Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา

ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา

Published by maxcrs, 2020-06-14 07:45:16

Description: ทช33098 กัญชาและกัญชงศึกษา

Search

Read the Text Version

คำแนะนำ กำรใช้กญั ชำทำงกำรแพทย์ Guidance on Cannabis for Medical Use ขอ้ มลู หลกั บำงส่วนมำจำก....คำแนะนำ กำรใช้กญั ชำทำงกำรแพทย์ Guidance on Cannabis for Medical Use ท่ำนสำมำรถดำวน์โหลดได้ที่ QR code หรือ เอกสารบรรยายกญั ชาทางการแพทย์ กรมการแพทย์ 29-30 เม.ย. โรงแรมอมารี ดอนเมอื ง https://drive.google.com/open?id=1sKLx0AS8J8jZ3zhfW8NSgSL8-PwGXHIe

ข้อตกลงเบอื้ งต้น : คำแนะนำ กำรใช้กญั ชำทำงกำรแพทย์ ของกรมกำรแพทย์  แนวทางน้ไี มแ่ นะนาใหใ้ ชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ญั ชาในการรกั ษา และ/ หรอื ควบคมุ อาการของผปู้ ่วยเป็นการรกั ษาลาดบั แรก (first-line therapy) ในทกุ กรณี โดยเฉพาะผลติ ภณั ฑก์ ญั ชาทางการแพทยท์ ย่ี งั ไมผ่ า่ นการรบั รองตารบั (unapproved products) ยกเวน้ ในกรณที ไ่ี ดร้ บั ขอ้ มลู ทางการแพทยแ์ ละเป็นความ ประสงคข์ องผปู้ ่วยและครอบครวั ตามสทิ ธขิ นั้ พน้ื ฐาน  unapproved products ตอ้ งปลอดภยั จากสารปนเป้ือนต่างๆ อาทิ สารโลหะหนกั ยาฆา่ แมลง ยา ฆา่ เชอ้ื รา และสารอนั ตรายอ่นื ๆ ในกรณที ไ่ี มท่ ราบ อตั ราส่วนของ THC และ CBD ในแต่ละผลติ ภณั ฑ์ การใชอ้ าจทาไดโ้ ดยใชป้ รมิ าณทน่ี ้อยทส่ี ุด และเพมิ่ ขนาดทลี ะน้อยโดยสงั เกตการตอบสนองและ ผลขา้ งเคยี งทไ่ี มพ่ งึ ประสงคท์ อ่ี าจเกดิ ขน้ึ การใช้ unapproved products ตอ้ งคานงึ ถงึ ความปลอดภยั และประสทิ ธผิ ลกอ่ นนามาใชร้ วมถงึ ใหก้ ารดแู ล ตดิ ตามผปู้ ่วยอยา่ งใกลช้ ดิ  การใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ญั ชาทางการแพทยค์ วรจากดั เฉพาะกรณที ก่ี ารรกั ษาดว้ ยวธิ มี าตรฐานต่างๆ ไมไ่ ดผ้ ล/ หรอื อาจเกดิ ผลขา้ งเคยี งทผ่ี ปู้ ่วยไมส่ ามารถ ทนได้  การใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ญั ชาควรใชเ้ พอ่ื เป็นส่วนเสรมิ หรอื ควบรวมกบั การรกั ษาตามมาตรฐาน  ผสู้ งั่ ใชผ้ ลติ ภณั ฑก์ ญั ชาทางการแพทยค์ วรเป็นแพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญดา้ นอายรุ กรรมและ/ หรอื เฉพาะโรค,ทนั ตแพทยผ์ เู้ ชย่ี วชาญทใ่ี หก้ ารรกั ษานนั้ ๆ หาก ไมใ่ ชผ่ เู้ ชย่ี วชาญเฉพาะทาง ผสู้ งั่ ใชค้ วรอยภู่ ายใตก้ าร กากบั ดูแล หรอื ไดร้ บั คาแนะนาในการรกั ษาผปู้ ่วยจากบุคคลดงั กล่าวขา้ งตน้  ผสู้ งั่ ใช/้ ผจู้ า่ ยผลติ ภณั ฑก์ ญั ชาตอ้ งผา่ นการอบรมหลกั สตู รการใชก้ ญั ชาทางการแพทยท์ ก่ี ระทรวงสาธารณสุขรบั รอง และไดร้ บั อนุญาตการเป็นผสู้ งั่ ใช/้ ผจู้ า่ ยผลติ ภณั ฑก์ ญั ชา

 ผปู้ ่ วยพึงเข้ำใจก่อนใช้ยำจำกกญั ชำว่ำ • มีข้อบ่งใช้ •ล้มเหลวต่อกำรรกั ษำมำตรฐำน • ไม่มีภำวะกำเริบของโรคจิตเภท หรอื ยงั ไมส่ ำมำรถคมุ โรคทำงอำรมณ์หรือควำมกงั วลได้ •ไม่นำไปใช้ในทำงที่ผิด คือ เป็นสำรเสพติด •ใช้อย่ำงถกู กฎหมำย • มนั่ ใจในคณุ ภำพ เพรำะมีโอกำสเกิดกำรปนเปื้ อนของเชื้อรำ แบคทีเรยี หรือยำฆ่ำแมลงสงู •ใช้ภำยใต้กำรดแู ลของแพทย์

ข้อแนะนาก่อนตดั สินใจใช้ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 1. ความสัมพนั ธ์ระหว่างแพทย์กบั ผู้ป่ วย (Physician-patient relationship) เป็ นพ้ืนฐำนในกำรให้กำรยอมรับกำรรักษำพยำบำล แพทยค์ วรมน่ั ใจว่ำมีควำมสัมพนั ธ์กบั ผูป้ ่ วยดีเพียงพอ ก่อนกำรใช้ ผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง ผูป้ ่ วยควรไดร้ ับกำรตรวจร่ำงกำยจำกแพทยผ์ ูเ้ ชี่ยวชำญ และ บนั ทึกในเวชระเบียนผปู้ ่ วย รวมถึงกำร ประเมินผปู้ ่ วยวำ่ มีควำมเหมำะสมท่ีจะใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและ กญั ชงหรือไม่ 2. การประเมินผ้ปู ่ วย (Patient evaluation) ควรบนั ทึกขอ้ มูลกำรตรวจทำงกำรแพทย์ และรวบรวมขอ้ มูลประวตั ิที่เกี่ยวขอ้ งกบั อำกำรทำงคลินิกของผปู้ ่ วย 3. การแจ้งให้ทราบและตัดสินใจร่วมกนั (Informed and shared decision making) โดยใหข้ อ้ มูลรำยละเอียดของกำรรักษำท่ีไดร้ ับอยใู่ นปัจจบุ นั ดำ้ นประสิทธิผล ผลขำ้ งเคียง และคุณภำพ ชีวิต กำรใช้ผลิตภณั ฑ์ กญั ชำและกญั ชงกบั ผปู้ ่ วยควรเป็ นกำรตดั สินใจร่วมกนั ระหวำ่ งแพทยผ์ รู้ ักษำ และผปู้ ่ วย แพทยค์ วรอธิบำยใหผ้ ปู้ ่ วยเขำ้ ใจถึงควำม เส่ียง และประโยชน์ของผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง กรณีท่ีผปู้ ่ วยไม่สำมำรถตดั สินใจไดด้ ว้ ยตนเอง แพทยค์ วรแจง้ ใหญ้ ำติ หรือผดู้ ูแล ทรำบถึงควำมเส่ียง และผลที่คำดวำ่ จะไดร้ ับ จำกกำรใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง ซ่ึงส่งผลตอ่ กำร วำงแผนกำรรักษำ และกำรยนิ ยอมรักษำ

ข้อแนะนาก่อนตดั สินใจใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 4. ข้อตกลงการรักษาร่วมกนั (Treatment agreement) วตั ถุประสงค์ และแผนกำร รักษำควรแจง้ ให้ผปู้ ่ วยทรำบต้งั แต่แรก และทบทวนอยำ่ งสม่ำเสมอ รวมถึงควำมเหมำะสมในกำร เลือก วิธีรักษำของแตล่ ะบคุ คล 5. เง่ือนไขทีเ่ หมาะสม (Qualifying condition) ปัจจุบนั ยงั ไม่มีหลกั ฐำนทำงวิชำกำร ดำ้ นประสิทธิผลของกำรใช้ผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชงในทำงกำรแพทยเ์ พียงพอ กำร ตดั สินใจสง่ั ใช้ ข้ึนอยกู่ บั ควำมเช่ียวชำญ และประสบกำรณ์ของแพทยใ์ นประเดน็ ขอ้ บ่งใช้ ควำมเหมำะสม และควำม ปลอดภยั ของ ผปู้ ่ วยแต่ละคน 6. การตดิ ตามอย่างต่อเนื่องและปรับแผนการรักษา (Ongoing monitoring and adapting the treatment plan) แพทยค์ วรประเมินกำรตอบสนองของกำรใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและ กญั ชงกบั ผปู้ ่ วยอยำ่ งสม่ำเสมอ ท้งั สุขภำพในภำพรวม และ ผลลพั ธ์เฉพำะดำ้ น รวมถึงผลขำ้ งเคียงท่ี อำจเกิดข้ึน 7. การให้คาปรึกษาและการส่งต่อ (Consultation and referral) ผปู้ ่ วยท่ีมีประวตั ิ กำรใช้สำรเสพติด และปัญหำโรคทำงจิต จำเป็ นตอ้ งไดร้ ับกำรประเมิน และให้กำรรักษำเป็ นกรณีพิเศษ แพทยผ์ รู้ ักษำควรขอคำปรึกษำ หรือส่งต่อผปู้ ่ วยไปพบผเู้ ช่ียวชำญเฉพำะดำ้ น

ข้อแนะนาก่อนตดั สินใจใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์ 8. การบันทึกเวชระเบียน (Medical records) กำรบนั ทึกในเวชระเบียนควรมีขอ้ มลู ของผปู้ ่ วยครบถว้ นสมบูรณ์ ซ่ึงอำจมีผลทำงกฎหมำย ควรลงวนั ท่ี และลำยมือชื่อกำกบั ไวใ้ นกำรบนั ทึกแตล่ ะคร้ัง โดยขอ้ มูลที่ควรปรำกฏในเวชระเบียน มีดงั น้ี - ประวตั ิผปู้ ่ วย กำรทบทวนปัจจยั เส่ียงตำ่ ง ๆ - ผลกำรรักษำที่ไดร้ ับมำก่อนกำรประเมินผปู้ ่ วย กำรวนิ ิจฉยั และใหก้ ำร รักษำ รวมถึงผลตรวจทำงห้องปฏิบตั ิกำร - กำรใหค้ ำแนะนำผปู้ ่ วย รวมถึงกำรทำควำมเขำ้ ใจกบั ควำมเสี่ยง ประโยชน์ ที่ไดร้ ับ ผลขำ้ งเคียง และผลกำรรักษำท่ีอำจ พบไดห้ ลำกหลำย - ผลกำรประเมินผปู้ ่ วยอยำ่ งต่อเนื่อง และกำรกำกบั ติดตำมผลที่เกิดกบั ผปู้ ่ วย - สำเนำกำรลงนำมในขอ้ ตกลงรักษำ รวมถึงคำแนะนำในกำรดูแลควำม ปลอดภยั และไม่นำผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง ไปให้ผอู้ ่ืน - กำรมีผลประโยชนท์ บั ซอ้ นของแพทย์ (Physician conflicts of interest) แพทยผ์ สู้ ง่ั ใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง ตอ้ งไม่ มีผลประโยชน์ทบั ซอ้ นท้งั ทำงตรง และทำงออ้ ม

การวางแผนการรักษาด้วยผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชง

การวางแผนการรักษาด้วยผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชง 1. วางเป้าหมายการรักษา การเริ่ม และการหยดุ ใช้ แพทยค์ วรหำรือร่วมกบั ผปู้ ่ วยให้ ชดั เจน ในประเดน็ ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั อำกำรของผปู้ ่ วยท่ีรับกำรรักษำดว้ ยผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง 2. การบริหารจดั การโดยแพทย์เวชปฏิบัติทว่ั ไป (General practitioner ; GP) ควรมีเอกสำรจำกแพทยผ์ เู้ ช่ียวชำญเฉพำะทำงรับรองกำรใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชง รักษำอำกำรของผูป้ ่ วย เฉพำะรำย ดงั ตวั อยำ่ ง กำรรักษำแบบประคบั ประคอง 3. มีกระบวนการจดั การความเส่ียง เช่น กำรบริหำรยำ และควำมถี่ของกำรจ่ำยยำ เป็ นตน้ โดยกำรจ่ำยยำเป็ นรำยสัปดำห์หำกมีขอ้ สงสัยว่ำผูป้ ่ วยอำจเพ่ิมขนำดยำดว้ ย ตนเอง 4. กากบั ตดิ ตาม โดยกำรทบทวนทกุ สปั ดำห์ 2 สปั ดำห์ และทุกเดือน รวมถึงกำรตรวจทำง หอ้ งปฏิบตั ิกำร กำรทบทวนโดยผเู้ ชี่ยวชำญ กำรตรวจอื่น ๆ ตำมควำมจำเป็นโดยเฉพำะดำ้ นกำรรักษำ 5. ให้ผู้ป่ วยลงนามยนิ ยอม โดยไดร้ ับทรำบขอ้ มูลเกี่ยวกบั ผลิตภณั ฑ์กญั ชำและกญั ชง ท่ีใช้ในกำรรักษำ ผลขำ้ งเคียงท่ีอำจเกิดข้ึน และเป้ำหมำยของกำรรักษำ รวมท้งั กำรหยดุ เม่ือกำรรักษำ ไมไ่ ดป้ ระโยชน์ 6. ให้คาแนะนาผ้ปู ่ วยว่าไม่ควรขบั ขย่ี านพาหนะ และทางานกบั เคร่ืองจกั รกลเม่ือใช้ ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชงทางการแพทย์

การเริ่มใช้ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชงในทางการแพทย์

การเร่ิมใช้ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชงในทางการแพทย์ กำรเร่ิมใชผ้ ลิตภณั ฑ์กญั ชำและกัญชงกบั ผูป้ ่ วยในทำงกำรแพทย์ ตอ้ งคำนึงถึง ขอ้ ปฏิบตั ิ 2 ประกำร ไดแ้ ก่ (1) กำรซกั ประวตั ิอำกำรป่ วยในปัจจุบนั ประวตั ิกำรเจ็บป่ วยในอดีต ประวตั ิเจ็บป่ วยทำงจิต และโรค ทำงจิตเวช และอำกำรทำงจิตจำกกำรไดร้ ับยำรักษำโรคพำร์กินสัน ยำรักษำโรคสมองเส่ือม และ พฤติกรรมเสี่ยงที่สมั พนั ธ์กบั กำรติดสำรเสพติด (2) กำรกำหนด ขนำดยำ และกำรบริหำรยำ ไม่มีขนำดยำเริ่มตน้ ท่ีแน่นอนในผลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชงแตล่ ะชนิด ขนำดยำที่เหมำะสมข้ึน กบั ลกั ษณะของผปู้ ่ วยแตล่ ะคน โดยเร่ิมต้นขนาดตา่ และปรับ เพ่ิมขนาดช้า ๆ จน ได้ขนาดยาที่เหมาะสม ส่งผลต่อกำรรักษำสูงสุด และเกิดผลขำ้ งเคียงต่ำสุด ขนำดยำในระดบั ต่ำมี โอกำสเกิดผลขำ้ งเคียงนอ้ ย

ข้อควรระวงั เกย่ี วกบั การใช้ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชง

ข้อควรระวงั เกยี่ วกบั ผลติ ภัณฑ์กญั ชาและกญั ชง 1. ข้อควรระวงั ทางการแพทย์ ไม่ควรใชผ้ ลิตภณั ฑก์ ญั ชำและกญั ชงในผูป้ ่ วยที่มี อำยตุ ่ำกวำ่ 25 ปี เพรำะมีผลขำ้ งเคียงต่อสมองท่ี กำลงั พฒั นำ และไมค่ วรใชก้ บั ผปู้ ่ วยโรคตบั ผตู้ ิดสำรเสพติด รวมถึงนิโคติน ผดู้ ื่มสุรำอยำ่ งหนกั ผใู้ ชย้ ำ ในกลุม่ โอปิ ออยด์ (opioids) ยำกลอ่ มประสำท เด็กและ ผสู้ ูงอำยุ เนื่องจำกยงั ไม่มีขอ้ มูลทำงวิชำกำรมำก เพียงพอ 2. ขนาดของกญั ชาและกญั ชงทใี่ ช้ในทางการแพทย์ ขนำดของกญั ชำและกญั ชงท่ีใชใ้ นทำงกำรแพทย์ ในกำรรักษำโรค ยงั ไม่ สำมำรถกำหนดขนำด กำรใชท้ ่ีแน่นอนได้ โดยตอ้ งปรับใหเ้ หมำะกบั แต่ละบุคคล และมีหลกั สำคญั คือ เร่ิมทีละนอ้ ย แลว้ ค่อย ๆ เพิ่มขนำด ซ่ึงผูป้ ่ วยที่เป็ นโรค หรือมีอำกำรต่ำงกนั จะใชข้ นำดยำต่ำงกนั โดยหำกใชข้ นำดยำกญั ชำ และกญั ชงท่ีไมถ่ กู ตอ้ งจะเกิดกำรด้ือยำ

ข้อควรระวงั เกย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชง 2.1 ปัจจยั ทม่ี ผี ลต่อขนาดกญั ชาและกญั ชงทเ่ี หมาะสม มี 3 ประการ ได้แก่ - ประกำรท่ี 1 ชนิดของยำกัญชำและกัญชงท่ีใช้ รวมถึงยำกัญชำและกญั ชง จำกพืชสกัด หรือไม่ สำยพนั ธุ์ ควำมเขม้ ขน้ ของยำสกดั วธิ ีใช้ - ประกำรท่ี 2 โรคที่ผูป้ ่ วยเป็ น รวมถึงระยะเวลำ และระดบั ควำมรุนแรง ของโรค กำรรักษำ แบบอ่ืน ๆ ท่ีไดร้ ับกำรรักษำร่วมกบั โรคอื่น ๆ - ประกำรท่ี 3 กำรตอบสนองตอ่ ยำกญั ชำและกญั ชงของแต่ละคน รวมถึง ระดบั เอนโดแคนนำ บินอยด์ (endocannabinoid)เดิมในร่ำงกำย หรื อเรี ยกว่ำ เอนโดแคนนำบินอยด์ โทน (endocannabinoid tone) และกำรด้ือยำ เมื่อใชไ้ ปนำน ๆ

ข้อควรระวงั เกยี่ วกบั ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชง 2.2 คาแนะนาการใช้ขนาดของนา้ มนั กญั ชาและกญั ชง อำกำรขำ้ งเคียงส่วนใหญ่จะเกิดข้ึนเม่ือไดร้ ับยำในปริมำณมำก หรือใชร้ ่วมกบั สำรอ่ืน ๆ โดยมกั จะเกิดข้ึนหลงั กำรใชท้ นั ที อำกำรของผลคำ้ งเคียงกำรใชก้ ญั ชำและกญั ชง ไดแ้ ก่ 1) ปำกแหง้ 2) ตำแดง 3) ควำมอยำกอำหำรเพ่มิ ข้ึน (ซ่ึงอำจเป็ นอำกำรขำ้ งเคียงที่พึงประสงค)์ 4) ภำวะเคลิ้มสุขอยำ่ งอ่อน ๆ 5) ควำมตื่นตวั ลดลง โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ ในช่วงเวลำไมก่ ี่ชว่ั โมงหลงั ไดร้ ับยำ 6) อตั รำกำรเตน้ ของหวั ใจเพ่ิมข้ึน 7) ควำมดนั โลหิตลดต่ำลง และมีอำกำรเวยี นศีรษะ ปกติแลว้ อำกำรขำ้ งเคียงท้งั หมดจะค่อย ๆ ลดนอ้ ยลง และหำยไปภำยใน ไมก่ ี่ชวั่ โมง ท้งั น้ี ข้ึนอยกู่ บั ปริมำณท่ีไดร้ ับและวธิ ีกำรใหย้ ำ

ผลข้ำงเคียงของกญั ชำ ส่วนใหญ่ขึ้นกบั กำรตอบสนองของแต่ละคน วิธีกำรใช้ ขนำดยำท่ีใช้ (กำรได้รบั สำร THC ขนำดสูง อำจเพิ่มกำรเกิดผลข้ำงเคียงได้) พบได้บ่อย : โดยท่วั ไปผลขา้ งเคยี งทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั งว่ งนอน อ่อนเพลีย เวียนหวั วิตกกงั วล คลนื่ ไส้ ปำก คนไขจ้ ะคอ่ ยๆ ลดลงใน 2-3 วนั แห้ง กำรเรียนรลู้ ดลง หลังจากเรม่ิ แตฤ่ ทธก์ิ ารชว่ ยอาการ ทเี่ จ็บป่ วยจะยงั อยจู่ งึ เป็ นเหตผุ ล กรณีสูบจะพบอำกำรไอ มีเสมหะ หลอดลมอกั เสบ หนงึ่ ของคาแนะนาทวี่ า่ ใหเ้ พม่ิ หรอื ลดยาทกุ ๆ 2 วนั *** พบคอ่ นขา้ งบอ่ ย : เคลม้ิ สขุ ตาเบลอ ปวดหวั พบน้อย : ควำมดนั ตก โรคจิต หวำดระแวง ซึมเศร้ำ เดินเซ ใจสนั่ อำกำรใจสนั่ มกั เกิด ช่วงเร่ิมต้นใช้ยำท่ีปรบั ขนำดยำ ท้องเสีย อำเจียนรนุ แรง เอกสำรประกอบกำรบรรยำยกำรใช้กญั ชำทำงกำรแพทย์ จดั โดยกรมกำรแพทย์ เมษำยน 2562 โดย ศ.นพ.ธรี ะวฒั น์ เหมะจุฑา และ นพ. ภาสนิ เหมะจฑุ า ช่อื เอกสาร อบรมกญั ชำเบอื้ งต้นในประเทศไทย MacCallum C.A., Russo E.B. Practical considerations n medical cannabis administration and dosing. European Journal of Internal Medicine 2018; 49 : 12–19.

ข้อควรระวงั เกยี่ วกบั ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชง 3. ห้ามใช้นา้ มนั กญั ชาและกญั ชงทาบุหร่ี ห้ำมใชน้ ้ำมนั กญั ชำและกญั ชงทำบุหรี่ เน่ืองจำกน้ำมนั กญั ชำและกญั ชงเมื่อถูกเผำไหมท้ ่ีอุณหภูมิสูง จะเกิดสำรอนุมูล อิสระเหมือนกบั กำรสูบบุหรี่ เพรำะเป็ นอนั ตรำยต่อระบบ ทำงเดินหำยใจ และไม่ควรใช้กบั บุหรี่ไฟฟ้ำ อำจทำให้ปอดอกั เสบ เป็นอนั ตรำยตอ่ สุขภำพ 4. สารตกค้างจากการสกดั นา้ มนั กญั ชาและกญั ชง สำรตกคำ้ งจำกกำรสกดั น้ำมนั กญั ชำและกญั ชง ในกำรเลือกผลิตภณั ฑก์ ญั ชำ และกญั ชงตอ้ งศึกษำว่ำผลิตภณั ฑด์ งั กล่ำว ใช้สำรสกัดชนิดใด มีควำมปลอดภยั มำกน้อยเพียงใด กำร สกดั โดยตวั ทำละลำยแนฟทำ หรือปิ โตรเลียมอีเทอร์ มีควำม ปลอดภยั นอ้ ยกวำ่ กำรสกดั ดว้ ยเอทำนอล หรือกำรตม้ ในน้ำมนั มะกอก เน่ืองจำกพบกำรตกคำ้ งของตวั ทำละลำยที่มีควำมเส่ียงที่ ทำให้เกิด โรคมะเร็งได้ และวิธีกำรสกดั ใหม่ที่เป็ นที่นิยมในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ กำรสกดั โดยใชค้ ำร์บอนไดออกไซด์เหลว และเอ ทำนอลสกดั เยน็ เนื่องจำกมีควำมปลอดภยั สูง สำมำรถสกดั ไดป้ ริมำณมำก และไดส้ ำรแคนนำบินอยดเ์ ขม้ ขน้ 5. ความปลอดภัยของนา้ มนั กญั ชาและกญั ชง ควำมปลอดภยั ของน้ำมนั กญั ชำและกญั ชง ตอ้ งคำนึงถึงแหล่งท่ีมำผลิตภณั ฑท์ ี่ได้มำตรฐำนกำรผลิตท่ีดี ตอ้ งผ่ำนกำร ตรวจควบคุมคุณภำพ และสงั่ จ่ำยภำยใตแ้ พทย์ เภสัชกร และ แพทยแ์ ผนไทยที่ผ่ำนกำรอบรมกำรใช้กญั ชำและกญั ชง เพ่ือ ประโยชนท์ ำงกำรแพทยม์ ำแลว้

ข้อควรระวงั เกย่ี วกบั ผลติ ภณั ฑ์กญั ชาและกญั ชง 6. สายพนั ธ์ุกญั ชาและกญั ชงเหมาะกบั บางโรค สำยพนั ธุ์กญั ชำและกญั ชงเหมำะกบั บำงโรค จำกกำรสงั เกตกำรณ์เก็บขอ้ มูล จำกงำนวิจยั สำรเคมีท่ีแตกต่ำงกนั ในกญั ชำ และกัญชงแต่ละสำยพนั ธุ์ และผลกำรรักษำในผูป้ ่ วยแต่ละโรค ในต่ำงประเทศพบว่ำกัญชำและกญั ชงแต่ละสำยพนั ธุ์มี คุณสมบตั ิท่ีเหมำะสมกบั แต่ละโรคไม่เท่ำกนั แต่ยงั เป็นงำนวิจยั ข้นั ตน้ ตอ้ งมีกำรศึกษำในเชิงลึกต่อไป 7. หลกั ธรรมนาชีวติ พ้นพษิ ภยั จากกญั ชาและกญั ชง หลกั ธรรมนำชีวิต พน้ พิษภยั จำกกญั ชำและกญั ชง กำรใชพ้ ุทธธรรมเพ่ือสร้ำง ภูมิคุม้ กนั ทำงดำ้ นจิตใจให้มีควำมเขม้ แขง็ โดยใชภ้ ูมิคุม้ กนั ทำงครอบครัวท่ีเป็นควำมรักควำมอบอุ่น ควำมเขำ้ ใจซ่ึงกนั และกนั ภูมิคุม้ กนั จำกสังคมส่ิงแวดลอ้ ม ภูมิคุม้ กนั จำกกลั ยำณมิตร รวมถึงกำร เสริมสร้ำงกำรเรียนรู้ท่ีเกิดจำกตนเองเป็ นผกู้ ำหนด กำรป้องกนั มิให้เยำวชน รวมท้งั ตวั เรำไดม้ ี โอกำสเขำ้ ไปยุง่ เก่ียวกบั ยำเสพติด เป็ นกำรป้องกนั ในลกั ษณะกำรสร้ำงควำมพร้อมในกำรใช้ชีวิตเตรียมควำมพร้อมในกำร เป็น ผใู้ หญ่ หรือเป็นผดู้ ูแลตนเองได้ โดยใช้ปัญญำเป็ นเครื่องมือท่ีจะนำพำตนเองให้อยใู่ นสงั คมเป็ นพลเมืองท่ี มีคุณภำพ ซ่ึง จะเป็ นปัจจยั สำคญั ท่ีจะทำให้เรำใช้ชีวิตในสังคมได้อย่ำงภำคภูมิใจ เป็ นพลเมืองท่ีมี คุณภำพ มีควำมเขม้ แข็งที่เกิดจำก กระบวนกำรใช้ปัญญำเป็ นหลกั ท่ียึดเหนี่ยว ซ่ึงจะเป็ นพ้ืนฐำนสำคญั ท่ีจะทำให้ประเทศไทยมีพลเมืองท่ีมีคุณภำพนำพำ ประเทศใหม้ ีควำมสุขสงบ เจริญรุ่งเรืองสืบไป

ข้อห้ามในการใช้กญั ชาและกญั ชง

ข้อห้ามในการใช้กญั ชาและกญั ชง • หำ้ มใชส้ ำร THC ในผปู้ ่ วยที่มีอำกำรทำงระบบประสำทผิดปกติ • หำ้ มใชใ้ นผปู้ ่ วยโรคหวั ใจข้นั รุนแรงท่ีมีอำกำรควำมดนั ตก หรือหวั ใจเตน้ เร็วเพรำะ เพ่ิมควำมเส่ียงหัวใจ ขำดเลือด • สตรีต้งั ครรภ์ หรือใหน้ มบุตร (อำจทำใหเ้ ด็กในครรภน์ ้ำหนกั นอ้ ย และมีพฒั นำ กำรชำ้ ) • ในเด็กอำยตุ ่ำกวำ่ 25 ปี ใหพ้ ิจำรณำตำมควำมเหมำะสมกบั โรคของผปู้ ่ วย ยำเพ่ิม ควำมเสี่ยงต่อกำรเกิดจิต เภท และลดพฒั นำกำรทำงสมองได้ • หำ้ มใชใ้ นผเู้ ป็ นโรคตบั แขง็ (หำกจำเป็ นใหล้ ดยำลง เน่ืองจำกกญั ชำใชต้ บั ในกำร กำจดั ยำเป็ นหลกั ) โดยถ้าจาเป็ นต้องใช้ต้องอยู่ใน ความดูแลของแพทย์ผ้เู ชี่ยวชาญ

การถอนพษิ เบือ้ งต้นจากการเมากญั ชาและกญั ชง

Cannabinoid Hyperemesis Syndrome / Cyclic Vomiting Syndrome  อำจพบได้เมอื่ ใช้กญั ชำต่อเนื่อง คำดวำ่ อำจเกิดจำกกำรกระต้นุ ตวั รบั CB1 จึงมีผลลด gastric emptying (กำรที่กระเพำะอำหำร จะส่งอำหำรและ น้ำยอ่ ยที่คลุกเคลำ้ กนั เป็น chyme ออกจำกกระเพำะอำหำรไปสู่ duodenum ได้หมด จนกระเพำะอำหำร empty)  ผปู้ ่ วยจะมอี ำกำรคลน่ื ไส้ อำเจียน ปวดท้อง บำงครงั้ อำจกระหำยน้ำ อำกำรจะมำเป็นพกั ๆ  กำรแช่น้ำอ่นุ อำจช่วยได้ ***พึงระวงั วำ่ ภำวะดงั กล่ำวอำจนำไปสกู่ ำรขำดน้ำ และอำจทำให้ไตวำยได้ https://dchealth.dc.gov/sites/default/files/dc/sites/doh/publication/attachments/Medical%20Cannabis%20Adverse%20Effects%20and %20Drug%20Interactions_0.pdf

ขอ้ ควรระวงั และอาการข้างเคียงในการใชก้ ญั ชา !! *ไมค่ วรทางานใกล้ เคร่อื งจกั รหรือขบั รถ หลงั จากใชย้ ากญั ชา !! การถอนพษิ เบ้อื งต้น ● กินน้ามะนาวผสมน้าผึ้ง หรอื นา้ ตาลทราย หากเป็นเบาหวาน ใส่น้าผ้งึ หรอื น้าตาล นอ้ ยลงหนอ่ ย ● ชงรางจืด ด่ืมวนั ละ 3 เวลา ส้าหรับอาการ โคงเคลง เวียนศรษี ะจะดีขึ้นเปน็ ระยะๆ ภญ. ดร. สภุ าภรณ์ ปิตพิ ร

THANK YOU


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook