ใบงาน เร่ือง การเขยี นเรยี งประโยค ชื่อ............................................................................ชั้น...........เลขท่.ี ........ คาชี้แจง ให้นกั เรียนเรียงคาใหเ้ ป็นประโยค ๑. เดิน หนา้ ภผู า ....................................................................................................... ........................................................................................................ ๒. หลงั ตาม ช้างนอ้ ย ....................................................................................................... ........................................................................................................ ๓. โรงเรียน จะ ไป ....................................................................................................... ........................................................................................................ ๔. หิว้ ป่ินโต ช้าง ....................................................................................................... ........................................................................................................
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑ หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๖ โรงเรียนลูกชา้ ง ๑๑ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เร่ือง คานาเรื่อง ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑ ชว่ั โมง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมนี ิสัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเร่ืองได้ K ๒. อา่ นสะกดคาจากเร่ืองได้ P ๓. มีมารยาทในการอ่านA ๓. สาระสาคัญ การอ่านเป็นการสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวติ และช่วยให้ นักเรยี นมนี ิสัยรักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครแู ละเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คิดตดั สินใจโดยคานึงผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่อื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสยี งคาจากเรอื่ งได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านสะกดคาจากเรื่องได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มมี ารยาทในการอ่าน ๖.จดุ เน้นสู่การพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทักษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะดา้ นการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชวี ิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหยนุ่ และการปรับตวั การริเร่มิ สรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตวั ของตวั เอง ทกั ษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม การเป็นผูส้ รา้ งหรือผ้ผู ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชอ่ื ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผูน้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผนู้ า คณุ ลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง คณุ ลกั ษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซ่อื สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซียนศกึ ษา คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนุรักษพ์ ลงั งานและส่งิ แวดลอ้ ม อนื่ ๆ (ระบุ)..................................................................................................................
๘. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กิจกรรมการอา่ นคานาเรือ่ งจากบทเรยี น เร่อื ง โรงเรยี นลูกชา้ ง ๙. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี ๑ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน ครูให้นักเรียนดูภาพ คานาเรอื่ ง จากบทเรียน เร่อื ง โรงเรยี นลกู ชา้ ง หน้า ๕๔ ขน้ั ที่ ๒ สารวจค้นหา ใหน้ กั เรียนสงั เกตภาพและร่วมกันตอบวา่ มภี าพอะไรบา้ ง นักเรยี นร้จู กั ส่งิ ใดในภาพบา้ ง ข้ันท่ี ๓ หาความหมาย ครอู ่านคานาเร่อื งจากบทเรยี นใหน้ ักเรยี นฟงั ๑ รอบ ให้นักเรียนอ่านตามพรอ้ มกัน ข้นั ที่ ๔ ความคิดรวบยอด นกั เรยี นจับคฝู่ ึกอา่ นคานาเรือ่ งจากบทเรียน ครูให้คาแนะนาและฝึกอา่ นนักเรียนทีอ่ า่ นไมค่ ล่อง ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทดสอบการอา่ นคานาเร่อื งรายบุคคล ครูชมเชยการอา่ นเพื่อให้นกั เรยี นเกดิ เกิดแรงบันดาล ใจในการอา่ น ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ช้นั ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนร้ใู นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเหน็ ดงั นี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลกั สูตรสถานศึกษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี น
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๒ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๖ โรงเรียนลกู ชา้ ง ๑๑ ช่ัวโมง รายวิชา ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง การอ่านออกเสียง ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒ ชั่วโมง ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนินชีวติ และมีนิสัยรกั การอ่าน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมวี จิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรูส้ กึ ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตวั ช้วี ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสนั้ ๆ ป๑/๔. เล่าเรอื่ งย่อจากเรอ่ื งท่อี า่ น ป๑/๘. มีมารยาท ในการอ่าน ท ๓.๑ ป๑/๓. พดู แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรื่องท่ฟี งั และดู ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งคาจากเรอื่ งได้ K ๒. อ่านสะกดคาจากเร่ืองได้ P ๓. มีความมุ่งม่ันในการทางาน A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นเป็นการสรา้ งความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชวี ติ และช่วยให้ นกั เรยี นมีนิสัยรักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มคี วามร้คู วามเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครแู ละเพ่อื นได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ัญหา - คิดตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากับการเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมได้อย่างเหมาะสม
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลเพอื่ พฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสียงคาจากเรือ่ งได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นสะกดคาจากเร่ืองได้ ๕.๓ ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามมงุ่ ม่ันในการทางาน ๖.จดุ เน้นส่กู ารพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ ) ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความรว่ มมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสือ่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลีย่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรบั ตวั การริเร่มิ สรา้ งสรรคแ์ ละเป็นตัวของตวั เอง ทักษะสงั คมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผูผ้ ลิต (Productivity) และความรบั ผิดชอบเชอื่ ถือได้ (Accountability) ภาวะผ้นู าและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา คุณลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรียนร้ขู องตนเอง คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ นื่ ความซอ่ื สตั ย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม อาเซยี นศึกษา คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ
อนุรกั ษพ์ ลงั งานและสง่ิ แวดล้อม อื่น ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอ่านออกเสยี งบทเรียน เรือ่ ง โรงเรียนลกู ช้าง ทาแบบฝกึ หัดจากหนังสอื แบบฝึกหัดช้ันป.๑ หนา้ ๘๕ และ ๘๘ ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น ครูสนทนากบั นกั เรยี นใหน้ ักเรียนดูภาพจากบทเรียน เรอื่ ง โรงเรียนลกู ช้าง หนา้ ๕๕ ขนั้ ที่ ๒ สารวจค้นหา ใหน้ กั เรียนตอบว่าภาพจากบทเรียนนีเ้ ก่ยี วกบั อะไร เนอื้ เรือ่ งควรจะเปน็ อยา่ งไร ข้นั ที่ ๓ หาความหมาย ครูอ่านบทเรียนเร่ือง โรงเรยี นลกู ช้าง ให้นักเรียนฟงั ใหน้ กั เรยี นอา่ นตามครพู รอ้ มกนั นกั เรียนแบ่งกลมุ่ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ฝกึ อ่านบทเรียน เรอ่ื ง โรงเรียนลกู ช้าง นกั เรยี นคนใดอา่ นไม่ คลอ่ ง เพ่อื นในกล่มุ คอยช่วยเหลอื ให้คาแนะนา ถ้าคานั้นเพอ่ื นในกลุม่ อ่านไม่ไดค้ รูคอยใหค้ าแนะนาเพ่ิมเตมิ ขน้ั ที่ ๔ ความคิดรวบยอด ครูใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลุม่ แสดงบทบาทสมมุติจากเรือ่ ง ไปโรงเรยี น หน้าชนั้ เรียน ครใู หน้ กั เรยี นบอกถงึ ตวั ละคร และสถานที่จากเรื่อง ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนทดสอบการอา่ นออกเสียงบทเรยี นเป็นรายบคุ คล ครใู ห้นักเรยี นทาแบบฝึกหัด เรือ่ ง โรงเรียนลกู ช้าง จากหนงั สอื แบบฝึกหัดรายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทยทักษะภาษา ช้ัน ป.๑ เลม่ ๑ หนา้ ๘๕ และ ๘๘ ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ป.๑ ๒. หนังสอื แบบฝกึ หดั รายวิชาพ้นื ฐาน ภาษาไทยทักษะภาษา ช้นั ป.๑ เลม่ ๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นร้ใู นหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู.้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น)์ ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๖ โรงเรยี นลูกช้าง ๑๑ ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรอ่ื ง อา่ นออกเสยี งอกั ษรตา่ (ค ง ช ญ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว) ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒ ชัว่ โมง ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรูแ้ ละความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมีนสิ ยั รักการอา่ น ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสั้นๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอ่าน ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกพยัญชนะอกั ษรตา่ ได้ K ๒. อ่านออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรตา่ ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การอ่านเป็นการสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และช่วยให้ นักเรยี นมนี ิสยั รักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกบั ครูและเพ่อื นไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแก้ปญั หา - คดิ ตดั สินใจโดยคานงึ ผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลเพื่อพัฒนาตนเองดา้ นการเรียนรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรตา่ ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสียงพยัญชนะอกั ษรต่าได้ ๕.๓ ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ ม่นั ในการทางาน ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผูน้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหยุ่นและการปรบั ตวั การรเิ ริม่ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตัวของตวั เอง ทกั ษะสังคมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผูส้ ร้างหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเชอื่ ถือได้ (Accountability) ภาวะผ้นู าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา คณุ ลักษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผ้อู ่ืน ความซ่อื สัตย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม อาเซียนศึกษา คณุ ธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ อนุรกั ษ์พลังงานและสิง่ แวดล้อม อืน่ ๆ (ระบุ)..................................................................................................................
๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู)้ กิจกรรมการอา่ นออกเสียงพยัญชนะอกั ษรต่า ๙. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ ๑ ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น คา ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั ทบทวนอกั ษรต่าทเ่ี คยเรียนมา วา่ มีพยญั ชนะใดบา้ ง ขัน้ ท่ี ๒ สารวจคน้ หา ครใู หอ้ าสาสมัครนกั เรยี นชบู ัตรพยญั ชนะอักษรตา่ ญ ฟ หนา้ ช้นั เรียน ครูใหน้ ักเรยี นสังเกตพยัญชนะ ครถู ามคาถามนกั เรียนคิดว่าว่าพยัญชนะบัตรคาหน้าชั้นเรียน เปน็ อกั ษรกลาง อักษรสูง หรืออักษรตา่ ถา้ นกั เรียนตอบผิดครูอธิบายเพิม่ เตมิ ใหน้ กั เรียนเข้าใจว่าบตั ร ท่ีครูชนู น้ั คืออักษรต่า ใหน้ ักเรียนท่องจาเพอ่ื ใหเ้ กิดการจาอักษรต่าได้ ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย ครใู ห้นกั เรียนอา่ นพยัญชนะอกั ษรต่าทีเ่ รียนในชวั่ โมงทแี่ ลว้ ๑ รอบ ดังนี้ ค อ่านว่า คอ ง อ่านว่า งอ ช อา่ นวา่ ชอ ท อา่ นวา่ ทอ ธ อา่ นว่า ทอ น อ่านว่า นอ พ อ่านวา่ พอ ภ อา่ นว่า พอ ม อา่ นวา่ มอ ย อ่านวา่ ยอ ร อ่านวา่ รอ ล อา่ นวา่ ลอ ว อ่านว่า วอ ครสู นทนากับนักเรยี นถึงเรือ่ งอักษรต่า ในชวั่ โมงนนี้ ักเรียนจะมาเรยี นรูอ้ กั ษรตา่ เพ่มิ อกี ๒ พยัญชนะ คอื ญ ฟ และอา่ นออกเสยี งใหน้ ักเรยี นฟัง ๑ รอบ ใหน้ ักเรยี นอ่านตาม ดงั น้ี ญ อา่ นว่า ญอ ฟ อา่ นวา่ ฟอ ขนั้ ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด นักเรียนอ่านพยญั ชนะอกั ษรต่าพร้อมกนั ๒ รอบ ขน้ั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นฝกึ อา่ นออกเสยี งพยญั ชนะอักษรต่า นักเรยี นคนใดอา่ นผดิ เพื่อนร่วมห้องช่วยกันฝึก อา่ นใหถ้ กู ตอ้ ง ครูให้คาแนะนาเพิม่ เติม ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ช้ัน ป.๑ ๒. บัตรพยัญชนะ ๑๑. แหล่งเรียนรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน
๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๑๔. บันทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้.....................คน คิดเป็นร้อยละ................ ๒. นกั เรยี นมีความรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมีความรเู้ กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น)์ ตาแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศึกษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๖ โรงเรยี นลกู ชา้ ง ๑๑ ชั่วโมง รายวิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทยเรอ่ื ง สระ เ_ี ย ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒ ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมนี สิ ัยรกั การอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และข้อความสนั้ ๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. บอกรูปสระ เ_ี ย ได้ K ๒. อ่านออกเสียงคาที่ประสมสระ เ_ี ยได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ สระคือเครื่องหมายใช้แทนเสยี งทเี่ ปลง่ ออกมาตามหลักภาษา ช่วยให้อ่านออกเสยี งไดถ้ กู ตอ้ งเป็นการสร้าง ความร้แู ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสินใจในการออกเสยี งในชีวิตประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกบั ครูและเพือ่ นไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปญั หา - คิดตัดสนิ ใจโดยคานึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้อย่างเหมาะสม - ปรับตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพอื่ พัฒนาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรูปสระ เ_ี ย ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงคาที่ประสมสระ เ_ี ย ได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จดุ เนน้ สูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะด้านความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สอื่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยืดหยนุ่ และการปรบั ตวั การรเิ ร่ิมสร้างสรรค์และเปน็ ตัวของตวั เอง ทักษะสังคมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชอื่ ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผู้นา คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คณุ ลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซอ่ื สตั ย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซยี นศึกษา คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ
อนรุ ักษ์พลังงานและสงิ่ แวดลอ้ ม อน่ื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอ่านคาท่ีประสมสระเ_ี ย ใบงาน เร่อื ง สระ เ_ี ย ๙. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั ที่ ๑ ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน วา่ ครสู นทนากับนักเรียนถงึ สระในภาษาไทยครูยกตัวอย่างคาว่า เปยี ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตอบ สระใดปรากฎในคานี้ ขัน้ ที่ ๒ สารวจค้นหา ครสู นทนากับนักเรยี นถึงคาทีป่ ระสมสระ เ_ี ย ท่นี กั เรยี นรู้จกั ใหน้ ักเรียนยกตัวอยา่ ง ขนั้ ท่ี ๓ หาความหมาย ครอู ่านออกเสียงสระ เอยี ใหน้ กั เรียนฟังและนกั เรยี นอ่านตามครู คอื เ_ี ย อ่านว่า เอีย ครทู ดสอบ การออกเสยี งของนักเรยี นรายบุคคล ขัน้ ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ใหน้ ักเรยี นยกตวั อย่างคาทป่ี ระสมสระ เ_ี ย คนละ ๒ คา และสะกดคาด้วยปากเปลา่ ให้ครูฟงั และ เขยี นลงในสมุดครตู รวจสอบความถกู ตอ้ ง ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรียนทาใบงาน เร่อื ง สระ เ_ี ย ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรียนมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลมุ จุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
ใบงาน เร่อื ง สระ เ_ี ย ชอื่ ............................................................................ชนั้ ...........เลขท.่ี ........ คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นนาพยญั ชนะและสระทก่ี าหนดให้ เขียนลงในรูปภาพ ฝกึ อา่ น และระบายสใี หส้ วยงาม ................................. ................................. ................................. ................................. ................................. งน ................................. ................................. ................................. เ_ี ย ย ว จป ................................. อ ................................. ................................. ................................. ................................. .................................
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๖ โรงเรียนลกู ชา้ ง ๑๑ ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทยเร่อื ง สระ -ั ว ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๒ ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความร้แู ละความคดิ เพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนินชีวิตและมีนสิ ัยรกั การอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ขิ องชาติ ตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความส้นั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกรปู สระ -ั ว ได้ K ๒. อ่านออกเสียงคาท่ีประสมสระ -ั ว ได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั สระคอื เคร่อื งหมายใชแ้ ทนเสียงทีเ่ ปล่งออกมาตามหลักภาษา ชว่ ยให้อ่านออกเสยี งไดถ้ กู ตอ้ งเป็นการสรา้ ง ความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจในการออกเสยี งในชีวติ ประจาวัน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครูและเพอ่ื นได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแก้ปัญหา - คดิ ตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลเพอื่ พฒั นาตนเองด้านการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรูปสระ -ั ว ได้ ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสยี งคาท่ปี ระสมสระ -ั ว ได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทักษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสือ่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหย่นุ และการปรับตวั การรเิ ริ่มสรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตวั เอง ทักษะสังคมและสังคมข้ามวฒั นธรรม การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเช่ือถอื ได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผ้นู า คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ่นื ความซือ่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรียนคุณธรรม อาเซียนศึกษา คุณธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ
อนุรักษพ์ ลังงานและส่ิงแวดล้อม อ่ืน ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอา่ นคาท่ีประสมสระ -ั ว ใบงาน เรือ่ ง สระ -ั ว ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขัน้ ท่ี ๑ ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูให้นกั เรยี นดภู าพทมี่ ีคาเก่ยี วกบั สระ -ั ว เชน่ ภาพววั ใหน้ กั เรยี นร่วมกันตอบ และบอก สระของคา ขนั้ ท่ี ๒ สารวจคน้ หา ครสู นทนากับนักเรยี นถึงคาทีป่ ระสมสระ -ั ว ที่นกั เรยี นรจู้ กั ให้นกั เรียนยกตัวอยา่ ง ครสู มุ่ ให้ นักเรียนแสดงทา่ ทางประกอบคา ขน้ั ท่ี ๓ หาความหมาย ครูอา่ นออกเสยี งสระ -ั ว ใหน้ กั เรยี นฟังและนกั เรยี นอา่ นตามครู คือ -ั ว อา่ นว่า อวั ครู ทดสอบการออกเสยี งของนกั เรียนรายบุคคล ขั้นที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ให้นักเรยี นยกตัวอย่างคาที่ประสมสระ -ั ว คนละ ๒ คา พรอ้ มวาดภาพประกอบ บนั ทึกลงในสมุด ครูตรวจสอบความถกู ต้อง ข้ันที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทาใบงาน เร่อื ง สระ -ั ว ครตู รวจสอบความถูกต้องบอกคะแนนผลงานนักเรียน เพื่อให้ นกั เรียนเกดิ แรงบนั ดาลใจในการทางานชิ้นต่อไป ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรียน ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น)์ ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มีความคิดเห็นดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
ใบงาน เรอ่ื ง สระ -ั ว ชอ่ื ............................................................................ช้นั ...........เลขที่......... คาช้แี จง ใหน้ กั เรยี นนาพยัญชนะและสระทีก่ าหนดให้ เขียนลงในรูปภาพ ฝึกอา่ น และระบายสใี ห้สวยงาม ................... ................... ................. ................. ส ห ................... -ั ว ................... ................. ................. ร ม ว ................... บ จ ................. ................... ................... ................. .................
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๖ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๖ โรงเรยี นลูกช้าง ๑๑ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง อา่ นคลอ่ ง รอ้ งเล่น ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒ ช่ัวโมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคดิ เพอ่ื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ัยรักการอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้นั ๆ ป๑/๒. บอกความหมายของคา และข้อความทอ่ี ่าน ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ท ๔.๑ ป๑/๓. เรยี บเรยี งคาเปน็ ประโยคง่าย ๆ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นออกเสียงบทอ่าน ลากันไปโรงเรยี นได้K ๒. อธบิ ายบทอ่าน ลากันไปโรงเรียนได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอ่านบทอ่าน “ฝึกจูงหาง” เปน็ การฝกึ ประสบการณ์ทางภาษา ทั้งทาใหเ้ กดิ ความสนกุ สนานในการเรียน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถสอื่ สารกับครูและเพอื่ นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองคค์ วามรูด้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปญั หา - คดิ ตดั สินใจโดยคานงึ ผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตัวให้เข้ากับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ขอ้ มูลเพอ่ื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสยี งบทอ่าน ลากันไปโรงเรยี นได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อธิบายบทอา่ นลากนั ไปโรงเรียนได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะดา้ นการสอื่ สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทนั ส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยนุ่ และการปรบั ตวั การรเิ ริม่ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตวั เอง ทกั ษะสังคมและสงั คมขา้ มวฒั นธรรม การเปน็ ผ้สู รา้ งหรอื ผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่อื ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเป็นผ้นู า คุณลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชน้ี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผ้อู ่นื ความซอื่ สัตย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซยี นศึกษา คุณธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ อนุรกั ษ์พลังงานและส่ิงแวดล้อม อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................
๘. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร้)ู ใบงาน เรือ่ ง การเขยี นเรยี งประโยค ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นที่ ๑ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรียน ครูอ่านบทอ่าน เรอื่ ง ฝกึ จงู หางให้นักเรยี นฟัง ๑ รอบ และให้นกั เรียนอา่ นตามครู ขน้ั ที่ ๒ สารวจค้นหา นักเรียนจับค่ฝู กึ อ่านบทอา่ น ฝึกจูงหาง ขัน้ ที่ ๓ หาความหมาย ให้ตวั แทนนักเรยี นออกมาเล่าบทอ่าน เรอ่ื ง ฝึกจงู หางหน้าชน้ั เรียน ๑ คน ให้อาสาสมัครแสดงบทบาทสมมตุ ิประกอบ ขน้ั ท่ี ๔ ความคิดรวบยอด ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันบอกถงึ บทอ่านวา่ เกีย่ วกบั เรอื่ งใด นกั เรียนอยากเป็นตวั ละครใดในบทพรอ้ ม บอกเหตุผลประกอบ ข้นั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นเรียงประโยค ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น)์ ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรยี น
ใบงาน เร่อื ง การเขยี นเรียงประโยค ชือ่ ............................................................................ช้ัน...........เลขท.่ี ........ คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเรียงคาใหเ้ ปน็ ประโยค ๕. ลกู ช้าง บทเรียน ....................................................................................................... ........................................................................................................ ๖. กันไป เดินตาม ....................................................................................................... ........................................................................................................ ๗. วงกลม เดนิ เปน็ ....................................................................................................... ........................................................................................................ ๘. กล้วยอ้อย ไดก้ นิ ....................................................................................................... ........................................................................................................
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑ ๓ ชั่วโมง กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ ๑ เจ้าเนอื้ ออ่ น รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชั่วโมง เรอ่ื ง อา่ นออกเสียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชีวิต และมีนสิ ัยรักการอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อา่ นสะกดคาได้K ๒. อา่ นออกเสียงประโยคได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอ่านเป็นการสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนินชีวติ และช่วย ใหน้ ักเรยี นมีนสิ ัยรกั การอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถสื่อสารกับครูและเพอื่ นได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแกป้ ญั หา - คดิ ตดั สินใจโดยคานึงผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้
๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านสะกดคาได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสยี งประโยคได้ ๕.๓ ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเน้นสูก่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเปน็ ทีมและภาวะผูน้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะดา้ นการสือ่ สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรับตวั การรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์และเป็นตัวของตวั เอง ทักษะสงั คมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม การเป็นผ้สู รา้ งหรอื ผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเช่อื ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คณุ ลักษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ า คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การช้นี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง คุณลักษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซอื่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง
โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซียนศึกษา คณุ ธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนุรกั ษ์พลงั งานและสิง่ แวดล้อม อื่น ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอา่ นบทเรียน เรอื่ ง เจ้าเน้อื อ่อน ใบงาน เรอื่ ง การวาดภาพ สิง่ ทฉี่ ันรกั ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ข้ันที่ ๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน ครูสนทนากับนกั เรยี นเก่ยี วกับการสมาชิกในครอบครวั ของนกั เรยี น ขน้ั ท่ี ๒ สารวจค้นหา ครอู า่ นบทเรยี น เรื่อง เจา้ เนือ้ ออ่ น ให้นกั เรยี นฟังและอ่านตาม ข้ันที่ ๓ หาความหมาย ครยู กตวั อยา่ งคาจากเรื่อง ใหน้ ักเรยี นร่วมกันบอกความหมายของคา ครูให้นักเรียนแบ่งกล่มุ ฝึกอ่านบทเรยี น ขน้ั ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครสู นทนากับนักเรยี นถงึ ความรักท่ีสมาชิกในครอบครัวมีตอ่ เรา ขนั้ ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครใู หน้ ักเรียนวาดภาพสง่ิ ทีน่ ักเรียนรักมากทสี่ ดุ และระบายสใี ห้สวยงาม ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต วรรณคดีลานา ชั้น ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรูใ้ นหรอื นอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยังไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถูกตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรยี นรกู้ ับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ยงั ไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผอู้ านวยการโรงเรยี น
ช่อื ............................................................................ชั้น...........เลขท่ี......... คาช้แี จง ให้นกั เรียนวาดภาพสง่ิ ทีน่ กั เรยี นรักมากท่ีสุดและระบายสีใหส้ วยงาม
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ ๓ ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ เจา้ เนื้ออ่อน รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชั่วโมง เรื่อง การพูดแสดงความคิดเห็น ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๑ ภาคเรียนท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึก ในโอกาสตา่ ง ๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวช้ีวัด ท ๓.๑ ป๑/๓. พูดแสดงความคิดเหน็ และความรู้สึกจากเรื่องทีฟ่ งั และดู ป๑/๔. พดู สอื่ สารได้ตามวัตถุประสงค์ ป๑/๕ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. เขา้ ใจการพูดแสดงความคดิ เห็นจากบทเรยี นได้ K ๒. พูดแสดงความคดิ เหน็ จากบทเรยี นได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึก ช่วยให้เกดิ ความเข้าใจในการสือ่ สารอย่างมีประสทิ ธภิ าพ ๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกบั ครูและเพ่อื นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปัญหา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่ือพัฒนาตนเองดา้ นการเรยี นรู้
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. เข้าใจการพดู แสดงความคิดเห็นจากบทเรียนได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. พูดแสดงความคิดเหน็ จากบทเรียนได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เน้นสู่การพฒั นาคุณภาพผ้เู รียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ ) ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศและรู้เท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลีย่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรบั ตัว การรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง ทกั ษะสงั คมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเป็นผ้สู ร้างหรือผ้ผู ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชอื่ ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลักษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผ้นู า คณุ ลักษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง คุณลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ น่ื ความซอื่ สัตย์ ความสานึกพลเมอื ง
๗. การบูรณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซียนศึกษา คุณธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ อนุรักษพ์ ลงั งานและสิ่งแวดล้อม อน่ื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการพดู แสดงความคดิ เหน็ จากเรอื่ ง ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น ครูทบทวนบทเรียน เร่ือง เจา้ เนื้ออ่อน ข้ันท่ี ๒ สารวจค้นหา ครพู ูดถึงความรักที่พอ่ แม่ คนในครอบครวั ที่มีตอ่ เรา และถามคาถามนักเรยี นเคยไดย้ ินหรือ รู้จกั เพลงกล่อมเดก็ หรือไม่ ถา้ รู้จักให้ยกตัวอย่างประกอบ ขัน้ ท่ี ๓ หาความหมาย ครูให้นกั เรยี นบอกตวั ละครจากเร่ือง และให้นักเรียนตอบว่านกั เรยี นอยากเปน็ ตวั ละครใด พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ ขัน้ ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครูสนทนากบั นกั เรียนถ้านักเรียนได้เล้ียงนอ้ ง นกั เรยี นมวี ิธปี ฏิบัติอยา่ งไรบ้าง ข้ันท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครูใหอ้ าสมัครนักเรียนพดู แสดงความคดิ เหน็ เห็นจากบทเรยี นเรอ่ื ง เจา้ เนอื้ ออ่ น ๑๐. ส่อื การสอน ๑. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวติ วรรณคดลี านา ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนรใู้ นหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศึกษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรยี น
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๓ ๓ ชว่ั โมง กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย หน่วยการเรียนร้ทู ่ี ๑ เจา้ เนื้ออ่อน รายวชิ า ภาษาไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง เรอื่ ง อ่านเขยี นเรียงประโยค ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรียนที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวติ และมีนิสัยรกั การอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความส้ันๆ ท ๔.๑ ป๑/๓. เรียบเรยี งคาเป็นประโยคง่าย ๆ ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. อ่านออกเสียงเพลงกลอ่ มดก็ จากบทเรียนได้ K ๒. เขยี นเรยี งประโยคเพลงกลอ่ มด็กจากบทเรียนได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นเปน็ พ้ืนฐานในการสร้างความร้แู ละความคิดเพ่ือนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการ ดาเนินชีวิต ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครูและเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปัญหา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทม่ี ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปลีย่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงเพลงกล่อมด็กจากบทเรียนได้ ๕.๒ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. เขยี นเรยี งประโยคเพลงกลอ่ มดก็ จากบทเรยี นได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรับตวั การริเริ่มสร้างสรรค์และเป็นตวั ของตัวเอง ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเป็นผสู้ รา้ งหรือผู้ผลิต (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเชือ่ ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา คณุ ลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลักษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อื่น ความซอ่ื สตั ย์ ความสานกึ พลเมือง
๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม อาเซียนศกึ ษา คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ อนุรกั ษพ์ ลงั งานและส่ิงแวดลอ้ ม อ่นื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชิน้ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการเรียงคาจากเพลงกล่อมเดก็ ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นที่ ๑ ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน ครูทบทวนบทเรยี น เร่อื ง เจ้าเน้อื ออ่ น ครสู นทนากับนกั เรียนถงึ เพลงกลอ่ มเด็ก ขั้นท่ี ๒ สารวจค้นหา ครูอ่านเพลงกล่อมเดก็ จากบทเรยี น เร่อื ง เจ้าเนือ้ ออ่ น หนงั สอื เรยี นวรรณคดลี านาช้นั ป.๑ หน้า ๓ ใหน้ ักเรียนฟังและอ่านตามครู นักเรยี นอ่านเนอ้ื เรอื่ งคลอ่ ง ครูพานักเรยี นอา่ นเปน็ บทเพลงเพื่อเพม่ิ ความสนกุ สนานในการเรยี น ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครใู หน้ ักเรียนค้นหาชอ่ื ดอกไมท้ ่ปี รากฏในเร่ือง และร่วมกันตอบ ขน้ั ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครูยกตวั อย่างเพลง เจา้ เน้ือละมนุ และเพลงเจา้ เน้อื อ่อน ๑ ประโยคให้นกั เรยี นต่อเพลงจาก ครโู ดยสามารถดใู นหนังสอื ได้ ขน้ั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครใู ห้นกั เรยี นทาใบงาน เร่ือง การเรยี งประโยคจากเพลงกล่อมเดก็ ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชีวติ วรรณคดีลานา ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรียนรูใ้ นหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................. ๑๔. บันทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร้.ู ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเห็นของหัวหนา้ สถานศกึ ษา/ผทู้ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถ้วนและถกู ต้อง ยงั ไมค่ รบถว้ นหรอื ไม่ถกู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคล้อง ยังไม่สอดคลอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้ เหมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยังไม่เหมาะสมกบั รูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ยังไมค่ รอบคลมุ จุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผูอ้ านวยการโรงเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351