Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

Description: 65 แผนการสอน ภาษาไทย ภาคเรียนที่ ๑

Search

Read the Text Version

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรียน

ใบงาน เรื่อง สระ อา ชอ่ื ............................................................................ชั้น...........เลขที่......... คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเติมสระ อา ลงในช่องวา่ ง ระบายสใี หส้ วยงาม แล้วฝกึ อา่ น ม...... พล......ย. ข.้ ....ม บ้....น ภูผ..... ต.....

หน่วยการเรยี นรู้ที่ ๑ ใบโบก ใบบัว แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๙ รายวิชา ภาษาไทย เรอ่ื ง สระ อี ๑๕ ชั่วโมง ภาคเรียนที่ ๑ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ ช่วั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิดเพือ่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวติ และมนี ิสยั รกั การอ่าน ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และขอ้ ความส้นั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๑. บอกรูปสระ อี ได้ K ๒. อ่านแจกลูกสะกดคาสระ อี ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคัญ สระคอื เครอื่ งหมายใช้แทนเสยี งท่เี ปล่งออกมาตามหลักภาษา ช่วยให้อ่านออกเสยี งได้ถกู ต้องเป็นการสรา้ ง ความรู้และความคิดเพือ่ นาไปใช้ตัดสนิ ใจในการออกเสยี งในชีวิตประจาวัน ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความร้คู วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครูและเพอ่ื นได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คิดวิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรูด้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ัญหา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานึงผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตวั ให้เข้ากับการเปล่ยี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูลเพื่อพัฒนาตนเองดา้ นการเรียนรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรูปสระ อี ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านแจกลูกสะกดคาสระ อี ได้ ๕.๓ ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จุดเน้นสูก่ ารพัฒนาคณุ ภาพผเู้ รียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทักษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทักษะด้านการสอ่ื สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทนั ส่ือ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยืดหยนุ่ และการปรบั ตวั  การรเิ ริม่ สร้างสรรค์และเปน็ ตวั ของตวั เอง  ทักษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม  การเปน็ ผ้สู ร้างหรือผ้ผู ลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเช่อื ถือได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลกั ษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเปน็ ผู้นา  คณุ ลักษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง  คุณลกั ษณะด้านศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผูอ้ ่ืน ความซอ่ื สตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรยี นคุณธรรม  อาเซียนศกึ ษา  คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนุรกั ษพ์ ลงั งานและสง่ิ แวดล้อม

 อ่ืน ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/ร่องรอยแสดงความรู้) ใบงาน เร่อื ง สระ อี ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นท่ี ๑ ขัน้ นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น ครทู บทวนสระ อา ทีเ่ รียนชัว่ โมงทแี่ ล้ว และสนทนากบั นกั เรียนถึงเร่อื งสระในภาษาไทย ให้ นกั เรียนยกตวั อยา่ งสระในภาษาไทยทน่ี กั เรยี นร้จู ัก และครูเชือ่ มโยงไปถงึ เรอื่ งที่จะเรยี นคอื สระ อี ขนั้ ท่ี ๒ สารวจคน้ หา นกั เรียนศกึ ษาเรอื่ ง สระ อี จากกหนังสอื เรียนภาษาพาทีชั้นป.๑ หน้า ๗ - ๘ ข้นั ที่ ๓ หาความหมาย ครอู า่ นสะกดคา สระ อี ใหน้ ักเรยี นฟังและนักเรยี นอา่ นตามครู เชน่ คา พยัญชนะ สระ สะกดว่า อา่ นวา่ มี ม อี มอ - อี มี ดี ด อี ดอ - อี ดี สี ส อี สอ - อี สี ข้ันท่ี ๔ ความคิดรวบยอด ให้นักเรยี นยกตวั อยา่ งคาทป่ี ระสมสระ อี คนละ ๒ คา และเขยี นแจกลูกสะกดคาลงในสมดุ ขั้นท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนฝกึ อ่านคาท่ปี ระสมสระ อี จากหนังสอื เรียน และทดสอบอ่านกบั ครรู ายบุคคล นักเรียนทาใบงาน เร่ือง สระ อี ครตู รวจสอบความถกู ต้องและบอกคะแนนผลงานนกั เรยี น ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่ือชีวิต ภาษาพาที ชัน้ ป.๑ ๑๑. แหล่งเรียนรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤติกรรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียน

ใบงาน เร่อื ง สระ อี ชอ่ื ............................................................................ชั้น...........เลขที.่ ........ คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นเตมิ สระ อี บนพยญั ชนะ ระบายสใี หส้ วยงาม แลว้ ฝกึ อา่ น ม หว ดต บ หม

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ ๑ ใบโบก ใบบวั แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑๐ รายวิชา ภาษาไทย เรอ่ื ง สระ อู ๑๕ ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ ช่วั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการ ดาเนนิ ชีวิตและมีนสิ ยั รักการอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลงั ของ ภาษา ภมู ปิ ญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ ตวั ชวี้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคล้องจอง และข้อความสั้นๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกรปู สระ อู ได้ K ๒. อ่านแจกลูกสะกดคาสระ อู ได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ สระคือเคร่อื งหมายใชแ้ ทนเสียงทเ่ี ปล่งออกมาตามหลกั ภาษา ชว่ ยให้อา่ นออกเสยี งได้ถูกตอ้ งเป็นการสรา้ ง ความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใชต้ ัดสินใจในการออกเสยี งในชีวิตประจาวนั ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มคี วามร้คู วามเข้าใจและสามารถส่ือสารกบั ครแู ละเพอื่ นได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สร้างองคค์ วามรดู้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแก้ปญั หา - คดิ ตัดสนิ ใจโดยคานึงผลกระทบทม่ี ีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ติ ประจาวันได้อย่างเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ขอ้ มูลเพอ่ื พฒั นาตนเองด้านการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรปู สระ อู ได้ ๕.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นแจกลูกสะกดคาสระ อู ได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ ๖.จดุ เนน้ สูก่ ารพฒั นาคุณภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อา่ นออก)  (W) Riting (เขยี นได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)  ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเข้าใจความตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทักษะด้านการส่ือสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทนั สือ่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยืดหยุ่นและการปรับตัว  การริเร่มิ สรา้ งสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง  ทกั ษะสังคมและสังคมข้ามวัฒนธรรม  การเป็นผสู้ ร้างหรอื ผ้ผู ลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชอื่ ถือได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คณุ ลักษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผูน้ า  คุณลกั ษณะด้านการเรยี นรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง  คณุ ลักษณะดา้ นศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผอู้ น่ื ความซอื่ สัตย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศึกษาพอเพียง  โครงการโรงเรยี นคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา

 คุณธรรม ค่านยิ ม ๑๒ ประการ  อนุรักษพ์ ลงั งานและสง่ิ แวดล้อม  อื่น ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) ใบงาน เร่อื ง สระ อา อี อู ๙. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ที่ ๑ ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรียน ครสู นทนากับนักเรยี นถึงเรือ่ งสระในภาษาไทย ใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งสระในภาษาไทยท่ี นักเรยี นรู้จกั และครเู ชื่อมโยงไปถงึ เรื่องทีจ่ ะเรยี นคือ สระ อู ขน้ั ที่ ๒ สารวจคน้ หา นักเรยี นศกึ ษาเร่อื ง สระ อู จากกหนงั สือเรียนภาษาพาทีชนั้ ป.๑ หน้า ๗ - ๘ ข้ันที่ ๓ หาความหมาย ครอู ่านสะกดคา สระ อา อี อู ใหน้ กั เรยี นฟงั และนกั เรียนอ่านตามครู เชน่ คา พยัญชนะ สระ สะกดวา่ อ่านวา่ หู ห อู หอ - อู หู งู ง อู งอ - อู งู ปู ป อู ปอ - อู ปู ขน้ั ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด ใหน้ กั เรียนยกตวั อย่างคาที่ประสมสระ อู คนละ ๒ คา และเขียนแจกลกู สะกดคาลงในสมุด ข้นั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง สระ อา อี อู ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพนื้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคดิ เห็นดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลกั สตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรียน

ใบงาน เรอ่ื ง สระ อา อี อู ชอ่ื ............................................................................ชั้น...........เลขท.่ี ........ คาชี้แจง ให้นกั เรยี นเลอื กเขียนคาตามสระที่กาหนด นา รู สี รี ขา งา ตา มี งู ดู กา ตี หู ดี ปู บา้ นสระ สระะ อา สระ อี สระ อู

ใบงาน เรื่อง สระ อา อี อู ชอ่ื ............................................................................ช้นั ...........เลขท.ี่ ........ คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นโยงเสน้ คาทปี่ ระสมด้วยสระเดยี วกนั ระบายสใี ห้สวยงาม และฝกึ อา่ น ขา ปู ปี ตา ดู ดี

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๑ ใบโบก ใบบวั แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ ๑๑ รายวชิ า ภาษาไทย เรือ่ ง อ่านคลอ่ ง ร้องเลน่ ๑๕ ช่ัวโมง ภาคเรียนท่ี ๑ กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๑ ชว่ั โมง ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนส่ือสาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่อื งราวในรปู แบบ ตา่ ง ๆ เขยี นรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมปี ระสิทธิภาพ ตวั ช้ีวดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ป๑/๒. บอกความหมายของคา และขอ้ ความท่ีอ่าน ป๑/๘. มีมารยาท ในการอ่าน ท ๒.๑ ป๑/๑ คัดลายมอื ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อ่านออกเสียงบทอา่ นโยกมา โยกไปได้ K ๒. คดั ลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดบทอา่ นโยกมา โยกไป ได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นบทอา่ น “โยกมา โยกไป” เปน็ การฝกึ ประสบการณท์ างภาษาทัง้ ทาให้เกิดความสนกุ สนานในการเรียน ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มคี วามรูค้ วามเข้าใจและสามารถสื่อสารกบั ครูและเพ่ือนไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวเิ คราะห์ คิดสงั เคราะห์ คิดสร้างสรรค์ สรา้ งองคค์ วามรดู้ ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ญั หา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อมได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ข้อมูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้

๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อ่านออกเสียงบทอ่านโยกมา โยกไปได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. คัดลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทดั บทอ่านโยกมา โยกไป ได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อา่ นออก)  (W) Riting (เขียนได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเปน็ )  ทกั ษะด้านการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปญั หา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะด้านการสร้างสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะด้านความร่วมมอื การทางานเปน็ ทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทักษะดา้ นการสอื่ สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทนั สื่อ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชีวิตและอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยืดหยุ่นและการปรับตัว  การรเิ ร่มิ สรา้ งสรรค์และเป็นตัวของตัวเอง  ทกั ษะสังคมและสงั คมข้ามวฒั นธรรม  การเปน็ ผู้สรา้ งหรือผ้ผู ลติ (Productivity) และความรบั ผิดชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability)  ภาวะผนู้ าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คุณลกั ษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเปน็ ผู้นา  คุณลักษณะดา้ นการเรยี นรู้ ได้แก่ การชน้ี าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง  คุณลักษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซ่อื สตั ย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม  อาเซียนศกึ ษา  คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ  อนุรักษพ์ ลังงานและสิ่งแวดลอ้ ม  อ่นื ๆ (ระบ)ุ ..................................................................................................................

๘. ช้นิ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ ใบงาน เรือ่ ง การเขียนคัดลายมือ ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ ๑ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น ครอู ่านบทอา่ น เรอื่ ง โยกมาโยกไป ให้นักเรยี นฟงั ๑ รอบ และใหน้ กั เรยี นอ่านตามครู ขนั้ ท่ี ๒ สารวจค้นหา นกั เรียนจับคู่ฝกึ อ่านบทอา่ น โยกมา โยกไป ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย ครใู หน้ กั เรียนแสดงท่าทางประกอบจากบทอ่าน โยกมา โยกไป ครูสุ่มตวั แทนนักเรียนออกมาแสดงท่าทางประกอบจากบทอ่าน โยกมา โยกไป ข้นั ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ครใู ห้นกั เรียนบอกถงึ ตวั ละครท่ปี รากฏในเรอ่ื ง จากเรอื่ งกล่าวถงึ อะไร ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรียนเขยี นคดั ลายมอื ตัวบรรจงเต็มบรรทัดจากบทอา่ น โยกมาโยกไป ๑๐. สอื่ การสอน ๑. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพื่อชีวติ ภาษาพาที ชั้น ป.๑ ๑๑. แหล่งเรยี นรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร้.ู ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี น

ใบงาน เรอ่ื ง การเขยี นคดั ลายมอื “โยกมา โยกไป” ช่ือ............................................................................ชน้ั ...........เลขท่.ี ........ คาชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเขียนคดั ลายมอื ตวั บรรจงเตม็ บรรทัดจากข้อความทีก่ าหนดให้ ใบโบก ใบบวั ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... โยก ตัว ไป มา ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... โยก หวั โยก ขา ......................................................................................................................... .......................................................................................................................... โยก มา โยก ไป ......................................................................................................................... ..........................................................................................................................

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี ๑ หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๒ ภผู า ๑๔ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย เร่ือง คานาเรื่อง ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๑ ช่วั โมง ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนนิ ชวี ติ และมีนิสัยรกั การอา่ น ตัวชีว้ ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และข้อความสัน้ ๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเรื่องได้ K ๒. อ่านสะกดคาจากเรอื่ งได้ P ๓. มีความมุง่ มั่นในการทางาน A ๓. สาระสาคญั การอ่านเปน็ การสรา้ งความรู้และความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชวี ติ และชว่ ยให้ นกั เรยี นมีนิสัยรกั การอา่ น ๔. สมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่ือสารกับครูและเพือ่ นได้อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ สร้างองค์ความร้ดู ้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปญั หา - คดิ ตดั สินใจโดยคานงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม - ปรับตัวให้เข้ากับการเปลย่ี นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสบื คน้ ขอ้ มูลเพื่อพฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้ ๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K)

๑. อ่านออกเสียงคาจากเรอื่ งได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านสะกดคาจากเรอ่ื งได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ ม่นั ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทักษะด้านการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเข้าใจความต่างวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะด้านการส่อื สาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทนั ส่ือ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยืดหยุน่ และการปรับตัว  การริเรม่ิ สร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตัวเอง  ทกั ษะสงั คมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม  การเป็นผสู้ ร้างหรอื ผู้ผลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชือ่ ถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คุณลกั ษณะดา้ นการทางาน ไดแ้ ก่ การปรับตัว ความเป็นผนู้ า  คุณลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การช้ีนาตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง  คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผ้อู นื่ ความซ่อื สตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศึกษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซียนศกึ ษา  คุณธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนุรักษพ์ ลังงานและส่งิ แวดลอ้ ม  อ่นื ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู)้ กิจกรรมการอา่ นคานาเรือ่ งจากบทเรียน เรือ่ ง ภูผา

๙. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขัน้ นาเขา้ สบู่ ทเรยี น ครูให้นักเรียนดูภาพ คานาเร่ือง จากบทเรยี น เร่ือง ภูผา หน้า ๑๔ ขั้นที่ ๒ สารวจคน้ หา ใหน้ ักเรียนสงั เกตภาพและร่วมกันตอบว่ามีภาพอะไรบ้าง ขน้ั ที่ ๓ หาความหมาย ครอู ่านคานาเรื่องจากบทเรยี นให้นกั เรียนฟัง ๑ รอบ ให้นกั เรียนอา่ นตามพรอ้ มกนั ขนั้ ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด นกั เรยี นจับคฝู่ กึ อา่ นคานาเรอ่ื งจากบทเรยี น ครูให้คาแนะนาและฝึกอ่านนักเรียนท่ีอา่ นไมค่ ลอ่ ง ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทดสอบการอ่านคานาเรอื่ งรายบคุ คล นักเรียนบนั ทกึ คานาเรอ่ื งจากบทเรยี นลงในสมุด ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอ่ื ชีวติ ภาษาพาที ชนั้ ป.๑ ๑๑. แหล่งเรยี นรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมดุ โรงเรยี น ๑๒. การวัดและประเมนิ ผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู้.....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรยี นร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ ภผู า แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๒ รายวชิ า ภาษาไทย เรอ่ื ง การอ่านออกเสียง ๑๔ ช่ัวโมง ภาคเรยี นท่ี ๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เวลา ๒ ช่วั โมง ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนินชวี ติ และมนี สิ ัยรกั การอ่าน ตัวชวี้ ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง และข้อความสน้ั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเรือ่ งได้ K ๒. อ่านสะกดคาจากเรอ่ื งได้ P ๓. มีความมงุ่ มัน่ ในการทางาน A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นเป็นการสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนนิ ชวี ิต และชว่ ยให้ นักเรียนมนี สิ ัยรกั การอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครูและเพื่อนได้อยา่ งถกู ต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วิเคราะห์ คดิ สงั เคราะห์ คิดสรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา - ใช้ทกั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแกป้ ญั หา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบท่มี ีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อยา่ งเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบค้นขอ้ มูลเพ่อื พัฒนาตนเองดา้ นการเรียนรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. อา่ นออกเสียงคาจากเร่ืองได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นสะกดคาจากเรือ่ งได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน ๖.จุดเน้นสกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผ้เู รยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษที่ ๒๑ คือการเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อา่ นออก)  (W) Riting (เขียนได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเปน็ )  ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทักษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศและร้เู ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทักษะการเรยี นรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปล่ียนแปลง (Change) ๖.๒ ทกั ษะด้านชีวติ และอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยืดหยุน่ และการปรบั ตัว  การริเริม่ สร้างสรรค์และเป็นตวั ของตวั เอง  ทักษะสังคมและสังคมขา้ มวัฒนธรรม  การเปน็ ผู้สรา้ งหรือผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผิดชอบเชอื่ ถือได้ (Accountability)  ภาวะผู้นาและความรับผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คณุ ลักษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเปน็ ผู้นา  คุณลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ได้แก่ การชน้ี าตนเอง การตรวจสอบการเรียนรขู้ องตนเอง  คณุ ลกั ษณะด้านศลี ธรรม ไดแ้ ก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซื่อสตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพยี ง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซียนศึกษา  คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ ักษ์พลังงานและสง่ิ แวดลอ้ ม

 อืน่ ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ชนิ้ งานหรือภาระงาน (หลักฐาน/รอ่ งรอยแสดงความรู้) กจิ กรรมการอ่านออกเสยี งบทเรยี น เร่ือง ภูผา ๙. การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั ที่ ๑ ข้นั นาเขา้ สู่บทเรยี น ครูสนทนากบั นกั เรียนใหน้ กั เรยี นดภู าพจากบทเรียน เร่ือง ภผู า หน้า ๑๕ ข้นั ที่ ๒ สารวจคน้ หา ให้นักเรียนตอบวา่ ภาพจากบทเรียนนเี้ กี่ยวกบั อะไร เน้อื เรอื่ งควรจะเป็นอย่างไร ข้นั ท่ี ๓ หาความหมาย ครูอา่ นบทเรียนเร่ือง ภผู า ให้นักเรยี นฟงั ให้นกั เรียนอา่ นตามครพู รอ้ มกัน นักเรียนแบง่ กลุม่ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ฝึกอา่ นบทเรียน เร่ือง ภูผา นกั เรยี นคนใดอา่ นไม่คล่อง เพ่อื นใน กลุ่มคอยช่วยเหลอื ให้คาแนะนา ถา้ คานั้นเพ่อื นในกลมุ่ อ่านไม่ไดค้ รคู อยใหค้ าแนะนาเพม่ิ เติม ขั้นที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ตวั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั เลา่ เรอ่ื งจากการอา่ นบทเรียน นักเรียนร่วมกันตอบวา่ จากบทเรยี นมี ละครใดบ้าง ขั้นที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นทดสอบการอา่ นออกเสียงบทเรียนเปน็ รายกล่มุ ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสือเรียน รายวชิ าพืน้ ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชวี ิต ภาษาพาที ช้นั ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรียนรู้ในหรอื นอกสถานที่ ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวัดและประเมินผล - สงั เกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เป็นร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเป็นร้อยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหนง่ ครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้ มคี วามคิดเห็นดังน้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรยี นรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรยี น

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๓ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๒ ภูผา ๑๔ ช่ัวโมง รายวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอ่ื ง อ่านออกเสียงอกั ษรกลาง (ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ) ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒ ชั่วโมง ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่อื นาไปใช้ตดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรกั การอ่าน ตวั ชว้ี ดั ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความส้นั ๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอ่าน ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกพยัญชนะอกั ษรกลางได้ K ๒. อ่านออกเสียงพยญั ชนะอักษรกลางได้ P ๓. มีความใฝ่เรยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอ่านเป็นการสรา้ งความร้แู ละความคิดเพ่อื นาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชีวติ และช่วยให้ นักเรียนมนี ิสัยรกั การอ่าน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - มคี วามรคู้ วามเข้าใจและสามารถสอ่ื สารกับครูและเพ่ือนได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คิดสังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรูด้ ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ ักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สินใจแกป้ ัญหา - คิดตัดสนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้อย่างเหมาะสม - ปรับตัวใหเ้ ข้ากบั การเปลยี่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อมไดอ้ ย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ข้อมูลเพื่อพฒั นาตนเองด้านการเรยี นรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้

๕.๑ ดา้ นความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรกลางได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรกลางได้ ๕.๓ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามมงุ่ มนั่ ในการทางาน ๖.จุดเน้นสู่การพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ๖.๑ ทกั ษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและทกั ษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการสอื่ สาร สารสนเทศและรูเ้ ท่าทนั สอ่ื (Communication, Information, and Media Literacy)  ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปล่ยี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยืดหยุน่ และการปรบั ตวั  การรเิ ร่ิมสร้างสรรคแ์ ละเป็นตวั ของตัวเอง  ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวัฒนธรรม  การเปน็ ผู้สรา้ งหรอื ผู้ผลิต (Productivity) และความรับผิดชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษที่ ๒๑  คณุ ลกั ษณะดา้ นการทางาน ได้แก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ การชี้นาตนเอง การตรวจสอบการเรียนรู้ของตนเอง  คุณลักษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซือ่ สตั ย์ ความสานึกพลเมือง ๗. การบรู ณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคณุ ธรรม  อาเซยี นศึกษา  คณุ ธรรม คา่ นิยม ๑๒ ประการ  อนุรกั ษ์พลังงานและส่งิ แวดลอ้ ม  อน่ื ๆ (ระบ)ุ ..................................................................................................................

๘. ชิน้ งานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กจิ กรรมการอ่านออกเสยี งพยัญชนะอกั ษรกลาง (ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ) ๙. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ ท่ี ๑ ข้ันนาเข้าส่บู ทเรียน ครูสนทนากับนักเรยี นถึงพยญั ชนะไทยให้นักเรยี นร่วมกันบอกวา่ มีพยญั ชนะใดบ้าง ข้นั ท่ี ๒ สารวจค้นหา ครชู ูบตั รคาพยญั ชนะอักษรกลาง ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ ครใู หน้ ักเรียนสังเกตพยญั ชนะ นกั เรียนตอบครวู ่าพยัญชนะทค่ี รูชูเปน็ อักษรกลาง อักษรสูง หรอื อักษรตา่ ถ้านกั เรยี นตอบผดิ ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ ให้นกั เรียนเขา้ ใจว่าบตั รคาทค่ี รูชนู ้นั คอื อกั ษรกลาง ใหน้ กั เรยี น ทอ่ งจาเพ่ือใหเ้ กดิ การจาได้ ข้นั ท่ี ๓ หาความหมาย ครอู ่านพยัญชนะอกั ษรกลางใหน้ กั เรยี นฟงั ๑ รอบ ดงั นี้ ก อา่ นวา่ กอ จ อ่านว่า จอ ฎ อา่ นวา่ ดอ ฏ อา่ นวา่ ตอ ด อ่านวา่ ดอ ต อา่ นว่า ตอ บ อา่ นวา่ บอ ป อ่านวา่ ปอ อ อ่านว่า ออ ขนั้ ท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด นกั เรยี นอ่านพยญั ชนะอกั ษรกลางพร้อมกัน ๑ รอบ ขน้ั ที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรยี นจับครู่ ว่ มกนั ฝกึ อ่านออกเสยี งพยัญชนะอักษรกลางนักเรยี นคนใดอา่ นผดิ เพ่ือนในกลมุ่ ชว่ ยกันฝึกอา่ น ครใู หค้ าแนะนาเพม่ิ เตมิ ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนังสอื เรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่ือชวี ิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๒. บัตรคา ๑๑. แหลง่ เรียนรใู้ นหรอื นอกสถานท่ี ๑. ห้องสมดุ โรงเรียน ๑๒. การวดั และประเมินผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทึกผลหลงั การสอน ๑๔.๑ ผลการจดั การเรียนการสอน ๑. นกั เรียนจานวน.................... คน คดิ เป็นรอ้ ยละ............... ผ่านจุดประสงค์การเรยี นรู้.....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ไม่ผ่านจดุ ประสงค์การเรยี นรู้.....................คน ๒. นกั เรียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นักเรยี นมคี วามรู้เกิดทกั ษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น)์ ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเหน็ ดงั น้ี ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ตอ้ ง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลกั สูตรสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหน่ง ผ้อู านวยการโรงเรยี น

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๔ หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ ๒ ภผู า ๑๔ ช่ัวโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง อ่านออกเสยี งอักษรสูง (ข ผ ส ห) ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒ ช่วั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคดิ เพอื่ นาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แกป้ ญั หาในการ ดาเนินชวี ติ และมนี สิ ัยรกั การอา่ น ตวั ชี้วัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสยี งคา คาคลอ้ งจอง และขอ้ ความสั้นๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกพยัญชนะอักษรสงู ได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งพยัญชนะอักษรสงู ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคญั การอา่ นเปน็ การสร้างความร้แู ละความคิดเพอ่ื นาไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชวี ิต และชว่ ยให้ นกั เรยี นมนี สิ ัยรักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน ๑. ความสามารถในการส่อื สาร - มีความรูค้ วามเข้าใจและสามารถสือ่ สารกับครแู ละเพ่อื นได้อย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคดิ - คดิ วเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สร้างองคค์ วามรู้ด้วยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสินใจแก้ปญั หา - คิดตดั สนิ ใจโดยคานงึ ผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้อย่างเหมาะสม - ปรับตัวใหเ้ ข้ากับการเปลีย่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ขอ้ มูลเพ่อื พัฒนาตนเองด้านการเรียนรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรสงู ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรสูงได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามมุ่งมนั่ ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขยี นได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชวี ิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว  การริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และเปน็ ตวั ของตัวเอง  ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม  การเป็นผสู้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คุณลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นร้ขู องตนเอง  คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซือ่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสิง่ แวดล้อม  อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน/รอ่ งรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอ่านออกเสยี งพยัญชนะอักษรสงู (ข ผ ส ห) ๙. การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นที่ ๑ ขนั้ นาเข้าส่บู ทเรียน ครูสนทนากับนกั เรียนถงึ พยัญชนะไทยให้นกั เรียนรว่ มกนั บอกวา่ มีพยญั ชนะใดบ้าง ข้นั ที่ ๒ สารวจคน้ หา ครูตดิ บัตรคาพยัญชนะอักษรสงู ข ผ ส ห บนกระดาน ครใู ห้นกั เรยี นสงั เกตพยญั ชนะ ครถู ามคาถามนักเรียนคิดว่าว่าพยัญชนะบตั รคาที่ครูติดบนกระดาน เป็นอักษรกลาง อกั ษรสงู หรอื อกั ษรตา่ ถา้ นักเรียนตอบผิดครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจว่าบัตรคาทค่ี รูติด บนกระดานนนั้ คืออกั ษรสงู ใหน้ ักเรยี นท่องจาเพอ่ื ให้เกดิ การจาอักษรสูงได้ ขั้นท่ี ๓ หาความหมาย ครอู ่านพยญั ชนะอักษรสงู ให้นกั เรียนฟัง ๑ รอบ ดงั น้ี ข อ่านว่า ขอ ผ อ่านว่า ผอ ส อา่ นวา่ สอ ห อ่านวา่ หอ ขั้นท่ี ๔ ความคิดรวบยอด นักเรยี นอา่ นพยญั ชนะอกั ษรสูงพรอ้ มกนั ๑ รอบ ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นักเรยี นจับคู่ รว่ มกันฝกึ อ่านออกเสยี งพยัญชนะอกั ษรสูงนกั เรยี นคนใดอ่านผิดเพ่อื นในกลุ่มชว่ ยกนั ฝกึ อ่าน ครูให้คาแนะนาเพิม่ เติม ๑๐. สอ่ื การสอน ๑. หนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย ชดุ ภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที ชน้ั ป.๑ ๒. บัตรคา ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤตกิ รรมการอา่ น ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ - ประเมนิ การตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู

ความเห็นของหัวหนา้ สถานศึกษา/ผทู้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจดั การเรยี นรู้ มีความคิดเหน็ ดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถ้วนและถกู ต้อง  ยงั ไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกตอ้ ง ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคลอ้ งของแผนการจดั การเรียนรู้กับหลักสตู รสถานศึกษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๓. รูปแบบของการจัดการเรยี นรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคัญ  ยังไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๔. สอ่ื การเรยี นรู้  เหมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้  ยังไมเ่ หมาะสมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้  ครอบคลมุ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้  ยงั ไมค่ รอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้ ควรปรบั ปรุงพัฒนาต่อไป ๖. ขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ ๕ หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ ๒ ภผู า ๑๔ ชั่วโมง รายวชิ า ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เร่ือง อา่ นออกเสียงอกั ษรตา่ (ง พ ภ ม ร ล) ภาคเรียนท่ี ๑ เวลา ๒ ช่วั โมง ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ๑.มาตรฐานการเรียนรู้ /ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ / ผลการเรียนรู้ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการ ดาเนินชวี ติ และมีนสิ ยั รักการอา่ น ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจอง และขอ้ ความสน้ั ๆ ป๑/๘. มมี ารยาท ในการอ่าน ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรต่าได้ K ๒. อา่ นออกเสยี งพยัญชนะอกั ษรตา่ ได้ P ๓. มีความใฝเ่ รยี นรู้ A ๓. สาระสาคัญ การอา่ นเปน็ การสร้างความรแู้ ละความคิดเพอ่ื นาไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และช่วยให้ นักเรียนมีนสิ ัยรักการอ่าน ๔. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - มีความรู้ความเข้าใจและสามารถสือ่ สารกับครูและเพ่อื นได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งองค์ความรู้ดว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใชท้ กั ษะกระบวนการทางภาษาไทยตัดสนิ ใจแก้ปัญหา - คิดตดั สินใจโดยคานงึ ผลกระทบทมี่ ีต่อตนเองและสังคม ๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต - นากระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ได้อยา่ งเหมาะสม - ปรับตวั ให้เข้ากับการเปลยี่ นแปลงของสังคมและสภาพแวดลอ้ มได้อย่างเหมาะสม ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลือกใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ข้อมูลเพ่อื พฒั นาตนเองดา้ นการเรียนรู้

๕. สาระการเรียนรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกพยญั ชนะอกั ษรสงู ได้ ๕.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรสูงได้ ๕.๓ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามม่งุ มนั่ ในการทางาน ๖.จุดเนน้ สกู่ ารพฒั นาคณุ ภาพผู้เรยี น ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คือการเรียนรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได้)  (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)  ทกั ษะดา้ นการคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณและทกั ษะในการแกไ้ ขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation)  ทกั ษะด้านความเข้าใจความต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์ (Cross-cultural Understanding)  ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทางานเป็นทีมและภาวะผนู้ า (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการส่ือสาร สารสนเทศและรเู้ ท่าทันสอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing and ICT Literacy)  ทักษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทกั ษะการเปลยี่ นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะด้านชีวิตและอาชพี ของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  ความยดื หยนุ่ และการปรับตัว  การริเรม่ิ สรา้ งสรรค์และเปน็ ตวั ของตัวเอง  ทกั ษะสังคมและสังคมขา้ มวฒั นธรรม  การเป็นผสู้ รา้ งหรือผู้ผลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชื่อถอื ได้ (Accountability)  ภาวะผ้นู าและความรับผดิ ชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลกั ษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คุณลักษณะด้านการทางาน ไดแ้ ก่ การปรบั ตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะดา้ นการเรยี นรู้ ได้แก่ การชีน้ าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรู้ของตนเอง  คุณลกั ษณะดา้ นศลี ธรรม ได้แก่ ความเคารพผู้อนื่ ความซือ่ สัตย์ ความสานกึ พลเมอื ง ๗. การบูรณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรียนคุณธรรม  อาเซยี นศกึ ษา  คณุ ธรรม ค่านิยม ๑๒ ประการ  อนรุ กั ษพ์ ลังงานและสิง่ แวดล้อม  อ่ืน ๆ (ระบุ)..................................................................................................................

๘. ชิ้นงานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความรู)้ กจิ กรรมการอา่ นออกเสียงพยัญชนะอักษรต่า (ง พ ภ ม ร ล) ๙. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ที่ ๑ ข้นั นาเข้าสบู่ ทเรียน ครูและนักเรยี นร่วมกันทบทวนอกั ษรกลาง อักษรสูง ทน่ี ักเรยี นเคยเรียน ขั้นท่ี ๒ สารวจค้นหา ครใู ห้อาสาสมัครนกั เรียนชูบตั รคาพยญั ชนะอักษรต่า ง พ ภ ม ร ล หน้าช้ันเรยี น ครูให้นักเรียนสงั เกตพยญั ชนะ ครูถามคาถามนกั เรยี นคิดว่าว่าพยัญชนะบตั รคาหน้าชน้ั เรยี นเป็น อักษรกลาง อกั ษรสูง หรอื อกั ษรต่า ถา้ นกั เรยี นตอบผิดครูอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ใหน้ ักเรยี นเข้าใจว่าบัตรคาที่ครูชูนัน้ คือ อักษรตา่ ให้นักเรียนทอ่ งจาเพือ่ ให้เกิดการจาอกั ษรตา่ ได้ ขัน้ ที่ ๓ หาความหมาย ครูอา่ นพยัญชนะอักษรตา่ ให้นกั เรียนฟงั ๑ รอบ ดังน้ี ง อา่ นว่า งอ พ อ่านว่า พอ ภ อา่ นว่า พอ ม อ่านวา่ มอ ร อา่ นว่า รอ ล อ่านว่า ลอ ขั้นท่ี ๔ ความคดิ รวบยอด นักเรียนอา่ นพยญั ชนะอกั ษรต่าพรอ้ มกัน ๑ รอบ ขน้ั ท่ี ๕ ทดสอบและนาไปใช้ นกั เรียนฝึกอา่ นออกเสียงพยญั ชนะอกั ษรตา่ นักเรยี นคนใดอา่ นผิดเพ่ือนรว่ มห้องช่วยกนั ฝึกอา่ นให้ ถูกตอ้ ง ครูให้คาแนะนาเพ่มิ เติม ๑๐. ส่ือการสอน ๑. หนังสือเรียน รายวิชาพน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพอื่ ชวี ิต ภาษาพาที ชนั้ ป.๑ ๒. บัตรคา ๑๑. แหลง่ เรยี นรู้ในหรือนอกสถานท่ี ๑. หอ้ งสมุดโรงเรยี น ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ๑๓. กจิ กรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ ร้อยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวัฒน์) ตาแหน่งครู

ความเหน็ ของหวั หน้าสถานศกึ ษา/ผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ มีความคิดเห็นดังนี้ ๑. องคป์ ระกอบของแผนการจดั การเรียนรู้  ครบถว้ นและถูกตอ้ ง  ยังไมค่ รบถ้วนหรือไมถ่ กู ต้อง ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป ๒. ความสอดคล้องของแผนการจดั การเรียนรู้กบั หลักสตู รสถานศกึ ษา  สอดคลอ้ ง  ยงั ไมส่ อดคล้อง ควรปรบั ปรุงพฒั นาตอ่ ไป ๓. รปู แบบของการจดั การเรียนรู้  เน้นผเู้ รียนเป็นสาคญั  ยังไมเ่ น้นผ้เู รียนเป็นสาคญั ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๔. สอื่ การเรียนรู้  เหมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้  ยงั ไมเ่ หมาะสมกับรปู แบบการจัดการเรียนรู้ ควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้  ครอบคลุมจุดประสงค์การเรยี นรู้  ยงั ไม่ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ควรปรับปรุงพัฒนาตอ่ ไป ๖. ข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………....…………………………………………………………………………………………………………………………… ......................................... (นายแมนสรวง เมนะเนตร) ตาแหนง่ ผู้อานวยการโรงเรยี น

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๖ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี ๒ ภูผา ๑๔ ช่ัวโมง รายวิชา ภาษาไทย กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย เรอื่ ง ทบทวนสระ อา อี อู ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๒ ชัว่ โมง ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ๑.มาตรฐานการเรยี นรู้ /ตัวชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ / ผลการเรยี นรู้ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรแู้ ละความคดิ เพื่อนาไปใช้ตัดสนิ ใจ แกป้ ัญหาในการ ดาเนินชีวติ และมนี ิสัยรักการอา่ น ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลังของ ภาษา ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชาติ ตวั ชว้ี ัด ท ๑.๑ ป๑/๑. อ่านออกเสียงคา คาคลอ้ งจอง และข้อความส้ันๆ ป๑/๘. มีมารยาท ในการอา่ น ท ๔.๑ ป๑/๑. บอกและเขียนพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย ป๑/๒. เขียนสะกดคาและบอกความหมาย ของคา ป๑/๓. เรียบเรียงคาเปน็ ประโยคงา่ ย ๆ ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๑. บอกรปู สระ อา อี อู ได้ K ๒. อ่านแจกลกู สะกดคาสระ อา อี อู ได้ P ๓. มีความใฝ่เรียนรู้ A ๓. สาระสาคญั สระคือเครอื่ งหมายใชแ้ ทนเสียงทเี่ ปล่งออกมาตามหลักภาษา ช่วยให้อา่ นออกเสยี งไดถ้ ูกต้องเป็นการสรา้ ง ความร้แู ละความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสนิ ใจในการออกเสียงในชีวติ ประจาวัน ๔. สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการสอื่ สาร - มคี วามรู้ความเข้าใจและสามารถสอื่ สารกับครูและเพ่อื นได้อยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ๒. ความสามารถในการคิด - คิดวเิ คราะห์ คดิ สังเคราะห์ คดิ สรา้ งสรรค์ สรา้ งองคค์ วามร้ดู ว้ ยตนเอง ๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา - ใช้ทักษะกระบวนการทางภาษาไทยตดั สนิ ใจแก้ปญั หา - คิดตัดสินใจโดยคานึงผลกระทบที่มีตอ่ ตนเองและสงั คม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต - นากระบวนการตา่ ง ๆ ไปใช้ในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ย่างเหมาะสม - ปรับตวั ใหเ้ ข้ากบั การเปลีย่ นแปลงของสงั คมและสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ย่างเหมาะสม

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี - เลอื กใช้เทคโนโลยีในการสืบคน้ ข้อมูลเพอ่ื พฒั นาตนเองด้านการเรียนรู้ ๕. สาระการเรยี นรู้ ๕.๑ ด้านความรู้ (Knowledge : K) ๑. บอกรปู สระ อา อี อู ได้ ๕.๒ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (Process : P) ๑. อ่านแจกลูกสะกดคาสระ อา อี อู ได้ ๕.๓ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (Attitude : A) ๑. มคี วามใฝ่เรียนรู้ ๖.จดุ เนน้ ส่กู ารพัฒนาคุณภาพผูเ้ รียน ๖.๑ ทักษะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑ คอื การเรยี นรู้ ๓R X ๘C  Reading (อ่านออก)  (W) Riting (เขียนได)้  (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)  ทกั ษะด้านการคิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณและทักษะในการแก้ไขปัญหา (Critical Thinking and Problem Solving)  ทักษะดา้ นการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม (Creativity and Innovation)  ทักษะดา้ นความเขา้ ใจความตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์ (Cross-cultural Understanding)  ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทางานเปน็ ทมี และภาวะผู้นา (Collaboration, Teamwork and Leadership)  ทกั ษะดา้ นการส่อื สาร สารสนเทศและรู้เท่าทนั สอื่ (Communication, Information, and Media Literacy)  ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing and ICT Literacy)  ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and Learning)  ทักษะการเปลย่ี นแปลง (Change) ๖.๒ ทักษะดา้ นชวี ติ และอาชีพ ของคนในศตวรรษที่ ๒๑  ความยืดหยุน่ และการปรับตัว  การรเิ รม่ิ สร้างสรรค์และเปน็ ตวั ของตวั เอง  ทกั ษะสงั คมและสังคมข้ามวฒั นธรรม  การเปน็ ผู้สร้างหรอื ผผู้ ลติ (Productivity) และความรับผดิ ชอบเชอ่ื ถือได้ (Accountability)  ภาวะผนู้ าและความรบั ผิดชอบ (Responsibility) ๖.๓ คุณลักษณะของคนในศตวรรษท่ี ๒๑  คุณลักษณะด้านการทางาน ได้แก่ การปรับตัว ความเป็นผู้นา  คณุ ลกั ษณะด้านการเรียนรู้ ได้แก่ การช้นี าตนเอง การตรวจสอบการเรยี นรขู้ องตนเอง  คุณลกั ษณะด้านศีลธรรม ได้แก่ ความเคารพผอู้ ่นื ความซ่ือสตั ย์ ความสานึกพลเมอื ง ๗. การบรู ณาการ  โครงการสถานศกึ ษาพอเพียง  โครงการโรงเรยี นคุณธรรม  อาเซียนศกึ ษา

 คุณธรรม คา่ นยิ ม ๑๒ ประการ  อนุรกั ษพ์ ลังงานและสิ่งแวดลอ้ ม  อ่นื ๆ (ระบุ).................................................................................................................. ๘. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน/ร่องรอยแสดงความร)ู้ กิจกรรมการอ่านคาที่ประสมดว้ ยสระ อา อี อู ๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั ท่ี ๑ ขนั้ นาเข้าสบู่ ทเรยี น ครูทบทวนถึงสระอา อี อู ทนี่ ักเรียนเคยเรียนมา ข้นั ท่ี ๒ สารวจคน้ หา นักเรียนยกตัวอยา่ งคาทปี่ ระสมดว้ ยสระ อา อี อู คนละ ๓ คา ครใู ห้นักเรียนบอกความหมายของคาทน่ี ักเรยี นยกตัวอย่าง ขัน้ ที่ ๓ หาความหมาย ครใู ห้อาสาสมัครนักเรยี น ๕ คน วาดภาพท่ีประสมดว้ ยสระ อา อี อู หน้าช้นั เรยี น ให้เพอ่ื นทายวา่ ภาพท่ีวาดคอื ภาพอะไร และให้อ่านออกเสยี งพรอ้ มกนั ขน้ั ที่ ๔ ความคดิ รวบยอด ให้นักเรยี นเขยี นคาทีป่ ระสมด้วยสระ อา อี อู ลงในสมดุ คนละ ๓ คา และบอกความหมายของคา ข้ันที่ ๕ ทดสอบและนาไปใช้ ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรเู้ กยี่ วกบั สระ อา อี อู นกั เรียนทาใบงาน เรือ่ ง ทบทวนสระ อา อี อู ๑๐. ส่อื การสอน ๑. หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพือ่ ชีวติ ภาษาพาที ชัน้ ป.๑ ๑๑. แหลง่ เรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานที่ ๑. หอ้ งสมุดโรงเรียน ๑๒. การวดั และประเมนิ ผล - สังเกตพฤติกรรมการอา่ น ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ - ประเมินการตรวจผลงาน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ๑๓. กิจกรรมเสนอแนะ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๑๔. บนั ทกึ ผลหลังการสอน ๑๔.๑ ผลการจัดการเรยี นการสอน ๑. นักเรียนจานวน.................... คน ผา่ นจุดประสงค์การเรียนรู.้ ....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ............... ไมผ่ ่านจดุ ประสงค์การเรียนร.ู้ ....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ................ ๒. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๓. นกั เรยี นมคี วามรู้เกิดทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๔. ปญั หา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ๕. เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ..................................... (นางสาวอรอนงค์ มงคลธนวฒั น์) ตาแหน่งครู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook