Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-28-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯม.2-1

64-08-28-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯม.2-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-28 01:28:36

Description: 64-08-28-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯม.2-1

Search

Read the Text Version

๑๔๐ แผนการจัดการเรยี นร.ูท่ี ๑๗ เร่อื ง สมุทัย (ธรรมทคี่ วรละ) หลักกรรม อกศุ ลกรรมบถ ๑๐ และอบายมุข ๖ หนวH ยการเรยี นรท.ู ่ี ๓ หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา ๑ ช่วั โมง กลุHมสาระการเรยี นร.ู สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปทS ี่ ๒ แล1วใช1คำถามวGา การพนันเปáนอบายมุขที่สGงผลอยGางไรตGอผู1เลGน (ทำ ใหเ1 สยี ทรพั ยYจนหมดตวั ) ๖. ครูใช1สื่อ PowerPoint เรื่อง สมุทัย อธิบายเรื่องอบายมุข ๖ ที่ กลาG วถึงความเสอ่ื มทเี่ กดิ จากอบายมขุ ๗. ครูแบงG นกั เรยี นเปáน ๓ กลมGุ ตามความเหมาะสม แล1วแจกใบงาน เรื่อง สมุทัย (ธรรมที่ควรละ) หลักกรรม อกุศลกรรมบถ ๑๐ และ อบายมุข ๖ โดยให1นักเรียนเสนอแนวทางแก1ปLญหาที่เกิดจาก หลกั ธรรมดังกลาG วที่จะทำใหส1 ังคมไทยเกิดความสงบสุข ขนั้ สรปุ ๑. ครูให1นักเรียนรGวมกันอภิปรายข1อคิดที่ได1จากการเรียนวันนี้ (การ รู1จักละสิ่งที่ทำให1เกิดทุกขYและรู1วิธีในการปฏิบัติตนเพื่อให1ปราศจาก ความทุกขYนั้น ยGอมสGงผลให1เกิดความสุข ความเจริญและทำให1สังคม มีความสงบสุข) ๒. ครูถามนักเรียนวGาจากหลักธรรมที่ศึกษานักเรียนจะนำไปปรับใช1 ในชีวิตประจำวันได1อยGางไร (นำไปปรับใช1ในการดำเนิน ชีวิตประจำวัน การศึกษาเลGาเรียน ตั้งใจเรียน และปฏิบัติตนเปáนคน ดขี องสงั คม ทำใหส1 งั คมสงบสุข) 112430

๑๔๑ 12441 การวดั และประเมินผล ส่ิงทต่ี อ7 งการวดั / ประเมนิ วิธีการ เครอื่ งมอื ทใี่ ช7 เกณฑA ด7านความรู7 การอธบิ ายความหมายของ - ตอบคำถาม - คำถาม - ตอบคำถาม หลกั กรรม อกุศลกรรมบถ - การอธิบาย ๑๐ และอบายมขุ ๖ - สื่อ PowerPoint เรื่อง สมุทัย ระดบั ดีไดรN Nอยละ ด7านทกั ษะ/กระบวนการ - ตอบคำถาม การวิเคราะหUความสำคัญ - แบบประเมิน ร๘อ้ ย๐ละผQา๘น๐เกผณำ่ นฑเกU ณฑ์ หลักธรรมของหลักกรรม ชน้ิ งาน อกุศลกรรมบถ ๑๐ และ - การวเิ คราะหU - คำถาม - ตอบคำถาม อบายมุข ๖ - การอภปิ ราย - กระบวนการกลQมุ - ใบงาน เร่อื ง สมทุ ัย (ธรรมท่ี ระดบั ดไี ดรN Nอยละ ด7านคณุ ลักษณะ การเสนอแนวทางในการ - การตอบคำถาม ควรละ) หลกั กรรม ร๘อ้ ย๐ละผาQ ๘น๐เกผณำ่ นฑเกU ณฑ์ กแำกรปN แ`ญกห้ปาัญสหังำคสมังโคดมยโใดชยN ใช้ - การวเิ คราะหU หลกั ธรรมของหลกั กรรม - สงั เกตพฤติกรรม อกุศลกรรมบถ ๑๐ และ อกุศลกรรมบถ ๑๐ และ การปฏิบตั ิกิจกรรม อบายมุข ๖ ในช้ันเรียน อบายมขุ ๖ - วดี ิทศั นU เร่ือง สาวหัวรNอน ชน เอง-เจบ็ เอง-อาละวาดเอง - คำถาม - มพี ฤตกิ รรมการ - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ปกำฏรบิ ปัตฏิติบนัตติตานมตำม จดุ ประสงคU ผQาน เกณฑUท่ีกำหนด

๑๔๒ 12425 บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรียนรNู ....................................................................................................................................................................... ป`ญหาและอปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ขNอเสนอแนะและแนวทางแกไN ข ....................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผูNสอน (........................................................) วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ.............. ความคดิ เหน็ / ขอ7 เสนอแนะของผ7บู รหิ ารหรอื ผท7ู ่ไี ด7รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ......................................ผNตู รวจ (...........................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน................พ.ศ.............

๑๔๓ 14236 ชือ่ - สกุล............................................ชนั้ .............เลขที่............ ใบงาน เร่อื ง สมทุ ยั (ธรรมท่คี วรละ) หลักกรรม อกุศลกรรมบถ ๑๐ และอบายมขุ ๖ หนว' ยการเรยี นรทู/ ี่ ๓ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา รายวชิ า สงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส๒๒๑๐๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั มัธยมศึกษาปทA ี่ ๒ คแา� บชี้แบจฟงอใหร้นมE กั เรียนระบปุ ญั หำท่พี บในสังคมไทยพรอ้ มท้งั นำ� เสนอแนวทำงกำรแก้ไขปัญหำทเ่ี ป็นไปได้ กลมุ' ที่ 1๑ ปญI หาในสงั คมไทย เรอ่ื ง…………………………… แนวทางการปญI หาโดยใช/ หลกั ธรรมของ หลกั กรรม

127 กล@มุ ท่ี ๒2 ป*ญหาในสงั คมไทย เรอ่ื ง…………………………… แนวทางการปญ* หาโดยใช2 หลักธรรมของ อกศุ ลกรรมบถ ๑10๐ อกศุ ลกรรมบถ 10

128 กล$ุมท่ี ๓3 ป,ญหาในสงั คมไทย เร่ือง…………………………… แนวทางการปญ, หาโดยใชB หลกั ธรรมของ อบายมุข ๖6

๑๔๖ แผนการจดั การเรียนร.ูท่ี ๑๘ เร่อื ง นโิ รธ (ธรรมทีค่ วรบรรลุ) สขุ ๒ สามสิ สขุ และนริ ามสิ สุข หนวG ยการเรยี นรู.ท่ี ๓ หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา ๑ ชัว่ โมง กลGมุ สาระการเรยี นรู. สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สงั คมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปทQ ่ี ๒ ตัวชวี้ ดั กิจกรรมการเรยี นร1ู สอื่ / แหลGงเรยี นร.ู ส ๑.๑ ม.๒/๘ อธิบายธรรมคุณ และข1อธรรม ขน้ั นำ ๑. หนงั สอื เรียนพระพุทธศาสนา ม.๒ สำคัญในกรอบอริยสัจ ๔ หรือหลักธรรมของศาสนา ๑. ครูนำเข1าสูGบทเรียนด1วยการสอบถามนักเรียนด1วยประเด็นคำถาม ๒. กสรอ่ื ะPดoานwerPoint เรื่อง นิโรธ ท่ตี นนบั ถือตามทีก่ ำหนด เห็นคณุ คGาและนำไปพัฒนา ดังนี้ ๓. สอื่ PowerPoint เรอื่ ง นโิ รธ แกป1 ญL หาของชุมชนและสังคม ๑) สงิ่ ใดทที่ ำใหน1 กั เรียนมีความสุข ภาระงาน/ ช้ินงาน ๒) ความสขุ ตามทน่ี ักเรยี นคิด หรอื เข1าใจเปน[ อยGางไร สาระสำคัญ โดยครูทำการสุGมนักเรียน หรือสมัครใจตอบประมาณ ๔ – ๕ คน - ภาพที่สอื่ ถึงสามิสสุขและนิรามสิ สุข บน หำกหบาคุ กคบลุคในคลสงัในคสมังกค�ำหมกนำดหเปนำ้ ดหเมปำNายหแมลา้วยปแฏลิบ1วัตปติฏนิบัติ เม่อื ได1คำตอบแล1วให1ครบู ันทึกคำตอบนน้ั ไวบ1 นกระดาน กระดาษบรnฟู ตตนำมตคามำ� สคั่งำสอั่งนสขออนงขศอำงสศนาำสนดั้นาขๆอยงศอ่ ามสทน�ำาใหนช้ันวี ิตๆ ยGอม ๒. ครูชี้ให1เห็นวGา “ความสุขของแตGละคนไมGเหมือนกัน เชGนเดียวกับ ทแำลใะหสช1 ังีวคิตมแมลีคะวสำงั มคสมงมบีคสวุขาแมลสะงบบรสรุขลเุ ปำ้ หมำยสงู สุด ศาสนาพุทธได1แยกความสุขจากสิ่งตGาง ๆ เพื่อชี้ให1เห็นวGาดำเนินชีวิต ของชวี ติ อยGางไรจึงจะไดพ1 บกบั ความสขุ ทีแ่ ท1จริง” ขอบเขตเนื้อหา นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรล)ุ สุข ๒ ขัน้ สอน ๑. ครูใชส1 อ่ื PowerPoint เร่อื ง นิโรธ อธิบายสขุ ๒ จากนั้นครซู กั ถาม - สามสิ สุข คำถามกบั นักเรยี นในประเดน็ ดังนี้ - นริ ามสิ สุข ๑) สุข หมายถึงอะไร (ความสบายกาย สบายใจการดับทุกขj หรือ สิ้นทุกขj) ๒) สามสิ สุข คอื อะไร (ความสขุ ภายนอก หรือความสุขทางกาย) ๓) นริ ามสิ สขุ คอื อะไร (ความสุขภายใน หรอื ความสขุ ทางใจ) 12469

แผนการจดั การเรยี นรู.ท่ี ๑๘ เร่อื ง นิโรธ (ธรรมทีค่ วรบรรลุ) สุข ๒ สามิสสขุ และนิรามิสสุข ๑๔๗ หนGวยการเรยี นรู.ท่ี ๓ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา ๑ ชว่ั โมง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปQท่ี ๒ กลุGมสาระการเรยี นรู. สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา จดุ ประสงคXการเรียนร.ู ๔) สุขในนิโรธในความหมายของพระพุทธศาสนา คือสุขใน ดา. นความรู. ความหมายใด (นิรามสิ สขุ ) ๑. นักเรียนอธิบายความหมายของสุข ๒ สามิสสุข ๒. ครูให1นักเรียนรGวมกันทำกิจกรรม “ความสุขแบบไหน” โดยครูมี และนริ ามสิ สขุ ได1 อยาG งถกู ต1อง คำถามให1นักเรียนจำนวน ๕ ข1อ ให1นักเรียนเขียนคำตอบลงในสมุด คำถามจำนวน ๕ ข1อมีดังนี้ ดา. นทักษะและกระบวนการ ๑) เด็กหญิงกิ่งชอบฟLงเพลงปqอบ เพราะเมื่อฟLงแล1วทำให1เขามี ๒. นกั เรยี นแยกแยะปสรุขะ๒เดน็จาตกำสมถอางนคป์การระณกอjตบัวขออยงGาง ความสขุ (สามสิ สขุ / นริ ามสิ สขุ ) ไสดุข1อ๒ยาG จงมำกเี หสตถผุำนลกำรณท์ ก่ี ำ� หนดใหไ้ ด้ถูกตอ้ ง ๒) เด็กชายเกGงกาจมีความสุขเวลาเลGนรถแขGง (สามิสสุข/ นิรา มิสสุข) ดา. นคุณลักษณะ ๓) ฟNาชอบนั่งสมาธิเวลาเครียด เพราะการนั่งสมาธิทำให1ฟNามี ๓. นักเรียนเสนอแนะความสำคัญของการปฏิบัติตน ความสุขและจิตใจสงบ (สามสิ สขุ / นิรามิสสขุ ) ตามสุข ๒ (สำมสิ สสาขุ มแิสลสะุขนแิรำลมะสิ นสิรุขา)มไิสดสอ้ ุขย่ำไงด1อยGาง ๔) ณรงคjเดชมีความสุขหลังจากฟLงพระเทศนj (สามิสสุข/ นิรา เหมาะสม มสิ สุข) ๕) อาหารที่อรGอยทำให1หนูแดงมีความสุขเสมอ (สามิสสุข/ นิรา มิสสขุ ) จากนั้นครูสุGมเลขที่ของนักเรียนเฉลยคำตอบในแตGละข1อ และครู คอยอธิบายเพ่ิมเติม ๓. ครแู บงG กลุGมนกั เรยี นออกเป[น ๒ กลมGุ 14370

แผนการจดั การเรยี นรูท. ี่ ๑๘ เร่อื ง นโิ รธ (ธรรมทค่ี วรบรรล)ุ สขุ ๒ สามิสสุข และนริ ามิสสขุ ๑๔๘ หนGวยการเรยี นรูท. ่ี ๓ หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา ๑ ชั่วโมง ชน้ั มัธยมศกึ ษาปทQ ่ี ๒ กลมุG สาระการเรียนรู. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา กลุGมที่ ๑ ศึกษาค1นคว1า เรื่อง สามิสสุข กลุGมที่ ๒ ศึกษา ค1นคกวล1าุ่มเทรอ่ืี ๒ง นศิรกึ าษมำิสคสน้ ุขคว้ำ เรอ่ื ง นิรำมิสสขุ โดยให1นักเรียนแตGละกลุGมศึกษาในประเด็นความหมายและวาด ภาพระบายสีประกอบให1ชัดเจน ลงบนกระดาษบรูnฟที่ครูแจกให1 โดย ในแตลG ะกลGุมต1องมคี ำถามในการนำเสนอ กลมGุ ละ ๓ คำถาม ๔. ครูให1ตัวแทนกลุGมละ ๓ คน ออกมานำเสนอสิ่งที่ค1นคว1าและ อธิบายความหมายของรูปภาพที่สื่อถึงสามิสสุข หรือนิรามิสสุขหน1าช้ัน เรียน ๕. ครูถามนักเรียนวGา หากเราสามารถปฏิบัติตนตามสุข ๒ สามิสสุข และนริ ามิสสุขจะสงG ผลดีและผลเสียอยาG งไรบ1าง ขัน้ สรปุ ครใู ช1คำถามให1นักเรียนรGวมกนั แสดงความคดิ เหน็ ดงั นี้ ๑. นกั เรยี นสามารถนำหลกั ธรรมในเรื่องนิโรธไปใช1ใน ชีวติ ประจำวนั ได1อยาG งไร (ฝuกปฏิบตั ติ นใหเ1 ข1าใจกบั ความสขุ ท่ีเกิดขึน้ ว่ำ แวGาบแบบไบหไนหเปนน็เปคน[ วคำมวาสมขุ สทขุ ีแ่ ททแ่ี จ้ ทร1จงิ รเิงพ่อืเพจอื่ะจทะ�ำทใหำใเ้ รหำเ1 ปรารปะรสะบสกบับกคบั วคำมวาสมขุ สุข ควำามส�ำเร็จในชวี ิตทแี่ ท้จ1 รงิ ) 14381

แผนการจดั การเรียนร.ทู ี่ ๑๘ เรอื่ ง นิโรธ (ธรรมทค่ี วรบรรลุ) สขุ ๒ สามิสสุข และนิรามสิ สขุ ๑๔๙ หนGวยการเรยี นร.ทู ี่ ๓ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา ๑ ช่วั โมง ชนั้ มัธยมศึกษาปทQ ี่ ๒ กลGุมสาระการเรยี นรู. สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สงั คมศึกษา ๒. นักเรียนไดข1 1อคิดจากการเรียนเรื่องหลักธรรมในอริยสจั หมวด นโิ รธอยาG งไรบ1าง (การนำหลกั ธรรมคำสอนเก่ียวกบั ความสุขมาปฏบิ ัติ จะสGงผลทำให1เกิดความสุขทย่ี ั่งยืนและเปน[ ความสุขทถี่ าวร) 149 132

๑๕๐ 113530 การวดั และประเมนิ ผล สิ่งท่ีตอ7 งการวัด/ วิธีการ เครือ่ งมือท่ใี ช7 เกณฑA ประเมนิ ดา7 นความรู7 การอธบิ ายความหมาย - การถามตอบ - ประเด็นคำถาม - ตอบคำถามไดLรอL ยละ - ส่อื PowerPoint เรอื่ ง ๘รอ้๐ยผลPาะน๘เก๐ณผฑำ่ Sนเกณฑ์ ของสขุ ๒ สามิสสขุ และ - การอธบิ าย นิโรธ นริ ามิสสขุ - การอภิปราย ดดา้า7 นนททกักั ษษะะ//กระบวนการ - ประเดน็ คำถาม - ตอบคำถามไดตL าม กกำรระแบยวกนแกยาะรสกุขาร๒กาจรำก - การถามตอบ - สถานการณSตัวอยPาง จดุ ประสงคSรอL ยละ ๘๐ สแถยำกนแกยำะรสณุข์ต๒วั อจยา่ำกง - การอธิบาย - กิจกรรม “ความสุขแบบ ผาP นเกณฑS ไหน” สถานการณSตัวอยPาง - การวเิ คราะหS - การอภิปราย ด7านคณุ ลกั ษณะ - การสงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ตอบคำถามไดตL าม - การถามตอบ - ประเด็นคำถาม จุดประสงคSรLอยละ ๘๐ การเสนอแนะ - กระบวนการกลุPม - ภาพทีส่ ื่อถงึ สามสิ สขุ และ ผPานเกณฑS - การวิเคราะหS นริ ามสิ สขุ บน - มพี ฤติกรรมการปฏบิ ัติ ความสำคัญของการ - การอภปิ ราย กระดาษบรaูฟ ตนตามจดุ ประสงคS ปกำฏรบิ ปตั ฏติ บิ นัตตติ านมตสำขุ มส๒ุข ๒ ส(สาำมมสิ สิ สสขุ ุขและนิรำามสิ สุข)

13541 ๑๕๑ บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรียนรู, ....................................................................................................................................................................... ป/ญหาและอปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ข,อเสนอแนะและแนวทางแกไ, ข ....................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผู,สอน (........................................................) วันที.่ .......เดอื น..............พ.ศ.............. ความคดิ เหน็ / ข8อเสนอแนะของผ8บู รหิ ารหรอื ผ8ูทไ่ี ด8รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................ผูต, รวจ (...........................................................) วันท.ี่ .........เดือน................พ.ศ.............

๑๕๒ แผนการจดั การเรยี นร.ทู ี่ ๑๙ เร่ือง มรรค (ธรรมท่ีควรเจรญิ ) บพุ พนมิ ิตรของมัชฌมิ าปฏปิ ทา หนIวยการเรยี นรท.ู ่ี ๓ หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา ๑ ชั่วโมง กลIุมสาระการเรยี นร.ู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ช้ันมธั ยมศึกษาปTท่ี ๒ ตัวชวี้ ัด กจิ กรรมการเรียนร.ู สือ่ / แหลงI เรียนรู. ส ๑.๑ ม.๒/๘ อธิบายธรรมคุณ ข้นั นำ ๑. ปส้ำำยนสว�ำนวน“ค“บคคบคนนพพาำลล พพาำลพำาไไปปหหำผาดิผิด และข1อธรรมสำคัญในกรอบอริยสัจ ๔ ๑. ครูนำเข1าสูGบทเรียนด1วยสำนวน “คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบ คบบัณฑติ บณั ฑิตพำาไปหำาผล” หรือหลักธรรมของศาสนาที่ตนนับถือ บัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” และให1นักเรียนรGวมกันอภิปรายการเลือกคบ ๒. สื่อ Power Point เรื่อง มรรค (ธรรมที่ควร ตามที่กำหนด เห็นคุณคGาและนำไป เพื่อน นักเรียนจะเลือกคบเพื่อนที่มีคุณสมบัติอยGางไร จึงจะทำให1ชีวิตของ เจริญ) บุพพนมิ ิตรของมชั ฌิมาปฏิปทา พัฒนา แก1ปญL หาของชุมชนและสงั คม นักเรียนมีความสุขพบแตGสิ่งที่ดี (คบเพื่อนที่ดี ชGวยแนะนำสั่งสอนให1เห็นวGา อะไรผิด อะไรถูก ทำให1เกิดความคิดเห็นที่ถูกต1อง มีความตั้งใจศึกษาเลGา ภาระงาน/ ชิ้นงาน เรียน) สาระสำคัญ - กระดาษบรูlฟความร1ู เรื่อง บุพพนิมิตรของ หากบุคคลในสังคมศึกษาและปฏิบัติ ๒. ครูให1นักเรียนรGวมกันอภิปรายแนวทางปฏิบัติใดบ1างที่จะทำให1ชีวิต มัชฌิมาปฏิปทา (ตามหัวขอ1 ทไ่ี ด1รบั มอบหมาย) ตนตามคำสั่งสอนของศาสดาของศาสนา ดำเนินไปสูGหนทางแหGงความดับทุกขaตGอไป (คบเพื่อนที่ดีมีความประพฤติที่ดี นั้น ๆ ยGอมทำให1ชีวิตและสังคมมีความ งาม ไมGเบียดเบียนผอ1ู ืน่ ) สงบสขุ ๓. ครูชี้ให1เห็นวGา แม1เรายังไมGได1ปฏิบัติตามสำนวน แตGเราก็คาดการณaได1วGา หากปฏบิ ัตติ นในแบบดงั กลาG วแล1วจะสงG ผลเชGนใด พระพศาุทสธดเจา้ำจจงึ งึชช้หี ้ีหลลกั กั ธธรรรมม ขอบเขตเนอ้ื หา คำสอนเกี่ยวกับวิธี หรือหนทางที่จะนำไปสูGความดับทุกขaมาปฏิบัติจะสGงผล มรรค (ธรรมท่ีควรเจรญิ ) ทำให1เกดิ ความสุขทีย่ ัง่ ยนื - บุพพนมิ ิตรของมชั ฌมิ าปฏิปทา 15325

แผนการจดั การเรยี นรูท. ่ี ๑๙ เรอื่ ง มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ) บุพพนมิ ิตรของมัชฌิมาปฏปิ ทา ๑๕๓ หนIวยการเรียนร.ูที่ ๓ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา ๑ ช่วั โมง ช้นั มธั ยมศกึ ษาปทT ่ี ๒ กลมIุ สาระการเรียนรู. สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา จุดประสงค[การเรียนรู. ขัน้ สอน ด.านความร.ู ๑. ครูอธิบายความรู1 เรื่อง มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ) บุพพนิมิตรของ ๑. นักเรียนอธิบายความหมายของ มัชฌิมาปฏิปทาโดยใช1สื่อ Power Point เรื่อง มรรค (ธรรมที่ควรเจริญ) บุพพนิมิตรของมัชฌิมาปฏิปทาได1อยGาง บุพพนิมิตรของมัชฌิมาปฏิปทาแล1วใช1คำถามวGา “บุพพนิมิตรของ ถูกต1อง มัชฌิมาปฏิปทามีความหมายวGาอยGางไร” (ธรรมะซึ่งเปpนทางบGงบอกวGา หนทางดบั ทุกขaจะเกิดแกGผ1นู ัน้ ) ดา. นทกั ษะและกระบวนการ ๒. ครูให1นักเรียนแบGงกลุGม เปpน ๗ กลุGม และให1ตัวแทนออกมาจับสลาก ๒. นักเรยี นวเิ คราะหaประโยชนa เลอื กหัวขอ1 โดยทงั้ ๗ หวั ข1อประกอบด1วย บุพพนิมิตรของมัชฌิมาปฏิปทามาได1 ๑) กลั ยาณมติ ตตา อยGางมีเหตุผล ๒) สีลสมั ปทา ด.านคุณลักษณะ ๓) ฉันทสัมปทา ๔) อตั ตสมั ปทา ๓. นักเรียนเสนอแนวทางการนำ ๕) ทิฏฐิสัมปทา ประโยชนaของบุพพนมิ ิตรของ ๖) อัปปมาทสัมปทา มัชฌิมาปฏิปทามาใช1ในชีวติ ประจำวนั ได1 ๗) โยนิโสมนสกิ ารสมั ปทา อยGางมเี หมาะสม ๓. ครูแจกกระดาษบรูlฟพร1อมปากกาเมจิ และให1แตGละกลุGมรGวมกันแสดง สครวปุ าคมวคำิดมเรหใู้ ็นเปกรี่ยะวเกดับน็ ความหมายและประโยชนaของการปฏิบัติตนตามหลัก บพุ พนมิ ิตรของมัชฌมิ าปฏิปทา ตามหวั ข1อท่ไี ด1รบั มอบหมาย 15336

แผนการจัดการเรียนรู.ที่ ๑๙ เรอ่ื ง มรรค (ธรรมที่ควรเจรญิ ) บุพพนมิ ิตรของมชั ฌมิ าปฏปิ ทา ๑๕๔ หนวI ยการเรียนรท.ู ี่ ๓ หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา ๑ ชว่ั โมง ช้นั มัธยมศกึ ษาปทT ี่ ๒ กลIุมสาระการเรียนรู. สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ๔. ครูสุGมกลุGมนักเรียนออกมานำเสนอหน1าชั้นเรียน จากนั้นครูและนักเรียน รGวมกนั แสดงความคิดเหน็ และครอู ธบิ ายเพ่มิ เติมใหส1 มบูรณa ขน้ั สรปุ ครูใหน1 ักเรียนรGวมกันอภปิ รายในประเดน็ ดงั น้ี ๑. นักเรียนสามารถนำหลักธรรมในเรื่องมรรคไปปรับใช1ใน ชีวิตประจำวันได1อยGางไร (สามารถนำไปปรับใช1ในการดำเนินชีวิตได1หลาย ด1าน เชGน การเลือกคบเพื่อน การปฏิบัติตนให1อยูGในศีลธรรม การตั้งใจทำสิ่ง ที่ดีงาม การฝwกตนเองให1มีความพร1อมสมบูรณaทั้งทางกายและใจ การยึดม่ัน ในสงิ่ ทีถ่ ูกตอ1 งดงี าม รวมถึงการพรอ1 มดว1 ยความไมGประมาท) ๒. นักเรียนได1ข1อคิดจากการเรียนเรื่องหลักธรรมในอริยสัจ ๔ หมวด มรรคอยGางไรบ1าง (การนำหลักธรรมคำสอนเกี่ยวกับวิธีหรือหนทางที่จะ นำไปสูGความดบั ทกุ ขมa าปฏบิ ัติจะสงG ผลทำให1เกิดความสุขทยี่ ง่ั ยืน) 13574

๑๕๕ 13585 การวดั และประเมินผล สิ่งท่ตี 7องการวดั /ประเมนิ วธิ กี าร เครือ่ งมือทใี่ ช7 เกณฑA ดา7 นความร7ู การอธิบายความหมายของ - การถามตอบ - ประเด็นคำถาม - ตอบคำถามไดU บุพพนิมติ รของ - การอธิบาย มชั ฌมิ าปฏิปทา - การอภปิ ราย - สอ่ื Power Point เรอื่ ง มรรค รอU ยละ ๘๐ - กระบวนการกลุ?ม ด7านทักษะ/กระบวนการ (ธรรมทคี่ วรเจรญิ ) บพุ พนิมิตร ผ?านเกณฑ[ การวเิ คราะห[ประโยชน[ - การถามตอบ บพุ พนิมิตรของ - การอธบิ าย ของมัชฌมิ าปฏิปทา มัชฌิมาปฏปิ ทามา - การวเิ คราะห[ - การอภปิ ราย - ประเด็นคำถาม - ตอบคำถามไดU ดา7 นคุณลกั ษณะ - กระบวนการกลุ?ม การเสนอแนวทางการนำ - ส่อื Power Point เรือ่ ง มรรค ตามจดุ ประสงค[ ประโยชนข[ องบพุ พนิมติ ร - การสังเกต ของมชั ฌิมาปฏปิ ทามาใชใU น พฤติกรรม (ธรรมทค่ี วรเจริญ) บุพพนมิ ิตร รUอยละ ๘๐ ชีวติ ประจำวนั - การตอบคำถาม - การอธบิ าย ของมัชฌมิ าปฏิปทา ผา? นเกณฑ[ - การวิเคราะห[ - การอภปิ ราย - กระดาษบรู_ฟความรูU เรื่อง - กระบวนการกล?ุม - การนำเสอนหนาU บุพพนิมิตรของมัชฌิมาปฏิปทา ชน้ั เรยี น (ตามหัวขอU ทไี่ ดรU บั มอบหมาย) - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - มีพฤตกิ รรมการ - ประเดน็ คำถาม ปฏบิ ตั ติ นตาม - สือ่ Power Point เรื่อง มรรค จดุ ประสงค[ (ธรรมที่ควรเจริญ) บพุ พนิมติ ร ของมัชฌมิ าปฏปิ ทา - กระดาษบรู_ฟความรูU เร่ือง บพุ พนิมติ รของมชั ฌมิ าปฏิปทา (ตามหัวขUอที่ไดรU ับมอบหมาย)

๑๕๖ 13569 บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรUู ....................................................................................................................................................................... ปfญหาและอุปสรรค ....................................................................................................................................................................... ขUอเสนอแนะและแนวทางแกUไข ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ......................................ผูUสอน (........................................................) วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ.............. ความคดิ เหน็ / ขอ7 เสนอแนะของผ7บู รหิ ารหรือผท7ู ่ีได7รบั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่อื ......................................ผUตู รวจ (...........................................................) วนั ท่ี..........เดือน................พ.ศ.............

๑๕๗ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 20 เรอื่ ง พุทธศาสนสภุ าษติ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 หลักธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ตัวช้ีวัด กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื / แหลง่ เรยี นรู้ ส 1.1 ม.2/8 อธิบายธรรมคณุ และข้อธรรม ขั้นนา 1. วีดิทศั น์ เร่อื ง \"การให้ คอื การสื่อสาร สาคัญในกรอบอริยสัจ 4 หรือหลักธรรมของ 1. ครูเปิดวีดิทัศน์ เรื่อง \"การให้ คือการสื่อสารที่ดีท่ีสุด\" 3 นาที แล้วให้ ท่ดี ที ส่ี ดุ \" ศาสนาที่ตนนับถือตามท่ีกาหนดเห็นคุณค่าและ นักเรียนรว่ มกนั ตอบคาถามต่อไปน้ี 2. สื่อ PowerPoint เรื่อง พุทธศาสน นาไปพฒั นาแกป้ ัญหาของชมุ ชนและสงั คม สุภาษติ สาระสาคัญ ภาระงาน/ชนิ้ งาน คำสอนของศำสนำต่ำง ๆ เป็นแนวทำงกำร - แบบบันทึกประสบการณ์พุทธ-สุภาษิต ปฏิบัติตนให้เป็นคนดี หำกทุกคนสมำรถปฏิบัติ (ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=7s222HHXX1188wwDDYY)) ที่สอดคล้องกับประสบการณ์ชีวิตของ ตำมได้จะทำให้ชีวิตมีควำมสุขและเกิดควำมสันติ 1) จากวีดิทัศน์ นักเรียนคิดว่าเด็กคนน้ันทาไปเพราะมีนิสัยขี้ขโมย นกั เรียน ในสงั คม จรงิ ๆ หรือไม่ เพราะอะไร (ไมใ่ ช่ เพราะยากจนมาและต้องการนายาไปรักษา แม่) ขอบเขตเนื้อหา 2) นักเรียนคิดว่าเหตุใดเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวถึงต้องช่วยเหลือเด็ก - พุทธศาสนสุภาษติ คนน้ี (สงสาร เหน็ ใจ อยากใหเ้ ดก็ มีคุณภาพชวี ิตทด่ี กี วา่ นี้/แสดงความคดิ เห็น) 3) จากวีดิทัศน์นักเรียนคิดว่ามีข้อคิดของเรื่องตรงกับพุทธศาสน สุภาษิตใด (ทาเชน่ ไรไดผ้ ลเชน่ นั้น ทาดยี ่อมไดด้ ี /พจิ ารณาคาตอบของผู้เรียน) 115470

๑๕๘ แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 20 เรื่อง พทุ ธศาสนสุภาษติ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 1 ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 2. ผู้สอนเช่ือมโยงสู่บทเรียนว่า เหตุการณ์หลาย ๆ เหตุการณ์เกิดขึ้นและมี ดา้ นความรู้ ข้อคิดสอนใจเราทุกคน พุทพธุทศธาศสำนส-นสสุภภุ าำษิตก็เป็นถ้อยคาสอนใจหน่ึงท่ี 1. นักเรียนอธิบายความหมายของ พุทธศาสน เช่อื มโยงกบั เหตุการณ์ต่าง ๆ เพ่ือเปน็ บทเรยี นและนามาปฏบิ ัตใิ นชวี ติ สงบสุข สุภาษติ ไดถ้ ูกตอ้ ง วนั นเ้ี ราจะเรยี นเรอื่ ง พทุ ธศาสนสุภาษิต ขนั้ สอน ด้านทักษะและกระบวนการ 1. ครูสมุ่ ผเู้ รยี น ๒2-3๓คนเพอื่ บอกความหมายของพทุ ธศาสนสุภาษติ แลว้ ใช้ 2. นักเรียนวิเคราะห์ความสาคัญของพุทธศาสน คาสาคัญรว่ มกันสรปุ ความหมาย โดยใช้สอ่ื PowerPoint เรื่อง พุทธศาสน สุภาษติ ไดอ้ ยำ่ งมเี หตุผล สภุ าษติ อธิบายประกอบใหส้ มบูรณ์ (พุทธศาสนสภุ าษติ หมายถงึ ถ้อยคาดๆี ในพระพุทธศาสนา) ด้านคณุ ลกั ษณะ 2. ครูอธบิ ายหลกั การอ่านภาษาบาลี โดยเฉพาะ เครื่องหมาย (พินทุ) และ 3. นักเรียนแสดงความคิดเห็นยกตัวอย่ำงกำร (นฤคหติ ) และออา่ ่ำนนตตัวัวออยย่า่ำงงพพุทุทธธ-ศาสนสุภาษติ ร่วมกนั เพ่ือให้ผเู้ รียนสามารถ อ่านพุทธศาสนสภุ าษิตได้ ประยุกต์เหตุกำรณ์ท่ีเก่ียวเน่ืองกับพุทธศำสน 3. ครเู ปิดพุทธศาสนสุภาษิตจานวน 4 คาดังต่อไปนี้ เพื่อให้ผเู้ รียนเลือกวา่ สุภำษิตนาไปปฏิบัติกับชีวิตประจาวันได้อย่าง พทุ ธศาสนสุภาษิตใดมคี วามเก่ยี วเนือ่ งประสบการณช์ ีวติ หรือเคยเกิดข้ึนใน เหมาะสม ชีวิตประจาวันของนักเรียน และส่มุ นกั เรยี นออกมาเล่าประสบการณ์ หรือ หากไม่ได้ออกมาเลา่ ใหเ้ ขยี นบันทึกประสบการณ์ลงในแบบบันทึก ประสบการณ์เพื่อเลา่ เรื่องราวของตนลงไป ใช้เวลา 20 นาที 15481

๑๕๙ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 20 เรอื่ ง พุทธศาสนสุภาษติ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนา เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 1) อตตาน ทมยนติ ปณฑิตา. บัณฑติ ย่อมฝกึ ตน. 2) รกเขยย อตตโน สาธุ ลวณ โลณต ยถา. พึงรักษาความดีของตน ไพวึง้ รดกังเษกำลคือวำมดีของตนไว้ดังเกลือรักษำควำมเคม็ รักษาความเคม็ . 3) นสิ มม กรณ เสยโย. ใคร่ครวญก่อนแล้วจึง ทใคารดค่ กีรวญา่ กอ่ นแล้วจึงทำ� ดกี ว่ำ 4) โลโภ ธมมาน ปรปิ นโถ. ความโลภเป็นอันตราย คแวหำ่งมธโรลรภมเป็นอันตรำยแกธ่ รรมทง้ั หลำย ทง้ั หลาย. 5) โกโธ ทมุ เมธโคจโร. ความโกรธเป็นอารมณ์ คขวอำงมคโนกมรี ธเปน็ อำรมณ์ของคนมีปัญญำทรำม ปญั ญาทราม. 6) โกธ ปญาย อุจฉินเท. พึ ง ตั ด ค ว า ม โ ก ร ธ ด้ ว ย ปพญังึ ตญัดาค.วำมโกรธด้วยปญั ญำ 7) ทท ปิโย โหติ ภชนติ น พหู ผู้ให้ ย่อมเป็นที่รัก คน หผใู้มหมู่ ย้ าอ่กมยเ่อปม็นที่รกั หมู่มำกย่อมคบเขำ คบเขา. 114529

๑๖๐ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 20 เร่ือง พุทธศาสนสภุ าษติ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 หลกั ธรรมทางพระพทุ ธศาสนา เวลา 1 ช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 8) กลนาณการี กลยาณ ปาปการี จ ปาปก ทาดีได้ดี ทาช่วั ได้ช่ัว 9) ปูชโก ลภเต ปูช วนทโก ปฏิวนทน ผู้บูชาเขาย่อมได้รับการ ไหวต้ อบ ข้ันสรุป ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายในประเด็นดังต่อไปน้ี 1. จากพุทธศาสนสุภาษิตที่สอดคล้องกับประสบการณ์ของนักเรียนทุก คน แสดงให้เห็นว่าหากเราศึกษาพทุ ธศาสนสุภาษติ จะใหข้ อ้ คดิ อยา่ งไร (คติสอนใจทางศาสนาเป็นหลักธรรมคาสอนท่ีดีงาม ปรากฏใน ลักษณะข้อคิด ข้อเตือนใจให้กับผู้ท่ีนาไปยึดถือและปฏิบัติ อันมีจุดมุ่งหมาย เพือ่ ความสุขความเจรญิ ในการดาเนินชวี ติ ) 2. ถ้านกั เรยี นปฏิบตั ติ นตามพุทธศาสนสุภาษิตจะสง่ ผลอย่างไรต่อสงั คม (สงั คมมีแต่ความสงบสขุ ทกุ คนอยู่รว่ มกันอยา่ งสันติสุข) 114630

๑๖๑ 14641 การวดั และประเมินผล ส่ิงที่ต้องการวดั /ประเมนิ วิธีการ เครอื่ งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ - ประเดน็ คาถาม ดา้ นความรู้ สื่อ PowerPoint เรือ่ ง - ตอบคาถามได้ร้อย พุทธศาสนสภุ าษติ ลรอ้ะย8ล0ะ ๘ผ๐่านผเำก่ นณเกฑณ์ ฑ์ การอธิบายความหมาย - การตอบคาถาม - ประเดน็ คาถาม - แบบประเมินผลงาน - ตอบคาถามได้ตาม ของพทุ ธศาสนสภุ าษิต - การอธบิ าย จุดประสงค์ร้อยละ - แบบสังเกตพฤติกรรม 8รอ้ 0ยลผะา่ น๘เ๐กณผำฑ่ น์ เกณฑ์ - การอภปิ ราย - แบบประเมนิ ผลงาน - มพี ฤติกรรมการ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ปกำฏรบิ ปตั ฏิติบนัตติตานมตำม จุดประสงค์ ร้อยละ การวิเคราะห์ความสาคัญ - การตอบคาถาม 8รอ้ 0ยลผะ่าน๘เ๐กณผำฑ่ น์ เกณฑ์ ของพทุ ธศาสนสภุ าษิต - การอธิบาย - การอภปิ ราย - การนาเสนอหนา้ ชน้ั เรียน - แบบบันทกึ ระสบการณ์ ด้านคุณลักษณะ การแสดงความคิดเห็น - การสงั เกตพฤติกรรม ยกตัวอย่างการประยุกต์ - แบบบนั ทกึ ประสบการณ์ เหตุการณ์ท่ีเก่ียวเน่ืองกับ พุทธศาสนสุภาษิตนาไป ปฏิบตั กิ บั ชวี ิตประจาวนั

๑๖๒ 16425 บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปัญหาและอุปสรรค ....................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ....................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผูส้ อน (........................................................) วันที.่ .......เดอื น..............พ.ศ.............. ความคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................ .................................................. ลงชือ่ ......................................ผู้ตรวจ (...........................................................) วันท.่ี .........เดอื น................พ.ศ.............

๑๖๓ 16436 ชื่อ - สกลุ ............................................ชั้น.............เลขท่.ี ........... แบบบันทกึ ประสบการณ์ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

14674 4 62 10 1 1 1 .2 9 . 10 . 11 12 . 1 2 .2 2 .3 . 2 .5 2 กำรบรหิ ำรจิตเจรญิ ปัญญำ 3 มนสกิ ำรและวธิ คี ดิ แบบอบุ ำยปลุกเร้ำคณุ ธรรม

14685 4. และกำรแผ่เมตตำ 5. 6 6. 7. ๆ 8. 9. และกำรแผ่เมตตำ 10. 6 11. 12. 13. 14. 1. 2. 3. 4. 6. 7. 10. 11. 12. 3.3 1.

14696 4 5 ๑. รกั ชำติ ศำสน์ กษตั ริย์ 2๒. มีวนิ ยั 3๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๔. มุ่งมัน่ ในกำรท�ำงำน 6 1 2

กำรบรหิ ำรจติ เจรญิ ปญั ญำ 16570 กำรบรหิ ำรจติ เจรญิ ปญั ญำ 0 2 79 46 4 พอใช้ ขึ้นไป

๑๖๘ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 21 เรื่อง การพัฒนาจิตเพื่อการเรยี นรูแ้ ละดาเนินชีวติ ด้วยวธิ ีคดิ แบบอุบายปลุกเร้าคณุ ธรรม หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง การบรหิ ารจติ เจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 ตัวชว้ี ดั กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ส 1.1 ม 2/9 เห็นคุณค่าของการพัฒนาจิตเพ่ือการ ข้นั นา 1. วีดทิ ศั น์ เรอื่ ง ชมุ ชนนิมนต์ยม้ิ 1. ครูให้ผู้เรียนหลับตาทาสมาธิเป็นเวลา 3๒ นาที โดยก่อนการทา ตอน อลหมา่ นงานเทกระจาด เรียนรู้และดาเนินชีวิตด้วยวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ คือ วิธี สมาธิ ครูกาหนดประเด็นคาถามให้ผู้เรียนคิดคาตอบว่า “นิสัยเสีย 2. สือ่ PowerPoint เรอ่ื ง “การ คิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม และวิธีคิดแบบอรรถธรรม อะไรของเราที่คนอืน่ พูดถงึ มากท่สี ุด” “คกิดำแรบคิดบแอบุ บายอปุบลำกุยปเรลา้ กุคเณุ ร้ำธครุณรมธ”รรม” สัมพันธ์ หรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับ 3๒. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายในประเด็น “ถ้าเราจาเป็นต้องแก้ 3. กระดานดา ถือ นิสัยเสียน้ัน ตามความเห็นของนักเรียนจะมีวิธีการอย่างไร” โดยใช้ สาระสาคญั การฝึกควบคุมวิธีการคิดอยู่เสมอ ทาให้เป็นผู้มีเหตุผล คาตอบของนักเรียนท่ีได้ตอบก่อนหน้านี้และความคดิ เห็นของนักเรียน เข้าใจสภาพความเป็นจริงท่ีเกิดข้ึนได้อย่างดี นามาซ่ึงการ คนอ่ืน ๆ มาเป็นประเด็นในการช่วยกันแก้ปัญหา ก่อนจะตั้งโจทย์ ภาระงาน/ชิน้ งาน พฒั นาการเรยี นรแู้ ละดารงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างสงบสขุ คาถามเก่ียวกับการศึกษาในคาบนี้ว่า “วิธีแก้นิสัยเสียในทางพุทธ - การสรุปวิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้า ศาสนาเป็นอยา่ งไร” คุณธรรมในประเด็นที่กาหนด ลง ขอบเขตเนอ้ื หา 4๓. ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยกล่าวกับนกั เรียนวา่ “ในชีวิตของคนเราน้ัน บนกระดาษฟลิปชารท์ โยนิโสมนสิการ เป็นวิธีการคิดในทางพระพุทธศาสนา การเปล่ียนแปลงในหลายด้านๆ เกิดมาจากการกระทาและพฤติกรรม ที่เราแสดงออกมา ซ่ึงมีแรงผลักดันจากลักษณะนิสัย ศีลธรรม หมายถึง การคิดโดยแยบคาย คือ คิดดี คิดเป็น คิดถูกต้อง จริยธรรมที่อยู่ภายในจิตใจ การเปลี่ยนแปลง หรือการพัฒนาที่เกิดขึ้น และรอบคอบ ซ่งึ การคิดแบบโยนิโสมนสิการน้เี ป็นวิธีคิดทค่ี วร ในจติ ใจจงึ สามารถทีจ่ ะส่งผลได้มากกวา่ การเปลย่ี นแปลงแค่พฤตกิ รรม แก่การฝึกฝนและพัฒนาให้เกิดขึ้น เพื่อให้ชีวิตของเราดาเนิน ภายนอก ดังน้ัน ในคาบเรียนนี้เราจะศึกษาหน่ึงในวิธีการพัฒนาจิต ไปสคู่ วามสุข การคิดแบบโยนโิ สมนสกิ าร มีวิธกี ารคิด 10 วธิ ี ตามแนวทางของพุทธศาสนา คือ วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม” - วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม หมายถึง การคิด ในทางที่ดี คิดในเชิงบวก คิดในทางท่ีเป็นกุศล หรือท่ีเรียกว่า 15681

๑๖๙ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 21 เรื่อง การพฒั นาจติ เพอ่ื การเรียนรู้และดาเนินชวี ิตด้วยวธิ คี ดิ แบบอุบายปลกุ เร้าคณุ ธรรม หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เร่อื ง การบรหิ ารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 การมองโลกในแง่ดี เป็นวิธีคิดท่ีนาไปสู่การพัฒนาชีวิตที่ดีงาม ข้นั สอน และเป็นประโยชน์ 1. ครเู ปิดวีดิทัศน์ เร่ือง ชุมชนนิมนตย์ มิ้ ตอน อลหมา่ นงานเท จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ กระจาด (http://www.youtube.com/ watch?v=hy88c4xfk66dk) ดา้ นความรู้ 1. นกั เรยี นอธบิ ายความหมายของโยนิโส-มนสิการและวธิ คี ิด แบบอบุ ายปลุกเร้าคณุ ธรรมได้ถูกตอ้ ง ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ และมอบหมายใหน้ ักเรยี นร่วมกันศึกษาโดยจดบนั ทึกลงในสมดุ ดงั นี้ 2. นักเรียนวิเคราะห์ประโยชน์และคุณค่าของการศึกษา 1) ตวั ละครในเรื่องมีใครบ้าง เรื่อง การพัฒนาจิตเพ่ือการเรียนรู้และดาเนินชีวิตด้วยวิธีคิด 2) ตัวละครในเรื่องมลี ักษณะนสิ ยั อยา่ งไร แบบอบุ ายปลุกเรา้ คณุ ธรรมได้ถูกตอ้ งและมเี หตผุ ล 3) เกดิ เหตุการณ์อะไรขึน้ ด้านคุณลกั ษณะ 4) มกี ารแก้ปัญหาอย่างไร 3. นักเรียนเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้การพัฒนาจิตด้วย 5) ขอ้ คดิ ท่ีไดจ้ าการชมวีดที ัศน์คืออะไร วิธคี ิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรมได้เหมาะสม 2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันอภิปรายประเดน็ คาถามต่อไปน้ี 1) ใครทาความผิดอะไร (มะขวดิ ทากเิ ลนหยกแตก) 2) เพราะเหตุใดผกู้ ระทาความผิดจึงสารภาพผดิ (มะขวิดรูส้ านกึ ผดิ และคดิ วา่ การพดู ความจริงจะสบายใจกว่า การพูดโกหก) 3) ผลของการสารภาพผิดสง่ ผลอย่างไร (ติงลี่ชมเชยและใหอ้ ภัย) 115629

๑๗๐ แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 21 เร่ือง การพฒั นาจิตเพ่อื การเรียนรู้และดาเนนิ ชวี ิตด้วยวิธคี ิดแบบอุบายปลกุ เรา้ คุณธรรม หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง การบริหารจิตเจรญิ ปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 3. ครูเปิดส่ือ PowerPoint เรื่อง “การคิดแบบอุบายปลุกเร้า คุณธรรม” โดยให้นักเรียนร่วมกันนิยามความหมายและหลักการที่ เกี่ยวข้องกับวิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม ครูบันทึกคาตอบของ นักเรียนลงบนกระดานดาและให้นักเรียนบันทึกข้อสรุปท่ีได้ลงในสมุด บนั ทึกประจารายวิชา 4. ครูให้นกั เรยี นจบั กลุม่ 6 กลุม่ โดยครูแจกกระดาษฟลิปชาร์ทให้ นกั เรยี น เพื่อคดิ และตอบประเด็นคาถามตามหัวข้อต่อไปน้ี 1) การคิดแบบวิธคี ดิ ขนั้ แบบอบุ ายปลกุ เรา้ คุณธรรมมีประโยชน์ อย่างไรบ้าง 2) นกั เรยี นสามารถนาไปประยุกต์ใชใ้ นการพัฒนาตนเองได้ อย่างไร” (พฒั นาอารมณ์ของตนเองด้วยการคดิ ในเชิงบวก ไมค่ ดิ ร้าย กบั ผอู้ ่นื , มองโลกในความเป็นจรงิ , หวังดกี ับเพอื่ น, ไม่โกหก, ไม่คิด ด้วยจิตอกศุ ล, รู้จกั ให้อภัย, เอ้ือเฟอ้ื เผอ่ื แผ่) 5. ครูสุ่มนักเรียน 2-3 กลุ่มออกมานาเสนอให้เพื่อนฟังหน้าชั้นเรียน และการสนทนาซกั ถามขอ้ สงสัย 115730

๑๗๑ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 21 เรอื่ ง การพฒั นาจิตเพอื่ การเรยี นรู้และดาเนนิ ชีวติ ด้วยวิธีคิดแบบอบุ ายปลกุ เรา้ คุณธรรม หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง การบริหารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สงั คมศึกษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ข้ันสรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรปุ เกี่ยวกับวิธีคิดแบบอบุ ายปลุกเร้า คณุ ธรรมในประเดน็ ดงั นี้ 1) คุณคา่ และประโยชน์ของการศกึ ษาเร่ืองวิธีคิดแบบอุบายปลกุ เร้าคณุ ธรรม 2) แนวทางการประยุกต์ใชว้ ิธคี ิดแบบอบุ ายปลุกเร้าคุณธรรม 17541

172 17525 การวัดและประเมินผล ส่งิ ทีต่ ้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เคร่ืองมือทีใ่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - ประเด็นคาถาม -ตอบคาถามได้ถูกต้อง การอธิบายความหมายของ - ตอบคาถาม - กระดานดา ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 โยนิโสมนสิการและวิธีคิด - การอธิบาย แบบอบุ ายปลุกเรา้ คุณธรรม - การอภิปราย ด้านทักษะ/กระบวนการ - ประเดน็ คาถาม - ผา่ นเกณฑร์ ะดบั ดีข้นึ การวิเคราะห์ประโยชน์และ - ตอบคาถาม - แบบประเมนิ การ ไป คุณค่าของการศึกษา เรื่อง - การวเิ คราะห์ เกขำยี รนเขสียรปุนสรุป การพัฒนาจิตเพื่อการเรียนรู้ - การอภิปราย ความสาคญั และดาเนินชีวิตด้วยวิธีคิด - กระบวนการกลุ่ม แบบอบุ ายปลกุ เรา้ คณุ ธรรม - การนาเสนอหน้าช้ัน - ประเด็นคาถาม - ตอบคาถามได้ถูกตอ้ ง - แบบบนั ทึกการ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 80 เรยี น สกงัำเรกสตังพเกฤตตพกิ ฤรรตมิกรรม ดา้ นคณุ ลกั ษณะ กำารเรสเนสอนแนอวแทำนงวกำทรปารงะกยากุ ตร์ - ถามตอบ ใปชร้กะำยรุกพตัฒ์ใชน้กำาจริตพดัฒ้วยนวาิธจีคิติดด้วย - การสังเกตพฤติกรรม แวบิธบีคปิดลแุกบเรบ้ำคอุณบธารยรปม ลุกเร้า คุณธรรม

173 117536 บนั ทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปัญหาและอุปสรรค ....................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ....................................................................................................................................................................... ลงช่อื ......................................ผสู้ อน (........................................................) วนั ท.่ี .......เดอื น..............พ.ศ.............. ความคิดเห็น/ ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ที่ไดร้ ับมอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................ .................................................. ลงช่ือ ......................................ผูต้ รวจ (...........................................................) วันที่..........เดือน................พ.ศ.............

๑๗๔ แผนการจัดการเรียนรท.ู ี่ ๒๒ เรอื่ ง การพัฒนาจิตเพอ่ื การเรียนร.แู ละดำเนินชวี ติ ดว. ยวธิ คี ิดแบบอรรถธรรมสมั พนั ธE หนGวยการเรยี นรูท. ่ี ๔ เรื่อง การบรหิ ารจิตเจริญปKญญาและมารยาทชาวพทุ ธ เวลา ๑ ชัว่ โมง กลมุG สาระการเรียนร.ู สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สงั คมศึกษา ชนั้ มัธยมศึกษาปSท่ี ๒ ตวั ช้ีวัด กิจกรรมการเรียนร.ู ส่ือ/ แหลGงเรียนร.ู ส ๑.๑ ม ๒/๙ เห็นคุณค)าของการพัฒนาจิต ขัน้ นำ ๑. วีดิทัศนJ สารคดี การระเบิดของ เพื่อการเรียนรู;และดำเนินชีวิต ด;วยวิธีคิดแบบ ๑. ครูให;นักเรียนดูวีดิทัศนJ สารคดี การระเบิดของนิวเคลียรJ ประมาณ ๓ นวิ เคลียรJ โยนิโสมนสิการ คือ วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร;า นาที และภาพสถานการณJสมมติสงครามนิวเคลียรJ แล;วถามผู;เรียนว)า ““จจำาก ๒. ภาพสถานการณJสมมติสงคราม คุณธรรม และวิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธJ หรือ กวีดิทัศนJข;างต;น เปUนเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร” (ระเบิดนิวเคลียรJ อันตรายจาก นิวเคลียรJ การพฒั นาจติ ตามแนวทางของศาสนาท่ตี นนบั ถอื สงครามนิวเคลียรJ) ๓. ส่อื PowerPoint เรอื่ ง “การคิดแบบ สาระสำคญั การพัฒนาความคิดอย)างมีเหตุผลตามแนวทาง อรรถธรรมสัมพนั ธ”J ของศาสนาซึ่งศาสนิกชนควรแก)การฝQกฝนและ ท่มี า : https://www.youtube.com/watch?v=E3Yr9XPcuIU ภาระงาน/ ช้ินงาน พัฒนาให;เกิดขึ้น เพื่อให;ชีวิตของเรามีเหตุผลและ - การรว) ม กจิ กรรม “Who are ดำเนินไปสค)ู วามสุข Ssurvivalist” ขอบเขตเนื้อหา วธิ คี ดิ แบบอรรถธรรมสัมพนั ธJ คอื การคิดทเี่ ปUน เหตุเปUนผลกันของหลักการและผลของการกระทำ นั้น ๆ ว)า การกระทำดังกล)าว ทำเพื่อใครหรืออะไร ทีม่ า : http://images.electricpig.co.uk แล;วผลที่ตามมาของการกระทำนั้นคืออะไร เปUน ๒. ครูใช;ประเด็นคำถามนำเข;าสู)บทเรียนให;นักเรียนร)วมกันอภิปรายค;นหา ประโยชนหJ รอื เปUนโทษอย)างไร คำตอบ ดังน้ี 15774

๑๗๕ แผนการจัดการเรยี นรท.ู ี่ ๒๒ เรอื่ ง การพฒั นาจติ เพ่อื การเรียนร.แู ละดำเนินชีวติ ดว. ยวธิ ีคดิ แบบอรรถธรรมสมั พันธE หนวG ยการเรยี นรทู. ่ี ๔ เร่อื ง การบรหิ ารจติ เจรญิ ปญK ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ชว่ั โมง กลGมุ สาระการเรียนร.ู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปSท่ี ๒ จุดประสงคกE ารเรยี นรู. ๑) หลังสงครามนิวเคลียรJโลกจะเปUนอย)างไร (เต็มไปด;วยฝุÖนควัน น้ำ ด.านความรู. สะอาดหายาก อาหารไม)เพียงพอ ไม)สามารถเพาะปลูกได; ผู;คนต;องเอาชีวิต ๑. นักเรียนอธิบายความหมายของวิธีคิดแบบ รอด สภาพแวดล;อมเลวรา; ยไม)เหมาะกบั การอยูอ) าศัย) อรรถธรรมสมั พนั ธJได;ถกู ต;อง ๒) ถ;าเราจะต;องอยู)ในโลกแบบนั้น เราจะทำอย)างไร (ต;องมีจุดมุ)งหมาย รวมกลุ)มกันเอาชีวิตรอด หาเสบียง หาที่พักที่มั่นคงปลอดภัย แต)ถ;าให;เลือกได; ด.านทักษะและกระบวนการ ก็คงไม)มีใครอยากอย)ูในโลกแบบน้ัน) ๒. นักเรียนวิเคราะหJการแก;ปÉญหาของสังคมไทย ๓. ครูกระตุ;นให;นักเรียนเห็นว)าสถานการณJสมมตินี้เปUนสถานการณJที่มนุษยJ ในปÉจจุบันด;วยวิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธJได; ต;องคิดเพื่อวางแผนการดำเนินชีวิตภายใต;เงื่อนไขและทรัพยากรที่จำกัด อยา) งมีเหตุผล เปÜาหมายและวิธีการที่ดีเปUนสิ่งจำเปUนที่เราจะต;องคำนึงถึงเพื่อเอาชีวิตรอด จากภัยตา) งๆๆทเ่ี กดิ ขน้ึ ใหน; านทส่ี ุด ด.านคณุ ลกั ษณะ ขนั้ สอน ๓. นักเรียนแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ความสำคญั ๑. ครูและนกั เรยี นศึกษา เรื่อง วิธคี ิดแบบอรรถธรรมสมั พนั ธJ จากสอ่ื ของการนำวิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธJ PowerPoint เรอื่ ง “การคิดแบบอรรถธรรมสมั พันธJ” โดยมอบหมายให; ประยุกตใJ ช;ได;เหมาะสม นักเรยี นเขียนอธบิ ายเกย่ี วกบั ความหมายของวิธกี ารคิดแบบอรรถธรรม สมั พนั ธJ ลงในสมดุ บนั ทกึ แล;วใชค; ำถาม “วธิ กี ารคดิ แบบอรรถธรรมสมั พันธJ คอื การคิดอยา) งไร”(การคดิ ท่เี ปUนเหตุเปนU ผลกนั ของหลกั การและผลของการ กรำระกทรำะนท้ันำ� นๆ้นั) ๆ ) 15785

๑๗๖ แผนการจัดการเรยี นรู.ท่ี ๒๒ เร่อื ง การพัฒนาจติ เพื่อการเรียนร.แู ละดำเนนิ ชีวติ ด.วยวธิ ีคิดแบบอรรถธรรมสมั พันธE หนวG ยการเรียนร.ูท่ี ๔ เรือ่ ง การบรหิ ารจิตเจริญปญK ญาและมารยาทชาวพทุ ธ เวลา ๑ ชว่ั โมง กลุGมสาระการเรยี นรู. สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปทS ี่ ๒ ๒. ครูเสนอกิจกรรม “Who are survivalist” “ถ;าหากในอีก ๒๐ นาที กำลังจะเกิดสงครามนิวเคลียรJขึ้นบนโลก ผู;เรียนจะเตรียมอุปกรณJใดบ;าง” โดยนักเรียนจะต;องเลือกของซึ่งแต)ละอย)างจะต;องใช;เวลาในการค;นหา นักเรียนสามารถเลือกอุปกรณJอะไรก็ได; แต)ต;องใช;เวลาค;นหารวมไม)เกิน ๒๐ นาที ซงึ่ อุปกรณมJ ดี ังตอ) ไปน้ี • น้ำด่มื ๓ นาที • อาหาร ๓ นาที • หน;ากากกนั รงั สแี ละหมวกกันกระแทก ๓ นาที • โทรศพั ทมJ อื ถอื ๓ นาที • กลอ) งปฐมพยาบาล ๕ นาที *ใชร; กั ษาพิษจากนวิ เคลียรJไม)ได*; • เคร่ืองมือช)าง ๕ นาที • อาวธุ ปãน ๕ นาที • ชุดกันความรอ; นและรังสี ๕ นาที • วิทยุส่ือสาร ๔ นาที • ไฟฉาย ๔ นาที • เซร)ุมระงบั พิษจากนิวเคลียรJ ๔ นาที • ไฟแชค็ และน้ำมันเช้ือเพลิง ๔ นาที 17596

๑๗๗ แผนการจัดการเรยี นร.ูที่ ๒๒ เรื่อง การพัฒนาจติ เพ่ือการเรียนรแ.ู ละดำเนินชวี ติ ดว. ยวิธคี ิดแบบอรรถธรรมสมั พนั ธE หนวG ยการเรียนร.ทู ี่ ๔ เรอื่ ง การบริหารจติ เจริญปญK ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลมุG สาระการเรยี นรู. สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชั้นมธั ยมศึกษาปSที่ ๒ ๓. ครูให;นักเรียนเลอื กส่ิงของ ๕ อย)างลงในสมุดบันทึกประจำรายวิชาโดยให; เวลาพิจารณา ๓ นาที จากน้ันให;ผูเ; รียนเก็บไวแ; ละไมใ) หเ; ปลี่ยนคำตอบ ๔. ครูอธบิ ายเหตุการณJต)อไปน้ีตามลำดบั ๑). แรงระเบิดทำให;บ;านเรือนพังทลาย ความร;อนเพิ่มสูงขึ้นมาก ฝุÖน ควันกระจายไปทั่ว ต;องใช; หน;ากากกันรังสีและหมวกกันกระแทก เพื่อไป ใหถ; งึ บงั เกอรJหลบภยั ชวั่ คราว ๒). รัฐบาลประกาศว)าพิษจากรังสีจะเจือจางไปใน ๗ วัน จึงจะสามารถ เดนิ ทางมายงั ศนู ยอJ พยพได; การรูข; )าวนี้จำเปUนต;องมี วิทยุสอ่ื สาร ๓) ผู;รอดชีวิตมีทางเลือก ๒ ทาง คือ เดินทางไปทันทีที่ศูนยJอพยพ ซ่ึง ต;องใช; ชุดกันความร;อนและรังสี อีกทางคือเลือกที่จะรอจนรังสีเจือจาง ซงึ่ ต;องใช; อาหารและน้ำดื่ม ๔). คนที่เลือกจะฝÖารังสีออกไป พบว)าความเข;มข;นของรังสีทำให;ชุดร่ัว ก)อนจะถึงศูนยJอพยพไม)นาน เพื่อไปให;ถึง ต;องใช; เซรุ)มระงับพิษจาก นิวเคลียรJ ส)วนคนที่ยังอยู)ในบังเกอรJ และในบังเกอรJเริ่มเกิดรอยรั่ว พิษ กำลงั จะเข;ามา จำเปUนตอ; งมี เซร)ุมระงับพษิ จากนวิ เคลยี รJ เช)นกัน ๕). คนที่เลือกฝÖาออกมาเดินทางมาถึงศูนยJอพยพได;อย)างปลอดภัย ส)วน คนทเ่ี ลอื กอยู)ในบงั เกอรตJ ;องเผชญิ ความหนาวเย็น ต;องมี ไฟแช็คและ 117670

๑๗๘ แผนการจดั การเรยี นรทู. ่ี ๒๒ เร่อื ง การพฒั นาจิตเพอื่ การเรียนร.แู ละดำเนินชีวติ ด.วยวธิ ีคดิ แบบอรรถธรรมสมั พันธE หนวG ยการเรยี นร.ทู ี่ ๔ เรื่อง การบรหิ ารจิตเจริญปญK ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ชั่วโมง กลุGมสาระการเรียนรู. สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปSท่ี ๒ น้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อเอาชีวิตรอด และในที่สุดทหารก็มาช)วยเหลือได;เมื่อ ครบกำหนด ๗ วัน ๕. ครูสำรวจผู;รอดชีวิตจากเหตุการณJนี้ จากนั้นสอบถามนักเรียนด;วย ประเด็นคำถามดงั ตอ) ไปนี้ ๑) เหตุผลในการเลือกอุปกรณJคืออะไร (มีประโยชนJ ช)วยให;อย)ูรอด ภายใน ๗ วนั ) ๒) คิดว)าการเลือกอุปกรณJของตนเองคุ;มค)าหรือไม) (ผู;เรียนแสดง ความคิดเห็น) ๓) การเลือกของผู;เรียนสอดคล;องกับวิธีอรรถธรรมสัมพันธJหรือไม) อย)างไร (พิจารณาคำตอบของผู;เรียน /การใช;ความคิดอย)างมี เหตุผลในการตัดสินใจเลือกสิ่งต)าง ๆ ที่คิดว)าเปUนประโยชนJที่สุดท่ี จะทำใหม; ชี วี ิตรอดจากเหตุการณJ) ๔) หากนักเรียนเลือกสิ่งที่ไม)เปUนประโยชนJที่สุดจะก)อให;เกิดผล อย)างไร (ไม)รอดจากเหตุการณ)J ๖. ครูแบ)งกลุ)มนักเรียนตามความเหมาะสม แล;วแจกกระดาษฟลิปชารJทให; นักเรียนทำแผนผังความคิด “การแก;ปÉญหาของสังคมไทยในปÉจจุบันด;วยวิธี คิดแบบอรรถสัมพันธJ” โดยให;นักเรียนเขียนปÉญหาและยกตัวอย)างการคิด อย)างมีเหตุผลไปใช;แก;ปÉญหาต)าง ๆ ในสงั คมไทย 117681

๑๗๙ แผนการจัดการเรยี นรู.ที่ ๒๒ เรือ่ ง การพฒั นาจติ เพ่อื การเรียนร.แู ละดำเนนิ ชีวิตดว. ยวธิ ีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธE หนวG ยการเรยี นรูท. ี่ ๔ เรือ่ ง การบรหิ ารจิตเจรญิ ปญK ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ชั่วโมง กลมGุ สาระการเรยี นร.ู สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปทS ่ี ๒ ๗. ครูสุ)มนักเรียน ๒-๓ คน นำเสนอแนวคดิ ของตนเองหน;าช้นั เรยี น นกั เรยี น ในห;องร)วมอภิปรายขยายความเกี่ยวกับประโยชนJและข;อดีของการพัฒนาจิต ด;วยวิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธJ โดยเน;นการนำไปใช;เปUนหลักในการดำเนิน ชวี ติ ข้นั สรปุ ครูและนกั เรยี นรว) มกันวิเคราะหJความสำคญั ของการนำวิธีคิดแบบอรรถ ธรรมสัมพนั ธJมาประยุกตใJ ช; “การนำวิธีคดิ แบบอรรถธรรมสมั พนั ธJมา ประยกุ ตJใช; จะสรา; งใหผ; ูป; ฏบิ ตั เิ กดิ ผลต)อชวี ิตอย)างไร” (ไดพ; ฒั นาความคิดอยา) งมีเหตผุ ลตามแนวทางของศาสนาซ่งึ ศาสนกิ ชน ควรแกก) ารฝQกฝนและพฒั นาให;เกดิ ข้ึน เพอื่ ใหช; วี ติ ของเรามีเหตผุ ลและดำเนนิ ไปส)ูความสขุ ) 16729

๑๘๐ 16830 การวัดและประเมนิ ผล ส่ิงทต่ี อ7 งการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือท่ีใช7 เกณฑA ดา7 นความรู7 การอธบิ ายความหมายของ - ตอบคำถาม - ประเดน็ คำถาม - ตอบคำถามถกู ตอM ง วธิ คี ดิ แบบอรรถธรรม - การอธิบาย - สอื่ PowerPoint เรือ่ ง รMอยละ ๘๐ ผาR น สมั พันธ7 “การคดิ แบบอรรถธรรม เกณฑก7 ารประเมิน - ตอบคำถาม สัมพนั ธ”7 ด7านทักษะ/กระบวนการ - การอธิบาย - นักเรยี นมากกวRา การวิเคราะห7การแกMปญU หา - การวเิ คราะห7 - ประเดน็ คำถาม รอM ยละ ๘๐ ตอบ ของสงั คมไทยในปUจจบุ ัน - การอภปิ ราย - กิจกรรม “Who are คำถามไดMถูกตMอง ดวM ยวิธคี ิดแบบอรรถธรรม - กระบวนการกลมRุ survivalist” เหมาะสม สมั พนั ธ7 - สมดุ บนั ทกึ ประจำวชิ า - ตอบคำถาม - นักเรียนมากกวRา ด7านคุณลักษณะ - การอธบิ าย - ประเดน็ คำถามสำคัญ รอM ยละ ๘๐ ตอบ แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับ - การวิเคราะห7 - แบบบนั ทกึ การสงั เกต คำถามไดMถกู ตMอง ความสำคญั ของการนำวิธี - การอภปิ ราย พฤตกิ รรม เหมาะสม คดิ แบบอรรถธรรมสัมพนั ธ7 - กระบวนการกลมุR ประยกุ ตใ7 ชM - การสังเกต พฤตกิ รรม

๑๘๑ 18641 บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรียนรู, ....................................................................................................................................................................... ป/ญหาและอปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ข,อเสนอแนะและแนวทางแกไ, ข ....................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ......................................ผู,สอน (........................................................) วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ.............. ความคดิ เหน็ / ข8อเสนอแนะของผ8บู รหิ ารหรอื ผ8ทู ่ไี ด8รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ......................................ผูต, รวจ (...........................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน................พ.ศ.............

๑๘๒ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 23 เรอื่ ง การสวดมนต์แปลแแลผะเ่กมาตรตแาผ่เมตตา เวลา 1 ชั่วโมง หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรอื่ ง การบริหารจติ เจรญิ ปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศกึ ษา ตัวช้วี ัด กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้ ส 1.1 ม 2/10 สวดมนต์ แผ่ ขน้ั นา 1. ภาพนง่ิ จากภาพยนต์เร่อื ง Roman 1. ครูให้นักเรยี นดภู าพนง่ิ จากภาพยนตเ์ ร่ือง Roman Catholic Chant - Catholic Chant - Crusades เมตตา บรหิ ารจติ และเจริญปัญญาด้วยอา Crusades พรอ้ มตง้ั ประเด็นคาถามให้นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายดงั น้ี ๒2. วกีดรทิะดัศานน์ เดราื่อง เทยกะธรรม ตอน นาปานสติ หรอื ตามแนวทางของศาสนา ส3ว.ดวมีดนิทตัศ์..น.ส์ วเรด่อื ทง�ำไเทมยกะธรรม ตอน ที่ตนนับถือ ท่ีมา : http://2.bp.blogspot.com/-k0TDMmgzDH0 ๓สว. ดสม่อื นตP.์o..eสwวดeทrPาoไมint เรื่อง “กำร ส4ว.ดสมอ่ืนตP์”owerPoint เรอื่ ง \"การสวด สาระสาคัญ 1) ภาพท่ีนักเรียนเห็นนั้นเป็นภาพเก่ียวกับอะไร (การสวดมนต์ของนักรบครู มนต\"์ การขดั เกลาจติ ใจผ่านการสาธยาย เสดกอ่ นเข้าส่สู งคราม) ภาระงาน/ชิน้ งาน ธรรมอย่เู สมอเปน็ การฝกึ ตนให้มีสติร้ตู วั 2) ทาไมนักรบท่ีเราเห็นจึงต้องสวดมนต์ก่อนออกไปรบ การสวดมนต์น้ีให้ - การเขียนสรุปการสวดมนต์แปล แผ่ เกดิ ปัญญา และก่อใหเ้ กดิ ความรักตอ่ ประโยชนอ์ ย่างไร (เป็นการสรา้ งขวญั และกาลงั ใจใหก้ ับนกั รบ สรา้ งสติและสมาธ)ิ เมตตา ในประเด็นท่ีกาหนดลงบนสมุด เพ่อื นรว่ มโลก ประจารายวิชา 3) นกั เรยี นเคยสวดมนตห์ รอื ไม่ แล้วสวดเพื่ออะไร (แสดงความคิดเหน็ ) ขอบเขตเนือ้ หา การสวดมนตแ์ ปลและการแผเ่ มตตา 118625

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 23 เร่ือง การสวดมนต์แปลแแลผะเ่ กมาตรตแาผเ่ มตตา ๑๘๓ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรื่อง การบริหารจติ เจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2. ครูอธบิ ายให้นกั เรยี นเขา้ ใจวา่ การสวดมนต์นัน้ มีจุดมุ่งหมายหลกั เพ่ือการพฒั นา ด้านความรู้ จิตใจและการสร้างสมาธิ ซึ่งเป็นส่ิงสาคัญต่อการปฏิบัติหรือกระทาส่ิงต่าง ๆ ใน 1. นักเรยี นบอกความหมายของกบาทรสสววดด ชวี ติ มนตแ์ ปล แผเ่ มตตาได้ถูกต้อง ข้ันสอน ดา้ นทักษะและกระบวนการ 1. ครูตั้งคาถามว่า “การสวดมนต์คืออะไร ” โดยให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย 2. นกั เรยี นวเิ คราะห์ประโยชนแ์ ละ คาตอบจากนัน้ ครบู ันทึกคาตอบไวบ้ นกระดานดา คุณค่าของการสวดมนตแ์ ปล แผเ่ มตตาได้ 2. ครเู ปิดวีดิทัศน์เรอ่ื ง เทยกะธรรม ตอน สวดมนต์...สวดทาไม ประมาณ 4 นาที แลว้ ใช้ประเด็นคาถามต่อไปนี้ อยา่ งมเี หตผุ ล ดา้ นคณุ ลักษณะ 3. นกั เรยี นเห็นคณุ ค่าการสวดมนตแ์ ปล แแลผะเ่ มกตำตรแาผพ่เมรต้อตมำปรพะรย้อุกมตป์ใชระ้ในยุกต์ใช้ใน ชชีวีวิตติ ปปรระะจจำ�าววนัันไไดด้ออ้ ยยำ่่างงเเหหมมำาะะสสมม ท่ีมา : https://www.youtube.com/watch?v=RsHA6iW88ZGM 1) จดุ ประสงคท์ ่สี าคญั ท่ีสดุ ของการสวดมนตค์ ืออะไร (การสวดมนต์จะทาให้ เจริญสติ ทาใหจ้ ิตเกิดสมาธิ จติ ใจสงบเป็นสขุ ) 118636

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 23 เรอ่ื ง การสวดมนต์แปลแแลผะเ่กมาตรตแาผเ่ มตตา ๑๘๔ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่อื ง การบรหิ ารจิตเจริญปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา 2) เหตใุ ดจึงตอ้ งแปลความหมายของบทสวดมนต์ดว้ ย (เพ่อื ความรแู้ ละความ เขา้ ใจ) 3. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาสื่อ PowerPoint เรอื่ ง \"การสวดมนต\"์ โดยมอบหมายให้ นกั เรียนเขียนสรุปความหมาย ทีม่ า ความสาคัญ และประโยชน์ของการสวดมนต์ แปล แผ่เมตตาลงในสมดุ ประจารายวิชา 4. ครใู หน้ กั เรียนสวดมนต์บทสรรเสริญพระธรรมคุณ แบบไม่แปล สวากขาโต ภะคะวะตา ธมั โม สันทฏิ ฐโิ ก อะกาลิโก เอหิปสั สโิ ก โอปะนะยิโก ปจั จัตตัง เวทติ ัพโพ วิญญูหีติฯ แล้วใช้คาถาม “นักเรยี นรู้ความหมายในบทสวดมนต์นี้หรอื ไม่ ทาอยา่ งไรจงึ จะ เข้าใจ”(แสดงความคดิ เห็น/สวดมนต์แล้วแปลความเปน็ ภาษาไทย) 5. ครูให้นกั เรียนสวดมนต์บทสรรเสริญพระธรรมคุณแลว้ แปล สวากขาโต ภะคะวา ธมั โม ( พระธรรม เปน็ ส่ิงที่พระผู้มพี ระภาคเจา้ ตรสั ไวด้ แี ลว้ ) สนั ทิฏฐิโก (เปน็ สิ่งท่ีผศู้ กึ ษาและปฏิบัติ พึงเห็นไดด้ ว้ ยตนเอง) อะกาลิโก (เปน็ สิ่งท่ปี ฏิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จากัดกาล) เอหปิ ัสสิโก (เปน็ สงิ่ ท่ีควรกล่าวกะผอู้ ื่นว่าทา่ นจงมาดูเถดิ ) โอปะนะยิโก (เปน็ สงิ่ ท่ีควรนอ้ มเข้ามาใสต่ วั ) ปัจจตั ตัง เวทิตพั โพ วิญญหู ตี .ิ (เป็นสิง่ ทผ่ี ู้รู้ พึงรู้ได้เฉพาะตน) 18674

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 23 เร่ือง การสวดมนต์แปลแแลผะ่เกมาตรตแาผ่เมตตา ๑๘๕ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง การบริหารจติ เจรญิ ปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 แล้วใช้คาถาม “หลังจากสวดมนต์บทนี้ นักเรยี นไดร้ ู้อะไรบา้ ง”(กลา่ วถงึ พระ ธรรมคาสอนของพระพทุ ธเจ้า ท่ีเราควรจะต้องศึกษาและปฏิบัตดิ ว้ ตนเอง) “การสวดมนต์แล้วแปลมีความสาคัญอย่างไร” (เป็นการศึกษาธรรมะ ได้รู้ ความหมายของพระธรรมคาสอนของพระศาสดา) 6. ครใู ห้นกั เรียนสวดบทแผเ่ มตตา พร้อมคาแปล สัพเพ สัตตา (สตั วท์ ัง้ หลายทเ่ี ปน็ เพ่ือนทกุ ข์ เกิดแก่เจ็บตายด้วยกนั ทงั้ หมดทัง้ สิน้ ) อะเวราโหนตุ (จงเปน็ สขุ เปน็ สขุ เถดิ อยา่ ไดม้ ีเวรแก่กันและกนั เลย) อพั ยาปัชฌาโหนตุ (จงเปน็ สขุ เป็นสุขเถิด อยา่ ได้เบียดเบียนซงึ่ กันและกนั เลย) อะนีฆาโหนตุ (จงเป็นสุขเป็นสุขเถดิ อย่าได้มคี วามทุกข์กายทกุ ขใ์ จเลย) สุขี อัตตานงั ปะรหิ ะรนั ตุ (จงมีแตค่ วามสุขกายสุขใจ รกั ษาตนใหพ้ น้ จากทกุ ข์ภัย ท้ังสิ้นเถิด) จากน้ันครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย “หลังจากสวดบทแผ่เมตตานี้ นักเรียน ได้รู้อะไรบ้าง”(สัตว์ร่วมโลกท้ังหลายควรใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่เบียดเบียนกัน และกนั ) 7. ครูให้นกั เรยี นให้ฝกึ สวดมนต์แปลในบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ และบทแผ่ เมตตา โดยพร้อมเพรียงกัน แล้วถามส่ิงท่ีนักเรียนรู้สึกและสิ่งที่เรียนรู้เพิ่มเติม (แสดงความคดิ เหน็ ) 18685

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 23 เร่ือง การสวดมนต์แปลแแลผะเ่ กมาตรตแาผเ่ มตตา ๑๘๖ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การบริหารจติ เจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ข้ันสรุป ๑. ครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรำยเพื่อสรุปกำรเรียนรู้ ดังต่อไปน้ี ขั้นส๑ร)ปุ ตำมควำมคดิ เห็นของนักเรียน กำรสวดมนต์มคี ุณคำ่ อะไรบำ้ ง (เป็นกำรสรำ้ ง ก1ำ.รสครร้ำูใหงศ้นรักัทเรธียำนเรปว่ ็นมกกำันรอสภร้ำปิ งรปาัญยใญนำปรเปะเ็นดก็นำรดไงั ลต่คอ่ วไำปมนข้ี ี้เกียจ ตัดควำมเห็นแก่ตัว จิตส1งบ)เปต็นาสมมคำวธาิ)มคิดเห็นของนักเรียน การสวดมนต์มีคุณค่าอะไรบ้าง (เป็นการ สร้า๒ง)ศชรัท่วงธเาวลเปำใ็นดกบา้ำรงสทรี่น้าักงเปรัญียนญจาะตเปั้งใ็นจกสาวรดไมลน่คตว์เาจมรขิญ้ีเกจียิตจภำตวัดนคำวไดาม้ (เมห่ือ็นไแปกท่ต�ำัวบุญจิต สใงนบโรเปงเน็ รสียมนาธกิ)่อนนอน คืนข้ำมปี ฯลฯ) ๒. 2ค)รชูแ่วลงะเวนลักาเใรดียบน้ารง่วทม่นี กกั ันเรวยีิเคนรจำะะตหง้ั ใ์คจวสำวมดสม�ำนคตัญ์เจขรอิญงจกิตำภรสาวนดามไนดต้ (์แเมลื่อะไกปำทราแบผุญ่ เใมนตโรตงำเใรนียปนรกะเอ่ ดน็นนคอุณนคค่ำืนแลขะ้ามนป�ำเี สฯนลอฯแ) นวทำงไปสู่กำรประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน (2ก.ำรคสวรดูแมลนะตน์เักปเ็นรกียิจนทร่ีศวำมสกนันิกวชิเนคใรนาแะตห่ล์ คะวศาำมสสนาำคัญวรขปอฏงิบกัตาิ รเปส็วนดกมำรนขตัด์แเกลละำกจาิตรใแจผ่ ผเมำ่ ตนตกาำใรนปปฏรบิ ะตั เอิดย็นเู่ คสุณมอคเ่าปแน็ ลกะำนราฝเกึ สตนนอใแหนม้ วสี ทตาริ งตู้ ไวั ปเสกู่กดิ าปรญั ปญระำยแุกลตะ์ใกชอ่้ในใหชเ้ีวกิตดิ ปครวะำจมารวกั ัน ต(ก่อาเรพสือ่ วนดรม่วนมโตล์เกป็นรกวมิจถทงึ ี่ศกาำสรนเขิกำ้ ชถนึงคในวำแมตศ่ลระัทศธาำสตนอ่ าพครวะรเปจำ้ฏิบศำัตสิ เดปำ็นหกรือารหกลาักรคข�ำัดสเอกนลา ขจอิตงใศจำผส่านนำกทา่ีตรปนนฏบัิบถัตือิอ)ยู่เสมอเป็นการฝึกตนให้มีสติรู้ตัว เกิดปัญญา และก่อให้เกิด ความรักต่อเพ่ือนร่วมโลก รวมถึงการเข้าถึงความศรัทธาต่อพระเจ้า ศาสดาหรือ หลกั คาสอนของศาสนาที่ตนนับถือ) 118669

187 118770 การวัดและประเมินผล ส่ิงทต่ี ้องการวัด/ประเมนิ วธิ ีการ เคร่ืองมือที่ใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - ตอบคาถามได้ การบอกความหมายของการ - การอธิบาย กสำวรดสมวนดตม์แนปตลแ์ ปแลผ่เแมผตเ่ตมาตตำ - การอภิปราย - วดี ิทัศน์ เรื่อง เทยกะธรรม ถกู ต้องมากกวา่ ร้อย ตอน สวดมนต.์ ..สวดทาไม ละ 80 ด้านทกั ษะ/กระบวนการ - ตอบคาถามได้ การวิเคราะห์ประโยชน์และ - การตอบคาถาม - คาถาม ถกู ต้องมากกว่าร้อย คุณค่าของการสวดมนต์แปล - สวดมนต์แปล - บทสวดมนต์ - วดี ทิ ัศน์ เร่ือง เทยกะธรรม รล้อะย8ล0ะ ๘๐ แผ่เมตตา - การวิเคราะห์ - สวดมนตแ์ ปลได้ ถกู ต้องร้อยละ 80 - การอธบิ าย ตอน สวดมนต.์ ..สวดทาไม - การอภปิ ราย ดา้ นคณุ ลกั ษณะ - อภิปรายกลุ่ม - ประเด็นคาถามสาคัญ - ตอบคาถามได้ การเห็นคุณค่าการสวดมนต์ แ ป ล แ ผ่ เ ม ต ต า พ ร้ อ ม - การตอบคาถาม - บทสวดมนต์ ถูกต้องมากกว่าร้อย ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั - การวิเคราะห์ - วดี ทิ ศั น์ เร่ือง เทยกะธรรม รลอ้ะย8ล0ะ ๘๐ ตอน สวดมนต์...สวดทาไม

188 18781 บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปัญหาและอปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................... ............ ลงชือ่ ......................................ผู้สอน (........................................................) วันท.ี่ .......เดือน..............พ.ศ.............. ความคดิ เห็น/ ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผทู้ ีไ่ ด้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................. ................................................................ ลงชือ่ ......................................ผตู้ รวจ (...........................................................) วันที่..........เดือน................พ.ศ.............

172 189 189 คาแปล บทสรรเสรญิ พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสงั ฆคณุ บทสรรบเสทรสญิ รรพเสรระิญพทุ พธรคะุณพทุ ธคณุ อิติปิ โส ภะคะวา ( เพราะเหตุอย่างนี้ พระผมู้ ีพระภาคเจ้าน้ัน ) อะระหัง ( เป็นผไู้ กลจากกิเลส ) สมั มาสมั พุทโธ ( เปน็ ผู้ตรัสรชู้ อบโดยพระองคเ์ อง ) วชิ ชาจะระณะสัมปนั โน ( เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ) สคุ ะโต ( เป็นผไู้ ปแลว้ ด้วยดี ) โลกะวิทู ( เปน็ ผู้ร้โู ลกอยา่ งแจม่ แจง้ ) อะนตุ ตะโร ปรุ สิ สะธมั มะสาระถิ ( เปน็ ผู้สามารถฝกึ บรุ ุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยง่ิ กวา่ ) สัตถาเทวะมนสุ สานัง ( เปน็ ครผู ู้สอนของเทวดาและมนุษย์ท้งั หลาย ) พทุ โธ ( เปน็ ผูร้ ู้ ผ้ตู นื่ ผเู้ บกิ บานด้วยธรรม ) ภะคะวาต.ิ ( เป็นผมู้ ีความเจรญิ จาแกธรรมส่ังสอนสตั ว์ ดงั นี้ ) บทสรรบเสทรสญิ รรพเสรระิญธรพรมรคะธุณรรมคุณ สวากขาโต ภะคะวา ธัมโม ( พระธรรม เป็นสง่ิ ท่ีพระผู้มพี ระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว ) สันทฏิ ฐโิ ก ( เป็นส่งิ ทผี่ ้ศู กึ ษาและปฏบิ ัติ พงึ เหน็ ได้ดว้ ยตนเอง ) อะกาลิโก ( เปน็ สงิ่ ทีป่ ฏบิ ตั ิได้ และให้ผลได้ไม่จากัดกาล ) เอหปิ ัสสโิ ก ( เปน็ สง่ิ ทีค่ วรกล่าวกะผอู้ ื่นว่าท่านจงมาดูเถิด ) โอปะนะยโิ ก ( เป็นส่ิงทีค่ วรน้อมเข้ามาใส่ตวั ) ปัจจตั ตัง เวทติ ัพโพ วิญญูหีติ. ( เป็นสง่ิ ท่ผี ูร้ ู้ พึงรูไ้ ดเ้ ฉพาะตน ดงั น้ี ฯ ) บทสรรบเสทรสญิ รรพเสรระิญสงั พฆรคะุณสงั ฆคุณ สปุ ะฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( สงฆ์สาวกของพระผมู้ ีพระภาคเจา้ หมูใ่ ด ปฏิบตั ิดีแลว้ ) อชุ ุปฏิปนั โน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( สงฆ์สาวกของพระผมู้ พี ระภาคเจา้ หมูใ่ ด ปฏบิ ัติตรงแลว้ ) ญายะปฎปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ( สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจา้ หมใู่ ด ปฏิบตั ิเพ่ือรธู้ รรมเป็น เคร่ืองออกจากทุกข์แลว้ ) สามีจปิ ฎปิ ันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( สงฆส์ าวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด ปฏิบัติสมควรแล้ว ) ยะททิ งั ( ไดแ้ ก่บุคคลเหล่าน้คี ือ ) จตั ตาริ ปุริสสะ ยุคานิ อฏั ฐะ ปรุ ิสะปุคคะลา ( คแู่ ห่งบุรษุ สี่คู่ นับเรียงตวั ไดแ้ ปดบรุ ษุ ) เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ( นน่ั แหละ สงฆ์สาวกของพระผ้มู ีพระภาคเจา้ ) อาหเุ นยโย ( เปน็ ผู้ควรแกส่ ักการะที่เขานามาบูชา ) ปาหุเนยโย ( เป็นผู้ควรแก่สักการะทจี่ ัดไว้ต้อนรับ ) ทักขเิ นยโย ( เป็นผู้ควรรบั ทักษิณา อัญชะลีกะระนีโย ( เปน็ ผ้ทู บ่ี ุคคลทัว่ ไปควรทาอัญชลี ) อะนุตตะรงั ปญุ ญะเขตตงั โลกัสสาติ. ( เป็นเนือ้ นาบุญของโลก ไมม่ ีนาบุญอ่นื ย่งิ กวา่ ดงั นี้ )


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook