101 (4) การลากจิ ส่วนตัว (5) การลาพักผอ่ น (6) การลาอุปสมบทหรอื การลาไปประกอบพิธีฮัจย์ (7) การลาเขา้ รับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล (8) การลาไปศึกษา ฝกึ อบรม ปฏิบัตกิ ารวิจยั หรอื ดงู าน (9) การลาไปปฏิบัตงิ านในองค์การระหว่างประเทศ (10) การลาตดิ ตามคู่สมรส (11) การลาไปฟ้นื ฟสู มรรถภาพด้านอาชพี การลาทีน่ ับวนั ลาเฉพาะวนั ทาการ **1) การลาปุวย ในกรณีทีข่ า้ ราชการผูข้ อลามอี าการปุวยจนไม่สามารถจะลงชื่อไม่ได้ในใบลาได้จะให้ผ้อู ื่นลา แทนก็ไดแ้ ตเ่ มื่อสามารถลงชือ่ ได้แล้วให้เสนอหรือจดั ส่งใบลาโดยเร็ว การลาปวุ ยตง้ั แต่ 30 วันขึน้ ไป ต้องมใี บรับรองของแพทย์ การลาปวุ ยไม่ถึง 30 วนั ไม่วา่ จะเปน็ การลาครั้งเดยี วหรอื หลายครั้งติดตอ่ กัน ถา้ ผู้มอี านาจ อนุญาตเห็นสมควร จะส่งั ใหม้ ใี บรับรองของแพทย์ ตามวรรคสามประกอบใบลาก็ได้ **2) การลาไปชว่ ยเหลือภรยิ าทค่ี ลอดบุตร ลาภายใน 90 วนั นบั แต่วนั ทีค่ ลอดบตุ ร และให้มีสิทธิลาไปช่วยเหลอื ภรยิ าท่คี ลอดบตุ รครง้ั หน่งึ ตดิ ต่อกนั ไดไ้ มเ่ กิน 15 วนั ทาการ (ครูผู้ช่วยไมม่ สี ทิ ธ์ลิ าไปชว่ ยเหลอื ภรยิ าทค่ี ลอดบตุ รได)้ **3) การลากิจสว่ นตัว เม่ือได้รบั อนญุ าตแล้วจงึ จะหยดุ ราชการได้ เวน้ แตม่ เี หตุจาเป็นไมส่ ามารถรอรับการอนุญาต ไดท้ ัน ให้เสนอและจัดสัง่ ใบลาพรอ้ มเหตุผลความจาเปน็ ตอ่ ผูบ้ งั คับบัญชาทนั ทใี นวันแรกทีม่ าปฏบิ ัติ ราชการ **การลากจิ ส่วนตัวปงี บประมาณไมเ่ กิน 45 วัน หรอื คร่ึงปงี บประมาณไม่เกนิ 23 วนั ถา้ บรรจุรับราชการปแี รกไม่เกิน 15 วนั **4) การลาพักผ่อน บรรจุรบั ราชการครัง้ แรกครบ 6 เดอื นมีสิทธ์ลิ าพักผอ่ น ลาได้ปงี บประมาณละ 10 วันทาการ ข้าราชการทลี่ าไม่ครบ สามารถสะสมวนั ลาได้ โดยอายุราชการไมถ่ ึง 10 ปี สะสมวนั ลาได้ 20 วนั ทาการ และอายรุ าชการ 10 ปีขึน้ ไป สะสมวันลาได้ 30 วนั ทาการ **5) การลาคลอดบตุ ร การลาคลอดบตุ รจะลาในวันทีค่ ลอด กอ่ น หรือหลังวันทค่ี ลอดบตุ รกไ็ ด้ แต่เมอื่ รวมวนั ลาแลว้ ต้องไมเ่ กนิ 90 วนั และหากประสงค์จะลากจิ ส่วนตวั เพอ่ื เลี้ยงดบู ตุ รใหม้ ีสิทธลิ าต่อเนอ่ื งจากการลา สนใจส่ังชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
102 คลอดบุตรได้ไมเ่ กนิ 150 วนั ทาการ โดยถือเป็นวนั ลากิจ แต่ไม่ได้รับเงนิ เดอื น (รับเงินเดอื นระหวา่ งลา ไม่เกิน 90 วัน การลาทน่ี บั วันหยุดราชการ **1) การลาอปุ สมบทหรือการลาไปประกอบพิธีฮจั ย์ **ระหว่างลาอุปสมบทมีสทิ ธิ์รบั เงินเดอื นไม่เกนิ 120 วัน โดยปลัดกระทรวง ศึกษาธิการ เปน็ ผ้อู นญุ าต โดยรับราชการมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ 12 เดือน สง่ ขออนญุ าตกอ่ นลาไมน่ ้อย กว่า 60 วันเม่อื ไดร้ ับอนญุ าตภายใน 10 วนั ตอ้ งอุปสมบท/ไปประกอบพธิ ฮี ัจย์ และเขา้ ปฏบิ ตั ิราชการ ภายใน 5 วันนบั แตล่ าสลิ า [หากยกเลิกถอื เป็นลากจิ ส่วนตัว]) **2) การลาเขา้ รบั การตรวจเลอื กหรอื เข้ารับการเตรียมพล **หมายเรียกเขา้ รับการตรวจเลอื ก ให้รายงานลาตอ่ ผบู้ ังคับบญั ชากอ่ นวนั เข้ารับการ ตรวจเลอื กไม่น้อยกวา่ 48 ช่ัวโมง **รบั หมายเรียกเขา้ รับการเตรยี มพล ให้รายงานลาต่อผ้บู งั คับบัญชาภายใน 48 ชว่ั โมง **รายงานต่อผู้บงั คับบญั ชาแบบไมต่ อ้ งรออนุญาต จากไดร้ บั หมาย พน้ แล้วให้กลับเข้ารบั ราชการต่อผบู้ งั คับบญั ชาภายใน 7 วนั หรอื ขยายไดร้ วมไมเ่ กนิ 15 วนั (เกนิ 7 วัน งดจ่ายเงินเดอื น เวน้ อธบิ ดีขยายได้ไม่เกิน 15 วัน) 3) การลาติดตามคสู่ มรส ไปปฏบิ ัติหนา้ ทต่ี ้ังแต่ 1 ปขี ึ้นไป (ไม่รวมไปศึกษาอบรม) ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร เป็น ผูอ้ นุญาต พจิ ารณาให้ลาไดไ้ ม่เกนิ 2 ปี และกรณีจาเป็นอนุญาตตอ่ ไดอ้ ีก 2 ปี รวมแลว้ ตอ้ งไมเ่ กิน 4 ปี ถา้ เกิน 4 ปี ใหล้ าออกจากราชการ 4) การลาไปฟ้นื ฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ **ผูไ้ ดร้ ับอนั ตราย เจ็บปุวยเพราะเหตุปฏบิ ัติหนา้ ท่รี าชการ ยน่ื ต่อผู้บงั คับบัญชา เมือ่ ไดร้ บั อนุญาตแลว้ จึงหยุดราชการเพ่ือไปฟน้ื ฟสู มรรถภาพด้านอาชีพได้ **มสี ทิ ธิ์ลาครัง้ หนึง่ โดยลาไปอบรมหรอื ประกอบอาชีพได้ไม่เกนิ 12 เดือน 5) การลาไปศึกษา ฝกึ อบรม ปฏิบัตกิ ารวิจยั หรอื ศึกษาดูงาน ใหเ้ สนอจัดส่งใบลาตอ่ ผู้บังคับบัญชา ตามลาดับจนถึงหัวหน้าส่วนราชการขน้ึ ตรงเพอ่ื พิจารณาอนญุ าต การขอลาไปศกึ ษาต่อระดบั ปริญญาตรี เท่ากับหลกั สตู ร ระดับปริญญาโท 2 ปี ระดับ ปรญิ ญาเอก 4 ปี รวมแล้วต้องไมเ่ กิน 6 ปี ย่นื ขอขยายเวลากอ่ นสิ่นสุดสัญญา 30 วัน และขยายไดค้ รั้ง ละ 1 ภาคเรียน ไม่เกนิ 2 คร้ัง หรอื ไม่เกิน 1 ปกี ารศึกษา หากจบแล้วตอ้ งกลับเข้ารับราชการทนั ที หากผดิ เงอ่ื นไขตอ้ งชดใชค้ ืนเงนิ เงินเดอื นหรือเงินอื่นๆและเบ้ยี ปรับอีก 1 เท่าของเงินทง้ั หมด สนใจสง่ั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
103 **6. การลาไปปฏบิ ตั งิ านในองค์การระหวา่ งประเทศ **ให้เสนอจดั สง่ ใบลาต่อผูบ้ งั คับบญั ชา ตามลาดบั จนถึงรฐั มนตรเี จา้ สงั กัด เพ่ือพจิ ารณา อนญุ าต **ระยะเวลการลาไปปฏิบัติงานในองคก์ ารระหวา่ งประเทศระยะเวลาไมเ่ กิน 1 ปี เมือ่ เสร็จแล้วให้รายงานตัวเข้าปฏบิ ัติหน้าท่รี าชการภายใน 15 วนั และรายงานผลใหร้ ฐั มนตรีเจ้าสังกดั ทราบ ภายใน 30 วนั นับต้งั แตก่ ลับมาปฏิบัตหิ น้าท่ีราชการ **การลาบ่อยครั้ง คือ เกิน 6 คร้ังในสถานศึกษา (มปี ดิ เทอม) เกิน 8 ครง้ั ในสานักงาน **การมาทางานสายเนืองๆเกนิ 8 ครัง้ ในสถานศึกษา(มปี ดิ เทอม) เกิน 9 คร้ังในสานกั งาน **เรยี กตวั มาปฏบิ ตั งิ านไดถ้ ือวา่ ส้นิ สุดการลา คือ ลากิจส่วนตัว ลาพกั ผ่อน และลาไป ช่วยเหลอื ภรรยาหลงั คลอด **การขออนุญาตไปตา่ งประเทศ ขออนุญาตปลดั กระทรวง ยกเว้นอาเภอที่อยูต่ ิดประเทศ ทีจ่ ะไป ขออนุญาต ผ้วู ่าราชการไมเ่ กนิ 7 วนั หรือนายอาเภอไม่เกิน 3 วัน **ผอ.กศน.อาเภอ อนญุ าตใหล้ ากจิ ไมเ่ กนิ 30 วัน และลาปุวยไมเ่ กิน 60 วนั **ผอ.กศน.จงั หวดั อนุญาตให้ลากจิ ไม่เกิน 45 วัน และลาปวุ ยไมเ่ กนิ 120 วนั แนวข้อสอบ ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของขา้ ราชการ พ.ศ. 2555 1.การลาในข้อใดใหน้ บั เฉพาะวนั ทาการ ก. ลาไปศกึ ษา ข. ลาพักผ่อน ค. ลาอุปสมบท ง. ลาเข้ารบั การตรวจเลอื ก 2. ผ้มู ีอานาจอนญุ าตใหข้ ้าราชการครู กศน. ลาอุปสมบทคอื ข้อใด ก. ผู้อานวยการ กศน.อาเภอ ข. ผอู้ านวยการ สานักงาน กศน.จงั หวัด ค. เลขาธิการ กศน. ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ 3. ผูอ้ านวยการ กศน.อาเภอ มีอานาจพิจารณาอนญุ าตใหช้ ้าราชการครูลาปวุ ยและลากิจส่วนตัว ครัง้ หนึง่ ได้ตามขอ้ ใด ก. ลาปุวย 60 วนั ลากิจส่วนตัว 15 วนั ข. ลาปุวย 60 วัน ลากิจสว่ นตัว 20 วัน ค. ลาปุวย 90 วัน ลากจิ สว่ นตัว 30 วัน ง. ลาปวุ ย 60 วนั ลากิจสว่ นตัว 30 วัน 4. ผู้ท่ีจะขออปุ สมบทต้องยนื่ ใบลากอ่ นวันอุปสมบทไม่น้อยกว่ากว่ี นั ก. 15 วัน ข. 30 วนั ค. 60 วัน ง. 90 วนั สนใจสงั่ ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
104 5. การลาประเภทใดไมต่ ้องรอคาสง่ั อนญุ าตจากผมู้ อี านาจอนญุ าต ก. การลาไปประกอบพิธฮี ัจย์ ข. ลาเข้ารับการตรวจเลอื ก ค. ลากจิ สว่ นตัว ง. ลาพักผ่อน 6. ข้าราชการมีสทิ ธลิ าติดตามคสู่ มรสได้ไมเ่ กินกี่ปี ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 4 ปี ง. 5 ปี 7. การลาปวุ ยตัง้ แตก่ ่ีวันขนึ้ ไป ต้องมใี บรับรองของแพทย์ ก. 5 วัน ข. 7 วนั ค. 15 วนั ง. 30 วัน 8. ขา้ ราชการครูจะไดร้ ับการพจิ ารณาเลื่อนขนั้ เงินเดือนในรอบครึง่ ปีทแ่ี ล้วมาต้องมเี วลาปฏบิ ัติ ราชการกี่เดอื น ก. 3 เดอื น ข. 4 เดอื น ค. 5 เดือน ง. 6 เดอื น 9. ในรอบครงึ่ ปีทแี่ ล้วมาขา้ ราชการท่จี ะไดเ้ ล่อื นขน้ั เงนิ เดือน ตอ้ งมีวันลากิจสว่ นตัวและลาปวุ ย ไม่เกนิ กวี่ ัน ก. 45 วนั ข. 46 วัน ค. 22 วนั ง. 23 วนั 10. การบรรจุรบั ราชการปแี รกสามารถ ลากจิ สว่ นตวั ได้ก่วี ัน ก. 15 วนั ข. 23 วนั ค. 30 วนั ง. 45 วนั 11. ขา้ ราชการท่ลี าไม่ครบ สามารถสะสมวนั ลาได้ โดยอายรุ าชการไม่ถึง 10 ปี สะสมวันลาไดก้ ว่ี นั ก. 10 วนั ข. 15 วนั ค. 20 วัน ง. 30 วัน 12. ผูอ้ านวยการ สานักงาน กศน.จงั หวัด มีอานาจพจิ ารณาอนญุ าตใหช้ ้าราชการครลู าปุวยและลา กจิ ส่วนตัวคร้ังหนงึ่ ได้ตามข้อใด ก. ลาปุวย 60 วัน ลากจิ ส่วนตัว 15 วัน ข. ลาปุวย 60 วัน ลากจิ ส่วนตัว 20 วัน ค. ลาปุวย 120 วัน ลากจิ ส่วนตัว 30 วนั ง. ลาปุวย 120 วัน ลากิจส่วนตัว 45 วนั สนใจส่ังช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
105 13. ขา้ ราชการท่ถี กู เรียกตวั กลับมาปฏิบัตริ าชการ ระหวา่ งการลาให้ถอื ว่าการลาหมดเขตลงเมอ่ื ใด ก. วันก่อนวนั เดินทางกลบั มาปฏิบัติหนา้ ที่ราชการ ข. วนั เดนิ ทางกลบั มาปฏบิ ตั ิราชการ ค. วนั เขา้ รายงานตัวเพ่ือกลับเข้าปฏิบตั ิราชการ ง. วนั ปฏบิ ตั ิราชการวนั แรก 14.”ผใู้ ดมอี านาจตคี วามและวนิ จิ ฉัยปญั หาเกีย่ วกบั ระเบียบสานักนายกรฐั มนตรวี ่าด้วยการลาของ ขา้ ราชการ ก. นายกรัฐมนตรี ข. รองนายกรฐั มนตรี ค. ปลัดสานกั นายกรัฐมนตรี ง. อธิบดี 15. “ครูผู้ชว่ ย”บรรจุรบั ราชการคร้ังแรก ตอ้ งทางานตามระยะเวลาใดจงึ จะมสี ิทธ์ิลาพักผ่อน ก. 3 เดอื น ข. 6 เดอื น ค. 9 เดือน ง. 1 ปี 16.“ขา้ ราชการทปี่ ระสงคจ์ ะขออนุญาตไปตา่ งประเทศ ต้องขออนุญาตตอ่ ใคร ก. ผู้ว่าราชการจงั หวัด ข. ผอ.สานกั งาน กศน.จังหวัด ค. ผอ.กศน.อาเภอ ง. ปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ 17. “การลาแบง่ ออกเปน็ ก่ีประเภท ก. 10 ประเภท ข. 11 ประเภท ค. 12 ประเภท ง. 13 ประเภท 18. “ขา้ ราชการท่ไี ด้รับอนญุ าตใหม้ ีการลาคลอดบุตร จะต้องไมเ่ กินกวี่ ัน ก. 30 วัน ข. 50 วัน ค. 70 วนั ง. 90 วัน 19. “ขา้ ราชการซึง่ ประสงคจ์ ะลาไปชว่ ยเหลือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายทค่ี ลอดบุตรครั้งหน่งึ ตดิ ต่อกันได้ไม่เกินก่ีวันทาการ ก. 10 วนั ทาการ ข. 15 วนั ทาการ ค. 20 วนั ทาการ ง. 25 วนั ทาการ 20. “ข้าราชการท่ีลาคลอดบตุ ร หากประสงคจ์ ะลากจิ สว่ นตวั เพอื่ เลย้ี งดูบุตรใหม้ สี ทิ ธิลาต่อเนอื่ งจาก วนั คลอดบุตรได้ไมเ่ กินกวี่ ันทาการ ก. 50 วนั ทาการ ข. 100 วันทากา ค. 150 วันทาการ ง. 200 วนั ทาการ สนใจส่งั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
106 21. ข้าราชการทไี่ ด้รับหมายเรียกเขา้ รบั การตรวจเลอื ก ให้รายงานลาตอ่ ผู้บงั คบั บญั ชากอ่ นวนั เข้า รับการตรวจเลือกกีช่ ่วั โมง ก. ไม่น้อยกวา่ 12 ชวั่ โมง ข. ไม่น้อยกวา่ 24 ชั่วโมง ค. ไม่น้อยกว่า 36 ช่วั โมง ง. ไมน่ ้อยกวา่ 48 ชว่ั โมง 22. ขา้ ราชการที่ลาไปปฏบิ ตั ิงานในองคก์ ารระหว่างประเทศที่มรี ะยะเวลาไม่เกิน 1 ปีเม่อื ปฏบิ ัติงาน แล้วเสรจ็ ใหร้ ายงานตวั เข้าปฏิบัตหิ นา้ ทร่ี าชการภายในกี่วัน ก. ภายใน 12 วนั ข. ภายใน 13 วัน ค. ภายใน 14 วัน ง. ภายใน 15 วัน 23.การลาไปฟนื้ ฟสู มรรถภาพดา้ นอาชีพ ลาไดต้ ามข้อใด ก. ไมเ่ กิน 3 เดอื น ข. ไม่เกนิ 6 เดือน ค. ไมเ่ กนิ 9 เดอื น ง. ไมเ่ กิน 12 เดือน 24.การลาตดิ ตามคสู่ มรส ใครเปน็ ผอู้ นญุ าต ก. ผวู้ ่าราชการจังหวดั ข. ผอ.สานักงาน กศน.จังหวัด ค. ผอ.กศน.อาเภอ ง. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร 25. การลาประเภทใด ท่ีผู้บรรจเุ ขา้ รบั ราชการครูตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย ไม่มสี ทิ ธ์ลิ า ก. ลาปวุ ย ข. ลาอปุ สมบท ค. ลาไปฟนื้ ฟสู มรรถภาพดา้ นอาชพี ง. ลาไปชว่ ยเหลือภรรยาทคี่ ลอดบุตร เฉลยขอ้ สอบ 1.ข 2.ง 3.ง 4.ค 5.ข 6.ก 7.ง 8.ข 9.ง 10.ก 11.ค 12.ง 13.ก 14.ค 15.ข 16.ง 17.ข 18.ง 19.ข 20.ค 21.ง 22.ง 23.ง 24.ง 25.ง สนใจสงั่ ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
107 พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพมิ่ เติม (ฉบบั ท่ี 2 พ.ศ. 2545 ,ฉบบั ท่ี 3 พ.ศ. 2553) ** เหตผุ ล เพอ่ื เปน็ กฎหมายแมบ่ ทในการบรหิ ารและการจดั การศกึ ษา การตรา พ.ร.บ.น้ี ข้ึนไว้โดย คาแนะนาและยนิ ยอมจากรฐั สภา (หากออกในชว่ งปฏวิ ัติ ใหต้ อบ สนช.) ** บงั คับใช้ 20 สงิ หาคม 2542 แก้ไขท่ี 2 บังคับใช้ 20 ธนั วาคม 2545 เน่ืองจากแยกด้านศิลปะ และวัฒนธรรมไปจัดตง้ั เป็นกระทรวงวฒั นธรรม เปลย่ี นชื่อเปน็ กระทรวงศึกษาธิการ เพิม่ อาชวี ศึกษา แกไ้ ขท่ี 3 บังคบั ใช้ 23 กรกฎาคม 2553 เน่ืองจากแยกเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศกึ ษา แกไ้ ขฉบับท่ี 4 ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา 26 เมษายน 2562 บังคับใช้ 27 เมษายน 2562 1) เพือ่ กาหนดขอบเขตในการดาเนินการของกระทรวงศึกษาธิการ 2) มีการจดั ต้งั กระทรวงการอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม **มาตรา 4 การศกึ ษา คือ กระบวนการเรียนรเู้ พื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม โดยการถา่ ยทอดความรู้(ภมู ิปญ๎ ญาท้องถิ่น) การฝกึ การอบรม(ใหน้ กั ศึกษา) การสืบสารทางวฒั นธรรม (บญุ บังไฟ) การสร้างสรรค์จรรโลงความกา้ วหน้าทางวชิ าการ(การวจิ ยั ) การสร้างองคค์ วามรู้อันเกิดจาก การจัดสภาพแวดลอ้ มสังคมแหง่ การเรียนรู้ ศูนย์การเรียนชมุ ชน มี 2 ลกั ษณะ 1)ศนู ยก์ ารเรยี นชุมชน มผี ู้แทนในชมุ ชนไม่นอ้ ยกวา่ 5 คน ผู้ประกาศจดั ตั้งคอื ผอ.กศน.อาเภอ 2)ศูนยก์ ารเรียนชุมชนประจาตาบล [กศน.ตาบล]มีผ้แู ทนในชมุ ชนไมน่ อ้ ยกว่า 7 คน ผปู้ ระกาศจดั ต้งั คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด เนอื่ งจากเปน็ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการศกึ ษา นอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จังหวัด [16คน] ป๎จจัยเกอ้ื หนุนใหบ้ คุ คลเรยี นร้ตู อ่ เนื่องตลอดชีวิต (บา้ นหนงั สอื ชมุ ชน, อาสาสมัคร กศน. 1 คน รับผิดชอบ 50 หลังคาเรือน) **การศึกษาขน้ั พื้นฐาน คอื การศึกษาก่อนระดับอดุ มศึกษา **การศึกษาตลอดชวี ิต คอื การศกึ ษาทเี่ กิดจากการผสมผสานระหว่างการศกึ ษา ในระบบการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั เพอ่ื ใหส้ ามารถพัฒนาคุณภาพชวี ิตได้อย่าง ต่อเนือ่ งตลอดชวี ิต สถานศกึ ษา คือ สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย โรงเรยี น ศนู ยก์ ารเรยี น วิทยาลยั สถาบนั มหาวทิ ยาลยั หน่วยงานการศึกษาหรือหนว่ ยงานอนื่ ของรฐั หรือของเอกชน ทม่ี ีอานาจหน้าที่หรอื มี วัตถุประสงคใ์ นการจดั การศกึ ษา (ศูนย์การเรียน มาจากภาคีเครอื ข่ายทจี่ ัดการศกึ ษารว่ มกับสถานศกึ ษา เชน่ วัดหลวงพ่อคูณจดั การศึกษาถงึ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 อ่เู ชิดชยั จัดการศึกษาถงึ มัธยมศึกษาปที ี่ 3) สนใจสง่ั ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
108 มาตรฐานการศกึ ษา คอื ขอ้ กาหนดเกยี่ วกบั คุณลักษณะ คุณภาพทพี่ ึงประสงค์ และ มาตรฐานทีต่ อ้ งการใหเ้ กิดขึน้ ในสถานศกึ ษาทุกแห่ง และเพ่ือใชเ้ ป็นหลกั ในการเทยี บเคียงสาหรับ การสง่ เสริมและกากับดแู ล การตรวจสอบ การประเมินผลและการประกนั คุณภาพทางการศึกษา การประกันคุณภาพภายใน คอื การประเมินผลและการตดิ ตามตรวจสอบคณุ ภาพและ มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบคุ ลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรอื โดย หน่วยงานตน้ สงั กดั ทม่ี ีหนา้ ท่กี ากบั ดแู ลสถานศกึ ษานนั้ **การประกันคณุ ภาพภายนอก คอื การประเมนิ ผลและการติดตามตรวจสอบ คณุ ภาพและ มาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษาจากภายนอก โดยสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพ การศกึ ษา (สมศ.) หรือบุคคลหรอื หนว่ ยงานภายนอกทส่ี านกั งานดงั กลา่ วรับรอง เพื่อเป็นการประกนั คุณภาพและให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศกึ ษา (ประกันคณุ ภาพภายนอก อยา่ งนอ้ ย 1 ครงั้ ในทุก 5 ปี นบั ต้ังแตก่ ารประเมนิ ครงั้ สดุ ทา้ ย) ผู้สอน คือ ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดบั ตา่ งๆ ครู คือ ทาหนา้ ท่ีหลกั การเรียนการสอน ส่งเสรมิ การเรียนรูด้ ว้ ยวธิ ีการตา่ งๆ ในสถานศกึ ษา ของรัฐและเอกชน คณาจารย์ คือ ทาหนา้ ทีห่ ลักดา้ นการสอน วจิ ยั ในสถานศกึ ษา ผบู้ ริหารการศกึ ษา คอื บุคลากรวิชาชีพท่ีรับผดิ ชอบการบรหิ ารการศึกษานอก สถานศึกษาตัง้ แตร่ ะดับเขตพน้ื ทขี่ นึ้ ไป (ระดับกศน.จงั หวดั ข้ึนไป) บุคลากรทางการศกึ ษา คือ 1)ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา 2)ผู้บริหารการศกึ ษา 3)ผูส้ นับสนุน การศึกษา [ครูไมใ่ ชบ่ ุคลากรทางการศกึ ษา] หมวด 1 ความมงุ่ หมายและหลกั การ * มาตรา 6 ความมงุ่ หมายของการจดั การศึกษา เพ่ือพฒั นาคนไทยใหเ้ ป็นมนษุ ย์ทีส่ มบูรณ์ สมบรู ณท์ ้งั ร่างกาย จิตใจ สตปิ ๎ญญา ความรู้ และคุณธรรม มจี ริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวติ สามารถอยู่ร่วมกับผอู้ ืน่ ได้อย่างมคี วามสุข [ดี เกง่ มสี ขุ ] มาตรา 7 ในกระบวนการเรียนร้ตู ้องมุ่งปลูกฝง๎ ในเรื่อง 1)การเมอื งการปกครอง 2)การรจู้ ักรักษาสิทธิ หน้าท่ี 3)ปลกู ฝง๎ ในความภาคภูมใิ จในความเป็นไทย(ดหู นงั นเรศวร) 4)ภมู ิป๎ญญาไทย ภูมปิ ๎ญญาท้องถิ่น 5) ทรัพยากรธรรมชาติ 6)การประกอบอาชีพ(ศูนยซ์ อ่ มสร้าง miniMBA) **มาตรา 8 หลกั การจดั การศกึ ษา 1)เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสาหรับประชาชน 2)ให้สงั คมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา 3)การพฒั นาสาระและกระบวนการเรยี นรใู้ ห้เป็นไปอย่างตอ่ เนอื่ ง สนใจสงั่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
109 **มาตรา 9 การจดั ระบบโครงสรา้ งและกระบวนการจัดการศกึ ษาใหย้ ดึ หลัก 1)มเี อกภาพดา้ นนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏบิ ตั ิ 2)มีการกระจายอานาจไปสเู่ ขตพ้ืนท่ีการศึกษา สถานศึกษา และองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ (1.เขตพื้นท่ีการศกึ ษา 2.สถานศึกษา 3.อปท.) 3)มีการกาหนดมาตรฐานการศกึ ษา และจัดระบบประกนั คณุ ภาพการศึกษาทกุ ระดับและ ประเภทการศึกษา 4)มหี ลักการส่งเสรมิ มาตรฐานวิชาชพี ครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา และการ พฒั นาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษาอยา่ งตอ่ เนื่อง 5)ระดมทรพั ยากรจากแหล่งต่าง ๆ มาใชใ้ นการจดั การศึกษา 6) การมสี ่วนร่วมของบุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องคก์ รเอกชน องค์กรวิชาชพี สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบนั สงั คมอนื่ (ท้ังหมดนี้คือภาคีเครือข่าย) หมวด 2 สิทธิและหนา้ ทท่ี างการศึกษา มาตรา 10 เหมือนรัฐธรรมนูญ มาตรา49 คือบุคคลมสี ทิ ธิและโอกาสเสมอกนั ในการรับการศึกษา ขน้ั พืน้ ฐาน ไมน่ ้อยกว่า 12 ปี ท่ีรัฐตอ้ งจัดให้อย่างท่ัวถึงและมีคณุ ภาพ (ค่าเลา่ เรยี น, กจิ กรรมพัฒนา ผู้เรยี น, ค่าหนังสอื เรียน) คนปกติ : ไมเ่ ก็บคา่ ใช้จา่ ย[อาจเกบ็ อย่างอื่น] ผ้บู กพรอ่ งตา่ งๆหรือพกิ าร : จดั เป็นพิเศษ เมือ่ แรกเกิดหรือพบความพกิ าร ไม่เสยี ค่าใชจ้ า่ ย บุคคลซง่ึ มีความสามารถพเิ ศษ : รปู แบบท่ีเหมาะสมกบั ความสามารถ) มาตรา 11 บดิ ามารดาหรือผู้ปกครอง มีหน้าทจี่ ัดใหบ้ ุตรได้รบั การศึกษาภาคบังคบั **มาตรา 13-14 บิดามารดาหรอื ผู้ปกครอง บุคคล ภาคีเครอื ข่าย มีสิทธิไดร้ ับประโยชน์ 1) การสนบั สนนุ จากรฐั 2) เงินอดุ หนนุ จากรฐั 3) การลดหย่อนหรือยกเวน้ ภาษี หมวด 3 ระบบการศึกษา **มาตรา 15 การศกึ ษามี 3 รปู แบบ คอื 1)การศึกษาในระบบ 2)การศกึ ษานอกระบบ 3)การศึกษาตามอัธยาศยั 1) การศึกษาในระบบ [Formal Education] (แน่นอน ) 1)จดุ มุ่งหมาย 2)วิธีการศึกษา 3)หลักสูตร 4)ระยะเวลา 5)การวดั และประเมนิ ผล สาเรจ็ ท่แี น่นอน สนใจส่ังชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
110 2) การศกึ ษานอกระบบ [non-formal Education] (ยดื หยุ่น มี 1) จดุ มงุ่ หมาย 2) วิธกี ารศกึ ษา 3) หลกั สูตร 4) ระยะเวลา 5) การวัดและประเมนิ ผล เนอ้ื หาและหลกั สตู รจะตอ้ งมีความสอดคลอ้ งกับสภาพปญ๎ หาและความตอ้ งการของบุคคลแต่ละกลุ่ม) 3) การศึกษาตามอัธยาศยั [Informal Education] ให้ผู้เรยี นได้เรียนรดู้ ้วยตนเองตาม ความสนใจ ศกั ยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศกึ ษาจากบุคคล ประสบการณ์ สงั คม สภาพแวดลอ้ ม **มาตรา 16 การศกึ ษาในระบบมี 2 ระดบั 1)การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน (ไมน่ อ้ ยกว่า 12 ปี ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย) 2)การศกึ ษาระดับอุดมศกึ ษา (ตา่ กวา่ ปรญิ ญา และปรญิ ญา) *การเทยี บระดบั การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยให้เป็นตาม กฎกระทรวง *ศนู ย์การเรียน เป็นสถานท่ีท่หี นว่ ยงานจัดการศกึ ษานอกโรงเรียน คือภาคีเครอื ข่าย 11 แห่ง คอื 1)บุคคล 2)ครอบครวั 3)ชมุ ชน 4)องคก์ รชุมขน 5)อปท. 6)เอกชน 7)องคก์ รเอกชน 8)องคก์ ร วชิ าชีพ 9)สถาบันศาสนา 10)สถานประกอบการ 11)สถาบนั สังคมอื่น และเพิ่ม 12)โรงพยาบาล 13) สถาบนั ทางการแพทย์ 14)สถานสงเคราะห์ **มาตรา 17 ให้มกี ารศึกษาภาคบังคับ 9 ปี อายุยา่ งเขา้ ปีท่ี 7 จนถงึ ย่างเข้าปที ี่ 16 เข้าเรยี นใน สถานศึกษาขั้นพนื้ ฐาน (การนบั พ.ศ. เขา้ เรยี น = ปี พ.ศ.ท่เี กดิ + 7) มาตรา 21 กระทรวง ทบวง กรม รฐั วิสาหกจิ และหน่วยงานอ่ืนของรฐั อาจจดั การศึกษาเฉพาะทาง ไดต้ ามความต้องการและความชานาญของหน่วยงานน้นั ได้ คานึงนโยบายและมาตรฐานของชาติ หมวด 4 แนวการจัดการศึกษา *มาตรา 22 การจดั การศกึ ษาตอ้ งยดึ หลกั ว่าผูเ้ รยี นทุกคนมีความสามารถเรียนรูแ้ ละพัฒนาตนเองได้ และถอื วา่ ผเู้ รียนสาคญั ที่สุด มาตรา 23 การจัดการศึกษาท้งั สามรปู แบบ ต้องเนน้ (KPA) 1) ความรู้[K : Knowledge] 2) กระบวนเรียนรู้[P : Practice] 3) คณุ ธรรม[A : Attitude] 4) บูรณาการตามความเหมาะสม ในเร่ืองทตี่ อ้ งศึกษาในแตล่ ะระดบั คอื 1)ตนเองและสงั คม 2)วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี 3)ศาสนาศลิ ปวัฒนธรรม 4)คณติ ศาสตรแ์ ละภาษา 5)การประกอบอาชพี และการดารงชีวิต สนใจสงั่ ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
111 มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรียนรู้ 1) จัดเน้อื หาสาระและกจิ กรรม สอดคล้อง ความสนใจและความถนดั ของผู้เรยี น คานงึ ถงึ ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล 2) ฝึกทกั ษะ กระบวนการคิด เพอื่ ปูองกนั แก้ป๎ญหา 3) จดั กจิ กรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณจ์ รงิ ฝึกปฏบิ ัติ(ทาไดค้ ิดเปน็ ทาเปน็ ) 4) จดั การเรียนการสอนโดยผสมผสาน(บรู ณาการ) 5) ส่งเสรมิ สนบั สนนุ ใหผ้ ู้สอนจัดบรรยากาศและสภาพแวดลอ้ ม ส่ือ และอานวยความสะดวก เพ่อื ให้ผูเ้ รียนเกิดการเรยี นร้แู ละมคี วามรอบรู้(ในศูนยก์ ารเรียน มีมมุ ส่งเสรมิ การอา่ น สคบ. เศรษฐกิจ พอเพยี ง ประชาธิปไตย อาเซยี น) **มาตรา 25 แหล่งเรียนรู้ตลอดชวี ิต 1) ห้องสมุดประชาชน 2) พิพธิ ภณั ฑ์ 3) หอศิลป์ 4) สวนสัตว์ 5) สวนสาธารณะ 6) สวนพฤกษศาสตร์ 7) อุทยาน 8)ศนู ยก์ ารกฬี าและนันทนาการ *มาตรา 26 สถานศกึ ษาประเมนิ ผเู้ รยี นจาก 1) พฒั นาการผูเ้ รยี น 2) ความประพฤติ 3) สงั เกตพฤติกรรมการเรียน 4) รว่ มกจิ กรรม 5 ) การทดสอบ ** มาตรา 27 คณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กำหนดหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขน้ั พน้ื ฐำน (คณะกรรมการส่งเสรมิ สนบั สนนุ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 21 คน ประธาน: รฐั มนตร]ี 1) เป็นผู้กาหนดหลักสตู รการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 2551) 2) ใหส้ ถานศึกษาข้ันพื้นฐาน(กศน.อาเภอ)จดั ทาสาระของหลักสตู ร(หลกั สูตรสถานศึกษา) 3) หลกั สตู รท้องถ่นิ มาจากภูมิปญ๎ ญาทอ้ งถน่ิ หรือปราชญ์ หรือสิ่งท่ีเป็นความเชี่ยวชาญในชมุ ชน มาตรา 29 ให้สถานศึกษาร่วมกับภาคีเครอื ขา่ ย ส่งเสริมความเขม้ แข็งของชุมชน โดยจัดกระบวนการ เรยี นภายในชุมชน (บ้านหนงั สือชุมชน เพ่อื ใหช้ ุมชนมีการศึกษาคน้ ควา้ แสวงหาความร)ู้ มาตรา 30 ส่งเสริมให้ครูทาวจิ ัยเพอื่ การพัฒนาการเรยี นรู้ใหม้ ีประสิทธภิ าพ (ป๎ญหาท่ีเกดิ จากการ ทากิจกรรมการเรยี นการสอน) หมวด 5 การบริหารและการจดั การ มาตรา 31 ให้กระทรวงมหี น้าท่ี 1)กากับดูแลการศกึ ษาทกุ ระดบั ทุกประเภท 2)กาหนดนโยบายแผนและมาตรฐานการศึกษา 3)สนับสนุนทรัพยากรเพอ่ื การศึกษา 4)ตดิ ตามตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศกึ ษา สนใจสงั่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
112 ** มาตรา 32 ใหก้ ระทรวงมีองค์กรหลักในรปู สภา จานวน 3 องค์กร 1)สภาการศกึ ษา 2)คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน 3)คณะกรรมการอาชีวศึกษา มีหน้าทใ่ี หค้ วามเห็นและแนะนาแกร่ ัฐมนตรีหรือคณะรฐั มนตรี (1ผแู้ ทนองค์กรเอกชน 2.ผแู้ ทน อปท. 3.ผแู้ ทนองคก์ รวิชาชีพ จะมีอย่ใู นรูปสภาทงั้ 3 องคก์ รหลกั ) *ปจั จุบนั เหลือ 3 องค์กร ซง่ึ ไมม่ ีคณะกรรมการอมุ ศกึ ษา เน่อื งจากแยกไปตัง้ กระทรวงใหม่ ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ แก้ไขฉบับท่ี 3 พ.ศ. 2562 มาตรา 38 คณะกรรมการเขตพื้นทกี่ ารศึกษา มหี น้าท่ี 1)กากบั ดแู ลสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน จดั ตง้ั ยุบรวม (กศน.อาเภอด้วย) 2)ประสานสง่ เสริมสถานศึกษาเอกชนในพน้ื ที่ 3)ประสานส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ให้สามารถจัดการศกึ ษากับนโยบายและ มาตรฐานการศึกษา 4)สง่ เสริมและสนับสนนุ การจัดการศึกษาของภาคเี ครือข่าย มาตรา 39 ใหก้ ระทรวงกระจายอานาจการบรหิ ารและจัดการศึกษา 4 งานคอื 1)ดา้ นวิชาการ 2)งบประมาณ 3)การบรงิ านบุคคล 4)การบริหารท่ัวไป ไปยังคณะกรรมการเขต สานักงานเขตพ้ืนที่ และสถานศกึ ษา มาตรา 40 ใหม้ ีคณะกรรมการของแต่ละสถานศึกษา “คณะกรรมการสถานศึกษา” ทาหน้าที่ 1)เพอื่ ทาหน้าที่กากับ 2)ส่งเสรมิ สนบั สนนุ กจิ การของสถานศึกษา ประกอบดว้ ย 1)ประธานกรรมการสถานศกึ ษา เลือกจากผูท้ รงคุณวุฒิ 2)ผแู้ ทนผปู้ กครอง 3)ผ้แู ทนครู 4)ผ้แู ทนองค์กรชุมชน 5)ผูแ้ ทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ 6)ผูแ้ ทนศิษยเ์ กา่ ของ สถานศกึ ษา 7)ผูแ้ ทนพะภกิ ษุสงฆ์หรอื ผูแ้ ทนองค์กรศาสนา 8)ผทู้ รงคณุ วุฒิ 9)ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาเปน็ กรรมการและเลขานกุ าร มาตรา 41 อปท. มสี ทิ ธจิ ัดการศึกษาในระดับหนงึ่ หรือทุกระดับ ตามความพรอ้ มและความ เหมาะสมและความต้องการในทอ้ งถิ่น หมวด 6 มาตรฐานและการประกนั คุณภาพการศึกษา มาตรา 47 ให้มีระบบการประกนั คณุ ภาพการศึกษาทกุ ระดับ เพือ่ พฒั นาคุณภาพและมาตรฐาน การศกึ ษา ประกอบด้วย 1)ระบบการประกันคุณภาพภายใน 2)ระบบการประกนั คณุ ภาพภายนอก มาตรา 48 ให้หน่วยงานตน้ สังกัดและสถานศกึ ษา จดั ใหม้ ีระบบการประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษา *ให้ถือวา่ การประกันคุณภาพภายในเปน็ ส่วนหนึง่ ของกระบวนการบรหิ ารการศกึ ษาท่ีตอ้ ง ดาเนินการอยา่ งตอ่ เนื่องโดยมกี ารจดั ทารายงานประจาปเี สนอตอ่ หนว่ ยงานต้นสงั กัด หนว่ ยงานท่ี เก่ยี วข้อง และเปิดเผยต่อสาธารณชน สนใจสง่ั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
113 *เพื่อนาไปสู่การพฒั นาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา เพื่อรองรับการประกันคุณภาพ ภายนอก **มาตรา 49 ใหม้ สี านกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมนิ คุณภาพการศกึ ษา มฐี านะเป็นองค์การ มหาชน (สมศ.) ทาหน้าทพ่ี ฒั นาเกณฑ์ วธิ กี ารประเมินคุณภาพภายนอก และทาการประเมนิ ผลการจดั การศกึ ษา *เพอื่ ให้มีการตรวจสอบคณุ ภาพของสถานศกึ ษา คานึงถงึ ความมุง่ หมายและหลกั การ (หมวด 1) แนวการจัดการศึกษาในแตล่ ะระดับ (หมวด 4) *ให้มีการประเมนิ ผลคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งอย่างนอ้ ยหน่งึ ครั้งในทุก หา้ ปนี บั ตั้งแต่การประเมินครัง้ สุดทา้ ย เสนอผลการประเมินต่อหน่วยงานทีเ่ กี่ยวขอ้ งและสาธารณชน หมวด 7 ครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา มาตรา 52 ให้กระทรวงสง่ เสริมให้มีระบบ กระบวนการผลิต การพัฒนาครู มาตรา 53 ทาใหเ้ กิด พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 2546 มาตรา 54 ทาให้เกิด พ.ร.บ.ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา 2557 หมวด 8 ทรพั ยากรและการลงทนุ เพื่อการศกึ ษา มาตรา 59 ให้สถานศึกษาของรฐั ท่เี ป็นนิติบคุ คล มีอานาจ ในการปกครอง ดแู ล บารุงรกั ษาใช้ และจัดหาผลประโยชนจ์ ากทรัพย์สนิ ของ สถานศกึ ษา ทงั้ ที่เปน็ ทรี่ าชพัสดุ และที่เปน็ ทรัพยส์ นิ อืน่ จดั หารายไดจ้ ากบรกิ ารของสถานศึกษา และเก็บค่าธรรมเนียม การศึกษาทไี่ มข่ ดั หรือแยง้ กับ นโยบาย วตั ถุประสงค์ และภารกจิ หลักของสถานศกึ ษา มาตรา 60 ใหร้ ัฐจดั สรรงบประมาณแผ่นดินใหก้ ับการศกึ ษาในฐานะที่มีความสาคญั สงู สุดต่อ การพฒั นาทยี่ ง่ั ยืนของประเทศโดยจดั สรรเป็นเงินงบประมาณเพื่อการศึกษา 1)จัดสรรเงนิ อุดหนนุ ทั่วไป เป็นค่าใชจ้ า่ ยรายบคุ คลทเี่ หมาะสมแก่ผเู้ รยี นการศึกษาภาคบงั คับและการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐานทจ่ี ัดโดยรฐั และเอกชนใหเ้ ท่าเทียมกัน 2)จัดสรรทนุ การศกึ ษาในรปู ของกองทุนกู้ยืมใหแ้ ก่ผเู้ รยี นทมี่ าจากครอบครัว ทม่ี ีรายไดน้ ้อย ตามความเหมาะสมและความจาเปน็ หมวด 9 เทคโนโลยเี พอ่ื การศกึ ษา มาตรา 63-69 1) รัฐต้องจัดสรรคล่นื ความถ่ี สอ่ื ตัวนา และโครงสร้างพ้นื ฐานทจ่ี าเปน็ เพอื่ ประโยชน์สาหรับ การศึกษาในระบบ นอกระบบและตามอัธยาศัย สนใจสัง่ ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
114 2) รัฐต้องสง่ เสรมิ สนับสนนุ ใหม้ ีการผลิต การพฒั นาแบบเรียน ตารา หนังสือ ทางวิชาการ ส่ือ สิ่งพมิ พ์ วสั ดอุ ุปกรณ์และเทคโนโลยี เร่งรดั พัฒนาความสามารถในการผลิต มีเงินสนบั สนนุ การผลิต ให้ แรงจูงใจแก่ผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี โดยเปิดให้มกี ารแข่งโดยเสรอี ยา่ งเปน็ ธรรม 3) พัฒนาบคุ ลากรทั้งด้านผ้ผู ลติ และผใู้ ชเ้ ทคโนโลยี 4) ผเู้ รยี นมีสทิ ธิได้รับการพัฒนาขดี ความสามารถในโอกาสแรกท่ีทาไดใ้ นการใชเ้ ทคโนโลยี 5) รัฐต้องสง่ เสริมใหม้ ีการวจิ ัยและพฒั นาการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยี ตดิ ตาม ตรวจสอบและ ประเมินผลการใช้ 6) ให้มีการระดมทนุ เพ่อื จัดตั้งกองทนุ พฒั นาเทคโนโลยีจากเงินอุดหนนุ ของรัฐ คา่ สมั ปทานและ ผลกาไรท่ีได้จากการดาเนนิ กจิ การดา้ นสอื่ สารมวลชน เทคโนโลยสี ารสนเทศและโทรคมนาคม และใหม้ ี การลดอตั ราคา่ บรกิ ารเปน็ พเิ ศษในการใชเ้ ทคโนโลยีเพื่อการพฒั นาคนและสงั คม 7) รฐั ต้องจัดให้มีหน่วยงานกลางทาหน้าทเ่ี สนอนโยบาย แผน สง่ เสรมิ และประสานการวิจยั การพฒั นาและการใช้ ประเมนิ คณุ ภาพและประสทิ ธภิ าพการผลิตและการใชเ้ ทคโนโลยี สนใจสั่งชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
115 แบบทดสอบ พรบ.การศึกษาแหง่ ชาติ 1. ข้อใดกลา่ วถงึ พระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 1 พ.ศ. 2542 ไมถ่ กู ต้อง ก. รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย กาหนดให้รฐั ตอ้ งจดั การศึกษาอบรมและสนับสนุนให้เอกชน จดั การศึกษาอบรมให้เกดิ ความรคู้ ู่คณุธรรม ข. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกบั ความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกจิ และสงั คม ค. สร้างเสริมความร้แู ละปลกู ฝ๎งจติ สานกึ ทถ่ี กู ต้อง เก่ียวกับการเมอื งการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ์ทรงเป็นประมุข ง. แยกภารกจิ เกี่ยวกับงานด้านศลิ ปะและวัฒนธรรมไปจัดตั้งเป็นกระทรวงวฒั นธรรม 2. เหตุผลของการแก้ไขปรบั ปรงุ พระราชบัญญตั ิ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562 คอื ข้อใด ก. เพ่ือกาหนดขอบเขตในการดาเนนิ การของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. มกี ารจัดตัง้ กระทรวงการอุดมศึกษาวทิ ยาศาสตร์วจิ ยั และนวตั กรรม ค. แยกเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา ง. ถกู ท้ังขอ้ ก. และ ข. 3. ข้อใดต่อไปนไ้ี มใ่ ชก่ ระบวนการเรียนรู้เพอ่ื ความเจรญิ งอกงามของบุคคลและสงั คม ก. การถา่ ยทอดความรู้ ข. การสืบสานทางวัฒนธรรม ค. การสรา้ งสรรค์จรรโลงความกา้ วหนา้ ทางวชิ าการ ง. การผสมผสานระหวา่ งการศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 4. ขอ้ ใดต่อไปน้ีไมใ่ ชบ่ คุ ลากรทางการศึกษา ก. ผบู้ ริหารสถานศกึ ษา ข. ผู้บรหิ ารการศึกษา ค. ผสู้ นับสนุนการศึกษาเป็นผูท้ าหน้าทใี่ ห้บริการ ง. ครู 5. ขอ้ ใดใหค้ วามหมายของ “คร”ู ได้ถูกต้องตามพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ ก. บุคลากรวิชาชพี ซง่ึ ทาหน้าท่หี ลักทางดา้ นการเรยี นการสอนและการสง่ เสริมการเรยี นรู้ของผูเ้ รยี น ดว้ ยวิธีการต่าง ๆ ข. บุคลากรซึง่ ทาหนา้ ทห่ี ลกั ทางดา้ นการเรียนการสอนและการสง่ เสรมิ การเรยี นรู้ของผเู้ รียนดว้ ย วิธกี ารตา่ ง ๆ ค. บคุ คลซง่ึ ทาหนา้ ทีห่ ลักทางดา้ นการเรียนการสอนและการสง่ เสรมิ การเรียนรูข้ องผเู้ รยี นด้วย วธิ กี าร ต่าง ๆ ง. บุคลากรวิชาชพี ซึ่งทาหนา้ ทีห่ ลักทางด้านการเรยี นการสอนและการวจิ ัย สนใจสัง่ ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
116 6. “มาตรฐานการศกึ ษา” หมายถึงขอ้ ใดต่อไปนี้ ก. การศึกษาทีเ่ กดิ จากการผสมผสานระหว่าง การศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และการศึกษาตาม อธั ยาศัย ข. ขอ้ กาหนดเกยี่ วกับคณุ ลกั ษณะ คุณภาพที่พงึ ประสงค์และมาตรฐานท่ตี ้องการให้เกดิ ข้ึนใน สถานศกึ ษาทุกแหง่ ค. ขอ้ กาหนดเกีย่ วกับคณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์และมาตรฐานทตี่ ้องการใหเ้ กดิ ขึ้นใน สถานศกึ ษาทกุ แหง่ ง. กระบวนการเรียนรูเ้ พอ่ื ความเจรญิ งอกงามของบุคคลและสงั คม 7. ข้อใดคือความหมายของ “การศึกษาตลอดชวี ติ ” ก. การศึกษาทเ่ี กดิ จากการผสมผสานระหว่างการศึกษานอกระบบและในโรงเรียน เพ่ือพัฒนาคนใหม้ ีคุณภาพตลอดชีวติ ข. การศึกษาทเ่ี กิดจากการผสมผสานระหว่างการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ได้อยา่ งต่อเนอ่ื งตลอดชีวติ ค. การศึกษาท่ผี สมผสานการเรียนรู้ของทกุ กิจกรรม เพื่อมงุ่ หวังให้เกดิ การพัฒนาคน ให้มคี ุณภาพชีวิตที่ดี ง. การศกึ ษาที่เกิดจากการผสมผสานระหวา่ งการศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัยเพ่อื พัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ได้อย่างตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ิต 8. ใครมีอานาจประกาศจดั ต้ัง ศูนย์การเรยี นชุมชน ก. ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอ/เขต ข. ผ้อู านวยการ สานักงาน กศน.จงั หวัด/กทม. ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ง. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร 9. พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ ตราขน้ึ ไวโ้ ดยคาแนะนาและยินยอมจากข้อใด ก. รัฐสภา ข. คณะรฐั มนตรี ค. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ง. นายกรฐั มนตรี 10. ขอ้ ใดคือความหมายของ “การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน “ ก. การศกึ ษากอ่ นระดับอุดมศกึ ษา ข. การศึกษาในระดบั ประถมและมัธยมศกึ ษา ค. การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ง. การศึกษาในระบบนอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 11. การจัดการศึกษาสาหรับบคุ คลซึ่งมคี วามบกพรอ่ ง จดั อยา่ งไร ก. จัดเป็นพิเศษ ข. จดั ตงั้ แตแ่ รกเกดิ หรอื พบความพิการ ค. จัดด้วยรูปแบบทเ่ี หมาะสม ง. ทุกข้อทกี่ ลา่ วมา สนใจส่งั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
117 12. การจดั การศึกษาสาหรบั บคุ คลซง่ึ มคี วามสามารถพิเศษ จดั อยา่ งไร ก. จดั เปน็ พิเศษ ข. จัดตง้ั แตแ่ รกเกดิ หรือพบความพกิ าร ค. จัดด้วยรปู แบบท่เี หมาะสม ง. ทุกข้อท่กี ลา่ วมา 13. บดิ า มารดา หรือผปู้ กครองมีหนา้ ที่อะไร ก. จดั ใหบ้ ุตรหรือบุคคลซึง่ อยใู่ นความดแู ลได้รับการศกึ ษา ม.3 ข. จัดใหบ้ ุตรหรอื บุคคลซ่งึ อยใู่ นความดูแลได้รับการศึกษาภาคบงั คับ ค. จัดให้บุตรหรือบคุ คลซง่ึ อย่ใู นความดูแลได้รับการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ง. จัดให้บตุ รหรือบุคคลซง่ึ อยู่ในความดแู ลได้รับการศกึ ษา ม.6 14. ใครไมม่ ีสิทธใิ น การจัดการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน ก. ครู ข. บุคคล ค. ครอบครัว ง. สถานประกอบการ 15. รูปแบบของการจัดการศกึ ษาตาม พ.ร.บ.การศกึ ษาแหง่ ชาติ นก้ี าหนดไว้กีร่ ูปแบบ ก. 1 รูปแบบ ข. 2 รปู แบบ ค. 3 รูปแบบ ง. 4 รปู แบบ 16. การศึกษาทีม่ คี วามยืดหย่นุ ในการกาหนดจดุ มุ่งหมาย รปู แบบ วิธกี ารจดั การศึกษา ระยะเวลา ของการศึกษา การวดั และประเมนิ ผล เป็นเงอ่ื นไขสาคัญของการสาเร็จการศึกษา โดยเน้ือหาและ หลักสตู รจะต้องมีความเหมาะสมสอดคลอ้ งกับสภาพปัญหาและความต้องการของบคุ คลแต่ละกลมุ่ หมายถึงการจดั การศกึ ษารูปแบบใด ก. การศึกษาในระบบ ข. การศกึ ษานอกระบบ ค. การศึกษาตามอัธยาศยั ง. ถกู ทกุ ข้อ 17. การศกึ ษาที่มจี ดุ มงุ่ หมาย วิธีการศกึ ษา หลกั สูตร ระยะเวลาของการศกึ ษา การวดั และ ประเมนิ ผล เปน็ เงือ่ นไขของการสาเร็จการศกึ ษาท่แี นน่ อน หมายถงึ การจดั การศกึ ษารูปแบบ ก. การศึกษาในระบบ ข. การศึกษานอกระบบ ค. การศกึ ษาตามอัธยาศยั ง. ถูกทกุ ข้อ 18. การจดั การศกึ ษา ต้องเนน้ ความสาคัญ เรื่องใด ก. ความรู้ความสามารถ ข. ความรู้ คุณธรรม ค. ความแตกต่างระหว่างบุคคล ง. เน้นการจัดการเรียนรใู้ นศตวรรษที่ 21 19. ขอ้ ใดไมเ่ ปน็ ศูนยก์ ารเรยี น ก. สถานสงเคราะห์ ข. สถาบนั ศาสนา ค. สถาบนั ทางการแพทย์ ง. ศูนยพ์ ฒั นาเด็กกอ่ นเกณฑ์ของสถาบันศาสนา สนใจสัง่ ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
118 20. ระดบั ทกี่ าหนดไวส้ าหรบั การศกึ ษาในระบบคือขอ้ ใด ก. ระดับต่ากว่าปรญิ ญา และระดบั ปริญญา ข. การศกึ ษาภาคบังคับ และการศกึ ษาระดับอดุ มศกึ ษา ค. การศึกษาขน้ั พื้นฐาน และการศึกษาระดับอุดมศึกษา ง. การศึกษาภาคบังคบั การศึกษาระดับอุดมศกึ ษา และการอาชีวะศึกษา 21. พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ น้ีไดก้ าหนดการศกึ ษาภาคบงั คับก่ปี ี ก. 5 ปี ข. 7 ปี ค. 9 ปี ง. 12 ปี 22. เด็กต้องเข้าเรียนในสถานศกึ ษาขน้ั พื้นฐานเม่ือมีอายกุ ีป่ ี ก. ย่างเข้าปีท่ี 5 ข. ยา่ งเขา้ ปีที่ 7 ค. ย่างเขา้ ปที ี่ 9 ง. ย่างเขา้ ปที ่ี 11 23. ตอ่ ไปนี้ ข้อใดไม่สอดคล้องคาว่า “การศึกษา” ก. การถา่ ยทอดความรู้ ข. การฝกึ อบรม ค. การพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์ ง. การสืบสานทางวัฒนธรรม 24. ขอ้ ใดตา่ งจากพวก ก. ครู ข. คณาจารย์ ค. ผู้บริหารสถานศกึ ษา ง. ผ้บู ริหารการศึกษา 25. สถานศกึ ษาของรฐั มีฐานะตามข้อใด ก. นิติบคุ คล ข. ก่ึงนิตบิ คุ คล ค. การกากบั ของรัฐ ง. องค์กรวชิ าชีพ 26. ข้อใดไมส่ อดคล้องการจดั ระบบโครงสร้างและกระบวนการการจดั การศกึ ษา(ม.9) ก. กระจายอานาจสู่สถานศกึ ษาท้งั หมด ข. กาหนดมาตรฐานการศึกษา จดั ระบบประกนั คณุ ภาพ ค. มหี ลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ง. รวมทรัพยากรจากแหล่งตา่ ง ๆ มาไว้ในการจัดการศึกษา 27. ข้อใดไม่ใชค่ ณะกรรมการสถานศึกษา ก. ผู้แทนครู ข. ผู้แทนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ค. ผแู้ ทนผูป้ กครอง ง. ผ้แู ทนชมุ ชน 28. ข้อใดสาคัญทสี่ ดุ เกี่ยวกบั หลกั สตู ร ก. พัฒนาคุณภาพชีวิตบุคคลใหเ้ หมาะสมกบั วัยตามศักยภาพ ข. เหมาะสมกับความจริงก้าวหนา้ ดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ค. สอดคล้องความต้องการชมุ ชน สนใจสง่ั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
119 ง. คานึงถงึ ภมู ปิ ๎ญญาทอ้ งถ่นิ 29. พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ไม่ได้กาหนดใหห้ นว่ ยงานใดมีสิทธจิ ัดการศกึ ษาข้ัน พื้นฐาน ก. องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น ข. มหาวทิ ยาลยั ของรฐั และเอกชน ค. หน่วยงานหรือสถานศึกษาของรฐั และเอกชน ง. องคก์ รวชิ าชีพ สถาบันศาสนา และสถานประกอบการ 30. ตามพระราชบญั ญตั ินีก้ าหนดใหก้ ระทรวงกระจายอานาจ ในด้านใดบา้ ง. ก. บรหิ ารบุคคล งบประมาณ บรหิ าร จัดการ และบรหิ ารท่วั ไป ข. วชิ าการ บรหิ ารบคุ คล งบประมาณและการมีสว่ นร่วม ค. วิชาการ งบประมาณ บริหารบคุ คลและการบริหารทว่ั ไป ง. งบประมาณ บริหารบคุ คล การมีสว่ นร่วม และการบริหารท่ัวไป 31. ข้อใดไม่ใช่ คณะบุคคลในรปู สภาหรือในรปู คณะกรรมการในกระทรวงศึกษาธิการ ก. สภาการศึกษา ข. คณะกรรมการอดุ มศึกษา ค. คณะกรรมการอาชวี ศึกษา ง. คณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 32. เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบญั ญัตกิ ารศกึ ษาแห่งชาติ ฉบับที่ 4 ตามข้อใด ก. สงั คม เศรษฐกิจทเี่ ปล่ียนแปลงไป ข. การเปลยี่ นแปลงโครงการทางการศึกษา ค. การเปลย่ี นแปลงเขา้ สู่สังคมผู้สงู อายุ และยุคดจิ ิทัล ง. การจัดต้ังกระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์วิจยั และนวตั กรรม 33. การรับการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน ท่ีรฐั ตอ้ งจดั ใหอ้ ยา่ งทั่วถึงและมีคุณภาพโดยไม่เก็บคา่ ใชจ้ ่าย หมายถงึ ขอ้ ใด ก. 12 ปี ข. ไม่น้อยกวา่ 12 ปี ค. ไมเ่ กนิ กว่า 12 ปี ง. ไมต่ ่ากวา่ 12 ปี 34. ใครเป็นผจู้ ัดทา “การประกนั คุณภาพภายนอก” ก. บคุ ลากรของภายในสถานศึกษา ข. คณะกรรมการสถานศึกษาและภาคีเครือข่าย ค. ผู้บริหารสถานศึกษาและคณะกรรมการท่ีแตง่ ตง้ั จาก กศจ. ง. สานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศกึ ษา สนใจสงั่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
120 35. “ผูส้ อน” หมายความว่า ก. บคุ ลากรวชิ าชีพซง่ึ ทาหนา้ ทหี่ ลกั ทางด้านการเรียนการสอน ข. บคุ ลากรซง่ึ ทาหน้าที่หลักทางดา้ นการสอนและการวจิ ัย ค. บุคลากรวิชาชีพที่รับผดิ ชอบการบริหารและการสอน ง. ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่างๆ 36. สานักงานคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา ถกู เปลี่ยนชอ่ื เป็นกระทรวงใด ก. กระทรวงอุดมศกึ ษา ข. กระทรวงการอดุ มศกึ ษา ค. กระทรวงอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัย และนวตั กรรม ง. กระทรวงการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม 37. ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ต้องเก่ยี วกับการประกนั คุณภาพการศกึ ษา ก. สานกั งานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษามหี น้าท่ีประกันคณุ ภาพภายนอก ข. การประเมนิ คณุ ภาพภายนอกต้องประเมินอยา่ งน้อย 1 คร้ังใน 4 ปี นบั ต้งั แต่การประเมินคร้ัง สุดทา้ ย ค. การประกันคณุ ภาพการศกึ ษาประกอบด้วย การประกนั คณุ ภาพภายในและการประกันคณุ ภาพ ภายนอก ง. การประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาเป็นส่วนหนง่ึ ของกระบวนการบริหารท่ตี ้องดาเนินการอย่าง ต่อเน่อื ง 38. องคก์ รหลักทเี่ ป็นคณะบุคคลในรูปสภา หรอื คณะกรรมการของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร มีก่ีองค์กร ก. 3 องคก์ ร ข. 4 องคก์ ร ค. 5 องคก์ ร ง. 6 องค์กร 39. สาระของหลักสตู รการศึกษาระดับตา่ งๆ ตอ้ งมุ่งพฒั นาคนให้เกดิ ความสมดุลทุกๆ ด้าน ยกเว้น ขอ้ ใด ก. ดา้ นความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ข. ดา้ นความรู้ ดา้ นความคิด ค. ดา้ นความรับผดิ ชอบต่อสงั คม ง. ดา้ นความสามารถ ความดงี าม 40. การเสนอนโยบาย แผนการศกึ ษาแห่งชาติและมาตรฐานการศึกษา ตอ้ งเสนอต่อใคร ก. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. คณะรัฐมนตรี ค. ประธานรฐั สภา ง. ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
121 เฉลยขอ้ สอบ 1.ง 2.ง 3.ง 4.ง 5.ก 6.ข 7.ง 8.ก 9.ก 10.ก 11.ก 12.ค 13.ข 14.ก 15.ค 16.ข 17.ก 18.ข 19.ง 20.ค 21.ค 22.ข 23.ค 24.ข 25.ก 26.ก 27.ง 28.ก 29.ข 30.ค 31.ข 32.ง 33.ข 34.ง 35.ง 36.ง 37.ข 38.ก 39.ก 40.ก สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
122 แผนการศึกษาแหง่ ชาติพ.ศ. 2560 – 2579 “แผนการศึกษาแหง่ ชาติพ.ศ. 2560 – 2579” เปน็ แผนระยะยาว 20 ปี ดร.อานาจ วิชยานวุ ัติ เลขาธิการสภาการศกึ ษา คนปัจจุบัน ผจู้ ัดทา สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ เหตุผลความจาเปน็ ในการจัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ 1. การเปลย่ี นแปลงของบรบิ ทเศรษฐกิจและสงั คมโลก อนั เนือ่ งจากการปฏวิ ตั ิดจิ ิทลั (Digital Revolution) 2.การเปลีย่ นแปลงส่อู ุตสาหกรรม 4.0 (The Fourth Industrial Revolution) 3.การดาเนนิ งานเพอ่ื บรรลุเปาู หมายการพัฒนาทยี่ งั่ ยืนขององค์การสหประชาชาติ 2573 (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ทป่ี ระเทศไทยไดใ้ ห้สตั ยาบัน รวมท้ัง ผลกระทบของการเปน็ ประชาคมอาเซียน 4. ความต้องการกาลงั คนที่มที กั ษะในศตวรรษท่ี 21 5. ประเทศเขา้ สู่สังคมสงู วัยอยา่ งสมบูรณใ์ นอนาคตอันใกล้ 6. การติดกบั ดักประเทศท่ีมรี ายได้ปานกลางทัศนคตคิ วามเชื่อ คา่ นยิ ม วัฒนธรรม และพฤติกรรม 7. ระบบการศึกษาทีย่ งั มปี ๎ญหาหลายประการ นบั ตง้ั แต่ปญ๎ หาคุณภาพของคนไทยทุกช่วงวัย ป๎ญหา คุณภาพและมาตรฐานการจดั การศึกษาในทกุ ระดับ 8.ผลการพฒั นาการศึกษาในช่วงปี 2552 - 2559 พบว่า ไทยประสบความสาเร็จในหลายดา้ น และมี อกี หลายด้านยงั เป็นปญ๎ หาทีต่ ้องไดร้ บั การพัฒนาอย่างเร่งด่วนในระยะต่อไป 9. ดา้ นโอกาสทางการศึกษา รฐั มีนโยบายส่งเสริมสนับสนนุ โอกาสทางการศกึ ษาคอ่ นข้างมาก สง่ ผลใหป้ ระชากรในวัยเรียน รวมทัง้ เด็กด้อยโอกาสและผมู้ ีความตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษมโี อกาสได้รับ การศกึ ษาสงู ขึ้น แต่ยงั เขา้ เรียนไดไ้ ม่ครบทกุ คนและมีปญ๎ หาการออกกลางคันอยู่บ้าง 10. ด้านคุณภาพการศกึ ษา ผลการพัฒนายังไม่เปน็ ทน่ี า่ พึงพอใจ เน่ืองจากผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนระดับการศึกษาขน้ั พื้นฐานมีคะแนนตา่ กวา่ ค่าเฉลี่ยมาก และต่ากว่าหลายประเทศใน แถบเอเชยี ส่วนประเด็นคณุ ธรรม จริยธรรมของเดก็ และเยาวชนยงั ตอ้ งมกี ารพฒั นาเพม่ิ ขึน้ นอกจากนี้คุณภาพของกาลังแรงงานอายุ 15 ปีข้ึนไป ยังไมต่ รงกับความต้องการของตลาดงาน 11. ด้านประสทิ ธิภาพของการจัดการเรียนการสอน การบรหิ ารจัดการ และการใช้จ่าย งบประมาณทางการศึกษา ซึ่งเปน็ ปญ๎ หาเชิงโครงสร้างและระบบการจัดการท่ีต้องไดร้ ับการปรบั ปรุง เปน็ ลาดบั แรก โดยเฉพาะการบริหารจดั การสถานศกึ ษาขนาดเล็กซึ่งมีอยู่จานวนมาก สนใจส่ังชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
123 แนวคิดการจัดการศกึ ษา 1. แนวคดิ การจัดการศกึ ษา (Conceptual Design) ตามแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติยึดหลักสาคัญ ในการจัดการศกึ ษา ประกอบด้วย 2. หลักการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) 3. หลกั การจดั การศึกษาเพ่อื ความเทา่ เทยี มและท่ัวถึง (Inclusive Education) 4. หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (Sufficiency Economy) 5. หลักการมสี ว่ นร่วมของทุกภาคส่วนของสังคม (All for Education) 6. ยึดตามเปูาหมายการพัฒนาทีย่ ัง่ ยืน (SustainableDevelopment Goals : SDGs 2030) *** โดยนายทุ ธศาสตร์ชาติ(National Strategy)มาเป็นกรอบความคิดสาคัญในการจัดทา แผนการศึกษาแห่งชาติ วสิ ัยทศั น์ “คนไทยทุกคนได้รับการศกึ ษาและเรยี นรูต้ ลอดชีวิตอยา่ งมคี ณุ ภาพดารงชีวิตอย่างเป็นสขุ สอดคลอ้ งกบั หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง และการเปล่ียนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21” วัตถปุ ระสงค์ในการจดั การศกึ ษา 4 ประการ คือ 1. เพอ่ื พัฒนาระบบและกระบวนการจดั การศึกษาทม่ี คี ณุ ภาพและมีประสิทธภิ าพ 2. เพอื่ พัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมอื งดีมคี ณุ ลักษณะทกั ษะและสมรรถนะทีส่ อดคล้องกบั บทบัญญตั ิ ของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยพระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาตแิ ละยทุ ธศาสตร์ชาติ 3. เพ่อื พฒั นาสงั คมไทยให้เป็นสงั คมแหง่ การเรียนรูแ้ ละคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามคั คแี ละ รว่ มมอื ผนกึ กาลงั มงุ่ สู่การพฒั นาประเทศอย่างยงั่ ยนื ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. เพอื่ นาประเทศไทยก้าวข้ามกับดกั ประเทศท่ีมีรายได้ปานกลาง และความเหลอ่ื มลา้ ภายในประเทศ ลดลง สนใจส่งั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
124 แผนการศกึ ษาแห่งชาตไิ ด้วางเปูาหมายไว้ 2 ดา้ น คอื 1. เปูาหมายด้านผ้เู รยี น (Learner Aspirations) โดยม่งุ พฒั นาผู้เรียนทุกคนให้มคี ุณลักษณะและทักษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21 (3Rs,8Cs) ประกอบด้วย ทักษะและคณุ ลักษณะต่อไปนี้ 3Rs ไดแ้ ก่ การอา่ นออก (Reading) การเขยี นได(้ Writing) การคิดเลขเปน็ (Arithmetics) 8Cs ได้แก่ ทักษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และทักษะในการแกป้ ญ๎ หา ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม ทกั ษะด้านความเข้าใจต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์ ทักษะด้านความร่วมมอื การทางานเป็นทมี และภาวะผนู้ า ทกั ษะด้านการสื่อสาร สารสนเทศ และการรเู้ ทา่ ทันส่ือ ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สาร ทกั ษะอาชีพ และทกั ษะการเรียนรู้ ความมีเมตตา กรณุ า มีวนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม 2. เปาู หมายของการจัดการศึกษา (Aspirations) ๕ ประการ 1) ประชากรทกุ คนเขา้ ถึงการศกึ ษาที่มีคณุ ภาพและมีมาตรฐานอยา่ งทั่วถงึ (Access) 2) ผ้เู รยี นทกุ คน ทกุ กลุ่มเปูาหมายได้รับบริการการศกึ ษาทม่ี ีคุณภาพตามมาตรฐานอย่าง เทา่ เทยี ม (Equity) 3) ระบบการศึกษาท่ีมีคณุ ภาพ สามารถพัฒนาผเู้ รียนใหบ้ รรลุขดี ความสามารถเตม็ ตาม ศักยภาพ (Quality) 4) ระบบการบริหารจดั การศึกษาท่มี ปี ระสิทธิภาพ เพื่อการลงทุนทางการศกึ ษาที่คมุ้ คา่ และ บรรลุเปูาหมาย (Efficiency) 5) ระบบการศกึ ษาทส่ี นองตอบและกา้ วทันการเปลี่ยนแปลงของโลกทเ่ี ป็นพลวตั และบริบท ทเี่ ปลย่ี นแปลง (Relevancy) สนใจสั่งชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
125 ยทุ ธศาสตรห์ ลกั ทีส่ อดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยทุ ธศาสตรท์ ี่ 1 : การจดั การศกึ ษาเพ่อื ความมัน่ คงของสังคมและประเทศชาติ มีเปูาหมายดังน้ี 1.1 คนทกุ ช่วงวยั มคี วามรักในสถาบันหลักของชาติ และยึดมั่นการปกครองระบอบ ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ 1.2 คนทุกช่วงวัยในเขตพฒั นาพิเศษเฉพาะกจิ จงั หวัดชายแดนภาคใตแ้ ละพนื้ ทพ่ี ิเศษได้รบั การศึกษาและเรยี นรู้อยา่ งมคี ุณภาพ 1.3 คนทกุ ช่วงวยั ได้รบั การศึกษา การดูแลและปูองกนั จากภยั คุกคามในชีวติ รปู แบบใหม่ ยุทธศาสตรท์ ่ี 2 : การผลิตและพัฒนากาลังคน การวิจัย และนวัตกรรรม เพื่อสร้างขดี ความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ มีเปาู หมาย ดังน้ี 2.1 กาลังคนมีทกั ษะท่ีสาคัญจาเปน็ และมีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดงานและ การพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศ 2.2 สถาบนั การศกึ ษาและหนว่ ยงานทจ่ี ัดการศึกษาผลติ บัณฑิตท่ีมีความเชย่ี วชาญและเปน็ เลิศ เฉพาะดา้ น 2.3 การวิจัยและพัฒนาเพ่อื สร้างองค์ความรู้ และนวตั กรรมทีส่ รา้ งผลผลิตและมูลคา่ เพมิ่ ทาง เศรษฐกจิ ยทุ ธศาสตร์ที่ 3 : การพฒั นาศักยภาพคนทุกชว่ งวัย และการสร้างสงั คมแห่งการเรยี นรู้ มเี ปูาหมาย ดงั นี้ 3.1 ผเู้ รยี นมีทักษะและคุณลักษณะพน้ื ฐานของพลเมอื งไทย และทกั ษะและคุณลักษณะท่จี าเป็น ในศตวรรษที่ 21 3.2 คนทกุ ชว่ งวัยมีทักษะ ความร้คู วามสามารถ และสมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษาและ มาตรฐานวิชาชพี และพัฒนาคุณภาพชีวิตไดต้ ามศักยภาพ 3.3 สถานศึกษาทกุ ระดับการศกึ ษาสามารถจัดกจิ กรรม/กระบวนการเรยี นรู้ตามหลักสตู ร อยา่ งมีคณุ ภาพและมาตรฐาน 3.4 แหล่งเรยี นรู้ ส่ือตาราเรียน นวัตกรรม และสอ่ื การเรยี นรู้มคี ุณภาพและมาตรฐาน และ ประชาชนสามารถเขา้ ถงึ ไดโ้ ดยไม่จากดั เวลาและสถานท่ี 3.5 ระบบและกลไกการวัด การติดตาม และประเมินผลมีประสิทธิภาพ 3.6 ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ได้มาตรฐานระดับสากล 3.7 ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ได้รบั การพฒั นาสมรรถนะตามมาตรฐาน สนใจสง่ั ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
126 ยุทธศาสตร์ที่ 4 : การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทยี มทางการศึกษา มีเปาู หมาย ดังนี้ 4.1 ผ้เู รยี นทกุ คนได้รบั โอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถงึ การศึกษาทีม่ ีคุณภาพ 4.2 การเพิ่มโอกาสทางการศกึ ษาผา่ นเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศกึ ษาสาหรบั คนทุกชว่ งวยั 4.3 ระบบข้อมูลรายบคุ คลและสารสนเทศทางการศกึ ษาทีค่ รอบคลมุ ถกู ตอ้ งเปน็ ป๎จจุบนั เพ่อื การวางแผนการบริหารจดั การศึกษา การติดตามประเมิน และรายงานผล ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 5 : การจัดการศึกษาเพ่ือสร้างเสริมคุณภาพชีวิตทเ่ี ปน็ มิตรกบั สงิ่ แวดลอ้ ม มเี ปูาหมาย ดังนี้ 5.1 คนทุกชว่ งวัย มจี ิตสานกึ รักษ์ส่งิ แวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนาแนวคดิ ตาม หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสู่การปฏิบัติ 5.2 หลกั สูตร แหล่งเรียนรู้ และสือ่ การเรยี นรทู้ สี่ ่งเสรมิ คณุ ภาพชีวิตทีเ่ ปน็ มติ รกับสิง่ แวดลอ้ ม คณุ ธรรม จริยธรรม และการนาแนวคิดตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารปฏิบตั ิ 5.3 การวจิ ยั เพอื่ พัฒนาองค์ความรแู้ ละนวัตกรรมด้านการสร้างเสริมคณุ ภาพชวี ิตท่เี ปน็ มติ รกับ ส่งิ แวดลอ้ ม ยุทธศาสตรท์ ่ี 6 : การพฒั นาประสิทธภิ าพของระบบบรหิ ารจดั การศึกษา มีเปาู หมายดังน้ี 6.1 โครงสร้าง บทบาท และระบบการบริหารจัดการการศึกษามคี วามคลอ่ งตัวชดั เจน และ สามารถตรวจสอบได้ 6.2 ระบบการบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลส่งผลตอ่ คณุ ภาพและ มาตรฐานการศกึ ษา 6.3 ทุกภาคสว่ นของสังคมมสี ่วนร่วมในการจดั การศึกษาท่ีตอบสนองความต้องการของ ประชาชนและพน้ื ท่ี 6.4 กฎหมายและรปู แบบการบรหิ ารจัดการทรัพยากรทางการศึกษารองรับลักษณะที่ แตกตา่ งกนั ของผู้เรียน สถานศึกษา และความต้องการกาลังแรงงานของประเทศ 6.5 ระบบบรหิ ารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษามีความเปน็ ธรรม สร้างขวัญกาลังใจ และสง่ เสรมิ ใหป้ ฏิบัติงานได้อย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ สนใจสง่ั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
127 การขบั เคลือ่ นแผนการศึกษาแหง่ ชาติสกู่ ารปฏบิ ัติ **ความสาเรจ็ ของการขับเคลือ่ นแผนการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2560 – 2579 สู่การปฏบิ ตั ิ ขน้ึ อยู่กบั ปจ๎ จัยสาคัญหลายประการ ประกอบดว้ ย **สาระของแผนการศกึ ษาแห่งชาติทีม่ คี วามชดั เจน ครบถ้วน และครอบคลมุ ทกุ กลุ่มเปูาหมาย และทกุ ระดับการศึกษา ** การมสี ่วนร่วมในกระบวนการพฒั นาแผนการศึกษาแหง่ ชาตขิ องผู้เก่ียวขอ้ งทกุ ภาคสว่ น ตัง้ แต่ระดับนโยบาย ระดับปฏบิ ัติผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสยี และสาธารณชน การเผยแพร่ ประชาสัมพนั ธ์ แกผ่ ู้เกีย่ วข้องและสาธารณชนเพ่อื สรา้ งความตระหนกั ในความสาคัญของแผนการศึกษาแหง่ ชาติ ** การสรา้ งความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ** การนาแผนการศึกษาแห่งชาติสกู่ ารปฏิบตั ิทช่ี ัดเจนแก่ผู้ปฏบิ ัตทิ ุกระดับ เพื่อให้ทุกภาคสว่ น ได้เขา้ มามีสว่ นรว่ มในการพฒั นาการจดั การศึกษาของชาติ แนวทางการขับเคลือ่ นแผนการศึกษาแห่งชาตสิ กู่ ารปฏิบัติ 1) การสร้างความรูค้ วามเขา้ ใจให้ทกุ ภาคสว่ นไดต้ ระหนกั ถึงความสาคัญและพร้อมเข้าร่วมใน การผลักดนั แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติสกู่ ารปฏิบตั ิการสรา้ งความเข้าใจกบั หน่วยงานองค์กร และภาคที ุก ภาคสว่ น ถงึ วสิ ัยทัศนแ์ ละเปาู หมายของแผนการศึกษาแห่งชาติ 2) การสรา้ งความเช่ือมโยงระหว่างแผนการศึกษาแหง่ ชาตพิ .ศ.2560 – 2579 ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี นโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาการศึกษาระยะ 5 ปีแผนปฏิบตั ริ าชการระยะ 4 ปี และแผนปฏิบตั กิ ารประจาปขี องหน่วยงาน โดยสานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา และหน่วยงานท่ี เกยี่ วข้องรว่ มจัดทาและตดิ ตามประเมินผลแผนดังกล่าว 3) การปรับปรุง กฎระเบยี บ และกฎหมายตา่ ง ๆ ให้เอ้ือตอ่ การขบั เคล่ือนการพฒั นาการศกึ ษา ในระดบั ต่าง ๆ 4) การสร้างช่องทางใหป้ ระชาสังคมมีโอกาสแสดงความคิดเหน็ และมีส่วนรว่ มในการจดั การศกึ ษาอยา่ งกว้างขวาง ท้ังระดับนโยบายและระดับพ้นื ที่ สนใจสัง่ ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
128 แบบทดสอบแผนการศึกษาแหง่ ชาติ 1. ขอ้ ใดคือวิสัยทัศน์แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 –2579 ก. “คนไทยทุกคนไดร้ ับการศึกษาและเรียนร้ตู ลอดชีวติ อยา่ งมีคุณภาพ ดารงชีวิตอย่างเป็นสุข สอดคล้องกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และการเปลย่ี นแปลงของโลกศตวรรษท่ี 21” ข. “ประชาชนทกุ คนไดร้ ับการศึกษาและเรียนรตู้ ลอดชวี ิตอย่างมีคณุ ภาพ ดารงชีวิตอย่างเป็นสขุ สอดคล้องกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21” ค. “คนไทยทงั้ ประเทศได้รบั การศกึ ษาและเรยี นรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดารงชีวิตอยา่ งเป็นสขุ สอดคล้องกบั หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และการเปลย่ี นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21” ง. “คนไทยทกุ กลุ่มเปูาหมายไดร้ ับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวติ อยา่ งมคี ณุ ภาพ ดารงชีวติ อยา่ ง เปน็ สุข สอดคล้องกับหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และการเปล่ียนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21” 2. ข้อใดไมใ่ ช่ ความจาเปน็ ในการจดั ทาแผนการศึกษาแห่งชาติ ก. การเปลี่ยนแปลงของบรบิ ทเศรษฐกจิ และสงั คมโลกอนั เนอื่ งจากการปฏวิ ัตดิ ิจทิ ลั ข. การเปล่ยี นแปลงสู่อตุ สาหกรรม 4.0 ค. ความตอ้ งการกาลงั คนท่มี ที ักษะในศตวรรษที่ 21 ง. ความต้องการสง่ เสรมิ การจัดการเรยี นการสอนแบบ STEM 3. ใครเป็นผู้จัดทาแผนการศกึ ษาแห่งชาติ ก. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ข. สานกั ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. สานักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา ง. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน 4. ข้อใดคือวัตถปุ ระสงค์ในการจัดการศึกษา ตามแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ ก. เพอื่ พัฒนาประสิทธิภาพของการจัดการเรยี นการสอน ข. เพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั การดารงชีวติ และสรา้ งสงั คมแห่งการเรยี นรู้ ค. เพ่ือพฒั นาผเู้ รยี นทกุ คนใหม้ ีคุณลักษณะและทกั ษะการเรยี นร้ใู นศตวรรษที่ 21 ง. เพือ่ พัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศกึ ษาทีม่ คี ณุ ภาพและมปี ระสทิ ธิภาพ 5. แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ มีระยะเวลาตามข้อใด ก. 2559 – 2569 ข. 2560 – 2569 ค. 2560 – 2579 ง. 2560 – 2589 สนใจสัง่ ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
129 6. แผนการศึกษาแหง่ ชาติพ.ศ. 2560 – 2579” เป็นแผนระยะยาว 20 ปี มคี วามสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ก. พรบ.การศกึ ษาแห่งชาติ ข. ยุทธศาสตร์ชาตริ ะยะ ๒๐ ปี ค. รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย 2560 ง. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 7. เลขาธกิ ารสภาการศึกษา คนปจั จบุ นั คอื ใคร ก.นายกมล รอดคลา้ ย ข.นายดิสกลุ เกษมสวัสดิ์ ค.นายสุภทั ร จาปาทอง ง.นายอานาจ วิชยานวุ ัติ 8. สัญญาประชาคมโลกสูก่ ารพฒั นาทีย่ งั่ ยืนขององค์การสหประชาชาตทิ ่ีกลา่ วถึงในแผนการศึกษา ชาตฉิ บับปัจจบุ นั ตรงกบั พ.ศ. ใด ก. 2560 ข. 2565 ค. 2570 ง. 2573 9. ความหมายของ”การปฎวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม” ในแผนการศึกษาแห่งชาติ ฉบับปจั จุบันขอ้ ใดถกุ ท่สี ุด ก. การใช้สารสนเทศประยกุ ต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ข. อุตสาหกรรมหนกั ประยุกตผ์ สมผสานกบั อตุ สาหกรรมเบา ค. อุตสาหกรรมเกษตรประยกุ ต์ผสมผสานกับอุตสาหกรรมเบา ง. ถกู ทกุ ขอ้ 10.ข้อใดไมส่ อดคล้องกับแนวคดิ การจัดการศึกษา แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติพ.ศ. 2560 –2579 ก. หลักธรรมาภิบาล ( Good Governance) ข. หลกั การจัดการศกึ ษาเพือ่ ปวงชน (Education for All) ค. หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง (Sufficiency Economy) ง. หลกั การจัดการศึกษาเพ่ือความเทา่ เทยี มและทัว่ ถงึ (Inclusive Education) 11. แผนการศกึ ษาแห่งชาตไิ ดว้ างเปาู หมายไว้ก่ีดา้ น ก. 1 ด้าน ข. 2 ดา้ น ค. 3 ด้าน ง. 4 ดา้ น 12. เปูาหมายด้านผู้เรยี น (Learner Aspirations) โดยมุ่งพฒั นาผูเ้ รยี นทกุ คนให้มีคุณลกั ษณะและ ทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย ก. 3Rn 8Cn ข. 3Rs 8Cs ค. 4Rn 9Cn ง. 4Rs 9Cs สนใจส่งั ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
130 13. ขอ้ ใดไม่ใช่องค์ประกอบของ 3Rs ก. การอ่านออก ข. การเขียนได้ ค. การฟ๎งได้ ง. การคดิ เลขเป็น 14. ข้อใดไม่ใช่องคป์ ระกอบของ 8Rs ก. ทักษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม ข. ทักษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์ ค. ทกั ษะด้านภาษาตา่ งประเทศเพ่อื การส่ือสาร ง. ทกั ษะอาชีพ และทักษะการเรียนรู้ 15. เปาู หมายของการจดั การศกึ ษา (Aspirations) มีกป่ี ระการ ก. 3 ประการ ข. 4 ประการ ค. 5 ประการ ง. 6 ประการ 16. ระยะเร่งดว่ น หมายถึงระยะใด ก. ระยะ 2 ปีแรกของแผน ข. ระยะ 3 ปแี รกของแผน ค. ระยะ 4 ปีแรกของแผน ง. ระยะ 5 ปีแรกของแผน 17. ยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 หมายถึงข้อใด ก. การจดั การศึกษาเพอ่ื ความมนั่ คงของสงั คมและประเทศชาติ ข. การผลติ และพัฒนากาลังคน การวจิ ยั และนวัตกรรรม เพอ่ื สร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน ของประเทศ ค. การพัฒนาศักยภาพคนทกุ ชว่ งวัย และการสรา้ งสงั คมแห่งการเรียนรู้ ง. การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาค และความเทา่ เทียมทางการศึกษา 18. การวิจัยเพอื่ พฒั นาองคค์ วามรแู้ ละนวัตกรรมด้านการสรา้ งเสรมิ คณุ ภาพชีวิตทเี่ ปน็ มติ รกบั สิง่ แวดล้อม อยใู่ นยุทธศาสตรข์ ้อท่เี ทา่ ไหร่ ก. ยุทธศาสตร์ที่ 3 ข. ยุทธศาสตรท์ ี่ 4 ค. ยุทธศาสตร์ท่ี 5 ง. ยทุ ธศาสตร์ที่ 6 สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
131 19. การพฒั นาประสิทธภิ าพของระบบบรหิ ารจัดการศึกษา อยูใ่ นยทุ ธศาสตร์ขอ้ ที่เท่าไหร่ ก. ยุทธศาสตร์ที่ 3 ข. ยุทธศาสตร์ที่ 4 ค. ยทุ ธศาสตร์ท่ี 5 ง. ยุทธศาสตร์ท่ี 6 20. แผนการศึกษาแหง่ ชาตฉิ บับปัจจุบนั ซ่งึ สอดคล้องกบั อาชีวศึกษาอย่ใู นยทุ ธศาสตร์ข้อใด ก. ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 ข. ยทุ ธศาสตร์ท่ี 3 ค. ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ง. ยุทธศาสตรท์ ี่ 5 เฉลยขอ้ สอบ 1.ก 2.ง 3.ค 4.ง 5.ค 6.ข 7.ง 8.ง 9.ก 10.ก 11.ข 12.ข 13.ค 14.ค 15.ค 16.ง 17.ก 18.ค 19.ง 20.ก สนใจส่งั ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
132 นโยบายการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรนี ชุ เทยี นทอง : รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ( คนท่ี 55 ) คณุ หญิงกลั ยา โสภณพานชิ : รัฐมนตรชี ่วยว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร นางกนกวรรณ วลิ าวัลย์ : รฐั มนตรีช่วยว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วนั ก่อต้ังกระทรวงศกึ ษาธิการ : 1 เมษายน 2535 ** รมว.ศธ.มีความเหน็ วา่ พวกเราจะตอ้ งสร้าง “ความเชอื่ มั่น ไว้วางใจ” หรอื “TRUST” ให้กบั สังคม โดยเฉพาะอย่างย่ิง เดก็ และผู้ปกครอง ว่าเราสามารถทจ่ี ะเปน็ หลกั หรอื ที่พึง่ ใหก้ ับพวกเขา “TRUST” หมายถึง “ความไว้วางใจ” T ย่อมาจาก Transparency (ความโปรง่ ใส) R ย่อมาจาก Responsibility (ความรับผดิ ชอบ) U ย่อมาจาก Unity (ความเป็นอนั หนึ่งอันเดียว) S ย่อมาจาก Student-Centricity (ผเู้ รียนเป็นเปาู หมายแห่งการพฒั นา) T ย่อมาจาก Technology (เทคโนโลย)ี รูปแบบการทางาน “TRUST” คอื การพัฒนาต่อยอดจากรูปแบบการทางาน “MOE ONE TEAM” หรือ “การทางานรว่ มกนั เป็นหนง่ึ เดยี วของกระทรวงศึกษาธกิ าร” นโยบายการจดั การศึกษาทง้ั 12 ข้อ 1. การปรับปรุงหลกั สตู รและกระบวนการเรยี นรูใ้ ห้ทนั สมัย 2. การพฒั นาคณุ ภาพและประสทิ ธิภาพครูและอาจารยให้มีสมรรถนะทางภาษาและดิจิทลั 3. การปฏิรูปการเรยี นร้ดู ้วยดิจิทลั ผา่ นแพลตฟอรม์ การฝกึ ทักษะดจิ ิทัลในชวี ติ ประจาวนั 4. การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศกึ ษา โดยใชจ้ งั หวัดเป็นฐาน 5. การปรบั ระบบการประเมนิ ผลการศึกษาและการประกันคณุ ภาพ พรอ้ มจัดทดสอบ วดั ความรู้ และทกั ษะท่จี าเปน็ ในการศึกษาตอ่ สนใจสั่งชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
133 6. การจดั สรรและการกระจายทรัพยากรใหท้ ั่วถงึ ทกุ กลุ่มเปาู หมาย รวมถึงการระดมทรพั ยากร จากทุกภาคส่วน 7. การนากรอบคณุ วุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวฒุ ิอา้ งองิ อาเซยี น (AQRF) สกู่ ารปฏิบตั ิ 8. การพฒั นาเดก็ ปฐมวัยใหไ้ ดร้ ับการดแู ลและพัฒนากอ่ นเข้ารบั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาร่างกาย จติ ใจ วินัย อารมณ์ สงั คม และสติป๎ญญาให้สมกบั วยั 9. การศึกษาเพื่ออาชพี และสรา้ งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 10. การพลกิ โฉมระบบการศกึ ษาไทยด้วยการนานวตั กรรมและเทคโนโลยที ที่ นั สมยั มาใช้ในการ จดั การศึกษาทุกระดบั การศกึ ษา 11. การเพมิ่ โอกาสและการเข้าถึงการศกึ ษาท่มี คี ุณภาพของกล่มุ ผ้ดู ้อยโอกาสทางการศกึ ษา และผูเ้ รยี นทมี่ คี วามต้องการจาเป็นพิเศษ 12. การจัดการศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศยั โดยยึดหลกั การเรยี นรู้ตลอดชีวิต วาระเรง่ ดว่ น (Quick Win) ของกระทรวงศึกษาธิการ 7 วาระ **วาระท่ี 1 เรื่องความปลอดภยั ของผู้เรียน ใหม้ ีรปู แบบ วิธีการ หรอื กระบวนการในการดแู ลชว่ ยเหลอื นกั เรียน **วาระที่ 2 หลักสตู รฐานสมรรถนะ มงุ่ เน้นการจดั การเรยี นรทู้ หี่ ลากหลายโดยยึดความสามารถของผู้เรยี นเปน็ หลกั และพัฒนา ผูเ้ รียนให้เกิดสมรรถนะท่ตี ้องการ **วาระที่ 3 Big Data พฒั นาการจดั เก็บขอ้ มูลอย่างเป็นระบบและไม่ซ้าซ้อน เพอ่ื ใหไ้ ด้ขอ้ มลู ภาพรวมการศกึ ษาของ ประเทศท่ีมคี วามครบถว้ น สมบูรณ์ ถูกตอ้ งเป็นป๎จจุบัน และสามารถนามาใช้ประโยชนไ์ ดอ้ ยา่ งแทจ้ ริง **วาระท่ี 4 ขบั เคลอ่ื นศูนย์ความเปน็ เลศิ ทางการอาชวี ศึกษา (Excellent Center) สนบั สนุนการดาเนินงานของศูนย์ความเป็นเลิศทางการอาชีวศึกษา (Excellent Center) ตามความเลิศของแต่ละสถานศกึ ษาและตามบรบิ ทของพนื้ ที่ **วาระท่ี 5 พฒั นาทักษะทางอาชีพ สง่ เสรมิ การจัดการศกึ ษาท่ีเนน้ พัฒนาทักษะอาชีพของผเู้ รียน เพื่อพัฒนาคณุ ภาพชีวิต **วาระที่ 6 การศกึ ษาตลอดชีวิต การจัดเรียนรู้ตลอดชีวติ สาหรบั ประชาชนทุกช่วงวยั ใหม้ คี ุณภาพและมาตรฐาน ประซาชนในแต่ ละช่วงวยั ไดร้ ับการศึกษาตามความตอ้ งการอย่างมมี าตรฐาน เหมาะสมและเตม็ ตามศกั ยภาพตง้ั แต่วยั เด็กจนถงึ วยั ชรา และพัฒนาหลกั สูตรที่เหมาะสมเพอื่ เตรยี มความพร้อมในการเข้าสู่สังคมผูส้ ูงวัย สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
134 **วาระที่ 7 การจัดการศกึ ษาสาหรบั ผูท้ ี่มีความต้องการจาเปน็ พเิ ศษ สง่ เสริมการจดั การศึกษาให้ผทู้ มี่ คี วามตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษได้รบั การพัฒนาอยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ สามารถดารงชีวติ ในสังคมอย่างมีเกยี รติ ศกั ดิศ์ รีเท่าเทยี มกับผอู้ นื่ ในสังคม สามารถช่วยเหลอื ตนเองและ มีส่วนร่วมในการพฒั นาประเทศ แบบทดสอบนโยบายกระทรวงศกึ ษาธิการ 1. กระทรวงศึกษาธิการ เดิมมีชื่อวา่ กระทรวงใด ก. กระทรวงการศกึ ษา ข. กระทรวงธรรมการ ค. กระทรวงการมาธรรม ง. กระทรวงการเรียนรู้ 2. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารคนปัจจุบนั คอื ใคร ก. นายณัฐพล ทปี สุวรรณ ข. คุณหญงิ กลั ยา โสภณพานิช ค. นางสาวตรนี ชุ เทียนทอง ง. นางกนกวรรณ วิลาวลั ย์ 3. ข้อใดคือ วนั ก่อตง้ั กระทรวงศกึ ษาธิการ ก. 3 มนี าคม 2534 ข. 1 เมษายน 2534 ค. 3 มนี าคม 2534 ง. 1 เมษายน 2534 4. “TRUST” หมายถึง ก. ความโปรง่ ใส ข. ความมีนา้ ใจ ค. ความไว้วางใจ ง. ความรู้รกั สามัคคี 5. รปู แบบการทางานในข้อใด คือการพฒั นาต่อยอดจากรูปแบบการทางาน“MOE ONE TEAM” ก. TRAST ข. TRUST ค. TREST ง. TROST สนใจสั่งชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
135 6. นโยบายด้านการจดั การศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธิการมจี านวนก่ีข้อ ก. 7 ข้อ ข. 9 ข้อ ค. 10 ข้อ ง. 12 ข้อ 7. วาระเรง่ ด่วน (Quick Win) ของกระทรวงศึกษาธิการมจี านวนกวี่ าระ ก. 5 วาระ ข. 6 วาระ ค. 7 วาระ ง. 8 วาระ 8. การจดั การศกึ ษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศยั ใหย้ ึดหลกั ใด ก. หลกั ธรรมาภิบาล ข. หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ค. หลักปรัชญาคดิ เปน็ ง. หลักการเรยี นรตู้ ลอดชีวติ 9. การพัฒนาคุณภาพครใู หม้ ีสมรรถนะตามขอ้ ใด ก. ภาษาและการส่ือสาร ข. ภาษาและดิจทิ ลั ค. ภาษาและการเรยี นรู้ ง. การสือ่ สารและดิจิทลั 10.ข้อใดคือวาระเร่งด่วนของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ก. การศึกษาเพ่ืออาชพี ข. ปรับระบบการประเมนิ ผลการศึกษา ค. เรอ่ื งความปลอดภัยของผู้เรยี นการ ง. พฒั นาคุณภาพและประสิทธิภาพครู เฉลยข้อสอบ 1.ข 2.ค 3.ง 4.ค 5.ข 6.ง 7.ค 8.ง 9.ข 10.ค สนใจสั่งช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
136 ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) ประเดน็ น่าสนใจ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เป็นฉบบั ท่ี 20 กาหนดใหม้ ี ยทุ ธศาสตร์ชาติ พ.ศ.2561-2580 เกิดจากมาตรา 65 ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย หลกั ในการจัดทายทุ ธศาสตร์ชาตปิ ระกอบไปดว้ ย 3 ข้อหลักทสี่ าคญั คอื 1) หลักวิชาการและความเปน็ สากล ตอ้ งมคี วามร้เู ชิงวิชาการในระดบั ประเทศและ ระดบั สากล นามาใช้ในการประกอบการจดั ทาแผนพฒั นาประเทศให้มปี ระสิทธภิ าพ 2) การศึกษาประสบการณ์ของต่างประเทศ ศกึ ษาการพัฒนาและความสาเร็จในด้าน ตา่ ง ๆจากประเทศที่พัฒนาแลว้ เพอื่ นามาเปน็ แบบอย่างในการจัดทาแผนพัฒนาประเทศอยา่ งเหมาะสม 3) การมสี ว่ นรว่ มของทกุ ภาคส่วน การจดั ทายทุ ธศาสตร์ชาตจิ ะตอ้ งอาศยั การมีส่วน รว่ ม ของทั้งภาครฐั เอกชนและประชาชนเพ่ือให้แผนพัฒนาประเทศเปน็ ไปอย่างเหมาะสม และ สอดคล้องต่อความตอ้ งการของสังคมส่วนรวม โดยยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี มี 6 ประเด็นหลัก 1) ดา้ นความมน่ั คง 2) ด้านการสรา้ งความสามารถในการแขง่ ขนั 3) ด้านการพัฒนาและเสริมสรา้ งศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4) ดา้ นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 5) ด้านการสรา้ งการเจรญิ เติบโตบนคุณภาพชีวติ ท่ีเป็นมิตรต่อสงิ่ แวดลอ้ ม 6) ด้านการปรบั สมดุลและพฒั นาระบบการบริหารจดั การภาครฐั กรอบพฒั นาระยะยาวยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี เพื่อนาไปสกู่ ารพฒั นาให้คนไทยมคี วามสุข และตอบสนองต่อการ บรรลซุ ึ่งผลประโยชน์แห่งชาตใิ นการท่ีจะพฒั นาคุณภาพชีวติ สร้างรายไดร้ ะดับสูง ใหเ้ ปน็ ประเทศพัฒนาแล้ว และสรา้ งความสขุ ของคนไทยสามารถแขง่ ขันไดใ้ นระบบเศรษฐกจิ ดว้ ยการ พฒั นาตามปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงเพื่อให้บรรลวุ ิสัยทัศน์ประเทศที่มคี วามม่นั คง ม่ังค่งั ยงั่ ยืน เปน็ ประเทศพัฒนาแลว้ ด้วยการพัฒนาตาม “ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” คติพจน์ (MOTTO) ของยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี คือ มน่ั คง มง่ั คงั่ ยัง่ ยืน ความมน่ั คง หมายถึง การมีความม่นั คง ปลอดภัยจากภัย และการเปลยี่ นแปลงทง้ั ภายใน และภายนอกประเทศในทกุ ระดับ ทัง้ ระดับประเทศ ชมุ ชน ครัวเรือน และปจ๎ เจกบุคคล และมีความมัง่ ค่ังในทุกมิติ ของความม่ันคง ทงั้ ในดา้ น การทหาร เศรษฐกิจ สังคมสิง่ แวดล้อม ยุทธศาสตร์ชาตใิ นประเดน็ ท่ีน้อมนาศาสตร์ของพระราชามาใชใ้ นการพัฒนา ได้แก่ ด้าน การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชวี ิตทีเ่ ป็นมติ รตอ่ ส่ิงแวดล้อม สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
137 ประเด็นดา้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีการปฏริ ูปกระบวนการ เรียนรทู้ ี่ตอบสนองตอ่ การเปลย่ี นแปลงในศตวรรษท่ี 21 ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี ประกอบดว้ ย 1) วสิ ยั ทศั น์การพัฒนาประเทศ 2) เปูาหมายการพัฒนาประเทศในระยะยาว เพอื่ กาหนด ระยะเวลาท่ีต้องดาเนนิ การ และตัวชี้วดั ให้บรรลุ ตามเปาู หมาย 3) ยุทธศาสตร์ดา้ นต่าง ๆ คณะกรรมการยทุ ธศาสตรช์ าติ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ เลขาธกิ ารคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจฯ เป็นกรรมการและเลขานกุ าร กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ จานวนไมเ่ กิน 17 คน มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละ 5 ปี ขัน้ ตอนการจัดทายทุ ธศาสตร์ชาติ 1) คณะกรรมการจัดทาร่างยทุ ธศาสตร์ชาติ 2) เสนอคณะรัฐมนตรเี พ่อื พจิ ารณา หากมีขอ้ แกไ้ ขใหป้ รับแกแ้ ล้วจึงส่งกลบั มาพิจารณา 3) คณะรฐั มนตรเี มอ่ื ไดร้ ับฉบับแกไ้ ขพิจารณา แล้วเสนอต่อสภาผูแ้ ทนราษฎร ภายใน 30 วนั นบั แตว่ ันทไี่ ดร้ ับ เพอ่ื พิจารณาเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ใหแ้ ล้วเสรจ็ ภายใน 60 วัน 4) วฒุ สิ ภาพจิ ารณาเหน็ ชอบหรือไม่เห็นชอบ ภายใน 30 วัน นับแต่วันทีไ่ ดร้ บั รา่ งฯ จาก สภาผู้แทนราษฎร หากวฒุ สิ ภาไม่เห็นชอบหรือตตี ก ให้คณะกรรมการจัดทาร่างฯ จัดทาขนึ้ ใหม่ ภายใน 180 วัน 5) คณะรฐั มนตรีเมอ่ื ไดร้ ับฉบับแก้ไขพจิ ารณา แล้วเสนอต่อสภาผูแ้ ทนราษฎร ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ไดร้ บั เพอ่ื พิจารณาเหน็ ชอบหรือไมเ่ ห็นชอบ ให้แล้วเสร็จ ภายใน 30 วัน 6) นายกรัฐมนตรีนาขน้ึ ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ ม ภายใน 20 วัน ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)ที่เกี่ยวข้องกับ กศน. **วิสัยทศั น์ (คตพิ จนป์ ระจาชาติว่า มนั่ คง มัง่ คัง่ ยง่ั ยนื ) ประเทศไทยมคี วามนั่ คง ม่ังคงั่ ย่งั ยนื เปน็ ประเทศพัฒนาแลว้ ด้วยการพฒั นาตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ความมน่ั คง คือ มงี าน มีรายไดท้ ่มี ั่นคงพอเพียงกบั การดารงชวี ิต (ความมั่นคงของอาหาร พลังงาน และนา้ ) ความมง่ั คั่ง คือ ไมม่ ีประชาชนทอ่ี ยใู่ นภาวะความยากจน เศรษฐกิจในประเทศมีความ เข้มแขง็ ความย่งั ยนื คือ สรา้ งความเจริญ เศรษฐกจิ รายไดแ้ ละคณุ ภาพชีวติ ของประชาชนเพม่ิ ขน้ึ ธรรมชาติย่งั ยืน สนใจสัง่ ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
138 **สถานการณแ์ นวโน้มในการพัฒนาประเทศ ความทา้ ทายในการพัฒนาประเทศ 4 มิติ คือ ความมน่ั คง เศรษฐกจิ สังคม และ ส่งิ แวดล้อม เปาู หมายการพัฒนาประเทศ คอื “ประเทศชาติมนั่ คง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจ พัฒนาอย่างต่อเน่อื ง สงั คมเปน็ ธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาตยิ ัง่ ยืน” ความอยดู่ ี มีสขุ แขง่ ขัน พัฒนาเศรษฐกิจ รายได้ พฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ เท่าเทยี ม เสมอภาค สิง่ แวดล้อมและความยั่งยืนของธรรมชาติ การบริการและบริหารจัดการของภาครัฐ **การพัฒนาประเทศในชว่ งระยะเวลาของยทุ ธศาสตรช์ าติ จะมุ่งเน้นการสรา้ งสมดุล ระหวา่ งการพัฒนาเศรษฐกจิ สังคม และสงิ่ แวดล้อม ประกอบด้วย 6 ด้าน 1. ดา้ นความมน่ั คง ตัวชวี้ ัด 1)ความสขุ 2)ปลอดภัย 3)ความพรอ้ มกองทพั 4)บทบาทและการยอมรับ 5) การบรหิ ารความมนั่ คง -รักษาความสงบเรียบร้อย ปอู งกันแก้ไขป๎ญหา พร้อมเผชญิ ภัยคุกคาม รว่ มมือด้านความ มัน่ คงกับนานาชาติ 2. ดา้ นการสร้างความสามารถในการแขง่ ขัน ตวั ช้ีวัด 1)รายได้ 2)ผลิตภาพการผลิต 3)ลงทนุ การวิจยั 4)แขง่ ขนั ของประเทศ -ม่งุ เนน้ การยกระดับศักยภาพประเทศบนพนื้ ฐาน 3 ประการ ได้แก่ 1) ตอ่ ยอดอดีต 2) ปรบั ป๎จจุบัน 3) สร้างคณุ ค่าใหม่ -ความสามารถในการแขง่ ขัน 5 ประเดน็ 1)การเกษตรสรา้ งมลู คา่ 2) อุตสาหกรรมและ บริการแหง่ อนาคต 3)สร้างความหลากหลายด้านการท่องเทีย่ ว 4)โครงสรา้ งพืน้ ฐาน เชือ่ มไทย เชือ่ มโลก 5) พัฒนาเศรษฐกิจบนพืน้ ฐานผปู้ ระกอบการยุคใหม่ 3. ดา้ นการพัฒนาและเสริมสร้างศกั ยภาพทรัพยากรมนษุ ย์ ตวั ชีว้ ัด 1)คณุ ภาพชีวติ 2)การเรยี นรู้ตลอดชวี ิต 3)พัฒนาสงั คม ครอบครัว -ปรบั เปลีย่ นคา่ นิยม พัฒนาคนพัฒนาการสขุ ภาวะท่ีดที ุกชว่ งวยั พร้อมเปลยี่ นแปลงมที ักษะ ในศตวรรษท่ี 21 มที กั ษะสอื่ สารภาษาองั กฤษและภาษาท่ี 3 และภาษาถน่ิ รักการเรียนรูต้ ลอดชีวติ สนใจสั่งชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
139 4. ด้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม ตวั ชี้วัด 1)ความแตกตา่ งของรายได้ 2)กา้ วหนา้ พัฒนาคน 3)พัฒนาจังหวัดศนู ยค์ วามเจรญิ ทางเศรษฐกจิ สังคมและเทคโนโลยี 4)คุณภาพชีวติ ผู้สูงอายุ -การลดความเหล่ือมลา้ กระจายความเจรญิ สร้างพลงั ทางสงั คม ชมุ ชนท้องถน่ิ พัฒนา ปรับ เศรษฐกจิ ฐานราก คุม้ ครองผู้บรโิ ภค สร้างหลกั ประกนั สงั คม ยุติธรรม กระจายความเจริญ ชุมชนพฒั นา และจดั การเอง 5. ด้านการสรา้ งความเจริญเติบโตบนคุณภาพชีวิตทีเ่ ปน็ มิตรกับสง่ิ แวดล้อม ตัวชว้ี ัด 1)พ้ืนทส่ี ีเขยี ว 2)ฟื้นฟูธรรมชาติ 3)เปน็ มิตรส่ิงแวดล้อม 4)กา๊ ซเรอื นกระจก -พ้ืนทสี่ เี ขียว มคี วามยงั่ ยืนเศรษฐกจิ สีเขียว เศรษฐกิจภาคทะเล สภาพอากาศ อตุ สาหกรรม เชงิ นเิ วศ มั่งคงทางน้า พลงั งานและเกษตร กาหนดอนาคตประเทศ 6. ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจดั การภาครัฐ ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชนเพอื่ ประชาชนและประโยชนส์ ่วนรวม”สนองความตอ้ งการ ของประชาชนไดอ้ ย่างสะดวกรวดเร็วและโปร่งใส ตัวชีว้ ัด 1)ความพึงพอใจ 2) ประสทิ ธภิ าพ 3)ความโปร่งใส 4)ความเสมอภาค -ประชาชนเป็นศูนย์กลาง มียทุ ธศาสตร์ชาติเป็นเปาู หมาย ภาครฐั เลก็ ลง ทันสมัย บุคลากรดี และเก่ง โปร่งใส กฎหมายเหมาะสม สทิ ธมิ นษุ ยชน **คาดวา่ จะเข้าสู่การเปน็ สงั คมสูงวยั ระดับสุดยอดในปี 2574 สนใจสัง่ ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
140 แนวขอ้ สอบยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี 1. ยุทธศาสตรช์ าติ ตรงกับขอ้ ใด ก. ปี 2560 – 2579 ข. ปี 2560 – 2580 ข. ปี 2561 – 2579 ง. ปี 2561 – 2580 2. ยุทธศาสตร์ชาติ กล่าวไวใ้ นมาตราใดของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ก. 45 ข. 65 ค. 72 ง. 98 3. ใครเปน็ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตรช์ าติ ก. ประธานสภาพฒั น์ ข. นายกรฐั มนตรี ค. ประธาน สนช. ง. รองนายกรัฐมนตรีท่นี ายกรฐั มนตรมี อบหมาย 4. ยุทธศาสตรช์ าติ ต้องสอดคลอ้ งกบั ขอ้ ใด ก. หน้าทีข่ องรฐั ข. แนวนโยบายแห่งรฐั ค. องคก์ ารอิสระ ง. การปฏริ ูปประเทศ 5. การประกาศใช้ยทุ ธศาสตรช์ าติใหจ้ ดั ทาเป็น ก. พระราชบญั ญตั ิ ข. พระราชกฤษฎีกา ค. พระราชกาหนด ง. ประกาศพระบรมราชโองการ 6. รฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2560 กาหนดให้มีการจัดทายทุ ธศาสตร์ชาติใหแ้ ลว้ เสร็จตามข้อใด ก. ภายใน 150 วัน นับต้ังแตว่ นั ประกาศใช้รฐั ธรรมนญู พ.ศ. 2560 ข. ภายใน 120 วนั นบั ตั้งแตว่ ันประกาศใช้รฐั ธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ค. ภายใน 90 วัน นับตง้ั แต่วนั ประกาศใชร้ ัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ง. ภายใน 60 วัน นับตัง้ แต่วันประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 7. ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มกี ่ยี ทุ ธศาสตร์ ก. 5 ยุทธศาสตร์ ข. 6 ยทุ ธศาสตร์ ค. 7 ยุทธศาสตร์ ง. 8 ยทุ ธศาสตร์ 8. “ยุทธศาสตร์ชาติ” หมายถงึ ข้อใด ก. กรอบการพฒั นาระยะส้นั ข. กรอบการพัฒนาระยะกลาง ค. กรอบการพัฒนาระยะยาว ง. กรอบการพฒั นาระยะปานกลาง 9. เปาู หมายทีส่ าคญั ของยุทธศาสตร์ชาตดิ า้ นความมน่ั คง คือข้อใด ก. ประเทศชาติมีความมน่ั คง ประชาชนมคี วามสขุ ข. การพัฒนาคนในทุกดา้ น ค. ยกระดับศักยภาพของประเทศ ง. พฒั นาส่งิ แวดล้อมภายใต้การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน สนใจสั่งชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
141 10. มุ่งเนน้ การยกระดบั ศกั ยภาพของประเทศในหลากหลายมติ ิ เป็นเปูาหมายของยุทธศาสตรช์ าติ ด้านใด ก. ดา้ นความม่ันคง ข. ดา้ นการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ค. ด้านการพฒั นาและเสรมิ สร้างศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์ ง. ด้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม 11. วสิ ยั ทัศนข์ องยทุ ธศาสตรช์ าติไทย คอื ข้อใด ก. ม่นั คง มัง่ คงั่ ยงั่ ยนื ข. มั่นคง ย่ังยนื มน่ั ค่งั ค. มนั่ คง มนั่ คัง่ หยัดยนื ง. ม่งั คงั่ ม่นั คง ย่ังยนื 12. “คนไทยในอนาคต มคี วามพร้อมทง้ั กายใจ สตปิ ัญญา มีทกั ษะท่ีจาเปน็ ในศตวรรษท่ี 21 มี ทักษะสอื่ สารภาษาอังกฤษและภาษาท่ี 3 และมคี ุณธรรม” ตรงกับยทุ ธศาสตร์ 20 ปี ในข้อใด ก. ดา้ นความมั่นคง ข. ด้านการสรา้ งขีดความสามารถในการแข่งขนั ค. ดา้ นพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพทรพั ยากรมนุษย์ ง. ด้านการเสริมสร้างโอกาส ความสามารถทางสงั คม 13. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ตวั ชีว้ ัดผลการพฒั นาตามยทุ ธศาสตร์ชาติ ก. รายไดเ้ ฉลย่ี ต่อหัวต่อคนต่อปี ข. จานวนประชากรผสู้ งู อายขุ องประเทศ ค. ดัชนคี วามอยู่เยน็ เป็นสุขช่วยกันในสังคมไทย ง. อันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 14. “ต่อยอดอดีต ปรับปัจจบุ นั สร้างคณุ คา่ ใหม่ในอนาคต”เกยี่ วข้องกับข้อใดในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก. วิสัยทัศน์ ข. พนั ธกิจ ค. คตพิ จน์ ง. แนวคดิ พน้ื ฐาน 15. ประเทศไทยเปน็ ประเทศทพี่ ัฒนาแล้ว เศรษฐกจิ เตบิ โตอย่างมีเสถยี รภาพและยงั่ ยืน เปน็ เปูาหมายของยทุ ธศาสตร์ชาติ ข้อใด ก. ดา้ นความม่ันคง ข. ด้านการสร้างขดี ความสามารถในการแข่งขัน ค. ดา้ นพฒั นาเสรมิ สร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ง. ดา้ นการเสริมสร้างโอกาส ความสามารถทางสงั คม 16. “ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาตเิ ปน็ เปาู หมายและเชอ่ื มโยงการพัฒนา ในทกุ ระดบั ” เปน็ ตัวบง่ ชีข้ องยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี ตามขอ้ ใด ก. ดา้ นการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ข. ด้านการสร้างเติบโตบนคุณภาพชีวติ ท่เี ป็นมิตรกับสง่ิ แวดล้อม สนใจสั่งชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
142 ค. ดา้ นการเสริมสรา้ งโอกาส ความสามารถทางสงั คม ง. ดา้ นพัฒนาเสริมสรา้ งศกั ยภาพทรพั ยากรมนุษย์ 17. ขอ้ ใดไม่ใช่องคป์ ระกอบของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก. วิสยั ทศั น์ ข. เปาู หมายการพัฒนา ค. พันธกจิ ง. ยุทธศาสตร์ด้านตา่ ง ๆ 18. ขอ้ ใดไม่ใช่ 3R ในการจดั การมลพษิ ที่มผี ลกระทบต่อส่งิ แวดล้อม และสารเคมใี นภาคเกษตรท้ัง ระบบ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและค่ามาตรฐานสากล ก. Repair ข. Recycle ค. Reduce ง. Reuse 19. หากวฒุ สิ ภาไมเ่ ห็นชอบหรือตตี ก ให้คณะกรรมการจดั ทารา่ งยทุ ธศาสตร์ชาติจัดทาขึน้ ใหม่ ภายใน ระยะเวลาเทา่ ใด ก. 90 วนั ข. 150 วัน ค. 180 วนั ง. 300 วนั 20. คาว่า “รู้ รบั ปรบั ใช้” ใชอ้ ะไรในยุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี ก. การศึกษา ข. เทคโนโลยี ค. ระบบสวัสดกิ าร ง. กระบวนการยตุ ิธรรม เฉลยข้อสอบ 1.ง 2.ข 3.ข 4.ง 5.ง 6.ข 7.ข 8.ค 9.ก 10.ข 11.ก 12.ค 13.ข 14.ง 15.ข 16.ก 17.ค 18.ก 19.ค 20.ข สนใจสง่ั ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
143 แนวโนม้ การจดั การศึกษายุคใหม่ ของประเทศไทยภายใต้แผนการจดั การศึกษาแห่งชาติ **การสอนสาหรบั ครใู นศตวรรษที่ 21 กระทรวงศึกษาธกิ าร ไดเ้ ล็งเหน็ ความสาคญั ของการนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communications Technology : ICT) มาใช้ ซ่ึงเปน็ เครอ่ื งมือสาคัญและเป็น ประโยชน์ต่อการยกระดบั คณุ ภาพการศึกษา ช่วยเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการเรียนการสอนและพฒั นาครูได้ อย่างรวดเร็ว รวมทงั้ ยังช่วยแก้ป๎ญหาการขาดแคลนครูตลอดจนลดความไมเ่ ทา่ เทยี มทางการศกึ ษาใน สถานศึกษาทหี่ า่ งไกลอีกดว้ ย ป๎จจุบนั แนวทางการพัฒนา ICT เพอื่ การศกึ ษา ดงั น้ี 1) การจดั หาระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณเ์ พ่อื การเรยี นการสอนของสถานศกึ ษา ทั้ง คอมพวิ เตอร์ประจาห้องปฏิบัติการ คอมพวิ เตอรป์ ระจาหอ้ งเรยี น ไม่ว่าจะเปน็ คอมพวิ เตอร์ตั้งโตะ๊ และ คอมพิวเตอรพ์ กพา จัดตงั้ ศูนย์ขอ้ มลู Big Data Center และสถานีโทรทัศนผ์ ่านดาวเทยี มเพอ่ื การศึกษา มลู นธิ กิ ารศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถมั ภ์ (DLTV) ศนู ย์เทคโนโลยีทางการศึกษา (ETV) หรับใช้ในการเรยี นการสอน 2) การจดั การศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน การจัดการเรียนการสอน 1) การลงทะเบียนเรียน * ลงทะเบียนเรียนในแตล่ ะระดับชั้นในรปู แบบออนไลน์ ( ITW ออนไลน์ ) 2) การจัดการเรียนการสอน ดว้ ยวิธีการตา่ งๆ จัดการเรียนการสอนแบบ ผสมผสานดังน้ี 1. ห้องเรยี น Google Classroom 2. ห้องเรียนกลบั ทาง (Flipped Classroom) www.classstart.org 3. Zoom Meeting 4. ไลนก์ ลมุ่ ฯลฯ 3) สือ่ การเรียนการสอน 1. VTR/ VDO Clip 2. รายการสอนออกอากาศสถานี ETV/DLTV ช่อง 52 ดจิ ทิ ลั กศน. 3. หนังสอื เรยี น 4. e-Book 5. Platform การเรยี นรู้ สนใจส่ังชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
144 4) การประเมินผล 1. ประเมนิ จากใบงานทสี่ ่งผ่าน ระบบออนไลนใ์ นรปู แบบตา่ งๆ 2. การพบกลุ่มจากหอ้ งเรียน ออนไลน์ 5) การวัดผล 1. ผ่านระบบ e-Exam 2. เขา้ หอ้ งสอบ 2) ระบบเชอ่ื มโยงแหล่งการเรียนรู้ (Learning Resources Linkage System) ระบบ เชื่อมโยงแหลง่ การเรยี นรู้ จัดทาขนึ้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพื่อใชเ้ ปน็ แนวทางในการบริหารจดั การ การ ให้บรกิ ารของบรรณารักษ์และเจ้าหนา้ ท่ีห้องสมดุ ในสังกัด สานกั งาน กศน. เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ใน การบริการงานห้องสมุดประชาชนทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพ สามารถบรกิ ารข้อมูลความรู้ ประชาสมั พันธ์ กจิ กรรมของห้องสมดุ ประชาชนได้อยา่ งกวา้ งขวาง ตอบสนองความต้องการของผู้รบั บริการ โดยมี โครงสร้างการบริหารจดั การทไ่ี มย่ งุ่ ยากซับซ้อน ผู้ใช้ระบบเพยี งแค่มีความรพู้ ้ืนฐานในการใช้คอมพวิ เตอร์ ติดต่อขอ User ID และ Password จากสถาบันส่งเสรมิ และพัฒนานวตั กรรมการเรียนรู้ (สพร.) สามารถ ลงทะเบียน login เขา้ ใชง้ านได้อยา่ งงา่ ยดาย สามารถเข้าถึงได้ทกุ ที่ ทุกเวลา จากอินเทอรเ์ น็ต รวมท้ัง สมาชกิ ห้องสมุดสามารถเข้าไปดูขอ้ มูลของหอ้ งสมุดไดจ้ ากท่ีบา้ น เชน่ หนังสอื ออกใหม่ การจองหนังสอื กิจกรรมส่งเสริมการอา่ น ส่งเสริมการเรยี นรู้ของหอ้ งสมดุ ประชาชน เปน็ ตน้ ภายใตร้ ะบบเชอ่ื มโยงแหล่ง การเรยี นรู้ (http://lrls.nfe.go.th) โปรแกรมบริการงานห้องสมดุ (PLS : Public Library Services) 3) การพัฒนาสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (Digital Contents) ในรปู แบบสอ่ื ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ e-Book หรอื Applications ตา่ งๆ เนอ่ื งจากรูปแบบการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 มลี ักษณะทีเ่ ป็นการ เรียนรู้รว่ มกนั ระหว่างครูกับนักเรยี น และนกั เรียนกับนักเรียนดว้ ยกนั โดยประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีท่ีมอี ยู่ มาช่วยในการเรยี นการสอน ดังนน้ั ทักษะด้าน ICT จึงมีความสาคัญมากสาหรับครู เพราะการพัฒนาสอ่ื การสอน และจัดสรรทรัพยากร แหลง่ เรยี นรู้ต่างๆ ต้องอาศยั เทคโนโลยมี าเปน็ เคร่อื งมือในการบรหิ าร จดั การให้เกิดสิ่งแวดลอ้ มที่เออ้ื ตอ่ การเรียนรู้ของผเู้ รียนในยุคดจิ ทิ ัล รวมถงึ การพฒั นาทกั ษะที่จาเป็นใน ศตวรรษที่ 21 **ภาวะการณและแนวโน้มบริบทสังคมโลกและสงั คมไทย ผลกระทบตอ่ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั 1. ด้านสังคม การเปล่ียนแปลงของสังคมโลกภายใต้สังคมทีเ่ ป็นพลวัต ส่งผลตอ่ พฤตกิ รรมของประชากรท่ีปรบั เปลี่ยนไปตามกระแสสงั คมโลก ทศั นคติ ความเช่ือ คา่ นิยม วัฒนธรรม การเล่อื นไหลของกระแสวฒั นธรรมโลกทผี่ สมผสานกับวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ทาใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงวถิ ี ชีวิต ทศั นคติ ความเชอ่ื ความสัมพันธ์ระหว่างบคุ คล การเรียนรูและการบรโิ ภคในรปู แบบตา่ งๆ สนใจสัง่ ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
145 2. ดา้ นเศรษฐกจิ การเปลย่ี นแปลงของบริบทเศรษฐกิจและสงั คมโลกอันเน่ืองจากการ ปฏวิ ตั ิดิจิทลั (Digital Revolution) การเปล่ียนแปลงสูอตุ สาหกรรม 4.0 (The Fourth Industrial Revolution) การบรรลุข้อตกลงเปูาหมายการพัฒนาแหสหัสวรรษ 2558 (Millennium Development Goals : MDGs 2015) และเปูาหมายการพฒั นาทยี่ ่ังยืนขององคก์ ารสหประชาชาติ 2573 (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) การเปดิ เสรีทางการคา้ บริการ แรงงาน การลงทุน และการเงิน โดยมีกลไกสาคญั อาทิ เขตการค้าเสรีอาเซยี น (ASEAN Free Trade Area : AFTA) เขตการลงทนุ เสรี (ASEAN Investment Area : AIA) และความตอ้ งการ กาลงั คนที่มที ักษะใน ศตวรรษที่ 21 การเกดิ ประชาคมใหม่จากการรวมตัวของกล่มุ เศรษฐกจิ (New Economic Communities) ASEAN และ ASEAN+6 (จีน เกาหลใี ต้ ญ่ปี ุน ออสเตรเลยี นิวซีแลนด์ และอนิ เดีย) 3. ด้านส่ิงแวดล้อม การเปลยี่ นแปลงทางธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มทวคี วามรนุ แรงมาก ขน้ึ สภาวะโลกร้อนกอ่ นใหเ้ กดิ ภยั ธรรมชาติทมี่ ีความรุนแรงเพม่ิ มากข้ึน การขยายตัวของเศรษฐกจิ และ ชุมชนเมืองส่งผลใหท้ รพั ยากรถูกทาสายและเสื่อมโทรมอยา่ งรวดเร็ว สร้างมลพษิ ตอ่ สิ่งแวดล้อม 4. ดา้ นเทคโนโลยี ความเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยดี ิจิทลั กบั การดารงชีวิต นวัตกรรม และความก้าวหนา้ ของเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลอย่างก้าวกระโดด ก่อใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยอี ยา่ ง ฉับพลนั ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบตอ่ ระบบเศรษฐกจิ แลว ยงั สง่ ผลกระทบต่อการดารงชีวิตของ ประชาชนในประเทศตง ๆ ทัว่ โลกท่ตี ้องเผชญิ กับเทคโนโลยีดิจิทลั ในชีวิตประจาวนั มากมาย ทั้งดา้ นการ เรียนการสอนในสถานศึกษาการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ การเดนิ ทาง การใช้ขอ้ มูลข่าวสารเพื่อการ บริหารและการจัดการการทางาน เทคโนโลยสี ารสนเทศจงึ เก่ียวข้องกบั ทุกเร่ืองในชีวติ ประจาวัน 5. ดา้ นการเมอื ง แนวโนม้ ความขัดแยง้ และความรุนแรงด้านการเมือง การไมยอมรบั ใน ความคิดเหน็ ท่แี ตกต่างกนั ความขดั แย้งในเชงิ ความคิดเห็นของคนในสงั คมมมี ากขน้ึ ส่งผลให้เกิดความไม สงบ ประชาชนมคี วามหวาดระแวงและขาดความปลอดภยั ในชีวิตและทรพั ยส์ นิ ประเทศขาดความ ม่ันคงและความสงบสุข ระบบการศึกษาในฐานะกลไกหลกั ในการพฒั นาคุณภาพคนของประเทศจึง จาเปน็ ตอ้ งปรับเปลีย่ นวธิ กี ารจัดการเรยี นการสอนให้ประชาชนสามารถคิดวิเคราะห์ มีเหตุมผี ล เข้าใจ และยอมรบั ความคิดเหน็ ท่ีแตกต่างจากเหตกุ ารณอนั เกยี่ วเนอื่ งกบั กระแสประชาธปิ ไตยและเหตุการณ ทางการเมืองท่เี กิดขึ้นจะเปน็ บทเรยี นสาคญั สาหรับรัฐ 6. ด้านประชากร ทกุ ประเทศตา่ งให้ความสาคัญกบั การสาธารณสขุ และการวางแผน ครอบครวั ของทว่ั โลกโดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้วและกาลงั พฒั นา ประกอบกับความเจริญก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์และการแพทย์ สง่ ผลใหอ้ ตั ราการเตบิ โตของประชากรโลกลดลง และเข้าสู่การ เปล่ียนแปลงสถานการณสงั คมสูงวัยในประเทศไทย **แนวโนม้ ของการศกึ ษาและการเรยี นรูในศตวรรษท่ี 21 1. แนวโนม้ การศกึ ษาไทย 1.1) แนวโน้มด้านบวก สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
146 (1) หลักสูตรใหมเ่ กิดขึ้นจานวนมาก จากการเปลยี่ นแปลงและการแขง่ ขันในดา้ น เศรษฐกจิ และอุตสาหกรรม ทาใหค้ นในสงั คมตอ้ งการเพ่มิ ความรูความสามารถใหท้ ันตอ่ การ เปลี่ยนแปลง (2) การจดั การศึกษามีความเป็นสากลมากข้ึน สังคมยคุ ดจิ ิทลั ท่มี ีการเชื่อมโยงในทกุ ดา้ นร่วมกนั ท่ัวโลก สง่ ผลให้เกิดการเคลื่อนยา้ ยองคค์ วามรู กฎกตกิ า การดาเนินการด้านตา่ ง ๆ (3) ความเหลือ่ มล้าด้านโอกาสทางการศึกษาลดลง เนอื่ งจากสภาพการเรยี กร้องสิทธิ มนษุ ยชนทเี่ ปน็ กระแสระดับโลกเกดิ ขน้ึ ควบคูกับคลนื่ ประชาธปิ ไตยทีแ่ ผข่ ยายวงกวา้ งถงึ ไทย 1.2) แนวโนม้ ดา้ นลบ (1) การเพ่ิมชอ่ งวา่ งด้านคุณภาพในการจัดการศึกษา แมว้ าสภาพการแขง่ ขนั ทาง การศึกษาจะเป็นแรงผลกั ดนั ใหส้ ถาบันการศกึ ษาต่างๆ เร่งพัฒนาคณุ ภาพการจดั การเรยี นการสอนมาก ข้ึน แตเ่ น่อื งจากทรัพยากรตัง้ ตน้ ของแต่ละสถาบนั การศกึ ษามีความแตกต่างกัน (2) การสอนคณุ ธรรมจริยธรรมยงั ไมมีคณุ ภาพ แนวคิดของทนุ นยิ มท่มี ่งุ แข่งขันได แพรกระจายไปทว่ั โลก ส่งผลให้ผคู้ นต่างม่งุ แข่งขัน และพัฒนาความรูความสามารถ เพอื่ ความก้าวหนา้ ในหนา้ ทกี่ ารงานและมชี ีวิตความเปน็ อยทู่ ด่ี ขี ้นึ (3) การสอนภาษาต่างประเทศยงั ไมมคี ุณภาพ (4) ผลกระทบของโลกไรพรมแดนตอ่ การศกึ ษาไทยมีท้งั ด้านบวกและดา้ นสบ ซงึ่ หลีกเลย่ี งไดยากแตก่ ารพัฒนาระบบการศึกษาไทยให้พรอมตอ่ สภาพไรพรมแดนไดนั้น **ทักษะของประชากรในศตวรรษท่ี 21 ท่ัวโลกตัง้ เปาู หมายสรา้ งให้ไดและไปให้ถึงความตอ้ งการกาลงั คนยคุ 4.0 ผลจากการ เปลีย่ นแปลงระบบเศรษฐกจิ สงั คม และสถานการณสังคมสูงวยั ไดส่งผลใหป้ ระเทศทั่วโลกกาหนดทศิ ทางการผลิตและพัฒนากาลงั คนของประเทศตนใหม้ ีทักษะและสมรรถนะระดับสูงมีความสามารถเฉพาะ ทางมากขน้ึ สวนความตอ้ งการกาลงั แรงงานทไี่ รฝมือและมที ักษะตา่ งจะถกู แทนทดี่ ว้ ยหุน่ ยนต์และ เทคโนโลยีใหม่ ๆ มากขน้ึ การจัดการศึกษาในป๎จจุบันจงึ ตอ้ งปรับเปลี่ยนใหต้ อบสนองกับทิศทางการ ผลติ และการพัฒนากาลงั คนดังกลา่ ว โดยมุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอนเพือ่ ใหเ้ รยี นมีทักษะในศตวรรษ ท่ี 21 เพ่ือให้ไดทงั้ ความรแู ละทกั ษะทีจ่ าเปน็ ต้องใชใ้ นการดารงชวี ิต การประกอบอาชีพ และการพัฒนา เศรษฐกจิ และสังคมของประเทศท่ามกลางกระแสแห่งการเปลย่ี นแปลง ทกั ษะสาคัญจาเป็นในโลก ศตวรรษที่ 21 ประกอบ ด้วยทกั ษะทีเ่ รียกตามคายอ่ ว่า 3Rs + 8Cs 3Rs ประกอบด้วย อา่ นออก (Reading) เขียนได WRiting) คิดเลขเป็น (ARithmetics) 8Cs ประกอบดว้ ย ทักษะด้านการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และทักษะในการแกปญ๎ หา (Critical Thinking and Problem Solving) สนใจสงั่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
147 ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม (Creativity and Innovation) ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ตงกระบวนทศั น์ (Cross – cultural Understanding) ทกั ษะดา้ นความร่วมมอื การทางานเปน็ ทมี และภาวะผนู้ า (Collaboration Teamwork and Leadership) ทกั ษะด้านการส่อื สารสารสนเทศ และรูเท่าทันส่ือ (Communications, Information and Media Literacy) ทกั ษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร (Computing and ICT Literacy) ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู Career and Learning Skills) ความมีเมตตา กรุณา วนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม (Compassion) สเตม็ ศึกษา (STEM Education) เปน็ การบรู ณาการข้ามกลมุ่ สาระวชิ า (Interdisciplinary Integration) นน่ั คอื เป็นการบูรณา การ ระหว่างศาสตรส์ าขาต่างๆ วิทยาศาสตร์(Science : S) เทคโนโลยี (Technology : T) วศิ วกรรมศาสตร์ (Engineer : E) และคณิตศาสตร์ (Mathematics : M) ท้ังนไี้ ดน้ าจุดเดน่ ของธรรมชาตติ ลอดจนวิธีการ สอนของแต่ละสาขาวชิ ามาผสมผสานกนั อยา่ งลงตัว วิทยาศาสตร์ (S) เนน้ เกย่ี วกบั ความเขา้ ใจในธรรมชาติ โดยนักการศกึ ษามกั ช้ีแนะให้ อาจารย์ครูผู้สอนใช้วธิ ีการสอนวิทยาศาสตรด์ ้วยกระบวนการสืบเสาะ (Inquiry based Science Teaching) กิจกรรมการสอนแบบแกป้ ญ๎ หา (Scientific Problem-based Activities) ซ่งึ เป็นกิจกรรม ที่ เหมาะกบั ผู้เรยี นระดับประถมศึกษา แตไ่ มเ่ หมาะกบั ผเู้ รยี นระดับมัธยมศึกษา หรือมหาวทิ ยาลัย เพราะ ทาให้ผ้เู รยี นเบื่อหนา่ ยและไมน่ า่ สนใจ แต่การสอนวิทยาศาสตร์ใน STEM Education จะทาให้นกั เรียน สนใจ มีความกระตอื รอื ร้น รูส้ ึกท้าทายและเกิดความมั่นใจในการเรยี น สง่ ผลให้ผู้เรยี นสนใจทจ่ี ะเรียน ในสาขาวิทยาศาสตรใ์ นระดับชน้ั ทีส่ งู ขึน้ และประสบความสาเร็จในการเรยี น เทคโนโลย(ี T) เป็นวิชาทเี่ กี่ยวกบั กระบวนการแก้ปญ๎ หา ปรับปรงุ พัฒนาส่งิ ต่างๆ หรอื กระบวนการตา่ งๆ เพือ่ ตอบสนองความตอ้ งการของคนเราโดยผ่านกระบวนการทางานทางเทคโนโลยที ี่ เรยี กว่า Engineering Design หรือ Design Process ซ่งึ คลา้ ยกบั กระบวนการสืบเสาะ ดงั นั้น เทคโนโลยจี งึ มิได้หมายถึงคอมพิวเตอร์หรอื ICT ตามที่คนสว่ นใหญ่เขา้ ใจ สนใจสงั่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
148 วศิ วกรรมศาสตร์ (E) เปน็ วชิ าทว่ี ่าด้วยการคิดสรา้ งสรรค์ พฒั นานวตั กรรมตา่ งๆให้กับ นิสติ นกั ศึกษาโดยใชค้ วามร้ทู างวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตรแ์ ละเทคโนโลยซี ง่ึ คนส่วนใหญม่ ักเข้าใจว่าเป็น วชิ าทส่ี ามารถเรียนไดแ้ ต่จากการศกึ ษาวิจัยพบวา่ แมแ้ ต่เดก็ อนุบาลก็สามารถเรียนได้ดเี ชน่ กัน คณติ ศาสตร์(M) เปน็ วชิ าทมี่ ไิ ดห้ มายถึงการนบั จานวนเทา่ นัน้ แตเ่ ก่ียวกับ องคป์ ระกอบ อ่ืนทสี่ าคญั ประการแรกคือกระบวนการคดิ คณติ ศาสตร์ (Mathematical Thinking) ซึ่ง ได้แก่การเปรียบเทยี บ การจาแนก/จดั กลุม่ การจดั แบบรปู และการบอกรูปร่างและคณุ สมบัติประการท่ี สองภาษาคณิตศาสตร์ เดก็ จะสามารถถ่ายทอดความคิดหรอื ความเขา้ ใจความคิดรวบยอด(Concept) ทางคณิตศาสตรไ์ ด้ โดยใชภ้ าษาคณิตศาสตร์ในการส่อื สาร เชน่ มากกว่า นอ้ ยกวา่ ฯลฯ ประการตอ่ มา คือการส่งเสรมิ การคิดคณติ ศาสตร์ขน้ั สูง (Higher-Level Math Thinking) จากกจิ กรรมการเล่นของเดก็ หรอื การทากจิ กรรมในชวี ติ ประจาวนั การเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี 21 1) ทักษะการเรียนรแู้ ละนวัตกรรม ได้แก่ ความคิดสรา้ งสรรคแ์ ละนวัตกรรม การคิดอย่าง มี วิจารณญาณและการแกป้ ๎ญหา และการส่ือสารและความรว่ มมือ 2) ทกั ษะสารสนเทศ ส่ือและเทคโนโลยี ไดแ้ ก่ สารสนเทศ ส่อื เทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่อื สาร 3) ทกั ษะชวี ติ และอาชพี ได้แก่ ความยดื หยนุ่ และความสามารถในการปรบั ตัว และการ ริเริม่ และกากบั ดูแลตนเองได้ 4) ทักษะด้านสงั คมและทกั ษะข้ามวฒั นธรรม การมผี ลงานและความรับผดิ ชอบที่ ตรวจสอบไดแ้ ละการมีภาวะผู้นาและความรับผิดชอบดังนัน้ ภาคการศึกษาจงึ ตอ้ งพฒั นาระบบ การศึกษาและการบรหิ ารจัดการ ทิศทางการพฒั นาประเทศตามยทุ ธศาสตรช์ าติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) 1) วสิ ัยทัศน์ “ประเทศมคี วามม่ันคง มัง่ คั่ง ยัง่ ยนื เปน็ ประเทศพัฒนาแลว้ ด้วยการพัฒนา ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง” เพ่ือใหป้ ระเทศไทยสามารถยกระดับการพัฒนาใหบ้ รรลุตาม วสิ ัยทัศน์ 2) เปูาหมาย การพฒั นาประเทศข้างต้น จงึ จาเปน็ ต้องกาหนดยุทธศาสตรก์ ารพฒั นา ประเทศระยะยาวทีจ่ ะทาให้ประเทศไทยมีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย มภี ูมคิ ุม้ กนั ต่อการ เปลย่ี นแปลงจากป๎จจยั ภายในและภายนอกประเทศในทกุ มิติทุกรปู แบบและทุกระดับ การพัฒนา ประเทศในชว่ งระยะเวลาของยุทธศาสตร์ชาติ จะมงุ่ เนน้ การสร้างสมดุลระหว่างการพฒั นาความม่นั คง เศรษฐกจิ สงั คม และส่ิงแวดล้อม โดยการมสี ่วนรว่ มของทกุ ภาคสว่ นในรูปแบบ “ประชารฐั ” โดย ประกอบด้วย 6 ยทุ ธศาสตร์ ได้แก่ (1) ยทุ ธศาสตรช์ าติดา้ นความมนั่ คง (2) ยุทธศาสตรช์ าติด้านการ สนใจสัง่ ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
149 สรา้ งความสามารถในการแข่งขนั (3) ยุทธศาสตรช์ าตดิ า้ นการพฒั นาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากร มนุษย์ (4) ยุทธศาสตรช์ าตดิ ้านการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม (5) ยุทธศาสตร์ชาตดิ ้าน การสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตทีเ่ ป็นมติ รกบั ส่ิงแวดล้อม และ (6) ยทุ ธศาสตร์ชาตดิ ้านการปรบั สมดลุ และพัฒนาระบบการบรหิ ารจัดการภาครัฐ **การจัดการศึกษาสาหรบั คนพกิ าร ตามนโยบายเกี่ยวกับการจัดการศึกษานอกโรงเรียนให้กับกล่มุ เปาู หมายทม่ี สี ภาพพิเศษ แตกตา่ งจากกล่มุ เปาู หมายทว่ั ไป และมีวิธกี ารจัดการศกึ ษาเป็นพเิ ศษ ใหแ้ ก่ ผ้สู งู อายุ คนพิการ เด็กดอ้ ย โอกาส สตรีกลุ่มเสี่ยง และคนไทยในตา่ งประเทศ การจัดการศกึ ษาสาหรบั คนพิการ ในรปู แบบของศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศยั กลมุ่ เปาู หมายพิเศษ แบ่งออกเปน็ 4 ดา้ น ได้แก่ 1. การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน จดั การศกึ ษาให้กับคนพิการ 3 ระดบั ได้แก่ 1) ระดับประถมศึกษา 2) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น 3) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย 2. รปู แบบการจดั การเรียนการสอนโดย กศน. มรี ูปแบบการเรียนรู้ 7 รปู แบบไดแ้ ก่ 1. การเรียนรู้แบบพบกลุ่ม 2. การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง 3. การเรียนรแู้ บบทางไกล 4. การเรยี นรู้แบบชัน้ เรียน 5. การเรียนรู้ตามอัธยาศัย 6. การเรียนจากการทาโครงงาน 7. การเรยี นรู้แบบอ่ืน ๆ ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนรรู้ ปู แบบใดรูปแบบหน่งึ หรอื หลาย ๆ รปู แบบกไ็ ด้ 3. คุณสมบตั ิ การรบั สมัครและการลงทะเบียนเรยี นของนกั ศกึ ษาคนพกิ าร 1. รับนักศึกษาทกุ ระดับ ทกุ ประเภทความพกิ าร โดยมศี กั ยภาพท่สี ามารถช่วยเหลอื ตนเองเบอ้ื งตน้ ได้ 2. มีความพร้อมทจี่ ะสามารถรบั รู้ เรยี นรู้ได้ 3. อายุ 15 ปขี น้ึ ไป 4. รบั สมคั รทศ่ี ูนย์ กศน. ทกุ อาเภอ/ทกุ จังหวดั ทว่ั ประเทศ คนพกิ ารทมี่ คี วามรู้ และประสบการณใ์ นการดาเนนิ ชีวิตประจาวนั การประกอบอาชพี หรอื ประสบการณจ์ ากการทางาน สามารถขอรับการประเมนิ เทียบระดับการศึกษาทัง้ ระดับประถมศกึ ษา สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
150 ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้ โดยสมัครไดท้ ีส่ ถานศกึ ษาสงั กัดสานกั งาน กศน. ทก่ี ระทรวงศึกษาธิการประกาศให้เปน็ สถานศกึ ษาท่ที าหน้าท่ีประเมินเทียบระดับการศึกษา 4. ประโยชน์ทผ่ี รู้ ับบรกิ าร จะไดร้ ับ 1. การฟ้นื ฟสู มรรถภาพ ความพิการเป็นรายบุคคล 2. การจัดทาแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP : Individualized Education Program) และแผนการสอนเฉพาะบคุ คล (IIP : Individual Implementation Program) 3. การกระต้นุ การเรียนรู้ การเข้าร่วมกิจกรรมและสังคม 4. การจัดการเรยี นรู้ มีรูปแบบทีห่ ลากหลาย และเหมาะสมเป็นรายบคุ คล 5. การบรู ณาการเช่ือมโยงเนอื้ หา สาระสอดคล้องกับวิถีการดารงชีวิตประจาวนั 6. การใหผ้ ู้เรียนมสี ว่ นร่วมกบั ครอบครวั /ชุมชน/สังคมและบคุ คลทเ่ี กยี่ วข้อง อยา่ งมี คณุ ค่าและมศี กั ดิศ์ รี 7. การจัดสิ่งอานวยความสะดวก ตามกฎกระทรวงฯอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตามความ ตอ้ งการเป็นรายบุคคล 8. การประสานงานการสง่ ตอ่ และการช่วยเหลือระยะเรมิ่ แรกเช่น แพทยน์ กั การศกึ ษา สนใจสงั่ ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335