แผนการจัดประสบการณภ์ าษาไทย - ท้องถ่นิ (ม้ง) ระดับปฐมวยั ชัน้ อนุบาลปที ่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ สัปดาหท์ ี่ ๑ หนว่ ย ขยะ (สง่ิ แวดล้อมในชมุ ชน) วนั อังคาร ท ่ี เดอื น พ.ศ. ตวั ชว้ี ัด สาระท่คี วรเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การวดั ผลประเมินผล มาตรฐานที่ ๑ ตัวบง่ ชที้ ี่ ๑.๓ สขุ ศกึ ษา (๒๐ นาที) ๑. เด็กเคล่อื นไหวรา่ งกายตามจินตนาการประกอบเพลง “ขยะ” - ไมก้ วาดทาง เนน้ ความถกู ตอ้ ง ตัวชี้วัดทเ่ี น้นความหมาย - การเคล่ือนไหว ๒. เด็กเลา่ ประสบการณก์ ารดแู ลรักษาความสะอาดบริเวณ มะพร้าว - สงั เกตการปฏิบตั ติ น - บอกวิธีรักษาความสะอาดของ รา่ งกาย โรงเรยี น - ถังขยะ ในการรักษาความสะอาด โรงเรียน ตามจนิ ตนาการ ๓. เด็กและครรู ่วมกนั สนทนาถึงการดูแลรกั ษาความสะอาด หอ้ งเรียนและบรเิ วณโรงเรยี น มาตรฐานที่ ๒ ตัวบ่งชี้ท่ี ๒.๑ - การดแู ลรกั ษา บริเวณโรงเรียน เน้นความหมาย ตวั ชว้ี ดั ทีเ่ นน้ ความถูกต้อง ความสะอาด ๔. เด็กลงมือปฏิบัตจิ ริงในการท�ำความสะอาดบรเิ วณโรงเรียน - สงั เกตการเคลื่อนไหว - เคล่ือนไหวรา่ งกายพนื้ ฐาน บริเวณโรงเรยี น โดยการเก็บขยะ ร่างกายตามจนิ ตนาการ มาตรฐานท่ี ๔ ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๔.๑ เพลงได้ ตวั ชวี้ ดั ที่เน้นความหมาย - เคลอื่ นไหวรา่ งกายประกอบเพลงได้ มาตรฐานท่ี ๑๒ ตัวบ่งชท้ี ี่ ๑๒.๑ ฟังพดู ภาษาไทย ๓. ตบมอื , ตบตกั , ดีดนว้ิ ชุดค�ำสั่ง เน้นความถกู ต้อง ตัวช้ีวัดท่ีเน้นความถกู ต้อง (L๒) ขยาย - ยนื ตบมือ - ยืนตบตกั - ยนื ดดี นวิ้ - น่งั ตบมือ - - ตบมือ - สังเกตการฟังแลว้ ปฏิบตั ิ - กระตือรอื ร้นในการฟังแลว้ น่งั ตบตกั - น่ังดดี นวิ้ - ตบตัก (๑๕ นาท)ี - ดีดนว้ิ ตามคำ� สง่ั ทง่ี ่ายเป็น ปฏิบัติตามคำ� สงั่ ที่ง่ายเป็น ภาษาไทยได้อยา่ งม่ันใจ ภาษาไทยไดอ้ ยา่ งมนั่ ใจ และถกู ตอ้ ง และถกู ตอ้ ง มาตรฐานที่ ๙ ตวั บง่ ชีท้ ่ี ๙.๑ ภาษาม้ง (๓๐ นาที) เรอื่ งเล่า - เร่ืองเลา่ เนน้ ความหมาย ตัวช้วี ัดที่เน้นความหมาย - เรอ่ื งเลา่ ๑. ครูกลา่ วถึงหนว่ ยการเรยี นร้ปู ระจำ� สปั ดาห์ และเชอ่ื มโยงสู่ (ผ้นู �ำชมุ ชน) - สังเกตการเลา่ เรอ่ื งจาก - เลา่ เร่อื งจากประสบการณ์ (ผนู้ �ำชุมชน) เรอื่ งเลา่ ประสบการณข์ องตนเอง ของตนเองได้ ๒. อา่ นเรอื่ งเล่าขนาดสั้นใหเ้ ด็กฟังอยา่ งนา่ สนใจ - สังเกตจากการตอบค�ำถาม ๓. ในขณะทีอ่ ่าน หยุด ๓ - ๔ ครง้ั เพอ่ื ถามเดก็ ว่าคิดวา่ จะเกดิ ของนกั เรียน เหตกุ ารณ์อะไรตอ่ ไป 143 ๔. หลงั จากท่อี ่านเรือ่ งจบแลว้ ใหเ้ ด็กเล่าเร่อื งหรอื บางส่วน ของเร่อื งโดยใช้ค�ำพูดของตนเอง ๕. เดก็ แบ่งเปน็ ทมี และใหแ้ ต่ละทีมเปล่ยี นตอนจบของเร่ือง จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะทีมออกมาเล่าเรอื่ งทเี่ ปล่ียนตอนจบให้ เพ่อื นฟงั
144 แผนการจัดประสบการณภ์ าษาไทย - ท้องถิน่ (มง้ ) ระดบั ปฐมวยั ชั้นอนุบาลปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ สปั ดาหท์ ่ี ๑ หนว่ ย ขยะ (ส่งิ แวดล้อมในชุมชน) วันองั คาร ท ่ี เดือน พ.ศ. ตวั ชวี้ ดั สาระทคี่ วรเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล มาตรฐานที่ ๙ ตัวบง่ ช้ีที่ ๙.๑ เตรียมอ่านเขียน ๑. หลับตา (นักเรยี นก้มหัวหลบั ตา ครูบอกใหน้ ักเรยี นเงียบกริบ - ดนิ สอ เนน้ ความหมาย ตัวช้วี ดั ท่เี น้นความหมาย ภาษาม้ง (L๑) แล้วฟังเสียง จากน้ันครนู ับในใจถงึ ๖๐ แล้วบอกวา่ “เอาหละ - สเี ทียน - สงั เกตการสนทนาโตต้ อบ - สนทนาโต้ตอบโดยใช้ภาษา (๒๐ นาที) ลืมตาได”้ นกั เรยี นลมื ตา ครถู ามวา่ “นกั เรียนไดย้ ินอะไร” - กระดาษ ท่ี ๑ (ภาษามง้ ) นักเรียนตอบครูกลา่ วชม และใหก้ �ำลังใจแก่นักเรียนที่ตอบ โดยใชภ้ าษาท่ี ๑ (ภาษามง้ ) - เล่าเรอื่ งจากภาพเปน็ ภาษา ทกุ คน - สงั เกตการเขยี นเร่ือง ท่ี ๑ (ภาษามง้ ) มาตรฐานที่ ๑๐ ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๑๐.๑ ๒. การเขียนเชงิ สร้างสรรค์ (เชอื่ มโยงมาจากกิจกรรมเรอื่ งเล่า และการเล่าเรือ่ งท่ีวาด ตัวชวี้ ัดที่เนน้ ความหมาย วิชาภาษามง้ เนน้ ความถกู ตอ้ ง - สังเกตการแยกแยะเสียง - การแยกแยะเสียง ได้ถกู ตอ้ ง มาตรฐานที่ ๗ ตัวบง่ ชีท้ ่ี ๗.๑ วิถชี ีวติ ชุมชน ๑. ครถู ามเด็กวา่ “กอ่ นทเ่ี ราจะใชถ้ ุงพลาสติก เด็ก ๆ คดิ วา่ - สอ่ื ของจริง เน้นความหมาย ตัวชว้ี ดั ท่ีเน้นความหมาย และส่งิ แวดลอ้ ม เราเคยใชอ้ ะไรมากอ่ น” เชน่ ช้อน - บอกวธิ ีดแู ลรักษา - ดูแลรกั ษาส่ิงแวดลอ้ มได้ (๔๐ นาท)ี ๒. ครูน�ำสื่อของจริงมาใหเ้ ดก็ ดู เชน่ ช้อน ทพั พี ท่ีทำ� จากไม้ไผ่ ทพั พี ท่ที ำ� ส่งิ แวดล้อมได้ ตัวชีว้ ัดทเี่ นน้ ความถกู ต้อง - การแยกขยะ ใบตอง ฯลฯ จากไมไ้ ผ่ เน้นความถกู ต้อง - บอกวิธดี แู ลรักษาสงิ่ แวดล้อมได้ ๓. ครูและเด็กสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั วิธใี ชส้ ิง่ ของทีค่ รนู ำ� มาให้ ใบตอง ฯลฯ - ดแู ลรักษาสิง่ แวดลอ้ มได้ มาตรฐานที่ ๑๐ ตัวบง่ ชี้ที่ ๑๐.๑ เด็กดู - ถงั ขยะ ๒ ถัง - แยะประเภทขยะได้ ตัวช้ีวดั ทีเ่ นน้ ความถกู ต้อง ๔. ครูพาเดก็ ออกไปเกบ็ ขยะในบริเวณโรงเรยี น โดยน�ำถังขยะ - แยกประเภทของสงิ่ ต่าง ๆ ได้ มาให้เด็ก ๒ ถัง ๕. ครใู หเ้ ด็กนำ� ขยะท่ีเก็บมาทิง้ ในถงั ขยะท่คี รูจัดไว้ให้ โดยแยกเป็นพลาสตกิ และใบไม้
แผนการจัดประสบการณภ์ าษาไทย - ทอ้ งถิ่น (มง้ ) ระดับปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีท่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๒ สปั ดาหท์ ่ี ๑ หน่วย ขยะ (สงิ่ แวดลอ้ มในชุมชน) วันองั คาร ท ี่ เดอื น พ.ศ. ตวั ชว้ี ัด สาระท่คี วรเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การวดั ผลประเมินผล มาตรฐานที่ ๘ ตัวบง่ ชที้ ่ี ๘.๓ พลศกึ ษาและ เครือ่ งเลน่ สนาม - เครอื่ งเล่น เนน้ ความหมาย ตวั ชวี้ ดั ทเี่ น้นความหมาย การละเล่นพ้ืนบ้าน - เด็ก และครูรว่ มกันสร้างข้อตกลงในการเลน่ สนาม - สังเกตการสรา้ งขอ้ ตกลง - สร้างข้อตกลงรว่ มกนั (๓๐ นาท)ี - เด็กเล่นเครื่องเล่นสนามอยา่ งระมดั ระวงั ตัวชี้วัดท่ีเนน้ ความถูกตอ้ ง - เครือ่ งเล่นสนาม - ทำ� ความสะอาดร่างกายก่อนกลับเขา้ หอ้ งเรียน รว่ มกัน - ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลงรว่ มกนั - สังเกตการเลน่ และทำ� - เกบ็ ของเล่นเขา้ ทไี่ ดต้ ามลำ� ดบั ไดถ้ ูกต้อง กจิ กรรมรว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้อยา่ ง มาตรฐานท่ี ๘ ตวั บ่งชีท้ ่ี ๘.๑ มคี วามสุข ตัวช้วี ดั ทเ่ี น้นความถูกตอ้ ง เน้นความถกู ต้อง - เล่นและทำ� กิจกรรมร่วมกัน - สังเกตการเกบ็ ของเล่นเข้าท่ี กบั ผู้อนื่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ ตามลำ� ดับไดถ้ ูกตอ้ ง - สังเกตการปฏิบัติตาม ขอ้ ตกลงร่วมกัน มาตรฐานที่ ๑๒ ตวั บง่ ช้ที ่ี ๑๒.๑ ฟังพูดภาษาไทย ๔. เดิน หยดุ หมนุ ตวั เน้นความถูกตอ้ ง ตัวชว้ี ดั ที่เน้นความถกู ต้อง (L๒) ขยาย - สงั เกตการฟงั แลว้ ปฏิบัติ - กระตือรอื รน้ ในการฟงั แล้ว กระโดดตบมอื เดินตบตัก น่งั สะบัดมอื ฯลฯ (๑๕ นาท)ี ตามคำ� สั่งที่งา่ ย ปฏิบตั ิตามคำ� สง่ั ที่ง่ายเป็น เป็นภาษาไทยได้อย่างม่ันใจ ภาษาไทยไดอ้ ยา่ งมน่ั ใจและถกู ตอ้ ง และถูกตอ้ ง มาตรฐานท่ี ๑๐ ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๑๐.๑ คณติ ศาสตร์ + เปรยี บเทียบจ�ำนวนมากกว่า/น้อยกวา่ - ขยะ เน้นความถกู ตอ้ ง ตวั ชว้ี ดั ทีเ่ น้นความถกู ตอ้ ง เกมการศึกษา ๑. แบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น ๔ กลมุ่ ให้แต่ละกลุม่ ออกไปเกบ็ ขยะ - เกมจบั คู่ - สงั เกตการเปรยี บเทียบ - สังเกตการเปรียบเทยี บจ�ำนวน (๓๐ นาที) รอบอาคารเรียน ภาพเหมือน จ�ำนวนมากกวา่ /นอ้ ยกว่า - จบั คู่ความสมั พันธไ์ ด้ - การเปรียบเทยี บ ๒. ใหเ้ ด็กนำ� ขยะทไี่ ดใ้ หเ้ พ่อื นดู - สังเกตการเล่นเกมจับคู่ มากกว่า/น้อยกวา่ ๓. เดก็ ชว่ ยกันบอกวา่ ขยะกล่มุ ไหนมาก กลมุ่ ไหนน้อย ภาพเหมอื น - เกมจบั ค่ภู าพเหมอื น ๔. ครูและเดก็ ชว่ ยกันนับขยะของแต่ละกลุ่ม และร่วมกันสรุป จ�ำนวนขยะว่ากลุ่มไหนมากกว่า กลมุ่ ไหนนอ้ ยกว่า ๕. เกมจับค่ภู าพเหมอื น 145
146 แผนการจัดประสบการณ์ภาษาไทย - ท้องถ่ิน (มง้ ) ระดบั ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าลปี ที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ สปั ดาห์ท่ี ๑ หนว่ ย ขยะ (สง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชน) วันพธุ ท ่ี เดือน พ.ศ. ตัวชวี้ ัด สาระท่ีควรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การวดั ผลประเมินผล ชดุ ค�ำสั่ง เนน้ ความถกู ต้อง มาตรฐานท่ี ๙ ตัวบง่ ชีท้ ี่ ๙.๑ ฟงั พดู ภาษาไทย ๕. เดินไปข้างหนา้ เดินถอยหลงั เดินอยกู่ ับที่ - เดินไป - สังเกตการฟังแลว้ ปฏิบัติ ตัวชวี้ ัดท่เี น้นความถูกต้อง (L๒) ขยาย - กระตอื รอื รน้ ในการฟงั แล้ว ข้างหน้า ตามค�ำสั่งทีง่ า่ ย (๑๕ นาท)ี ตบมือเดินถอยหลัง ก�ำมอื เดินอยู่กับที่ ดีดนิว้ เดนิ หนา้ ฯลฯ - เดนิ ถอยหลงั เปน็ ภาษาไทยได้อยา่ งมัน่ ใจ ปฏบิ ตั ิตามคำ� สง่ั ที่งา่ ยเปน็ - เดินอยกู่ บั ที่ และถูกต้อง ภาษาไทยไดอ้ ย่างม่นั ใจ และถูกต้อง อุปกรณ์ เนน้ ความหมาย ท�ำความสะอาด - สงั เกตการบอกวิธีดแู ลรกั ษา มาตรฐานที่ ๑ ตัวบ่งช้ีที่ ๑.๓ สุขศึกษา (๒๐ นาท)ี ๑. เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายตามจนิ ตนาการ ตัวชว้ี ัดทเ่ี นน้ ความหมาย - เคล่ือนไหวร่างกาย ๒. เด็กเลา่ ประสบการณ์เก่ียวกับการดแู ลรกั ษาอปุ กรณ์ อุปกรณท์ �ำความสะอาด - รักษาความสะอาดของห้องเรียน ตามจินตนาการ ทำ� ความสะอาด - สังเกตการเคลอ่ื นไหว มาตรฐานท่ี ๔ ตัวบ่งช้ีที่ ๔.๑ - การดแู ลรักษา ๓. เดก็ และครรู ่วมกนั สนทนาถงึ การดูแลรักษาอปุ กรณ์ ตัวชวี้ ัดท่เี นน้ ความหมาย อุปกรณ์ ท�ำความสะอาด ร่างกายตามจนิ ตนาการ - เคลือ่ นไหวร่างกายพน้ื ฐาน ท�ำความสะอาด
แผนการจัดประสบการณ์ภาษาไทย - ท้องถ่นิ (ม้ง) ระดบั ปฐมวัย ชัน้ อนบุ าลปี ที่ ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ สปั ดาหท์ ่ี ๑ หนว่ ย ขยะ (ส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชน) วนั พุธ ที่ เดือน พ.ศ. ตวั ช้วี ัด สาระทคี่ วรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล มาตรฐานท่ี ๙ ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๙.๑ ภาษาม้ง (๓๐ นาท)ี เร่ือง จากประสบการณ์ - ถงุ ขนม เนน้ ความหมาย ตัวชว้ี ัดท่เี นน้ ความหมาย - เรอ่ื งจากประสบการณ์ ๑. ครแู นะนำ� หนว่ ยการเรยี นร้ปู ระจ�ำสปั ดาห์ - ถงั ขยะ - สังเกตการเล่าเรอื่ ง - เล่าเร่อื งจากประสบการณ์ หนูนอ้ ยนักเกบ็ ขยะ ๒. เดก็ และครูรว่ มกนั ทำ� กิจกรรมเรื่องจากประสบการณ์ (โดยแบ่งกล่มุ เดก็ ออกเป็น ๒ กลมุ่ ยอ่ ย กลุม่ ละ ๕ คน จากประสบการณ์ ของตนเองได้ ใหเ้ ดก็ ยืนเรียงแถว เรยี ง ๑ แบ่งออกเปน็ ๒ แถว แบง่ ชื่อทีม ของตนเอง ทมี ที่ ๑ ทมี ที่ ๒ ครูบอกการเลน่ และสาธิตการเลน่ โดยให้เดก็ ฟงั สัญญาณจากครู และใหว้ ิ่งไปเก็บถงุ ขนมไปทง้ิ ขยะ ถ้าแถวไหนเกบ็ ไปทงิ้ ถังขยะจ�ำนวนเดก็ ในแถวว่ิงไปเกบ็ ท้ิง หมดก่อน ฝา่ ยน้ัน ชนะ) ๓. เดก็ พูดคยุ เกี่ยวกบั ประสบการณ์นน้ั ด้วยกัน ๔. ครชู ว่ ยเดก็ แตง่ เรือ่ งทีเ่ กีย่ วกับประสบการณน์ ้ัน ๕. เด็กเลา่ เรอ่ื ง และครูเขยี นเนอื้ เร่ืองบนกระดานดำ� ๖. เด็กเลือกชอื่ เรอื่ งท่ีเหมาะสมกับเนอ้ื เร่ืองพร้อมกับครเู ขยี น ชอื่ เร่อื งบนกระดานดำ� ๗. ครอู า่ นเรอื่ งให้เดก็ ฟงั โดยช้ใี หต้ รงกบั คำ� ทีเ่ ขียนบนกระดานด�ำ มาตรฐานที่ ๙ ตัวชวี้ ัดท่ี ๙.๑ เตรยี มอ่านและเขยี น ๑. จับคู่บัตรภาพทเ่ี หมอื นกัน - บัตรภาพ เน้นความหมาย ตวั ช้ีวัดท่เี นน้ ความถูกตอ้ ง ภาษาม้ง การลากเสน้ ตรง - แบบฝกึ เส้น - สังเกตการสนทนาโตต้ อบ - วาดภาพตามเสน้ ทก่ี �ำหนดได้ (L๑) - เส้นตรงส้ัน เส้นตรงยาว - ขีดเขียนเส้นไดอ้ ยา่ งมีระเบยี บ (๒๐ นาที) ตรงส้ัน/ยาว โดยใช้ภาษาท่ี ๑ (ภาษามง้ ) เน้นความถูกตอ้ ง สวยงาม - สงั เกตการวาดภาพ มาตรฐานที่ ๒ ตวั บ่งช้ีท่ี ๒.๒ ตามเสน้ ที่ก�ำหนดได้ ตัวช้ีวดั เนน้ ความถูกตอ้ ง - สงั เกตการขีดเขียนเสน้ ได้ - วาดภาพตามเสน้ ทกี่ �ำหนได้ อยา่ งมรี ะเบยี บสวยงาม - สังเกตการแยกแยะเสียง 147 ได้ถูกต้อง
148 แผนการจัดประสบการณ์ภาษาไทย - ท้องถ่ิน (มง้ ) ระดบั ปฐมวยั ชัน้ อนบุ าลปที ี่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ สัปดาหท์ ี่ ๑ หนว่ ย ขยะ (สง่ิ แวดล้อมในชุมชน) วันพุธ ที ่ เดอื น พ.ศ. ตวั ช้วี ัด สาระที่ควรเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล มาตรฐานที่ ๙ ตวั บ่งชท้ี ่ี ๙.๑ ศลิ ปวฒั นธรรม ๑. ครเู ตรยี มภาพโครงรา่ งของชุมชน ๑ ภาพ ตอ่ เดก็ ๘ คน - กระดาษบร๊ฟู เนน้ ความหมาย ตัวช้วี ดั ทีเ่ นน้ ความหมาย - สีเทยี น - เล่าเรื่องจากประสบการณ์ - เลา่ เรอ่ื งจากประสบการณ์ (๔๐ นาที) ลงในกระดาษบรฟู๊ - เศษวัสดุ ของตนเองได้ - การตกแตง่ ภาพ ๒. ครูใหเ้ ดก็ ชว่ ยระบายสี จากนนั้ ให้เดก็ ออกมาเล่าเรือ่ ง ของตนเองได้ เชน่ - สนทนาโตต้ อบ โดยใชภ้ าษา - สนทนาโต้ตอบโดยใชภ้ าษา จากเศษวสั ดุ จากภาพท่ีระบายสีแล้ว พลาสตกิ ท่ี ๑ (ภาษามง้ ) ๓. ครนู �ำเศษวัสดุ เช่น พลาสติก ใบไม้ ทค่ี รูตดั เปน็ ชิ้นเลก็ ๆ ใบไม้ ท่คี รู - สงั เกตการแตง่ ภาพจาก ที่ ๑ (ภาษามง้ ) พลศึกษาและ ๔. ใหเ้ ด็กนำ� วัสดมุ าตกแตง่ รูปภาพทคี่ รูเตรยี มไวใ้ ห้ตามจนิ ตนาการ ตดั เป็นชิ้น เศษวัสดุ มาตรฐานที่ ๔ ตวั บง่ ชี้ที่ ๔.๑ การละเล่นพืน้ บ้าน ๕. เลา่ เรอื่ งจากผลงาน และเปรียบเทียบความแตกตา่ ง เลก็ ๆ ตัวชี้วัดท่ีเน้นความหมาย - การตกแตง่ ภาพจากเศษวัสดุ (๓๐ นาท)ี ของรปู ภาพกอ่ น - หลงั - มมุ การเรียนรู้ เนน้ ความหมาย มาตรฐานที่ ๘ ตวั บ่งชี้ท่ี ๘.๓ - เลน่ อสิ ระตามมุม ในหอ้ งเรียน - สังเกตการสร้างข้อตกลง ตวั ชีว้ ดั ท่ีเน้นความหมาย ๑. เลน่ อิสระตามมุม ร่วมกัน - สร้างขอ้ ตกลงรว่ มกัน - เดก็ และครูร่วมกนั สร้างข้อตกลงในการเลน่ - สังเกตการเลน่ และ ตวั ชว้ี ดั ทเี่ นน้ ความถูกตอ้ ง - เดก็ เล่นอิสระตามมุมตามความสนใจ ทำ� กจิ กรรมรว่ มกับผู้อื่น - ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงรว่ มกัน - เด็กร่วมกนั จัดเกบ็ ของเลน่ เข้าที่อย่างเปน็ ระเบียบ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ - เก็บของเลน่ เขา้ ท่ไี ดต้ ามลำ� ดับ เน้นความถูกตอ้ ง - สงั เกตการเกบ็ ของเล่น ได้ถูกตอ้ ง เขา้ ท่ีตามลำ� ดับได้ถูกต้อง - เล่นและท�ำกิจกรรมร่วมกับ - สังเกตการปฏบิ ตั ติ าม ขอ้ ตกลงร่วมกัน ผูอ้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ มาตรฐานท่ี ๘ ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๘.๑ ตัวชว้ี ัดที่เนน้ ความหมาย - เล่นและท�ำกกิ รรมรวมกบั ผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
แผนการจดั ประสบการณ์ภาษาไทย - ทอ้ งถ่ิน (ม้ง) ระดับปฐมวยั ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ สัปดาห์ท่ี ๑ หนว่ ย ขยะ (สง่ิ แวดลอ้ มในชุมชน) วนั พุธ ท ่ี เดือน พ.ศ. ตวั ชี้วัด สาระท่ีควรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ผล มาตรฐานท่ี ๑๒ ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๑๒.๑ ฟังพูดภาษาไทย ๖. นอนตะแคง นอนคว�่ำ นอนหงาย ชดุ ค�ำศพั ท์ เน้นความถกู ต้อง ตัวชีว้ ดั ทเ่ี นน้ ความถูกตอ้ ง (L๒) ขยาย - นอนตะแคง - สังเกตการฟงั แลว้ ปฏิบัติ - กระตอื รอื ร้นในการฟงั แล้ว - นอนคว่�ำ ตามคำ� ส่งั ท่งี า่ ย (๑๕ นาท)ี นอนตะแคงสะบดั มอื นอนคว่ำ� ดดี นวิ้ นอนหงายตบมือ - นอนหงาย เป็นภาษาไทยได้อยา่ งมน่ั ใจ ปฏิบัติตามค�ำสง่ั ทีง่ า่ ยเปน็ ภาษาไทยไดอ้ ย่างมั่นใจ และถกู ต้อง และถูกต้อง มาตรฐานที่ ๑๐ ตัวบ่งช้ีท่ี ๑๐.๑ คณติ ศาสตร์ + การเปรียบเทยี บขนาดเล็ก - ใหญ่ - ก้อนหนิ เน้นความถูกต้อง ตวั ชว้ี ดั ทเ่ี น้นความถูกต้อง เกมการศึกษา ๑. ครูน�ำกอ้ นหินขนาดต่าง ๆ มาใหเ้ ดก็ ดู - เกมจับคภู่ าพ - สังเกตการเปรยี บเทยี บ - สงั เกตการเปรียบเทียบขนาดได้ (๓๐ นาที) ๒. ครหู ยบิ ก้อนหินขนาดเล็กขนึ้ มาแลว้ ถามเดก็ ว่ามีขนาดเลก็ ทม่ี ีความ ขนาดเล็ก - ใหญ่ - จับคคู่ วามสัมพันธ์ได้ - การเปรยี บเทยี บ หรอื ใหญ่ สัมพันธ์กนั - สังเกตการจบั คคู่ วามสมั พันธ์ ๑ - ๒ ลกั ษณะ ขนาดเล็ก - ใหญ่ ๓. ครูหยิบกอ้ นหินขนาดใหญ่ขนึ้ มาแลว้ ถามเด็กว่ามขี นาดเลก็ ได้ ๑ - ๒ ลักษณะ - เกมจบั คูภ่ าพ หรือใหญ่ เหมอื นอปุ กรณ์ ๔. ครูน�ำกอ้ นหนิ ขนาดเล็กและใหญม่ าวางใกล้กันแล้ว ใหเ้ ด็ก การทำ� ความสะอาด บอกวา่ ก้อนไหนเลก็ ก้อนไหนใหญ่ ๕. ให้อาสาสมัครออกมาเรยี งขนาดกอ้ นหินจากเลก็ ไปใหญ่ ๖. แบ่งกล่มุ เด็กออกเปน็ ๔ กลมุ่ แล้วใหช้ ่วยกนั เรียงก้อนหิน จากขนาดเล็กไปหาใหญ่ ๗. เด็กเลน่ เกมจบั คภู่ าพเหมอื นอุปกรณ์การศกึ ษา 149
150 แผนการจัดประสบการณภ์ าษาไทย - ท้องถนิ่ (มง้ ) ระดบั ปฐมวยั ช้นั อนบุ าลปที ี่ ๑ ภาคเรียนที่ ๒ สัปดาห์ที่ ๑ หน่วย ขยะ (สง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชน) วันพฤหัสบดี ท่ ี เดือน พ.ศ. ตัวชว้ี ดั สาระท่ีควรเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การวัดผลประเมนิ ผล มาตรฐานท่ี ๑๒ ตวั บ่งช้ที ่ี ๑๒.๑ ฟังพูดภาษาไทย ๗. ย่�ำเท้า เดินเรว็ ๆ เดนิ ชา้ ๆ ชดุ คำ� ศพั ท์ เน้นความถกู ตอ้ ง ตัวชว้ี ดั ทเ่ี นน้ ความถกู ต้อง (L๒) ขยาย - ย่�ำเท้า - สงั เกตการฟงั แลว้ ปฏิบัติ - กระตอื รือรน้ ในการฟงั แลว้ ย�ำ่ เทา้ เรว็ ๆ ย�ำ่ เทา้ ช้า ๆ เดนิ เรว็ ๆ ไปข้างหน้า เดินช้า ๆ - เดนิ เรว็ ๆ (๑๕ นาที) - เดนิ ช้า ๆ ตามคำ� สั่งที่ง่าย ปฏบิ ตั ติ ามคำ� ส่ังทง่ี ่ายเปน็ เปน็ ภาษาไทยไดอ้ ยา่ งมนั่ ใจ ภาษาไทยไดอ้ ย่างมัน่ ใจ และถูกตอ้ ง และถูกต้อง มาตรฐานท่ี ๑ ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๑.๓ สุขศกึ ษา (๒๐ นาท)ี ๑. เดก็ เคลอ่ื นไหวพน้ื ฐาน เนน้ ความถกู ต้อง ตวั ชีว้ ดั ทีเ่ นน้ ความถูกต้อง - การเคลือ่ นไหว ๒. เด็กเคล่ือนไหวร่างกายตามจังหวะ - สงั เกตการการเคลื่อนไหว - รักษาความสะอาดรา่ งกายได้ พื้นฐาน ๓. เด็ก และครสู นทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั การดูแลรกั ษา มาตรฐานที่ ๒ ตวั บ่งช้ที ่ี ๒.๑ - เคล่อื นไหวร่างกาย ความสะอาดร่างกาย พื้นฐาน ตัวชวี้ ดั ท่เี น้นความถูกตอ้ ง ตามจังหวะ ๔. ครูสาธติ วธิ ีการลา้ งหน้าใหส้ ะอาด - สงั เกตการเคลอื่ นไหว - เคลื่อนไหวร่างกายพ้นื ฐาน - การดูแลรักษา ๕. เด็กฝึกปฏิบตั ใิ นการลา้ งหนา้ มาตรฐานที่ ๔ ตัวบ่งช้ที ่ี ๔.๑ ความสะอาด รา่ งกายตามจงั หวะ ตัวชีว้ ดั ทเ่ี นน้ ความถูกต้อง รา่ งกาย - สังเกตการท�ำความสะอาด - เคลื่อนไหวรา่ งกายพื้นฐานได้ ใบหน้าไดส้ ะอาด มาตรฐานท่ี ๙ ตวั บ่งชี้ที่ ๙.๑ ภาษามง้ (๓๐ นาท)ี หนังสือรูปภาพ - หนงั สอื เน้นความหมาย ตัวชว้ี ดั ท่ีเนน้ ความหมาย - หนังสือรปู ภาพ ๑. ครนู ำ� รปู ภาพให้เด็กดูทีละหน้าแล้วให้เดก็ บอกรายละเอียด รูปภาพเร่อื ง - สงั เกตการสนทนาโต้ตอบ/ - สนทนาโตต้ อบโดยใช้ภาษา (นดิ กบั นก จากภาพโดยครูทบทวนค�ำพดู ของเด็กทกุ ครั้งที่เด็กพูด นิดกับนก เล่าเรอื่ งราวได้ ที่ ๑ (ภาษามง้ ) ได้ เพือ่ นสนทิ ) ๒. ใหเ้ ด็กแบ่งกลมุ่ ตามจ�ำนวนหนา้ หนงั สอื รปู ภาพพรอ้ มใหเ้ ดก็ เพอื่ นสนิท เนน้ ความถูกตอ้ ง มาตรฐานที่ ๑๐ ตวั บ่งช้ที ี่ ๑๐.๑ แต่ละกลุ่มแต่งเรือ่ งจากภาพที่ตนเองได้รบั - สงั เกตการเรยี งล�ำดับ ตัวชีว้ ัดทเี่ นน้ ความถูกตอ้ ง ๓. เด็กนำ� เสนอโดยการเลา่ เหตุการณไ์ ด้ ๔ - ๕ - เรียงล�ำดบั เหตกุ ารณไ์ ด้ ๔ - ๕ ๔. เด็กช่วยกนั เรียงลำ� ดบั ภาพพรอ้ มชว่ ยกนั เล่าเรือ่ งตามล�ำดบั เหตกุ ารณ์ เหตุการณ์ รูปภาพ ๕. นักเรียนสามารถเปลย่ี นล�ำดับภาพพร้อมทงั้ อธิบาย และเล่าเนือ้ หาจากลำ� ดับภาพท่ีเปล่ยี น
แผนการจดั ประสบการณ์ภาษาไทย - ท้องถนิ่ (ม้ง) ระดับปฐมวยั ชั้นอนุบาลปที ี่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ สัปดาห์ท่ี ๑ หนว่ ย ขยะ (สงิ่ แวดลอ้ มในชุมชน) วันพฤหัสบดี ที่ เดอื น พ.ศ. ตัวชีว้ ดั สาระที่ควรเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การวดั ผลประเมินผล มาตรฐานที่ ๙ ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๙.๑ เตรียมอ่านและเขียน ๑. บอกเสียง กิจกรรมทายเสียง (แบง่ กล่มุ เดก็ ใหแ้ ต่ละกลุ่ม - เกมเดาเสยี ง เน้นความหมาย ตัวช้วี ดั ทเี่ นน้ ความหมาย ภาษาม้ง (L๑) ท�ำเสยี งเลียนเสียงสตั วแ์ ล้วให้เพื่อน ๆ ทาย) - ดนิ สอ - สงั เกตการสนทนาโตต้ อบ - สนทนาโตต้ อบโดยใช้ภาษาที่ ๑ (๒๐ นาที) - เกมเดาวา่ ฉนั กําลงั ออกเสยี งอะไร (ทำ� เปน็ กลุ่ม) - กระดาษ โดยใชภ้ าษาท่ี ๑ (ภาษามง้ ) - เล่าเรอื่ งจากภาพเป็นภาษา ๒. เขียนเชิงสรา้ งสรรค์ (จากกิจกรรมวชิ าภาษามง้ : ที่ ๑ (ภาษาม้ง) หนงั สอื รปู ภาพ) - สังเกตการเขียนเรือ่ ง มาตรฐานที่ ๑๐ ตวั บง่ ชี้ท่ี ๑๐.๑ และการเล่าเรือ่ งทีว่ าด ตวั ช้วี ดั ท่ีเนน้ ความถูกต้อง - การแยกแยะเสียง เนน้ ความถูกต้อง - สงั เกตการแยกแยะเสียง ได้ถกู ตอ้ ง มาตรฐานท่ี ๙ ตวั บ่งชท้ี ี่ ๙.๑ ศลิ ปวฒั นธรรม ๑. ครเู ตรยี มอุปกรณก์ ารทำ� ขนมบัวลอยแบบม้ง - อุปกรณ์ เน้นความถกู ต้อง ตัวชว้ี ดั ทเ่ี น้นความถกู ต้อง (๔๐ นาท)ี ๒. ครูแนะน�ำอุปกรณ์ อธิบาย และสาธิตวิธีการท�ำขนมบวั ลอย การท�ำขนม - สังเกตการฟังแล้วปฏบิ ตั ิ - สนทนาโต้ตอบโดยใช้ภาษา - การทำ� ขนมบวั ลอย แบบมง้ บัวลอย ตามคำ� สัง่ แบบมง้ ๓. เดก็ และครรู ว่ มกนั ท�ำขนมบัวลอยแบบมง้ แบบม้ง - สงั เกตการทำ� ขนมบวั ลอย ที่ ๑ (ภาษามง้ ) ได้ ๔. ครู และเด็กรว่ มกันรับประทานขนม มาตรฐานที่ ๖ ตวั บ่งชที้ ่ี ๖.๒ ตวั ชวี้ ัดทเ่ี น้นความถกู ตอ้ ง - รจู้ ักประหยดั และพอเพยี ง มาตรฐานท่ี ๔ ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๔.๑ พลศกึ ษาและ ๑. เดก็ เข้าแถวตอน ๔ แถวอบอนุ่ รา่ งกาย โดย - กรวยจราจร เนน้ ความหมาย ตัวช้ีวัดทเี่ นน้ ความหมาย การละเล่นพ้ืนบา้ น - มอื จับเอว เขยง่ ปลายเท้า นบั ๑ - ๑๐ - อธิบายการละเลน่ พืน้ บา้ นได้ - อธบิ ายการเลน่ เกมพน้ื บ้านได้ - มือจับเอว บิดลำ� ตวั ซา้ ย-ขวา สลบั กัน ขา้ งละ ๕ คร้งั เน้นความถกู ต้อง ตัวช้ีวัดทเ่ี นน้ ความถกู ตอ้ ง (๓๐ นาท)ี ๒. อธิบายและสาธติ การเลน่ “วิ่งซกิ แซก็ ” - การละเลน่ พืน้ บา้ นได้ - อธบิ ายการเลน่ เกมพน้ื บา้ นได้ - กายบริหาร ๓. เด็กเลน่ เดินทูนส่ิงของไวบ้ นหวั ๔. เดก็ และครรู ว่ มกนั สรปุ การจดั กจิ กรรมก่อนพาเด็กไป 151 (พลศึกษา) - เดนิ ทูนสิ่งของไว้ ท�ำความสะอาดร่างกาย บนหัว
152 แผนการจัดประสบการณภ์ าษาไทย - ทอ้ งถ่ิน (มง้ ) ระดบั ปฐมวัย ช้ันอนุบาลปีท่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ สปั ดาหท์ ่ี ๑ หน่วย ขยะ (ส่งิ แวดลอ้ มในชุมชน) วนั พฤหสั บดี ที่ เดอื น พ.ศ. ตวั ชวี้ ัด สาระทค่ี วรเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การวัดผลประเมินผล ๘. ว่ิง แกวง่ แขน กางแขน มาตรฐานท่ี ๑๒ ตัวบ่งชี้ท่ี ๑๒.๑ ฟังพดู ภาษาไทย ขยาย ชุดคำ� ศัพท์ เนน้ ความถูกต้อง ตัวช้ีวัดที่เนน้ ความถกู ต้อง (L๒) วง่ิ เรว็ ๆ แกว่งแขนชา้ ๆ แกวง่ แขนเร็ว ๆ นอนกางแขน ฯลฯ - วิ่ง - สงั เกตการฟงั แล้วปฏิบตั ิ - กระตือรือรน้ ฟงั แลว้ ปฏบิ ตั ิ - แกวง่ แขน (๑๕ นาท)ี - กางแขน ตามค�ำส่ังท่ีงา่ ยเปน็ ภาษาไทย ตามค�ำสง่ั ทง่ี ่ายเปน็ ภาษาไทย ได้อยา่ งมน่ั ใจ และถูกต้อง ได้อย่างมั่นใจและถูกตอ้ ง มาตรฐานที่ ๑๐ ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๑๐.๑ คณิตศาสตร์ + การเปรียบเทียบความเหมอื นและความตา่ ง - ของเลน่ เนน้ ความถกู ต้อง ตวั ชี้วดั ทเ่ี นน้ ความถูกตอ้ ง เกมการศึกษา ๑. ครนู �ำของเลน่ มาให้เดก็ ดูพรอ้ มกับบอกลักษณะของของเล่น - เกมจบั คภู่ าพทม่ี ี - สังเกตการเปรียบเทียบ - สงั เกต เปรียบเทียบ (๓๐ นาที) ๒. ใหเ้ ดก็ สงั เกตลกั ษณะต่าง ๆ และเปรยี บเทยี บความเหมือน ความสมั พนั ธก์ นั ความเหมือนและต่าง ความเหมือนและต่างได้ - การเปรียบเทยี บ ความต่างของของเลน่ - สังเกตการจบั ค่ภู าพกับ - จับคู่ความสมั พันธ์ได้ ความเหมือนและ ๓. ให้เดก็ ชว่ ยกนั จดั หมวดหมู่ของเล่นตามลักษณะทเ่ี หมือนกนั ตวั เลข ๑ - ๒ ลกั ษณะ ความตา่ ง พรอ้ มบอกเหตุผล - จับค่ภู าพกบั ๔. เลน่ เกมจบั คภู่ าพกับจ�ำนวนตัวเลข จ�ำนวนตัวเลข
แผนการจัดประสบการณ์ภาษาไทย - ท้องถ่ิน (มง้ ) ระดบั ปฐมวยั ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ สัปดาห์ท่ี ๑ หน่วย ขยะ (ส่ิงแวดล้อมในชมุ ชน) วนั ศกุ ร์ ท่ี เดือน พ.ศ. ตัวช้วี ัด สาระทค่ี วรเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล เนน้ ความถกู ตอ้ ง มาตรฐานที่ ๑๒ ตวั บง่ ชี้ที่ ๑๒.๑ ฟงั พูดภาษาไทย ทบทวน - สงั เกตการฟังแล้วปฏิบตั ิ ตัวชวี้ ัดทีเ่ น้นความถูกต้อง (L๒) เดนิ หน้าเร็ว ๆ ว่งิ อยู่กับที่ สะบัดมอื เรว็ ๆ ยำ�่ เท้าแกวง่ แขน ตามค�ำส่ังท่งี ่าย - กระตอื รือรน้ ในการฟังแล้ว เปน็ ภาษาไทยได้อยา่ งมัน่ ใจ (๑๕ นาท)ี และถูกต้อง ปฏิบัตติ ามคำ� สง่ั ทง่ี า่ ยเป็น ภาษาไทยได้อย่างม่ันใจ และถกู ต้อง มาตรฐานท่ี ๑ ตวั บง่ ชีท้ ่ี ๑.๓ สุขศกึ ษา (๒๐ นาที) ๑. เดก็ เคล่อื นไหวพื้นฐาน เนน้ ความถูกต้อง ตัวชวี้ ดั ท่ีเน้นความถกู ต้อง - การเคล่อื นไหว ๒. เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายตามสัญญาณ - การเคลื่อนไหวพน้ื ฐาน - รกั ษาควมสะอาดของห้องเรียน พน้ื ฐาน ๓. เดก็ และครรู ่วมกันสรปุ และทบทวนเก่ียวกับการดแู ลรักษา - เคลอื่ นไหวรา่ งกาย มาตรฐานท่ี ๔ ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๔.๑ - เคลือ่ นไหวรา่ งกาย สขุ ภาพอนามยั ของตนเอง ตัวช้วี ดั ท่ีเน้นความถูกต้อง ตามสญั ญาณ ตามสญั ญาณ - เคลือ่ นไหวร่างกายพ้ืนฐานได้ เนน้ ความหมาย - สงั เกตการสนทนาโตต้ อบ มาตรฐานที่ ๙ ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๙.๑ ภาษามง้ (๓๐ นาที) ทบทวน - ฉากภาพ ตวั ชวี้ ดั ทเี่ นน้ ความหมาย - ทบทวนภาษาม้ง ๑. ทบทวนในสิ่งทีเ่ ดก็ ทำ� ไม่ได้ วฒั นธรรม แสดงความคดิ เห็น - สนทนาโต้ตอบโดยใช้ภาษา ๒. ทบทวนในสิง่ ท่ีเด็กสนใจ (วิถชี วี ิต เน้นความหมาย ท่ี ๑ (ภาษาม้ง) ได้ ชุมชน) - สังเกตการสนทนาซกั ถาม - เรื่องเลา่ ในเรือ่ งท่ตี นเองสนใจ - หนงั สือ มาตรฐานท่ี ๑๐ ตวั บง่ ชี้ที่ ๑๐.๑ ตัวช้วี ดั ท่เี น้นความถกู ต้อง รปู ภาพ - เรยี งลำ� ดับเหตุการณ์ได้ ๔ - ๕ เหตุการณ์ 153
154 แผนการจัดประสบการณ์ภาษาไทย - ทอ้ งถิ่น (มง้ ) ระดบั ปฐมวยั ชัน้ อนบุ าลปที ี่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ สัปดาห์ท่ี ๑ หน่วย ขยะ (สิ่งแวดลอ้ มในชุมชน) วันศกุ ร์ ที่ เดือน พ.ศ. ตวั ชวี้ ัด สาระทค่ี วรเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล มาตรฐานท่ี ๙ ตวั บ่งช้ที ี่ ๙.๑ ตวั ช้ีวดั ท่ีเน้นความหมาย เตรยี มอา่ นและเขยี น ทบทวน การลากเขียนเส้นทั้งหมด - ดนิ สอ เนน้ ความถกู ตอ้ ง - สนทนาโตต้ อบโดยใชภ้ าษาท่ี ภาษามง้ (L๑) - ยางลบ - สังเกตการสนทนาโต้ตอบ (๒๐ นาที) - แบบฝกึ ๑ (ภาษาม้ง) โดยใชภ้ าษาที่ ๑ (ภาษามง้ ) มาตรฐานท่ี ๒ ตัวบง่ ชี้ที่ ๒.๒ ลายเส้น เน้นความถกู ตอ้ ง ตวั ชี้วัดทีเ่ นน้ ความถูกตอ้ ง - สังเกตการวาดภาพตามเสน้ - วาดภาพตามเส้นท่ีกำ� หนดได้ ทกี่ �ำหนดได้ - สังเกตการขดี เขยี นเส้น ได้อยา่ งมีระเบยี บสวยงาม - สงั เกตการแยกแยะเสียง ไดถ้ ูกตอ้ ง มาตรฐานท่ี ๙ ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๑ วถิ ชี วี ิตชมุ ชน ๑. ครู และเดก็ น�ำใบตอง ไม้กลัด ถ้วยหรือชามปากกว้าง มาจากบ้าน - ใบตอง เน้นความถกู ตอ้ ง ตัวชีว้ ดั ท่ีเนน้ ความถูกต้อง ส่งิ แวดลอ้ ม ๒. ครสู าธิตวธิ กี ารท�ำกระทงใสข่ องจากใบตอง โดยน�ำถว้ ยหรือ - ไม้กลัด - สนทนาโตต้ อบแสดง - สนทนาโตต้ อบโดยใช้ภาษา และศิลปวฒั นธรรม ชามปากกวา้ งควำ�่ ลงบนใบตองแล้วกรีดใบตองใหเ้ ปน็ รปู - ถว้ ยหรอื ชาม ความเหน็ ได้ (๔๐ นาที) วงกลมตามปากถ้วยหรือชาม จากนั้นจบั จบี ใบตองเป็นส่ีมุม ปากกวา้ ง - สงั เกตการประดษิ ฐก์ ระทง ท่ี ๑ (ภาษาม้ง) ได้ - ทบทวน แลว้ นำ� ไมก้ ลัด โดยทำ� ทีละมุม ใบตอง มาตรฐานท่ี ๖ ตวั บง่ ช้ที ี่ ๖.๒ - การประดษิ ฐ์ ๓. ครใู หเ้ ดก็ ท�ำกระทงของตนเองตามวิธีการ ตวั ชี้วัดท่เี น้นความถกู ตอ้ ง - รจู้ กั ประหยดั และพอเพียง กระทงใสข่ อง มาตรฐานที่ ๔ ตัวบ่งชที้ ่ี ๔.๑ จากใบตอง ตัวช้วี ัดที่เนน้ ความหมาย - อธิบายการเลน่ เกมพื้นบ้านได้ พลศกึ ษาและ ๑. ครอู ธบิ ายและสาธิตวธิ กี ารเล่นเกมชเนตาห็ เต๊า เฮา (แตะหวั ) - อุปกรณ์ เน้นความถูกตอ้ ง การละเล่นพน้ื บ้าน ๒. ให้เดก็ เล่นเกมชเนตาห็ เต๊า เฮา (แตะหัว) การเลน่ - สงั เกตการเลน่ เกมพ้ืนบา้ น ตวั ชวี้ ดั ที่เนน้ ความถูกต้อง (๓๐ นาที) ๓. ให้เดก็ ร่วมกันบอกความรสู้ ึกในการเล่น - อธบิ ายการเล่นเกมพ้ืนบา้ นได้ - เกมเนตาห็ เตา๊ เฮา (แตะหวั )
แผนการจัดประสบการณ์ภาษาไทย - ทอ้ งถน่ิ (ม้ง) ระดบั ปฐมวยั ชัน้ อนุบาลปที ่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ สัปดาหท์ ่ี ๑ หนว่ ย ขยะ (สิง่ แวดล้อมในชุมชน) วนั ศกุ ร์ ท ่ี เดอื น พ.ศ. ตวั ชวี้ ัด สาระทีค่ วรเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การวัดผลประเมนิ ผล มาตรฐานที่ ๑๒ ตวั บง่ ชที้ ี่ ๑๒.๑ ฟงั พดู ภาษาไทย ทบทวน ตวั ชีว้ ัดท่ีเน้นความถกู ต้อง สะบัดมือเดินไปขา้ งหน้า ตบมอื ว่ิงถอยหลัง กระโดดชา้ ๆ ชดุ คำ� สัง่ เนน้ ความถกู ต้อง - กระตอื รือร้นในการฟงั แล้ว (L๒) ไปขา้ งหน้า - สะบัดมอื เดิน - สังเกตการฟังแลว้ ปฏบิ ตั ิ (๑๕ นาที) ไปขา้ งหนา้ ตามค�ำสง่ั ทง่ี า่ ยเปน็ ภาษาไทย ปฏิบตั ิตามค�ำสั่งทีง่ ่ายเป็น - ตบมือวิ่ง ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง ภาษาไทยได้อยา่ งมัน่ ใจและ ถอยหลัง ถกู ต้อง - กระโดดชา้ ๆ ไปขา้ งหนา้ มาตรฐานท่ี ๑๐ ตวั บง่ ชีท้ ่ี ๑๐.๑ คณติ ศาสตร์ + การเปรยี บเทียบสนั้ - ยาว - ดินสอ เนน้ ความถกู ตอ้ ง ตัวช้ีวดั ท่ีเนน้ ความถูกตอ้ ง เกมการศึกษา ๑. ครูชดู ินสอใหเ้ ดก็ ดู ๒ แทง่ - เกม - สังเกตการเปรียบเทียบ - สงั เกต เปรียบเทยี บส้ัน - ยาวได้ (๓๐ นาท)ี ๒. ครถู ามเดก็ ว่าดินสอ ๒ แท่งตา่ งกนั อย่างไร แท่งไหนส้นั ภาพตัดตอ่ จ�ำนวนสั้น - ยาว ได้ - เล่นเกมภาพตัดต่อได้ถกู ตอ้ ง - การเปรียบเทยี บ การทำ� - สงั เกตการเล่นเกมภาพตัดตอ่ สน้ั - ยาว แทง่ ไหนยาว ความสะอาด - เกม ภาพตดั ต่อ ๓. ครแู จกดินสอให้เดก็ คนละแท่ง การทำ� ความสะอาด ๔. ให้เดก็ จับคกู่ ับเพ่อื นแลว้ นำ� ดินสอมาวางเรยี งกนั แล้วเปรยี บเทยี บวา่ แทง่ ไหนส้นั แท่งไหนยาว ๕. แบ่งเด็กออกเปน็ ๒ กลุ่มหญงิ และชาย แล้วให้แตล่ ะกล่มุ เอาดินสอท่มี ีอยมู่ าเรียงตอ่ กนั จนหมดแลว้ บอกว่าแถวไหน สัน้ แถวไหนยาว ๖. เดก็ เลน่ เกม ภาพตดั ตอ่ การทำ� ความสะอาด - ตามวัตถุประสงคข์ องกจิ กรรม - กจิ กรรม - กิจกรรมบา้ นนกั วิทยาศาสตรน์ ้อย - ตามแผน - ตามวัตถปุ ระสงค์ บา้ นนกั วิทยาศาสตร์ กจิ กรรมบ้าน ของกิจกรรม นอ้ ย วิทยาศาสตร์ น้อย 155
156 บนั ทึกพฒั นาการเดก็ - จุดแก้ไขหลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้แตล่ ะวัน สัปดาหท์ ี่ ๑ หนว่ ย ขยะ วัน วิชา สขุ ศกึ ษา ภาษามง้ (กจิ กรรมเสริม คณิตศาสตรแ์ ละเกมการศึกษา วิถีชีวิตชุมชน สงิ่ แวดลอ้ ม พลศกึ ษา การละเลน่ พ้ืนบา้ น (กิจกรรมเคลื่อนไหว ประสบการณ์ และ (กจิ กรรมเกมการศึกษา) และศลิ ปวัฒนธรรม (กิจกรรม เลน่ อิสระ (กจิ กรรมกลาง และจังหวะ) กจิ กรรมสรา้ งสรรค์) ประเดน็ เสริมประสบการณ์ และ แจง้ /เล่นเสรีตามมมุ ) กิจกรรมสรา้ งสรรค)์ จนั ทร์ พฒั นาการเดก็ จดุ แก้ไข อังคาร พฒั นาการเดก็ จดุ แก้ไข พธุ พฒั นาการเดก็ จดุ แก้ไข พฤหัสบดี พัฒนาการเดก็ จุดแกไ้ ข ศกุ ร์ พฒั นาการเดก็ จดุ แก้ไข ขอ้ เสนอแนะการพัฒนา ลงชอ่ื ............................................................................................ผบู้ นั ทกึ ลงช่อื ............................................................................................ผู้บันทกึ (.................................................................................................) (.................................................................................................) ครทู อ้ งถิน่ ครูประจำ� ชัน้
ท่ี แบบสังเกตพฤติกรรม ค�ำชี้แจง ใหท้ �ำเครอื่ งหมาย ü ในช่องสภาพท่พี งึ ประสงคท์ ่ีปรากฏในแผนการจัดประสบการณ์ของแตล่ ะหน่วย - ชือ่ สกลุ ๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓ ๑.๑.๑ นำ�้ หนักและสว่ นสงู ตามเกณฑข์ องกรมอนามยั มาตรฐานที่ ๑ พฤตกิ รรมท่สี ังเกตด้านรา่ งกาย ๑.๒.๑ รบั ประทานอาหารท่มี ีประโยชนแ์ ละด่ืมนำ้� สะอาดดว้ ยตนเอง (สภาพที่พงึ ประสงค์ ของ มฐ. ๑ และ ๒) ๑.๒.๒ ล้างมือก่อนรับประทานอาหารและหลงั จากใช้ห้องน้�ำหอ้ งสว้ มด้วยตนเอง มาตรฐานที่ ๒ ๑.๒.๓ นอนพักผอ่ นเป็นเวลา ๑.๓.๑ เลน่ และทำ� กิจกรรมอยา่ งปลอดภัยดว้ ยตนเอง มาตรฐานที่ ๓ พฤตกิ รรมที่สังเกตด้านอารมณ์และจติ ใจด้านอารมณ์ จิตใจ ๒.๑.๑ เดนิ ต่อเทา้ ไปขา้ งหน้าเปน็ เสน้ ตรงไดโ้ ดยไมต่ ้องกางแขน (มฐ.ท่ี ๓ - ๕) ๒.๑.๒ กระโดดขาเดยี วอยกู่ บั ที่โดยไม่เสียการทรงตวั มาตรฐาน ๒.๑.๓ วิ่งหลบหลกี ส่งิ กดี ขวางได้ ท่ี ๔ ๒.๑.๔ รับลกู บอลโดยใชม้ อื ทง้ั สองขา้ ง ๒.๒.๑ ใชก้ รรไกรตดั กระดาษตามแนวเสน้ ตรงได้ มาตรฐานท่ี ๕ ๒.๒.๒ เขยี นรปู สี่เหล่ยี มตามแบบไดอ้ ยา่ งมมี ุมชัดเจน 157 ๒.๒.๓ ร้อยวสั ดทุ ี่มีรูขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง ๐.๕ ซม. ได้ ๓.๑.๑ แสดงอารมณค์ วามร้สู ึกไดต้ ามสถานการณ์ ๓.๒.๑ กล้าพูดกลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสมบางสถานการณ์ ๓.๒.๒ แสดงความพอใจในผลงาน และความสามารถของตนเอง ๔.๑.๑ สนใจ มีความสุข และแสดงออกผ่านงานศิลปะ ๔.๑.๒ สนใจ มคี วามสุข และแสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวประกอบเพลง จังหวะ และดนตรี ๕.๑.๑ ขออนญุ าตหรือรอคอยเมอ่ื ต้องการสิง่ ของของผูอ้ ืน่ เมอ่ื มผี ู้ชแี้ นะ ๕.๒.๑ แสดงความรกั เพื่อน และมเี มตตาตอ่ สัตว์เลี้ยง ๕.๒.๒ ชว่ ยเหลือ และแบง่ ปนั เมอ่ื มีผู้ชี้แนะ ๕.๓.๑ แสดงสีหน้า และทา่ ทางรบั รู้ความรู้สึกผู้อืน่ ๕.๔.๑ ท�ำงานทไี่ ด้รบั มอบหมายจนส�ำเรจ็ เมื่อมีผชู้ ีแ้ นะ
158 ชอ่ื ที่ - สกุล ๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓๓ ๓ ๓ ๖.๑.๑ แต่งตัวดว้ ยตนเอง มาตรฐานที่ ๖ ๖.๑.๒ รับประทานอาหารด้วยตนเอง ๖.๑.๓ ใชห้ อ้ งน�้ำหอ้ งส้วมดว้ ยตนเอง พฤตกิ รรมท่สี งั เกตด้านสังคม แบบสงั เกตพฤติกรรม (ตอ่ ) ๖.๒.๑ เก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ทด่ี ้วยตนเอง มาตรฐานท่ี ๗ ๖.๒.๒ เข้าแถวตามลำ� ดบั ก่อนหลงั ได้ด้วยตนเอง ๖.๓.๑ ใช้สิง่ ของเครื่องใช้อย่างประหยดั และพอเพยี งเมือ่ มีผู้ชีแ้ นะ มาตรฐานท่ี ๘ ๗.๑.๑ มีสว่ นรว่ มดูแลรกั ษาธรรมชาติ และสง่ิ แวดล้อมเม่ือมีผ้ชู ้แี นะ ๗.๑.๒ ท้ิงขยะไดถ้ กู ที่ พฤตกิ รรมทีส่ ังเกตดา้ นสติปัญญา ๗.๒.๑ ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทยได้ด้วยตนเอง มาตรฐานที่ ๙ มาตรฐานท่ี ๑๐ ๗.๒.๒ กล่าวค�ำขอบคุณ และขอโทษด้วยตนเอง ๗.๒.๓ ยนื ตรงเมอื่ ไดย้ ินเพลงชาติไทย และเพลงสรรเสรญิ พระบารมี ๘.๑.๑ เลน่ และท�ำกจิ กรรมร่วมกบั เด็กท่แี ตกต่างไปจากตน ๘.๒.๑ เล่นหรือท�ำงานร่วมกบั เพ่อื นเปน็ กล่มุ ๘.๒.๒ ยม้ิ ทกั ทายหรือพดู คุยกับผูใ้ หญ่ และบุคคลที่คนุ้ เคยได้ด้วยตนเอง ๘.๓.๑ มีสว่ นรว่ มสร้างขอ้ ตกลงและปฏิบัติตามขอ้ ตกลงเมือ่ มผี ู้ชี้แนะ ๘.๓.๒ ปฏิบตั เิ ปน็ ผูน้ ำ� ผตู้ ามได้ด้วยตนเอง ๘.๓.๓ ประนปี ระนอมแกไ้ ขปัญหาโดยปราศจากการใชค้ วามรนุ แรง เมื่อมีผู้ช้แี นะ ๙.๑.๑ ฟงั ผู้อืน่ พดู จนจบ และสนทนาโตต้ อบสอดคลอ้ งกับเรอื่ งท่ีฟงั ๙.๑.๒ เลา่ เร่อื งเปน็ ประโยคตอ่ เนอ่ื ง ๙.๒.๑ อา่ นภาพ สญั ลักษณ์ ค�ำพร้อมท้ังชห้ี รือกวาดตามองขอ้ ความตามบรรทัด ๙.๒.๒ เขียนคลา้ ยตัวอักษร ๑๐.๑.๑ บอกลกั ษณะ และสว่ นประกอบของส่ิงตา่ ง ๆ จากการสงั เกตโดยใชป้ ระสาทสัมผัส ๑๐.๑.๒ จบั คู่และเปรียบเทียบความแตกตา่ งหรือความเหมือนของสิ่งตา่ ง ๆ โดยใชล้ ักษณะท่สี งั เกตพบเพยี ง ลกั ษณะเดยี ว ๑๐.๑.๓ จ�ำแนก และจดั กลมุ่ สง่ิ ตา่ ง ๆ โดยใชอ้ ย่างนอ้ ยหนง่ึ ลักษณะเป็นเกณฑ์
เกณฑก์ ารแปลผลพัฒนาการภาพรวม ชว่ งคะแนนรวม ๔ ด้าน ชือ่ ที่ - ร้อยละ ๘๐ - ๑๐๐ ของคะแนนรวม ร้อยละ ๕๐ - ๗๙ ของคะแนนรวม สกุล ร้อยละ ๐ - ๔๙ ของคะแนนรวม ๓๓๓๓๓ ๓ ๓ ๓๓๓๓ ๑๐.๑.๔ เรียงลำ� ดบั ส่งิ ของหรอื เหตุการณ์ อย่างน้อย ๔ ลำ� ดบั มาตรฐานที่ ๑๐ พฤตกิ รรมทส่ี งั เกตด้านสตปิ ัญญา ๑๐.๒.๑ ระบสุ าเหตหุ รอื ผลทเ่ี กิดข้นึ ในเหตกุ ารณห์ รือการกระทำ� เม่อื มผี ชู้ ี้แนะ ๑๐.๒.๒ คาดเดา หรอื คาดคะเนส่ิงทอี่ าจจะเกดิ ข้ึนหรอื มสี ว่ นร่วมในการลงความเหน็ จากข้อมูล มาตรฐานท่ี ๑๑ มาตรฐานท่ี ๑๒ แบบสงั เกตพฤตกิ รรม (ต่อ) ๑๐.๓.๑ ตัดสนิ ใจในเรอ่ื งง่ายๆ และเรม่ิ เรยี นรผู้ ลทีเ่ กิดขึ้น ๑๐.๓.๒ ระบุปัญหา และแก้ปญั หาโดยลองผดิ ลองถกู รวมคะแนนแต่ละด้าน ๑๑.๑.๑ สรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่ือสือ่ สารความคดิ ความรสู้ กึ ของตนเองอย่างหลากหลายหรือแปลกใหม่ ๑๑.๒.๑ เคลอ่ื นไหวท่าทางเพือ่ ส่ือสารความคิด ความรสู้ ึกของตนเองอย่างหลากหลาย หรอื แปลกใหม่ ๑๒.๑.๑ สนใจซักถามเกี่ยวกบั สญั ลักษณห์ รือตวั หนังสอื ท่พี บเห็น ๑๒.๑.๒ กระตือรือร้นในการเข้าร่วมกจิ กรรม ๑๒.๒.๑ ค้นหาคำ� ตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตามวธิ ขี องตนเอง ๑๒.๒.๒ ใช้ประโยคคำ� ถามวา่ “ทไ่ี หน” “ทำ� ไม” ในการคน้ หาค�ำตอบ รวมคะแนนด้านร่างกาย รวมคะแนนด้านอารมณ์ จติ ใจ รวมคะแนนด้านสังคม รวมคะแนนดา้ นสตปิ ัญญา รวมคะแนนท้งั ๔ ด้าน แปลผล ร้อยละของ ดี (๓) คะแนนรวม พอใช้ (๒) ท้ัง ๔ ดา้ น ปรบั ปรุง (๑) แปลผล 159
๑. ฉากภาพวฒั นธรรม : วิถีชวี ิตชุมชน ตัวอย่างการตง้ั ค�ำถาม - ภาพน้เี ปน็ ภาพเกี่ยวกบั อะไร - ในภาพมอี ะไรบ้าง - ท�ำอย่างไรจึงจะไมม่ ีขยะ - ใบไมเ้ ปน็ ขยะหรือไม่ - เราจะมวี ธิ กี ำ� จดั ขยะอย่างไร - ขยะชนดิ ใดยอ่ ยสลายได้เร็วทีส่ ดุ - ถ้าในหมบู่ า้ นมขี ยะมาก ๆ จะเกิดอะไรขึ้น ๒. หนังสอื รูปภาพ 160
๓. เร่อื งเลา่ ภาษามง้ : ค๊ี เญ๊ีย ตู เสี๊ย เท่า อู๊ ม้ัว เป๊ ตหู ์ เม ญั่ว ตู๊ เลอ๋ ลู๊ เบ ฮู ไฮ เตยี ห์ ตู๊ เก๊ง, ตู๊ ปลหี ,็ เทยี๊ ตู๊ นา เล๋อ ยอห์ พ้ง ยืหย์ ชง เฮง๋ ม้วั อ๊ี ฮน๊ง เลอ มูห็ ยวั๋ เตา ข๊อ นง่ ลอห็ น้อ. เท่า เลอ๋ น้อ ตาห์ ตู๊ นา เท๊ีย ตู๊ ปลีห็ เนกอ๋ นขา ลู๊ เปล๊ า ฮน๊า ขอ๊ นง่ มูห็ ปอ๋ เฮา๋ เตอ๊ ค๊ี เญีย๊ . ฮอห็ ตู๊ เกง๊ เจห็ เจีย ลี มวั๊ เปลา๊ ข๊อ น่ง ปอ๋ เฌห์ เนตอ่ เก๋ เจห็ อ๊ี เปลียห์ อัว จาห็ นืห็ เพ้ง ฮนอ๋ เล้ง ตหื ์ เจ่ นหื ็ เลอ๋ ข๊า. เจห์ นืห็ เทีย้ นงห์ ตู๊ ปลีห็, เทย๊ี ตู๊ นา เตยี ห็. “เน๊ ปวั ห็ เตา เจ่ ก๋”ู ? เจห็ อ๊อ ตูห์ เต๊ เตียห็ “อื๊ ฌีห็ เตา เจ่ ก้อ เนฉ กอ้ ลา่ อวั สัว๊ สา๊ ซ๊.ื เจห็ ตา่ ซี่ เนตอ๋ นหื ็ เทยี้ ตหี ์ เนฌีย นตรา่ ข๊า อวั จาห็ นหื ็ ปอ่ ลู๊ เปลา๊ ข๊อ น่ง อวั ห็ นหื ็ ม๊วั ป๋อ เฌห์ เจา่ นหื ็ ขา๊ เจ่ นหื ็ เตียห็ “ก้อ ม๊วั กู๋ ปอ๋ เฌห์ เนตอ่ เก๋ อวั ด๊า ฌี ฌ่า นตู้ ลอห็ นาห์ นตู๊ กู๋ นอ ๆ กู๋ กอ้ ปวั ห็ เปา๊ .” เจห็ นืห็ เทยี้ เต๊ เตียห็ “ก้อ ฌีห็ ฒ๊อ เจ่ กู่ เลอ่ กู๋ ม่า ลี เคอห็ กอ้ มหู ็ เตรา เฮา๋ เต๊อ คี๊ เญยี๊ ” เจห็ ลู๊ เปล๊า ขอ๊ น่ง เที้ย ลี ยชง ๆ เสี๊ย เทยี๊ อัว ตู๊ เกง๊ เฌาห์. เจห็ เล๋อ เทีย้ ลี ยชง ๆ เสยี๊ เที๊ย ส๊ี เค่อ มูห็ เฌ๋ ลัวห์ นฒี เล่อ ภาษาไทย : ขยะ กาลคร้ังหน่ึงนานมาแล้วมีเด็กผู้ชายสามคนพวกเขาเป็นเพื่อนรักกันมากแต่ละคนมีช่ือดังนี้ เด็กชายเก๊ง เด็กชายปี และเด็กชายนา อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาสามคนไปซ้ือขนมกินเสร็จเด็กชายนากับเด็กชายปี กน็ ำ� ถุงขนมไปท้ิงลงในถงั ขยะ สว่ นเด็กชายปที ้งิ ลงข้างทางแลว้ ทงั้ สามคนกเ็ ดนิ จากไปขณะท่ที ้งั สามคนก�ำลัง เดินคุยกันมาตามทางเด็กชายปีก็ได้ยินเสียงคล้าย ๆ มีคนด่าเด็กชายปี เด็กชายปีจึงถามเด็กชายเก๊ง และ เด็กชายนาว่า เธอสองคนได้ด่าฉันหรือเปล่าท้ังสองตอบว่า เปล่า แล้วเด็กทั้งสามคนจึงหันไปมองข้างหลัง แล้วท้งั สามคนก็เห็นถุงขนมทีเ่ ด็กชายปีทิ้งไว้ขา้ งทางเดินตามหลังพวกเขาท้ังสามแล้วกด็ ่าเด็กชายปีว่า “เธอทงิ้ ฉนั ไวข้ ้างทางท�ำไมเธอรู้ไหมวา่ เวลาทฝี่ นตกลงมาฉนั กเ็ ปียกฝนหมด และฉันก็หนาวด้วย” เม่อื เดก็ ชายปีไดย้ ินเช่นนนั้ จึงตอบว่า “เธอไม่ต้องด่าฉันแล้วนะ เด๋ียวฉันจะเก็บเธอไปท้ิงท่ีถังขยะ”แล้วเด็กชายปีก็เก็บถุงขนมไปท้ิงลง ในถงั ขยะ แล้วทง้ั สามคนจงึ กอดคอกนั เดนิ กลบั บา้ นอยา่ งมคี วามสุข ผู้แต่ง พมิ พ์ชนก แซ่ฟา้ โรงเรยี นบา้ นแผ่นดนิ ทอง ๔. เกม เกม แตะหวั (เนตาหี เต๊าเฮา) วิธีการเล่น ๑. ให้เด็กนั่งเป็นรูปวงกลม สร้างข้อตกลงร่วมกันโดยให้เด็กหลับตาทุกกคน ห้ามลืมตา โดยเดด็ ขาด ๒. ครพู าเดก็ คนหนึ่งไปหาเพ่อื นอีกคนหนงึ่ แลว้ ใชม้ อื แตะหัวเพอื่ นโดยห้ามใหเ้ พ่ือนลมื ตาแล้วให้ เพอื่ นทายชือ่ เพอ่ื นทเี่ ดินมาแตะหวั ตวั เอง ๓. ในกรณีท่ีเพื่อนทายไม่ได้ ครูก็จะเอ่ยค�ำ ๆ หน่ึงของช่ือเพ่ือน เพื่อให้ทายได้แต่ถ้าทายไม่ได้ คนนนั้ ก็จะถกู ลงโทษตามขอ้ ตกลง 161
การจัดประสบการณ์ โดยใช้สอื่ การเรยี นร้ภู าษาไทย - ท้องถ่ิน การจัดการเรียนการสอนภาษาไทย - ท้องถ่ินในระดับอนุบาลน้ีต้องการให้นักเรียนเชื่อมโยง ภาษาท้องถิ่นสู่การเรียนรู้ภาษาไทยท่ีเข้มแข็ง ดังน้ันจึงจ�ำเป็นต้องมีครูผู้สอน เน้ือหาหลักสูตรและกลวิธี การสอน และสอ่ื การเรียนรู้ ดังน้นั ครูผู้สอนต้องจัดทำ� แผนการจดั ประสบการณท์ ีม่ ีการจดั การเรียนการสอน ที่สอดแทรกค�ำและประโยคสนทนาภาษาท้องถ่ินสื่อสารกับนักเรียนในระยะเร่ิมต้นในระดับปฐมวัย และ จะลดลงไปเรื่อย ๆ เมื่อนักเรียนมีความรู้ความเข้าใจภาษาไทยมากขึ้น โดยผ่านกิจกรรมการสอนด้วย สอ่ื การเรยี นรู้ และกลวิธกี ารสอนที่พฒั นาทกั ษะการฟงั - พูด - อ่าน - เขียน ตามล�ำดบั ความสำ� คญั ของสอ่ื การเรียนรูภ้ าษาไทย - ท้องถ่ิน สื่อการเรียนรู้ในการสอนเป็นอีกปัจจัยท่ีส�ำคัญ หรือเป็นเครื่องมือส�ำหรับน�ำไปใช้ในการจัดการเรียน การสอนเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ สื่อการเรียนรู้ท่ีใช้ส�ำหรับการจัดการเรียน การสอนส�ำหรับผู้เรียนท่ีใช้ภาษาท้องถ่ินส่ือสารในชีวิตปะจ�ำวัน จึงต้องมีการผลิตและพัฒนาส่ือการอ่าน ภาษาท้องถ่ินและส่ือประกอบการเรียนการสอนที่ได้รับความร่วมมือจากคนในชุมชนท้องถิ่นหรือเจ้าของภาษา ท้องถ่ินน้ัน ๆ เน่ืองจากต้องใช้ความรู้ด้านภาษา วิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่น สื่อการเรียนรู้ที่ใช้ส�ำหรับนักเรียนช้ันอนุบาลระยะแรกเป็นสื่อภาพและเร่ืองราวที่เกิดขึ้นในท้องถิ่น ได้แก่ ฉากภาพวัฒนธรรม หนังสือรูปภาพ เร่ืองเล่า และเร่ืองเล่าจากประสบการณ์ โดยเน้นให้เด็กเกิดทักษะการฟัง และพดู ทัง้ ในภาษาท้องถิ่นและภาษาไทยอย่างเขา้ ใจ และเกดิ พัฒนาการระบบการคดิ ระบบสมอง และพัฒนา ทักษะการถ่ายทอดความคิดของเด็กอย่างสร้างสรรค์ จากนั้นจึงสร้างสื่อเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน - เขียน ภาษาท้องถิ่นอักษรไทย ได้แก่ แบบเรียนอ่านเขียนหรือแบบเรียนเชื่อมโยงภาษาไทย - ท้องถิ่น หนงั สือเล่มเล็ก หนงั สือเล่มใหญ่ โดยเน้นความเขา้ ใจและความถกู ต้อง และเชือ่ มโยงเขา้ สกู่ ารอา่ น - เขียน ภาษาไทยด้วยอกั ษรเดยี วกนั เพอื่ น�ำไปเรียนรู้ในวิชาอืน่ ตอ่ ไป เอกสารเล่มน้ีจะกล่าวถึงการจัดประสบการณ์โดยใช้ ส่อื การเรยี นรู้ภาษาไทย - ท้องถนิ่ ด้วยสื่อการเรียนรู้ในช้ันอนบุ าล ๑ ประกอบด้วย ๑) ฉากภาพวัฒนธรรม ๒) หนังสือรูปภาพ ๓) เร่ืองเล่า และ ๔) เรื่องเล่าจากประสบการณ์ ซ่ึงจะมีเน้ือหา ประกอบด้วย ความส�ำคัญ คุณค่าและประโยชน์ ความสอดคล้อง ตามมาตรฐาน/ตวั บ่งช้ี ตามหลักสูตรปฐมวัย วตั ถุประสงค์ และขน้ั ตอน การจัดการเรียนการสอนของสื่อ การเรียนรู้นั้น ๆ ท่ีครูผู้สอนสามารถศึกษาและน�ำไปประยุกต์ใช้ท้ัง การบรู ณาการจัดทำ� สอ่ื และการสอน ให้สอดคลอ้ งกับผเู้ รยี นท้ังด้านภาษา ประเพณี วัฒนธรรมของชมุ ชนท้องถ่นิ 162
๑. ฉากภาพวัฒนธรรม ฉากภาพวัฒนธรรมส�ำคัญอย่างไร ฉากภาพวัฒนธรรม หรือ ฉากภาพใหญ่ (Cultural Scenes) คือ ภาพและเร่ืองราว ที่สะท้อน เหตกุ ารณ์ ชีวติ หรือวถิ ีวฒั นธรรมทีเ่ กิดในชมุ ชน หรอื หมู่บา้ นออกมาเป็นภาพท่ีมหี ลาย ๆ เหตกุ ารณ์รวมอยู่ ในภาพเดียวกัน คุณคา่ และประโยชน์ ๑. ผู้เรียนฝึกการคิดเชิงเหตุผลและจินตนาการ เชงิ สร้างสรรค์ ๒. ผเู้ รยี นฝึกความกล้าคดิ กล้าสรา้ งสรรค์ ๓. ผู้เรียนฝึกล�ำดับเหตุการณ์ เร่ืองราว และจินตนาการ ของผูเ้ รยี นอย่างตอ่ เนอื่ ง ๔. ผู้เรียนฝึกการฟังและพดู 163
มาตรฐานและตวั บ่งช้ี สง่ เสรมิ พัฒนาการดา้ นอารมณ์ – จิตใจ มาตรฐานท่ ี ๓ มสี ุขภาพจติ ดแี ละมคี วามสุข ตัวบง่ ช้ีที่ ๓.๑ แสดงออกทางอารมณไ์ ดอ้ ย่างเหมาะสม ตวั บ่งชี้ท่ี ๓.๒ มคี วามรู้สกึ ท่ดี ตี ่อตนเองและผอู้ ื่น สง่ เสรมิ พัฒนาการด้านสติปัญญา มาตรฐานท่ี ๙ ใชภ้ าษาสือ่ สารได้เหมาะสมกับวัย ตัวบ่งชีท้ ่ี ๙.๑ สนทนาโตต้ อบ และเล่าเรอ่ื งใหผ้ ้อู ื่นเข้าใจ ตัวบง่ ชี้ที่ ๙.๒ อ่าน เขยี นภาพ และสญั ลกั ษณ์ได้ มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคิดทเ่ี ปน็ พ้นื ฐานในการเรียนรู้ ตัวบ่งชท้ี ี่ ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคิดรอบยอด มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ได้เหมาะสมกับวัย ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ว วตั ถปุ ระสงค์ ๑. เพอื่ กระตุน้ การพดู สนทนาโต้ตอบของเด็กดว้ ยฉากภาพวัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ ทเ่ี ด็กรู้จัก ๒. เพื่อฝกึ สังเกต การคิด การวิเคราะห์ และคดิ รวบยอดในการเรยี นร้สู งิ่ แวดลอ้ มใกลต้ วั ของเด็ก ๓. เพอื่ สร้างความรู้สกึ ที่ดตี ่อตนเอง ภาคภูมใิ จในสังคมวัฒนธรรมของตนเอง ๔. เพื่อฝึกให้เด็กสื่อความคิดออกมาเป็นคำ� พูด ๕. เพือ่ ฝึกการอ่าน และการเขียนสื่อความคดิ ออกมาเป็นรปู ภาพ 164
ขั้นตอนการจัดประสบการณ์โดยการใชส้ ื่อการเรียนรู้ t ครูเตรียมส่ือการสอนโดยน�ำฉากภาพวัฒนธรรมวางบนกระดานเคล่ือนท่ี หรือขาต้ัง หรือติดที่ฝาผนัง โดยให้ฉากภาพวัฒนธรรมอยู่สูงในระดับสายตาของเด็กท่ีนั่งกับพื้นเพื่อดูภาพร่วมกัน จากนน้ั ครูเรมิ่ ตน้ กิจกรรมและถามคำ� ถามตามล�ำดับ ดงั น้ี ๑. ครชู ี้ไปทฉี่ ากภาพวฒั นธรรม และชวนให้นกั เรยี นทบทวนสิง่ ที่เรยี นรูแ้ ล้วเม่ือช่ัวโมงกอ่ น และ ชวนใหน้ กั เรยี นดูสว่ นของฉากภาพทจ่ี ะเรยี นในวนั น้ี ๒. นักเรียนตอบค�ำถามทั่วไปเก่ียวกับภาพ โดยครูตั้ง ค�ำถามตามล�ำดับต่อไปนี้ เชน่ ๑) ภาพนี้เป็นภาพเกี่ยวกับอะไร เหตุการณ์น้ี เกดิ ข้ึนทไี่ หน ๒) มใี ครอยูใ่ นภาพนั้นบ้าง ๓) ผทู้ อี่ ย่ใู นภาพนน้ั ก�ำลงั ทำ� อะไรบา้ ง ๓. ครูถามค�ำถามให้เด็กยกมืออาสาพูดตอบค�ำถามที่สัมพันธ์กับหน่วยการเรียนรู้ประจ�ำสัปดาห์ (ตวั อย่าง ขอ้ ๑ - ๖) ถ้าเดก็ ยกมือหลายคน ครคู วรเรยี กชอ่ื เด็กทย่ี กกอ่ น หรอื เดก็ ท่ียังไมไ่ ดต้ อบคำ� ถาม ๑) นักเรียนคนไหน/ใครสามารถช้ีภาพเด็กหญิง ท่กี ำ� ลังเล่นลกู โปง่ ได้ ๒) นักเรียนคนไหน/ใครสามารถหาภาพเด็กผู้ชาย เส้อื สเี หลอื งทกี่ อดหมไู ด้ ๓) นักเรียนคนไหน/ใครสามารถเอานิ้วแตะ เด็กผูห้ ญิงที่ยืนอยู่กบั แมข่ ้างเตาไฟได้ ๔) นักเรียนคนไหน/ใครสามารถช้ีภาพผหู้ ญงิ ใสช่ ดุ สีชมพูก�ำลงั ตกั น้�ำในแม่น้ำ� ได้ ๕) นกั เรยี นคนไหน/ใครสามารถหาผ้หู ญงิ คนแกแ่ บกใบไม้สองใบได้ ๖) นกั เรยี นคนไหน/ใครสามารถบอกไดว้ ่าผ้หู ญงิ เสอ้ื สนี ้�ำเงนิ ทอี่ ยู่ริมแม่น้ำ� กำ� ลังท�ำอะไร 165
๔. นักเรียนพูดตอบค�ำถามปลายเปิดของครู เพ่ือฝึกการคิด การวิเคราะห์ การคิดรวบยอด เพอ่ื เรยี นรูส้ ิ่งตา่ ง ๆ เช่น ๑) นกั เรยี นคิดวา่ ผหู้ ญงิ และเด็กผูห้ ญิงทีอ่ ย่ขู ้างเตากำ� ลงั ทำ� อะไร (วิเคราะห์) ๒) เดก็ สามคนที่อย่ขู า้ งเลา้ หมกู ำ� ลงั ท�ำอะไร (ความจ�ำ) ๓) หมมู ปี ระโยชน์อย่างไรบา้ ง (เขา้ ใจ) ๔) หมูสดี �ำทอ่ี ย่นู อกเล้ามีทง้ั หมดกตี่ วั (เขา้ ใจ) ๕) ในภาพผหู้ ญิงทอ่ี ยู่บนบา้ นกำ� ลงั ท�ำอะไร (เขา้ ใจ) ๖) ระหว่างหมูกับไกส่ ตั ว์อะไรตวั โตกวา่ กนั (ประเมิน) ๗) ท�ำไมเขาถงึ น�ำหมไู ปไวใ้ นเล้า (วเิ คราะห)์ ๘) นักเรียนคดิ วา่ เราเล้ยี งหมูไวท้ ำ� อะไร (วเิ คราะห์) ๙) นกั เรยี นควรเลย้ี งหมูอยา่ งไรใหเ้ ตบิ โตได้ดี (วเิ คราะห์) ๑๐) การเลีย้ งหมกู ับการเลย้ี งไก่ตา่ งกันอย่างไร (ประเมิน) ๑๑) เดก็ ผหู้ ญิงสค่ี นทน่ี งั่ ล้อมวงอยูก่ �ำลงั ทำ� อะไร (เข้าใจ) ๑๒) เด็กผู้หญิงใส่เส้อื สชี มพูจะน�ำใบตองไปทำ� อะไร (เข้าใจ) ๑๓) ผกั ท่อี ยใู่ นแปลงผกั นำ� มาท�ำอาหารอะไรได้บา้ ง (วิเคราะห)์ ๑๔) นำ�้ ในแมน่ �้ำสะอาดหรอื ไม่ นกั เรียนรไู้ ด้อยา่ งไร (วเิ คราะห์) ๑๕) น้ำ� ทสี่ ะอาดกบั น�้ำสกปรกแตกตา่ งกนั อยา่ งไร (ประเมิน) ๑๖) เราจะรกั ษานำ้� ใหส้ ะอาดได้อยา่ งไร (วิเคราะห)์ ๑๗) น�้ำมปี ระโยชน์ต่อชีวติ เราอย่างไร (เขา้ ใจ) ๑๘) ผชู้ ายสองคนก�ำลงั แบกอะไร (ความจ�ำ) ๑๙) เขาจะน�ำส่ิงทแี่ บกไปทำ� อะไร (เข้าใจ) ๒๐) ระหวา่ งการแบกกบั การหว้ิ แตกต่างกนั อย่างไร (ประเมิน) ๕. คำ� ถามสุดท้าย : นกั เรยี นชอบอะไรที่สดุ เก่ยี วกบั ภาพน้ี เพื่อให้นักเรียนบอกความรู้สึกที่ดีของตนเองต่อสังคม วัฒนธรรม และสงิ่ ใกล้ตวั ของนักเรยี น ๖. ครูให้นักเรียนเล่าเรื่องจากฉากภาพวัฒนธรรม เฉพาะส่วนท่ีเกี่ยวกับหน่วยการเรียนนั้น เพื่อฝึกการพูดส่ือสาร ความคดิ ออกมาเปน็ คำ� พดู ของนกั เรยี น ๗. กิจกรรมปิดท้ายส�ำหรับการใช้ฉากภาพวัฒนธรรม คือ ให้นักเรียนวาดภาพตามจินตนาการของหน่วยการเรียนน้ัน น�ำเสนอผลงานให้ครูฟัง และครูบันทึกค�ำพูดในชิ้นงานของนักเรียน เพือ่ ฝึกการอา่ น การเขียนส่อื สารออกมาเปน็ รูปภาพของนกั เรียน 166
การวดั และประเมินผล มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ การวดั ประเมนิ ผล มาตรฐานท่ี ๓ มสี ุขภาพจิตดแี ละมคี วามสขุ ตัวบง่ ชที้ ่ี ๓.๑ ๑. สงั เกตการรว่ มกจิ กรรมกับคร/ู เพ่อื น แสดงออกทางอารมณ์ จากทกุ กจิ กรรม มาตรฐานที่ ๙ ได้อยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาสือ่ สารไดเ้ หมาะสม กบั วยั ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๓.๒ ๒. วดั และประเมินจากการพดู บอกความรสู้ กึ มคี วามรู้สกึ ทีด่ ีตอ่ ตนเองและ ของตนเองตอ่ สว่ นของภาพทชี่ อบ มาตรฐานที่ ๑๐ ผ้อู น่ื มคี วามสามารถในการคดิ ทเี่ ป็นพนื้ ฐานในการเรยี นรู้ ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๙.๑ ๓. วดั และประเมนิ จากการเล่าเร่ือง มาตรฐานท่ี ๑๒ สนทนาโต้ตอบ และเลา่ เรอื่ ง จากฉากภาพวฒั นธรรมเฉพาะส่วนทเ่ี กยี่ วกับ มเี จตคติทดี่ ตี ่อการเรยี นรู้ ให้ผอู้ ื่นเข้าใจ หนว่ ยการเรยี นนั้น และมีความสามารถในการ แสวงหาความรไู้ ด้เหมาะสม ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๒ ๔. วัดและประเมนิ กบั วัย อา่ น เขยี นภาพและสัญลกั ษณไ์ ด้ - การวาดภาพตามจินตนาการของหน่วย การเรยี นนนั้ - การนำ� เสนอผลงานใหค้ รูฟงั และครบู นั ทกึ คำ� พูดในช้ินงานของเด็ก ตวั บ่งชีท้ ี่ ๑๐.๑ ๕. วัดและประเมินจากการถาม - ตอบค�ำถามวา่ มีความคิดรวบยอด ใคร ทำ� อะไร ทไ่ี หน และทำ� ไม เพ่อื ฝกึ ในการเรยี นรู้ส่งิ ตา่ ง ๆ การคิด การวเิ คราะห์ และการคิดรวบยอด ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๑ มคี วามสามารถในการแสวงหา ความรู้ เครื่องมือวดั และประเมินผล ๑. แบบสังเกตการแสดงออกทางอารมณ์อยา่ งเหมาะสมกับวยั และสถานการณ์ ขณะร่วมทุกกจิ กรรม ๒. แบบบันทึกการพูดแสดงความรู้สึกท่ีดตี ่อสว่ นของภาพทช่ี อบ ๓. แบบประเมินการสนทนาโต้ตอบ/เล่าเรื่องจากฉากภาพวัฒนธรรมเฉพาะส่วนที่เก่ียวกับ หน่วยการเรียนให้ครู/เพ่อื นฟงั แล้วเขา้ ใจ ๔. แบบประเมินผลงานการวาดภาพตามจนิ ตนาการเกีย่ วกบั หน่วยการเรียนของเด็ก ๕. แบบบันทึกการพูดสือ่ สารน�ำเสนอผลงานท่วี าดภาพใหค้ รฟู งั ๖. บันทกึ การพดู ตอบค�ำถาม เพื่อฝึกการคดิ การวิเคราะห์ การคิดรวบยอด เพอื่ เรียนรู้สิง่ ตา่ ง ๆ ของเด็ก 167
การเชื่อมโยงสทู่ กั ษะ การฟัง - พูด ภาษาไทย ฉากภาพวัฒนธรรม เป็นสื่อช่วยพัฒนาทักษะการฟังและพูด โดยผู้เรียนสามารถพูดคุยได้ จากสิ่งท่ีคุ้นเคย และพบเห็นเป็นประจ�ำ นอกจากน้ียังช่วยฝึกการล�ำดับเหตุการณ์ การคิดเชิงเหตุผลและ การจินตนาการเชงิ สรา้ งสรรคด์ ว้ ย ความสามารถในการพูดและฟังโดยใช้ภาษาแม่ ช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นใจและกล้าแสดงออก ซึ่งครจู ะเชือ่ มโยงและพฒั นาสู่ภาษาไทยทีเ่ ขม้ แข็งในล�ำดบั ต่อไป ตัวอยา่ งฉากภาพวฒั นธรรม ฉากภาพวัฒนธรรม (ลาหู่แดง) ฉากภาพวฒั นธรรม (เลือเวือะ) ฉากภาพวัฒนธรรม (กะเหรี่ยงโปว)์ ฉากภาพวัฒนธรรม (ม้ง) 168
๒. เร่ืองเล่า เรอ่ื งเล่าส�ำคญั อย่างไร การสอนเรื่องเล่า (Story Telling) เป็นกิจกรรม การสอนที่เน้นการฟังอย่างเข้าใจโดยใช้ภาษาท้องถ่ินของนักเรียน เมื่อนักเรียนฟังอย่างเข้าใจ นักเรียนสามารถตอบค�ำถามคาดเดา เหตุการณ์ต่าง ๆ ในเน้ือเรื่องที่ฟังได้ ซ่ึงเป็นกระบวนการหน่ึง ในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ นอกจากนี้การรับฟัง เรื่องราวทส่ี นุกสนาน โดยมหี นังสือประกอบ สง่ ผลใหน้ ักเรียนสนใจ ในตวั อักษรและหนงั สอื ทคี่ รใู ชส้ อน ซง่ึ เปน็ การสง่ เสริมใหน้ กั เรียน มนี สิ ยั รกั การอ่าน และเป็นการสร้างนกั เขียนรุน่ เยาวใ์ นอนาคต คณุ คา่ และประโยชน์ ๑. ฝึกให้ผู้เรียนมีพัฒนาการในการฟัง พูด คิดและ จินตนาการ ๒. ฝึกให้ผู้เรียนมีสมาธิในการฟัง ฝึกฟัง ฝึกคิด ตามเน้ือเร่ืองและเหตุการณ์ ฝึกจับใจความการคาดเดาเหตุการณ์ ลว่ งหน้า มาตรฐานและตัวบ่งชี้ สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญา มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสือ่ สารได้เหมาะสมกบั วยั ตัวบ่งชที้ ี่ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและเลา่ เรอื่ งให้ผ้อู ื่นเขา้ ใจ มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ได้เหมาะสมกบั วัย ตัวบ่งชที้ ่ี ๑๒.๑ มีเจตคติทีด่ ตี ่อการเรียนรู้ ตัวบ่งชี้ที่ ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ 169
วตั ถุประสงค์ ๑. เพือ่ จูงใจให้เดก็ เหน็ ความสำ� คัญของหนังสือทส่ี ามารถเลา่ เปน็ เรอื่ งราวท่ีสนุกได้ ๒. เพ่อื เสริมสรา้ งทักษะการคาดเดาเหตุการณ์ลว่ งหนา้ ๓. เพอ่ื ฝกึ กระบวนการคดิ และทำ� ความเขา้ ใจคล้อยตามเรอื่ ง ขน้ั ตอนการจัดประสบการณ์โดยการใช้สือ่ การเรียนรู้ ๑. ครูกลา่ วถึงหนว่ ยการเรียนรปู้ ระจ�ำสัปดาหเ์ พื่อเชอ่ื มโยง สเู่ ร่อื งราวท่จี ะอา่ น ให้นักเรยี นฟงั ๒. ครูอ่านเรอ่ื งเลา่ ใหน้ กั เรยี นฟงั ด้วยท่าทางท่นี า่ สนใจ ๓. ครูหยุดอา่ นเร่อื งเล่าในชว่ งที่เหมาะสม เพือ่ ตงั้ ค�ำถาม เชงิ คาดเดา ๔. เม่ืออ่านเรื่องเล่าจบแล้ว ให้ครูถามค�ำถามเพ่ือทบทวนเนื้อเร่ืองอีกคร้ัง และเพื่อตรวจสอบ ความเข้าใจของนักเรยี น ๕. ให้นักเรียนท้ังห้องช่วยกันเล่าเร่ืองทีละตอน ๆ จนจบเรื่อง (ครูคอยช่วยด้วยการตั้งค�ำถาม และใบค้ �ำ) ๖. ใหน้ ักเรยี นอาสาสมคั รคนใดคนหน่งึ ออกมาเลา่ เร่อื งทัง้ หมดด้วยตัวเอง ๗. ให้นักเรยี นออกมาแสดงบทบาทสมมุติเป็นตวั ละครและสิ่งตา่ ง ๆ ตามเน้อื เร่ือง (โดยมคี รเู ปน็ ผู้เล่าเรื่อง) หรือ กรณีนักเรียนท่ีเรียนระดับชั้นสูงกว่าระดับอนุบาล อาจแบ่งกลุ่มเด็กเป็น ๒ กลุ่ม แล้วให้ ช่วยกนั คิดและเปล่ยี นตอนจบของเร่อื งใหม่ จากนนั้ ออกมาเลา่ เรื่องทเี่ ปลย่ี นตอนจบให้เพอื่ น ๆ ฟงั 170
ตวั อยา่ งเร่ืองเล่าภาษาไทย - ท้องถนิ่ น�้ำใจยายชรา มียายคนหน่ึงชอ่ื พีม่อื แม เปน็ คนแกม่ าก ไม่มีลกู ไม่มีหลาน อาศยั อยู่ในกระทอ่ ม หลังน้อย ๆ เพียงล�ำพัง และมีฐานะยากจนมาก ทุก ๆ วัน พีม่ือแม จะด่ืมแต่น้�ำเท่าน้ันเพื่อประทังชีวิตไปวัน ๆ ใหต้ วั เองอย่รู อด วนั หนึ่ง พมี อ่ื แม เขา้ ไปในหมู่บา้ น เพอ่ื ทจ่ี ะออกไปขอข้าวจากชาวบ้านกิน (นกั เรยี นคิด วา่ ชาวบา้ นจะให้ข้าว พมี อ่ื แม กินหรอื ไม)่ แต่ไมม่ ีชาวบ้านคนไหนเอาขา้ วให้ พมี อื่ แม กิน อยมู่ าวันหนึ่ง ขณะที่ พีม่ือแม เดินทางไปหาข้าวกินนั้นได้พบเด็กคนหนึ่งร้องไห้ เพราะโดนมดกัด (นักเรียนคิดว่า พมี ่ือแม จะทำ� อยา่ งไรกบั เดก็ คนนัน้ ) พมี ่อื แม จึงอุม้ เดก็ คนน้นั ขึน้ มาแล้วพาไปทีบ่ า้ นของตน เดก็ คนนนั้ หัวเราะใส่ พีม่ือเเม ทันใดน้ันเองก็มีฟ้าผ่าลงมาเสียงดังกร้า!!! (นักเรียนคิดว่าหลังจากฟ้าผ่าจะเกิดอะไรขึ้น) แล้วมีกระสอบใบหนึ่งตกลงมาใกล้ พีม่ือแม สัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเงินตัวทอง ปู มด เป็นต้น ต่างพากัน วิ่งกันไม่ถูกท่ีถูกทางเลย พีม่ือแม เห็นกระสอบอยู่ตรงหน้าเลยเดินไปเปิดดู เห็นเงินทอง ของกินมากมาย ต้ังแต่วันนั้นเป็นต้นมา พีมื่อแม กลายเป็นคนร่�ำรวยข้ึน มีอาหารการกินมากมาย เล้ียงเดก็ คนน้ันจนเติบโตเป็นผูใ้ หญ่ทด่ี ี คำ� แปลเร่อื งเลา่ ภาษาทอ้ งถ่ินเป็นภาษาไทย พีมอื่ แมอะบลอ่ื ะ พมี ื่อแมโอแ๊ วเตอฆา อะซะปว่าโด๊มะ่ ลี่ อะโพอะลเี ต่อโอบ๊ าฮ อะโอ๊แวดา้ เตอฆา พมี อ่ื แมเตอ่ ฆาอ่ี อะพลอ๊ โด๊ม๊า เตอออ๊ บ่าตา้ บาฮ อ๊อแวทกี ๊อม่อื นี่ลอฮ พมี ื่อแมแลแวดา้ เลอฮแ้ี ลปู อะเกอแลฆืออ๊อเมเลอป ว่าเด่อะ แพ่เลออะแลฆืออ๊อปว่าเม ปว่าเต่อเฮ้ดืออ๊ออะเมน้อเตอฆาบาฮ โอ๊แวมื่อเต่อนี่ พีมื่อแมแลฆื ออ๊อเมดอ๊ แลทแ่ี วด้าโพซะโฮเต่อฆา อะฮ๊อเต่อเออ๊ ออามะ่ พมี ื่อแมเตอ่ ฆาแลซอ๊ เกแวดา้ โพซา้ โฮเตอ่ ฆาเน่ ด๊อแกพ่ะแวด้าเล่ออะเด่อ โพซ่าโฮเตอฆาเน่นีบ่าพีม่ือแม แพ่เล่ออะนีบ่ะพีม่ือแม ลอพล่ะต่าเซกร้า แตเต่อเพลอลอแท่แวด้าเล่อพีมื่อแมอะฆอที่ ต่าโพฆา ดอเล่ แชว เต่อ จี่แววอเต่อบ่าแกลเลอเน่ลอฮ พีมอ่ื แมกวาแวด้า ทแี่ วแตเตอ่ เพลอ้ โอ๊แวดา้ อะเด่อะแมะ่ ญา แลออ๊ ท๊อแตอะโค๊เต่อเพลอ้ เนฮ ทแ่ี วด้าเลอ่ แตอะปูโอ๊ด๊อเจ ต่าอ๊อต่าออร่ะม่ะลอฮ พีเต่อฆาเน่ เน่อ๊อบ่าเกต่า อะต่าโอ๊ะท๊อเก ลือเกโพซะโฮ เตอ่ ฆาเน่ตอ่ื เล่ออะโด๊ทอ่ โพซะโฮเตอ่ ฆาเน่โดท๊ อ่ อะแกะ่ โพซะเลอ่ อะเฆ่ลอฮ 171
คำ� ถามหลังกจิ กรรม ๑. ในเรื่องนี้มีใครบ้าง ๒. พีม่ือแม อาศัยอยู่กับใครในบา้ น ๓. เดิม พมี ื่อแม มฐี านะอยา่ งไร ๔. พีม่ือแม ไปเจอเด็กรอ้ งไหท้ ไี่ หน ๕. สุดทา้ ย พีม่อื แม เปน็ อย่างไร ๖. ถา้ นกั เรียนเปน็ พีมอื่ แม นกั เรียนจะน�ำเงนิ ทองไปทำ� อะไร การวัดและประเมินผล มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี การวดั ประเมินผล มาตรฐานท่ี ๙ ตัวบ่งช้ที ี่ ๙.๑ ๑. วัดและประเมนิ จากการเล่าเร่ืองของนกั เรียน ใช้ภาษาสอ่ื สารได้เหมาะสม สนทนาโตต้ อบ/เลา่ เรือ่ ง กับวยั ให้ผอู้ น่ื เขา้ ใจ มาตรฐานท่ี ๑๒ ตวั บง่ ช้ที ่ี ๑๒.๑ ๑. วัดและประเมนิ จากการพูดตอบคำ� ถาม มีเจตคติท่ีดตี อ่ การเรยี นรู้ มีเจตคติทด่ี ตี อ่ การเรียนรู้ เพ่อื ฝึกการคิดการวิเคราะห์ การคาดเดาและ ยน และมคี วามสามารถ ความเข้าใจในเร่ืองเลา่ ในการแสวงหาความรู้ ตัวบง่ ชีท้ ่ี ๑๒.๒ ๒. วัดและประเมนิ จากการตอบคำ� ถาม ได้เหมาะสมกับวัย มคี วามสามารถในการแสวงหา ของครจู ากการถามเก่ียวกบั เร่อื งในเร่ืองเล่า ความรู้ เคร่อื งมือวัดและประเมินผล ล่า ๑. แบบบันทกึ การตอบคำ� ถามของนกั เรียน ๒. แบบบนั ทกึ การพูดตอบคำ� ถาม เพอ่ื ฝกึ การคิด การวเิ คราะห์ การคาดเดาและ ความเข้าใจใน เรือ่ งเลา่ 172
การเชือ่ มโยงสู่ทกั ษะ การฟงั - พูด ภาษาไทย เร่ืองเล่า เป็นสื่อช่วยพัฒนาทักษะการฟังและพูด โดยผู้เรียนสามารถฟังและพูดจากเร่ือง ท่ีเล่าได้ ฝึกสมาธิในการฟัง ฝึกการจับใจความ การคิดตามเนื้อเรื่อง การแสดงบทบาทสมมุติ และ สรา้ งนิสยั รักการอ่าน ความสามารถในการพูดและฟังโดยใช้ภาษาแม่ ช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นใจและกล้าแสดงออก ซ่งึ ครจู ะเชือ่ มโยงและพฒั นาส่ภู าษาไทยท่ีเขม้ แขง็ ในลำ� ดบั ต่อไป เรื่องเลา่ ภาษาท้องถนิ่ (มง้ ) ตวั อย่าง เร่ืองขา้ วโพด 173
การตั้งค�ำถามการสอน ๑. ในเรอื่ งน้ีมใี ครบ้าง ๒. ใครปลกู ข้าวโพด ๓. ทำ� ไมจ๊งจึงร้องไห้ ๔. จ๊งว่ิงไปหาใครบา้ ง ๕. แพะไล่แม่ววั ไดห้ รอื ไม่ ๖. ใครไล่แม่ววั ออกจากสวนขา้ วโพดได้ ๗. ผงึ้ ไลแ่ ม่ววั ได้อย่างไร 174
๓. หนงั สือรูปภาพ หนงั สือรปู ภาพสำ� คัญอยา่ งไร หนังสือรูปภาพ (Picture - Story Book) มีลักษณะเป็นภาพขนาด A๔ ท่ีมีเร่ืองราวเป็น เหตกุ ารณ์ตอ่ เนอื่ ง จ�ำนวน ๔ - ๖ ภาพ เหตกุ ารณน์ ้นั จะเป็นชีวติ ประจ�ำวนั หรอื วิถชี ีวติ ในชมุ ชนของผูเ้ รยี น เรือ่ ง วันแม่ คุณค่าและประโยชน์ ผเู้ รียนไดพ้ ัฒนาการฟงั - พดู การคิด การเรยี งลำ� ดับกอ่ นหลังและการคิดหาเหตผุ ลจากเร่อื ง มาตรฐานและตวั บง่ ช้ี ส่งเสรมิ พฒั นาการด้านอารมณ์ – จิตใจ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมีความสุข ตัวบ่งชที้ ี่ ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างเหมาะสม สง่ เสริมพัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาสือ่ สารไดเ้ หมาะสมกบั วยั ตัวบง่ ชี้ที่ ๙.๑ สนทนาโตต้ อบ และเล่าเร่ืองใหผ้ ู้อ่ืนเขา้ ใจ ตัวบ่งชท้ี ี่ ๙.๒ อา่ น เขียนภาพและสัญลกั ษณไ์ ด้ มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคิดที่เป็นพ้นื ฐานในการเรยี นรู้ ตวั บ่งช้ที ่ี ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด มาตรฐานที่ ๑๒ มเี จตคติทด่ี ีตอ่ การเรยี นรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความร ู้ ไดเ้ หมาะสมกับวัย ตัวบง่ ช้ที ี่ ๑๒.๑ มเี จตคติทด่ี ตี ่อการเรียนรู้ 175
วตั ถุประสงค์ ๑. พฒั นาทักษะการพดู ของนักเรียนใหส้ ามารถพูดเป็นเรอื่ งราวต่อเนือ่ งเปน็ เรื่องได้ ๒. ฝึกทักษะเรยี บเรียงเรื่องราวอย่างตอ่ เน่อื งเปน็ ลำ� ดบั ๓. กระตุน้ ใหน้ ักเรียนไดพ้ ัฒนาการคดิ วเิ คราะหใ์ นการเรยี งลำ� ดบั ภาพ ๔. พัฒนาความมนั่ ใจในการพดู หนา้ ชน้ั เรยี น ข้ันตอนการจัดประสบการณโ์ ดยการใช้สอ่ื การเรียนรู้ ๑. ครเู ตรียมหนงั สือรูปภาพพร้อมทั้งแสดงภาพให้นักเรียนดู ๒. นักเรยี นช่วยกนั บอกรายละเอียดของภาพแตล่ ะภาพ จนครบทุกภาพวา่ ใคร ทำ� อะไร ทไี่ หน และจะทำ� อะไรต่อไป ๓. ครแู จกภาพให้นกั เรยี นได้ดูกันทกุ คนเพ่ือให้นักเรยี นได้สัมผัสและได้ดรู ูปภาพทว่ั กนั ๔. ให้นักเรียนกลมุ่ หนง่ึ ออกมาถอื ภาพและชว่ ยกนั เรียงล�ำดับภาพ หรอื ให้นักเรยี นทไี่ ม่ได้ถอื ภาพ มาเรียงลำ� ดบั ภาพเพ่อื น ๆ ท่ีถอื ภาพอยู่ ๕. ใหผ้ ทู้ ่ถี อื ภาพบอกเรือ่ งราวภาพของตน หรือใหน้ ักเรียนท่ีไม่ได้ถือภาพ เลา่ เรื่องราวเป็นล�ำดับ จนจบ ๖. ครถู ามนกั เรยี นวา่ ใครอยากสลับภาพบา้ ง ถา้ มใี ห้นักเรียนคนนั้นเลา่ เพ่อื ให้เหตุผล ๗. ผลดั เปลยี่ นใหน้ ักเรียนคนอ่ืนมาเรยี งล�ำดบั ภาพและเลา่ เรื่อง 176
ตวั อยา่ งการต้ังคำ� ถาม พอ่ กบั แมป่ ลูกขา้ วไร่ คำ� ถาม ๑. พ่อกับแมป่ ลกู ขา้ วไรใ่ ชห่ รอื ไม่ ๒. พอ่ กับลกู ชายปลูกขา้ วไร่ใชห่ รอื ไม่ ๓. พ่อกบั แม่นั่งปลกู ขา้ วไร่ใชห่ รือไม่ ๔. พอ่ กบั แม่กำ� ลังท�ำอะไร แม่ถางหญ้าขา้ วไร่ ค�ำถาม ๑. แม่ถางหญ้าข้าวไร่ใชห่ รือไม่ ๒. แม่ใช้มือถอนหญ้าใชห่ รอื ไม่ ๓. แม่กบั พ่ีถางหญ้าขา้ วไรใ่ ช่หรือไม่ ๔. แม่ก�ำลังท�ำอะไร พอข้าวแก่ แมเ่ กีย่ วข้าวไร่ คำ� ถาม ๑. พอข้าวแก่ แมเ่ กีย่ วขา้ วไร่ใช่หรอื ไม่ ๒. แม่น่ังเกีย่ วขา้ วไรใ่ ช่หรือไม่ ๓. แม่ยืนเกี่ยวขา้ วไรใ่ ชห่ รอื ไม่ ๔. แมก่ ำ� ลังทำ� อะไร พ่อกบั แมช่ ว่ ยกนั ตขี ้าว ค�ำถาม ๑. พ่อกับแมช่ ่วยกนั ตขี ้าวใช่หรือไม่ ๒. พ่อตขี ้าวคนเดียวใช่หรือไม่ ๓. พอ่ กบั แมย่ ืนตขี า้ วใชห่ รอื ไม่ ๔. ใครช่วยกันตีขา้ ว 177
การวัดและประเมนิ ผล มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ การวัดประเมนิ ผล มาตรฐานท่ี ๓ มสี ขุ ภาพจติ ดแี ละมีความสขุ ตวั บ่งช้ีท่ี ๓.๑ ๑. สังเกตการร่วมกจิ กรรมกับคร/ู เพอ่ื นจาก แสดงออกทางอารมณ์ ทุกกจิ กรรม มาตรฐานท่ี ๙ ได้อยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้เหมาะสม กับวยั ตวั บ่งชที้ ่ี ๙.๑ ๒. วัดและประเมินจากการเล่าเร่ืองจากหนังสือ สนทนาโตต้ อบ/ รูปภาพ มาตรฐานที่ ๑๐ เลา่ เรื่องให้ผู้อ่ืนเข้าใจ ความสามารถในการคิด ทเ่ี ปน็ พ้ืนฐานในการเรยี นรู้ ตัวบง่ ชีท้ ี่ ๙.๒ ๓. วดั และประเมินจากการเลา่ เรอื่ งจากหนงั สือ มาตรฐานท่ี ๑๒ อา่ น เขยี นภาพและสัญลกั ษณไ์ ด้ รูปภาพ มีเจตคติท่ดี ตี อ่ การเรยี นรู้ และมีความสามารถ ตัวบง่ ช้ีที่ ๑๐.๑ ๔. วัดและประเมินจากการถาม - ตอบค�ำถามวา่ ในการแสวงหาความรู้ ความสามารถในการคดิ ใคร ทำ� อะไร ท่ีไหน และทำ� ไม เพือ่ ฝึก ได้เหมาะสมกับวัย รวบยอด ๆ การคดิ การวเิ คราะห์ และการคดิ รวบยอด ตัวบ่งช้ที ี่ ๑๒.๑ มเี จตคติทดี่ ตี อ่ การเรียนรู้ เครอื่ งมือวดั และประเมินผล ๑. แบบสังเกตการแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมกับวัยและสถานการณ์ ขณะร่วมทุก กิจกรรม ๒. แบบประเมินการสนทนาโต้ตอบ/เลา่ เรือ่ งจากหนงั สอื รปู ภาพให้คร/ู เพ่อื นฟังแลว้ เขา้ ใจ ๓. แบบบันทกึ การเรียบเรยี งเรื่องราวตามล�ำดบั ภาพของนักเรยี น ๔. แบบบันทึกการพูดตอบค�ำถาม เพ่ือฝึกการคิด การวิเคราะห์ ความคิดรวบยอดเพ่ือเรียนรู้ สิ่งต่าง ๆ ของเด็ก 178
การเช่ือมโยงสทู่ ักษะ การฟงั - พูด ภาษาไทย หนังสือรูปภาพเป็นส่ือช่วยพัฒนาทักษะการฟังและพูด โดยผู้เรียนสามารถพูดคุยได้จากภาพท่ีเห็น ในหนังสือรูปภาพ นอกจากนี้ยังช่วยฝึกล�ำดับเหตุการณ์ การคิดเชิงเหตุผล และจินตนาการเชิงสร้างสรรค์ ด้วยความสามารถในการพูดและฟังโดยใช้ภาษาแม่ ช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นใจและกล้าแสดงออก ซ่ึงครูจะเชอื่ มโยงและพัฒนาสู่ภาษาไทยท่ีเข้มแขง็ ในลำ� ดบั ตอ่ ไป ตัวอย่างหนังสอื รปู ภาพ หนังสือรปู ภาพ (กะเหรี่ยงสะกอ) หนังสือรูปภาพ (มลายูถิน่ ) 179
หนังสอื รูปภาพ (ลาหู่แดง) หนงั สือรปู ภาพ (เขมรถ่นิ ไทย) 180
๔. เรอ่ื งเล่าจากประสบการณ์ เรอ่ื งเลา่ จากประสบการณส์ �ำคัญอยา่ งไร เรือ่ งจากประสบการณ์ของผูเ้ รียน (Experience Story) คือ กจิ กรรมท่ผี ู้เรยี นสามารถนำ� เร่อื งราว ที่พบหรือสังเกตเห็นในแต่ละวัน หรือ เป็นประสบการณ์ท่ีครูจัดให้ผู้เรียนไปเรียนรู้ร่วมกันนอกห้องเรียน นำ� มาเล่าหรือถ่ายทอดเปน็ ตัวหนังสอื ได้ คุณค่าและประโยชน์ ๑. ผ้เู รียนประมวลส่ิงทพ่ี บเห็นจากกิจกรรมนัน้ ๆ ๒. ผ้เู รียนไดฝ้ ึกการคิด การสังเกต ลำ� ดับเหตกุ ารณ์ และการคดิ วเิ คราะห์ในระดบั สงู ขน้ึ ๓. ผูเ้ รยี นฝกึ การฟงั และพดู มาตรฐานและตัวบ่งช้ี สง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นสตปิ ญั ญา มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาสอื่ สารได้เหมาะสมกบั วัย ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๙.๑ สนทนาโตต้ อบและเล่าเรอ่ื งให้ผู้อน่ื เข้าใจ มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคติท่ดี ีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ได้เหมาะสมกบั วัย ตวั บ่งชี้ที่ ๑๒.๑ มเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อการเรยี นรู้ ตัวบง่ ชี้ที่ ๑๒.๒ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ 181
วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อให้นักเรียนสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาเป็นค�ำพูด จัดล�ำดับเหตุการณ์หรือขั้นตอน ที่เกิดข้ึน เข้าใจย้อนคิดถึงสิ่งที่อ่านร่วมกันหรือมีประสบการณ์ร่วมกัน อีกทั้งกระตุ้นให้เกิดจินตนาการและ ความคดิ สร้างสรรค์ ข้ันตอนการจดั ประสบการณ์โดยการใชส้ อื่ การเรียนรู้ ๑. ครูสรา้ งประสบการณ์ตรงให้กับผเู้ รยี น ๒. ครแู ละผูเ้ รยี นสนทนาเกย่ี วกบั ประสบการณน์ ัน้ ๆ ๓. ครูกระตุ้นให้ผู้เรียนเล่าเรื่องแต่ละตอนและเขียนเร่ืองน้ัน ๆ บนกระดานด�ำ (เพ่ืออ่านให้ ผเู้ รียนฟัง) ๔. ครูอ่านเรอ่ื งท่ีช่วยกันเล่าใหผ้ ู้เรียนฟัง ๕. ครูให้ผู้เรยี นต้งั ช่ือเรือ่ งและเลือกชื่อเรื่องที่เหมาะสม ๖. ครูอา่ นเรื่องทชี่ ่วยกันเล่าพรอ้ มกบั ช่ือเรอื่ งให้ผู้เรยี นฟงั อกี ครั้ง ๗. ครูให้ผูเ้ รียนเขยี นเร่ืองจากประสบการณท์ ีท่ ำ� ร่วมกัน (ในระดับชั้นอนุบาล ๑ เขียนเรือ่ งโดยน�ำ เสนอเปน็ รูปภาพ) 182
การวดั และประเมนิ ผล มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี การวัดประเมนิ ผล มาตรฐานที่ ๙ ตวั บง่ ช้ีที่ ๙.๑ ๑. วดั และประเมินจากการเล่าเร่อื งของนักเรยี น ใช้ภาษาสื่อสารไดเ้ หมาะสม สนทนาโตต้ อบ และเล่าเรือ่ ง กบั วยั ใหผ้ ูอ้ ืน่ เขา้ ใจ มาตรฐานที่ ๑๒ ตัวบง่ ชที้ ี่ ๑๒.๑ ๑. วัดและประเมินจากการพดู ตอบคำ� ถาม มเี จตคติท่ีดตี อ่ การเรยี นร้แู ละ มเี จตคตทิ ดี่ ีต่อการเรียนรู้ เพ่ือฝกึ การคดิ การวิเคราะห์ การคาดเดา มีทักษะในการแสวงหาความรู้ และความเข้าใจในเรอื่ งเลา่ ตวั บ่งชที้ ่ี ๑๒.๒ ๒. วัดและประเมินจากการตอบคำ� ถามของครู มีความสามารถในการแสวงหา จากการถามเก่ยี วกบั เรอ่ื งในเรอ่ื งเลา่ ความรู้ เครื่องมือวัดและประเมนิ ผล ๑. แบบบนั ทกึ การตอบค�ำถามของนกั เรียน ๒. แบบบันทึกการพูดตอบค�ำถาม เพ่ือฝึกการคิด การวิเคราะห์ การคาดเดาและความเข้าใจ ในเรือ่ งเลา่ การเชอื่ มโยงสทู่ กั ษะ การฟัง - พูด ภาษาไทย เรื่องจากประสบการณ์เป็นสื่อช่วยพัฒนาทักษะการฟังและพูด โดยผู้เรียนสามารถพูดคุยได้ จากเร่ืองราวท่ีพบหรือสังเกตเห็น นอกจากน้ียังช่วยฝึกการคิดวิเคราะห์ การสังเกตและการล�ำดับเหตุการณ์ ด้วยความสามารถในการพูดและฟังโดยใช้ภาษาแม่ ช่วยให้ผู้เรียนมีความมั่นใจและกล้าแสดงออก ซ่ึงครูจะ เช่ือมโยงและพัฒนาส่ภู าษาไทยทเ่ี ขม้ แขง็ ในลำ� ดบั ต่อไป 183
การจัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ ทักษะการฟัง - พูด แบบทีพีอาร์ ทีพอี าร์ คือ อะไร ทีพีอาร์ (TPR : Total Physical Response) คือ “การเรียนภาษาโดยใช้การตอบสนอง ทางร่างกาย” โดยเน้นทักษะการฟัง - พูด” ผู้คิดหรือริเริ่มน�ำแนวทางนี้มาใช้คือ ดร.เจมส์ แอชเชอ (Dr.James Asher) โดยเร่ิมใช้กับการสอนภาษาญี่ปุ่นอย่างเป็นภาษาท่ีสองและได้พัฒนาต่อเน่ืองจนถึง ปัจจุบัน วิธีการสอนภาษาท่ีสองแบบทีพีอาร์นี้ใช้ส�ำหรับผู้เรียนที่พูดภาษาใดภาษาหนึ่งอยู่แล้วในชีวิต ประจ�ำวันและต้องการเรียนรู้ภาษาท่ีสองซึ่งมีลักษณะทางภาษาแตกต่างจากภาษาท่ีใช้อยู่ เป็นการเรียนรู้ ภาษาใหม่ โดยใช้สมองซกี ขวาเลียนแบบประสบการณ์ของทารกในการรับรู้ภาษาท่ี ๑ กระบวนการใช้สมองซีกขวาในการเรียนภาษาเรียกว่า แนวทางการสอนภาษาแบบทีพีอาร์ อิงอยู่กับต้นแบบที่เด็กเรียนรู้ ภาษาแรกของตนเอง ซึ่งไม่เพียงแต่ท�ำให้การเรียนภาษานั้นเป็นไปได้ แลว้ ยังเปน็ การเรียนร้ทู ่สี นุกสนานอีกดว้ ย ทีพอี าร์ (TPR : Total Physical Response) เปน็ กลวธิ ี การสอนภาษาท่ีสองส�ำหรับเด็ก ๆ หรือผู้เรียนท่ีส่ือสารคุ้นเคยกับภาษา อื่น ๆ มาก่อน แล้วเร่ิมต้นเรียนภาษาใหม่ หรือภาษาท่ีไม่คุ้นเคย กลวิธีน้ีเป็นการฝึกทักษะทางภาษา โดยเร่ิมต้นจากทักษะการฟังก่อนพูด แล้วจึงโยงเข้าสู่ทักษะการอ่านและเขียน ซึ่งครูหรือผู้สอนจะมีชุดค�ำศัพท์ และมีขั้นตอนการฝึก โดยเริ่มต้นจากให้ผู้เรียนได้ฟังค�ำพูดในภาษาใหม่ทีละน้อย และซ้�ำ ๆ ซึ่งจะรู้ว่าผู้เรียน เขา้ ใจความหมายของชุดคำ� นนั้ ไดจ้ ากการปฏิบตั ิ หรือการตอบสนองทางการกระท�ำวา่ เข้าใจ และเมือ่ ผู้เรยี น เกิดความรคู้ วามเข้าใจคำ� ศพั ท์ท่เี รยี นนน้ั แล้ว ครจู งึ จะสอนชดุ คำ� ใหมต่ อ่ ไป จนกระทง่ั ผ้เู รยี นสามารถส่ือสาร ภาษาใหม่ไดอ้ ยา่ งเปน็ เจ้าของภาษา กลวิธีน้ีสอดคล้องกับลักษณะพื้นฐานทางภาษาของเด็ก ซึ่ง ดร.ซูซาน - มาโลน และ ดร.เดนนิส มาโลน (Dr. Susan and Dennis Malone) เป็นผู้น�ำเอากระบวนการสอนภาษาที่สองแบบทีพีอาร์ มาแนะน�ำใช้ใน การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาแม่เป็นฐานในประเทศไทย ส�ำนักวิชาการ และมาตรฐานการศึกษาและองค์กรเครือข่ายได้ร่วมมือกันพัฒนาโรงเรียน ตามแนวชายแดน พื้นที่สูงและพ้ืนที่พิเศษ ท่ีมีผู้เรียนเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ เพ่ือพัฒนาหลักสูตร สื่อการสอน และ แนวทางการสอนอย่างต่อเนื่องให้ เหมาะกับบรบิ ทไทย 184
การสอนแบบทพี ีอาร์ บรรลผุ ลสำ� เร็จได้อยา่ งไร ๑. เป็นการเรียนรู้ท่ีเร่ิมต้นจากการสะสมความเข้าใจ เพ่ิมขึ้นเรื่อย ๆ จนนักเรียน เกดิ ความม่ันใจในสิง่ ทเี่ รียนร้นู ้นั และส่งสัญญาณว่ามคี วามพร้อมท่จี ะเตรยี มสูก่ ารพดู ซึ่งเชือ่ วา่ ความเข้าใจนัน้ จะท�ำให้มั่นคงหรืออยู่นานได้นั้นต้องเป็นส่ิงท่ีเชื่อได้ด้วยวิธีการที่ทรงพลังในการบรรลุความส�ำเร็จ ของการเรยี นนัน้ ก็คอื การเรียนภาษาโดยผา่ นการเคลื่อนไหวของนกั เรียนซ่ึงเปน็ หวั ใจหรือแกน่ ของทพี ีอาร์ ๒. การเรียนรู้โดยใช้ความจ�ำกับการเรียนรู้แบบซึมซับภาษา เพ่ือความเข้าใจนั้นมีความแตกต่าง กันการเรียนรู้ด้วยการท�ำงานของสมองซีกซ้าย เช่น การจ�ำชื่อ บทกลอน เบอร์โทรศัพท์ ฯลฯ ซึ่งเป็นความจ�ำระยะส้ันเป็นกิจกรรมท่ีส�ำเร็จได้จากการท�ำซ้�ำซึ่งต่างจากการเรียนรู้แบบซึมซับซ่ึงเป็นกิจกรรม ของสมองซีกขวาซ่ึงเป็นทั้งความคิดและความจ�ำระยะยาวซ่ึงไม่เพียงแต่สามารถเรียกกลับมาได้เท่าน้ันแต่ยัง น�ำมาใชไ้ ดต้ ามต้องการอกี ด้วย ๓. การพูดเป็นการแสดงออกของความเข้าใจซ่ึงเป็นส่วนหนึ่งของความคิด เม่ือซึมซับส่ังสม ความเข้าใจไปได้ระยะเวลาหน่ึงก็จะมีจุดท่ีนักเรียนพร้อมจะพูด พร้อมจะอ่านเขียนซ่ึงอาจสังเกตได้ว่า ความเข้าใจก็จะมีมากข้ึนและขยายออกไปเรื่อย ๆ ความเข้าใจไม่ได้หยุดทันใดเม่ือเริ่มจะพูดแต่จะยังคงมีอยู่ต่อไป และยงิ่ เพิม่ พนู มากขน้ึ อีกถงึ ขนั้ การออกเสียงซงึ่ เปน็ การสลับไปใชส้ มองซกี ซ้ายในการเรยี นรู้ ประเภทของทีพอี าร์ การสอนภาษาแบบทีพีอาร์ (TPR) มี ๔ ประเภท ไดแ้ ก่ 185
๑. ทีพอี ารร์ า่ งกาย ทพี อี าร์ร่างกาย (TPR - B หรอื TPR - Body) ทีพีอาร์ร่างกายเป็นการสอนภาษาโดยใช้ชุด ค�ำศัพท์และค�ำส่ังที่เก่ียวข้องกับร่างกายและการเคลื่อนไหว ของร่างกาย เป็นชุดค�ำศัพท์พื้นฐาน ท่ีสามารถน�ำไปใช้ รว่ มกับทีพอี าร์แบบอน่ื ๆ ได้มาก ในระยะเริ่มต้นของการเรียน ครคู วรเลอื กค�ำศพั ท์ ที่เห็นความหมายแต่ละค�ำได้ชัดเจน ไม่ควรเลือกค�ำที่มีกริยา อาการใกล้เคียงกนั ไปฝึก เพราะอาจทำ� ให้ผเู้ รยี นเกิดความสับสน แตเ่ มอื่ รู้จักค�ำกรยิ าเหลา่ น้ันแล้ว ก็จะเรียนรู้ ค�ำศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เช่น ค�ำว่า เช็ด กับ ถู หรือ หยิบ กับ จับ ซ่ึงอาจใช้สลับไปสลับมา ได้ตามบริบทตอ่ ไป ข้อควรระวัง ในการเลือกใช้ ค�ำศัพท์เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของร่างกายน้ี ครูต้องค�ำนึงถึง ความเหมาะสมกบั เพศ วัยและวฒั นธรรมของท้องถน่ิ ด้วย เชน่ จบู หอมแกม้ เป็นต้น ๒. ทีพีอารส์ งิ่ ของ ทพี อี ารส์ งิ่ ของ (TPR - O หรอื TPR - Objects) ทีพีอาร์สิ่งของเป็นการสอนโดยใช้ค�ำส่ัง เก่ียวข้องกับสิ่งของ ซ่ึงส่วนใหญ่จะสอนควบคู่กับค�ำส่ัง ที่เกี่ยวกับร่างกาย ซึ่งนักเรียนจะต้องรู้ค�ำศัพท์เก่ียวกับ การเคล่ือนไหวของรา่ งกายมากอ่ น ในการเตรียมการสอน ครูหรือผู้สอนต้องระวัง เรื่องการเลือกค�ำศัพท์ ให้เด็กเข้าใจความหมายได้อย่างชัดเจน เช่น ถา้ สอนสิ่งของ ๓ อยา่ ง เราใช้สงิ่ ของ ๓ ชิ้น และใช้กริยา ตัวเดียวกนั หรอื ถา้ ใช้สิ่งของช้นิ เดียว เรากส็ ามารถใช้ค�ำกรยิ า ๓ ค�ำ ได้ เช่น สอนกริยา ๑ ค�ำและสงิ่ ของ ๓ อย่าง เชน่ หยบิ ดอกไม้ หยิบใบไม้ หยิบก้อนหนิ สอนกริยา ๓ ค�ำ และสิ่งของ ๓ อย่าง เช่น หยิบดอกไม้ จับดอกไม้ ถือดอกไม้ หลังจาก สอนคำ� ใหม่แล้ว ครอู าจสอนเร่ือง สี ไปพร้อมกนั เลยก็ได้ เช่น ดอกไมส้ ขี าว ดอกไมส้ ีแดง และใหห้ ยบิ ดอกไม้ ตามสที ค่ี รูจะสอน ขอ้ ควรระวัง ขณะทค่ี รูแนะน�ำคำ� ศพั ท์ใหม่ ครจู ะต้องพดู ค�ำน้นั กอ่ น แลว้ จงึ จะแตะหรือชีส้ ่งิ ของ นั้น ๆ ให้นักเรียนดู เพ่ือเด็กจะได้ยินค�ำศัพท์ รับรู้ค�ำท่ีใช้เรียกสิ่งนั้น และเห็นรูปร่างหรือเข้าใจความหมาย ของสิง่ ของทีเ่ รยี นรู้น้นั 186
๓. ทีพีอาร์รูปภาพ ทพี ีอารร์ ปู ภาพ (TPR - P หรอื TPR - Picture) ทีพีอาร์รูปภาพ เป็นการสอนโดยใช้ค�ำสั่ง โดยใช้ส่ือการสอน คอื รูปภาพตา่ ง ๆ ซง่ึ อาจเปน็ สถานท่ี หรอื สิ่งของที่ไม่อาจน�ำของจริงมาไว้ในช้ันเรียน เพื่อให้ผู้เรียน เข้าใจค�ำสั่ง เข้าใจความหมายและปฏิบัติตามค�ำสั่งจาก ภาพต่าง ๆ ท่ีเลือกมา เช่น ภาพโปสเตอร์ แผน่ พบั รูปภาพ ท่ีมีอยู่แล้ว ภาพตัดปะจากเศษผ้า กระดาษ หรือภาพวาด ลายเส้น หรือภาพสีที่ครูหรือผู้เรียนหรือภูมิปัญญาท้องถิ่น จัดทำ� ขนึ้ ให้เหมาะกับสภาพของชมุ ชน ภาพเหล่าน้ี ควรเคลอ่ื นยา้ ยโดยแกะไปติดหรือวางในตำ� แหนง่ ตา่ ง ๆ ของภาพใหญ่ได้ เพื่อสามารถตรวจสอบว่าเด็ก ๆ รู้จักภาพเหล่านั้นจริง ๆ โดยไม่ท่องจ�ำ และสามารถ ใชภ้ าพน้นั ไดห้ ลายครั้ง ทีพีอาร์รูปภาพ แบง่ เปน็ ประเภทย่อย ๆ ได้ดังนี้ ๓.๑ ทีพีอารว์ าด - ลบ เป็นท่ีพีอาร์ ท่ีใช้วิธีการวาดรูป โดยมี จดุ ประสงค์ เพื่อฝึกการขดี - เขยี น การลากเส้น มคี ำ� ศัพท์ ทไี่ ม่สามารถนำ� ของจริงมาให้ดูในช้นั เรยี น เชน่ พระอาทติ ย์ พระจันทร์ ภูเขา สัตว์ ส่ิงของ เป็นต้น ชุดค�ำศัพท์เหล่านี้ มักใชก้ บั ค�ำกรยิ า วาดและลบ ทพี อี ารป์ ระเภทนีจ้ ะใชส้ อน คำ� บพุ บท หรือสอนเร่ืองสี ไดเ้ ช่นกัน ๓.๒ ทีพีอาร์ ปะตดิ - แกะ - ดึงออก โดยมจี ดุ ประสงค์ เพ่ือแสดงรูปสตั ว์ ตา่ ง ๆ ส่ิงของ คน หรืออุปกรณต์ ่าง ๆ ที่ไม่สามารถน�ำของจริงมา แสดงให้นักเรียนดูได้ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ในครัว อุปกรณ์ ในการท�ำการเกษตร เป็นต้น ข้อดีของทีพีอาร์ประเภทนี้ คือ นักเรียนจะชอบเม่ือได้หยิบจับ และผู้ท่ีชอบวาดรูป ก็จะได้มีส่วนร่วมในการเตรียมอุปกรณ์เช่นกันและ ยังสามารถปรับใช้เป็นเกมการสอนในชั้นเรียนได้ด้วย เช่น อาจแบ่งเป็น ๒ ทีม แข่งกันติดรูป หรือตรวจสอบ ความเขา้ ใจศพั ท์ 187
๓.๓ ทพี ีอารร์ ูปภาพ - ชี้ โดยมีจุดประสงค์เพ่ือแสดงส่ิงท่ีไม่ สามารถน�ำเอาของจริงมาให้เด็กดูได้ เช่น สัตว์ อุปกรณ์ ในงานอาชีพ บุคคล สถานที่ เหตุการณ์ต่าง ๆ โดยครู น�ำรูปภาพส่ิงของหรือเร่ืองราว เหตุการณ์ท่ีจะสอน น�ำมาติดในช้ันเรียน หรือใช้รูปภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดข้นึ ในชีวติ ประจำ� วันแล้วออกคำ� ส่งั ใหน้ ักเรยี นชี้ ข้อดีของทีพีอาร์ ประเภทรูปภาพ - ช้ี คอื ครจู ะสามารถใชป้ ระโยคยาว ๆ ได้ และใช้ในการขยาย คำ� ให้มคี วามละเอยี ดชดั เจนมากข้นึ เช่น ช้ีเดก็ ผู้ชายทใ่ี ส่เสอื้ สเี หลือง ช้ผี ูห้ ญงิ ท่ีหิ้วตะกร้าสีแดง เปน็ ต้น ๓.๔ ทีพีอารร์ ูปภาพ - เดินทาง ทีพีอาร์เดินทาง เป็นการสอนความเข้าใจเก่ียวกับสถานท่ี เพ่ือแนะน�ำผู้เรียนให้รู้จัก ชอื่ เรยี กสถานท่ีท่คี วรรู้ โดยครูเขียนคำ� หรอื วาดรูปหรือตดิ ภาพสถานที่ไว้บรเิ วณรอบ ๆ ห้องเรยี น เพื่อสมมุติ สถานทที่ ่ผี เู้ รยี นควรรู้จักและเรยี กช่อื หรือส่อื สารไดต้ รงกนั สถานท่ีนัน้ ๆ อาจเป็นภาพวาดหรอื ภาพถา่ ย ท่แี สดง ความหมายท่ีชัดเจน อาจเขียนค�ำหรือชื่อเรียกสถานที่น้ัน ก�ำกับไว้ด้วยหรือไม่ก็ได้ ถ้ารูปนั้นชัดเจนดีอยู่แล้วก็ ไม่ต้องเขียนค�ำก�ำกับ แต่ถ้ารูปไม่ชัดเจนก็ควรเขียนค�ำก�ำกับไว้ด้วย เพ่ือต้องการให้ผู้เรียนคุ้นเคยกับ ตัวหนังสือ 188
๔. ทีพีอาร์เรือ่ งราว ทีพีอารเ์ ร่ืองราว (TPR - S หรือ TPR - Story) ทีพีอาร์เรื่องราว เป็นการสอนภาษาใหม่ ด้วยการเล่าเรื่อง ซ่ึงควรใช้เมื่อผู้เรียนมีความพร้อมด้านภาษาไทย เร่ืองราวท่ีเล่าอาจน�ำมา จากเรื่องในชีวิตประจ�ำวัน หรือที่นักเรียนเคยเห็น ถ้าเร่ืองท่ีจะเรียน มีศัพท์ที่นักเรียนไม่รู้จัก ครูต้องแนะน�ำค�ำศัพท์ใหม่เสียก่อน แล้วจึง เล่าเร่ืองทีละตอน โดยครูแสดงท่าทางตามเรื่องที่เล่า หลังจากนั้น ครูจะเล่าเร่ืองน้ันซ้�ำอีกครั้ง แล้วอาสาสมัครออกมาแสดงเรื่องราว (ตามทค่ี รูเลา่ ) โดยยังไม่ต้องพูด จนกวา่ เมอ่ื นักเรยี นพรอ้ มจะพูดแล้ว ครูก็จะให้นักเรียนเล่าเรื่องแทนครู แล้วให้นักเรียนคนอ่ืน ออกมาแสดงทา่ ทางตามเรื่องทเ่ี ลา่ น้ัน จดุ ประสงค์ของการสอน ทพี อี ารเ์ รอ่ื งราว (TPR - S หรอื TPR - Story) คอื ตอ้ งการให้ผู้เรียนฟัง ครูพูดให้เข้าใจเร่ืองราวท่ีเล่า และท�ำท่าทางตามความหมายของเรื่องท่ีฟัง โดยผู้เรียนไม่ต้องพูด เพียงแต่แสดงท่าทางประกอบเร่อื งเท่านัน้ ตวั อย่างการสอน ทีพีอาร์ เร่อื งราว เช่น - ครูพูดและสาธติ ค�ำว่า ทัง้ หมด และบางส่วน - ครูพดู และสาธติ คำ� วา่ โกรธ หวิ ดใี จ - ครเู ล่าเรอื่ งราวโดยใช้ทา่ ทางประกอบ ว่า “แม่มีขนม เดก็ เดินมา เด็กหวิ เดก็ กินขนมทัง้ หมด เมือ่ แมม่ า แม่หิว แมต่ ลี กู ลกู ว่ิงหนีไป” เป็นต้น - หาอาสาสมัครแสดงกริยาท่าทาง โดยครเู ปน็ คนพูดให้ผ้เู รียนแสดงท่าทางประกอบ ขอ้ สงั เกต ครูอาจตรวจสอบวา่ เด็กรคู้ วามหมายหรือไม่จากการใชค้ ำ� ถามสนั้ ๆ ให้เด็กตอบว่า ใช่ หรอื ไมใ่ ช่ เร่ืองราวที่แต่งไม่ควรเกิน ๖ ประโยค และครูไม่บังคับให้เด็กพูดหรือเล่าเรื่องเอง จนกว่าผู้เรียน จะพร้อม ซึง่ ตอ้ งใช้เวลาพอสมควร ข้อดีของการสอนแบบ ทีพีอาร์ คือ ครูสามารถขยายค�ำสั่งให้ยาวได้ และเน้นล�ำดับเหตุการณ์ ก่อน - หลังได้ นกั เรยี นจะสนกุ สนานถ้าครใู ชค้ �ำส่ังที่ตลก และทุกคนสามารถมสี ว่ นรว่ มได้ ..... นักเรียนจะเรียนรู้ เข้าใจค�ำศัพท์และความหมายนั้น ๆ โดยครูไม่บังคับให้นักเรียนปฏิบัต ิ หรือต้องพูดเมื่อนักเรียนยังไม่พร้อมในแต่ละคาบของการสอนแบบนี้ นักเรียนจะเรียนรู้ภาษาไทย อยา่ งสนุกสนาน และเขา้ ใจความหมายมากขึน้ ในแตล่ ะวัน เม่ือเรียนรู้และมีคลังค�ำศัพท์ภาษาไทยพอสมควรแล้ว ครูจึงจะเริ่มฝึกทักษะ ความพร้อม ในการเตรียมอา่ นและเขยี นภาษาไทยใหก้ บั เดก็ ซ่งึ มขี น้ั ตอนตามลำ� ดบั จากขั้นง่าย ๆ สขู่ น้ั ยากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการจัดกจิ กรรมและสอ่ื การเรียนรูท้ ี่หลากหลาย..... 189
หลกั การและขั้นตอน ในการสอนภาษาไทยทกั ษะการฟัง - พูด แบบทีพีอาร์ หลักการส�ำคญั ของทีพอี าร์ ๑. เน้นการสาธิต โดยครูเริ่มจากครูพูดค�ำส่ังหรือค�ำศัพท์ก่อน แล้วแสดงท่าทางให้นักเรียนดู หลังจากนั้นให้อาสาสมัครออกมาท�ำพร้อมครู แล้วให้อาสาสมัครท�ำเองและให้นักเรียนทั้งช้ันท�ำกิริยานั้น ๆ พรอ้ มกนั ๒. ใช้หลัก ๓ หมายถึง การสอนแต่ละคร้ังจะใชค้ ำ� ศัพท์ ๓ ค�ำการสอนแตล่ ะข้ันตอนให้ท�ำท่าทาง ๓ ครง้ั เพราะการท�ำซำ�้ ๆ จะทำ� ให้ผู้เรียนจ�ำได้ถา้ ผู้เรยี นยงั จ�ำไมไ่ ดก้ ็ควรทำ� ใหด้ ูมากกวา่ ๓ คร้งั ๓. เน้นความเข้าใจมากกว่าความจ�ำ ครูควร ให้นักเรียนเข้าใจความหมายของค�ำส่ังสั้น ๆ นั้น จากท่าทางโดยไม่ต้องแปลเป็นภาษาที่ผู้เรียนรู้ดีอยู่แล้ว เพราะฉะน้ันจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ภาษาแม่กับผู้เรียน และถ้านักเรียนยังท�ำไม่ได้ครูต้องท�ำให้ดูใหม่จนแน่ใจว่า นักเรียนเข้าใจค�ำสั่งนั้น ๆ แล้วข้อส�ำคัญครูไม่ควรต�ำหนิ เด็กเมอ่ื เด็กท�ำผิดแต่ควรใหก้ �ำลงั ใจเดก็ ๔. เรียนรู้จากส่ิงใกล้ตัวไปหาส่ิงไกลตัว จากค�ำท่ีง่ายไปหายาก เรียนรู้จากของจริงจากส่ิงท่ีเป็น รูปธรรมไปสูน่ ามธรรม ๕. ก่อนท่ีจะเรียนรู้ค�ำศัพท์ใหม่ต้องทบทวนค�ำศัพท์ท่ีเรียนมาแล้วทุกคร้ัง แต่เมื่อค�ำศัพท์มากขึ้น ให้ทบทวนค�ำศพั ท์ทน่ี กั เรียนยังจำ� ไม่ค่อยไดห้ รือทำ� ผิดบ่อย ๆ น้นั ก่อน ๖. ขั้นขยายค�ำศัพท์ครูออกค�ำสั่งตามท่ีก�ำหนดไว้ในแผนการจัดประสบการณ์ เริ่มต้น ดว้ ยการให้นักเรียนท้งั ช้นั ท�ำพร้อมกนั แล้วให้ท�ำเป็นกลุ่มหรอื รายบุคคล 190
ขั้นตอนการจดั ประสบการณ์ทักษะฟงั - พดู แบบทีพอี าร์ การจัดประสบการณ์โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์วิธีการสอนแบบทีพีอาร์ (Total Physical Response/TPR) ส�ำหรับเด็กปฐมวัยท่ีใช้ภาษาอื่นในชีวิตประจ�ำวันนั้นในระดับชั้นอนุบาลศึกษาปีท่ี ๑ จดั ท�ำเปน็ ๕ ข้นั ตอนได้แก่ ๑) ขั้นทบทวน ๒) ขัน้ สอนคำ� ศัพท์ใหม่ ๓) ขั้นปฏิบตั ิ ๔) ขั้นทดสอบ การปฏบิ ัติ และ ๕) ขั้นขยายและประเมินผล โดยเน้นให้เด็กสามารถปฏิบัติตามค�ำส่ังตามสถานการณ์และตอบสนอง ด้วยทา่ ทางที่เหมาะสม มีข้นั ตอนการจดั กจิ กรรม ดังน้ี ๑. ขนั้ ทบทวน ก่อนท่ีจะเรียนรู้ค�ำศัพท์ใหม่ ครูต้องทบทวนค�ำศัพท์ที่เรียนมาแล้วทุกคร้ังเพ่ือให้เกิด ความคล่องแคลว่ ซึ่งในการทบทวน ครูอาจย่นย่อขน้ั ตอนได้ หรอื ทบทวนคำ� ศัพท์ ท่นี ักเรยี นยงั จ�ำไม่คอ่ ยได้ หรือยังท�ำผิด เช่น ครูออกค�ำสั่งตามท่ีก�ำหนดไว้ในแผนฯ โดยเริ่มต้นด้วยการให้นักเรียนท�ำพร้อมกัน ทง้ั ชั้นเรียน และตามดว้ ยการทำ� รายกลมุ่ หรอื รายบุคคล ๒. ขนั้ การสอนคำ� ศัพทใ์ หม่ ครูพูดค�ำศัพท์ใหม่ (วันแรกของการสอนควรเป็นค�ำศัพท์ค�ำเดียวที่มีความหมาย ซ่ึงในกรณี ภาษาไทย ควรเร่ิมต้นด้วยค�ำศัพท์ท่ีแสดงกิริยาอาการ เช่น ยืน นั่ง กระโดด แล้วท�ำกริยา ตามความหมายของค�ำศัพทใ์ หมน่ น้ั ๆ ดังนี้ ๑) ครูพดู ค�ำศัพท์ท่ี ๑ แล้วครสู าธิตทา่ ทางตามความหมายหลงั จากทพ่ี ูด “คำ� ส่ัง ที่ ๑” จบแล้ว ๒) ครพู ูดคำ� สั่งที่ ๒ แล้วครูสาธิตหลงั จากที่พดู “คำ� สง่ั ท่ี ๒” จบแลว้ ๓) ครพู ูดค�ำสง่ั ที่ ๓ แลว้ ครสู าธติ หลงั จากที่พดู “ค�ำสั่งท่ี ๓” จบแล้ว (ครพู ูดและปฏิบตั ซิ �ำ้ ตามความหมายในค�ำสงั่ ที่ ๑ - ๓ อกี ๒ รอบ) 191
๓. ขนั้ การสอนค�ำศัพท์ใหม่ ๑) ครชู วนผเู้ รียนทม่ี คี วามพรอ้ มออกมาเป็นอาสาสมคั รปฏบิ ัตพิ รอ้ มกับครู ๒) ครพู ดู คำ� ศพั ทเ์ ดิม และสาธติ กริยานัน้ พรอ้ มอาสาสมัคร ๓ รอบ ๓) ครพู ูดค�ำศัพทเ์ ดิมทลี ะคำ� สั่ง และให้อาสาสมัครปฏิบัติ ๓ รอบ (กรณีที่อาสาสมัครท�ำไม่ถูก ครูควรท�ำให้อาสาสมัครดูและท�ำพร้อมอาสาสมัคร หรือ เปล่ียนอาสาสมคั รชุดใหม่ ออกมาปฏิบตั จิ นแน่ใจว่าเดก็ ทกุ คนในชนั้ เรยี นเขา้ ใจความหมาย) ๔) ครูพูดให้เด็กท้ังห้องปฏิบัติพร้อมกัน ๓ รอบ (โดยอาจแบ่งผู้เรียนเป็นกลุ่ม ๆ และครูสั่ง ให้เด็กแต่ละกลมุ่ ยอ่ ยทำ� ๓ รอบโดยครูสงั เกตว่า เดก็ ทำ� ถูกตอ้ งหรือไม่) ๔. ขนั้ การทดสอบการปฏิบตั ิ ครูทดสอบโดยส่ังผู้เรียนท�ำทีละคน กรณีที่ผู้เรียนยังปฏิบัติตามค�ำส่ัง ไม่ถูกต้อง ให้ผู้เรียน ปฏบิ ัตพิ ร้อมครู และปฏิบัตติ ามค�ำสัง่ ชดุ ทเ่ี รียนนั้น ๆ ใหม่ โดยครู ไมค่ วรตำ� หนเิ ดก็ หากผู้เรยี นปฏบิ ัติได้ ครูจะสลับค�ำสั่งท่ี ๑,๒,๓ เป็นค�ำสั่งที่ ๒,๓,๑ หรือ ๑,๓,๒ เพ่ือสังเกตเด็กว่ามีความเข้าใจตามค�ำสั่ง อยา่ งแท้จริง ๕. ขน้ั ขยายและประเมนิ ผล ครูน�ำเอาค�ำศัพท์ท่ีเรียนไปแล้วมาผสมกับค�ำศัพท์ใหม่ ให้เป็นชุดค�ำศัพท์ ท่ีมีความหมายซ้อน หรือต่อเนื่องกันแล้วสั่งให้ผู้เรียนปฏิบัติ เช่น “ยืน น่ัง” “ยืน กระโดด” “น่ัง ยืน” “ยืน กระโดด” “นั่ง ยนื กระโดด เดินไป” เปน็ ต้น ข้อควรคำ� นึงถงึ ในจัดการเรยี นการสอน ๑) ครูจะไม่พดู ให้เดก็ เสียใจหรือรสู้ ึกท้อแท้ ๒) หลกี เลี่ยงการแปลภาษาหรือการบอกกันแต่ให้เดก็ เรยี นรเู้ ข้าใจดว้ ยตัวเอง ๓) อยา่ ใหเ้ ป็นการเรียนภาษาแบบคาดคะเนความหมาย ๔) ครูผ่อนกฎวินัยในชั้นเรียนเพ่ือสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย เพ่ือเด็กจะได้รู้สึกปลอดภัยและ มอี สิ ระทจี่ ะพดู แทนความรู้สกึ เครียดในการเรยี นภาษา ๕) ผูเ้ รียนสามารถนำ� ค�ำศพั ทท์ ่ีเคยเรยี นแลว้ มารวมกนั และสรา้ งความหมายใหม่ได้ ๖) การเรยี นภาษาวธิ ีน้จี ะท�ำให้จำ� ไดย้ าวนาน 192
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274