ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ พระมหาบัณฑิต ครองบัวบาน

T e n s e  139 Base form Simple Past Past คาํ แปล Tense Participle ปจ จุบัน อดีต อนาคต ต,ี ตอ ย ระทบ strike สไตรค struck ผูกเชือก ขึงสาย string สตรงิ struck สตรัค strung สาบานปฏิญาณ swear สแว strung สตรงั sworn สวอน โตขึน้ หนาข้ึน swell สเวล็ swore สวอ swollen swelled สวอลเลิน วายนํา้ swim สวิม สเว็ลด swum แกวง, เหวี่ยง swing สวิง swam สแวม swung เอา พาไป take เทค swung สวัง taken เทคเคิน สอน teach ทชี took ทุค taught ฉีก ขาด tear แท taught ทอท torn ทอน บอก tell เท็ล tore ทอ told คดิ think ธิง told โทลด thought เหวยี่ ง ขวาง throw ธโร thought ธอท thrown ธโรน ตืน่ , ปลุก wake เวค threw ธรู waken เวคเคนิ สวม, ใส wear แว woke โวค worn วอน ทอผา, สาน weave วีฝ wore วอ woven โวฝเฝน รองไห weep วพี wove โวฝ wept ชนะ win วนิ wept เวพ็ ท won เขียน write ไรท won ว็อน written รทิ เทิน wrote โรท

140  C h a p t e r 3 T e n s e Base form Simple Past Past คําแปล Tense Participle ปจ จบุ นั อดีต อนาคต หดลง สัน้ ลง shrink ชริงค shrunk ชรงั รอ งเพลง sing ซิง shrank ชแรงค sung ซงั จม ถอยลง sink ซงิ ค sang แซง sunk ซงั ค นัง้ sit ซิท sank แซงค sat แซ็ท สน่ื ไถล, เล่ือนไป slide สไลด sat แซ็ท slid นอนหลบั sleep สลพี slid สลดิ slept พูด speak สปค slept สเลพ็ ท spoken สโปเคนิ มวน กรอ ปนฝา ย spin สปน spoke สโปค spun แตก, แยก split สปลิท spun สปน splited, splitit โดดอยา งเร็ว, เดง spring สปรงิ splited, splitit sprung สปรงั ตอ ย, แทง sting สตงิ sprang สแปรง stung สตัง สงกลน่ิ เหม็น stink สติงค stung สตงั stunk สตงั ค ต,ี ตอ ย? กระทบ strike สไตรค stank สแตงค struck ผูกเชอื ก ขงึ สาย string สตริง struck สตรคั strung สาบาน ปฏญิ าณ swear สแว strung สตรัง sworn สวอน โตข้ึน หนาข้นึ swell สเว็ล swore สวอ swollen swelled สวอลเลิน สเว็ลด

T e n s e  141 Past Continuous Tense Past continuous tense (อดตี กาลตอ เนือ่ ง) โครงสรา งประโยคภาษาองั กฤษ (Structure) ประธาน + Verb to be ชอ งที่ 2 (was / were) + กริยาเตมิ ing ตวั อยางประโยคภาษาองั กฤษ We were having dinner at 8 o’clock yesterday. แปลวา พวกเรากําลงั ทานอาหารเยน็ ตอนหกโมงเยน็ เม่อื วาน We were cooking all lunch. แปลวา พวกเราทําอาหารตลอดชวงกลางวนั (ท่ผี า นมาแลว) Thani was climbing to mountain when he saw the sun. แปลวา ธานีกําลังปน เขาไปตอนท่ีเธอเห็นพระอาทติ ยข น้ึ past continuous tense เปนรูปปฏิเสธไดโดยการเติม not หลัง verb to be ชองท่ี 2 (was / were) Past Perfect Tense ใชบอกเหตุการณหน่ึงท่ีเกิดข้ึนและจบลงไปแลวในอดีต กอนจะมีอีก เหตุการณตามมาทีหลงั หมายความวา มันมีสองเหตุการณ (คลาย past continuous) มักจะมี การใช before มารวมกับประโยค และตองใชตามน้ี คือ หลักการใช Past Perfect Tense Subject + had + Verb3 เหตุการณที่เกดิ ขึน้ และส้นิ สุดลงกอนจะใชP ast Perfect Tense

142  C h a p t e r 3 T e n s e เหตกุ ารณทเ่ี กดิ ขน้ึ และสิน้ สุดลงทหี ลงั จะใชPast Simple Tense He didn’ t watch the movie last month because the movie had already lost when he arrived. (เม่ือคนื นเี้ ขาไมไดดูหนังเลย เพราะวาพอเขาไปถึงหนังกห็ ายไปแลว) เหมอื นเดมิ เลย เหตุการณไ หนคือเหตุการณท ่เี กดิ กอนกนั ระหวา ง He didn’t watch the movie last night หรือ b) the movie had already losed After+ Past Perfect Tense + Past Simple Tense เชน After I had completed my meeting, I went to the Coffee Café. หลังจากทีฉ่ ันประชมุ เสรจ็ ฉันกไ็ ปยงั รา นกาแฟ By the time+ Past Simple Tense + Past Perfect Tense เชน By the time I went there, I already had finished my dinner. ตอนท่ฉี นั ไปถงึ ท่นี ัน่ ฉันกก็ ินขาวมอ้ื เยน็ ของฉนั เสรจ็ เรียบรอยแลว Past Perfect Continuous Tense Past perfect continuous tense (อดีตกาลสมบูรณต อเนือ่ ง) โครงสรางประโยคภาษาอังกฤษ (Structure) ประธาน + had + been + กรยิ าเตมิ ing ประธาน + had + กริยาชอ งที่ 3 / ประธาน + กรยิ าชอ งท่ี 2 โครงสรา ง Past Perfect Tense (ประโยคบอกปฏเิ สธ) I, He, She, It, A cat,

T e n s e  143 You, We, They, Cats คํากรยิ าวิเศษณภ าษาองั กฤษที่นา สนใจ ภาษาองั กฤษควรทราบ When แปลวา เมือ่ Before แปลวา กอน After แปลวา หลงั จาก All people had gone home when we arrive at the temple คนไดกลบั บานหมดแลว เม่ือพวกเราไปถึงวดั We arrive the church after all people had gone home. เราไปถงึ โบสถ หลงั จากคนกลับบา นหมดแลว We had arrived the church before all people went home. เราไดไปถงึ โบสถ กอนคนกลับบา น He had studied English before he moved to Australia? เขาไดเรียนภาษาอังกฤษ กอนเขายา ยไปออสเตรเลีย Future Tense Future Simple Subject + will + V.1 Future Continuous Subject + will + be + V. Ing Future Perfect Subject + will + have + V.3 Future Perfect Subject + will + have + been + V.ing Continuous

144  C h a p t e r 3 T e n s e อาจจะสงสัยทาํ ไมหลัง will ตองใช be / have เพราะ will ถือเปน auxiliary verb ซ่ึงหลัง verb ประเภทน้ีตองตาม ดวย คําทีเ่ ปน Base ของมัน is/am/are มี base คือ be has/have มี base คอื have Future Simple Tense โครงสรา งประโยค : Subject + will/shall + verb 1 คือ ประโยคท่ีพูดถึงการกระทําหรือเหตุการณท่ีคาดวาจะเกิดในอนาคต โดยมคี าํ หรือวลีบอกเวลาอยูดว ย นิยมใชกับเหตุการณหรือการกระทําท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคตอยางใดอยาง หน่ึง มักมี Adverb บอกเวลา เชน tonight, next month, next week, nowadays, then เปนตน To predict a future event: It will present tonight at the mall.

T e n s e  145 Future Continuous Tense โครงสรางประโยค : Subject + will/shall + be + verb -ing คือ ประโยคท่ีพูดถึงการกระทําหรือเหตุการณในอนาคต ท่ีคาดหมายวา จะกําลงั ดาํ เนนิ อยใู นชวงวัน – เวลาทีร่ ะบุเอาไวนั้น ตัวอยางเชน I will be dancing in the exercise club. My staff will be informing you tonight. โครงสรางประโยค : Subject + will/shall + be + verb -ing 1) ใชกับเหตุการณ 2 อยาง ที่จะเกิดข้ึนกอน-หลังกันในอนาคต โดยมี หลกั การแตง ประโยคดงั น้ี เหตุการณใดเกิดกอนใช Future Continuous Tense: Subject + will/shall + be + verb –ing เหตุการณใดเกิดหลังใช Present Simple Tense: Subject + verb 1 เชน He will be sleeping when I visit him. 2) ใชกับเหตุการณอยางใดอยางหนึ่งท่ีกําลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ตาม เวลาท่รี ะบไุ วอ ยางชัดเจน เชน Tonight, I shall be flying to Turkey. 3) ใชกับเหตุการณในอนาคตที่ไดตัดสินใจแนนอนแลววา จะทําเชนน้ี จริงๆ เชน They shall be eating whole day.

146  C h a p t e r 3 T e n s e Future Perfect Tense โครงสรางประโยค : Subject + will/shall + have + verb 3 คือ ประโยคที่พูดถึงการกระทําหรือเหตุการณในอนาคตท่ีคาดวาจะ เกิดขน้ึ และดาํ เนนิ ไปจนเสร็จ สมบรู ณ ภายในระยะเวลาทรี่ ะบุไวน้นั ตวั อยา งเชน By this time Reporter shall have done all his homework. โครงสรา งประโยค : Subject + will/shall + have + verb 3 3.1 ใชกับเหตุการณ 2 อยางที่จะเกิดข้ึนไมพรอมกันในอนาคต ซึ่ง ขณะท่ีพุดเปนเพียงคาดการณไวลวงหนาวา ถา ถึงตอนนนั้ แลว เหตุการณอ นั หนึ่ง จะไดเ กดิ ข้ึนสมบรู ณอ ยูกอ นแลว 3.2 ใชกับเหตุการณท่ีเกิดข้ึนในอนาคต ณ เวลาใดเวลาหนึ่งท่ีระบุไว อยา งชัดเจนในประโยคและพึงสงั เกตไววา คําหรือกลุมทบี่ อกเวลาเปน อนาคตนํา มารวมกํากับไวนั้นจะนําหนาดว ยบุรพบท “by” เสมอ เชน by tomorrow, by the end of time. 3.3 ใชเ พ่อื แสดงความสงสยั วา “คงจะอยางน้ัน อยา งนี้แลวกไ็ ด” เชน I expect you will have heard that Ladda is going to be married next month.

T e n s e  147 Future Perfect Continuous Tense โครงสรางประโยค : Subject + will/shall + have + been + verb -ing คือ ประโยคที่พูดถึงกระทําหรือเหตุการณในอนาคตท่ีคาดวาจะเกิดขึ้น และจะยังคง ดาํ เนินอยูตอ ไป เชน By the end of this year we will have been researching for three months. How long we will have been researching for three months when you submit next semester? ประโยคบอกเลา ประโยคปฏเิ สธ ประโยคคําถาม I will have been I won’t have been Will I have been showing showing showing You will have been You won’t have Will you have been showing been living showing? They will have been They won’t have Will they have been showing been showing showing He will have been He won’t have Will he have been showing been showing showing? การใช Future perfect continuous tense คลายคลึงกับ future perfect tense เน่ืองจากใชพูดถึงเหตุการณหรือการกระทําท่ีเกิดขึ้นแลวแตยัง ไมเ สร็จสิ้นตอนน้ี และกําลงั จะเสรจ็ เร็วๆน้ี สวนใหญมักจะใชบอกเวลา

148  C h a p t e r 3 T e n s e Exercise. 3 Part I : Complete the article with the verb in parenthesis into the correct tense (simple future or future perfect). 1. Tomorrow I think I (start) ………….. my new project. 2. I (finish) …………….. it by the end of this month. 3. The teacher (probably/assign) ………… a test to his students next Monday. 4. He (correct) …………….it by the end of next week. 5. My friend (certainly/get) ……………..a good mark. 6. By 9 o'clock, we (finish) …………..our homework. 7. They (leave)……..…. the airport by the end of the class. 8. I think I (start) …………. my trip tomorrow

T e n s e  149 Part II : Put the verbs into the correct tense (simple past or present perfect). 1. I (just / finish) …………… my tasks. 2. Matin (already / write) …………… five documents. 3. Tommy (move) …………… to his home town in 2015. 4. My son (be) …………… in Sweden two years ago. 5. We (not / be) …………… to Japan so far. 6. But I (already / travel) …………… to Tokyo a couple of times. 7. Last two week, Mary and Paul (go) …………… to the theatre. 8. I can't take many pictures because I (not /buy) …………… a new film yet. 9. (They / spend) …………… their holidays in Australia last summer? 10. (He / ever / see) …………… a whale? Part: III Complete the article with an appropriate choice by answering the question with the appropriate tense. 1. I__________ Mr. Prayut since he first started working at Parliament Council in 2014. 1. know 2. knowing 3. will know 4. have known

150  C h a p t e r 3 T e n s e 2. Songkran is one of our best workman and _____working here for 5 years 1. has 2. has been 3. is 4. will 3. The VCD game player was damaged when it ____________. 1.was delivered 2. has delivered 3. was delivering 4. had delivered 4. The head of sales department ____________to Hongkong for the annual convention. 1. goes 2. went 3. go 4. going 5. Suchda ___________to the fresh market every day. 1.go 2. goes 3. went 4. gone 6. Chon ___________ to market yesterday. 1. gone 2. went 3. had go 4. go 7. Mr. Pravit __________________to Hongkong since this morning. 1. has gone 2. gone 3. have go 4. went 8. Suchada had studied hard before she _______final test. 1. take 2. took 3. taken 4. have take 9. Paul_______ for WFO since 2009. 1. worked 2. works 3. is working 4. has worked 10. An apple _______________ by Ms. Rawan. 1. eats 2. is eaten 3. is eating 4. eat 11. All the money was ____________to purchaser after he expressed his dissatisfaction.

T e n s e  151 1.refund 2. refunds 3. refunding 4. refunded 12. Beginning by the first of next five mounts, break time will be ______by ten minutes 1. short 2. shortened 3. shortening 4. shortage 13. Since 2015 our customer……………. with service. 1. are satisfied 2. was satisfied 3. have been satisfied 4. have been satisfying Answer. Part. I 1) will 2) will have finished 3) will probably assign 4) will have corrected 5) will certainly get 6) will have finished 7) will have left 8) will start Answer. Part. II 1. have just finished 2. has already written 3. moved

152  C h a p t e r 3 T e n s e 4. was. 5. have not been 6. have already traveled 7. went 8. have not bought 9. Did they spend? 10. Have he ever seen? Answer. Part. III 1.4 2. 2 3. 1 4. 1 5.2 6.2 7. 1 8. 2 9. 4 10. 2 11.4 12. 2 13.3 \"Imagination is more important than knowledge.\" จินตนาการ สําคัญกวา ความรู Albert Einstein

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  153 Chapter 4 Active Voice and Passive Voice Active Voice หมายถึง ประโยคที่ประธานเปนผูกระทํากริยาโดยตรง โดยมกี รรมมารบั หรอื ไมม ีกรรมมารองรับ ประโยคที่ประธานเปน ผกู ระทํา (ใคร ทาํ อะไร) เชน Thai message heal healthy long life. นวดแผนไทยทําใหอายุยืน (ประธาน คอื Thai message) Passive Voice หมายถึง ประโยคท่ีประธานเปนผูถูกกระทําทั้งหมด หรอื ไมว า ประธานเปนสิง่ ของหรือสง่ิ ไมม ีชีวติ ทั้งหมด ซ่งึ ตางจาก Active Voice ตรงท่ีมี Verb to be + V.3 มาคั่น และกริยาหลักเปน ชอง 3 หมด และมีอยู ท้ังหมด 12 รปู แบบ tenses เชนกนั ถาศึกษาเรื่อง Tense 12 ตัว เขาใจแลว เรื่องนี้จะงาย ทันที เชน Healthy long life is healed by Thai message. อายุยืนโดยการนวดแผน ไทย (ประธานคอื Healthy long life)

154  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e ACTIVE VOICE & PASSIVE VOICE หลกั การเปลยี่ นประโยค “Active” เปน ประโยค “Passive” 1. นําเอากรรมของประโยค Active voice ไปเปนประธานของประโยค Passive voice Active voice: Suriya read a book. Passive voice: A book is read by Suriya. 2. นาํ เอาประธานของประโยค Active voice ไปเปนกรรมของประโยค Passive voice มี by นําหนา ประธานเดมิ Tense โครงสรางประโยค ตัวอยา ง Present Active S + V1 (s,es) King builds a house. simple Passive S + is/am/are + V3 + by A house is built by king. Present Active continuous Passive S + V. to be + Ving King is building a house. Present Active S + is/am/are + being + A house is being built perfect Passive V3 + by by king. Active S + have/has + V3 King has built a house. S + have/has+ been + V3 A house has been built + by… by king. S + have/has + been + King has been building Ving a house.

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  155 Tense โครงสรางประโยค ตัวอยา ง Present Passive S + have/has + been + A home has been perfect being + V3 + by being built by king. continuous Past Active S + V2 king built a house. simple Passive S + was/were + V3 + A house was built by by… king. Past Active S + was/were + Ving king was building a continuous house. Passive S + was/were + being + A house was being built V3 + by… by king. Past Active S + had + V3 King had built a house. perfect Passive S + had + been + V3 + A house had been built by… by king. Past Active S + had + been + Ving King had been building perfect a house. continuous Passive S + had + been + being A home had been being + V3 + by… built by king. Future Active S + will + V1 King will build a house. simple Passive S + will + be + V3 + by… A house will be built by king. Future Active S + will + be + Ving King will be building a continuous house. Passive S + will + be + being + A house will be being V3 + by… built by king.

156  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e Tense โครงสรา งประโยค ตัวอยาง Future Active S + will + have + V3 Father will have built a perfect house. Passive S + will + have been + A house will have been V3 + by… built by father. Future Active S + will have + been + Father will have been perfect Ving building a house. continuous Passive S + will have + been + A house will have been being + V3 + by… being building by father. (แตใ นบางกรณีอาจจะสามารถเขยี นโดยไมตองมี by ก็ได) Active voice: Suriya read a book. Passive voice: A book is read by Suriya. 3. เม่ือเปล่ียนประโยค Active voice เปนประโยค Passive voice กริยาจะตองเปนรูปกริยาชองท่ี 3 (Past Participle) และตามหลัง Verb to be.( is, am , are, was , were, be, being, been) ตองดูตามประธาน(ของประโยคใหม) และ tense Active voice: Suriya read a book. Passive voice: A book is read by Suriya. (ในที่น่ีรูปกริ ิยาทงั้ สามชอ งของ read มีรูปทเี่ หมอื นกนั ) Active voice: They have built a new tank. พวกเขาสรางแทง น้ําใหม (เสรจ็ ไปแลว ในอดตี ) Passive voice: A tank has been built by them. แทงน้ําใหมถกู สรา งข้ึนมาโดยพวกเขา (เสรจ็ ไปแลว ในอดตี เชน กนั )

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  157 การเปล่ยี นรปู เปน ประโยค Passive Voice ของทั้ง 12 Tense Tense ตัวอยาง Present simple Active Father builds a house. Passive A house is built by father. Present Active Father is building a house. continuous Passive A house is being built by father. Present perfect Active Father has built a house. Passive A house has been built by father. Present perfect Active Father has been building a house. continuous Passive A house has been being built by father. Past simple Active Father built a house. Passive A house was built by father. Past continuous Active Father was building a house. Passive A house was being built by father. Past perfect Active Father had built a house. Passive A house had been built by father. Past perfect Active Father had been building a house. continuous Passive A house had been being built by father. Future simple Active Father will build a house. Passive A house will be built by father.

158  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e Future Active Father will be building a house. continuous Passive A house will be being built by Future perfect father. Future perfect Active Father will have built a house. continuous Passive A house will have been built by father. Active Father will have been building a house. Passive A house will have been being building by father. Active and Passive forms Active (Simple Forms) Simple Present I drive Simple Past I drove Present Perfect I have driven Past Perfect I had driven will-future I will drive Future Perfect I will have driven Conditional I would drive Conditional Perfect I would have driven

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  159 Present Progressive I am driving Past Progressive I was driving Present Perfect Progressive I have been driving Past Perfect Progressive I had been driving will-future Progressive I will be driving Future Perfect Progressive I will have been driving Conditional Progressive I would be driving Conditional Perfect Progressive I would have been driving Passive (Progressive/Continuous Forms) Present Progressive I am being driven Past Progressive I was being driven Present Perfect Progressive* I have been being driven Past Perfect Progressive* I had been being driven will-future Progressive* I will be being driven Future Perfect Progressive* I will have been being driven Conditional Progressive* I would be being driven

160  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e Exercise. 4 Complete the following sentences using appropriate active or passive verb forms. Choose your answers from the given options. 1. The news …………………. to the children. (explained / was explained) 2. Those pyramids ……………………. around 300 AD. (built / were built) 3. All the trouble ……………………….. by your family. (has caused / was caused) 4. The visitors ……………………. (were shown / have shown) a collection of old manuscripts. 5. I …………………. him ten pounds last year. (lend / lent / was lent) 6. She …………………… of fierce animal. (frightened / is frightened) 7. That picture …………………. by artist. (painted / was painted) 8. I ………………….. by his suggestion. (shocked / have shocked / was shocked) 9. Excuse the mess. The house ………………… (is painting / is being painted / has painted) 10. He knew why I …………………. (had chosen / had been chosen)

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  161 Answers 1. The news was explained to the children. 2. Those pyramids were built around 300 AD. 3. All the trouble was caused by your mother. 4. The visitors were shown a collection of old manuscripts. 5. I lent him ten pounds last year. 6. She is frightened of fierce animal. 7. That picture was painted by artist. 8. I was shocked by his suggestion. 9. Excuse the mess. The house is being painted. 10. He knew why I had been chosen

162  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e Present Subjunctive Subjunctive Sentences ประโยคแสดงความตองการ (Demand or Request), ความปรารถนา (Wish), เงื่อนไขสมมุติ (Condition), ความสงสัยไมแนใจ (Doubt) หรือ ส่ิงที่ อาจเกิดข้ึนได (Possibility) Subjective แบงออกเปน 3 ประเภท ไดแ ก 1. Present Subjunctive 2. Past Subjunctive 3. Past Perfect Subjective Present Subjunctive คอื การใชกรยิ าชองท่ี 1 ที่ไมมี to นําหนา (Infinitive without to หรือ Bare Infinitive) และ ไมมกี ารเติม s หรือ es ทีก่ ริยาในประโยคหลัง that แมวา ประธานจะเปนเอกพจนก็ตาม และจะไมมีการเปลี่ยน Tense ในประโยคหลัง that โดยเด็ดขาด และถาในประโยค มี Verb to be ใหใช be ตลอด Present Subjunctive จะใชเมอื่ 1. อยูห ลงั verb + that ในโครงสราง subject + verb + that subject + (should) + infinitive without to (Verb1 ไมมี to นาํ หนา ) Verb ที่นยิ มใชใ นรปู Present Subjective ตัวอยางเชน

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  163 advise that – แนะนําวา ask that – ขอรอ งวา command that – ส่ังวา demand that – ตองการวา insist that – ยืนกรานวา order that – ส่ังวา propose that – เสนอวา recommend that – แนะนําวา request that – ขอรองวา require that – ตองการวา suggest that – แนะนาํ วา ตวั อยา งประโยคภาษาอังกฤษ The teacher demands that we be on time. I insisted that he pay me the money. 2. อยูหลงั It is/was + Adjective(บางคาํ ) + that ในโครงสราง It is + adjective that + subject + (should) + infinitive without to (Verb1 ไมม ี to นําหนา)

164  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e Adjective ทใ่ี ชโครงสรา ง Present Subjunctive ไดแ ก กริยาท่ีนิยมใชใ นโครงสรา งนไี้ ดแก critical that – vital that – จาํ เปน ท่ี urgent that – เปน เรอ่ื งดว นที่ จําเปนที่ essential that – important that – สําคญั ที่ strange that – แปลกที่ จาํ เปนที่ imperative that significant that – สาํ คญั ท่ี recommended that – แนะนาํ – จําเปน ท่ี วา necessary that – จาํ เปน ท่ี ตัวอยางประโยคภาษาอังกฤษ It is advisable that we do exercise every day. It is essential that we have healthy meals and snacks. รปู Negative, Passive และ Continuous ของ Subjective Negative: not + verb 1 ตวั อยางประโยคภาษาอังกฤษ I suggest that you not take the job without renegotiating the salary. Passive: be + verb3t – กระตนุ , เตอื นวา ตัวอยางประโยคภาษาอังกฤษ Jim recommended that Vanessa be hired immediately. Continuous: be + verb ing

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  165 ตวั อยา งประโยคภาษาอังกฤษ I propose that we all be waiting in Simon’s apartment when he gets home. การใช Should ในประโยค Subjective ประโยค Should ในประโยค Subjunctive ประโยค Subjunctive สามารถนํา should มาวางไวหนา verb 1 ได มกั พบในภาษาองั กฤษแบบ British English โดยนยิ มใชห ลงั กรยิ า suggest, recommend และ insist ตัวอยา งประโยคภาษาอังกฤษ Max suggested that Scott should study harder for the final exam. Past Subjunctive จะเหมอื นกบั Wish Sentence แบบท่ี 1 เปน การแสดงความปรารถนา ท่ีไมสามารถเกิดขน้ึ จรงิ เปนไปไมได หรอื ตรงขามกับความจรงิ ในปจ จุบัน จะใช กริยา Past Simple Tense (Verb 2) โดยสังเกตจากกลุมคําตอไปน้ี คอื wish, if only (ถา หากวา,ถา เพียงวา ), as if(ราวกบั วา, ประหนึ่งวา) และสําหรบั Verb to be ใหใ ช were กบั ประธานทกุ ตัวทัง้ เอกพจนแ ละพหูพจน ตวั อยางประโยคภาษาอังกฤษ Molly looks as if she knew the answer. Jack wishes he finished his work.

166  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e I wish I were there to have a drink with you. นอกจากนี้ Past Subjunctive ยังถูกนําไปใชตามหลังกลุมคําหรือหลัง ขอความตอ ไปนี้ It’s time + subject + verb2 = ถงึ เวลาแลวท่ี… It’s hight time + subject + verb2 = ถึงเวลาพอดีแลวที…่ It’s hight noon + subject + verb2 = ถึงกาํ หนดเตม็ ทแ่ี ลวท่ี… Subject + would rather + subject + verb2 = …อยากจะใหเปน วา … ตัวอยางประโยคภาษาอังกฤษ It’s time the kids were in bed. I would rather you boyfriend stopped calling you in the middle of the night. Past Perfect Subjunctive เหมือนกันกับ Wish Sentence แบบที่ 2 เปนประโยคที่แสดงความ ปรารถนาที่ไมเกิดขึ้นจริง หรือตรงกันขามกับความเปนจริงในอดีต จะใชกริยา Past Perfect Tense(had + verb3) โดยมีคําบอกเวลาในอดีตปรากฏอยู คําท่ี แ ส ด ง Past Perfect Subjunctive ไ ด แ ก wish, if only, as if, as though เหมอื นกับ Past Subjunctive

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  167 ตวั อยางประโยคภาษาอังกฤษ I wished she had gone to the party last night. Lilly wished she had been here yesterday. Jim talked as though it had rained very hard yesterday. Subjective สามารถแบงออกเปน 3 ประเภทใหญๆ ดังตอไปน้คี รบั Subjunctive แบง ออกเปน 3 ประเภท คือ 1. Present Subjunctive 2. Past Subjunctive 3. Past perfect Subjunctive ซึ่ง Subjective แตละประเภทมรี ายละเอียดดังตอไปน้ี 1. Present Subjunctive Present Subjunctive หมายถึง ประโยคที่แสดงความตองการ ความจาํ เปน และความปรารถนาท่เี ปนไปได แยกออกเปน 3 ประการ ไดแ ก 1.1 แสดงความตองการ (Demands or Requests) กริยาท่ีใชใน ประโยคนน้ั ใชโครงสรางรูปประโยคดงั ตอไปนี้ Subj. + V. + that + Subj. + (should) + infinitive without to กรยิ าทนี่ ิยมใชในโครงสรา งนี้ไดแก advise prefer maintain that (แนะนาํ , ส่ังสอน) (ชอบมากกวา ท่จี ะ) = ยนื ยนั วา ask (ขอรอ งวา ควร) urge (กระตนุ ) require (ตองการ)

168  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e กริยาทน่ี ยิ มใชใ นโครงสรา งนีไ้ ดแ ก command (สง่ั ) propose (เสนอ) command that = สั่งวา ตอ ง demand (that) : ตอ งการ, recommend decree that รองขอวา (แนะนาํ ) = บัญชาวา pray that = ออนวอนวา request (ขอรอง) desire that = ปรารถนาใหเปน วา require that = กําหนดวา suggest (แนะนํา) insist: ยนื กราน, ยนื กรานวา ตอง จะตอง move (that) เสนอ(วา) order (สง่ั ) request that = ขอรองวา ควร ตวั อยางเชน Mother always insists that I should eat more vegetables. แมผ มกําชับ(ยํ้า)อยูเ สมอวา ผมควรทานผักใหมาก ๆ She insisted that I (should) be here at seven o'clock. หลอ นไดก ําชบั (ยํ้า)วาผมควรจะมาที่นตี่ อน 7 โมงเชา I suggested that you(should) come early. ผมแนะนําวาคุณควรจะมาทีน่ ่ีแตเชา 1.2. แสดงความจําเปน (Necessities) กริยาท่ีใชในประโยคนั้นใช โครงสรา งรปู ประโยคดังตอไปน้ี It is important that + subj. + (should) + infinitive คําท่ีใชแสดงความจําเปน สวนใหญจะเปน คําคุณศัพท (Adjective) เชน necessary, essential, imperative, advisable, significant, necessary,

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  169 preferable เปนตน ซึ่งสวนใหญคําเหลาน้ีจะใหความหมายวา ‘เปนการจําเปน ที่วา, เปนการสําคัญทวี่ า, เปนการรบี ดว นทว่ี า ’ ตัวอยา งเชน It is advisable that you should go meet the doctor. เปนการสมควรทว่ี า คุณควรจะไปพบแพทย It is essential that you should have your own cellphone. เปนการจาํ เปนท่ีวา คุณควรจะมีโทรศัพทมือถือเปน ของตวั เอง It is crucial that you should speak French with others. จาํ เปนยง่ิ ท่ีวาคุณควรจะพูดภาษาฝรงั่ เศสกบั คนอื่นๆ It is better that you should be there early. เปนการดกี วา ท่ีวาคุณควรจะอยทู ี่นัน่ กอนเวลา It is desirable that you should deserve that award. เปน การสมควรที่วาคุณควรจะไดรับรางวัลนน้ั 1.3. แสดงความปรารถนา (Wishes) ไดแ ก ประโยคท่ขี นึ้ ตนดวย It is ( my, their, his etc. ) wish that + subj. + ( should) + infinitive without to ตัวอยางเชน It’s my wish that you should get back home now. เปนความปรารถนาของผมวาคณุ ควรจะกลบั บา นตอนนี้

170  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e 2. Past Subjunctive Past Subjunctive หมายถึง ประโยคที่แสดงความปรารถนา ที่ไม สามารถเกิดขึ้นจริง เปนไปไมไดหรือตรงขามกับความเปนจริงในปจจุบัน (Present Unreal) คํา ที่แสดง Past Subjunctive ไดแ ก wish, if only, as if, as though ประโยคเหลานี้ กริยาจะเปน Past tense สําหรับ verb to be ใช were กับทุกบุรุษ สวนกริยาชวย(Modals)ประเภทอื่นๆการใชมักอยูในรูปอดีต เสมอ โดยสามารถแสดงเปน โครงสรางไดด ังตอ ไปน้ี ประธาน + wish (es) + (that) ประธาน+กรยิ าชองท่ี 2 If only + (that) ประธาน + กรยิ าชองที่ 2 ตวั อยาง เชน I wish I were Make. (but I am not) ผมอยากเปน แม็ก I wish I were a layer. (but I am not) ผมอยากเปน นักกฎหมาย He wishes he finished his work. (but he doesn't) ผมปรารถนาวาเขาจะทํางานใหเ สรจ็ I wish I could the one you love. (but I’m not) ผมอยากเปน คนท่ีคณุ รกั

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  171 3. Past Perfect Subjunctive Past Perfect Subjunctive ห ม า ย ถึ ง ป ร ะ โ ย ค ท่ี แ ส ด ง ค ว า ม ปรารถนาท่ีไมเกิดข้ึนจริง หรือตรงขามกับความเปนจริงในอดีต (Past Unreal) โดยมีคําบอกเวลาในอดีตปรากฏอยู คําท่ีแสดง Past Perfect Subjunctive ไ ด แ ก wish, if only, as if, as though เ ห มื อ น กั บ Past Subjunctive Past Subjunctive คือ ประโยคที่แสดงความปรารถนา ท่ีไมเกิดข้ึนจริง หรือตรงขามกับความเปนจริงในปจจุบัน สวน Past Perfect Subjunctive คือ ประโยคท่ีแสดงความปรารถนาที่ไมเกิดขนึ้ จริง หรอื ตรงขามกับความเปนจริงใน อดีต (Past Unreal) สวนคําแสดงในประโยคสวนแรกเราจะใชเหมือนกันคือ wish, if only, as if, as though แตตางกันตรงท่ี ประโยคที่ตามหลังคําเหลานี้ ในประโยคที่ใชโครงสราง Past Perfect Subjunctive กริยาจะเปน past perfect tense (had+V.3) สวน Past Subjunctive จะเปน กรยิ าชอ ง 2 โครงสรา ง Past Perfect Subjunctive และตวั อยา งรปู ประโยคท่ใี ช โครงสรางน้ีกนั เลยครบั โครงสรางในการใช wish, if only มดี ังตอไปน้ี ประธาน + wish (es) + (that) ประธาน+ had + V.3 If only + (that) ประธาน+had+V.3 ตัวอยา ง I wish she had gone to the party last night. (but she didn't) ผมอยากใหเ ธอไปที่งานเล้ยี งเม่อื คนื น้ี (แตหลอ นไม) He wished he had been here yesterday. (but he didn't)

172  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e เขาปรารถนาทจ่ี ะอยูทน่ี ่ีเม่ือวานนี้ (แตเขาไม) หมายเหตุ นอกจาก wish, if only, as if, as though จะใชแสดง Past Subjunctive และ Past perfect Subjunctive แลวยังมีวลีและคําอื่น ๆ ทีใ่ ชในลกั ษณะเดยี วกันอกี ไดแ ก it's time = ถงึ เวลาแลว would rather = อยากจะ...มากกวา it's high time = สมควรแกเ วลาแลว would sooner = อยากจะ...มากกวา it's about time = จวนจะไดเวลา supposed (that) = สมมติวา ตวั อยาง เชน It is time students had breakfast. It's about time the class began. It’s high time Big John gave up smoking Subject-Verb Agreement Subject and Verb Agreement ในประโยคภาษาอังกฤษ การใชประธานของประโยค (Subject) และ การใชค ํากริยาในประโยค (Verb) จะตองสอดคลอ งกัน กลา วคอื ถาประธานเปน เอกพจน กริยาตองเปนเอกพจนเชนเดียวกัน แตถาประธานเปนพหูพจน กริยา

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  173 ตอ งเปนพหพู จนด วย เชน government, committee เปนไดทงั้ เอกพจน และ พหูพจน ข้นึ อยูกับการใช เชน money เปนคาํ นามนับไมไ ด ดังนั้น จึงเปน คํานามเอกพจน police, people เปน คํานามพหูพจน 1. กฎพืน้ ฐาน ถา ประธานเปน เอกพจนคือหนงึ่ เดยี ว กรยิ าเปน เอกพจน และ ถาประธานมหี ลายคน / หลายส่งิ กรยิ ากต็ องเปน พหูพจนด วย เชน This room is for our guests. These children live near my house. 2. ถา ประธานมี 2 ตัว เช่ือมดว ย “and” ใหถือเปน ประธานพหพู จน กรยิ าจึง ตองเปนพหูพจน เชน My brother and I are twins. แต!! ถาประธานท่เี ชื่อมดวย “and” แตเปน ส่ิงเดยี วกนั หรอื เปนหนวยเดียวกัน ใหถ อื เปน เอกพจน และใชกริยาเอกพจน เชน Bread and butter is my favorite breakfast. (ขนมปงและแยมเปนของ ชิ้นเดียวกัน มันจึงเปนเอกพจน) 3. ประธานท่มี ีวลีหรือคําขยายตอ ทา ย จะนบั เปน เอกพจนห รอื พหูพจนน ้ัน ให ดูประธานทอ่ี ยูขางหนาเปน หลัก เชน Many boys including my brother like playing computer game. Tammy together with her family has reserved the table at this restaurant.

174  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e 4. คาํ ตอไปน้ีเมือ่ เปนประธานของประโยคใหถอื เปน เอกพจน anybody everybody someone anyone everyone somebody anything everything something anywhere everywhere somewhere each + singular N. either + singular N. neither + singular N. each of + Plural N. either of + Plural N. neither of + plural N. เชน Everyone agrees to your plan. Each of the lessons takes an hour. 5. ประธานซึ่งเช่ือมดวยคําตอไปน้ี กรยิ าใหถ ือตามประธานตัวหลัง or neither… nor either….or not only……but also เชน Not only Jim but also his friends are coming to the party tonight. Neither the Prime minister nor his representatives are to attend the meeting. 6. คาํ ตอ ไปนี้ถาใชแ ทนคํานามนบั ได ถอื เปนพหูพจนเ สมอ all both (a) few many several some เชน All are going to miss the train. Few are attending the meeting.

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  175 Many were invited to the lunch but only twelve showed up. 7. มาถงึ คิวของคาํ บอกปริมาณกันบา ง มีเยอะแยะแยกเปนกลุมไดด งั นคี้ ะ 7.1 วลีบอกปริมาณตอไปน้ถี าตามดวยนามเอกพจน กริยาตองใชเอกพจน ถาตามดว ยนามพหพู จนก รยิ าตองใชพหพู จน a lot of plenty of most of some of lots of all of none of percent of เชน I think a lot of English wine is too sweet. Plenty of people are in the room. 7.2 วลีบอกปริมาณตอไปนี้ใชกับคํานามนับไดที่เปนพหูพจน และกริยาก็ ตอ งเปน พหูพจนตามดวย ซง่ึ ไดแกค ําวา a number of many a large number of a good many a great number of a great many เชน A number of students are playing football. A large number of tourists get lost because of that sign. 7.3 วลีบอกปริมาณตอไปน้ี เมื่อใชกับนามนับไมได กริยาตองใชรูป เอกพจนตลอดไป much a large number of a great deal of a large amount of a good deal of a large quantity of

176  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e เชน A large amount of money was stolen from the bank. 8. ประธานที่ขึ้นตนดวย Infinitive Phrase (วลีที่นําหนาดวย to) หรือ gerund (Ving) ถอื วาเปนเอกพจน กริยาตอ งเปน รปู เอกพจน เชน To get up early is my habit. การต่ืนนอนแตเชาเปนนิสยั ของฉนั Swimming is my favorite sport. การวา ยนํา้ กีฬาโปรดของฉัน 9. ประโยคท่ีมี who, which, that เปน Relative Pronoun กริยาของ Relative Pronoun จะใชรูปของเอกพจนหรือพหูพจนใหยึดตามคาํ ท่ีมัน แทนซ่งึ อยขู างหนา เชน The students who are trying hard will pass the exam. ( who = students) That girl who wears pink dress is my younger sister. (who = girl) 10. จํานวนเงนิ หรอื มาตราตา ง ๆ ถือเปนเอกพจน เชน Twenty thousand Baths is too high for this camera. Two hundred miles is a long way. 11. เศษสวนของคํานามพหูพจน ใชกริยาเปนพหูพจน เศษสวนของคํานาม เอกพจน ใชก รยิ าเปนเอกพจน เชน Two-thirds of the boys are absent.

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  177 Two-thirds of the wall has been painted. หลกั การใชก รยิ าใหสอดคลองกบั ประธาน 1. ประธานเปนเอกพจน กริยาเปนเอกพจน ประธานเปนพหูพจน กริยา เปน พหพู จน เชน Jane lives in China. These children live in France. 2. กรณีที่มีประธาน 2 ตัว เช่ือมดวย “and” โดยปกติถือเปนพหูพจน กริยาจงึ อยใู นรปู พหพู จน เชน Jean and David are moving back to Australia. 3. กรณีท่ีมีประธาน 2 ตัว เชื่อมดวย “and” แตนํามาใชโดยคิดเปน หนว ยเดียวกนั ใชก รยิ าเปนเอกพจน เชน Rice and curry is my daughter's favorite food. ** แตถาผูพูดคดิ วาแยกกนั ก็จะมีความหมายเปน พหูพจน เชน Rice and curry are what we have for lunch today. 4. ประธานท่ีมีคํานามมากกวา 1 และเชื่อมดวย “and” หากเปนคน หรือสิ่งเดยี วกัน จะมี article ท่ีประธานตวั หนา แหงเดยี วเทานัน้ เชน The manager and owner of this restaurant is my friend. (manager and owner = คนเดียวกัน แตม ี 2 ตาํ แหนง ) The black and white cat under the table is my cat. (black and white cat = แมวตัวเดียว แตม ี 2 ส)ี **ระวงั !!! หากเปน คนละคนกนั จะมี article ทหี่ นาคํานามทัง้ สอง

178  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e เชน The manager and the owner of this restaurant are my friends. (manager and owner = คน 2 คน คนหนึ่งเปนผูจัดการ อีกคนหนึ่ง เปน เจา ของ) 5. ประธานท่ีมีวลี หรอื คําขยายตอไปนี้ตอทา ย จะใชกริยาทเ่ี ปนเอกพจน หรอื พหพู จนน้ัน จะตอ งยึดเอาประธาน / คํานามท่อี ยูขางหนาเปนหลกั accompanied by (พรอมดวย) along with (พรอมดว ย) as well as (เชนเดยี วกบั ) besides (นอกจาก) but (ยกเวน ) except (ยกเวน) excluding (ไมน ับ) in addition to (นอกจาก) in company with (พรอมดวย) including (รวมท้ัง) เชน Some people including my brother find cricket boring. John together with his colleagues has agreed to work late tonight. 6. ประโยคหรือวลที ข่ี ยายประธาน ไมมผี ลตอการใชก รยิ าของประธาน เชน John, with all his players, was on the field. Mr. Clark, like our other neighbors, is very helpful. 7. คําตอไปน้ีถือเปนเอกพจน เม่ือมาเปนประธานของประโยค ตองใช กรยิ าเอกพจนเสมอ ไดแก anybody everybody someone anyone everyone somebody

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  179 anything everything something anywhere everywhere somewhere each + singular N. either + singular N. neither + singular N. each of + Plural N. either of + Plural N. neither of + plural N. เชน Is there anybody here who could speak Japanese? Each of the lessons takes an hour. Somebody is in the room. 8. ประธานซงึ่ เชื่อมดวยคําตอ ไปนี้ กริยาถือตามประธานตวั หลงั or neither... nor either....or not only......but also เชน Neither the President nor his representatives are to attend the meeting. Either the teachers or the principal is to blame for the accident. Not only Jim but also his friends are coming to the party tonight. ** หมายเหตุ ในกรณีประธาน 2 ตัว นิยมเอาประธานท่ีเปนพหูพจนไว ขางหลงั มากกวา

180  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e 9. คํา Indefinite Pronouns ตอ ไปนี้ถา ใชแ ทนคาํ นามนับได ถือเปน พหพู จนเ สมอ all both (a) few many several some เชน All were ready to leave the party by midnight. Few were in the audience to see the horrible play. Many were invited to the lunch but only twelve showed up. 10. การใชวลีบอกปรมิ าณ วลีบอกปริมาณตอไปน้ีถาตามดวยนามเอกพจนตองใช กริยาตองใช เอกพจน ถาตามดว ยนามพหพู จนก รยิ าตอ งใชพ หูพจน a lot of plenty of most of some of lots of all of none of percent of เชน I think a lot of English wine is too sweet. A lot of people are in the room. Some of my jewelry is missing. วลีบอกปริมาณตอไปนใี้ ชก ับคํานามนับไดทีเ่ ปนพหูพจนซ ่ึงกริยากต็ อ ง เปนพหูพจนตามดว ย ซึ่งไดแกคําวา a number of many a large number of a good many

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  181 a great number of a great many เชน A number of students are playing football. A large number of tourists get lost because of that sign. There are still a large number of problems to be solved. 11. วลีบอกปริมาณตอไปน้ี เมื่อใชกับนามนับไมได กริยาตองใชรูป เอกพจนตลอดไป much a large number of a great deal of a large amount of a good deal of a large quantity of เชน A large amount of money was stolen from the bank. The number of students in the class is limited to twenty. 12. ประโยคท่ีมี who, which, that เปน Relative Pronoun กริยา ของ Relative Pronoun จะใชร ูปของเอกพจนห รือพหูพจนใ หถ ือเอาตามคาํ ทม่ี ัน แทนซึง่ อยขู า งหนา who, which, that เชน He is one of my friends who are millionaires. (who = my friends) That girl who wears pink dress is my younger sister. (who = girl)

182  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e 13. ประธานทีข่ ้ึนตนดวย Infinitive Phrase (วลที ่ีนาํ หนาดว ย to) หรือ gerund (ing) ถือวาเปนเอกพจน กริยาตอ งเปนรูปเอกพจน เชน To see is to believe. Winning the national championship is her most important achievement. 14. จาํ นวนเงนิ หรอื มาตราตา ง ๆ ถือเปน เอกพจน เชน Twenty thousand baths is too high for this camera. Two hundred miles is a long way. 15. เศษสวนของคํานามพหูพจน ใชกริยาเปนพหูพจน เศษสวนของ คํานามเอกพจน ใชก ริยาเปนเอกพจน เชน Two-thirds of the boys are absent. Two-thirds of the wall has been painted. 16. ช่อื หนังสอื หรือบทความเปนเอกพจน เชน Gulliver's travels was written by Swift.

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  183 Exercise. 5 Choose the best answer for each of the following sentences. 1. Is it necessary that he…………in hospital for two weeks? a. stay b. stays c. stayed d. would stay 2. I demand that she……………….to see a doctor at once. a. goes b. went c. go d. would go 3. It’s time my father…………………… a. be retired b. were retired c. retiring d. should be retiring 4. The teacher recommended that every student…………….a dictionary. a. buys b. buy c. bought d. would buy 5. it was essential that she……………….to do that yesterday. a. decides b. decides c. decide d. would decide 6. She demanded………….more if we went to enter the competition. a. that we practice b. in practicing c. us to practice c. we practiced 7. I wish last night’s program…………….more exciting. a. had been b. was c. has been d. would be 8. The party yesterday was wonderful. I wish all of my friends………… a. will come b. would come c. came d. could have come 9. I can’t speak English fluently, but I wish I…………….soon. a. can b. could c. would d. had

184  C h a p t e r 4 A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e 10. He talks as if he………………a doctor, but in fact he isn’t. a. was b. were c. had been d. would be 11. It looked as though it…………..hard. a. rained b. was raining c. had rained d. would rain 12. He……………the president if only he had been a qualified man. a. would be made b. had been made c. was made d. would have been made 13. Do you wish you…………..during some time in the past ? a had lived b. could live c. lived d. might live 14. The doctor recommended that she…………..a long holiday. a. took b. take c. takes d. had taken 15. …………………….it less expensive, we would buy it. a. Only if b. Were c. Should d. But for 16. “Do you like your new job ? “ “ Yes, but my employer insists that I……………….on time.” a. Was b. Be c. Am d. have been

A c t i v e V o i c e a n d P a s s i v e  185 Answer. Subjunctive 1. A 2. C 3. B 4. B 5. C 6. A 7. A 8. D 9. B 10. B 11. C 12. D 13. A 14. B 15. B 16. B \"The future belongs to those who believe in the beauty of their dreams.\" อนาคตเปน ของคนทเี่ ชื่อในความฝนของตัวเองเทา นั้น Eleanor Roosevelt

186  C h a p t e r 5 T h e C l a u s e Chapter 5 The clause Clause คือ โครงสรางท่ีประกอบดวย Subject กับ Verb ในประโยคจะ มีก่ี Clause ก็ได Clause แบงได 2 แบบ คอื 1. Main Clause หรือ Independent clause คือ โครงสรางทสี่ มบรู ณ ในตวั เชน I'm a student. 2. Subordinate Clause or Dependent clause คือ โครงสรางที่ไม สมบูรณตองมีโครงสราง Independent Clause รวมดวยทําใหสมบูรณ ทุก clauses ตองมี subject and verb หมายถึง subject = ประธาน verb = predicate สวนขยายเปนอยางนอ ย Main clauses ประกอบดวย Noun Clause มั ก ข้ึ น ต น ด ว ย how, what, which, who, whose, whom, why, where, that Noun Clause มีหนา ท่ี ดังนี้ • เปนประธานของกรยิ า (Where John did is really strange) • เปน กรรมของกริยา (Sam's special of what his friend buy) • เปนกรรมของบุพบท (Bam go to know where it is) • เปน Complement ของประโยค (This is how he cry in a room)

T h e C l a u s e  187 Noun Clauses ทําหนาที่เสมือนหนึ่งเปนคํานามในประโยค ใน ชวี ิตประจําวัน เราอาจไดยินหรือใช noun clauses โดยไมรูตัววากําลังใช noun clauses อยูจึงปรากฏอยูในตําแหนงท่ีคํานามปรากฏไดทุกตําแหนง ทําหนาท่ี เปน ประธาน (Subject) และกรรม (object) Types of Noun Clauses 1. Subject NC มีตาํ แหนงอยูหนา ประโยคหรอื หนา กรยิ าทาํ หนา ทเ่ี ปน ประธานในประโยค 2. Direct Object NC มตี าํ แหนง อยูห ลังกริยา ทําหนา ท่เี ปน กรรม 3. Object of Preposition NC มีตําแหนงอยหู ลังบุรพบท ทาํ หนาที่ เปนกรรมของบุรพบท 4. Subject as Complement NC มีตําแหนงอยูหลัง to be ทําหนา ที่ เปนสวนขยายประธาน 1. Subject Noun Clauses คํานามหรืออนุประโยคที่ทําหนาท่ีเปนประธานในประโยคมักจะปรากฏ อยูหนา กรยิ าหรือหนาประโยค เชน What cause you in Norway so suffering is the awesome stories. จากประโยคขางตน What cause you in Norway so suffering เปน noun clause อยหู นาประโยค ทาํ หนาทเ่ี ปน ประธานของประโยค

188  C h a p t e r 5 T h e C l a u s e 2. Direct Object Noun Clauses I guild you that you have to begin writing English immediate. ฉันแนะนําวา คุณจะตองเร่มิ ตนการเขยี นอังกฤษทนั ที จ า ก ป ร ะ โ ย ค ข า ง ต น that you have to begin writing English immediate อยูหลังกรยิ า guild เปน กรรมตรง (Direct object) ของ guild ตามหลังกรรมรอง (Indirect object) ขอสงั เกตุ สามารถลดรปู โดยละ “that” ออกได ภาษาเปนทางการ แนะนําใหใ ส “that” ดว ย Som is watching T.V. that he bought from his uncle. สมกําลังดู ทีวซี งึ่ เขาซ้อื จากลงุ ของเขา ประเภทของ Object Noun Clauses Object Noun Clauses จะตองอยูคูกับ Main Clause ของประโยค เสมอ โดยประโยคจะเริ่มดว ย Main Clause แลว ตามดวย Object Noun clause โดยไมตองมีเครื่องหมาย Comma ค่ัน Object noun clauses มี 3 ประเภท ไดแ ก 1. Noun Clauses ข้ึนตนดวย \"that\" 2. Noun Clauses ขึ้นตน ดวย \"Wh-Words\" (หรือ Question Words) 3. Noun Clauses ขน้ึ ตนดว ย \"if\" หรอื \"whether\" • การใช Noun Clauses ท่ขี ึ้นตนดวย \"That\" เราใช Noun clauses ที่ข้ึนตนดวยคาํ วา that ในกรณตี อไปน้ี