีต่อผอู้ ่ืน คือการเคารพ ใหเ้ กียรติ ช่วยเหลือผอู้ ่ืน/ รวมถึงสังคมและสิ่งแวดลอ้ ม 3. หนา้ ท่ีต่อตนเอง ไดแ้ ก่ พฒั นาตนเองท้งั ดา้ น ร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม และจิตวิญญาณ

72 ลูกเสือไทยมีหนา้ ที่หลกั 5 ประการ (ใชห้ ลกั การลูกเสือโลก แตไ่ ดป้ รับใหเ้ ขา้ กบั สงั คมไทยโดย แยก ขอ้ 4 และ 5 ออกมาให้ชดั เจนข้ึน) 1. รับผดิ ชอบต่อการพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนื่อง 2. เขา้ ร่วมพฒั นาสงั คม ยอมรับ เคารพในเกียรติและศกั ด์ิศรีผอู้ ่ืนและเพ่อื นมนุษยท์ ุกคน รวมท้งั ธรรมชาติ และสรรพส่ิงท้งั หลายในโลก 3. มีศาสนาเป็นหลกั ยดึ ทางใจ 4. จงรักภกั ดีต่อพระมหากษตั ริยแ์ ละประเทศชาติ 5. ยดึ มนั่ ในคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือ วธิ ีกำรลกู เสือ (Scout method) วธิ ีการลูกเสือไทย (ตามหลกั สูตรแกนกลาง 2551) มี 7 องคป์ ระกอบ 1. การฝึกอบรมเพอื่ ความกา้ วหนา้ ในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2. การสนบั สนุนโดยผใู้ หญ่ 3. ยดึ มนั่ ในคาปฏิญาณและกฎ 4. การใชส้ ัญลกั ษณ์ร่วมกนั 5. ระบบหมู่ 6. การศึกษาธรรมชาติ 7. เรียนรู้จากการกระทา (วธิ ีการลูกเสือโลกมี 8 ขอ้ คือเพิ่มขอ้ 8. เรียนรู้จากการบริการ) ลกั ษณะของกจิ กรรมลูกเสือ หลกั การลูกเสือสอดคลอ้ งกบั ทกั ษะชีวติ หลายองคป์ ระกอบ และวธิ ีการลูกเสือก็จดั เป็น กระบวนการเรียนรู้ที่ยดึ ผเู้ รียนเป็นศูนยก์ ลางรูปแบบหน่ึง ท่ีเรียนรู้ในระบบหมู่ ผา่ นกิจกรรมท่ีสนุกสนาน เพลิดเพลิน ร่วมกบั องคป์ ระกอบอื่นๆ ท่ีเป็ นเอกลกั ษณ์เฉพาะตามวธิ ีการลูกเสือ

73 ตำรำงเปรียบเทียบวัตถุประสงค์หลักสูตรลูกเสือโลก 6 ด้ำน แนวทำงพัฒนำลูกเสือไทย 8 ประกำร และหลกั สูตรลูกเสือทเ่ี สริมสร้ำงทกั ษะชีวติ 4 ด้ำน หลกั สูตรลกู เสือโลก แนวทำงพฒั นำลูกเสือไทย หลกั สูตรลกู เสือทเ่ี สริมสร้ำง 6 ด้ำน 8 ประกำร ทกั ษะชีวติ 4 ด้ำน ร่างกาย ร่างกาย ร่างกายและสิ่งแวดลอ้ ม รับผดิ ชอบต่อส่ิงแวดลอ้ ม สติปัญญา สติปัญญา สติปัญญา คา่ นิยม และเจตคติ สร้างคา่ นิยมและเจตคติ จริยธรรม จิตใจ จิตใจ ศีลธรรม จิตใจ ศีลธรรม และ จิตวิญญาณ สมั พนั ธภาพระหวา่ งบุคคล สัมพนั ธภาพระหวา่ งบุคคล สัมพนั ธภาพทางสงั คม สัมพนั ธภาพตอ่ ชุมชน สมั พนั ธภาพกบั ชุมชนและสงั คม สัมพนั ธภาพทางสงั คม แนวทางพฒั นาลูกเสือที่เนน้ ทกั ษะชีวติ 4 ดา้ น จะครอบคลุมทกั ษะชีวติ ท้งั 12 องคป์ ระกอบดงั น้ี 1. ดา้ นร่างกายและส่ิงแวดลอ้ ม (รับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม) 2. ดา้ นสติปัญญา คา่ นิยมและเจตคติ (คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์ คิดสร้างสรรค์ เขา้ ใจตนเอง ตดั สินใจแกไ้ ข ปัญหา) 3. ดา้ นจิตใจ ศีลธรรม และสัมพนั ธภาพระหวา่ งบุคคล (สื่อสาร/สร้างสัมพนั ธภาพ เห็นคุณค่าตนเอง เขา้ ใจ/เห็นใจผอู้ ื่น จดั การอารมณ์/ความเครียด) 4. ดา้ นสมั พนั ธภาพกบั ชุมชนและสังคม (รับผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม)

74 ตำรำงวเิ ครำะห์ผลกำรเรียนรู้ในแนวทำงพฒั นำลูกเสือเพ่ือเสริมสร้ำงทกั ษะชีวติ 4 ด้ำน ด้ำนกำรพฒั นำ ผลกำรเรียนรู้ ด้ำนร่ำงกำยและส่ิงแวดล้อม หน่วยที่ 1 สาระสาคญั ของการลูกเสือ หน่วยท่ี 2 ทกั ษะลูกเสือ หน่วยที่ 3 สุขภาพอนามยั ดี หน่วยที่ 4 ความปลอดภยั หน่วยท่ี 5 ดาเนินชีวติ ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง หน่วยที่ 6 อนุรักษแ์ ละร่วมแกไ้ ขทรัพยากรธรรมชาติและ ส่ิงแวดลอ้ ม ด้ำนสติปัญญำ ค่ำนิยม หน่วยที่ 7 การคิดวเิ คราะห์ ตดั สินใจ แกไ้ ขปัญหา และเจตคติ หน่วยท่ี 8 จุดดี จุดดอ้ ย และการพฒั นาตนเอง ด้ำนจิตใจ ศีลธรรม และ หน่วยที่ 9 รักและศรัทธา สถาบนั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ สัมพนั ธภำพระหว่ำงบุคคล หน่วยท่ี 10 ปฏิบตั ิตามวถิ ีไทย และภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น หน่วยที่ 11 คุณธรรม – จริยธรรม หน่วยที่ 12 สัมพนั ธภาพและการสื่อสาร ด้ำนสัมพนั ธภำพกบั ชุมชน หน่วยที่ 13 มีจิตอาสา สังคม หน่วยท่ี 14 รักและหวงแหน สาธารณสมบตั ิของชุมชน/ชาติ หน่วยที่ 15 รับผดิ ชอบปัญหาสังคม ลกั ษณะของกจิ กรรมลูกเสือทเี่ สริมสร้ำงทกั ษะชีวติ การจดั กิจกรรมลูกเสือที่เสริมสร้างทกั ษะชีวิตน้นั ไดร้ ักษาจุดเด่น เอกลกั ษณ์ หลกั การ วิธีการของ ลูกเสือไว้ โดยสอดแทรกการเรียนรู้ทกั ษะชีวิตเพม่ิ เขา้ ไปเพ่ือตอบสนองวตั ถุประสงคท์ ี่รอบดา้ น ครอบคลุม การดารงชีวติ ในปัจจุบนั ใหช้ ดั เจนข้ึน ใหเ้ ดก็ ไดฝ้ ึกคิด วเิ คราะห์ ไดต้ รวจสอบความคิดความเช่ือของตน กบั คนส่วนใหญ่ ยอมรับความคิดและเคารพสิทธิผอู้ ื่น ตดั สินใจ แกไ้ ขปัญหา ในสถานการณ์สมมุติ รวมท้งั ไดฝ้ ึกฝนทกั ษะทางจิตสงั คมที่จาเป็น เพ่ือใหเ้ กิดทกั ษะชีวิตท่ี ตอ้ งการสร้าง ท้งั ทกั ษะชีวติ ทว่ั ไป และทกั ษะชีวติ เฉพาะ

75 ทกั ษะ ความสามารถ ในการปฏิบตั ิกิจกรรม แบ่งออกไดเ้ ป็น 5 ประเภท คือ 1. กิจกรรมการแสดงออก เป็ นกิจกรรมที่เปิ ดโอกาสใหล้ ูกเสือไดใ้ ชค้ วามสามารถในการ แสดงออก แสดงความคิดสร้างสรรค/์ จินตนาการในรูปแบบตา่ ง ๆ ซ่ึงมกั จะเป็นการจาลองประสบการณ์ ต่าง ๆ มาเพ่ือการเรียนรู้ไดง้ ่ายและสะดวกข้ึน หรือเป็ นส่ิงท่ีใชแ้ ทนประสบการณ์จริง เพราะศาสตร์ต่าง ๆ ในโลก มีมากเกินกวา่ ที่จะเรียนรู้ไดห้ มดสิ้นจากประสบการณ์ตรงในชีวติ และบางกรณีกอ็ ยใู่ นอดีต หรือ ซบั ซอ้ นเร้นลบั หรือเป็นอนั ตราย ไมส่ ะดวกต่อการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ตวั อยา่ งกิจกรรม เช่น 1.1 สถานการณ์จาลอง เป็นการจดั สภาพแวดลอ้ มเลียนแบบความจริงใหใ้ กลเ้ คียงกบั สภาพความเป็นจริงมากที่สุด เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนไดฝ้ ึกฝน แกป้ ัญหาและตดั สินใจจากสภาพการณ์ที่กาลงั เผชิญ อยนู่ ้นั แลว้ นาประสบการณ์แห่งความสาเร็จไปเป็นแนวทางในการแกป้ ัญหา 1.2 การสาธิต กระบวนการที่ผสู้ อนช่วยใหผ้ เู้ รียนไดเ้ กิดการเรียนรู้ตามวตั ถุประสงค์ โดยการ แสดงหรือกระทาใหด้ ูเป็นตวั อยา่ ง ใหค้ วามสาคญั กบั กระบวนการท้งั หมดท่ีผูเ้ รียนจะตอ้ งเฝ้าสงั เกตอยโู่ ดย ตลอด 1.3 การเล่านิทาน 1.4 ละคร หุ่นจาลอง 1.5 เพลง ดนตรี การเคลื่อนไหวตามจงั หวะดนตรี หมายถึง กิจกรรมที่เนน้ การใชด้ นตรี เป็นส่ือในการเรียนรู้ท้งั ในแง่เน้ือหาและความบนั เทิง ผอ่ นคลาย และเขา้ ถึงวฒั นธรรมต่าง ๆ 1.6 ศิลปะ แขนงอื่น ๆ เช่น การวาดรูป การป้ันดินเหนียว งานหตั ถกรรม การร้อย ดอกไม้ 1.7 การโตว้ าที 2. กิจกรรมการรายงานและการสารวจ เป็นกิจกรรมที่เนน้ ใหล้ ูกเสือไดเ้ รียนรู้จากความเป็นจริง / เหตุการณ์จริง ในชีวติ ประจาวนั ผา่ นประสบการณ์ตรงดว้ ยตนเอง ซ่ึงเป็นรากฐานสาคญั ของการศึกษา เช่น การทาแผนท่ี การสารวจ หมายถึง การเรียนรู้ผา่ นสถานการณ์จริงดว้ ยการลงพ้ืนที่สารวจ และจาลอง สิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้สู่แผนที่ ภาพ หรือสัญลกั ษณ์ เพ่อื แสดงความคิดรวบยอดของสิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้น้นั ตวั อยา่ ง กิจกรรม เช่น การสัมภาษณ์ การเป็นผสู้ ื่อข่าว การทาสารคดี การศึกษานอกสถานที่ ชุมชนศึกษา การผลิต สื่อ การทาปูม การจดั นิทรรศการ การสอดแนม สารวจ แผนท่ี เขียนเรียงความ 3. กิจกรรมการวเิ คราะห์และการประเมิน เป็นการเรียนรู้ท่ีเกิดจากการแลกเปล่ียนความคิดเห็น และร่วมกนั วเิ คราะห์/ประเมิน สิ่งตา่ ง ๆ ที่เกิดข้ึน ตวั อยา่ งกิจกรรม เช่น การเปรียบเทียบคุณคา่ การ ประเมินความเสี่ยง การทาแผนที่ความคิด

76 4. เกมและการแข่งขนั 4.1 เกม เป็ น กิจกรรมท่ีมีกฎกติกา และลาดบั ข้นั ตอน ที่เอ้ือใหล้ ูกเสือเกิดการเรียนรู้ผา่ น การเล่นเกม ใหข้ อ้ คิดที่สอดคลอ้ งกบั ผลการเรียนรู้ที่ตอ้ งการ 4.2 การแข่งขนั เป็ นกิจกรรมที่มีกติกาในการแข่งขนั และมีการตดั สินหาผชู้ นะ เช่น การ ตอบปัญหาในเร่ืองต่าง ๆ เพอื่ กระตุน้ ใหเ้ กิดความสนใจใฝ่ รู้มากข้ึน 5. กิจกรรมบาเพญ็ ประโยชน์ เป็นกิจกรรมสร้างสรรคท์ ี่เนน้ การฝึกความเสียสละของลูกเสือ ไดแ้ ก่ การจดั กิจกรรมการกุศล การซ่อมของเล่นให้นอ้ ง การดูแลทาความสะอาดสถานท่ี การปลูกและ ดูแลตน้ ไม้ การเก็บผกั จากแปลงไปประกอบอาหารเล้ียงนอ้ ง กระบวนกำรเรียนรู้ของกจิ กรรมลกู เสือสร้ำงทกั ษะชีวติ ได้อย่ำงไร กิจกรรมลูกเสือ มีองคป์ ระกอบครบท้งั 5 ประการ ของกระบวนการเรียนการสอนท่ียึดผูเ้ รียน เป็นศูนยก์ ลาง การสร้างทกั ษะชีวติ ท้งั 12 องคป์ ระกอบ เกิดข้ึนดว้ ยกิจกรรมดงั ตารางตอ่ ไปน้ี องค์ประกอบทกั ษะ กจิ กรรม ชีวติ การอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดและประสบการณ์ เพื่อสร้างองคค์ วามรู้ใหม่ร่วมกนั คิดวเิ คราะห์วจิ ารณ์ กิจกรรมที่ตอ้ งคิดนอกกรอบ สร้างสรรคส์ ิ่งใหม่ งานศิลป์ งานฝี มือ การแสดง ฯลฯ คิดสร้างสรรค์ การอยรู่ ่วมกนั ในหม่ลู ูกเสือ การแลกเปล่ียนประสบการณ์และความคิดเห็นดว้ ยเหตผุ ล ทา ตระหนกั รู้ในตน ใหเ้ กิดความเขา้ ใจและยอมรบั ผอู้ ่นื มากข้ึน ขณะเดียวกนั กไ็ ดไ้ ตร่ตรองและทาความเขา้ ใจ เขา้ ใจ/เห็นใจผอู้ ่ืน ตนเองดว้ ย การเป็ นท่ียอมรับในหมลู่ ูกเสือ/ทุกคนเคารพใหเ้ กียรติซ่ึงกนั และกนั /การทางานสาเร็จ ได้ เห็นคุณคา่ ตนเอง รับคาชม ทาใหเ้ กิดความภูมิใจและเห็นคุณค่าตนเอง ตระหนกั วา่ ตนเองเป็ นส่วนหน่ึงของ หมลู่ ูกเสือท่ีจะตอ้ งมีส่วนร่วมรับผิดชอบ จึงทาใหม้ ีวนิ ยั และรับผิดชอบต่อตนเองและ รับผดิ ชอบสงั คม ส่วนรวมมากข้ึน การทางานร่วมกนั ในหมูล่ ูกเสือ ตอ้ งสื่อสารและมีสมั พนั ธภาพท่ีดีตอ่ กนั ตอ้ งตดั สินใจและ การส่ือสาร แกไ้ ขปัญหาตา่ ง ๆ ท่ีเกิดในการทางานร่วมกนั รวมท้งั ควบคุมอารมณ์และความเครียดที่ การสร้างสมั พนั ธภาพ เกิดข้ึนจากความขดั แยง้ คิดเห็นตา่ งกนั ดว้ ย นอกจากน้ียงั ตอ้ งมีปฏิสมั พนั ธ์ กบั ลูกเสือหมู่ การตดั สินใจ อื่น ผกู้ ากบั และแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ ดว้ ย เพ่อื ทากิจกรรมร่วมกนั ใหบ้ รรลุเป้าหมาย การแกไ้ ขปัญหา การจดั การอารมณ์ การจดั การความเครียด กิจกรรมลูกเสือเพื่อเสริมสร้างทกั ษะชีวติ ในคู่มือครูที่จดั ทาข้ึนเป็ นเพียงตวั ช่วยใหเ้ กิดการเรียน การสอนข้ันต่าสุดโดยไม่เกิดปัญหาเท่าน้ัน ผู้กากับลูกเสือสามารถที่จะพัฒนาให้ดีข้ึนกว่าเดิมได้ ตลอดเวลา เพราะสังคมเปล่ียนตลอดเวลาเช่นกนั

เรื่อง กจิ กำรลูกเสือวสิ ำมัญ 77 บทเรียนที่ 4 เวลำ 60 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ ความตอ้ งการโดยทวั่ ไปของเยาวชนอายรุ ะหวา่ ง 16-25 ปี การสนองตอบความตอ้ งการของ เยาวชน โดยใชว้ ธิ ีการของลูกเสือวสิ ามญั และการส่งเสริมพฒั นาการทางดา้ นร่างกาย สติปัญญา จิตใจ สังคม และศีลธรรม ตามอุดมการณ์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ จุดหมำย จดั กิจกรรมลูกเสือวสิ ามญั ตามอุดมการณ์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ที่ตอบสนองความตอ้ งการ ของเยาวชนอายุ 16 – 25 ปี วตั ถุประสงค์ เม่ือจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1. อธิบายไดว้ า่ เยาวชนอายรุ ะหวา่ ง 16 - 25 ปี มีความตอ้ งการอยา่ งไร 2. บรรยายไดว้ า่ กิจการลูกเสือวสิ ามญั จะสามารถสนองตอบความตอ้ งการของเยาวชนอายรุ ะหวา่ ง 16 - 25 ปี ไดอ้ ยา่ งไร 3. จดั กิจกรรมส่งเสริมพฒั นาการของเยาวชนไดค้ รบท้งั 5 ประการ วธิ ีสอน/กจิ กรรม 20 นาที 1. บรรยาย 10 นาที 2. อภิปรายซกั ถามในท่ีประชุมใหญ่ 20 นาที 3. ฉายภาพเลื่อนประกอบการบรรยาย 10 นาที 4. ซกั ถามสรุป สื่อกำรสอน 1. เอกสารประกอบคาบรรยายชุด “กิจการลูกเสือวสิ ามญั ” 2. เอกสารประกอบคาบรรยายชุด “การลูกเสือวสิ ามญั ในประเทศไทย” 3. เอกสารประกอบคาบรรยายชุด “อุดมการณ์คณะลูกเสือแห่งชาติ” 4. ภาพเล่ือนหรือภาพในแผน่ โปร่งใส เร่ือง “เยาวชนกบั ความตอ้ งการในปัจจุบนั ”

78 หมำยเหตุ ภาพชุด “เยาวชนกบั ความตอ้ งการในปัจจุบนั ” อาจทาไดห้ ลายประเภท เช่น ภาพเล่ือน ภาพถ่าย ลงในแผน่ โปร่งใส ภาพพลิก หรืออื่น ๆ ลกั ษณะภาพอาจเปล่ียนแปลงไปตามสภาพของสงั คม แต่ใหอ้ ยู่ ในหวั ขอ้ ที่กาหนดจานวนภาพอาจมากนอ้ ยตามความจาเป็ นและความเหมาะสม กำรประเมินผล 1. โครงการสังเกตการอภิปราย 2. โดยการซกั ถาม เนื้อหำวชิ ำ บรรยำยนำ (ใหว้ ทิ ยากรประจาหมู่แจกเอกสารประกอบคาบรรยายทุกชุดแก่ผเู้ ขา้ รับการ ฝึ กอบรม) ทา่ นทุกคนไดท้ ราบและมีความเขา้ ใจในความตอ้ งการของเยาวชนวยั 16-25 ปี มาพอสมควรแลว้ ดงั น้นั ทา่ นท้งั หลายพอจะเขา้ ใจโดยสังเขปแลว้ วา่ ควรจะทาการตอบสนองความตอ้ งการเหล่าน้นั ไดด้ ว้ ย วธิ ีการใด การสนองตอบความตอ้ งการแก่เยาวชนมีรูปแบบมากมายหลากหลาย สาหรบั ในบทน้ีเราจะได้ ทาการพจิ ารณาในจุดมุ่งหมายและวธิ ีการเพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของเยาวชนดว้ ยวธิ ีการของลูกเสือ วสิ ามญั ก่อนอ่ืนพงึ เขา้ ใจก่อนวา่ กิจกรรมของลูกเสือวสิ ามญั ในการตอบสนองความตอ้ งการของเยาวชน น้นั ควรมีลกั ษณะดงั น้ี 1. เป็นที่ดึงดูดใจและสนองความตอ้ งการตลอดจนความสามารถของสมาชิก 2. เป็นการช่วยเหลือใหเ้ ยาวชนไดม้ ีเพอื่ นและสงั คมที่ดี 3. จดั ใหม้ ีประสบการณ์ในการทางานร่วมกนั เป็ นหมูค่ ณะอยา่ งมีความหมาย 4. เปิ ดโอกาสใหเ้ ยาวชนไดท้ าการฝึกและพฒั นาทกั ษะความสามารถในการเป็นผนู้ าที่ดี กำรอภิปรำยเพื่อซักถำม ทา่ นอาจจะใชห้ วั ขอ้ ต่อไปน้ีอภิปรายในท่ีประชุมใหญ่ เพ่ือใหผ้ เู้ ขา้ รับการฝึกอบรมไดเ้ ขา้ กิจการ ลูกเสือวสิ ามญั ต่อการพฒั นาและการตอบสนองความตอ้ งการของเยาวชนตามทรรศนะและอุดมการณ์ของ คณะลูกเสือแห่งชาติ 1. ดว้ ยประสบการณ์และโอกาสต่าง ๆ ที่มีในกิจการลูกเสือวสิ ามญั ทา่ นไดพ้ ยายามสนอง ความตอ้ งการของเยาวชนเหล่าน้นั อยา่ งไร 2. ท่านพยายามจะบรรลุถึงวตั ถุประสงคห์ รืออุดมการณ์ของคณะลูกเสือแห่งชาติอยา่ งไร ในอนั ท่ี จะส่งเสริมและพฒั นาเยาวชนท้งั ทางร่างกาย จิตใจ สังคม สติปัญญาและศีลธรรม เพ่ือท่ีเขาจะได้ เป็นผทู้ ี่ รับผดิ ชอบช่วยเหลือและสร้างสรรคส์ งั คมใหด้ ียง่ิ ข้ึน

79 สรุป ก่อนท่ีจะจบบทเรียนน้ี ทุกท่านควรจะคานึงถึงคติพจน์ของลูกเสือวสิ ามญั คือ “บริการ” ซ่ึงเป็น ส่วนหน่ึงของคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือท่ีวา่ “ขา้ ฯ จะช่วยเหลือผอู้ ื่นทุกเมื่อ” เพือ่ ทาการพจิ ารณาคติ พจนข์ องลูกเสือวสิ ามญั อยา่ งถ่องแท้ แลว้ ท่านจะเห็นไดว้ า่ กิจการลูกเสือวสิ ามญั มุง่ เนน้ ในการตอบสนอง ความตอ้ งการของเยาวชนไมเ่ ป็นคนเห็นแก่ตวั และพร้อมที่จะเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพ่อื ใหบ้ ริการแก่ บุคคลและสงั คม ท้งั น้ีเม่ือเยาวชนไดเ้ จริญเติบโตเป็นผใู้ หญเ่ ขาจะสามารถดารงชีวติ อยใู่ นสงั คมอยา่ งมี ความสุข

80 กจิ กำรลกู เสือวสิ ำมญั เอกสำรประกอบ (1) กิจการลูกเสือวสิ ามญั เกิดข้ึนเพ่อื สนองตอบความตอ้ งการของเยาวชนวยั หนุ่มสาวของประเทศ องั กฤษท่ีไดเ้ รียกร้องใหม้ ีข้ึน ท่านท้งั หลายยงั คงจะจาประวตั ิการกาเนิดของกิจการลูกเสือไดอ้ ยา่ งดีกวา่ กิจการลูกเสือสากล น้นั เกิดข้ึนในปี ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) เม่ือ ลอร์ดเบเดน โพเอลล์ ไดน้ าเด็กชายจานวน 20 คน ไปอยู่ คา่ ยพกั แรม ณ เกาะบราวน์ซี ในประเทศองั กฤษ เม่ือเดือนกรกฏาคม – สิงหาคม ค.ศ. 1907 ( พ.ศ. 2450) ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ ไดน้ าเอาประสบการณ์และความรู้สึกนึกคิดที่ไดร้ ับจากการนาเอาเด็กชาย ไป อยคู่ า่ ยพกั แรมในคร้ังน้นั มาเขียนเป็นหนงั สือ โดยใหช้ ่ือวา่ “Scouting for boy” ปรากฏวา่ หนงั สือ เล่มน้ีไดร้ ับความนิยมชมชอบอยา่ งแพร่หลายในกลุ่มเยาวชนวยั หนุ่มสาวของประเทศองั กฤษ จึงทาใหเ้ กิด มีกิจการ-ลูกเสือข้ึนในปี เดียวกนั น้ี กิจการลูกเสือวสิ ามญั น้นั ไดเ้ กิดข้ึนเม่ือเยาวชนวยั หนุ่มสาวไดม้ ีความตอ้ งการท่ีจะมาร่วมกนั เพือ่ ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ท่ีทา้ ทายความสามารถของตน นอกจากน้นั ยงั เป็ นการรวมตวั เพอ่ื ปฏิบตั ิกิจกรรม ท่ีสนองตอบความสนใจและเหมาะสมกบั วยั อนั จะก่อใหเ้ กิดประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติได้ ลอร์ด เบ เดน โพเอลล์ ไดเ้ ล็งเห็นความตอ้ งการดงั กล่าวของเยาวชนวยั หนุ่มสาว ดงั น้นั ในปี ค.ศ. 1917 (พ.ศ.2460) ท่านจึงไดจ้ ดั ต้งั ลูกเสือวสิ ามญั ข้ึน ซ่ึงในตอนแรกท่ีต้งั ลูกเสือวสิ ามญั ข้ึนน้นั ไดใ้ ชช้ ่ือเป็ น ภาษาองั กฤษวา่ “Senior Scout” และตอ่ มาไดม้ ีการเปล่ียนชื่อเป็น “Rover Scout” ปี ค.ศ. 1918 (พ.ศ.2461) พอใน ค.ศ. 1922 (พ.ศ.2465) ทา่ นไดเ้ ขียนหนงั สือเก่ียวกบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้ึนเล่มหน่ึงโดยใหช้ ื่อวา่ “Rovering to Success” ในหนงั สือเล่มน้ีไดอ้ ธิบายถึงจุดมุง่ หมายและวตั ถุประสงคข์ องกิจการลูกเสือ วสิ ามญั ไวอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง ต่อมาในปี ค.ศ. 1931 (พ.ศ. 2474) ไดม้ ีการชุมนุมลูกเสือวิสามญั โลกข้ึนคร้ัง แรกที่เมือง Kandersteg ประเทศ-สวติ เซอร์แลนด์ ใชช้ ่ือวา่ “World Rover Moot” มีลูกเสือวสิ ามญั เขา้ ร่วมการชุมนุมประมาณ 3,000 คน และต้งั แต่น้นั มาประเทศสมาชิกตา่ งๆ จึงไดย้ อมรับและรับรองกิจการ ลูกเสือวสิ ามญั กจิ กรรมลูกเสือวสิ ำมัญ อาจจะกล่าวไดว้ า่ ไม่มีกิจกรรมยามวา่ งใดท่ีจะสนองความตอ้ งการของเยาวชนวยั หนุ่มสาว ได้ เท่าเทียมกบั กิจกรรมของลูกเสือวสิ ามญั เพราะกิจกรรมลูกเสือวสิ ามญั น้นั จะใหค้ วามสนุกสนาน เพื่อน มิตรภาพ และการปฏิบตั ิกิจกรรมในขอบข่ายที่ตอบสนองความตอ้ งการและความสนใจของเยาวชนวยั หนุ่ม-สาว การปฏิบตั ิกิจกรรมท่ีวา่ น้นั จะกระทาร่วมกนั ในกลุ่มเยาวชนวยั หนุ่มสาว ซ่ึงต่อมาเรียกวา่ กอง ลูกเสือ-วสิ ามญั ในกองลูกเสือวสิ ามญั น้ีสมาชิกแต่ละคนจะไดพ้ บปะเพ่ือนท่ีรักใคร่และพึงพอใจ ไดม้ ีการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ทศั นคติ ประสบการณ์ ตลอดจนมีการจานวนไมน่ อ้ ย ซ่ึงเราจะไดท้ ราบคุณค่า ของการทางานในระบบดว้ ยตนเอง

81 กิจการลูกเสือวสิ ามญั จะให้โอกาสแก่เราไดท้ างานร่วมกลุ่มกบั บุคคลอ่ืน เพือ่ ผล หรือ จุดประสงคอ์ นั แน่นอนและมีความหมาย และเปิ ดโอกาสใหม้ ีการทดสอบความสามารถของตนเองใน เร่ืองการเป็ นผนู้ าในหมู่คนหนุ่มสาวจานวนไม่นอ้ ย ซ่ึงเราจะไดท้ ราบคุณคา่ ของการทางานในระบบกลุ่ม ดว้ ยตนเอง กิจการลูกเสือวสิ ามญั จะใหโ้ อกาสแก่ทุกคนไดท้ ดสอบคา่ นิยมของตวั เอง โดยการพฒั นาตวั เอง หรือการปฏิบตั ิเพ่ือการปฏิบตั ิภารกิจธรรมดาประจาวนั กิจการลูกเสือวสิ ามญั เสนอการทา้ ทายและการผจญใหแ้ ก่ทา่ น ท่านอาจจะเรียนรู้วธิ ีแกจ้ ุดอ่อน หรือขอ้ จากดั ของตวั ท่านเอง ท่านอาจจะทาในส่ิงท่ีท่านไมเ่ คยคาดคิดมาก่อนวา่ จะเป็ นไปไดถ้ า้ ท่าน ตอ้ งการ กิจการลูกเสือวสิ ามญั เปิ ดโอกาสความเป็นอิสระเสรีใหแ้ ก่ท่าน เสรีภาพอนั เกิดจากความคิดริเร่ิม ความเป็นอิสระไม่พ่งึ ผอู้ ่ืน ความเช่ือมน่ั ในตนเอง ความรู้จกั ตวั ท่านเองวา่ ท่านเป็นใคร ทา่ นกาลงั ทา อะไรอยแู่ ละท่านกาลงั จะไปทางไหน กิจการลูกเสือวสิ ามญั เปิ ดโอกาสใหท้ ่านบาเพญ็ ประโยชน์ต่อผอู้ ื่นดว้ ยการให้ “บริการ” การบริการมิไดใ้ หค้ วามพอใจแก่ตวั ทา่ นเองเท่าน้นั แต่ยงั ทาใหท้ ่านซาบซ้ึงและมีความเขา้ ใจถึงความ ตอ้ งการอนั จาเป็นของผอู้ ่ืนท่านมีโอกาสท่ีจะช่วยพฒั นาชุมชนอีกดว้ ย กิจการลูกเสือวสิ ามญั เปิ ดโอกาสใหท้ า่ นอยา่ งมากมายในการทอ่ งเที่ยว ทศั นาจร กิจการลูกเสือ- วสิ ามญั เป็นกิจการมิตรภาพทว่ั โลก ท่านมีเพือ่ นในทุกประเทศ กิจการลูกเสือวสิ ามญั เปิ ดโอกาสใหท้ า่ นมีความสนุกสนานเพลิดเพลิน ในการร่วมทากิจกรรม ต่าง ๆ กบั การลูกเสือประเภทอ่ืนดว้ ย กิจการลูกเสือวสิ ามญั เปิ ดโอกาสใหท้ ่านไดศ้ ึกษาหาความรู้เพิม่ เติมตามท่ีทา่ นชอบและถนดั กอง ลูกเสือวสิ ามญั เป็นสถานท่ีที่ท่านจะอภิปราย แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ซ่ึงกนั และกนั ท้งั เป็นแหล่งที่ใหก้ ารช่วยเหลือ แนะนา หากทา่ นตอ้ งการ การสมคั รเขา้ เป็นสมาชิกในกองลูกเสือวสิ ามญั เป็ นความสาคญั กา้ วแรกที่ทา่ นจะกา้ วเดินไป สาหรับชีวติ ในอนาคตของท่าน กิจการลูกเสือวสิ ามญั จะเปิ ดประตูใหท้ า่ นไดพ้ บปะกบั ผอู้ ื่นไดผ้ จญภยั ไดป้ ระสบการณ์ หลกั กำรข้นั พืน้ ฐำน กิจการลูกเสือวสิ ามญั มิใช่จะเป็นกิจการท่ีเก่ียวกบั กิจกรรมนานาชนิดอยา่ งกวา้ งขวางเพียงอยา่ ง เดียวดงั กล่าวขา้ งตน้ แต่ยงั เป็ นกิจการท่ีเกี่ยวกบั การเป็นอยูข่ องวถิ ีชีวติ อีกดว้ ย อุดมการณ์และหลกั การ ของคณะลูกเสือแห่งชาติมีอยา่ งไรบา้ ง ไดก้ ล่าวไวใ้ นสาระสาคญั ของการลูกเสือ กิจการลูกเสือวสิ ามญั พยายามจะช่วยใหค้ นวยั รุ่นหนุ่มท้งั หลายเป็นตวั ของตวั เอง ช่วยใหส้ ามารถดาเนินชีวติ ของตนเอง เป็นผู้ มีความรับผดิ ชอบตามหนา้ ท่ีของตน

82 การท่ีเขา้ มาเป็ นลูกเสือวสิ ามญั ท่านตอ้ งยอมรับและปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือเช่นเดียวกบั ลูกเสือประเภทอ่ืน กฎของลูกเสือเป็นขอ้ ความที่เขา้ ใจง่ายเป็นขอ้ กาหนดท่ีลูกเสือทุกคนยอมรับและถือ ปฏิบตั ิประจาชีวติ การแปลความหมายของคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือออกมาเพอ่ื การปฏิบตั ิเหมาะสม กบั ภาวะการเป็นผใู้ หญ่ จุดมุ่งหมำยของกจิ กำรลูกเสือวสิ ำมัญ 1. ส่งเสริมการเป็นพลเมืองดีของเยาวชน 2. การใหบ้ ริการแก่ชุมชนและแก่คณะลูกเสือแห่งชาติ 3. จดั ประสบการณ์ตา่ ง ๆ ท่ีมีประโยชนแ์ ละทา้ ทายความสามารถ เพ่ือเปิ ดโอกาสไดม้ ีการพฒั นา ศกั ยภาพของตนเอง 4. ช่วยใหเ้ ยาวชนสามารถดารงชีวติ ไดอ้ ยา่ งมีความสุขในสงั คมและมีประสิทธิภาพ 5. ช่วยใหเ้ ยาวชนไดม้ ีส่วนร่วมอยา่ งจริงจงั ในการพฒั นาชุมชน สังคม ประเทศชาติ ตามอุดมการณ์ ของคณะลูกเสือแห่งชาติ

83 กจิ กำรลกู เสือวสิ ำมัญ เอกสำรประกอบ (2) อุดมกำรณ์ของคณะลูกเสือแห่งชำติ อุดมการณ์ตามความหมายแห่งราชบณั ฑิตยสถาน หมายถึง อุดมคติอนั สูงส่งที่พยายามจูงใจ มนุษยใ์ หบ้ รรลุถึงวตั ถุประสงค์ ส่วนอุดมคติน้นั หมายถึงจินตนาการที่ถือวา่ เป็ นมาตรฐานแห่งความดี ความงาม และความจริง ในทางใดทางหน่ึงที่มนุษยถ์ ือวา่ เป็นจุดมุง่ หมายแห่งชีวติ อุดมคติแห่งลูกเสือวสิ ามญั คือ “บริการ” ในฐานะที่ทา่ นเป็ นผกู้ ากบั ลูกเสือท่านตอ้ งมีหนา้ ที่ใน การส่งเสริมพฒั นา และปลูกฝังอุดมคติแห่งลูกเสือวสิ ามญั ใหเ้ กิดข้ึนไดก้ บั เยาวชนของชาติ เพือ่ ใหเ้ ขา เป็นพลเมืองดี มีคุณภาพและบรรลุวตั ถุประสงค์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ ท่ีไดต้ ราไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิ ลูกเสือ พ.ศ. 2551 มาตราที่ 8 ซ่ึงระบุวา่ “คณะลูกเสือแห่งชาติมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือพฒั นาลูกเสือท้งั ทาง กาย สติปัญญา จิตใจ และศีลธรรมใหเ้ ป็ นพลเมืองดี มีความรับผดิ ชอบ ช่วยสร้างสรรคส์ ังคมใหเ้ กิดความ สามคั คีและมีความเจริญกา้ วหนา้ ท้งั น้ีเพื่อความสงบสุขและความมนั่ คงของประเทศชาติ ตามแนวทาง ตอ่ ไปน้ี 1. ใหม้ ีนิสัยในการสงั เกต จดจา เช่ือฟัง และพ่งึ ตนเอง 2. ใหซ้ ่ือสตั ยส์ ุจริต มีระเบียบวนิ ยั และเห็นอกเห็นใจผอู้ ่ืน 3. ใหร้ ู้จกั บาเพญ็ ตนเพอื่ สาธารณะประโยชน์ 4. ใหร้ ู้จกั ทาการฝีมือและฝึกฝนใหท้ ากิจกรรมตา่ ง ๆ ตามความเหมาะสม 5. ใหร้ ู้จกั รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วฒั นธรรมและความมน่ั คงของประเทศชาติ ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั ธรรมนูญขององคก์ รลูกเสือโลก ที่ไดก้ าหนดวตั ถุประสงคข์ องขบวนการลูกเสือไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี “จุดมุง่ ประสงคข์ องขบวนลูกเสือ คือ การสนบั สนุนการพฒั นาอยา่ งเตม็ ท่ีซ่ึงศกั ยภาพทางกาย สติปัญญา สังคม จิตใจและศลี ธรรม ใหแ้ ก่เยาวชนเป็นรายบคุ คล เพือ่ ใหเ้ ขาเป็นพลเมืองดี มีความรับผดิ ชอบ ในฐานะท่ีเป็นสมาชิกของชุมชนในทอ้ งถิ่น ในชาติ และในชุมชนระหวา่ งนานาชาติ” การท่ีจะดาเนินการ ฝึกอบรมเยาวชนใหบ้ รรลุอุดมการณ์ของลูกเสืออยา่ งสูงสุด ดูเหมือนวา่ จะเป็นปัญหาที่ยากมาก ถา้ หากจะ พิจารณาจากปัจจยั และส่ิงตา่ ง ๆ ที่จะเขา้ มามีส่วนในการที่จะช้ีวา่ ความเพียรพยายามของเราท่ีจะฝึกอบรม เยาวชนน้นั ประสบความสาเร็จหรือลม้ เหลวอยา่ งไร ซ่ึงจะไม่มีคาตอบสาเร็จรูปที่จดั ทาไว้ แต่เราจะตอ้ ง เพยี รพยายามรวบรวมขอ้ มูลและรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราพิจารณาเห็นวา่ เป็นเงื่อนไขแห่งความสาเร็จเป็น คู่มือหรือแนวทางข้ึน หากไดป้ ฏิบตั ิตามเงื่อนไขน้ีครบถว้ นบริบูรณ์แลว้ โอกาสท่ีจะประสบความสาเร็จ น้นั อาจจะพงึ หวงั ได้ แมว้ า่ จะไมส่ ามารถรับประกนั ได้ แต่ถา้ ผใู้ ดละทิง้ เง่ือนไขท่ีไดร้ วบรวมไวน้ ้นั ไป เพียงขอ้ หน่ึงขอ้ ใดความลม้ เหลวในการพฒั นาลูกเสือให้บรรลุตามอุดมการณ์ของคณะลูกเสือแห่งชาติ อาจเกิดข้ึนได้ ซ่ึงการกระทาเยยี่ งน้ีสามารถรับประกนั ความลม้ เหลวไดอ้ ยา่ งแน่นอน

84 การบรรลุถึงอุดมการณ์แห่งคณะลูกเสือแห่งชาติ ควรประกอบดว้ ยส่ิงต่อไปน้ี 1. การจดั กาหนดการที่ดีสาหรับเยาวชน ก. กาหนดการน้นั จะตอ้ งสอดคลอ้ งความตอ้ งการและความปรารถนาของเยาวชน ท้งั น้ีตอ้ ง คานึงถึงองคป์ ระกอบหลายประการ เช่น อายุ เวลา สถานท่ี และเทคนิค วธิ ีการตา่ ง ๆ ที่นามาใช้ ข. ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของสังคมน้นั ๆ โดยเฉพาะ ดงั น้นั การลอกเลียนแบบ กาหนดการจากสงั คมหน่ึงเพ่ือมาใชก้ บั อีกสังคมหน่ึง จะไม่เป็นการสมควรเพราะในแต่ละสงั คมจะมี ความแตกต่างกนั ค. ตอ้ งเร้าใจและมีความกา้ วหนา้ การจดั ประสบการณ์ควรเป็นไปในทางที่จะใหเ้ กิด ประสบการณ์ใหม่และเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจ เร้าใจแก่ลูกเสือ กบั ท้งั คงใหม้ ีการเพิม่ พนู ความรู้และ การพฒั นาทกั ษะใหม่ ๆ ดว้ ยหากการจดั กาหนดการแบบซ้าซาก ไมท่ า้ ทายความสามารถและไม่เกิด ความกา้ วหนา้ แลว้ เยาวชนจะละทิง้ กิจการลูกเสือ ง. ใหเ้ ป็นไปตามวธิ ีของกิจการลูกเสือ คือการสนบั สนุนการคน้ พบที่กา้ วหนา้ และต่อเนื่อง กนั ในเรื่องค่านิยมอนั มีอยใู่ นกฎและคาปฏิญาณของลูกเสือ และในเวลาเดียวกนั ควรยึดถือวา่ กฎและ คาปฏิญาณของลูกเสือเป็นกติกาของกิจกรรมทุกอยา่ งดว้ ย 2. การฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือ ความตอ้ งการของผกู้ ากบั ลูกเสือจะมีความแตกตา่ งกนั ออกไป แต่โดยสรุปแลว้ จะมีอยู่ 3 ประการที่สาคญั อนั จะนาไปพฒั นาเยาวชน คือ ก. ความรู้ ข. ทกั ษะ ค. เจตคติ 3. การใหก้ ารสนบั สนุนอยา่ งเพียงพอ เช่น บุคลากร งบประมาณ วธิ ีการดาเนินงาน การจดั การ ฝึกอบรมในระดบั ตา่ ง ๆ การบริหาร การประชาสัมพนั ธ์ เป็นตน้

กจิ กำรลูกเสือวสิ ำมญั 85 เอกสำรประกอบ(3) ประวตั ิกจิ กำรลกู เสือวสิ ำมัญในประเทศไทย ไดม้ ีการจดบนั ทึกเหตุการณ์ของการดาเนินลูกเสือวสิ ามญั ในประเทศไทยไวอ้ ยา่ งคอ่ นขา้ ง ละเอียดจากผเู้ กี่ยวขอ้ งโดยตรง ในท่ีน้ีจึงขอนาบนั ทึกดงั กล่าวมาแสดงใหท้ ่านท้งั หลายไดท้ ราบและ ภาคภูมิใจกบั ความสาเร็จของกิจการลูกเสือวสิ ามญั ในประเทศไทย ประวตั ิควำมเป็ นมำของลูกเสือวสิ ำมญั แห่งประเทศไทย ก่อนท่ีกิจการลูกเสือวสิ ามญั จะเกิดข้ึนในประเทศไทยไดม้ ีคณะบุคคลคณะหน่ึงท่ีมีความสนใจ และศรัทธาต่อกิจการลูกเสืออยา่ งแรงกลา้ เขา้ รับการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้ช้นั สูง ณ คา่ ยลูกเสือซามงั กตั (Zamangat) กรุงกวั ลาลมั เปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในระหวา่ งวนั ท่ี 5 –12 ธนั วาคม 2503 ทางสภากรรมการกลางจดั การลูกเสือแห่งชาติ จึงใหก้ ารสนบั สนุนส่งคณะบุคคล ดงั กล่าว จานวน 11 คน เขา้ รับการฝึกอบรมในคร้ังน้นั คือ 1. นายบุญยงั ทรวดทรง ผตู้ รวจการลูกเสือโรงเรียนวดั มงกุฎกษตั ริยาราม 2. นายพา ไชยเดช ผตู้ รวจการลูกเสือโรงเรียนอานวยศิลป์ 3. นายเจริญ อว่ มประยรู ผตู้ รวจการลูกเสือโรงเรียนการช่างอินทราชยั 4. นายบุตร วฒุ ิมานพ ผตู้ รวจการลูกเสือวทิ ยาลยั ครูเจา้ สมเดจ็ เจา้ พระยา 5. นายสง่า เส็กเลอพงศ์ ผตู้ รวจการลูกเสือโรงเรียนวดั ศรีสิทธาราม 6. นายเสมือน พชิ ิตกุล ผตู้ รวจการลูกเสือโรงเรียนฝึ กหดั ครูพระนคร 7. นายบุญทนั ฉลวยศรี ผตู้ รวจการลูกเสือจงั หวดั อุบลราชธานี 8. นายเฉลิม สุขเสริม ผตู้ รวจการลูกเสือจงั หวดั อุบลราชธานี 9. นายอารีย์ สุริยวงศ์ ผตู้ รวจการลูกเสืออาเภอหนองจอก 10. นายชาญ นวลศรี ผตู้ รวจการลูกเสือสภากรรมการกลาง 11. นายบุญส่ง เอ่ียมละออ ผตู้ รวจการลูกเสือสภากรรมการกลาง หลงั จากเสร็จสิ้นการฝึกอบรมฯ แลว้ คณะบุคคลดงั กล่าวไดก้ ลบั มาพฒั นากิจการลูกเสือวสิ ามญั ใน ประเทศไทยจนเป็ นที่นิยมและยอมรับโดยทว่ั ไปจนถึงปัจจุบนั

86 ประวตั ิลูกเสือวสิ ำมญั ในประเทศไทย กิจการลูกเสือวสิ ามญั ไดก้ าเนิดข้ึนเป็นคร้ังแรกในประเทศไทยเม่ือวนั ที่ 18 มีนาคม 2506 โดย การริเริ่มของทา่ นอาจารยอ์ ภยั จนั ทวมิ ล (ขณะน้นั ดารงตาแหน่งรองประธานคณะกรรมการ บริหารลูกเสือแห่งชาติ) ซ่ึงไดเ้ ริ่มการจดั ต้งั กองลูกเสือวสิ ามญั ข้ึนในโรงเรียนและวทิ ยาลยั ตา่ ง ๆ เฉพาะ ในส่วนกลาง จานวน 22 กอง และไดแ้ นะนาใหผ้ อู้ านวยการวทิ ยาลยั และโรงเรียนพร้อมท้งั ครูใหญ่และ อาจารยใ์ หญโ่ รงเรียนต่าง ๆ แห่งละ 3 คน รวม 66 คน เขา้ รับการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั คร้ังแรกท่ีบริเวณเกาะลอย สวนลุมพนิ ี กรุงเทพฯ ซ่ึงจะขอนาเสนอลาดบั ความเป็นมาของการลูกเสือ วสิ ามญั ดงั น้ี วนั ท่ี 5 กุมภำพนั ธ์ 2506 นายอภยั จนั ทวมิ ล (รองประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ) ไดเ้ ชิญครูใหญ่ อาจารยใ์ หญ่ ผอู้ านวยการโรงเรียนและวทิ ยาลยั ในส่วนกลางจานวน 22 แห่ง พร้อมดว้ ยรองอธิบดี และ ขา้ ราชการในกรมอาชีวศึกษาไปประชุมปรึกษาหารือเก่ียวกบั การจดั ต้งั กองลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ในโรงเรียน และวทิ ยาลยั ของกรมอาชีวศึกษาจานวน 22 กอง โดยกาหนดใหม้ ีลูกเสือวสิ ามญั กองละ 32 คน วนั ท่ี 18 มนี ำคม 2506 ไดท้ าการเปิ ดการฝึกอบรมวิชาผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ ณ บริเวณเกาะลอย สวนลุมพินี กรุงเทพฯ เป็นเวลา 3 วนั โดยมีครูใหญ่ อาจารยใ์ หญ่ และผอู้ านวยการโรงเรียนและ วทิ ยาลยั ในสังกดั กรมอาชีวศึกษาส่วนกลาง จานวน 22 โรง รวมท้งั สิ้น 66 คนเขา้ ฝึกอบรม วนั ที่ 4 มถิ ุนำยน 2506 คณะผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั จานวน 66 คน ที่ไดผ้ า่ นการฝึกอบรมข้นั P.T.C. ไดไ้ ปพร้อมกนั ท่ี เกาะลอย สวนลุมพนิ ีอีกคร้ัง เพื่อเดินทางไปยงั วดั สระเกศวรมหาวิหารเพ่ือทาพธิ ีสารวจตนเอง (Vigil) แลว้ กลบั ไปทาพธิ ีเขา้ ประจากอง ณ บริเวณเกาะลอย ผปู้ ระกอบพธิ ี คือ 1. นายอภยั จนั ทวมิ ล (ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ) 2. นายกอง วสิ ุทธารมณ์ (อธิบดีกรมพลศึกษา) 3. มร.อบั ดุล กาเดอร์ (ผตู้ รวจการลูกเสือประจาภาคตะวนั ออกไกล) วนั ที่ 12 กนั ยำยน 2506 เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้ช้นั สูง รุ่นแรกของประเทศไทย มีผเู้ ขา้ รับ-การฝึกอบรม จานวน 55 คน โดยใชค้ ่ายลูกเสือวชิราวธุ ชลบุรี เป็นสถานที่ฝึกอบรม ใชเ้ วลาในการ ฝึกอบรม 8 วนั วนั ที่ 1 กนั ยำยน 2507 เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ รุ่นท่ี 2 ณ บริเวณเกาะลอย สวนลุมพินี มีผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมจานวน 45 คน ใชเ้ วลาในการฝึกอบรม 3 วนั

87 วนั ที่ 12 กนั ยำยน 2507 เปิ ดการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้ช้นั สูง รุ่นท่ี 2 จานวน 45 คน ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ จงั หวดั ชลบุรี ใชเ้ วลาในการฝึกอบรม 8 วนั รายช่ือคณะวทิ ยากรชุดแรกที่ทาการฝึกอบรมผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั (เป็นวทิ ยากรที่ใหก้ ารฝึกอบรมฯ ท้งั ระดบั T.T.C. และระดบั R.W.D.) มีดงั น้ี 1. นายอภยั จนั ทวมิ ล 2. นายกอง วสิ ุทธารมณ์ 3. นายสวา่ ง วจิ กั ขณะ 4. นายระบิล สีตะสุวรรณ 5. มร.อบั ดุล กาเดอร์ 6. นายสมรรถไชย ศรีกฤษณ์ 7. นายเชาวน์ ชวานิช 8. นายบุญส่ง เอี่ยมละออ 9. นายเสนีย์ การินทร์ 10. นายชาญ นวลศรี 11. นายบุญเลิศ วเิ ชียรโรจน์ 12. นายพา ไชยเดช 13. นายชลิต เอกสิงห์ 14. นายอารีย์ สุริยวงศ์ 15. นายเดช เดชกญุ ชร 16. นายเจริญ อ่วมประยรู 17. นายทองสุก นาคธน 18. ขนุ คงฤทธ์ิศึกษากร ตอ่ มาคณะครูอาจารยท์ ่ีผา่ นการฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ท้งั ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ และ ข้นั ความรู้ช้นั สูงกไ็ ดร้ วบรวมสมาชิกขออนุญาตจดั ต้งั เป็ นศูนยล์ ูกเสือวสิ ามญั ข้ึนกบั สานกั งาน คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ โดยมีสานกั งานศูนยอ์ ยทู่ ่ีโรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย พญาไท กรุงเทพฯ โดยมีอาจารย์ สวา่ ง สุขคั คารมณ์ (ซ่ึงเป็นอาจารยใ์ หญ่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทน ถวาย) ไดร้ ับเลือกเป็นประธานศูนยล์ ูกเสือวสิ ามญั คนแรก และอาจารยพ์ า ไชยเดช เป็ นรองประธาน ซ่ึงในระหวา่ งท่ียงั มีฐานะเป็ นศูนยล์ ูกเสือวสิ ามญั น้นั ไดป้ รากฏผลงานมากมาย อาทิ - จดั การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ รวม 9 รุ่น ณ คา่ ยฝึ กอบรม โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย - จดั การฝึกอบรมวชิ าผกู้ ากบั ลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้ช้นั สูง รวม 13 รุ่น ณ คา่ ยฝึ กอบรม ลูกเสือวชิราวธุ จงั หวดั ชลบุรี คร้ังที่ 1 พ.ศ. 2514 ค่ายลูกเสือกาแพงแสน จงั หวดั นครปฐม คร้ังท่ี 2 พ.ศ. 2516 ค่ายลูกเสือวชิราวธุ จงั หวดั ชลบุรี คร้ังท่ี 3 พ.ศ. 2518 คา่ ยลูกเสือเจา้ สามพระยา จงั หวดั ชยั นาท คร้ังที่ 4 พ.ศ. 2520 คา่ ยลูกเสือแก่นนคร จงั หวดั ขอนแก่น คร้ังที่ 5 พ.ศ. 2522 ค่ายลูกเสือหนองฮอ่ จงั หวดั เชียงใหม่ คร้ังที่ 6 พ.ศ. 2524 คา่ ยลูกเสือสุรนารี จงั หวดั นครราชสีมา คร้ังท่ี 7 พ.ศ. 2526 คา่ ยวดั อรัญญิก จงั หวดั พิษณุโลก คร้ังที่ 8 พ.ศ. 2529 ค่ายลูกเสือระยอง จงั หวดั ระยอง

88 คร้ังที่ 9 พ.ศ. 2531 เข่ือนศรีนครินทร์ จงั หวดั กาญจนบุรี คร้ังที่ 10 พ.ศ. 2533 เขื่อนแก่งกระจาน จงั หวดั เพชรบุรี คร้ังที่ 11 พ.ศ. 2535 เขื่อนเขาแหลม จงั หวดั กาญจนบุรี คร้ังที่ 12 พ.ศ. 2537 ศูนยก์ ีฬา จงั หวดั ลาปาง คร้ังที่ 13 พ.ศ. 2538 อ่างเก็บน้ากระเสียว จงั หวดั สุพรรณบุรี คร้ังท่ี 14 พ.ศ. 2541 ค่ายหลวงบา้ นไร่ จงั หวดั ราชบุรี คร้ังท่ี 15 พ.ศ. 2543 ค่ายหลวงบา้ นไร่ จงั หวดั ราชบุรี คร้ังที่ 16 พ.ศ. 2546 ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจา้ จงั หวดั ชลบุรี คร้ังที่ 17 พ.ศ. 2549 คา่ ยลูกเสือแก่นนคร จงั หวดั ขอนแก่น คร้ังท่ี 18 พ.ศ. 2551 ศูนยพ์ ฒั นานกั เรียนและบุคลากร จงั หวดั เพชรบุรี คร้ังท่ี 19 พ.ศ. 2553 ค่ายบุรฉตั ร จงั หวดั ราชบุรี คร้ังที่ 20 พ.ศ. 2557 ค่ายลูกเสือวชิราวธุ จงั หวดั ชลบุรี โดยเฉพาะการชุมนุมลูกเสือวิสามญั คร้ังที่ 2 ณ คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ จงั หวดั ชลบุรี ซ่ึงการ ชุมนุมฯ ไดจ้ ดั พร้อมกบั งานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังท่ี 8 วงการลูกเสือวสิ ามญั ไดส้ ูญเสียผกู้ ่อต้งั กิจการลูกเสือวสิ ามญั ไปท่านหน่ึง คือ ท่านอาจารยส์ วา่ ง สุขคั คานนท์ ซ่ึงไดถ้ ึงแก่กรรมในวนั สุดทา้ ย ของการชุมนุมลูกเสือวสิ ามญั พอดี ซ่ึงนาความเศร้าโศกมาสู่คณะลูกเสือวสิ ามญั เป็นอยา่ งยงิ่ ตอ่ จากน้นั อาจารยพ์ า ไชยเดช จึงไดร้ ับการเลือกต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งประธานศูนยล์ ูกเสือ วสิ ามญั สืบแทนต้งั แต่ปี พ.ศ. 2516 – 2520 จนกระทงั่ ท่านรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ฯพณฯ อภยั จนั ทวมิ ล ไดใ้ หค้ าแนะนาวา่ ศูนยล์ ูกเสือวสิ ามญั ไดเ้ จริญกา้ วหนา้ มากแลว้ สมควรท่ีจะยกข้ึนเป็น สมาคม ดงั น้นั คณะกรรมการบริหารศูนยล์ ูกเสือวสิ ามญั จึงไดม้ อบหมายใหก้ รรมการ 3 ท่าน รับไป ดาเนินการ คือ - นายพา ไชยเดช - นายนทั ธี พคุ ยาภรณ์ - นายอรรณพ กณั ทวี การดาเนินการขออนุญาตจดั ต้งั เป็นสมาคมน้นั ไดใ้ ชช้ ื่อวา่ “สมาคมสโมสรลูกเสือแห่งประเทศ ไทย” ซ่ึงกไ็ ดร้ ับความเห็นชอบจากสานกั งานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ จนในท่ีสุด ไดร้ ับ อนุมตั ิใหจ้ ดั ต้งั เป็น “สมาคม” เม่ือวนั ที่ 12 เมษายน 2519 โดยมีสานกั งานต้งั อยเู่ ลขที่ 23 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษากรุงเทพ วทิ ยาเขต 3 อินทราชยั ถนนราชดาริ ปทุมวนั กทม.

89 เพื่อใหก้ ารดาเนินงานของสมาคมสโมสรลูกเสือวสิ ามญั แห่งประเทศไทยเป็ นไปตามกฎเกณฑ์ ขอ้ บงั คบั ของสมาคมฯ ดงั น้นั ในวนั ท่ี 18 มีนาคม 2520 จึงไดร้ ับการเลือกต้งั คณะกรรมการบริหาร สมาคมสโมสรลูกเสือวสิ ามญั แห่งประเทศไทย ผลปรากฏวา่ อาจารยพ์ า ไชยเดชไดร้ ับการเลือกใหด้ ารง ตาแหน่งนายกสมาคมสมโมสรลูกเสือวสิ ามญั แห่งประเทศไทย และเป็นนายกสมาคมฯ คนแรก พร้อม กบั ไดแ้ ต่งต้งั คณะกรรมการฝ่ ายตา่ ง ๆ อีกจานวน 20 คน และอยใู่ นตาแหน่งคราวละ 2 ปี กิจกรรมลูกเสือวสิ ามญั ไดด้ าเนินการมาต้งั แต่ปี พ.ศ. 2506 จนถึงปัจจุบนั ทุกทา่ นจะเห็นวา่ กิจการลูกเสือวสิ ามญั ไดม้ ีการปรับปรุงและพฒั นาใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของเยาวชนหนุ่มสาว การปฏิบตั ิกิจกรรมทุกคร้ังจะมุ่งเนน้ ในเรื่องการบริการเพื่อบาเพญ็ ประโยชน์ต่อสงั คม ใหส้ มกบั อุดมคติ ลูกเสือวสิ ามญั “บริการ”

กจิ กำรลกู เสือวสิ ำมญั 90 เอกสำรประกอบ(4) ลกู เสือวสิ ำมัญแห่งประเทศไทย บันทกึ ควำมทรงจำของท่ำนอำจำรย์สว่ำง สุขคั คำนนท์ วนั องั คารที่ 5 กุมภาพนั ธ์ 2506 เวลา 15.00 น. ณ ศาลาเกาะลอย สวนลุมพนิ ี ซ่ึงในขณะน้นั ยงั คงมีค่ายฝึกอบรมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือจงั หวดั พระนคร ผอู้ านวยการ อาจารยใ์ หญ่ ครูใหญ่ ผแู้ ทน วทิ ยาลยั โรงเรียนอาชีวศึกษาช้นั สูง สังกดั กรมอาชีวศึกษาในจงั หวดั พระนครธนบุรี 22 แห่ง ไดม้ า ประชุมพร้อมกนั โดยมีท่านปลดั กระทรวงศึกษาธิการ (นายอภยั จนั ทวมิ ล) เป็นประธาน และมีท่าน อธิบดีกรมพลศึกษา (กอง วสิ ุทธารมณ์) ทา่ นรองอธิบดีกรมพลศึกษา (อดุล สุวรรณบล) ท่านรอง อธิบดีกรมอาชีวศึกษา (ระบิล สีตะสุวรรณ) ผอู้ านวยการกองโรงเรียนพาณิชยแ์ ละอุตสาหกรรม (วชั ระ เอ่ียมโชติ) และทา่ นหวั หนา้ กองลูกเสือ (สวา่ ง วจิ กั ขณะ) เขา้ ร่วมประชุม ท่านประธานกล่าวเปิ ดประชุมแสดงความขอบใจผมู้ าร่วมการประชุมอยา่ งพร้อมเพรียง กบั ช้ีแจง วา่ วทิ ยาลยั โรงเรียนอาชีวศึกษาต่าง ๆ มีบทบาทสาคญั ในการพฒั นาประเทศ ฯพณฯรัฐมนตรีวา่ การ กระทรวงศึกษาธิการ กาลงั สนใจอยเู่ ป็นอนั มาก ในการประชุมผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือนานาชาติแห่งภาพ ตะวนั ออกไกล คร้ังท่ี 3 (3 rd. Far East Regional Scout Conference) ซ่ึง ฯพณฯ จอมพลถนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เปิ ดประชุมเสร็จแลว้ ท่านไดป้ รารภกบั เจา้ หนา้ ที่ลูกเสือผใู้ หญแ่ สดงความ ห่วงใยเก่ียวกบั ความประพฤติของนกั เรียนเหล่าน้นั ข้ึน แต่เดิมลูกเสือไทยซ่ึงพระบาทสมเด็จพระมหาธีรราชเจา้ (ร.6) ทรงพระราชทานกาเนิดข้ึนเม่ือ วนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2454 น้นั มีระบบการฝึกอบรมตามแบบเป็นของเราเอง แต่ในปัจจุบนั ผดิ แผกไป กวา่ เดิมมาก ประเทศตา่ ง ๆ ที่นิยมการลูกเสือรวมท้งั ประเทศไทยไดย้ ดึ ระบบการฝึกอบรมตามหลกั สูตร กิลเวลล์ ปาร์ค (Gilwell Park) แห่งประเทศองั กฤษ เพราะเป็นที่ยอมรับทวั่ กนั วา่ เป็ นวิธีการฝึกอบรมที่ดี ท่ีสุด มีวธิ ีการฝึกอบรมใหม่ ๆ ลูกเสือจะไดร้ ับความรู้และความสนุกสนาน แบ่งการฝึกอบรมเป็นข้นั ตาม วยั ของเด็ก คือ ก. ลูกเสือสารอง (Cub) อายุ 8 –11 ปี เหมาะสาหรับโรงเรียนประถมศึกษา ข. ลูกเสือสามญั (Scout) อายุ 11 –16 ปี ควรต้งั ในโรงเรียนประถมศึกษา ค. ลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ (Senior Scout) อายุ 14 –18 ปี เหมาะสาหรับโรงเรียนมธั ยมศึกษา ตอนตน้ ง. ลูกเสือวสิ ามญั (Rover Scout) อายุ 16 – 25 ปี ควรต้งั ในโรงเรียนมธั ยมศึกษาตอนปลาย อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา

91 “เฉพาะลูกเสือวสิ ามญั Rover Scout ยงั มิไดจ้ ดั ต้งั ข้ึนในประเทศไทย แต่กไ็ ดจ้ ดั ส่งครูอาจารย์ ของเรา 4 ท่าน เจา้ หนา้ ที่จากกองการลูกเสือ 2 ท่าน มีนายพา ไชยเดช นายบุญยงั ทรวดทรง นายเจริญ อว่ มประยรู นายสง่า เล็กเลอพงศ์ ไดเ้ ขา้ รับการฝึกอบรมข้นั ผบู้ งั คบั บญั ชา ฯ ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี พ.ศ. 2504 บดั น้ีเรา (ท่านประธาน) ประสงคจ์ ะต้งั กองลูกเสือวสิ ามญั Rover Scout ข้ึนในวทิ ยาลยั โรงเรียนอาชีวศึกษาช้นั สูง ข้นั ตน้ น้ีจะต้งั เฉพาะในจงั หวดั พระนครและธนบุรีก่อน จึงไดเ้ ชิญทา่ น ท้งั หลายมาหารือ ขอใหท้ ุกคนเขา้ ใจเสียก่อนวา่ มิใช่มีการบงั คบั โปรดพงึ ระลึกไวว้ า่ การลูกเสือน้นั เป็น งานท่ีทาดว้ ยความสมคั รใจตอ้ งเสียสละ ท้งั กาลงั กาย เวลา และกาลงั ทรัพยโ์ ดยไม่ไดอ้ ะไรตอบแทนเป็น สินจา้ งรางวลั คนที่เขา้ มาทางานลูกเสือน้นั เขา้ มาทาดว้ ยอุดมคติ มีบางคนไม่เขา้ ใจอุดมการณ์ไดว้ จิ ารณ์ วา่ ทาไมผใู้ หญ่ที่มีตาแหน่งทางการสูงจึงตอ้ งมาสวมกางเกงส้นั แบบเดก็ คาตอบอาจเป็ นวา่ การกระทา เช่นน้นั ทาดว้ ยการเสียสละอยา่ งยง่ิ เพ่อื เป็นตวั อยา่ งท่ีดีแก่เดก็ ใหเ้ ด็กรู้จกั เคารพในเคร่ืองแบบ เคารพ ตวั เองมีความภาคภูมิใจท่ีผใู้ หญ่กเ็ ป็นพวกเดียวกบั เขา ทา่ นผใู้ หญ่เหล่าน้ีก็คงมุง่ หวงั ท่ีจะช่วยดูแลซ่ึงสอน อบรมให้เดก็ เติบโตข้ึนฐานะพลเมืองดี พร้อมท่ีจะรับภาระรักษาบา้ นเมืองของเราใหเ้ ป็ นของไทยดงั เช่น บรรพบุรุษไดส้ ละมาแลว้ ถา้ เราไม่ช่วยกนั คนละไมล้ ะมือ ทาใหเ้ ด็กไทยเป็นคนดีแลว้ ใครท่ีไหนเล่าเขาจะ มาทาใหเ้ รา…….” ท่านประธานไดส้ อบถามผแู้ ทนวทิ ยาลยั โรงเรียนต่าง ๆ ถึงความสมคั รใจ เป็นรายบุคคลจน ครบถว้ นท่ีประชุมมีมติโดยเอกฉนั ทใ์ ห้ 1. จดั ต้งั กองลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ในวทิ ยาลยั โรงเรียนอาชีวศึกษาทุกแห่ง (เฉพาะจงั หวดั พระนคร ธนบุรี ) 2. ใหโ้ รงเรียนรับสมคั รนกั เรียนเป็นลูกเสือวสิ ามญั (เฉพาะผทู้ ่ีเล่ือมใสจริง ๆ) แห่งละ 1 กอง ตามท่ี ลอร์ด เบเดน โพเอลล์ กล่าวไวว้ า่ ผกู้ ากบั ลูกเสือคนหน่ึงจะอบรมส่ังสอนลูกเสือไดด้ ีไมเ่ กิน 32 คน ตามวธิ ีการผกู้ ากบั ลูกเสือตอ้ งใหก้ ารอบรมสัง่ สอนเด็กเป็นรายตวั จึงจะไดผ้ ลดี 3. ขอใหท้ ่านผอู้ านวยการ อาจารยใ์ หญ่ และครูใหญ่ คดั เลือกครูท่ีสมคั รใจอีกแห่งละ 2 ท่าน เขา้ รับการอบรมวชิ าผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือวสิ ามญั ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ เพราะการจะจดั ต้งั กองลูกเสือ วสิ ามญั น้นั จะตอ้ งมีผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือท่ีไดร้ ับการฝึกอบรม ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ (P.T.C.) เป็นอยา่ งนอ้ ย และจะตอ้ งมี “คูหา” (Den) ก่อน 4. กาหนดวนั อบรม วนั จนั ทร์ท่ี 18 มีนาคม 2506 ณ ทางเขา้ เกาะลอย สวนลุมพินี เวลา 08.00 น. ของวนั จนั ทร์ที่ 18 มีนาคม 2506 ณ ทางเขา้ เกาะลอย สวนลุมพินี รถยนตช์ นิด ตา่ ง ๆ ท้งั ส่วนตวั และส่วนโรงเรียนมากกวา่ 22 คนั รับส่งบรรดาลูกเสือใหม่ ซ่ึงมีท้งั “หนุ่มนอ้ ย” และ “หนุ่มแน่น” วฒุ ิกม็ ีต้งั แต่ปริญญาเอกลงมาจนถึง 35 ดีกรีบางท่านก็มีครอบครัว คนใชข้ นสัมภาระ อาหาร มาส่งเสียดูประหน่ึงวา่ ลูกเสือเหล่าน้นั จะไปอยเู่ กาะตารุเตา มิใช่เกาะลอย สวนลุมพินี กิริยาทา่ ทางของแตล่ ะทา่ นก็แตกตา่ งกนั บางท่านทา่ ทางเหนียม ๆ ท่ีเขา้ มาอยใู่ นเครื่องแบบ ที่ไม่คุน้ เคยมาก่อน บางทา่ นกว็ างท่าทางขึงขงั องอาจอยา่ งลูกเสือ (มิใช่พยคั ฆร้าย 707 ) เมื่อถูกเพื่อน ๆ

92 ชมวา่ “แหม อาจารยแ์ ตง่ เคร่ืองแบบลูกเสือข้ึน (Smart) ดีจริงครับ” เท่าน้นั ทา่ นผถู้ ูกชมก็ทาท่าราวกบั วา่ หนา้ อกผาย และตวั ยดื สูงข้ึนไปอีก 9 นิ้ว ท่าที่ทาความเคารพซ่ึงกนั และกนั ก็มีท้งั ยกมือวนั ทยหตั ถแ์ บบ ทหาร บา้ งกใ็ ชเ้ พยี ง 2 นิ้ว แตะที่ขมบั บา้ ง มีอยา่ งเดียวเทา่ น้นั ที่เหมือนกนั ทุกคนกค็ ือความยมิ้ แยม้ แจม่ ใส ทุกคนร่าเริงสรวลเสเฮฮา เวลาการอบรม ท่านรองอธิบดีกรมพลศึกษา (สวา่ ง วจิ กั ขณะ) ขณะน้นั ดารงตาแหน่งหวั หนา้ กองการลูกเสือให้ สญั ญาณนกหวดี เรียกพวกเราเขา้ แถวท่ีหนา้ ศาลาเกาะลอย เรียกชื่อแบง่ เป็นหมู่ ๆ แลว้ มอบ ไมพ้ ลอง มีธงเคร่ืองหมายหมู่ ชา้ ง เสือ งูเห่า กระทิง นกั อินทรีย์ เหยยี่ ว ใหพ้ วกเราปลดผา้ พนั คอเดิม แถบเคร่ืองราชอิสริยภรณ์ สายนกหวดี ออก ทา่ นบอกวา่ เราทุกคนเขา้ มารับการฝึกอบรมลูกเสือทุกคน จะตอ้ งคิดและระลึกวา่ “เราท้งั หลายเป็นพี่นอ้ งกนั เท่าน้นั ” ต่อจากน้นั ไดร้ ับการสัง่ สอนถึงการแตง่ กาย เปลี่ยนผา้ ผกู คอเป็ นสีกรมท่า วธิ ีทาความเคารพ การกลดั กระดุม การคาดเขม็ ขดั การผกู เชือกหมวกปี ก การพบั ผา้ ผกู คอ การจบั มือแบบลูกเสือ เราชกั จะสานึกข้ึนมาแลว้ สิวา่ “เราเป็ นลูกเสือข้ึนมา 5%” เวลา 08.30 น. ท่านรองประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ (ปลดั กระทรวง ศึกษาธิการ) สั่งใหเ้ รียกแถวหมู่บนเนินรอบเสาธง เป็นรูปคร่ึงวงกลม เบ้ืองหลงั เสาธงออกไปเป็นแถว ของท่านวทิ ยากรผฝู้ ึกสอนของเรา หวั หนา้ หมู่ 1 - 2 ออกไปชกั ธงชาติข้ึนสู่ยอดเสา นายหมู่ หมู่ 3 นาร้องเพลงชาติ และนาสวดมนต์ หลงั จากถอดหมวกสงบน่ิงเคารพราลึกพระคุณแด่ท่านผมู้ ี อุปการะแก่การลูกเสือแลว้ ท่านเลขาธิการคณะกรรมการบริหารฯ (อธิบดีกรมพลศึกษา) กล่าวเชิญท่าน ประธานใหโ้ อวาท ซ่ึงคณะลูกเสือ-วสิ ามญั ซาบซ้ึงตรึงอยใู่ นดวงใจแน่นสนิทจนถึงวนั น้ี “ประวตั ิการลูกเสือแห่งชาติ จะบนั ทึกวา่ ลูกเสือวสิ ามญั เกิดข้ึนแลว้ ในประเทศไทยในวนั น้ีและ ต้งั แตบ่ ดั น้ีท่านท้งั หลายจะเป็ นผทู้ าการบุกเบิก Pioneer วางรากฐานลูกเสือวสิ ามญั แห่งประเทศไทย ต่อไป” เมื่อจบโอวาทไดแ้ นะนาใหร้ ู้จกั กบั คณะผฝู้ ึกสอนแก่เราทวั่ ทุกคน โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ นายอบั ดุล กาเดอร์ (Mr. Ubdul Kader) ผตู้ รวจการลูกเสือแห่งภาคตะวนั ออกไกล ท่านผนู้ ้ีไดเ้ อาใจใส่ฝึกฝนอบรม คณะผบู้ งั คบั -บญั ชาลูกเสือวสิ ามญั ตลอดมาและทุก ๆ รุ่น 3 วนั แห่งการอบรมวชิ าผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือ วสิ ามญั ข้นั ความรู้เบ้ืองตน้ P.T.C. (Pretiminary Training Course) พอที่จะทาใหพ้ วกเราท้งั 65 ท่านมี ความสานึกในคุณคา่ ของขบวนการลูกเสือพอตวั ที่ชดั แจง้ กค็ ือ เราออกจากคา่ ยฝึกอบรมในวนั สุดทา้ ยมนั แตกตา่ งเม่ือวนั แรกของทางเขา้ ไปสู่คา่ ยมาก ความเหนียมอายที่เรามีในวนั ก่อนไม่มีเหลืออยอู่ ีกแลว้ เรา ออกจากค่ายดว้ ยความภาคภูมิใจ “เคร่ืองแบบลูกเสือเป็นเครื่องหมายแสดงใหผ้ อู้ ่ืนที่เขา้ ใจรู้วา่ เราไดเ้ พิ่ม ความเป็นคนให้แก่ตนอีก 40% 4 มิถุนายน 2506 เราทุกคนไดม้ าพร้อมกนั ณ สถานที่เดิมอีกคร้ังหน่ึง คราวน้ีพอมาถึงกไ็ ดร้ ับ หมวกทรงอ่อนสีเขียว สายรัดถุงเทา้ มีพสู่ ีแดง อินทรธนูเป็นสีเขียว เอาอีกแลว้ หลายคนบน่ วา่ เอน่ีมนั เครื่องแบบอะไรกนั หนอ ลองนึกเทียบเคียงก็ใหร้ ู้สึกวา่ คลา้ ย ๆ ตวั ลิเกเขา้ ไปแลว้ ปะไร หลงั จากประกอบ พธิ ีรอบเสาธงแลว้ จึงคอ่ ยอุ่นใจข้ึนที่รู้วา่ ท่ีเราแตง่ น้นั คือเครื่องแบบลูกเสือวสิ ามญั ตอนค่ารถมาขนเราไป

93 วดั สระเกศราชวรมหาวหิ าร เขา้ นมสั การพระพุทธรูปในพระอุโบสถ สักการะพระรัตนตรัย ขอรับพระ โอวาท และน้าพระพทุ ธมนตจ์ ากองคส์ มเดจ็ พระสงั ฆราช แตท่ รงประชวรท่านเจา้ คุณสุธรรมธีรคุณแทน ออกจากพระอุโบสถก็ไดร้ ับคาสอบถามตวั เองถึงการท่ีจะเขา้ สู่สมาชิกภาพของขบวนการลูกเสือวสิ ามญั เรานง่ั พิจารณาสารวจตนเอง Vigil หรือ Self Examination ดว้ ยอารมณ์สงบ เวลา 1 ชวั่ โมง เสร็จพธิ ี กลบั มาค่ายเกาะลอย ลุมพนิ ี เขา้ สู่พิธีปฏิญาณตนเขา้ เป็นลูกเสือวสิ ามญั หลายคนบอกวา่ รู้สึกซาบซ่านไป ทว่ั ขมุ ขน เมื่อยกมือทาสัญลกั ษณ์ปลายมือซา้ ยแตะดา้ มธงจาลองคณะลูกเสือแห่งชาติ กล่าวคาปฏิญาณ ภาคภูมิใจเม่ือทา่ นผกู้ ่อกาเนิดไดป้ ระดบั แถบสีที่ตน้ ไหล่ซา้ ย ท้งั ไดท้ ราบความหมายของสีตา่ ง ๆ น้นั บดั น้ีเราท้งั 65 คน เป็นลูกเสือวสิ ามญั รุ่นแรกไปถวายบงั คมพระบรมรูป สมเดจ็ พระมหาธีรราชเจา้ ซ่ึง สถิตยอ์ ยหู่ นา้ สวนลุมพินี ราลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณท่ีไดท้ รงพระราชทานกาเนิดลูกเสือไทย รุ่งข้ึนมี การประชุมแต่งต้งั กรรมการคณะลูกเสือวสิ ามญั การกลบั บา้ นของพวกเราคราวน้ีอ่ิมเอมใจ ใคร ๆ ทกั วา่ เฮ!้ น้นั ติดโบวอ์ ะไรคลา้ ยลิเก เราตอบช้ีแจงใหเ้ ขาเหล่าน้นั รู้ถึงความหมายดว้ ยความทรนง วนั ที่ 12 – 19 กนั ยายน 2506 เดินทางมา ณ ศูนยฝ์ ึกอบรมลูกเสือแห่งชาติ คา่ ยลูกเสือวชิราวธุ ต. บางพระ อ.ศรีราชา จ. ชลบุรี เขา้ รับการฝึกอบรมข้นั วดู แบดจ์ (Rover Wood Badge) เป็นที่น่าเสียใจ วา่ คราวน้ีขาดเพ่อื น Rover ไปถึง 9 คน คงเขา้ รับการฝึกอบรมเพียง 56 คน ป่ วยกลบั ในระหวา่ งอบรม เสีย 1 ทา่ น กิจกรรมท่ีเราปฏิบตั ิ งานใหญ่ ๆ ทุกคร้ังที่ทางการขอมาหรือกิจกรรมที่เป็นงานใหญ่ เรามีการประชุม หารือวางแผนการ “ Crew meeting” ณ ศูนยล์ ูกเสือวสิ ามญั ช่างก่อสร้างอุเทนถวาย ทุกคร้ัง เรามีการประชุมหารือพบปะกนั ที่ศูนยท์ ุกวนั พฤหสั บดีตน้ เดือนของทุกเดือนเป็ นประจา คงปฏิบตั ิตามอุดมคติของลูกเสือวสิ ามญั บริการ เดินทางไกล อยคู่ ่ายพกั แรมเป็นกิจประจาเม่ือหยดุ เรียนทุก ๆ ภาค “บริการ” สาคญั ๆ ที่เราไดก้ ระทาและเป็นผลดี ไดแ้ ก่ 1. การสวนสนามในวนั ลูกเสือและแสดงกิจกรรมลูกเสือวสิ ามญั ตลอดมา ต้งั แต่ 1 กรกฎาคม 2506 2. วนั ที่ 23 – 24 พฤศจิกายน ออกบริการตามสถานที่ตา่ ง ๆ ในวนั ท่ี 25 พฤศจิกายนของทุกปี เราสละโลหิตใหท้ ่ีกรมแพทยท์ หารบก และสภากาชาดไทย อุทิศถวายพระมงกุฎเกลา้ ฯ ปี ละ 200 คน ทุกปี มา 3. จดั งานประชุมคณะผบู้ งั คบั บญั ชาลูกเสือทวั่ ราชอาณาจกั ร (Indaba) เม่ือ 26 ตุลาคม 2508 4. เป็นศูนยด์ าเนินการสร้างค่ายถนนหนทางในงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ คร้ังที่ 4 เร่ิมต้งั แต่ วนั ท่ี 3 กนั ยายน ถึง 1 ธนั วาคม 2508 5. ลูกเสือวสิ ามญั รุ่น 1 บริจาคเงินส่วนตวั สร้าง Rover Den ณ ค่ายลูกเสือวชิราวธุ ดว้ ยเงิน 3,500 บาท

94 6. ลูกเสือวสิ ามญั กอง 1 ช่างก่อสร้างอุเทนถวาย กอง 2 ช่างก่อสร้างดุสิต กอง 9 ช่างกลปทุม วนั กอง 10 ราชสิทธาราม ช่วยเหลือผปู้ ระสบอุทกภยั ภาคอีสาน และหนองคายในนามคณะลูกเสือราช ประชานุเคราะห์ กอง 1 ไป 2 คราว เวลาเกือบ 2 เดือน 7. ช่วยเก็บบตั รผา่ นประตูงานเอเชียนเกมส์ 12 วนั ๆ ละ 500 คน

เร่ือง วนิ ัย ควำมเป็ นระเบยี บเรียบร้อยและสัญญำณต่ำงๆ 95 บทเรียนท่ี 5 เวลำ 60 นำที ขอบข่ำยวชิ ำ 1. ความหมายของระเบียบวนิ ยั ที่ใชใ้ นการฝึกอบรมลูกเสือ 2. การแตง่ เคร่ืองแบบและโอกาสในการแต่งเคร่ืองแบบ 3. การใชแ้ ละการปฏิบตั ิตามสัญญาณมือและสญั ญาณนกหวดี จุดหมำย เขา้ ใจเรื่องการแต่งเครื่องแบบลูกเสือตามกฎกระทรวง และปฏิบตั ิตาม ความหมายของวนิ ยั ลูกเสือ ระเบียบแถวสากล สญั ญาณมือ และสญั ญาณนกหวดี วตั ถุประสงค์ เม่ือจบบทเรียนน้ีแลว้ ผเู้ ขา้ รับการฝึกอบรมควรจะสามารถ 1. บรรยายความสาคญั ของวนิ ยั ลูกเสือได้ 2. อธิบายและแต่งเคร่ืองแบบไดถ้ ูกตอ้ งตามโอกาสที่เหมาะสม 3. ใชส้ ญั ญาณมือเรียกแถวสากลและสญั ญาณนกหวดี ไดถ้ ูกตอ้ ง วธิ ีสอน / กจิ กรรม 1. บรรยายประกอบการสาธิต 2. การฝึกใหป้ ฏิบตั ิ 3. หรือชมวดี ีโอ หรือภาพยนตร์ (ถา้ มี) สื่อกำรสอน 1. แผนภูมิ 2. ส่ือประกอบการบรรยายประเภทอิเล็คทรอนิก 3. วดิ ีโอ หรือภาพยนตร์ (ถา้ มี) 4. เคร่ืองหมายตา่ ง ๆ 5. เอกสารประกอบอ่ืน ๆ กำรประเมินผล 1. การสงั เกต 2. การซกั ถาม

96 เนื้อหำวชิ ำ ประเทศชาติที่เจริญรุ่งเรือง และสามารถพฒั นาใหก้ า้ วหนา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว ลว้ นแตพ่ ลเมืองของ ประเทศน้ีไดร้ ับการฝึกอบรมใหเ้ ป็นผมู้ ีระเบียบวนิ ยั มีความรับผดิ ชอบต่อสังคมและประเทศชาติ สาหรับ ประเทศไทย จากประวตั ิศาสตร์เป็นท่ีประจกั ษว์ า่ การกอบกูอ้ ิสรภาพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราชน้นั เพราะความมีวนิ ยั ท่ีดีของบรรพบุรุษไทยยคุ น้นั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลมหาราช ไดท้ รงมีพระบรมราโชวาทเกี่ยวกบั เร่ืองวินยั ไว้ หลายประการในโอกาสตา่ ง ๆ กนั วา่ “สามคั คี มีวนิ ยั คือปัจจยั สร้างชาติ” “ระเบียบวนิ ยั ดี เป็นส่ิงช้ีความเจริญ” “ถา้ ต้งั ใจศึกษาฝึกหดั ตนตามระเบียบวนิ ยั และแบบธรรมเนียมของลูกเสือใหแ้ น่วแน่ต่อไปก็จะมี ความรู้ ความดีความเจริญอยา่ งเตม็ ท่ี และสามารถท่ีจะคุม้ ครองรักษาประเทศชาติไวไ้ ดอ้ ยา่ งแน่นอน” “หลกั การและจรรยาของลูกเสือน้นั เม่ือไดฝ้ ึกหดั อบรมใหถ้ ูกตอ้ งครบถว้ นโดยบริสุทธ์ิแลว้ ยอ่ มจะทาใหบ้ ุคคลมีจิตใจท่ีพร้อมเพรียง มุง่ ดีมุ่งเจริญต่อกนั ยงิ่ ข้ึน และเขม้ แขง็ เช่ือมน่ั ในความดีงามมาก ข้ึน ท้งั มีระเบียบวนิ ยั ที่ดีในที่สุด” “วนิ ยั ” ตามพจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตสถาน พ.ศ. 2525 วา่ “การอยใู่ นระเบียบแบบแผน และขอ้ บงั คบั ขอ้ ปฏิบตั ิ “วนิ ยั ” ไมใ่ ช่เป็นเร่ืองของทหารหรือตารวจเทา่ น้นั เป็ นเรื่องของทุกคนในชาติไม่วา่ จะอยใู่ น ฐานะตาแหน่งหนา้ ท่ีการงานใดๆ ในหน่วยราชการ องคก์ าร หา้ งร้าน แมแ้ ตง่ านส่วนตวั ยอ่ มตอ้ งการได้ ผทู้ ี่มีระเบียบวนิ ยั เขา้ มาร่วมดว้ ยกนั ท้งั น้นั