Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

Description: 65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

Search

Read the Text Version

๘. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู)้ กิจกรรมการอา่ นตัวเลขไทย ๖ – ๑๐ ใบงาน เรือ่ ง เลขไทย ๖ – ๑๐ ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ ๑ ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น ครทู บทวนตวั เลข ๑-๕ และสนทนากบั นกั เรยี นถึงตวั เลขเชน่ ใหน้ ักเรยี นอา่ นเลข ๖ - ๑๐ ขั้นท่ี ๒ สารวจคน้ หา นกั เรยี นศึกษาเลขไทยจากหนงั สอื เรียนภาษาพาทชี ัน้ ป.๑ หน้า ๒๖ ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครูตดิ บัตรตวั เลขไทย ๖ - ๑๐ บนกระดาน ครหู ยิบดินสอขน้ึ มา ๗ แทง่ ส่มุ นักเรยี นออกไปหยบิ บัตร ตวั เลขไทยบนกระดานให้ตรงกับจานวนดินสอทคี่ รูหยิบขึ้นมา และให้นกั เรยี นอ่านจานวน ขน้ั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครูให้นกั เรียนเขยี นเลขไทย ๖ - ๑๐ พรอ้ มคาอา่ นลงในสมุด เช่น ๖ อา่ นว่า หก อ่านใหค้ รฟู ัง รายบคุ คล ครตู รวจความถูกตอ้ ง นกั เรียนคนใดเขียนไม่ถูกครูใหค้ าแนะให้นกั เรียนแก้ไขให้ถูกต้อง ขัน้ ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรียนทาใบงาน เรอ่ื ง เลขไทย ๖ - ๑๐ ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนงั สอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ชัน้ ป.๑ ๒. บัตรเลขไทย ๑๑. แหล่งเรยี นรูใ้ นหรอื นอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู.้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมคี วามรูเ้ กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น)์ ตาแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น

บัตรตวั เลขไทย ๖ - ๑๐ ๖๗ ๘๙ ๑๐

ใบงาน เร่ือง เลขไทย ๖ - ๑๐ ช่ือ............................................................................ช้ัน...........เลขท่.ี ........ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นเขียนตวั เลขไทยจากภาพลงใน ใหถ้ ูกต้อง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๓ เพ่อื นกนั ๑๔ ช่วั โมง รายวชิ า ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรอ่ื ง อ่านคลอ่ ง ร้องเล่น ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑ ชว่ั โมง ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชวี ติ และมีนิสยั รักการอ่าน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่อื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบ ต่าง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ตวั ช้วี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสัน้ ๆ ป๑/๒. บอกความหมายของคา และขอ้ ความทอ่ี า่ น ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ท ๒.๑ ป๑/๑ คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งบทอา่ นโยกมา โยกไปได้K ๒. คดั ลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทัดบทอ่านโยกมา โยกไป ได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นบทอ่าน “เพ่อื นลกู ช้าง” เป็นการฝึกประสบการณท์ างภาษา ทง้ั ทาใหเ้ กิดความสนกุ สนานในการ เรียน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - มีความรูค้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครแู ละเพอื่ นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คดิ ตัดสนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากบั การเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงบทอ่าน เพอื่ นลูกชา้ งได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั บทอ่านเพ่อื นลกู ช้างได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได)้  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทางานเปน็ ทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทักษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทนั สอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หยนุ่ และการปรับตวั  การริเริ่มสรา้ งสรรค์และเปน็ ตวั ของตัวเอง  ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม  การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผ้ผู ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชอ่ื ถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คณุ ลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเป็นผ้นู า  คุณลักษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง  คณุ ลกั ษณะดา้ นศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผูอ้ ่นื ความซ่ือสัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม  อาเซียนศึกษา  คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลงั งานและส่งิ แวดล้อม

 อ่นื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นคัดลายมือ เร่ือง เพื่อนลูกช้าง ๙. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ ๑ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น ครอู า่ นบทอ่าน เรอ่ื ง เพอ่ื นลกู ชา้ ง ให้นกั เรยี นฟัง ๑ รอบ และใหน้ ักเรียนอ่านตามครู ขัน้ ที่ ๒ สารวจคน้ หา นกั เรียนจบั คู่ฝึกอ่านบทอ่าน เพือ่ นลูกช้าง ข้ันท่ี ๓ หาความหมาย ใหต้ วั แทนนกั เรยี นออกมาอา่ นบทอา่ น เรอื่ ง เพ่ือนลกู ชา้ ง หน้าช้นั เรียน ๑ คน เพ่ือนฟังและ สังเกตว่าอาสาสมคั รอา่ นถูกตอ้ งหรอื ไม่ ข้ันที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครูให้นกั เรียนรว่ มกันบอกถงึ บทอ่านวา่ เกยี่ วกับเรอ่ื งใด ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นเขียนคดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดจากบทอา่ นเร่อื ง เพื่อนลกู ชา้ ง ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรียนร้ใู นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

ใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นคัดลายมอื “เพอื่ นลูกชา้ ง” ชอ่ื ............................................................................ช้นั ...........เลขท.ี่ ........ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขียนคดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัดจากขอ้ ความท่ีกาหนดให้ เด็ก เดก็ เปน็ เพือ่ น ลูกช้าง ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ลูกชา้ ง เป็น เพ่ือน เด็ก เด็ก ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... ลกู ชา้ ง แม้ ตัว ยัง เลก็ ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... แต่ เด็ก เด็ก ตัว เลก็ กว่า ลกู ชา้ ง ......................................................................................................................... ..........................................................................................................................

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ ๔ ตามหา แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑ รายวิชา ภาษาไทย เรือ่ ง คานาเร่อื ง ๑๕ ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนินชวี ติ และมนี ิสยั รกั การอ่าน ตัวชวี้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเรอ่ื งได้ K ๒. อา่ นสะกดคาจากเรือ่ งได้ P ๓. มีความมงุ่ มัน่ ในการทางาน A ๓. สาระสาคญั การอ่านเปน็ การสร้างความรแู้ ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวติ และช่วยให้ นักเรียนมีนิสยั รักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครแู ละเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คิดตัดสินใจโดยคานงึ ผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ขอ้ มูลเพ่อื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้

๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสยี งคาจากเร่อื งได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นสะกดคาจากเรอ่ื งได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ ม่ันในการทางาน ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยืดหย่นุ และการปรบั ตัว  การรเิ ร่มิ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง  ทกั ษะสังคมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม  การเปน็ ผ้สู รา้ งหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชือ่ ถือได้ (Accountability)  ภาวะผูน้ าและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คณุ ลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผูน้ า  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง  คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อน่ื ความซื่อสัตย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม  อาเซียนศึกษา  คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษ์พลงั งานและสิง่ แวดล้อม  อื่น ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอา่ นคานาเรอ่ื งจากบทเรยี น เร่ือง ตามหา ๙. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ข้ันท่ี ๑ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน ครใู หน้ กั เรียนดภู าพ คานาเร่อื ง จากบทเรียน เร่ือง ตามหา หน้า ๓๔ ขนั้ ท่ี ๒ สารวจค้นหา ให้นักเรยี นสังเกตภาพและรว่ มกนั ตอบวา่ มภี าพอะไรบ้าง ขน้ั ท่ี ๓ หาความหมาย ครูอา่ นคานาเร่ืองจากบทเรียนใหน้ ักเรยี นฟัง ๑ รอบ ให้นกั เรยี นอา่ นตามพรอ้ มกนั ขน้ั ท่ี ๔ ความคิดรวบยอด นักเรยี นจบั คฝู่ กึ อา่ นคานาเร่อื งจากบทเรียน ครใู ห้คาแนะนาและฝึกอา่ นนกั เรียนทีอ่ ่านไม่คล่อง ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทดสอบการอ่านคานาเรอ่ื งรายบุคคล ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชวี ิต ภาษาพาที ชนั้ ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรียนรู้ในหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ ๔ ตามหา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๒ รายวิชา ภาษาไทย เรือ่ ง การอา่ นออกเสียง ๑๕ ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชวั่ โมง ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตดั สินใจ แก้ปญั หาในการ ดาเนนิ ชวี ิตและมนี ิสยั รักการอ่าน ตวั ชีว้ ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๔. เล่าเรอ่ื งยอ่ จากเร่ืองที่อา่ น ป๑/๕. คาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเร่ืองท่ีอา่ น ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. อ่านออกเสียงคาจากเรอื่ งได้ K ๒. อ่านสะกดคาจากเรอื่ งได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้A ๓. สาระสาคญั การอ่านเป็นการสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวิต และช่วยให้ นักเรยี นมนี สิ ัยรักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความร้คู วามเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครูและเพือ่ นได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คดิ ตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ข้อมูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้

๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสยี งคาจากเรือ่ งได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านสะกดคาจากเรอ่ื งได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จดุ เน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทักษะด้านการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะด้านความร่วมมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการสอ่ื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสื่อ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หยุ่นและการปรับตัว  การรเิ ริม่ สร้างสรรค์และเป็นตวั ของตัวเอง  ทกั ษะสงั คมและสงั คมขา้ มวฒั นธรรม  การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผู้ผลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชือ่ ถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คณุ ลักษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผ้นู า  คณุ ลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชนี้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง  คณุ ลกั ษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ่นื ความซ่ือสตั ย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศึกษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซียนศึกษา  คณุ ธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษ์พลังงานและสิ่งแวดลอ้ ม  อนื่ ๆ (ระบ)ุ ..................................................................................................................

๘. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอา่ นออกเสยี งบทเรยี น เร่ือง ตามหา ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขั้นนาเขา้ สู่บทเรยี น ครูสนทนากบั นกั เรยี นใหน้ ักเรียนดูภาพจากบทเรียน เร่อื ง ตามหา หน้า ๓๕ - ๓๖ ข้ันที่ ๒ สารวจค้นหา ให้นกั เรียนตอบว่าภาพจากบทเรยี นนีเ้ ก่ยี วกบั อะไร เน้อื เรอื่ งควรจะเป็นอย่างไร ข้นั ที่ ๓ หาความหมาย ครอู า่ นบทเรยี นเรอื่ ง ตามหา ใหน้ ักเรียนฟัง ให้นักเรยี นอา่ นตามครพู รอ้ มกัน นักเรียนแบ่งกลุ่ม แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ฝกึ อา่ นบทเรียน เรอื่ ง ตามหา นกั เรียนคนใดอา่ นไม่คล่อง เพ่ือนในกลมุ่ คอยช่วยเหลือให้คาแนะนา ถ้าคาน้นั เพอื่ นในกลุ่มอ่านไมไ่ ดค้ รูคอยให้คาแนะนาเพ่มิ เติม ขนั้ ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ตวั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เลา่ เรอื่ งจากการอา่ นบทเรยี น นกั เรยี นรว่ มกันตอบว่าจากบทเรยี นมี ละครใดบ้าง นกั เรียนอยากเปน็ ตัวละครใดในเร่อื ง เพราะเหตใุ ด ข้ันที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทดสอบการอา่ นออกเสยี งบทเรียนเปน็ รายบุคคล ครูใหน้ กั เรียนทาแบบฝึกหดั เร่ือง ตามหา จากหนงั สอื แบบฝกึ หัดรายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ทักษะภาษา ช้นั ป.๑ เล่ม ๑ หน้า ๕๙ - ๖๐ ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ชั้น ป.๑ ๒. หนงั สือแบบฝึกหดั รายวิชาพน้ื ฐาน ภาษาไทยทักษะภาษา ช้ัน ป.๑ เล่ม ๑ ๑๑. แหล่งเรียนร้ใู นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นักเรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมีความรู้เกิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ ๓ หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี ๔ ตามหา ๑๕ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรื่อง อา่ นออกเสยี งอักษรสงู (ข ฉ ถ ผ ส ห) ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒ ชว่ั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรักการอา่ น ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกพยัญชนะอักษรสงู ได้ K ๒. อ่านออกเสยี งพยญั ชนะอกั ษรสงู ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคญั การอ่านเป็นการสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และช่วยให้ นกั เรียนมีนิสยั รักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - มีความรคู้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกับครูและเพ่อื นได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปญั หา - คิดตดั สินใจโดยคานึงผลกระทบทม่ี ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากบั การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นข้อมูลเพ่อื พฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรสงู ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรสูงได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว  การริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตัวเอง  ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม  การเป็นผสู้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คุณลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง  คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อ่ืน ความซอ่ื สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม  อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอ่านออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรสงู (ข ฉ ถ ผ ส ห) ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันท่ี ๑ ข้นั นาเขา้ ส่บู ทเรียน ครสู นทนากบั นักเรยี นถงึ อกั ษรสงู ที่นักเรียนไดเ้ รียนมาว่าอกั ษรสงู มพี ยัญชนะใดบา้ ง ชัว่ โมงน้ี นักเรยี นจะไดเ้ รยี นรู้อักษรสูงอกี ๑ ตัว ข้นั ที่ ๒ สารวจค้นหา ครตู ิดบัตรพยญั ชนะอกั ษรสงู ถ บนกระดาน ครูใหน้ ักเรียนสังเกตพยญั ชนะ ครถู ามคาถามนกั เรียนคิดวา่ วา่ พยัญชนะบัตรคาทค่ี รูตดิ บน กระดานเป็นอักษรกลาง อกั ษรสงู หรอื อกั ษรตา่ ถ้านักเรยี นตอบผิดครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ให้นกั เรียน เขา้ ใจว่า บัตรคาท่ีครตู ิดบนกระดานนัน้ คอื อักษรสงู ใหน้ ักเรยี นทอ่ งจาเพอ่ื ให้เกดิ การจาอกั ษรสูงได้ ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครูอา่ นพยัญชนะอักษรสงู ให้นกั เรียนฟงั ๑ รอบ ดังนี้ ข อ่านวา่ ขอ ฉ อ่านวา่ ฉอ ถ อ่านว่า ถอ ผ อา่ นว่า ผอ ส อ่านวา่ สอ ห อ่านวา่ หอ ขนั้ ที่ ๔ ความคิดรวบยอด นักเรียนอ่านพยญั ชนะอกั ษรสงู พรอ้ มกนั ๑ รอบ ขนั้ ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นจับคู่ รว่ มกนั ฝกึ อ่านออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรสูงนกั เรยี นคนใดอา่ นผดิ เพ่ือนในกลมุ่ ชว่ ยกันฝกึ อา่ น ครูใหค้ าแนะนาเพ่มิ เตมิ ๑๐. ส่อื การสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้น ป.๑ ๒. บัตรพยญั ชนะ ๑๑. แหล่งเรยี นรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู้.....................คน คิดเป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๔ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๔ ตามหา ๑๕ ช่ัวโมง รายวิชา ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เร่ือง อ่านออกเสยี งอกั ษรต่า (ค ง ช ท ธ น พ ภ ม ย ร ล ว) ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒ ช่ัวโมง ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนินชีวติ และมนี สิ ัยรกั การอ่าน ตัวช้ีวัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความสนั้ ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกพยัญชนะอักษรต่าได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งพยัญชนะอกั ษรตา่ ได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอ่านเป็นการสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนินชีวิต และช่วยให้ นกั เรยี นมีนิสัยรักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มคี วามร้คู วามเข้าใจและสามารถสอื่ สารกับครแู ละเพื่อนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวเิ คราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแก้ปัญหา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานึงผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ข้อมูลเพื่อพัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรตา่ ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรตา่ ได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว  การริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง  ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม  การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง  คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อ่ืน ความซอ่ื สัตย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม  อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู)้ กิจกรรมการอ่านออกเสยี งพยญั ชนะอักษรต่า (ค ท ธ น ย) ๙. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี ๑ ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรียน คา ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันทบทวนอกั ษรตา่ ทีเ่ คยเรียนมา ว่ามีพยญั ชนะใดบ้าง ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา ครูใหอ้ าสาสมัครนักเรียนชบู ตั รพยัญชนะอกั ษรตา่ ค ท ธ น ย หนา้ ชนั้ เรียน ครใู หน้ ักเรยี นสังเกตพยญั ชนะ ครูถามคาถามนกั เรียนคิดว่าว่าพยญั ชนะบัตรคาหน้าชั้นเรยี น เป็นอกั ษรกลาง อกั ษรสูง หรอื อักษรต่า ถา้ นกั เรียนตอบผิดครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ให้นกั เรียนเข้าใจวา่ บัตร ท่คี รชู ูน้นั คอื อกั ษรตา่ ให้นักเรยี นท่องจาเพื่อใหเ้ กิดการจาอกั ษรตา่ ได้ ขนั้ ท่ี ๓ หาความหมาย ครใู หน้ ักเรยี นอ่านพยัญชนะอักษรต่าท่ีเรยี นในช่ัวโมงที่แล้ว ๑ รอบ ดังนี้ ง อา่ นว่า งอ พ อา่ นว่า พอ ภ อ่านวา่ พอ ม อ่านว่า มอ ร อา่ นวา่ รอ ล อา่ นว่า ลอ ครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ ถงึ อักษรตา่ คอื ในชว่ั โมงนี้นักเรยี นจะมาเรียนร้อู ักษรต่าเพม่ิ อีก ๕ พยัญชนะ คอื ค ท ธ น ย และอ่านออกเสียงให้นกั เรียนฟงั ๑ รอบ ให้นกั เรียนอา่ นตาม ดังน้ี ค อา่ นว่า คอ ท อ่านวา่ ทอ ธ อา่ นวา่ ทอ น อ่านวา่ นอ ย อา่ นว่า ยอ ขน้ั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด นกั เรยี นอา่ นพยญั ชนะอกั ษรต่าพรอ้ มกัน ๒ รอบ ขัน้ ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนฝึกอ่านออกเสียงพยัญชนะอกั ษรตา่ นักเรยี นคนใดอา่ นผดิ เพื่อนรว่ มหอ้ งชว่ ยกนั ฝึก อา่ นใหถ้ ูกตอ้ ง ครูให้คาแนะนาเพิม่ เติม ๑๐. สอื่ การสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ช้ัน ป.๑ ๒. บตั รพยัญชนะ ๑๑. แหล่งเรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐

๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร้.ู ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................ ๒. นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมีความรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ต้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๔ ตามหา แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๕ รายวิชา ภาษาไทย เรอ่ื ง สระ โอ ๑๕ ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชว่ั โมง ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ยั รักการอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาติ ตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้นั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ๒. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกรปู สระ โอ ได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งคาทม่ี ีสระ โอ ได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ สระคอื เคร่อื งหมายใชแ้ ทนเสียงทีเ่ ปล่งออกมาตามหลักภาษา ชว่ ยให้อ่านออกเสยี งได้ถูกต้องเปน็ การสรา้ ง ความรแู้ ละความคิดเพอื่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจในการออกเสยี งในชวี ิตประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มคี วามร้คู วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกบั ครแู ละเพอ่ื นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแกป้ ญั หา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากับการเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรปู สระโอ ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสยี งคาท่ีประสมสระ โอ ได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อา่ นออก)  (W) Riting (เขียนได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะด้านความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยืดหยนุ่ และการปรบั ตวั  การริเร่ิมสรา้ งสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง  ทักษะสงั คมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม  การเปน็ ผ้สู ร้างหรือผ้ผู ลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผูน้ า  คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง  คณุ ลกั ษณะด้านศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซอื่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรยี นคุณธรรม  อาเซยี นศึกษา  คณุ ธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ

 อนุรกั ษพ์ ลงั งานและสิง่ แวดลอ้ ม  อืน่ ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอ่านคาที่ประสมสระโอ ใบงาน เร่อื ง สระ โอ ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรยี น ครสู นทนากบั นกั เรยี นถงึ สระในภาษาไทยครยู กตวั อยา่ งคาวา่ โม ใหน้ ักเรยี นร่วมกนั ตอบว่า สระใดปรากฎในคาน้ี ขนั้ ท่ี ๒ สารวจค้นหา นกั เรยี นศกึ ษาความรู้ เรื่อง สระ โอ จากหนังสือเรยี นภาษาพาทีชั้นป.๑ หน้า ๓๗ ขัน้ ที่ ๓ หาความหมาย ครอู ่านสระ โอ ให้นักเรยี นและนกั เรยี นอา่ นตามครู คือ โ- อา่ นว่า โอ ครูทดสอบการออกเสียงของ นักเรียนรายบุคคล ขน้ั ที่ ๔ ความคิดรวบยอด ใหน้ กั เรยี นยกตัวอยา่ งคาทีม่ สี ระ โอ คนละ ๒ คา และสะกดคาด้วยปากเปลา่ ขัน้ ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง สระ โอ ๑๐. ส่อื การสอน ๑. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชวี ติ ภาษาพาที ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนรู้ในหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมุดโรงเรียน ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรกู้ ับหลกั สูตรสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรยี น

ใบงาน เร่อื ง สระ โอ ช่อื ............................................................................ช้ัน...........เลขที่......... คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนเขยี นแจกลูกสะกดคา จากคาท่ีกาหนดให้ บ้านสระ โอ คา พยญั ชนะ สระ สะกดว่า อ่านวา่ โตตวั อย่าง ต โ- ตอ - โอ โต โค ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ ........................................... ........................................... ........................................... ........................................... โจ ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ ........................................... ........................................... ........................................... ........................................... โย ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ โข ........................................... ........................................... ........................................... ........................................... ............................................ ............................................ ............................................ ............................................ ........................................... ........................................... ........................................... ...........................................

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ ตามหา แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๖ รายวิชา ภาษาไทย เร่อื ง สระ ไอ ๑๕ ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ ๑ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนสิ ัยรักการอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความส้ันๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกรปู สระ ไอ ได้ K ๒. อ่านออกเสียงคาที่ประสมสระ ไอ ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคญั สระคอื เคร่อื งหมายใชแ้ ทนเสียงทเ่ี ปล่งออกมาตามหลกั ภาษา ชว่ ยให้อา่ นออกเสียงได้ถูกต้องเปน็ การสรา้ ง ความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจในการออกเสียงในชีวิตประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่อื สารกับครูและเพ่ือนได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแก้ปัญหา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลเพอื่ พฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรปู สระไอ ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสยี งคาท่ปี ระสมสระ ไอ ได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อา่ นออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลีย่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยืดหยุ่นและการปรับตวั  การริเร่ิมสร้างสรรคแ์ ละเป็นตัวของตัวเอง  ทักษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม  การเปน็ ผ้สู ร้างหรอื ผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผูน้ า  คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้นี าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง  คณุ ลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซอื่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซยี นศึกษา  คณุ ธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ

 อนุรกั ษพ์ ลงั งานและส่งิ แวดล้อม  อืน่ ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร้)ู กจิ กรรมการอา่ นคาท่ีประสมสระไอ ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี ๑ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน ครสู นทนากับนกั เรียนถงึ สระในภาษาไทยครยู กตวั อยา่ งคาวา่ ไป ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันตอบวา่ สระใดปรากฎในคานี้ ข้นั ท่ี ๒ สารวจคน้ หา นกั เรียนศกึ ษาความรู้ เรอ่ื ง สระ ไอ จากหนังสือเรยี นภาษาพาทชี ้ันป.๑ หนา้ ๓๗ ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครอู ่านสระ ไอ ใหน้ กั เรยี นและนักเรียนอ่านตามครู คือ ไ- อา่ นวา่ ไอ ไ- เรยี กวา่ สระ ไอ ไมม้ ลาย ครทู ดสอบการออกเสยี งของนักเรียนรายบคุ คล ข้ันท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างคาที่ประสมด้วยสระ ไอ คนละ ๒ คา และสะกดคาดว้ ยปากเปล่า ข้นั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ใหน้ ักเรียนค้นหาคาทป่ี ระสมด้วยสระ ไอ จากบทเรียนแล้วตอบครูดว้ ยปากเปล่าคนละ ๑ คา นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั เรอ่ื ง สระ ไอ ครตู รวจสอบความถูกตอ้ งช่ืนชมผลงานนักเรียน ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่ือชวี ติ ภาษาพาที ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นร้ใู นหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกต้อง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลมุ จุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น

ใบงาน เรอื่ ง สระ ไ- (ไมม้ ลาย) ชื่อ............................................................................ชั้น...........เลขท.่ี ........ คาชี้แจง ให้นกั เรียนเขียนคาท่ีประสมด้วยสระ ไ-(ไม้มลาย) ลงในวงกลม และระบายสใี หส้ วยงาม และฝกึ อา่ น ........... ........... ........... ........... ........ ........... ........... ........... ........... ............ ..........

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๔ ตามหา แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๗ รายวิชา ภาษาไทย เร่อื ง สระ ใอ ๑๕ ชั่วโมง ภาคเรยี นที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนสิ ัยรักการอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตวั ชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้ันๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกรปู สระ ใอ ได้ K ๒. อ่านออกเสียงคาท่ีประสมสระ ใอ ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคญั สระคอื เคร่อื งหมายใชแ้ ทนเสียงทเ่ี ปล่งออกมาตามหลกั ภาษา ช่วยให้อา่ นออกเสียงได้ถูกต้องเปน็ การสรา้ ง ความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจในการออกเสยี งในชีวิตประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครูและเพ่ือนได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแก้ปัญหา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชีวิตประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรปู สระใอ ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านออกเสยี งคาทปี่ ระสมสระ ใอ ได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลีย่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยืดหยุ่นและการปรับตวั  การริเร่ิมสร้างสรรคแ์ ละเป็นตัวของตัวเอง  ทักษะสังคมและสงั คมขา้ มวัฒนธรรม  การเปน็ ผ้สู ร้างหรอื ผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเช่ือถือได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผูน้ า  คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง  คณุ ลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซอื่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซยี นศึกษา  คณุ ธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ

 อนรุ กั ษพ์ ลงั งานและสิง่ แวดล้อม  อนื่ ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กิจกรรมการอา่ นคาท่ีประสมสระใอ ใบงาน เร่อื ง สระ ใอ ไอ ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี ๑ ข้ันนาเขา้ สู่บทเรียน ครสู นทนากับนกั เรียนถงึ สระในภาษาไทยครูยกตวั อยา่ งคาว่า ใจ ให้นกั เรยี นร่วมกนั ตอบวา่ สระใดปรากฏในคานี้ ขัน้ ท่ี ๒ สารวจค้นหา นักเรียนศกึ ษาความรู้ เรอ่ื ง สระ ใอ จากหนงั สอื เรยี นภาษาพาทีชนั้ ป.๑ หนา้ ๓๗ ขน้ั ที่ ๓ หาความหมาย ครูอ่านสระ ใอ ให้นกั เรยี นและนักเรยี นอ่านตามครู คือ ใ- อา่ นวา่ ใอ ใ- เรยี กว่า สระ ใอ ไมม้ ้วน ครทู ดสอบการออกเสยี งของนกั เรยี นรายบคุ คล ขั้นท่ี ๔ ความคิดรวบยอด ให้นักเรียนยกตัวอยา่ งคาที่ประสมดว้ ยสระ ใอ คนละ ๒ คา และสะกดคาด้วยปากเปลา่ ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ให้นักเรียนทาใบงาน เรือ่ ง สระ ไอ ใอ ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ป.๑ ๑๑. แหล่งเรยี นร้ใู นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวดั และประเมินผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทึกผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร้.ู ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมคี วามรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรียนมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มคี วามคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

ใบงาน เร่อื ง สระ ไอ (ไม้มลาย) ใอ (ไมม้ ว้ น) ช่อื ............................................................................ช้ัน...........เลขท่ี......... คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนเขียนคาที่ประสมดว้ ยสระจากคาทกี่ าหนดให้ ........................ ........................ ใน ........................ ........................ ........................ ........................ ไป ........................ ........................ ........................ ........................ ........................ ........................

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๘ หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๔ ตามหา ๑๕ ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เร่อื ง ทบทวนเลขไทย (๑ – ๑๐) ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปญั หาในการ ดาเนินชีวติ และมนี สิ ยั รกั การอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกตวั เลขไทยได้ K ๒. เขียนตวั เลขไทยได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอ่านเป็นการสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนินชวี ิต และช่วยให้ นกั เรียนมนี ิสัยรกั การอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มคี วามร้คู วามเข้าใจและสามารถส่อื สารกับครูและเพอื่ นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ัญหา - คดิ ตดั สินใจโดยคานงึ ผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook