Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือและแผนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1

คู่มือและแผนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1

Published by panuchak.golf, 2020-05-03 08:17:30

Description: คู่มือและแผนการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 มูลนิธิทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์

Search

Read the Text Version

๔๒ 4328 ใบความรูที่ 2 การออกแบบงานทศั นศลิ ปโ ดยเนน ความเปน เอกภาพ …………………………………………………………………………………… เอกภาพ ในความหมายโดยท่ัวไป คอื ความเปนอนั หนง่ึ อนั เดียวกัน หรอื ความกลมกลืน กกลลมมเกเกลลียยีวว เขา กันได ความกลมกลืนและความเปน อนั หน่ึง อนั เดียวกนั ท่ีเกิดจาก การเชือ่ มโยง สัมพันธก นั ของสวนตา ง ๆ ในทางศิลปะ เอกภาพ คือ การรวมกนั ของสว นประกอบยอ ยตาง ๆ ซึ่งไดแกส วนประกอบข้ันมลู ฐานของศลิ ปะ เชน รูปรา ง รูปทรง มาจดั เขาดวยกนั ใหแ ตละหนว ย ใหม คี วามสัมพันธเกี่ยวของซงึ่ กันและกนั มีความประสาน กลมเกลียวอนั หนง่ึ อนั เดยี วกันเกิดเปนผลรวมทไ่ี มอาจแบงแยกได เอกกภภาพาพนบั นไัดบว ไาดม้วีคว่าามมีคสําวคาัญมตสอ�ำคัญต่อ กระบวนการ สรางสรรค งานศลิ ปะทุกสาขา โดยเฉพาะ ทัศนศลิ ป ซี่งึ เปน็นสสิ่งิ่งจจาํ �ำเปเปน็นเบเื้อบงื้อตงนตท้นผี่ ผูส ู้ทร่ีาสงรส้ารงรสคร รค์ จะตองสรา งการประสานหรอื การจดั ระเบยี บ ของสว นตา ง ๆ เพ่ือผลรวม เปน็ หนงึ่ ทที่ไี่ไมมอ่อาาจจแแบบงแ่งแยยกไกดไดใ้หใมหี ้มี ความรูสกึ เปน หน่งึ เดยี ว (Oneness) เกดิ ขึน้ ในมโนภาพ (Visual Image) มีความสอดคลองกบั จดุ มงุ หมายของ การสรา งสรรคเอกภาพในทางทัศนศิลป จําแนกออกไดใ น 2 แนวทางคคือือเอเอกกภภาพาพทาทงาดงา ดน้าโคนรโงคสรรงา สงรแ้าลงะและ เอกภาพทางดา นรูปแบบและความคดิ ตวั อยา งการสรางเอกภาพสามารถทําไดดว ยการนํารูปรางรูปทรงมาจดั วางใหมีความสัมพันธ เก่ียวขอ งกันไดห ลากหลายวธิ ี เชน วธิ สี มั ผัสกนั วธิ ีทบั ซอนกนั วธิ ีการจดั กลมุ เปน ตน ดงั ภาพประกอบ

๔๓ 4339 ใบงานที่ ๕ การออกแบบงานทศั นศิลปโ ดยเนน ความเปน เอกภาพ …………………………………………………………………………………… กิจกรรมการเรยี นรูใ หนกั เรียนออกแบบงานทศั นศิลปโ ดยเนนความเปนเอกภาพ โดยใชร ูปรา งแบบเหมอื นจริง /รูปตัดทอน รูปดดั แปลง / รปู อสิ ระนามธรรม ชอ่ื -นามสกลุ ........................................................................เลขที่..............ชน้ั ม.1/............ ผลการประเมนิ ได ..............คะแนน ระดบั คุณภาพ ดมี าก ดี พอใช ควรปรบั ปรุง

๔๔ 4440 แบบประเมนิ ใบงานที่ ๕ แผนการจดั การเรียนรูที่ ๕ การออกแบบงานทศั นศลิ ปโ ดยเนน ความเปนเอกภาพ กลุมสาระการเรยี นรูศลิ ปะ รหสั วิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวิชา ทัศนศิลป ชั้นมธั ยมศึกษาปท ี่ ๑ ชื่อกลมุ .........................................................................ช้ัน ม.๑/.................... เลขที่ ..................................................................................................................................................................... คาํ ช้ีแจง การประเมนิ ผลงานศิลปะ เปนการประเมนิ ทกั ษะกระบวนการคิดสรา งสรรคใ นการประยุกใตช์ใช้ การออกแบบงานทัศนศิลปทีเ่ นน ความเปนเอกภาพ โดยมรี ายการทปี่ ระเมนิ คือ สรา งสรรคจากส่ิงเราท่ี กําหนดใหไ ด ความแปลกใหม เสรจ็ ตามเวลา แกป ญหาได และมรี ายละเอยี ดนาสนใจ มีคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน แบงเปน ๓ ระดับ คือ ๐-๔ คะแนน หมายถงึ ตองปรับปรงุ ๕-๗ คะแนน หมายถึงผา น ๘-๑๐ คะแนน หมายถึงปฏิบตั ไิ ดด ี รายการประเมนิ สรางสรรค มคี วาม เสรจ็ แก มรี าย ชอ่ื -นามสกุล จากส่ิงเราท่ี แปลก ตาม ปญหา ละเอียด รวม ๑. กําหนดใหไ ด ใหม เวลา ได นา สนใจ ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. .๗. ๘. ๙. เกณฑการใหคะแนน ให ๒ คะแนน ทาํ ไดดี ให ๑ คะแนน ผา น ให ๐ คะแนน ตองปรบั ปรุง

๔๕ 4451 แบบสังเกตคุณลกั ษณะอันพึงประสงค แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๕ การออกแบบงานทศั นศลิ ปโ ดยเนนความเปน เอกภาพ กลุมสาระการเรยี นรูศิลปะ รหัสวชิ า ศ๒๑๑๐๑ รายวิชา ทศั นศิลป ช้ันมัธยมศกึ ษาปที่ ๑ ขอที่ ๔ ใฝเรียนรู ตัวชวี้ ดั และพฤติกรรมบง ช้ี ตวั ช้วี ัด พฤติกรรมบงช้ี ๔.๑ ตง้ั ใจ เพียรพยายามในการ ๔.๑.๑ ตง้ั ใจเรียน เกรายี รนเรแยี ลนะแเขลา ะรเวขมา้ รก่วิจมกกรจิรมกกรรามร ๔.๑.๒ เอาใจใสและมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู เกราียรนเรียู นรู้ ๔.๑.๓ สนใจเขารว มกจิ กรรมการเรียนรตู า งๆ ๔.๒ แสวงหาความรจู ากแหลง ๔.๒.๑ ศกึ ษาคนควา หาความรจู ากหนังสือ เอกสาร สิง่ พิมพ สือ่ เรียนรูต า งๆ ทง้ั ภายในและภายนอก เทคโนโลยตี า งๆ แหลง เรียนรูทัง้ ภายในและภายนอกโรงเรียน และ โรงเรียน ดว ยการเลอื กใชส ่ืออยาง เลอื กใชส อื่ ไดอยา งเหมาะสม เหมาะสม บนั ทึกความรู วเิ คราะห ๔.๒.๒ บันทึกความรู วเิ คราะห ตรวจสอบจากสง่ิ ทีเ่ รยี นรู สรุปเปนองค สรปุ เปนองคความรู แลกเปล่ียน คอวงาคมค์ รวูามรู้ เรยี นรู และนําไปใชใ น ๔.๒.๓ แลกเปลย่ี นเรียนรดู วยวิธกี ารตางๆ และนาํ ไปใชใน ชในวี ชติ ีวปิตรปะรจะาํ จวัน�ำวไดันได้ ใชนีวชติ ีวปติ รปะรจะาํ จวำ�ันวัน เกณฑก ารใหคะแนน (ใชขอ มูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครผู ูสอน) พฤติกรรมบงชี้ ไมผ า น (๐) ผา น (๑) ดี (๒) ดเี ยยี่ ม (๓) ตามขอ ๔.๑ – ๔.๒ ไมต ั้งใจเรยี น เขาเรียนตรงเวลา เขา เรยี นตรงเวลา เขา เรียนตรงเวลา ไมศ ึกษาคนควา หา ตงั้ ใจเรียน เอาใจ ตัง้ ใจเรยี น เอาใจ ตัง้ ใจเรียน เอาใจ ความรู ใสในการเรียน ใสใ นการเรียน ใสในการเรียน และมสี วนรว มใน และมสี ว นรวมใน และมีสวนรว มใน การเรียนรู และเขา การเรยี นรู และเขา การเรียนรู และเขา รวมกิจกรรมการ รวมกิจกรรมการ รวมกจิ กรรมการ เรียนรูตา งๆ เปน เรียนรูตางๆ เรยี นรตู างๆ ท้ัง บางครงั้ บอยคร้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น เปนประจาํ

หนวยการเรยี นรทู ี่ ๑ แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ ๖ ๔๖ กลมุ สาระการเรียนรู ศิลปะ เรอ่ื ง การออกแบบงานทัศนศิลปโ ดยเนนความกลมกลืน เวลา 1 ช่วั โมง ขอบเขตเนื้อหา รายวชิ า ทศั นศิลป ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี ๑ -หหลลกั กั กกาารรออออกกแบบงานทศั นศิลป์ กิจกรรมการเรียนรู สอื่ /แหลง เรียนรู จุดประสงคก ารเรยี นรู ข้นั นํา ๑.ใบความรทู ่ี 3 ดานความรู 1. ครูทักทายนกั เรียน และพูดคยุ แลกเปล่ียนความคิดเห็น ดานงานศิลปะ การออกแบบงานทัศนศลิ ป 2. ครบู อกวัตถปุ ระสงคก ารเรียนรเู ม่อื เรียนจบบทเรยี นนี้แลว นกั เรียนสามารถบรรยายหลักการ โดยเนน ความกลมกลนื ๑. การออกแบบงานทัศนศิลปโดยเนน ภาระงาน/ชน้ิ งาน ความความกลมกลืน ออกแบบงานทัศนศลิ ปโดยเนน ความกลมกลนื ได 1.ใบงานท่ี ๖ 3. ครูทบทวนความรูเดมิ เพือ่ กระตุนใหผ ูเ รยี นสามารถเรยี นรเู นอื้ หาใหมไดรวดเร็วยงิ่ ขึ้น โดยการ การออกแบบงานทัศนศลิ ป ดานทกั ษะและกระบวนการ โดยเนนความกลมกลืน ๑. การเปรียบเทียบ ถาม-ตอบ หรือต้งั คาํ ถาม ขนั้ สอน คุณลักษณะอันพึงประสงค ๑. ครบู รรยายประกอบ ใบความรูที่ 3 การออกแบบงานทศั นศลิ ปโดยเนน ความกลมกลนื ๑. ใฝเ รยี นรู ๒. ครู แจกใบงานที่ 2 ใหน กั เรียนฝกการออกแบบงานทศั นศิลปโ ดยเนนความกลมกลนื และสังเกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงคของผูเรียน ขณะท่ีนักเรยี นปฏิบตั ิงาน ๓. ครูต้งั คําถามจากบทเรียนในระหวา งท่ี นกั เรียนปฏิบัติงาน โดยมนี กั เรียนตอบคาํ ถามและ แสดงความคดิ เห็น ขัน้ สรปุ ๑. นกั เรยี นแตล ะคนนําเสนอผลงานและรวมกันสรุปบทเรียน ๒. ครแู ละนักเรียนรว มกนั ประเมินใบงานท่ี 3 ๓. ครูแจงผลการประเมนิ ตามวตั ถุประสงคการเรยี นใหนักเรียนทราบเพ่ือใหนกั เรียนไดเ ห็น ความกา วหนา และพัฒนาการเรียนรขู องตนเอง ๔. ครูนัดหมายการเรียนในช่ัวโมงถดั ไป และแนะนาํ ใหนักเรยี นไปศึกษาความรูเ พ่ิมเติม่ จากแหลง เรยี นรตู า ง ๆ เกี่ยวกบั เรื่องหลกั การออกแบบงานทศั นศิลป 4462

๔๗ 47 43 การวัดและประเมินผล สิ่งท่ีตองการวัด/ประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือท่ใี ช เกณฑ ๑.ดา นทกั ษะ/กระบวนการ ประเมินทักษะการ แบบประเมิน --มมีทีทกั ักษษะะออยยูใ ู่ในนรระะดดบั บั คคณุ ณุ ภภาาพพ ดดี ี ขข้ึนน้ึ ไไปปรรอ้อยยลละะ 8๘0๐ ๒.ดา นคุณลักษณะอนั พงึ เปรียบเทยี บ สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต --มมีคคี ณุ ณุ ลลกั กั ษษณณะะออนั ันพพงึ ึงปปรระะสสงงคค ์ออยยูใ่ใูนนรระะดดับบั คณุ ภาพ ประสงค์ ดคี ุณขนึ้ภไาปพรดอ้ ีขยึ้นลไะป๘ร๐อยละ 80 บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ปญหาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ขอเสนอแนะและแนวทางแกไ ข ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ......................................ผสู อน (.......................................................) วันท.่ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคิดเหน็ /ขอ เสนอแนะของผบู ริหารหรือผูที่ไดรับมอบหมาย ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ......................................ผูต รวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดือน..........พ.ศ.............

๔๘ 4844 ใบความรูที่ ๓ การออกแบบงานทัศนศลิ ปโ ดยเนนความกลมกลนื …………………………………………………………………………………… ความกลมกลืน (Harmony) โดยทว่ั ไป หมายถงึ การประสานเขา สนทิ กัน กลมกลืน ปรองดอง สามัคคี ลงรอย ในทางทัศนศลิ ป ความกลมกลนื หมายถึง การรวมกันของ หนว ยยอยตา ง ๆ ซึ่งไไดดแ้แกสกว่สน่วปนระปกรอะบกมอลู บฐมานูลฐขาอนง ขศอิลงศปลิะปคะือคไดอื แไดก้แ จกุด่ จเดุ สเนสน้ รปู รรปู า รง่างรูปรทปู รทงรงสีสพี พน้ื ผ้นื วิผวิ นนํา้ หำ้� หนนักกั อยอายง่าใงดใอดยอายงา่ หงหนน่งึ ห่ึงหรือรหือหลาลยาอยยอายงา่ งแลแะลกะากราจรัดจวดั าวงาง องค์ประกอบ เชอ่นงคจป งั รหะวกะอชบ่อเงชวนา่ งจทังหำ� ใวหะ้เกชิดอเงปวน็า งกทารําใปหรเะกสิดาเนปเน ขกา้ ากรันปไรดะ้อสยาา่ นงสเขนาิทกนั ไดอยางสนทิ ประโยชนอ กี ลักษณะหนึ่ง ของ ความกลมกลืนทีม่ ีตองาน ออกแบบทัศนศลิ ป ก็คอื การ ใชความกลมกลืนเปนตัวกลาง หรอื ตวั ประสาน (Transition) ทําส่ิงที่มีความขดั แยง กนั หรอื ส่งิ ที่มีความแตกตา งกนั ใหอยูรว มกนั ได เชนสีดํา กบั สขี าว เปน นํา้ หนกั ทต่ี ดั กัน อยางรนุ แรง มีความขัดแยง กันอยา งสนิ้ เชิง กใ็ ชน า้ํ หนักเทา หรอื นํ้าหนกั ออนแกระหวางขาว ดํา มาเปนตัว ประสาน ใหส ดี าํ และสขี าวนั้นมคี วามกลมกลืนกัน การใชนา้ํ หนกั เทา (ขวา) เปนตวั ประสานใหส ดี ําขาว (ซา ย) ลดความขดั แยง ลง หากเพ่ิมคาน้าํ หนกั ตวั ประสาน (สเี ทา) ใหม ีหลายคา มากขึ้น ความกลมกลนื ก็จะยิ่งเดน ชัดขน้ึ สแี ดงและสเี ขียว เปนสีทต่ี ัดกันอยางแทจรงิ (True Contrast) มคี วามแตกตาง กันอยางรุนแรง (ซา ย) หากเพิ่ม นา้ํ หนกั สดี าํ (ขวา)เขา ไปเปน ตัวประสาน ทําใหค วามรนุ แรงนน้ั ลดลง มีความกลมกลนื เกิดข้ึน เสน ต้งั และเสนนอนทีว่ างต้ังฉากกนั (ซาย) เปน ทศิ ทางของเสนทขี่ ัดแยงกัน อยางรุนแรง หาก เพเ่ิมสเนสน้โคโคง เ้งขเขาไ้าปไปเปเปนน็ ตตวั ัวปปรระะสสาานน(ข(ขววาา))ททาํ ำใ�ใหห ้ ความขดั แยง ลดลง เกดิ ความกลมกลนื ขึน้ มา ทนั ที

๔๙๔๙ 494495 แนแแวนนทววาทงทสาางรงส้าสงรรค้าา้ งวงคาคมววากามลมกมกลกลมลมกืนกลใลนื นื กใในานรกกอาารอรอกออแอกบกแบแบทบบศับทนทศั ศศั นิลนศปศ์ิลิลปป์ ์ 1.ก1๑า.รก. สการาสร้างสรคร้างวา้ คงาคมววกามาลมกมกลกลมลมกืนกลทลืนาืนทงทดาางา้ งนดดา้โ้านคนโรโคงคสรรงงรสส้างรรา้้าทงงPีเทกท่ีเิดกPีเกจิดิดาจกจาสากก่วสสนว่ ่วนปนปรปะระกรกะอกอบบอมบมูลูลมฐฐูลาานฐนาแนแลลแะะลออะงงอคคงป์ป์ ครรป์ะะกกระออกบบอบ 2 .2๒ก..ารกสารส้างรค้างวคามวากมลกมลกมลกืนลทืนาทงดางา้ ดน้ารนูปรแูปบแบบแบบลแแะลลแะะนแแวนนคววิดคคิดหิดมหามยมาถายึงถคึงวคาคมววกาามลมกมกลกลมมลกืนลทืนPีเทกทิด่ีเPีเกจิดดาจกจาเรกืPอเรงืP่อรางวรเานวBือเนหBื้อาหาที่ ทPีปทปรีPรปาากรกฎาฏกใใฎนนใงงนาานงนาออนอออกกอแแกบบแบบบททบศั ศั ทนนศศั ศลินิลปศป์ิ์ลมมปคี ์ีควมวาีคามมวสสามัมมั พสพันมั นัธพธอ์ นั์เนั ปธเ็นป์เป็นอ็นนหั อนหนั ง่ึนอหPึงันนอเPึงนัดอยีเดนัวียเกดวันีกยอวนั ยกอา่นั ยงอา่เดงยเ่นา่ดงช่นเดัดช่นทดั ชั้งทดนั Bงัี้ ทนรวBงัี รมนวถBี มรึงวผถมลึงถผงาึงลนผงทลานงี่มารี นปู เทหีPมลทเแมีรห่าบีโPีมูปนลคบีรแB่ารนัูปแนบงนแสอBนบั บรวา้าจคแอบงจนิดาทจะแทว่ีไจนคี่เมะปวิด่กจม็นคทละีโแิดมีPเมคปบทกีโร็บนPีเลคงปอแสนืร็นยบงกรแา่ส้บาันงบงรอกเท้บฉายต็ งีPไพอา่าทมงายมPีไเ่กะา่ฉมงขลพเ่กอมฉาลงกพะแมลขาตกืนะอล่ลขงกะืนอนัแบงกตกคุ นัแ่ตล็คตกะาลม่ตล็ บละาุคมทั บคธุคลิ เคชลลื้อทั ชลธาทัิ ตเธชิ ิศBือเชาสBือานตชาิาศ ตเาปิ สศน็ านตสาน้นเปาแ็นเมปต้ว็น่าน้ ตผแลน้ มงแาว้ นมา่ ผเว้ หลา่ ลผง่าลานนงน้ัานอาจจะ

๕๐ 50 46 ใบงานท่ี ๖ การออกแบบงานทศั นศลิ ปโ ดยเนน ความกลมกลืน …………………………………………………………………………………… กจิ กรรมการเรียนรใู หนกั เรียนใชห ลักการสรางความกลมกลืนทางดานโครงสรางทที่เ่เีกกิดิดจจาากก สว่ นประกสอวบนมปูลรฐะากนอบแมลูละฐอางนคป์ แรละะกอบงคหปรอืะหกอลบักกหารือทหศั ลนักศกลิ าปร์ ทัศนศลิ ป ช่ือ-นามสกุล ........................................................................เลขท.ี่ .............ชน้ั ม.1/............ ผลการประเมิน.ได ..............คะแนน ระดับคุณภาพ ดมี าก ดี พอใช ควรปรบั ปรงุ

๕๕๑๑ 551147 แแบบบบปปรระะเมเมินนิ ใใบบงงาานนทที่ ๖ี่ ๖ แผนการจดัดกกาารรเเรรียยี นนรรูททู ี่ ี่๖๖ กกาารรออออกกแแบบบบงงาานนททัศัศนนศศิลิลปปโดโ ดยยเนเนนน คคววามามกกลลมมกกลลนื ืน กลุม สาระการเรยี นรูศลิ ปะ รรหหัสัสววิชิชาาศศ๒๒๑๑๑๑๐๐๑๑ รราายยววชิ ิชาา ททศั ศั นนศศิลลิปป  ชชนั้ ้นัมมธั ยธั มยศมึกศษกึ ษาปาปที่ท๑่ี ๑ ชอื่ กลมุ .........................................................................ช.ชนั้ ั้นมม.๑.๑//...................... เลขที่ ........................................................................................................................................................................ คําช้ีแจง การประเมินนผผลลงงาานนศศิลิลปปะะเเปปนนกกาารรปปรระะเมเมินินททักักษษะะกกรระะบบววนนกกาารรคคิดิดสสรารงาสงสรรครคในในกากราปรประรยะุกยตุก์ ใช การออกแ บ บ งาน ทั ศน ศิ ลปป ท ท่ี เี่ เนน น นคคววาามมกกลลมมกกลลื นื น โโดดยยมมี รี ราายยกกาารรทที่ ป่ี ปรระะเมเมิ นิ นคคื อื อสสรารงาสงสรรครคจ จากากส่ิ งสเ่ิ งรเารทาี่ท่ี กําหนดใหได ความแปลกใหมม  เเสสรร็จ็จตตาามมเเววลลาาแแกกปปญญหหาาไไดด แแลละะมมีรีราายยลละะเอเอียียดดนนาาสสนนใจใจมมีคีคะแะแนนนเตเ็มต็ม๑๑๐๐ คะแนน แบง เปน ๓ ระดับ คือ ๐-๔๔ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ งึ ตตออ งงปปรรบั บั ปปรรุงุง ๕-๗๗ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ ึงผผาานน ๘-๑๑๐๐ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ งึ ปปฏฏบิ ิบัตัติไดิไดด ดี ี ชื่อ-นามสกุล สสรราางงสสรรรรคค  รราายยกกาารรปปรระะเมเมินนิ รวรมวม จจาากกสสง่ิ ิง่เรเราาทที่ ี่ มมีคีคววาามม เสเสรรจ็ ็จ แแกก  มมรี าีรยาย ๑. กกําาํ หหนนดดใใหหไไดด  แแปปลลกก ตตามาม ปปญ ญหหาา ละลเะอเยีอดียด ๒. ใหใหมม  เวเวลลาา ไดได  นนาสา นสนใจใจ ๓. ๔. ให ๒๒ คคะะแแนนนน ๕. ให ๑๑ คคะะแแนนนน ๖. ให ๐๐ คคะะแแนนนน .๗๗.. ๘. ๙. เกณฑก ารใหค ะแนน ทําไดดี ผา น ตองปรบั ปรุง

๕๒ 5248 แบบสงั เกตคุณลักษณะอนั พึงประสงค แผนการจดั การเรยี นรูท่ี ๖ การออกแบบงานทัศนศลิ ปโ ดยเนนความกลมกลนื กลุมสาระการเรยี นรูศ ิลปะ รหัสวิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวิชา ทศั นศิลป ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที่ ๑ ขอท่ี ๔ ใฝเรียนรู ตัวชว้ี ัดและพฤตกิ รรมบง ช้ี ตวั ชี้วัด พฤตกิ รรมบงชี้ ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการ ๔.๑.๑ ตง้ั ใจเรยี น เกรายี รนเรแียลนะแเขลา ะรเวขมา้ รก่วจิ มกกริจรมกรกรามร ๔.๑.๒ เอาใจใสและมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู เกราียรนเรียู นรู้ ๔.๑.๓ สนใจเขารว มกิจกรรมการเรียนรตู างๆ ๔.๒ แสวงหาความรูจากแหลง ๔.๒.๑ ศกึ ษาคน ควา หาความรจู ากหนังสือ เอกสาร สงิ่ พิมพ สอื่ เรียนรตู างๆ ท้ังภายในและภายนอก เทคโนโลยตี า งๆ แหลงเรยี นรูทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน และ โรงเรยี น ดว ยการเลือกใชส ื่ออยา ง เลือกใชส ่ือไดอยา งเหมาะสม เหมาะสม บนั ทึกความรู วเิ คราะห ๔.๒.๒ บนั ทึกความรู วิเคราะห ตรวจสอบจากสงิ่ ทีเ่ รยี นรู สรปุ เปน องค สรปุ เปน องคความรู แลกเปล่ียน ความรู เรยี นรู และนําไปใชใ น ๔.๒.๓ แลกเปลยี่ นเรยี นรูดว ยวธิ กี ารตา งๆ และนาํ ไปใชใ น ชวี ติ ประจาํ วันได ชในวี ชติ ีวปติ รปะจระําวจนัำ� วัน เกณฑการใหค ะแนน (ใชขอมูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครูผูสอน) ดี (๒) ดีเยย่ี ม (๓) พฤติกรรมบงชี้ ไมผาน (๐) ผาน (๑) ตามขอ ๔.๑ – ๔.๒ ไมตงั้ ใจเรียน เขาเรียนตรงเวลา เขาเรยี นตรงเวลา เขา เรยี นตรงเวลา ไมศึกษาคนควาหา ตงั้ ใจเรียน เอาใจ ตงั้ ใจเรียน เอาใจ ตั้งใจเรยี น เอาใจ ความรู ใสในการเรียน ใสในการเรยี น ใสใ นการเรียน และมสี ว นรว มใน และมีสว นรวมใน และมีสว นรว มใน การเรยี นรู และเขา การเรยี นรู และเขา การเรียนรู และเขา รวมกจิ กรรมการ รวมกจิ กรรมการ รวมกจิ กรรมการ เรียนรูต างๆ เปน เรยี นรตู างๆ เรยี นรูตา งๆ ท้งั บางครง้ั บอ ยครง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรียน เปนประจาํ

หหนนววยยกกาารรเรเรยี ยีนนรรทู ูท่ี ี่ ๑๑ แแผผนนกกาารรจจดั ัดกกาารรเรเรยี ยีนนรรูทูท่ี ๗ี่ ๗ ๕๕๓๓ กกลลุมมุ สสาารระะกกาารรเรเรยี ยีนนรรู ู ศศิลลิปปะะ เรเรอื่ ่อืงงกกาารรอออกกแแบบบบงงาานนททัศัศนนศศลิ ลิปปโดโ ดยยเนเนน นคคววาามมสสมมดดุลุล เวเวลลาา 11ชชวั่ ั่วโมโมงง ขขออบบเขเขตตเนเน้ือือ้ หหาา รราายยววิชชิ าาททศั ัศนนศศลิ ลิปป  ชชน้ั น้ั มมัธัธยยมมศศึกกึษษาาปปทที่ ๑ี่ ๑ -ห-หลหลักลักักกาการารอรออกอกแกแบแบบบงบางานงนาททนศั ศัทนนศั ศนิลิลปศปลิ  ป์ กกจิ ิจกกรรรมมกกาารรเรเรียียนนรรู ู สส่อื ือ่/แ/แหหลลงงเรเรียยีนนรรู ู จจุดดุ ปปรระะสสงงคคกกาารรเรเรยี ยีนนรรู ู ขขัน้ น้ั นนําาํ ๑๑ใบใบคคววาามมรรูทูที่ ๔่ี ๔ ดดาานนคคววาามมรรู ู 11. .คครรูททู ักักททาายยนนกั ักเรเรียียนนแแลละะพพูดูดคคุยุยแแลลกกเปเปลลีย่ ่ียนนคคววาามมคคิดดิเหเหน็ น็ ดดาานนงางานนศศิลลิปปะะ กกาารรอออกกแแบบบบงางานนททัศัศนนศศิลิลปป  22. .คครรูบูบออกกววัตัตถถปุ ปุ รระะสสงคงคกกาารรเรเรียียนนรรูเมเู ม่ือ่ือเรเรียียนนจจบบบบททเรเรยี ียนนนน้ีแี้แลลวว นนักักเรเรียียนนสสามามารารถถบบรรรยยาายยหหลลักักกาารร โดโดยยเนเนน นคคววาามมสสมมดดุลลุ ๑๑. .กกาารรอออกกแแบบบบงางานนททัศศันนศศิลิลปปโดโดยยเนเนน น ภภาารระะงงาานน/ช/ชิ้นิน้ งงาานน คคววาามมสสมมดดุลลุ อออกกแแบบบบงางานนททศั ศันนศศลิ ิลปปโดโ ดยยเนเนน นคคววาามมสสมมดดุลลุไดได  ๑๑ใบใบงางานนทที่ ๗ี่ ๗กกาารรอออกกแแบบบบ 33. .คครรูททู บบททววนนคคววาามมรรเู ดูเ ดิมิมเพเพ่ือ่ือกกรระะตตุน ุนใหใหผ ผูเรูเรยี ียนนสสาามมาารรถถเรเรยี ียนนรรเู นเู นอื้ ื้อหหาาใหใหมมไดไดร รววดดเรเรว็ ็วยยิ่งขง่ิ ขน้ึ นึ้ โดโดยยกกาารร งางานนททัศัศนนศศลิ ิลปปโ ดโ ดยยเนเนน นคคววาามม ดดาานนททกั ักษษะะแแลละะกกรระะบบววนนกกาารร สสมมดดลุ ลุ ๑๑. .กกาารรเปเปรรียยีบบเทเทยี ียบบ ถถาามม-ต-ตออบบหหรรอื อืตตง้ั คง้ั คาํ าํถถาามม 44. .คครรูบบู รรรยยาายยปปรระะกกออบบใบใบคคววาามมรรูทูที่ 4่ี 4กกาารรอออกกแแบบบบงางานนททศั ศันนศศิลลิปปโ ดโ ดยยเนเนน นคคววาามมสสมมดดลุ ลุ ดดา านนคคุณณุ ลลกั กัษษณณะะออันันพพงึ ึงปปรระะสสงงคค  ขข้ันน้ั สสออนน ๑๑. .ใฝใฝเ รเรยี ียนนรรู ู ๑๑. .คครรู แู แจจกกใบใบงางานนทที่ ๗่ี ๗ใหใหน นักักเรเรียยีนนฝฝก กกาารรอออกกแแบบบบงางานนททศั ัศนนศศิลิลปปโ ดโดยยเนเนน นคคววาามมสสมมดดลุ ุล แแลละะสสงั เังกเกตตคคุณุณลลักักษษณณะะออันนั พพึงปงึ ปรระะสสงคงคขขอองผงผเู รเู รยี ียนนขขณณะะทท่ีนี่นักกัเรเรียียนนปปฏฏิบบิ ตั ัติงางิ านน ๒๒.ค.ครรตู ูต้ังคัง้ คําําถถาามมจจาากกบบททเรเรยี ียนนในในรระะหหววา างทงที่ น่ี นกั กัเรเรยี ียนนปปฏฏิบิบัตัตงิ าิงานนโดโดยยมมีนีนักกัเรเรียียนนตตออบบคคาํ ําถถาามมแแลละะ แแสสดดงคงคววาามมคคิดดิเหเหน็ ็น ๓๓. .นนักักเรเรียยีนนแแตตล ละะคคนนนนําําเสเสนนออผผลลงางานนแแลละะรรววมมกกันันสสรรปุ ปุ บบททเรเรยี ียนน ขข้ันัน้ สสรรุปุป ๑๑. .คครรแู ูแลละะนนักักเรเรียยีนนรรว วมมกกันนั ปปรระะเมเมนิ ินใบใบงางานนทที่ ๗ี่ ๗ ๒๒. .คครรแู ูแจจงผงผลลกกาารรปปรระะเมเมินินตตาามมววัตตัถถปุ ุปรระะสสงคงคกกาารรเรเรยี ียนนใหใหน นกั ักเรเรียียนนททรราาบบเพเพื่อ่ือใหใหนน ักกัเรเรยี ยีนนไดไดเ หเ ห็น็น คคววาามมกกาาววหหนนาาแแลละะพพฒั ัฒนนาากกาารรเรเรยี ยีนนรรขู ูขอองตงตนนเอเองง ๓๓. .คครรูนูนัดดัหหมมาายยกกาารรเรเรยี ยีนนในในชชั่ววั่โมโมงถงถดั ดัไปไปแแลละะแแนนะะนนาํ าํใหใหน นกั ักเรเรยี ียนนไปไปศศกึ กึษษาาคคววาามมรรูเ พเู พิ่ม่ิมเตเติม่ ่ิมจจาากกแแหหลลง ง เรเรียียนนรรตู ตูา างงๆๆเกเกีย่ ่ยีววกกบั ับเรเรื่อื่องหงหลลกั ักกาารรอออกกแแบบบบงางานนททศั ศันนศศลิ ลิปป  554339

๕๔ 54 50 การวัดและประเมินผล สิง่ ทต่ี องการวดั /ประเมนิ วธิ กี าร เคร่อื งมอื ท่ีใช เกณฑ ๑.ดานทกั ษะ/กระบวนการ ประเมินทักษะการ แบบประเมนิ --มีทกั ษะอยใู่ นระดับคณุ ภาพ ดี ขนึ้ ไปรอ้ ยละ 8๘0๐ ๒.ดา นคณุ ลักษณะอันพงึ เปรยี บเทยี บ สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต --มมลี ีคกั ณุ ษลณักะษอณนั ะพองึ นัปพระึงปสงรคะอ์สยงคใู น อรยะดูใ นบั รคะณุ ดับภาพ ดี ขนึ้ ประสงค์ ไปคณุรอ้ ภยาลพะด๘ีข๐น้ึ ไป รอยละ 80 บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรยี นรู ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ปญ หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ขอ เสนอแนะและแนวทางแกไ ข ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................ผสู อน (.......................................................) วนั ท่.ี .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอเสนอแนะของผบู ริหารหรือผูท่ีไดร บั มอบหมาย ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงช่ือ ......................................ผูตรวจ (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ.............

๕๕ 5551 ใบความรูท่ี ๔ การออกแบบงานทัศนศิลปโ ดยเนน ความสมดุล …………………………………………………………………………………… ความสมดุล (Balance) หมายถงึ ความเทากันหรือภาวะทเ่ี ทา กันขององคป ระกอบ จะทาํ ใหง าน ออกแบบมีความเปน ระเบียบการออกแบบใหมีความสมดลุ ตอ งอาศยั ความสมั พันธมลู ฐานของทศั นธาตตุ า งๆ มาประกอบกันไดแก ขนาดของจดุ เสน รปู รา ง น้ําหนัก ทิศทางและสี เทา กันหรือเกิดการเทากนั ในความรูสึก ความสมดุลจะใหความรูสึกเทากันทั้งสองดาน ความสมดุลทําใหงานดูสงางาม นาสนใจ มีความเปน ระเบียบเรียบรอย การออกแบบใหมีความสมดุลตองอาศัยความสัมพันธขององคประกอบตางๆ เชน รูปราง ขนาด เสน มวล ทิศทาง สี เปน ตน ความสมดลุ แบงออกเปน 2 ชนิดคอื 3.1 ความสมดุลที่เหมือนกันทั้งสองขางเปนการใหความสมดุลทั้งดานซายขวา บนลาง มีนํ้าหนัก และขนาดเทา กนั ท้ังสองดาน 3.2 ความสมดลุ ทท่ี ้ังสองขา งไมเหมือนกัน การจัดความสมดุลแบบนี้เปน ท่ีนิยม เปนการจัดท่ีใหมองสภาพสว นรวมแลว มคี วามถวงหรอื นาํ้ หนัก เทากนั ดว ยความรูสึกจากการมองเห็น การจัดความสมดุลท้ังสองขางไมเหมือนกันควรพิจารณาถึงส่ิงตางๆดังน้ี นํ้าหนัก วัตถุเล็ก ถาจะทํา ใหมีนํ้าหนกั เทากับวัตถุใหญ จะตองเพ่ิมจํานวนวัตถุเล็กเขาไป , สีท่ีเขมมากจะมนี ้ําหนกั มากกวาสีออ น, พื้นผิว หยาบจะมีน้ําหนักมากกวาพ้ืนผิวเรียบ, การวางตําแหนงของวัตถุ วางไกลใหความรูสึกหนักกวาวัตถุที่อยูไกล, ความนาสนใจของรปู วัตถุ วัตถุท่มี ขี นาดใหญอาจใหความรสู กึ เบากวาวัตถขุ นาดเล็กท่นี าสนใจมากกวาก็ได

๕๖ 5562 ภาพตัวอยา การออกแบบงานทัศนศลิ ปโ ดยเนน ความสมดุล

๕๗ 57๕๗ 57 53 ใบงานทใบ่ี ๗งานที่ ๗ หลักการหอลอักกกแาบรอบองกานแบทบัศนงาศนลิ ทปัศโดนยศเิลนปนโ คดวยาเนมนสมคดวาุลมสมดลุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… กจิ กรรมกกาจิรเกรรียรนมรกใู าหรนเรักียเรนียรนูใ หใชนหักลเรกั ยี กนาใรชสหรลา กังคกวาราสมรกา ลงมคกวลาืนมทกลางมดกา ลนืนโทคารงดสารนางโคทร่ีเงกสิดรจา างกทีเ่ กิดจาก สวนประกสอว บนมปูลรฐะากนอบแลมะูลฐอางนคปแรละกอองบคปหระือกหอลบักกหารรือทหัศลนักศกิลาปรทัศนศลิ ป ชอื่ -นามสชกอื่ลุ -น.า..ม...ส..ก...ุล.............................................................เ..ล..ข..ท...ี่ ......เ.ล...ข..ท.ชี่..้นั ....ม...1.../...ช..น้ั ....ม...1. /............ ผลการปรผะลเมกนิาร.ไปดร .ะ..เ.ม...นิ ...ไ..ด..ค..ะ..แ..น...น.....รคะะดแบั นคนณุ ภระาดพับคณุ ดภีมาาพกดีมดาี กพอดใี ชพคอวใชรป รบั ปครวุงรปรบั ปรงุ

๕๘ 5854 แบบประเมนิ ใบงานที่ ๗ แผนการจัดการเรยี นรทู ่ี ๗ หลกั การออกแบบงานทัศนศลิ ปโดยเนน ความสมดุล กลุมสาระการเรียนรศู ิลปะ รหัสวิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวชิ า ทัศนศลิ ป ชนั้ มัธยมศึกษาปท่ี ๑ ชอื่ กลุม.........................................................................ช้ัน ม.๑/.................... เลขที่ ..................................................................................................................................................................... คาํ ชแ้ี จง การประเมินผลงานศลิ ปะ เปนการประเมินทกั ษะกระบวนการคิดสรางสรรคใ นการประยยุกุกใชต์ใช้ การออกแบบงานทัศนศิลปท ่เี นน ความสมดลุ โดยมีรายการทีป่ ระเมนิ คือ สรางสรรคจากสิ่งเราท่ีกาํ หนดใหได ความแปลกใหม เสร็จตามเวลา แกป ญ หาได และมีรายละเอียดนา สนใจ มีคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน แบงเปน ๓ ระดับ คือ ๐-๔ คะแนน หมายถงึ ตองปรบั ปรงุ ๕-๗ คะแนน หมายถงึ ผา น ๘-๑๐ คะแนน หมายถึงปฏิบัติไดดี รายการประเมิน สรางสรรค มคี วาม เสร็จ แก มีราย ชือ่ -นามสกลุ จากสงิ่ เราที่ แปลก ตาม ปญ หา ละเอยี ด รวม ๑. กาํ หนดใหได ใหม เวลา ได นา สนใจ ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. .๗๗.. ๘. ๙. เกณฑก ารใหค ะแนน ให ๒ คะแนน ทาํ ไดดี ให ๑ คะแนน ผาน ให ๐ คะแนน ตอ งปรับปรุง

๕๙ 59 55 แบบสังเกตคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค แผนการจัดการเรียนรูท่ี ๗ หลักการออกแบบงานทศั นศลิ ปโ ดยเนนความสมดุล กลมุ สาระการเรียนรศู ิลปะ รหัสวิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวิชา ทศั นศิลป ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี ๑ ขอที่ ๔ ใฝเรยี นรู ตัวชี้วดั และพฤตกิ รรมบงชี้ ตวั ช้วี ดั พฤติกรรมบงช้ี ๔.๑ ต้ังใจ เพยี รพยายามในการ ๔.๑.๑ ตงั้ ใจเรียน เกราียรนเรแียลนะแเขลาะรเวขมา้ รกว่ิจมกกริจรมกกรรามร ๔.๑.๒ เอาใจใสแ ละมีความเพียรพยายามในการเรียนรู เกราียรนเรยีู นรู้ ๔.๑.๓ สนใจเขารว มกิจกรรมการเรยี นรตู างๆ ๔.๒ แสวงหาความรูจ ากแหลง ๔.๒.๑ ศกึ ษาคนควา หาความรูจากหนังสอื เอกสาร สงิ่ พิมพ สือ่ เรยี นรตู า งๆ ท้งั ภายในและภายนอก เทคโนโลยีตา งๆ แหลงเรียนรทู ้ังภายในและภายนอกโรงเรียน และ โรงเรยี น ดวยการเลอื กใชส อื่ อยา ง เลอื กใชสือ่ ไดอยางเหมาะสม เหมาะสม บันทึกความรู วเิ คราะห ๔.๒.๒ บบันันททึกกึ คคววาามมรรู้ ูววเิ คเิ ครราาะะหห์ ตตรรววจจสสออบบจจาากกสสง่ิ ิ่งททีเ่ รเ่ี รยี ียนนรรู้ ูสสรรุปุปเปเป็นน องค สรปุ เปนองคความรู แลกเปลี่ยน คองวคาม์ครวูามรู้ เรียนรู และนําไปใชใ น ๔.๒.๓ แแลลกกเปเปลลีย่ ี่ยนนเรเรียยี นนรรดู้ ดู ว้ วยยววธิ ิธกี ีกาารรตตา่ างงๆ และนาํำ� ไปใชใ้ น ชในวี ชิตีวปิตรปะจระาํ วจนั�ำวไดันได้ ใชนีวชติ วีิปติ รปะรจะาํ จวัน�ำวัน เกณฑการใหคะแนน (ใชขอมูลจากการสังเกตตามสภาพจริงของครูผสู อน) พฤตกิ รรมบงชี้ ไมผา น (๐) ผา น (๑) ดี (๒) ดเี ยีย่ ม (๓) ตามขอ ๔.๑ – ๔.๒ ไมต ั้งใจเรียน เขาเรยี นตรงเวลา เขา เรยี นตรงเวลา เขา เรียนตรงเวลา ไมศึกษาคนควา หา ตงั้ ใจเรยี น เอาใจ ตง้ั ใจเรียน เอาใจ ตั้งใจเรียน เอาใจ ความรู ใสใ นการเรยี น ใสใ นการเรยี น ใสในการเรียน และมสี ว นรว มใน และมสี ว นรว มใน และมสี วนรวมใน การเรยี นรู และเขา การเรยี นรู และเขา การเรยี นรู และเขา รวมกจิ กรรมการ รว มกิจกรรมการ รว มกิจกรรมการ เรยี นรูตางๆ เปน เรียนรูต างๆ เรยี นรูตา งๆ ท้ัง บางครั้ง บอ ยคร้ัง ภายในและ ภายนอกโรงเรียน เปน ประจาํ

๖๐ 6506 หนว ยการเรยี นรทู ี่ 2 ชื่อหนวยวาดภาพทศั นียภาพแสนงาม รหสั วิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวชิ า ทัศนศลิ ป กลมุ สาระการเรยี นรู ศิลปะ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปท ี่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ปการศึกษา ๒๕๖๒ เวลา ๗ ชั่วโมง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ๑. มาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ช้วี ัด สาระ ทศั นศลิ ป มาตรฐานการเรยี นรู มาตรฐาน ศ ๑.๑ สรางสรรคงานทัศนศลิ ปตามจินตนาการ และความคดิ สรา งสรรค วเิ คราะห วิพากษ วิจารณคุณคา งานทศั นศลิ ป ถา ยทอดความรูส กึ ความคดิ ตองานศิลปะอยางอสิ ระ ชน่ื ชม และประยุกตใชใ นชีวิตประจําวนั ตัวช้วี ัด ศ ๑.๑ ม.๑/๓ วาดภาพทัศนียภาพแสดงใหเหน็ ระยะใกลไ กลเปน ๓ มิติ ๒. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด หลักการของภาพทัศนียภาพ เปน ภาพท่ใี หค วามรสู กึ เปน 3 มิติ ซ่งึ จะมีลักษณะของมองเหน็ ภาพ คือ วตั ถุ หรือส่งิ ของทมี่ ีขนาดเทากนั เมอ่ื ยูไกลตวั ออกไปจะมีขนาดเลก็ ลง ระยะทเ่ี ทา กนั เม่ืออยไู กลตัวออกไปจะมี ระยะที่ถข่ี ึ้นเร่ือย ๆ จนรวมเปนจดุ เดียวกัน เสน หรือสง่ิ ของทีค่ ูข นานกนั เม่ือไกลออกไปจะพงุ เขา หากัน และ วตั ถุ หรือส่ิงของตา ง ๆ เม่ืออยไู กลตวั ออกไป จะมีรายละเอียดและความชัดเจนลดลงไปตามลาํ ดบั ๓. สาระการเรียนรู ความรู . ๑) หลักการของภาพทัศนียภาพ ๒) การวาดภาพทัศนยี ภาพ ทกั ษะ/กระบวนการ ๑) ทกั ษะกระบวนการทํางาน 2) ทกั ษะกระบวนการคิดสรางสรรค เจตคติ --สสนุุนททรรยี ียภภาาพพแแลละะศศลิ ลิ ปปะะนนิสสิ ัยยั ทท่ีด่ีดี ี ๔. สมรรถนะสาํ คญั ของผูเรียน ๔.๑ ความสามารถในการใชทักษะชิวติ

๖๑ 6517 ๕. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค 5.1 อยอู ยางพอเพยี ง 5.2 มงุ มน่ั ในการทํางาน 5.3 รักความเปน ไทย ๖. การประเมินผลรวบยอด ช้ินงานหรือภาระงาน หนว ยที่ รหสั ตัวชี้วัด แผนการเรียนรทู ่.ี ..เรือ่ ง .. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน 2 ศ 1.1 ม. ๑. หลักการของภาพทัศนยี ภาพ -ใบงานท่ี ๘ “ทศั นยี ภาพ จจาากกอปงรคะป์ สรบะกสาบรกณาขรณองข์ อง วาดภาพ 1ม./3๑/๓ ๒. การรา งภาพดว ยเสน ทัศนียภาพ 1 ฉนั ” ทศั นยี ภาพ ๓. การรางภาพดว ยเสนทศั นียภาพ 2 -แแบบบบฝฝกกึ ทที่ ี่1๑กกาารรรรา ่างงภภาาพพดดวว้ ยยเเสสนน้ ททศั ศั นนยี ียภภาาพพ1๑ แสนงาม -แแบบบบฝฝก กึ ทที่ ่ี2๒กกาารรรรา ่างงภภาาพพดดว ้วยยเเสสน น้ ททัศัศนนียียภภาาพพ2๒ ๔. การวาดภาพทศั นียภาพ -แแบบบบฝฝกกึ ทที่ ่ี3๓กกาารรววาาดดภภาาพพททศั ศั นนยี ียภภาาพพ ๕. การวาดภาพ“ทศั นยี ภาพในโรงเรยี น -ผผลลงงาานนศศิลิลปปะะ““ททัศศั นนียียภภาาพพใในนโโรรงงเเรรียียนนขขอองงฉฉนั นั ”” ของฉนั ” ๖. ผลงานศิลปะ “ทัศนียภาพในโรงเรียน -ผผลลงงาานนศศลิ ิลปปะะ““ททัศัศนนยี ียภภาาพพใในนโโรรงงเเรรยี ียนนขขอองงฉฉันัน”” ของฉัน” ๗. ทศั นียภาพแสนงามที่บา นของฉนั -ผผลลงงาานนศศลิ ิลปปะะ““ททัศศั นนียียภภาาพพแแสสนนงงาามมททบ่ี บ่ี าา้ นนขขอองงฉฉนั ัน””

๖๒ 5682 เกณฑก ารประเมินผลชน้ิ งานหรือภาระงาน ประเดน็ การประเมนิ ระดบั คุณภาพ ๑. ผลงานตรงกับจดุ ประสงคท่ีกาํ หนด ๔ (ดมี าก) ๓ (ด)ี ๒ (พอใช) ๑ (ปรบั ปรุง) ผลงาน ผลงาน ผลงาน ผลงานไม ๒. ผลงานมีความถกู ตองสมบูรณ สอดคลองกับ สอดคลอ งกบั สอดคลอ งกบั สอดคลอ งกับ จดุ ประสงค จดุ ประสงค จดุ ประสงคบ าง จดุ ประสงค ๓. ผลงานมีความคิดสรางสรรค ทกุ ประเดน็ เปน สว นใหญ ประเดน็ เนอื้ หาสาระ เนอื้ หาสาระ เนอ้ื หาสาระ เนือ้ หาสาระ ของผลงาน ของผลงาน ของผลงาน ของผลงานไม ถูกตอง ถูกตองเปน สวน ถูกตองเปนบาง ถกู ตองเปนสว น ครบถวน ใหญ ประเดน็ ใหญ ผลงาน ผลงานมี ผลงานมีความ ผลงานไมแ สดง แสดงออกถึง แนวคดิ แปลก นาสนใจ แตย ัง แนวคิดใหม ความคดิ ใหมแตย งั ไม ไมมีแนวคดิ สรา งสรรค เปนระบบ แปลกใหม แปลกใหม ๔. ผลงานมีความเปน ระเบียบ และเปน ระบบ ผลงานสวน ผลงานมคี วาม ผลงานสว น ผลงานมคี วาม ใหญม คี วามเปน เปน ระเบียบแต ใหญไ มเ ปน เปนระเบยี บ ระเบียบแตยังมี มขี อบกพรอง ระเบยี บ และมี แสดงออกถึง ขอ บกพรอง บางสว น ขอ บกพรอง ความประณตี เลก็ นอย มาก เกณฑการตัดสิน คะแนน ๓๐ – ๓๕ หมายถึง ดมี าก คะแนน ๒๕ – ๒๙ หมายถงึ ดี คะแนน ๒๐ – ๒๔ หมายถึง พอใช คะแนน ๑๕ – ๑๙ หมายถึง ปรับปรงุ เกณฑการผาน ตัง้ แต ๑๒๕๐ ขนึ้ ไป ผานเกณฑ

63 หนวยการเรยี นรทู ี่ 2 แผนการจดั การเรยี นรทู ี่ ๑ เวลา 1 ชั่วโมง กลุมสาระการเรยี นรู ศลิ ปะ เรื่อง หลกั การของภาพทศั นียภาพ ชนั้ มัธยมศึกษาปที่ ๑ รายวิชา ทัศนศิลป ส่อื /แหลง เรยี นรู ขอบเขตเนอ้ื หา กจิ กรรมการเรียนรู ๑.ใบความรทู ี่ ๕ ห-ลหักลกักากราขรอขงอทงัศภนาพยี ภทาัศพนยี ภาพ ขั้นนาํ หลักการของภาพ จุดประสงคก ารเรยี นรู 1. ครูทักทายนักเรยี นในชัว่ โมงแรกของการเรยี น และพดู คุย แลกเปลยี่ นกนั เลาประสบการณ ทศั นียภาพ ดา นความรู ดา นการวาดภาพทวิ ทัศน ภาระงาน/ช้นิ งาน 2. ครบู อกวตั ถปุ ระสงคการเรียนรูเมอื่ เรยี นจบบทเรียนนี้แลว นกั เรียนสามารถบอกหลักการของภาพ 1.ใบงานท่ี ๘ ๑. หลักการของภาพทัศนยี ภาพ ทัศนยี ภาพ ได “ทศั นียภาพ จาก ดา นทักษะและกระบวนการ 3. ครูใหน กั เรียนวาดภาพทัศนียภาพ “ทัศนยี ภาพ จากประสบการณของฉนั ”กอนเรยี น ประสบการณของฉัน” ขัน้ สอน ๑. การนาํ ความรูไปใช ๑. ครูบรรยายประกอบ ใบความรูท่ี 5 หลักการของภาพทัศนยี ภาพ ดา นคณุ ลักษณะ ๒. ครูแบง กลมุ นักเรียน กลมุ ละ 4-6 คน ใหน กั เรียนแตล ะกลมุ แบงหนา ทร่ี วมกนั วิเคราะห การวาดภาพตามหลกั ทัศนียภาพ(Perspective) ทง้ั 3 แบบ จากใบความรแู ละสังเกตคณุ ลกั ษณะ ๑. มงุ มั่นในการทํางาน อนั พึงประสงคของผูเรยี น ขณะทนี่ ักเรียนปฏบิ ัตงิ าน ๓. ครตู ัง้ คําถามจากบทเรยี นใหนักเรียนแตกลุมรวมกันตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเหน็ ๔. นกั เรียนแตละคนกลุมเลอื กช้นิ งานของเพื่อน“ทศั นยี ภาพ จากประสบการณของฉัน”กอนเรียน ออกมานาํ เสนอและรว มกันสรปุ ๕. ครแู ละนักเรยี นแตล ะกลมุ รวมกันประเมินทักษะคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ขน้ั สรุป ๑. ครูและนักเรยี นสรปุ เนอื้ หาโดยนักเรียนสามารถบอกหลกั การของภาพทัศนียภาพ ได ๒. ครนู ัดหมายการเรียนในชวั่ โมงถัดไป และแนะนาํ ใหน กั เรยี นไปศึกษาความรเู พ่ิมเติม่ จากแหลง เรียนรูตาง ๆ เกีย่ วกับการเขยี นภาพทัศนียภาพ 6539

๖๔ 64 60 การวดั และประเมินผล ส่ิงทต่ี องการวัด/ประเมิน วิธกี าร เครอื่ งมอื ทีใ่ ช เกณฑ 1๑.ดา้ นทักษะ/กระบวนการ- ประเมนิ ทักษะ แบบประเมิน --มที ักษะอยใู่ นระดับคณุ ภาพ ดี ขึ้นไปรอ้ ยละ 8๘0๐ -กกาารรนนำ�าํ คคววาามมรรไู้ ไูปปใชใช้  สงั เกตพฤตกิ รรม 2.ดานคุณลกั ษณะอนั พึง แบบสงั เกต --มคี ณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคอ์ อยยู่ใใูนนรระะดดับับคุณภาพ ดคีขณุ ึ้นภไปาพรดอ้ ีขย้นึลไะป๘ร๐อยละ 80 ประสงค์ บนั ทึกผลหลงั สอน ผลการเรียนรู ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ขอ เสนอแนะและแนวทางแกไ ข ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................ผูสอน (.......................................................) วันที.่ .........เดอื น..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอ เสนอแนะของผบู ริหารหรือผูทไี่ ดรับมอบหมาย ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................ผตู รวจ (.......................................................) วันที่..........เดอื น..........พ.ศ.............

๖๕ 6651 ใบความรูท ี่ ๕ หลกั การของภาพทัศนียภาพ …………………………………………………………………………………… หลกั การของภาพทศั นยี ภาพ หลกั การของภาพทัศนียภาพ เปนภาพที่ใหความรูสึกเปน 3 มติ ิ คอื มลี ักษณะของความเหมือน ใกลเคียงกบั ภาพทค่ี นเราเห็นภาพตาง ๆ โดยทั่วไป เชน ถา ไปยืนอยูกลางถนน แลว มองไปไกลขา งหนา เราจะ เห็นถนนจะคอยเลก็ ลง เสาไฟฟา กส็ น้ั เลก็ ลง ถามตี น ไมเปนทิวขางทางกจ็ ะ เตีย้ ลง แลวกจ็ ะวิ่งไปรวมกนั ทีจ่ ดุ สุดสายตา หรือถาใครอยูใ กลเ สนทางรถไฟก็จะเหน็ ไดช ัดเจน รางรถไฟจะไปรวมกนั ที่จุดจดุ เดยี ว ไมห มอนท่ี นอนขวางรบั รางเหล็กกจ็ ะสนั้ เขา และรวมกันที่ จดุ รวมสายตา Perspective คอื อะไร ? Perspective คือ ทัศนียภาพ (ทัศน+ ภาพ = ภาพท่ีใชตามอง) หรอื ภาพท่ีมีการนาํ ดวยจุดสายตา ไดดงั น้ี 1. วัตถุ หรือส่งิ ของท่ีมขี นาดเทา กันเมื่อยไู กลตวั ออกไปจะมีขนาดเล็กลง 2. ระยะที่เทากันเม่ืออยูไกลตัวออกไปจะมรี ะยะท่ีถี่ขนึ้ เรื่อย ๆ จนรวมเปน จดุ เดียวกัน 3. เสน หรอื ส่ิงของทค่ี ูขนานกันเม่ือไกลออกไปจะพงุ เขา หากัน 4. วัตถุ หรือสิ่งของตา ง ๆ เมื่ออยูไกลตวั ออกไป จะมรี ายละเอยี ดและความชดั เจนลดลงไปตามลาํ ดบั ทศั นียภาพ การรา งภาพดวยเสนทัศนยี ภาพ Perspective เสน ทศั นยี ภาพ คือ เสน ทช่ี ว ยใหก ารวาดภาพบน ระนาบ 2 มิติ ดเู ปนภาพ 3 มติ ิ มคี วามเหมือนจรงิ คือ มคี วามกวา ง ความยาว และความลึก เพอ่ื แสดงใหเห็น วา วตั ถุทีม่ ีขนาดเทา กัน ถา วางอยใู นตําแหนง ทตี่ า งกนั จะมีขนาดตา งกนั ดว ย ขน้ั ตอนการรา งภาพดวยเสนทัศนียภาพ 1.เขียนเสน ระดับสายตา (HL Horizontal Lline) : เปนเสนทอ่ี ยูในระดบั เดยี วกบั ตา หรอื จะเปน เสนขอบฟา เสน ทีแ่ บง ทองฟากับพน้ื นา้ํ 2.หาจุดรวมสายตา (VP Vanishing Point) : หาไดโดยการรา งเสน จากโครงสรา งของวัตถุที่อยูใน ภาพไปยงั เสนระดับสายตา ซ่ึงชว ยสรา งภาพวัตถทุ ีจ่ ะวาดใหมีระยะและขนาดตางกนั 3.วาดรายละเอียดของวัตถุ เมื่อรางเสน HL และเสน ทม่ี งุ ไปหาจุด VP แลว ก็เรมิ่ ใสร ายละเอยี ด แนะนาํ ใหเริ่มรางวตั ถทุ ่ีมขี นาดใหญกอนแลวคอยๆ รา งสว นยอ ย รูปที่ 1 แสดงการรางภาพดว ยเสน ทศั นียภาพ

๖๖ 6662 ลักษณะของเสนตางๆ ท่ีใชในการเขยี นภาพทศั นยี วิทยา (Perspective) 1.Ground Plane (GP): แผน พ้ืนทว่ี างวตั ถุแผนภาพ (PP) จะตองวางตัง้ ฉากกับแผน พ้ืนหรอื ระนาบ เสมอ 2.Horizon Line (HL) : เสนขอบฟา ตง้ั อยใู นแนวระดับตา (Eye Level) เสนนม้ี คี วามสาํ คญั มากจะ เปนเสนท่ีจุดรวมสายตา (VP) ต้งั อยูบนเสน น้ี 3.Vanishing Point (VP) : จดุ รวมสายตา คือจุดกาํ หนดทส่ี ําคัญมากในการเขยี น ภาพ Perspective จดุ รวมสายตาจะตง้ั อยบู นเสน ระดบั ตาในขอ 2 อาจมจี ุดเดยี วหรอื 2 จดุ ก็ไดตามชนดิ การ มองของภาพ Perspective 4.Station Point (SP) : เปน จุดยืนในการมองไปยงั ภาพ ซ่งึ เนนเปนลกั ษณะของภาพทัศนียวิทยา 5.Ground Line (GL) : เปนเสน พืน้ ทีจ่ ดแผนภาพเสน นี้มีความสําคัญในการเขียนภาพ Perspective มากเพราะใชเปนทีต่ ง้ั ของภาพ Perspective ท่มี องเหน็ 6.Center of Vision (CV) : จดุ รวมสายตาท่ตี ง้ั อยตู รงกลางของภาพจดุ ที่อยูบนเสน น้เี รียกวา Center Point (CV) การวาดภาพตามหลักทัศนียภาพ(Perspective) มี 3 แบบ คอื 1.แบบจุดรวมสายตา (Vanishing Point) จุดเดยี ว (One Point Perspective) : มีแนว เสน ระดบั ดานหนาขนานกับเสน ระดับตา (Horizon Line หรือ Eye Level) สว นดานลกึ จะไปรวมกันที่จดุ รวม สายตา (VP) ซึง่ ตง้ั อยบู นเสนระดับตา รูปท่ี 2 แสดงโครงสรางของภาพทีป่ ระกอบดว ย รปู ท่ี 3 แสดงใหเหน็ ถงึ การไปรวมของจดุ รวมสายตา ถา ไปยนื อยูกลางรางรถไฟมอง เสนระดับสายตา (Horizon Line) และจุดรวม ไกลออกไป เสน ของรางรถไฟท่ขี นานกนั จะเลก็ ลงและไปรวมอยูเปนจดุ เดยี ว สายตา (Vanishing point) รูปที่ 4 แสดงโครงสรางของภาพทีป่ ระกอบดวย เสนระดับสายตา (Horizon Line) และจดุ รวมสายตา (Vanishing point) รูปท่ี 5 แสดงโครงสรางของการมองของภาพในตําแหนง ทีไ่ มใชอ ยตู าํ แหนง กลาง ของภาพที่มองแสดงใหเห็นตําแหนง การมองดานขางของรางรถไฟ จะเห็นวา ใน ความเปนจรงิ ของทุกอยางที่มีขนาดเทา กันกจ็ ะไปรวมอยจู ดุ เดียวกนั

๖๗ 6673 2.แบบจุดรวมสายตา 2 จุด (Two Point Perspective) : ภาพ Perspectiveทีม่ เี สน แนวระดบั ทัง้ ดานหนา และดานขา งไปรวมตรงจุดรวมสายตา (VP. 1และ VP. 2) ซง่ึ อยดู า นซายและขวา รูปท่ี 6 แสดงโครงสรา งมมุ มองของภาพ รปู ท่ี 7 แสดงโครงสรา งมุมมองของภาพ PERSPECTIVE VP 2 จุด ท่ีมองจากทสี่ ูงลงทต่ี ่าํ PERSPECTIVE VP 2 จดุ ท่ีมองสงู ขึ้นไป 3.แบบรวมจุดสายตา 3 จุด (Three Point Perspective) : ภาพ Perspective ท่ีคลายกับ แบบจุดรวมสายตา 2 จุด แตเพิ่มการมองจุดรวมสายตาจากจุดท่ี 3 (VP. 3) ตรงตามแนวดง่ิ จดุ รวมสายตา ท่ี 3 (VP. 3) ดูภาพไดเมอ่ื อยูทั้งดานบนและดานลา งของเสน ระดับตา (HL) รปู ที่ 8 แสดงภาพ PERSPECTIVE ที่มีจุดรวม รูปที่ 9 แสดงภาพ PERSPECTIVE ท่ีมีจดุ รวมสายตา สายตา 3 จดุ อยูในลกั ษณะของการมองจากลา งข้นึ บน 3 จุด อยใู นลักษณะของการมองจากบนลงลาง

๖๘ 68 64 การวาดหอ้ งจาก PERSPECTIVE แบบ 1 จุดและ PERSPECTIVE 2 จุด จะเห็นวา่ การวาดแบบ PERSPECTIVE 1 จุด ดูเหมือนจะซบั ซอ้ นนอ้ ยกวา่ และวาดง่ายกวา่ แต่ PERSPECTIVE แบบ 2 จุดนDนั จะวาดออกมา เสมือนจริงมากกวา่ เพราะคนเราจะมีสองตา และการวาดจาก 2 จุดจะออกมาดูเป็นธรรมชาติ กวา่ เสมอ และดูไม่หลอกตามาก

๖๙ 69 65 นอกจากการวาดภาพ PERSPECTIVE ตรง ๆ แลวเรายงั มีเร่ืองของความสงู ตํา่ ของมุมมอง ท่ที าํ ให ภาพวาดนนั้ แตกตางแลวนา สนใจ

๗๐ 7606 ใบงานท่ี ๘ “ทศั นียภาพ จากประสบการณของฉนั ”กอ นเรียน …………………………………………………………………………………… ใหน ักเรยี นวาดภาพทศั นยี ภาพตามประสบการณท ่ีผา นมา ตามความสามารถและความถนดั ชือ่ -สกุล..................................................................................................เลขท.ี่ ...........................ชัน้ ม.1/...... ผลการประเมนิ .ได ..............คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดีมาก ดี พอใช ควรปรบั ปรุง

๗๗๑๑ 771167 แแบบบบปปรระะเมเมนิ นิ ใใบบงงาานนทที่ ๘ี่ ๘ แแผผนนกกาารรจจดั ัดกกาารรเเรรียยี นนรรทู ทู ี่ ี่๑๑ หหลลักกั กกาารรขขอองงภภาาพพททัศศันนยี ยีภภาาพพ กลุม สาระการเรียนรรูศศู ลิ ิลปปะะ รรหหัสัสววิชิชาาศศ๒๒๑๑๑๑๐๐๑๑ รราายยววิชิชาา ททศั ัศนนศศิลิลปป  ชชัน้ นั้มมัธยธั ยมมศศึกษึกษาปาปทที่ ๑ี่ ๑ ช่อื กลุม .........................................................................ช.ชั้นั้นมม.๑.๑//...................... เลขท่ี ........................................................................................................................................................................ คําชี้แจง การประเมินนผผลลงงาานนศศิลิลปปะะ เเปปนนกกาารรปปรระะเเมมินินททักักษษะะกกรระะบบววนนกกาารรคคิดิดสสรราางสงสรรครคในในกการาปรประรยะุกยตุกใช์ใชช้  หลักการของภาพทศั นียยภภาาพพโโดดยยมมรี ีราายยกกาารรทท่ีป่ีปรระะเเมมินินคคอื ือสสรรา างงสสรรรคคจจาากกสส่งิ ่งิเรเราาททีก่ ่กีําหําหนนดดใหใหไดได ค ควาวมามแปแปลกลใกหใหมม เสรจ็ ตามเวลา แกปญ หหาาไไดด  แแลละะมมรี รี าายยลละะเเออยี ียดดนนา าสสนนใใจจมมคี ีคะะแแนนนนเตเตม็ ็ม๑๑๐๐คคะะแแนนนนแแบบงเงปเปน น ๓๓ระรดะดบั ับคอืคือ ๐๐--๔๔ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ งึ ตตอ อ งงปปรรบั บั ปปรรุงุง ๕๕--๗๗ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ งึ ผผา านน ๘๘--๑๑๐๐ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถึงึงปปฏฏบิ บิ ัตัติไดิไดดดี ี ช่อื -นาามมสสกกุลุล สสรราา งงสสรรรคค  รราายยกกาารรปปรระะเมเมนิ นิ รวรมวม ๑. จจาากกสส่ิง่งิเรเราาทท่ี ่ี มมีคีคววาามม เสเสรรจ็ ็จ แแกก  มมีราีรยาย ๒. กกําําหหนนดดใใหหไ ไดด  แแปปลลกก ตตาามม ปปญ ญ หหาา ลละเะอเียอดียด ๓. ใหใหมม  เวเวลลาา ไดได  นนาสา นสนใจใจ ๔. ๕. ๖. .๗๗.. ๘. ๙. เกณฑก ารใหค ะแนน ใใหห  ๒๒คคะะแแนนนน ทําไดดี ใใหห  ๑๑คคะะแแนนนน ผาน ใใหห  ๐๐คคะะแแนนนน ตอ งปรบั ปรงุ

๗๒ 7268 แบบสงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค แผนการจดั การเรียนรูท ี่ ๑ หลักการของภาพทศั นียภาพ กลุมสาระการเรียนรูศลิ ปะ รหัสวชิ า ศ๒๑๑๐๑ รายวชิ า ทัศนศลิ ป ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที่ ๑ ขอที่ 6 มุงม่ันในการทาํ งาน นิยาม มงุ มั่นในการทํางาน หมายถึง คุณลกั ษณะทแี่ สดงออกถึงความต้ังใจ และรบั ผดิ ชอบในการทําหนา ที่ การงานดวยความเพียรพยายาม อดทน เพือ่ ใหงานสําเรจ็ ตามเปาหมาย ผูท่ีมุงมัน่ ในการทาํ งาน คือ ผทู ีม่ ีลักษณะซึ่งแสดงออกถึงความตง้ั ใจปฏบิ ัติหนา ที่ทไี่ ดร ับมอบหมาย ดว ยความเพียรพยายาม ทุมเทกําลังกาย กําลังใจ ในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา ง ๆ ใหสําเร็จลลุ วงตามเปา หมายท่ี กําหนดดว ยความรับผดิ ชอบ และมีความภาคภมู ิใจในผลงาน ตัวช้วี ดั และพฤติกรรมบง ชี้ ตวั ชวี้ ดั พฤตกิ รรมบงช้ี 6.1 ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการ 6.1.1 เอาใจใสต อ การปฏิบัติหนาที่ทไ่ี ดร ับมอบหมาย กปาฏรบิ ปตั ฏหิ บิ นัตาหิ ทนกี่ ้าาทร่ีกงานรงาน 6.1.2 ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการทาํ งานใหแ ลว เสร็จ 6.1.3 ปรับปรุงและพฒั นาการทํางานดว ยตนเอง 6.2 ทาํ งานดวยความเพียร 6.2.1 ทุม เททํางาน อดทน ไมย อ ทอตอปญหาและอุปสรรคในการ พยายาม และอดทนเพื่อใหง าน กทาํารงทาน�ำงาน สาํ เรจ็ ตามเปา หมาย 6.2.2 พยายามแกป ญหาและอปุ สรรคในการทํางานใหแลวเสร็จ 6.2.3 ช่นื ชมผลงานดวยความภาคภมู ิใจ เกณฑการใหคะแนน (ใชข อมูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครผู ูสอน) พฤตกิ รรมบงช้ี ไมผ าน (0) ผา น (1) ดี (2) ดีเยี่ยม (3) ตามขอ 6.1 – 6.2 ไมต้งั ใจปฏิบตั ิ ต้ังใจและ ต้ังใจและ ตงั้ ใจและ หนา ทก่ี ารงาน รับผดิ ชอบในการ รบั ผิดชอบในการ รับผิดชอบในการ ปกาฏริบปตั ฏหิ ิบนตั าิหทนท่ี า้ ี่ ท่ีท่ี ปกาฏริบปัตฏิหิบนัตา หิ ทนี่ทา้ ่ี ทีท่ ่ี กปาฏริบปตั ฏหิ บิ นัตา หิ ทน่ีท้าี่ ทท่ี ี่ ไดรบั มอบหมายให ไดรบั มอบหมายให ไดรบั มอบหมายให สาํ เร็จ สาํ เร็จ มกี าร สําเร็จ มกี าร ปรับปรุงและ ปรบั ปรุงและ พัฒนาการทาํ งาน พฒั นาการทาํ งาน ใหดีข้ึน ใหดขี ึ้นภายในเวลา ทีก่ าํ หนด

๗๓ หนวยการเรียนรทู ่ี 2 แผนการจดั การเรียนรูท ี่ ๒ เวลา 1 ชว่ั โมง กลมุ สาระการเรยี นรู ศลิ ปะ เรอ่ื ง การรางภาพดว ยเสน ทศั นียภาพ 1 ช้นั มัธยมศกึ ษาปท่ี ๑ รายวิชา ทศั นศิลป ขอบเขตเนอ้ื หา ก-ากรารร่ารงาภงาภพาพดว้ดยว เยสเสน้ นททศั ศันนียียภภาาพพ กิจกรรมการเรยี นรู ส่อื /แหลงเรียนรู จดุ ประสงคการเรียนรู ขนั้ นํา - ดานความรู 1. ครูทกั ทายนกั เรยี น และพูดคุย แลกเปล่ียนกนั เลาประสบการณด า นการวาดภาพทิวทัศน ภาระงาน/ชน้ิ งาน 2. ครูบอกวตั ถปุ ระสงคการเรียนรูเมือ่ เรียนจบบทเรยี นนี้แลว นักเรยี นสามารถรา งภาพดวยเสน -แบบฝก ที่ 1 ๑. การรา งภาพดวยเสน ทศั นียภาพ การรางภาพดว ยเสน ดา นทกั ษะและกระบวนการ ทศั นยี ภาพได ทศั นยี ภาพ 1 3. ครูใหนกั เรียนเตรยี มอุปกรณว าดรูป ๑. การนาํ ความรูไ ปใช ดา นคณุ ลักษณะ ข้ันสอน ๑. ครูสาธิตการรา งภาพดวยเสนทัศนียภาพ ๑. มุง มน่ั ในการทํางาน ๒. นักเรียนทุกคนฝกการรา งภาพดวยเสนทศั นียภาพ ตามแบบฝก ท่ี 1 ๓. ครตู ง้ั คาํ ถามจากแบบฝกใหน กั เรยี นรว มกนั ตอบคําถามและแสดงความคดิ เห็นในการนําความรไู ปใช ๔. นักเรยี นแตล ะคนรว มสรปุ ผลการทาํ งานตาม แบบฝกท่ี 1 ครสู ุมผลงานนักเรยี นออกมานาํ เสนอและ รวมกนั อภิปราย ๕. ครูและนักเรียนแตละกลุมรวมกนั ประเมนิ ทักษะ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค ขนั้ สรปุ ๑. ครูและนักเรยี นสรุปเนื้อหาโดยนกั เรยี นสามารถอธบิ ายข้ันตอนการรา งภาพดว ยเสนทัศนยี ภาพได ๒. ครนู ดั หมายการเรียนในช่ัวโมงถดั ไป และแนะนาํ ใหนกั เรียนไปศึกษาความรูเพ่ิมเติ่มจากแหลง เรียนรตู าง ๆ เกย่ี วกับการเขียนภาพทัศนยี ภาพ 7639

๗๔ 74 70 การวดั และประเมนิ ผล ส่งิ ท่ีตองการวดั /ประเมนิ วิธกี าร เคร่ืองมอื ท่ใี ช เกณฑ 1๑.ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ - ประเมินทักษะ แบบประเมิน --มที กั ษะอยใู่ นระดบั คุณภาพ ดี ข้ึนไปร้อ ยละ ๘8๐0 -กกาารรนนำ�ําคคววาามมรรู้ไปไู ปใชใช้  สังเกตพฤติกรรม 2.ดานคุณลกั ษณะอนั พึง แบบสังเกต --มคี ณุ ลกั ษะณอะนั อพันงึ พปงึ รปะรสะงสคงอ์ คย ใู่อนยรใู ะนดรับะคดุณบั ภาพ คดุณขี ้ึนภไาปพรดอ้ ีขย้ึนลไะป๘ร๐อยละ 80 ประสงค์ บันทกึ ผลหลังสอน ผลการเรียนรู ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ปญหาและอุปสรรค ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ขอ เสนอแนะและแนวทางแกไ ข ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................ผสู อน (.......................................................) วันท.่ี .........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เห็น/ขอ เสนอแนะของผบู ริหารหรอื ผูทไี่ ดรับมอบหมาย ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................ผูตรวจ (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดอื น..........พ.ศ.............

๗๕ 7751 แบบฝกที่ 1 การรา งภาพดว ยเสน ทศั นยี ภาพ 1 …………………………………………………………………………………… ใหนกั เรียนฝกวาดภาพเหน็ ถงึ การไปรวมของจดุ รวมสายตา จากแบบฝก ทก่ี าํ หนดให ชื่อ-สกลุ ..................................................................................................เลขท.่ี ...........................ชน้ั ม.1/...... ผลการประเมิน.ได ..............คะแนน ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช ควรปรบั ปรงุ

๗๖ 7672 ๗๑ 71 แบบประเมนิ แบบฝกที่ ๑ กลุม สาระการเรยี นรูศ ลิ ปะแแผผนนกกาารรจจดั ดั กรกาหารัสรเรเวแรยีิชบียนาบนรปรศทู ทูร๒่ี ะ่ี๒๑๑เม๑ินก๐หา๑ลใรบักรงการางาานภรยทขาวพอี่ิช๘งดาภวายทพทศั ทศันศั นศนยีิลียภปภา าพพ๑ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี ๑ กลุมสาระการเรยี นรศู ิลปะ รหสั วิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวชิ า ทัศนศลิ ป ชัน้ มัธยมศึกษาปท่ี ๑ ชือ่ กลมุ .........................................................................ชนั้ ม.๑/.................... เลชข่ือทก่ี ล..มุ ...................................................................................................................................................ช...้ัน....ม....๑.../................................................................................................ เลขที่ ..................................................................................................................................................................... คาํ ช้แี จจงง กกาารรปปรระะเมเมินินผลผงลางนาศนลิ ศปิละปเะปนเปกนารกปาระปเรมะินเทมักินษทะักกษระกบรวะนบกวารนคกดิ าสรรคาิดงสรราคงสใ นรกราครใปนรกะายรุกปใรชะ ยกุ ตใช์ใช ้ หลักการของภาพทศั นียภาพ โดยมรี ายการท่ีประเมิน คอื สราางสสรรรรคคจ จาากกสสงิ่ ่งิ เเรรา าททก่ี ี่กําําหหนนดดใใหหไไดด คคววาามมแแปปลลกกใใหหมม  เสรจ็ ตามเวลา แกปญหาได แลละะมมีรีราายยลละะเเออยี ียดดนนาาสสนนใใจจมมีคีคะะแแนนนนเตเต็ม็ม๑๑๐๐คคะะแแนนนนแแบบงเง ปเปนน๓๓ระรดะดบั ับคคอื อื ๐-๔๔ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ ึงตตอองงปปรรับบั ปปรรุงงุ ๕-๗๗ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ งึ ผผาานน ๘-๑๑๐๐ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ ึงปปฏฏิบิบัตัติไดไิ ดดด ี ี รายการประเมิน สรางสรรค มรีคาวยากมารปเรสะรเมจ็ ิน แก มรี าย ช่ือ-นามสกลุ สจราา กงส่งิรเรรคา ท่ี มแีคปวลามก เสตรา็จม แปกญ หา มลรี าะยเอียด รวม ช่อื -นามสกลุ จกาํากหสนงิ่ เดรใาหทไ ี่ด แใปหลมก ตเาวมลา ปไญ ดห า ลนะเา อสยี นดใจ รวม ๑. กาํ หนดใหไ ด ใหม เวลา ได นา สนใจ ๒๑. ๓๒. ๔๓. ๕๔. ๖๕. .๗๖๗.. ๘.๗.. ๙๘. เ๙ก.ณฑก ารใหค ะแนน เกณฑกาทรําใหไดคดะี แนน ให ๒ คะแนน ทผาํ นไดดี ให ๒๑คคะะแแนนนน ผตาอนงปรบั ปรงุ ให ๑๐คคะะแแนนนน ตองปรบั ปรงุ ให ๐ คะแนน

๗๗ 7773 แบบสงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค แผนการจัดการเรียนรูท ี่ ๒ การรางภาพดว ยทศั นียภาพ ๑ กลุม สาระการเรียนรูศลิ ปะ รหัสวิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวชิ า ทัศนศิลป ช้นั มัธยมศึกษาปที่ ๑ ขอที่ 6 มุงมั่นในการทาํ งาน นิยาม มงุ มั่นในการทํางาน หมายถึง คณุ ลักษณะทแี่ สดงออกถึงความต้ังใจ และรับผดิ ชอบในการทาํ หนา ที่ การงานดว ยความเพยี รพยายาม อดทน เพอื่ ใหง านสําเร็จตามเปา หมาย ผูทม่ี ุงมัน่ ในการทาํ งาน คอื ผูท ม่ี ลี กั ษณะซ่ึงแสดงออกถงึ ความตั้งใจปฏิบัติหนา ท่ีที่ไดรับมอบหมาย ดว ยความเพียรพยายาม ทุมเทกําลงั กาย กําลังใจ ในการปฏิบัติกจิ กรรมตา ง ๆ ใหส าํ เรจ็ ลุลวงตามเปาหมายที่ กาํ หนดดวยความรบั ผดิ ชอบ และมีความภาคภมู ิใจในผลงาน ตัวชวี้ ัดและพฤติกรรมบงช้ี พฤติกรรมบงชี้ ตัวชวี้ ัด 6.1.1 เอาใจใสต อ การปฏบิ ัติหนาทท่ี ่ไี ดร ับมอบหมาย 6.1.2 ตงั้ ใจและรับผิดชอบในการทาํ งานใหแลว เสร็จ 6.1 ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในการ 6.1.3 ปรับปรุงและพฒั นาการทํางานดวยตนเอง ปกฏารบิ ปตั ฏิหบิ นตั า ิหทนีก่ ้าทรง่ีกาานรงาน 6.2.1 ทุมเททาํ งาน อดทน ไมย อทอตอปญหาและอุปสรรคในการ 6.2 ทาํ งานดวยความเพยี ร ทกาํ รงาทนำ� งาน พยายาม และอดทนเพ่ือใหง าน 6.2.2 พยายามแกปญหาและอุปสรรคในการทํางานใหแลวเสรจ็ สําเรจ็ ตามเปา หมาย 6.2.3 ชนื่ ชมผลงานดวยความภาคภูมิใจ เกณฑการใหคะแนน (ใชข อมูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครผู สู อน) พฤตกิ รรมบงชี้ ไมผ าน (0) ผาน (1) ดี (2) ดเี ยี่ยม (3) ตามขอ 6.1 – 6.2 ไมตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ ต้ังใจและ ตง้ั ใจและ ตั้งใจและ หนา ท่กี ารงาน รับผดิ ชอบในการ รบั ผิดชอบในการ รับผิดชอบในการ ปกาฏรบิ ปัตฏิหิบนตั าิหทน่ีท้าี่ ท่ที ี่ ปกาฏรบิ ปตั ฏิหิบนัตา ิหทนีท่ า้ ี่ ท่ที ี่ กปาฏรบิ ปตั ฏหิ บิ นตั า ิหทน่ีทา้ ่ี ทท่ี ่ี ไดรับมอบหมายให ไดร บั มอบหมายให ไดรับมอบหมายให สาํ เร็จ สําเร็จ มีการ สําเร็จ มีการ ปรบั ปรงุ และ ปรับปรงุ และ พฒั นาการทาํ งาน พฒั นาการทาํ งาน ใหด ขี ้นึ ใหดีข้ึนภายในเวลา ทีก่ าํ หนด

๗๘ หนวยการเรยี นรูที่ 2 แผนการจดั การเรียนรูท่ี ๓ เวลา 1 ชัว่ โมง กลมุ สาระการเรยี นรู ศิลปะ เรื่อง การรางภาพดวยเสน ทศั นยี ภาพ 2 ชั้นมัธยมศึกษาปท ี่ ๑ สื่อ/แหลงเรยี นรู ขอบเขตเนือ้ หา รายวชิ า ทัศนศลิ ป - - การรางภาพดว ยเสน ทัศนียภาพ กิจกรรมการเรียนรู ภาระงาน/ช้ินงาน จดุ ประสงคการเรียนรู ขนั้ นาํ -แบบฝก ท่ี 2 ดา นความรู 1. ครูทกั ทายนกั เรยี น และพูดคุย แลกเปลี่ยนกันเลา ประสบการณดานการวาดภาพทวิ ทัศน การรา งภาพดว ยเสน ๑. การรางภาพดว ยเสนทัศนียภาพ 2. ครูบอกวตั ถปุ ระสงคการเรียนรูเมอ่ื เรียนจบบทเรียนนี้แลว นักเรยี นสามารถรางภาพดว ยเสน ทัศนียภาพ 2 ดา นทกั ษะและกระบวนการ ๑. การนาํ ความรูไปใช ทศั นียภาพได ดานคณุ ลักษณะ 3. ครใู หนกั เรียนเตรียมอปุ กรณวาดรปู ๑. มุง มน่ั ในการทาํ งาน ขัน้ สอน ๑. ครูสาธติ การรา งภาพดวยเสน ทศั นียภาพ ๒. นกั เรียนทุกคนฝก การรางภาพดวยเสนทศั นียภาพ ตามแบบฝกท่ี 2 ๓. ครูตงั้ คาํ ถามจากแบบฝกใหน ักเรียนรว มกันตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเหน็ ในการนําความรไู ปใช ขัน้ สรปุ ๑. นักเรียนแตล ะคนรว มสรปุ ผลการทาํ งานตาม แบบฝกท่ี 2 ครูสมุ ผลงานนักเรียนออกมานําเสนอและ รว มกนั อภปิ ราย ๒. ครูและนักเรยี นแตละกลุมรว มกันประเมนิ ทักษะ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ๓. ครูและนักเรยี นสรุปเนื้อหาโดยนกั เรียนสามารถอธิบายขั้นตอนการรา งภาพดว ยเสนทัศนียภาพได ๔. ครูนัดหมายการเรียนในช่ัวโมงถัดไป และแนะนําใหน ักเรยี นไปศกึ ษาความรูเพ่ิมเตมิ่ จากแหลง เรียนรูต าง ๆ เกย่ี วกบั การเขียนภาพทัศนียภาพ 78 74

๗๙ 7975 การวดั และประเมินผล สงิ่ ท่ีตองการวดั /ประเมิน วธิ กี าร เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช เกณฑ ๑1.ด้า นทักษะ/กระบววนนกกาารร- ประเมนิ ทักษะ แบบประเมนิ --มีทักษะอยู่ใ นระดบั คณุ ภาพ ดี ข้นึ ไปร้อ ยละ ๘8๐0 ก-กาารรนนำ�ําคคววาามมรรูไ้ ปไู ปใชใช้  สังเกตพฤติกรรม 2.ดา นคุณลกั ษณะอันพงึ แบบสังเกต --มคี ุณลักษณะอันพึงประสงค์อ อยยู่ในูในรระะดดบั ับคณุ ภาพ คดณุ ขี ภึ้นไาปพดรีข้อ้ึนยไลปะ ร๘อ๐ยละ 80 ประสงค์ บันทึกผลหลังสอน ผลการเรยี นรู ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ปญ หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ขอเสนอแนะและแนวทางแกไ ข ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอื่ ......................................ผสู อน (.......................................................) วันท.่ี .........เดือน..........พ.ศ............. ความคดิ เหน็ /ขอเสนอแนะของผบู ริหารหรือผูทีไ่ ดรบั มอบหมาย ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................ผูตรวจ (.......................................................) วันท่ี..........เดอื น..........พ.ศ.............

๘๐ 8706 แบบฝกที่ 2 การรา งภาพดว ยเสน ทศั นยี ภาพ 2 …………………………………………………………………………………… ใหน ักเรียนฝกวาดภาพเหน็ ถึงการไปรวมของจดุ รวมสายตา จากแบบฝก ทก่ี าํ หนดให ชื่อ-สกลุ ..................................................................................................เลขท.่ี ...........................ชน้ั ม.1/...... ผลการประเมิน.ได ..............คะแนน ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช ควรปรบั ปรงุ

๗๘๑๑ 781177 แบบประเมนิ ใแบบงบานฝทก ที่ ๘่ี ๒ แผแนผกนากราจรดั จกดั ากราเรยีเรนยี รนทู ร่ี ทู๓่ี ๑กาหรลรกัางกภาราขพอดงว ภยาเพสนททศั ัศนนยี ภียภาพาพ ๒ กลกุมลสมุ าสราะรกะากราเรเียรนียรนูศรลิูศ ปิละปะ รหรหสั ัสวิชวชิาาศศ๒๒๑๑๑๑๐๐๑๑ รราายยววิชิชาา ททัศศั นนศศลิ ิลปป  ชัน้ มัธยมศึกษาปท ที่ ี่ ๑๑ ช่อื กลุม.........................................................................ช.ชั้น้ันมม.๑.๑//...................... เลขที่ ..................................................................................................................................................................... .. คําชแี้ จงง กกาารรปปรระะเมเมินินผลผงลางนาศนิลศปิละปเะปนเปกนารกปาระปเรมะินเทมกัินษทะักกษระกบรวะนบกวารนคกิดาสรรคาิดงสรราคงสใ นรกราครใปนรกะายรุกปใรชะ ยุกตใชใ์ ช ้ หลักการของภาพทศั นียภาพ โดยมีรายการท่ีประเมิน คืออ สสรราา งงสสรรรรคคจ จาากกสสง่ิ ง่ิ เเรรา าททีก่ ี่กําาํ หหนนดดใใหหไไดด คคววาามมแแปปลลกกใใหหมม  เสรจ็ ตามเวลา แกปญ หาไดด  แแลละะมมีรีราายยลละะเเออยี ียดดนนา า สสนนใใจจมมคี ีคะะแแนนนนเตเตม็ ็ม๑๑๐๐คคะะแแนนนนแแบบงเงปเปน น ๓๓ระรดะดับับคคือือ ๐๐--๔๔ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถึงงึ ตตอองงปปรรับับปปรรงุ ุง ๕๕--๗๗ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถึงึงผผาานน ๘๘--๑๑๐๐ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ ึงปปฏฏิบิบัตัติไดไิ ดด ดี ี ชชอ่ืื่อ--นนาามมสสกกุลุล สรางสรรค รราายยกกาารรปปรระะเมเมนิ ิน รวรมวม จากส่งิ เราท่ี มีความ เสเสรจ็รจ็ แแกก  มมรี าีรยาย ๑. กําหนดใหได แถปกู ตลกอง ตตามาม ปปญญหหาา ลละเะอเียอดียด ๒๑. ๒ คะแนน ใตหาม เวเวลลาา ไดได  นนา สา นสนใจใจ ๓๒. ๑๒ คคะะแแนนนน หลักการ ๔๓. ๐๑ คคะะแแนนนน ๕๔. ให ๐ คะแนน ๖๕. ใใหห  .๖๗.. ใใหห  ๘.๗๗.. ให ๙๘. เ๙ก.ณฑการใหค ะแนน เกณฑก าทราํใไหดค ดะี แนน ผทาํ นไดดี ตผอานงปรบั ปรุง ตอ งปรับปรุง

๘๒ 8728 แบบสงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค แผนการจดั การเรยี นรทู ่ี ๓ การรา งภาพดวยเสนทศั นยี ภาพ ๒ กลุมสาระการเรยี นรศู ลิ ปะ รหัสวิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวิชา ทศั นศิลป ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที่ ๑ ขอ ท่ี 6 มุงม่นั ในการทาํ งาน นยิ าม มงุ มนั่ ในการทํางาน หมายถึง คณุ ลักษณะทแ่ี สดงออกถึงความตง้ั ใจ และรับผิดชอบในการทาํ หนาที่ การงานดวยความเพยี รพยายาม อดทน เพ่อื ใหง านสําเร็จตามเปา หมาย ผทู มี่ ุงมั่นในการทํางาน คือ ผูท ่มี ีลักษณะซ่งึ แสดงออกถงึ ความต้ังใจปฏิบัตหิ นาท่ีทไ่ี ดร ับมอบหมาย ดว ยความเพียรพยายาม ทุมเทกาํ ลังกาย กําลงั ใจ ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตาง ๆ ใหสาํ เร็จลุลว งตามเปา หมายที่ กําหนดดวยความรบั ผิดชอบ และมีความภาคภมู ใิ จในผลงาน ตวั ชี้วดั และพฤติกรรมบง ช้ี พฤติกรรมบงช้ี ตวั ชว้ี ัด 6.1.1 เอาใจใสตอ การปฏบิ ัติหนาที่ทีไ่ ดรบั มอบหมาย 6.1.2 ต้ังใจและรับผิดชอบในการทาํ งานใหแลว เสร็จ 6.1 ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการ 6.1.3 ปรบั ปรงุ และพฒั นาการทํางานดวยตนเอง กปาฏรบิ ปตั ฏหิ ิบนตั า ิหทนก่ี า้ าทร่กีงานรงาน 6.2.1 ทุมเททาํ งาน อดทน ไมย อทอตอปญหาและอปุ สรรคในการ 6.2 ทํางานดวยความเพียร ทกาํ รงาทนำ� งาน พยายาม และอดทนเพื่อใหงาน 6.2.2 พยายามแกป ญหาและอุปสรรคในการทาํ งานใหแ ลวเสรจ็ สาํ เร็จตามเปาหมาย 6.2.3 ช่ืนชมผลงานดวยความภาคภูมใิ จ เกณฑการใหค ะแนน (ใชข อ มูลจากการสงั เกตตามสภาพจริงของครูผูสอน) พฤติกรรมบงช้ี ไมผ าน (0) ผา น (1) ดี (2) ดเี ยยี่ ม (3) ตามขอ 6.1 – 6.2 ไมตง้ั ใจปฏิบัติ ตงั้ ใจและ ตั้งใจและ ต้งั ใจและ หนา ทกี่ ารงาน รบั ผดิ ชอบในการ รับผิดชอบในการ รับผดิ ชอบในการ ปกาฏรบิ ปตั ฏหิ บิ นัตา ิหทน่ีท้า่ี ท่ที ่ี กปาฏริบปตัฏหิ ิบนัตาิหทนี่ท้า่ีที่ที่ กปาฏรบิปัตฏิหบิ นัตาิหทนท่ี า้ ่ีทที่ ี่ ไดรบั มอบหมายให ไดร บั มอบหมายให ไดรบั มอบหมายให สําเร็จ สําเรจ็ มีการ สาํ เร็จ มกี าร ปรบั ปรงุ และ ปรบั ปรงุ และ พัฒนาการทํางาน พัฒนาการทํางาน ใหดขี ้นึ ใหด ขี ึน้ ภายในเวลา ที่กาํ หนด

๘๓ หนวยการเรียนรูท ่ี 2๒ แผนการจัดการเรยี นรูท ี่ ๔ เวลา ๑1 ช่ัวโมง กลุม สาระการเรียนรู ศลิ ปะ เรอ่ื ง การวาดภาพทศั นียภาพ ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี ๑ สอ่ื /แหลงเรียนรู ขอบเขตเน้อื หา รายวชิ า ทัศนศิลป ๑. ใบความรูท่ี ๖ กา-กรวาราวดาภดาภพาทพัศทนัศยี นภียาภพาพ กจิ กรรมการเรยี นรู ทักษะการวาดภาพ จุดประสงคการเรยี นรู ข้ันนํา ทัศนียภาพ ดานความรู ๑1. ครูทกั ทายนักเรยี น และพูดคยุ แลกเปลีย่ นกนั เลา ประสบการณ ภาระงาน/ชน้ิ งาน ๒2. ครูบอกวตั ถปุ ระสงคการเรียนรูเมื่อเรียนจบบทเรยี นน้ีแลว นักเรียนสามารถวาดภาพทัศนยี ภาพ ได ๑. แบบฝก ท่ี 3๓ ๑. การวาดภาพทศั นียภาพ ๓3. นกั เรยี นทบทวนทกั ษะตัวเองและ เตรยี มอุปกรณวาดภาพ การวาดภาพทัศนยี ภาพ ดานทกั ษะและกระบวนการ ข้ันสอน ๑. ครูบรรยายประกอบ ใบความรทู ่ี ๖6 การวาดภาพทศั นียภาพ และสาธติ การวาดภาพทัศนียภาพ ให ๑. การนําความรูไปใช ดานคุณลกั ษณะ นกั เรียนดู นักเรียนซกั ถามสรางความเขาใจ ๒. นักเรียนทุกคนฝกการการวาดภาพทศั นยี ภาพ ตามแบบฝก ที่ 3๓ ๑. อยอู ยางพอเพยี ง ๓. ครูตง้ั คําถามจากแบบฝกใหนกั เรยี นรวมกนั ตอบคาํ ถามและแสดงความคิดเหน็ ในการนาํ ความรไู ปใช ขั้นสรุป ๑. นักเรียนแตละคนรวมสรุปผลการทาํ งานตาม แบบฝก ที่ ๓3 ครูสมุ ผลงานนักเรยี นออกมานําเสนอและ รวมกันอภปิ ราย ๒. ครูและนักเรียนแตล ะกลุมรวมกนั ประเมนิ ทักษะ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค ๓. ครแู ละนักเรยี นสรุปเนอ้ื หาโดยนักเรยี นสามารถอธิบายขั้นตอนการวาดภาพทัศนียภาพ ได ๔. ครนู ดั หมายการเรียนในชั่วโมงถดั ไป และแนะนาํ ใหนักเรยี นไปศกึ ษาความรเู พ่ิมเตม่ิ จากแหลง เรยี นรตู าง ๆ เกยี่ วกบั การเขียนภาพทัศนยี ภาพ 8739

๘๔ 8840 การวดั และประเมนิ ผล สิง่ ท่ตี องการวัด/ประเมนิ วิธกี าร เคร่ืองมอื ทใ่ี ช เกณฑ 1๑.ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ-- ประเมินทักษะ แบบประเมนิ --มีทักษะอยู่ใ นระดบั คุณภาพ ดี ข้ึนไปร้อ ยละ ๘80๐ การนำาํ �ความรูไ้ ปใชช้  2๒.ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต --มคี ณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์อ อยยใู่ นใู นรระะดดับบั คุณภาพ ประสงค์ คดุณีขภนึ้ าไปพดรีข้อน้ึยไลปะ ร๘อ๐ยละ 80 บนั ทึกผลหลังสอน ผลการเรียนรู ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ปญ หาและอปุ สรรค ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ขอ เสนอแนะและแนวทางแกไข ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชือ่ ......................................ผูส อน (.......................................................) วนั ท.ี่ .........เดือน..........พ.ศ............. ความคิดเหน็ /ขอ เสนอแนะของผบู ริหารหรือผูทไี่ ดรบั มอบหมาย ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ลงชอ่ื ......................................ผตู รวจ (.......................................................) วันที่..........เดือน..........พ.ศ.............

๘๕ 8851 ใบความรูที่ ๖6 การวาดภาพทศั นยี ภาพ …………………………………………………………………………………… การวาดภาพทแี่ สดงทศั นยี ภาพ ๑1) ความลึกลวงตาแบบ 3๓ มติ ิ การสรางความลึกลวงตาแบบ ๓3 มติ ิ มีวิธกี าร ดงั น้ี ๑1.๑.1)) การศึกษาจากภาพบรรยากาศ (Atmospheric Perspective) ภาพบรรยากาศ หรือ ภาพทวิ ทัศน คือ ทัศนยี ภาพที่เกดิ ขึ้นจากการมองเหน็ ส่ิงที่ อยูไไกกลลอออกไป เชน ภเู ขา ตนไมเ ปน ตน ซ่ึงออาาจจดจู ไะมด ูไม่ ชดั เจน เน่ืองจากมีตวั กลาง ซึ่งสิ่งเหลา นี้จะ ก้นั ขวางแสง สะทอ นจากวัตถุ ทําใหแสง สะทอนถงึ นยั นต าไดนอย สงผลใหม องเห็นวตั ถุไมชัดเจน ๑1.๒.2)) ใชการซอนทับ (Overlapping) วธิ กี ารน้ี เปนวธิ ีการพนื้ ฐานในการสรา ง ความลกึ ลวงตา สามารถ ทําไดโ ดยนาํ วัตถุช้นิ หนึง่ ไปวางไวด านหนาวตั ถทุ ี่ตอ งการ ศกึ ษาอกี ช้ินหน่งึ โดยจดั วางในลกั ษณะการซอนทับ หรือ วางเหล่ือมกนั จะทาํ ใหมองเห็นวา มวี ตั ถชุ นิ้ หน่ึง วางอยู ดา นหนา และบังวัตถุทดี่ ูเหมือนอยูขา งหลังบางสวน ๑1..๓3) เนน รายละเอียดและเสน ขอบ (Details & Edges) ในการวาดภาพ แสดงทศั นียภาพ ผวู าดจะตอ งวาดใหสิ่งทอี่ ยูไกลออกไปมสี ี จางลง ดู ไมช่ ดั เจน และต้อ งวาดดใใหหส้ สง่ิ ิ่งทที่อ่ีอยยู่ใใูกกลลเ้ เขข้าามมาามมสี สี เี ขเี ขม้ ม ขนึ้ ขึ้นดูชดดั ูชเดัจนเจน สามารถเห็นรายละเอียดไไดดม้  มากากกวา่ว า เพเพื่อ่ืใอหให้ภภาพาพททว่ี าีว่ ดาดูคดลูค้าลยากยับกบั ขขอองงจจรริงิงมมาากกขข้ึน้ึน

๘๖ 8862 ๑1.๔4) สงั เกตขนาดและชองวาง (Size & Space) เราสามารถสงั เกตไดวาวัตถุ ๒ ชนิ้ ท่ีมี ขนาด และรปู ทรงแบบเดยี วกันจะมีขนาดเทากนั เมอ่ื ตัง้ อยู หางจากเราเทากัน แตเ ม่ือเล่ือนชิ้นใด ช้ินหนง่ึ ใหไ กล ออกไป เรากจ็ ะพบวาวตั ถุช้นิ นนั้ มี ขนาดเลก็ ลง ดงั นั้น เมอ่ื เราเหน็ วตั ถุ ๓ ช้นิ ท่ีมี รูปทรงเหมือนกนั แตม ีขนาดแตกตางกันชิน้ ที่ ใหญก วา จะดูเหมือนวาง อยูใกลกวา ช้นิ ที่เล็ก ซึ่ง อยูหา งออกไป ๑1..๕5) เลน กับโครงสราง (Modeling) การเลนกบั แสงเงาผา น โครงสราง ชวยเพ่มิ ประสิทธิภาพใน การมมอองงเเหหน็ ็นรรปู ูปททรรงงขขอองงววัตตั ถถุนุนัน้ ัน้ ๆ ๆไดไช้ ดดั  เชจัดนเขจึน้ นขโดึ้นยโจดะยสจงั ะเกสตังเไกดตจ้ ไาดกจเงาากทเงที่ าอทด่ี ทอด ผานโครงสรา ง ซ่งึ เงาจะทอดผา น ไปบนพน้ื ผวิ ของ วตั ถุตามความลึก ความนนู ท่ีปรากฏใหเ ห็นดวย สายตา เชน เงาท่ีทาบลงบนกลองทวี่ างซอนกัน จะทําใหจินตนาการถึงรูปทรง ความลึก ต้นื และ ความลาดเอียงของกลองนน้ั ๆ ได เปนตน ๑1.6๖) ใชการมองตาํ แหนง ในแนวด่ิง (Vertical Locations) หากจินตนาการวา กําลงั ยนื อยู บนพ้นื ท่ี ราบและมองไปตามพน้ื ขางหนา ในระยะที่ไกลจะพบวา วตั ถุทวี่ างอยูบน พนื้ ท่ที ี่อยหู า งออกไปนนั้ จะดูเหมือน คอ ย ๆ เลอ่ื นข้ึนสูเสนขอบฟา ถาตองการใหว ัตถุทีม่ ี ขนาดเทา กนั ดู เหมือนกับวาอยูห า งออกไป สามารถทํา ไดโดยจดั วางใหวัตถเุ ลื่อนขน้ึ สงู จาก ระดบั พื้นระนาบ ตามสดั สวน ภาพวตั ถุ อยูสูงขึ้นไปจากแนวระนาบมาก วตั ถนุ น้ั ก็จะดูหา งออกไปมาก

๘๗ 8873 ไม่สามารถแสดงรปู นี้ได้ในขณะนี้ ๒) หลกั การวาดภาพแสดงทัศนียภาพ มีหลักการสําคัญในการสรา งสรรคผลงาน คือ การใชเ ทคนิคการ วาดภาพที่มคี วามลกึ ลวงตา เพือ่ สรา งภาพแบบ ๓ มติ ิ บนพนื้ ผวิ ระนาบ ๒ มติ ิ เพื่อใหภ าพท่ีถายทอดดูสมจรงิ คลายกับภาพทเ่ี หน็ จริงดว ย สายตา การวาดภาพทแี่ สดงทศั นียภาพเปน เร่ือง ของการเลียนแบบ ความจรงิ เมื่อมองออกไปใน โลกแหง ความเปน จรงิ จะพบวาวัตถุมี ขนาดเล็กลง เม่อื อยู่หห ่าางงไไกกลลออออกกไไปปแแลละะมมรี ีระะยยะะหห่าางงสสมม่ำ�เาสเมสอมอเชเ่นชนเสเาสราั้ว จรั้วะสจังะเสกงัตเกุไดต้วได่าวเสา าเสแาตแ่ลตะลตะ้นตจนะจอะยอู่ใยกูใกลล้กันกมันามกาขกึ้นขึน้เมเมื่ออ่ืแแนนววรรั้วว้ัออยยู่หหู ่าา งง ออกไป เปนตน การวาดภาพทแ่ี สดงทศั นียภาพ คือ การวาดภาพทสี่ รา งความลึกลวงตา ทมี่ ที งั้ ระยะใกลและไกลบน พ้นื ผวิ ระนาบ ๒ มิติ โดยสามารถเรียนรจู ากการสังเกต เพ่ือทาํ ความเขาใจในหลักการได วตั ถุท่ีเราตองการวาด ใหมคี วามลึกลวงตาแบบ ๓ มิติ จะตอ งอาศัยจินตนาการมองใหเปนรปู ทรงที่มีความโปรงใส สามารถเหน็ สดั สว นทอ่ี ยภู ายในวตั ถไุ ด แลวถา ยทอดออกมาเปนรปู ทรงท่ีมีความสมบรู ณ ไมส่ ามารถแสดงรูปนไ้ี ดใ้ นขณะนี้ ส่ิงที่ควรคาํ นงึ ถึงในการวาดภาพแสดงทัศนียภาพ คือ ไมต องเครง ครัดในเร่อื งของการใชจินตนาการใน การถา ยทอดผลงาน และหลักการวาดภาพแสดงทัศนียภาพใหม ากจนเกินไป เพราะจะทาํ ใหภาพที่ไดแ มว า จะดู สวยแตอ าจดูแข็งทื่อและไมม ีชวี ิตชีวาได ตัวอยางผลงาน การวาดภาพทศั นยี ภาพ แบบ ๑1 จุด

๘๘ 8884 ตัวอยางผลงาน การวาดภาพทัศนยี ภาพ แบบ ๑1 จุด

๘๙ 8895 ตวั อย่างผลงาน การวาดภาพทศั นยี ภาพ แบบ 1 จดุ ไม่สามารถแสดงรปู นไี้ ด้ในขณะน้ี ไมส่ ามารถแสดงรปู นี้ไดใ้ นขณะนี้

๙๐ 90 86 แบบฝกที่ ๓3 การวาดภาพทศั นียภาพ …………………………………………………………………………………… ใหนกั เรยี นฝกวาดภาพทัศนยี ภาพ โดยเลอื กตวั อยา งผลงาน ๑1 ภาพ ชื่อ-สกลุ ..................................................................................................เลขท่.ี ...........................ช้ัน ม.1/...... ผลการประเมนิ .ได ..............คะแนน ระดับคณุ ภาพ ดมี าก ดี พอใช ควรปรบั ปรงุ

๗๑ 71 ๙๑ 9187 แบบประเมิน ใบงานที่ ๘ แผนการจัดการเแรบียบนรปูท ร่ีะ๑เมนิ หลแกั บกบาฝรกขทองี่ ๓ภาพทัศนยี ภาพ กลมุ สาระการเรียนรูศิลปะ แผนการรจหดั สั กวาิชราเรศียน๒ร๑ทู ๑่ี ๐๔๑กราารยววาดชิ ภาาพทศัทนัศศนิลยี ปภาพ ช้ันมธั ยมศึกษาปท่ี ๑ กลุมสาระการเรียนรูศลิ ปะ รหัสวิชา ศ๒๑๑๐๑ รายวชิ า ทศั นศิลป ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี ๑ ชอื่ กลุม .........................................................................ช.ช้ัน้ันมม.๑.๑//...................... เลขท่ี ....................................................................................................................................................................... คําช้ีแจงง กกาารรปปรระะเมเมนิ ินผลผงลางนาศนิลศปิละปเะปนเปกนารกปาระปเรมะินเทมักินษทะักกษระกบรวะนบกวารนคกิดาสรรคา ิดงสรราคงสใ นรกราครใปนรกะายรุกปใรชะ ยุกตใช์ใช ้ หลักการของภาพทัศนียภาพ โดยมรี ายการท่ีประเมิน คืออ สสรรา า งงสสรรรรคคจ จาากกสสิง่ ิ่งเเรรา า ทท่กี ี่กําําหหนนดดใใหหไไดด คคววาามมแแปปลลกกใใหหมม  เสรจ็ ตามเวลา แกปญหาไดด  แแลละะมมรี รี าายยลละะเเออยี ยี ดดนนาา สสนนใใจจมมคี ีคะะแแนนนนเตเต็ม็ม๑๑๐๐คคะะแแนนนนแแบบง เง ปเปน น๓๓ระรดะดับบั คคอื ือ ๐๐--๔๔ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ งึ ตตอ องงปปรรับับปปรรุงงุ ๕๕--๗๗ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถึงงึ ผผาานน ๘๘--๑๑๐๐ คคะะแแนนนน หหมมาายยถถงึ ึงปปฏฏิบิบัตตั ไิ ดิไดด ดี ี ชช่ืออื่ --นนาามมสสกกุลลุ สรางสรรค รราายยกกาารรปปรระะเมเมนิ นิ รวรมวม จากส่งิ เรา ท่ี มคี วาม เสเสรจ็ร็จ แแกก  มมีรารี ยาย ๑. กาํ หนดใหได แถปกู ตลกอง ตตามาม ปปญญ หหาา ลละเะอเียอดยี ด ๑๒. ๐๑๒๐๑๒ คคคคคคะะะะะะแแแแแแนนนนนนนนนนนน ใตหาม เวเวลลาา ไดได  นนาสา นสนใจใจ ๒๓. หลกั การ ๓๔. ๔๕. ใใใใใใหหหหหห  ๕๖. ๖.๗.. .๘๗๗.. ๘๙. เ๙เกก.ณณฑฑกก าาตผทตผทรราอาอําําใในนหไงหไงดดปปคคดดรระะีบัีับแแปปนนรรนนุงุง