“พช่ี ายคนโตของข้าพเจา้ ” พ.ศ. ๒๕๔๑ ประเทศญี่ปนุ่ พ.ศ. ๒๕๑๕ วดั บวรนเิ วศวิหาร พ.ศ. ๒๕๓๖ วดั บวรนเิ วศวิหาร ทา่ นทะไล ลามะ ประมขุ ของพระพทุ ธศาสนานกิ ายวชั รยาน • ฯพณฯ พ.ี ว.ี นรสงิ หะ ราว นายกรฐั มนตรแี หง่ อนิ เดยี มาเฝา้ ถวาย แหง่ ทเิ บต ทง้ั สองพระองค์ไดท้ รงพบปะกนั หลายครง้ั ทง้ั ในโอกาส สกั การะ เมอ่ื วนั ท ่ี ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๖ ท่ที า่ นทะไล ลามะ เสด็จเยอื นวัดบวรนเิ วศวหิ าร หรือทรงพบกัน • นางมาเลีย บโู ตรส ฆาลี ภรยิ าเลขาธกิ ารองคก์ ารสหประชาชาติ ในการประชมุ ระหว่างประเทศ เป็นเหตใุ หท้ ั้งสองพระองค์ทรง มาเฝา้ ถวายสกั การะ เม่อื วนั ท่ี ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๖ เคารพและคนุ้ เคยกนั เป็นอยา่ งยงิ่ จนถึงกบั ทา่ นทะไล ลามะ เรยี ก • เจ้าชายฟิลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยี่ยม (ปัจจุบันคือ สมเด็จ ขานเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ว่า “พช่ี ายคนโตของขา้ พเจา้ ” พระราชาธิบดีแห่งเบลเย่ยี ม) เสด็จเยือนวดั บวรนิเวศวหิ าร เมือ่ วนั ท่ี ๑๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ นอกจากจะทรงได้รู้จักคุ้นเคยกับผู้นำ�ของชาวพุทธ นานา • ฯพณฯ มะดนั ลาล ขุระนา รัฐมนตรฝี ่ายกจิ การสภาผู้แทนราษฎร ประเทศแลว้ บอ่ ยครง้ั ทเ่ี จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดท้ รงมโี อกาสตอ้ นรบั และทอ่ งเทย่ี วแหง่ อนิ เดยี มาเฝา้ ถวายสกั การะ เมอ่ื วนั ท ่ี ๒๘ กนั ยายน ประมขุ หรอื ผ้นู ำ�ประเทศต่าง ๆ อาทิ พ.ศ. ๒๕๔๑ • เจา้ ชายฟลิ ลปิ ส์ ดยคุ แหง่ เอดนิ เบอเรอ เสดจ็ เยอื นวดั บวรนเิ วศ วหิ าร เม่อื วนั ท่ี ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๕ • ฯพณฯ ศรี วาราหคริ ี เวงกฏครี ี ประธานาธบิ ดแี หง่ อนิ เดยี เยอื น วดั บวรนิเวศวหิ าร เมื่อวันท ่ี ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๕ • เจา้ ชายนารฮู โิ ต (ฮโิ ร โนมยิ า) แหง่ ญป่ี นุ่ เสดจ็ เยอื นวดั บวรนเิ วศ วหิ าร เมอื่ วันท่ี ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๓ • นายศรจี นั ทร์ ซฟี ผชู้ ่วยประธานาธบิ ดีแห่งสหรัฐอเมรกิ า ฝ่าย ประชาสมั พนั ธ์ เฝา้ ถวายสกั การะ เมอ่ื วนั ท ่ี ๗ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๓๕300
ด๑ย๑คุ กแุมหภง่ เาอพดนั นิ ธเ์บพอ.เศร.อ๒๕๑๕ เ๑จ๓า้ ชตายุลฟาคลิ มปิ (พป.ัจศจ.บุ ัน๒ค๕อื ส๓ม๖เด็จพระราชาธิบดแี หง่ เบลเยี่ยม) ฯ๘พเณมฯษาพย.ี นว.ี พน.รศส.งิ ๒ห๕ะ ๓รา๖ว ฯ๒พ๙ณมฯีนศารคี วมารพา.หศค. ริ ๒ี เ๕ว๑งก๕ฏคีรีค๒ณ๖ะมสิถมุนณาทยตูนสพ�ำ น.ศัก.ว๒าต๕กิ ๔นั ๐ ๑ฯพ๐ณมฯนี Hาค.Eม. Rพ.K.ศ..R๒A๕I ๔เอ๒กอัครราชทตู อนิ เดีย เ๑อ๗กอพัคฤรษราภชาทคูตมจพีนป.ศร.ะจ๒ำ�๕ป๔ระ๓เทศไทย๙ผแู้ สทิงนหพาิเคศมษ พH.iศs.H๒o๕lin๔e๒ss Alexey II รสั เซีย น๘างเมมษาเาลยยี นบพูโ.ตศร.ส๒ฆ๕า๓ล๖ี เ๒อ๔กอตัคลุ รารคาชมทพูต.สศา.ธ๒าร๕ณ๔ร๓ฐั อหิ ร่านประจ�ำ ประเทศไทย นอกจากนี้ ยงั มที ูตานุทูตและผู้นำ�องคก์ รทางศาสนาตา่ งๆ มาเฝา้ ถวายสกั การะเจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ในโอกาสต่างๆ อยู่เนืองๆ อาทิ เอกอัครสมณทูตวาติกันประจำ�ประเทศไทย เอกอัครราชทูตอินเดีย ศรีลังกา เมียนมาร์เนปาล อิหร่าน สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ�ประเทศไทย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเขตปกครองตนเองทิเบตสาธารณรฐั ประชาชนจนี ผแู้ ทนออธอดอกซศ์ าสนจกั รแหง่ มอสโค ประเทศรสั เซยี เรน สวามี อวเรศานนท์ มหาราชอาจารยะมหามณฑเลศวร นิกายซูนาแห่งฮนิ ดู ประเทศอนิ เดยี เลขาสภาคริสตจักรสากล บคุ คลเหล่านีต้ ่างมาเฝา้ถวายสักการะเจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ด้วยความชื่นชมยนิ ดี เป็นเหตใุ ห้ได้ทรงเจริญศาสนสัมพนั ธ์ให้แนน่ แฟ้นราบรน่ืยิ่งขึ้น อันเป็นปรากฏการณท์ ่ไี ม่เคยมมี าแต่กอ่ น 301
เสแหน้ ง่ทธางรสารยไมหม ปรากฏการณส์ �ำ คญั อีกคร้งั หนงึ่ คอื เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๓๖ รฐั บาลแหง่ สาธารณรฐั ประชาชนจนี ในสมยั ประธานาธบิ ดเี จียง เจอ๋ หมนิ ได้กราบทูลเชิญเจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ เสดจ็ เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อยา่ งเป็นทางการ ระหว่างวนั ท่ี ๒๐ มถิ ุนายน - ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๖ ทรงเปน็ พระประมขุ ศาสนจักรพระองค์แรกท่เี สดจ็ เยือนจนี อย่างเป็นทางการ ในประวตั ศิ าสตรจ์ ีน และรฐั บาลจนี ได้ถวายการต้อนรับ ในระดบั สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯการท่ีสาธารณรฐั ประชาชนจนี ซงึ่ ปกครองด้วยระบบ ในการเสด็จเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนคร้ังน้ีคอมมนู ิสต์ หรอื ระบอบสงั คมนิยมแบบเหมาเจ๋อตงุ เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ไดเ้ สด็จเยือนเมอื งส�ำ คัญของจนี คืออนั เป็นท่รี ู้กันว่าเป็นระบอบทีป่ ฏเิ สธศาสนา ได้ กรุงปักกิ่ง นครซีอาน นครคุนหมิง และสิบสองปันนากราบทูลเชญิ เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ องค์พระประมุข ทรงพบปะบุคคลสำ�คัญของจีนทั้งฝ่ายอาณาจักรและฝ่ายแหง่ พระพุทธศาสนาของไทยให้เสดจ็ เยือนอยา่ งเป็น พุทธจักรจ�ำ นวนมาก อาทิ ประธานาธิบดเี จยี ง เจ๋อหมินทางการและไดถ้ วายการตอ้ นรบั อยา่ งยิ่งใหญ่นั้น รฐั มนตรวี า่ การทบวงกจิ การศาสนา นายกพทุ ธสมาคมแหง่จงึ เป็นการประกาศให้โลกไดร้ ู้ว่า จีนไดเ้ ปดิ ประตูใจ สาธารณรฐั ประชาชนจนี ผนู้ �ำ คณะสงฆน์ กิ ายตา่ งๆ ของจนีใหแ้ ก่ศาสนาแล้วโดยไดเ้ ปดิ ประตูแกพ่ ระพุทธศาสนา จึงได้ทอดพระเนตรและรับทราบความเป็นไปของจีนเป็นศาสนาแรก เฉกเชน่ กับฮ่องเต้ในอดีตได้เปดิ ท้ังทางบ้านเมืองและทางพระพุทธศาสนาอย่างกว้างขวางประตพู ระราชวงั ต้อนรับพระพทุ ธศาสนา การเยอื นสาธารณรฐั ประชาชนจนี ของเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ครง้ั น้ี นบั วา่ มนี ยั ส�ำ คญั ทง้ั ทางฝา่ ยผตู้ อ้ นรบั และฝา่ ยผมู้ าเยอื น ประธานาธิบดี เจยี ง เจอ๋ หมิน ไดถ้ วายการตอ้ นรบั เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ณ ทำ�เนียบประธานาธบิ ดี โดยท่านประธานาธบิ ดี ได้มายืนรับเสด็จที่ประตูและนำ�เสด็จเข้าไปยังทำ�เนียบ ท่านประธานาธิบดีได้กราบทูลต้อนรับเจ้าพระคุณสมเด็จฯ อย่าง ยดื ยาวเท้าความถงึ ความสำ�คญั ของพระพทุ ธศาสนาในประวัติศาสตรจ์ นี และประเด็นสำ�คญั ท่านประธานาธิบดีไดก้ ราบทูล เนน้ ถงึ รฐั ธรรมนูญแห่งสาธารณรฐั ประชาชนจนี วา่ ระบไุ วว้ ่าใหป้ ระชาชนนบั ถือศาสนาได้โดยเสรี302
เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรง ตอบขอบคุณรัฐบาล และทา่ น ประธานาธิบดีที่ได้อาราธนาให้มา เยอื นจนี ทรงกลา่ วถงึ ความยง่ิ ใหญ่ ของวัฒนธรรมจีนและกล่าวถึง พระพทุ ธศาสนาวา่ เปน็ ค�ำ สอนท่ี มุ่งสร้างความสันติสุขให้แก่มวล มนษุ ย์โดยถว้ นหน้า และทรงจบ การสนทนากับท่านประธานาธิบดี จนี ดว้ ยทรงขอฝากพระพทุ ธศาสนา ให้ท่านประธานาธิบดีช่วยอุปถัมภ์ ดแู ลตามสมควร การเสดจ็ เยอื นสาธารณรฐั ประชาชนจนี ของเจา้ พระคณุ ตอ่ พระพทุ ธศาสนาเปน็ อยา่ งดี จงึ ไดท้ รงฝากฝงั พระพทุ ธศาสนาให้สมเดจ็ ฯ ครงั้ นีน้ ับว่าเป็นปรากฏการณค์ รงั้ ส�ำ คญั คร้งั หนึ่ง รัฐบาลจีนได้ช่วยโอบอุ้มดูแลเหมือนอย่างท่ีเคยเป็นมาในอดีตในประวัตศิ าสตรจ์ ีน และในประวตั ิศาสตรพ์ ระพทุ ธศาสนา และก็เปน็ ทป่ี รากฏว่านับแตน่ น้ั เปน็ ต้นมา สถานการณเ์ ก่ยี วกับของไทย เพราะเทา่ กบั เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ไดท้ รงเป็นผู้ ศาสนาในสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยเฉพาะพระพุทธศาสนาได้นำ�ร่องในการนำ�ศาสนาเข้าไปสู่ประตูชีวิตของสาธารณรัฐ คลีค่ ลายไปในทางสดใสยิง่ ขึน้ ตามล�ำ ดบั รวมถงึ ความสมั พนั ธ์ประชาชนจีนยคุ ปจั จบุ ัน เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ในฐานะผูม้ า ระหวา่ งพทุ ธบรษิ ทั จนี และไทยกไ็ ดเ้ ปน็ ไปอยา่ งแนน่ แฟน้ ตอ่ เนอ่ื งเยือนก็ทรงตระหนักถึงท่าทีของเจ้าบ้านที่แสดงนำ้�ใจไมตรี อยา่ งเหน็ ไดช้ ดั 303
อภิธชมหารัฏฐคุรุ สเมมยี ณนศมกัารด์ ิส์ ูงสุดแห่งคณะสงฆ์ ~ค�ำ แปลภาษาพม่า~ จากประเทศไทย ไดร้ บั ต�ำ แหน่งอภิธชมหารฏั ฐครุ ุ สยาดอภทั ทันตะญาณสังวร อายุ ๗๗ พรรษา ๕๗ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมเอกอัครราชทตู ค�ำ ประกาศพระเกยี รตคิ ุณเจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ แหง่ เมียนมาร์ เขา้ ถวายสักการะทว่ี ดั บวรนเิ วศวหิ าร ในการถวายตำ�แหนง่ อภิธชมหารัฏฐครุ ุ เม่อื วนั ท่ี ๓๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ ในภาษาพม่า ที่ส�ำ คัญย่งิ คอื ทรงไดร้ ับสมณศักดิ์ชน้ั สูงสดุ ของคณะสงฆเ์ มียนมาร์ ทเี่ รียกวา่ อภิธชมหารฏั ฐคุรุ จากรัฐบาลแหง่ สาธารณรฐั แหง่ สหภาพเมยี นมาร์ สมณศกั ด์ิชั้นนี้ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๐๐ ฯพณฯ นายอูนุ นายกรฐั มนตรีของสหภาพเมยี นมาร์ในขณะน้นั ไดเ้ ชญิ เคร่อื งสมณศักดด์ิ ังกล่าวมาถวายแด่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ ณ พระอโุ บสถ วัดบวรนเิ วศวิหารด้วยตนเอง คร้นั ถงึ พ.ศ. ๒๕๓๔รัฐบาลเมียนมารเ์ ห็นสมควรที่จะถวายสมณศกั ดิ์อภิธชมหารฏั ฐครุ นุ ้แี ด่เจ้าพระคุณสมเด็จฯพรอ้ มทั้งถวายท่ีดนิ ๑ เอเคอร์ บริเวณใกล้กับพระเจดียช์ เวดากอง เพ่อื สรา้ งวัดไทย นบั วา่ ทรงเป็นพระมหาเถระไทยองคท์ ่ี ๒ ท่ีทรงได้รับเกียรติยศเชน่ นจ้ี าก คณะสงฆเ์ มยี นมาร์ แตเ่ นอ่ื งจากเวลานน้ั สถานการณบ์ า้ นเมอื งไมอ่ �ำ นวย ผแู้ ทนคณะรฐั บาลของเมยี นมาร์ น�ำ โดย พลโท Phone Myint รฐั มนตรี วา่ การกระทรวงมหาดไทยและการศาสนา พรอ้ มดว้ ยคณะ ไดเ้ ชญิ เครอ่ื งสมณศกั ดท์ิ อ่ี ภธิ ชมหารฏั ฐครุ ุ มาเพอ่ื ถวายแดเ่ จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ แต่ ไมเ่ ปน็ โอกาสสะดวกทจ่ี ะถวายในเวลานน้ั จงึ ไดเ้ ขา้ เฝา้ ถวายสกั การะ เมอ่ื วนั ท่ี ๓๐ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๔ และมอบเครอ่ื งสมณศกั ดไ์ิ วท้ ่ี กระทรวงมหาดไทยของไทย จากนน้ั พลเอกอสิ รพงศ์ หนนุ ภกั ดี รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย จงึ ไดเ้ ชญิ มาถวายแดเ่ จา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ณ ต�ำ หนัก คอยทา่ ปราโมช วัดบวรนิเวศวิหาร เมอ่ื วันท ่ี ๑๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๓๔ แสดงใหเ้ ห็นว่า เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ทรงได้รับ ความเคารพยกยอ่ งอยา่ งสงู ไมเ่ ฉพาะจากพทุ ธศาสนกิ ชนชาวไทย หากแตร่ วมไปถงึ พทุ ธศาสนกิ ชนชาวเมยี นมารซ์ ง่ึ เปน็ เพอ่ื นบา้ นใกลเ้ คยี งดว้ ย304
ราชบณั ฑติ ยสมาคมทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละอกั ษรศาสตร์แหง่ เดนมารก์ ถวายพระเกยี รติให้ทรงเป็นคณะกรรมการจัดทำ�พจนานุกรมบาลี นอกเหนือจากพระกิตติคุณและการยกย่องเฉลิมพระเกียรติท่ีทรงได้ จนถึงกับราชบัณฑิตยสมาคมทางวิทยาศาสตร์และรับพระราชทาน และทรงได้รับจากบุคคลหรือองค์กรต่างๆ ในหลายวาระโอกาส อักษรศาสตรแ์ ห่งประเทศเดนมาร์ก (The Royal Danishดังกล่าวมาข้างต้นแล้ว ปรารภเหตุที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ทรงปฏิบัติบำ�เพ็ญ Academy of Sciences and Letters) ไดถ้ วายพระเกยี รติพระองค์กอปรด้วยพระเมตตาสั่งสอนสาธุชน ด้วยพระวิริยะคุณแรงกล้า ได้ทรง ให้ทรงเป็นกรรมการในคณะกรรมการจัดทำ�พจนานุกรมปกครองคณะสงฆ์ใหม้ ีความเจรญิ กา้ วหนา้ บังเกิดเป็นคณุ ปู การแก่ประเทศชาติ บาลขี องราชบณั ฑติ ยสมาคมแหง่ นน้ั ไดท้ รงรจนาพระนพิ นธ์และพทุ ธศาสนกิ ชน ทรงเอาพระทยั ใสใ่ นการจดั การศกึ ษาทง้ั ส�ำ หรบั คณะสงฆแ์ ละ หลากเร่ืองที่เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจค้นคว้าในเร่ืองผสู้ นใจใฝร่ ู้ในทางพระพทุ ธศาสนาทว่ั ไปทรงพระปรชี ายวดยง่ิ ในดา้ นอกั ษรศาสตร์ พระพทุ ธศาสนา 305
ดษุ ฎบี ณั ฑิตกิตติมศักดิ์ รางวัลศาสตรเมธี306
สถาบนั การศกึ ษาชนั้ สงู จำ�นวนถึง พ.ศ. ๒๕๒๙ มหาวทิ ยาลยั รามค�ำ แหง๑๓ แห่ง จึงไดถ้ วายปรญิ ญาดษุ ฎี ถวายปรญิ ญาปรชั ญาดุษฎบี ัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาปรชั ญาบณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ดใ์ิ นสาขาวชิ าตา่ งๆ พ.ศ. ๒๕๓๒ มหาวิทยาลยั มหิดลท่สี อ่ งสะท้อนถึงพระกรณยี กจิ ที่ ถวายปริญญาอักษรศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิตกิตตมิ ศักด์ิ สาขาศาสนาเปรียบเทยี บโดดเด่น และหลากหลายข้างต้น พ.ศ. ๒๕๓๓ มหาวทิ ยาลยั มหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั สงฆแ์ หง่ คณะสงฆ์ไทยตามล�ำ ดบั เวลาดงั นีค้ อื ถวายปริญญาพุทธศาสตรดษุ ฎบี ัณฑติ กติ ตมิ ศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ข้อความในคำ�ประกาศสดุดี ถวายปรญิ ญาศลิ ปศาสตรดุษฎีบณั ฑติ กิตตมิ ศักด์ิ สาขาปรชั ญาและศาสนา เฉลิมพระเกียรติคุณเจ้าพระคุณ พ.ศ. ๒๕๓๘ มหาวิทยาลยั นเรศวร สมเด็จฯ ในโอกาสทท่ี รงได้รับ ถวายปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑติ กติ ตมิ ศักดิ์ สาขาการบรหิ ารการศึกษา ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ พ.ศ. ๒๕๓๙ มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ ของแต่ละมหาวิทยาลัย ต่างมี ถวายปรญิ ญาศลิ ปศาสตรดษุ ฎบี ัณฑติ กติ ติมศักดิ์ เนื้อหาสาระที่งดงาม พรรณนาถึง พ.ศ. ๒๕๔๑ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่ พระกรณียกิจตา่ งด้านไว้อย่างน่าฟัง ถวายปริญญาดุษฎบี ณั ฑติ กิตติมศักดิ์ สาขาภาษาไทย น่าอ่านทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น คำ� พ.ศ. ๒๕๔๓ มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ป ร ะ ก า ศ ส ดุ ดี พ ร ะ เ กี ย ร ติ คุ ณ ถวายปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑติ กิตตมิ ศักดิ์ สาขาปรัชญาและศาสนา สำ � หรั บ ป ริญ ญ าดุษฎีบัณฑิต พ.ศ. ๒๕๔๕ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม กิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย ถวายปรญิ ญาศิลปศาสตรดุษฎีบณั ฑติ กิตติมศักดิ์ สาขาไทศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยขอนแก่น ซงึ่ ขอยกมา พ.ศ. ๒๕๔๗ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบรุ ี แต่เพยี งสงั เขปดงั น้ี ถวายปรญิ ญาครศุ าสตรดษุ ฎีบณั ฑิตกิตติมศกั ดิ์ สาขาการบรหิ ารการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ มหาวิทยาลัยราชภฏั มหาสารคาม ถวายปริญญาครุศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑิตกติ ตมิ ศกั ด์ิ สาขาการบรหิ ารการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๔ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏภูเก็ต ถวายปริญญาครุศาสตรดษุ ฎีบัณฑติ กิตติมศกั ดิ์ สาขาการบริหารการศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๖ มหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวิทยาลยั ถวายปรญิ ญาศาสนศาสตรดษุ ฎบี ณั ฑติ กติ ตมิ ศกั ด์ิ สาขาวชิ าพทุ ธศาสนศ์ กึ ษา “...เจ้าพระคณุ สมเด็จพระญาณสงั วร สมเดจ็ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ...สาธุ...ทรงเปน็ พทุ ธศราพกผทู้ รงเถรธรรม จ�ำ เรญิ ในสมณคณุ านคุ ณุ วฒุ ิ มธี รรมกิ วราภรณอ์ นั พสิ ทุ ธ์ิ เจ้าพระคุณสมเด็จฯผดุ ผอ่ งใสประดับไตรทวาร ทรงสงั วรในญาณเชี่ยวชาญในธรรม ปรีชาเลศิ ล�ำ้ คำ�มคธและสยามพากษ์ รหู้ ลักหลากวากยสมั พันธ์ ทรงสรรคำ�ใชแ้ ต่ท่งี า่ ย ที่เหมาะ ธรรมกถาไพเราะ สมควรยง่ิ แล้วทง้ั เบอ้ื งตน้ ในทา่ มกลาง และบน้ั ปลาย พระปยิ วาจาสงั ฆราชาธบิ ายแจม่ แจง้ หมดจด รนิ รส แกค่ ำ�ประกาศยกยอ่ งพระธรรมแสดง เปน็ แสงสอ่ งใจเวไนยบคุ คลทส่ี ดบั ใหบ้ งั เกดิ ความสงบระงบั สะอาด สวา่ ง พระกติ ติคณุ เหล่านัน้กระจ่างแจง้ แจม่ ใสในพระสทั ธรรม...” 307
สิ้นพร~~ะชนม์
ในวันเวลาที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสงั ฆปริณายกนั้น ทรงมพี ระชนมายุ ๗๕ พรรษาแล้ว หากจะกลา่ วถึงปุถุชนท่วั ไป ก็ต้องเรยี กวา่ อยู่ ในวัยที่เป็นผู้อาวุโสยิ่ง สมควรที่จะผ่อนพักจากหน้าที่การงาน ทง้ั หลาย และอยทู่ า่ มกลางการดแู ลของผทู้ ใ่ี กลช้ ดิ แตด่ ว้ ยพระฐานะ ทท่ี รงเปน็ สมเดจ็ พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก นบั ตง้ั แต่ วนิ าทที ท่ี รงรบั สถาปนาใหท้ รงด�ำ รงต�ำ แหนง่ ดงั กลา่ ว พระภารกจิ และงานมากมายเหนือคณานับของพระศาสนาก็หลั่งไหลมาสู่ ความรับผิดชอบของพระองค์ แต่ละวัน ๆ ที่ผ่านไปต้องทรง พระอตุ สาหะปฏบิ ตั งิ านทท่ี รงรบั ผดิ ชอบจนเตม็ พระก�ำ ลงั อกี ทง้ั ในส่วนพระองคเ์ องกย็ งั ทรงมากดว้ ยพระเมตตา ไม่วา่ ใครก็ตาม มาจากสารทศิ ใดก็ตาม หากหวงั จะพ่งึ พระบารมี ขอพระเมตตา ปกแผ่เหนือเศียรเกล้าแลว้ เปน็ อันว่า ไมเ่ คยมีใครผดิ หวังเลยสกั รายเดยี ว310
แตพ่ รอ้ มกนั นน้ั กย็ งั ทรงเครง่ ครดั ในสมณวตั ร พระกรณยี กจิประจ�ำ วนั ที่ทรงปฏิบัติอย่าง “พระรูปหน่ึง” กไ็ มท่ รงขาดตกบกพร่อง ดังนนั้ จึงไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ ยง่ิ นานวนั ทท่ี รงสถติอยใู่ นต�ำ แหนง่ สกลมหาสงั ฆปรณิ ายก กย็ งั ไมเ่ หน็ วแ่ี วววา่ จะทรงลดหยอ่ นผอ่ นปรนพระกรณียกจิ และศาสนกิจไปได้อยา่ งไร 311
อยา่ งไรก็ดี เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ก็ยังทรงเป็นพระรูปหนงึ่ ทีไ่ ม่อาจ เป็นประจ�ำ คอื เสดจ็ กลบั มาท่วี ดั บวรนิเวศวหิ าร เพือ่ สดับ หนพี ้นไดจ้ ากความจริงของธรรมชาติ เมอื่ ทรงเจรญิ พระชนมายมุ ากขนึ้ พระปาตโิ มกข์ที่ในพระอโุ บสถ ทุกวันพระขนึ้ ๑๕ ค�ำ่ และ พระสขุ ภาพโดยทว่ั ไปกถ็ ดถอยลงเปน็ ธรรมดา คณะแพทยจ์ งึ ไดก้ ราบทลู แรม ๑๕ ค�ำ่ นอกจากนั้น ในวาระวันคล้ายวันประสูตทิ ี่ เชญิ เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ให้ไปประทับรกั ษาพระองค์ ณ ตึกวชิรญาณ ๓ ตุลาคมของทุกปี ก็ทรงพระเมตตาเสด็จออกจาก สามัคคีพยาบาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตง้ั แต่วันที่ โรงพยาบาลมาเพอ่ื ใหพ้ ทุ ธศาสนกิ ชนทว่ั ไปเฝา้ ถวายสกั การะ ๒๐ กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ เปน็ ต้นมา เวลาน้ันพระชนมายุได้ ๘๗ ทหี่ ้องประชุมสภาการศกึ ษามหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั ภายใน พรรษาแลว้ ในระยะแรกทป่ี ระทับ ณ โรงพยาบาลยงั มิใช่เปน็ การประทบั บรเิ วณวดั บวรนเิ วศวหิ าร จนกระทง่ั พระสขุ ภาพพลานามยั อย่างถาวรตลอดเวลา หากแต่ยังเสด็จไปทรงปฏิบัติพระศาสนกิจตาม เสอ่ื มถอยลงมากขน้ึ ไมเ่ ปน็ การสะดวกและปลอดภยั ทจ่ี ะ ทม่ี ีผกู้ ราบทูลเชญิ ในท่ีตา่ ง ๆ ทงั้ ใกลแ้ ละไกลเป็นครั้งคราว บางคร้ังก็ เสด็จออกภายนอกโรงพยาบาลแล้ว คณะแพทย์จึงได้ เสด็จกลบั มาประทบั ณ วดั บวรนเิ วศวหิ าร ๒ - ๓ วนั แลว้ กเ็ สด็จกลบั กราบทูลขอให้ทรงงดการเสด็จออกนอกสถานที่ต้ังแต่ ไปประทับที่โรงพยาบาลใหม่อีกครั้งหนึ่ง พระศาสนกิจที่ทรงปฏิบัติ พ.ศ. ๒๕๕๐ เปน็ ต้นมา312
313
พ ร ะ ม ห า ก รุ ณ า ธิ คุ ณ ๑ ๒ ในระหวา่ งทเี่ จา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ประทับรักษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์นนั้ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั และสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯ พระบรมราชินนี าถ ได้เสดจ็ พระราชด�ำ เนินทรงเยย่ี มพระอาการหลายครง้ั314
๓๔ ๑ เมอ่ื วนั ที่ ๒๘ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๔๕ ๒ เม่ือวันท่ี ๒๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ๓ เม่อื วันท่ี ๑๐ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ๔ เม่อื วันท่ี ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ 315
บางคราวก็ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ พระราชด�ำ เนิน แทนพระองคท์ รงเยี่ยมพระอาการ เสด็จพระราชดำ�เนินมาทรงถวายสักการะ เนื่องใน วันคล้ายวันพระราชสมภพ และทรงเยี่ยมพระอาการ เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๕ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จมาทรงถวายสักการะ และทรงเยี่ยมพระอาการ เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๑316
นอกจากนย้ี งั ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหอ้ งคมนตรีเชญิ แจกันดอกไมพ้ ระราชทานมาเฝ้าเยี่ยมพระอาการเป็นประจำ�ทกุ สปั ดาห์ 317
ขณะประทบั ทีโ่ รงพยาบาล ทรงงาน ณ ห้องประทับ ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บริเวณที่เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ประทบั รักษาพระองคอ์ ยู่ทีต่ ึกวชิรญาณ สามคั คพี ยาบาร ชน้ั ๖ อนั มนี ามเรยี กเปน็ พเิ ศษวา่ “ชน้ั พระมหากรณุ าธคิ ณุ ” บรเิ วณโถงด้านหนา้ เม่ือขึ้นบนั ไดหรือออกจากลฟิ ทแ์ ล้ว เป็นท่ปี ระดิษฐาน พระพทุ ธรปู องค์ใหญพ่ รอ้ มเครอ่ื งบชู าสกั การะ ถดั เขา้ ไปตอนในจงึ เปน็ หอ้ ง พักรับรองสำ�หรับผมู้ หี น้าที่ต้องปฏิบตั ิ จากน้นั จงึ เป็นหอ้ งทีป่ ระทบั ตลอด เวลาที่ประทับอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์นั้น ด้วยพระเมตตาล้นเหลือ เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ โปรดให้พุทธศาสนิกชนเขา้ เฝ้าถวายสักการะได้ทกุ วนั ในเวลาเชา้ และบา่ ย จึงปรากฏวา่ มพี ทุ ธศาสนกิ ชนเข้าเฝ้าถวายสักการะเปน็ จำ�นวนมากทุกวันมิไดข้ าด จนถงึ วาระสุดทา้ ยแหง่ พระชนมชีพ318
319
งานฉลองพระชนมายุ ๑๐๐ พรรษา ถึงวนั ที่ ๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เปน็ วาระสำ�คัญยิ่ง วนั ที่ ๓ ตลุ าคม เวลาเชา้ ๑๐.๓๐ นาฬกิ า ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้ ดว้ ยเป็นวาระครบรอบวันคลา้ ยวนั ประสูติ ๑๐๐ ปี ซง่ึ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี เสดจ็ ฯ แทนพระองคท์ รง เป็นอภิลักขิตมงคลสมัยพิเศษอันไม่เคยมีมาก่อนใน บำ�เพ็ญพระราชกุศลท่พี ระอุโบสถวดั บวรนิเวศวิหาร ครน้ั เวลา ๑๗.๓๐ นาฬิกา ประวัตศิ าสตรข์ องชาติ ที่สมเด็จพระสังฆราช สกลมหา สมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ แทนพระองค์อีก สงั ฆปรณิ ายกจะด�ำ รงพระชนมอ์ ย่ยู นื ยาวถงึ ถว้ นศตวรรษ ครัง้ หน่ึงยงั พระอุโบสถวดั พระศรรี ัตนศาสดาราม พระราชทานตงั้ สมณศกั ดิ์ ได้เชน่ นี้ รฐั บาลและประชาชนต่างร้สู ึกปีตปิ ราโมทย์และ ใหมแ่ ก่พระราชาคณะ ๒ รปู คอื ตั้งพระอนิลมาน ธมฺมสากิโย ผ้เู ปน็ พระภิกษุ รว่ มกนั จัดงานฉลองพระชนมายุ ๑๐๐ พรรษา อย่าง ชาวเนปาลวงศศ์ ากยะ และเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ได้ทรงเมตตาอุปถมั ภบ์ �ำ รงุ มา งดงามสมพระเกยี รติ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรง ชา้ นาน เปน็ พระราชาคณะทพ่ี ระศากยวงศว์ สิ ทุ ธ์ิ และตง้ั พระครอู นกุ ลู กาญจนกจิ พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้การจัดงานฉลอง (บญุ เพม่ิ อานนโฺ ท) เจา้ อาวาสวดั เทวสงั ฆาราม จงั หวดั กาญจนบรุ ี ซง่ึ เปน็ วดั ประจ�ำ พระชนมายุ ๑๐๐ พรรษา ระหว่างวนั ที่ ๑ - ๗ ตุลาคม ชาติภูมิของเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ เป็นพระราชาคณะท่ีพระกติ ตสิ วุ ัฒนาภรณ์ พ.ศ. ๒๕๕๖ อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ การจัดงานมี จากนน้ั เปน็ การเจรญิ พระพทุ ธมนต์ และเจรญิ พระพทุ ธมนตน์ วคั คหายสุ มธมั ม์ ทัง้ ทีว่ ัดบวรนิเวศวหิ าร และทีว่ ดั พระศรีรตั นศาสดาราม ตามแบบธรรมเนยี ม320
สว่ นกิจกรรมอนื่ ๆ น้นั มีตดิ ต่อกันหลายวนั เชน่ การตักบาตร นอกจากการเฉลิมฉลองโอกาสสำ�คัญในส่วนกลางแล้วพระสงฆ์ ๒๐๐ รปู ทถ่ี นนพระสเุ มรุ บรเิ วณดา้ นหนา้ วดั บวรนเิ วศวหิ าร กจิ กรรมงานฉลองพระชนั ษา ๑๐๐ ปี ของเจ้าพระคณุ สมเด็จฯนทิ รรศการ “พระชันษา ๑๐๐ ปี สดุดีพระสงั ฆบิดร” การประชุมเสวนา ยงั มที จ่ี ดั ขน้ึ ทง้ั ในสว่ นภมู ภิ าค หรอื แมแ้ ตใ่ นตา่ งประเทศ ในสว่ นพระธรรมทตู ไทย ๔ ทวปี การทรงบ�ำ เพญ็ พระกศุ ลทกั ษณิ านปุ ระทาน ภมู ภิ าคนัน้ กลา่ วไดว้ า่ หน่วยงานของรัฐ หน่วยงานส่วนทอ้ งถ่นิเปน็ การส่วนพระองคข์ องเจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ การปฏบิ ัติธรรมเป็น และหน่วยงานภาคเอกชนในจังหวัดต่าง ๆ ได้พร้อมใจกันจัดสงั ฆราชบชู า การถวายปริญญาศาสนศาสตรดุษฎบี ัณฑติ กติ ตมิ ศกั ดิ์ กจิ กรรมทห่ี ลากหลายขน้ึ ทว่ั ราชอาณาจกั ร สว่ นในตา่ งประเทศนน้ัสาขาวิชาพุทธศาสน์ศกึ ษา ของมหาวิทยาลยั มหามกฏุ ราชวิทยาลัย ท่สี มควรกล่าวถึงเป็นพิเศษคือการห้มุ ทองคำ�ฉัตรยอดพระมหาการเจริญพระพุทธมนต์ถวายเป็นพระกุศลแด่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ โพธเิ จดีย์จัดท�ำ ณ วัดมหาโพธมิ หาวิหาร พทุ ธคยา สาธารณรฐัของคณะสงฆแ์ ละองคก์ รตา่ ง ๆ รวมทง้ั การลงนามถวายพระพร ระหวา่ ง อนิ เดยี ซง่ึ ในการนค้ี ณะกรรมการของโครงการไดข้ อพระราชทานวนั ที่ ๑ - ๗ ตุลาคม ตลอดเวลาของงานเฉลมิ พระเกียรติทัง้ ๗ วนั น้ี พระมหากรุณาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายบัวยอดฉัตรพระมหามพี ุทธศาสนกิ ชนมาร่วมงานเปน็ จำ�นวนมาก เพราะตา่ งรสู้ กึ ปีตยิ นิ ดี โพธเิ จดยี ์ซงึ่ ท�ำ ดว้ ยทองค�ำ ประดับเพชรและนพรตั น์เพ่อื ทรงตง้ัท่ีได้มีส่วนรว่ มในมงคลสมยั อนั หาได้ยากยง่ิ คร้ังน้ี สัตยาธฐิ านถวายเปน็ พทุ ธบูชาดว้ ย 321
322
323
สิน้ พระชนม์ หลังจากความปลาบปลื้มยินดีท่ีได้ร่วมกันเฉลิมฉลองโอกาส ส�ำ คญั ดังกล่าวข้างต้นผา่ นพ้นไปเพยี งไม่ก่ีวัน ถึงวันที่ ๑๒ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๖ พระอาการโดยทว่ั ไปของเจา้ พระคุณสมเด็จฯ ทรดุ ลง คณะแพทย์ได้ถวายการผ่าตัดพระอันตะ (ลำ�ไส้ใหญ่) ออก แรกทีเดียวหลังการผ่าตัดพระอาการท่ัวไปเป็นที่พอใจของ คณะแพทย์ แตแ่ ล้วพอถงึ วนั ท่ี ๒๑ ตุลาคม พระอาการทวั่ ไปกลบั ทรุดลง ความดันพระโลหติ ลดลงเรอ่ื ย ๆ ทลี ะนอ้ ย จนถึงเวลาคำ่�ของวันท่ี ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จงึ ส้ินพระชนม์เมื่อเวลา ๑๙.๓๐ น. ด้วยการตดิ เชือ้ ในกระแสพระโลหิต สริ ิพระชนมายุได้ ๑๐๐ พรรษา กับ ๒๑ วัน324
หลังจากสิน้ พระชนม์แล้ว ไดม้ แี ถลงการณข์ องโรงพยาบาลจุฬาลงกรณเ์ รือ่ งการส้ินพระชนม์จากน้ันก็ได้มปี ระกาศของส�ำ นกั พระราชวัง เร่ืองการไว้ทุกข์ในพระราชสำ�นกั มกี ำ�หนด ๓๐ วนัตามมาด้วยประกาศสำ�นักนายกรัฐมนตรีให้สถานที่ราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษา ลดธงครึ่งเสา มีกำ�หนด ๓ วัน ให้ข้าราชการ ลูกจ้าง พนักงานของส่วนราชการหน่วยงานของรฐั รัฐวิสาหกจิ ไว้ทกุ ขม์ ีกำ�หนด ๑๕ วัน ค�ำ่ วนั นน้ั เอง เมอ่ื ขา่ วเรอ่ื งการสน้ิ พระชนมท์ ราบฝา่ ละอองพระบาท สมเดจ็ พระบรมโอรสาธริ าชฯสยามมกฏุ ราชกุมาร มีพระราชบณั ฑรู วา่ จะทรงส่งขา้ ราชบรพิ ารในพระองคม์ าปฏิบัตกิ ารในการเชิญพระศพจากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ไปยงั วัดบวรนิเวศวิหารใหง้ ดงามสมควรแกพ่ ระเกียรตยิ ศตลอดเวลาทป่ี ระทบั รกั ษาพระองค์ ณ โรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ไมเ่ คยแสดงพระอาการเจบ็ ปวดใหค้ ณะแพทย์ผูถ้ วายการรักษาหรือถวายการดแู ลต้องลำ�บากใจทรงอยูใ่ นพระอิริยาบถน่งิ สงบเสมือนไม่ทรงรับรู้อาการเจ็บป่วยของร่างกายคล้ายกับจะปลอ่ ยใหแ้ พทย์ได้ทำ�หนา้ ที่ดูแลร่างกายของพระองค์ไปตามความรับผิดชอบของเขาส่วนพระองค์เองกท็ รงดูแลจติของพระองค์ไปตามหนา้ ท่ขี องพระองค์เชน่ กัน ดงั นนั้ ตลอดเวลาท่ีทรงอยใู่ นความดูแลของคณะแพทย์ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ จงึไม่เคยขอ และไม่เคยขัดในส่งิ ท่คี ณะแพทย์จะปฏบิ ตั ิต่อรา่ งกายของพระองค์ จนกระทัง่ สิ้นพระชนมด์ ้วยความสงบ ทา่ มกลางความโศกาดรู ของพทุ ธศาสนิกชนชาวไทยตลอดถึงชาวต่างประเทศจ�ำ นวนมาก 325
เส้นทางกระบวนเชิญพระศพ • ออกจากโรงพยาบาลจฬุ าลงกรณ์ ทางประตดู า้ นถนนราชด�ำ ริ เลย้ี วซา้ ย ทแ่ี ยกศาลาแดง เขา้ ถนนพระรามทส่ี ่ี ขน้ึ ทางด่วนทดี่ ่านพระรามทีส่ ่ี • ลงจากทางดว่ นที่ด่านยมราช เขา้ ถนนหลานหลวง • เมอ่ื ข้ามสะพานผา่ นฟ้าลีลาศแลว้ เลี้ยวขวาเข้าถนนพระสุเมรุ เทียบ กระบวนรถส่งพระศพที่หน้าประตูวัด บวรนเิ วศวหิ ารตรงกบั พระต�ำ หนกั เพช็ ร ก�ำ ลงั พลทจ่ี ะเปน็ ผปู้ ฏบิ ตั เิ ชญิ เปลท่ี ประดิษฐานพระศพนั้นใช้กำ�ลังของ นายทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์326
รงุ่ ขน้ึ จากวนั สน้ิ พระชนม์ คอื วนั ศกุ รท์ ่ี ๒๕ ตลุ าคม • คนั ท่ี ๓, ๔, ๕ เปน็ รถยนตส์ �ำ หรบั สมเดจ็ พระวนั รตั และพระภกิ ษุพ.ศ. ๒๕๕๖ ได้เชิญพระศพจากโรงพยาบาลในเวลา สงฆจ์ ากวดั บวรนิเวศวหิ ารตามพระศพ๑๒ นาฬกิ า โดยกระบวนรถยนต์ ถดั จากรถต�ำ รวจน�ำ แลว้ • คันที่ ๖ พลอากาศโทภักดี แสงชูโต ศาสตราจารยพ์ ิเศษธงทอง• คนั ที่ ๑ เป็นรถพระประเทียบทีท่ รงใชอ้ ยู่เป็นประจำ� จนั ทรางศุ ปลดั ส�ำ นักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้เชิญเครอื่ งทองน้อยแกว้ส�ำ หรับรองนายกรฐั มนตรีพงศ์เทพ เทพกาญจนา เชญิ นายนพรตั น์ เบญจวฒั นานนั ท์ ผอู้ �ำ นวยการส�ำ นกั งานพระพทุ ธศาสนาพระพุทธรปู ประจ�ำ พระชนมวาร น�ำ พระศพ แหง่ ชาติ เป็นผู้เชิญผา้ ไตร และผอู้ ่ืนอีกสองสามคน• คนั ที่ ๒ เปน็ รถพยาบาลของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จากนน้ั ไปกม็ รี ถอกี สองสามคนั ส�ำ หรบั แพทยแ์ ละพยาบาลทไ่ี ด้ส�ำ หรบั เชญิ พระศพ สนองพระเดชพระคณุ ระหวา่ งประชวรเปน็ อนั สดุ กระบวน ผู้ทอ่ี ย่ใู นกระบวนรถเชญิ พระศพคนหนงึ่ ได้บนั ทกึ ความทรงจ�ำ เกี่ยวกบั เหตกุ ารณค์ รัง้ น้นั วา่ “สงั เกตเหน็ อากปั กริ ยิ าของผคู้ นทร่ี ายอยสู่ องขา้ งทางไดช้ ดั เจน ผคู้ นทง้ั หมดแตง่ กายไวท้ กุ ขต์ ามประเพณนี ยิ ม ทกุ ดวงหนา้มแี ตค่ วามเศรา้ สลดและรสู้ กึ สญู เสยี รว่ มกนั ตลอดเวลาทเ่ี คลอ่ื นกระบวน เจา้ หนา้ ทต่ี �ำ รวจไดป้ ดิ การจราจรตลอดทง้ั เสน้ ทางเพอ่ือ�ำ นวยความสะดวก เมอ่ื กระบวนรถผา่ นพน้ ประตขู องโรงพยาบาลแลว้ เลย้ี วขวาเขา้ ถนนราชด�ำ รมิ คี นเฝา้ อยสู่ องขา้ งทางมากมายจนตอ้ งซอ้ นกันหลายแถว ผทู้ ่ีอยูแ่ ถวหน้าต่างกม้ ลงกราบเบญจางคประดิษฐ์ขณะเมอ่ื รถทรงพระศพแลน่ ผา่ น แต่พอห่างเขตโรงพยาบาลออกไป จำ�นวนคนก็น้อยลงบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับขาดคนเสียเลยทีเดียว กระบวนรถวิ่งอย่างชา้ ๆ เพือ่ ใหผ้ คู้ นถวายสกั การะพระศพไดต้ ามความปรารถนา ขณะเมือ่ รถเชญิ พระศพข้ึนทางดว่ นท่ดี า่ นพระรามที่ส่ี เจ้าหน้าทข่ี องด่านทกุ คนไม่ได้อยู่ในตู้เก็บค่าธรรมเนียม หากแต่มายืนเข้าแถวถวายสักการะเป็นแนวอยู่ข้างทางด้านซ้ายมือ บนทางด่วนกระบวนสามารถใช้ความเรว็ ไดม้ ากขน้ึ เพราะไมม่ ผี คู้ นรายอยสู่ องขา้ งทาง จนกระทง่ั ลงจากทางดว่ นทด่ี า่ นยมราชจงึ กลบั ไปเคลอ่ื นกระบวนอยา่ งชา้ ๆเชน่ เดียวกับเมือ่ แรกออกจากโรงพยาบาล เมือ่ เข้าถนนพระสุเมรุ จำ�นวนผคู้ นกก็ ลับมาหนาตาข้นึ อกี ครง้ั หน่งึ จำ�ไดว้ า่ มีแถวนักเรียนรายทางตง้ั แต่กอ่ นถงึ แยกสะพานเฉลิมวนั ชาติ เมอ่ื ผ่านแยกดังกลา่ วไปแล้ว ผู้คนแน่นขนดั ไปหมด มีนักเรยี นนายร้อยนายเรอื นายเรอื อากาศ และนายรอ้ ยต�ำ รวจ มายนื รายแถวสลบั กนั อยตู่ ลอดสองขา้ งทาง รถของเรายง่ิ ตอ้ งวง่ิ ดว้ ยความระมดั ระวงัจนกระท่ังถึงบรเิ วณหน้าวดั บวรนเิ วศวิหาร...” 327
พธิ เี ชิญพระศพและถวายน�้ำ สรงพระศพ เมอ่ื เชญิ พระศพขน้ึ ประดษิ ฐานบนพระต�ำ หนกั เพช็ รแลว้ จากนน้ั ไปกเ็ ปน็ การถวายน�ำ้ สรงพระศพของพระเถระและขา้ ราชการผู้ใหญท่ ง้ั ปวง ขณะที่ทางฝ่ายอาคารมนุษยนาควทิ ยาทานซ่งึ อยู่อีกด้านหนึ่งของวดั บวรนิเวศวหิ าร ก็เปดิ ใหป้ ระชาชนถวายนำ้�สรงหน้าพระรปู ท่ปี ระดิษฐาน อยู่ที่โถงกลางของอาคารดังกล่าวได้ จนกระทั่งเวลาประมาณ ๑๖.๓๐ น. ทางด้านตำ�หนักเพ็ชรจึงยุติการถวายน้ำ�สรงพระศพ เพื่อให้ เจ้าพนกั งานตระเตรยี มความพร้อมส�ำ หรับการเสดจ็ พระราชด�ำ เนนิ มาพระราชทานนำ้�สรงพระศพ ครั้นได้เวลา ๑๗ นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามบรมราชกุมาร เสดจ็ พระราชดำ�เนนิ แทนพระองคท์ รงปฏิบัติพระราชกรณยี กจิ พระราชทานน้ำ�สรงพระศพ การน้ี สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสดจ็ พระราชด�ำ เนนิ ดว้ ย328
พธิ ีบำ�เพญ็ พระราชกุศล พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหม้ พี ระพธิ ธี รรมสวดพระอภธิ รรมถวายพระศพทง้ั กลางวนั และกลางคนื พรอ้ มทงั้ มปี ระโคมย�่ำ ยามถวายพระศพ เปน็ เวลา ๗ วนั ภายหลงั จากน้นั ไดท้ รงพระกรณุ าโปรดเกล้าโปรดกระหมอ่ มให้มีพธิ ีบ�ำ เพ็ญพระราชกุศลสตั ตมวาร (๗ วัน ในวนั ท ี่ ๓๐ - ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๖) ปญั ญาสมวาร (๕๐ วนั ในวนั ท่ี ๑๑ - ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๖) สตมวาร(๑๐๐ วัน ในวนั ท ี่ ๓๐ - ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๗) และทุกวาระที่ครบรอบปีส้นิ พระชนมพ์ ระราชทานตามพระเกยี รตยิ ศสำ�หรับสมเด็จพระสงั ฆราช จนถงึ วาระทจ่ี ะออกพระเมรุ พระราชทานเพลงิ พระศพ วนั ที่ ๑๖ เดอื นธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ 329
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369