ใบงาน เร่ือง การเรยี งประโยคจากเพลงกลอ่ มเด็ก ชื่อ............................................................................ช้ัน...........เลขท่ี......... คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเรยี งคาใหเ้ ปน็ ประโยค เพลงกล่อมเด็กเจ้าเนอื้ อ่อน เอย เจา้ เน้ือออ่ น ............................................................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................................................... นม กิน แม่ ออ้ น จะ ............................................................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................................................... เจา้ ออก ชม แม่ อมุ้ ............................................................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................................................... กนิ นม นอน เปล แลว้ เอย ............................................................................................................................................................................................................ .........................................................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ ๑ ๓ ชั่วโมง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๒ มาเล่นกันไหม รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชั่วโมง เรือ่ ง อ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนินชีวติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน ตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสัน้ ๆ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อ่านสะกดคาได้K ๒. อ่านออกเสยี งบทเรียนได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การอ่านเปน็ การสร้างความร้แู ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และช่วย ให้นกั เรียนมีนสิ ัยรักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มีความร้คู วามเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครูและเพื่อนได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแก้ปัญหา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ข้อมูลเพ่อื พัฒนาตนเองด้านการเรยี นรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านสะกดคาได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสยี งบทเรยี นได้ ๕.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สื่อ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหยนุ่ และการปรบั ตัว การริเร่มิ สร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง ทักษะสงั คมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผูผ้ ลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเช่ือถอื ได้ (Accountability) ภาวะผูน้ าและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คณุ ลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผู้นา คุณลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลกั ษณะด้านศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผูอ้ นื่ ความซือ่ สตั ย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง
โครงการโรงเรียนคุณธรรม อาเซยี นศกึ ษา คณุ ธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ อนรุ ักษพ์ ลงั งานและสง่ิ แวดล้อม อืน่ ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอ่านบทเรยี น เร่อื ง มาเล่นกันไหม ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ ๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน ครใู หน้ ักเรียนดวู ิดทิ ัศน์เกีย่ วกับการละเลน่ ของไทย ขนั้ ท่ี ๒ สารวจค้นหา ครูถามคาถาม นักเรียนรู้จกั การละเล่นของไทยอะไรบา้ ง เวลาวา่ งนักเรยี นชอบเลน่ อย่างไร ขนั้ ท่ี ๓ หาความหมาย ครอู ่านบทเรยี นเรอ่ื ง มาเล่นกนั ไหม ใหน้ ักเรียนฟงั และอา่ นตามครู ขัน้ ท่ี ๔ ความคิดรวบยอด ครใู ห้นักเรยี นแบง่ กลุ่มร่วมกันฝกึ อ่านบทเรียน นกั เรยี นคนใดอา่ นไม่คลอ่ งเพอ่ื นในกลุ่ม ช่วยกันฝึกอา่ น ครูอ่านบทการละเล่นแมง่ ูเอย๋ ให้นกั เรยี นฟงั และอ่านตามครู ครยู กตัวอย่างวิธีการเลน่ แมง่ เู อย๋ ให้นักเรยี นฟงั ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครใู หน้ กั เรียนแบ่งกล่มุ เปน็ ๒ กลมุ่ ฝึกเลน่ การละเลน่ แมง่ เู อ๋ย จากบทเรียน โดยครคู อยให้ คาแนะนา ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต วรรณคดลี านา ชน้ั ป.๑ ๒. วิดิทัศน์การละเล่นไทย ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐
๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๑๔. บนั ทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร้.ู ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................ ๒. นักเรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคดิ เห็นดงั นี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ต้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรูก้ ับหลกั สตู รสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรยี น
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี ๒ ๓ ช่วั โมง กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ ๒ มาเลน่ กนั ไหม รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชวั่ โมง เร่อื ง การแสดงความคิดเหน็ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมวี ิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ตวั ชี้วัด ท ๓.๑ ป๑/๓. พดู แสดงความคดิ เหน็ และความร้สู ึกจากเรื่องท่ฟี ังและดู ป๑/๔. พูดสอื่ สารไดต้ ามวตั ถุประสงค์ ท ๕.๑ ป๑/๑. บอกขอ้ คดิ ทไี่ ดจ้ ากการอา่ นหรือการฟงั วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรบั เดก็ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. เข้าใจการพูดแสดงความคิดเหน็ จากบทเรียนได้ K ๒. บอกขอ้ คดิ ที่ไดจ้ ากเร่ือง P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ การพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก ช่วยให้เกดิ ความเข้าใจในการสือ่ สารอย่างมีประสิทธภิ าพ ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความร้คู วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครแู ละเพ่อื นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปัญหา - คิดตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากับการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลเพ่ือพัฒนาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. เข้าใจการพูดแสดงความคิดเห็นจากบทเรียนได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. บอกขอ้ คิดที่ได้จากเร่อื ง ๕.๓ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ ) ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะด้านความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว การริเร่มิ สร้างสรรค์และเปน็ ตวั ของตัวเอง ทักษะสังคมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม การเปน็ ผ้สู ร้างหรือผผู้ ลติ (Productivity) และความรบั ผิดชอบเชือ่ ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลักษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผ้นู า คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผูอ้ ่นื ความซื่อสัตย์ ความสานึกพลเมอื ง
๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซียนศกึ ษา คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนุรกั ษ์พลังงานและสงิ่ แวดลอ้ ม อน่ื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กิจกรรมการพูดแสดงความคดิ เหน็ จากเรื่อง ใบงาน เร่อื งการละเลน่ ของไทย ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นที่ ๑ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน ครูทบทวนบทเรยี น เรือ่ ง มาเลน่ กันไหม ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา ครูสนทนากับนกั เรียนถงึ การละเลน่ ของไทยว่านกั เรยี นเคยเห็นหรือเคยเลน่ หรอื ไม่ พร้อม ยกตวั อย่างประกอบ ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครอู ธบิ ายเพิม่ เตมิ ถงึ การละเล่นของไทย คือ การเลน่ เพอื่ ความบันเทิง มกี ตกิ า หรือไมม่ กี ็ได้ เลน่ กันเป็นกลมุ่ ชว่ ยใหม้ อี ารมณ์แจ้มใส ฝึกความสามคั คีในกลุ่ม ขน้ั ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด นักเรยี นคิดร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ บอกขอ้ คิดทไี่ ดจ้ ากเรอื่ ง ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง การละเลน่ ของไทย ๑๐. สือ่ การสอน ๑. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต วรรณคดลี านา ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรียนรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร้.ู ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรยี น
ใบงาน เร่อื ง การละเล่นไทย ชอื่ ............................................................................ชน้ั ...........เลขที่......... คาช้ีแจง ให้นกั เรียนเลอื กคาเติมใหต้ รงกับภาพการละเลน่ ของเดก็ ไทย ระบายสีให้ สวยงาม ขม่ี า้ ก้านกล้วย รีรีขา้ วสาร งกู ินหาง ...................................................................... .................................................................... ..................................................................... .................................................................... ............................................................. ............................................................
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓ ๓ ชวั่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี ๒ มาเล่นกันไหม รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอ่ื ง อา่ นเขยี นเรียงประโยค ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รกั การอ่านท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของ ชาติ ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสนั้ ๆ ท ๔.๑ ป๑/๓. เรยี บเรียงคาเป็นประโยคงา่ ย ๆ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งเพลงกล่อมด็กจากบทเรียนได้ K ๒. เขยี นเรยี งประโยคเพลงกลอ่ มด็กจากบทเรยี นได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคญั การอ่านเป็นพ้ืนฐานในการสรา้ งความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการ ดาเนนิ ชวี ิต ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - มคี วามรูค้ วามเข้าใจและสามารถสอื่ สารกบั ครูและเพื่อนได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คดิ ตัดสนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ใหเ้ ข้ากบั การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นข้อมูลเพอื่ พฒั นาตนเองด้านการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงบทการละเลน่ จากบทเรยี นได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. เขียนบทการละเลน่ จากบทเรยี นได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเนน้ สูก่ ารพัฒนาคุณภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั ส่ือ (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรับตัว การริเร่มิ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตวั ของตวั เอง ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผสู้ รา้ งหรอื ผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชื่อถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลกั ษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา คุณลักษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรูข้ องตนเอง
คณุ ลักษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ นื่ ความซื่อสตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซียนศกึ ษา คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ อนรุ ักษพ์ ลงั งานและสงิ่ แวดลอ้ ม อ่ืน ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการเขยี นการละเล่นจากบทเรียน ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ท่ี ๑ ขนั้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน ครูทบทวนบทเรียน เรื่อง มาเล่นกนั ไหม ขั้นท่ี ๒ สารวจคน้ หา ครทู บทวนบทอ่าน แมง่ เู อ๋ย และ กกุ๊ ก๊กุ ไก่ และฝึกอา่ น ๑ รอบ ข้นั ท่ี ๓ หาความหมาย ครแู จกกระดาษให้นักเรียนเขยี นตามคาบอกคาจากบทเรียน ๓ คา เชน่ เล้ยี ง เจีย๊ บ งู ขั้นที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครูยกตวั อย่างบทการละเลน่ กุ๊ก กุ๊ก ไก่ ๑ ประโยคใหน้ ักเรียนตอ่ บทอ่านจากครโู ดยสามารถ ดูในหนงั สือได้ ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครูใหน้ กั เรียนทาใบงาน เรอ่ื ง การเขียนเติมคาจากบทอ่าน กุ๊ก กุ๊ก ไก่ ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชีวติ วรรณคดลี านา ชนั้ ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ................ ๒. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมีความรูเ้ กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรยี น
ใบงาน เรือ่ ง การเขยี นเตมิ คาจากบทอา่ น กุ๊ก ก๊กุ ไก่ ชื่อ............................................................................ชั้น...........เลขที่......... คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนอ่านคาทกี่ าหนดให้และนาไปเตมิ ในชอ่ งวา่ ง ใหญ่ ลูก รอ้ ง คยุ้ ไกเ่ อย กกุ๊ กุ๊ก ไก่ เลี้ยง ลกู จน ............ ไม่ มี นม ให้ ........ กิน ลูก ......... เจี๊ยบ เจี๊ยบ แม่ ก็ อยาก ไป ............ ดิน ทามาหากนิ ตาม ประ สา .............
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ ๓ ชั่วโมง หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๓ ของเธอของฉัน กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย รายวชิ า ภาษาไทย เรือ่ ง อ่านออกเสียง เวลา ๑ ชั่วโมง ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพือ่ นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนินชวี ติ และมีนสิ ัยรักการอ่าน ตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อ่านสะกดคาได้K ๒. อ่านออกเสยี งบทเรียนได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การอ่านเปน็ การสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนินชีวติ และช่วย ให้นกั เรียนมีนสิ ัยรักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความร้คู วามเข้าใจและสามารถสื่อสารกับครูและเพอื่ นได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ข้อมูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านสะกดคาได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสียงบทเรยี นได้ ๕.๓ ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สื่อ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหยุน่ และการปรบั ตัว การรเิ ริม่ สร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง ทักษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเปน็ ผ้สู ร้างหรอื ผูผ้ ลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเช่ือถอื ได้ (Accountability) ภาวะผ้นู าและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คณุ ลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผู้นา คุณลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คณุ ลกั ษณะด้านศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผูอ้ นื่ ความซือ่ สตั ย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง
โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม อาเซยี นศกึ ษา คณุ ธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนุรกั ษ์พลังงานและส่งิ แวดลอ้ ม อนื่ ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอ่านบทเรียน เรื่อง ของเธอของฉัน ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี ๑ ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน ครสู นทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการมีน้าใจตอ่ กัน และโยงถึงบทเรยี น ขัน้ ที่ ๒ สารวจคน้ หา ครูให้นกั เรียนดูภาพจากบทเรยี น นักเรียนรว่ มกนั ตอบว่าภาพเกย่ี วกับอะไร ขน้ั ท่ี ๓ หาความหมาย ครอู า่ นบทเรียนเรอ่ื ง ของเธอของฉนั ใหน้ ักเรียนฟงั และอ่านตามครู ขั้นท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครใู หน้ กั เรยี นแบ่งกลุม่ รว่ มกนั ฝกึ อ่านบทเรยี น นกั เรียนคนใดอา่ นไม่คล่องเพือ่ นในกลมุ่ ช่วยกนั ฝกึ อ่าน ขน้ั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครูทดสอบการอ่านบทเรยี นเป็นรายกลุ่ม ครชู มเชยการอ่านออกเสยี งของนกั เรียนเพอ่ื ใหม้ ี แรงบัลดาลใจในการอ่าน ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวิต วรรณคดีลานา ชัน้ ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรียนรใู้ นหรอื นอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรียน ๑๒. การวดั และประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้.....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรียนมีความรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรยี น
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๒ ๓ ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๓ ของเธอของฉัน รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชวั่ โมง เร่ือง รูจ้ ักอาขยาน ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชวี ิต และมนี สิ ัยรกั การอ่าน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ ง เห็นคณุ ค่าและนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความสนั้ ๆ ท ๕.๑ ป๑/๒. ทอ่ งจาบทอาขยานตามทกี่ าหนด และบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงบทอาขยานได้ K ๒. ทอ่ งจาบทอาขยานได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การทอ่ งจาบทอาขยานเปน็ ส่วนหนงึ่ ของการฝึกความจา นอกจากนยี้ ังมคี ตสิ อนใจช่วยใหเ้ กิดนิสยั รักการ อ่าน ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถสื่อสารกับครูและเพือ่ นได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแก้ปญั หา - คดิ ตัดสนิ ใจโดยคานึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสยี งบทอาขยานได้ ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. ทอ่ งจาบทอาขยานได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยนุ่ และการปรบั ตัว การรเิ ริม่ สรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตวั ของตัวเอง ทกั ษะสังคมและสังคมข้ามวฒั นธรรม การเปน็ ผู้สร้างหรือผ้ผู ลติ (Productivity) และความรบั ผิดชอบเช่อื ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลกั ษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผูน้ า คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรียนร้ขู องตนเอง คณุ ลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซ่ือสตั ย์ ความสานกึ พลเมือง
๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง โครงการโรงเรียนคุณธรรม อาเซียนศกึ ษา คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนุรักษพ์ ลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม อ่ืน ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการท่องอาขยาน เร่ือง น่ขี องของเธอ ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ ๑ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครทู บทวนบทเรยี น เรื่อง ของเธอของฉนั ขน้ั ที่ ๒ สารวจค้นหา ครูอา่ นบทอาขยาน เร่ือง นข่ี องของเธอ ให้นักเรยี นฟงั ๑ รอบ นักเรียนอ่านตามครู ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย นักเรียนจับค่ฝู กึ อ่านบทอาขยาน นี่ของของเธอ ขั้นที่ ๔ ความคิดรวบยอด ครใู ห้ตัวแทนนักเรยี นอา่ นบทอาขยานหน้าช้ันเรียน ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันเล่าเรือ่ งจากบทอาขยาน ขนั้ ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครูให้นกั เรยี นเขียนบทอาขยาน เรอ่ื ง น่ีของของเธอ ในใบงาน ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชีวติ วรรณคดีลานา ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรยี น
ใบงาน เรื่อง การเขียนคดั ลายมอื “นี่ของของเธอ” ช่ือ............................................................................ชนั้ ...........เลขท่.ี ........ คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเขยี นคดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั จากข้อความทีก่ าหนดให้ น่ีของของเธอ นี่ ของ ของ เธอ ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... น่ัน ของ ของ ฉนั ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... มนั สบั เปลี่ยน กนั ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ฉัน คืน ให้ เธอ ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ฉนั ท์ ขาวไิ ล แตง่ (บทอาขยาน บทเลือก)
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ ๓ ชั่วโมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๓ ของเธอของฉัน รายวิชา ภาษาไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง เร่อื ง การแสดงความคิดเหน็ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสร้างสรรค์ ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเหน็ วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง ตวั ชวี้ ัด ท ๓.๑ ป๑/๓. พดู แสดงความคิดเหน็ และความรู้สึกจากเรื่องทฟี่ ังและดู ท ๕.๑ ป๑/๑. บอกข้อคิดทไี่ ดจ้ ากการอ่านหรอื การฟงั วรรณกรรมรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรองสาหรับเด็ก ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เข้าใจการพูดแสดงความคิดเหน็ จากบทเรียนได้ K ๒. บอกขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ากเร่ือง P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึก ช่วยให้เกิดความเข้าใจในการสอ่ื สารอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - มคี วามร้คู วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกบั ครูและเพ่ือนไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คดิ ตัดสนิ ใจโดยคานึงผลกระทบทม่ี ีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นข้อมูลเพือ่ พฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. เข้าใจการพูดแสดงความคิดเหน็ จากบทเรียนได้ ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. บอกขอ้ คิดที่ได้จากเรอื่ ง ๕.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จดุ เนน้ ส่กู ารพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะด้านการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยุน่ และการปรบั ตวั การริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นตัวของตวั เอง ทกั ษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผสู้ รา้ งหรอื ผู้ผลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเช่ือถือได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลักษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ า คณุ ลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรูข้ องตนเอง คุณลักษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อ่ืน ความซื่อสตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง
โครงการโรงเรียนคุณธรรม อาเซียนศึกษา คณุ ธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนุรกั ษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดลอ้ ม อนื่ ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการพูดแสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื ง ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน ครทู บทวนบทเรียน เรอื่ ง ของเธอของฉัน ขั้นที่ ๒ สารวจค้นหา ครสู นทนากบั นกั เรยี นเก่ียวกับการมนี ้าใจต่อกัน ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครใู หน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งการมนี ้าใจต่อเพอ่ื นคนละ ๑ เรอื่ ง และบอกความร้สู ึกที่ได้ทาความ ดใี นครั้งนัน้ ครูใหน้ ักเรียนบอกสง่ิ ของท่คี รูกาหนด คือ ของกินมอี ะไรบา้ ง ของเล่นมีอะไรบ้าง ของใช้มี อะไรบ้าง ขั้นท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครูยกตัวอยา่ งสถานการณใ์ ห้นักเรียนตอบ เช่น เพอื่ นลืมดนิ สอเขาขอยืมนักเรียนจะให้ยมื ไหม เพ่อื นทานา้ หกนกั เรยี นจะทาอยา่ งไร ให้นักเรยี นยกตวั อยา่ งคนที่มนี า้ ใจทาอะไรอกี บา้ ง ขน้ั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรียนคดิ รว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น บอกข้อคดิ ท่ีไดจ้ ากเรือ่ ง ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต วรรณคดลี านา ชั้น ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐
๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ๑๔. บันทกึ ผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลกั สตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรียนเปน็ สาคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ ๓ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๔ ฝนตกแดดออก รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชั่วโมง เรื่อง อ่านออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๒ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดเพือ่ นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชวี ิต และมีนสิ ัยรักการอ่าน ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นสะกดคาได้K ๒. อ่านออกเสียงบทเรียนได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ A ๓. สาระสาคญั การอ่านเป็นการสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนินชีวติ และช่วย ให้นักเรียนมีนิสัยรกั การอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ือสารกับครูและเพอื่ นได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา - คดิ ตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นข้อมูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านสะกดคาได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสียงบทเรียนได้ ๕.๓ ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชีวติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหยุน่ และการปรบั ตัว การรเิ ริม่ สร้างสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง ทักษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผูผ้ ลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเช่ือถอื ได้ (Accountability) ภาวะผ้นู าและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คณุ ลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเปน็ ผู้นา คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คณุ ลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผูอ้ ืน่ ความซือ่ สตั ย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง
โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม อาเซยี นศึกษา คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนรุ ักษ์พลงั งานและสิ่งแวดล้อม อน่ื ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชน้ิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอา่ นบทเรยี น เรื่อง ฝนตกแดดออก ใบงาน เร่อื ง การโยงเสน้ จบั คู่ “ฝนตกแดดออก” ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น ครูใหน้ กั เรียนดูภาพจากบทเรียน และโยงถึงบทเรยี น ข้ันท่ี ๒ สารวจคน้ หา ครอู า่ นบทเรียน เรือ่ ง ฝนตกแดดออก ใหน้ ักเรียนฟังและอ่านตามครู ขน้ั ที่ ๓ หาความหมาย ครูให้นักเรยี นแบง่ กลุ่มรว่ มกันฝึกอ่านบทเรยี น นักเรียนคนใดอา่ นไมค่ ล่องเพือ่ นในกลุม่ ช่วยกันฝกึ อา่ น ขั้นที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มอ่านออกเสียงบทเรียนหน้าชัน้ เรียน ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทาใบงาน เร่อื ง การโยงเสน้ จบั คู่ “ฝนตกแดดออก” ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ติ วรรณคดลี านา ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหล่งเรยี นรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลกั สตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยังไมส่ อดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ยงั ไมเ่ นน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไมเ่ หมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรยี นรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยงั ไม่ครอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น
ใบงาน เรอ่ื ง การโยงเส้นจับคู่ “ฝนตกแดดออก” ช่ือ............................................................................ชนั้ ...........เลขที่......... คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนโยงเส้นจับคู่คาใหต้ รงตามภาพ สายฝนลว่ งหล่นจากฟา้ แดดจา้ ฟา้ สวย โผผนิ บนิ ไป
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๒ ๓ ช่วั โมง กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ ของเธอของฉัน รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชวั่ โมง เรื่อง รูจ้ ักอาขยาน ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ ภาคเรียนท่ี ๒ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชวี ติ และมนี สิ ัยรักการอ่าน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยา่ ง เห็นคณุ ค่าและนามาประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจรงิ ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความสัน้ ๆ ท ๕.๑ ป๑/๒. ทอ่ งจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทรอ้ ยกรองตามความสนใจ ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงบทอาขยานได้ K ๒. ทอ่ งจาบทอาขยานได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การทอ่ งจาบทอาขยานเปน็ ส่วนหนงึ่ ของการฝึกความจา นอกจากนยี้ ังมีคติสอนใจชว่ ยใหเ้ กิดนิสยั รักการ อ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถสื่อสารกับครูและเพือ่ นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความร้ดู ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแก้ปัญหา - คดิ ตัดสนิ ใจโดยคานึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสยี งบทอาขยานได้ ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. ทอ่ งจาบทอาขยานได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรบั ตัว การรเิ ริม่ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตัวเอง ทกั ษะสงั คมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผ้ผู ลิต (Productivity) และความรบั ผิดชอบเช่อื ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผูน้ า คุณลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง คณุ ลักษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซ่ือสตั ย์ ความสานึกพลเมือง
๗. การบูรณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซยี นศึกษา คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนุรกั ษพ์ ลงั งานและส่ิงแวดล้อม อ่ืน ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการทอ่ งอาขยาน เร่อื ง ฝนตกแดดออก ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ ๑ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรียน ครทู บทวนการอ่านออกเสียงบทเรียน ขัน้ ที่ ๒ สารวจค้นหา ครทู อ่ งบทอาขยาน เรื่อง ฝนตกแดดออก ให้นักเรียนฟัง ๑ รอบ นกั เรยี นอ่านตามครู ขน้ั ที่ ๓ หาความหมาย นักเรียนจับค่ฝู กึ อา่ นบทอาขยาน ฝนตกแดดออก ขน้ั ท่ี ๔ ความคิดรวบยอด ครูใหต้ ัวแทนนักเรียนอา่ นบทอาขยานหน้าชนั้ เรียน ข้ันท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครูและนักเรยี นร่วมกนั เล่าเรอื่ งจากบทอาขยาน ๑๐. สือ่ การสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต วรรณคดีลานา ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นร้ใู นหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู.้ ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรียนมีความรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไมส่ อดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรียน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓ ๓ ชัว่ โมง กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ ฝนตกแดดออก รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ช่วั โมง เรือ่ ง การแสดงความคดิ เห็น ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึก ในโอกาสต่าง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเหน็ วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยา่ งเห็นคณุ คา่ และนามาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง ตัวชี้วัด ท ๓.๑ ป๑/๓. พดู แสดงความคดิ เหน็ และความรสู้ ึกจากเรอ่ื งท่ฟี ังและดู ท ๕.๑ ป๑/๑. บอกขอ้ คิดทไี่ ดจ้ ากการอา่ นหรอื การฟงั วรรณกรรมรอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรองสาหรับเด็ก ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. เข้าใจการพูดแสดงความคดิ เหน็ จากบทเรียนได้ K ๒. บอกข้อคดิ ที่ไดจ้ ากเร่ือง P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ กึ ช่วยให้เกดิ ความเข้าใจในการสื่อสารอย่างมีประสทิ ธิภาพ ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - มคี วามรู้ความเข้าใจและสามารถส่อื สารกับครแู ละเพ่ือนได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทม่ี ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตวั ให้เข้ากบั การเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพอื่ พฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. เข้าใจการพดู แสดงความคิดเหน็ จากบทเรียนได้ ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. บอกข้อคดิ ทไ่ี ดจ้ ากเร่อื ง ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผูเ้ รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทักษะด้านการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะดา้ นความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะดา้ นการสือ่ สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทนั สอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรบั ตวั การริเรม่ิ สรา้ งสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตัวเอง ทกั ษะสงั คมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม การเปน็ ผสู้ รา้ งหรอื ผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชอ่ื ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผูน้ า คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผูอ้ ่ืน ความซื่อสัตย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง
โครงการโรงเรียนคุณธรรม อาเซียนศกึ ษา คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ อนุรกั ษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม อ่นื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการพูดแสดงความคิดเห็นจากเรอ่ื ง ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี ๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น ครูทบทวนบทเรียน เรื่อง ฝนตกแดดออก ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา ครูสนทนากบั นกั เรียนเกยี่ วกบั เสยี งต่าง ๆ ทีน่ กั เรียนเคยได้ยิน เชน่ เสยี งฝนตก ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย ครูใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งเสียงท่นี กั เรียนเคยไดย้ นิ คนละ ๑ เสียง พรอ้ มเลียนเสยี งนัน้ เชน่ เสยี ง รถไฟ เสียงนา้ ไหล ข้นั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครูให้นักเรยี นแบ่งกลุ่ม ๔ กลมุ่ ฝึกเลียนเสยี งดังน้ี กลุ่มที่ ๑ เลยี นเสยี งช้างรอ้ ง กลมุ่ ท่ี ๒ เลยี นเสียงไก่ขัน กลุ่มท่ี ๒ เลยี นเสียงกบรอ้ ง กลุม่ ที่ ๔ เลยี นเสียงฝนตก ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นคดิ รว่ มกนั แสดงความคิดเห็น บอกข้อคดิ ที่ได้จากเรื่อง ๑๐. สอื่ การสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต วรรณคดลี านา ช้นั ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนร้ใู นหรอื นอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐
๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ๑๔. บันทกึ ผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นร้.ู ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................ ๒. นักเรียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รยี นเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351