Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บวรธรรมบพิตร ฉบับพระประวัติ

บวรธรรมบพิตร ฉบับพระประวัติ

Published by Naresuan University Archive, 2015-12-18 02:07:45

Description: บวรธรรมบพิตร ฉบับพระประวัติ

Keywords: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

Search

Read the Text Version

เอยือนิน โดนีเซยี ออสเตรเลยี ฟิลิปปินส์เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ในฐานะประธานกรรมการสภาการศึกษามหามกุฏราชวทิ ยาลยั และประธานกรรมการอ�ำ นวยการฝกึ อบรมพระธรรมทตู ไปตา่ งประเทศพรอ้ มคณะไดเ้ ดนิ ทางไปดกู ารพระศาสนาและการศึกษา ณ ประเทศอินโดนีเซียออสเตรเลีย และฟิลปิ ปนิ ส์ ระหวา่ งวนั ที่๑๖ เมษายน - ๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๑๑ รวม ๑๗ วัน การเดินทางไปดูการพระศาสนาและการศึกษาคร้งั น้นี ับว่าได้รับประโยชน์เป็นอันมาก โดยเฉพาะดา้ นการเผยแผ่พระพุทธศาสนาคณะเดินทาง ทป่ี ระเทศอนิ โดนเี ซยี เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ พรอ้ มดว้ ย๑. พระสาสนโสภณ (เจริญ สวุ ฑฒฺ โน) คณะไดม้ ีโอกาสพบกบั พระชนิ รกั ขติ พระภกิ ษุเถรวาทวดั บวรนเิ วศวิหาร / คือ สมเด็จพระญาณสังวร ชาวอินโดนีเซียรูปแรกที่เข้ามาฟ้ืนฟูพระพุทธศาสนาสมเดจ็ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก๒. พระเทพกวี (ประยูร สนฺตงฺกโุ ร) เถรวาทในประเทศน้ี หลังจากที่พระพุทธศาสนาไดเ้ ส่ือมเลขาธิการสภาการศึกษามหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั /สดุ ท้ายไดร้ บั พระราชทานสถาปนาเป็นท่ี สญู จากอินโดนเี ซียไปแล้วกว่า ๕๐๐ ปี พระชนิ รกั ขติสมเดจ็ พระญาณวโรดม๓. พันโทประสาร ทองภกั ดี เปน็ ชาวอนิ โดนเี ซยี เชอ้ื สายจนี ได้ไปบรรพชาอปุ สมบทหัวหน้ากองศาสนศกึ ษา กรมการศาสนา เป็นพระภกิ ษุทป่ี ระเทศพมา่ พ.ศ. ๒๔๙๗ แล้วกลบั เข้ามาเผยแผพ่ ระพุทธศาสนาในประเทศของตน เปน็ หวั หนา้ ชาวพทุ ธอยใู่ นอนิ โดนเี ซยี ขณะนน้ั พระชนิ รกั ขติได้ขอให้คณะสงฆ์ไทยจัดส่งพระธรรมทูตไทยออกไปช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศอินโดนีเซียเพราะเท่าท่เี ปน็ อยู่ในขณะนน้ั ยังขาดพระสงฆท์ ่ีมีความรู้ความสามารถทางพระพทุ ธศาสนาท่จี ะสัง่ สอนประชาชนเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯจงึ ไดร้ บั หลกั การเพอ่ื น�ำ มาพจิ ารณาด�ำ เนนิ การสนองศรทั ธาของชาวอนิ โดนเี ซยี ตอ่ ไป ตอ่ มา พระชนิ รกั ขติ ไดเ้ ดนิ ทางเขา้ มาประเทศไทย และพกั ทว่ี ดั บวรนเิ วศวหิ าร ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๖ - ๑๙มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๑๒ เพื่อทบทวนถงึ เรือ่ งการขอใหค้ ณะสงฆ์ไทยออกไปชว่ ยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในอนิ โดนเี ซยี ดงั ทไ่ี ดเ้ คยปรารภไว้ คณะสงฆร์ ว่ มกบั กรมการศาสนาในนามของรฐั บาลไทยจงึ ไดจ้ ดั สง่ พระภกิ ษุผสู้ �ำ เรจ็ การฝกึ อบรมจากส�ำ นกั ฝกึ อบรมพระธรรมทตู ไปตา่ งประเทศรนุ่ แรกเปน็ พระธรรมทตู ไปทอ่ี นิ โดนเี ซยี พระธรรมทตู รนุ่ แรก หวั หน้าคณะ พระครปู ลัดสัมพิพัฒนวิรยิ าจารย์ (บญุ เรือง ปญุ ฺญโชโต) ทไ่ี ดร้ บั คัดเลือกไปยงั อนิ โดนีเซยี พระครปู ลดั อรรถจรยิ านกุ จิ (วญิ ญ์ วชิ าโน) วดั พระศรีมหาธาตุ (ปัจจุบนั เป็นที่ พระธรรมเจตยิ าจารย)์150 วดั บวรนิเวศวิหาร สดุ ทา้ ยไดเ้ ป็นท่พี ระราชวราจารย์

พระธรรมทตู ชดุ นอ้ี อกเดนิ ทางจากประเทศไทย เมอ่ื วนั ท่ี ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ เมอ่ื พระ ธรรมทตู ไทยมาชว่ ยแลว้ การฟน้ื ฟพู ระพทุ ธศาสนา ในอินโดนีเซียก็ดำ�เนินไปอย่างรวดเร็ว จำ�นวน ชาวพุทธเพิ่มมากขึ้น มีกุลบุตรชาวอินโดนีเซีย ที่ศรัทธาเล่ือมใสออกบวชเป็นพระภิกษุสามเณร มากขึ้น โดยคณะพระธรรมทูตจัดบวชให้ใน ประเทศนั้นบ้าง ส่วนที่มาบวชในประเทศไทย ก็มาบวชและพำ�นักที่วัดบวรนิเวศวิหารนั่นเอง นอกจากนี้ชาวอินโดนีเซียยังได้ช่วยกันจัดสร้าง วัดพระพุทธศาสนาขึ้นตามเมืองต่าง ๆ หลายวัด และมจี ำ�นวนเพ่ิมขน้ึ เรอื่ ยๆ นบั แตก่ ารตดิ ตอ่ กบั ชาวพทุ ธในอนิ โดนเี ซยี และมกี ารสง่ พระธรรมทตู ไทยออกไปปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ กเ็ ปน็ เหตใุ หพ้ ทุ ธศาสนกิ ชนชาวอนิ โดนเี ซยี เดนิ ทางเขา้ มาบรรพชาอปุ สมบทศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาทว่ี ดั บวรนเิ วศวหิ ารเรอ่ื ยมามไิ ดข้ าดจนถงึ ปจั จบุ นั พระภกิ ษุสามเณรจากวดั บวรนเิ วศวหิ ารกไ็ ดอ้ อกไปชว่ ยกจิ การฟน้ื ฟพู ระพทุ ธศาสนา ณ ประเทศนน้ั โดยบางรปู ไปอยชู่ ว่ั คราว บางรปู อยู่ประจำ� และผู้ที่กลา่ วไดว้ า่ เป็นกำ�ลงั ส�ำ คญั ทท่ี ำ�ให้การฟน้ื ฟพู ระพุทธศาสนาและการก่อตงั้ คณะสงฆ์เถรวาทแห่งอินโดนเี ซียสำ�เร็จเปน็ อนั ดกี ค็ อื พระราชวราจารย์ (วญิ ญ์ วชิ าโน) วดั บวรนเิ วศวหิ าร (มรณภาพเมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๙) ซง่ึ ไดอ้ ทุ ศิ ก�ำ ลงั กาย ก�ำ ลงั ความคดิอย่างเตม็ สติปญั ญาใหแ้ ก่การปฏิบตั ิศาสนกจิ ฟ้นื ฟูพระพทุ ธศาสนาในประเทศอนิ โดนีเซียมาแต่ต้น และไดป้ ฏบิ ัตศิ าสนกจิ ประจ�ำอยู่ ณ ประเทศน้นั ตลอดมาจนวาระสดุ ทา้ ยของชีวติ ทา่ น ส�ำ หรบั ประเทศฟลิ ปิ ปนิ ส์ เนอ่ื งจากชาวพทุ ธยงั มจี �ำ นวนนอ้ ย การตน่ื ตวั ทางพระพทุ ธศาสนาจงึ แตกตา่ งไปจากทอ่ี นิ โดนเี ซยีแตผ่ ลจากการเดนิ ทางไปเยย่ี มเยยี นคราวน้ี กไ็ ดท้ �ำ ใหม้ ผี สู้ นใจพระพทุ ธศาสนามากขน้ึ กอ่ นทเ่ี จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ จะเยอื นฟลิ ปิ ปนิ ส์ได้เคยมชี าวฟลิ ปิ ปินสม์ าบรรพชาอุปสมบทเปน็ พระภกิ ษุเพ่ือศึกษาพระพทุ ธศาสนาทว่ี ดั บวรนิเวศวหิ าร ๒ คนเม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๙แต่พระภิกษุชาวฟิลิปปินส์ที่บวชคราวนั้น อยู่ไม่นานนักก็ลาสิกขากลับไป การเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่ประเทศฟิลิปปินส์จึงขาดตอนไป เพราะไม่มีผ้ปู ระสานงานสืบเนื่องเช่นที่อินโดนีเซยี สว่ นที่ประเทศออสเตรเลยี นนั้ ผลจากการที่เจ้าพระคุณ สมเด็จฯ เดินทางไปเย่ียมเยยี นท�ำ ใหม้ ีการดำ�รทิ ่ีจะดำ�เนินการ เผยแผ่พระพทุ ธศาสนาในประเทศน้ันต่อไป เพราะในขณะนนั้ ปรากฏวา่ มีผสู้ นใจและนบั ถือพระพุทธศาสนาอย่บู า้ งแลว้ แต่ สว่ นใหญ่เป็นฝา่ ยมหายาน ถึงกบั มีสมาคมทางพระพุทธศาสนา เกิดขน้ึ หลายแหง่ ในหลายเมอื ง การท่จี ะดำ�เนนิ การเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนาใหม้ ่ันคงถาวรตอ่ ไปนน้ั จงึ มที างเป็นไปได้มาก เป็นเหตุให้มีการดำ�ริที่จะสร้างวัดไทยขึ้นและส่งพระธรรมทูต ไทยไปอยปู่ ระจำ�ในเวลาตอ่ มาพระมหาประแทน เขมทสฺสี พระมหาสุชพี เขมาจาโรวัดยานนาวา (สุดท้ายไดเ้ ปน็ ท่ี พระครูศรีวเิ ทศธรรมคณุ ) วดั ระฆังโฆษิตาราม 151

เยอือนคินรัง้ ทโด่ี ๒นเี ซีย ผลจากการทค่ี ณะสงฆ์ไทยไดจ้ ดั สง่ พระธรรมทตู ไทยไปปฏบิ ตั ิ ศาสนกจิ ชว่ ยฟน้ื ฟพู ระพทุ ธศาสนา ณ ประเทศอนิ โดนเี ซยี เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๑๒ ตอ่ มาไดม้ ผี สู้ มคั รบวชเปน็ พระภกิ ษสุ ามเณรเพม่ิ มากขน้ึ การ ทจ่ี ะเดนิ ทางเขา้ มาบวชในประเทศไทยนน้ั ไมเ่ ปน็ การสะดวก และไม่ สามารถจะกระท�ำ ไดท้ กุ คน เพราะสน้ิ เปลอื งคา่ ใชจ้ า่ ยมาก ฉะนน้ั ใน พ.ศ. ๒๕๑๓ พระชนิ รักขติ ผนู้ �ำ ชาวพทุ ธในอนิ โดนีเซยี ขณะนัน้ จึงได้อาราธนาเจ้าพระคุณสมเด็จฯ แต่ครั้งยังดำ�รงสมณศักดิ์ที่ พระสาสนโสภณ พรอ้ มดว้ ยคณะเดนิ ทางไปใหก้ ารบรรพชาอปุ สมบท แกก่ ลุ บตุ ร ณ ประเทศอนิ โดนเี ซยี ระหวา่ งวนั ท่ี ๖-๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ รวมเปน็ เวลา ๘ วนัสถานทจี่ ัดพธิ ี : ณ มหาเจดียบ์ ุโรบูดูร์ วันท่ี ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ผู้อุปถัมภ์การบรรพชาอปุ สมบท : มหาอบุ าสก สารีปุตร สะโดโนมีพระภิกษุอน่ื นง่ั สงั เกตการณห์ ลายรูป คือ พระชนิ รกั ขิต, พระมหาประแทน เขมทสสฺ ี, พระมหาสชุ พี เขมาจาโร,พระครี รี กั ขิโต (ชาวอนิ โดนีเซีย), พระซอโยโน ชินรตะ (Seoyono Jinarata) ชาวสิงคโปร์ คณะเดนิ ทาง ความสำ�คัญ ๑. พระสาสนโสภณ (เจริญ สุวฑฒฺ โน) ของการเดินทางมาให้ วดั บวรนเิ วศวิหาร / คือ สมเด็จพระญาณสังวร การอปุ สมบทแกก่ ลุ บตุ ร สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ชาวอินโดนีเซียคร้ังนี้ ๒. พระธรรมโสภณ (สนธ์ิ กจิ จฺ กาโร) อาทิตย์ ๑๐ วดั บวรนิเวศวหิ าร ภายหลังไดเ้ ปน็ ที่ พระญาณวโรดม • เดนิ ทางจากยอกยาการต์ าไปยัง เมืองมาลัง แรมคืนท่มี าลัง ๓. พระขันติปาโล (ลอเรนซ์ มิลล)์ จันทร์ ๑๑ วดั บวรนเิ วศวิหาร • เดนิ ทางจากมาลังไปยังเมือง ๔. ม.ล.สเุ จต นพวงศ์ ปันยุวางี แรมคนื ท่ปี ันยวุ างี ไวยาวัจกรอนิ โดนเี ซีย (ครัง้ ท่ี ๒) // พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ พธุ ๖ ศกุ ร์ ๘ • เดนิ ทางผ่านกรุงจาการ์ตา ไปยัง • จากมนุ ติลานไปประกอบพิธี เมืองบันดงุ เย่ยี มวิหารวมิ ลธรรม ณ อปุ สมบท ณ มหาเจดีย์บุโรบูดูร์ กลบั บนั ดุง และแรมคืนท่วี หิ ารวมิ ลธรรม ไปพกั ที่มนุ ติลาน พฤหสั บดี ๗ เสาร์ ๙ • เดนิ ทางจากบนั ดุงไปยังเมอื งสมารัง • เดนิ ทางจากมุนตลิ านไปยังเมอื ง แล้วเดนิ ทางต่อไปยังเมืองมุนติลาน ยอกยาการ์ตา เข้าเยี่ยมสุลตา่ นแหง่ พบปะชาวพทุ ธและแรมคืนทเ่ี มอื งนี้ ยอกยาการ์ตา152

คณะสงฆ์ผู้ให้การบรรพชาอปุ สมบท๑. พระสาสนโสภณ (เจรญิ สุวฑฺฒโน)พระอปุ ัชฌาย์๒. พระธรรมโสภณ (สนธิ์ กจิ จฺ กาโร)พระกรรมวาจาจารย์๓. พระครปู ลัดอรรถจรยิ านุกจิ (วญิ ญ์ วชิ าโน)พระอนสุ าวนาจารย์๔. พระครปู ลดั สมั พพิ ฒั นวริ ยิ าจารย์ (บญุ เรอื ง ปญุ ญฺ โชโต)คณปูรกะ๕. พระขันติปาโล (ลอเรนซ์ มลิ ล)์คณปรู กะ๖. พระสุภาโต (ชาวอินโดนเี ซีย)คณปรู กะสามเณร ๕ รปู •สามเณร Dhammavijayaผเู้ ข้ารับการอปุ สมบท อายุ ๓๖ ปี ไดฉ้ ายา สริ ิวชิ โย•สามเณร Jinasurya Bhuimi •สามเณร Dhammasushisyoอายุ ๖๗ ปี ไดฉ้ ายา อคคฺ ชินมติ โฺ ต อายุ ๒๙ ปี ไดฉ้ ายา ชินธมฺโม•สามเณร Pandita Dhammasiha •สามเณร Djumadiอายุ ๕๒ ปี ไดฉ้ ายา อคฺคธมฺโม อายุ ๔๘ ปี ไดฉ้ ายา สจฺจมโน เปน็ การประดิษฐานพระพทุ ธศาสนาเถรวาท เปน็ การให้ก�ำ เนดิ หรอื ประดษิ ฐาน เปน็ การประดิษฐานพระสงฆ์ธรรมยุต ลงบนแผ่นดินอนิ โดนีเซยี เป็นคร้งั แรก คณะสงฆ์เถรวาทข้นึ ในแผน่ ดนิ ของ ขน้ึ ในอินโดนีเซยี เป็นคร้ังแรก เพราะคตขิ องการเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาถอื ว่า อินโดนเี ซยี เป็นครงั้ แรก เพราะได้ทำ�ใหค้ ณะสงฆ์ในอนิ โดนีเซียเม่อื พระพทุ ธศาสนาแผเ่ ขา้ ไปถึงถิ่นประเทศใด และ เพราะไม่เคยมีมาก่อนในอดีตกาล เจรญิ เตบิ โตมน่ั คงจนได้มีการตัง้ เปน็จะประดิษฐานมั่นคงในประเทศนน้ั ก็ตอ่ เม่ือมกี ลุ บตุ ร ความรงุ่ เรืองของพระพุทธศาสนาท่ีเคย มีมาในอินโดนเี ซยี ครง้ั อดตี นัน้ เปน็ คณะสงฆ์เรยี กวา่ ในประเทศนั้นบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุใน คณะสังฆเถรวาทแห่งอินโดนเี ซีย* พระพุทธศาสนา สามารถปฏบิ ัตสิ บื ทอด พระพทุ ธศาสนาแบบมหายาน พระพุทธศาสนาตอ่ ไปได้ดว้ ยตนเองอังคาร ๑๒ * ต่อมาพระสงฆช์ าวอนิ โดนเี ซยี ซึ่งเป็นสัทธวิ หิ ารกิ ของเจา้ พระคุณสมเด็จฯ ก็เจรญิ พรรษายุกาล ถงึ ขน้ั เป็นพระเถระ ได้รบั พระราชทานสมณศักดเ์ิ ปน็ พระราชาคณะชนั้ สามญั คือ พระปญั ญาวราภรณ์• เดนิ ทางจากปนั ยวุ างี ไปยงั เมอื งกะตาปงั (หโุ ซโด ปัญฺญาวโร) และได้รบั แต่งตง้ั เป็นพระอปุ ชั ฌาย์ คือ พระปัญญาวราภรณ์ (หโุ ซโด ปัญฺญาวโร)แล้วเดินทางต่อไปยังบาหลี แรมคืน และพระสุเขโม (Hien Kim Oey)ณ บาหลี จากความสำ�คัญ ๓ ประการนี้ เป็นรากฐานให้พระพทุ ธศาสนาเถรวาทพุธ ๑๓ คณะสงฆ์เถรวาท และวัดพระพทุ ธศาสนาเถรวาทในอินโดนเี ซยี เจรญิ แพรห่ ลาย ไปท่วั แผน่ ดินอนิ โดนีเซยี อยา่ งรวดเรว็ และม่นั คงดงั เปน็ ทป่ี ระจกั ษ์ ขณะเดยี วกัน• เดินทางจากบาหลี กลับกรุงเทพฯ วัดบวรนิเวศวิหาร ก็ได้เป็นเสมือนศูนย์กลางของการติดต่อสัมพันธ์ระหว่าง พุทธศาสนิกชนชาวอินโดนเี ซียกับชาวไทยทัง้ ฝ่ายพระและฝ่ายคฤหสั ถต์ อ่ เน่อื งมา จนกระท่ังทุกวนั นี้ และทว่ี ดั บวรนเิ วศวิหารก็ไดม้ พี ระภกิ ษสุ ามเณรชาวอนิ โดนเี ซยี มาอยูศ่ กึ ษาพระพุทธศาสนาตอ่ เนอื่ งมามไิ ด้ขาด 153

เยือน ปากีสถานตะวันออกปากีสถานตะวันตกเนปาล อินเดีย พ.ศ. ๒๕๑๓ ขณะทรงดำ�รงสมณศักด์ทิ ี่ พระสาสนโสภณ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ในฐานะกรรมการมหาเถรสมาคมและประธาน กรรมการสภาการศกึ ษามหามกฏุ ราชวิทยาลยั ไดร้ ับมอบหมายจาก มหาเถรสมาคมให้นำ�จตุปจั จัยและสมณบรขิ ารไปมอบแก่พระภกิ ษุ สามเณรและวดั พระพุทธศาสนาในประเทศปากสี ถานตะวันออก ซึ่งประสบวาตภยั ครัง้ ใหญ่พร้อมทั้งดกู ารพระศาสนาและการศึกษา ในประเทศปากีสถานตะวันตก เนปาล และอนิ เดยี ระหว่างวนั ท่ี ๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ - ๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ รวม ๒๕ วนัปากสี ถานตะวันออก ปากีสถานตะวันตก เนปาล อนิ เดีย // ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๑๓ อังคาร ๘ - พฤหสั บดี ๑๐ จันทร์ ๑๔ - จนั ทร์ ๒๘ • เดนิ ทางตรงจากกรงุ เทพฯ ไปยงั ปากสี ถานตะวนั ออก • ถึงเมืองปัตนะ พักทีม่ หาวทิ ยาลยั นวนาลันทา ซง่ึ มพี ระ พกั ท่วี ัดธรรมราชกิ พทุ ธวหิ าร เมอื งดคั คา นกั ศึกษาจากประเทศต่างๆ เรยี นอยูม่ าก มีพระนักศกึ ษา • เสดจ็ เมอื งจติ ตกองโดยรถไฟ พกั ทว่ี ดั จติ ตกองพทุ ธวหิ าร ไทยเรียนอยู่ ๒๐ กวา่ รปู • เย่ยี มมหาวทิ ยาลัยจติ ตกอง ซึ่งสรา้ งต้งั แต่ พ.ศ. ๒๕๐๙ • เยีย่ มชมมหาวทิ ยาลยั นาลันทาโบราณ พระเวฬุวัน ยงั ไม่เรยี บร้อยสมบูรณ์ ตโปธาราม ถ้ำ�ปิปผลิ ถำ้�สตั ตบรรณคูหา ชวี กมั พวัน • เยย่ี มวดั มหามนุ ี แลว้ ไปเยย่ี มทา่ นสงั ฆนายกแหง่ สงั ฆราชกิ เขาคิชฌกูฏ นิกายทีว่ ัดสนั ติวิหาร ส่วนทา่ นสังฆนายกแห่งมหาเถรนกิ าย • เดนิ ทางไปเขา้ พักท่วี ดั ไทยพุทธคยา ชมสถานทส่ี �ำ คัญ ไมม่ เี วลาพอทจ่ี ะไปเยย่ี ม เพราะตอ้ งเดนิ ทางกลบั เมอื งดคั คา ในบรเิ วณพุทธคยา เจดยี ์พุทธคยา สถานท่ตี รสั รู้ ได้แตฝ่ ากสมณบรขิ ารไปถวาย • มอบสง่ิ ของทีค่ ณะสงฆ์ไทยจัดมาชว่ ยเหลอื พระภิกษุ • เดินทางไปยงั พาราณสโี ดยรถไฟ พกั ท่ีหอพกั รบั รอง สามเณรและชาวพุทธทปี่ ระสบภยั แกพ่ ระวสิ ุทธานนั ทะ ของมหาวทิ ยาลยั พาราณสี เยย่ี มชมสถานทแ่ี สดง เพ่อื นำ�ไปแจกจ่าย ปฐมเทศนาทส่ี ารนาถ • เดนิ ทางตอ่ ยังกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล • เยี่ยมหอพักนกั ศกึ ษา คอื หอพกั ริวาโกถิ และ เสนคปุ ตะ ขณะน้นั มีพระนกั ศึกษาไทยพกั อยเู่ กือบ ศุกร์ ๑๑ - จันทร์ ๑๔ ๖๐ รปู เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ได้พาพระนักศึกษาไทย จากวดั บวรนิเวศวิหารมาอยู่ศึกษาท่ีมหาวิทยาลัย • เยอื นสถานท่ีต่างๆ ในเนปาลคือ พระเจดยี ส์ วยมั ภู พาราณสีดว้ ย ๑ รูป วดั หริ ณั ยวรณมหาวหิ าร วดั มหาพทุ ธะ พระเจดยี โ์ พธนาถหรอื ขัสติสถูป วดั อานันทกฏุ ิวหิ าร โรงเรียนอานันทกุฏวิ ทิ ยาปฐิ • จากพาราณสเี ดนิ ทางไปสาวตั ถี ชมสถานท่สี �ำ คญั และโรงเรียนอานันทกุฏิไซเอนซคอลเลจ วัดศรีสมุ ังคลวิหาร ทางพระพทุ ธศาสนา แลว้ พักท่ีเมืองพลรามปุระ และศาสนสถานของฮนิ ดูหลายแห่ง • ออกเดนิ ทางจากกรงุ กาฐมาณฑุ ไปยงั เมอื งปตั นะ รฐั พหิ าร ประเทศอนิ เดีย154

คณะเดินทาง๑. พระสาสนโสภณ (เจริญ สุวฑฒฺ โน)วดั บวรนเิ วศวิหาร / คือ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก๒. พระเทพกวี (ประยรู สนฺตงกฺ ุโร)วดั เทพศิรินทราวาส สดุ ทา้ ยได้รับพระราชทานสถาปนาเปน็ ท่ี สมเดจ็ พระญาณวโรดม๓. รอ้ ยเอกสุภาพ สุภตู ะโยธินไวยาวจั กร• เดนิ ทางไปชมลุมพนิ ี สถานท่ีประสูติของพระพทุ ธเจา้ องั คาร ๒๙ - ศุกร์ ๑ในแดนเนปาล แลว้ กลับมาพกั ท่เี มอื งโครกั ขปรู ์ อนิ เดยี• เสดจ็ ยังเมอื งกาเซยี หรอื กุสนิ ารา ชมสถานท่ี • จากกรุงเดลเี ดินทางไปเมอื งละฮอร์ ปากีสถานตะวนั ตกปรนิ ิพพานและสถานที่ถวายพระเพลงิ พระพทุ ธเจ้า โดยรถยนต์แล้วกลบั ไปพกั ทห่ี อพักของมหาวทิ ยาลัยพาราณสี • วันรุ่งข้นึ เดนิ ทางไปเมืองราวลั ปินดี และอสิ ลามาบัดในโอกาสน้ีเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้พบปะแลกเปล่ียน เมอื งหลวงของปากีสถาน พกั ท่ีสถานเอกอัครราชทูตไทยความคดิ เห็นเก่ียวกบั วชิ าการและการศึกษากับ • วันรุ่งข้ึนไปชมเมอื งตักกสิลา ซ่ึงเปน็ เมอื งวทิ ยาลัยทม่ี ีผ้บู รหิ ารของมหาวิทยาลัยพาราณสีดว้ ย ช่อื เสยี งในคัมภีร์พระพทุ ธศาสนา แวะชมพทุ ธสถานโบราณ• เดนิ ทางไปพกั ท่เี มืองจลั กอน ๑ คนื แลว้ เดนิ ทาง หลายแหง่ต่อไปเมืองเอารังคบาค ชมถำ้�อะชันตา เอลโลรา • จากอสิ ลามาบดั เดินทางไปการะจี แลว้ เดนิ ทางกลบั มาพกั ทเี่ มอื งนาสกิ กัลกัตตา อินเดยี• เดนิ ทางตอ่ ไปยังบอมเบย์ ชมสถานทสี่ �ำ คญั เชน่ถำ้�กันเหรี บอมเบยอ์ ยูใ่ นรฐั มหาราษฎร ซ่งึ เป็น มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔บา้ นเกดิ ของ ดร. เอมเบ็ดกา้ ร์ ผูน้ ำ�ชาวพุทธในรฐั น้ี ศุกร์ ๑ฉะนัน้ รฐั น้จี งึ มชี าวพุทธมาก• เดินทางไปยังกรงุ เดลี แลว้ ไปอัครา ชมทชั มาฮาล • พกั ท่ีสถานกงสลุ ไทย ในกลั กัตตา เพอ่ื รอเดนิ ทางกลับ• ชมเมอื งฤษีเกษ กลับมาพักทสี่ ถานเอกอัครราชทตู ในวันรงุ่ ข้ึนไทยในกรุงเดลี เสาร์ ๒ • เจ้าพระคุณสมเด็จฯ และคณะเดินทางจากกลั กตั ตา กลบั ประเทศไทย 155

ปากสี ถานตะวันออก เนปาล • ปากสี ถานเปน็ ประเทศมสุ ลมิ แตป่ ากสี ถานตะวนั ออก • ในอดตี เป็นดนิ แดนแหง่ พระพทุ ธศาสนา เพราะเปน็ สถานท่ปี ระสูติ มีชาวพุทธอยู่มาก โดยเฉพาะในเมืองจิตตกอง วัดและ ของพระพุทธเจ้า คือ ลมุ พนิ วี นั ต่อมาภายหลังเนปาลตกอยใู่ นอ�ำ นาจ พระสงฆ์มสี บื ตอ่ กันมาแต่โบราณ เมอ่ื ราวร้อยกวา่ ปมี านี้ การปกครองของราชวงศฮ์ ินดู พระพทุ ธศาสนาจึงถกู เบยี ดเบียน ได้มพี ระเถระรามัญรปู หนึง่ ช่อื สารมิตร จากเมืองอาติยัด จนกระทัง่ ค่อยๆ เสือ่ มสูญไปในทีส่ ดุ แต่สญั ลกั ษณ์แห่งความรงุ่ เรือง ในพม่า มาบวชแปลงใหพ้ ระชาวพืน้ เมืองท้งั หมด เวน้ อยู่ ของพระพทุ ธศาสนายงั มปี รากฏให้เห็นอยทู่ ่วั ไป ไดแ้ ก่พระสถูปเจดยี ์ ๓ รปู ทไี่ มไ่ ด้บวชแปลง ท้งั ๓ ไดเ้ ปน็ อปุ ัชฌาย์อาจารย์ และพระพุทธรูป ฉะน้นั แม้พระพุทธศาสนาจะเส่ือมสญู ไปจากแผน่ ดนิ ใหบ้ รรพชาอปุ สมบทแก่กุลบุตร ต่อมาไดเ้ กดิ เปน็ พระสงฆ์ เนปาลหลายรอ้ ยปี แต่ด้วยสำ�นกึ ของกลุ บตุ รชาวเนปาลทส่ี บื สายมา ๒ นิกาย คอื พระสงฆ์ที่ไดร้ ับการบวชใหมจ่ ากพระเถระ จากบรรพบุรษุ ท่เี ปน็ พทุ ธศาสนกิ ชน ยังคงรำ�ลกึ ถงึ พระพุทธศาสนา รามญั เรยี กวา่ สงั ฆราชกิ นกิ าย สว่ นพระสงฆท์ ส่ี บื มาจาก และได้พยายามฟืน้ ฟพู ระพุทธศาสนาขน้ึ ในแผน่ ดินของตนอีกครั้ง พระเถระ ๓ รูปนั้น เรียกว่า สถวีรนิกาย หรือมหาเถร • พระพุทธศาสนาในเนปาลยุคปจั จุบันเริ่มฟ้นื ฟูขน้ึ เม่อื พ.ศ. ๒๔๗๒ นิกายซง่ึ เป็นพระสงฆจ์ �ำ นวนนอ้ ย โดยกลุ บุตรชาวเนปาลได้ไปบรรพชาอปุ สมบทเป็นพระภิกษุท่อี ินเดยี • กลมุ่ ชาวพทุ ธทส่ี �ำ คญั ในปากสี ถานตะวนั ออก คอื ตระกลู แลว้ กลบั มาเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาเถรวาทในเนปาลเป็นรูปแรก คือ บารัว ซ่งึ เปน็ ตระกลู ชาวพุทธที่สบื ต่อกันมายาวนาน พระมหาปรชั ญานนั ทะ ตอ่ แต่น้นั จงึ ไดม้ ีกุลบตุ รชาวเนปาลออกบวชเป็น • จากหนอ่ กลา้ ของศาสนไมตรีทเี่ จ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ได้ พระภกิ ษสุ ามเณรกนั เพิ่มขึน้ เรื่อยๆ โดยไปบวชจากพม่าบ้าง ลังกาบ้าง ปลูกเพาะไว้ในการไปเยือนปากีสถานตะวนั ออก ซึ่งตอ่ มา อนิ เดียบ้าง แล้วกลบั มาเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาในบา้ นเกิดของตน เปน็ ประเทศบังคลาเทศ ก็ไดผ้ ลดิ อกออกผลเป็นความ • ขณะท่เี จ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ เสด็จเยอื นเนปาลครงั้ น้ี มีจ�ำ นวนชาวพทุ ธ สมั พนั ธ์ใกลช้ ดิ ระหวา่ งคณะสงฆ์ไทยกบั คณะสงฆบ์ งั คลาเทศ ในเนปาลราว ๑๒ เปอร์เซ็นต์ วดั พุทธศาสนา ๙ วัด พระภกิ ษสุ ามเณร หลงั จากการเสดจ็ ไปเยอื นของเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไมน่ าน ทงั้ หมดราว ๒๕ รปู แต่มคี นไทยอยู่ในเนปาลเพยี ง ๕ คนเทา่ น้ัน คอื คณะสงฆ์แห่งสังฆราชิกนิกายแห่งบังคลาเทศ นำ�โดย คุณนิกร พรายแสงเพชร อปุ ทูต คุณสุรศกั ด์ิ ขาวบาง เลขาทูตโทและ พระศลี าลงั กามหาเถระ อปุ สงั ฆนายก พรอ้ มดว้ ยคณะ ภรรยาคือ คณุ สิรวิ รรณ ขาวบาง และเจา้ หนา้ ที่บริษทั การบินไทยฯ รวม ๗ รปู ไวยาวจั กร ๑ คน ได้มาเยอื นประเทศไทย ประจำ�กรงุ กาฐมาณฑอุ ีก ๒ คน เมื่อพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๗ เป็นเวลา ๑๕ วนั และ • เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ยงั ได้พบปะกับพระอมฤตานันทะ ประธาน ในวันท่ี ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ พระศีลาลังกามหา ธรรโมทยสภา ได้หารอื กันเรอ่ื งการฟน้ื ฟพู ระพุทธศาสนาเถรวาทใน เถระ พระสงั ฆนายกแหง่ บงั คลาเทศ กไ็ ดม้ าถวายสกั การะ เนปาล พระอมฤตานันทะไดข้ อใหพ้ ระสงฆ์ไทยช่วยส่งเสรมิ การฟ้นื ฟู เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร แต่นั้นมา พระพทุ ธศาสนาเถรวาทในเนปาล โดยการใหท้ ุนการศกึ ษาแกพ่ ระภกิ ษุ พระภิกษุสามเณรบังคลาเทศก็เริ่มมีการติดต่อกับคณะ สามเณรเนปาลมาศกึ ษาในประเทศไทย และใคร่ขอให้คณะสงฆ์ไทย สงฆ์ไทยต่อเน่ืองใกลช้ ดิ ข้ึนเป็นล�ำ ดบั ในปจั จุบันได้มพี ระ ช่วยส่งพระธรรมทูตไทยออกไปช่วยการสั่งสอนเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนา ภกิ ษสุ ามเณรบังคลาเทศเข้ามาอยู่ศึกษาพระพุทธศาสนา ในเนปาลด้วย ผลของการปรึกษาหารือในเบื้องต้น เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ทมี่ หาวทิ ยาลัยสงฆท์ ง้ั ๒ แหง่ ของไทยเป็นจำ�นวนมาก ได้รบั ทจี่ ะน�ำ ข้อปรึกษาเรอ่ื งการใหท้ ุนการศกึ ษาแก่พระภกิ ษุสามเณร เนปาลได้เขา้ มาศกึ ษาในประเทศไทย มาเสนอตอ่ กรมการศาสนาเพือ่156 พจิ ารณาด�ำ เนินการต่อไป อนั เปน็ จดุ เรม่ิ ต้นของศาสนสัมพันธ์ระหวา่ ง ไทยกับเนปาล แม้ก่อนการเสดจ็ มาเยือนเนปาลของเจา้ พระคุณสมเด็จฯ คร้ังน้ี ได้เคยมพี ระสงฆ์ไทยและพระสงฆ์จากประเทศอ่นื มาเยอื นเนปาล

อนิ เดีย ช่วงเวลาทเ่ี สด็จจารกิ อยู่ในอินเดยี น้ัน เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดแ้ สดงความรสู้ กึ ส่วนพระองค์ไว้ว่าบ้างแลว้ แต่ยงั ไมม่ กี ารด�ำ เนนิ การเก่ยี วกับการสง่ เสริมการ “ไดจ้ ารึกลงในจติ ใจอย่างลกึ ซึ้งฟนื้ ฟูพระพุทธศาสนาเถรวาทในเนปาลอย่างเป็นรูปธรรมเชน่ น้ี และเปน็ เหตุให้เกดิ ความสุขอยู่ด้วย• ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๑๔ พระพุทธคณุ พระธรรมคุณ พระสงั ฆคณุ> เจา้ พระคุณสมเด็จฯ ในฐานะผอู้ ำ�นวยการมูลนิธมิ หามกุฏ เป็นอย่างยง่ิ ชมพทู วีปเปน็ ถน่ิ ท่ีเจรญิราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ไดพ้ จิ ารณาอนมุ ตั ทิ ุนการ พุทธานุสสติ ธัมมานสุ สติ สังฆานุสสตอิ ยา่ งยงิ่ศกึ ษาแก่พระภกิ ษุสามเณรเนปาล ๑ ทุน นอกจากนี้ ยงั ไดเ้ หน็ การปฏบิ ัตลิ ัทธิศาสนาต่างๆ> คณะสงฆเ์ นปาลกไ็ ด้จัดส่งสามเณร ๑ รปู ให้มารับทุนการ พธิ ีกรรมต่างๆ ซ่ึงกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ศกึ ษาดังกล่าวและอยู่ศึกษาพระพุทธศาสนา ณ วดั บวรนิเวศ นบั เปน็ พนั ๆ ปี ซึง่ ในบดั นี้กย็ งั มีใหด้ ู ให้เห็นวิหาร คือ สามเณรลกั ษมนั สโุ สภโณ (ศากยะ) ใหช้ มอย่ทู ั่วไป สถานท่ีและวัตถเุ ป็นอนั มาก• นับแต่นน้ั มา พระภิกษุสามเณรเนปาลก็ไดท้ ยอยเดินทาง ในชมพทู วปี มีประวัตศิ าสตร์เกย่ี วกบั ศาสนาเข้ามาอยศู่ ึกษาพระพทุ ธศาสนาในประเทศไทยอย่างต่อเนือ่ ง วีรบรุ ษุ เปน็ ตน้ ซบั ซ้อนมากกว่าดึกดำ�บรรพ์โดยแยกย้ายกนั ไปอยู่ตามวัดในกรงุ เทพฯ และต่างจงั หวัด หากจะพูดเลา่ ประวตั แิ ห่งหน่งึ ๆ โดยจะไดพ้ ดูจนถึงปัจจบุ ันมีจ�ำ นวนนบั รอ้ ย เฉพาะท่วี ดั บวรนิเวศวหิ ารก็ เล่ากนั อยา่ งน่าฟงั และยดื ยาว เป็นตน้ วา่ เปน็ ถิน่ ท่ีมอี ย่ตู ลอด กระทั่งพระภกิ ษุเนปาลบางรูปไดเ้ จริญอายุพรรษา พระบรมศาสดาสัมมาสมั พุทธเจ้าเสดจ็ จาริกไปมาเป็นพระเถระได้รบั พระราชทานสมณศักดเ์ิ ปน็ พระราชาคณะ ประกาศพระพุทธศาสนาอยูต่ ลอดเวลา ๔๕ พรรษาคือ พระศากยวงศ์วิสทุ ธิ์ (อนลิ มาน ธมฺมสากิโย ศากยะ) ไมม่ ีท่ไี หนจะเลา่ ประวัติไดอ้ ย่างถูกต้อง• จากศาสนสมั พันธ์ระหว่างไทย-เนปาล ท่ไี ดท้ รงรเิ ริ่มไวเ้ ม่ือ เหมอื นอย่างถนิ่ ที่พระพุทธองคท์ รงอยูจ่ รงิพ.ศ. ๒๕๑๓ น้ันไดท้ ำ�ใหค้ ณะสงฆ์ไทยกับคณะสงฆเ์ นปาล และอาตมารู้สกึ พึงใจในความไม่เบยี ดเบยี นสตั ว์มคี วามสัมพันธ์กนั ใกลช้ ดิ ตลอดมา โดยเฉพาะเจา้ พระคุณ ไมเ่ ป็นนกั เลงสุรา ไม่ใช้ของฟุ่มเฟอื ยสมเด็จฯ ได้ถวายความอนุเคราะหแ์ ดพ่ ระสงั ฆนายกเนปาล ซ่งึ นับเป็นพวกอบายมุขทงั้ หลายหลายรปู ให้ไดม้ ารบั การรกั ษาพยาบาลในกรงุ เทพฯ เมอ่ื คราว และรสู้ กึ เปน็ สขุ ที่ไดท้ ราบวา่ การครองชีพอาพาธ พระสังฆนายกของเนปาลทุกรูปกไ็ ดม้ โี อกาสมาเยือน ของประชาชนท่ัวไปดีข้ึน มโี รงเรียนสำ�หรับเด็กและมาถวายคารวะ แดเ่ จ้าพระคณุ สมเด็จฯ เมื่อคร้ังยงั ทรง ในทที่ ัว่ ไป แม้สว่ นใหญ่จะเป็นฮินดูและมุสลมิ แต่พระชนม์อยู่ รูส้ ึกตา่ งมีศลี ๕ ในพระพทุ ธศาสนาอยมู่ าก” 157

ออสเตรเลียกำ�เนดิ วดั ไทยใน ผลจากการทเ่ี จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ขณะด�ำ รงสมณศกั ดท์ิ ่ี กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๑๕ พระสาสนโสภณ ผอู้ �ำ นวยการมหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ฯ และคณะ ได้มีโอกาสเดนิ ทางมานครซดิ นีย์ ประเทศออสเตรเลีย เมอ่ื มหามกฏุ ราชวิทยาลยั และสถานเอกอคั รราชทูตไทย พ.ศ. ๒๕๑๑ และได้ไปเยีย่ มสหพนั ธพ์ ทุ ธสมาคมซง่ึ ต้ังอยใู่ น ได้หารอื มคี วามเหน็ ร่วมกนั วา่ ถา้ มหามกุฏฯ นครซดิ นยี ์ ทางคณะได้ทราบจากทางสหพันธพ์ ุทธสมาคมว่า จะจดั ส่งพระ ๒ รูป กับไวยาวจั กร ๑ คน มผี ู้นบั ถือหรือสนใจพระพุทธศาสนาอยไู่ มน่ อ้ ยกวา่ ๓๐๐ คน ไปประจ�ำ อยู่ในนครซิดนยี ์ โดยเชา่ ที่พกั อย่ไู ปก่อน ได้มีผู้ต้องการขอความอุปถัมภ์จากประเทศไทยเพื่อบริจาค เพ่อื ประสานงานกับคณะกรรมการจดั ซอ้ื ทด่ี ิน ต้ังสำ�นกั สงฆ์ข้นึ ในนครซดิ นีย์ และขออาราธนาพระสงฆ์ไทย และทีอ่ ยู่ ก็น่าจะเกิดผลดี มาอยูเ่ ผยแผพ่ ระธรรม จงึ แนะน�ำ ให้ทางสหพันธพ์ ทุ ธสมาคม ได้มีหนังสือขอให้มหามกุฏราชวิทยาลัยจัดตั้งสำ�นักสงฆ์ข้ึน จงึ ได้วางโครงการโดยมีความมุ่งหมาย ในนครซิดนีย์ และส่งพระสงฆ์ออกมาเพื่อทำ�การเผยแผ่ ๑. เพือ่ เจริญศาสนสมั พันธ์กับศาสนาพนื้ เมือง พระพทุ ธศาสนาฝ่ายเถรวาท ๒. เพ่ือเผยแผ่พทุ ธธรรม ๓. เพื่อเผยแพรว่ ฒั นธรรม ทางมหามกุฏราชวิทยาลัยได้ปรึกษากับนาย ๔. เพ่อื เป็นท่พี ง่ึ ทางใจของคนไทยในประเทศนั้น ประสงค์ บุญเจิม เอกอัครราชทตู ไทยประจำ�ออสเตรเลยี ๕. เพื่อพิจารณาท่ดี นิ และท่อี ยู่ที่สร้างวดั ขณะนน้ั พรอ้ มดว้ ย ดร. โอวาท สทุ ธวิ าทนฤพฒุ ิ ทปี่ รกึ ษา ๖. เพ่อื หาทางวางรากฐานพระพทุ ธศาสนาเถรวาท และ ดร. เชาว์ ณ ศีลวันต์ ในที่สุดกรรมการมหามกุฏ ๗. เพ่อื สงั เกตภาวะของท้องถน่ิ และประชาชน ราชวทิ ยาลยั มคี วามเหน็ รว่ มกนั วา่ ควรจดั ตง้ั ส�ำ นกั สงฆ์ใน นครซิดนียข์ ้ึน ดว้ ยเหตุผลคือ ๑. เปน็ เมืองท่ีชาวต่างประเทศมกี รรมสทิ ธใิ์ นทีด่ ินได้ ๒. เปน็ เมืองที่มีชาวพทุ ธอยจู่ �ำ นวนมากพอประมาณ ๓. เป็นเมืองท่ีมมี หาวิทยาลยั หลายแหง่ ๔. เปน็ เมอื งทม่ี นี กั เรยี นและคนไทยอยมู่ ากกวา่ เมอื งอน่ื ๆ ๕. เปน็ เมืองทต่ี ้งั ของสหพนั ธ์พุทธสมาคมอยู่แล้ว เม่อื ได้ข้อมลู ตา่ งๆ ดงั นแี้ ล้ว ไดน้ ำ�ความเลา่ ให้ คุณหญิงละมูน มีนะนันท์ ทราบและยินดีปวารณาให้ ความอปุ ถมั ภท์ จ่ี ะบรจิ าคเงนิ ส�ำ หรบั ซอ้ื ทด่ี นิ และบา้ น ทาง มหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั กไ็ ดจ้ ดั ตง้ั คณะกรรมการขน้ึ โดยมี เอกอคั รราชทตู ไทยเปน็ ประธานในการด�ำ เนนิ การจดั หาซอ้ื ทดี่ ินและบ้านเพอ่ื ตง้ั สำ�นักสงฆ์ดังกลา่ ว158

วดั พุทธรงั ษี ในระยะแรกทีม่ หามกุฏราชวทิ ยาลยั ได้จัดส่งพระภิกษุสามเณร ผลัดเปล่ยี นกนั ไปประจ�ำ ปฏบิ ตั ิศาสนกิจ ปรากฏว่ามีชาวพทุ ธ ทงั้ ชาวเอเชยี และออสเตรเลยี ต่างใหค้ วามสนใจมาศกึ ษาและ ปฏิบตั ิธรรม ชาวออสเตรเลยี บางคนที่มศี รทั ธาแกก่ ล้าขอ บรรพชา บางคนเม่อื บรรพชาแล้วกเ็ ดินทางเขา้ มาศกึ ษาปฏิบตั ิ พระพุทธศาสนาตอ่ ณ วัดบวรนเิ วศวิหาร แลว้ กก็ ลับออกไป ช่วยปฏบิ ตั ศิ าสนกิจ ณ วดั พุทธรงั ษี บางคนบรรพชา อปุ สมบทอย่ชู ว่ั ระยะหน่งึ แล้วกล็ าสิกขา จ�ำ นวนผู้เขา้ มา ขอบรรพชาอปุ สมบทก็มีจ�ำ นวนเพิ่มขน้ึ ในระยะแรก พระทั้ง ๒ รูป และไวยาวัจกร ซึ่งได้พักอยู่ ณ บ้านเช่า ชั่วคราว บ้านเลขที่ ๙ ริบพอนเวย์ โรสเบอรี่ ได้ออกทำ�การเผยแผ่ พระพุทธศาสนาก็ได้ผลดี ปรากฏว่ามีผู้สนใจในการแสวงหาความรู้ ทางพทุ ธธรรมมากข้ึน มผี ู้มาฟังธรรมและสนทนาธรรมอยตู่ ลอดเวลา นักเรยี นไทยก็มารับการอบรมและให้ความอุปถมั ภ์ และชว่ ยกนั เผยแผ่ พระพทุ ธศาสนาไปตามฐานะหน้าท่ีเพม่ิ ทวขี ึ้นตามลำ�ดับ คณะกรรมการมนี าคม พ.ศ. ๒๕๑๖ จดั ซอื้ ทีด่ นิ และบ้านเพ่ือจัดตัง้ วดั ไดพ้ ิจารณาเหน็ ลู่ทางการเผยแผ่พระพุทธศาสนาว่า จะเป็นไปได้ เพื่อให้ศาสนกิจนี้เป็นหลักฐานมั่นคงสืบไป จึงได้หารือตกลงกันซื้อมลู นธิ มิ หามกฏุ ฯ ไดจ้ ดั สง่ พระออกมา ๒ รปู คอื ทด่ี นิ และบา้ นซง่ึ เหมาะสมทจ่ี ะตง้ั เปน็ วดั ขน้ึ ทถ่ี นนสแตนมอร์ เลขท่ี ๘๘-๙๐ เปน็ บา้ น๑. พระปริยตั ิกวี วัดราชบพิธสถติ มหาสีมาราม สองชน้ั มีทด่ี ินประมาณ ๑๓๐ ตารางวา ในราคา ๖๕,๐๐๐ เหรยี ญออสเตรเลีย หรอื(ปจั จบุ นั คอื สมเด็จพระมหามนุ วี งศ์ ซ่งึ ส�ำ เรจ็ ๑,๗๕๘,๒๕๐ บาท ในนามของมลู นธิ มิ หามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ฯ ทางทนายความไดจ้ ดั การการฝกึ อบรมจากสำ�นกั ฝึกอบรมพระธรรมทตู รบั โอนกรรมสทิ ธท์ิ ด่ี นิ และสง่ิ ปลกู สรา้ งมาไว้ในนามของมลู นธิ มิ หามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ฯไปตา่ งประเทศ ร่นุ แรก) เมือ่ วันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๘๒. พระขนั ตปิ าโล วัดบวรนเิ วศวิหาร (ภายหลัง ในจำ�นวนเงิน ๑,๗๕๘,๒๕๐ บาทนั้น คุณหญิงละมูน มีนะนันท์ บริจาคลาสิกขา) พรอ้ มกับไวยาวจั กร ๑ คน ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท สว่ นทีเ่ หลือคือ ๒๕๘,๒๕๐ บาท เป็นสว่ นของผูบ้ รจิ าครายยอ่ ย ผา่ นมูลนธิ ิมหามกฏุ ราชวทิ ยาลัยฯ ต่อจากน้นั มา เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ดำ�เนินการความสำ�คญั ขอพระราชทานนามวัด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า “วดั พุทธรงั ษี”ของการทเ่ี จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงดำ�เนนิ การใหส้ รา้ งวดั พทุ ธรงั ษที ป่ี ระเทศออสเตรเลยี เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ไดช้ อ่ื วา่ เปน็ เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ไดช้ อ่ื ว่าเปน็ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดช้ ่อื วา่ เป็น ผู้นำ�พระพุทธศาสนาเถรวาท ผู้ใหก้ �ำ เนดิ วดั พระพุทธศาสนาเถรวาท ผู้นำ�คณะสงฆธ์ รรมยุต ไปประดษิ ฐานในทวีปออสเตรเลยี แหง่ แรกในทวปี ออสเตรเลยี ไปประดษิ ฐานในทวีปออสเตรเลยี เปน็ ครั้งแรก เปน็ สาเหตใุ ห้เกดิ วดั พระพทุ ธศาสนา เปน็ ครง้ั แรก เถรวาทอ่ืนๆ ตามมาเปน็ จำ�นวนมากและยังส่งผลต่อไปถงึ ประเทศนวิ ซีแลนด์ ยงั ผลให้เกิดวัดธรรมยุตขนึ้ หลังจากนัน้ กไ็ ดม้ พี ระพทุ ธศาสนา ในเวลาตอ่ มา ในออสเตรเลียเปน็ จำ�นวนมาก เถรวาทกระแสตา่ งๆ หล่งั ไหลเข้าไปสู่ ในเวลาต่อมา ออสเตรเลยี อยา่ งไม่ขาดสาย 159

พ.ศ. ๒๕๑๘ ๔. พระปรยิ ตั กิ วี (อมั พร อมฺพโร) วดั ราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ขณะด�ำ รงสมณศกั ดิ์ที่ (ปจั จุบนั เปน็ ที่ สมเด็จพระมหามนุ วี งศ์) สมเดจ็ พระญาณสังวร ในฐานะผูอ้ �ำ นวยการ ๕. พระครูประสทิ ธิพุทธมนต์ (สรุ พงษ์ ฐานวโร) มหามกุฏราชวิทยาลยั ในพระบรมราชปู ถัมภแ์ ละ วดั บวรนิเวศวหิ าร (สุดทา้ ยได้เปน็ ท่ี ประธานกรรมการอ�ำ นวยการฝึกอบรมพระธรรมทตู พระเทพวัชรธรรมาภรณ์ เจา้ อาวาสวัดตรที ศเทพ) ไปต่างประเทศ ได้เดินทางไปเปน็ ประธานสงฆ์ใน ๖. พระครปู รยิ ัตสิ ารโสภณ (อภพิ ล อภิพโล) พิธีเปดิ วดั พุทธรังษี ณ นครซดิ นยี ์ ประเทศออสเตรเลีย วัดบวรนเิ วศวิหาร (ปัจจบุ ันเป็นท่ีพระธรรมบณั ฑิต โดยเดินทางจากประเทศไทย เจา้ อาวาสวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก) เมือ่ วนั ท่ี ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ๗. พระครอู าทรธรรมานวุ ัตร (จงกล ศุภประเสรฐิ ) วดั ราชบพธิ สถิตมหาสีมาราม (ภายหลงั ลาสิกขา) มพี ระเถระและพระอนุจรร่วมคณะดว้ ยดังนี้ ๘. พระธมมฺ านนโฺ ท (พระดอน ชาวอังกฤษ) ๑. พระธรรมธัชมนุ ี (ประยรู สนฺตงฺกโุ ร) วดั บวรนเิ วศวิหาร (ภายหลงั ลาสิกขา) เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษามหามกฏุ ราชวิทยาลัย สำ�หรบั พระธรรมดลิ กกบั พระปรยิ ัตกิ วนี ้นั วดั เทพศิรินทราวาส (สดุ ทา้ ยไดเ้ ปน็ ที่ ไดเ้ ดินทางลว่ งหนา้ ไปก่อนแต่วนั ที่ ๑๘ พฤษภาคม สมเด็จพระญาณวโรดม) เพอ่ื เตรยี มการพิธี นอกจากนกี้ ็มคี ฤหัสถ์ผเู้ กี่ยวข้อง ๒. พระธรรมดิลก (วชิ มยั ปุญฺ าราโม) ในการจัดต้ังวัดพุทธรังษใี นดา้ นต่างๆ รว่ มคณะไป กรรมการมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ ด้วยอีก ๑๖ คน และกรรมการสภาการศึกษาฯ วดั บวรนิเวศวิหาร หลังจากเสร็จสน้ิ พธิ เี ปดิ วัดพุทธรังษี (สุดท้ายได้เป็นที่ พระพรหมมุนี) ณ นครซดิ นยี แ์ ลว้ เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ได้ไป ๓. พระราชมนุ ี (โฮม โสภโณ) วดั ปทมุ วนาราม เยอื นพทุ ธสมาคมและกล่มุ ชาวพุทธในที่ตา่ งๆ ใน นครซดิ นีย์และขากลับแวะทป่ี ระเทศสิงคโ์ ปร์ดว้ ย ซิดนยี ์ ออสเตรเลีย // พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ ศกุ ร์ ๒๓ เสาร์ ๒๔ อาทิตย์ ๒๕ • เยี่ยมอารค์ บชิ อปแหง่ ซดิ นีย์ • เวลาประมาณ ๑๔.๐๐ น. • เป็นวันประกอบพธิ เี ปิดวัดพุทธรงั ษี • เยย่ี มพทุ ธสมาคมแห่งนวิ เซาธเ์ วลล์ สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ และบำ�พญ็ กุศลวิสาขบชู า สยามมกฎุ ราชกมุ าร เสดจ็ พระราชด�ำ เนนิ มาทรงนมัสการสมเด็จพระญาณสังวร จันทร์ ๒๖ เป็นการส่วนพระองค์ ณ วัดพทุ ธรงั ษี • เดนิ ทางจากซดิ นยี ์ไปเยย่ี มส�ำ นกั สงฆ์ • สมเด็จพระญาณสงั วรและคณะ และชาวพทุ ธทเ่ี มืองกะตุมบา้ เยีย่ มพทุ ธสมาคมจีนแหง่ ออสเตรเลีย160

พธิ เี ปดิ วดั พุทธรังษี วนั ท่ี ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๘ • เวลา ๑๕.๑๐ น. สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกมุ าร เสดจ็ พระราชดำ�เนินถึงวดั พทุ ธรงั ษี • เอกอคั รราชทูตไทยประจ�ำ กรุงแคนเบอรา (นายววิ รรธน์ ณ ป้อมเพชร) รับเสดจ็ แลว้ นำ�เสด็จเขา้ สู่ หอ้ งพิธี ทรงจดุ เครอื่ งนมัสการบชู าพระรตั นตรัย ทรงศลี • เอกอัครราชทตู ไทยกราบบงั คมทลู ถวายรายงานเก่ยี วกบั ความเปน็ มาของวดั พทุ ธรงั ษี • เสดจ็ ฯ ไปทรงเปดิ แพรคลุมปา้ ยชอ่ื วดั พระสงฆเ์ จรญิ ชยั มงคลคาถา จบแลว้ ทรงประเคนจตปุ จั จยั เครอื่ งไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา เป็นเสร็จการพธิ ี • จากนัน้ ทรงประกอบพธิ ีพระราชกุศลวนั วสิ าขบูชา สมเด็จพระญาณสงั วรถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์หนง่ึ จบแลว้ เปน็ เสรจ็ การ เสด็จพระราชด�ำ เนินกลบั สงิ คโปร์ // มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๘อังคาร ๒๗ จันทร์ ๒ - พธุ ๔ พฤหัสบดี ๕• พุทธสมาคมจนี แห่งออสเตรเลีย • เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ พรอ้ มด้วยคณะ • เดนิ ทางออกจากประเทศสงิ คโปร์จัดถวายภัตตาหารเพล แกค่ ณะ เดนิ ทางจากออสเตรเลีย มายังประเทศ กลบั ประเทศไทยณ ท่ีทำ�การของสมาคม สงิ คโปร์ และเข้าพักเพื่อสังเกตการ• เยีย่ มชมศูนยศ์ ิลปะแห่งนิวเซาธเ์ วลล์ พระศาสนาพรอ้ มเย่ยี มเยยี นวัดไทยและพพิ ิธภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตรธ์ รรมชาติ พุทธสมาคมและชาวพุทธในสงิ คโปร์ เปน็ เวลา ๓ วันพุธ ๒๘ - อาทิตย์ ๑• เยย่ี มเยยี นบุคคลและสถานท่ีตา่ งๆท่เี กี่ยวกบั พระพทุ ธศาสนาในนครซิดนีย์และเมืองใกลเ้ คียง 161

เยอือนคนิ รงั้ ทโดี่ ๓นีเซีย บรรพชากลุ บุตรครงั้ ท่ี ๒พ.ศ. ๒๕๒๐ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ได้รบั อาราธนาจากคณะสงฆอ์ ินโดนีเซียให้ออกไปใหก้ ารบรรพชาแก่กลุ บตุ รชาวอนิ โดนเี ซยี ณ ประเทศอนิ โดนีเซียซึ่งนบั เป็นคร้งั ที่ ๒ (คราวแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๓) พระเถระ พระสหจร และผู้ติดตาม การเสด็จเยอื นอินโดนเี ซียของเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ คร้ังน้ี เป็นการ ๑. พระธรรมดิลก (วิชมยั ปุญฺญาราโม) ตอกย้ำ�ความสำ�เร็จในการปฏิบัติศาสนกิจของพระธรรมทูตไทยใน ประเทศอนิ โดนเี ซยี และเปน็ เสมอื นไปรดน�ำ้ พรวนดนิ ใหแ้ กห่ นอ่ กลา้ แหง่ วัดบวรนิเวศวิหาร พระพทุ ธศาสนาเถรวาทและคณะสงฆ์เถรวาท ทีเ่ จ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ นำ�มาปลูกเพาะไว้ในอินโดนเี ซยี เมื่อ ๘ ปที แี่ ล้ว ใหส้ ดชื่นแขง็ แรงยงิ่ ข้นึ ๒. พระสุวรี ญาณ (บุญเรอื ง ปญุ ญฺ โชโต) เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ยงั ไดเ้ ดนิ ทางต่อไปยังประเทศออสเตรเลยี วัดพระศรีมหาธาตุ นิวซแี ลนด์ และขากลบั แวะทปี่ ระเทศสิงคโปร์ เพ่ือดกู ารพระศาสนาและ เย่ยี มเยยี นชาวพุทธในประเทศนัน้ ๆ ในระหว่างวันท่ี ๗ - ๑๙ ธันวาคม ๓. พระครปู ลดั สมั พพิ ฑั ฒญาณาจารย์ (บญุ ชว่ ย สชุ วโน) พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นเวลา ๑๓ วัน วดั บวรนิเวศวหิ าร ๔. พระสเุ ขโม (Hien Kim Oey) ชาวอนิ โดนีเซีย วัดบวรนเิ วศวหิ าร ๕. พระกนฺตธมฺโม ชาวอินโดนเี ซยี วดั บวรนิเวศวิหาร ๖. นายวร เวชชศาสตร์ ไวยาวัจกร ๗. นางสาคร เวชชศาสตร์ ผตู้ ิดตาม อินโดนีเซีย ครงั้ ท่ี ๓ // ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ พุธ ๗ พฤหสั บดี ๘ ศุกร์ ๙ • ออกเดนิ ทางจากกรงุ เทพฯ หยดุ พกั ท่ี • เยย่ี มวหิ ารปทุมุตรเมอื งตงั กรัง • ไปเมืองยอร์กยากาตาร์ เย่ียมวัด สนามบนิ สงิ คโปร์ (ไมไ่ ดล้ งจากเครอ่ื งบนิ ) เยีย่ มโรงเรยี นพทุ ธิสามัญศกึ ษาส�ำ หรับ มัชฌิมพุทธศาสนวงศ์ เมนดุด แลว้ เดนิ ทางตอ่ ถงึ สนามบนิ ฮาลมิ เดก็ ชาวพุทธ เยี่ยมเจตยิ ะเชตะวัน เอกอคั รราชทตู ไทยประจ�ำ กรงุ จาการต์ า วัดอรยิ ทวปี าราม ซง่ึ อยู่ในตามนั มนิ ่ี เสาร์ ๑๐ (นายเถลงิ ชยั ชาตปิ ระเสรฐิ ) ขา้ ราชการไทย อนิ โดนีเซียอินด้า ซ่ึงเป็นเมืองจ�ำ ลอง พระธรรมทตู ไทย คณะสงฆอ์ นิ โดนเี ซยี และ แบบเมอื งโบราณของไทย เป็นวดั • เปน็ วนั อโุ บสถ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ชาวพทุ ธมาตอ้ นรบั เปน็ จ�ำ นวนมาก ท่ที างราชการอินโดนเี ซียจัดสร้างแลว้ พรอ้ มคณะ ท�ำ อโุ บสถฟงั พระปาตโิ มกข์ • พบอธิบดกี รมศาสนาฮินดูบุดดิสที่ ให้ชาวพุทธดูแลใช้ประโยชน์ และเยยี่ ม ณ มหาเจดยี บ์ โุ รบดู รู ์ (บโุ รพทุ โธ) นบั กระทรวงศาสนา เยย่ี มสถานเอกอคั รราชทูต วหิ ารสลี ะปารมิตา เปน็ การสวดพระปาตโิ มกขค์ รง้ั แรกใน ไทยประจ�ำ กรุงจาการต์ า พบผู้นำ�ชาวพทุ ธ ประเทศอนิ โดนเี ซยี ชมจนั ดหี รอื เจดยี ์ กลมุ่ ตา่ งๆ ทงั้ ฝา่ ยเถรวาทและมหายาน ตา่ งๆ ในเมอื งยอรก์ ยาการต์ า ประชมุ ชาวพทุ ธ ณ วหิ ารตรรี ตั นะ162

พธิ บี รรพชากลุ บตุ รไดจ้ ดั ขน้ึ ณ วหิ ารมหาธรรมโลก หลงั จากบรรพชาสามเณรแลว้ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯเมืองสมารัง มกี ุลบตุ รเข้ารบั การบรรพชา ๔๓ คน ได้ประกอบพิธบี วชสตรี ๓ คน เป็นอุบาสกิ า (แม่ช)ีเปน็ การบรรพชาหมคู่ รง้ั แรกในอนิ โดนเี ซยี เมอ่ื บรรพชา นับเป็นการบวชอุบาสิกาคร้ังแรกในประเทศน้ีเช่นกันแลว้ อยู่ศึกษาพระพุทธศาสนาเปน็ เวลา ๑ เดือน โดยคณะสงฆอ์ นิ โดนเี ซยี ไดจ้ ดั หลกั สตู รอบรมสามเณร ดงั น้ี• ภาคเช้า เสรจ็ ภตั กิจแล้ว ท�ำ วัตรเชา้ นง่ั สมาธิเรยี นพระวนิ ัย พทุ ธประวตั ิ• ภาคบา่ ย เรยี นธรรม ฟงั บรรยายพเิ ศษ ความรทู้ ว่ั ไป• ภาคค�่ำ ทำ�วัตรคำ�่ นงั่ สมาธิอาทิตย์ ๑๑ องั คาร ๑๓ - ศุกร์ ๑๖ อาทิตย์ ๑๘• พธิ บี รรพชาสามเณร ณ วหิ ารมหา • ไปเยย่ี มวดั ธรรมทปี าราม บาตู • เยย่ี มวหิ ารศกั ยวนั ของพระชนิ รกั ขติธรรมโลก เมอื งสมารงั เมอื งมาลงั พกั และแสดงธรรมอยู่ ณ เมอื งประเจต ทว่ี ดั ธรรมทปี าราม เปน็ เวลา ๔ วนัจันทร์ ๑๒ จนั ทร์ ๑๙ เสาร์ ๑๗• เยย่ี มวหิ ารธรรมสรุ ยิ ะ เมอื งกาโลลาน • เยอื นวหิ ารสปั ตารองโกฝา่ ยมหายานซง่ึ เปน็ เมอื งทม่ี ชี าวพทุ ธมากเมอื งหนง่ึ • กลบั ไปกรงุ จาการต์ า แลว้ เดนิ ทางจากกรงุ จาการต์ าไปยงั เมอื งเยย่ี มวหิ ารสจั จวริ ยิ ภมู ิ แลว้ ไปอบรม เพริ ธ์ ประเทศออสเตรเลยีสามเณรใหมท่ ว่ี หิ ารมหาธรรมโลกเมอื งสมารงั 163

เยอื นครั้งอท่ี ๓อ+คสรง้ั แเรตกในรนเลิวยี ซีแสลิงนคดโป์ ร์ หลงั เสรจ็ สน้ิ ภารกจิ ณ ประเทศอนิ โดนเี ซยี ในวนั ท่ี ๑๙ ธนั วาคม คณะร่วมเดนิ ทาง พ.ศ. ๒๕๒๐ แล้ว เจ้าพระคุณสมเด็จฯ พร้อมด้วยคณะก็ไดเ้ ดินทาง ๑. สมเด็จพระญาณสงั วร จากกรุงจาการต์ า ประเทศอินโดนีเซีย ไปยังเมอื งเพริ ์ธ ประเทศ ออสเตรเลีย ซ่งึ เป็นการเยอื นครง้ั ท่ี ๓ ของพระองค์ เพ่ือมาตดิ ตามดู วดั บวรนเิ วศวหิ าร / คอื สมเด็จพระญาณสงั วร ผลการปฏิบตั ศิ าสนกจิ ของพระธรรมทตู ไทยทไี่ ดจ้ ัดสง่ มา และวดั ไทย สมเดจ็ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปรณิ ายก ทส่ี รา้ งไวเ้ มอ่ื ๕ ปที แ่ี ลว้ วา่ มคี วามกา้ วหนา้ เพยี งไรและมอี ปุ สรรคปญั หา ใดๆ บ้างหรือไม่ ปรากฏวา่ การปฏิบัติงานของพระธรรมทูตและความ ๒. พระธรรมดลิ ก (วชิ มัย ปุญฺญาราโม) เปน็ ไปของวดั ไดด้ �ำ เนนิ ไปดว้ ยดี ไมม่ อี ปุ สรรคปญั หา แตก่ ลบั ไดร้ บั การ สนบั สนนุ จากชาวพทุ ธทว่ั ไป และจากพทุ ธสมาคมของชาวจนี ในประเทศ สุดทา้ ยได้เป็นท่พี ระพรหมมนุ ี วดั บวรนิเวศวิหาร นี้กว้างขวางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ยังได้ริเริ่มการ เผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังประเทศนิวซีแลนด์ และดำ�ริที่จะจัดส่ง ๓. พระครปู ระกาศธรรมคณุ (จ�ำ นงค์ สีหเดโช) พระสงฆ์ไทยมาอยู่ปฏบิ ตั ิศาสนกิจในประเทศนตี้ ่อไป วัดป่าเลไลย์ สิงคโปร์164 ๔. พระครปู ลดั สมั พพิ ฑั ฒญาณาจารย์ (บญุ ชว่ ย สชุ วโน) วดั บวรนิเวศวหิ าร ภายหลังลาสิกขา ๕. นายวร เวชชศาสตร์ ไวยาวัจกร

ออสเตรเลีย // ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๐อังคาร ๒๐ พธุ ๒๑ พฤหสั บดี ๒๒• ภัตกจิ เชา้ -เพล ทีบ่ า้ นนายตัน เส็ง • เจา้ พระคุณสมเด็จฯ รบั อาราธนาไป • เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ รับบณิ ฑบาต ณมีนกั เรยี นไทยมารว่ มถวายภัตตาหาร รบั บณิ ฑบาตทบี่ า้ น ศาสตราจารย์ ดร. บ้าน ดร.ชัยสรุ ยิ ะ ภัตกจิ เชา้ -เพล ทีท่ พ่ี ักเชา้ -เพลด้วยหลายคน ชยั สุรยิ ะ ชาวลังกา ซึ่งเปน็ คณบดอี ย่ทู ี่ มนี กั เรยี นไทยและชาวพุทธเวียดนาม• ตอนกลางคืน มกี ารพบปะชาวพทุ ธใน มหาวิทยาลัยเพริ ธ์ ออสเตรเลีย มารว่ มถวายภัตตาหารเมอื งเพริ ธ์ ท่บี า้ นนายตัน เส็ง มีชาวพทุ ธ • เวลาเชา้ -เพล มนี กั เรียนไทยและชาว เช้า-เพล เช่นเคยทงั้ ชาวไทยและชาวออสเตรเลยี มารว่ ม เวียดนาม สงิ คโปร์ มาร่วมถวายภตั ตาหาร • ตอนกลางคืน มกี ารประชมุ ชาวพุทธประชุมสนทนาธรรมราว ๒๐ คน มีการ ทที่ พี่ ัก ในนามของพุทธสมาคมแห่งเพิร์ธ โดยยืมถาม-ตอบปัญหาธรรม ในหัวขอ้ ธรรม • ตอนกลางคนื มกี ารประชุมชาวพทุ ธ โรงละครแห่งหนึง่ เปน็ ที่ประชมุ มชี าวพทุ ธทั่วๆ ไป และเจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ได้ ที่ ออสเตรเลีย เอเชยี น เฮาส์ มีชาวพุทธ มารว่ มราว ๔๐ คน เจา้ พระคุณสมเด็จฯแนะน�ำ หลักการปฏิบตั ิสมาธติ ามแนว ซ่งึ เปน็ ชาวลงั กากับออสเตรเลยี มาร่วม แสดงธรรมกถาแนะน�ำ การปฏบิ ตั สิ มาธิสติปฏั ฐาน ๔ แลว้ ฝกึ นั่งสมาธิ ๓๐ นาที ประชมุ ๑๕ คน เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ต่อจากทแ่ี สดงในคนื วนั ก่อน จบแล้วตอบ แสดงธรรมกถาแนะน�ำ หลักปฏบิ ตั ิสมาธิ ปัญหาธรรม ชาวพุทธท่ีมาประชมุ คืนนมี้ ีทงั้ ศกุ ร์ ๒๓ ตามแนวสตปิ ฏั ฐาน ๔ ตอ่ จากท่ีได้แสดง ชาวไทย พม่า ลังกา และออสเตรเลยี ในคืนกอ่ น จบแล้วน่งั สมาธิ ๓๐ นาที จบแลว้ น่ังสมาธิ ๓๐ นาที• รบั บณิ ฑบาต ทบ่ี า้ น ดร. ชยั สุริยะภัตกจิ เชา้ -เพล ทที่ ่พี ัก เสาร์ ๒๔ อาทติ ย์ ๒๕• เดนิ ทางไปยงั ซดิ นีย์ โดยเคร่ืองบินสายการบินแควนตสั เครือ่ งบนิ พักที่ • นายวเิ ชษฐ์ สุทธยาคม เอกอคั รราชทูต • เป็นวันร่วมบ�ำ เพ็ญกุศลประจำ�เดือนเมลเบอร์น ๑ ชัว่ โมง ๑๕ นาที แลว้ บนิ ต่อ ไทยประจ�ำ กรุงแคนเบอร์รา มากราบ ของชาวพทุ ธในซิดนีย์ พระสงฆน์ ำ�โดยไปยงั ซดิ นยี ์ นมสั การแลว้ ถวายภัตตาหารแก่คณะ เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ เจริญพระพทุ ธมนต์• เจา้ หนา้ ทก่ี งสลุ ไทยประจ�ำ ซดิ นยี ม์ าตอ้ นรบั เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ และพระสงฆ์ทีป่ ระจำ� แลว้ ฉนั ภตั ตาหารเพล เสรจ็ แลว้ เจา้ พระคณุและคอยอ�ำ นวยความสะดวกทสี่ นามบนิ อยู่ ณ วดั พุทธรงั ษี มีชาวพุทธท้ังไทย สมเด็จฯ กลา่ วธรรมกถาแสดงการทำ�บุญพร้อมดว้ ยพระสงฆ์ไทยทีป่ ระจำ�อย่ทู ีว่ ัด จีน ลาว เวยี ดนาม เขมร พมา่ ลงั กาและ ตามหลักพระพุทธศาสนาแกช่ าวพุทธทม่ี าพทุ ธรงั ษี ซดิ นีย์ และชาวพทุ ธหลายท่านได้ ออสเตรเลีย มาร่วมถวายภตั ตาหารเพล ร่วมบ�ำ เพญ็ กศุ ล แล้วพระสงฆอ์ นโุ มทนามาตอ้ นรับ แล้วน�ำ ไปยังวดั พุทธรงั ษี เลขที่ ด้วย เสร็จแลว้ เจา้ พระคุณสมเด็จฯ กลา่ ว๘๘ ถนนสแตนมอร์ ธรรมกถา แลว้ พระสงฆอ์ นโุ มทนา อังคาร ๒๗ - พธุ ๒๘ จันทร์ ๒๖ • พักผ่อนตามอธั ยาศัย ตอนเย็นมปี ระชมุ ท�ำ วตั รสวดมนต์ แสดงธรรมและฝกึ• ภตั กจิ เช้าท่วี ัดพทุ ธรงั ษี และนายเลียว ผนู้ ำ�สมาคมนี้ ก็เอาใจใส่ นั่งสมาธติ ามเคย• พทุ ธสมาคมจนี น�ำ โดยนายเลยี ว คหบดี ช่วยเหลอื กิจการวดั พทุ ธรงั ษเี ป็นอนั ดีจนี นิมนต์คณะเจ้าพระคุณสมเด็จฯ พรอ้ ม และเป็นกรรมการของวดั พุทธรงั ษดี ว้ ย 165ด้วยพระสงฆว์ ดั พุทธรงั ษีไปฉันภัตตาหาร ในโอกาสทีเ่ จ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ไปเยีย่ มเพลท่สี �ำ นกั งานของสมาคม ซงึ่ จัดเปน็ ห้อง วัดพทุ ธรงั ษคี รัง้ นี้ นายเลียวได้บริจาคเงินประชมุ ส�ำ หรับชาวพุทธจนี ไปรว่ มสวดมนต์ ร่วมสมทบทนุ ซอ้ื ทดี่ ินขยายบริเวณวดัสนทนาธรรม พทุ ธสมาคมแห่งนไี้ ด้นมิ นต์ จำ�นวน ๑,๘๐๐ เหรียญออสเตรเลยีพระไทยที่ประจำ�อยู่ ณ วดั พทุ ธรงั ษี ไปแสดงธรรมแก่ชาวพทุ ธเปน็ ประจำ�

ออสเตรเลยี // ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๒๐ พฤหสั บดี ๒๙ ศุกร์ ๓๐ เสาร์ ๓๑ • ไปเยย่ี มชาวลาว เขมร เวยี ดนามอพยพ • ครอบครวั เลมมอน ซ่งึ เปน็ ชาวพุทธ ได้ • นายเลยี ว นายกพุทธสมาคมจีนในซิดนีย์ ณ ค่ายผูอ้ พยพทีเ่ วสต์บรดิ จ์ โฮเตล ผู้อพยพ นิมนตค์ ณะเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ พรอ้ มดว้ ย นิมนตค์ ณะเจา้ พระคุณสมเด็จฯ พร้อมดว้ ย ลีภ้ ัยทม่ี ารว่ มบำ�เพ็ญกศุ ลถวายภัตตาหารเพล คณะสงฆว์ ดั พทุ ธรงั ษี ไปเจรญิ พระพทุ ธมนต์ พระสงฆว์ ดั พุทธรงั ษี ไปเจริญพระพทุ ธมนต์ ในวันนี้ ส่วนมากเปน็ ชาวลาวจากคา่ ยผลู้ ภี้ ัย และฉนั เพลทีบ่ ้านพกั ครอบครวั น้ีสนใจ และฉันเพลทบ่ี า้ นพัก ในประเทศไทย มีประมาณ ๑๐๐ คนเศษแต่ ศึกษาพระพทุ ธศาสนาและให้การช่วยเหลือ ที่กระจายกนั ไปตามท่ีต่างๆ ก็ยงั มอี กี มาก พระสงฆ์ไทยเป็นอย่างดี ไดส้ รา้ งกฏุ ิเลก็ ไว้ ผอู้ พยพเหล่านี้ตา่ งปลาบปล้มื ปตี ทิ มี่ ีพระสงฆ์ บริเวณสวนหลงั บา้ นพกั ๑ หลัง ส�ำ หรบั ให้ ไปเยีย่ ม รสู้ กึ อบอ่นุ ใจและร้สู กึ คดิ ถึงบา้ นเกดิ เปน็ ทพ่ี ักของคณะสงฆ์ และมีพระสงฆ์ไทย เมอื งนอนมากขน้ึ ทางรัฐบาลออสเตรเลียได้ อย่ปู ระจำ�ทน่ี น่ั ๑ รูป จดั ท่พี กั อาศยั ใหเ้ ปน็ อยา่ งดี พรอ้ มทงั้ จา่ ย เบ้ียเล้ยี งประจ�ำ วันใหอ้ ย่างเพียงพอแก่การ ไดท้ รงออกบณิ ฑบาต ดำ�รงชพี ไมฝ่ ดื เคอื ง แต่ทุกคนต่างแสดง บน Phillip Road ความร้สู กึ ว่า ถงึ จะสบายอย่างไรก็สอู้ ยบู่ ้าน เมืองเพริ ์ธ ตนเองไมไ่ ด้ หรืออย่างนอ้ ยไดอ้ ยใู่ นประเทศ ไทยก็ยงั ดี เพราะมีวดั และพระสงฆ์ให้ไดม้ ี ประเทศออสเตรเลีย โอกาสบำ�เพญ็ กศุ ล ออสเตรเลีย - นวิ ซแี ลนด์ - สิงคโปร์ / มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ อาทติ ย์ ๑ วนั ขึ้นปีใหม่ องั คาร ๓ พธุ ๔ • ชาวพุทธในซิดนีย์ราว ๗๐ คน ทัง้ ไทย • เดนิ ทางจากสนามบนิ ซดิ นยี ์ เวลา ๑๐.๒๕ น. • เจ้าหน้าท่สี ถานทูตน�ำ คณะฯ เดนิ ทาง จนี ลาว เขมร พมา่ เวยี ดนาม และ โดยเคร่อื งบินสายการบินแอรน์ วิ ซแี ลนด์ ไปยงั เมอื งโรโตรัว แวะฉนั เพลท่ีบา้ น ออสเตรเลยี มารว่ มทำ�บญุ ตักบาตรท่วี ดั ถึงสนามบินเวลลิงตนั ประเทศนิวซีแลนด์ นักศึกษาไทยทีเ่ มอื งปาล์มเมอสตนั นอรธ์ พุทธรงั ษี เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ นำ�พระสงฆ์ เวลา ๑๕.๑๕ น. นายสุนทร คงศกั ดิ์ ซ่ึงมีนักเรยี นไทยในเมืองน้ี ๑๒ คนรว่ ม ๗ รปู รับบณิ ฑบาตบรเิ วณสนามหญา้ ด้าน เอกอคั รราชทตู ไทยประจ�ำ กรงุ เวลลิงตนั ถวายเพล กอ่ นสวดอนุโมทนา เจา้ พระคณุ หลงั อาคารวัดพทุ ธรงั ษี มกี ารประกอบพธิ ี พรอ้ มด้วยขา้ ราชการประจ�ำ สถานทูตมา สมเด็จฯ กลา่ วธรรมกถาแสดงมงคล ๓ บรรพชาชาวออสเตรเลยี ๑ คน ชอ่ื สามเณร ให้การตอ้ นรับและอ�ำ นวยความสะดวก แลว้ ประการ คอื การไม่คบคนพาล การคบ บลสู เปน็ พิธีบวชครั้งที่ ๒ ในออสเตรเลยี นำ�คณะฯ ไปพกั ท่ที �ำ เนยี บเอกอัครราชทตู บณั ฑติ และการอย่ใู นถิน่ ประเทศที่สมควร เสรจ็ พิธีแล้วพระสงฆเ์ จริญพระพุทธมนต์ • ตอนเยน็ เจ้าหน้าทีส่ ถานทูตน�ำ ชมกรงุ พร้อมทง้ั แสดงหลักการศึกษาให้เกดิ ปญั ญา เปน็ การอ�ำ นวยพรปใี หม่แก่ชาวพทุ ธทม่ี า เวลลิงตนั ความรทู้ ี่ถูกต้องแก่นักเรยี นไทย เสร็จแล้ว ร่วมท�ำ บุญตกั บาตรและถวายภตั ตาหารเพล • ตอนกลางคืน คณะข้าราชการสถานทูต พระสงฆส์ วดอนโุ มทนาและอำ�ลา เดนิ ทาง เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ กลา่ วธรรมกถา ก่อน และชาวไทยในกรงุ เวลลิงตนั มาประชุมกัน ตอ่ ไปพักทเ่ี มืองโรโตรวั ๑ คนื อนุโมทนา พระสงฆส์ วดอนโุ มทนา ท่ที ำ�เนยี บเอกอัครราชทูต พระสงฆ์ท�ำ วตั ร สวดมนต์และสนทนาธรรม เจา้ พระคุณ พฤหสั บดี ๕ จนั ทร์ ๒ สมเด็จฯ ตอบปญั หาธรรม แนะน�ำ หลักใน การปฏบิ ัติสมาธิ พร้อมทงั้ หลกั ธรรมส�ำ คัญ • เจ้าหนา้ ทสี่ ถานทูตน�ำ คณะฯไปชมสถานท่ี • พกั ผอ่ นตามอธั ยาศยั ตอนเยน็ ประชมุ ท�ำ วตั ร ทางพระพุทธศาสนาอ่นื ๆ ตา่ งๆ ในเมืองโรโตรวั แลว้ กลบั ที่พัก ตอน สวดมนต์ แสดงธรรมกถา นง่ั สมาธติ ามเคย บ่าย เดนิ ทางจากเมืองโรโตรัว โดยเครอื่ ง บินไปยงั เมืองโอคแลนด์ พัก ๑ คืน166

ออสเตรเลีย - นวิ ซแี ลนด์ - สงิ คโปร์ / มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๑ศุกร์ ๖ เสาร์ ๗• เดนิ ทางจากเมอื งโอคแลนด์กลบั ยงั กรงุ เวลลิงตัน เอกอัครราชทูต • ออกเดินทางจากกรงุ เวลลงิ ตันกลบั มายังซิดนยี ์ ออสเตรเลียไทยและเจา้ หนา้ ทีส่ ถานทูตไทยมาต้อนรับ นำ�คณะฯ ไปพกั ทท่ี ำ�เนยี บ โดยเครือ่ งบินสายการบนิ แอรน์ วิ ซแี ลนด์ พกั ทว่ี ดั พทุ ธรงั ษีเอกอคั รราชทตู มขี า้ ราชการสถานทตู ไทยและคนไทยในกรงุ เวลลงิ ตนัมารว่ มกนั บ�ำ เพญ็ กศุ ลราว ๕๐ คน พระสงฆ์ ๔ รปู เจรญิ พระพทุ ธมนต์ อาทิตย์ ๘แล้วฉนั ภตั ตาหารเพล เสรจ็ แลว้ มกี ารถา่ ยรปู ร่วมกนั• ตอนบ่าย เจา้ หน้าที่สถานทูตนำ�ชมกรุงเวลลิงตันและอาราธนา • ชาวพุทธมาร่วมบำ�เพญ็ กศุ ลถวายภตั ตาหารเพล ประมาณเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไปเย่ียมสถานทตู ไทย ประพรมนำ้�พระพุทธมนต์ ๑๕๐ คน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ ก่อนอนุโมทนาเพ่อื ความเปน็ สริ ิมงคลแก่สถานทตู เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ กล่าวธรรมกถาแสดงการทำ�บญุ ๓ อยา่ ง• ตอนกลางคืน ประชุมชาวพทุ ธทงั้ ไทย เวียดนาม นิวซแี ลนด์ ตามทางพระพุทธศาสนา คือ ทาน ศีล ภาวนา และเนน้ ให้ทกุ คนประมาณ ๔๐ คน ท�ำ วตั รสวดมนตพ์ รอ้ มกนั ทท่ี �ำ เนยี บเอกอคั รราชทตู พยายามปฏบิ ัติในเรือ่ งการรักษาศลี และกระท�ำ ภาวนาเพื่อรักษามีการสนทนาธรรม และปรารภถึงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาใน ใจใหเ้ ปน็ สขุนวิ ซแี ลนด์ ซง่ึ ขณะน้นั ยงั ไม่มีพทุ ธสมาคมหรือองค์การทางพุทธศาสนาทมี่ ่นั คงถาวรและยงั มีชาวพทุ ธนอ้ ย แต่ก็มีผูส้ นใจศึกษา จนั ทร์ ๙พระพทุ ธศาสนาพอสมควร เจา้ หน้าทส่ี ถานทูตไทยกำ�ลังด�ำ เนินการรวบรวมสมาชิกชาวพุทธจัดต้ังเปน็ พทุ ธสมาคม และไดพ้ ยายามจดั • เดินทางจากซิดนีย์มาสงิ คโปร์ โดยเคร่อื งบินสายการบินไทยตงั้ สำ�นักสงฆข์ ้นึ ในโอกาสตอ่ ไปด้วย คนไทยบางทา่ นที่อยูใ่ นประเทศ นายเจตน์ สจุ ริตกลุ เอกอัครราชทตู ไทยประจำ�สิงคโปร์ พรอ้ มนไ้ี ด้ใหค้ วามสนใจและพร้อมท่จี ะใหก้ ารสนบั สนนุ ด้วยเจา้ หนา้ ทสี่ ถานทูต พระสงฆ์ไทยในสิงคโปรแ์ ละชาวพุทธ จ�ำ นวนมากตอ้ นรบั ทส่ี นามบนิ น�ำ คณะฯ พกั ทว่ี ดั ปา่ เลไลย์ ถนนบโิ ดก๊ อังคาร ๑๐ พธุ ๑๑ พฤหัสบดี ๑๒• คณะทายกทายกิ าวัดปา่ เลไลย์ถวาย • ครอบครวั นายตนั ถวายภัตตาหารเช้า • ครอบครวั นายตนั ถวายภตั ตาหารเชา้ -เพลภตั ตาหารเชา้ • คณะสงฆ์ไทยในสิงคโปร์อาราธนาไปฉัน • เดินทางกลับท่พี กั วดั ป่าเลไลย์• เอกอคั รราชทูต นิมนตค์ ณะฯ พร้อมด้วย เพลท่วี ัดอานันทเมตยาราม (พระปัญญา • ตอนเยน็ เอกอคั รราชทตู เจา้ หนา้ ทป่ี ระจ�ำพระสงฆท์ ้ังหมดในสิงคโปร์ ไปฉนั เพลท่ี ธรรมนเิ ทศ เปน็ เจา้ อาวาส) จากนน้ั สถานทตู ไทย ชาวพุทธและพระสงฆ์ไทยในทำ�เนียบเอกอัครราชทูต จำ�นวน ๓๒ รปู พระสงฆ์ท้งั หมดประชุมพรอ้ มกันในอุโบสถ สิงคโปร์ มาส่งคณะเจ้าพระคุณสมเด็จฯ(พระสงฆ์ไทย ๒๙ รปู ลังกา ๓ รปู ) พระปญั ญาธรรมนิเทศ ถวายสักการะและ ที่สนามบิน เดินทางจากสิงคโปร์โดย• เยย่ี มพุทธสมาคมจีน บดุ ดิสต์ ยูเนียน รายงานความเป็นไปของการพระศาสนา เครือ่ งบนิ บรษิ ัท การบนิ ไทย จ�ำ กดัเยีย่ มวดั จีนที่ใหญท่ ส่ี ุดในสงิ คโปร์ ชอ่ื วัด ในประเทศสิงคโปร์ เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ เท่ยี วบนิ ทีจี ๙๘๒ ถึงกรุงเทพฯ เวลาโฟกั๊กซี (มพี ระสงฆ์ไทยจำ�พรรษาอยู่ ๒ รูป ประทานโอวาท เสรจ็ แล้วกลบั ท่ีพกั ๑๙.๔๕ น.มีศาลาฌาปนกิจแบบศาลาทรงไทย ปจั จุบนั แฟลตนายตนักำ�ลังกอ่ สรา้ งโบสถแ์ ละวิหารขนาดใหญอ่ ยู่ • ตอนเยน็ ประชมุ ชาวพทุ ธราว ๔๐ คนอีกหลายหลัง เจ้าอาวาสวัดนี้ไดช้ ่วยเหลอื ทแ่ี ฟลตนายตนั เช่นวันกอ่ น เจา้ พระคณุกจิ การพระสงฆ์ไทยและวัดไทยในสงิ คโปร์ สมเด็จฯ แสดงธรรม ตอบปญั หาธรรมเปน็ อย่างดีตลอดมา) จบแล้วนัง่ สมาธิ• นายตัน นิมนตค์ ณะฯ ไปพกั ที่แฟลตของตน ซึ่งในตอนกลางคืนได้จดั เป็นทป่ี ระชมุชาวพทุ ธ ๔๐ คน มาร่วมฟังธรรม สนทนาธรรม และน่งั สมาธิ 167

อเยอื เนมรกิ า แคนาดา ยุโรป พ.ศ. ๒๕๒๓ เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ พร้อมดว้ ยคณะคอื > ส�ำ หรบั สถานที่พกั บริษทั ศรีกรงุ วฒั นา จำ�กดั ได้จัดการ • พระธรรมดิลก (วชิ มยั ปุญฺ าราโม สุดท้ายไดเ้ ปน็ ที่พระพรหมมุน)ี ถวายโดยสมควร โดยไดจ้ ัดห้องชุดในโรงแรมพร้อมพาหนะ วัดบวรนิเวศวิหาร ลว่ งหนา้ ไวท้ กุ แหง่ เพราะอาจจะพกั รวมกนั ในทแ่ี หง่ เดยี วกนั • นายแพทย์ถนอมชยั คูท่ วธี รรม • นายอุดม เผือกมว่ งศรี มัคคุเทศก์ ไดท้ ัง้ คณะ สะดวกในการทจี่ ะจดั รายการไปในทีต่ ่างๆ เช่น • นายเอกสทิ ธิ วัฒนปรชี านนท์ ส�ำ นักพระราชวงั ไปเยี่ยมวดั ไทย ไปในการบำ�เพ็ญกุศลของข้าราชการไทย • นายเปล่งศกั ด์ิ ประกาศเภสชั แห่งบริษัทศรีกรงุ วฒั นา คนไทยทท่ี �ำ เนยี บเอกอคั รราชทตู เปน็ ตน้ ทง้ั ไมเ่ ปน็ ภาระใน ไดเ้ ดินทางไปเยอื นประเทศสหรฐั อเมริกา แคนาดา และทวีปยโุ รป การรบั รองของใครๆ นอกจากนน้ั สขุ ภาพของพระธรรมดลิ ก (อังกฤษ ฝร่งั เศส สวติ เซอร์แลนด์) เพื่อสังเกตการณพ์ ระศาสนาและ ไม่แข็งแรง ควรได้พักอยู่ในสถานที่มีอุปกรณ์ในการทำ� การศึกษา โดยบริษัทศรกี รุงวฒั นา จำ�กดั ไดถ้ วายความอุปถัมภ์ใน ความอบอุ่นเพียงพอ บรรดาเอกอัครราชทูต กงสุล และ การเดินทางครัง้ นีท้ ้ังหมด เจ้าหน้าที่ไทย คนไทย ตลอดถึงวัดไทย พระไทยและวัด ต่างชาติ ต้อนรับและถวายความสะดวกสบายเป็นอย่างดี ทกุ อย่างทุกแหง่ ไดม้ ีพุทธศาสนิกชนนำ�ภัตตาหารมาถวาย เป็นจำ�นวนมาก และทุกโอกาสที่ได้พบพุทธศาสนิกชน เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ไดแ้ จกหนงั สอื เกย่ี วกับหลักธรรมแหง่ พระพทุ ธศาสนาและวัตถมุ งคลแกท่ กุ คน และแสดงธรรม เปน็ สมั โมทนยี กถาบ้าง แนวทางปฏบิ ัตกิ รรมฐานบา้ งตาม สมควรในที่มากแหง่168

> ในการก�ำ หนดการประจำ�วัน บรษิ ทั ศรีกรงุ วัฒนา > ตลอดเวลาทอ่ี ยใู่ นตา่ งประเทศ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ได้จำ�กัด ถวายให้เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เลือกว่าต้อง พบปะกบั พุทธศาสนิกชนเปน็ จ�ำ นวนมาก ทัง้ ชาวไทยและประสงค์จะไป ณ สถานทีใ่ ดและจดั วางเวลาไว้ให้ ชาวตา่ งประเทศ ไดม้ ีโอกาสแสดงธรรมใหค้ นไทยยึดมัน่เหมาะสม รายการแสดงพระธรรมเทศนา แผเ่ มตตาจติ อยใู่ นศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ตอบปญั หาขอ้ งใจทางธรรมแก่มหาชนโดยเฉพาะคนไทยนั้น ได้ถือลำ�ดับความ โดยเฉพาะผทู้ ย่ี งั ไม่เขา้ ใจกระจ่างในเรอ่ื งพระพทุ ธศาสนาส�ำ คญั เปน็ ประการแรก แลว้ จงึ จดั รายการอน่ื เขา้ ผนวก และการท�ำ สมาธซิ งึ่ กำ�ลังเปน็ ท่สี นใจของชาวต่างประเทศตามเวลาวา่ งของแตล่ ะวนั เชน่ ลงั กา ญป่ี นุ่ เวยี ดนาม อยู่ทุกวนั ทก่ี รงุ ลอนดอน ประเทศองั กฤษ นอกจากไปเขมร ลาว ถัดมาก็จะไปเยย่ี มสถานเอกอัครราชทูต เยี่ยมวัดพุทธปทีปเป็นอันดับแรกแล้ว ได้ไปเยี่ยมชมพบปะกบั บุคคลของศาสนาตา่ งๆ เย่ยี มชมโบสถ์หรอื พระวหิ ารเซน็ ตพ์ อลอันเป็นโบสถศ์ ักด์สิ ิทธ์แิ ละใหญ่ทส่ี ุดส�ำ นกั สงฆข์ องศาสนาอ่นื พบปะอาจารย์ วิทยาลยั ที่ ของอังกฤษ ที่กรุงปารีส พระทางคริสตศาสนา นิกายมกี ารสอนพระพทุ ธศาสนา เยี่ยมมหาวทิ ยาลยั และ โรมนั คาธอลกิ ไดอ้ าราธนาไปชมการประกอบพธิ กี รรมทางชมพิพิธภณั ฑ์ รวมท้ังสถานทีท่ ่ีพระสงฆพ์ งึ ศึกษา ศาสนา ณ วหิ ารโนตเตรอะดาม (Notre-Dame de Paris) ซง่ึ มกี ารประชมุ กนั เปน็ จ�ำ นวนมาก และยงั ไปเยย่ี มสถานท่ี ทน่ี า่ สนใจอีกหลายแหง่ 169

ทน่ี ครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร พระเจา้ วรวงศ์เธอ พระองค์เจา้ โสมสวลี พระวรราชาทินดั ดามาตุ ได้พระราชทานพระราชวโรกาสให้ เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ กับคณะเฝ้าฯ ทีส่ นามบนิ ประทับรบั สงั่ สนทนากบั เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ อยู่เป็นเวลานาน และก่อนออกเดนิ ทางกลบั ประเทศไทย เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ และคณะได้รบั พระราชทานพระมหากรุณาธคิ ุณจาก สมเด็จพระศรนี ครินทราบรมราชชนนีให้ได้เขา้ เฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลและถวายพระพทุ ธรูป ภ.ป.ร. กับวัตถมุ งคลตา่ งๆ และหนงั สือธรรม ยังทปี่ ระทบั ณ นครโลซานน์ ประเทศสวติ เซอร์แลนด์ดว้ ย170

> ระหวา่ งไปเยย่ี มวดั ไทยตา่ งๆ นน้ั เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดเ้ ทศนเ์ ชญิ ชวนพทุ ธศาสนกิ ชนให้จดั ตั้งเป็นมลู นธิ สิ �ำ หรับจัดหาภตั ตาหารถวายพระ แลว้ แตง่ ตงั้ ไวยาวัจกร หรอื ชว่ ยเป็นอนศุ าสนาจารย์ของวดั และสำ�นกั สงฆ์แตล่ ะแห่ง ซึง่ บางแหง่ ได้มีผู้บรจิ าคเงินต้งั มลู นิธขิ น้ึทง้ั นโ้ี ดยไดต้ ระหนกั ส�ำ นกึ ในกระแสพระราชด�ำ รขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เกย่ี วกบัพระสงฆ์ไทยเดินทางไปตา่ งประเทศ และสร้างวดั ขน้ึ ในประเทศน้ันๆ ซ่ึงรวมความวา่๑. การทีม่ พี ระสงฆ์ไทย เดินทางไปต่างประเทศดว้ ยความสำ�รวมระวังพระวินัย อย่างนอ้ ยก็เป็นกำ�ลงั ใจแก่พทุ ธศาสนิกชนคนไทยทอี่ ย่ตู ่างประเทศได้มีโอกาสทำ�บญุ ตามประเพณีสุดแลว้ แตโ่ อกาส๒. การสรา้ งวัดไทยในต่างประเทศน้นั ดกู ็จะไมม่ ีปญั หาอะไรมากนกั ถา้ คนไทยไดช้ ว่ ยกนัดำ�เนนิ การดงั นี้คอื ร่วมกันจดั ต้งั เป็นมูลนธิ ิสำ�หรับใช้จ่ายของวดั แตล่ ะวดั ขน้ึ มีคฤหัสถ์ทำ�หน้าที่ช่วยเปน็ อยา่ งอนุศาสนาจารย์หรือไวยาวจั กร ชว่ ยพระท�ำ กจิ ตา่ งๆ เช่น หุงขา้ ว จัดอาหาร เป็นต้น จะจัดเป็นเวรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไป หรือด้วยวิธีอื่น ก็จะช่วยให้พระมีสัปปายะในความเป็นอยู่ สามารถรักษาวินัยได้ มีโอกาสทำ�ศาสนกิจคล่องตัวในการเผยแพร่พุทธธรรม> คณะฯ ได้ไปเยี่ยมมหาวิทยาลัยแวนคูเวอร์ และได้พบกับศาสตราจารย์ ดร. ฟอน แอล. เรา(Dr. Von L. Rau) ซ่งึ เป็นอาจารยส์ อนทางธรณีวทิ ยา ณ มหาวทิ ยาลยั น้นั และเคยเดนิ ทางมาประเทศไทย ศาสตราจารยผ์ นู้ ไ้ี ด้เล่าถงึ ทฤษฎีของเวกเนอร์ท่ีเชือ่ วา่ สมยั เมอื่ เวลาลา้ นๆ ปีมาแล้ว ผืนแผน่ ดนิ อฟั รกิ า อนิ เดยี ไทย เป็นตน้ เปน็ อนั เดยี วกนั ต่อมาความรอ้ นใตแ้ ผ่นดินได้ดนัขน้ึ มาท�ำ ใหผ้ นื แผน่ ดนิ แบง่ แยกออกจากกนั เทอื กเขาชายทะเลทแ่ี วนคเู วอรม์ ชี อ่ื วา่ ภเู ขา CypressMountains หรอื ตามทเ่ี จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดเ้ สนอแก่ ดร. เรา วา่ ควรทจ่ี ะมคี �ำ วา่ สยาม (Siam)ด้วย ดงั น้นั ดร. เรา จงึ ตัง้ ชอ่ื ว่า Siam-Coast Mountains เดมิ รวมอยกู่ บั เทือกเขาท่กี าญจนบรุ ีราชบุรี หาดใหญ่ ภูเก็ต ในประเทศไทย แต่เพราะความร้อนดงั กลา่ วเปน็ เหตุใหแ้ ยกออกจากกันและกระแสน�ำ้ ไดค้ อ่ ยๆ ดนั ออกไปประมาณ ๑๐ เซนตเิ มตรตอ่ ปี เมอ่ื น�ำ ระยะเวลาเขา้ กบั ระยะทางเวลาหมนื่ ๆ กวา่ ล้านปี จงึ ถึงทีต่ ้งั อยใู่ นปัจจบุ ันทแ่ี วนคูเวอร์ จากการทเ่ี ขาเขา้ มาส�ำ รวจแผ่นดินแถวจงั หวดั กาญจนบรุ ี ราชบรุ ี หาดใหญ่ และภเู กต็ เมอ่ื สองปที แ่ี ลว้ ไดพ้ บวา่ มเี ปลอื กหอยชนดิต่างๆ ทอี่ ย่ใู ต้ดนิ ตลอดจนชนั้ ของดนิ และหนิ เหมอื นกับท่พี บอยูเ่ ทอื กเขาดังกล่าวท่แี วนคูเวอร์บรติ ชิ โคลมั เบยี ตามทฤษฎขี องเวกเนอร์ ทใ่ี ครเหน็ วา่ เปน็ เรอ่ื งทไ่ี รส้ าระนน้ั บดั นน้ี กั ธรณวี ทิ ยาไดเ้ รมิ่ เชอื่ กันขึน้ แล้ว 171

สหรฐั อเมริกา-แคนาดา // เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ พฤหสั บดี ๓ - อาทติ ย์ ๖ : ลอสแองเจลิส จันทร์ ๗ : แวนคเู วอร์ • ออกเดนิ ทางไปยงั นครลอสแองเจลิส ทีโ่ รงแรมไฮแอท รเี จนซี ชาวไทยใน • ออกเดินทางไปยงั แวนคเู วอร์ ประเทศ โดยสายการบนิ Lufthansa เที่ยวบิน ลอสแองเจลิส ถวายภตั ตาหารเพล แคนาดา โดยเครื่องบินสายการบิน แอลเอช ๖๐๔ แวะสนามบิน ไคตกั๊ ทหี่ ้องพกั โรงแรม Western Airline เทย่ี วบิน ดับบลวิ เอ ฮอ่ งกง บินต่อไปทส่ี นามบินนาริตะ • เดินทางไป Ambassador College ๔๕๕ เครอ่ื งบนิ แวะพกั ทเ่ี มอื งพอรต์ แลนด์ ประเทศญ่ีปนุ่ เพื่อเปลยี่ นเคร่อื งบนิ ชม Musical Studio, Main Auditorium รัฐโอเรกอน สายการบิน Japan Airline บา้ นเกา่ แกอ่ ายุมากกวา่ ๒๐๐ ปี ท่ีมี • ถึงสนามบินแวนคูเวอร์ นายสทุ นิ • ถึงสนามบนิ ลอสแองเจลสิ ผ้บู ริจาคใหม้ หาวทิ ยาลยั ไมด้ อกกว่า เวสสวุ รรณ์ และนายวนิ ัย วุฒกิ ลพานิช นายประชา คณุ เกษม เอกอัครราชทตู ๒๐๐ ชนิดบริเวณมหาวทิ ยาลัย ชาวไทยในแวนคเู วอรม์ าตอ้ นรบั เข้าพัก ผู้แทนถาวรไทยประจำ�สหประชาชาติ และ ชม Huntington Library ภาพเกี่ยวกบั ท่โี รงแรมไฮแอท รีเจนซี แวนคเู วอร์ นายเสาวพจน์ ศรวี ลี กงสลุ รักษาการ ประวัติศาสตรข์ องอเมรกิ าและอังกฤษ กงสุลใหญป่ ระจ�ำ นครลอสแองเจลสิ สวนดอก Carmellia พนั ธต์ุ ่างๆ องั คาร ๘ : แวนคเู วอร์ มาตอ้ นรับและอ�ำ นวยสะดวก น�ำ เขา้ พกั • เดนิ ทางไปวัดไทยลอสแองเจลิส๑ เพอ่ื ๑ วดั น้ีสร้างมาตง้ั แต่ พ.ศ. ๒๕๐๖ ปัจจบุ นั สมทบกับขบวนถวายผา้ ป่าของชาวไทย พระเทพโสภณ วัดพระเชตุพน เปน็ เจา้ สำ�นกั ในลอสแองเจลิส กับบริษัทการบินไทย ๒ พลเอกเกรียงศกั ดิ์ ชมะนันท์ เปน็ ผ้สู รา้ ง และรว่ มพธิ ีสวมรศั มีพระประธานใน ถวายและไดร้ บั พระราชทานนามวา่ พระพทุ ธ อโุ บสถ๒ สมเดจ็ พระสงั ฆราช (วาสนมหาเถร) นรเทพศาสดา ทพิ ยนคราภิมงคลสถิต ทรงเปน็ ประธานในพธิ ี มคี นไทยมารว่ มงาน หลายพนั คน • ชมทวิ ทศั นข์ องเมอื ง Santa Monica • ชมพิพิธภณั ฑ์และหอดูดาว Vancouver เมืองตากอากาศชายทะเล มหาวิทยาลยั Museum and Planetarium แสดงเกย่ี วกบั แคลิฟอร์เนยี ลอสแองเจลสิ (UCLA) ประวัตศิ าสตรแ์ คนาดา การเข้ามาต้งั รกราก • เขา้ พกั บ้านพักกงสลุ ไทยประจำ�ลอส ในเมอื งแวนคเู วอร์ ประวตั อิ นิ เดยี นแดง แองเจลสิ ที่เบเวอรี่ ฮลิ ส์ เจ้าพระคณุ ซึ่งเป็นชนเผ่าพ้ืนเมือง อตุ สาหกรรมไม้ใน สมเดจ็ ฯ มอบพระพทุ ธรูป ภ.ป.ร. เมอื งแวนคเู วอร์ ฯลฯ หนา้ ตัก ๕ น้ิว สำ�หรบั สถานกงสลุ มี • ชม University of British Columbia คณะข้าราชการสถานเอกอัครราชทูต และ Museum of Anthropology แสดง และครอบครัว นกั เรยี นไทยมาประชมุ เกย่ี วกบั อนิ เดยี นแดง ชนเผา่ พื้นเมืองของ สวดมนต์ไหว้พระ ฟงั การแสดงธรรมและ แคนาดา ชีวิตความเป็นอยู่ ศลิ ปวัฒนธรรม อบรมกรรมฐาน นง่ั สมาธแิ ละสนทนาธรรม ของประเทศตา่ งๆ172

พุธ ๙ : แวนคูเวอร์• ชมเรือนตน้ ไม้ BioedeI Conservatory • ชมบันไดปลาโจน Capilano Hatcheryเปน็ เรอื นกระจกปลกู ตน้ ไมด้ อกไมจ้ ากเขต แสดงเก่ียวกบั ชีวิตปลาแซลมอนชนิดตา่ งๆร้อนตา่ งๆ ของโลก ส่วนใหญ่เป็นดอกไม้ ตั้งแตก่ ารขึ้นมาวางไข่ การเจริญเติบโตสวยงาม ปลูกใหป้ ระชาชนชม และกลบั ขนึ้ มาวางไขอ่ กี การเพาะพนั ธ์ุเพื่อ ขยายพนั ธ์ุปลา ฯลฯ • ชมเขอ่ื นกน้ั น�ำ้ คลฟี แลนด์ แมน่ �ำ้ คาปลิ าโน ศกุ ร์ ๑๑ : เดนเวอร์ เป็นเขอ่ื นทส่ี รา้ งบนภูเขา สำ�หรับสง่ น�้ำ ไปให้ ผบู้ ริโภคในตัวเมอื งแวนคเู วอร์ • ชาวไทยเมอื งเดนเวอร์ ถวายภตั ตาหารเพลท่ี • ขึ้นภเู ขาไซเปรส ซงึ่ มหี มิ ะตกอยตู่ ลอดเวลา วัดพทุ ธวราราม วัดนมี้ พี ระจ�ำ พรรษาอยู่ ๒ รปู ชมบริเวณตวั เมอื งจากเนินเขา ระหว่างทาง • เดนิ ทางไปสถาบนั นาโรปา (Naropa Institute) ผา่ น Horse Shoe Bay ซ่งึ เปน็ สถาบนั เกีย่ วกบั พระพุทธศาสนา • กลับท่พี ัก แสดงพระธรรมเทศนา และฝกึ แบบทิเบต เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ไดแ้ สดง สมาธิท่ีห้องพักโรงแรม พระธรรมเทศนาเก่ียวกับพระพุทธศาสนา และการนั่งสมาธิ ตามแนวสตปิ ัฏฐาน ๔ พฤหสั บดี ๑๐ : เดนเวอร์ แก่นกั ศึกษาและอาจารย์จากสถาบนั นาโรปา ซงึ่ มกี ารถาม-ตอบปัญหาและตา่ งใหค้ วาม • ออกเดินทางโดยสายการบนิ Frontier สนใจเปน็ อยา่ งมาก Airlines เทีย่ วบิน เอฟเอ ๑๓๒ ไปยงั เมอื ง • ชมบริเวณเมอื งโบเดอร์ University of เดนเวอร์ รฐั วอชงิ ตนั (Washington) ถงึ Colorado ภเู ขารอคก้ี เมืองโกลเดน แลว้ สนามบิน มีชาวไทยในเมอื งเดนเวอร์ มา เข้าท่พี กั วนั นห้ี มิ ะตกท้งั วนั อากาศหนาวมาก รบั เขา้ พกั ทโ่ี รงแรมบราวน์ พาเลช (Brown Palace) ไปเยย่ี มวัดพทุ ธวรารามและชาว ๑๒เสาร์ : เดนเวอร์-ทัลซ่า ไทยซึ่งมาคอยถวายสกั การะ • ร้านอาหารสยาม ซึง่ เปน็ ของครอบครวั คนไทย จากจงั หวดั นนทบรุ ี ประกอบดว้ ย มารดา-บตุ รหลานกวา่ ๓๐ คน ถวาย ภัตตาหารเพล • ไปสนามบินเมอื งเดนเวอร์ ออกเดินทาง โดยสายการบิน Continental Airlines เที่ยว บิน C.O. ไปยังเมืองทลั ซ่า • ชม University of Tulsa มหาวทิ ยาลยั เกา่ แกข่ องรฐั และ Oral Roberts Univer- sity มหาวทิ ยาลยั เอกชนท่สี ร้างโดยเงิน บริจาคของประชาชน 173

สหรฐั อเมรกิ า-แคนาดา // เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓อาทิตย์ ๑๓ : ทัลซ่า พุธ ๑๖ : วอชงิ ตัน ดซี ี• ชมเมือง Bartlesville • ข้าราชการส�ำ นกั งานผดู้ ูแลนักเรยี นไทย • ชม National Museum มกี ารแสดง• ชม Woolraroc Wildlife Refuge ในสหรัฐอเมรกิ าถวายภัตตาหารเพล แลว้ ไป วัฒนธรรมความเป็นอยขู่ องชาตติ า่ งๆ ในสวนสาธารณะทีเ่ ลี้ยงสัตวป์ า่ แบบปล่อย ชมรฐั สภาท้งั วฒุ ิสภาและสภาผู้แทนราษฎรที่ แอฟรกิ า เอเชียแปซฟิ คิ เอสกโิ ม และตามธรรมชาติ มสี ตั วห์ ลายชนดิ เช่น กวาง Capital อนิ เดยี นแดง นกชนดิ ตา่ งๆ สตั วป์ า่ สตั วท์ ะเลควายไบสัน สงิ โต ฯลฯ และมีพิพิธภณั ฑ์ • ชม Space Museum มีการแสดงเก่ียวกับ สตั วเ์ ลยี้ งลูกดว้ ยนม โลกพระจนั ทร์ ดาวตกแสดงเกยี่ วกบั ความเป็นอย่แู ละประวัติ การเดินทางไปอวกาศขององคก์ ารนาซา การเปลย่ี นแปลงและวิวัฒนาการมนุษย์ชนเผ่าอนิ เดยี นแดง การบกุ เบิกเข้ามาสรา้ ง เครอ่ื งบินโบราณ ดาวเทยี ม จรวดและ • เย่ียมวดั เขมร ชอ่ื วดั พุทธาราม ได้พบกบัถิน่ ฐานใหมข่ องชาวอเมริกา ววิ ัฒนาการ นาย อินตัม อดตี นายกรฐั มนตรกี ัมพชู า ซ่งึ ได้มาเย่ียมวดั น้เี ชน่ กันจันทร์ ๑๔ : ทัลซ่า• ชม Oral Roberts University มหาวทิ ยาลยัที่สร้างและได้ทุนดำ�เนินงานจากเงินบริจาคของประชาชน โดยการรเิ รมิ่ ดำ�เนนิ การของมนิ สิ เตอรแ์ ห่งศาสนาคริสต์นกิ าย MethodistChurches ชอ่ื Oral Roberts เปน็ ประธานแหง่มหาวทิ ยาลยั น้ี มนี กั ศกึ ษาประมาณ ๔,๐๐๐ คนใหก้ ารศกึ ษาในคณะตา่ งๆ คอื แพทย์ กฎหมายพยาบาล วทิ ยาศาสตร์ และอกั ษรศาสตร์นักศกึ ษาจะต้องแต่งตัวเรยี บร้อย เคร่งศาสนาและมีการสวดมนตส์ ปั ดาห์ละ ๒ ครัง้ ๑๕องั คาร : ทลั ซ่า-วอชงิ ตัน ดีซี พฤหัสบดี ๑๗ : วอชิงตัน ดีซี วัดนี้สรา้ งมา ๕ ปีเศษ มีพระอยู่ ๓ รปู • เยย่ี มวดั เวยี ดนาม และวดั ลงั กา ทา่ นปยิ สริ ิ • ออกเดินทางโดยสายการบนิ Brianife • เยีย่ มชมท�ำ เนยี บขาว (White House) เจ้าอาวาสชาวศรีลังกาเลา่ ว่า ท่านได้มาอย่ใู น International Airway เท่ยี วบิน บเี อน็ โดยมเี จ้าหน้าทีก่ ระทรวงการต่างประเทศ วอชงิ ตนั ดซี ี กวา่ ๓๐ ปี กอ่ นพระสายเถรวาท ๑๐๔ ไปยงั วอชิงตัน ดีซี และเจ้าหนา้ ทที่ �ำ เนยี บขาว อำ�นวยความ อื่นทั้งหมด เมื่อ ๑๒ ปีมานี้ได้ซื้อบ้านนี้ • ถงึ สนามบิน Dulles Airport นายนิกร สะดวก ข้าราชการจากสถานทตู ไทยใน จากเจ้าของคนไทย เปน็ ผดู้ แู ลนักเรียนไทย พลายแสงเพชร อุปทตู ไทยประจำ�วอชงิ ตัน วอชิงตนั ดีซี ถวายภตั ตาหารเพล ณ และใช้บ้านนี้เป็นที่ทำ�งาน ขายให้ในราคา ดซี ี ต้อนรบั และอ�ำ นวยความสะดวก ท�ำ เนยี บท่ีพัก สามหมน่ื เหรยี ญเศษ ซง่ึ ถกู กวา่ ราคาทเ่ี ขาเคย • เขา้ พกั ท่ีทำ�เนยี บเอกอคั รราชทตู ไทย • ชม Arlington Cemetery Mount Vernon ซอ้ื ไวแ้ ตเ่ ดมิ จงึ ไดย้ า้ ยมาใชบ้ า้ นนต้ี ง้ั เปน็ วดั ขน้ึ ประจำ�วอชงิ ตนั ดซี ี ที่ฝงั ศพของอดีตประธานาธบิ ดี จอห์น เอฟ • ชาวไทยพทุ ธ มีอปุ ทูตเปน็ ประธาน มา เคเนด้ี และ Arlington Memorial ประชมุ สวดมนต์ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มอบ174 Amphitheater ทแ่ี สดงเหรยี ญตราท่ีทหาร พระพทุ ธรปู ภ.ป.ร. หนา้ ตกั ๕ นว้ิ ส�ำ หรบั นิรนามไดร้ บั จากประเทศตา่ งๆ รวมทง้ั สถานเอกอัครราชทูต แสดงพระธรรมเทศนา เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณร์ ามาธบิ ดี จาก น่งั สมาธิ ประพรมน�ำ้ พระพทุ ธมนต์ แจก ประเทศไทย มีเจา้ หน้าทีส่ สุ านและ หนังสอื พระและเหรยี ญทรงผนวช ทั่วกัน อนศุ าสนาจารยท์ หารอเมรกิ นั ตอ้ นรบั น�ำ ชม • เยย่ี มวดั ไทยในวอชิงตัน ดซี ี

๑๘ศกุ ร์ : วอชิงตัน ดซี ี-นิวยอร์ค • เขา้ พกั ทท่ี �ำ เนยี บเอกอัครราชทูตไทยใน นวิ ยอรค์ (Permanent Mission of Thailand)• คณะขา้ ราชการไทยในวอชงิ ตนั ดซี ี ถวายเพล จากน้ันออกเดินทางไปสนามบนิ จอห์น เอฟ ชมตึกที่ประชุม และที่ทำ�การองค์การเคนเนดี้ โดยเครอื่ งบนิ สายการบนิ Brianife International Airway เทย่ี วบิน บีเอน็ ๑๐๘ สหประชาชาติ เอกอคั รราชทตู ไทยเลา่ ว่า• สมเดจ็ พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกฎุ ราชกุมาร และพระเจ้าวรวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จ้าโสมสวลี ทีท่ �ำ การองค์การสหประชาชาติ เดิมด�ำ รจิ ะพระวรราชาทนิ ดั ดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดให้เฝ้าท่สี นามบนิ จอห์น เอฟ เคนเนด้ี โดยมี สร้างท่ีนครซานฟรานซิสโก แตค่ รอบครวันายประชา คณุ ะเกษม เอกอคั รราชทตู ผแู้ ทนถาวรไทยประจ�ำ สหประชาชาติ และเจา้ หนา้ ทส่ี ถานทตู ไทย Rockefeller ไดม้ อบทด่ี นิ ตรงนใ้ี หแ้ กอ่ งคก์ ารในนิวยอรค์ ตอ้ นรบั และอ�ำ นวยความสะดวก สหประชาชาตเิ พอ่ื สรา้ งทป่ี ระชมุ และทท่ี �ำ การ จงึ ตกลงมาสร้างในท่นี ี้ และตอ่ มาได้สรา้ งเสาร์ ๑๙ : นิวยอรค์ ตกึ ส�ำ นกั เลขาธิการสงู ๓๘ ชนั้• เยยี่ มวัดวชิรธรรมปทปี นวิ ยอรค์ วดั น้ีสรา้ ง จนั ทร์ ๒๑ : ชิคาโกมาประมาณ ๕ ปเี ศษ มพี ระจ�ำ พรรษาอยู่ ๕ รปูเจรญิ พระพทุ ธมนต์แกช่ าวไทยในนครนวิ ยอรค์ • ชมตึก Sears Tower ซง่ึ เป็นตึกท่สี งู ที่สดุในการน้ี มคี บู่ า่ วสาวชาวไทย ๑ คู่ รบั พรเปน็ พเิ ศษ ในชคิ าโก สงู ๔๔๓ เมตร มที ง้ั หมด ๑๑๐ ชน้ัชาวไทยในนครนิวยอร์ค ถวายภตั ตาหารเพล ขึ้นไปชมได้ถงึ ช้นั ท่ี ๑๐๓• ชม Metropolitan Museum of Art มกี ารแสดง • ชม Museum of Science and Industryเกย่ี วกบั ศลิ ปะไทยในศตวรรษท่ี ๒๐ นทิ รรศการ มนี ิทรรศการเก่ยี วกับการส่อื สาร อาหารจากสาธารณรฐั ประชาชนจีน ฯลฯ ต่างๆ และโภชนาการ• ชม American Museum of National and • ชมสถานแสดงพันธส์ุ ตั ว์น้ำ� John G.History มกี ารแสดงสตั วต์ ่างๆ ในอัฟรกิ า Shedd Aquarium ท่ใี หญท่ ่ีสุดในโลกภาพเขยี นต่างๆ นทิ รรศการเกย่ี วกับชวี ติ ความเป็นอยขู่ องชนเผา่ อนิ เดยี นแดงและเอสกโิ ม ฯลฯ• ชมบรเิ วณเมืองและทิวทศั น์ของ Statute ofLiberty แม่น�ำ้ ฮดั สนั (Hudson River) ขน้ึ ชมบรเิ วณเมืองที่ตกึ World Trade Center สูง๑๐๗ ช้ัน เป็นตกึ ทีส่ ูงที่สุดในนิวยอรค์ส่วนสงู ตกึ เอนไปตามลมไดส้ ามนิ้วคร่งึ๒๐อาทติ ย์ : นิวยอร์ค-ชิคาโก• ออกเดนิ ทางไปชคิ าโก โดยเครอ่ื งบนิ ของ • ชม Bahai House สถานท่ปี ระกอบพิธีสายการบนิ United Airline เทย่ี วบนิ ท่ี ยเู อ ทางศาสนาของศาสนา Bahai ระหว่างทาง๐๐๓ ถึงสนามบินโอแฮร์ นายประนอม ผ่านทะเลสาบ Michigan ทใ่ี หญ่ทสี่ ุดในโลกก้องสมุทร กงสุลใหญ่ประจำ�ชิคาโก และ • กลับไปวัดธมั มาราม แสดงธรรม แนะน�ำข้าราชการสถานกงสุลไทยประจำ�ชิคาโก แนวทางปฏบิ ตั กิ รรมฐานแกช่ าวไทยในชคิ าโกต้อนรับและอำ�นวยความสะดวก เข้าที่พักโรงแรมไฮแอท รีเจนซี อังคาร ๒๒ : ชคิ าโก• เย่ียมวัดธัมมาราม วดั นีต้ ง้ั มาประมาณ๔ ปีเศษ มพี ระจำ�พรรษาอยู่ ๒ รปู แสดง • ชาวไทยในชคิ าโก ถวายภัตตาหารเพลธรรมสมั โมทนยี กถาแก่ชาวไทยในชคิ าโก ณ วัดธมั มาราม เยย่ี มชมวัดญี่ปนุ่ แล้วจากนน้ั ปลกู ตน้ ไมช้ ื่อ Radiant Flowering เดินทางไปกรุงลอนดอนโดยเคร่ืองบินCrab ท่ีบรเิ วณหลังวดั British Airways เทีย่ วบิน บเี อ ๒๙๙ 175

องั กฤษ ฝรงั่ เศส สวติ เซอร์แลนด์ // เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ พุธ ๒๓ เสาร์ ๒๖ อาทิตย์ ๒๗• ถึงสนามบนิ Heathrow • เยยี่ มท�ำ เนยี บเอกอัครราชทูตไทยประจำ� • เย่ยี มวดั เขมร โดยมีชาวเขมร ชาวลาวนายแผน วรรณเมธี เอกอัครราชทตู ไทย ฝรั่งเศส รบั ภัตตาหารเพล โดยข้าราชการ มาถวายภัตตาหารเพลประจ�ำ องั กฤษ คณะขา้ ราชการไทยและ สถานทตู และชาวไทยในปารีสถวาย • ชมโบสถ์ Notre-Dame de Paris โบสถ์ที่พระสงฆ์จากวดั พทุ ธปทีปลอนดอน ๓ รูป แสดงพระธรรมเทศนา มอบพระพทุ ธรปู ใหญท่ ส่ี ดุ ในปารสี เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดพ้ บคอยตอ้ นรับและอ�ำ นวยความสะดวก ภ.ป.ร.หนา้ ตกั ๕ นิ้วสำ�หรบั เอกอคั รราชทูต และสนทนากบั ทา่ นชานวน แมรร์ า่ ร์ พระประจ�ำ• เยยี่ มวดั พุทธปทีป ชมบรเิ วณตวั เมือง แจกพระ-เหรยี ญ-หนังสอื ท่วั กนั โบสถ์ กบั ทา่ นสมติ ผูท้ �ำ หน้าท่เี ลขานกุ ารซ่ึงสถานทต่ี ่างๆ ของกรงุ ลอนดอน • ชมพระราชวังแวร์ซาย ระหว่างทางผ่าน ให้การตอ้ นรับ และน�ำ เขา้ ไปฟังการสวด แม่น้�ำ แซน ประตูชยั (Arch de Triumph) สำ�หรบั บา่ ยวนั อาทิตยภ์ ายในโบสถ์ • ชมพพิ ิธภัณฑล์ ฟู หอไอเฟล ทีฝ่ ังพระศพ พระเจ้านโปเลียนพฤหัสบดี ๒๔-ศกุ ร์ ๒๕ • เดนิ ทางไปยังปารีส ประเทศฝร่ังเศส โดยเคร่อื งบนิ ของสายการบนิ British•ชม Westminster Abbey Saint Paul Airways เทย่ี วบนิ บเี อ ๓๑๖โบสถ์ท่ใี หญท่ ่ีสดุ ขององั กฤษ ผา่ นบ้านพกั • ถึงสนามบนิ Charles de Gaulleนายกรฐั มนตรอี งั กฤษ ผา่ นพระราชวงั บคั กง้ิ แฮม นายสาวิศร์ การีเวทย์ อปุ ทูตไทยประจำ�คณะขา้ ราชการสถานเอกอัครราชทูตไทย ฝรงั่ เศส และคณะขา้ ราชการไทยต้อนรบัถวายภัตตาหารเพลที่ทำ�เนียบเอกอคั รราชทูต และอำ�นวยความสะดวก176

จันทร์ ๒๘ พธุ ๓๐ • เดินทางไปเมอื งโลซานน์ (Lausanne) ถงึ ทปี่ ระทับของสมเด็จพระศรนี ครินทรา• ออกเดนิ ทางไปสวติ เซอร์แลนด์ โดย • ชมบรเิ วณเมอื ง นาฬกิ าดอกไม้ สวนสาธารณะ บรมราชชนนี พระราชทานพระราชวโรกาสเครอื่ งบินสายการบนิ Air France เที่ยวบิน Jardine England โบสถ์ Saint Pierre ใหเ้ ข้าเฝ้าฯ เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ได้ถวายเอเอฟ ๐๖๔ Cathedral de Geneva พระพุทธรปู ภ.ป.ร. หนา้ ตัก ๕ นิ้ว ๓ องค์• ถงึ สนามบนิ เจนีวา นายมนสั พาสน์ ชโู ต • คณะขา้ ราชการสถานทูต ถวายภตั ตาหาร เหรียญทรงผนวชประมาณ ๕๐๐ เหรียญเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำ�นคร เพลท่ที �ำ เนียบเอกอัครราชทตู ไทย เพอ่ื พระราชทานตามพระราชอธั ยาศัยเจนวี า และขา้ ราชการสถานทตู ต้อนรับและ แสดงพระธรรมเทศนาอ�ำ นวยความสะดวกองั คาร ๒๙ เอกอคั รราชทตู แจกพระ-เหรยี ญ-หนงั สอื ทว่ั กนั พฤหัสบดี ๑ • ชมทะเลสาบเจนวี าโดยทางเรอื ใช้เวลา • เย่ยี มท�ำ เนยี บเอกอคั รราชทูตไทยประจำ� ประมาณ ๒ ช่ัวโมง ชมทิวทัศน์บนฝ่ังท่ีมีบา้ น • เดนิ ทางกลบั ยงั กรงุ ลอนดอน โดยสายการบนิ สวติ เซอรแ์ ลนด์ โดยคณะขา้ ราชการสถาน เก่าของบคุ คลสำ�คัญๆ อยูร่ อบทะเลสาบ และ British Airways เท่ยี วบิน บเี อ ๖๒๑ ทูตไทยถวายภตั ตาหารเพล เจา้ พระคณุ แนวเขตตดิ ตอ่ ประเทศฝรงั่ เศส • ถงึ สนามบนิ Heathrow นายแผน วรรณเมธี สมเด็จฯ แสดงพระธรรมเทศนา มอบ เอกอัครราชทูตไทยประจำ�องั กฤษ และ พระพทุ ธรูป ภ.ป.ร. หนา้ ตัก ๕ นิว้ สำ�หรับ ข้าราชการไทยต้อนรับและอำ�นวยความสะดวก • เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน British Airways เทย่ี วบนิ บเี อ ๐๓๓ เครอ่ื งบนิ แวะพกั ท่สี นามบิน Abu Dhabi ก่อนถงึ ทา่ อากาศยานดอนเมอื ง กรุงเทพมหานคร ในการเสดจ็ เยอื นสหรฐั อเมรกิ า แคนาดา และยุโรป ของเจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ครง้ั นร้ี วมเวลา ๒๙ วันเจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ได้เยย่ี มวัดต่างๆ ทั้งวดั ไทย วัดเขมร วัดลังกา วัดเวยี ดนาม และวดั ญปี่ นุ่ รวม ๑๐ วัด ไดแ้ สดงธรรม ๑๐ ครั้ง และเย่ียมมหาวทิ ยาลยั ๖ แหง่ ฉะนนั้ การทเี่ จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไปเยอื น ประเทศตา่ งๆ ดงั กลา่ ว เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ จงึ ท�ำ หนา้ ท่ีพระธรรมทตู ไปด้วย 177

เยือนคร้ังที่ ๔อนิ โดนเี ซีย ผกู พทั ธสีมาพ.ศ. ๒๕๒๕ พทุ ธศาสนกิ ชนอนิ โดนีเซียไดร้ ว่ มกันสร้างวัดจาการ์ตาธรรมจกั รชัยข้นึณ กรุงจาการ์ตา ก่อสร้างได้สำ�เร็จเรียบร้อยเป็นส่วนมากใน พ.ศ. ๒๕๒๘ คณะพระธรรมทตู ไทย คณะสงฆเ์ ถรวาทอนิ โดนเี ซยี และคณะกรรมการจดั สรา้ งวดั จาการต์ าธรรมจักรชยั จงึ จัดงานผูกพัทธสมี าอโุ บสถวดั จาการต์ าธรรมจกั รชยั ในวนั ที่ ๒๔สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ และไดก้ ราบทลู อาราธนาเจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ไทยไปประกอบพธิ ี โดยเดนิ ทางจากประเทศไทยสู่กรุงจาการ์ตา ประเทศอนิ โดนีเซยี เมือ่ วันที่ ๒๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ คณะเดินทาง คณะสงฆจ์ ากประเทศไทยพรอ้ มไวยาวจั กรและ ผู้ติดตาม เดินทางจากประเทศไทยเมื่อวันที่ ๒๒ ๑. สมเดจ็ พระญาณสงั วร (เจริญ สุวฑฺฒโน) วัดบวรนเิ วศวหิ าร สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ (คณะสงฆ์และผู้ติดตาม ๒. พระธรรมธชั มุนี (ประยูร สนฺตงกฺ โุ ร) วัดเทพศิรินทราวาส สว่ นหนงึ่ ล่วงหนา้ ไปกอ่ น ๑ วนั เพือ่ เตรยี มการ) ๓. พระธรรมดลิ ก ( วิชมยั ปญุ ฺญาราโม) วดั บวรนิเวศวหิ าร ๔. พระเทพสารสุธี (แสง ชตุ ินฺธโร) วดั ธรรมบชู า จ.สุราษฎร์ธานี ไวยาวัจกรและผู้ติดตาม ๕. พระเทพโมลี (ประจวบ กนฺตาจาโร) วัดมกุฏกษัตริยาราม ๖. พระราชสมุ นต์มุนี (แบน กิตฺตสิ าโร) วดั บวรนเิ วศวิหาร ๑. นายมงคล ศรไี พรวรรณ อธบิ ดกี รมการศาสนา ๗. พระราชวราภรณ์ (สมภพ ภูริปญโฺ ญ) วัดราชผาตกิ าราม ๒. นายสนธิ์ แสวงบญุ กรมการศาสนา พธิ ีกร ๘. พระศรีวสิ ุทธญิ าณ (อุบล นนฺทโก) วดั บวรนเิ วศวิหาร ๓. นายทนิ กร รัตนกสุ ุม ไวยาวจั กร ๙. พระครูปญั ญาวุฒกิ จิ (เบญจ) วัดปทมุ วนาราม ๔. นายยงยทุ ธ นภาศัพท์ ผู้ติดตาม ๑๐. พระครูเอนกธรรมคุณ (สงา่ ) วัดธรรมบูชา จ.สุราษฎร์ธานี ๕. นายอภัย นาคคง ผตู้ ิดตาม ๑๑. พระครสู ุภัทรสารโสภณ (ถวิล) วดั ราชาธวิ าส ๖. นายไพบูลย์ สขุ สมรส ผู้ติดตาม ๑๒. พระครธู รรมประเวที วดั กระดงึ ทอง จ.บรุ รี ัมย์ ๗. นายบญุ สง่ นชุ น้อมบญุ ผูต้ ดิ ตาม ๑๓. พระมหาส�ำ เภา ภสฺสโร วดั บวรนิเวศวิหาร ๑๔. พระมหาสมจิตร อภจิ ิตฺโต วัดบวรนเิ วศวหิ าร คณะสงฆ์ไทยไดป้ ระกอบพธิ สี มมตสิ มี าอโุ บสถวดั จาการต์ า ๑๕. พระอนลิ มาน ธมมฺ สากโิ ย (ชาวเนปาล) วัดบวรนิเวศวิหาร ธรรมจกั รชัย เม่ือวันท่ี ๒๔ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ เวลา ๑๖. พระสุเขโม (เฮียน คิม อุย ชาวอนิ โดนเี ซีย) วดั บวรนเิ วศวิหาร ๐๙.๓๐ น. โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร เป็นประธานสงฆ์ ๑๗. พระธมมฺ วชิ โย (กวนั ดนิ าตะ วดิ โจโจ ชาวอนิ โดนเี ซยี ) วดั บวรนเิ วศวหิ าร พธิ สี มมตสิ ีมาฝังลกู นมิ ิตอุโบสถวดั จาการ์ตาธรรมจักรชัย ๑๘. พระปยิ ธมโฺ ม (เสง็ เตยี โน มวั ลิม ชาวอินโดนเี ซีย) วดั บวรนิเวศวิหาร ครง้ั น้ี มพี ทุ ธศาสนกิ ชนทง้ั ชาวไทยและชาวอนิ โดนเี ซยี มารว่ ม ๑๙. พระทสฺสโน (เทดดี ชาวอนิ โดนเี ซยี ) วัดบวรนิเวศวหิ าร งานดว้ ยเปน็ จ�ำ นวนมาก พลเอกอาทติ ย์ กำ�ลังเอก พร้อม ๒๐. พระปญฺญาวชิโร วดั ปทุมวนาราม ด้วยคณะนายทหารซ่ึงอยใู่ นระหว่างเดินทางมาราชการ ณ ประเทศอนิ โดนเี ซยี ประมาณ ๔๐ คนกไ็ ดม้ ารว่ มในงานนด้ี ว้ ย178

นับแต่พระพุทธศาสนาเถรวาทได้รับการเผยแผ่ในแผ่นดินอินโดนีเซียโดยคณะพระธรรมทูตไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๒ พระพุทธศาสนาเถรวาทก็ได้เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว กุลบุตรชาวอินโดนีเซียได้มีศรัทธาปสาทะเข้ามาบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสามเณรในพระพุทธศาสนากนั มากขน้ึ ตามล�ำ ดบั วดั พระพทุ ธศาสนาเถรวาทกเ็ กดิ ขน้ึ อยา่ งตอ่ เนอ่ื งและแพรห่ ลายไปตามเมอื งตา่ งๆ วัดจาการต์ าธรรมจักรชยั เปน็ วดั พระพทุ ธศาสนาฝา่ ยเถรวาทวดั แรก ในประเทศอินโดนีเซียท่ีมีพัทธสีมาถูกต้อง ตามพระพทุ ธบัญญัติ ส�ำ หรับใชเ้ ป็นท่ีประกอบ สังฆกรรมตามพระพทุ ธบญั ญตั ิ มีการบรรพชา อปุ สมบทกุลบตุ ร เป็นต้น ท�ำ ให้การปฏบิ ตั ิ ศาสนกิจฟ้ืนฟูพระพุทธศาสนาของคณะสงฆ์ สามารถดำ�เนินไปด้วยความสะดวก และได้รับ ผลส�ำ เร็จเป็นอันดี ปจั จุบนั มวี ดั พระพุทธศาสนาฝา่ ยเถรวาทเกดิ ข้นึ หลายวดั มีกลุ บุตรชาวอินโดนเี ซยี มาสมคั รบรรพชาอุปสมบท (ในระยะเวลาสั้นบ้างยาวบ้าง) เป็นจำ�นวนมาก เมอื่ ครงั้ ที่เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เสดจ็ เยอื นนั้น มพี ระภกิ ษสุ ามเณรชาวอนิ โดนเี ซยี ประจำ�อยทู่ ี่วัดและสำ�นักสงฆ์ทั่วอินโดนีเซยี จำ�นวน ๑๐ รปู และกำ�ลงัศกึ ษาอยู่ในประเทศไทยจำ�นวน ๔ รูป จ�ำ นวนพุทธศาสนิกชนในอนิ โดนีเซยี กเ็ พิม่ จ�ำ นวนมากข้นึ เร่ือยๆพระสงฆท์ ่ีร่วมในพิธี พระสงฆ์ไทยทปี่ ระจำ�อยู่อินโดนเี ซีย ๔ รปู ๑. พระวธิ รู ธรรมาภรณ์ (วญิ ญ์ วชิ าโน)คณะสงฆ์เถรวาทอินโดนีเซยี ๖ รปู หัวหน้าพระธรรมทูตไทย วัดพุทธเมตตา กรงุ จาการต์ า๑. พระสุธมฺโม (บูสหะ บุรหะนดุ ิน) วดั ลาซมิ ชวาภาคกลาง ๒. พระครูพุทธมนต์ปรีชา (สมบัติ ปวิตฺโต)๒. พระปญญฺ าวโร (หโุ ซโด) วัดมชั ฌิมพทุ ธศาสนวงศ์ เมืองสมารัง พระธรรมทตู ไทย วดั จาการ์ตาธรรมจกั รชยั กรุงจาการต์ า๓. พระเขมสรโณ (ซูตามตั ) เจตยิ ะเหตุรตั นโลก ๓. พระฉลวย สุชีโว ๔. พระสพุ ลรตโน (พลรัตนะ อโสกะ) วดั ศีลปารมติ า กรุงจาการต์ า พระธรรมทตู ไทย วัดมัชฌิมพุทธศาสนวงศ์ เมืองสมารัง๕. พระอภิสุรโิ ย (ซูยนั โต) วดั มนั จาระ ๔. พระเผ่าพันธ์ุ จิตตฺ ปโภ๖. พระสชุ าโต (ชนุ วี) วดั ธรรมทีปาราม เมืองมาลัง พระธรรมทตู ไทย วัดเลมบัง เมืองบันดงุ 179

เนปาลเยอื นคร้งั ที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๒๘ เจา้ พระคุณสมเด็จฯ เจริญพระชนมายุ ๗๒ พรรษา คณะสงฆเ์ นปาลจงึ ได้ด�ำ รจิ ดั การบรรพชากลุ บตุ รศากยะ ๗๓ คน ถวายบรรพชากุลบุตร เปน็ พระกศุ ลแดเ่ จ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ เปน็ การแสดงกตัญญูกตเวทิตาธรรมศากยะ ๗๓ คน ในฐานะทไ่ี ดท้ รงอปุ ถมั ภส์ ง่ เสรมิ การฟน้ื ฟพู ระพทุ ธศาสนาเถรวาทในเนปาล ตลอดถงึ คณะสงฆเ์ นปาลมาโดยตลอด วนั ท่ี ๕ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ พระมหา เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ พรอ้ มดว้ ยคณะสงฆ์ไทย ๑๓ รปูปรัชญานันทมหาเถระ พระสังฆนายกแห่งเนปาล คณะผู้ติดตามฝา่ ยคฤหัสถ์ ๗๑ คนออกเดนิ ทางจากจึงได้เดินทางมาประเทศไทย เพื่อทูลอาราธนา ประเทศไทยสกู่ รุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ในวนั ที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ไปเป็นพระอุปัชฌาย์บรรพชา ๒๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ ซ่ึงทางกองทพั อากาศกลุ บตุ รศากยะ ณ กรงุ กาฐมาณฑุ และไดเ้ ขา้ เฝา้ ถวาย ร่วมกับ บริษัทการบินไทย จำ�กัด ได้อนุเคราะห์พระพรพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ณ พระอโุ บสถ ให้ ใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศเป็นยานพาหนะวัดบวรนเิ วศวหิ าร หลงั จากเสรจ็ พระราชพิธถี วายผา้ ในการเดินทางครั้งนี้ เป็นเครื่องบินรุ่นดีซี ๘-๖๒ ซีพระกฐิน เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เอฟ จัดเป็นเที่ยวบินพิเศษ ทีจี ๑๐๑๒ (เที่ยวไป)ในโอกาสนี้ ท่านสังฆนายกยังได้ขอพระราชทาน และทีจี ๑๐๑๓ (เที่ยวกลับ) เมื่อถึงที่กรุงกาฐมาณฑุพระบรมราชานญุ าตในการทลู อาราธนาเจ้าพระคณุ แล้ว เครอ่ื งบินได้จอดรออย่ทู ่สี นามบนิ กรงุ กาฐมาณฑุสมเดจ็ ฯ ไปเปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ในการบรรพชากลุ บตุ ร จนถงึ วนั กลับครง้ั น้ี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ไดพ้ ระราชทานพระบรมราชานญุ าตตามประสงค์ และมีพระราชด�ำ รัส พธิ บี รรพชาจดั ขน้ึ ในวนั ท่ี ๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ.ว่า “เลือกพระอุปัชฌาย์ได้ถูกต้องแล้ว” ในการนี้ ๒๕๒๘ ณ บริเวณลานกวา้ งของวดั ศรกี ีรติวหิ าร ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัวและสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ ตั้งอยู่บนไหล่เขาของเมืองกีรติปูร์ มีกุลบุตรศากยะพระบรมราชนิ นี าถ ไดพ้ ระราชทานผ้าไตรแกผ่ ูบ้ รรพชา จากทุกภาคของประเทศมาเข้ารับการบรรพชาจำ�นวน๒๐ ไตรด้วย ๗๓ คน มอี ายตุ ั้งแต่ ๒๐ จนถึง ๘๒ ปี เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาปรัชญา นนั ทมหาเถระ พระสงั ฆนายก พรอ้ มดว้ ยพระเถรานเุ ถระ แห่งเนปาล ๕ รปู รว่ มเปน็ สกั ขพี ยานในพธิ ี ชาวศากยะแหง่ เนปาลถอื ว่า คุณประโยชน์ ได้แสดงแบบแผนของ พวกตนเปน็ ผสู้ บื เชอ้ื สายมาจากศากยะ แกพ่ ระพทุ ธศาสนาและคณะสงฆ์ พระพทุ ธศาสนาเถรวาทของไทย แหง่ เมอื งกบิลพสั ด์ุ อันเปน็ เมืองของ ในเนปาล จากการเสดจ็ ไปทรง พระพุทธบิดาสายหนึ่ง จากศากยะแห่ง ปฏบิ ัติศาสนกิจในครั้งนี้ ใหค้ ณะสงฆเ์ นปาลได้เหน็ เมืองเทวทหะอันเป็นเมืองของพระพุทธ เพราะคณะสงฆเ์ นปาลในขณะนน้ั มารดาสายหนึ่ง แล้วแยกย้ายกันไปตั้ง สบื เน่อื งมาจากคณะสงฆห์ ลายสาย ถ่นิ ฐานอย่ใู นทต่ี า่ งๆ ของหบุ เขาแหง่ เนปาล บางทา่ นอุปสมบทจากพมา่ จากลังกา โดยมภี าษา อาชีพ ขนบธรรมเนยี ม และความ หรือบางท่านอุปสมบทมาจากอนิ เดีย เชอ่ื ถอื เปน็ อนั เดยี วกนั คอื ลว้ นเปน็ พทุ ธมามกะ ด้วยกนั สืบมาแตโ่ บราณ180

สามเณรที่ได้รับบรรพชาแล้ว จะอยู่ศึกษา พระธรรมวนิ ยั ณ วัดศรกี ีรติวหิ าร เปน็ เวลา ๗ วนั จึงลาสิกขา (ในจ�ำ นวนนีม้ ี ๓ รูปที่บวชอยู่ตอ่ มาจน เป็นพระภิกษุและถึงมรณภาพในชีวิตพรหมจรรย์) ในระหวา่ งทเ่ี ปน็ สามเณรใหมน่ น้ั เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ได้ประทานโอวาทอบรมหลายครง้ั โดยทรงเนน้ การ ปฏิบัติอบรมทางจิตหรือการเจริญสมาธิกรรมฐาน และในวนั ท่ี ๗ ของการบวช เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้น�ำ สามเณรใหม่ออกบณิ ฑบาต ณ ถนนบริเวณ หน้าวัดศรีกีรติวิหาร ซึ่งนับเป็นปรากฏการณ์ครั้ง สำ�คัญของพระพุทธศาสนาในเนปาล เพราะภาพ ของพระภิกษุสามเณรเดินบิณฑบาตน้ันได้จางหาย ไปจากสายตาของชาวเนปาลเปน็ เวลากวา่ ๕๐๐ ปี ฉะนัน้ การบรรพชากุลบตุ รศากยะในคร้ังนี้ จึงเปน็ การตอกยำ้�การกลับมาของพระพุทธศาสนาเถรวาท อันเป็นพระพุทธศาสนาสายเดิม สู่ดินแดนอันเป็น พทุ ธภูมิอีกครง้ั หนึ่ง ทั้งเปน็ การรื้อฟ้นื พทุ ธประเพณี ที่เคยเฟือ่ งฟใู นอดตี คือการบรรพชา การบิณฑบาต ให้กลับเฟื่องฟูขึ้นมาอีกครั้งหน่ึงในแผ่นดินเนปาล ได้ฟื้นฟธู รรมเนียมทีส่ �ำ คัญของ ได้ทรงอบรมสามเณรใหม่ ไดท้ รงประทานความช่วยเหลือ พระพทุ ธศาสนาทเี่ ลอื นหายไป ใหเ้ หน็ เป็นตัวอย่าง วา่ ผู้บวชใหม่ การสง่ เสรมิ และฟ้ืนฟู จากเนปาลใหฟ้ ้นื คนื มาอกี คร้งั หนงึ่ คอื ประเพณบี รรพชากลุ บุตร หรอื ผู้เขา้ มาสู่พระพทุ ธศาสนา พระพุทธศาสนาเถรวาทในเนปาล และประเพณกี ารบณิ ฑบาตอันเปน็ ในระยะเรม่ิ ต้นนัน้ ควรไดร้ บั อยา่ งเป็นรูปธรรมและกวา้ งขวาง กิจวัตรส�ำ คญั ประการหนึ่งของพระภกิ ษุสามเณรในพระพุทธศาสนา การอบรมส่ังสอนอยา่ งไร เปน็ การใหข้ วญั ก�ำ ลังใจ แกบ่ ุคลากรทางพระพทุ ธศาสนา ของเนปาลอย่างท่วั ถงึ ทุกดา้ น 181

• วนั ท่ี ๒๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯพรอ้ มคณะเดนิ ทางถงึ สนามบนิ กาฐมาณฑุ เอกอคั รราชทตูไทยประจำ�กรุงกาฐมาณฑุ ข้าราชการสถานทูตไทยและคณะสงฆเ์ นปาล น�ำ โดยพระศากยานนั ทเถระ อปุ สงั ฆนายกแหง่ เนปาล มพี ทุ ธศาสนกิ ชนชาวเนปาลจ�ำ นวนมากมาคอยตอ้ นรบั แลว้ น�ำ คณะเดนิ ทางไปยงั สถานทจ่ี ดั พธิ ตี อ้ นรบั ณวดั อานนั ทกุฏวิ หิ าร ของคณะสงฆ์เนปาล โดยมพี ระมหาปรชั ญานนั ทมหาเถระ สงั ฆนายกแหง่ เนปาล คณะสงฆเ์ นปาล๓๐ รปู พระลามะ ๑๐ รปู และพทุ ธศาสนกิ ชนจ�ำ นวนมากมาคอยอยเู่ ตม็ บรเิ วณวดั หลงั เสรจ็ พธิ ีเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯพรอ้ มด้วยคณะสงฆ์ไทยได้ไปประกอบพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธปฏิมาทส่ี รา้ งขน้ึ ใหม่ ณ ศาลาวดั ศรกี รี ตวิ หิ าร แลว้ กลบั มาพกั แรมทว่ี ดั อานนั ทกฏุ วิ หิ าร• วนั ท่ี ๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯพรอ้ มดว้ ยคณะสงฆ์ไทย ๑๓ รปู และคณะสงฆเ์ นปาล ๕ รปูโดยมเี จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯเปน็ พระอปุ ชั ฌาย์ประกอบพธิ บี รรพชากลุ บตุ รศากยะ ๗๓ คน ณวดั ศรกี รี ตวิ หิ าร เสรจ็ แลว้ ไปเยย่ี มวดัลามะบรเิ วณเบาธนาถและสกั การะพระเจดยี เ์ บาธนาถนมสั การพระเจดยี ส์ วยมั ภูแลว้ ไปอบรมสามเณรใหม่ณวดั ศรกี รี ตวิ หิ ารตอ่ มาในวนั รงุ่ ขน้ึ กไ็ ดป้ ระทานโอวาทแกส่ ามเณรใหมอ่ กี เปน็ครง้ั ท่ี ๒ เนปาล // พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เสาร์ ๒๓ อาทติ ย์ ๒๔ อังคาร ๒๖ • ถงึ สนามบนิ กรงุ กาฐมาณฑุ เอกอคั รราชทตู • ประกอบพธิ บี รรพชากลุ บตุ รศากยะ ๗๓ คน • เย่ียมวัดพทุ ธวหิ าร ร่วมพธิ ตี ้อนรับ ไทยประจ�ำ กรงุ กาฐมาณฑุ ขา้ ราชการสถานทตู ณ วดั ศรกี รี ตวิ หิ าร ของพุทธสมาคมกับสมาคมฮินดู ไทย คณะสงฆ์เนปาล พุทธศาสนิกชนเนปาล • เยย่ี มวดั ลามะบรเิ วณเบาธนาถและสกั การะ • เดนิ ทางไปลมุ พินี ชมสถานท่ปี ระสูติ จำ�นวนมากคอยตอ้ นรับ นำ�คณะเดินทางยงั พระเจดยี เ์ บาธนาถ นมสั การพระเจดยี ส์ วยมั ภู ของพระพทุ ธเจา้ ประทับแรม ณ บา้ น พธิ ีการต้อนรบั ท่วี ัดอานันทกุฏิวิหาร • อบรมสามเณรใหม่ ณ วดั ศรกี รี ตวิ หิ าร รบั รองของรฐั บาล เย่ยี มวดั ฝา่ ยเถรวาท • ประกอบพิธพี ทุ ธาภเิ ษกพระพุทธปฏิมา และวดั ฝา่ ยลามะบรเิ วณลมุ พินี ณ ศาลาวดั ศรกี ีรตวิ หิ าร เสร็จพธิ แี ล้วกลับมา จันทร์ ๒๕ พกั ท่ีวัดอานนั ทกฏุ วิ หิ าร • ประทานโอวาทแก่สามเณรใหม่ เป็นครง้ั ท่ี ๒182

> วนั ท่ี ๒๖ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ ไปเยย่ี มวดั พทุ ธวหิ าร รว่ มพธิ ตี อ้ นรบั ของพทุ ธสมาคมทง้ั ฝา่ ยเถรวาทและฝา่ ยมหายานรวม ๖ สมาคมรวมทง้ั สมาคมฮนิ ดู ๑ สมาคม แลว้ เดนิ ทางไปลมุ พนิ ี ชมสถานทป่ี ระสตู ิของพระพทุ ธเจา้ ประทบั แรม ณ บา้ นรบั รองของรฐั บาล เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เยย่ี มวดั ฝา่ ยเถรวาทและวดัฝา่ ยลามะบรเิ วณลมุ พนิ ี วนั ตอ่ มา เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ และคณะสงฆ์ไทยท�ำ อโุ บสถฟงั พระปาตโิ มกข์ในโรงอโุ บสถของวดั เถรวาท ณ บรเิ วณลมุ พนิ ี โดยโปรดใหพ้ ระอมฤตานนั ทะเขา้ ฟงั พระปาตโิ มกขด์ ว้ ย (โรงอโุ บสถในประเทศเนปาลมเี พยี ง ๒ แหง่ คอื หลงั แรกทว่ี ดั ศรสี มุ งั คลวหิ าร เมอื งลลติ ปรู ์ และหลงั ท่ี ๒ คอื ทว่ี ดั เถรวาทณ ลมุ พนิ )ี ทรงเปน็ ประธานวางศลิ าฤกษอ์ าคารหลงั หนง่ึ ในศนู ยว์ ฒั นธรรม ซง่ึ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของโครงการพฒั นาลมุ พนิ ี แลว้ ไปเยย่ี มชมเมอื งกบลิ พสั ด์ุ เสาศลิ าของพระเจา้ อโศก หมบู่ า้ นนคิ ลหิ ะวา และหมบู่ า้ นโคตหิ ะวา ดซู ากพระเจดยี โ์ บราณสมยั พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๗ - ๑๘ ชมพิพิธภัณฑ์เมืองกบิลพัสดุ์ ประทับแรมที่ลุมพินี รุ่งขึ้น ทรงปลูกต้นมะม่วง ณ บริเวณลุมพินี แล้ว เดินทางกลับกรุงกาฐมาณฑุ ประทับแรม ณ วัด อานนั ทกฏุ วิ หิ าร > วนั ท่ี ๒๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ ไปรว่ มพธิ ี ตอ้ นรบั ของชาวพทุ ธ ณ วดั อกั เษวรมหาวหิ าร เมอื ง ลลิตปูร์ (ปาตัน) แล้วไปเยี่ยมวัดศรีศากยะวิหาร พระเจดีย์โบราณชื่อ มหาเบาธะ และวัดคณะมหาวหิ าร จากนน้ั มลู นธิ อิ านนั ทกฏุ วิ หิ าร ไดจ้ ดั พธิ ถี วายเกยี รตบิ ตั ร และพธิ ีอำ�ลาแดเ่ จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ณ วัดอานันทกุฏิ วหิ าร โดยมรี าชปโุ รหิตของพระราชาธบิ ดีแหง่ เนปาล เปน็ ประธานในพธิ ี มที ตู านทุ ตู หลายประเทศรว่ มพธิ ดี ว้ ย พุธ ๒๗ ศุกร์ ๒๙ เสาร์ ๓๐• ทำ�อโุ บสถฟงั พระปาติโมกข์ในวดั เถรวาท • รว่ มพิธีตอ้ นรบั ของชาวพทุ ธ ณ วดั อักเษ • ฉายภาพหมู่รว่ มกบั สามเณรใหม่และ• เป็นประธานวางศิลาฤกษ์อาคารในศูนย์ วรมหาวหิ าร เมอื งลลิตปรู ์ เยยี่ มวัดศรศี ากยะ พระเถรานุเถระเนปาล นำ�สามเณรใหม่วัฒนธรรม โครงการพัฒนาลุมพนิ ี วหิ าร พระเจดีย์โบราณมหาเบาธะ และวัด ออกบณิ ฑบาต ทำ�พิธีมอบทนุ บำ�รงุ• เย่ียมชมเมืองกบลิ พัสดุ์ เสาศิลาพระเจา้ คณะมหาวหิ าร พระพทุ ธศาสนาในเนปาล ณ วดั ศรีกรี ติวหิ ารอโศก ซากพระเจดยี ์โบราณ พิพิธภณั ฑ์เมอื ง • มูลนธิ อิ านนั ทกุฏิวหิ าร ได้จดั พธิ ีถวาย • เจรญิ พระพุทธมนต์ในพธิ ีบ�ำ เพ็ญกุศลกบิลพสั ดุ์ ประทบั แรมทลี่ ุมพินี เกยี รติบตั รและพิธีอำ�ลาทวี่ ัดอานนั ทกฏุ ิวหิ าร เน่ืองในวันเฉลิมพระชนมพรรษา • เขา้ เฝา้ สมเดจ็ พระราชาธบิ ดีแหง่ เนปาล พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ณ สถาน พฤหัสบดี ๒๘ ณ พระราชวงั นารายนั หิตี กรุงกาฐมาณฑุ เอกอัครราชทตู ไทย แล้วเดินทางกลับ • ตอนเย็น ทรงประกอบพิธบี รรพชาแก่ ประเทศไทย• ทรงปลกู ต้นมะมว่ ง ณ บรเิ วณลมุ พนิ ี กลุ บตุ รศากยะท่ีมาขอบวชเพมิ่ เตมิแล้วเดนิ ทางกลับกรงุ กาฐมาณฑุ ทว่ี ดั อานนั ทกุฏิวิหาร อกี ๓ คน 183ประทับแรม ณ วัดอานนั ทกฏุ ิวหิ าร

ในโอกาสน้ี เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ไดม้ อบพระไตรปฎิ ก และคัมภีร์อรรถกถาบาลีแก่คณะสงฆ์เนปาล ๑ ชุด และมอบ หนงั สอื ตา่ งๆ แกว่ ดั ทเ่ี ปน็ ศนู ยส์ �ำ คญั ทางการศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา ของเนปาล ๕ วัด คอื ๑) วัดศรีศากยะสิงหวิหาร เมอื งลลติ ปูร์ ๒) วัดอานนั ทกุฏวิ ิหาร กรุงกาฐมาณฑุ ๓) วดั ศรกี รี ติวิหาร เมอื งกรี ตปิ รู ์ ๔) ศนู ยฝ์ กึ อบรมสามเณรเมอื งบาเนปา ๕) หอ้ งสมดุ พทุ ธศาสนาวดั ศรสี มุ งั คลวหิ าร กรงุ กาฐมาณฑุ และไดท้ อดผา้ ปา่ ถวายทุนบำ�รุงมลู นิธอิ านนั ทกฏุ วิ หิ าร ๗,๖๐๐ เหรยี ญสหรฐั ในวนั เดยี วกนั น้ี เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ พรอ้ มคณะไดเ้ ขา้ เฝา้ สมเด็จพระราชาธบิ ดีแหง่ เนปาล ณ พระราชวงั นารายนั หติ ี กรุงกาฐมาณฑุ โอกาสนีเ้ จา้ พระคุณสมเด็จฯ ได้ถวายเงินเพอื่ พระราชทานในการสาธารณกศุ ล ๓ สว่ นคอื ๓,๘๐๐ ๓,๘๐๐ เหรียญสหรฐั ทุนบำ�รงุ พระพทุ ธศาสนาในเนปาล เพื่อพระราชทานแกโ่ ครงการพัฒนาลุมพนิ ี ที่คณะผูต้ ิดตามฝ่ายคฤหสั ถ์ได้ร่วมกนั บริจาค สถานที่ประสตู ิของพระพุทธเจา้ ๑,๕๐๐ เหรยี ญสหรัฐ เพือ่ พระราชทานบำ�รุง วดั ปศปุ ตนิ าถของฮินดู ๑,๕๐๐ เหรยี ญสหรัฐ ๑,๐๐๐ ๕๐๐ ๑,๕๐๐ ๑,๕๐๐ เพือ่ พระราชทานแก่ ๑๑,๔๐๐ ๑๑,๔๐๐ เหรยี ญสหรัฐ มูลนิธโิ รคเรอ้ื นของเนปาล ๑,๐๐๐ เหรียญสหรฐั ๕๐๐ เหรยี ญสหรัฐ มอบแกว่ ัดพทุ ธวิหาร เพื่อ มอบแกห่ อ้ งสมุดพระพทุ ธศาสนา มอบแกศ่ นู ย์ฝึกอบรม สรา้ งศูนยก์ รรมฐานนานาชาติ วดั ศรสี มุ ังคลวิหาร สามเณร เมอื งบาเนปา ในตอนเย็น เจ้าพระคุณสมเด็จฯ พระสงฆ์ไทยและ พระมหาเถระเนปาลรวม ๙ รปู ไดป้ ระกอบพธิ บี รรพชาแกก่ ลุ บตุ ร ๑,๔๗๐.๕๘ เหรยี ญสหรัฐ ศากยะที่มาขอบวชเพ่ิมเติมอกี ๓ คน ณ วัดอานันทกฏุ ิวิหาร ๑,๔๗๐.๕๘ มอบแก่สังฆสภาแห่งเนปาลเพอ่ื ใช้ในกิจการของคณะสงฆเ์ นปาล184

๑๑,๔๐๐ ๑๑,๔๐๐ เหรยี ญสหรฐั > วันท่ี ๓๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๘ เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ รว่ มฉาย ภาพหมู่รว่ มกบั สามเณรใหม่และพระเถรานุเถระเนปาล ณ บริเวณ มอบแก่วัดศรกี ีรติวหิ าร ซงึ่ เปน็ ลานกว้างวดั ศรกี รี ติวิหาร แลว้ ประทานโอวาทแก่สามเณรใหม่เป็น สถานทจ่ี ดั พธิ ีบรรพชากลุ บตุ ร คร้งั สุดท้าย จากนนั้ ได้ท�ำ พธิ ีมอบทุนบำ�รงุ พระพทุ ธศาสนาในเนปาล ศากยะคร้ังน้ี ซ่ึงคณะผตู้ ดิ ตามฝ่ายคฤหสั ถ์ได้ร่วมกนั บรจิ าค และเจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ก็ได้นำ�สามเณรใหม่ออกบิณฑบาต ณ บริเวณหน้าวัดศรีกีรติวิหาร ร๒ว๖มเ,ป๗็น๕เงิน๐.๕๘ จากน้ัน เจ้าพระคุณสมเด็จฯ พรอ้ มดว้ ยคณะสงฆ์ไทยก็ได้ไปเจรญิ พระพุทธมนต์ในพิธีบำ�เพ็ญกุศลเน่ืองในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๘๐ เหรยี ญสหรัฐ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ณ สถานเอกอคั รราชทตู ไทย ซงึ่ คณะ คนไทยและสถานเอกอัครราชทตู ไทยร่วมกันจัดขึ้น แล้วเดินทางกลับ๙๘๐ เหรยี ญสหรฐั ประเทศไทยโดยเครอ่ื งบินกองทพั อากาศซึ่งจอดรออยู่ ณ สนามบิน กรงุ กาฐมาณฑุ เที่ยวบินที่ ทีจี ๑๐๑๓มอบแก่สำ�นกั งานแมก่ องธรรมของสงั ฆสภาแห่งเนปาล เพือ่ ใช้ในการสอนและการสอบความรทู้ างพระพทุ ธศาสนาทวั่ ประเทศ 185

เยือน ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์กันในด้านการเมือง การค้าและ วัฒนธรรมมาแต่โบราณกาล ชาวจีนได้เดินทางเข้ามาตั้งถ่นิ ฐานจนีสาปธราระชณาชรนัฐ ประกอบสมั มาชพี ในผนื แผน่ ดนิ ไทย มาตง้ั แตส่ มยั โบราณและตอ่ เนอ่ื ง มาถึงปจั จบุ ัน แตใ่ นด้านการพระศาสนาน้นั ยังไม่เคยมกี ารติดตอ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์จีน สมั พนั ธก์ นั มาในยคุ ปจั จบุ นั เมอ่ื แผน่ ดนิ จนี เปลย่ี นแปลงการปกครอง จากแบบราชาธปิ ไตย มาเปน็ แบบสาธารณรฐั หรอื แบบคอมมวิ นสิ ต์ เรื่องการพระศาสนาก็ดยู ิ่งห่างไกลกนั ยิง่ ขนึ้ วนั ท่ี ๑๓ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๕ คณะผแู้ ทนดา้ นศาสนา มหาเถรสมาคม เจา้ คณะใหญห่ นใต้ เจา้ อาวาสวดั ชนะสงครามของสาธารณรัฐประชาชนจีนได้มาเข้าเฝ้าเจ้าพระคุณสมเด็จฯ • พระธรรมสิริสารเวที (บุญเรือน ปุณฺณโก) ผู้ปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ณ วัดบวรนิเวศวิหาร และได้ถวายหนังสือของรัฐบาลจีน เลขานกุ ารสมเดจ็ พระสงั ฆราช วดั บวรนเิ วศวหิ าร (สดุ ทา้ ยได้กราบทลู อาราธนาเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เสดจ็ เยอื นจนี อยา่ งเปน็ เป็นที่ พระมหารชั มงคลดิลก)ทางการ ซง่ึ เทา่ กบั เปน็ การเปดิ ศกั ราชใหมข่ องการพระศาสนา • พระจลุ นายก (แสวง ธมเฺ มสโก) ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารเจา้ คณะใหญ่ในจีนที่วา่ งเวน้ มาเปน็ เวลากว่าครึ่งศตวรรษ ในฐานะท่เี ปน็ คณะธรรมยตุ วดั บวรนเิ วศวหิ าร (ปจั จบุ นั เปน็ ท่ี พระเทพปรยิ ตั วิ มิ ล)ส่ิงตอ้ งหา้ มในผืนแผ่นดนิ จนี • พระคณาจารยจ์ นี ธรรมสมาธิวัตร (เยน็ เตก็ ) เจา้ คณะใหญ่ หลังจากเจ้าพระคุณสมเด็จฯได้รับหนังสือกราบทูล จีนนกิ าย วดั โพธิ์แมนคณุ ารามอาราธนาจากรฐั บาลจีนแล้ว จงึ ได้โปรดให้น�ำ เรอื่ งนปี้ รึกษา • พระอนลิ มาน ธมฺมสากิโย พระอนุจร วดั บวรนเิ วศวหิ ารกบั ฝ่ายตา่ งๆ ท่ีเกีย่ วขอ้ งและเมือ่ ทกุ ฝา่ ยเห็นพ้องตอ้ งกนั ว่า • คณะผ้ตู ดิ ตามฝ่ายคฤหสั ถ์ ๑๕ คน เจ้าหนา้ ทกี่ รมการเปน็ การสมควร จงึ ได้โปรดใหก้ ำ�หนดการเสดจ็ เยือนจนี ขึน้ ศาสนา ๕ คน เจา้ หน้าทก่ี ระทรวงการตา่ งประเทศ ๔ คนในวันท่ี ๒๐ มถิ นุ ายน - ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ รวมท้ังคณะ ๓๐ คนรวม ๑๓ วัน โดยเสดจ็ ยงั กรุงปักกิง่ เมอื งซีอาน เมืองคุนหมิง เมอื งเชียงรุง่ รวม ๔ เมอื ง ใน ๓ มณฑล คือ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ พร้อมคณะ ออกเดินทางจากปกั กิ่ง ส่านซี และยนู นาน ทา่ อากาศยานกองทพั อากาศ โดยเครอ่ื งบนิ บรษิ ทั การบนิ ไทย เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ พรอ้ มดว้ ยคณะประกอบดว้ ย จ�ำ กดั เมอ่ื วนั ท่ี ๒๐ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เวลา ๑๐.๕๕ น.• สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (นิยม ฐานิสฺสโร) กรรมการ ถึงสนามบินกรงุ ปักก่ิง สาธารณรฐั ประชาชนจนี ในวันเดยี วกนั เวลา ๑๖.๔๐ น. (เวลาจนี )สาธารณรัฐประชาชนจนี // มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๖ จันทร์ ๒๑ องั คาร ๒๒ พธุ ๒๓ • ทรงพบปะกับนายจา้ วผ่ชู ู • เสดจ็ เยือนวดั หลงิ กวง ที่ประดิษฐาน • เสด็จเย่ียมสถานเอกอัครราชทตู ไทย นายกพุทธสมาคมจีน เย่ียมวดั กวา่ งจ้ี พระทนั ตธาตุ และทรงประกอบพิธีเบิก เสวยภตั ตาหารและประทานพระโอวาท ทีต่ ้ังพุทธสมาคมจีน ทางรัฐบาลจนี และ พระเนตรพระพทุ ธปฏมิ าประธานท่ี แกข่ า้ ราชการสถานเอกอคั รราชทูตและ พุทธสมาคมจีนได้จัดพิธีตอ้ นรบั อยา่ งเป็น อัญเชิญมาจากประเทศไทย ทรงกล่าว คนไทยที่มาตอ้ นรับ แล้วเสดจ็ ไปชม ทางการ ทรงมพี ระดำ�รัสในพธิ ตี อ้ นรับโดย สัมโมทนยี กถาแก่ผูม้ าต้อนรับ ก�ำ แพงเมืองจีนบริเวณดา่ นปะตา้ หลงิ ทรงแสดงหลกั สาราณียธรรม ๖ ประการ • เสด็จไปยังพระราชวังฤดรู อ้ น เสด็จ ซงึ่ อยู่ทางทิศเหนอื ของกรุงปกั กิง่ • เสด็จไปเย่ียมชมพระราชวงั โบราณ และ เยี่ยมอนุสรณ์สถานของประธานเหมา จตรุ สั เทียนอนั เหมนิ เจ๋อตุงในบรเิ วณจตรุ สั เทียนอันเหมนิ186

พฤหัสบดี ๒๔ • เสด็จไปยงั ทำ�เนียบรัฐบาลของจนี เพื่อ ศุกร์ ๒๕ พบปะกบั ประธานาธิบดี เจยี ง เจอ๋ หมนิ• รัฐมนตรวี า่ การทบวงกิจการศาสนา ณ ต�ำ หนกั อิ๋งไต • เสด็จไปยังนครซอี าน มณฑลส่านซีมาเฝา้ ถวายภตั ตาหาร ทรงสนทนาปรารภ • เสดจ็ เยอื นวดั ยง่ เหอกง ซง่ึ เป็นวัด รองผู้ว่าการมณฑลสา่ นซีพร้อมดว้ ยถึงภาวการณ์ของพระพทุ ธศาสนาใน ลามะที่ใหญ่ทสี่ ดุ ในกรุงปักกงิ่ เจา้ หน้าทรี่ ะดับสูงของรัฐบาลและสาธารณรัฐประชาชนจนี และไดแ้ สดง พุทธสมาคมสา่ นซี จัดพิธถี วายการพระด�ำ ริเก่ยี วกบั ความสำ�คญั ของ ต้อนรบัพระพทุ ธศาสนา การฟน้ื ฟพู ระพทุ ธศาสนาในสาธารณรฐั ประชาชนจนี 187

วันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เจ้าพระคุณ พระราชวงั ฤดรู อ้ นนอกกรงุ ปกั กง่ิ แลว้ เสดจ็ ไปเยย่ี มอนสุ รณ์ สมเดจ็ ฯ ทรงพบปะกบั นายจา้ วผชู่ ู นายกพทุ ธสมาคมจนี สถานของประธานเหมาเจอ๋ ตุง ซง่ึ ทางรฐั บาลจนี และพทุ ธสมาคมจนี ไดจ้ ดั พธิ ตี อ้ นรบั อยา่ ง วนั ท่ี ๒๔ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ รัฐมนตรีวา่ การ เป็นทางการ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้มีพระดำ�รัสในพิธี ทบวงกจิ การศาสนามาเฝา้ ถวายภตั ตาหาร เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ต้อนรับโดยทรงแสดงหลักสาราณียธรรม ๖ ประการ ทรงสนทนาปรารภถึงภาวการณ์ของพระพุทธศาสนาใน จากนั้น เสด็จเยี่ยมชมพระราชวังโบราณ และจตุรัส สาธารณรัฐประชาชนจีน และได้แสดงพระดำ�ริเกี่ยวกับ เทยี นอนั เหมนิ สถานทป่ี ระกาศตง้ั สาธารณรฐั ประชาชนจนี ความส�ำ คญั ของพระพทุ ธศาสนา การฟน้ื ฟพู ระพทุ ธศาสนา โดยประธานเหมาเจอ๋ ตงุ วนั รงุ่ ขน้ึ เสดจ็ เยอื นวดั หลงิ กวง ในสาธารณรฐั ประชาชนจนี แลว้ เสดจ็ ไปยงั ท�ำ เนยี บรฐั บาล ทป่ี ระดษิ ฐานพระทนั ตธาตุ ทรงประกอบพธิ เี บกิ พระเนตร ของจนี เพอ่ื พบปะกับนายเจยี ง เจอ๋ หมนิ ประธานาธบิ ดแี หง่ พระพทุ ธปฏมิ าประธานทอ่ี ญั เชญิ มาจากประเทศไทย ทรง สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ต�ำ หนกั อง๋ิ ไต กลา่ วสัมโมทนียกถาแกผ่ มู้ าต้อนรบั จากนั้นเสดจ็ ไปยงั ดีใจอยา่ งมากท่ีใตฝ้ า่ พระบาท เสดจ็ มาเยอื นจนี ประเทศจีนกบั ประเทศไทยของเราเปน็ ขอขอบใจขอบคณุ ทา่ นประธานาธบิ ดี รฐั บาลจนี ทไ่ี ดอ้ าราธนา เพือ่ นบา้ นท่ีเป็นมิตรทีด่ ีตอ่ กัน เพราะว่า อาตมาและคณะให้ไดม้ โี อกาสมาประเทศจนี แลว้ ก็ไดม้ าเปน็ ครง้ั แรก ประชาชนจนี กบั ประชาชนไทยของเรามี น�้ำ จิตน้�ำ ใจทดี่ ีตอ่ กันมาต้ังแตด่ กึ ด�ำ บรรพ์ แมจ้ ะไมไ่ ดม้ าเมอื งจนี แตก่ ็ไดร้ จู้ กั ประชาชนชาวจนี เปน็ จ�ำ นวนมาก วันนีท้ ่านจ้าวผู่ชกู ็ไดม้ ารว่ มด้วย ซ่งึ ทา่ น เพราะในประเทศไทยนน้ั ไดม้ ปี ระชาชนชาวจนี อยเู่ ปน็ อนั มาก กร็ ูจ้ กั หลายทา่ นอยู่แลว้ ทา่ นเปน็ ผ้ทู ีม่ ี ความรู้เร่ืองพระพทุ ธศาสนาเป็นอย่างดี อาตมากม็ เี ชอ้ื สายจนี อยเู่ หมอื นกนั เพราะฉะนน้ั จงึ ไดร้ ปู้ ระวตั ขิ องประเทศชาตจิ นี มาโดยล�ำ ดบั ทง้ั ในอดตี และ เกลา้ ฯ เองก็ได้ทราบพระกิตติศัพท์ของ ทง้ั ในปจั จบุ นั โดยเฉพาะเกรด็ พงศาวดารจนี เชน่ เกรด็ ในเรอ่ื งไซอว๋ิ เรอ่ื งสามกก๊ ก็ไดท้ ราบมาตง้ั แตบ่ รรพบรุ ษุ ใต้ฝา่ พระบาทว่า มีพระทัยใฝ่ในการศึกษา (ประธานาธบิ ดหี วั เราะ) แสดงถงึ วฒั นธรรม อารยธรรมทด่ี ที ย่ี ง่ั ยนื มาแลว้ นาน และทง้ั สองประเทศเราก็ไดม้ ี ความสมั พนั ธก์ นั มาเปน็ อนั ดตี ง้ั แตอ่ ดตี กาลมาจนถงึ ปจั จบุ นั น้ี และก็ไดป้ รารถนาทจ่ี ะมาประเทศจนี ในโอกาส อนั ควร ก็ไดม้ โี อกาสมาในบดั นเ้ี พราะความเมตตาของทา่ นประธานาธบิ ดรี ฐั บาลจนี ทไ่ี ดอ้ าราธนา หาความรู้เปน็ อย่างมากในหลายๆ ดา้ น รวมท้ังเรื่องภาษา ก็ทรงมีความรู้อย่างสงู สำ�หรับประเทศไทยของพระองค์น้นั นับถอื พระพุทธศาสนา เถรวาท ซ่งึ แม้ว่าเกลา้ ฯ ไม่ได้ศึกษาพระพทุ ธศาสนาอยา่ งละเอียด แต่กพ็ ดู ไดเ้ ลยวา่ ประเทศจนี นนั้ ไดน้ ับถอื พระพุทธศาสนามาแต่ดกึ ดำ�บรรพ์ ตามรฐั ธรรมนูญของประเทศจีน เราก็ไดร้ ะบไุ ว้วา่ ใหน้ บั ถือศาสนาโดยเสรี ถงึ แมว้ ่าเกลา้ ฯ เองรู้จกั พระพทุ ธศาสนาไมม่ ากนกั แตก่ ็ทราบดีวา่ ไม่วา่ จะเป็นคัมภรี ข์ องพระพุทธศาสนา หรอื วา่ การค้นควา้ ทางธรรมชาติ พระพุทธศาสนาก็มกี ารคาดคะเนไว้อยา่ งดมี าก รวมทงั้ ในสมยั ก่อนน้ัน ก็ได้รู้จกั จลุ นิ ทรยี ซ์ ึ่งเป็นสัตวเ์ ล็กๆ ทม่ี ชี ีวติ ในนำ้�แลว้ อนั นกี้ ็แสดงว่าพระพทุ ธศาสนาก็ได้เหน็ การณ์ไกล โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ พระพทุ ธศาสนาสอน ให้คนมีเมตตาต่อกนั ให้มีความเก้อื กูลซง่ึ กนั และกนั ทัง้ นี้นับวา่ เปน็ ประโยชนอ์ ย่างมากในการรักษาความสขุ และความสามคั คี ไดท้ ราบกนั มาว่า พระพทุ ธศาสนาไดแ้ พร่มาสปู่ ระเทศจนี เรานานแล้ว ตามประวัตวิ ่านานตงั้ ๒,๐๐๐ กว่าปี แตพ่ ระพุทธศาสนาทเี่ จรญิ ร่งุ เรืองมากนน้ั ก็ในสมัย ราชวงศถ์ งั พดู ถึงพระพุทธศาสนา เกลา้ ฯ ก็ได้เดินทางไปเย่ียมที่สำ�คญั ๒ แหง่ แห่งหน่ึงกค็ อื เมอื งตูรูฟาน ในเขตปกครองตนเองซินเกยี ง และ อีกทห่ี นงึ่ ได้ไปเมอื่ ค.ศ. ๑๙๗๖ ก็คอื ที่ตกั กศลิ าในปากสี ถาน อนั เป็นมหาวทิ ยาลยั สงฆ์ทพ่ี ระถังซมั จง๋ั เคยไปศึกษาเลา่ เรยี น188

สมัยนี้ เราก็มเี ครอื่ งบินแลว้ มีรถยนตแ์ ล้ว แตส่ มัยทพ่ี ระถังซมั จงั๋ ไปศกึ ษาพระพุทธศาสนายังชมพูทวปี นั้นคงจะพบความยากลำ�บากมากมายหลายประการ ตอนน้ันคงจะตอ้ งอาศัยม้าและเดนิ ดว้ ยเท้า เมอื่ กน้ี ้กี ็ได้คยุ กบัทา่ นจา้ วผ่ชู ู ถงึ บ้านเกิดของเกลา้ ฯ คอื เมอื งหยางโจว ท่ีหยางโจวน้นั สมัยกอ่ นก็มพี ระอาจารย์ทีม่ ชี ื่อเสียงอยรู่ ปู หนง่ึคอื พระอาจารยเ์ จี้ยนเจิน ในสมัยนน้ั พระอาจารยท์ ่านก็พยายามลงเรือไปทางตะวันออก พยายามต้งั ๖ คร้งัและในครัง้ ท่ี ๖ ก็ไปไดเ้ ปน็ ผลสำ�เรจ็ ไดเ้ ข้าไปประเทศญ่ปี ุ่น แล้วต่อมาก็ได้มีการสร้างอนสุ รณ์ให้กับพระอาจารย์เจย้ี นเจิน เด๋ียวนอ้ี ยเู่ มอื งหยางโจว พดู ถึงพระอาจารยอ์ งค์นนั้ ท่านได้พยายามไมล่ ดละในการศกึ ษาค้นควา้พระพุทธศาสนา ตามความรู้สึกของเกล้าฯ ยังมีพระหลายรูปทมี่ ีความร้ทู างวชิ าการอยา่ งมาก ซง่ึ เร่อื งน้ีก็มีตัวอย่างพอหาได้ในประเทศจนี สำ�หรบั การเสดจ็ มาเยอื นประเทศจีนของใตฝ้ ่าพระบาทในครั้งน้ี คงจะเป็นการสง่ เสริมมิตรภาพอันดรี ะหว่างจนี -ไทย นบั เปน็ โอกาสดีสำ�หรับจนี -ไทยทง้ั สองประเทศโดยเฉพาะคอื เรื่องทางพระพทุ ธศาสนาของเราท้ังสองประเทศจะได้มกี ารแลกเปลย่ี นกนั จงึ ขอถวายพระพรให้ใตฝ้ า่ พระบาทเสดจ็ จารกิ ประเทศจีนโดยความสะดวกสบาย และขออวยพรใหป้ ระเทศไทยมคี วามเจรญิ รงุ่ เรืองประชาชนมคี วามสขุ มคี วามยนิ ดเี ปน็ อยา่ งยง่ิ ท่ไี ดฟ้ งั ทา่ นประธานาธบิ ดไี ดก้ ลา่ วถงึ พระพทุ ธศาสนา ในประเทศจนี ซง่ึ ประชาชนรจู้ กั นบั ถอื ทว่ั ไปและทา่ นประธานาธบิ ดเี องก็ได้ให้ ความสนใจ และมคี วามรู้ในพระพทุ ธศาสนา ในประเทศไทยเรานน้ั พระพทุ ธศาสนาไดต้ ง้ั สถาพรมาชา้ นาน และเปน็ ศาสนาประจ�ำ ชาติ และแม้ พระมหากษตั รยิ ์ คอื พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ของไทยกท็ รงใหค้ วามอปุ ถมั ภ์ เรยี กวา่ เอกอคั รศาสนปู ถมั ภก และก็ไดอ้ ปุ ถมั ภพ์ ระพทุ ธศาสนาดว้ ย ศาสนาอน่ื ๆ ดว้ ยทกุ ศาสนา และประเทศไทยก็ไดน้ บั ถอื ทง้ั ฝา่ ย เถรวาทและทง้ั ฝา่ ยมหายาน รวมทง้ั จนี นกิ ายดว้ ย และการมาครง้ั นก้ี ็ไดน้ �ำ เจา้ คณะใหญจ่ นี นกิ ายแหง่ ประเทศไทยมาดว้ ย ซง่ึ นง่ั อย่ใู น ทน่ี แ้ี ลว้ พระพทุ ธศาสนาไดม้ สี ว่ นสรา้ งความเจรญิ ใหป้ ระเทศไทยมาตง้ั แต่โบราณกาล และพระมหากษตั รยิ ์ไทยในพระราชวงศป์ จั จบุ นั น้ี ไดท้ รงออกผนวชคอื บวชเปน็ ภกิ ษชุ ว่ั ระยะเวลาอนั สน้ั ทกุ รชั กาล ในรชั กาลปจั จบุ นั นเ้ี มอ่ื ทา่ นเปน็ พระมหากษตั รยิ แ์ ลว้ ก็ไดเ้ สดจ็ ออกทรงผนวช ๑๕ วนั และแมส้ มเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ แหง่ ประเทศไทยก็ไดท้ รงผนวช ๑๕ วนั และอาตมาจ�ำ ไดว้ า่ ในวนั ทรง ผนวชสมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ ของไทยนน้ั เปน็ โอกาสทท่ี า่ นเตง้ิ เสย่ี วผงิ ไปเยย่ี มประเทศไทย แลว้ ก็ได้ไปรว่ มพธิ ดี ว้ ย อาตมาก็ อย่ใู นพธิ นี น้ั ดว้ ย ทา่ นเตง้ิ เสย่ี ว ผงิ ก็ไดถ้ วายเครอ่ื งสกั การะแดพ่ ระภกิ ษสุ มเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯ ในพธิ นี น้ั ดว้ ย และแมอ้ าตมาจะ อย่ใู นประเทศไทยก็ไดส้ ดบั ตรบั ฟงั ขา่ วในประเทศจนี มาโดยล�ำ ดบั จนถงึ ปจั จบุ นั อนั แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเจรญิ รงุ่ เรอื งทางวฒั นธรรม อารยธรรม และการศาสนาแหง่ ประเทศจนี มาตง้ั แต่โบราณกาล เปน็ มรดกตกทอดมาจนถงึ ปจั จบุ นั และอาตมาไดม้ โี อกาสมาในครง้ั น้ี กด็ ว้ ยความทร่ี ฐั บาลจนี มเี มตตาอาราธนาใหม้ า ไดร้ บั การตอ้ นรบั อยา่ งดยี ง่ิ จากทา่ นทง้ั หลาย มที า่ นรฐั มนตรจี าง เซงิ จว้ั ทา่ นชอ่ื ไน่ ได้ อ�ำ นวยความสะดวกทกุ อยา่ งในการท่ไี ด้ไปเยอื นทกุ ๆ แหง่ และทา่ นเตา้ สู้ เหรนิ รองนายกพทุ ธสมาคมจนี และทา่ นจา้ วผชู่ ทู ่ไี ดพ้ บกนั ตง้ั แตว่ นั แรก และก็ไดอ้ ธบิ ายชแ้ี จงเรอ่ื งพระพทุ ธศาสนาในประเทศจนี ใหท้ ราบ ทา่ นเป็นผูท้ ่รี ูเ้ รือ่ งพระพุทธศาสนา ของจีนดมี ากเจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ทรงสนทนากบัประธานาธบิ ดีเจยี ง เจอ๋ หมนิ 189

ท่านยงั เปน็ รองประธานสภาทป่ี รึกษาสูงสุดทางการเมอื งด้วย ท้งั หมดนกี้ เ็ นอื่ งมาจากการรบั ทราบ และอำ�นวยการของทา่ นประธานาธิบดีจึงได้จัดการต้อนรบั เป็นอย่างดียิง่ อาตมภาพไดม้ ีโอกาสไปเยยี่ ม พระราชวังโบราณ เทยี นอนั เหมิน พระราชวงั ฤดรู อ้ น และกำ�แพงเมืองจนี อนั เปน็ มรดก ที่ประชาชนชาวจีนไดท้ �ำ มา อันแสดงความยงิ่ ใหญ่ของสถาปตั ยกรรมและวฒั นธรรมด้านตา่ งๆ ของจีนเป็นอนั มาก และก็ได้ไปเยย่ี มสุสานของท่านเหมาเจ๋อตุง เพราะฉะนัน้ จึงเชื่อว่า โบราณสถานทเี่ ปน็ มรดกอันสำ�คญั ยง่ิ ของประชาชนจีนยง่ั ยืนมานาน อันแสดงถึงความเจริญ และความย่งิ ใหญ่ของประชาชนชาวจีน และโดยเฉพาะอยา่ งยิ่งความย่ิงใหญท่ างภมู ิปัญญาและจติ ใจ ไม่วา่ เป็นเลา่ จอ้ื ขงจือ้ และนกั ปราชญจ์ นี เป็นอนั มาก เป็นทีร่ จู้ กั ของคนไทยเป็นอยา่ งดี ฉะนนั้ จีนจึงมี ปญั ญาชนผ้ทู ีม่ คี วามยงิ่ ใหญเ่ ปน็ อันมาก เพราะฉะนน้ั จึงสามารถปกครองประเทศจีน ให้มคี วามเจรญิ ยิง่ ๆ ขึ้นไปต้ังแต่โบราณจนถงึ ปจั จบุ ัน และในปจั จบุ ันนีช้ ่ือเสียงของทา่ นประธานาธบิ ดี เจยี ง เจอ๋ หมิน กเ็ ป็นทร่ี ้จู กั กนั ดีในไทยตลอดจนถึงวิธกี ารปกครองของท่านเตง้ิ และผเู้ ป็นประมุขของประเทศจีนในอดีต จนถงึ ปจั จบุ นั ก็กลา่ วไดว้ ่า บางทา่ นแมจ้ ะไม่ได้นบั ถือพระพุทธศาสนา บางท่านกน็ บั ถอื พระพทุ ธศาสนากต็ าม แม้เชน่ นั้น ผู้เป็นประมุขทุกท่านก็ได้ใชส้ ตปิ ัญญาบริหารปกครอง ใชก้ ารปกครองซงึ่ เป็นหลกั ธรรมในพระพทุ ธศาสนาอยูเ่ ป็นอันมาก เพราะวา่ หลักการปกครองตามหลักธรรมค�ำ ส่ังสอนของพระพทุ ธศาสนานน้ั ไดม้ ีแสดงไวท้ กุ ด้าน ท้งั ในดา้ นบรรพชิต คอื พระภิกษุ สามเณร และแมช่ ี เป็นตน้ และทงั้ ในดา้ นผู้ปกครองบ้านเมอื ง ท้งั ในด้านประชาชนทง้ั ปวง แม้ในสมยั ปัจจุบัน ซ่ึงเป็นรฐั บาลของท่านเจียงเจอ๋ หมนิ กก็ ล่าวไดว้ า่ ท่านเปน็ ผปู้ ระกอบไปดว้ ยคณุ สมบตั ิของผู้ปกครองประเทศอย่างดียง่ิ จงึ กล่าวได้วา่ ทา่ นเป็นเหมือนแม่น้ำ�แห่งบญุ บารมที แ่ี ผ่ไปถงึ ประชาชนทง้ั ประเทศใหม้ คี วามสขุ ความเจรญิ ซง่ึ ตามหลักพระพุทธศาสนาทพ่ี ระพทุ ธเจ้า ไดท้ รงแสดงไว้อนั เปน็ หลักฐานของผู้ปกครองประชาชนน้ัน ถงึ แม้วา่ ท่านประธานาธบิ ดีจะไม่ได้รบั นบั ถอื หรือศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาโดยตรง กก็ ลา่ วได้วา่ ทา่ นมหี ลักการปกครองเหลา่ นี้อยู่ในท่านแลว้ ซ่ึงทา่ นก็ปฏบิ ตั ิอยแู่ ลว้ เป็นต้นว่าความโอบอ้อมอารี เผ่อื แผ่ เจอื จาน ซง่ึ ทางพระพุทธศาสนา เรียกว่า ทาน ความเป็นผทู้ ่ีมคี วามประพฤติ ทางกาย ทางวาจา ทางใจ เรียบรอ้ ยดีงาม ไม่เบยี ดเบยี นประชาชน เป็นการบำ�บดั ทกุ ข์บำ�รงุ สุขแกป่ ระชาชน เรียกวา่ ศีล การสละต่างๆ เพือ่ ความผาสกุ ของประชาชน เพ่อื บ�ำ บดั ทุกข์บ�ำ รงุ สขุ ของประชาชน เรยี กวา่ จาคะ ความซอื่ ตรงตอ่ ประชาชน ความเปน็ คนออ่ นโยนละมนุ ละไมตอ่ ประชาชน ความขยันหมัน่ เพยี รในการปฏิบัตหิ น้าท่ีต่างๆ เปน็ อยา่ งดยี ง่ิ เรียกว่า ตบะ ความมเี มตตา ไมเ่ อาความโกรธเปน็ ท่ตี ง้ั การไม่เบยี ดเบียนประชาชนและประกอบดว้ ยความกรุณา ช่วยเหลอื ประชาชน ความเป็นผทู้ ี่ มคี วามอดทน ความเปน็ ผู้ทป่ี ฏบิ ัตกิ จิ ต่างๆ ถกู ตอ้ งไม่ผดิ พลาดดว้ ยความระมดั ระวังมีสตปิ ญั ญาดอี ยา่ งเยยี่ ม หลกั เหล่าน้เี ป็นหลักท่ีพระพทุ ธเจ้า ทรงสง่ั สอนไว้ให้ประมขุ ของประเทศท้ังหลายปฏิบัตซิ ง่ึ เรยี กวา่ หลักของราชธรรม คือเป็นหลักปฏิบัติของพระราชา หรอื ท่านประธานาธบิ ดีทั้งปวง เพราะฉะนนั้ อาตมาจงึ คดิ ว่า พระพทุ ธศาสนาน้นั ไดม้ ีสว่ นสรา้ งความเจรญิ ใหแ้ ก่ประเทศจีนเป็นอันมาก เช่นเดยี วกับประเทศไทย และชาวไทยเป็นอันมาก ก็ได้ทราบว่าประเทศจนี นน้ั ก็ได้รับนบั ถอื พระพทุ ธศาสนาทัว่ ไปเช่นเดียวกนั เพราะฉะนัน้ คนไทยจงึ ไดย้ ินดีต้อนรับชาวจนี ตลอดมาโดยล�ำ ดบั จนปัจจบุ ัน และกเ็ ชื่อว่าแม้ประเทศจีนเองก็คงยนิ ดรี บั รองคนไทยทีม่ าประเทศจีนเชน่ เดยี วกัน เพราะฉะนนั้ มิตรภาพระหว่างจีนและไทยน้นั จึงไดแ้ นน่ แฟน้ มาโดยล�ำ ดับแตน่ านมา และในพระพุทธศาสนาในประเทศทงั้ สองน้ี แม้วา่ ส่วนใหญป่ ระเทศไทยเป็นเถรวาท ประเทศจนี เปน็ ฝ่ายมหายาน ก็มีหลกั ใหญ่เป็นอนั เดียวกนั ประมขุ ของประเทศไทยรวมท้งั ประชาชนก็รบั นบั ถอื ทั้งพระจากประเทศจนี คอื จนี นิกาย ท้งั พระไทยฝ่ายเถรวาทสม�ำ่ เสมอกัน และก็ยกยอ่ งใหม้ ีสมณศักด์ิเสมอกัน เม่ือคณะสงฆ์ไทยเองมเี จา้ คณะใหญ่ แมค้ ณะสงฆ์จนี ก็มเี จ้าคณะใหญ่เช่นเดยี วกัน เพ่ือปกครองคณะสงฆข์ องตน ให้เป็นไปดว้ ยความเรียบรอ้ ย และโดยทีพ่ ระพุทธศาสนานั้น ไม่ก่อใหเ้ กิดความเดือดรอ้ นและความเส่อื มแกป่ ระเทศไทยประเทศจนี และทั้งสองประเทศ จงึ ขอฝากพระพุทธศาสนาแก่ทา่ นประธานาธบิ ดีใหก้ ารอปุ ถัมภพ์ ระพทุ ธศาสนาตามสมควรด้วย ขอถวายพระพรอีกคร้งั หนงึ่ ทกี่ ารเสดจ็ มาเย่ียมของใต้ฝ่าพระบาทครง้ั นี้ เป็นผลชว่ ยให้มติ รภาพ ระหวา่ งประชาชนของประเทศจีนและไทยท้ังสองพัฒนาเจริญยง่ิ ๆ ขน้ึ และขอขอบพระทยั ที่ใหค้ วาม สนพระทัยประเทศจนี และก็ได้ใหค้ วามชมเชยต่อวฒั นธรรมจีนทม่ี ีประวตั มิ านมนาน ประเทศจีนเรานนั้ ก�ำ ลังมงุ่ มั่นในการรกั ษาสันติภาพ สง่ เสรมิ การพัฒนาของโลก ไมว่ า่ ในโลกน้ีจะนับถอื ศาสนา อะไรก็ตาม เช่อื วา่ ประชาชนของโลกต่างก็มคี วามใฝฝ่ ันในสันติภาพด้วยกัน ขอถวายพระพรให้ใต้ฝ่าพระบาท ทรงมสี วสั ดภิ าพในการเสดจ็ มาเยอื นประเทศจีน ขอขอบใจอำ�นวยพรท่านประธานาธิบดแี ละขอใหท้ า่ นประธานาธบิ ดีจีน ประสบความส�ำ เรจ็ และสุขประโยชน์ตามท่ที า่ นประธานาธบิ ดปี รารถนาทกุ ประการ190

รายงานข่าวการเสดจ็ เยือนจนี ของเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ โดยหนงั สอื พิมพ์จีน Renmin Ribao แหง่ กรงุ ปกั ก่งิ เม่ือวนั ท่ี ๒๕ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ มีใจความว่าสปมระเดธ็จานพารธะิบสดังฆีเจรียางชแเจห๋อ่งหปมรินะเทเขศ้าไเทฝย้า เมอ่ื บ่ายวนั ที่ ๒๔ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ประธานาธบิ ดีเจียง เจ๋อหมนิ ไดเ้ ข้าเฝ้า สมเด็จพระญาณสงั วร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก ท่ีต�ำ หนักอิง๋ ไต ทำ�เนยี บรัฐบาลจีนจงหนานไห่ ประธานาธบิ ดี เจยี ง เจอ๋ หมนิ ไดถ้ วายการตอ้ นรบั ราชวงศฮ์ น่ั และเจรญิ รงุ่ เรอื งสงู สดุ ในสมยั ราชวงศถ์ งั พระถงั ซมั จง๋ั ถือว่าเร่ืองนี้เป็นเร่ืองสำ�คัญส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์สมเดจ็ พระสงั ฆราชดว้ ยความยนิ ดยี ง่ิ ทง้ั กลา่ ววา่ สมเดจ็ พระ แหง่ ราชวงศถ์ งั ไดเ้ ดนิ ทางไปทางตะวนั ตก เพอ่ื อญั เชญิ พระไตรปฎิ ก ระหวา่ งประชาชนจนี กบั ประชาชนอน่ื ๆ ของโลกสงั ฆราชทรงเปน็ พระประมขุ สงู สดุ ของพระพทุ ธศาสนาไทยและ นบั ไดว้ า่ ทา่ นมบี ทบาทอนั ส�ำ คญั ยง่ิ ตอ่ การพฒั นาและการศกึ ษา สมเดจ็ พระญาณสงั วรมรี บั สง่ั วา่ ความสมั พนั ธ์เปน็ นกั ศกึ ษาทางดา้ นพระพทุ ธศาสนาทม่ี ชี อ่ื เสยี ง ไดท้ รงสรา้ ง คน้ ควา้ ในทางพระพทุ ธศาสนาของจนี ฉนั มติ รระหวา่ งไทยกบั จนี มมี าแตช่ า้ นานแลว้ ประชาชนสาธารณประโยชนท์ ม่ี คี วามส�ำ คญั ตอ่ การพฒั นาพระพทุ ธศาสนา ประธานาธบิ ดเี จยี ง เจอ๋ หมนิ ยงั ไดก้ ลา่ ววา่ สมเดจ็ ท้งั สองประเทศนับแต่โบราณกาลมาก็ได้มีการติดต่อไปมาของไทย ทรงไดร้ บั การเคารพเชดิ ชจู ากประชาชนไทยอยา่ งยง่ิ พระสงั ฆราชเสดจ็ เยอื นจนี ครง้ั น้ี ไดท้ อดพระเนตรวดั วาอาราม หาสอู่ ยา่ งใกลช้ ดิ สมเดจ็ พระสงั ฆราชไดส้ นพระทยั ศกึ ษาการเสดจ็ เยอื นจนี ในครง้ั นน้ี บั เปน็ เรอ่ื งทย่ี ง่ิ ใหญใ่ นวงการพระ ในกรงุ ปกั กง่ิ และในมณฑลตา่ งๆ รวมทง้ั ไดท้ รงเขา้ รว่ มกจิ กรรม และค้นคว้าเก่ียวกับประวัติศาสตร์จีนมาต้ังแต่ยังทรงพระพทุ ธศาสนาของทง้ั สองประเทศจะมสี ว่ นสง่ เสรมิ การแลกเปลย่ี น ทางพระพุทธศาสนา จงึ เชอื่ มน่ั ว่าจะท�ำ ให้ทรงเข้าพระทยั เยาว์ ทรงอา่ นพงศาวดารจนี เรอ่ื งไซอว๋ิ และทรงมคี วามและความร่วมมือระหว่างวงการพระพุทธศาสนาของท้งั สอง อยา่ งลกึ ซง้ึ ยง่ิ ขน้ึ ตอ่ กจิ การพระศาสนา โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ปรารถนามานานแลว้ ทจ่ี ะเสดจ็ มาเยอื นประเทศจนี และประเทศ และมคี วามหมายตอ่ การสรรคส์ รา้ งความเขา้ ใจและ สถานการณท์ างพระพทุ ธศาสนาของจนี รวมทง้ั นโยบายของ ความปรารถนาของพระองคก์ ไ็ ดก้ ลายเปน็ จรงิ แลว้ ในวนั น้ีความมมี ติ รภาพระหวา่ งประชาชนสองประเทศใหก้ ระชบั แนน่ จนี ทม่ี ตี อ่ กจิ การพระศาสนาดว้ ย สมเด็จพระสังฆราชทรงขอบคุณต่อรัฐบาลจีนท่ีและลกึ ซง้ึ ยง่ิ ขน้ึ ประธานาธบิ ดเี จยี งเจอ๋ หมนิ ไดถ้ วายพระพรให้ ประธานาธบิ ดเี จยี ง เจอ๋ หมนิ กลา่ วตอ่ ไปวา่ รฐั บาล กราบทลู อาราธนา และถวายการตอ้ นรบั อยา่ งสมพระเกยี รติสมเด็จพระสังฆราชประสบความสำ�เร็จในการเสด็จเยือนจีน จนี ด�ำ เนนิ นโยบายใหเ้ สรภี าพในการนบั ถอื ศาสนา ซง่ึ เรอ่ื ง ทรงแสดงความขอบคณุ ประธานาธบิ ดเี จยี ง เจอ๋ หมนิ ทเ่ี ขา้ เฝา้โดยสมบรู ณ์ นี้รฐั ธรรมนญู จีนได้ก�ำ หนดไว้อยา่ งชดั เจน ในเร่ืองการให้ และสนทนากนั อยา่ งสนทิ สนม ประธานาธบิ ดเี จยี ง เจอ๋ หมนิ กลา่ ววา่ พระพทุ ธศาสนา ความคมุ้ ครองกจิ กรรมทางศาสนาทเ่ี ปน็ ไปตามปกตใิ หก้ าร ในทา้ ยทีส่ ดุ สมเดจ็ พระสงั ฆราชทรงสวดพระพทุ ธมนต์มปี ระวตั คิ วามเปน็ มาในประเทศจนี ทีย่ าวนาน ไดเ้ ผยแพรเ่ ขา้ มา สนบั สนนุ อยา่ งเตม็ ทต่ี อ่ วงการศาสนาภายในประเทศทจ่ี ะมี อำ�นวยพรใหป้ ระเทศจีนเจรญิ รงุ่ เรอื งและใหป้ ระชาชนจีนมีในประเทศจนี ถงึ ปจั จบุ นั นบั ได้ ๒,๐๐๐ กวา่ ปแี ลว้ โดยเรม่ิ แต่ การตดิ ตอ่ ไปมาหาสกู่ บั วงการศาสนาในตา่ งประเทศ และ ความผาสกุ โดยทว่ั กนั 191

จากนัน้ เสดจ็ เยือนวดั ยง่ เหอกง ซ่งึ เป็นวัดลามะท่ีใหญ่ทีส่ ดุ ในกรุงปกั กิง่ เพราะเดิมเป็นพระราชวังที่ประทับของพระจักรพรรดิหย่งเจ้ิงหลังจากข้ึนครองราชย์ได้ถวายให้เป็นวัดลามะในพระพุทธศาสนา ทางรฐั บาลจนี ถือวา่ เปน็สมบตั ิทางวฒั นธรรมอันล�้ำ ค่าแหง่ หนง่ึ จึงได้บำ�รุงรกั ษาอยา่ งดีตลอดมา จากนัน้ เสดจ็ กลบัทพ่ี กั และโปรดใหเ้ จา้ หนา้ ทฝ่ี า่ ยจนี ทต่ี ดิ ตามขบวนเสดจ็ เขา้ เฝา้ รบั ประทานของทร่ี ะลกึ รวม ๒๒ คนและมีพระดำ�รัสขอบใจคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายจีน วันท่ี ๒๕ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เสด็จยังนครซีอาน มณฑลสา่ นซี โดยเคร่ืองบินที่รัฐบาลจนี จัดถวาย มคี ณะผ้ตู ิดตามฝ่ายจีนรวม๒๐ คน น�ำ โดยรฐั มนตรวี า่ การทบวงกจิ การศาสนาตอนเย็น รองผู้ว่าการมณฑลสา่ นซีพรอ้ มดว้ ยเจา้ หนา้ ทร่ี ะดบั สงู ของรฐั บาลและพทุ ธสมาคมสา่ นซีจัดพธิ ถี วายการตอ้ นรับ วนั ตอ่ มา เสด็จเยอื นวัดตา้ ฉอื เอนิ อนั เปน็ ทป่ี ระดษิ ฐานพระพุทธรปู และพระคัมภีร์ท่ีพระถังซัมจั๋งอัญเชิญมาจากอินเดียกวา่ ๑,๐๐๐ ปมี าแลว้ จากนน้ั เสดจ็ ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลสา่ นซี วนั ท่ี ๒๗ มถิ นุ ายนพ.ศ. ๒๕๓๖ เสดจ็ ไปชมพพิ ิธภัณฑ์ทหารหุ่นปน้ัดนิ เผาของจน๋ิ ซฮี อ่ งเต้ ซง่ึ อยทู่ างทศิ ตะวนั ตกของนครซีอาน เสด็จไปชมวังหวาชิงฉอื ซง่ึ เคยเป็นอทุ ยานทรงพระส�ำ ราญของฮอ่ งเต้ในราชวงศต์ า่ งๆมาเกือบทกุ ราชวงศ์ สาธารณรัฐประชาชนจีน // มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เสาร์ ๒๖ อาทิตย์ ๒๗ จันทร์ ๒๘ • เสดจ็ เยอื นวัดตา้ ฉือเอิน (วัดเจดียห์ ่าน • เสดจ็ ไปชมพิพธิ ภัณฑท์ หารหนุ่ ปัน้ • ทรงประกอบพิธีถวายสังฆทานอุทิศ ปา่ ใหญ่) ในเมืองซีอาน ดินเผาของจิ๋นซีฮอ่ งเต้ วงั หวาชงิ ฉอื พระกศุ ลถวายบูรพกษตั ริยาธริ าชเจ้า • ชมพพิ ธิ ภณั ฑ์ประวัติศาสตร์ ทงั้ ปวง โดยโปรดใหพ้ ระสงฆจ์ นี ทร่ี ับ มณฑลสา่ นซี เสด็จเปน็ ผู้รบั ถวายสงั ฆทาน • เสดจ็ ยังเมอื งคุนหมิง มณฑลยนู นาน ผู้วา่ การมณฑลยูนนานพร้อมดว้ ยเจา้ หน้าท่ีระดับสงู ของยนู นานไดจ้ ัดพธิ ถี วาย การตอ้ นรับ192

วนั ท่ี ๒๘ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงประกอบพธิ ถี วายสงั ฆทาน อุทิศพระกุศลถวายบูรพกษัตริยาธิราชเจ้าท้ังปวง ดงั ท่ที รงเคยปฏบิ ตั ทิ ุกวันจันทร์ โดยโปรดให้ พระสงฆ์จีนท่ีรับเสด็จเป็นผู้รับถวายสังฆทาน ตอนบา่ ยเสด็จยังเมอื งคนุ หมงิ มณฑลยูนนาน ทางตอนใตส้ ดุ ของจนี โดยเครอ่ื งบนิ ทร่ี ฐั บาลจนี จดั ถวาย ผ้วู ่าการมณฑลยนู นานพรอ้ มเจ้าหน้าที่ ระดับสูงของยูนนานได้จัดพิธีถวายการต้อนรับ วนั ที่ ๒๙ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เสดจ็ เยือนวดั หยวนทง วดั หัวถิง วนั ตอ่ มาเสด็จยงั เมืองเชียงรุง่ เขตปกครองตนเองสิบสองปันนา เสดจ็ วดั ปา่ เจมหาราชสถาน ประทานพระโอวาทแก่ ภิกษุสามเณรและประชาชนท่มี าถวายการต้อนรับ ทรงปลกู ตน้ ลานเปน็ ท่ีระลกึ ๑ ตน้ ท่หี นา้ วิหาร วดั ปา่ เจ แล้วเสดจ็ เย่ียมหมู่บา้ นชาวไต วันรงุ่ ขึน้ เสด็จชมป่าหินในเขตปกครองตนเองหลูหนานยี่ วนั ท่ี ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ คณะ ผตู้ ดิ ตามฝา่ ยจนี น�ำ โดยรฐั มนตรวี า่ การทบวงกจิ การ ศาสนาไดเ้ ขา้ เฝา้ กราบทลู ลา เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดท้ รงสนทนาปรารภการเยอื นจนี ครง้ั นก้ี บั รฐั มนตรี วา่ การทบวงกจิ การศาสนาและนายกพทุ ธสมาคมจนี ซึ่งเดินทางจากกรุงปักก่ิงมาส่งเสด็จที่เมืองคุนหมิง จากน้นั เวลา ๑๔.๕๐ น. เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ พร้อมด้วยคณะเสด็จกลับประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน // กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖อังคาร ๒๙ พฤหัสบดี ๑ ศกุ ร์ ๒• เสดจ็ เยอื นวดั หยวนทง และวัดหวั ถิง • เสด็จชมป่าหิน ในเขตปกครองตนเอง • รัฐมนตรีว่าการทบวงกิจการศาสนา หลหู นานย่ี ของจนี ไดน้ ำ�คณะผูต้ ดิ ตามเข้าเฝ้ากราบพธุ ๓๐ ทลู ลาและส่งเสดจ็ กลับประเทศไทย• เสดจ็ เมืองเชียงรุ่ง สบิ สองปันนาเสดจ็ เยยี่ มวดั ดอนแตน วดั ป่าเจมหาราชสถาน ประทานพระโอวาทแกภ่ กิ ษสุ ามเณรและประชาชนท่มี าถวายการตอ้ นรบัทรงปลูกตน้ ลานเปน็ ท่รี ะลกึ จากนน้ั เสดจ็เยย่ี มหมบู่ า้ นชาวไต 193

เกลา้ กระหม่อมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสงู ท่ีไดม้ ีโอกาสถวายการรับเสด็จใตฝ้ า่ พระบาทในการทเ่ี สด็จมาเยือนและทอดพระเนตรประเทศจนี ซึ่งไม่เคยมมี ากอ่ นในประวตั ิศาสตร์ แม้ว่าใตฝ้ า่ พระบาทจะได้เสดจ็ ไปเยือนเฉพาะในเมืองปักกง่ิ เมอื งซีอาน และเมอื งคนุ หมงิ เทา่ นนั้ ก็ตาม แตพ่ ระโอวาทของใต้ฝา่ พระบาทได้เผยแพร่ไปยังมวลพุทธศาสนิกชนของประเทศจนี โดยทั่วถึงกนั แล้วพระกรณยี กิจต่างๆ ของใตฝ้ ่าพระบาททที่ รงปฏบิ ตั ิอยา่ งเปย่ี มลน้ ไปดว้ ยพระเมตตาน้ัน ได้ถูกบันทกึ และแสดงแก่ประชาชนชาวจนี ทางจอโทรทัศนแ์ ล้ว ผลท่ีได้รับจากการเสด็จเยอื นประเทศจนี ของใต้ฝา่ พระบาทคร้งั น้ี มีเปน็ อเนกอนันต์และกวา้ งขวางการเสดจ็ มาของใต้ฝา่ พระบาทในครัง้ น้ี นับวา่ เป็นเหตกุ ารณค์ รั้งแรกของวงการคณะสงฆ์ระหวา่ งสองประเทศเราในระยะเวลากว่า ๑,๕๐๐ ปี และผลดที ี่ได้รบั จากการเสด็จมาในครง้ั น้ี กห็ วังวา่ จะมอี ิทธิพลตอ่ ไปอกี ในอนาคตกว่า ๑,๕๐๐ ปตี ่อไปและการเสด็จมาของใต้ฝ่าพระบาทในครัง้ น้มี อี ิทธพิ ลอย่างมากต่อพทุ ธศาสนกิ ชนของ ขออ�ำ นวยพรใหส้ าธารณรัฐประชาชนจีนมคี วามสุขความเจรญิท้ังสองประเทศของเรา วนั น้ี ใตฝ้ า่ พระบาทกจ็ ะเสด็จกลบั ไปยงั ประเทศไทยแลว้ ขอให้พระพุทธศาสนาพรอ้ มท้งั ลัทธศิ าสนาท้ังปวงเกลา้ กระหม่อมในนามของพทุ ธศาสนิกชนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจนี ใคร่ขอขอบพระทัยใตฝ้ า่ พระบาทและถวายพระพรใหท้ รงมีพระพลานามยั สมบูรณ์ เพื่อเปน็ นาถะของ ทน่ี ับถอื กันได้มคี วามเจรญิ รุ่งเรอื งอ�ำ นวยผลให้มคี วามสุขปวงพทุ ธศาสนิกชนทัง้ หลายตลอดไป และขออวยพรให้พระพทุ ธศาสนาในประเทศไทย แก่ประชาชนชาวจนี ทั่วไป และขออ�ำ นวยพรใหแ้ กร่ ัฐบาลเจริญรงุ่ เรอื งยง่ิ ๆ ข้ึน และขออวยพรให้ประเทศชาตไิ ทยมีความเจรญิ ยิ่งๆ ข้นึ ผอู้ าราธนาใหม้ า พร้อมทง้ั ประธานาธบิ ดแี ละขา้ ราชการและอวยพรให้ประชาชนชาวไทย มีความสขุ ความเจริญตลอดไป ประชาชนทงั้ ปวงให้มคี วามสขุ ความเจรญิ ท่วั กันเกลา้ กระหมอ่ มใครข่ อถวายพระพรแด่ใต้ฝ่าพระบาท และนบั ว่าการเสดจ็ มาเยอื นประเทศจนี ในคร้งั นี้ไดป้ ระสบความส�ำ เรจ็ อยา่ งใหญห่ ลวงและย่อมจะมบี ทบาทในการไปมาหาส่กู นั อย่างฉนั มิตรระหวา่ งประชาชนของประเทศเราท้งั สอง รวมท้งั ระหวา่ งวงการศาสนาของประเทศเราทง้ั สองด้วยพร้อมทั้งย่อมจะส่งเสรมิ บทบาทในการแลกเปลยี่ นทศั นะและความช่วยเหลือซง่ึ กนั และกนั ระหว่างประเทศของเราทัง้ สองอกี ด้วยพวกเกล้ากระหมอ่ มรู้สึกเป็นเกียรตอิ ย่างสงู และยนิ ดมี ากที่ได้มโี อกาส การมาเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในครงั้ นีม้ ีขึ้นได้ก็ด้วยทางรัฐบาลสนองงานถวายใต้ฝ่าพระบาท ขอถวายพระพรให้ใตฝ้ า่ พระบาท สาธารณรฐั ประชาชนจีนไดอ้ าราธนาเชญิ อาตมาพรอ้ มทง้ั คณะให้มา การมาเยอื นจึงจงมพี ระพลานามยั สมบูรณต์ ลอดไป ขออวยพรใหป้ ระเทศชาติไทย บงั เกดิ ข้ึน และเม่ือเดินทางมา ทางรัฐบาลจนี ก็ได้จัดให้มีท่านรฐั มนตรีถงึ ๒ ท่านมีความเจริญย่งิ ๆ ข้นึ ขออวยพรให้ประชาชนชาวไทยอยเู่ ยน็ เป็นสุขขออวยพรให้พระพทุ ธศาสนาในประเทศไทยเจรญิ ยิง่ ๆ ข้นึ มาเป็นผู้ช่วยตา่ งๆ ในการให้ค�ำ แนะนำ�ทัง้ ในการนำ�ไปในท่ตี า่ งๆ ตลอดจนถึงถ้าหากการรบั เสด็จของพวกเกล้ากระหม่อมในคร้งั นี้มขี ้อตกบกพรอ่ ง พบกับท่านประธานาธิบดีและเจา้ หน้าที่ระดับตา่ งๆ ของท้องถนิ่ นน้ั ๆ ที่ได้เยอื นหรอื ข้อผดิ พลาดใดๆ ที่ท�ำ ใหต้ ้องระคายพระทัยแลว้ ไซร้ เพราะฉะน้ันความสำ�เร็จทงั้ ปวงที่เกดิ ข้ึนนอ้ ยหรือมาก จงึ มีได้เพราะท่านทงั้ หลายขอใต้ฝา่ พระบาทได้ทรงพระเมตตาประทานอภัยแก่พวกเกล้ากระหม่อม ที่ได้ช่วยแนะนำ� และไดอ้ ุปการะตา่ งๆ เชน่ ท่านจาง เซิงจัว้ รฐั มนตรีว่าการ ทบวงกจิ การศาสนา ท่านชอ่ื ไน่ รัฐมนตรชี ว่ ยวา่ การทบวงกจิ การศาสนา และ ทา่ นผอู้ ืน่ ทุกทา่ นจนถึงทา่ นท่ีนงั่ อยู่ ณ ทีน่ ที้ กุ ทา่ น ท�ำ ใหก้ ารไปเยยี่ มในท่ีต่างๆ และการปฏิบัตติ นตา่ งๆ ของคณะอาตมาได้เป็นไปอยา่ งถกู ต้องเหมาะสม บังเกดิ เป็นประโยชน์น้อยหรือมากดงั ทีท่ า่ นทั้งหลายได้กลา่ วแลว้ ซ่งึ เป็นการกระชับความสมั พนั ธร์ ะหว่างประเทศเราทั้งสองให้แนน่ แฟ้น ยงิ่ ขึน้ และจะทำ�ให้พระพุทธศาสนา ลทั ธิศาสนาทีน่ ับถอื กนั ในประเทศจนี ก้าวหน้ายิง่ ขึน้ อันจะน�ำ ใหบ้ ังเกิดประโยชนส์ ขุ แกป่ ระชาชนทั่วไปของ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพราะฉะน้ัน จงึ อาจจะท�ำ ให้ทา่ นท้งั หลายที่ไดอ้ ุปการะทงั้ ปวงนีเ้ หน็ดเหน่ือยกนั มากจนถึงกบั ท่านช่อื ไน่ ไมส่ บาย ทำ�ให้อาตมากับคณะไมส่ บายใจเหมอื นกนั ก็ตง้ั ใจอ�ำ นวยพร ขออ�ำ นาจคุณพระรัตนตรยั อภิบาลรักษาท่านชือ่ ไน่ ใหห้ ายปว่ ยเรียบร้อยโดยเรว็ ขอขอบพระคณุ มาก เพราะฉะน้นั อาตมาอาจสรปุ ได้ว่า ความส�ำ เรจ็ ในการมาเยอื นครงั้ น้ี ท่ีทา่ นจาง เปน็ ประธานในการรบั รองตามที่ตา่ งๆ ท่ีกลา่ วน้นั ก็ได้เกิดขึ้นด้วยทัง้ สองฝา่ ย ประกอบกนั มที งั้ ฝ่ายทา่ นทัง้ ๖ เปน็ ต้นที่มานง่ั อย่ทู ี่นด้ี ว้ ย และทง้ั ฝา่ ยคณะที่มาด้วย ทำ�ใหบ้ งั เกิดความส�ำ เรจ็ ขึน้ ซึง่ จะเป็นประโยชน์ในการกระชับความสัมพนั ธ์ระหวา่ งประเทศของเราทั้งสองให้มั่นคงและ บ�ำ รงุ ลทั ธศิ าสนาของตนท่คี นจีนนบั ถือให้ด�ำ รงมัน่ เปน็ ไปเพอ่ื ประโยชนส์ ขุ แก่ประชาชนท่วั ไป เพราะฉะนั้นก็ขอขอบใจทุกท่าน และกข็ อลากลบั ประเทศไทยในวนั น้ี ขอให้ความสุขความเจริญจงมีแก่สาธารณรฐั ประชาชนจีน ต้ังแต่ทา่ นประธานาธิบดี คณะ รัฐบาลเปน็ ต้น ตลอดจนถึงประชาชนแหง่ สาธารณรัฐประชาชนจนี ท้งั ปวงโดยทวั่ กัน เกอ้ เว่ย ไจเ้ จย้ี น กข็ อฝากลาไปถงึ ทา่ น ประธานาธบิ ดเี จียง เจ๋อหมิน และคณะรฐั บาลทั้งปวงดว้ ย ขอโทษทที่ �ำ ใหท้ ่านทง้ั หลายเหนือ่ ยหลายวัน (ทรงพระสรวล)194

รสู้ กึ ยินดเี ป็นอยา่ งย่ิงท่ีใตฝ้ ่าพระบาทไดม้ ีโอกาสมาเยือนและทอดพระเนตรประเทศจนี ซ่ึงนบั ไดว้ า่ เปน็ เกยี รตอิ ยา่ งสงูแกป่ ระชาชนประเทศจีน แล้วใต้ฝา่ พระบาทกต็ ้องทรงเหน็ดเหน่อื ยเชน่ เดยี วกัน ก็เป็นเหตุใหอ้ าตมาได้มาเหน็ ความเจรญิ รุง่ เรือง ความยิง่ ใหญข่ องประเทศจีน ทง้ั ในอดตี อันนานไกล ตลอดมาจนถึงปจั จุบันประเทศไทยก็เปน็ ประเทศท่ีสวยงาม และยงั มีอารยธรรมท่ีได้รบั การสืบทอดกนั มา โอวาททง้ั ปวงที่อาตมาไดก้ ลา่ วนน้ั น�ำ มาจากค�ำ สงั่ สอนอันยาวนานเหมอื นกัน จากใตฝ้ า่ พระบาทก็เปน็ ที่ประจกั ษแ์ ลว้ แกพ่ วกเกลา้ กระหม่อมทงั้ หลายถึงคุณภาพอนั ดีงามของประชาชนไทยทว่ั ไป รวมถึงท�ำ ใหเ้ หน็ ว่ามีสงิ่ ทค่ี วร ของพระพทุ ธเจา้ อนั มมี าแต่อดตี กาล เพราะฉะนน้ัแลกเปลีย่ นและศกึ ษาซึ่งกันและกันอยู่มากมาย ส�ำ หรับพระโอวาทของใต้ฝา่ พระบาทน้นั เมอ่ื อาตมาได้พบกับพระพทุ ธศาสนาซ่งึ เต็มไปด้วยเกลา้ กระหม่อมฟงั แลว้ ก็ได้รับประโยชนอ์ ย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิง่ พระโอวาท ภมู ิปรชั ญาต่างๆ ทางปัญญาจงึ ได้รับพระพุทธศาสนามาของใตฝ้ า่ พระบาททีว่ ่า พทุ ธศาสนิกชนตอ้ งปฏิบัติหลักธรรมตามความเปน็ จริงนั้น นบั ถอื โดยเรว็ และพากันปฏิบัตเิ พอื่ ความสขุ ความเจริญถือได้ว่ามปี ระโยชนส์ ำ�หรับประเทศจีนเป็นอย่างมากในพระโอวาทของใตฝ้ า่ พระบาท เชน่ เดยี วกนั และทีอ่ าตมากลา่ วว่าไดม้ าเห็นความเจรญิยงั ประกอบไปด้วยมติ รภาพอนั ดีตอ่ ประชาชนจนี และไดป้ ระทานอ�ำ นวยพรแกร่ ัฐบาลจนี ของประชาชนชาวจนี ทง้ั ในอดีตและในปัจจุบนั นัน้เพราะฉะนั้นเกล้ากระหม่อมในนามของรัฐบาลจนี ใคร่ขอขอบพระทยั ใต้ฝ่าพระบาท อาจจะถามว่าเรอื่ งราวตา่ งๆ เหลา่ นีท้ ราบไดอ้ ยา่ งไร อาตมาขอตอบว่า ทราบไดจ้ ากส่งิ ต่างๆ ทเี่ ปน็ มรดกตกทอด เช่นโบราณสถานต่างๆ อันย่งิ ใหญ่ อันแสดงให้เห็นถึงความสำ�คญั ของสงิ่ อนั ย่งิ ใหญ่ของโลกถึง ๒ ช้ินคอื ก�ำ แพงเมอื ง ทหารหนุ่ ปนั้ ดินเผา เปน็ มรดกของโลกท่ีย่งิ ใหญท่ ้ัง ๒ ชิ้น และท้งั ไดม้ าพบทา่ นผปู้ กครองตั้งแตช่ นั้ ยอด มที ่านประธานาธิบดเี ปน็ ตน้ จนถึงทา่ นทง้ั หลายอันแสดงให้เหน็ วา่ มภี มู ปิ ัญญาอยา่ งสูง จึงได้รวมกนั สามารถปกครองประเทศชาติประชาชนชาวจีนให้รวมเป็นอันหน่งึ อนั เดียว หรอื มีความสามัคคีกนั ไม่แตกแยก เปน็ มหาอาณาจกั รอนั ยงิ่ ใหญ่ไพศาลตลอดมาตัง้ แต่ในอดตี จนถึงปัจจบุ ันและตอ่ ไปเพราะฉะน้นั ขอสรรเสริญด้วยความจรงิ ใจแกท่ า่ นบรรพบรุ ษุ ของประชาชนชาวจนี ทกุ ทา่ นต้งั แตอ่ ดตี กาลนานไกลมาถงึ ปจั จบุ นั ชนในปจั จบุ ันดว้ ยความจริงใจขอใหอ้ นชุ นของชาวจนี ตอ่ ไปกเ็ ปน็ เชน่ เดียวกัน เพอ่ื สามารถท่ีจะปกครองประเทศจนี อันย่ิงใหญ่ไพศาลนี้ใหย้ ั่งยนื ตอ่ ไปไมม่ ที ส่ี ้ินสดุ อนงึ่ ขอแถมอีกหนอ่ ยว่าความเจริญของประชาชนชาวจีนประเทศจนี น้ี ก็เนื่องไปถึงประเทศไทยด้วยเพราะเมือ่ มีชาวจนี ทเ่ี จรญิ ด้วยภมู ิปัญญาเปน็ ตน้ ไปอยู่ในประเทศไทยก็ชว่ ยกนั ทำ�นุบำ�รงุ ประเทศไทยให้เจรญิ ย่งิ ขึน้ ดว้ ยสว่ นหน่ึง และขอฝากไวข้ อ้ หนงึ่ วา่ เราท้งั สองประเทศกก็ ล่าวไดว้ า่ ตา่ งไดน้ บั ถอื พระพุทธศาสนา และไดป้ ฏบิ ัติตามธรรมค�ำ ส่งั สอนของพระพุทธเจ้าด้วยกัน และก็เชอ่ื ว่าการปฏิบตั ติ ามค�ำ ส่งั สอนของพระพุทธเจ้าน้ัน เปน็ เหตหุ นง่ึ อนั เปน็ เหตุใหญท่ ีท่ ำ�ใหป้ ระเทศเราท้งั สองมีความเจรญิและด�ำ รงอยูม่ ั่นคง จงึ ขอใหท้ า่ นทัง้ หลายทางฝ่ายสาธารณรัฐประชาชนจีนนี้ ช่วยกันท�ำ นุบ�ำ รงุ พระพทุ ธศาสนาด้วยดีดว้ ย นี้เปน็ ข้อทขี่ อฝากทา่ นท้งั หลายไว้แล้วกอ็ ยากจะเพิม่ อีกนดิ หนึ่งวา่ ขอใหค้ ณะสงฆ์ในประเทศจีนนีม้ โี อกาสไดแ้ สดงธรรมสง่ั สอนแก่ประชาชนให้มากขึ้น และเชอ่ื วา่ คณะสงฆ์คงจะไม่สัง่ สอนใหป้ ฏบิ ัติผิดคอื ให้เปน็ อันตรายแกว่ ิธีการปกครองประเทศของสาธารณรฐั ประชาชนจนี แตส่ ั่งสอนอยู่ในหลกั ธรรมของพระพุทธเจ้า เพ่อื จะให้ปฏบิ ัติดีปฏิบตั ชิ อบซงึ่ จะเปน็ การช่วยให้ระบอบการปกครองของสาธารณรฐั ประชาชนจนี นี้ยง่ั ยนื ตอ่ ไปตลอดกาลนาน และขอใหข้ อ้ ความที่อาตมาได้กล่าวโดยสังเขปนี้ถา้ เปน็ การสมควรก็ได้น�ำ กราบเรียนทา่ นประธานาธบิ ดีและคณะรัฐบาลใหร้ ับทราบกันด้วยโดยทัว่ กนั ปจั จบุ นั นี้คณะสงฆ์ของจีนก็ไดเ้ ร่ิมด�ำ เนนิ กิจการเผยแผพ่ ระศาสนา โดยมีการแสดงธรรมแก่ประชาชนแลว้ แต่คงต้องอาศยั ความพยายามต่อไป ดแี ล้ว ตอ้ งขอใหก้ �ำ ชับคณะสงฆ์ให้แสดงธรรมในขอบเขตอนั ควร อยา่ ใหก้ ระทบกระทงั่ แก่รัฐบาลแก่ผูป้ กครองจนี หรือแกร่ ะบอบของจนี ระบอบทจี่ นี ปฏบิ ตั อิ ยูน่ ีก้ เ็ หมาะสม แกป่ ระเทศจีนแล้วทกุ ประการ ให้สนบั สนุนการปกครองของประเทศจนี ดงั ระบอบทป่ี กครองอยู่น้ี ตลอดไป และในเรื่องนอี้ าตมากข็ อกลา่ วอ้างสกั หนอ่ ยหนงึ่ วา่ ในครั้งพุทธกาลนน้ั เม่อื พระพุทธเจา้ ได้ตรสั รู้แล้ว และทรงจารกิ ไปประกาศพระพทุ ธศาสนาถงึ ๗ รัฐ ๗ ประเทศใหญ่ๆ ซึง่ มีระบอบการปกครองตา่ งๆ กนั แต่ว่าเสดจ็ ท่ีไหนก็ราบรื่นทีน่ น้ั ไม่มรี ัฐบาลของประเทศไหนรงั เกียจ เพราะไมท่ รงแสดงธรรมทเ่ี ปน็ ปฏิปกั ษห์ รอืขัดขวางต่อระบอบการปกครองของระบอบนนั้ ๆ ของประเทศนั้นๆ ไมท่ รงเกีย่ วขอ้ งดว้ ยระบอบการเมอื งทุกอย่างแต่ทรงส่ังสอนด้วยธรรมอนั บรสิ ุทธ์ิ คณะสงฆ์ก็ตอ้ งมีความเข้าใจ ก็ตอ้ งใหท้ ่านนายกพุทธสมาคมก�ำ ชบั คณะสงฆ์ ให้มคี วามเข้าใจในเรอื่ งน้ีดว้ ย อย่าเทศน์ใหเ้ ปน็ ปฏปิ ักษ์ต่อระบอบการปกครอง ทุกอย่างให้สนับสนุนการปกครองของทกุ ประเทศที่ตนอาศัยอยู่ แสดงธรรมทบ่ี ริสุทธ์ิ 195

ความรว่ มมือระหวา่ งรฐั บาลจนี กับพุทธสมาคมแห่งประเทศจีนนับไดว้ า่ อยู่ในข้ันดีมาก ภายใตแ้ นวนโยบายของรัฐบาลจีนก็ใหม้ ีการสนับสนนุ อยา่ งเตม็ ทตี่ ่อกจิ กรรมของพุทธสมาคมแห่งประเทศจีนอยแู่ ลว้ ก็ดแี ลว้ กน็ กึ ว่าไดพ้ ทุ ธสมาคมทีด่ ี ตลอดจนถงึ ท่านนายกและท่านกรรมการที่ มีความสามารถรู้จักปฏิบัติใหเ้ หมาะสมจึงได้สามารถท�ำ ให้รัฐบาลและศาสนา กลมกลนื กนั ได้ และสนับสนนุ ใหก้ ้าวหน้าไปได้ น้เี ป็นหลกั ท่ีต้องการของ พระพุทธเจา้ พระบรมศาสดาของเราท้งั หลายท่านประธานาธิบดี เจยี ง เจ๋อหมนิ เคยได้ใชเ้ วลากว่า ๒ ปี ดีแล้ว เม่ือทางองค์การศาสนากบั ฝ่ายรัฐบาลเข้าใจกนัในการเชิญผนู้ ำ�ศาสนาต่างๆ ของประเทศจีนมาจบั เขา่ คุยกัน ก็เรียบร้อยดี ในเรอ่ื งนี้ พุทธสมาคมตอ้ งเขม้ แข็งหน่อย ปฏบิ ตั ิดังนั้นความสัมพันธ์ระหวา่ งท่านประธานาธบิ ดีเจยี ง เจอ๋ หมนิ ให้เหมาะสม ในประวตั ทิ แ่ี ลว้ มานัน้ รัฐบาลของหลายประเทศทีเ่ ปน็และผู้น�ำ ศาสนาตา่ งๆ ของประเทศจนี น้นั นบั ได้ว่าดีมาก ปฏปิ กั ษ์ ที่ไมพ่ อใจศาสนา ไมต่ ้องการศาสนา ก็เพราะวา่ ศาสนานนั้ ๆ ไม่ทำ�ความเขา้ ใจกบั ทางรฐั บาล แสดงธรรมอันไม่เหมาะสม ขอให้ถอื หลกั ๓ ประการ ในการเปล่งวาจาทกุ อยา่ งทพ่ี ระพุทธเจา้ ได้ทรงสงั่ สอนไว้ พระพุทธเจา้ ทรงสงั่ สอนไวว้ า่ วาจาทีค่ นพูดน้ีสำ�คัญนกั สร้างศัตรูก็ได้ สร้างมิตรก็ได้ ให้ประโยชนก์ ็ได้ ให้โทษก็ได้ ต้ังแตน่ ้อยๆ จนถึงมหาศาล เพราะฉะนัน้ พระพทุ ธเจ้าได้ทรงแสดงธรรมสั่งสอนไวว้ า่ วาจาท่คี วรพูดนั้น ๑. เปน็ ค�ำ จริง ๒. เป็นประโยชน์ ๓. ถูกตอ้ งกาละ กาลเวลา น้เี ปน็ ประโยชนท์ ง้ั พระท้งั ฆราวาสเป็นประโยชน์แก่ทกุ ๆคน ควรปฏิบตั ิ ตามหลักสามประการน้ี จริงแต่ไม่มปี ระโยชน์ หรอื ไมต่ อ้ งด้วยกาละ ก็ไม่ตอ้ งพดู จงถือเอาประโยชน์ ไมม่ โี ทษ และต้องมกี าละกาลเวลาถอื เปน็ หลักประกอบกับค�ำ ทจ่ี ริง ไมห่ ลอกลวงกัน วันนเ้ี ลยขอประกาศพระพทุ ธศาสนาหน่อยหนง่ึ (ทรงพระสรวล)ใต้ฝา่ พระบาทรับส่งั ได้ดมี าก กระหม่อม(หัวเราะ)ถ้ากล่าวมากไปกข็ อโทษดว้ ยนะ (ทรงพระสรวล)พวกเกลา้ กระหม่อมไดอ้ ยูร่ ่วมกบั ใตฝ้ า่ พระบาทมาคร่ึงเดือนแล้ว ก็เพราะเรามคี วามเข้าใจกันดี ตามหลกั พระพทุ ธศาสนาและวันน้ีใต้ฝ่าพระบาทก็จะเสด็จกลับประเทศไทย ..... (ทรงพระสรวล)พวกเกลา้ กระหมอ่ มกร็ ูส้ ึกอาลยั อาวรณ์ มติ รภาพระหวา่ งพวกเกลา้ กระหมอ่ มกับสมาชกิ ผตู้ ามเสดจ็ ใตฝ้ า่ พระบาทก็เชน่ เดยี วกนั นับวันจะเพมิ่ ทวีมากข้ึน ดังน้ัน เกลา้ กระหม่อมตอ้ งขอบพระทัยที่ใต้ฝา่ พระบาททรงเมตตาเสด็จเยือนประเทศจีน การสนทนาปรารภการเยอื นจนี ครง้ั น้ี กบั นายจาง เซงิ จว้ั รฐั มนตรวี า่ การทบวงกจิ การศาสนา และนายจา้ วผชู่ ู นายกพทุ ธสมาคมจนี พรอ้ มกบั คณะผตู้ ดิ ตามฝา่ ยจนี ทไ่ี ดเ้ ขา้ เฝา้ กราบทลู ลา และสง่ เสดจ็ กลบั ไทย เมอ่ื วันท่ี ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖196

การเสด็จเยือนจนี ครั้งน้ี ไดก้ อ่ ใหเ้ กดิความตน่ื เตน้ ในทางพระพทุ ธศาสนาแก่บคุ คลทง้ั ฝา่ ยคณะสงฆ์ พทุ ธศาสนกิ ชนและผู้บริหารปกครองจีนเป็นอันมากเพราะเป็นคร้ังแรกในการเจริญศาสนสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างไทยกับจีน และเป็นครั้งแรกที่ประชาชนช า ว จีนได้เห็นภาพของพระสงฆ์ ในพระพุทธศาสนาอยา่ งเต็มตา กระทั่งพระสงฆ์จีนบางรปู กล่าวว่า ไม่เคยคดิและไม่เคยเห็นมาก่อนว่าพระสงฆ์ในพระพทุ ธศาสนา จะได้รบั การยกย่องเทิดทูนและความเคารพจากปวงชนถงึ ขนาดน้ี ทัง้ เป็นแบบอยา่ งของชวี ิตพรหมจรรย์ท่ีแท้จริงที่ได้พบเห็นอย่างชดั เจนเปน็ ครั้งแรกด้วย (เพราะจนีตกอยู่ในภาวะว่างศาสนามาเกือบครึง่ ศตวรรษ) เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ จึงทรงใช้โอกาสท่ีได้เสด็จเยือนมหามิตรประเทศครั้งน้ีฝากฝังพระพุทธศาสนาคณะสงฆ์ ตลอดถงึ ศาสนาอน่ื ๆ อนั เปน็ทเ่ี คารพยดึ มน่ั ของปวงชน เปน็ รากฐานความสงบสุขของชาติบา้ นเมือง แก่ผู้ปกครองของจนี นับแตป่ ระธานาธบิ ดีลงมาจนถึงผู้ว่าการมณฑลและนายกพทุ ธสมาคม ใหช้ ว่ ยอปุ ถมั ภบ์ �ำ รงุ และให้โอกาสคณะสงฆ์ไดส้ ง่ั สอนศลี ธรรมแกป่ ระชาชน ใหช้ ว่ ยสอดสอ่ งดแู ลคณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชนให้ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในขอบเขตของธรรมและกฎระเบียบบ้านเมืองด้วย ทัง้ ยงัทรงฝากฝงั คนเผ่าไต ซึง่ เปน็ เชอื้ สายเดียวกับคนไทยสยาม ตลอดถึงชนเชอื้ ชาตอิ น่ื ๆ ในจนี แก่ผูป้ กครองจีนใหช้ ว่ ยปกครองดแู ลใหอ้ ยเู่ ปน็ สขุ ตามควรแกอ่ ตั ภาพ โดยเชอ่ื ในความฉลาดสามารถของผู้บริหารปกครองของจีนว่าสามารถทำ�ใหเ้ ปน็ ไปได้ เพราะเคยท�ำ มาแลว้ ในอดตี และท�ำ อย่ใู นปจั จบุ นัแ ล ะ ค ง ทำ � ต่ อ ไ ป ใ น อ น า ค ต 197

เสด็จวางศิลาฤกษ์วัดไทยลุมพนิ ี พ.ศ. ๒๕๓๕ พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้ดำ�ริจัดสร้างวดัไทยขึ้น ณ ลุมพินี ประเทศเนปาล อันเป็นสถานที่ประสูติของพระพทุ ธเจา้ เพอ่ื เปน็ พทุ ธสถานแบบไทยทแ่ี สดงเอกลกั ษณท์ างวฒั นธรรมไทยใหเ้ ปน็ ทป่ี รากฏแกส่ ายตาชาวโลก และเป็นทีพ่ กั พงิของพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่เดินทางมานมัสการปูชนียสถานส�ำ คญั คอื ลุมพินี สถานทปี่ ระสูติของพระพุทธเจ้า ประกอบกบัใน พ.ศ. ๒๕๓๙ เป็นปีท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวทรงครองสริ ริ าชสมบตั คิ รบ ๕๐ ปี ฉะนน้ั คณะผดู้ �ำ รจิ ดั สรา้ งวดั ไทยทล่ี มุ พนิ ีจงึ ได้ประสานกบั กรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธกิ าร เสนอขออนุมัติดำ�เนินการก่อสร้างวัดไทยท่ีลุมพินีให้เข้าเป็นโครงการเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เนอ่ื งในวโรกาสทรงครองสิรริ าชสมบตั คิ รบ ๕๐ ปี คณะรฐั มนตรไี ดม้ มี ติเหน็ ชอบในหลกั การและไดม้ มี ตแิ ตง่ ตง้ั คณะกรรมการกอ่ สรา้ งวดั ไทยทล่ี มุ พนิ ีเมื่อวันท่ี ๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ คณะกรรมการฯ ร่วมกับพุทธศาสนิกชนชาวไทยจึงเริม่ ด�ำ เนินการก่อสร้าง เนปาล // พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๘ เสาร์ ๑๘ อาทิตย์ ๑๙ • ทอดพระเนตรบรเิ วณวิหารมายาเทวี แล้วจงึ เสด็จกลบั ไปยงั วัดศรกี รี ตวิ หิ าร • เอกอัครราชทูตไทยประจำ�กรุงกาฐมาณฑุ • เสดจ็ ยงั เมืองไภรหะวา เพอ่ื ประกอบ • เสดจ็ ยังสถานเอกอัครราชทูตไทยเพือ่ พร้อมด้วยคณะสงฆแ์ ละเจา้ หนา้ ทช่ี ้ันสงู ของ พิธวี างศลิ าฤกษ์วดั ไทยลุมพนิ ี เปดิ โอกาสให้ขา้ ราชการเอกอคั รราชทูต รฐั บาลเนปาล ถวายการตอ้ นรับ ณ สนามบิน และพุทธศาสนกิ ชนเขา้ เฝ้าถวายสกั การะ นำ�เสดจ็ ไปยังทำ�เนียบเอกอคั รราชทตู จนั ทร์ ๒๐ • เสดจ็ ยงั สนามบินกรงุ กาฐมาณฑุ • ราชเลขาธกิ ารฝา่ ยขา่ วของสมเดจ็ พระราชาธบิ ดี เสด็จกลบั ประเทศไทย แหง่ เนปาลเขา้ เฝา้ น�ำ พระราชสาสน์ ของสมเดจ็ • พระเถระชน้ั บรหิ ารของคณะสงฆ์เนปาล พระราชาธิบดีมาถวาย เข้าเฝ้าถวายสักการะและถวายรายงาน •เสดจ็ วดั ศรกี ีรตวิ หิ าร เมอื งกีรติปูร์ ทรง ความเปน็ ไปของคณะสงฆ์เนปาล ประกอบพิธบี รรจพุ ระบรมสารรี กิ ธาตแุ ละ • เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงอาราธนาเจา้ พิธีเปิดอาคารไทยกรี ตภิ วัน อาวาสวดั ศรกี ีรตวิ ิหารเป็นผู้รบั สังฆทาน198

พ.ศ. ๒๕๓๘ เมอื่ เตรียมการตา่ งๆ พรอ้ ม คณะกรรมการฯ จึงกราบทลู อาราธนา เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เสดจ็ ไปทรงประกอบพธิ ี วางศลิ าฤกษก์ อ่ สรา้ งวดั ไทยทล่ี มุ พนิ ี ซง่ึ ก�ำ หนด ในวันท่ี ๑๙ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๓๘ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เสดจ็ จากประเทศไทย เมอื่ วนั ท่ี ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๘ ถึงสนามบินกรุงกาฐมาณฑุในวันเดียวกัน เอกอคั รราชทตู ไทย ณ กรงุ กาฐมาณฑุ พรอ้ ม ดว้ ยคณะสงฆเ์ นปาล และเจา้ หนา้ ทช่ี น้ั สงู ของ รฐั บาลเนปาล รฐั มนตรชี ่วยว่าการกระทรวง พาณิชย์ ถวายการตอ้ นรบั น�ำ เสดจ็ ไปยงั ทำ�เนยี บเอกอคั รราชทูต เพือ่ ประทานโอกาส ให้คณะคนไทยในเนปาลและผู้ท่ีมาร่วมพิธี วางศลิ าฤกษ์สรา้ งวดั ไทยคราวนีเ้ ขา้ เฝา้ ในโอกาสนี้ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ประทานพระโอวาท อภยั เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดฝ้ ากราชเลขาธกิ ารกราบบงั คมทลูแกค่ ณะคนไทยท่เี ขา้ เฝา้ โดยทรงแสดงหลักสงั คหวตั ถุ ๔ คอื สำ�นึกในพระมหากรุณาธิคุณ และฝากถวายของที่ระลึกแด่ทาน ปิยวาจา อตั ถจรยิ า และสมานตั ตตา ส�ำ หรับเปน็ แนวใน สมเดจ็ พระราชาธบิ ดี สมเดจ็ พระราชนิ แี ละสมเดจ็ มกฎุ ราชกมุ ารการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ อ่ กนั แลว้ เสดจ็ ไปประทับแรม ณ วัดศรีกรี ตวิ ิหาร เมืองกีรตปิ ูร์ ณ ทำ�เนียบเอกอัครราชทูต ราชเลขาธิการฝ่ายข่าว ณวัดศรีกรี ตวิ หิ าร เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ทรงประกอบของสมเด็จพระราชาธิบดแี ห่งเนปาลเข้าเฝา้ น�ำ พระราชสาส์น พธิ ีบรรจพุ ระบรมสารรี กิ ธาตุและพิธเี ปดิ อาคาร“ไทยกรี ติภวนั ”จากสมเด็จพระราชาธิบดีมาถวาย และกราบทูลเจ้าพระคุณ คณะสงฆเ์ นปาลพร้อมดว้ ยบคุ คลสำ�คัญในคณะรฐั บาล และสมเดจ็ ฯ เรอ่ื งทท่ี รงขอพระราชทานวโรกาสเขา้ เฝา้ ถวายพระพร พทุ ธศาสนกิ ชนจ�ำ นวนมากร่วมพธิ ถี วายการต้อนรับ ในโอกาสนี้เนอ่ื งในการเสดจ็ เยอื นเนปาลครง้ั นว้ี า่ สมเดจ็ พระราชาธบิ ดที รง เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ได้ทรงสนทนากบั นายกรัฐมนตรเี นปาลมีพระราชภารกิจต้องเสด็จพระราชดำ�เนินต่างเมือง จึงไม่มี เกี่ยวกับภาวการณ์ของพระพุทธศาสนาโดยทั่วไป และได้ทรงโอกาสรบั เสดจ็ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดใหม้ ากราบทลู ขอประทาน ฝากฝงั พระพทุ ธศาสนากับทา่ นนายกรัฐมนตรีให้ชว่ ยดูแลด้วย 199


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook