190 117930 บทแผเ่ มตตา สสอออออสสอขุพัพะัะัุขพัพะะนเีเนียเเยวอวอพพีฆีฆาำรรตััตปปาาำำสสตตโโโชัโัชตัตัหาหหำหฌฌนตนตนนนนาาังำำังตตตตโโุ(ปุุหปุหส((จจะนะนัตงงรรตตวเเิหหิ ปุปุ์ท(ะะจน็็นงั้ รรหงสสันันเลขุุขปตตาเเน็ุปุปย(ส(((((จน็็นทจจจสจขุงสส่ีเงงงงัตมเปเเเมุขขุปวปปปีแน็ีแเเท์็นถตนน็็น็ถเตงั้สพิด่คดิสสส่คหุขวือุ่ขขุขุ วลออเานเเเำถำยยปปปมมทิดย่าา่น็็น็นสสุกทไไุขสสสอดดขุขเี่ กขุุขุขยป้มม้ก์ าเเเเ่าีคน็ีเำถถถกยวไยวเิดิดดิดิดรสพาส้เแแขุมบือ่อออุขกกใทนยยยใียจ่กเ่จจำ่ำ่่ำุกดทันรไไไบ็ขเรกุดดดแักบ์กักตขเ้้มม้ลษียบาษา์ ีคีเะนาเยยวียำกกวตซทดรตดิดำันนแึ่ง้วกุนเมแเกบใกยขลใทกหนั่กกหยีใ์ย่เุก้พจแนันนัจพ้)ขเน้ลบ็ซแท้นล์กะจล่งึตง้ัยจำกกาหะำ)ำยกันนักยมกททเแดนัดทลกุ กุลว้เทุกยขลขยะงั้ข)์ใย์ภกกสจ์ภ)ันันยั้ินเยั ลททเ)ทลยงั้้ังยัง้)สหส)ิ้นมิน้ เดเถถทิดดิ ั้ง))ส้ิน)
๑๙๑ แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 24 เรือ่ ง การบรหิ ารจิตและเจริญปัญญา หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เร่อื ง การบรหิ ารจติ เจรญิ ปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่วั โมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา สื่อ/แหลง่ เรียนรู้ ตวั ชว้ี ัด กิจกรรมการเรยี นรู้ 1. ภาพจากการ์ตูน เรื่อง เณรน้อยเจ้าปัญญา ส 1.1 ม 2/10 สวดมนต์ ข้ันนา 2. สือ่ PowerPoint เรือ่ ง \"การบรหิ ารจิตและเจริญปัญญา\" แผ่เมตตา บริหารจิตและเจริญ 1. ครใู หน้ ักเรียนดภู าพจากการต์ ูน เรอื่ ง เณรน้อยเจ้าปญั ญา พรอ้ มใชป้ ระเดน็ คาถามให้ 3. กระดานดา ปัญญาด้วยอานาปานสติ หรือตาม ผูเ้ รยี นร่วมกันอภิปรายหาคาตอบดงั นี้ แนวทางของศาสนาท่ีตนนับถอื สาระสาคญั ภาระงาน/ชน้ิ งาน การฝึกควบคุมกาย วาจา - ใบงาน เร่ือง ประโยชน์ของการบรหิ าร และใจ ไปพร้อม ๆ กันเป็นผลให้จิต จิตเจรญิ ปญั ญา เกิดความสงบและเข้าใจสภาพความ (ทม่ี า : http://www.starupdate.com/wp-content ) เป็นจริงท่ีเกิดข้ึนได้อย่างดี นามาซึ่ง 1) นักเรียนเห็นใครในภาพบ้าง (พระอาจารย์, โชกุน, ซามุไร, หญิงสาวสวย, การพัฒนาการเรียนรู้และดารงชีวิต เดก็ ผหู้ ญงิ , เณรน้อย) นักเรยี นรู้จกั อิกคิวซังหรือไม่ (ร)ู้ อิกควิ ซังมีลักษณะอยา่ งไร (เปน็ เณร เจา้ ปญั ญา) อยใู่ นสังคมอย่างสงบสขุ 2) ทาไมอกิ คิวซังจงึ สามารถตอบปญั หาต่างๆ ได้อย่างถูกตอ้ งมีเหตุและผล (เพราะ ชอบน่งั สมาธพิ ิจารณาหาเหตุและผลของปัญหา) 3) นักเรียนคิดว่าการน่ังสมาธิเจริญปัญญามีประโยชน์อย่างไร (เป็นคาถาม อภปิ รายปลายเปดิ ) 117941
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 เร่อื ง การบรหิ ารจติ และเจริญปัญญา ๑๙๒ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรื่อง การบริหารจติ เจรญิ ปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชว่ั โมง ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ขอบเขตเน้อื หา 2. ครูแนะนาใหน้ ักเรียนเห็นความสาคัญของการทาสมาธิ ดังนี้ - การบริหารจิตและเจริญ “นักเรยี นรู้หรือไม่ว่าการทาสมาธมิ ีประโยชน์กบั บุคคลทกุ คน นักเรียนกค็ วรจะศึกษาวิธกี าร ปัญญาตามหลักสติปัฏฐานเน้นอานา และขน้ั ตอนการนั่งสมาธิอย่างถกู ตอ้ ง” ปานสติ ปัญญา แปลว่า ความรู้ท่ัว ข้นั สอน คือ รู้ทั่วถึงเหตุถึงผล รอู้ ยา่ งชัดเจน รู้ 1. ครใู ห้นักเรยี นศึกษา เร่ือง การบริหารจิตและเจริญปัญญา จากสือ่ PowerPoint เรอ่ื ง บาปบุญคุณ-โทษ รู้ส่ิงท่ีควรทา ควร \"การบริหารจิตและเจรญิ ปัญญา\" โดยกาหนดใหน้ ักเรยี นเขียนแผนผังความคดิ ในใบงาน เว้น ซึ่งปัญญาหรือความรู้ท่ัวนี้แต่ละ เร่อื ง ประโยชน์ของการบริหารจิตเจริญปัญญา ครูสุม่ นักเรียน 2 คนนาเสนอแนวคิดหน้า คนมีไม่เทา่ กนั ชัน้ เรยี น นกั เรียนและครรู ว่ มอภปิ รายเพมิ่ เติม - อานาปานสติ แปลวา่ 2. ครูใหน้ ักเรยี นจบั คหู่ นั หนา้ เข้าหากนั ทากจิ กรรม “อย่าหลบสาบยตา” โดยให้นักเรยี น การระลกึ ถึงลมหายใจเข้า ออก ตาม จ้องตากัน ใครทห่ี วั เราะ หรอื แสดงพฤติกรรมที่พยายามกลั้นหวั เราะถือว่าแพ้ จากนัน้ ทา หลกั สตปิ ัฏฐานเน้นอานาปานสติ คอื การอภปิ รายสรุปกิจกรรมว่า อะไรเป็นสาเหตุท่ีทาใหน้ ักเรียนแพใ้ นเกมน้ี (การขาดสมาธิ การกาหนดรู้ทุกครั้งท่ลี มผา่ นเข้าออก และความต้ังใจทแ่ี น่วแน่) จมกู เพื่อใหจ้ ิตเป็นสมาธิ 3. ครูให้นกั เรียนทดลองฝกึ การบริหารจติ แบบอานาปานสติ โดยปฏิบตั ปิดรงั ะนม้ี ำณ ๕ นำทดี งั น้ี 1) ครูใหน้ ักเรียนหลับตาลงช้า ๆ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2) ครูใหน้ กั เรียนสูดลมหายใจเข้า-ออกยาว ๆ เปน็ จานวน 3 คร้ัง พรอ้ มกับทอ่ ง ดา้ นความรู้ “พทุ ธ” ในขณะหายใจเขา้ ท่อง “โธ” ในขณะหายใจออก 17925
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 24 เรื่อง การบริหารจติ และเจริญปญั ญา ๑๙๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง การบริหารจิตเจรญิ ปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่วั โมง ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา 1. นักเรยี นอธิบายความหมายของ 3) ครูใหน้ กั เรยี นสดู ลมหายใจเขา้ -ออกสนั้ ๆ เป็นจานวน 3 ครง้ั ให้นกั เรียนท่อง การบริหารจติ ได้ถกู ต้อง “พทุ ธ-โธ” ในใจ ด้านทักษะและกระบวนการ 4) ผ้สู อนใหผ้ ู้เรียนสดู ลมหายใจเขา้ ออกด้วยระดับทีส่ ม่าเสมอของผู้เรยี นแตล่ ะคน 2. นกั เรยี นวเิ คราะหค์ ณุ ค่าและ ต่อไป ระหวำ่ งนงั่ สมำธิอำจเปิดเพลงประกอบกำรบรหิ ำรจิตด้วยกไ็ ด้ ความสาคัญของการบรหิ ารจิตเจริญ ปัญญาได้อยา่ งมเี หตุผล 4. ครูใหน้ ักเรยี นเลน่ เกมจอ้ งตาอีกครงั้ โดยใชเ้ วลาในการเล่นประมาณ 3 – 5 นาที โดยให้ ผเู้ รียนรว่ มกันสังเกตการเปลี่ยนแปลงและสรุปผลเปรียบเทียบกับการทากจิ กรรมครัง้ แรก ดา้ นคุณลกั ษณะ โดยการตอบประเด็นดังน้ี 3. นักเรยี นเสนอแนวทางการ ประยุกต์การบรหิ ารจติ เจริญปญั ญา 1) การเล่นในครง้ั น้แี ตกตา่ งจากคร้งั แรกอย่างไรบ้าง (จอ้ งตาได้นานขึ้น ไม่วอกแวก) ใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อยา่ ง 2) ส่งิ ทีเ่ กดิ ขน้ึ เปน็ เพราะอะไร (มสี ตแิ ละสมาธมิ ากขนึ้ ) เหมาะสม 3) เราสามารถนาการบริหารจิตไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไร (พัฒนาสุขภาพจิต พัฒนา บุคลิกภาพ เสริมสุขภาพ) ระหว่างตอบคาถามให้ผู้สอนบันทึกคาตอบบนกระดานดา จากน้นั รว่ มกันสรุปลงในสมดุ บนั ทกึ ประจารายวชิ า 19736
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 24 เรือ่ ง การบรหิ ารจิตและเจริญปญั ญา ๑๙๔ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง การบรหิ ารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 2 ขน้ั สรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความสาคัญของการบริหารจิตและเจริญปัญญาพร้อม วิเคราะห์คุณค่าและนาเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันโดยทา ใบงาน เรื่อง ประโยชน์ของการบริหารจิตเจริญปัญญา (การพัฒนาจิตใจเปน็ การเสริมสรา้ งความเข้มแข็ง ความมุ่งม่ันและกาลังใจที่เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตนเอง ซึ่งจะนาไปสู่การดาเนินชีวิต ในสงั คมอย่างมคี วามสุข) 117974
117985 195 การวัดและประเมนิ ผล สงิ่ ที่ต้องการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เคร่ืองมือทใี่ ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - การตอบคาถาม การอธิบายความหมายของ - การอธิบาย - คาถามสาคัญ - ผ่านเกณฑ์ระดับดี การบริหารจิต - สือ่ PowerPoint เรื่อง ขึน้ ไป - ตรวจแผนผงั ความคดิ ด้านทักษะ/กระบวนการ - การตอบคาถาม \"การบริหารจติ และ การวิเคราะห์คณุ ค่าและ - การอธบิ าย ความสาคญั ของการบรหิ าร - การวเิ คราะห์ เจรญิ ปัญญา\" จติ เจริญปญั ญา - การอภิปราย - การทดลองฝกึ บริหาร - เกณฑก์ ารประเมนิ - ผ่านเกณฑ์ระดบั ดี ด้านคณุ ลักษณะ จิตแบบอานาปานสติ การเสนอแนวทางการ แผนผงั ความคดิ ขึน้ ไป ประยกุ ต์การบริหารจิตเจริญ - การถามตอบ ปญั ญาใชใ้ นชีวิตประจาวนั - การอภิปราย - คาถามสาคัญ - การทดลองฝกึ บริหาร จิตแบบอานาปานสติ - กจิ กรรม “อย่าหลบ สาบยตา” - สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง \"การบริหารจิตและ เจริญปัญญา\" - ใบงาน เรอื่ ง ประโยชนข์ องการ บริหารจติ เจรญิ ปัญญา - ประเด็นคาถามสาคัญ - นักเรยี นมากกว่า - กิจกรรม “อย่าหลบ ร้อยละ 80 ตอบ คาถามไดถ้ ูกต้อง สาบยตา” - กระดานดา - แบบสงั เกตพฤติกรรม
11799696 บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปัญหาและอปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................... ............ ลงชื่อ ......................................ผู้สอน (........................................................) วันท่.ี .......เดือน..............พ.ศ.............. ความคิดเห็น/ ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหารหรือผ้ทู ่ีได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................ .................................................. ลงชอื่ ......................................ผตู้ รวจ (...........................................................) วนั ท่ี..........เดือน................พ.ศ.............
11989707 ชอื่ - สกลุ ............................................ชนั้ .............เลขที.่ ........... ใบงาน เรื่อง ประโยชน์ของการบริหารจติ เจริญปญั ญา หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การบรหิ ารจิตเจริญปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 คาช้ีแจง คให�าน้ชี้แักเจรงยี นใหเขน้ ยี กั นเรเพียน่ือระดมความคิดเกยี่ วกบั ประโยชนข์ องการบริหารจิตเจรญิ ปัญญา เปน็ แผนผังความคดิ ประโยชน์ ของการบริหารจติ เจรญิ ปญั ญา ของการบริหารจิตเจริญปัญญา
๑๙๘ แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 25 เรอ่ื ง การเปน็ ลกู ที่ดีตามหลักทศิ 6 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรื่อง การบริหารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้ ตวั ชวี้ ัด กิจกรรมการเรียนรู้ 1. วีดิทัศน์ เร่ือง “\"พ่อหนูเป็นใบ้\" ส 1.2 ม 2/1 ปฏิบัติตนอย่าง ขั้นนา Silence of Love 2. หนงั สือเรยี นพระพุทธศาสนา ม.2 เหมาะสมต่อบุคคลต่าง ๆ ตามหลัก 1. ครเู ปดิ วดี ิทัศน์ เรื่อง \"พ่อหนเู ปน็ ใบ\"้ Silence of Love แลว้ ให้นักเรยี นร่วมกนั “ ศาสนาที่ตนนับถือตามที่กาหนด อภิปรายประเดน็ ดังต่อไปนี้ สาระสาคญั ภาระงาน/ ชน้ิ งาน หหนนำ้ ้าทท่ีข่ีอขงอบงุคบคุคลทค่พีลึงทมี่พีตึ่องกมนัีต่อกัน - แกผำรนทผำ�งั แคผวนามผคงั คดิ วเำรมื่อคงดิ คเวรา่อื มงหมายและ สร้ำางงคคววำามมสสมั ัมพพนั ันธธเ์ ์กเก้ือื้อหหนนุนุนกกันันแแลละะกกนั ัน นคคนร�ำราอมอมบำบาซคคซ่งึรรึ่งควัวัควแแวำลลามะะมสสสสุขังงั ุขแคคแลมมละคะควำวมามมนั่มคั่นงคขงอขงอง (https://www.youtube.com/watch?v=JVi99ooExLiQ&t=6633ss)) อคงวคำมป์ หระมกำอยบแลขะอองทงคศิ ป์ 6ระกอบของทิศ ๖ 1) จากวีดิทัศน์ นักเรียนรู้สึกอย่างไร (ซ้ึงใจในความรักของพ่อที่มีต่อลูก /แสดงความ คิดเห็น) 2) จากวีดิทัศน์ นักเรียนคิดว่าเด็กหญิงทาหน้าที่ของลูกเหมาะสมแล้วหรือไม่ (ยังไม่ เหมาะสม เพราะไม่เชื่อฟงั และต่อว่าพ่อ) 3) นักเรียนเคยทาไม่ดีต่อพ่อแม่ หรือเคยทาให้พ่อแม่เสียใจบ้างหรือไม่ (เคย/ไม่เคย/ เล่าประสบการณ์) 18981
๑๙๙ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 25 เรือ่ ง การเปน็ ลกู ท่ดี ตี ามหลกั ทศิ 6 เวลา 1 ชั่วโมง หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง การบรหิ ารจติ เจรญิ ปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ขอบเขตเนอ้ื หา 2. ผู้สอนเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนวา่ “บพุ การีมีหน้าที่ต่อบุตร และบุตรก็มีหน้าท่ีต่อบุพาการี ทิศ 6 หลักธรรมที่สาคัญของพุทธ รี ซ่ึงในทางพุทธศาสนาได้กล่าวถึงความสัมพันธ์เช่นน้ีไว้ในหลักทิศ 6 วันน้ีเราจะเรียนกัน ศาสนา เป็นการปฏิบัติหน้าที่ระหว่าง เร่อื ง การเป็นลูกท่ดี ีตามหลักทิศ 6” ตนเองกับบุคคลประเภทต่าง ๆ ท่ีต้อง เก่ียวข้องสัมพันธ์กันในสังคมอย่าง ขั้นสอน เหมาะสมตามหลักธรรมคาสอนของ 1. ครูให้นักเรียนร่วมกันศึกษาความหมายและองค์ประกอบของทิศ 6 ตามหลักพุทธ ศาสนา ย่อมก่อให้เกิดความมั่นคงใน ศาสนาจากหนังสือพระพุทธศาสนา ม.2 พร้อมเขียนสรุปความสาคัญเป็นแผนผังความคิด การอย่รู ว่ มกันในสงั คมอยา่ งสันติสุข ลงในสมุดประจาวชิ า จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 2. ครูเร่มิ กิจกรรม “เส้นทางเบื้องหน้า” โดยมีกติกาวา่ นกั เรียนตอ้ งยอมรับความจริงในส่ิง ด้านความรู้ ที่เคยกระทาหรือเคยทาผิดพลาดไปก็ต้องแก้ไข ยอมรับปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น ซึ่งมีกติกาย่อย 1. นักเรียนบอกความหมายของการ ดังตอ่ ไปนี้ ปฏิบัติตนเป็นลูกท่ีดีตามหลักทิศ 6 ได้ 2.1 ให้ผเู้ รียนยืนเรียงเปน็ แถวหน้ากระดาน 1 แถว 2.2 ผู้สอนจะอ่านพฤติกรรม 15 แบบ โดยอ่านทีละพฤติกรรม หลังฟังคาส่ังแล้วให้ อยา่ งถกู ตอ้ ง ผเู้ รียนคดิ ว่าเคยทาพฤติกรรมนน้ั หรือไม่ ถ้าเป็นพฤติกรรมท่ีไมด่ ีและเคยทา ให้ก้าวถอยหลัง 1 ก้าว แต่ถา้ เปน็ พฤติกรรมที่ดีและทาอยู่เสมอให้ก้าวไปข้างหน้า 1 ก้าว หากไม่เคยปฏิบัติ 2. นักเรียนระบอุ งค์ประกอบของหลัก เลยใหห้ ยุดอยูก่ บั ท่ี พฤตกิ รรม 15 พฤตกิ รรมมดี ังน้ี ทิศ 6 ไดถ้ กู ตอ้ ง 1) ๑ในเดอื1นเทด่ผีอื ำ่นนทมี่ผำา่ เนคมยาชเ่วคยยพช่อว่ แยมพท่อ�ำแงมำท่ นาบงำ้านบ้าน 3. นักเรียนอธิบายวิธีการปฏิบัติตน ตามหลกั ทิศ 6 ได้อย่างถูกตอ้ ง 118929
๒๐๐ ๒๐๐ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 25 เรอ่ื ง การเปน็ ลกู ท่ดี ีตามหลกั ทศิ 6 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง การบรหิ ารจิตเจริญปญั ญาแแผลนะกมาารรจยัดากทาชราเรวยีพนุทรธทู้ ่ี 25 เรอื่ ง การเปน็ ลูกทดี่ ตี ามหลกั ทศิ 6 กหลนมุ่่วสยากราะรกเราียรนเรรียู้ทน่ี ร4ู้ สเรงั อื่คงมศกึกาษรบารศิหาาสรนจาติ เแจลระญิ วปัฒัญนญธรารแมละมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒ2น)ธรรกมร๊ดี โมโห อาละวาด รายวิชา สังคมศกึ ษา ชเวน้ั ลมาัธ1ยมชศั่วึกโษมางปที ่ี 2 รายวิชา สังคมศกึ ษา ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ 32)) พกรดู ๊ดี จาโไมมโด่หีกอับาพล่อะแวมาด่ 4ด้า. นนทักักเษรยีะนแวลิเะคกรราะะบหว์คนวกามาสราคญั ของ 34)) ชพ่วูดยจพาไ่อมแ่ดมกี ่ถบั อื พข่ออแงม่ ก4า.รปนฏักเบิ รตัยี ตินนวติเคารมาหะลหัก์คทวิศาม6สาไคดญั้อยขา่องงมี 45)) ตชว่งั้ ใยจพเรอ่ ียแนมห่ถนือขังสออืง เกหาตรผุปลฏบิ ตั ิตนตามหลกั ทศิ 6 ได้อยา่ งมี 65)) แตอัง้ ใบจหเรยยี ิบนเหงนิ นโังดสยอื ไมไ่ ด้ขอ ดเหา้ ตนผุ คลณุ ลักษณะ 76)) เแถอยี บงหพยอ่ ิบแเมงอ่นิ ยโด่างยไไมมม่ ่ไดีเห้ขตอุผล 5ด้า. นนคกั ุณเรลียักนษเสณนะอแนวทางประยกุ ตใ์ ช้ 87)) ใเถชียเ้ งงินพฟ่อ่มุแเมฟอ่ ือยยา่ ทงง้ัไมทม่ีย่ ีเงั หหตาผุเอลงไม่ได้ ห5ล. กั นกักาเรรปยี ฏนิบเสัตนิตอนแเปน็นวทลากู งทป่ีดรีตะายมกุ หตล์ใชัก้ 89)) ทใชา้เบงนิญุ ฟอ่มุุทเศิฟใือหยบ้ ทรง้ัรทพยี่ บังรุ หษุ าเองไม่ได้ ทหลิศกั 6กาใรนปชฏีวิบติ ปตั ติระนจเปาวน็ ันลไูกดท้อ่ดียีต่างามหลกั 91)0) ทขอาบบญุคุณอุทพิศอ่ ใแหมบ้ ท่ รุกรคพรบง้ั ุรทุษ่ีมาส่ง ทเหศิ มา6ะสในมชวี ิตประจาวันได้อย่าง 1101)) ขตอวาบดค/ุณตะพโ่อกแนมใ่ทสพ่กุ ค่อรแัง้มท่ ่ีมาส่ง เหมาะสม 1121)) ตปวดิ าปดร/ะตตะหู โก้อนงเใสสยี ่พงอ่ ดแังมใส่ พ่ ่อแม่ 1123)) ปทิดาลปารยะขต้าูหวอ้ ขงอเงสเยีมง่ือดไงัมใ่พสอ่พใอ่ จแม่ 1143)) ททาาลใหา้พยขอ่ ้าแวมข่เสอยีงเใมจื่อเสไมียพ่น้าอตใจา 1154)) โทกาหใหกพ้พ่อ่อแแมม่เ่ สียใจเสียน้าตา 3. ผูส้ อน1ส5ร)ุปโกกิจหกกรพรมอ่ แโดมย่ ใช้คาถามต่อไปนี้ 3. ผ1สู้ )อใคนรสครดิุปวกา่ จิ ตกนรเรอมงโยดังยเปใชน็ ค้ ลากู ถทาี่ไมมตด่ อ่ ี ไเปพนรา้ี ะเหตุใด (แสดงความคดิ เห็น) 12)) ใหคลรังคจดิ าวกา่ นตี้ นนเกั อเงรยียังนเจปะน็ เลปกู ลท่ีย่ีไนมพ่ดฤี เตพกิ รราระมเอหะตไุใรดบ(้าแงส(ดแงสคดวงาคมวคาิดมเคหดิ ็นเ)หน็ ) 2) หลงั จากนี้ นักเรียนจะเปลยี่ นพฤตกิ รรมอะไรบ้าง (แสดงความคดิ เห็น) 201028030
๒๐๑ แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 25 เรื่อง การเปน็ ลูกที่ดีตามหลักทศิ 6 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่ือง การบรหิ ารจิตเจรญิ ปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา 3) แนวทางปฏิบัติตนเป็นลูกที่ดีตามหลักทิศ 6 ช่วยเป็นแนวทางให้นักเรียน เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางท่ีดีข้ึนอย่างไรบ้าง (แสดงความคิดเห็นแบบยกตัวอย่าง ประกอบ) 4) หลังจากน้ี จะทาอะไรให้พ่อแม่บ้าง (เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่ทาให้พ่อแม่เสียใจ สร้างความภาคภมู ใิ จให้พอ่ แม/่ แสดงแนวทางปรบั เปล่ียนพฤติกรรมที่ดีขึน้ ) ข้นั สรุป ๑คร. ูใคหรน้ ูใหกั ้นเรักยี เนรรยี ว่นมรก่วนัมอกภันปิอภราิปยรสำรยปุ สบรปุทบเรทียเนรใียนนปในระปเรดะ็นเดังน็ ตด่องั ไตป่อนไป้ี นี้ ๑1.๑ทิศ 6 คืออะไร (บุคคลประเภทต่าง ๆ ที่มีความเกย่ี วข้องสมั พนั ธ์กนั ทางสังคม มีหน้าท่ี และความรบั ผดิ ชอบที่พึงปฏิบัติตอ่ กันดจุ ทิศที่อยูร่ อบตวั ) ๑2.๒ประกอบไปดว้ ยทิศอะไรบ้าง (ทศิ เบ้ืองหนา้ – บิดามารดา, ทิศเบอื้ งขวา – ครูอาจารย์, ทิศเบื้องหลัง - บตุ ร ภรรยา, ทศิ เบ้ืองซา้ ย – มติ รสหาย, ทิศเบ้ืองลา่ ง – ผอู้ ยใู่ ต้บังคับ บญั ชาและลกู จ้าง, ทิศเบ้ืองบน – พระภิกษุ) ๑3.๓หน้าที่ของลูกที่ดเี ป็นอย่างไร (ทาหน้าท่ีของลูก เช่น ดูแล ช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระของ พ่อแม)่ ๑4.๔ ถ้าเราปฏิบัติตนต่อบุคคลทั้งหลายอย่างถูกต้องเหมาะสมจะส่งผลต่อสังคมอย่างไร (สงั คมสงบสุข ไม่มเี ร่ืองบาดหมางทะเลาะเบาะแวง้ กนั เกดิ สันตสิ ขุ ) 128041
202 218025 การวัดและประเมินผล ส่ิงทต่ี ้องการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เคร่อื งมือท่ใี ช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. การบอกความหมายของ - ถามตอบ - คาถามสาคัญ - นักเรยี นมากกว่าร้อย - เกณฑก์ ารประเมนิ ลร้อะย8ล0ะ ๘ตอ๐บตคอาบถาคม�ำไถดำ้ม การปฏิบัติตนเปน็ ลูกท่ีดีตาม - การตรวจแผนผัง แผนผงั ความคิดเร่ือง ถไดกู ้ถตูก้อตง้อง ความหมายและ - ผ่านเกณฑ์คุณภาพ หลักทิศ 6 ความคิดเรื่อง องค์ประกอบของทิศ ระดบั ดีขนึ้ ไป 6 2. การระบุองค์ประกอบ ความหมายและ ของหลกั ทศิ 6 องค์ประกอบของทิศ 6 3. การอธบิ ายวธิ กี ารปฏบิ ัติ - การศกึ ษาคน้ ควา้ ดว้ ย ตนตามหลักทศิ 6 ตนเอง ด้านทกั ษะ/กระบวนการ การวิเคราะห์ความสาคัญ - ถามตอบ - คาถาม - นักเรยี นมากกวา่ 80 ของการปฏิบัติตนตามหลัก - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกต ใหค้ วามรว่ มมือในการ ทิศ 6 - การอธิบาย พฤติกรรม ปกฏำริบปัตฎิกิบจิ ัตกกิรรจิ มกรรม - การวิเคราะห์ - กิจกรรม “เสน้ ทาง - ตอบคาถามผ่านเกณฑ์ - การอภิปราย เบอ้ื งหนา้ ” คุณภาพระดับดีข้นึ ไป ดา้ นคุณลกั ษณะ - นกั เรยี นมากกว่าร้อย ลรอ้ะย8ล0ะ ๘ตอ๐บตคอาบถาคม�ำไถดำ้ม การเสนอแนวทาง - อภปิ รายกลุม่ - ประเด็นคาถาม ถไดกู ้ถตูก้อตง้อเหงมาะสม สาคญั - ตอบคาถามผา่ นเกณฑ์ ประยกุ ต์ใช้หลักการปฏิบัติ - ถามตอบ คณุ ภาพระดบั ดีขน้ึ ไป ตนเปน็ ลูกท่ดี ตี ามหลักทิศ 6 - การอธิบาย ในชวี ิตประจาวัน - การวิเคราะห์ - การอภปิ ราย
203 218036 บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปญั หาและอปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................... ............ ลงช่อื ......................................ผู้สอน (........................................................) วนั ท่.ี .......เดอื น..............พ.ศ.............. ความคิดเหน็ / ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................ .................................................. ลงชื่อ ......................................ผตู้ รวจ (...........................................................) วันที่..........เดือน................พ.ศ.............
๒๐๔ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 26 เรือ่ ง การปฏิบตั ติ นตอ่ พระสงฆ์ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เร่อื ง การบรหิ ารจิตเจริญปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ตัวช้วี ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ / แหล่งเรยี นรู้ ส 1.2 ม 2/2 มีมรรยาทของความเปน็ ศา ขนั้ นา ศสำนสกิ นชกิ นชทนด่ี ที ตดี่ าี ตมำทม่กี ทาก่ีหำ�นหดนด 1. ครูใช้คาถามนาสู่บทเรียนดังต่อไปน้ี แล้วให้นักเรียนออกมาเขียน ๑1.. หกนระงั ดสาือนเรียนพระพทุ ธศำสนำ ม.๒ 2. หนังสือเรียนพระพุทธศาสนา ม.2 คาตอบบนกระดาน สาระสาคัญ 1) หากกล่าวถึงคาว่า “พระ” นักเรียนจะนึกถึงอะไร (นักบวช สมณะ ภาระงาน/ชน้ิ งาน ทุกศาสนามีแนวทางในการปฏิบัติตนต่อ จีวร การกราบ การไหว้ คาพูดทแ่ี ตกต่าง /ผ้สู อนพจิ ารณาคาตอบ) การแสดงบทบาทสมมติในกจิ กรรม “ดูใหร้ ู้อยู่ บคุ คลทค่ี วรเคารพนับถือที่เหมาะสม การศึกษา 2) ครูเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียนว่า “เม่ือเรานึกถึง ‘พระ’ แล้วก็นึกถึง ใหเ้ ป็น” วิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้องทาให้เป็นที่ชื่นชมของ นักบวชท่ีเราให้ความเคารพนับถือเช่นเดียวกับศาสนาอื่น ๆ ที่จะมีวิธีการ ปฏบิ ตั ิตนตอ่ ผู้ทเี่ คารพที่เหมาะสม ในวนั นี้เราจะมาเรียนกนั เร่ือง การปฏิบัติ บุคคลทั่วไปและนามาซ่ึงความสงบสุขของการ ตนต่อพระสงฆ”์ อยรู่ ่วมกันในสงั คม ขอบเขตเน้อื หา ข้ันสอน - มรรยาทของพทุ ธศาสนิกชนทดี่ ี 1. ครูให้นักเรียนทากิจกรรม “ดูให้รู้อยู่ให้เป็น” โดยเร่ิมจากการแบ่งกลุ่ม ผเู้ รียนออกเปน็ 6 กลมุ่ ใหต้ ัวแทนกลมุ่ ออกมาจบั สลากเลือกหัวข้อ ไดแ้ ก่ มรรยาท หรือมารยาท หมายถึง กิริยา 1) การตอ้ นรับแขก วาจาท่ีถือว่าสุภาพเรียบร้อยถูกกาลเทศะ การ 3) การให้ทีน่ ั่งพระภกิ ษุ 2) การยืนรบั พระภิกษุ เป็นผู้มีมรรยาทท่ีดี เป็นส่ิงที่พุทธศาสนิกชนทุก 5) การสนทนากับพระภกิ ษุ 4) การเดินสวนพระภกิ ษุ 6) การรับสงิ่ ของจากพระภิกษุ 128074
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 26 เรอื่ ง การปฏบิ ัตติ นตอ่ พระสงฆ์ ๒๐๕ หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เรอื่ ง การบริหารจิตเจรญิ ปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา คนควรฝึกฝนและปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความเจริญ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทาการศึกษาวิธีการปฏิบัติที่ถูกต้องจาก แกต่ นเองและสงั คม หนังสือเรียนพระพุทธศาสนา ม.2 นักเรียนฝึกซ้อมทาการแสดงบทบาท สมมติในหัวข้อที่ได้รับมอบหมายทั้งรูปแบบการปฏิบัติท่ีถูกต้องและไม่ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ถกู ตอ้ งภายในเวลา 5 นาที ด้านความรู้ 2. ครูสุ่มกล่มุ นักเรียนออกมาทาการแสดงทีละกลุ่ม ใหเ้ วลาการแสดงกลุ่ม 1. นักเรียนบอกวิธีปฏิบัติมรรยาทของ ละ 5 นาที โดยหลังจากแต่ละกลุ่มแสดงเสร็จครูต้องสรุปการปฏิบัติท่ี พุทธศาสนกิ ชนไดถ้ กู ตอ้ ง ถกู ตอ้ งให้ผู้เรียนฟังอีกคร้ังหนง่ึ 3. ครูใหน้ กั เรยี นร่วมกันอภิปรายหาคาตอบในประเดน็ ดงั ต่อไปนี้ ด้านทกั ษะและกระบวนการ 1) เหตุใดจึงต้องปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์แตกต่างไปจากบุคคลท่ัวไป 2. นักเรียนวิเคราะห์คุณค่าของการปฏิบัติตน (พระสงฆ์ถือศลี หรือใชช้ ีวิตทมี่ กี ฎระเบียบมากกวา่ คนทัว่ ไป จงึ มองว่าเปน็ ผู้ ตามมารยาทของพุทธศาสนิกชนที่ดีได้อย่างมี บริสุทธิ์กวา่ ทาใหไ้ ด้ความยอมรับจากพทุ ธศาสนกิ ชน/ แสดงความคิดเหน็ ) เหตุผล 2) หากนักเรียนปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ไม่เหมาะสมจะส่งผลอย่างไร (คน ในสงั คมจะตาหนติ เิ ตยี น ลงโทษ /แสดงความคิดเห็น) ดา้ นคุณลกั ษณะ 3) นักเรียนควรปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ให้เหมาะสมอย่างไร (ให้ความ 3. นักเรียนนาเสนอวิธีการปฏิบัติตามแบบ เคารพ ปฏบิ ัตติ นอยา่ งถูกวธิ ตี ามทีไ่ ดศ้ ึกษาในวันนี้/ แสดงความคดิ เหน็ ) มรรยาทของพุทธศาสนิกชนเป็นบทบาทสมมติ 4. ครแู ละนกั เรยี น รว่ มอภิปรายขยายความเก่ยี วกบั ประโยชน์และขอ้ ดี ได้เหมาะสม การนามรรยาทของพุทธศาสนกิ ชนที่ดไี ปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวัน 128085
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 26 เร่ือง การปฏิบตั ิตนต่อพระสงฆ์ ๒๐๖ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง การบรหิ ารจติ เจริญปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศกึ ษา ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 4. นักเรียนเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้ ขนั้ สรปุ มรรยาทของพุทธศาสนิกชนที่ดีในการดาเนิน ครูให้นักเรียนรว่ มกนั อภิปรายสรุปบทเรียนดังตอ่ ไปน้ี ชีวิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม 1. ศาสนิกชนของทุกศาสนาปฏิบัติตนต่อผู้ที่น่านับถืออย่างไร (ให้ความ เคารพ มีมารยาท และวิธีปฏิบัติที่ให้ความเคารพอย่างเหมาะสมตามแต่ละ ศาสนา) 2. หากทกุ คนสามารถปฏบิ ตั ิตนต่อบุคคลทค่ี วรเคารพได้อย่างถูกต้องจะ ส่งผลอยา่ งไร (เป็นท่ีชืน่ ชมของบุคคลท่ัวไปและนามาซ่ึงความสงบสุขของ การอยรู่ ่วมกันในสังคม) 128096
207 210970 การวดั และประเมินผล สง่ิ ที่ต้องการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เครอื่ งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ การบอกวธิ ปี ฏิบัตมิ รรยาท - ถามตอบ - คาถามสาคัญ - นักเรยี นมากกวา่ ร้อย ของพุทธศาสนิกชน - การศกึ ษาค้นคว้าด้วย - หนงั สือเรียน รลอ้ะย8ล0ะ ๘ต๐อบตคอาบถคามำ� ถไดำ้ม ตนเอง พระพุทธศาสนา ม.2 ไถดูก้ถตูก้อตง้อง - การแสดงบทบาท - กจิ กรรม “ดูให้รู้อยู่ - ตอบคาถามถูกต้อง สมมติ ใหเ้ ป็น” ผา่ นเกณฑ์ระดับดีขึน้ ไป ดา้ นทักษะ/กระบวนการ - ตอบคาถามได้ถกู ต้อง ผ่านเกณฑ์การประเมิน การวิเคราะห์คณุ ค่าของการ - ถามตอบ - คาถาม ดีขึ้นไป - แบบประเมนิ การ ปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทของ - การแสดงบทบาท แสดงบทบาทสมมติ พุทธศาสนิกชนที่ดี สมมติ - กระบวนการกลุ่ม - กจิ กรรม “ดูให้รู้อยู่ - การวิเคราะห์ ใหเ้ ป็น” - การอภปิ ราย ดา้ นคุณลกั ษณะ 1. การนาเสนอวิธกี ารปฏิบัติ - ถามตอบ - ประเดน็ คาถาม - นกั เรยี นมากกว่ารอ้ ย ตำามมแบแบบมบรรมยำรทรขยองา ท ข อ ง - การวิเคราะห์ พพุทุทธธศศำาสสนนกิ ิกชชนนเปเน็ปบ็นทบบทำบทาท - การอภิปราย ส�ำสคาัญคัญ รอ้ ลยะละ8๘0๐ตอตบอคบาคถำ� าถมำม สสมมมมตติิ - กิจกรรม “ดใู ห้รู้อยู่ ได้ถไดกู ้ถตูกอ้ ตงอ้เหงมเหำมะาสะมสม ให้เปน็ ” 2. การเสนอแนวทางการ กปำรระปรยะุกยตุก์ใตช์ใช้ม้มรรรยำาททขของอ ง พพทุุทธธศศำสานสกินชิกนชทน่ดี ใีทน่ีดีในการ กดำารเนดิน�ำเชนวี นิ ติ ชปวี รติ ะปจราะวจัน�ำวัน
208 210981 บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปัญหาและอุปสรรค ....................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ....................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผ้สู อน (........................................................) วนั ท่.ี .......เดือน..............พ.ศ.............. ความคิดเห็น/ ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................ .................................................. ลงชอื่ ......................................ผู้ตรวจ (...........................................................) วันท่.ี .........เดอื น................พ.ศ.............
๒๐๙ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 27 เรือ่ ง มรรยาทชาวพทุ ธ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอื่ ง การบริหารจิตเจรญิ ปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชัว่ โมง ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ตวั ชี้วัด กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ / แหลง่ เรยี นรู้ ส 1.2 ม 2/2 มีมรรยาทของความเป็นศาสนิกชน ขน้ั นา 1. ภาพสนิ ค้าตา่ ง ๆ ทด่ี ี ตามท่กี าหนด 1. ครเู ปดิ ภาพสนิ คา้ ต่าง ๆ แล้วใหชน้คาักถเราียมนตตอ่ อไปบนคี้�ำถำมตอ่ ไปน้ี 2. ภาพ “การทักทาย” สาระสาคญั 1) หากนักเรียนไปเยีย่ มบ้านของคนร้จู ัก 3๓. กสรื่อะPดoานwerPoint เรื่อง ทุกคนควรปฏิบัติตนให้สุภาพเรียบร้อย ท้ังกิริยา จะเลือกนาส่ิงใดไปด้วย (ของฝาก ส่ิงที่ให้ 4ม.ำรสยื่อำทPชoำwวพerทุ Pธoint เรือ่ ง วาจา และใจ เป็นกิจวัตรต่อบคุ คลรอบข้าง อันจะนามา แทนไมตรีจิต/พจิ ารณาคาตอบของผ้เู รียน) ม๔า.รยภาำทพชกาำวรพแุทตธง่ กำยไปวดั ทงั้ ชำย ซ่ึงการมคี วามสัมพนั ธท์ ด่ี ีต่อกัน 2) เม่ือมีแขกมาเยี่ยมท่ีบ้านจะเตรียมส่ิง 5แ6ช7ทช๗๕๖แลาลำ...งั้...ยยะชะภภภแภภภหแำหลยาาาลำำำญญพพพะพพพแะิงิงหลกกกหกกกะญาาาญำำำรรรหรรรงิิงแแแแแแญตตตตตตงิ ง่่งง่งงง่่่ กกกกกกาาาำำำยยยยยยงงไงทงปาาำำไี่ นนนนวมัดอมมอ่เหทวงวงคมมคมัง้ ลชงำลงคะทาคทยสลลงั้ัง้ ม ใดไว้ต้อนรับ อย่างไร (หาน้าให้ด่ืม เตรียม ทง้ั ชายและหญิง ขอบเขตเนือ้ หา ของว่างให้พร้อม จัดให้น่ังในสถานที่รองรับ และดูแลแขกอย่างดี/ พิจารณา - มรรยาทการแต่งกาย คาตอบของผเู้ รียน) การแต่งกาย เป็นมรรยาททางสังคมที่ทุกคนพึง (ทม่ี า: https://goo.gl/hieHL8) 2. นักเรียนร่วมกันฟังการเชื่อมโยงเข้าสู่บทเรียน “ชาวพุทธท่ีดีควรมีการฝึก ปฏิบัติ และเป็นการแสดงถึงขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม รวมถึงอุปนิสัย ฐานะและรสนิยมของแต่ มรรยาทและการแต่งกายให้เหมาะสมกับโอกาสต่างๆ เพ่ือเป็นสร้างความ 8. ภาพการแต่งกายท่ไี ม่เหมาะสม ละบุคคล การแต่งกายให้เหมาะสมกับกาลเทศะทาให้ ประทับใจต่อผู้พบเห็น นามาซ่ึงการสร้างความสัมพันธ์อันดีงาม สามารถทาได้ บุคคลนั้นได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีมารยาทท่ีดี และที่ หลายวธิ ี ดงั นัน้ ในวนั น้เี ราจะเรยี นรู้เรอ่ื ง มารยาทชาวพทุ ธ” สาคัญยังเป็นการให้เกียรติแก่สถานที่และเจ้าภาพอีก ดว้ ย 129029
๒๑๐ แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 27 เร่ือง มรรยาทชาวพุทธ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เร่อื ง การบริหารจติ เจรญิ ปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ข้นั สอน ภาระงาน/ชนิ้ งาน 1. นักเรียนร่วมกันดูภาพ “การทกั ทาย” แล้วสุ่มผู้เรียน 3 คน บอกความหมาย การนาเสนอแบบชดุ สาหรบั ไป ดา้ นความรู้ ของคาว่า “ปฏิสันถาร” โดยผู้สอนเขียนคาตอบของผู้เรียนบนกระดาน แล้ว ร่วมงานพิธีต่างๆให้ถูกต้องตามหลกั 1. นักเรยี นบอกความหมายของคาวา่ “ปฏิสันถาร” ได้ ร่วมกันสรุปความหมายของคาว่า “ปฏิสันถาร ผู้สอนอธิบายเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ มรรยาทของพุทธศาสนิกชนใน ไ2ด.ถ้ กู นตักอ้ เงรียนบอกวิธีการปฏิบัติตนตามมารยาทในการ (การปฏิสันถาร หมายถงึ การทกั ทายปราศรยั การต้อนรับผ้มู าเยอื น แสดงความ กิจกรรม “แฟช่ันนิสตา้ ” ๒แตง่นกักาเยรียไดนถ้ บกู อตก้อวงธิ กี ำรปฏบิ ตั ิตนตำมมำรยำทในกำร เอือ้ เฟอ้ื เผอื่ แผ่) แต่งกำยไดถ้ กู ต้อง ด้านทกั ษะและกระบวนการ 3. นักเรียนจาแนกลักษณะของมรรยาทและการแต่ง กายที่ถูกต้องเหมาะสมและไม่เหมาะสมได้อย่างมี เหตุผล 4. นักเรียนวิเคราะห์คุณค่าของการปฏิบัติตนตาม (ทีม่ า : https://www.matichonweekly.com/hot-news/article_44939944) หลักการต้อนรับ มรรยาทผู้เป็นแขก และการแต่งกาย 2. ครใู ช้สื่อ PowerPoint เร่ือง มารยาทชาวพทุ ธ อธบิ ายเก่ยี วกบั การปฏิสันถาร การแต่งกาย และมรรยาทในงานตา่ ง ๆ แล้วร่วมกันอภิปรายตอบคาถามต่อไปน้ี ถกู กาลเทศะได้อยา่ งเหมาะสม 1) ปฏิสนั ถารแบง่ ออกเปน็ กี่ประเภท อยา่ งไร (ปฏสิ ันถารแบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ อามสิ ปฏิสนั ถาร ,ธรรมปฏสิ นั ถาร) 219130
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 27 เรอ่ื ง มรรยาทชาวพุทธ ๒๑๑ หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 4 เรอ่ื ง การบรหิ ารจติ เจริญปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชัว่ โมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้านคุณลักษณะ 2) การเลือกเตรียมของฝากในต้นคาบ เป็นปฏิสันถารแบบใด (อามิส 5. นักเรยี นเสนอแนวทางการแต่งกายที่เหมาะสมตาม ปฏสิ ันถาร เพราะเป็นการใหว้ ตั ถสุ ่ิงของ) โอกาสต่าง ๆ โดยนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้ 3) การดูแลแขกที่มาเย่ยี มบา้ นนักเรียนอยา่ งดีในต้นคาบ เปน็ ปฏิสันถารแบบ ใด (ธรรมปฏิสันถาร เพราะเปน็ การต้อนรบั ด้วยไมตรจี ิต) อย่างเหมาะสม 3. ครูและนกั เรียนร่วมกันสนทนาเรอ่ื ง มรรยาทการแตง่ กายให้ถกู ต้องตาม กาลเทศะ โดยใช้ภาพการแต่งกายไปวดั งานมงคล และงานอวมงคลทั้งชายและ หญิงประกอบการอธบิ าย (ท่มี า: http://popcornfor2.com/upload/775/news-full-77498855.jpg) 211941
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 27 เรือ่ ง มรรยาทชาวพุทธ ๒๑๒ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง การบรหิ ารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สงั คมศกึ ษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (ทม่ี า: http://www.praew.com/app/uploads/2001177/0/01/11/31-135-1.jp5g.j)pg) (ท่ีมา: https://www.bloggang.com/data/haiku/picture/13228822445591951.j5p.gjp)g) 4. ครูเปิดภาพการแต่งกายท่ีเหมาะสม และไม่เหมาะสมให้นักเรียนวิจารณ์ พร้อมใหเ้ หตผุ ล 211925
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 27 เรือ่ ง มรรยาทชาวพุทธ ๒๑๓ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เร่อื ง การบรหิ ารจติ เจริญปญั ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชว่ั โมง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศกึ ษา 5. ครูเร่ิมทากิจกรรม “แฟช่ันนิสต้า” โดยเร่ิมจากการแบ่งกลุ่มผู้เรียนออกเป็น 6 กลุ่ม มีสมาชิกตามความเหมาะสม ให้ตัวแทนกลุ่มออกมาจับสลากที่ครูเตรียม ไว้ ได้แก่ ชุดไปวัด ชุดไปงานมงคล และชุดไปงานอวมงคล จากน้ันครูแจก กระดาษฟลิปชาร์ท กลุ่มละ 1 แผ่น ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกแบบชุดสาหรับ ไปร่วมงานพิธีต่าง ๆ ตามท่ีกลุ่มตนเองได้รับทั้งชายและหญิงให้ถูกต้อง ตามหลกั เกณฑ์ โดยใชเ้ วลาปฏบิ ตั ิกจิ กรรม 15 นาที 6. ครูสุ่มกลุ่มผู้เรียนออกมานาเสนอ ให้เวลาการนาเสนอกลุ่มละ 3 นาที โดยหลังจาก การนาเสนอของแต่ละกลุ่ม ครูจะต้องสรุปภาพรวมและสอบถามนักเรียนกลุ่มอื่น ๆ ว่าเหมาะสมตามกาลเทศะหรอื ไม่ สามารถแตง่ ไปไดห้ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด ข้นั สรุป ค๑ร.ูใคหรน้ ูใกัหเน้ รยีกั นเรรีย่วนมรกว่ ันมอกภันปิ อรภาิปยสรรำุปยสบรทปุ เรบียทนเดรังยี ตนอ่ ดไงัปตนอ่ ี้ ไปน้ี 211936
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 27 เรอ่ื ง มรรยาทชาวพุทธ ๒๑๔ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง การบรหิ ารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศกึ ษา ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ๑1.๑. การเป็นแขก หรือเจ้าบ้านที่ดีควรปฏิบัติอย่างไร (มีมารยาท ต้อนรับด้วย ไมตรจี ิต มีความสุภาพเรียบร้อย ทง้ั กิริยา วาจา และใจอยูเ่ สมอ) ๑2.๒. เพราะเหตุใดเราถึงต้องศึกษาในเร่ืองมรรยาทการแต่งกายไปร่วมพิธีกรรม ต่าง ๆ (การแต่งกายเป็นมารยาทประการหน่ึงที่เราควรปฏิบัติให้ถูกต้อง โดย ชาวพุทธมีระเบียบข้ันตอนในการแต่งกายที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเพ่ือให้ถูกต้อง ตามกาลเทศะ) ๑3.๓. หากทกุ คนสามารถปฏบิ ัตติ นมมี ารยาทอย่างถูกตอ้ งและเหมาะสมจะสง่ ผล อยา่ งไร (นามาซ่งึ การมีความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกันในสังคม) 214 197
215 211985 การวัดและประเมินผล สง่ิ ท่ีต้องการวัด/ประเมนิ วธิ กี าร เคร่ืองมือท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ - คาถามสาคัญ - ตอบคาถามได้ถูกตอ้ ง - ภาพ “การทกั ทาย” มากกวา่ ร้อยละ 80 1. การบอกความหมายของคา - ถามตอบ - กระดาน ว่า “ปฏสิ นั ถาร” ได้ - การอธบิ าย 2. การบอกวิธกี ารปฏบิ ัติตนตาม มารยาทในการแตง่ กายได้ถูกตอ้ ง ด้านทกั ษะ/กระบวนการ 1. การนกั เรียนจาแนกลักษณะ - ถามตอบ - คาถาม - นักเรียนมากกวา่ ร้อย ของมรรยาทและการแตง่ กายที่ - การตรวจ - กิจกรรม “แฟชั่นนสิ ตา้ ” รลอ้ ะย8ละ0 ๘ต๐อบตคอาบถคาำ�มถไำดม้ ถูกต้องเหมาะสมและไมเ่ หมาะสม ตัวอย่างการแต่ง - เกณฑ์การประเมินการตรวจ ไถดกู ถ้ ตูก้อตง้อง 2. การวเิ คราะห์คณุ ค่าของการ กายทีเ่ หมาะสม ตัวอยา่ งการแตง่ กาย - ผ่านการประเมนิ การ กตำรรวตจรตวั จอตยัวา่ องกยา่ำรงแต่ง กปำฏรบิ ปัตฏิติบนัตติตานมตหำลมักหกลาักรกตำ้อรนตร้อับนรับ - การวิเคราะห์ - สอ่ื PowerPoint เรือ่ ง กกำารยแในตร่งะกดำยับใดนขี รนึ้ ะไดปบั มารยาทชาวพทุ ธ ดีขน้ึ ไป มรรยาทผเู้ ป็นแขก และการแตง่ - การอภิปราย - ภาพการแต่งกายไปวัดทัง้ กายถกู กาลเทศะได้อย่าง - กระบวนการ เหมาะสม กลุ่ม ชายและหญิง - ภาพการแต่งกายงานมงคล ท้ังชายและหญิง - ภาพการแตง่ กายงาน อวมงคลท้ังชายและหญงิ - ภาพการแตง่ กายที่ไม่ เหมาะสม ด้านคณุ ลักษณะ - ประเดน็ คาถามสาคญั - นกั เรยี นมากกว่าร้อย การเสนอแนวทางการแต่งกายที่ - อภิปรายกลุ่ม - กจิ กรรม “แฟชน่ั นสิ ต้า” รลอ้ ะย8ละ0 ๘ต๐อบตคอาบถคาำ�มถไำดม้ ไถดกู ถ้ ตูก้อตง้อเหงเมหามะำสะมสม เหมาะสมตามโอกาสต่าง ๆ โดย - ถามตอบ นาไปประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั - การวเิ คราะห์ - การนาเสนอ หน้าชั้นเรียน
216 211996 บันทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปญั หาและอุปสรรค ....................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ......................................ผ้สู อน (........................................................) วันท่ี........เดือน..............พ.ศ.............. ความคิดเห็น/ ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผูท้ ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................ .................................................. ลงช่อื ......................................ผู้ตรวจ (...........................................................) วันท.่ี .........เดือน................พ.ศ............
๒๑๗ แผนการจดั การเรียนร.ูท่ี ๒๘ เรอ่ื ง วันสำคญั ทางศาสนา เวลา ๑ ชั่วโมง หนว> ยการเรียนร.ทู ่ี ๔ เรือ่ ง การบรหิ ารจติ เจรญิ ปญD ญาและมารยาทชาวพทุ ธ กล>ุมสาระการเรยี นรู. สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปทR ่ี ๒ ตวั ชีว้ ัด กิจกรรมการเรยี นร.ู สอ่ื / แหลง> เรยี นร.ู ส ๑.๒ ม ๒/๔ อธิบายคำสอนที่เกย่ี วเนอ่ื งกับ ขั้นนำ ๑. ภาพเหตุการณMการตรัสรู?และการแสดงปฐม ๑. ครูทบทวนความรู?เดิมในบทเรียนพุทธประวัติ โดยเปTดภาพเหตุการณM เทศนาแกปG Wญจวคั คยี M วนั สำคญั ทางศาสนา และปฏบิ ตั ิตนไดถ? กู ตอ? ง สาระสำคญั การตรัสรู?และการแสดงปฐมเทศนาแกGปWญจวัคคียM โดยตั้งคำถามให?นักเรียน ๒. สอื่ PowerPoint เรือ่ ง วโนั อสก�ำาคสญั สทำำคงัญศำศสานสำนเปิก็นชโนอรกวำมสสตำ�ัวคกญั ันทเพี่ศำื่อสรนGวิกม รGวมกันอภปิ รายหาคำตอบ ดงั นี้ “วนั สำคัญทางพระพุทธศาสนา” ชกนิจรกวรมรตมวั กระนั ลเพึกอ่ื ครำ่วสมอกนจิ แจลกะรรเหมตรุกะาลรึกณถึงMสคำำ�คสัญอนเพ่ือ ภาระงาน/ ชนิ้ งาน แคลวะาเมหสตาุกมำัรคณคีส์แำ�ลคะัญเปในN ศแำนสวนทำาเพงือ่ปคฏวิบำัมตสิรำGวมมมกัคันแี ใลนะ - การเขียนผงั ความคิดสรุปวนั สำคญั เสปงั น็คแมนวทำงปฏิบตั ิร่วมกนั ในสงั คม ทางพระพุทธศาสนา (ในประเดน็ ท่ี ขอบเขตเนอ้ื หา กำหนด) วันสำคัญทางศาสนาเปNนโอกาสให?ศาสนิก ชนได?รวมตัวกันเพื่อระลึกถึงพระเจ?า ศาสดา หรือ ผู?นำทางศาสนาของตน รวมไปถึงหลักคำสอน ด?วย (ท่มี า : www.buddhamap.org) (ทีม่ า : hppt://story.co.story) การดำเนินกิจกรรมทางศาสนาที่สาวก หรือศาสนิก พระพุทธเจา? ตรัสร?ู พระพุทธเจ?าแสดงปฐมเทศนา ๑) จากการที่นักเรียนได?ศึกษาพุทธประวัติแล?วนั้น ภาพทั้ง ๒ ภาพนี้ ชนได?ยึดถอื เปNนแนวทางปฏิบตั ริ Gวมกนั เปNนเหตุการณMใด (พระพุทธเจ?าตรัสรู?พระธรรม และพระพุทธเจ?าแสดงปฐม เทศนาแกปG ญW จวัคคยี M) 221070
แผนการจัดการเรียนร.ทู ่ี ๒๘ เร่ือง วนั สำคญั ทางศาสนา ๒๑๘ หนว> ยการเรียนรท.ู ่ี ๔ เรื่อง การบรหิ ารจิตเจรญิ ปญD ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ช่วั โมง กลุม> สาระการเรียนร.ู สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศกึ ษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปทR ี่ ๒ จุดประสงคWการเรยี นรู. ๒) ทั้ง ๒ เหตุการณMนี้มีความสำคัญตGอพระพุทธศาสนาอยGางไร (เปNน ดา. นความรู. ๑. นักเรียนอธิบายคำสอนที่เกี่ยวเนื่องกับวัน วันที่ถือกำเนิดพระธรรมและพระสงฆMขึ้นครั้งแรกในโลก มีพระรัตนตรัยครบ สำคัญทางศาสนาไดถ? กู ตอ? ง องคสM าม) ๓) พุทธศาสนิกชนจะระลึกถึงเหตุการณMและความสำคัญนี้ได?อยGางไร (จัดตง้ั เปนN วันสำคญั ทางศาสนา) ดา. นทกั ษะและกระบวนการ ๔) ทั้ง ๒ เหตุการณMนี้เปNนวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่ชื่อวGาอะไร ๒. นักเรียนวิเคราะหMความสำคัญของการปฏิบัติ ตนในวันสำคัญทางศาสนาไดอ? ยGางมีเหตผุ ล (วนั วิสาขบชู า วันอาสาฬหบชู า) 2. ครูกลGาวเชื่อมโยงนำเข?าสูGบทเรียนวGา “วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เปNนวันที่บGงบอกถึงเหตุการณMสำคัญ ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยพุทธกาล ดังนั้นวัน ดา. นคณุ ลักษณะ สำคัญทางพระพุทธศาสนาไมGได?มีเพียงแคGวันวิสาขบูชาและวันอาสาฬหบูชา ๓. นักเรียนเข?ารGวมกิจกรรมและปฏิบัติตนในวัน แตGยังมีวันอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู?จักกับวันสำคัญ สำคัญทางศาสนาได?อยาG งเหมาะสม ทางพระพุทธศาสนาตGาง ๆ พร?อมกับประวัติที่มาและหลักธรรมในวันสำคัญ นัน้ ๆ” ขัน้ สอน ๑. ครูและนักเรียนรGวมกันศึกษาเรื่องวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จากส่ือ PowerPoint เรอ่ื ง “วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา” ๒. ครูเริ่มต?นกิจกรรม “เกม วันสำคัญ” ด?วยการอธิบายกฎกติกาในการเลGน กิจกรรมใหน? ักเรียนรบั ทราบและปฏิบัตกิ ิจกรรม ดงั นี้ ๑) ครูแบGงผ?เู รียนออกเปนN ๒ กลมุG 221081
แผนการจดั การเรียนร.ูท่ี ๒๘ เรอ่ื ง วนั สำคญั ทางศาสนา ๒๑๙ หน>วยการเรียนรท.ู ี่ ๔ เร่ือง การบริหารจิตเจริญปDญญาและมารยาทชาวพทุ ธ เวลา ๑ ชว่ั โมง กล>มุ สาระการเรยี นร.ู สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปทR ี่ ๒ ๒) ครูตั้งคำถามเกี่ยวกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งนักเรียนจะต?อง แขGงขันตอบคำถามเก็บคะแนนในรูปแบบผลสำรวจ โดยครูเตรียมข?อมูล เกี่ยวกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาจากการสำรวจนักเรียนจำนวน ๕๐ คน ทีมใดมีคะแนนสะสมสูงสุดจะเปNนฝÅายชนะ (รูปแบบคล?ายกับรายการ ๔ ตอG ๔ แฟมลิ ี่เกม) เชGน คำถามขอ. ที่ ๑ ถา. พูดถงึ วันวสิ าขบชู าผ.ูคนจะนึกถึงเร่ืองอะไร (ตวั เลอื กจะมาจากการสำรวจ) - ประสูติ ตรัสรู. และปรินิพพานวันเดียวกัน (แต?มตามจำนวน ผู?สำรวจทต่ี อบ เชนG ๒๓ แต?ม) - ไตรลกั ษณW (แต?มตามจำนวนผสู? ำรวจท่ีตอบ เชนG ๑๕ แตม? ) - วันสำคัญระดับนานาชาติ (แต?มตามจำนวนผู?สำรวจที่ตอบ เชGน ๗ แต?ม) - ฯลฯ (แต?มคำตอบทั้งหมดรวมกันจะต?องได?เทGากับ ๕๐ ตาม จำนวนการสำรวจ) คำถามข.อท่ี ๒ ถา. พดู ถงึ วนั อาสาฬหบชู าผู.คนจะนกึ ถงึ เร่ืองอะไร - มชั ฌมิ าปฏปิ ทาหรอื ทางสายกลาง - ปฐมเทศนา - เกิดพระภิกษุรปู แรกในพระพทุ ธศาสนา - ฯลฯ 20129
แผนการจดั การเรียนรู.ท่ี ๒๘ เรื่อง วนั สำคญั ทางศาสนา ๒๒๐ หน>วยการเรยี นร.ทู ี่ ๔ เรือ่ ง การบรหิ ารจติ เจริญปญD ญาและมารยาทชาวพทุ ธ เวลา ๑ ช่ัวโมง กลม>ุ สาระการเรียนร.ู สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปRที่ ๒ คำถามข.อที่ ๓ ถา. พดู ถงึ วันมาฆบูชาผู.คนจะนกึ ถงึ เร่อื งอะไร - โอวาทปาติโมกขW - ขนึ้ ๑๕ คำ่ เดอื น ๓ - จาตรุ งคสนั นิบาต - ฯลฯ ๓) โดยในระหวGางการแขGงขันครูและนักเรียนรGวมกันอภิปรายใน ประเดน็ ของที่มาของคำตอบและวันสำคัญน้ัน ๆ ๔) ในการแขGงขันนักเรียนแตGละกลุGมจะต?องสGงตัวแทนออกมากลุGมละ ๑ คน โดยอาศัยโอกาสการตอบด?วยการยกมือตอบ ผู?ที่ยกมือกGอนจะมีสิทธิ์ ตอบคำถามกGอน และจะมีสิทธิ์เลือกวGาจะเลGนเอง หรือโยนให?อีกทีมเลGน ทีม ทไ่ี ด?เลนG จะตอ? งตอบ (๑) คำตอบที่มีอยูGในผลสำรวจบนหน?าจอให?หมดเพื่อคว?าคะแนน ท้งั หมดโดยหา? มปรกึ ษากนั ในระหวาG งการเลGน (๒) ถ?าตอบสิ่งที่ไมGมีในผลสำรวจหรือตอบไมGทันภายใน เวลา 5 วินาที จะถือวGาตอบพลาด ๑ ครั้ง หากตอบพลาดครั้งที่ ๓ ทีมฝÅาย ตรงข?ามจะสามารถปรึกษากันได? และถ?าหากตอบพลาดครั้งที่ ๔ ทีมฝÅาย ตรงข?ามจะมีสิทธข์ิ โมยคะแนนในรอบน้ัน (๓) ให?หัวหน?าทีมตอบเพียงคำตอบเดียว ถ?าคำตอบที่ตอบมานั้นมี อยูGในผลสำรวจจะสามารถขโมยคะแนนที่อีกทีมทำไว?มาได?ทันที แตGถ?า 22030
แผนการจดั การเรียนรูท. ่ี ๒๘ เร่อื ง วนั สำคญั ทางศาสนา ๒๒๑ หนว> ยการเรียนรูท. ี่ ๔ เรอ่ื ง การบริหารจติ เจริญปDญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ชั่วโมง กลุ>มสาระการเรียนร.ู สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ช้นั มัธยมศกึ ษาปRท่ี ๒ คำตอบนั้นไมGมีอยูGในผลสำรวจ คะแนนจะกลับเปNนของทีมที่ตอบไปตอน แรก โดยจะทำการแขงG ขันท้ังหมด ๕ รอบ ๓. ครูดำเนินกิจกรรม “เกม วันสำคัญ” จนเสร็จสิ้น กGอนจะมอบหมายให? นักเรียนแตGละคนเขียนการสรุปวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาวันตGาง ๆ ลง ในสมดุ บันทกึ ประจำรายวิชา โดยมีประเด็นคำถาม ดงั ตGอไปนี้ ๑) ยกตัวอยGางเหตุการณM หรอื หลกั ธรรมที่เกิดขน้ึ ในวนั สำคญั น้นั ๆ ๒) เหตุการณM หรือหลักธรรมนัน้ (ข?อ ๑) เกยี่ วข?องกับวันสำคญั อยGางไร ๓) นักเรียนปฏิบัติตนอยGางไรให?เหมาะสมกับวันสำคัญดังกลGาว ปฏิบัติ ตนดงั กลาG วแล?วเกิดประโยชนอM ยGางไร ข้นั สรปุ ครูและนักเรียนรGวมกันอภิปรายสรุปสาระสำคัญที่เกี่ยวกับวันสำคัญทาง ศาสนาในประเด็นของการวิเคราะหMคุณคGาและนำเสนอแนวทางการ ปกำรระปยรุกะตยMใกุชต?ใน์ใช้ใีวนิตชปวี ริตะปจรำะวจัน�ำวหนัรือหเพรือรเาพะรเหำะตเุใหดตนุใักดเนรียกั นเรจียึงนตจ?องึ งตศอ้ ึกงษศากึ ใษนำเรื่อง นในี้ เรอื่ งน้ี (วันสำคัญทางศาสนาเปNนโอกาสให?ศาสนิกชนได?รวมตัวกันเพื่อระลึกถึงพระ เจ?า ศาสดา หรือผู?นำทางศาสนาของตน รวมไปถึงหลักคำสอน ด?วยการ ดกำรเนด�ำินเกนิจนกรจิ รกมรรทมาทงศำงาศสำนสานทำี่สทาสี่ วำกวกหหรรืออื ศศาำสสนนิกกิ ชชนได?้ยึดถือือเเปป็นNนแแนนววททำงาง ปฏิบตั ริ วG่ มกัน) 222041
๒๒๒ 222025 การวัดและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี อ7 งการวดั /ประเมิน วิธีการ เครื่องมือท่ีใช7 เกณฑA - ตอบคำถามไดถK ูกตอK ง ดา7 นความรู7 - คำถามสำคญั ตามเกณฑOรอK ยละ ๘๐ - ส่ือ PowerPoint เรอ่ื ง ก า ร อ ธ ิ บ า ย ค ำ ส อ น ที่ - ถามตอบ “วนั สำคญั ทาง - ตอบคำถามไดถK ูกตKอง พระพุทธศาสนา” ตามเกณฑOรอK ยละ ๘๐ เกี่ยวเนื่องกับวันสำคัญทาง - การอธบิ าย - คำถาม - ตอบคำถามไดKถูกตKอง ศาสนา - สื่อ PowerPoint เรอ่ื ง เหมาะสม “วนั สำคญั ทาง - ปฏิบตั ิไดKถกู ตKองผาY น ด7านทักษะ/กระบวนการ พระพทุ ธศาสนา” เกณฑOที่กำหนด - กิจกรรมเกม “วันสำคัญ” การวิเคราะหOความสำคัญ - ถามตอบ - ประเด็นคำถามสำคัญ ของการปฏิบัติตนในวัน - การวิเคราะหO สำคัญทางศาสนา - การอภปิ ราย - กระบวนการกลYมุ ดา7 นคณุ ลกั ษณะ - อภปิ รายกลมYุ การเขKารYวมกิจกรรมและ - ถามตอบ ปฏิบัติตนในวันสำคัญทาง ศาสนา
๒๒๓ 222036 บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรียนรูK ....................................................................................................................................................................... ปญ_ หาและอุปสรรค ....................................................................................................................................................................... ขKอเสนอแนะและแนวทางแกไK ข ....................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผูKสอน (........................................................) วันท่.ี .......เดือน..............พ.ศ.............. ความคดิ เหน็ / ข7อเสนอแนะของผูบ7 ริหารหรือผูท7 ่ีได7รับมอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ......................................ผูKตรวจ (...........................................................) วันท.ี่ .........เดือน................พ.ศ............
๒๒๔ แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 29 เร่ือง ศาสนพธิ ี หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 เรือ่ ง การบรหิ ารจติ เจรญิ ปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ช่ัวโมง ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ตวั ชีว้ ดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้ ส 1.2 ม 2/3 วิเคราะห์คุณค่าของศาสนพิธี และ ขัน้ นา 1. ส่ือ PowerPoint 1. ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนในบทเรียนวันสาคัญทาง เรื่อง “ศาสนพิธี” ปฏิบตั ติ นได้ถูกต้อง พระพุทธศาสนาท่ีไดเ้ รียนไปในคร้ังท่ีแล้ว โดยใชป้ ระเดน็ คาถามดงั นี้ 2. อปุ กรณ์ประกอบศาสนพิธี สาระสาคญั พิธีกรรมของแต่ละศาสนา มีขึ้นเพ่ือให้สมาชิกใน 1) พระพุทธศาสนามีวันสาคัญอะไรบ้าง (วันวิสาขบูชา วันมาฆบูชา วัน สงั คมไดป้ ฏิบัติ เพือ่ ใหศ้ าสนาสามารถดารงอยู่ได้ อาสาฬหบูชา วนั อฏั ฐมีบูชา วันเขา้ พรรษา วันออกพรรษา วนั ธรรมสวนะ) 2) เมื่อถึงวันสาคัญทางพระพุทธศาสนา จะมีการปฏิบัติตนอย่างไร ภาระงาน/ชน้ิ งาน ขอบเขตเนือ้ หา - การแสดงสถานการณจ์ าลองการ ศาสนพิธี คือ พิธีกรรมหรือระเบียบแบบแผนต่าง ๆ (ทาบญุ ฟังธรรม ใส่บาตร เวยี นเทียน) ปฏิบัติศาสน-พธิ ี 3) การกระทาเหลา่ นเ้ี รยี กวา่ อะไร (ศาสนพิธี) (ในหัวขอ้ ที่ได้รบั มอบหมาย) ท่ีดีงาม ที่พึงปฏิบัติในทางศาสนา การเรียนรู้ถึงคุณค่า และปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องตามศาสนพิธีท่ีสาคัญ 2. ครูกล่าวเพ่อื นาเข้าสู่บทเรียนวา่ “ในครง้ั ท่แี ล้วเราเรยี นเร่ืองวันสาคัญทาง ในศาสนา เป็นหน้าที่ของศาสนิกชนที่พึงปฏิบตั ิ เพ่ือเป็น พระพุทธศาสนากันไปแล้ว ในวันน้ีเราจะมาดูกัน ว่าในวันสาคัญน้ัน การสืบต่ออายุของศาสนาให้เจริญงอกงามอยู่ในสังคม พทุ ธศาสนกิ ชนทากิจกรรมอะไรกัน มีขนั้ ตอน มีพิธีการอย่างไร ให้นักเรยี นได้ สบื ไป ลองทาความรู้จักกับรูปแบบท่ีถูกต้อง”รวมอยู่ด้วย ดังนั้นเราจึงจาเป็นต้อง เรียนรู้พิธีกรรมของศาสนาอื่น ๆ เพ่ือรู้และเข้าใจในศาสนาอ่ืนด้วย เราจะได้ อยู่รว่ มกันอยา่ งมคี วามสขุ ” ขน้ั สอน 1. ครูใช้ส่ือ PowerPoint เร่ือง “ศาสนพิธี” ประกอบการอธิบาย ความหมายและความเป็นมาของศาสนพิธี แล้วให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย 222074
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 29 เรื่อง ศาสนพิธี ๒๒๕ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การบรหิ ารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ หกลนมุ่ว่ สยากราะรกเรายี รนเรรียูท้ น่ี ร4ู้ สเรงั อ่ืคงมศกึกาษรบารศหิ าาสรนจาิตเแจลระิญวปฒั ัญนญธรารแมละมารยาแทผชนากวาพรจุทดั ธการเรยี นร้ทู รี่ 2าย9วิชเรา่ืองสังศคามสศนึกพษิธาี ๒๒๕ จกุดลมุ่ปสระาสระงกคาก์ ราเรรเยีรนยี นรู้รสู้ ังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมท“ศีด่ างี สามนพพิธึงีมปีคฏวบิ าัตมใิ หนมทาายงศว่าาสอนย่าางทรไาปี่ รยฏ”วิบ(ิชตัพาสิิธืบีสกังรตคร่อมมกศนั หึกมรษาือ)าระเบียบแบบแผนต่าง ๆ เวลา 1 ชั่วโมง ชเวั้นลมาธั 1ยมชศั่วกึ โษมางปที ี่ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ดา้ นความรู้ ทท2ผ3ขไดไผ2ขท“ทผ“ไ๒กดดศอ้้อ้ัางาดี่ดออ...ศำ้ี่ดำ.้้แแตออหหาแ้ีงดดรำอีงกก่สคอาาาคคคก้้าทผผสำำ่่มบบนไรมม่รรรม้้อนาากกบปกูแูููตตนนแพแแปปดาาพพำนนพบา่า่ลลล้้ารริธ่่ผาาริธึง�้้ีงงำ่งึงฝฝททีะมะะำ้ปทมีกปกถถฝนนนปนาาีๆๆคฏคีำ�าึึงงลนฏบบัำ่ัักวบกกรวบิคคุ่เเมกกิบุุญญาทเกกำเเญุ ววัตกาารนถรรมัตมี่ยีย่าตตาาิใีรรตยีีำยยึงักหใิ บหนววมมัักกจจคนรกันนนเกกมุมญทหหบบััรดดจวบทรรรบับั าำียาำมมัาเเดต่วำ่่ำววยยคคพพงมนตตาาตังกเมมมศววรรคิธิธหศยยรรเรบก่ก่ำกาา่ื่ืปออีกีกรำมอสัอานกกัันนกคคงง็รรนื่สอำตยนยาาไไสำรรววสสนยงททรรำ่ร่ารมมา8าานนนไำงถถงถทยยมมนนททคทกไททไวววกธธี่ปเเร้ัน้นั รยวาปี่นาาปปำนนรรล”ฏร”ำธยยยฏำ็็รรนนๆๆาาุ่มมถบิ รภภ(ภเมมบิเเ(มมพวเกรัตพกกัตตโัตปตั าาาี่ิธมยดิสกก่ี่ียยิธตตตน็ิสยกี วืบยีาากกกววำาาบืมภรกกรรใกกรตหหาาหรำตหัตำักกบรรรัั่อบบำาามอ่รต้นมรรปปรรกรรกรรกกววาัำกหฏฏนั าาำกหกกันหดดรยเรรยยิิบบมำราาวรมนนาลือปลลาััรตตียรรือดรำ้้ะาารฏ)ถะะถถิิตตน)รนะเกวิบเเววกกััวอะนเ�้ออำำาาาบตั าาเียับีียยยรรรบยยรริตยี กดสะะถดดสสียททวับ1ำใเเงัวัังงใใบนออบบแรฆ-นนาฆฆร8แดดทบเีียยยททเเทะรบกกรรบบบอสำ่ืเอซาาื่่ืออบบฐฐนังขขแดนน่ึงงิินนงงฆยีแ้ั้ัผนนกหกบทกกผนพตตฐัพพวแแำาาขนาตินขออิธิิรธธลลรรนั้นต่ำ้อีนนถกีีกกะะถถงตแ่าเวรแแรรกกกววรงอำลรๆลลรราาาาาียยนมะมมยยๆะะรรรง 1จุด. ปนรกัะเสรงยี คน์กอาธริบเราียนควราู้ มหมายของศาสน-พิธีได้ถูกต้อง ถ3แว.ลาะยคขผรอ้ ู้แาหอบ้ำา่งมบกตนลำ่ ุ่้มางฝนๆนักเกรกียา่ รนวจกเปัดบั เ็นพคิธร8ีก่ือรงกรไลทมุ่มยนธั้นโดรๆรยมใหก้นาักรเกรรียวนดนนับ้า 1ก-า8รทซอ่ึงดหกัวฐขิน้อเกรีายรง 2ไ21ดด...้า้ถนูกนนนตคักกักั ้อวเเเรรรงาียียยี มนนนรรรอู้ ะะธบบบิ ุขุขายัน้นั้ คตตวออานนมขขหออมงงากกยาาขรรอปปงฏฏศบิิบาัตัตสศิินศศำ-พาาสพสสิธนธิ นนีไพีไดพพดธิ้ถ้ถิธิธีตูกีตีตูก่ำตา่่าตง้องง้อๆงๆง ทด๓ังอ.ตดค่อผรไ้าปูแปบน่าี้ง่ กเาลมรุ่มือทนไาดกั บ้หเรุญัวียขตน้ัอกเปบขน็อาตง๘แรตกก่ลาละรมุ่ กถวลโาุ่มดยยแภใลหัต้วน้ตใักาหเร้นาียรักนเกนราีับยรนถ๑แว-ตา๘่ยลสะซังกง่ึ ฆหลทุ่วัมาขรนอ้่วเมกรกียาันงร ได้ถูกตอ้ ง ศถดวึกงั าษตยา่อผขไ้าปนั อนตาอี้ บนนกอ้าำยฝร่านทงลำ� กบะาเุญอรตยีจกัดั บปเคำรรตะ่ือมรงาไณทกยำ1ธร0รถรวนมำายกทภาี ตั รตกำรหวดำรน้า กกำารรถทวอำดยกสฐงั ินฆทกำานร รใม54ม4ศ5ใท๔มกศกนนว่กึาา..อ..ำำกึำ.มพพววษรรดวษคคคกาาธิธิคคทถาำผำรงงีนีนัรรรรขงวอ้าขนูหหููนนหููใใ้ัั้นอำ้ันดปั้นหหำ�นนาายภนตผอ่าตออ้้แแ้าาผำ้ปิอ้ำุปอุุปปชชตตำ้ชเปนรกนอ้ัั้มนน่่กลกลนั้าอ่ำรำอื่รรอะะเยเเยรรณรบณณเยกกคไม่าีียยยีดน่ำวลล์ปง์์ปป่ือนนนง้หา้�ำลุุ่่มมรรรไลมฝัะะวดออแแะะะถนเกขแห้ออกกลลเอกูออ้อล้้อกกัวววียตบียกว้ขขใใบบมมดอ้หหใดำศ้ออาาศศปหงร้้นนปขำแแงาาขรจน้ สััอกกรแสสสสะอดัักนะงเเตนนดดมงเรรเแมพค่ลขรพพงงาีียยตำยีสสริธณ้นัะิิธธนนณ่ล่ือีนถถกตีี เออะเเงชอาา1ลอชชออ๑กไนน่นอุ่นทม0่นนกกล๐กกกใแยมมุม่บนบบนมาาธลนาาแำรรำาาาร้วเเำตลศณณเทตตลลรทลรว้ามรรืืีใออ์์จจือีสหผใกกาาผผกนห้กน้ำลลวว้าา้วพอน้ำ่่ัาากออออำ่ ริธำจจักงงจเาากบีนระะเกกบบะรรียั้นนตตลลตนนยีวน้้้�ออำุุ่่มม้อนด้้าาฝงงแงลลฝฝนแใในใตะะนนตชช้�ชำ่ล้้ล่ออ้อส33สสะะุุปปกังุปัังงกฆกำนนกกกฆฆลรลทรรราาทททุ่มุม่ำณณณททาาอนรรีีนน์์ใ์ใใว่่ดพพวดดดฯมมกฯฯรรบบบลกฐ้้กออลลำ้้้าาฯนัินัมมนฯฯงงง ดา้ นทักษะและกระบวนการ 3. นักเรยี นวิเคราะห์ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ ับจากการเข้า รดร4ด3่วว่า้า้..มมนนนนศศคทาากัักุณกั สสเเษรรนนลียยีะักพพนนแษธิธิ เวลไีไีสณเิดดะคนก้้ะออรอรยยาแะา่่าะนบงงหวมมว์ปทีเีเนรหหากะตตงโาสผุุผยรนลลชับนสท์ นไี่ ดุนร้ใับหจค้ านกใกกลารช้ เิดขา้ ดป้าฏนิบคตั ณุิศาลสักนษพณิธีตะ่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 4. นักเรียนเสนอแนวทางสนับสนนุ ใหค้ นใกลช้ ดิ ปฏิบตั ิศาสนพิธีตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รใว่นมพกธิ นั นี อั้นภิปรายความถกู ต้องของข้นั ตอนใน ศาสนพิธนี ัน้ ๕. ครูให้แต่ละกลุ่มออกมำแสดงสถำนกำรณ์จ�ำลองกลุ่มละ ๓ นำที พร้อมร่วมกนั อภิปรำยควำมถูกตอ้ งของขัน้ ตอนใน ศำสนพธิ ีนนั้ 225 222085
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 29 เรอ่ื ง ศาสนพิธี ๒๒๖ หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง การบรหิ ารจิตเจริญปัญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา 1 ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ขน้ั สรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปสาระสาคัญท่ีเกี่ยวกับศาสนพิธีท่ีสาคัญ ในพระพทุ ธศาสนา ดังน้ี 1. หากนักเรียนปฏิบัติไม่ถูกแนวทางท่ีวางไว้ จะก่อให้เกิดผลอย่างไร (เกิด ความผิดเพี้ยน ไม่เป็นไปตามจดุ ประสงค์ของศาสนพธิ นี ัน้ ) 2. ศาสนพิธีน้ันมีการยึดถือและปฏิบัติต่อกันมานานแสดงถึงอะไรได้บ้าง (เป็นระเบียบแบบแผนท่ดี ีงาม ท่ีพงึ ปฏิบตั ิในทางศาสนา) 3. ในฐานะพุทธศาสนิกชนควรทาอย่างไร (เรียนรู้ถึงคุณค่าและปฏิบัติตนได้ อย่างถูกตอ้ งตามศาสนพิธที ่สี าคญั ในศาสนา) 4. ถ้าปฏิบัติตามแล้วจะส่งผลต่อสังคมอย่างไร (เป็นการสืบต่ออายุของ ศาสนาให้เจรญิ งอกงามอยูใ่ นสงั คมสบื ไป) 222096
227 222170 การวดั และประเมินผล สงิ่ ทต่ี ้องการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ เกณฑ์ ดา้ นความรู้ - คาถามสาคัญ - ตอบคาถามได้ 1. การอธิบายความหมาย - ถามตอบ - สอื่ PowerPoint ถูกต้องมากกวา่ ของศาสนพธิ ี - การอธิบาย เร่ือง “ศาสนพธิ ี” ร้อยละ 80 2. การระบุข้ันตอนของการ - การอภิปราย - อุปกรณป์ ระกอบ - ปฏิบตั ิได้ ปฏิบตั ิ ศาสนพธิ ีตา่ งๆๆ - การศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ศาสนพธิ ี ถกู ต้องมากกวา่ - กระบวนการกลุ่ม - สถานการณ์จาลอง รอ้ ยละ 80 - การแสดงสถานการณ์จาลอง - คาถาม - ตอบคาถามได้ ด้านทักษะ/กระบวนการ - อปุ กรณป์ ระกอบ ถกู ต้องมากกวา่ การวเิ คราะห์ประโยชน์ที่ - ถามตอบ ศาสนพิธี รอ้ ยละ 80 ได้รับจากการเข้าร่วมศาสน - การวเิ คราะห์ - สถานการณจ์ าลอง พิธี - การแสดงความคิดเห็น - ตอบคาถามได้ - กระบวนการกลุ่ม - ประเดน็ คาถาม ถกู ต้องเหมาะสม - การแสดงสถานการณ์จาลอง สาคญั ดา้ นคณุ ลักษณะ การเสนอแนวทางสนบั สนนุ - อภปิ รายกลมุ่ ใหค้ นใกล้ชิดปฏบิ ัตศิ าสนพธิ ี - ถามตอบ ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งเหมาะสม
228 222181 บันทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู้ ........................................................................................................................... ............................................ ปญั หาและอปุ สรรค ....................................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแกไ้ ข ....................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ......................................ผู้สอน (........................................................) วนั ท.่ี .......เดือน..............พ.ศ.............. ความคดิ เหน็ / ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ ารหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย ............................................................................................................................ .................................................. ............................................................................................................................ .................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................ผู้ตรวจ (...........................................................) วนั ท่.ี .........เดือน................พ.ศ............
๒๒๙ แผนการจัดการเรียนรท.ู ่ี ๓๐ เร่ือง ศาสนพธิ เี ปรียบเทียบ หน?วยการเรียนร.ทู ่ี ๔ เรื่อง การบรหิ ารจติ เจรญิ ปDญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ชั่วโมง กลม?ุ สาระการเรียนรู. สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สงั คมศึกษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปทQ ี่ ๒ ตัวชว้ี ดั กจิ กรรมการเรยี นรู. สื่อ/ แหลง? เรียนร.ู ส ๑.๒ ม ๒/๕ อธิบายความแตกต.าง ขั้นนำ ของศาสนพิธีพิธีกรรม ตามแนวปฏิบัติของ ๑. วีดิทัศนT เรื่อง เพลงชาติไทย ร.วมแรงร.วม ศาสนาอื่น ๆ เพื่อนำไปสู.การยอมรับ และ ๑. ครูเปSดวีดิทัศนT เรื่อง เพลงชาติไทย ร.วมแรงร.วมใจเพื่อชาติไทยของเรา แลCวใหC ใจเพือ่ ชาตไิ ทยของเรา ความเขCาใจซงึ่ กนั และกนั นักเรียนร.วมกนั อภปิ รายในประเดน็ ดงั ตอ. ไปน้ี ๒. สื่อ Power Point เรื่อง ศาสน-พิธีใน ศาสนาอ่ืน ๆ ๓. ภาพการอย.รู .วมกนั ของคนหลายศาสนา สาระคำคญั ๔. ภาพและวิดีทัศนTพิธีกรรมของศาสนาต.าง ผูCคนในสังคมมีความคิดความเชื่อท่ี ตๆำ่ ง ๆ แตกต.างกัน ดังนั้นเราจึงจำเปMนตCองเรียนรCู พิธีกรรมของศาสนาอื่น ๆ เพื่อความเขCาใจ และปฏิบัติตนอย.างเหมาะสม นำมาซึ่งความ (ทม่ี า: https://www.youtube.com/watch?v=1OzPq9NONiw) ภาระงาน/ช้ินงาน สงบสุขของสังคม - ใบงาน เรอ่ื ง พธิ ีกรรมของศาสนา ตา. ง ๆ ๑) มีผูCคนนับถือศาสนาใดบCางในประเทศไทย (พุทธ คริสตT อิสลาม พราหมณT- ฮนิ ดู ฯลฯ) ๒) จากวีดิทัศนT ผูCคนเหล.านั้นแต.งกายและมีศาสนพิธีเหมือนหรือต.างกัน ขอบเขตเนือ้ หา อย.างไร (มีการแต.งกายและมีศาสนพิธีที่แตกต.างกันตามความเช่ือของแต.ละ สังคมไทยประกอบดCวยผูCที่นับถือศาสนา ศาสนา) ๒. ครูเชื่อมโยงเขCาสู.บทเรียนโดยกล.าวว.า “เมื่อเราไดCเรียนศาสนพิธีใน ต.าง ๆ กัน ศาสนาทุกศาสนามีศาสนพิธี พระพุทธศาสนาของเราไปแลCว ในสังคมยังมีผูCที่นับถือศาสนาอื่นรวมอยู.ดCวย ดังน้ัน พิธีกรรมและแนวปฏบิ ัติท่ีแตกตา. งกนั 21229
แผนการจดั การเรียนรท.ู ี่ ๓๐ เร่ือง ศาสนพธิ ีเปรยี บเทียบ ๒๓๐ หน?วยการเรียนร.ทู ่ี ๔ เรื่อง การบริหารจิตเจรญิ ปญD ญาและมารยาทชาวพทุ ธ เวลา ๑ ชัว่ โมง ช้นั มัธยมศึกษาปQท่ี ๒ กล?มุ สาระการเรียนรู. สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวชิ า สงั คมศึกษา ออกไป เราจึงควรศึกษาเรียนรูCใหCเกิดความ เราจึงจำเปMนตCองเรียนรูCพิธีกรรมของศาสนาอื่น ๆ เพื่อรูCและเขCาใจในศาสนาอ่ืน เขCาใจ เพื่อก.อใหCเกิดความสัมพันธTอันดี ดCวย” ระหว.างผูCที่นับถือศาสนาเดียวกัน และต.าง ศาสนากัน ขน้ั สอน จดุ ประสงคกY ารเรยี นรู. ๑. ครูบรรยายเนื้อหาสาระเกี่ยวกับพิธีกรรมของศาสนาอื่น ๆ ทั้งศาสนาอิสลาม ด.านความร.ู ศาสนาคริสตT และศาสนาพราหมณT-ฮินดู โดยใชCสื่อ Power Point เรื่อง ศาสนพิธี ๑. นักเรียนบอกลกั ษณะการปฏบิ ัตติ นในศา ในศาสนาอนื่ ๆ สศนำสพนธิ พีขอิธีขงศอางสศนำสานอน่ืำอๆน่ื ไๆดCถไดกู ถ้ตกูอC ตง้อง ๒. ครูเปSดภาพการอย.ูร.วมกันของคนตา. งศาสนา แลวC ใชคC ำถามตอ. ไปนี้ ดา. นทกั ษะและกระบวนการ ๒. นักเรียนวิเคราะหTความแตกต.างของการ ๑) หลวงตาบิณบาตรโดยมีบังมะเปMนผูCรับส.ง ผิดหลักการของทั้งสองศาสนา ปฏิบัติในศาสนพิธีของศาสนาอื่น ๆ ไดCอย.าง หรือไม.” (ไม.ผิด เพราะเปMนการช.วยเหลือกัน บังมะไม.ไดCกราบไหวCบูชา จึงไม.ไดCขัด มเี หตผุ ล ต.อหลักศาสนาอิสลาม) ๓. นักเรียนวิเคราะหTความสำคัญของการ ปฏบิ ัตติ นร.วมกบั ศาสนาอน่ื ไดCอย.างมเี หตผุ ล ๒) จากภาพการอยู.ร.วมกันของคนหลายศาสนาก.อใหCเกิดความขัดแยCงหรือไม. อย.างไร (ไม.ก.อใหCเกิดความขัดแยCง เพราะการปฏิบัติตนที่เหมาะสม ก.อใหCเกิดสันติ สุข) 21330
แผนการจัดการเรียนร.ูท่ี ๓๐ เร่อื ง ศาสนพธิ ีเปรียบเทยี บ ๒๓๑ หน?วยการเรียนรู.ท่ี ๔ เร่ือง การบรหิ ารจิตเจริญปญD ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ชว่ั โมง ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปQที่ ๒ กล?ุมสาระการเรยี นร.ู สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศึกษา ดา. นคณุ ลักษณะ ๔. นักเรียนเสนอแนวทางการปฏิบัติตน ร.วมกบั ศาสนาอนื่ ไดCอย.างเหมาะสม (ทีม่ า : http://www.liekr.com/post_136907.html) ๓. ครูและนักเรียนร.วมกันสนทนาในรายละเอียดของพิธีกรรมทางศาสนาอิสลาม ดวC ยคำถามตา. งๆ เชน. ๑) นักเรยี นรCูหรอื ไมว. า. ใครเปนM ศาสดาของศาสนาอิสลาม (นบีมฮุ ัมมัด) ๒) นักเรียนคนใดทราบบCางว.าในศาสนาอิสลามนั้นมีพิธีอะไรบCาง (การ ป(กฏำิญรปาฏณิญตำนณกตานรลกะำหรลมะาหดมกำาดรถกือำรศถีลืออศดีลอกดารกบำรริจบารคจิ ซำะคกซาะตกำแดละแกลาะรกปำระปกระอกบอพบิธี ฮพัจธิ ญฮี ัจ)T ญ์) ครูอธิบายเพิ่มเติมในรายละเอียดของพิธีกรรมในศาสนาอิสลาม พรCอมทั้งเปSด ภาพ หรือวีดิทัศนTเกี่ยวกับพิธีต.าง ๆ ใหCนักเรียนไดCชมเปMนตัวอย.าง เช.น การจ.ายซะ กาต การถือศลี อด หินกะอบT ะฮT เปนM ตนC ๔. ครูและนักเรียนร.วมกันสนทนาในรายละเอียดของพิธีกรรมทางศาสนาคริสตT ดCวยคำถามตา. ง ๆ 23141
แผนการจัดการเรยี นรท.ู ่ี ๓๐ เร่ือง ศาสนพธิ ีเปรียบเทียบ ๒๓๒ หนว? ยการเรยี นรู.ท่ี ๔ เรือ่ ง การบรหิ ารจติ เจริญปญD ญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ชวั่ โมง ชั้นมัธยมศึกษาปQที่ ๒ กล?มุ สาระการเรียนรู. สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม รายวิชา สงั คมศึกษา ๑) ใครคอื ศาสดาของศาสนาครสิ ตT (พระเยซ)ู ๒) นักเรยี นคนใดเคยไปโบสถTคริสตTบCาง ๓) นักเรียนคนใดรูCจักศีลศักดิ์สิทธิ์บCาง มีอะไรบCาง (ศีลลCางบาปหรือศีลจุ.ม, ศีล กำลัง, ศลี แกบC าป, ศลี มหาสนิท, ศีลเจมิ คนไขC, ศลี บรรพชาหรอื ศีลบวช, ศีลสมรส) ๕. ครูอธิบายเพิ่มเติมในรายละเอียดของพิธีกรรมในศาสนาคริสตT พรCอมเปSดภาพ ศีลทั้ง ๗ ของศีลศักดิ์สิทธิ์ใหCนักเรียนไดCชม นอกจากนี้ครูอาจอธิบายครอบคลุมไป ยงั นกิ ายอ่ืนดCวย ทัง้ โปรเตสแตนทTและออทอดอกซT ๖. ครูและนักเรียนร.วมกันสนทนาในรายละเอียดของพิธีกรรมทางศาสนา พราหมณT-ฮินดู ดCวยคำถาม เช.น นักเรียนคนใดทราบบCางว.าเทพเจCาในศาสนา พราหมณT-ฮินดูนั้นมีใครบCางลองยกตัวอย.างเทพเจCาที่นักเรียนรูCจัก เปMนตCน พรCอม กับแสดงภาพของการทำพธิ ีตา. ง ๆ ในศาสนาพราหมณT-ฮนิ ดูใหCนกั เรยี นไดCชม ๗. ครูใหนC กั เรียนรว. มกนั อภปิ รายความสำคัญของการปฏิบตั ิตนรว. มกบั ศาสนาอืน่ ๘. ครูแจกใบงาน เรื่อง พิธีกรรมของศาสนาต.าง ๆ โดยใหCคCนควCาหาคำตอบจาก สิ่งที่เรียนในตอนตCนคาบเรียน ประกอบกับหนังสือเรียนประจำรายวิชาและสื่อ อเิ ลก็ ทรอนิกสTของผCเู รียน แลวC เตมิ คำตอบลงในช.องว.างใหCถูกตอC งสมบูรณT 223125
แผนการจัดการเรียนร.ูที่ ๓๐ เรอ่ื ง ศาสนพธิ ีเปรยี บเทยี บ ๒๓๓ หนว? ยการเรยี นรทู. ่ี ๔ เร่อื ง การบรหิ ารจิตเจรญิ ปDญญาและมารยาทชาวพุทธ เวลา ๑ ช่ัวโมง ชนั้ มัธยมศกึ ษาปQท่ี ๒ กลมุ? สาระการเรียนรู. สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม รายวิชา สังคมศกึ ษา ข้ันสรุป ครูและนกั เรียนรว. มกันอภปิ รายสรปุ สาระสำคญั ท่ีเก่ยี วกับศาสนพธิ ใี นศาสนาอ่ืน ๆ ในประเด็นดงั น้ี ๑. หากมโี อกาสไดCเขาC ร.วมศาสนพธิ ขี องศาสนาอืน่ ๆ นกั เรยี นมีแนวทางการปฏิบัติ ตนอยา. งไร (ถอื โอกาสเรยี นรวูC ิถชี ีวิตและความเชอ่ื ของศาสนาอ่นื อยา. งเหมาะสม ไม. ลว. งเกิน หรอื สราC งความขัดแยงC ) ๒. ในฐานะประชากรโลก เราควรประพฤตปิ ฏบิ ัติตนอย.างไรต.อผูCทีน่ บั ถอื ศาสนา อ่นื ๆ (เรียนรถูC งึ คุณคา. และปฏบิ ัติตนไดอC ย.างถกู ตCองตามศาสนพิธีของแตล. ะ ศาสนา) ๓. เพราะเหตุใดเราจึงตCองศกึ ษาทำความเขาC ใจในศาสนาอ่นื ๆ (เพ่อื ก.อใหเC กิด ความสมั พันธอT นั ดีระหว.างผทูC ีน่ ับถือศาสนาเดยี วกัน และตา. งศาสนากัน) 233 216
๒๓๔23174 การวดั และประเมนิ ผล สิ่งทต่ี อ7 งการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เครอื่ งมอื ที่ใช7 เกณฑA ดา7 นความรู7 การบอกลักษณะการ - ถามตอบ - คำถามสำคญั - ตอบคำถามไดV กปำฏริบปตั ฏติ ิบนัตใิตนนศใานสศนำพสธิ นขี ำอพงิธี - การอธบิ าย - สอื่ ่อPPoowweerrPPooinint tเรเอ่ื รงื่อศงำศสนาสพนธิ ี ถูกตVองมากกวNารอV ย ขศอาสงศนำาสอนน่ื ำๆอ่ืนๆ - การอภปิ ราย พในธิ ศใี ำนสศนาำสอนน่ื าๆอ่นื ๆ ลร้อะย๘ล๐ะ ๘๐ - ภาพการอยรNู Nวมกนั ของคนหลาย ศาสนา - ภาพและวิดีทัศนTพิธีกรรมของ ศาสนาตNาง ๆ ด7านทกั ษะ/กระบวนการ - คำถาม - ตอบคำถามไดV ๑1. การวเิ คราะหคT วาม - ถามตอบ แตกตNางของการปฏิบัติ - การวเิ คราะหT - สอื่ ่อPPoowweerrPPooinint tเรเอ่ื รงื่อศงำศสนาสพนธิ ี ถกู ตVองมากกวาN รอV ย ในศาสนพธิ ขี องศาสนาอื่น - การอภิปราย ๒2. การวิเคราะหT พในิธศใี ำนสศนาำสอนนื่ าๆอ่ืน ๆ ลรอ้ะย๘ล๐ะ ๘๐ ความสำคัญของการปฏบิ ตั ิ ตนรวN มกับศาสนาอ่นื - ภาพการอยNูรNวมกันของคนหลาย ศาสนา - ภาพและวดิ ที ศั นTพธิ กี รรมของ ศาสนาตาN ง ๆ ดา7 นคณุ ลกั ษณะ - อภิปรายกลมุN - ประเด็นคำถามสำคญั - ตอบคำถามไดV การเสนอแนวทางการ - ถามตอบ ถูกตVองเหมาะสม ปอศกน่ืำำฏรสิบปนตั ฏำติ อบิ น่ืนตั ริตวN นมรกว่ับมศกาบั สนา
2๒31๓85๕ บนั ทกึ ผลหลงั สอน ผลการเรียนรVู ....................................................................................................................................................................... ปญ_ หาและอุปสรรค ....................................................................................................................................................................... ขVอเสนอแนะและแนวทางแกVไข ....................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ......................................ผูสV อน (........................................................) วันที.่ .......เดือน..............พ.ศ.............. ความคิดเห็น/ ข7อเสนอแนะของผูบ7 รหิ ารหรอื ผูท7 ไี่ ดร7 บั มอบหมาย .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ......................................ผตูV รวจ (...........................................................) วนั ท.่ี .........เดือน................พ.ศ............
23169 ๒๓๖ ใบงาน เร่อื ง พิธีกรรมของศาสนาตา6 ง ๆ หนว6 ยการเรียนร<ูที่ ๔ การบรหิ ารจติ เจริญปญB ญาและมารยาทชาวพทุ ธ รายวิชา สงั คมศกึ ษา รหัสวชิ า ส๒๒๑๐๑ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันมัธยมศึกษาปทQ ี่ ๒ คำชีแ้ จง : ให$นักเรียนเตมิ คำตอบลงในชอ6 งวา6 งให$ถูกต$องสมบูรณ= ๑. ศาสนพิธแี ละพธิ กี รรมของศาสนาอิสลาม เกี่ยวขอ$ งกับหลักปฏิบัติ ๕ ประการทไ่ี ดจ$ ารกึ ไว$ใน…………………… ๒. การละหมาดหรอื นมาซ เปนS การนมัสการเพอ่ื ขอพระจากอลั ลอฮ= ประกอบด$วย อริ ยิ าบถ ……………………….. ………………………………………….……………. ปฏิบตั ิ ……………….………. ไดแ$ ก6 เวลารงุ6 อรณุ เวลาบา6 ย เวลาเย็น เวลาพลบคำ่ และเวลากลางคืน การละท้ิงการละหมาดถอื วา6 เปSนบาป ๓. การบำเพ็ญฮัจญ= เปนS การปฏบิ ตั ศิ าสนกจิ ณ อัลกะอบ= ะฮ= ในเดือนที่ ๑๒ (ซุลฮิจญะฮ)= ตามปฏิทนิ อิสลามผู$ ประกอบพธิ ฮี ัจญต= $อง…………………………………………………………………………………………………….. ตามศาสนบัญญัติ มคี วามสามารถท่จี ะเดนิ ทางไปปฏบิ ตั ิได$ เชน6 มเี งิน ไมป6 ]วย พิธีฮัจญ=เปSนขอ$ บงั คบั ของชาว มสุ ลิมท่จี ะสามารถเดินทางไปปฏิบตั ิได$ ๑ ครงั้ ในชวี ิต ผท$ู ่ีเคยประกอบพิธฮี จั ญ=แลว$ ถา$ เปนS ผู$ชายจะ เรียกวา6 ………………. ถ$าเปSนหญิงเรยี กว6า …………………..……………. ๔. ศาสนพธิ ีและพิธีกรรมของศาสนาคริสต= คริสต=ศาสนามหี ลายนกิ ายนกิ ายสำคญั ได$แก6 นิกาย……………….………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………. ๕. นกิ ายโปรเตสแตนต= เชื่อว6าพระเยซคู รสิ ต=ทรงกำหนดพิธศี ักด์สิ ทิ ธไ์ิ วเ$ พียง ………… ประการ คอื ๑) พธิ บี ปั ติสมา (คาทอลกิ เรยี กวา6 …………………………………….……) ๒) …………………………………………… (คาทอลกิ เรียกวา6 ศีลมหาสนทิ ) เปSนพิธรี ำลกึ การรับประทาน อาหารคร้งั สุดทา$ ยของพระเยซคู ริสตก= บั ……………………………….. คน ๖. นกิ ายออรท= อดอกซ= มพี ิธกี รรมทไ่ี ม6แตต6 6างไปจากนกิ ายโรมนั คาทอลิก แตไ6 ม6อยู6ใตอ$ ำนาจ ของ……………………………………..แห6ง................... และไม6ถอื ...............................เปนS สำคญั ๗. พธิ สี มั สการ จดั ขึน้ ตามโอกาสและขัน้ ตอนของชีวิต จะเพิกเฉยมิได$ ประกอบด$วย ๗ พธิ ีด$วยกนั ได$แก6 ๑) ชาตกรรม คอื พธิ เี กยี่ วกับ...................... ทำทนั ทีหลังจากคลอด โดยทำกอ6 นการตดั สายสะดือ ๒) .................................... คือ พิธีตง้ั ชอื่ เมือ่ เด็กเกดิ มาได$ ๑๐ วัน หรือ ๑๒๐ วนั ๓) อนั นปราศนะ คือ พธิ ีเสนอเครื่องสงั เวยแกเ$ ทพเจ$าตา6 ง ๆ โดยทำในวนั ทใี่ หเ$ ด็ก............................... ๔) อปุ นยนะ คอื พิธีสวม......................................ใหแ$ ก6เดก็ และสอนเรยี นมนต=ช่ือ ........................... ถอื เปนS พิธีสำคัญมาก หลังจากทำพิธีน้ีเสรจ็ แลว$ เดก็ จะเข$าสู.6 ........................................ ตามหลกั อาศรม ๔ พิธนี ี้ จะจัดให$เฉพาะเดก็ ชายเท6านน้ั ๕) สมาวรรตนะ คือ........................................................ จัดขึน้ เม่อื เด็กหน6ุมได$ศกึ ษาไตรเพทหรอื คมั ภีรพ= ระเวท ๓ คมั ภีร=จบแล$ว ๘. พิธีศราทธ= เปSนพิธีทำบญุ อุทิศบรรพบรุ ษุ และวญิ ญาณผช$ู ายดว$ ย....................................(ข$าวสกุ ปjiนเปSนก$อน)
23270 ๒๓๗ ใบงาน เรอื่ ง พธิ ีกรรมของศาสนาต6าง ๆ หน6วยการเรียนร<ูที่ ๔ การบรหิ ารจติ เจรญิ ปBญญาและมารยาทชาวพทุ ธ รายวิชา สงั คมศึกษา รหัสวิชา ส๒๒๑๐๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นมัธยมศกึ ษาปทQ ี่ ๒ คำชแ้ี จง : ให%นักเรยี นเตมิ คำตอบลงในช7องวา7 งให%ถกู ต%องสมบูรณ> 1. ศาสนพธิ ีและพธิ กี รรมของศาสนาอิสลาม เกี่ยวขอ% งกบั หลักปฏบิ ัติ 5 ประการทไ่ี ด%จารกึ ไว%ใน อลั กุรอาน 2. การละหมาดหรือนมาซ เปSนการนมัสการเพอ่ื ขอพรจากอลั ลอฮ> ประกอบดว% ย อริ ยิ าบถ ยืน โคง< กราบ และ อ6านถ<อยคำจากคัมภีรอU ลั กรุ อาน ปฏบิ ัติ 5 เวลา ได%แก7 เวลาร7งุ อรุณ เวลาบา7 ย เวลาเย็น เวลาพลบค่ำ และ เวลากลางคืน การละทิ้งการละหมาดถอื ว7าเปนS บาป 3. การบำเพญ็ ฮจั ญ> เปนS การปฏิบัติศาสนกจิ ณ อลั กะอ>บะฮ> ในเดือนท่ี 12 (ซุลฮิจญะฮ)> ตามปฏทิ ินอิสลาม ผู% ประกอบพิธฮี จั ญ>ต%องบรรลนุ ิติภาวะ มีสตสิ ัมปชัญญะ ไม6วกิ ลจรติ มเี จตนาแนว6 แน6 มีความสะอาดและ ปกปYดร6างกาย ตาม ศาสนบญั ญัติ มีความสามารถท่ีจะเดินทางไปปฏบิ ตั ไิ ด% เชน7 มีเงิน ไมป7 ]วย พิธฮี ัจญเ> ปSนข%อบงั คบั ของชาวมุสลิมท่ี จะสามารถเดนิ ทางไปปฏิบตั ไิ ด% 1 คร้งั ในชวี ติ ผู%ที่เคยประกอบพธิ ีฮจั ญ>แลว% ถ%าเปนS ผู%ชายจะเรียกว7า ฮาจญU หรืออัลฮาจญU ถ%าเปSนหญงิ เรียกวา7 ฮาจญะฮU 4. ศาสนพธิ ีและพิธีกรรมของศาสนาครสิ ต> ครสิ ตศ> าสนามีหลายนกิ ายนิกายสำคัญไดแ% ก7 นกิ ายโรมนั คาทอลคิ นิกายโปรเตสแตนตU และนิกกายออรทU อดอกซU 5. นิกายโปรเตสแตนต> เชอ่ื วา7 พระเยซคู ริสตท> รงกำหนดพิธีศักด์ิสิทธ์ไิ วเ% พียง 2 ประการ คอื 1) พธิ ีบปั ติสมา (คาทอลกิ เรียกวา7 ศลี ล<างบาป) 2) ศลี มหาสนิทหรือพิธมี หาสนทิ ศกั ดิส์ ิทธิ์ (คาทอลิก เรียกว7า ศลี มหาสนิท) เปนS พิธีรำลกึ การ รบั ประทานอาหารครงั้ สุดทา% ยของพระเยซูคริสตก> บั อคั รสาวก 12 คน 6. นกิ ายออร>ทอดอกซ> มพี ธิ ีกรรมที่ไมแ7 ตกต7างไปจากนกิ ายโรมนั คาทอลกิ แต7ไมอ7 ยู7ใต%อำนาจของสนั ตะปาปา แหง7 กรุงโรม และ ไม7ถือไมก< างเขนเปSนสำคัญ 7. พธิ สี มั สการ จดั ขน้ึ ตามโอกาสและข้นั ตอนของชวี ิต จะเพิกเฉยมิได% ประกอบด%วย 7 พธิ ีดว% ยกัน ได%แก7 1) ชาตกรรม คอื พิธีเกยี่ วกบั การเกดิ ทำทนั ทหี ลงั จากคลอด โดยทำกอ7 นการตัดสายสะดือ 2) นามกรณะ คอื พิธีตง้ั ชื่อเม่ือเด็กเกดิ มาได% 10 วนั หรือ 120 วัน 3) อันนปราศนะ คือ พิธีเสนอเครอ่ื งสังเวยแกเ% ทพเจา% ตา7 ง ๆ โดยทำในวันที่ให%เด็กทานขา< วครัง้ แรก 4) อุปนยนะ คือ พิธีสวม สายยัชโญปวีต ให%แก7เด็กและสอนเรียนมนต>ชื่อ คายัตรี ถือเปSนพิธีสำคัญ มาก หลังจากทำพิธีนเี้ สรจ็ แล%วเด็กจะเขา% ส7ู พรหมจารี ตามหลักอาศรม 4 พิธีนจี้ ะจดั ใหเ% ฉพาะเดก็ ชายเท7าน้นั 5) สมาวรรตนะ คือ พิธีสำเร็จการศึกษา จัดขึ้นเมื่อเด็กหนุ7มได%ศึกษาไตรเพทหรือคัมภีร> พระเวท 3 คัมภีร>จบแลว% 8. พธิ ีศราทธ> เปนS พิธที ำบุญอทุ ศิ บรรพบรุ ุษและวญิ ญาณผชู% ายดว% ย ขา< วบณิ ฑะ (ข%าวสุกปiนj เปSนก%อน)
๒๓๘23281 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๕ หนว่ ยการเรยี นรู้ พลเมอื งดีตามวถิ ปี ระชาธิปไตย รหัสวิชา ส ๒๒๑๐๑ รายวิชา สงั คมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปกี ารศึกษา ๒๕๖2 เวลา ๖ ช่ัวโมง ๑. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชวี้ ดั สาระท่ี ๒ หน้าทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนนิ ชีวติ ในสังคม มาตรฐานการเรยี นรู้ ส. ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบัตติ นตามหน้าทข่ี องการเป็นพลเมืองดี มีค่านิยมท่ีดีงามและธารงรักษาประเพณี และวัฒนธรรมไทย ดารงชีวิตอยู่ร่วมกนั ในสังคมไทยและสังคมโลกไดอ้ ย่างสันติสุข ตวั ชว้ี ดั ส.๒.๑ ม.๒/๒ เห็นคุณค่าในการปฏิบัติตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ หน้าที่ ในฐานะ พลเมืองดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย ส.๒.๑ ม.๒/๓ วิเคราะหบ์ ทบาท ความสาคญั และความสมั พนั ธข์ องสถาบนั ทางสงั คม ๒. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและเปิด โอกาสให้ประชาชนเขา้ มามีสว่ นร่วมในกิจกรรมทางการเมือง การปกครอง สมาชิกทกุ คนในสังคมประชาธิปไตย จะต้องรบู้ ทบาทหน้าท่ี ทม่ี ตี ่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คมและประเทศชาตจิ ึงจะทาให้ประชาชนในประเทศ อยู่ร่วมกนั อยา่ งสงบสขุ ๓. สาระการเรียนรู้ ความรู้ - สถาบนั ทางสังคม - สถานภาพ บทบาท สทิ ธิ เสรีภาพ และหนา้ ที่ในฐานะพลเมืองดตี ามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย - แนวทางสง่ เสรมิ ให้ปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมอื งดตี ามวถิ ีประชาธิปไตย ทกั ษะและกระบวนการ - วิเคราะห์บทบาทของสถาบันทางสังคมต่าง ๆ ที่มีส่วนทาให้การดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ใน สังคมดาเนนิ ไปได้ - วิเคราะห์สถานภาพ บทบาท สิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ในฐานะพลเมืองดีตามวิถี ประชาธปิ ไตย - อภปิ รายแนวทางส่งเสรมิ ให้ปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมอื งดีตามวิถปี ระชาธิปไตย เจตคติ - คุณค่า-แลคะณุ คคว่ำาแมลสะาคควัญำมขสอำ�งคกัญารขปอฏงิบกำัตริตปนฏตบิ าัตมติบนทตบำามทบแทลบะำสทถแาลนะภสาถพำในนภสำถพาใบนันสทถาำงบสันังทคำมงทสี่ตังคนมดทารี่ตงน อยู่ ด�ำรงอยู่ - คุณคา่ ข-อคงณุกาครำ่ ปขฏอิบงกตั ำติ ราปมฏสบิถัตานิตภนาตพำมแลสะถบำนทภบำาพทแขลอะงบตนทเบอำงทในขฐอางนตะนพเอลงเใมนือฐงำดนตี ะาพมลวเิถมปี ือรงะดชีตาำธมิปวไิถตี ย ป- รคะวชาำมธสปิ าไคตัญย ของการปฏิบัติตนตามสิทธิ เสรีภาพ และหน้าที่ของตนเองในฐานะพลเมืองดีตามวิถี ประชาธปิ ไตย - คณุ คำ่ ของกำรปฏิบตั ิตนตำมสทิ ธิ เสรีภำพ และหนำ้ ทข่ี องตนเองในฐำนะพลเมอื งดตี ำมวิถี ประชำธิปไตย
๒๓๙222329 ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร ๒. ความสามารถในการคิด ๓. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๕. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๑. มีวินยั ๒. ใฝ่เรียนรู้ ๓. มงุ่ มน่ั ในการทางาน ๖. การประเมนิ ผลรวบยอด การออกแบบแผนผังความคิดบทบาทหน้าที่เยาวชนตามวิถีประชาธิปไตยพร้อมท้ังตกแต่งให้สวยงาม และครบถว้ นประเด็นสาคญั เกณฑก์ ารประเมนิ ผลภาระงาน/ชนิ้ งานแบบประเมินแผนผังความคิดบทบาทหน้าทีเ่ ยาวชน ตามวถิ ปี ระชาธปิ ไตย คาอธิบายระดบั คณุ ภาพ รายการประเมนิ ๔ (ดมี าก) ๓ (ดี) ๒ (พอใช้) ๑ (ปรับปรุง) ๑. สรุปความรไู้ ด้ สามารถสรปุ สามารถสรุป สรปุ ความรู้ไม่ครบ สรปุ ความรไู้ ม่ ถูกต้อง ครบตรง ความรูไ้ ด้ครบและ ความรูไ้ ด้ครบ ทกุ ประเด็น ถูกต้อง ประเด็น ตรงประเดน็ และ ตรงประเด็นและมี ถกู ต้องทุกหวั ขอ้ ความถูกต้องเปน็ สว่ นใหญ่ ๒. การเชือ่ มโยง สามารถเชอื่ มโยง สามารถเช่ือมโยง สามารถเชอ่ื มโยง สามารถเชื่อมโยง ความรไู้ ด้ถกู ต้อง ความรู้ได้ถูกต้อง ความรู้ได้ และ ความร้แู ละลาดบั ความรูไ้ ด้ แต่ไม่ ตามลาดบั ขัน้ ตามลาดับ ลาดบั ความ ความสมั พันธ์ได้ เปน็ ไปตามลาดับ ความสัมพนั ธ์ ความสัมพนั ธ์ สมั พันธไ์ ด้ บา้ ง ความสมั พันธ์ คอ่ นข้างครบ ๓. มีความคดิ สามารถเขยี นผัง สามารถเขียนผงั สามารถเขยี นผงั สามารถเขียนผงั สร้างสรรคใ์ นการ ความคดิ ไดใ้ น ความคิดไดถ้ ูกตอ้ ง ความคดิ ได้ และมี ความคิดได้ แต่ เขยี นผังความคิด รปู แบบท่ถี ูกตอ้ ง และมีข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่องเปน็ ขาดรูปแบบและ และสวยงาม เพยี งเล็กน้อย บางสว่ น ความสวยงาม คะแนนตดั สนิ ระดบั คณุ ภาพ เกณฑก์ ารผา่ น ต้งั แตพ่ อใช้ระดบั ไป คะแนน คุณภาพ ๑๐ - ๑๒ ดมี าก ๗–๙ ๔–๖ ดี ๑–๓ พอใช้ ควรปรบั ปรุง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305