แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 2. ครูแจกใบกิจกรรมให้นกั เรียนทกุ คน พร้อมกบั ตกลงเวลา โดยครูใช้คาถามเพ่ือกระ มีวงเล็บใช้วธิ ีการอยา่ งไร 3. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวิธีการดาเนนิ การของปัญหาการบวก ลบ คณู ห 4. เชื่อมโยงใบกิจกรรมของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เพื่อสรุปเป็ นแนวคิดในชนั้ เรียน ขัน้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธีการดาเนินการของปัญหาการบวก ลบ คณู หารระค วงเล็บ การวัดและประเมินผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด ตรวจใบกิจกรรม เรื่อง การดาเนนิ การ ใบกิจกรรม เรื่อง การดาเนนิ การของปัญห ของปัญหาการบวก ลบ คณู หาร บวก ลบ คณู หารระคน ระคน สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 88
ะต้นุ ให้นกั เรียนคิดหาวิธีการดาเนินการของปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน หารระคน คน เราสามารถดาเนินการในวงเล็บก่อน จงึ ดาเนินการตามเคร่ืองหมายนอก เกณฑ์การประเมิน หาการ ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 แผนท่ี 30 เร่ืองการบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนระคน (2) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถคานวณการบวก ลบ คณู หารระคนจานวนเศษสว่ นแบ 2. นกั เรียนสามารถวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารเศษส่วนได 3. นกั เรียนสามารถเชื่อมโยงการเวิเคราะห์โจทย์การบวก ลบ คณู หารเศษสว่ (S) 4. นกั เรียนมีความซื่อสตั ย์สจุ ริตในการทางานร่วมกบั เพื่อน ประพฤตติ รงต กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูทบทวนเร่ืองการบวก ลบ คณู หารระคน 2. ครูตงั้ คาถาม “45 + 12 ÷ 4 นกั เรียนมีวิธีการคานวณอยา่ งไร” 3 นกั เรียนอภิปรายในกลมุ่ เกี่ยวกบั จานวน/ตวั เลขท่ีจบั ได้ โดยคณุ ครูได้เดนิ ดนู กั เรียน ตวั เลขในกลมุ่ ขัน้ สอน 1. ครูนาเสนอโจทย์/สถานการณ์ปัญหา โดยติดปัญหาของโจทย์ปัญหาระคนโดยเป็น 2 3 + 1 1 ÷ 7 4 6 3 89
เวลา 1 ช่ัวโมง บบมีวงเลบ็ และไมม่ ีวงเล็บได้ (K) ด้ (S) วนมาใช้ในการวเิ คราะห์การโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนเศษสว่ นได้ ตามความเป็นจริงทงั้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจริง (A) นรายกลมุ่ เพื่อให้นกั เรียนได้ทาการอภิปรายเกี่ยวกบั หลกั และความหมายของ นโจทย์ท่ีไมม่ ีวงเล็บ ดงั นี ้
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 2. ครูแจกใบกิจกรรมให้นกั เรียนทกุ คน พร้อมกบั ตกลงเวลา โดยครูใช้คาถามเพื่อกระ โดยไมม่ ีวงเลบ็ ใช้วิธีการอยา่ งไร 3. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวธิ ีการดาเนนิ การของปัญหาการบวก ลบ คณู ห 4. เช่ือมโยงใบกิจกรรมของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เพ่ือสรุปเป็ นแนวคิดในชนั้ เรียน ขัน้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธีการดาเนินการของปัญหาการบวก ลบ คณู หารระค การหาร ให้ดาเนินการคณู หรือหารก่อน จงึ คอ่ ยดาเนนิ การบวกหรือลบ การวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด ตรวจใบกิจกรรม เร่ือง การดาเนินการ ใบกิจกรรม เรื่อง การดาเนนิ การของปัญห ของปัญหาการบวก ลบ คณู หาร บวก ลบ คณู หารระคน ระคน สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 90
ะต้นุ ให้นกั เรียนคิดหาวิธีการดาเนินการของปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน หารระคน คน เราสามารถดาเนินการโดยเรียงลาดบั จากซ้ายไปขวา หากมีการคณู หรือ เกณฑ์การประเมิน หาการ ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 สมรรถนะยอ่ ยที่ 2 ตงั้ คาถาม/วเิ คราะห์เพ่ือแก้ปัญหาเกี่ยวกบั เศษสว่ น โดยเลือกใช้เค หรือข้อสรุปทว่ั ไปทางคณิตศาสตร์อธิบายเหตผุ ลและอาจใช้เทคโนโลยีชว่ ยในการแก แผนท่ี 31 เร่ืองการแก้โจทย์ปัญหาบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนระคน (1) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารเศษสว่ นระ 2. นกั เรียนสามารถเช่ือมโยงการเวิเคราะห์โจทย์การบวก ลบ คณู หารเศษสว่ (S) 3. นกั เรียนมีความซื่อสตั ย์สจุ ริตในการทางานร่วมกบั เพ่ือน ประพฤตติ รงต กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูทบทวนเร่ืองการบวกเศษสว่ น 2. ครูเลา่ สถานการณ์ ซือ้ ของอยา่ งไร ขัน้ สอน 1. ครูนาเสนอโจทย์/สถานการณ์ปัญหา โดยตดิ สถานการณ์ปัญหา ดงั นี ้ แมซ่ ือ้ ส้ม 1 กิโลกรัม ซงึ่ ซือ้ น้อยกวา่ ละมดุ 3 กิโลกรัม แมซ่ ือ้ ส้มกี่กิโลกรัม 4 10 2. ครูถามเพ่ือให้นกั เรียนได้ทาการวเิ คราะห์การแก้โจทย์ปัญหา 4 ขนั้ ตอน ขนั้ ที่ 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา 91
คร่ืองมือการเรียนรู้ที่เหมาะสม มีข้อเท็จจริง สมบตั ติ า่ ง ๆ เวลา 4 ชวั่ โมง ก้ปัญหาด้วยตนเองและร่วมกบั ผ้อู ่ืนได้อยา่ งถกู ต้อง เวลา 1 ช่ัวโมง ะคนได้ (K) วนมาใช้ในการวิเคราะห์การโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนเศษส่วนได้ ตามความเป็นจริงทงั้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจริง (A)
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 ขนั้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา ขนั้ ที่ 3 ลงมือแก้ปัญหาตามแผน ขนั้ ท่ี 4 ตรวจสอบผลการแก้ปัญหา 3. ครูแจกใบกิจกรรมให้นกั เรียนทกุ คน พร้อมกบั ตกลงเวลา จากนนั้ ครูให้นกั เรียนทา ครูใช้คาถามเพ่ือกระต้นุ ให้นกั เรียนคดิ หาวิธีการบวกเศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา หลาก 4. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวิธีการบวกเศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา 5. เชื่อมโยงใบกิจกรรมของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เพื่อสรุปเป็ นแนวคิดในชนั้ เรียน ขัน้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวธิ ีการบวกเศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด ตรวจใบกิจกรรม เรื่อง การบวก ใบกิจกรรม เร่ือง การบวกเศษสว่ นจากโจท เศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา ปัญหา สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 92
าการบวกจานวนเตม็ กบั เศษสว่ น และสงั เกตวธิ ีคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ โดย กหลายวธิ ี เกณฑ์การประเมิน ทย์ ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 แผนท่ี 32 เร่ืองการแก้โจทย์ปัญหาบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนระคน (2) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารเศษส่วนระ 2. นกั เรียนสามารถเชื่อมโยงการเวิเคราะห์โจทย์การบวก ลบ คณู หารเศษสว่ (S) 3. นกั เรียนมีความซ่ือสตั ย์สจุ ริตในการทางานร่วมกบั เพื่อน ประพฤตติ รงต กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูทบทวนเร่ืองการลบเศษสว่ น 2. ครูเลา่ สถานการณ์ เหลือเทา่ ใด ขัน้ สอน 1. ครูนาเสนอโจทย์/สถานการณ์ปัญหา โดยติดสถานการณ์ปัญหา ดงั นี ้ ไม้ไผล่ าหนง่ึ ยาว 5 2 เมตร ตดั ไปทาราวตากผ้า 3 เมตร เหลือไม้ไผใ่ ห้ใช้ยาวก่ีเม 3 4 2. ครูถามเพื่อให้นกั เรียนได้ทาการวเิ คราะห์การแก้โจทย์ปัญหา 4 ขนั้ ตอน ขนั้ ท่ี 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา ขนั้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา ขนั้ ที่ 3 ลงมือแก้ปัญหาตามแผน ขนั้ ที่ 4 ตรวจสอบผลการแก้ปัญหา 93
เวลา 1 ช่ัวโมง ะคนได้ (K) วนมาใช้ในการวเิ คราะห์การโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนเศษส่วนได้ ตามความเป็นจริงทงั้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจริง (A) มตร
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 3. ครูแจกใบกิจกรรมให้นกั เรียนทกุ คน พร้อมกบั ตกลงเวลา จากนนั้ ครูให้นกั เรียนทา ครูใช้คาถามเพ่ือกระต้นุ ให้นกั เรียนคดิ หาวิธีการลบเศษส่วนจากโจทย์ปัญหา หลากห 4. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวิธีการลบเศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา 5. เช่ือมโยงใบกิจกรรมของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เพื่อสรุปเป็ นแนวคดิ ในชนั้ เรียน ขัน้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธีการลบเศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา การวัดและประเมนิ ผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด ตรวจใบกิจกรรม เร่ือง การลบ ใบกิจกรรม เร่ือง การลบเศษสว่ นจากโจท เศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา ปัญหา สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 94
าการลบจานวนเตม็ กบั เศษสว่ น และสงั เกตวธิ ีคิดของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ โดย หลายวิธี เกณฑ์การประเมิน ทย์ ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 แผนท่ี 33 เร่ืองการแก้โจทย์ปัญหาบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนระคน (3) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถวเิ คราะห์โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารเศษส่วนระ 2. นกั เรียนสามารถเช่ือมโยงการเวเิ คราะห์โจทย์การบวก ลบ คณู หารเศษส (S) 3. นกั เรียนมีความซ่ือสตั ย์สจุ ริตในการทางานร่วมกบั เพื่อน ประพฤตติ รงต กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูทบทวนเร่ืองการคณู เศษสว่ น 2. ครูเลา่ สถานการณ์ ทงั้ หมดเทา่ ใด ขัน้ สอน 1. ครูนาเสนอโจทย์/สถานการณ์ปัญหา โดยติดสถานการณ์ปัญหา ดงั นี ้ พอ่ ทาการเก็บนา้ ชว่ งหน้าฝนไว้ใช้ดม่ื จานวน 8 ถงั ถงั ละ 5 3 ลติ ร พอ่ จงึ นานา้ ท 4 2. ครูถามเพื่อให้นกั เรียนได้ทาการวเิ คราะห์การแก้โจทย์ปัญหา 4 ขนั้ ตอน ขนั้ ท่ี 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา ขนั้ ที่ 2 วางแผนแก้ปัญหา ขนั้ ที่ 3 ลงมือแก้ปัญหาตามแผน ขนั้ ท่ี 4 ตรวจสอบผลการแก้ปัญหา 95
เวลา 1 ช่ัวโมง ะคนได้ (K) ่วนมาใช้ในการวิเคราะห์การโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนเศษส่วนได้ ตามความเป็นจริงทงั้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจริง (A) ทงั้ หมดมาเทรวมกนั พ่อเก็บนา้ ได้ทงั้ หมดกี่ลิตร
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 3. ครูแจกใบกิจกรรมให้นกั เรียนทกุ คน พร้อมกบั ตกลงเวลา จากนนั้ ครูให้นกั เรียนทา ครูใช้คาถามเพ่ือกระต้นุ ให้นกั เรียนคดิ หาวธิ ีการคณู เศษส่วนจากโจทย์ปัญหา หลาก 4. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวิธีการคณู เศษส่วนจากโจทย์ปัญหา 5. เชื่อมโยงใบกิจกรรมของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เพื่อสรุปเป็ นแนวคิดในชนั้ เรียน ขัน้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธีการคณู เศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา การวัดและประเมินผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด ตรวจใบกิจกรรม เร่ือง การคณู ใบกิจกรรม เร่ือง การคณู เศษสว่ นจากโจท เศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา ปัญหา สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม 96
าการคณู จานวนเตม็ กบั เศษสว่ น และสงั เกตวธิ ีคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ โดย กหลายวิธี เกณฑ์การประเมิน ทย์ ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 แผนท่ี 34 เร่ืองการแก้โจทย์ปัญหาบวก ลบ คูณ หารเศษส่วนระคน (4) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถวิเคราะห์โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารเศษสว่ นระ 2. นกั เรียนสามารถเชื่อมโยงการเวเิ คราะห์โจทย์การบวก ลบ คณู หารเศษสว่ (S) 3. นกั เรียนมีความซ่ือสตั ย์สจุ ริตในการทางานร่วมกบั เพื่อน ประพฤตติ รงต กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูทบทวนเรื่องการหารเศษสว่ น 2. ครูเลา่ สถานการณ์ แบง่ ได้เทา่ ใดนะ ขัน้ สอน 1. ครูนาเสนอโจทย์/สถานการณ์ปัญหา โดยติดสถานการณ์ปัญหา ดงั นี ้ มีนา้ อยใู่ นถงั 10 ลิตร แบง่ ใส่ขวด ขวดละ 1 1 ลิตร จะได้นา้ ที่เตม็ ขวดทงั้ หมดก่ีข 4 2. ครูถามเพื่อให้นกั เรียนได้ทาการวเิ คราะห์การแก้โจทย์ปัญหา 4 ขนั้ ตอน ขนั้ ท่ี 1 ทาความเข้าใจโจทย์ปัญหา ขนั้ ท่ี 2 วางแผนแก้ปัญหา ขนั้ ท่ี 3 ลงมือแก้ปัญหาตามแผน ขนั้ ท่ี 4 ตรวจสอบผลการแก้ปัญหา 97
เวลา 1 ช่ัวโมง ะคนได้ (K) วนมาใช้ในการวเิ คราะห์การโจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคนเศษส่วนได้ ตามความเป็นจริงทงั้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจริง (A) ขวด
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 3. ครูแจกใบกิจกรรมให้นกั เรียนทกุ คน พร้อมกบั ตกลงเวลา จากนนั้ ครูให้นกั เรียนทา ครูใช้คาถามเพ่ือกระต้นุ ให้นกั เรียนคดิ หาวิธีการหารเศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา หลาก 4. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอวิธีการหารเศษส่วนจากโจทย์ปัญหา 5. เชื่อมโยงใบกิจกรรมของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เพ่ือสรุปเป็ นแนวคิดในชนั้ เรียน ขัน้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธีการหารเศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด ตรวจใบกิจกรรม เร่ือง การหาร ใบกิจกรรม เร่ือง การหารเศษสว่ นจากโจท เศษสว่ นจากโจทย์ปัญหา ปัญหา สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม 98
าการหารจานวนเตม็ กบั เศษสว่ น และสงั เกตวิธีคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ โดย กหลายวธิ ี เกณฑ์การประเมิน ทย์ ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 สมรรถนะประจาหนว่ ย 1. แสดงความคดิ เห็นทางคณิตศาสตร์อยา่ งสมเหตสุ มผลเชิงตรรกะ(logical reason 2. ตงั้ คาถาม/วิเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกบั เศษสว่ น โดยเลือกใช้เครื่องมือการเรียน ทางคณิตศาสตร์อธิบายเหตผุ ลและอาจใช้เทคโนโลยีชว่ ยในการแก้ปัญหาด้วยตนเอ แผนท่ี 35 เร่ืองโจทย์ปัญหาเศษส่วน ระคน กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั พดู คยุ สถานการณ์ในชีวิตประจาวนั ที่เก่ียวกบั การนาความ 2. ครูเลา่ สถานการณ์ปัญหา แล้วให้นกั เรียนชว่ ยคิดวา่ จะต้องนาการบวก ลบ คณู หา ขัน้ สอน 1. จดั กลมุ่ นกั เรียน 2 - 3 คน 2. ครูให้นกั เรียนร่างเค้าโครงเรื่องเลา่ ท่ีมีการนาการดาเนินการบวก ลบ คณู หาร เศษ หน้ากระดาษ 3. นกั เรียนอภิปรายร่วมกนั ในกลมุ่ โดยเสนอแนะซง่ึ กนั และกนั 4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอเรื่องเลา่ ครูให้คาชีแ้ นะ 5. นกั เรียนปรับแก้ตามคาแนะนา แล้วเขียนใสส่ มดุ เลม่ เล็กท่ีออกแบบอย่างสร้างสรร ขัน้ สรุป 1. นกั เรียนแตะ่ ละกลมุ่ นาเสนอเรื่องเลา่ หน้าชนั้ เรียน 2. จดั เก็บสมดุ เลม่ เล็กเป็ นผลงานความหลากหลายของโจทย์ปัญหาเศษส่วน ระคน 99
เวลา 2 ชวั่ โมง ning) เกี่ยวกบั เรื่องเศษสว่ น การบวก ลบ คณู หาร เศษสว่ น นรู้ท่ีเหมาะสม มีข้อเท็จจริง สมบตั ติ า่ ง ๆ หรือข้อสรุปทวั่ ไป องและร่วมกบั ผ้อู ่ืนได้อยา่ งถกู ต้อง เวลา 2 ช่ัวโมง มรู้เรื่อง บวก ลบ คูณ หาร เศษส่วนไปใช้ รวมไปถึงการบวก ลบ คณู หารระคน าร เศษสว่ นไปใช้แก้ปัญหาอยา่ งไร ษสว่ นระคน ไปใช้ โดยบนั ทึกลงในกระดาษ A4 ความยาวอยา่ งน้อยคร่ึง รค์
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าสงั คมศกึ ษา ประถมศกึ ษาปี ท่ี 4 7. ส่ือและแหล่งการเรียนรู้ประจาหน่วยการเรียนรู้ - กระดาษ A4 - เทคโนโลยี ได้แก่ คอมพวิ เตอร์ในการหาวิธีการแบง่ พืน้ ท่ีวงกลม - แผน่ กระดาษแบง่ วงกลม - ดนิ สอสีไม้ - ตารางแยกเศษสว่ น - บตั รจานวน, บตั รคาถาม - ใบงาน, ใบกิจกรรม 8. การวัดและประเมนิ ผล ผลลพั ธ์กา สมรรถนะประจาหนว่ ย (ภาระง 1. แสดงความคดิ เหน็ ทางคณิตศาสตร์อยา่ งสมเหตสุ มผลเชิงตรรกะ โจทย์ปัญห (logical reasoning) เก่ียวกบั เร่ืองเศษสว่ น การบวก ลบ คณู หาร เศษสว่ น ระ เศษสว่ น 2. ตงั้ คาถาม/วเิ คราะห์เพ่ือแก้ปัญหาเก่ียวกบั เศษสว่ น โดยเลือกใช้ เครื่องมือการเรียนรู้ที่เหมาะสม มีข้อเท็จจริง สมบตั ติ า่ ง ๆ หรือ ข้อสรุปทว่ั ไปทางคณิตศาสตร์อธิบายเหตผุ ลและอาจใช้เทคโนโลยี ชว่ ยในการแก้ปัญหาด้วยตนเองและร่วมกบั ผ้อู ่ืนได้อยา่ งถกู ต้อง 100
ารเรียนรู้ การประเมิน งาน) เครื่องมือ วธิ ีการ เกณฑ์การผา่ น หา - ใบงาน ตรวจใบงาน - ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80% ขนึ ้ ไป ะคน - ใบกิจกรรม (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) - แบบฝึ กทกั ษะ ชิน้ งาน ตรวจชิน้ งาน - ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80% ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) - ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
โครงสร้างการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้เพ่อื พัฒนาสมรรถนะ โดยใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัดจากหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 รายวชิ า คณิตศาตร์ รหัสวชิ า ค15101 ช่ือหน่วยการเรียนรู้ 3 จานวนท่มี ีจุด เวลาเรียน 24 ช่ัวโมง สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชีว้ ัด มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการของ จานวน ผลท่ีเกิดขนึ ้ จากการดาเนนิ การ สมบตั ขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค1.1 ป5/1 เขียนเศษสว่ นที่มีตวั สว่ นเป็นตวั ประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรูปทศนยิ ม ค 1.1 ป.5/6 หาผลคณู ของทศนิยมท่ีผลคณู เป็นทศนิยม ไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่ ค 1.1 ป.5/7 หาผลหารที่ตวั ตงั้ เป็นจานวนนบั หรือทศนยิ ม ไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่ และตวั หาร เป็นจานวนนบั ผลหารเป็นทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่ 2. สมรรถนะหลัก สมรรถนะท่ี 2 สมรรถนะการคดิ ขนั้ สงู องคป์ ระกอบท่ี 1 การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ พฤตกิ รรมบง่ ชี ้ (ระดบั 4) : สรุปความเข้าใจของตนและแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ลเก่ียวกบั เร่ืองนนั้ จากการตงั้ คาถามการฟัง/อ่านข้อมลู เรื่องราว วิเคราะห์เพื่อประเมินความเหมาะสมของข้อมลู ใน การลงข้อสรุปได้อยา่ งถกู ต้องและ/หรือ ตดั สินใจเลือกทางใดทางหนงึ่ โดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคิด ได้อย่างน้อยหนึ่งแหล่งข้อมูล และอธิบายเหตุผลของการตดั สินใจในเรื่องต่าง ๆในชีวิตประจาวนั ของตน และบอกได้วา่ การตดั สนิ ใจ ของตนมีความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ 3. สมรรถนะประจาหน่วย สรุ ปความเข้ าใจของตนและแสดงความคิดเห็นทางคณิ ตศาสตร์ อย่างสมเหตุสมผลเชิงตรรกะ (logical reasoning) เก่ียวกบั เรื่องนนั้ จากการตงั้ คาถามการฟัง/อ่านข้อมลู เร่ืองราว วิเคราะห์เพ่ือประเมิน ความเหมาะสมของข้อมลู ในการลงข้อสรุปได้อย่างถกู ต้องและ/หรือ ตดั สินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง โดยใช้ ข้อเท็จจริง สมบตั ิตา่ ง ๆ หรือข้อสรุปทวั่ ไปทางคณิตศาสตร์ระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคิดได้อย่างน้อย หน่ึงแหล่งข้อมลู และอธิบายเหตผุ ลของการตดั สินใจในเรื่องตา่ ง ๆในชีวิตประจาวนั ของตน และบอกได้ว่า การตดั สนิ ใจ ของตนมีความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ แผนการจดั การเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 101
สมรรถนะเฉพาะ : สมรรถนะหลัก : การคิดขน้ั สงู 3. การให้เหตผุ ล องค์ประกอบท่ี 1 การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ พฤติกรรมบง่ ชี ้ (ระดบั 4) : สรุปความเข้าใจของตนและแสดงความ (1) ให้เหตผุ ลทางคณิตศาสตร์สนบั สนนุ คิดเห็นอยา่ งมีเหตผุ ลเก่ียวกบั เร่ืองนนั้ จากการตงั้ คาถามการฟัง/อา่ น แนวคดิ หรือข้อคาดการณ์ของตนเองได้ ข้อมลู เร่ืองราว วเิ คราะห์เพ่ือประเมนิ ความเหมาะสมของข้อมลู ในการลง อยา่ งสมเหตสุ มผล ให้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะ ข้อสรุปได้อยา่ งถกู ต้องและ/หรือ ตดั สนิ ใจเลอื กทางใดทางหนง่ึ โดยระบุ (logical reasoning) โดยใช้ข้อเทจ็ จริง หลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้อยา่ งน้อยหนง่ึ แหลง่ ข้อมลู และอธิบาย สมบตั ติ า่ ง ๆ หรือข้อสรุปทวั่ ไปทาง เหตผุ ลของการตดั สนิ ใจในเร่ืองตา่ ง ๆในชีวติ ประจาวนั ของตน และบอก คณิตศาสตร์ ได้วา่ การตดั สนิ ใจ ของตนมคี วามเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ 4. เนือ้ หาสาระ 1. การเขียนทศนิยม 2. การเขียนทศนิยมในรูปการกระจาย 3. การประมาณคา่ ของทศนิยม 4. การคณู ทศนิยมกบั จานวนเต็ม 5. การคณู ทศนิยมกบั ทศนิยม 6. การหารทศนิยมกบั จานวนเตม็ 7. การหารจานวนนบั กบั จานวนนบั 5. สมรรถนะย่อย/งาน 1. สรุปความเข้าใจเก่ียวกับทศนิยม บอก อ่าน และเขียนทศนิยม แสดงปริมาณของส่ิงต่าง ๆ ใน ชีวติ จริง 2. แสดงความคดิ เห็นทางคณิตศาสตร์อยา่ งสมเหตสุ มผลเชิงตรรกะ(logical reasoning) เก่ียวกบั เร่ืองทศนิยม เปรียบเทียบและเรียงลาดบั ทศนยิ มในสถานการณ์ตา่ ง ๆ และให้เหตผุ ลในการเปรียบเทียบ 3. ตงั้ คาถาม/วิเคราะห์เพื่อประเมินความเหมาะสมของข้อมูลที่กาหนดได้อย่างถูกต้อง โดยใช้ ข้อเท็จจริง สมบตั ติ า่ ง ๆ หรือข้อสรุปทวั่ ไปทางคณิตศาสตร์อธิบายเหตผุ ลของการตดั สนิ ใจของตน และบอก ได้วา่ การตดั สินใจ ของตนมีความเหมาะสมโดยระบหุ ลกั ฐานสนบั สนนุ ความคดิ ได้ แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณติ ศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ท่ี 5 102
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 6. โครงสร้างหน่วยการเรียนรู้ สมรรถนะยอ่ ยท่ี 1 สรุปความเข้าใจเก่ียวกบั ทศนยิ ม บอก อา่ น และเขียนทศนิยม แ แผนท่ี 36 เร่ืองการเขียนทศนิยม 1 ตาแหน่ง จุดประสงค์การเรียนรู้ 4. เม่ือกาหนดรูปภาพซงึ่ แบง่ เป็ น 10 สว่ นเทา่ กนั พร้อมทงั้ ระบายสีหรือแร อา่ นทศนยิ มได้ (K) 5. เมื่อกาหนดทศนยิ มหนง่ึ ตาแหนง่ ให้ สามารถเปรียบเทียบทศนยิ มและ 6. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลในการเปรียบเทียบเศษสว่ นได้ (S) 7. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิตามข้อตกลงและมีวินยั ในการปฎิบตั ติ นในชนั้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. แบบฝึ กทกั ษะคิดเลขเร็ว 10 ข้อ ในเวลา 5 นาที 2. ครูสนทนาซกั ถามเก่ียวกบั ทศนิยมท่ีเคยเรียนมาว่ามีลกั ษณะอยา่ ไร มีวธิ ีการอา่ น ขัน้ สอน 1. ครูวาดภาพสี่เหลี่ยมผืนผ้าท่ีแบง่ ออกเป็ น 10 สว่ นเทา่ ๆกนั บนกระดาน จากนนั้ ต - รูปส่ีเหลี่ยมบนกระดานแบง่ ออกเป็นกี่สว่ น และแตล่ ะสว่ นท่ีแบง่ เทา่ กนั หรือไม 103
แสดงปริมาณของสง่ิ ตา่ ง ๆ ในชีวติ จริง เวลา 4 ชว่ั โมง เวลา 1 ช่ัวโมง รเงาสว่ นท่ีต้องการให้ สามารถเขียนทศนิยมแสดงสว่ นท่ีระบายสีหรือแรเงา และ ะใช้เครื่องหมายแสดงการเปรียบเทียบได้ (K) นเรียน (A) นอย่างไร ตงั้ คาถาม ม่ (รูปสี่เหล่ียมแบง่ ออก 10 สว่ น แตล่ ะสว่ นถกู แบง่ ออกเทา่ ๆ กนั )
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 2. ครูแรเงา 2 สว่ น ใน 10 ท่ีแบง่ ไว้บนกระดาน จากนนั้ ถามนกั เรียนวา่ สว่ นท่ีครูแรเง 3. ครูอธิบายวา่ เศษ 2 สว่ น 10 หมายถึง 2 สว่ นจาก 10 สว่ นท่ีเทา่ กนั โดยสามารถเ 0.2 อา่ นวา่ ศนู ย์จดุ สอง จดุ ที่อยรู่ ะหวา่ งเลข 0 ก 4. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ 0.2 เป็นตวั อย่างของทศนยิ มหนงึ่ ตาแหนง่ ทศนิยมหนงึ่ ตา 5. ครูแรเงารูปส่ีเหล่ียมบนกระดานเพ่มิ อีกทีละ 1 สว่ นจนถึง 9 ส่วน โดยให้นกั เรียน และเขียนแทนทศนิยมได้อยา่ งไรพร้อมทงั้ ให้นกั เรียนเขียนคาอา่ นบนกระดาน ขัน้ สรุป 1. ร่วมกนั อภิปรายให้ได้ข้อสรุป คา่ ของจานวนเตม็ หนงึ่ หนว่ ย เม่ือแบง่ ออกเป็นสิบส หนง่ึ ตาแนง่ จะมีตวั เลขหลงั จดุ ทศนยิ มหนง่ึ ตวั การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด ประเมนิ ผลตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ แบบฝึกหดั สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม 104
งาบนกระดาน อา่ นเป็นเศษสว่ นได้วา่ อยา่ งไร (เศษ 2 ส่วน 10) เขียนในรูปทศนิยมได้ดงั นี ้ กบั 2 เรียกวา่ จดุ ทศนิยม าแหนง่ จะมีตวั เลขหลงั จดุ ทศนิยมหนง่ึ ตวั พร้อมกบั ชีต้ าแหนง่ ให้นกั เรียนดู นชว่ ยกนั ตอบคาถามวา่ ส่วนที่ระบายสีหรือแรเงาเขียนแทนด้วยเศษสว่ นได้อยา่ งไร สว่ นเทา่ ๆกนั คา่ ของสว่ นท่ีแบง่ ออกมานีแ้ สดงด้วยทศนิยมหนงึ่ ตาแหนง่ ทศนิยม เกณฑ์การประเมิน ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 แผนท่ี 37 เร่ืองการเขียนทศนิยม 2 ตาแหน่ง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เมื่อกาหนดรูปภาพซง่ึ แบง่ เป็ น 100 สว่ นเทา่ กนั พร้อมทงั้ ระบายสีหรือแ อา่ นทศนิยมได้ (K) 2. เมื่อกาหนดทศนิยมหนงึ่ ตาแหนง่ ให้ สามารถเปรียบเทียบทศนิยมและ 3. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลในการเปรียบเทียบเศษสว่ นได้ (S) 4. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิตามข้อตกลงและมีวินยั ในการปฎิบตั ติ นในชนั้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. แบบฝึ กทกั ษะคดิ เลขเร็ว 10 ข้อ ในเวลา 5 นาที 2. ทบทวนทศนยิ มหนงึ่ ตาแหนง่ โดยการทากิจกรรม “เห็นป๊ ปุ เขียนป๊ัป” ขัน้ สอน 1. ครูวาดภาพส่ีเหล่ียมผืนผ้าท่ีแบง่ ออกเป็ น 100 สว่ นเทา่ ๆกนั บนกระดาน จากนนั้ - รูปส่ีเหล่ียมบนกระดานแบง่ ออกเป็นกี่สว่ น และแตล่ ะสว่ นที่แบง่ เทา่ กนั หรือไม ถกู แบง่ ออกเทา่ ๆ กนั ) 105
เวลา 1 ช่ัวโมง แรเงาสว่ นท่ีต้องการให้ สามารถเขียนทศนิยมแสดงสว่ นที่ระบายสีหรือแรเงา และ ะใช้เครื่องหมายแสดงการเปรียบเทียบได้ (K) นเรียน (A) นตงั้ คาถาม ม่ (รูปสี่เหล่ียมแบง่ ออก 100 สว่ น แตล่ ะสว่ น
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 2. ครูแรเงา 15 สว่ น ใน 100 ที่แบง่ ไว้บนกระดาน จากนนั้ ถามนกั เรียนวา่ สว่ นท่ีครูแ 3. ครูอธิบายวา่ เศษ 15 สว่ น 100 หมายถึง 15 สว่ นจาก 100 สว่ นท่ีเท่ากนั โดยสาม 4. ครูอธิบายเพิ่มเตมิ วา่ 0.15 เป็นตวั อยา่ งของทศนยิ มสองตาแหนง่ ทศนิยมสองต 5. ครูนาภาพลกั ษณะเดยี วกนั มาให้นกั เรียนดแู ตร่ ะบายสีให้แตกตา่ งจากเดมิ และให ทศนยิ มได้อยา่ งไรและอา่ นเป็นทศนยิ มได้วา่ อยา่ งไร แล้วแนะนาวา่ ทศนิยมลกั ษณ 6.ครูยกตวั อยา่ งรูปภาพท่ีแทนด้วยทศนิยมสองตาแหนง่ ท่ีมากกวา่ หนง่ึ ขนึ ้ มาหนงึ่ ภ อยา่ งไร 106
แรเงาบนกระดาน อา่ นเป็นเศษสว่ นได้วา่ อยา่ งไร (เศษ 15 สว่ น 100) มารถเขียนในรูปทศนิยมได้คือ 0.15 ตาแหนง่ จะมีตวั เลขหลงั จดุ ทศนิยมสองตวั พร้อมกบั ชีต้ าแหน่งหลงั จดุ ทศนิยม ห้นกั เรียนชว่ ยกนั ตอบวา่ รูปภาพนนั้ จะเขียนเป็นเศษส่วนได้อยา่ งไร เขียนเป็ น ณะนีเ้ ป็นทศนิยมสองตาแหนง่ ที่น้อยกวา่ หนง่ึ ภาพ จากนนั้ ถามคาถามวา่ นกั เรียนจะเขียนแทนสว่ นที่แรเงาในรูปทศนิยมได้วา่
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 7. ครูแนะนาวา่ การเขียนสว่ นที่แรเงาในลกั ษณะนีใ้ ห้เขียนจานวนที่ระบายสีเตม็ รูป แล้วนารูปภาพลกั ษณะเดียวกนั มาให้นกั เรียนตอบคาถามวา่ สว่ นท่ีระบายสีเขียนแท ขัน้ สรุป 1. ร่วมกนั อภิปรายให้ได้ข้อสรุป คา่ ของจานวนเตม็ หนง่ึ หนว่ ย เม่ือแบง่ ออกเป็นร้อย สองตาแหนง่ จะมีตวั เลขหลงั จดุ ทศนยิ มสองตวั การวัดและประเมินผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด ประเมินผลตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ แบบฝึกหดั สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม 107
ปไว้หน้าจดุ ทศนิยมและเขียนสว่ นท่ีระบายสีไม่ครบ 100 สว่ น ไว้หลงั จดุ ทศนยิ ม ทนด้วยเศษสว่ นอย่างไร และเขียนแทนด้วยทศนิยมได้อยา่ งไร ยสว่ นเทา่ ๆกนั คา่ ของสว่ นที่แบง่ ออกมานีแ้ สดงด้วยทศนิยมสองตาแหนง่ ทศนยิ ม เกณฑ์การประเมิน ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 แผนท่ี 38 เร่ืองทศนิยมกับจานวนนับ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เม่ือกาหนดรูปภาพซง่ึ แบง่ เป็ น 100 สว่ นเทา่ กนั พร้อมทงั้ ระบายสีหรือแ อา่ นทศนยิ มได้ (K) 2. เม่ือกาหนดทศนยิ มหนงึ่ ตาแหนง่ ให้ สามารถเปรียบเทียบทศนิยมและ 3. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลในการเปรียบเทียบเศษสว่ นได้ (S) 4. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ิตามข้อตกลงและมีวินยั ในการปฎิบตั ติ นในชนั้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. แบบฝึ กทกั ษะคิดเลขเร็ว 10 ข้อ ในเวลา 5 นาที 2. ครูทบทวนทศนิยมสองตาแหนง่ จากการทาแบบฝึกหดั ทบทวน ขัน้ สอน 1. ครูวาดรูปรูปสี่เหล่ียมท่ีมีขนาดเทา่ กนั แล้วถามนักเรียนวา่ รูปสี่เหลี่ยมนีเ้ขียนเป็น ตาแหนง่ หรือสองตาแหนง่ ได้หรือไม่ 2. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ วา่ จานวนนบั สามารถเขียนให้อยใู่ นรูปทศนิยมหนงึ่ ตาแหนง่ ไ จานวนนบั สามารถเขียนให้อยใู่ นรูปทศนิยมสองตาแหนง่ ได้โดยเตมิ จดุ ทศนิยม ตวั อยา่ ง 2 เขียนเป็นทศนิยมหนง่ึ ตาแหนง่ คือ 2.0 เขียนเป็นทศนิยมสองตาแหนง่ คือ 2.00 108
เวลา 1 ช่ัวโมง แรเงาสว่ นที่ต้องการให้ สามารถเขียนทศนยิ มแสดงสว่ นที่ระบายสีหรือแรเงา และ ะใช้เคร่ืองหมายแสดงการเปรียบเทียบได้ (K) นเรียน (A) นจานวนนบั ได้อยา่ งไร แล้วจานวนนบั นนั้ เสามารถเขียนให้เป็ นทศนิยมหนงึ่ ได้โดยเตมิ จดุ ทศนยิ มและ 0 หนง่ึ ตวั ตอ่ ท้ายจานวนนบั มและ 0 สองตวั ตอ่ ท้ายจานวนนบั
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 ขัน้ สรุป 1. ร่วมกนั อภิปรายให้ได้ข้อสรุป จานวนนบั สามารถเขียนให้อยใู่ นรูปทศนยิ มหนงึ่ ตา ทศนยิ มสองตาแหนง่ ได้โดยเตมิ จดุ ทศนยิ มและ 0 สองตวั ตอ่ ท้ายจานวนนบั การวัดและประเมินผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด ประเมนิ ผลตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ แบบฝึกหดั สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม แผนท่ี 39 เร่ืองหลักและค่าของเลขโดดตามค่าประจาหลัก จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เม่ือกาหนดรูปภาพซง่ึ แบง่ เป็ น 100 สว่ นเทา่ กนั พร้อมทงั้ ระบายสีหรือแ อา่ นทศนิยมได้ (K) 2. เมื่อกาหนดทศนยิ มหนงึ่ ตาแหนง่ ให้ สามารถเปรียบเทียบทศนิยมและ 3. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลในการเปรียบเทียบเศษสว่ นได้ (S) 4. นกั เรียนสามารถปฏิบตั ติ ามข้อตกลงและมีวินยั ในการปฎิบตั ติ นในชนั้ 109
าแหนง่ ได้โดยเตมิ จดุ ทศนยิ มและ 0 หนงึ่ ตวั ตอ่ ท้ายจานวนนบั เขียนให้อยใู่ นรูป เกณฑ์การประเมิน ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป เวลา 1 ช่ัวโมง แรเงาสว่ นท่ีต้องการให้ สามารถเขียนทศนยิ มแสดงสว่ นท่ีระบายสีหรือแรเงา และ ะใช้เครื่องหมายแสดงการเปรียบเทียบได้ (K) นเรียน (A)
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. แบบฝึ กทกั ษะคิดเลขเร็ว 10 ข้อ ในเวลา 5 นาที 2. ครูทบทวนคา่ ประจาหลกั ของจานวนเตม็ โดยกาหนดจานวนเตม็ บนกระดาน จา ตวั อยา่ ง 6,532 - 6 ใน 6,532 มีคา่ เท่าใด (มีคา่ 6,000 เพราะ อยใู่ นหลกั พนั ) - 5 ใน 6,532 มีคา่ เท่าใด (มีคา่ 500 เพราะ อยใู่ นหลกั ร้อย) - 3 ใน 6,532 มีคา่ เทา่ ใด (มีคา่ 30 เพราะ อยใู่ นหลกั สิบ) - 2 ใน 6,532 มีคา่ เทา่ ใด (มีคา่ 2 เพราะ อยใู่ นหลกั หนว่ ย) ขัน้ สอน 1. ครูยกตวั อยา่ งตวั เลขในหลกั ล้าน เชน่ 5,555,555 แล้วเขียนแผนภมู ติ ารางหลกั เล 2. ครูแนะนาวา่ ถ้าเร่ิมจากหลกั หนว่ ยไปทางซ้ายมือคา่ ประจาหลกั จะเพมิ่ ขนึ ้ ทีละ 1 - ถ้าคดิ ย้อนหลงั จากทางซ้ายมือไปขวามือ คา่ ประจาหลกั จะลดลงทีละกี่เทา่ (1 - คา่ ประจาหลกั ที่ลดลง 10 เทา่ จะมีคา่ เทา่ ไร หลกั นีเ้รียกวา่ อยา่ งไร (มีคา่ 1/1 - ถดั จากหลกั สว่ นสิบไปทางขวามือ คา่ ประจาหลกั ที่ลดลง 10 เทา่ จะมีคา่ เทา่ ไ 3. ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ 1/10 หรือหลกั ส่วนสบิ เขียนเป็นทศนยิ มได้เป็น 0.1 หลกั สว่ เป็นทศนิยมให้นกั เรียนดกู ารแบง่ คา่ ประจาหลกั ของทศนิยม มีหลกั คล้ายคลงึ กบั จา 110
ากนนั้ ตงั้ คาถาม ลขแสดงจานวนที่กาหนดให้ในแตล่ ะหลกั 10 เทา่ จากนนั้ ถามคาถาม 10 เท่า) 10 ควรเรียกหลกั นีว้ า่ “หลกั สว่ นสิบ” ) ไร หลกั นีเ้รียกวา่ อยา่ งไร (มีคา่ 1/100 ควรเรียกหลกั นีว้ า่ “หลกั สว่ นร้อย” ) วนร้อยหรือ 1/100 เขียนเป็นทศนยิ มได้เป็น 0.01 พร้อมทงั้ เขียนตารางรูปแบบท่ี านวนเต็ม
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 4. ครูยกตวั อย่างทศนิยมไมเ่ กินสองตาแหนง่ ให้นกั เรียนดแู ล้วชว่ ยกนั พิจารณา พิจารณาจานวน 237.42 ขัน้ สรุป 1. ร่วมกนั อภิปรายให้ได้ข้อสรุป การแบง่ คา่ ประจาหลกั ของทศนิยม มีหลกั คล้ายคล หลกั หนว่ ย ถดั ไปทางหน้าซ้ายมือเป็นหลกั สบิ หลกั ร้อย หลกั พนั ไปเร่ือยๆตามลาดบั จะมีคา่ ประจาหลกั คือ หลกั ส่วนสบิ ทศนิยมตาแหนง่ ท่ี 2 และ 3 คอื หลกั สว่ นร้อยแ การวัดและประเมินผล วธิ ีวัด เคร่ืองมือวัด ประเมนิ ผลตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ แบบฝึกหดั สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรม สมรรถนะยอ่ ยที่ 2 แสดงความคดิ เห็นทางคณิตศาสตร์อย่างสมเหตสุ มผลเชงิ ตรรก และเรียงลาดบั ทศนิยมในสถานการณ์ตา่ ง ๆ และให้เหตผุ ลในการเปรียบเทียบ แผนท่ี 40 เร่ืองค่าประมาณของการเขียนทศนิยม 1 ตาแหน่ง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนยิ ม 2 ตาแหนง่ ได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนิยมมากกว่า 2 ตาแหน 111
ลงึ กบั จานวนเตม็ กลา่ วคอื ตวั เลขหน้าจดุ ทศนิยมและอยตู่ ิดกบั จดุ ทศนิยมเป็น บ สว่ นตวั หลกั จดุ ทศนิยมจะมีคา่ ลดลงสบิ เทา่ ตามลาดบั คือ ทศนิยมตาแหนง่ ท่ี 1 และสว่ นพนั ตามลาดบั เกณฑ์การประเมิน ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป กะ(logical reasoning) เก่ียวกบั เร่ืองทศนิยม เปรียบเทียบ เวลา 4 ชว่ั โมง เวลา 1 ช่ัวโมง นง่ ได้ (K)
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 3. นกั เรียนสามารถแก้ปัญหาการคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนิยมมากก 4. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลการคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนยิ มมากก 5. นกั เรียนมีความซ่ือสตั ย์สจุ ริตในการทางานร่วมกบั เพ่ือน ประพฤตติ รง กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นา 1. ครูตดิ สถานการณ์ปัญหา ประมาณเทา่ ใดนะ จากระยะทางเฉลี่ยของนกั วง่ิ มารา วนั ที่ 1 2 3 ขัน้ สอน 1. ครูแจกใบกิจกรรมให้นกั เรียนทกุ คน พร้อมกบั ตกลงเวลา จากนนั้ ครูให้นกั เรียนค โดยครูใช้คาถามเพื่อกระต้นุ ให้นกั เรียนคิดหาวิธีการประมาณจานวนจากทศนิยม 2. เมื่อครบกาหนดเวลานกั เรียนร่วมกนั อภิปรายในชนั้ เรียนเพื่อแลกเปล่ียนคาตอบ 3. ครูคอยพดู คาถามและยา้ คาถามเดมิ วา่ ดาเนินการของปัญหาการบวก ลบ คณู ห 4. เชื่อมโยงใบกิจกรรมของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ เพ่ือสรุปเป็ นแนวคดิ ในชนั้ เรียนโดยก 112
กว่า 2 ตาแหนง่ ได้ (S) กวา่ 2 ตาแหนง่ ได้ งตามความเป็นจริงทงั้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจริง (A) าธอนเป็น ดงั นี ้ ระยะทางเฉลี่ย 5.7 6.2 5.9 คดิ วิธีการประมาณจานวนจากทศนิยมและสงั เกตวธิ ีคดิ ของนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ บ หารระคน การคณู เลข 3 หลกั กบั เลข 2 หลกั โดยการตงั้ คณู
แผนการจดั การเรียนรู้ วชิ าคณิตศาสตร์ ประถมศกึ ษาปี ที่ 5 ขัน้ สรุป 1. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปกิจกรรมการเรียนรู้ ดงั นี ้ 1.1 จานวนจะประกอบไปด้วยจานวนประจาหลกั และคา่ ประจาหลกั เมื่อแสดงอ 1.2 ถ้าจานวนใดมีคา่ ประจาหลกั เป็น 0 การกระจายในหลกั นนั้ จะมีคา่ เป็น 0 ด้ 2. ครูให้นกั เรียนทาใบงานเรื่องการกระจายจานวน จานวน 10 ข้อ พร้อมทงั้ ตรว ตอ่ ไป การวัดและประเมนิ ผล วิธีวัด เคร่ืองมือวัด ประเมินผลตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ แบบฝึกหดั สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤตกิ รรม แผนท่ี 41 เร่ืองค่าประมาณของการเขียนทศนิยม 2 ตาแหน่ง จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นกั เรียนสามารถคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนิยม 2 ตาแหนง่ ได้ (K) 2. นกั เรียนสามารถคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนิยมมากกวา่ 2 ตาแหน 3. นกั เรียนสามารถแก้ปัญหาการคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนิยมมากก 4. นกั เรียนสามารถให้เหตผุ ลการคณู จานวนเตม็ กบั จานวนทศนิยมมากก 5. นกั เรียนมีความซื่อสตั ย์สจุ ริตในการทางานร่วมกบั เพื่อน ประพฤตติ รง 113
อยใู่ นรูปการกระจาย ดวยเชน่ กนั วจและเฉลยในชนั้ เรียนเพื่อประเมินผลการเรียนและให้ข้อมลู ย้อนกลบั /ปรับปรุง เกณฑ์การประเมิน ทาใบงานได้ถกู ต้อง 80 % ขนึ ้ ไป (เกณฑ์คณุ ภาพ Rubric Score) ผา่ นเกณฑ์ในระดบั 3 ขนึ ้ ไป เวลา 1 ช่ัวโมง นง่ ได้ (K) กว่า 2 ตาแหนง่ ได้ (S) กว่า 2 ตาแหนง่ ได้ งตามความเป็นจริงทงั้ ทางกาย วาจา ใจ และยดึ หลกั ความจริง (A)
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332