๓๗ ต้นแม่นำ้ ชี แหล่งน้ำสำคัญและใกลเ้ คียงกับลมุ่ แม่น้ำป่าสัก ศึกษาแนวทางการบรหิ ารจัดการนำ้ ขา้ มล่มุ น้ำ กลมุ่ ลมุ่ น้ำ และศกึ ษาแนวทางจุดการก่อสร้างอา่ งเก็บนำ้ เขาพังเหย อำเภอเทพารกั ษ์ จงั หวัดนครราชสีมา ป่าสัก จุดก่อสรา้ งโครงการอ่างเกบ็ นำ้ นำ้ ทิน และโครงการจดั หาแหลง่ น้ำเพอ่ื ชุมชน ฝายคลองห้วยหวาย จงั หวัดเพชรบูรณ์
๓๘ กลมุ่ ลมุ่ นำ้ ป่าสัก ประตรู ะบายนำ้ มโนรมย์ (ปากคลองชัยนาท-ปา่ สกั ) อำเภอมโนรมย์ จงั หวดั ชัยนาท และบรเิ วณปากแม่น้ำลพบุรีในการเพม่ิ ปริมาณนำ้ ลงสแู่ ม่น้ำป่าสกั
๓๙ กลมุ่ ลมุ่ น้ำ ป่าสัก ศกึ ษาดูงานอ่างเก็บน้ำกุดตาเพชร ตำบลกดุ ตาเพชร อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี และอ่างเก็บนำ้ ตำบลเพนียด มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จงั หวดั ลพบุรี และรบั ฟังปัญหาของพีน่ ้องประชาขนชน ตำบลง้วิ ราย ตำบลโพธิ์เกา้ ต้น อำเภอเมือง จังหวดั ลพบรุ ี
๔๐ กลมุ่ ลมุ่ นำ้ ปา่ สัก ศกึ ษาดูงานอา่ งเก็บนำ้ มวกเหล็ก แหล่งน้ำท่ีสำคัญในการหลอ่ เล้ียงประชาชนในจงั หวัดสระบรุ ี สำรวจปรมิ าณน้ำในเข่อื นป่าสกั ชลสทิ ธ์ิ และศกึ ษาแนวทางในการเตมิ น้ำลงสูแ่ ม่นำ้ ป่าสกั
๔๑ กลุ่มล่มุ น้ำ ปา่ สัก ศกึ ษาดูงานเขอื่ นพระรามหก หวั ใจสำคัญในการพัฒนาแหล่งนำ้ กลุ่มล่มุ นำ้ เจ้าพระยา ปา่ สกั
๔๒ ๔) แผนท่ีกลุ่มลุ่มน้ำปา่ สัก กล่มุ ลุ่มน้ำ ป่าสัก แผนทีแ่ สดงขอบเขตกลุ่มลุ่มนำ้ ป่าสกั
๔๓ ๓.๓ กลุ่มลมุ่ น้ำโขง เลย ชี มูล สงคราม กลมุ่ ลุ่มน้ำ ๑) ข้อสังเกต โขง เลย ชี ผ้กู ำหนดนโยบาย (Policy Maker) มูล สงคราม คณะรฐั มนตรี ๑. ควรตงั้ คณะกรรมการหรือคณะทำงาน พิจารณาประเดน็ ต่างๆ ดา้ นกฎหมาย มตคิ ณะรฐั มนตรี ประกาศ ระเบียบ ต่าง ๆ ในปัจจุบัน ฯลฯ สำหรับการพัฒนาโครงการโขง เลย ชี มูล และเสนอแนวทาง ปรบั ปรงุ แกไ้ ข ประเด็นด้านกฎหมาย โดยให้ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการสญู เสียทด่ี ินจากการพัฒนาโครงการมี ส่วนร่วมในการรับรู้ข้อมูลและร่วมตัดสินใจโดยเคารพสิทธิชุมชน เพื่อให้ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบมีชี วิตและ ความเปน็ อยูท่ ี่ดีขึน้ กว่าเดิม และมพี ื้นทีท่ ำกินและสามารถรว่ มรับประโยชน์จากโครงการได้ การพัฒนาอาจจะมี ผลกระทบต่อเจ้าของพื้นที่ ทำให้เสียที่ดนิ ทั้งแปลง อาจได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย แต่ไม่สามารถจัดหาพืน้ ท่ี อพยพทำกนิ ใหไ้ ด้ ด้วยไมเ่ ข้าเกณฑก์ ารจดั หาพื้นท่ีอพยพ ทำให้ไมส่ ามารถร่วมรบั ประโยชนจ์ ากโครงการ เพอื่ ให้ การพัฒนาโครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล นั้น เกิดประโยชน์ต่อราษฎรผู้ได้รับผลกระทบระยะยาว และเคารพสิทธิเดิมและสามารถมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง จึงควรพิจารณาแนวทางจัดหา ที่ทำกินในเขตชลประทาน เช่น จัดหาพื้นที่ทำกนิ ให้บรเิ วณพืน้ ที่ข้างคลอง หรือพื้นทีภ่ ายในเขตชลประทานที่มี ระบบส่งน้ำไปถึง เป็นต้น ซึ่งผู้พัฒนาโครงการอาจจะต้องจัดซื้อท่ีดินเพิ่มเพื่อเป็นพื้นที่ทำกินของผู้ที่ได้รับ ผลกระทบจากการก่อสร้างแนวคลองของโครงการ ทั้งนี้คณะกรรมการ/คณะทำงานที่พิจารณาประเด็นด้านกฎหมาย สามารถพิจารณาข้อมูลประกอบการพิจารณาจาก ๑) การสำรวจแปลงที่ดินตามแนวหัวงาน คลองลำเลียงน้ำ และอุโมงค์ต่าง ๆ จากผลการศึกษารายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านส่ิงแวดลอ้ ม (EIA) ของการพัฒนาโครงการ ระยะที่ ๑ ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และ ๒) การศึกษารูปแบบการชดเชยที่ดินตามแนวคลองที่ เหมาะสมของกรมชลประทาน ซึ่งเป็นรูปแบบที่จัดหาที่ดินทั้งในเขตคลอง และพื้นที่ด้านข้างของคลอง (จัดหา ทด่ี นิ เพ่ิมมากกว่าปกติ เพอื่ พฒั นาเปน็ พื้นทจี่ ัดสรรใหท้ ำกนิ สำหรับผ้ทู ่เี สยี ท่ดี นิ ทง้ั ในเขตคลองและด้านขา้ งคลอง) ๒. ควรกำหนดให้หน่วยงานท้องถิ่นซึ่งตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการ กระจายอำนาจใหแ้ ก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ. ๒๕๔๒ สามารถขุดเพื่อเก็บกกั นำ้ ไม่เกนิ ๒ ลา้ นลูกบาศก์เมตร สามารถร้องขอให้หน่วยงานราชการต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือดำเนินการได้ ด้วยในขณะนี้การพัฒนาแก้มลิง หนองน้ำ สระน้ำขนาดไม่เกนิ ๒ ล้านลกู บาศก์เมตร องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีขอ้ จำกัดด้านบุคลากรและงบประมาณ งบประมาณในการขุดลอกหนองน้ำขนาด ๒ ล้านลูกบาศก์เมตร สูงกว่างบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นอย่างมาก ทำให้การพัฒนาล่าช้า ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ในขณะที่สภาพฝนแล้ง การพัฒนาขดุ สระขนาดเลก็ มคี วามจำเป็น ปัจจบุ นั การดำเนนิ งานหลายรูป เชน่ แบง่ ขุดทีละสว่ น หลายหน่วยงานดำเนินงานรว่ มกัน รวมทั้งปัญหาการทิ้งดิน ซึ่งไม่มีพื้นที่สาธารณะให้ทิ้งดิน สำหรับโครงการดินแลกน้ำ (รัฐร่วมเอกชน) ขนาดเล็ก เห็นควรให้ท้องถิ่นมีอำนาจในการดำเนินการ โดยมีการอบรมความรู้ และกำหนดขั้นตอนที่ปฏิบัติถูกต้อง ได้ง่ายข้ึน และรวดเรว็ หน่วยงานกำกับการแก้ปญั หาดา้ นน้ำของประเทศ (Regulator) สำนักงานทรัพยากรน้ำแหง่ ชาติ ๑. ควรจัดทำแผนพัฒนาและบริหารทรัพยากรน้ำภายในประเทศอย่างเป็นระบบ เพื่อนำน้ำฝน น้ำท่ามาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยแยกเป็นแผนพัฒนาลุ่มน้ำสาขาและแม่น้ำหลักอย่างเป็นระบบ และแผนพัฒนาโครงขา่ ยน้ำระหวา่ งลุ่มน้ำสาขาและลุ่มนำ้ หลกั
๔๔ กลุม่ ลมุ่ น้ำ - ให้มีแผนการพฒั นาเชงิ กลยุทธ์ระดบั ลุ่มน้ำสาขาและแม่น้ำสายหลกั อย่างเปน็ ระบบเต็ม โขง เลย ชี ศักยภาพในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่สอดคล้องจากขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ จัดพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำและ มลู สงคราม พื้นที่ปลายน้ำ เพิ่มความสามารถในการเก็บกักน้ำให้มากที่สุดอย่างเป็นระบบและให้เหมาะสมกับบริบทพื้นท่ี ด้วยพนื้ ท่ีภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื มพี ืน้ ท่ีดนิ เค็มและดินต้นื - เพ่มิ ความจุเก็บกกั น้ำตามแผนพฒั นาอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดใหญใ่ นพนื้ ที่ตน้ น้ำ - ปรับปรุงเพิม่ ความจุเก็บกกั อ่างเก็บน้ำเดมิ เพ่อื เพิ่มความจุเก็บกัก โดยการขดุ ลอกอ่างเดมิ นำดินมาเสริมยกระดับเป็นคันกั้นน้ำรอบขอบอ่าง เพื่อยกระดับเก็บกักโดยไม่เพิ่มพื้นที่ผิวน้ำของอ่างเสริม อาคารระบายน้ำล้น ทำฝายดักตะกอนที่ขอบอ่าง พัฒนาคันรอบอ่างให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ออกกำลังกาย สันทนาการ เชน่ เดียวกับอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก ห้วยยางตลาด จังหวัดบุรรี มั ย์ อ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนลา่ ง จังหวดั นครราชสีมา - ดกั ปริมาณนำ้ หลากเพอื่ บรรเทาอุทกภยั และภยั แล้งในพื้นที่ตน้ น้ำและกลางน้ำลำน้ำสาขา โดยพัฒนาคลองดักน้ำบริเวณพื้นที่เชิงเขาต้นน้ำเพื่อตัดยอดน้ำหลากและเก็บกักน้ำไว้ใช้เป็นสระขนาดใหญ่ สำหรับพื้นที่ต้นน้ำและกลางน้ำ เช่น พื้นที่อำเภอขุขันธ์ อำเภอไพรบึง อำเภอปรางค์กู่ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พ้ืนท่เี ชิงเขาพนมดงรัก แถบจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสุรนิ ทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ และจงั หวดั นครราชสมี า - ทดน้ำให้สงู เตม็ ตลิง่ และต่อเน่ืองเป็นข้ันบันไดในลำน้ำสาขาและแมน่ ้ำสายหลัก โดยพัฒนา ฝายพับได้หรือประตูระบายน้ำให้สามารถทดระดับให้เต็มตลิ่งต่อเนื่องไปแบบขั้นบันไดจากต้นน้ำไปจนถึง ปากลำน้ำสาขา โดยฝายคอนกรีตเดิมที่ทดนำ้ ครึง่ ลำนำ้ เพื่อให้น้ำหลากผ่านไปได้ในฤดูฝน แต่ในฤดูแล้งทดนำ้ ได้เพียงครึ่งลำน้ำ ราษฎรไม่สามารถนำน้ำไปใช้ได้ ดังนั้น ฝายคอนกรีตเดิมในลำน้ำสาขาและลำน้ำสายหลัก แม่น้ำมูลและแม่น้ำชี ควรปรับปรุงติดตั้งบานฝายพับได้หรือปรับเปลี่ยนเป็นประตูระบายน้ำตามความเหมาะสม เพ่ือ หน้าฝายพับบานให้น้ำหลากผ่าน ยกบานพับได้ขึ้นเพื่อทดระดับน้ำให้สูงเต็มตลิ่ง ทำให้น้ำไหลเข้าแก้มลิงและ ราษฎรสามารถสบู ทอยเขา้ ไปในลำนำ้ สาขาตามฝายขั้นบนั ไดได้ - ขุดลอกแม่น้ำ สระน้ำ หนองน้ำธรรมชาติ และแก้มลิง เชื่อมโยงให้เป็นสระพวง พร้อมระบบดักตะกอน เนื่องจากพื้นที่ต้นน้ำเป็นพื้นที่เปิดทำการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ทำให้เกิดการกัดเซาะ ผวิ ดนิ มตี ะกอนน้ำมาก - ควรพฒั นาระบบสูบน้ำกลบั จากหน้าฝายพบั ได้หรอื ประตูระบายน้ำ (ปตร.) ในพน้ื ที่ท้าย อา่ งเกบ็ นำ้ โดยสบู นำ้ หลากเขา้ ย้อนไปเก็บในอ่างเก็บน้ำ หนองน้ำ สระนำ้ ตา่ ง ๆ ทีม่ ีปรมิ าณนำ้ ไมเ่ ตม็ อา่ ง - ควรพัฒนาระบบเก็บกกั นำ้ ในไรน่ าในรูปแบบของสระน้ำไรน่ าท่กี รมพฒั นาท่ีดนิ สามารถ ดำเนินการได้หรือโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ เพื่อเก็บกักน้ำในลุ่มน้ำให้มากที่สุด และในอนาคตเมื่อมีการผันน้ำโขง สระนำ้ ไร่นาน้ีสามารถรับนำ้ โขงได้หลายคร้งั ในชว่ งฝนทิ้งช่วงต้นและกลางฤดแู ลง้ - พัฒนาน้ำบาดาลและน้ำใต้ดนิ ระดับตืน้ เพอ่ื ใชใ้ นการอปุ โภคบรโิ ภค และเสรมิ น้ำผิวดนิ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพเหมาะสม และเสริมศักยภาพการเติมน้ำใต้ดินให้กับพื้นที่แห้งแล้ง โดยพิจารณาความเหมาะสม ในดา้ นการกระจายดินเค็มน้ำเค็มและการปนเปื้อนของมลพษิ ในแหลง่ นำ้ ใต้ดนิ - การนำองค์ความรู้ ภูมปิ ัญญาชาวบา้ น นวตั กรรมมาใช้ในการพฒั นาแหลง่ นำ้ ๒. การพัฒนาเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายน้ำภายในลุ่มน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเพิ่มน้ำ ตน้ ทุนใหก้ ับลำน้ำสาขา โดยเมื่อพฒั นาลมุ่ นำ้ สาขาโดยเก็บกักน้ำให้เต็มที่แล้ว ปริมาณนำ้ ยงั ไม่เพียงพอกับความ ตอ้ งการน้ำ สามารถเพมิ่ นำ้ ตน้ ทนุ การพฒั นาโครงข่ายระหว่างล่มุ น้ำสาขาแม่น้ำสายหลักกับลำน้ำสาขา - เพิ่มนำ้ ต้นทนุ ให้กับลำนำ้ สาขาโดยสูบนำ้ จากแม่นำ้ สายหลกั เขา้ สปู่ ระตรู ะบายน้ำปากลำนำ้ สาขาและสูบน้ำทอยต่อขึ้นไปตามขั้นบันไดให้ต่อเนื่องกัน การสูบน้ำทอยผ่านฝายขั้นบันได จะเป็นการเก็บกักน้ำ ในลำน้ำและลดการสูญเสียพลังงานจากการสูบน้ำผ่านท่อแรงดัน อีกท้ัง เปน็ การเพ่ิมน้ำต้นทุนให้กับแม่น้ำสายหลัก ซง่ึ มีพ้นื ท่ีรับน้ำมากกว่า และสามารถเกบ็ กักนำ้ ไดม้ ากกวา่ ลมุ่ น้ำสาขา
๔๕ - บรรเทาอทุ กภยั และเพิ่มน้ำต้นทุนใหล้ ำน้ำสาขาบรเิ วณต้นน้ำทแี่ ห้งแล้ง โดยผันน้ำจากแม่น้ำ กล่มุ ลุ่มนำ้ สายหลกั ไปยงั ต้นน้ำลุม่ น้ำสาขาเพื่อลดปริมาณนำ้ หลากในแม่น้ำสายหลัก ซง่ึ จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง โขง เลย ชี ในเชิงพื้นที่ (area based) อย่างเป็นระบบ เช่น โครงข่ายน้ำชีล่าง - มูลล่าง โครงข่ายน้ำชี – ลำเสียวใหญ่ - มลู สงคราม ทุ่งกุลาร้องไห้ โครงข่ายน้ำยัง - มูล โครงข่ายน้ำป่าสัก - ลำตะคอง โครงขายน้ำลำตะคอง – ลำเชียงไกร - ลำสะแทด โครงข่ายนำ้ ชี (แกง้ สนามนาง) – อา่ งเก็บน้ำโสกงูเหลือม - (ประปา อำเภอบัวใหญ)่ - บึงบวั ใหญ่ ๓. สำนักงานทรัพยากรน้ำแหง่ ชาติควรเร่งทบทวนและศึกษาเพ่ิมเติมแผนหลักในการพัฒนา โครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล อย่างรอบคอบ เพราะเป็นโครงการที่มีศักยภาพสูงในการยกระดับ รายไดเ้ กษตรกรเพิ่มน้ำต้นทนุ ให้พื้นที่ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื สามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในพื้นท่ี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่อาจจะมีผลกระทบและความเสี่ยงจากสภาวะอากาศแปรปรวนและการพัฒนาใช้ ประโยชน์จากแม่น้ำโขงของประเทศในลุ่มน้ำโขง โดยทบทวนแผนพื้นที่ชลประทานโครงการโขง เลย ชี มูล หลงั จากวางแผนพัฒนาลุ่มน้ำสาขาและโครงข่ายน้ำภายใน และปรับลดพนื้ ทชี่ ลประทานและส่งน้ำเสริมให้พ้ืนที่ ที่พัฒนาลุ่มน้ำภายในประเทศ เมื่อมีแผนพัฒนาลุ่มน้ำสาขาและโครงข่ายภายในประเทศอย่างเป็นระบบแล้ว เพม่ิ เตมิ จากกรณพี ัฒนาเตม็ ศักยภาพในปจั จุบัน ๔. โครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล เป็นโครงการขนาดใหญ่มีศักยภาพสูง ด้วยเป็น การเพิ่มน้ำต้นทุนจากแม่น้ำโขงซึ่งมีพื้นที่รับน้ำขนาดใหญ่มาช่วยพื้นที่แห้งแล้งขาดน้ำ ควรเร่งขับเคลื่อน โครงการ แตท่ ัง้ น้ีต้องคำนงึ ผลกระทบในด้านต่าง ๆ รวมทง้ั พจิ ารณาความเส่ยี งในการพัฒนาจากประเด็นความ เสถียรของนำต้นทนุ แม่นำ้ โขงจากสภาพธรรมชาติและการพัฒนาของประเทศในลมุ่ น้ำโขง ๕. สำนกั งานทรพั ยากรน้ำแหง่ ชาติควรพิจารณาปรบั ปรุงแผนพฒั นาโครงการโขง เลย ชี มูล เต็มศกั ยภาพในปจั จุบัน และจัดทำแผนขบั เคล่อื น (Road map) ใหแ้ ลว้ เสรจ็ โดยเร็ว ตามประเดน็ ดงั ต่อไปน้ี ๑) พิจารณาเพิ่มพื้นที่ชลประทาน สำหรับพื้นที่ที่แนวคลองสายหลักตัดผ่านและยังไม่ได้ จัดเข้าเป็นพื้นที่ชลประทานของโครงการ และโดยเฉพาะคลองลำเลียงน้ำบริเวณหัวงานที่ยังไม่ได้อยู่ในเขต ชลประทานโครงการ เช่น ต้นและปลายอุโมงค์ คลองลำเลียงน้ำ และตามแนวคลองส่งน้ำสายหลัก ด้วยยังมี พื้นที่ที่มีปญั หาแหง้ แล้งตามแนวหวั งานและคลองที่ยงั ไม่ได้รับน้ำอยู่ เช่น พื้นที่ปลายอุโมงคฺแ์ รงดัน พื้นที่ต้นน้ำอ่างลำปาว พื้นที่ต้นน้ำกลางน้ำในจังหวัดมุกดาหาร พื้นที่ลุ่มน้ำโสม (จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองคาย) เป็นต้น โดยควรมี หลักการว่าพื้นที่ที่ควรได้รับน้ำเพิ่มเติม คือ พื้นที่ที่คลองตัดผ่าน พื้นที่แห้งแล้งส่งน้ำยาก พื้นที่ทุกอำเภอควร ได้รับน้ำ ๒) พิจารณาระบบสบู นำ้ ชลประทาน Head สูง เพอ่ื เติมน้ำใหอ้ า่ งหรอื ส่งน้ำใหพ้ ้นื ท่ีรับน้ำ ชลประทานจากอ่างนั้น ๆ พร้อมระบบพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับระบบไฟฟ้าเพื่อลดภาระค่าสูบน้ำลง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนนอ้ ยมาก สามารถเก็บกักน้ำได้น้อย หรือมีแหล่งเก็บกักน้ำน้อย หรือห่างไกลแหล่งนำ้ ไม่สามารถผันน้ำจากลุ่มน้ำข้างเคียงมาใช้ได้ด้วยประสบปญั หาขาดน้ำพร้อมกัน พื้นที่ทีม่ ีปัญหาขาดน้ำอุปโภค บริโภค เช่น พื้นที่จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้น รวมท้ังพนื้ ที่ต้นน้ำของลำน้ำสาขาในจังหวัดต่าง ๆ เพ่ิมเตมิ จากเดมิ ที่พจิ ารณาสบู น้ำด้วย Head ๔๐ เมตร และ Head ๘๐ เมตร ใหส้ องพ้นื ที่จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดนครราชสีมาเทา่ น้นั โดยพิจารณาพ้ืนที่สูบน้ำที่มี Head ๘๐ เมตรหรือสงู กว่า ๓) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติควรปรับแผนระยะการพัฒนาและช่วงเวลาในการ พัฒนาโครงการ จากเดิม ๑๗ ปี ลดระยะเวลาการพัฒนาให้เร็วขึ้น ควรปรับการจัดแบ่งระยะพัฒนาจากเดิม ๕ ระยะ และจัดระยะการพัฒนาต่าง ๆ เข้าเป็นกลุ่ม โดยให้แบ่งกลุ่มการพัฒนาออกเป็น ๒ กลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มที่ ๑
๔๖ กลุม่ ลุม่ น้ำ กลมุ่ ทีม่ ปี ัญหาวกิ ฤตภิ ัยแล้ง พนื้ ท่ตี ้นนำ้ โขง ชี ต้นน้ำมูล (เหนือ – ใต)้ จังหวดั เลย จังหวดั หนองบัวลำภู จงั หวัด โขง เลย ชี ขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดอุดรธานี และเติมน้ำให้พื้นที่หรืออ่างเก็บน้ำหลัก ๆ มูล สงคราม และกลุ่มที่สอง (ตะวันตก – ตะวันออก) โดยพัฒนาขนานกันไปพร้อมกันทั้งสามลุ่มน้ำ โขง ชี มูล พร้อมจัดทำ แผนหลกั ในการขบั เคลือ่ น (road map) โครงการบรู ณาการรว่ มกับกรมชลประทานและหน่วยงานทีเ่ กยี่ วข้อง ๔) สำนักงานทรัพยากรนำ้ แหง่ ชาติควรพจิ ารณาประเด็นนำ้ ต้นทุนจากแม่น้ำโขงจากสภาพ ธรรมชาตแิ ละการมเี ขอ่ื นผลติ กระแสไฟฟ้าในแมน่ ำ้ โขง และผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศด้านท้ายน้ำด้วย ๖. การศึกษาผนั นำ้ ป่าสกั - ลำตะคอง ของสำนกั งานทรพั ยากรน้ำแหง่ ชาติควรพจิ ารณา Head การผันน้ำให้มีความเหมาะสม และผันน้ำช่วยเหลือลุ่มน้ำลำเชียงไกร ลำสะแทด ที่มีฝนน้อย ขาดแคลนน้ำ อุปโภคบริโภค โดยควรพิจารณาให้เหมาะสมและรอบคอบ ๗. ควรพิจารณาสง่ น้ำใหพ้ ้ืนทีส่ งู เขตจังหวัดสกลนคร จงั หวดั บงึ กาฬ จังหวดั อดุ รธานี โดยพัฒนาทดนำ้ ในแม่น้ำสงครามสายหลักต่อกันเป็นขั้นบันไดและพัฒนาฝายขั้นบันไดในลำน้ำสาขา เพื่อสูบน้ำจากแม่น้ำสงคราม ทอยต่อขึ้นไปบนท่สี งู ๘. ประตรู ะบายน้ำสงครามตอนกลางท่บี ้านดอนแดง ควรขดุ ลอกแม่น้ำสงครามด้านทา้ ยน้ำประมาณ ๒๐ – ๓๐ กิโลเมตร เพื่อชักน้ำโขงที่เอ่อเข้ามาในพื้นที่ปากแม่น้ำสงครามในฤดูแล้งให้ไหลมาถึงท้ายประตูระบายน้ำ ตดิ ต้งั สถานีนำ้ ขนาดใหญ่ สบู น้ำเข้าออกจากแมน่ ำ้ โขงเพื่อระบายนำ้ ในฤดูฝนและเปน็ น้ำต้นทนุ ในฤดูแลง้ ได้ ๙. ประตูระบายน้ำปากนำ้ สงครามตอนล่างควรพจิ ารณาทางเลือกอ่ืน ๆ ดว้ ย หรอื พิจารณากรณีหาก การพฒั นาประตูระบายน้ำท่ี ตำบลทา่ กอ้ น จงั หวัดสกลนคร ยงั ไม่สามารถช่วยเหลอื พน้ื ทไ่ี ด้เต็มท่ี ๑๐. ควรพจิ ารณาสง่ นำ้ ให้พ้นื ทีเ่ กษตรล่มุ นำ้ สงครามตอนล่าง โดยพฒั นาระบบสบู นำ้ จากปากนำ้ สงครามตอนล่าง โดยวางระบบสูบน้ำขึ้นเนินสันน้ำเพื่อส่งย้อนไปพื้นที่สูง หรือพัฒนาฝายพับได้แบบขั้นบันได และสูบนำ้ ทอยต่อขน้ึ ไปให้ ๑๑. ควรให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องทั้งด้านดินและน้ำ เพื่อปรับปรุงพื้นที่เดิมและพัฒนาพื้นที่ใหม่เพิ่มเติม ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ทั้งหมดประมาณ ๒ ล้านกว่าไร่ ด้วยทุ่งกุลาร้องไห้มีศักยภาพดินที่เหมาะสมในการปลูกข้าวหอมมะลิ หากมีพัฒนาระบบชลประทานและระบายน้ำ ที่เหมาะสม ก็จะสร้างผลผลิตและความมั่นคงของอาชีพเกษตรได้มาก พิจารณาจัดหาน้ำต้นทุนให้พื้นที่ ทุ่งกลุ าร้องไห้ ควรเป็นระบบตัง้ แต่ นำน้ำมูลมาใช้ ผันนำ้ ชมี าเติม และผนั นำ้ โขงมาเตมิ ๑๒. ควรพฒั นาลุ่มน้ำสาขาในพ้ืนท่ชี ีลา่ ง มลู ล่าง อย่างเตม็ ศกั ยภาพและเป็นระบบ เชน่ หว้ ยสำราญ หว้ ยขยงุ ห้วยทา ลำโดมใหญ่ ลำโดมนอ้ ย ลำเสยี วใหญ่ ลำเสยี วนอ้ ย ลำพลบั พลา แม่น้ำชี แมน่ ้ำยัง ลำปาว เซบาย เซบก หว้ ยโพง หว้ ยตงุ ลงุ เปน็ ตน้ ๑๓. พ้ืนทล่ี ุ่มตำ่ ที่มีพนังก้ันนำ้ ริมแมน่ ้ำชี แม่นำ้ ยัง เซบาย เซบก แมน่ ้ำมูล ควรพิจารณาปรับปรุง พนังกั้นน้ำให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำหลากที่รอบการเกิดที่เหมาะสม และระบบระบายน้ำล้นที่ไม่สร้างความ เสียหายให้พนังกั้นน้ำ โดยเฉพาะพนังกั้นน้ำที่ขาดตอนน้ำหลากและยังไม่ได้ซ่อมแซมปรับปรุงให้มาใช้งานได้ ในลมุ่ น้ำยงั ล่มุ น้ำชี ล่มุ น้ำเซบาย เซบก เปน็ ต้น ๑๔. เมื่อมีแผนพัฒนาน้ำท่วมและภัยแล้งของลุ่มน้ำสาขาแล้ว จึงพิจารณามาตรการที่บรรเทา อทุ กภัยและภยั แลง้ ควบคู่กนั โดยพฒั นาโครงขา่ ยน้ำผันน้ำชีล่าง มูลลา่ ง อยา่ งเปน็ ระบบ ผันนำ้ หลากท่วมมาใช้ ประโยชนใ์ นพน้ื ที่แห้งแลง้ ต้นนำ้ แบบแรงโนม้ ถ่วง ๑๕. พิจารณาการผันน้ำหลากแบบสูบน้ำลงไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่สูง ฝั่งซ้ายของแม่น้ำมูล เช่น พื้นที่ต้นน้ำสาขาของห้วยโพง เซบาย เซบก เติมน้ำให้อ่างห้วยลิงโจน (จังหวัดยโสธร และจังหวัดอำนาจเจริญ) สูบน้ำต่อไปพื้นที่ต้นน้ำสาขาของโขง บริเวณจังหวัดมุกดาหาร ที่มีปัญหาเป็นพื้นที่สูงห่างไกลแหล่งน้ำ รวมท้ัง
๔๗ ฝั่งขวาของแม่น้ำมูล และกรณีผันน้ำโดยการสูบน้ำมาใช้ส่งน้ำชลประทาน ควรสูบเพื่อใช้ประโยชน์โดยการ กลุม่ ลมุ่ น้ำ บรรเทาอุทกภัยเปน็ ผลพลอยได้จากการชลประทาน โขง เลย ชี มลู สงคราม ๑๖. เมื่อผันน้ำหลากมาใช้ประโยชน์บรรเทาภัยแล้งแล้ว พิจารณามาตรการบรรเทาอุทกภัย โดยตรง เช่น การเสริมพนังกั้นน้ำ การพัฒนาระบบสูบน้ำ (ควรใช้ Head ต่ำ อัตราสูบนำ้ ระยะสูบใกล้) ระบบคันปิด ล้อมเมืองและชุมชนในพนื้ ท่ีลมุ่ มาตรการด้านผังเมือง จดั ทำระบบฐานข้อมลู การคาดการณ์ และการเตือนภยั ) ๑๗. ควรมีการบริการจัดการน้ำที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขคุณภาพน้ำแม่น้ำชีแถบจังหวัดยโสธร น้ำมูล ที่จังหวัดอุบลราชธานี ลำโดมใหญ่ ด้วยมีการใช้น้ำในพื้นที่ดังกล่าวเป็นน้ำดิบสำหรับการประปา และน้ำเสีย มปี ญั หาให้ปลาตาย สาเหตุจากน้ำเสยี ชุมชน โรงงานต้นนำ้ และปญั หานำ้ นอ้ ยในฤดูแล้ง หน่วยงานปฏิบัติ (Operator) กรมชลประทาน ๑. ควรเร่งรัดโดยเร็วพัฒนาระยะที่ ๒ ควบคู่ไปกับระยะที่ ๑ ด้วยเป็นพื้นที่วิกฤติภัยแล้ง มีปริมาณฝนน้อยมาก ได้แก่ จังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ และจงั หวัดนครราชสีมา เป็นต้น โดยในขณะน้ีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้ศึกษาทบทวนความเหมาะสม และผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA ของหัวงาน โครงการบริหารจดั การนำ้ โขง เลย ชี มูล ระยะท่ี ๑ อย่ใู นการเรง่ รัด ขั้นตอนของการพัฒนาระยะ ๑ และ ๒ นั้น เห็นควรให้กรมชลประทานจัดหางบประมาณดำเนินการเตรียม ความพร้อมในการพัฒนาโครงการต่อเนื่องตามลำดับขั้นตอน โดยเร่งรัดดำเนินในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ (เปล่ียนแปลงงบประมาณ) - ปงี บประมาณ ๒๕๖๕ ดงั นี้ การพัฒนาระยะท่ี ๑ ๑) ศึกษา EIA ของระบบชลประทานระยะที่ ๑ ๒) ออกแบบรายละเอยี ดทัง้ หัวงานและพืน้ ทีช่ ลประทานของการพัฒนาระยะที่ ๒ การพัฒนาระยะท่ี ๒ ๓) ศกึ ษา EIA ของหัวงานและระบบชลประทานระยะท่ี ๒ ๔) ออกแบบรายละเอยี ดของหวั งานและระบบชลประทานระยะที่ ๒ ๒. ควรให้จัดหาท่ีดนิ ตามแนวคลองลำเลียงน้ำและคลองสายหลกั แบบกนั เขตสำหรับการพฒั นาเตม็ ระยะไว้ในค่าก่อสร้างโครงการระยะน้ัน ๆ และใช้ประโยชน์จากพ้นื ท่ดี นิ ทีจ่ ัดหาน้ี เปน็ ทั้งคลองสง่ น้ำในระยะนนั้ ๆ รว่ มกับเป็นแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญข่ ้างคลอง รองรับนำ้ จากแม่น้ำโขง สามารถใชป้ ระโยชนเ์ ป็นแหลง่ เกบ็ กักน้ำ เหมือนสระนำ้ ขนาดใหญ่ บรรเทาน้ำหลากทว่ มและเป็นต้นทุนน้ำไวใ้ นช่วงปลายฤดูแล้ง ซ่ึงจะชว่ ยลดการผันนำ้ โขง ในกลางและปลายฤดแู ล้ง เพื่อจะได้พัฒนาโครงการระยะต่อไปได้ต่อเน่อื ง ไมต่ ดิ ขัดปญั หาทดี่ ิน ๓. การพัฒนาพื้นที่ริมโขง สำหรับจังหวัดต่าง ๆ ที่อยู่ริมแม่น้ำโขงที่มีปัญหาน้ำท่วมจากแม่น้ำโขง และปญั หาขาดแคลนนำ้ ๔. ควรพัฒนาประตูระบายน้ำเป็นแบบขั้นบันได พร้อมระบบสูบน้ำเข้าออกแม่น้ำโขงหน้าประตู ระบายน้ำ เพอ่ื สบู ระบายน้ำท่วมและเพมิ่ นำ้ ต้นทนุ ในหน้าแลง้ ๕. ควรเชื่อมโยงข้อมลู การระบายน้ำของเขื่อนต่าง ๆ ในแม่นำ้ โขงสายหลักและลำนำ้ สาขา ในสาธารณรัฐ ประชาธปิ ไตยประชาชนลาว เพอ่ื การบรหิ ารจดั การนำ้ ท่วมและภยั แลง้
๔๘ กล่มุ ลุ่มน้ำ ๖. ควรอนุรักษ์ ปกป้อง พื้นที่ชุ่มน้ำ ป่าบุงป่าทาม ตามริมลำน้ำ และมีแผนการใช้ประโยชน์อย่าง โขง เลย ชี ยั่งยืนทุกมติ ิ เช่น ด้านเกษตร นิเวศ ประมง ท่องเที่ยว เป็นต้น เช่น พื้นที่บึงละหาน จังหวัดชัยภมู ิ พื้นที่ป่าบงุ่ มูล สงคราม ปา่ ทามลมุ่ นำ้ มูล ลมุ่ นำ้ สงคราม เปน็ ต้น ๗. ควรเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบการพัฒนาโครงการด้านน้ำของรัฐให้มี ความเปน็ อยทู่ ี่ดขี ้นึ เชน่ โครงการเข่อื นอุบลรัตน์ เขอ่ื นสิรินธร เขอ่ื นปากมลู เปน็ ต้น ๘. กรมชลประทานควรปรับปรุงอ่างเก็บนำ้ ลำเชียงไกรตอนบน ให้มกี ารขดุ ลอกเสรมิ คันรอบอ่างเสริม อาคารระบายน้ำล้นเพื่อเก็บกักน้ำให้เพิ่มขึ้นโดยไม่เพิ่มพื้นที่ผิวน้ำโดยพัฒนาในรูปแบบเดียวกันกับการพัฒนา อ่างเก็บน้ำลำเชยี งไกรตอนลา่ ง ๙. กรมชลประทานควรก่อสร้างประตรู ะบายนำ้ บริเวณบา้ นโนนประดู่ ตำบลบา้ นเหล่อื ม อำเภอบา้ นเหล่ือม เพื่อทดน้ำชีเข้าแก้มลิงบึงละหานลูกนก และเพิ่มความจุบึงละหานลูกนก โดยการขุดลอกทั้งพื้นที่และปั้นคัน ยกระดับเก็บกกั น้ำ ๑๐. อำเภอบัวใหญ่ตั้งอยู่ที่ดอนบริเวณสันปันน้ำประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรและอุปโภค บรโิ ภคเป็นประจำ กรมชลประทาน ควรปรบั ปรุงเพมิ่ ความจุเกบ็ กกั น้ำในแมน่ ำ้ ชโี ดยเปลีย่ นแปลงฝายยางเปน็ ฝายแข็ง พับได้ (ฝายแก้งสนามนาง) และปรับปรุงระบบสูบน้ำชี โดยการก่อสร้างโรงสูบน้ำใหม่ และวางแนวท่อใหม่เพิ่มเติม จากแม่น้ำชีแก้งสนามนางมายังอ่างเก็บน้ำโสกงูเหลือมเพื่อผันน้ำชีมาช่วยเสริมน้ำฝนเพื่อการเกษตร ในลุ่มน้ำห้วยยาง อำเภอบัวใหญ่ และส่งน้ำบางส่วนไปให้แหล่งน้ำดิบบึงบัวใหญ่เพื่อผลิตประปา อำเภอบัวใหญ่ จงั หวัดนครราชสมี า ๑๑. กรมชลประทานควรเร่งรัดก่อสร้างโครงการผันน้ำลำตะคอง – บงึ พดุ ซา – ลำเชยี งไกร – ลำสะแทด ใหแ้ ล้วเสร็จ ๑๒. ควรพจิ ารณาปรบั ปรุงระบบคลองระบายน้ำเดิม ที่พัฒนาโดยกรมพัฒนาทดี่ ิน พน้ื ที่ชลประทาน ๙๐๐,๐๐๐ กว่าไร่ ซึ่งเดิมหลักการออกแบบเป็นการระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่แต่ในปัจจุบันปริมาณ น้ำฝนตกน้อยระดับน้ำต่ำทำให้เกิดปัญหาน้ำไม่ท่วมเข้าไปในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ระบบเดิมไม่ได้ออกแบบไว้ให้ เป็นระบบรบั นำ้ เข้าพ้ืนทแี่ ตเ่ น้นการระบายนำ้ ออกจากพ้ืนท่เี ปน็ หลัก ทำใหพ้ น้ื ทที่ ี่พฒั นาแล้วประสบปัญหาขาด แคลนน้ำจงึ ตอ้ งพิจารณาปรับปรุงระบบ ๑๓. ควรมกี ารพัฒนาพื้นท่ีชลประทานของโครงการโขง เลย ชี มูล ระยะที่ ๑ ให้พ้นื ทลี่ ุ่มน้ำโสม จังหวัดอุดรธานี และจงั หวดั หนองคาย ๑๔. ควรมีการพัฒนาเพิ่มน้ำต้นทุนให้แก่อ่างห้วยหลวงซึ่งเป็นแหล่งประปา อำเภอเมืองอุดรธานี ซ่งึ มกั มีปญั หาขาดแคลนน้ำ โดยเร่งรัดเปลี่ยนแปลงงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อศกึ ษา สำรวจออกแบบ ระบบ สูบน้ำกลับจากอ่างหนองทุ่งมน ซึ่งอยู่ท้ายน้ำอ่างห้วยหลวงประมาณ ๑๓ กิโลเมตร เพื่อสูบน้ำกลับให้อ่างเก็บ น้ำห้วยหลวง ๑๕. ควรเร่งดำเนินการพัฒนาระบบสูบน้ำเข้าออกแม่น้ำโขง และพัฒนาสถานีสูบน้ำชลประทาน ในแผนพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง โดยเร็ว เพื่อลดน้ำท่วมและนำน้ำไปใช้ประโยชน์โดยเรว็ และเร่งพัฒนา สูบนำ้ ส่วนเกนิ ของหว้ ยหลวงตอนลา่ งไปใชบ้ รรเทาภยั แล้งพ้ืนทตี่ น้ น้ำหว้ ยหลวง และต้นนำ้ สงคราม ๑๖. ควรมรี ะบบสบู นำ้ ขนาดใหญ่เขา้ ออกจากแม่น้ำสาขา หว้ ยโมง ห้วยน้ำสวย เพ่ือบรรเทาอุทกภัย ในฤดูฝน และเพ่ิมนำ้ ต้นทุนในฤดูแล้ง โดยควรจัดทำแผนพัฒนาอยา่ งเป็นระบบในล่มุ นำ้ สาขา ๑๗. ควรพัฒนาประตูระบายน้ำเป็นขั้นบันไดไปตลอดลำน้ำ และพัฒนาระบบสูบน้ำขนาดใหญ่เพ่ือ ระบายน้ำและสูบน้ำโขงทอยต่อไปตามประตูระบายน้ำแบบขั้นบันได เพื่อระบายน้ำท่วมและเพิ่มน้ำต้นทุน ในฤดูแล้งสำหรับพื้นที่ตอนล่างและตอนกลาง และสูบน้ำภายในลุ่มน้ำสาขาจากพื้นที่กลางไปใช้ในพื้นที่ต้นน้ำ
๔๙ และกลางน้ำรวมถึงพิจารณาแนวทางในการเพิ่มน้ำต้นทุนจากการผันน้ำหลากจากแม่น้ำชีมาฝั่งซ้ายของแม่น้ำมูล กลุ่มลมุ่ นำ้ ควรพิจารณาสูบต่อไปยังพื้นที่ต้นน้ำมุกดาหาร และเป็นระบบผันน้ำเพื่อรองรับการผันน้ำโขงมาเป็นน้ำต้นทุน โขง เลย ชี ในอนาคต มลู สงคราม การประปาสว่ นภูมิภาค และสว่ นราชการท่ีเกีย่ วขอ้ ง การประปาส่วนภูมิภาคและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดหาแหล่งสำรองน้ำ แหล่งน้ำต้นทุน ในจังหวัดที่มีปัญหาน้ำต้นทุนไม่เพียงพอและมีผลกระทบต่อชุมชน โรงเรียน โรงพยาบาล รวมถึงการจัดหาแหล่งน้ำ สำรองทง้ั ผิวดินและใต้ดนิ เชน่ ในพ้นื ที่จังหวัดนครราชสีมา จงั หวดั สรุ ินทร์ จงั หวดั บรุ รี มั ย์ และจงั หวัดร้อยเอด็ เปน็ ต้น หรอื มปี ญั หาคุณภาพน้ำ ควรจัดหานำ้ ตน้ ทนุ ทมี่ คี ณุ ภาพดี หรือปรับปรงุ คุณภาพต้งั แตต่ น้ กำเนดิ เชน่ หนองหาร จังหวัดสกลนคร สำหรับหมู่บ้านพื้นที่ต้นน้ำมีปัญหาขาดแคลนน้ำควรจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่ต้นน้ำ (แผนพฒั นาตำบล) เพอื่ ให้หนว่ ยงานทีเ่ ก่ียวขอ้ งพฒั นาพ้ืนที่อย่างเปน็ ระบบ จงั หวัดชัยภูมิ - ควรให้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับท้องถิ่นและส่วนราชการระดับจังหวัด เพื่อร่วมกันจัดทำแผนพัฒนาและแผน บริหารจัดการน้ำของพื้นที่ชุ่มน้ำบึงละหานให้มีการพัฒนาและอนุรักษ์ มีการใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสมและยั่งยืน เพ่ือลดขอ้ ขัดแยง้ ระหว่างหนว่ ยงานอนรุ กั ษแ์ ละประชาชนรอบบึงละหาน ๒) สรปุ การเดนิ ทางศกึ ษาดงู าน ลำดบั สถานที่ศึกษาดงู าน วนั ที่ หนา้ วันศกุ รท์ ี่ ๕ ถงึ วนั เสาร์ท่ี ๖ ในภาคผนวก ค ๑ จังหวดั นครราชสมี า มิถุนายน ๒๕๖๓ จังหวดั ขอนแก่น วันศกุ ร์ที่ ๑๒ ถึงวันจันทร์ท่ี ๑๕ ในภาคผนวก ค ๒ จงั หวัดมหาสารคาม จังหวดั ร้อยเอ็ด มิถนุ ายน ๒๕๖๓ จงั หวัดศรสี ะเกษ ๓ จังหวัดอุดรธานี วันศกุ ร์ท่ี ๑๙ ถงึ วันอาทติ ย์ที่ ในภาคผนวก ค จงั หวดั สกลนคร ๒๑ มิถนุ ายน ๒๕๖๓ ๔ จงั หวดั กาฬสินธุ์ จังหวดั รอ้ ยเอด็ วนั ศุกรท์ ี่ ๒๖ ถงึ วันจันทร์ที่ ๒๙ ในภาคผนวก ค จงั หวัดยโสธร มถิ ุนายน ๒๕๖๓ ๕ จงั หวดั ชัยภมู ิ วนั ศกุ ร์ที่ ๑๐ ถงึ วนั อาทิตยท์ ่ี ในภาคผนวก ค จังหวดั นครราชสมี า ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ๖ จงั หวดั บุรีรมั ย์ วันอาทติ ย์ท่ี ๑๖ ถงึ วนั จันทร์ท่ี ในภาคผนวก ค จังหวัดสรุ ินทร์ ๑๗ สงิ หาคม ๒๕๖๓ จังหวดั นครพนม จังหวัดมุกดาหาร วนั ศกุ ร์ท่ี ๒๑ ถึงวันจันทรท์ ี่ ๒๔ ในภาคผนวก ค ๗ จังหวัดอำนาจเจรญิ จงั หวัดยโสธร สิงหาคม ๒๕๖๓ จังหวัดอุบลราชธานี
ลำดบั สถานท่ศี ึกษาดูงาน ๕๐ หน้า วันท่ี จงั หวดั ร้อยเอ็ด จงั หวัดหนองคาย จงั หวัดบงึ กาฬ ๘ จงั หวัดหนองบวั ลำภู วนั เสารท์ ี่ ๒๖ ถงึ วันพธุ ท่ี ๓๐ ในภาคผนวก ค กันยายน ๒๕๖๓ จังหวัดเลย ๓) ภาพการลงพ้นื ท่ศี ึกษาดูงาน กลุ่มลมุ่ นำ้ โขง เลย ชี มูล สงคราม การเดินทางไปศกึ ษาดูงาน การบริหารจดั การน้ำและแนวทางการพัฒนาแหล่งนำ้ ในพ้นื ที่ วันศุกร์ท่ี ๑๒ ถึงวันจันทร์ที่ ๑๕ มิถนุ ายน ๒๕๖๓ โครงการส่งนำ้ และบำรุงรักษาหัวนา จงั หวัดศรสี ะเกษ
๕๑ กลมุ่ ลุ่มน้ำ โขง เลย ชี มูล สงคราม การเดนิ ทางไปศกึ ษาดงู าน การบริหารจัดการน้ำและแนวทางการพัฒนาแหลง่ น้ำในพ้ืนที่ วันอาทติ ย์ท่ี ๑๖ ถงึ วนั จันทร์ที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ ฝายยางบ้านตะลุง จงั หวัดสรุ ินทร์
๕๒ กลุ่มลมุ่ นำ้ โขง เลย ชี มูล สงคราม การเดนิ ทางไปศึกษาดูงาน การบรหิ ารจัดการน้ำและแนวทางการพัฒนาแหลง่ น้ำในพ้ืนท่ี วันศกุ รท์ ่ี ๒๑ ถึงวันจนั ทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ โครงการสง่ นำ้ และบำรุงรักษาชีล่างและเซบายลา่ ง สำนกั งานชลประทานที่ ๗ จงั หวัดอบุ ลราชธานี
๕๓ กลุ่มลุ่มน้ำ โขง เลย ชี มูล สงคราม การเดินทางไปศึกษาดูงาน การบรหิ ารจัดการนำ้ และแนวทางการพัฒนาแหลง่ นำ้ ในพืน้ ท่ี วันเสารท์ ี่ ๒๖ ถงึ วนั พธุ ที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ณ โครงการประตนู ้ำลำหว้ ยนำ้ สวย จังหวัดหนองคาย
๕๔ ๔) แผนทกี่ ลุ่มล่มุ น้ำโขง เลย ชี มลู สงคราม กล่มุ ลมุ่ น้ำ โขง เลย ชี มลู สงคราม แผนที่แสดงขอบเขตล่มุ นำ้ โขง
๕๕ กลุ่มลุ่มน้ำ โขง เลย ชี มลู สงคราม แผนทแ่ี สดงขอบเขตล่มุ น้ำเลย
๕๖ กลมุ่ ลุ่มน้ำ โขง เลย ชี มูล สงคราม แผนที่แสดงขอบเขตลมุ่ นำ้ ชี
๕๗ กลุ่มลุ่มน้ำ โขง เลย ชี มลู สงคราม แผนทแ่ี สดงขอบเขตล่มุ น้ำมูล
๕๘ กลุ่มลมุ่ น้ำ โขง เลย ชี มูล สงคราม แผนท่ีแสดงขอบเขตลุ่มนำ้ สงคราม
๕๙ ๓.๔ กลุ่มลุ่มนำ้ ภาคตะวันออก กลมุ่ ลุม่ น้ำ ๑) ข้อสังเกต ภาค หน่วยงานกำกบั การแกป้ ัญหาดา้ นน้ำของประเทศ (Regulator) สำนักงานทรพั ยากรนำ้ แห่งชาติ ตะวนั ออก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติควรทำการศึกษาเบื้องต้น (Pre-Feasibility Study) เกี่ยวกับ โครงการสร้างเขื่อนปิดอ่าวไทย เพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนในพื้นที่ภาคตะวันออกในระยะยาว ป้องกันน้ำทะเลหนุนเขา้ แม่น้ำ ๔ สาย (บางปะกง-เจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง) และป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานครและปริมณฑล สาเหตุจากภาวะโลกร้อนและแผน่ ดินทรดุ รวมทั้งเพ่มิ แหลง่ น้ำจดื ดว้ ย หนว่ ยงานกำกบั การแกป้ ัญหาดา้ นน้ำของประเทศและหนว่ ยงานปฏบิ ตั ิ (Regulator & Operator) สำนักงานทรัพยากรน้ำแหง่ ชาติ และกระทรวงมหาดไทย สำนกั งานทรัพยากรน้ำแหง่ ชาตริ ่วมกับกระทรวงมหาดไทยควรเร่งจัดทำฐานข้อมูลเพื่อการบริหาร จัดการระดับจังหวัด ซึ่งเป็นข้อมูลด้านแหล่งน้ำทั้งหมดในระดับจังหวัด เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการบริหาร จัดการน้ำอย่างเป็นระบบในระดับจังหวัดอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นประชาชนในพื้นที่สามารถนำไปใช้ ประโยชนไ์ ด้ สำนักงานทรพั ยากรนำ้ แหง่ ชาติ และสำนกั งานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพเิ ศษภาคตะวันออก ๑. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก กำหนดรูปแบบการจัดการความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐในการพัฒนาแหล่งน้ำ และก่อสร้างระบบ ๓Rs และการพัฒนาแหล่งน้ำเค็มเป็นน้ำจืด โดยใช้ระบบ PPP และกลไก EEC Track เพื่อเพิ่ม บทบาทของภาคเอกชนที่มีศักยภาพสูง มาใช้ในการพัฒนาทรัพยากรน้ำ การบริหารจัดการน้ำและการอนุรักษ์น้ำ ซึ่งจะทำให้การพัฒนาและบริหารจัดการน้ำในภูมิภาค มีความทันสมัย และความรวดเร็วรองรับการเติบโต ด้านเศรษฐกจิ ของภมู ภิ าค ๒. สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมในการตั้งองค์กรเพื่อบริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก เพอ่ื เป็นหน่วยรับผดิ ชอบด้านการบรหิ ารจัดการนำ้ ทุกภาคส่วนแบบเบ็ดเสรจ็ ในพ้ืนที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เป็นการเฉพาะ เพื่อกำหนดแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำอย่างเป็นระบบ มีการบริหารจัดการนำ้ การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำอย่างเป็นระบบ ในการเก็บน้ำ ส่งน้ำ และกระจายน้ำ เพื่อนำไปสู่การบริการ อย่างมปี ระสิทธิภาพ สร้างความเชือ่ มัน่ ตอ่ ภาคการลงทุนอุตสาหกรรม มีความเปน็ ธรรมต่อการใช้น้ำของแต่ละภาคส่วน ซ่งึ จะลดข้อขดั แยง้ ทีจ่ ะเกิดข้นึ ได้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพเิ ศษภาคตะวนั ออก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติร่วมกับสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ควรศึกษาประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment, SEA) ของภาคตะวันออก เพื่อให้โครงการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ที่ต้องดำเนินศึกษา EIA หรือ EHIA มีกรอบอ้างอิงที่ชัดเจน และมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอยู่ในระดับท่ี เหมาะสม พร้อมทัง้ มมี าตรการบรรเทาผลกระทบรองรับทช่ี ัดเจน
กลุม่ ลุม่ น้ำ ๖๐ ภาค สำนกั งานทรัพยากรนำ้ แหง่ ชาติ กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมชลประทาน ตะวนั ออก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติร่วมกับกรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมชลประทาน ควรกำหนดให้มีหน่วยงานควบคุม กำกับ ดูแล การคิดค่าน้ำสำหรับภาคอุตสาหกรรม ภาคการอปุ โภค บริโภค และการเกษตร ในเขตพืน้ ที่ EEC เพ่อื ให้เกิดความเป็นธรรมในการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และสำนักงาน นโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล สำนักงานนโยบาย และแผนทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม และหนว่ ยงานอน่ื ๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง ควรเร่งดำเนนิ โครงการ อ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด โครงการท่อผันน้ำประแสร์-หนองค้อ-บางพระ โครงการผันน้ำอ่างเก็บ น้ำคลองพระสทึง-อ่างเก็บน้ำคลองสียัดและการศึกษาและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในภาคตะวันออก ศึกษาการ เพิ่มประสิทธิภาพเขื่อนกันน้ำปางปะกงเพื่อลดการรุกล้ำของน้ำเค็ม เพื่อให้ภาคตะวันออกมีการใช้น้ำที่มี ประสิทธิภาพสงู สดุ หน่วยงานปฏิบัติ (Operator) กระทรวงศกึ ษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการจัดทำหลักสูตรเพ่ิมรายละเอียดของการอนรุ ักษ์ทรัพยากรน้ำในทุกระดับชั้นของ การศึกษา เพื่อสร้างองค์ความรู้และจิตสำนึก ในการรักษาและใช้ประโยชน์ทรัพยากรน้ำอันมีอยู่อย่างจำกัด อยา่ งคมุ้ ค่า กรมโรงงานอุตสาหกรรม และองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น กรมโรงงานอุตสาหกรรมและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ต้องมีการบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวขอ้ ง กับการระบายน้ำอุตสาหกรรมเข้าสู่แหล่งน้ำสาธารณะอย่างเคร่งครัด ได้แก่ การติดตาม ตรวจสอบ ควบคุม บังคับใชก้ ฎหมาย อยา่ งเขม้ งวด เพ่อื รักษาคุณภาพน้ำในแหลง่ น้ำใหส้ ามารถใชป้ ระโยชนไ์ ด้อยเู่ สมอ การนคิ มอุตสาหกรรมแหง่ ประเทศไทย ๑. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยควรพจิ ารณาปรับปรงุ กฎ ระเบยี บ ท่ีเกยี่ วข้อง เพื่อให้ สามารถนำน้ำที่โรงงานอุตสาหกรรมผลิตได้ ทั้งจากการ Recycle และ การผลิตน้ำจืดจากน้ำเค็ม มาใช้เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวมให้มากที่สุด เพื่อจะเป็นประโยชน์ทั้งการใช้น้ำในช่วงวิกฤติขาดแคลนน้ำ และการผลติ น้ำเพือ่ สำรองนำ้ ไว้ใช้ในชว่ งขาดแคลน ๒. การนิคมอุตสาหกรรมควรเสนอปรับปรุงกฎหมายกำหนดให้ นิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่วิกฤติ (ภาคตะวันออก) ทุกนิคมอุตสาหกรรม ต้องดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ต้องมีการรีไซเคิลน้ำเสีย กลับมาใชใ้ หม่ สำนกั งานคณะกรรมการกระจายอำนาจ และกรมสง่ เสริมการปกครองท้องถ่ิน สำนักงานคณะกรรมการกระจายอำนาจ และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กำหนดกฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการภารกิจถ่ายโอน ให้หน่วยงานอื่นสามารถช่วยเหลอื ในการพัฒนาท้องถิ่น ได้อย่างครบกระบวนการ ตั้งแต่การเตรียมความพร้อม การก่อสร้าง และบำรุงรักษา แหล่งน้ำ พร้อมกับกำหนดแผน ให้ท้องถิ่นมีการพัฒนาความสามารถขององค์กรให้รองรับภารกิจถ่ายโอนด้านแหล่งน้ำได้โดยสมบูรณ์ อย่างเท่าเทียม กันทุกทอ้ งถนิ่
๖๑ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรน้ำบาดาลควรเร่งศึกษาและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลในภาคตะวันออก เพื่อแก้ปัญหา วิกฤติน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ทั้งโครงการที่มีศักยภาพในพื้นที่ และโครงการตามผลการศึกษา สำรวจ และประเมินความคมุ้ คา่ ทางเศรษฐศาสตร์ของการพฒั นาแหลง่ น้ำบาดาลขนาดใหญ่ ในพนื้ ทเ่ี ขตเศรษฐกจิ พิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) ปัจจุบัน ที่มีการสำรวจที่ความลึกประมาณ ๒๐๐ – ๔๐๐ เมตร ซึ่งเป็นระดับความลึกใหม่ สำหรบั การพฒั นานำ้ บาดาลในเขตเศรษฐกิจพเิ ศษภาคตะวนั ออก (EEC) ๒) สรุปการเดินทางศึกษาดูงาน กลมุ่ ลุม่ น้ำ ลำดบั สถานท่ีศึกษาดงู าน ภาค วนั ท่ี หน้า ตะวนั ออก ครั้งที่ ๑ จังหวัดจันทบรุ ี จงั หวัดระยอง ระหวา่ งวันจนั ทรท์ ี่ ๑๗ และจงั หวัดชลบรุ ี กมุ ภาพันธ์ – วันพธุ ที่ ๑๙ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ๑ การบรหิ ารจัดการกล่มุ ล่มุ น้ำภาคตะวันออก วนั จันทรท์ ี่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๑๙๗ ในพน้ื ท่จี ังหวดั จันทบุรี ณ ศาลากลางจังหวดั จันทบุรี ๒ อา่ งเก็บนำ้ ประแสร์ จงั หวดั ระยอง วันจันทรท์ ี่ ๑๗ กมุ ภาพันธ์ ๒๑๓ ๓ การบริหารจดั การกลุ่มลมุ่ นำ้ ภาคตะวนั ออก วันองั คารท่ี ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๒๑๖ ในพื้นที่จังหวดั ระยอง ณ ศาลากลางจงั หวัดระยอง ๔ ศกึ ษาดูงานและรว่ มปรึกษาหารือ วนั อังคารท่ี ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๒๒๘ และรบั ทราบขอ้ มูลเก่ียวกับเรื่อง ภาพรวม การบรหิ ารจัดการน้ำ ณ บริษทั จดั การและพัฒนาทรพั ยากรนำ้ ภาคตะวนั ออก จำกดั (EAST WATER) ๕ การบรหิ ารจัดการกลมุ่ ลุม่ นำ้ ภาคตะวนั ออก วันพธุ ท่ี ๑๙ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ๒๓๐ ในพื้นทจี่ ังหวัดชลบรุ ี ณ ห้องประชมุ SWOC สำนกั งาน ชลประทานที่ ๙ จงั หวัดชลบรุ ี ๖ การบรหิ ารจดั การน้ำในระบบ ๓Rs วนั พธุ ท่ี ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๒๔๙ ในนิคมอตุ สาหกรรมฯ: กรณีศึกษาอมตะ ซติ ้ี ณ นคิ มอุตสาหกรรมอมตะซติ ี้ ชลบรุ ี (ทีท่ ำการ) ครง้ั ท่ี ๒ จังหวัดสระแกว้ จังหวดั ปราจนี บรุ ี และ ระหว่างวนั พธุ ที่ ๒๔ – วนั ศุกร์ท่ี จงั หวัดฉะเชงิ เทรา ๒๖ มถิ ุนายน ๒๕๖๓ ๑ การบริหารจดั การกลมุ่ ลมุ่ น้ำภาคตะวนั ออก วันพธุ ท่ี ๒๔ มถิ ุนายน ๒๕๖๓ ๒๕๑ ในพนื้ ที่จังหวดั สระแกว้ ณ ศาลากลางจังหวดั สระแกว้
๖๒ ลำดบั สถานท่ีศึกษาดงู าน วันที่ หน้า ๒๕๒ ๒ การบริหารจดั การกลุ่มลมุ่ นำ้ ภาคตะวันออก: วันพุธที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ การพัฒนาลุ่มน้ำแบบประชารฐั ๒๕๘ ณ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำแบบประชารัฐ ๒๖๑ ลุ่มน้ำย่อยคลองกัดตะนาวใหญ่ตอนบน ๒๖๔ ๓ การบรหิ ารจดั การกลมุ่ ลมุ่ น้ำภาคตะวนั ออก วนั พฤหัสบดที ่ี ๒๕ มิถนุ ายน ในพนื้ ทจี่ งั หวดั ปราจนี บรุ ี ๒๕๖๓ ณ อา่ งเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา กลุ่มลุ่มนำ้ ๔ การบรหิ ารจดั การกลุ่มลมุ่ น้ำภาคตะวันออก วันพฤหัสบดที ี่ ๒๕ มถิ นุ ายน ภาค ในพื้นท่ีจังหวัดปราจนี บรุ ี ๒๕๖๓ ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรกั ษาบางพลวง ตะวันออก ๕ การบรหิ ารจดั การกลุ่มลมุ่ นำ้ ภาคตะวันออก วนั ท่ศี กุ ร์ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ ในพ้ืนทจี่ ังหวัดฉะเชงิ เทรา ณ องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัดฉะเชงิ เทรา และโครงการสง่ นำ้ และบำรุงรกั ษาบางปะกง ๓) ภาพการลงพ้ืนทศ่ี กึ ษาดูงาน เมื่อวันพุธที่ ๒๔มถิ นุ ายน๒๕๖๓ คณะกรรมาธกิ ารวิสามัญร่วมกบั คณะอนกุ รรมาธิการพิจารณาศกึ ษา แนวทางการบริหารจัดการกลุ่มลมุ่ น้ำภาคตะวันออก ได้ลงพ้นื ที่ศึกษาดูงานโครงการพัฒนาลมุ่ น้ำแบบประชารัฐ ล่มุ น้ำย่อยคลองกัดตะนาวใหญ่ตอนบน ณ ตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังนำ้ เยน็ จังหวดั สระแก้ว โครงการดงั กลา่ วมวี ตั ถุประสงคใ์ หภ้ าคประชาชนมคี วามเข้าใจการบรหิ ารจดั การในระดบั พนื้ ที่และให้ สามารถกำหนดแผนงานยุทธศาสตร์ในระดับชุมชนของตัวเอง โดยเริ่มจากการให้ ความรู้ และคัดเลือก คณะทำงานประชารัฐผ่านกิจกรรมกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความตระหนักรู้ และเข้าใจบริบทของลุ่มน้ำของตน ผ่านการสำรวจประวัตศิ าสตร์ชุมชน ทำแผนที่ร่วมกันโดยใช้มอื และสำรวจ ศักยภาพแหล่งน้ำเดิม จากนั้นจึงร่วมจัดทำแผนงานยุทธศาสตร์ในระดับพื้นที่โดยชุมชน โดยภาครัฐช่วย สนบั สนนุ ในลกั ษณะการเป็นพเ่ี ล้ียง ซึ่งขณะนี้ได้รับงบประมาณจากจังหวัดมาพัฒนาแหล่งน้ำในพน้ื ที่แล้วส่วนหน่ึง ซึ่งมีแผนงานที่จะดำเนินการในปี ๒๕๖๓ และ ๒๕๖๔ แล้ว โดยประชาชนในพื้นที่เป็นผู้กำหนดแผนงานและ ดำเนินการร่วมกันกับภาครัฐต่อไป ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญและคณะอนุกรรมาธิการมีความเห็นว่า
๖๓ การบริหารจัดการน้ำควรให้ชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อน และภาครัฐสนับสนุนข้อมูลที่เกี่ยวข้องพร้อมทั้งให้ ภาคประชาชนเขา้ ถงึ ข้อมูลตา่ ง ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๓ คณะกรรมาธิการวิสามญั ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการพิจารณา ศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันออก ได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานการบริหารจัดการกลุ่มลุม่ น้ำ ภาคตะวันออกในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทราและโครงการส่งน้ำและ บำรุงรักษาบางปะกงเพื่อรับฟังข้อมูลและแลกเปลี่ยนกับหน่วยงานราชการ และผู้เกี่ยวข้องในประเด็นการ บริหารจัดการน้ำ กลมุ่ ลุ่มน้ำ ภาค ตะวนั ออก โดยเฉพาะการจดั การนำ้ เคม็ ในแม่น้ำบางปะกง ซึ่งคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั และคณะอนกุ รรมาธกิ าร มคี วามเห็นหลายประการ เชน่ การบริหารจัดการน้ำในระดับพ้ืนที่ภาคประชาชนควรเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูล ของสถานีหลักแห่งชาติ สถานีรอง และ สถานีระดับท้องถิ่น เป็นต้น รวมถึงร่วมตัดสินใจในการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งการจัดทำ Zoning พื้นที่ควรให้ภาคประชาชนเปน็ ผู้ดำเนินการหลักและภาครัฐเป็นผู้สนับสนุน โดยส่งเสริม ให้พื้นที่เกษตรกรรมและอุตสาหกรรมมีแหล่งน้ำของตัวเอง ทั้งนี้ ควรมีการควบคุมการใช้น้ำในพื้นที่เน่ืองจากปลูก ข้าวปีละ ๓ ครงั้ ทำใหน้ ำ้ จดื หมดเรว็ ในขณะเดียวกัน ภาครฐั ควรเพิม่ แหลง่ นำ้ ต้นทุนโดยเร่งพัฒนาแหล่งน้ำในพ้ืนที่ นอกจากนี้ การตรวจสอบการชดเชยทรัพย์สินในกรณีเกิดภัยธรรมชาติสามารถใช้เทคโนโลยีโดรนช่วยในการ ถ่ายภาพทางอากาศและตรวจสอบความถูกต้องได้ รวมถึง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติควรทำการศึกษาเบื้องต้น
๖๔ (Pre-Feasibility Study) เกี่ยวกับโครงการสร้างเขื่อนปิดอ่าวไทย เพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนในพื้นที่ภาคตะวันออก ในระยะยาว ป้องกนั น้ำทะเลหนนุ เข้าแม่น้ำ ๔ สาย (บางปะกง-เจา้ พระยา-ท่าจีน-แมก่ ลอง) และปอ้ งกันน้ำท่วม กรงุ เทพมหานครและปริมณฑลสาเหตจุ ากภาวะโลกร้อนและแผน่ ดินทรดุ รวมทั้งเพิม่ แหลง่ น้ำจดื ดว้ ย ๔) แผนทก่ี ล่มุ ลมุ่ นำ้ ภาคตะวันออก กลุม่ ลุ่มน้ำ ภาค ตะวันออก แผนท่ีแสดงขอบเขตล่มุ นำ้ ปราจนี บรุ ี
๖๕ กลุ่มลมุ่ น้ำ ภาค ตะวันออก แผนทแี่ สดงขอบเขตลุ่มนำ้ บางปะกง
๖๖ กลุ่มลุ่มนำ้ ภาค ตะวนั ออก แผนท่ีแสดงขอบเขตล่มุ นำ้ โตนเลสาป
๖๗ กลุ่มลุ่มน้ำ ภาค ตะวันออก แผนท่ีแสดงขอบเขตลุ่มนำ้ ชายฝ่งั ทะเลตะวนั ออก
๖๘ กลมุ่ ลมุ่ น้ำ ๓.๕ กลุ่มลุม่ นำ้ ภาคตะวนั ตก ภาคตะวันตก ๑) ข้อสังเกต หนว่ ยงานกำกับการแกป้ ญั หาด้านนำ้ ของประเทศและหนว่ ยงานปฏิบัติ (Regulator & Operator) สำนกั งานทรัพยากรนำ้ แห่งชาติ และคณะกรรมการบรหิ ารจัดการลมุ่ นำ้ - คณะกรรมการลุ่มน้ำ ประกอบด้วยผู้แทนจากส่วนราชการ ผู้แทนจากภาคประชาชน ซึ่งมี ความสำคัญในการขับเคลื่อนการบริหารทรัพยากรน้ำภายในลุ่มน้ำ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ควรสนับสนุนสร้างความเข้าใจและความเข้มแข็งเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจ ให้แก่กรรมการลุ่มน้ำในการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เก่ียวข้องและภาคประชาชนในเขตลุ่มน้ำ เพอื่ ใหก้ ารพฒั นาและการบรหิ ารจัดการทรัพยากรนำ้ สอดคลอ้ งกบั นโยบายและตรงตอ่ ความต้องการของพื้นที่ หน่วยงานปฏิบัติ (Operator) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควรเสนอแผนงานโครงการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันตก ตามที่คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษา แนวทางการบริหารจัดการกล่มุ ลมุ่ น้ำภาคตะวนั ตกได้มีการจัดทำแผนงานโครงการดงั กล่าวตามตารางที่ปรากฏ ในรายงานการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันตก เพื่อขอรับการจัดสรรงบรายจ่าย งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ. ๒๕๖๔ และงบเหลือจ่ ายของงบประมาณ รายจ่ายประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการกลุ่มลุ่มน้ำ ภาคตะวนั ตกไดอ้ ย่างรวดเรว็ ทนั ต่อความต้องการของประชาชน กรมการทหารช่างและกองพลพัฒนาที่ ๑ ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกองทัพบก กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ป่าและพนั ธพ์ุ ืช กรมธนารกั ษ์ และหนว่ ยงานที่เก่ยี วข้อง ๑. การพัฒนาแหล่งน้ำพบปัญหาการขออนุญาตใช้พื้นที่จากหน่วยงานเจ้าของพืน้ ที่ ซึ่งไม่สามารถ ดำเนินการได้หรือเกิดความล่าช้าในกระบวนการขอใช้พื้นท่ีพัฒนาแหล่งน้ำ โดยในบางพื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบ กรมปา่ ไม้ และกรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่าและพันธ์พุ ืช ซึ่งหน่วยงานเจา้ ของพืน้ ท่ีดงั กล่าว ควรพจิ ารณาการให้ ใช้ประโยชน์ของพนื้ ทใี่ นการพฒั นาเปน็ แหล่งเก็บกกั น้ำแกป่ ระชาชน ๒. การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำลำภาชีซึ่งการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ฝายน้ำล้น ในพื้นที่ อ้างสิทธิ์อยู่ในความรับผิดชอบของกรมการทหารช่างและกองพลพัฒนาที่ ๑ ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดกองทัพบก รวมถึงพื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ หรือพื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมธนารักษ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการทำงานร่วมกันในการพิจารณาอนุญาตให้ใช้พื้นที่ในการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำ เพ่อื ประโยชนด์ า้ นการอุปโภคบริโภคและการเกษตรของประชาชนในพื้นท่ี โดยใหจ้ ดั ต้งั คณะกรรมการจังหวดั ราชบรุ ี ๓. กรมป่าไม้ควรพิจารณาเพ่ิมพื้นท่ีขุดลอกอ่างเก็บน้ำหุบเฉลา ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน ๑๐ ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี ตามที่กรมชลประทาน ได้มีแผนงานโครงการพัฒนาแหลง่ เก็บกักน้ำในโครงการอ่างเกบ็ น้ำหุบเฉลาพร้อมระบบส่งน้ำ ซึ่งหากเพิ่มพื้นท่ี อ่างเก็บน้ำหุบเฉลา จะสามารถเพิ่มเติมความจุของอ่างเก็บน้ำได้ประมาณ ๕๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ทำให้บรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง ประชาชนมีน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภคและการเกษตรตลอดจนป้องกัน อุทกภัยในฤดฝู น ซึ่งจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ประชาชนในพ้ืนท่ี จำนวน ๑๒๕ ครัวเรอื น ๔. กรมธนารกั ษค์ วรมขี ้อยกเว้นหรือลดหยอ่ นค่าธรรมเนยี มการใช้พื้นท่ีในการพฒั นาแหล่งเก็บกัก น้ำของอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อจัดหาน้ำประปาของหมู่บ้านให้แก่ประชาชน โดยปรับปรุงกฎ ระเบียบ ทเ่ี กี่ยวข้องเพ่อื ใหป้ ระชาชนสามารถเข้าถึงสาธารณปู โภคได้อย่างท่วั ถงึ
๖๙ กรมชลประทาน กรมทรพั ยากรน้ำ และหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง ๑. สำนักงานชลประทานที่ ๑๔ ควรพิจารณาการเข้าดำเนินการใช้พื้นที่เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำ โครงการฝายสำนักสงฆ์พุทธสิงขร โดยการก่อสร้างฝายทดน้ำพร้อมอาคารประกอบ ซึ่งจะต้องให้นิคมสร้างตนเอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่มีประชาชนเจ้าของพื้นที่ดำเนินการส่งมอบพื้นที่ให้กับนิคมสร้างตนเอง จังหวัด ประจวบครี ีขันธ์ โดยประชุมหารอื รว่ มกับสำนักงานชลประทานที่ ๑๔ และโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ เพื่อการดำเนินการต่อไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนในพื้นที่ตำบลคลองวาฬ และตำบลใกล้เคียง ในอำเภอประจวบครี ีขนั ธ์ ๒. สำนักงานชลประทานที่ ๑๔ และโครงการชลประทานประจวบคีรีขันธ์ ควรกำหนดมาตรการ เร่งด่วนในการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยการสำรวจและศึกษาพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำ ขนาดกลางและขนาดใหญ่ในพื้นที่ตำบลห้วยทราย ตำบลคลองวาฬ ตำบลอ่าวน้อย และตำบลเกาะหลัก กลุ่มลุ่มน้ำ ของอำเภอเมอื งประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอกยุ บรุ ี จังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ ประกอบด้วย ภาคตะวนั ตก ๑) โครงการพัฒนาแหลง่ เก็บกักนำ้ ในพ้นื ท่ีตำบลห้วยทราย อำเภอเมืองประจวบครี ีขันธ์ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหมู่ ๑ บ้านวังก์ด้วน เขื่อนตาพรหม หมู่ ๒ บ้านห้วยน้ำพุ ห้วยหนองปลาไหล หมู่ ๓ บ้านวังมะเด่ือ สระเก็บน้ำหนองขาม หมู่ ๑๓ บ้านหนองจับไก่ อ่างเก็บน้ำบ้านหุบไผ่ (ถ้ำหมี) หมู่ ๖ อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำโจน หมู่ ๖ บ้านหบุ ไผ่ ๒) โครงการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำในพื้นที่ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไดแ้ ก่ อา่ งเกบ็ นำ้ หุบผงึ้ ๓) โครงการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำในพื้นที่ตำบลอ่าวน้อย ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองบึง อันเน่ืองมาจากพระราชดำริและอา่ งเก็บน้ำหว้ ยอ่างหินอนั เนื่องมาจากพระราชดำริ ๔) โครงการพัฒนาแหลง่ เกบ็ กกั น้ำในพ้ืนทอ่ี ำเภอกุยบรุ ี ไดแ้ ก่ อ่างเกบ็ น้ำห้วยแดง ๕) โครงการพัฒนาคลองกยุ บรุ ี เสน้ ทางหลังวดั กยุ บุรี – เสน้ ทางหลังวดั อดุ มพลาราม (วดั ไร่บน) ๓. กรมชลประทานควรดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณโดยรอบลุ่มน้ำคลองกุยบุรี โดยการ ขุดลอกคลองและเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำห้วยสำโหรง อ่างเก็บน้ำบ้านย่านซื่อ อ่างเก็บน้ำห้วยวังเต็น อ่างเก็บน้ำ คลองอ้ายแดง และอ่างเก็บน้ำโปร่งฟ้า เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่อำเภอกุยบุรีใช้ประโยชน์เพ่ือการอุปโภคบริโภคและ การเกษตร ๔. กรมชลประทานควรดำเนินการเพ่ิมประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำโดยการเพ่ิมความจุของ อา่ งเกบ็ น้ำห้วยกระพรอ้ ย อนั เนือ่ งมาจากพระราชดำริ ๕. กรมชลประทานควรดำเนินการพฒั นาแหลง่ เก็บกักน้ำลำตะเพนิ ๖. แผนการจัดสรรน้ำของลุ่มน้ำแม่กลองแบบเต็มศักยภาพ เพื่อการอุปโภค บริโภค ประมาณ ๖๐๐ ลา้ นลูกบาศก์เมตร การรักษาระบบนิเวศและควบคุมระดับความเคม็ ของน้ำประมาณ ๒,๐๐๐ ลา้ นลกู บาศกเ์ มตร และการเกษตรประมาณ ๕,๘๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร และการผันน้ำไปยังลุ่มน้ำท่าจีนและลุ่มน้ำเจ้าพระยา ประมาณ ๑,๒๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร รวมปริมาณการจัดสรรน้ำของลุ่มน้ำแม่กลอง ประมาณ ๙,๖๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจากการบริหารจัดการของลุ่มน้ำแม่กลองที่ผ่านมาพบว่า ยังมีปริมาณน้ำที่สามารถบริหารจัดการได้ไม่เกิน ๙๐๐ ลา้ นลกู บาศก์เมตร โดยแบง่ เป็นกิจกรรมการใชน้ ำ้ ในลุ่มนำ้ แมก่ ลอง ไดแ้ ก่ โครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งใน ๔ อำเภอ ของจังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญ อำเภอหนองปรือ และอำเภอบ่อพลอย) ประมาณ ๓๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร การผันน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งของอำเภอเมืองกาญจนบุรี (ตำบลช่องสะเดา ตำบลวังด้ง ตำบลลาดหญ้า ตำบลหนองบัว ตำบลแก่งเสี้ยน และตำบลปากแพรก) ซึ่งลักษณะ พื้นที่ของอำเภอเมืองกาญจนบุรีที่มีความแห้งแล้งเป็นพืน้ ทีร่ าบสงู จะต้องมีแผนงานโครงการสูบนำ้ ขึ้นไปยังพื้นท่ี ดังกล่าว ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการจำนวนมาก ซึ่งเป็นข้อจำกัดการดำเนิน
๗๐ ตามภารกิจแหล่งน้ำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังนั้น การบริหารจัดการลุ่มน้ำแม่กลองเกี่ยวกับการผันน้ำ ไปยังลุ่มน้ำเจ้าพระยา จะต้องคำนึงถึงการจัดสรรน้ำในแต่ละปีตามปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่และความมั่นคง ด้านน้ำของลุ่มน้ำแม่กลอง รวมถึงกิจกรรมการใช้น้ำภายในลุ่มน้ำแม่กลองเสียก่อนแล้วจึงพิจารณาถึงความจำเป็น และปริมาณน้ำท่เี หมาะสมในการผันนำ้ ไปใชป้ ระโยชนข์ องลุ่มนำ้ อืน่ ๆ ส่วนการเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการลุ่มน้ำแม่กลองเกี่ยวกับการผันน้ำไปยังลุ่มน้ำ เจา้ พระยา กรมชลประทานควรดำเนินการควบคู่กับการรักษาความม่ันคงของปริมาณน้ำและกำหนดแนวทางการ เพิ่มปริมาณน้ำเหนือเขื่อน เพื่อให้สามารถสูบน้ำกลับไปยังเขื่อนศรีนครินทร์ นอกจากนี้ การก่อสร้างโครงการ เก็บกักน้ำแม่นำ้ แควน้อย(เขื่อนแหง่ ทีส่ อง:เขื่อนบ้านจันเดย)์ จะทำให้เพิม่ เสถียรภาพด้านปริมาณน้ำให้แก่เขือ่ นวชิราลงกรณ ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ และสามารถใช้น้ำได้อย่างคุ้มค่า โดยการสูบน้ำผ่านเครื่องกำเนดิ ไฟฟ้าให้สามารถสูบน้ำ กลุม่ ล่มุ น้ำ กลับไปเก็บกักไว้ในเขื่อน ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยควรเป็นหน่วยงานหลักในการก่อสร้างเขื่อน ภาคตะวนั ตก บ้านจันเดย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรหารือตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการจัดซื้อที่ดินกับเจ้าของ ผ้คู รอบครองที่ดินบริเวณท่ีจะก่อสรา้ งเขื่อน เพอ่ื ให้การกอ่ สร้างเขื่อนบา้ นจันเดย์บรรลวุ ัตถุประสงค์ตามท่กี ำหนดไว้ ๗. กรมชลประทานควรเพิ่มศักยภาพในการระบายน้ำประตูระบายน้ำปากคลองผันน้ำจรเข้สามพัน จากเดิม ๕๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นการผันน้ำ ๑๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ควบคู่กับการบูรณาการ การทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยให้กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ การประปาส่วนภูมิภาค และการประปานครหลวง ศึกษาความเหมาะสมในการพิจารณาแนวทางอื่น ๆ นอกเหนือจากวิธีการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ โดยกำหนดการวางระบบท่อสูบน้ำหรือก่อสร้างสถานีสูบน้ำโดยตรงจากน้ำ เหนือเขื่อนเจ้าพระยาหรือลุ่มน้ำแม่กลองในการลำเลียงน้ำดิบจากแหล่งน้ำดังกล่าวมาผลิตน้ำประปาในพื้นท่ี ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำเค็มที่มีผลต่อการผลิตน้ำประปาของสถานีประปาสำแล และยังชว่ ยลดการสญู เสยี น้ำในปรมิ าณมากจากวิธีการผนั นำ้ เพื่อผลักดันการรุกล้ำน้ำเคม็ ๘. กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรดำเนินการพิจารณาการเพิ่มความจุและ ขุดลอกอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ (อันเนื่องมาจากพระราชดำริ) รวมถึงปรับปรุงคลองส่งน้ำ เนื่องจากอ่างเก็บน้ำ แมป่ ระจันต์มีศักยภาพในการรองรบั นำ้ ได้ในปริมาณมาก ๙. กรมชลประทานและจังหวัดเพชรบุรี ควรสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับ โครงการขุดคลองระบายน้ำลงสูท่ ะเล คลองระบายน้ำ D๑ เนื่องจากโครงการดังกลา่ วประชาชนไมเ่ หน็ ดว้ ยกับ การกอ่ สร้างและใชง้ บประมาณก่อสร้างจำนวนมาก จงึ ควรทบทวนความเหมาะสมและความค้มุ ค่าของโครงการ รวมทั้ง การนำงบประมาณดงั กล่าวไปพัฒนาปรับปรุงการขุดลอกคูคลองและพัฒนาแหล่งนำ้ ในจังหวัดเพชรบุรี จะเกิดประโยชนม์ ากกว่า ๑๐. กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบำรุงรักษาและซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำที่รั่วซึม และปรับปรงุ ระบบทอ่ ส่งน้ำของอา่ งเก็บน้ำในพ้ืนทจ่ี ังหวัดเพชรบุรี ๑๑. กรมชลประทานและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องควรมีมาตรการรองรับการป้องกันการรุกล้ำน้ำเค็ม จากน้ำทะเลหนุนสูงในพน้ื ทล่ี มุ่ นำ้ เพชรบรุ ี – ประจวบครี ขี ันธ์ ๑๒. กรมชลประทานควรใหจ้ ังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีแผนจัดการแหล่งน้ำใหเ้ ช่ือมโยงกันในทุกแหล่ง นำ้ ผา่ นระบบทอ่ สง่ นำ้ ท่อ PE ท่มี ลี ักษณะเชน่ เดยี วกบั จังหวดั จนั ทบุรี ๑๓. กรมชลประทานควรแจ้งให้กองบญั ชาการตำรวจตระเวนชายแดนพิจารณาให้ความเหน็ ชอบ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ให้กรมชลประทานใช้พื้นที่เพื่อดำเนินการโครงการอาคารทดน้ำบ้านสวนผึ้งพร้อมระบบส่งน้ำ และอาคารประกอบ ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี พร้อมทั้งให้กรมชลประทานสามารถใช้พื้นท่ี เพื่อพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำให้ประชาชนใช้ประโยชน์ด้านอุปโภคบริโภคและการเกษตร ตลอดจนจัดทำแนวป้องกันตล่ิง และปรับปรุงภูมิทศั น์โดยรอบ
๗๑ ๑๔. กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ในพืน้ ทล่ี มุ่ นำ้ ลำภาชี ให้มจี ำนวนมากขึน้ เพ่อื ใชเ้ ป็นแหล่งน้ำต้นทนุ ในการใชอ้ ุปโภคบริโภค และการเกษตรในฤดูแล้ง และรองรับน้ำไวใ้ ชใ้ นฤดูฝนและก่อสร้างแนวป้องกันการกัดเซาะตล่งิ สองฝัง่ ท้ายนำ้ บริเวณลุ่มน้ำลำภาชีตอนล่าง ๑๕. กรมชลประทานควรผลักดันและขบั เคลื่อนโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อบรรเทา ปัญหาภัยแล้งของจังหวัดกาญจนบุรี โดยให้กรมชลประทานดำเนินการสำรวจและออกแบบโครงการดังกล่าว ควบคู่กับการศึกษาความเหมาะสม และวิเคราะห์ผลกระทบและสิ่งแวดล้อมของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณางบประมาณโดยเสนอขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการ เงนิ สำรองจ่ายเพือ่ กรณฉี ุกเฉนิ หรือจำเปน็ พ.ศ. ๒๕๖๔ จากคณะรฐั มนตรี ๑๖. กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งรัดดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำคัญและเป็นประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดราชบุรีและจังหวัดกาญจนบุรี กลมุ่ ลุ่มน้ำ ประกอบด้วย ภาคตะวนั ตก ๑) โครงการปรับปรุงซ่อมแซมฝายและอาคารบังคบั น้ำบ้านวงั กมุ่ ตำบลลาดหญา้ ๒) โครงการฝายทดน้ำพรอ้ มระบบกระจายน้ำลำน้ำภาชี ๓) โครงการพัฒนาแหล่งเก็บกักนำ้ ลุ่มนำ้ ลำตะเพนิ จำนวน ๑๖ แห่ง ๔) โครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ไปยังอ่างเก็บน้ำลำอีซูพร้อมระบบกระจายน้ำไปยังพื้นที่ รับประโยชน์ในพื้นที่อำเภอบ่อพลอย อำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญ อำเภอหนองปรือ และอำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบรุ ี ๕) โครงการขยายอา่ งเก็บนำ้ หว้ ยลวก หว้ ยเทยี น และหว้ ยหนองนาทะเล ๖) โครงการฝายชะลอน้ำเหนือเข่อื นวชิราลงกรณและเขือ่ นศรีนครินทร์ ๗) โครงการเขื่อนกกั น้ำเพอื่ สูบกลับของเข่ือนวชิราลงกรณ ๘) โครงการขยายระบบสง่ นำ้ เพ่อื เพ่มิ พืน้ ทช่ี ลประทานจงั หวดั กาญจนบรุ ี ๑๗. กรมชลประทานและหนว่ ยงานท่ีเกี่ยวข้องควรกำหนดแนวทางในการเพ่ิมปริมาณน้ำในแหล่งเก็บกักน้ำ โดยการพัฒนาโครงการอ่างเกบ็ นำ้ ขนาดเลก็ ในพ้นื ทเ่ี หนือเขื่อนตา่ ง ๆ ของกลมุ่ ลุม่ น้ำภาคตะวนั ตก ๑๘. โครงการพัฒนาแหล่งน้ำและระบบชลประทานเพ่ือแก้ไขปัญหาภยั แล้งซ้ำซากและการขาดแคลน น้ำในบางพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี นอกจากในพื้นที่ ๕ อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี ได้แก่ เขตอำเภอบ่อพลอย อำเภอห้วยกระเจา อำเภอเลาขวัญ อำเภอหนองปรือ และอำเภอพนมทวน ให้รวมถึงพื้นที่บางส่วน ของอำเภอเมืองกาญจนบุรีที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ซึ่งกรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมิได้กำหนดไว้ ในแผนการดำเนนิ งานบรรเทาปญั หาภัยแล้ง ประกอบด้วย ๗ ตำบล ได้แก่ ตำบลชอ่ งสะเดา ตำบลวังด้ง ตำบลลาดหญ้า ตำบลหนองบัว ตำบลแก่งเสี้ยน ตำบลท่ามะขาม และตำบลปากแพรก ดังน้นั กรมชลประทาน สว่ นราชการจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ ง ควรมแี ผนงานโครงการพัฒนาแหล่งนำ้ และระบบชลประทานเพื่อแก้ไขปัญหาภยั แล้ง ๑๙. การบริหารจัดการน้ำของลุ่มน้ำแม่กลองเกี่ยวกับการผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองไปยังลุ่มน้ำ เจ้าพระยา โดยปกติจะมีการผันน้ำจากลุ่มน้ำดังกล่าวในแต่ละปี แต่การจะเพิ่มศักยภาพในการผันน้ำจะต้อง ดำเนินการควบคู่กับปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ การเวนคืนที่ดินบริเวณอำเภอพนมทวน เพื่อใช้เป็นพื้นท่ีในการระบาย น้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองซึ่งจะต้องผ่านพื้นที่ชุมชนและต้องทำประชาพิจารณ์ในกา รดำเนินการโครงการผันน้ำ จากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ ซึ่งจากข้อมูลจะพบว่าเขื่อนศรีนครินทร์มีปริมาณเก็บกักน้ำปกติ ๘,๘๖๐ ล้านลูกบาศก์เมตร รวมปริมาณเก็บกักน้ำทั้งสองเขื่อน ๒๖,๖๐๕ ล้านลูกบาศก์เมตร แต่มีปริมาณน้ำ ที่สามารถใช้ได้ทั้งสองเขื่อน ๑๓,๓๒๘ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อพิจารณาข้อมูลปริมาณน้ำย้อนหลัง ๕ ปี ของเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ มีค่าเฉลี่ยปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ ๒๔,๖๓๑ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่าเฉลี่ยดังกล่าวต่ำกว่าปริมาณเก็บกักปกติประมาณ ๒,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะมีปริมาณน้ำ
๗๒ กลมุ่ ลุ่มนำ้ ใช้งานได้เฉลี่ย ๘,๖๙๘ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยปริมาณใช้งานได้ดังกล่าวจะอยู่ในระดับ ภาคตะวนั ตก ที่ต่ำกว่า ๙,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งกรมชลประทานยึดเป็นหลักในการพิจารณาถึงประสิทธิภาพ ของปรมิ าณน้ำในการผนั น้ำจึงเป็นข้อจำกัดในการเพิ่มประสิทธิภาพการผนั นำ้ ๘๐ ล้านลกู บาศก์เมตรต่อวินาที บริเวณคลองจรเข้สามพัน ดังนั้น การผันน้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองไปยังลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทาน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรบูรณาการทำงานร่วมกัน ในการกำหนดแนวทางการเพิ่มปริมาณน้ำเหนือเขื่อนโดยการก่อสร้างฝายขนาดเล็กในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ของจังหวัดกาญจนบุรีและสร้างแหล่งเก็บกักน้ำขนาดเล็กเหนือเขื่อน เพื่อให้มีน้ำไหลลงมาใช้ประโยชน์ ในฤดูแล้ง ซึ่งหากจะมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการผันน้ำ กรมชลประทานควรผันน้ำโดยคิดหน่วย เป็นเปอร์เซน็ ต์ในการผันน้ำ ซึ่งมีข้อดีมากกวา่ เมื่อเปรียบเทียบจากการผันนำ้ โดยคิดหน่วยเปน็ ปริมาณนำ้ ลูกบาศก์เมตร และการดำเนินการโครงการเพิ่มแหล่งเก็บกักน้ำของลุ่มน้ำแม่กลองจะต้องมีการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับโครงการ ระบบการควบคุมนำ้ ของประชาชนในพื้นท่ีอำเภอพนมทวน อำเภอท่าม่วง และอำเภอทองผาภูมิ ๒๐. ปัญหาการรุกล้ำของน้ำเค็มในพื้นที่ลุ่มนำ้ ท่าจนี ซึ่งจะต้องควบคุมความเค็มไม่ให้เกิน ๐.๗๕ กรัมต่อลิตร บริเวณปากคลองจินดาและควบคุมความเค็มในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่กลองไม่ให้เกิน ๒ กรัมต่อลิตร บริเวณอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งจะต้องแบ่งปันน้ำจากลุ่มน้ำท่าจีนและลุ่มน้ำแม่กลองเพื่อช่วย ผลักดันน้ำเค็ม ดังนั้น จึงต้องมีแนวทางการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนของลุ่มน้ำให้มีปริมาณมากขึ้นโดยการสร้าง แหล่งเก็บกักน้ำเพิ่มมากขึ้นจากการสร้างฝายขนาดเล็กและขนาดกลางซึ่งกรมชลประทานและกรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพันธุ์พชื ตอ้ งมกี ารบูรณาการทำงานร่วมกันในการพฒั นาพน้ื ทแี่ หลง่ กักเกบ็ น้ำ ๒๑. กรมชลประทาน การประปาส่วนภูมิภาค และส่วนราชการจังหวัดสมุทรสงครามควรบูรณาการ การทำงานรว่ มกัน และจัดทำแผนงานและงบประมาณโครงการแก้มลิงทุ่งหนิ ตลอดจน การจัดทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำ แก้มลิงทุ่งหินทั้งระบบ ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาแหล่งน้ำเชิงท่องเที่ยวและเชื่อมโยงเส้นทางสู่แหล่งน้ำแก้มลิงทุ่งหิน ซึ่งเป็นโครงการที่มีความสำคัญในการพัฒนาเป็นแหล่งเก็บกักน้ำและแหล่งสำรองน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค และรองรับความต้องการใช้น้ำประปาของประชาชน ผู้ประกอบการ และภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม ได้อย่างเพียงพอ ตลอดจนก่อให้เกิดประโยชน์ ด้านความมั่นคงด้านการใช้น้ำ โดยให้กรมชลประทานดำเนินการขุดดินบริเวณแก้มลิงทุ่งหินในระดับความลึก ๕ เมตร และลักษณะของอ่างแก้มลิง ให้มีความลาดเอียงและความชันแบบขั้นบันได เพื่อป้องกันการสไลด์ของดิน พร้อมกับ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินผลและทดสอบคุณภาพของน้ำและระดับความเค็มของน้ำของแก้มลิงทุ่งหิ น เพื่อศึกษาและประเมินความเหมาะสมของระดับความลกึ ของแก้มลิงทุ่งหิน ในการรองรับความจุสำหรับการเก็บกักน้ำ ของแก้มลิงท่งุ หินประมาณ ๑๕ ล้านลูกบาศก์เมตร ๒๒. กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับภารกิจด้านแหล่งน้ำ ศึกษาแนวทางการ ป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็ม โดยศึกษาความเหมาะสมการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำเค็มบริเวณแหลมผักเบี้ย – แหลมแท่น มีความกว้างของเขื่อนประมาณ ๑ กิโลเมตร และมีความยาวของเขื่อนระยะทาง ๘ – ๑๐ กิโลเมตร และมีเนื้อที่ ประมาณ ๘๐ – ๙๐ ตารางกิโลเมตร เพื่อรองรับการเก็บกักน้ำจืดในปริมาณ ๓๐,๐๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอาศยั หลักการผลกั ดนั น้ำเคม็ และทำให้นำ้ จืดมมี ากขึ้นในพ้ืนที่ ๒๓. กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรพิจารณาการสร้างฝาย กั้นน้ำเป็นระยะ ๆ โดยติดตั้งระบบท่อส่งน้ำไปยังพื้นที่การเกษตรตลอดจนเพื่อชะลอการไหลของน้ำในฤดูน้ำหลาก และเกบ็ กกั น้ำไว้ใชป้ ระโยชนใ์ นฤดแู ลง้
๗๓ กรมเจ้าทา่ ๑. กรมเจา้ ท่าควรพิจารณาอนญุ าตใหส้ ามารถสร้างฝายน้ำล้นลำภาชี เพ่อื ชะลอการไหลของน้ำ ในลำภาชีและลุ่มน้ำสาขา โดยยกเว้นข้อกำหนดของกรมเจ้าทา่ เกี่ยวกับการสร้างฝายน้ำล้น โดยไม่ต้องมีประตู ทางเดนิ เรอื สญั จร (SHIP LOCK) เน่อื งจากแม่น้ำลำภาชีบริเวณดังกลา่ วไมม่ ีการสญั จรทางน้ำโดยเรอื หรอื แพซงุ ๒. กรมเจ้าท่าควรดำเนินการขุดลอกร่องน้ำปากคลองปากมาบ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง สมทุ รสงคราม เพ่อื ประโยชน์ในการบรหิ ารจัดการแหลง่ น้ำและความเชอื่ มโยงของลุ่มน้ำแม่กลองตลอดจนแก้ไข ปัญหาความต้นื เขินของร่องนำ้ ดังกลา่ วทมี่ ีดินสะสมเปน็ ระยะเวลายาวนาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแหง่ ประเทศไทย - การไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแห่งประเทศไทยควรจดั ทำแผนพัฒนาแหลง่ น้ำ เพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการเกบ็ กัก น้ำต้นทุนจากการระดับการเก็บกักน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ ๑๘๐ เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง และเขื่อนวชิราลงกรณ กลมุ่ ลมุ่ น้ำ ๑๕๕ เมตร ระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยการก่อสร้างฝายขนาดกลางและขนาดเล็กตามเส้นทางน้ำไหลลงสู่ ภาคตะวนั ตก อา่ งเกบ็ นำ้ เพื่อชะลอการไหลของนำ้ ซ่ึงจะทำให้สามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้มากขึ้น การประปาส่วนภมู ภิ าค - มาตรการระยะเร่งด่วนของการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อผลิตน้ำประปาควรให้การประปาส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการผลักดัน สนับสนุนการจัดสรรงบประมาณและเร่งรัดการก่อสร้าง โรงผลติ น้ำประปา ขนาด ๒๕๐ ลกู บาศกเ์ มตรต่อชัว่ โมง และการใชน้ ้ำดิบจากเขอ่ื นแมก่ ลอง ล่มุ นำ้ แมก่ ลอง (คลองสง่ นำ้ ๑๙ ซ้าย โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาราชบุรีฝั่งขวา) เพื่อจัดหาแหล่งสำรองน้ำดิบในการผลิตน้ำประปา และให้บรกิ ารนำ้ ประปาแก่ประชาชนในพ้ืนทจ่ี งั หวัดสมทุ รสงคราม จังหวดั ประจวบคีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ควรเป็นหน่วยงานหลักดำเนินโครงการร่วมกับกรมชลประทาน ในการพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการกำจัดวัชพืช การขุดลอกลำราง เพื่อเพิ่มพื้นที่ความจุเก็บกักน้ำและก่อสร้างคันกั้นน้ำ รวมถึงการสร้าง ฝายน้ำล้นและฝายเก็บน้ำเพื่อใช้เป็นแก้มลิงรองรับน้ำจากการผันน้ำจากเขื่อนปราณบุรี ตลอดจนการก่อสร้าง สะพานยกระดับบริเวณศูนย์ธรรมชาติบึงบัว อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพัฒนา แหล่งเกบ็ กกั น้ำและเป็นแหล่งท่องเทีย่ วเชิงอนรุ กั ษ์ ๒) สรุปการเดนิ ทางศึกษาดูงาน ลำดบั สถานท่ีศกึ ษาดูงาน วันที่ หนา้ ครง้ั ที่ ๑ จังหวดั เพชรบรุ แี ละจงั หวดั วันที่ ๑๘ - ๒๐ มกราคม ๒๕๖๓ หนา้ ๓๒- ๓๙ ประจวบครี ขี ันธ์ วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ หน้า ๓๓ ๑. ท่วี ่าการอำเภอหนองหญ้าปล้อง จังหวดั วนั ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ หน้า ๓๓ เพชรบุรี วนั ที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ หน้า ๓๓ ๒. อา่ งเก็บนำ้ หว้ ยแม่ประจนั ต์ วันท่ี ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ หน้า ๓๓ ๓. อา่ งเก็บนำ้ สะแกงาม วันท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๖๓ หน้า ๓๕ ๔. อา่ งเก็บนำ้ หนองเปราะ ๕. เขอื่ นปราณบรุ ี จงั หวัดประจวบครี ีขนั ธ์
๗๔ ลำดบั สถานท่ศี กึ ษาดงู าน วันที่ หน้า ๖. ศูนยศ์ ึกษาธรรมชาตบิ ึงบวั อุทยานแหง่ ชาติ วันท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๖๓ หน้า ๓๕ หนา้ ๓๕ เขาสามร้อยยอด จงั หวดั ประจวบคีรขี ันธ์ วันท่ี ๑๙ มกราคม ๒๕๖๓ หน้า ๗๗ – ๗. อ่างเก็บนำ้ ยางชมุ จงั หวดั ประจวบคีรีขันธ์ วันที่ ๓ - ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ๑๑๖ ครง้ั ที่ ๒ จังหวัดราชบรุ แี ละจังหวดั กาญจนบรุ ี หน้า ๗๘ หน้า ๘๗ กลุ่มลุม่ น้ำ ๑. ภูผาผึง้ รีสอร์ท จังหวัดราชบรุ ี วันท่ี ๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ หน้า ๙๐ ภาคตะวนั ตก ๒. แม่นำ้ ลำภาชี หมู่ ๓ ตำบลปา่ หวาย วันท่ี ๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ หน้า ๑๑๓ ๓. อำเภอสวนผงึ้ จังหวดั ราชบุรี วนั ที่ ๓ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ หน้า ๑๑๔ ๔. ลำหว้ ยบ่อ หมู่ท่ี ๑,๒ ตำบลสวนผง้ึ วันท่ี ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ หน้า ๓๙ – ๕. อำเภอสวนผ้งึ จังหวดั ราชบุรี วันที่ ๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๓ ๔๓ ครั้งท่ี ๓ อ่างเก็บน้ำห้วยกระพร้อย จงั หวัดกาญจนบรุ ี วันท่ี ๑๖ - ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓ หน้า ๔๐ อา่ งเก็บน้ำลำอีซู จังหวัดกาญจนบุรี หน้า ๔๑ จังหวดั ประจวบคีรขี นั ธ์ หนา้ ๑๑๘ - ๑๒๙ ๑. โครงการฝายทดนำ้ พร้อมอาคารประกอบ วนั ท่ี ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๓ หนา้ ๑๑๘ สำนกั สงฆ์พุทธสงิ ขร จงั หวัดประจวบครี ขี ันธ์ หนา้ ๑๒๓ ๒. อุทยานแหง่ ชาติกยุ บรุ ี จงั หวัด วันที่ ๑๖ มนี าคม ๒๕๖๓ หน้า ๑๒๙ ประจวบคีรขี นั ธ์ หน้า ๑๒๙ ครง้ั ท่ี ๔ จังหวดั กาญจนบรุ ี วันที่ ๒๙ - ๓๐ มถิ นุ ายน ๒๕๖๓ หนา้ ๑๒๙ – ๑๔๐ ๑. เขอื่ นวชริ าลงกรณ จังหวดั กาญจนบรุ ี วนั ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ หนา้ ๑๓๐ ๒. โครงการก่อสรา้ งเข่ือนบ้านจันเดย์ วนั ที่ ๒๙ มถิ ุนายน ๒๕๖๓ หนา้ ๑๓๖ วันท่ี ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๖๓ อำเภอทองผาภูมิ จงั หวดั กาญจนบุรี วนั ท่ี ๓๐ มิถนุ ายน ๒๕๖๓ ๓. คลองจรเข้สามพัน อำเภอพนมทวน วนั ที่ ๒๔ สงิ หาคม ๒๕๖๓ จงั หวดั กาญจนบรุ ี ๔. คลองระบายน้ำปากคลองจรเขส้ ามพัน ครัง้ ที่ ๕ จงั หวัดสมุทรสงคราม ๑. แกม้ ลงิ ทุ่งหนิ วันท่ี ๒๔ สงิ หาคม ๒๕๖๓ ๒. ปากคลองปากมาบ อำเภอเมือง วันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ สมทุ รสงคราม
๗๕ ๓) ภาพการลงพนื้ ทศ่ี กึ ษาดูงาน กลุ่มลุ่มน้ำ ภาคตะวนั ตก คณะกรรมาธิการวิสามญั และคณะอนุกรรมาธิการเดินทางไปศึกษาดูงานเกี่ยวกบั การบริหารจัดการ ลุ่มน้ำเพชรบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันเสาร์ที่ ๑๘ ถึงวันจันทร์ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดเพชรบุรี และจงั หวดั ประจวบคีรขี ันธ์ โดยได้ลงพน้ื ทีส่ ำรวจและศึกษาดงู านแหล่งเกบ็ กักนำ้ ตา่ ง ๆ ซง่ึ พบปัญหาอ่างเก็บน้ำ ห้วยแม่ประจันต์ ซึ่งแต่เดิมส่วนราชการท่ีเกี่ยวข้องดำเนินการขุดลอกตื้นเขินกว่าลำห้วยเดิมทำให้ไม่สามารถเก็บกัก นำ้ ไว้ใช้ในฤดูแล้ง และอ่างเก็บน้ำสะแกงามมีการร่ัวซมึ ไมส่ ามารถเก็บกักน้ำได้ รวมถึงอา่ งเกบ็ น้ำหนองเปราะมีปัญหา เกี่ยวกับระบบท่อส่งน้ำของอ่างเก็บน้ำไม่สามารถกระจายน้ำให้ประชาชนได้อย่างทั่วถึง นอกจากน้ี คณะกรรมาธิการวิสามัญและคณะอนุกรรมาธิการเดินทางไปศึกษาดูงานเพื่อสำรวจแหล่งน้ำธรรมชาติ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีข้อเสนอแนะให้ กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนและดำเนินมาตรการเร่งด่วนเกี่ยวกับการเพิ่มความจุของ อ่างเก็บน้ำ การปรับปรุงซ่อมแซมอ่างเก็บน้ำที่รั่วซึมและระบบท่อส่งน้ำที่มีความชำรุดให้สามารถใช้งานได้ ตามปกติ รวมถึงเพม่ิ และขยายระบบกระจายน้ำจากอา่ งเก็บนำ้ ให้ครอบคลุมทุกพืน้ ที่ในกล่มุ ลุม่ นำ้ ภาคตะวันตก ตลอดจนสำรวจพื้นที่แหล่งน้ำตามธรรมชาติเพื่อพัฒนาให้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำขนาดกลางและขนาดใหญ่ เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ การสร้างแหล่งเก็บกักน้ำ การเพิ่มความจุ การขุดคลองระบายน้ำ ในแต่ละจังหวัดในพื้นที่กลุ่มลุ่มน้ำภาคตะวันตก ควรคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ด้วย โดยให้มี กระบวนการสร้างความเข้าใจ การมสี ่วนร่วมของประชาชน การทำประชาพจิ ารณ์ และการสำรวจความคิดเห็น ของประชาชนเพ่ือลดข้อพพิ าทระหวา่ งประชาชนกับหน่วยงานของรฐั
๗๖ กลมุ่ ลุม่ นำ้ ภาคตะวนั ตก คณะกรรมาธิการวิสามัญและคณะอนุกรรมาธิการเดินทางไปศึกษาดูงานการบริหารจัดการลุ่มน้ำแม่กลอง โครงการพัฒนาระบบเก็บกักน้ำและการบริหารจัดการลุ่มน้ำลำภาชี ระหว่างวันจันทร์ที่ ๓ ถึงวันอังคารที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ณ จังหวดั ราชบุรแี ละจังหวดั กาญจนบรุ ี ซึง่ ในลุ่มน้ำลำภาชีพบปัญหาการขอใชพ้ ื้นท่ีเพ่ือก่อสร้าง อ่างเก็บน้ำ ฝายน้ำล้น หากอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์จะต้องดำเนินการขออนุญาตหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลพื้นท่ี เช่น พื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ พื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบดูแลของกรมป่าไม้ และพื้นที่ราชพัสดุของกรมธนารกั ษ์ ซงึ่ มอบหมายให้กรมการทหารชา่ งหรือกองพลพัฒนาที่ ๑ ดูแลรับผิดชอบพื้นท่ีซ่ึงกระบวนการพิจารณาขอใชพ้ ื้นที่ใช้ ระยะเวลานาน ซึ่งได้มีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการทำงานร่วมกันในการพิจารณาอนุญาต ให้ใชพ้ ื้นทใี่ นการพัฒนาแหล่งเกบ็ กักน้ำ เพ่อื ประโยชนด์ ้านการอปุ โภคบรโิ ภคและการเกษตรของประชาชนในพ้ืนท่ี โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการจังหวัดราชบุรีและให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ ขนาดกลางในพื้นที่ลุ่มน้ำลำภาชี ให้มีจำนวนมากขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำต้นทุนในการใช้อุปโภคบริโภค และการเกษตรในฤดูแล้งและรองรับน้ำไว้ใช้ในฤดูฝนและก่อสร้างแนวป้องกันการกัดเซาะตลิ่งสองฝ่ังท้ายน้ำบริเวณ ลุ่มน้ำลำภาชีตอนล่าง นอกจากนี้ ในส่วนของลุ่มน้ำแม่กลองได้มีข้อเสนอแนะ ให้กรมชลประทานดำเนินการสำรวจ และออกแบบโครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ ทั้งน้ี ใหก้ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาจัดสรรงบประมาณ โดยเสนอขออนุมตั ิงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเปน็ พ.ศ. ๒๕๖๔ จากคณะรฐั มนตรี
๗๗ กล่มุ ล่มุ นำ้ ภาคตะวันตก คณะกรรมาธิการวสิ ามัญและคณะอนุกรรมาธิการเดินทางไปศึกษาดูงานเก่ียวกับแนวทางการบริหารจัดการ ลุ่มน้ำแม่กลองในการผันน้ำไปยังลุม่ น้ำเจา้ พระยาพร้อมระบบกระจายนำ้ ไปยังพ้ืนที่ทีร่ ับประโยชน์ ระหว่างวันจนั ทรท์ ี่ ๒๙ ถงึ วันองั คารที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ณ จงั หวัดกาญจนบุรี ซ่ึงได้มีข้อเสนอแนะให้กรมชลประทานเพ่ิมศักยภาพ ในการระบายน้ำประตูระบายน้ำปากคลองผันน้ำจรเข้สามพันจากเดิม ๕๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น ๑๐๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ควบคู่กับการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยให้กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ การประปาส่วนภูมิภาค และการประปานครหลวง ศึกษาความเหมาะสมในการ พิจารณาแนวทางอื่น ๆ นอกเหนือจากวิธีการผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ โดยกำหนดการวางระบบท่อสูบน้ำหรือก่อสร้าง สถานีสูบน้ำโดยตรงจากน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาหรือลุ่มน้ำแม่กลองในการลำเลียงน้ำดิบจากแหล่งน้ำดังกล่าวมา ผลิตน้ำประปาในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำเค็มที่มีผลต่อการผลิตน้ำประปาของสถานี ประปาสำแลและยังช่วยลดการสูญเสียน้ำในปริมาณมากจากวิธีการผันน้ำเพื่อผลักดันการรุกล้ำน้ำเค็ม นอกจากน้ี คณะกรรมาธิการวิสามัญและคณะอนุกรรมาธิการเดินทางไปศึกษาดูงานโครงการแก้มลงิ ทุ่งหนิ ณ จังหวัดสมุทรสงคราม ซ่ึงได้มีข้อเสนอแนะให้กรมชลประทานดำเนนิ การขุดดินบริเวณแก้มลิงทุ่งหินในระดบั ความลึก ๕ เมตร และลักษณะ ของอ่างแก้มลิง ให้มีความลาดเอียงและความชันแบบขั้นบันได เพื่อป้องกันการสไลด์ของดิน พร้อมกับให้หน่วยงาน ทเ่ี กย่ี วขอ้ งประเมนิ ผลและทดสอบคุณภาพของน้ำที่เก่ียวข้องในแก้มลิงทงุ่ หิน เพ่ือศกึ ษาและประเมินความเหมาะสม ของระดบั ความลึกของแก้มลิงทงุ่ หนิ ในการรองรับความจุสำหรับการเกบ็ กักน้ำของแกม้ ลงิ ทงุ่ หินประมาณ ๑๕ ลา้ นลกู บาศก์เมตร
๗๘ ๔) แผนท่กี ลุ่มลุ่มนำ้ ภาคตะวันตก กลมุ่ ลุ่มน้ำ ภาคตะวันตก แผนท่แี สดงขอบเขตลุ่มนำ้ แม่กลอง
๗๙ กลุ่มลุ่มน้ำ ภาคตะวนั ตก แผนทแี่ สดงขอบเขตลุ่มนำ้ เพชรบรุ ี
๘๐ กลมุ่ ลุ่มน้ำ ภาคตะวันตก แผนทแ่ี สดงขอบเขตล่มุ นำ้ ชายฝัง่ ทะเลประจวบคีรขี นั ธ์
๘๑ ๓.๖ กลุม่ ลุ่มนำ้ ภาคใต้ กลุ่มลมุ่ น้ำ ๑) ข้อสงั เกต ภาคใต้ หน่วยงานปฏิบัติ (Operator) กระทรวงมหาดไทย ๑. กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานเจ้าของโครงการ พิจารณาดำเนินการชี้แจงเหตุผล การดำเนินโครงการ และสร้างความเข้าใจต่อประชาชนหรือกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ ในด้านวัตถุประสงค์ ของโครงการ ด้านผลประโยชน์ของโครงการ ด้านความต้องการใช้น้ำตามบริบทของสังคมและวิถีชีวิตของ ประชาชนในพ้ืนท่ี และด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน อยา่ งแทจ้ รงิ ได้แก่ (๑) โครงการอ่างเกบ็ นำ้ คลองลำรใู หญ่ จังหวัดพงั งา (กรมชลประทาน) (๒) โครงการขุดลอกแนวร่องน้ำกลางทะเลสาบ เพื่อการพัฒนาฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา ตอนล่าง มีความยาว ๑๓.๕๕๐ กิโลเมตร ความกวา้ งร่องนำ้ ๑๒๐ เมตร ความลึก ๔ เมตร (กรมเจา้ ทา่ ) (๓) โครงการอา่ งเก็บน้ำคลองช้าง จังหวดั สตลู (กรมชลประทาน) (๔) โครงการอา่ งเก็บนำ้ ลำพะยา อันเนอื่ งมาจากพระราชดำริ จังหวัดยะลา (กรมชลประทาน) (๕) โครงการพัฒนาล่มุ นำ้ สายบุรตี อนล่าง อนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ จังหวดั ยะลา (กรมชลประทาน) ๒. กระทรวงมหาดไทยดำเนินการให้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาดำเนินการ กำหนดโครงสร้างและเพิม่ อตั รากำลงั บคุ ลากรทมี่ ีความร้เู ฉพาะด้าน สำหรับดูแลภารกิจดา้ นแหลง่ น้ำทีไ่ ด้รบั การถ่ายโอน ๓. กระทรวงมหาดไทยควรดำเนินการกรณีงานพัฒนาแหล่งน้ำที่มีปริมาตรเก็บกักน้อยกว่า ๒ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินศักยภาพด้านบุคลากร เครื่องจักร และเครื่องมือ ต้องมอบให้หน่วยงานส่วนกลาง ตามภารกิจ เชน่ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรนำ้ เปน็ หน่วยดำเนินการ กระทรวงมหาดไทย และสถาบนั อุดมศกึ ษา - กระทรวงมหาดไทยควรดำเนนิ การรว่ มกับสถาบันอดุ มศึกษาท่ีมีการเรยี นการสอนดา้ นแหล่งน้ำ และกรมชลประทาน พิจารณาดำเนนิ การพฒั นาหลักสูตรการอบรมงานด้านแหล่งนำ้ ที่เหมาะสมสำหรับองค์กร ปกครองส่วนท้องถิน่ กระทรวงมหาดไทย และกรมชลประทาน - กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกรมชลประทาน พิจารณาดำเนินการจัดทำแผนดำเนินการสร้าง ความเขา้ ใจให้กบั ประชาชนทีไ่ ด้รับผลกระทบจากพืน้ ท่ีนำ้ ทว่ มในอ่างเก็บนำ้ บา้ นหวั แหลมกลาง จังหวัดกระบี่ กระทรวงมหาดไทย และกรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั ว์ปา่ และพนั ธ์ุพืช - กระทรวงมหาดไทยรว่ มกับกรมอุทยานแหง่ ชาติ สัตว์ปา่ และพันธุ์พืช ควรพิจารณาดำเนินการ สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างคันกั้นน้ำต่าง ๆ ในป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพ่อื รกั ษาระดับน้ำให้เพิ่มขนึ้ พร้อมพิจารณาจัดทำแผนการจัดหาที่ดินทำกินแห่งใหม่ (หากจำเป็น) ทัง้ น้ี ให้กระทรวงมหาดไทย เบิกจา่ ยคา่ ตอบแทน และค่าใชจ้ า่ ยในการดำเนนิ งานจากหนว่ ยงานเจ้าของโครงการ ศูนย์อำนวยการบรหิ ารจังหวดั ชายแดนภาคใต้ - ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรพิจารณาขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี โครงการพัฒนาลุ่มน้ำสายบุรี กรณีหากมีความจำเป็นต้องดำเนินการโครงการต่อ และหากไม่สามารถพัฒนา แหล่งน้ำในลำน้ำสายหลักได้ ให้พัฒนาแหล่งน้ำในลำน้ำสาขาแทน เช่น อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ทั้งน้ี ต้องขอความเห็นชอบของประชาชนในพื้นที่ก่อนดำเนินการ
กลุ่มลุ่มนำ้ ๘๒ ภาคใต้ สำนกั งบประมาณ ๑. สำนักงบประมาณ พิจารณาดำเนินการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับการถ่าย โอนภารกิจ เป็นหน่วยงานรับงบประมาณ สามารถขอรับจัดสรรงบประมาณเพื่อบำรุงรักษา และให้สำนัก งบประมาณ พจิ ารณาดำเนนิ การสนับสนุนแนวทางและเตรียมความพร้อมในการจัดทำรายละเอียดการขอรับ งบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ๒. สำนักงบประมาณ พิจารณาดำเนินการจัดสรรงบประมาณและกำหนดให้กรมป่าไม้ และกรม อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นหน่วยงานรับงบประมาณ เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ ร่วมกับชุมชนท้ายน้ำ และกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานรับ งบประมาณ เพ่ือสนับสนนุ การก่อสร้างฝายชะลอนำ้ ในพ้ืนทีต่ อนลา่ งในลำนำ้ สาขา รว่ มกบั ชมุ ชนในพ้ืนที่ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม ๑. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาดำเนินการศึกษา สำรวจ จัดทำผังป่าพรุ พื้นที่รอบข้าง จัดทำแนวเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) และพิจารณาออกแบบรายละเอียด การอนุรักษ์ ปรับปรุง ฟื้นฟู ป่าพรุควนเคร็ง โดยให้ความสำคัญทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์ของประชาชน จากปา่ พรคุ วนเคร็งอย่างรอบคอบ รวมทั้งการนำนำ้ จากป่าพรุไปช่วยเหลอื พ้ืนทลี่ ุม่ นำ้ ข้างเคยี ง ทัง้ น้ี ใหม้ กี ระบวนการมี ส่วนร่วมของประชาชน และองค์กรหรือเครือข่ายด้านการอนุรักษ์ตั้งแต่เริ่มกระบวนการศึกษา และบูรณาการ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ป่าพรุ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนากับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดล้อมในพนื้ ทีอ่ ยา่ งยัง่ ยืน ๒. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พิจารณาดำเนินการศึกษา สำรวจ จัดทำผังป่าพรุ พื้นที่รอบข้าง จัดทำแนวเขตพื้นที่กันชน (Buffer Zone) และพิจารณาออกแบบรายละเอียด การอนุรักษ์ ปรับปรุง ฟื้นฟู ป่าพรุโต๊ะแดง โดยให้ความสำคัญท้ังในด้านสิ่งแวดล้อม และการใช้ประโยชน์ของประชาชน จากป่าพรุอย่างรอบคอบ รวมท้ังการนำน้ำจากป่าพรุไปช่วยเหลือพื้นที่ลุ่มน้ำข้างเคียง ท้ังน้ี ให้มีกระบวนการ มีสว่ นรว่ มของประชาชน และองค์กรหรือเครือข่ายด้านการอนุรักษ์ตัง้ แต่เร่มิ กระบวนการศึกษา และบูรณาการ กับหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องกับพื้นทีป่ ่าพรุ เพอ่ื สรา้ งความสมดุลระหว่างการพัฒนากับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ มในพ้นื ทอ่ี ย่างย่ังยนื ๓. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือเรื่องการขอ ใชพ้ ้ืนท่โี ครงการพัฒนาแหลง่ น้ำบนเกาะพยาม ในเขตปา่ สงวนแห่งชาติ และเขตอุทยานแห่งชาตเิ พ่ือให้สามารถ พจิ ารณาแหล่งน้ำ ตอบสนองต่อความต้องการและแกไ้ ขปญั หาความเดอื ดร้อนของประชาชนได้อย่างรวดเรว็ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ - กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาดำเนินการเสนอรัฐบาลเรื่องการแก้ไข ปรับปรุงวิธีการ อตั ราค่าชดเชยทีด่ ินและทรัพย์สนิ ให้มีราคาใกลเ้ คียงกบั ราคาท้องตลาด และมีความรวดเรว็ และเป็นธรรม กระทรวงอดุ มศกึ ษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม - กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พิจารณาดำเนินการศึกษาและวิจัยทาง วิชาการของฝายชะลอน้ำ ให้มีรูปแบบมาตรฐาน ตำแหน่งการวางที่เหมาะสม ความมั่นคงแข็งแรง ด้านวศิ วกรรม ผลประโยชน์ทไี่ ด้รับอย่างชดั เจน กรมชลประทาน ๑. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการจัดหาน้ำเพิ่มบนเกาะภูเก็ต ได้แก่ โครงการ เพิ่มประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ จังหวัดภูเก็ต (ปริมาณน้ำเพิ่ม ๑.๕ ล้านลูกบาศก์เมตร) โครงการ
๘๓ ระบบสูบผันน้ำบ้านโคกโตนด จังหวัดภูเก็ต (ปริมาณน้ำเพิ่ม ๑๐ ล้านลูกบาศก์เมตร) จะได้ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นรวม กล่มุ ล่มุ น้ำ ๑๑.๕ ล้านลูกบาศกเ์ มตร ภาคใต้ ๒. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษา สำรวจ ออกแบบ อ่างเก็บน้ำบ้านหัวแหลมกลาง อำเภอเกาะลนั ตาใหญ่ จงั หวัดกระบ่ี โดยเรว็ ๓. กรมชลประทานประสานองค์การบริหารสว่ นตำบลเกาะลันตานอ้ ย อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบ่ี และดำเนนิ การออกแบบสระเก็บน้ำ โดยเรว็ ๔. กรมชลประทานพิจารณาดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในแผนงานของกรมชลประทาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองธารประเวช จังหวัดสุราษฎร์ธานี และพิจารณา ดำเนนิ การสำรวจ ออกแบบ โครงการขนาดเล็กท่ีสามารถดำเนินการได้รวดเร็ว รวมทั้งการดำเนินการขุดลอกคลอง แก้มลิง ลำน้ำสาขาตา่ ง ๆ เพื่อรองรับปรมิ าณนำ้ ฝน พื้นที่เกาะพะงัน ซึ่งเป็นพืน้ ที่เศรษฐกิจสำคัญ และมีความตอ้ งการ ใช้น้ำอุปโภคบริโภคจำนวนมาก และร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อบูรณาการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค ในพื้นที่เกาะพะงัน ๕. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการสำรวจ ออกแบบ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำบนเกาะ ยาวน้อยและเกาะยาวใหญ่ จังหวดั พงั งา เพื่อสนบั สนนุ การอุปโภค-บริโภค และการทอ่ งเที่ยว ๖. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาอ่างเก็บน้ำบ้านเขาพลู อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ บนเกาะลิบง จังหวัดตรัง เนื่องจากมีรีสอร์ทจำนวนมาก ทำให้ความต้องการใช้น้ำมากและมีแนวโน้ม จะเพิ่มสงู ข้ึน ๗. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นไปตามแผนงาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองโฉลกบ้านเก่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้ทำการศึกษาความ เหมาะสมก่อนดำเนินการก่อสร้าง และร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาคเพื่อบูรณาการจัดหาน้ำอุปโภคบริโภค ในพนื้ ทีเ่ กาะเตา่ ๘. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำบนเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้เป็นไปตามแผนงาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำคลองลิปะใหญ่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี และร่วมกับการประปา ส่วนภมู ภิ าคเพอ่ื บูรณาการจัดหานำ้ อุปโภคบริโภคในพื้นที่เกาะสมยุ ๙. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการปรับปรุงและเพ่ิมประสิทธิภาพอ่างเก็บน้ำอ่าวใหญ่ บนเกาะพยาม จังหวัดระนอง ๑๐. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาแก้มลิงอ่าวใหญ่ พร้อมอาคารประกอบ บนเกาะพยาม จงั หวดั ระนอง ๑๑. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาสถานีสูบน้ำอ่าวเขาควาย พร้อมระบบส่งน้ำ บนเกาะพยาม จงั หวัดระนอง ๑๒. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาแก้มลิงอ่าวเขาควาย พร้อมอาคารประกอบ บนเกาะพยาม จงั หวดั ระนอง ๑๓. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาอ่างเก็บน้ำบ้านหินกอง ตำบลเกาะยาวใหญ่ อำเภอเกาะยาว จังหวัดพังงา โดยเก็บกกั น้ำให้เต็มศักยภาพ และบูรณาการการใชน้ ำ้ ให้ครอบคลุมทัง้ ๒ ตำบล ไดแ้ ก่ ตำบลเกาะยาวใหญ่ และตำบลพรุใน ๑๔. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการคัดเลือกโครงการพัฒนาแหล่งน้ำท่ีเคยศึกษาไว้ เบื้องต้น บนเกาะยาวน้อยและเกาะยาวใหญ่ โดยคัดเลือกให้เป็นโครงการที่มีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมน้อยท่ีสดุ
กล่มุ ลุ่มนำ้ ๘๔ ภาคใต้ ๑๕. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาลุ่มน้ำสาขาในคลองกระบี่ใหญ่ เพื่อบริหาร จัดการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในเขตอำเภอเมืองกระบี่ เทศบาลเมืองกระบี่ ตำบลกระบี่น้อย ตำบลกระบี่ใหญ่ ตำบลทบั ปริก และล่มุ น้ำสาขาคลองลาวเพ่ืออุทกภัยในเขตพนื้ อำเภออา่ วลึก จังหวัดกระบี่ โดยขดุ คลองเลย่ี งเมือง ๑๖. กรมชลประทานควรพจิ ารณาดำเนินการขดุ ลอกคลองชะอวด – แพรกเมอื ง แมน่ ำ้ ปากพนังและ คลองสาขาตา่ ง ๆ ท่ตี น้ื เขนิ เพอื่ ใหม้ นี ำ้ เกบ็ กกั ไวใ้ ช้ในฤดูแล้งและระบายน้ำได้สะดวกในช่วงฤดูฝน ๑๗. กรมชลประทานควรพิจารณาเร่งรัดดำเนินการเพ่ิมความจุเก็บกักอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส อำเภอชะอวด จังหวดั นครศรธี รรมราช ๑๘. กรมชลประทานควรพิจารณาร่วมกับภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อกำหนดเกณฑ์การบริหาร จัดการน้ำใหช้ ัดเจน ๑๙. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการจัดหาน้ำเพื่อการเกษตร ช่วยเหลือพื้นที่ ส.ป.ก. ท่ีอยใู่ นปา่ พรคุ วนเครง็ จงั หวัดนครศรีธรรมราช ๒๐. กรมชลประทานควรพิจารณาศึกษาแก้มลิงเชื่อมโยงกับคลองระบายน้ำ โครงการบรรเทา อุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อสำรองน้ำดิบให้กับการประปาเทศบาล นครนครศรธี รรมราชและองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่ินขา้ งเคียง ๒๑. กรมชลประทานควรพิจารณาการดำเนินการโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งไม่เข้าข่ายตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่จะต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบ สิ่งแวดล้อม (EIA) แต่เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate change) อาจเกิดปัญหาภัยแล้ง ตามมาในอนาคต และอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว ดังนั้น จึงควรพิจารณาถึงเรื่องการ เปลยี่ นแปลงของสภาพภมู ิอากาศ (Climate change) อย่างละเอยี ดรอบคอบ ๒๒. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำเพิ่มเติม ตามแผนงาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำ คลองโคกยาง อ่างเก็บน้ำคลองถ้ำพระ และอ่างเก็บน้ำคลองลาไม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้มีแหล่งน้ำ ต้นทนุ เกบ็ ไวใ้ ช้ในชว่ งฤดแู ล้ง หรอื ในระยะท่ีฝนทิ้งชว่ ง และช่วยบรรเทาอุทกภัยพ้นื ที่ทา้ ยน้ำ ๒๓. กรมชลประทานควรพิจารณาขุดขยายคลองเพื่อเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำและการระบายน้ำ บรเิ วณคลองอาทติ ย์ อำเภอสทงิ พระ คลองสายยู และคลองเปรม อำเภอสงิ หนคร จงั หวดั สงขลา ๒๔. กรมชลประทานควรพิจารณาหาพื้นที่เก็บกักน้ำ ๑๐๐ ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหา การขาดแคลนน้ำบรเิ วณคาบสมทุ รสทิงพระ ๒๕. กรมชลประทานควรพิจารณาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างฝายพับได้ ความยาวประมาณ ๕๐๐ เมตร ที่ตำบลปากรอ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นจุดที่แคบที่สุด เพื่อควบคุมและบริหารจัดการน้ำเค็ม และน้ำกร่อย ๒๖. กรมชลประทานควรพิจารณาความเหมาะสมการทำคันกั้นน้ำ โครงการแก้มลิงคาบสมุทรสทิงพระ จังหวัดสงขลา เพื่อการเก็บกักน้ำจืดและป้องกันน้ำท่วมให้เกษตรกรพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ทั้ง ๔ อำเภอ ได้แก่ อำเภอระโนด อำเภอกระแสสนิ ธุ์ อำเภอสทงิ พระ และอำเภอสิงหนคร ๒๗. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการเร่งรัดพัฒนาอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ต้นน้ำของลุ่มน้ำ ทะเลสาบสงขลา ในพน้ื ที่จังหวัดพัทลุง ไดแ้ ก่ อา่ งเกบ็ น้ำคลองใหญ่ และอา่ งเก็บน้ำเขาแกว้ เพื่อชว่ ยบรรเทาภัยแล้ง และอทุ กภัยในพ้ืนทีล่ มุ่ น้ำคลองนาทอ่ ม และลุ่มน้ำคลองท่าแนะ ๒๘. กรมชลประทานควรพิจารณาการใช้ประโยชน์จากคลองลำเบ็ดทั้งการบรรเทาอุทกภัยและการขาดแคลนน้ำ ๒๙. กรมชลประทานควรปรบั ปรงุ โครงการท่าเชียด เพื่อใหเ้ กษตรกรได้รบั นำ้ อย่างทว่ั ถงึ และเป็นธรรม ๓๐. กรมชลประทานควรเพิ่มระบบการส่งน้ำขนาดเล็กให้ครอบคลุมพื้นที่เกษตรอย่างทั่วถึง ในจงั หวดั พัทลุง ท้ังน้ี ต้องเปน็ ไปตามกฎหมาย
๘๕ ๓๑. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการเร่งรัดพัฒนาอ่างเก็บน้ำคลองลำแซง อำเภอรัตภูมิ กลุม่ ลุม่ น้ำ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลาแล้ว ยังจะสามารถช่วยบรรเทา ภาคใต้ การขาดแคลนนำ้ ในพ้นื ท่อี ำเภอสทงิ พระ อำเภอกระแสสินธ์ุ และอำเภอระโนด จังหวดั สงขลา ๓๒. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการผันน้ำจากคลอง ร.๑ มาเติมน้ำในป่าพรุบางกล่ำ ให้เป็นแหล่งน้ำจืดเพื่อการอุปโภค บริโภค หรือการเกษตร หากน้ำในป่าพรุบางช่วงเวลาเป็นน้ำเปรี้ยว จะเป็นการทำลายระบบนิเวศของป่าพรุ จึงควรหาแหล่งน้ำจากที่อื่น เช่น ผันน้ำจากคลอง ร.๑ มาเพื่อแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และการเกษตร ของราษฎรในพื้นที่ตำบลบางกล่ำ ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นท่ี ปา่ พรุบางกลำ่ เพยี ง ๔๐๐ เมตร ๓๓. กรมชลประทานร่วมกับหนว่ ยงานทเี่ กย่ี วข้องควรพิจารณาดำเนินการศกึ ษาความเหมาะสมและ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการรุกตัวของน้ำเค็มมีความรุนแรงมาก ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ (Climate change) ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในคาบสมุทรสทิงพระ โดยมีการเสนอการ แก้ไขปัญหาหลากหลายรูปแบบ จึงเห็นควรพิจารณากักเก็บน้ำในทะเลสาบสงขลาในรูปแบบที่เหมาะสม ไม่สง่ ผลกระทบตอ่ ส่ิงแวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสังคม ๓๔. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการเบี่ยงทางน้ำลงคลองบริเวณตำบลคอหงส์ ตำบลน้ำน้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพอื่ เพ่ิมประสทิ ธภิ าพการระบายนำ้ ๓๕. กรมชลประทานควรพจิ ารณาดำเนินการก่อสรา้ งทางระบายน้ำล้น หรือ (spillway) อา่ งเก็บน้ำ คลองสะเดา (ห้วยคู) อำเภอสะเดา และอา่ งเกบ็ น้ำในพน้ื ท่ีอำเภอสะเดา จังหวดั สงขลา เพม่ิ เติม ๓๖. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการขุดลอก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำคลอง ท่าช้าง - บางกล่ำ และคลองอู่ตะเภา ใหย้ าวทะลอุ อกสู่ทะเล เพือ่ เรง่ การระบายนำ้ ๓๗. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนนิ การเร่งรัดการก่อสรา้ งอ่างเก็บน้ำลำพะยา อันเน่ืองมาจาก พระราชดำริ จังหวดั ยะลา ใหเ้ ป็นไปตามแผน ๓๘. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาอ่างเก็บน้ำคลองเบตง จังหวัดยะลา เพื่อบรรเทา อุทกภัยในเขตลุ่มน้ำคลองเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นแหล่งน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาแก่เทศบาล ตำบลเบตง และสนับสนนุ การขับเคล่ือนโครงการเมืองตน้ แบบ “สามเหลี่ยม ม่นั คง มัง่ คัง่ ยงั่ ยืน” ๓๙. กรมชลประทานควรพจิ ารณาดำเนินการพัฒนาโครงการประตูระบายน้ำกรงปนิ งั จังหวดั ยะลา เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำในลุ่มน้ำปัตตานีและข้างเคียงด้านท้ายเขื่อนบางลาง โดยพัฒนาระบบ กระจายน้ำให้มีความเหมาะสมเต็มศักยภาพพื้นที่ชลประทานจำนวน ๕๐,๔๕๕ ไร่ เป็นแหล่งสนับสนุนน้ำ เพ่ือการอุปโภค-บรโิ ภคของประชาชน และบรรเทาความเสียหายเน่อื งจากอทุ กภยั ในพ้ืนท่โี ครงการ ๔๐. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาโครงการพัฒนาลุ่มนำ้ สายบุรี เพ่ือส่งน้ำให้พื้นที่ เพาะปลูกสองฝั่งของแม่น้ำสายบุรี จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส เพื่อให้ราษฎรในเขต โครงการสามารถทำการเพาะปลูกได้ตลอดปี และยังช่วยราษฎรในเขตโครงการจรดชายทะเลมีน้ำจืดไว้ใช้ เพ่อื การอุปโภคบรโิ ภคตลอดปี ๔๑. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษาโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและ เพิ่มประสิทธิภาพการบรหิ ารจดั การน้ำล่มุ นำ้ บางนรา จงั หวดั นราธิวาส โดยมกี ิจกรรม ได้แก่ การปรบั ปรงุ ประตู ระบายน้ำคลองน้ำแบ่งพร้อมขุดขยายคลองน้ำแบ่ง การก่อสร้างสถานีผลักดันน้ำที่คลองน้ำแบ่งเพื่อเร่ง การ ระบายน้ำ การพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำบางนรา และการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ควรเพิ่มการศึกษากรณี การกัดเซาะชายฝั่ง เนื่องจากมีการทำประตูระบายน้ำ อาจทำให้เกิดการกัดเซาะชายฝั่งบรเิ วณฝั่งทศิ เหนือของ ประตรู ะบายนำ้ ได้
กลมุ่ ลุม่ น้ำ ๘๖ ภาคใต้ ๔๒. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษาโครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่ม ประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำคลองยะกัง จังหวัดนราธิวาส โดยมีกิจกรรม ได้แก่ การขุดคลองเชื่อม (ช่องลัด) บริเวณคลองยะกังที่คดเคี้ยวเพื่อเร่งการไหลของน้ำ การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ และการพัฒนาแหล่ง น้ำเพื่อเกบ็ กักน้ำเพอ่ื สำรองนำ้ ไว้สำหรบั การอปุ โภค-บริโภคของจังหวัดนราธิวาส ๔๓. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาระบบส่งน้ำจากแม่น้ำสายบุรี เพื่อช่วยเหลือ พื้นท่ี อำเภอรอื เสาะ อำเภอกะพ้อ อำเภอบาเจาะ อำเภอยงี่ อ และพื้นที่รอบเขาบโู ด และระบบสง่ น้ำจากแม่น้ำ ปัตตานี เพ่ือช่วยเหลอื พน้ื ท่ี ตำบลโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา ๔๔. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาแก้มลิงบริเวณอำเภอแว้ง และอำเภอสุไหงโก-ลก จงั หวัดนราธิวาส ๔๕. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาคลองผันน้ำเชื่อมแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี เพื่อการบรหิ ารจัดการ ๔๖. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำคลองน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง และศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอ่างเก็บน้ำคลองทุ่งตาพล อำเภอละอุ่น จงั หวัดระนอง โดยใหเ้ สนอขออนุมัติงบประมาณโดยเร็ว ๔๗. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษาและติดตั้งระบบการควบคุมในระยะไกล ผ่านระบบเครือข่ายคมนาคม (SCADA) เพ่ือควบคุมการปดิ – เปดิ ประตรู ะบายน้ำ โครงการปอ้ งกันและบรรเทา อทุ กภัยเมืองชมุ พร ให้มปี รมิ าณนำ้ ในคลองทเ่ี หมาะสม และบริหารจัดการได้อยา่ งรวดเรว็ ๔๘. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษาประตูป้องกันน้ำเค็มในเขตอำเภอเมืองระนอง และอำเภอกระบรุ ี ๔๙. กรมชลประทานควรพจิ ารณาดำเนินการพฒั นาฝายดักตะกอนคลองพงั งาแห่งที่ ๑ จงั หวัดพังงา (บริเวณหลงั การประปาส่วนภมู ิภาค) ๕๐. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาอ่างเก็บน้ำคลองลำรูใหญ่ และอ่างเก็บน้ำ ลำไตรมาศ จังหวัดพงั งา ๕๑. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษาการเพ่มิ ความจเุ ก็บกักน้ำ ในรูปแบบที่เหมาะสม เช่น การเพิ่มความสูงตัวเขื่อน การยกระดับอาคารระบายน้ำล้น การขุดลอกเพื่อเพิ่มความจุเก็บกักของอ่างเก็บนำ้ คลองหาดส้มแป้น ซึ่งมีศักยภาพสามารถเพิ่มความจุเก็บกักได้ แต่ในปัจจุบันยังสามารถสนับสนุนน้ำภาคการผลติ อย่างเพียงพอ โดยในอนาคตมีแผนการพัฒนาจังหวัดระนอง เช่น รถไฟสายใหม่เส้นทางชุมพรถึงท่าเรือ นำ้ ลึกระนอง โครงการพัฒนาทา่ เทียบเรือระนอง การพฒั นาท่าอากาศยานระนอง เป็นตน้ จงึ จำเป็นต้องจัดหา น้ำเพม่ิ เพ่อื รองรับความตอ้ งการใช้น้ำทเี่ พิ่มมากข้นึ ๕๒. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการพัฒนาโครงการสถานีสูบน้ำคลองพระแสง พร้อมระบบสง่ นำ้ อำเภอบ้านตาขนุ จังหวดั สุราษฎร์ธานี เพือ่ เสริมศักยภาพโครงการพัฒนาลุม่ นำ้ ตาปี – พมุ ดวง ๕๓. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการศึกษาคลองผันน้ำเลี่ยงเมืองในเขตพื้นที่ชุมชนเมือง ท้ัง ๑๔ จังหวัดภาคใต้ เช่น ชุมชนเมืองกระบ่ี ๕๔. กรมชลประทานควรพิจารณาดำเนินการเร่งรัดโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองกลาย ตามข้อเสนอ ของจังหวดั นครศรีธรรมราช กรมชลประทาน และกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตว์ป่า และพนั ธพุ์ ืช - กรมชลประทานควรเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาดำเนินการศึกษาและพัฒนาอาคารบังคับน้ำถาวรในคลองสายรองที่เชื่อมต่อคลองสายหลัก เพื่อกักเก็บน้ำ ในลำน้ำไวใ้ ชเ้ ป็นนำ้ ตน้ ทนุ สำหรบั ทำการเกษตรในฤดแู ลง้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 459
Pages: