Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ค 12101

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ค 12101

Published by JUBBI JUB, 2021-05-09 13:37:05

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ค 12101

Search

Read the Text Version

10. สอื่ การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บตั รภาพ 4.แถบกระดาษสีท่ีมีความยาวแตกต่างกนั 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2. เครอื่ งมอื 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แผนการจดั การเรียนรู้ 21 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 29 ชั่วโมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 เรือ่ ง การบวกและการลบจำนวนนบั ไม่เกิน 1,000 เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 21 เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลที่เกดิ ข้ึนจากการดำเนินการสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตวั ชี้วดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การแสดงวิธีทำและหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการลบ เรมิ่ จากการวิเคราะห์โจทยป์ ญั หา บอกสง่ิ ท่ี โจทยก์ ำหนดให้และส่งิ ทโี่ จทยถ์ าม จากนั้นจึงวางแผนแก้ปัญหา แล้วแสดงวธิ ีทำเพื่อหาคำตอบ พรอ้ มทัง้ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) หาคำตอบของโจทย์ปัญหาการลบ พรอ้ มทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ (K) 2) วิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาการลบท่กี ำหนดใหไ้ ด้ (K) 3) เขยี นแสดงวธิ ีทำโจทย์ปญั หาการลบทีก่ ำหนดให้ได้ (P) 4) รับผิดชอบต่อหนา้ ที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสร้างโจทยป์ ญั หาพรอ้ มทัง้ หาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแกป้ ัญหา ✓ การส่อื สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอื่ มโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ครใู หน้ ักเรียนอา่ นโจทยป์ ัญหาในหนังสอื เรยี นหน้า 129 แล้วถามนักเรยี นดังนี้ ❖ โจทย์ถามอะไร ❖ โจทย์บอกอะไร ❖ จะหาคำตอบได้อยา่ งไร 2. ครูติดแถบกระดาษสแี สดงจำนวนสีเทยี นเขียนตวั เลขแสดงจำนวนกำกับไว้ ครูตดิ แถบกระดาษสี แสดงจำนวนสไี ม้ เขยี นตวั เลขแสดงจำนวนกำกบั ไว้ ขั้นสอน 3. ครูให้นักเรียนเปรียบเทยี บแถบกระดาษสีว่าแถบกระดาษสีของสีชนิดใดส้ันกวา่ นักเรียนตอบว่า แถบกระดาษสีของสไี มส้ ั้นกวา่ ครอู ธิบายว่า แถบกระดาษสขี องสีไม้ส้ันกว่าแสดงว่าจำนวนของสไี ม้นอ้ ยกว่า จำนวนของสเี ทยี น 4. ครูถามวา่ สีไมน้ อ้ ยกว่าสเี ทียนอยเู่ ทา่ ไร และหาคำตอบได้อย่างไร นกั เรยี นตอบวา่ หาคำตอบได้ จาก นำจำนวนสเี ทยี นลบดว้ ยจำนวนสีไม้ ครใู หน้ ักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลักษณแ์ ละหาคำตอบพร้อม ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ จากนน้ั ครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบ ของโจทย์ในกรอบทา้ ยหนา้ 129 5. ครูให้นักเรียนอ่านโจทย์ปัญหาในหนังสือเรยี นหนา้ 130 แล้วถามนักเรยี นดงั นี้ ❖ โจทยถ์ ามอะไร ❖ โจทย์บอกอะไร ❖ จะหาคำตอบได้อยา่ งไร 6. ครตู ิดแถบกระดาษสแี สดงจำนวนแพะและเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนกำกับไว้ ครูถามนกั เรียนวา่ จากทโ่ี จทย์กำหนดให้ แพะหรอื วัว มีจำนวนนอ้ ยกวา่ นกั เรยี นตอบวา่ ววั ครูถามนักเรียนวา่ ตดิ แถบกระดาษ สีแสดงจำนวนวัวส้นั กวา่ หรอื ยาวกว่าแพะ เพราะเหตใุ ด นกั เรียนตอบว่า ตอ้ งตดิ แถบกระดาษสีแสดงจำนวนววั ส้ันกวา่ แพะ เพราะมีจำนวนวัวน้อยกว่าแพะ ครูตดิ แถบกระดาษสแี สดงจำนวนวัว 7. ครถู ามนกั เรียนวา่ จากทโี่ จทย์กำหนดให้ วัวน้อยกวา่ แพะเท่าไร นักเรียนตอบวา่ 190 ตวั ครูเขียน จำนวนทว่ี วั นอ้ ยกว่าแพะ 190 ตวั ลงในแถบกระดาษสีแสดงจำนวน

8. ครถู ามนกั เรยี นวา่ หาจำนวนวัวไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนตอบวา่ นำ 580 ลบดว้ ย 190 ครใู ห้นักเรียน เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ ละหาคำตอบ พร้อมตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบจากนนั้ ครูให้นกั เรียน ช่วยกนั เขียนประโยคสัญลักษณ์ และหาคำตอบของโจทย์ปญั หาในกรอบทา้ ยหนา้ 130 ขน้ั สรปุ 9. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรยี นโดยให้นักเรียนเขยี นประโยคสญั ลักษณ์และหาคำตอบของโจทย์ ปญั หาเปน็ รายบคุ คลตามหนงั สือเรียนหนา้ 132 ถ้าพบวา่ มีนกั เรยี นยงั เขยี นประโยคสัญลักษณ์และหาคำตอบ ของโจทย์ปัญหาไม่ถกู ตอ้ งครใู ห้นกั เรยี นมาฝกึ เพิ่มเติมกับครูเปน็ รายบุคคล 10. สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.แถบกระดาษสที มี่ ีความยาวแตกต่างกนั 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่ ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 22 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ปกี ารศกึ ษา 2564 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 เวลา 29 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรือ่ ง การบวกและการลบจำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 22 เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ จำนวน ผลท่ีเกิดขนึ้ จากการดำเนนิ การสมบตั ขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ชีว้ ดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขนั้ ตอนของจำนวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแสดงวธิ ีทำและหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการลบ เร่ิมจากการวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา บอกสิ่งท่ี โจทยก์ ำหนดให้และส่งิ ทโ่ี จทยถ์ าม จากนน้ั จึงวางแผนแก้ปัญหา แล้วแสดงวธิ ีทำเพอื่ หาคำตอบ พรอ้ มท้ัง ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1)หาคำตอบของโจทย์ปญั หาการลบ พร้อมทัง้ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ (K) 2)วิเคราะหโ์ จทย์ปัญหาการลบท่กี ำหนดใหไ้ ด้ (K) 3)เขียนแสดงวิธีทำโจทยป์ ัญหาการลบท่กี ำหนดให้ได้ (P) 4)รับผิดชอบต่อหนา้ ท่ีทไี่ ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ัญหาและการสร้างโจทย์ปัญหาพรอ้ มทั้งหาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ✓ การแก้ปญั หา ✓ การส่ือสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชื่อมโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สรา้ งสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 8. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. ครูใหน้ กั เรยี นอา่ นโจทย์ปญั หาในหนงั สอื เรียนหนา้ 131 แลว้ ถามนักเรยี นดังน้ี ❖ โจทย์ถามอะไร ❖ โจทย์บอกอะไร ❖ จะหาคำตอบได้อยา่ งไร 2. ครูตดิ แถบกระดาษสีแสดงจำนวนต้นเงาะและเขยี นตัวเลขแสดงจำนวนกำกับไว้ ครถู ามนักเรยี นวา่ จากทโ่ี จทยก์ ำหนดให้ ต้นเงาะกับต้นทุเรียน ตน้ อะไร มจี ำนวนน้อยกว่า นักเรยี นตอบว่า ต้นเงาะ ครูถามว่า ต้นเงาะกบั ตน้ ทุเรยี น ต้นอะไรมจี ำนวนมากกว่า นกั เรียนตอบวา่ ต้นทุเรียน ครูถามนักเรียนว่า ตอ้ งตดิ แถบ กระดาษสีแสดงจำนวนต้นทุเรียนยาวกวา่ หรอื สั้นกว่าตน้ เงาะ เพราะเหตุใด ขัน้ สอน 3. นักเรียนตอบว่า ตดิ แถบกระดาษสีแสดงจำนวนตน้ ทเุ รยี นยาวกว่า เพราะว่า มจี ำนวนตน้ ทุเรยี น มากกว่าต้นเงาะ ครตู ดิ แถบกระดาษสีแสดงจำนวน ต้นทเุ รียน ครถู ามนกั เรียนว่า จากท่โี จทย์กำหนดให้ ต้น เงาะน้อยกว่าต้นทุเรียนหรอื ตน้ ทุเรียนมากกวา่ ต้นเงาะเทา่ ไร นกั เรยี นตอบว่า 124 ตน้ ครเู ขยี นจำนวนต้น ทเุ รยี นมากกว่าต้นเงาะ 124 ตน้ ลงในแถบกระดาษสี 4. ครูถามนักเรียนว่า หาจำนวนตน้ ทเุ รยี นได้อยา่ งไร นักเรยี นตอบว่า นำ 450 บวกกบั 124 ครใู ห้ นกั เรียนช่วยกนั เขยี นประโยคสญั ลักษณ์และหาคำตอบ พรอ้ มตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ จากนนั้ ครใู ห้นักเรยี นเขยี นประโยคสญั ลักษณ์และหาคำตอบของโจทย์ปัญหาในกรอบท้ายหน้า 131 ขัน้ สรปุ 5. จากนน้ั ครูและนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปสิ่งทีไ่ ด้เรียนรู้ ส่ิงท่ีได้เรยี นรู้ • การแก้โจทย์ปัญหาทำไดโ้ ดย อ่านทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 6. จากน้นั ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด 2.18 หน้า 84 − 86 10. สือ่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.แถบกระดาษสที ม่ี ีความยาวแตกต่างกนั

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจัดการเรยี นรู้ 23 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปกี ารศึกษา 2564 ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 2 เวลา 29 ช่วั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง การบวกและการลบจำนวนนับไมเ่ กนิ 1,000 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 23 เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดำเนินการสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การแสดงวธิ ีทำและหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการลบ เร่มิ จากการวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา บอกสง่ิ ท่ี โจทยก์ ำหนดให้และสิง่ ที่โจทยถ์ าม จากนั้นจึงวางแผนแกป้ ญั หา แลว้ แสดงวิธที ำเพ่ือหาคำตอบ พรอ้ มทงั้ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1)หาคำตอบของโจทยป์ ัญหาการลบ พร้อมทั้งตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบได้ (K) 2)วิเคราะห์โจทย์ปัญหาการลบท่ีกำหนดให้ได้ (K) 3)เขยี นแสดงวิธีทำโจทย์ปญั หาการลบทีก่ ำหนดให้ได้ (P) 4)รบั ผิดชอบตอ่ หน้าที่ท่ไี ดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทย์ปัญหาและการสรา้ งโจทย์ปญั หาพรอ้ มทงั้ หาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแก้ปญั หา ✓ การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สรา้ งสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นโจทย์ปัญหาในหนงั สือเรยี นหน้า 133 แลว้ ถามดังน้ี ❖ โจทยถ์ ามอะไร ❖ โจทย์บอกอะไร 2. ครถู ามนักเรยี นวา่ ทอดนอ่ งไกไ่ ปแลว้ 147 ช้ิน ทอดเพิม่ อกี เทา่ ไร จงึ จะไดน้ ่องไกท่ อด 250 ช้นิ หรือ 147บวกกบั จำนวนใด แล้วได้ 250 เขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ได้อย่างไร 3. นักเรียนตอบว่า 147 + = 250 ครถู ามนักเรียนวา่ จากประโยคสัญลักษณ์น้ีหาคำตอบได้ อยา่ งไร นกั เรียนตอบวา่ ใช้ความสมั พันธ์ของการบวกและการลบ จะได้250 − 147 = 103 ครใู หน้ กั เรียน ตรวจสอบคำตอบว่า 147 + 103 = 250 จรงิ หรือไม่ 4. นกั เรียนตรวจสอบคำตอบแลว้ ถกู ต้อง จะได้ 103 เปน็ คำตอบทถ่ี ูกต้อง ดงั นนั้ ทอดน่องไก่เพิ่มอกี 103 ช้ิน จากน้นั ครใู ห้นกั เรียนชว่ ยกันเขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคำตอบของโจทย์ปัญหาในกรอบท้ายหนา้ 133 ข้ันสอน 5. ครูใหน้ ักเรยี นอา่ นโจทยป์ ญั หาในหนงั สือเรียนหนา้ 134 แลว้ ถามดังนี้ ❖ โจทยถ์ ามอะไร ❖ โจทยบ์ อกอะไร 6. ครถู ามนักเรยี นว่า มเี งินอยู่ 700 บาทซื้อของไปเท่าไร แลว้ เหลือเงนิ 420 บาท หรือ 700 ลบดว้ ย จำนวนใดแลว้ ได้ 42 เขยี นเปน็ ประโยคสญั ลกั ษณ์ไดอ้ ย่างไร 7. นกั เรยี นตอบวา่ 700 − = 420 ครถู ามนกั เรียนวา่ จากประโยคสญั ลกั ษณ์น้ี หาคำตอบได้ อยา่ งไรนักเรียนตอบว่า ใชค้ วามสมั พันธข์ องการบวกและการลบจะได้ 700 − 420 = 280 ครูใหน้ ักเรยี น ตรวจสอบคำตอบวา่ 700 − 280 = 420 จรงิ หรอื ไม่ นกั เรยี นตรวจสอบคำตอบแลว้ ถูกตอ้ งจะได้ 280 เป็น คำตอบท่ถี ูกต้อง ดังนัน้ ซือ้ ของไป 280 บาท 8. จากนน้ั ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์และหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาขอ้ 1 และ 2 ในกรอบทา้ ย หนา้ 134

ข้นั สรุป 9. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยให้นักเรยี นเขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละหาคำตอบของโจทย์ ปญั หาเปน็ รายบคุ คลตามหนังสอื เรียนหนา้ 136 ถ้าพบว่ามีนกั เรียนยังเขยี นประโยคสญั ลกั ษณแ์ ละหาคำตอบ ของโจทยป์ ัญหาไม่ถูกต้อง ครูใหน้ กั เรยี นมาฝึกเพิ่มเตมิ กับครูเปน็ รายบุคคล 10. จากนั้นครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปสง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้ ส่งิ ท่ีได้เรยี นรู้ • การแกโ้ จทยป์ ัญหาทำไดโ้ ดยอา่ นทำความเขา้ ใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา หา คำตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 11. จากนั้นให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หัด 2.19 หนา้ 87 − 88 10. สอื่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บัตรตวั เลขและบัตรเคร่ืองหมาย 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุม่ 2. เครอื่ งมอื 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกล่มุ ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 24 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปีการศึกษา 2564 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 29 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง การบวกและการลบจำนวนนับไมเ่ กิน 1,000 เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 24 เรื่อง การสรา้ งโจทยป์ ญั หาการบวกและ โจทย์ปญั หาการลบจากภาพ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลท่ีเกดิ ขน้ึ จากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตัวช้ีวดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับไม่เกนิ 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การสร้างโจทยป์ ัญหา ตอ้ งมที งั้ ส่วนที่โจทยบ์ อกและส่วนทโ่ี จทย์ถาม และโจทย์ปญั หาท่ีสร้างต้องมี ความเปน็ ไปได้ 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธิบายหลกั การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบจากภาพได้ (K) 2) สรา้ งโจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบจากภาพได้ (P) 3) รบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ที่ท่ไี ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ัญหาพรอ้ มทัง้ หาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแก้ปัญหา ✓ การสอ่ื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่ือมโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์

7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ครทู บทวนเร่ืองการแก้โจทยป์ ญั หาว่า ถ้าตอ้ งการแกโ้ จทยป์ ัญหาตอ้ งรู้อะไรบา้ ง นักเรียนตอบวา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทยบ์ อกอะไร ครถู ามนกั เรียนต่อว่า แล้วถ้าตอ้ งการสร้างโจทย์ปญั หา ในโจทย์ปัญหาที่สรา้ ง ตอ้ งมีส่วนใดบ้าง นกั เรียนตอบว่า โจทยป์ ญั หาท่ีสร้างต้องมสี ว่ นท่ีโจทยถ์ าม และส่วนทีโ่ จทย์บอก ขั้นสอน 2. ครูตดิ บตั รภาพร้านขายผลไมต้ ามหนังสือเรียนหน้า 137 แล้วสนทนาเกย่ี วกบั ภาพ เชน่ ในภาพมี ผลไมอ้ ะไรบา้ ง 3. ครใู หน้ กั เรยี นชว่ ยกนั สร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบเกี่ยวกับผลไม้ในภาพ ครู อาจยกตวั อยา่ งโจทย์ปัญหาท่สี ร้างไว้แลว้ ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 137 4. จากนั้นใช้การถาม-ตอบ เพอื่ ให้นักเรียนบอกสว่ นที่โจทย์ถาม ส่วนท่ีโจทย์บอก และประโยค สญั ลกั ษณ์ ซ่ึงครูควรเน้นย้ำวา่ โจทยป์ ัญหาที่สรา้ งมีความเป็นไปไดห้ รือไม่ และคำตอบเปน็ เทา่ ไร ข้ันสรปุ 5. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนโดยให้นักเรียนสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ จากภาพ เป็นรายบุคคลตามหนังสอื เรยี นหน้า 140 ถ้าพบวา่ มนี กั เรยี นยังสร้างโจทยป์ ัญหาไม่ถกู ต้อง ครูให้ นักเรยี นมาฝึกเพมิ่ เติมกบั ครูเปน็ รายบุคคล 6. จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปส่งิ ที่ได้เรยี นรู้ สิ่งทไี่ ด้เรียนรู้ • การสรา้ งโจทย์ปญั หา ตอ้ งมีท้งั สว่ นท่โี จทย์บอกและสว่ นท่ีโจทย์ถาม นอกจากน้ี โจทยป์ ัญหาท่ีสร้างตอ้ งมคี วามเป็นไปได้ 10. ส่อื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บัตรภาพ 4.บตั รโจทย์ บัตรโจทย์ถาม บัตรโจทย์บอก บัตรประโยคสญั ลกั ษณ์

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 25 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปกี ารศกึ ษา 2564 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2 เวลา 29 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง การบวกและการลบจำนวนนับไมเ่ กิน 1,000 เวลา 1 ชัว่ โมง แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 25 เรื่อง การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกและ โจทย์ปญั หาการลบจากภาพ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลที่เกดิ ขน้ึ จากการดำเนินการสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ช้วี ดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอนของจำนวนนับไมเ่ กนิ 1,000 และ 08 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การสร้างโจทยป์ ญั หา ตอ้ งมีทงั้ สว่ นท่ีโจทย์บอกและส่วนที่โจทย์ถาม และโจทย์ปัญหาทีส่ รา้ งตอ้ งมี ความเปน็ ไปได้ 4. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1) อธิบายหลักการสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบจากภาพได้ (K) 2) สร้างโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบจากภาพได้ (P) 3) รบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแกโ้ จทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทยป์ ัญหาพร้อมท้ังหาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ✓ การแก้ปัญหา ✓ การส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคดิ สรา้ งสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 8. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครูทบทวนเร่ืองการแกโ้ จทยป์ ญั หาว่า ถ้าต้องการแกโ้ จทย์ปัญหาตอ้ งรูอ้ ะไรบา้ ง นักเรียนตอบวา่ โจทย์ถามอะไร โจทย์บอกอะไร ครถู ามนักเรียนต่อว่า แล้วถ้าต้องการสรา้ งโจทยป์ ญั หา ในโจทยป์ ัญหาที่สร้าง ต้องมสี ว่ นใดบา้ ง นักเรียนตอบวา่ โจทยป์ ัญหาท่ีสร้างต้องมสี ่วนท่ีโจทย์ถาม และส่วนทีโ่ จทย์บอก ข้ันสอน 2. ครูติดบัตรภาพมงั คดุ และเงาะพร้อมปา้ ยบอกราคาบนกระดาน แลว้ สนทนาเกีย่ วกับภาพ เช่น ใน ภาพมผี ลไมอ้ ะไรบ้าง และราคาเท่าไร 3. ครใู ห้นักเรยี นช่วยกันสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกีย่ วกบั ผลไมใ้ นภาพ ครู อาจยกตวั อย่างโจทยป์ ัญหาทสี่ รา้ งไว้แลว้ ตามหนงั สอื เรียนหน้า 138 4. จากนัน้ ใช้การถาม-ตอบเพอ่ื ใหน้ ักเรียนบอกส่วนที่โจทยถ์ าม ส่วนที่โจทยบ์ อกและประโยค สัญลักษณ์ ซ่ึงครูควรเนน้ ยำ้ วา่ โจทย์ปัญหาทีส่ รา้ งมีความเป็นไปได้หรือไม่ และคำตอบเปน็ เทา่ ไร 5. ครูให้นักเรยี นทำกิจกรรมสรา้ งโจทยป์ ัญหาอยา่ งไรดี ดงั นี้ - แบ่งนกั เรียนออกเปน็ กลุ่มๆละเทา่ กัน - แจกบัตรภาพกลุม่ ละ 2 บัตร แล้วให้นกั เรยี นสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบ เก่ยี วกบั ภาพอยา่ งละ 1 โจทย์ 6. จากน้นั ให้นกั เรยี นสง่ ตัวแทนออกมานำเสนอซึง่ ในการนำเสนอใหน้ ักเรยี นอธิบายเกย่ี วกับโจทย์ ปญั หาทสี่ ร้าง สว่ นท่ีโจทย์บอก ส่วนทีโ่ จทย์ถาม และประโยคสญั ลักษณ์ พรอ้ มหาคำตอบ 7. ให้เพื่อนในหอ้ งช่วยกันตรวจสอบว่าโจทย์ปัญหาทส่ี รา้ งมีความเปน็ ไปได้หรอื ไม่ และคำตอบถกู ต้อง หรือไม่ หากเวลาในการนำเสนอไมเ่ พยี งพอครอู าจให้นกั เรยี นส่งเปน็ ใบงานเพ่ือให้ครตู รวจสอบความถกู ต้อง และใหข้ ้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ ขนั้ สรปุ 8. จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปส่งิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้ สง่ิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ • การสรา้ งโจทย์ปญั หา ต้องมีทัง้ ส่วนทโ่ี จทยบ์ อกและสว่ นทีโ่ จทยถ์ าม นอกจากนี้ โจทยป์ ัญหาท่ีสรา้ งต้องมคี วามเป็นไปได้ 9. จากนั้นใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 2.20 หน้า 89 – 90

10. สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.บัตรภาพ 4.บตั รโจทย์ บัตรโจทยถ์ าม บัตรโจทย์บอก บตั รประโยคสัญลกั ษณ์ 11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมอื 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจัดการเรยี นรู้ 26 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ปกี ารศึกษา 2564 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 29 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การบวกและการลบจำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 26 เร่อื ง การสรา้ งโจทย์ปัญหาการบวกและ โจทย์ปญั หาการลบจากภาพ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนินการสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตัวชีว้ ดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอนของจำนวนนบั ไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การสร้างโจทยป์ ัญหา ตอ้ งมที ง้ั ส่วนท่ีโจทย์บอกและสว่ นทีโ่ จทยถ์ าม และโจทย์ปญั หาท่ีสรา้ งต้องมี ความเปน็ ไปได้ 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธิบายหลกั การสร้างโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบจากภาพได้ (K) 2) สรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบจากภาพได้ (P) 3) รับผิดชอบต่อหนา้ ท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ญั หาพร้อมทั้งหาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแก้ปญั หา ✓ การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่ือมโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคดิ สร้างสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

8. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครูทบทวนความรเู้ รื่อง การสรา้ งโจทย์ปัญหาการลบของจำนวนนบั ไมเ่ กิน 100 โดยครตู ิดบตั รภาพ บนกระดาน แลว้ ครูสมุ่ นักเรียนออกมาสรา้ งโจทย์ปญั หาการลบของจำนวนนบั ไม่เกิน 100 พร้อมท้ังวิเคราะห์ โจทย์ปญั หาหน้าช้นั เรยี น จากนัน้ ครูตรวจสอบความถูกต้อง ขัน้ สอน 2. ครตู ิดบัตรตัวเลขแสดงจำนวนบนกระดาน เชน่ 950 250 300 3. ครูสาธติ วิธกี ารสร้างโจทย์ปญั หาการลบจากจำนวนที่กำหนด พร้อมท้ังแสดงวิธีหาคำตอบและ ตรวจสอบ ความสมเหตสุ มผลของคำตอบ เชน่ “นุ่นมเี งนิ 950 บาท ซ้อื อุปกรณก์ ารเรียน 250 บาท ซอื้ กระเปา๋ นักเรียน 300 บาท นนุ่ เหลือเงนิ ก่ี บาท” 4. ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี น กลุ่มละ 3-4 คน จากนั้นครใู ห้แตล่ ะกล่มุ วาดภาพสงิ่ ของพร้อมกำหนดราคา สง่ิ ของ นั้น เสร็จแลว้ ให้แลกเปลย่ี นกับเพื่อนกลมุ่ ขา้ งๆ เพ่ือนำมาสร้างโจทยป์ ญั หา พรอ้ มวเิ คราะห์โจทย์ปญั หาและหา คำตอบ โดยครูคอยใหค้ ำแนะนำเพอื่ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลมุ่ เขา้ ใจ จากนน้ั ให้แต่ละกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมา นำเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น โดยครตู รวจสอบความถกู ต้อง ขน้ั สรปุ 5. จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ สงิ่ ท่ไี ด้เรียนรู้ • การสรา้ งโจทย์ปญั หา ต้องมที ้ังสว่ นทโี่ จทยบ์ อกและสว่ นทีโ่ จทย์ถาม นอกจากนี้ โจทย์ปัญหาท่ีสรา้ งตอ้ งมคี วามเปน็ ไปได้

10. สื่อการเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บัตรภาพ บัตรตวั เลข 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ 2. เคร่อื งมอื 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุม่ 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลมุ่ ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจดั การเรียนรู้ 27 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ปกี ารศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 29 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 27 เรือ่ ง การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหา การลบจากประโยคสญั ลักษณ์ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขน้ั ตอนของจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การสรา้ งโจทยป์ ัญหา ตอ้ งมที ง้ั ส่วนที่โจทย์บอกและสว่ นทีโ่ จทย์ถาม และโจทย์ปัญหาทีส่ รา้ งตอ้ งมี ความเปน็ ไปได้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายหลกั การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบจากประโยคสญั ลกั ษณ์ได้ (K) 2) สรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบจากประโยคสญั ลักษณ์ได้ (P) 3) รับผิดชอบต่อหนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ญั หาพร้อมทงั้ หาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ✓ การแก้ปญั หา ✓ การสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่อื มโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคิดสรา้ งสรรค์

7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 8. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ 1. ครูทบทวนว่า ในโจทย์ปญั หาที่สร้างต้องมีสว่ นใดบ้าง นกั เรยี นตอบวา่ โจทยป์ ญั หาต้องมีสว่ นท่ีโจทย์ ถาม และสว่ นทโ่ี จทยบ์ อก 2. ครตู ิดบตั รภาพร้านขายดอกไม้ ตามหนงั สอื เรียนหน้า 141 และ ติดบัตรประโยคสญั ลกั ษณ์ 126 + 52 = ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั สร้างโจทยป์ ญั หาจากประโยคสญั ลกั ษณ์ เชน่ ขุนมีดอกกุหลาบสีแดง 126 ดอก ดอก กหุ ลาบสีขาว 52 ดอก ขุนมดี อกกหุ ลาบสีแดงและสีขาวกี่ดอก ขัน้ สอน 3. จากน้นั ครูใช้การถาม-ตอบ เพ่อื ให้นักเรยี นบอกส่วนที่โจทยถ์ าม ส่วนท่ีโจทยบ์ อก ซึ่งครูควรเน้นย้ำ ว่าโจทย์ปัญหาท่ีสร้างมีความเปน็ ไปได้หรือไม่ และคำตอบเป็นเท่าไร 4. ครูตดิ บัตรภาพปลาทอง ปลาหางนกยงู และปลาเทวดา บนกระดาน แล้วสนทนาเกี่ยวกับภาพ เช่น ในภาพมปี ลาอะไรบ้าง ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั สร้างโจทยป์ ัญหาจากประโยคสัญลกั ษณ์ 190 − 80 = 5. ครอู าจยกตวั อยา่ งโจทย์ปัญหาที่สร้างไว้แลว้ ตามหนังสือเรยี นหนา้ 142 จากน้นั ใชก้ ารถาม-ตอบ เพื่อให้นักเรียนบอกส่วนทีโ่ จทย์ถามและส่วนที่โจทย์บอก ซ่งึ ครูควรเน้นยำ้ วา่ โจทย์ปญั หาท่ีสรา้ งมคี วามเปน็ ไป ไดห้ รือไม่ และคำตอบเปน็ เทา่ ไร ข้นั สรปุ 6. ตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยใหน้ ักเรียนสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบ เปน็ รายบุคคลตามหนงั สือเรยี นหน้า 144 ถ้าพบว่ามีนักเรยี นยงั สรา้ งโจทย์ปญั หาไมถ่ กู ต้อง ครูใหน้ กั เรยี นมาฝึก เพ่ิมเติมกับครเู ป็นรายบุคคล 7. จากนน้ั ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ สิ่งที่ไดเ้ รียนรู้ ส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้ • การสรา้ งโจทยป์ ญั หา ต้องมีท้ังส่วนที่โจทยบ์ อกและส่วนที่โจทย์ถาม นอกจากนี้ โจทยป์ ัญหาท่ีสร้างต้องมีความเปน็ ไปได้ 10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บตั รภาพ บัตรตัวเลข

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจดั การเรียนรู้ 28 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ปกี ารศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 29 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 เรื่อง การบวกและการลบจำนวนนบั ไม่เกนิ 1,000 เวลา 1 ชวั่ โมง แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 28 เรือ่ ง การสร้างโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหา การลบจากประโยคสญั ลักษณ์ 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวชี้วดั ค 1.1 ป.2/8 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขน้ั ตอนของจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การสรา้ งโจทยป์ ัญหา ตอ้ งมที ง้ั ส่วนที่โจทย์บอกและสว่ นทีโ่ จทย์ถาม และโจทย์ปัญหาทีส่ รา้ งตอ้ งมี ความเปน็ ไปได้ 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายหลกั การสรา้ งโจทย์ปญั หาการบวกและโจทย์ปญั หาการลบจากประโยคสญั ลกั ษณ์ได้ (K) 2) สรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบจากประโยคสญั ลักษณ์ได้ (P) 3) รับผิดชอบต่อหนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแกโ้ จทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทยป์ ญั หาพร้อมทงั้ หาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ✓ การแก้ปญั หา ✓ การสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่อื มโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคิดสรา้ งสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 8. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครูทบทวนว่า ในโจทยป์ ัญหาที่สร้างต้องมีสว่ นใดบ้าง นักเรยี นตอบว่า โจทย์ปัญหาต้องมสี ว่ นที่โจทย์ ถาม และสว่ นที่โจทยบ์ อก ขัน้ สอน 2. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆกัน แลว้ แจกบัตรประโยคสัญลกั ษณ์ตามหนงั สือเรยี นหนา้ 143 กลมุ่ ละ 1 ขอ้ 3. ครคู วรแจกบัตรประโยคสญั ลักษณ์การบวกอีกกลมุ่ ละ 1 ข้อซึง่ แต่ละกลมุ่ จะไดร้ ับบตั รประโยค สัญลกั ษณก์ ารบวก 1 ข้อ และบัตรประโยคสัญลกั ษณ์การลบ 1 ข้อ เมือ่ แตล่ ะกลมุ่ สร้างโจทยป์ ญั หาเสร็จแล้ว ใหส้ ง่ ตัวแทนออกมานำเสนอ ซงึ่ ในการนำเสนอให้นักเรยี นอธิบายเกี่ยวกับโจทยป์ ญั หาท่ีสร้าง ส่วนท่โี จทยบ์ อก ส่วนทีโ่ จทย์ถาม และประโยคสัญลักษณ์ พร้อมหาคำตอบ 4. ให้เพอ่ื นในห้องชว่ ยกันตรวจสอบว่า โจทย์ปญั หาทสี่ รา้ งมีความเปน็ ไปไดห้ รือไม่ และคำตอบถูกต้อง หรอื ไมห่ ากเวลาในการนำเสนอไมเ่ พยี งพอ ครอู าจให้นักเรยี นส่งเป็นใบงานเพ่ือให้ครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง และใหข้ ้อเสนอแนะเพ่ิมเติม ขัน้ สรุป 5. จากน้ันครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ สง่ิ ที่ไดเ้ รียนรู้ ส่ิงท่ีได้เรยี นรู้ • การสร้างโจทย์ปญั หา ตอ้ งมีทง้ั สว่ นที่โจทย์บอกและสว่ นทโี่ จทยถ์ าม นอกจากนี้ โจทย์ปัญหาท่ีสร้างตอ้ งมีความเปน็ ไปได้ 6. จากนน้ั ใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัด 2.21 หน้า 91 − 92 10. สือ่ การเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.บัตรประโยคสัญลักษณก์ ารบวก 4.บตั รประโยคสัญลกั ษณก์ ารลบ

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ 29 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปีการศึกษา 2563 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 29 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง การบวกและการลบจำนวนนบั ไม่เกิน 1,000 เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 29 เรอ่ื ง ร่วมคดิ ร่วมทำ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ จำนวน ผลท่ีเกิดขึ้นจากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.2/8 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขัน้ ตอนของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000 และ 0 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด การสรา้ งโจทย์ปัญหา ต้องมีท้ังส่วนทโ่ี จทย์บอกและสว่ นที่โจทยถ์ าม และโจทย์ปญั หาท่สี รา้ งต้องมี ความเปน็ ไปได้ 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายหลักการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบจากประโยคสัญลกั ษณ์ได้ (K) 2) สรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหาการลบจากประโยคสัญลักษณ์ได้ (P) 3) รบั ผดิ ชอบต่อหน้าที่ที่ไดร้ บั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแกโ้ จทย์ปญั หาและการสรา้ งโจทย์ปญั หาพร้อมทัง้ หาคำตอบ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแก้ปญั หา ✓ การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่ือมโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ 8. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรม กลุ่มของฉันอยู่ไหน ดำเนินกิจกรรม 1. แบ่งนักเรยี นเปน็ กลุม่ กลุ่มละเทา่ ๆ กันแลว้ แจกอุปกรณ์ให้นักเรยี นกลุ่มละ 1 ชุด 2. ครูใหน้ ักเรยี นจดั กลมุ่ บัตรโจทยป์ ัญหา บัตรประโยคสญั ลกั ษณ์และบัตรคำตอบท่สี อดคล้องกัน เชน่ พ่อเล้ียงปลา 150 ตัว ซื้อมาเพมิ่ อีก 70 ตัว พอ่ มปี ลาทงั้ หมดก่ตี ัว พ่อมีปลาทั้งหมด 220 ตัว 150 + 70 = 3. ครใู ห้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอโจทย์ปัญหา สว่ นทโี่ จทยถ์ าม สว่ นทีโ่ จทยบ์ อกประโยค สญั ลกั ษณ์ และคำตอบ 4. ถ้าเวลาไม่เพียงพอครอู าจแจกบัตรโจทย์ปญั หาใหน้ อ้ ยลงตามความเหมาะสม 5. จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ ท้าทาย หน้า 93 10. สือ่ การเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.บตั รโจทยป์ ญั หา 5 บัตร 4.บตั รประโยคสัญลกั ษณ์ 10 บตั ร 5.บตั รคำตอบ 10 บตั ร 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่

2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทกึ หลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ……………… เรอื่ ง ……………………………………………………………….. แผนการเรียนรูท้ ่ี ………………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. รายวชิ า……………………………….. ช้นั …………………………. รหัสวชิ า ……………………………………. ครูผ้สู อน ……………………………….. ตำแหน่ง ……………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ช่วั โมง (ใน 1 วันทส่ี อนจรงิ ) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขอ้ คน้ พบระหว่าง ปญั หาทพ่ี บ แนวทางแก้ไข ทมี่ ีการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เนือ้ หา กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ว่ นร่วมของ ผ้เู รียน ลงชอ่ื …..........………….......................…….. ครูผู้จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนักงานราชการ

การจดั ทำแผนการจดั การเรยี นรู้ รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน ค 12101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณิตศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 3หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2564 จดั ทำโดย นางสาวเตชนิ ี หอมนาน ตำแหน่ง พนักงานราชการ โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 31 จังหวดั เชียงใหม่ ตำบลชา่ งเคง่ิ อำเภอแมแ่ จ่ม จังหวัดเชยี งใหม่ สำนกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ สำนักงานการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ

แผนการจัดการเรยี นรู้ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 เวลา 16 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง การวัดความยาว เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง เตรยี มความพรอ้ ม 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพ้ืนฐานเกย่ี วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่ิงทต่ี ้องการวดั และนำไปใช้ 2. ตัวชีว้ ดั ค 2.1 ป.2/2 วัดและเปรยี บเทียบความยาวเปน็ เมตรและเซนติเมตร 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การวัดความยาวหรือความสูงของสง่ิ ตา่ ง ๆเป็นเซนติเมตร อาจวางเคร่อื งมือวัดเริ่มที่ 0 หรือไม่เริ่มที่ 0 ก็ได้ การวดั ระยะทางระหว่างตำแหนง่ สองตำแหน่งทำไดโ้ ดยวดั ความยาวตามเส้นทางทีก่ ำหนดจากตำแหนง่ หนึ่งไปอกี ตำแหนง่ หนงึ่ ถา้ เส้นทางเป็นแนวเสน้ ตรง ความยาวที่วดั ไดอ้ าจเรียกวา่ ระยะห่างระหว่างตำแหนง่ สองตำแหนง่ นัน้ • การบอกความยาวหรือความสงู ของส่ิงต่าง ๆอาจบอกเปน็ เมตร เปน็ เซนตเิ มตร หรือเป็นเมตรและ เซนตเิ มตร • 1 เมตร เทา่ กับ 100 เซนติเมตร 4. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1) บอกความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตรได้ (K) 2) วัดความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตรไดถ้ ูกตอ้ ง (P) 3) รบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การวัดความยาวเป็นเมตรและเซนตเิ มตร 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแก้ปัญหา ✓ การส่ือสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 8. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ครูใชห้ นา้ เปิดบทสนทนาเกีย่ วกบั การแข่งขนั กระโดดไกลของนักกรีฑาประเภทลาน ครูอาจให้ ความร้เู พมิ่ เตมิ วา่ กระโดดไกลเป็นกรฑี าประเภทลานที่ใชก้ ารวิง่ เพื่อกระโดดโดยกระโดดออกจากจุดกระโดด ไปให้ไกลทีส่ ดุ ครใู ช้การถาม-ตอบกระต้นุ ความสนใจของนักเรยี น เช่น ❖ ในภาพมีกรฑี าประเภทลานอะไรบ้าง (กระโดดไกล กระโดดสงู ) ❖ เคยแข่งกระโดดสงู หรอื ไม่ ❖ รไู้ ดอ้ ยา่ งไรวา่ ใครกระโดดสูงท่ีสดุ ❖ เคยแขง่ กระโดดไกลหรือไม่ ❖ รู้ไดอ้ ยา่ งไรว่าใครกระโดดไกลท่สี ุด ❖ วดั ระยะทางการกระโดดไกลได้อยา่ งไร โดยทีบ่ างคำถามนักเรยี นอาจตอบได้ แต่บางคำถามครูอาจเลือกเพอื่ ถามนำเข้าสบู่ ทเรยี นว่าจะหาคำตอบได้ ต้องใชค้ วามรทู้ ่ีจะเรยี นในบทน้ี จากน้ันครูทำกจิ กรรมเตรียมความพรอ้ ม ข้ันสอน 2. ครูและนกั เรยี นใช้หนงั สอื เรยี นหนา้ 148 ให้นักเรียนทำกจิ กรรมร่วมด้วยช่วยกนั วัดความยาวเชือก ในการเตรยี มความพร้อม เพ่ือตรวจสอบความรู้พื้นฐานของนักเรียนในการใช้เครอื่ งมือวัดความยาว เช่น ไม้ เมตร ไมบ้ รรทดั ในการวัดความยาวของเชือกท่ีมคี วามยาวเปน็ เมตร ความยาวเป็นเซนตเิ มตร เมอ่ื นกั เรียนวัดความ ยาว ของเชอื ก 3. จดบนั ทกึ ในใบกิจกรรมแลว้ ใหเ้ ปรียบเทยี บความยาวของเชือกทมี่ ีหน่วยเดียวกันตามท่คี รกู ำหนด เช่น เชือกสีแดง ยาวกว่าหรือสนั้ กว่า เชอื กสีน้ำเงิน และยาวกว่าหรือสน้ั กว่าอยเู่ ท่าไร เพื่อนักเรียนจะไดท้ บทวน ความรู้เกย่ี วกบั การวัดความยาวเป็นเมตร เปน็ เซนติเมตรและเปรียบเทียบความยาวเปน็ เมตร เป็นเซนตเิ มตร ข้นั สรปุ 4. ครอู าจทำกจิ กรรมเพ่มิ เตมิ โดยการใช้ภาพสิง่ ของที่อยู่รอบตวั เช่น โต๊ะนักเรียน โต๊ะครู ตหู้ นังสอื ท่ี กำหนดความยาวให้ แลว้ ใหน้ กั เรียนฝึกการเปรียบเทยี บความยาว

10. สอ่ื การเรยี นรู้ 1.หนังสอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.เชือก 4.ไมเ้ มตร ไม้บรรทดั 5.โต๊ะนักเรียน โต๊ะครู ตหู้ นังสอื 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 2. เครอ่ื งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น

แบบบันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ……………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรทู้ ่ี ………………… เร่ือง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ชน้ั …………………………. รหสั วชิ า ……………………………………. ครูผูส้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ชวั่ โมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจรงิ ) ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาท่ีพบ แนวทางแก้ไข ทม่ี ีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของ ผเู้ รยี น ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผ้จู ัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรียนรู้ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 เวลา 16 ช่วั โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 เรื่อง การวัดความยาว เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่ือง การแกป้ ญั หาการวัดความยาวเป็นเซนติเมตร 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพนื้ ฐานเก่ียวกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ทต่ี ้องการวดั และนำไปใช้ 2. ตัวช้วี ัด ค 2.1 ป.2/2 วดั และเปรยี บเทียบความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด การวดั ความยาวหรือความสงู ของสง่ิ ตา่ ง ๆเป็นเซนตเิ มตร อาจวางเครือ่ งมอื วดั เรม่ิ ที่ 0 หรอื ไม่เริ่มที่ 0 ก็ได้ การวดั ระยะทางระหว่างตำแหนง่ สองตำแหน่งทำไดโ้ ดยวัดความยาวตามเสน้ ทางท่กี ำหนดจากตำแหนง่ หนึ่งไปอีกตำแหนง่ หนงึ่ ถา้ เสน้ ทางเปน็ แนวเส้นตรง ความยาวท่วี ัดไดอ้ าจเรียกวา่ ระยะหา่ งระหว่างตำแหน่ง สองตำแหน่งน้นั การบอกความยาวหรือความสงู ของสิง่ ตา่ ง ๆอาจบอกเป็นเมตร เปน็ เซนตเิ มตร หรอื เป็นเมตรและ เซนตเิ มตร 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) บอกความยาวเปน็ เซนติเมตรได้ (K) 2) วดั ความยาวเปน็ เซนตเิ มตรได้ถกู ตอ้ ง (P) 3) รบั ผดิ ชอบต่อหนา้ ทท่ี ี่ได้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การวดั ความยาวเป็นเมตรและเซนตเิ มตร 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแก้ปญั หา ✓ การสอื่ สารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่ือมโยง การให้เหตุผล การคิดสร้างสรรค์

7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ 8. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครทู บทวนการวัดความยาวของดนิ สอเป็นเซนตเิ มตรโดยใช้ไม้บรรทดั โดยให้ตวั แทนนกั เรยี น ออกมาแสดงการวดั ความยาวของดินสอหนา้ ชัน้ นกั เรยี นแสดงการวดั ความยาวของดินสอโดยเร่มิ ตน้ วัดจาก 0 ครูถามนกั เรียนว่า ดนิ สอยาวกเ่ี ซนติเมตร นักเรียนตอบว่า ดินสอยาว 8 เซนติเมตร ข้นั สอน 2. เกมจับคู่เคร่ืองมือวดั กบั ส่งิ ของ จุดประสงค์การเรียนรู้ เมอื่ กำหนดสงิ่ ของให้ นกั เรยี นสามารถใช้เคร่ืองมอื วัดไดเ้ หมาะสม อุปกรณ1์ . ภาพสงิ่ ของต่าง ๆ 2. ภาพเครื่องมอื วดั วธิ เี ล่น 1. แบ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-5 คน 2. ครแู จกอปุ กรณ์ใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ 3. ให้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกนั จบั คูเ่ ครื่องมอื วัดกับส่งิ ของ 4.กลุม่ ใดได้ผลรวมของคทู่ ีถ่ ูกมากที่สดุ กลมุ่ น้นั ชนะ 5.ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกัน บนั ทึกผลของการเล่นเกม ขนั้ สรปุ 7. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยใหน้ ักเรียนบอกความสงู ของสตั ว์ต่าง ๆ ทีอ่ ยู่ในภาพท่ี กำหนดใหต้ ามหนงั สอื เรยี นหนา้ 152 โดยครูอาจถามนกั เรียนก่อนวา่ สตั ว์แต่ละชนดิ ยืนอยทู่ จ่ี ุดใดเพ่ือให้ นกั เรยี นสังเกตจดุ ที่เร่ิมวดั ความสูง 8. ให้นกั เรียนบอกความสูงของสัตวต์ า่ ง ๆ เป็นรายบคุ คล ครอู าจเสนอแนะเพม่ิ เตมิ ในการบอกความ สูงของนกกระจอกเทศซง่ึ มรี ะดบั ความสูงทห่ี วั ตรงกบั ขีดท่ีตอ้ งนบั ตอ่ จาก 160 เซนตเิ มตรไปอกี

10. สอื่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2. แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3. บัตรภาพแสดงการวัดความยาวหรอื ความสูงในสถานการณต์ ่าง ๆ 4. ไมบ้ รรทดั ไมเ้ มตร 5. ส่งิ ท่ตี ้องการวดั เชน่ ดนิ สอ ไม้กวาด ขวดน้ำ 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แบบบันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ……………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรทู้ ่ี ………………… เร่ือง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ชน้ั …………………………. รหสั วชิ า ……………………………………. ครูผูส้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ชวั่ โมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจรงิ ) ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาท่ีพบ แนวทางแก้ไข ทม่ี ีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของ ผเู้ รยี น ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผ้จู ัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรียนรู้ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 16 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง การวัดความยาว เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การแกป้ ัญหาการวัดความยาวเปน็ เซนติเมตร 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีต้องการวดั และนำไปใช้ 2. ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.2/2 วดั และเปรียบเทยี บความยาวเปน็ เมตรและเซนตเิ มตร 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การวัดความยาวหรือความสงู ของสง่ิ ต่าง ๆเป็นเซนตเิ มตร อาจวางเครือ่ งมอื วดั เร่ิมท่ี 0 หรอื ไมเ่ ร่ิมที่ 0 ก็ได้ การวดั ระยะทางระหว่างตำแหนง่ สองตำแหนง่ ทำไดโ้ ดยวดั ความยาวตามเสน้ ทางทกี่ ำหนดจากตำแหนง่ หน่งึ ไปอกี ตำแหนง่ หนงึ่ ถ้าเสน้ ทางเปน็ แนวเสน้ ตรง ความยาวทว่ี ดั ได้อาจเรียกว่าระยะหา่ งระหวา่ งตำแหนง่ สองตำแหน่งนัน้ • การบอกความยาวหรอื ความสงู ของสง่ิ ต่าง ๆอาจบอกเป็นเมตร เป็นเซนตเิ มตร หรือเปน็ เมตรและ เซนติเมตร 4. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) บอกความยาวเปน็ เซนตเิ มตรได้ (K) 2) วัดความยาวเปน็ เซนติเมตรได้ถูกต้อง (P) 3) รับผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การวดั ความยาวเป็นเมตรและเซนติเมตร 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแก้ปัญหา ✓ การส่อื สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่อื มโยง การให้เหตุผล การคิดสร้างสรรค์

7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 8. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครูตดิ ภาพการวดั ความสงู ของพอ่ พ่ี และน้อง ตามหนังสอื เรยี นหนา้ 150 บนกระดาน 2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นเก่ยี วกับภาพว่ามอี ะไรในภาพบา้ ง เชน่ เป็นภาพของใครบา้ ง คนในภาพกำลงั ทำอะไร มีอะไรอยู่ในภาพบ้าง ขั้นสอน 3. จากนั้นครใู หน้ กั เรยี นบอกความสูงของพ่อ โดยใหส้ งั เกตว่า พอ่ ยืนอยทู่ พ่ี ื้นและมีเครอื่ งมอื วดั ความ สงู เร่มิ ต้นทีต่ วั เลข 0 4. ครูถามนักเรยี นวา่ พ่อสงู เท่าไร นกั เรียนตอบว่า พอ่ สงู 170เซนตเิ มตร ครูถามตอ่ ไปวา่ พ่สี ูงเท่าไร โดยครูให้สงั เกตวา่ พ่ียนื อยู่ที่จดุ ใด และใหน้ ำความร้เู รอื่ งการวดั ความยาวท่ีไม่ได้เริม่ วัดทตี่ วั เลข 0 มาใช้ ประกอบในการวดั ความสูงของพี่ 5. นักเรยี นอาจหาคำตอบโดยการนำตัวเลขแสดงจำนวนท่อี ยู่ระดบั ศรี ษะลบดว้ ยตวั เลขแสดงจำนวนท่ี อยู่ ณ จุดท่ยี นื จะได้ 160 − 40 = 120 ดังนนั้ พ่สี ูง 120 เซนตเิ มตร 6. ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั หาความสงู ของนอ้ ง โดยใชว้ ธิ ีการลบ จะได้ 150 − 80 = 70 ดงั น้ัน นอ้ งสูง 70 เซนตเิ มตร 7. จากน้นั ครูให้นักเรียนช่วยกนั ตอบคำถามในกรอบท้ายหนา้ 150 ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั ตรวจสอบ ความถกู ตอ้ ง 8. ครูให้นักเรยี นช่วยกันบอกความยาวหรือความสูงของส่งิ ตา่ ง ๆ ทีก่ ำหนดให้ในหนงั สือเรียนหน้า 151 โดยใช้ความรเู้ รอ่ื งการวดั ความยาวหรอื ความสงู ที่จดุ เรม่ิ วัดไม่อย่ทู ต่ี ัวเลข 0 ครูและนกั เรยี นรว่ มกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง ข้ันสรุป 9. จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรปุ สิง่ ทีไ่ ด้เรียนรู้วา่ การวดั ความยาว หรือความสงู ของสง่ิ ตา่ ง ๆ เป็นเซนตเิ มตรอาจวางเครอ่ื งมอื วดั เร่ิมที่ 0 หรอื ไม่เร่ิมที่ 0 ก็ได้ 10.จากน้ันให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด 3.1 หน้า 94 – 96

10. สอื่ การเรยี นรู้ 1.หนงั สือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บัตรภาพแสดงการวัดความยาวหรือความสงู ในสถานการณต์ ่าง ๆ 4.ไม้บรรทดั ไมเ้ มตร 5.สิง่ ทตี่ ้องการวัด เชน่ ดนิ สอ ไมก้ วาด ขวดน้ำ 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤติกรรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น

แบบบันทึกหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ……………… เร่อื ง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรทู้ ่ี ………………… เร่ือง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ชน้ั …………………………. รหสั วชิ า ……………………………………. ครูผูส้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาทใ่ี ช้ ……… ชวั่ โมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจรงิ ) ************************* ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้อคน้ พบระหว่าง ปัญหาท่ีพบ แนวทางแก้ไข ทม่ี ีการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ เนอ้ื หา กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ ประกอบการเรียนรู้ พฤติกรรม/การมสี ่วนร่วมของ ผเู้ รยี น ลงช่ือ …..........………….......................…….. ครูผ้จู ัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหนง่ พนกั งานราชการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook