Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

Description: 65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

Search

Read the Text Version

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถ้วนและถกู ต้อง  ยงั ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ  ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้  เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้  ยังไมเ่ หมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้  ครอบคลมุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้  ยงั ไมค่ รอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น

ใบงาน เรอื่ ง ทบทวนสระ อา อี อู ชือ่ ............................................................................ชัน้ ...........เลขท.่ี ........ คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนเขยี นคาทีป่ ระสมดว้ ยสระเดียวกนั แลว้ ฝกึ อา่ น ตวั อยา่ ง มา ขา นา ทา ๑.ตา .................. ................ ............... ๒.ตี .................. ................ ............... ๓.หู .................. ................ ............... ๔.สี .................. ................ ............... ๕.ปู .................. ................ ...............

ใบงาน เร่อื ง ทบทวนสระ อา อี อู ชื่อ............................................................................ชั้น...........เลขท่.ี ........ คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นนาคาทก่ี าหนดมาเขียนเรียงตอ่ กันให้เป็นประโยค ๓ ประโยค โดยใช้คาซา้ กันได้ ตา อา หู มี นา ดู ลา ปู ๑ ..................................................... ..................................................... ๒ ...................................................... ...................................................... ๓ ....................................................... .......................................................

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๒ ภูผา แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๗ รายวิชา ภาษาไทย เรอ่ื ง เลขไทย ๑-๕ ๑๔ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชัว่ โมง ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนินชีวติ และมนี ิสยั รักการอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นเลขไทย ๑ - ๕ ได้ K ๒. เขยี นเลขไทย ๑ - ๕ ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ เลขไทยเป็นอกั ษรตัวเลขทใ่ี ชแ้ สดงจานวนนบั ในภาษาไทย ซึ่งมีคุณค่าเอกลักษณข์ องความเป็นชาตไิ ทย ทางดา้ นอกั ษรและภาษาไทยซ่ึงควรแก่การอนรุ ักษ์สง่ เสริมการนาไปใช้ให้แพรห่ ลาย ๔. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถส่อื สารกบั ครูและเพือ่ นไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแก้ปัญหา - คิดตัดสนิ ใจโดยคานึงผลกระทบทีม่ ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้

๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านเลขไทย ๑ - ๕ ได้ ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. เขยี นเลขไทย ๑ - ๕ ได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทนั สอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หย่นุ และการปรบั ตัว  การริเริ่มสรา้ งสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง  ทักษะสงั คมและสังคมข้ามวฒั นธรรม  การเปน็ ผู้สร้างหรือผ้ผู ลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่อื ถือได้ (Accountability)  ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา  คุณลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรียนรูข้ องตนเอง  คุณลกั ษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ่นื ความซ่อื สตั ย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบรู ณาการ  โครงการสถานศึกษาพอเพียง  โครงการโรงเรยี นคุณธรรม  อาเซียนศึกษา  คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษ์พลังงานและสงิ่ แวดลอ้ ม  อนื่ ๆ (ระบ)ุ ..................................................................................................................

๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอา่ นตวั เลขไทย ๑ - ๕ ใบงาน เรอ่ื ง เลขไทย ๑ - ๕ ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันท่ี ๑ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน ครูสนทนากบั นกั เรยี นถึงตวั เลขเชน่ ใหน้ กั เรียนอา่ นเลข ๑ - ๕ ขน้ั ที่ ๒ สารวจค้นหา นกั เรียนศึกษาเลขไทยจากหนงั สอื เรียนภาษาพาทีช้ันป.๑ หน้า ๑๗ ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย ครูติดบัตรตวั เลขไทย ๑ - ๕ บนกระดาน ครหู ยิบดินสอขึ้นมา ๒ แทง่ สุม่ นักเรียนออกไปหยบิ บัตร ตวั เลขไทยบนกระดานให้ตรงกับจานวนดนิ สอทีค่ รหู ยบิ ขนึ้ มา และใหน้ กั เรยี นอ่านจานวน ขั้นท่ี ๔ ความคิดรวบยอด ครูให้นักเรียนเขียนเลขไทย ๑ - ๕ พร้อมคาอ่านลงในสมุด เชน่ ๑ อา่ นวา่ หนงึ่ อา่ นใหค้ รฟู งั รายบุคคล ครูตรวจความถกู ตอ้ ง นักเรียนคนใดเขียนไมถ่ กู ครใู ห้คาแนะให้นักเรยี นแก้ไขใหถ้ กู ต้อง ขัน้ ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง เลขไทย ๑ – ๕ ครูตรวจสอบความถูกต้องชืน่ ชมผลงานนกั เรยี น ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สือเรยี น รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชนั้ ป.๑ ๒. บัตรเลขไทย ๑ - ๖ ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหนง่ ครู

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถ้วนและถกู ต้อง  ยงั ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ  ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้  เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้  ยังไมเ่ หมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้  ครอบคลมุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้  ยงั ไมค่ รอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรียน

บัตรตวั เลขไทย ๑ - ๕ ๑๒ ๓๔ ๕

ใบงาน เรอ่ื ง เลขไทย ๑ - ๕ ช่ือ............................................................................ช้ัน...........เลขที่......... คาชแี้ จง ให้นกั เรียนเขียนตัวเลขไทยจากภาพลงใน ให้ถูกต้อง และ ระบายสใี หส้ วยงาม

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๒ ภูผา แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๘ รายวิชา ภาษาไทย เรื่อง อา่ นคลอ่ ง ร้องเลน่ ๑๔ ชัว่ โมง ภาคเรียนท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ ช่วั โมง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ัยรักการอ่าน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรือ่ งราวใน รปู แบบตา่ ง ๆ เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความส้นั ๆ ป๑/๒. บอกความหมายของคา และข้อความท่อี า่ น ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ท ๒.๑ ป๑/๑ คดั ลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทดั ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสยี งบทอา่ นเพ่ือนภผู า ได้K ๒. คัดลายมอื ตวั บรรจงเต็มบรรทัดบทอ่าน เพือ่ นภูผาได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นบทอ่าน “เพือ่ นภูผา” เป็นการฝึกประสบการณท์ างภาษา ท้ังทาให้เกิดความสนกุ สนานในการเรยี น ๔. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถส่ือสารกับครแู ละเพ่ือนไดอ้ ย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คดิ ตดั สินใจโดยคานึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงบทอ่าน เพือ่ นภผู าได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั บทอา่ นเพ่อื นภูผาได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อา่ นออก)  (W) Riting (เขียนได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)  ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะด้านความร่วมมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการสือ่ สาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันสือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยดื หยุ่นและการปรบั ตัว  การริเรมิ่ สรา้ งสรรค์และเป็นตัวของตวั เอง  ทกั ษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม  การเป็นผู้สร้างหรือผ้ผู ลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คณุ ลักษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเปน็ ผู้นา  คุณลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้นี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง  คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซื่อสตั ย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ  อนุรกั ษ์พลังงานและส่ิงแวดลอ้ ม

 อนื่ ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความร้)ู ใบงาน เร่ือง การเขยี นคัดลายมือ เรือ่ ง เพ่อื นภผู า ๙. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นที่ ๑ ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูอ่านบทอ่าน เร่อื ง เพอื่ นภผู า ใหน้ ักเรยี นฟงั ๑ รอบ และให้นักเรยี นอ่านตามครู ขน้ั ท่ี ๒ สารวจคน้ หา นกั เรยี นจับคู่ฝึกอ่านบทอ่าน เพื่อนภผู า ข้นั ที่ ๓ หาความหมาย ใหต้ วั แทนนกั เรยี นออกมาอ่านบทอา่ น เรือ่ ง เพื่อนภผู า หนา้ ชน้ั เรียน ๑ คน เพ่ือนฟังและ สงั เกตว่าอาสาสมคั รอ่านถูกต้องหรอื ไม่ ขน้ั ที่ ๔ ความคิดรวบยอด ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกันบอกถงึ บทอ่านว่าเกยี่ วกับเรอ่ื งใด ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นเขยี นคัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัดจากบทอา่ นเรอื่ ง เพอื่ นภูผา ๑๐. ส่อื การสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนรูใ้ นหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มคี วามคดิ เห็นดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรู้กับหลกั สูตรสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรียน

ใบงาน เร่ือง การเขียนคดั ลายมอื “เพื่อนภูผา” ช่อื ............................................................................ช้ัน...........เลขท.่ี ........ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขียนคัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั จากขอ้ ความทีก่ าหนดให้ ภผู าดแู ลใบโบก ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ภูผาดูแลใบบวั ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ภูผามีเพ่อื นขา้ งตวั ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ชื่อใบบวั ชอ่ื ใบโบก ......................................................................................................................... ..........................................................................................................................

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๓ เพ่ือนกัน แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑ รายวิชา ภาษาไทย เรอ่ื ง คานาเร่อื ง ๑๔ ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชวี ิตและมนี ิสยั รกั การอ่าน ตวั ชวี้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งคาจากเร่อื งได้ K ๒. อ่านสะกดคาจากเร่อื งได้ P ๓. มีความมุง่ มั่นในการทางาน A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นเปน็ การสร้างความรู้และความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวติ และช่วยให้ นักเรยี นมีนสิ ยั รักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครแู ละเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานึงผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ให้เข้ากับการเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มูลเพ่อื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้

๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสียงคาจากเรอ่ื งได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านสะกดคาจากเรอ่ื งได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ ม่ันในการทางาน ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หย่นุ และการปรบั ตัว  การริเร่มิ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง  ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวฒั นธรรม  การเปน็ ผ้สู รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชือ่ ถือได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คณุ ลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผูน้ า  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง  คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อื่น ความซื่อสัตย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม  อาเซียนศึกษา  คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลงั งานและสิง่ แวดล้อม  อื่น ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอ่านคานาเรือ่ งจากบทเรียน เร่ือง เพ่อื นกัน ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ ๑ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรยี น ครูใหน้ กั เรียนดูภาพ คานาเร่ือง จากบทเรยี น เรอื่ ง เพ่ือนกนั หนา้ ๒๔ ข้นั ท่ี ๒ สารวจค้นหา ให้นักเรียนสังเกตภาพและรว่ มกันตอบว่ามีภาพอะไรบ้าง ข้ันที่ ๓ หาความหมาย ครูอา่ นคานาเรือ่ งจากบทเรียนให้นักเรียนฟงั ๑ รอบ ให้นักเรยี นอา่ นตามพร้อมกนั ข้นั ท่ี ๔ ความคิดรวบยอด นกั เรียนจบั คูฝ่ ึกอา่ นคานาเรื่องจากบทเรยี น ครูให้คาแนะนาและฝกึ อ่านนักเรยี นทอี่ ่านไม่คล่อง ขน้ั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทดสอบการอ่านคานาเรือ่ งรายบคุ คล ๑๐. สอื่ การสอน ๑. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่อื ชวี ติ ภาษาพาที ชัน้ ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้.....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามร้เู กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์ ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มคี วามคดิ เห็นดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรู้กับหลกั สูตรสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรียน

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เพอื่ นกนั แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ รายวิชา ภาษาไทย เรือ่ ง การอ่านออกเสยี ง ๑๔ ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ช่ัวโมง ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมนี ิสยั รักการอ่าน ตวั ช้วี ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเรือ่ งได้ K ๒. อ่านสะกดคาจากเรื่องได้ P ๓. มีความม่งุ มั่นในการทางาน A ๓. สาระสาคญั การอา่ นเป็นการสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ิต และชว่ ยให้ นักเรยี นมนี สิ ยั รกั การอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครแู ละเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่อื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้

๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเร่อื งได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นสะกดคาจากเรอ่ื งได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ ม่ันในการทางาน ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หย่นุ และการปรบั ตัว  การริเร่มิ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง  ทกั ษะสงั คมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม  การเปน็ ผ้สู รา้ งหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรบั ผิดชอบเชอื่ ถือได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คณุ ลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ า  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง  คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อ่ืน ความซื่อสัตย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม  อาเซียนศึกษา  คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสิง่ แวดล้อม  อื่น ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอา่ นออกเสยี งบทเรียน เรือ่ ง เพ่ือนกนั ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ท่ี ๑ ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรียน ครูสนทนากับนักเรียนให้นักเรยี นดภู าพจากบทเรียน เรื่อง เพ่อื นกัน หน้า ๒๕ ขน้ั ที่ ๒ สารวจคน้ หา ใหน้ ักเรยี นตอบวา่ ภาพจากบทเรียนน้เี กย่ี วกับอะไร เน้อื เรื่องควรจะเปน็ อย่างไร ขน้ั ท่ี ๓ หาความหมาย ครูอ่านบทเรยี นเร่ือง เพ่อื นกนั ให้นกั เรียนฟัง ให้นกั เรยี นอ่านตามครพู ร้อมกัน นักเรยี นแบ่งกลุม่ แตล่ ะกล่มุ ร่วมกันฝึกอ่านบทเรียน เร่ือง เพือ่ นกัน นกั เรยี นคนใดอา่ นไมค่ ลอ่ ง เพ่อื นในกลุม่ คอยช่วยเหลอื ใหค้ าแนะนา ถ้าคานัน้ เพอ่ื นในกลุ่มอ่านไม่ได้ครูคอยใหค้ าแนะนาเพิ่มเติม ขน้ั ที่ ๔ ความคิดรวบยอด ตัว ครูและนกั เรียนร่วมกันเล่าเรอ่ื งจากการอ่านบทเรียน นักเรยี นรว่ มกนั ตอบวา่ จากบทเรยี นมี ละครใดบา้ ง นกั เรยี นอยากเป็นตวั ละครใดในเรือ่ ง เพราะเหตใุ ด ขัน้ ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนทดสอบการอา่ นออกเสยี งบทเรียนเปน็ รายบคุ คล ๑๐. ส่อื การสอน ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชั้น ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นักเรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้.ู ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมีความรู้เกิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์ ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มีความคดิ เห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ เพอื่ นกัน ๑๔ ช่วั โมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอ่ื ง อ่านออกเสยี งอักษรสงู (ข ฉ ผ ส ห) ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒ ช่ัวโมง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนนิ ชวี ิตและมีนิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้ันๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกพยญั ชนะอักษรสงู ได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งพยญั ชนะอักษรสงู ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การอา่ นเป็นการสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ติ และชว่ ยให้ นกั เรยี นมีนิสัยรกั การอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความรูค้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกับครแู ละเพ่อื นได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา - คิดตัดสนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรียนรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรสงู ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรสูงได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว  การริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง  ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม  การเป็นผสู้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง  คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อ่ืน ความซอ่ื สัตย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม  อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอา่ นออกเสยี งพยญั ชนะอักษรสูง (ข ฉ ผ ส ห) ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขัน้ นาเข้าสูบ่ ทเรียน ครูสนทนากบั นกั เรียนถงึ อกั ษรสูงทน่ี ักเรียนไดเ้ รียนมาว่าอักษรสูงมีพยญั ชนะใดบ้าง ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา ครูตดิ บัตรคาพยญั ชนะอักษรสงู ข ฉ ผ ส ห บนกระดาน ครูให้นักเรยี นสงั เกตพยัญชนะ ครูถามคาถามนกั เรยี นคิดวา่ วา่ พยญั ชนะบตั รคาทคี่ รูติดบน กระดานเปน็ อักษรกลาง อักษรสูง หรอื อักษรตา่ ถ้านักเรียนตอบผิดครอู ธิบายเพมิ่ เติมใหน้ กั เรียน เขา้ ใจว่า บตั รคาที่ครตู ิดบนกระดานน้ันคืออักษรสงู ใหน้ กั เรยี นทอ่ งจาเพอื่ ใหเ้ กิดการจาอกั ษรสงู ได้ ข้ันที่ ๓ หาความหมาย ครอู ่านพยญั ชนะอักษรสงู ให้นกั เรยี นฟัง ๑ รอบ ดงั น้ี ข อา่ นว่า ขอ ฉ อา่ นวา่ ฉอ ผ อ่านวา่ ผอ ส อ่านวา่ สอ ห อา่ นว่า หอ ข้ันท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด นกั เรียนอา่ นพยญั ชนะอกั ษรสงู พร้อมกนั ๑ รอบ ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรียนจบั คู่ ร่วมกนั ฝกึ อ่านออกเสยี งพยัญชนะอกั ษรสงู นกั เรยี นคนใดอ่านผิดเพอื่ นในกลมุ่ ช่วยกนั ฝกึ อา่ น ครูให้คาแนะนาเพมิ่ เติม ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ช้ัน ป.๑ ๒. บัตรคา ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรูค้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามร้เู กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์ ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มีความคดิ เห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรยี น

แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๔ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เพ่อื นกัน ๑๔ ชัว่ โมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง อ่านออกเสยี งอกั ษรต่า (ง ช พ ภ ม ร ล ว) ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒ ชว่ั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ัยรักการอา่ น ตัวชวี้ ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความส้ันๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอ่าน ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกพยัญชนะอกั ษรตา่ ได้ K ๒. อ่านออกเสยี งพยัญชนะอักษรตา่ ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นเป็นการสร้างความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาเนินชีวติ และช่วยให้ นักเรยี นมนี ิสัยรักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครแู ละเพือ่ นได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแก้ปญั หา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากบั การเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรตา่ ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรตา่ ได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว  การริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง  ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม  การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง  คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อ่ืน ความซอ่ื สัตย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม  อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร้)ู กิจกรรมการอา่ นออกเสียงพยัญชนะอกั ษรตา่ (ง ช พ ภ ม ร ล ว) ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นที่ ๑ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น คา ครูและนักเรียนร่วมกนั ทบทวนอักษรต่าทเี่ คยเรยี นมา ว่ามีพยญั ชนะใดบ้าง ขน้ั ที่ ๒ สารวจคน้ หา ครูให้อาสาสมัครนักเรยี นชบู ตั รพยญั ชนะอักษรตา่ ง ช พ ภ ม ร ล ว หน้าช้นั เรยี น ครูใหน้ ักเรียนสังเกตพยญั ชนะ ครถู ามคาถามนักเรียนคดิ ว่าวา่ พยัญชนะบตั รคาหนา้ ชัน้ เรยี น เปน็ อักษรกลาง อกั ษรสูง หรอื อกั ษรต่า ถา้ นกั เรียนตอบผดิ ครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ ใหน้ ักเรียนเข้าใจวา่ บตั ร ท่คี รูชูน้ันคืออักษรต่า ใหน้ ักเรยี นทอ่ งจาเพื่อใหเ้ กิดการจาอกั ษรตา่ ได้ ขัน้ ท่ี ๓ หาความหมาย ครใู หน้ ักเรียนอา่ นพยญั ชนะอักษรตา่ ท่เี รยี นในชวั่ โมงทแี่ ล้ว ๑ รอบ ดังน้ี ง อา่ นวา่ งอ พ อา่ นว่า พอ ภ อา่ นว่า พอ ม อา่ นว่า มอ ร อ่านวา่ รอ ล อ่านว่า ลอ ครอู ธิบายเพ่ิมเติมถึงอกั ษรต่า คือ ในชั่วโมงนน้ี ักเรียนจะมาเรียนรอู้ กั ษรตา่ เพ่ิมอกี ๒ พยัญชนะ คอื ฉ ว และอา่ นออกเสยี งใหน้ ักเรียนฟงั ๑ รอบ ให้นักเรยี นอา่ นตาม ดงั น้ี ฉ อ่านว่า ฉอ ว อา่ นว่า วอ ข้ันที่ ๔ ความคดิ รวบยอด นกั เรียนอา่ นพยญั ชนะอกั ษรตา่ พรอ้ มกนั ๒ รอบ ข้นั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนฝกึ อ่านออกเสียงพยัญชนะอักษรตา่ นักเรยี นคนใดอ่านผดิ เพือ่ นร่วมหอ้ งชว่ ยกันฝกึ อ่านให้ ถกู ต้อง ครูให้คาแนะนาเพม่ิ เติม ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ช้นั ป.๑ ๒. บัตรพยญั ชนะ ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร้.ู ....................คน คิดเป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์ ) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เพือ่ นกัน แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ รายวิชา ภาษาไทย เร่อื ง สระ เอ ๑๔ ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนสิ ยั รักการอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้ันๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกรปู สระ เอ ได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งคาที่ประสมสระ เอ ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ สระคือเคร่อื งหมายใชแ้ ทนเสียงทีเ่ ปล่งออกมาตามหลกั ภาษา ช่วยให้อา่ นออกเสียงได้ถูกต้องเปน็ การสรา้ ง ความรู้และความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ัดสินใจในการออกเสยี งในชีวิตประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถส่อื สารกบั ครูและเพ่ือนได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแก้ปัญหา - คิดตดั สินใจโดยคานึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากบั การเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรูปสระเอ ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสียงคาทีป่ ระสมสระ เอได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เน้นส่กู ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ )  ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยืดหยุ่นและการปรบั ตวั  การริเริ่มสรา้ งสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง  ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม  การเปน็ ผสู้ ร้างหรือผูผ้ ลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลักษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผูน้ า  คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง  คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซอื่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศึกษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซียนศกึ ษา  คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ

 อนุรกั ษ์พลงั งานและสิ่งแวดลอ้ ม  อนื่ ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู)้ กิจกรรมการอ่านคาท่ีประสมสระ เอ ใบงาน เรอื่ ง สระ เอ ๙. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี ๑ ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรยี น ครูสนทนากับนักเรยี นถงึ สระในภาษาไทยครยู กตวั อยา่ งคาวา่ เก ให้นกั เรียนร่วมกันตอบว่า สระใดปรากฎในคานี้ ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา นกั เรียนศกึ ษา เร่ือง สระ เอ จากหนงั สอื เรยี นภาษาพาทชี นั้ ป.๑ หนา้ ๒๖ - ๒๗ ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย ครูให้อาสาสมัครนักเรียน ๓ คน วาดภาพคาทปี่ ระสมดว้ ยสระ เอ หนา้ ชัน้ เรยี น ใหเ้ พ่ือนรว่ มกัน ตอบว่าภาพทีว่ าดคือภาพอะไร และใหอ้ ่านออกเสียงพรอ้ มกนั ขั้นที่ ๔ ความคิดรวบยอด ใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งคาทม่ี ีสระ เอ คนละ ๒ คา และสะกดคาด้วยปากเปล่า ข้นั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง สระ เอ ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรูใ้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

ใบงาน เรื่อง สระ เอ ช่ือ............................................................................ชั้น...........เลขที.่ ........ คาช้แี จง ให้นกั เรยี นเติมสระ เอ ( เ- ) หนา้ พยัญชนะระบายสใี ห้สวยงามและฝึกอา่ น .....ว .....ล .....ห .....ก .....ป .....ข .....ม .....ฉ

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๓ เพ่อื นกนั แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๖ รายวิชา ภาษาไทย เรอื่ ง สระ แอ ๑๔ ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชั่วโมง ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนินชวี ติ และมนี ิสยั รกั การอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และขอ้ ความส้ันๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกรปู สระ แอ ได้ K ๒. อ่านออกเสยี งคาที่ประสมสระ แอ ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ สระคือเคร่อื งหมายใชแ้ ทนเสียงทเ่ี ปล่งออกมาตามหลักภาษา ช่วยให้อ่านออกเสยี งได้ถกู ตอ้ งเปน็ การสรา้ ง ความรู้และความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจในการออกเสยี งในชีวติ ประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอื่ สารกับครูและเพื่อนได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คิดตดั สินใจโดยคานึงผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากบั การเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ขอ้ มูลเพื่อพฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรปู สระแอ ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสยี งคาทป่ี ระสมสระ แอ ได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเน้นสู่การพัฒนาคุณภาพผ้เู รียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะด้านความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความรว่ มมอื การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการสอื่ สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทันสอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชวี ิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หยุ่นและการปรบั ตวั  การริเริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตวั เอง  ทักษะสังคมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม  การเป็นผู้สรา้ งหรอื ผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ (Accountability)  ภาวะผูน้ าและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลักษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา  คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง  คุณลักษณะด้านศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ืน่ ความซ่ือสัตย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ

 อนรุ ักษ์พลงั งานและสง่ิ แวดลอ้ ม  อนื่ ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กิจกรรมการอ่านคาที่ประสมดว้ ยสระ แอ ใบงาน เร่อื ง สระ แอ ๙. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ ๑ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน ครสู นทนากบั นักเรยี นถึงสระในภาษาไทยครยู กตวั อยา่ งคาว่า แล ใหน้ กั เรยี นร่วมกันตอบวา่ สระใดปรากฎในคาน้ี ขั้นท่ี ๒ สารวจคน้ หา นกั เรียนศกึ ษา เรอื่ ง สระ แอ จากหนังสอื เรียนภาษาพาทชี ัน้ ป.๑ หนา้ ๒๖ - ๒๗ ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย ครใู ห้อาสาสมัครนกั เรียน ๕ คน วาดภาพคาที่ประสมดว้ ยสระ แอ หน้าชน้ั เรยี น ใหเ้ พื่อนรว่ มกนั ตอบว่าภาพท่วี าดคือภาพอะไร และใหอ้ า่ นออกเสียงพร้อมกนั ขน้ั ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ใหน้ ักเรยี นยกตวั อย่างคาทป่ี ระสมด้วยสระ แอ คนละ ๑ คา และสะกดคาดว้ ยปากเปลา่ ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทาใบงาน เรือ่ ง สระ แอ ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชีวิต ภาษาพาที ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

ใบงาน เรอ่ื ง สระ แอ ช่ือ............................................................................ชนั้ ...........เลขท่.ี ........ คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นเติมสระ แอ ( แ- ) หน้าพยัญชนะระบายสีใหส้ วยงามและฝกึ อา่ น .......ตงโม .......ตงกวา .........มว .......กว้ กุญ........จ ........ปรงสีฟนั

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ ๓ เพ่อื นกัน แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๗ รายวิชา ภาษาไทย เรือ่ ง เลขไทย ๖-๑๐ ๑๔ ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชั่วโมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนิสัยรกั การอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อ่านเลขไทย ๖ - ๑๐ ได้ K ๒. เขียนเลขไทย ๖ - ๑๐ ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั ตวั เลขไทยเปน็ อกั ษรตวั เลขท่ีใช้แสดงจานวนนับในภาษาไทย ซึ่งมคี ุณคา่ เอกลักษณ์ของความเปน็ ชาติไทย ทางดา้ นอักษรและภาษาไทยซงึ่ ควรแก่การอนุรกั ษ์ส่งเสรมิ การนาไปใชใ้ ห้แพร่หลาย ๔. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - มีความรูค้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกับครูและเพื่อนได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปัญหา - คดิ ตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มูลเพอ่ื พัฒนาตนเองด้านการเรยี นรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านเลขไทย ๖ - ๑๐ ได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. เขยี นเลขไทย ๖ - ๑๐ ได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทักษะด้านการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทันส่ือ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชีวติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยืดหยนุ่ และการปรบั ตัว  การรเิ รม่ิ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตวั ของตัวเอง  ทักษะสงั คมและสงั คมขา้ มวฒั นธรรม  การเปน็ ผูส้ ร้างหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชอื่ ถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลกั ษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผ้นู า  คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชน้ี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง  คณุ ลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซือ่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คุณธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ  อนุรกั ษ์พลงั งานและส่ิงแวดล้อม  อ่นื ๆ (ระบุ)..................................................................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook