64-07-27-คู่มือครู การงานอาชีพ ป.3

ะแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (การงานอาชพี ป.๓) วการจัดการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ การเรยี นรู้ กิจกรรมนักเรียน ๔. ใบงานที่ ๑๒ เร่ือง การ อผา้ ๑. นกั เรียนรว่ มกันเนาเสอื้ ผ้าแล้ว ซอ่ มแซมเส้ือผ้า ตมิ นาผ้าท่เี นาตดิ ลงบน ใบงานที่ ๑๒ ดว้ ยการเนา าทเี่ นา เร่อื ง การซ่อมแซมเสอ้ื ผ้า ดว้ ยการเนา า ๒. นักเรยี นตวั แทนออกมานาเสนอ นการ และรว่ มกันบอกข้นั ตอนการเนาผ้า ท่พี บ ๓. นักเรียนตอบคาถาม ๓. การสงั เกต หาของ พฤติกรรม ตมิ ๑. นักเรยี นร่วมกนั สรุปสาระสาคญั และลง ที่ได้จากการเรียนร้แู ละลงมือปฏิบตั ิ กต์ใช้ เพ่อื นาไปสู่การประยุกต์ใชใ้ น ชีวิตประจาวนั

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๔ เรอ่ื ง ช่างคดิ ชา่ งทา 243 ๘. สอื่ การเรยี นรู้/แหล่งเรยี นรู้ เกณฑ์ ๑. สอ่ื ของจรงิ เสอื้ ผา้ ทก่ี ระดมุ หลุด ระดับ ๒ ขน้ึ ไป ระดับ ๒ ข้ึนไป ๒. สื่อวสั ดอุ ปุ กรณซ์ ่อมแซมเสือ้ ผ้า เช่น ผ้าด้ายดบิ เขม็ ด้าย กระดุม กรรไกร ฯลฯ ระดบั ๒ ขนึ้ ไป ๓. ใบความรู้ที่ 1๖ เรือ่ ง การซ่อมแซมเส้อื ผา้ (การเนา) ๔. สือ่ สไลด์ เรอ่ื ง การซ่อมแซมเสอื้ ผ้า (การเนา) ๕. วิดีโอการซ่อมแซมเสื้อดว้ ยการเนา ภาระงาน/ช้นิ งาน - ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารเนา - ใบงานที่ ๑๒ เรอื่ ง การซอ่ มแซมเสื้อผ้าด้วยการเนา ๙. การประเมินผลรวบยอด สง่ิ ท่ตี อ้ งการวดั /ประเมิน วธิ ีการ เครือ่ งมอื เครอื่ งใช้ การประเมนิ จากผลงาน แบบประเมินผลงาน ดา้ นความรู้ อธิบายการเย็บเส้ือผ้าด้วยการเนาได้ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ การประเมนิ จากผลงาน แบบประเมนิ ผลงาน สามารถใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ และ การสงั เกต แบบสงั เกต เครอื่ งมือในการเยบ็ เสื้อผ้าดว้ ย วธิ ีการเนาได้ ด้านเจตคติ ภูมิใจที่สามารถซอ่ มแซมเส้ือผ้าด้วย การเนาไดด้ ้วยตนเอง

244 คู่มือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (การงานอาชพี ป.๓) แบบประเมนิ ผลงาน/ใบงาน เร่ือง การซ่อมแซมเสื้อผ้า (การเนา) คาช้แี จง : ครูผ้สู อนประเมินผลงาน/ใบงานของนกั เรียนและใหค้ ะแนนลงในช่องที่ตรงกับระดบั คะแนน รายการประเมิน รวม ระดบั คณุ ภาพ เลขท่ี อธบิ ายการ สามารถใช้วัสดุ การนาไป การสง่ งาน การทางาน คะแนน เย็บเสอ้ื ผ้า อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมือ ประยกุ ตใ์ ช้ ตรงต่อเวลา มีความ (20) ดว้ ยการเนา ในการเย็บเสอ้ื ผา้ ด้วย ในชีวติ และ สะอาด ได้ วธิ กี ารเนาได้ ประจาวัน เหมาะสม เรยี บรอ้ ย 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 18-20 ดีมาก (4) 14-17 ดี (3) 10-13 พอใช้ (2) ตา่ กว่า 10 ปรบั ปรงุ (1) เกณฑ์การสรุปผลการประเมนิ ระดบั คุณภาพพอใช้ขนึ้ ไป ถือว่า ผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ เร่อื ง ชา่ งคิด ชา่ งทา 245 เกณฑก์ ารประเมินผลงาน/ใบงาน เกณฑ์การให้คะแนน ประเดน็ ที่ประเมนิ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) อธิบายการเย็บ อธิบายการเยบ็ อธิบายการเย็บ อธบิ ายการเยบ็ อธบิ ายการเยบ็ เสือ้ ผ้าด้วยการเนา เสื้อผา้ ดว้ ยการเนาได้ เส้ือผา้ ด้วยการเนา เส้อื ผ้าด้วยการเนาได้ เส้ือผา้ ดว้ ย ได้ ถกู ต้องครบถ้วน ไดถ้ กู ตอ้ ง การเนาได้ ชดั เจน ดเี ย่ียม สามารถใช้วัสดุ สามารถใชว้ สั ดุ สามารถใช้วสั ดุ สามารถใช้วัสดุ สามารถใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และ อปุ กรณ์ และ อุปกรณ์ และ อุปกรณ์ และ อุปกรณ์ และ เครอ่ื งมือในการ เครือ่ งมอื ในการเยบ็ เคร่อื งมือในการเยบ็ เคร่อื งมอื ในการเยบ็ เครือ่ งมือใน เย็บเสอื้ ผา้ ด้วย เสื้อผา้ ดว้ ยวธิ ีการเนา เสื้อผ้าดว้ ยวธิ ี เส้ือผ้าด้วยวธิ กี ารเนา การเยบ็ เส้อื ผ้า วธิ ีการเนาได้ ไดค้ รบถว้ น ดีเยยี่ ม การเนาไดด้ ี ได้บางสว่ น ดว้ ยวิธีการเนาได้ น้อยหรือไม่ไดเ้ ลย การนาไป สามารถนาไป สามารถนาไป สามารถนาไปปรบั ใช้ ไม่สามารถไปปรบั ประยกุ ตใ์ ชใ้ น ประยุกตใ์ ช้ใน ประยุกต์ใชใ้ น ในชีวิตประจาวนั ได้ ใช้ได้ ชีวติ ประจาวัน การเรียนการสอน การเรยี นการสอนได้ และในชวี ิตประจาวนั การสง่ งานตรงต่อ สง่ งานตรงเวลามี รบั ผิดชอบในงานที่ ทางานทไี่ ด้รบั ทางานท่ไี ด้รบั เวลาและเหมาะสม ความรบั ผดิ ชอบใน ได้รับมอบหมาย มอบหมายได้เพียง มอบหมายไมค่ รบ งานท่ไี ด้รับ ส่งงานตรงเวลา เล็กนอ้ ย บางส่วน ทุกส่วน และสง่ มอบหมายไดอ้ ย่าง บางครง้ั แตง่ านมี ไมต่ รงต่อเวลาเป็น งานไม่ตรงเวลา ถกู ต้อง ความเหมาะสมกบั บางครงั้ เป็นประจา เวลาทสี่ ่ง การทางาน ใบงาน/ผลงาน ใบงาน/ผลงาน ใบงาน/ผลงาน ใบงาน/ผลงาน มคี วามสะอาด มคี วามสะอาด มคี วามสะอาด มคี วามสะอาด มีความสะอาด เรียบร้อย เรยี บรอ้ ย สวยงาม เรยี บร้อย สวยงาม เรียบรอ้ ย สวยงาม เรียบรอ้ ยนอ้ ย ถูกต้องตามท่กี าหนด ถูกต้องตามท่ี ถูกต้องเป็นบางสว่ น มาก มรี อยลบ ในระดบั ดีมาก กาหนดในระดบั ดี ในระดับพอใช้ และความสกปรก ของงาน

246 ค่มู อื ครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (การงานอาชพี ป.๓) แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรียน (กลมุ่ ) คาชแี้ จง : ครผู ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นของนกั เรยี น แตล่ ะกลมุ่ และให้คะแนนลงในช่องทีต่ รงกบั ระดบั คะแนน เลขที่ พฤติกรรม รายการประเมนิ การร่วมงาน ความสาเรจ็ รวม ระดบั การทางานกลมุ่ ของผลงาน คะแนน คุณภาพ ความ การแสดง กลุ่มอยา่ งมี 1 รบั ผิดชอบ ความคดิ เหน็ ความสขุ (20) 2 ต่อหน้าท่ี 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 16-20 ดีมาก (4) 11-15 ดี (3) 6-10 พอใช้ (2) 1-5 ปรบั ปรงุ (1) เกณฑ์การสรปุ ผลการประเมนิ ระดบั คุณภาพ ดี ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน ลงชอื่ ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๔ เรือ่ ง ช่างคิด ชา่ งทา 247 ประเด็นท่ีประเมนิ เกณฑ์การสงั เกตพฤตกิ รรมนกั เรียน (กลุ่ม) ปรบั ปรุง (1) พฤตกิ รรม เกณฑก์ ารให้คะแนน ไม่มีการวางแผน การทางานกลมุ่ ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) อยา่ งเปน็ ระบบและ ไม่มีการแบ่งหน้าท่ี มีการวางแผนอย่าง มีการวางแผนอย่าง มีการวางแผนอยา่ ง ของสมาชิกในกล่มุ เปน็ ระบบ และแบง่ เป็นระบบ และแบง่ เป็นระบบ และแบง่ หน้าท่ีของสมาชิก หนา้ ทขี่ องสมาชิก หน้าท่ีของสมาชกิ ในกลมุ่ ในกลมุ่ เปน็ ส่วนใหญ่ ในกลมุ่ เป็นบางครง้ั ความรับผิดชอบต่อ ทุกคนทาหนา้ ที่ของ มีผู้มหี นา้ ท่แี ตไ่ ม่ มีผ้มู หี นา้ ทีแ่ ต่ไมร่ ับ มผี มู้ หี นา้ ทแี่ ตไ่ มร่ ับ หน้าที่ ตนเอง อย่าง รับผิดชอบ 1 คน ผดิ ชอบ 2 คนขน้ึ ไป ผดิ ชอบ ๓ คนข้ึนไป รบั ผดิ ชอบเตม็ ความสามารถ การแสดงความ สมาชิกทกุ คน สมาชกิ ส่วนใหญ่ สมาชกิ มากกวา่ สมาชกิ ไม่ให้ คดิ เห็น รว่ มแสดงความ ร่วมแสดงความ ครึ่งรว่ มแสดง ความรว่ มมอื ใน คิดเห็น ภูมิใจท่ี คดิ เหน็ ภูมใิ จที่ ความคิดเห็นภูมใิ จที่ การแสดงความ สามารถซอ่ มแซม สามารถซ่อมแซม สามารถซอ่ มแซม คดิ เห็น ภมู ใิ จท่ี เส้ือผา้ ด้วยการเนา เสอื้ ผา้ ดว้ ยการเนา เสอื้ ผ้าดว้ ยการเนา สามารถซ่อมแซม ไดด้ ้วยตนเอง ได้ดว้ ยตนเอง ได้ดว้ ยตนเอง เสอ้ื ผ้าด้วยการเนา ได้ดว้ ยตนเอง การรว่ มงานกลุ่ม ทกุ คนร่วมกจิ กรรม รอ้ ยละ 80 ของ รอ้ ยละ 60 ของ ร้อยละ ๕๐ ของ อย่างมีความสุข กลุ่มอยา่ งมีความสุข กลมุ่ รว่ มกจิ กรรม กลมุ่ รว่ มกจิ กรรม กลุม่ รว่ มกจิ กรรม กลุ่มอยา่ งมคี วามสุข กลุ่มอยา่ งมีความสขุ กลุ่มอยา่ งมคี วามสุข ความสาเรจ็ ผลงานมคี ุณภาพ ผลงานมีคณุ ภาพ ผลงานมคี ณุ ภาพ ผลงานไมม่ คี ุณภาพ ของผลงาน และเสรจ็ ตาม เสร็จชา้ กว่าเวลาท่ี เสรจ็ ไมท่ ันตาม เสร็จไมท่ ันตาม กาหนดเวลา กาหนดเล็กน้อย กาหนดเวลา กาหนดเวลา

248 คูม่ อื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรียนที่ ๑ (การงานอาชพี ป.๓) แบบสรปุ ผลการวดั และประเมนิ ผล รายวิชา การงานอาชพี รหสั วิชา ง1๓101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ เรื่อง การซอ่ มแซมเส้ือผา้ (การเนา) ผลการประเมนิ ผลงาน/ใบงาน ผลการสังเกตพฤติกรรม สรปุ เลขที่ คะแนน รอ้ ยละ ระดับคณุ ภาพ คะแนน ร้อยละ ระดับคุณภาพ ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 สรปุ ผลการประเมนิ นกั เรยี นผ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... นักเรยี นไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ จานวน....................คน คิดเป็นร้อยละ................... ลงช่ือ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เรอื่ ง ชา่ งคิด ช่างทา 249 ๑๐. บนั ทึกผลหลงั สอน จากการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การซ่อมแซมเสอ้ื ผ้า (การเนา) นกั เรยี นมีผลการเรยี นรู้ ดงั นี้ ระดบั ดมี าก จานวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ......................... ระดับดี จานวน............คน คิดเป็นร้อยละ......................... ระดบั พอใช้ จานวน............คน คดิ เปน็ ร้อยละ......................... ระดับปรบั ปรงุ จานวน............คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ......................... ความสาเร็จ ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .................................................................................................................................................................................... ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ..................................................................................................................................................... ............................... ข้อจากัดการใช้แผนการจดั การเรียนรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรับปรงุ แก้ไข ................................................................................................................................................... ................................. .................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... ลงช่อื ...................................................... ผสู้ อน (..........................................................) วันที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................ .................................... .................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ...................................................... ผตู้ รวจ (..........................................................) วันท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

250 ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (การงานอาชีพ ป.๓) ใบความรู้ท่ี ๑๖ เรือ่ ง การซ่อมแซมเสอื้ ผา้ (การเนา) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เรือ่ ง ช่างคดิ ชา่ งทา แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 1๙ เรือ่ ง การซ่อมแซมเสื้อผ้า (การเนา) รายวิชา การงานอาชพี รหัสวชิ า ง13101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 3 การเนา การเนาเป็นการเย็บผ้าให้ติดกันช่ัวคราว เพ่ือไม่ให้ผ้านั้นเคล่ือนที่จาก จุดหมาย การเนาใช้ในโอกาสเช่น เนาก่อนสอย เนาก่อนเย็บตะเข็บให้ติดกัน เนา เพื่อทาเครอื่ งหมายในการเยบ็ เนาเพอื่ ทาจีบรูด วิธกี ารเนา ใช้เข็มรอ้ ยดา้ ย แทงขน้ึ และลงบนผนื ผ้าให้ไดร้ ะยะเสมอกันเป็นแนวตรง ระยะห่างเสมอกนั ประโยชน์ของการเนาผ้า 1. เป็นการเยบ็ ผ้าให้ติดกนั ชว่ั คราวไม่ใหผ้ ้าเคล่อื นที่ 2. ช่วยในการเย็บตะเข็บถาวรใหง้ ่ายขึ้น เมอื่ เย็บตะเขบ็ เรยี บรอ้ ยแล้วจึงเลาะ ด้ายทเ่ี นาออก 3. เนาเพ่อื ทาเครื่องหมายในการเย็บ 4. เนาเพ่อื ใหเ้ กิดการรูดจบี การเนาเท่ากัน คือ การเย็บด้วยมือท่ีช่วยยึดผ้า 2 ชิ้นหรือมากกว่าให้ติดกัน มีความถ่ีห่างของฝีเขม็ เสมอกันทัง้ ด้านบนและดา้ นลา่ ง ฝเี ข็มหา่ งประมาณ 1/4 ถึง 1/2 น้ิว ซ่งึ ถา้ เนาห่างกว่าน้ีจะไม่สามารถบังคับผ้าท้ัง 2 ช้ินให้อยู่คงที่ได้ การเนา เท่ากันเหมาะสาหรับเนาตะเข็บ ก่อนเย็บเนาชายเส้ือและชายกระโปรงก่อนสอย เป็นต้น การเนาไม่เท่ากัน เป็นการเนาท่ีมีความถ่ีห่างของฝีเข็มสลับกันฝีเข็มถี่อยู่ ด้านบนฝีเข็มห่างอยู่ด้านล่างเป็นการเนาที่ช่วยยึดผ้าให้ติดกันแน่นกว่าการ เนา เทา่ กันการเนาชนิดนี้ใช้เป็นแนวในการเย็บจักรได้ดีหรือใช้เนาเพ่ือลองตัวเส้ือหรือ กระโปรง เป็นต้น

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรื่อง ช่างคิด ชา่ งทา 251 จับผ้าด้วยมือซ้าย จับเข็ม (ท่ีมีด้ายร้อยอยู่แล้ว เส้นเดียว) มือขวา แทงเข็ม ข้ึน-ลง ให้ปมด้ายอยู่ด้านล่างของผ้าฝีเข็มไม่ต้องห่างมากนัก ตามในภาพ แลว้ ดงึ ด้ายให้ผ่านไปทาซา้ ๆ อยา่ งนี้ ไปตามความยาวท่ีต้องการน่ีคือการเนา ใช้ในการทาให้ผ้า 2-3 ชั้น ติดกัน คร่าว ๆ ก่อนที่จะนาไปเย็บด้วยจักร หรือ เนาเพื่อเป็นแนวในการเย็บจักรตาม เส้นแนวตะเขบ็ ท่ีต้องการ ทาอย่างนีอ้ กี จนกว่าจะไดค้ วามยาวทีต่ ้องการ

252 คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (การงานอาชพี ป.๓) ใบงานท่ี ๑๒ เรอื่ ง การซ่อมแซมเสอื้ ผา้ ดว้ ยการเนา หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๔ เรือ่ ง ช่างคดิ ช่างทา แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๙ เรื่อง การซ่อมแซมเสอื้ ผา้ (การเนา) รายวิชา การงานอาชพี รหัสวชิ า ง๑๓๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนตงั้ ชื่อผลงานแลว้ ติดลงไปในชอ่ งว่างทกี่ าหนดให้ ชือ่ ผลงาน...............................................................

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๔ เรอ่ื ง ช่างคดิ ชา่ งทา ๒๕๓ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๒๐ เร่ือง การซอ่ มแซมเส้อื ผ้า (การติดกระดุม) หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ เร่ือง ช่างคิดช่างทา เวลา ๑ ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี รายวิชา การงานอาชีพ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๓ ๑. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชี้วัด สาระท่ี ๑ การดารงชีวิตและครอบครัว มาตรฐาน ง ๑.๑ เข้าใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลักษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึกในการใช้พลังงาน ทรัพยากร และสิ่งแวดล้อม เพ่ือการดารงชีวิตและครอบครัว ตวั ชี้วดั ป.๓/๑ บอกวธิ ีการและประโยชนก์ ารทางานเพอื่ ชว่ ยเหลือตนเองและครอบครัว และสว่ นรวม ป.๓/๒ ใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเคร่อื งมือตรงกบั ลกั ษณะงาน ป.๓/๓ ทางานอย่างเป็นขั้นตอนตามกระบวนการทางาน ด้วยความสะอาด ความรอบคอบ และ อนรุ ักษ์สงิ่ แวดลอ้ ม ๒. สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด การซ่อมแซมเสอ้ื ผ้าด้วยการตดิ กระดมุ เพ่ือยดึ เสอื้ ผา้ ให้ติดกันทาใหส้ ามารถนากลบั มาใช้ใหมไ่ ด้อีกคร้ัง ๓. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ด้านความรู้ ความเข้าใจ (K) อธบิ ายการเย็บเสอ้ื ผ้าดว้ ยวิธีการตดิ กระดมุ ได้ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) สามารถใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมอื ในการเย็บเสื้อผ้าด้วยวธิ กี ารตดิ กระดุมได้ ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A) ภมู ิใจทส่ี ามารถซ่อมแซมเส้อื ผา้ ด้วยการติดกระดมุ ได้ดว้ ยตนเอง ๔. สาระการเรยี นรู้ การซ่อมแซมเสอื้ ผา้ ๕. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ความสามารถในการสือ่ สาร ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ ๖. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ อยู่อย่างพอเพียง มุ่งมัน่ ในการทางาน ๗. กจิ กรรมการเรียนรู้

254 คู่มือค การจดั กจิ กรรมการเรียนร แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒๐ เร่ือง รายวิชา การงานอาชพี หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ลาดบั ที่ จดุ ประสงค์ ขั้นตอนการจัด เวลา แนวก ๑ การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมครู 2 ๑. อธบิ าย การเยบ็ ข้นั นา ๕ ๑. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี น เส้อื ผา้ ดว้ ย ตดิ กระดมุ ได้ นาที นกั เรยี นทราบ ๒. ใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และ ๒. นักเรยี นทบทวนประสบการ เครื่องมือ เดิมเกี่ยวกบั การซ่อมแซมเส้ือผ ด้วยการเนา ๓. ครูนาเสอื้ ผา้ ทก่ี ระดมุ หลดุ ม นักเรียนดู แล้วถามนักเรียนว่าจ วิธกี ารแกป้ ญั หาอย่างไร ๔. ครใู ห้นักเรยี นรว่ มกนั สนทน และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับ ตดิ กระดุม ขัน้ สอน ๒๐ 1. ครูให้นักเรียนดูสอ่ื สไลดแ์ ละ นาที ศกึ ษาใบความรู้ ท่ี ๑๗ เรอ่ื ง การซ่อมแซมเสอ้ื ผ้า (การติดกระดมุ ) ๒. ครูให้นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รา เกี่ยวกับวธิ ีการติดกระดมุ ๓. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกนั บอกช

ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (การงานอาชพี ป.๓) รู้ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ การซอ่ มแซมเสือ้ ผา้ (การติดกระดมุ ) ๔ เรอื่ ง ช่างคิดชา่ งทา จานวน ๑ ชั่วโมง การจัดการเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมิน การเรียนรู้ กจิ กรรมนกั เรียน ๑. การ นรู้ให้ ๑. นักเรยี นรับทราบจุดประสงค์ ๑. สื่อของจรงิ ประเมนิ ผลงาน เรือ่ ง การเรียนรู้ เสอื้ ผา้ ท่กี ระดมุ การซ่อมแซม เส้ือผา้ (การติด รณ์ ๒. นักเรยี นเลา่ ประสบการณ์ หลดุ กระดมุ ) ๒. การประเมิน ผ้า เก่ียวกบั การซอ่ มแซมเสอ้ื ผา้ ดว้ ย ๒. ส่ือสไลด์ การเนา เรอื่ ง การ มาให้ ๓. นกั เรยี นดเู สื้อผ้าทก่ี ระดมุ หลดุ ซ่อมแซมเสอื้ ผ้า จะมี มาให้นักเรียนดู แล้วตอบคาถามว่า จะมีวธิ ีการแกป้ ญั หาอยา่ งไร นา ๔. นกั เรียนร่วมกนั สนทนาและ บการ แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับการติด กระดุม ะ ๑. นักเรยี นดสู อื่ สไลด์และศกึ ษาใบ ๑. สื่อสไลด์ ความรู้ ที่ ๑๗ เรือ่ ง การซ่อมแซม เรอ่ื ง เส้อื ผา้ (การติดกระดมุ ) การซอ่ มแซม เสอื้ ผา้ าย ๒. นักเรยี นร่วมกันอภิปราย ๒. สอ่ื วัสดุ เก่ยี วกับวธิ ีการติดกระดุม อปุ กรณ์ ช่อื ซ่อมแซมเสื้อผ้า

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๔ เรื่อง ชา่ งคิด ช่างทา ลาดับที่ จุดประสงค์ ข้ันตอนการจัด เวลา แนวก การเรียนรู้ การเรียนรู้ ที่ใช้ กจิ กรรมครู ในการเยบ็ เสือ้ ผ้าด้วย วสั ดอุ ปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นตดิ กระดมุ วิธกี ารตดิ กระดมุ ได้ ๔. ครเู ปดิ วิดโี อสาธติ การซอ่ มแ เสอ้ื ผา้ ด้วยการตดิ กระดุมให้ นกั เรยี นดู ๕. ครูให้นักเรยี นตวั แทนออกม เย็บกระดุม ๓. ข้นั ปฏบิ ัติ ๒๐ ๑. ครใู หน้ ักเรียนรว่ มกันฝกึ การ นาที กระดุมโดยมคี รชู ้ีแจงเพมิ่ เติม นักเรยี นเปน็ รายบคุ คล ๒. ครูใหน้ ักเรียนนาผลงาน ติด บนใบงานที่ ๑๓ เรือ่ ง การซ่อม เสือ้ ผ้าด้วยการติดกระดุม ๓. ครซู ักถามนักเรียนถึงปญั หา พบในขณะตดิ กระดมุ และวธิ ีแก ปัญหาของนักเรยี น แลว้ ให้ คาแนะนาเพิ่มเตมิ

255 การจัดการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ กจิ กรรมนกั เรียน การเรียนรู้ ๓. นกั เรียนร่วมกนั บอกช่ือวสั ดุ เชน่ ผ้าด้ายดิบ ใบงาน เรอื่ ง แซม อุปกรณท์ ี่ใชใ้ นติดกระดมุ เขม็ ดา้ ย กระดมุ การซ่อมแซม ๔. นักเรียนตวั แทนออกมาเยบ็ กรรไกร ฯลฯ เสือ้ ผา้ ด้วยการ กระดมุ ๓. วดิ ีโอการ ตดิ กระดมุ มา ซอ่ มแซมเสื้อผ้า ด้วยการตดิ กระดุม รตดิ ๑. นักเรยี นร่วมกนั ซอ่ มแซมเสอ้ื ผา้ ใบงานที่ ๑๓ ดว้ ยการตดิ กระดมุ เร่ือง การซ่อมแซม ดลง ๒. นักเรียนนาผลงานท้ังสองชิ้น เส้อื ผ้าด้วย มแซม ติดลงบนกระดาษ การตดิ กระดุม าที่ ๓. นกั เรยี นรว่ มกันตอบคาถาม ก้ไข

256 คู่มือค ลาดับที่ จดุ ประสงค์ ขั้นตอนการจัด เวลา แนวก การเรียนรู้ การเรยี นรู้ ทใ่ี ช้ กจิ กรรมครู ๔. ๓. ภมู ใิ จท่ี ขน้ั สรุป ๕ ๑. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ สามารถ นาที ความรทู้ ่ไี ดจ้ ากการเรยี นรแู้ ละ ซอ่ มแซม เสอื้ ผา้ ด้วย ประสบการณท์ ไี่ ดจ้ ากการลงมอื การติด ปฏิบัติเพือ่ นาไปสู่การประยกุ ต กระดมุ ได้ ชีวติ ประจาวนั ได้ ด้วยตนเอง

ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ ๑ (การงานอาชพี ป.๓) การจัดการเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ การเรียนรู้ กิจกรรมนักเรยี น ป ๑. นักเรียนรว่ มกันสรปุ ความร้ทู ่ีได้ ๓. การสงั เกต พฤติกรรม จากการเรยี นรแู้ ละประสบการณท์ ี่ อ ไดจ้ ากการลงมอื ปฏบิ ตั เิ พ่อื นาไปสู่ ตใ์ ชใ้ น การประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๔ เรอ่ื ง ช่างคดิ ช่างทา 257 ๘. สอ่ื การเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ๑. สือ่ ของจรงิ เสื้อผ้าทกี่ ระดมุ หลดุ ๒. ส่ือวัสดุอปุ กรณซ์ อ่ มแซมเสอื้ ผ้า เชน่ ผา้ ด้ายดบิ เข็ม ดา้ ย กระดมุ กรรไกร ฯลฯ ๓. ใบความรู้ที่ 1๗ เรอื่ ง การซอ่ มแซมเสอื้ ผา้ (การติดกระดมุ ) ๔. ส่อื สไลด์ เรอื่ ง การซอ่ มแซมเส้ือผา้ ๕. วดิ ีโอการซอ่ มแซมเสื้อดว้ ยการติดกระดมุ ภาระงาน/ช้ินงาน - การตดิ กระดมุ - ใบงานท่ี ๑๓ เรื่อง การซ่อมแซมเสือ้ ผ้าด้วยการตดิ กระดมุ ๙. การประเมินผลรวบยอด การวัดและประเมนิ ผล ส่ิงท่ีตอ้ งการวดั /ประเมิน วิธีการ เคร่อื งมอื เครือ่ งใช้ เกณฑ์ การประเมินจากผลงาน แบบประเมินผลงาน ระดบั ๒ ขนึ้ ไป ดา้ นความรู้ อธบิ ายการเยบ็ เสื้อผา้ ดว้ ยวธิ ีการติด การประเมนิ จากผลงาน แบบประเมินผลงาน ระดับ ๒ ขึ้นไป กระดุมได้ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ สามารถใช้วสั ดุ อปุ กรณ์ และ เครื่องมือในการเยบ็ เสอื้ ผา้ ด้วย วธิ ีการติดกระดุมได้ ด้านเจตคติ การสงั เกต แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั ๒ ข้ึนไป ภูมิใจทสี่ ามารถซอ่ มแซมเส้ือผา้ ดว้ ย การติดกระดมุ ได้ดว้ ยตนเอง

258 คู่มอื ครูและแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (การงานอาชพี ป.๓) แบบประเมินผลงาน/ใบงาน เรื่อง การซอ่ มแซมเสอ้ื ผา้ (การตดิ กระดมุ ) คาชแ้ี จง : ครผู สู้ อนประเมนิ ผลงาน/ใบงานของนักเรียนและให้คะแนนลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดบั คะแนน รายการประเมนิ รวม ระดับ เลข อธิบาย สามารถใช้วสั ดุ การนาไป การสง่ งาน การทางาน คะแนน คุณภาพ ที่ การเยบ็ เสอื้ ผ้า อปุ กรณ์ และ ประยุกตใ์ ช้ใน ตรงต่อ มีความ (20) ดว้ ยวธิ ีการตดิ เครือ่ งมอื ใน ชวี ิตประจาวนั เวลาและ สะอาด กระดุมได้ การเยบ็ เส้อื ผา้ เหมาะสม เรียบรอ้ ย ด้วยวิธีการตดิ กระดุมได้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑ์การให้คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 18-20 ดีมาก (4) 14-17 ดี (3) 10-13 พอใช้ (2) ตา่ กวา่ 10 ปรบั ปรงุ (1) เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมนิ ระดับคุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป ถอื ว่า ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงชื่อ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๔ เร่ือง ชา่ งคดิ ชา่ งทา 259 เกณฑ์การประเมินผลงาน/ใบงาน ประเดน็ ท่ีประเมิน ดมี าก (4) เกณฑก์ ารให้คะแนน ปรบั ปรุง (1) ดี (3) พอใช้ (2) อธิบายการเย็บ อธบิ ายการเย็บ อธิบายการเย็บ อธบิ ายการเยบ็ อธบิ ายการเยบ็ เสอื้ ผ้าด้วยติด เสื้อผา้ ดว้ ยติด เสื้อผา้ ดว้ ยการตดิ เสอ้ื ผ้าดว้ ยการตดิ เส้อื ผา้ ดว้ ยการติด กระดุมได้ กระดมุ ไดถ้ กู ต้อง กระดมุ ได้ กระดมุ ได้ กระดมุ ได้ถกู ตอ้ ง สามารถใชว้ สั ดุ ครบถว้ น ชดั เจน ดี สามารถใช้วสั ดุ สามารถใชว้ สั ดุ สามารถใช้วสั ดุ อุปกรณ์ และ เยยี่ ม อปุ กรณ์ และ อปุ กรณ์ และ อปุ กรณ์ และ เคร่อื งมือใน เคร่อื งมือใน เครือ่ งมอื ใน เครือ่ งมือใน การเยบ็ เสือ้ ผ้าดว้ ย สามารถใช้วัสดุ การเยบ็ เส้ือผา้ ด้วย การเยบ็ เส้อื ผา้ ดว้ ย การเยบ็ เสอื้ ผา้ ด้วย วธิ กี ารตดิ กระดมุ อุปกรณ์ และ วธิ ีการตดิ กระดุม วิธีการตดิ กระดมุ วิธกี ารติดกระดุม ได้ เครื่องมือใน ได้ดี ไดบ้ างส่วน ไดน้ ้อยหรือไม่ได้ เลย การเยบ็ เส้ือผ้าด้วย วธิ ีการติดกระดมุ ไดค้ รบถว้ น ดีเย่ียม การนาไป สามารถนาไป สามารถนาไป สามารถนาไปปรบั ไม่สามารถไปปรบั ประยกุ ตใ์ ชใ้ น ประยกุ ต์ใช้ใน ประยุกต์ใชใ้ น ใช้ในชวี ิตประจาวัน ใชไ้ ด้ ชวี ิตประจาวนั การเรยี นการสอน การเรยี นการสอน ได้ และในชวี ิต ได้ ประจาวนั การสง่ งานตรงตอ่ ส่งงานตรงเวลามี รับผดิ ชอบในงานท่ี ทางานทไี่ ด้รบั ทางานทีไ่ ดร้ บั เวลาและเหมาะสม ความรับผดิ ชอบใน ไดร้ ับมอบหมาย มอบหมายไดเ้ พียง มอบหมายไม่ครบ งานท่ีไดร้ ับ ส่งงานตรงเวลา เลก็ นอ้ ย บางสว่ น ทุกส่วน และสง่ มอบหมายไดอ้ ยา่ ง บางครงั้ แตง่ านมี ไมต่ รงตอ่ เวลาเปน็ งานไมต่ รงเวลา ถกู ตอ้ ง ความเหมาะสมกบั บางครงั้ เปน็ ประจา เวลาทส่ี ง่ การทางาน ใบงาน/ผลงาน ใบงาน/ผลงาน มี ใบงาน/ผลงาน มี ใบงาน/ผลงานมี มีความสะอาด มีความสะอาด ความสะอาด ความสะอาด ความสะอาด เรียบรอ้ ย เรยี บรอ้ ย สวยงาม เรยี บร้อย สวยงาม เรียบร้อย สวยงาม เรียบร้อยน้อยมาก ถูกต้องตามที่ ถูกต้องตามท่ี ถูกตอ้ งเปน็ มรี อยลบและความ กาหนดในระดบั กาหนดในระดบั ดี บางส่วน สกปรกของงาน ดมี าก ในระดบั พอใช้

260 คู่มือครูและแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนที่ ๑ (การงานอาชพี ป.๓) แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียน (กลมุ่ ) คาชแ้ี จง : ครูผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียนของนักเรยี น แตล่ ะกลุ่มและใหค้ ะแนนลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ระดับคะแนน เลขท่ี พฤติกรรม ความ รายการประเมนิ รวม ระดับ การทางาน กลมุ่ รบั ผดิ ชอบ การแสดง การร่วมงาน ความสาเรจ็ คะแนน คุณภาพ ตอ่ หนา้ ที่ ความคดิ เหน็ กลุ่มอยา่ งมี ของผลงาน (20) 1 ความสุข 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 เกณฑ์การให้คะแนน ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดมี าก (4) 11-15 ดี (3) 6-10 พอใช้ (2) 1-5 ปรับปรงุ (1) เกณฑก์ ารสรุปผลการประเมินระดับคุณภาพ ดี ขนึ้ ไป ถือว่า ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชือ่ ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ .......... เดอื น ..................... พ.ศ. .............

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ เรือ่ ง ช่างคดิ ช่างทา 261 เกณฑก์ ารสังเกตพฤติกรรมนักเรยี น (กลมุ่ ) เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ประเด็นที่ประเมิน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) พฤติกรรม มีการวางแผน มีการวางแผนอยา่ ง มีการวางแผนอยา่ ง ไมม่ กี ารวางแผน การทางานกลมุ่ อยา่ งเป็นระบบ เป็นระบบ และ เปน็ ระบบ และแบง่ อยา่ งเปน็ ระบบ และแบง่ หน้าท่ี แบง่ หน้าท่ขี อง หน้าทีข่ องสมาชิก และไม่มกี ารแบง่ ของสมาชกิ สมาชกิ ในกลมุ่ ในกล่มุ เป็นบางครง้ั หน้าทีข่ องสมาชกิ ในกลุ่ม เปน็ ส่วนใหญ่ ในกลุ่ม ความรบั ผิดชอบต่อ ทุกคนทาหนา้ ท่ี มผี ู้มหี นา้ ท่แี ต่ไม่ มีผมู้ หี นา้ ท่ีแตไ่ มร่ บั มีผมู้ หี นา้ ท่ีแต่ไมร่ บั หนา้ ที่ ของตนเอง อยา่ ง รับผดิ ชอบ 1 คน ผิดชอบ 2 คนขึ้นไป ผดิ ชอบ ๓ คนขนึ้ รับผดิ ชอบเตม็ ไป ความสามารถ การแสดงความ สมาชิกทกุ คน สมาชิกสว่ นใหญ่ สมาชิกมากกวา่ สมาชกิ ไมใ่ ห้ คดิ เหน็ รว่ มแสดงความ ร่วมแสดงความ ครง่ึ รว่ มแสดง ความร่วมมือใน คิดเหน็ ภูมิใจที่ คิดเหน็ ภมู ใิ จที่ ความคดิ เห็นภมู ใิ จท่ี การแสดงความ สามารถซ่อมแซม สามารถซ่อมแซม สามารถซ่อมแซม คิดเห็น ภูมใิ จที่ เส้อื ผ้าด้วยการติด เสือ้ ผา้ ดว้ ยการติด เสือ้ ผา้ ดว้ ยการตดิ สามารถซอ่ มแซม กระดมุ ไดด้ ้วย กระดุมไดด้ ้วย กระดมุ ไดด้ ้วย เสื้อผา้ ด้วยการตดิ ตนเอง ตนเอง ตนเอง กระดมุ ได้ดว้ ย ตนเอง การรว่ มงานกล่มุ ทุกคนร่วม รอ้ ยละ 80 ของ ร้อยละ 60 ของ ร้อยละ ๕๐ ของ อย่างมีความสุข กิจกรรมกลมุ่ กลมุ่ ร่วมกจิ กรรม กลมุ่ รว่ มกจิ กรรม กลุม่ รว่ มกจิ กรรม อยา่ งมคี วามสุข กลมุ่ อยา่ งมี กลมุ่ อย่างมคี วามสขุ กลมุ่ อย่างมี ความสุข ความสขุ ความสาเรจ็ ผลงานมคี ุณภาพ ผลงานมีคณุ ภาพ ผลงานมีคณุ ภาพ ผลงานไมม่ ี ของผลงาน และเสรจ็ ตาม เสร็จชา้ กวา่ เวลาที่ เสรจ็ ไมท่ นั ตาม คณุ ภาพ เสร็จไม่ กาหนดเวลา กาหนดเล็กน้อย กาหนด เวลา ทันตามกาหนด เวลา

262 คมู่ ือครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (การงานอาชพี ป.๓) แบบสรุปผลการวดั และประเมินผล รายวชิ า การงานอาชพี รหสั วิชา ง1๓101 ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เรื่อง การซ่อมแซมเส้อื ผ้า (การตดิ กระดมุ ) ผลการประเมนิ ผลงาน/ใบงาน ผลการสังเกตพฤตกิ รรม สรุป เลขท่ี คะแนน รอ้ ยละ ระดบั คุณภาพ คะแนน ร้อยละ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 สรุปผลการประเมิน นกั เรยี นผา่ นเกณฑ์การประเมิน จานวน....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... นกั เรียนไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ จานวน....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................... ลงชอ่ื ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ที่ .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ เร่ือง ช่างคิด ชา่ งทา 263 ๑๐. บันทกึ ผลหลงั สอน จากการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง การซ่อมแซมเสอ้ื ผา้ (การตดิ กระดุม) นักเรียนมผี ลการเรียนรู้ ดังน้ี ระดับดีมาก จานวน............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ......................... ระดบั ดี จานวน............คน คิดเปน็ ร้อยละ......................... ระดับพอใช้ จานวน............คน คดิ เป็นรอ้ ยละ......................... ระดบั ปรบั ปรงุ จานวน............คน คดิ เปน็ ร้อยละ......................... ความสาเรจ็ .......................................................................................................................................... .................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ปัญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ข้อจากัดการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ/แนวทางการปรบั ปรงุ แกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................................ผสู้ อน (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผทู้ ไี่ ดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................. ............................................. ............................................................................................................................. ............................................. .......................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ...................................................... ผูต้ รวจ (..........................................................) วนั ท่ี .......... เดือน ..................... พ.ศ. .............

264 คูม่ อื ครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (การงานอาชพี ป.๓) ใบความรู้ท่ี ๑๗ เรอื่ ง การซ่อมแซมเส้อื ผา้ (การตดิ กระดมุ ) หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ เรอื่ ง ชา่ งคดิ ชา่ งทา แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒๐ เรือ่ ง การซ่อมแซมเส้อื ผ้า (การตดิ กระดุม) รายวชิ า การงานอาชพี รหัสวิชา ง13101 ภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 การตดิ กระดมุ มีวิธดี งั นี้ กระดุมมีก้าน คือกระดุมท่ีมีส่วนยื่นออกมาจากใต้เม็ดกระดุมเพ่ือใช้เย็บ ตดิ กับเส้อื ผ้าการติดกระดมุ ชนดิ นจ้ี ะไม่มีเส้นดา้ ยเย็บปรากฏบนเม็ดกระดุมวธิ ตี ิด กระดุมมีก้านนิยมใช้เศษผ้ารองใต้ผ้าให้ตรงตาแหน่งก้านต้องทาเครื่องหมาย ที่ ตอ้ งการเยบ็ และตอ้ งไมใ่ ช้ดา้ ยเยบ็ จนตงึ เพราะจะทาใหเ้ สื้อยน่ มขี นั้ ตอนการติด ดงั นี้ 1. วางกระดุมลงบนผ้าในตาแหน่งท่ีจะติดกระดุม สอดเข็มหมุดท่ีห่วง ก้านกระดุมเพ่ือยดึ ไว้ชว่ั คราว 2. แทงเข็มข้ึนด้านบนสอดเข้าไปในห่วงกระดุม แทงเข็มลงให้ทะลุผ้า ด้านล่าง ดึงดา้ ยให้ตึงเอาเข็มหมุดออก 3. ทาแบบข้อ 2 ซ้าประมาณ 3–4 ครั้ง พันก้านกระดุมด้วยด้าย 3 รอบ แทงเขม็ ลงใต้ช้นิ ผ้าผูกปมให้แนน่ ตัดดา้ ยออก กระดุมไม่มีก้าน คือกระดุมที่มีรู 2 รู หรือ 4 รู ปรากฏให้เห็นบนเม็ด กระดุม การเย็บกระดุมชนิดนี้จะมองเห็นเส้นด้ายที่เย็บ วิธีการเย็บกระดุมไม่มี ก้านถ้าเป็นกระดุม 2 รู ให้ขมวดปลายหนึ่งของด้ายเย็บให้เป็นปม ทา เช่นเดยี วกับเย็บกระดุม 2 รหู รืออาจแทงเข็มใหเ้ ส้นด้ายดา้ นบนทแยงไขว้กันก็ได้ มขี นั้ ตอนการทาดังน้ี 1. กาเครือ่ งหมายตรงตาแหนง่ ทีต่ อ้ งการจะตดิ กระดมุ 2. ใช้ดา้ ย 2 ทบ ร้อยเข็ม เพื่อให้กระดมุ แน่นหนาไม่หลุดลุ่ยง่าย ขมวด ปลายดา้ ยทาปม ใชเ้ ข็มแทงขึ้นตรงบรเิ วณท่ีทาเครื่องหมายไวถ้ งึ ด้ายให้แน่น 3. วางกระดมุ ลงตรงกลางแล้วสอดเข็มลอดรูกระดุม รั้งด้ายให้ตึง แทง ขึ้นลงตามรูกระดมุ กลบั ไปกลบั มาหลายครง้ั จนกระดุมแน่น 4. สอดด้ายใต้กระดมุ ซ่อนปมอกี ครั้งแลว้ ตัดดา้ ยออก

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี ๔ เร่ือง ช่างคดิ ชา่ งทา 265 กระดุมแป๊บ ทาด้วยโลหะผสม มีลักษณะต่างไปจากกระดุมธรรมดา คือ ประกอบดว้ ยฝาบนซึ่งมีปุ่มนูนตรงกลางและตัวรับซึ่งตรงกลางเป็นแอ่ง ต้องใช้คู่ กนั เสมอทาให้ประกบกันสนิท การติดกระดุมแป๊บถ้าเป็นผ้าบางควรจะมีผ้าช้ิน เล็ก ๆ รองข้างในตรงตาแหน่งที่เย็บกระดุมเพ่ือความคงทน ส่วนใหญ่ใช้กับเส้ือ สตรีสาหรบั ยดึ สาบเส้อื หรอื ขอบแขนให้ติดกนั มขี ั้นตอนการติดดังน้ี 1. วางกระดมุ ลงในตาแหน่งท่ีต้องการ แป๊บตัวผู้วางบนสาบเสื้อชิ้นบน แปบ๊ ตวั เมยี วางบนสาบเสอื้ ช้ินล่าง สนดา้ ยใส่เข็มขมวดปลายด้ายใหเ้ ปน็ สองทบ 2. แทงเข็มสอดข้ึนลงในรูกระดุมทีละรู รูละ 3 ครั้ง เม่ือจะเย็บรูต่อไป ให้แทงเขม็ โดยซ่อนด้ายไวใ้ ต้ผ้าแลว้ ดึงเขม็ ขึ้น เมือ่ เย็บครบ 4 รจู้ ึงผูกปมด้าย ท้ัง แปบ๊ ตวั ผแู้ ละตวั เมียมีวธิ กี ารเยบ็ เหมอื นกัน

266 ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี ๑ (การงานอาชีพ ป.๓) ใบงานที่ ๑๓ เรอื่ ง การซ่อมแซมเสอื้ ผา้ ด้วยการตดิ กระดมุ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ เร่ือง ชา่ งคดิ ช่างทา แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๒๐ เร่อื ง การซอ่ มแซมเส้ือผา้ (การตดิ กระดมุ ) รายวิชา การงานอาชพี รหัสวิชา ง๑๓๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ คาช้แี จง ให้นกั เรยี นต้ังชอ่ื ผลงานแล้วตดิ ลงไปในช่องว่างทกี่ าหนดให้ ชื่อผลงาน......................................................

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๔ เรื่อง ชา่ งคดิ ช่างทา ๒๖๗ แบบประเมนิ ตนเอง ชอื่ : วัน เดือน ปี หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ เร่อื ง ช่างคิดช่างทา คาชแ้ี จง ๑. ระบายสลี งใน ของแตล่ ะกิจกรรมทนี่ ักเรยี นคิดวา่ ทาได้ตามระดบั การประเมนิ เหล่าน้ี เพื่อประเมินการเรยี นรู้ของนักเรียน ปรับปรงุ พอใช้ ค่อนข้างดี ดี ดีมาก กิจกรรม ระดบั ความสามารถ ๑. การบารงุ รักษาและการซอ่ มแซมของเล่น ๒. วสั ดอุ ปุ กรณ์ทใ่ี ช้ในการซอ่ มแซมเส้ือผ้า ๓. การซ่อมแซมเสอ้ื ผา้ (การเนา) ๔. การซอ่ มแซมเสอ้ื ผ้า (การตดิ กระดุม) ๒. นับจานวนดาวจากตารางขา้ งบนเพ่ือบันทกึ ผลการเรียนรขู้ องนักเรียน ดังนี้ จานวน.............................. จานวน.............................. จานวน.............................. จานวน.............................. จานวน.............................. สรปุ : วงกลมรอบผลการเรยี นรู้ของนกั เรียน โดยนับจากข้อทีไ่ ดด้ าวมากทสี่ ุด ปรบั ปรุง พอใช้ ดี ค่อนข้างดี ดมี าก 3. กาเครอ่ื งหมาย ลงใน  ที่นักเรียนวางแผนจะทาเพอ่ื พฒั นาการเรยี นในครง้ั ตอ่ ไป (เลือกได้มากกวา่ 1 ข้อ)  ตัง้ ใจทางานจนเสรจ็  มีสมาธใิ นการเรยี น  ทางานดว้ ยความประณีตเรียบรอ้ ย  _______________________

๒๖๘ คมู่ ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (การงานอาชีพ ป.๓) บันทกึ การเรยี นรู้ (Learning logs) ชื่อ : ___________________ สกุล : ___________________วัน____ เดอื น_______________ พ.ศ. _____ ส่ิงท่ีฉนั ชอบในการเรียนวชิ านี้ คือ ......................................................................... ......................................................................... ................................................................... ........................................... ....................................................................... สิ่งที่ฉนั ไม่ชอบในการเรียนวชิ าน้ี คือ ......................................................................... ......................................................................... ................................................................... ........................................... ....................................................................... ส่งิ ท่ีฉันจะทาให้ดีขึน้ คือ ......................................................................... ......................................................................... ................................................................... ........................................... .......................................................................

๒๖๙ บรรณานุกรม สถาบันพัฒนาคณุ ภาพวิชาการ. (2555). การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๓. กรงุ เทพฯ : พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ. ธิตวิ ุฒิ บุญกอ่ ,กลุ ขณษิ ฐ์ ราเชนบุณยวทั น,์ ภัสสนันท์ อาจนะ,วันเพญ็ พงษ์เก่า,พัชรี สวา่ งทรัพย์, สมประสงค์ สิงคชาต,ิ เกตภุ ษั ษร เสริมสขุ ,ภัทรมน แสงมณ.ี หนังสอื ดารงชวี ิตและครอบครวั กล่มุ สาระการงาน อาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๓. พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1. กรุงเทพฯ : องคก์ ารคา้ ของ สกสค. (2554) สถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.).๒๕๖๑. การปฏิบัติตนเปน็ สมาชกิ ทีม่ ีต่อครอบครวั .บริษทั พัฒนา คุณภาพวชิ าการ (พว.) จากดั .(ค่มู อื คร)ู กล่มุ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ งานบา้ น การปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกทมี่ ตี ่อผอู้ ืน่ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ สถาบันพฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) บริษทั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) จากัด.(คู่มอื ครู) กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ งานบ้าน การทาความสะอาดห้องเรียน ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ สถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) บริษัทพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.) จากัด.(ค่มู อื คร)ู กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๓ อาหารและโภชนาการ การเกบ็ อาหารด้วยดว้ ยวิธีการถนอม อาหาร (การดอง)ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ (ฉบับปรบั ปรุง). (25๕1) สถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) บริษัทพฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.) จากัด.(คู่มอื ครู) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๒ เรอ่ื ง เสื้อผ้าและการแตง่ กาย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ (ฉบับ ปรบั ปรงุ ). (25๕1)

๒๗๐ คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (การงานอาชีพ ป.๓) บรรณานุกรม (ตอ่ ) สบื ค้นออนไลน์ การปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ทมี่ ตี ่อครอบครัว [ออนไลน]์ :ได้จาก:สบื คน้ วนั ท่ี 12 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://www.baanjomyut.com/ การทาความสะอาดห้องเรยี น [ออนไลน์].ไดจ้ าก: (สบื คน้ วนั ท่ี 12 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://www.google.com/search?rlz=1C1RLNS_enTH821TH821&sxsrf (สืบคน้ วนั ท่ี 12 ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๖๒). หนา้ ท่ขี องสมาชกิ ในบ้านทม่ี ตี อ่ ผอู้ น่ื และสงั คม : (สบื ค้นวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://jukkrich2541.wixsite.com/ms2541/about1-cpm4 หลักในการทาความสะอาดบ้าน [ออนไลน์] : (สบื ค้นวันท่ี 13 ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://www.google.com/search?rlz=1C1RLNS_enTH821TH821&sxsrf=ACYBGNQ19x4ocs9py การจดั บ้านให้นา่ อยู่ [ออนไลน์] : (สบื ค้นวนั ที่ 13 ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/71135/-blog-homdec-hom- วธิ กี ารดองไขเ่ ค็ม [ออนไลน]์ : (สบื ค้นวนั ท่ี 14 ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://www.google.com/search?q =1C1RLNS การเลือกใช้เสือ้ ผ้าที่เหมาะสมกบั รูปรา่ งและวัย [ออนไลน]์ : (สืบค้นวนั ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒). http://kittidet789.blogspot.com/p/blog-page.html การทาความสะอาดเสื้อผ้า [ออนไลน]์ : (สืบคน้ วนั ท่ี 15 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒). http://kittidet789.blogspot.com/p/blog-page.html การซ่อมแซมของใช้ส่วนตัว [ออนไลน์] : (สืบคน้ วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://sites.google.com/site/jarinrat21/bth-thi-4-ngan-chang-na-ru การทาความสะอาดรองเทา้ [ออนไลน์] : (สบื คน้ วันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒). https://www.baanlaesuan.com/54512/diy/easy-tips/cleaning-shoes

ภาคผนวก ก แบบประเมนิ รวม ๒๗๑ ภาคผนวก ก แบบประเมนิ รวม

๒๗๒ ค่มู อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (การงานอาชพี ป.๓) การวัดและประเมินผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผลช้นิ งานหรือภาระงาน การประเมินผลภาระงาน ประเด็น 3 (ด)ี ระดบั คุณภาพ 1 (ปรับปรงุ ) การประเมนิ ผลงานดีมากอธิบายเหตุ 2 (พอใช)้ ผลงาน/ความรู้ ผลได้ มีความคิดริเรมิ่ ผลงานพอใช้อธบิ ายเหตผุ ล ผลงานต้องปรบั ปรงุ สร้างสรรคด์ ี การทางานไม่ชดั เจน การอธิบายเหตผุ ลการ ทักษะการปฏบิ ตั งิ าน มีข้ันตอนการทางานดี ทางานขาดความชัดเจน มีการอภปิ ราย มีขัน้ ตอนการทางาน คณุ นสิ ัยในการทางาน ปฏบิ ัตงิ านเป็นกล่มุ การอภปิ ราย ขนั้ ตอนการทางาน การปฏิบัตงิ านไม่ชดั เจน ควรปรบั ปรงุ การอภิปราย สมรรถนะ บอกถึงความเป็นเหตุ การปฏิบตั งิ านเปน็ กลมุ่ ความสามารถในการ เป็นผล มุ่งมั่นใน ความเป็นเหตุเป็นผล ตอ้ งปรบั ปรุง แกป้ ัญหา การทางานพอใช้ มุ่งมั่นในการทางาน มีคุณธรรมใช้ทรัพยากร มีคุณธรรม ใช้ทรัพยากร ความเป็นเหตุเป็นผล คุ้มค่า คุ้มค่า ไม่ชัดเจน มุ่งมั่นในการทางานต้อง ใหเ้ หตผุ ลในการทางาน ปรับปรุงความมี ถูกตอ้ ง เลอื กตัดสินใจ ให้เหตผุ ลในการทางานไม่ คุณธรรมใช้ทรัพยากร ปฏิบตั ไิ ด้ ชดั เจน เลอื กตัดสินใจได้ คุ้มค่าต้องปรับปรุง แต่ตอ้ งแนะนา ปรับปรงุ เหตผุ ล การทางาน เลอื กตดั สินใจปฏบิ ตั ิ ไมไ่ ด้ สมรรถนะ ทางานรว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้ ทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื ได้ ทางานร่วมกบั ผ้อู ่นื ต้อง ทักษะการใชช้ วี ิต และมีคณุ ธรรมในการ และมีคุณธรรมในการ ปรับปรงุ และปรบั ปรงุ ทางานร่วมกนั ทางานไม่ชัดเจน คณุ ธรรมในการทางาน การประเมินคุณภาพมดี งั น้ี หมายถงึ ดี 11-15 คะแนน หมายถึง พอใช้ 6–10 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ 1-5 คะแนน

ภาคผนวก ก แบบประเมินรวม ๒๗๓ เกณฑ์การประเมนิ ผลตามสภาพจริง(Rubrics) ประเด็น ระดบั คุณภาพ การประเมิน 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ ) 1. เนื้อหาถูกต้อง ปฏบิ ัติงานตรงตาม ปฏบิ ตั ิงานตามจดุ ประสงค์ท่ี ปฏิบตั ิงานตาม จุดประสงค์ท่ีกาหนดให้ กาหนด ให้ 7 ใน 10 ส่วน จดุ ประสงคท์ ี่กาหนดให้ 8 ใน 10 ส่วน ชดั เจน นกั เรียนอธบิ ายรายละเอียด 6 ใน 10 สว่ น นกั เรียน นักเรียนอธบิ ายราย ของการทางานได้ อธบิ ายรายละเอียดของ ละเอยี ดของการทางานได้ การทางานได้ 2. ความตง้ั ใจใน มีความตัง้ ใจในการ การปฏบิ ตั งิ านตามหน้าที่ ไมส่ นใจทางานสมาชกิ การทางาน ปฏบิ ัติงานดี สนใจ ให้ รับผิดชอบพอสมควร เหน็ แกต่ ัวไมใ่ ห้ความ ความรว่ มมือในการ สมาชกิ บางคน ให้ความ รว่ มมือ ทาแตป่ ระโยชน์ ทางาน สมาชกิ ใหค้ วาม ร่วมมือในการทางาน ส่วนตวั มากกว่างานกลุ่ม ร่วมมือ 80% 3. มีวนิ ยั รู้จักหน้าท่ี มาตรงเวลา มาเข้าเรียนสายไม่ ไม่เขา้ เรยี นตามเวลาเรยี น รบั ผดิ ชอบ บางคร้ัง ควบคุมตัวเอง รับผิดชอบต่อหน้าท่ี ขาดเรียน ขาดความ ในการทางานได้ ไม่มีสมาธิ ทางานได้ รับผิดชอบต่อหน้าท่ี พอสมควร ไม่ครบข้ันตอน ทางาน ไม่มีสมาธิ ทางานได้ สลับขั้นตอน ไม่ครบข้ันตอน 4. คุณธรรมในการ มีความซอื่ สตั ยใ์ นการ มคี วามซอ่ื สตั ย์ในการ ขาดความซอื่ สตั ย์ในการ ทางาน ทางานบางครง้ั เหน็ แก่ ทางาน พอสมควร เห็นแก่ ทางานเอาเปรยี บเพอ่ื นๆ ตนเองชว่ ยเหลือเพื่อน ประโยชนส์ ่วนตวั มากกวา่ เห็นแกต่ วั ร่วมงานบ้าง ส่วนรวม การประเมนิ คุณภาพมีดังน้ี 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ

๒๗๔ คู่มอื ครแู ละแผนการจัดการเรยี นรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี ๑ (การงานอาชพี ป.๓) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรม คาช้ีแจง ให้ทาเครอื่ งหมาย  ลงในช่องรายการสงั เกตพฤตกิ รรมทน่ี กั เรยี นปฏิบัติ รายการ เลขท่ี ชื่อ-สกลุ ร่วมมอื ในการ กล้าออกมา เข้ารว่ มกจิ กรรม สรุปผลการ ทากิจกรรม แสดง ด้วยความ ประเมนิ ความสามารถ สนุกสนาน เพลดิ เพลิน ผา่ น ไม่ผ่าน ผ่าน ไม่ผ่าน ผ่าน ไมผ่ ่าน ผา่ น ไมผ่ า่ น เกณฑ์การประเมนิ ผา่ นตั้งแต่ 2 รายการ ถือวา่ ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถอื ว่า ไมผ่ า่ น ลงชอ่ื ................................................ ผสู้ อน (……………………………………) (………./…………. /………….)

ภาคผนวก ก แบบประเมนิ รวม ๒๗๕ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรมกลมุ่ คาชีแ้ จง ให้ทาเครอื่ งหมาย  ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมทีน่ ักเรียนปฏิบตั ิ รายการ รับผิดชอบ รับฟังความ นาเสนอ มคี วามคดิ ทางานเสร็จ เลขที่ ชอ่ื -สกลุ งานทไ่ี ด้รบั คิดเห็น ผลงานได้ รเิ ร่ิม ตามเวลาที่ มอบหมาย ของผู้อื่น นา่ สนใจ สร้างสรรค์ กาหนด (๓ คะแนน) (๓ คะแนน) (๓ คะแนน) (๓ คะแนน) (๓ คะแนน) เกณฑ์การประเมนิ 11-15 คะแนน หมายถึง ดี 6-10 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1–5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ ลงช่ือ ................................................ ผสู้ อน (……………………………………) (………./…………. /………….)

๒๗๖ คมู่ ือครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรยี นท่ี ๑ (การงานอาชีพ ป.๓) แบบตรวจผลงาน/ประเมินผลงาน คาชีแ้ จง ใหค้ รผู ูส้ อนบนั ทึกคะแนนลงในช่องของแตล่ ะใบงาน โดยตรวจสอบจากรายการขา้ งลา่ งน้ี ความสะอาด 1 คะแนน ความสวยงาม 1 คะแนน ถูกต้องตามเน้ือหา 3 คะแนน เลขท่ี ชือ่ -สกุล ใบงานท่ี ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ รวม ระดับ (๕) (๕) (๕ ) (๕) (๕) (๒๕) คณุ ภาพ เกณฑร์ ะดับคุณภาพ หมายถงึ ดี 11-15 คะแนน หมายถึง พอใช้ 6-10 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 1-5 คะแนน

ภาคผนวก ก แบบประเมนิ รวม ๒๗๗ แบบสังเกตทกั ษะกระบวนการทางาน คาชแี้ จง ให้ผปู้ ระเมนิ สังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นแล้วทาเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งรายการ ทน่ี กั เรยี นได้แสดง พฤตกิ รรมนั้นๆ รายการ เลขท่ี ชือ่ -สกุล ิวเคราะ ์หงานและ สรุปผลการ กาหนด ประเมิน ัวต ุถประสง ์ค วางแผนการ ผ่าน ไมผ่ า่ น ทางาน แบ่งงานตาม ความสามารถ ปฏิบั ิตงานตาม บทบาทห ้นา ี่ท ประเมินผลการ ทางาน เกณฑ์การประเมนิ นกั เรยี นต้องแสดงพฤติกรรมทุกรายการจงึ จะผา่ นเกณฑ์ ลงช่ือ ................................................ ผสู้ อน (……………………………………) (………./…………. /………….)

๒๗๘ ค่มู อื ครูและแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ ๑ (การงานอาชีพ ป.๓) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมด้านมงุ่ มน่ั ในการทางาน คาชแ้ี จง ใหผ้ ปู้ ระเมินสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ทาเคร่อื งหมาย ลงในช่องรายการทน่ี ักเรยี นไดแ้ สดง ใบงานท่ี ๐๑ ใบงานท่ี ๐๒ เลขท่ี ชอ่ื -สกลุ ั้ตงใจและ ัรบผิดชอบในการทางาน ระดบั คณุ ภาพ ทางานสาเ ็รจตามเป้าหมาย ้ัตงใจและ ัรบผิดชอบในการทางาน ทางานสาเ ็รจตามเป้าหมาย เกณฑก์ ารประเมนิ นกั เรียนตอ้ งแสดงพฤติกรรมทุกรายการจงึ จะผา่ นเกณฑ์ ลงชื่อ ................................................ ผสู้ อน (……………………………………) (………./…………. /………….)

ภาคผนวก ข แผนผงั ความคดิ (Graphic Organizers) ๒๗๙ ภาคผนวก ข แผนผงั ความคิด (Graphic Organizers)

๒๘๐ คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (การงานอาชพี ป.3)

ภาคผนวก ข แผนผงั ความคดิ (Graphic Organizers) ๒๘๑

๒๘๒ คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดับประถมศกึ ษา ภาคเรยี นที่ 1 (การงานอาชพี ป.3)

ภาคผนวก ข แผนผังความคิด (Graphic Organizers) ๒๘๓ แหล่งอา้ งองิ : https://kaganonline.com/catalog/smartcards.php

๒๘๔ คู่มือครูและแผนการจดั การเรยี นรู้ ระดบั ประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (การงานอาชีพ ป.3) แผนผังความคิด (Graphic Organizers) แผนผังความคดิ (Graphic Organizers) แผนผังความคิด เป็นการฝึกให้ผู้เรียนรวบรวมข้อมูลหรือความรู้ จากการศึกษาค้นคว้า การอ่าน การฟังคําบรรยาย แล้วนําข้อมูลมาจัดกลุ่ม เขียนเป็นภาพแสดงให้เห็นถึงโครงสร้าง ความคิด กระบวนการคิด และความสมั พนั ธข์ องกระบวนการคดิ โดยใช้รูปภาพ หรือแผนภาพ ผังความคิด (Mind Mapping) เป็นการแสดงโครงสร้างของความสัมพันธ์ของกระบวนการคิด ต้ังแต่ต้นจนจบ ช่วยให้มองเห็น ภาพรวม ของความคิดและเค้าโครงของความคิดในเรื่องท่ีกํา ลังคิด ทําให้มองเห็นความสัมพันธ์ของความคิด ทําได้โดยเขยี นความคดิ หลกั ไวต้ รงกลางและโยงเส้นให้สมั พันธ์กับความคิดรองความคิดย้อน และความคิดที่แยกย่อย ทม่ี ีความสมั พนั ธเ์ ชื่อมโยงกันกข็ ยายไดต้ ่อไปอกี ไม่มีทิศทางทกี่ าํ หนดแนน่ อนตายตัว ดงั ตัวอย่างต่อไปนี้ ออกลูกเปน็ ไข่ มดี อก ออกลูกเปน็ ตัว สัตว์ โป บก รตสิ ต์ สตั ว์ สัตว์ สง่ิ มีชีวติ พชื สตั ว์ ไวรัส ไมม่ ดี อก

ภาคผนวก ข แผนผงั ความคิด (Graphic Organizers) ๒๘๕ ผังแสดงความสมั พันธ์แบบโครงสร้างตน้ ไม้ (Tree Structure) ผังแสดงความสัมพันธ์แบบโครงสร้างต้นไม้ จะใช้ในการแสดงความสัมพันธ์ของเร่ืองท่ีมีความสําคัญ ลดหลั่นกนั เปน็ ลาํ ดับจากใหญไ่ ปหาจดุ เลก็ ๆ รปู ร่างของการเขียนจะมีโครงสร้างลักษณะคล้ายต้นไม้ท่ีมีก่ิงก้านหรือ อาจจะมีลกั ษณะคลา้ ยแผนภมู ิการบริหารองคก์ รวธิ ีการเขยี นให้เร่ิมต้นหัวขอ้ เรื่องไวข้ า้ งบนหรือตรงกลางแลว้ ลากเส้น ใหเ้ ช่ือมโยงกบั ความคดิ รวบยอดอนื่ ๆ ทีม่ ีความสาํ คญั รองลงไปตามลาํ ดบั เงอ่ื นไข เงอ่ื นไข การกระทา ราก เงอื่ นไข การกระทา เงอ่ื นไข การกระทา เงื่อนไข เงื่อนไข การกระทา การกระทา การกระทา การกระทา การกระทา

๒๘๖ คมู่ อื ครแู ละแผนการจัดการเรียนรู้ ระดับประถมศึกษา ภาคเรยี นที่ 1 (การงานอาชพี ป.3) ผังรปู แบบเวนน์ (Venn Diagram) เป็นการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของส่ิงของหรือแนวคิดต้ังแต่ ๒ ส่ิงข้ึนไปว่าส่วนใดลักษณะใด ที่มีความเหมือนหรือความต่างกัน เป็นการคิดแบบหาตัวร่วมในสิ่งที่เหมือนกัน ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักจําแนก ความเหมือนและความต่างของสิ่งของ สถานที่ และบุคคล หรืออื่น ๆ ได้ดี โดยการเขียนเป็นแผนภาพแสดง ความสมั พนั ธ์ ดงั ตวั อย่างน้ี เซลลพ์ ืช เย่อื หุ้มเซลล์ เซลล์สัตว์ นวิ เคลียส ผนังเซลล์ ไซโทพลาซึม รปู ร่างกลม คลอโรพลาสต์ ออ่ นนมุ่ รูปร่างเหลี่ยม คงรปู ได้นาน ผังความคิดแบบวงจร (The Circle) เป็นการคิดแบบเป็นวงจรหรือวงกลม โดยในวงกลมจะไม่มีจุดเร่ิมต้นหรือจุดจบเพ่ือเสนอข้ันตอน ต่าง ๆ ท่สี มั พนั ธ์เรยี งลําดบั เปน็ วงกลม ตวั อย่างเชน่ วิญญาณ สงั ขาร นามรปู ทกุ ข์ ผัสสะ อายตนะ

ภาคผนวก ข แผนผังความคดิ (Graphic Organizers) ๒๘๗ ผงั ก้างปลา (The Fish Bone) เป็นการคิดหาสาเหตุของปัญหา เช่น แดงหนีเรียน เพราะสาเหตุใด เป็นต้น การเขียนแผนผังทําได้ โดยกําหนดเรอ่ื งแลว้ หาสาเหตุและผลต่าง ๆ ในแต่ละด้าน ตวั อย่างเชน่ ผงั แบบลาดบั ข้ันตอน (Sequence Chart) แผนผังแบบลาํ ดับข้นั ตอนเป็นแผนผงั ท่ีแสดงให้เห็นถึงสภาพการณห์ รือเน้ือหาสาระท่ีเป็นกระบวนการเรียง ตามลาํ ดับขนั้ ตอน เปน็ แผนผงั ที่แสดงใหเ้ หน็ ถึงสภาพเหตุการณ์หรือเนื้อหาสาระที่เป็นกระบวนการเรียงตามลําดับ ตอ่ เนอื่ ง ตวั อย่างเชน่

288 ค่มู ือครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้ ระดบั ประถมศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 1 (การงานอาชพี ป.3) ภาคผนวก ค แบบบนั ทกึ การเรียนรู้ (Learning Logs)