Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม 2 (5) เรื่องที่ค้างพิจารณา

เล่ม 2 (5) เรื่องที่ค้างพิจารณา

Published by agenda.ebook, 2022-02-03 03:47:20

Description: (5) เรื่องที่ค้างพิจารณา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 25 ปีที่ 4 ครั้งที่ 29 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566

Search

Read the Text Version

-5- ๕. กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๖. สานักงานตารวจแหง่ ชาติ ๗. กรมพลศึกษา ๘. มหาวทิ ยาลัยการกฬี าแหง่ ชาติ ๙. สมาคมกฬี ามวยสากลแหง่ ประเทศไทย ๑๐. สมาคมกีฬามวยอาชพี แหง่ ประเทศไทย ๑๑. สมาคมมวยไทยสมัครเลน่ แห่งประเทศไทย ๑๒. ประชาชนท่วั ไป ๓. ประเดน็ การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ๑. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคาว่า “กีฬามวย” และ “สนามมวย” (รา่ งมาตรา ๓) ๒. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพ่ิมเติมองค์ประกอบคณะกรรมการกีฬามวย (ร่างมาตรา ๔) ดงั น้ี ๒.๑ แก้ไขจาก “ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เป็น “ปลัดกระทรวงการ ท่องเทย่ี วและกีฬา” ๒.๒ เพม่ิ ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ๒.๓ เพม่ิ ผแู้ ทนกระทรวงวัฒนธรรม ๒.๔ เพิ่มผู้แทนกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๒.๕ เพ่มิ ผแู้ ทนสานักงานตารวจแหง่ ชาติ ๒.๖ เพิ่มผแู้ ทนอธิบดกี รมพลศกึ ษาและอธกิ ารบดมี หาวทิ ยาลยั การกีฬาแห่งชาติ ๒.๗ เพ่มิ ผแู้ ทนนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย นายกสมาคมกฬี ามวยอาชีพ แห่งประเทศไทย และนายกสมาคมมวยไทยสมัครเลน่ แหง่ ประเทศไทย ๓. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกาหนดให้มีการส่งเสริมสวัสดิการครอบคลุมบุคคลในวงการ กีฬามวย (รา่ งมาตรา ๘) ๔. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกาหนดระเบียบและกติกามาตรฐานสาหรับการแข่งขันกีฬา มวยท่ีนักมวยมีอายุต่ากว่า ๑๕ ปีบริบูรณ์ โดยจะต้องให้การคุ้มครองความปลอดภัยและมีความเหมาะสมใน การจัดการแข่งขันเป็นการเฉพาะ (รา่ งมาตรา ๙) ๕. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพ่ิมเติมบทบาทหน้าที่ทางธุรการของสานักงาน คณะกรรมการกีฬามวย (ร่างมาตรา ๑๐) ๖. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกาหนดให้นายทะเบียนจัดทาทะเบียนประวัติบุคคลในวงการ กีฬามวยใหเ้ ปน็ ปัจจบุ นั (ร่างมาตรา ๑๑) ๗. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับหลักเกณฑ์การอนุญาตให้จัดการแข่งขันกีฬามวยของนักมวยท่ีมี อายุต่ากว่า ๑๕ ปี ได้เฉพาะเม่ือมีอุปกรณ์ในการป้องกันความปลอดภัย มีกติกามาตรฐานการแข่งขันที่ เหมาะสม และการคานึงถึงอันตรายที่จะส่งผลต่อพัฒนาการของนักมวยท่ีมีอายุต่ากว่า ๑๕ ปี ในระยะยาว (ร่างมาตรา ๑๒) ๘. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมการจดทะเบียนและคุณสมบัตินักมวย (ร่าง มาตรา ๑๓) ดังนี้

-6- (๑) เพ่ิมเติมความเป็นมาตรา ๒๙ (4) “ไม่เคยถูกเพิกถอนการจดทะเบียนเว้นแต่ถูกเพิก ถอนการจดทะเบียนและเวลาได้ลว่ งพน้ มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ หน่งึ ปี” (๒) การเพิ่มเติมมาตรา 29 (5) “มีคุณสมบัติหรือไม่มีลักษณะต้องห้ามอื่นตามท่ี คณะกรรมการกาหนด” (๓) การจดทะเบียนต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไขการจดทะเบียน และ มาตรการเพื่อความปลอดภยั ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง (แกไ้ ขเพิม่ เตมิ มาตรา ๒๙ วรรคสอง) (๔) การกาหนดให้ผู้เยาว์ที่จดทะเบียนเป็นนักมวยแล้วต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทน โดยชอบธรรมในการทานิติกรรมอันเก่ียวกับการเข้าแข่งขันกีฬามวย เว้นแต่กรณีการเข้าแข่งขันกีฬามวยใน สังกัดค่ายมวยที่ได้รับความยินยอมแล้ว ไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมอีก (แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๒๙ วรรคสาม) ๙. ทา่ นเห็นดว้ ยหรือไม่กับการกาหนดให้มกี ารจัดทาทะเบียนนักมวยซ่งึ ไมม่ ีสญั ชาติไทย (รา่ ง มาตรา ๑๕) ๑๐. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการยกเลิกมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อให้นักมวยที่จดทะเบียนนักมวยประเภทใดประเภทหน่ึงแล้ว สามารถเข้าแข่งขันกีฬามวยได้ ทุกประเภทได้ (รา่ งมาตรา ๑๖) ๑๑. ทา่ นเหน็ ดว้ ยหรือไมก่ บั การกาหนดให้ผูต้ ดั สินตอ้ งขอรบั ใบอนุญาต (ร่างมาตรา ๑๗) ๑๒. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมบทกาหนดโทษในการปลอมปน ใด ๆ ใหค้ รอบคลมุ ถงึ การนาเข้าสรู่ ่างกายโดยวธิ ีอืน่ ใดดว้ ย อันเป็นเหตเุ กดิ อันตรายแกส่ ขุ ภาพหรอื ทาใหน้ ักมวย เสอ่ื มถอยกาลังทีจ่ ะชกมวยได้ (ร่างมาตรา ๒๓) ๑๓. ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะอน่ื ๆ (ถา้ ม)ี ๔. ระยะเวลาและวธิ กี ารการรับฟังความคดิ เหน็ ๔.๑ ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็น วันท่ี ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ รวมระยะเวลา จานวน ๙๕ วัน ๔.๒ วิธีการรบั ฟังความคิดเห็น (๑) ผ่านระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th

-7- (๒) สง่ ประเดน็ ไปรบั ฟังผู้ทเ่ี กยี่ วข้องโดยตรง ประกอบด้วย 1. สานกั งานคณะกรรมการกีฬามวย ๒. กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกฬี า ๓. กระทรวงการตา่ งประเทศ ๔. กระทรวงวฒั นธรรม ๕. กระทรวงศึกษาธกิ าร ๖. สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ ๗. กรมพลศึกษา ๘. มหาวทิ ยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ๙. สมาคมกฬี ามวยสากลแห่งประเทศไทย ๑๐. สมาคมกฬี ามวยอาชพี แห่งประเทศไทย ๑๑. สมาคมมวยไทยสมัครเลน่ แหง่ ประเทศไทย ๕ สรุปผลการรบั ฟงั ความคิดเหน็ ๕.๑ ข้อมลู ทัว่ ไปผรู้ ่วมแสดงความคดิ เหน็ จ า ก ร ะ บ บ เ ท ค โ น โ ล ยี ส า ร ส น เ ท ศ ข อ ง รั ฐ ส ภ า www.parliament.go.th จานวน ๐ ราย จากยอดผู้เขา้ เย่ยี มชม จานวน ๕๘๑ คน จากการส่งประเดน็ ไปรับฟังผ้ทู ีเ่ กย่ี วข้องโดยตรง ส่วนราชการ และหน่วยงานของรัฐ ท่ีได้แสดงความคิดเห็นมี จานวน ๓ ราย ประกอบดว้ ย ๑) กรมสง่ เสริมวฒั นธรรม ๒) สานักงานตารวจแห่งชาติ ๓) มหาวิทยาลัยการกฬี าแหง่ ชาติ

-8- ๕.๒ ผลการรับฟัง ผลการรับฟังผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th และจากการสง่ ประเดน็ ไปรบั ฟังผู้ท่เี กยี่ วขอ้ งโดยตรง สรุปไดเ้ ป็นรายประเดน็ ดังน้ี ๑. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพ่ิมเติมบทนิยามคาว่า “กีฬามวย” และ “สนามมวย” (รา่ งมาตรา ๓) มหาวทิ ยาลยั การกฬี าแห่งชาติ เห็นด้วย ๒. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการกีฬามวย (ร่างมาตรา ๔) ดงั นี้ ๒.๑ แก้ไขจาก “ผู้แทนกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา” เป็น “ปลัดกระทรวง การทอ่ งเท่ียวและกีฬา” ๒.๒ เพม่ิ ผู้แทนกระทรวงการตา่ งประเทศ ๒.๓ เพ่ิมผแู้ ทนกระทรวงวัฒนธรรม ๒.๔ เพิ่มผู้แทนกระทรวงศกึ ษาธิการ ๒.๕ เพ่มิ ผแู้ ทนสานกั งานตารวจแห่งชาติ ๒.๖ เพิ่มผแู้ ทนอธิบดีกรมพลศึกษาและอธกิ ารบดมี หาวิทยาลยั การกีฬาแห่งชาติ ๒.๗ เพ่ิมผู้แทนนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย นายกสมาคมกีฬา มวยอาชพี แหง่ ประเทศไทย และนายกสมาคมมวยไทยสมัครเลน่ แห่งประเทศไทย มหาวทิ ยาลยั การกีฬาแหง่ ชาติ เหน็ ดว้ ย ๓. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกาหนดให้มีการส่งเสริมสวัสดิการครอบคลุมบุคคลใน วงการกีฬามวย (ร่างมาตรา ๘) มหาวทิ ยาลัยการกฬี าแหง่ ชาติ เหน็ ดว้ ย ๔. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกาหนดระเบียบและกติกามาตรฐานสาหรับการ แข่งขันกีฬามวยที่นักมวยมีอายุต่ากว่า ๑๕ ปีบริบูรณ์ โดยจะต้องให้การคุ้มครองความปลอดภัยและมี ความเหมาะสมในการจัดการแข่งขันเปน็ การเฉพาะ (รา่ งมาตรา ๙) มหาวิทยาลัยการกฬี าแห่งชาติ เหน็ ดว้ ย ๕. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพ่ิมเติมบทบาทหน้าที่ทางธุรการของสานกั งาน คณะกรรมการกฬี ามวย (ร่างมาตรา ๑๐) มหาวทิ ยาลัยการกีฬาแหง่ ชาติ เหน็ ดว้ ย ๖. ทา่ นเหน็ ดว้ ยหรอื ไมก่ ับการกาหนดใหน้ ายทะเบียนจัดทาทะเบียนประวัตบิ ุคคลใน วงการกีฬามวยให้เป็นปัจจบุ นั (รา่ งมาตรา ๑๑) มหาวทิ ยาลัยการกีฬาแหง่ ชาติ เห็นด้วย

-9- ๗. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับหลักเกณฑ์การอนุญาตให้จัดการแข่งขันกีฬามวยของ นักมวยท่ีมีอายุต่ากว่า ๑๕ ปี ได้เฉพาะเม่ือมีอุปกรณ์ในการป้องกันความปลอดภัย มีกติกามาตรฐานการ แข่งขันท่ีเหมาะสม และการคานึงถึงอันตรายท่ีจะส่งผลต่อพัฒนาการของนักมวยที่มีอายุต่ากว่า ๑๕ ปี ในระยะยาว (ร่างมาตรา ๑๒) มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ เห็นด้วย แต่มีข้อสังเกตเก่ียวกับร่างพระราชบัญญัติ กีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ประเด็นท่ี ๗ แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ตามร่างมาตรา ๑๒ แก้ไขเพ่ิมเติมมาตรา ๒๖ วรรคสอง มาตรา ๑๒ ให้ยกเลิกความในวรรคสองของมาตรา ๒๖ แห่งพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ และใหใ้ ช้ความตอ่ ไปนแ้ี ทน “การขอรับอนุญาตและการออกใบอนุญาตตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กาหนดในกฎกระทรวง การอนุญาตให้จัดการแข่งขันกีฬามวยสาหรบั นักมวยที่มีอายุ ต่ากว่าสิบห้าปีบริบูรณ์ ให้อนุญาตได้เฉพาะเมื่อมีอุปกรณ์ในการป้องกันความปลอดภัยมีกติกามาตรฐานการ แข่งขันเหมาะสมและการคานึงถึงอันตรายท่ีจะส่งผลต่อการพัฒนาการของนักมวยดังกล่าวในระยะยาว ทั้งนี้ ตามระเบยี บทีค่ ณะกรรมการกาหนด” ข้อสังเกต มหาวิทยาลยั เหน็ ดว้ ยในประเด็นดังกลา่ ว และมีขอ้ สงั เกต ในกรณีทม่ี กี ารจัดการแข่งขัน ท่ีมีการประกบคู่ระหว่างนักมวยที่มีอายุต่ากว่าสิบห้าปี ท่ีจะต้องมีอุปกรณ์ในการป้องกันความปลอดภัย และ จัดแข่งขันกับนักมวยที่มีอายุมากกว่าสิบห้าปีท่ีอยู่ในรุ่นน้าหนักเดียวกัน ซ่ึงไม่จาเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการ ป้องกนั ความปลอดภัย เกรงจะมีผลกระทบท่ีก่อให้เกดิ การไดเ้ ปรียบและเสยี เปรียบซึ่งกนั และกัน ๘. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพิ่มเติมการจดทะเบียนและคุณสมบัตินักมวย (รา่ งมาตรา ๑๓) ดงั น้ี (๑) เพมิ่ เตมิ ความเปน็ มาตรา ๒๙ (4) “ไมเ่ คยถกู เพกิ ถอนการจดทะเบียนเว้นแต่ ถกู เพิกถอนการจดทะเบียนและเวลาได้ล่วงพน้ มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ หน่งึ ปี” (๒) การเพม่ิ เติมมาตรา 29 (5) “มคี ุณสมบัติหรือไม่มลี ักษณะตอ้ งหา้ มอ่นื ตามท่ี คณะกรรมการกาหนด” (๓) การจดทะเบียนต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการจดทะเบียน และมาตรการเพือ่ ความปลอดภยั ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง (แกไ้ ขเพิ่มเตมิ มาตรา ๒๙ วรรคสอง) (๔) การกาหนดให้ผู้เยาว์ที่จดทะเบียนเป็นนักมวยแล้วต้องได้รับความยินยอม จากผแู้ ทนโดยชอบธรรมในการทานิตกิ รรมอนั เกี่ยวกับการเข้าแขง่ ขันกีฬามวย เวน้ แต่กรณกี ารเขา้ แข่งขัน กีฬามวยในสังกัดค่ายมวยท่ีได้รับความยินยอมแล้ว ไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมอกี (แก้ไขเพ่มิ เติมมาตรา ๒๙ วรรคสาม) มหาวทิ ยาลยั การกฬี าแหง่ ชาติ เห็นดว้ ย ๙. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการกาหนดให้มีการจัดทาทะเบียนนกั มวยซ่ึงไม่มีสัญชาติ ไทย (รา่ งมาตรา ๑๕) มหาวทิ ยาลยั การกฬี าแห่งชาติ เห็นดว้ ย

- 10 - ๑๐. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการยกเลิกมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ เพื่อให้นกั มวยท่ีจดทะเบียนนักมวยประเภทใดประเภทหน่ึงแล้ว สามารถเข้าแข่งขันกีฬามวย ได้ทกุ ประเภทได้ (ร่างมาตรา ๑๖) มหาวทิ ยาลยั การกฬี าแหง่ ชาติ เหน็ ด้วย ๑๑. ทา่ นเหน็ ดว้ ยหรือไม่กับการกาหนดให้ผู้ตัดสินตอ้ งขอรับใบอนุญาต (รา่ งมาตรา ๑๗) มหาวทิ ยาลัยการกฬี าแหง่ ชาติ เหน็ ด้วย ๑๒. ท่านเห็นด้วยหรือไม่กับการแก้ไขเพ่ิมเติมบทกาหนดโทษในการปลอมปน ใด ๆ ให้ครอบคลุมถึงการนาเข้าสู่ร่างกายโดยวิธีอื่นใดด้วย อันเป็นเหตุเกิดอันตรายแก่สุขภาพหรือทาให้ นักมวยเส่อื มถอยกาลงั ท่ีจะชกมวยได้ (รา่ งมาตรา ๒๓) มหาวิทยาลัยการกฬี าแห่งชาติ เห็นดว้ ย ๑๓. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะอืน่ ๆ (ถ้าม)ี กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม พิจารณาแลว้ ไม่ขัดข้องในประเด็นการรับฟังความคิดเห็นของการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เนื่องจากการปรับปรงุ ร่างพระราชบญั ญัติดังกล่าว จะทาใหบ้ ทนิยามกีฬามวยครอบคลุมมวยไทยรปู แบบต่าง ๆ และเกิดความคล่องตัวในการดาเนินงานจัดการแข่งขันกีฬามวย อีกทั้งการกาหนดระเบียบ หลักเกณฑ์และ วิธีการได้คานึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักมวยที่มีอายุต่ากว่า ๑๕ ปีเป็นสาคัญ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นควรพิจารณาประเด็นในการแก้ไข เพิม่ เตมิ บทกาหนดโทษในการปลอมปนหรือนาเข้าสู่รา่ งกายโดยวิธีอน่ื ใด อนั เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ อนั ตรายต่อสุขภาพ ตามรา่ งมาตรา ๒๓ ใหม้ อี ัตราโทษทเี่ หมาะสมในกรณที ีอ่ าจเกดิ ผลต่อชีวิตของนกั มวย สานักงานตารวจแห่งชาติ พิจารณาแล้ว ขอเรียนว่าไม่มีความเห็นอ่ืน และไม่มี ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเตมิ แต่อยา่ งใด ส่วนที่ ๓ รายงานผลการวเิ คราะหผ์ ลกระทบอันเกิดจากรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ๑. ความเป็นมา สภาพปญั หา ความจาเป็นทีจ่ ะต้องตราพระราชบญั ญัติ โดยที่พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน จึงมีบทบัญญัติ บางประการไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน สมควรปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยกีฬามวย ให้มีความทันสมัยและครอบคลุมมากยิ่งข้ึน ประกอบกับกีฬามวยไทยเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม อย่างแพร่หลายท้ังในและต่างประเทศ และมีรูปแบบการจัดการแข่ งขันท่ีหลากหลายมากขึ้น จึงสมควรขยายความคุ้มครองการแข่งขันกีฬามวยให้ครอบคลุมกีฬามวยรูปแบบอื่นท่ีใช้กฎกติกา ม ว ย ไ ท ย เ ป็ น ส่ ว น ป ร ะ ก อ บ แ ล ะ คุ้ ม ค ร อ ง นั ก ม ว ย ท่ี มี อ า ยุ ต่ า ก ว่ า สิ บ ห้ า ปี ใ ห้ ไ ด้ รั บ ค ว า ม คุ้ ม ค ร อ ง ท่เี หมาะสม จงึ จาเป็นต้องตราพระราชบัญญตั นิ ้ี

- 11 - ๒. ความสอดคล้องของรา่ งพระราชบัญญัติ  ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ แผนแม่บท ภายใตย้ ุทธศาสตร์ชาติ ประเด็น (14) ศักยภาพการกฬี า  แผนการปฏิรูปประเทศ ด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กิจกรรมปฏิรูปที่ ๓ การส่งเสรมิ ประชาชนเปน็ ศนู ย์กลางในการสรา้ งวิถีชีวติ ทางการกีฬาและการออกกาลังกาย อยา่ งทวั่ ถงึ และเทา่ เทียม และการสร้างโอกาสทางการกีฬาและการพฒั นานักกีฬาอาชีพ ๓. ประโยชน์ทปี่ ระชาชนและสังคมจะไดร้ บั ไม่มี ๔. ความสัมพันธห์ รือความใกลเ้ คียงกบั กฎหมายอน่ื ร่างพระราชบญั ญตั ิกีฬามวย (ฉบบั ที่ ..) พ.ศ. .... มคี วามสมั พันธ์กับพระราชบัญญตั ิกฬี ามวย พ.ศ. ๒๕๔๒ ซ่ึงเปน็ กฎหมายหลักที่ใชบ้ งั คับอยู่ ๕. ผลกระทบโดยรวมทอ่ี าจเกิดข้ึนจากกฎหมาย ๕.๑ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ไมม่ ี ๕.๒ ผลกระทบต่อสงั คม ไมม่ ี ๕.๓ ผลกระทบตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มหรือสุขภาวะ ไม่มี ๕.๔ ผลกระทบอ่ืนท่ีสาคัญ (๑) การจดั การแข่งขนั ที่มีการประกบคู่ระหว่างนักมวยที่มีอายุตา่ กว่าสิบห้าปีท่ีจะต้อง มีอุปกรณ์ในการป้องกันความปลอดภัย และจัดแข่งขันกับนักมวยท่ีมีอายุมากกว่าสิบห้าปีที่อยู่ในรุ่นน้าหนัก เดียวกัน ซ่ึงไม่จาเป็นต้องมีอุปกรณ์ในการป้องกันความปลอดภัย จะมีผลกระทบท่ีก่อให้เกิดการได้เปรียบและ เสยี เปรยี บซึง่ กันและกนั (๒) การปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติกีฬามวย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จะทาให้บทนิยาม กีฬามวยครอบคลุมมวยไทยรูปแบบต่าง ๆ และเกิดความคล่องตัวในการดาเนินงานจัดการแข่งขันกีฬามวย อีกทั้งการกาหนดระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการได้คานึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของนักมวยที่มีอายุ ต่ากว่า ๑๕ ปีเป็นสาคัญ (๓) เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นควร พิจารณาประเด็นในการแก้ไขเพ่ิมเติมบทกาหนดโทษในการปลอมปนหรือนาเข้าสู่ร่างกายโดยวิธีอ่ืนใด อันเป็น เหตุให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ตามร่างมาตรา ๒๓ ให้มีอัตราโทษท่ีเหมาะสมในกรณีที่อาจเกิดผลต่อชีวิตของ นักมวย ๖. การกาหนดใหม้ ีระบบอนุญาต อนมุ ตั ิหรือการใช้ดลุ พนิ ิจของเจา้ หนา้ ที่  มี  ไมม่ ี เหตุผลและความจาเปน็ อนุญาตให้จัดการแข่งขันกีฬามวยของนักมวยท่ีมีอายุต่ากว่า ๑๕ ปี ได้เฉพาะเม่ือมีอุปกรณ์ ในการป้องกันความปลอดภัย มีกติกามาตรฐานการแข่งขันท่ีเหมาะสม และการคานึงถึงอันตราย ท่ีจะส่งผลต่อพัฒนาการของนักมวยท่ีมีอายุต่ากว่า ๑๕ ปี ในระยะยาว โดยกาหนดให้คานึงถึงความสาคัญ ในการกาหนดระเบียบ กฎ กติกา และอุปกรณ์ท่ีใช้สาหรับการแข่งขันกีฬามวยของนักมวยเด็กโดยเฉพาะ โดยจะต้องคานึงถึงความปลอดภัย สุขภาพร่างกาย และพัฒนาการของนักมวยเด็กในระยะยาว การนานักมวย ท่ีมีอายุต่ากว่า ๑๕ ปี เข้ามาสู่ระบบการจดทะเบียนท่ีถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการป้องกัน คุ้มครอง

- 12 - นักมวยที่มีอายุต่ากว่า ๑๕ ปี ท้ังนี้ การจดทะเบียนต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการจดทะเบียน และมาตรการเพื่อความปลอดภัยตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง และกาหนดให้ผู้ตัดสินต้องขอรับใบอนุญาต โดยกาหนดมาตรการเพื่อเปน็ การควบคุมคุณภาพผู้ตดั สนิ ให้มีความเข้มข้นมากขน้ึ เนอ่ื งจากผู้ตัดสนิ เป็นหน้าที่ ท่ีมีความสาคัญ และมีผลทาให้วงการมวยเป็นท่ีน่าเชื่อถือ ผู้ตัดสินจึงควรถูกให้ดาเนินการเข้าระบบในลักษณะ การขอใบอนญุ าตแทนการจดทะเบียน ๗. การกาหนดให้มรี ะบบคณะกรรมการ  มี  ไมม่ ี เหตุผลและความจาเป็น แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบคณะกรรมการกีฬามวยเพ่ือให้คณะกรรมการกีฬามวยมีท่ีมาจาก ผู้ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงหรือมีความเก่ียวข้องกับกีฬามวยโดยตรง เพื่อเพิ่มบทบาทในการ เผยแพร่มวยไทยในต่างประเทศ การส่งเสริมการชกมวยในต่างประเทศ รวมถึงการส่งเสริมให้ชาวต่างชาติ เข้ามาชกมวยในประเทศไทย เช่น การออกหนังสือเดินทางให้แก่นักมวยไทยไปชกมวยในต่างประเทศและ การอานวยความสะดวกให้แก่นักมวยชาวต่างชาติในการเดินทางเข้ามาชกมวยในเมืองไทย เพ่ือการส่งเสริม และการอนุรักษ์ศิลปะมวยไทยและการขึ้นบัญชีภมู ิปัญญามรดกมวยไทย เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมใหม้ ีการ เรียนการสอนและบรรจุมวยไทยในหลักสูตรการศึกษา เพ่ือให้การบังคับใช้พระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ. 2542 ให้เกิดประสิทธิภาพ เพ่ือการส่งเสริมการศึกษากีฬามวย การพัฒนาหลักสูตรการศึกษากีฬามวย และการพัฒนาสถาบนั มวยไทยแหง่ ชาติ ๘. บทกาหนดโทษ  ไมม่ ี  โทษทางอาญา  โทษทางปกครอง  โทษปรับเปน็ พนิ ัย  โทษอปุ กรณ์ เหตผุ ลและความจาเป็น เพ่ือให้บทกาหนดโทษในการปลอมปน เพ่ือให้นักมวยเสพย์หรือใช้ครอบคลุม ถึงการนาเข้าสู่ร่างกายโดยวิธีอ่ืนใดด้วย อันเป็นเหตุเกิดอันตรายแก่สุขภาพหรือทาให้นักมวยเสื่อมถอยกาลังที่ จะชกมวยได้ สว่ นท่ี ๔ การเปดิ เผยรายงานผลการรบั ฟังความคดิ เหน็ และรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดข้ึน จากรา่ งพระราชบัญญัติ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร รั บ ฟั ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น แ ล ะ วิ เ ค ร า ะ ห์ ผ ล ก ร ะ ท บ ที่ อ า จ เ กิ ด ข้ึ น จ า ก ร่ า ง พระราชบญั ญตั ิที่เสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มสี ิทธเิ ลือกตั้ง ไดเ้ ปิดเผยรายงานผลการรับฟังความ คิดเห็นและรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดจากร่างพระราชบัญญัติ ทางเว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th แล้วตง้ั แตว่ ันที่ ๕ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔

- 13 - คณะกรรมการรับฟังความคดิ เห็นและวเิ คราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น จากร่างพระราชบัญญตั ทิ ่ีเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มสี ิทธิเลือกตั้ง สานกั งานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร





















รายงานผลการรับฟังความคดิ เหน็ และรายงานผลการวิเคราะหผ์ ลกระทบท่ีอาจเกิดจากรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ส่วนที่ ๑ ข้อมูลพ้นื ฐานของรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ๑. ร่างพระราชบญั ญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  กฎหมายใหม่  แก้ไขเพิ่มเติม  ยกเลิก ๒. หลกั การและเหตผุ ล ๒.๑ หลกั การ แกไ้ ขเพ่มิ เติมพระราชบัญญตั วิ า่ ด้วยการกระทาความผิดเกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ดังต่อไปน้ี (๑) แก้ไขเพ่มิ เติมฐานความผิดและบทกาหนดโทษในการกระทาความผดิ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (แก้ไขเพม่ิ เติมมาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๖) (๒) แก้ไขเพม่ิ เติมฐานความผิดและอานาจของศาลให้ดาเนินการตามท่ีเหน็ สมควรเพ่ือบรรเทาความ เสียหายท่เี กิดจากการกระทาความผดิ (แก้ไขเพิม่ เตมิ มาตรา ๑๖/๑ และมาตรา ๑๖/๒) (๓) แก้ไขเพ่มิ เติมอานาจหน้าทีใ่ นการยน่ื ต่อศาลเพื่อขอระงับการแพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ (แก้ไขเพ่มิ เติมมาตรา ๒๐) ๒.๒ เหตุผล โดยท่ีกรณีบุคคลนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์อันจะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทา ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มีเจตนารมณ์ของกฎหมายเพ่ือเอาผิดการกระทาต่อระบบ คอมพิวเตอร์ แต่พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ได้มี การแก้ไขบทบัญญัติดังกล่าวทาให้สามารถตีความได้กว้างข้ึนมาก ห่างไกลออกจากเจตนารมณ์เดิม จนครอบคลุม ไปถึงการแสดงความคิดเห็นบนโลกออนไลน์ได้อย่างกว้างขวาง และคาว่า “ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ ประชาชน” ถือว่าเป็นเรื่องท่ีพิสูจน์กันได้ยาก และไม่ชัดเจนว่าประชาชนที่ได้รับข้อมูลแล้วต่ืนตระหนกตกใจ กนั แคไ่ หน จงึ จะนาไปสกู่ ารฟ้องร้องดาเนนิ คดเี อาผิดกับเน้ือหาบนโลกออนไลน์ ซึง่ เป็นเครอ่ื งมอื สาหรบั การจากัด การใช้เสรีภาพในการแสดงความคดิ เหน็ บนโลกออนไลน์ ไม่ตรงตามเจตนารมณข์ องกฎหมาย จงึ สมควรตอ้ งมีการ แก้ไขเพิ่มเติมฐานความผิดและบทกาหนดโทษในการกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสมและ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้และสอดคล้องกับบทบัญญัติของกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง ตลอดจน สามารถรบั มอื กบั สถานการณส์ ังคมในปจั จบุ ันได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชบญั ญัติน้ี ๓. ผู้เสนอรา่ งพระราชบัญญัติ  สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร  ประชาชนเขา้ ช่ือเสนอกฎหมาย นายพธิ า ลมิ้ เจรญิ รตั น์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กบั คณะ เป็นผู้เสนอ

-3- สว่ นที่ ๒ การรับฟังความคดิ เหน็ และสรปุ ผลการรบั ฟังความคดิ เห็น ๑. ข้อมูลประกอบการรบั ฟังความคิดเห็น ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... ฉบับน้ี มีหลักการ และเหตุผลเพ่ือแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และ ท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ซ่ึงเป็น ผลสืบเน่ืองจากการท่ีกฎหมายดังกล่าวมีการแก้ไขเพ่ิมเติมใน พ.ศ. ๒๕๖๐ ท่ีผ่านมา อันทาให้บทบัญญัติบางมาตรา ไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับน้ีตั้งแต่ต้น เน่ืองจากทาให้ผู้บังคับใช้กฎหมายสามารถตีความบทบัญญัติ ได้อย่างกว้างขวางและมีการนาบทบัญญัติมาใช้เป็นเคร่ืองมือเพื่อจากัดเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความ คดิ เห็นผา่ นสือ่ สังคมออนไลน์ ซง่ึ เสรภี าพในการแสดงความคิดเห็นเป็นหลักการที่รฐั ธรรมนูญได้บัญญัติรับรองและ คุ้มครองไว้ในมาตรา ๓๔ ความว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการส่ือสารความหมายโดยวิธอี ่ืน การจากัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทามิได้ เวน้ แตโ่ ดยอาศยั อานาจ ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีตราข้ึนเพ่ือรักษาความมั่นคงของรัฐ เพ่ือคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน” ซ่ึงจาก หลักการและข้อยกเว้นของรัฐธรรมนูญเม่ือพิจารณาเปรียบเทียบกับบทบัญญัติตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการ กระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพ่ิมเติมนั้นย่อมเห็นได้ว่าบทบัญญัติของกฎหมาย ดังกล่าวได้กาหนดข้อยกเว้นเพื่อการจากัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนสาหรับบางกรณีที่เกิน กวา่ สมควร ประกอบกับการที่บทบญั ญัติบางมาตราใช้คาวา่ “ก่อใหเ้ กิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน” มากาหนด เป็นองค์ประกอบความผิดนั้นย่อมเป็นการใช้ถ้อยคาที่สามารถพิสูจน์ได้ยากและไม่มีความชัดเจน จึงนาไปสู่การ ฟ้องร้องดาเนินคดีเอาผิดกับประชาชนที่แสดงความคิดเห็นผ่านส่ือสังคมออนไลน์ซึ่งไม่ตรงตามเจตนารมณ์เดิม ของกฎหมาย ดว้ ยเหตุน้ีจงึ ได้มกี ารเสนอแกไ้ ขเพม่ิ เติมบทบัญญัตบิ างมาตราเก่ยี วกับฐานความผิด บทกาหนดโทษ อานาจของศาล และอานาจหน้าที่ในการยื่นคาร้องต่อศาลให้มีความเหมาะสม และเป็นไปอย่างสอดคล้องกับ เจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้และสอดคลอ้ งกับบทบญั ญัติของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสามารถรบั มือกับ สถานการณท์ างสังคมในปัจจบุ ันไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ จึงจาเปน็ ตอ้ งตราพระราชบัญญตั นิ ้ี ทั้งนี้ เพ่ือทาให้การรับฟังความคิดเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีเป็นไปด้วยความ รอบคอบตามกลไกของรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ จึงสามารถสรุปสาระสาคัญของร่างพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซง่ึ ได้มีการเสนอแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ เปน็ ดังน้ี ๑. แก้ไขเพ่ิมเติมฐานความผิดและบทกาหนดโทษในการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (แก้ไข เพม่ิ เตมิ มาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๖) มาตรา ๑๔ วรรคหน่ึง มกี ารเสนอแกไ้ ขเพิม่ เตมิ ฐานความผิดจากเดิมซง่ึ เปน็ ฐานความผิดสาหรับการนาเข้า เผยแพร่ และส่งต่อข้อมูล กรณีโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงได้นาเข้า เผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลท่ีบิดเบือนหรือ ปลอมข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือข้อมูลเก่ียวกับความม่ันคงประการต่าง ๆ หรือข้อมูลลามกท่ีประชาชนอาจเข้าถึงได้ เปล่ียนเป็น “ฐานความผิดกรณีหลอกลวงผู้อื่นด้วยการนาเข้า เผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยทุจริต” ซึ่งต้องเป็นการกระทาที่ผู้กระทารู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลปลอม ไม่ว่าจะเป็นการปลอมข้อมูลทั้งหมด หรือบางส่วน และการหลอกลวงน้ันทาให้ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทาให้ผู้ถูก หลอกลวงหรือบุคคลท่ีสาม ทา ถอน หรือทาลายเอกสารสิทธิ และมีเจตนาพิเศษท่ีต้องกระทาโดยทุจริต ท้ังนี้ กาหนดให้ฐานความผิดที่เสนอแก้ไขเพ่ิมเติมเป็นความผิดอันยอมความได้ซ่ึงหลักการน้ีมีการเสนอไว้ใน มาตรา ๑๔ วรรคสาม ส่วนมาตรา ๑๔ วรรคสอง มีการเสนอแก้ไขเพ่ิมเติมเพ่ือกาหนดให้การกระทาความผิด

-4- ตามวรรคหนึ่งหากเป็นการกระทาต่อประชาชนผู้กระทาต้องได้รับโทษหนักข้ึน จากแต่เดิมท่ีมีการกาหนดโทษ สาหรับการกระทาความผิดตามวรรคหน่งึ ทม่ี ไิ ดก้ ระทาตอ่ ประชาชนผกู้ ระทาต้องได้รับโทษเบาลง นอกจากนย้ี ังมีการเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมอัตราโทษในมาตรา ๑๔ วรรคหน่งึ ดังกล่าว ซง่ึ กาหนดเป็น โทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปีหรือปรับไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ โดยเป็นการกาหนดโทษท่ีลดลงจาก กฎหมายเดิมซึ่งกาหนดโทษจาคุกไม่เกิน ๕ ปีหรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือท้ังจาทั้งปรับ ส่วนมาตรา ๑๔ วรรคสอง กรณีการกระทาความผิดตามวรรคหน่ึงได้กระทาตอ่ ประชาชน กาหนดโทษท่ีสูงขึ้นโดยมีโทษจาคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือท้ังจาทั้งปรับ จากท่ีกฎหมายเดิมกาหนดโทษสาหรับการกระทาความผิดตาม วรรคหน่ึงซ่ึงมิได้กระทาต่อประชาชนเปน็ โทษทีต่ ่ากว่านโ้ี ดยมีโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปหี รือปรับไม่เกนิ ๖๐,๐๐๐ บาท รวมทัง้ มกี ารเสนอให้แก้ไขเพ่ิมเติมอัตราโทษในมาตรา ๑๖ วรรคหนงึ่ กรณคี วามผิดฐานนาขอ้ มลู ภาพของผู้อื่นท่ี สร้างขึ้น ตัดต่อ เติม ดัดแปลงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการที่น่าจะเสียช่ือเสียง ถูกดูหม่ินถูกเกลียดชัง หรืออับอาย ซ่ึงกาหนดเฉพาะโทษปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น โดยเป็นการกาหนดโทษที่ต่างจากกฎหมาย เดิม ซ่งึ กาหนดให้มที ั้งโทษจาคุกไม่เกนิ ๓ ปี และปรบั ไม่เกนิ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ๒. แก้ไขเพ่ิมเติมฐานความผิดและอานาจของศาลให้ดาเนินการตามที่เห็นสมควรเพื่อบรรเทาความ เสียหายท่ีเกดิ จากการกระทาความผิด (แก้ไขเพ่มิ เตมิ มาตรา ๑๖/๑ และมาตรา ๑๖/๒) มาตรา ๑๖/๑ มกี ารเสนอแก้ไขเพ่ิมเติมกรณีท่ีกาหนดให้ศาลอาจสามารถส่ังให้ทาลายข้อมูล หรือให้ โฆษณาหรอื เผยแพร่คาพิพากษาท้ังหมดหรือแตบ่ างสว่ น หรือให้ดาเนนิ การอน่ื ตามท่ีศาลเห็นสมควร ซง่ึ กฎหมาย เดมิ กาหนดให้ศาลมีอานาจสั่งดังกล่าวเฉพาะคดีที่เป็นความผิดตามมาตรา ๑๔ กรณคี วามผิดฐานนาเข้า เผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความม่ันคง หรอื ข้อมลู คอมพวิ เตอร์อนั เป็นความผิดเก่ียวกับความมั่นคง และการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะลามก และมาตรา ๑๖ กรณีความผิดฐานนาข้อมูลภาพของผู้อ่ืนที่สร้างข้ึน ตัดต่อ เติม ดัดแปลงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยประการ ที่น่าจะเสียช่ือเสียง ถูกดูหม่ินถูกเกลียดชงั หรืออับอาย โดยร่างกฎหมายน้ีเสนอให้มีการแก้ไขเพ่ิมเติมในสว่ นต้น โดยตัดความวา่ “มาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๖ ซ่ึงม”ี ออก เพื่อใหศ้ าลอาจสามารถส่ังให้จาเลยดาเนนิ การดงั กล่าว ได้ในทกุ ฐานความผดิ ตามทศ่ี าลพพิ ากษาวา่ จาเลยมีความผดิ อันเปน็ ไปตามท่ีศาลเหน็ สมควร มาตรา ๑๖/๒ มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมกรณีการกาหนดโทษสาหรับผู้ท่ีฝ่าฝืนคาส่ังศาลในการให้ ทาลายข้อมูลตามมาตรา ๑๖/๑ ซึ่งกฎหมายเดิมกาหนดให้ผู้ท่ี “รู้”ว่าศาลส่ังเท่านั้น แต่ร่างกฎหมายท่ีเสนอได้ กาหนดให้ทั้งผู้ที่ “รู้หรือได้รับแจ้งให้รู้” ด้วย นอกจากนี้ยังได้เสนอแก้ไขเพ่ิมเติมความให้สอดคล้องกับการเสนอ แก้ไขเพ่ิมเติมในมาตรา ๑๖/๑ โดยจากเดิมท่ีกาหนดให้ผู้ฝ่าฝืนมาตรา ๑๖/๒ ต้องระวางโทษก่ึงหนึ่งของโทษที่ บัญญัติไว้ใน“มาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๖ แล้วแต่กรณี ” โดยร่างกฎหมายน้ีเสนอให้ตัดความว่า “มาตรา ๑๔ หรือมาตรา ๑๖ แล้วแต่กรณี” ออก โดยกาหนดให้ผู้ฝ่าฝนื ต้องระวางโทษกึ่งหน่ึงของโทษท่ีบัญญัตไิ ว้ในกฎหมาย ทีม่ คี าพิพากษาวา่ จาเลยมคี วามผิด ๓. แก้ไขเพ่ิมเติมอานาจหนา้ ที่ในการยื่นคาร้องต่อศาลเพื่อขอระงับการแพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพวิ เตอร์ (แก้ไขเพิม่ เตมิ มาตรา ๒๐) มาตรา ๒๐ มีการเสนอแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับอานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าท่ีในการยน่ื คาร้องพร้อมแสดง พยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอานาจ เพื่อขอให้ศาลมีคาส่ังให้ระงับการทาให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ จากกฎหมายเดิมท่ีกาหนดให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีต้องดาเนินกระบวนการดังกล่าวโดยได้รับความเห็นชอบจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม (รัฐมนตรี) และกาหนดให้รัฐมนตรีสามารถแต่งตั้ง คณะกรรมการกล่ันกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์เพ่ือดาเนินการสาหรับกรณีที่ทาให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีขัดต่อความสงบ

-5- เรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนมีการทาให้แพร่หลาย โดยเสนอแก้ไขเพิ่มเติมให้การยื่นคาร้องต่อศาล ดาเนินการโดยเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอานาจหน้าท่ีทาการสอบสวนในการกระทาความผิดตามกฎหมาย หรือพนักงาน สอบสวนตามประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญาได้ร้องขอให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามกฎหมายน้ีเปน็ ผูด้ าเนินการ โดยร่างพระร าช บัญ ญัติ น้ี ได้ ตั ดก าร ดา เนิ น กา ร ข อง ค ณ ะกร รม ก าร กลั่ น กร อ งข้ อ มูล ค อ ม พิว เต อ ร์ ที่ แ ต่ ง ตั้ ง โดยรฐั มนตรอี อกท้ังหมด นอกจากนี้ยังได้แก้ไขเพ่ิมเติมลักษณะของข้อมลู คอมพวิ เตอร์ท่ีศาลจะส่ังให้ระงับหรือลบได้ให้มีความ เหมาะสมยงิ่ ข้ึน จากท่กี ฎหมายเดิมกาหนดให้เป็นข้อมูลที่อาจกระทบต่อความมน่ั คงตามประมวลกฎหมายอาญา และข้อมูลที่เป็นความผิดอาญาตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาหรือกฎหมายอื่นซึ่งขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือ ศลี ธรรมอันดีของประชาชน เปล่ียนเป็นข้อมลู ที่เป็นความผิดตามกฎหมายเก่ียวกับทรัพยส์ นิ ทางปัญญา ขอ้ มลู ท่ีเป็น ความผิดตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ข้อมูลท่ีบิดเบือนหรือปลอม หรือข้อมูลเท็จ โดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนอันเป็นการกระทาความผิดฐานหมิ่นประมาท ตามประมวล กฎหมายอาญาหรือกฎหมายอ่ืน และข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา และมีการ เสนอเพ่ิมหลกั การใหค้ าส่งั ศาลในกรณนี ี้มีผลได้ไม่เกนิ ๓๖๕ วัน และใหเ้ ปดิ เผยต่อสาธารณะ ๒. ผ้เู กีย่ วขอ้ งทไี่ ด้รับหรืออาจได้รับผลกระทบจากรา่ งพระราชบญั ญตั ิ ๒.๑ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงดจิ ทิ ลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคม ๒.๒ ปลดั กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม ๒.๓ ผู้บญั ชาการตารวจแห่งชาติ ๒.๔ ผ้อู านวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สานักงานตารวจแห่งชาติ ๒.๕ เจา้ หน้าท่ีศนู ยป์ ราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยสี ารสนเทศ สานักงานตารวจแห่งชาติ ๒.๖ พนกั งานเจา้ หน้าที่ผซู้ ่ึงรัฐมนตรีแตง่ ต้งั ให้ปฏิบตั กิ ารตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี ๒.๗ เจา้ หน้าทีอ่ ่นื ๆ ทเี่ กี่ยวขอ้ ง ๒.๘ ผูใ้ ห้บริการแก่บคุ คลอน่ื ในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต ๒.๙ ผูใ้ ห้บรกิ ารเกบ็ รักษาขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์เพ่ือประโยชน์ของบคุ คล ๒.๑๐ ประชาชนทวั่ ไปผ้ใู ชบ้ ริการ ๓. ประเด็นการรบั ฟงั ความคิดเหน็ ๓.๑ ท่านเห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมฐานความผิดตามมาตรา ๑๔ โดยกาหนดเฉพาะความผิดฐานหลอกลวง ผูอ้ ่นื ดว้ ยการนาเขา้ เผยแพรห่ รอื ส่งต่อข้อมูลคอมพวิ เตอร์โดยทุจริต ซึ่งเป็นความผิดอนั ยอมความได้ หรือไม่ ๓.๒ ท่านเห็นด้วยการแก้ไขเพ่ิมเติมบทกาหนดโทษตามมาตรา ๑๔ โดยกาหนดให้มีอัตราโทษจาคุกและ ปรับลดลง และเห็นด้วยกับแก้ไขเพ่ิมเติมบทกาหนดโทษตามมาตรา ๑๖ ให้ไม่มีโทษจาคุก โดยให้คงเหลือเฉพาะ โทษปรับเพียงอยา่ งเดยี ว หรอื ไม่ ๓.๓ ท่านเห็นด้วยกับแก้ไขเพ่ิมเติมอานาจของศาลตามมาตรา ๑๖/๑ เพ่ือให้ศาลสามารถส่ังให้จาเลย ดาเนินการทาลายข้อมูล หรือประกาศหรือเผยแพร่คาพิพากษา หรือดาเนินการอื่นเพื่อบรรเทาความเสียหาย ไดใ้ นทกุ ฐานความผิดตามท่ีศาลเห็นสมควร หรอื ไม่

-6- ๓.๔ ท่านเห็นด้วยกับแก้ไขเพิ่มเติมอานาจของศาลตามมาตรา ๑๖/๒ เพื่อกาหนดอัตราโทษสาหรับ ผู้ฝ่าฝืนคาส่ังศาลในการทาลายข้อมูล โดยให้ได้รับโทษเป็นก่ึงหน่ึงของโทษตามกฎหมายท่ีมีคาพิพากษาว่าจาเลย มคี วามผิด หรือไม่ ๓.๕ ท่านเห็นด้วยกับการแก้ไขเพ่ิมเติมอานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าท่ีในการย่ืนคาร้องต่อศาลเพื่อขอระงับ หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๒๐ โดยมิให้เป็นอานาจหน้าท่ีของเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจาก รัฐมนตรี รวมถึงเห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะของข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีศาลจะส่งให้ระงับหรือลบได้ให้มี ความเหมาะสมย่งิ ขนึ้ หรือไม่ ๔. ระยะเวลาและวิธกี ารการรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ๔.๑ ระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็น วันท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๔ ถึงวันท่ี ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ รวมระยะเวลา จานวน ๑๔๑ วัน นบั จากวนั ขนึ้ เว็บไซต์ ถงึ วันปิดการรบั ฟงั ๔.๒ วิธกี ารรบั ฟังความคดิ เห็น (๑) ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรฐั สภา www.parliament.go.th

-7- (๒) สง่ ประเด็นไปรับฟงั ผู้ทีเ่ ก่ยี วข้องโดยตรง คือ - รฐั มนตรีว่าการกระทรวงดจิ ิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม - ปลดั กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม - ผูบ้ ญั ชาการตารวจแห่งชาติ - ผอู้ านวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สานักงานตารวจแหง่ ชาติ - อธบิ ดีกรมสอบสวนคดีพเิ ศษ - กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทโี อที จากัด (มหาชน) - กรรมการผู้จดั การใหญ่ บริษัท ทรู คอร์ปอเรช่ัน จากัด (มหาชน) - ประธานเจา้ หน้าท่ีบรหิ าร บริษทั แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จากัด (มหาชน) - ประธานเจ้าหนา้ ท่บี ริหาร บริษทั โทเทิล่ คอมมนู ิเคชนั่ จากัด (มหาชน) - ประธานเจ้าหน้าทบ่ี รหิ าร บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จากดั - ประธานเจา้ หนา้ ทบี่ รหิ าร บริษัท เฟซบุ๊ก (ประเทศไทย) จากดั - กรรมการผู้จดั การใหญ่ บริษัท กูเกิล (ประเทศไทย) จากัด ๕ สรปุ ผลการรับฟงั ความคดิ เหน็ ๕.๑ ข้อมูลทวั่ ไปผรู้ ว่ มแสดงความคดิ เห็น จากระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th จานวน ๒๖ ราย ซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่อื่น ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไปผู้ใช้บริการ ได้แก่ ผู้ประกอบอาชีพค้าขาย/ทาธุรกิจส่วนตัว ผ้ปู ระกอบอาชีพรับจ้าง และนักเรยี น/นกั ศกึ ษา จากการส่งประเด็นไปรบั ฟงั ผ้ทู เี่ กี่ยวขอ้ งโดยตรง ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานภาคเอกชน ได้แสดงความคิดเห็นมี จานวน ๔ ราย คือ กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม สานักงานตารวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และบริษัท ทรู คอร์ปอเรช่ัน จากัด (มหาชน) ๕.๒ ผลการรบั ฟงั ผลการรับฟังผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐสภา www.parliament.go.th และจากการ ส่งประเดน็ ไปรับฟงั ผูท้ เ่ี ก่ียวข้องโดยตรง สรปุ ได้เป็นรายประเด็นดงั น้ี ๑. ท่านเห็นด้วยกับการแก้ไขเพ่ิมเตมิ ฐานความผิดตามมาตรา ๑๔ โดยกาหนดเฉพาะความผดิ ฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการนาเข้า เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยทุจริต ซ่ึงเป็นความผิดอันยอม ความได้ หรอื ไม่ เหน็ ด้วย ไม่เห็นด้วย ผู้แสดงความคิดเห็นจากเว็บไซต์ จานวน ๑๓ คน ผแู้ สดงความคิดเห็นจากเว็บไซต์ จานวน ๑๓ คน เหน็ ดว้ ยกับประเด็นคาถามน้ี แตม่ ไิ ด้แสดงความ ไมเ่ หน็ ดว้ ยกับประเดน็ คาถามน้ี โดยมีความเห็น คิดเห็นไวแ้ ต่อยา่ งใด (เวบ็ ไซต์) บางส่วน คือ - ไม่เห็นดว้ ยเนือ่ งจากการนาเข้าข้อมูลอันเป็นเทจ็ ส่วนใหญ่เป็นไปเพ่ือให้รา้ ยหน่วยงานของรฐั

เหน็ ด้วย -8- ไม่เหน็ ดว้ ย - ควรเปน็ ความผิดอนั ยอมความไม่ได้ เพราะถือว่า เป็นการเผยแพร่ขา่ วปลอม หลอกลวงชาวบา้ น จงึ ต้องดาเนินคดีให้ถงึ ที่สุด - ไมค่ วรลดอัตราโทษ แต่ควรเพ่ิมอัตราโทษ และ ไม่ควรเป็นการกระทาความผดิ ทีย่ อมความได้ (เว็บไซต์) ไมเ่ หน็ ดว้ ย เนอื่ งจากกรณกี ารแกไ้ ขเพมิ่ เติมมาตรา ๑๔ เนือ่ งจากบริบทของสงั คมไทยยังมคี วามจาเป็นจะตอ้ งให้ ความสาคญั กบั ความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะใน มาตรา ๑๔ (๒) (๓) ยง่ิ ต้องสมควรคงไว้ อกี ท้ังการ เผยแพรข่ ้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีมเี นื้อหาลามกและยวั่ ยุ กามารมณใ์ นทางเพศอาจขดั ต่อศลี ธรรมอันดีของ ประชาชนซง่ึ จะเป็นภยั ต่อสังคมได้ จงึ สมควรคง มาตรา ๑๔ (๔) ไว้เชน่ กัน สาหรับในสว่ นความผิดตาม มาตรา ๑๔ (๑) นัน้ การตัดขอ้ ยกเวน้ ทีไ่ ม่ใหร้ วมถึง ความผดิ หมน่ิ ประมาทออกไป ย่อมไมเ่ ปน็ ไปตาม เจตนารมณข์ องกฎหมายตามทไี่ ดม้ ีการแก้ไขเพิ่มเติม โดยพระราชบัญญตั ิว่าดว้ ยการกระทาความผดิ เก่ียวกับ คอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ทต่ี ้องการคุ้มครอง ประชาชนโดยท่วั ไปมใิ ชบ่ ุคคลใดบคุ คลหนง่ึ ดงั นั้น จึงไม่เหน็ พอ้ งกับการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรานี้ (กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม) ไม่เหน็ ดว้ ย เนือ่ งจากบทบัญญตั ทิ ่บี ังคับใช้ใน ปัจจุบันตามมาตรา ๑๔ แหง่ พระราชบญั ญัติว่าดว้ ย การกระทาความผิดเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ มคี วามครอบคลมุ และเหมาะสมแล้ว การแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ มาตราดังกล่าว โดยกาหนดเฉพาะฐานความผิด หลอกลวงผอู้ นื่ โดยการนาเข้า เผยแพร่หรอื ส่งต่อ ขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ปลอมในลักษณะดังกล่าว ทาให้มีองคป์ ระกอบความผดิ คล้ายกบั ความผดิ ฐาน ฉ้อโกงซ่ึงบญั ญตั ิเปน็ ความผิดไว้ตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา ๓๔๑ อยู่แล้ว อกี ทั้งยงั เป็นการมุ่งเน้นไป ท่ีการกระทาความผิดทมี่ ุ่งหมายตอ่ ทรพั ย์ จงึ อาจไม่ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติว่าด้วยการ กระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐

เหน็ ด้วย -9- ไมเ่ ห็นด้วย ที่ม่งุ เน้นไปท่ีการป้องกันและปราบปรามการกระทาต่อ ขอ้ มูลในระบบคอมพวิ เตอร์ นอกจากน้ีการแกไ้ ข เพม่ิ เติมในลักษณะดงั กลา่ วจะเป็นเหตใุ ห้การนาเขา้ สู่ ระบบคอมพวิ เตอร์ซงึ่ เป็นข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการ ทน่ี า่ จะเกิดความเสียหายต่อการรกั ษาความมั่นคง ปลอดภัยของประเทศ หรอื โครงสร้างพน้ื ฐานอันเปน็ ประโยชนส์ าธารณของประเทศ หรอื ก่อให้เกิดความตื่น ตระหนกแก่ประชาชน และการนาเข้าสรู่ ะบบ คอมพิวเตอร์ ซ่ึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิด เกี่ยวกับความมัน่ คงแหง่ ราชอาณาจกั รหรอื ความผดิ เกยี่ วกับการกอ่ การรา้ ยตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ทีม่ ีลักษณะลามกที่ประชาชน ทั่วไปเข้าถึงได้ไม่เปน็ ความผดิ อีกต่อไป ซึ่งไม่สอดคล้อง กับสถานการณก์ ารกระทาความผิดท่ีมีความซับซ้อนตาม พฒั นาการทางเทคโนโลยีในปจั จุบนั ทั้งน้ี ในสว่ น ข้อความตามมาตรา ๑๔ วรรคหนง่ึ (๒) แห่ง พระราชบัญญัติว่าดว้ ยการกระทาความผิดเกย่ี วกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ ท่บี ัญญัติว่า “...หรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความตืน่ ตระหนกแก่ประชาชน” อาจแก้ไข เพม่ิ เติมเปน็ “...หรือก่อใหเ้ กิดความตนื่ ตระหนกแก่ ประชาชนเปน็ วงกว้าง” เพื่อให้เกิดความชัดเจนขนึ้ ได้ (สำนกั งำนตำรวจแห่งชำต)ิ ปัจจบุ นั กรมสอบสวนคดพี เิ ศษมกี ารดาเนินคดี พเิ ศษซ่ึงเปน็ ความผดิ ตามมาตรา ๑๔ แห่ง พระราชบญั ญัติว่าด้วยการกระทาความผดิ เก่ยี วกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพ่ิมเตมิ หลาย คดี บางคดีอยู่ระหวา่ งการพิจารณาของพนักงาน อัยการ บางคดอี ยรู่ ะหว่างการพจิ ารณาของศาล หากมกี ารแก้ไขฐานความผดิ ตามมาตรา ๑๔ โดย ยกเลิกฐานความผิดเดิมแลว้ กาหนดเป็นความผดิ ฐาน ปลอมข้อมลู คอมพวิ เตอร์ขน้ึ ใหม่ จะทาให้การกระทา ความผิดตามมาตรา ๑๔ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๕) ของ พระราชบญั ญตั ิดงั กลา่ วไมเ่ ป็นความผิดอีกต่อไป ทาให้ ไม่อาจดาเนนิ คดีกบั ผู้กระทาความผดิ ได้ ซ่ึงจะส่งผล กระทบตอ่ คดพี เิ ศษทั้งที่อยรู่ ะหวา่ งการดาเนินคดีของ พนกั งานสอบสวนคดีพเิ ศษ การสั่งคดีของพนักงาน

เห็นด้วย - 10 - ไม่เหน็ ดว้ ย อยั การ รวมถึงการพิจารณาคดขี องศาลอยา่ งไม่อาจ หลีกเลี่ยงได้ อีกท้งั จะสง่ ผลให้การกระทาความผดิ ใน ลกั ษณะดงั กล่าวมีแนวโน้มที่อาจกอ่ ให้เกดิ ความ เสียหายอย่างรุนแรงต่อความสงบเรยี บร้อยและ ศลี ธรรมอันดีของประชาชน รวมท้งั โครงสรา้ งพ้นื ฐาน สาคัญของประเทศ และยังอาจเปน็ ช่องทางในการ เผยแพรเ่ นื้อหาหรือสื่อผิดกฎหมายอนั นามาซงึ่ ปญั หา สังคมทม่ี ีความรุนแรงเพ่มิ มากขนึ้ (กรมสอบสวนคดพี ิเศษ) ๒. ท่านเห็นด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมบทกาหนดโทษตามมาตรา ๑๔ โดยกาหนดให้มีอัตราโทษ จาคุกและปรับลดลง และเห็นด้วยกับแก้ไขเพิ่มเติมบทกาหนดโทษตามมาตรา ๑๖ ให้ไม่มีโทษจาคุก โดยให้ คงเหลอื เฉพาะโทษปรบั เพยี งอยา่ งเดียว หรอื ไม่ เหน็ ด้วย ไมเ่ หน็ ด้วย ผ้แู สดงความคดิ เห็นจากเว็บไซต์ จานวน ๑๓ ผู้แสดงความคดิ เห็นจากเว็บไซต์ จานวน ๑๓ คน คน เหน็ ด้วยกับประเด็นคาถามนี้ แต่มไิ ดแ้ สดงความ ไม่เห็นด้วยกบั ประเดน็ คาถามน้ี โดยมีความเหน็ คดิ เห็นไวแ้ ต่อย่างใด (เวบ็ ไซต)์ บางสว่ น คือ - ไมเ่ ห็นดว้ ยเน่อื งจากการนาเข้าข้อมูลอันเปน็ เท็จสว่ นใหญเ่ ป็นไปเพ่ือใหร้ ้ายหนว่ ยงานของรฐั - ไมเ่ ห็นดว้ ยเนือ่ งจากจะทาใหค้ นไมเ่ กรงกลัว ต่อกฎหมาย - ไม่ควรลดโทษ แตค่ วรเพ่มิ โทษให้หนกั และ ไม่ควรเหลอื แต่เพียงโทษปรบั เทา่ น้ัน เพราะจะทาให้ ผู้ที่สามารถจ่ายค่าปรับกระทาความผิดซา้ ได้ (เว็บไซต์) ไมเ่ หน็ ดว้ ย เหตุเพราะกรณีการแกไ้ ขเพิ่มเติม อตั ราโทษของมาตรา ๑๖ กระทรวงดจิ ทิ ัลเพอ่ื เศรษฐกิจและสงั คมไมเ่ ห็นพ้องดว้ ยกบั การแกไ้ ข เพ่ิมเติมอัตราโทษตามมาตราน้ี เนอื่ งจากปจั จุบัน เทคโนโลยมี ีความกา้ วหนา้ เป็นอย่างมาก ทาให้การ สร้างข้นึ ตดั ต่อ เติม หรอื ดดั แปลงดว้ ยวิธีการทาง อิเลก็ ทรอนิกส์หรือวธิ ีการอ่นื ใดสามารถทาได้อย่าง แนบเนยี นยิ่งขน้ึ การกระทาความผดิ ตามมาตราน้ีจึง ก่อใหเ้ กิดความเสียหายตอ่ ผู้อ่ืนอยา่ งรนุ แรง หากไม่คง อัตราโทษเดิมไวอ้ าจก่อให้เกิดความไมย่ าเกรงต่อ

เหน็ ด้วย - 11 - ไม่เห็นดว้ ย กฎหมาย และกระทาความผิดได้โดยง่าย และ ก่อให้เกิดความเสยี หายมากยิ่งขนึ้ การคงอตั ราโทษ เดิมไว้ย่อมจะเป็นการป้องปรามการกระทาความผดิ สมดงั เจตนารมณ์ของกฎหมาย (กระทรวงดจิ ิทัล เพ่อื เศรษฐกจิ และสงั คม) ไมเ่ หน็ ด้วย เนื่องจากการแก้ไขเพ่ิมเตมิ บทกาหนดโทษตามมาตรา ๑๔ เป็นเพียงการปรบั รปู แบบการบญั ญัตกิ ฎหมาย ไม่ใชเ่ ปน็ การลดโทษ หรอื เพมิ่ โทษ เหตุเพราะบทบัญญตั ปิ จั จบุ นั กาหนดให้ การกระทาความผิดตามมาตรา ๑๔ วรรคหนึง่ เป็น การกระทากับประชาชน ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือท้งั จาทั้ง ปรับ และในวรรคสองบัญญัติวา่ หากกรณคี วามผดิ ตาม มาตรา ๑๔ (๑) มิได้กระทาตอ่ ประชาชนแลว้ ตอ้ งระวาง โทษจาคุกไม่เกนิ ๓ ปี หรอื ปรบั ไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท หรือทงั้ จาทง้ั ปรับ และใหเ้ ปน็ ความผิดอนั ยอมความได้ ส่วนในร่างแก้ไขเพ่ิมเติมมาตรา ๑๔ วรรคแรก ได้แก้ไข ให้เหลือเฉพาะฐานความผิดหลอกลวงผู้อนื่ ด้วยการ นาเขา้ เผยแพร่หรอื สง่ ตอ่ ขอ้ มลู คอมพิวเตอรป์ ลอม และ เปน็ การกระทาทม่ี ิใชต่ อ่ ประชาชน โดยบัญญตั ริ ะวาง โทษไว้เทา่ กันกบั มาตรา ๑๔ วรรคสองปจั จุบนั สว่ นกรณี เปน็ การกระทาตอ่ ประชาชนซึ่งมาตรา ๑๔ ได้บญั ญตั ิไว้ ในวรรคแรก ในร่างมาตราทแ่ี ก้ไขตามร่างพระราชบัญญัติ น้ี ไดป้ รบั แก้ไขไวใ้ นวรรคสอง ซ่ึงมอี ัตราโทษเท่ากนั กบั กฎหมายปจั จบุ ัน จงึ เห็นว่าเปน็ เพยี งการแก้ไขสลับลาดบั วรรคเพอ่ื ให้สอดคลอ้ งกบั ร่างพระราชบัญญตั ฉิ บบั นท้ี ีข่ อ แก้ไขให้เหลอื เพียงฐานความผิดเดยี ว ไมใ่ ช่เปน็ การแกไ้ ข เพม่ิ เติมบทกาหนดโทษในมาตรา ๑๔ (สำนักงำน ตำรวจแหง่ ชำติ) กรณีของมาตรา ๑๖ นน้ั เหน็ ว่า การจะแกไ้ ขมาตรา ๑๖ ใหค้ งเหลือเพยี งโทษปรบั นน้ั การทจี่ ะพจิ ารณา กาหนดโทษของความผิดจะต้องพิจารณาจากองค์ประกอบ ของการกระทาความผดิ ดว้ ย เมอื่ การกระทาในมาตรา ๑๖ เปน็ การนาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ทป่ี ระชาชนทวั่ ไป เข้าถงึ ได้ และดว้ ยการทางานของระบบคอมพิวเตอร์

เห็นด้วย - 12 - ไม่เหน็ ดว้ ย การเผยแพร่ของข้อมูลเปน็ ไปอย่างรวดเรว็ และเปน็ รปู แบบของกระทาความผิดทมี่ ีลกั ษณะทาใหป้ รากฏ ภาพผู้อ่นื ที่เกิดจากการสรา้ งข้นึ ตดั ต่อ เตมิ หรอื ดดั แปลง โดยการกระทาดังกล่าวน่าจะทาใหผ้ ูอ้ ่ืนนน้ั เสยี ชือ่ เสียง ถกู ดูหมน่ิ เกลยี ดชัง หรอื ไดร้ ับความอับอาย การ กาหนด ให้มีโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปี และปรับไมเ่ กิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท จงึ เหมาะสมแล้ว ทัง้ ยังสอดคลอ้ งกบั ความผิดฐานหมนิ่ ประมาทโดยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๘ ซง่ึ บัญญัตใิ ห้มีระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ ๒ ปี และปรับไมเ่ กนิ ๒๐๐,๐๐๐ บาท เพราะมลี ักษณะการ เผยแพรข่ อ้ มลู ที่อาจกว้างขวางนอ้ ยกว่า (สำนกั งำน ตำรวจแห่งชำติ) ๓. ท่านเห็นด้วยกับแก้ไขเพิ่มเติมอานาจของศาลตามมาตรา ๑๖/๑ เพ่ือให้ศาลสามารถสั่งให้ จาเลยดาเนินการทาลายข้อมูล หรือประกาศหรือเผยแพร่คาพิพากษา หรือดาเนินการอ่ืนเพ่ือบรรเทาความ เสียหาย ได้ในทกุ ฐานความผิดตามทศี่ าลเหน็ สมควร หรอื ไม่ เหน็ ดว้ ย ไม่เห็นด้วย ผูแ้ สดงความคดิ เห็นจากเว็บไซต์ จานวน ๑๖ คน ผู้แสดงความคดิ เห็นจากเว็บไซต์ จานวน ๑๐ คน เหน็ ดว้ ยกบั ประเด็นคาถามนี้ โดยมคี วามเห็นบางสว่ น คือ ไมเ่ หน็ ด้วยกับประเดน็ คาถามนี้ โดยมคี วามเหน็ - เห็นด้วยในการท่ีศาลสามารถสง่ั ใหจ้ าเลย บางสว่ น คือ ทาลายเอกสารที่เป็นเท็จ - ควรใหศ้ าลมีอานาจคงเดิม - เหน็ ดว้ ย เพราะสมเหตุสมผลดี (เวบ็ ไซต์) (เวบ็ ไซต์) ไมเ่ หน็ ด้วย เหตุเพราะกรณีการแก้ไขเพ่ิมเตมิ มาตรา ๑๖/๑ น้ันเห็นวา่ บทบญั ญัติตามมาตราใน ปจั จบุ นั มคี วามเหมาะสมและสอดคลอ้ งในทางปฏิบตั ิ ที่ศาลอาจมคี าสง่ั ให้ทาลายข้อมลู ตามมาตราดงั กลา่ ว หรือใหโ้ ฆษณาหรือเผยแพร่คาพิพากษาทั้งหมดหรือ แต่บางสว่ นในส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ วิทยกุ ระจายเสียง วิทยโุ ทรทศั น์ หนังสือพมิ พ์ หรอื ส่อื อื่นใด ตามท่ศี าล เหน็ สมควร โดยใหจ้ าเลยเป็นผู้ชาระคา่ โฆษณา หรอื เผยแพร่ หรอื ใหด้ าเนินการอื่นตามทศี่ าลเห็นสมควร เพ่ือบรรเทาความเสียหายทเ่ี กิดขน้ึ จากการกระทา ความผดิ นน้ั เนือ่ งจากเป็นบทบญั ญัตทิ ีเ่ กีย่ วขอ้ งกับ

เห็นด้วย - 13 - ไมเ่ ห็นดว้ ย เนื้อหาสาระ (Content) ท่ีแตกต่างจากความผิดใน มาตราอน่ื ทบ่ี ญั ญัติไว้สาหรับการกระทาความผิด เก่ียวกับข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพวิ เตอร์ (กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม) ไม่เห็นด้วย เนอื่ งจากเหน็ ว่าพระราชบัญญัติ วา่ ด้วยการกระทาความผดิ เกี่ยวกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เปน็ กฎหมายท่วี ่าด้วยการปอ้ งกนั และ ปราบปรามการกระทาความผิดเกย่ี วกับคอมพิวเตอร์ ซ่ึงมาตรา ๑๖/๑ ทไี่ ด้กาหนดใหอ้ านาจศาลสง่ั ให้ ทาลายขอ้ มูล โฆษณาหรือเผยแพร่คาพิพากษา หรือ ดาเนินการอ่นื ที่ศาลเห็นสมควรเพื่อบรรเทาความ เสียหายจากการกระทาความผดิ ในคดีความผิดตาม มาตรา ๑๔ และมาตรา ๑๖ ซ่ึงคาพิพากษาวา่ จาเลย มคี วามผิดมีความเหมาะสมอยู่แล้ว การแก้ไขเพ่ิมเตมิ อานาจศาลใหบ้ รรเทาความเสียหายจากการกระทา ในทกุ คดีความผดิ ควรกาหนดไวใ้ นกฎหมายที่ กาหนดอานาจศาลเปน็ การท่ัวไปจะเหมาะสมกว่า (สำนกั งำนตำรวจแห่งชำติ) ๔. ท่านเห็นด้วยกับแก้ไขเพิ่มเติมอานาจของศาลตามมาตรา ๑๖/๒ เพ่ือกาหนดอัตราโทษสาหรับ ผู้ฝ่าฝืนคาส่ังศาลในการทาลายข้อมูล โดยให้ได้รับโทษเป็นก่ึงหนึ่งของโทษตามกฎหมายท่ีมีคาพิ พากษา ว่าจาเลยมีความผิด หรือไม่ เห็นด้วย ไม่เหน็ ดว้ ย ผู้แสดงความคิดเหน็ จากเว็บไซต์ จานวน ๑๔ ผ้แู สดงความคดิ เห็นจากเว็บไซต์ จานวน ๑๒ คน คน เห็นดว้ ยกับประเดน็ คาถามนี้ แตม่ ิไดแ้ สดง ไมเ่ หน็ ด้วยกับประเด็นคาถามนี้ โดยมีความเห็น ความคดิ เหน็ ไว้แตอ่ ย่างใด (เว็บไซต์) บางส่วน คือ - ความเสยี หายที่เกดิ แก่ช่ือเสยี ง หรอื เสียโอกาส ไม่สามารถประเมินได้ จึงควรกาหนดอานาจของศาลไว้ ตามเดิม (เวบ็ ไซต์)

เห็นด้วย - 14 - ไมเ่ ห็นดว้ ย กรณีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๖/๒ น้ันไม่เหน็ พ้อง ด้วยกบั การแกไ้ ขเพ่ิมเติมมาตรานี้ เนือ่ งจากเปน็ บทบญั ญัตทิ ีเ่ กย่ี วเนอ่ื งกับเนื้อหาสาระ (Content) ของ มาตรา ๑๖/๑ (กระทรวงดจิ ิทลั เพอ่ื เศรษฐกิจและ สงั คม) ไม่เหน็ ด้วย เนือ่ งจากเป็นการเสนอแกไ้ ขเพิ่มเตมิ เพ่อื ใหม้ ีความสอดคล้องกบั การเสนอแก้ไขเพม่ิ เติมรา่ ง มาตรา ๑๖/๑ ซงึ่ ประเด็นนี้ได้แสดงเหตุผลที่ไม่เหน็ ด้วยไว้แล้วตามประเด็นคาถามท่ี ๓ ขา้ งต้น (สำนกั งำนตำรวจแหง่ ชำต)ิ ๕ ท่านเห็นด้วยกบั การแก้ไขเพ่ิมเติมอานาจหน้าท่ีของเจ้าหน้าทใ่ี นการย่ืนคาร้องต่อศาลเพื่อขอ ระงับหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๒๐ โดยมิให้เป็นอานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่โดยได้รับความ เห็นชอบจากรัฐมนตรี รวมถึงเห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมลักษณะของข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีศาลจะส่งให้ ระงบั หรือลบได้ใหม้ ีความเหมาะสมย่งิ ขึน้ หรอื ไม่ เหน็ ดว้ ย ไมเ่ ห็นดว้ ย ผู้แสดงความคดิ เหน็ จากเว็บไซต์ จานวน ๑๔ ผแู้ สดงความคิดเหน็ จากเว็บไซต์ จานวน ๑๒ คน คน เหน็ ดว้ ยกบั ประเด็นคาถามน้ี แต่มไิ ดแ้ สดง ไม่เหน็ ดว้ ยกับประเดน็ คาถามน้ี โดยมีความเห็น ความคดิ เหน็ ไวแ้ ตอ่ ย่างใด (เว็บไซต์) บางส่วน คอื - ควรกาหนดอานาจหนา้ ท่ขี องเจา้ หนา้ ที่ไว้ตามเดิม (เวบ็ ไซต์) กรณีการแก้ไขเพ่ิมเติมมาตรา ๒๐ นั้นไม่เหน็ พ้องดว้ ย กับการแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ มาตราน้ี เนอ่ื งจากการดาเนินการ ตามมาตรานี้ของพนักงานเจ้าหน้าท่ีสมควรจะไดร้ ับการ ตรวจสอบและกลั่นกรองจากรัฐมนตรวี า่ การกระทรวง ดิจิทัลเพ่อื เศรษฐกิจและสังคมซงึ่ เป็นผู้รกั ษาการตาม กฎหมายก่อน (กระทรวงดิจิทลั เพือ่ เศรษฐกจิ และ สงั คม) ไมเ่ หน็ ดว้ ย เนอื่ งจากบทบัญญตั ใิ นมาตรา ๒๐ ของกฎหมายปจั จุบนั เปน็ เรื่องมาตรการในการระงับการ เผยแพร่ข้อมลู คอมพวิ เตอร์ท่ีผิดกฎหมาย ซึ่งรวมถึงข้อมูล ทีอ่ าจกระทบกระเทอื นตอ่ ความมัน่ คงในราชอาณาจกั ร

เหน็ ด้วย - 15 - ไมเ่ ห็นด้วย ข้อมลู ที่เปน็ ความผิดอาญาตามกฎหมายเก่ียวกบั ทรพั ยส์ ินทางปัญญาหรือกฎหมายอ่นื ซ่งึ ข้อมลู นัน้ มี ลกั ษณะขดั ต่อความสงบเรยี บรอ้ ยหรอื ศลี ธรรม อนั ดีของประชาชน ซงึ่ เจ้าหน้าทีต่ ามกฎหมายน้ันหรอื พนักงานสอบสวนไดร้ ้องขอ ตลอดจนขอ้ มูลทมี่ ีลักษณะ ขดั ต่อความสงบเรยี บร้อยหรือศลี ธรรมอันดีของประชาชน ซง่ึ ตามมาตรา ๒๐ วรรคสอง กาหนดใหผ้ า่ นกระบวนการ ในการให้ความเห็นชอบหรือกล่ันกรองก่อนเรมิ่ ข้ันตอน การยื่นคาร้องต่อศาลเพอื่ ขอใหม้ ีการระงบั หรอื ลบข้อมูล แสดงให้เห็นเจตนารมณข์ องมาตรา ๒๐ ที่มงุ่ เนน้ มาตรการในเชิงการระงบั หรือปอ้ งกันการเผยแพร่ของ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ดังกลา่ ว ซึ่งมคี วามเหมาะสมกับ รูปแบบของการกระทาความผิดเกี่ยวกับขอ้ มูลคอมพวิ เตอร์ ทสี่ ามารถเผยแพรข่ ้อมูลไปอย่างรวดเร็ว และในส่วนของ การย่ืนคาร้องขอต่อศาลในบทบญั ญตั ิของกฎหมาย ปจั จบุ ัน กาหนดให้พนักงานเจ้าหนา้ ที่ โดยความเห็นชอบ ของรฐั มนตรีสามารถยืน่ คาร้องต่อศาลสาหรับข้อมลู คอมพวิ เตอร์ตามมาตรา ๒๐ (๑) (๒) และ (๓) และ กาหนดใหร้ ัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ กลั่นกรอง มอบหมายให้พนักงานเจ้าหนา้ ท่ียื่นคาร้องต่อ ศาลได้สาหรบั ข้อมลู คอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๒๐ วรรคสอง แต่ในร่างมาตรา ๒๐ กาหนดเง่ือนไขในการยื่น คาร้องต่อศาลว่า ต้องให้เจ้าหน้าทที่ ี่มีอานาจสอบสวนตาม กฎหมายเฉพาะหรอื พนกั งานสอบสวนตามประมวล กฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญารอ้ งขอให้พนักงาน เจา้ หนา้ ท่ยี ่ืนคาร้องขอต่อศาล ซง่ึ เห็นไดว้ า่ หากมีการ แก้ไขตามร่างมาตรา ๒๐ ดังกล่าวแล้ว ไม่เพียงเป็นการตัด อานาจของรฐั มนตรีหรือคณะกรรรมการกลั่นกรอง แต่เป็นการตัดอานาจของพนักงานเจ้าหน้าท่ีในการย่ืน คาร้องได้ด้วยตนเองเม่ือมีการพบเหน็ ข้อมูลคอมพวิ เตอร์ ทม่ี ลี ักษณะตามความในมาตรา ๒๐ น้นั และเมอื่ พจิ ารณาจากลักษณะของการยนื่ คาร้องและประเภทของ ขอ้ มูลคอมพวิ เตอรท์ ศี่ าลมอี านาจสง่ั ตามรา่ ง มาตรา ๒๐ ที่แก้ไขเพม่ิ เติมแล้ว จะเหน็ ว่าตอ้ งเป็นกรณที ี่มกี าร ร้องทุกขก์ ล่าวโทษหรือมีการเริม่ ดาเนนิ ขั้นตอนการ สอบสวนเกี่ยวกับการกระทาความผดิ นัน้ เสยี ก่อน ซง่ึ เปน็ คนละกรณกี ับเจตนารมณ์ในมาตรา ๒๐ ท่มี ุ่งเน้น

เหน็ ดว้ ย - 16 - ไมเ่ ห็นด้วย มาตรการในเชิงการบังคับหรือป้องกนั การเผยแพร่ของ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงเหน็ ว่าข้อความ ในมาตรา ๒๐ ไดบ้ ัญญัติไว้อย่างเหมาะสมแลว้ ท้งั นี้ หากประสงคจ์ ะให้มกี ารแก้ไขเพิ่มเติมในประเดน็ ดงั กล่าว เห็นควรท่ีจะแก้ไขโดยการเพ่ิมบทบญั ญัตเิ ปน็ มาตราใหม่ข้นึ มาแทน (สำนกั งำนตำรวจแห่งชำติ) ๔.๓ ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ (๑) เห็นสมควรคงหลักการในการจัดการกับข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีอาจกระทบกระเทือนต่อความ มั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กาหนดไว้ในภาค ๒ ลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา รวมทงั้ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศลี ธรรมอนั ดีของประชาชน จงึ ยังจาเป็นต้อง คงหลักการเพ่ือให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ช่วยพิจารณาก่อนที่พนักงานเจ้าหน้าท่ีขอความ เห็นชอบจากรัฐมนตรี เพ่ือย่ืนคาร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลขอให้มีคาสั่งระงับการทาให้เผยแพร่หรือ ลบขอ้ มลู คอมพิวเตอร์นน้ั ออกจากระบบคอมพิวเตอรต์ ่อไป (กระทรวงดจิ ิทลั เพือ่ เศรษฐกิจและสังคม) (๒) ประเด็นการกาหนดให้คาสั่งศาลมีผลได้ไม่เกิน ๓๖๕ วัน และให้เปิดเผยต่อสาธารณะน้ัน ขอตั้งขอสังเกตว่า จะเป็นการสร้างภาระในทางปฏิบัติให้กับผู้ท่ีเกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ให้บริการจะต้องคอยติดตาม เพอื่ ใหค้ าสงั่ ศาลมผี ลไม่เกิน ๓๖๕ วัน รวมท้งั กระทรวงดิจิทลั เพ่ือเศรษฐกิจและสังคมจะต้องคอยปรับปรุงสถานะ ของคาสั่งศาล แตห่ ากปลอ่ ยให้เปน็ ไปตามกระบวนการท่มี ีอยูเ่ ดิม ผู้ที่เกยี่ วข้องตลอดจนประชาชนกย็ งั คงสามารถ ตรวจสอบกระบวนการทางานของกระทรวงฯ และติดตามหรือตรวจสอบการปฏิบัติตามคาส่ังศาลได้อยู่แล้ว (กระทรวงดจิ ิทลั เพือ่ เศรษฐกจิ และสังคม) (๓) ความเห็นต่อร่างมาตรา ๑๖/๒ โดยท่ีมาตรา ๑๖/๑ แห่งร่างพระราชบัญญัตินี้ได้ถูกเสนอ ปรับปรุงขอบเขตของบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีศาลอาจส่ังให้ทาลายข้อมูลให้รวมถึงความผิดตามกฎหมาย ว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และประมวลกฎหมายอ่ืนด้วย และได้มีการปรับปรงุ มาตรา ๑๖/ ๒ ในกรณีบุคคลใดที่ครอบครองข้อมูลท่ีศาลส่ังให้ทาลายตามมาตรา ๑๖/๑ ซ่ึงหากไม่ทาลายข้อมูลดังกล่าว จะต้องระวางโทษก่ึงหน่ึงของโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายท่ีพิพากษาว่าจาเลยมีความผิดน้ัน ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่า ในการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติได้มีการขยายขอบเขตของกฎหมายให้ขยายไปถึงกรณีท่ีศาลมีคาส่ังให้ทาลาย ข้อมูลได้อย่างกว้างขวาง อย่างไรก็ดีในทางปฏิบัติผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งไม่ใช่ผู้กระทาความผิดและได้รับผลจากคา พิพากษาโดยตรงย่อมไม่อาจทราบถึงผลของคาพิพากษาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างครบถ้วน และอาจเกิดกรณีท่ีมีการ ตกหล่นไม่ได้ทาลายข้อมูลโดยปราศจากเจตนา เนื่องจากคาพิพากษาในคดีต่าง ๆ ตามมาตรา ๑๖/๑ มีอยู่เป็น จานวนมาก และมีการพิพากษาในหลายเขตอานาจศาล หรือคาพิพากษาอาจไม่ได้มีการเปิดเผยให้รับทราบเป็น การทั่วไป หรือมีการเปิดเผยให้สาธารณชนทราบเม่ือได้มีคาพิพากษาถึงที่สุด และผ่านมาเป็นระยะเวลาหนงึ่ ภาย หลังจากที่มีคาพิพากษาแล้ว ดังน้ัน เพ่ือให้บุคคลท่ีครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีศาลสั่งให้ทาลายได้รับทราบ คาส่ังศาลอย่างชัดแจ้ง จึงขอเสนอปรับปรุงถ้อยคาจาก “ผู้ใดรู้หรือรับแจ้งให้รูว้ า่ ข้อมูลคอมพิวเตอร์...” เป็น “ผู้ใดได้รับ แจ้งเป็นลายลักษณอ์ กั ษรว่าขอ้ มูลคอมพวิ เตอร.์ ..” (บริษทั ทรู คอรป์ อเรชน่ั จำกดั (มหำชน))

- 17 - (๔) ความเหน็ ต่อร่างมาตรา ๒๐ โดยทีม่ าตรา ๒๐ แหง่ ร่างพระราชบัญญตั ิน้ี ไดม้ กี ารเสนอปรับปรุง ให้คาส่ังระงับการทาให้เผยแพร่หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์มีผลได้ไม่เกิน ๓๖๕ วันนั้น ทั้งน้ี ขอเสนอให้มีการ กาหนดข้ันตอนในการปฏบิ ัตติ ามคาส่ังอย่างชดั เจน เพื่อให้ผู้ที่ต้องปฏิบัติตามคาส่ังศาลดังกลา่ วดาเนินการไดโ้ ดย ถูกต้องสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย เช่น การมีหนังสือแจ้งคาสั่งให้ผู้ท่ีต้องปฏิบัติตามคาส่ังศาลทราบ คาสั่งระงับการทาให้เผยแพร่หรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ และกาหนดวันท่ีในการปฏิบัติตามคาสั่งอย่างชัดเจน รวมถึงการมีหนังสือแจ้งคาสั่งสิ้นสุดระยะเวลาการระงับการทาให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ เป็นต้น เพ่ือให้ผู้ที่ เกย่ี วขอ้ งปฏบิ ัติไดเ้ ปน็ ไปตามเจตนารมณข์ องรา่ งพระราชบญั ญตั นิ ้ี (บริษัท ทรู คอรป์ อเรชัน่ จำกัด (มหำชน)) (๕) ความเห็นต่อร่างมาตรา ๒๐ โดยมีข้อสังเกตว่า มาตรา ๒๐ แห่งร่างพระราชบัญญัติน้ีได้เสนอ ให้ยกเลิกกระบวนการขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีในการย่ืนคาร้องต่ อศาลเพ่ือขอให้มีคาส่ังระงับการทาให้ แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์แล้ว อย่างไรก็ดีในร่างมาตรา ๒๐ วรรคท้าย ยังมีการกาหนดให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีในการยื่นคาร้องต่อศาลอยู่ ดังน้ัน ขอเสนอให้มีการพิจารณาถ้อยคาของ ร่างมาตรา ๒๐ วรรคท้าย เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติน้ี และทาให้ กระบวนการดาเนินการชดั เจนย่ิงขึ้น (บรษิ ัท ทรู คอรป์ อเรช่ัน จำกัด (มหำชน)) สว่ นที่ ๓ รายงานผลการวิเคราะหผ์ ลกระทบอนั เกดิ จากร่างพระราชบัญญัติ ๑. ความเป็นมา สภาพปัญหา ความจาเป็นทีจ่ ะต้องตราพระราชบัญญัติ การเสนอแก้ไขเพ่ิมเติมพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นเป็นผลสืบเน่ืองจากการที่กฎหมายดังกล่าวมีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทาความผิดเก่ียวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งจากการแก้ไขเพ่ิมเติมท่ีผ่านมา ไดส้ ง่ ผลทาให้บทบญั ญัติบางมาตราไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้ตัง้ แตต่ ้น เนอื่ งจากทาใหผ้ ู้บังคับใช้ กฎหมายสามารถตีความบทบัญญัติได้อย่างกว้างขวางและมีการนาบท บัญญัติมาใช้เป็นเคร่ืองมือเพ่ือจากัด เสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็นผา่ นสอ่ื สงั คมออนไลน์ ท้ังนี้ เพ่ือทาให้กฎหมายว่าด้วยการกระทาความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไม่เป็นกฎหมายที่ทาให้ผู้บังคับใช้ สามารถตีความได้อย่างกว้างขวางอันเป็นการจากัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนจนเกินกว่า สมควร และเพ่ือทาให้เกิดความเหมาะสมเกี่ยวกับอานาจของศาลในการสั่งให้ทาลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือส่ังให้ โฆษณาหรือเผยแพร่คาพิพากษา หรือให้ดาเนินการอ่ืนตามท่ีศาลเห็นสมควรเพ่ือบรรเทาความเสียหาย และเพ่ือทาให้ เกิดความเหมาะสมเกี่ยวกับอานาจหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีในการย่ืนคาร้องต่อศาลเพ่ือขอระงับการแพร่หลายหรือ ลบข้อมูลคอมพิวเตอร์และประเภทของข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ต้องดาเนินการดังกล่าว รวมถึงเพ่ือทาให้เกิดความ เหมาะสมเกี่ยวกับบทกาหนดโทษในบางมาตราย่ิงขึ้น จึงได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๖ มาตรา ๑๖/๑ มาตรา ๑๖/๒ และมาตรา ๒๐ รายละเอียดปรากฏตามข้อมูลประกอบการรับฟังความคิดเห็นตามท่ีมีการ อธบิ ายไว้แลว้ ขา้ งตน้ ด้วยเหตผุ ลทีก่ ล่าวมาทั้งหมด จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชบัญญัตนิ ้ี

- 18 - ๒. ความสอดคล้องของร่างพระราชบัญญัติ  รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๓๔ วรรคหนึ่ง ความว่า “บคุ คลยอ่ มมีเสรีภาพในการแสดงความคดิ เหน็ การพดู การเขยี น การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อสารความหมายโดยวิธีอื่น การจากัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทามิได้ เว้นแต่โดยอาศัย อานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายท่ีตราข้ึนเพ่ือรักษาความมั่นคงของรัฐ เพ่ือคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของ บคุ คลอ่นื เพือ่ รักษาความสงบเรียบรอ้ ยหรอื ศีลธรรมอนั ดีของประชาชน หรือเพอื่ ปอ้ งกนั สุขภาพของประชาชน” ท้ังน้ี มาตรา ๓๔ เป็นบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญฯ ในหมวด ๓ สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ซ่ึงมีความมุ่งหมายอันสะท้อนถึงเจตนารมณ์ของบทบัญญัติท่ีปรากฏตามหนังสือความมุ่งหมายและคาอธิบาย ประกอบรายมาตราของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ความว่า “กาหนดข้ึนเพ่ือคุ้มครอง เสรภี าพในการแสดงความคิดเหน็ โดยวธิ กี ารใด ๆ ของบุคคล และเสรภี าพทางวชิ าการ พร้อมทงั้ กาหนดเงื่อนไขท่ี เป็นข้อยกเว้น” และมีคาอธิบายประกอบท่ีเกี่ยวข้องความว่า “โดยหลักการคุ้มครองเสรีภาพตามมาตราน้ี เป็น การรับรองเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน เสรีภาพนี้เป็นที่ยอมรับนับถือว่า เป็นสิ่งสาคัญ มี คณุ ค่าในระดับสากล มีบัญญตั ิไวใ้ นปฏิญญาสากลและกตกิ าระหวา่ งประเทศว่าดว้ ยสิทธิพลเมืองและสทิ ธิทางการ เมอื ง (International Covenant on Civil and Political Rights – ICCPR)”  ปฏิญญาสากลและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights – ICCPR) ข้อ ๑๙ ๑. บคุ คลทกุ คนมสี ิทธิทจ่ี ะมีความคิดเหน็ โดยปราศจากการแทรกแซง ๒. บุคคลทุกคนมีสิทธิในเสรีภาพแห่งการแสดงออก สิทธินี้รวมถึงเสรีภาพท่ีจะแสวงหา รับและเผยแพรข่ ้อมูลข่าวสารและความคิดทุกประเภท โดยไมค่ านึงถงึ พรมแดน ทั้งน้ี ไมว่ ่าด้วยวาจา เป็นลายลักษณ์อักษร หรอื การตีพมิ พใ์ นรูปของศลิ ปะ หรือโดยอาศัยสือ่ ประการอ่ืนตามทต่ี นเลือก ๓. การใช้สิทธิตามที่บญั ญตั ิในวรรค ๒ ของขอ้ น้ี ต้องมหี น้าท่ีและความรับผิดชอบพิเศษควบคู่ไปด้วยการ ใช้สิทธิดงั กล่าวอาจมขี อ้ จากัดในบางเรื่อง แตท่ งั้ น้ีข้อจากดั นน้ั ตอ้ งบญั ญตั ไิ ว้ในกฎหมายและจาเป็นต่อ (ก) การเคารพในสทิ ธิหรือชอ่ื เสยี งของบุคคลอน่ื (ข) การรกั ษาความมั่นคงของชาติ หรอื ความสงบเรียบร้อย หรอื การสาธารณสุข หรือศลี ธรรม ของประชาชน  ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคของสงั คม ขอ้ ที่ ๔.๓ การเสรมิ สรา้ งพลังทางสังคม ข้อย่อยที่ ๔.๓.๖ สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและส่ือสร้างสรรค์ เพื่อรองรับสังคมยุคดิจิทัล พัฒนาระบบโครงสร้างเครือข่ายด้านข้อมูลเพ่ือให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ทันสมัยได้อย่าง รวดเร็ว ส่งเสริมเสรีภาพของส่ือสาธารณะ ควบคู่ไปกับมาตรการสร้างความรับผิดชอบของสื่อต่อสังคม รวมถึงส่งเสริม บทบาทขององค์กรที่เกี่ยวข้องในการให้ความรู้เรื่องสิทธิเพื่อคุ้มครองการใช้เทคโนโลยี และสื่อตามมาตรฐาน ความปลอดภัยและกฎหมาย ตลอดจนพัฒนาส่ือสร้างสรรค์ทั้งในเชิงเน้ือหา และการสร้างความตระหนักและ ภูมิคมุ้ กันของผเู้ สพส่อื

- 19 - ๓. ประโยชนท์ ี่ประชาชนและสังคมจะได้รับ เมื่อมกี ารแก้ไขเพม่ิ เติมกฎหมายตามร่างกฎหมายฉบับน้ีย่อมส่งผลทาใหม้ ีการแก้ไขเพ่ิมเติมฐานความผิด ตามมาตรา ๑๔ เป็นความผิดฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วยการนาเข้า เผยแพร่ และส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม โดยทุจริตเพียงฐานเดียว โดยผลลัพธ์ย่อมทาให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางสื่อ สังคมออนไลน์มากย่ิงขึ้น ตราบเท่าท่ีไม่เป็นความผิดตามกฎหมายน้ีและกฎหมายอื่น รวมถึงยังส่งผลทาให้ไม่เกดิ การตีความกฎหมายอย่างกว้างขวางเกินสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบัญญัติในมาตรา ๑๔ (๒) ซ่ึงกาหนดความว่า “โดยประการท่ีน่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความม่นั คงในทางเศรษฐกจิ ของประเทศ หรือโครงสร้างพ้ืนฐานอนั เปน็ ประโยชน์สาธารณะของประเทศ” ซ่งึ เป็น การกาหนดถ้อยคาท่ีทาใหเ้ กดิ การตีความได้อย่างกว้างขวาง และส่วนท้ายของอนมุ าตราสองนี้มีการกาหนดคาว่า “ก่อให้เกิดความต่ืนตระหนกแก่ประชาชน” ซ่ึงเป็นถ้อยคาท่ียากต่อการพิสูจน์ ส่วนในมาตรา ๑๖/๑ เป็นการ แก้ไขเพ่ิมเติมอานาจของศาลให้ครอบคลุมทุกคดีตามที่ศาลมีคาพิพากษาสาหรับกรณีท่ีศาลอาจสั่งให้ทาลาย ข้อมูล ให้โฆษณาหรือเผยแพร่คาพิพากษา และให้ดาเนินการอื่นตามที่ศาลเห็นสมควรเพื่อบรรเทาความเสยี หาย และยังเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทกาหนดโทษตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๑๖/๑ และมาตรา ๑๖/๒ ให้มีความ เหมาะสมและสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๗ ยิ่งข้ึน นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขเพ่ิมเติมอานาจหน้าท่ีของ เจ้าหน้าท่ีในการย่ืนคาร้องขอต่อศาลเพื่อขอระงับการแพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์จากระบบคอมพิวเตอร์ ในมาตรา ๒๐ ให้มีขั้นตอนท่ีกระชับย่ิงขึ้น เนื่องจากการดาเนินการดังกล่าวไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจาก รัฐมนตรีผู้รักษาการตามกฎหมาย และคณะกรรมการกล่ันกรองข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นไปตามหลักการเดิม รวมถึงในมาตรา ๒๐ ยังมีการแก้ไขเพ่ิมเติมประเภทของข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีจะต้องขอระงับการแพร่หลายหรือ ลบขอ้ มลู คอมพิวเตอร์ใหม้ คี วามเหมาะสมยงิ่ ข้ึนด้วย ๔. ความสมั พันธ์หรอื ความใกลเ้ คียงกับกฎหมายอ่นื - กฎหมายอาญา ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา ความผิดฐานหม่ินประมาทและความผิดฐานอื่น ทเี่ กย่ี วกับขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ และกฎหมายอื่นทีเ่ ก่ียวข้อง - กฎหมายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา เช่น พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ และ ทีแ่ กไ้ ขเพ่มิ เติม และพระราชบัญญตั ิลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ และท่ีแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ เป็นต้น - กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้แก่ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่แี กไ้ ขเพิม่ เติม ๕. ผลกระทบโดยรวมท่อี าจเกิดขนึ้ จากกฎหมาย ผลกระทบต่อสังคม การเสนอแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๔ โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีเพื่อให้เหลือฐานความผิดเพียงฐาน เดียวคือ ความผิดฐานหลอกลวงผู้อ่ืนด้วยการนาเข้า เผยแพร่ หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยทุจริต จากเดิมที่กฎหมายมาตราน้ีมีการกาหนดความผิดในหลายฐานความผิด โดยเฉพาะอย่างย่ิงความผิดฐานนาเข้า ข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในลักษณะข้อมูลอันลามกและเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ท่ีประชาชนท่ัวไปอาจเข้าถึงได้ รวมถงึ ความผดิ ฐานเผยแพร่หรือสง่ ต่อข้อมลู อันลามกดังกล่าว ซงึ่ มีการกาหนดไว้ในมาตรา ๑๔ (๔) และ (๕) น้ัน ย่อมอาจส่งผลกระทบต่อสังคมในกรณีที่การนาเข้า เผยแพร่และส่งต่อข้อมูลอันลามกเหล่านั้นไม่ได้กาหนดให้การ กระทาดังกล่าวเป็นความผดิ อีกต่อไป โดยเม่ือเกิดเหตุขึ้น เช่น มีการเผยแพร่ข้อมูลลามกอนาจารในระบบคอมพิวเตอร์

- 20 - ซ่ึงส่งผลต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ก็จะไม่สามารถดาเนินคดีกับผู้กระทาความผิดได้ รวมถึงยังส่งผลต่อคดที ่ี อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาของ พนักงานอัยการหรอื ศาลอกี ด้วย ผลกระทบอ่ืนท่สี าคัญ การเสนอแก้ไขเพ่ิมเติม มาตรา ๑๔ โดยร่างพระราชบัญญัติฉบับน้ีเพ่ือให้เหลือฐานความผิดเพียงฐาน เดียวคือ ความผิดฐานหลอกลวงผู้อ่ืนด้วยการนาเข้า เผยแพร่ หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยทุจริต จากเดิมที่กฎหมายมาตรานม้ี ีการกาหนดความผดิ ในหลายฐานความผิด โดยเฉพาะอย่างย่งิ ความผดิ ฐานนาเขา้ ข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นข้อมูลด้านความม่ันคง ท้ังท่ีเป็นความผิดเก่ียวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร (ลักษณะ ๑) หรือความผดิ เกยี่ วกับการก่อการร้าย (ลกั ษณะ ๑/๑) ตามประมวลกฎหมายอาญา ซ่ึงมีการกาหนด ไว้ในมาตรา ๑๔ (๓) และความผิดฐานนาเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความ เสียหายตอ่ การรักษาความม่นั คงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภยั สาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของ ประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความต่ืนตระหนกแก่ ประชาชน ซึ่งมีการกาหนดไว้ในมาตรา ๑๔ (๒) นอกจากนี้ยังรวมถึงการเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลด้านความ ม่นั คงในประการตา่ ง ๆ ซง่ึ มกี ารกาหนดไว้ในมาตรา ๑๔ (๕) อีกด้วย ท้ังน้ี หากมีการนาเข้า เผยแพร่หรือส่งต่อ ข้อมูลทางด้านความม่ันคงดังกล่าวในระบบคอมพิวเตอร์ ย่อมอาจเกิดผลกระทบท่ีสาคัญต่อความสงบเรียบร้อยอย่างเป็นวงกว้าง เช่น การเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลลับ ท่ีเก่ียวข้องกับการก่อการร้าย หรือการเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลเก่ียวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของ ประเทศ เป็นต้น ซึ่งหากไม่ได้มีการกาหนดเป็นความผิดไว้ตามท่ีร่างกฎหมายฉบับนี้นาเสนอย่อมส่งผลทาให้ การกระทาดังกล่าวของผู้กระทาความผดิ ในฐานะท่ีเป็นอาชญากรรมเกี่ยวกับคอมพวิ เตอร์ไมเ่ ป็นความผิดอีกต่อไป ซึ่งย่อมไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การกระทาความผิดที่มีความซับซ้อนตามพัฒนาการทางเทคโนโลยี ในปัจจุบัน รวมถึงยังส่งผลต่อคดีท่ีอยู่ระหว่างการดาเนินการของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานสอบสวนคดี พิเศษ หรืออยู่ระหว่างการพจิ ารณาของพนกั งานอยั การหรอื ศาลอีกดว้ ยเช่นกนั ๖. การกาหนดใหม้ ีระบบอนุญาต อนมุ ัติหรอื การใช้ดุลพินจิ ของเจ้าหน้าที่  มี  ไม่มี เหตุผลและความจาเปน็ ๗. การกาหนดให้มรี ะบบคณะกรรมการ  ไมม่ ี  มี เหตุผลและความจาเป็น

- 21 - ๘. บทกาหนดโทษ  ไม่มี  โทษทางอาญา  โทษทางปกครอง  โทษปรบั เปน็ พนิ ยั  โทษอุปกรณ์ เหตผุ ลและความจาเปน็ รา่ งพระราชบัญญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทาความผิดเกี่ยวกบั คอมพิวเตอร์ (ฉบับท่ี ..) พ.ศ. .... มีการกาหนด โทษทางอาญาในร่างมาตรา ๓ และร่างมาตรา ๔ คือ ๑) ร่างมาตรา ๓ เปน็ การแก้ไขเพิม่ เติมบทกาหนดโทษของกฎหมายเดิมในมาตรา ๑๔ วรรคหนงึ่ และ วรรคสอง ซึ่งการแก้ไขเพิ่มเติมในมาตรา ๑๔ วรรคหนึ่ง เป็นกรณีการกระทาความผิดฐานฐานหลอกลวงผู้อื่นด้วย การนาเข้า เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยทุจริต ซ่ึงมีการกาหนดอัตราโทษท่ีต่ากว่าความผิด ฐานเดิม จากเดิมที่มีโทษจาคุกไม่เกิน ๕ ปีหรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ เปลี่ยนแปลง เป็นโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปีหรือปรับไม่เกิน ๖๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ ส่วนการแก้ไขเพ่ิมเติมในมาตรา ๑๔ วรรคสอง เป็นการเพิ่มอัตราโทษในกรณีทก่ี ารกระทาความผิดดังกล่าวได้กระทาต่อประชาชนซึ่งกาหนดให้ มีอัตราโทษสูงข้ึน โดยกาหนดโทษจาคุกไมเ่ กิน ๕ ปีหรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจาทั้งปรบั ท้ังน้ี จากการลดอัตราโทษสาหรับการกระทาความผิดฐานฐานหลอกลวงผู้อ่ืนด้วยการนาเข้า เผยแพร่หรือส่งต่อ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมโดยทุจริตดังกล่าว และการเพ่ิมอัตราโทษสาหรับการกระทาความผิดในฐานเดียวกัน ซึ่งหากกระทาต่อประชาชนต้องได้รับโทษในอัตราที่สูงข้ึนน้ันมีสัดส่วนและความจาเป็นท่ีเหมาะสม กับความ ร้ายแรงของการกระทาความผิดแล้ว เน่ืองจากมีฐานการกาหนดโทษมาจากกฎหมายเดิมโดยมีอัตราโทษที่ลดลง และมีการเพิม่ อตั ราโทษตามความหนักเบาของการกระทาความผดิ ๒) ร่างมาตรา ๔ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมบทกาหนดโทษของกฎหมายเดิมในมาตรา ๑๖ วรรคหน่ึง ซง่ึ ในสว่ นนม้ี ิได้มีการเสนอแก้ไขเพ่ิมเติมฐานความผิด แตเ่ ปน็ เสนอแก้ไขเพ่ิมเติมอัตราโทษสาหรับความผิดฐาน นาเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่น่าจะทาให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งจากเดิมที่มีโทษจาคุกไม่เกิน ๓ ปี และ ปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท เปลยี่ นแปลงเป็นเพยี งโทษปรับไม่เกนิ ๒๐๐,๐๐๐ บาท เท่านนั้ ท้งั นี้ การกาหนด เฉพาะโทษปรับในการกระทาความผดิ ฐานดังกลา่ วย่อมมคี วามเหมาะสมและพอสมควรกบั การกระทาความผดิ นี้แลว้

- 22 - ส่วนที่ ๔ การเปิดเผยรายงานผลการรับฟังความคิดเหน็ และรายงานผลการวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดจาก รา่ งพระราชบญั ญัติ คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากร่างพระราชบัญญัติท่ีเสนอ โดยสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ได้เปิดเผยรายงานผลการรับฟังความคิดเห็นและรายงานผล การวิเคราะห์ผลกระทบอันเกิดจากร่างพระราชบัญญัติ ทางเว็บไซต์รัฐสภา www.parliament.go.th แล้ว ต้งั แตว่ นั ท่ี ๑๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๔ คณะกรรมการรับฟังความคดิ เหน็ และวเิ คราะห์ผลกระทบที่อาจเกิดข้ึน จากร่างพระราชบัญญตั ิท่ีเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง สานกั งานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร




















Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook