Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ค 12101

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ค 12101

Published by JUBBI JUB, 2021-05-09 13:37:05

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณิตศาสตร์ ค 12101

Search

Read the Text Version

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ 13 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ปกี ารศกึ ษา 2564 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 18 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เรือ่ ง การวัดน้ำหนกั แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 13 เรอ่ื ง การบวกและการลบเกย่ี วกับนำ้ หนัก เวลา 1 ชว่ั โมง 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเกี่ยวกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ท่ตี ้องการวดั และนำไปใช้ 2. ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.2/4 วดั และเปรียบเทยี บนำ้ หนักเป็นกิโลกรมั และกรัม กโิ ลกรมั และขีด 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การหาผลบวกหรือผลลบเกี่ยวกับน้ำหนักเป็นกิโลกรัมและขีด หรือกิโลกรัมและกรัม ทำได้โดยนำน้ำหนักท่ี เปน็ หน่วยเดยี วกนั มาบวกหรือลบกัน 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธบิ ายวธิ ีการบวกและลบเกีย่ วกับนำ้ หนกั ได้ (K) 2) แสดงวิธีบวกและลบเกยี่ วกับน้ำหนกั ได้ (P) 3) รับผิดชอบต่อหนา้ ทที่ ี่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การหาผลบวกหรือผลลบเกยี่ วกบั นำ้ หนกั 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ ✓ การแกป้ ัญหา ✓ การสือ่ สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคิดสร้างสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 8. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน

9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครูทบทวนความสมั พันธข์ องหนว่ ยนำ้ หนกั โดยใหน้ กั เรียนจับคูบ่ ัตรคำใหถ้ กู ต้อง 1 กิโลกรัม เทา่ กับ 10 ขีด 1 ขีด เท่ากบั 100 กรมั 1 กิโลกรัม เท่ากับ 1,000 กรมั ขนั้ สอน 2. ครตู ดิ บตั รโจทย์ 2 กโิ ลกรมั 500 กรัม นอ้ ยกวา่ 4 กิโลกรมั 750 กรมั อยูเ่ ท่าไร ครูใหน้ กั เรียนนำน้ำหนกั ท่ีเปน็ หน่วยเดยี วกนั มาลบกนั ครูแนะนำการเขียนแสดงวิธีทำ กโิ ลกรัม กรมั 4 750 2 500 - 2 250 3. ครตู ิดบัตรโจทย์ 3 กโิ ลกรัม มากกว่า 600 กรมั อยเู่ ทา่ ไร 4. ครูให้นักเรยี นสงั เกตวา่ 3 กโิ ลกรมั เมื่อเขยี นแสดงวธิ ที ำเราจะเขียน 3 ในหน่วยกิโลกรัม และเขียน 0 ใน หน่วยกรมั ด้วย ในการลบตอ้ งกระจาย 3 กโิ ลกรัม มา 1 กิโลกรมั หรือ 1,000 กรัม แลว้ นำมาลบกับ 600 กรมั เหลอื 400 กรัม สำหรบั 3 กโิ ลกรมั เม่อื กระจายไปแล้ว 1 กโิ ลกรมั เหลอื 2 กิโลกรัม ลบด้วย 0 กโิ ลกรมั เหลือ 2 กโิ ลกรมั ดังน้ัน 3 กโิ ลกรมั มากกว่า 600 กรัม อยู่ 2 กโิ ลกรัม 400 กรัม เขียนแสดงวิธหี าคำตอบ ตามตวั อย่างกรอบ ทส่ี องในหนงั สอื เรียนหน้า 227 5. จากนัน้ ครูใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั เขยี นแสดงวิธีหาคำตอบในกรอบท้ายหนา้ 227 ข้ันสรุป 6. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นโดยใหน้ กั เรยี นเขยี นแสดงวิธหี าคำตอบเปน็ รายบุคคล ตามหนังสือ เรียนหนา้ 228 7. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้หากมนี ักเรยี นเขียนแสดงวิธหี า คำตอบไม่ได้ ครคู วรแก้ไขโดยการให้นกั เรยี นฝกึ เขียนแสดงวิธหี าคำตอบกบั ครเู ป็นรายบุคคล ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รยี นรู้ • การหาผลบวกหรือผลลบเก่ยี วกบั น้ำหนักเป็นกิโลกรมั และขีดทำได้โดยนำน้ำหนักท่เี ป็น หน่วยเดียวกันมาบวกหรือลบกนั 8. จากนน้ั ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 4.9 หนา้ 144 - 146 10. ส่อื การเรียนรู้ 1.หนงั สือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.บัตรโจทย์ 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเขา้ ร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 14 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง การวัดน้ำหนกั เวลา 18 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 14 เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกยี่ วกบั นำ้ หนัก เวลา 1 ชวั่ โมง 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเก่ยี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทีต่ อ้ งการวัดและนำไปใช้ 2. ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.2/5 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกการลบเกย่ี วกบั น้ำหนักท่ีมีหนว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขีด 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแก้โจทย์ปัญหาทำได้โดย อ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผล 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายวธิ ีการแก้โจทย์ปญั หาการบวกและลบเก่ยี วกับน้ำหนกั ได้ (K) 2) แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบเก่ียวกบั น้ำหนกั ได้ (P) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ที ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั น้ำหนกั ทมี่ ีหน่วยเป็นกิโลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขดี 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแกป้ ัญหา ✓ การสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

8. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครตู ดิ บัตรโจทย์ปญั หา ใบบัวมมี ะเขือ 5 กโิ ลกรัม 5 ขดี เกบ็ จากสวนไดอ้ ีก 1 กิโลกรัม 4 ขดี ใบบัวมี มะเขือทง้ั หมดกี่กิโลกรมั ก่ีขีด 2. ครใู ห้นกั เรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์วา่ โจทยถ์ ามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นกั เรียนควรบอกได้ว่า สงิ่ ท่ี โจทยถ์ ามคือ ใบบวั มมี ะเขอื ทั้งหมดกี่กิโลกรัม กีข่ ีด ส่ิงท่ีโจทย์บอกคือใบบวั มมี ะเขอื 5 กิโลกรัม 5 ขีด เก็บจากสวน ได้อีก 1 กิโลกรมั 4 ขดี ครถู ามว่าหาคำตอบได้อย่างไร นกั เรยี นควรตอบไดว้ ่านำนำ้ หนกั มาบวกกนั ขนั้ สอน 3. ครูแนะนำการเขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบ ดงั น้ี กิโลกรัม ขีด ใบบัวมมี ะเขือหนกั 5 5 + 4 เก็บจากสวนไดอ้ กี 1 ใบบวั มมี ะเขอื ทัง้ หมด 6 9 ดงั น้นั ใบบัวมีมะเขอื ทง้ั หมด 6 กิโลกรัม 9 ขีด 4. ครูเนน้ ยำ้ การตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบว่า 5 กิโลกรัม 5 ขดี มากกว่า 5 กิโลกรมั เมอ่ื รวม กับ 1 กโิ ลกรมั ผลบวกจะมากกวา่ 6 กิโลกรัม ครูอาจยกตวั อย่างเพม่ิ เตมิ ดงั นี้ ในถุงมสี ม้ 2 กิโลกรมั 6 ขีด ขุนหยิบ ส้มใส่ถุงเพมิ่ อกี 8 ขดี มีสม้ ในถงุ กก่ี โิ ลกรัม กขี่ ีด กโิ ลกรมั ขีด ในถุงมีสม้ 2 6 + 8 หยบิ ส้มใสถ่ งุ เพิม่ อีก มสี ม้ ในถงุ 2 14 หรือ 3 4 5. ครแู นะนำเพ่มิ เติมว่า ผลบวกทไ่ี ดใ้ นหน่วยขีดมากกวา่ 10 ต้องทด 1 สิบ หรือ 1 กโิ ลกรมั ไปรวมกับ ผลบวกในหนว่ ยกิโลกรมั เพราะ 10 ขดี เทา่ กับ 1 กโิ ลกรมั ข้นั สรปุ 6. จากน้ันครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ สง่ิ ทีไ่ ด้เรียนรู้ หากมนี ักเรยี นวเิ คราะห์ โจทยป์ ัญหาหรอื เขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบไม่ได้ ครคู วรแก้ไขโดยการใหน้ กั เรยี นฝกึ วิเคราะห์โจทยป์ ญั หาและเขียน แสดงวิธีหาคำตอบกบั ครูเป็นรายบุคคล ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ • การแก้โจทย์ปญั หาทำไดโ้ ดย อ่านทำความเข้าใจปญั หาวางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบและ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 10. สื่อการเรียนรู้ 1.หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.บตั รโจทย์ปัญหาการบวกและบตั รโจทย์ปญั หาการลบ

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 15 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปกี ารศกึ ษา 2564 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 เวลา 18 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง การวัดน้ำหนกั แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 15 เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกยี่ วกบั นำ้ หนัก เวลา 1 ชวั่ โมง 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเก่ยี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทีต่ อ้ งการวัดและนำไปใช้ 2. ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.2/5 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกการลบเกย่ี วกบั น้ำหนักท่ีมีหนว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขีด 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแก้โจทย์ปัญหาทำได้โดย อ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผล 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายวธิ ีการแก้โจทย์ปญั หาการบวกและลบเก่ยี วกับน้ำหนกั ได้ (K) 2) แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบเก่ียวกบั น้ำหนกั ได้ (P) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ที ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั น้ำหนกั ทมี่ ีหน่วยเป็นกิโลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขดี 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแกป้ ัญหา ✓ การสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

8. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ครูติดบตั รโจทยป์ ัญหา แม่คา้ มีผักกาด14 กิโลกรมั 7 ขดี ขายไป 5 กโิ ลกรมั 9 ขีด แมค่ ้าเหลือ ผักกาดกี่กิโลกรมั กข่ี ีด 2. ครูให้นักเรยี นชว่ ยกนั วเิ คราะหโ์ จทยว์ ่า โจทยถ์ ามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นกั เรียนควรบอกได้วา่ สิ่งทโ่ี จทย์ถามคอื แม่คา้ เหลอื ผกั กาดก่ีกิโลกรัม กข่ี ดี ส่งิ ทีโ่ จทยบ์ อกคือ แม่ค้ามีผกั กาด 14 กโิ ลกรัม 7 ขีด ขายไป 5 กิโลกรัม 9 ขดี ครูถามว่า หาคำตอบได้อย่างไร นักเรียนควรตอบไดว้ ่า นำน้ำหนกั มาลบกนั ขัน้ สอน 3. ครแู นะนำการเขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบ ดงั นี้ กิโลกรมั ขดี 17 - 14 13 แมค่ ้ามผี ักกาด 5 7 ขายไป 9 แม่คา้ เหลือผักกาด 88 ดังน้ัน แม่ค้าเหลอื ผกั กาด 8 กิโลกรมั 8 ขีด 4. ครูให้นกั เรียนสังเกตวา่ ในหน่วยน้ำหนกั ที่เปน็ ขีดตวั ตงั้ นอ้ ยกว่าตัวลบ ต้องกระจายจาก 14 กิโลกรัม มา 1 กโิ ลกรัม หรอื 10 ขดี ไปรวมกบั 7 ขีด ได้ 17 ขีดแล้วจึงนำมาลบกบั 9 ขดี สำหรบั 14 กิโลกรมั กระจายไปแล้ว 1 กิโลกรมั เหลือ 13 กโิ ลกรัม แล้วจึงนำมาลบกับ 5 กิโลกรมั 5. ครูใหน้ กั เรยี นตรวจสอบคำตอบโดยการนำ 8 กิโลกรมั 8 ขีด บวกกับ 5 กิโลกรมั 9 ขดี แล้วไดผ้ ลบวก เป็น 14 กโิ ลกรัม 7 ขดี แสดงว่า 8 กโิ ลกรมั 8 ขีด เป็นคำตอบทถี่ กู ตอ้ ง จากนนั้ ครูให้นกั เรยี นช่วยกันเขยี น แสดงวิธีหาคำตอบ ข้อ 1 และ 2 ในกรอบทา้ ยหน้า 230 6. ครูติดบตั รโจทย์ปญั หา แม่ค้าช่งั มะละกอผลใหญก่ บั ผลเลก็ รวมกันหนกั 3 กิโลกรัม 8 ขดี ถ้ามะละกอผลเล็กหนกั 1 กิโลกรมั 3 ขีด มะละกอผลใหญ่หนกั เทา่ ไร 7. ครใู หน้ กั เรยี นช่วยกันวเิ คราะห์โจทยว์ า่ โจทยถ์ ามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นักเรียนควรบอกไดว้ ่า สงิ่ ท่ี โจทยถ์ ามคือ มะละกอผลใหญห่ นักเท่าไร สง่ิ ที่โจทย์บอกคอื แมค่ ้าช่งั มะละกอผลใหญก่ บั ผลเลก็ รวมกนั หนกั 3 กโิ ลกรัม 8 ขีด ครูถามว่า หาคำตอบได้อยา่ งไร นกั เรียนอาจจะยงั ตอบไมไ่ ด้ทนั ที ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมโดยใช้ Bar Model ดงั น้ี 8. ครตู ิดแถบ Bar Model แสดงน้ำหนักรวมของมะละกอผลใหญ่กับผลเลก็ ดังน้ี มะละกอผลใหญ่กบั ผลเลก็ 3 กก. 8 ขีด 9. จากนัน้ เขียน Bar Model แสดงนำ้ หนกั ของมะละกอผลเล็ก ดังนี้ มะละกอผลใหญก่ บั ผลเลก็ 3 กก. 8 ขีด 1 กก. 3 ขีด ? ผลเล็ก ผลใหญ่

10.ครถู ามนักเรยี นวา่ จากภาพนำ้ หนักของมะละกอผลใหญ่ หาได้อยา่ งไร นักเรียนควรตอบไดว้ า่ นำ น้ำหนกั มะละกอผลใหญ่กบั มะละกอผลเลก็ ลบด้วยนำ้ หนักมะละกอผลเล็ก 11. จากน้ัน ครูและนักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวธิ หี าคำตอบตามหนังสือเรียนหนา้ 231 ครูใหน้ กั เรียน ตรวจสอบคำตอบ โดยนำคำตอบท่ีได้รวมกบั น้ำหนักมะละกอผลเล็กจะไดเ้ ทา่ กับน้ำหนกั ของมะละกอผลเลก็ กบั ผล ใหญ่รวมกนั จากนน้ั ครใู หน้ กั เรียนช่วยกนั เขยี นแสดงวิธีหาคำตอบในกรอบท้ายหนา้ 231 ข้ันสรุป 12. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยให้นกั เรียนเขียนแสดงวธิ หี าคำตอบเป็นรายบุคคลตามหนงั สอื เรยี นหน้า 232 13. จากน้นั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้องและสรุปสง่ิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ หากมีนักเรยี นวิเคราะห์ โจทย์ปัญหาหรือเขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบไมไ่ ด้ ครูควรแก้ไขโดยการใหน้ ักเรียนฝกึ วเิ คราะห์โจทย์ปัญหาและเขยี น แสดงวธิ หี าคำตอบกับครเู ปน็ รายบุคคล ส่งิ ท่ไี ด้เรียนรู้ • การแกโ้ จทยป์ ญั หาทำไดโ้ ดย อ่านทำความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบและ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 14. จากนัน้ ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด 4.10 หนา้ 147 - 149 10. สื่อการเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บัตรโจทยป์ ญั หาการบวกและบัตรโจทยป์ ญั หาการลบ 4.ตดิ แถบ Bar Model 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 16 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง การวัดน้ำหนกั เวลา 18 ช่ัวโมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 16 เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกยี่ วกบั นำ้ หนัก เวลา 1 ชวั่ โมง 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเก่ยี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทีต่ อ้ งการวัดและนำไปใช้ 2. ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.2/5 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกการลบเกย่ี วกบั น้ำหนักท่ีมีหนว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขีด 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแก้โจทย์ปัญหาทำได้โดย อ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผล 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายวธิ ีการแก้โจทย์ปญั หาการบวกและลบเก่ยี วกับน้ำหนกั ได้ (K) 2) แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบเก่ียวกบั น้ำหนกั ได้ (P) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ที ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั น้ำหนกั ทมี่ ีหน่วยเป็นกิโลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขดี 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแกป้ ัญหา ✓ การสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

8. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นำ 1. ครตู ิดบตั รโจทยป์ ญั หา ครูซือ้ มนั ฝรัง่ 1 กิโลกรมั 250 กรมั และหอมหวั ใหญ่ 750 กรัม ครซู อ้ื มนั ฝรัง่ และ หอมหวั ใหญก่ ่กี โิ ลกรมั ก่กี รัม 2. ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันวเิ คราะหโ์ จทยว์ ่า โจทยถ์ ามอะไร โจทย์บอกอะไร นักเรียนควรบอกได้ว่า สิ่งที่ โจทยถ์ ามคือ ครูซ้อื มนั ฝร่ังและหอมหวั ใหญก่ ีก่ ิโลกรมั ก่กี รมั ส่งิ ท่ีโจทย์บอกคอื ครซู ้ือมนั ฝร่ัง 1 กโิ ลกรมั 250 กรัม และหอมหัวใหญ่ 750 กรัม ครถู ามวา่ หาคำตอบไดอ้ ย่างไร นกั เรียนควรตอบไดว้ ่า นำน้ำหนักมาบวกกนั ข้ันสอน 3. ครูแนะนำการเขยี นแสดงวิธหี าคำตอบ ดังน้ี กิโลกรมั กรัม 1 มนั ฝรั่งหนกั 250 + 1 750 หอมหัวใหญ่หนัก 2 น้ำหนักรวม 1,000 หรอื 0 ดงั นั้น ครูซ้ือมนั ฝรงั่ และหอมหัวใหญ่ 2 กิโลกรัม 4. ครเู น้นย้ำการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบวา่ 1 กโิ ลกรมั 250 กรมั มากกว่า 1 กิโลกรมั เมื่อ รวมกับ 750 กรมั ผลบวกจะมากกวา่ 1 กโิ ลกรัม ครูแนะนำเพ่ิมเติมวา่ ผลบวกทไี่ ด้ในหน่วยกรมั เทา่ กับ 1,000 ตอ้ ง ทด 1,000 กรัม หรือ 1 กิโลกรมั ไปรวมกบั ผลบวกในหน่วยกโิ ลกรมั เพราะ 1,000 กรมั เท่ากบั 1 กโิ ลกรัม ขั้นสรปุ 5. จากนัน้ ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้องและสรปุ ส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ หากมีนกั เรียนวิเคราะห์ โจทย์ปัญหาหรือเขียนแสดงวธิ หี าคำตอบไม่ได้ ครูควรแก้ไขโดยการใหน้ ักเรยี นฝึกวิเคราะห์โจทยป์ ัญหาและเขียน แสดงวธิ ีหาคำตอบกบั ครูเป็นรายบุคคล ส่ิงที่ไดเ้ รียนรู้ • การแก้โจทยป์ ัญหาทำไดโ้ ดย อ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบและ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 10. สื่อการเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บัตรโจทย์ปญั หาการบวกและบตั รโจทย์ปัญหาการลบ 11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วิธกี ารวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม

2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบฝึกหัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุม่ 3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือว่า ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตง้ั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 17 กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง การวัดน้ำหนกั เวลา 18 ชว่ั โมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 17 เร่ือง โจทย์ปัญหาการบวกและโจทย์ปัญหาการลบเกยี่ วกบั นำ้ หนกั เวลา 1 ช่ัวโมง 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเก่ยี วกบั การวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งทีต่ อ้ งการวดั และนำไปใช้ 2. ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.2/5 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวกการลบเกย่ี วกบั น้ำหนักท่ีมีหนว่ ยเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขีด 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การแก้โจทย์ปัญหาทำได้โดย อ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความ สมเหตสุ มผล 4. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายวธิ ีการแก้โจทย์ปญั หาการบวกและลบเก่ยี วกับน้ำหนกั ได้ (K) 2) แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวกและโจทยป์ ญั หาการลบเก่ียวกบั น้ำหนกั ได้ (P) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ที ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การแก้โจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั น้ำหนกั ทมี่ ีหน่วยเป็นกิโลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขดี 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ✓ การแกป้ ัญหา ✓ การสอ่ื สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ

8. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ 1. ครูติดบัตรโจทยป์ ญั หา แม่มีนำ้ ตาลทราย 2 กิโลกรัม ใช้ทำขนม 450 กรมั แม่เหลือนำ้ ตาลทรายก่ี กิโลกรมั กก่ี รัม 2. ครูให้นักเรยี นช่วยกนั วเิ คราะหโ์ จทย์วา่ โจทย์ถามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นักเรียนควรบอกไดว้ ่า สงิ่ ท่ี โจทย์ถามคือ แมเ่ หลอื น้ำตาลทรายกกี่ ิโลกรัม กีก่ รัม สิง่ ที่โจทย์บอกคอื แม่มีนำ้ ตาลทราย 2 กโิ ลกรัม ใชท้ ำขนม 450 กรัม ครูถามวา่ หาคำตอบไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนควรตอบไดว้ า่ นำน้ำหนกั มาลบกัน ข้นั สอน 3. ครูแนะนำการเขียนแสดงวธิ หี าคำตอบ ดังน้ี แมม่ นี ้ำตาลทราย กิโล2กรัม1 1ก,0ร0ัม00 - 450 ใช้ทำขนม แมเ่ หลอื นำ้ ตาลทราย 1 550 ดงั น้ัน แม่เหลอื น้ำตาลทราย 1 กิโลกรมั 550 กรมั 4. ครใู ห้นักเรียนสงั เกตวา่ ในหนว่ ยน้ำหนกั ทเ่ี ป็นกรมั ตัวตั้งน้อยกว่าตวั ลบ ตอ้ งกระจายจาก 2 กิโลกรัม มา 1 กโิ ลกรัม หรือ 1,000 กรมั แล้วจงึ นำมาลบกับ 450 กรมั สำหรับ 2 กิโลกรมั กระจายไปแลว้ 1 กโิ ลกรมั เหลอื 1 กโิ ลกรมั 5. ครใู หน้ กั เรียนตรวจสอบคำตอบโดยการนำคำตอบทไ่ี ด้บวกกบั 450 กรัม แลว้ ได้ผลบวกเทา่ กับ 2 กิโลกรมั แสดงวา่ คำตอบท่ีไดเ้ ป็นคำตอบท่ีถกู ต้อง จากน้ันครูใหน้ ักเรยี นช่วยกนั เขยี นแสดงวธิ หี าคำตอบ ขอ้ 1 และ 2 ในกรอบท้ายหน้า 234 6. ครตู ิดบตั รโจทย์ปัญหา แม่มีแป้งสาลี 750 กรมั ตอ้ งซ้อื มาเพิ่มอีกกี่กิโลกรมั ก่กี รัม แม่จึงจะมีแป้งสาลี 2 กโิ ลกรมั ครูให้นกั เรยี นช่วยกันวิเคราะหโ์ จทย์วา่ โจทย์ถามอะไร โจทยบ์ อกอะไร นักเรียนควรบอกไดว้ ่า สงิ่ ทีโ่ จทย์ถามคอื ต้องซือ้ มาเพมิ่ อีกกก่ี โิ ลกรมั กี่กรมั ส่งิ ท่ีโจทย์บอกคือ แม่มีแป้งสาลี 750 กรัม ตอ้ งการ มแี ปง้ สาลี 2 กโิ ลกรัม ครถู ามวา่ หาคำตอบได้อยา่ งไร นักเรยี นอาจจะยงั ตอบไมไ่ ด้ทันที ครอู ธบิ ายเพมิ่ เติมโดยใช้ Bar Model ดังน้ี ครตู ดิ แถบ Bar Model แสดงน้ำหนกั ของแป้งสาลีท่แี ม่ตอ้ งการ ดงั น้ี ตอ้ งการ 1,000 กรัม 1,000 กรัม 9. จากนนั้ เขียน Bar Model แสดงนำ้ หนักของแปง้ สาลที ี่แม่มีอยู่ ดังน้ี ต้องการ 1,000 กรัม 1,000 กรัม

750 กรัม ? มีอยู่ ซอื้ เพม่ิ 10. ครถู ามนักเรียนวา่ จากภาพนำ้ หนักของแป้งสาลีที่แม่ต้องซอ้ื มาเพม่ิ อกี หาได้อย่างไรนกั เรียนควรตอบ ได้วา่ นำนำ้ หนักของแป้งสาลที แี่ ม่ต้องต้องการลบดว้ ยน้ำหนักของแป้งสาลีท่ีแม่มีอยู่ 11. จากนนั้ ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั เขยี นแสดงวิธหี าคำตอบ ตามหนังสอื เรียนหนา้ 235 ครูให้นกั เรียน ตรวจสอบคำตอบโดยนำคำตอบทีไ่ ดร้ วมกบั นำ้ หนกั ของแป้งสาลที ีแ่ ม่มีอยู่ จะไดเ้ ทา่ กบั นำ้ หนักของแปง้ สาลีที่แม่ ตอ้ งการ 12. จากนั้นครใู ห้นักเรยี นช่วยกันเขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบในกรอบทา้ ยหนา้ 235 ขน้ั สรุป 13. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยใหน้ กั เรียนเขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบเปน็ รายบคุ คลตามหนังสือ เรียนหน้า 236 14. จากนั้นครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปส่ิงท่ีไดเ้ รียนรู้ หากมนี กั เรยี นวเิ คราะห์ โจทยป์ ญั หาหรือเขียนแสดงวธิ หี าคำตอบไมไ่ ด้ ครคู วรแกไ้ ขโดยการใหน้ ักเรยี นฝกึ วิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาและเขียน แสดงวธิ ีหาคำตอบกบั ครูเปน็ รายบุคคล สง่ิ ที่ไดเ้ รียนรู้ • การแก้โจทย์ปัญหาทำไดโ้ ดย อ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ญั หา หาคำตอบและ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ 15. จากน้นั ให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 4.11 หน้า 150 - 152 10. สื่อการเรียนรู้ 1.หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.บตั รโจทยป์ ญั หาการบวกและบตั รโจทย์ปญั หาการลบ 4.ติดแถบ Bar Model 11. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกิจกรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ 2. เครอ่ื งมอื 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลมุ่

3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 18 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 12101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 เรอ่ื ง การวัดนำ้ หนัก เวลา 18 ชวั่ โมง แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 18 เรื่อง ร่วมคดิ ร่วมทำ เวลา 1 ช่วั โมง 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 2 การวดั และเรขาคณติ มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเกย่ี วกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทต่ี ้องการวัดและนำไปใช้ 2. ตัวช้ีวัด ค 2.1 ป.2/4 วดั และเปรียบเทยี บนำ้ หนกั เปน็ กิโลกรมั และกรมั กิโลกรมั และขดี 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การคาดคะเนความนำ้ หนักเเป็นกิโลกรัมและกรัม กโิ ลกรมั และขีด ใหใ้ กล้เคยี งกบั นำ้ หนกั จรงิ อาจเทียบ โดยใช้เครอื่ งชัง่ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายวธิ กี ารคาดคะเนน้ำหนักเปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กโิ ลกรัมและขีดได้ (K) 2) แสดงข้ันตอนวธิ กี ารคาดคะเนน้ำหนกั เปน็ กโิ ลกรมั และกรัม กิโลกรมั และขดี ได้ (P) 3) รับผิดชอบต่อหน้าทท่ี ี่ไดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การคาดคะเนนำ้ หนกั เปน็ กโิ ลกรัมและกรัม กิโลกรมั และขีดได้ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหา ✓ การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอื่ มโยง การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 8. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรม ถุงทรายเจ้าปญั หา 1. ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลมุ่ กลุม่ ละเทา่ ๆ กัน ให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สมุ่ หยบิ บัตรกำหนดน้ำหนักกลุ่มละ 1 ใบ 2. เมื่อได้บัตรกำหนดน้ำหนกั แลว้ ให้ไปหยบิ ถงุ ทรายมาชัง่ กถี่ ุงกไ็ ดต้ ามที่คดิ ว่า จะไดน้ ำ้ หนักเท่ากบั น้ำหนกั ในบตั รกำหนดนำ้ หนัก แล้วบนั ทึกลงในแบบบนั ทึกกจิ กรรม 3. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมทำนองเดยี วกันอกี 1 คร้ัง แลว้ บนั ทกึ ลงในแบบบันทึกกิจกรรมพร้อม ทัง้ เติมคำตอบ 4. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ นำเสนอแบบบนั ทึกกิจกรรมหน้าชัน้ เรียน ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 5. จากนัน้ ให้นักเรียนทำแบบฝึกทา้ ทายหนา้ 153 10. ส่อื การเรียนรู้ 1.หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.ถงุ ทรายที่มนี ำ้ หนกั หลากหลาย เช่น 5 ขดี 8 ขีด 1 กโิ ลกรมั 1 กิโลกรัม 1 ขดี 1 กโิ ลกรมั 2 ขดี ให้มี จำนวนเพียงพอสำหรับการชง่ั น้ำหนกั ตามบตั รกำหนดน้ำหนัก 4.บตั รกำหนดนำ้ หนกั 5.เคร่อื งชงั่ สปริง 6.แบบบันทกึ กิจกรรม 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวัดและประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 2. เคร่อื งมอื 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกิจกรรม 2.3 แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลมุ่ 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม ผ่านตัง้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

การจัดทำแผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ค 12101 ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 5หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2564 จดั ทำโดย นางสาวเตชินี หอมนาน ตำแหนง่ พนักงานราชการ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 จงั หวดั เชยี งใหม่ ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจม่ จงั หวัดเชียงใหม่ สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนกั งานการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการจัดการเรียนรู้ 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปกี ารศึกษา 2564 ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 22 ช่ัวโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง การคณู เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง เตรยี มความพรอ้ ม 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลท่ีเกิดข้นึ จากการดำเนนิ การสมบตั ขิ องการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตวั ช้วี ัด ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลกั ษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลกั กับจำนวน ไม่เกนิ 2 หลัก 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด สิ่งต่าง ๆ ท่ีจัดเป็นกลมุ่ หรือเปน็ แถวที่แตล่ ะกลมุ่ หรอื แต่ละแถวมจี ำนวนสมาชิกเทา่ กนั สามารถเขียนในรูปการ คูณของจำนวนสองจำนวน คือ จำนวนกลุ่มหรือจำนวนแถวคณู กบั จำนวนสมาชิกในแต่ละกลุ่มหรอื จำนวนสมาชิกใน แต่ละแถว ผลคณู ของจำนวนสองจำนวนนน้ั คอื จำนวนสมาชิกทัง้ หมด 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายความหมายของการคูณได้ (K) 2) เขียนการคูณจากประโยคสญั ลักษณ์การบวกได้ (P) 3) รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าทีท่ ไ่ี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ ความหมายของการคณู 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแก้ปญั หา ✓ การส่อื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง การให้เหตุผล การคิดสรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอื่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

8. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ 1. ใชข้ อ้ มูลในหนังสอื เรียนหน้าเปิดบทที่เป็นเรอ่ื งราวเกี่ยวกบั การไปปิกนิกกบั ครอบครัวทส่ี วนสาธารณะ โดยครอู าจเลา่ ว่า มีกิจกรรมใหร้ ่วมสนกุ กันหลายอยา่ งเชน่ น่ังเรอื จกั รยานน้ำ นำอาหารมารบั ประทานรว่ มกนั เปน็ ต้น เพอ่ื กระตุ้นความสนใจของนกั เรียนเกี่ยวกบั กจิ กรรมตา่ ง ๆ โดยใช้คำถาม เช่น ใครเคยไปปกิ นิกกบั ครอบครวั บ้าง เคยไปทีไ่ หน มกี จิ กรรมท่ที ำรว่ มกนั อะไรบา้ งและใหน้ ักเรยี นสังเกตจำนวนคน จำนวนสง่ิ ของทีม่ ใี นภาพว่ามี ลักษณะอยา่ งไรบ้าง 2. จากนน้ั ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตภาพในหนังสือเรยี นหน้าเปดิ บทวา่ เปน็ กจิ กรรมปิกนกิ ของครอบครวั ขนุ แกว้ ตา ตน้ กลา้ และใบบัว แล้วใช้คำถามนำเข้าสู่บทเรียนเรอื่ งการคูณว่า ถ้าต้องการทราบว่า มีคนน่งั เรอื จกั รยาน นำ้ กคี่ น จะหาคำตอบไดอ้ ย่างไร หรือถ้าตอ้ งการทราบวา่ มลี กู ชนิ้ ทั้งหมดท่ีวางในจานก่ีไม้ และมลี ูกชิ้นทง้ั หมดก่ลี ูก จะหาคำตอบได้อยา่ งไร นักเรียนอาจ หาคำตอบโดยการนำจำนวนมาบวกกัน หรอื โดยการนับรวมกนั 3. ครแู นะนำวา่ มอี ีกวธิ หี นงึ่ ที่จะช่วยในการหาคำตอบได้ โดยใชก้ ารคณู ซง่ึ จะใช้ความรใู้ นบททจี่ ะเรยี นน้ีใน การหาคำตอบ ขน้ั สอน 4. ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับภาพผลไมต้ ่าง ๆ ทแี่ มค่ ้าขายที่สวนสาธารณะในหนา้ เปิดบทว่า แม่คา้ จัด ผลไมใ้ นลกั ษณะอยา่ งไร และจะหาจำนวนผลไม้ทั้งหมดไดอ้ ยา่ งไร นกั เรยี นอาจใชว้ ธิ ีการนำจำนวนผลไมม้ าบวกกัน โดยเปน็ การบวกจำนวนเดยี วกนั ซำ้ ๆ เช่น ภาพส้มในหน้าเปิดบทมี 6 แพก็ แต่ละแพก็ มี 3 ผล ดังนน้ั มสี ้มท้ังหมด 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 = 18 ผล 5. ครใู ห้นักเรียนใช้วิธีการบวกจำนวนเดียวกันซ้ำ ๆเชน่ เดียวกันนี้ในกจิ กรรมเตรียมความพรอ้ ม โดยแบง่ นักเรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน 6. จากน้ันครูชบู ัตรภาพผลไมท้ จี่ ัดไวเ้ ป็นกลุ่มกลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน แล้วให้นกั เรียนหาจำนวนผลไม้ทงั้ หมดที่อยู่ ในภาพนน้ั (ครูอาจใช้สือ่ ภาพผลไมจ้ ากเอกสารส่ือเพม่ิ เตมิ บทที่ 5 หนา้ 240 ) กลุ่มใดตอบได้รวดเร็วและถกู ตอ้ งเปน็ กลมุ่ ที่ชนะ และเพื่อตรวจสอบว่านักเรยี นใช้วิธกี ารบวกจำนวนเดยี วกันซำ้ ๆ ในการหาคำตอบหรือไม่ ครอู าจ ใหน้ ักเรยี นเขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบไว้ในบัตรภาพผลไม้แต่ละบัตรทไี่ ดร้ ับแจกด้วย ขน้ั สรปุ 7. ในการเตรียมความพร้อมเพอื่ เป็นการตรวจสอบวา่ นักเรยี นแต่ละคนมีความรูพ้ ืน้ ฐานเพยี งพอในการเรียน เร่อื งการคณู หรือไม่ ครคู วรแจกใบกิจกรรมการบวกซำ้ ๆ ให้นักเรยี นทำเปน็ รายบุคคล 8. จากน้ันครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ถ้าพบวา่ มนี ักเรียนคนใดยงั บวกจำนวนเดียวกัน ซ้ำๆ ไม่ได้ ครคู วรฝึกเป็นรายบุคคล

9. ขอ้ ควรระวงั สำหรบั ครูผูส้ อน เช่น 6 + 6 + 6 + 6 + 6 ครมู กั จะอา่ นผดิ ว่า มี 6 บวกกนั 5 คร้ัง ทถ่ี กู ต้อง คือ มี 6 บวกกนั 5 จำนวน เหตุผลทีอ่ ่านวา่ มี 6 บวกกนั 5 ครง้ั ไม่ถูกตอ้ ง เน่อื งจาก6 + 6 + 6 + 6 + 6 เม่อื หา ผลบวกจะบวก 6 เพยี ง 4 ครง้ั เท่านั้น คอื บวกคร้ังที่ 1 ได้ 12 + 6 + 6 + 6 บวกคร้ังท่ี 2 ได้ 18 + 6 + 6 บวกคร้งั ที่ 3 ได้ 24 + 6 และ บวกครงั้ ที่ 4 ได้ 30 10. สอื่ การเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมิน 3.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุม่ ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรยี นรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครูผ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรียนรู้ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปีการศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 22 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การคณู เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง ความหมายของการคณู 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลักกบั จำนวน ไม่เกนิ 2 หลัก 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สิ่งต่าง ๆ ทจ่ี ดั เป็นกลมุ่ หรือเป็นแถวท่แี ต่ละกล่มุ หรือแตล่ ะแถวมีจำนวนสมาชิกเทา่ กนั สามารถเขยี นในรูปการ คณู ของจำนวนสองจำนวน คือ จำนวนกลุ่มหรอื จำนวนแถวคูณกบั จำนวนสมาชกิ ในแต่ละกลุ่มหรือจำนวนสมาชิกใน แตล่ ะแถว ผลคูณของจำนวนสองจำนวนนั้น คอื จำนวนสมาชกิ ทงั้ หมด 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายความหมายของการคูณได้ (K) 2) เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการคูณจากสถานการณ์ท่กี ำหนดได้ (P) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีทไี่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ ความหมายของการคูณ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหา ✓ การสอ่ื สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่อื มโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

8. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ ม่ันในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำ 1. ครูชูบัตรภาพส้ม 4 จาน จานละ 5 ผลตามหนงั สอื เรยี นหน้า 241 ใหน้ กั เรยี นดูแลว้ ถามนกั เรยี นวา่ ใน ภาพมีอะไรบา้ ง นักเรียนตอบ มีส้ม 4 จาน จานละ 5 ผล 2. ครถู ามว่า มีส้มท้ังหมดกผี่ ล นักเรียนตอบ มีสม้ ท้งั หมด 20 ผล ครถู ามวา่ หาคำตอบได้อยา่ งไร นกั เรยี น อาจใช้การนับ หรอื การบวกโดยนำจำนวนส้มมาบวกกนั เช่น มีสม้ 5 + 5 + 5 + 5 = 20 ผล 3. จากนน้ั ครแู นะนำว่าจากสถานการณ์ดังกลา่ ว สามารถเขยี นเป็นประโยคสัญลักษณ์การคูณได้ 4 × 5 = 20 ครแู นะนำเคร่อื งหมายคณู และผลคณู พร้อมท้ังแนะนำวา่ เมือ่ เขยี น 4 × 5 = 20 นั้น 4 เป็นจำนวนกลุ่ม 5 เปน็ จำนวนสมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ และ 20 คือผลคูณ ในทีน่ คี้ อื ส้ม 4 จาน จานละ 5 ผล มีสม้ ทงั้ หมด 20 ผล ข้นั สอน 4. ครูให้นกั เรยี นเขียนประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณจากสถานการณ์ที่กำหนดให้จากหนงั สือเรยี นหนา้ 242 ภาพแรก ครูถามนกั เรยี นวา่ เห็นอะไรในภาพบา้ งนกั เรียนตอบ มขี นมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย ครถู ามต่อวา่ มขี นมถ้วยทง้ั หมดกีถ่ ้วย นักเรียนตอบ 12 ถว้ ย 5. ครแู นะนำเขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณก์ ารบวกได้ 4 + 4 + 4 = 12 เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การคณู ได้ 3 × 4 = 12 และ ใช้คำถามวา่ จาก 3 × 4 = 12 นนั้ 3 ในทน่ี ้หี มายถงึ อะไร 4 ในทีน่ ี้หมายถึงอะไร และ 12 ใน ที่น้ีหมายถงึ อะไร นักเรยี นตอบวา่ 3 เป็นจำนวนกลุ่ม 4 เปน็ จำนวนสมาชิกในแต่ละกลุ่ม และ 12 เปน็ จำนวนสมาชิก ท้ังหมด จากนัน้ ครสู อนในทำนองเดยี วกนั นโี้ ดยใช้ภาพคุกกี้ และภาพโดนทั ตามหนงั สอื เรียนหนา้ 242 6. ครนู ำคกุ กม้ี าจัดเป็นถงุ 8 ถงุ ถุงละ 3 ชน้ิ แล้วใหน้ ักเรยี นเขียนประโยคสญั ลกั ษณ์การบวก และประโยค สัญลักษณ์การคูณแสดงจำนวนคุกกีท้ ้งั หมดจะได้ 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 + 3 = 24 และ 8 × 3 = 24 7. ครูถามนกั เรยี นเพื่อเน้นย้ำความเขา้ ใจว่าจาก 8 × 3 = 24 น้นั 8 ในทีน่ ีห้ มายถึงอะไร 3 ในทนี่ ห้ี มายถึง อะไร และ 24 ในที่น้หี มายถงึ อะไร นกั เรยี นตอบวา่ 8 เป็นจำนวนกลมุ่ 3 เปน็ จำนวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่ม และ 24 เป็นจำนวนสมาชิกท้ังหมด 8. จากน้ันครจู ดั กล่มุ คุกกีใ้ หม่เป็น 3 ถงุ ถงุ ละ 8 ช้นิ แลว้ ถามนกั เรยี นวา่ มีคกุ ก้ที งั้ หมดกี่ช้ิน และจัดเป็นกี่ ถุง ถงุ ละก่ีชิน้ นกั เรยี นตอบวา่ มคี กุ กี้ทั้งหมด 24 ชนิ้ จดั เป็น 3 ถุง ถุงละ 8 ชิ้น ครูถามนกั เรียนว่าเขยี นเป็นประโยค สัญลักษณก์ ารคูณไดอ้ ย่างไร นักเรยี นเขียนไดเ้ ป็น 3 × 8 = 24 9. ครูชี้ไปที่ประโยคสญั ลักษณ์การคูณ 8 × 3 = 24 อีกครงั้ แลว้ ใหน้ ักเรียนพูดวา่ จัดคุกก้ี 8 ถงุ ถงุ ละ 3 ชิน้ มคี กุ กีท้ ง้ั หมด 24 ช้ิน และครูชไ้ี ปที่ประโยคสัญลกั ษณก์ ารคณู 3 × 8 = 24 แล้วให้นักเรียนพดู วา่ จัดคุกกี้ 3 ถงุ ถุง ละ 8 ชิ้น มีคุกกท้ี ้งั หมด 24 ชนิ้ 10. ครใู ห้นักเรียนสังเกตว่า 3 × 8 = 24 และ 8 × 3 = 24 ถงึ แมว้ ่าจะมี จำนวนค้กุ ก้ี 24 ชนิ้ เทา่ กัน แต่ ลักษณะของการจดั คุก้ กีใ้ ส่ถุงแตกต่างกัน จากนนั้ ครใู หน้ ักเรียนช่วยกนั เขยี นประโยคสัญลักษณ์การคณู จาก สถานการณข์ อ้ 1− 4 ทก่ี ำหนดในกรอบท้ายหน้า 243 ครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

ขั้นสรุป 11. ให้นกั เรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์การคูณจากประโยคสญั ลักษณ์การบวก และจากสถานการณท์ ี่ กำหนดให้ โดยใหบ้ อกดว้ ยว่าจำนวนกลมุ่ คือจำนวนใด จำนวนสมาชิกในแต่ละกลมุ่ คือจำนวนใด และจำนวนสมาชกิ ทง้ั หมดคือจำนวนใด เพ่อื ให้นกั เรยี นไดเ้ นน้ ยำ้ ความเขา้ ใจว่าจากประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ จำนวนที่อยู่หนา้ เครอ่ื งหมายคูณ เปน็ จำนวนกลุ่ม จำนวนทอี่ ย่หู ลังเคร่ืองหมายคูณเป็นจำนวนสมาชิกในแต่ละกล่มุ และจำนวน หลงั เครื่องหมายเท่ากับเป็นจำนวนสมาชิกทัง้ หมด จากนน้ั ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และสรุปสงิ่ ที่ไดเ้ รยี นรู้ ส่ิงทีไ่ ด้เรยี นรู้ สงิ่ ตา่ ง ๆ ท่จี ัดเปน็ กลุ่ม แต่ละกลุ่มมีจำนวนสมาชิกเทา่ กนั สามารถเขยี นในรปู การคณู ของจำนวนสอง จำนวน คือ จำนวนกลมุ่ คูณกับจำนวนสมาชกิ ในแต่ละกล่มุ ผลคูณของจำนวนสองจำนวนน้ัน คอื จำนวนสมาชิก ทง้ั หมด 12. จากนั้นใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 5.1 หน้า 154 − 156 10. สือ่ การเรียนรู้ 1.หนังสือเรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บตั รภาพ 4.สอื่ ของจรงิ เช่น ตวั นับ ปากกา ดนิ สอ 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หดั 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ ผ่านตงั้ แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผา่ น

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรียนรู้ 3 กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปีการศกึ ษา 2564 ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 2 เวลา 22 ชัว่ โมง หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การคณู เวลา 1 ชั่วโมง แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรื่อง ความหมายของการคณู 1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณติ มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวช้วี ัด ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลักกบั จำนวน ไม่เกนิ 2 หลัก 3. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด สิ่งต่าง ๆ ทจ่ี ดั เป็นกลมุ่ หรือเป็นแถวท่แี ต่ละกล่มุ หรือแตล่ ะแถวมีจำนวนสมาชิกเทา่ กนั สามารถเขยี นในรูปการ คณู ของจำนวนสองจำนวน คือ จำนวนกลุ่มหรอื จำนวนแถวคูณกบั จำนวนสมาชกิ ในแต่ละกลุ่มหรือจำนวนสมาชิกใน แตล่ ะแถว ผลคูณของจำนวนสองจำนวนนั้น คอื จำนวนสมาชกิ ทงั้ หมด 4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1) อธิบายความหมายของการคูณได้ (K) 2) เขยี นประโยคสัญลกั ษณแ์ สดงการคูณจากสถานการณ์ท่กี ำหนดได้ (P) 3) รบั ผิดชอบตอ่ หน้าท่ีทไี่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ ความหมายของการคูณ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแก้ปัญหา ✓ การสอ่ื สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเช่อื มโยง ✓ การให้เหตุผล การคดิ สร้างสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 1. ความสามารถในการส่อื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

8. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. ครชู ูบตั รภาพเดก็ ท่นี ัง่ เป็นแถว 3 แถวตามแนวนอนในภาพแรกตามหนงั สอื เรียนหน้า 245 ครูถาม นักเรียนว่า ในแนวนอนมเี ดก็ น่ังอยกู่ ี่แถว นกั เรียนตอบ 3 แถว ครูถามแถวละกีค่ น นกั เรยี นตอบ แถวละ 4 คน ครู ถาม มีเดก็ ท้ังหมดกคี่ น นักเรียนตอบ 12 คน ครูถาม 12 คนหาไดโ้ ดยวธิ ีใด นักเรยี นตอบ 4 + 4 + 4 = 12 2. ครูถามว่าเขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณได้อย่างไร นกั เรียนตอบ 3 × 4 = 12 ครูถามนกั เรียน 3 ในทน่ี ี้หมายถงึ อะไร 4 ในที่นห้ี มายถงึ อะไร และ12 ในที่นี้หมายถึงอะไร นักเรยี นตอบวา่ 3 เป็นจำนวนแถว 4 เป็น จำนวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 12 เป็นจำนวนสมาชิกทั้งหมด ขั้นสอน 3. จากนนั้ ครใู หน้ กั เรยี นดภู าพเด็กนัง่ เป็นแถวตามแนวต้ัง แล้วถามนักเรยี นว่า ในแถวแนวต้ังมีเด็กนั่งอยู่ก่ี แถว แถวละกี่คนและมีจำนวนเด็กทั้งหมดกี่คน นักเรยี นตอบ มเี ด็กน่ังอยู่ 4 แถว แถวละ 3 คน มีเด็กนั่งอยทู่ ัง้ หมด 12 คน ครถู ามว่า 12 คนหาไดโ้ ดยวธิ ีใด นักเรียนตอบ 3 + 3 + 3 + 3 = 12 4. ครถู ามวา่ เขียนเปน็ ประโยคสัญลักษณก์ ารคูณได้อย่างไร นักเรยี นตอบ 4 × 3 = 12 ครถู ามนกั เรียน 4 ในที่นี้หมายถึงอะไร 3 ในที่นี้หมายถงึ อะไร และ 12 ในท่ีนี้หมายถงึ อะไร นักเรยี นตอบ 4 หมายถงึ จำนวนแถว 3 หมายถึงจำนวนสมาชกิ ในแต่ละแถว และ 12 หมายถึงจำนวนสมาชกิ ทั้งหมด 5. ครชู ีไ้ ปทีป่ ระโยคสัญลักษณ์การคูณ 3 × 4 = 12 อีกคร้ัง แลว้ ให้นกั เรยี นพูดพรอ้ มกันวา่ 3 เปน็ จำนวน แถว 4 เปน็ จำนวนสมาชกิ ในแตล่ ะแถว และ 12 เป็นจำนวนสมาชิกทัง้ หมด และครูชมี้ าทปี่ ระโยคสัญลกั ษณ์การคณู 4 × 3 = 12 อีกครงั้ แล้วใหน้ ักเรียนพูดพรอ้ มกันวา่ 4 เป็นจำนวนแถว 3 เป็นจำนวนสมาชิกในแตล่ ะแถว และ 12 เปน็ จำนวนสมาชิกทงั้ หมด 6. ครูให้นักเรียนสงั เกตว่า 3 × 4 = 4 × 3 ถ้าพบว่ามนี กั เรยี นทยี่ ังไม่เข้าใจเรอ่ื งแถวแนวตงั้ และแถว แนวนอน ใหค้ รูใช้สอ่ื ประกอบที่เป็น QR Code ในหนังสือเรยี นหน้า 245 ซึง่ เม่ือแสกนQR Code แลว้ จะเปน็ วดี ิ ทัศนแ์ สดงให้นกั เรยี นเห็นไดง้ า่ ยขนึ้ วา่ แถวแนวนอนกบั แถวแนวตั้งนน้ั ตา่ งกันอย่างไรและใหส้ ังเกตอยา่ งไร โดยครู อาจจะอธิบายเพิ่มเติมประกอบวีดิทศั น์ด้วยก็ได้ 7. ครูใหน้ ักเรียนดูภาพตน้ ตะบองเพชรในหนังสอื เรียนหนา้ 246 แล้วถามนกั เรยี นว่าตน้ ตะบองเพชรมกี ่แี ถว แถวละกี่ตน้ มีทั้งหมดกต่ี ้น นกั เรียนอาจตอบว่า มี 2 แถวแถวละ 3 ต้น มที ัง้ หมด 6 ต้น หรอื มี 3 แถว แถวละ 2 ตน้ มที ัง้ หมด 6 ต้น 8. จากนน้ั ครูให้นกั เรยี นเขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณ์การคูณ จะได้ว่า 2 × 3 = 6 หรอื 3 × 2 = 6 ครชู ีไ้ ปทีป่ ระโยคสัญลักษณก์ ารคณู 2 × 3 = 6 แลว้ ถามนักเรยี นวา่ 2 ในท่นี ้หี มายถึงอะไร 3 ในที่นหี้ มายถึงอะไร และ 6 ในทีน่ ห้ี มายถึงอะไร นกั เรยี นตอบ 2 เปน็ จำนวนแถว 3 เปน็ จำนวนสมาชิกในแต่ละแถว และ 6 เป็นจำนวน สมาชกิ ท้ังหมด 9. จากน้ันครูชี้ไปทป่ี ระโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณ 3 × 2 = 6 แล้วถามนักเรยี นว่า 3 ในท่นี หี้ มายถงึ อะไร 2 ในทน่ี ีห้ มายถึงอะไร และ 6 ในทนี่ ้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 เป็นจำนวนแถว 2 เปน็ จำนวนสมาชกิ ในแตล่ ะ แถวและ 6 เปน็ จำนวนสมาชกิ ท้งั หมด

10. ครใู ห้นกั เรียนสังเกต 2 × 3 = 3 × 2 จากน้ันครใู ห้นกั เรียนพจิ ารณาภาพขวดในลังว่ามกี แ่ี ถวแต่ละแถว มีกขี่ วด และมขี วดท้ังหมดเท่าไร แลว้ ทำกิจกรรมเชน่ เดยี วกนั กบั ข้างต้นโดยครคู วรเนน้ ยำ้ เรอื่ งการเขียนประโยค สัญลักษณ์การคูณและการบอกความหมายให้ตรงกับประโยคสญั ลักษณ์การคูณเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นบอกความหมายได้ คลอ่ งและจำได้แม่น 11. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ แลว้ แจกกระดาษจุดท่ีทำเป็นแถวตามหนังสือเรียนหน้า 247 แลว้ ใหน้ ักเรียน เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์การคูณแสดงจำนวนจุดท้ังหมดลงไปในกระดาษทีแ่ จกให้ เม่อื นักเรียนเขียนเสร็จทกุ กลมุ่ แลว้ ครูให้แตล่ ะกลมุ่ นำเสนอประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคูณและอธิบายความหมาย กลมุ่ ละ 1 ขอ้ จากน้ันครแู ละ เพ่ือนในห้องร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง ขนั้ สรุป 12. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยให้นักเรยี นเขยี นประโยคสัญลกั ษณก์ ารคณู จากสถานการณท์ ่ี กำหนดให้ และให้บอกวา่ จำนวนแถวคือจำนวนใด จำนวนสมาชกิ ในแต่ละแถวคือจำนวนใด และจำนวนสมาชกิ ทั้งหมดคือจำนวนใด เพอ่ื ใหน้ ักเรียนไดเ้ ข้าใจวา่ จากประโยคสญั ลักษณ์การคณู จำนวนท่ีอยู่หนา้ เครื่องหมายคูณ เป็นจำนวนแถว จำนวนทอ่ี ยู่หลังเครอ่ื งหมายคูณเป็นจำนวนสมาชกิ ในแตล่ ะแถว และจำนวนทีอ่ ย่หู ลังเครอื่ งหมาย เทา่ กบั เปน็ จำนวนสมาชิกท้ังหมด 13. จากนัน้ ครูและนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ ส่งิ ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ สิ่งที่ได้เรียนรู้ • ส่งิ ตา่ ง ๆ ที่จัดเปน็ แถว แตล่ ะแถวมจี ำนวนสมาชิกเทา่ กนั สามารถเขยี นในรปู การ คูณของจำนวนสองจำนวน คอื จำนวนแถวกับจำนวนสมาชกิ ในแต่ละแถว ผลคูณของจำนวนสองจำนวนนนั้ คือ จำนวนสมาชิกทง้ั หมดจำนวนสองจำนวนคูณกนั เม่อื สลับที่กนั ผลคูณยงั คงเท่าเดมิ 14. จากนน้ั ให้นักเรียนทำแบบฝกึ หัด 5.2 หนา้ 157 − 158 10. สื่อการเรียนรู้ 1.หนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บตั รภาพ 11. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วธิ กี ารวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หัด 1.2 สังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเข้าร่วมกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกล่มุ 2. เคร่อื งมือ 2.1 แบบฝึกหดั 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกล่มุ

3. เกณฑก์ ารประเมิน 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้าร่วมกิจกรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมนิ พฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรียนรู้ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 12101 ปีการศกึ ษา 2564 ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 2 เวลา 22 ชว่ั โมง หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอื่ ง การคณู เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง หน่งึ กบั การคูณ 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระที่ 1 จำนวนและพชี คณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดข้ึนจากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตวั ชีว้ ดั ค 1.1 ป.2/5 หาค่าของตวั ไมท่ ราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กบั จำนวน ไมเ่ กนิ 2 หลกั 3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด จำนวนใดคณู กับ 1 ผลคณู เท่ากบั จำนวนนัน้ 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธบิ ายการหาผลคูณของจำนวนหนงึ่ หลกั กับ 1 ได้ (K) 2) หาผลคณู ของจำนวนหน่งึ หลักกับ 1 ได้ (P) 3) รบั ผดิ ชอบต่อหน้าที่ท่ีได้รบั มอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การหาผลคูณ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ การแกป้ ญั หา ✓ การสอ่ื สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสร้างสรรค์ 7. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

8. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำ 1. ครตู ิดบัตรภาพขนมคกุ ก้ี 3 ถงุ ถงุ ละ 1 ชนิ้ ตามหนงั สือเรียนหนา้ 249 แล้วถามนกั เรียนวา่ มคี ุกก้กี ถ่ี ุง ถุงละก่ชี ้ิน มคี ุกกท้ี ัง้ หมดก่ีชนิ้ นกั เรยี นตอบว่า มคี ุกกี้ 3 ถุงถุงละ 1 ชิ้น มคี ุกกที้ ้งั หมด 3 ช้ิน ครถู ามว่า เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 1 = 3 2. ครูถามนักเรยี นว่า จากประโยคสัญลกั ษณ์การคูณ 3 × 1 = 3 นัน้ 3 ตวั หนา้ ในทีน่ ี้หมายถึงอะไร 1 ในที่นี้ หมายถงึ อะไร และ 3 ตัวหลังในท่ีนหี้ มายถึงอะไร นักเรยี นตอบ 3 ตวั หน้าเป็นจำนวนกลมุ่ และ 1 เป็นจำนวน สมาชกิ ในแต่ละกลมุ่ และ 3 ตัวหลังเป็นจำนวนสมาชกิ ทั้งหมด ข้นั สอน 3. ครตู ดิ บตั รภาพคุกก้ี 1 ถงุ ถุงละ 3 ช้ิน ครูถามนักเรยี นวา่ มคี ุกกี้กี่ถุง ถุงละก่ชี ิ้น มีคุกกีท้ ั้งหมดก่ชี ิ้น นกั เรียนตอบวา่ มคี กุ ก้ี 1 ถงุ ถงุ ละ 3 ชิ้น มีคุกก้ีท้ังหมด 3 ช้นิ ครูถามว่า เขยี นเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณได้ อยา่ งไร นักเรียนตอบ 1 × 3 = 3 ครถู ามนกั เรยี นว่า จากประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ 1 × 3 = 3 นัน้ 1 ในที่นี้ หมายถงึ อะไร 3 ตวั หน้าในทน่ี หี้ มายถงึ อะไร และ 3 ตัวหลังในทนี่ ี้หมายถึงอะไร นักเรยี นตอบ 1 เปน็ จำนวนกลุม่ 3 ตวั หนา้ เปน็ จำนวนสมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ และ 3 ตวั หลังเปน็ จำนวนสมาชิกท้ังหมด 4. ครูให้นกั เรียนสงั เกตวา่ 3 × 1 = 3 และ 1 × 3 = 3 จากนัน้ ครูติดบัตรภาพส้ม 4 จาน จานละ 1 ผล ตามหนังสอื เรียน หน้า 249 แล้วถามนกั เรียนว่า มีส้มกจ่ี าน จานละกผ่ี ล มีส้มทง้ั หมดกีผ่ ล นกั เรียนตอบวา่ มีสม้ 4 จานจานละ 1 ผล มีส้มทั้งหมด 4 ผล ครถู ามวา่ เขียนเปน็ ประโยคสัญลกั ษณ์การคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 4×1=4 5. ครถู ามนักเรียนว่า จากประโยคสัญลักษณก์ ารคูณ 4 × 1 = 4 นัน้ 4 ตัวหนา้ ในทีน่ ี้หมายถงึ อะไร 1 ในทน่ี ี้ หมายถงึ อะไร และ 4 ตวั หลังน้ีหมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 4 ตวั หนา้ เปน็ จำนวนกล่มุ และ 1 เป็นจำนวนสมาชกิ ใน แต่ละกลมุ่ และ 4 ตัวหลงั เปน็ จำนวน สมาชกิ ท้งั หมด ครูติดบตั รภาพส้ม 1 จาน จานละ 4 ผล แลว้ ถามนักเรียนว่า มีส้มกจ่ี าน จานละกผี่ ล มีสม้ ทง้ั หมดกผี่ ล นกั เรียนตอบว่า มสี ม้ 1 จาน จานละ 4 ผล มีสม้ ทง้ั หมด 4 ผล ครถู ามวา่ เขียนเป็นประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณไดอ้ ย่างไร นักเรยี นตอบ 1 × 4 = 4 6. ครถู ามนักเรียนว่าจากประโยคสัญลักษณ์การคูณ 1 × 4 = 4 นน้ั 1 ในท่นี ห้ี มายถงึ อะไร 4 ตัวหน้าในท่นี ี้ หมายถึงอะไร และ 4 ตัวหลงั ในทีน่ ี้หมายถงึ อะไร นกั เรียนตอบ 1 เป็นจำนวนกลุ่ม และ 4 เปน็ จำนวนสมาชิกในแต่ ละกลุ่ม และ 4 ตัวหลังเป็นจำนวนสมาชิกท้ังหมด ครูยกตวั อย่างอืน่ เพ่มิ เติมจนได้ข้อสรปุ ร่วมกบั นักเรยี นว่า จำนวน ใดคูณกบั 1 ผลคูณเทา่ กบั จำนวนนัน้ ขัน้ สรปุ 7. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนโดยใหน้ ักเรยี นหาผลคูณของจำนวนใด ๆ กบั 1 ตามหนังสอื เรียน หน้า 252 แตจ่ ะพบว่าข้อ 7−10 เปน็ การใหเ้ ตมิ ตัวเลขแสดงจำนวนให้ได้ผลคณู เท่ากับ 1 หรอื ใหไ้ ด้ผลคูณเท่ากบั 0 เพ่อื ให้นักเรยี นได้ฝกึ ทกั ษะในการคดิ ให้คลอ่ ง ซ่งึ เปน็ การสง่ เสรมิ ความคิดสรา้ งสรรค์ จากนน้ั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและสรปุ ส่งิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ ส่ิงที่ไดเ้ รยี นรู้ • จำนวนใดคูณกับ 1 ผลคูณเท่ากบั จำนวนน้ัน

10. สื่อการเรียนรู้ 1.หนังสอื เรยี นคณติ ศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.2 เลม่ 1 สสวท. 3.บตั รภาพ 11. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. วิธีการวดั และประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝึกหดั 1.2 สังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในการเขา้ ร่วมกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุม่ 2. เคร่ืองมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้าร่วมกจิ กรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมินพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านต้ังแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤตกิ รรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ 5 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วชิ าคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 12101 ปกี ารศึกษา 2564 ช้ันประถมศึกษาปีที่ 2 เวลา 22 ชวั่ โมง หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เร่อื ง การคณู เวลา 1 ช่วั โมง แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 5 เรื่อง ศนู ยก์ ับการคณู 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกดิ ขึ้นจากการดำเนินการสมบตั ขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้ 2. ตัวชวี้ ดั ค 1.1 ป.2/5 หาคา่ ของตวั ไมท่ ราบค่าในประโยคสญั ลักษณแ์ สดงการคูณของจำนวน 1 หลกั กับจำนวน ไม่เกนิ 2 หลัก 3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด จำนวนใดคูณกบั 0 ผลคูณเทา่ กับ 0 4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1) อธิบายการหาผลคูณของจำนวนหนงึ่ หลกั กบั 0 ได้ (K) 2) หาผลคณู ของจำนวนหนึ่งหลกั กับ 0 ได้ (P) 3) รบั ผิดชอบต่อหน้าท่ีท่ไี ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การหาผลคูณ 6. กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ การแก้ปัญหา ✓ การส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชอ่ื มโยง ✓ การใหเ้ หตุผล การคดิ สรา้ งสรรค์ 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ

8. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 9. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำ 1. ครสู นทนากับนักเรยี นเกีย่ วกบั ภาพตามหนังสอื เรยี นหนา้ 250 ว่าเปน็ เรอื่ งราวท่มี ขี นมอยู่ในจานแล้วขนุ กบั ต้นกลา้ กนิ ขนมทอี่ ยใู่ นจานหมดแล้ว จากนั้นครตู ดิ บัตรภาพจานขนม 3 จานจานละ 0 ชนิ้ แลว้ ถามนักเรียนวา่ มี ขนมกี่จาน จานละก่ชี ิ้น มขี นมทงั้ หมดก่ชี น้ิ นักเรียนตอบวา่ มีขนม 3 จาน จานละ 0 ชน้ิ มีขนมทงั้ หมด 0 ช้ิน 2. ครถู ามวา่ เขียนเป็นประโยคสัญลกั ษณก์ ารคณู ไดอ้ ยา่ งไร นกั เรยี นตอบ 3 × 0 = 0 ขัน้ สอน 3. ครูถามนกั เรียนวา่ จากประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคูณ 3 × 0 = 0 น้นั 3 ในทนี่ ห้ี มายถึงอะไร 0 ตัวหนา้ ในทน่ี ้ี หมายถงึ อะไร และ 0 ตัวหลงั ในทนี่ ้หี มายถึงอะไร นักเรยี นตอบ 3 เป็นจำนวนกลมุ่ และ 0 ตัวหน้าเปน็ จำนวน สมาชิกในแต่ละกลมุ่ และ 0 ตัวหลงั เป็นจำนวนสมาชิกท้ังหมด 4. ครแู นะนำวา่ เนื่องจากการคูณจำนวนสองจำนวนเมอ่ื สลับที่กันผลคูณยงั คงเทา่ เดิม ครูถามนกั เรียนว่า เนอ่ื งจาก 3 × 0 = 0 แล้ว 0 × 3 เท่ากับเท่าไร นักเรียนตอบ 0 × 3 = 0 5. จากนั้นครูยกตวั อย่างเพม่ิ เติม เชน่ 1 × 0 เท่ากบั เท่าไร 2 × 0 เท่ากบั เทา่ ไร 0 × 1 เทา่ กับเท่าไร 0 × 2 เท่ากบั เทา่ ไร จนนกั เรียนเข้าใจและได้ขอ้ สรปุ รว่ มกัน วา่ จำนวนใดคูณกบั 0 ผลคณู เท่ากับ 0 6. ครูให้นกั เรยี นช่วยกับหาผลคูณของจำนวนใด ๆ กบั 0 ในกรอบท้ายหน้า 250 เมือ่ นักเรียนชว่ ยกันหา คำตอบเสรจ็ แลว้ ครอู าจให้นกั เรยี นนำเสนอเปน็ รายบุคคลเพือ่ ตรวจสอบว่ามใี ครไมเ่ ขา้ ใจบ้างโดยครแู ละนกั เรียน รว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง 7. ครูให้นักเรียนฝกึ หาผลคูณ โดยใหช้ ่วยกันหาผลคูณตามหนงั สอื เรยี นหน้า 251 อาจจะแบง่ กลมุ่ แล้วให้ นกั เรียนช่วยกันทำเป็นกลุม่ และนำเสนอ หรอื อาจให้ตอบเปน็ รายบุคคลเพ่อื ใหน้ กั เรียนทุกคนได้มีสว่ นรว่ มในการ เรียน ขั้นสรุป 8. ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียน โดยให้นักเรียนหาผลคูณของจำนวนใด ๆ กับ 0 และหาผลคูณของ จำนวนใด ๆ กับ 1 ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 252 แต่จะพบว่าขอ้ 7−10 เปน็ การให้เติมตัวเลขแสดงจำนวนใหไ้ ด้ผลคณู เท่ากับ 1 หรือให้ไดผ้ ลคูณเท่ากับ 0 เพ่ือให้นกั เรียนได้ฝึกทกั ษะในการคดิ ให้คล่อง ซง่ึ เปน็ การส่งเสรมิ ความคิด สรา้ งสรรค์ 9. จากนนั้ ครูและนกั เรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรปุ ส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้ สงิ่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ • จำนวนใดคูณกบั 1 ผลคณู เทา่ กับจำนวนนั้น • จำนวนใดคูณกับ 0 ผลคณู เทา่ กับ 0 10. จากน้นั ให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด 5.3 หน้า 159 – 160 10. สื่อการเรยี นรู้ 1.หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 2.แบบฝกึ คณิตศาสตร์ ป.2 เล่ม 1 สสวท. 3.บัตรภาพ

11. การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ 1. วธิ ีการวัดและประเมินผล 1.1 ตรวจแบบฝกึ หดั 1.2 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการเข้ารว่ มกจิ กรรม 1.3 สงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้าร่วมกจิ กรรมกล่มุ 2. เครือ่ งมือ 2.1 แบบฝกึ หัด 2.2 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรม 2.3 แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลุ่ม 3. เกณฑ์การประเมนิ 3.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ 3.2 การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือวา่ ไม่ผ่าน 3.3 การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกล่มุ ผ่านต้งั แต่ 2 รายการ ถือวา่ ผา่ น ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผา่ น

แบบบนั ทึกหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ……………… เร่ือง ……………………………………………………………….. แผนการเรยี นรูท้ ่ี ………………… เรื่อง ……………………………………………………………….. รายวิชา……………………………….. ช้ัน…………………………. รหัสวิชา ……………………………………. ครูผสู้ อน …………………………………………….. ตำแหน่ง …………………………………… เวลาท่ีใช้ ……… ชั่วโมง (ใน 1 วนั ท่ีสอนจริง) ************************* ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้อค้นพบระหว่าง ปัญหาท่พี บ แนวทางแก้ไข ที่มกี ารจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เน้อื หา กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อประกอบการเรียนรู้ พฤตกิ รรม/การมีส่วนร่วมของผ้เู รียน ลงช่อื …..........………….......................…….. ครผู ้จู ัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (นางสาวเตชินี หอมนาน) ตำแหน่ง พนกั งานราชการ

แผนการจดั การเรยี นรู้ 6 กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ วิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวิชา ค 12101 ปีการศกึ ษา 2564 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 2 เวลา 22 ชัว่ โมง หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การคณู เวลา 1 ชว่ั โมง แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 6 เร่อื ง การคณู จำนวนหน่งึ หลักกบั จำนวนหนึง่ หลัก 1. สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ สาระท่ี 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค. 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการสมบตั ิของการดำเนินการและนำไปใช้ 2. ตัวชว้ี ัด ค 1.1 ป.2/5 หาค่าของตัวไม่ทราบคา่ ในประโยคสัญลักษณ์แสดงการคณู ของจำนวน 1 หลักกับจำนวน ไมเ่ กนิ 2 หลกั 3. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด การคูณจำนวน 1 หลักกับจำนวน 1 หลักหาผลคูณโดยใช้สูตรคูณแม่ 2 แม่ 3 แม่ 4 แม่ 5 แม่ 6 แม่ 7 แม่ 8 หรอื แม่ 9 4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1) อธบิ ายการหาผลคูณของจำนวนหนงึ่ หลักกับ 2 และหาผลคูณของจำนวนหนงึ่ หลกั กับ 3 ได้ (K) 2) หาผลคณู ของจำนวนหนง่ึ หลักกบั 2 และหาผลคูณของจำนวนหน่งึ หลักกบั 3 ได้ (P) 3) รบั ผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย (A) 5. สาระการเรยี นรู้ การหาผลคูณ 6. กระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหา ✓ การสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ ✓ การเชือ่ มโยง ✓ การให้เหตุผล การคิดสร้างสรรค์ 7. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการสือ่ สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

8. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 9. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำ 1. ครตู ดิ บัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล แล้วถามนักเรยี นวา่ มมี ะนาวก่ีจาน จานละกผ่ี ล มมี ะนาว ทัง้ หมดกี่ผล นักเรียนตอบวา่ มีมะนาว 2 จาน จานละ 1 ผล มีมะนาวทง้ั หมด 2 ผล ครูถามว่า เขียนเปน็ ประโยค สัญลกั ษณ์การคูณไดอ้ ยา่ งไร นกั เรียนตอบ 2 × 1 = 2 ครูถามนกั เรยี นว่า จากประโยคสัญลกั ษณ์การคณู 2 × 1= 2 นั้น 2 ตัวหน้าในท่ีนีห้ มายถึงอะไร 1 ในทีน่ ี้หมายถึงอะไร และ 2 ตวั หลังในทนี่ หี้ มายถึงอะไรนกั เรียนตอบ 2 ตัวหน้า เป็นจำนวนกลุ่มและ 1 เป็นจำนวนสมาชิกในแต่ละกลุม่ และ 2 ตัวหลงั เปน็ จำนวนสมาชิกทัง้ หมด ข้นั สอน 2. ครูติดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 2 ผล แลว้ ถามนักเรยี นว่า มีมะนาวกจี่ าน จานละกผ่ี ล มีมะนาว ทั้งหมดกผี่ ล นกั เรียนตอบว่ามีมะนาว 2 จาน จานละ 2 ผล มีมะนาวท้ังหมด 4 ผล ครูถามวา่ เขยี นเป็นประโยค สญั ลักษณ์การคูณได้อยา่ งไร นักเรยี นตอบ 2 × 2 = 4 ครถู ามนักเรยี นว่า จากประโยคสญั ลกั ษณก์ ารคณู 2 × 2 = 4 นั้น 2 ตัวหน้าในท่ีนหี้ มายถึงอะไร 2 ตัวหลังในท่ีนห้ี มายถงึ อะไร และ 4 ในที่นี้หมายถงึ อะไร นักเรียนตอบ 2 ตัวหนา้ เป็นจำนวนกล่มุ และ 2 ตัวหลงั เปน็ จำนวนสมาชิกในแตล่ ะกลุ่มและ 4 เป็นจำนวนสมาชิกท้ังหมด 3. ครตู ดิ บตั รภาพมะนาว 2 จาน จานละ 3 ผล แล้วถามนกั เรียนวา่ มีมะนาวกจ่ี าน จานละกีผ่ ล มมี ะนาว ทงั้ หมดกี่ผล นักเรียนตอบวา่ มมี ะนาว 2 จาน จานละ 3 ผลมมี ะนาวทัง้ หมด 6 ผล ครูถามว่า เขียนเป็นประโยค สัญลกั ษณ์การคูณไดอ้ ย่างไร นักเรยี นตอบ 2 × 3 = 6 ครถู ามนักเรยี นวา่ จากประโยคสญั ลกั ษณ์การคูณ 2 × 3 = 6 นน้ั 2 ในที่นี้ หมายถึงอะไร 3 ในที่น้หี มายถึงอะไร และ 6 ในทีน่ ีห้ มายถงึ อะไร นกั เรียนตอบ 2เป็นจำนวนกล่มุ และ 3 เปน็ จำนวนสมาชกิ ในแต่ละกลุม่ และ 6 เป็นจำนวนสมาชกิ ทง้ั หมด 4. ครตู ิดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 4 ผล แล้วถามนกั เรยี นว่า มมี ะนาวกจ่ี าน จานละกี่ผล มีมะนาว ทง้ั หมดกี่ผล นักเรยี นตอบวา่ มมี ะนาว 2 จาน จานละ 4 ผล มีมะนาวทั้งหมด 8 ผล ครถู ามว่า เขยี นเป็นประโยค สญั ลักษณก์ ารคูณไดอ้ ย่างไร นักเรียนตอบ 2 × 4 = 8 5. ครตู ิดบัตรภาพมะนาว 2 จาน จานละ 5 ผล แล้วถามนักเรยี นว่า มมี ะนาวกี่จาน จานละก่ผี ล มีมะนาว ท้งั หมดกีผ่ ล นักเรยี นตอบว่า มมี ะนาว 2 จาน จานละ 5 ผล มมี ะนาวท้งั หมด 10 ผล ครถู ามว่าเขียนเปน็ ประโยค สญั ลกั ษณ์การคูณได้อยา่ งไร นกั เรียนตอบ 2 × 5 = 10 6. ครูแนะนำว่า การจัดสิ่งตา่ ง ๆ เป็น 2 กล่มุ กลุ่มละเท่า ๆ กนั เปน็ การนำ 2 ไปคณู กบั จำนวนของสงิ่ ต่าง ๆ อาจเขียนเป็น 2 × 1 = 2 2 × 2 = 4 2 × 3 = 6 2 × 4 = 8 2 × 5 = 10 ซ่ึงเรียกวา่ สตู รคูณแม่ 2 7. ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตผลคูณ จะเหน็ วา่ สูตรคูณแม่ 2 มผี ลคูณเพมิ่ ข้นึ ทีละ 2 จากน้ันครูถามนกั เรยี นวา่ 2 × 6 เทา่ กับเท่าไร 2 × 7 เท่ากับเท่าไร 2 × 8 เท่ากบั เท่าไร 2 × 9 เทา่ กับเท่าไร โดยสังเกตจากผลคูณ จากน้นั ครู เขยี นสตู รคณู แม่ 2 ใหค้ รบแลว้ ใหน้ ักเรยี นอา่ นพรอ้ มกนั 8. ครูตดิ บัตรภาพขนมถว้ ย 3 จานจานละ 1 ถว้ ย แล้วถามนกั เรยี นว่า มขี นมถว้ ยก่จี าน จานละกถ่ี ว้ ย มีขนม ถว้ ยท้งั หมดก่ีถว้ ย นกั เรยี นตอบวา่ มขี นมถว้ ย 3 จาน จานละ1 ถว้ ย มขี นมถว้ ยทัง้ หมด 3 ถว้ ย ครถู ามว่าเขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณ์การคูณได้อยา่ งไรนกั เรียนตอบ 3 × 1 = 3 ครถู ามนักเรยี นว่าจากประโยคสญั ลักษณ์การคูณ 3 × 1 = 3 น้นั 3 ตวั หนา้ ในทน่ี ้ีหมายถงึ อะไร 1 ในท่นี ี้หมายถงึ อะไร และ 3 ตวั หลงั ในทนี่ ี้หมายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 ตวั หนา้ เปน็ จำนวนกลุ่ม และ 1 เปน็ จำนวนสมาชิกในแตล่ ะกลมุ่ และ 3 ตวั หลังเปน็ จำนวนสมาชกิ ท้ังหมด

9. ครูตดิ บตั รภาพขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 2 ถ้วยแลว้ ถามนกั เรยี นวา่ มีขนมก่ีจาน จานละกี่ถว้ ย มขี นมถ้วยทงั้ หมดกถ่ี ว้ ย นักเรยี นตอบว่า มีขนมถ้วย 3 จาน จานละ 2 ถ้วย มขี นมถ้วยทงั้ หมด 6 ถ้วย ครูถามว่า เขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณก์ ารคูณได้อยา่ งไร นกั เรยี นตอบ 3 × 2 = 6 ครถู ามนักเรยี นวา่ จากประโยค สญั ลักษณ์การคูณ 3 × 2 = 6 นั้น 3 ในที่น้ีหมายถงึ อะไร 2 ในทน่ี ห้ี มายถึงอะไรและ 6 ในทนี่ ีห้ มายถึงอะไร นกั เรียน ตอบ 3 เปน็ จำนวนกล่มุ และ 2 เปน็ จำนวนสมาชิกในแตล่ ะกลุม่ และ 6 เป็นจำนวนสมาชิกท้งั หมด 10. ครูติดบัตรภาพขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 3 ถว้ ย แลว้ ถามนกั เรยี นว่า มขี นมถ้วยกจี่ าน จานละกี่ถว้ ย มี ขนมถ้วยทงั้ หมดกีถ่ ้วย นักเรยี นตอบวา่ มขี นมถ้วย 3 จาน จานละ 3 ถว้ ย มขี นมถ้วยท้ังหมด 9 ถว้ ย ครูถามวา่ เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณ์การคูณไดอ้ ยา่ งไร นักเรยี นตอบ 3 × 3 = 9 ครถู ามนกั เรียนว่า จากประโยคสญั ลกั ษณ์ การคณู 3 × 3 = 9 นัน้ 3 ตวั หน้าในทน่ี ห้ี มายถึงอะไร 3 ตวั หลงั ในท่ีน้หี มายถงึ อะไร และ 9 ในท่นี หี้ มายถึงอะไร นักเรียนตอบ 3 ตัวหน้าเป็นจำนวนกลมุ่ และ 3 ตัวหลังเป็นจำนวนสมาชิกในแต่ละกลมุ่ และ 9 เป็นจำนวนสมาชกิ ท้งั หมด 11. ครตู ดิ บตั รภาพขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 4 ถ้วย แลว้ ถามนกั เรยี นว่า มขี นมถว้ ยกี่จาน จานละกี่ถว้ ย มี ขนมถ้วยทั้งหมดกี่ถว้ ย นกั เรียนตอบว่า มขี นมถ้วย 3 จาน จานละ 4 ถว้ ย มขี นมถ้วยทง้ั หมด 12 ถ้วย ครถู ามวา่ เขยี นเปน็ ประโยคสัญลักษณก์ ารคูณได้อย่างไร นักเรียนตอบ 3 × 4 = 12 12. ครูติดบตั รภาพขนมถว้ ย 3 จาน จานละ 5 ถว้ ย แลว้ ถามนกั เรียนว่า มีขนมถ้วยก่จี าน จานละก่ีถ้วย มี ขนมถ้วยทง้ั หมดกถ่ี ้วย นกั เรยี นตอบวา่ มขี นมถว้ ย 3 จาน จานละ 5 ถ้วย มขี นมถว้ ยท้งั หมด 15 ถ้วย ครถู ามว่า เขียนเปน็ ประโยคสญั ลักษณก์ ารคูณได้อยา่ งไรนกั เรียนตอบ 3 × 5 = 15 13. ครูแนะนำวา่ การจดั สงิ่ ต่าง ๆ เป็น 3 กลุ่ม กล่มุ ละเท่า ๆ กนั เป็นการนำ 3 ไปคูณกบั จำนวนของสง่ิ ต่าง ๆ อาจเขียนเปน็ 3 × 1 = 3 3 × 2 = 6 3 × 3 = 9 3 × 4 = 12 3 × 5 = 15 ซ่ึงเรียกวา่ สูตรคูณแม่ 3 14. ครใู ห้นกั เรียนสังเกตผลคณู จะเหน็ ว่าสูตรคูณแม่ 3 มี ผลคูณเพ่ิมขึน้ ทีละ 3 จากนั้น ครถู ามนักเรียนวา่ 3 × 6 เท่ากับเท่าไร 3 × 7 เท่ากบั เท่าไร 3 × 8 เท่ากับเท่าไร 3 × 9 เทา่ กับเท่าไร โดยสงั เกตจากผลคูณ จากนัน้ ครู เขียนสตู รคูณแม่ 3 ให้ครบแล้วใหน้ กั เรียนอา่ นพรอ้ มกัน 15. ครใู ห้นกั เรียนหาผลคูณของจำนวนหนง่ึ หลักกบั 2 โดยใชก้ ารถาม−ตอบ เชน่ 4 × 2 เทา่ กบั เทา่ ไร ซงึ่ นักเรยี นอาจหาผลคูณ โดยนำ2 มาบวกกัน 4 จำนวน (2 + 2 + 2 + 2) ครูแนะนำวา่ เนอื่ งจากการคูณจำนวนสอง จำนวน เม่ือสลบั ทก่ี ันผลคูณยังคงเท่าเดมิ จะได้ 4 × 2 = 2 × 4 ดังนั้น สามารถหาผลคณู ของ 4 × 2 ไดจ้ าก 2 × 4 ซ่ึงเทา่ กับ 8 16. จากนน้ั ครูให้นกั เรยี นช่วยกนั หาผลคูณของจำนวนหนึ่งหลักกบั 2 และหาผลคณู ของจำนวนหนง่ึ หลัก กับ 3 ตามหนงั สือเรียนหน้า 255 โดยครแู ละนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ข้นั สรุป 17. ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยใหน้ กั เรียนหาผลคูณของจำนวนหน่ึงหลักกบั 2 และหาผลคณู ของจำนวนหน่ึงหลกั กบั 3 ตามหนงั สือเรียนหน้า 256 และจะพบวา่ ขอ้ 2 ข้อ 4 ขอ้ 5 และข้อ 6 เป็นการใช้การสลบั ทก่ี ารคูณเพอื่ หาคำตอบ 18. จากนน้ั ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและสรุปสง่ิ ที่ไดเ้ รยี นรู้ สง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ • 2 คูณกับจำนวนหนง่ึ หลกั หาผลคูณไดโ้ ดยใช้สูตรคูณแม่ 2 • 3 คูณกับจำนวนหน่งึ หลัก หาผลคูณได้โดยใชส้ ูตรคูณแม่ 3 19. จากนั้นให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัด 5.4 หน้า 161 – 163


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook