ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา

สตู รการรกั ษาของอาจารยเ์ ดชา ศริ ภิ ทั ร (Decha Protocol) “การแจกจ่ายกญั ชาเพอื่ รกั ษาผเู้ จบ็ ป่ วย เป็นเรอื่ งศีลธรรมที่ต้องทา #กญั ชาชว่ ยใหร้ า่ งกายรักษาตวั เอง #ขอ้ มลู มหาวทิ ยา Harvard ระบวุ า่ การนอน เป็ นหวั ใจสาคญั ทสี่ ดุ ในการรกั ษาสขุ ภาพ และอยู่เหนือกฎระเบียบลา้ หลงั ใดๆ” ฟ้ื นฟรู า่ งกาย เพราะรา่ งกายจะซอ่ มตวั เอง ถา้ นอนไมด่ ี รา่ งกายก็เสอ่ื มเรอ่ื ยๆ **ชว่ ยรา่ งกายดว้ ยรว่ มกัน เชน่ ออกกาลังกาย นอนไมเ่ กนิ เทย่ี งคนื หรอื อยากนอนใหไ้ ดด้ ี เดชา ศิริภทั ร ประธานมลู นิธิขา้ วขวญั ก็อยา่ กนิ ของยอ่ ยยากกอ่ นนอน ไมเ่ ลน่ มอื ถอื กอ่ นนอน ทน่ี อนสะอาด ไมแ่ ข็งไมน่ ุ่มเกนิ อากาศถา่ ยเทสะดวก ภาพจาก https://goodlifeupdate.com/healthy-body/153064.html - บรรยายขอ้ มูลเรอ่ื งของกัญชา โดย อ.เดชา ศริ ภิ ัทร วันท่ี 15 ชว่ งท่ี 2 live 1 เผยแพร่ 23 มนี าคม รปู แบบยา มี 2 รปู แบบ คอื 2562 ปีนอ้ี าจารย์ 71 ปี 1. capsule (1 capsule มี 10 หยด = 10 mg.) เหมาะกับคนทที่ นกลนิ่ ทนรสขมยาไมไ่ ด ้ https://www.youtube.com/watch?v=TCl8AjONHps 2. แบบหยด (บรรจใุ นหลอดยาหยอดตา) 1 หยด จะมปี รมิ าณยา เทา่ กับ 1 มลิ ลกิ รัม - เอกสารประกอบการบรรยายการใชก้ ญั ชาทางการแพทย์ จัดโดยกรมการแพทย์ เมษายน 2562 โดย ผศ.ดร.นพ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ ชอ่ื เอกสาร ขนาดยาจากกญั ชาทเ่ี หมาะสมในการรักษาโรค ความแรงของนา้ มนั = 3% ของน้ามันกญั ชา ใน 97% ของน้ามันมะพรา้ วสกัดเย็น *ความเขม้ ขน้ ตา่ มากๆ เพราะพระทเี่ ขา้ ฌานบอกอาจารยเ์ ดชาวา่ เวลาใชต้ อ้ งใชค้ วาม เขม้ ขน้ ตา่ มากๆ หลกั การ คอื เรมิ่ ทลี ะนอ้ ย และคอ่ ยๆ เพมิ่ ขนาด จนนอนหลับไดล้ กึ แตไ่ มใ่ หจ้ นเมา หรอื มนึ เวลาทใ่ี ห ้ คอื กอ่ นนอน ทกุ คนื เพอ่ื ใหห้ ลบั ลกึ เพราะการนอนทล่ี กึ จะชว่ ยเสรมิ สรา้ ง กระบวนเยยี วยาตนเองของรา่ งกาย แตบ่ างโรคทม่ี อี าการกลางวนั เชน่ สนั่ เกร็ง ปวด ตอน กลางวนั ก็ใหใ้ ชน้ า้ มันกญั ชา ระงบั อาการตอนนัน้ ดว้ ย เรม่ิ ที่ 3 หยดกอ่ น ถา้ ไมด่ ขี นึ้ ขยับเป็ น 5 หยด 7 หยด 10 หยด ไปเรอ่ื ย ประสบการณ์อาจารยเ์ ดชา อาจารยเ์ ดชาใชม้ า 6-7 ปี ปัจจบุ ันใช ้ 15 หยด/คนื จานวนหยดแลว้ แตค่ น เอาแคห่ ลับ ไม่ ตอ้ งถงึ เมา **** พวกมะเร็งตอ้ งใชเ้ ยอะ จะเรม่ิ ที่ 20 หยด (20 mg.) หรอื 2 capsules **** อาจารยไ์ มแ่ นะนาใหใ้ ชน้ ้ามันกัญชารว่ มกับยาแผนปัจจบุ ัน ผปู ้ ่ วยตอ้ งถอื ศลี ทาบญุ อทุ ศิ สว่ นกศุ ลใหเ้ จา้ กรรมนายเวร ไมก่ นิ เนอื้ สตั ว์ ไมก่ นิ ของหมกั ดอง และตอ้ งสญั ญาตอ่ หนา้ พระวา่ จะปฏบิ ัตเิ ครง่ ครัด

http://marijuanamailorders.com แรงจงู ใจทท่ี ำใหน้ ำยเดชำสนใจในกำรใชน้ ้ำมนั กญั ชำในกำร /rick-simpson-oil-dosage-chart/ รกั ษำโรคคอื “แมผ่ มเป็นมะเรง็ ตบั เสยี ชวี ติ ทงั้ ทเ่ี รำมเี งนิ มที ุก อย่ำงพรอ้ มเม่อื ปี พ.ศ. 2519 หลงั จำกนนั้ น้ำชำยผมอกี 4 คน Rick Simpson เป็นแบบเดยี วกนั ทงั้ หมดเลย เป็นมะเรง็ ตบั และตำยกนั หมด ทงั้ ทท่ี กุ คนมฐี ำนะดมี ำก” นนั่ เป็นจุดเรมิ่ ตน้ ของศกึ ษำกำร ชาวแคนาดาท่ีใช้น้ามนั กญั ชา ผลติ ยำกญั ชำทำงกำรแพทย์ เมอ่ื ปี พ.ศ.2556 ทารกั ษามะเรง็ ผิวหนัง นำยเดชำ ศริ ภิ ทั ร ไดเ้ ลอื กศกึ ษำขอ้ มลู จำกต่ำงประเทศถงึ ของตนเองจนหาย วธิ กี ำรสกดั กญั ชำ ออกมำในรปู แบบทท่ี ำเป็นยำน้ำมนั กญั ชำ โดยใชว้ ธิ กี ำรท่ี รคิ ซมิ ป์ สนั (Rick Simpson) นกั เคลอ่ื นไหว ชำวแคนำดำเพอ่ื กญั ชำทำงกำรแพทย์ ในระยะแรกซง่ึ เมอ่ื พบว่ำสำรสกดั มคี วำมไม่ปลอดภยั กไ็ ดใ้ ชน้ ้ำมนั มะพรำ้ วสกดั เยน็ มำสกดั

ปจั จุบนั ตารับของนายเดชาปรบั จากสตู รของ รคิ ซิมปส์ ัน เนื่องจากคานึงถงึ ด้านความปลอดภัยและได้รับการรับรองให้ เปน็ ตารับยาหมอพน้ื บ้าน ที่ไดร้ ับการรับรองโดยคณะกรรมการรบั รองตารับยาแผนไทยท่ี มีกัญชาปรุงผสม กรมการแพทยแ์ ผนไทย และการแพทย์ทางเลอื ก โดยตารับยานน้ี ายเดชา ศริ ภิ ัทร จะต้องเปน็ ผู้อนุญาตให้ผ้ปู ่วยใช้ไดเ้ ทา่ นน้ั ผู้ปว่ ยจงึ จะนามาใช้ไดม้ ี สว่ นประกอบและข้อบง่ ใชด้ งั ตารางด้านล่าง

THANK YOU

กญั ชาและกัญชงในการแพทย์แผนปัจจบุ นั ดร.จรุ ญั ญา ออ่ นล้อม มูลนิธเิ จ้าพระยาอภยั ภเู บศ

พระราชบญั ญตั ิยาเสพติดให้โทษ (ฉบบั ที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๒ จดั กญั ชาเป็นยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทท่ี ๕ แต่อนุญาตใหใ้ ชก้ ญั ชาเฉพาะในทางการแพทย์ เพื่อการดแู ลรกั ษาผปู้ ่ วย และการศกึ ษาวิจยั ดด้

1 4 การแบง่ พ้นื ท่ีการปลกู 2 5.1 3 1. หอ้ งแมพ่ ันธุ์ 5.2 การลงแปลงปลกู (FIELD Crop) (Mother room) 3 2. หอ้ งเพาะเล้ียงเนื้อเยอ่ื (Tissue culture room) 3. ห้องเพมิ่ ปริมาณดว้ ยการปกั ชา (Clone Room) 4. หอ้ งอนุบาลตน้ กลา้ (Nursery room) 5. ห้องปลกู ชกั นาการออกดอก (Flowering grow room) หรอื ลงแปลงปลกู (On field)

แผนภาพของกระบวนการผลิตยาน้ามนั กญั ชา ตรวจคุณภาพโดย กรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ ตรวจคุณภาพโดย QC กรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ Reject รอทาลาย หากคณุ ภาพไมผ่ า่ น Reject รอทาลาย หากคณุ ภาพไมผ่ า่ น QC 1 ขนั้ ตอนการชงั ่ กญั ชาชิ้นแห้ง 2 ขนั้ ตอนการบด 3 ขนั้ ตอนการสกดั ด้วยเครอ่ื ง Supercritical CO2 4 จดั เกบ็ สารสกดั สงั่ จ่ายยาตามระบบ SAS QC Reject รอทาลาย ตรวจคณุ ภาพโดย หากคณุ ภาพไมผ่ า่ น กรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ 5 ขนั้ ตอนการชงั ่ ส่วนผสมตามตารบั QC QC QC QC 10 คลินิ คกญั ชา 9 จดั เกบ็ เกบ็ ผลิตภณั ฑ์สาเรจ็ รปู 8 ขนั้ ตอนการติดฉลากและพิมพเ์ ลขที่การผลิต 7 ขนั้ ตอนการบรรจใุ ส่ขวดสีชา 6 ขนั้ ตอนการผสม

สถานที่ผลิตยา เครื่อง Supercritical CO2 ทางเข้าพนักงานห้องสกดั กญั ชา จดั เตรียมสถานท่ีผลิตยาจากกญั ชาตามระบบ GMP มีมาตรการรกั ษาความปลอดภยั ด้วยระบบสแกนนิ้ว

การควบคุมคุณภาพผลติ ภณั ฑ์ สารสกัด, ผลติ ภัณฑส์ าเร็จรปู วตั ถดุ ิบกญั ชา ✓ สารปราบศตั รพู ชื ✓ โลหะหนกั ✓ สารสาคัญ THC, CBD ✓ เชือ้ ก่อโรค 6

สารสกดั กญั ชาใชท้ างการแพทย์ แบง่ ออกเป็น 3 ชนดิ 1. สารสกดั กัญชาไดป้ ระโยชน์ในการ 2. สารสกัดกัญชาน่าจะได้ประโยชน์ 3. สารสกัดกัญชาอาจมีประโยชน์ใน รั ก ษ า ซ่ึ ง มี ข้ อ มู ล ท า ง วิ ช า ก า ร ในการควบคุมอาการ ซ่ึงควรมี การรักษา แต่ยังขาดข้อมูลจาก สนบั สนุนชัดเจน ข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนหรือ ง า น วิ จั ย ส นั บ ส นุ น ท่ี ชั ด เ จ น วิจัยเพิ่มเติม ในประเด็นความ เพียงพอในด้านความปลอดภัย • ภาวะคล่ืนไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมี ปลอดภัย และประสิทธิผลเพ่ือ และประสิทธผิ ล ซึ่งต้องศึกษาวิจัย บาบดั สนบั สนุนการนามาใช้ อาทิ ในหลอดทดลองและสัต์ทดลอง ก่อนนามาศึกษาวิจัยในมนษุ ย์ • โรคลมชกั ทรี่ ักษายากในเด็กและโรคลมชักท่ี • โรคพาร์กินสัน ดือ้ ยา • โรคอลั ไซเมอร์ • การรักษาโรคมะเร็งชนดิ ต่างๆ • โรควติ กกงั วลท่ัวไป • ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็ง ในผู้ป่วยปลอก • ผ้ปู ว่ ยท่ีต้องดูแลแบบประคับประคอง ประสาทเส่ือมแข็ง • ผปู้ ว่ ยมะเรง็ ระยะสดุ ทา้ ย • ภาวะปวดประสาทที่ใช้วิธีการรักษาอื่น ๆ แล้วไมไ่ ด้ผล การนาสารสกดั กญั ชามาใชป้ ระโยชน์ในทางการแพทย์ จาเปน็ ตอ้ งคานึงถงึ ประสิทธผิ ลและความปลอดภยั เปน็ สาคญั เพ่อื ใหผ้ ปู้ ่วยได้รบั ประโยชน์สูงสุด

ชอ่ งทางการใช้สารสกดั กญั ชาทางการแพทย์/ การเขา้ ถึงยาของผูป้ ่วย 1. การรักษาปกติ (Standard pathway : approved drugs) **ปัจจบุ นั เมอื งไทยยังไม่มีผลิตภัณฑก์ ญั ชาที่ได้รับการรบั รองเปน็ ยา 2. การศึกษาวิจัย (Clinical trials : unapproved drugs) 3. การรักษากรณีจาเป็นสาหรับผู้ปว่ ยเฉพาะราย (ช่องทางพเิ ศษ) (SAS = Special Access Scheme : unapproved drugs)

พัฒนาคลินิกบริการ จา ห น่ า ย ย า จ า ก กั ญ ช า โ ด ย แ พ ท ย์ แ ล ะ เภสัชกรที่ผ่านการอบรม โดยมีระบบ ติดตามผล เภสชั กรผู้ผา่ นการอบรมจา่ ยยาและใหค้ าแนะนาแบบ เฉพาะราย ปัจจุบัน มเี ภสัชกร 3 คนที่ผ่านการอบรม แพทยผ์ ผู้ า่ นการอบรม การซกั ประวตั โิ ดยพจิ ารณาถงึ อาการ สาคญั ปัจจุบนั ประวตั เิ จบ็ ป่วยในปัจจบุ นั การรกั ษาทไ่ี ดร้ บั มา กอ่ นมาแลว้ ไม่ไดผ้ ล ประวตั เิ จบ็ ป่วยในอดตี ประวตั ิดา้ น สขุ ภาพของครอบครวั รวมสขุ ภาพจติ การสนบั สนุนจากสงั คม และครอบครวั

ข้อบง่ ใช้ : ยึดถอื ข้อบ่งใช้เฉพาะทีม่ ีขอ้ มูลหลกั ฐานสาหรบั การใช้งานทนี่ า่ เช่ือถอื NOT 1st ซึง่ จะช่วยให้เพ่มิ พูนประสบการณค์ วามรู้เก่ียวกับผลต่างๆ ของการรักษาในกลมุ่ ผูป้ ว่ ยท่เี ฉพาะเจาะจง Line Therapy !!! THC:CBD ( 2.7% : 2.5%) 1. ภาวะคลืน่ ไส้ และอาเจียนจากยาเคมีบาบดั ทีร่ ักษาด้วยวธิ ีมาตรฐานไม่ได้ผล 2. ภาวะกลา้ มเนอื้ หดเกร็ง (spasticity) ในผูป้ ่วยโรคปลอกประสาทเส่ือมแข็ง (multiple sclerosis) 3. ภาวะปวดประสาททีร่ ักษาด้วยวิธอี น่ื ๆ แล้วไม่ไดผ้ ล (intractable neuropathic pain) 4. บรรเทาปวดในมะเร็งระยะสุดท้าย ทค่ี วบคุมอาการไมไ่ ด้ดว้ ยยามาตรฐาน 5. อลั ไซเมอร์ - Lim K., et al. A Systematic Review of the Effectiveness of Medical Cannabis for Psychiatric, Movement and Neurodegenerative Disorders Clinical. Psychopharmacology and Neuroscience 2017;15(4):301-312 - Broers B.et al. Prescription of a THC/CBD-Based Medication to Patients with Dementia: A Pilot Study in Geneva. Med Cannabis Cannabinoids 2019 HighCBD (10% CBD) High THC (1.7% THC) 1. โรคลมชกั ทีร่ ักษายาก หรือด้อื ตอ่ ยารกั ษา 1. มะเร็งระยะสุดท้าย 2. โรคพาร์กินสัน ที่ยังควบคุมอาการไม่ได้ 2. ภาวะปวดประสาททรี่ กั ษาดว้ ยวธิ อี ืน่ ๆ แลว้ ไม่ไดผ้ ล ดว้ ยยามาตรฐาน - inflammatory central neuropathy - central neuropathy due to trauma Bassi MS, et al. Cannabinoids in - Fibromyalgia Parkinson's Disease. Cannabis Cannabinoid Res. 2017; 2(1): 21–29. - Weber J, et al. Tetrahydrocannabinol (Delta 9-THC) Treatment in Chronic Central Neuropathic Pain and Fibromyalgia Patients: Results of a Multicenter Survey. Anesthesiology Research and Practice 2009. - Blake et al. A selective review of medical cannabis in cancer pain management. Ann Palliat Med 2017;6 (Suppl 2):S215-S222

ความ น่าเช่ือถอื ของ หลกั ฐาน เชิง ประจกั ษ์ ในการนา กญั ชามา ใช้รกั ษา โรค https://www.medscape.com/viewarticle/908638

แนวทาง : สง่ิ ท่คี วรเตรียมพร้อม จดั สถานท่ใี นการเกบ็ รกั ษายา ใหแ้ ยก สถานที่ บุคลากร แพทย/์ เภสชั กร ผผู้ ่านการอบรมหลักสตู รจาก จากยารายการอื่นอย่างชดั เจน โดย กระทรวงสาธารณสุข ภายใตก้ ารดูแลของ สถานท่ีจัดเกบ็ ควรมีกญุ แจ หรอื เครื่อง อุปกรณ์ ผูร้ ับอนญุ าต ปอ้ งกนั เพ่ือไม่ให้เกิดการสูญหาย อ่ืนๆ พยาบาล/ผชู้ ่วยพยาบาล บุคลากรใน รพ. เช่น ประชาสัมพนั ธ์ สาหรับ คลินิกควรแยกตา่ งหาก ตอบคาถามผทู้ ี่เขา้ มาติดต่อ เนอ่ื งจากใชเ้ วลานานในผู้ปว่ ยแต่ละคน บัตรควิ เอกสาร 97 คลนิ กิ กญั ชาทางการแพทย์

แนวทาง : ส่ิงที่ควรเตรยี มพรอ้ ม 1. แนวทางการพิจารณาสั่งจา่ ยยาสมนุ ไพรกัญชา (นามนั กญั ชา) - การคดั กรองผ้ปู ่วยเบอื้ งต้น (screening) - เกณฑ์คดั เขา้ - เกณฑ์คัดออก 2. ขันตอนการรับบรกิ ารเพอื่ ขอรบั การรักษาดว้ ยยากัญชา 3. ข้อมูลยา/ ฉลากยาที่สง่ มอบใหผ้ ู้ปว่ ย/ เอกสารกากับยา/ คูม่ ือสาหรบั ผปู้ ว่ ย

โครงการจาหนา่ ยกญั ชาเพ่อื ใช้ประโยชนท์ างการแพทย์ ตวั อยา่ งของอภัยภูเบศร วตั ถปุ ระสงคก์ ารดาเนินการ 1. เพ่ือให้ผู้ป่วยไดร้ บั ยาสมนุ ไพรกญั ชา (น้ามันกญั ชา) ท่ปี ลอดภยั ในการรกั ษาโรคอยา่ งตอ่ เนื่อง และถกู กฎหมาย ในชอ่ งทางการรกั ษากรณจี าเปน็ สาหรับผู้ปว่ ยเฉพาะราย (SAS : Special Access Scheme) 2. เพอ่ื พฒั นาระบบการสั่งจ่ายยา การตดิ ตามประสทิ ธิผลและความปลอดภยั ของยาสมุนไพรกัญชา (นา้ มนั กญั ชา) เพ่ือใหส้ มุนไพรกญั ชาไดร้ บั การรบั รองจากสานกั งานคณะกรรมการอาหารและยา (approved product) ต่อไป

ขนั ตอนการรบั บริการเพื่อขอรบั การรักษาดว้ ยยากญั ชา สาหรบั ผปู้ ่วยให้รบั ทราบ

ขนั้ ตอนการรกั ษาผปู้ ่ วย คดั กรองตามเกณฑค์ ดั ออกเบอื้ งต้น ซกั ประวตั ิโดยแพทยผ์ ้ผู ่านการอบรม (อาการสาคญั ปัจจุบนั ประวตั เิ จบ็ ป่วยในปัจจุบนั การรกั ษาทไ่ี ดร้ บั มาก่อนมาแลว้ ไมไ่ ดผ้ ล ประวตั เิ จบ็ ป่วยในอดตี ประวตั ดิ า้ นสขุ ภาพของครอบครวั รวมสุขภาพจติ การสนบั สนุนจากสงั คมและครอบครวั ) ตรวจรา่ งกาย และการตรวจเพ่ิมเติมอื่นๆ ตามความจาเป็น จา่ ยยาและให้คาแนะนาแบบเฉพาะราย โดยเภสชั กรผผู้ ่านการอบรม โทรศพั ทต์ ิดตามหลงั การใช้ภายใน 24 ชวั่ โมง และทกุ สปั ดาหใ์ น 1 สปั ดาห์แรก โทรศพั ทต์ ิดตามทกุ สปั ดาหใ์ นเดือนแรก ผปู้ ่ วยกลบั มาติดตามทกุ 1 เดือน (ประเมินความปลอดภยั และประสิทธิผล)

แนะนาให้หยดุ ใช้ การคัดกรองผูป้ ว่ ยเบืองตน้ (screening) ผปู้ ว่ ยที่มภี าวะดงั ตอ่ ไปน้ี จะถกู คดั ออกจากเกณฑ์การได้กัญชาเพ่ือใช้ในทางการแพทย์ 1. ห้ามใช้ในผทู้ ี่มีประวัติแพผ้ ลิตภัณฑท์ ีไ่ ดจ้ ากการสกดั กัญชา ซง่ึ อาจเกิดจากสว่ นประกอบ อื่นๆ และ/ หรือสารทเี่ ปน็ ตัวทาละลายทีใ่ ช้ในการสกัด 2. ห้ามใชใ้ นผู้ป่วยโรคหวั ใจและหลอดเลือดขน้ั รุนแรง หรอื ไมส่ ามารถคมุ อาการได้ เชน่ ยงั มี อาการกาเรบิ บอ่ ยๆ ของการปวดเคน้ หน้าอก หัวใจเตน้ ผดิ ปกติ ความดนั ตก เนอื่ งจากอาจเพมิ่ ความเสีย่ งหัวใจขาดเลอื ด รวมถงึ หา้ มใช้ในผทู้ ่ีมปี จั จยั เสีย่ งของโรคหลอดเลือดหวั ใจ 3. ห้ามใช้ในผ้ทู เี่ ปน็ โรคจติ มากอ่ น หรอื มีอาการของโรคอารมณแ์ ปรปรวนหรอื โรควิตกกังวล ** ยกเวน้ การใช้ในตารับท่ีมี CBD เท่านน้ั 4. ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์ สตรที ใ่ี หน้ มบตุ ร รวมถงึ สตรวี ยั เจรญิ พันธท์ุ ี่ไมไ่ ดค้ ุมกาเนดิ หรือสตรี ท่ีวางแผนจะต้ังครรภ์ เนือ่ งจากมีรายงานการศกึ ษาพบวา่ มีทารกคลอดกอ่ นกาหนด ทารก นา้ หนักตัวนอ้ ย รวมถงึ พบสารจากกญั ชาผ่านในน้านมแมไ่ ด้ (อ้างองิ จาก : คาแนะนาการใชก้ ัญชาทางการแพทย์ ของกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ เมษายน2562) 5. ผู้ปว่ ยโรคตบั และไต (ทราบจากประวตั โิ รคประจาตัว หรอื มผี ลเลอื ดยืนยนั คือ มคี ่าเอนไซม์ ตบั ทผี่ ิดปกติ มีคา่ อัตราการกรองของไตนอ้ ยกวา่ 60 ml/min/1.73m2 ) ใหอ้ ยู่ในการพจิ ารณาของแพทย์ 6. มีประวตั ใิ ช้สารเสพตดิ ใชก้ ัญชา ดื่มสุราและสูบบุหร่ีอยใู่ นปัจจบุ ัน ให้อยู่ในการพจิ ารณาของแพทย์



ขอ้ มลู ความแรงยาท่ใี ช้ Cannabidiol (CBD) oil 10% (CBD isolate 99% with coconut MCT oil none THC) ขวดละ 10 ซซี ี ความแรง 1000 มิลลกิ รมั /ขวด 10 มิลลิลติ ร ใน 100 มลิ ลลิ ิตร มีตวั ยา CBD ความแรง 10% คิดเปน็ = 10 กรัม = 10,000 มลิ ลกิ รัม ใน 10 มิลลลิ ิตร มตี ัวยา CBD ความแรง 10% คดิ เป็น = 1 กรัม = 1,000 มิลลิกรัม ใน 1 มิลลลิ ิตร มีตวั ยา CBD ความแรง 10% คดิ เปน็ = 0.1 กรมั = 100 มิลลิกรัม ใน 0.05 มลิ ลิลิตร มตี วั ยา CBD ความแรง 10% คิดเปน็ 5 มลิ ลิกรัม ฉลากระบุ 2 หยด มีตัวยา CBD 10 มลิ ลิกรัม ดังนนั้ 1 หยด มีตวั ยา CBD 5 มิลลกิ รมั 5 มลิ ลิกรมั เท่ากับ 1 หยด ดงั นนั้ 1 ขวด มี 1,000 มิลลิกรัม คดิ เปน็ 200 หยด Start low….. Go slow….. and Stay low 10 มิลลิลติ ร มี 200 หยด ดงั นนั้ 1 หยด เทา่ กับ 0.05 มลิ ลิลิตร เนอื่ งจากปริมาณและจานวนยามีจากดั เรม่ิ ท่ี 0.05-0.1 ซซี ี ขนาดใชย้ า อาจให้ภายใต้การดแู ลของแพทย์ = โดยมีหลกั การเริ่มยาท่ขี นาดต่าๆ 1-2 หยด กอ่ นนอน

ขนาดยา การตอบสนองต่อยามีความแตกต่างกนั ในแต่ละคน*** >>> Cannabis Dosing : Less is (Usually) More การตอบสนองต่อยามคี วามแตกต่างกนั ในแต่ละคน*** Biphasic Response ปัจจยั ที่มีผลต่อการตอบสนอง เช่น สภาพจิตใจ ประสบการณ์การใช้ พนั ธกุ รรม ความเช่ือ สายพนั ธ์ุ ความแรง วิธีสกดั พืน้ ท่ีปลกู - Low doses of cannabinoids produce different การเหน็ ผลการรกั ษา อาจประเมินจาก กินดด้ หลบั ดี* ดม่ปวด เป็นต้น แต่ดมใ่ ช่อาการเคลิ้มสขุ (euphoric and possibly opposite effects as high doses. effects is not required to attain symptom control) หมายถงึ การตอบสนองต่อขนาดการใช้กญั ชาอาจดม่ใช่ แปรผนั ตามปริมาณยาท่ีใช้ จะมีเพียงจดุ ใดจดุ หน่ึงท่ี ตอบสนองต่อยาดดด้ ีท่ีสดุ ซึ่งขึน้ กบั แต่ละคน The medicinal benefits of cannabis may start to diminish as the dose is increased. (Dr. Sulak/Healer.com) https://www.leafly.com/news/health/a-physicians-perspective-on-optimal-cannabis-dosing

ตัวอยา่ ง ฉลากท่ีปรากฏบนสติกเกอรห์ น้าซองยา สารสกดั น้ามนั กญั ชา THC 2.5 : CBD 2.5 รวม 5% THC 0.5 : CBD 0.5 มิลลิกรมั /1 หยด (……. ซซี ี) รบั ประทานยาครง้ั ละ...........ซซี ี วนั ละ 1 คร้ัง กอ่ นนอน หรอื ตามแพทยส์ ง่ั ยานอ้ี าจทาใหง้ ่วง หากมอี าการผิดปกติรุนแรงให้หยุดใช้ยาทันที สารสกดั น้ามนั กัญชา CBD oil 10% สารสกัดน้ามนั กัญชา THC oil 5% 5 มลิ ลกิ รัม/1 หยด (0.05 ซีซี) 1 มิลลิกรมั /1 หยด (……. ซซี ี) รับประทานยาครง้ั ละ...........ซซี ี รบั ประทานยาคร้งั ละ...........ซซี ี วนั ละ 1 ครง้ั ก่อนนอน วนั ละ 1 คร้งั ก่อนนอน หรือตามแพทยส์ ัง่ ยานอ้ี าจทาใหง้ ่วง หรือตามแพทย์ส่ัง ยานี้อาจทาใหง้ ่วง หากมีอาการผิดปกตริ ุนแรงใหห้ ยุดใชย้ าทันที หากมอี าการผิดปกติรนุ แรงใหห้ ยุดใช้ยาทันที



จานวนคนไขท้ ่รี ับยา 10% CBD oil : 24 ราย สรปุ ยอด 22/7/62 ผปู้ ่วยที่ได้รบั ยากญั ชามี 24 คน (รอบแรก24/96/62 + รอบสอง 22/7/62) • ลมชัก 1+1 = 2 ราย • พาร์กนิ สนั 8+8 =16 ราย • มะเรง็ ระยะสดุ ท้าย 0+1 ราย • อลั ไซเมอร์ 1+1 = 2 ราย • รมู าตอยด์ 0 + 1 ราย • Chronic neuropathic pain 0 + 1 ราย • Spasm 1+0 ราย ผู้ปว่ ยท่ถี ูกคดั ออก รวม 4 ราย : ผปู้ ่วยท่หี ยุดใช้ยา หรือไมส่ ามารถตดิ ตามผลการใชไ้ ด้ • แผลเร้อื รังทเี่ ท้า 1 ราย (รอบ 24/6/62) เกดิ ผลขา้ งเคียงจากการใช้ นาไปทา แลว้ แผลแย่ลง • มะเรง็ ลาไส้ใหญ่ แพร่กระจายไปเยอ่ื บุชอ่ งทอ้ ง (รอบ 24/6/62) 1 ราย ไมส่ ามารถตดิ ต่อได้ • พาร์กินสัน 1 ราย (รอบ 22/7/62) ใชแ้ ลว้ สบั สน นอนไม่หลบั แตค่ าดวา่ มีอาการทางจิตรว่ มเปน็ ของเดิมอยู่กอ่ นหน้าแลว้ • ผปู้ ่วยมะเรง็ ระยะสุดทา้ ย 1 ราย (รอบ 22/7/62) ใช้ยากัญชาได้ 6 คืน หยดุ ใช้ 1/8/62 อาการของโรคดาเนินไปแย่ลง (ไมใ่ ชผ่ ลข้างเคียงจากยา) เขา้ ICU ตดิ เช้อื ท่ปี อด มีนา้ ในชอ่ งทอ้ งและปอด ทาใหม้ ีอาการหอบเหนอื่ ย ตอนน้ใี ส่ทอ่ ชว่ ยหายใจ

สรุปจากการตดิ ตามการใช้ยากัญชา 10% CBD oil 5-10 มิลลิกรัม กอ่ นนอน ในผปู้ ่วย 9 คน x 28 วนั - พาร์กินสนั 7 คน - ลมชกั 1 คน - อลั ไซเมอร์ 1 คน คณุ ภาพชวี ติ ประเมนิ จาก แบบสอบถามคณุ ภาพชวี ิต EQ-5D-5L พบวา่ 6 ใน 9 ราย คณุ ภาพชีวติ ดขี ้นึ คดิ เปน็ 66.67% ผปู้ ่วยพาร์กนิ สันประเมนิ จาก แบบประเมนิ UPDRS-8 พบวา่ 5 ใน 7 ราย อาการดขี ึน้ คดิ เปน็ 71.43% No. ช่อื HN การวินิจฉัย EQ-5D-5L EQ5D-VAS UPDRS 8 1 พารก์ นิ สัน D0 D28 D0 D28 D0 D28 0.067 0.861  10 100  28 4  2 พารก์ นิ สนั 0.320 0.469  50 60  20 17  3 พารก์ นิ สนั 0.109 0.770  20 50  10 7 4 พารก์ นิ สนั 0.428 0.546  50 50 7 7 5 พารก์ ินสนั 0.486 0.486 50 50 14 14 6 พารก์ ินสนั 0.603 0.603 40 55  7 4 7 พารก์ นิ สนั 0.736 0.828  50 70  22 19  8 Post traumatic seizure ; -0.236 -0.236 10 10 refractory 9 Dementia w/ Alzheimer 0.596 0.703  40 60  TMSE = 23 TMSE = 23 UPDRS-8 คะแนนเต็ม 40 คะแนน คะแนนย่ิงมาก แสดงวา่ ความรุนแรงของโรคพากินสนั เพมิ่ ขนึ้ EQ5D5L แบบประเมนิ คุณภาพชีวติ โดย 1 หมายถึงสขุ ภาพแข็งแรงสมบรู ณท์ ี่สดุ 0 หมายถึงสขุ ภาพท่ีแยท่ ่ีสดุ หรือเสยี ชีวติ ติดลบ หมายถึงสภาวะทแ่ี ยก่ วา่ ตาย EQ5D-VAS คะแนนเตม็ 100 คือสขุ ภาพทดี่ ีทีส่ ดุ ที่สามารถนกึ ได้ คะแนน 0 คือภาวะสขุ ภาพทแี่ ย่ทสี่ ดุ ทส่ี ามารถนกึ ได)้ TMSE ( Thai Mental State Examination ) แบบการตรวจสภาพจิตแบบยอ่ ใชท้ ดสอบการทางานของสมองดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ คะแนนเต็ม 30 คะแนน ถา้ คะแนน ≤ 23 ถือวา่ มีภาวะสมองเสือ่ ม

อาการไม่พงึ ประสงค์ทพ่ี บ หลงั ติดตามการใช้ 10% CBD oil 5 หรอื 10 มลิ ลิกรัม วนั ละครัง ก่อนนอน x 28 วัน • ปากแห้ง 1 ราย • จุกลนิ้ ปแี่ ละรสู้ ึกเกร็งมากข้ึน 1 ราย • แผลเรือ้ รงั ทเี่ ทา้ สองข้าง นานกวา่ 20 ปี 1 คน (ขอไปทา) (เรมิ่ ยา 24/6/62 หยดุ ยาเองวนั ที่ 26/6/62 เนอ่ื งจากแผลเละ กว่าเดมิ ) ใช้ทา 2 วนั แล้วหยดุ เพราะแผลแยก่ วา่ เดิม แนะนาให้ตดิ ต่อเอายามาคนื ที่เภสชั • ค่าไต GFR ลดลง 2 ราย ซ่ึงจะตดิ ตามเฝา้ ระวงั อย่างใกล้ชิดในรอบเดอื นถดั ไป โดยเจาะเลือดค่าไตซา้ หากพบภาวะไตวาย เฉยี บพลนั ( serum creatinine สูงข้นึ เป็น 1.5 เท่าของเดิม หรอื มี GFR ลดลงมากกว่า 25 % จะทาการหยดุ ยากัญชาทนั ที • ค่าเม็ดเลือดขาวและเกลด็ เลือดสูง เกินค่าปกติ 1 ราย ซึง่ จะติดตามเฝา้ ระวังอย่างใกลช้ ิดในรอบเดอื นถัดไป โดยเจาะคา่ CBC ซา้ หากมภี าวะเสย่ี งตดิ เช้ือ หรือโรคหนังแข็งรว่ มอาการแย่ลง จะพิจารณาปรบั ยาอีกครงั้ แตผ่ ปู้ ว่ ยอาการโดยรวมปกติ และ อาการของพาร์กินสนั ดขี ึ้นอยา่ งเห็นไดช้ ัด • ความดนั โลหิตลดลง 4 ราย บางรายอยูใ่ นเกณฑ์ปกติ รายท่ีลดต่ามาก เดิมมีความดันตา่ อย่แู ล้ว แนะนาญาตหิ รือผู้ให้ยากัญชาวดั ความดนั โลหิตก่อนใหย้ า หากตา่ กว่า 90/60 ใหห้ ยดุ ยาคืนนน้ั แล้วบันทกึ ลงสมดุ คู่มอื กัญชา • พาร์กินสนั 1 ราย (รอบ 22/7/62) ใช้ประมาณ 2-7 วัน พบอาการสับสน ร้องไห้ นอนไมห่ ลับ แตค่ าดวา่ มีอาการทางจติ ร่วม เปน็ ของเดมิ อย่กู ่อนหน้าแล้ว หยุดใช้ยาคนื วันที่ 1/8/62 รวมใช้ไป 10 วนั

ผลข้างเคียงของกญั ชา ส่วนใหญ่ขึน้ กบั การตอบสนองของแต่ละคน วิธีการใช้ ขนาดยาที่ใช้ (การดด้รบั สาร THC ขนาดสูง อาจเพ่ิมการเกิดผลข้างเคียงดด้) • ปากแหง้ ตาแดง • ความอยากอาหารเพม่ิ ข้นึ (ซึ่งอาจเปน็ อาการข้างเคียงทีพ่ ึงประสงค)์ โดยทวั่ ไปผลขา้ งเคยี งทเี่ กดิ ขนึ้ กบั • ภาวะเคลิ้มสุขอย่างออ่ น ๆ งว่ งซมึ คนไขจ้ ะคอ่ ยๆ ลดลงใน 2-3 วนั • ความตนื่ ตวั ของผใู้ ชล้ ดลงโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในชว่ งเวลาไม่ก่ีชัว่ โมง หลังจากเรม่ิ จงึ เป็ นเหตผุ ลหนงึ่ ทนั ทหี ลงั ได้รบั ยา ของคาแนะนาทว่ี า่ ใหเ้ พม่ิ หรอื ลดยา • อัตราการเตน้ ของหัวใจเพมิ่ ขนึ้ ทกุ ๆ 2 วนั *** • ความดันโลหิตลดต่าลง และมอี าการเวยี นศรี ษะ • การใช้ยาท่มี ีสาร THC เกินขนาดในปริมาณทสี่ งู มาก อาจกอ่ ให้เกดิ สภาวะ วิกลจรติ หรอื ภาวะทางจิตเวชอ่นื ๆ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งกับผปู้ ว่ ยท่มี ีความ บกพรอ่ งทางพนั ธกุ รรมอยู่กอ่ นแลว้ ปกติแล้วอาการข้างเคยี งทงั หมดจะคอ่ ย ๆ ลดนอ้ ยลงและหายไป ภายในไมก่ ี่ช่ัวโมง ทงั นขี นึ อยู่กับปรมิ าณทไ่ี ดร้ บั และวธิ ีการให้ยา เอกสารประกอบการบรรยายการใช้กญั ชาทางการแพทย์ จดั โดยกรมการแพทย์ เมษายน 2562 โดย ศ.นพ.ธรี ะวฒั น์ เหมะจฑุ า และ นพ. ภาสนิ เหมะจฑุ า ชอ่ื เอกสาร อบรมกญั ชาเบอื้ งต้นในประเทศดทย MacCallum C.A., Russo E.B. Practical considerations n medical cannabis administration and dosing. European Journal of Internal Medicine 2018; 49 : 12–19.

ปรบั ลดขนาดยา เมอื่ พบอาการ มนึ เวียนศรี ษะ (dizziness) เสียความสมดุล (loss of co-ordination) หวั ใจเตน้ ชา้ (bradycardia) ความดันโลหิตผิดปกติ (abnormal pressure) หยุดใช้ทนั ที เมื่อพบอาการ สับสน (disorientation) กระวนกระวาย (agitation) วติ กกงั วล (anxiety) ประสาทหลอน (hallucination) โรคจติ (psychosis) เอกสารประกอบการบรรยายการใช้กญั ชาทางการแพทย์ จดั โดยกรมการแพทย์ ฉบบั ปรบั ปรงุ 2/2562

ข้อห้ามใช้ผลิตภณั ฑท์ ี่มี THC เป็นส่วนประกอบ จากคาแนะนาการใช้กญั ชาทางการแพทย์ ของกรมการแพทย์ 1. ผทู้ ี่มีประวตั ิแพ้ผลิตภณั ฑท์ ี่ดด้จากการสกดั กญั ชา ซ่ึงอาจเกิดจากส่วนประกอบอ่ืนๆ และ/ หรอื สารท่ีเป็นตวั ทาละลาย (solvent) ท่ีใช้ในการสกดั 2. ผ้ทู ่ีมีอาการรนุ แรงของ unstable cardio-pulmonary disease (angina, peripheral vascular disease, cerebrovascular disease และ arrhythmia) หรือ มีปัจจยั เสี่ยงของโรคหลอดเลือดหวั ใจ ห้ามใช้ในผ้ปู ่ วยโรคหวั ใจขนั้ รนุ แรงที่มอี าการความดนั ตก หรอื หวั ใจเต้นเรว็ เพราะเพ่ิมความ เสี่ยงหวั ใจขาดเลือด (อนนั ตช์ ยั อศั วเมฆนิ . ระบบกญั ชาในรา่ งกายกบั การประยุกตใ์ ชท้ างคลนิ ิก) 3. ผ้ทู ี่เป็นโรคจิตมาก่อน หรือ มีอาการของโรคอารมณ์แปรปรวน (concurrent active mood disorder) หรอื โรควิตกกงั วล (anxiety disorder) 4. หลีกเล่ียงการใช้ในสตรีมีครรภ์ สตรีท่ีให้นมบตุ ร รวมถึงสตรีวยั เจริญพนั ธท์ุ ี่ดมด่ ด้คมุ กาเนิด หรือสตรีท่ีวางแผนจะตงั้ ครรภเ์ น่ืองจากมีรายงานการศึกษาพบว่ามีทารกคลอดก่อนกาหนด ทารกน้าหนักตวั น้อย รวมถึงพบ cannabinoids ในน้านมแมด่ ด้

ข้อควรระวงั จากคาแนะนาการใช้กญั ชาทางการแพทย์ ของกรมการแพทย์ 1. การสงั่ ใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ญั ชาทม่ี ี THC เป็นสว่ นประกอบในผปู้ ่วยทม่ี ีอายตุ า่ กวา่ 25 ปี เน่อื งจากผลขา้ งเคยี งทเ่ี กดิ ขน้ึ สง่ ผลต่อสมองทก่ี าลงั พฒั นาได้ ดงั นนั้ ผสู้ งั่ ใชค้ วรวเิ คราะห์ความเสย่ี งทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ ก่อน การสงั่ ใชผ้ ลติ ภณั ฑจ์ ากกญั ชา 2. ผทู้ เ่ี ป็นโรคตบั (หากจาเป็นใหล้ ดขนาดยาลงเน่อื งจากกญั ชาใชต้ บั ในการกาจดั ยาเป็นหลกั ) 3. ผปู้ ่วยทต่ี ิดสารเสพติด รวมถงึ นโิ คตนิ หรอื เป็นผดู้ ม่ื สรุ าอยา่ งหนกั 4. ผใู้ ชย้ าอ่นื ๆ โดยเฉพาะยากลมุ่ opioids และยากลอ่ มประสาท อาทิ benzodiazepines 5. ผปู้ ่วยเดก็ และผปู้ ่ วยสงู อายุ เน่อื งจากยงั ไมม่ ขี อ้ มลู ทางวชิ าการมากเพยี งพอในสองกลุ่มน้ี กระบวนการ metabolism ของผสู้ งู อายุจะชา้ กวา่ จงึ ดเู หมอื นว่ามกี ารตอบสนองต่อกญั ชาไดส้ งู กว่า ดงั นนั้ การใชจ้ งึ ควรเริ่มตน้ ในปรมิ าณทน่ี ้อย และปรบั เพมิ่ ขน้ึ ชา้ ๆ (ในเดก็ อายตุ ่ากวา่ 18 ปี ใหพ้ จิ ารณาตามความเหมาะสมกบั โรคของผปู้ ่วย ยาเพม่ิ ความเสย่ี งตอ่ การเกดิ จติ เพศและลดพฒั นาการทางสมองได้ ) **หมายเหตุ ข้อ 3 และ 4 อาจพิจารณาใช้ non-psychoactive cannabis preparation

เอกสารทแี่ นะนาให้ศกึ ษาเพมิ่ เตมิ https://doh.dc.gov/sites/def ault/files/dc/sites/doh/publi cation/attachments/Medical %20Cannabis%20An%20Intr oduction%20to%20the%20Bi ochemistry%20and%20Phar macology.pdf https://dchealth.dc.gov/sites /default/files/dc/sites/doh/p ublication/attachments/Med ical%20Cannabis%20Adverse %20Effects%20and%20Drug %20Interactions_0.pdf https://www.gpo.or.th/LinkClick.aspx?fileticket =x93hjAvu85Y%3D&tabid=414&mid=1297

ขอ้ มูลศกึ ษาเพิ่มเตมิ

CBD THC สารในกญั ชามมี ากกวา่ 500 ชนดิ แต่สารสาคญั ทม่ี ขี อ้ มลู การศกึ ษามากมี 2 ตวั คอื THC และ CBD non-psychoactive psychoactive effects และยงั พบสารกล่มุ ฟลาโวนอยด์ และสารกล่มุ เทอรป์ ีน ไม่มผี ลตอ่ จติ และประสาท ช่วยลดผลขา้ งเคยี งทาง ออกฤทธติ ์ อ่ ระบบประสาทสว่ นกลาง เช่น myrcene, alpha-pinene, beta-caryophyllene จะเป็นตวั เสรมิ การออกฤทธทิ์ างยากบั สารกลุม่ แคนนาบนิ อยด์ จติ และประสาทจาก THC (anxiety, dysphoria, อาจกระตนุ้ กด และหลอนประสาทรว่ มกนั [1,2] panic reactions, and paranoia) เรยี กการเสรมิ ฤทธนิ์ ้วี า่ “Entourage effect” และทาให้ THC ออกฤทธดิ ์ ขี น้ึ [1] สารนี้ทาให้ “เมา” / “HIGH” Woodbridge M. A primer to medicinal cannabis. New Zealand : Bedrocan International ; 2018. ตา้ นการชกั (Anti-seizure) [1] เพมิ่ ความอยากอาหาร (Appetite stimulant) [3] การนาฤทธ์ิทางเภสชั วิทยาจากสารในกญั ชาดปใช้ทางยาจาเป็นต้องมีหลกั ฐาน งานวิจยั สนับสนุน ***ซึ่งปัจจบุ นั มกี ารพฒั นาเป็นยาใช้ในคน เช่น ตา้ นโรคจติ (Anti-psychotic) ตา้ นซมึ เศรา้ (Anti-depressant) [6] THC : CBD ตา้ นวติ กกงั วล (Anti-anxiety) ตา้ นซมึ เศรา้ (Anti-depressant) [6] ใชบ้ รรเทาอาการเกรง็ และปวดในผปู้ ่วยปลอกประสาทเสอ่ื มแขง็ ( Multiple sclerosis ) ในกรณที ใ่ี ชย้ าอน่ื แลว้ ไมไ่ ดผ้ ล และบรรเทาอาการปวดในมะเรง็ ระยะรกุ ราน ทไ่ี มต่ อบสนองต่อยา ตา้ นการอกั เสบ (Anti-inflammatory), ตา้ นอนุมลู อสิ ระ (Anti-oxidant), ในกลมุ่ opioids ชอ่ื การคา้ Sativex® ตา้ นมะเรง็ (Anti-cancer), ตา้ นการปวด (Analgesic), ตา้ นอาเจยี น (Anti-nauseant) [1-6] synthetic THC ใชล้ ดอาการคลน่ื ไสอ้ าเจยี นในผปู้ ่วยมะเรง็ ในกรณที ใี่ ชย้ าอน่ื แลว้ ไมไ่ ดผ้ ล กระตนุ้ ความอยากอาหารในผปู้ ่วยเอดส์ ชอ่ื การคา้ Marinol® CBD เป็นยารกั ษาลมชกั ชอ่ื การคา้ Epidiolex ® อ้างอิงจาก 1. https://www.who.int/medicines/access/controlled-substances/5.2_CBD.pdf 2. https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=28099 3. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5021742/ 4.https://doh.dc.gov/sites/default/files/dc/sites/doh/publication/attachments/Medical%20Cannabis%20An%20Introduction%20to% 20the%20Biochemistry%20and%20Pharmacology.pdf 5.https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S0278584615001190 6. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2866040/

รปู แบบยา Smoking/ Vaporisation Oral Oromucosal Topical เวลาท่ีเริ่มออกฤทธ์ิ ระยะเวลา 5–10 นาที 60–180 นาที 15–45 นาที ดมแ่ น่นอน การออกฤทธ์ิ ขอ้ ดี 2–4 ชวั่ โมง 6–8 ชวั่ โมง 6–8 ชวั่ โมง ดม่แน่นอน ข้อเสีย ออกฤทธ์ิดว ดมม่ ีกลิ่น มียาในท้องตลาด ช่ือ เหมาะกบั รอยโรคเฉพาะที่ nabiximols ท่ีมีข้อมลู เหมาะกบั ภาวะเฉียบพลนั เหมาะกบั ภาวะเรอื้ รงั ยืนยนั ทงั้ ประสิทธิภาพ และความปลอดภยั เช่น ปวด คลืน่ ดส้ ใช้งานง่าย ต้องรเู้ ทคนิคการใช้ ออกฤทธ์ิช้า ราคาแพง ให้ผลแคร่ อยโรคเฉพาะที่ ราคาแพง นัน้ พกพาดมส่ ะดวก Ref : MacCallum C.A., Russo E.B. Practical considerations in medical cannabis administration and dosing. European Journal of Internal Medicine 2018; 49 : 12–19. https://cannabisnow.com/thai-stick-up/ https://www.leafscience.com/2017/04/20/marijuana- https://bigbudsmag.com/wp- http://www.bismanchemicals.com/index.php/p https://www.youtube.com/watch?v=b5IMYHzYfd0 vaporizers-beginners-guide/ roduct/sativex-nabiximols-1-spray-per-box/ content/uploads/2018/05/neuropathic-pain-chronic-pain- marijuana-marinol-nabilone-CBD.jpg



หวั ข้อท่ี 7: ใช้กญั ชาและกัญชงเป็นยา อยา่ งรู้คณุ ค่าและชาญฉลาด ดร. จรุ ญั ญา อ่อนลอ้ ม มลู นิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภยั ภูเบศรฯ

ขอบข่ายเนื้อหา • ความเช่ือและความจริงเกย่ี วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ • การใชผ้ ลติ ภัณฑก์ ัญชาและกญั ชงทางการแพทยใ์ นอนาคตให้ไดป้ ระโยชน์ • ขอ้ แนะนากอ่ นตดั สนิ ใจใช้ผลติ ภัณฑก์ ญั ชาและกัญชงทางการแพทย์ • การวางแผนการรักษาดว้ ยผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกัญชง • การเริม่ ใช้ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกัญชงในทางการแพทย์ • ขอ้ ควรระวังเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑก์ ัญชาและกัญชง • ข้อหา้ มในการใชก้ ัญชาและกญั ชง • การถอนพษิ เบ้อื งต้นจากการเมากญั ชาและกญั ชง

ความเชื่อและความจรงิ เก่ยี วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์

จรงิ หรือ ไม่จริง รกั ษาทกุ โรค? ปลอดภยั หรือ ไม่ คนไข้ จะได้ใช้เมื่อไหร่

Medical Legalization: • Fully legalization: 35 • Partially legalization: 14 • ASEAN countries: Thailand, Philippines (in progress) Recreation •Legalization 47 • Illegal (Medical & Recreation) 130 https://en.wikipedia.org/wiki/Legality_of_cannabis กรมการแพทย์

ความเชื่อและความจริงเกย่ี วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ ➢ ความเช่ือเกยี่ วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 1. ตาราสมุนไพรโบราณ ตำรำสมุนไพรโบรำณที่ชื่อ ‘มกั ขซ์ ำน’ ที่เกิดจำกกำรผสมผสำนควำมรู้ดำ้ น สมนุ ไพรของอำหรับ และกรีกไวด้ ว้ ยกนั กล่ำวถึง กญั ชำไวว้ ำ่ “คำเนห์บอส (กญั ชำ) คือผปู้ ระทำนควำม ปี ติสุข ผโู้ บยบินสู่ฟำกฟ้ำ ผชู้ ้ีทำงสวรรค์ เป็นสวรรคข์ องคนยำก และผปู้ ลอบ ประโลมยำมทุกขร์ ะทม” ในคติควำมเชื่อของศำสนำฮินดู เรียกสมุนไพรชนิดน้ีวำ่ ภงั ค์ (bhang หรือ bhanga) เช่ือวำ่ เป็นสมุนไพร ที่ พระศิวะเจำ้ ทรงประทำนแด่มวลมนุษย์ 2. คนมีความเชื่อว่ากญั ชาและกญั ชงรักษาโรคมะเร็งได้ นำยแพทยว์ ีรวุฒิ อิ่มสำรำญ ไดก้ ล่ำวว่ำในปัจจุบนั (พ.ศ. 2562) ยงั ไม่มี ขอ้ มูลยืนยนั ว่ำกญั ชำและกญั ชงสำมำรถรักษำมะเร็ง ในมนุษยไ์ ด้ จะมีก็แต่เพียงกำรศึกษำ และวิจยั ใน ระดบั ข้นั ทดลองตำมกระบวนกำร ไดแ้ ก่ (1) ทดสอบกบั เซลล์มีชีวิตในหลอด ทดลอง (2) ทดสอบใน สัตวท์ ดลอง และ (3) ทดสอบในมนุษย์ โดยล่ำสุดอยใู่ นข้นั ตอนกำลงั ทำกำรวิจยั ว่ำ กญั ชำและกญั ชง จะ สำมำรถรักษำมะเร็งในมนุษยไ์ ดห้ รือไม่

ความเช่ือและความจริงเกยี่ วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ ➢ ความเช่ือเกยี่ วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 3. มนุษย์มีความเชื่อว่ากญั ชาและกญั ชงเป็ นยารักษาชีวติ ได้ จำกกำรศึกษำขอ้ มลู ของสำนกั งำน ป้องกนั และปรำบปรำมยำเสพติดในช่วงที่ผำ่ นมำ พบวำ่ กญั ชำมีโทษมำกกวำ่ ประโยชน์ แตใ่ นทำงกลบั กนั หำกทำกำรศึกษำวจิ ยั แลว้ พบวำ่ สำรในกญั ชำสำมำรถรักษำชีวติ ได้ หรือสำมำรถใชป้ ระโยชนใ์ นทำงกำรแพทย์ ก็จะดึงประโยชนน์ ้นั ๆ มำใช้ และในขณะเดียวกนั ตอ้ งอยใู่ นขอบเขตท่ีควบคุมได้ ในส่วน ของประโยชนท์ ำงสำธำรณสุขไม่มีใคร กีดกนั หรือขวำงประโยชน์ของประชำชน 4. ความเชื่อกญั ชากบั แอลกอฮอล์ กญั ชำเสพติดยำก ส่วนเคร่ืองดื่มแอลกอฮอลเ์ สพติดง่ำยกวำ่ แต่ไม่ใช่แปลว่ำกญั ชำไม่เสพติด กญั ชำมีโอกำสติดโดยเฉลี่ย ประมำณร้อยละ 10 แตถ่ ำ้ เป็ นเยำวชนวยั ทำงำน หำกเร่ิมตน้ เสพกญั ชำโอกำสติดจะเพ่มิ จำกร้อยละ 10 เป็ นร้อยละ 16 ท้งั กญั ชำและ แอลกอฮอลต์ ่ำงก็ทำลำยสุขภำพ ท้งั กญั ชำและแอลกอฮอลก์ ่อใหเ้ กิดปัญหำอำชญำกรรม และ ทะเลำะวิวำทได้ กญั ชำรักษำโรคมะเร็ง แต่สุรำทำให้เกิดโรคมะเร็ง เพรำะแอลกอฮอล์ทำให้เกิดโรคมะเร็งตบั และจำกกำรศึกษำวจิ ยั ทดลอง ในสตั ว์ พบวำ่ สตั วม์ ีควำมเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งบำงชนิดไดเ้ ช่นกนั

ความเชื่อและความจริงเกย่ี วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ ➢ ความจริงเกย่ี วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 1. อาการปวดเรื้อรังจากเส้นประสาท อำกำรปวดมีอยหู่ ลำยประเภท และสำรแคนนำบินอยด์ไม่สำมำรถ รักษำอำกำรปวดไดท้ ุกประเภท จำกกำรศึกษำในปัจจุบนั แคนนำบินอยดจ์ ะไดผ้ ลดีต่ออำกำรปวดจำก เสน้ ประสำทเทำ่ น้นั ซ่ึงเป็นอำกำรปวดท่ีเกิดจำกกำรบำดเจ็บ หรือโรคซ่ึงส่งผลกระทบ ต่อเส้นประสำท กำรรับรู้ อำกำรปวดเร้ือรังจำกเส้นประสำทเป็ นอำกำรท่ีพบไดบ้ ่อย และยำกต่อกำรรักษำ รวมไปถึงทำงเลือกใน กำรรักษำท่ีจำกดั จึงทำให้ยำจำกกญั ชำและกญั ชงจำเป็นตอ่ ผปู้ ่ วย กลุ่มน้ี จำกกำรศึกษำในผปู้ ่ วยแสดงใหเ้ ห็นวำ่ ผปู้ ่ วยสำมำรถทนต่ออำกำรขำ้ งเคียงจำกสำรแคนนำบินอยด์ ไดด้ ีกว่ำกำรให้ยำประเภท โอปิ ออยด์ท่ีมีฤทธ์ิแกป้ วดรุนแรง แน่นอนวำ่ มีผศู้ ึกษำกำรใชก้ ญั ชำและกญั ชง ทำงกำรแพทยร์ ่วมกบั ยำอื่น ๆ มำกมำย ดงั ตวั อยำ่ ง มอร์ฟี น ซ่ึงพบวำ่ สำรแคนนำบินอยด์ และโอปิ ออยด์ ทำงำนร่วมกนั ไดฤ้ ทธ์ิแกป้ วดไดด้ ีข้ึน 2. อาการคลื่นไส้อาเจยี นและเพม่ิ ความอยากอาหาร สำรแคนนำบินอยด์ให้ผลท่ีดีมำกต่อกำรรักษำอำกำรคลื่นไส้ และอำเจียน ซ่ึงเป็ นผลมำจำกกำรใช้เคมีบำบดั หรือรังสี บำบดั รักษำโรคมะเร็ง โรคตบั อกั เสบซี หรือกำรรักษำโรค เอดส์ ยำ THC สังเครำะห์ในช่ือกำรคำ้ Marinol® มีกำรใช้ในหลำย ประเทศทว่ั โลกเพ่ือเป็นยำแก้ อำเจียน สำหรับผปู้ ่ วยโรคมะเร็งท่ีอยใู่ นระหวำ่ งกำรให้เคมีบำบดั มีงำนศึกษำวิจยั สนบั สนุนขอ้ มูลวำ่ กำรให้ THC โดยตรงก่อน และหลงั กำรทำเคมีบำบดั จะส่งผลดีมำกกวำ่ กำรใชย้ ำแกอ้ ำเจียนแผน ปัจจุบนั แบบเดิม

ความเช่ือและความจริงเกยี่ วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ ➢ ความจริงเกย่ี วกบั กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 3. โรคปลอกประสาทเส่ือม โรคปลอกประสำทเสื่อม (MS) เป็นโรคชนิดหน่ึงซ่ึงมีอำกำรปวดเร้ือรัง ร่วมดว้ ย จำกกำรศึกษำฤทธ์ิของสำรแคนนำบินอยด์ ในระยะยำวต่อโรคน้ีแสดงให้เห็นว่ำผปู้ ่ วยไม่มี กำรตำ้ นฤทธ์ิกำรรักษำโรค และไม่ตอ้ งเพิ่มปริมำณยำ เพื่อให้ผลกำรรักษำเท่ำเดิม เม่ือมีกำรใชย้ ำมำ เป็นระยะเวลำหน่ึง นอกจำกน้นั ในผปู้ ่ วยหลำยรำย สำรแคนนำบินอยด์ยงั มีส่วน ช่วยในกำรนอนหลบั โดยทำให้ สำมำรถนอนหลบั ไดล้ ึก และนำนยงิ่ ข้ึน 4. โรคลมชัก มีผลกำรศึกษำจำกห้องปฏิบตั ิกำรยืนยนั ว่ำฤทธ์ิตำ้ นอำกำรชกั ของสำรบริสุทธ์ิ CBD ในกำรศึกษำทำง คลินิกขนำดเล็ก และ ในสัตวท์ ดลองพบวำ่ สำร CBD สำมำรถลดควำมถ่ี และควำมรุนแรงของอำกำร ชกั ได้ และสำร CBD ยงั ไม่ก่อให้เกิดผลต่อจิต ประสำทดว้ ยแลว้ แสดงให้เห็นถึงศกั ยภำพของสำร CBD ในกำรพฒั นำเป็ นยำใช้ในกำรรักษำโรคลมชกั ในมนุษยไ์ ด้ อยำ่ งไรก็ดี ขอ้ มูลงำนวิจยั ยงั มีไม่มำกพอ ซ่ึง ทำให้ไม่สำมำรถหำขอ้ สรุปท่ีแน่นอนเก่ียวกบั ศกั ยภำพของสำรแคนนำบินอยด์ในกำรรักษำโรค ลมชกั ได้



การใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ในอนาคตให้ได้ประโยชน์ ปัจจุบนั มีกำรวิจยั และพฒั นำยำจำกกญั ชำและกญั ชง เพ่ือใช้ประโยชน์ทำงกำรแพทย์ มำกข้ึน หลงั จำกหลำยประเทศมีกำร อนุญำตใหใ้ ชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชงทำงกำรแพทยไ์ ดม้ ีงำนวจิ ยั และรำยงำนกำรใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง กำรใช้ผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชงทำงกำรแพทยใ์ นอนำคตให้ไดป้ ระโยชน์ เช่น โรคมะเร็ง โรคสมองเสื่อม โรคเบำหวำน และโรคไตเร้ือรัง เป็นตน้ จำเป็นตอ้ งมีกำรศึกษำวิจยั ถึงควำม ปลอดภยั และประสิทธิผลอยำ่ งละเอียด ซ่ึงปัจจุบนั (พ.ศ. 2562) ยงั มี ขอ้ มลู หลกั ฐำนทำงวิชำกำร ไมเ่ พียงพอ ผปู้ ่ วยจึงควรไดร้ ับกำรรักษำตำมวิธีมำตรฐำนทำงกำรแพทยใ์ นปัจจุบนั หำกเลือกใช้ เฉพำะ ผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชงในกำรรักษำแลว้ อำจทำให้ผปู้ ่ วยเสียโอกำสในกำรรักษำได้

ข้อแนะนาก่อนตัดสินใจใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์