- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มูลเพอื่ พฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกตวั เลขไทยได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. เขยี นตัวเลขไทยได้ ๕.๓ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จุดเน้นสู่การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความร่วมมอื การทางานเปน็ ทีมและภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สอื่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหย่นุ และการปรบั ตัว การรเิ ริ่มสร้างสรรคแ์ ละเป็นตัวของตัวเอง ทกั ษะสงั คมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม การเปน็ ผสู้ รา้ งหรือผ้ผู ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเช่ือถือได้ (Accountability) ภาวะผูน้ าและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผูน้ า คณุ ลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชน้ี าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรูข้ องตนเอง คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซอ่ื สตั ย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซยี นศกึ ษา คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ
อนรุ กั ษ์พลงั งานและส่ิงแวดลอ้ ม อ่นื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร้)ู กิจกรรมการอา่ นตวั เลขไทย ๑ - ๑๐ ใบงาน เร่อื ง ตัวเลขไทย ๑ - ๑๐ ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ ที่ ๑ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น ครูทบทวนตวั เลขไทย ๑ - ๑๐ ทีน่ กั เรียนเคยเรยี นมา ขัน้ ท่ี ๒ สารวจคน้ หา ครูต้งั คาถามวา่ นกั เรยี นหญงิ ในหอ้ งมกี คี่ นให้นกั เรียนช่วยกันนับ และให้ตัวแทนออกมาเขยี น จานวนนกั เรยี นหญงิ เปน็ เลขไทยบนกระดาน ครูใหน้ กั เรียนรว่ มกนั บอกคาอ่านจานวนทต่ี วั แทนออกมาเขียนจานวนหน้าชน้ั เรยี น เช่น นักเรียน หญิงมี ๙ คน อ่านว่า เกา้ ข้ันท่ี ๓ หาความหมาย ครูเขียนเลขอารบคิ บนกระดานให้นกั เรยี นร่วมกนั ตอบวา่ สามารถเขยี นเป็นเลขไทยไดอ้ ย่างไร เช่น 3 เขยี นเปน็ เลขไทย ๓ อา่ นวา่ สาม ขัน้ ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครูทดสอบการเขยี นเลขไทยรายบุคคล ขัน้ ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทาใบงาน เรื่อง เลขไทย ๑ - ๑๐ ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนงั สือเรียน รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพือ่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ป.๑ ๑๑. แหล่งเรยี นร้ใู นหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นร.ู้ ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................ ๒. นักเรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเหน็ ดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลกั สูตรสถานศึกษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรยี น
ใบงาน เรอื่ ง เลขไทย ๑ - ๑๐ ช่ือ............................................................................ชน้ั ...........เลขท่.ี ........ คาชีแ้ จง ให้นกั เรียนเขียนเลขไทยและคาอา่ น สอง ..................... เกา้ เจด็ ..................... ..................... ..................... ..................... ..................... ๓ ..................... ..................... หก .................... สบิ ..................... ..................... ..................... ..................... ๘ ..................... ..................... หน่งึ สี่ ..................... ..................... ..................... ๕ ..................... .....................
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๙ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๔ ตามหา ๑๕ ช่ัวโมง รายวิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรอ่ื ง อา่ นคลอ่ ง รอ้ งเล่น ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑ ชวั่ โมง ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรักการอ่าน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสอ่ื สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเร่อื งราวในรปู แบบ ตา่ ง ๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ คว้าอย่างมปี ระสิทธภิ าพ ตัวช้วี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๒. บอกความหมายของคา และข้อความท่ีอา่ น ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ท ๒.๑ ป๑/๑ คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทดั ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงบทอ่าน โปก๊ เป๊กได้K ๒. คดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัดบทอา่ น โปก๊ เปก๊ ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคญั การอา่ นบทอา่ น “โป๊กเป๊ก” เปน็ การฝึกประสบการณ์ทางภาษา ทง้ั ทาให้เกดิ ความสนกุ สนานในการเรียน ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถสื่อสารกับครแู ละเพ่ือนไดอ้ ยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สร้างองคค์ วามร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแก้ปัญหา - คดิ ตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบทีม่ ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวันได้อย่างเหมาะสม - ปรบั ตวั ใหเ้ ข้ากับการเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นข้อมูลเพ่ือพฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสียงบทอ่าน โปก๊ เปก๊ ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. คัดลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทดั บทอา่ นโป๊กเปก๊ ได้ ๕.๓ ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขียนได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทีมและภาวะผูน้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะดา้ นการสื่อสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทนั สอื่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลีย่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยุน่ และการปรับตวั การริเร่มิ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตัวของตวั เอง ทกั ษะสงั คมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม การเปน็ ผสู้ ร้างหรือผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเช่ือถอื ได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเปน็ ผ้นู า คุณลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชน้ี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลกั ษณะด้านศีลธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ ื่น ความซื่อสัตย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซียนศกึ ษา คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนุรักษพ์ ลงั งานและสิง่ แวดล้อม อืน่ ๆ (ระบุ)..................................................................................................................
๘. ช้ินงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) ใบงาน เรื่อง การเขยี นคัดลายมือ เรื่อง โปก๊ เป๊ก ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขนั้ ท่ี ๑ ขัน้ นาเขา้ ส่บู ทเรียน ครอู ่านบทอ่าน เร่อื ง โปก๊ เปก๊ ให้นักเรียนฟงั ๑ รอบ และให้นกั เรียนอ่านตามครู ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา นกั เรียนจับคฝู่ ึกอ่านบทอ่าน โปก๊ เปก๊ ขน้ั ท่ี ๓ หาความหมาย ให้ตัวแทนนักเรยี นออกมาอา่ นบทอ่าน เรอ่ื ง โป๊กเปก๊ หน้าชัน้ เรียน ๑ คน เพือ่ นฟงั และ สังเกตวา่ อาสาสมัครอ่านถูกตอ้ งหรอื ไม่ ขัน้ ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครใู หน้ กั เรียนร่วมกนั บอกถงึ บทอา่ นว่าเกย่ี วกับเรอื่ งใด ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทดสอบการอ่านบทอ่าน เรื่อง โป๊กเปก๊ รายบุคคล ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพือ่ ชวี ติ ภาษาพาที ช้ัน ป.๑ ๑๑. แหล่งเรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมีความรู้ความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มคี วามคดิ เห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกต้อง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ต้อง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจัดการเรยี นรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผ้เู รียนเป็นสาคัญ ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยงั ไมค่ รอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผ้อู านวยการโรงเรียน
หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕ ไปโรงเรยี น แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๑ รายวชิ า ภาษาไทย เร่ือง คานาเร่ือง ๑๒ ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ ๑ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนสิ ยั รกั การอ่าน ตัวชว้ี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงคาจากเรอ่ื งได้ K ๒. อา่ นสะกดคาจากเร่ืองได้ P ๓. มีความมุ่งมั่นในการทางาน A ๓. สาระสาคญั การอา่ นเป็นการสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และช่วยให้ นักเรยี นมีนิสัยรกั การอ่าน ๔. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความรูค้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครแู ละเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คิดตัดสนิ ใจโดยคานึงผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ขอ้ มูลเพ่อื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเร่อื งได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นสะกดคาจากเรอ่ื งได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ ม่ันในการทางาน ๖.จดุ เน้นสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหย่นุ และการปรบั ตัว การริเริม่ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง ทกั ษะสงั คมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม การเปน็ ผ้สู รา้ งหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชือ่ ถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผูน้ า คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง คุณลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อน่ื ความซื่อสัตย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซียนศึกษา คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนรุ กั ษ์พลังงานและสิง่ แวดล้อม อื่น ๆ (ระบุ)..................................................................................................................
๘. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอ่านคานาเรอ่ื งจากบทเรียน เรอ่ื ง ไปโรงเรยี น ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี ๑ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพ คานาเรอ่ื ง จากบทเรียน เร่อื ง ไปโรงเรียน หนา้ ๔๔ ขั้นที่ ๒ สารวจค้นหา ใหน้ ักเรียนสงั เกตภาพและร่วมกนั ตอบวา่ มภี าพอะไรบา้ ง นกั เรยี นมีส่งิ ใดเหมือนในภาพบ้าง ขน้ั ที่ ๓ หาความหมาย ครอู า่ นคานาเรอ่ื งจากบทเรียนให้นกั เรียนฟงั ๑ รอบ ใหน้ ักเรียนอา่ นตามพรอ้ มกนั ขน้ั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด นกั เรียนจบั คู่ฝกึ อา่ นคานาเร่ืองจากบทเรียน ครใู ห้คาแนะนาและฝกึ อ่านนกั เรยี นทีอ่ ่านไมค่ ลอ่ ง ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนทดสอบการอา่ นคานาเรือ่ งรายบคุ คล ครูชมเชยการอ่านออกเสยี งของนักเรยี น เพือ่ กระตุ้น ใหน้ กั เรียนเกดิ แรงบนั ดาลใจในการอ่าน ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพ้นื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนร้ใู นหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหน่งครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ ไปโรงเรียน แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๒ รายวชิ า ภาษาไทย เรื่อง การอา่ นออกเสียง ๑๒ ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชว่ั โมง ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรูแ้ ละความคดิ เพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการ ดาเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ยั รกั การอ่าน ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้นั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ป๑/๔. เล่าเรื่องย่อจากเร่อื งท่ีอา่ น ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเรื่องได้ K ๒. อ่านสะกดคาจากเร่ืองได้ P ๓. มีมารยาทในการอ่านA ๓. สาระสาคญั การอ่านเปน็ การสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชวี ิต และช่วยให้ นักเรยี นมีนิสยั รกั การอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - มคี วามรู้ความเข้าใจและสามารถสอื่ สารกบั ครูและเพือ่ นได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คิดตัดสนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื ค้นขอ้ มูลเพ่ือพัฒนาตนเองดา้ นการเรยี นรู้
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสยี งคาจากเรอื่ งได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านสะกดคาจากเรือ่ งได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มมี ารยาทในการอา่ น ๖.จดุ เนน้ สกู่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขียนได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สื่อ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลี่ยนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ ความยืดหยุน่ และการปรับตัว การรเิ ร่ิมสร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตัวเอง ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม การเป็นผสู้ ร้างหรอื ผู้ผลิต (Productivity) และความรบั ผิดชอบเชื่อถือได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คุณลักษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ า คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คณุ ลักษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซ่อื สตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง โครงการโรงเรียนคุณธรรม อาเซยี นศกึ ษา คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนุรักษ์พลังงานและส่ิงแวดล้อม
อ่นื ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอา่ นออกเสยี งบทเรียน เร่ือง ไปโรงเรียน ๙. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขน้ั นาเข้าสู่บทเรยี น ครสู นทนากับนักเรยี นให้นกั เรียนดภู าพจากบทเรียน เรอ่ื ง ไปโรงเรยี น หน้า ๔๕ - ๔๖ ขนั้ ท่ี ๒ สารวจค้นหา ใหน้ ักเรยี นตอบว่าภาพจากบทเรยี นนี้เกยี่ วกบั อะไร เนื้อเรอื่ งควรจะเปน็ อยา่ งไร ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครอู ่านบทเรยี นเร่ือง ไปโรงเรียน ใหน้ กั เรียนฟงั ใหน้ ักเรยี นอ่านตามครพู ร้อมกัน นกั เรยี นแบง่ กล่มุ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ฝกึ อา่ นบทเรียน เรือ่ ง ไปโรงเรยี น นกั เรยี นคนใดอ่านไม่คลอ่ ง เพ่อื นในกลุ่มคอยชว่ ยเหลอื ใหค้ าแนะนา ถา้ คาน้นั เพื่อนในกลุ่มอ่านไม่ได้ครคู อยใหค้ าแนะนาเพ่มิ เติม ขน้ั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เล่าเรอ่ื งจากการอา่ นบทเรยี น ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ แสดงบทบาทสมมตุ ิจากเรอ่ื ง ไปโรงเรยี น หน้าชน้ั เรียน ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทดสอบการอ่านออกเสียงบทเรียนเป็นรายบคุ คล ครูให้นกั เรยี นทาแบบฝกึ หดั เรอ่ื ง ไปโรงเรยี น จากหนงั สอื แบบฝกึ หัดรายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ทกั ษะภาษา ชัน้ ป.๑ เล่ม ๑ หนา้ ๗๑ - ๗๒ ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๒. หนังสือแบบฝกึ หดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทยทักษะภาษา ช้นั ป.๑ เล่ม ๑ ๑๑. แหล่งเรยี นร้ใู นหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรยี นจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................ ๒. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรียนมีความรเู้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มีความคดิ เห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไม่ครบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรยี น
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๓ หน่วยการเรียนรูท้ ่ี ๕ ไปโรงเรียน ๑๒ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอ่ื ง อ่านออกเสยี งอกั ษรสงู (ฃ ฐ ฝ ศ ษ) ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒ ช่วั โมง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ยั รักการอ่าน ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้ันๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรสงู ได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งพยัญชนะอักษรสูงได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การอา่ นเปน็ การสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชวี ิต และชว่ ยให้ นกั เรยี นมนี ิสัยรักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มคี วามรูค้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกับครแู ละเพ่อื นได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแกป้ ัญหา - คดิ ตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบทีม่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้อย่างเหมาะสม - ปรับตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรียนรู้
๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรสงู ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรสูงได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสื่อ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว การริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม การเป็นผสู้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability) ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อ่ืน ความซอ่ื สัตย์ ความสานกึ พลเมือง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง โครงการโรงเรียนคุณธรรม อาเซยี นศกึ ษา คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสงิ่ แวดล้อม อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................
๘. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร้)ู กจิ กรรมการอ่านออกเสียงพยัญชนะอักษรสูง (ฃ ฐ ฝ ศ ษ) ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันที่ ๑ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรยี น ครูสนทนากับนักเรียนถงึ อักษรสูงที่นกั เรยี นได้เรยี นมาวา่ อักษรสงู มีพยัญชนะใดบา้ ง ชวั่ โมงน้ี นกั เรยี นจะได้เรียนรอู้ กั ษรสงู อกี ๕ ตวั ข้นั ที่ ๒ สารวจคน้ หา ครตู ดิ บัตรคาพยญั ชนะอักษรสงู ฃ ฐ ฝ ศ ษ บนกระดาน ครใู หน้ ักเรียนสังเกตพยญั ชนะ ครถู ามคาถามนักเรียนคิดวา่ ว่าพยญั ชนะบตั รคาที่ครูติดบน กระดานเปน็ อักษรกลาง อกั ษรสูง หรอื อักษรตา่ ถ้านักเรียนตอบผดิ ครูอธิบายเพิม่ เติมใหน้ กั เรียน เขา้ ใจว่า บัตรคาท่ีครตู ดิ บนกระดานนั้นคอื อกั ษรสงู ใหน้ ักเรียนทอ่ งจาเพือ่ ให้เกดิ การจาอักษรสงู ได้ ขัน้ ท่ี ๓ หาความหมาย ครอู า่ นพยญั ชนะอกั ษรสูงใหน้ กั เรยี นฟงั ๑ รอบ ดังน้ี ฃ อ่านว่า ฃอ ฐ อ่านว่า ถอ ฝ อ่านวา่ ฝอ ศ อา่ นว่า สอ ษ อ่านวา่ สอ ขั้นท่ี ๔ ความคิดรวบยอด นกั เรยี นอา่ นพยญั ชนะอกั ษรสงู พร้อมกนั ๑ รอบ ขน้ั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรียนจบั คู่ ร่วมกนั ฝึกอ่านออกเสยี งพยัญชนะอกั ษรสงู นักเรยี นคนใดอ่านผิดเพอื่ นในกลมุ่ ชว่ ยกันฝึกอ่าน ครใู หค้ าแนะนาเพม่ิ เติม ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพอื่ ชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ป.๑ ๒. บตั รพยัญชนะ ๑๑. แหล่งเรียนรูใ้ นหรือนอกสถานที่ ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมินผล - สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ................ ๒. นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความร้เู กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ ไปโรงเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๔ รายวชิ า ภาษาไทย เรื่อง สระ ออื ๑๒ ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ช่วั โมง ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิดเพอื่ นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนินชวี ติ และมนี สิ ยั รักการอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสั้นๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอ่าน ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกรปู สระ ออื ได้ K ๒. อ่านออกเสียงคาท่ีประสมสระ ออื ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ สระคอื เครื่องหมายใช้แทนเสียงท่เี ปล่งออกมาตามหลักภาษา ช่วยให้อ่านออกเสียงไดถ้ ูกต้องเป็นการสรา้ ง ความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจในการออกเสียงในชีวติ ประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกบั ครแู ละเพือ่ นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความร้ดู ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปญั หา - คิดตัดสนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตัวให้เข้ากบั การเปล่ียนแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลเพ่ือพฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรปู สระออื ได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสยี งคาท่ีมีสระ ออื ได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จุดเนน้ ส่กู ารพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น) ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการสือ่ สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันส่อื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลีย่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยุน่ และการปรับตวั การริเริ่มสร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง ทกั ษะสงั คมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม การเป็นผสู้ รา้ งหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรบั ผิดชอบเชือ่ ถือได้ (Accountability) ภาวะผนู้ าและความรบั ผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเปน็ ผูน้ า คุณลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้นี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผูอ้ ื่น ความซอื่ สตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม อาเซยี นศกึ ษา คณุ ธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ
อนรุ กั ษพ์ ลังงานและส่ิงแวดลอ้ ม อน่ื ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอ่านคาท่ีมีสระออื ใบงาน เรื่อง สระ อือ ๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ ท่ี ๑ ขั้นนาเข้าสูบ่ ทเรียน ครสู นทนากบั นักเรยี นถึงสระในภาษาไทยครูยกตัวอย่างคาว่า ถอื ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั ตอบว่าสระใด ปรากฎในคาน้ี ขัน้ ที่ ๒ สารวจค้นหา ครูสนทนากับนักเรียนถงึ คาทมี่ ีสระออื ท่นี ักเรยี นรูจ้ ัก ใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ ง ขน้ั ที่ ๓ หาความหมาย ครูอ่านสระ อือ ใหน้ ักเรียนฟังและนักเรยี นอ่านตามครู คอื ออื อ่านวา่ ออื ครูทดสอบการออกเสยี ง ของนกั เรยี นรายบุคคล ข้นั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่างคาทป่ี ระสมสระ อือ คนละ ๒ คา และสะกดคาด้วยปากเปล่าและเขยี นลงใน สมดุ ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทาใบงาน เรอื่ ง สระ อือ ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรือนอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจุดประสงค์การเรียนร้.ู ....................คน คิดเป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรคู้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมีความรูเ้ กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกบั รปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน
ใบงาน เรือ่ ง สระ ออื ชื่อ............................................................................ชั้น...........เลขที่......... คาชี้แจง ให้นกั เรยี นโยงเส้นจับคู่คาแลว้ นามาเขยี นในช่องวา่ ง โบก ดอื หนงั ถอื มือ มือ สะ บอื กระ สือ ....................... ......................... .............................. ....................... ......................... ............................. ......................... .............................. ......................... .............................
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๕ ไปโรงเรยี น แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๕ รายวิชา ภาษาไทย เรอ่ื ง วรรณยุกต์เอก _่ ๑๒ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ชัว่ โมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพอื่ นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมีนิสยั รกั การอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสั้นๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกรปู วรรณยุกต์ _ ได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งวรรณยกุ ต์ _ ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอ่านเปน็ การสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ิต และชว่ ยให้ นักเรยี นมีนสิ ัยรักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสือ่ สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ือสารกับครูและเพือ่ นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองค์ความรดู้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คิดตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรบั ตัวให้เข้ากบั การเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลเพือ่ พฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรูปวรรณยกุ ต์ _ ได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสยี งวรรณยกุ ต์ _ ได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ สู่การพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ ) ทกั ษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทกั ษะด้านความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการสอื่ สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะดา้ นชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หย่นุ และการปรบั ตวั การรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตัวเอง ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม การเปน็ ผ้สู ร้างหรอื ผ้ผู ลติ (Productivity) และความรบั ผดิ ชอบเชอ่ื ถอื ได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คุณลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา คณุ ลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลักษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อ่นื ความซื่อสตั ย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซียนศึกษา
คุณธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ อนุรกั ษ์พลังงานและสงิ่ แวดลอ้ ม อนื่ ๆ (ระบ)ุ .................................................................................................................. ๘. ช้ินงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอา่ นคาท่มี ีวรรณยกุ ต์ _ ๙. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั ที่ ๑ ข้ันนาเขา้ สู่บทเรยี น ครูสนทนากบั นกั เรียนถงึ วรรณยกุ ต์ “นกั เรยี นรจู้ ักวรรณยกุ ตใ์ ดบา้ ง” ครอู ธิบายเพิม่ เตมิ ให้นกั เรยี นฟัง วรรณยุกต์ในภาษาไทยมีวรรณยุกต์ - - - - ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เก่ียวกบั วรรณยุกต์ - จากหนงั สอื เรยี นภาษาพาทชี ้ัน ป.๑ หน้า ๔๘ – ๔๙ ครสู นทนากบั นกั เรียน วรรณยุกต์ - มลี กั ษณะเหมอื นส่งิ ใดบา้ ง เชน่ เหมือนไม้บรรทัด ขั้นที่ ๓ หาความหมาย ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมเกยี่ วกับวรรณยุกต์ - เรยี กวา่ ไม้เอก คาทมี่ วี รรณยุกต์ - เช่น ไก่ สะกดว่า กอ - ไอ - ไก - ไมเ้ อก อ่านว่า ไก่ ครูเขียนคาทมี่ วี รรณยุกต์ - บนกระดาน ใหน้ กั เรียนฝกึ อ่าน เชน่ แห่ ป่า ใส่ ส่ี ขั้นที่ ๔ ความคิดรวบยอด ให้นกั เรยี นยกตวั อยา่ งคาที่มีวรรณยกุ ต์ - คนละ ๑ คา และสะกดคาดว้ ยปากเปล่า ให้ตวั แทนนักเรียนเขยี นคาทมี่ วี รรณยกุ ต์ - หนา้ ช้ันเรียน ข้ันที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทดสอบการอ่านคาทม่ี ีวรรณยกุ ต์ - รายบุคคล นักเรยี นทาใบงาน เรื่อง วรรณยกุ ต์ - ครูนาผลงานตดิ บอรด์ มมุ ผลงานนกั เรยี น ๑๐. ส่อื การสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวติ ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๑๑. แหล่งเรยี นรู้ในหรอื นอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทึกผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้.....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไม่ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู.้ ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรูค้ วามเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรียนมคี วามรูเ้ กิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศึกษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น
บัตรวรรณยุกต์ -- --
ใบงาน เรื่อง วรรณยกุ ต์เอก - ช่อื ............................................................................ชั้น...........เลขท.่ี ........ คาช้แี จง ใหน้ กั เรียนเตมิ วรรณยุกต์ - และฝึกอา่ น แหมา ปาไผ นารกั ไก ทนี า ใสยา
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๕ ไปโรงเรยี น แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๖ รายวชิ า ภาษาไทย เรือ่ ง วรรณยุกต์โท - ๑๒ ช่ัวโมง ภาคเรียนที่ ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ช่ัวโมง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนสิ ัยรกั การอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ขิ องชาติ ตัวชี้วดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกรปู วรรณยกุ ต์ - ได้ K ๒. อ่านออกเสียงวรรณยุกต์ - ได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นเปน็ การสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนินชีวิต และช่วยให้ นักเรยี นมีนสิ ัยรักการอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร - มคี วามรู้ความเข้าใจและสามารถส่อื สารกับครูและเพือ่ นไดอ้ ย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแก้ปญั หา - คิดตดั สินใจโดยคานงึ ผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวติ ประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตวั ให้เข้ากบั การเปล่ยี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลเพ่ือพฒั นาตนเองดา้ นการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรูปวรรณยกุ ต์ - ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงวรรณยกุ ต์ - ได้ ๕.๓ ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C Reading (อ่านออก) (W) Riting (เขยี นได้) (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทักษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรยี นรู้ (Career and Learning) ทักษะการเปลีย่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยดื หยุ่นและการปรับตัว การริเรม่ิ สร้างสรรค์และเปน็ ตวั ของตัวเอง ทักษะสงั คมและสงั คมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผสู้ ร้างหรอื ผู้ผลติ (Productivity) และความรบั ผิดชอบเชือ่ ถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คณุ ลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเปน็ ผูน้ า คณุ ลักษณะด้านการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ การช้นี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง คุณลกั ษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผูอ้ ื่น ความซอื่ สตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซยี นศึกษา คณุ ธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ
อนุรักษ์พลงั งานและส่ิงแวดลอ้ ม อนื่ ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอ่านคาที่มีวรรณยุกต์ - ใบงาน เรอื่ ง วรรณยกุ ต์ - - ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นท่ี ๑ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน ครูทบทวนเก่ยี วกับวรรณยุกต์ เอก ทเ่ี รียนชวั่ โมงทแี่ ลว้ ครชู ูบัตรวรรณยกุ ตใ์ ห้นกั เรียนตอบวา่ คือวรรณยุกตใ์ ด ข้ันที่ ๒ สารวจคน้ หา ใหน้ ักเรยี นศึกษาความรู้เกยี่ วกบั วรรณยกุ ต์ - จากหนงั สอื เรยี นภาษาพาทีชั้น ป.๑ หนา้ ๔๘ – ๔๙ ขน้ั ที่ ๓ หาความหมาย ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ เกย่ี วกับวรรณยกุ ต์ - เรียกว่า ไม้โท คาทีม่ ีวรรณยกุ ต์ - เช่น แจ้ สะกดว่า จอ - แอ - แจ - ไม้โท อา่ นว่า แจ้ ครเู ขยี นคาท่มี ีวรรณยกุ ต์ - บนกระดาน ให้นักเรยี นฝึกอ่าน เช่น นี้ ไม้ ใช้ ห้า ผ้า ขน้ั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ใหน้ กั เรยี นยกตวั อย่างคาทีม่ ีวรรณยกุ ต์ - คนละ ๑ คา และสะกดคาด้วยปากเปล่า ให้ตัวแทนนักเรียนวาดภาพคาทมี่ วี รรณยกุ ต์ - หนา้ ช้นั เรยี น เพอื่ นร่วมกันตอบ ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นทดสอบการอ่านคาท่ีมีวรรณยกุ ต์ - รายบุคคล นกั เรียนทาใบงาน เรอื่ ง วรรณยุกต์ - ครูนาผลงานนกั เรยี นติดบอรด์ มุมผลงานนักเรียน ๑๐. สื่อการสอน ๑. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๒. บตั รวรรณยุกต์ ๑๑. แหลง่ เรียนรู้ในหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐
๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ๑๔. บันทกึ ผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจดุ ประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... ไม่ผา่ นจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้.....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ................ ๒. นกั เรยี นมีความร้คู วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรียนมีความร้เู กิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มีความคดิ เห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรกู้ ับหลักสตู รสถานศกึ ษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผูอ้ านวยการโรงเรยี น
ใบงาน เร่ือง วรรณยุกต์โท - ชื่อ............................................................................ชนั้ ...........เลขที่......... คาชแ้ี จง ให้นกั เรียนเติมวรรณยุกตโ์ ท - และฝกึ อา่ น ชมี ือ ผาสี ใบไม ไมไ่ ด ของแท
ใบงาน เรื่อง วรรณยกุ ต์เอก โท - - ช่ือ............................................................................ชน้ั ...........เลขท่ี......... คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเตมิ วรรณยุกตเ์ อก โท - - ระบายสใี ห้สวยงาม และฝกึ อ่าน อาน ผาสี ปีนี ปาไม บาใบ
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๗ หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๕ ไปโรงเรยี น ๑๒ ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เรื่อง อ่านคลอ่ ง ร้องเล่น ภาคเรียนที่ ๑ เวลา ๑ ช่ัวโมง ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชวี ิตและมีนสิ ัยรกั การอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชาติ ตัวชีว้ ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสั้นๆ ป๑/๒. บอกความหมายของคา และขอ้ ความทอ่ี ่าน ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๓. เรียบเรยี งคาเป็นประโยคง่าย ๆ ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสยี งบทอ่าน ลากันไปโรงเรยี นได้K ๒. อธบิ ายบทอ่าน ลากันไปโรงเรียนได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสาคญั การอ่านบทอา่ น “ลากันไปโรงเรียน” เปน็ การฝึกประสบการณ์ทางภาษา ท้ังทาใหเ้ กิดความสนกุ สนานใน การเรียน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่อื สารกับครูและเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คดิ วเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คดิ ตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบท่มี ีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวันไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
- เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลเพอ่ื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงบทอ่าน ลากนั ไปโรงเรยี นได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อธิบายบทอา่ นลากันไปโรงเรียนได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จุดเนน้ สูก่ ารพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C Reading (อา่ นออก) (W) Riting (เขยี นได)้ (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น) ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving) ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding) ทักษะด้านความรว่ มมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผ้นู า (Collaboration, Teamwork and Leadership) ทกั ษะดา้ นการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทันสอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy) ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy) ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning) ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑ ความยืดหยุ่นและการปรบั ตัว การรเิ ริม่ สร้างสรรคแ์ ละเปน็ ตัวของตัวเอง ทกั ษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม การเป็นผู้สรา้ งหรือผผู้ ลิต (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถือได้ (Accountability) ภาวะผู้นาและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คณุ ลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเปน็ ผู้นา คุณลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้นี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง คณุ ลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผ้อู ่นื ความซื่อสตั ย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง โครงการโรงเรยี นคุณธรรม อาเซยี นศกึ ษา คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ อนรุ กั ษพ์ ลังงานและส่งิ แวดลอ้ ม
อ่ืน ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงาน เรอื่ ง การเขียนเรียงประโยค ๙. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ ที่ ๑ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน ครอู ่านบทอา่ น เรอ่ื ง ลากันไปโงเรยี น ให้นักเรียนฟงั ๑ รอบ และให้นักเรยี นอา่ นตามครู ขั้นท่ี ๒ สารวจค้นหา นกั เรียนจับคฝู่ กึ อ่านบทอา่ น ลากันไปโงเรียน ข้ันท่ี ๓ หาความหมาย ใหต้ ัวแทนนกั เรียนออกมาเลา่ บทอา่ น เร่ือง ลากนั ไปโงเรียน หน้าชัน้ เรียน ๑ คน ใหอ้ าสาสมัครแสดงบทบาทสมมุตปิ ระกอบ ขั้นท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ครูให้นักเรยี นรว่ มกนั บอกถงึ บทอ่านวา่ เกี่ยวกบั เรอ่ื งใด นักเรียนอยากเป็นตวั ละครใดในบทพร้อม บอกเหตุผลประกอบ ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทาใบงาน เร่อื ง การเขียนเรยี งประโยค ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ชนั้ ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรียนรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................
๑๔. บนั ทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นกั เรยี นจานวน.................... คน ผ่านจุดประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ............... ไมผ่ า่ นจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู.้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรียนมีความรู้เกิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อุปสรรค/แนวทางแก้ไข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน)์ ตาแหนง่ ครู
ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังน้ี ๑. องค์ประกอบของแผนการจดั การเรียนรู้ ครบถว้ นและถูกตอ้ ง ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรยี นรู้กับหลกั สูตรสถานศึกษา สอดคลอ้ ง ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้ เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๔. สอ่ื การเรียนรู้ เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรยี น
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351