Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การเงินเพื่อชีวิต 3

การเงินเพื่อชีวิต 3

Published by sguy policy&plan, 2022-06-29 07:01:54

Description: ชุดวิชาการเงิน 3 ระดับ ม. ปลาย

Search

Read the Text Version

ชุดวชิ าการเงนิ เพื่อชวี ติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

ชดุ วิชา การเงินเพ่อื ชวี ติ 3 (สค32029) (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) รายวชิ าเลือกบงั คบั ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย หลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สำนกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนกั งานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร กระทรวงศกึ ษาธิการ ชุดวิชาการเงนิ เพ่ือชวี ิต 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

คำนำ ชุดวิชาการเงินเพื่อชีวิต 3 สค32029 ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) ใช้กับผู้เรียนระดับ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ชุดนป้ี ระกอบดว้ ยเน้อื หาความรู้เกยี่ วกบั ว่าดว้ ยเรื่องของเงนิ การวางแผน การเงิน สนิ เชือ่ สิทธแิ ละหน้าทีข่ องผ้ใู ช้บริการทางการเงนิ และภยั ทางการเงนิ ซ่งึ เนอื้ หาความรู้ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรยี น กศน. มีความรู้ ความเข้าใจ ทักษะ และตระหนักถึงความ จำเปน็ ของการเงินเพื่อชีวติ สำนักงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ขอขอบคุณธนาคาร แห่งประเทศไทย ที่ให้การสนับสนุนองค์ความรู้ประกอบการนำเสนอเนื้อหา รวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง ในการจัดทำชุดวิชา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชุดวิชานี้จะเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียน กศน. และนำไปสู่ การเงินเพ่อื ชวี ิตอยา่ งเหน็ คณุ ค่าตอ่ ไป สำนักงาน กศน. พฤศจกิ ายน 2564 ชุดวชิ าการเงนิ เพ่ือชวี ิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

คำแนะนำการใชช้ ดุ วิชา ชุดวิชาการเงินเพื่อชีวิต 3 รหัสวิชา สค32029 ใช้สำหรับผู้เรียนหลักสูตร การศึกษา นอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย แบ่งออกเปน็ 2 ส่วน คือ ส่วนท่ี 1 โครงสร้างของชุดวิชา แบบทดสอบก่อนเรียน โครงสร้างของ หน่วยการเรียนรู้ เนอ้ื หาสาระ กิจกรรมเรยี งลำดับตามหน่วยการเรียนรู้ และแบบทดสอบหลังเรยี น ส่วนท่ี 2 เฉลยแบบทดสอบและกจิ กรรม ประกอบดว้ ย เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน และหลังเรียน เฉลยกิจกรรมเรยี งลำดบั ตามหนว่ ยการเรียนรู้ วิธกี ารใช้ชดุ วิชา ใหผ้ เู้ รยี นดำเนินการตามขน้ั ตอน ดงั นี้ 1. ศึกษารายละเอียดโครงสร้างชุดวิชาโดยละเอียด เพื่อให้ทราบว่าผู้เรียน ต้องเรียนร้เู น้ือหาในเรอ่ื งใดบา้ งในรายวชิ าน้ี 2. วางแผนเพื่อกำหนดระยะเวลาและจัดเวลาที่ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะ ศึกษาชุดวิชาเพื่อให้สามารถศึกษารายละเอียดของเนื้อหาได้ครบทุกหน่วยการเรียนรู้ พร้อมทำ กจิ กรรมตามทกี่ ำหนดใหท้ ันก่อนสอบปลายภาค 3. ทำแบบทดสอบก่อนเรียนของชุดวิชาตามที่กำหนด เพื่อทราบพื้นฐาน ความรู้เดิมของผู้เรียน โดยให้ทำลงในสมุดบันทึกกิจกรรมการเรียนรู้และตรวจสอบคำตอบ จากเฉลยแบบทดสอบเฉลย/แนวตอบกิจกรรมท้ายเลม่ 4. ศึกษาเนื้อหาในชุดวิชาในแต่ละหน่วยการเรียนรู้อย่างละเอียดให้เข้าใจ ท้งั ในชดุ วชิ าและสื่อประกอบ (ถ้าม)ี และทำกิจกรรมทกี่ ำหนดไวใ้ หค้ รบถ้วน 5. เมอ่ื ทำกจิ กรรมเสร็จแต่ละกิจกรรมแล้ว ผเู้ รยี นสามารถตรวจสอบคำตอบ ได้จากเฉลย/แนวตอบ ท้ายเล่ม หากผู้เรียนยังทำกิจกรรมไม่ถูกต้องให้ผู้เรียนกลับไปทบทวน เน้อื หาสาระ ในเร่อื งนั้นซ้ำจนกว่าจะเขา้ ใจ 6. เมื่อศึกษาเนื้อหาสาระครบทุกหน่วยการเรียนรู้แล้ว ให้ผู้เรียนทำ แบบทดสอบหลังเรียนและตรวจคำตอบจากเฉลยท้ายเล่มว่าผู้เรียนสามารถทำแบบทดสอบ ได้ถูกต้องทุกข้อหรือไม่ หากข้อใดยังไม่ถูกต้อง ให้ผู้เรียนกลับไปทบทวนเนื้อหาสาระในเรื่องนั้น ให้เข้าใจอีกครั้งหนึ่ง ผู้เรียนควรทำแบบทดสอบหลังเรียนให้ได้คะแนนมากกว่าแบบทดสอบ ชุดวชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

ก่อนเรียน และควรได้คะแนน ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของแบบทดสอบทั้งหมด (หรือ 24 ข้อ) เพอ่ื ใหม้ ัน่ ใจว่าจะสามารถสอบปลายภาคผา่ น 7. หากนักศึกษาได้ทำการศึกษาเนื้อหาและทำกิจกรรมแล้วยังไม่เข้าใจ ผเู้ รียนสามารถสอบถามและขอคำแนะนำได้จากครหู รือแหล่งค้นควา้ เพ่ิมเตมิ อ่ืน ๆ หมายเหตุ : การทำแบบทดสอบก่อนเรียน – หลงั เรียน และทำกิจกรรมทา้ ยเรื่อง ให้ทำและ บันทกึ ลงในสมดุ บันทกึ กิจกรรมการเรยี นรู้ประกอบชดุ วิชา การศกึ ษาคน้ คว้าเพ่มิ เติม ผู้เรียนอาจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้จากแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ เช่น ศูนย์คุ้มครอง ผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร.1213, เว็บไซต์ : www.1213.or.th , เฟสบุ๊ค : www.facebook.com/hotline1213 การศึกษาจากอินเทอร์เน็ต พิพิธภัณฑ์ นทิ รรศการ หน่วยงานท่ีเกยี่ วข้องกับการเงินการธนาคาร การศึกษาจากผู้รู้ เปน็ ตน้ การวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ผเู้ รยี นต้องวัดผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน ดังน้ี 1. ระหว่างภาค วัดผลจากการทำกจิ กรรมหรืองานทไ่ี ดร้ บั มอบหมายระหว่างเรียน รายบุคคล 2. ปลายภาค วัดผลจากการทำข้อสอบวดั ผลสัมฤทธิ์ปลายภาค ชุดวิชาการเงนิ เพอ่ื ชวี ติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย

โครงสรา้ งชุดวิชา สาระการเรียนรู้ สาระการพฒั นาสังคม มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 5.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และตระหนังถึงความสำคัญเกี่ยวกับ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครอง สามารถนำมาปรับใช้ในการ ดำรงชวี ิต มาตรฐานการเรยี นรู้ระดับ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ตระหนักเกย่ี วกบั ภูมิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมอื ง การปกครองในโลก และนำมาปรบั ใช้ในการดำเนนิ ชวี ิต เพอื่ ความมั่นคงของชาติ ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง - อธบิ ายขอ้ มูลเกยี่ วกบั เรื่องการเงนิ ได้อยา่ งถกู ตอ้ ง - วิเคราะห์ เปรียบเทยี บ การชำระเงนิ ผ่านชอ่ งทางตา่ ง ๆ ตลอดจนบญั ชีเงินฝาก ประเภทตา่ ง ๆ และเลอื กใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม - คำนวณอัตราแลกเปลยี่ นเงินตราต่างประเทศ และดอกเบ้ียบัญชเี งินฝากได้ - ประยุกต์ใช้และเลือกใช้ความรู้ทางการเงินมากำหนดเป้าหมายมาออกแบบ วางแผนการเงนิ ของตนเองได้อยา่ งเหมาะสม - มีความรับผิดชอบต่อการใช้จ่าย จัดการการเงินได้อย่างเหมาะสม คุ้มค่า ตระหนักถงึ สิทธแิ ละหน้าทที่ างการเงนิ สาระสำคญั เงนิ เป็นปจั จยั สำคญั ในการดำรงชีวิตของประชาชนทกุ คน เนื่องจากเป็นสื่อกลาง ที่ใช้สำหรับแลกเปลี่ยนกับสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น “เงิน” ยังเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนรายได้ อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้สภาพสังคม เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีวิธีทางการเงินใหม่ ๆ ชุดวชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

ถูกพัฒนาขึ้นอย่างหลากหลาย เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็ม การทำธุรกรรมทาง โทรศัพท์ ทางอินเทอร์เน็ต การลงทุนทางการเงินประเภทต่าง ๆ เป็นต้น และเมื่อมีการพัฒนา ทางการเงินเพิ่มขึ้น ภัยทางการเงินก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เช่น เงินนอกระบบ แชร์ลูกโซ่ ภัยการเงินออนไลน์ เป็นต้น จึงต้องพัฒนาทักษะความสามารถด้านการเงินให้มีความรู้ ความเขา้ ใจ สามารถออกแบบ วางแผน และตดั สนิ ใจทางการเงิน ตลอดจนหลีกเลยี่ งความเส่ียง ภัยทางการเงนิ อันเปน็ ประโยชนต์ ่อการดำรงชวี ติ ในปัจจุบนั ขอบขา่ ยเน้อื หา หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1. ว่าด้วยเรื่องของเงนิ 2. การวางแผนการเงิน 3. สนิ เช่อื 4. สทิ ธแิ ละหนา้ ทข่ี องผใู้ ชบ้ ริการทางการเงนิ 5. ภยั ทางการเงนิ สอ่ื ประกอบการเรียนรู้ 1. ชดุ วชิ า 2. สมดุ บนั ทกึ กิจกรรมการเรยี นรู้ ประกอบชุดวิชา 3. สือ่ เสริมการเรียนรอู้ นื่ ๆ จำนวนหนว่ ยกติ 3 หน่วยกติ (120 ช่วั โมง) กิจกรรมเรยี นรู้ 1. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน ตรวจสอบคำตอบจากเฉลยท้ายเล่ม 2. ศึกษาเน้อื หาสาระในหน่วยการเรยี นรทู้ กุ หนว่ ย 3. ทำกจิ กรรมตามทก่ี ำหนด และตรวจสอบคำตอบจากเฉลยท้ายเลม่ 4. ทำแบบทดสอบหลังเรยี น และตรวจสอบคำตอบจากเฉลยทา้ ยเลม่ ชุดวิชาการเงินเพือ่ ชวี ิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

การประเมนิ ผล 1. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน – หลงั เรยี น 2. ทำกจิ กรรมในแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ 3. เข้ารับการทดสอบปลายภาค ชุดวิชาการเงนิ เพ่อื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

สารบัญ หนา้ คำนำ 1 คำแนะนำการใช้ชุดวชิ า 4 โครงสรา้ งชุดวชิ า 11 สารบญั 30 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 วา่ ดว้ ยเรอื่ งของเงนิ 39 41 เรอ่ื งที่ 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นเก่ยี วกับเงิน 44 เรื่องที่ 2 ประเภทของเงิน 57 เร่อื งที่ 3 การชำระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 62 หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การวางแผนการเงิน 69 เรื่องที่ 1 การวางแผนการเงิน 109 เรื่องที่ 2 การประเมนิ ฐานะการเงิน 111 เรื่องท่ี 3 การตงั้ เป้าหมายและจัดทำแผนการเงิน 114 เรื่องที่ 4 การออม 137 เรื่องท่ี 5 การฝากเงนิ การลงทนุ และการประกันภยั 142 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 3 สนิ เช่ือ 144 เรอ่ื งท่ี 1 การประเมินความเหมาะสมกอ่ นการตดั สนิ ใจก่อหน้ี 150 เร่ืองที่ 2 ลกั ษณะของสนิ เชือ่ ประเภทตา่ ง ๆ และการคำนวณดอกเบย้ี เร่ืองที่ 3 เครดิตบโู ร เรื่องท่ี 4 วธิ ีการป้องกนั ปัญหาหนี้ เรอ่ื งท่ี 5 วธิ ีการแก้ไขปญั หาหนดี้ ว้ ยตนเอง เรื่องที่ 6 หน่วยงานท่ใี หค้ ำปรึกษาเก่ียวกับวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ ชุดวิชาการเงนิ เพ่อื ชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

สารบัญ (ตอ่ ) หน้า หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สิทธแิ ละหน้าท่ีของผู้ใชบ้ ริการทางการเงิน 154 เรอ่ื งที่ 1 สทิ ธขิ องผ้ใู ช้บริการทางการเงนิ 156 เรื่องที่ 2 หนา้ ทีข่ องผ้ใู ช้บริการทางการเงนิ 158 เร่ืองที่ 3 ผู้ใหบ้ ริการทางการเงินในประเทศไทย 160 เรอ่ื งท่ี 4 การค้มุ ครองผใู้ ช้บริการทางการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย และหนว่ ยงานทรี่ ับเร่ืองรอ้ งเรียนอ่ืน ๆ 167 เรื่องที่ 5 ขน้ั ตอนการรอ้ งเรยี นและหลกั การเขยี นหนงั สอื รอ้ งเรียน 173 177 หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 5 ภัยทางการเงิน 179 เรอ่ื งท่ี 1 หนีน้ อกระบบ 183 เร่อื งที่ 2 แชรล์ กู โซ่ 187 เรื่องท่ี 3 ภัยใกล้ตัว 190 เรื่องท่ี 4 แก๊งคอลเซนเตอร์ 194 เรื่องท่ี 5 ภัยออนไลน์ 203 เรอ่ื งท่ี 6 ภัยธนาคารออนไลน์ 210 เร่อื งที่ 7 ภยั บัตรอเิ ล็กทรอนกิ ส์ 213 214 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น-หลงั เรียน 267 เฉลย/แนวตอบกิจกรรมทา้ ยเรอื่ ง 270 บรรณานุกรม คณะผู้จัดทำ ชุดวิชาการเงินเพือ่ ชีวติ 3 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2564) l ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

1 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 ว่าดว้ ยเรอื่ งของเงนิ สาระสำคญั เงินเป็นสื่อกลางในการใช้แลกเปลี่ยนเพื่อซื้อหาสิ่งของหรือบริการเพื่อให้ สามารถดำรงชีพ โดยในประเทศไทยใช้สกุลเงินบาท อย่างไรก็ดี หากตอ้ งเดินทางหรือทำการค้า ที่ต่างประเทศ ก็จะต้องเข้าไปเก่ยี วขอ้ งกบั เงินตราของประเทศอื่น ๆ ดว้ ย ซง่ึ คา่ ของเงนิ ในแตล่ ะ ประเทศจะไม่เท่ากัน จึงต้องมีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นเพื่อเทียบราคาของเงินตรา ประเทศหน่งึ กบั เงนิ ตราของอีกประเทศหนงึ่ อย่างไรก็ดี ปริมาณเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจจะต้องไม่มากหรือน้อย เกินไป เพราะถ้ามากเกินไปอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของราคาแพง แต่ถ้าน้อยเกินไปก็อาจทำให้เกิดภาวะเงินฝืด เศรษฐกิจชะลอตัว จึงเป็นหน้าท่ีหลักของธนาคาร กลางที่ต้องเข้ามาดูแลให้ปริมาณเงินอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยในกรณีของประเทศไทยเป็น บทบาทหน้าทีข่ องธนาคารแหง่ ประเทศไทย หรอื แบงกช์ าติ ธนาคารแห่งประเทศไทยมีบทบาทหน้าที่สำคัญในการดูแลปริมาณเงินให้ เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจหรือที่เราเรียกว่าการดำเนินนโยบายการเงิน เพื่อรักษาระดับเงิน เฟ้อให้เหมาะสมอันจะทำให้เศรษฐกิจมีความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืน อัตราแลกเปลี่ยน เงินตราต่างประเทศไมผ่ นั ผวนมากเกินไปจนกระทบตอ่ การดำเนินธุรกจิ นอกจากนี้ ยงั ทำหน้าที่ ในการบริหารเงินสำรองระหว่างประเทศ การดูแลความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน การ เปน็ นายธนาคารของรัฐบาล รวมทงั้ การพฒั นาและเปน็ ผู้ให้บริการในระบบการชำระเงนิ ระบบการชำระเงินมีความสำคัญในฐานะเป็นกลไกที่ช่วยให้กิจกรรมทาง เศรษฐกิจและการเงิน เช่น การซื้อขาย ดำเนินไปอย่างราบรื่น ธนาคารแห่งประเทศไทยจึงได้ พัฒนาระบบการชำระเงนิ อิเล็กทรอนิกส์ โดยมวี ตั ถุประสงคใ์ ห้ระบบการชำระเงินของประเทศมี ประสิทธิภาพ สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น มีความมั่นคง ปลอดภัย ด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เช่น ชดุ วิชาการเงนิ เพือ่ ชีวติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ด้วยเรอ่ื งของเงิน

2 การชำระเงินออนไลน์ รวมทั้งบริการพร้อมเพย์ และ QR code ที่ทำให้การโอนเงิน ชำระเงิน เปน็ เร่ืองงา่ ย ไมต่ อ้ งเสียเวลาเดนิ ทางไปทำธรุ กรรมทีธ่ นาคาร ตัวชี้วดั 1. อธบิ ายความหมายของเงิน 2. บอกหน้าท่ีของเงนิ ตอ่ ระบบเศรษฐกิจ 3. บอกความหมายของเงินเฟ้อ เงินฝืด 4. บอกบทบาทและหน้าทข่ี องธนาคารแหง่ ประเทศไทย 5. อธบิ ายวิธกี ารตรวจสอบธนบัตร 6. บอกชนดิ ราคาเหรียญกษาปณ์หมุนเวียน 7. คำนวณอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 8. บอกช่องทางการแลกเปล่ยี นเงนิ ตราตา่ งประเทศ 9. บอกความหมายของสกลุ เงนิ ดจิ ทิ ัล 10. บอกความหมายและประโยชน์ของการชำระเงนิ ทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ 11. อธิบายความแตกต่างระหวา่ งบัตรเดบติ และบัตรเครดติ 12. รวู้ ธิ กี ารใช้งานส่ือการชำระเงินทางอเิ ลก็ ทรอนิกสอ์ ย่างปลอดภัย ขอบข่ายเนือ้ หา เรื่องท่ี 1 ความรูเ้ บือ้ งต้นเกยี่ วกบั เงนิ เรอื่ งท่ี 2 ประเภทของเงิน เรอ่ื งท่ี 3 การชำระเงนิ ทางอิเล็กทรอนิกส์ ชดุ วิชาการเงินเพ่ือชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 วา่ ดว้ ยเรอ่ื งของเงิน

3 ส่อื การเรียนรู้ 1. ชดุ วชิ าการเงินเพอ่ื ชวี ติ 3 2. เวบ็ ไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.): www.bot.or.th 3. เวบ็ ไซต์ศนู ยค์ มุ้ ครองผใู้ ชบ้ รกิ ารทางการเงิน (ศคง.): www.1213.or.th 4. เว็บไซตส์ ำนักกษาปณ์: www.royalthaimint.net 5. เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.): www.sec.or.th เวลาทใ่ี ช้ในการศกึ ษา 18 ช่ัวโมง ชดุ วิชาการเงนิ เพอ่ื ชวี ิต 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 วา่ ด้วยเรื่องของเงนิ

4 เรอ่ื งที่ 1 ความรู้เบื้องตน้ เก่ียวกบั เงิน ในอดีตที่ยังไม่ได้ใช้เงินเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เมื่อต้องการแลกเปลี่ยน สิ่งของระหว่างกัน ก็จะนำสิ่งของนั้นมาแลกเปลี่ยนกันโดยตรง หรือเรียกว่าระบบการ แลกเปลย่ี นของต่อของ (barter system) เช่น ไก่ 1 ตวั แลกกับขา้ วสาร 1 ถุง ปลา 10 ตัว แลก กับถ้วย 3 ใบ การแลกเปลี่ยนแบบนี้แม้ว่าจะดูง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน แต่ก็มักเกิดปัญหา เช่น ถ้าความต้องการสิ่งของไม่ตรงกันก็ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกันได้ ไม่มีมาตรฐานในการวัดมูลค่า สิ่งของบางอย่างไม่สามารถแบ่งเป็นหน่วยย่อยได้ ประกอบกับสังคมขยายใหญ่ขึ้นทำให้ความ ต้องการที่จะแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการมีมากขึ้น จึงได้มีการกำหนดสื่อกลางในการ แลกเปลี่ยนที่เป็นที่ยอมรับในสังคม เช่น เปลือกหอย หนังสัตว์ และมีวิวัฒนาการเรื่อยมา จนกระท่ังเปลยี่ นมาใช้เงนิ เปน็ สอ่ื กลางในการแลกเปลีย่ น สำหรับประเทศไทย ตัวอย่างสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนในระยะแรก ๆ คือ หอย เบี้ย ประกับ (ดินเผาที่มีตราประทับ) เงินพดด้วง ปี้กระเบื้อง และมีการเปลี่ยนแปลงมาเรื่อย ๆ จนถึงในปจั จุบันท่ใี ช้ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ อยา่ งไรก็ดี เงนิ อาจไมไ่ ด้จำกัดอยู่ในรูปธนบัตร และเหรียญกษาปณ์เท่านั้น แต่อาจอยู่ในรูปแบบอื่น ๆ ได้อีก เช่น เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) หรืออาจมีชื่อเรียกอื่น เช่น e-Wallet, e-Purse แม้จะมีชื่อต่างกันแต่ลักษณะที่ เหมือนกันคือเงินจะถูกบันทึกอยู่ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของบัตรหรือเครือข่าย คอมพิวเตอร์ หน้าท่ีของเงนิ กลา่ วได้วา่ เงินมหี น้าทีส่ ำคญั ในทางเศรษฐกิจ 4 ประการ คือ 1. เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อกับ ผู้ขาย ช่วยให้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการมากขึ้น รวมทั้งสนับสนุนให้มีกิจกรรม ทางเศรษฐกจิ มากข้นึ ชดุ วิชาการเงินเพอื่ ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 วา่ ด้วยเรื่องของเงนิ

5 2. เป็นมาตรฐานการวัดมูลค่า โดยการเทียบค่าสิ่งของ สินค้าหรือบริการ ออกมาเป็นหน่วยเงินตรา หรือที่เรียกว่า ราคา เช่น ข้าวสารกิโลกรัมละ 50 บาท น้ำดื่มขวดละ 10 บาท กว๋ ยเตยี๋ วชามละ 35 บาท 3. สามารถนำมาชำระหนี้ได้ในอนาคต เมื่อสังคมขยายตัวมากขึ้นจึงเกิด กจิ กรรมการซื้อขายแลกเปล่ียนมากข้ึน บางครั้งมีการซ้ือขายด้วยเงนิ เชือ่ ซึ่งเป็นการเล่ือนชำระ เงินออกไปในอนาคต เงินจึงทำหน้าที่เป็นเครื่องมือที่ใช้เป็นมาตรฐานในการชำระหนี้ระหว่าง เจ้าหนีก้ ับลกู หนี้ หรือระหวา่ งผู้ซอ้ื กับผูข้ ายนัน่ เอง 4. เป็นเครื่องรักษามูลค่า หรือมีค่าในตัวเอง เช่น เมื่อเราเก็บออมเงินไว้และ เม่อื ระยะเวลาผ่านไป เงินกย็ งั มีค่าสามารถใช้ซ้ือสิ่งของหรอื บริการได้ แต่หากเก็บไว้ในรูปแบบอ่ืน เช่น เมล็ดพืช หนังสัตว์ ของสิ่งนั้นอาจเน่าเสีย ผุพัง มูลค่าอาจลดลงหรืออาจไม่สามารถใช้ซ้ือ สนิ ค้าได้ เงินเฟ้อ เงนิ ฝดื ระดับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงทำให้มูลค่าของเงินที่เรามีอยู่ (หรือท่ี เรียกว่าอำนาจซอื้ ) เพิ่มหรอื ลดตามไปด้วย ซงึ่ แบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ เงินเฟอ้ และเงินฝืด โดยมี ความหมายดังนี้ เงนิ เฟอ้ หมายถงึ ภาวะทรี่ ะดับราคาสินค้าโดยทัว่ ไปเพิ่มสูงข้ึนตอ่ เน่ือง หรือพูด ง่าย ๆ ว่าเป็นภาวะท่ีข้าวของแพงขึ้นไปเรื่อย ๆ ลองเปรียบเทียบราคาก๋วยเตี๋ยวในปจั จุบัน เม่อื 10 ปีที่แล้ว และอีก 10 ปีข้างหน้า ในวันนี้เราอาจซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ในราคาชามละ 40 บาท เมื่อ 10 ปีก่อน เงนิ 40 บาท อาจซ้อื ก๋วยเต๋ียวไดถ้ ึง 2 ชาม แต่ในอกี 10 ปีขา้ งหน้าอาจจะซื้อก๋วยเตี๋ยว ไม่ได้สักชามก็เป็นไปได้ นั่นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เงินเฟ้อทำให้เงินในกระเป๋าสตางค์ของ เราที่มีอยู่เท่าเดิมแต่กลับมีค่าลดลง เพราะซื้อของได้น้อยลง หรืออาจต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อให้ สามารถซื้อสินคา้ ได้จำนวนเทา่ เดิม หรือที่เรียกว่า “มูลค่าของเงิน” หรือ “อำนาจซื้อ” ของเรา ลดลงเมื่อเวลาผ่านไปนั่นเอง อย่างไรก็ดี เงินเฟ้ออาจเกิดจากความต้องการบริโภค หรือการ ลงทุนที่มากเกินไปจนเกินกำลังการผลิตที่มี หรือเกิดจากการคาดการณ์ของประชาชนว่าราคา ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่อื ชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยที่ 1 ว่าดว้ ยเรอื่ งของเงนิ

6 สินค้ามีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น จึงเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยหรือกักตุนสินค้าส่งผลให้ราคาสินค้า สูงขน้ึ อยา่ งต่อเนือ่ ง ในภาวะที่ตรงข้ามกับเงินเฟ้อ คือ เงินฝืด หมายถึง ภาวะที่ระดับราคาสินค้า โดยทั่วไปลดต่ำลงเรื่อย ๆ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็นภาวะที่ข้าวของมีราคาถูกลงเรื่อย ๆ ซึ่งน่าจะ เป็นเรื่องที่ดีหากข้าวของถูกลงเพราะต้นทุนถูกลง เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การใช้ เทคโนโลยีทันสมัย และการพัฒนาระบบการขนส่ง แต่หากราคาสินค้าลดลงเกิดจากภาวะ เศรษฐกิจไม่ดี ตลอดจนการคาดการณ์ของประชาชนว่าในอนาคตเศรษฐกิจจะไม่ดี ทำให้ ประชาชนไมก่ ลา้ จับจ่ายใช้สอย ลดการลงทุนและลดการบรโิ ภคลง ส่งผลให้สินค้าท่ีผลิตออกมา ชดุ วชิ าการเงินเพอ่ื ชวี ิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ด้วยเร่ืองของเงนิ

7 ขายไมไ่ ด้ กระทบตอ่ อุตสาหกรรมการผลติ และการจ้างงาน หรือหากข้าวของถูกลงเพราะบริษัท ตา่ ง ๆ ผลติ สนิ ค้าออกมาขายมากเกินกว่าความตอ้ งการซอ้ื ของประชาชน บริษัทอาจจำเป็นต้อง ลดราคาสินคา้ ลงเพื่อให้ขายไดห้ มด หรอื ไม่กต็ อ้ งลดการผลิตลงเพราะว่า ถา้ ผลิตออกมาเท่าเดิม ก็ขายได้ไม่หมด ผลทตี่ ามมากค็ อื การจา้ งงานจะลดลงตามไปด้วย จะเห็นได้ว่าทั้งภาวะเงินเฟ้อและเงินฝืดจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเศรษฐกิจ โดยรวมของประเทศ จึงเป็นหน้าที่ของธนาคารกลางที่ต้องเข้ามาดูแลและดำเนินนโยบาย การเงิน เพ่อื ลดผลกระทบทางลบทีเ่ กดิ จากปัจจัยดังกล่าว กรณตี วั อย่างวกิ ฤตการณ์ “เงนิ เฟอ้ ” ขน้ั รนุ แรงของประเทศซมิ บับเว ปัญหาเงินเฟ้อขั้นรุนแรงของประเทศซิมบับเวเริ่มจากเศรษฐกิจถดถอย ต้องกู้ เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เพื่อแก้ไขปัญหา นอกจากนั้น แนวทางการ บรหิ ารงานท่ีผิดพลาดของรัฐบาลในการสง่ั พมิ พ์เงินเพ่ือชำระหน้ี IMF และใช้จ่ายภายในประเทศ ทำให้ปริมาณเงินที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมีมากเกินกว่าสินค้าหรือบริการในประเทศ ส่งผลให้ราคาสินค้าสงู ข้นึ อย่างต่อเนื่องหรือเงินมีคา่ น้อยลง เกิดการกักตุนสินค้าและลักลอบซ้ือ ขายสินค้าในตลาดมืดเกินกว่าราคาที่กำหนด ซึ่งมีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อเคยสูงถึงหลักล้าน เปอร์เซ็นต์ต่อปี จนในทสี่ ุดรฐั บาลต้องประกาศยกเลิกการใชเ้ งินดอลลาร์ซมิ บับเว และเปล่ยี นไป ใช้เงนิ ตราสกุลตา่ งประเทศแทน จนกวา่ เงนิ เฟอ้ จะเข้าสรู่ ะดับท่ียอมรับได้ จากกรณีตัวอย่างของประเทศซิมบับเว ภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงจะส่งผลเสียต่อ ระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างร้ายแรง จึงเป็นหน้าที่ของธนาคารกลางที่ต้องเข้ามาดูแล ระบบเศรษฐกิจไม่ให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงเกินไปหรือเกิดภาวะเงินฝืดจนทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ ท่อี าจสง่ ผลกระทบตอ่ ความกินดีอย่ดู ขี องประชาชน บทบาทหนา้ ทข่ี องธนาคารแหง่ ประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือแบงก์ชาติ เป็นธนาคารกลางของประเทศไทย มีบทบาทหน้าท่ีสำคัญในการดำเนินโยบายการเงิน เพื่อสนับสนุนใหเ้ ศรษฐกจิ มีความมั่นคงและ เตบิ โตอยา่ งยงั่ ยืน โดยมหี น้าที่โดยสังเขปดังน้ี ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่ือชีวิต 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ด้วยเรอ่ื งของเงนิ

8 1. ดูแลเงินเฟ้อและกำหนดดอกเบยี้ นโยบาย ดูแลอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับเป้าหมายที่กำหนด หรือที่เรียกว่านโยบาย การเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อ (inflation targeting) การควบคุมปริมาณเงินให้ เหมาะสมจะดำเนินการได้โดยใช้อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (policy rate) หรืออัตราดอกเบ้ีย ธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรระยะเวลา 1 วันเป็นเครื่องมือ มีกระบวนการดำเนินงานที่ชัดเจน โปร่งใสและน่าเชือ่ ถือ ซึ่งมีการประกาศเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อให้สาธารณชนทราบโดยเปิดเผย และมีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เป็นผู้พิจารณาปรับอัตราดอกเบีย้ นโยบาย โดยจะ มกี ารส่ือสารให้ประชาชนเขา้ ใจเหตุผลในการข้ึนหรอื ลดอตั ราดอกเบีย้ แต่ละครัง้ ด้วย 2. ดแู ลอตั ราแลกเปลย่ี น ใชน้ โยบายอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบมีการจดั การ ซ่ึงจะไม่กำหนดอัตรา แลกเปลี่ยน ณ ค่าใดค่าหนึ่ง แต่จะดูแลไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหวผันผวนมากเกินไป เพราะจะนำไปสู่ความไม่สมดลุ ทางเศรษฐกิจ แต่กรณีที่เห็นว่าค่าเงินบาทเคลื่อนไหวบิดเบือนไป จากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจเข้ามาดูแลอัตราแลกเปลี่ยนผ่าน กลไกตลาดบา้ งเปน็ คร้ังคราว 3. บริหารเงินสำรองระหวา่ งประเทศ เงินสำรองระหว่างประเทศ หรือเงินสำรองทางการ คือ เงินตราหรือ สินทรัพย์ต่างประเทศ ที่มีไว้เพื่อรองรับความเสี่ยงในการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจ และรักษา เสถียรภาพของระบบการเงนิ ของประเทศ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศว่า มีเงินตรา ตา่ งประเทศเพยี งพอต่อความต้องการภาคธรุ กิจ และชว่ ยรองรับความเสย่ี งจากภาคต่างประเทศ โดยเฉพาะในภาวะที่ตลาดการเงินมีความผันผวนสูง หรือมีโอกาสที่จะมีเงินทุนไหลออกนอก ประเทศ ดังนั้น เงินสำรองระหว่างประเทศจึงทำหน้าที่เสมือนเป็น “กันชน” ให้กับ ระบบเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อไม่ให้เกิดความผันผวนจากภายนอกเข้ามาสร้างผลกระทบต่อ ธุรกจิ ไทย ชุดวชิ าการเงินเพอื่ ชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 ว่าด้วยเรอ่ื งของเงนิ

9 4. ดูแลความมั่นคงของระบบสถาบนั การเงิน สถาบันการเงิน เช่น ธนาคารพาณิชย์ สาขาของธนาคารต่างประเทศ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ บริษัทบริหารสินทรัพย์ มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การเงินของประเทศ โดยทำหนา้ ที่จัดสรรเงินทุนจากผ้ทู ่มี เี งนิ ออมไปยังผู้ท่ีต้องการเงนิ ทนุ ซ่ึงจะ ก่อให้เกิดการลงทุน การผลิต การจ้างงาน และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของ ประเทศเจริญเติบโตและมีเสถียรภาพ ดังนั้น การกำกับดูแลให้สถาบันการเงินมีความมั่นคง ดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส มีธรรมาภิบาลและบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ให้บริการแก่ประชาชนอย่างเหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยมีคณะกรรมการนโยบายสถาบัน การเงิน (กนส.) เปน็ ผู้พจิ ารณานโยบายเก่ียวกบั การกำกบั และตรวจสอบสถาบันการเงิน 5. พฒั นาระบบการชำระเงิน ระบบการชำระเงิน หมายถึง กระบวนการส่งมอบเงินเพื่อชำระเงิน อันเป็น ผลมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ระหว่างผู้จ่ายเงินและผู้รับเงิน และตัวกลางระหว่างผู้รับและ ผู้จ่าย ซึ่งมีบทบาทสำคัญที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น ธนาคารแห่ง ประเทศไทยจึงได้พัฒนาระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยนำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ มาใช้เพื่อให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน เพื่อให้ระบบการชำระเงินของประเทศมี ประสิทธิภาพย่ิงขน้ึ ซ่งึ คณะกรรมการระบบการชำระเงนิ (กรช.) เปน็ ผู้กำหนดนโยบายชำระเงิน (สามารถศกึ ษารายละเอียดเพ่ิมเตมิ ได้จากเรอ่ื งท่ี 3 หวั ข้อการชำระเงนิ ทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส)์ 6. เปน็ นายธนาคารของรฐั บาล ธนาคารแห่งประเทศไทยทำหน้าที่เป็นนายธนาคารของรัฐบาล โดยมี อำนาจหนา้ ที่ท่เี กี่ยวข้อง เช่น การรับจ่ายเงนิ เพ่ือบัญชฝี ากของกระทรวงการคลัง การเก็บรักษา เงิน หลักทรัพย์หรือของมีค่าอย่างอื่นเพื่อประโยชน์ของรัฐบาล การเป็นตัวแทนของรัฐบาลใน การซื้อขายโลหะทองคำและเงิน การซื้อขายและโอนตั๋วแลกเงิน หลักทรัพย์และใบหุ้น นอกจากนั้น อาจเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ของรัฐบาล โดยมีอำนาจกระทำการจัดจำหน่าย หลักทรัพย์ของรัฐบาล จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย หรืออาจเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์ของ รฐั วสิ าหกิจ สถาบันการเงนิ ทีม่ ีกฎหมายเฉพาะจดั ตัง้ ขน้ึ หรือหน่วยงานอ่นื ของรฐั ชุดวชิ าการเงนิ เพือ่ ชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยที่ 1 วา่ ดว้ ยเรอื่ งของเงิน

10 7. ผลิตและนำธนบตั รออกใช้ ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้มีสิทธิ์พิมพ์และออกใช้ธนบัตรในประเทศ ไทยแต่เพียงผู้เดียว โดยในส่วนของการจัดพิมพ์นั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยพยายาม ค้นคว้าวิจัยและพัฒนาเทคนิคใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ยากต่อการปลอมแปลงและ ลอกเลียนแบบ ทั้งวัสดุพิมพ์ หมึกพิมพ์ ลวดลาย รวมทั้งมีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพอย่าง ละเอยี ด ซง่ึ ท่านสามารถศกึ ษาเน้อื หาเพ่ิมเติมได้จากเร่อื งที่ 2 ประเภทของเงิน หัวขอ้ ธนบตั ร กิจกรรมท้ายเรอ่ื งที่ 1 ความรู้เบ้อื งตน้ เกี่ยวกับเงนิ (ให้ผูเ้ รยี นไปทำกจิ กรรมเรือ่ งท่ี 1 ทส่ี มดุ บันทกึ กิจกรรมการเรยี นรู้) ชดุ วิชาการเงินเพื่อชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ดว้ ยเรือ่ งของเงนิ

11 เร่ืองท่ี 2 ประเภทของเงนิ เงนิ ตราไทย เงนิ ตราที่ใชใ้ นประเทศไทย ปจั จุบนั มี 2 ชนดิ คือ ธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ โดยมีรายละเอยี ดดงั น้ี ธนบตั ร ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่บริหารจัดการธนบัตร ภายในประเทศทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การผลิต นำธนบัตรใหม่ออกใช้หมุนเวียนและทำลาย ธนบัตรเก่า รวมทั้งประเมินความต้องการใช้ธนบัตรใหม่ในแต่ละปีว่า ควรจะผลิตธนบัตรชนิด ราคาใดออกมาจำนวนมากนอ้ ยเพียงใด เพื่อให้เพยี งพอตอ่ ความต้องการใช้จา่ ยของประชาชนใน ประเทศ ซึ่งในแต่ละปีปริมาณการผลิตธนบัตรจะผันแปรไปตามความต้องการใช้ธนบัตรท่ี เพิม่ ข้นึ หรอื ลดลงตามภาวะเศรษฐกจิ ของประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้มสี ทิ ธิพ์ มิ พ์และออกใชธ้ นบัตรในประเทศไทย แตเ่ พยี งผ้เู ดยี ว โดยปฏบิ ัตติ ามทีพ่ ระราชบัญญตั เิ งนิ ตรา พ.ศ. 2501 กำหนดไวว้ ่า การนำ ธนบตั รออกใชห้ มุนเวียนในระบบเศรษฐกจิ สามารถทำได้ 2 กรณี คอื 1. แลกเปล่ียนทันทกี บั ธนบตั รทอี่ อกใช้หมุนเวียนอยแู่ ล้วในมูลค่าที่เท่ากัน เช่น ธนบัตรชนิดราคา 1000 บาท 10 ฉบับ มูลค่า 10,000 บาท แลกเปลี่ยนกับธนบัตรใหม่ชนิด ราคาเดียวกัน จำนวน 10 ฉบบั หรือแลกเปลยี่ นกับชนดิ ราคา 500 บาท จำนวน 20 ฉบับ เปน็ ต้น 2. แลกเปลี่ยนทันทีกับสินทรัพย์ที่กฎหมายกำหนดให้เป็นทุนสำรองเงินตรา ในมูลค่าทเ่ี ทา่ กนั เช่น นำทองคำมูลค่า 100 ล้านบาท มาเข้าบัญชที ุนสำรองเงินตรา แลกเปลยี่ น กับธนบัตรเพื่อนำออกใชม้ ลู คา่ 100 ล้านบาท เทา่ กนั ทำไมธนบัตรจงึ มคี ่า การที่ธนบัตรได้รับความเชื่อถือและมีมูลค่าตามราคาที่ระบุไว้ได้นั้น เนื่องจาก กฎหมายกำหนดให้ต้องนำสินทรัพย์ เช่น ทองคำ เงินตราต่างประเทศ และหลักทรัพยต์ ่างประเทศ มาแลกเปลี่ยนเท่ากับจำนวนมลู ค่าของธนบตั รที่จะนำออกใช้ ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวจะโอนเขา้ ไว้ ชุดวิชาการเงินเพอื่ ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 ว่าด้วยเรื่องของเงนิ

12 ในบัญชีทุนสำรองเงินตรา โดยธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแลรักษาบัญชี และมีสำนักงาน การตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบเป็นประจำทุกปี ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าธนบัตรทุกฉบับ มีมูลค่า ตามราคาท่ตี ราไว้อย่างแทจ้ รงิ ธนบัตรที่ใชห้ มุนเวียนในปจั จุบนั นับจากปี พ.ศ. 2445 ที่เริ่มนำธนบัตรแบบแรกออกใช้ จนถึงปัจจุบันปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยมีธนบัตรออกใช้หมุนเวียนรวมจำนวน 17 แบบ โดยธนบัตรแบบปัจจุบัน คือ ธนบัตรแบบ 17 มี 5 ชนิดราคา ได้แก่ 20 บาท 50 บาท 100 บาท 500 บาท และ 1000 บาท สำหรับธนบัตรที่เคยออกใช้ไปก่อนหน้า เช่น แบบ 15 แบบ 16 ก็ยังคงใช้ชำระหนี้ได้ตาม กฎหมาย แต่อาจพบได้น้อยลงเนื่องจากธนบัตรที่ครบอายุการใช้งานและเสื่อมสภาพ จะถูกนำ ออกจากระบบเพ่อื เข้าสู่กระบวนการทำลาย ขนาดมาตรฐานของธนบัตรแบบปัจจบุ นั การกำหนดขนาดธนบตั รมุ่งเนน้ ถึงความสะดวกในการพกพาเปน็ หลกั และเพ่ือ ประโยชน์ต่อการสังเกตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตาซึ่ง สามารถแยกแยะชนิดราคาธนบัตรด้วยการสัมผัสเท่าน้ัน สำหรับธนบัตรแบบท่ีใช้ในปัจจบุ ัน ได้ กำหนดให้ธนบัตรทุกชนิดราคามีความกว้างเท่ากัน คือ 72 มิลลิเมตร โดยมีความยาว ลดหล่นั กนั ชนดิ ราคาละ 6 มลิ ลเิ มตร ชดุ วิชาการเงนิ เพอ่ื ชวี ิต 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 ว่าด้วยเร่ืองของเงนิ

13 ลกั ษณะและขนาดธนบัตรแบบ 16 ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฉลอง พระองคค์ รยุ มหาจกั รีบรมราชวงศ์ ลกั ษณะธนบตั รด้านหนา้ ภาพประธาน : ภาพพระบรมราชานุสาวรียพ์ ่อขุนรามคำแหง มหาราช ลักษณะธนบตั รด้านหลงั ภาพประกอบ : ภาพการประดษิ ฐอ์ ักษรไทย ภาพศิลาจารกึ ขนาด หลักที่ 1 จารกึ พ่อขนุ รามคำแหง ภาพลายสือไทย ภาพทรง วนั ประกาศออกใช้ รับเรื่องราวร้องทุกข์ของราษฎร ภาพกระดิ่ง และภาพ วนั ออกใช้ เครอ่ื งสังคโลก 72 x 138 มิลลเิ มตร ลงวันท่ี 2 พฤศจกิ ายน 2555 วนั ท่ี 1 เมษายน 2556 ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทิสลกั ษณ์พระบาทสมเด็จ พระมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฉลอง พระองคค์ รยุ มหาจกั รบี รมราชวงศ์ ลักษณะธนบตั รดา้ นหนา้ ภาพประธาน : ภาพพระบรมราชานสุ าวรยี ์สมเดจ็ พระนเรศวร มหาราช ลักษณะธนบัตรด้านหลัง ภาพประกอบ : ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ทรงพระแสงดาบ ขนาด นำทหารเข้าตีค่ายพม่า พระบรมราชานุสาวรีย์ ณ อนุสรณ์ วันประกาศออกใช้ ดอนเจดีย์ และพระเจดีย์ชัยมงคล วัดใหญ่ชัยมงคล จังหวดั วนั ออกใช้ พระนครศรีอยธุ ยา 72 x 144 มิลลิเมตร ลงวนั ท่ี 24 มิถนุ ายน 2554 วนั ท่ี 18 มกราคม 2555 ชดุ วชิ าการเงนิ เพอื่ ชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 วา่ ด้วยเร่อื งของเงิน

ลกั ษณะธนบัตรดา้ นหนา้ 14 ลักษณะธนบตั รด้านหลัง ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทิสลกั ษณ์พระบาทสมเด็จ ขนาด พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฉลอง วันประกาศออกใช้ พระองคค์ รยุ มหาจักรีบรมราชวงศ์ วันออกใช้ ภาพประธาน : ภาพพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสิน ลักษณะธนบัตรด้านหน้า มหาราช ภาพประกอบ : ภาพทรงเกล้ยี กลอ่ มใหป้ ระชาชนรวมกำลัง ลักษณะธนบัตรด้านหลงั กันต่อสู้กู้อิสรภาพ ภาพท้องพระโรงพระราชวังกรุงธนบุรี ขนาด ภาพพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช วนั ประกาศออกใช้ ทรงม้าพระท่นี ั่งออกศึก และภาพป้อมวิไชยประสิทธิ์ วันออกใช้ 72 x 150 มิลลิเมตร ลงวนั ท่ี 24 ธันวาคม 2557 วนั ท่ี 26 กุมภาพนั ธ์ 2558 ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทิสลกั ษณ์พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฉลอง พระองค์ครยุ มหาจกั รบี รมราชวงศ์ ภาพประธาน : ภาพพระบรมราชานสุ าวรียพ์ ระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟา้ จุฬาโลกมหาราช ภาพประกอบ : ภาพวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และ ภาพป้อมพระสเุ มรุ 72 x 156 มิลลเิ มตร ลงวันท่ี 27 ธันวาคม 2556 วันที่ 12 พฤษภาคม 2557 ชุดวชิ าการเงนิ เพ่อื ชีวิต 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 ว่าดว้ ยเรอ่ื งของเงิน

15 ภาพประธาน : พระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฉลอง พระองคค์ รยุ มหาจกั รีบรมราชวงศ์ ลักษณะธนบัตรดา้ นหน้า ภาพประธาน : ภาพพระบรมรปู พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อย่หู วั ภาพประกอบ : ภาพพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ ลักษณะธนบัตรด้านหลงั พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงม้าพระที่นั่ง ภาพพระที่นั่ง อนันตสมาคม และภาพการเลกิ ทาส ขนาด 72 x 162 มิลลิเมตร วนั ประกาศออกใช้ ลงวันท่ี 24 มิถุนายน 2558 วนั ออกใช้ วนั ที่ 21 สิงหาคม 2558 วธิ กี ารตรวจสอบธนบตั รแบบ 16 1. สัมผัส 1.1 สมั ผัสกระดาษธนบัตร ธนบัตรทำจากกระดาษชนิดพิเศษที่มีใยฝ้ายเป็นส่วนประกอบหลัก จงึ มีความแกรง่ ทนทาน ไมย่ ยุ่ งา่ ย เมื่อจับสมั ผสั จะให้ความรู้สึกแตกตา่ งจากกระดาษทัว่ ไป 1.2 ลวดลายเสน้ นนู สามารถสัมผัสความนูนที่ตัวอักษรคำว่า “รัฐบาลไทย” ตัวเลขอารบกิ และตัวเลขไทยแจ้งชนิดราคาด้านหน้าธนบัตร และลวดลายเส้นนูนรูปดอกไม้ที่บริเวณมุมล่าง ด้านขวาของธนบัตรทุกชนิดราคา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แจ้งชนิดราคาธนบัตรที่ประยุกต์มาจาก อกั ษรเบรลล์ เพ่อื อำนวยความสะดวกแกผ่ ูม้ คี วามบกพรอ่ งทางสายตา ชดุ วิชาการเงินเพ่อื ชีวติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ด้วยเร่อื งของเงนิ

16 2. ยกสอ่ ง 2.1 ลายนำ้ ลายน้ำเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตกระดาษที่ทำให้เนื้อกระดาษมีความ หนาและบางไม่เท่ากัน เมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงสว่างจึงมองเห็นภาพการไล่ระดับของแสงเงา และมีลายนำ้ โปรง่ แสงพิเศษเปน็ ตวั เลขไทยตามชนดิ ราคาธนบตั ร ประดบั ควบค่ลู ายน้ำพระบรม ฉายาสาทสิ ลกั ษณพ์ ระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร 2.2 แถบสี ธนบัตรทุกชนิดราคามีแถบสีต่าง ๆ ตามชนิดราคาธนบัตรที่ฝังไว้ใน เนื้อกระดาษตามแนวตั้ง มีบางส่วนของแถบปรากฏให้เห็นเป็นระยะ ๆ ที่ด้านหลังของธนบัตร เมอ่ื ยกสอ่ งดูกับแสงสว่างจะเห็นเป็นเส้นตรงยาวต่อเน่ือง บนแถบมีตัวเลขและตวั อกั ษรโปร่งแสง แจ้งชนิดราคาธนบัตรที่มองเห็นได้ทั้งสองด้าน และสามารถมองเห็นการเปลี่ยนสีของแถบน้ี เมื่อพลกิ เอียงธนบัตรไปมา ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ด้วยเรอ่ื งของเงนิ

17 2.3 ภาพซ้อนทบั บรเิ วณมุมบนด้านซ้ายของธนบตั ร มตี วั เลขอารบิกแจ้งชนิดราคาธนบัตรท่ี พิมพ์แยกไว้ในตำแหน่งตรงกันของด้านหน้าและด้านหลังธนบัตร จะมองเห็นเป็นตัวเลขท่ี สมบรู ณ์เมอ่ื ยกธนบตั รสอ่ งกบั แสงสว่าง 3. พลิกเอยี ง 3.1 หมึกพิมพพ์ ิเศษสลับสี เป็นจุดสังเกตสำหรับธนบัตรชนิดราคา 500 บาท และ 1000 บาท เท่านั้น โดยให้สังเกตที่มุมล่างด้านซ้ายของธนบัตรเมื่อพลิกขอบล่างธนบัตรขึ้น ลายประดิษฐ์ สีทองจะเปลี่ยนเป็นสเี ขียว 3.2 แถบฟอยล์สามมิติ แถบฟอยล์สามมิติที่ผนึกอยู่บนด้านหน้าธนบัตรชนิดราคา 100 บาท 500 บาท และ 1000 บาท จะมองเห็นเป็นหลายมิติแตกต่างกันตามชนิดราคา และจะเปลี่ยนสี สะท้อนแสงวาววบั เมอื่ พลิกเอียงธนบตั รไปมา ชุดวชิ าการเงินเพอื่ ชีวติ 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 ว่าดว้ ยเร่ืองของเงิน

18 3.3 ตัวเลขแฝง ในลายประดิษฐ์มุมล่างซ้ายของธนบัตรทุกชนิดราคาเมื่อยกธนบัตร เอียงเข้าหาแสงสว่างและมองผ่านจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลางธนบัตรในมุมที่เหมาะสม จะเห็นตวั เลขอารบิกแจง้ ชนดิ ราคาธนบัตรฉบับนัน้ 4. ลกั ษณะพิเศษภายใตร้ งั สเี หนอื มว่ ง ลักษณะพิเศษที่สามารถมองเห็นเมื่ออยู่ภายใต้รังสีเหนือม่วง (หลอดไฟ black light) ได้แก่ เส้นใยเรืองแสงท่ีโรยไวใ้ นเน้ือกระดาษ หมึกพิมพ์พิเศษเรืองแสงซึ่งนำมาใช้ บริเวณลวดลายสพี น้ื หมวดอกั ษรและเลขหมายของธนบตั ร ชุดวิชาการเงนิ เพือ่ ชวี ิต 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 ว่าด้วยเร่ืองของเงิน

19 ลกั ษณะและขนาดธนบัตรแบบ 17 ธนบตั รแบบ 17 มแี นวคิดในการออกแบบเพ่อื เทดิ พระเกียรตพิ ระมหากษัตรยิ ์ ทุกพระองค์แห่งราชวงศ์จักรีท่ีทรงประกอบพระราชกรณียกจิ ในทกุ ด้าน เพื่อบำบัดทกุ ข์บำรงุ สุข นำความร่มเย็นมาสูอ่ าณาประชาราษฎร์และชาติบา้ นเมอื ง ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศ ของกองทพั อากาศ ลักษณะธนบตั รด้านหน้า ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระพุทธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช และพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลัย ลักษณะธนบัตรดา้ นหลัง 72 x 138 มิลลิเมตร ขนาด ลงวันที่ 28 มถิ นุ ายน 2561 วนั ประกาศออกใช้ วันท่ี 28 กรกฎาคม 2561 วันออกใช้ ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศ ลกั ษณะธนบัตรดา้ นหน้า ของกองทัพอากาศ ลกั ษณะธนบัตรด้านหลงั ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ ขนาด พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมสาทิสลักษณ์ วนั ประกาศออกใช้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั วันออกใช้ 72 x 144 มิลลเิ มตร ลงวันท่ี 28 มถิ ุนายน 2561 วนั ที่ 28 กรกฎาคม 2561 ชดุ วิชาการเงนิ เพอ่ื ชวี ิต 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยที่ 1 ว่าดว้ ยเรอ่ื งของเงิน

ลกั ษณะธนบัตรด้านหน้า 20 ลักษณะธนบตั รดา้ นหลงั ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ ขนาด พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศ วันประกาศออกใช้ ของกองทัพอากาศ วนั ออกใช้ ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ ลกั ษณะธนบัตรดา้ นหนา้ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอย่หู วั ลกั ษณะธนบตั รดา้ นหลัง ขนาด 72 x 150 มิลลิเมตร วันประกาศออกใช้ ลงวนั ที่ 28 มิถนุ ายน 2561 วนั ออกใช้ วนั ที่ 28 กรกฎาคม 2561 ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศ ของกองทพั อากาศ ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาอานันทมหดิ ล 72 x 156 มิลลิเมตร ลงวันท่ี 28 มิถุนายน 2561 วนั ที่ 28 กรกฎาคม 2561 ชดุ วิชาการเงนิ เพ่ือชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 วา่ ดว้ ยเรอื่ งของเงิน

21 ลักษณะธนบัตรด้านหนา้ ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวในฉลองพระองค์เครื่องแบบเต็มยศ ลักษณะธนบัตรด้านหลัง ของกองทพั อากาศ ขนาด วนั ประกาศออกใช้ ภาพประธาน : พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จ วันออกใช้ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ พ ร ะ บ ร ม ส า ท ิ ส ล ั ก ษ ณ ์ พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด ็ จ พ ร ะ ว ช ิ ร เ ก ล้ า เจ้าอยหู่ วั 72 x 162 มิลลเิ มตร ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2561 วันท่ี 28 กรกฎาคม 2561 วธิ กี ารตรวจสอบธนบตั รแบบ 17 1. สัมผสั 1.1 กระดาษธนบัตร ทำจากกระดาษที่มีใยฝ้ายเป็นส่วนประกอบหลัก จึงมีความแกร่ง ทนทาน และไม่ยุ่ยงา่ ย เมอ่ื จับสมั ผสั จะใหค้ วามรสู้ กึ แตกตา่ งจากกระดาษทว่ั ไป 1.2 ลวดลายเสน้ นูน สามารถสัมผัสความนูนที่ตัวอักษรคำว่า “รัฐบาลไทย” ตัวเลข อารบิกและตวั เลขไทยแจ้งชนิดราคาดา้ นหน้าธนบัตร และลวดลายเส้นนูนรูปดอกไม้ที่บริเวณ มุมล่างด้านขวาของธนบัตรทกุ ชนิดราคา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แจง้ ชนดิ ราคาธนบัตรที่ประยุกต์มา จากอักษรเบรลล์ เพอื่ อำนวยความสะดวกแก่ผู้มคี วามบกพร่องทางสายตา ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ิต 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 ว่าดว้ ยเรอ่ื งของเงิน

22 2. ยกส่อง 2.1 ลายน้ำ ลายน้ำเกิดขึ้นในขั้นตอนการผลิตกระดาษที่ทำให้เนื้อกระดาษมีความ หนาและบางไม่เท่ากัน เมื่อยกธนบัตรส่องกับแสงสว่างจึงมองเห็นภาพการไล่ระดับของแสงเงา และมีลายน้ำโปร่งแสงพิเศษเป็นตัวเลขอารบิกตามชนิดราคาธนบัตร ประดับควบคู่ลายน้ำ พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจา้ อยหู่ วั 2.2 แถบสี ธนบัตรทุกชนิดราคามีแถบสีต่าง ๆ ตามชนิดราคาธนบัตรที่ฝังไว้ใน เนื้อกระดาษตามแนวตั้ง มีบางส่วนของแถบปรากฏให้เห็นเป็นระยะ ๆ ที่ด้านหน้าของธนบัตร เม่อื ยกส่องดกู บั แสงสวา่ งจะเหน็ เป็นเส้นตรงยาวตอ่ เนือ่ ง บนแถบมีตวั เลขและตัวอักษรโปร่งแสง แจ้งชนิดราคาธนบัตรที่มองเหน็ ได้ทั้งสองด้าน และสามารถมองเหน็ การเปลี่ยนสีของแถบนีเ้ ม่ือ พลิกเอียงธนบัตรไปมา ชดุ วิชาการเงินเพ่ือชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 ว่าดว้ ยเรอ่ื งของเงิน

23 2.3 ภาพซ้อนทบั ธนบัตรแบบ 17 ทุกชนิดราคา เมื่อยกขึ้นส่องดูกับแสงสว่างจะเห็นรูป พระครฑุ พ่าห์อยใู่ นตำแหน่งท่ีตรงกันทงั้ ดา้ นหน้าและดา้ นหลัง 3. พลิกเอยี ง 3.1 ตวั เลขแฝง ตัวเลขอารบิกตามราคาธนบัตรซ่อนในลายประดิษฐ์ซึ่งอยู่บริเวณ ตอนกลางด้านลา่ งของธนบัตร มองเห็นไดเ้ มื่อเอยี งธนบัตรเข้าหาแสงสวา่ ง โดยมองผ่านจากมมุ ล่างซ้ายของลายประดษิ ฐเ์ ข้าหามมุ บนขวาของธนบัตร ชดุ วชิ าการเงินเพือ่ ชวี ติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 วา่ ด้วยเร่อื งของเงนิ

24 3.2 หมึกพมิ พพ์ เิ ศษ ในธนบัตรชนิดราคา 100 บาท ลายดอกประดิษฐ์พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์ พิเศษสีทองจะเห็นเป็นประกายระยิบระยับเมื่อพลิกธนบัตรไปมา สำหรับธนบัตรชนิดราคา 500 บาท และ 1000 บาท ลายดอกประดิษฐ์พิมพ์ด้วยหมึกพิมพ์แม่เหล็กสามมิติ เมื่อพลิก ธนบัตรขึ้นลงหรือพลิกซ้ายขวา จะเห็นลวดลายภายในลายดอกประดิษฐ์เคลื่อนไหวไปมาและ เปลยี่ นสลบั จากสีทองเป็นสเี ขียว 4. ลกั ษณะพิเศษภายใต้รังสเี หนอื ม่วง ลักษณะพิเศษที่สามารถมองเห็นเมื่ออยู่ภายใต้รังสีเหนือม่วง (หลอดไฟ black light) ได้แก่ เส้นใยเรืองแสงท่ีโรยไวใ้ นเน้ือกระดาษ หมึกพิมพพ์ ิเศษเรืองแสงซึ่งนำมาใช้ บริเวณลวดลายสีพื้น หมวดอักษรและเลขหมายของธนบตั ร เหรยี ญกษาปณ์ กรมธนารักษ์ได้ผลิตเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนออกใช้ในระบบเศรษฐกิจตั้งแต่ พ.ศ. 2493 เป็นต้นมา ซึ่งมีหลากรุ่นหลายแบบ โดยได้ปรับเปลี่ยนรูปลักษณะ ลวดลาย และ กรรมวิธกี ารผลติ เรือ่ ยมา เพ่ือใหส้ ะดวกตอ่ การพกพา การใชส้ อย และยากต่อการปลอมแปลง ชุดวชิ าการเงนิ เพื่อชีวิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 ว่าดว้ ยเร่ืองของเงิน

25 เหรียญกษาปณ์หมุนเวียน เป็นเหรียญกษาปณ์ที่ใช้หมุนเวียนกันอยู่ทั่วไป ในชีวิตประจำวัน มี 9 ชนิดราคา คือ 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค์ 25 สตางค์ 10 สตางค์ 5 สตางค์ และ 1 สตางค์ แต่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมี 6 ชนิดราคา คือ 10 บาท 5 บาท 2 บาท 1 บาท 50 สตางค์ 25 สตางค์ ส่วนเหรียญชนิดราคา 10 สตางค์ 5 สตางค์ และ 1 สตางค์ มใี ชใ้ นทางบัญชีเท่านั้น เหรียญกษาปณ์กับการใชช้ ำระหนตี้ ามกฎหมาย ตามพระราชบัญญตั ิเงินตรา พ.ศ. 2501 มาตรา 11 ระบุวา่ เหรียญกษาปณ์เป็นเงิน ท่ีชำระหน้ไี ด้ตามกฎหมาย ไมเ่ กนิ จำนวนทีก่ ำหนดโดยกฎกระทรวงดงั นี้ ชนดิ ราคา จำนวนการชำระหนต้ี อ่ ครัง้ เหรียญชนิดราคา 1 สตางค์ ชำระหนไ้ี ดค้ ร้ังละไมเ่ กนิ 5 บาท เหรยี ญชนดิ ราคา 5, 10, 25 และ 50 สตางค์ ชำระหนไี้ ด้คร้งั ละไมเ่ กิน 10 บาท เหรยี ญชนิดราคา 1, 2 และ 5 บาท ชำระหนไ้ี ดค้ รั้งละไมเ่ กิน 500 บาท เหรียญชนดิ ราคา 10 บาท ชำระหนีไ้ ด้ครัง้ ละไม่เกิน 1,000 บาท สาเหตุท่กี ฎหมายต้องกำหนดจำนวนเงินในการชำระหนขี้ องเหรียญกษาปณ์ คือ เพื่อป้องกนั การกลนั่ แกลง้ ระหว่างลกู หนกี้ ับเจ้าหน้ีในการชำระหน้ี เงินตราตา่ งประเทศ ในการดำเนินชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป เราจะใช้เงินสกุลของประเทศไทย คือ เงนิ บาทในการจบั จา่ ยใชส้ อยในประเทศ แตห่ ากตอ้ งเดนิ ทางหรือมีการทำธุรกจิ ระหว่างประเทศ เราก็จะตอ้ งเขา้ ไปเก่ยี วข้องกับเงินตราของประเทศอ่นื ๆ ตวั อยา่ งเงนิ สกุลต่างประเทศท่สี ำคัญ ชอ่ื ประเทศ ชือ่ สกลุ เงนิ อกั ษรยอ่ สกุลเงนิ USD สหรฐั อเมริกา ดอลลารส์ หรัฐ GBP EUR สหราชอาณาจักร ปอนด์ JPY CNY ยโู รโซน ยโู ร MYR ญี่ปนุ่ เยน จนี หยวน มาเลเซีย ริงกติ ชดุ วิชาการเงนิ เพอ่ื ชีวิต 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 วา่ ดว้ ยเรื่องของเงิน

26 ซง่ึ คา่ ของเงินในแตล่ ะสกลุ จะไมเ่ ทา่ กัน จึงตอ้ งมีการกำหนดอตั ราแลกเปล่ียนข้ึน อัตราแลกเปลี่ยน หมายถงึ ราคาของเงินตราสกลุ หน่ึงเมือ่ เทียบกบั เงนิ ตราอกี สกลุ หน่งึ เชน่ 1 USD เท่ากับ 31 บาท หมายถึง เงินบาทจำนวน 31 บาท แลกเป็นเงิน ดอลลาร์สหรัฐได้ 1 ดอลลาร์สหรฐั 1 EUR เท่ากับ 42 บาท หมายถึง เงินบาทจำนวน 42 บาท แลกเป็นเงินยูโรได้ 1 ยูโร อัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้คงท่ี แต่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่เสมอในแต่ละ ช่วงเวลาตามปัจจัยที่มีผลกระทบ เช่น ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ เศรษฐกิจโลก ภาวะตลาด การเงิน การดอู ตั ราแลกเปลีย่ นอย่างง่าย ตวั อย่างตารางแสดงอัตราแลกเปล่ียนระหว่างเงินต่างประเทศและเงนิ บาท ประเทศ สกุลเงนิ อัตรารบั ซ้อื อัตราขาย สหรฐั อเมริกา USD 34.89 35.22 สหราชอาณาจกั ร GBP 49.84 50.69 ยโู รโซน EUR 39.25 39.96 ญป่ี ่นุ (ตอ่ 100 เยน) JPY 31.68 32.37 จนี CNY 4.29 4.32 มาเลเซีย MYR 8.85 9.13 (เงนิ บาทต่อ 1 หน่วยสกลุ เงนิ ตราต่างประเทศ) อัตรารับซอื้ คอื อตั ราที่ผู้ใหบ้ ริการเสนอซ้ือเงนิ ตราต่างประเทศ อตั ราขาย คอื อตั ราทีผ่ ้ใู ห้บรกิ ารเสนอขายเงนิ ตราตา่ งประเทศ • หากต้องการนำเงนิ บาทไทยไปแลกเปน็ เงนิ ดอลลารส์ หรัฐ กล่าวคอื ต้องการ ซอื้ เงินดอลลารส์ หรัฐ เราต้องดรู าคาทอี่ ัตราขาย จากตัวอย่างขา้ งตน้ 1 USD = 35.22 บาท • หากต้องการนำเงินดอลลาร์สหรัฐไปแลกเปน็ เงนิ บาท กล่าวคอื ตอ้ งการขาย เงินดอลลาร์สหรัฐ เราตอ้ งดรู าคาทีอ่ ตั รารับซื้อ จากตวั อยา่ งข้างต้น 1 USD = 34.89 บาท ชุดวชิ าการเงนิ เพอ่ื ชวี ิต 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 ว่าดว้ ยเรอื่ งของเงนิ

27 วธิ กี ารคำนวณอตั ราแลกเปลี่ยนเงนิ ตราตา่ งประเทศ ในกรณีที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ เราอาจต้องแลกเปลี่ยนสกุลเงินเป็นของ ประเทศน้ัน ๆ ซ่ึงสามารถคำนวณอตั ราแลกเปลยี่ นได้ดังนี้ ตวั อยา่ งที่ 1 หากต้องการเดนิ ทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ซึง่ ใช้สกลุ เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) สมมุติว่า อัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้นอยู่ที่ 1 USD = 30 บาท หากต้องการแลก 100 USD ตอ้ งใชเ้ งนิ บาทไทยแลกเปน็ จำนวนเทา่ ไร วิธีคำนวณ 1 USD = 30 บาท 100 USD = [30 x 100] ÷ 1 = 3,000 บาท ดังนัน้ ตอ้ งใช้เงนิ บาทไทยจำนวนเงนิ 3,000 บาท จงึ จะแลกได้ 100 USD ตัวอย่างที่ 2 หากต้องการไปประเทศญี่ปุ่น ซึ่งใช้สกุลเงินเยน สมมุติว่า อัตราแลกเปลี่ยน ขณะนั้นอยู่ที่ 100 เยน = 30 บาท หากต้องการแลก 1,000 เยน ต้องใช้เงินไทยแลกเป็น จำนวนเทา่ ไร วธิ คี ำนวณ 100 เยน = 30 บาท 1,000 เยน = [30 x 1,000] ÷ 100 = 300 บาท ดงั นน้ั ต้องใช้เงนิ บาทไทยจำนวนเงิน 300 บาท จึงจะแลกได้ 1,000 เยน ตัวอย่างที่ 3 หากต้องการนำเงินดอลลาร์สหรัฐมาแลกเป็นเงินบาท สมมุติว่า อัตรา แลกเปลี่ยนขณะนั้นอยู่ที่ 1 USD = 30 บาท หากต้องการแลก 1,500 บาท จะต้องใช้เงิน ดอลลารส์ หรัฐจำนวนเงินเท่าไร วิธีคำนวณ 30 บาท = 1 USD 1,500 บาท = [1 x 1,500] ÷ 30 = 50 USD ดงั น้ัน ตอ้ งใช้เงินดอลลารส์ หรัฐจำนวนเงิน 50 USD จึงจะแลกได้ 1,500 บาท ชดุ วชิ าการเงนิ เพอ่ื ชวี ติ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 วา่ ดว้ ยเรื่องของเงนิ

28 ชอ่ งทางการแลกเปล่ยี นเงนิ ตราตา่ งประเทศ การติดต่อขอแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศสามารถติดต่อกับผู้ให้บริการ ซง่ึ ประกอบธรุ กจิ ปจั จัยชำระเงนิ ต่างประเทศที่ไดร้ ับอนุญาต เชน่ • นิติบุคคลรับอนญุ าต หมายถึง ธนาคารพาณิชย์ และนิตบิ ุคคลที่มีกฎหมาย เฉพาะจัดตั้งขึ้น ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศ โดยมี ขอบเขตการประกอบธุรกิจ คือ ซอื้ -ขาย ฝาก-ถอน หรือให้ก้เู งนิ ตราต่างประเทศ • บุคคลรับอนุญาต หมายถึง ผู้ที่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการคลังให้ประกอบธุรกิจการซื้อและขายธนบัตรต่างประเทศ และรับซื้อเช็คเดินทาง จากลกู ค้า อาทิ บริษทั ที่ไดร้ ับอนญุ าต สกลุ เงินดิจทิ ลั (digital currency) ประเภทของสกุลเงนิ ดจิ ทิ ลั 1. สกลุ เงนิ ดจิ ทิ ัลที่ออกโดยภาคเอกชน หรือทเี่ ราร้จู กั กันในชอื่ “ครปิ โทเคอร์ เรนซี” (Cryptocurrency) ถูกออกแบบมาใหม้ ีคุณสมบัติคล้ายเงนิ เพอ่ื ใช้ชำระคา่ สนิ ค้าและ บรกิ าร เพ่อื ลงทนุ โดยปัจจุบันแบ่งได้ 2 แบบ 1) แบบที่ไม่มีอะไรหนุนหลัง เช่น บิทคอยน์ (Bitcoin) เนื่องจากไม่มี สินทรพั ยห์ นนุ หลัง มลู คา่ จึงผันผวน จึงไม่นยิ มนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปล่ียน และส่วน ใหญ่ถือไว้เพื่อเก็งกำไรมากกว่า ในส่วนของร้านค้าหรือประชาชนที่รับบิทคอยน์จึงมีลักษณะ เพยี งการแลกเปล่ียนส่ิงของกบั ส่ิงของท่ีต้องยอมรับความเสี่ยงทีจ่ ะเสยี หายจากมูลค่าท่ีผนั ผวนดว้ ย 2) แบบที่มีมูลค่าคงท่ี (Stablecoin) โดยมีทั้งแบบใช้เงินหนุนหลังโดย อ้างอิงกับมูลค่าเงินทั่วไป แบบที่มีสินทรัพย์หนุนหลังจะอ้างอิงกับมูลค่าสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น โลหะท่มี ีคา่ และแบบทไ่ี ม่ได้อิงกับเงินหรอื สินทรัพยใ์ ด ๆ แตใ่ ชก้ ารประมวลผลของคอมพวิ เตอร์ ในการกำหนดมูลค่าของเหรยี ญให้คงท่ีเสมอ ซงึ่ Stablecoin มปี ระเดน็ ความเสยี่ งต่าง ๆ ท้ังใน เรื่องความน่าเชื่อถือของผู้ออก ความปลอดภัยของระบบ และการโจรกรรมทางไซเบอร์ ซ่ึงประชาชนอาจถกู ใชเ้ ปน็ เคร่อื งมือในการฟอกเงนิ หรอื ทำธรุ กรรมท่ผี ิดกฎหมายได้ ชุดวิชาการเงินเพ่อื ชวี ติ 3 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 ว่าดว้ ยเร่ืองของเงนิ

29 นอกจากนี้ Stablecoin บางแบบที่มีการระบุหน่วยมูลค่าเป็นบาท หากมี การนำออกใช้ทดแทนเงินบาทในวงกว้าง อาจทำให้เกดิ การแบ่งแยกระบบเงินตราของประเทศไทย ออกไปมากกว่าหนึ่งระบบ ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนและความมั่นคงของ ระบบเงินตราของประเทศ จึงถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติเงินตรา พ.ศ. 2501 ประชาชนจึงควรระมัดระวังและไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกรรมลักษณะนี้ เนื่องจาก ไมไ่ ดร้ บั ความคุม้ ครองทางกฎหมาย 2. สกุลเงนิ ดจิ ิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง Central Bank Digital Currency หรอื CBDC เป็นสกลุ เงินดจิ ิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางของประเทศนน้ั ๆ เหมือนเงินในรปู แบบ เหรียญและธนบัตรท่ีใช้ในปัจจบุ ัน แตผ่ สมผสานเทคโนโลยีเข้าไป ซง่ึ ถือเปน็ วิวฒั นาการของเงิน อีกก้าวหนึ่ง โดยธนาคารกลางท่ัวโลกอยู่ระหว่างเร่งศึกษา พัฒนา และทดลองถึงความ เปน็ ไปได้ในการออกใช้ สำหรับธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างศึกษาพัฒนา CBDC สำหรับ ประชาชนรายย่อย ซึ่งจะต้องดูเรื่องประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และผลกระทบเชิงนโยบาย เพ่อื ใหผ้ ้ใู ชม้ คี วามมน่ั ใจและปลอดภยั ในการใช้ แหลง่ ศึกษาข้อมลู เพมิ่ เตมิ วิดีโออนิ โฟกราฟิก เร่อื ง https://www.youtube.com/watch?v=mn เจาะลึกโลกของสกลุ เงนิ CPYIzAuV8 ดจิ ิทลั digital currency กจิ กรรมท้ายเรอื่ งที่ 2 ประเภทของเงนิ (ใหผ้ ู้เรียนไปทำกจิ กรรมเร่ืองที่ 2 ท่สี มุดบันทกึ กจิ กรรมการเรียนร้)ู ชดุ วชิ าการเงินเพื่อชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ด้วยเรอ่ื งของเงิน

30 เรอ่ื งท่ี 3 การชำระเงนิ ทางอเิ ล็กทรอนิกส์ การชำระเงิน (payment) คือ การส่งมอบเงินหรือโอนเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ เพ่อื ซื้อสนิ คา้ และบรกิ าร หรอื ใช้ชำระหนี้ โดยสามารถใช้ส่ือการชำระเงินท่ีเป็นได้ทั้งเงินสดและ ไม่ใช่เงินสด ในบางครั้งการชำระเงินอาจทำผ่านคนกลางที่เป็นผู้ให้บริการเพื่ออำนวยความ สะดวกและรักษาความปลอดภัยของการทำรายการ ซึ่งผู้ให้บริการมีทั้งที่เป็นสถาบันการเงิน และมิใชส่ ถาบันการเงนิ (non-bank) เงนิ สดเปน็ สงิ่ ท่ีเราคุ้นเคยในการใชจ้ า่ ยมากทีส่ ุด จนนึกไม่ถึงวา่ ทีจ่ ริงแล้ว การใช้ เงินสดนั้นไม่สะดวกหลายประการ เช่น ต้องเตรียมเงินสดให้เพียงพอในการซื้อสินค้า และหาก ยิ่งพกพาเงินสดจำนวนมากก็เสี่ยงต่อการสูญหาย ถูกปล้น ขโมย หรือหากมองในมุมเจ้าของ กิจการ การรับชำระดว้ ยเงินสดอาจถูกยักยอกหรือขโมยได้ง่ายและตรวจสอบได้ยาก รวมถึงเสีย โอกาสในการขายสนิ คา้ หากมชี ่องทางให้ลกู ค้าชำระคา่ สินคา้ เป็นเงินสดเพียงอย่างเดยี ว สำหรับ มุมของประเทศนน้ั เงนิ สดมีค่าใช้จา่ ยในการจัดการคอ่ นขา้ งสูง เช่น ค่าใชจ้ า่ ยท่ีเกิดจากการผลิต การขนส่ง การเก็บรักษา การตรวจนับ การคัดแยก และการทำลาย ถ้าเราหันมาช่วยกันใช้การ ชำระเงนิ ทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e-Payment) จะชว่ ยลดภาระคา่ ใช้จา่ ยในการจดั การได้ 2 - 3 เท่า เลยทเี ดยี ว ความหมายการชำระเงินทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การส่งมอบหรือโอนเงินเพื่อซื้อสินค้า และบรกิ าร หรือชำระหน้ี ผา่ นช่องทางตา่ ง ๆ ทม่ี คี วามสะดวกและรวดเร็วโดยใช้ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ มาช่วย ทั้งด้านสื่อที่ใช้ชำระเงินแทนเงินสด เช่น บัตรเดบิต บัตรเครดิต เงินอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงช่องทางการชำระเงินที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว เช่น ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยใช้อุปกรณ์ ประเภทตา่ ง ๆ อาทิ คอมพวิ เตอร์ โทรศพั ทม์ ือถอื ชดุ วิชาการเงินเพือ่ ชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 ว่าดว้ ยเรอ่ื งของเงิน

31 ประโยชนข์ องการชำระเงินทางอเิ ล็กทรอนกิ ส์ ตอ่ ประชาชน ตอ่ เจ้าของกิจการ • โอนเงนิ หรือชำระเงนิ ได้ทกุ ท่ที ุกเวลา • ไมต่ อ้ งเกบ็ เงนิ สดจำนวนมากไว้ทร่ี า้ นค้า • ไม่ต้องเสียเวลาและค่าใชจ้ ่ายในการ ลดปญั หาพนกั งานยกั ยอกหรอื ขโมยเงิน เดนิ ทาง • จัดทำบัญชไี ด้รวดเร็ว และมรี ะบบท่ี • ปลอดภยั ไมต่ อ้ งกลัวเงนิ สดหายหรือ ตรวจสอบได้ ถกู ขโมย • มีทางเลอื กใหล้ ูกค้าในการชำระเงนิ ได้ • ตรวจสอบได้ มีหลกั ฐานชัดเจน หลายวธิ ี • มีรูปแบบการชำระเงนิ ให้เลือกได้ • ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งมสี ถานที่หรือหนา้ รา้ น หลากหลายตามความสะดวก ก็ขายของได้ • ขยายฐานลูกคา้ ไดก้ วา้ งข้ึน ไม่จำกัดแต่ พื้นท่ีใดพื้นท่ีหน่ึง หรอื ในประเทศเทา่ นัน้ ต่อประเทศ • ลดค่าใชจ้ า่ ยในการพิมพ์ธนบัตร • ลดค่าใชจ้ ่ายในการบริหารจัดการเงินสด เชน่ การขนส่งธนบัตร • การหมุนเวียนของเงินในเศรษฐกิจมคี วามคลอ่ งตัว • การคา้ และการชำระเงนิ ระหวา่ งประเทศทำไดส้ ะดวกรวดเรว็ ข้ึน สือ่ และช่องทางการชำระเงิน 1. บัตรเดบิต (debit card) เป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ธนาคารพาณิชย์ออกให้แก่ลูกค้าโดยผูกกับบัญชี เงินฝากของเจ้าของบัตรสามารถใช้ซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ณ จุดขายและออนไลน์ได้ โดยผ้ถู อื บตั รสามารถสงั เกตจุดทรี่ บั บัตรไดจ้ ากตราหรือโลโก้ทรี่ า้ นคา้ ตดิ หรือแสดงไว้ เชน่ VISA, MasterCard, UnionPay ชุดวิชาการเงินเพื่อชีวติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 ว่าด้วยเร่อื งของเงิน

32 ลักษณะเดน่ • สามารถนำไปทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น ฝาก/ถอน/โอน/ ชำระเงินทีเ่ ครื่องทำรายการอัตโนมัตไิ ด้ • ใช้ซื้อสินค้าและบริการ ณ จุดขายและออนไลน์ได้ โดยเมื่อใช้แล้ว ยอดเงนิ ท่ีใช้จ่ายจะถกู ตัดจากบัญชเี งนิ ฝากทันที • การใช้บัตรเดบิต มีทั้งแบบใช้ลายเซ็น และแบบกดรหัสผ่านส่วนตัว (PIN) ของผ้ถู ือบัตร ขึน้ อยู่กบั ระบบการใหบ้ ริการ • การใชจ้ ่ายผา่ นบัตรเดบติ เป็นการใช้เงนิ ของเราทีม่ ีอยู่ในบัญชี จงึ ไมส่ ร้าง ภาระหน้ี รู้หรือไม่วา่ หากคุณต้องการทำบัตรเดบิตที่ธนาคาร คุณมีสิทธิ์เลือกได้ว่าต้องการประกันพ่วง หรือไม่ ซึ่งธนาคารสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นควบคู่กับผลิตภัณฑ์หลักของธนาคารได้ แต่จะบังคับขายไม่ได้ และหากคุณตอ้ งการบัตรธรรมดาท่ไี ม่พ่วงประกนั ก็สามารถแจ้งพนักงานได้ 2. บัตรเครดิต (credit card) เป็นบัตรที่ออกโดยธนาคารพาณิชย์หรือบริษัท ผู้ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต (ผู้ออกบัตร) เพื่อให้ผู้ใช้บริการ (ผู้ถือบัตร) นำไปใช้ชำระค่าสินค้า และบริการแทนเงินสดโดยไม่เกินวงเงินที่ผู้ออกบัตรกำหนดไว้ โดยผู้ออกบัตรจะจ่ายเงินให้กับ รา้ นคา้ ไปกอ่ น และจะเรียกเกบ็ เงนิ จากผู้ถือบัตรตามระยะเวลาที่กำหนด (ดรู ายละเอียดเพิ่มเติม ได้จากหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรือ่ ง สนิ เชื่อ) 3. เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) เราอาจได้ยิน e-Money ในชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น บัตรเงนิ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ บัตรเติมเงินรถไฟฟา้ e-Wallet, e-Purse, e-Cash แม้จะมชี อื่ เรียก ต่างกันไป แต่ลักษณะที่เหมือนกัน คือ มูลค่าเงินจะถกู บันทึกอยู่ในสือ่ อิเล็กทรอนิกส์โดยอาจจะ อยู่ในรูปของบัตรหรือบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก็ได้ ซึ่งผู้ใช้บริการจะต้องเติมเงินก่อนจึงสามารถ นำไปซื้อสินค้าและบริการตามร้านค้าที่ผู้ออก e-Money กำหนด และผู้ใช้บริการสามารถ ตรวจสอบมูลค่าคงเหลือได้ ชดุ วชิ าการเงินเพอื่ ชวี ติ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยท่ี 1 วา่ ดว้ ยเร่ืองของเงนิ

33 ตัวอย่าง e-Money ที่ใช้ในปัจจุบัน เช่น บัตรเติมเงินรถไฟฟ้า (บัตร Rabbit, บัตร MRT) บตั ร Smart Purse ทใี่ ช้ซอื้ สินคา้ ในร้าน 7-eleven ลักษณะเด่น • ผ้ใู ชบ้ รกิ ารเติมเงินได้ตามมลู คา่ ท่ีตอ้ งการ • ให้ความสะดวกรวดเรว็ ในการใช้จ่าย ไม่ตอ้ งพกเงนิ สด ข้อแนะนำในการใชบ้ ตั รอิเล็กทรอนิกส์ใหป้ ลอดภยั 1. เมื่อได้รับบัตรมาใหม่ให้รีบเซ็นชื่อหลังบัตรทันที เพื่อป้องกันผู้อื่นนำไป แอบอา้ ง 2. เก็บรักษารหัสบัตรไว้เป็นความลับ ไม่ตั้งรหัสที่คาดเดาง่าย และควร เปล่ยี นรหสั อยู่เสมอ 3. ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือเกี่ยวกับบัตร เช่น เลขหน้า-หลังบัตรประชาชน เลขบญั ชธี นาคาร 4. ตรวจสอบความถูกต้องของรายการธุรกรรมทุกครั้ง เช่น ยอดเงินที่ต้อง ชำระ รวมถึงตรวจสอบรายการใชจ้ ่ายเปน็ ประจำเม่อื ไดร้ บั ใบแจง้ หน้ี 5. สังเกตสง่ิ แปลกปลอมที่อาจตดิ ต้ังอยู่กบั เคร่ืองเอทีเอ็ม เช่น กล้องขนาดเลก็ ที่อาจถกู ติดอย่บู ริเวณเคร่ืองเอทีเอ็ม หรืออปุ กรณแ์ ปลกปลอมท่ตี ดิ อยูต่ รงชอ่ งสอดบตั ร 6. หากมีรายการธรุ กรรมทางการเงินท่ีเราไม่ไดใ้ ช้เกดิ ข้ึน ให้รบี ตดิ ต่อผู้ออกบัตร เพื่อตรวจสอบทนั ที 7. เมื่อทำบัตรหายต้องรีบแจ้งอายัดบัตรทันที อย่างไรก็ดี บัตร e-Money โดยทวั่ ไปท่ไี ม่มีการลงทะเบยี น หากบัตรหายกเ็ หมอื นกับทำเงินหาย ชดุ วิชาการเงนิ เพอ่ื ชวี ิต 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยที่ 1 วา่ ดว้ ยเรือ่ งของเงนิ

34 4. การชำระเงนิ ผ่านออนไลน์ (online payment) ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีและนำมาใช้เป็นช่องทางการชำระเงินผ่าน ออนไลน์ เพือ่ เพม่ิ ทางเลอื กและอำนวยความสะดวกตอ่ ผู้ใช้บริการในการทำธุรกรรมทางการเงิน แบ่งออกเปน็ 1) การชำระเงินผ่าน internet banking ซึ่งเป็นบริการที่ผู้ใช้บริการ สามารถโอนเงิน ชำระเงินคา่ สินค้าและบรกิ ารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ โดยจะตัดเงินออกจากบัญชีเงินฝากทันที นอกจากน้ียังสามารถตรวจสอบยอดเงินในบัญชี เรยี กดรู ายการใช้จ่ายยอ้ นหลงั ได้ โดยสามารถสมัครใชบ้ รกิ ารกับธนาคารท่ีผู้ใช้บรกิ ารมบี ัญชีเงิน ฝากอยู่ สำหรับการซื้อของทางอินเทอร์เน็ต ระบบของร้านค้าบางแห่งจะเชื่อมโยงไปยังระบบ internet banking ของธนาคารเพื่อตรวจสอบและอนุมัติรายการชำระเงิน หากทำรายการ สำเร็จ ผใู้ ช้บริการจะไดร้ ับการยืนยันการทำรายการทางเว็บไซต์ ทาง SMS หรอื ทางอีเมลตามท่ี ไดแ้ จ้งลงทะเบยี นไวก้ บั ธนาคาร 2) การชำระเงินผ่านอุปกรณ์เคลื่อนท่ี (mobile banking) สามารถชำระ ค่าสินคา้ และบริการผา่ นเครือข่ายของระบบโทรศพั ทม์ ือถือ โดยผู้ใชต้ ้องดาวน์โหลดแอปพลเิ คชัน (application) ของธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงิน และลงทะเบียนเพื่อเชื่อมโยงบัญชีที่จะ ชำระเงินเข้ากับโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตก่อน อาทิ บัญชีธนาคาร บัตรเครดิต และเงิน อิเล็กทรอนกิ ส์ 3) การชำระเงินผา่ นเวบ็ ไซต์ของร้านค้าออนไลน์ดว้ ยบตั รเครดิต บตั รเดบติ หรือเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยสามารถซื้อสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่มีช่องทางชำระ เงินผ่านบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ซึ่งผู้ซื้อเพียงกรอกรายละเอียดการชำระเงิน เช่น หมายเลข บตั ร ชอ่ื ผู้ถือบัตร วนั หมดอายุ หมายเลขรหสั CVV1 รวมถงึ อาจต้องใส่รหัสผา่ น OTP2 ดว้ ย และ 1 CVV (card verification value) หรือ CVC (card verification code) คือ รหัสสำหรับการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น VISA และ MasterCard ใชเ้ ลข 3 หลกั ด้านหลงั บัตร สว่ นของ American Express ใช้เลข 4 หลักด้านหนา้ บตั ร 2 OTP (one time password) เป็นรหัสที่ใช้ครั้งเดียว โดยผู้ออกบัตรจะส่งให้แก่ผู้ถือบัตรผ่าน SMS หรือส่งทางอีเมล ตามทผี่ ูถ้ ือบตั รได้ลงทะเบียนไว้ เพือ่ ใชใ้ นการยืนยนั ตวั ตนความเป็นเจ้าของบัตร ชุดวิชาการเงินเพื่อชีวติ 3 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยที่ 1 ว่าด้วยเร่ืองของเงนิ

35 เมื่อการชำระเงินสำเร็จจะได้รับข้อความยืนยันการชำระเงินทางหน้าเว็บไซต์ ทาง SMS หรือ ทางอเี มล ตามท่ีได้แจง้ ลงทะเบยี นไวก้ ับธนาคารหรือผอู้ อกบตั ร ข้อดีของการชำระเงินผ่าน online payment สำหรบั ผใู้ ชบ้ รกิ าร สำหรับร้านค้า • ลดเวลาและคา่ ใช้จา่ ยในการทำธุรกรรม • ได้รบั เงนิ รวดเร็วเพราะเงินเขา้ บัญชโี ดยตรง ไม่ต้องเสยี เวลาเดนิ ทางไปท่ีรา้ นค้า เพราะ และลดความเสยี่ งในการจดั การเงินสด สามารถจัดการธุรกรรมได้ด้วยตัวเอง ทไี่ หน • มีช่องทางการชำระเงินให้ลูกคา้ เลือกมากขึน้ เมือ่ ไรก็ได้ ไมว่ า่ จะอยตู่ ่างจังหวดั หรอื ขายสินค้าได้ทกุ เวลา ไม่จำเปน็ ตอ้ งเปิด ต่างประเทศ หนา้ ร้าน • สามารถตรวจสอบรายการได้ตลอด • มีบันทกึ ขอ้ มลู การขาย และสรุปขอ้ มลู • ไมต่ อ้ งถอื เงินสดในการซื้อสนิ ค้า ทางบญั ชีได้อย่างรวดเรว็ 5. พร้อมเพย์ (PromptPay) พร้อมเพย์เป็นบริการที่ช่วยให้โอนเงินได้สะดวกขึ้น โดยใช้หมายเลข เช่น โทรศพั ทม์ ือถอื และ/หรือเลขบัตรประจำตัวประชาชนแทนการระบุเลขที่บญั ชีเงินฝากของผู้รับเงิน เริ่มจากเลือกบัญชีเงินฝากธนาคารที่ต้องการใช้เป็นบัญชีในการรับเงิน และแจ้งลงทะเบียนกับ ธนาคารผ่านช่องทางที่ธนาคารแต่ละแห่งเตรียมไว้บริการ เช่น เครื่องเอทีเอ็ม/internet banking/mobile banking หรือสาขาธนาคาร และจัดเตรียมเอกสารประกอบการลงทะเบียน ตามทธ่ี นาคารกำหนด เช่น สมดุ บัญชี หรือเลขที่บญั ชีเงนิ ฝากธนาคาร บตั รประจำตัวประชาชน โทรศพั ท์มอื ถอื ท่ีต้องการลงทะเบยี น สำหรับการลงทะเบียน ผู้โอนเงินไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนก็สามารถโอน เงินด้วยพร้อมเพย์ได้ แต่ผู้รับโอนต้องลงทะเบียนใช้บริการพร้อมเพย์ ผู้โอนจึงจะสามารถ โอนเงินผ่านระบบพร้อมเพย์มาให้แก่ผู้รับโอนได้ ซึ่งผู้รับโอนเงินนั้นจะต้องลงทะเบียนเพื่อผกู บัญชีธนาคารของตนเองกับหมายเลขโทรศัพทม์ อื ถือหรอื เลขประจำตัวประชาชนกอ่ น และแจ้ง หมายเลขดังกล่าวให้ผู้โอนทราบเพื่อรับเงินเข้าบัญชีที่ผูกไว้ โดยหมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือ ชดุ วชิ าการเงินเพอื่ ชีวติ 3 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 วา่ ด้วยเรื่องของเงนิ

36 เลขประจำตัวประชาชน 1 หมายเลขจะสามารถใช้ผูกหรือจับคู่กับบัญชีเงินฝากปลายทางได้ 1 บญั ช3ี (รายละเอยี ดตามภาพด้านล่าง) และสามารถยกเลกิ หรือเปลย่ี นแปลงการผกู บัญชไี ดต้ ลอด ขอ้ ควรปฏิบัติ ผู้รบั โอนเงิน 1. ตอ้ งลงทะเบยี นให้สำเร็จก่อนจงึ จะสามารถรับโอนเงนิ ผ่านระบบพร้อมเพยไ์ ด้ 2. หากต้องการเปลี่ยนบัญชีเงินฝากธนาคารที่ได้ลงทะเบียนผูกบัญชีไว้กับ บริการพร้อมเพย์ ต้องไปยกเลิกการลงทะเบียนกับธนาคารที่เคยผูกบัญชีไว้ก่อน แล้วจึงไป ลงทะเบียนผูกบัญชีกับธนาคารแหง่ ใหม่ 3 อนึ่ง บญั ชีเงินฝากธนาคาร 1 บญั ชสี ามารถผูกได้กับท้งั เลขประจำตวั ประชาชนและหมายเลขโทรศัพท์มอื ถอื และบญั ชี เงนิ ฝากธนาคาร 1 บัญชีสามารถผกู กบั หมายเลขโทรศพั ท์มอื ถอื ได้สงู สุดตามจำนวนที่ธนาคารกำหนด ชุดวชิ าการเงินเพือ่ ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยท่ี 1 วา่ ดว้ ยเรอื่ งของเงนิ

37 3. กรณีเปลี่ยน/ยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์มือถือที่ได้ลงทะเบียนผูกบัญชีไว้ แลว้ ต้องไปยกเลกิ การลงทะเบียนกับธนาคารทผ่ี กู ไว้โดยเร็ว และหากลูกค้ายงั ตอ้ งการใช้บริการ พร้อมเพย์ ต้องนำหมายเลขโทรศพั ทใ์ หมไ่ ปลงทะเบยี นใหม่กับธนาคารที่ลกู ค้าเลอื กใช้บริการ 4. ระมัดระวังรักษาอุปกรณ์ เช่น โทรศัพท์มือถือที่ใช้เชื่อมต่อทำธุรกรรม เก่ยี วกบั ระบบพร้อมเพย์เปน็ อยา่ งดี เพอื่ ไม่ใหผ้ ู้อ่นื เอาไปใชง้ านเช่นเดยี วกับการดแู ลบัตรเครดิต ผู้โอนเงิน ต้องตรวจสอบชื่อ-นามสกุลของผู้รับโอนเงินให้ถูกต้องก่อนยืนยัน การโอนเงินทุกครั้ง โดยควรเรียนรู้ ศึกษา วิธีการใช้งานอย่างปลอดภัย เช่น การตรวจสอบ ขอ้ มลู ใหถ้ ูกต้องกอ่ นการยนื ยนั การโอนเงิน 6. QR code เพ่ือการชำระเงนิ QR code ย่อมาจาก quick response code คือรหัสชนิดหนึ่งท่ีถูกพัฒนาขึ้น เพ่ือใช้ในการชำระเงนิ คา่ สินค้าและบรกิ าร ใน QR code จะมีข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการจ่ายเงินซื้อสินค้าต่าง ๆ โดยใช้ ควบคู่กับ mobile application ที่เชื่อมต่อกับบัตรเดบิต บัตรเครดิต บัญชีเงินฝากธนาคาร หรือบัญชี e-Wallet จึงเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการเพราะไม่ต้องพกบัตร หรอื ไมต่ ้องขอเลขทบ่ี ญั ชีร้านค้า หรอื หมายเลขโทรศพั ทจ์ ากรา้ นคา้ เพื่อโอนเงิน ขอ้ แนะนำการใชง้ านทีถ่ ูกตอ้ ง – กรณลี ูกค้า 1. ตรวจสอบจำนวนเงนิ ท่ีโอนและข้อมูลร้านคา้ ให้ถูกต้องก่อนการยืนยันการ จ่ายเงนิ ทุกคร้ัง เชน่ ชือ่ ผูร้ ับต้องตรงกบั ชือ่ ทรี่ ะบไุ วท้ ่ี QR code ของรา้ นคา้ ก่อนยืนยนั ยอด 2. ควรระมัดระวังการตั้งรหัสผู้ใช้งาน (username) รหัสผ่าน (password) ของ mobile application ให้คาดเดาได้ยาก และไม่บอกรหัสกับผู้อื่น หรือเขียนเอาไว้ในท่ี เปดิ เผย ขอ้ แนะนำการใชง้ านทถี่ ูกต้อง – กรณรี ้านค้า 1. หมั่นตรวจเช็ค QR code ให้ถูกต้องว่าเป็น QR code ของร้านค้าจริง (บญั ชขี องรา้ นค้าทีใ่ ช้รับเงิน) มิให้มิจฉาชพี นำ QR code ปลอมมาปดิ ทับได้ ชดุ วชิ าการเงินเพ่อื ชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หนว่ ยที่ 1 ว่าด้วยเรอื่ งของเงิน

38 2. ควรระบุชื่อบัญชีที่ใช้รับเงินไว้คู่กับ QR code ให้ลูกค้าสามารถใช้ ตรวจสอบกอ่ นยนื ยันการจา่ ยเงินอกี ครั้งหน่ึง ขอ้ ดีของการใช้ QR code 1. สะดวก ใช้งานง่าย ไม่ตอ้ งพกเงินสด 2. ปลอดภัย ไม่ต้องยื่นบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือให้ข้อมูลบัญชีธนาคาร แก่รา้ นค้า จงึ ไมต่ อ้ งเส่ียงกบั การโดนขโมยข้อมูล 3. มั่นใจ ระบบในการชำระเงินเป็นการบริการของธนาคารและผู้ให้บริการ ชำระเงินในปัจจุบัน ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ และระบบ QR code ของไทยเป็นไปตาม มาตรฐานสากล กิจกรรมทา้ ยเรื่องที่ 3 การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (ใหผ้ ู้เรยี นไปทำกจิ กรรมเร่ืองที่ 3 ทส่ี มุดบันทกึ กิจกรรมการเรยี นร)ู้ ชดุ วชิ าการเงนิ เพ่อื ชวี ติ 3 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2564) l หน่วยที่ 1 วา่ ด้วยเรอ่ื งของเงิน

39 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 การวางแผนการเงนิ สาระสำคัญ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปทำให้คนเราต้องใช้เงินในการดำรงชีพมากขึ้น จนทำให้ หลายครอบครัวเกิดปัญหาเงินไม่พอใช้ เราจึงจำเป็นต้องวางแผนการเงินเพื่อป้องกันและแก้ไข ปัญหาซึ่งในที่สุดแล้วอาจช่วยสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้เราได้ด้วย โดยเริ่มจากการประเมิน ตนเองเพื่อให้ทราบฐานะการเงินและรู้จักการใช้จ่ายของตนเองผ่านการจดบันทึกรายรับ- รายจ่าย แลว้ ต้งั เปา้ หมายการเงนิ ให้สอดคล้องกบั ฐานะทางการเงินและความสามารถของตนเอง รวมไปถงึ รู้จักการออมเงิน ระบบการออมเงนิ และบริการทางการเงินตา่ ง ๆ ตวั ชี้วัด 1. เข้าใจความสำคัญและบอกขัน้ ตอนการวางแผนการเงิน 2. อธบิ ายหลักการ และวธิ ีการคำนวณฐานะทางการเงิน 3. วิเคราะห์ความแตกต่างของ “ความจำเป็น” และ “ความต้องการ (อยากได้)” และจัดลำดับความสำคญั ของรายจา่ ย 4. บอกลักษณะและประโยชน์ และวิเคราะห์บนั ทกึ รายรับ-รายจา่ ย 5. อธิบายลักษณะของการมีสุขภาพการเงินที่ดี และประเมินสุขภาพการเงิน ของตนเอง 6. บอกประโยชนข์ องการมีเป้าหมายการเงนิ และเป้าหมายการเงนิ ที่ควรมีในชวี ิต 7. สามารถตั้งเปา้ หมายการเงิน และวางแผนการเงินของตนเองท่ีสอดคล้องกับ เปา้ หมายในชีวิต 8. อธิบายความหมาย และประโยชนข์ องการออม 9. ตง้ั เปา้ หมายการออมทีเ่ หมาะสมกับตนเอง 10. อธิบายหลักการออมใหส้ ำเรจ็ ชดุ วิชาการเงินเพื่อชีวติ 3 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การวางแผนการเงิน

40 11. มีความร้คู วามเข้าใจ รวมท้ังสามารถเลอื กผลติ ภัณฑ์เงินฝาก การลงทุน และ การประกันภัย ท่ีเหมาะสมกับตนเองได้ 12. บอกบทบาทหน้าที่และหลักการของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และ กองทนุ ประกนั สงั คม ขอบขา่ ยเนื้อหา 1. การวางแผนการเงิน 2. การประเมินฐานะการเงนิ 3. การต้ังเป้าหมายและจดั ทำแผนการเงนิ 4. การออม 5. การฝากเงิน การลงทุน และการประกันภัย สื่อการเรยี นรู้ 1. ชดุ วิชาการเงินเพือ่ ชีวิต 3 2. สมดุ เงินออมของศูนย์คุ้มครองผูใ้ ช้บริการทางการเงนิ 3. เวบ็ ไซต์ศูนยค์ ุ้มครองผูใ้ ชบ้ ริการทางการเงนิ (ศคง.): www.1213.or.th 4. เฟซบ๊กุ ศคง. 1213: www.facebook.com/hotline1213 เวลาทีใ่ ชใ้ นการศึกษา 36 ชั่วโมง ชดุ วชิ าการเงินเพอ่ื ชวี ติ 3 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2564) l หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การวางแผนการเงิน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook