Root 289 23. -ify ใชเตมิ หลังคํานาม (noun) และ คําคุณศัพท (adjective) เพ่ือสราง เปน คาํ กริยา (verb) เชน คาํ ความหมาย เตมิ -ify ความหมาย Beauty (n.) ความงาม beautify ตกแตง Simple (adj.) งา ย simplify ลดความซบั ซอน Class (n.) ชนั้ เรยี น, วรรณะ classify แยกประเภท Diverse (adj.) หลากหลาย diversify เปลีย่ น False (adj.) เท็จ, ปลอม falsify ปลอมแปลง Test (n.) ทดสอบ testify เปน พยาน 24. -ish ใชเติมหลังคํานาม (noun) เพอื่ สรางเปน คาํ กริยา (verb) เชน คํา ความหมาย เติม -ish ความหมาย child เดก็ childish ข้ีเลน sheep แกะ sheepish ขีอ้ าย girl สาว girlish วยั รุน prud หงึ หวง prudish เจาระเบยี บเกินไป mul มัล mulish ดือ้ รัน้ style สไตล stylish ทนั สมัย book หนังสือ bookish เปน หนอนหนังสือ actor นกั แสดงชาย actorish ทางนกั แสดงชาย animal สตั ว animalish ความเปน สัตว
290 Chapter 10 Root 25. -ize ใชเ ตมิ หลังคาํ นาม (noun) เพ่อื สรางเปนคาํ กริยา (verb) เชน คาํ ความหมาย เติม -ize ความหมาย Glamor (n.) เสนห Glamorize ทําใหชวนดู Harmony (n.) ความสามคั คี Harmonize ปรองดองกัน Homogeneity เปนเนอ้ื Homogenize ทาํ ใหเ ปน เน้อื (n.) เดยี วกนั เดียวกัน Ideal ในอุดมคติ Idealize ทําตามอดุ มคติ Symbol (n.) สญั ลักษณ Symbolize สญั ลกั ษณ Natural โดยธรรมชาติ Naturalize โอนสัญชาติ หมายเหตุ : คําท่ีกลาวมาน้ีจะเปน Adjective ก็ตอเมื่อใชประกอบนาม เทา นน้ั หากใชอยา งโดด ๆ จะเปน นามไป เชน John is a handsome man, (noun) จอหน เปน คนหลอ We like the Hollywood movie. (adj.) พวกเราภาพยนตรเกี่ยวกับฮอลล ีวดู การทาํ ใหเ ปนคาํ กริยาวเิ ศษณ (Formation )
Root 291 Word Building (Adverb Suffix) คํากริยาวิเศษณ (Adverb Suffix) สรางจากการเติมคําศัพททายคํา เหมือนกับ การสรางคํานาม หรือ คํากริยา เชนกัน ตา งกันตรงที่ ปจจัย (Suffix) ตางกันเทาน้ัน Adverbs สวนมากมีแหลงที่มาจากคําคุณศัพท (adjectives ) โดยการเติมปจจัยที่ทายคํา ( suffix ) -ly เชนNormal เปน normally สังเกตุ งายๆ วา คําสวนใหญที่ลงทายดวย –ly มักจะเปนคําคุณศัพทเสมอ ประกอบดวย-ly –ward(s), -wise 1. -ly ใชเ ติมใชเติมหลังคํากรยิ า (verb) และ คาํ คุณศพั ท (adjective) เพ่ือ สรางเปนกริยาวิเศษณ (adverb) มีความหมายวา อยา ง หรือ นา เปน การเนน คาํ อยางลึกซง้ึ เชน คํา ความหมาย เติม -ly ความหมาย Calm เงยี บสงบ Calmly อยา งใจเยน็ Easy งา ย Easily อยางงา ยดาย Quick รวดเรว็ Quickly อยา งรวดเรว็ Beautiful สวย Beautiful อยางสวย Nice ดี Nicely อยา งดี Natural โดยธรรมชาติ Naturally อยา งเปนธรรมชาติ Regular ปกติ Regularly อยางสมํ่าเสมอ Extensive กวา งขวาง Extensively อยา งกวางขวาง Mature เปนผูใ หญ Maturely อยา งเจรญิ วยั
292 Chapter 10 Root 2. –ward(s) ใชเติมหลัง คํานาม (noun) คํากริยา (verb) และ คําคุณศัพท (adjective) กริยาวิเศษณ (adverb) เพื่อสรางเปนกริยาวิเศษณ (adverb) เชน คํา ความหมาย เติม –ward(s) ความหมาย Down (v.) ลง Downward ลง, ขาลง Home (n.) บาน Homeward กลบั ไปบา น Up (v.) ขึ้น Upward ขึ้นไปขางบน For (prep.) สําหรบั Forward ขางหนา To (prep.) ไปยัง toward ไปทาง, ไปสู 3. –wiseใชเติมใชเติมหลัง คํานาม (noun) เพื่อสรางเปนกริยาวิเศษณ (adverb) เชน คํา ความหมาย เติม –wise ความหมาย Edge (n.) ขอบ edgewise ดานขาง Clock (n.) นาฬกิ า Clockwise ตามเข็มนาฬิกา Anti-clock (n.) นาฬิกา Anti-clockwise หมนุ ทวนเข็ม ปองกัน นาฬกิ า
Root 293 Exercise. 10 Put the words in brackets in the appropriate form (use a prefix or a suffix): 1. I was acting in a very ……... way. (child) 2. She looked ……... She started to cry. (happy) 3. Johnson passed his exam. He was ……. for the first time. (succeed) 4. Our beloved Koy’s tennis player was able to win the …………. (champion) 5. Mai doesn’t like any ………. in his theory. (weak) 6. Napoleon wants to be a …………... when he is ready. (psychology) 7. There is only a ………………of people at the match. (hand) 8. The door was too narrow, so we had to ……… it. (wide) 9. This cannel should ……… your magazines. It may not be the best thing to do. (consider) 10. Cari always need a ……………... of inspiration and try hard to begin your dreams. (combine)
294 Chapter 10 Root Answers. 1. I was acting in a very childish way. (child) 2. She looked unhappy. She started to cry. (happy) 3. Johnson passed his exam. He was successful for the first time. (succeed) 4. Our beloved Koy’s tennis player was able to win the championship. (champion) 5. Mai doesn’t like any weakness in his theory. (weak) 6. Napoleon wants to be a psychologist when he is ready. (psychology) 7. There is only a handful of people at the match. (hand) 8. The door was too narrow, so we had to widen it. (wide) 9. This cannel should reconsider your magazines. It may not be the best thing to do. (consider) 10. Cari always a combination of inspiration and try hard to begin your dreams. (combine).
เบ็ดเตล็ด 295 Chapter 11 Capitalization Proper nouns; Bangkok, Tokyo, Liverpool, Iceland. // the letters of many abbreviations and acronyms the first letter of the word in a numbered or bulled lists // the capital letter Topics’ Examples; Notices’ FIRST WORD IN A I'm hungry. SENTENCE Strange things THE PRONOUN I If I see her, I will เฉพาะคาํ สรรพนาม \"ฉัน\" give her your เปน ตัวพมิ พใหญค าํ สรรพ message. นามอ่ืน ๆ ทัง้ หมด (เธอ, เขา, ฉนั , เรา ฯลฯ ) จะไม เปนตัวพิมพใหญ PROPER NOUNS I visited California คํานามทเี่ ฉพาะเปนช่ือของ on my vacation. บคุ คลเฉพาะสถานทส่ี ตั ว เล้ยี งองคกร ฯลฯ
296 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด Topics’ Examples; Notices’ THE DIRECTIONS My friend lives in ตัวอักษรใหญเ ชน North, South Carolina. South, East, West, Member of an สถานท่ี (รฐั , ประเทศ organization Have you ever ฯลฯ) แตไมใชสาํ หรบั บอก (สมาชิกขององคกร) attended the ทศิ ทาง competition on ชอ่ื บริษัท,ชว งเวลาของ THE GODS พระเจา Flora Park ประวตั ศิ าสตรเหตุการณ Festival? COUNTRIES, God may bless Names of gods are LANGUAGES, AND us capitalized, including NATIONALITY Monad, Jesus, and ADJECTIVES Have you ever Apollo. (ประเทศภาษาและ had any really คําทง้ั หมดระบุเฉพาะ คณุ ศัพทเ ก่ยี วกบั expensive Japan ประเทศ ประเทศ Beverage?
เบ็ดเตล็ด 297 Topics’ Examples; Notices’ MOM AND DAD Have you spoken อักษรใหญท ่ีชอื่ เฉพาะ เชน (แมและพอ) to Vice Rector of ความสัมพนั ธทาง Academic yet? ครอบครวั ใชก บั สถานที่ BEGINNING AND ของชือ่ ENDING OF Dear Mr. Smith, LETTERS Best regards, (การขน้ึ ตน และการ จบในจดหมาย) FIRST WORD IN \"Study hard and เพ่อื การเนน quote ใน A QUOTE get to bed early!\" ตอนกลางของประโยค (คาํ แรกในคาํ พูด) Sunny Days and new year Day MAIN OR CONTENT WORDS IN TITLES (เนื้อหาหลักหรือ เนอื้ หาเกยี่ วกับชอ่ื เรือ่ ง)
298 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด Topics’ Examples; Notices’ FIRST WORD IN I think I said he's in love with you! EACH LINE OF POETRY ศัพทแรกในแตละ กวี งานประพันธ ตาง ๆ first word in a sentence the pronoun “ I ” title used with the last name of a Person letter Opening- the First, last, and All important Words First Word in a Direct Quotation
เบ็ดเตล็ด 299 Punctuation Marks Punctuation Marks ชว ยใหผ อู า นเขา ใจในการขบั ขยี่ านพาหนะอยา ง ราบรื่น และสําคัญในการใชภาษาอังกฤษเปนอยางมาก โดยเฉพาะ APA in English British called American symbol Examples English called A full stop A period . I am here. An An exclamation ! Hey! I love you! exclamation point mark Brackets Parentheses ( ) The pilot (or pilots) Acquire Brackets [ ] [o ] ownership of brackets tutor school Colon - : Camera: picture, scene, view Semicolons - ; Name list; Joe, ploy, lotus Comma - , You eat fruit well, but he sleep Dash Detour __ All of us ---khom, puk, sonny
300 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด British called American symbol Examples English called Slash - / s/he = she and he ' The girl’s home was Apostrophe - pink. Question Stop Sign ? Where is Rachan? Marks - ... \"I'm wondering …\" Jan Ellipsis said Hyphen - - Sub-marine, ex-wife, mother-in-law Quotation - mark \" “Golf, don’t do that!”
เบ็ดเตล็ด 301 การใช for การใช for เพื่อบอกชวงระยะเวลา (บอกวานานแคไ หน) เชน I’ve been waiting for you. = ฉันรอมาคุณมาแลว Boy’s been working here for one months. = โทนีท่ าํ งานที่นม่ี า 1 เดือนแลว ระวงั การใช: เราไมใช for ตามดว ย all.. เชน They’ve lived here all my life. ไมพ ูด: They’ve lived here for all my life. การใช since การใช since เพ่อื บอกจุดเร่มิ ตน ของชว งเวลา (ต้ังแตต อนไหน) เชน I’ve been waiting since last week. = ฉันรอมาตงั้ แตส ปั ดาหท ี่แลว Pos’s been working here since October. = พอสทํางานทีน่ ต่ี ้ังแตเ ดอื นตลุ าคม
302 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด สรปุ การใช Since และ For ในภาษาอังกฤษ พรอมตัวอยาง for since a period a point from start to end from then to now for 15 minutes since 6 p.m. for two days since Wednesday for 5 months since August for 2 years since 1955 for 2 centuries since I left school for a long time since the beginning of time Infinitive Infinitive หมายถึง รูปกริยาท่ีไมไดก ระจาย เชน to have, to get, to do, to desire, to be passion, to have done, to be realizing, to be recognizing, to have worked, to be come. Infinitive with ‘to’ หรือ ‘to – infinitive เชน to play, to use, to lick, to seek, to pick, to predictเปนตน Infinitive without ‘to’ หมายถึง กริยาท่ีไมผนั รูปตามประธาน หรือ tense และตอ งไมม ี to นําหนา เชน be’ wait, meet, need, repeat, clean,
เบ็ดเตล็ด 303 dream ,suspect, expect, explain, express, depart, will, would, can, could, may, might, must, should, does, do, shall, will. ยกเวน เมื่อตามหลังคํากริยาชวย (auxiliary verb) เชน be, have, ought, used มกั จะตามดวย to + infinitive หลักการใช จะมีอยู 2 รูปแบบ คือ Present tense form และ Present Perfect tense form Present infinitive แสดงการกระทาํ ในขณะปจจุบัน Active: to create, to cancel, to shock, to excited, to appear. Passive: to be done, to be spoken, to be heard, to be supported. Perfect infinitive แสดงถงึ เหตุการณท ี่เกิดขน้ึ แลว ในอดีต Active: to have acted, to have finished, to have gone. Passive: to have been finished, to have been worked. การใช้ Articles a, an, the คาํ article แบงออกไดเปน 2 ชนดิ คือ A. Indefinite Article ไดแก a, an (ใชกับคาํ นามนับไดท่ไี มเ จาะจง) B. Definite Article ไดแ ก the (ใชก ับคํานามนับไดทีเ่ จาะจง)
304 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด A. Indefinite Article ไดแ ก a, an หลักการใช a, an ใช an นําหนาคําท่ีขึ้นตนดวยสระ a, e, i, o,u หรือออกเสียงสระไมวา จะ เขี ยน ข้ึน ต นด ว ย พยั ญช น ะก็ ตา ม เช น an elephant, an hour, an umbrella, an apple การใช a an 1. a an ใชน ําหนานามทั่วทั่วไป แปลวา หนึ่งคน หน่ึงตัว หนึ่งอัน หน่ึง แหง หรือบางทีไมตองแปลกไ็ ด เปนการกลาวถงึ ส่ิงใดสิง่ หนง่ึ แบบลอยๆ โดยมกี ฎ กตกิ าดงั นี้คือ an นําหนา คาํ นามที่ขึน้ ตนดว ยสระ (a e i o u) เชน an apple แอปเปล หนง่ึ ผล an ant มดหนึ่งตัว an elephant ชางหน่งึ ตัว an ice-cream ไอศกรีมหนึง่ แทง an orange สมหนึ่งผล an umbrella รม หน่ึงคัน a นาํ หนาคํานามท่ีขึ้นตน ดว ยพยัญชนะท่ีเหลือทุกตวั เชน a man ชายหน่ึงคน a teacher ครูหนึ่งคน a dog หมาหนง่ึ ตัว
เบ็ดเตล็ด 305 a bird นกหนึง่ ตวั a car รถหนึง่ คัน a school โรงเรยี นหนง่ึ แหง 2. ใช a, an นาํ หนาคํานามเอกพจนท ่นี บั ไดเ สมอท่มี ีความหมายเปน\" หนึ่ง\" She has a dog. Give me an apple. This is a durian. 3. ใช a, an นําหนาคาํ ทีบ่ อกอาชีพ I am a student. I want to be a teacher. 4. ใช a, an นําหนา นามเอกพจนทแี่ ปลเปน ตอ...(หนวย) Oranges cost 50 baht a kilogram. 5. ใช a กับการเจบ็ ไขไ ดปว ย เชน a stomachache, a headache, a fever I have eaten papaya salad at lunch and now I have a stomachache. 6. ใช a, an ในประโยคอุทานตามหลงั what เชน What is this? It’s a pear.
306 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด B. Definite Article ไดแ ก the หลกั การใช the 1. ใชก บั คาํ นามนบั ไดเอกพจนแ ละพหูพจนท ีเ่ ปนการช้เี ฉพาะเจาะจง ลงไปวาคนไหน อันไหน สิ่งไหน 2. ใช the นําหนา คํานามท่มี ีส่ิงเดยี ว The sun, the moon, the sky 3. ใช the นาํ หนาชื่อครอบครวั เชน The Browns, The Lees 4. ตามปกตเิ ราใช the นําหนาชอื่ หนงั สือพิมพเชน The Nation, The Times, The Sun 5. ใช the กับช่ือ สถานที่ ทะเล the Pacific เทอื กเขา the Himalayas แมน ้าํ the Mississippi ทะเลทราย the Sahara โรงแรม the Plaza Hotel โรงหนังโรงละคร the Playhouse พิพิธภณั ฑ the National Museum ชอ่ื ประเทศท่มี ีคําวา Republic, Kingdom, State
เบ็ดเตล็ด 307 6. ใช the เม่อื เราพูดโดยทว่ั ไปในเรื่องเครอ่ื งดนตรี the piano, the piano. I play the guitar. 7. ใช the กอ นคาํ วา same Your shirt is the same color as mine. 8. ใช the + คําคุณศพั ทเมอื่ กลา วถึงกลุมบคุ คลเปนพิเศษ the rich, the sick, the poor 9. ใช the กับคํานามท่ีเราไดกลาวมาแลวทัง้ ผพู ูดและผูฟงรูวากําลงั คิดถึงสงิ่ ใด ตวั อยา งประโยคทใ่ี ช Article a, an และ the 1. There is a plate one the table. มีจานอยบู นโตะ 1 ใบ 2. I am a student. ฉนั เปนนกั เรียน 3.There is a little salt in the bottle. มีเกลอื อยูเล็กนอยในขวด กรณีท่ไี มใ ช Article 1 .ชือ่ ม้ืออาหาร เชน breakfast 2. ชอ่ื ทะเลสาบ ภูเขา เชน Lake Superior 3. ชอื่ ภาษา, ชื่อวชิ า เชน Japanese, Linguistics 4. ชื่อวัน เชน Wednesday 5. เทศกาล, ฤดู เชน Christmas, Easter, spring, summer, winter 6. ชอ่ื เมอื ง, รัฐ, ประเทศ เชน Texas, Thailand 7. ชื่อทวปี เชน Asia, Europe
308 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด 8. นามนับไมได และนามพหูพจน, นามไมมีตัวตน, นามท่ีบอกวัสดุ ไมใช a และ an เชน tigers, life, wood 9. สํานวนเกี่ยวกับ bed, home, work ตอไปน้ีไมใช the คือ go to bed, in bed, finish work, start work, at work, go home, at home 10. คํานามตอไปน้ี ในความหมายปกติไมใช the แตถาใชใน ความหมายอ่ืนจะใช the ไดแก bed, church, court, prison, hospital, market, class, school, college, university เชน - go to bed = ไปนอน แต go to the bed = ไปทเ่ี ตยี ง - go to prison = ถูกขังคุก แต go to the prison = ไปท่ีคุก (เพื่อไป ทําอยางอน่ื ไมไดไ ปเพ่อื ถกู ขงั ) 11. ไ ม ใ ช article ต า ม ห ลั ง kind of, sort of, type of, make of, brand of, variety of, species of, เชน this brand of cigarette 12. Verb ที่เก่ียวของกับการแตงต้ัง คัดเลือก คือ appoint, choose, elect, หรือ make ใหบุคคลใดบุคคลหน่ึงไดดํารงตําแหนงท่ีมีเพียงตําแหนง เดยี ว ไมตองใช article หนาตําแหนง น้ัน เชน - She was made prime minister.
เบ็ดเตล็ด 309 Exercise. 10 English Articles – Filling a, an, the or nothing which is true into the blanks. 1. My mother is ___ English teacher. I am ___ student. When I get home from school, I watch ___ programs on TV. 2. I'm ___ little excited because it's ___ Friday today. There are ___ lot of good shows on TV today. 3. Later, after eating dinner and doing my homework, I go to my room and read ___ book for 30 minutes. 4. Moving to ___ United States was ___ most exciting thing I have ever done. I moved last year to ___ New York. 5. Today, I have ___ job interview at ___ insurance company. ___ company has ___ offices all over ___ world. 6. I have two brothers. One, Greg, is still in ___ college, and ___ other, Mike, has already graduated. 7. After ___ dinner, I usually wash ___ dishes. My wife hates doing it. I waste a lot of ___ water when I do it. 8. We live near ___ sea. ___ most houses in this area are expensive. 9. I have ___ uncle who lives in ___ home for ___ elderly. He is ___ honest man. He used to be ___ FBI agent. 10.He told me that he once met ___ alien from ___ space. This
310 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด alien didn't need ___ oxygen to live; it didn't have ___ nose. Answers. 10 1: an, a, --, the, the, --, a 2: a, --, a, The, --, -- 3: a, the, -- 4: the, the, --, an, --, a, the(a) 5: a, a, The, --, the, the, The, --, the, --, --, a, a 6: --, the, the, the, --, a, -- 7: --, the, --, the 8: the, -- 9: an, a, the, an, an, a, a 10: an, --, --, a, a
เบ็ดเตล็ด 311 การใช much, many, a lot of, lots of much, many, a lot of, lots of ทุกคํามีความหมายเหมือนกันวา จํานวนมาก หรือ มีปริมาณมาก แตทั้ง 4 คํานี้ มีวิธีการใชที่ไมเหมือนกัน ดังน้ันแบงการใชอ อกเปน 2 กลุม ดังน้ี 1. much และ many: มักจะใชในประโยคท่ีมีความหมายในเชิงลบหรือ ปฏิเสธ หรอื ในประโยคคําถามกไ็ ด much = ปรมิ าณมากใชค กู ับคํานามนบั ไมไ ด (uncountable noun) much + uncountable noun (นามนบั ไมได) How much money do you have? คณุ มีเงนิ เทา ไร You say to him that much beef for fulfill this sugar. คุณพดู ถึงเขาถงึ เนื้อววั มากกบั จาํ นวนน้าํ ตาล I have not made much handmade. ฉันไมไดทาํ ดวยมือมากเทา ไรหนกั 2. many = จาํ นวนมากใชคกู บั นามนบั ไดท เ่ี ปนพหูพจน (plural countable nouns) เสมอ many + plural countable nouns (นามนบั ไดท่เี ปนพหพู จน) How many tourists have visited the grand palace before? นกั ทองเท่ียวจํานวนก่คี นเคยมาพระราชวังกอ นหนาน้ี
312 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด Not many Singaporean devote for this trip. คนสิงคโปรจํานวนมากยอมเสยี สละเพ่ือบรษิ ัทน้ี There were not many spy in police station. มีสายลับจํานวนไมนอ ยในสถานตี าํ รวจ 3. much และ many สามารถใชกับประโยคที่เปนประโยคบอกเลา แตนิยม ใชในภาษาท่ีเปนทางการหรือภาษาเขยี นมากกวาภาษาพดู สว นใหญมักจะ พบในเอกสารทางวชิ าการ อ่นื ๆ เปน ตน ขอ ควรจํา สวนมากเราจะไมใช much และ many ในประโยคบอกเลา ยกเวนแตเราจะใช much และ many คูกับคําอ่ืน ๆเหลานี้ในประโยคบอกเลา จะถือวา ใชได เชน so + much/many: I love you so much. ฉนั รักเธอมากนะ She hates you so many หลอ นไมช อบคุณมากนะ much/many + of: We spent much of our time at the sea. พวกเราใชเวลาในชีวิต ของพวกเรา สว นใหญที่ทะเล Many of us were angry about it. พวกเราสวนใหญโมโหกับมนั มาก how + much/many: Do you know how much I love you? คุณรูไหมวา ฉนั รกั คณุ มากแคไหน
เบ็ดเตล็ด 313 How many places would you like to go? มีทั้งหมดกีท่ ี่ท่ีคุณฉนั ชอบไป too + much/many: There are too many restaurants here. ทน่ี ่มี ภี ัตตาคารมากเกนิ ไป She speaks too much in Buddhist seminar. หลอ นพูดมากเกนิ ไปในงานสมั มนาเชงิ พุทธ a lot of และ lots of: ใชไดท้ังกับคํานามนับไดและนับไมได กลาวคือ หากใชกับคํานามนับได คํานามนั้นจะตองเปนพหูพจนเทานั้น แตหากใชกับคํานามนับไมได จะใชกับรูป เอกพจน มักจะใชกับประโยคบอกเลา ที่เปนภาษาพูด หรือภาษาเขียนที่ไมเปน ทางการ lots of จะมีความไมเปนทางการมากกวา a lot of a lot of / lots of + นามนบั ไดพ หูพจน / นามนับไมได A lot of guests took the picture / Lots of guests took the picture. คนแขกจาํ นวนมากถา ยรปู I have a lot of cookies / I have lots of cookies. ฉนั มขี นมคุกกีจ่ าํ นวนมาก
314 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด การใช No กับ Not No แปลวา “ไม” Not ก็แปลวา “ไม” การใชไมตางกนั มาก คําวา No แปลวา ไม แคต อนตอบคําถามที่เปน Yes/No question เทานนั้ เราจะวาง no หนา คํานาม ใหความหมายวา ไมหรือไมม ี เชน There is no sugar. ไมม นี า้ํ ตาล I have no car. ฉนั ไมมรี ถ I have no problems. ฉันไมม ปี ญ หา คําปฏิเสธซึ่งอยูในกลุมท่ีผูเรียนภาษาอังกฤษมักสับสนวิธีการใช และขอ แตกตา งของแตละคํา มกั จะมีคําวา no none nothing nobody no one onwhere เชน Do you have any money? No, I don’t. Will you hang out with me? No, I won’t. แตถาไปเจอ no ที่อื่นมันจะไมไดแปลวา ไม แตหมายถึง “ไมมี” ตางหาก เวลาใชก็นําไปวางไวหนาคํานาม แลวตัดคํานามนั้นออกไดเลย ไมมี โดยทันที เชน I have no idea. ฉันไมร.ู Today’s a holiday then there was no bus.
เบ็ดเตล็ด 315 วนั น้เี ปน วนั หยุดแลว ไมมีรถเมล look up! We have no time for you. มองขน้ึ ! เราไมมีเวลาสาํ หรบั คุณ No student passed final exam. ไมมนี ักเรยี นผานการสอบปลายภาค ตําแหนงนั้นจะตองมีไวห นา not นั่นก็คือ กรยิ าชวย (Auxiliary verb) มีทงั้ Verb to be, Verb to do, Verb to have, และ modal verb ท้งั หมด ทกี่ ลา วมาน้ี มี not ตามหลงั ไดเ ลยในความหมายปฏเิ สธ เชน We strategy do not have long time for maintain status in parliament. กลยุทธของเราไมมีเวลานานในการรกั ษาสถานะในรฐั สภา การใช no, nothing, nobody,… เพื่อใหความหมายเหมือน not + any, anything, anybody. ตัวอยา ง เชน – He have not got any money. เขาไมมสี กั เทา ไร = She have got no money. เธอไมมีเงินเงนิ เลย – We did not say anything. เราไมไดพดู อะไร = He has nothing. เขาไมม ีอะไร – They did not tell anybody about my plans. พวกเขาไมไดบ อกใครเกี่ยวกบั แผนการของฉัน = They inform nobody about his salary in the future. พวกเขาบอกใครเกี่ยวกับเงนิ เดือนของเขาในอนาคต
316 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด การใชก ริยา ‘do’ และ ‘make’ หมายถงึ ‘ทาํ ’ เก่ียวของกับความสมบูรณ (เกี่ยวกับงาน หรือกิจกรรมโดยท่ัวไปโดยไม เจาะจง และคอ นขา งเปน กันเอง ในเชิงการปฏิบตั ิ การกระทาํ เปนสว นใหญ Make จะหมายถึงการสราง การผลิตอะไรสักอยางที่ชัดเจนและเปนไป ไดมาก Do แปลวา ปฏิบตั ิ กระทาํ , ดําเนนิ ไป ภาษาอังกฤษ คาํ อา น ความหมาย do badly ดู แบดลี ลมเหลว do business ดู บสิ ฺเนสฺ ทําธรุ กิจ do the dishes ดู เดอะ ดชิ เชส ลา งจาน do a favor ดู เออะ เฟเวอรฺ ชว ยเหลือ do good ดู กดื ทําใหรสู กึ ดี do harm ดู ฮารฺม ทาํ รา ย do time ดู ไทมฺ ทาํ เวลา do well ดู เวล ทําใหค วามสําเรจ็ นะ do you best ดู ยวั ร เบสทฺ ทําใหดีทส่ี ดุ do your hair ดู ยวั ร แฮรฺ ทําผมใหคุณ do your nails ดู ยัวร เนลสฺ ทําเลบ็ ใหค ุณ do your worst ดู ยวั ร เวิรสฺ ทฺ ทําไดแ ยท่ีสุด
เบ็ดเตล็ด 317 Make หมายถึง ทํา, สรา ง, แตง , เตรียม Make + Noun ท่ีเก่ยี วกับแผนการ เชน ภาษาองั กฤษ คาํ อาน ความหมาย make arrangements เมค แอเรนจฺเมนทฺ เตรียมการ, จดั การ make a choice เมค กะ ชอยสฺ เลอื ก make a decision เมค กะ ดสิ ิเชิน ทาํ การตดั สนิ ใจ make a plan เมค กะ แพน วางแผนการ Make + Noun ทีเ่ ก่ียวกับการเดนิ ทาง เชน make a journey เมค กะ เจอรฺนี เดนิ ทาง make a visit เมค กะ วสิ ิท ไปเยีย่ มเยยี น make a trip เมค กะ ทริฟ ไปทองเทย่ี ว make a tour เมค กะ ทัวร ไปทองเทีย่ ว Make + noun ทเ่ี ก่ียวของกบั การพูดและการใชเ สยี ง ไดแ ก make a comment เมค กะ คอมเมนทฺ ใหข อคดิ เห็น make noise เมค นอยซฺ สง เสียง make a sound เมค กะ ซาวดฺ ทาํ เสยี งเกิดขน้ึ make a speech เมค กะ สปชฺ กลา วสนุ ทรพจน make a suggestion เมค กะ สักเจสเชนิ ใหคําแนะนํา make an excuse เมค แกน อ๊ิคคิว้ พูดแกตวั
318 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด Make + Noun ท่เี กีย่ วของกับอาหาร,เคร่ืองดืม่ และสิ่งสรา งสรรค ไดแก make breakfast เมค เบค ฟาสทฺ ทาํ อาหารเชา make a cup of tea เมค เกอะ คัพ ออฟ ที ทาํ น้ําชา make some coffee เมค ซัม คอฟฟ ทํากาแฟ make a meal เมค เกอะ มีล ทาํ อาหาร make a sandwich เมค เกอะ แซนวิส ทาํ แซนดวชิ make clothes เมค เกอะ โคทสฺ ตดั เสือ้ ผา Make + other expressions ท่ีเก่ยี วของกับ การแสดงออก ทักทาย ทาํ ผิด เปน ตน make amends เมค เกอะเมนดฺ ชดใช, ชดเชย make believe เมค บลิ ีฟ ใหค วามเชือ่ ถือ make a difference เมค กะ ดฟิ เฟรนทฺ สรา งความแตกตาง make an effort เมค แกน เอฟเฟรฺท อดทน make an enquiry เมค แกน เอนไควรี สอบถาม, ไตสวน make a fortune เมค กะ ฟอรฺจนู กาํ ลงั โชคดี make friends เมค เฟรนสฺ หาเพ่ือนใหม make a fuss เมค กะ ฟส ฺ สนใจมาก make love เมค เลิฟ มคี วามรกั make a mess เมค กะ เมซฺ ทาํ เลอะ,สกปรก make a mistake เมค กะ มสิ ฺเทค ทาํ ผดิ พลาด make money เมค มันนี หาเงนิ
เบ็ดเตล็ด 319 make a move เมค กะ มฝู เคล่ือนท่ี make a payment เมค กะ เพยเฺ มนทฺ จา ยเงิน make a phone call เมค กะ โฟน คอล โทรหา (กรยิ า) make a point เมค กะ พอยทฺ ชปี้ ระเดน็ make a profit เมค กะ พรอฟทฺ สรางกําไร make a promise เมค กะ พรอมสิ ฺ ทาํ สัญญา make a remark เมค กะ รมี ารคฺ ฺ ใหสงั เกตุ make time เมค ไทม หาเวลา make your bed เมค โยรฺ เบด จัดเตียงหรือทน่ี อน make a fool of เมค กะ ฟูล ออฟ โยรเฺ ซลฟฺ ทําตัวเองดโู ง yourself การใช Non / None of Non / None of None แปลวา ไมเลยสักคน, ไมเ ลยสกั อยา ง ใชเปน ประธานหรือกรรม ก็ได เชน I have a salad store. My sister had none. ฉันมีรา นสลดั แตนองสาวของฉนั ไมม ีเลยสักรา น We needs some suggestions. None ever comes. พวกเราตองการคาํ แนะนาํ แตไ มม ีเลยสกั อนั
320 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด None of + the, this, that, my, our, your etc. เชน None of you required seminar on Wednesday morning. ไมมีใครตองการการสมั มนาภายในวันพธุ ตอนเชา -It doesn’t matter. None of it was your fault. ไมเปนไร ไมม ีอะไรเปน ความผิดของเธอเลย Most / Most of สําหรบั 2 คําน้ยี ากข้นึ มานิดหนอ ย แตไมยากเกนิ ทาํ ความเขาใจ Most + กลมุ ของคนหรอื ส่ิงของที่ไมเ จาะจง Most of + กลมุ ของคนหรอื สิง่ ของทีเ่ ฉพาะเจาะจง Most students ask questions. นกั เรยี นสวนใหญมักถามคําถาม Most of the students in my English class ask questions. นกั เรยี นสว นใหญมกั ถามปญหาในหองเรยี น Most people knew this was not true. คนสว นใหญรวู า สิง่ นไี้ มจรงิ Most of these people have not slept for days. คนเหลานส้ี ว นใหญไ มไดน อนมาหลายวนั
เบ็ดเตล็ด 321 การใช Some กับ any หลักการใช some กบั any เปน คํานําหนา คํานามท่ีใชบอกปรมิ าณ แปลวา “บาง หรือ จํานวนหนงึ่ ” 2 คํานสี้ ามารถนําหนาคํานามนับไมได และคํานามนับไดพ หูพจนได เชน some sugar any water some tutors any students การใช some ในประโยคบอกเลา เชน We have some wine in the refrigerator. เรามไี วนแ ชอยูในตเู ยน็ There are some novels on the shelf. มนี วนิยายบางเลม อยูบนชั้นหนงั สอื some สามารถใชในกรณที ่เี ปนประโยคคําถามไดกรณนี ้ีสามารถตอบ yes ได เชน Would you like some milk? รบั นมสักหนอยไหมคะ Have you got homework? คณุ ไดก ารบานหรือยัง Could I have some ice-cream, please? รบั ไอศรีมเพ่ิมไหมคะ ?
322 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด some + นามพหูพจน แปลวา บางตาํ แหนงของ SOME จะวางหนา คาํ นามทขี่ ยาย some ใชในประโยคบอกเลา สวน any ใชในประโยคคําถาม และ ปฏเิ สธ Some dogs are cute. สนุ ขั บางตัวนารกั Some girls are very short. หญิงสาวบางคนตัวคอ นขางเล็ก some + นามนบั ไมได ประโยคบอกเลา แปลวา บา ง หรือ นดิ หนอย เล็กนอย I have some eyeglass. ฉนั มแี วนตาอยบู า ง She needs some friend for doing thesis. เขาตองการเพอื่ นสักคนชวยทําวิทยานพิ นธ นิยมใชใ นการยนื่ ขอเสนอ Do you want some drinking water? คุณตองการนา้ํ ด่ืมไหม Would you like some coffee? คุณจะรับกาแฟสกั แกวไหม การใช any สามารถใช ในประโยคคําถามและประโยคปฏเิ สธทวั่ ไป เชน We don’t have any money to give her. เราไมมีเงนิ พอทีจ่ ะใหเธอ There aren’t have any butterfly in the jungle. ไมม ีผเี สอ้ื สกั ตวั อยูใ นปา
เบ็ดเตล็ด 323 การใช apostrophes (’s) เรามักนิยมใช ’s เพ่ือ ‘แสดงความเปนเจาของ (possessive)’ ใน 2 กรณดี ังตอไปน้ี 1. ใช ’s เติมหลังคํานามท่ีเปนคนหรือสัตว เพ่ือใหคํานามที่เปน คนหรือสัตว นน้ั แสดง ‘ความเปนเจาของ’ ออกมา my father’s luggage = กระเปา เดินทางของพอฉัน my friend’s ring = แหวนของเพือ่ นฉัน a girl’s rabbit = กระตายของเด็กหญิงคนหนง่ึ my professor’s mobile phone = มือถือศาสตราจารยข องฉัน my niece’s birthday = วันเกิดหลานสาวของฉัน spa’ coffee = สปารก าแฟ mother’s kiss = จุมพติ ของมารดา sister’s love = ความรักแบบพส่ี าวนอ งสาว การใช ’s เพื่อ ‘แสดงความเปนเจา ของ’ น้ใี ชบ อยมากในชวี ติ ประจําวัน จึงขอใหทานผอู านใหค วามสนใจเปน พิเศษ เราสามารถใช ’s กบั ‘คํานาม the shutdown’s fiercest feud = การทุมเถียงกันอยางเอาเปนเอาตายทส่ี ุดของ
324 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด 2. ใช ’s เตมิ หลังคํานามแสดงเวลา –yesterday’s life = ชวี ิตของเม่ือวาน –an hour’s topic = หวั ขอภายในเวลา 1 ชว่ั โมง –Next week’s meeting = การประชุมสปั ดาหหนา –New Year’s Day = วนั ขน้ึ ปใ หม –Buddhist Holy Festival’s Day = วันที่หนง่ึ เดอื นเมษาหนาโง –Today’s best lesson = บทเรียนที่ดที ส่ี ดุ ของวัน การใช ’s กบั เวลานี้มโี อกาสใชบอยในชีวิตประจําวัน โดยเนน เนื้อหาเปน พิเศษ การใช้ท่ีเป็ นข้อยกเว้นกบั คาํ ว่า the ถา คาํ นามแสดงเวลามี the นาํ หนา อยู เรามักนิยมใชก ับ of ดังน้ี –news of the day = ขาวของวนั –great job of the month = งานดีที่แหงเดอื น –the Thursday of the important day = วันพฤหัสบดีเปน วนั ทส่ี ําคัญ สมมตุ วิ า the อยูดว ยกม็ กั จะใชกบั of เสมอ เชน the end of January, the art of masterpiece ซงึ่ ทา นผูอา นจะไดพบตอ ไปในเรื่องการใช of
เบ็ดเตล็ด 325 คํานามที่อยูหลัง ’s เปนประธานของประโยค การใช noun’s noun น้ี ถาเราตองการนํามาเปนประธานของประโยค คํานามท่ีอยู หลัง ’s จะทําหนาท่ี เปนประธานของประโยค เชน –A girl’s rabbit is so cute. กระตายของเด็กหญิงคนหน่ึงนารัก มาก (= กระตา ยนา รกั มาก) แตถา noun’s noun นั้นเปน ‘ชอื่ เฉพาะ’ กจ็ ะเปนประธานรว มกัน เชน - Charlotte’s Web is written by E.B. White. - Charlotte’s Web ไดรับการประพันธโดย E.B. White - New Year’s Day is on Tuesday. วนั ขนึ้ ปใ หมเปน วนั อังคาร การใช ’s แทน of เพ่ือแสดงถึง ‘ความเปนเจาของ’ ในเมื่อคํานามบาง คําแสดงการกระทําออกมา เวลาเราจะใชคํานามเหลานี้เพื่อ ‘แสดงความเปน เจาของ’ เราจึงใชกับ of ไมได แตตองใชกับ ’s แทน เราจึงตองนําเอา ’s มาใช แทน of ดงั น้ี ตวั อยา งอน่ื ๆของการใช ’s แทน of เพื่อแสดงความเปน เจา ของมดี ังนี้ –Martin’s language institute = สถาบันภาษาของมารต นิ Home gardens’ Mongo = บา นสวนของมองสโ ก การใช Each หมายถึง แตล ะ อันละ คนละ ช้นิ ละ Every หมายถึง ทุกๆ อัน ทกุ ๆสง่ิ ทกุ ๆวนั ท้งั each, every ใชไ ดกับคาํ นาม เอกพจน และกรยิ าพหูพจน
326 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด หลักการใช Each หลกั การใช Each 1. ทํ า ห น า ที่ เ ป น คํ า คุ ณ ศั พ ท ( Adjectives) Each + singular countable noun ใชกับคํานามนบั ไดเ อกพจน 2. Each ทําหนาท่ีเปน คาํ สรรพนาม (Pronoun) เชน Each year you have to meet the family ในแตล ะปคณุ ตอ งหาครอบครวั บา ง 3. Each + one โดย One แทนคํานามนบั ไดเ อกพจน ถามนั ถูกกลาวถึง ไปแลว เชน Each one must learn second language at least. แตล ะคนตองเรยี นรูภาษาท่ีสองเปน อยางนอ ย 4. Each of + pronoun โดยใชกับคําสรรพนามพหูพจน you, us, them เทา น้ัน เชน Each of you should try to avoid negative thinking. แตละคนควรพยายามหลีกเลี่ยงคนคิดลบ 5. Each of + determiner + plural noun ใชกับคํานามพหูพจนที่มี คาํ บง ชีค้ ํานาม (my, his, the เปน ตน) นาํ หนา Each of monk decide to visit his colleagues. พระสงฆแตล ะรปู ตางตัดสินใจที่จะไปเย่ยี มเพ่ือน 7. ทาํ หนา ท่ีเปน คํากริยาวิเศษณ (Adverbs)
เบ็ดเตล็ด 327 Object + each ซึ่ง each อยูหลังกรรม และโดยปกติกรรมจะ พดู ถึงปรมิ าณ, จํานวน หรือ ราคา เม่ือ Each + singular noun เปนประธาน คํากริยาตองเปน เอกพจน (singular verb) นั่นคอื คาํ กรยิ าตองเตมิ s/es หลกั การใช Every หลักการใช Every 1. Every + singular noun ใชกบั คํานามเอกพจน เชน Every player played very well, so they were able to win. 2. Every + number + plural noun สามารถใชกับคํานามพหพู จน ได โดยตอ งมจี าํ นวนตัวเลขอยูหนานามนัน้ เชน I paint my room every days. ฉนั ทาสีหองทกุ วัน The motorcycle comes every 10 minutes. รถมอเตอรไซมา ทุก 10 นาที a few กับ few : ทั้งคูมีความหมายวา นิดหนอย, เล็กนอย แต a few จะมจี ํานวนมากกวา few (a few > few) จะใช a few กับ few คูกับนามนับไดที่เปน พหูพจน (plural countable noun) เสมอ a few / few + plural countable noun a few / few students, a few / few dogs,
328 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด a few / few friends, a few / few books, etc. a little กับ little: 2 คํานี้มีความหมายวา นิดหนอย, เล็กนอย เชนเดียวกัน แต a little จะมีจํานวนมากกวา little และเราจะใช a little กับ little คกู บั นามนับไมไ ด (uncountable noun) เสมอ a little / little + uncountable noun a little / little money, a little / little water, a little / little food, a little / little milk, a little / little bread, etc. a few กับ a little: 2 คํานี้มีความหมายวามีนิดหนอย เล็กนอย แตยัง พอมีอยู ยังมีเพียงพอ ยังเปนท่ีพอใจ ซึ่งเราจะใชท้ัง 2 คําน้ีกับสถานการณหรือ ประโยคที่มคี วามหมายในเชิงบวก (positive idea) a few / a little + positive idea Shall we go to Paris. พวกเราควรจะไปปารสี นะ Ok, I’ve a little money. ไดเลย แตฉันมเี งนิ อยูนิดหนอ ยนะ There are a few months for staying at Bangkok. มีเวลาอยไู มม าก นะสาํ หรบั การพักผอนท่ีกรงุ เทพ I’ve a little milk. Let’s drink together. ฉนั มีนมอยนู ิดหนอย เชญิ ดมื่ ดวยกนั สิ
เบ็ดเตล็ด 329 I’m not handsome but I still have a little money. ผมไมหลอ นะ แตผมยังมเี งินเล็กนอยอยบู าง few กับ little: ทั้งคูมีความหมายวามีนอยมาก แทบจะไมมี มีไมพอ ไม พอใจกับจํานวนท่ีมี มีนอยกวาท่ีเราคาดหวังจะใหมี ซ่ึงเราจะใช 2 คําน้ีกับ สถานการณห รือประโยคท่มี ีความหมายในเชงิ ลบ (negative idea) few / little + negative idea Only few people gain new exclusive position. มีคนนอยมากสามารถไดร ับตําแหนง ผบู รหิ าร Few customers have come into the shop. It causes the crisis of owner. แทบไมม ลี กู คาเขามาในรานเลย ทาํ ใหเจา ของรานเขาขนั้ วิกฤต 5. เราสามารถใช few กับ little ซึ่งเปน negative idea คกู ับ คํานามท่ี เปนส่ิงที่เราไมอยากไดเพื่อใหประโยคนั้นมีความหมายในเชิงบวกได (negative + negative = positive) เชน She has a few friends. เธอยงั พอมเี พอื่ นเล็กนอ ย สรุป Few / A few + นามนับไดพหูพจน สวน Little / A little + นามนับไมได และ ถามี Article “A” นําหนา ความหมายจะเปนเชิงบวก แตหากเราตัด Article “A” ท่นี ําหนา
330 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด การใช During กับ While การใช During กับ While During หมายถึง ในระหวา ง ชวงเวลา ตองวางอยูห นาคํานาม หรือจะ ตามดว ย คาํ นามนั้นเอง เชน During + Noun During the flight. ระหวา งเทยี่ วบนิ During the trip. ระหวางเดินทาง She slept during the cinema. เธอหลบั คาโรงภาพยนตร During the travel, she fell asleep. ระหวางการเดนิ ทาง เธอรูสึกงวง Sutthee educates me the tactics during the coffee break. สธุ สี อนกลยทุ ธฉ ันระหวางเวลาจบิ กาแฟ (during เปน preposition ตามดว ยคํานามคือ the coffee break.) While หมายถงึ ขณะท่ี ระหวา งเวลา จะตามดวย Verb เมอื่ ใชเปน คาํ เชื่อม จะตองมปี ระโยค กริยา หรอื กรยิ าเติม ing ตามหลัง While + (Subject + verb) While + Ving เชน While watching the movie. ขณะดภู าพยนตร She fell asleep while she was watching the VDO.
เบ็ดเตล็ด 331 เธอรูส ึกงวงระหวางกาํ ลงั ดวู ดี ีโอ Joe educates me while we were eating the meal. โจสอนเทคนคิ ใหฉนั ขณะท่เี รากาํ ลังทานอาหาร (while ใชเปน conjunction ตามดว ย V-ing คือ eating) ** during และ while ถานาํ หนา ประโยคใหใ ส comma คน่ั ระหวา ง ประโยค 2 ประโยค แตถา อยูกลางประโยคก็ไมต องใส comma หลักการท่ีจาํ งา ยๆ จําไวนะ! During ใชนาํ หนา กลมุ คาํ (ไมมกี ริยา) While ใชน าํ หนาประโยค (มีกริยา) การใช in on at การใช in on at กับเวลา (วนั เดอื นป) การใช in กบั เวลา ใช in นําหนา กับวนั เวลาตอไปน้ี ชว งเวลาของวัน เชน in the morning (ในตอนเชา) in the afternoon (ในตอนบาย) เดือนท้ัง เชน in January (มกราคม) in December (ธันวาคม) ฤดูกาลในเมอื งหนาว เชน in winter (ฤดหุ นาว) in spring (ฤดใู บไมผ ล)ิ ฤดูกาลในไทย เชน in rainy season (ฤดฝู น) in cold season (ฤดูหนาว) ป เชน in 1945, in 2000, in 2016, in 2017
332 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด การใช on กบั เวลา ใช on กบั วนั เวลาตอไปน้ี วนั ท้งั 7 เชน on Tuesday (วนั อังคาร) on Wednesday (วันพธุ ) etc… วันทท่ี ง้ั 31 เชน on 1st (วนั ท่ี 1) on 2nd (วันที่ 2) วนั ตา ง ๆ เชน on Songkran (วันสงกรานต) on weekend (วนั หยดุ สุด สปั ดาห) การใช at กบั เวลา ใช at นาํ หนา เวลา ช่ัวโมง นาที แปลวา “เวลา” ช่วั โมง นาที เชน at 5 o’clock (ตหี า หรอื หา โมงเยน็ ) at 10.00 (สิบโมงเชา) ชว งเวลา เชน at noon (ตอนเที่ย) at midday (ตอนเท่ียงวัน) สรปุ หลกั การจํา in on at ใชกบั เวลาคอื at ใชกบั เวลาสน้ั ๆ เชน ชัว่ โมง นาที on ใชก บั เวลาปานกลาง เชน วนั วนั ที่ in ใชก ับเวลาหลักๆ เชน วัน เดือน ป หลกั การใช in on at กบั สถานที่ ที่อยู การใช in กับสถานที่ เชน in the college (ในวิทยาลัย) in the school (ในบรเิ วณ โรงเรียน) in Asia (ในทวีปเอเชยี ) การใช on กบั สถานท่ี ทอ่ี ยู เชน on ใชก บั สถานท่ี ทอ่ี ยู โดยปกตทิ วั่ ไปแปลวา บน เชน on the chair (บนเกาอี้) On Sukhumvit Road บนถนนสขุ ุมวิท
เบ็ดเตล็ด 333 การใช at ใชกับสถานที่ ใชกบั สถานที่สาํ คญั จุดเดน ท่ีใดทห่ี นง่ึ หมูบา น เมือง จังหวัด ประเทศ เชน at Central plaza (เซ็นทรัลพลาซา) at the top of the flag (จุดสูงสุดของธง) at the office (ท่ีสํานักงาน) at Chinese (ประเทศจีน) สรปุ หลกั การจาํ in on at ใชก บั สถานที่คอื at ใชกับสถานท่ีเล็ก ท่ีใดที่หนึ่ง เชน at university, at the church, at market, at temple on คอ นขา งจะตรงตัว เชน on desk, on roof, on building. in ใชกบั สถานที่หลักๆ ระดับชมุ ชนขึ้นไป เชน Bangkok, Hongkong, Malaysia. การบอกวัน/เดือน/ป คําถามเก่ยี วกับ วันท่ี วัน และเดือน (1) What day is to day (ว็อท เดย อสี ทู เดย) วันนี้เปน วันอะไร (2) What is the date? (ว็อท อีส เธอะ เดท) วนั นวี้ นั ท่เี ทาไหร (3) What day of the week is it? (ว็อท เดย ออฟ เธอะ วีค อสี อิท)วันน้เี ปน วันอะไรของสัปดาห (4) What day of the month is it? (วอ็ ท เดย ออฟ เธอะ มนั ธ อีส อทิ ) วนั นี้ เปน ท่เี ทาไหรของเดอื น
334 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด Week (วีค) = สปั ดาห 1. วันอาทิตย = Sunday (ซันเดย) 2. วนั จันทร = Monday (มันเดย) 3. วันองั คาร = Tuesday (ทิ้วสเดย) 4. วันพุธ = Wednesday (เวน สเดย) 5. วนั พฤหัสบดี = Thursday (เธสิ้ เดย) 6. วันศกุ ร = Friday (ไฟรเดย) 7. วันเสาร = Saturday (แซท็ เทอะเดย) Months (มนั ธส) 1. มกราคม = January (แจนยเู ออะรี่) คาํ ยอ Jan. 2. กุมภาพนั ธ = February (เฟบบรเู ออะร)่ี “ Feb. 3. มีนาคม = March (มารช ) “ Mar. 4. เมษายน = April (เอพร่ลิ ) “ Apr. 5. พฤษภาคม = May (เมย) “ ไมน ิยมยอ 6. มถิ นุ ายน = June (จนู ) “ ไมน ิยมยอ 7. กรกฎาคม = July (จูลาย) “ ไมน ิยมยอ 8. สิงหาคม = August (ออกสั ท) “ Aug. 9. กันยายน = September (เซ็พเทม็ เบอร) “ Sept. 10. ตุลาคม = October (อ็อคโตเบอร) “ Oct. 11. พฤศจิกายน = November (โนเวม็ เบอร) “ Nov. 12. ธันวาคม = December (ดเี ซ็มเบอร) “ Dec.
เบ็ดเตล็ด 335 รูปแบบการเขยี นวนั เดอื น ป November 16, 1995 หรือ 16 November 1995 หรอื 16 th November 1995 หรอื จะใชแบบอเมริกนั เอาเดือนไวต น 11-16-95 หรอื 11/16/95 หรือ 11.16.95 • การอานวนั เดอื น ป มีหลกั เกณฑดังนี้ การอา นเลขวันท่ีใหอานเปน เลขอันดบั ที่ ถงึ แมวาจะเขียนเปนเลข ธรรมดาก็ตาม เชน 1 2 3 4......... อานวา First (เฟสท), Second (เซคนั ด), Third (เธดิ รด) fourth (ฟอรธ) บางครั้งเขียนเปน 1st , 2nd , 3rd และ 4th. November 16, 1995 อานวา It is November the sixteenth of nine-teen ninety-five. • การอา น ค.ศ. ใหอ านทีละคู ยกเวนท่ีมี 00 อยูทายใหอา นรวมกนั ตามเลข หลกั น้ัน ๆ 1995 อา นวา “nineteen ninety-five” (ไนนทีน ไนนตี้-ไฟว) 1906 อานวา “nineteen-o-six/ หรอื nineteen six” (ไนนทนี -โอ-ซิคซ หรอื ไนนทีน-ซิคซ) 1000 อา นวา “one thousand” (วนั เธาซนั ด)
336 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด 1800 อา นวา “eighteen hundred” (เอททนี ฮันเดรด) 2000 อานวา “two thousand” (ทู เธาซนั ด) • A.D. / B.C. และ B.E. ยอ มาจากคําวา “Anno Domini” แปลวา “in (1) A.D. (เอ.ด.ี ) the year of our Lord” คอื คริสตศ ักราช หรอื เรยี กยอ ๆ วา ค.ศ. จะวางไวห นา หรือหลังเลขก็ได เชน 1995 A.D. อานวา “nineteen ninety-five A.D.” (ไนนทีน ไนนต-ี้ ไฟว เอ ด)ี หรือวางไวห นา เชน A.D. 1995 (2) B.C. (บ.ี ซ.ี ) ยอมาจากคาํ วา “Before Christ” แปลวา “กอน พระเยซูประสูต)ิ และนิยมวางไวห ลังตัวเลข เชน 520 B.C. อานวา “five twenty B. C.” (ไฟว ทเว็นต้ี บี ซี) (3) B.E. (บี.อี.) ยอ มาจากคาํ วา “Buddhist Era” แปลวา “พุทธศักราช” หรือ “พ.ศ.” นิยมวางไวห นา ตวั เลข เชน B.E. 2537 อานวา “B. E. twenty-five thirty-seven” (บี.อี. ทเวน็ ต-้ี ไฟว เธอรตี้ เซวึ่น) • วธิ เี ปล่ยี นศกั ราชวธิ ีงา ยๆ เชน (1) ถาเปล่ยี นพุทธศักราช เปน คริสตศักราช ใช 543 มาลบ เชน พ.ศ. 2537 – 543 = 1994
เบ็ดเตล็ด 337 (2) ถา เปลยี่ นคริสตศักราช เปนพุทธศกั ราช ใช 543 มาบวก เชน ค.ศ. 1994 + 543 = พ.ศ. 2537 ลกั ษณะการเขียนวัน/เดอื น/ป การเขยี นวันทภี่ าษาอังกฤษมี 2 ประเภท คือแบบอังกฤษและแบบอเมริกัน ***แบบองั กฤษ เขียนเรียง วัน เดอื น ป ***แบบอเมริกัน เขียนเรยี ง เดือน วัน ป ***คนไทยจะนิยมใชแบบองั กฤษเพราะเขียนเหมือนของไทย แบบองั กฤษ : วนั เดือน ป แบบอเมรกิ ัน : ป เดือน วัน the Fourth of October, 2021 October the Fourth, 2021 4th June 2021 June 4th, 2021 4 July 2021 July 4, 2021 3/4/2021 3/4/2021 3/4/21 3/4/2021 ***ขอสังเกตุวันที่ของไทยเราจะยึดแบบอังกฤษ คือ ว/ด/ป การอานวัน เดือนป แบบท่ี 1 เนน เขียนในรูปแบบทเ่ี ปน ทางการ และในการดเชิญตาง ๆ แบบที่ 2 หรือ 3 แบบที่ 4 และ 5 จะใชในการจด หรือบันทึกความจํา เปน กนั เอง ซงึ่ ไมเ นน พิธีการ
338 Chapter 11 เบ็ดเตล็ด ศัพทแ ละสาํ นวนเกย่ี วกับเวลาอาจแบงออกไดดังน้ี 1. บงบอกความเปนอนาคตกาล (1) Soon (ซุน) = เร็วๆ น้ี (2) Shortly (ซอทล)ิ = เรว็ ๆ นี้, ไมนานนี้ (3) Someday (ซมั เดย) = สกั วนั หนึง่ (4) Some time (ซัม ไทม) = สักเวลาหนง่ึ (5) In a few days (อิน อะ ฟว เดยส) = ในอกี 2 – 3 วนั (6) After a while (อาฟเตอร อะ ไวล) = สกั พกั หนงึ่ (7) The day after tomorrow = มะรืนน้ี (8) A week from today = อีกสปั ดาหห นึ่งนับจากวันนีไ้ ป (9) A few weeks from now = อกี 2 – 3 สัปดาหน บั จากน้ไี ป (10) Some other day (ซัม อัธเธอ ร เดย) = วนั หลัง (11) This weekend (ธสิ วีคเอน็ ด) = สดุ สปั ดาหน ้ี (12) In the future (อทิ เธอะ ฟวเจอร) = ในอนาคต 2. บงบอกความเปน อดีตกาล (1) a few days ago (อะ ฟว เดยส อะโก) = สองสามวนั มาแลว (2) not long ago (นอ็ ท ลอง อะโก) = เมอ่ื ไมนานมาน้ี (3) some time ago (ซมั ไทม อะโก) = ชัว่ ระยะหนึ่งมาแลว (4) one time (วัน ไทม) = ครั้งหนึง่ (5) recently (รเี ซนทล่ี) = เรว็ ๆ มาน้ี (6) the other day (ธิ อธั เธอร เดย) = วันกอนนี้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374