Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือสอบนักวิชาการศึกษา

หนังสือสอบนักวิชาการศึกษา

Published by Monthian Khumlek, 2021-11-02 08:29:58

Description: หนังสือสอบนักวิชาการศึกษา

Search

Read the Text Version

51 แนวข้อสอบ พระราชบัญญตั คิ วามรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ.2539 1. วธิ ีการชดใช้คา่ เสยี หายที่เกดิ จากการละเมิดของเจ้าหน้าท่ตี ามพระราชบัญญัติความผิดทาง ละเมิดของเจ้าหนา้ ที่ พ.ศ.2539 ขอ้ ใดถูกต้อง ก. ชดใช้เป็นเงนิ ข. ซอ่ มแซมทรัพย์สนิ ที่เสียหายให้คงสภาพเดิม ค. ชดใชเ้ ป็นทรัพยส์ ินทีม่ คี ุณภาพ สภาพและปริมาณอย่างเดยี วกับทเี่ สยี หาย ง. ทกุ ข้อทก่ี ล่าวมา 2. คณะกรรมการสอบสวนข้อเทจ็ จริงความผิดทางละเมดิ ทีห่ วั หนา้ สว่ นราชการแตง่ ตัง้ มกี ่ีคน ก. ไม่นอ้ ยกวา่ 5 คน ข. ไม่เกนิ กว่า 5 คน ค. ไม่น้อยกว่า 7 คน ง. ไมเ่ กินกวา่ 7 คน 3. การฟูองของบคุ คลภายนอกที่ได้รับการละเมดิ จากเจา้ หนา้ ทรี่ ฐั ทเ่ี กดิ จากการ ปฏบิ ตั หิ นา้ ทแี่ ละ เจา้ หน้าท่รี ฐั คนนน้ั ไม่ไดส้ ังกัดหนว่ ยงานใด บคุ คลภายนอกจะฟอู งหน่วยงานใด ก. ฟูองเจ้าหนา้ ทค่ี นน้นั ข. ฟูองหน่วยงานรฐั ค.ฟูองนายกรฐั มนตรี ง. ฟอู งกระทรวงการคลัง 4. การ ฟูองรอ้ งกรณีท่ีเกิดละเมิดขน้ึ แก่เอกชน โดยเจ้าหนา้ ทีร่ ฐั ได้ปฏบิ ัติไปตามหน้าท่ี ผู้เสียหายจะ ฟอู งรอ้ งต่อใครได้เพอ่ื ใหช้ ดใชค้ า่ สินไหมทดแทน ก. ฟอู งเจา้ หน้าทขี่ องรฐั ข. ฟูองหน่วยงานของรัฐท่เี จา้ หนา้ ท่ีสงั กัด ค. ฟอู งกระทรวงการคลงั เทา่ น้ัน ง. ไมส่ ามารถฟอู งร้องได้ 5. กรณี ท่ีเกิดละเมดิ ขึ้นแกห่ นว่ ยงานของรัฐ โดยเจ้าหน้าทรี่ ฐั กระทาต่อเอกชนโดยจงใจหรือ ประมาทเลนิ เล่ออย่างร้ายแรง ผใู้ ดเปน็ ผู้รบั ผดิ ชอบคา่ สินไหมทดแทน ก. เจ้าหน้าที่รัฐ ข. หนว่ ยงานของรัฐ ค. กระทรวงการคลัง ง. เจา้ หน้าท่ีของรัฐและหน่วยงานของรัฐ 6. ผู้ใดเปน็ ผ้มู อี านาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการสบื ข้อเทจ็ จรงิ หาก กศน.อาเภอ เกดิ ไฟไหม้ ก. ผอ.กศน.อาเภอ ข. ผอ.สานักงาน กศน.จังหวดั ค. เลขาธิการ กศน. ง. ปลัดกระทรวง 7. จดุ ประสงค์หลักของพระราชบญั ญตั คิ วามผดิ ทางละเมดิ ของเจ้าหนา้ ที่ ขอ้ ใดเปน็ จรงิ ที่สดุ ก. ตอ้ งการคุ้มครองหนว่ ยงานรัฐ ข. ตอ้ งการคุ้มครองหนว่ ยงานเอกชน ค. ต้องการคมุ้ ครองเจา้ หนา้ ที่รฐั ทปี่ ฏบิ ัตหิ น้าทอี่ ย่างสุจรติ รอบคอบ ง. ต้องการคุม้ ครองหน่วยงานของรัฐทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากการฟอู งร้องของเอกชน สนใจสัง่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

52 8. ผเู้ สียหายสามารถยนื่ ฟูองร้องเม่อื ถกู ละเมิด กรณีทมี่ ไิ ด้เกิดจากการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ตอ่ หน่วยงานใด ก. หน่วยงานรฐั ข. ศาลยตุ ิธรรม ค. กระทรวงการคลัง ง. ศาลปกครอง 9. ถา้ ผเู้ สียหายไดย้ ่นื คาขอให้หน่วยงานรฐั พจิ ารณาชดใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทนหน่วยงานรฐั ตอ้ ง พิจารณาให้แล้วเสร็จภายในกี่วัน ก. 60 วนั ข. 90 วนั ค. 120 วนั ง. 180 วัน 10. หากหนว่ ยงานของรัฐไดช้ ดใชค้ า่ สินไหมทดแทนแก่ผเู้ สียหาย โดยเจา้ หนา้ ท่รี ัฐผรู้ บั ผดิ ชอบคา่ สนิ ไหม สทิ ธขิ องหน่วยงานรฐั ทจ่ี ะเรียกใหเ้ จ้าหนา้ ทีผ่ ้รู ับผิดชอบคา่ สินไหมทดแทนมี อายคุ วามก่ปี ี ก. ภายในคร่งึ ปี ข. ภายใน 1 ปี ค. ภายใน 2 ปี ง. ภายใน 5 ปี 11. ขอ้ ใดไมใ่ ชล่ กั ษณะของหลักการทน่ี ามาใช้ในพระราชบญั ญัตคิ วามรับผดิ ชอบทาง ละเมดิ ของ เจ้าหน้าที่ ก. หลกั ในเรอ่ื งลูกหนร้ี ว่ มตามกฎหมายแพ่ง ข. หลักการซึ่งเจ้าหนา้ ท่ตี อ้ งรบั ผดิ ทางละเมดิ ในการปฏิบัตงิ านในหนา้ ท่ี เฉพาะ เมอ่ื เป็นการจงใจให้ เกิดความเสียหายเท่าน้นั ค. หลกั การซึง่ เจ้าหนา้ ทต่ี อ้ งรบั ผิดชอบทางละเมิดในการปฏิบัติงานใน หน้าท่ี เฉพาะเมื่อเป็นการ ประมาทเลินเลอ่ อยา่ งร้ายแรงเท่านั้น ง. ความรบั ผดิ ทางละเมิดในการปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ทข่ี องเจ้าหนา้ ท่ี เจา้ หนา้ ท่ีไมต่ อ้ งรบั ผดิ ชอบเป็น การเฉพาะตวั 12. เจา้ หนา้ ท่ี ตามพระราชบัญญตั ิความรบั ผดิ ชอบทางละเมิดของเจ้าหนา้ ท่ี หมายถึงข้อใด ก. ขา้ ราชการ ข. พนักงาน ค. ลูกจ้าง ง. ถกู ทกุ ข้อ 13. หนว่ ยงานของรฐั หมายถงึ ข้อใด ก. รฐั วิสาหกจิ ข. องค์การบริหารสว่ นตาบล ค. กระทรวง ง. ทกุ ข้อเป็นหน่วยงานของรฐั 14. ในกรณที เ่ี จา้ หนา้ ทใ่ี นหน่วยงานของรัฐกระทาการละเมิดผู้เสียหายจากการกระทาดังกลา่ วต้อง ฟอู ง ก. ฟอู งเจ้าหน้าทที่ ี่ทาละเมิด ข. ฟอู งหน่วยงานของรัฐทผี่ ู้ทาละเมดิ สงั กดั ค. ฟอู งท้ังตวั เจา้ หน้าทแี่ ละหนว่ ยงานของรฐั ท่ีเจา้ หน้าที่สังกัด สนใจสั่งชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

53 ง. ผู้ถกู กระทาละเมิดมสี ิทธิเลือกฟูอง 15. กรณีการกระทาละเมดิ เกิดจากเจ้าหน้าทซี่ ง่ึ ไมไ่ ด้สังกัดหนว่ ยงานของรัฐแห่งใด จะถือว่า หน่วยงานใดเป็นหน่วยงานของรฐั ที่ต้องรับผิดถูกฟอู งร้องคดดี งั กลา่ ว ก. สานกั นายกรฐั มนตรี ข. กระทรวงการคลัง ค. เหตุเกดิ ท่จี งั หวัดใดใหฟ้ อู งทจ่ี ังหวดั น้นั ง. กรมการปกครอง 16. นายเอก ทางานในบริษทั เอกชน ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการในคณะกรรมการของ รฐั วิสาหกจิ แหง่ หนง่ึ ได้กระทาละเมิดต่อบคุ คลภายนอก แนวปฏบิ ตั ขิ อ้ ใดถูกต้องเก่ียวกบั ผลแห่ง ละเมิดดงั กลา่ ว ก. ผถู้ กู ทาละเมดิ ไม่สามารถฟอู งรัฐวิสาหกิจนนั้ ได้เนอ่ื งจากไมไ่ ด้ สังกัดรฐั วิสาหกิจแหง่ น้ัน ฟอู งได้ เฉพาะตวั ข. ผ้ถู ูกทาละเมิดฟอู งรฐั วิสาหกิจนัน้ ได้เพราะนายเอก เปน็ กรรมการในรฐั วิสาหกิจนนั้ ค. ผ้ถู ูกทาละเมิดตอ้ งฟอู งกระทรวงการคลังเพราะกฎหมายถือว่ากระทรวงการ คลงั เป็น หนว่ ยงาน ของรัฐที่ตอ้ งรบั ผิด ง. ผถู้ ูกละเมดิ ต้องฟูองบรษิ ัทที่นายเอกทางานอยู่ 17. ขอ้ ใดไม่ถูกต้อง ก. ถ้าการกระทาละเมิดของเจ้าหน้าที่ไม่ใชก่ ารกระทาในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี เจา้ หน้าท่ีตอ้ งรับผดิ เปน็ การเฉพาะตวั ข. ในกรณที ่ีเจ้าหนา้ ทีข่ องรัฐถูกฟูองเป็นการเฉพาะตัว เหน็ ว่าตนเองกระทาไปตามหนา้ ที่ มีสทิ ธิ ขอให้ศาลพิจารณาคดีนัน้ เรยี กหน่วยงานของรัฐเขา้ มาเปน็ คู่ความในคดี ค. กรณีทหี่ นว่ ยงานของรัฐท่ีถกู ฟอู งเหน็ วา่ เร่ืองทีถ่ ูกฟูองเป็นเร่อื งท่เี จา้ หน้าที่ต้องรบั ผดิ หน่วยงาน ของรฐั ดังกลา่ วมีสทิ ธขิ อให้ศาลพิจารณาคดนี ัน้ เรยี กเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเขา้ มาเป็นคู่ความในคดี ง. ในกรณที ่ีศาลพิพากษายกฟอู งเพราะเหตทุ หี่ น่วยงานของรฐั หรอื เจา้ หน้าท่ีทถี่ ูก ฟูองมใิ ช่ผ้ตู อ้ งรบั ผิด ให้คดี ดงั กลา่ วเป็นอันสิ้นสดุ 18. กรณีทหี่ นว่ ยงานของรัฐตอ้ งรบั ผิดชอบให้ชดใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทนแกผ่ ูเ้ สยี หาย เพื่อการละเมิด ของเจา้ หนา้ ท่ีไปแล้ว หนว่ ยงานของรฐั มีสทิ ธิเรียกให้เจา้ หนา้ ท่ผี ้ทู าละเมดิ ชดใช้ค่าสนิ ไหม ทดแทน คนื ได้ในกรณีใด ก. กรณที ี่การละเมิดจากการจงใจของเจา้ หน้าที่ ข. กรณีท่ีการละเมิดเกดิ จากความประมาทเลินเล่ออยา่ งรา้ ยแรงของเจา้ หน้าที่ ค. ไม่สิทธิเรยี กค่าสินไหมทดแทนคนื ง. ถกู ทัง้ ข้อ ก และข้อ ข สนใจสัง่ ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

54 19. ข้อใดถูกต้อง ในกรณีที่เจ้าหน้าที่หลายคนตอ้ งรับผิดชอบร่วมกนั ในผลแหง่ ละเมิด ก. ทกุ คนต้องรับผดิ เท่า ๆ กนั ข. เจ้าหนา้ ท่แี ต่ละคนต้องรับผิดชอบค่าสนิ ไหมทดแทนแกผ่ ้เู สยี หายไปแลว้ ค. เจ้าหนา้ ทแ่ี ตล่ ะคนตอ้ งร่วมรับผิดในลกั ษณะของลูกหนรี้ ่วม ง. ถกู ทกุ ข้อ 20. กรณที ่หี น่วยงานของรัฐได้ชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนให้แก่ผู้เสียหายไปแล้ว สทิ ธิจะเรียกให้ เจา้ หน้าทช่ี ดใช้ค่า สินไหมทดแทนคืน มอี ายุความตามข้อใด ก. 6 เดือน นับแตว่ นั ทห่ี นว่ ยงานของรัฐได้ใช้คา่ สินไหมทดแทนแก่ผ้เู สียหาย ข. 1 ปี นับแตว่ นั ทหี่ น่วยงานของรัฐไดใ้ ชค้ ่าสนิ ไหมทดแทนแกผ่ เู้ สียหาย ค. 6 เดอื น นบั แตว่ ันทีศ่ าลมีคาพิพากษา ง. 1 ปี นบั แต่วันท่ีศาลมีคาพพิ ากษา 21. กรณที เ่ี จ้าหนา้ ที่กระทาละเมดิ ตอ่ หน่วยงานของรัฐ สทิ ธเิ รียกรอ้ งค่าสนิ ไหมทดแทนมกี าหนดอายุ ความก่ปี ี ก. 1 ปนี ับแตว่ ันทหี่ น่วยงานของรัฐรูถ้ ึงการละเมิด ข. 1 ปีนับแตว่ ันทีห่ นว่ ยงานของรัฐรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวเจ้าหนา้ ที่ผจู้ ะตอ้ ง ชดใช้ค่าสินไหม ทดแทน ค. 2 ปีนับแตว่ ันทีห่ น่วยงานของรฐั รูถ้ ึงการละเมิด ง. 1 ปีนับแต่วนั ท่หี น่วยงานของรัฐร้ถู งึ การละเมดิ และรู้ตัวเจ้าหน้าทผี่ ู้จะตอ้ ง ชดใชค้ า่ สนิ ไหม ทดแทน 22. กรณเี จ้าหนา้ ท่ีกระทาละเมดิ และหนว่ ยงานของรฐั ผู้นั้นไม่ตอ้ งรับผิดจึงไมไ่ ดม้ คี าส่ังใหช้ ดใชค้ ่า สินไหมทดแทน แตก่ ระทรวงการคลงั เหน็ ว่าต้องรบั ผดิ สิทธิเรยี กร้องค่าสนิ ไหมทดแทนดังกลา่ วมี กาหนดอายุความก่ี ปี ก. 1 ปนี ับแต่วนั ทห่ี นว่ ยงานของรฐั มีคาสั่งตามความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลัง ข. 1 ปนี บั แต่วันท่หี นว่ ยงานของรัฐร้ถู ึงการละเมิดและรตู้ วั เจ้าหน้าที่ผู้จะตอ้ ง ชดใชค้ ่าสนิ ไหม ทดแทน ค. 2 ปนี บั แตว่ ันทหี่ น่วยงานของรัฐมีคาส่งั ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ง. 2 ปีนบั แต่วนั ทห่ี น่วยงานของรฐั รู้ถงึ การละเมิดและรตู้ วั เจา้ หนา้ ทผี่ ู้จะตอ้ ง ชดใชค้ ่าสนิ ไหม ทดแทน สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

55 23. ในกรณีที่ผ้เู สียหายได้ยืน่ คาขอตอ่ หน่วยงานของรฐั ให้พจิ ารณาชดใช้คา่ สนิ ไหม ทดแทน สาหรับความเสยี หาย ทเ่ี กิดขึ้นแกต่ น ซึง่ หน่วยงานของรฐั ได้พิจารณาและมคี าสง่ั ไปแล้ว แต่ ผ้เู สียหายไม่พอใจผลการวนิ ิจฉัย หน่วยงานของรัฐ ผเู้ สียหายมีสทิ ธดิ าเนินการตามขอ้ ใด ก. ฟูองรอ้ งตอ่ ศาล ข. ร้องทกุ ขต์ ่อคณะกรรมการวนิ ิจฉยั ร้องทุกข์ ค. ไมม่ ีสทิ ธดิ าเนนิ การใดเนื่องจากกรณเี ปน็ อันยุติแล้ว ง. ถูกเฉพาะขอ้ ก และข้อ ข 24. กาหนดเวลาร้องทกุ ข์ต่อคณะกรรมการวินิจฉยั ร้องทุกข์ตามกฎหมายว่าด้วยคณะ กรรมการ กฤษฎีกาในกรณีที่ ผู้เสยี หายไมพ่ อใจผลการวนิ ิจฉยั ของหน่วยงานของรัฐต้องร้องทุกขภ์ ายใน กาหนดเวลาตามขอ้ ใด ก. ภายใน 30 วันนับแตว่ นั ท่ีตนได้รับแจง้ ผลการวนิ ิจฉัย ข. ภายใน 60 วันนบั แตว่ นั ที่ตนได้รบั แจง้ ผลการวนิ จิ ฉัย ค. ภายใน 90 วันนบั แตว่ นั ทต่ี นได้รับแจง้ ผลการวนิ จิ ฉัย ง. ภายใน 180 วันนับแตว่ นั ทต่ี นไดร้ บั แจ้งผลการวินจิ ฉัย 25. นิยามคาวา่ “เจ้าหนา้ ท”ี่ ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมดิ ของเจา้ หน้าที่ พ.ศ. 2539 หมายถงึ ก. ข้าราชการ พนกั งาน ลกู จ้าง หรอื ผปู้ ฏิบตั ิงานประเภทอื่นไมว่ ่าจะเปน็ การแตง่ ตงั้ ในฐานะเป็น กรรมการ หรือฐานะอืน่ ใด ข. ขา้ ราชการ ไมร่ วมพนกั งาน ลกู จ้าง หรือผปู้ ฏิบัตงิ านประเภทอ่นื ไมว่ ่าจะเป็นการแตง่ ต้ังในฐานะ เปน็ กรรมการหรือฐานะอ่นื ใด ค. ข้าราชการ พนักงาน ลูกจา้ ง ไม่รวมผู้ปฏบิ ัตงิ านประเภทอ่ืนไม่วา่ จะเป็นการแต่งต้ังในฐานะเปน็ กรรมการหรือฐานะอ่ืนใด ง. ถกู ทุกขอ้ 26. การกระทาละเมดิ ของเจา้ หน้าท่ีที่ไม่ใช่การกระทาในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ก. รฐั ตอ้ งรบั ผดิ ชอบรบั ผิดต่อผเู้ สียหายในผลแห่งละเมดิ ทเ่ี จา้ หน้าทขี่ องตนได้กระทา ข. เจา้ หนา้ ท่ตี ้องรบั ผิดในการนั้นเปน็ การเฉพาะตัว ค. ผเู้ สียหายอาจฟูองหน่วยงานของรฐั ได้โดยตรง จะฟูองเจา้ หน้าทีไ่ มไ่ ด้ ง. ถกู ทกุ ข้อ สนใจสงั่ ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

56 27. การชดใชค้ วามเสียหายที่เกิดจากการละเมิดของเจา้ หนา้ ท่ี ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. ในกรณคี วามเสียหายเกิดแกเ่ งิน ใหใ้ ชเ้ ปน็ เงนิ แต่เพียงอย่างเดยี ว ข. ชดใชเ้ ป็นทรพั ยส์ นิ อยา่ งเดยี วกนั โดยมีสภาพ คุณภาพ ปริมาณ และลกั ษณะเดียวกันกบั ทรัพยส์ ินที่สญู หายหรือเสียหายและใช้งานแทนได้เช่นเดียวกบั ทรพั ยส์ ินท่ีสูญหายหรือเสยี หายโดยทา สัญญายินยอมชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนเป็นทรพั ยส์ นิ ดังกลา่ ว ค. ซอ่ มแซมหรอื บูรณะทรพั ย์สินทีช่ ารุดเสียหายให้คงสภาพเดมิ โดยทาสัญญาวา่ จะจดั การ ให้ ทรพั ยส์ ินคงสภาพเหมือนเดมิ ภายในเวลาไมเ่ กินหกเดือน ง. ถูกทุกขอ้ 28. เจ้าหนา้ ท่ซี ึง่ รบั ผดิ สามารถผอ่ นชาระเงิน อตั ราดอกเบย้ี ร้อยละ ก. 5.5 บาทต่อปี ข. 6 บาทตอ่ ปี ค. 7 บาทต่อปี ง. 7.5 บาทต่อปี 29. ข้อใดไม่ใชเ่ หตุผลในการตราพระราชบญั ญัตคิ วามรบั ผดิ ทางละเมดิ ของเจา้ หนา้ ท่ี พ.ศ. 2539 ก. เพอื่ ให้ความเปน็ ธรรมต่อเจ้าหน้าทีผ่ ้ปู ฏบิ ตั ิงานในหนา้ ทร่ี าชการ ข. เพ่อื สรา้ งขวัญกาลงั ให้เจา้ หนา้ ทผี่ ู้ปฏิบัติงานในหน้าทร่ี าชการ ค. เพือ่ เพ่ิมประสทิ ธภิ าพในการปฏิบัติงานรัฐ ง. เพอ่ื ลงโทษเจา้ หน้าทท่ี ่ีปฏบิ ตั งิ านผดิ พลาด 30.หากหนว่ ยงานของรัฐไดช้ ดใช้ค่าสนิ ไหมทดแทนแก่ผู้เสียหาย โดยเจ้าหนา้ ทีร่ ัฐผู้รับผิดชอบค่า สนิ ไหม สิทธิของหน่วยงานรัฐท่จี ะเรียกใหเ้ จ้าหน้าที่ผรู้ ับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนมี อายุความกป่ี ี ก. ภายในครง่ึ ปี ข. ภายใน 1 ปี ค. ภายใน 2 ปี ง. ภายใน 5 ปี เฉลยข้อสอบ 1.ง 2.ข 3.ง 4.ข 5.ก 6.ก 7.ค 8.ข 9.ง 10.ข 11.ก 12.ง 13.ง 14.ข 15.ข 16.ค 17.ง 18.ง 19.ข 20.ข 21.ง 22.ก 23.ง 24.ค 25.ก 26.ข 27.ง 28.ง 29.ง 30.ข สนใจสงั่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

57 พระราชบญั ญตั ิข้อมลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ. 2540   ประกาศ 10 กนั ยายน 2540 เม่อื พน้ กาหนด 90 วัน บังคบั ใช้ 9 ธนั วาคม 2540) นับจากประกาศในราชกจิ จานุเบกษา (เปดิ เผยเป็นหลกั ปกปิดเป็นข้อยกเว้นเฉพาะ มาตรา 14,15) นายกรฐั มนตรี รักษาการระเบียบนี้  หลกั การและเหตุผลของพระราชบัญญัติข้อมลู ขา่ วสารของราชการ ในระบอบประชาธิปไตยการให้ประชาชนมี โอกาสกวา้ งขวางในการได้รับข้อมลู ขา่ วสารเก่ียวกบั การดาเนินการตา่ งๆ ของรัฐ เปน็ สิง่ จาเปน็ เพอ่ื ที่ประชาชนจะสามารถแสดงความคิดเห็นและใชส้ ิทธิ ทางการเมืองได้โดยถกู ต้องกับความจรงิ อันเป็นการสง่ เสริมให้มคี วามเปน็ รัฐบาลโดยประชาชนมากยิ่ง ข้ึนสมควรกาหนดให้ประชาชนมสี ทิ ธไิ ด้รขู้ ้อมูลขา่ วสารของราชการโดยมีข้อยกเวน้ อนั ไม่ตอ้ งเปดิ เผยที่ แจง้ ชัดและจากดั เฉพาะข้อมูลข่าวสารที่หากเปิดเผยแล้วจะ เกิดความเสยี หายตอ่ ประเทศชาติหรอื ตอ่ ประโยชน์ท่ีสาคัญของเอกชน ทั้งนเ้ี พื่อพฒั นาระบบประชาธิปไตยให้มั่นคงและจะยังผลให้ประชาชนมี โอกาสรู้ ถงึ สทิ ธิหนา้ ที่ของตนอยา่ งเต็มท่ีเพ่ือทจี่ ะปกป๎กรกั ษาประโยชน์ของตนประการหนง่ึ กับสมควร คมุ้ ครองสิทธิส่วนบุคคลในส่วนทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ข้อมลู ข่าวสารของราชการไปพร้อม อกี ประการหนึง่ ประเภทข้อมูลข่าวสารของราชการ  **มาตรา 4 *ขอ้ มูลข่าวสาร หมายความว่า สงิ่ ที่สือ่ ความหมายใหร้ ู้เร่อื งราวข้อเทจ็ จรงิ ขอ้ มูลหรือส่ิง ใดๆ ไม่วา่ การส่ือความหมายนนั้ จะทาได้โดยสภาพของสิง่ นัน้ เองหรือโดยผา่ นวิธีการใด ๆ และไมว่ า่ จะ ได้จดั ทาไวใ้ นรปู ของเอกสาร แฟูม รายงาน หนังสอื แผนผัง แผนที่ภาพวาด ภาพถา่ ยฟิลม์ การ บนั ทกึ ภาพหรือเสยี ง การบันทกึ โดยเครือ่ งคอมพวิ เตอร์หรือวิธีอ่นื ใดท่ที าใหส้ ิ่งทบ่ี ันทกึ ไว้ปรากฏได้ **ขอ้ มลู ข่าวสารของราชการ หมายความวา่ ขอ้ มลู ขา่ วสารที่อยู่ในความครอบครองหรอื ควบคมุ ดูแลของหนว่ ยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นขอ้ มูลขา่ วสารเกยี่ วกับการดาเนินงานของรฐั หรอื ขอ้ มลู ข่าวสารเก่ยี วกับเอกชน *คนตา่ งด้าว หมายความวา่ บคุ คลธรรมดาท่ีไม่มสี ัญชาติไทยและไม่มถี น่ิ ทีอ่ ย่ใู นประเทศ ไทยและนติ บิ คุ คลดงั ตอ่ ไปน้ี 1) บรษิ ทั หรอื ห้างหุน้ สว่ นท่ีมที ุนเกินกงึ่ หน่งึ เป็นของคนตา่ งด้าว ใบหุ้นชนิดออกใหแ้ ก่ผู้ถอื ให้ถอื ว่าใบหุ้นนนั้ คนตา่ งด้าวเปน็ ผู้ถือ 2) สมาคมทม่ี สี มาชิกเกนิ กึ่งหนง่ึ เปน็ คนตา่ งด้าว 3) สมาคมหรือมลู นธิ ิทีม่ ีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือประโยชนข์ องคนต่างดา้ ว 4) นติ บิ คุ คลตาม (1) (2) (3)หรอื นติ ิบุคคลอน่ื ใดทมี่ ีผจู้ ัดการหรอื กรรมการเกินก่งึ หนึง่ เป็นคนตา่ งด้าว สนใจส่งั ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

58 ** มาตรา 7 ขอ้ มูลขา่ วสารท่ีตอ้ งเปดิ เผยเปน็ การทว่ั ไป หน่วยงานของรฐั ต้องส่งข้อมูลข่าวสารทลี่ ง พมิ พ์ในราชกจิ จานเุ บกษา 1) โครงสร้างและการจัดองคก์ รในการดาเนินงานของหนว่ ยงานของรัฐน้นั 2) สรปุ อานาจหน้าทท่ี ่ีสาคญั และวิธกี ารดาเนนิ งาน 3) สถานทีต่ ิดตอ่ เพ่อื ขอรบั ขอ้ มูลขา่ วสาร หรอื คาแนะนาในการติดตอ่ กบั หนว่ ยงานของรฐั 4) กฎ มติคณะรฐั มนตรี ขอ้ บังคับ คาสัง่ หนงั สอื เวยี น ระเบยี บแบบแผน นโยบายหรือการ ตคี วามท้งั นี้ เฉพาะท่จี ัดให้มีขน้ึ โดยมีสภาพอยา่ งกฎเพ่ือใหม้ ผี ลเปน็ การท่วั ไปตอ่ เอกชนท่ีเก่ียวขอ้ ง **มาตรา 8 ข้อมูลขา่ วสารที่ตอ้ งลงพิมพ์ กฎ มติคณะรฐั มนตรี ขอ้ บังคบั คาสั่ง ระเบียบ ถา้ ยงั ไม่ได้ ลงพิมพ์ในราชกิจจานเุ บกษา จะนามาใช้บังคบั ในทางท่ีไมเ่ ปน็ คุณแกผ่ ูใ้ ดไมไ่ ด้ เว้นแต่ผนู้ ้ันจะได้รูถ้ งึ ข้อมูลขา่ วสารน้ันตามความเปน็ จรงิ มาก่อนแลว้ เปน็ เวลาพอสมควร **มาตรา 9 ขอ้ มลู ขา่ วสารที่หนว่ ยงานของรัฐต้องจัดไวใ้ หป้ ระชาชนเข้าตรวจดู ตามหลักเกณฑแ์ ละ วิธีการที่คณะกรรมการกาหนดได้แก่ 1) ผลการพจิ ารณาหรือคาวินจิ ฉัยที่มีผลโดยตรงต่อเอกชน รวมทง้ั ความเห็นแยง้ และคาสงั่ ท่ี เกย่ี วขอ้ งในการพจิ ารณาวินิจฉยั ดังกล่าว 2) นโยบายหรอื การตคี วามที่ไมเ่ ข้าข่ายตอ้ งลงพิมพ์ในราชกจิ จานุเบกษาตามาตรา 7 (4) 3) แผนงาน โครงการ และงบประมาณรายจ่ายประจาปที ีก่ าลังดาเนนิ การ 4) คู่มือ หรอื คาสง่ั เก่ียวกับวิธปี ฏิบัตงิ านของเจ้าหน้าทขี่ องรฐั ซ่งึ มผี ลกระทบถงึ สทิ ธิหนา้ ทข่ี อง เอกชน 5) สงิ่ พิมพ์ที่ไดม้ ีการอา้ งองิ ถงึ ตามมาตรา 7 วรรคสอง 6) สัญญาสมั ปทาน สัญญาทีม่ ีลักษณะเป็นการผูกขาดตดั ตอนหรือสญั ญาร่วมทุนกับเอกชนใน การจดั ทาบรกิ ารสาธารณะ 7) มตคิ ณะรัฐมนตรี หรอื มตคิ ณะกรรมการทแี่ ต่งต้ังโดยกฎหมายหรือโดยมตคิ ณะรัฐมนตรี ท้งั นี้ ใหร้ ะบรุ ายช่ือรายงานทางวชิ าการ รายงานขอ้ เท็จจรงิ หรอื ข้อมูลข่าวสารทีน่ ามาใช้ในการพจิ ารณาไว้ ดว้ ย **มาตรา 11 ขอ้ มูลขา่ วสารอื่นใดของราชการนอกเหนอื จากข้อมูลข่าวสารตามมาตรา 7 มาตรา 8 และ มาตรา 9 ขอ้ มลู ข่าวสารทค่ี ัดเลือกไวใ้ ห้ประชาชนศกึ ษาคน้ คว้า (เอกสารประวัตศิ าสตร์) ไดแ้ ก่ ข้อมลู ขา่ วสารของราชการทหี่ น่วยราชการของรฐั ไม่ประสงค์จะเกบ็ รกั ษาไวห้ รือขอ้ มูลขา่ วสารของ ราชการ (สถาบนั พระมหากษัตริย์ เมื่อมีอายุครบ 75 ปี และขอ้ มูลความมั่นคง การแพทย์ ภยั อนั ตราย เมอื่ มีอายคุ รบ 20 ปี) นับแตว่ นั ทเ่ี สรจ็ สน้ิ การจัดให้มีข้อมูลข่าวสารนั้นใหห้ นว่ ยงานของรฐั ส่งมอบใหแ้ ก่ หอจดหมายเหตุแหง่ ชาติ กรมศิลปากร หรอื หนว่ ยงานอ่นื ของรฐั ตามทีก่ าหนดในพระราชกฤษฎีกา เพื่อใหป้ ระชาชนศึกษาค้นคว้า ข้อมูลข่าวสารของราชการท่ีเปิดเผยเป็นการเฉพาะ ข้อมลู ขา่ วสารส่วน บคุ คล หมายความว่า ข้อมลู ข่าวสารเกย่ี วกบั สงิ่ เฉพาะตัวบุคคลเชน่ การศกึ ษา ฐานะการเงนิ ประวัติ สนใจส่งั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

59 สุขภาพ ประวัตอิ าชญากรรมหรือประวัติการทางาน บรรดาท่ีมีชอ่ื ของผนู้ ้นั หรือมีเลขหมายรหัสหรอื สิง่ บอกลกั ษณะอนื่ ที่ทาให้ร้ตู ัวผนู้ ัน้ ได้เช่น ลายพิมพน์ ้วิ มอื แผน่ บนั ทกึ ลกั ษณะเสยี งของคนหรือ รูปถ่าย และให้หมายความรวมถงึ ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสงิ่ เฉพาะตัวของผู้ทถ่ี งึ แก่ กรรมแล้วด้วย มาตรา 13 ผใู้ ดเห็นวา่ หน่วยงานไมจ่ ัดพิมพ์ขอ้ มูลข่าวสาร หรือปฏบิ ัติลา่ ชา้ ไมไ่ ดร้ ับความสะดวกโดย ไมม่ เี หตผุ ลอนั สมควร ผู้นน้ั มสี ทิ ธริ ้องคณะกรรมการ ระยะเวลาการพิจารณาของคณะกรรมการต้อง พจิ ารณาใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายใน 30 วันนบั แตว่ ันท่ีได้รบั คารอ้ งเรยี น ในกรณมี ีเหตุจาเปน็ ให้ขยายเวลา ออกไปได้แตต่ ้องแสดงเหตผุ ลและรวมเวลาท้งั หมดแล้วตอ้ งไม่เกนิ 60 วัน ข้อมูลขา่ วสารที่ไม่ต้องเปดิ เผย **มาตรา 14 ขอ้ มลู ข่าวสารของราชการท่ีเปิดเผยไม่ได้ ขอ้ มลู ขา่ วสารของราชการทอ่ี าจกอ่ ให้เกดิ ความเสียหายต่อสถาบนั พระมหากษตั รยิ ์จะเปดิ เผยมไิ ด้ เมื่อมอี ายุครบ 75 ปี นับแตว่ นั ท่ีเสรจ็ สิ้นการ จัดใหม้ ขี ้อมลู ขา่ วสารน้นั ให้หน่วยงานของรัฐส่งมอบใหแ้ ก่หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ กรมศลิ ปากร **มาตรา 15 ข้อมลู ข่าวสารของราชการท่ีเจ้าหน้าทหี่ รอื หนว่ ยงานของรฐั อาจมีคาสง่ั มิให้เปดิ เผย โดยคานงึ ถึงการปฏิบัติหน้าท่ีตาม กฎหมายของหนว่ ยงานของรฐั ประโยชนส์ าธารณะและประโยชน์ของ ประชาชนท่เี กีย่ วข้องประกอบกนั เมือ่ มอี ายุครบ 20 ปี นบั แต่วนั ทเี่ สรจ็ สิน้ การจัดให้มขี อ้ มลู ข่าวสารน้ัน ให้หนว่ ยงานของรฐั สง่ มอบใหแ้ กห่ อจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศลิ ปากร 1) การเปดิ เผยจะกอ่ ใหเ้ กิดความเสียหายต่อความม่นั คงของประเทศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ ง ประเทศหรือความม่นั คงในทาง เศรษฐกจิ หรอื การคลังของประเทศ 2) การเปิดเผยจะทาใหก้ ารบังคับใช้กฎหมายเส่ือมประสทิ ธิภาพหรือไม่อาจสาเร็จตาม วัตถปุ ระสงค์ไดไ้ มว่ ่าจะเกย่ี วกับการฟูองคดี การปอู งกนั การปราบปราม การทดสอบ การตรวจสอบ หรือการรแู้ หล่งที่มาของขอ้ มูลข่าวสารหรือไม่ก็ตาม 3) ความเหน็ หรอื คาแนะนาภายในหนว่ ยงานของรฐั ในการดาเนินการเรอ่ื งหนึง่ เรอ่ื งใด แต่ทงั้ น้ี ไมร่ วมถงึ รายงานทางวิชาการ รายงานข้อเท็จจรงิ หรอื ข้อมูลขา่ วสารทนี่ ามาใชใ้ นการทาความเหน็ หรอื คาแนะนาภายในดงั กลา่ ว 4) การเปิดเผยจะกอ่ ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภยั ของบุคคลหนงึ่ บุคคลใด 5) รายงานการแพทย์หรือข้อมูลขา่ วสารสว่ นบุคคล ซ่งึ การเปดิ เผยจะเปน็ การรุกลา้ สิทธิสว่ น บุคคลโดยไมส่ มควร 6)ขอ้ มูลข่าวสารของราชการที่มีกฎหมายคุ้มครองมิให้เปดิ เผยหรือขอ้ มูลข่าวสารท่ีมผี ู้ใหม้ าโดย ไมป่ ระสงค์ให้ทางราชการนาไป เปิดเผยต่อผ้อู ่ืน 7)กรณีอื่นตามท่กี าหนดในพระราชกฤษฎีกา คาสง่ั มิให้เปิดเผยข้อมูลขา่ วสารของราชการจะกาหนดเงื่อนไขอย่างใดกไ็ ดแ้ ต่ต้องระบไุ วด้ ว้ ยว่าท่ี เปดิ เผยไม่ไดเ้ พราะเป็นขอ้ มูลขา่ วสารประเภทใด และเพราะเหตุใด และใหถ้ ือวา่ การมีคาสั่งเปดิ เผย สนใจส่ังชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

60 ขอ้ มูลข่าวสาร ของราชการเปน็ ดลุ พินิจโดยเฉพาะของเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ตามลาดบั สายการบังคับ บัญชา แต่ผ้ขู ออาจอุทธรณต์ อ่ คณะกรรมการ วินจิ ฉยั การเปิดเผยขอ้ มูลข่าวสารไดต้ ามท่ีกาหนดใน พระราชบัญญัติน้ี * มาตรา 16 เพื่อให้เกิดความชดั เจน ในทางปฏิบัติวา่ ข้อมลู ขา่ วสารของราชการจะเปิดเผยต่อบคุ คล ใดได้หรอื ไม่ภายใตเ้ งอ่ื นไขเช่นใด และสมควรมวี ธิ รี ักษามใิ ห้ รั่วไหลให้หน่วยงานของรัฐกาหนดวิธกี าร คมุ้ ครองข้อมูลข่าวสารน้ัน ทง้ั น้ี ตามระเบยี บท่คี ณะรัฐมนตรี กาหนดวา่ ระเบยี บว่าดว้ ยการรกั ษา ความลบั ของทางราชการ (เกดิ ระเบยี บว่าดว้ ยการรกั ษาความลับของทางราชการ) **มาตรา 17 เจา้ หนา้ ทขี่ องรัฐเหน็ วา่ ในกรณที ีก่ ารเปดิ เผยข้อมูลข่าวสารของราชการใดอาจกระทบ ถึงประโยชน์ได้เสียของผใู้ ด ให้เจ้าหน้าทขี่ องรฐั แจง้ ใหผ้ ้นู ้ันเสนอคาคัดคา้ น ภายในเวลาท่กี าหนด แต่ ตอ้ งให้เวลาอนั สมควรที่ผู้นนั้ อาจเสนอคาคัดค้านไดซ้ ึง่ ต้อง ไม่น้อยกวา่ 15 วนั นับแตว่ นั ทไ่ี ด้รับแจง้ **มาตรา 18 การท่ีเจ้าหนา้ ท่มี ใิ ห้เปดิ เผยขอ้ มลู ขา่ วสาร ให้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวนิ จิ ฉัยการ เปิดเผยขอ้ มลู ข่าวสาร ภายใน 15 วันนบั แต่ที่ไดร้ บั แจ้ง โดยย่นื ตอ่ คณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร มาตรา 20 การเปดิ เผยข้อมูลข่าวสาร แม้จะเขา้ ขา่ ยตอ้ งรบั ผิดชอบตามกฎหมาย เจ้าหน้าท่ขี องรฐั ไม่ ต้องรบั ผดิ หากเปน็ การกระทาโดยสุจริต ขอ้ มลู ขา่ วสารสว่ นบุคคล มาตรา 21 บคุ คล หมายความว่า บคุ คลธรรมดาทมี่ สี ญั ชาตไิ ทยและบคุ คลธรรมดาทไี่ มม่ ีสัญชาติไทย แต่มีถน่ิ ทีอ่ ยู่ในประเทศไทย **มาตรา 22 สานักข่าวกรองแห่งชาติ สานกั งานสภาความมนั่ คงแหง่ ชาติ และหนว่ ยงานของรัฐ แห่งอนื่ ตาม ที่กาหนดในกฎกระทรวงอาจออกระเบียบโดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการ กาหนด หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไข  มาตรา 23 หนว่ ยงานของรฐั ที่ควบคุมดแู ลข้อมูลขา่ วสารส่วนบุคคลตอ้ งปฏิบตั เิ กย่ี วกับ การจัดระบบ ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลดังตอ่ ไปนี้ 1) ต้องจดั ใหม้ รี ะบบข้อมูลขา่ วสารส่วนบุคคลเพียงเทา่ ทเี่ กี่ยวขอ้ งและจาเปน็ เพื่อการดาเนนิ งาน ของหนว่ ยงานของรฐั ใหส้ าเร็จ ตามวัตถุประสงคเ์ ท่าน้นั และยกเลกิ การจดั ให้มรี ะบบดังกลา่ วเม่ือหมด ความจาเปน็ 2) พยายามเก็บขอ้ มูลข่าวสารโดยตรงจากเจ้าของข้อมลู โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในกรณที ่จี ะกระทบ ถึงประโยชนไ์ ดเ้ สยี โดยตรง ของบุคคลน้ัน 3) จดั ให้มกี ารพมิ พใ์ นราชกจิ จานุเบกษาและตรวจสอบแก้ไขให้ถูกต้องอยู่เสมอเกยี่ วกบั ส่งิ * มาตรา 24 หน่วยงานของรัฐจะเปิดเผยขอ้ มูลข่าวสารส่วนบุคคลท่อี ยใู่ นความควบคุมดแู ลของตน ต่อหน่วยงานของรฐั แห่งอนื่ หรือ ผู้อนื่ โดยปราศจากความยินยอมเป็นหนงั สือของเจ้าของขอ้ มูลท่ใี หไ้ ว้ ลว่ งหน้า หรอื ในขณะนัน้ มิได้ เว้นแต่เปน็ การเปิดเผย ดงั ตอ่ ไปน้ี สนใจส่ังช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

61 1) ตอ่ เจา้ หน้าท่ีของรฐั ในหนว่ ยงานของตนเพือ่ การนาไปใชต้ ามอานาจหน้าท่ขี องหนว่ ยงานของ รัฐแหง่ นัน้ 2) เปน็ การใช้ขอ้ มลู ตามปกติภายใต้วัตถุประสงค์ของการจัดใหม้ รี ะบบขอ้ มูลขา่ วสารส่วนบุคคล น้นั 3) ตอ่ หน่วยงานของรฐั ท่ีทางานดา้ นการวางแผน หรอื การสถติ ิ หรือสามะโนตา่ งๆ ซ่งึ มีหน้าท่ี ต้องรกั ษาข้อมลู ขา่ วสารส่วน บุคคลไวใ้ หไ้ ม่ให้เปิดเผยต่อไปยังผูอ้ ่ืน 4) เป็นการใหเ้ พื่อประโยชน์ในการศกึ ษาวิจยั โดยไม่ระบุช่ือหรอื สว่ นทที่ าใหร้ วู้ ่าเปน็ ข้อมูล ข่าวสารส่วนบุคคลท่เี กย่ี วกับบคุ คลใด 5) ตอ่ หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ กรมศิลปากร เพอื่ การตรวจดคู ณุ คา่ ในการเกบ็ รกั ษา 6) ตอ่ เจ้าหน้าท่ขี องรัฐเพือ่ การปูองกันการฝุาฝืนหรอื ไม่ปฏิบัตติ ามกฎหมาย การสืบสวนการ สอบสวน หรือการฟอู งคดี ไม่วา่ เป็นคดปี ระเภทใดกต็ าม 7) เป็นการใหซ้ ่ึงจาเป็นเพ่ือการปอู งกนั หรือระงับอนั ตรายตอ่ ชีวิตหรือสุขภาพของบคุ คล 8) ต่อศาล และเจา้ หน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานของรฐั หรือบุคคลทมี่ อี านาจตามกฎหมายทจ่ี ะขอ ขอ้ เท็จจริงดงั กล่าว *มาตรา 25 บุคคลมสี ทิ ธิรู้ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสารสว่ นบคุ คลของตน สามารถยน่ื ขอดู หากมีข้อมูลไมถ่ ูกตอ้ ง มสี ิทธิยน่ื ขอเป็นหนงั สือเพ่ือแก้ไขหากไม่ให้แก้ไขอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินจิ ฉยั ภายใน 30 วนั นับแต่ ท่ีไดร้ บั คาสั่งไมแ่ ก้ไข โดยยน่ื ต่อคณะกรรมการขอ้ มลู ขา่ วสาร เอกสารประวตั ศิ าสตร์ **มาตรา 26 หน่วยงานของรัฐตอ้ งสง่ มอบข้อมูลข่าวสารของราชการที่ไม่ประสงค์จะเก็บรกั ษาหรอื มี อายคุ รบกาหนดเวลา คอื ข้อมลู ขา่ วสารของราชการขอ้ มูลข่าวสารของราชการ (สถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ เมือ่ มีอายคุ รบ 75 ปี และขอ้ มูลความมนั่ คง การแพทย์ ภยั อันตราย เม่อื มีอายุครบ 20 ปี) นับตั้งแต่วันทเี่ สรจ็ สิน้ การจัดให้มขี ้อมูลข่าวสารให้หอจดหมายเหตแุ ห่งชาติกรมศิลปากร หรอื หน่วยงานอน่ื ของรัฐ ตามท่ีกาหนดในพระราชกฤษฎีกา เพอ่ื คัดเลือกไว้ให้ประชาชนได้ศกึ ษาค้นคว้า กาหนดเวลาดังกลา่ วอาจขยายออกไปได้ในกรณีดงั ต่อไปนี้ 1) หน่วยงานของรัฐ ยังจาเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลขา่ วสารของราชการไวเ้ องเพือ่ ประโยชน์ ในการใช้สอย คน้ คว้าตามทจ่ี ะตกลงกับหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติกรมศลิ ปากร 2) หนว่ ยงานของรัฐเห็นวา่ ข้อมูลขา่ วสารของราชการน้ันยงั ไม่ควรเปดิ เผย โดยมคี าสัง่ ขยายเวลากากับไว้เป็นการเฉพาะราย คาส่ังการขยายเวลานั้นให้กาหนดระยะเวลาไว้ด้วย แต่จะ กาหนดเกนิ คราวละ 5 ปีไม่ได้ คณะกรรมการขอ้ มลู ขา่ วสาร สนใจส่ังชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

62 **มาตรา 27 คณะกรรมการข้อมลู ขา่ วสาร จานวน 23 คน วาระละ 3 ปี ประธาน : รัฐมนตรซี ง่ึ นายกมอบหมาย (ประธาน : นายเทวัญ ลปิ ตพัลลภ รฐั มนตรปี ระจาสานกั นายก) ผทู้ รงคุณวุฒิ : ครม, ปลดั สานกั นายกรัฐมนตรแี ตง่ ต้ังข้าราชการ เป็น เลขานุการ **มาตรา 28 คณะกรรมการมีอานาจหน้าท่ี ดังตอ่ ไปนี้ 1) สอดส่องดแู ลและให้คาแนะนาเกยี่ วกับการดาเนนิ งานของเจา้ หน้าทีข่ องรฐั และหนว่ ยงาน ของรฐั ในการปฏบิ ตั ติ าม พระราชบัญญตั ินี้ 2) ให้คาปรึกษาแก่เจา้ หนา้ ท่ีของรัฐหรือหนว่ ยงานของรฐั เกยี่ วกบั การปฏิบตั ติ าม พระราชบญั ญัตนิ ตี้ ามทไี่ ดร้ บั คาขอ 3) เสนอแนะในการตราพระราชกฤษฎีกาและการออกกฎกระทรวงหรือระเบียบของ คณะรัฐมนตรีตามพระราชบัญญตั ิน้ี 4) พิจารณาและใหค้ วามเหน็ เรื่องร้องเรียน 5 )จดั ทารายงานเกี่ยวกับการปฏิบตั ติ ามพระราชบญั ญัตินี้เสนอคณะรัฐมนตรเี ปน็ คร้งั คราวตาม ความเหมาะสม แต่อย่างน้อยปลี ะหนึ่งครั้ง คณะกรรมการวนิ ิจฉัยการเปดิ เผยข้อมูลข่าวสาร **มาตรา 35 คณะกรรมการวนิ จิ ฉยั การเปดิ เผยขอ้ มลู ข่าวสารทางราชการ ครม.แตง่ ตั้งตามขอ้ เสนอ ของคณะกรรมการขอ้ มลู ขา่ วสาร คณะละไมน่ ้อยกว่า 3 คน มีหน้าทวี่ นิ จิ ฉยั อทุ ธรณค์ าสั่งมใิ ห้เปิดเผย ไม่รบั คาคัดค้าน การแก้ไขขอ้ มลู ของตน  มาตรา 37 ใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาสง่ คาอุทธรณ์ใหค้ ณะกรรมการวนิ ิจฉัยการเปิดเผยข้อมลู ข่าวสาร ภายใน 7 วัน นับแต่วันทคี่ ณะกรรมการไดร้ บั คาอทุ ธรณ์ บทกาหนดโทษ **มาตรา 40 ผูใ้ ดไม่ปฏบิ ัตติ ามคาสง่ั ให้มาใหถ้ ้อยคาหรอื ส่งวัตถพุ ยาน จาคกุ ไม่เกนิ 3 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 5,000 บาทหรอื ทัง้ จาทั้งปรบั (จา 3 เดอื น ปรับ 5,000 บาท ทัง้ จาและปรบั ) **มาตรา 41 ผู้ใดไมป่ ฏบิ ัติตามข้อจากัดหรือเง่ือนไขท่กี าหนด จาคกุ ไมเ่ กิน 1 ปี หรือปรับ ไมเ่ กนิ 20,000 บาทหรอื ทั้งจาทั้งปรบั (จา 1 ปี ปรับ 20,000 บาท ท้ังจาและปรับ) สนใจส่งั ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

63 แนวขอ้ สอบพระราชบัญญัติข้อมลู ขา่ วสารของราชการ 1. พระราชบัญญตั ิข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 บงั คับใชว้ นั ที่ ก. 9 มกราคม 2540 ข. 9 ธนั วาคม 2540 ค. 10 ธนั วาคม 2540 ง. 11 ธนั วาคม 2540 2. ขอ้ มูลข่าวสารของราชการคือ ก. ขอ้ มลู ข่าวสารทอี่ ยู่ในความครอบครองหรอื ควบคมุ ดแู ลของหนว่ ยงานของรัฐ ข. ข้อมลู ขา่ วสารทอ่ี ยู่ในความครอบครองหรอื ควบคุมดแู ลของเอกชน ค. ข้อมูลข่าวสารทีอ่ ยู่ในความครอบครองหรือควบคมุ ดูแลของรัฐและเอกชน ง. ข้อมูลขา่ วสารท่อี ยูใ่ นความครอบครองหรอื ควบคมุ ดูแลของมลู นิธิ 3. ข้อใดไมใ่ ช่หนว่ ยงานของรฐั ตามพระราชบญั ญัตขิ อ้ มลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ก. ราชการส่วนทอ้ งถิน่ ข. ราชการสังกัดรัฐสภา ค. ศาล ง. ศาลเฉพาะที่ไม่เกย่ี วกับการพิจารณาพิพากษาคดี 4. ข้อใดไม่ใช่ข้อมูลข่าวสารส่วนบคุ คล ก. รปู ถ่าย ข. ประวตั กิ ารทางาน ค. ฐานะการเงนิ ง. การบนั ทึกภาพหรอื เสียง 5. ขอ้ ใดคือความหมายของคนต่างด้าว ก. บคุ คลธรรมดาท่ีมีสัญชาตไิ ทย แต่ไม่มถี ่ินท่ีอยู่ในประเทศไทย ข. บคุ คลธรรมดาที่ไม่มสี ัญชาติไทย แต่มถี ่นิ ทอ่ี ยู่ในประเทศไทย ค. บุคคลธรรมดาทีม่ ีสัญชาติไทย และมถี ่นิ ท่ีอยู่ในประเทศไทย ง. บคุ คลธรรมดาท่ีไมม่ ีสญั ชาติไทย และไม่มถี ่นิ ท่ีอยใู่ นประเทศไทย 6. ข้อใดต่อไปน้ถี ือว่าเปน็ คนต่างดา้ ว ก. บรษิ ทั ชมุ ชนของเราจากัดมีคนตา่ งด้าวถือหุน้ ไมเ่ กนิ ก่ึงหนง่ึ ข. สมาคมรกั ไทยมีสมาชิกทง้ั หมด 988 คน เป็นคนต่างด้าว 450 คน ค. มลู นิธิไก่ชนไทยทีม่ ีวตั ถุประสงค์เพอื่ ประโยชนข์ องคนต่างด้าว ง. สมาคมสู้เพอื่ แผน่ ดิน ท่มี ีวตั ถุประสงค์เพ่ือประโยชน์ของคนไทย 7. ใครเปน็ ผูร้ ักษาการตาม พระราชบัญญตั ิขอ้ มลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ. 2540 ก. นายกรฐั มนตรี ข. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ค. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการคลงั ง. ถูกทกุ ข้อ 8. ใหจ้ ัดต้ังสานกั งานคณะกรรมการขอ้ มูลขา่ สารขึ้นในหนว่ ยงานใด ก. สานักนายกรฐั มนตรี ข. สานักงานปลัดสานกั นายกรัฐมนตรี ค. สานักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย ง. สานักข่าวกรองแหง่ ชาติ สนใจสัง่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

64 9. ขอ้ ใดไม่ใช่หน้าทีข่ องสานักงานคณะกรรมการข้อมลู ข่าสาร ก. ปฏบิ ตั ิงานเกย่ี วกับงานวิชาการและธุรการให้แก่ คณะกรรมการ ข. ให้คาปรึกษาแกเ่ อกชนในการปฏบิ ตั ิตาม พ.ร.บ. นี้ ค. ประสานงานกับหนว่ ยงานของรฐั ง. ให้คาปรกึ ษาแก่หน่วยงานรัฐในการปฏบิ ัติตาม พ.ร.บ. น้ี 10. ขอ้ มูลขา่ วสารตามข้อใดต้องลงพิมพ์ในราชกจิ จานุเบกษา ก. โครงสร้างและการจดั องคก์ รในการดาเนนิ งาน ข. สรุปอานาจหนา้ ที่ทสี่ าคบั และวธิ ีดาเนนิ งาน ค. สถานทตี่ ดิ ตอ่ เพอ่ื ของรบั ขอ้ มูลขา่ วสาร ง. ถูกทกุ ข้อ 11. ผู้ใดเห็นวา่ หน่วยงานของรฐั ไมจ่ ัดข้อมลู ขา่ วสารเขา้ ตรวจดสู ามารถร้องเรยี นต่อหน่วยงานใด ก. คณะกรรมการข้อมลู ข่าวสารของทางราชการ ข. คณะกรรมการวินิจฉยั ข้อมลู ขา่ วสารของทางราชการ ค. ศาลปกครอง ง. สานักนายกรัฐมนตรี 12. เม่ือมีการร้องเรยี นว่าหนว่ ยงานของรฐั ไม่จัดขอ้ มูลข่าวสารให้ประชาชนได้เขา้ ตรวจดใู ห้ คณะกรรมการพิจารณาใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในกวี่ นั ก. 15 วนั ข. 30 วัน ค. 60 วนั ง. 90 วัน 13. กรณมี เี หตุจาเป็นไมส่ ามารถพิจารณาให้แลว้ เสรจ็ ภายในเวลากาหนด ใหข้ ยายเวลาออกไปไดอ้ ีก ไมเ่ กินกีว่ นั ก. 15 วนั ข. 30 วนั ค. 45 วัน ง. 60 วัน 14. ข้อมลู ขา่ วสารตามข้อใดจะเปดิ เผยมิได้ ก. ขอ้ มลู ข่าวสารทอ่ี าจกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายตอ่ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ์ ข. มติคณะรัฐมนตรี ค. รายงานแพทย์ ง. ข้อมลู ส่วนตัว 15. ข้อมลู ขา่ วสารข้อใดท่ีหน่วยงานของรฐั อาจมีคาสงั่ มใิ ห้เปดิ เผย ก. ขอ้ มลู ข่าวสารที่อาจก่อใหเ้ กิดความเสยี หายต่อความมน่ั คงของประเทศ ข. การเปิดเผยอาจทาให้การบงั คับใช้กฎหมายเส่อื มประสทิ ธภิ าพ ค. การเปดิ เผยอาจก่อใหเ้ กิดอนั ตรายตอ่ ชวี ิต ง. ถกู ทกุ ข้อ สนใจสง่ั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

65 16. เจ้าหน้าทข่ี องรัฐเห็นว่าการเปดิ เผยขอ้ มูลขา่ วสารอาจกระทบกับสว่ นไดเ้ สยี ของผใู้ ด ให้ เจ้าหน้าทแี่ จง้ ใหผ้ นู้ ้ันคัดค้านภายในกวี่ ัน ก. 15 วนั ข. 30 วนั ค. 45 วัน ง. 60 วัน 17. ถ้าเจ้าหนา้ ที่มีคาสงั่ มใิ ห้เปดิ เผยข้อมลู ขา่ วสารผู้นน้ั อาจอทุ ธรณ์ต่อคณะกรรมวินจิ ฉัยการเปดิ เผย ข้อมลู ขา่ วสารภายในกีว่ นั ก. 15 วนั ข. 30 วนั ค. 45 วัน ง. 60 วนั 18. ถา้ เจา้ หนา้ ทม่ี คี าสง่ั ไมร่ ับฟงั คาคัดคา้ นของผมู้ ปี ระโยชน์ไดเ้ สียผู้น้ัน อาจอุทธรณ์ต่อคณะกรรม วินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลขา่ วสารภายในก่วี นั ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน 19. บคุ คล ในความหมายขอ้ ใดถูกต้อง ก. บคุ คลธรรมดาทีไม่มีสัญชาตไิ ทย ข. บุคคลธรรมดาทม่ี ีสัญชาตไิ ทย ค. บุคคลท่ีไม่มสี ัญชาตไิ ทย และไมม่ ีถิน่ ทอ่ี ย่ใู นประเทศไทย ง. ถกู ทุกข้อ 20. ขอ้ มูลข่าวสารท่ไี มป่ ระสงค์จะเกบ็ รักษา หรอื มีอายุครบกาหนดให้ส่งมอบใหแ้ กห่ น่วยงานใด ก. สภาวัฒนธรรมแหง่ ชาติ ข. หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ กรมศิลปากร ค. กระทรวงวัฒนธรรม ง. กรมการศาสนา 21. ข้อมลู ขา่ วสารที่อาจก่อใหเ้ กิดความเสยี หายต่อสถาบันพระมหากษตั รยิ ์ จะจัดใหป้ ระชาชนได้ ศึกษาคน้ ควา้ เม่อื มีอายุครบก่ีปี ก. 60 ปี ข. 75 ปี ค. 80 ปี ง. 100 ปีขน้ึ ไป 22. ข้อมูลที่อาจจะก่อใหเ้ กิดความเสียหายต่อความม่นั คงขอประเทศ จะจัดให้ประชาชนไดศ้ ึกษา ค้นควา้ เม่อื มีอายุครบกป่ี ี ก. 20 ปี ข. 25 ปี ค. 35 ปี ง. 75 ปีขึ้นไป 23. รายงานแพทย์ซง่ึ การเปิดเผยจะเปน็ การรกุ ล้าสิทธิสว่ นบุคคลโดยไมส่ มควร จะจัดให้ประชาชน ไดศ้ กึ ษาค้นควา้ เมอ่ื มีอายคุ รบกป่ี ี ก. 20 ปี ข. 25 ปี ค. 35 ปี ง. 75 ปขี น้ึ ไป สนใจส่ังช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

66 24. หน่วยงานของรัฐเห็นวา่ ขอ้ มลู ขา่ วสารใดไมส่ มควรเปดิ เผย ให้ขยายเวลาได้ไม่เกนิ คราวละกปี่ ี ก. 2 ปี ข. 3 ปี ค. 5 ปี ง. 7 ปี 25. บคุ คลใดเป็นประธานคณะกรรมการขอ้ มูลขา่ วสารของราชการ ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรซี งึ่ นายกรฐั มนตรีมอบหมาย ค. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ง. รองนายกรัฐมนตรซี ่งึ นายกรฐั มนตรมี อบหมาย 26. บคุ คลใดไม่ไดเ้ ป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข. ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ค. ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ง. ปลัดกระทรวงพาณชิ ย์ 27. ใครเป็นผู้แตง่ ตัง้ ผู้ทรงคณุ วุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ก. คณะรัฐมนตรี ข. รฐั สภา ค. นายกรัฐมนตรี ง. พระมาหากษัตริย์ 28. ผูท้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการมีทง้ั หมดกีค่ น ก. 6 คน ข. 9 คน ค. 12 คน ง. 15 คน 29. ผ้ทู รงคณุ วฒุ ทิ เี่ ป็นคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ มีวาระในการดารงตาแหนง่ คราว ละกปี่ ี ก. 3 ปี นับแต่วนั ทไ่ี ดร้ บั การสรรหา ข. 3 ปี นับแต่วนั ท่ไี ด้รับการแตง่ ตัง้ ค. 4 ปี นบั แต่วันทไ่ี ดร้ ับการสรรหา ง. 4 ปี นบั แต่วันท่ีได้รับการแต่งตง้ั 30. การพ้นจากตาแหน่งของผทู้ รงคณุ วุฒิในข้อใดไม่ถกู ตอ้ ง ก. ตาย ข. ลาออก ค. นายกรฐั มนตรใี ห้ออกเพราะมีความบกพร่อง ง. คณะรัฐมนตรใี ห้ออกเพราะมีความประพฤติเสือ่ มเสีย 31. ใครเป็นผู้แตง่ ตง้ั คณะกรรมการวินิจฉยั การเปิดเผยขอ้ มูลขา่ วสาร ก. คณะรัฐมนตรี ข. รฐั สภา ค. นายกรัฐมนตรี ง. พระมาหากษตั ริย์ 32. คณะกรรมการวนิ ิจฉยั การเปิดเผยข้อมลู ข่าวสาร คณะหน่งึ ๆ ประกอบดว้ ยบุคคลไม่น้อยกว่าก่ี คน ก. 3 คน ข. 5 คน ค. 9 คน ง. 12 คน สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

67 33. ใหค้ ณะกรรมการข้อมลู ขา่ วสารของราชการส่งคาอุทธรณ์ใหค้ ณะกรรมการวินิจฉยั การเปดิ เผย ขอ้ มูลข่าวสารภายในกว่ี นั นับแตท่ ีไ่ ด้รับคาอุทธรณ์ ก. 7 วนั ข. 12 วัน ค. 15 วัน ง. 30 วนั 34. ผ้ใู ดไม่ปฏบิ ัตติ ามคาสั่งของคณะกรรมการ (ตามมาตรา 32) ไมม่ าให้ถอ้ ยคา สง่ วัตถุเอกสาร หรือพยานหลักฐาน ตอ้ งระวางโทษตามขอ้ ใด ก. จาคุกไม่เกนิ 3 เดือน ปรบั ไม่เกิน 5,000 บาท หรอื ท้งั จาทงั้ ปรบั ข. จาคุกไมเ่ กนิ 3 ปี ปรับไมเ่ กิน 5,000 บาท หรือทั้งจาทง้ั ปรบั ค. จาคกุ ไมเ่ กิน 3 เดือน ปรับไมเ่ กนิ 20,000 บาท หรือทง้ั จาท้ังปรบั ง. จาคกุ ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 15,000 บาท หรือทงั้ จาท้งั ปรบั 35. ผูใ้ ดฝุาฝืนหรอื ไมป่ ฏิบัติตามข้อจากัดหรอื เงอื นไขทีเ่ จา้ หนา้ ท่ีของรัฐกาหนด (ตามมาตรา 20) ตอ้ งระวางโทษตามข้อใด ก. จาคุกไมเ่ กนิ 1 เดือน ปรบั ไม่เกนิ 20,000 บาท หรือทงั้ จาท้งั ปรบั ข. จาคกุ ไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทัง้ จาทงั้ ปรับ ค. จาคกุ ไม่เกิน 10 ปี ปรับไมเ่ กนิ 20,000 บาท หรือท้ังจาทง้ั ปรับ ง. จาคกุ ไมเ่ กนิ 10 ปี ปรับไม่เกนิ 200,000 บาท หรอื ท้ังจาทัง้ ปรับ 36. ขอ้ มลู ข่าวสารราชการ หากมีบางสว่ นที่ต้องห้ามมใิ ห้เปดิ เผยให้ดาเนนิ การเชน่ ใด ก. หา้ มเปิดเผยท้ังฉบับ ข. ใหข้ ดี ฆ่าดว้ ยหมึกสีแดง ค. ให้ลบหรอื ตดั ทอนข้อความนั้น ง. ใหด้ าเนินการข้อใดขอ้ หนึ่ง 37. ขอ้ มลู ข่าวสารของราชการทไ่ี ม่ควรเปดิ เผยหนว่ ยงานรฐั ต้องดาเนนิ การตามขอ้ ใด ก. แจ้งให้ประชาชนไดท้ ราบ ข. ประกาศหา้ มในราชกจิ จานุเบกษา ค. ลบหรอื ตดั ทอนขอ้ มลู ขา่ วสารนนั้ ง. ทาคาส่ังมใิ ห้เปดิ เผย 38. ขอ้ มูลที่หน่วยงานรฐั จะเปดิ เผยแต่กระทบต่อบคุ คลอื่นๆ ต้องแจง้ ให้บคุ คลนั้นเสนอคดั ค้าน มใิ ห้ เปดิ เผยในเวลาตามขอ้ ใด ก. ภายใน 15 วัน นับแต่วนั รบั แจง้ ข. ไม่นอ้ ยกว่า 15 วนั นับแต่วันรับแจ้ง ค. ภายใน 30 วนั นับแตว่ นั รับแจ้ง ง. ไมน่ ้อยกว่า 30 วัน นับแต่วนั รับแจ้ง 1.ข 2.ก 3.ค 4.ง 5.ง 6.ค 7.ก 8.ข 9.ง 10.ง 11.ก 12.ข 13.ง 14.ก 15.ง 16.ก 17.ก 18.ก 19.ข 20.ข 21.ข 22.ก 23.ก 24.ค 25.ข 26.ง 27.ก 28.ข 29.ข 30.ค 31.ก 32.ก 33.ก 34.ก 35.ข 36.ค 37.ง 38.ข สนใจส่ังชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

68 พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และทีแ่ ก้ไขเพ่มิ เติม  **ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวนั ที่ 25 มกราคม 2551  **มผี ลบงั คบใชเ้ มื่อวนั ที่ 26 มกราคม 2551  **นายกรฐั มนตรีเปนผรู กั ษาการ ตาม พ.ร.บ.  **พลเอกสรุ ยทุ ธ จลุ านนท นายกรัฐมนตรี ผลู งนามสนองพระบรมราชโองการ ** ขาราชการฝายพลเรอื น หมายความวา ขาราชการพลเรือนและขาราชการอ่นื ในกระทรวง กรม ฝายพลเรือน ตามกฎหมายวาดวยระเบียบราชการประเภทน้นั *ขาราชการฝายพลเรือน แบงได ประเภท 1). ขาราชการพลเรอื น 2). ขาราชการอื่นในกระทรวง กรมฝายพลเรือน ตามกฎหมายวาดวยระเบยี บราชการประเภทน้ัน *ขาราชการพลเรือน หมายความวา บุคคลซ่งึ ไดรับการบรรจแุ ละแตงตง้ั ตามพระราชบัญญัตนิ ใี้ หรับ ราชการโดยไดรับเงินเดือนจากเงนิ งบประมาณในกระทรวง กรม ฝายพลเรอื น *มี 2 ประเภท 1) ขาราชการพลเรอื นสามญั ไดแกขาราชการพลเรอื นซึ่งรบั ราชการโดยไดรับบรรจุ แตงตงั้ ตามที่บญั ญตั ิไวในลกั ษณะ 4 ขาราชการพลเรอื นสามัญ 2) ขาราชการพลเรือนในพระองค ไดแกขาราชการพลเรือนซ่ึงรับราชการโดยไดรับ บรรจุแตงตัง้ ใหดารงตาแหนงในพระองคพระมหากษัตรยิ ตามที่กาหนดในพระราชกฤษฎกี า คณะกรรมการขาราชการพลเรือน (ก.พ.) จานวน 10 – 12 คน ประกอบดวย 1) นายกรฐั มนตรีหรอื รองนายกรัฐมนตรีท่นี ายกรัฐมนตรีมอบหมายเปนประธาน 2) กรรมการโดยตาแหนง ประกอบดวย 2.1 ปลัดกระทรวงการคลัง 2.2 ผูอานวยการสานักงบประมาณ 2.3 เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสงั คมแหงชาติ 3) กรรมการซงึ่ ทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ แตงตั้งจากผูทรงคุณวุฒดิ านการบริหารงานบุคคล ดานการบริหารและการจัดการและดานกฎหมายจานวนไมนอยกวา 5 คน แตไมเกิน 7 คน (อยูในวาระคราวละ 3 ป 4) เลขาธิการก.พ. เปนกรรมการและเลขานุการ สนใจสงั่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

69 ก.พ.มีอานาจหนาท่ีดงั ตอไปน้ี 1) เสนอแนะและใหคาปรึกษาแกคณะรฐั มนตรีเกยี่ วกบั นโยบายการบริหารงานบุคคล และยทุ ธศาสตรการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครฐั ในดานมาตรฐานคาตอบแทน การบริหารและ การพัฒนาทรัพยากรบคุ คล รวมตลอดท้ังการวางแผนกาลงั คนและดานอน่ื ๆ เพื่อใหสวนราชการ ใชเปนแนวทางในการดาเนินการ 2) รายงานคณะรัฐมนตรีเพอ่ื พิจารณาปรับปรงุ เงินเดอื น เงินประจาตาแหนง เงนิ เพม่ิ คาครองชพี สวัสดกิ าร หรอื ประโยชนเกอื้ กูลอื่นสาหรบั ขาราชการพลเรอื นใหเหมาะสม 3) กาหนดหลักเกณฑวิธกี ารและมาตรฐานการบริหารและพัฒนาทรพั ยากรบุคคลของ ขาราชการพลเรือน เพ่ือสวนราชการใชเปนแนวทางในการดาเนินงาน 4) ใหความเห็นชอบกรอบอัตรากาลงั ของสวนราชการ 5) ออกกฎ ก.พ. และระเบยี บเกี่ยวกับการบรหิ ารทรัพยากรบุคคล เพอ่ื ปฏิบตั ิการตาม พระราชบญั ญตั ินี้ ….. กฎ ก.พ.เมื่อไดรับอนมุ ัติจากคณะรัฐมนตรแี ละประกาศในราชกิจจา นเุ บกษาแลว ใหใชบงั คับได 6) ตีความและวินจิ ฉัยปญหาท่ีเกดิ ขน้ึ เนือ่ งจากการใชบงั คบั พระราชบญั ญัติน.ี้ . 7) กากบั ดูแล ตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการบริหารทรพั ยากรบคุ คลของ ขาราชการพลเรือนในกระทรวงและกรม … 8) กาหนดนโยบายและออกระเบียบเก่ียวกับทุนเลาเรยี นหลวงและทุนของรฐั บาล 9) ออกขอบงั คับหรอื ระเบยี บเกย่ี วกับการจัดการศกึ ษาและควบคุมดูแล และการให ความชวยเหลือบุคคลภาครฐั นกั เรยี นทุนเลาเรียนหลวง นักเรียนทนุ ของรัฐบาล… 10) กาหนดหลกั เกณฑและวิธกี ารเพือ่ รับรองคณุ วุฒิของผูได รบั ปริญญา ประกาศนียบตั รวิชาชพี หรือ คณุ วุฒิอยางอื่นเพ่อประโยชนในการบรรจุและการแตงต้ังขาราชการ พลเรอื นและการกาหนดเงินเดอื น หรอื คาตอบแทน 11) กาหนดอัตราคาธรรมเนยี มในการปฏบิ ัตติ ามพระราชบญั ญัตนิ ้ี 12) พจิ ารณาจัดทาระบบทะเบยี นประวัตแิ ละแกไขทะเบยี นประวัติเก่ียวกบั วันเดือนปเกิด และการควบคมุ เกษียณอายุของขาราชการพลเรือน 13) ปฏบิ ตั ิหนาท่อี ่นื ตามท่ีบัญญตั ิไวในพระราชบญั ญตั นิ ้ีและกฎหมายอ่ืน  **ใหมสี านักงานคณะกรรมการขาราชการพลเรือน เรียกโดยยอวา สานกั งาน ก.พ.  **โดยมเี ลขาธิการก.พ. เปนผูบงั คับบัญชาขาราชการและบริหารราชการของสานักงาน ก.พ.  ** ขน้ึ ตรงตอนายกรฐั มนตรี ใหมีคณะอนกุ รรมการสามญั เรียกโดยยอวา อ.ก.พ.สามัญ ดงั นี้  **อนุกรรมการสามัญประจากระทรวง (อ.ก.พ.กระทรวง) ประกอบดวย สนใจสัง่ ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

70 (1) รัฐมนตรีเจาสังกดั เปนประธาน (2) ปลัดกระทรวงเปนรองประธานและผูแทน ก.พ.ซึง่ ต้งั จากขาราชการพลเรือนใน สานกั งาน ก.พ. 1 คน เปนอนกุ รรมการโดยตาแหนง (3) อนกุ รรมการซง่ึ ประธาน อ.ก.พ. แตงตัง้ จาก 3.1 ผูทรงคณุ วฒุ ดิ านการบรหิ ารงานบุคคล ดานการบรหิ ารและการจัดการ และดานกฎหมาย 3.2 ขาราชการพลเรือนผูดารงตาแหนงประเภทบรหิ ารระดบั สูงในกระทรวงซง่ึ ไดรบั เลอื กจากขาราชการพลเรือนผูดารงตาแหนงดงั กลาวจานวนไมเกิน 5 คน คณะอนุกรรมการสามญั ประจากรม (อ.ก.พ.กรม) ประกอบดวย (1) อธบิ ดีเปนประธาน รองอธิบดีที่อธิบดีมอบหมายหนึง่ คนเปนรองประธานและอนกุ รรมการ ซึง่ เปน อ.ก.พ.แตงตง้ั จาก (2) ผูทรงคุณวฒุ ดิ านการบรหิ ารทรพั ยากรบุคคล ดานการบริหารและการจัดการและ ดานกฎหมาย จานวนไมเกนิ 3 คน (3)ขาราชการพลเรือนซึง่ ดารงตาแหนงประเภทบรหิ าร หรือประเภทอานวยการและ ดานกฎหมาย จานวนไมเกนิ 3 คน  **สาหรับสานกั งานเลขานุการรฐั มนตรีวาการกระทรวง และสานักงานเลขานกุ าร รัฐมนตรวี าการทบวง อ.ก.พ. สานักงานปลดั กระทรวง หรือ อ.ก.พ. สานกั งานปลัดทบวง แลวแต กรณที าหนาท่ี อ.ก.พ. กรม คณะอนุกรรมการสามญั ประจาจงั หวดั (อ.ก.พ.จงั หวดั ) ประกอบดวย  **ผวู าราชการจังหวัดเปนประธาน  **รองผวู าราชการจงั หวัดทผ่ี ูวาราชการจงั หวัดมอบหมาย 1 คน เปนรอง  **ประธาน และอนุกรรมการซึ่งประธาน อ.ก.พ. แตงตงั้ (1) ผูทรงคุณวฒุ ดิ านการบริหารทรัพยากรบุคคลดานการบรหิ ารและการจัดการ และดานกฎหมายจานวนไมเกนิ 3 คน (2) ขาราชการพลเรือนผูดารงตาแหนงซ่ึงดารงตาแหนงประเภทบรหิ ารหรอื ประเภทอานวยการ ซ่ึงกระทรวงหรือกรมแตงต้งั ไปประจาจังหวัดนน้ั และไดรับเลอื กจากขาราช พลเรอื นผูดารงตาแหนงดังกลาวจานวนไมเกิน 6 คน ซ่ึงแตละคนตองไมสังกดั กระทรวงเดียวกัน ลกั ษณะตองหาม (1) เปนผูดารงตาแหนงทางการเมอื ง (2) เปนผูคนไรความสามารถ คนเสมือนไรความสามารถ คนวกิ ลจริตหรอื จิตฟนเฟอน สนใจสั่งชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

71 ไมสมประกอบ หรอื เปนโรคตามท่ีกาหนดในกฎ ก.พ. (3) เปนผูอยูในระหวางถกู ส่งั พกั ราชการหรอื ถูกส ่งั ใหออกจากราชการไวกอนตาม พระราชบญั ญัตนิ ้หี รอื ตามกฎหมายอื่น (4) เปนผูบกพรองในศลี ธรรมอนั ดีจนเปนทีร่ ังเกยี จของสงั คม (5) เปนกรรมการหรอื ผูดารงตาแหนงท่รี บั ผิดชอบในการบริหารพรรคการเมืองหรอื เจาหนาที่ ในพรรคการเมอื ง (6) เปนบุคคลลมละลาย (7) เปนผูเคยตองรับโทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถงึ ทส่ี ุดใหจาคุกเพราะกระทาความผิดทางอาญา เวนแตเปนโทษสาหรบั ความผิดที่ไดกระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ (8) เปนผูเคยถกู ลงโทษใหออก ปลดออก หรือไลออกจากรัฐวสิ าหกิจหรอื หนวยงานอ่ืนของรฐั (9) เปนผูเคยถกู ลงโทษใหออก หรอื ปลดออก เพราะกระทาผดิ วินัย ตามกฎหมาย พระราชบญั ญัตินหี้ รอื ตามกฎหมายอื่น (10) เปนผูเคยถกู ลงโทษไลออก เพราะกระทาผิดวินัยตามกฎหมายพระราชบญั ญัติ นหี้ รือตาม กฎหมายอน่ื (11) เปนผูเคยกระทาการทุจรติ ในการสอบเขารบั ราชการ หรอื เขาปฏบิ ัติงานใน หนวยงาน ของรฐั ผูทจี่ ะเขารับราชการเปนขาราชการพลเรอื นซึง่ มลี กั ษณะตองหามตาม ข. (4) (6) (7) (8) (9) (10) หรือ (11) ก.พ.อาจพจิ ารณายกเวนใหเขารบั ราชการไดสวนผูท่ขี าด คณุ สมบตั ิ (8) หรอื (9) ผนู น้ั ไดออก จากงานหรอื ออกจากราชการไปเกนิ สองปแลว หรือกรณมี ีลักษณะตองหามตามขอ (10) ผนู น้ั ตอง ออก จากงานหรือออกจากราชการไป เกินสามปแลว และมิใช เปนกรณอี อกจากงานหรือออกจากราชการ เพราะกระทาผดิ ใน กรณีทุจริตตอหนาที่ มตขิ อง ก.พ. อาจพจิ ารณายกเวนใหเขารับราชการได มตขิ อง ก.พ. ในการ ยกเวนดงั กลาวตองไดคะแนนเสยี งไมนอยกวาสี่ในหาของจานวนกรรมการในท่ีประชมุ การลงมติให กระทาโดยลบั การจายเงนิ เดือนและเงินประจาตาแหนงใหขาราชการพลเรอื น 1.ใหเปนไปตามระเบียบที่ ก.พ. กาหนด โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั 2) ผสู มคั รสอบแขงขนั ในตาแหนงใดตองมีคุณสมบตั ทิ ว่ั ไปและไมมีลักษณะตองหามหรอื ไดรบั การยกเวนในกรณีที่มลี ักษณะตองหาม และตองมคี ุณสมบัตเิ ฉพาะสาหรับ ตาแหนง 3) ผดู ารงตาแหนงขาราชการการเมอื งใหมีสิทธิสมคั รสอบแขงขันไดแตจะมีสิทธิบรรจุ ตอเม่ือ พนจากการเปนผูดารงตาแหนงทางการเมืองแลว 4) กระทรวง กรมใดมเี หตุผลและความจาเปนอยางยิง่ จะบรรจบุ ุคคลท่ีมีความรูความสามารถ และความชานาญงานสงู เขารับราชการและแตงต ัง้ ใหดารงตาแหนงประเภทวชิ าการ ชานาญการพิเศษ เชี่ยวชาญ ผูทรงคุณวฒุ ิ หรือตาแหนงประเภททั่วไป ระดับทกั ษะพเิ ศษกไ็ ด ท้งั นี้ ตาม หลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงื่อนไขท่ี ก.พ. กาหนด สนใจสง่ั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

72 การบรรจุบุคคลเขารับราชการเปนขาราชการพลเรือนสามัญ และการแตงต้งั ใหผูมี อานาจดงั ตอไปน้ี เปนผสู ่งั บรรจุและแตงต้ัง (มาตรา 57) ประเภทข้าราชการ ผู้มอี านาจบรรจุ ผู้มีอานาจแต่งต้งั ผบู ริหารระดับสงู ตาแหนงหัวหนา รมต. เสนอ ครม. อนุมัติ รมต. นายกรฐั มนตรี กราบบงั คบั ทูล สวนราชการระดบั กระทรวง ระดบั สง่ั บรรจุ เพ่อื ทรงพระมหากรณุ าโปรด กรม (เฉพาะขึน้ ตรงตอ นรม. หรอื เกลาฯ แตงต้งั รมต. (ระดบั ปลดั กระทรวง) ผูบรหิ ารระดับสงู ตาแหนงรอง ใหปลัดกระทรวงเสนอ รัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี กราบบงั คบั ทูล หวั หน้าส่วนราชการระดับ กระทรวง เจาสงั กัด เพ่อื นาเสนอ ครม. เพอ่ื ทรงพระมหากรณุ าโปรด หวั หนา้ ส่วนระดับกรมรองหัว พจิ ารณาอนุมัติ เมอื่ ไดรบั อนุมัติ เกลาฯ แตงตั้ง หนาสวนราชการระดบั กรม ที่ขึ้น จาก ครม. ใหปลัดกระทรวง ตรงตอ นายกรฐั มนตรี หรือ รมต. สง่ั บรรจุ บริหารระดับตน้ ปลดั กระทรวง ปลดั กระทรวง อานวยการ วิชาการ ระดับ รฐั มนตรเี จาสังกดั รฐั มนตรเี จาสังกดั ปฏบิ ตั กิ าร ชานาญการ ชานาญ การพิเศษ เชีย่ วชาญ และ ประเภท ทว่ั ไป (ในสานักงานรัฐมนตร)ี อานวยการระดับสูง ปลัดกระทรวง ปลดั กระทรวง อานวยการระดับตน้ อธบิ ดีโดยความเหน็ ชอบ ของ อธิบดโี ดยความเห็นชอบ ของ ปลดั กระทรวง ปลดั กระทรวง วชิ าการระดบั ผู้ทรงคณุ วุฒิ รมต. เสนอ ครม. อนุมตั ิ รมต. นายกรัฐมนตรี กราบบังคับทูล สง่ั บรรจุ เพอื่ ทรงพระมหากรุณาโปรด เกลาฯ แตงตั้ง วิชาการระดบั เชย่ี วชาญ ปลดั กระทรวง ปลดั กระทรวง วชิ าการระดบั ชานาญการพิเศษ อธิบดีโดยความเห็นชอบ ของ อธิบดีโดยความเห็นชอบของ ทวั่ ไประดับทักษะพิเศษ ปลัดกระทรวง สวน ภมู ภิ าค ปลัดกระทรวง ผูวาราชการจังหวดั (ยกเวน้ ท่ัวไป ระดบั ทกั ษะพิเศษ) วชิ าการระดับปฏบิ ตั ิการ อธบิ ดีหรอื ผูไดรับ มอบหมาย อธบิ ดีหรือผูไดรับมอบหมาย ชานาญการทัว่ ไประดับปฏบิ ตั ิงาน จากอธิบดี สวนภูมิภาค จากอธิบดสี วนภูมภิ าค ชานาญงาน และอาวุโส ผูวาราชการจงั หวัด ผวู าราชการจงั หวัด สนใจส่งั ช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

73  **วันเวลาทางาน วันหยุดราชการตามประเพณี วนั หยุดราชการประจาปและการลาหยุด ราชการของขาราชการพลเรือน ใหเปนไปตามที่ คณะรัฐมนตรกี าหนด  **ขาราชการพลเรอื นสามัญมเี สรีภาพในการรวมกลุมตามทบี่ ญั ญัติไวในรฐั ธรรมนญู แต ท้ังน้ี ตองไมกระทบประสิทธภิ าพในการบรหิ ารราชการแผนดนิ และความตอเน่ืองในการจัดทา บรกิ ารสาธารณะ และตองไมมีวตั ถุประสงคทางการเมือง ประเภทของขาราชการพลเรือนสามญั มี 4 ประเภท ดังตอไปนี้ (มาตรา 45) (1) ตาแหนงประเภทบริหาร ไดแก ตาแหนงหวั หนาสวนราชการและรองหัวหนาสวนราชการ ระดับกระทรวง กรม และตาแหนงอน่ื ที่ ก.พ. กาหนดเปนตาแหนงประเภทบริหาร (2) ตาแหนงประเภทอานวยการ ไดแก ตาแหนงหัวหนาสวนราชการทีต่ ่ากวาระดับกรม และ ตาแหนงอ่ืนที่ ก.พ. กาหนดเปนตาแหนงประเภทอานวยการ (3) ตาแหนงประเภทวิชาการ ไดแก ตาแหนงทจ่ี าเปนตองใชผูสาเร็จการศึกษาระดบั ปรญิ ญา ตามที่ ก.พ. กาหนดเพอื่ ปฏิบตั งิ านในหน้าที่ ของตาแหนงนั้น (4) ตาแหนงประเภททั่วไป ไดแก ตาแหนงที่ไม่ใช่ตาแหนงประเภทบริหาร ตาแหนง ประเภท อานวยการ และตาแหนงประเภทวิชาการ ท้ังนี้ตามที่ ก.พ.กาหนด ระดบั ตาแหนงขาราชการพลเรือนสามญั มดี งั ตอไปน้ี (1) ตาแหนงประเภทบริหาร มีระดับดงั ตอไปน้ี (ก) ระดับตน (ข) ระดับสงู (2) ตาแหนงประเภทอานวยการ มีระดบั ดงั ตอไปนี้ (ก) ระดับตน (ข) ระดับสูง (3) ตาแหนงประเภทวิชาการ มรี ะดับดงั ตอไปน้ี (ก) ระดับปฏิบัติการ (ข) ระดับชานาญการ (ค) ระดับชานาญการพเิ ศษ (ง) ระดับเช ี่ ยวชาญ (จ) ระดบั ทรงคณุ วฒุ ิ (4) ตาแหนงประเภททว่ั ไป มีระดับดังตอไปนี้ (ก) ระดับปฏิบตั ิงาน (ข) ระดับชานาญงาน (ค) ระดบั อาวุโส (ง) ระดับทักษะพิเศษ การสรรหา บรรจแุ ละการแตงตงั้ การสรรหา **การสรรหาเพื่อใหไดบุคคลมาบรรจุเขารบั ราชการพลเรอื นสามญั และแตงตง้ั ใหดารงตาแหนง ตองเปนไปตามระบบคุณธรรมและคานึงถึงพฤติกรรมทางจรยิ ธรรมของบุคคลดังกลาว ตลอดจน ประโยชนของทางราชการ การบรรจุ 1) การบรรจบุ คุ คลเขารับราชการเปนขาราชการพลเรอื นสามญั เพื่อแตงต้ังใหดารงตาแหนงใด ใหบรรจแุ ละแตงตง้ั จากผสู อบแขงขันไดในตาแหนงนนั้ โดยบรรจแุ ละแตงต้ังตามลาดับ ท่ใี นบญั ชผี ูสอบ แขงขนั ได การสบั เปลย่ี นหนาที่ยายหรอื โอน สนใจสง่ั ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

74 **ขาราชการพลเรือนสามัญประเภทบรหิ าร ผูใด ปฏิบตั ิหนาที่เดยี วติดตอกันเปนเวลานาน ครบ 4 ป ใหผบู ังคับบญั ชาดาเนนิ การสับเปล่ยี นหนาที่ ยาย หรอื โอนไปปฏิบตั หิ นาท่ีอื่น เวนแตมคี วามจาเปนจะขออนมุ ัติ ครม. ใหคงอยูปฏบิ ตั ิหนาที่เดิมตอไปไดไมเกนิ 2 ป การทดลองปฏบิ ตั ริ าชการ **ผูไดรับบรรจเุ ขารับราชการเปนขาราชการพลเรอื นสามัญและแตงตง้ั ใหดารงตาแหนงและ ขาราชการ ใหทดลองปฏิบัตหิ นาที่ราชการตามทกี่ าหนดในกฎ ก.พ. โดยอยูในความดแู ลของ บงั คบั บญั ชา ถาผมู อี านาจส่ังบรรจุ เหน็ วาผนู ั้นมผี ลการประเมนิ ตา่ กวามาตรฐานทก่ี าหนด ไมควรใหรับราชการตอไปกใ็ หส่งั ใหผูนัน้ ออกจากราชการได ไมวาจะครบกาหนดเวลาทดลอง ปฏบิ ัตหิ นาที่ราชการแลวหรอื ไมก็ตาม **การโอนขาราชการพลเรอื นสามญั ไปแตงตง้ั ใหดารงตาแหนงขาราชการพลเรือนสามัญใน ตางก ระทรวง กรม ใหเปนไปตามกาหนดในกฎ ก.พ. **ในกรณตี าแหนงขาราชการพลเรือนวางลงหรอื ผูดารงตาแหนงไมสามารถปฏบิ ัติหนาทไ่ี ด และเปนกรณที ี่มไิ ดบญั ญตั ไิ วในกฎหมายระเบียบบรหิ ารราชการแผนดนิ ใหผูบังคบั บัญชา ตามมาตรา 27 มีอานาจสั่งใหขาราชการพลเรือน ท่ีเห็นสมควรรักษาการในตาแหนงนั้นได **ในกรณที ่ีมีเหตผุ ลความจาเปน ผูบงั คับบญั ชาตามมาตรา 57 มีอานาจสั่งใหขาราชการ พลเรือนสามญั ใหประจาสวนราชการเปนการช่วั คราวโดยใหพนจากตาแหนงเดมิ การเพ่มิ พูนประสทิ ธภิ าพและเสริมสรางแรงจงู ใจในการปฏบิ ตั ิราชการ 1. ใหสวนราชการมหี นาที่ดาเนินการใหมีการเพม่ิ พูนประสิทธิภาพและเสริมสราง แรงจูงใจแก่ ขาราชการพลเรอื นสามัญเพ่ือใหขาราชการมีคุณภาพ คุณธรรม และจรยิ ธรรม คุณภาพชีวิต มีขวัญ กาลงั ใจในการปฏิบัติราชการใหเกดิ ผลสัมฤทธ์ิตอภารกจิ ภาครัฐ 2. ใหผบู งั คับบญั ชามหี นาท่ีประเมนิ ผลการปฏิบตั ิราชการของผูใตบังคับบญั ชา เพ่ือประกอบ การพิจารณาแตงตง้ั และเล่ือนเงินเดอื น การรักษาจรรยาบรรณขาราชการ **ขาราชการพลเรอื นสามัญตองรักษาจรรยาบรรณขาราชการตามท่สี วนราชการกาหนดไว โดยเฉพาะในเรือ่ งดังตอไปน้ี (1) การยดึ มนั่ และยืนหยดั ทาในสิ่งทีถ่ ูกตอง (2) ความซ่ือสัตยสจุ รติ และความรับผดิ ชอบ (3) การปฏบิ ัติหนาท่ีดวยความโปรงใสสามารถตรวจสอบได (4) การปฏบิ ัติหนาท่ีโดยไมเลือกปฏบิ ตั อิ ยางไมเปนธรรม (5) การมุงผลสัมฤทธ์ิของงาน สนใจสง่ั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

75 วนิ ยั และการรักษาวินัย ** 1) ขาราชการพลเรอื นสามัญตองสนบั สนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ทรงเปนประมุขดวยความบริสุทธ์ิใจ (มาตรา 81) **2) ขาราชการพลเรือนสามญั ตองกระทาการอนั เปนขอปฏบิ ัติ ดงั ตอไปน้ี (มาตรา 82) (1) ปฏบิ ัติหนาท่ีราชการดวยความซ่ือสัตย สจุ ริต และเที่ยงธรรม (2) ปฏิบัตหิ นาที่ราชการใหเปนไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบของทางราชการ มติคณะรฐั มนตรี หรอื นโยบายของรฐั บาล และปฏบิ ัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ (3) ตองปฏิบัติหนาท ่รี าชการใหเกิดผลดีหรือความกาวหนาแกราชการดวยความตงั้ ใจอุตสาหะ เอาใจใส และรกั ษาประโยชนของทางราชการ (4) ปฏบิ ัติตามคาสงั่ ของผูบังคับบญั ชาซ่ึงสงั่ ในหนาท่ีราชการโดยชอบดวยกฎหมายและระเบียบ ของทางราชการโดยไมขดั ขืนหรือหลกี เล่ียง (5) ตองอุทิศเวลาใหแกราชการ จะละท้ิงหรอื ทอดทิ้งหนาที่ราชการมิได (6) ตองรกั ษาความลบั ของทางราชการ (7) ตองสุภาพเรยี บรอย รกั ษาความสามคั คแี ละตองชวยเหลือกนั ในการปฏิบตั ิ ราชการระหวาง ราชการดวยกนั และผูรวมปฏิบัติราชการ (8) ตองตอนรบั ใหความสะดวก ใหความเปนธรรม และใหการสงเคราะหแกประชาชนผูตดิ ต่อ ราชการเกย่ี วกับหนาที่ตน (9) ตองวางตัวเปนกลางทางการเมือง (10) ตองรักษาชอ่ื เสียงตน และรกั ษาเกยี รติศกั ดิ์ ของตาแหนงหนาที่ราชการตนมิใหเส่ือมเสีย (11) กระทาการอื่นใดตามท่กี าหนดในกฎ ก.พ. **3) ขาราชการพลเรอื นสามัญตองไมกระทาการอนั ใดอนั เปนขอหาม ดงั ตอไปนี้ (มาตรา 83) (1) ตองไมรายงานเทจ็ ตอผบู งั คับบัญชา (2) ตองไมปฏบิ ตั ิราชการอันเปนการกระทาการขามผบู งั คบั บัญชาเหนอื ตน (3) ตองไมอาศยั หรือยอมใหผอู ืน่ อาศัยตาแหนงหนาท ่ีราชการของตนหาประโยชนใหแก ตนเองหรือผอู ืน่ (4) ตองไมประมาทเลินเลอในหนาที่ราชการ (5) ตองไมกระทาการหรือยอมใหผอู นื่ กระทาการหาผลประโยชนอนั อาจทาใหเสียความ เท่ียงธรรมหรอื เส่ือมเสียเกียรติศกั ดิ์ของตาแหนงหนาท่ีราชการของตน (6) ตองไมเปนกรรมการผูจัดการ หรอื ผูจัดการ หรอื ดารงตาแหนงอ่ืนใดทม่ี ีลกั ษณะ งานคลายคลงึ กนั นั้นในหางหนุ สวนหรอื บริษทั (7) ตองไมกระทาการอยางใดท่ีเปนการกลน่ั แกลง กดข่ี หรือขมเหงในการปฏิบัตริ าชการ (8) ตองไมกระทาการอันเปนการลวงละเมิดหรือคกุ คามทางเพศตามท่กี าหนดในกฎ ก.พ. สนใจส่ังชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

76 (9) ตองไมดูหมนิ่ เหยียดหยาม กดข่ี หรอื ขมเหงประชาชนผูตดิ ตอราชการ (10) ไมกระทาการอื่นใดตามทกี่ าหนดในกฎ ก.พ. ขาราชการพลเรอื นสามญั ผูใดไมปฏบิ ัติตาม ขอปฏบิ ัตติ ามมาตรา 81 และมาตรา 82 หรอื ฝาฝนขอหามตามมาตรา 83 เปนกระทาผิด วนิ ัย การกระทาผิดวินยั ในลกั ษณะดงั ตอไปนี้ เปนความผิดวนิ ยั อยางรายแรง (1) ปฏิบัตหิ รือละเวนการปฏบิ ตั ิหนาที่ราชการโดยมชิ อบเพื่อใหเกิดความเสยี หาย อยางรายแรง แกผหู น่ึงผใู ด หรือปฏิบตั หิ รือละเวนการปฏบิ ัตหิ นาที่ราชการโดยทจุ รติ (2) ละทง้ิ หรือทอดทง้ิ หนาท่ีราชการโดยไมมีเหตผุ ลอนั สมควรเปนเหตุใหเสยี หายแกราชการ อยางรายแรง (3) ละทิ้งหนาทร่ี าชการตดิ ตอในคราวเดยี วกันเปนเวลาเกิน 15 วัน โดยไมมีเหตุผล อันสมควร หรอื มพี ฤติการณอันแสดงถงึ ความจงใจไมปฏิบัตติ ามระเบียบของทางราชการ เปนเหตุใหเสยี หายแกราชการอยางรายแรง (4) กระทาการอันไดชอ่ื วาเปนผปู ระพฤติช่ัวอยางรายแรง (5) ดูหมิ่น เหยยี ดหยาม กดขี่ ขมเหง หรอื ทารายประชาชนผูติดตอราชการอยางรายแรง (6) กระทาความผิดอาญาจนไดรบั โทษจาคกุ หรอื โทษท่ี หนักกวาจาคกุ โดยคา พพิ ากษาถงึ ท่ีสุด ใหจาคกุ หรือใหรบั โทษที่ หนกั กวาจาคกุ เวนแตเปนโทษสาหรับความผดิ ท่ีไดกระทา โดยประมาท หรอื ความผิดลหุโทษ (7) ละเวนการกระทาหรอื กระทาการใดๆ อันเปนการไมปฏบิ ตั ติ าม มาตรา 82 หรือ ฝาฝนขอหามตาม มาตรา 83 อันเปนเหตใุ หเสยี หายแกราชการอยางรายแรง (8) ละเวนการกระทาหรือกระทาการใดๆ อันเปนการไมปฏบิ ตั ิตาม มาตรา 80 และ มาตรา 82 (11) หรือฝาฝนขอหามตาม มาตรา 83(10) ท่ีกฎ ก.พ. กาหนดใหเปนความผิดวนิ ยั อยางรายแรง โทษทางวินัยมี 5 สถาน ดังตอไปนี้ (1) ภาคทัณฑ (2) ตดั เงนิ เดอื น (3) ลดเงนิ เดอื น (4) ปลดออก (5) ไลออก ขาราชการพลเรอื นสามญั ผใู ดกระทาผดิ วินยั อยางไมรายแรง **ใหผบู งั คับบัญชาสั่ง ลงโทษภาคทัณฑ ตัดเงินเดอื น ลดเงินเดอื น ตามสมควรแกกรณีใหเหมาะสม กบั ความผิด ถามี เหตอุ ันควรงดโทษกไ็ ด จะงดโทษใหโดยทาทณั ฑบนเปนหนังสอื หรอื วากลาวตักเตอื น กไ็ ด สนใจสั่งช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

77 ขาราชการพลเรอื นสามัญผใู ดกระทาผดิ วนิ ยั อยางรายแรง **ใหผูบงั คับบัญชาสง่ั ลงโทษ ปลดออกหรือไลออก ตามความรายแรงแหงกรณี ถามีเหตุอนั ควร ลดหยอนจะนามาประกอบการ พจิ ารณาลดโทษกไ็ ดแตหามมิใหลดโทษลงต่ากวาปลดออก **ขาราชการพลเรอื นสามัญผูใดมีกรณถี ูกกลาวหาวากระทาผิดวนิ ยั อยางรายแรงจนถูกต้งั กรรมการ สอบสวน หรือถูกฟองคดอี าญาหรือตองหาวากระทาความผิดอาญา เวนแตเปน ความผิดท่ีไดกระทาโดย ประมาท หรือความผิดลหุโทษอาจสง่ั พกั ราชการหรือสั่งใหออกจากราชการไวกอนเพอื่ รอฟงผลการ สอบสวนพจิ ารณาได การออกจากราชการ (1) ตาย (2) พนจากราชการตามกฎหมายวาดวยบาเหน็จบานาญขาราชการ (อายุ 60 ปบริบูรณ (3) ลาออกจากราชการและไดรับอนญุ าตใหลาออกหรือการลาออกมีผล (4) ถูกส่ังใหออก (5) ถกู สั่งลงโทษปลดออก หรือไลออก **ขาราชการผูใดประสงคลาออกใหย่ืนหนงั สือลาออกตอผบู งั คับบญั ชาลวงหนาไมนอยกวา 30 วนั ในกรณีทผ่ี ูมีอานาจสั่งบรรจพุ ิจารณาเห็นวาจาเปนเพอื่ ประโยชนแกราชการจะยับย้ังการอนุญาต ใหลาออกไวเปนเวลาไมเกนิ 90 วันนบั ตงั้ แตวันขอลาออกกไ็ ด การรองทุกข **ขาราชการพลเรอื นสามัญผูใดมคี วามคบั ของใจอนั เกดิ จากการปฏบิ ัติหนาท่ีหรอื ปฏิบตั ติ อตนของ ผบู ังคับบญั ชาผูนัน้ อาจรองทุกขได - การรองทุกขทเ่ี หตุเกดิ จากผูบงั คับบัญชา ใหรองทุกขตอผบู ังคับ บญั ชาเหนอื ข้ึนไป – การพิจารณาเร่ืองรองทุกขเหตเุ กดิ จากหัวหนาสวนราชการระดับกรมท่ีข้ึนตอ นรม. รมต. ปลดั กระทรวง รฐั มนตรีเจาสงั กดั หรือ นรม. ใหรองทกุ ขตอ ก.พ.ค. - ก.พ.ค. มีอานาจไมรับ เรอ่ื งรองทุกข หรือพจิ ารณาวินจิ ฉัยเร่ืองรองทุกขได ขาราชการพลเรือนในพระองค การแตงต้ังและการใหขาราชการพลเรอื นในพระองคพนจากตาแหนงใหเปนไปตามพระราชอธั ยาศัย สนใจสงั่ ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

78 แนวขอ้ สอบ พรบ.ระเบยี บขา้ ราชการพลเรอื น 1. ใครเปน็ ผรู้ กั ษาการตามพรบ.ระเบียบขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ก. เลขาธิการ ก.พ. ข. นายกรัฐมนตรี ค. ปลัดสานักนายกรฐั มนตรี ง. รฐั มนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี 2. บคุ คลใดซ่งึ ได้รบั บรรจแุ ละแตง่ ตั้งตาม พรบ.ระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ.2535 โดย ไดร้ บั เงินเดอื นจากเงินงบประมาณหมวดเงนิ เดอื นใน กระทรวง ทบวง กรม ฝาุ ยพลเรือน เรียกวา่ ก. ข้าราชการพลเรอื น ข. ข้าราชการพลเรือนวิสามญั ค. ขา้ ราชการฝาุ ยพลเรือน ง. ข้าราชการฝาุ ยตลุ าการ 3. บุคคลใดซงึ่ ไดร้ ับบรรจุและแต่งต้ังตามกฎหมายใหร้ ับราชการโดยได้รับเงนิ เดอื นจากเงิน งบประมาณหมวดเงนิ เดอื นใน กระทรวง ทบวง กรม ฝาุ ยพลเรือน เรียกวา่ ก. ขา้ ราชการพลเรือน ข. ข้าราชการพลเรอื นวิสามญั ค. ข้าราชการฝุายพลเรือน ง. ขา้ ราชการฝุายตลุ าการ 4. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน มชี อื่ ยอ่ วา่ ก. กพ. ข.ก.ร. ค. ก.พ. ง.ก.พ.ร. 5. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน อยใู่ นมาตราใดของ พรบ.ระเบยี บขา้ ราชการพลเรือน พ.ศ.2535 ก. มาตรา 5 ข. มาตรา 8 ค. มาตรา 10 ง. มาตรา 6 6. ใครเปน็ ประธานใน ก.พ. ก. ปลดั กระทรวงการคลัง ข. ผอู้ านวยการสานกั งบประมาณ ค. เลขาธิการคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ง. นายกรฐั มนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรที ี่นายกรัฐมนตรีมอบหมายเปน็ ประธาน 7. กรรมการโดยตาแหน่งในคณะกรรมการข้าราชการพลเรอื นมาจากตาแหนง่ ใด ก. ผอู้ านวยการสานักงบประมาณ ข. เลขาธกิ าร ก.พ. ค. เลขาธิการคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ง. ถูกทุกข้อ 8. กรรมการซ่ึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯแตง่ ต้ังใหอ้ ยู่ในตาแหน่งไดค้ ราวละก่ปี ี ก. คราวละ 3 ปี ข. ไม่เกนิ คราวละ 3 ปี ค. คราวละ 4 ปี ง. ไมเ่ กิน คราวละ 4 ปี สนใจส่ังชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

79 9. ข้อใดคือคณุ สมบัติของกรรมการซ่งึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯแต่งตัง้ ก. มิไดเ้ ปน็ กรรมการโดยตาแหน่งอยู่แลว้ ข. ต้องไมเ่ ป็นขา้ ราชการการเมือง ค. ตอ้ งไมเ่ ป็นสมาชกิ สภาผ้แู ทนราษฎร ง. ถกู ทกุ ขอ้ 10. กรรมการ ก.พ. ท่ีทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแตง่ ต้งั จากผ้ทู รงคุณวุฒิ มีจานวนเทา่ ใด ก. ไมน่ ้อยกว่า 3 คน แตไ่ ม่เกิน 5 คน ข. ไม่น้อยกวา่ 5 คน แตไ่ ม่เกิน 7 คน ค. ไม่นอ้ ยกวา่ 6 คน แต่ไมเ่ กิน 12 คน ง. ไมน่ อ้ ยกว่า 12 คน แต่ไมเ่ กนิ 15 คน 11. กรรมการ ก.พ. ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯแตง่ ตงั้ จากข้าราชการ มีได้จานวนเทา่ ใด ก. 5 คน ข. 7 คน ค. 10 คน ง. 12 คน 12. หากกรรมการ ก.พ. วา่ งลงใหแ้ ตง่ ต้งั กรรมการแทนภายในกี่วนั ก. 15 วนั ข. 30 วนั ค. 45 วนั ง. 45 วนั 13. ผู้มีอานาจหน้าที่ตีความและวนิ จิ ฉัยปัญหาที่เกดิ ข้ึนจากการใชข้ ้อบงั คับ พรบ.ระเบียบ ขา้ ราชการพลเรอื น พ.ศ.2535 ก. คณะกรรมการ ก.พ. ข. นายกรฐั มนตรี ค. เลขาธกิ าร ก.พ. ง. ปลัดสานกั นายกรัฐมนตรี 14. กรณีคา่ ครองชพี เปลี่ยนแปลงไปมากหรอื การจดั สวัสดิการหรอื ประโยชน์เกือ้ กูลสาหรบั ข้าราชการยงั ไม่เหมาะให้คณะกรรมการ ก.พ.รายงานตอ่ ใครเพ่ือพิจารณาในวนั ทจี่ ะ ปรับปรุงเงินเดอื น ก.นายกรฐั มนตรี ข. เลขาธกิ าร ก.พ. ค. คณะรัฐมนตรี ง. ปลัดสานกั นายกรัฐมนตรี 15. ในการประชุม ก.พ. ถา้ มกี ารพิจารณาเรอื่ งเกีย่ วกบั ตวั กรรมการผู้ใดโดยเฉพาะผนู้ ้ัน ก. ไมม่ ีสิทธเ์ิ ข้าประชุม ข. ไมม่ สี ทิ ธอิ ภปิ ราย ค. ไม่มีสิทธ์ิออกเสียงลงมติ ง. ไมม่ ขี ้อใดถกู ตอ้ ง 16. ก.พ. มีอานาจตั้งคณะอนกุ รรมการวสิ ามญั เพื่อทาการใดๆแทน ก.พ. ได้ มีชื่อย่อว่า ก. อ.ก.พ.วิสามัญ ข. อ.ก.พ.กรม ค.อ.ก.พ.สานักปลดั ง. อ.ก.พ.กระทรวง 17. สานักงาน ก.พ. มีใครเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและบริหารงานราชาการ ก. นายกรฐั มนตรี ข. ปลัดสานกั นายกรฐั มนตรี ค. เลขาธกิ าร ก.พ. ง. ประธานกรรมการข้าราชการพลเรือน สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

80 18. ผู้มหี น้าทเ่ี ก่ียวกบั การดูแลข้าราชการฝุายพลเรอื นท่ีศึกษาหรอื ฝึกอบรมในตา่ งประเทศ ก. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ข. อ.ก.พ.กระทรวง ค. อ.ก.พ.วสิ ามญั ง. สานกั งาน ก.พ. 19. ผู้มีหนา้ ที่ดาเนินการเกี่ยวกบั ทุนเลา่ เรยี นหลวง คือหน่วยงานใด ก. คณะกรรมการข้าราชการพลเรอื น ข. สานกั งาน ก.พ. ค. สานักพระราชวัง ง. สานักราชเลขาธกิ าร 20. ข้าราชการพลเรอื นมกี ีป่ ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 4 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 5 ประเภท 21. ข้อใด ไม่ใช่ คุณสมบตั ิของผทู้ ่ีจะเขา้ รบั ราชการพลเรอื น ก. มสี ัญชาตไิ ทย ข. ไมเ่ ป็นผูด้ ารงตาแหน่งขา้ ราชการเมอื ง ค. มีอายไุ ม่ตา่ กว่า 20 ปี ง. ไมเ่ ปน็ บคุ คลลม้ ละลาย 22. ตาแหนง่ ข้าราชการพลเรอื นสามญั มีกีป่ ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 4 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 5 ประเภท 23. ข้อใด ไมใ่ ช่ ตาแหน่งขา้ ราชการพลเรือนสามญั ก. ตาแหน่งประเภททว่ั ไป ข. ตาแหนง่ ประเภทปฏบิ ัติการ ค. ตาแหนง่ ประเภทวิชาชพี เฉพาะหรือเชยี่ วชาญเฉพาะ ง. ตาแหนง่ ประเภทบริหารระดับสูงหรอื บริหารระดบั กลาง 24. ระดบั ตาแหน่งขา้ ราชการพลเรือนสามัญมีกี่ระดับ ก. 5 ระดับ ข. 10 ระดบั ค. 7 ระดบั ง. 11 ระดับ 25. ระดับตาแหน่งข้าราชการพลเรอื นสามัญระดับใดเป็นระดบั สงู สุด ก. ตาแหน่งระดบั 9 ข. ตาแหนง่ ระดับ 10 ค. ตาแหน่งระดบั 11 ง. ตาแหนง่ ระดับ 12 26. ใครเปน็ ผู้มอี านาจส่งั บรรจแุ ละแตง่ ต้งั ข้าราชการพลเรือนให้ดารงตาแหนง่ ระดบั 11 ก. อธิบดีผู้บงั คบั บญั ชา ข. รฐั มนตรเี จา้ สงั กดั ค. ปลัดกระทรวงผบู้ งั คับบญั ชา ง. คณะรัฐมนตรี 27. โทษทางวินยั มกี ี่สถาน ก. 3 สถาน ข. 4 สถาน ค. 5 สถาน ง. 6 สถาน สนใจส่งั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

81 28. ผบู้ ังคับบญั ชาสามารถยับยั้งการลาออกได้ตามข้อใด ก. ไมเ่ กิน 30 วัน ข. ไม่เกนิ 60 วัน ค. ไม่เกิน 90 วนั ง. ไมเ่ กนิ 120 วัน 29. ในกรณีตาแหนงขาราชการพลเรือนวางลง หรือผดู ารงตาแหนงไมสามารถปฏบิ ตั หิ นาทไ่ี ดใ้ ห ผูบงั คับบัญชา ตามมาตรา 27 มอี านาจสั่งใหขาราชการพลเรอื นท่เี หน็ สมควรปฏิบตั หิ น้าท่ี ก. รักษาการแทน ข. รักษาราชการแทน ค. รกั ษาการในตาแหนง่ ง. ปฏบิ ัติราชการแทน 30. ขาราชการพลเรอื นสามญั ผูใดมีความคับของใจอนั เกิดจากการปฏบิ ตั ิหนาทห่ี รอื ปฏิบตั ติ อตน ของผบู ังคับบญั ชาผูน้ัน สามารถ..... ก. รอ้ งเรยี น ข. แจ้งความ ค. รอ้ งทุกข์ ง. กล่าวโทษ เฉลยแบบทดสอบ 1.ข 2.ก 3.ค 4.ค 5.ก 6.ง 7.ง 8.ก 9.ง 10.ข 11.ก 12.ข 13.ก 14.ค 15.ก 16.ก 17.ค 18.ง 19.ข 20.ค 21.ค 22.ค 23.ข 24.ง 25.ค 26.ข 27.ค 28.ค 29.ค 30.ค สนใจส่งั ชอื้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

82 พระราชบญั ญตั ิมาตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 ** ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา 16 เมษายน 2562 ** มผี ลใชบ้ ังคับเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ** นายกรัฐมนตรี รกั ษาการตามพระราชบญั ญัติฉบับนี้ **หลักการใหม้ ีกฎหมายว่าดว้ ยมาตรฐานทางจริยธรรม เพือ่ เป็นแมบ่ ทในการจัดทาประมวลจริยธรรมให้กับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลประเภทต่างๆ และหน่วยงานของรัฐ ที่อยู่ในกากบั ของฝาุ ยบรหิ ารไดจ้ ัดทาประมวลจริยธรรมใหม้ คี วามสอดคล้องและมี มาตรฐานเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 76 วรรค 3 บญั ญตั ิให้ “รัฐพงึ จัดใหม้ มี าตรฐานทางจริยธรรม เพ่ือใหห้ นว่ ยงานของรัฐใชเ้ ป็นหลักในการ กาหนดประมวลจริยธรรมสาหรับเจา้ หนา้ ที่ ของรัฐในหน่วยงานนัน้ ๆ ซึ่งตอ้ งไม่ต่ากวา่ มาตรฐานทาง จริยธรรมท่ไี ดก้ าหนดไว้” รวมถงึ กาหนดให้มีกระบวนการรกั ษาจรยิ ธรรมของเจา้ หนา้ ท่ขี องรฐั มาตรการ และกลไกทม่ี ีประสิทธิภาพเพ่ือเสริมสร้างใหม้ ี การปฏิบตั ิตามประมวลจริยธรรมอย่างเปน็ รูปธรรม **เจา้ หนา้ ที่ ของรัฐตอ้ งมีการรักษาจริยธรรมไม่ตา่ กวา่ มาตรฐานทางจริยธรรมตามท่กี ฎหมาย กาหนด และกาหนดหน้าท่ีของกลไกการขับเคลือ่ นจรยิ ธรรม ๓ ระดบั เพ่ือให้กระบวนการรักษา จริยธรรมเปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพ หมวดที่ 1 มาตรฐานทางจรยิ ธรรมและประมวลจริยธรรม **มาตรา 5 กาหนดให้ “มาตรฐานทางจรยิ ธรรม” คอื หลักเกณฑ์การประพฤตปิ ฏิบัตอิ ย่างมี คุณธรรมของเจ้าหนา้ ทีข่ องรัฐ ซึ่งจะต้องประกอบดว้ ย 1) ยึดมัน่ ในสถาบันหลักของประเทศ อนั ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมุข 2) ซื่อสตั ย์สจุ ริตมีจติ สานึกที่ดี และรบั ผิดชอบต่อหนา้ ท่ี 3) กล้าตดั สินใจและกระทาในสิ่งท่ีถกู ตอ้ งชอบธรรม 4) คดิ ถงึ ประโยชน์สว่ นรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตวั และมจี ิตสาธารณะ 5) มุ่งผลสัมฤทธข์ิ องงาน 6) ปฏบิ ัติหนา้ ท่ีอยา่ งเป็นธรรมและไมเ่ ลอื กปฏิบตั ิ 7) ดารงตนเปน็ แบบอย่างที่ดีและรกั ษาภาพลกั ษณข์ องทางราชการ สนใจสง่ั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

83 **มาตรา 6 ใหอ้ งคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คลของหนว่ ยงานของรัฐ มหี น้าที่จดั ทาประมวล จริยธรรมสาหรบั เจา้ หนา้ ทข่ี องรัฐทอ่ี ยใู่ นความรับผดิ ชอบ **ในกรณที เี่ ป็นเจา้ หน้าทขี่ องรฐั ซงึ่ ไมม่ ีองค์กรกลางบรหิ ารงานบุคคลทีร่ บั ผิดชอบ ให้องคก์ รต่อไปน้ี เปน็ ผู้จัดทาประมวลจรยิ ธรรม 1) คณะรัฐมนตรี สาหรับขา้ ราชการการเมือง 2) สภากลาโหม สาหรับข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือนกลาโหม 3) สานักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกิจ สาหรับผู้บริหารและพนักงานรัฐวิสาหกจิ 4) คณะกรรมการพัฒนาและส่งเสรมิ องคก์ ารมหาชน สาหรับผู้บรหิ าร เจ้าหน้าที่ และ ผู้ปฏิบัตงิ านขององค์การมหาชน **โดยมาตรฐานทางจรยิ ธรรมดังกลา่ ว องค์กรกลางบริหารงานบคุ คลประเภทตา่ งๆ จะต้อง นาไปใช้เปน็ หลกั สาคญั ในการจัดทาประมวลจริยธรรม และใชเ้ ป็นหลกั เกณฑก์ ารประพฤติปฏบิ ัติตน ในการปฏิบตั ิงาน การตัดสนิ ความถกู ผิด การปฏบิ ตั ทิ ่คี วรหรือไมค่ วรกระทาของเจา้ หนา้ ทีร่ ัฐ ซง่ึ จะทาให้ ประมวลจรยิ ธรรมที่จดั ทาขึน้ มีความสอดคลอ้ งและไมต่ า่ กวา่ มาตรฐานทางจรยิ ธรรมท่ีกฎหมายกาหนด นอกจากนีห้ น่วยงานของรัฐอาจจัดทา “ขอ้ กาหนดจริยธรรม” ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภารกจิ ท่ีมี ลักษณะเฉพาะของ แต่ละหนว่ ยงานโดยคานึงถึงสภาพปญ๎ หาป๎จจุบนั จรยิ ธรรมทเี่ ปน็ สากลใช้บังคบั กบั เจ้าหนา้ ท่ีของรัฐในหนว่ ยงานเพ่ิมเติมจากประมวลจรยิ ธรรม ซ่งึ จะเปน็ การลดความเสย่ี งด้านจรยิ ธรรม และปูองปราม (Deterrence) ไมใ่ หเ้ กิด การกระทาผดิ รวมถึงให้มีการนาพฤติกรรมทางจริยธรรมไปใช้ ในกระบวนการบริหารงานบคุ คลด้วย เพอ่ื ให้เจ้าหน้าที่ของรฐั ทัง้ หลายเกดิ สานกึ ลกึ ซ้งึ และเทย่ี งธรรมใน หน้าท่ี ผดุงเกียรติและศักดิ์ศรเี จ้าหนา้ ทีข่ องรัฐควรแก่ความไว้วางใจ และเชอ่ื มัน่ ของประชาชน หากเกิด กรณที ่ีมีป๎ญหาว่าองคก์ รใดเปน็ ผู้จดั ทาประมวลจรยิ ธรรมสาหรบั เจา้ หน้าที่ของรัฐ ในหนว่ ยงานนนั้ ๆ ให้ อานาจ ก.ม.จ. เป็นผวู้ นิ ิจฉัย **มาตรา 7 เพอ่ื ใหก้ ารจัดทาประมวลจริยธรรมในภาครัฐ มมี าตรฐานทางจริยธรรมในระดับ เดยี วกนั กฎหมายจึงกาหนดเกย่ี วกบั การจัดทาประมวลจริยธรรมขององค์กรกลางบริหารงานบคุ คลของ ศาลหรอื องคก์ รอยั การ รวมถึงหนว่ ยงานธุรการของรัฐสภาและองค์กรอสิ ระ โดยใหน้ ามาตรฐานทาง จริยธรรมทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ ไปใช้ประกอบการพจิ ารณาจดั ทาประมวลจริยธรรมของเจ้าหนา้ ที่ของรัฐท่ี อยูก่ ากับดแู ลของหน่วยงานน้นั ๆ เพื่อใหม้ คี วามสอดคล้องและเปน็ มาตรฐานเดียวกันในภาครัฐ สนใจส่ังช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

84 หมวด 2 คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรม มาตรา 8 กาหนดให้มีคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม (ก.ม.จ.) เป็นกลไกระดับชาติ ** มหี น้าท่เี สนอแนะนโยบายการขับเคลอื่ นและส่งเสริมจรยิ ธรรมภาครฐั การดาเนิน กระบวนการรักษาจริยธรรมรวมถึงมาตรการทใ่ี ช้บงั คบั กรณเี จา้ หน้าท่ขี องรฐั มพี ฤติกรรมทีไ่ มเ่ หมาะสม ตลอดจน กากับ ติดตาม ประเมนิ ผล และรายงานการดาเนนิ การตอ่ คณะรัฐมนตรี เพ่อื ใหก้ าร ขับเคลือ่ นมาตรฐานทางจริยธรรมเกดิ ผลสาเรจ็ อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ประสิทธผิ ล โดย ก.ม.จ. ประกอบด้วย  นายกรฐั มนตรีหรือรองนายกรฐั มนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรมี อบหมาย เป็นประธานกรรมการ จานวน 1 คน  ผแู้ ทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรอื นทไี่ ด้รับมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ จานวน 1 คน  กรรมการโดยตาแหนง่ จานวน 5 คน ผแู้ ทนที่ไดร้ บั มอบหมายจาก 1. คณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอดุ มศกึ ษา 2. คณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 3. คณะกรรมการขา้ ราชการตารวจ 4. คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบคุ คลส่วนท้องถิน่ 5. สภากลาโหม  กรรมการผูท้ รงคุณวฒุ ิซึ่งนายกรฐั มนตรแี ต่งตง้ั เป็นกรรมการ จานวน 5 คน ใหเ้ ลขาธิการ ก.พ. เป็นกรรมการและเลขานกุ าร ให้ เลขาธกิ าร ก.พ. แตง่ ต้งั ขา้ ราชการในสานกั งาน ก.พ. เป็นผู้ชว่ ยเลขานุการไดต้ ามความ จาเป็นเพื่อประโยชนใ์ นการดาเนินการตามหน้าท่ีและอานาจของ ก.ม.จ. หมวด 3 การรกั ษาจริยธรรมของเจา้ หนา้ ที่ของรัฐ ** กาหนดให้มีผู้รบั ผิดชอบการรักษาจรยิ ธรรมของเจา้ หนา้ ท่ขี องรัฐท้งั ในระดบั องคก์ รกลาง บริหารงานบุคคลหรือองคก์ รทม่ี ีหนา้ ทจ่ี ดั ทาประมวลจริยธรรม และระดบั หน่วยงาน ดังน้ี **มาตรา 19 กาหนดกลไกระดับหน่วยงาน มีหน้าทีด่ าเนินกิจกรรมการสง่ เสริม สนับสนุน ให้ความรู้ ฝกึ อบรม และพัฒนาเจา้ หน้าทีข่ องรฐั ในหน่วยงานของรฐั และจัดให้มมี าตรการและกลไกที่มี ประสิทธภิ าพเพื่อเสริมสร้างให้มกี ารปฏบิ ัติตามประมวลจรยิ ธรรม และทกุ ส้นิ ปงี บประมาณ ให้มกี าร จัดทารายงานประจาปีผา่ นองคก์ รกลางบริหารงานบุคคล หรือองคก์ รทมี่ หี น้าทีจ่ ัดทาประมวลจริยธรรม แลว้ แตก่ รณี เพื่อประเมินผลในภาพรวมเสนอตอ่ ก.ม.จ. และเผยแพร่ใหป้ ระชาชนรบั ทราบ ซึ่งจะทาให้ การดาเนินงาน มีความเชอื่ มโยง สอดคลอ้ ง เป็นไปในทศิ ทางเดยี วกัน สนใจสั่งชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

85 **มาตรา 20 กาหนดกลไกระดบั องค์กรกลางบริหารงานบุคคล มหี น้าท่ีกากับดูแลการดาเนิน กระบวนการรกั ษาจรยิ ธรรม และการประเมนิ ผลการปฏิบตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรม จัดหลกั สูตรการ ฝึกอบรม กาหนดมาตรการจูงใจเพอื่ พฒั นาและส่งเสริมใหเ้ จา้ หน้าทข่ี องรัฐมีพฤติกรรมทางจริยธรรมเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี และมาตรการทใี่ ชบ้ งั คบั แก่เจ้าหนา้ ท่ีของรฐั ในหนว่ ยงานของรัฐซงึ่ มพี ฤตกิ รรมทเ่ี ป็นการ ฝุาฝนื มาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ปฏิบัตติ ามประมวลจริยธรรมเพอื่ ใหม้ กี ารนาพฤตกิ รรมทาง จรยิ ธรรมไปใชใ้ นการบรหิ ารงานบุคคล และจดั ทาสรุปรายงานผลการดาเนนิ งานของหน่วยงานภายใต้ การกากับดแู ลเสนอตอ่ ก.ม.จ. บทเฉพาะกาล กฎหมายกาหนดใหม้ ีบทเฉพาะกาล เพื่อใหป้ ระมวลจรยิ ธรรม กฎ ระเบยี บ หรอื หลกั เกณฑ์ ที่เกีย่ วกับจรยิ ธรรมของเจ้าหนา้ ท่ขี องรัฐทม่ี ีผลใชบ้ งั คับอยเู่ ดมิ ยังคงมผี ลใชบ้ ังคับได้ต่อไปเทา่ ทไี่ ม่ขัด หรือแย้งกบั พระราชบัญญัติน้ี ท้งั นี้ จนกวา่ จะมีการกาหนดหลกั เกณฑจ์ ริยธรรมตามพระราชบัญญัตินี้ ประโยชน์จากการประกาศใช้กฎหมาย พระราชบัญญัตนิ ้กี าหนดให้มกี ารนาพฤติกรรมทางจริยธรรมไป ใช้ในกระบวนการบริหารงานบคุ คล ทาให้การประพฤติปฏบิ ัติตนและการรักษาจรยิ ธรรมของเจ้าหนา้ ที่ ของรฐั แต่ละราย จะสง่ ผลต่อการพจิ ารณาในเรือ่ งต่าง ๆ อาทิ การประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านและการ เลือ่ นเงินเดอื น การแตง่ ต้ัง ยา้ ย โอน เลือ่ นหรือใหอ้ อกจากราชการ ดงั นน้ั จงึ เปน็ หนา้ ท่ีของผบู้ ริหาร หนว่ ยงานของรฐั ทุกคนทตี่ ้องให้ความสาคัญกับ การสง่ เสรมิ จรยิ ธรรม โดยกากับดแู ลให้ขา้ ราชการและ เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ในหน่วยงานปฏบิ ัตติ ามประมวลจริยธรรม และข้อกาหนดจริยธรรมในหนว่ ยงาน และ เป็นหนา้ ทีข่ องเจา้ หนา้ ท่ีของรัฐทุกคนที่จะต้องศึกษาทาความเขา้ ใจ และรักษาจรยิ ธรรม โดยแสดง พฤติกรรมทีค่ วรกระทาพร้อมทงั้ หลีกเลย่ี งไม่แสดงพฤติกรรมทไ่ี ม่ควรกระทาหรือมผี ลประโยชน์ทับซ้อน ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี นฐานะที่ตนเป็นเจา้ หนา้ ทขี่ องรัฐในหน่วยงานนัน้ ๆ มาตรฐานทางจริยธรรม เจา้ หน้าทขี่ องรัฐจะเป็นเครอื่ งมอื สาคัญท่ีจะส่งเสริมใหเ้ จา้ หนา้ ที่ของรัฐมีการรกั ษาจริยธรรมและมี พฤตกิ รรมท่ีเหมาะสม เชน่ มคี วามซื่อสัตย์สจุ ริต มีความรับผิดชอบ มุ่งมนั่ ตั้งใจปฏิบัติงานให้เกิดผล สาเรจ็ คานงึ ถึงประโยชน1ของประชาชนมากกว่าประโยชน์สว่ นตัวและพวกพอ้ ง มีความเป็นธรรม เป็นต้น ซ่ึงจะส่งผลให้ประชาชนไดร้ ับการบริการทีส่ ะดวก รวดเร็ว ไม่เลอื กปฏบิ ัติ การใหบ้ ริการของ ภาครัฐมีประสทิ ธิภาพจะส่งผลใหค้ ณุ ภาพชีวติ ของประชาชนดขี ้ึน นอกจากนีก้ ฎหมายกาหนดให้มีการ กาหนดกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนมีสว่ นร่วมในการตรวจสอบการทางานของเจ้าหน้าท่ีรฐั ซง่ึ จะทา ให้การปฏิบตั ิราชการเกดิ ความโปรง่ ใส เป็นธรรม และไมม่ ผี ลประโยชน์ทับซอ้ น สนใจสง่ั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

86 1. พระราชบญั ญัตมิ าตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์ตามข้อใด ก. กาหนดมาตรฐานทางจรยิ ธรรมของสงั คมไทย ข. ใชเ้ ป็นหลกั สาคัญในการจัดทาประมวลจริยธรรมของหนว่ ยงานของรฐั ค. เป็นกลไกตรวจสอบการรักษามาตรฐานทางจริยธรรม ง. ปอู งกนั การทุจริตและประพฤตมิ ิชอบในวงราชการ 2. หน่วยงานของรฐั ใดที่ไม่อยภู่ ายใตบ้ ังคับพระราชบัญญตั ิมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ก. สานกั งานเลขาธิการ ข. สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ค. สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ง. กรมการขนสง่ ทางราง ค. พ.ร.บ.มาตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 กาหนดให้มาตรฐานทางจรยิ ธรรมจะตอ้ งมหี ลักเกณฑ์ การประพฤติปฏบิ ัตอิ ยา่ งมคี ุณธรรมของเจา้ หน้าทข่ี องรฐั กปี่ ระการ ก. ค ประการ ข. 5 ประการ ค. 7 ประการ ง. 9 ประการ 4. ขอ้ ใดถกู ต้องเกี่ยวกบั เลขาธกิ าร ก.พ. ก. เป็นกรรมการและเลขานกุ าร คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ข. เป็นรองประธานกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ค. ปฏิบตั งิ านธุรการของคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม ง. มอี ายุไมต่ ่ากวา่ สส่ี ิบหา้ ปี 5. ขอ้ ใดกลา่ วผิดเก่ียวกบั พ.ร.บ.มาตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 ก. องคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คลขององค์กรอิสระ ไม่ต้องนามาตรฐานทางจรยิ ธรรมไปใช้ ประกอบการจัดทาประมวลจรยิ ธรรม ข. หนว่ ยงานธุรการของศาลมิใช่หนว่ ยงานของรัฐ ค. กรรมการผ้ทู รงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรมตอ้ งมีอายุไม่ต่ากวา่ 45 ปี ง. สภากลาโหมมีหน้าท่ีจดั ทาประมวลจรยิ ธรรมสาหรบั ข้าราชการทหารและข้าราชการพลเรือน กลาโหม 6. โดยท่ัวไปคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมจะต้องทบทวนมาตรฐานทางจรยิ ธรรมเมอ่ื ใด ก. ทุก 2 ปี ข. ทกุ 3 ปี ค. ทกุ 4 ปี ง. ทกุ 5 ปี สนใจส่งั ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

87 7. ขอ้ ใดมิใช่กรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมโดยตาแหนง่ ก. ผู้แทนคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น ข. ผแู้ ทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรอื นในสถาบนั อุดมศึกษา ค. ผู้แทนคณะกรรมการขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ง. ผูแ้ ทนคณะกรรมการขา้ ราชการตารวจ 8. มาตรฐานทางจริยธรรมคอื หลักเกณฑก์ ารประพฤตปิ ฏิบตั อิ ยา่ งมคี ณุ ธรรมของเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ยกเวน้ ข้อใด ก. กลา้ กระทาในสิ่งทถี่ ูกตอ้ งชอบธรรม ข. แสวงหาความรู้ตลอดเวลา ค. ดารงตนเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี ง. มีจิตสาธารณะ 9. คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรมมหี น้าท่แี ละอานาจตาม พ.ร.บ.มาตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 ยกเวน้ ข้อใด ก. ใหค้ าปรึกษาเก่ยี วกับยทุ ธศาสตร์ด้านมาตรฐานทางจริยธรรมตอ่ คณะรฐั มนตรี ข. ปฏิบัตหิ น้าท่ีอนื่ ตามที่คณะรฐั มนตรีมอบหมาย ค. ตรวจสอบรายงานประจาปีของหน่วยงานของรฐั ง. จดั ทาประมวลจริยธรรม 10. หน่วยงานของรัฐต้องดาเนินการในเรือ่ งใด เพื่อเป็นการรักษาจริยธรรมของเจ้าหน้าทข่ี องรัฐ ก. กาหนดให้มีผ้รู บั ผดิ ชอบเก่ียวกับการรักษาจรยิ ธรรมประจาหน่วยงานของรฐั ข. ใหค้ วามร้แู ก่ประชาชนอยา่ งเทา่ เทียมและเสมอภาค ค. จัดทาประมวลจรยิ ธรรมใหส้ อดคลอ้ งตามยทุ ธศาสตร์ชาติ ง. กากบั ดแู ลการดาเนนิ กระบวนการรักษาจริยธรรม 11. พระราชบญั ญตั ิมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 มีผลใช้บงั คบั ตง้ั แตเ่ มื่อใด ก. วันท่ี 16 เมษายน 2562 ข. วันท่ี 17 เมษายน 2562 ค. วันท่ี 18 เมษายน 2562 ง. วนั ที่ 19 เมษายน 2562 12. การจดั หลกั สูตรการฝกึ อบรมและเผยแพร่ความเข้าใจเพ่อื ให้เจา้ หนา้ ท่ีของรฐั มพี ฤติกรรมทาง จริยธรรมเป็นแบบอยา่ งทด่ี ี เปน็ หนา้ ท่ขี องผูใ้ ด ก. เจ้าหน้าทีข่ องรัฐ ข. ผบู้ งั คับบัญชา ค. หนว่ ยงานของรฐั ง. องค์กรกลางบริหารงานบคุ คล สนใจสัง่ ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

88 13. กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิ ใน ก.ม.จ. พ้นจากตาแหน่งตามขอ้ ใด ก. กระทาความผิดโดยประมาทและถูกศาลพิพากษาถงึ ที่สุดให้จาคกุ ข. เป็นที่ปรึกษาพรรคการเมอื ง ค. คณะรัฐมนตรีมมี ตใิ ห้ออก ง. ครบวาระการดารงตาแหนง่ สปี่ ี 14. การดาเนนิ การข้อใดถกู ต้อง หากปรากฏว่าการจัดทาประมวลจรยิ ธรรมไม่สอดคลอ้ งกับ มาตรฐานทางจรยิ ธรรม ก. คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรมเสนอรายงานตอ่ คณะรฐั มนตรี ข. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมแจ้งองค์กรกลางบริหารงานบคุ คลดาเนินการแก้ไขให้ ถูกตอ้ ง ค. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมออกคาส่ังใหม้ กี ารแกไ้ ขให้ถกู ต้อง ง. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมเสนอรายงานตอ่ รัฐสภาเพอ่ื ใช้มาตรการด้านงบประมาณ 15. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมมีหนา้ ท่ีกากบั ตดิ ตามและประเมินผลการดาเนนิ การตาม มาตรฐานทางจรยิ ธรรม ท่ถี ูกทส่ี ุดคอื ข้อใด ก. ใหห้ น่วยงานของรฐั จดั ให้มีการประเมินพฤติกรรมทางจรยิ ธรรมสาหรับเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ข. จดั ทารายงานประจาปีของหน่วยงานของรัฐ ค. วินิจฉัยป๎ญหาที่เกดิ จากการใช้บังคับ พ.ร.บ.มาตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 ง. กาหนดแนวทางการบงั คบั ใชป้ ระมวลจริยธรรมสาหรับเจ้าหน้าทข่ี องรัฐ 16. คณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม เรียกโดยย่อว่า ก. กมจ. ข. กม.จ. ค. ก.ม.จ. ง. ก.มจ. 17. ขอ้ ใดถูกต้องเกีย่ วกบั กรรมการผูท้ รงคุณวุฒใิ นคณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรม ก. คณะรฐั มนตรีแตง่ ต้ังไมเ่ กิน 5 คน ข. คณะรัฐมนตรแี ต่งต้ังไมเ่ กนิ 7 คน ค. นายกรฐั มนตรีแต่งตัง้ ไม่เกิน 5 คน ง. นายกรฐั มนตรแี ต่งตั้งไม่เกิน 7 คน 18. ผู้รกั ษาการตามพระราชบญั ญตั ิมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ก. ประธานกรรมการพิทกั ษร์ ะบบคณุ ธรรม ข.ประธานกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น ค. นายกรัฐมนตรี ง. อธบิ ดีกรมการศาสนา สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

89 19. จริยธรรม ตรงกบั คาในภาษาอังกฤษข้อใด ก. Ethic ข. Morality ค. Occupation ง. Integrity 20. ข้อใดมิใชก่ ลไกหลกั ในการขบั เคล่ือน พ.ร.บ.มาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ก. มาตรฐานทางจริยธรรมและประมวลจริยธรรม ข. แนวนโยบายพื้นฐาน ค. คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรม ง. การรกั ษาจรยิ ธรรมของเจ้าหนา้ ทีข่ องรฐั 1.ข. 2.ค. 3.ค. 4.ก. 5.ก. 6.ง. 7.ก. 8.ข. 9.ง. 10.ก. 11.ข. 12.ง 13.ข. 14.ข. 15.ก 16.ค. 17.ค. 18.ค. 19.ก. 20.ข. สนใจสง่ั ชื้อเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

90 ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรีวา่ ด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 และแกไ้ ขเพิ่มเตมิ ** ใหป้ ลดั สานักนายกรัฐมนตรี(เหมือนข้อมลู ข่าวสาร)รักษาการระเบยี บน้ี มีอานาจตคี วามและ วินิจฉัยปญ๎ หางานสารบรรณ ** งานสารบรรณ” หมายความว่า งานทเี่ กย่ี วกบั การบริหารงานเอกสาร เริ่มตง้ั แต่การจัดทา การรับ การสง่ การเก็บรกั ษา การยมื จนถึงการทาลาย ** หนงั สือ” หมายความว่า หนงั สือราชการ ** อิเล็กทรอนิกส์” หมายความวา่ การประยุกต์ใช้วิธกี ารทางอเิ ล็กตรอนไฟฟูา คล่นื แม่เหล็กไฟฟูา หรอื วิธอี นื่ ใดในลักษณะคล้ายกัน และใหห้ มายความรวมถึงการประยุกต์ใช้วิธีการทางแสง วธิ ีการทาง แม่เหลก็ หรอื อปุ กรณ์ทเ่ี ก่ียวข้องกับการประยกุ ตใ์ ชว้ ธิ ตี ่าง ๆ เชน่ ว่าน้นั ** ระบบสารบรรณอิเล็กทรอนกิ ส์” หมายความว่า การรบั สง่ ขอ้ มูลข่าวสารหรือหนังสอื ผา่ น ระบบสื่อสารด้วยวิธกี ารทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ชนดิ ของหนังสือ ** หนังสือราชการ มี 6 ชนิด คอื * (1) หนงั สือภายนอก (แบบพธิ ีติดต่อระหวา่ งส่วนราชการ บุคคลภายนอก กระดาษตรา ครุฑ) ** (2) หนงั สือภายใน (แบบพธิ ีนอ้ ยกวา่ ติดต่อภายในกระทรวงหรอื จงั หวัด กระดาษบันทึก ข้อความ รายละเอียดคือ 1)ส่วนราชการ 2)ที่ 3)วันที่ 4)เรื่อง 5)เรียน) ** (3) หนังสือประทับตรา (กระดาษตราครุฑ ประทบั ตรา ลงนามโดยหัวหนา้ ส่วนราชการ ระดบั กองขน้ึ ไป (ผอ.กอง)หรือผู้ได้รบั มอบอานาจ) ** (4) หนงั สอื สงั่ การ [ให้ปฏิบตั ิ] (กระดาษาตราครุฑ คาส่งั [สง่ั การโดยชอบด้วยกฎหมาย] ระเบยี บ[ข้อความอาศัยอานาจกฎหมายหรือไมก่ ็ได้] ข้อบงั คับ[ขอ้ ความอาศัยอานาจกฎหมายที่บัญญัติ ใหก้ ระทาได้]) ** (5) หนังสอื ประชาสมั พันธ์ มี 3 ชนดิ คือ ประกาศ แถลงการณ์ และข่าว (ประกาศ : [ข้อความประกาศชีแ้ จงใหท้ ราบแนะแนวทางปฏบิ ตั ิ] แถลงการณ์ : [ข้อความแถลง เหตกุ ารณ์กรณีใดๆ ให้ทราบชัดเจนโดยท่วั กนั ] ขา่ ว : [ข้อความสมควรเผยแพร่ให้ทราบ]) ** (6) หนังสอื ที่เจ้าหน้าทจ่ี ดั ทาขึน้ มี 4 ชนิด คอื 1)หนงั สอื รับรอง 2)รายงานการประชุม 3)บนั ทึก และ 4)หนังสืออื่น สนใจสั่งช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

91 *หนงั สือรบั รอง [สว่ นราชการออกเพ่ือรบั รอง ใช้กระดาษตราครฑุ ประกอบด้วย 1)เลขที่ เรียงตามปปี ฏทิ ิน 2)ชอ่ื ท่ตี ้ังส่วนราชการ 3)ข้อคงวามรบั รับรอง 4)ณ วันที่ ชอื่ เตม็ ของเดอื น และตวั เลขของปพี ทุ ธศกั ราช 5)ลงช่อื หวั หน้าส่วนราชการหรอื ผไู้ ดร้ ับมอบหมาย 6)ตาแหนง่ ใหล้ ง ตาแหนง่ ผ้ลู งรายมือช่อื 7)รูปถา่ ยและรายมอื ชื่อผไู้ ด้รับการรับรอง ตดิ รูปถา่ ยขนาด 4 x 6 เซนติเมตร หนา้ ตรงไมส่ วมหมวก ประทบั ตราลา่ งดา้ นขวารูป] *รายงานการประชุม[1)ช่ือการประชมุ 2)ครั้งท่ี 3)วนั ที่ 4)ณ สถานที่ 5)ผ้มู าประชมุ 6)ผไู้ มม่ า 7)ผู้เขา้ ร่วม 8)เร่มิ 9)ขอ้ ความ 10)เลิกประชมุ เวลา 11)ผจู้ ดรายงานการประชมุ (ไม่มผี ู้ตรวจ รายงานการประชมุ )] *บนั ทกึ [ขอ้ ความผใู้ ต้บงั คับบญั ชาเสนอผู้บังคบั บัญชา เป็นหน่วงานตา่ กวา่ ระดับกรม ใช้ กระดาษบันทึกขอ้ ความ(มีหัวขอ้ 1)ช่ือหรอื ตาแหน่งที่บนั ทึกถงึ 2)สาระสาคัญ 3)ช่ือหรอื ตาแหน่ง ลง ลายมือชื่อผ้บู นั ทึก ] *หนังสอื อื่น [ภาพถ่าย CD เทป]) โดยปกตใิ ห้ทาขึ้น 3 ฉบบั คอื ฉบับจรงิ คู่สาเนาตน้ เรอ่ื ง และสาเนาเกบ็ งานสารบรรณกลาง และการรบั รองสาเนาถูกตอ้ งใหเ้ จ้าหนา้ ที่ระดบั 2 ขนึ้ ไป รับรองในตาแหนง่ ขอบล่างหนังสือ การเกบ็ รักษาหนงั สือ มี 3 ระยะ คือ ** (1) เกบ็ ระหว่างปฏบิ ัติ (หนังสอื ทีป่ ฏิบัติยงั ไม่เสรจ็ ใหอ้ ยูใ่ นความรบั ผิดชอบ ** (2) เก็บเมื่อปฏิบัตเิ สร็จแล้ว(หนังสือทปี่ ฏบิ ัติเสรจ็ และไม่มีอะไรท่จี ะตอ้ งปฏิบัติอกี ) ** (3) เก็บไว้เพอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบ (หนงั สอื ท่ีปฏิบตั ิเสร็จแลว้ แต่จาเป็นจะต้องใชใ้ นการ ตรวจสอบเป็นประจา) **หนังสอื ท่ตี อ้ งสงวนเปน็ ความลับ หนงั สอื ทางประวัติศาสตร์ หลกั ฐานทางอรรถคดี เก็บไว้ ตลอดไปตามสานักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศลิ ปากรกาหนด **หนังสือทีป่ ฏบิ ัติเสร็จแล้ว มีคู่ฉบับค้นหาได้ เก็บไวไ้ มน่ อ้ ยกว่า 5 ปี **หนงั สือธรรมดาสามญั (สมุดลงเวลา) ไม่มคี วามสาคญั ดาเนินการเสรจ็ แล้วให้เก็บไวไ้ ม่ นอ้ ยกว่า 1 ปี **หนังสอื เกย่ี วกบั การรบั จ่ายเงนิ เกบ็ ไว้ไม่น้อยกว่า 10 ปี (หากไดร้ ับการตรวจสอบจาก สานักงานตรวจเงนิ แผ่นดนิ (สตง.) แล้ว เก็บไว้ไม่นอ้ ยกวา่ 5 ป)ี [ถ้าทาลายตอ้ งขอทาความตกลงกับ กระทรวงการคลงั ] **ทกุ ปปี ฏิทินให้จัดสง่ หนงั สอื ทมี่ ี อายุครบ 20 ปพี ร้อมบัญชีสง่ มอบ ภายใน 31 มกราคม ของปถี ดั ไป ให้สานักหอจดหมายเหตแุ ห่งชาติ กรมศลิ ปากร **หนังสือราชการที่ตอ้ งการเก็บไวต้ ลอดไป ใหป้ ระทบั ตราวา่ หา้ มทาลาย ดว้ ยหมึกสแี ดง (ขนาดไม่เล็กกวา่ 24 พอ้ ย) ส่วนหนังสอื ทม่ี กี าหนดเวลาใหป้ ระทบั ตราเกบ็ ถงึ พ.ศ..... ดว้ ยหมึกสนี า้ เงิน สนใจสั่งช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

92 การทาลายหนงั สือ **การทาลายหนังสอื ภายใน 60 วนั หลังสิ้นปปี ฏทิ นิ แต่งต้งั คณะกรรมการทาลายหนังสือ ประกอบด้วย ประธานกรรมการและกรรมการอีกอย่างนอ้ ยสองคน โดยปกตใิ หแ้ ตง่ ต้งั จากข้าราชการ ตงั้ แต่ระดับ 3 หรอื เทยี บเท่าขนึ้ ไป (เลขาธิการแตง่ ตงั้ ) ถ้าประธานกรรมการไม่สามารถปฏิบัติหนา้ ท่ไี ดใ้ ห้กรรมการท่มี าประชุมเลอื กกรรมการคน หน่ึงทาหนา้ ทีป่ ระธาน มติให้ถือเสยี งขา้ งมาก ถ้ากรรมการผ้ใู ดไมเ่ หน็ ดว้ ยใหท้ าบนั ทึกข้อความแยง้ มาตรฐาน แบบพมิ พ์ และซอง **ตราครฑุ สาหรบั แบบพมิ พ์ มี 2 ขนาด คือ 1) ขนาดตวั ครุฑสูง 3 เซนตเิ มตร 2) ขนาดตัวครุฑสงู 1.5 เซนติเมตร **ตราส่วนราชการมขี นาดเป็นรปู ทรงกลม สองวงซอ้ นกนั เสน้ ผา่ นศูนย์กลางวงกลม 4.5 เซนติเมตร วงใน 3.5 เซนตเิ มตร ลอ้ มครฑุ **มาตรฐานกระดาษ ปกติใชก้ ระดาษปอนด์ขาว นา้ หนกั 60 กรัมตอ่ ตารางเมตร มี 3 ขนาด คอื 1)ขนาดกระดาษ A4 2)ขนาดกระดาษ A5 3)ขนาดกระดาษ A8 ขนาด A4 คอื 210 มิลลิเมตร x 297 มลิ ลิเมตร (พิมพ์ 25 บรรทดั ห่างบน 5 ซม. ซ้าย 3 ซม. ขวา 2 ซม.) ขนาดเอ 5 คอื ขนาด 148 มิลลเิ มตร X 210 มลิ ลเิ มตร ขนาดเอ 8 คือ ขนาด 52 มลิ ลิเมตร X 74 มลิ ลิเมตร **มาตรฐานซอง โดยปกติใหใ้ ชก้ ระดาษสีขาวหรอื สีนา้ ตาล นา้ หนกั 80 กรมั ต่อตารางเมตร เว้นแต่ซองขนาดซี 4 ใหใ้ ช้กระดาษนา้ หนัก 120 กรมั ตอ่ ตารางเมตร มี 4 ขนาด คือ ขนาดซี 4 หมายความว่า ขนาด 229 มลิ ลเิ มตร X 324 มิลลเิ มตร ขนาดซี 5 หมายความวา่ ขนาด 162 มลิ ลเิ มตร X 229 มิลลิเมตร ขนาดซี 6 หมายความว่า ขนาด 114 มลิ ลเิ มตร X 162 มิลลเิ มตร ขนาดดแี อล หมายความวา่ ขนาด 110 มิลลเิ มตร X 220 มิลลเิ มตร **กระดาษตราครฑุ ใหใ้ ชก้ ระดาษขนาดเอ 4 **กระดาษบนั ทกึ ข้อความ ใหใ้ ช้กระดาษขนาดเอ 4 หรือขนาดเอ 5 **ซองหนงั สอื ใหพ้ มิ พ์ครุฑ ขนาดซี 4 ใหส้ าหรบั บรรจหุ นงั สอื กระดาษตราครฑุ โดยไม่ต้องพบั มชี นดิ ธรรมดาและขยาย ข้าง ขนาดซี 5 ใชส้ าหรับบรรจุหนังสือกระดาษตราครฑุ พับ 2 ขนาดซี 6 ใชส้ าหรบั บรรจหุ นงั สอื กระดาษตราครฑุ พบั 4 สนใจส่งั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

93 ขนาดดแี อล ใชส้ าหรบั บรรจุหนังสือกระดาษตราครุฑพับ 3  ชัน้ ความเรว็ กว่าปกติ 3 ประเภทดว้ ยตวั อกั ษรสแี ดง (มมุ ซ้ายบน ไมเ่ ล็กกว่า 32 พอ้ ย) คือ ด่วนท่ีสดุ (ปฏิบตั ทิ ันที) ดว่ นมาก(โดยเรว็ ) ด่วน(เรว็ กว่าปกติ)  ข้ันตอนการรับหนังสือ คอื จัดลาดบั ความสาคญั และเรง่ ดว่ น ประทบั ตรารับมุมขวา ลงทะเบยี น จัดแยกให้สว่ นราชการ  วาระการประชมุ 5 วาระ คือ 1)ประธานแจ้งใหท้ ี่ประชมุ ทราบ 2)รบั รองรายงานการประชมุ คร้งั ท่ี แล้ว 3)เสนอเพื่อทราบ 4)เสนอเพ่อื พิจารณา 5)อื่นๆ แนวข้อสอบระเบยี บสานักนายกรฐั มนตรวี า่ ด้วยงานสารบรรณ 1. ระเบยี บสานักนายกรฐั มนตรีว่าดว้ ยงานสารบรรณ คาว่า \"งานสารบรรณ\" ในท่ีนห้ี มายความวา่ อยา่ งไร ก. งานรับ-ส่งและเกบ็ รักษาหนงั สือ ข. งานรา่ ง-เขยี นและพิมพ์หนังสือ ค. งานทเี่ กีย่ วกบั การบริหารงานเอกสาร ง. งานทเ่ี กยี่ วกับงานทะเบียนเอกสาร 2. หนังสอื ราชการคืออะไร ก. เอกสารทุกชนดิ ทพ่ี มิ พ์ถกู ต้องตามกฎหมาย ข. เอกสารท่ีเปน็ หลกั ฐานในทางราชการ ค. เอกสารทมี่ ไี ปถึงผู้ดารงตาแหนง่ ในราชการ ง. เอกสารทที่ างราชการเปน็ เจ้าของ 3. หนังสือท่มี ีไปมา ระหวา่ งส่วนราชการ หรอื สว่ นราชการมีถึงบคุ คลภายนอก จัดเป็นหนงั สอื ประเภทใด ก. หนงั สอื ภายนอก ข. หนังสือภายใน ค. หนงั สือประทับตรา ง. หนงั สือประชาสัมพนั ธ์ 4. ข้อใดต่อไปน้ีอาจไม่มใี นหนังสือราชการ ข. วัน เดอื น ปี ที่ออกหนังสือ ก. เรื่อง ง. อา้ งถงึ และสงิ่ ทส่ี ่งมาด้วย ค. คาขน้ึ ตน้ และคาลงท้าย 5. หนังสือภายในเปน็ หนงั สืออยา่ งไร ข. ติดต่อภายในกรมเดียวกัน ก. ตดิ ต่อภายในกระทรวงเดยี วกัน ง. ถกู ท้ังขอ้ ก. ข. และ ค. ค. ตดิ ต่อภายในจังหวัดเดยี วกัน สนใจสงั่ ช้อื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

94 6. หนังสอื ภายนอกกบั หนังสือภายในตา่ งกนั ในขอ้ ใด ก. แบบฟอร์ม ข. การเก็บหนังสือ ค. ผู้ส่งและผูร้ ับ ง. การลงทะเบยี นรบั -ส่ง 7. หนังสือทใี ชป้ ระทับตราใชใ้ นกรณใี ดบ้าง ข. การเตอื นเรอื่ งท่ีค้าง ก. ขอทราบรายละเอียดเพิ่มเตมิ ง. ถกู ทั้งข้อ ก. ข. และ ค. ค. สง่ สิ่งของ เอกสาร สาเนา 8. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของหนังสอื ภายใน ก. หนงั สอื ทส่ี ่งไปโดยไม่บรรจุซอง ข. หนังสอื ทมี่ ีไปมา ระหว่างส่วนราชการต่างกระทรวง ค. หนังสือตดิ ตอ่ ระหวา่ งบุคคลภายนอกดว้ ยกนั ง. ไมม่ ีขอ้ ถกู 9. หนังสือประทบั ตราใช้กระดาษชนิดใด ข. ใช้กระดาษบนั ทึก ก. ใช้กระดาษตราครฑุ ค. ใช้ประดาษอดั สาเนา ง. ไม่มขี อ้ กาหนดแน่นอน 10. แถลงการณ์ เปน็ หนังสอื ประเภทใด ข. ส่งั การ ก. ประทับตรา ง. เจา้ หนา้ ที่จดั ทาขน้ึ ค. ประชาสมั พนั ธ์ 11. หนังสอื ราชการทม่ี ีคาวา่ “ดว่ นมาก” ผู้มหี น้าท่ดี าเนนิ การจะต้องปฏิบตั อิ ย่างไร ก. ปฏบิ ตั ติ ามกาหนดเวลา ข. ปฏิบตั ิโดยเร็ว ค. ปฏิบัตโิ ดยทันที ง. ปฏิบัติโดยเร็วกวา่ ปกติ 12. วนั เดอื น ปี ท่ีออกหนังสือในหนงั สือประทับตรา ใหพ้ มิ พ์ไว้ตรงสว่ นไหนในหนงั สอื ก. ใตร้ ูปครุฑ ข. ได้ช่อื สว่ นราชการที่สง่ หนงั สือออก ค. ไมม่ กี ารลงวนั เดือนปี ในหนังสอื ชนดิ นี้ ง . ผิดทกุ ข้อ 13. หนงั สอื ประทับตราจะมีความสมบรู ณพ์ ร้อมท่ีจะส่งออกได้ จะต้อง… ก. ประทับตราให้ถกู ที่สุด ข. ระบุตวั ผู้รบั ใหช้ ัดเจน ค. มีคาว่าหนังสอื ประทับตรา ง. มผี ้ลู งช่ือกากบั ตราท่ปี ระทบั ตามระเบยี บ 14. หนังสือราชการท่ีมีคาวา่ \"ด่วน\" ผูม้ ีหนา้ ทดี่ าเนินการจะต้องปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร ก. ปฏบิ ตั ิเรว็ ที่สดุ ข. ปฏิบตั ิโดยเร็ว ค. ปฏบิ ัติเร็วกวา่ ปกติเท่าท่จี ะทาได้ ง. ปฏิบัติเรว็ ตามกาหนดเวลา สนใจส่ังช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

95 15. ตามระเบยี บงานสารบรรณ หนงั สอื ราชการทีจ่ ดั ทาขน้ึ จะต้องทาอย่างนอ้ ย 1 ฉบับ ก. สาเนาตน้ ฉบบั ข. สาเนาคู่ฉบับ ค. สาเนาซ้าฉบับ ง. ไม่ใช่ท้ัง ก. ข. และ ค. 16. หนังสอื ตอ่ ไปน้ี มหี นงั สือประเภทใดทีต่ ้องเกบ็ รกั ษาไว้ตลอดไป ก. หนงั สือทเ่ี กี่ยวกบั สงวนเปน็ ความลับ ข. หนงั สือทมี่ หี ลักฐานการโต้ตอบ ค. หนังสือท่ีเก่ยี วกับสถิติหลักฐาน ง. หนงั สอื สานวนการสอบสวน 17. การเก็บหนงั สอื ราชการปกติจะต้องเก็บรักษาไวก้ ี่ปี ก. 5 ปี ข. 10 ปี ค. 15 ปี ง. 20 ปี 18. ข้อความทบ่ี ันทกึ ในรายงานการประชุมมักเรม่ิ ต้นดว้ ยอะไร ก. ประธานกลา่ วเปิดประชุม ข. บอกเร่อื งท่ีจะประชุม ค. การรบั รองรายงานการประชมุ ครั้งก่อน ง. การอ่านรายงานการประชุมครงั้ ท่ีแล้ว 19. ข้อความสุดทา้ ยของรายงานการประชุมควรจะเป็นอะไร ก. เวลาเลกิ ประชุม ข. ผจู้ ดรายงานการประชุม ค. ผู้ตรวจรายงานการประชมุ ง. วัน เดือน ปี และสถานที่ประชมุ 20. หนังสอื ราชการท่ีตอ้ งปฏิบัติใหเ้ รว็ กวา่ ปกติ แบง่ เป็นกป่ี ระเภท ก. 4 ข. 3 ค. 2 ง. ประเภทเดยี ว 21. การเขยี นหรอื พมิ พ์ (หรือประทบั ตรา) คาวา่ ดว่ น หรือด่วนมาก จะต้องเขียนหรือพิมพ์ (หรือ ประทบั ตรา) ไวต้ รงส่วนใดของหนงั สอื ก. ตรงกลางท้ายหนังสือ ข. มุมขวาดา้ นบนหนังสือ ค. มุมซา้ ยดา้ นบนหนังสือ ง. ตรงไหนกไ็ ด้ 22. การรา่ งหนังสือราชการตอ้ งระวังเก่ียวกบั เรือ่ งตา่ งๆ หลายเร่อื ง เร่ืองใดต่อไปน้จี าเป็น นอ้ ยมาก ก. แบบฟอรม์ ข. ใจความ ค. วรรคตอน ง. ตวั สะกดการันต์ 23. การร่างหนงั สือคืออะไร ข. การกาหนดโครงรา่ งหนงั สอื อย่างครา่ วๆ ก. การพิมพ์หรอื เขยี นอยา่ งยอ่ ๆ ง. การเรียบเรยี งช้ันต้นตามเร่อื งที่ต้องการตดิ ต่อ ค. การเขยี นหนังสอื ด้วยลายมือของตนเอง สนใจสั่งชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

96 24. การเสนอหนงั สือคอื อะไร ก. การนาหนงั สอื ไปสง่ ให้ผูร้ บั ข. การส่งหนงั สือออกจากสว่ นราชการ ค. การสรุปใจความสาคญั ในหนงั สอื เสนอให้ผู้บงั คับบญั ชาทราบ ง. การนาหนังสือทด่ี าเนินการชนั้ เจา้ หน้าทีแ่ ล้วเสนอต่อผ้บู ังคับบญั ชา 25. การเสนอหนงั สอื ท่ีดคี วรปฏบิ ัติอย่างไร ก. ตอ้ งเสนอเรอ่ื งที่ไม่มปี ๎ญหากอ่ นเสมอ ข. ต้องเสนอเรือ่ งสาคัญกอ่ นเรื่องอ่ืนๆ ค. ตอ้ งแยกเรอ่ื งเสนอเป็นประเภทๆ ไป ง. ต้องเรียงลาดับเรื่องเสนอกอ่ น-หลงั ตามวัน เดือน ปี ทีไ่ ดร้ ับ 26. ข้อใดไมม่ ีกาหนดไวใ้ นทะเบยี นงานสารบรรณ ก. ทะเบยี นรบั ข.ทะเบยี นจา่ ย ค. ทะเบยี นสง่ ง.ทะเบียนเก็บ 27. ซองหนงั สือราชการมีกีข่ นาด ข. 3 ก. 2 ค. 4 ง. 5 28. การเก็บหนังสอื แบง่ ออกเป็น 3 อย่าง ขอ้ ใดไมใ่ ช่วธิ กี ารเกบ็ หนงั สือ 1 ใน 3 อยา่ งดังกล่าว ก. การเก็บกอ่ นปฏิบัติ ข. การเกบ็ ระหวา่ งปฏบิ ัติ ค. การเกบ็ เมอ่ื ปฏบิ ัติเสร็จแลว้ ง. การเกบ็ ไว้เพอื่ ใชใ้ นการตรวจสอบ 29. การเก็บหนงั สือมปี ระโยชน์ต่อขอ้ ใดมากทสี่ ุด ก. การค้นหา ข. การตรวจสอบ ค. การทาความสะอาดทเี่ กบ็ ง. ความเป็นระเบียบเรียบร้อย 30. ในสาเนาค่ฉู บบั ควรมีลายมือชอื่ บุคคลต่อไปนี้ ยกเว้นผู้ใดที่ไมจ่ าเป็นตอ้ งมี ก. ผู้รา่ ง ข. ผ้พู ิมพ์ ค. ผูส้ ง่ั พิมพ์ ง. ผู้ตรวจ-ทาน 31. การประทับตรารบั หนงั สอื ควรประทบั ตามท่ีสว่ นใดของหนงั สือจงึ จะถูกต้อง ก. ทีม่ ุมบนขวา ข. ท่มี มุ บนซ้าย ค. ทมี่ มุ ล่างซ้าย ง. ที่มมุ ล่างขวา 32. ขอ้ ใดเรียงลาดบั การปฏิบตั เิ กีย่ วกบั การรับหนังสือได้ถูกต้อง ก. ลงทะเบยี นรับ ประทับตรารับหนงั สอื เปิดผนึกซองตรวจ สนใจสง่ั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

97 ข. ประทับตรารับหนังสือ ลงทะเบียนรบั เปิดผนกึ ซองตรวจ ค .เปิดผนึก-ประทับตรารับ ลงทะเบียนรับ และตรวจ ง. เปิดผนึก ตรวจ ประทบั ตรารับ ลงทะเบยี นรบั 33. การเปดิ ซองหนังสอื ราชการ ถา้ มีซองอีกช้ันหนง่ึ อยู่ข้างใน แสดงว่าหนังสือนัน้ ตอ้ งเปน็ หนงั สือ ประเภทใด ก. หนังสือภายใน ข. หนงั สอื ภายนอก ค. หนังสอื ราชการด่วน ง. หนงั สอื ราชการลับ 34. ตราทใี่ ช้ประทับในหนังสอื ประทบั ตราตามระเบยี บงานสารบรรณกาหนดให้ใชห้ มึกสอี ะไร ก. แดง ข. ดา ค. น้าเงิน ง. เขียว 35. “ประกาศ ณ วันที่………” ใช้กบั หนังสือสัง่ การชนดิ ใด ก. คาส่งั ข. ระเบียบ ค. ขอ้ บังคับ ง. ถกู ท้ัง ข.และ ค. 36. บรรทัดสุดท้ายของหนังสือสัง่ การทุกประเภทจะตอ้ งเป็นขอ้ ความทีร่ ะบุอะไร ก. วนั เดือน ปี ทอ่ี อกหนังสือ ข. ช่ือสว่ นราชการท่ีออกหนงั สอื ค. ตาแหนง่ ของผ้มู อี านาจออกหนงั สือ ง. ลายมือช่ือผูม้ ีอานาจออกหนงั สือ 37. ข้าราชการทมี่ ีตาแหนง่ ยศทหารหรอื ตารวจ ตอ้ งพิมพย์ ศลงหน้าช่อื ในวงเล็กใต้ลายเซ็นหรือไม่ ก. ไมต่ อ้ งพมิ พ์ยศ ข. พมิ พ์ยศลงไปด้วย ค. พิมพ์หรือไม่พมิ พ์กไ็ ด้ ง. ไม่มคี าตอบถูก 38. การเขยี นหนงั สือราชการถึงพระภกิ ษุ-สามเณร ทั่วไป ใช้คาขน้ึ ต้นอยา่ งไร ก. เรียน ข. กราบเรียน ค. ถึง ง. นมสั การ 39. ถ้าอธิบดีไมอ่ าจปฏิบตั ิหน้าที่ได้ ผู้ทางานแทนเมอ่ื ลงนามในหนงั สือจะตอ้ งใชค้ าวา่ อยา่ งไร ก. ใช้ตาแหน่งของผ้ทู างานแทน ข. ทางานแทน ค. รกั ษาราชการแทน ง. ปฏบิ ัติราชการแทน 40. โทรศพั ท์ โทรเลข หรือวิทยใุ ชใ้ นกรณีใด ก. เรอ่ื งเร่งด่วน ข. เร่ืองเก่ยี วกับความลับราชการ ค. เร่ืองเก่ยี วกับการเงิน ง. เรื่องท่สี ั่งดว้ ยหนังสือไม่ทัน สนใจสั่งช้ือเอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

98 41. ทาไมจงึ ต้องมีระเบียบงานสารบรรณ ก. เพือ่ ให้เจา้ หน้าทมี่ รี ะเบียบเปน็ หลกั ปฏบิ ตั ิ ข. เพ่ือความสะดวกแกผ่ บู้ ังคับบัญชาในการควบคุมงาน ค. เพ่ือให้ข้าราชการพลเรือนรู้เรือ่ งระเบียบงานสารบรรณ ง. เพ่อื ใหข้ า้ ราชการรา่ งและรบั สง่ หนังสอื ราชการไดถ้ กู ต้อง 42. นายกรฐั มนตรี ตาย คาที่ขดี เส้นใตค้ าใดจึงจะถูกต้องตามราชาศพั ท์ ก. ถึงแก่กรรม ข. มรณกรรม ค. อสญั กรรม ง. พิราลยั 43. อายุการเกบ็ หนังสอื ราชการโดยปกติใหเ้ ก็บไวไ้ มน่ ้อยกว่ากี่ปี ก. 5 ปี ข. 10 ปี ค. 15 ปี ง. ไม่มีระเบียบปฏิบัติเกีย่ วกับเร่อื งนี้ 44. หนงั สอื ท่ีต้องสงวนเป็นความลบั ตอ้ งปฏิบตั อิ ย่างไร ก. เกบ็ รักษาไว้ไม่น้อยกว่า 15 ปี ข. นาไปเก็บไวท้ ีก่ องจดหมายเหตุแห่งชาติ ค. ใหป้ ฏบิ ัติตามระเบยี บสารบรรณโดยเครง่ ครดั ง. ให้ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายหรอื ระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแหงชาติ 45. หนงั สือท่เี ปน็ เรื่องธรรมดาสามัญซึ่งไม่มีความสาคัญและเป็นเร่อื งทเ่ี กดิ ข้นึ เปน็ ประจา เมอ่ื ดาเนินการเสร็จแลว้ ให้เกบ็ ไม่น้อยกว่าก่ปี ี ก. 1 ปี ข. 1 ปี 6 เดอื น ค. 2 ปี ง. 3 ปี 46. ตราครฑุ ทใี่ ช้สาหรับเป็นแบบพิมพใ์ นระเบียบงานสารบรรณขนาดใหญม่ คี วามสูงเท่าไร ก. 2.5 ซม. ข.3.0 ซม. ค. 3.5 ซม. ง. 4.0 ซม. 47. ขนาดตราครุฑทีใ่ ชป้ ระทับแทนการลงชือ่ ต้องเป็นวงกลม 2 วงซอ้ นกัน มขี นาดเสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง วงนอกและวงในเท่าไร ก. 3.5 ซม. และ 2.5 ซม. ข. 4.0 ซม. และ 3.0 ซม. ค. 4.5 ซม. และ 3.5 ซม. ง.ขนาดพอเหมาะเทา่ ไรกไ็ ด้ 48. ตราครฑุ มาตรฐานทใี่ ชใ้ นระเบยี บงานสารบรรณ 2526 มกี ี่ขนาด ก. 2 ขนาด ข. 3 ขนาด ค. 4 ขนาด ง. 5 ขนาด สนใจสง่ั ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

99 49. หนังสอื ราชการประเภทใดท่ตี อ้ งเกบ็ รักษาไว้เป็นหลกั ฐานทางราช การตลอดไป ก. หนงั สอื เก่ยี วกบั ประวัตศิ าสตร์ ข. หนังสอื เกี่ยวกบั สถิติ หลักฐาน ค. หนงั สอื ทตี่ ้องใชส้ าหรับการศกึ ษาค้นคว้า ง. ถกู ท้ัง ก. ข. และ ค. 50. การเขียนหนังสอื ราชการท่มี ีคาลงท้ายวา่ “ขอแสดงความนับถือ” เป็นหนังสอื ทมี่ ไี ปถึงใคร ก. อธิบดี ข.ปลดั กระทรวง ค. ขา้ ราชการระดับ 5 ง. ถูกหมดทุกขอ้ เฉลยขอ้ สอบ 1.ค 2.ข 3.ก 4.ง 5.ง 6.ก 7.ง 8.ง 9.ก 10.ค 11.ข 12.ข 13.ค 14.ค 15.ข 16.ก 17.ข 18.ก 19.ข 20.ข 21.ค 22.ก 23.ง 24.ง 25.ค 26.ข 27.ค 28.ก 29.ก 30.ค 31.ก 32.ง 33.ง 34.ก 35.ง 36.ค 37.ข 38.ง 39.ค 40.ง 41.ก 42.ค 43.ข 44.ง 45.ก 46.ข 47.ค 48.ก 49.ง 50.ง สนใจส่งั ชือ้ เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567

100 ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรวี ่าดว้ ยการลาของขา้ ราชการ พ.ศ. 2555  ** ในกรณีทผ่ี ู้มอี านาจอนญุ าตการลาไม่อยู่ และมีเหตุจาเปน็ เร่งด่วน ให้ผู้ลาเสนอใบลาผมู้ ี อานาจอนญุ าตช้ันเหนอื ขึ้นไปพิจารณา และแจ้งผ้มู อี านาจทราบดว้ ยผู้มีอานาจอนุญาตการลาจะมอบ อานาจให้ผู้ดารงตาแหนง่ อื่นเป็นผูอ้ นุญาตแทนก็ได้ โดยคานงึ ถึงระดับตาแหนง่ และความรับผิดชอบของ ผูร้ บั มอบเปน็ สาคัญ * ขา้ ราชการผู้ใดมคี าสั่งไปชว่ ยราชการ จะลาให้เสนอผู้บังคับบญั ชาทไ่ี ปชว่ ยราชการ และ ใหห้ นว่ ยงานรายงานจานวนวันลาใหห้ นว่ ยงานตน้ สงั กัดทราบอยา่ งนอ้ ยปลี ะ 1 คร้ัง การนับวันลา **ให้นบั ตามปีงบประมาณ และท่ีนับเฉพาะวันทาการ มี 5 ประเภทคอื 1) การลาปวุ ย 2) การลาคลอดบตุ ร 3) การลาไปช่วยเหลือภรรยาที่คลอดบตุ ร 4) การลากจิ สว่ นตัว 5) การลาพักผ่อน **ขา้ ราชการท่ีได้รับอนุญาตให้ลา 1) ลาไปชว่ ยเหลือภรรยาท่คี ลอดบุตร (ครูผู้ชว่ ยไม่มสี ิทธิล์ า) 2) ลากจิ ส่วนตัว และ 3) ลาพักผ่อน ซึ่งยังไมค่ รบกาหนด ถ้าหากมรี าชการจาเป็นเกิดขน้ึ ผู้บังคบั บญั ชาหรอื ผมู้ ีอานาจจะเรยี กมา ปฏบิ ัติหนา้ ท่กี ็ได้ โดยใหถ้ ือว่าสน้ิ สุดการลาก่อนวันมาปฏบิ ัติหน้าท่ี *ข้าราชการครู ทีจ่ ะลาประสงคไ์ ปต่างประเทศ ให้เสนอขออนญุ าตต่อปลดั กระทรวง ศกึ ษาธิการ ข้าราชการในส่วนภมู ิภาค (เวน้ ข้าราชการคร)ู การขอนุญาตไปตา่ งประเทศซ่งึ อยู่ติดเขต แดนประเทศไทย ใหผ้ ู้วา่ ราชการจงั หวัดหรอื นายอาเภอ ในท้องท่ีติดต่อเปน็ ผ้มู อี านาจอนุญาต โดย ผู้ว่าราชการจงั หวัดคร้งั ละไมเ่ กิน 7 วัน นายอาเภอครั้งละไม่เกนิ 3 วัน **การลาแบง่ ออกเปน็ 11 ประเภท (1) การลาปุวย (2) การลาคลอดบุตร (3) การลาไปช่วยเหลือภริยาท่ีคลอดบุตร สนใจสัง่ ชอ้ื เอกสาร 0933298140 Line : NFE4567


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook