Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 64-07-18-หน่วยที่ 2 คู่มือครู ป.2 คณิต

64-07-18-หน่วยที่ 2 คู่มือครู ป.2 คณิต

Published by elibraryraja33, 2021-07-18 13:19:48

Description: 64-07-18-หน่วยที่ 2 คู่มือครู ป.2 คณิต

Search

Read the Text Version

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุม่ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ่ี ๔ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจำ�นวน หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) ช้นั ป.๒ เวล� ๑ ช่ัวโมง ขัน้ ที่ 3 บวกในหลกั รอย (5 รอย บวก 1 รอย ได 6 รอ ย) เขยี น 6 ใตหลกั รอย 1 6 5 7 90 2 หลกั รอ ย หลักสิบ หลกั หนวย 5 4 6+ 1 2 3 6 6 9 ดังนัน้ 546 + 123 = 669 2) 239 + 450 = ■ ครูใชคาํ ถาม ดังนี้ 239 มกี ร่ี อ ย กี่สบิ ก่หี น่วย (2 รอย 3 สิบ กับ 9 หนวย) - 2 อยูในหลกั ใด (หลักรอ ย) มีคาเทา ไร (200) - 3 อยูในหลกั ใด (หลกั สบิ ) มีคา เทาไร (30) - 9 อยูในหลักใด (หลกั หนวย) มีคา เทา ไร (9) ครเู ขียน หลกั รอ ย หลักสบิ หลักหนวย บนกระดาน จากนน้ั ครูเขยี น 2 ใตหลกั รอ ย เขียน 3 ใตหลกั สิบ และเขียน 9 ใตหลักหนว ย หลักรอย หลักสบิ หลกั หนวย 239 ๔๓

๔๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ่ี ๔ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชวั่ โมง หน่วยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) 2 450 มกี ่ีรอย กีส่ ิบ กี่หนว่ ย (4 รอ ย 5 สบิ กบั 0 หนว ย) - 4 อยูในหลกั ใด (หลักรอย) มคี าเทา ไร (400) - 5 อยูในหลักใด (หลักสิบ) มคี า เทา ไร (50) - 0 อยใู นหลักใด (หลักหนว ย) มีคาเทาไร (0) ครูเขียน 4 ใตห ลักรอ ย เขียน 5 ใตหลักสบิ และเขียน 0 ใตห ลกั หนว ย โดยเขยี นเลขโดดในหลกั เดียวกนั ใหต รงกัน หลักรอย หลกั สบิ หลกั หนว ย 5 47 2 3 9+ 4 5 0 ครอู ธิบายวิธกี ารบวกทลี ะหลัก ดังน้ี ขน้ั ท่ี 1 บวกในหลักหนว ย (9 หนว ย บวก 0 หนว ย ได 9 หนวย) เขียน 9 ใตหลักหนว ย 2 หลกั รอ ย หลักสบิ หลกั หนวย 2 3 9+ 45 0 9

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท ี่ ๔ 2 2 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนนิ ก�รของจ�ำ นวน หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) ชั้น ป.๒ เวล� ๑ ชวั่ โมง ข้นั ท่ี 2 บวกในหลกั สบิ (3 สิบ บวก 5 สบิ ได 8 สิบ) เขยี น 8 ใตห ลักสบิ 1 6 5 7 90 2 หลักรอ ย หลกั สบิ หลกั หนวย 2 3 9+ 4 5 0 8 9 ขน้ั ที่ 3 บวกในหลักรอ ย (2 รอ ย บวก 4 รอย ได 6 รอ ย) เขียน 6 ใตห ลักรอ ย หลักรอ ย หลกั สิบ หลกั หนวย 2 3 9+ 45 0 68 9 ดังน้ัน 239 + 450 = 689 ๔๕

๔๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท่ี ๔ ชนั้ ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนนิ ก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชั่วโมง หนว่ ยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา การเขียนแสดงวิธีการบวกในแนวตั้ง ไมจําเปนตองเขียนคําวา “หลักรอย หลกั สบิ หลกั หนว ย” แตต อ งเขยี นเลขโดดในหลักเดยี วกนั ใหต รงกนั จากน้ันนําเลขโดดในหลกั เดียวกนั มาบวกกนั โดยเรมิ่ จากหลกั หนว ย หลกั สิบ และหลกั รอ ยตามลําดบั ดังน้ี 2 3 9 + 4 5 0 68 9 ดงั น้ัน 239 + 450 = 689 5 47 ครูและนักเรียนรวมกันตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบที่ได ซ่ึงจะไดวาผลบวกท่ี ไดค วรมากกวา 600 เนอ่ื งจากคา ของเลขโดดในหลกั รอ ยเปน 200 กบั 400 เมอื่ นาํ มาบวกกนั จะเทา กบั 600 ดงั นน้ั ผลบวกจงึ ควรมากกวา 600 3. ครูแนะนําการหาผลบวกของจํานวนสองจํานวนเมื่อมีการสลับท่ีกัน โดยครูเขียนโจทยการบวก 3 ขอ บนกระดาน แลว ใหนักเรียนหาผลบวกโดยการตั้งบวก ดงั น้ี 1) 421 + 35 = ■ 2 24 2 3 1 + 2) 35 + 421 = ■ 5 + 5 3 1 42 456 456 ดงั น้ัน 421 + 35 = 456 ดงั น้ัน 35 + 421 = 456

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูที่ ๔ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจำ�นวน หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ชั้น ป.๒ เวล� ๑ ช่ัวโมง ครใู หน กั เรยี นสงั เกตคาํ ตอบของ 35 + 421 = 456 และ 421 + 35 = 456 ซงึ่ จะไดว า ผลบวกมีคา เทา กัน 1 6 5 7 90 จากนัน้ ครูและนกั เรียนรว มกนั สรปุ วา จาํ นวนสองจํานวนบวกกัน เมอ่ื สลบั ท่ีกันผลบวกยังคงเทาเดมิ 2 3) 82 + 315 = ■ ใหน ักเรยี นหาผลบวกโดยสลบั ทีข่ องจาํ นวน ดงั น้ี 3 8 2 + หรอื 3 1 5 + 1 5 8 2 397 397 ดงั นั้น 82 + 315 = 397 4. ครเู ขยี นโจทยก ารบวกอกี 3 ขอ คอื 1) 513 + 251 = ■ 2) 24 + 814 = ■ และ 3) 737 + 212 = ■ บนกระดาน สมุ ตวั แทนนกั เรยี นแสดงการหาผลบวกโดยการตง้ั บวก 1) 513 + 251 = ■ 2) 421 + 35 = ■ 3) 421 + 35 = ■ 5 1 3 + 8 1 4 + 7 9 7 + 2 5 1 2 4 2 0 2 764 838 999 ดังน้ัน 513+215 = 764 ดังนน้ั 24+814 = 838 ดังนัน้ 797+202 = 999 จากนั้นครูใหน ักเรยี นทาํ แบบฝกหดั 2.4 ๔๗

๔๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูท่ี ๔ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ช่ัวโมง หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ข้นั สรปุ 5. ครแู ละนกั เรียนรวมกันสรปุ วา - การหาผลบวกท่ีไมมีการทดโดยการตั้งบวก สามารถหาผลบวกไดโดยการเขียนเลขโดดในหลัก เดียวกันใหตรงกัน แลวจึงนําจํานวนในหลักเดียวกันมาบวกกัน อาจเริ่มจากหลักหนวย หลักสิบ และ หลักรอ ย - จาํ นวนสองจาํ นวนบวกกัน เม่ือสลบั ทก่ี นั ผลบวกยงั คงเทาเดมิ 5 47 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 ข้ันน�ำ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท่ี ๕ 1 6 5 7 902 2 ขั้นสอน แนวก�รจัดกิจกรรมก�รเรยี นรู 2 ข้นั สรปุ ก�รวดั และประเมินผล ทบทวนผลบวกของจาํ นวนนบั ทผ่ี ลบวกไมเ กิน 1,000 ไมม ีการทด โดยใชแผน ตารางรอ ย แผน ตารางสบิ แผน ตารางหนว ย การหาผลบวกของจํานวนนับทผี่ ลบวกไมเกนิ 1,000 มกี ารทด โดยใชแผนตารางรอ ย แผนตารางสิบ แผน ตารางหนว ย ทําแบบฝก หัด 2.5 ครแู ละนักเรียนรวมกันสรุป การหาผลบวกของจาํ นวนนับที่ผลบวกไมเกิน 1,000 มกี ารทด โดยใชแผน ตารางรอ ย แผน ตารางสิบ แผนตารางหนว ย - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถามและการทําแบบฝก หดั 2.5 - ประเมนิ จากการส่ือสารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร ๔๙

๕๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูท่ี ๕ ชนั้ ป.๒ 01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชัว่ โมง หนว่ ยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) ขอบเขตเนอ้ื ห� กิจกรรมก�รเรียนรู สื่อ/แหล่งเรียนรู การบวกจํานวนสองจํานวน ขนั้ น�ำ มีการทด อาจหาผลบวกโดยใช 1. ครตู ดิ บัตรโจทยการบวกไมม กี ารทดดงั ตอ ไปนี้ บนกระดาน 1. บัตรโจทยการบวก 2. แผน ตารางรอ ย แผนตารางสบิ แผนตารางรอย แผนตารางสิบ 134 + 50 = ■ 234 + 123 = ■ แผน ตารางหนวย 3. แบบฝกหดั 2.5 และแผน ตารางหนว ย ใหนักเรียนใชแ ผน ตารางรอย แผนตารางสบิ แผน ตารางหนว ย ชวยในการหาคาํ ตอบ ดังนี้ ส�ระส�ำ คญั 1) 134 + 50 = ■ ก�รประเมนิ 5 47 - 134 แสดงดว ย แผน ตารางรอ ย แผน ตารางสบิ และแผน ตารางหนว ย อยา งละกแ่ี ผน (แผน ตารางรอ ย การบวกจํานวนสองจํานวน 1 แผน หรือ 1 รอ ย แผน ตารางสบิ 3 แผน หรือ 3 สิบ และแผนตารางหนวย 4 แผน หรือ 1. วิธีก�ร ทผ่ี ลบวกไมเ กนิ 1,000 มกี ารทด 4 หนว ย) 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู เริ่มจากการบวกในหลักหนวย ถาผลบวกเทากับหรือมากกวา - 50 แสดงดว ย แผน ตารางรอ ย แผน ตารางสบิ และแผน ตารางหนว ย อยา งละกแ่ี ผน (แผน ตารางรอ ย 1.2 ตรวจแบบฝกหดั 0 แผน แผนตารางสิบ 5 แผน หรอื 5 สิบ และแผนตารางหนว ย 0 แผน) 2. เคร่ืองมอื - หาคําตอบของ 134 + 50 = ■ ไดอยางไร (นับแผน ตารางรอย รวมกนั ได 1 แผน (1 รอย) 2.1 แบบฝก หดั 2.5 สบิ หนวยตอ งทดไป 1 สิบ และ นับแผนตารางสิบ รวมกันได 8 แผน (8 สิบ) และแผน ตารางหนวย 4 แผน (4 หนว ย) จะได 2.3 แบบประเมินทักษะและ การบวกในหลักสิบ ถาผลบวก 100 + 80 + 4 = 184) 2 เทา กบั หรอื มากวา สบิ สบิ ตอ งทด กระบวนการทางคณิตศาสตร 2 ไป 1 รอย ซ่ึงอาจใชแผนตาราง ชวยในการหาผลบวก 134 กบั 50 100 กับ 80 กบั 4 หนว ย หรอื 184

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ่ี ๕ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ก�รด�ำ เนนิ ก�รของจ�ำ นวน หน่วยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ชน้ั ป.๒ เวล� ๑ ช่วั โมง จดุ ประสงค์ก�รเรยี นรู 2) 234 + 123 = ■ 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ด�นคว�มรู - 234 แสดงดวยแผนตารางรอย แผนตารางสิบ และแผนตารางหนวย อยางละกี่แผน 3.1 ผลงานมีความถูกตอง เ พื่ อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ (แผนตารางรอย 2 แผน หรือ 2 รอย แผนตารางสิบ 3 แผน หรือ 3 สิบ และแผนตารางหนวย ไมนอ ยกวารอ ยละ 80 หาผลบวกจํานวนนับท่ีผลบวก 4 แผน หรอื 4 หนว ย) 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ ไมเกิน 1,000 มีการทด โดยใช แผนตารางรอย แผนตารางสิบ - 123 แสดงดวยแผนตารางรอย แผนตารางสิบ และแผนตารางหนวย อยางละกี่แผน และกระบวนการทางคณิตศาสตร แผนตารางหนวย (แผนตารางรอย 1 แผน หรือ 1 รอย แผนตารางสิบ 2 แผน หรือ 2 สิบ และแผนตารางหนวย ไมนอ ยกวา รอ ยละ 60 3 แผน หรอื 3 หนวย) ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร ท�งคณิตศ�สตร์ - หาคาํ ตอบของ 234 + 123 = ■ ไดอ ยา งไร (นับแผนตารางรอย รวมกนั ได 3 แผน หรอื 3 รอย นับแผนตารางสิบ รวมกันได 5 แผน หรือ 5 สิบ และแผนตารางหนวย 7 แผน หรือ 7 หนวย เ พื่ อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ จะได 300 + 50 + 7 = 357) ส่ือสารและส่ือความหมายทาง คณิตศาสตร 2 234 กบั 123 300 กบั 50 กับ 7 หนวย หรือ 357 ๕๑

๕๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุม่ ส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ่ี ๕ ชัน้ ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชั่วโมง หนว่ ยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ขัน้ สอน 2. ครูติดบัตรโจทย 115 + 146 = ■ และ 252 + 365 = ■ บนกระดานดํา ใหนักเรียนใช แผนตารางรอ ย แผนตารางสิบ แผนตารางหนวย ชว ยในการหาคาํ ตอบ ครูอาจใชค ําถาม เชน 1) 115 + 146 = ■ - 115 แสดงดวยแผนตารางรอย แผนตารางสิบ และแผนตารางหนวย อยางละก่ีแผน (แผน ตารางรอ ย 1 แผน หรือ 1 รอย แผนตารางสิบ 1 แผน หรือ 1 สบิ และแผนตารางหนวย 5 แผน หรอื 5 หนวย) 1 รอ ย กับ 1 สบิ กับ 5 หนว ย 5 47 - 146 แสดงดวยแผนตารางรอย แผนตารางสิบ และแผนตารางหนวย อยางละกี่แผน (แผน ตารางรอ ย 1 แผน หรือ 1 รอ ย แผนตารางสบิ 4 แผน หรือ 4 สิบ และแผนตารางหนว ย 6 แผน 2 หรอื 6 หนว ย) 2 1 รอย กบั 4 สบิ กับ 6 หนว ย

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ี่ ๕ 2 2 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจำ�นวน หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ชั้น ป.๒ เวล� ๑ ชวั่ โมง - หาคําตอบของ 115 + 146 = ■ ไดอยางไร 2 รอย กบั 5 สบิ กับ 11 หนว ย 1 6 5 7 90 (นับแผนตารางรอย รวมกันได 2 แผน หรือ 2 รอย 2 รอย กบั 6 สิบ กบั 1 หนวย 2 นับแผนตารางสิบ รวมกันได 5 แผน หรือ 5 สิบและ ๕๓ แผนตารางหนวย รวมกันได 11 แผน หรือ 11 หนวย ดังน้นั รวมกันได 2 รอ ย กับ 5 สบิ กบั 11 หนว ย) ครูอธิบายการหาผลบวกที่มีการทด (จากหลักหนวย ไปหลักสบิ ) - 11 หนว ย คดิ เปน กสี่ บิ กบั กหี่ นว ย (1 สบิ กบั 1 หนว ย) และแสดงดวยแผนตารางสิบก่ีแผนกับแผนตารางหนวย กแี่ ผน (11 หนวย แสดงดว ย แผนตารางสิบ 1 แผน กบั แผน ตารางหนว ย 1 แผน ) ครเู ปลยี่ นแผน ตารางหนว ย 11 แผน เปนแผนตารางสิบ 1 แผน กบั แผน ตารางหนว ย 1 แผน - ผลบวกทไี่ ด มแี ผน ตารางรอ ยกแ่ี ผน แสดงจาํ นวนใด แผนตารางสิบกี่แผน แสดงจํานวนใด และแผนตาราง หนว ยกีแ่ ผน แสดงจาํ นวนใด (มีแผน ตารางรอ ย 2 แผน แสดงจํานวน 2 รอย กับแผนตารางสิบ 6 แผน แสดง จาํ นวน 6 สบิ กับแผนตารางหนวย 1 แผน แสดงจํานวน 1 หนว ย หรอื 2 รอย กับ 6 สบิ กบั 1 หนว ย นัน่ คอื 200 + 60 + 1 = 261) ดงั น้นั 115 + 146 = 261

๕๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท ี่ ๕ ชน้ั ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ช่วั โมง หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) 2) 252 + 375 = ■ - 252 แสดงดวยแผนตารางรอย แผนตารางสิบ และแผนตารางหนวย อยางละก่ีแผน (แผนตารางรอ ย 2 แผน หรอื 2 รอย แผนตารางสบิ 5 แผน หรือ 5 สบิ และแผน ตารางหนว ย 2 แผน หรอื 2 หนวย) - 375 แสดงดวยแผนตารางรอย แผนตารางสิบ และแผนตารางหนวย อยางละก่ีแผน (แผน ตารางรอ ย 3 แผน หรือ 3 รอย แผน ตารางสบิ 7 แผน หรอื 7 สบิ และแผน ตารางหนว ย 5 แผน หรือ 5 หนวย) 2 รอย กบั 5 สิบ กบั 2 หนวย รวมกับ 3 รอ ย กบั 7 สบิ กับ 5 หนว ย 5 47 - หาคาํ ตอบของ 252 + 375 = ■ ไดอ ยา งไร (นับแผนตารางรอย รวมกนั ได 5 แผน หรือ 5 รอย นบั แผน ตารางสบิ รวมกันได 12 แผน หรอื 12 สบิ และแผน ตารางหนว ย รวมกันได 7 แผน หรอื 7 หนว ย แลวรวมจาํ นวนรอย จํานวนสิบ และจํานวนหนว ย จะได 5 รอ ย กบั 12 สิบ กับ 7 หนวย 22 5 รอย กับ 12 สบิ กับ 7 หนว ย

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท่ี ๕ 2 กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) ช้นั ป.๒ หนว่ ยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง ครอู ธบิ ายการหาผลบวกทมี่ กี ารทด (จากหลกั สบิ ไปหลักรอย) 1 6 5 7 90 - 12 สบิ คดิ เปน ก่ีรอย กับก่สี ิบ (1 รอ ย กบั 2 สบิ ) และแสดงดว ยแผนตารางรอ ยก่ีแผน กับ แผนตารางสิบก่ีแผน (12 สิบ แสดงดวย แผนตารางรอย 1 แผนกับแผนตารางสิบ 2 แผน) ครเู ปลย่ี นแผน ตารางสบิ 12 แผน เปน แผนตารางรอ ย 1 แผนกบั แผนตารางสิบ 2 แผน ๕๕ แผนตารางสิบ 10 แผน เทา กับแผนตารางรอย 1 แผน - ผลบวกทไี่ ด มแี ผน ตารางรอยกแี่ ผน แสดงจํานวนใด แผน ตารางสิบกี่แผน แสดงจํานวนใดและ แผนตารางหนวยก่ีแผน แสดงจํานวนใด (มีแผนตารางรอย 6 แผน แสดงจํานวน 6 รอย กับ แผนตารางสิบ 2 แผน แสดงจาํ นวน 2 สิบ กบั แผน ตารางหนว ย 7 แผน แสดงจํานวน 7 หนวย) 22 5 รอย กับ 1 รอ ย กบั 2 สิบ กบั 7 หนว ย หรือ 6 รอ ย กับ 2 สิบ กับ 7 หนวย หรอื 600 + 20 + 7 = 627 ดังนนั้ 252 + 375 = 627

๕๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรูท่ี ๕ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ช่วั โมง หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) 3. ครูแบง กลมุ นกั เรยี นออกเปนกลมุ ละ 3 - 4 คน ใหนักเรียนแตล ะกลมุ หาผลบวกของโจทยก ารบวก ตอ ไปนี้ 234 + 147 = ■ 709 + 105 = ■ 182 + 246 = ■ 1) 234 + 147 = ■ 234 หรือ 2 รอย กบั 3 สิบ กบั 4 หนวย 147 หรอื 1 รอ ย กบั 4 สิบ กับ 7 หนว ย 5 47 22 3 รอย กบั 7 สิบ กบั 11 หนว ย จาก 11 หนวย เทา กบั 1 สบิ กบั 1 หนวย จะได 3 รอย กับ 8 สิบ กบั 1 หนวย หรือ 300 + 80 + 1 = 381 ดังนั้น 234 + 147 = 381

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ี่ ๕ ชัน้ ป.๒ 2 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) 2) 709 + 105 = ■ 1 6 5 7 90 709 หรอื 7 รอ ย กบั 9 หนว ย 105 หรอื 1 รอ ย กับ 5 หนวย 8 รอ ย กบั 14 หนว ย 2 2 จาก 14 หนวย เทา กบั 1 สบิ กบั 4 หนว ย หรอื 8 รอ ย กบั 1 สบิ กับ 4 หนว ย หรือ 800 + 10 + 4 = 814 ดงั น้นั 709 + 105 = 814 ๕๗

๕๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ่ี ๕ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชั่วโมง หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) 3) 182 + 246 = ■ 182 หรอื 1 รอย กบั 8 สิบ กับ 2 หนว ย 246 หรือ 2 รอ ย กับ 4 สบิ กบั 6 หนวย 5 47 3 รอย กบั 12 สิบ กบั 8 หนวย 2 2จาก 12 สิบ เทากับ 1 รอย กับ 2 สิบ จะได 4 รอ ย กบั 2 สบิ กบั 8 หนวย หรือ 400 + 20 + 8 = 428 ดงั นน้ั 182 + 246 = 428

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรียนรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูที่ ๕ 2 2 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ชน้ั ป.๒ เวล� ๑ ชว่ั โมง ในทาํ นองเดยี วกนั ครใู หน กั เรียนแตล ะกลุม ใชแ ผน ตารางรอ ย แผน ตารางสิบ และแผนตารางหนว ยหา 1 6 5 7 90 ผลบวกของจาํ นวนตอไปน้ี 2 147 + 234 = ■ 105 + 709 = ■ 246 + 182 = ■ ครใู หนกั เรียนสังเกตผลบวกของ 234 + 147 = ■ กบั 147 + 234 = ■ 709 + 105 = ■ กบั 105 + 709 = ■ 182 + 246 = ■ กับ 246 + 182 = ■ ซึ่งจะพบวา จาํ นวนสองจํานวนบวกกนั เมือ่ สลบั ทีก่ ัน ผลบวกยังคงเทาเดมิ นกั เรยี นทําแบบฝก หดั 2.5 ข้ันสรปุ 4. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปวา การบวกจํานวนสองจํานวนท่ีผลบวกไมเกิน 1,000 ที่มีการทด เริ่มจากการบวกในหลกั หนวย ถา ผลบวกเทากบั หรอื มากกวาสบิ หนวยตอ งทดไป 1 สบิ และการบวก ในหลักสิบ ถาผลบวกเทากับหรือมากกวาสิบสิบ ตองทดไป 1 รอย ซ่ึงอาจใชแผนตาราง ชวยในการ หาผลบวก ๕๙

๖๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) แผนก�รจัดก�รเรียนรูท่ี ๖ 01 9 แนวก�รจัดกิจกรรมก�รเรยี นรู ขนั้ น�ำ ทบทวนการหาผลบวกของจํานวนนบั ที่ผลบวกไมเ กนิ 1,000 ไมม กี ารทด โดยใชก ารต้ังบวก ขั้นสอน การหาผลบวกของจํานวนนบั ท่ผี ลบวกไมเกนิ 1,000 มีการทด โดยใชก ารตงั้ บวก 5 47 ทาํ แบบฝก หดั 2.6 ขั้นสรุป ครูและนกั เรียนรว มกันสรุป การหาผลบวกของจํานวนนบั ท่ีผลบวกไมเ กนิ 1,000 มีการทด โดยใชการตัง้ บวก 2 ก�รวดั และประเมินผล - ประเมินจากการตอบคาํ ถามและการทําแบบฝก หัด 2.6 2 - ประเมนิ จากการสอ่ื สารและส่ือความหมายทางคณิตศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ่ี ๖ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจ�ำ นวน หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) ชนั้ ป.๒ เวล� ๑ ช่วั โมง ขอบเขตเน้ือห� กจิ กรรมก�รเรยี นรู ส่อื /แหลง่ เรยี นรู 1 6 5 7 902 ขั้นน�ำ การบวกจํานวนสองจํานวน 1. แผน ตารางรอ ย แผน ตารางสบิ อาจหาผลบวกโดยการตงั้ บวก 1. ครเู ขียนโจทยการบวก 616 + 251 = ■ และ 543 + 52 = ■ บนกระดาน ใหนักเรยี นชว ยกัน แผน ตารางหนวย หาผลบวกโดยการตั้งบวก ดงั นี้ ส�ระส�ำ คัญ 1) 616 + 251 = ■ 2. แบบฝกหดั 2.6 ข้นั ที่ 1 บวกในหลักหนว ย (6 หนวย บวก 1 หนว ย ได 7 หนวย) เขยี น 7 ใตหลักหนวย การหาผลบวกของจํานวน หลักรอย หลักสบิ หลกั หนว ย ก�รประเมิน สองจาํ นวนโดยการตงั้ บวก ตอ งเขยี น 6 1 6+ เลขโดดในหลักเดียวกันใหตรงกัน 25 1 1. วธิ ีก�ร แลว จงึ นาํ จาํ นวนในหลกั เดยี วกนั 7 1.1 สังเกตพฤติกรรม มาบวกกนั โดยเรม่ิ จากหลกั หนว ย การเรียนรู หลกั สบิ และหลกั รอ ยตามลาํ ดบั ขนั้ ที่ 2 บวกในหลักสิบ (1 สิบ บวก 5 สิบ ได 6 สิบ) เขียน 6 ใตห ลกั สบิ 1.2 ตรวจแบบฝก หดั หลกั รอย หลักสบิ หลกั หนวย - ถา ผลบวกในหลกั หนว ยเปน 6 1 6+ 2. เครื่องมือ 10 หนวย หรือมากกวา 10 หนว ย 25 1 2.1 แบบฝก หัด 2.6 ตองทดจาํ นวนทค่ี รบสิบ ไปรวม 67 2.3 แบบประเมนิ ทกั ษะ กบั จาํ นวนในหลักสิบ และกระบวนการ ทางคณิตศาสตร - ถาผลบวกในหลักสิบเปน ๖๑ 10 สบิ หรือมากกวา 10 สบิ ตอ ง ทดจํานวนท่ีครบรอยไปรวมกับ จํานวนในหลักรอย

๖๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ่ี ๖ ชนั้ ป.๒ 01 9 หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชั่วโมง หน่วยยอ่ ยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) จุดประสงค์ก�รเรียนรู ขนั้ ที่ 3 บวกในหลกั รอย (6 รอ ย บวก 2 รอย ได 8 รอ ย) เขียน 8 ใตหลกั รอ ย 3. เกณฑ์ ด�นคว�มรู 3.1 ผลงานมีความถูกตอง หลกั รอ ย หลกั สิบ หลกั หนว ย เพ่ือใหนักเรียนสามารถหา 6 1 6+ ไมน อ ยกวารอ ยละ 80 ผลบวกจาํ นวนนบั ทผ่ี ลบวกไมเ กนิ 2 5 1 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ 1,000 โดยการต้ังบวกได 8 6 7 และกระบวนการทางคณิตศาสตร ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร ไมน อ ยกวา รอยละ 60 ท�งคณติ ศ�สตร์ ดังนั้น 616 + 251 = 867 5 47 เพอ่ื ใหน กั เรยี นสามารถสอื่ สาร และสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร 2) 543 + 52 = ■ 2 5 4 3+ 52 2 59 5 ดงั น้ัน 543 + 52 = 595

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจัดก�รเรียนรูท่ี ๖ 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ชนั้ ป.๒ หน่วยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ช่วั โมง ข้นั สอน 1 6 5 7 90 2. ครเู ขยี นโจทยก ารบวกเพ่ิมเติม ใหนักเรียนใชแ ผน ตารางรอย แผนตารางสบิ และแผน ตารางหนวย ในการหาคําตอบ พรอ มถามคําถามดังน้ี 1) 245 + 128 = ■ 245 มีกร่ี อ ย ก่สี ิบ ก่หี นว่ ย (2 รอย กับ 4 สบิ กับ 5 หนว ย) - 2 อยูในหลักใด (หลักรอ ย) มีคาเทา ไร (200) - 4 อยใู นหลกั ใด (หลักสบิ ) มีคาเทาไร (40) - 5 อยใู นหลักใด (หลกั หนว ย) มีคา เทา ไร (5) 2ครเู ขยี น หลกั รอย หลกั สิบ หลกั หนวย บนกระดาน จากน้นั ครูเขียน 2 ใตห ลักรอย เขียน 4 ใตห ลกั สบิ 2 และเขยี น 5 ใตห ลักหนวย หลักรอ ย หลักสบิ หลักหนว ย 245 ๖๓

๖๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ ส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ี่ ๖ ชัน้ ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชั่วโมง หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) 128 คอื 1 รอย กบั 2 สบิ กับ 8 หนวย 5 47 128 มกี ร่ี อย กีส่ ิบ กี่หนว่ ย (1 รอ ย กับ 2 สิบ กบั 8 หนว ย) - 1 อยูใ นหลกั ใด (หลกั รอย) มีคา เทาไร (100) - 2 อยใู นหลักใด (หลักสิบ) มีคาเทา ไร (20) - 8 อยูในหลกั ใด (หลักหนวย) มีคา เทาไร (8) ครูเขียน 1 ใตห ลกั รอ ย เขยี น 2 ใตหลกั สบิ และเขยี น 8 ใตห ลักหนวย โดยเขียนเลขโดดในหลัก เดยี วกันใหตรงกนั หลักรอย หลักสิบ หลักหนว ย 2 22 4 5 + 12 8 ครอู ธิบายการหาผลบวกของจาํ นวนสองจํานวนทลี ะหลกั ทมี่ ีการทด (ในหลกั หนวย)

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท ่ี ๖ 2 กลุม่ ส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ หน่วยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ชน้ั ป.๒ หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชั่วโมง ขน้ั ท่ี 1 บวกในหลักหนวย (5 หนวย บวก 8 หนวย ได 13 หนวย หรือ 1 สิบ กับ 3 หนวย) 1 6 5 7 90 เขยี น 3 ใต หลักหนวย และเขยี นทด 1 สบิ ทห่ี ลกั สิบ หลกั รอย หลกั ส41บิ หลักหนว ย 2 2 5+ 1 8 3 2 2 ๖๕

๖๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูค ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ี่ ๖ ชน้ั ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ข้ันที่ 2 บวกในหลักสิบ (4 สิบ บวก 2 สิบ ได 6 สิบ บวกกับท่ีทดมาอีก 1 สิบ ได 7 สิบ) เขียน 7 ใตห ลกั สบิ หลกั รอย หลกั สบิ หลกั หนว ย 5 47 41 2 2 5 + 1 7 8 3 ขนั้ ท่ี 3 บวกในหลกั รอย (2 รอ ย บวก 1 รอย ได 3 รอ ย) เขียน 3 ใตห ลักรอ ย 2 หลักรอ ย หลักสบิ หลักหนว ย 2 2 41 5 + 12 8 37 3 ดังนัน้ 245 + 128 = 373

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ่ี ๖ 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูคณติ ศ�สตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ช้นั ป.๒ หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ช่ัวโมง 2) 381 + 76 = ■ 1 6 5 7 90 381 คอื 3 รอ ย กบั 8 สิบ กับ 1 หนวย 381 มกี ร่ี อ ย กี่สิบ กีห่ น่วย (3 รอย กบั 8 สบิ กบั 1 หนวย) - 3 อยใู นหลักใด (หลกั รอย) มคี าเทา ไร (300) - 8 อยใู นหลกั ใด (หลักสบิ ) มีคาเทาไร (80) - 1 อยูในหลกั ใด (หลักหนว ย) มคี าเทาไร (1) 2 ครเู ขียน หลกั รอย หลกั สบิ หลกั หนว ย บนกระดาน จากนัน้ ครูเขยี น 3 ใตหลักรอย เขยี น 8 ใตหลกั 2 สิบและเขยี น 1 ใตหลกั หนว ย หลักรอย หลกั สบิ หลักหนวย 381 ๖๗

๖๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ ส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท่ี ๖ ชนั้ ป.๒01 9 หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) 76 คอื 7 สบิ กับ 6 หนวย 5 47 76 มีก่ีรอย กี่สิบ กี่หน่วย (0 รอ ย กบั 7 สบิ กับ 6 หนวย) - 7 อยูในหลกั ใด (หลกั สิบ) มีคา เทา ไร (70) - 6 อยใู นหลักใด (หลักหนวย) มีคาเทา ไร (6) ครูเขียน 7 ใตหลักสิบ และเขียน 6 ใตหลกั หนวย โดยเขียนเลขโดดในหลักเดยี วกนั ใหต รงกนั หลกั รอ ย หลกั สบิ หลักหนวย 2 23 8 1 + 76

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ่ี ๖ 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) ชนั้ ป.๒ หนว่ ยท่ี ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง ครูอธบิ ายวิธีการบวกทลี ะหลกั ทม่ี กี ารทด (ในหลักสิบ) ดงั นี้ 1 6 5 7 90 ขน้ั ที่ 1 บวกในหลกั หนว ย (1 หนวย บวก 6 หนวย ได 7 หนวย) เขยี น 7 ใตห ลกั หนวย หลกั รอ ย หลักสิบ หลกั หนวย 3 8 1+ 76 7 22 ๖๙

๗๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท ่ี ๖ ช้นั ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) 2 ขัน้ ที่ 2 บวกในหลกั สบิ (8 สิบ บวก 7 สบิ ได 15 สิบ หรอื 1 รอ ย กบั 5 สิบ) เขียน 5 ในหลักสบิ และทดไปหลักรอ ย 1 รอ ย เขยี น 1 ท่หี ลักรอย หลกั รอ ย หลกั สบิ หลกั หนวย 5 47 31 8 1 + 76 2 57

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท่ี ๖ 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรูคณติ ศ�สตร์ หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ชั้น ป.๒ หนว่ ยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชั่วโมง ขนั้ ท่ี 3 บวกในหลกั รอ ย (3 รอย บวก 0 รอย ได 3 รอย และบวกกบั ท่ีทดมาอีก 1 6 5 7 90 1 รอย ได 4 รอ ย) เขยี น 4 ใตห ลกั รอย หลกั รอย หลักสบิ หลักหนวย 31 8 1 + 76 2 24 5 7 ดงั นัน้ 381 + 76 = 457 ๗๑

๗๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ี่ ๖ ชั้น ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชั่วโมง หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) 2 ครูอธิบายเพิ่มเติมวา การเขียนแสดงวิธีการบวกในแนวตั้ง ไมจําเปนตองเขียนคําวา “หลักรอย หลักสบิ หลกั หนวย” แตตองเขียนเลขโดดในหลักเดยี วกนั ใหต รงกันจากนนั้ นาํ จํานวนในหลักเดียวกนั มาบวกกนั โดยเร่ิมจากหลักหนวย หลกั สบิ และหลักรอย ตามลําดบั ดงั นี้ 31 8 1+ 5 47 7 6 7 45 ดังนั้น 381 + 76 = 457 ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาํ ตอบ ดงั นี้ เนอ่ื งจาก 381 นอ ยกวา 400 2 และ 76 นอ ยกวา 100 จะได 381 + 76 = 457 ควรนอ ยกวา 400 + 100 = 500 457 นอ ยกวา 500 ดงั นนั้ 457 เปน คาํ ตอบทสี่ มเหตสุ มผล

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูค ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูที่ ๖ 2 2 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจำ�นวน หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ชนั้ ป.๒ เวล� ๑ ชว่ั โมง ครเู ขยี นโจทยก ารบวกบนกระดาน แลว ใหน กั เรยี นหาผลบวกโดยการตง้ั บวก ดงั นี้ 1 6 5 7 90 1) 578 + 102 = ■ 2) 342 + 591 = ■ 3) 35 + 827 = ■ 2 5 71 8 + 31 4 2 + 8 31 5 + 1 0 2 5 9 1 2 7 680 933 862 จากน้ันครแู ละนกั เรยี นรว มกนั ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคําตอบแตล ะขอ แนวทางการตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาํ ตอบ 1) 578 + 102 = 680 เนอ่ื งจาก 102 ใกลเ คยี ง 100 ดงั นนั้ คาํ ตอบ (680) ควรใกลเ คยี ง 578 + 100 = 678 หรอื 578 ใกลเ คยี ง 600 และ 102 ใกลเ คยี ง 100 ดงั นนั้ คาํ ตอบ (680) ควรใกลเ คยี ง 600 + 100 = 700 2) 342 + 591 = 933 เนอ่ื งจาก 591 ใกลเ คยี ง 600 ดงั นน้ั คาํ ตอบ (933) ควรใกลเ คยี ง 342 + 600 = 942 3) 35 + 827 = 862 เนอ่ื งจาก 827 ใกลเ คยี ง 800 ดงั นน้ั คาํ ตอบ (862) ควรใกลเ คยี ง 35 + 800 = 835 จากนน้ั นกั เรียนทาํ แบบฝก หัด 2.6 ๗๓

๗๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ่ี ๖ ชั้น ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนนิ ก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ช่ัวโมง หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) ขน้ั สรปุ 5 47 3. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ วา การหาผลบวกของจาํ นวนสองจาํ นวนโดยการตงั้ บวก ตอ งเขยี นเลขโดด ในหลกั เดยี วกนั ใหต รงกนั แลว จงึ นาํ จาํ นวนในหลกั เดยี วกนั มาบวกกนั โดยเรม่ิ จากหลกั หนว ย หลกั สบิ และหลกั รอ ยตามลาํ ดบั - ถา ผลบวกในหลกั หนว ยเปน 10 หนว ย หรอื มากกวา 10 หนว ย ตอ งทดจาํ นวนทค่ี รบสบิ ไปรวมกบั จาํ นวนในหลกั สบิ - ถา ผลบวกในหลกั สบิ เปน 10 สบิ หรอื มากกวา 10 สบิ ตอ งทดจาํ นวนทคี่ รบรอ ยไปรวมกบั จาํ นวน ในหลกั รอ ย 22

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 1 6 5 7 902 2 แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูท ี่ ๗ แนวก�รจัดกิจกรรมก�รเรยี นรู ขนั้ น�ำ ทบทวนการหาผลบวกของจาํ นวนสามจาํ นวนท่ีผลบวกไมเ กิน 100 ขน้ั สอน การหาผลบวกของจาํ นวนสามจาํ นวนท่ีผลบวกไมเ กนิ 1,000 (แนวนอน) ทําแบบฝก หดั 2.7 ขน้ั สรุป ครูและนกั เรยี นรว มกนั สรปุ การหาผลบวกของจํานวนสามจํานวนทผ่ี ลบวกไมเกนิ 1,000 (แนวนอน) 2 ก�รวดั และประเมินผล - ประเมินจากการตอบคาํ ถามและการทาํ แบบฝก หัด 2.7 - ประเมินจากการแกป ญหาและการสื่อสารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร ๗๕

๗๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ี่ ๗ ชัน้ ป.๒ 01 9 หน่วยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) ขอบเขตเน้ือห� กจิ กรรมก�รเรียนรู ส่อื /แหลง่ เรยี นรู การบวกจาํ นวนสามจํานวน ขน้ั นำ� 1. บตั รโจทยการบวก 1. ครทู บทวนการหาผลบวกของจาํ นวนสามจาํ นวนทผี่ ลบวกไมเ กนิ 100 โดยครเู ขยี นโจทยบ นกระดาน 2. แบบฝกหัด 2.7 ใหน กั เรยี นหาผลบวก จากนนั้ ครสู มุ ตวั แทนนกั เรยี นออกมานาํ เสนอวธิ หี าผลบวกทแ่ี ตกตา งกนั ดงั นี้ 1) 6 + 8 + 4 = ■ ก�รประเมนิ วิธที ี่ 1 6 + 8 + 4 = ■ บวกจาํ นวนคูแ รกกอน แลวบวกจาํ นวนทเ่ี หลือ 1. วิธกี �ร ขั้นที่ 1 6 + 8 = 14 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู ขนั้ ท่ี 2 14 + 4 = 18 1.2 ตรวจแบบฝกหัด ดงั นนั้ 6 + 8 + 4 = 18 2. เครื่องมอื วธิ ีท่ี 2 6 + 8 + 4 = ■ บวกจํานวนคูห ลงั กอ น แลวบวกจํานวนทเ่ี หลอื 2.1 แบบฝก หดั 2.7 ขน้ั ท่ี 1 8 + 4 = 12 2.3 แบบประเมินทักษะและ ขนั้ ท่ี 2 12 + 6 = 18 ดังนั้น 6 + 8 + 4 = 18 กระบวนการทางคณติ ศาสตร 3. เกณฑ์ วิธีที่ 3 6 + 8 + 4 = ■ บวกจาํ นวนแรกและจํานวนสดุ ทายกอ น แลว บวกจํานวนท่เี หลือ ขนั้ ที่ 1 6 + 4 = 10 (จับคูจํานวนทีค่ รบสบิ กอ น) 3.1 ผลงานมีความถูกตอง ขนั้ ที่ 2 10 + 8 = 18 ไมน อยกวา รอ ยละ 80 ดังน้ัน 6 + 8 + 4 = 18 ส�ระสำ�คัญ 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ 5 47 และกระบวนการทางคณติ ศาสตร การบวกจํานวนสามจํานวน ไมนอ ยกวารอ ยละ 60 จะบวกสองจํานวนใดกอนก็ได แลวจึงบวกกับจํานวนท่ีเหลือ ผลบวกท่ีไดจะเทา กัน จดุ ประสงค์ก�รเรียนรู ด� นคว�มรู เ พ่ื อ ใ ห  นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ หาผลบวกจํานวนสามจํานวน ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร 2 2ท�งคณิตศ�สตร์ เพ่อื ใหนักเรียนสามารถ 1. แกป ญ หา 2. สื่อสารและสื่อความหมาย ทางคณิตศาสตร

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กล่มุ ส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ่ี ๗ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจ�ำ นวน หน่วยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) ช้นั ป.๒ เวล� ๑ ชัว่ โมง ครูใหนักเรียนสังเกตวา การบวกจํานวนสามจํานวน จะบวกสองจํานวนใดกอนก็ไดแลวจึงบวก 1 6 5 7 90 กับจํานวนท่ีเหลือ ผลบวกท่ีไดจะเทากัน ครูถามนักเรียนวาวิธีใดหาผลบวกไดงายที่สุด (วิธีที่ 3) 2 เพราะเหตุใด (เพราะเปนจับคูจํานวนสองจํานวนท่ีบวกกันแลวครบสิบกอน ทําใหไปรวมกับจํานวน ทเ่ี หลือไดงา ย) 2) 12 + 17 + 13 = ■ ครูถามนักเรยี นวา ควรบวกจาํ นวนคใู ดกอน (17 กบั 13) เพราะเหตุใด (เพราะ 17 รวมกบั 13 ได 30 เม่ือนํา 30 ไปรวมกบั จาํ นวนท่ีเหลอื จะทําใหหาผลบวกไดงา ย) วิธที ี่ 1 12+17+13 = ■ บวกจํานวนคทู ีไ่ ดผลบวกครบสิบกอน แลวบวกจาํ นวนทเ่ี หลือ ขัน้ ที่ 1 17 + 13 = 30 ขน้ั ท่ี 2 30 + 12 = 42 ดงั น้ัน 12 + 17 + 13 = 42 จากน้นั ครูแนะนาํ วา นักเรยี นอาจบวกจํานวนคูใดกอนก็ได ดังนี้ ๗๗ วธิ ีที่ 2 12+17+13 = ■ บวกจาํ นวนคูแรกกอน แลว บวกจาํ นวนทเ่ี หลอื ขั้นท่ี 1 12 + 17 = 29 ข้ันท่ี 2 29 + 13 = 42 ดงั นน้ั 12 + 17 + 13 = 42

๗๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ี่ ๗ ชัน้ ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชวั่ โมง หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) 2 วธิ ที ี่ 3 12+17+13 = ■ บวกจาํ นวนแรกและจาํ นวนสดุ ทายกอ น แลวบวกจาํ นวนท่ีเหลือ 5 47 ข้ันท่ี 1 12 + 13 = 25 ขัน้ ท่ี 2 25 + 17 = 42 ดงั น้ัน 12 + 17 + 13 = 42 ครใู หน กั เรยี นสงั เกตวา การบวกจาํ นวนสามจาํ นวน จะบวกสองจาํ นวนใดกอ นกไ็ ด หากมคี ทู บ่ี วกกนั ไดเ ปนจํานวนครบสบิ ใหบ วกคนู ั้นกอน แลว จึงบวกกับจาํ นวนท่เี หลอื ครูถามนักเรียนวา ใครมีวิธีในการหาผลบวกแบบอ่ืนอีกหรือไม ใหนักเรียน ออกมานาํ เสนอแนวคดิ ซง่ึ อาจได ดังนี้ วิธีท่ี 4 10 + 17 + 13 = ■ 10 2 10 7 10 3 2 ขั้นที่ 1 10 + 10 + 10 = 30 ขัน้ ที่ 2 7 + 3 + 2 = 10 + 2 ข้ันท่ี 3 30 + 10 + 2 = 40 + 2 = 42 ดงั นนั้ 12 + 17 + 13 = 42

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรูที่ ๗ 2 2 หน่วยท่ี ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) ชั้น ป.๒ เวล� ๑ ชัว่ โมง ข้ันสอน 1 6 5 7 90 2 2. ครูใหน กั เรยี นจับคกู ัน จากน้นั ครตู ดิ บัตรโจทยก ารบวกจาํ นวนสามจาํ นวน ทผ่ี ลบวกไมเกนิ 1,000 บนกระดาน ใหน ักเรยี นแตละคูหาผลบวก ดงั น้ี 1) 20 + 60 + 40 = ■ ครถู ามนกั เรียนวา ควรบวกจํานวนคใู ดกอ น (60 กบั 40) เพราะเหตใุ ด (เพราะ 60 รวมกบั 40 ได 100 เมอ่ื นํา 100 ไปรวมกบั จาํ นวนทเ่ี หลอื จะทาํ ใหห าผลบวกไดง า ย) วธิ ีที่ 1 20+ 60 + 40 = ■ บวกจาํ นวนคทู ี่ไดผ ลบวกครบหนง่ึ รอยกอ น แลว บวกจํานวนที่เหลอื ข้นั ท่ี 1 60 + 40 = 100 ขัน้ ท่ี 2 100 + 20 = 120 ดังน้ัน 20 + 60 + 40 = 120 จากนัน้ ครแู นะนาํ วานักเรียนอาจบวกจํานวนคูใดกอ นก็ได ดงั น้ี วิธที ี่ 2 20 + 60 + 40 = ■ บวกจํานวนคแู รกกอนและบวกจาํ นวนทเ่ี หลือ ขั้นที่ 1 20 + 60 = 80 ข้ันท่ี 2 80 + 40 = 120 ดังนน้ั 20 + 60 + 40 = 120 ๗๙

๘๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กล่มุ ส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ี่ ๗ ชั้น ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หนว่ ยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) วธิ ที ี่ 3 20 + 60 + 40 = ■ บวกจํานวนแรกและจาํ นวนสุดทา ยกอ นและบวกตวั ท่เี หลือ 5 47 ขั้นท่ี 1 20 + 40 = 60 ขนั้ ท่ี 2 60 + 60 = 120 ดังนน้ั 20 + 60 + 40 = 120 ครูใหนักเรียนสังเกตวา การบวกจํานวนสามจํานวน จะบวกสองจํานวนใดกอนก็ไดแลวจึงบวก กับจํานวนที่เหลือ ผลบวกท่ีไดจะเทากัน ทั้งนี้ครูถามนักเรียนเพ่ิมเติมวาจากโจทยการบวก 20 + 60 + 40 = ■ ครูควรจับคูจํานวนใดบวกกนั กอ น เพราะเหตใุ ด (นํา 60 + 40 มาบวกกันกอน เนือ่ งจาก 60 + 40 = 100) ครใู หน กั เรยี นสงั เกตวา การจบั คกู ารบวกจาํ นวนสามจาํ นวนใหน กั เรยี นจบั คบู วกจาํ นวนคทู รี่ วมกนั ไดค รบ รอยกอน จะทาํ ใหก ารหาผลบวกทาํ ไดงายขน้ึ 2) 65 + 8 + 35 = ■ ครูถามนักเรียนวา ควรบวกจํานวนคูใดกอน (65 กับ 35) เพราะเหตุใด (เพราะ 65 รวมกับ 35 ได 100) 2 วิธที ี่ 1 65 + 8 + 35 = ■ บวกคูทไี่ ดผลบวกครบหน่งึ รอยกอ น แลว บวกจาํ นวนท่เี หลอื 2 ขั้นท่ี 1 65 + 35 = 100 ขนั้ ที่ 2 100 + 8 = 108 ดงั นนั้ 65 + 8 + 35 = 108

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรยี นรทู ่ี ๗ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจำ�นวน หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กนิ ๑,๐๐๐) ช้นั ป.๒ เวล� ๑ ชว่ั โมง จากน้ันครูแนะนาํ วานักเรียนอาจบวกจาํ นวนคูใดกอ นกไ็ ด ดังนี้ 1 6 5 7 90 วธิ ีท่ี 2 65 + 8 + 35 = ■ บวกจาํ นวนคแู รกกอนและบวกจาํ นวนท่เี หลือ 2 ข้นั ที่ 1 65 + 8 = 73 ข้นั ท่ี 2 73 + 35 = 108 ดงั นน้ั 65 + 8 + 35 = 108 วิธีท่ี 3 65+ 8 + 35 = ■ บวกจํานวนคูห ลงั กอนและบวกจํานวนทีเ่ หลือ ขัน้ ที่ 1 8 + 35 = 43 ข้ันท่ี 2 43 + 65 = 108 ดังน้ัน 65 + 8 + 35 = 108 ครูถามนกั เรยี นเพิ่มเตมิ วา จากโจทยก ารบวก 65 + 8 + 35 = ■ ครูควรจบั คูจ ํานวนใดบวกกนั กอ น เพราะเหตใุ ด (นาํ 65 + 35 มาบวกกันกอน เน่ืองจาก 65 + 35 = 100) ครใู หน กั เรยี นสงั เกตวา การจบั คกู ารบวกจาํ นวนสามจาํ นวนใหน กั เรยี นจบั คบู วกจาํ นวนคทู รี่ วมกนั ไดค รบ หน่ึงรอยกอ น จะทาํ ใหการหาผลบวกทําไดงา ยขนึ้ ๘๑

๘๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณติ ศ�สตร์ แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท ี่ ๗ ชัน้ ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ช่ัวโมง หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ครูถามนักเรียนวา ใครมีวิธีในการหาผลบวกแบบอื่นอีกหรือไม ใหนักเรียนออกมานําเสนอแนวคิด ซ่ึงอาจได ดังน้ี วิธีที่ 4 65 + 8 + 35 = ■ 60 5 30 5 ข้ันท่ี 1 60 + 30 = 90 5 47 ขน้ั ท่ี 2 5 + 8 + 5 = 10 + 8 ข้ันท่ี 3 90 + 10 + 8 = 100 + 8 = 108 ดงั น้ัน 65 + 8 + 35 = 108 3) 46 + 87 + 24 = ■ ครูถามนักเรียนวา ควรบวกจํานวนคูใดกอน (46 กับ 24) เพราะเหตุใด (เพราะ 46 รวมกับ 24 2 ได 70) วธิ ที ่ี 1 46 + 87 + 24 = ■ บวกจํานวนท่เี ปน คูส ิบกอ นแลว บวกจํานวนทเ่ี หลอื 2 ขั้นที่ 1 46 + 24 = 70 ข้นั ท่ี 2 70 + 87 = 157 ดังน้ัน 46 + 87 + 24 = 157

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ )2 แผนก�รจดั ก�รเรียนรูท่ี ๗ 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ หน่วยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ช้ัน ป.๒ หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง จากน้ันครแู นะนาํ วานักเรยี นอาจบวกจํานวนคใู ดกอ นก็ได ดงั นี้ 2 1 6 5 7 90 วิธีท่ี 2 46 + 87 + 24 = ■ บวกจาํ นวนคูแ รกกอ นและบวกจํานวนท่ีเหลือ ขัน้ ที่ 1 46 + 87 = 133 ขน้ั ที่ 2 133 + 24 = 157 ดังน้นั 46 + 87 + 24 = 157 วธิ ที ี่ 3 46+ 87 + 24 = ■ บวกจํานวนคูห ลงั กอนและบวกจํานวนท่เี หลอื ข้นั ที่ 1 87 + 24 = 111 ขนั้ ท่ี 2 111 + 46 = 157 ดงั นัน้ 46 + 87 + 24 = 157 ครใู หน กั เรยี นสงั เกตวา การจบั คกู ารบวกจาํ นวนสามจาํ นวนใหน กั เรยี นจบั คบู วกจาํ นวนคทู ร่ี วมกนั ไดค รบ 2 สบิ กอน จะทําใหก ารหาผลบวกทาํ ไดง า ยขน้ึ ๘๓

๘๔ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูท่ี ๗ ช้นั ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ช่ัวโมง หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ครูถามนักเรียนวา ใครมีวิธีในการหาผลบวกแบบอ่ืนอีกหรือไม ใหนักเรียนออกมานําเสนอแนวคิด ซ่งึ อาจได ดงั น้ี วิธีท่ี 4 46 + 87 + 24 = ■ 40 6 80 7 20 4 ขั้นที่ 1 40 + 80 + 20 = 40 + 100 5 47 = 140 ขั้นที่ 2 6 + 7 + 4 = 10 + 7 = 17 ขัน้ ที่ 3 140 + 17 = 157 ดังนัน้ 46 + 87 + 24 = 157 ครูใหนักเรียนสังเกตวา การบวกจํานวนสามจํานวน จะบวกสองจํานวนใดกอนก็ไดแลวจึงบวกกับ 2 จํานวนท่ีเหลอื ผลบวกทีไ่ ดจะเทากัน จากน้นั ใหน ักเรยี นทาํ แบบฝกหัด 2.7 2 ขั้นสรปุ 3. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ วา การบวกจาํ นวนสามจาํ นวน จะบวกสองจาํ นวนใดกอ นกไ็ ดแ ลว จงึ บวก กับจํานวนที่เหลือ ผลบวกทไี่ ดจ ะเทา กัน

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 ขั้นนำ� แผนก�รจดั ก�รเรียนรทู ี่ ๘ 1 6 5 7 902 2 ข้ันสอน แนวก�รจดั กจิ กรรมก�รเรยี นรู 2 ข้นั สรุป ก�รวัดและประเมนิ ผล ทบทวนการหาผลบวกของจํานวนสามจํานวนท่ีผลบวกไมเกิน 1,000 ในแนวนอน และการหาผลบวกของจาํ นวนนับสองจํานวนท่ีผลบวกไมเกนิ 1,000 โดยใชการต้ังบวก การหาผลบวกของจาํ นวนสามจํานวนทีผ่ ลบวกไมเกิน 1,000 โดยใชการตงั้ บวก ทาํ แบบฝก หัด 2.8 ครูและนกั เรยี นรวมกนั สรปุ การหาผลบวกของจาํ นวนสามจาํ นวนทีผ่ ลบวกไมเ กิน 1,000 โดยใชการต้ังบวก - ประเมนิ จากการตอบคาํ ถามและการทาํ แบบฝก หดั 2.8 - ประเมินจากการแกปญ หา และการส่ือสารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร ๘๕

๘๖ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ่ี ๘ ชั้น ป.๒ 01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกิน ๑,๐๐๐) ขอบเขตเน้ือห� กจิ กรรมก�รเรยี นรู ส่อื /แหลง่ เรียนรู การบวกจาํ นวนสามจาํ นวนที่ ขน้ั นำ� 1. บัตรโจทยการบวก ผลบวกไมเกิน 1,000 โดย 2. แผนภาพ “ราคาเส้ือผาใน การตัง้ บวก 1. ครูทบทวนการหาผลบวกของจํานวนสามจํานวนที่ผลบวกไมเกิน 1,000 ในแนวนอน โดยกําหนด รานคาแหงหนึง่ ” โจทยด ังน้ี 3. แบบฝก หดั 2.8 ส�ระส�ำ คัญ 78 + 32 + 36 = ■ 5 47 การหาผลบวกของจํานวน ครถู ามนักเรียนวา ควรบวกจาํ นวนคูใ ดกอ น (78 กบั 32) เพราะเหตใุ ด (เพราะ 78 รวมกับ 32 ได 110) ก�รประเมิน 2 สามจํานวนในแนวตั้งทําได 1. วธิ ีก�ร โดยเขียนเลขโดดในหลักเดียวกัน วธิ ที ี่ 1 78 + 32 + 36 = ■ บวกจาํ นวนที่เปนคูสบิ กอ นแลว บวกจาํ นวนท่ีเหลือ 1.1 สงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู 2 ใหตรงกันแลวนําจํานวนในหลัก ข้นั ท่ี 1 78 + 32 = 110 1.2 ตรวจแบบฝกหดั เดียวกันมาบวกกันถาผลบวก ข้ันที่ 2 110 + 36 = 146 ในหลักใดเปนจํานวนสองหลัก ดงั น้นั 78 + 32 + 36 = 146 2. เครือ่ งมือ ใหทดจํานวนในหลักน้ันไปรวม 2.1 แบบฝกหัด 2.8 กบั จํานวนในหลกั ถดั ไปทางซา ย จากน้ันครูแนะนําวานกั เรียนอาจบวกจํานวนคใู ดกอ นก็ได ดังนี้ 2.3 แบบประเมินทักษะและ วิธที ี่ 2 78+ 32 + 36 = ■ บวกจาํ นวนคูหลงั กอ นและบวกจาํ นวนทีเ่ หลือ กระบวนการทางคณิตศาสตร ขนั้ ท่ี 1 32 + 36 = 68 ขน้ั ท่ี 2 78 + 68 = 146 ดังนั้น 78 + 32 + 36 = 146

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ี่ ๘ 2 2 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนินก�รของจ�ำ นวน หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) ช้นั ป.๒ เวล� ๑ ชั่วโมง จดุ ประสงคก์ �รเรียนรู วธิ ที ่ี 3 78 + 32 + 36 = ■ บวกจํานวนแรกและจํานวนสุดทายกอนและบวกจาํ นวนทีเ่ หลือ 3. เกณฑ์ 1 6 5 7 90 ด� นคว�มรู ข้ันที่ 1 78 + 36 = 114 3.1 ผลงานมีความถูกตอง ข้นั ที่ 2 114 + 32 = 146 เพ่ือใหนักเรียนสามารถหา ดังน้นั 78 + 32 + 36 = 146 ไมนอยกวา รอ ยละ 80 ผลบวกจาํ นวนสามจาํ นวนทผ่ี ลบวก 3.2 คะแนนรวมดานทักษะ ไมเกนิ 1,000 โดยการตัง้ บวก ครใู หน กั เรยี นสงั เกตวา การจบั คกู ารบวกจาํ นวนสามจาํ นวนใหน กั เรยี นจบั คบู วกจาํ นวนคทู ร่ี วมกนั ไดค รบ สบิ กอน จะทําใหการหาผลบวกทาํ ไดงายข้นึ และกระบวนการทางคณิตศาสตร ด� นทกั ษะและกระบวนก�ร ไมนอยกวารอยละ 60 ท�งคณติ ศ�สตร์ ครูถามนักเรียนวา ใครมีวิธีในการหาผลบวกแบบอื่นอีกหรือไม ใหนักเรียนออกมานําเสนอแนวคิด ซง่ึ อาจได ดงั น้ี เพื่อใหนกั เรียนสามารถ วธิ ที ่ี 4 78 + 32 + 36 = ■ 1. แกปญหา 2. ส่ือสารและสื่อความหมาย 70 8 30 2 30 6 ทางคณติ ศาสตร ขนั้ ท่ี 1 70 + 30 + 30 = 100 + 30 2 = 130 ขั้นที่ 2 8 + 2 + 6 = 10 + 6 = 16 ขนั้ ท่ี 3 130 + 16 = 146 ๘๗ ดังนนั้ 78 + 32 + 36 = 146

๘๘ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ่ี ๘ ชน้ั ป.๒01 9 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนนิ ก�รของจ�ำ นวน เวล� ๑ ชว่ั โมง หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) 2 2. ครตู ิดบตั รโจทยการบวก 246 + 137 = ■ และ 382 + 74 = ■ บนกระดานใหนักเรียนชวยกนั หาผลบวกโดยการต้ังบวก ดังน้ี 1) 246 + 137 = ■ 5 47 ขัน้ ท่ี 1 บวกในหลักหนวย (6 หนวย บวกกับ 7 หนวย ได 13 หนวย หรือ 1 สิบ กับ 3 หนวย) เขียน 3 ใตหลักหนว ย และเขยี น 1 ใตหลักสิบ ขน้ั ท่ี 2 บวกในหลักสิบ (4 สบิ บวกกบั 3 สบิ ได 7 สิบ บวกกับทที่ ดอีก 1 สบิ ได 8 สิบ) เขยี น 8 ใตห ลกั สบิ ขัน้ ที่ 3 บวกในหลกั รอย (2 รอย บวกกบั 1 รอ ย ได 3 รอ ย) เขยี น 3 ใตหลกั รอย 2 หลักรอย หลกั ส41บิ หลักหนวย 2 3 6 1 8 7 + 3 3 ดังนน้ั 246 + 137 = 383

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรยี นรคู ณติ ศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรทู ่ี ๘ 2 2 หนว่ ยที่ ๒ ก�รด�ำ เนินก�รของจ�ำ นวน หน่วยยอ่ ยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) ชน้ั ป.๒ เวล� ๑ ชัว่ โมง 2) 382 + 74 = ■ 1 6 5 7 90 ข้ันท่ี 1 บวกในหลักหนว ย 2 (2 หนว ย บวกกบั 4 หนวย ได 6 หนว ย) เขียน 6 ใตห ลกั หนวย ขั้นที่ 2 บวกในหลักสบิ (8 สิบ บวกกับ 7 สิบ ได 15 สิบ หรือ 1 รอย กับ 5 สิบ) เขียน 5 ใตหลักสิบ และเขียน 1 ใตหลักรอ ย ขั้นท่ี 3 บวกในหลักรอย (3 รอย บวกกับ 0 รอย ได 3 รอย และบวกกับท่ีทดอีก 1 รอย ได 4 รอย) เขียน 4 ใตห ลกั รอย หลกั ร3อ1ย หลักสบิ หลกั หนว ย 4 8 7 2 + 5 4 6 ดงั นนั้ 382 + 74 = 456 ๘๙

๙๐ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลุ่มส�ระก�รเรียนรูคณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรียนรูที่ ๘ ช้ัน ป.๒01 9 หน่วยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชัว่ โมง หนว่ ยยอ่ ยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) 2 ข้นั สอน 3. ครตู ิดแผนภาพ “ราคาเสอ้ื ผาในรา นคาแหง หนงึ่ ” บนกระดาน ดงั น้ี เสอื้ ยดื สดี �ำ แขนสน้ั ราคาตวั ละ 240 บาท 5 47 เส้ือยืดสเี ท�แขนส้นั ราคาตัวละ 230 บาท เส้ือยดื สีนำ้�เงนิ แขนสั้น ราคาตัวละ 245 บาท เสื้อยดื สีข�วแขนย�ว ราคาตวั ละ 389 บาท เสื้อยดื สดี ำ�แขนย�ว ราคาตัวละ 420 บาท ครูแบง กลุมนักเรียนออกเปนกลุมละ 3 - 4 คน ใหนักเรยี นแตล ะกลุม เลอื กซ้ือเสือ้ จากแผนภาพท่ี 2 ครกู าํ หนดให กลมุ ละ 3 ตัว จากน้นั ใหน ักเรียนแตล ะกลุม หาผลบวกของราคาเสอ้ื ท้ังสามตัวทเี่ ลอื กไว เชน ตัวอย่�งท่ี 1 เสือ้ ยดื สีดําแขนสั้น ราคาตวั ละ 240 บาท เส้ือยืดสีเทาแขนสนั้ ราคา ตวั ละ 230 บาท และเส้อื ยืดสีนา้ํ เงนิ แขนส้ัน ราคาตัวละ 245 บาท 240 + 230 + 245 = ■

1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู (สาํ หรบั ครผู สู อน) 6 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร ภาคเรยี นท่ี ๑ 4 7ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 9 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) 2 กลุ่มส�ระก�รเรียนรคู ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรูท ่ี ๘ 2 2 หนว่ ยท่ี ๒ ก�รด�ำ เนนิ ก�รของจำ�นวน หน่วยย่อยท่ี ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไม่เกนิ ๑,๐๐๐) ชน้ั ป.๒ เวล� ๑ ชว่ั โมง วธิ ที ่ี 1 บวกจํานวนคูแรกกอนและบวกจํานวนที่เหลือ โดยนักเรียนอาจบวกในแนวนอนหรือต้ังบวก 1 6 5 7 90 ก็ได ดังนี้ 2 240 + 230 + 245 =■ = 470 240 + 230 + 245 =■ 0+ ขัน้ ที่ 1 240 + 230 = 715 0 ขนั้ ท่ี 2 470 + 245 ขัน้ ที่ 1 240 + 230 = ■ 0 ดงั นัน้ 240 + 230 + 245 = 715 24 23 47 ขัน้ ท่ี 2 470 + 245 = ■ 0+ 41 7 5 5 24 71 ดังนนั้ 240 + 230 + 245 = 715 ๙๑

๙๒ 1ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู 6(สาํ หรบั ครผู สู อน) 5กลมุ สาระการเรยี นรคู ณติ ศาสตร 4ภาคเรยี นท่ี7๑ 9ชน้ั ประถมศกึ ษาปท ่ี ๒ 0(ฉบบั ปรบั ปรงุ ) กลมุ่ ส�ระก�รเรยี นรูค ณิตศ�สตร์ แผนก�รจัดก�รเรยี นรทู ี่ ๘ ช้ัน ป.๒01 9 หนว่ ยที่ ๒ ก�รดำ�เนนิ ก�รของจำ�นวน เวล� ๑ ชวั่ โมง หน่วยย่อยที่ ๒.๑ ก�รบวก ก�รลบ (ไมเ่ กิน ๑,๐๐๐) 2 วธิ ีท่ี 2 บวกจํานวนคูหลังกอนและบวกจํานวนท่ีเหลือ โดยนักเรียนอาจบวกในแนวนอนหรือแนวต้ัง กไ็ ด ดงั นี้ 240 + 230 + 245 =■ = 475 240 + 230 + 245 =■ 0+ ขั้นที่ 1 230 + 245 = 715 5 ขั้นที่ 2 475 + 240 ขั้นที่ 1 230 + 245 = ■ 5 ดงั นั้น 240 + 230 + 245 = 715 23 5 47 24 47 ขน้ั ที่ 2 475 + 240 = ■ 41 7 5+ 2 24 0 71 5 ดงั นัน้ 240 + 230 + 245 = 715


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook