เอกสารประกอบการพิจารณา ตามระเบียบวาระการประชมุ เร่อื งที่คณะกรรมาธกิ าร พิจารณาเสร็จแลว้ เล่มท่ี 4 กลุ่มงานระเบยี บวาระ สานกั การประชุม
๑ รายงานการพิจารณาศึกษา เร่ือง การพฒั นาธุรกจิ อุตสาหกรรมสรุ าไทย ของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกจิ สภาผู้แทนราษฎร กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการพฒั นาเศรษฐกิจ สานกั กรรมาธิการ ๑ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร
๒ บทสรุปผู้บริหาร ธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์เป็นธุรกิจอุตสาหกรรมที่ผูกพันมากับวิถีชีวิตและความ เปน็ อยูข่ องคนไทยมาเป็นระยะเวลานาน ในอดีตที่ผา่ นมาธุรกิจอตุ สาหกรรมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์นั้นมีลักษณะ เป็นกิจการผูกขาดโดยรัฐ ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนคลายการผูกขาดลงในเวลาต่อมา และนามาสู่การเปิดเสรีการ ผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ อย่างไรก็ตาม การประกอบกิจการเก่ียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นยังมีอุปสรรค อยู่อีกมาก ท้ังในแง่ของการประกอบกิจการผลิต และการประกอบกิจการจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อนั เป็นผลมาจาก กฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบงั คับของทางราชการ ในการจาแนกปัญหาน้ัน สามารถจาแนกกฎหมายท่ีเป็นปัญหาออกได้เป็น ๒ ฉบับ คือ พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งกาหนดหลักเกณฑ์เก่ียวกับการผลิตเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์และ การจัดเก็บภาษีเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ และพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซ่งึ กาหนดหลกั เกณฑ์เกยี่ วกับการประกอบกิจการอื่น ๆ เช่น วิธีการและลักษณะการจาหน่าย สถานท่ีจาหน่าย และการโฆษณาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น ซึ่งกฎหมายท้ังสองฉบับน้ัน ได้สร้างภาระและต้นทุนให้แก่ ผปู้ ระกอบการผลติ เครอื่ งดื่มแอลกอฮอล์ โดยสามารถระบุเป็นปญั หา ดงั น้ี ๑) ปัญหาเง่ือนไขการขอใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ซึ่งทาให้ ผูป้ ระกอบการขนาดย่อมไม่สามารถเขา้ สตู่ ลาดการผลิตเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอลภ์ ายในประเทศได้ อันเน่ืองมาจาก เง่ือนไขเรอ่ื งทุนจดทะเบยี นขน้ั ตา่ และกาลังการผลิตข้ันต่า ๒) ปัญหาความไม่สอดคล้องกันของกาลังการผลิตตามกฎหมายโรงงานกับกฎหมายภาษีสรรพสามิต ซ่ึงให้นิยามขนาดของโรงงานไม่ต้องตรงกัน ทาให้การขยายขนาดโรงงานอาจจะไม่ถูกต้องตามกฎหมายภาษี สรรพสามติ ๓) ปัญหาการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตสุราท่ีมีความเหลื่อมล้ากันระหว่างเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ละประเภท แมว้ า่ จะเปน็ เครอื่ งด่ืมแอลกอฮอล์ในลักษะเดยี วกันก็ตาม ๔) ปัญหาการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงกฎหมายไม่อนุญาตให้มีการโฆษณา เครือ่ งด่มื แอลกอฮอลใ์ นสื่อสาธารณะทุก ๆ ประเภท ๕) ปัญหาการควบคุมวันจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่กาหนดให้ใช้วันสาคัญทางพระพุทธศาสนาน้ัน เปน็ การกาหนดเงอ่ื นไขการประกอบกจิ การที่ไม่มเี หตผุ ลทางวิทยาศาสตร์ เศรษฐกจิ และสังคมใดรองรบั ๖) ปัญหาการหา้ มขายเคร่อื งดื่มแอลกอฮอล์ทางอิเลก็ ทรอนกิ ส์ ๗) ปัญหาการควบคุมฉลากเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอล์ ซึง่ เกิดจากกฎหมายกาหนดแนวทางเก่ียวกบั การใช้ ฉลากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะที่ไมเ่ ป็นการเชิญชวนให้ดื่มเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ทั้ง ๆ ที่ฉลากเคร่อื งด่ืม แอลกอฮอลน์ นั้ เปน็ สง่ิ ทช่ี ่วยสร้างอตั ลักษณ์ใหก้ บั เครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์แต่ยหี่ ้อ ๘) ปญั หาการจากดั สถานท่หี า้ มบรโิ ภคเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ ๙) ปัญหาเร่ืองการไม่มีแนวทางท่ีชัดเจนระหว่างเจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติงาน ซ่ึงจากการประชุม คณะอนุกรรมาธิการพบว่า ในแต่ละพ้ืนที่และแต่ละภูมิภาคนั้น เจ้าหน้าที่ของรัฐมีแนวทางการปฏิบัติงาน ไม่เหมือนกนั ทั้ง ๆ ที่เป็นการบังคับใช้กฎหมายและระเบยี บในลักษณะเดียวกัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ได้ มีแนวทางการปฏิบัตงิ านท่ีชัดเจนเพยี งพอ ปัญหาดังกล่าวข้างต้นน้ี ส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตและจาหน่ายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์มีปัญหา ในการประกอบกิจการ ซ่ึงยับยั้งการเติบโตของธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอย่างมาก
๓ ข จึงจาเป็นต้องมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย กฎ ระเบียบ และข้อบังคับของทางราชการในเร่ืองดังกล่าว จงึ จะเปน็ การส่งเสริมการประกอบธุรกจิ อุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ไทย และการแกไ้ ขนจี้ ะสอดคล้องกับ แนวนโยบายตามแผนยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน และแนวนโยบายแห่งรัฐ ในรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๗๗ โดยมีข้อเสนอในการแก้ไข ดังน้ี ๑) ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ และกฎหมายลาดับรอง โดยยกเลิก เงื่อนไขที่เป็นอปุ สรรคตอ่ การประกอบกจิ การผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ๒) ปรับปรุงวิธีการคิดคานวณภาษีเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ใหม่ เพ่ือให้เกิดความเป็นธรรมและ สอดคลอ้ งตามประเภทและชนดิ ของเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ ๓) ปรับปรุงพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ และกฎหมายลาดับรอง โดยอาจจะยกเลกิ บางบทบญั ญัติท่ีไม่เหมาะสม และจัดให้มีกระบวนการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายฉบับนี้ เสยี ใหม่ ๔) เรง่ ใหม้ กี ารจัดทาแนวปฏิบัติเกี่ยวกบั การปฏิบัตติ ามพระราชบญั ญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ และพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ อน่ึง การดาเนินการในเรื่องดังกล่าวอาจจาเป็นต้องใช้ระยะเวลาอีก แต่เป็ นส่ิงที่จาเป็นต้อง ดาเนินการเพอื่ แก้ไขเยยี วยาผลกระทบที่เกิดขึน้ จากการแพร่ระบาดของโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา 2019 ไวรสั สาย พันธ์ุใหม่น้ี จึงอาจเร่งดาเนินการโดยการแก้ไข หรือยกเลิกรายละเอียดในกฎหมายลาดับรองก่อน พร้อม ๆ กันกับ การจัดทาแนวปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย แล้วจึงค่อยตราแก้ไขเพ่ิมเติมในชั้น พระราชบัญญตั ิต่อไป
๔ สารบญั บทสรปุ ผู้บริหาร หน้า ก-ข บทท่ี ๑ บทนา 1 1.1 ความเปน็ มา 2 1.2 วตั ถุประสงคข์ องการศึกษา 2 1.3 ประเดน็ การพิจารณาศึกษา 2 1.4 ระยะเวลาการพจิ ารณาศึกษา 2 1.5 วิธีการพิจารณาศกึ ษา 3 1.6 ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ 3 1.7 นยิ ามศพั ท์เฉพาะ บทที่ 2 ผลการรวบรวมข้อมูลและข้อเทจ็ จรงิ 4 2.1 การประชมุ ของคณะอนุกรรมาธิการ 5 2.๒ ข้อมูลจากหนว่ ยงานทเ่ี ก่ียวขอ้ ง 13 2.๓ ข้อมลู การเดินทางศึกษาดูงานของคณะอนกุ รรมาธิการ 18 2.๔ ข้อมูลการสัมมนาของคณะอนุกรรมาธิการ 20 2.๕ ข้อมลู จากการรวบรวมของหนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้อง บทท่ี 3 ผลการศึกษา 3.1 ภาพรวมเก่ียวกบั ธรุ กิจอุตสาหกรรมเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์ 2๒ 3.1.1 ภาพรวมเศรษฐกจิ อตุ สาหกรรมเครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ 2๒ 3.1.2 โครงสร้างตลาดและสภาพการแขง่ ขันในธุรกิจอุตสาหกรรมเครือ่ งด่ืมแอลกอฮอล์ 2๗ 3.1.3 ธรุ กจิ อุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์กบั ธุรกิจอุตสาหกรรมทเี่ กีย่ วข้อง 3๑ 3.1.4 การจดั เกบ็ รายไดข้ องรัฐจากภาษีสรรพสามติ 3๕ 3.1.5 ภาพรวมเกย่ี วกับผ้บู ริโภคเครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ในปจั จุบัน ๓๘ 3.2 สภาพปัญหาเก่ยี วกบั การประกอบธรุ กจิ อุตสาหกรรมเครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ในประเทศไทย..4๐ 3.2.1 ปญั หาการประกอบกิจการผลิตเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ตามพระราชบัญญตั ิ สรรพาสามิต พ.ศ. 2560 4๑ 3.2.2 ปญั หาการประกอบกจิ การภายใตพ้ ระราชบัญญตั ิควบคุมเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 7๔ 3.2.3 การบังคบั ใชก้ ฎหมายของเจา้ หน้าท่ีของรัฐ 9๕
๕ หน้า ง 10๓ 106 สารบญั (ต่อ) 106 109 บทท่ี 4 บทสรปุ ขอ้ สังเกต และข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ 114 4.1 บทสรปุ 4.๒ ข้อสงั เกต 117 4.๓ ข้อเสนอแนะ 4.๓.1 ข้อเสนอแนะเพ่ือใหม้ ีการแก้ไขเปลย่ี นแปลงกฎหมาย 4.๓.2 ข้อเสนอแนะเพ่ือใหม้ ีการแก้ไขเชงิ นโยบายตอ่ ไป บรรณานกุ รม
๖ จ สารบญั (ต่อ) ภาคผนวก ก ประกาศคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ……………………………. 125 ข ประมวลภาพการจดั ประชมุ ของคณะอนกุ รรมาธกิ าร ..................................................... 128 ค ประมวลภาพการจัดสัมมนาของคณะอนกุ รรมาธิการ …………………………………………….. 134 ง ประมวลภาพการเดนิ ไปศกึ ษาดูงานของคณะอนกุ รรมาธกิ าร ………………………………….. 138 จ รายชอื่ ฝ่ายเลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธิการ ……………………………………………………………. 142
๗ ฉ สารบญั ตาราง ตารางที่ ๑ ตารางแสดงประเภทและผู้ได้รับใบอนญุ าตผลิตเครื่องดม่ื แอลกอฮอลใ์ นแต่ละประเภท 28 ตารางท่ี ๒ แสดงมลู ค่าการสง่ ออกสินคา้ เกษตรกรรม ๓ รายการในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ 32 ตารางที่ ๓ ตวั อย่างข้อมลู การเสยี ภาษขี องสถานประกอบการในพ้นื ทถี่ นนนิมมานเหมินทร์ 34 ตารางท่ี 4 ตวั อย่างข้อมูลการเสียภาษขี องสถานประกอบการในจงั หวัดเชียงใหม่ 35 ตารางท่ี ๕ แสดงรายได้ภาษสี รรพสามติ ๕ ลาดบั แรกเปรียบเทียบย้อนหลงั เป็นระยะเวลา ๓ ปีงบประมาณ (หน่วย : ล้านบาท) 36 ตารางที่ 6 แสดงการเติบโตของรายได้ภาษสี รรพสามิตจากเบยี รแ์ ละสรุ าเปรยี บเทียบย้อนหลงั เปน็ ระยะเวลา ๓ ปงี บประมาณ (หนว่ ย : ลา้ นบาท) 36 ตารางท่ี ๗ แสดงอัตราภาษีเสริมท่เี ก็บไปใชต้ ามวัตถุประสงค์เฉพาะต่าง ๆ จากเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ และยาสูบ 37 ตารางที่ ๘ แสดงผลการจดั สรรเงินภาษเี สรมิ ท่ีเกบ็ ไปใชต้ ามวัตถุประสงคเ์ ฉพาะต่าง ๆ จากเคร่อื งดื่ม แอลกอฮอลแ์ ละยาสูบ (หนว่ ย : ล้านบาท) 38 ตารางที่ 9 แสดงสดั สว่ นของผบู้ รโิ ภคเครอ่ื งดื่มแอลกอฮอลใ์ นลักษณะตา่ ง ๆ จาแนกตามลักษณะบุคคล (รอ้ ยละ) 39 ตารางที่ ๑๐ แสดงนักดื่มเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๕๕๔ พ.ศ. ๒๕๕๗ และ พ.ศ. ๒๕๖๐ 40 ตารางท่ี ๑๑ ตารางแสดงคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนญุ าตผลิตเครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ 41 ตารางที่ ๑๒ ตารางแสดงหลักเกณฑแ์ ละเง่ือนไขโรงอตุ สาหกรรมผลิตเคร่อื งด่มื แอลกอฮอล์ทจ่ี ะไดร้ ับ ใบอนญุ าต 42 ตารางที่ ๑๓ แสดงประเภทใบอนญุ าตผลติ เครื่องด่ืมแอลกอฮอลข์ องมลรัฐแคลฟิ อรเ์ นีย 46 ตารางท่ี ๑๔ แสดงอัตราภาษเี กบ็ จากสุราแช่เปรยี บเทียบระหว่างเพดานอตั ราภาษีกับอัตราภาษีตาม กฎกระทรวง 52 ตารางที่ ๑๕ แสดงอตั ราภาษเี ก็บจากสุรากลั่นเปรียบเทียบระหว่างเพดานอตั ราภาษกี ับอตั ราภาษีตาม กฎกระทรวง 53 ตารางที่ ๑๖ แสดงอตั ราภาษสี รรพสามิตเครื่องดมื่ แอลกอฮอล์ของสหราชอาณาจักร 53 ตารางที่ ๑๗ แสดงอตั ราภาษีสรรพสามิตเครือ่ งด่มื แอลกอฮอล์ของสหรัฐอเมริกา 56 ตารางที่ ๑๘ แสดงพกิ ัดภาษีสรรพสามิตเครือ่ งดม่ื แอลกอฮอล์ของสาธารณรฐั สิงค์โปร์ 59 ตารางที่ ๑๙ อตั ราภาษเี คร่ืองดื่มแอลกอฮอลข์ องสาธารณรฐั สงั คมนิยมเวียดนาม 64 ตารางที่ ๒๐ แสดงอัตราภาษีสรรพสามติ เครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์ของเครอื รัฐออสเตรเลยี 66 ตารางที่ ๒๑ เปรยี บเทียบความผดิ ตามพระราชบญั ญัติควบคุมเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ 80 ตารางที่ ๒๒ พ้นื ที่สารวจในการศกึ ษา 85 ตารางที่ ๒๓ จานวนกลุ่มตัวอย่างท่ีทาการศกึ ษา 86 ตารางที่ ๒๔ พฤติกรรมการดื่มในชว่ งเทศกาลของกลมุ่ ตัวอยา่ ง แบ่งตามเทศกาล 87 ตารางที่ ๒๕ แสดงบทบญั ญัติทใี่ หร้ ฐั มนตรีมีอานาจออกประกาศโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุม เครื่องด่ืมแอลกอฮอลแ์ ละโทษของกฎหมาย 90
๘ ช สารบญั ตาราง (ต่อ) ตารางท่ี ๒๖ แสดงบทบญั ญัตทิ ่ซี า้ ซ้อนกนั ระหวา่ งพระราชบญั ญตั คิ วบคมุ เครอ่ื งดื่มแอลกอฮอล์กับกฎหมาย อ่นื ๆ 92 ตารางท่ี ๒๗ จานวนคดีทด่ี าเนนิ การกล่าวโทษไปยงั สานักงานตารวจแห่งชาตติ งั้ แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๖๓ 93
๙ 23 23 ซ 24 25 สารบญั ภาพ 25 26 ภาพท่ี ๑ อัตราการเติบโตและสดั ส่วนของตลาดเครือ่ งด่ืมท่ัวโลก 27 ภาพท่ี ๒ อัตราการเติบโตและสดั สว่ นของตลาดการบรโิ ภคเครอื่ งด่ืมทั่วโลก 28 ภาพที่ ๓ เปรียบเทียบสัดส่วนมลู คา่ กับปริมาณการบริโภคสุรากบั เคร่ืองด่มื อน่ื ๆ 29 ภาพท่ี 4 การเติบโตของอุตสาหกรรมเคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์ในประเทศไทย 30 ภาพท่ี 5 การเติบโตของปริมาณการบรโิ ภคเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ในประเทศไทย 31 ภาพที่ 6 สัดสว่ นปริมาณการบรโิ ภคและมลู คา่ ตลาดของอุตสาหกรรมเครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ 97 ภาพท่ี 7 สัดสว่ นการส่งออกเครือ่ งดม่ื แอลกอฮอล์และไมใ่ ชเ่ คร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์ ภาพที่ 8 สดั ส่วนการส่งออกเครอื่ งดื่มแอลกอฮอล์ ภาพที่ 9 ส่วนแบง่ ตลาดเบียร์พจิ ารณาตามบริษัท (พ.ศ. ๒๕๖๒) ภาพที่ 10 สว่ นแบ่งตลาดสุราพจิ ารณาตามบริษัท (พ.ศ. ๒๕๖๒) ภาพท่ี 1๑ ส่วนแบง่ ตลาดไวน์พิจารณาตามบรษิ ัท (พ.ศ. ๒๕๖๒) ภาพท่ี ๑๒ แสดงสัดสว่ นเงนิ สินบนรางวัลจากค่าปรับกรณหี ้ามโฆษณาเหล้าเบียร์
๑ บทที่ 1 บทนา 1.1 ความเปน็ มา ธุรกิจการผลิตสุราและการจาหน่ายสุราในประเท ศไทย ผูกพันกับ วัฒ นธรรมของไทยต้ังแต่อดี ต ดังปรากฏในนิราศภูเขาทองของพระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่) ความว่า “ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพง ผูกสายไว้ปลายเสา” เป็นการพรรณนาถึงภาพของโรงกล่ันเหล้าแห่งแรกในแถบบางยี่ขัน ซ่ึงจากเดิมเป็นธุรกิจ ที่ผูกขาดโดยรัฐเป็นผู้ดาเนินการทั้งหมด ต่อมาเป็นธุรกิจที่เอกชนบางรายได้สิทธ์ิดาเนินการจากภาครัฐ หรือ อาจเรียกได้ว่าเป็น “ยุคการผูกขาดอุตสาหกรรมสุรา” ปัจจุบันแม้จะมีการเปิดเสรีธุรกิจสุรา หรือ การเข้าสู่ยุค “ระบบการค้าเสรี” แต่ธุรกิจสุรายังคงเป็นธุรกิจที่รัฐให้ความสาคัญ และรัฐยังคงควบคุมประกอบกิจการและ การผลิตสุราอย่างเคร่งครัด อีกทั้ง บรรดากฎหมายท้ังหลายนี้ก็ได้สร้างภาระและเป็นอุปสรรคต่อการประกอบ อาชีพผลิตสุราท้ังผู้ประกอบการขนาดย่อมและขนาดย่อย จนไม่สามารถพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างนวตั กรรมสนิ คา้ และพฒั นาอตุ สาหกรรมสุราให้ทัดเทียมกบั นานาประเทศ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕60 มาตรา 129 ประกอบข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕62 ข้อ 90 (2๕) คณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าควรศึกษาแนวทางและจัดทาข้อเสนอแนะในการแก้ไขกฎหมายเพ่ือพัฒนาอุตสาหกรรมสุรา ของไทย เพื่อให้ประชาชนมีเสรีภาพในการผลิตสุราอย่างถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และเพ่ือนาเสนอ ต่อสภาผู้แทนราษฎร อันจะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม จึงได้มีมติในคราวประชุม คณะกรรมาธิการ คร้ังท่ี 25 ในวันพุธที่ ๑5 กรกฎาคม ๒๕๖๓ และอาศัยอานาจตามข้อบังคับการประชุม สภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕62 ข้อ 96 ต้ังคณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา โดยอนุกรรมาธิการ ประกอบด้วย ๑. นายเท่าพิภพ ลมิ้ จติ รกร เป็นประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร ๒. นายธนกร ไชยกุล เปน็ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนท่หี นึง่ ๓. นายครสิ โปตระนนั ทน์ เปน็ รองประธานคณะอนุกรรมาธกิ าร คนทส่ี อง ๔. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์เจรญิ เจริญชยั เป็นอนุกรรมาธกิ าร ๕. นางสาวสวุ ิสุทธ์ิ โลหติ นาวี เป็นอนุกรรมาธกิ าร 6. พนั เอกวชิ ติ ซา้ ยเกลา้ เป็นอนกุ รรมาธิการ ๗. นายปณธิ าน ตงศิริ เป็นอนกุ รรมาธิการ ๘. นายศภุ ฤกษ์ ฤกษ์วัฒนอาไพ เป็นอนุกรรมาธกิ าร ๙. นายธรี วฒุ ิ แก้วฟอง เป็นอนุกรรมาธิการ ๑๐. นายเขมภัทร ทฤษฎิคณุ เปน็ เลขานกุ ารคณะอนุกรรมาธกิ าร อน่งึ คณะอนกุ รรมาธกิ ารไดพ้ ิจารณาต้ังบุคคลเปน็ ท่ปี รกึ ษาคณะอนกุ รรมาธกิ าร ประกอบดว้ ย 1. นายสุรตั น์ ยกยิ่ง ๒. นางกญั ญาภคั ออมแก้ว ๓. นายณกิ ษ์ อนุมานราชธน 4. นายธนพล เลศิ วรกุลชัย 5. นายพงศเฉลมิ เฉลิมทรพั ยากร
๒ 6. นางสาวประภาวี เหมทัศน์ 7. นายศุภพงษ์ พรงึ ลาภู 8. นายจิตรเทพ เนอื่ งจานง 9. นายนัทธดิฏฐ์ ทวีสุข 10. นายมนตรี บญุ จรสั 11. นายอาชิระวสั ส์ วรรณศรีสวสั ดิ์ โดยให้คณะอนุกรรมาธิการมีหน้าท่ีและอานาจสาคัญประการหน่ึง คือ พิจารณาศึกษาสภาพปัญหา และอุปสรรค ตลอดจนวเิ คราะห์ข้อมูล ข้อเท็จจริงเพื่อศกึ ษาแนวทางและจัดทาข้อเสนอแนะเก่ียวกับการแก้ไข กฎหมายเพ่ือพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา เพื่อนาไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อันจะส่งผลให้ ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการผลิตสุราอย่างถูกตอ้ งเหมาะสมตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อีกทั้ง ยังเกิด การพัฒนาทักษะความชานาญในการผลิตสุราที่สั่งสมเกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ และสร้างนวัตกรรมสินค้าให้เป็น สิง่ บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของประเทศไทย ย่ิงก่อให้เกิดการแข่งขัน และในท้ายทส่ี ุดจะเกดิ การพัฒนาอุตสาหกรรมสุรา ตลอดทง้ั เป็นการยกระดบั รายได้ใหแ้ ก่ประชาชน ภาคเอกชน และประเทศชาตใิ นภาพรวม 1.2 วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษา เพือ่ ศกึ ษาแนวทางและจดั ทาข้อเสนอแนะในการแก้ไขกฎหมายเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมสรุ า 1.3 ประเดน็ การพจิ ารณาศึกษา คณะอนุกรรมาธิการไดก้ าหนดประเด็นในการพจิ ารณาศึกษา ดังนี้ 1) ภาพรวมของการพฒั นาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสุรา 2) เกณฑ์การอนุญาตผลติ สรุ าในปัจจุบัน และแนวโน้มการปรบั ปรุงแก้ไขกฎหมาย ท่ีเกย่ี วกบั การผลติ สรุ าชมุ ชน 3) การกาหนดอัตราภาษีทั้งทางกฎหมายและทางปฏิบตั ิ 4) การจัดประเภทภาษีและบรรจุภณั ฑ์ 5) การจดั เก็บภาษีสรุ าและประเภทสุรา 6) แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมสรุ าในมุมมองภาคเอกชน ๗) กฎหมายท่เี ก่ียวข้องกับการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ๘) ข้อดีและขอ้ เสียของการโฆษณาเคร่ืองดืม่ แอลกอฮอล์ 1.4 ระยะเวลาการพจิ ารณาศึกษา คณะกรรมาธกิ ารได้กาหนดระยะเวลาในการพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการ ภายใน 90 วัน และมีมติให้ขยายเวลาออกไปอีก 45 วัน รวมเป็น 135 วัน (ต้ังแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2563 ถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563) 1.5 วธิ กี ารพิจารณาศกึ ษา คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้ทาการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากรัฐธรรมนูญ กฎหมาย กฎ และระเบียบปฏิบัติ
๓ ราชการที่เก่ียวข้องกับอุตสาหกรรมสุราของไทย รายงานผลการวิจัย รวมทั้งแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรม สรุ าของต่างประเทศ ตลอดจนความเหน็ และข้อเสนอแนะจากผ้แู ทนหนว่ ยงานที่เกีย่ วขอ้ ง ดงั นี้ 1) กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลงั 2) สานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม 3) กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม 4) กรมสง่ เสรมิ การปกครองทอ้ งถ่นิ กระทรวงมหาดไทย 5) สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม 6) สมาคมธรุ กิจเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ไทย 7) สานกั งานคณะกรรมการควบคมุ เครือ่ งด่มื แอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสขุ 8) นักวิจารณ์ นกั ชิมเบียร์ และเจา้ ของแอดมินเพจเฟซบุ๊ก 1.6 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ บั สภาผูแ้ ทนราษฎรได้รับทราบแนวทางและขอ้ เสนอแนะในการแกไ้ ขกฎหมายเพ่ือพัฒนาอุตสาหกรรม สุราที่สามารถนาเสนอต่อรัฐบาล และหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการนาไปกาหนดนโยบายหรือปรับใช้กับการ บริหารจัดการการบังคับใช้กฎหมายอย่างเหมาะสม อันจะเป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันและ พัฒนาอุตสาหกรรมสุราให้มีศักยภาพในการผลิตสุราให้ทัดเทียมนานาชาติอย่างเป็นรูปธรรม ยกระดับรายได้ ท้ังในภาคประชาชนและภาคเอกชน อนั จะสง่ ผลตอ่ การพฒั นาเศรษฐกจิ ของประเทศในภาพรวมได้ต่อไป 1.7 นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ “รฐั ธรรมนูญ” หมายถึง รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ “ขอ้ บงั คบั การประชุมสภา” หมายถึง ข้อบังคับการประชุมสภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๕๑ “คณะกรรมาธิการสามญั ” หมายถงึ คณะกรรมาธกิ ารสามัญประจาสภาผแู้ ทนราษฎร “คณะกรรมาธกิ าร” หมายถงึ คณะกรรมาธกิ ารการพฒั นาเศรษฐกจิ “คณะอนุกรรมาธิการ” หมายถึง คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร “สภา” หมายถึง สภาผ้แู ทนราษฎร “สานกั งาน” หมายถึง สานกั งานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร “สานัก” หมายถึง สานักกรรมาธกิ าร ๑ “สภาพปัญหา” หมายถึง ประเด็นท่ีเป็นอุปสรรค ความยากลาบากหรือ สถานการณ์ต่าง ๆ ทจ่ี ะตอ้ งมกี ารแกป้ ัญหา ซึง่ จะได้ผลลัพธ์ของการแก้ปญั หา หรือผลงานที่นาไปสวู่ ัตถุประสงค์ “ผลสัมฤทธิ์” หมายถึง สิ่งทีท่ าได้สาเรจ็
๔ บทท่ี 2 ผลการรวบรวมข้อมลู และข้อเทจ็ จรงิ การรวบรวมข้อมลู และข้อเท็จจริงจากภารกิจของคณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ครั้งน้ี เพ่ือให้ได้ข้อมูลที่มีความครบถ้วนสมบูรณ์ จึงกาหนดวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลการเดินทางศึกษาดูงาน ข้อมูลการจัดสมั มนา และขอ้ มลู การรวบรวมของหนว่ ยงานที่เกย่ี วข้อง ดงั นี้ 2.1 การประชุมของคณะอนุกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธกิ ารศึกษาพฒั นาธรุ กิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธกิ ารการพัฒนาเศรษฐกจิ สภา ผู้แทนราษฎร ได้จัดประชุมเพื่อกาหนดเร่ืองพิจารณาศึกษาท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมสุรา โดยดาเนินการประชุมทงั้ ส้ิน จานวน 9 ครง้ั ดังนี้ 2.1.1 ครง้ั ที่ ๑ วันพฤหสั บดที ี่ 16 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมพิจารณาศึกษา เร่ือง “กรอบแนวทางในการดาเนินงานและอานาจหน้าท่ีของ คณะอนกุ รรมาธิการศึกษาพฒั นาธรุ กิจอุตสาหกรรมสรุ า” 2.2.2 ครงั้ ท่ี ๒ วนั พฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมพิจารณาศึกษา เร่ือง “ภาพรวมของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา” โดยเชิญ ผู้แทนจากกรมสรรพสามิตเข้าร่วมประชุมและช้ีแจงข้อมูลต่อคณะอนุกรรมาธิการเกี่ยวกับข้ อมูลจานวน ใบอนญุ าตผลติ สรุ าในปจั จุบัน และภาพรวมของการขอใบอนุญาตผลติ สรุ า 2.2.3 ครง้ั ที่ 3 วันพฤหัสบดที ่ี 30 กรกฎาคม 2563 ท่ีประชุมพิจารณาศึกษา เรื่อง “ภาพรวมของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา” โดยเชิญ ผู้อานวยการสานักแผนภาษี กรมสรรพสามิต เข้าร่วมประชุมและชแี้ จงกับคณะอนุกรรมาธิการ ในประเดน็ การ จัดเก็บภาษีสุรา ประเภทสุรา ภาชนะบรรจุภัณฑ์ และประเด็นอื่น ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาธุรกิจ อตุ สาหกรรมสรุ า 2.2.4 ครั้งที่ 4 วันพฤหสั บดที ี่ ๖ สิงหาคม 2563 ที่ประชุมพิจารณาศึกษา เรื่อง “ภาพรวมของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา” โดยเชิญ ผู้แทนกรมสรรพสามิต เข้าร่วมประชุมและช้ีแจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ ในประเด็นการจัดเก็บภาษีสุราและ ประเภทสุรา และตอบขอ้ ซักถามในประเด็นอนื่ ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง 2.2.5 คร้ังที่ ๕ วันพฤหสั บดีที่ 13 สงิ หาคม 2563 ทป่ี ระชุมพจิ ารณาศึกษา เร่ือง “ภาพรวมกฎเกณฑ์ของกฎหมายตา่ ง ๆ ท่ีเกีย่ วข้องกับการผลิต สุรา” โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานเข้าร่วมประชุมและช้ีแจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ ได้แก่ สานักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน และ สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑอ์ ตุ สาหกรรม 2.2.6 ครัง้ ที่ ๖ วันพฤหสั บดที ่ี 20 สิงหาคม 2563 ที่ประชุมพิจารณาศึกษา เร่ือง “แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมสุราในมุมมองภาคเอกชน” โดยเชิญ นายกสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เขา้ ร่วมประชมุ และชแี้ จงตอ่ คณะอนุกรรมาธิการ
๕ 2.2.7 ครั้งที่ 7 วันพฤหสั บดีท่ี 27 สิงหาคม 2563 ท่ีประชุมพิจารณาศึกษา เร่ือง “กฎหมายที่เก่ียวข้องกับการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” โดยเชิญสานกั งานคณะกรรมการควบคมุ เคร่อื งด่ืมแอลกอฮอลเ์ ขา้ ร่วมประชุมและชแี้ จงต่อคณะอนุกรรมาธิการ 2.2.8 ครั้งที่ 8 วันพฤหสั บดีที่ 3 กนั ยายน 2563 ที่ประชุมพิจารณาศึกษา เร่ือง “ข้อดีและข้อเสียของการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” โดยเชิญ นายอาทิตย์ ศวิ ะหรรษาพนั ธ์ เข้ารว่ มประชุมและชีแ้ จงขอ้ มูลต่อคณะอนุกรรมาธิการ 2.2.๙ ครั้งที่ ๙ วนั พฤหัสบดที ่ี 5 พฤศจิกายน 2563 ท่ีประชุมพิจารณาศึกษา เรื่อง “ร่าง รายงานพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการศึกษา พัฒนาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสุรา” 2.2 ข้อมูลจากหนว่ ยงานท่เี ก่ียวข้อง คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดประชุมและพิจารณาศึกษาเรื่องท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาอุตสาหกรรมสุรา เพื่อนา ข้อมูลและข้อเท็จจริงท่ีได้รับมาศึกษา วิเคราะห์ รวบรวม สรุปความเห็น และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่ เก่ียวขอ้ ง ดงั นี้ 2.2.1 พิจารณาศึกษา เรื่อง “ภาพรวมของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา” โดยเชิญผู้แทน จากกรมสรรพสามิตเข้าร่วมประชุมและช้ีแจงข้อมูลต่อคณะอนุกรรมาธิการเกี่ยวกับ ข้อมูลจานวนใบอนุญาต ผลติ สรุ าในปจั จบุ นั และภาพรวมของการขอใบอนุญาตผลิตสรุ า ดังนี้ (๑) การออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ไม่ได้ระบุว่า สุราชุมชนผลิตสุราชนิดใดได้บ้าง รวมท้ังการกาหนดว่าเบียร์เป็นสุราแช่แยกออกจากสุราแช่ชนิดอื่น จึงเกิด คาถามจากประชาชนและสังคมว่าเหตุใด จึงกาหนดเกณฑ์กาลังการผลิตสุราแช่ชนิดเบียร์แยกจากสุราแช่ ชนิดอื่นท่ีไม่มีกาลังผลิตขั้นต่า สาหรับสุรากลั่นที่กาหนดให้เป็นสุราขาว แต่ไม่ได้เขียนไว้ในกฎกระทรวง การอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงเป็นขอ้ สงั เกตวา่ ใชอ้ านาจตามกฎหมายใดกาหนด (๒) ขอให้กรมสรรพสามิตเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการธุรกิจสุราทุกกลุ่มเข้าไปมีส่วนร่วม ในการปรบั ปรงุ แกไ้ ขกฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง (๓) กรณีเจ้าหน้าที่ตรวจและคานวณสูตรตามวัตถุดิบ แต่การหมกั สุราใช้ยีสต์ไม่สามารถทา ให้ดีกรีเท่ากันได้ทุกครั้ง และปริมาณวัตถุดิบอาจไม่ได้ผลผลิตตามกาหนดในสูตรเสมอไป ส่งผลให้ผู้ผลิต ถกู ดาเนินคดี ขอใหพ้ จิ ารณาขอ้ ผ่อนปรนในกรณดี งั กล่าวดว้ ย (๔) ผู้ประกอบการรายย่อย ประสบปัญหาเร่ืองการทาบัญชี เน่ืองจากผู้ประกอบการ บางรายเป็นผู้สูงอายุถูกปรับในอัตราสูงเน่ืองจากไม่ได้ทาบัญชี แม้ว่ากรมสรรพสามิตอธิบายว่าได้กาหนดให้ เพียงบันทึกว่าดาเนินการอย่างไรในแต่ละวัน แต่ในการบังคับใช้กฎหมาย ในการจับและปรับของเจ้าหน้าที่ มมี าตรฐานไม่เท่าเทยี มกนั ในแต่ละพ้ืนที่ จึงขอให้เจ้าหน้าทข่ี องรฐั ปฏิบตั งิ านในหลักการเดียวกันในทุกพืน้ ท่ี (๕) การแบง่ ประเภทการจัดเก็บภาษีตามมูลคา่ และปริมาณ เมือ่ เป็นสินค้าคนละประเภทน้ัน ตัวคูณจะไม่เหมือนกัน เช่น กรณีไวน์ หากพิจารณาจากสุขภาพและความปลอดภัยจากดีกรีแอลกอฮอล์น้ัน สุรากล่ันดีกรีสูงกว่าแต่ภาษีสุรากล่ันถูกกว่า และการคิดภาษีไวน์จากองุ่น แตกต่างจากไวน์ผลไม้อื่น ๆ ที่พิจารณาว่ามาจากผลผลิตทางการเกษตรไทย ทั้งที่องุ่นถือเป็นผลไม้ไทยเช่นเดียวกัน เหตุใดการคิดภาษี จึงไมเ่ ทา่ กนั จงึ ควรพจิ ารณาพิกดั อัตราภาษีใหม่ และไมค่ วรแยกประเภทสนิ ค้า
๖ ข้อสงั เกตและขอ้ เสนอแนะของคณะอนุกรรมาธกิ าร (๑) ที่มาของการใช้ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การให้ต้ังโรงงานผลิตสุราและบรรจุสุรา ในทุกท้องที่ท่ัวราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๐ เริ่มในปี ๒๕๔๓ จากประกาศกระทรวงการคลังว่าด้วยวิธีการ บริหารงานสุรา และประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมว่าด้วยการตั้งโรงงานผลิตและบรรจุสุราที่ได้ยกเลิกไป โดยคาพิพากษาศาลปกครองเนื่องจากออกกฎหมายโดยมิชอบ จากการดาเนินการผิดข้ันตอนท่ีต้องออกเป็น กฎกระทรวง แต่กลับออกเป็นประกาศกระทรวง ท้ังน้ี ได้อนุญาตการผลิตสุราชุมชนมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๖ จึงควรต้องพิจารณาการออกกฎกระทรวง ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งเมื่อออกเป็น กฎกระทรวงแล้ว ไม่ได้ระบุวา่ สุราชุมชนผลติ สรุ าชนิดใดได้บ้าง รวมทั้ง การกาหนดวา่ เบยี รเ์ ป็นสุราแชแ่ ยกออก จากสุราแช่ชนิดอื่น จึงเกิดคาถามจากประชาชน และสังคมว่าเหตุใดจึงกาหนดเกณฑ์กาลังการผลิตสุราแช่ ชนิดเบียร์แยกจากสุราแช่ชนิดอื่นท่ีไม่มีกาลังผลิตข้ันต่า ส่วนสุรากล่ันที่กาหนดให้เป็นสุราขาว แต่ไม่ได้ตราไว้ ในกฎกระทรวงการอนุญาตผลิตสุรา พ.ศ. ๒๕๖๐ จึงเป็นข้อสังเกตว่าใช้อานาจตามกฎหมายใดกาหนด และ ผู้ต้องการผลิตให้ย่ืนแบบที่อธิบดีกาหนด ซึ่งอธิบดีกาหนดให้ผลิตเฉพาะสุราขาวเท่านั้น จึงเป็นการใช้อานาจ นอกเหนือจากที่กฎหมายกาหนด ดังน้ัน ขอให้กรมสรรพสามิตพิจารณาการปรับปรุง กฎกระทรวง และ ประกาศต่าง ๆ เพอ่ื สนับสนนุ ธรุ กิจอุตสาหกรรมสรุ าชุมชน (๒) ขอให้กรมสรรพสามิตเปิดช่องทางให้ผู้ประกอบการธุรกิจสุราทุกกลุ่มเข้าไปมีส่วนร่วมในการ ปรับปรุงแกไ้ ขกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง (๓) กรณีเจ้าหน้าท่ีตรวจและคานวณสูตรตามวัตถุดิบ แต่การหมักสุราใช้ยีสต์ไม่สามารถทาให้ดีกรี เท่ากันได้ทุกคร้ัง และปริมาณวัตถุดิบอาจไม่ได้ผลผลิตตามกาหนดในสูตรเสมอไป ทาให้ผู้ผลิตถูกดาเนินคดี ขอใหพ้ ิจารณาข้อผอ่ นปรนในกรณีดังกล่าวดว้ ย (๔) ผู้ประกอบการรายย่อยประสบปัญหา เร่ือง การทาบัญชี เน่ืองจากผู้ประกอบการบางราย เป็นผู้สูงอายุและถูกปรับในอัตราสูง เน่ืองจากไม่ได้ทาบัญชี แม้ว่ากรมสรรพสามิตอธิบายว่า ได้กาหนดให้เพียง บนั ทึกว่าดาเนินการอยา่ งไรในแต่ละวนั แต่ในการบังคับใช้กฎหมาย ในการจับ และปรบั ของเจ้าหนา้ ท่ีของรัฐมีมาตรฐาน ไม่เท่าเทยี มกนั ในแต่ละพ้นื ที่ จึงขอให้ปฏบิ ตั งิ านในหลกั การเดียวกันในทกุ พื้นที่ (๕) เพื่อส่งเสริมสุราชุมชนโรงเล็ก เสนอให้สุราชุมชนขนาดเล็กสามารถกล่ันและนามาขายให้กับ โรงอุตสาหกรรมชุมชนท่มี ขี นาดใหญ่กว่าทม่ี ศี กั ยภาพและอยใู่ นพ้นื ทเี่ ดียวกนั ได้ (๖) การแบ่งประเภทการจัดเก็บภาษีตามมูลค่าและปริมาณ เมื่อเป็นสินค้าคนละประเภทนั้นตัวคูณ ไม่เหมือนกัน เช่น กรณีไวน์แอลกอฮอล์ ๑๑ - ๑๔ ดีกรี ขณะที่สุรากลั่น ๓๕ - ๔๐ ดีกรี หากพิจารณาจาก สุขภาพและความปลอดภัยจากดีกรีแอลกอฮอล์น้ัน สุรากลั่นดีกรีสูงกว่าแต่ภาษีสุรากลั่นถูกกว่า นอกจากน้ี การแบ่งประเภทความฟุ่มเฟือยกับไวน์เกิดจากการคิดภาษีแพงทาให้ต้องต้ังราคาแพง จึงไม่ควรแยกประเภท และการคิดภาษีไวน์จากองุ่นแตกต่างจากไวน์ผลไม้อ่ืน ๆ ที่พิจารณาว่ามาจากผลผลิตทางการเกษตรไทย ทั้งท่ี องุ่นถอื เป็นผลไม้ไทยเชน่ เดียวกนั เหตุใดการคิดภาษจี ึงไม่เท่ากัน จึงควรพจิ ารณาพิกดั อตั ราภาษีใหม่ 2.2.2 พิจารณาศึกษา เรื่อง “ภาพรวมของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา” โดยเชิญ ผู้อานวยการสานักแผนภาษี กรมสรรพสามิต เข้าร่วมประชุมและชี้แจงกับคณะอนุกรรมาธิการ ในประเด็นการ จัดเก็บภาษีสุรา ประเภทสุรา ภาชนะบรรจุภัณฑ์ และประเด็นอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาธุรกิจ อตุ สาหกรรมสรุ า ดังนี้
๗ ผอู้ านวยการสานักแผนภาษี กรมสรรพสามติ ได้ชแ้ี จงกับคณะอนุกรรมาธกิ าร ดังน้ี (1) กรมสรรพสามิตได้ศึกษาและปรับแก้กฎหมายจนมพี ระราชบัญญตั ิภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ซงึ่ การคดิ ภาษจี ะให้ความสาคัญกบั 2 ประเดน็ หลกั คอื (1) ด้านสุขภาพ และ (2) ดา้ นความฟมุ่ เฟือย (2) โครงสร้างการจัดเก็บภาษีในปัจจุบันพบว่า ไวน์ผลไม้จะมีภาระภาษีเพิ่มข้ึน ร้อยละ 300 – 700 แต่ชนิดไวน์องุน่ ในประเทศลดลง รอ้ ยละ 20 – 30 (3) กรณีไวน์ 1,500 บาท/ลิตร แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธ์ิ หมายถึง หาก 1 ลิตร ถ้าพบว่ามี 10 ดีกรี จะเสียภาษี 150 บาท ซึ่งไวน์จะมี 13 – 15 ดีกรี คานวณโดยประมาณ 160-170 บาท /ลิตร แต่ไวน์มีขนาด 700 ซีซี ภาษีต่อขวดจึงมอี ัตราต่าลงอีก สาเหตุท่ีมกี ารจัดเกบ็ ภาษีไวน์ตา่ กว่าสรุ ากลนั่ อนื่ ๆ คือ ไวน์มีดีกรีต่าและมีโทษต่อสุขภาพน้อย ทั้งนี้ แม้ว่าปริมาณแอลกอฮอล์เท่ากัน แต่ราคาขายปลีกอยู่ระหว่าง 100 – 1,000 บาท ก็จะเสียภาษีในอัตราเท่ากัน แต่หากราคาขายปลีกเกิน 1,000 บาท จะจัดเก็บภาษี ความฟุ่มเฟือย กล่าวคอื ปริมาณบวกมลู ค่า ก็จะเสียภาษใี นอัตราเพิม่ ข้นึ (4) การจัดเก็บภาษีไวน์ภายหลังปี 2560 ภาระภาษีได้ปรับอัตราเพิ่มขึ้น ร้อยละ 300 – 700 กลา่ วคือ เพิ่มจาก 150 บาท เป็น 900 บาท หากประสงคจ์ ะขยายฐานหรือปรับอัตราภาษีใดในอนาคต สามารถกระทาได้ แต่เหน็ ควรให้ชะลอเรือ่ งดังกล่าวและตดิ ตามความเหมาะสมของบริบทสังคม (5) กรมสรรพาสามิตได้จัดเก็บภาษีจากราคาขายปลีก เนื่องจากเป็นราคาสุดท้ายก่อนจะถึง ผู้บริโภค วิธีดังกล่าวจะลดขั้นตอนการแจ้งราคาหน้าโรงงานที่ต่าเกินความจริง เกิดความเป็นธรรม และ สอดคลอ้ งกับสภาวการณ์ปจั จบุ ัน (6) กรมสรรพาสามิตได้จัดเก็บภาษีโดยคานวณราคาขายปลีกจากค่าฐานนิยมร้านค้าหลัก อาทิ ห้างสรรพสินค้า ตลาดสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านขายของชา ซ่ึงรวบรวมข้อมูลทั้งจากการสารวจและ จากสมาคมผ้คู ้าปลีกไทย เพอ่ื คานวณหาราคาฐานนยิ มท่เี หมาะสม แต่ถา้ ผูป้ ระกอบการเห็นว่า ขอ้ มูลราคาขายปลีกใด ไม่ตรงกนั สามารถประสานแจ้งกรมสรรพาสามติ เพ่ือสารวจ และรวบรวมขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ได้ (7) สุราขาวเป็นสุราเฉพาะและมีมานานต้ังแต่สมัยสุโขทัย ซึ่งแตกต่างจากสุราสีและไวน์ โดยสุราขาวมี 40 ดีกรี ปริมาณ 600 มิลลิลิตร ราคาขายปลีก คือ 60-80 บาท ภาระภาษี คือ 45 บาท ซง่ึ สุราขาวเป็นสุราท่ีเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมบริโภค หากภาระภาษีเพ่ิมเป็น ร้อยละ 200 อาจส่งผลให้เกิดการ ตม้ เหล้าขาวเพื่อบรโิ ภคด่ืมเอง ท้ังนี้ ผู้อานวยการสานักแผนภาษียังเห็นด้วยว่า ในอนาคตควรมีการจัดเก็บภาษีภายใต้หลักการ เดียวกันอย่างเท่าเทียมกัน แต่ยังคงต้องคานึงสุขภาพและความฟุ่มเฟือยเป็นสาคัญ รวมถึงระยะเวลา ท่ีเหมาะสมในการปรับแก้กฎหมาย กฎ ระเบียบท่ีเกี่ยวข้อง และบริบทของสังคมในขณะน้ัน ตลอดจนความ พร้อมดา้ นอืน่ ทอ่ี าจจะเก่ียวขอ้ ง ขอ้ สังเกตและขอ้ เสนอแนะของคณะอนกุ รรมาธิการ (๑) ควรมีการจัดสัมมนาหรือประชุมเพ่ือแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ และร่วมกันแก้ปัญหา ท่ีเกี่ยวข้องกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขออนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้า โดยเชิญหน่วยงานอ่ืน ทีเ่ กี่ยวข้องเข้ารว่ มสัมมนา หรือประชุมต่อไป (๒) สุราแช่ประเภทเบียร์ได้ถูกกาหนดให้มีหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่แตกต่างกับสุราแช่ ประเภทอื่น เช่น ทุนในการจดทะเบียน 10 ล้านบาท กาลังการผลิตข้ันต่า ซึ่งประเภทสุราแช่ทั้งหมดควร มีหลักเกณฑ์ วิธกี าร เง่ือนไข ตลอดทัง้ แนวทางปฏิบัติเช่นเดียวกนั (3) การจัดเก็บภาษีตามขนาดโรงงาน หรอื ตามสนิ คา้ สาเร็จรูปเห็นควรสนับสนุน และช่วยขจัดปัญหา อปุ สรรคต่าง ๆ ให้กับสุราชมุ ชนที่มโี รงงานขนาดเลก็ สามารถดาเนนิ การผลิตสุราได้
๘ (4) การผลิตเบียร์ที่มีการจัดเก็บภาษีบนหลักความฟุ่มเฟือยถึง ร้อยละ 22 และการจัดเก็บภาษี จากการขายสนิ ค้า ร้อยละ 7 รวมเปน็ ร้อยละ 29 จะส่งผลใหผ้ ู้ประกอบการลดต้นทนุ การผลติ โดยนาวัตถุดิบ ราคาถกู มาผลติ เบียร์ที่มคี ุณภาพตา่ กว่าท่ีควรจะผลิต (5) กรมสรรพสามิตควรจะยกเลิกหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขบางประการ เพ่ือสนับสนุนให้ ผู้ประกอบการรายย่อยดาเนินการผลิตและพัฒนาอุตสาหกรรมสุราในประเทศให้ดียิ่งข้ึน และยังจะช่วยให้ กรมสรรพสามติ สามารถจัดเกบ็ ภาษีการผลติ สุราได้เพ่ิมมากขนึ้ ด้วย (6) กรมสรรพสามิตควรจะลดภาษใี ห้กับผู้ผลิตสุราชุมชนบ้าง เช่ือว่าผู้ผลิตสุรายินดจี ะชาระภาษีและ ส่วนราชการจะเก็บภาษีไดม้ ากกวา่ ปจั จบุ นั และยงั จะไม่มีการลักลอบผลิตสรุ าในอนาคตดว้ ย 2.2.3 พิจารณาศึกษา เรื่อง “ภาพรวมของการพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา” โดยเชิญผู้แทน กรมสรรพสามิต เข้าร่วมประชุมและชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ ในประเด็นการจัดเก็บภาษีสุราและ ประเภทสุรา และตอบข้อซกั ถามในประเดน็ อน่ื ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ ง ดงั น้ี ๑) ในประเด็นเกยี่ วกบั การขออนญุ าตผลิตสรุ าเพ่ือการคา้ ไดม้ ีการถาม-ตอบ ดังน้ี (๑.๑) ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร หากการขออนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้าจะไม่กาหนด คุณสมบัติผู้ขออนุญาตในเร่ืองขนาดกาลังการผลิต กาลังแรงม้าของเครื่องจักร จานวนพนักงาน หรือประเภท บุคคลผู้มีสิทธิขออนุญาต และกรณีผู้ขออนุญาตเป็นบริษัทซ่ึงจัดต้ังขึ้นตามกฎหมายไทยต้องไม่กาหนดเร่ือง ทุนจดทะเบยี นขน้ั ตา่ ผู้แทนกรมสรรพสามิตได้ตอบว่า พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 มาตรา 153 ได้กาหนด หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการขออนุญาตผลิตสุรา ซ่ึงต้องให้ความสาคัญส่ิงแวดล้อม การควบคุมคุณภาพ และผลกระทบอื่น อาทิ ด้านสังคม ตลอดทั้งการออกใบอนุญาตผลิตสุรายังเกี่ยวข้องกับ กฎหมายอ่ืน อาทิ พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. 2562 ท้ังน้ี เห็นควรเปิดโอกาสให้หน่วยงานอื่น ที่เกย่ี วข้องได้แสดงความคิดเหน็ ในเรอื่ งดงั กล่าวเพื่อให้ได้ขอ้ สรปุ ทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ไป (1.๒) ท่านมีความคิดเห็นเช่นไรต่อการกาหนดประเภทใบอนุญาตตามขนาดกาลังการผลิต ของโรงงานแทนการแยกประเภทตามชนิดของสุรา โดยอาจกาหนดขนาดของโรงงาน แบ่งออกเป็น ๓ ขนาด ได้แก่ ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ซ่งึ ภายใต้ขนาดโรงงานท้ัง ๓ ขนาดนี้ สามารถผลิตสุราประเภทใดก็ได้ ผู้แทนกรมสรรพสามิตได้ตอบว่า นโยบายดังกล่าวยังไม่ได้กาหนดไว้ในกฎหมาย แต่หาก ในอนาคตจะกาหนดประเภทใบอนุญาตตามขนาดกาลังการผลิตของโรงงานแทนการแยกประเภทตามชนิดของสุรา ซึ่งอาจจะกาหนดขนาดของโรงงานนั้น น่าจะได้รับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการรายอ่ืน เพ่ือประกอบการ พิจารณารว่ มด้วย (1.3) ท่านมีความคิดเห็นเช่นไร หากโรงงานสุราชุมชน/สุราขนาดเล็กจะสามารถผลิตสุรา ชนดิ อ่นื ได้ โดยไม่จากัดวา่ ต้องเป็นสุราขาวเทา่ นน้ั ผู้แทนกรมสรรพสามติ ได้ตอบว่า เร่อื งดงั กลา่ วอยรู่ ะหวา่ งข้ันตอนการทบทวนกฎหมาย ๒) ในประเด็นทีเ่ ก่ียวขอ้ งกับภาษีไดม้ กี ารถาม-ตอบ ดงั น้ี (2.๑) ท่านมีความคิดเห็นเช่นไรในการจัดเก็บภาษีตามขนาดโรงงาน และท่านเห็นว่า การเก็บภาษีตามขนาดของโรงงานนน้ั มขี อ้ ดแี ละขอ้ เสยี หรอื ไม่ อยา่ งไร ผู้แทนกรมสรรพสามิตได้ตอบว่า กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษี สรรพสามิต พ.ศ. 2560 ซ่ึงหลักสากลทั่วไปจะจัดเก็บภาษีสุรา หรือสินค้าสาเร็จรูปเท่าน้ัน ไม่ได้เก็บตามขนาด ของโรงงาน จงึ ยังไมไ่ ด้มกี ารศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียในเรือ่ งดังกล่าว
๙ (2.๒) หากไม่สามารถจัดเก็บภาษีตามขนาดของโรงงานแล้ว ท่านมีความคิดเห็นเช่นไร หากการคานวณภาษีจะไม่ใช้ราคาขายปลีกแนะนามาใช้ในการคานวณภาษี เน่ืองจากผู้ค้าปลีกไม่อยู่ในการ ควบคุมของผู้ผลติ ที่เป็นผเู้ สียภาษี ผู้แทนกรมสรรพสามิตได้ตอบว่า กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติภาษี สรรพสามิต พ.ศ. 2560 สินค้าและบริการในพิกัดใช้ราคาขายปลีกแนะนาท้ังหมด ซึ่งเดิมมีการจัดเก็บภาษีหน้า โรงงาน และเปล่ียนเป็นจัดเก็บภาษีจากราคาส่งช่วงสุดท้าย ต่อมาได้จัดเก็บภาษีที่ราคาขายปลีกแนะนา ซึ่งเป็นราคาท่ีผู้บริโภคซ้อื จรงิ ทั้งสนิ คา้ นาเขา้ และผลติ ในประเทศ ซ่ึงถอื เปน็ ราคาท่โี ปร่งใสและเปน็ ธรรม (2.๓) ท่านมีความคิดเห็นเช่นไร หากจะไม่คิดภาษีจากฐานความฟุ่มเฟือย เนื่องจากการ จัดเก็บภาษีบนฐานความฟุ่มเฟือยทาใหผ้ ู้ผลิตไม่สามารถใชว้ ัตถุดิบที่ดแี ละเพิ่มมูลคา่ ได้ ผู้แทนกรมสรรพสามิตได้ตอบว่า หลักสุขภาพจะสาคัญเป็นลาดับแรกในการจัดเก็บภาษี รวมถึงมาตรฐานคุณภาพ ซึ่งสุราไม่ใช่สินค้าจาเป็นของผู้บริโภค และหลักความฟุ่มเฟือยจะสะท้อนจากราคา หากราคาแพงจงึ จะเกบ็ ภาษคี วามฟุม่ เฟอื ย (2.๔) ท่านมีความคิดเห็นเช่นไร หากเปลี่ยนมาใช้ QR Code แทนอากรแสตมป์และ การจากัดขนาดบรรจภุ ัณฑย์ งั จาเปน็ อยหู่ รือไม่ ผู้แทนกรมสรรพสามิตได้ตอบว่า เดิมแสตมป์จะมีหลายสีและแยกชนิดประเภทสุรา ปัจจุบัน QR Code จะมีข้อมูลท่ีประชาชนสามารถตรวจสอบได้ และกรณีลักษณะขวดไม่ได้ถูกจากัดไว้ แตข่ นาดบรรจุท่ีได้จากัดไว้ จะไดร้ ับไปพจิ ารณาในลาดบั ต่อไปโดยเฉพาะการจากัดขนาดของประเภทสรุ าขาว 2.2.4 พิจารณาศึกษา เร่ือง “ภาพรวมกฎเกณฑ์ของกฎหมายต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการผลิตสุรา” โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานเข้าร่วมประชุมและชี้แจงต่อคณะอนุกรรมาธิการ ได้แก่ สานักงานนโยบายและ แผนทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน และ สานกั งานมาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรม ดงั น้ี (1) สานกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม (สผ.) ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เรื่อง กาหนดโครงการ กิจการ หรือการดาเนินการ ซึ่งต้องจัดทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดล้อมและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โดยโครงการ กิจการ หรือการ ดาเนินการซึ่งต้องจัดทารายงาน คือ อุตสาหกรรมผลิตสุรา แอลกอฮอล์รวมท้ังผลิตเบียร์และไวน์ รวมถึง ข้ันตอนการจัดทารายงานอุตสาหกรรมผลิตสุรา แอลกอฮอล์รวมทั้งผลิตเบียร์และไวน์ ขั้นตอนการขออนุญาต ก่อสร้างเพ่ือประกอบกิจการ และขั้นตอนการขออนุญาตประกอบกิจการ โดยสถิติย้อนหลัง 5 ปี (ระหว่างปี 2558 - 2562) พบว่า ทุกโครงการผ่าน EIA และหากโครงการใดผ่านแล้วและไม่นาไปประกอบการ ขออนุญาต รายงานจะหมดอายุภายใน 5 ปี แล้วจะต้องจัดทารายงานใหม่ ทั้งนี้ การติดตามและตรวจสอบ ผลกระทบส่ิงแวดล้อมต้องรายงานทุก 6 เดือน หรือแล้วแต่กาหนดในรายงาน กรณีจะขอเปล่ียนแปลง รายละเอียดโครงการจะต้องขออนุญาตใหม่ซ่ึงกรอบระยะเวลา คือ เจ้าหน้าท่ีจะพิจารณาเอกสาร 15 วัน และ เสนอความเห็นเบ้ืองต้นเพื่อบรรจุวาระภายใน 15 วัน คณะกรรมการพิจารณาภายใน 45 วัน หากเกินกาหนดนี้ ถือว่า คณะกรรมการเห็นชอบ ท้ังนี้ ต้ังแต่ปี 2552 สานักงานได้ทบทวนประกาศกระทรวงทุก 5 ปี และ ได้วางแผนระยะ 5 ปี เพื่อทบทวนและประชุมประเด็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในทางปฏิบัติ และ ปี 2563 ได้จัดเสวนา เพื่อรับฟังความเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าของโครงการ บริษัทท่ีปรึกษาด้านส่ิงแวดล้อม สถาบนั การศึกษาและได้ข้อสรุปวา่ ประกาศกระทรวงยังคงมีความเหมาะสม
๑๐ (2) กรมโรงงานอตุ สาหกรรม กฎกระทรวงกาหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน พ.ศ. 2563 โรงงานต้ม กลั่น หรือผสมสุรา กาหนดให้โรงงานทุกขนาดที่ใช้เคร่ืองจักรต้ังแต่ 5 แรงม้า หรือคนงานต้ังแต่ 7 คน ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา ๕ โรงงานทาหรือผสมสุราจากผลไม้หรือสุราแช่อ่ืน ๆ แต่ไม่รวมถึง โรงงานประกอบกิจการเก่ียวกับมอลต์ หรือเบียร์ หรืออย่างหน่ึงอย่างใด ดังต่อไปนี้ (1) การทา ป่น หรือ บดมอลต์ และ (2) การทาเบียร์ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมได้มีประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเร่ืองการต้ัง โรงงานผลิตและบรรจุสุราในทุกท้องที่ท่ัวราชอาณาจักร พ.ศ. 2560 อาศัยอานาตามความในมาตรา ๓๒ (1) และ (3) แห่งพระราชบัญญัตโิ รงงาน พ.ศ. 2535 สาหรับโรงงานสุรากลัน่ ประเภทวิสก้ี บร่ันดี หรือยิน น้าสุรา ท่ีมีแรงแอลกอฮอล์ 28 ดีกรี ขั้นต่าวันละสามหม่ืนลิตร ต้องเป็นตามเกณฑ์ของกรมสรรพสามิต และสุรากลั่น ประเภทอื่นน้าสุราท่ีมีแรงแอลกอฮอล์ 28 ดีกรี ขั้นต่าวันละเก้าหมื่นลิตร ซึ่งทั้งการผลิตประเภทสุรากล่ันและ สุราแช่ต้องเป็นตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และมีคุณภาพตามมาตรฐานกรมสรรพสามิต นอกจากน้ี ประเภทโรงงาน 3 จาพวก ได้แก่ จาพวกที่ ๑ ประกอบกิจการได้โดยไมต่ ้องขออนุญาต กรณีไม่เกิน 50 แรงม้า แต่ต้องขออนุญาตผลิตสุรากับกรมสรรพสามิต จาพวกที่ ๒ ต้องแจ้งประกอบกิจการแต่ไม่ต้องขออนุญาตกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรณีไม่เกิน 50 แรงม้า และจาพวกท่ี ๓ ต้องได้รับอนุญาตประกอบกิจการก่อน กรณี 50 แรงมา้ คนงาน 50 คน (3) กรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถิ่น การก่อสร้างโรงงานหรือขออนุญาตก่อสร้างตามพระราชบัญญัติ (ฉบับท่ี 5) พ.ศ. 2558 จะต้องย่ืนแบบ และมีวิศวกรลงนามรับรอง โดยกรมจะพิจารณาอนุมัติก่อสร้าง กากับ และดูแล เฉพาะการก่อสร้างและสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น สาหรับการทาประชาพิจารณ์หากกรมได้รับมอบหมายให้จัดทา ประชาพิจารณ์ก็จะดาเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ถ้าเป็นเรื่องของเอกชน ๆ ต้องศึกษาถึงผลกระทบ ในเร่ืองดังกล่าวก่อนย่ืนคาขอพิจารณาอนุญาตทุกครั้ง ท้ังน้ี ภาษีที่จะนาไปส่งเสริมท้องถิ่นจะคานวณตาม ประชากรในท้องถิ่นนั้น ระหว่างปี 2558 - 2560 เฉพาะภาษีสุราที่ได้รับประมาณส่ีพันเก้าล้านบาท/ปี แต่ปี 2561 ตามพระราชบัญญัติสรรสามิต พ.ศ. 2560 จะรวมภาษีท้ังหมด เช่น สุรา ไพ่ ยาสูบ ซ่ึงได้รับ การจัดสรรประมาณหนึ่งหมื่นล้านบาทและเพิ่มข้ึนในทุกปี นอกจากน้ี กรมเห็นว่าการออกใบอนุญาตผลิตสุรา ควรใหก้ รมสรรพสามิตบริหารจดั การทั้งหมด รวมถึงการจัดสรรภาษีให้กับท้องถ่ิน เน่ืองจาก การบริหารจัดการ ในท้องถ่ินมีการแทรกแซงทางการเมือง ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการพ้ืนท่ี ภาษี ตลอดท้ัง การพัฒนาทอ้ งถนิ่ ด้วย (4) สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อตุ สาหกรรม สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานที่กาหนดมาตรฐานแห่งชาติ และได้กาหนดมาตรฐานสุราออกเป็น 3 มาตรฐาน ได้แก่ (1) ชนิดสุรากล่ันเลขที่มาตรฐาน 2088-2544 (2) ชนิดไวน์เลขที่มาตรฐาน 2089-2544 และ (3) ชนิดเบียร์เลขที่มาตรฐาน 2090-2544 ซึ่งจะ ครอบคลุมการผลิตดังกล่าวมากกว่า 10 ลิตรขึ้นไป ท้ังน้ี หน่วยงานอื่นอาจจะนามาตรฐานดังกล่าวไปเป็น เงื่อนไขประกอบการพิจารณาได้ เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรณีจะขอต้ังโรงงานสุรา (1) ต้องขออนุญาต จากกรมสรรพสามิต (2) ต้องขออนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (3) สุราต้องมีคุณภาพตามมาตรฐาน มอก. นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคยงั ไดก้ าหนดข้อความในสลากและคาเตือน อาทิ ห้ามอวดอ้างสรรพคุณ สง่ ผลให้เกิด การทักท้วงจากสมาชิกองค์การการค้าโลก แต่ประเทศไทยก็ได้ชี้แจงแล้วว่าน้ันคืออีกวิธีการหน่ึง เพ่ือลดการ บรโิ ภคแอลกอฮอลเ์ พมิ่ ขนึ้ อย่างไรกต็ าม มอก. คือ การควบคมุ มาตรฐานผลิตภณั ฑอ์ ตุ สาหกรรมท่วั ไปที่กาหนด จากหน่วยวิเคราะห์ทดสอบจากกรมวิทยาศาสตร์บริการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมสรรพสามิต
๑๑ กรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยรวบรวมข้อมูลท่ีได้รับและกาหนดเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ทั้งน้ี หากภาคสังคมต้องการให้ปรบั แกห้ ลกั เกณฑห์ รือเงื่อนไขกส็ ามารถกระทาได้ 2.2.5 พิจารณาศึกษา เร่ือง “แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมสุราในมุมมองภาคเอกชน” โดยเชิญ นายกสมาคมธรุ กิจเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอลไ์ ทย เข้าร่วมประชุมและชแ้ี จงตอ่ คณะอนกุ รรมาธิการ ดังนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) มีเป้าหมายหลักสาคัญประการหน่ึง คือ ลดการบริโภค เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ท่ีเป็นอันตราย ร้อยละ ๑๐ ภายใน ค.ศ. ๒๐๒๕ หรือ ปี ๒๕๖๘ โดยยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์และเสริมสร้างให้คนไทยมีสุขภาวะที่ดี ได้ให้ ความสาคัญกับทุกนโยบายและให้หน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสุขภาพของประชาชน เพ่ือลดภัย คุกคามท่ีเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสุขภาวะคนไทย เช่น ยาสูบ เคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ มลพิษทางสิ่งแวดล้อม แต่ในทางปฏิบัติ ภาคธุรกิจ สมาคม หรือผู้ประกอบการ ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบายหรือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตัวอย่างเช่น คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และ คณะกรรมการนโยบายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์แห่งชาติไม่มีหน่วยงานภาคเอกชนสาคัญ อาทิ สภาหอการค้า แห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรอื สภาอุตสาหกรรมทอ่ งเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็น กรรมการดังกล่าว นอกจากนี้ ตามพระราชบญั ญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ควบคุมเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์จนไม่สามารถแข่งขัน หรือพัฒนาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ท้ังในและนอกประเทศ ยิ่งกว่าน้ัน การห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ กาหนดวัน เวลา และช่วงเวลาห้ามขายเคร่ืองด่ื ม แอลกอฮอล์ รวมท้ัง การกาหนดเงนิ สินบนรางวัลสมควรไดร้ ับการทบทวนและปรับแกก้ ฎหมายให้เหมาะสมกับ บริบทของสังคม อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ โดยเฉพาะหมวด ๔ บางมาตรา ยงั ได้กาหนดใหค้ ณะกรรมการสามารถออกกฎหมายเพิ่มเติมได้ ส่งผลให้มกี ารตรากฎหมายเพิ่มเติม อยู่เนือง ๆ แต่ยังคงไม่มีหน่วยงานภาคเอกชน หรือผู้มีส่วนเก่ียวข้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบาย หรือแสดงความเหน็ ด้านกฎหมายท่ีเกี่ยวขอ้ ง ข้อสงั เกตและขอ้ เสนอแนะของคณะอนุกรรมาธิการ (1) ในประเทศญ่ีปุ่นกรณีเมาแล้วขับได้กาหนดบทลงโทษสถานหนั กเร่ิมจากผู้ขับข่ีรถยนต์ ที่ก่อเหตุจะรับโทษสูงสุด ผู้โดยสารนั่งข้าง ผู้ขาย ผู้ผลิต จะได้ร่วมรับโทษจากสถานหนักถึงเบาตามลาดับ ส่งผลให้ผู้บริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ลดลงเรื่อย ๆ แต่ญ่ีปุ่นไม่กาหนดวันห้ามขาย ไม่กาหนดช่วงเวลาขาย สามารถขายผ่านตู้อัตโนมัติได้ โฆษณาได้ ประเทศไทยน่าจะนาแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้กับกฎหมายควบคุม เครื่องดม่ื แอลกอฮอล์ (2) ควรขอข้อมูลหน่วยงานภาครัฐที่ได้จัดการสัมมนา หรือเสวนา หรือรับฟังความคิดเห็น แต่ไม่ได้ เชญิ ผปู้ ระกอบการ หรอื ผู้มีสว่ นเกย่ี วขอ้ ง เพ่อื ประกอบการพจิ ารณาของคณะอนกุ รรมาธิการ (3) คณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ และคณะกรรมการนโยบายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ แห่งชาติ มีองค์ประกอบของคณะกรรมการไม่ครอบคลุมทุกภาคส่วน โดยองค์ประกอบในภาคเอกชน จะมีเพียงภาคส่วนที่เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกาไร เช่น องค์กรด้านรณรงค์ลดการบรโิ ภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ องคก์ รด้านคุ้มครองเดก็ เยาวชนและสตรี เป็นต้น (4) หน่วยงานท้องถิ่นควรมีส่วนร่วมในการกาหนด และควบคุมนโยบายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ตัวอย่างเช่น จังหวัดภูเก็ตที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสาคัญ น่าจะบังคับใช้กฎหมายควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ไดต้ ามความเหมาะสมและบริบทของจงั หวดั ภูเก็ต
๑๒ 2.2.6 พิจารณาศึกษา เรื่อง “กฎหมายที่เก่ียวข้องกับการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์” โดยเชิญสานักงานคณะกรรมการควบคมุ เครือ่ งดื่มแอลกอฮอลเ์ ขา้ รว่ มประชุมและชแ้ี จงต่อคณะอนุกรรมาธิการ ดังนี้ (๑) กรณีถูกร้องเรียนผ่านระบบ TAS เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและ เชิญหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องมาให้ข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงเข้าข่ายการโฆษณา จึงจะดาเนินการในส่วน ท่ีเก่ียวข้องต่อไป แต่ไม่ใช่ทุกกรณีจะถูกดาเนินคดี เนื่องจาก ข้อมูลจานวนมากท้ังหมดมีเพียงบางเรื่อง ที่ถูกร้องเรียน โดยหากมีการร้องเรียนเข้ามาสานักงาน ๆ จะดาเนินการท้ังหมดไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการราย เล็กหรอื รายใหญ่ และไม่สามารถใช้ดุลพินิจในการตักเตอื นก่อนดาเนินคดีได้ (๒) กรณีมีเร่ืองร้องเรียน สานักงานจะนาเร่ืองเข้าท่ีประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการ กระทาความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ .ศ. ๒๕๕๑ เพื่อให้ความเห็นว่า เร่ืองร้องเรียนเข้าข่ายความผิดจะต้องดาเนินคดีต่อไป แต่สานักงานและคณะอนุกรรมการท่ีรับผิดชอบจะไม่มี อานาจไปตรวจสอบว่าโฆษณาช้นิ ใดทสี่ ามารถนาเสนอได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ส่วนกรณีการตรวจสอบการกระทา ความผิดของร้านค้าปลีก ท่ีพบการกระทาท่ีเข้าข่ายการโฆษณาอันเป็นความผิด แต่ส่ือมวลชนกลับนาเสนอว่า เจ้าหน้าทใี่ ชอ้ านาจไปข่มขู่รา้ นคา้ ปลกี ซง่ึ เร่อื งดงั กลา่ วไม่ตรงกับความเป็นจรงิ (๓) การนาเรื่องเข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการนั้น จะนาเข้าเฉพาะประเด็นที่เป็นปัญหา หมายความว่า เป็นกรณีที่ไม่เคยเกิดข้ึนมาก่อนและมีปัญหาในการตีความ โดยคณะอนุกรรมการทาหน้าท่ี ในการให้คาปรึกษาและข้อเสนอแนะเท่านั้น การนาผลการพิจารณาไปดาเนินการข้ึนอยู่กับการตัดสินใจ ของสานกั งาน (๔) การตีความกฎหมายเป็นการตีความหลักการ แต่หากเป็นกรณีพิจารณาว่ามีการกระทา ผิดหรือไม่ ต้องใช้การตีความเป็นรายกรณี และไม่สามารถกาหนดล่วงหน้าได้ว่าโฆษณาแบบใดทาได้ หรือ ทาไม่ไดอ้ ยา่ งไร (๕) การโฆษณาและการส่ือสารการตลาดถือเป็นหัวใจของการขยายยอดขายและฐานลูกค้า หากมีการควบคุมเบ็ดเสร็จ (Total Ban) เช่นเดียวกับต่างประเทศน่าจะควบคุมได้ดียิ่งขึ้น ในทางตรงกันข้าม หากไม่ใช้การควบคมุ เบ็ดเสรจ็ ผปู้ ระกอบการรายใหญ่ยอ่ มไดเ้ ปรียบผ้ปู ระกอบการรายเล็ก ข้อสงั เกตของคณะอนกุ รรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการได้ตั้งข้อสังเกตว่า การปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในประเด็น “การเพิ่มโทษค่าปรับ” อาจไม่กระทบกับผู้ที่มีสถานะทางเศรษฐกิจ ทสี่ ามารถชาระค่าปรบั ทีเ่ พ่ิมขึน้ ได้ ดงั นั้น การเพมิ่ โทษคา่ ปรบั นา่ จะไมใ่ ชค่ วามยุตธิ รรมสาหรบั ทกุ คน 2.2.๗ พิจารณาศึกษา เรื่อง “ข้อดีและข้อเสียของการโฆษณาเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์” โดยเชิญ นายอาทติ ย์ ศิวะหรรษาพนั ธ์ เข้ารว่ มประชุมและช้ีแจงขอ้ มูลต่อคณะอนุกรรมาธิการ ดงั น้ี นายอาทิตย์ ศิวะหรรษาพันธ์ กล่าวถึงเป้าหมายสาคัญที่ต้องการนาเสนอข้อมูลเก่ียวกับ เครอื่ งดื่มแอลกอฮอลจ์ นเป็นเหตใุ ห้ถูกดาเนนิ คดีนน้ั คอื การเผยแพร่วัฒนธรรมของคราฟท์เบยี ร์และวฒั นธรรม การดื่มกินท่ีดีของประเทศไทยและต่างประเทศ มุ่งให้ผู้บริโภคหรือผู้สนใจสามารถมีพ้ืนท่ีในการแลกเปลี่ยน ความเห็นระหว่างกันโดยไม่มองเฉพาะในแง่ร้ายเพียงอย่างเดียว แต่การกระทาดังกล่าวกลับโดนผลกระทบ จากการตีความกฎหมาย จึงเห็นว่าการตีความตามบทบัญญตั ิ มาตรา ๓๒ แห่งพระราชบัญญัตคิ วบคุมเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ เป็นประเด็นปัญหาสาคัญท่ีส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถนาเสนอข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ หรืออธิบายในส่ิงท่ีจาเป็นและสาคัญต่อผู้บริโภคได้เลย เน่ืองจากพ้ืนที่หรือช่องทางในการเผยแพร่ ความรู้ และแสดงความคิดเห็นถูกปิดก้ันโดยการตีความจากผู้มีอานาจว่าเป็นการกระทาที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็น การตีความกฎหมายที่ให้อานาจเจ้าพนักงานในการใชด้ ุลยพินิจมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการและ
๑๓ ผู้บริโภคเกินสมควร หากมาตราดังกล่าวได้รับการแก้ไขจะช่วยบรรเทาผลกระทบได้บางส่วน พร้อมทั้ง แสดงความเหน็ ในประเดน็ ตา่ ง ๆ ที่เกยี่ วข้องกับการโฆษณาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ดงั น้ี ๑. ประเด็นเรื่องการห้ามโฆษณาอย่างสิ้นเชิง หรือ Total Ban ตามข้อมูลท่ีสานักงาน คณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค นาเสนอในการประชุมครั้งก่อนหน้าน้ัน หากพิจารณาข้อมูลที่แท้จริงแล้ว การห้ามโฆษณาทุกรูปแบบมีการบังคับใช้ในประเทศกลุ่มมุสลิม ซึ่งมีกฎหรือ ข้อห้ามเก่ียวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท่ีชัดเจนตามหลักการทางศาสนาเป็นหลัก แต่ในประเทศท่ีมีความ หลากหลายทางด้านศาสนาและวฒั นธรรมนน้ั คงมีเพยี งประเทศไทยเท่านนั้ ท่ีใช้หลกั การดังกล่าวน้ี ๒. ประเด็นเร่อื งการต่อส้คู ดจี ากการโพสต์ข้อความลงในเฟซบุก๊ ซง่ึ สว่ นตวั เหน็ ว่าการกระทา ดังกล่าวเป็นไปในเชิงให้ความรู้และข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและความเป็นมาของเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงเป็นการอธิบายถึงวัฒนธรรมของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในแต่ละประเภทท่ีมีลักษณะเฉพาะตัว เช่น ในกรณี ของคราฟท์เบียร์ ได้มีการอธิบายถึงลักษณะและความเป็นธรรมชาติของคราฟท์เบียร์ โดยได้มีการใช้ถ้อยคา บางอย่างท่ีถูกตีความว่าเป็นการโฆษณา เช่น “สมคาร่าลือ” “เอาเรื่องอยู่” “เหล้าช่ือดัง” เป็นต้น จึงเห็นว่า เจ้าพนักงานมีความพยายามตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายในเชิงจับผิดมากเกินไป ส่งผลให้ทุกการกระทา ถูกตคี วามเปน็ การโฆษณาทง้ั หมด ๓. ประเด็นเร่อื งการโฆษณาตามเง่อื นไขที่กฎหมายกาหนดนนั้ เห็นวา่ ยงั ไม่มหี ลักเกณฑ์หรือ เงื่อนไขท่ีชัดเจนให้ผู้ปฏิบัติสามารถดาเนินการได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้เจ้าพนักงานสามารถใช้ดุลยพินิจในการ ตีความจนเกินเจตนารมณ์ของกฎหมาย แม้การกระทาดังกล่าวไม่ได้ทาเพ่ือการพาณิชย์แต่ก็อาจถูกตีความว่า เป็นการชักจูงหรือจูงใจทางอ้อม ซึ่งสามารถเอาผิดได้ทุกกรณี หรือบางกรณีแค่มีรูปเบียร์ในเมนูอาหาร ก็ถกู ตีความว่าเปน็ การกระทาทผ่ี ิดกฎหมายแลว้ 2.3 ข้อมลู การเดินทางศึกษาดงู านของคณะอนกุ รรมาธกิ าร คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมพิจารณาศึกษาแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมสุราของไทย และพิจารณากาหนด สถานท่ีในการศึกษาดูงาน ณ โรงงาน ห้างหุ้นส่วนจากัด และบริษัท ท่ีประกอบกิจการธุรกิจสุราทั้งประเภท สุรากลนั่ และสรุ าแช่ ส่วนใหญ่จะมีสถานท่ตี ง้ั ในต่างจงั หวัดดังเช่น จังหวดั ปทมุ ธานแี ละจงั หวดั นครราชสีมา ดังน้ี ๒.๓.๑ ศกึ ษาดูงาน ณ บรษิ ทั สุราบางยข่ี นั จากดั (โรงงาน) คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ได้เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุป และเยี่ยมชมพพิ ธิ ภณั ฑ์แมโ่ ขง ณ จงั หวดั ปทุมธานี ดงั นี้ การผลติ สุรานน้ั ผูกพันกับวฒั นธรรมของคนไทยมายาวนาน ดังปรากฏในนิราศภูเขาทองของ พระสุนทรโวหาร (สนุ ทรภู่) ความว่า “ถงึ โรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคนั โพงผูกสายไว้ปลายเสา” ซ่ึงเป็นการ พรรณนาถึงภาพของโรงกล่ันเหล้าแถบบางย่ีขัน ซ่ึงเป็นท่ีตั้งเดิมของโรงงานสุราบางยี่ขันแห่งท่ี ๑ ในเวลาตอ่ มา รัฐบาลได้มนี โยบายให้ก่อสรา้ งโรงงานสรุ าบางยีข่ ันแห่งท่ี ๒ ในปี ๒๕๒๐ ผู้เช่ารายแรก คือ บรษิ ัท สุรามหาคุณ จากัด ต่อจากนั้นได้เปลี่ยนผู้ประมูลเช่าเป็น บริษัท สุรามหาราษฎร จากัด และเนื่องจากสุราแม่โขงเป็นท่ีนิยม อย่างแพร่หลาย ส่งผลให้ ปี ๒๕๓๒ คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ขยายเวลาการเช่าโรงงานสุราบางย่ีขันและได้สิทธ์ิ ในการผลิตและจาหน่ายของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นระยะเวลา ๕ ปี (ระหว่างปี ๒๕๓๘ – ๒๕๔๒) ซ่ึง ระหว่างน้นั ได้เกิดการเปล่ยี นแปลงทางธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา บริษัท สราญชยั จากัด ไดเ้ ข้าควบคุมกิจการของ บริษัท สุรามหาราษฎร จากัด พร้อมได้รับสิทธิ์การเช่าโรงงานสุราบางยี่ขันแห่งท่ี ๒ จนต่อมาในปี ๒๕๔๓ คณะรัฐมนตรีมีมติเปิดเสรีผลิตและจาหน่ายสุราขาวและสุราสี บริษัท สราญชัย จากัด จึงได้เปล่ียนช่ืออีกคร้ัง
๑๔ เป็น บริษัท สุราบางย่ีขัน จากัด และได้ประมูลซ้ือท่ีดินและทรัพย์สินในโรงงานสุราบางย่ีขันแห่งที่ ๒ เป็นเงิน ทั้งสิ้น ๘,๒๕๑ ล้านบาท (ในวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๒) โรงงานสุราบางยี่ขันแห่งที่ ๒ มีพื้นท่ี ๒๖๐ ไร่ ผลิตสุรา ๓๕ ดีกรี แห่งแรกของไทยคือ “สุราแม่โขง” เร่ิมก่อตั้งเม่ือปี ๒๓๒๙ จนถึงปัจจุบันมากกว่า ๘ ทศวรรษ โรงงานได้พัฒนาการผลิตและนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการผลิตสุราให้มีคุณภาพที่ดี รวมถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัย และยังผลิตสุราอื่น อาทิ หงส์ทอง สุราขาวรวงข้าว นอกจากนี้ โรงงาน ยังให้ความสาคัญกับสิ่งแวดล้อมรอบโรงงานและมีระบบการบาบัดน้าเสียโดยนาเทคโนโลยีกาจัดของเสียและ แปรเปล่ียนมลภาวะเสียให้เป็นพลงั งานทดแทนที่สามารถนาไปใชก้ บั กระบวนการผลติ ได้ตอ่ ไป ในส่วนของผลิตภัณฑ์ท่ีสาคัญซ่ึงผลิตภายใต้โรงงานสุราบางย่ีขันแห่งที่ ๒ ประกอบด้วย สุราขาวและสรุ าพิเศษทงั้ สิ้น ๖ ยีห่ อ้ ไดแ้ ก่ (๑) หงส์ทอง ๓๕ ดีกรี ขนาดบรรจุ ๒๐๐ ๓๕๐ ๗๐๐ ๑๐๐๐ ซซี ี (๒) สรุ าแมโ่ ขง ๓๕ ดกี รี ขนาดบรรจุ ๒๐๐ ๓๕๐ ๗๐๐ ๗๕๐ ซซี ี (๓) สรุ าเชียงชนุ ๒๘ และ ๓๕ ดกี รี ขนาดบรรจุ ๓๓๐ และ ๖๒๕ ซซี ี (๔) สุราเสอื ดา ๒๘ ดีกรี ขนาดบรรจุ ๑๒๕ ๓๓๐ ๖๒๕ ซซี ี (๕) สรุ าขาวรวงข้าว ๒๘ และ ๔๐ ดีกรี ขนาดบรรจุ ๓๓๐ และ ๖๒๕ ซซี ี (๖) สรุ าขาวบางยี่ขนั ๔๐ ดกี รี ขนาดบรรจุ ๑๐๐ ซซี ี ในส่วนของพ้ืนที่โรงงานจานวน ๒๖๐ ไร่ แบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ได้แก่ บ้านพักคนงาน จานวน ๑๑๐ ไร่ และโรงงาน จานวน ๑๕๐ ไร่ โดยโรงงานได้กาหนดมาตรฐานการควบคุมคุณภาพ ในการผลิตสุราครบวงจร อาทิ ด้านการตรวจสอบ ด้านการบรรจุ ด้านการช่ังน้าหนัก ในปี ๒๕๖๓ โรงงานสุรา บางยี่ขันแห่งที่ ๒ ได้ชาระภาษีให้ภาครัฐมากกว่า ๖ หมื่นล้านบาท ท้ังนี้ โรงงานยังได้จัดทารายงานประจาวัน เพื่อแจ้งยอดการใช้แสตมป์สุรา การประมาณการใช้น้าตาล/น้าสุราที่กลน่ั การบรรจุ การช่ังน้าหนกั รวมถึงการ เกบ็ ตัวอยา่ งผลิตภัณฑ์ โดยมสี านกั งานสรรพสามิตตัง้ อยู่ภายในโรงงานเพื่อควบคุมตง้ั แตก่ ระบวนการผลิตจนถึง การส่งสุราออกไปยังต่างประเทศ เนื่องจากโรงงานสุราบางยี่ขันแห่งที่ ๒ เป็นสถานที่ผลิตเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ที่มีความไวต่อไฟสูง จึงกาหนดให้มีจุดรวมพลในโรงงานเม่ือเกิดสัญญาณเตือนไฟไหม้ดัง จานวน ๓ จุด และยังมี ข้อแนะนาพื้นฐานในทางปฏิบัติก่อนเข้าโรงงานที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด กล่าวคือ โรงงานจะ ไม่อนุญาตให้บุคคลใดสูบบุหร่ี ถ่ายรูป และจากัดความเร็วในการขับข่ีภายในโรงงาน คือ ๓๐ กิโลเมตร/ช่ัวโมง รวมถึงจากัดความสูงของยานพาหนะท่ีเข้ามาภายในโรงงาน คือ สูงไม่เกิน ๕.๕ เมตร โรงงานยังได้เพิ่มมาตรการ ป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั้งพนักงานและบุคคลภายนอกต้องผ่านการคัดกรอง ด้วยเคร่ืองวัดอุณหภูมิ หากพบบุคคลใดมีอุณหภูมิสูงเกิน ๓๗.๕ องศาเซลเซียส บุคคลนั้นจะไม่ได้รับอนุญาต ให้เข้าโรงงาน รวมถึงยานพาหนะที่ครอบครองและจะบันทึกประวัติไว้ เพื่อไม่ให้บุคคลดังกล่าวเข้าโรงงาน ภายหลัง ๑๔ วัน แต่หากบุคคลนั้นมีหนังสือยืนยันจากแหล่งที่น่าเช่ือถือว่าปลอดเชื้อโรคดังกล่าว ก็จะอนุญาตให้เข้าโรงงานตามปกติ นอกจากนี้ โรงงานยังมีกิจกรรมต่าง ๆ โดยกิจกรรมภายในโรงงาน อาทิ การตรวจสุขภาพพนักงานประจาปี ซ้อมการอพยพหนีไฟประจาปี และโรงงานยังส่งเสริมกิจกรรมความ รบั ผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมภายนอกโรงงาน อาทิ นาชุมชนเย่ียมชมการดาเนินงานในโรงงานประจาปี กิจกรรมจิตอาสาทาความสะอาดพ้ืนที่ในชุมชน ทาสีในชุมชน กิจกรรมวันเด็ก และกิจกรรมทางศาสนา เช่น การทาบุญกฐินการถวายเทยี นพรรษา ประเพณีแหน่ า้ หวานชว่ งเทศกาลสงกรานต์ เปน็ ตน้ ๒.3.๒ ศกึ ษาดูงาน ณ บริษัท กราน-มอนเต้ จากัด คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ได้เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุป และเยี่ยมชมกระบวนการปลูกและผลติ ไวน์ ณ จงั หวัดนครราชสีมา ดังน้ี
๑๕ ไร่องุ่น “กราน – มอนเต้” ตั้งอยู่ที่ ๕๒ หมู่ ๙ ตาบลพญาเย็น อาเภอปากช่อง จังหวัด นครราชสีมา โดยก่อตั้งข้ึนเมื่อประมาณ ๑๐ ปีท่ีแล้ว โดยมีนายวิสุทธ์ิ และนางสกุณา โลหิตนาวี ผู้ก่อตั้ง ซึ่งมี ความประสงค์จะทาไร่องุ่นและได้จ้างคนในชุมชนเพ่ือเข้ามาพัฒนาพ้ืนท่ีรกร้างมากกว่า 100 ไร่ ให้เป็นพื้นท่ี ปลูกองุ่นหลากหลายสายพันธ์ุท่ีพร้อมจะให้ผลผลิตกับครอบครัวทุกปี และผลผลิตส่วนใหญ่จะส่งออก เพ่ือนาไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไวน์ หรือส่งไปยังผู้รับซื้อองุ่นเพ่ือบ่มไวน์เท่านั้น ต่อมา นางสาววิสุตา โลหิตนาวี บุตรสาวของผู้ก่อตั้งและถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกองุ่นและผลิตไวน์ ได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านการปลูกองุ่นและผลิตไวน์ จากมหาวิทยาลัย Adelaide-South Australia สาขา Viticulture and Winery ได้รับหน้าที่เป็นผู้ผลิตไวน์ (Wine maker) และผู้บริหารในการดาเนินธุรกิจไร่องุ่น “กราน – มอนเต้” ทาให้มีการปรับเปล่ียนการดาเนินธุรกิจอย่างครบวงจร โดยปลูกองุ่นเพ่ือผลิตไวน์และผลิตไวน์ภายใต้ย่ีห้อ “กราน – มอนเต้” โดยมุ่งให้ความสาคัญกับการปลูกองุ่นตามหลักการวิทยาศาสตร์ การเติบโตของพืชพันธุ์ ดิน อากาศ รวมถึงกระบวนการหมักบ่มเพื่อผลิตไวน์น้าองุ่นสด นอกจากนี้ ยังได้มีการสร้างผลิตภัณฑ์ แปรรูปอ่ืน ๆ จากองุ่น อาทิ แยมองุ่น องุ่นอบแห้ง และสบู่องุ่น ท้ังน้ี โรงบ่มไวน์ของ “กราน – มอนเต้” ถือเป็นโรงบ่มไวน์ลาดับแรกของประเทศไทยที่มีการควบคุมห้องเก็บถังไวน์ในอุณหภูมิที่จาเพาะ เพื่อป้องกัน ระเหยของไวน์ โดยข้ันตอนการหมักองุ่นในถังสแตนเลส หรือในถังไม้โอ๊กจะทาปฏิกิริยาจนทาให้ไวน์สีสดและ มีรสชาติดี ซึ่งไวน์ท่ีดีจะต้องมีความละเอียดอ่อนตั้งแต่การดูแลต้นองุ่น การให้ปุ๋ย การตัดแต่งองุ่น การแยก เก็บองุ่น เน่ืองจากองุ่นเป็นพืชที่ไวต่อสภาพอากาศและสภาพดิน ทาให้ต้องใช้ความอดทนมากในการผลิตไวน์ ดงั นั้น ในการผลิตไวน์แต่ละขวดต้องใชเ้ วลานานหลายเดือน สาหรบั ไวน์ขวดแรกที่เป็นที่รู้จกั และสร้างช่ือเสียง ให้กับ ไร่องุ่น “กราน – มอนเต้” คือ “2009 Sakuna Rose Syrah” โดยมีที่มาจากช่ือมารดา “สกุณา” ย่ิงกว่านั้น ไวน์ท่ีผลิตในไร่องุ่น “กราน – มอนเต้” มีลักษณะพิเศษเน่ืองจากเป็นไวน์ที่ได้มีการข้ึนทะเบียนเป็น ส่ิงบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI) ในฐานะ “ไวน์เขาใหญ่” ซ่ึงสร้างอัตลักษณ์และ มูลค่าให้กับไวน์ไทยเขาใหญ่พิเศษกว่าไวน์ที่ผลิตในภูมิภาคอ่ืนเช่นเดียวกับแชมเปญ ซึ่งได้รับการข้ึนทะเบียน ให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของสปาร์คก้ิงไวน์ท่ีผลิตในแคว้นชองปาญ สาธารณรัฐฝรั่งเศส นอกจากน้ี ไร่องุ่น “กราน – มอนเต้” ยังเปิดให้บริการด้านการท่องเท่ียวเชิงเกษตร (Agritourism) ที่ให้ความรู้ ข้อแนะนา แลกเปล่ียนความเห็น เข้าเย่ียมชม และรบั ฟังบรรยายสรุป สาหรับผู้สนใจทั่วไป นกั ศึกษา ผู้ประกอบการ หรือ รับรองแขกต่างประเทศท่ีสาคัญ และไร่องุ่น “กราน – มอนเต้” ยังมีพนักงานท่ีอาศัยอยู่ในชุมชนท่ีได้รับการ ฝึกอบรมให้ความรู้เก่ียวกับไร่องุ่นเป็นอย่างดี พร้อมให้การต้อนรับผู้มาใช้บริการห้องพัก ตลอดทั้ง ให้คาแนะนะต่าง ๆ ทัง้ เรอื่ งร้านอาหารสไตลอ์ ติ าลีและการเลอื กดื่มไวน์ไปพร้อมกัน ๒.3.๓ ศึกษาดงู าน ณ ห้างหุ้นสว่ นจากัด เพิม่ ทรัพยก์ ารสรุ า คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ได้เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุป และเยยี่ มชมโรงกลั่นสรุ าชมุ ชน ณ จังหวดั นครราชสีมา ดังน้ี โรงกล่ันสุราชุมชน “เพิ่มทรัพย์การสุรา” ตั้งอยู่ท่ี ๑๒๙ ตาบลพุดซา อาเภอเมือง จังหวัด นครราชสีมา ริเร่ิมจากความสนใจจะประกอบธุรกิจขนาดย่อม จนเม่ือปี ๒๕๔๖ (๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๓) นางสาวฐิตาภรณ์ มากเมือง ได้ตัดสินใจร่วมลงทุนร่วมกับน้องสาวจัดต้ัง ห้างหุ้นส่วนจากัด เพ่ิมทรัพย์การสุรา โดยมีวตั ถุประสงค์หลักในการผลิตสุราขาวเพ่ือจาหน่าย และไดป้ ฏิบัตติ ามข้อกฎหมายท่ีเกี่ยวข้องกับการดาเนิน ธุรกิจสุราขาวอย่างเคร่งครัด ท้ังได้ลงทุนจัดหาและจัดซ้ืออุปกรณ์ที่ได้ตามมาตรฐานตามข้อกฎหมายกาหนด อาทิ ถังหมัก เคร่ืองบรรจุสุราอัตโนมัติ และจัดสร้างหอกล่ันสุรา สาหรับข้ันตอนหรือกระบวนการผลิตสุราขาว ท่ีสาคัญข้อหน่ึง คือ การนากากข้าวเหนียวมาหมักเพื่อทาส่าเหล้า อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ในเวลา ต่อมาจึงได้พัฒนาสูตรโดยนากากน้าตาลมาผสมกากข้าวเหนียวเพื่อทาเป็นส่าเหล้า ซึ่งได้รับการตอบรับจาก
๑๖ ผู้จัดจาหน่ายและผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทาให้เปล่ียนวัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิตตามแนวทางน้ีเป็นต้นมา โดยตลาด หลักในการจาหน่าย อาทิ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสระบุรี ในส่วนของขั้นตอนการผลิต สุราขาวนั้น จะใช้ระยะเวลาในการผลิตโดยประมาณระหว่าง ๔ - ๗ วัน เพื่อให้ได้สุราขาวท่ีมีคุณภาพ ตามมาตรฐาน อย่างไรก็ดี สุราขาวมีความไวต่อสภาพอากาศเช่นเดียวกับการผลิตไวน์ ดังน้ัน ผู้ผลิตจะต้อง เฝ้าติดตามสภาพอากาศด้วย เพ่ือให้การปรุงสุราขาวมีรสชาติท่ีดี ในระหว่างปี ๒๕๔๖ – ๒๕๕๘ ผลประกอบการขายสุราขาวดีข้ึน เน่ืองจากเป็นท่ีนิยมของผู้จัดจาหน่าย และผู้บริโภคทาให้เกิดการขยายตัว และยังเกิดการจ้างคนในชุมชนเพิ่มมากข้ึนเพื่อเร่งการผลิตและตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ต่อมา ห้างหุ้นส่วนจากัดเพ่ิมทรัพย์การสุราได้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจากเดิม และแต่ต้ังแต่ระหว่าง ปี ๒๕๕๙ – เป็นต้นมา การผลิตสุราขาวก็ไดป้ ระสบปัญหาและอุปสรรคทัง้ ในด้านการตลาด ด้านกฎหมาย และ ด้านเศรษฐกิจ ประกอบกับผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการแพร่ระบาดของเช้ือโคโรนาไวรัส 2019 (COVID-19) ส่งผลทาให้ยอดการส่ังซื้อสุราขาวลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ กิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับสังคมและชุมชนน้ัน ห้างหุ้นส่วนจากัดเพิ่มทรัพย์การสุราได้เปิดให้นักศึกษา นักวิจัย และผู้ท่ีสนใจท่ัวไป เข้ามาศึกษาดูงานและ เข้าเย่ียมชมโรงกล่ันสุราขาวอย่างต่อเน่ือง เพื่อส่งเสริมให้เกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้ และพัฒนากระบวน การผลิตสุราชุมชน และเปน็ การยกระดับรายได้ใหก้ ับประชาชนอย่างเปน็ รูปธรรม ๒.3.๔ ศึกษาดงู าน ณ บรษิ ัท กล่ันทอง ๑๖๓๑ พรอ็ พเพอรต์ ี้ จากดั คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรม ได้เดินทางไปรับฟังบรรยายสรุปและ เยี่ยมชมโรงเบียร์ขนาดเล็กประเภทผลิตเพ่ือขาย (Brew Pub) และกระบวนการหมักเบียร์ ณ จังหวัด นครราชสีมา ดังน้ี HOP Beer House Korat ตั้งอยู่ท่ี ๖๒๘ ถนนสืบศิริ ตาบลในเมือง อาเภอเมือง จังหวัด นครราชสีมา โดยมีนายมงคล และ นางลาไพร ศรธี รรมมา เปน็ ผู้กอ่ ต้ัง ซึ่งเร่ิมจากความต้งั ใจของ นางลาไพร ฯ ท่ีจะประกอบกิจการร้านอาหาร และให้บริการเครื่องด่ืมประเภทต่าง ๆ ไว้รับรองครอบครัว ญาติ และเพื่อน ภายใต้บรรยากาศการดื่มท่ามกลางธรรมชาติ เพ่ือเป็นการผ่อนคลายจากภารกิจประจาวัน ในปี 2551 หลังจาก นางลาไพร ฯ สาเรจ็ การศึกษาระดับปริญญาเอก ด้านเทคโนโลยีเครื่องดื่ม (Beverage Technology) จาก Technical University Munich; Freising-Weihenstephan (TUM – Weihenstephan) แคว้นบาวาเรีย สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และได้เดินทางกลับมาประเทศไทย เพ่ือทางานและทดลองปรุงเบียร์แบบ Homebrew ประมาณ ๒ – ๓ ปี เพื่อเป็นการบม่ เพาะความชานาญในการผลติ เบยี ร์ จนกระท่ังปี ๒๕๖๐ จึงได้ ตัดสินใจขอใบอนุญาตให้มีการผลิตเบียร์ประเภทโรงเบียร์ขนาดเล็กประเภทผลิตเพื่อขาย ณ สถานท่ีผลิต หรือ Brew Pub โดยผลิตคราฟท์เบียร์ (Craft Beer) ให้บริโภคภายในพื้นที่ผลิตเท่าน้ัน ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เบียร์ ที่สาคัญของรา้ น ได้แก่ เบียร์ขา้ วสาลี (Wheat Beer) เบียร์ Indian Pale Ale (IPA) เบียรด์ า (Dark Beer) และ เบียร์ผลไม้ชนิดต่าง ๆ ทั้งชนิดที่มีและไม่มีแอลกอฮอล์ นอกจากน้ี นางลาไพร ฯ ยังมีปณิธานในการส่งเสริม กิจกรรมเพื่อสังคมผ่านกิจกรรมสาคัญต่าง ๆ อาทิ การจัดกิจกรรมเพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้ด้านอาหารและ เคร่ืองด่ืมให้แก่ นักเรียน นิสิต นักศึกษาและผู้สนใจทั่วไป เพ่ือพัฒนาสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้สาธารณะ (Public Learning Center) และ “Co-Working Space” เพื่อให้เกิดพ้ืนท่ีพบปะ แลกเปลี่ยน และถ่ายทอด ความรู้ด้านคราฟท์เบียร์ อาหาร และเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ในชุมชนผ่านการจัดอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ าร จัดกิจกรรม ศึกษาดูงานด้านเทคโนโลยีอาหารและเครื่องด่ืมทั้งในและต่างประเทศโดยร่วมกับสถาบันการศึกษา อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี รวมถึงบุคคลทั่วไป ลักษณะกิจกรรมสาคัญที่จัดข้ึนในชุมชน อาทิ การประกวด เคร่ืองด่ืม การเสวนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องด่ืม การผลิตคราฟท์เบียร์ การปลูกฮอป ย่ิงกว่าน้ัน HOP Beer House Korat ยังเป็นสถานท่ีศึกษาดูงานและฝึกงานด้านเทคโนโลยีการผลิตอาหารและเครื่องดื่มให้แก่
๑๗ นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่าง ๆ โดยร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการจัดการเรียนการสอนแก่นักศึกษา ภายใต้ “โครงการผลติ บัณฑิตพนั ธ์ุใหม่” ท่ีมุ่งเน้นการเรยี นการสอนจากการปฏบิ ัติจริงในสถานประกอบการ ขอ้ สงั เกตและขอ้ เสนอแนะของคณะอนุกรรมาธิการในการเดนิ ทางไปศึกษาดงู าน ๑) ข้อสังเกต (๑) อุตสาหกรรมสุราถือเป็นธุรกิจที่ผูกพันและอยู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมาเป็นระยะเวลานาน ดังจะเห็นได้ชัดเจนจากนิราศภูเขาทอง ซึ่งแต่งโดยพระสุนทรโวหาร (สุนทรภู่) ในรัชสมัยสมเด็จพระนั่งเกล้า เจา้ อยู่หัว (รัชกาลท่ี ๓) ขณะเดินทางไปนมัสการพระเจดียภ์ ูเขาทองจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งได้บรรยายถึง ควันจากเตาต้มสรุ าในพื้นทแี่ ถวบางยข่ี ันและยงั คงมีความสาคญั ในงานเฉลมิ ฉลองดังปรากฏอยใู่ นปจั จบุ นั (๒) อุตสาหกรรมสุรานับเป็นธุรกิจที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเน่ือง จากเดิมเป็นธุรกิจท่ี ผูกขาดโดยรัฐเป็นผู้ดาเนินการท้ังหมด ต่อมาเป็นธุรกิจที่เอกชนบางรายได้สิทธิ์ดาเนินการแต่รัฐยังคงควบคุม ปัจจุบันมีการเปิดเสรีธุรกิจสุรา แต่ยังคงเป็นกิจการท่ีรัฐให้ความสาคัญและรัฐควบคุมการประกอบกิจการผ่าน ระบบใบอนุญาตและกฎหมายซ่งึ บงั คับใช้เพ่ือควบคุมการประกอบกจิ การสรุ า ซง่ึ ระบบใบอนุญาตและกฎหมาย ท่ีควบคุมการประกอบกิจการนี้ ในมิติหนึ่งเพื่อจะคุ้มครองผู้บรโิ ภคและลดการบริโภคสุราในประเทศ แต่บรรดา กฎหมายท้ังหลายน้ีก็ได้สร้างภาระให้แก่ผู้ประกอบอาชีพผลิตสุรา/ผู้ประกอบกิจการขนาดเล็กและขนาดกลาง เช่นกัน จนผู้ประกอบการทั้งหลายไม่สามารถพฒั นาขดี ความสามารถในการแขง่ ขันและพัฒนาอุตสาหกรรมสุรา ให้ทัดเทียมกับนานาประเทศได้ (๓) อตุ สาหกรรมสุรานั้นมีความเก่ียวขอ้ งกับอุตสาหกรรมสาคัญอ่ืน ๆ อาทิ อุตสาหกรรมเกษตร ในฐานะเป็นวัตถุดิบหลักในการนามาใช้ผลิตสุรา และอตุ สาหกรรมวัสดุบรรจภุ ัณฑ์เน่อื งจากสุราตอ้ งมีการบรรจุ ลงในบรรจุภัณฑ์ ฉะน้ัน การเติบโตของอุตสาหกรรมสุรานี้ย่อมมีส่วนช่วยให้อุตสาหกรรมอื่นท่ีเก่ียวข้อง เตบิ โตขึ้นไปพรอ้ มกนั ได้ (๔) อุตสาหกรรมสุราขนาดเล็กและขนาดกลางนั้นมีส่วนสาคัญในการสร้างงานและสร้างรายได้ ใหก้ ับชุมชน เนอ่ื งจาก การประกอบกิจการจาเป็นต้องอาศยั แรงงาน ซึง่ เปน็ คนในชุมชน และใช้วัตถุดบิ ซง่ึ หาได้ จากชุมชนหรือละแวกใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน และยกระดับรายได้ของประชาชน นอกจากน้ี อุตสาหกรรมสุราขนาดกลางและขนาดเล็กยังมีส่วนช่วยส่งเสริมกิจกรรมการท่องเท่ียวท้งั เชิงเกษตร และเชงิ ปฏิบตั กิ ารดว้ ย (๕) อตุ สาหกรรมสุราขนาดเล็กและขนาดกลางยังเป็นส่วนหนง่ึ ของการชว่ ยพัฒนาสงั คมในฐานะ เป็นศูนย์กลางของการส่งเสริมกิจกรรมเพื่อสังคมต่าง ๆ ท้ังในฐานะของศูนย์ศึกษาดูงาน สถานท่ีฝึกงาน และ สถานที่ทากจิ กรรมของคนในชุมชน (๖) อุตสาหกรรมสุราสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจเพ่ิมเติมข้ึนได้ หากได้รับการสนับสนุน อย่างถูกต้องและเหมาะสมจากภาครัฐ ตัวอย่างเช่น กรณีไวน์เขาใหญ่ที่ได้รับการข้ึนทะเบียนให้เป็นส่ิงบ่งช้ี ทางภูมศิ าสตร์ (Geographical Indications หรอื GI) สะท้อนอัตลักษณ์และมลู ค่าของไวน์ไทยท่ีไม่เหมือนท่ีใด ในโลก ซึ่งหากหน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมสุราไทยได้ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายสุราไทย อาจพัฒนาขีดความสามารถจนกลายเป็นสุราท่ีมีอัตลักษณ์โดดเด่นและมีมูลค่าเพ่ิมข้ึนได้ เช่นเดียวกบั แชมเปญ ของสาธารณรัฐฝรง่ั เศส หรือสุราอะวาโมริของประเทศญี่ปุน่ ๒) ขอ้ เสนอแนะ (๑) อตุ สาหกรรมสรุ านับเป็นธุรกิจท่ียังไม่ได้รบั การสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐอย่างเพียงพอ และเหมาะสม ซ่ึงส่วนหน่ึงอาจจะมีสาเหตุมาจากนโยบายของรัฐบาล แต่หากพิจารณาในแง่ผลประโยชน์ของ อุตสาหกรรมสุราและธุรกิจที่เกี่ยวข้องแล้ว รัฐบาลควรเข้ามาส่งเสริมและสนับสนุนอุตสาหกรรมสุรามากข้ึน
๑๘ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทาให้เกิดอัตรา การว่างงานสูงขึ้น การเข้ามาสนับสนุนธุรกิจอุตสาหกรรมสุราจะช่วยทั้งในแง่ของการดูดซับแรงงานส่วนเกิน และการกระตุ้นเศรษฐกจิ ไปยงั ธุรกจิ ท่ีเกยี่ วข้องอน่ื ๆ (๒) ปัจจุบันกฎหมายยังคงเป็นอุปสรรคสาคัญต่อผู้ประกอบการธุรกิจสุราเป็นอย่างมาก เช่น เรื่องกฎเกณฑ์การขออนญุ าต การประกอบกจิ การ และการโฆษณา เป็นต้น ซึง่ ส่งผลให้ผปู้ ระกอบการขนาดเล็ก และขนาดกลางไม่สามารถแบกรับต้นทุนท่ีเกิดข้ึนจากการปฏิบัติตามกฎหมายต่อไปได้ เม่ือพิจารณาแง่น้ี กฎหมายจึงอาจจะกลายเป็นอุปสรรคหลักต่อการประกอบกิจการ ซึ่งจาเป็นต้องมีการทบทวนความเหมาะสม ของกฎหมายในปัจจุบันเสียใหม่ โดยจะต้องชั่งน้าหนักระหว่างการคุ้มครองผู้บริโภคโดยการควบคุมคุณภาพ และการเติบโตของอุตสาหกรรมสรุ า 2.4 ข้อมลู การสัมมนาของคณะอนกุ รรมาธกิ าร คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ได้มีมติท่ีประชุมคณะอนุกรรมาธิการให้จัดการสัมมนา เรื่อง “ทิศทางและอนาคตธุรกิจสุรา ไทย” ในวันเสาร์ท่ี ๑๒ กันยายน ๒๕๖๓ ณ ห้องประชุมกิ่งเพชร โรงแรมเอเชียกรุงเทพ เขตราชเทวี กรงุ เทพมหานคร ดงั นี้ 2.4.1 ในช่วงเช้าดาเนนิ การอภิปราย เร่ือง “สนุ ทรียะเสวนาหาทางออกและจุดรว่ มในการขับเคลือ่ น ธุรกิจอุตสาหกรรมสุราไทย” โดย วทิ ยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย (๑) นพ.แทจ้ ริง ศริ พิ านชิ เลขาธิการมลู นธิ ิเมาไม่ขับ (๒) นายธปิ ไตร แสละวงศ์ นกั วิจยั อาวโุ สจาก TDRI (๓) ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.เจรญิ เจรญิ ชัย อนกุ รรมาธิการ (๔) ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.นสิ ิต อนิ ทมาโน อาจารยป์ ระจามหาวทิ ยาลยั ศรปี ทุม (๕) นางสาวสุวสิ ทุ ธ์ิ โลหิตนาวี อนุกรรมาธิการ (๖) นายธรี วฒุ ิ แกว้ ฟอง อนุกรรมาธิการ (7) นายครสิ โปตระนันทน์ ผู้ดาเนินรายการ สรปุ สาระสาคญั ของการสัมมนา ดงั นี้ 1. สินค้าสุรานับเป็น “สินค้าพิเศษ” ท่ีจัดส่งภาษีเข้ารัฐในลาดับแรก ๆ ซ่ึงการผลิตสุราไทยสามารถ ใช้วัตถุดิบท้องถ่ินภายในประเทศไทยผลิตสุราให้มีเอกลักษณ์พิเศษได้ ซ่ึงอาจจะพบเห็นสินค้าพิเศษนี้ได้ตาม กิจกรรมโครงการหนึ่งตาบล หน่ึงผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นโครงการกระตุ้นธุรกิจประกอบการท้องถิ่นท่ีสาคัญอีก กิจกรรมหน่ึง หากภาครัฐได้ให้การส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมสุราอย่างเป็นรูปธรรม จะส่งผลให้สุราไทยเพิ่มขีดความสามารถในการแขง่ ขันในต่างประเทศ สร้างนวัตกรรมสินค้า และผู้ประกอบการ ผลิตสุราไทยจะได้ไม่ดาเนนิ การผลิตสุราในตา่ งประเทศและนาเขา้ สรุ ากลับมาขายในประเทศไทยอกี ต่อไป 2. การบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าท่ีควร ซ้าซ้อน ขาดความชัดเจน และอาจตีความได้หลายอย่าง ภาครัฐยังไม่สามารถควบคุมอุตสาหกรรมสุราภายในประเทศไทยได้อย่าง เหมาะสมไม่เท่าเทียม และเอื้อประโยชน์เฉพาะผู้ประกอบการบางรายเท่านั้น จึงส่งผลให้ประชาชนทั่วไปไม่ สามารถเข้าสู่ธุรกิจผลิตสุราอย่างเสรีตามเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง ซ่ึงแตกต่างกับการบังคับใช้ กฎหมายในต่างประเทศ ภาครัฐให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมสุราอย่างเท่าเทียม เอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบ ธุรกิจสุรา และโฆษณาได้ จึงเกดิ การแข่งขันของธรุ กจิ สุราในต่างประเทศอย่างสมบูรณ์
๑๙ 3. การกาหนดภาษีสุรายังคงเอ้ือประโยชน์ต่อผู้ประกอบการบางราย จึงส่งผลให้ไม่มีการแข่งขัน เชิงคุณภาพ และยิ่งส่งเสริมให้เกิดการผูกขาดทางการค้าในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้าด้านภาษี อยา่ งชดั เจน อกี ท้งั ยังไม่เคยมีการตรวจสอบผลสัมฤทธ์ิจากการนาภาษีสุราไปช่วยผูไ้ ด้รบั ผลกระทบ นอกจากนี้ ในต่างประเทศ บางประเทศส่งเสริมให้ภาคเอกชนร่วมรณรงค์การดื่มสุราอย่างรับผิดชอบ และภาคเอกชนยัง ได้รับความร้ดู ้านกฎหมายเก่ียวกบั สรุ าจากภาครฐั อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 4. การโฆษณาในประเทศไทยยังคงเป็นอุปสรรคสาคัญท่ีผู้ประกอบการขนาดย่อม-ขนาดย่อยเห็นว่า ภาครฐั ได้ดาเนินงานในลกั ษณะต่อต้านการพัฒนาอุตสาหกรรมสุราอย่างชัดเจน ตัวอย่างเช่น การขอใบอนุญาต ท่ีมีหลักเกณฑ์หรือเงื่อนไขที่เอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการขนาดใหญ่เท่าน้ัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการผลิตสุรา รายอ่ืนไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ และเห็นควรให้ภาครฐั ปรับแก้กฎหมายอย่างรอบคอบเป็นระบบ โดยแสวงหา จดุ สมดลุ เพื่อใหผ้ ปู้ ระกอบการผลิตสุราไดร้ ับการสนับสนนุ จากภาครัฐในการประกอบอาชพี อยา่ งเหมาะสม 2.4.2 ในช่วงบ่ายดาเนินการอภิปราย เร่ือง “การควบคุมธุรกิจอุตสาหกรรมสุราไทยจุดสมดุลควร เป็นอย่างไร” โดย วทิ ยากรผู้ทรงคุณวฒุ ิ ประกอบดว้ ย (๑) นายธนากร คุปตจติ ต์ นายกสมาคมธรุ กจิ เคร่อื งดมื่ แอลกอฮอล์ไทย (๒) นายคารณ ชเู ดชา ผชู้ ่วยผู้จดั การโครงการเฝา้ ระวงั ธรุ กิจสุรา (Alcohol Watch) (3) นายพรหมเมธ นาถมทอง รองผ้อู านวยการฝา่ ยสนิ ค้าการทอ่ งเท่ียว การทอ่ งเที่ยวแห่งประเทศไทย (4) นางสาวธราทิพย์ ธาราพืช ผูถ้ ูกดาเนินคดี (5) นายเท่าพิภพ ลิ้มจติ รกร ผดู้ าเนินรายการ สรปุ สาระสาคญั ของการสัมมนา ดงั น้ี 1. การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปัจจุบนั ล้วนสรา้ งปญั หาและอุปสรรคต่อผู้ประกอบอาชีพผลิต สุรา และปิดก้ันการพัฒนาอุตสาหกรรมสุราในประเทศไทย ทั้งที่ภูมิประเทศเอื้อต่อการเพาะปลูกพืชและผลไม้ นานาพันธ์ุอย่างอุดมสมบูรณ์ ด้วยวิถีชีวิตด้ังเดิมและภูมิปัญญาท้องถ่ินมีการแปรรูปผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเพื่อถนอมอาหารหรือสร้างสรรค์เครื่องด่ืมบางประเภทที่อาจมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ สาโท เหล้าขาว ไวน์หมากเม่า ยาดอง ส่งผลให้อุตสาหกรรมสุราที่อาจจะเป็น ส่ิงบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications หรือ GI) ของประเทศไทยไมไ่ ด้รบั การพัฒนาสินค้าและสง่ เสรมิ การผลิตเท่าที่ควร 2. การบังคับใช้กฎหมายท่ีไม่จาเป็นหรือไม่เหมาะสมกับยุคสมัย ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับการ พัฒนาอุตสาหกรรมสุราและธุรกิจเก่ียวเนื่อง อีกท้ัง การเข้าถึงกฎหมายของประชาชนยังไม่มีประสิทธิภาพ เพียงพอ ประชาชนยังขาดความรู้ในเรื่องกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสุรา การมีส่วนร่วมในการแก้ไข กฎหมายที่เก่ียวข้องกับอุตสาหกรรมสุราของหน่วยงานภาคเอกชนดังเช่น ผู้ประกอบการผลิตสุรา ไม่ได้มีส่วน ร่วมในการประชมุ /สัมมนา รวมถงึ การกาหนดรปู แบบในการจัดทาประชามติตามรฐั ธรรมนูญด้วย 3. การกาหนดเงินสินบนรางวัล ตามพระราชบัญญัติควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ สมควรได้รับการทบทวนและปรับแก้กฎหมายให้เหมาะสมกบั บริบทของสังคม เนอื่ งจาก ปรากฏว่ามกี ารกระทา คล้ายกระบวนการในการร่วมมือการแจ้ง ชีเ้ บาะแส จับ ปรบั และแบง่ เงินรางวัลตามสดั ส่วน และมีการเดินทาง เพื่อแจ้งดาเนินการกับผู้กระทาความผิดจานวนมากตามพระราชบัญญัติในท่ัวประเทศไทย ซึ่งปัญหาเงนิ สินบน รางวัลควรยกเลิกในกรณขี ้าราชการไดส้ ่วนแบ่งจากการจบั ปรบั เนอ่ื งจากถือเป็นการคอรัปช่นั อีกรปู แบบหนงึ่ 4. การควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยการโฆษณา แม้ภาครัฐให้ความสาคัญกับการควบคุมการ โฆษณาสุราของผู้ประกอบการรายใหญ่ท่ีมีอิทธิพลต่อตลาดรวม แต่ผลการดาเนินคดีกับผู้กระทาความผิดน้ัน
๒๐ พบว่า ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อย-ขนาดย่อมได้รับผลกระทบโดยตรงจากการบังคับใช้พระราชบัญญัติ ควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งในทางปฏิบัติ ประชาชนเห็นว่าควรมีการปรับแก้กฎหมายอย่าง เหมาะสม จัดทาคู่มือข้อควรปฏิบัติให้กับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อย-ขนาดย่อม ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจ เร่ืองสุราในเยาวชนอย่างมีประสิทธิภาพ จัดทาแผ่นพับให้ความรู้เรื่องสุราให้กับผู้ปกครองเพื่อถ่ายทอดความรู้ ให้กับลูกหลานอย่างกระชับและเข้าใจได้ง่าย ตลอดท้ังภาครัฐควรเพิ่มการปฏิสัมพันธ์กับภาคประชาชนและ ภาคเอกชนใหม้ ากขึ้นเพ่ือสร้างความเขา้ ใจในเร่ืองกฎหมายท่เี ก่ยี วขอ้ งกับสรุ าทีต่ รงกันอยา่ งเปน็ ระบบ 2.5 ขอ้ มูลจากการรวบรวมของหน่วยงานที่เกยี่ วข้อง คณะอนุกรรมาธิการศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ได้พิจารณาเห็นควรให้ขอความอนุเคราะห์ ข้อมูลและเอกสารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพ่ือคณะอนุกรรมาธิการจะได้พิจารณาศึกษา วิเคราะห์ และสรุป ข้อมูลที่ได้รับอย่างรอบคอบ รอบด้าน และเป็นระบบ ซึ่งผลสรุปข้อมูลและเอกสารจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง จะปรากฏใน บทท่ี ๓ ผลการศกึ ษา ตามลาดบั ดงั น้ี 2.5.1 สานักงานขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคี ปรองดอง โดยข้อมูลและเอกสารท่ีขอความอนุเคราะห์ คือ รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการศึกษาวิเคราะห์ ทบทวนกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับและกระบวนงานที่เกี่ยวกับการอนุญาตเพื่อลดขั้นตอนการดาเนินการ และการอนญุ าตทไี่ ม่จาเป็นหรอื เปน็ อุปสรรคต่อการประกอบอาชีพและการดาเนนิ ธรุ กจิ ของประชาชน 2.5.2 กรมสรรพาสามติ กระทรวงการคลงั โดยขอ้ มลู และเอกสารท่ีขอความอนุเคราะห์ ไดแ้ ก่ (1) สถิติจานวนคาขออนุญาตประกอบกิจการผลิตสุราย้อนหลัง 2 ปี (ระหว่าง ปี 2560 - ปจั จบุ นั ) (2) จานวนสถิตคิ ดที ่ีกรมสรรพสามติ ดาเนินคดีโดยจาแนกประเภทตามฐานความผิด (3) รายช่ือผู้ไดร้ ับใบอนุญาต ดงั น้ี (3.1) โรงงานสรุ ากลั่น (3.2) โรงงานสรุ าแช่ชนิดไวน์และสุราแช่ผลไม้ (3.3) โรงงานสุราแช่ชนดิ เบยี ร์โรงใหญ่ (3.4) โรงงานสรุ าแช่ชนิดเบียร์ ประเภทผลิตเพอ่ื จาหนา่ ย ณ สถานทผ่ี ลติ (3.5) โรงงานสุราชมุ ชนในปจั จบุ นั ตลอดทง้ั อายใุ บอนญุ าตของแต่ละรายตามลาดับ (4) จานวนการขอใบอนญุ าต ดังน้ี (4.1) โรงงานสุรากลั่น (4.2) โรงงานสรุ าแชช่ นดิ ไวน์และสรุ าแชผ่ ลไม้ (4.3) โรงงานสรุ าแชช่ นิดเบียรโ์ รงใหญ่ (4.4) โรงงานสรุ าแช่ชนดิ เบยี ร์ ประเภทผลิตเพือ่ จาหน่าย ณ สถานที่ผลติ (4.5) โรงงานสรุ าชมุ ชน 3 ปี ย้อนหลัง โดยขอให้แยกประเภท ดังนี้ (4.5.๑) ผู้ขอใบอนุญาตใหม่ (คอื บคุ คลซึง่ ไมเ่ คยขอใบอนญุ าตมาก่อน) (4.5.2) ผู้ขอใบอนญุ าตเดิม 2.5.3 สานักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยขอ้ มลู และเอกสารทข่ี อความอนเุ คราะห์ ไดแ้ ก่
๒๑ (๑) รายช่ือคณะกรรมการควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์และรายชื่อคณะกรรมการนโยบาย เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ในสัดส่วนของหน่วยงานภาคเอกชนที่ได้รับเชิญเข้าร่วมเป็นกรรมการ ระหว่าง ปี ๒๕๕๑ – ปจั จุบัน (๒) รายชื่อผู้เข้าร่วมสัมมนา เสวนา หรือรับฟังความเห็นท่ีเก่ียวข้องกับเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ ในสัดส่วนของหน่วยงานภาคเอกชนท่ีได้รับเชิญเข้าร่วมสัมมนา เสวนา หรือรับฟังความเห็น ระหวา่ งปี ๒๕๕๑ – ปจั จุบัน (๓) รายงานการประชุมและมติท่ีประชุมคณะกรรมการควบคุมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์และ คณะกรรมการนโยบายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์แห่งชาติ เร่ือง กฎกระทรวงว่าด้วยการโฆษณาเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ พ.ศ. .... ซ่ึงได้จัดรับฟังความคิดเห็นระหว่างวันท่ี ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ถึงวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ผา่ นสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ (www.thaianialcohol.com) โดยไดเ้ สนอเสนอรองนายกรัฐมนตรี (พลตรี สนั่น ขจรประศาสน)์ และรายละเอยี ดผลการรบั ฟังความคิดเหน็ ร่างกฎกระทรวงในคร้ังนัน้ (4) สถิติขอ้ มูลการร้องเรียนทั้งหมดในทุกช่องทางรวมท้ังส้ินกี่เร่ือง และได้มีการดาเนินการ เรยี กตามมาตรา 34 (3) จานวนท้งั ส้ินกี่เรอื่ ง (ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปจั จบุ นั ) (5) จานวนคดีท่ีข้ึนสู่การพิจารณาของศาลต้ังแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ของ พระราชบญั ญัตคิ วบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 น้แี ยกตามฐานความผิด (6) จานวนคดีของผู้ประกอบการจาแนกตามขนาดการประกอบการ ขนาดใหญ่ ขนาด กลาง และขนาดเล็ก (ตัง้ แตป่ ี 2558 จนถงึ ปจั จุบัน) (7) การดาเนินการเปรยี บเทียบปรบั มจี านวนทั้งสน้ิ กีค่ ดี (ต้งั แตป่ ี 2558 จนถงึ ปัจจบุ ัน) (8) จานวนสินบนนาจับในปีงบประมาณ 2563 (ระหว่างตุลาคม 2562 - สิงหาคม 2563) (9) คาพิพากษาศาลฎีกาทุกคดีตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
๒๒ บทท่ี ๓ ผลการศกึ ษา จากการศึกษารวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงตามกรอบการศึกษา คณะอนุกรรมาธิการได้นาข้อมูลและ ข้อเท็จจริงที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์และสังเคราะห์หาแนวทางในการลดอุปส รรคในการประกอบธุรกิจ อตุ สาหกรรมเครอ่ื งด่มื แอลกอฮอล์ โดยไดส้ รปุ ผลการศึกษาเปน็ ประเด็นต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 3.1 ภาพรวมเก่ียวกับธรุ กจิ อุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ อุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์เป็นอุตสาหกรรมที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาผูกพันอยู่คู่กับ สังคมไทยมาเป็นระยะเวลานาน ดังจะเห็นได้จากนิราศภูเขาทองงานนิพนธ์ของสุนทรภู่ (พระสุนทรโวหาร) ซ่ึงแต่งขึ้นในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะเดินทางไปนมัสการพระเจดีย์ภูเขาทอง ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยในช่วงหนึ่งของบทประพันธ์ได้บรรยายว่า “ถึงโรงเหล้าเตากล่ันควันโขมง มคี นั โพงผูกสายไว้ปลายเสา” ซ่ึงเป็นการบรรยายถึงสภาพย่านบางยี่ขันซ่งึ เป็นแหลง่ ผลิตสุราดง้ั เดมิ ของประเทศ ไทย๑ อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทยค่อย ๆ มีพัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปเป็นลาดับตั้งแต่การเป็น อุตสาหกรรมผูกขาดโดยรัฐมาสู่การเปิดเสรีการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนมีลักษณะในปัจจุบัน ดังแสดงตาม ขอ้ มลู ทคี่ ณะอนกุ รรมาธกิ ารได้ศึกษามา ดงั น้ี 3.๑.๑ ภาพรวมเศรษฐกิจอตุ สาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรืออุตสาหกรรมสุรานั้นเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม เครื่องดื่มซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด โดยจากการสารวจในปี พ.ศ. ๒๕๖๐๒ พบว่าตลาดอุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มโลกมีมูลค่ารวมประมาณ ๒.๑๕ ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และ นับต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๑ – ๒๕๖๐ (ค.ศ. ๒๐๐๘ – ๒๐๑๗) มีการเติบโตเฉลี่ยประมาณร้อยละ ๓.๘ ต่อปี โดยเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์มีส่วนแบ่งตลาดประมาณร้อยละ ๓๕ ของตลาดอุตสาหกรรมเครื่องด่ืมทั้งหมด (ภาพท่ี ๑, น. 23) และเมื่อพิจารณาเม่ือพิจารณาในเชิงการบริโภคจะเห็นได้ว่า การบริโภคเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์มีสัดส่วนเป็นร้อยละ ๒๐ ของตลาดเครอ่ื งดื่มท้ังหมด (ภาพท่ี ๒, น. 23) และเมื่อพิจารณาสัดส่วน การบริโภคจะเห็นได้ว่าภูมิภาคเอเชียเป็นภูมิภาคหน่ึงท่ีมีการบริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์มากท่ีสุด (ภาพท่ี ๒, น. 23) ๑ รายงานการศึกษาดงู านคณะอนุกรรมาธกิ ารศกึ ษาพฒั นาธรุ กจิ อตุ สาหกรรมสรุ า ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภา ผแู้ ทนราษฎร ๒ วรรณา ยงพิศาลภพ, “วจิ ัยกรงุ ศรี แนวโนม้ ธรุ กจิ /อุตสาหกรรม ปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ อุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืม”, (๒๕๖๒) สืบค้น เมื่อวันท่ี ๑๕ กันยายน ๒๕๖๓, จาก https://www.krungsri.com/bank/getmedia/77793dc9-0214-4a51-9dd1- cd16af17ebcd/IO_Beverage_190503_TH_EX.aspx, น. ๑
๒๓ ภาพท่ี ๑ อัตราการเติบโตและสัดสว่ นของตลาดเครอื่ งดื่มทว่ั โลก ที่มา: วรรณา ยงพิศาลภพ, วจิ ัยกรุงศรี แนวโน้มธรุ กิจ/อุตสาหกรรม ปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ ตลาดเครื่องด่ืม ภาพท่ี ๒ อตั ราการเตบิ โตและสัดส่วนของตลาดการบรโิ ภคเครือ่ งดื่มทวั่ โลก ทม่ี า: วรรณา ยงพิศาลภพ, วจิ ัยกรุงศรี แนวโน้มธรุ กจิ /อุตสาหกรรม ปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ การบรโิ ภคเครอ่ื งดม่ื สาหรับในประเทศไทยน้ัน จากการสารวจ ในปี ๒๕๖๐๓ อุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมมีปริมาณ การบริโภครวมทั้งสน้ิ ๗,๔๗๗ ล้านลิตร มลู คา่ ประมาณ ๕.๗ แสนล้านบาท โดยหากคดิ ปริมาณการบริโภคแล้ว อุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์มีการบริโภคประมาณ ร้อยละ ๒๘ แต่หากพิจารณาในเชิงมูลค่าแล้ว อตุ สาหกรรมเครอื่ งด่มื แอลกอฮอล์มีมูลค่าประมาณ รอ้ ยละ ๖๕ ของมูลค่าท้ังหมด ดังภาพที่ ๓ หน้า 24 ๓ เพงิ่ อ้าง, น. ๒๒
๒๔ ภาพที่ ๓ เปรยี บเทียบสดั สว่ นมูลค่ากบั ปริมาณการบรโิ ภคสุรากบั เคร่อื งดื่มอนื่ ๆ ท่มี า: วรรณา ยงพิศาลภพ, วิจยั กรงุ ศรี แนวโนม้ ธุรกจิ /อตุ สาหกรรม ปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ อตุ สาหกรรมเคร่ืองดื่ม ในด้านการเติบโตของธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์น้ันมีการเติบโตในลักษณะผกผัน โดยในบางช่วงมีการเติบโตมากและในบางช่วงมีการเติบโตน้อย ซ่ึงสาเหตุประการหนึ่งสืบเน่ืองมาจากนโยบาย ของภาครัฐในการเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตสาหรับเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ซึ่งส่งผลต่ออุปสงค์ของเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ในตลาด๔ รวมถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างอัตราภาษีสรรพสามิต ดังเช่นในปี ๒๕๖๐ – ๒๕๖๑ ท่ีมีการเปล่ียนแปลงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ ตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ ทาให้ อัตราการเตบิ โตลดลง (ภาพท่ี ๔, น. 25) นอกจากน้ี จากการประเมินของ Euromonitor International ซึ่งได้ศึกษาผลกระทบของ โรคโควดิ - 19 (COVID-19) ในปี ๒๕๖๓ น้ัน สง่ ผลตอ่ ยอดขายเคร่ืองดม่ื แอลกอฮอล์อย่างมีนัยสาคัญ โดยเฉพาะ อย่างย่ิงในช่วงคร่ึงปีแรก อันเนื่องมาจากสาเหตุหลายประการประกอบกัน อาทิ เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๓ รัฐบาลได้ประกาศควบคุมและปิดสถานประกอบการบางสถานท่ี ซ่ึงรวมถึงร้านอาหาร ไนต์คลับ และบาร์ทาให้ ช่องทางการขายสุราลดลง ซ่ึงในเวลาต่อมารัฐบาลมีคาส่ังห้ามขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ทุกช่องทางเพื่อไม่ให้เกิด การรวมตัวกันจนจะทาให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ประกอบกับการปิดพรมแดนทาให้การบริโภคจาก นักท่องเท่ียวลดลงซึ่งมีส่วนทาให้การบริโภคลดลง นอกจากนี้ แม้ผู้ประกอบการจะสามารถขายสุราผ่านทาง ออนไลน์ได้ แต่ในอุตสาหกรรมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์นั้นการซ้ือขายสุราผ่านทาง E-Commerce มีปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น เน่ืองจากช่องทางหลักในการขายเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์มาจากร้านสะดวกซื้ อ และร้านขายของชามากกว่า ประกอบกับการเพิ่มยอดขายในช่วงดังกล่าวไม่สามารถทาได้เนื่องจากรัฐบาล ไม่ สนั บสนุ น ให้ เกิดการขายเคร่ืองดื่ มแอลกอฮอล์ ท างอิ เล็ กทรอนิ กส์ ท้ังการห้ ามมิให้ โฆษณ าและไม่ให้ ขาย เน่ืองจากกังวลว่าจะเป็นการเพิ่มผู้ดื่มเป็นเด็ก และเยาวชน จากสภาพดังกล่าวทาให้ประมาณการเติบโต อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปี ๒๕๖๓ จะติดลบ ร้อยละ ๗.๘ อย่างไรก็ตาม เม่ือพ้นปี ๒๕๖๓ ๔ นิพนธ์ พัวพงศกร และคณะ, “รายงานฉบับสมบูรณ์ โครงการการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อความเป็นธรรมในสังคม,” (รายงาน ผลการวิจัยเสนอตอ่ สานกั งานกองทุนสนบั สนุนการวิจยั , ๒๕๕๗), น. ๖๓
๒๕ อุตสาหกรรมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์อาจจะกลับมาเติบโตเหมือนเดิม แต่ก็ยังไม่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอันเป็น ผลมาจากนโยบายของรัฐตอ่ อุสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอลย์ ังคงไมเ่ ปล่ยี นแปลง ภาพท่ี ๔ การเตบิ โตของอตุ สาหกรรมเคร่อื งดม่ื แอลกอฮอล์ในประเทศไทย ที่มา: Euromonitor International, Passport Alcoholic Drinks in Thailand, Euromonitor International (August 2020) ในแง่ของปริมาณการบรโิ ภคนั้นนับต้ังแต่ปี ๒๕๔๘ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันปริมาณการบริโภค เฉลย่ี นั้นมากกวา่ ๒,๕๐๐ ล้านลติ รตอ่ ปี และแม้แต่ในช่วงประสบสถานการณ์โรคโควิด 19 ปริมาณการบริโภคนั้น ก็มากกว่า ๒,๕๐๐ ล้านลิตรต่อปีเช่นกันดังภาพท่ี ๔ ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นความต้องการบริโภคเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์นัน้ ยังคงมอี ยอู่ ย่างตอ่ เน่ือง ภาพที่ ๕ การเติบโตของปรมิ าณการบรโิ ภคอตุ สาหกรรมเคร่อื งดม่ื แอลกอฮอล์ในประเทศไทย ทีม่ า: Euromonitor International, Passport Alcoholic Drinks in Thailand, Euromonitor International (August 2020)
๒๖ ในส่วนของประเภทเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ท่ีมีการบริโภคมากท่ีสุดและมีมูลค่าตลาดสูงสุดนั้น จากการสารวจของกรุงศรีวิจัยในปี ๒๕๖๒ พบว่า เบียร์มีสัดส่วนตลาดคิดเป็น ร้อยละ ๗๒ ของปริมาณเคร่ืองด่ืม แอลกอฮอล์ทง้ั หมดในขณะทีส่ รุ า (ไม่รวมถงึ ไวน)์ มีสดั สว่ นตลาดคดิ เป็น ร้อยละ ๒๕.๙ ไวนม์ ีสัดส่วนเป็น รอ้ ยละ ๐.๙ ตามภาพที่ ๖ ในด้านมูลค่าตลาดนั้นเบียร์มีสัดส่วนมูลค่าตลาดคิดเป็น ร้อยละ ๕๔ จากมูลค่าอุตสาหกรรมสุรา รวมท้งั หมดในตลาดในขณะท่ีสรุ ามสี ัดส่วนมูลค่าตลาดคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๔๕๕ ภาพที่ ๖ สดั สว่ นปริมาณการบรโิ ภคและมลู คา่ ตลาดของอตุ สาหกรรมเครอ่ื งด่ืมแอลกอฮอล์ ที่มา: Euromonitor International, Passport Alcoholic Drinks in Thailand, Euromonitor International (August 2020) ในด้านการส่งออกเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์นั้น การส่งออกเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์มีสัดส่วนคิดเป็น ร้อยละ ๑๔ ของธุรกิจเครื่องด่ืมท้ังหมด (ภาพที่ ๗, น. 27) ซึ่งหากพิจารณาลงในรายละเอียดแล้วประเทศท่ี ประเทศไทยได้ส่งออกเครอื่ งดื่มแอลกอฮอล์สูงสุด คอื สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยคิดเป็นสุรา ร้อยละ ๗๒.๑ และเบียร์คดิ เป็น รอ้ ยละ ๔๐.๕ รายละเอียดดงั แสดงตามภาพที่ 8 หนา้ 27 ๕ วรรณา ยงพศิ าลภพ, อา้ งแล้ว เชิงอรรถท่ี ๒, น. ๒
๒๗ ภาพที่ ๗ สดั ส่วนการสง่ ออกเครอื่ งด่ืมแอลกอฮอล์และไม่ใชเ่ ครอื่ งดมื่ แอลกอฮอล์ ทีม่ า: วรรณา ยงพิศาลภพ, วจิ ัยกรงุ ศรี แนวโนม้ ธรุ กิจ/อุตสาหกรรม ปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ อุตสาหกรรมเครอ่ื งดื่ม ภาพท่ี 8 สัดส่วนการสง่ ออกเครอื่ งดม่ื แอลกอฮอล์ ท่มี า: วรรณา ยงพิศาลภพ, วจิ ัยกรุงศรี แนวโนม้ ธรุ กิจ/อุตสาหกรรม ปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3.๑.๒ โครงสร้างตลาดและสภาพการแขง่ ขันในธรุ กิจอุตสาหกรรมเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอล์ หากพิจารณาในด้านจานวนผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ในประเทศไทย แล้วจากข้อมูลผู้ได้รับใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิตน้ันในปัจจุบันมีจานวนท้ังสิ้น ๑,๙๐๑ ราย โดยแยกตาม ประเภทใบอนญุ าตได้แสดงตาม ตารางที่ ๑ หน้า 2๘
๒๘ ตารางท่ี ๑ ตารางแสดงประเภทและผไู้ ดร้ บั ใบอนุญาตผลิตเคร่ืองด่มื แอลกอฮอลใ์ นแต่ละประเภท ประเภทใบอนญุ าต จานวน ใบอนุญาตผลติ สุราแชช่ ุมชน 197 ราย ใบอนุญาตผลิตสุรากล่ันชมุ ชน ใบอนุญาตผลติ สุราแช่ชนิดเบียร์ 1,590 ราย ใบอนุญาตผลติ สรุ าแชช่ นดิ เบยี ร์ประเภทผลิตเพือ่ ขาย ณ สถานท่ผี ลิต 10 ราย ใบอนญุ าตผลติ สรุ าแช่ชนิดไวน์ และไวนช์ นิดผลไม้ 20 ราย ใบอนุญาตผลติ สุราแช่ทกุ ชนิดท่ีไม่ใชเ่ บียร์ และไมใ่ ชส่ รุ าแชช่ มุ ชน (เครื่องปรงุ และอ่ืน ๆ) 14 ราย ใบอนญุ าตผลติ สุรากลน่ั ชนิดสุราพิเศษ ประเภทวสิ กี้ บร่นั ดี และยิน 13 ราย ใบอนญุ าตผลิตสรุ ากลั่น ชนิดสุราขาว สรุ าปรุงพิเศษ และสุราพิเศษ (ยกเวน้ วสิ ก้ี บร่นั ดี และยิน) 26 ราย 31 ราย ท่มี า : กรมสรรพสามติ อย่างไรก็ตาม เม่ือพิจารณาจากโครงสร้างตลาดของเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์นั้นมีลกั ษณะเป็นตลาด ผู้ขายน้อยราย๖ เนื่องมาจากการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์น้ัน ถูกจากัดการเข้าสู่ตลาด โดยกฎระเบียบของภาครัฐ โดยหากพิจารณาตลาดสุราตามประเภทของเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ ๓ ประเภท ได้แก่ เบยี ร์ สุรา และไวน์ โดยมีรายละเอียดดังน้ี (๑) เบียร์ เป็นเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณการบริโภคมากที่สุดในประเทศไทย และสร้าง มูลค่าตลาดมากที่สุดเช่นกัน โดยเม่ือพิจารณาโครงสร้างตลาดเบียร์น้ัน จะเห็นได้ว่าเบียร์ตลาดเบียร์ถูกควบคุม โดยผู้ผลิตรายใหญ่ ๒ ราย คือ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จากัด๗ และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จากัด (มหาชน)๘ ซึ่งปัจจุบันบริษัททั้งสองมีส่วนแบ่งตลาดคิดสัดส่วนรวมกันเป็น ร้อยละ ๙๓ ของปริมาณการจาหน่ายเบียร์ ในประเทศ รองลงมาคือ บรษิ ัท ไทยเอเชีย แปซิฟคิ บรวิ เวอร์ จากัด บริษัท ซานมิเกลเบียร์ (ประเทศไทย) จากัด และบริษัท บริวเวอร่ี จากัด ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดรวมกันทั้งสิ้น ร้อยละ ๓.๘ และผู้ประกอบกิจการเบียร์ขนาดเล็ก และขนาดกลางอนื่ ๆ ซง่ึ มสี ่วนแบง่ ตลาดรวมกัน รอ้ ยละ ๑.๔ ดงั แสดงตามภาพท่ี 9 หน้า 29 ๖ “ตลาดผขู้ ายน้อยราย” หมายถงึ การจัดองคก์ ารตลาดซึ่งภายในตลาดน้มี ผี ู้ขายสินค้าจานวนน้อยราย จนการเปลี่ยนแปลงราคา และปรมิ าณการผลิตของผู้ขายรายหนึง่ จะมีผลกระทบกระเทือนผู้ขายรายอื่น ๆ และผู้ขายอืน่ ๆ จะมปี ฏกิ ิริยาโตต้ อบการกระทา ของผู้ขายรายนี้ด้วย โปรดดู วรณี จิเจริญ, พิมพ์คร้ังท่ี ๒, เศรษฐศาสตร์จุลภาค ๒, (กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์มหาวิทยาลัย รามคาแหง, ๒๕๓๔), น. ๔๐๑. ๗ ส่วนแบง่ ตลาดของบริษัท บญุ รอดบรเิ วอร่ี จากดั คิดจากสว่ นแบ่งตลาดของโรงงานในเครือท้ังหมด ๓ บริษทั ไดแ้ ก่ บรษิ ัท สิงห์ เบเวอเรช จากัด บริษัท ปทุมธานีบรเิ วอรี่ จากดั และบรษิ ทั ขอนแก่นบรเิ วอรี่ จากัด. ๘ ส่วนแบ่งตลาดของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จากัด (มหาชน) คิดจากส่วนแบ่งตลาดของโรงงานในเครือทั้งหมด ๓ บริษัท ได้แก่ บริษัท คอสมอสบริเวอร่ี (ประเทศไทย) จากัด บริษัท เบียร์ทิพย์บริเวอร่ี (๑๙๙๑) จากัด และบริษัท เบียร์ไทย (๑๙๙๑) จากัด (มหาชน)
๒๙ ภาพที่ 9 สว่ นแบง่ ตลาดเบียร์พจิ ารณาตามบรษิ ทั (พ.ศ. ๒๕๖๒) ท่มี า: Euromonitor International, Passport Beer in Thailand, Euromonitor International (August 2020) หมายเหตุ การคิดส่วนแบ่งตลาดนน้ั พจิ ารณาจากลกั ษณะของสนิ ค้าโดยแบ่งแยกตามจานวนใบอนญุ าตประกอบกิจการ (๒) สุรา เป็นเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ที่มีการบริโภคมากเป็นอันดับ ๒ ของประเทศไทยรองลงมา จากเบียร์ โดยเมื่อพิจารณาโรงสร้างตลาดของสุราแล้วจะเห็นได้ว่า ร้อยละ ๘๐ ของตลาดสุรานั้นถูกควบคุม โดยผู้ประกอบการรายใหญ่เพียงรายเดียว คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จากัด (มหาชน)๙ ในขณะที่ผู้ประกอบ กิจการธุรกิจอุตสาหกรรมสุราท่ีมีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาน้ันเป็นบริษัทผู้ประกอบธุ รกิจสุราของต่างประเทศ ซ่ึงเข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จากัด บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จากัด บริษัท บาร์คาร์ดี (ประเทศ) จากัด และกลุ่มเรม่ี คอนโทร ซ่ึงรวมกัน มีส่วนแบ่งตลาดคิดเป็น ร้อยละ ๒.๒ และผู้ประกอบกิจการสุราขนาดเล็ก และขนาดกลางอื่น ๆ ซ่ึงมีส่วนแบ่ง ตลาดรวมกัน รอ้ ยละ ๑๖.๙ ดงั แสดงตามภาพที่ 10 หนา้ 30 ๙ ส่วนแบ่งตลาดของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จากัด (มหาชน) คิดจากส่วนแบ่งตลาดของโรงงานในเครือท้ังหมด ๑๘ บริษัท ได้แก่ บริษัท แสงโสม จากัด บริษัท เฟืองฟูอนันต์ จากัด บริษัท มงคลสมัย จากัด บริษัท ธนภักดี จากัด บริษัท กาญจนสิงขร จากัด บริษัท สุราพิเศษทิพราช จากัด บริษัท สุราบางยี่ขัน จากัด บริษัท สุราแม่โขง จากัด บริษัท อธิมาตร จากัด บริษัท เอส.เอส. การสุรา จากัด บริษัท แก่นขวัญ จากัด บริษัท เทพอรุโณทัย จากัด บริษัท สุรากระทิงแดง (๑๙๙๘) จากัด บริษัท ยูไนเต็ด ไวน์เนอรี่ แอนด์ดิสทิลเลอรี่ จากัด บริษัท สีมาธุรกิจ จากัด บริษัท นทีชัย จากัด บริษัท หลักชัยค้าสุรา จากัด บริษัท สุราพิเศษภทั รลานนา จากดั และบริษัท ประมวลผล จากดั
๓๐ ภาพที่ ๑๐ สว่ นแบ่งตลาดสรุ าพจิ ารณาตามบรษิ ัท (พ.ศ. ๒๕๖๒) ทมี่ า: Euromonitor International, Passport Beer in Thailand, Euromonitor International (August 2020) หมายเหตุ การคิดสว่ นแบง่ ตลาดนั้นพจิ ารณาจากลักษณะของสนิ คา้ โดยแบง่ แยกตามจานวนใบอนุญาตประกอบกจิ การ (๓) ไวน์ เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท่ีมีการบริโภคเป็นอันดับ ๓ ในประเทศไทยรองลงมาจาก เบียร์และสุรา โดยเมื่อพิจารณาจากโครงสร้างตลาดของไวน์แล้วจะเห็นได้ว่าเป็นเพียงธุรกิจเดียวในบรรดาธุรกิจ อุตสาหกรรมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ท่ีไม่มีผู้ผลิตรายใดมีสว่ นแบ่งตลาดมากพอท่ีจะควบคุมตลาดไวนไ์ ด้ โดยผู้ผลิต ท่ีมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด ๕ อันดับแรก คือ บริษัท สยามไวน์นาร่ี จากัด ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาด ร้อยละ ๒๘.๘ รองลงมาจึงเป็นบริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จากัด บริษัท บางกอกเบียร์ แอนด์ เบเวอร์เรจ จากัด บริษัท แอมโบรส ไวน์ จากัด และบริษัท ซี.พี.เค. แพลนเตช่ัน จากัด ซ่ึงมีส่วนแบ่งตลาดรวมกัน ร้อยละ ๒๘.๒ และผู้ประกอบกิจการไวน์ขนาดเลก็ และขนาดกลางอน่ื ๆ ซ่ึงมสี ่วนแบ่งตลาดรวมกนั ร้อยละ ๔๒.๗ ดงั แสดงตาม ภาพที่ ๑๑ หน้า 3๑
๓๑ ภาพที่ ๑๑ ส่วนแบง่ ตลาดไวน์พจิ ารณาตามบริษทั (พ.ศ. ๒๕๖๒) ท่มี า: Euromonitor International, Passport Beer in Thailand, Euromonitor International (August 2020) หมายเหตุ การคิดสว่ นแบ่งตลาดนัน้ พจิ ารณาจากลกั ษณะของสินค้าโดยแบ่งแยกตามจานวนใบอนุญาตประกอบกิจการ ผลของการกระจุกตัวของส่วนแบ่งตลาดในอุตสาหกรรมเบียร์และสุราน้ันทาให้ผู้ประกอบ กิจการผลิตเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์รายใหญ่อาจใช้อานาจเหนือตลาด (Market dominance) เพื่อจากัดการ แข่งขันในตลาดเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ในลักษณะต่าง ๆ ได้ เช่น การกาหนดราคาเพื่อจากัดคู่แข่งรายอ่ืน โดย กาหนดราคาสินค้าให้ต่ากว่าต้นทุนของตนเอง หรือการทุ่มตลาดเพื่อกาจัดให้คู่แข่งออกจากตลาดไป หรือการ ห้ามขายสินค้าของคู่แข่ง เป็นต้น ซ่ึงจากการศึกษารายงานเรื่องร้องเรียนของสานักงานคณะกรรมการแข่งขัน ทางการค้าในปี ๒๕๔๒ ได้เคยมีการร้องเรียนเกี่ยวกับ “กรณีขายเหล้าพ่วงเบียร์” ซึ่งมีลักษณะเป็นการ ประกอบกิจการขายเบียร์ในราคาต่ากว่าราคาทุน โดยนาส่วนที่ขาดทุนจากการขายเบียร์ไปผนวกกับสุรา ซึ่งได้รับสัมปทานผูกขาดจากรัฐบาล และบังคับให้ตัวแทนจาหน่ายช่วงและผู้ค้าส่งจาเป็นต้องรับซ้ือเบียร์ของ บริษัทตนมิฉะน้ันจะไม่ยอมขายสุราของตนให้๑๐ พฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวนั้นกระทบต่อการแข่งขัน อยา่ งเสรแี ละเป็นธรรม ซง่ึ รัฐธรรมนญู ไดบ้ ญั ญตั ริ บั รองเอาไวใ้ นแนวนโยบายพน้ื ฐานแหง่ รฐั มาตรา ๗๕ 3.๑.๓ ธุรกิจอตุ สาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์กับธรุ กจิ อุตสาหกรรมท่เี กย่ี วข้อง ธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์น้ันเกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมอื่นใน ๒ ลักษณะ คือ ธุรกจิ อตุ สาหกรรมท่เี ก่ียวขอ้ งในดา้ นการผลิต และธรุ กจิ อุตสาหกรรมทเ่ี ก่ียวขอ้ งในดา้ นการจัดจาหน่าย ๑๐ ประมวลเร่อื งร้องเรยี นตามพระราชบัญญัติแขง่ ขนั ทางการคา้ พ.ศ. ๒๕๔๒ ประจาปี ๒๕๔๒
๓๒ 3.๑.๓.๑ ธรุ กิจอตุ สาหกรรมที่เกย่ี วข้องในด้านการผลติ ธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นธรุ กิจท่ีมีความเกี่ยวพันกันกับธุรกิจอ่ืน ๆ อีก ๒ ธุรกิจ คือ ธุรกิจเกษตรในฐานะเป็นวัตถุดิบท่ีใช้ในการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น ข้าว ผลไม้ และ กากน้าตาล (โมลาส) เป็นตน้ และธุรกิจบรรจุภณั ฑ์ เช่น ขวดแก้ว และกระปอ๋ งอลมู ิเนยี ม เป็นต้น ธุรกิจเกษตรนั้นเข้ามาเก่ียวข้องกับการผลิตเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ตั้งแต่ต้นในฐานะ วัตถุดิบในการผลิตเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ซ่ึงประเทศไทยมีความได้เปรียบเนื่องจากเป็นประเทศเกษตรกรรม ท่ีอุดมสมบูรณ์ด้วยลักษณะภูมิประเทศท่ีอยู่ในพื้นที่มีอากาศอบอุ่น และสามารถเข้าถึงแหล่งน้าในการทา การเกษตรได้ทาให้สามารถเพาะปลูกได้ดี อย่างไรก็ตาม การผลิตสินค้าเกษตรกรรมของประเทศน้ันส่วนใหญ่ ไม่ได้นาไปใช้เพ่อื การผลติ เคร่ืองดมื่ แอลกอฮอล์ เน่ืองมาจากจานวนผู้ประกอบกิจการผลิตเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ในตลาดมีไม่มาก ทาให้ความต้องการวัตถุดิบมีอย่างจากัด นอกจากน้ี การผลิตสินค้าเกษตรกรรมน้ันไม่ได้เน้น การแปรรูปผลิตภัณฑ์ ซึ่งทาให้สินค้ามีมูลค่าเพ่ิมขึ้น แต่เน้นการผลิตสินค้าเกษตรกรรมเพ่ือจาหน่ายโดยไม่แปรรูป ทาให้ตอ้ งเน้นการผลิตเพ่อื จาหน่ายเปน็ จานวนมากแต่ได้ผลตอบแทนน้อย (ตารางท่ี ๒ ) ตารางที่ ๒ แสดงมูลค่าการส่งออกสินคา้ เกษตรกรรม ๓ รายการในปี ๒๕๖๐ สนิ คา้ มลู ค่าการส่งออก (ลา้ นบาท) ปริมาณ (เมตริกตัน) ข้าว 175,160.78 11,674,331.36 มนั สาปะหลัง 71,795.74 9,581,060.02 ผลไม้ 73,505.08 1,995,438.66 ทมี่ า : ธนาคารแหง่ ประเทศไทย จากการสัมมนา เร่ือง “ทิศทางและอนาคตธรุ กจิ สุราไทย” โดยคณะอนุกรรมาธิการ ศึกษาพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมสุรา ในคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎรน้ัน ผู้เข้าร่วม เสวนาหลายท่านได้ใหค้ วามเห็นไปในทิศทางเดียวกันวา่ ควรส่งเสริมให้สามารถนาสินค้าเกษตรกรรมมาแปรรูป เป็นเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เช่น นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้แสดงความเห็นว่า “เราไม่มีทางผลิตรถแข่งกับญ่ีปุน่ ที่เราเหน็ วา่ ส่งออกรถ เราเอามาแค่ประกอบเทา่ น้ันไมไ่ ดผ้ ลิตตั้งแต่ราก แต่ผม เช่อื ว่าสุราเราใช้วัตถุดิบทกุ อย่าง ไม่ตอ้ งไปเอาองค์ความรู้มาจากญี่ปุ่น ไม่ต้องเอาอะไรทั้งหลายเพื่อมาทา...แล้ว ถ้าเกิดการสง่ เสริมแลว้ เอาไปขายเหมือนท่ีบอกวา่ ขวดหน่ึงเป็นล้านเปน็ แสน แล้วใครมาตรงนี้ก็ต้องชิม ทาให้มัน เป็นธุรกิจ แต่ต้องควบคุมให้ดี ส่งเสริมแล้วควบคุม ส่งเสริมให้มีการผลิต ทาอย่างไรจะผลิตได้ง่าย ๆ มันต้อง สง่ เสรมิ กอ่ นแลว้ ถึงมาควบคมุ ”๑๑ การส่งเสริมให้เกิดการนาสินคา้ เกษตรกรรมมาแปรรูปเป็นเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์น้ัน จะช่วยให้เกิดการเพิ่มมลู คา่ ให้กับสินคา้ เกษตรกรรมดงั กลา่ วได้ และนอกจากน้ี ในกรณีที่ผลิตผลทางการเกษตร เกินไปจากความต้องการของตลาด ธุรกิจอุตสาหกรรมเคร่ืองแอลกอฮอล์สามารถช่วยดูดซับอุปทานส่วนเกินน้ี ได้ด้วย อย่างไรก็ตาม อุปสรรคท่ีทาให้ไม่สามารถนาสินค้าเกษตรกรรมมาใช้ผลิตเป็นเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ที่มี ๑๑ แนวหน้า, “'หมอแท้จริง'แนะหนุนสุราชุมชนช่วยเกษตร-รากหญ้า ชี้เมาแล้วขับปัญหาท่ีบังคับใช้กฎหมาย” สืบคน้ เมื่อวันท่ี 12 กนั ยายน 2563, จาก https://www.naewna.com/local/517861
๓๓ คุณภาพเกิดขึ้นมาจาก ๒ ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านอุปสรรคอันเกิดข้ึนจากกฎหมาย และปัจจัยด้านองค์ความรู้ใน การพฒั นาคณุ ภาพสนิ ค้า ในด้านธุรกิจบรรจุภัณฑ์นั้นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์ในกรณีของการบรรจุเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ลงในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม อยา่ งมากนั้น จะเป็นขวดแก้วและกระปอ๋ งอลูมิเนียม ซึ่งเป็นผลมาจากคณุ สมบัติของวสั ดุ อย่างไรก็ตาม ในดา้ น การแข่งขันบริษัทผลิตบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างย่ิงประเภทขวดแก้วท่ีนิยมนามาใช้ในการบรรจุเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์น้ันบริษัทเจ้าของกิจการผลิตบรรจุภัณฑ์โดยส่วนใหญ่นั้นเป็นในเครือของบริษัทประกอบกิจการ ผลติ เคร่อื งดืม่ แอลกอฮอล์๑๒ ๓.๑.๓.๒ ธรุ กิจอตุ สาหกรรมที่เก่ียวขอ้ งในดา้ นการจัดจาหนา่ ย ธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในด้านการจัดจาหน่ายน้ันเช่ือโยงโดยตรงถึงสถานที่ จาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาคัญโดยครอบคลุมตั้งแต่ ร้านโชห่วย ร้านอาหาร คาเฟ่ ผับ บาร์ สถาน บริการ และโรงแรมและทพ่ี ัก อย่างไรกต็ าม สถานท่ีที่เกี่ยวขอ้ งโดยตรงกบั การจัดจาหนา่ ยเคร่อื งดม่ื แอลกอฮอล์ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ พับบาร์ และสถานบริการ เนื่องจากการประกอบธุรกิจเหล่าน้ีมีการจาหน่ายเครื่องด่ืม แอลกอฮอลท์ ั้งเป็นส่วนหนึง่ ของสนิ คา้ ทจี่ าหน่าย หรือเปน็ สินค้าหลักสาหรับกรณผี ับและบาร์ ความสาคัญของธุรกิจอุตสาหกรรมเหล่านี้มีความสาคัญในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของ อุตสาหกรรมการท่องเท่ียวของประเทศ โดยในสถานการณ์ปกตินักท่องเที่ยวจานวนมากเดินทางเข้ามา ท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจานวนมาก สิ่งน้ีเป็นส่วนหนึ่งของอุปสงค์ในการผลิตและจาหน่ายเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์ดังจะเห็นได้จากการเติบโตของย่านสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองท่องเท่ียว สาคัญของประเทศ ดังเช่นกรุงเทพมหานครจะปรากฏย่านสาคัญหลายแห่ง เช่น ข้าวสาร ทองหล่อ สีลม และพัฒน์พงศ์ เป็นต้น ย่านนิมานเหมินทร์ในจังหวัดเชียงใหม่ และย่านป่าตองในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งบรรดาย่าน การคา้ สาคัญเหล่านี้ เกดิ ขน้ึ มาได้เน่อื งมาจากการจาหนา่ ยเคร่อื งด่มื แอลกอฮอลใ์ ห้กับนักท่องเท่ียวดว้ ยเปน็ ส่วนหนงึ่ จากการศึกษาของ วสันต์ ปวนปันวงศ์ โดยได้รับทุนสนับสนุนจากศูนย์วิจัยปัญหา สุรา (ศวส.) หน่วยระบาดวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ทาการศึกษานโยบายการ ควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ของรัฐกับการสร้างความมั่งคั่งด้านเศรษฐกิจในพื้นท่ีถนนนิมานเหมินทร์ จังหวัด เชยี งใหม่ พบวา่ การสังสรรคก์ นั ในยามราตรีไมว่ า่ จะเปน็ ในรา้ นอาหาร ผับ บาร์ และรวมถึงการต้ังวงด่มื บนทาง เท้าและบริเวณต่าง ๆ ในพ้ืนท่ีถนนนิมมานเหมินทร์เป็นจุดดึงดูดสาคัญในการเรียกนักท่องเที่ยวเข้ามาในพ้ืนที่ ดงั กลา่ ว และสร้างอุปสงคใ์ นการดื่มเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ในพื้นที่ดังกล่าว และทาให้เกิดอุปทานตามมามากขึ้น เพือ่ ใหเ้ พยี งพอต่อการดื่มเคร่ืองด่มื แอลกอฮอล์ของนักทอ่ งเทยี่ ว๑๓ ๑๒ โพซชิ น่ั นิง่ , “ยักษ์ใหญก่ ินรวบธุรกิจผลติ ขวดแก้ว เจาะบกิ๊ โฟร์ชิงตลาด 4 หมน่ื ล้าน” สืบค้นเมอื่ วันที่ ๑๒ กนั ยายน ๒๕๖๓, จาก https://positioningmag.com/1144128 ๑๓ วสันต์ ปวนปันวงศ์, “นโยบายการควบคุมเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ของรัฐกับการสร้างความมั่นคั่งด้านเศรษฐกิจในพ้ืนท่ีถนน นิมมานเหมินทร์ จังหวัดเชียงใหม่,” (ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) หน่วยระบาดวิทยา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัย สงขลานครินทร์, ๒๕๖๓), น. ๗๐ - ๗๑
๓๔ การเกิดข้ึนของย่านการค้าท่ีจาหน่ายเครื่องดม่ื แอลกอฮอล์น้มี าพรอ้ ม ๆ กับการจา้ ง งานและการพัฒนาอสงั หาริมทรพั ย์โดยรอบ ซึ่งเป็นสงิ่ ท่ีไมอ่ าจปฏิเสธได้เลยว่าเม่อื ธุรกจิ มกี ารเติบโตมากข้นึ น้ัน จาเป็นต้องมีการจ้างงานเพ่ิมมากขึ้น และเมื่อย่านการค้าดังกล่าวเติบโตขึ้น ทาให้เกิดความพยายามดึงดูด นักท่องเที่ยวให้เข้ามาพักอาศัยในย่านดังกล่าวมากขึ้น พร้อม ๆ กันน้ีการเติบโตของธุรกิจโรงแรมและท่ีพัก จึงเกิดขึ้นตามมา โดยจะเห็นได้ว่าการเติบโตของย่านธุรกิจการค้านั้น มีนัยสาคัญมาจากการเป็นย่านจาหน่าย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซ่ึงในงานวิจัยของ วสันต์ ปวนปันวงศ์ ยังได้ช้ีให้เห็นว่า รัฐได้รับประโยชน์ในเชิงภาษี จากการเติบโตของสถานท่ีจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในย่านนิมมานเหมินท์มากขนาดเพียงใด โดยอาศัย ข้อมูลจากการสัมภาษณ์บุคคลในสานักงานสรรพสามิตพ้ืนท่ีเชียงใหม่ สาขาเมืองเชียงใหม่ ในข้อมูลสถิติ ด้านเศรษฐกิจผ่านการจาหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนถนนนิมมานเหมินทร์ พบว่า ข้อมูลปี ๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ (ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓) ในเวลาดังกล่าวพื้นท่ีถนนนิมมานเหมินทร์มีสถานที่จาหน่ายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ จานวน ๖๕ ร้าน และข้อมูลการจัดเก็บค่าธรรมเนียมใบอนุญาตของร้านค้าจาหน่ายเครื่องด่ืม แอลกอฮอล์เป็นจานวน ๑๘๐,๗๒๐ บาท๑๔ และหากพิจารณาในแง่ของข้อมูลการเสียภาษีของสถาน ประกอบการในพ้ืนที่ถนนนิมมานเหมินทร์น้ัน จะเห็นได้ว่าร้านค้าจาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์นั้น ได้สร้าง รายได้ให้กับประเทศเป็นจานวนมาก โดยผู้วิจัยได้ยกตัวอย่างข้อมูลการเสียภาษีของสถานประกอบการในพื้นที่ ถนนนมิ มานเหมนิ ทร์ จานวน ๓ ร้าน ดังแสดงตามตารางท่ี ๓ ตารางที่ ๓ ตัวอยา่ งข้อมูลการเสียภาษีของสถานประกอบการในพื้นที่ถนนนิมมานเหมินทร์ ชอ่ื ร้านคา้ ปีงบประมาณ ภาษที เ่ี กบ็ ได้/บาท รา้ นวอร์มอพั คาเฟ่ ๒๕๕๘ ๒,๙๓๕,๑๖๒.๓๒ ๒๕๕๙ ๔,๙๙๒,๑๑๐.๓๔ ๒๕๖๐ ๒,๙๖๗,๐๘๘.๐๔ ๒๕๖๑ ๓,๓๖๒,๘๔๐.๙๘ ๒๕๖๒ ๒,๔๐๑,๑๗๑.๐๖ ๒๕๖๓ - ปัจจุบนั ๑,๙๑๐,๘๓๑.๔๐ ร้านตง้ั หวงั เจง๊ (TWJ Pub & Restaurant) ๒๕๖๑ ๒๑๖,๖๖๘.๔๒ ๒๕๖๒ ๕๑๑,๔๖๘.๔๒ ๒๕๖๓ - ปัจจุบนั ๔๒๗,๙๘๑.๗๐ รา้ นเดอะทอย ๒๕๖๓ - ปจั จบุ ัน ๙,๙๗๔.๒๕ หมายเหตุ : ข้อมูลปัจจบุ ัน หมายถงึ ข้อมูลท่ีผ้วู ิจัยไดจ้ ากการสัมภาษณใ์ นวันท่ี ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ท่มี า : วสันต์ ปวนปนั วงศ์, น. ๗๒ ๑๔ เพ่งิ อ้าง, น. ๗๒
๓๕ นอกจากนี้ หากพิจารณาในข้อมูลการเสียภาษีสรรพสามิตในภาพรวมของสถานประกอบการ ในจงั หวัดเชียงใหมแ่ ล้วจะเหน็ ได้วา่ มตี วั เลขที่คอ่ นข้างสงู ดงั แสดงตามตารางท่ี ๔ ตารางท่ี ๔ ตวั อย่างข้อมลู การเสียภาษีของสถานประกอบการในจังหวดั เชยี งใหม่ ปีงบประมาณ ภาษที ี่เกบ็ ได้/บาท ๒๕๕๘ ๑,๑๘๔,๓๗๓,๑๖๕.๙๖ ๒๕๕๙ ๑,๓๑๗,๓๐๕,๙๔๐.๙๒ ๒๕๖๐ ๑,๕๔๖,๘๕๐,๙๒๒.๙๒ ๒๕๖๑ ๑,๔๓๘,๓๙๗,๘๖๖.๐๐ ๒๕๖๒ ๑,๕๗๕,๑๙๘,๐๒๕.๘๓ ๒๕๖๓ – ปจั จบุ นั ๑,๐๙๘,๐๕๘,๐๐๘.๘๐ หมายเหตุ : ขอ้ มลู ปจั จุบัน หมายถึง ขอ้ มลู ท่ีผูว้ ิจัยไดจ้ ากการสัมภาษณใ์ นวันท่ี ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ท่ีมา : วสนั ต์ ปวนปนั วงศ์, น. ๗๓ จากข้อมูลสถติ ิดงั กลา่ วสะทอ้ นให้เห็นภาพ คือ การจดั เก็บภาษขี องสานักงานสรรพสามิตพ้ืนที่ เชยี งใหมม่ ีตัวเลขที่คอ่ นข้างสูง โดยเฉพาะรา้ นท่เี ปน็ สัญลกั ษณ์ของการเที่ยวราตรีในพนื้ ท่ีถนนนิมมานเหมนิ ทร์๑๕ ภาพข้างต้นน้ันเป็นเพียงแค่ตัวอย่างของความสัมพันธ์ท่ีเกิดขึ้นระหว่างธุรกิจอุตสาหกรรม เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์กับธุรกิจอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวข้องในด้านการจัดจาหน่าย นอกเหนือจากภาพในด้านการ ท่องเที่ยว การจ้างงาน และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ข้างเคียงแล้ว ธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ยังมีผลสาคัญในเชิงด้านการศึกษาอีกด้วย ดังปรากฏตามรายงานการศึกษาดูงานของคณะอนุกรรมาธิการที่ได้ เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ จังหวัดนครราชสีมา สถานที่จาหน่ายเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ยังกลายเป็นสถานที่ ฝึกงานของนสิ ติ นักศึกษาภาควิชาคหกรรมศาสตร์ และยังเป็นสถานท่ีอบรมสรา้ งความรใู้ ห้กับผมู้ ีความสนใจ อย่างไรก็ตาม ปัญหาสาคัญของเรื่องดังกล่าวเกิดมาจากนโยบายควบคุมเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ และการบังคับใช้พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในมุมมองด้านสุขภาพเพียงด้าน เดียวโดยไม่คานึงถึงปัจจัยด้านอื่นจนกลายมาเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างย่ิงในธุรกิจ ท่องเที่ยวและบริการที่เป็นแหล่งรายได้สาคัญของประเทศไทย ซ่ึงมีสถานะเป็นประเทศกาลังพัฒนาที่หวังพึ่ง การท่องเทย่ี วและบริการ 3.๑.๔ การจัดเก็บรายได้ของรัฐจากภาษีสรรพสามิต ในด้านรายได้ภาครัฐนั้นจากการศึกษาพบว่า อุตสาหกรรมเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์สร้างรายได้ท่ี เป็นภาษีให้กับประเทศเป็นจานวนมาก โดยจากการเก็บข้อมูลจากสถิติรายได้กรมสรรพสามิตรวมทุกประเภท ย้อนหลังเป็นระยะเวลา ๓ ปี ภาษีสรรพสามิตท่ีเก็บจากเบียร์และสุราน้ันเป็นแหล่งรายได้ท่ีมีความสาคัญ รองลงมาจากภาษีสรรพสามิตท่ีเก็บจากน้ามันและรถยนต์ (ตารางท่ี ๕, น. 36) และเป็นแหล่งรายได้ท่ีมี การเติบโตข้ึนอย่างต่อเน่ืองทุกปีโดยจะเห็นได้ว่าในแต่ละปีนั้นกรมสรรพสามิตมีการกาหนดประมาณการรายได้ จากภาษีเบียร์และสรุ าเพมิ่ ขนึ้ ทกุ ปดี ว้ ยเชน่ เดียวกนั (ตารางที่ ๖, น. 36) ๑๕ เพ่งิ อ้าง, น. ๗๓
๓๖ ตารางท่ี ๕ แสดงรายไดภ้ าษสี รรพสามติ ๕ ลาดับแรกเปรยี บเทยี บยอ้ นหลังเป็นระยะเวลา ๓ ปีงบประมาณ (หนว่ ย : ล้านบาท) แหล่งรายได้ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๑ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๒๒๔,๘๘๓.๑๒ ๒๑๐,๐๒๔.๑๘ ๑. ภาษนี ้ามนั และผลิตภณั ฑ์น้ามัน ๒๑๖,๘๘๔.๘๙ ๑๒๑,๐๘๗.๘๑ ๑๓๓,๑๘๐.๖๑ ๗๖,๓๕๖.๙๔ ๗๙,๐๙๐.๘๖ ๒. ภาษีรถยนต์ ๑๐๑,๑๕๐.๑๕ ๖๘,๕๔๘.๑๗ ๖๗,๔๑๐.๒๔ ๕๕,๙๖๔.๗๓ ๖๒,๑๔๖.๖๕ ๓. ภาษเี บยี ร์ ๘๗,๑๙๖.๓๒ ๔. ภาษยี าสูบ ๖๘,๖๐๓.๐๙ ๕. ภาษีสุรา (รวมสุราทกุ ประเภทยกเว้นเบียร์) ๖๒,๖๕๘.๒๗ ทม่ี า : สถติ ริ ายไดก้ รมสรรพสามิตรวมทกุ ประเภทย้อนหลัง ๓ ปงี บประมาณ ตารางที่ ๖ แสดงการเตบิ โตของรายไดภ้ าษสี รรพสามติ จากเบยี ร์และสุราเปรยี บเทียบยอ้ นหลังเปน็ ระยะเวลา ๓ ปงี บประมาณ (หนว่ ย : ลา้ นบาท) ภาษีเบยี ร์ พ.ศ. ๒๕๖๐ พ.ศ. ๒๕๖๑ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๘๖,๐๐๐.๐๐ ๙๖,๐๐๐.๐๐ ๙๖,๕๐๐.๐๐ ประมาณการตามเอกสารงบประมาณ รายได้เกบ็ ไดจ้ รงิ ๘๗,๑๙๖.๓๒ ๗๖,๓๕๖.๙๔ ๗๙,๐๙๐.๘๖ เปรยี บเทียบกับประมาณการตามเอกสารงบประมาณ + ๑,๑๙๖.๓๒ - ๑๙,๖๔๓.๐๖ - ๑๗,๔๐๙.๑๔ คิดเป็นร้อยละเท่าใดของงบประมาณแผ่นดิน ร้อยละ ๓.๑๒ ร้อยละ ๒.๕๗ รอ้ ยละ ๒.๕๘ ภาษสี ุรา (รวมสุราทุกประเภทยกเวน้ เบียร)์ ๖๕,๕๐๐.๐๐ ๖๕,๕๐๐.๐๐ ๖๕,๕๐๐.๐๐ ประมาณการตามเอกสารงบประมาณ รายไดเ้ กบ็ ไดจ้ รงิ ๖๒,๖๕๘.๒๗ ๕๕,๙๖๔.๗๓ ๖๒,๑๔๖.๖๕ เปรียบเทยี บกับประมาณการตามเอกสารงบประมาณ - ๒,๘๔๑.๑๕ - ๘,๕๓๕.๒๗ - ๒,๘๕๓.๓๕ คิดเป็นร้อยละเท่าใดของงบประมาณแผน่ ดิน รอ้ ยละ ๒.๒๔ รอ้ ยละ ๑.๘๘ รอ้ ยละ ๒.๐๓ ทมี่ า : สถติ ิรายได้กรมสรรพสามิตรวมทกุ ประเภทย้อนหลงั ๓ ปีงบประมาณ อย่างไรกต็ าม เมือ่ พิจารณาโครงสร้างภาษีเครือ่ งดื่มแอลกอฮอลแ์ ล้วจะเห็นได้วา่ ต่อการบรโิ ภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ๑ หน่วยนั้น ผู้บรโิ ภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งเป็นผู้รับภาระทางภาษีจากการดื่มเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์นั้น จะต้องเสียภาษีหลายประเภทด้วยกัน ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT) ภาษีสรรพสามิตสุราและเบียร์ ซึ่งภายใต้ภาษีสรรพสามติสุราและเบียร์น้ันนอกจากอัตราภาษีซ่ึงเก็บ ตามพระราชบัญญัติสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๖๐ แล้ว ยังได้มีการจัดเก็บภาษีเสริม (Surcharge Taxes) จากเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในฐานะภาษีบาป (Sin Tax) เนื่องจากรัฐไทยจัดให้เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์เป็นสินค้าไม่ดี ต่อสุขภาพ (Demerit Goods) จึงให้มีการจัดเก็บภาษีโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะ (Earmarked Tax) ไปยัง กิจกรรมท่ีมีวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการบรรเทาผลกระทบจากเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ โดยกฎหมายไทยได้กาหนด ให้มีการจัดเก็บภาษี โดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (และยาสูบ) ไปให้กิจกรรมเฉพาะ ได้แก่ กองทุนสนับสนุนการเสริมสร้างสุขภาพ (กองทุน ส.ส.ส.) กองทุนพัฒนาการกีฬา องค์การกระจายเสียงและแพร่
๓๗ ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ตารางท่ี ๗ และตารางที่ 8, น. 38) การจัดเก็บภาษีโดยมีวัตถุประสงค์เฉพาะนั้น แม้จะมีข้อดีในหลายประการสาคัญต่อพฤติกรรมการบริโภค เคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ เน่ืองจากทาให้ราคาเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์เพิ่มข้ึน และในแง่ของการบริหารงานภาครัฐ การนาเงินภาษีไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์โดยเจาะจง ทาให้การดาเนินงานของรัฐบาลมีความชัดเจนมากกว่า การนาเงินภาษีไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์โดยทั่วไป และประชาชนรับรู้ต้นทุนการใช้จ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ โดยเจาะจงของรัฐบาล๑๖ การจัดเก็บภาษีเสริมท่ีเก็บไปใช้ตามวัตถุประสงค์เฉพาะต่าง ๆ นั้น อาจไม่สอดคล้องกันกับ สภาพความเป็นจริงในปัจจุบันแล้ว เช่น กรณีของ ส.ส.ท. ซ่ึงเดิมการนาภาษีสรรพสามิตจากเคร่ืองดื่ม แอลกอฮอล์มาเป็นรายได้ของ ส.ส.ท. นั้น มีวัตถุประสงค์เพ่ือชดเชยการโฆษณาผ่านส่ือสาธารณะของบริษัท เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ด้วยพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. ๒๕๕๑ ไม่อนุญาตให้มีการ โฆษณาเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ ดังน้ัน การกาหนดให้รายได้ของ ส.ส.ท. มาจากภาษีสรรพสามิตเครื่องดื่ม แอลกอฮอลจ์ ึงไม่เหมาะสมอีกตอ่ ไป เปน็ ตน้ หรือการจดั เกบ็ ภาษีเครอื่ งด่มื แอลกอฮอล์ เพ่ือเอามาใช้ในกจิ กรรม รณรงค์ลดการบรโิ ภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ของกองทุน ส.ส.ส. (ตารางที่ ๘, น. 38) น้ัน ทว่า เมื่อเปรียบเทียบ กับการลดลงของการบริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์แล้ว (ตารางที่ ๙, น. 39 และตารางที่ ๑๐, น. 40) อาจจะ ไม่คมุ้ ค่าอกี ต่อไปแล้ว นอกจากน้ี การเก็บภาษเี สรมิ ที่เกบ็ ไปใชต้ ามวัตถปุ ระสงค์เฉพาะต่าง ๆ นั้น โดยสว่ นใหญ่ไม่ได้มี การกาหนดเพดานขัน้ สูงของการไดร้ ับเงนิ อุดหนุนจากภาษีเสรมิ ท่ีเก็บไปใชต้ ามวตั ถุประสงค์เฉพาะต่าง ๆ ยกเว้น แต่ ส.ส.ท. ท่ีกาหนดให้ได้รับไม่เกิน ๒,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งการไม่กาหนดเพดานขั้นสูงเอาไว้น้ีทาให้เงินรายได้ไป สะสมไว้ในองค์กรใดองค์กรหนงึ่ แทนท่รี ฐั จะนาเงนิ รายได้ดังกลา่ วไปใชป้ ระโยชน์ใหส้ อดคล้องกับกิจกรรม ตารางท่ี ๗ แสดงอตั ราภาษเี สริมทเี่ ก็บไปใชต้ ามวัตถปุ ระสงคเ์ ฉพาะต่าง ๆ จากเคร่อื งด่ืมแอลกอฮอลแ์ ละยาสูบ กจิ กรรมท่มี ีการจัดเกบ็ ภาษีเสริม อัตราภาษี กองทนุ ส.ส.ส.๑๗ ร้อยละ ๒ กองทนุ พัฒนาการกีฬา๑๘ ร้อยละ ๒ ส.ส.ท.๑๙ รอ้ ยละ ๑.๕ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน๒๐ รอ้ ยละ ๑๐ ท่ีมา : คณะอนุกรรมาธกิ ารศึกษาพัฒนาธรุ กิจอุตสาหกรรมสุรา ๑๖ สานักงานเศรษฐกิจการคลัง, “การคลังปริทัศน์: Earmarked Tax,” สืบค้นเมื่อวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔, จาก www2.fpo.go.th/ FPO/modules/Content/getfile.php?contentfileID=7383 ๑๗ พระราชบญั ญตั กิ องทนุ สนบั สนุนการสรา้ งเสริมสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔, มาตรา ๑๑ ๑๘ พระราชบญั ญัติการกฬี าแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๘, มาตรา ๓๗ ๑๙ พระราชบัญญัติองคก์ ารกระจายเสียงและแพรภ่ าพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๕๑, มาตรา ๑๒ ๒๐ พระราชบัญญตั กิ าหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แกอ่ งค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ พ.ศ. ๒๕๔๒, มาตรา ๒๓ (๖)
๓๘ ตารางที่ ๘ แสดงผลการจัดสรรเงนิ ภาษเี สรมิ ทีเ่ ก็บไปใชต้ ามวัตถปุ ระสงคเ์ ฉพาะต่าง ๆ จากเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ และยาสบู (หน่วย : ล้านบาท) ปี กองทนุ ส.ส.ส. กองทุนพฒั นา ส.ส.ท. องคก์ รปกครองสว่ น การกฬี า ท้องถ่นิ ร้อยละ ๑๐ อัตราภาษี รอ้ ยละ ๒ รอ้ ยละ ๒ ร้อยละ ๑.๕ - - ๒๕๔๕ ๑,๕๒๖ -- - - ๒๕๔๖ ๑,๙๑๗ -- - - ๒๕๔๗ ๒,๑๕๐ -- ๖,๕๙๙ ๖,๔๙๐ ๒๕๔๘ ๒,๒๖๘ -- ๕,๐๓๒ ๕,๑๗๘ ๒๕๔๙ ๒,๑๙๕ -- ๕,๘๗๔ ๗,๐๘๙ ๒๕๕๐ ๒,๕๕๓ -- ๗,๓๗๒ ๘,๒๗๕ ๒๕๕๑ ๒,๖๖๘ - ๑,๗๗๒ ๘,๗๐๓ ๖๐,๖๑๒ ๒๕๕๒ ๒,๖๓๔ - ๒,๐๓๘ ๒๕๕๓ ๓,๑๑๐ - ๒,๐๙๘ ๒๕๕๔ ๓,๓๙๑ - ๒,๐๑๔ ๒๕๕๕ ๓,๕๖๑ - ๒,๐๗๐ ๒๕๕๖ ๓,๘๑๑ - ๒,๐๙๙ ๒๕๕๗ ๔,๐๖๔ - ๑,๙๖๙ ๒๕๕๘ ๔,๑๒๖ ๓,๐๙๕ ๑,๙๙๒ ๒๕๕๙ ๔,๒๘๕ ๔,๒๘๕ ๑,๙๘๗ รวม ๔๔,๒๕๙ ๗,๓๘๐ ๑๘,๐๓๙ มลู ค่ารวม ๑๓๐,๒๘๙ ท่มี า : สานักข่าวออนไลนไ์ ทยพับลิก้า๒๑ 3.๑.๕ ภาพรวมเกี่ยวกับผบู้ รโิ ภคเครื่องดมื่ แอลกอฮอลใ์ นปจั จุบัน ในด้านของการบริโภคเครื่องด่ืมแอลกอฮอล์คิดสัดส่วนการบริโภคภายในประเทศไทยน้ัน คิดเป็น ร้อยละ ๖๐ ของอุตสาหกรรมเคร่ืองดื่ม๒๒ โดยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับการบริโภคมากท่ีสุด ๒ ประเภท ได้แก่ เบยี ร์ และสรุ า เมอ่ื พิจารณาในเชิงสถิตจิ ากการสารวจของสานักงานสถติ ิแห่งชาติ ในปี ๒๕๖๐ พบว่า จากการ สารวจประชากรไทย ๖,๙๘๔,๗๘๖ คน ดื่มเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์อย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง (นักดื่มประจา) คิดเป็น ร้อยละ ๔๓.๙๔ ของผู้บริโภคเคร่ืองดื่มแอลกอฮอล์ในปัจจุบัน โดยในจานวนน้ีเป็นเพศชายจานวน ๖,๓๙๒,๙๖๖ คน และเพศหญิงจานวน ๕๙๑,๘๑๙ คน๒๓ สาหรับช่วงวัยของผู้บริโภคเคร่ืองด่ืมแอลกอฮอล์ส่วน ใหญ่จะอยู่ในช่วงวัย ๒๕ - ๔๔ ปี โดยมีสัดส่วนคิดเป็น ร้อยละ ๔๕.๑๑ ของผู้บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ๒๑ สานักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า, “สรรพสามิตเตรียมเก็บ ภาษีบารุงกองทุนคนชรา ๒ % สุรา - ยาสูบจ่าย Earmark Tax รวม ๑๗.๕ %” สืบค้นเมื่อวันที่ 18 มกราคม ๒๕๖๔, จาก https://thaipublica.org/2017/11/earmarked-tax-elderly- fund/ ๒๒ วรรณา ยงพศิ าลภพ, อา้ งแลว้ เชิงอรรถท่ี ๒, น. ๒ ๒๓ สาวิตรี อัษณางค์กรชัย และคณะ, รายงานสถานการณก์ ารบริโภคเครอ่ื งดม่ื แอลกอฮอลใ์ นสังคมไทย ประจาปี พ.ศ. 2560, (กรุงเทพฯ สหมิตรพัฒนาการพมิ พ์, ๒๕๖๒), น. 19
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 584
Pages: