Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-08-28-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯม.2-1

64-08-28-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯม.2-1

Published by elibraryraja33, 2021-08-28 01:28:36

Description: 64-08-28-คู่มือและแผนการเรียนรู้สังคมศึกษาฯม.2-1

Search

Read the Text Version

290 227930 การวัดและประเมนิ ผล สิ่งทต่ี ้องการวดั /ประเมนิ วธิ ีการ เครอ่ื งมอื ท่ีใช้ เกณฑ์ ด้านความรู้ 1. นักเรียนสามารถบอก - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ ความหมายของกฎหมายได้ - การปฏิบตั ิกิจกรรมใน - กจิ กรรม “นกั สมเหตสุ มผลและมี อย่างถูกตอ้ ง ชน้ัในเรชีย้ันนเรยี น “กนฎกั หกมฎาหยมตำวั ยนต้อัวยน”้อย” ความเป็นไปได้ - พฤติกรรมการปฏบิ ตั ิ กิจกรรมในชั้นเรยี นเปน็ ทพี่ ึงพอใจ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ 2. นักเรียนสามารถจาแนก - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ ประเภทของกฎหมายพร้อม - การปฏิบัติกจิ กรรมใน - กิจกรรม “นกั สมเหตสุ มผลและมี ยกตัวอย่างไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ชัน้ในเรชียน้ั นเรียน “กนฎักหกมฎาหยมตำัวยนตอ้ ัวยน”อ้ ย” ความเป็นไปได้ - พฤติกรรมการปฏิบัติ กิจกรรมในชั้นเรยี นเป็น ที่พึงพอใจ ด้านคณุ ลกั ษณะ 3. นักเรียนสามารถระบุ - การตอบคาถาม - คาถามสาคัญ - คาตอบมีความ ความสาคัญของกฎหมายได้ - การปฏบิ ัติกิจกรรมใน - กจิ กรรม “นัก สมเหตุสมผลและมี อยา่ งถูกต้อง ชั้นในเรชยี ัน้ นเรียน “กนฎักหกมฎาหยมตำวั ยนต้อัวยน”้อย” ความเปน็ ไปได้ - พฤตกิ รรมการปฏิบตั ิ กจิ กรรมในชัน้ เรียนเป็น ท่พี งึ พอใจ

291 227941 บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................ ปญั หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................. ............................................. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข ........................................................................................................................................................................... ลงชื่อ ..............................................ผู้สอน (.......................................................) วันที.่ .........เดือน..........พ.ศ. ............ ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรอื ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย ........................................................................................................................................................................ ... ลงช่ือ ..............................................ผตู้ รวจ (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดือน..........พ.ศ. .............

292 27925 ใบความร้ทู ี่ 1 เรื่อง ความหมาย ความสาคัญ และประเภทของกฎหมาย ความหมาย ความสาคญั และประเภทของกฎหมาย 1. ความหมายของกฎหมาย กฎหมาย คือ ข้อบังคับของรฐั หรือประเทศซึ่งกาหนดแนวทางการปฏิบัติตนของประชาชน หากฝ่าฝืน จะตอ้ งถูกลงโทษ 2. ความสาคญั ของกฎหมาย ระบอบประชาธิปไตยมีเจตนารมณ์ คือ ความสงบเรียบร้อยในบ้านเมืองและความผาสุกของประชาชน ดังน้ันประชาชนมิได้มีแต่สิทธิและเสรีภาพเท่าน้ัน แต่ต้องมีหน้าท่ีและความรับผิดชอบตามกฎหมาย ต่อส่วนรวมด้วย คือ ช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง และถ้าผู้ใดได้รับความเดือดร้อนก็ต้อง ร้องทุกข์เพ่ือใหไ้ ดร้ ับการแก้ไขให้เกิดความสงบตามกฎหมาย เมื่อกฎหมายเป็นเครื่องมือในการรักษาความสงบ เรียบร้อยในบ้านเมืองและความผาสุกของประชาชน เราจึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับ ผ้อู ืน่ ได้ปฏิบตั ิตามเพอ่ื ให้สามารถอยู่ร่วมกนั ในสงั คมได้อยา่ งสงบสุข 3. ประเภทของกฎหมาย กฎหมายมลี กั ษณะแตกตา่ ง แบง่ ได้ 3 ประเภท ดงั นี้ 1. ประเภทท่ีแบ่งตามลักษณะการใช้กฎหมาย เป็นการเน้นให้เห็นว่ากฎหมายถูกนาไปใช้อย่างไร ซ่งึ มี 2 ประเภท ดงั นี้ 1.1 กฎหมายสารบัญญัติ คือ กฎหมายท่ีบัญญัติถึงเน้ือหาหรือเรื่องทั่วๆๆไปไปเเปป็นน็ กกฎฎหหมมาำยยทที่ ี่ ใช้ควบคุมความประพฤติ รวมไปถึงกาหนดสิทธิและหน้าที่ต่างๆๆขอขงอพงพลลเมเมืออืงไงวไว้ เ้ ชเช่นน่ ปปรระะมวลกฎหมำายแพ่ง และพาณิชย์ ประมวลกฎหมายอาญา 1.2 กฎหมายวิธีสบัญญัติ คือ บทกฎหมายท่ีบัญญัติถึงกระบวนการหรือวิธีการที่จะบังคับ หรือดาเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายสารบัญญตั ิ ได้แก่ ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความแพ่งหรือประมวล กฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา ฯลฯ 2. ประเภททีแ่ บง่ ตามลักษณะการตรากฎหมาย มี 3 ประเภท คือ 2.1 กฎหมายของฝา่ ยนิติบัญญตั ิ มี 2 ประเภท ได้แก่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และพระราชบญั ญตั ิ 2.2 กฎหมายของฝ่ายบริหาร มี 3 ประเภท ได้แก่ พระราชกาหนด พระราชกฤษฎีกา และกฎกระทรวง 2.3 กฎหมายท้องถิ่น เป็นกฎหมายอันดับรองท่ีรัฐมอบอานาจให้องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นตราออกใช้บังคับในท้องถ่ินได้ ซ่ึงมีชื่อเรียกต่างกันไปตามรูปแบบปกครอง ได้แก่ ข้อบัญญัติองค์การ บริหารส่วสน่วจนงั หจวังดัหวัด เทศบัญญัติ ข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตาบล ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร และ ขอ้ บัญญัตเิ มอื เงมพอื ัทงพยำัทยา

29736 293 3. ประเภทท่ีแบ่งตามข้อความในบทบัญญัติของกฎหมายหรือตามความสัมพันธ์ของผู้ท่ีเก่ียวข้อง เป็นการแบง่ ตามข้อความในบทบญั ญตั ขิ องกฎหมาย มี 3 ประเภท คือ 3.1 กฎหมายเอกชน เป็นกฎหมายท่ีกาหนดถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกัน บนพื้นฐานความสัมพนั ธ์ระหว่างเอกชนกับเอกชนทอ่ี ยูใ่ นฐานะเท่าเทียมกัน เมื่อมีขอ้ ขัดแยง้ หรือขอ้ โต้แยง้ กันก็ จะต้องใช้กฎหมายเอกชนมาเป็นเครื่องมือพิจารณาหรือตัดสินเพื่อหาข้อยุติ รวมท้ังหากรัฐมีปัญหาข้อขัดแย้ง กับเอกชนหรือพลเมอื งของรฐั รัฐกต็ ้องถกู พิจารณาในฐานะท่ีเท่าเทยี มกับเอกชน 3.2 กฎหมายมหาชน เป็นกฎหมายที่ใช้บังคับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนของรัฐ ในฐานะท่ีรัฐเป็นฝ่ายปกครองและมีอานาจเหนือประชาชนของรัฐ ส่วนประชาชนเป็นผู้อยู่ใต้อานาจการ ปกครอง กฎหมายที่ออกมาก็เพ่ือใช้บังคับและกาหนดความประพฤติของประชาชนท้ังหมด กฎหมายมหาชน เช่น รัฐธรรมนูญ กฎหมายปกครอง กฎหมายอาญา พระธรรมนูญศาลยุตธิ รรม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความแพ่ง เป็นต้น 3.3 กฎหมายระหว่างประเทศ เป็นกฎหมายที่กาหนดถึงกฎเกณฑ์ความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ เช่น กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดเี มอื ง กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา และกฎหมาย ระหว่างประเทศแผนกคดีบคุ คล

๒๙๔ แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 38 เวลา 1 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 6 กฎหมายในชีวติ ประจาวนั เรื่อง กระบวนการตรากฎหมาย และลาดบั ศกั ดข์ิ องกฎหมาย ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม รายวชิ า สังคมศึกษา สอ่ื /แหล่งเรียนรู้ 1. Power Point เร่อื ง กระบวนการตรา ตวั ชว้ี ัด กจิ กรรมการเรยี นรู้ กฎหมาย ส 2.1 ม.2/1 อธิบายและปฏบิ ัตติ นตามกฎหมายที่ ขั้นนา 2. ใบความรู้ เร่อื ง กระบวนการตรา เก่ียวข้องกบั ตนเอง ครอบครวั ชุมชนและประเทศ 1. ครทู บทวนความรู้ท่นี กั เรียนได้ศึกษาไปในคาบท่ีแลว้ โดยใช้ กฎหมาย ส 2.2 ม.2/1 อธบิ ายกระบวนการในการตรา คาถามดงั นี้ 3. แผนภาพข้นั ตอนในการตรากฎหมาย กฎหมาย 1.1 ในคาบท่ีแล้วเราได้ศึกษาเกีย่ วกบั เรือ่ งอะไรบ้าง (แนว 4. ใบงาน เรอ่ื ง “กระบวนการตรา คาตอบ: ความหมาย ความสาคญั และประเภทของกฎหมาย) กฎหมาย” สาระสาคญั 1.2 ให้นกั เรียนลองตอบครูอกี สกั รอบว่า กฎหมายคอื อะไร กฎหมายเป็นรปู แบบของบรรทดั ฐานทางสงั คม (แนวคาตอบ: นกั เรยี นนาเสนอความคดิ เห็นบนบริบททเ่ี ปน็ จริง) ภาระงาน/ช้นิ งาน รปู แบบหน่ึง ซงึ่ จะชว่ ยให้กาหนดกรอบและหรือให้สทิ ธิ 1.3 นกั เรยี นคิดวา่ กฎหมายต่าง ๆ ท่ใี ชอ้ ยู่ในปัจจบุ ันและ การปฏิบัตกิ ิจกรรมลงในใบงาน เรอ่ื ง ในการดาเนินชวี ิตของบุคคล เพื่อความเปน็ ระเบียบ กระทบต่อชีวติ ประจาวนั ของเรามกี ระบวนการได้มาอย่างไร (แนว เรียบรอ้ ยของสงั คม คาตอบ: นกั เรยี นนาเสนอความคดิ เหน็ ) “กระบวนการตรากฎหมาย” 2. ครูเชื่อมโยงคาตอบของนักเรยี นเขา้ สบู่ ทเรยี นเร่อื ง ขอบเขตเน้ือหา กระบวนการตรากฎหมาย ดงั น้ี “กฎหมายมมี ากมายหลากหลาย - ลาดบั ชน้ั หรือศกั ดข์ิ องกฎหมายไทย ประเภท หลายระดบั แต่กฎหมายระดบั ประเทศทจ่ี ะสง่ ผลตอ่ การ - กระบวนการตรากฎหมาย กดำารเนดนิำ� เชนีวนิ ิตชขีวอติ งขปอรงะปชราะชชนำมชานกมทำีส่ กดุ ทคสี่ ือดุ พคอืระพรารชะรบำัญชญบัญติ ญโดัตยิ โเปดย็นเป็น - ลาดับศกั ด์ิของกฎหมาย กฎหมายที่ตราข้ึนโดยฝ่ายนิตบิ ัญญัตคิ ือ รัฐสภา ซ่ึงในวันนเ้ี ราจะมา เรียนรู้ ถงึ ขน้ั ตอนในการตรากฎหมายกนั ว่ากวา่ จะมาเปน็ กฎหมายที่ บังคับใชใ้ นสังคมนัน้ จะต้องผา่ นกระบวนการหรือขน้ั ตอนใดบ้าง และ กฎหมายต่าง ๆ ในประเทศเรานน้ั กฎหมายแต่ละฉบบั มีศักดิม์ ากน้อย ตา่ งกนั อย่างไรบ้าง” 227974


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook