64-08-15-คู่มือและแผนการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ม.1-1

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ทศนยิ มและเศษสว่ น แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เรอ่ื ง ทศนยิ มและค่าประจาหลักของทศนยิ ม ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 36.49 หมายความว่า 36 บาท 49 สตางค์ 2) การเขยี นราคานา้ มันมีลกั ษณะอยา่ งไร (แนวการตอบ การเขยี นราคานา้ มันเกิดจากหน่วยใหญ่ ซึ่งอยูห่ นา้ จุดและหน่วยยอ่ ยซง่ึ อยหู่ ลงั จดุ ) 7. ครูและนักเรียนรว่ มกันสนทนา เรอ่ื ง ทศนิยม โดยให้นักเรยี น รว่ มกันพจิ ารณาภาพท่ี 1 และ 2 และตอบคาถามตอ่ ไปนี้ ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 1) ภาพท่ี 1 ส่วนทแ่ี รเงาเขยี นแทนดว้ ยทศนิยมได้อยา่ งไร แนวการตอบ 0.5 2) ภาพท่ี 2 ส่วนที่แรเงาเขียนแทนดว้ ยทศนิยมไดอ้ ย่างไร แนวการตอบ 1.6 8. ครูส่มุ นักเรยี น 2 คน ออกมาเขียนทศนิยมในข้อ 7 ลงในตาราง ท่ีครกู าหนดบนกระดาน ซึง่ จะไดแ้ นวการตอบดังน้ี 224325 242

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ทศนิยมและเศษส่วน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ เร่ือง ทศนิยมและค่าประจาหลกั ของทศนยิ ม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 แนวการตอบ รปู ทศนิยม จานวนเตม็ ส่วนยอ่ ยของจานวนเต็ม 0.5 0 .5 1.6 1 .6 9. จากตารางในขอ้ 8 ครเู ขียนการอา่ นทศนยิ มให้นกั เรียนรว่ มกนั พิจารณาดังนี้ รปู ทศนยิ ม การอา่ น 0.5 ศูนยจ์ ุดหา้ 1.6 หนึ่งจดุ หก 10. ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายและอา่ นทศนิยมในข้อ 9 โดยใช้ความร้เู ดิมเช่อื มโยงกับตัวอยา่ ง 11. ครูเขียนทศนิยมในตารางเพ่ิมอีก 3 จานวน ดงั นี้ รปู ทศนิยม การอ่าน 0.5 ศูนย์จดุ หา้ 1.6 หนง่ึ จดุ หก 2.45 14.125 26.72 223463 243

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 ทศนิยมและเศษสว่ น แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เรอื่ ง ทศนยิ มและคา่ ประจาหลักของทศนยิ ม ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 12. ครูสมุ่ นกั เรียนในแต่ละกลุ่มออกมาเขียนการอา่ นทศนิยม โดยครู คอยแนะนาซึง่ จะได้แนวการตอบดังนี้ รปู ทศนิยม การอา่ น 0.5 ศนู ย์จุดห้า 1.6 หนงึ่ จุดหก 2.45 สองจุดส่หี ้า 14.125 สิบสี่จดุ หนงึ่ สองห้า 26.72 ย่ีสิบหกจดุ เจ็ดสอง 13. ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาทศนิยมในรปู การกระจายต่อไปนี้ 1 (61012 52.86 = (5 10) + (2 1) + (8  10 ) + ) - ทศนิยมขา้ งต้น นักเรียนทราบคา่ ประจาหลกั ของจานวนในแตล่ ะ หลกั หรอื ไม่ และแต่ละหลกั มีคา่ เท่าใด (ตามประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ของผเู้ รียน) :ซ่ึงจะได้แนวการตอบดงั น้ี 52.86 5 อยใู่ นหลกั สบิ มคี ่าเปน็ 5 × 10 = 50 2 อยใู่ นหลกั หนว่ ยมีค่าเป็น 2 × 1 = 2 8 เปน็ ทศนยิ มตาแหนง่ ที่ 1 มีค่าเป็น 8 × 1 10 224347 244

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 2 ทศนิยมและเศษส่วน แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เร่อื ง ทศนยิ มและคา่ ประจาหลกั ของทศนยิ ม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 6 เป็นทศนยิ มตาแหนง่ ท่ี 2 มคี ่าเป็น 6 × 1 102 14. ครสู ุ่มนกั เรียนในแตล่ ะกลุ่มออกมาเขยี นค่าประจาหลักของเลขโดด ท่ีอยใู่ นทศนิยมตาแหนง่ ต่างๆ โดยครคู อยแนะนาซงึ่ จะไดแ้ นวการตอบ ดังน้ี 1 คา่ ประจาหลักของทศนยิ มตาแหน่งท่ี 1 เป็น 10 ค่าประจาหลักของทศนิยมตาแหนง่ ท่ี 2 เปน็ 1 102 และในทานองเดียวกนั 1 ค่าประจาหลกั ของทศนยิ มตาแหน่งท่ี 3 เปน็ 103 คา่ ประจาหลกั ของทศนยิ มตาแหนง่ ท่ี 4 เป็น 1 104 15. ตวั แทนกลมุ่ มารบั ใบความรู้ท่ี 1 เรอื่ ง ทศนยิ มและคา่ ประจาหลกั ของทศนิยม ใหท้ ุกคนในกลมุ่ ศึกษาใบความรรู้ ่วมกนั อภปิ ราย โดยครู คอยให้คาแนะนาเพม่ิ เติม 223485 245

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ทศนยิ มและเศษส่วน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เวลา 1 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เร่อื ง ทศนิยมและคา่ ประจาหลกั ของทศนิยม ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 ขั้นสรปุ 16. นักเรียนและครูร่วมกันสรปุ เกย่ี วกับทศนิยมและค่าประจาหลกั ของ ทศนิยม ไดด้ งั นี้ ทศนยิ มคอื จานวนทใ่ี ชเ้ ขียนแทนจานวนบางจานวนท่ีไมใ่ ช่ จานวนเต็ม ทศนยิ มประกอบด้วยสองสว่ นคอื ส่วนที่เป็นจานวนเต็ม และส่วนที่เป็นทศนิยม โดยมีจดุ (.) คัน่ ระหว่างสองสว่ นนั้น คา่ ประจาหลัก จานวนเต็ม ทศนยิ ม … หลัก หลัก หลัก หลัก ตาแหนง่ ตาแหน่ง ตาแหน่ง ตาแหน่ง … พัน รอ้ ย สิบ หนว่ ย ท่ี 1 ที่ 2 ที่ 3 ท่ี 4 1 111 … 103 102 10 1 10 102 103 104 … 17. นกั เรยี นแตล่ ะคนสารวจข้อมูลต่าง ๆ รอบตัววา่ ไดพ้ บทศนิยมใน ขอ้ มูลใดบ้างและทศนยิ มมีประโยชนอ์ ยา่ งไรในชีวิตประจาวนั 18. นกั เรียนทาใบงานที่ 1 เรือ่ ง ทศนยิ มและคา่ ประจาหลักของ ทศนยิ ม 19. นกั เรียนและครูรว่ มกันอภิปรายคาตอบของใบงานที่ 1 โดยครู อาจจดั ใหน้ ักเรยี นตัวแทนเป็นผบู้ อกคาตอบในแตล่ ะข้อแลว้ สอบถาม นักเรียนคนอ่นื ๆ ว่าคาตอบน้ีตรงกบั นกั เรยี นหรอื ไม่ เหตใุ ดจึงเปน็ เช่นนน้ั เพ่ือตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน 224369 246

247 224407 การวดั และประเมินผล สิง่ ท่ีตอ้ งการวดั /ประเมิน วิธกี าร เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ -ตตรรววจจแแบบบบททดดสสออบบกอ่ น แบบบนั ทึกคะแแนนนน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 1. บอกสว่ นประกอบของ กเรอ่ ียนนเรียน แใบบงบำทนดทสี่ 1อบเรกอื่ งน ขนึ้ ไป ทศนยิ มได้ -ตตรรววจจใบใบงางำนน เทรศยี นิยเมรแ่ือลงะทคศ่ำนยิ ม -ร้อยละ 80 ขึ้นไป 2. เม่อื กาหนดทศนยิ มมาให้ แปลระะเจศำ� ษหสลว่ ักนของ ได้ระดบั คณุ ภาพ 4 นกั เรยี นสามารถอ่านทศนิยม ใแทบบศงบนาบนิยนัมทที่ 1ึกคเระอ่ื แงนน -ร้อยละ 70-79 น้นั ได้ ทศนยิ มและค่า ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 3. บอกค่าประจาหลักของ ทศนิยมตาแหนง่ ต่าง ๆ และ -รอ้ ยละ 60-69 ค่าของเลขโดดได้ ประจาหลกั ของ ได้ระดับคณุ ภาพ 2 ทศนยิ ม -ร้อยละ 50-59 ไดร้ ะดับคุณภาพ 1 ด้านทกั ษะและกระบวนการ ทางคณติ ศาสตร์ 1. การแก้ปัญหา สตังรเวกจตใพบฤงตานิกรรม แแบบบบบบนั นั ททกึ กึ กกำารรสงั เกต ผ่านเกณฑ์ในระดับ 2. การใหเ้ หตุผล สงั เกตพฤตกิ รรม พสฤงั ตเกิกตรพรฤมตดกิ้ำรนรทมักษะ พอใช้ขึน้ ไป 3. การเชอ่ื มโยง แดล้าะนกทรกั ะษบะวแนลกะำร - ค่าเฉลย่ี 2.50 ขนึ้ ทกำรงะคบณวิตนศกำาสรตร์ ไปได้ระดบั ดี ทางคณติ ศาสตร์ - คา่ เฉลยี่ 1.50 – 2.49 ได้ระดบั พอใช้ - คา่ เฉลย่ี ต่ากวา่ 1.50 ได้ระดับ ปรบั ปรงุ ดา้ นคณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย สังเกตพฤติกรรม แแบบบบบบันนั ททึกกึ กกำารรสังเกต ได้ระดับคุณภาพ 2 2. ใฝเ่ รียนรู้ พสฤังตเกิกตรพรฤมตดิกำ้ รนรม ทกุ รายการข้นึ ไป 3. มคี วามมุง่ มน่ั ในการทางาน คดุณ้านลคักุณษณลักะษณะ ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ ออันนั พพึงงึ ปปรระะสงค์

248 224481 บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ปญั หาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ............................................................ผสู้ อน (..............................................................) วันที่..........เดือน.........................พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรอื ผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..........................................................ผูต้ รวจ (.........................................................) วันท.่ี .........เดอื น.........................พ.ศ.............

249 224429 แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ทศนยิ มและเศษส่วน รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนเลอื กคาตอบทถ่ี ูกตอ้ งทสี่ ดุ เพยี งคาตอบเดยี ว 1. เขยี น 0.008003 ให้อยู่ในรปู ของการกระจายได้อยา่ งไร 1 1 ก. (8  10 ) + (3 102 ) ข. (8  1 ) + (3 1 ) 102 105 1 1 ค. (8  103 ) + (3 106 ) ง. (8  1 ) + (31017 ) 104 2. ผลคณู ของค่าของ 2 ในจานวน 14.326 และ 0.213 มีค่าเท่าไร ก. 4 4 ข. 10 ค. 4 102 4 ง. 103 3. ขอ้ ความใดต่อไปนี้ทีเ่ ป็นเทจ็ ก. เลขโดด 2 ในจานวน 0.021 และ 5.3295 มีคา่ เทา่ กนั ข. ในจานวน 0.7192 เลขโดด 1 มคี ่าน้อยกวา่ 2 ค. ในจานวน 35.428 เลขโดดท่ีมีค่านอ้ ยที่สดุ คือ 8 ง. เลขโดดมีคา่ มากท่สี ุดในจานวน 0.0149 คือ 1

250 225403 4. จานวนในขอ้ ใดมคี ่าใกลเ้ คยี งศูนย์มากท่สี ุด ก. 0.00001 ข. 0.000002 ค. 0.00002 ง. 0.0001 5. เครอ่ื งบนิ ลาหนึ่งบนิ ด้วยความเรว็ 239.36 กโิ ลเมตรต่อช่วั โมง ถา้ เครื่องบนิ ลานบ้ี นิ ดว้ ยความเรว็ สมา่ เสมอ ในเวลา 8.7 ช่วั โมง จะบนิ ได้ระยะทางตรงกับข้อใด ก. 2,082.432 กิโลเมตร ข. 2,802.342 กโิ ลเมตร ค. 2,820.423 กโิ ลเมตร ง. 2,208.243 กโิ ลเมตร 6. สนามหญ้าแห่งหนง่ึ มขี นาด 270.5  115.7 ตารางเมตร สนามหญา้ แห่งน้ีมีพน้ื ท่ีตรงกบั ขอ้ ใด ก. 3,129.685 ตารางเมตร ข. 31,296.85 ตารางเมตร ค. 31,296.085 ตารางเมตร ง. 312,968.5 ตารางเมตร 7. ในกล่องใบหน่ึงมตี ะปูขนาดเดียวกันหนกั 1.56 กโิ ลกรัม น้าหนกั ของตะปแู ต่ละตัวเป็น 0.75 กรมั ในกล่องนม้ี ีจานวนตะปูตรงกบั ข้อใด ก. 208 ตวั ข. 280 ตวั ค. 2,080 ตวั ง. 2,800 ตัว 8. นา้ ในถงั ใบหน่ึงหนกั 1,676.528 กิโลกรมั ถา้ นา้ 1 ลูกบาศก์เซนติเมตรหนกั 1 กรมั ถังใบนี้จนุ ้าได้ตรงกบั ขอ้ ใด ก. 1,676.528 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร ข. 16,765.28 ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร ค. 167,652.8 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร ง. 1,676,528 ลกู บาศก์เซนตเิ มตร

251 224541 จงใชต้ ารางตอ่ ไปนตี้ อบคาถามขอ้ 9 และขอ้ 10 ตารางแสดงคา่ ถ่วงจาเพาะของธาตตุ ่าง ๆ ธาต ความถว่ งจาเพาะ อลูมเิ นยี ม 2.7 ทองคา 19.3 ฮีเลียม ไฮโดรเจน 0.00018 ไนโตรเจน 0.00009 ออกซเิ จน 0.00125 ยูเรเนียม 0.001429 18.7 9. ผลบวกของความถ่วงจาเพาะของฮีเลียม ไฮโดรเจน และไนโตรเจนน้อยกว่าความถ่วงจาเพาะของ อลูมิเนียมอยู่เท่าใด ก. 0.00152 ข. 2.548 ค. 2.69848 ง. จากขอ้ ก. ถึงข้อ ค. ไมม่ ีคาตอบถกู 10. ขอ้ ความใดตอ่ ไปน้ีถกู ต้อง ก. ฮีเลียมมคี วามถว่ งจาเพาะน้อยทีส่ ดุ ข. ความถว่ งจาำ�เพาะของทองคาำ�มากกว่าผลบวกของความถว่ งจา�ำ เพาะของฮเี ลยี ม ไฮโดรเจน ไนโตรเจน ออกซิเจน และยูเรเนียม ค. ความถ่วงจ�ำาเพาะของทองคาำ�มากกว่าผลบวกของความถ่วงจ�ำาเพาะของอลมู ิเนียม แ ละ ยูเรเนีย ม และยูเรเนยี ม ง. ความถ่วงจจาำ�เพาาะขขอองงไไนนโโตตรรเเจจนนนน้อ้อยยกกววา่ า่ ผผลลบบววกกขขอองงคความถว่ งจา�ำ เพาะของฮเี ลียมและ ไฮโดรเจ น และไฮโดรเจน 11. ข้อใดต่อไปน้เี ปน็ จรงิ ก. 0.1 < 0.01 < 0.001 ข. 1.185 < 1.185 < 1.85 3 7 5 ค. 5 < 10 < 8 ง. 7 < 5 < 20 10 8 32

252 252 245 12. ขอ้ ใดเปน็ เศษสว่ นท่เี ท่ากนั 5 45 ก. 9 และ 81 ข. 2 และ 11 11 2 4 8 ค. 21 และ 63 ง. 15 และ  15 45 45 13.   7     10  มีคา่ เทา่ กบั ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี  8   12  ก. 1 24 1 ข.  24 ค. 43 24  43 ง. 24 14.   4 + 4 มีค่าเท่ากับข้อใดตอ่ ไปน้ี  9 9 ก. 4    4  9  9  ข.   4     4  + 4  9   9  9 ค.  1 + 2 + 3  × 0  2 3 4  ง.  1 × 4  +  4 × 9   4 5   9 4 

253 253 246 15. ถ้า a=2 , b= 1 และ c = 3 แลว้ a +b < c +a อยเู่ ทา่ ใด 6 4 7 ก.  2 ข.  3 8 1 ค. 4 ง. 7 2 16.   1  × 2  ×130 มคี า่ เท่ากับข้อใดตอ่ ไปน้ี  4  3  ก. –0.0005 ข. –0.005 ค. –0.05 ง. –0.5 17. 4 1    1  มีคา่ เทา่ กบั ขอ้ ใดตอ่ ไปน้ี 3  9  ก. –39 ข. –13 13 ค.  27 ง.  39 9 18. ข้อใดถูกต้อง ก. 0.5 + 2 = 5.2 ข. 0.153 < 0.1534 ค. 0.25 > 0.52 123 ง. 100 = 0.123

254 254 247 19. เขยี น 29 อยู่ในรปู ของทศนิยมได้ตรงกับข้อใด 12 ก. 2.416 ข. 2.416 ค. 2.417 ง. 2.41 20. เลขโดดในขอ้ ใดตอ่ ไปนี้ เปน็ ทศนิยมตาแหน่งท่ีห้าของ 0 . 1 2 3 ก. 0 ข. 1 ค. 2 ง. 3

255 255 224585 เฉลยแบบทดสเฉอลบยกแ่อบนบเรทียดนสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี หนนรทู้ว่ ่ีย2กาทรศเรนียิยนมรแูท้ ลี่ ะ2เศทษศสน่วยิ นมและเศษส่วน รายวิชาคณติ ศรายสวตชิร์าค1ณริตหศสั าวสชิ ตาร์ค121ร1ห0สั 1วชิภาคคเร2ีย1น1ท0ี่11ภชา้ันคเมรธัยี ยนมทศ่ี ึก1ษชาปั้นีทมี่ัธย1มศกึ ษาปที ี่ 1 1. ค 1. ค 11. ข 11. ข 2. ง 2. ง 12. ก 12. ก 3. ข 3. ข 13. ข 13. ข 4. ข 4. ข 14. ค 14. ค 5. ก 5. ก 15. ง 15. ง 6. ข 6. ข 16. ค 16. ค 7. ค 7. ค 17. ก 17. ก 8. ง 8. ง 18. ข 18. ข 9. ค 9. ค 19. ข 19. ข 10. ข 10. ข 20. ค 20. ค

256 225469 ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง ทศนิยมและคา่ ประจาหลกั ของทศนยิ ม หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 ทศนิยมและเศษสว่ น แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เรื่อง ทศนิยมและค่าประจาหลักของทศนิยม รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวิชา ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกสว่ นประกอบของทศนยิ มได้ 2. เมื่อกาหนดทศนิยมมาให้ นักเรียนสามารถอา่ นทศนยิ มนน้ั ได้ 3. บอกค่าประจาหลักของทศนยิ มตาแหนง่ ตา่ งๆๆ และคา่ ของเลขโดดได้ ทศนิยม ในชีวติ ประจาวนั ของเราได้พบกับตัวเลขทอี่ ยู่ในรูปทศนยิ มมากมาย เช่น ราคานา้ มันแกส๊ โซฮอล์ 95 ลิตรละ 29.15 บาท หมายถึง ราคานา้ มนั ลิตรละ 29 บาท 15 สตางค์ คา่ น้าประปารายเดือน 496.48 บาท หมายถึง ค่านา้ ประปา 496 บาท 48 สตางค์ วุฒิไกรมนี ้าหนกั 51.95 กโิ ลกรมั หมายถงึ วุฒิไกรหนกั 51 กิโลกรัม 950 กรัม แตงโม 1 ลกู มีน้าหนัก 3.25 กโิ ลกรัม หมายถึง แตงโมหนกั 3 กิโลกรัม 250 กรัม จะเหน็ ว่าจานวนทีอ่ ยใู่ นรปู ทศนิยม ประกอบด้วยสองสว่ น คือ ส่วนท่เี ป็นจานวนเต็ม และส่วน ท่เี ปน็ ทศนยิ ม และมีเคร่ืองหมายจุด ( . ) ค่ันระหวา่ งสองส่วนนั้น เรยี กว่า “จดุ ทศนิยม” จานวนตัวเลข หน้าจุด คอื “จานวนเต็ม” และ จานวนตัวเลขหลงั จดุ คือ “ทศนิยม” การอ่านทศนยิ ม ใหอ้ า่ นตวั หนา้ จดุ ทศนิยมเหมอื นกับอ่านจานวนเตม็ ส่วนตวั ท่ีอยหู่ ลังจุด ทศนิยม ใหอ้ ่านทลี ะตวั จากซา้ ยไปขวา เชน่ 25.75 อ่านว่า ย่สี บิ ห้า จุด เจ็ดหา้ 642.368 อ่านว่า หกร้อยส่สี ิบสอง จุด สามหกแปด เป็นต้น การเขียนจานวนในรูปทศนยิ ม เปน็ วิธีเขียนในรูปทีก่ ะทัดรดั และสะดวกในการคิดคานวณ หลักการพิจาณา เชน่ 0.6 หมายถงึ การแบง่ จานวนออกเป็น 10 ส่วนเท่าๆๆ กนั แต่ตอ้ งการเพียง 6 ส่วน ซง่ึ เขยี นแทนดว้ ยตวั เลขหลงั จุดทศนยิ ม 1 ตวั 0.35 หมายถงึ การแบง่ จานวนออกเป็น 100 ส่วนเทา่ ๆๆ กนั แต่ต้องการเพยี ง 35 สว่ น ซึง่ เขยี นแทนดว้ ยตวั เลขหลังจุดทศนิยม 2 ตัว 0.412 หมายถงึ การแบง่ จานวนออกเป็น 1,000 สว่ นเทา่ ๆๆ กัน แต่ตอ้ งการเพยี ง 412 ส่วน ซ่ึงเขยี นแทนด้วยตัวเลขหลังจุดทศนิยม 3 ตวั 0.2708 หมายถึง การแบ่งจานวนออกเปน็ 10,000 สว่ นเท่าๆๆกัน แต่ตอ้ งการเพียง 2,708 สว่ น ซ่ึงเขียนแทนดว้ ยตวั เลขหลงั จดุ ทศนยิ ม 4 ตวั เป็นตน้

257 225507 ค่าประจาหลักของทศนิยม ตารางค่าประจาหลักของทศนยิ ม ค่าประจาหลัก จานวนเตม็ ทศนิยม ตาแหนง่ ตาแหนง่ ตาแหน่ง ตาแหน่ง ... หลกั หมื่น หลักพัน หลกั ร้อย หลักสบิ หลักหนว่ ย ท่ี 1 ท่ี 2 ท่ี 3 ที่ 4 ... ... 104 103 102 10 1 1 1 1 1 ... 10 102 103 104 111 1 … 10,000 1,000 100 10 1 10 100 1,000 10,000 ... การเขยี นตวั เลขแทนจานวนที่อยู่ในรปู ทศนยิ ม เช่น 145.368 มีความหมายดังนี้ 1 1 1 145.368 = (1 × 102 ) + (4 ×10) + (5×1) + (3 × 10 ) + (6 × 102 ) + (8 × 103 ) จากรูปการกระจายดงั กลา่ ว แสดงถึงเลขโดดทอ่ี ยู่ในแต่ละหลักของ 145.368 ได้ดงั น้ี 145.368 1 อย่ใู นหลักร้อย มีค่าเป็น 1 × 100 8 เป็นทศนิยมตาแหนง่ ที่ 3 มคี า่ เป็น 8 × 1 103 4 อยใู่ นหลักสบิ มีคา่ เป็น 4 × 10 6 เป็นทศนยิ มตาแหน่งที่ 2 มีคา่ เป็น 6 × 1 102 5 อย่ใู นหลกั หนว่ ย มีคา่ เป็น 5 × 1 3 เปน็ ทศนยิ มตาแหน่งที่ 1 มคี า่ เปน็ 3 × 1 10 จากการเขยี น 145.368 ในรูปการกระจาย ซง่ึ จะทาให้เราทราบวา่ 1 อยใู่ นหลักร้อย มคี ่าเปน็ 1 × 1000 = 100 4 อยใู่ นหลกั สบิ มคี ่าเปน็ 4 × 100 = 40 5 อยู่ในหลักหนว่ ย มีคา่ เปน็ 5 × 1 = 5 3 เป็นทศนยิ มตาแหน่งท่ี 1 มีคา่ เป็น 3 × 1 = 3 = 0.3 10 10 = 0.06 1 6 = 0.008 6 เป็นทศนยิ มตาแหน่งท่ี 2 มคี า่ เปน็ 6 × 102 = 100 8 เปน็ ทศนิยมตาแหน่งท่ี 3 มีค่าเปน็ 8 × 1 = 8 103 1,000

258 225581 ตัวอย่างที่ 1 จากจานวน 253.7849 จงบอกคา่ ประจาหลกั ของ 2 และ 4 วิธที า 2 อยใู่ นหลักร้อย ค่าประจาหลักของ 2 คอื 102 หรอื 100 1 4 เปน็ ทศนยิ มตาแหนง่ ที่ 3 คา่ ประจาหลักของ 4 คอื 103 ตวั อยา่ งท่ี 2 จากจานวน 354.8769 จงบอกค่าของ 5 และ 9 วธิ ีทา 5 อยูใ่ นหลกั สบิ ค่าประจาหลกั เปน็ 10 ดงั นน้ั 5 มีคา่ เทา่ กบั 5 x 10 = 50 1 9 เปน็ ทศนิยมตาแหนง่ ที่ 4 คา่ ประจาหลักเป็น 104 ดังนน้ั 9 จึงมคี า่ เท่ากับ 9x 1 = 9 x 1 = 0.0009 104 10,000 ตัวอยา่ งท่ี 3 จงเขียน 49.128 และ 613.4305 ให้อยใู่ นรปู การกระจาย 1 1 1 วธิ ีทา 49.128 = (4 × 10) + (9 ×1) + (1 × 10 ) + (2 × 102 ) + (8 × 103 ) 613.4305 = (6 × 102 ) + (1 × 10) + (3×1) + (4 ×110 ) + (3 ×1012 ) + (0 ×1013 ) + (5 ×1014 ) ตัวอยา่ งที่ 4 จงเขียนจานวนตอ่ ไปนใ้ี หอ้ ยูใ่ นรปู ทศนิยม 1 1 1 103 1. (8 × 102 ) + (5 × 10) + (2 ×1) + (4 × 10 ) + (7 × 102 ) + (5 × ) 2. (9 × 1 ) + (4 × 1 ) 102 103 1 1 1 วิธีทา 1. (8 × 102 ) + (5 × 10) + (2 ×1) + (4 × 10 ) + (7 × 102 ) + (5 × 103 ) = 852.475 2. (9 × 1 ) + (4 × 1 ) = 0.094 102 103

259 225529 ใบงานท่ี 1 เร่อื ง ทศนิยมและค่าประจาหลักของทศนิยม หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 ทศนิยมและเศษส่วน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรื่อง ทศนิยมและคา่ ประจาหลักของทศนยิ ม รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกสว่ นประกอบของทศนยิ มได้ 2. เมือ่ กาหนดทศนิยมมาให้ นกั เรยี นสามารถอ่านทศนยิ มนน้ั ได้ 3. บอกค่าประจาหลกั ของทศนิยมตาแหนง่ ตา่ งๆๆ และคา่ ของเลขโดดได้ 1. จงเขยี นจานวนต่อไปนใี้ นรปู ทศนิยม 1) 3 ใน 10 = .............................................. 2) 4 ใน 1000 = .............................................. 3) 99 ใน 100 = ............................................... 2. จงเขยี นจานวนต่อไปนใ้ี นรปู ทศนยิ มตามหนว่ ยที่กาหนด 1) เงนิ 5 สตางค์ = ........................................ บาท 2) แดงสงู 1 เมตร 26 เซนติเมตร = ........................................ เมตร 3) ถนนยาว 182 เมตร = ........................................ กโิ ลเมตร 3. จงบอกคา่ ประจาหลักของตวั เลขทีก่ าหนดให้ 1) 0.7358 คา่ ประจาหลกั ของตัวเลข 3 คือ ................................. 2) 74.0053 ค่าประจาหลกั ของตวั เลข 3 คือ ................................. 3) 145.6705 ค่าประจาหลักของตัวเลข 0 คือ ................................. 4) 0.1637 คา่ ประจาหลักของตัวเลข 1 คือ ................................. 4. จงบอกคา่ ของตวั เลขท่ีกาหนดให้ 1) 5.3679 ค่าของตวั แลข 6 คอื .......................................... 2) 64.0518 ค่าของตวั แลข 1 คอื .......................................... 3) 0.1587 ค่าของตวั แลข 1 คอื .......................................... 4) 0.70021 คา่ ของตัวแลข 7 คอื .......................................... 5. เขียนจานวนตอ่ ไปนี้ให้อยใู่ นรูปการกระจาย 1) 0.173 = …………………..………………………………..……………………………………………..…………… 2) 7.083 = ………………………………..…………………..……………………………………………..…………… 3) 64.3218 = …………………..………………………………..……………………………………………..…………… 4) 0.5648 = ………..…………………………………………..……………………………………………..…………… 6. จงเขียนจานวนตอ่ ไปนใ้ี หอ้ ยู่ในรปู ทศนิยม 1 6 5 1) 10 + 102 + 103 = …………………………………………………………………………………………..……… 2) (5 × 102 ) + (9 ×1) + (6 × 1 ) + (4 × 1 ) = ……………………………………..…………………..… 10 103

260 226503 เฉลยใบงานท่ี 1 เรือ่ ง ทศนิยมและคา่ ประจาหลักของทศนยิ ม หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ทศนิยมและเศษส่วน แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรอื่ ง ทศนิยมและค่าประจาหลักของทศนยิ ม รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกสว่ นประกอบของทศนิยมได้ 2. เมือ่ กาหนดทศนยิ มมาให้ นกั เรียนสามารถอ่านทศนยิ มน้ันได้ 3. บอกค่าประจาหลกั ของทศนิยมตาแหนง่ ตา่ งๆ และคา่ ของเลขโดดได้ 1. จงเขียนจานวนตอ่ ไปนใี้ นรปู ทศนิยม 1) 3 ใน 10 = 0.3 2) 4 ใน 1000 = 0.004 3) 99 ใน 100 = 0.99 2. จงเขยี นจานวนต่อไปนี้ในรปู ทศนิยมตามหนว่ ยทก่ี าหนด 1) เงิน 5 สตางค์ = 0.05 บาท 2) แดงสูง 1 เมตร 26 เซนตเิ มตร = 1.26 เมตร 3) ถนนยาว 182 เมตร = 0.182 กิโลเมตร 3. จงบอกค่าประจาหลักของตวั เลขท่ีกาหนดให้ 1 1) 0.7358 ค่าประจาหลกั ของตวั เลข 3 คอื 102 2) 74.0053 ค่าประจาหลักของตวั เลข 3 คือ 1 104 1 3) 145.6705 ค่าประจาหลักของตวั เลข 0 คอื 103 4) 0.1637 คา่ ประจาหลกั ของตัวเลข 1 คอื 1 10 4. จงบอกค่าของตวั เลขที่กาหนดให้ 1) 5.3679 คา่ ของตวั แลข 6 คอื 0.06 2) 64.0518 ค่าของตวั แลข 1 คือ 0.001 3) 0.1587 ค่าของตัวแลข 1 คือ 0.1 4) 0.70021 คา่ ของตัวแลข 7 คอื 0.7

261 225641 5. เขยี นจานวนตอ่ ไปนี้ให้อยูใ่ นรปู การกระจาย 1 1 1 1) 0.173 = (1 × 10 ) + (7 × 102 ) + (3 × 103 ) 2) 7.083 = (7 × 1) + (8 × 1 ) + (3 × 1 ) 102 103 3) 64.3218 = (6×10) + (4 1) + (3 ×110 ) + (2 ×1012 ) + (1 ×1013 ) + (8 ×1014 ) 1 1 ) + (4 ×1013 ) + (8 ×1014 4) 0.5648 = (5 × 10 ) + (6 × 102 ) 6. จงเขียนจานวนต่อไปน้ใี ห้อยใู่ นรปู ทศนิยม 1 6 5 1) 10 + 102 + 103 = 0.165 2) (5 × 102 ) + (9×1) + (6 × 1 ) + (4 × 1 ) = 509.604 10 103

แบ (บ(2ท20ด0สคคอะะบแแ ่กนนอนนน))เรียน 262 226525 ใบงาน ่ีท 1 (20 คะแนน) แบบบันทึกคะแนนการตรวจใบงานตามแผนการจัดการเรียนรู้ รว((ม22ค00ะแคคนะะแแนในนบนนง))านหน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เร่อื ง ทศนยิ มและค่าประจาหลักของทศนิยม ร้อยละ รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรียนท่ี 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1 ระดับ ุคณภาพ ที่ ชื่อ-ช่ือสกลุ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงช่ือ ..............................................................ผสู้ อน (..............................................................)

263 263 256 263 (………………………………………………………) แบบบันทึกการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรูข้ องนักเรียน(…ด…้า…นท…กั…ษ…ะ…แ…ละ…ก…ร…ะบ…ว…น…ก…าร…ท…า…ง…คณ……ิตศ) าสตร์ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่ือง ทศนิยมและค่าประจาหลกั ของทศนยิ ม แบบหบนัน่วทยึกกรกาาารยรเรวสยีชิังนเากรคตทู้ณพ่ี ิตฤ2ศตาแิกสผรตนรรกม์ าก1ราจรรัดเหรกสัียาวนริชเรรู้ขายี อนคงร2นู้ท1ัก่ี1เ01รี1ยเนรภอื่ างดคา้เทรนศียทนนักิยทษม่ี ะแ1แลลชะะคัน้ ก่ามรปธัะรยบะมวจศนาึกกหษาลารักปทขทีาองี่ งค1ทณศิตนศิยามสตร์ คาช้แี จง ทาเครรา่อืยงวหชิ มาาคยณิตศาสลตงรใ์ น1ช่อรงหทสั เ่ี วปิชน็ าจรคงิ 2ม1า1ก0ท1่สี ุดภาคเรยี นที่ 1 ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 1 รายการประเมิน ท่ี คาชแ้ี จง ทาเครอ่ื งชหื่อมา–ยสกุล ลงในชอ่ งท่ีเป็นจรกิงามราแกกทไ้ ีส่ขดุ รา3ยกกเเกาหหาารตตรร2ปุผผุใใรหหลละ้้ เ1มิน การ รวม รวม 1ท่ี ช่ือ – สกุล 3กาปปรญัญั แ2หหกาาไ้ ข1 3เเชชืื่อ่อกมมา2รโโยยงง1 เฉ ่ีลย เฉ ่ีลย 132 321 321 321 ระดับ ระดับ 24 63455687 79 1111890210 1113 1124 111111345765 1168 1179 112890 20 ลงช่ือ ..............................................................ผู้สอน (………………………………………………………) ลงชอ่ื ..............................................................ผู้สอน (………………………………………………………)

257 เกณฑAการใหค7 ะแนน รายการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ รายละเอียดในการพจิ ารณา 1. การแก7ปญ` หา 3 ความสามารถในการใชว= ธิ ีดำเนนิ การแก=ปญZ หา และการอธิบายถึงเหตุผลใน (ด)ี กในารกใำชร=วใธิชกี้วธิารกี ดำังรกดลังกา? วลไำ่ ดว=เไขดา= เ้ ใขจ้ำใแจลแะลชะดั ชเจดั นเจน 2. การให7เหตุผล ความสามารถในการใช=วิธดี ำเนนิ การแกป= Zญหา และการอธบิ ายถึงเหตผุ ลใน 2 กในารกใำชรว=ใิธชดีว้ ธิังกี ลำรา? ดวไงั ดกเ=ลพ่ำยี วงไบด้เาพงสยี ?วงบนำงส่วน 3. การเชื่อมโยง (พอใช=) ไม?มรี ?องรอยการแกป= Zญหา หรอื ทำได=ไมเ? ปนi ไปตามเกณฑ7ข=างต=น 1 มกี ารอ=างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอยา? งถูกตอ= งและสมเหตสุ มผล (ควรปรับปรุง) สมเหตสุ มผล มกี ารอา= งองิ ทีถ่ ูกตอ= งบางส?วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ 3 (ดี) ไม?มกี ารอา= งองิ หรือแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ 2 มกี ารเช่ือมโยงความร=ูทางคณิตศาสตร7 เนื้อหา หลักการ และวิธีการทาง (พอใช=) ทคณำงติคศณาิตสศตำรส7 เตพรื่อ์ เชพ?ว่ือยชในว่ ยกใานรกแำกร=ปแZญกห้ปาญั หรำือหปรรอื ะปยรุกะตยใ7 กุชตไ= ดใ์ ช=อไ้ยด?า้องเยห่ำมงเาหะมสำมะสม มีการเชอ่ื มโยงความรูท= างคณติ ศาสตร7 เน้อื หา หลักการ และวิธีการทาง 1 คทณำงติ คศณาติสศตำรส7 เตพรอ่ื ์ ชเพว? ื่อยชใน่วกยาในรแกกำรป= แZญกหป้ าัญไดหบ= ำไาดงสบ้ ?วำนงสว่ น (ควรปรับปรุง) ไม?มกี ารเชื่อมโยงความร=ูคณิตศาสตร7 3 (ด)ี 2 (พอใช=) 1 (ควรปรับปรงุ )

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 ทศนยิ มและเศษส่วน แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์ เรอื่ ง คา่ สัมบรู ณ์และการเปรยี บเทียบทศนิยม ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ขอบเขตเนอ้ื หา สแอื่หลง่ เรยี นรู้ ค่าสมั บูรณ์และการเปรยี บเทยี บทศนิยม รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 1. หนอ้ งั สคอืณเิตรศียานสรตำยรโ์วรชิ งำเรคียณนติ ศำสตร์ เลม่ 1 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ช2นั้. มหัธอ้ ยงสมมศดุกึ โษรำงปเรีทยี ี่น1 (สสวท.) ด้านความรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ 2ส.อ่ื ใบกจิ กรรมที่ 2 เรื่อง นำ้� หนักของฉนั 1. หาค่าสมั บูรณ์ของทศนิยมที่กาหนดใหไ้ ด้ ขัน้ นา 31.. ใหบนคังวสำอื มเรร้ทูยี นี่ 2ราเรยือ่ วงิชาคคำ่ ณสมัติ บศาูรสณตแ์ รล์ ะเลกม่ ำร1 2. เปรียบเทียบจานวนสองจานวนท่ีเขยี นในรปู 1. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรใู้ ห้นกั เรียนทราบ เช2ป้นั.รใมยี บธับกยเิจมทกศียรกึบรษทมาศทปน่ี ีท2ิย่ี ม1 (สสวท.) ทศนิยมได้ 2. ครสู นทนากบั นักเรียนเกย่ี วกบั ค่าประจาหลักของทศนยิ ม โดยครู แ21ทเ3เรร..ห.ศ่ื่ออื หหใลนงงบอ้อ้ง่ยิ คคนกงงมสควา่้าาสามหณรมมัเดุนิตรรบโกัียศทู้รรูขนำงี่ณอเส2รรงแ์ตู้ ียฉลรนันะ์โรกงาเรรเยี ปนรยี บเทยี บ ด้านทักษะและกระบวนการ เขยี นทศนิยมบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกคา่ ประจาหลกั ของ เภใเภใทบปบาาียงรงรรำบียาะะนนบงทงทาทเาศทนี่น่ีน2ีย2//ยิ ชบชเเมรร้ินทิ้น่ือื่อศงงงงานานนคิยคำ่ม่าสสัมัมบบูรูรณณ์แ์แลละะกกาำรรเปรยี บ 1. การแกป้ ัญหา เลขโดด และบอกคา่ ของเลขโดดท่ขี ีดเสน้ ใต้ ซึ่งจะไดแ้ นวการตอบดงั นี้ 2. การใหเ้ หตผุ ล 1 3. การเชือ่ มโยง 13.486 8 เปน็ ทศนิยมตาแหนง่ ที่ 2 ค่าประจาหลักเปน็ 102 ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี ินัย ดงั นัน้ 8 มีค่าเป็น 8 × 1 = 0.08 2. ใฝ่เรยี นรู้ 102 3. มคี วามมงุ่ มั่นในการทางาน 1 134.3128 8 เปน็ ทศนยิ มตาแหนง่ ท่ี 4 ค่าประจาหลักเปน็ 104 ดังน้นั 8 มคี ่าเปน็ 8 × 1 = 0.0008 104 3. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเกี่ยวกบั คา่ สมั บูรณ์ของจานวนเต็ม โดยครู เขียนเสน้ จานวนบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรยี นบอกระยะห่างของจานวน บนเสน้ จานวน กับ 0 โดยครูใชค้ าถามกระต้นุ ดังน้ี 225685 265

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 ทศนิยมและเศษส่วน แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 เวลา 1 ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ เร่อื ง คา่ สมั บูรณ์และการเปรยี บเทียบทศนิยม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 -3 -2 -1 0 1 2 3 1) ระยะทางท่ีจานวนเต็มใดๆๆ อยหู่ า่ งจาก 0 เรียกว่าอะไร ใช้สญั ลกั ษณ์ใดแทน (แนวการตอบ ระยะทางท่ีจานวนเตม็ ใดๆๆ อยู่ห่างจาก 0 เรยี กว่า คา่ สัมบูรณ์ แทนดว้ ยสัญลักษณ์ | | ) 2) –2 และ 2 อยูห่ า่ งจาก 0 เปน็ ระยะทางกหี่ น่วย เขียนแทน ด้วยสัญลักษณ์ไดอ้ ย่างไร (แนวการตอบ –2 อยู่ห่างจาก 0 เปน็ ระยะทาง 2 หนว่ ย เขียนแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ | –2 | = 2 2 อยู่หา่ งจาก 0 เปน็ ระยะทาง 2 หนว่ ย เขยี นแทนด้วยสัญลักษณ์ | 2 | = 2) 3) ระยะทางท่ี –2 และ 2 อย่หู ่างจาก 0 มีความสัมพันธ์กัน อยา่ งไร เขยี นแทนดว้ ยสัญลักษณไ์ ด้อยา่ งไร (แนวการตอบ ระยะทางท่ี –2 อย่หู า่ งจาก 0 เท่ากับ) ระยะทางที่ 2 อยหู่ ่างจาก 0 เขยี นแทนดว้ ยสัญลกั ษณ์ | –2 | = | 2 |) 226569 266

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เวลา 1 ช่ัวโมง หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ทศนิยมและเศษสว่ น เรอื่ ง รคคา่าแ่ายสผสวมันมั ชิ บกบารูาูรคณรณณจ์แ์แดั ิตลลกศะะาากกรสาเาตรรรียรเเป์ปนร1รรียยี้ทู บบ่ี เ2เททียียบบททศศนนิยิยมม ช้นั มธั เยวมลศากึ 1ษาชป่ัวที โ่ีม1ง หกนลว่่มุ ยสกาารระเกรายี รนเรรียทู้ นี่ ร2คู้ ณทติ ศศนาิยสมตแรล์ ะเศษส่วน เรือ่ ง รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ขั้นสอน ข454.้นั..นสคนกัอรกั เูเนเรขรยีียยี นนนเเเขสข้าน้้ากกจลลาุ่มุ่มนตตวาานมมบเเดนดิมมิกททรีแ่ะี่แดบบา่ง่งนไไววใ้ ้ใดนนงั คคนรรี้ ง้ั ้ังแแรรกก 5. ครูเข-ยี 2นเสน้ จานวน-บ1นกระดาน ด0งั นี้ 1 2 66จ..าคนครวรสู สูนมุ่-ุ่มใ2นนนกัขักเ้อเรรียยี5นนบมมนาาเกเขขร-ยี ยี1ะนนดทาทนศศนนซิยิย่ึงมมจะ––ไ0ด00.แ้ .55น,,ว00ก..5า5,ร,–ต–1อ1.บ.551ดแังแลนละ้ีะ 1.5 บ2นเส้น 1.5 บนเส้น จานวน-ใ2นข้อ-51.5บนกร-ะ1ดาน-0ซ.5่งึ จะได0แ้ นวก0า.ร5ตอบ1ดงั นี้ 1.5 2 77จ..าคกครร0ูสูส-ุ่มมุ่2บนนนกั ักเเสเร-ร้น1ียยี .จน5นามมนาาวเเขนข-ยี1ียนซนึง่รรจะ-ะะ0ยยไ.ะ5ะดหห้แา่ า่นงงวขข0กออางงรต––อ000บ...555ด,,งั 0น0.ี้.551,, –11.5.5และ 21.5 จาก 0 บนเสน้ จานวน ซ่ึงจะไดแ้ นวการตอบดังนี้ –1.5 และ 1.5 -2 -1.5 -1 -0.5 0 0.5 1 1.5 2 267 226607 –8–8แ1.1ท..น.น5น5กั1กั1ดแเ)แ-เ)้วรล2รลยีย–ยีะ–ะสน0น0ัญ1แ.1แ.5-5.ล1ล.5ล5ะ.ักะ5แจคแจคษลารลารณกะูรกะูรว่ไ์ว่ 0-ดม00ม10้อก.บก.บ5ย5ันันนนา่ ออออเ-งเสภย0สภไยน้รู่ห.ิป้นหู่5ิปจา่รจ่ารางาางาจนยจนยาเวาเว0กกกนกนี่ยี่ยวโว0โ0ดกดกยับ0ยบั เคเรป.ครป5ระรน็ะน็ูใยูใยชรชระะะค้ะห้คหย1ายา่าะา่ถะถงทงาทขาขมาอมาอง1กงงกกง.กร5รห่ีะีห่ะ––ตนตน00ุ้น่วุ้น่ว..5ย5ย2,ด,ด0งั0ังเเน.ขน.ข55ี้ียี้ยี,,นน แทนด้วยสัญลักษณ์ได้อย่างไร 267 267

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ทศนยิ มและเศษสว่ น แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ เรื่อง คา่ สมั บูรณ์และการเปรียบเทียบทศนิยม ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ 1 (แนวการตอบ –0.5 อยหู่ า่ งจาก 0 เป็นระยะทาง 0.5 หนว่ ย เขียนแทนดว้ ยสัญลักษณ์ | –0.5 | = 0.5 0.5 อย่หู า่ งจาก 0 เป็นระยะทาง 0.5 หน่วย เขยี นแทนดว้ ยสญั ลักษณ์ | 0.5 | = 0.5 –1.5 อยหู่ า่ งจาก 0 เปน็ ระยะทาง 1.5 หนว่ ย เขยี นแทนดว้ ยสญั ลกั ษณ์ | –1.5 | = 1.5 1.5 อยู่ห่างจาก 0 เปน็ ระยะทาง 1.5 หนว่ ยเขียน แทนด้วยสญั ลักษณ์ | 1.5 | = 1.5) 3) ระยะทางที่ –0.5 และ 0.5 อยู่ห่างจาก 0 มีความสมั พันธก์ ัน อยา่ งไร เขียนแทนด้วยสญั ลกั ษณไ์ ด้อยา่ งไร (แนวการตอบ ระยะทางที่ –0.5 อยู่ห่างจาก 0 เทา่ กบั ) ระยะทางที่ 0.5 อยหู่ ่างจาก 0 เขียนแทนด้วยสญั ลกั ษณ์ |–0.5| = |0.5|) 4) ระยะทางท่ี –1.5 และ 1.5 อยู่ห่างจาก 0 มคี วามสมั พนั ธ์กนั อยา่ งไร เขยี นแทนดว้ ยสัญลกั ษณไ์ ดอ้ ย่างไร (แนวการตอบ ระยะทางที่ –1.5 อยู่หา่ งจาก 0 เท่ากบั ) ระยะทางท่ี 1.5 อยูห่ ่างจาก 0 เขยี นแทนดว้ ยสญั ลักษณ์ |–1.5| = |1.5|) 9. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภิปรายเกีย่ วกับคา่ สัมบรู ณข์ องทศนิยมเพื่อ สรุปวา่ คา่ สมั บรู ณข์ องทศนิยมใดๆๆ หาได้จากระยะทท่ี ศนยิ มน้ันหา่ งจาก 0 บนเสน้ จานวน ใชส้ ญั ลักษณแ์ ทนด้วย | | 10. ตัวแทนกลุ่มรบั ใบกจิ กรรมที่ 2 เรือ่ ง นา้ หนกั ของฉนั 226681 268

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 ทศนยิ มและเศษสว่ น แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เวลา 1 ชัว่ โมง หกนลุม่วยสการาะรกเรายี รนเรรียู้ทนี่ ร2้คู ณทติ ศนายิสมตแร์ละเศษสว่ น เรือ่ ง คแา่ ผสนมั กบารู รณจ์แดั ลกะากราเรรยี เปนรียูท้ บี่ เ2ทียบทศนิยม ชัน้ มัธยเวมลศากึ ษ1าชปว่ั ที โี่ม1ง กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เร่ือง รคาา่ ยสวัมิชบารู คณณ์แิตลศะากสาตรรเป์ ร1ียบเทียบทศนิยม ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 11. ครูให้นักเรยี นทกุ คนราชย่ังวนชิ้าหาคนณกั บิตนศาเคสรต่อื รง์ ช1่งั ดจิ ติ อลทีค่ รูเตรียม 1ม1า.แคลรว้ ูใบหนั น้ ทกั กึ เรนียา้ นหทนุกั คลนงใชนั่งในบ้ากหจิ นกักรบรมนทเค่ี ร2่อื งแชล่งั ้วดใิจหิต้นอักลเรทีย่ีคนรทูเตารใียบมกิจกรรม มทา่ี แ2ลว้ บันทึกน้าหนกั ลงในใบกิจกรรมท่ี 2 แล้วให้นกั เรยี นทาใบกิจกรรม ท่ี 2 12. ครยู กตวั อยา่ งการเปรยี บเทียบทศนยิ มที่เป็นบวก ดังนี้ 1ต2วั .อคยร่าูยงกทตี่ ัว1อยจ่างงเปการรียเบปเรทียยี บบเทศียนบยิทมศนยิ3ม7ท.4ีเ่ 6ปน็ กบับวก37ด.งั 5น1ี้ ตัวอยา่ งที่ 1 จแงนเวปคริดยี บเทยี บทศนิยม 37.46 กับ 37.51 แนวคดิ 3 7 . 4 6 3 7 . 45 61 37.5 1 เท่ากัน 4 นอ้ ยกว่า 5 ดงั เนทนั้่ากัน37.464 นน้ออ้ ยยกกวว่าา่ 357.51 13. ตัวแทนกลมุ่ มารับใบดคังนวา้นั มร3้ทู 7ี่ .246เร่อื นง้อคยา่กสวัม่าบ3รู ณ7.แ์5ล1ะการ 1เป3ร. ียตบวั เแททียนบกทลศุ่มนมิยามรับใใหบท้ คุกวคามนรในูท้ กี่ 2ลมุ่ เศรอ่ืกึ งษาคใา่ บสคมั วบารูมณรูร้์แว่ ลมะกกันาอรภปิ ราย เโปดรยียคบรเูคทอียยบใหทค้ศานแยิ นมะนใหา้ทเพกุ ่มิ คเนติมในกล่มุ ศึกษาใบความร้รู ว่ มกนั อภปิ ราย โดยครูคอยใหค้ าแนะนาเพิ่มเตมิ ข้นั สรปุ ข1้นั4.สนรปุกั เรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เก่ยี วกบั การเปรียบเทยี บทศนิยม ได้ดงั นี้ 14. 1น)ักเกราียรนเแปลระียคบรเทรู ่วียมบกทนั ศสนริยุปมเกทยี่เปวน็กับกวการสเอปงรจียาบนเวทนยี ใบดทๆๆศนิยม ได้ดังนี้ ให้พ1ิจ)ารกณาราเปลขรียโดบดเทคแู่ียรบกทใศนนติยามแทหี่เนป่งน็ เดบียววกกสันอทงจไ่ี มาเ่นทวา่ นกใันดๆ ให้พิจารณาเลขโดดคูแ่ รกในตาแหน่งเดียวกนั ที่ไมเ่ ทา่ กนั 269226629 269 269

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ทศนิยมและเศษสว่ น แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เวลา 1 ชั่วโมง กหลนมุ่วสยากราะรกเรายีรนเรรียู้ทน่ี รคู้2ณทติ ศนาสิยตมรแ์ ละเศษสว่ น เร่อื ง คา่แสผัมนบกรูาณรจ์แดั ลกะากราเรยีเปนรรยี ู้ทบี่ เ2ทียบทศนิยม ชัน้ มธั ยเวมลศาึกษ1าชป่ัวีทโ่ี ม1ง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เรือ่ ง รคาา่ ยสวมั ชิ บาูรคณณ์แิตลศะากสาตรรเ์ป1รียบเทียบทศนิยม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 จานวนทมี่ ีเลขโดดในตารแาหยนวง่ ิชนา้นั คมณาิตกศกาวส่าจตะรม์ คี1า่ มากกว่า จาน2ว)นทกาม่ี รเี ลเปขรโดยี ดบใเนทตียาบแทหศนน่งิยนมนั้ ทมี่เปากน็ กลวบา่ สจอะงมจคี า่านมวานกใกดวๆา่ ให้ห2า)ค่ากสามั รบเปรู รณีย์ขบอเทงจียาบนทวศนนทยิ ัง้ มสทอ่ีเงป็นจลานบวสนอทงจ่มี าีคน่าวสนัมใบดูรๆณๆ์น้อยกว่า จใหะห้มีคาคา่ ม่าสากัมกบวูรา่ณ์ของจานวนท้ังสอง จานวนท่มี คี ่าสัมบรู ณ์นอ้ ยกวา่ จะมีค่ามากกว่า 3) การเปรียบเทียบทศนิยมทเ่ี ปน็ บวกกับทศนยิ มที่เปน็ ลบเนือ่ งจาก ทศน3ยิ )มกทาีเ่ ปรเ็นปบรวยี กบอเทยยี่ทู บางทขศวนายิขมอทงเ่ี ป0็นแบลวะกทกศับนทิยศมนทิยเ่ี ปมทน็ ี่เลปบน็ อลยบูท่ เานง่อืซงา้ จยาก ขทอศงนิย0มดทงั ่ีเนป้นั็ ทบศวนกอยิ ยมู่ทา่เี ปงข็นวบาวขกอจงะม0ากแกลวะา่ททศศนนิยยิมมทท่เี ปเ่ี ป็น็นลลบบอเยส่ทู มาองซา้ ย 1ข5อ.งน0กั ดเรังยีนนัน้ ททาศในบิยงามนททีเ่ ป่ี น็ 2บวเรก่อืจงะมกาการกเวปา่ รทียศบนเทิยมยี ทบเ่ีทปศ็นนลิยบมเสมอ 165. นนักกั เเรรียยี นนทแาลใะบคงรารูน่วทมี่ ก2ันอเภริป่ืองรายกคาารตเปอรบียขบอเงทใยีบบงาทนศทน่ียิ ม2 โดยครู อ1า6จ. จนัดกัใหเรน้ ยี กั นเแรียลนะคตรวั ูรแ่วทมนกเนัปอ็นภผปิู้บรอากยคคาาตตออบบใขนอแงตใล่บะงขาอ้นแทลี่ ้วส2อบโดถยาคมรู นอาักจเรจยี ัดนใหค้นักอเ่นื รๆียนวตา่ ัวคแาทตนอบเปน็นต้ี ผรบู้ งกอบักคนากั ตเรอียบนในหแรอืตไล่ มะ่ ข้อเหแตลใุว้ ดสจองึ บเปถ็นาม เนชกั ่นเนรยี้นั นคเพน่ือต่ืนรๆวจวส่าคอาบตคอวบามนเตี้ ขร้างใกจบัขนองกั นเรักยี เรนียหนรอื ไม่ เหตุใดจึงเปน็ เชน่ น้ัน เพือ่ ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น 270270 263 270 270

271 271 271 226741 การวกดัาแรวลดัะปแลระเปมรนิ ะกผเมาลรินวผดั ลและประเมนิ ผล ส่งิ ทสี่ติง่้อทงกี่ตา้อรงวกัดาร/ปวัดรสะ/ิง่ เปมทรนิ่ตี ะ้อเมงนิการวัด/ปรวะเิธมีกนิ าวริธีการ วิธเีกคารรือ่ เงคมร่อื งทมีใ่ ชือท้ ่ใี ช้ เคร่อื งมอื เทกใ่ีณชเฑ้ก์ณฑ์ เกณฑ์ ดา้ นดคา้วนามควรู้ามรู้ ด้านความรู้ 1. ห1า.คห่าสามัคบ่าสูรัมณบข์ ูรอณ1ง.ทข์ หศอานงทคยิ ่าศมสนัมิยบมูรตณรวข์ จอตใรงบทวงจศาในนบยิ งมาน ตรวจใบแงบาบนแบบันบทบกึ ันคทะแกึ นคะนแแนบนบบผา่ันนทผเึก่าคณนะฑเแกร์นณ้อนฑยลร์ ้อะย7ลผ0ะ่าน7เก0ณฑร์ ้อยละ 70 ทีก่ าทหกี่นาดหใหน้ไดดใ้หไ้ ด้ ทีก่ าหนดให้ได้ ใบงาในบทงา่ี 2นทเรี่ ื่อ2งเร่อื ใงบงาขนนึ้ทไ่ี ปข2ึ้นเรไปอ่ื ง ขึน้ ไป 2. เป2ร.ียเปบรเทยี ียบบเทจียาบน2จว.นาเนสปวอรนงียสบอเทงยี บจานวนสอง คา่ สมัคบา่ สูรัมณบแ์ รู ลณะกแ์ าลระคกา่ สรัม-บร้อูรยณ-ลรแ์ อ้ะลยะ8ลก0ะาขร8้นึ 0ไปขึ้น-ไรปอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป จานจวนานทว่เี ขนยี ทน่ีเขในียรนปู ใจนทารศนปู นวทิยนศมทนีเ่ ขิยียมนในรูปทศนิยม เปรียเปบรเทียยีบบเททียศบนทยิ ศมกเนปำิยรียมเปไบดรเ้รทยี ะบไียดบเับร้ททะคียศดณุบนับภิยคามุณพภา4พได้ร4ะดับคุณภาพ 4 ได้ ได้ ได้ ทศนยิ-รม้อย-ลร้อะย7ล0ะ-790-79-ร้อยละ 70-79 ไดร้ ะไดบัร้ ะคดณุ บั ภคาณุ พภา3พได้ร3ะดบั คณุ ภาพ 3 -รอ้ ย-ลร้อะย6ล0ะ-690-69-ร้อยละ 60-69 ได้ระไดับร้ ะคดณุ บั ภคาุณพภา2พได้ร2ะดบั คุณภาพ 2 -ร้อย-ลร้อะย5ล0ะ-590-59-ร้อยละ 50-59 ได้ระไดบัร้ ะคดุณับภคาณุ พภา1พได้ร1ะดบั คณุ ภาพ 1 ด้านดทา้ักนษทะักแษละกแรละบกดวรา้ ะนบทกวกัานรษกะาแรละกระบวนการ ทางคทณางติ คศณาสิตตศรา์สตทร์างคณิตศาสตร์ 1. ก1าร. แกกาป้รแญั กหป้ าัญห1า. การแกป้ ญั หตราวจตใรบวงจาในบงาน ตสรงั เวกจตใบพแงฤบาตบนแกิ บบรันรบทมบกึ ันกทารึกการแแบบบบบบผันา่ันนททผเกึกึ า่กกณนำาฑเรรกส์ใณนังเฑรกะใ์ตดนับระผด่าบั นเกณฑใ์ นระดับ 2. ก2าร. ใกหา้เรหใตหุผ้เหลตผุ 2ล. กกาารรเใชหอื่้เหมตโยผุสงลังเกสตงั พเกฤตพิกฤรรตมกิ รรสมังเกตพกทดสฤร้าังาตเนะงกิกคบสดกททตรณว้ารังากัพรเนะนงษติกฤมบคกทศตะณวาักาแพกิ นรสษิตลฤรกตศะรตาราแมิกร์สลรตะรแพทรสทกดมล์ำฤาร้ังาเงะะนตงกคกคบทิกตพ--ไณณรวปรักพคคอะนรติไษติฤ่าา่ใบดมกศชศ--พไะเเตว้รดฉฉปาข้าแำคคอิกะนรลล้ำสไส้ึนลาา่่ใรดนก่่ียยีตชตะไเเรับ้รฉฉำทป้ขรรม21ะรลล์์กัึ้นด..ี่ย่ีย55ษไีบั ป00ะ12ด..–ข55ีน้ึ00--ไพปข–อคคไึ้นใา่่าดชเเร้ฉฉข้ ะลลึ้นด่ียีย่ ไับป12ด..55ี 00 3. ก3าร. เกชาือ่ รมเชโยื่องมโยง3. ขน้ึ – 2.492ไ.4ด9ร้ ะไดบัร้ ะพดบัอใช2พ้.อ4ใ9ช้ได้ระดับ พอใช้ - คา่ -เฉคลา่ ี่ยเฉตลา่ ก่ยี วต่ากว-า่ คา่ เฉล่ียต่ากวา่ 1.501ไ.5ด0ร้ ะไดบัร้ ะดบั 1.50 ไดร้ ะดับ ปรับปรบังุ ปรงุ ปรบั ปรงุ ดา้ นดคา้ณุ นลคกั ณุ ษลณกั ะษณดะา้ นคณุ ลักษณะ อันพองึ ันปพระึงสปงรคะ์สงค์อันพึงประสงค์ 1. ม1ีวนิ. มัยีวินัย 1. มีวินัย สงั เกสตงั พเกฤตพกิ ฤรรตมกิ รรสมงั เกตพแฤบตบิกแบรบันรบมทบกึ ันกทารึกการแแบบบไดนั ร้ ทะไกึ ดกบั้รำาะครดณุ สับงัภคเากุณพตภ2าพได้ร2ะดบั คุณภาพ 2 2. ใฝ2เ่.รใยี ฝน่เรยีู้ นรู้ 2. ใฝเ่ รียนรู้ สังเกสตังพเกฤตพกิ ฤรรตมิกรรพสมฤังเตกกิ ตทรพุกรฤรมทาตดยุกิ ำ้ กรนารรยมขก้ึนารไปข้ึนไทปกุ รายการขนึ้ ไป 3. ม3คี .วามมีคมวุง่ามน่ัมใงุ่ นมกน่ั 3าใ.นรมทกีคาวงราทมนามงุ่งามน่นั ในการทางาน ดา้ นดค้าุณนลคักณุ ษลณักะษณคะดุณา้ นลคักถณุ ษือวลณา่ถักะผอืษ่าวณน่าะผเกา่ ณนฑเก์ ณฑถ์อื วา่ ผา่ นเกณฑ์ อันพอึงันปพระึงสปงรคะ์สงค์ออันพงึ ประสงค์

272 227625 บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ปัญหาและอุปสรรค .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................... .............................. ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ............................................................ผูส้ อน (..............................................................) วนั ท.่ี .........เดือน.........................พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ ารหรือผู้ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงช่ือ ..........................................................ผู้ตรวจ (.........................................................) วันที่..........เดือน.........................พ.ศ.............

273 226763 ใบกิจกรรมท่ี 2 เร่ือง น้าหนักของฉัน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ทศนยิ มและเศษสว่ น แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ค่าสมั บรู ณแ์ ละการเปรยี บเทียบทศนยิ ม รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เปรยี บเทียบจานวนสองจานวนทเ่ี ขยี นอยใู่ นรูปทศนิยมได้ ค�าชแี้ จง ใหน้ ักเรียนแตล่ ะคนท�ำกิจกรรมตำมล�ำดับตอ่ ไปนี้ คาชี้แจง ให้นักเรยี นแตล่ ะคนทากจิ กรรมตามลาดบั ต่อไปนี้ 1. ให้นักเรียนแตล่ ะคนในกลุม่ ชง่ั น้าหนักตวั เองแลว้ บนั ทึกในตารางที่กาหนดให้ ช่อื – สกลุ น้าหนัก (กโิ ลกรมั ) 2. ให้นักเรยี นนานา้ หนักของทุกคนในกลมุ่ ลงบนเส้นจานวน 3. ใหน้ ักเรียนเรยี งลาดบั น้าหนกั ของทุกคนในกลุ่มจากนอ้ ยที่สุดไปหามากทส่ี ดุ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... 4. สมาชกิ คนใดทมี่ นี า้ หนักน้อยท่สี ุด และสมาชกิ คนใดมนี ้าหนกั มากท่สี ดุ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ............................................................................................... ..................................................................... .................................................................................................................................................................... 5. นักเรียนใช้หลักการใดในการเปรียบเทยี บค่านา้ หนักดงั กลา่ ว .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................................

274 227647 ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง ค่าสมั บรู ณแ์ ละการเปรยี บเทียบทศนยิ ม หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 ทศนยิ มและเศษสว่ น แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่อื ง คา่ สัมบูรณแ์ ละการเปรียบเทียบทศนยิ ม รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. หาคา่ สัมบูรณ์ของทศนยิ มท่กี าหนดใหไ้ ด้ 2. เปรียบเทยี บจานวนสองจานวนทีเ่ ขียนอย่ใู นรปู ทศนยิ มได้ พจิ ารณาเส้นจานวนต่อไปน้ี คา่ สมั บรู ณ์ของทศนยิ ม -1 -0.75 -0.5 -0.25 0 0.25 0.5 0.75 1 –0.25 อยูห่ ่างจาก 0 เป็นระยะทาง 0.25 หน่วย กล่าววา่ คา่ สมั บรู ณข์ อง –0.25 เทา่ กบั 0.25 0.25 อยหู่ า่ งจาก 0 เป็นระยะทาง 0.25 หน่วย กลา่ ววา่ คา่ สมั บูรณข์ อง 0.25 เท่ากับ 0.25 พิจารณาเส้นจานวนตอ่ ไปน้ี -3 -2.5 -2 -1.5 -1 -0.5 0 0.5 1 1.5 2 2.5 3 –2.5 อยหู่ ่างจาก 0 เป็นระยะทาง 2.5 หนว่ ย กล่าวว่า คา่ สัมบรู ณ์ของ –2.5เทา่ กบั 2.5 2.5 อยู่หา่ งจาก 0 เปน็ ระยะทาง 2.5 หนว่ ย กล่าววา่ ค่าสมั บูรณ์ของ 2.5 เท่ากบั 2.5 แสดงว่า ค่าสัมบูรณก์ ็เป็นจานวนบวก เสมอนะสิ เพราะระยะทางต้องไมต่ ิดลบ ลบ จากตัวอยา่ งจะเหน็ วา่ คา่ สมั บูรณ์ ของทศนิยมใดๆ หาได้จากระยะที่ทศนิยมนั้นอย่หู า่ งจาก 0 บนเส้นจานวน คา่ สมั บรู ณ์เขยี นแทนดว้ ยสัญลกั ษณ์ | | เชน่ ค่าสัมบูรณ์ของ –1.5 เขยี นแทนดว้ ยสญั ลักษณ์ |–1.5| = 1.5

275 226785 ตวั อย่างที่ 1 1. คา่ สัมบูรณข์ อง 0.35 มคี า่ เทา่ กับ 0.35 เน่ืองจาก 0.35 อยู่ห่างจาก 0 เป็นระยะ 0.35 หนว่ ย 2. คา่ สัมบรู ณ์ของ –0.35 มีค่าเทา่ กบั 0.35 เนอื่ งจาก –0.35 อย่หู า่ งจาก 0 เปน็ ระยะ 0.35 หน่วย 3. คา่ สัมบูรณข์ อง 0 มีค่าเทา่ กบั 0 เน่ืองจาก 0 อย่หู ่างจาก 0 เป็นระยะ 0 หน่วย 4. |13.45| เทา่ กับ 13.45 เน่อื งจาก 13.45 อยู่หา่ งจาก 0 เปน็ ระยะ 13.45 หน่วย 5. |–22.75| เทา่ กับ 22.75 เนื่องจาก –22.75 อยหู่ ่างจาก 0 เปน็ ระยะ 22.75 หนว่ ย การเปรียบเทยี บทศนิยม ในการเปรียบเทยี บทศนิยมสองจานวนท่ีไม่เท่ากนั เพื่อดูว่าจานวนใดน้อยกวา่ หรือจานวนใด มากกว่า เราจะเหน็ ไดง้ ่ายโดยใช้เสน้ จานวน ดังนี้ -1 -0.75 -0.5 -0.25 0 0.25 0.5 0.75 1 บนเสน้ จานวน ทศนยิ มทีอ่ ยูท่ างขวาจะมากกวา่ ทศนิยมทอี่ ย่ทู างซ้ายเสมอ เน่อื งจาก 0.75 อยู่ทางขวาของ 0.25 ดังนน้ั 0.75 มากกวา่ 0.25 ใช้สัญลกั ษณ์ 0.75 > 0.25 เน่อื งจาก 0 อย่ทู างขวาของ –0.5 ดงั นน้ั 0 มากกวา่ –0.5 ใช้สญั ลกั ษณ์ 0 > –0.5 เน่ืองจาก –0.25 อยูท่ างขวาของ –1.25 ดังนน้ั –0.25 มากกว่า –1.25 ใชส้ ัญลกั ษณ์ –0.25 > –1.25 เราสามารถเปรียบเทียบทศนิยมสองจานวนใดๆ โดยใชเ้ กณฑ์ ต่อไปนี้ 1. การเปรยี บเทยี บทศนยิ มที่เปน็ บวกสองจานวนใดๆ ใหเ้ ริ่มพิจารณาจากตวั เลขดา้ นซา้ ยสดุ ก่อน จนพบเลขโดดคู่แรกในตาแหนง่ เดยี วกนั ทีไ่ มเ่ ทา่ กนั จานวนทีม่ ีเลขโดดในตาแหน่งนน้ั มากกวา่ จะเปน็ จานวนทม่ี คี า่ มากกวา่ เช่น 1.1 ลองเปรยี บเทยี บ 0.46 และ 0.42 จะได้ 0.46 > 0.42 เพราะว่า 6 > 2 หรอื 0 . 4 6 เลขโดดคู่แรกในตาแหนง่ เดียวกนั ที่ไมเ่ ท่ากนั คือ 6 และ 2 0 . 4 2 เพราะวา่ 6 > 2 จะได้ 0.46 > 0.42

276 227669 1.2 ลองเปรยี บเทยี บ 0.7648 และ 0.7659 จะได้ 0.7648 < 0.7659 เพราะว่า 4 < 5 หรอื 0 . 7 6 4 เลขโดดคู่แรกในตาแหน่งเดยี วกนั ท่ีไม่เท่ากนั คอื 4 และ 5 0.765 เพราะว่า 4 < 5 จะได้ 0.764 < 0.765 2. การเปรยี บเทียบทศนยิ มที่เปน็ ลบสองจานวนใดๆ ให้หาค่าสัมบรู ณ์ของทงั้ สองจานวน จานวนที่มีค่าสมั บรู ณน์ อ้ ยกว่า จะเป็นจานวนที่มากกว่า เช่น 2.1 ลองเปรยี บเทียบ –0.19 และ –0.15 ดงั นี้ พบว่า คา่ สัมบูรณ์ของ –0.19 เท่ากับ 0.19 และคา่ สัมบูรณ์ของ –0.15 เท่ากับ 0.15 ซึง่ 0.15 นอ้ ยกวา่ 0.19 ดังนน้ั –0.15 > –0.19 2.2 ลองเปรยี บเทียบ –4.38 และ –2.72 ดังน้ี พบว่า ค่าสัมบรู ณ์ของ –4.38 เท่ากบั 4.38 และค่าสัมบรู ณ์ของ –2.72 เทา่ กบั 2.72 ซ่ึง 4.38 มากกวา่ 2.72 ดังนั้น –4.38 < -2.72 3. การเปรยี บเทยี บทศนยิ มทเี่ ปน็ บวกและทศนิยมทีเ่ ป็นลบ เน่อื งจากบนเสน้ จานวน ทศนยิ มท่อี ยทู่ างขวาจะมากกว่าทศนยิ มท่อี ยู่ทางซ้ายเสมอ หรือ ทศนิยมที่อย่ทู างซา้ ยจะนอ้ ยกว่าทศนิยมท่ีอยทู่ างขวาเสมอ ดังน้ัน ทศนยิ มทีเ่ ป็นบวกจะมากกว่า ทศนิยมทเ่ี ป็นลบเสมอ เช่น –1.25 < 0.59

2778 22770781 เฉลใบยใงบานงาทน่ี ท2่ี เ2ร่ือเรงอ่ื คงา่ สคัม่าสบัมรู บณูร์แณลแ์ะกลาะรกเาปรรเปยี บรยี เทบียเทบยี ทบศทนศิยนมยิ ม หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 ทศนิยมและเศษสว่ น แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง คา่ สัมบูรณแ์ ละการเปรียบเทียบทศนิยม รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. หาค่าสัมบรู ณข์ องทศนิยมท่ีกาหนดใหไ้ ด้ 2. เปรยี บเทยี บจานวนสองจานวนท่ีเขียนอยู่ในรปู ทศนิยมได้ 1. ใหน้ กั เรียนใสเ่ ครอ่ื งหมาย >, < หรอื = ลงใน  1) –0.4 < –0.1 2) –0.52 > –0.55 3) –1.032 > –2.011 4) –3.17 < –2.36 5) –4.05 < –0.405 6) 7) 0.05.5 > –0.5 8) –0.77 > –7.70 9) 0.04.545 > –4.5 10) 0.07.272 –0.72 < 3.37.272 –10.2 < 2. จงเรียงลาดบั ทศนิยมต่อไปน้ีจากนอ้ ยไปหามาก 1) 1.23 –1.32 –1.45 1.54 ตอบ………–…1.…4…5 ……–1….…32……1….…23………1….5…4…… ………… …………… ………… …………… ………… …………… 2) 2.76 7.32 –-88..8877 –-33..5599 ตอบ………–…8.…8…7 ……–3….…59……2….…76………7….3…2…… ………… …………… ………… …………… ………… …………… 3) 0.79 –1.53 –6.34 –-55..7766 ตอบ………–…6.…3…4 ……–5….…76……–…1….5…3……0….7…9…… ………… …………… ………… …………… ………… …………… 33.. จจุดดุ หหลลออมมเหเหลลววขขอองงนนา้ ้าไนไนโตโตรรเจเจนนไไฮฮโโดดรรเจเจนนคคาารรบ์ บ์ ออนนไไดดออออกกไไซซดด์ ์ มมคี คี า่ ่า00, ,––221100, , ––225599.2.2,,––7788.5.5 อองงศศาาเเซซลลเเซซียียสสตตาามมลลาาดดบั ับจจงงเเรรยี ยี งงลลาาดดบั บั จจดุ ดุ หหลลออมมเเหหลลววขขอองงสสาารรจจาากกมมาากกไไปปหหาานน้ออ้ ยย ……………ต…อ…บ………จ…ดุ …ห…ลอ…ม…เห…ล…ว…ข…อง…น…า้ …>……จดุ…ห…ล…อ…ม…เห…ล…วข…อ…งค…า…ร…บ์ อ…น…ไ…ดอ…อ…ก…ไซ…ด…์ …>………………………… ……………………………………………………จ……ดุ ……ห……ลอ……ม……เห……ล……ว……ข……อง……ไ……น……โต……ร……เจ……น……>…………จุด……ห……ล……อ……มเ……ห……ลว……ข……อ……งไ……ฮ……โด……ร……เจ……น…………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………

272878 222277778181 เฉเฉลลยยใบใบงางนานทท่ี 2่ี 2เรเือ่รอ่ืงงคคา่ สา่ สัมมับบรู ณรู ณ์แแ์ลละกะการาเรปเปรยีรียบบเทเทยี ียบบททศศนนิยิยมม หหนนว่ ่วยยกการาเรรเยีรียนนรู้ทรูท้ี่ ี่22ททศศนนยิ ยิมมแแลละเะศเศษษสส่ว่วนน แแผผนนกการาจรจดั ดักการาเรรเยีรียนนรทู้รทู้่ี ่ี 22 เรเ่ือร่ืองงคคา่ สา่ สมั มับบรู ณูรณแ์ ์แลละกะการาเรปเปรยีรียบบเทเทยี ียบบททศศนนยิ ยิมม รารยายววชิ ชิาคาคณณิติตศศาสาสตตร์ร์11รหรหสั ัสววิชิชาาคค221110011ภภาคาคเรเียรียนนทท่ี 1ี่ 1ชช้นั นั้มมธั ยธั ยมมศศกึ ึกษษาปาปีทที่ ี่11 จจุดดุปประรสะสงคงค์กก์าราเรรเยีรยีนนรู้รู้ 11. .หหาคาค่าส่าสมั มับบรู ณูรณ์ข์ขอองทงทศศนนิยยิมมททกี่ ่ีกาหาหนนดดใหให้ไดไ้ ด้ ้ 22. .เปเปรียรยีบบเทเทียยีบบจจานานวนวนสสอองจงจานานวนวนทท่ีเข่เี ขยี ยีนนออยย่ใู นใู่ นรปูรูปททศศนนิยยิมมไดได้ ้ 11. .ใหใหน้ น้กั ักเรเยีรียนนใสใส่เคเ่ ครอ่ืรือ่งหงหมมายาย>>, ,<<หหรือรือ==ลลงใงนใน 11) ) ––00.4.4 << ––00.1.1 22) ) ––00.5.522 >> ––00.5.55 33) ) ––11.0.03322>> ––22.0.0111 44) ) ––33.1.177 << ––22.3.366 55) ) ––44.0.055 << ––00.4.40055 66) ) ––00.7.77 >> ––77.7.700 77) ) 00.5.05.5 >> ––00.5.5 00.70.72.272 99) ) 00.4.045.545 >> ––44.5.5 88) ) ––00.7.722 << 33.73.72.272 1100) ) ––1100.2.2 << 22. . จจงเงรเยีรยีงลงลาดาดับบัททศศนนิยิยมมตต่อ่อไปไปนนจ้ี ีจ้ากากนน้ออ้ยยไปไปหหามามากาก 11) ) 11.2.233 ––11.3.322 ––11.4.455 11.5.544 ตตออบบ ––11.4.455 ––11.3.322 11.2.233 11.5.544 22) ) 22.7.766 77.3.322 -8-8.8.877 -3-3.5.599 ตตออบบ ––88.8.877 ––33.5.599 22.7.766 77.3.322 33) ) 00.7.799 ––11.5.533 ––66.3.344 -5-5.7.766 ตตออบบ ––66.3.344 ––55.7.766 ––11.5.533 00.7.799 33. .จจดุ ดุหหลลออมมเหเหลลวขวขอองนงนา้ า้ ไนไนโตโตรเรจเจนนไฮไฮโดโดรเรจเจนนคคารา์บร์บออนนไดไดอออกกไซไซดด์ ม์ มีคคี่า่า00, ,––221100, ,––225599.2.2, –, –7788.5.5 อองศงศาเาซเซลลเซเซียียสสตตามามลลาดาดบั ับจจงเงรเยีรียงลงลาดาดบั ับจจุดุดหหลลออมมเหเหลลวขวขอองสงสาราจรจากากมมากากไปไปหหานานอ้ อ้ยย ตตออบบ จจดุ ดุหหลลออมมเหเหลลวขวขอองนงน้าา้ >>จจดุ ุดหหลลออมมเหเหลลวขวขอองคงคาราบ์รบ์ออนนไดไดอออกกไซไซดด์ ์ >> จจุดุดหหลลออมมเหเหลลวขวขอองไงนไนโตโตรเรจเจนน>>จจดุ ดุหหลลออมมเหเหลลวขวขอองไงฮไฮโดโดรเรจเจนน

ใบ ิกจกรรม ่ีท 2 (5 คะแนน) 279 227729 ใบงาน ี่ท 2 (14 คะแนน)แบบบันทึกคะแนนการตรวจใบงานตามแผนการจดั การเรียนรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ค่าสมั บรู ณแ์ ละการเปรียบเทียบทศนิยม รวม (19 คะแนน)รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรียนที่ 1 ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ร้อยละ ท่ี ชือ่ -ชือ่ สกุล ระดับ ุคณภาพ1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงชือ่ ..............................................................ผสู้ อน (………………………………………………………)

280 228703 แบบบนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรูข้ องนักเรียน ดา้ นทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ ง คา่ สัมบูรณแ์ ละการเปรียบเทียบทศนิยม รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 คาชแ้ี จง ทาเครอ่ื งหมาย  ลงในช่องทีเ่ ป็นจรงิ มากทีส่ ดุ รายการประเมิน การแก้ไข การให้ การ ที่ ช่ือ – สกุล ปญั หา เหตุผล เชือ่ มโยง รวม เฉ ่ีลย ระดับ 1 321321321 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ลงช่ือ ..............................................................ผสู้ อน (………………………………………………………)

281 274 เกณฑAกเกาณรใฑหก์7คาะรแในหนค้ ะแนน รายกราารยปกราะรเปมรินะเมนิ ระดบั รคะณุดับภคาณุพภาพ รราายยลละะเเออียยี ดดใในนกกาารรพพิจจิ าารรณณาา 1. กา1ร.แกกาป7 ร`ญแกห้ปาญั หา 3 3 ความคสวาามมาสราถมในารกถาใรนใชก=วาธิรดีใชำว้เนธิ ดีินากเานรนิ แกกา=ปรZญแกหป้ าญั แหลาะกแาลระอกธาบิ ราอยธถบิ ึงาเหยตผุ ลใน (ด)ี (ดี) กในารกใำชถร=วึงใิธชเหกีว้ ติธาุผรกี ดลำังรในกดกลงั กา? รวลใไำ่ ชดวว้=เไขธิดา=ีกเ้ ใขาจำ้รใดแจงัลกแะลลช่าะัดวชเไจดั นเ้ ขจ้านใจ และชดั เจน 2 2 ความคสวาามมาสราถมในารกถาใรนใชกว=าธิรีดใชำ้วเนิธดีินากเานรินแกกาป= รญZแกหป้ าญั แหลาะกแาลระอกธาิบราอยธถิบึงาเหยตผุ ลใน 2. กา2ร.ใกหาเ7 รหใตหผุ เ้ หลตุผล(คว(รพป(คอ31รวใบั ชร(ปพ=)ป(รอรด13ุงใับ)ี)ชป้)รงุ มกไใ)มนาีกม?รกาใรีำรชถสมไอ?รอมว=ึงกีมใงา= ่มิธชเราเงหหีดรีว้ออรตอ่ิธงัตอยิงผุกีงสุ้ากรเลลำงมาสอรอใา?รผนนยดวิงแลอกกไงักดเแกาาสป= เ=นรรลนพZญแใว่ำอชียกวคหแว้งไ้ปิดาิธบดนัญปดี ้เาหวพรังหงครกะสยีิดาอื ลกว?งปท่าบอนหรำวบำระไไงกดือกดสาท=ไอเ้ ว่พมรบานตีย?เไกปดงดั านiบ้ไสรมไานิตป่เงปใดั สตจ็นสว่าอินไนมยปใเ?าจตกงอาณถมยูกฑเ่ากตข7งณอ=ถา= งูกงฑแตตข์ ล=น้อา้ ะงงสแตมล้นเะหตสุ มผล (ด)ี 2 สมเหมตกีุสามรผอลา้ งอิงทถี่ กู ตอ้ งบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบ 2 (พอใช้) มีการกอา= รงตอดัิงทสนิี่ถูกใจต=องบางส?วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ (พอใช)= 1 ไม่มกี ารอา้ งอิง หรือแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ (ควรป((คด31รวับี)รปป3รร(2งุดับ)ี)ปรงุทไคม)มณำกี ม?งาติคกีรศแหมมณเาชาลกีีกรรติือ่สอาะาือศมตวรร=าปำเเธิงโรรชชยสอีก7ะอ่ื่อืเงตงิาพยมมครรุกหอื่โโวท์ ยตยเชราาพงงใ์อืมว?งชคค่ือแยครไ้ววชทู=ในณดาาน่วอ้วามมติยกงคยรรศใคาดิ่าูทูท้้นารณงปสาากแเงงหติรตำกคคะศรมร=ปณณกแ์าาญZ อสกะเิิตตพหสบตป้ศศื่อมารกัญาาช7สสาหเว่ รนตตยรำตรรื้ออืใดั์์หนหปสเเรกานนรินือาะ้ื้ืออหใปรยหหจลแรกุ าาักกะตกป้ยหห7ใาุกชัญลลรต=ไัักกหดใ์แกกาชอ= ลาาไ้ยะรรดา? ว้องิธเยกีห่ำามงรเาทหะมาสงำมะสม 3. 3. การเชอ่ื มโยง การเชอ่ื มโยง 2 (พอใช้) มีการแเชล่ือะมวิธโยีกงาครวทาามงครท=ูณาิตงศคาณสิตศร์าสเพตื่อรช7 เ่วนยอ้ื ในหกาาหรลแกั ก้ปาัญรหแาลไดะบ้วิธากีงสาร่วทนาง (พอใช=) 1 คทณำงติ คศไณมา่มติสีกศตาำรรส7 เตพชรือ่ ์ มชเพโว? ย่อืยงชใคน่ววกยาาใมนรรแกคู้ กำณรป= ติแZญศกหาป้ สาัญไตดหร=บ์ำไาดงส้บว?ำนงสว่ น (ค1วรปรบั ปรุงไ)ม?มกี ารเช่ือมโยงความรคู= ณติ ศาสตร7 (ควรปรบั ปรุง)

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 ทศนยิ มและเศษสว่ น แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3 เวลา 1 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เรื่อง การบวกทศนยิ ม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 ขอบเขตเนอื้ หา รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 แสห่ือลง่ เรยี นรู้ การบวกทศนิยม กิจกรรมการเรียนรู้ 1. หอ้นงั คสณอื เติ รศียานสรตำรย์โวรชิงเำรคียณนติ ศำสตร์ เลม่ 1 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ขัน้ นา 2ช.น้ั หมอ้ัธงยสมมศดุ ึกโษรงำเปรทียน่ี 1 (สสวท.) ดา้ นความรู้ 1. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรียนรใู้ ห้นกั เรยี นทราบ ส2่อื. เกมบงิ โกกำรบวกจำ� นวนเต็ม หาผลบวกของทศนิยมทีก่ าหนดให้ได้ 2. ครสู นทนากับนกั เรียนเก่ยี วกบั การบวกจานวนเตม็ โดยการเล่นเกม 13.. หใบนคงั วสำอื มเรรยีู้ทน่ี 3ราเยร่อืวิชงากคำณรบติ ศวกาสทตศรน์ ิยเลมม่ 1 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ บิงโกการบวกจานวนเต็ม มขี นั้ ตอนดงั น้ี ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 (สสวท.) 1. การแกป้ ญั หา 1) ครูแจกตารางบงิ โก 3 × 3 ให้นกั เรียนคนละ 1 ตาราง ภ3เ2แ12ร....หาื่อใเรหหลงกบะอ้้อ่งมงคกกงงบาวาสคานิงรามณรโบม/กเดุ ชติรรวกโ้ทูยี้ินกศรานท่ีำงงร3เสารศบรนตู้นียวริยกน์โมจรางเนรวียนนเตม็ 2. การให้เหตผุ ล 2) นกั เรียนเลือกจานวนต่อไปนเ้ี ขยี นลงไปในตารางบิงโกทไี่ ด้ ใภบางราะนงทานี่ 3/ชเริ้น่ืองงานการบวกทศนิยม 3. การเชอื่ มโยง โดยเลือกเพียง 9 จานวน ใบงำนที่ 2 เรือ่ ง กำรบวกทศนิยม ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ –12 25 32 –5 8 41 1. มวี นิ ยั –24 9 21 19 52 –17 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3) ครูเลอื กแผน่ ป้ายการบวกจานวนเตม็ ติดบนกระดานใหน้ กั เรยี น 3. มีความม่งุ ม่นั ในการทางาน คิดหาผลลพั ธแ์ ลว้ กากบาททบั จานวนทีอ่ ย่ใู นตารางบงิ โกของตนเอง 4) ทาเช่นข้อ 3 ไปเร่ือยๆๆจนกระทัง่ มีนักเรียนคนใดคนหนึ่งบงิ โกก็ จะเปน็ ผชู้ นะ ข้ันสอน 3. นกั เรยี นเขา้ กลุ่มตามเดิมท่แี บง่ ไวใ้ นคร้งั แรก 4. ตวั แทนกลมุ่ มารบั ใบความรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การบวกทศนยิ ม ให้ทกุ คนใน กลุ่มศึกษาใบความรู้ร่วมกนั อภปิ ราย โดยครคู อยให้คาแนะนาเพ่ิมเตมิ 5. ตวั แทนแต่ละกลมุ่ รบั ใบกิจกรรมที่ 2 ท่ีทาในช่ัวโมงท่ีผา่ นมา กลบั ไป 228725 282

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ทศนยิ มและเศษส่วน แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เวลา 1 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เรื่อง การบวกทศนยิ ม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 รายวิชาคณิตศาสตร์ 1 แจกให้สมาชกิ ในกลุม่ 6. ครูให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ หาผลรวมของน้าหนกั 7. ครบู นั ทกึ น้าหนักรวมที่ได้ในแต่ละกลุ่มบนกระดาน 8. นักเรียนชว่ ยกันหาผลรวมของน้าหนกั ทค่ี รูบนั ทกึ ไวบ้ นกระดาน 9. ครูต้ังคาถามกระตุ้นใหน้ กั เรยี นคดิ ว่า ลิฟตต์ วั หน่งึ รบั นา้ หนักได้ 700 กโิ ลกรัม ถ้านักเรยี นทกุ คนในหอ้ งน้ตี อ้ งการใชล้ ิฟตต์ ัวน้โี ดยเข้าไปใน ลฟิ ต์พรอ้ มกนั ทั้งหมด จะสามารถทาได้หรอื ไมอ่ ย่างไร 10. ครกู าหนดโจทย์การบวกทศนยิ ม 4 ข้อ จากน้นั นักเรยี นร่วมกัน แสดงความคิดเหน็ การหาคาตอบ และตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 11. ให้นักเรียนยกตัวอย่างการบวกทศนิยมมากลุม่ ละ 2 ข้อ อธิบาย ให้เพอ่ื นในกลุ่มทกุ คนแลว้ สง่ ตวั แทนนาเสนอหน้าห้องเรียน 1 ขอ้ ขนั้ สรปุ 12. นักเรยี นและครูร่วมกันสรุปเก่ียวกับการบวกทศนยิ ม ไดด้ ังน้ี การบวกทศนยิ ม ต้องตัง้ จุดใหต้ รงกนั แลว้ นาเลขโดดหลกั เดยี วกนั บวกกนั และทศนยิ มทีจ่ ะบวกกนั ได้ ตอ้ งมหี น่วยเดียวกัน ดังน้ี 1) การบวกทศนยิ มทเี่ ปน็ บวกดว้ ยทศนิยมทเ่ี ป็นบวก ให้นาค่าสมั บูรณม์ าบวกกนั แล้วตอบเป็นจานวนบวก 2) การบวกทศนิยมท่เี ปน็ ลบดว้ ยทศนยิ มทเ่ี ป็นลบ ใหน้ าคา่ สมั บรู ณม์ าบวกกันแล้วตอบเป็นจานวนลบ 227863 283

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 ทศนยิ มและเศษส่วน แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3 เวลา 1 ช่ัวโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ เรือ่ ง การบวกทศนยิ ม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 3) การบวกทศนยิ มทเ่ี ป็นบวกกับทศนยิ มที่เป็นลบ ใหน้ าคา่ สมั บูรณท์ ่มี ากกวา่ ลบดว้ ยค่าสมั บรู ณท์ ่นี ้อยกว่า แล้วตอบเปน็ จานวนลบหรอื บวกใหข้ น้ึ อยูก่ บั จานวนทมี่ ีคา่ สมั บรู ณ์มากกว่า 13. นักเรียนทาใบงานที่ 3 เรอ่ื ง การบวกทศนยิ ม 14. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันอภปิ รายคาตอบของใบงานท่ี 3 โดยครูอาจจดั ใหน้ กั เรียนตวั แทนเปน็ ผบู้ อกคาตอบในแต่ละข้อแล้ว สอบถามนกั เรียนคนอื่นๆๆ วา่ คาตอบน้ตี รงกบั นักเรียนหรือไม่ เหตุใดจึงเปน็ เช่นน้นั เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน 284 277 284 การว ส่งิ ดา้ นค หาผล ที่กาห ดา้ นท ทางค 1. กา 2. กา 3. กา ด้านค อันพ 1. มีว 2. ใฝ 3. มคี

285 285 227885 วดั และประเมนิ ผล การวัดและประเมินผล งท่ีตอ้ งการวัด/ประเมิน สิ่งทตี่ ้องการวดัธิ /ีกปาระเมนิ เคร่ือวงิธมกี ือาทรใ่ี ช้ เครเกือ่ ณงมฑือ์ ที่ใช้ เกณฑ์ ตแรบวบจบใบนั งทากึ นคะแนน ความรู้ ด้านความรู้ ใบงานที่ 3 เร่อื ง ผ่าแนบเบกบณนั ฑท์รึกอ้ คยะลแะน7น0 ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 70 ลบวกของทศนยิ ม หาผลบตวรกวขจอใงบทงศานิยม การบวกทศนยิ ม ขึ้นใบไปงานที่ 3 เรอื่ ง ขึน้ ไป หนดให้ได้ ทีก่ าหนดให้ได้ -รก้อายรลบะวก8ท0ศขนึ้นิยไมป -ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป ได้ระดบั คุณภาพ 4 ไดร้ ะดบั คุณภาพ 4 ทักษะและกระบวนกาดรา้ นทกั ษะและกระบวนการ -รอ้ ยละ 70-79 -ร้อยละ 70-79 ได้ระดับคุณภาพ 3 ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 -รอ้ ยละ 60-69 -รอ้ ยละ 60-69 ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ได้ระดับคณุ ภาพ 2 -ร้อยละ 50-59 -รอ้ ยละ 50-59 ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 1 ได้ระดับคุณภาพ 1 คณิตศาสตร์ ทางคณติ ศาสตร์ ตสแรังบเวบกจตบใบพันงฤทาตกึ นิกรารม ผแ่าแบนบบเบกบบณันนั ฑททใ์ กึ นึกกกรำะารดรสบั ังเกต ผ่านเกณฑใ์ นระดับ ารแกป้ ัญหา 1. การแตกรวป้ จัญใบหงาาน สังเกตพฤตกิ รรม ารให้เหตผุ ล 2. การใสหงั เ้ หกตพุผลฤติกรรม ด้านทักษะและ พพอสฤใงั ชเตกข้กิ ต้ึนรพไรปฤมตดกิ ้ำรนรทมักษะ พอใช้ขนึ้ ไป ารเชื่อมโยง 3. การเชือ่ มโยง กระบวนการ -แคดลา่้ ะเนฉกทลรกัยี่ะษบ2ะว.แ5นล0กะำขรน้ึ - คา่ เฉล่ยี 2.50 ข้ึน ทางคณิตศาสตร์ ไปทกไำรดงะ้รคบะณวดนติบั ศกดาำรสี ตร์ ไปได้ระดบั ดี - คทา่ เงฉคลณ่ียิต1ศ.า5ส0ต–ร์ - คา่ เฉลย่ี 1.50 – 2.49 ไดร้ ะดับ พอใช้ 2.49 ได้ระดับ พอใช้ - คา่ เฉลยี่ ต่ากวา่ - คา่ เฉลยี่ ตา่ กว่า 1.50 ไดร้ ะดบั 1.50 ได้ระดบั ปรับปรงุ ปรับปรงุ คุณลกั ษณะ ด้านคุณลักษณะ พงึ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ วนิ ัย 1. มีวนิ สยั ังเกตพฤตกิ รรม สแังบเกบตบพนั ฤทตึกิกกรารรม ไดแแ้รบบะบบดบับันคันทณุทกึ กึภกกาำาพรรส2ังเกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ฝ่เรียนรู้ 2. ใฝเ่ รยี นรู้ สงั เกตพฤติกรรม ทพกุสฤรงั เตากยกิ ตกรพารฤมรตขดกิึ้นำรนไปรม ทุกรายการข้ึนไป ความมงุ่ ม่นั ในการทาง3า.นมีความมุง่ ม่นั ในการทางาน ดา้ นคุณลกั ษณะ ถคือดณุวา้ ่านลผคกั า่ ณุษนณลเกักะณษฑณ์ะ ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์ อันพึงประสงค์ ออนั ันพพึงึงปปรระะสงค์

286 228769 บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ปญั หาและอปุ สรรค .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ............................................................ผสู้ อน (..............................................................) วันที่..........เดือน.........................พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผูบ้ รหิ ารหรือผู้ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ..........................................................ผ้ตู รวจ (.........................................................) วนั ที.่ .........เดือน.........................พ.ศ.............

287 228807 เกมบงิ โกการบวกจานวนเต็ม หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 ทศนยิ มและเศษสว่ น แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 3 เร่ือง การบวกทศนิยม รายวิชาคณติ ศาสตร์ 1 รหสั วิชา ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 วสั ดุ – อุปกรณ์ 1. ตารางบิงโก 3 × 3 2. แผน่ ปา้ ยโจทย์การบวกจานวนเตม็ 12 แผ่นป้าย (–17) + 5 19 + 6 59 + (–27) (–43)+ 38 (–13) + 21 72 + (–31) (–9) + (–15) 28 + (–19) 63 + (–42) (–81) + 62 95 + (–43) (–4) + (–13) 3. จานวน 12 จานวน ซึง่ เป็นผลลพั ธ์จากโจทย์การบวกจานวนเตม็ ในข้อ 2 –12 25 32 –5 8 41 –24 9 21 19 52 –17 วิธกี ารเล่น 1) ครูแจกตารางบิงโก 3 × 3 ให้นกั เรยี นคนละ 1 ตาราง 2) นกั เรยี นเลือกจานวนต่อไปนเี้ ขียนลงไปในตารางบงิ โกท่ไี ด้ โดยเลอื กเพียง 9 จานวน –12 25 32 –5 8 41 –24 9 21 19 52 –17 3) ครูเลอื กแผ่นปา้ ยการบวกจานวนเตม็ ติดบนกระดานให้นักเรยี นคดิ หาผลลัพธแ์ ลว้ กากบาททับ จานวนทอี่ ยูใ่ นตารางบิงโกของตนเอง 4) ทาเชน่ ข้อ 3 ไปเร่อื ยๆ จนกระทง่ั มีนักเรยี นคนใดคนหนึง่ บิงโกก็จะเป็นผูช้ นะ

288 228881 ใบความรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การบวกทศนยิ ม หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ทศนิยมและเศษส่วน แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 3 เรอื่ ง การบวกทศนิยม รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหัสวชิ า ค21101 ภาคเรยี นที่ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ หาผลบวกของทศนยิ มที่กาหนดให้ได้ การบวกทศนยิ ม ในการบวกทศนยิ ม ใชห้ ลักเกณฑเ์ ดยี วกันกับการบวกจานวนนับ คือ จดั เลขโดดท่อี ยใู่ นหลกั หรอื ตาแหนง่ เดยี วกันให้ตรงกนั แล้วบวกเหมอื นบวกจานวนนับ และทศนิยมที่จะบวกกันได้ ตอ้ งมี หนว่ ยเดียวกัน ซงึ่ แบ่งเปน็ 3 กรณีดังนี้ 11))กำกราบรวบกวทกศทนศยิ นมิยทมเี่ ปทน็ีเ่ ปบน็ วบกดวกว้ ยดท้วยศทนยิศมนทิยเ่ีมปทน็ ีเ่ บปว็นกบวใหกน้ ำ� ใคหำ่ น้ สามั คบา่ รู สณมั ม์บำูรบณว์มกากบนั วแกลกว้ นัตอบเปน็ จำ� นวนบวก แเชลน่ ว้ ตอบเปน็ จานวนบวก เชน่ ตวั อยา่ งท่ี 1 จงหาผลบวกของ 168.024 + 35.321 วิธที า 168.024 35.321 + 203.345 ดงั นนั้ 168.024 + 35.321 = 203.345 ตัวอย่างท่ี 2 จงหาผลบวกของ 6.47 + 10.072 วิธีทา 6.470 10.072 + 16.542 ดงั น้นั 6.480 + 10.075 = 16.542 22))กำกราบรวบกวทกศทนศิยนมิยทมีเ่ทป่เี ปน็ ็นลบลบด้วดย้วทยทศนศนยิ มยิ ทมทเ่ี ป่เี ป็น็นลบลบใหใน้ ห�ำ้นคา่ำคสา่ัมสบมั ูรบณรู ม์ณำ์มบาวบกวกกันกแนั ลว้ ตอบเป็นจ�ำนวนลบ แเชลน่ ว้ ตอบเปน็ จานวนลบ เช่น ตวั อยา่ งท่ี 3 จงหาผลบวกของ (–253.48) + (–36.043) วธิ ที า (–253.48) + (–36.043) = –[ |–253.48| + |–36.043| ] = –[ 253.48 + 36.043 ] = –289.523 ดังน้ัน (–253.48) + (–36.043) = –289.523

289 228829 3) การบวกทศนิยมทเ่ี ปน็ บวกกับทศนิยมที่เปน็ ลบ ใหน้ าค่าสมั บรู ณท์ ่ีมากกว่าลบด้วย ค่าสัมบรู ณ์ทีน่ อ้ ยกวา่ แลว้ ตอบเป็นจานวนลบหรอื บวกใหข้ ึ้นอยูก่ บั จานวนท่ีมคี า่ สมั บรู ณ์มากกวา่ เชน่ ตัวอยา่ งท่ี 4 จงหาผลบวก 6.45 + (–2.586) วธิ ีทา เน่ืองจาก |6.45| > |–2.586| พจิ ารณา 6.450 2.586 – 3.864 ดังนน้ั 6.45 + (–2.586) = 3.864 (ผลลัพธเ์ ปน็ จานวนบวกตาม 6.45 เพราะเปน็ จานวนท่ีมคี า่ สัมบรู ณม์ ากกวา่ ) ตัวอย่างท่ี 5 จงหาผลบวก (–76.235) + 23.53 วิธที า เน่อื งจาก |–76.235| > |23.53| พจิ ารณา 76.235 23.530 – 52.705 ดังนั้น (–76.235) + 23.53 = –52.705 (ผลลัพธ์เปน็ จานวนลบตาม –76.235 เพราะเป็นจานวนทีม่ ีค่าสมั บรู ณม์ ากกว่า) การบวกทศนิยมตามหลกั เกณฑ์ข้างต้น ยงั มีสมบัติสาหรับการบวกเช่นเดียวกับสมบัติสาหรบั การบวกจานวนเต็มอกี ด้วย ได้แก่ 1. สมบตั ิการบวกดว้ ยศูนย์ กกำารรบบววกกททศศนนยิ ิยมมใใดดๆ ด้วยศนู ย์ หรอื การบวกศนู ยด์ ว้ ยทศนิยมใดๆๆ จะได้ผลบวกเทา่ กบั ทศนิยมนัน้ ๆ เสมอ เชน่ 5.29 + 0 = 5.29 0 + (–4.25) = –4.25 2. สมบตั ิการสลบั ท่ี การบวกทศนยิ มสองจานวนสามารถสลับท่รี ะหวา่ งตัวตงั้ และตัวบวกได้โดยท่ีผลบวกยังเท่าเดิม เชน่ ตัวอยา่ งที่ 6 จงหาผลบวกของ 15.64 + 7.25 และ 7.25 + 15.64 วธิ ีทา 15.64 7.25 7.25 + 15.64 + 22.89 22.89 ดงั นนั้ 15.64 + 7.25 = 7.25 + 15.64 = 22.89

290 229803 3. สมบตั กิ ารเปลี่ยนหมู่ การบวกทศนยิ มสามจานวนสามารถบวกทศนิยมคู่แรกหรอื คู่หลังกอ่ นก็ได้โดยท่ผี ลลัพธ์ ยงั เท่าเดมิ ตวั อย่างที่ 8 จงหาผลบวกของ 8.74 + (–36.93) + 5.21 วธิ ที า 8.74 + (–36.93) + 5.21 = [8.74 + (–36.93)] + 5.21 = (–28.19) + 5.21 = –22.98 หรอื 8.74 + (–36.93) + 5.21 = 8.74 + [(–36.93) + 5.21] = 8.74 + (–31.72) = –22.98

291 228941 ใบงานที่ 3 เร่ือง การบวกทศนิยม หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ทศนยิ มและเศษส่วน แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง การบวกทศนิยม รายวชิ าคณิตศาสตร์ 1 รหสั วชิ า ค21101 ภาคเรยี นท่ี 1 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ หาผลบวกของทศนิยมท่กี าหนดให้ได้ 1. จงหาผลบวกของจานวนต่อไปน้ี 2) 41.32 + 1) 2.145 + 192.24 3.1200 3) –13.17 + 4) –1.01 + –19.01 –32.78 5) –17.15 + 6) 145.77 + 10.15 –132.78 7) –187.195 + 8) 23.760 + 10.145 –12.765 2. จงหาคา่ ของ (–238.76) + (–7.39) + 482.01 ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จงหาค่าของ 38.34 + (–45.27) + (–5.2) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………