Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การโค้ชเพื่อการรู้คิด พิมพ์ครั้งที่ 5_1544714623

การโค้ชเพื่อการรู้คิด พิมพ์ครั้งที่ 5_1544714623

Description: การโค้ชเพื่อการรู้คิด พิมพ์ครั้งที่ 5_1544714623

Search

Read the Text Version

บทท่ี 10 การประเมนิ ผลการโค้ช 337 แบบประเมินความสามารถในการแกป้ ัญหา คาชี้แจง 1. แบบประเมนิ น้ีใชป้ ระเมนิ ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. เขยี นระดับคะแนนลงในช่องผลการประเมนิ โดยใชเ้ กณฑ์การให้คะแนนดังนี้ 1 คะแนน หมายถงึ มคี วามสามารถในรายการทป่ี ระเมนิ เมอื่ ไดร้ ับการช่วยเหลอื 2 คะแนน หมายถึง มคี วามสามารถในรายการทป่ี ระเมินเม่ือไดร้ ับ คาแนะนา 3 คะแนน หมายถงึ มคี วามสามารถในรายการที่ประเมนิ ได้ด้วยตนเอง ชอื่ – สกลุ วเิ คราะห์ รายการประเมิน ตรวจสอบ รวม ปัญหา ผลการ วางแผน ดาเนินการ แกป้ ัญหา แกป้ ัญหา แกป้ ัญหา เกณฑก์ ารประเมิน 4 – 6 คะแนน ปรับปรงุ 7 – 8 คะแนน พอใช้ 9 – 10 คะแนน ดี 11 – 12 คะแนน ดีมาก

338 บทท่ี 10 การประเมินผลการโคช้ แบบประเมนิ ความใฝเ่ รียนรู้ คาชแ้ี จง 1. แบบประเมินนี้ใช้ประเมินความใฝ่รขู้ องผู้เรียน 2. เขยี นระดบั คะแนนลงในช่องผลการประเมนิ โดยใชเ้ กณฑ์การให้คะแนนดังน้ี 1 คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั เิ ม่ือได้รบั คาสัง่ 2 คะแนน หมายถึง ปฏิบัติด้วยตนเอง แต่ตอ้ งได้รบั คาแนะนาเพมิ่ เตมิ 3 คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง และเปน็ แบบอยา่ งของเพื่อน ช่ือ – สกลุ การ รายการประเมนิ รวม สืบเสาะ คน้ คว้า การคดิ การ การ วเิ คราะห์ ต้งั คาถาม จดบนั ทกึ เกณฑก์ ารประเมิน 4 – 6 คะแนน ปรับปรงุ 7 – 8 คะแนน พอใช้ 9 – 10 คะแนน ดี 11 – 12 คะแนน ดมี าก

บทท่ี 10 การประเมนิ ผลการโค้ช 339 แบบประเมินความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คมและส่ิงแวดล้อม คาชแ้ี จง 1. แบบประเมนิ น้ีใชป้ ระเมินความรับผดิ ชอบตอ่ สังคมและส่ิงแวดล้อมของผู้เรียน 2. เขียนระดับคะแนนลงในชอ่ งผลการประเมินโดยใช้เกณฑ์การใหค้ ะแนนดังนี้ 1 คะแนน หมายถึง ปฏิบตั เิ มื่อไดร้ บั คาส่ัง 2 คะแนน หมายถงึ ปฏบิ ตั ิด้วยตนเอง แตต่ ้องไดร้ ับคาแนะนาเพ่ิมเติม 3 คะแนน หมายถงึ ปฏิบัติดว้ ยตนเอง และเป็นแบบอยา่ งของเพอ่ื น ชอื่ – สกลุ การใช้ รายการประเมิน อนรุ ักษ์ รวม ทรพั ยากร และไม่ การใช้ กระทา ทาลาย อยา่ ง ทรัพยากร สิ่งตา่ งๆ สง่ิ แวดลอ้ ม ประหยัด ใหเ้ กิด รบั ผดิ ชอบ ประโยชน์ ต่อสังคม สงู สุด ส่วนรวม เกณฑ์การประเมิน 4 – 6 คะแนน ปรบั ปรงุ 7 – 8 คะแนน พอใช้ 9 – 10 คะแนน ดี 11 – 12 คะแนน ดีมาก

340 บทท่ี 10 การประเมินผลการโค้ช เกณฑก์ ารให้คะแนนความสามารถในการแก้ปญั หาทางคณิตศาสตร์ คาชแี้ จง 1. เกณฑ์การใหค้ ะแนนนี้ใช้สาหรับใหค้ ะแนนความสามารถในการแก้ปญั หา ทางคณิตศาสตร์ของผเู้ รียน 2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนนี้มรี ะดับคะแนน 4 ระดบั ไดแ้ ก่ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ และ 1 (ปรับปรุง) 3. โปรดพจิ ารณาข้อมูลอย่างหลากหลาย แลว้ บนั ทกึ คะแนนของผเู้ รยี นแต่ละคน โดยใชเ้ กณฑก์ ารใหค้ ะแนนตอ่ ไปน้ี คะแนน / ความสามารถทปี่ รากฏให้เหน็ ความหมาย 4 (ดมี าก) - ดาเนนิ การแก้ปัญหาไดส้ าเรจ็ ด้วยวธิ กี ารทห่ี ลากหลาย และมีความเหมาะสมกับปัญหา 3 (ด)ี - อธิบายเหตผุ ลในการใช้วธิ ีการแก้ปญั หาไดเ้ ขา้ ใจชดั เจน 2 (พอใช้) - ดาเนินการตรวจสอบและสะท้อนผลการแก้ปัญหาอย่างมี 1 (ปรับปรงุ ) ประสทิ ธภิ าพ - เกดิ ความรู้ใหม่จากการดาเนินการแกป้ ัญหา - ดาเนินการแกป้ ัญหาได้สาเร็จ - อธบิ ายเหตผุ ลในการใช้วธิ ีการแกป้ ญั หาได้เขา้ ใจชัดเจน - ดาเนินการตรวจสอบและสะท้อนผลการแก้ปัญหาอย่างมี ประสทิ ธิภาพ - ดาเนนิ การแก้ปญั หาได้บางสว่ น - อธิบายเหตุผลในการใชว้ ธิ กี ารแก้ปัญหาไดเ้ ขา้ ใจไดบ้ ้าง - ดาเนนิ การแก้ปญั หาได้เล็กน้อย

บทท่ี 10 การประเมนิ ผลการโคช้ 341 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลทางคณติ ศาสตร์ คาชแี้ จง 1. เกณฑ์การใหค้ ะแนนน้ใี ช้สาหรบั ให้คะแนนความสามารถในการใหเ้ หตผุ ล ทางคณติ ศาสตร์ของผเู้ รยี น 2. เกณฑ์การให้คะแนนนม้ี รี ะดบั คะแนน 4 ระดับ ได้แก่ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ และ 1 (ปรบั ปรุง) 3. โปรดพิจารณาขอ้ มูลอยา่ งหลากหลาย แลว้ บนั ทกึ คะแนนของผ้เู รยี นแต่ละคน โดยใช้เกณฑก์ ารให้คะแนนต่อไปน้ี คะแนน / ความสามารถทป่ี รากฏให้เห็น ความหมาย 4 (ดมี าก) - คาดคะเนคาตอบทีน่ ่าจะเป็นไปได้อย่างสมเหตสุ มผล - อธบิ ายเหตุผลประกอบการตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม 3 (ด)ี - สรปุ ผลของการตดั สนิ ใจได้อยา่ งเหมาะสม - คาดคะเนคาตอบท่ีนา่ จะเป็นไปได้อยา่ งสมเหตุสมผล 2 (พอใช้) - ระบุเหตุผลประกอบการตดั สินใจได้ 1 (ปรับปรุง) - คาดคะเนคาตอบท่ีนา่ จะเป็นไปได้โดยมีเหตผุ ลประกอบ - คาดคะเนคาตอบท่ีน่าจะเป็นไปได้แตไ่ มม่ ีเหตผุ ลประกอบ

342 บทท่ี 10 การประเมนิ ผลการโค้ช เกณฑ์การให้คะแนนความสามารถในการสื่อสาร การสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการนาเสนอ คาชแ้ี จง 1. เกณฑก์ ารให้คะแนนนใ้ี ชส้ าหรับใหค้ ะแนนความสามารถในการส่ือสาร การสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตรแ์ ละการนาเสนอของผู้เรียน 2. เกณฑก์ ารให้คะแนนนีม้ รี ะดบั คะแนน 4 ระดับ ไดแ้ ก่ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) และ 1 (ปรบั ปรุง) 3. โปรดพจิ ารณาข้อมูลอย่างหลากหลาย แลว้ บันทกึ คะแนนของผเู้ รยี นแต่ละคน โดยใชเ้ กณฑก์ ารให้คะแนนต่อไปน้ี คะแนน / ความสามารถที่ปรากฏใหเ้ ห็น ความหมาย 4 (ดีมาก) - ใช้ภาษาและสญั ลกั ษณ์ทางคณติ ศาสตร์ในการส่ือสาร สือ่ ความหมาย และนาเสนอได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม 3 (ด)ี - จัดระบบและเชอ่ื มโยงความคดิ ผา่ นกระบวนการสื่อสารได้ชดั เจน 2 (พอใช้) - สื่อสารความคดิ ทางด้านคณติ ศาสตร์อย่างต่อเน่อื งและชดั เจน - ใช้ภาษาและสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร 1 (ปรับปรงุ ) สอ่ื ความหมาย และนาเสนอได้อย่างถูกต้อง - จัดระบบและเชอ่ื มโยงความคิดผา่ นกระบวนการสื่อสารได้ - สื่อสารความคดิ ทางด้านคณิตศาสตร์อยา่ งต่อเนือ่ ง - ใชภ้ าษาและสญั ลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร สื่อความหมายและนาเสนอได้ - จัดระบบและเชือ่ มโยงความคิดผ่านกระบวนการสื่อสารได้ - ใชภ้ าษาและสัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ในการสื่อสาร สื่อความหมาย และนาเสนอยงั ไม่ถูกตอ้ ง - จัดระบบและเชือ่ มโยงความคิดยงั ไม่ชดั เจน

บทที่ 10 การประเมินผลการโคช้ 343 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนความสามารถในการเชอ่ื มโยงความรู้ตา่ งๆ ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเช่อื มโยงคณติ ศาสตรก์ บั ศาสตร์อ่ืนๆ คาชแ้ี จง 1. เกณฑก์ ารให้คะแนนนใ้ี ช้สาหรับให้คะแนนความสามารถในการเชอ่ื มโยงความรู้ ต่างๆ ทางคณติ ศาสตรแ์ ละเช่อื มโยงคณิตศาสตรก์ ับศาสตร์อื่นๆ ของผู้เรียน 2. เกณฑ์การให้คะแนนนม้ี ีระดบั คะแนน 4 ระดบั ได้แก่ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) และ 1 (ปรับปรงุ ) 3. โปรดพิจารณาข้อมูลอยา่ งหลากหลาย แล้วบันทกึ คะแนนของผเู้ รยี นแตล่ ะคน โดยใช้เกณฑก์ ารให้คะแนนตอ่ ไปน้ี คะแนน / ความสามารถทปี่ รากฏให้เห็น ความหมาย 4 (ดมี าก) - นาความรู้ตา่ งๆ ทางคณติ ศาสตร์มาใชใ้ นการเรยี นร้เู นื้อหาใหม่ ไดด้ ว้ ยตนเอง 3 (ดี) - นาความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั อย่างเหมาะสม 2 กับสถานการณต์ ่างๆ ไดด้ ้วยตนเอง พอใช้ - นาความรตู้ า่ งๆ ทางคณิตศาสตรม์ าใชใ้ นการเรียนรู้เนื้อหาใหม่ 1 ไดเ้ มอ่ื ได้รบั คาชแ้ี นะจากโค้ช ปรับปรงุ - นาความรทู้ างคณติ ศาสตร์ไปใชใ้ นชีวิตประจาวันอย่างเหมาะสม กับสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง เมอื่ ไดร้ ับคาชีแ้ นะจากโค้ช - นาความรตู้ ่างๆ ทางคณติ ศาสตร์มาใชใ้ นการเรียนรเู้ น้ือหาใหม่ ไดด้ ้วยตนเองเม่ือได้รับคาชี้นาจากโคช้ - นาความรทู้ างคณติ ศาสตร์ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันอย่างเหมาะสม กบั สถานการณ์ตา่ งๆ ได้ด้วยตนเอง เมอื่ ไดร้ บั คาชน้ี าจากโค้ช - นาความรู้ตา่ งๆ ทางคณิตศาสตร์มาใช้ในการเรียนรู้เน้ือหาใหม่ ได้เมื่อไดเ้ ห็นตัวอยา่ งจากโค้ช

344 บทที่ 10 การประเมนิ ผลการโคช้ เกณฑ์การใหค้ ะแนนความคดิ ริเรม่ิ สร้างสรรค์ คาชีแ้ จง 1. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนนใ้ี ชส้ าหรับให้คะแนนความคดิ รเิ รมิ่ สร้างสรรค์ของผู้เรยี น 2. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนนี้มรี ะดับคะแนน 4 ระดับ ได้แก่ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) และ 1 (ปรับปรงุ ) 3. โปรดพิจารณาข้อมลู อยา่ งหลากหลาย แลว้ บนั ทกึ คะแนนของผูเ้ รียนแต่ละคน โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนต่อไปนี้ คะแนน / ความสามารถท่ีปรากฏให้เห็น ความหมาย 4 (ดมี าก) สามารถแสดงความคดิ ริเริ่มใหมๆ่ ความคล่องแคลว่ ในการคิด ความยืดหยนุ่ ในการคิด และความละเอียดลออในการคิด 3 (ดี) ได้ดว้ ยตนเอง สามารถแสดงความคดิ รเิ ริ่มใหม่ๆ ความคล่องแคล่วในการคิด 2 (พอใช้) ความยืดหยุน่ ในการคิด และความละเอยี ดลออในการคิดได้ เมื่อได้รบั การกระตนุ้ 1 (ปรบั ปรุง) สามารถแสดงความคิดรเิ ริ่มใหม่ๆ ความคล่องแคล่วในการคิด ความยดื หยุ่นในการคิด และความละเอยี ดลออในการคิดได้ เม่อื ได้รบั การยกตวั อย่าง สามารถแสดงความคิดรเิ ร่ิมใหมๆ่ ความคล่องแคล่วในการคิด ความยืดหยนุ่ ในการคิด และความละเอยี ดลออในการคิดได้ โดยตอ้ งใหค้ าแนะนาอย่างใกลช้ ิด

บทท่ี 10 การประเมินผลการโค้ช 345 เกณฑ์การให้คะแนนการมีวิจารณญาณ คาชแี้ จง 1. เกณฑ์การให้คะแนนนใ้ี ชส้ าหรับให้คะแนนการคดิ อย่างมีวิจารณญาณของผ้เู รียน 2. เกณฑก์ ารให้คะแนนนม้ี รี ะดบั คะแนน 4 ระดบั ได้แก่ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ และ 1 (ปรับปรุง) 3. โปรดพจิ ารณาข้อมลู อยา่ งหลากหลาย แลว้ บนั ทกึ คะแนนของผู้เรียนแตล่ ะคน โดยใชเ้ กณฑก์ ารใหค้ ะแนนต่อไปนี้ คะแนน / พฤติกรรมที่ปรากฏให้เหน็ ความหมาย 4 (ดมี าก) ตดั สินใจปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรียนร้ไู ดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง มีเหตุมผี ล คานงึ ถงึ ผลท่จี ะเกิดข้ึนจากการตัดสินใจ และตรวจสอบผลของการตัดสนิ ใจ ดว้ ยตนเองอย่างสมา่ เสมอ 3 (ด)ี ตัดสินใจปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง มีเหตุมีผล คานึงถึงผลที่จะเกิดขนึ้ จากการตดั สินใจ และตรวจสอบผลของการ ตดั สินใจเมอ่ื ได้รับคาชแ้ี นะจากโค้ช 2 (พอใช้) ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมการเรียนร้ไู ดอ้ ยา่ งถกู ต้อง มเี หตุมีผล คานงึ ถงึ ผลทจ่ี ะเกิดข้นึ จากการตัดสินใจ และตรวจสอบผลของการ ตดั สนิ ใจเมือ่ ได้รับคาช้ีนาจากโคช้ 1 (ปรับปรุง) ตดั สินใจปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง มเี หตุมีผล คานึงถงึ ผลท่จี ะเกิดขน้ึ จากการตัดสินใจ และตรวจสอบผลของการ ตดั สินใจเมื่อได้รับคาสั่งจากโค้ช

346 บทท่ี 10 การประเมนิ ผลการโค้ช เกณฑ์การใหค้ ะแนนการทางานอย่างเปน็ ระบบรอบคอบ คาช้แี จง 1. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนนี้ใช้สาหรบั ให้คะแนนการทางานอยา่ งเปน็ ระบบรอบคอบ ของผู้เรยี น 2. เกณฑก์ ารให้คะแนนนมี้ รี ะดบั คะแนน 4 ระดับ ได้แก่ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช)้ และ 1 (ปรับปรุง) 3. โปรดพิจารณาขอ้ มูลอย่างหลากหลาย แล้วบนั ทกึ คะแนนของผเู้ รียนแต่ละคน โดยใชเ้ กณฑ์การใหค้ ะแนนต่อไปนี้ คะแนน / พฤติกรรมทปี่ รากฏใหเ้ ห็น ความหมาย 4 (ดมี าก) ทางานอย่างมีแผนการ มีลาดับขน้ั ตอน ระมดั ระวัง ไม่เผอเรอ มีการตรวจสอบความถูกต้องของงาน ด้วยตนเองอยา่ งสม่าเสมอ 3 (ดี) ทางานอย่างมแี ผนการ มีลาดับขั้นตอน ระมดั ระวัง ไม่เผอเรอ มกี ารตรวจสอบความถกู ต้องของงานด้วยตนเองเมอ่ื ไดร้ ับ 2 (พอใช้) การกระต้นุ ทางานอย่างมีแผนการ มีลาดับขนั้ ตอน ระมดั ระวงั ไม่เผอเรอ 1 (ปรบั ปรุง) มกี ารตรวจสอบความถูกตอ้ งของงานด้วยตนเองเมือ่ ไดร้ บั การกากบั ดูแลห่างๆ ทางานอย่างมีแผนการ มลี าดับข้นั ตอน ระมดั ระวัง ไม่เผอเรอ มีการตรวจสอบความถูกต้องของงานดว้ ยตนเองเม่ือได้รับคาส่งั หรือการควบคุมอยา่ งใกลช้ ิด

บทท่ี 10 การประเมนิ ผลการโคช้ 347 เกณฑ์การใหค้ ะแนนความมีระเบยี บวินยั คาช้แี จง 1. เกณฑ์การใหค้ ะแนนนีใ้ ช้สาหรบั ให้คะแนนความมรี ะเบยี บวนิ ยั ของผู้เรียน 2. เกณฑ์การให้คะแนนนีม้ ีระดับคะแนน 4 ระดบั ได้แก่ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) และ 1 (ปรับปรงุ ) 3. โปรดพิจารณาขอ้ มลู อยา่ งหลากหลาย แลว้ บนั ทึกคะแนนของผเู้ รียนแตล่ ะคน โดยใช้เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนต่อไปนี้ คะแนน / พฤติกรรมทป่ี รากฏใหเ้ หน็ ความหมาย 4 (ดีมาก) ปฏิบตั ติ นตามข้อกาหนดของชั้นเรียน หรอื ข้อกาหนดในการทา กจิ กรรมการเรยี นรู้ด้วยตนเองอย่างสม่าเสมอ 3 (ดี) ปฏบิ ตั ติ นตามข้อกาหนดของช้ันเรยี น หรือข้อกาหนดในการทา กจิ กรรมการเรียนรดู้ ้วยตนเองเมอ่ื ไดร้ บั การกระตนุ้ 2 (พอใช้) ปฏิบัตติ นตามข้อกาหนดของช้ันเรียน หรอื ขอ้ กาหนดในการทา กจิ กรรมการเรียนรู้ดว้ ยตนเองเมอ่ื ไดร้ บั การกากบั ดแู ลห่างๆ 1 (ปรบั ปรุง) ปฏิบัตติ นตามข้อกาหนดของช้ันเรียน หรอื ขอ้ กาหนดในการทา กิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยตนเองเมือ่ ได้รบั คาส่งั หรือการควบคุม อยา่ งใกล้ชิด

348 บทที่ 10 การประเมินผลการโค้ช เกณฑก์ ารให้คะแนนความรบั ผิดชอบ คาชแ้ี จง 1. เกณฑก์ ารให้คะแนนน้ใี ชส้ าหรับใหค้ ะแนนความรบั ผดิ ชอบของผเู้ รียน 2. เกณฑก์ ารให้คะแนนนี้มีระดบั คะแนน 4 ระดบั ได้แก่ 4 (ดีมาก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ และ 1 (ปรบั ปรงุ ) 3. โปรดพิจารณาข้อมลู อยา่ งหลากหลาย แลว้ บนั ทึกคะแนนของผ้เู รียนแต่ละคน โดยใชเ้ กณฑก์ ารให้คะแนนตอ่ ไปนี้ คะแนน / พฤติกรรมทป่ี รากฏให้เหน็ ความหมาย 4 (ดีมาก) ปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรียนรดู้ ้วยความตัง้ ใจเต็มความสามารถ ดว้ ยตนเองอย่างสมา่ เสมอ และยอมรบั ผลของการกระทาของ 3 (ด)ี ตนเองทุกคร้งั ปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเรยี นรู้ดว้ ยความต้ังใจเต็มความสามารถ 2 (พอใช้) ด้วยตนเองเมื่อไดร้ ับการกระตุ้น และยอมรับผลของการ กระทาของตนเองเมื่อไดร้ ับการกระตุ้น 1 (ปรับปรุง) ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการเรยี นรู้ดว้ ยความตัง้ ใจเต็มความสามารถ ดว้ ยตนเองเม่ือได้รับการตักเตือน และยอมรับผลของการ กระทาของตนเองเม่ือมีการสรา้ งเง่ือนไขตา่ งๆ ปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรยี นรดู้ ้วยความตั้งใจเต็มความสามารถ ด้วยตนเองเมื่อไดร้ ับคาส่ัง และยอมรบั ผลของการกระทา ของตนเองเมอ่ื มีข้อมลู หลกั ฐานมาสนบั สนนุ

บทท่ี 10 การประเมนิ ผลการโคช้ 349 เกณฑ์การใหค้ ะแนนความเช่อื มน่ั ในตนเอง คาช้ีแจง 1. เกณฑ์การให้คะแนนน้ีใช้สาหรบั ให้คะแนนความเชื่อมน่ั ในตนเองของผ้เู รียน 2. เกณฑ์การให้คะแนนนม้ี ีระดับคะแนน 4 ระดบั ไดแ้ ก่ 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) และ 1 (ปรบั ปรุง) 3. โปรดพจิ ารณาขอ้ มลู อย่างหลากหลาย แลว้ บันทกึ คะแนนของผเู้ รยี นแต่ละคน โดยใชเ้ กณฑก์ ารใหค้ ะแนนต่อไปน้ี คะแนน / พฤติกรรมทป่ี รากฏให้เหน็ ความหมาย 4 (ดีมาก) พดู แสดงความคิดเหน็ ตอบคาถาม ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม การเรยี นรู้ และนาเสนอผลงานได้ด้วยตนเอง 3 (ดี) พูดแสดงความคิดเห็น ตอบคาถาม ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม การเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงานได้ดว้ ยตนเอง 2 (พอใช้) เม่ือไดร้ บั การเสรมิ แรง พดู แสดงความคิดเห็น ตอบคาถาม ปฏิบัตกิ ิจกรรม 1 (ปรบั ปรงุ ) การเรียนรู้และนาเสนอผลงานไดด้ ว้ ยตนเอง เมือ่ ไดร้ บั การเสริมแรง หรือเงื่อนไขต่างๆ พดู แสดงความคิดเห็น ตอบคาถาม ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม การเรียนรู้ และนาเสนอผลงานของตนเอง โดยไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากโค้ชหรือเพื่อนผู้เรยี น

350 บทท่ี 10 การประเมินผลการโคช้ 10.4 การสะท้อนผลการประเมินทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ การสะท้อนผลการประเมิน เป็นปัจจัยสาคัญของการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิด แรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความสามารถด้านการรู้คิด รวมท้ัง พฤติกรรมท่ีดีขึ้น การสะท้อนผลการประเมินมีเป้าหมาย 3 ประการ ได้แก่ 1) ผู้เรียน ได้รบั ทราบผลการประเมนิ ท่ีถูกต้อง 2) ผู้เรียนได้รับการสะท้อนผลการประเมินเชิงบวก จากโค้ช และ 3) ผู้เรียนมีแรงบันดาลใจและความมุ่งม่ันในการเรียนรู้ ปรับปรุงและ พฒั นาตนเอง 1. ผู้เรียนได้รับทราบผลการประเมินท่ีถูกต้อง หมายถึง การที่ผู้เรียน สามารถเขา้ ถึงผลการประเมนิ ของตนเองซึ่งเป็นผลการประเมินที่ถูกต้องมีประสิทธิภาพ และสามารถนามาใช้เป็นสารสนเทศสาหรับการปรับปรุงและพัฒนาตนเองได้อย่างเป็น รปู ธรรม มีทิศทางในการพัฒนาทีช่ ดั เจน และมีความเปน็ ไปได้ 2. ผู้เรียนได้รับการสะท้อนผลการประเมินเชิงบวกจากโค้ช หมายถึง การที่ผู้เรียนได้รับการส่ือสารผลการประเมิน รวมทั้งแนวทางการปรับปรุงและพัฒนา จากโคช้ ในรูปแบบต่างๆ ทง้ั ที่เปน็ วัจนภาษา และอวัจนภาษา อย่างสร้างสรรค์ มีความ เปน็ กัลยาณมิตร สร้างแรงบนั ดาลใจในการปรบั ปรุงและพฒั นาตนเองให้ดียง่ิ ขึ้น 3. ผู้เรยี นมีแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นในการปรับปรุงและพัฒนา ตนเอง หมายถึง การที่ผู้เรียนมีแรงบันดาลใจ มีความมุ่งม่ัน และมีเป้าหมายของการ ปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างสอดคล้องกับผลการประเมิน และได้ดาเนินการ ปรับปรงุ และพัฒนาตนเองให้บรรลเุ ปา้ หมายน้นั ดว้ ยวธิ กี ารท่เี หมาะสม

บทที่ 10 การประเมินผลการโคช้ 351 สรุป สาระสาคัญท่ีนาเสนอในบทนี้ ได้กล่าวถึงการประเมินผลการโค้ช โดยมี แนวความคิดในการประเมินผลการเรียนรู้ที่เน้นการประเมินเพ่ือการปรับปรุงและ พัฒนา (assessment for improvement) โดยแบ่งแนวทางการประเมินออกเป็น 3 แนวทาง ได้แก่ 1) การประเมินเพื่อการเรียนรู้ 2) การประเมินขณะเรียนรู้ และ 3) การประเมินผลการเรียนรู้ โดยหลักการประเมินผลการเรียนรู้ที่เสริมพลัง มีอยู่ 4 ประการ ดังน้ี 1) ใช้ผู้ประเมินหลายฝ่าย 2) ใช้วิธีการและเครื่องมือหลายชนิด 3) วัด และประเมินหลายครั้ง 4) สะท้อนผลการประเมินสู่การปรับปรุงและพัฒนา สาหรับ วธิ ีการประเมินท่ีเสริมพลังตามสภาพจริงมีหลายวิธี เช่น การสังเกตพฤติกรรม การใช้ เกณฑ์การให้คะแนน การใช้แฟ้มสะสมผลงาน การรายงานตนเอง การประเมิน ภาคปฏิบัติ การจัดทาโครงงาน หรือนิทรรศการ การทดลองหรือการสาธิต และวิธีการ อื่นๆ ที่โค้ชควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับบริบท อน่ึงการประเมินผลการโค้ชมีความ แตกต่างจากการตรวจสอบความเข้าใจ (checking for understanding) ตรงท่ีการ ประเมินให้ความสาคัญกับการนาไปสู่การพัฒนา ซ่ึงจาเป็นต้องมีเครื่องมือการ ประเมินที่มีคุณภาพ และใช้การสะท้อนผลการประเมิน เป็นปัจจัยสาคัญของการ กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองให้มีความรู้ ความสามารถด้าน การรู้คิด รวมทั้งพฤติกรรมที่ดีข้ึน การสะท้อนผลการประเมินมีเป้าหมาย 3 ประการ ไดแ้ ก่ 1) ผ้เู รียนได้รับทราบผลการประเมินที่ถูกต้อง 2) ผู้เรียนได้รับการสะท้อนผลการ ประเมินเชงิ บวกจากโคช้ และ 3) ผู้เรียนมแี รงบันดาลใจและความมุ่งม่ันในการปรับปรุง และพฒั นาตนเอง

352 บทท่ี 10 การประเมินผลการโค้ช หวั ใจ“ ของการประเมนิ ท่ีนาไปสสู่ ารสนเทศท่ีถูกต้อง มีคณุ ภาพจะตอ้ งมีเครอ่ื งมือการประเมินท่ี ”

บทที่ 10 การประเมนิ ผลการโค้ช 353 บรรณานุกรม วิชยั วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล. (2558). จากหลกั สูตรแกนกลางสู่หลักสูตร สถานศกึ ษา: กระบวนทศั น์ใหม่การพัฒนา. (พิมพ์ครัง้ ท่ี 7). กรงุ เทพฯ: จรัลสนิทวงศก์ ารพิมพ์ จากดั . Battista, Michael T. (2012). Cognition – Based Assessment & Teaching of Geometric Measurement: Building on Student’s Reasoning. Portsmouth: Heinemann. Ebel, Robert L. (1979). Essentials of Educational Measurement. New Jersey: Prentice Hall. Hodges, John R. (2007). Cognitive Assessment for Clinicians. 2nded. New York: Cambridge University Press. Leighton, Jacqueline., and Gierl, Mark J. (2011). The Learning Science in Educational Assessment: The Role of Cognitive Models. New York: Cambridge University Press. Marzano, Robert J. (2000). Transforming Classroom Grading. Alexandria: Association for Supervision and Curriculum Development. Moss. Pamela A., and other. (2008). Assessment, Equity, and Opportunity to Learn. New York: Cambridge University Press. Scharmer, C. Otto. (2007). Theory – U Leading From The Future As It Emerges. San Francisco: Berrett – Koehler Publishers. Sprenger, Marilee. (2008). Differentiation Through Learning Styles and Memory. 2nded. California: Corwin Press. Tan, Oon – Seng., and Seng, Alice Seok – Hoon. (2008). Cognitive Modifiability in Learning and Assessment: International Perspectives. Singapore: Cengage Learning Asia Pte Ltd.

354 บทที่ 10 การประเมนิ ผลการโคช้ “โคช้ ท่ีดี ตอ้ งไดใ้ จเด็ก นงั่ อย่ใู นหัวใจเดก็ เดก็ จะเรยี นรู้สง่ิ ต่างๆ ทกุ เรอ่ื งได้อย่างมหศั จรรย์”

การโค้ชเพอ่ื การรคู้ ิด (Cognitive Coaching) 355 ดรรชนคี ำสำคญั หน้ำ 41 คำสำคญั 298 Administrator coaching 299 Advance organizer 42 Classroom – based assessment 299 Cognitive coaching 298 Cognitive quided 42 Concept mapping 300 Content coaching 41 Dialogue 275 Expert coaching 274 Feedback เพม่ิ พลงั การตรวจสอบตนเอง 274 Feedback เพ่มิ พลงั ปรารถนา 299 Feedback ส่งเสรมิ การใชค้ วามพยายาม 42 Group discussion 42 Instructional coaching 298 Leadership coaching 42 Learning outcomes mapping 277 Literacy coaching 41 Mental model 301 Peer coaching 298 Peer coaching 277 Power questions Reflection for action

356 การโค้ชเพอ่ื การรคู้ ดิ (Cognitive Coaching) หนำ้ 277 ดรรชนีคำสำคญั 276 299 คำสำคญั 300 Reflection in action 300 Reflection on action Root cause misconceptions analysis 8 Self – assessment 183 Self – reflection 183 three R’s 183 กระต้นุ การคิดข้ันสูง 183 กระตนุ้ ความต้องการและความสนใจ 91 กระตนุ้ แรงบันดาลใจ 49 กระตุ้นวนิ ัยในตนเอง 89 กระบวนการทางปญั ญา 92 กระบวนการทางสตปิ ญั ญา กระบวนการทางสมอง 1 กระบวนการประมวลผลข้อมูลสารสนเทศ 89 กระบวนการรู้คดิ 16 กระบวนการรู้คิดของสมอง 184 กระบวนการเรียนรู้ 147 กลวั การถกู ต้ังคาถาม 69 กัลยาณมิตรธรรม 68 การกาหนดทางเลือก 56 การกาหนดเปา้ หมาย การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์

การโค้ชเพอื่ การรูค้ ดิ (Cognitive Coaching) 357 ดรรชนีคำสำคญั หน้ำ 102 คำสำคัญ 56 การค้นคืน 104 การคดิ 105 การคดิ 105 การคิดขัน้ พืน้ ฐาน 111 การคิดขัน้ สูง 111 การคดิ เชงิ ตรรกะ 111 การคดิ เชงิ ระบบ 112 การคิดเชิงเหตผุ ล 112 การคดิ ไตรต่ รอง 110 การคิดริเริ่ม 256 การคิดวิเคราะห์ 112 การคิดวิเคราะหแ์ ก้ปัญหาทต่ี ้นตอ 111 การคิดสร้างสรรค์ 111 การคดิ สังเคราะห์ 142 การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ 145 การเคารพ 142 การเคารพนับถือ 41 การเคารพศักดิ์ศรคี วามเปน็ มนุษย์ 42 การโค้ช 101 การโคช้ เพอื่ การรู้คิด 101 การจดั เกบ็ การจา

358 การโคช้ เพ่อื การรคู้ ิด (Cognitive Coaching) หน้ำ 156 ดรรชนคี ำสำคญั 10 10 คำสำคัญ 332 การช้แี จงเปา้ หมายให้กระจา่ ง 216 การใชก้ ระบวนการคิด 91 การใช้กระบวนการเรียนรจู้ ากบคุ คลอ่นื 154 การใชพ้ ลงั คาถามเพ่ือประเมิน 3P 213 การซกั ถามผเู้ รียน การซมึ ซบั 214 การซ่อื สัตย์ต่อบุคคลอืน่ การตรวจสอบความเขา้ ใจของผู้เรียนก่อนการเรยี นรู้ 213 การตรวจสอบความเข้าใจของผเู้ รยี นระยะติดตาม การเรียนรู้ 213 การตรวจสอบความเขา้ ใจของผเู้ รียนระหวา่ งการ 19 เรยี นรู้ 217 การตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรยี นหลงั การเรยี นรู้ 211 การตรวจสอบผลการเรยี นรู้ 68 การตรวจสอบผลงาน 66 การตรวจสอบวินิจฉยั 56 การตรวจสอบสภาพจริง 69 การตัง้ คาถามกระต้นุ การคิด 282 การตั้งคาถามและการฟัง 19 การตดั สินใจ การตดิ ตามพัฒนาการของผ้เู รียน การถอดบทเรยี น

การโคช้ เพ่ือการรคู้ ดิ (Cognitive Coaching) 359 ดรรชนีคำสำคัญ หนำ้ 65 คำสำคญั 278 การถอดบทเรียน 20 การถอดบทเรยี น 155 การถอดบทเรยี นการโคช้ 222 การทางานให้สาเรจ็ เห็นผล 25 การแนะนาใหผ้ ้เู รยี นไปเรียนรู้เพมิ่ เติมดว้ ยตนเอง 100 การบรู ณาการ 19 การแบง่ ความสนใจ 18 การปฏบิ ตั กิ ารโค้ช 156 การปฏิบัติการเรียนรู้ 330 การปฏิบัติงานดว้ ยสานึกรับผิดชอบ 330 การประเมนิ ก่อนเรียน 325 การประเมนิ การเรยี นรู้ 4 ชว่ งเวลา 325 การประเมินขณะเรียนรู้ 328 การประเมนิ ตนเอง 330 การประเมินตามสภาพจริงรายบุคคล 60 การประเมนิ ตดิ ตามผล 19 การประเมนิ ทเ่ี สริมพลัง 70 การประเมนิ ผลการโคช้ 326 การประเมินผลการโค้ช 325 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 326 การประเมินเพื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ รวบยอด

360 การโคช้ เพ่อื การรคู้ ดิ (Cognitive Coaching) หน้ำ 325 ดรรชนีคำสำคญั 330 330 คำสำคญั 91 การประเมนิ ระหว่างทาง 300 การประเมนิ ระหวา่ งเรยี น 142 การประเมินหลังเรยี น 95 การปรบั กระบวนการร้คู ดิ 156 การเปลี่ยนแปลงจากดา้ นใน 43 การเปิดเผย 155 การแปลความหมาย 154 การเผชญิ กับความจริง 25 การฝกึ 156 การพัฒนาให้ดีขึน้ 282 การพดู ตรงและชดั เจน 154 การเพิ่ม 26 การฟงั 58 การฟงั อยา่ งสงบ 59 การมีความโปรง่ ใส 145 การมีโครงงานทางานรว่ มกนั 154 การมวี นิ ยั ในตนเอง 157 การยอมรับ 156 การยอมรบั ในความสามารถ การยอมรับผดิ การรักษาและเพิ่มความไวว้ างใจ การรักษาสัจจะ

การโคช้ เพื่อการรูค้ ดิ (Cognitive Coaching) 361 ดรรชนีคำสำคัญ หนำ้ 95 คำสำคัญ 98 การรับรู้ 89 การรับรู้ความสามารถในตนเอง 25 การรู้คดิ 15 การเรียนแบบ Multi – Disciplinary 1 การเรียนเพื่อรู้ 90 การเรยี นรู้ 16 การเรียนรเู้ ชิงรบั 90 การเรียนร้เู ชงิ รุก 89 การเรยี นรู้เชงิ รุก 25 การเรียนรู้ดา้ นการรู้คดิ 17 การเรียนรทู้ ีจ่ ะฟงั 90 การเรยี นรทู้ เ่ี นน้ การปฏิบตั ิกจิ กรรม 24 การเรียนรู้ทเ่ี น้นการรคู้ ดิ 25 การเรยี นรทู้ ี่มีความยืดหยุ่น 17 การเรียนรใู้ นสงั คมพหุวฒั นธรรม 16 การเรียนรเู้ พื่อการเปล่ยี นแปลง 16 การเรียนรู้เพื่อการอยรู่ ่วมกนั 16 การเรยี นรู้เพื่อชวี ติ 103 การเรียนรเู้ พื่อปฏบิ ัติได้จรงิ 295 การเรยี นรู้ภาษา 140 การเรยี นรู้สว่ นบคุ คล การเรียนรู้อย่างมีความสุข

362 การโคช้ เพ่อื การรคู้ ิด (Cognitive Coaching) หนำ้ 10 ดรรชนคี ำสำคัญ 101 25 คำสำคญั 100 การลงมือปฏิบัติจรงิ ด้วยตนเอง 26 การลงรหสั 19 การลด 18 การเลือกสิ่งทใ่ี ห้ความสนใจ 275 การแลกเปล่ียนเรียนรู้ 17 การวางแผนการโคช้ 183 การวางแผนการเรยี นรู้ 21 การสรา้ ง self – talk 223 การสรา้ งความตระหนักร้ใู นตนเองท่ีแท้จริง 276 การสร้างแรงจูงใจภายใน 276 การสอน 327 การสอนซ่อมเสริม 215 การสะท้อนคิด 274 การสะท้อนคิด 3 ระยะ 273 การสะท้อนผล 149 การสงั เกตพฤติกรรมผูเ้ รียน 149 การสอ่ื สารความคิดความรูส้ ึก 281 การสอ่ื สารเชงิ บวก 325 การสื่อสารดว้ ยภาษาที่มีพลงั การสือ่ สารที่มีประสทิ ธิภาพ การส่ือสารในแนวราบ การสื่อสารส่วนบคุ คล

การโคช้ เพ่อื การรู้คิด (Cognitive Coaching) 363 ดรรชนีคำสำคัญ หน้ำ 149 คำสำคัญ 26 การสือ่ สารอย่างสรา้ งสรรค์ 167 การเสริมพลงั 25 การแสวงหาความรู้ 154 การหลอมรวม 179 การให้เกยี รติและเคารพ 273 การให้ข้อมลู เพอื่ กระตนุ้ การเรียนรู้ 222 การใหข้ ้อมลู ย้อนกลับอย่างสร้างสรรค์ 223 การให้คาอธิบายเพ่ิมเตมิ หรือทาตวั อยา่ ง 222 การให้ฝกึ ทักษะเพ่ิมเติม 65 การใหเ้ พื่อนชว่ ยเพ่ือน 102 แกไ้ ขปรบั ปรุงข้อผิดพลาดให้ผูเ้ รยี น 77 ข้อมลู ขนาดใหญ่ 97 คนสมบูรณ์แบบ 59 คล่ืนอลั ฟา 105 ความเข้าใจ 283 ความคดิ 59 ความคิดที่แฝงอยูภ่ ายใน 102 ความจริงใจ 102 ความจาทางาน 102 ความจาระยะยาว 94 ความจาระยะสน้ั ความซบั ซ้อน

364 การโคช้ เพื่อการรคู้ ดิ (Cognitive Coaching) หน้ำ 181 ดรรชนคี ำสำคัญ 180 181 คำสำคญั 96 ความตอ้ งการความผูกพัน 184 ความต้องการความสาเร็จ 145 ความต้องการอานาจ 66 ความน่าสนใจของส่ิงเรา้ 60 ความปลอดภัย 60 ความปลอดภยั ท้งั ทางร่ายกายและจติ ใจ 61 ความผกู พนั ของผเู้ รียนกับโค้ช 61 ความร้เู กย่ี วกับการวิจยั 139 ความรเู้ กยี่ วกบั เทคโนโลยี 99 ความรู้เกี่ยวกบั สาระทส่ี อน 167 ความร้ใู นวธิ ีการสอน 142 ความไวว้ างใจ 103 ความสนใจ 167 ความสมา่ เสมอในการโค้ช 259 ความสอดคล้องกนั 184 ความสามารถด้านภาษา 186 ความอดทน 284 คาถามท่กี ระตนุ้ การคิด 21 คาถามท่ีกระตุน้ ความอยากรู้ คาถามทด่ี มี ีค่ามากกว่าคาตอบทีถ่ กู ต้อง คาพูดท่ไี มส่ รา้ งสรรคแ์ ละสร้างสรรค์ โค้ช

การโค้ชเพ่อื การร้คู ิด (Cognitive Coaching) 365 ดรรชนีคำสำคัญ หนำ้ 21 คำสำคญั 54 โคช้ การรคู้ ดิ 74 จรณทักษะ 89 จริตในการเรียนรู้ 10 จิต 11 จินตมยปญั ญา 24 จินตะ 21 จุดเนน้ การเรยี นรู้ 14 ชีแ้ นะ 14 ชวี ติ คือการเรยี นรู้ 14 ชวี ติ เพื่อการเรียนรู้ 262 ชีวติ แหง่ การเรียนรู้ 281 ชื่นชมคาตอบของผเู้ รียน 281 ใช้ภาษากายท่ีมีประสิทธภิ าพ 262 ใช้ภาษาเชงิ บวก 263 ตกลงกบั ผู้เรยี นว่าทุกคาตอบลว้ นเป็นสง่ิ ทมี่ คี ณุ คา่ 326 ตัง้ คาถามใหม่ทงี่ ่ายกวา่ คาถามเดิม 262 ตัดสินผลการเรียนรู้ 114 ถามดว้ ยคาถามท่ีชัดเจนและเฉพาะเจาะจง 120 ทฤษฎกี ารเรียนรู้กลมุ่ Gestalt 123 ทฤษฎกี ารเรยี นรู้ของ Gagné 117 ทฤษฎีการเรยี นรู้อยา่ งมีความหมาย ทฤษฎีเคร่ืองหมาย

366 การโคช้ เพ่อื การรคู้ ิด (Cognitive Coaching) หน้ำ 119 ดรรชนีคำสำคญั 125 180 คำสำคัญ 116 ทฤษฎพี ฒั นาการทางสตปิ ัญญา 89 ทฤษฎพี ัฒนาการทางสตปิ ญั ญาของ Bruner 194 ทฤษฎแี รงจูงใจใฝส่ ัมฤทธ์ิ 58 ทฤษฎสี นาม 54 ทักษะการรู้คดิ 54 ทกั ษะการเลา่ เร่ือง 183 ทักษะการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 74 ทักษะทางวิชาการ 78 ทกั ษะทางสังคม 77 ทาใหผ้ เู้ รียนทราบผลลัพธ์การเรยี นรู้ 329 โทสจริต นักสงั เกตการณ์ 9 นกั แสดง 75 บทบาทของโค้ชในการประเมินการเรียนรู้ 75 บุพภาคของการศึกษา 75 แบบแขง่ ขัน 75 แบบพงึ่ พา 75 แบบมีสว่ นรว่ ม 75 แบบร่วมมือ 9 แบบหลีกเล่ยี ง แบบอสิ ระ ปรโตโฆสะ

การโคช้ เพอ่ื การร้คู ดิ (Cognitive Coaching) 367 ดรรชนคี ำสำคญั หนำ้ 211 คำสำคัญ 97 ประคบั ประคอง 95 ประสบการณ์ 103 ประสบการณ์เดิม 95 ประสาทวิทยาศาสตร์การรูค้ ดิ ประสาทสมั ผสั 9 ปัญญา 11 ปจุ ฉา 48 ผนู้ าการรู้คดิ 78 ผปู้ กปอ้ ง 79 ผปู้ ระสานไมตรี 78 ผภู้ ักดี 17 ผู้เรยี นทกุ คนสามารถเรยี นรู้และพัฒนาได้ 48 ผู้สอนยุคใหม่กับการโคช้ เพื่อการร้คู ิด 78 ผเู้ สพ 77 ผใู้ ห้ 21 ผเู้ ออื้ อานวยความสะดวกในการเรียนรู้ 236 พลังคาถาม 11 พหสู ตู 41 พี่เล้ยี ง 74 พทุ ธจริต 282 ฟงั ให้ได้ยนิ 10 ภาวนามยปญั ญา

368 การโค้ชเพ่อื การรคู้ ดิ (Cognitive Coaching) หนำ้ 65 ดรรชนคี ำสำคัญ 103 55 คำสำคัญ 60 ภาวะผูน้ าทางวิชาการ 60 ภาษา 55 มกี ารบริหารเวลาทด่ี ี 59 มคี วามม่ันคงในอารมณ์ 55 มคี วามยดื หยนุ่ 55 มคี วามสามารถในการใช้ภาษา 55 มีจริยธรรม 74 มีบคุ ลิกภาพที่ดี 263 มมี นษุ ยสมั พันธ์ดี 262 มีมารยาททางสงั คม 9, 105 โมหะจรติ 139 ไมข่ ัดจังหวะการตอบคาถามของผเู้ รียน 97 ไม่ยา้ คาถาม 95 โยนโิ นมนสกิ าร 74 ระดบั ของความสุข 63 ระดบั สติปญั ญา 63 ระบบประสาท 63 ราคะจริต 63 รู้จกั การคาดผล รูจ้ กั กาล รจู้ ักชมุ ชน รู้จักตน

การโคช้ เพอื่ การรคู้ ดิ (Cognitive Coaching) 369 ดรรชนีคำสำคัญ หน้ำ 63 คำสำคญั 63 รู้จกั บุคคล 63 รจู้ กั ประมาณ 223 ร้จู ักเหตุ 75 รปู แบบการรคู้ ิด 180 รูปแบบการเรยี นรู้ 179 แรงจงู ใจ 180 แรงจงู ใจภายใน 44 แรงบนั ดาลใจ 180 แรงบนั ดาลใจในการเรยี นรู้ 11 แรงปรารถนา 18 ลิขิต 261 วงจรการเรยี นร้สู ูก่ ารพฒั นา 284 วางแผนการใชพ้ ลังคาถามล่วงหนา้ 74 วาจาท่แี ชม่ ช่นื 92 วติ กจรติ 279 วิทยาศาสตร์การรู้คิด 329 วธิ กี ารถอดบทเรียน 26 วธิ ีการประเมินท่ีมปี ระสทิ ธิภาพ 179 วิธีการเสรมิ พลัง 261 วนิ ัยในตนเอง 74 เวน้ ระยะเวลาใหผ้ ูเ้ รียนคิดหาคาตอบ ศรทั ธาจรติ

370 การโค้ชเพื่อการรคู้ ิด (Cognitive Coaching) หนำ้ 22 ดรรชนคี ำสำคญั 167 97 คำสำคัญ 100 ศักยภาพในการเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง 183 ศกึ ษาคน้ คว้าและสรา้ งสรรค์นวัตกรรม 65 สภาวะทางจิตใจ 183 สมาธิ 64 สร้างความกระตอื รือรน้ 21 สรา้ งความท้าทายใหผ้ ู้เรียน 295 สรา้ งบรรยากาศทเ่ี อื้อต่อการเรียนรู้ 95 สร้างแรงบนั ดาลใจให้กบั ผู้เรียน 15 สะทอ้ นคดิ 55 สาระสาคญั 10 สง่ิ เรา้ 11 สเ่ี สาหลกั ทางการศึกษา 65 สอื่ สารอย่างมีประสทิ ธิภาพ 282 สตุ มยปญั ญา 262 สตุ ะ 44 สนุ ทรยี สนทนา 283 สุนทรียสนทนา 283 แสดงความสนใจต่อคาตอบของผูเ้ รยี น 283 หลักการโคช้ เพ่ือการรู้คิด หลักการเฝา้ ดูจติ ใจและความคิด หลกั การรบั ฟังอย่างลึกซึ้ง หลักความเทา่ เทยี ม

การโค้ชเพอื่ การรู้คิด (Cognitive Coaching) 371 ดรรชนีคำสำคัญ หน้ำ 261 คำสำคัญ 11 หลีกเลี่ยงการใช้คาถามท่ชี ีน้ าคาตอบ 65 หัวใจนักปราชญ์ 281 ใหก้ าลังใจสนับสนนุ ผู้เรียน 331 ให้ความเอาใจใสต่ ่อผเู้ รยี น องค์ประกอบ 3P ที่ใช้ในการประเมนิ ผ้เู รยี น 9 องค์ประกอบของการศึกษา 217 องค์ประกอบของคาถาม 95 อวยั วะรบั สมั ผัส 77 อารมณ์ศิลปนิ

373 ประวัติผู้เขียน ชื่อ รองศาสตราจารย์ ดร.วิชยั วงษใ์ หญ่ การศกึ ษา ปริญญาตรี : กศ.บ. วิทยาลัยวชิ าการศกึ ษา ประสานมิตร ปรญิ ญาโท : M.A. University of Georgia U.S.A. ปริญญาเอก : Ed.D. (การฝกึ หัดครู) University of Georgia U.S.A. การวจิ ัยหลังปริญญาเอกหลักสตู รและการสอน (Postdoctoral research curriculum and instruction) Indiana University U.S.A. ประสบการณ์ - อดีตคณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ - คณะกรรมการอานวยการพัฒนาหลกั สตู รและการพฒั นาครู บคุ ลากรทางการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธิการ - ประธานคณะอนุกรรมการพฒั นาหลักสตู รและการสอน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร - คณะกรรมการปฏริ ูปการเรียนรู้ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาแห่งชาตแิ ละ กระทรวงศกึ ษาธิการ - คณะกรรมการพัฒนาหลกั สตู ร การจดั การทรัพยากร วทิ ยาลัยปอ้ งกนั ราชอาณาจักร - ผเู้ ชยี่ วชาญพัฒนาข้าราชการ สานักงานขา้ ราชการพลเรอื น - คณะกรรมการพฒั นาเกณฑม์ าตรฐานหลักสตู ร สานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา - ประธานคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรระดบั ดุษฎบี ณั ฑติ สาขาการอดุ มศกึ ษา - คณะกรรมการบรหิ ารหลักสตู รระดบั ดษุ ฎบี ณั ฑติ สาขาการวจิ ยั และพัฒนาหลักสตู ร มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ - กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒสิ ภามหาวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ราชภฏั อตุ รดิตถ์ - กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ สิ ภาวชิ าการ มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ มหาวิทยาลัยราชมงคล มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั กาญจนบรุ ี

374 ประวตั ิผเู้ ขียน ชือ่ ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.มารุต พัฒผล การศึกษา ปริญญาตรี : กศ.บ. (คณติ ศาสตร)์ มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ (2544) ปรญิ ญาโท : กศ.ม. (การวจิ ัยและสถติ ทิ างการศกึ ษา) มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ (2546) ปรญิ ญาเอก : กศ.ด. (การวิจยั และพัฒนาหลกั สตู ร) มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ (2550) ตาแหนง่ ปจั จุบนั - อาจารย์ประจา สาขาการวจิ ยั และพัฒนาหลักสตู ร บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ ผลงานวชิ าการ มารุต พฒั ผล. (2558). การประเมินหลักสตู รเพ่อื การเรยี นรู้และพัฒนา. (พิมพค์ ร้งั ท่ี 3). กรุงเทพฯ: จรลั สนิทวงศ์การพิมพ์ จากดั . มารตุ พัฒผล. (2558). กระบวนทศั น์การโคช้ เพ่อื เสริมสร้างทักษะการสร้างสรรค์และนวตั กรรม. (พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1). กรงุ เทพฯ: จรลั สนิทวงศ์การพิมพ์ จากดั . วชิ ยั วงษ์ใหญ่ และมารตุ พัฒผล. (2558). กระบวนทัศน์การโคช้ เพ่ือเสรมิ สรา้ งการเรยี นรู้ แบบ Hands – On และ Minds - On. (พมิ พ์คร้ังท่ี 1). กรุงเทพฯ: จรลั สนิทวงศ์ การพิมพ์ จากัด. วชิ ยั วงษ์ใหญ่ และมารตุ พฒั ผล. (2558). การโค้ชเพอ่ื การรู้คิด. (พิมพ์ครัง้ ท่ี 4). กรุงเทพฯ: จรลั สนทิ วงศ์การพิมพ์ จากดั . วิชยั วงษใ์ หญ่ และมารตุ พฒั ผล. (2558). จากหลักสตู รแกนกลางสหู่ ลักสูตรสถานศึกษา: กระบวนทศั น์ใหมก่ ารพฒั นา. (พิมพ์ครัง้ ที่ 4). กรุงเทพฯ: จรลั สนทิ วงศก์ ารพมิ พ์ จากดั . มารตุ พัฒผล. (2553). การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้บรู ณาการที่สอดคลอ้ งกบั ท้องถนิ่ และการ ประเมนิ ผลระดับชน้ั เรยี น. กรุงเทพฯ: จรลั สนทิ วงศก์ ารพมิ พ์ จากัด. มารุต พัฒผล. (2553). การวิจยั ปฏบิ ัติการในช้นั เรยี น : ขบั เคลอ่ื นสู่งานประจาอย่างพอเพยี ง และยัง่ ยนื . กรงุ เทพฯ: จรลั สนทิ วงศก์ ารพมิ พ์ จากดั .

375 ผลงานวิจยั มารตุ พฒั ผล. (2558). รายงานการวิจัยฉบับสมบรู ณ์ เรื่อง รปู แบบการพฒั นาครูประถมศึกษา ด้านการโค้ชเพื่อการร้คู ดิ . กรงุ เทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ. มารุต พฒั ผล. (2557). รายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ เร่ือง การพัฒนารูปแบบการเสรมิ สรา้ ง ศักยภาพการจดั การเรียนรู้ของครโู รงเรียนตารวจตระเวนชายแดน. กรุงเทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ. มารุต พัฒผล. (2557). รายงานการวจิ ยั ฉบบั สมบรู ณ์ เร่ือง การศึกษาความเป็นไปไดใ้ นการจดั การศึกษาของวัดนวมนิ ทรราชทู ศิ เมืองบอสตัน รฐั แมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมรกิ า. กรุงเทพฯ: บัณฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. มารตุ พัฒผล. (2556). รายงานการวิจยั ฉบับสมบูรณ์ เร่อื ง รปู แบบการพัฒนาครดู า้ นการจดั การ เรียนรทู้ ่ีเสรมิ สรา้ งการรู้คิดและความสุขในการเรียนรู้ของผเู้ รียนระดับประถมศกึ ษา. กรงุ เทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ. มารุต พัฒผล. (2554). รายงานการวจิ ัยฉบับสมบูรณ์ เรอ่ื ง การพัฒนาหลักสตู รฝกึ อบรมครู เพือ่ เสรมิ สร้างการจดั การเรียนรู้โดยใชว้ ิจยั เปน็ ฐาน. กรุงเทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ. มารุต พัฒผล. (2553). รายงานการวิจยั ฉบับสมบรู ณ์ เรือ่ ง ผลการใชท้ ฤษฎยี ู (Theory - U) สาหรบั การประเมินหลกั สตู รระดบั บณั ฑติ ศึกษา. กรงุ เทพฯ: บณั ฑติ วิทยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ. มารตุ พัฒผล. (2552). รายงานการวิจยั ฉบับสมบูรณ์ เรอ่ื ง การพัฒนาความสามารถในการ จัดทาหนว่ ยการเรยี นรู้บูรณาการทส่ี อดคลอ้ งกบั ทอ้ งถน่ิ สารับผูส้ อนระดบั การศกึ ษา ขน้ั พน้ื ฐาน. กรงุ เทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั ศรนี ครนิ ทรวิโรฒ.

การโค้ชเพอื่ การรูค้ ดิ (Cognitive Coaching) พิมพค์ ร้ังที่ 5 (ฉบบั ปรับปรงุ ) รองศาสตราจารย์ ดร.วิชยั วงษ์ใหญ่ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.มารตุ พฒั ผ