7. ครูเร่มิ สาธิตการลา งโตะ มือซา ยหยบิ สบู มอื ขวาหยบิ แปรงนํามาถสู บู โดยยื่นมือท้ังสองในอางน้าํ ใหป ลาย มือชีล้ ง ถสู บูประมาณ 3-4 ครง้ั โดยถูลงออกนอกตวั ไปทางปลายมอื กอ นจะถสู บใู หจุมสบูแ ละแปรงลงในน้าํ ใหเ ปย กกอน 8. เรม่ิ ตนขดั โตะจากมมุ ซายบนหมุนเปนวงเลก็ ๆ ตามเข็มนาฬกา คอย ๆ ขยับไปทางดา นขวา หมุนวงกลม ตามเขม็ นาฬก าใหค อ ย ๆ ใหญข น้ึ ถงึ ขอบโตะ ขวามอื กค็ อ ยเปน วงเลก็ ลง ครนู าํ แปรงลา งในอา งนาํ้ แลว วางแปรงขดั ลงทเ่ี ดมิ 9. ใหเดก็ ทดลองดูบาง ทางดา นลางของโตะ 10. ใชม อื ขวาหยบิ ฟองนา้ํ จมุ ลงในอา งนํ้าใหฟองน้าํ เปยก บีบใหฟองนาํ้ หมาด ๆ นาํ ไปเชด็ โตะ เรม่ิ ทีม่ มุ ซาย บนกอน เชด็ ในแนวตง้ั โดยเชด็ ลงจากดานบนลงลางประมาณคร่ึงโตะ เช็ดไปจนสุดริมดานมุมขวาบน ลางฟองนํ้าบีบให แหง วางที่เดิม 11. ใหเ ดก็ ลองเชด็ โตะ บางดา นครงึ่ ลา งทเี่ หลอื จนหมดโตะ ลางฟองนํ้าวางทเี่ ดมิ 12. ครูใชฟ องน้าํ เชด็ ขอบโตะ เรมิ่ จากมมุ ซา ยบน วางไปจนรอบโตะ ใหเด็กเดินตามดเู สรจ็ แลว ลางฟองนํ้าใน อางน้าํ วางฟองนํ้าไวท เี่ ดิม 13. ใชผา เช็ดน้ํา เชด็ โตะอีกครั้ง เชด็ แบบเดียวกับเช็ดฟองน้ํา อกี คร้ัง เชญิ ชวนเดก็ ทดลองเช็ดดว ย 14. นาํ น้ําท่อี ยูในอางน้ําเททง้ิ ในกระปองนํ้าใตโตะ โดยใหเ ดก็ เปน ผทู ่เี ทโดยเทออกนอกตวั 15. นาํ น้ําท่ีเหลือในเหยอื กน้ํา ลา งอางนา้ํ โดยใชฟ องนํ้าถูไปรอบ ๆ อา ง ลางฟองนาํ้ วางไวท ี่เดมิ 16. ใหเ ดก็ นาํ น้ําเททิง้ ในกระปอ งนํ้าใตโตะอีกครั้ง ครูและเด็กนาํ นํ้าไปท้ิงหรอื รดตน ไม นาํ กระปองน้ําวางที่ เดมิ และเชด็ อางนํา้ และถังน้าํ ดวยฟองนา้ํ 17. นาํ กระปอ งน้าํ มาวางท่เี ดมิ และชว ยกนั ดวู า มนี ํา้ หกหรอื หยดท่ใี ดชว ยกนั เชด็ ใหเ รียบรอ ย วางผาไวทเี่ ดมิ 18. ใหเดก็ สาํ รวจวาผาเชด็ โตะ เปยกหรอื ไม ถาเปยกใหนําไปใสตะกรา ผาใชแ ลว นาํ ผนื ใหมม าวางแทนที่เดมิ 19. ใหเ ดก็ ทดลองทาํ ไดตามความพอใจจะใชโตะ ตัวใหมกไ็ ด 4. การประเมินผล 1. การถูสบูแ ละใชว ธิ ีการถูออกนอกตวั ทําใหต ัวเด็กไมเ ปยกหรือเปอน 2. การขดั โตะ การหมุนมอื เวลาขัดโตะ 3. การเกบ็ อปุ กรณ วางที่เดมิ ทกุ ครงั้ 5. อายุ ประมาณ 3 ขวบครึ่งขนึ้ ไป 6. กจิ กรรมผูปกครองมีสว นรว ม 1. เดก็ สามารถชว ยผปู กครองในการลางอปุ กรณต างๆในบา นได และเดก็ วัยนจ้ี ะทาํ อยา งไมรูส กึ เบื่อ 2. เมอ่ื เดก็ ลางสง่ิ ตา งๆแลวตอ งใหด แู ลเช็ดทําความสะอาดน้าํ ดว ย ซ่ึงผปู กครองสามารถแนะนํา และทาํ รวม กบั เด็กในระยะแรก 42 การจัดการเรียนรรู ะดับปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
7. ขอเสนอแนะสาํ หรบั ครู 1. การสาธติ กิจกรรมลา งโตะ มอี ุปกรณและขัน้ ตอนหลายอยา งควรทําชา ๆและใหเดก็ ทดลองทําท่ีละขนั้ ตอน ไปดว ย 2. เพ่อื ใหเด็กเกดิ ความมน่ั ใจ ครูควรใหกําลังใจอยใู กลๆและไมข ดั จงั หวะถา เดก็ ไมขอความชวยเหลือ 43การจัดการเรยี นรูร ะดับปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมท่ี 11 การขัดโลหะ 1. สอ่ื /อปุ กรณ 5. ผาขัดมัน 1. โถใสน ํ้ามะขาม 6. สาํ ลที ําความสะอาด 2. นาํ้ มะขาม 7. เสอื่ หรือผายาง 3. จานและชอ น 8. สําลีกา นไม 4. กระปกุ ใสส าํ ลี 2. วตั ถปุ ระสงค 1. การควบคุมการเคล่อื นไหว 2. การฝกสมาธิ 3. การพงึ่ พาตนเองได 3. วธิ จี ัดกจิ กรรม 1. เชิญชวนเด็กไปท่ีตเู ก็บอุปกรณ เราะขัดโลหะกัน แนะนําอปุ กรณท ี่ตองใช ใหเ ด็กชว ยยกอปุ กรณม าทีโ่ ตะ ใหเ ด็กเลือกวา จะยกอะไรมา 2. ใหเ ดก็ ชวยปูผา บางรองบนโตะ ครูยกถาดอปุ กรณข ึน้ 3. ครูวางอุปกรณท ีต่ อ งใชบ นผายาง เรยี งจากซา ยไปขวา โดยวางโถใสน ํ้ามะขาม จานและชอนสําหรบั ตัก แบงนํ้ามะขาม โถใสสําลกี อ น ผา ขดั มนั ที่ใสส าํ ลพี นั กานแลวและสาํ ลีแผน และวางชอนทองเหลอื ง ตามแนวนอนกับโตะ 4. ครตู ักแบง นํ้ามะขามจากโถมาใสในจานโดยใชชอนตกั 5. หยิบสาํ ลีกอ นจากโถใสสําลมี าแตะน้ํามะขาม นําไปขัดชอน เรม่ิ ขดั ทีต่ วั ชอนโดยหมนุ วนตามเข็มนาฬกา และคอย ๆ ขดั ไปทด่ี ามชอน 44 การจัดการเรยี นรูร ะดบั ปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
6. พลิกชอนคว่าํ ลงขดั แบบเดิมใหท่ัวทั้งชอน วางสาํ ลที ่เี ปอ นท่ีมุมโตะ ขวา 7. ใหเดก็ ชวยคลผี่ า ขัดออก ครหู งายมอื วางบนผา เอยี งปลายมอื ไปทางมมุ ผา ดา นซา ยบน พบั ผามมุ ซายบน ปดลงมาบนมอื และมมุ ลางซา ยและมุมขวาบน พับเปน รูปกลบี บวั ใชม อื ที่มผี าอยูเ ช็ดชอ นทข่ี ัดใหส ะอาดมันวาว 8. ใหเ ด็กชวยพลกิ ชอนควํา่ ลง ครูเช็ดแบบเดมิ ใหท ่ัวจนสะอาดมนั วาสง ใหเดก็ ชว ยดู และวางไวท เี่ ดมิ 9. ถาชอนมลี วดลายลึกใหใชส าํ ลีพนั ปลายไมขัดตามลองใหส ะอาด 10. ใชส ําลีแผน ทําความสะอาดจานและชอ นท่ีใสน าํ้ มะขามใหสะอาดเสรจ็ แลว วางสาํ ลไี วท เ่ี ดมิ มุมขวาบน 11. ครพู าเด็กนาํ สาํ ลที ี่เปอ นไปทงิ้ ทถ่ี งั ขยะ 12. พาเดก็ ไปหยบิ สาํ ลใี หมมาใสแทนที่เดิมทง้ั 2 ชน้ั สําลกี อนและสําลแี ผน 13. ชวนเด็กดผู า ทใ่ี ชเชด็ ขัดเงาวา เปอ นหรือไม ถา เปอ นไปเก็บทต่ี ะกรา ผา ใชแ ลวนาํ ช้ินใหมม าแทน 14. บอกเด็กวาหนูอยากลองทาํ ไหมคะ ครูจะไปลางมือแลว หนูจะทํากีค่ รงั้ ก็ได 4. การประเมนิ ผล 1. อุปกรณทใ่ี ชขดั ไดสวยงาม 2. การเคลอ่ื นไหวของมือ ทิศทางในขณะขัดโลหะ 3. ผา ขดั มัน การวางมอื บนผา 5. อายุ ประมาณ 3 ขวบครงึ่ - 4 ป 6. กิจกรรมผูป กครองมสี ว นรว ม การขัดสิง่ ตางๆ เชน พาน เชิงเทียน ขัน ชอน ทัพพี ซง่ึ เปนของใชใ นบา นเหลาน้ีสามารถสาธิตใหเ ด็กทาํ ได 7. ขอ เสนอแนะสําหรบั ครู เราสามารถใหเดก็ เลอื กขัดของใชข องตน เชน รองเทา กระเปาใสอ ุปกรณม าโรงเรยี นไดต ามความตองการ 45การจัดการเรยี นรรู ะดับปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมที่ 12 การเดนิ จงกรม 1. ทฤษฎี การมรี างกายทตี่ ง้ั ตรงเปน คุณสมบตั ิทแ่ี ตกตา งอยางเดียวของมนุษยจ ากส่ิงที่มีชีวติ อนื่ มนุษยไ มไดเกดิ มายืน ตรงเลย แตเ ราตองใชความพยายามในการปฏิบัตอิ ยางมาก มพี ฒั นาการอยู 4 จุดในการพฒั นาใหกระดกู ในหลงั ต้งั ตรงได เมอื่ อายุ 6 เดอื น เด็กมีความสามารถในการพึ่งได เม่ืออายุ 8 เดอื น เดก็ สามารถคลานได เม่ืออายุ 10 เดอื น เดก็ เริ่มจะยนื ได เมือ่ อายุ 1 ป เด็กจะเริม่ เดนิ ลาํ พังได ในชว ง 6 เดอื นทีเ่ ดก็ นง่ั ได เปนชวงที่มือเปน อิสระในการจะทําสิ่งตา ง ๆ ได ทําใหเด็กใชมอื ในการสํารวจสง่ิ ตา ง ๆ การคลานของเด็ก เด็กไดใ ชกลามเน้ือแขนและขาชวยใหกระดูกสนั หลงั แข็งแรง การสัมพันธของแขนขา ถอื ขาซา ย กบั มือขวาเชือ่ มโยงสมั พนั ธกัน กจ็ ะเชื่อมโยงไปสสู มอง เปน พืน้ ฐานของการเดนิ และการจะเดินไดตอ งอาศยั การทํางาน ของรา งกายและสมอง สิ่งท่ีจะชว ยเด็ก คือ การไดเหน็ ตัวอยา งของคนทเี่ ดนิ อยู เด็กมีคุณสมบัตขิ องการซมึ ซับสูง จงึ จะ ซมึ ซบั ลกั ษณะการเดนิ ได และความเขม ของการเรยี นรไู วจะชว ยเนน ใหเ ดก็ ยนื ได ยงั เชอ่ื มไปสแู นวโนม ของความเปน มนษุ ย ในลกั ษณะตา ง ทงั้ 11 อยา งตอ งสมั พันธก ัน และองคประกอบที่สาํ คัญคอื การเคล่อื นไหว การทาํ งาน การปฏบิ ตั ิซ้าํ และ ความพงึ พอใจในตน เมอ่ื เดก็ จะเดนิ ได ความพงึ พอใจในการเดนิ และเดนิ ไดด ี การเดนิ ธรรมดาปกตไิ มพ อ ตอ งมกี ารกระโดด ว่ิง เขามาเก่ยี วขอ งดวย เม่อื เด็กอายปุ ระมาณ 18 เดือน กลามเนื้อใหญและกลามเนอื้ เล็กรวมทัง้ สมองพฒั นาขึน้ มากแลว จงึ พบวาเด็ก มกั จะชอบหยิบยกสงิ่ ตา ง ๆ ขนึ้ และใหญกวา ตนเอง แสดงวา เด็กตองการแสดงพลังของตน ซ่ึงเปนไปตามความตอ งการ แนวโนมของความเปน มนษุ ย ดงั นั้นการเลน ในสนามเด็กเลน การปน ปายเปนสง่ิ ที่เด็กตอ งการ ผใู หญจึงควรคิดหาพื้นที่ กวา ง ๆ ใหเ ดก็ ไดเ คลื่อนไหว เราจึงควรจดั สง่ิ แวดลอมใหเ ดก็ ไดเคลอ่ื นไหวมาก ๆ เดก็ ชอบทาทายตนเอง เชน เตน รํา เดนิ บนขอบเสน ตา ง ๆ และไมเบอ่ื หนายในการทํากจิ กรรมนั้น ๆ เพ่อื ความสมดลุ ของเดก็ ไมใ ชแคท างกายภาพหรือการ เคล่อื นไหวเทา น้ัน สว นทีค่ วรพิจารณาดวยคือ ความสมดลุ ของรางกายและจิตใจ เราพอจะสงั เกตไดว า เชน อารมณไมด ี มันอาจจะปรากฏอาการออกมาทางรา งกายดวย ดเู หมือนวา ความสมดุลภาในจะเปนเครอื่ งกําหนดความสมดุลภายนอก ถา สมดุลดี ทาทางก็จะสงา งาม เด็กในชว งแรกของชีวติ นี้ ไมเ บ่ือหนา ยตอ การพฒั นาความสมดลุ ของรา งกาย ไมม ีเด็กท่ไี มอยากทํา ซึ่งแสดง เปนเรอ่ื งอธิบายไดวา HORME คอื พลงั ชีวติ มีตลอดเวลาไมหมดไป พลังชวี ติ ผกู พนั เดก็ ตลอดชวี ติ การออกแบบกิจกรรมการเดินจงกรมน้ี ทําเพอื่ สนองความตอ งการของเด็ก สามารถท่จี ะพัฒนาความสมดลุ ของเดก็ และพฒั นาการเดนิ แบบของมนษุ ย เวลาในการเดนิ จงกรมเปน กจิ กรรมกลุม ใหญ เปนกจิ กรรมสรางความรว มมือ และควบคมุ ตนเอง สงเสริมการควบคุมตนเอง 46 การจดั การเรียนรรู ะดับปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
2. ขนั้ ตอนการปฏิบัติ 1. เสน ทางเดนิ เปน วงรี พนื้ ท่ีควรไมนอ ยกวา 10 5 เมตร เสน ควรเปน วงรีเพราะวงรีเปดโอกาสใหเดก็ เดนิ ตรงได และมีการโคงและการเดินเปนไปอยา งสมา่ํ เสมอ ถาเปนวงกลม อาจจะวิงเวียนได เพราะรางกายจะตอ งเล้ยี ว ตลอดเวลา และถา เปน สี่เหลี่ยมจะทาํ ใหก ารเดนิ ไมส มํา่ เสมอเพราะมมี ุม 2. ขนาดเสน ควรหนา 4-5 เซนตเิ มตร หรอื เล็กกวาฝาเทา เลก็ ๆ ของเด็กและควรจะมคี วามถาวรอยูเลย 3. การนําดนตรีมารวมดว ย ถาสามารถนาํ ดนตรมี ารว มดว ยกจ็ ะทาํ ใหการเดินจงกรมงดงามขน้ึ ดนตรีทนี่ ํา มาควรเปนดนตรที ่มี ีความล่ืนไหล เชน ดนตรคี ลาสสิกหรอื ดนตรีไทย หรอื ครูจะเลน ดนตรี ไปดว ยกไ็ ด ไมว า ดนตรชี นิดไหน ควรมคี วามรสู กึ สง เสรมิ ความรสู กึ ลน่ื ไหลตอเน่ือง 4. การเดนิ การเดินตอ งสาธิตโดยผูใหญใ หเดก็ ดูกอ น การเดินมี 3 แบบ 4.1 การเดินบนเสน ตามธรรมชาติ 4.2 การเดินบนเสนตอสนเทา 4.3 การเดินบนเสน ตอ สนเทาพรอมวตั ถุ และแบงตามความยากงา ย 3 ระดบั 4.3.1 เดนิ ตอสนเทา ถอื วตั ถุ 1 อยา ง 4.3.2 เดินตอสน เทา ถอื วตั ถุ 2 อยางในแตล ะมือ 4.3.3 เดินตอ สนเทาถอื วัตถุ 2 อยาง ตางชนดิ ในแตละมือและมเี ครื่องเทนิ ศรี ษะ วตั ถตุ า ง ๆ ท่นี ํามาใชค วรมอี ยูในสงิ่ แวดลอ ม เพ่อื เดก็ จะใชไดตลอดเวลา 5. หนาท่ีของครู ตองสงั เกตเดก็ เพอื่ ที่จะดูพัฒนาการเด็ก Dr. Maria Montessori กลาววา เม่ือกจิ กรรมน้ีสมบูรณ การเคล่ือนทีท่ ี่สงา งามและการเดนิ ท่งี ดงามจงึ จะเหน็ ได ดงั นน้ั การเดนิ จงกรมจงึ ทาํ ใหมนุษยเ ดนิ ไดอยา งมีประสิทธิภาพ กิจกรรมนี้เปนกจิ กรรมกลุม ทาํ ใหเ ด็กตระหนกั ถงึ ผอู ืน่ และพฒั นาความสงบภายใน จะทําใหค วามสมบูรณดา นจิตใจของเด็กเต็มขึ้น 47การจัดการเรียนรรู ะดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
1. สื่อ/อุปกรณ 1. เสน วงรบี นพนื้ ควรมขี นาดยาวทส่ี ุดเทา ทีจ่ ะเปน ไดแ ละความกวางของเสนประมาณ 3 ถึง 5 เซนติเมตร 2. วัตถุท่ีมีนาํ้ หนกั เชน ลูกแกวมีเชือกผูก, พวงมาลยั , ถงุ ใสเงนิ 3. ธงตา ง ๆ 4. ตะกรา เคร่อื งหอมหรอื วตั ถทุ ี่ใชถ อื หหู ิ้วได หรอื เทยี นไขจุดไฟดวย 5. วัตถุท่ีมเี สยี ง เชน ระฆัง กระด่งิ 6. วัตถทุ รงกลมวางในชอ นใหถอื ชอน 7. แกว นาํ้ ใสน ํ้าใหเตม็ แกว ขน้ั แรกๆ นาํ้ ควรจะมีสี 8. วัตถทุ ส่ี ามารถวางบนศรี ษะได เชน ถุงทราย 9. ดนตรตี า ง ๆ ทที่ ําใหการเดนิ ลื่นไหล ทุกอยางทนี่ ํามาใชควรเหมาะกับวัฒนธรรมของตน 2. วตั ถุประสงค 1. การควบคมุ การเคลือ่ นไหว 2. การฝก สมาธิ 3. การพ่งึ พาตนเองได 3. วิธจี ัดกิจกรรม 1. เชิญเดก็ มานงั่ รอบวงรเี ปนคร่ึงวงกลม ครนู ําวัตถุตา ง ๆ ทเ่ี ตรยี มไววางกลางวงรี 2. ครสู าธติ การเดนิ ใหเดก็ ดเู ปนการเดินบนเสนตามธรรมชาติ ครเู ดนิ เนนความสมดุล สงางาม หนาตรงมอง ไปขา งหนา เพื่อใหก ระดดู สนั หลงั ตรง แขนอยขู า งตัว แขนนิง่ ท่สี ุด คางเชิดเล็กนอ ย ครูเดนิ รอบวงรไี ปจนครบเปลย่ี นใหค รู ผชู ว ยเดนิ บา ง 3. ครเู ดนิ มาเชิญเด็กเขา ไปเดินในวงรที ีละคน ดูจงั หวะชอ งวางในวงรีใหค รบทกุ คน 4. บอกเด็กวา ถา เหมอ่ื ยหรอื เหนอ่ื ยก็ใหอ อกมาน่งั พกั ได 5. เดินจนรอบวงใหกลบั มาน่ังทเี่ ดิม 48 การจัดการเรียนรูระดับปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
6. ใหเดก็ สํารวจความรสู กึ ของตน รูส ึกอยางไรในขณะทเ่ี ดนิ ไมต อ งถามเพอื่ น 7. ครูสาธิตการเดนิ ตอ สน เทา ไปรอบวงรีครบรอบแลว ครูกลับมาน่งั ทเี่ ดมิ และใหครพู เ่ี ลี้ยง เดนิ นาํ ครแู ตะ แขนเดก็ ออกไปเดนิ รอบวงรีทะคนจนครบทกุ คน 8. ครเู ร่มิ สงวัตถใุ หเด็กถอื ทลี ะอยา ง คอย ๆ เพ่ิมขึ้นเรอ่ื ย ๆ เปน 2 อยางใน 2 มอื และเทนิ บนศรี ษะ ในขณะ ทเี่ ดก็ เดินไปในวงรีเรือ่ ย ๆ และครสู ังเกตพฤติกรรมเด็กไปดวยวาควรจะสงวัตถุแบบไหน ใหเ ด็กคนใด 9. ครูหยิบวัตถุคืนจากเด็กทีละช้ินไปจนครบใหเ ด็กกลับไปน่งั ทเ่ี ดิม 10. ใหเ ด็กสาํ รวจความรูสกึ ของตนเอง เม่อื เดินมีวัตถุตาง ๆ ไปดวย 11. เมอ่ื เดก็ ฝก การเดนิ จงกรม จนถงึ ขน้ั ทเ่ี ขาเลอื กของในการใชใ นกจิ กรรมไดเ องถอื วา เขาประสบความสาํ เรจ็ ซ่ึงมากพอสมควร การสง ของใหเ ดก็ ถือควรสง ตามลาํ ดบั ยากงา ย เริม่ จากงายไปหายาก - วตั ถุไมม เี สียง เชน พวงมาลัย ลกู แกว ตะกราใสข อง - วตั ถมุ เี สยี งดงั เชน กระดง่ิ ระฆัง - วตั ถกุ ล้ิงได เชน ชอนใสล กู แกว - วัตถุหกหลน ได เชน แกว นํา้ ใสส ,ี แกว นํา้ ไมม ีสี - วตั ถเุ ทนิ บนศรี ษะ เชน ถุงทราย 4. การประเมินผล 1. การเดินใหตรงเสน 2. วธิ ีการเดนิ ใชสนเทาวางกอ นแลวเหยยี บลงไปใหเตม็ เทา 3. ชองจงั หวะกาวเดนิ ตอ งดวู า จะตองชา หรอื เรว็ เพราะมเี พื่อนอยทู ้งั ขางหนา ขางหลัง 4. การรักษาทา ทางเดิน ใหต วั ตรงหนา ตรง 5. การถอื วัตถใุ หม ัน่ คง การยืดโดยเหยยี ดแขนใหสุดแขน 6. การมีของวางบนศีรษะ หนา ตอ งตัง้ ตรงและนิง่ ไมอ ยางนัน้ ของจะตกหลนได 5. อายุ สองขวบคร่ึงข้นึ ไป 6. กกิ รรมผปู กครองมีสวนรวม เด็กชอบเคลอ่ื นไหวตลอดเวลาเพื่อการเรยี นรโู ลก ดังน้ันการทใ่ี หเดก็ ไดเดนิ ในบรเิ วณบา นเชน สนาม รอบโตะ รบั แขก และอาจถือส่ิงตา งๆไปดวย เปน การฝก สมาธทิ ีด่ ีอยา งหน่ึง 7. ขอ เสนอแนะสําหรับครู 1. การฝก เดินจงกรมเปน การฝก สมาธิท่ดี ี อารมณ สติปญญาดีตามมา 2. การเดินจงกรมเมอื่ เดก็ ฝก จนคลองแลว สามารถตกลงเวลาในการฝก ดว ยตนเอง 49การจดั การเรยี นรูระดับปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมท่ี 13 การมอบของขวัญ 1. สื่อ/อุปกรณ 1. เด็กกลมุ เลก็ 2. เกาอี 1 ตัว 3. หนังสอื 1 เลม 2. วตั ถุประสงค 1. การควบคุมการเคล่อื นไหว 2. การฝก สมาธิ 3. การพ่ึงพาตนเองได 3. วิธจี ดั กิจกรรม 1. เชิญเด็กออกมาทลี ะคน ประมาณ 4 – 5 คน มานงั่ เปน รูปครึ่งวงกลม 2. นาํ เกาอ้มี าต้งั ตรงกลางครง่ึ วงกลม ครเู ชิญครูพี่เลี้ยงมานัง่ เปนผูใหญ 3. ครสู าธติ การสง ของใหผ ใู หญน ะคะ ครเู ดนิ มาใกลผ ใู หญ หยดุ นงั่ คกุ เขา ลงเดนิ เขา 2 ขา งถอื หนงั สอื ดว ย 2 มอื 4. ยืน่ หนงั สอื ดว ย 2 มอื ใหผูใ หญ 5. คานเขากับที่เดิม 50 การจัดการเรยี นรรู ะดับปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
4. การประเมนิ ผล 1. การคานเขา 2. การถอื ของดวย 2 มอื 3. ความตง้ั ใจในการทํางาน 5. อายุ ประมาณ 2 ขวบคร่ึงข้ึนไป 6. กจิ กรรมผปู กครองมสี ว นรวม เมอ่ื เด็กอยบู า นการรับสง ของเปนกิจกรรมที่ปฏิบตั ิตลอดเวลาเม่อื เด็กทาํ ดคี วรมีการเสริมแรงใหก ําลังใจ 7. ขอเสนอแนะสําหรับครู การรับสง ของเปนกิจกรรมที่เดก็ ตอ งควบคุมการเคลื่อนไหวของตน ถาปฏบิ ตั ิถกู ตอ ง สวยงามจนเปนกิจวัตร ประจาํ วัน จะเกิดวนิ ยั ในตนเอง 51การจดั การเรยี นรูระดับปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมที่ 14 การกราบแม 1. ส่ือ/อุปกรณ 1. พระบรมฉายาลักษณสมเด็จพระบรมราชนิ ีนาถ 2. เกา อ้ี 1 ตัว 3. เสอื่ 1 ผนื 2. วัตถุประสงค 1. การควบคุมการเคลอ่ื นไหว 2. การฝก สมาธิ 3. การพึ่งพาตนเองได 3. วิธจี ดั กิจกรรม 1. เชญิ ชวนเด็กนัง่ เปน รปู ครง่ึ วงกลมทกุ คน 2. เชญิ ชวนหน่ึงคนไปนาํ เสอื่ มาปกู ลางครง่ึ วงกลม 3. เชญิ เดก็ อกี หนงึ่ คนไปยกเกา อี้ 1 ตวั มาวางบนเสอื่ ดา นขวามอื นาํ พระบรมฉายาลกั ษณข องสมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ มาวางบนเกา อ้ี 4. ครสู าธิตการกราบพระบรมฉายาลักษณ แมแหงชาติ 5. เดินมาหยุดหางจากเส่อื ประมาณ 3 ฟตุ 6. คกุ เขาลงพ้ืน คลานเขาเขา ไปในเส่ือ นัง่ พบั เพียบหา งจากโตะ ประมาณ 2 ฟุต 7. กมลงกราบ โดยวางแขนครอ มเขาเล็กนอ ย ไมแบมอื 52 การจัดการเรยี นรรู ะดบั ปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
8. ขยับตัวลกุ ข้ึนในทานง่ั และคอ ย ๆ คลานเขา ถอยหลงั กลับออกมา 9. ตอ ไปใหน กั เรียนปฏบิ ัติ จนพอใจ จึงเกบ็ อปุ กรณเ ขา ที่ 4. การประเมนิ ผล 1. การคานเขา 2. การกราบทีถ่ กู ตอ ง 3. ความตัง้ ใจในการทํางาน 5. อายุ ประมาณ 3 ขวบคร่งึ ขน้ึ ไป 6. กิจกรรมผปู กครองมีสว นรว ม เมอ่ื เดก็ อยูบ านการกราบผใู หญเ ปน กิจกรรมทีป่ ฏิบตั ไิ ดต ลอดเวลาเม่ือเด็กทาํ ดีควรมกี ารเสริมแรงใหกําลงั ใจ 7. ขอ เสนอแนะสาํ หรับครู การกราบเปน กจิ กรรมทเี่ ดก็ ตอ งควบคมุ การเคลอ่ื นไหวของตน ถา ปฏบิ ตั ถิ กู ตอ ง สวยงามจนเปน กจิ วตั รประจาํ วนั จะเกดิ วนิ ยั ในตนเองและซึมซบั วัฒนธรรมไทยที่ดงี าม 53การจัดการเรียนรรู ะดับปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมท่ี 15 การเช็ดใบไม 1. สือ่ /อปุ กรณ 1. ถาดใสอ ุปกรณ 2. ถว ยหรือเหยือกใสน ํ้าขนาดเลก็ 3. ฟองนาํ้ , สําลี 4. ผาเช็ดซบั น้ํา 2. วัตถุประสงค 1. การควบคมุ การเคลื่อนไหว 2. การฝกสมาธิ 3. การพึง่ พาตน 3. วิธีจัดกจิ กรรม 1. เชญิ ชวนเด็กใหต ามครมู าเราจะไปปฏบิ ัตกิ ิจกรรมการเชด็ ใบไม พาเด็กไปท่ชี ั้นวางอปุ กรณ แนะนําถาด อุปกรณก ารเช็ดใบไม สาธิตการยกถาดอปุ กรณ เปนตวั อยางและวางทเี่ ดมิ ใหเด็กยกถาดอุปกรณไปวางใกลต นไม ใหเ ด็ก เลือกวาจะปฏบิ ัตกิ จิ กรรมกับตน ไมใ นหองเรยี นหรือนอกหอ งเรยี น 2. ชวนกันไปนําถาดอุปกรณไปวางไวท ่ีดา นลาง ใกล ๆตน ไมน ั้น 3. ใหเดก็ ชว ยไปตักนา้ํ โดยนาํ เหยือกนา้ํ ไปตกั จากทเี่ กบ็ น้าํ ในหองเรียน และนํากลบั มาวางที่เดิม 4. ครูเริม่ สาธติ การเชด็ ใบไม มือซายประคองใบไม เพ่ือไมใหใบไมเคลื่อนท่ี มือขวาหยิบฟองน้ําหรอื สาํ ลที ่ี จะใชเ ช็ดใบไม จุมลงในถวยหรือเหยอื กนาํ้ ใหช ุมแลว บบี นํา้ ออก เพ่อื ใหฟ องนาํ้ เปย ก 54 การจดั การเรียนรูระดบั ปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
5. เริ่มตน เชด็ ลงที่ใบไมท ลี ะใบ โดยเร่มิ เช็ดจากโคนใบลงมาถงึ ดา นขอบใบและเลือ่ นลงไปทกี่ ง่ึ กลางใบจนสดุ ขอบปลายของใบไม เปนแนวเดียวกนั กับใบไม และใหเร่ิมเช็ดทีก่ ง่ึ กลางใบไม จนทว่ั ทงั้ ใบใหส ะอาดกอ นทกุ ครั้ง ท่จี ะเร่มิ เช็ดใบใหมต อไป 6. ในระหวางทีเ่ ชด็ ใบไม ใหต รวจดูวาฟองน้าํ หรอื สาํ ลสี กปรกใหจ ุมนาํ้ บบี เอาฝุนออก นาํ มาเช็ดใหม และ หากวานา้ํ ในถว ยสาํ หรับเช็ดสกปรกมากใหเทน้ํารดท่ีตน ไมแลวเปลีย่ นน้ําใหมท สี่ ะอาดปฏบิ ตั กิ ารเชด็ ใบไมต อจนเสรจ็ 7. ใชผ า ซบั นํ้าทหี่ กลงบนพนื้ ใหแ หง เมือ่ สังเกตพบวาผาเปยกชน้ื หรือสกปรกใหนําไปใสใ นตะกรา ผา สาํ หรับ ซัก แลว นาํ ผาผืนใหมมาแทน 8. ใหเ ด็กทดลองทาํ การเชด็ ใบไม จากใบไมท่ีเหลือจนหมด หรอื ตามความสนใจ 9. ปฏิบัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แลว เกบ็ อุปกรณใสใ นถาด แลวนาํ ไปเกบ็ ไวท ่เี ดมิ บนช้ันวางอุปกรณ ทาํ ความ สะอาดพ้ืนท่ีเปยกใหแหงสนิท 4. การประเมินผล 1. การตกั น้าํ และถือเหยือกน้ํามา โดยไมท ํานา้ํ หกเลอะพ้นื หรอื ทําใหต ัวเด็กเปยกนา้ํ 2. การเช็ดใบไม ไมท าํ ใหใบไมห กั หรอื ฉีกขาด 3. การเกบ็ อุปกรณ วางทเ่ี ดมิ ทกุ คร้ัง 5. อายุ ประมาณ 3 ขวบขึน้ ไป 6. กิจกรรมผปู กครองมีสวนรว ม 1. เด็กสามารถชวยผปู กครองในการลา งเช็ดอุปกรณตา งๆในบา นได และเดก็ วัยนี้จะทําอยา งไมร สู กึ เบื่อ 2. เมอื่ เดก็ เชด็ หรอื ลา งส่งิ ตางๆแลวตอ งใหด ูแลเชด็ ทําความสะอาดน้ําใหแหง ดวย ซง่ึ ผูปกครองสามารถ แนะนํา และทํารว มกับเดก็ ในระยะแรก 7. ขอ เสนอแนะสําหรบั ครู 1. การสาธติ กิจกรรมการเช็ดใบไมมอี ุปกรณและข้ันตอนหลายอยางควรทาํ ชาๆและใหเดก็ ทดลองทําที่ละขั้น ตอนไปดว ย 2. เพ่ือใหเ ด็กเกิดความม่นั ใจ ครคู วรใหก ําลังใจอยใู กลๆและไมขดั จังหวะถาเด็กไมข อความชว ยเหลอื 55การจัดการเรียนรูร ะดับปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมท่ี 16 การขัดรองเทา 1. สอื่ /อุปกรณ 6. ยาขดั (กวี ี) 1. ผากันเปอ น 7. แปรงขัดรองเทา 2. ผาพลาสติกสาํ หรบั ปูพ้นื 8. ผา ผืนเล็ก 3. เหยอื กนํา้ 9. รองเทา (รองเทา นักเรยี น) 4. ถวยใสส าํ ลอี ยา งแผน 5. ฟองนํา้ 2. จุดประสงค 1. เพอื่ ใหเ ด็กขัดรองเทาไดด วยตนเอง 2. เด็กจัดเกบ็ อปุ กรณเ ขาทีอ่ ยางเปนระเบยี บและถูกตอง 3. วิธีจัดกจิ กรรม 1. เชญิ ชวนเดก็ มาปฏิบตั กิ จิ กรรม “วันนี้เรามาขัดรองเทา กนั ” 2. เดินนําเด็กไปท่ชี ้ันวางอุปกรณ ครูหยบิ ผากนั เปอ นมาใสแ ลว ใหเด็กสวมเสอื้ กันเปอนเชน กัน 3. ครูสาธิตโดยเริ่มปูผาพลาสติก นําอุปกรณท งั้ หมดออกจากถาดวางเรียงกันดานบนของผาดังน้ี เหยอื กน้ํา ถวยเปลา สําลี ฟองนาํ้ ยาขดั รองเทา แปรงขดั รองเทา ผาผนื เลก็ 56 การจดั การเรยี นรูร ะดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
ขนั้ ท่ี 1 ปดฝนุ ทําความสะอาด - เทน้าํ ใสถ วยเปลา หยบิ สําลชี บุ นํ้าพอหมาดๆเช็ดรองเทา ใหส ะอาด (ปฏิบตั ิเชนเดียวกนั กบั รองเทา อีกขา ง กรณีทรี่ องเทา สกปรกมาก ใหลา งโคลนออกใหห มดตากใหแ หงกอนนํามาขดั เน่อื งจากเศษดนิ และเศษทราย ทาํ ใหรองเทา เปน รอยเวลาขดั และไมเงางาม) ข้นั ท่ี 2 ปายยาขัด - ใชฟองนํา้ ปา ยยาขดั จากซายไปขวา หนาพอประมาณ ทาใหทว่ั รองเทา จนรูสกึ วายาขัดผสาน เขา กับรองเทาทกุ ซอกทกุ มุมรองเทา ขัน้ ที่ 3 ขดั ใหเ งา - ขัดรองเทา ดว ยแปรงขดั รองเทาจนท่ัว - ใชส ําลชี ุบนํ้าพอหมาดๆปา ยยาขัดเลก็ นอ ย ใหต ิดบรเิ วณท่เี ราทาลงไปแลว คอยๆขดั ทลี ะสว น ของรองเทา ในลักษณะหมนุ วนเปนวงกลมเลก็ ๆใหทัว่ รองเทา จะสังเกตเห็นวารองเทาเรมิ่ มี เงาแวววาว ขดั ไปเรื่อยๆจนมันเงาทุกสว น - ใชส ําลีใหมชบุ นาํ้ หมาดๆ (ไมต อ งแตมยาขัด) คอยๆวนเอาสว นทเี่ ปน นํ้ามนั ออกจะทาํ ให รองเทาแวววาวสะอาด - เช็ดใหทวั่ รองเทา อกี คร้งั ดว ยผา ผืนเลก็ เพือ่ ใหรองเทา สะอาดเปนมนั เงา 4. ใหเด็กปฏบิ ัติงานขดั รองเทา อีกขา งหนง่ึ ตอ ไปดวยตนเองตามความพึงพอใจ 4. การประเมนิ ผล วธิ กี ารสงั เกต 1. เดก็ ปฏบิ ัติการขดั รองเทา ไดเปนมนั เงา 2. เดก็ จัดเกบ็ อปุ กรณเขาท่ีอยา งเปน ระเบยี บและถกู ตอ ง เครอ่ื งมอื ทีใ่ ช แบบสงั เกตพฤตกิ รรม เกณฑก ารประเมิน 1. เดก็ ปฏิบัตกิ ารขดั รองเทาไดเ ปนมันเงา - ระดบั 3 เด็กปฏิบตั ิการขดั รองเทาไดสะอาดเปน มนั เงา/ดวยตนเอง - ระดบั 2 เดก็ ปฏบิ ตั ิการขดั รองเทาไดสะอาด/ดวยตนเอง - ระดับ 1 ไมสามารถปฏบิ ตั ิได / ปฏิบัตไิ ดโดยมีการช้ีนาํ 2. เดก็ จดั เกบ็ อุปกรณเขาท่อี ยางเปน ระเบยี บและถกู ตอ ง - ระดบั 3 จดั เก็บอปุ กรณเขาท่ีเปน ระเบยี บและถกู ตอ งไดดวยตนเอง - ระดับ 2 จดั เกบ็ อปุ กรณเขาท่ี แตไ มเ ปน ระเบยี บ - ระดับ 1 ไมนําอปุ กรณเกบ็ เขา ที/่ ตอ งมีผูชนี้ าํ 57การจัดการเรียนรูระดบั ปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรม หมวด ประสาทรบั รู 58 การจดั การเรียนรรู ะดับปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมหมวดประสาทรบั รู กจิ กรรมที่ 1 แทนกระบอกพิมพ กิจกรรมที่ 2 หอชมพู กิจกรรมที่ 3 บันไดนา้ํ ตาล กิจกรรมท่ี 4 พลองแดง กจิ กรรมที่ 5 แถบสี กลอ งที่ 1 กิจกรรมท่ี 6 แถบสี กลองท่ี 2 กจิ กรรมท่ี 7 แถบสี กลอ งท่ี 3 กิจกรรมที่ 8 ตเู รขาคณติ กจิ กรรมท่ี 9 ลูกบาศกส องตัวแปร กิจกรรมที่ 10 กระดานขรุขระและเรยี บ กจิ กรรมที่ 11 แถบอณุ หภูมิ กจิ กรรมที่ 12 แถบนา้ํ หนกั กิจกรรมท่ี 13 การจัดกลมุ กิจกรรมที่ 14 กลองเสยี ง กจิ กรรมท่ี 15 ขวดอณุ หภมู ิ กจิ กรรมท่ี 16 การชมิ รส กจิ กรรมที่ 17 การดมกลนิ่ กิจกรรมที่ 18 เรขาคณิตทรงทบึ 59การจัดการเรยี นรรู ะดับปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมที่ 1 การขดั รองเทา 1. ส่ือ/อปุ กรณ แทนกระบอกพมิ พแ บบมีหมุดจับขนาดพอดีกับชองบรรจุแตล ะชอ งมี 4 แทน แทน ท่ี 1 กระบอกพิมพมีความแตกตา งกนั สองมิติ ขนาดเสนผา ศนู ยก ลางเพิ่มขนึ้ จาก แทน ที่ 2 ก21รซะ.บมอ. กถพึงมิ 5พซม.ีคมว. าคมวแาตมกสตูงคา งงกทนัี่ 5สาซม.มม.ติ ิ ขนาดเสน ผา ศูนยกลางเพม่ิ ข้นึ จาก แทน ท่ี 3 ก12รซะ.บมอ. กถพึงิม5พซม.คีมว. าคมวแาตมกสตงู เาพง่ิมกขนั น้ึสจามากมติ ิ12ขนซ.ามด.เสถนึง ผ5า ซศ.นู มย.ก ลางเพิ่มขึน้ จาก แทน ท่ี 4 ก21รซะ.บมอ. กถพึงิม5พซม .คีมว. าคมวแาตมกสตูงลา ดงกลนังจหานกง่ึ ม5ิตซิ ข.มน.าถดึงเสน12ผซา.ศมนู . ยก ลางคงท่ี 2 ซ.ม. ความสงู ลดลงจาก 5 ซ.ม. ถงึ 21 ซ.ม. 60 การจัดการเรยี นรรู ะดบั ปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
2. วตั ถปุ ระสงค 1. การเตรยี มมือสําหรับการเขียน คือการจบั กระบอกพมิ พดว ย 3 นวิ้ เปนพ้นื ฐานการจบั ดนิ สอ 2. การควบคุมการเคลอื่ นไหวอยา งประณตี 3. การเตรียมพน้ื ฐานทางคณิตศาสตร 4. ภาษา เพิ่มเตมิ ภาษาในอปุ กรณ คอื หนา-บาง, ใหญ-เล็ก, สูง-ต่าํ 5. การแยกแยะดานมติ ิ โดยจักษปุ ระสาท 3. วธิ ีจัดกกิ รรม 1. เชญิ ชวนเดก็ ดว ยความตื่นเตนอยากรู วนั น้คี รมู ีสิ่งทนี่ าตื่นเตนใหดูนะคะ 2. พาเด็กไปท่ชี ้ันอุปกรณ แนะนาํ วธิ ีการยกอุปกรณ คือใชส องมือจับท่ีปลายอปุ กรณเ อยี งมือใหน ้ิวหัวแมมอื อยูดา นลําตัว 4 นวิ้ อยูด านหลงั อปุ กรณ แลว วางลงทเ่ี ดมิ ใหโ อกาสเด็กยกอปุ กรณม าที่โตะ เองวางในแนวนอนกบั โตะ 3. เม่ือนํามาวางท่โี ตะ แนะนาํ อปุ กรณ คอื กระบอกพิมพท่ี 1 มนั ดสู วยและนาสนใจนะคะ 4. ครใู ชน ว้ิ 3 นว้ิ หยบิ อุปกรณม าวางระหวา งตัวเรากบั อปุ กรณ หยบิ ช้ินหนาที่สุดออกมาวางใหเห็นชดั เจน คอ ย ๆ หยิบกระบอกออกมาท่ีละกระบอก ไมเ รียงกนั และวางชิ้นทบ่ี างท่สี ุดไวค ูกับชน้ิ ทีห่ นาทส่ี ุด เพ่ือใหเห็นความแตก ตา ง เมอ่ื เอาออกครบแลว มองสาํ รวจอุปกรณว า ไมม ใี นกระบอก มองดูอยางพิจารณาไมตองพูด 5. นําชน้ิ อุปกรณกลับใสก ระบอกพิมพตามเดมิ เวลาหยบิ พลกิ ดู ซาย, ขวา, บน, ลาง เร่มิ จากชน้ิ ที่ชัดเจน ทสี่ ุด คอื ชิน้ ทีบ่ างทีส่ ุดหรอื ชนิ้ ที่หนาทีส่ ุดสํารวจกระบอกดแี ลวนาํ ไปใสกลับท่ีเดมิ ใหต รงชอง 6. เวลาใสคืน ใสแ บบคละกันไมเ รียงลาํ ดบั มองสาํ รวจทง้ั ตัวกระบอกและชนิ้ ตวั พมิ พ สํารวจชา ๆ 7. เหลือ 2 ชิ้นท่ีแตกตา งกันไวใหเ ด็กใสตอ เชน ชิน้ ท่ี 9 และ 2 เพอ่ื สรางประสบการณทีด่ ีใหก บั เดก็ มคี วาม ภาคภูมใิ จท่สี ามารถใสได 8. ชักชวนใหเดก็ ลองทาํ บา ง หนจู ะทํากีร่ อบก็ไดตามใจนะคะ 9. ทําเชนเดียวกันกบั แทนกระบอกพมิ พท ่ี 2,3,4 ทลี ะแทน 10. เม่อื ครบสามารถเลน รวมกันได เพิ่มทีละ 1 แทน 4. การประเมินผล 1. เรียงกระบอกพมิ พไ ดถูกตอ ง 2. หยบิ กระบอกพิมพไ ดถ ูกวธิ ี 5. อายุ ประมาณ 3-3 ป 61การจัดการเรียนรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมท่ี 2 หอชมพู 1. ส่ือ/อุปกรณ 1. ลกู บาศกไมส ีชมพูจาํ นวน 10 ชิ้น ขนาดไลกนั ต้งั แต 1 ซ.ม. ถึง 10 ซ.ม. ขนาดเพิ่มขึน้ ในลกั ษณะพีชคณิต ของอนุกรมกาํ ลังสาม 2. พรมปพู นื้ สตี ดั กับลูกบาศก 1 ผืน 2. วตั ถปุ ระสงค 1. การแยกแยะมิตสิ มั พันธดว ยจักษปุ ระสาท 2. การเคลือ่ นไหวอยา งประณีตและมีเจตจาํ นง 3. เปนพื้นฐานการเรียนรูคณิตศาสตร 1-10 4. การเคลอ่ื นไหว ทิศทางการเคล่ือนไหว และเคลอื่ นไหวอยางประณีต 5. ความแตกตา งของช้ันที่ 1 และชน้ั ที่ 10 เปน 1 พันเทา 62 การจัดการเรยี นรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
3. วธิ ีจัดกจิ กรรม 1. เชญิ ชวนเด็ก 1 คน วนั นเี้ ราจะทํางานกับหอชมพนู ะ 2. ใหเ ด็กชวยปเู สื่อ 1 ผืนและชวนกันไปทีช่ นั้ เก็บอุปกรณ ครหู ยิบใหดกู อนชิน้ เล็กสุดดานบนใช 2 นิ้วหยบิ และช้ินถดั มาใชห ยบิ 5 นิ้ว และชนิ้ ใหญหยิบดวย 2 มือ มอื หนง่ึ รองกน ดา นลา ง 3. ชวยกนั หยบิ หอชมพมู าวางบนเสื่อทลี ะอนั จนครบแบบไมเ รยี งลาํ ดับ 4. ครูจะนาํ เสนอวิธีสรา งหองชมพูนะคะ โดยถกู สาํ รวจดวยสายตาอยา งละเอยี ดมองหาชนิ้ ทีใ่ หญท สี่ ดุ โดย ใชนวิ้ มอื ทง้ั 5 หยิบจากดานบน นําไปวางตรงหนา ครูและเดก็ 5. คอ ย ๆ หยิบชนิ้ ใหญท มี่ ขี นาดรองลงมา วางบนชนิ้ แรกใหต รงกลางพอดี 6. ทําซํา้ ไปจนครบท้งั 10 ช้นิ 2 ช้นิ สดุ ทายใช 3 นิ้วจบั วาง 7. เสร็จแลว เชิญชวนเดก็ ชมหอชมพูไปทกุ มุม ทีล่ ะมมุ รอบ ๆ เสอื่ ดูจากดา นบนดูดา นขางรอบ ๆ แลว มานง่ั ลงท่ีเดมิ 8. ครคู อ ย ๆ หยบิ หอชมพูลงวางบนเสอ่ื ทลี่ ะชน้ิ วางคละกันไมเ รียงลําดับหยบิ ออกจนเหลือชิน้ สุดทายวางไว ท่เี ดิม เพื่อเชิญชวนใหเดก็ ทาํ ตอ 9. บอกเดก็ วาหนูจะทาํ ก่คี รง้ั กไ็ ด ตามความพอใจนะคะ แบบฝกหัดที่ 1 1. ครเู ชิญชวนเด็ก วนั น้ีเราจะทาํ งานกบั หอชมพูนะคะ 2. ใหเ ดก็ ชวยปเู ส่ือ 1 ผนื และไปหยิบอปุ กรณทเี่ ก็บอยู ชวยกนั หยบิ ครั้งละ 1 ชนิ้ มาวางบนเสื่อใหครบ 3. ครูสํารวจลูกบาศกอ ยา งใกลช ิด เลอื กช้ินใหญสดุ วางตรงกลางดา นหนา 4. หยบิ ลกู บาศกช ิ้นขนาดเล็กกวา วางใหช ดิ มุม 1 มมุ และดา น 2 ดา นชิดเสมอกนั ชิ้นเล็กกวา จะเหลอื ท่วี าง ไมท บั ชนิ้ แรก 2 ดาน 5. นํากระบวนการแบบเดิมใหค รบทุกชั้น แลว เชิญชวนเดก็ เดินดรู อบ ๆ หอชมพูตรงมุม, ซาย, ขวาและดา น บน เพื่อสาํ รวจความแตกตาง 6. วดั 2 ดานของลกู บาศกโ ดยใชชนิ้ ลกู บาศกท ีเ่ ลก็ ท่ีสดุ เปน เครือ่ งมอื วดั วางลกู บาศกท ่มี ุมขวาหมุนตามเข็ม นาฬกา ทุกชัน้ สํารวจมองอยางพิถพี ถิ นั เพอื่ ใหเ ดก็ สังเกตเห็นความเทา กันของทกุ ช้นั ในการแตกตางกนั 7. ครูรอื้ ลกู บาศกลงนําวางบนเสอื่ แบบคละกนั ใหเดก็ ชว ยดว ย และเชญิ ใหเ ดก็ ทดลองทําเองบา ง ภาษา ภาษาในหอชมพู คอื เล็ก-ใหญ การสอนภาษา 63 การสอนภาษามี 3 ระดบั 1. การสอนภาษาข้นั ปกติ สอนภาษาเลก็ – ใหญ 2. การสอนภาษาขน้ั กวา สอนภาษาเลก็ กวา – ใหญก วา 3. การสอนภาษาข้นั ทสี่ ดุ สอนภาษาเลก็ ท่ีสดุ – ใหญท ่สี ดุ การจดั การเรยี นรูระดับปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
การสอนภาษาท้ัง 3 ระดับนี้มกี ารสอนอยูแตล ะระดับ 3 ข้นั ตอน การสอนภาษาข้ันปกติ ขัน้ ท่ี 1 บอกชอ่ื ของอปุ กรณห รอื วสั ดทุ ี่ใช เชน อนั นี้ใหญ หยบิ แยกออกมาจากชิ้นอน่ื ๆ ใหเด็กพูดซาํ้ ตามครู โดยครูชี้ทีอ่ ปุ กรณด ว ย ขน้ั ที่ 2 การทํางานรวมกนั ระหวางชอ่ื กับวสั ดุ โดยใชคําส่งั และกลวธิ ีตา ง ๆ เชน - หยิบชิน้ ใหญใ หครซู คิ ะ - อนั ไหนใหญค ะ - ชช้ี น้ิ ใหญใ หค รซู ิคะ - ชว ยวางชนิ้ ใหญใ หค รตู รงนนี้ ะคะ เมอื่ บอกหรอื ถามเดก็ 1 คาํ ถามครกู ส็ ลบั เปลยี่ นตาํ แหนง ของ วสั ดุหรืออุปกรณท ุกคร้ัง ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ ตระหนักรู ครูจะช้ีท่ีวสั ดแุ ลวถามวา น่ีคอื อะไร ใหเ ดก็ บอกชอ่ื เมอ่ื เดก็ ตอบไดถ กู ตอ ง แสดงวา เดก็ ตระหนักรแู ลว และก็ถามเด็กตอไป การสอนขนั้ กวา ขัน้ ที่ 1 เราเรียนรเู ลก็ ใหญไ ปแลว จําไดไหมวาชนิ้ ไหนอะไร ครูยกชิน้ ท่ี 1 ใหด แู ละยกชิ้นท่ี 2 ซ่งึ ใหญกวา วาง คกู ัน ใหเ ด็กตอ คือ เลก็ -ใหญ ยกช้ินกวา มาใหดู คอื ชน้ิ ที่ 3 ตอ งใหญก วาช้นิ ท่ี 2 แลวพูดวา ใหญก วา ข้นั ที่ 2 ครกู ็สลับอปุ กรณท้ัง 3 ชิ้นและถามคาํ ถามทุกครงั้ ทเ่ี ปล่ยี นตาํ แหนง เชน - อนั ไหนใหญก วา คะ - ชชี้ น้ิ ใหญกวาใหครดู ูซิคะ - ชว ยยกช้ินใหญกวา มาวางตรงนซ้ี ิคะ - ชวยหยิบช้นิ ใหญกวา ใหค รซู ิคะ ขั้นที่ 3 ข้ันตระหนักรู ครูชที้ ่อี ุปกรณแลว ถามวา นี่คอื อะไร ใหเดก็ บอกชือ่ วาใหญก วา เม่อื เดก็ บอกไดถูกตอ ง แสดงวาตระหนักรูแ ลวกถ็ ามถึงเลก็ กวา ตอ ไป การสอนขน้ั ท่สี ดุ ขน้ั ที่ 1 ครหู ยบิ ชน้ิ เลก็ ทสี่ ดุ มา ถามวา อะไร หยบิ ชนิ้ ทใ่ี หญก วา มาถามวา อะไร เอาชน้ิ เลก็ ไปเกบ็ ออกไป และหยบิ ชน้ิ ที่ ใหญก วา ชน้ิ ที่ 2 มาอกี วางลงและบอกวา ใหญท ส่ี ดุ ครขู ยบั อปุ กรณท ง้ั 3 ชนิ้ ใหม ใหเ ดก็ วางทล่ี ะชนิ้ วางชน้ิ ใหญส ดุ บอกวา ใหญท สี่ ดุ ขนั้ ที่ 2 ขยบั อปุ กรณท ัง้ 3 ชัน้ สลับเปลย่ี นไปมาและถามทุกครง้ั ที่เปลย่ี น - อันใหญท ส่ี ดุ อยูไหน - ชชี้ ้ินท่ีใหญท ี่สดุ ใหครดู ูซิคะ - เอาชน้ิ ใหญทสี่ ุดมาวางตรงนซ้ี คิ ะ - ชิน้ ไหนใหญท ส่ี ดุ ยกใหค รซู คิ ะ ขน้ั ที่ 3 ขนั้ ตระหนกั รู ครชู อ้ี ปุ กรณท ใ่ี หญท สี่ ดุ และถามเดก็ วา นค้ี อื อะไรเดก็ ตอบวา ใหญท ส่ี ดุ ไดแ สดงวา เขาเรยี นรแู ลว 64 การจดั การเรียนรรู ะดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
เกม เกมที่ 1 เกมนํามา 1. เชิญเด็กทลี่ ะคนประมาณ 3-4 คน 2. ขอใหเ ด็กชว ยไปเอาเส่ือปู 2 ผืนใหห า งกันไดม ากจะดี 3. วางลกู บาศกไวใ นเสื่อผนื ท่ี 1 แบบคละกนั ไปไมเ รยี งลําดับ 4. ครูและเดก็ ไปนง่ั ในเสอื่ ผนื ที่ 2 บอกเดก็ คนหนึง่ วาไปเอาชน้ิ ใหญท ส่ี ดุ มาทน่ี น่ี ะคะ แลวนาํ มาวางท่ี เส่ือตรงกลาง ถามดว ยวาหนเู อาช้ินไหนมาคะ 5. ใหเ ดก็ คนตอ ไปไปหยบิ ชน้ิ ที่ใหญทส่ี ุดมานะคะ เมือ่ เดก็ นาํ มาตองถามทกุ ครงั้ และใหนํามาวางทีเ่ สอื่ แบบไมเรยี งลาํ ดับ 6. เดก็ สลบั กนั ไปหยบิ มาตอไปบอกวาเอาช้นิ ทีห่ นูคดิ ไวม านะคะ เมอ่ื เดก็ นาํ กลับมาตองถามวาเอาชนิ้ ไหนมาคะ 7. เม่อื เหลอื 2 ชิ้นสุดทาย เด็กควรจะตอบวาช้ินใหญกวา เมอื่ เปน ชนิ้ สุดทายใหถามวา หนูควรจะเรียก ชิ้นน้วี าอะไรคะ เดก็ ควรตอบไดวา เลก็ ทีส่ ดุ การท่ีครถู ามเอาชิ้นไหนมาคะ เดก็ ควรจะตอบไดทงั้ ใหญท่ีสุด ใหญก วา ดว ย เกมที่ 2 เกมระยะทาง 1. เชิญชวนเด็กมาทีละ1 คน หนูรออยตู รงนก้ี อ นนะคะ แลว ครูกไ็ ปเชิญชวนเด็กมาอีกประมาณ 3-4 คน ปเู สอ่ื 2 ผนื หางกนั พอสมควร วางลูกบาศกค ละกนั ในเสอื่ ผนื หนงึ่ 2. หนู 1 คนไปกับครูนะคะ ครูพาเด็กไปท่เี ส่ือท่ีมีลกู บาศกอยู หยิบมา 1 กอนพาเด็กไปท่เี สอ่ื อกี ผืนท่ี วางอยู วางลูกบาศกแ ลวบอกเดก็ อีกคนหนึง่ วา หาชน้ิ ทใ่ี หญกวานี้ เมือ่ เด็กกลับมาใหถ ามวา เอาชน้ิ ไหนมาคะ 3. ตอไปใหเ ด็กคนตอไปไปเองชิน้ ทีเ่ ลก็ กวา มา และเอาชิ้นเดิมไปคนื และถามเด็กไปเรือ่ ย ๆ และคํา ตอบตรงตามคาํ บอกหรือไม 4. ถามเดก็ ทกุ คร้ังทไ่ี ปหยบิ ของมาเมอื่ ครบแลวใหชว ยกันเก็บหอชมพูดวยกนั เดก็ จะไดท าํ งานรวมกับ ผอู นื่ ในการชวยเกบ็ หอชมพทู ่เี ดิมและเก็บเสอ่ื การสอนภาษา 3 ขัน้ ตอน และเกมท่ยี กตวั อยา งน้ีสามารถใชใ นกจิ กรรมอนื่ ได 4. การประเมินผล 1. ปฏิบัติกิจกรรมไดถูกตอ ง 2. บอกภาษาและเขาใจความหมาย เลก็ –ใหญ, เล็กกวา –ใหญกวา ,เลก็ ท่ีสุด –ใหญทส่ี ุด, 5. อายุ ประมาณ 3 ขวบขน้ึ ไป 65การจัดการเรยี นรรู ะดับปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมท่ี 3 บันไดน้ําตาล 1. ส่อื /อุปกรณ 1. แทง ปรซิ มึ 10 ช้ิน ขนาดความกวางเทา กนั คือ 20 ซ.ม. แตตางกันท่คี วามสงู และความหนา จาก 10 ซ.ม. 10 ซ.ม. 20 ซ.ม. ถงึ 1 ซ.ม. 1 ซ.ม. 20 ซ.ม. ขนาดเพิ่มขึ้นในลกั ษณะพีชคณติ ของอนุกรมกําลงั สาม สนี ํ้าตาล 2. พรมปพู น้ื สีตดั กับแทง ปริซึม 1 ผืน 2. วตั ถุประสงค 1. การแยกแยะความตางของมติ ิดวยจกั ษุประสาท 2. การเคลื่อนไหวอยางประณีตและมีเจตนจาํ นง 3. รคู วามแตกตา งของบันไดขัน้ ท่ี 1-10 ตา งกัน 100 เทา 4. จาํ นวน 1-10 5. การเรยี นรนู ้ําหนกั 3. วธิ จี ดั กจิ กรรม 1. เชญิ เด็กดวยความกระตือรือรน วนั นีเ้ ราจะทํางานกบั บันไดนาํ้ ตาลนะคะ 2. ชวนเดก็ มาท่เี ก็บอปุ กรณ ชวยปูเสอ่ื 1 ผืนนะคะ แลวนําเด็กไปท่ีเก็บอุปกรณบนั ไดน้าํ ตาล แนะนาํ วา นี่ คอื บนั ไดนํ้าตาลนะคะ หยบิ บันไดนา้ํ ตาลชนิ้ ท่ีเลก็ ทส่ี ุดดวยนิว้ มอื ทัง้ 5 แบบควา่ํ มอื ลง และนาํ เดก็ มาวางที่เสอื่ โดยไมต อ ง เรยี งลาํ ดับ จับทลี ะ 1 ช้นิ ชว ยกันยกมาวางจนครบ เมื่อถงึ อันใหญใหจ บั 2 มือประคองดา นลา งดว ย 3. เมื่อยกครบแลว ใหเด็กนง่ั ขางครูดานซา ยมือ ครมู องดบู ันไดนา้ํ ตาลทุกชิ้นอยางชา ๆ ชัดเจน ครูหยิบบนั ได น้ําตาลชนิ้ ใหญส ดุ โดยใชมือจับตรงกลางดา นบนยกขนึ้ 4. หยิบช้นิ ทีท่ ใี่ หญร องลงมา วางลงขาง ๆ ชน้ิ แรกหา งเล็กนอ ย ใชน้ิวมือคนั เบา ๆ ใหเ ขาไปชิดกัน 66 การจดั การเรยี นรูร ะดับปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
5. ใชสองมอื ลูบดา นขางท้งั สองของบันได เพ่อื ใหแนใ จวา มนั ชิดกันและตรงกนั 6. ทําแบบเดิมไปเรอ่ื ย ๆ กับทกุ ชิ้นของบนั ได วางทุกครั้งใหม องใหชัดเจนพถิ พี ถิ ันและลูบชา ๆ เบา ๆ 7. เมื่อตอบนั ไดเสรจ็ แลว ชวนเดก็ เดินมองบนั ไดในมุมตาง ๆ ใหร อบบันได 8. พาเด็กมาท่ีเดิม บอกเด็กวา ครูจะทาํ บันไดนาํ้ ตาลมาคละกันใหมน ะคะและวางชน้ิ ใหญไวท เ่ี ดมิ เพื่อเชิญ ชวนใหเดก็ ทําตอ แบบฝก หดั 1. เชิญเดก็ วนั นเ้ี ราจะทาํ งานกับบันไดนํ้าตาลแบบใหมน ะคะ 2. ใหเ ดก็ ชวยปเู สอ่ื และชว ยกันยกบันไดนํ้าตาลมาวางบนเสื่อ และชว ยกนั ตอ บนั ไดนํา้ ตาลใหเรียบรอย 3. ครหู ยิบบันไดนา้ํ ตาลอันเลก็ ทส่ี ุด ยกใหเดก็ เห็นชดั เจนและวางลงระหวา งขั้นบนั ไดท่ีแตกตา ง โดยการวาง หางเล็กนอยใชนวิ้ ดันเบา ๆ ใหช ดิ 4. นาํ บนั ไดช้นิ เลก็ เปน ตวั วดั ความตา งไปทุกระดับชั้น เพือ่ ใหเ ด็กเหน็ วา มันแตกตางกันในระดับที่เทากนั และนําไปวางลอ ท่ีเดมิ 5. ใหน กั เรยี นทดลองทําบางนะคะ จะทํากค่ี รง้ั ก็ไดน ะคะ ภาษา ภาษาของบนั ไดนา้ํ ตาลคอื หนา-บาง , เล็ก-ใหญ, กวา, ทสี่ ดุ การสอนภาษาสอนแบบ 3 ข้ันตอน ใชภ าษาในการสอนคือ หนา-บาง , เลก็ -ใหญ. 4. การประเมนิ ผล 1. ปฏิบตั ิกิจกรรมไดถ กู ตอง 2. บอกภาษาและเขาใจความหมาย หนา-บาง, หนากวา-บางกวา ,หนาทสี่ ดุ –บางทสี่ ุด, 5. อายุ ประมาณ 3-3 ขวบ 67การจัดการเรียนรูระดับปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมท่ี 4 พลองแดง 1. สอ่ื /อปุ กรณ 1. พลองแดงตา งกันหน่งึ มติ -ิ ความยาว จาก 10 ซม×100 ซม หนวยตา งระหวา งพลองแตละช้นิ คอื 10 2. พรมปพู ้นื สีตดั กบั พลอง 2. วัตถุประสงค 1. การแยกแยะความตา งของมิตดิ านความยาว ดว ยจักษุประสาท 2. การเรยี นรคู วามยาวดว ยการใชก ลามเนื้อสมั ผัส 3. การเตรยี มความพรอมดว ยคณติ ศาสตร 4. การเตรียมความพรอ มดา นการอานและการเขยี น คือ การเคลื่อนไหวกลามเน้อื มือจากซา ยไปขวา 3. วิธีจดั กจิ กรรม 1. เชญิ ชวนเดก็ ดว ยความกระตือรือรน วนั นี้ครมู ีสิ่งทน่ี า ต่ืนเตนใหทาํ นะคะ 2. พาเด็กไปท่ชี ้นั วางอปุ กรณ แนะนําวธิ กี ารยกพลองแดง คือใชสองมือจบั ตรงกลางของพลองแดง ยกขน้ึ ใน แนวต้งั หนาลําตัวโดยจบั 5 น้ิว ใหน ิว้ หัวแมมืออยูดานหนาลําตวั 4 นิว้ อยูดา นหลงั อปุ กรณ แลว วางลงท่ีเดิม ใหโ อกาสเด็ก เลอื กยกอุปกรณมาท่ีดว ยตนเอง นาํ มาวางในแนวนอนตามความยาวของพรม 3. ครแู ละเด็กชว ยกนั ยกพลองแดงมาวางทพี่ รมแบบคละกนั ไมต อ งเรยี งลําดบั ถอื ท่ีละชนิ้ วางใหชิดพรมดา น ลา งใกลทีน่ ัง่ 4. ครแู ละเดก็ นง่ั ลงหนา พรมเดก็ นง่ั ขา งซา ยครู ครสู าํ รวจพลองแดง กม มองใหเ หน็ ชดั เจนโดยใชส ายตาสาํ รวจ หยิบพลองแดงตรงกลางดว ยมือขวาชิ้นที่ยาวท่ีสุดวางลงบนพรมดา นบนสุดในแนวนอน 5. ใชมือซา ยจับพลองแดงรมิ ซายไว ใชน้ิวชีแ้ ละน้ิวกลางมือขวา ลูบพลองแดงเบา ๆ จากซายไปขวา 68 การจดั การเรียนรรู ะดับปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
6. หยบิ ชนิ้ ท่ี 2 ทคี่ วามยาวรองลงมาวางลงขา ง ๆ ชนิ้ ท่ี 1 ใชน ว้ิ คนั ใหช ดิ กนั และทาํ แบบเดยี วกนั กบั ขอ 5 อกี ครง้ั 7. ใชน วิ้ ชี้และนิ้วกลางของมอื ซา ย ลบู ดา นซา ยของพลองแดงใหเ ทา กัน 8. หาช้นิ ใหมข องพลองแดงโดยใหเด็กชวยช้ีดวยวาอันไหนควรเปนอนั ตอไป 9. ทําซาํ้ ไปอยา งนจ้ี นจบ และชวนเดก็ ดรู อบ ๆ พลองแดงอยา งละเอยี ดในแตละมุมชน่ื ชมผลงาน 10. นําเดก็ มานงั่ ทเ่ี ดิม ครคู ละพลองแดงใหมโ ดยไมเรยี งลาํ ดบั ตอไปน้ีหนูจะตองทําเองแลว นะคะ ทํากี่คร้ัง กไ็ ด และครูสงั เกตอยูหา ง ๆ แบบฝก หดั 1. ครเู ชญิ ชวนเด็ก ครูมกี จิ กรรมใหมเกยี่ วกบั พลองแดงมาทํากันนะคะ 2. ใหเ ด็กปูพรม 1 ผนื ครูและเดก็ ชวยกนั ยกพลองแดงมาวางท่พี รมใหเ ดก็ ทํางานกับพลองแดง ตอ พลอง แดงใหเ สร็จเรยี บรอ ย 3. ครหู ยบิ พลองแดงเสนทสี่ นั้ ทสี่ ุดดว ยมือขวา ยกใหเดก็ เห็นชดั เจน นาํ ไปวางในระดบั ความตา งของพลอง แดงทกุ ระดบั ทาํ ใหเ ด็กเห็นชัดเจนของความตา งของพลองแดงในแตละอันมีความตางเทากัน และนําไปวางทีเ่ ดมิ 4. ใหเ ดก็ ทดลองทาํ ดูบาง ภาษา ภาษาของพลองแดง ส้ัน-ยาว , กวา, ที่สุด การสอนภาษาสอนแบบ 3 ขัน้ ตอน ใชภาษาในการสอนคือ ส้นั -ยาว เกม เกมท่ี 1 เกมนํามา 1. เชญิ เด็กท่ีละคน ประมาณ 3-4 คน 2. ใหเ ดก็ ชวยเอาพรม 2 ผนื มาปูใหห างกนั มากพอสมควร 3. ใหน าํ พลองแดงมาวางในผื่นที่ 1 แบบคละกันไมเ รยี งลาํ ดับ 4. ครแู ละเด็กไปนงั่ ในพรมผ่ืนที่ 2 บอกเดก็ 1 คนวาไปเอาพลองแดงชิ้นทยี่ าวทส่ี ุดมานะคะ เม่ือเด็กกลับมา ถามวา หนูเอาชิน้ ไหนมาคะ ดวู าเด็กตอบตรงกับสงิ่ ทท่ี าํ หรอื ไม 5. เด็กสลับกันไปท่ีละคน ใหไ ปเอาชิ้นท่ยี าวทีส่ ดุ มา 6. ตอ ไปบอกวาไปเอาชนิ้ ที่หนคู ิดไวน ะคะนาํ มาตอ กันเรียงไว 7. เมื่อเหลือ 2 ช้ิน เดก็ ควรตอบวา ชิ้นยาวกวา 8. เม่อื เหลือช้ินสุดทาย เดก็ ควรจะตอบวาชน้ิ ส้ันท่สี ุด เกมที่ 2 เกมระยะทาง 1. เชญิ ชวนเดก็ มาท่ลี ะ 1 คน เชญิ มาประมาณ 3-4 คน 2. ใหเด็กชว ยปพู รม 2 ผืนใหห างกันพอประมาณ ย่งิ ไกลไดมากเทา ไรยิ่งดี 69การจัดการเรยี นรรู ะดับปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
3. ใหเด็กชว ยกันหยบิ พลองแดงไปวางคละกันบนพรมผืนท่ี 1 เมอื่ วางครบแลว ครเู ลอื กหยบิ พลองแดง 1 ชนิ้ แลวพาเดก็ ไปน่ังในพรมผนื ที่ 2 วางลงบนพรม บอกเดก็ คนหนึ่งวา ไปหาช้ินทย่ี าวกวานม้ี านะคะ เม่ือเดก็ กลบั มาถามวาไป เอาชนิ้ ไหนมาคะ เด็กตอบชน้ิ ที่ยาวกวา ใหวางคูก นั ดู 4. ใหเดก็ คนตอไปนําไปคืน และใหไ ปเอาชนิ้ ใหมท่ีส้ันกวา น้ีมานะคะ 5. ตอ ไปถามคาํ ถาม 2 คาํ ถามกไ็ ด เอาชนิ้ ไหนมาคะ เมอื่ เดก็ ตอบเชน ชน้ิ สน้ั กวา ถามตอ วา สน้ั กวา ชน้ิ ไหนคะ ใหเ ดก็ ชี้ใหด เู ปรยี บเทียบ เม่ือใหเดก็ ไปหยบิ มาตอ งถามทกุ ครั้ง 6. สงั เกตความสนใจของเด็ก ถาจะจบเกมไมตองนําไปคืน ใหเ รยี งไวเม่ือหยบิ มาครบแลว ใหเดก็ ชว ยกันทาํ พลองแดงไปเกบ็ ท่เี ดมิ และเกบ็ พรมดวย 4. การประเมนิ ผล 1. ปฏิบัติกิจกรรมไดถกู ตอ ง 2. บอกภาษาและเขา ใจความหมาย สั้น-ยาว, สน้ั กวา-ยาวกวา ,ส้ันท่สี ุด-ยาวท่สี ดุ , 5. อายุ ประมาณ 3- 3 12 ขวบ 70 การจดั การเรยี นรูระดับปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมที่ 5 แถบสี กลองท่ี 1 1. สอ่ื /อปุ กรณ กลองไมบรรจุแถบไมเ น้อื ออน จํานวน 6 ชน้ิ ทาสีแมสีหรอื พันดวยเสน ไหมเปน คู คอื คสู แี ดง คูสีน้ําเงนิ และคู สเี หลือง 2. วตั ถุประสงค 1. การแยกแยะความตา งของมิติดวยจกั ษปุ ระสาท 2. การเรียนรเู บื้องตนของสี 3. พัฒนาประสาทสัมผสั ดา นการเรยี นรู สี 4. การเตรยี มความพรอ มสูงานศิลปะ 5. การเตรียมความพรอมดา นคณิตศาสตร 3. วธิ จี ดั กิจกรรม 1. เชิญชวนเดก็ มากับครูนะคะวันน้เี ราจะทํางานกับแถบสีกันคะ 2. นําเดก็ ไปทช่ี ้นั เก็บอุปกรณ ยกอปุ กรณใหเด็กดูและวางที่เดิม ใหเด็กถอื อปุ กรณม าวางทโ่ี ตะ โดยใชจบั หัว ทายกลอ งดวย 2 มือ 3. นําอปุ กรณวางบนโตะ ครเู ปด ฝากลอ ง และวางลงบนโตะ หยบิ กลอ งวางบนฝากลอ ง 4. ครสู าธติ การหยบิ แถบสีออกจากกลอ ง ใช 2 น้ิว คอื น้ิวหวั แมม ือและน้ิวช้ี จับขอบแถบสี นํามาวางคละกัน ไปทงั้ หมด 6 ชิ้น 5. ครสู าํ รวจแถบสีดวยการมองสาํ รวจอยา งพถิ พี ิถนั หยบิ ขน้ั มา 1 สี นํามาวางมมุ บนซายมอื และมองหาคูสี เดยี วกันมาวางคูกันทางดานขวาของสีแรก 71การจดั การเรียนรรู ะดับปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
6. ทําเหมือนเดมิ กับอกี 2 คูสที ีเ่ หลอื วางเปน คูถ ดั ลงมาดานลา งของคูแรกบอกเดก็ วาครทู ําเรยี บรอยแลว ครู จะคละสใี หม หนูลองทาํ บา งนะคะ ภาษา การสอนภาษา ชอ่ื ของสี คือ สแี ดง สีนา้ํ เงิน สเี หลือง ใชการสอนภาษาแบบ 3 ขั้นตอน แบบการสอนภาษาปกติ 4. การประเมินผล 1. ปฏิบตั ิกจิ กรรมไดถกู ตอง 2. บอกภาษาและเขาใจความหมาย ชอ่ื ของสี คอื สแี ดง สีนา้ํ เงนิ สเี หลือง 5. อายุ ประมาณ 2 21 - 3 ขวบ 72 การจดั การเรยี นรรู ะดับปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมท่ี 6 แถบสี กลองที่ 2 1.สอ่ื /อปุ กรณ 1. กลองบรรจแุ ถบไม จาํ นวน 22 ชน้ิ พันดวยเสน ไหมสหี รอื ทาสีเปน คู คือ คสู ีแดง คสู ีนา้ํ เงิน คสู ีเหลอื ง คสู ดี าํ คสู มี ว ง คูสสี ม คูสีเขียว คูสีขาว คสู ีชมพู คูสนี ํ้าตาล คูสีเทา 2. เส่อื หรอื พรม 2 ผนื 2. วัตถปุ ระสงค 1. การแยกแยะความตางของมติ ดิ วยจกั ษุประสาท 2. การพฒั นาประสาทรบั รดู านสี 3. เปน กญุ แจในการเปดสโู ลกของสี 4. การเตรียมความพรอ มสงู านศลิ ปะ 5. การเตรยี มความพรอ มดานคณติ ศาสตร 6. การเตรียมความพรอมดานการอา นและการเขยี น 3. วธิ จี ัดกิจกรรม 1. เชญิ ชวนเดก็ มาทํางานวนั นี้เราจะทาํ งานกบั แถบสี กลองที่ 2 นะคะ 2. คยุ กับเดก็ หนทู าํ งานกบั สีกลองท่ี 1 มาแลวนะคะ วนั นคี้ รูมแี ถบสีกลอ งท่ี 2 ใหญก วา มสี มี ากกวา แนะนํา กลอ งแลว ยกใหเด็กดู และวางทเ่ี ดมิ ใหเ ดก็ ถือกลอ งแถบสมี าที่โตะ ดว ย 2 มือจับหวั ทา ยของกลอ งหงายมือข้นึ ใหน ้วิ หัวแม มืออยูดานบนสีนว้ิ อยูด านลางกลอ ง 73การจัดการเรียนรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
3. ครูเปด ฝากลองใหเดก็ กมดใู หเ ลือกสีท่รี ูจกั ออกมา ถา เดก็ ไมห ยิบครูชวยหยิบสกี ลุมที่ 1 คอื สแี ดง สีเหลอื ง และสีนา้ํ เงิน ออกมาวางคละกันไปและใหเ ดก็ จบั คสู ี จับไดแลว นาํ ไปวางมุมซา ยมือคูกัน คูท่ี 2 วางตอ ลงมาดานลางคทู ี่ 3 วางตอ ลงมา เมอื่ เด็กทําเสรจ็ แลว 4. ครหู ยบิ สีกลุม ที่ 2 คอื สีมวง สีสม สเี ขยี ว ออกมาวางคละกนั ไปและใหเดก็ จบั คสู ี ครอู าจจะเรม่ิ ตน ใหแ ละ ใหเ ด็กทาํ เอง เมอ่ื เด็กจับคูไดเ สรจ็ แลวครกู น็ ําสที ัง้ 6 คูสีมาคละกันและเร่มิ ใหเ ด็กทาํ ใหม 5. ถา เดก็ ทําไดเรากจ็ ะเพ่ิมสีออกไปอีก การเพม่ิ สีก็ดวู า เดก็ ทาํ ไดแลว ทกุ คร้ังทเ่ี พม่ิ สี เอาสคี ละกนั กอน 6. การจบั คถู า เสื่อหรอื โตะ เราสั้น กใ็ หเ อาการจบั คูมาเร่ิมแถวที่ 2 โดยใหกะขนาดโดยเอามือซายวาง เปนตัว วดั ระยะหา งของแถว 7. การเพมิ่ สีกลมุ ท่ี 3 อกี 5 สี คอื สีชมพู สนี ้ําตาล สดี ํา สีเทาและสขี าว เพราะสนี ีว้ จิ ัยแลว วา เดก็ ชอบ ภาษา การสอนภาษา ชอื่ ของสี คอื สแี ดง สนี าํ้ เงนิ สเี หลอื ง สมี ว ง สสี ม สเี ขยี ว สชี มพู สนี า้ํ ตาล สเี ทา สดี าํ และสขี าว ใชก ารสอนภาษาแบบ 3 ขั้นตอน แบบการสอนภาษาปกติ เกม เกมท่ี 1 การจับคู ระยะทาง 1. เชญิ เด็กมาประมาณ 5 คน แตเ ลน คนเดยี วก็ไดจะสนุกกวา เมอื่ เลนเปนกลุม 2. ใหเ ด็กชว ยปเู สอื่ 2 ผืนในระยะทหี่ า งกันมาก ๆ เพือ่ ชว ยใหเ ดก็ ไดเคล่ือนไหวมาก ๆ 3. ครเู ชิญชวนเดก็ มานั่งทีเ่ สอื่ ผนื ที่ 1 ใหเ ดก็ 1 คนไปยกกลองสีที่ 2 มาและหยบิ สีจากกลองคูล ะ 1 สี วาง คละกนั ไว และครูและเด็กยา ยไปเส่อื ผืนที่ 2 4. ใหเดก็ หยิบสอี อกมา 1 สี แลวใหเ ด็กไปเลือกสี เสือ่ อกี ผนื หน่งึ ท่ีเหมือนกันมาวางคกู นั เม่อื เรยี บรอยแลว ใหน าํ ไปคนื ใหเ ดก็ คนตอ ไปเลอื กสใี หมอ อกมาและไปเลอื กสที เี่ หมอื นกนั จากเสอ่ื อกี ผนื หนงึ่ ทาํ อยา งนไี้ ปเรอ่ื ย ๆ 5. ถา จะใหเ กมจบ ก็ใหจ ับคแู ถบสีไวคูก นั ไมตองนําไปคนื อกี เกมที่ 2 การจบั คสู กี ับส่ิงแวดลอม ทาํ กิจกรรมเหมือนกับเกมท่ี 1 แทนท่ีจะจบั คูสีดวยกนั ใหเ ดก็ เลือกหยิบสอี อกมา 1 สีและใหไ ปจับคกู ับวัสดใุ น ส่ิงแวดลอ ในหอ ง เม่ือหยบิ แลว ก็ใหน ําไปคืนเหมือนเดิม และหามไปหยบิ ท่เี พือ่ นกาํ ลังทาํ งานอยู 4. การประเมินผล 1. ปฏิบัติกจิ กรรมไดถูกตอ ง 2. บอกภาษาและเขา ใจความหมาย ชื่อของสี คือ สีแดง สนี า้ํ เงิน สีเหลอื ง สมี ว ง สสี ม สเี ขียว สชี มพู สนี าํ้ ตาล สีเทา สดี าํ และสีขาว 5. อายุ ประมาณ 2 12 - 3 ขวบ 74 การจัดการเรียนรูร ะดับปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมท่ี 7 แถบสี กลองที่ 3 1. สอ่ื /อุปกรณ 1. กลอ งไมเกาชอง แตละชอ งบรรจุแถบไมเจด็ ชิน้ ตามสี 9 สี ความเขมของสไี ลกัน 9 สีดงั น้ี สแี ดง สีน้าํ เงิน สีเหลอื ง สเี ขยี ว สีสม สีมวง สชี มพู สเี ทา และสีนา้ํ ตาล 2. พรมหรอื เส่อื 2 ผืน 2. วัตถุประสงค 1. การแยกแยะความตางดานมติ ิของสี ดวยจักษปุ ระสาท 2. การเรียนรกู ารรับรขู องสีที่ประณตี ขนึ้ 3. การเตรียมความพรอมสูง านศลิ ปะ 4. การเปด กุญแจสูโ ลกของสีใหก บั เด็ก 5. การเรียนลาํ ดบั สี 6. การเตรยี มความพรอ มดานการอานและการเขยี น 7. การเตรียมความพรอมดา นคณติ ศาสตร 3. วิธีจดั กิจกรรม 1. เชญิ ชวนเด็กวันนเี้ ราจะทาํ งานกบั แถบสี กลอ งที่ 3 นะคะ 2. พาเด็กมาท่ชี ัน้ วางอปุ กรณ แนะนาํ วา วนั นี้เราจะทํางานกบั กลองสีที่ใหญท ่ีสดุ 3. ใหเ ด็กยกกลอ งมาวางบนเสอ่ื ท่ปี ไู ว หนอู ยากดูไหมวามสี อี ะไรบางในกลองนี้ใหเ ด็กเปด ฝา กลอ ง 4. เลือก 1 สีอะไรกไ็ ดแ ตควรเขา กบั สิง่ แวดลอม เชน วนั นห้ี นผู ูกโบสชี มพู เราเลือกสชี มพกู ันนะ หยบิ ออกมา ท้ัง 7 ชิ้นวางคละกนั 75การจัดการเรียนรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
5. เลอื กสที เี่ ขม็ ทสี่ ดุ หรอื ออ นทส่ี ดุ กไ็ ด วางชดิ ขอบเสอ่ื ดา นซา ยมอื และหาสที อี่ อ นทส่ี ดุ ในกลมุ มาวางตอ จากแผน ที่ 1 6. ทําตอไปโดยเลือกไปเรอ่ื ย ๆ จนครบ 7 ชิ้น 7. ใหเ ดก็ ดแู ละครนู ํามาเรียงคละกันใหม หนูทดลองทาํ เองซิคะ 8. จะใหเ ดก็ ทาํ งานทีละ 1 สเี ทา นั้น เสรจ็ แตละสจี ึงจะนําสีใหมออกมาใหทาํ ใหม แบบฝก หัด 1. เชิญชวนเดก็ วนั นีเ้ ราจะทาํ งานกบั แถบสกี ลอ งท่ี 3 แบบใหมน ะคะ 2. พาเด็กมาท่ีช้ันวางอปุ กรณ ใหเ ดก็ ยกอุปกรณก ลองท่ี 3 มาทเ่ี สือ่ ทเี่ ตรียมปูไว 3. ใหเด็กเปด กลอ งและใหหยบิ สีทชี่ อบออกมา 1 สีวางคละกันโดยไมเรยี งลําดบั และครูเลือกอกี 1 สีออกมา ทั้ง 7 ช้นิ มาวางคละกนั กับสที ีเ่ ดก็ เลือกออกมา 4. ครูเลอื กสที ีเ่ ขมทสี่ ดุ วางชิดของเสอ่ื ดานซา ยมุมบน และเลอื กสที ่เี ขมที่สดุ ของสีที่ 2 วางลงมาดานลา งของ สีท่ี 1 ชดิ ขอบเส่อื ดานซา ยเหมือนกนั 5. เลอื กสีที่ออ นถดั มาในกลมุ ของส่ที ี่ 1 วางตอ จากแผน ท่ี 1 มาทางดานขวามือ 6. ทาํ ซาํ้ แบบเดมิ ไปเรอ่ื ย ๆ โดยถามความเห็นจากเด็กดวยวาตอ ไปควรเปน แถบสีแผน ไหน ถาเด็กทําไดก ใ็ ห ทําเอง จนเสร็จทง้ั 2 สี 7. ครูนาํ แถบสีทั้งสองสมี าคละกันอีกครั้ง ใหเ ด็กทดลองทาํ ใหม 8. ถาเดก็ ทาํ ได ใหท ําเพมิ่ ขนึ้ ทีละสี จนครบเกาสี ภาษา การสอนภาษา ชอื่ ของสี 9 สี คอื สแี ดง สนี าํ้ เงนิ สเี หลอื ง สสี ม สเี ขยี ว สมี ว ง สชี มพู สนี าํ้ ตาล สเี ทา ภาษาใหม ออน-เขม การสอนภาษา 3 ข้นั ตอน ในขัน้ ตอน 3 ระดบั คือภาษาปกติ ขน้ั กวา และขั้นทส่ี ดุ เกม เกมที่ 1 การจับคู ระยะทาง 1. ใหเด็กอาสาปเู สอื่ 2 ผนื ใหไ กลกันมากท่ีสดุ เทาที่จะทําได เชญิ เดก็ เปนกลุม เด็กหลาย ๆ คนจะสนกุ กวา 2. ใหใ ชท ัง้ 63 แถบสีวางคละกันไปแบบไมเรยี งลาํ ดับ แตตอนเรมิ่ แรกอาจจะยังไมค รบก็ได แตต อ งพยายาม ใหเดก็ ไดเ ลน ใหม ากท่ีสุด 3. ครบู อกเดก็ วาเรามีแถบสคี รบทกุ ชนิ้ แลว นะคะ ครูหยบิ แถบสี 1 ชน้ิ แลวชวนเด็กไปทเ่ี สื่ออกี 1 ผนื แลว บอกเด็ก 1 คนวา ไปเลือกสจี ากเคร่ืองอีกผนื่ 1 มา หาสที อ่ี อ นกวา น้ี 4. เมอื่ เด็กหามาได ชมเชยและใหเด็กคนใหมเ อาไปเก็บทเ่ี ดมิ และเอาสใี หมท่อี อนกวาหรือแกก วานม้ี าร 5. ครคู วรจะเปล่ยี นสไี ปเรอ่ื ย ๆ ถาจะใหเ หน็ ความแตกตา งชดั เจนกบ็ อกวา เลอื กท่ีมนั ออ นกวา หรือแกกวา นดิ เดียว 76 การจัดการเรียนรรู ะดบั ปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
6. ถา จะจบเกมกไ็ มตอ งเอาไปคนื ใหเ รยี งลําดับตอ กันไวเลย 7. การเลน เกมจะทาํ ใหเดก็ ไดเ รียนรกู ารรอคอย ความทา ทายจากกจิ กรรม เกมท่ี 2 การจับคูสีกับสิ่งแวดลอม 1. เชญิ เด็กเปนกลุมเลก็ ประมาณ 3-5 คน 2. ใหเ ด็กปเู สือ่ และนาํ แถบสีออกมาวางคละกนั โดยไมเรยี งลาํ ดับ 3. การเทียบสีกบั ส่ิงแวดลอ ม ครูตอ งแนใ จวาในสงิ่ แวดลอ มมีทเ่ี หมือนกับสี 4. ใหเ ดก็ ไปหยิบวสั ดมุ ากอนแลว มาหยิบแถบสมี าเทยี บ 5. การจะจบเกมอยทู คี่ วามสนใจของเดก็ หรือความเขา ใจของเด็ก ถา เขารูจ ักเลนเองได 6. สีในกลองท่ี 3 นจี้ ะมีความเขมแตละสไี ลความเขมออ น 7 ระดบั จากเปรียบเทียบกับสิ่งแวดลอ มก็จะ ละเอยี ดประณีตขึน้ 4. การประเมินผล 1. ปฏิบัตกิ ิจกรรมไดถ กู ตอง 2. บอกภาษาและเขา ใจความหมาย ช่อื ของสี 9 สี คอื สแี ดง สีนา้ํ เงนิ สเี หลอื ง สสี ม สเี ขยี ว สมี ว ง สีชมพู สนี ้ําตาล สีเทา ภาษาใหม ออน-เขม 5. อายุ ประมาณ 3 21 ขวบ 77การจดั การเรยี นรรู ะดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมท่ี 8 ตเู รขาคณติ 1. ส่ือ/อุปกรณ 1. ตไู ม 6 ล้ินชกั รวมถาดนําเสนอหรือถามแนะนํา เปน 7 ลนิ้ ชกั บรรจุรปู ทรงระนาบ 35 รปู เรยี ก วา รูปตัด และกรอบท่ีพอเหมาะกัน เชน เดยี วกับรูปตดั และรปู ตดั ทรงระนาบแตละชิ้นมหี มุดสาํ หรับจับ 2. ถาดนําเสนอ ประกอบดว ย โครงไมทาํ เปน ตาราง 6 ชอง และมีแผน ไมท าสขี าว จํานวน 6 ชิน้ ลนิ้ ชักทง้ั 6 บรรจรุ ปู ทรงตา งๆ ดงั นี้ 3. ถาด/ลิน้ ชกั ที่ 1 มี 4 รูป ประกอบดวย รปู ส่เี หลยี่ มดา นโคง รูปรี รปู ไข รูปสามเหลย่ี มดานโคง 4. ถาด/ลิ้นชกั ที่ 2 มี 4 รูป ประกอบดวย รปู ส่เี หลย่ี มคางหมู (ดานตรงขาม 1 คูขนานกนั ) รูปส่ีเหลยี่ มขนมเปยกปนู /สเี่ หล่ยี มขาวหลามตัด (ดา นตรงขา มขนานกัน เสน ทแยงมุม 2 เสนตดั กันเปนมมุ ฉาก) รูปสเ่ี หล่ียมคางหมทู ่มี ีมุมฉาก 1 มมุ รูปสเี่ หลีย่ มดา นขนาน (ดานตรงขา มขนานกัน 2 คู) 5. ถาด/ล้ินชักที่ 3 มี 6 รปู ประกอบดว ย รปู วงกลมทมี่ ขี นาดเสน ผา นศนู ยก ลางลดลงจาก 10 ซม. ถงึ 5 ซม. 6. ถาด/ลิ้นชักท่ี 4 มี 6 รปู ประกอบดวย รูปสเี่ หลยี่ มจัตุรสั 1 รปู รปู สเี่ หล่ยี มผืนผา 5 รปู มีฐาน ขนาดตางกนั ลดจาก 10 ซม. ถงึ 5 ซม. ความสูงคงที่ 7. ถาด/ล้นิ ชกั ท่ี 5 มี 6 รปู ประกอบดว ย รปู สามเหลยี่ มดา นเทา รปู สามเหลยี่ มมมุ ฉากทม่ี ดี า นไมเ ทา กนั (สามเหลีย่ มดา นไมเ ทา ) รปู สามเหลี่ยมมุมฉาก รูปสามเหลี่ยมมมุ ปาน (ดานไมเ ทากนั ) รูปสามเหลย่ี มหนา จ่วั รูป สามเหลย่ี มมมุ ปา น (ดา นเทา กนั 1 คู) 8. ถาด/ลนิ้ ชักท่ี 6 มี 6 รปู ประกอบดว ย รปู หา เหลยี่ ม รูปหกเหลยี่ ม รปู เจด็ เหล่ยี ม รปู แปดเหลีย่ ม รปู เกา เหล่ียม รูปสิบเหลีย่ ม 9. กลองไม บรรจบุ ัตรภาพ 3 ชุด เหมอื นรูปตัดทัง้ หมดในตูเ รขาคณติ ชดุ ท่ี 1 ระบายสเี ต็มรปู ชุดที่ 2 ขอบรปู เปนเสนทึบ ชดุ ท่ี 3 ขอบรูปเปนเสน บาง 78 การจดั การเรียนรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
2. วตั ถปุ ระสงค 1. เปน กุญแจไขสโู ลกเกย่ี วกบั รูปเรขาคณติ 2. การแยกแยะรูปทรงลกั ษณะตา งๆ 3. พัฒนาประสาทรบั รู ใหม คี วามประณีตมากขนึ้ 3. วิธจี ดั กจิ กรรม 1. ครูเชญิ ชวนเด็ก ไปทีช่ ้ันอปุ กรณ แนะนําวา นค่ี ือตูเ รขา ครูแนะนาํ อุปกรณ โดยครูดึงถาดนําเสนอออก มาจากตู วางลงบนชน้ั อปุ กรณ ยกไมต าราง 6 ชอ งขนึ้ ตงั้ ไว แลว ดงึ ถาดอปุ กรณอ อกมาทลี ะถาด เพอ่ื เลอื กหารปู ทต่ี อ งการ 2. เลือกรูปเปน พ้ืนฐาน 3 รูป คอื รูปวงกลม รูปส่เี หลย่ี ม และรูปสามเหลยี่ ม เชน รปู วงกลมกย็ กจาก ถาดที่ 3 มาวางบนถาดเปลา ซา ยลาง แลว หยิบแผน สขี าวในถาดนําเสนอไปวางในถาดชอ งที่หยิบรูปวงกลมออกมาแทน รูปสเี่ หลีย่ มและรปู สามเหลีย่ มก็ปฏบิ ัติเชน เดียวกนั ครแู ยกไวเชนเดิม 3. ครแู นะนาํ วธิ กี ารถอื อปุ กรณ โดยใชม อื ซา ย –ขวา จบั กลางขอบถาดทง้ั 2 ขา ง ครเู กบ็ ถาดอปุ กรณท เ่ี ดมิ ใหเ ด็กยกถาดอปุ กรณไ ปที่โตะ ทาํ งาน เด็กนั่งซา ยมือครู เมอ่ื เดก็ พรอมครเู รมิ่ สาธติ บทเรยี น ครูสบตาเดก็ และพดู วา “น่ีคือรูปทรงเรขาคณติ รปู วงกลม รปู สี่เหล่ยี ม และรูปสามเหลี่ยม 4. ครใู ชม ือซาย (มือทีไ่ มถนัด) หยิบจับท่หี มุดรูปวงกลมคอยๆ ยกข้ึนในแนวตง้ั กบั ลําตัว จากนั้นใชนว้ิ ชี้ และ นิ้วกลาง ของมือขวา (มอื ท่ีถนัด) วางลงบนขอบวงกลมจุดท่ใี กลตัวท่สี ุด และตาํ่ ท่สี ดุ ลบู ไลน ิว้ ไปตามขอบวงกลมตาม เขม็ นาฬกา 1-2 รอบ ครหู นั มาสบตาเดก็ วางรปู วงกลมในชองวางของถาด จากนัน้ ใชนิ้วชแี้ ละนวิ้ กลางของมือขวาวาง ลงในรองของรูปวงกลมจดุ ทไ่ี กลตัวที่สดุ ลูบไลน้ิวไปตามเขม็ นาฬกา 1-2 รอบ แลว ใชม ือซา ยจบั ที่หมดุ รูปวงกลมยกขน้ึ ชา ๆ วางกลับไวใ นกรอบที่เดมิ และปฏบิ ตั ิเชนเดียวกนั กับรูปสี่เหลย่ี ม และรูปสามเหลี่ยม 5. ครเู ชญิ ชวนเด็กทําตอ แลวพดู กับเดก็ วา “หนูลองทําดนู ะคะ หนจู ะทาํ กคี่ ร้งั กไ็ ด ทาํ เสร็จแลว หนูนําไป เกบ็ ไวที่เดมิ นะคะ” 6. เมอ่ื เดก็ ทําไดแลวสามารถแนะนํารูปทรงตอ ไปในวันถัดไป กิจกรรมตอ เน่อื ง 1 เมื่อเด็กทาํ กจิ กรรมพ้นื ฐานแลว เดก็ เลือกทาํ กจิ กรรมกบั ถาดอุปกรณโดยหยิบ อุปกรณเพมิ่ ขึ้น จาก 3 – 6 ช้ิน กจิ กรรมตอ เน่ือง 2 เด็กทํากจิ กรรมตอ เน่ือง 1เดก็ ทาํ กจิ กรรมกบั ถาดอุปกรณค รั้งละ 2 ถาด และเพิม่ จํานวนอุปกรณข้ึนตามความสามารถของเด็ก จนกระทัง่ เด็กสามารถทาํ งานพรอมกันกบั ถาดอปุ กรณท งั้ 6 ถาด ภาษา ใชการสอนภาษา 3 ขัน้ ตอน รปู ทรงเรขาคณติ ทุกรูปในตเู รขาคณิต 4. การประเมนิ ผล 1. ปฏิบตั ิกิจกรรมไดถ ูกตอ ง 2. บอกภาษาและเขาใจความหมายรูปทรงเรขาคณิตทุกรูปในตูเ รขาคณิต 5. อายุ 3 ขวบครงึ่ ถึง 4 ขวบขึ้นไป (กจิ กรรมตองเหมาะสมกบั อายุ การใหภ าษาระหวา งการแนะนําอุปกรณ) 79การจัดการเรยี นรรู ะดบั ปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมท่ี 9 ลกู บาศกส องตวั แปร 1. สอ่ื /อุปกรณ ในกลองหน่งึ ประกอบดวย 1. ลูกบาศกแดงและปรซิ ึมแดงและดําอยางละ 3 ชนิ้ ทเี่ ปน คกู นั 2. ลูกบาศกน า้ํ เงินและปรซิ ึมนา้ํ เงินและดาํ อยา งละ 3 ชิ้น ทเี่ ปน คกู นั เมอ่ื ประกอบปริซึมแดงทงั้ หมดเขาดวยกันจะเปนผลของสองตวั แปร ภาพพิมพข องผลสองตวั แปรปรากฏอยบู นฝากลอ ง 2. วัตถปุ ระสงค 1. เพือ่ สรา งลูกบาศก 2. เพ่อื เตรยี มความพรอมทางดา นคณติ ศาสตร พืชคณติ คือ สตู ร 3. วธิ จี ดั กจิ กรรม 1. ครูเชิญเดก็ 1 คน ไปที่ช้นั เกบ็ ลกู บาศกสองตัวแปรแลว แนะนํากลอ งลูกบาศกส องตัวแปร 2. ครูสาธิตการยกกลอ งลูกบาศกสองตวั แปรโดยใชม ือทงั้ สองจับในลักษณะอุม 3. เด็กยกกลองลกู บาศกว างบนโตะ ครูน่งั ลงทางดา นขวามอื ของเด็ก 4. ครูสาธติ การเปด กลองลูกบาศกม อื ซายจับดา นขางของกลอ งเอาไว มือขวาจบั ฝากลองแลว ยกขนึ้ ในแนวตงั้ แลววางไว ใชมือขวาจบั ขอบดานบนลางของขอบเปด ออกทงั้ สองดา น นํามุมของฝากลอ งดานที่มีสีแดงวางลงตรงมมุ กลองทีเ่ ปดอยู 5. ครหู ยิบลกู บาศกออกมาทีละลูกจนหมดแลวคละกัน 6. ครูนาํ ลูกบาศกเ ขา ไปในกลองคร้ังละ 1 ลกู โดยเร่มิ ตนดว ยสีแดงช้นิ ใหญจ ับคสู ีและรปู รา ง 80 การจัดการเรยี นรูร ะดบั ปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
7. ปด กลอ งเพื่อใหเด็กแทรกตอลกู บาศกไ ดถกู ตอ ง 8. ครเู ชิญเดก็ ไดป ฏบิ ัตกิ จิ กรรม แบบฝกหัดท่ี 1 การนําเสนอบทเรยี น 1. ใหเ ดก็ เปดกลอ งลกู บาศก 2 ตวั แปร แลวนาํ ลูกบาศกอ อก 2. ครูคละลกู บาศก 3. ใหเ ด็กสรางลกู บาศกจ นถกู ตอ งสมบูรณ 4. ครแู ยกลกู บาศกอ อกครง่ึ หนงึ่ ในแนวตรงเพ่อื ใหท ราบวาเปน ลกู บาศกสองตวั แปร 5. ครเู ชญิ ชวนใหเดก็ สรางลูกบาศกสองตัวแปร แบบฝกหัดท่ี 2 การนําเสนอบทเรยี น 1. ใหเ ด็กเปดกลอ งลกู บาศก 2 ตวั แปร แลว นําลกู บาศกออก 2. ครูคละลูกบาศก 3. เดก็ สรางลกู บาศก 2 ตัวแปร ทลี ะชนิ้ นอกกลอ งเสรจ็ แลวคละลูกบาศก 4. วางลกู บาศกทับซอ นกันในกลอง 5. ปด กลอ งแลว เดก็ นําไปวางไวท ีเ่ ดมิ 4. การประเมินผล ปฏบิ ัติกจิ กรรมไดถ กู ตอง 5. อายุ 3 ขวบครึง่ ขึน้ ไป 81การจดั การเรียนรูร ะดบั ปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมท่ี 10 กระดานขรุขระและเรียบ 1. สือ่ /อปุ กรณ 1. กระดานรูปสเ่ี หลยี่ มผืนผา แบง ผืนผิวเปน 2 สวน คอื ครง่ึ หนงึ่ ขัดมนั อีกคร่งึ หน่ึงปด ดว ยกระดาษทราย 2. กระดานรปู สเี่ หลย่ี มผนื ผา แบง พน้ื ผวิ เปน 10 สว น หา สว นขดั มนั อกี หา สว นปด ดว ยกระดาษทราย สลบั กนั ไป 3. เหยือกนา้ํ 1 เหยอื ก 4. ผา เช็ดมือ 1 ผืน 5. จานลองนา้ํ ลา งมือ 1 จาน 2. วตั ถปุ ระสงค 1. การแยกแยะพ้ืนผวิ ตาง ๆ ดว ยผสั สะประสาท 2. เพอ่ื ฝก ฝนผสั สะสัมผสั 3. การเตรยี มความพรอมพืน้ ฐานของการเขยี นและการเคล่ือนไหวเบอ้ื งตนในการลากมือ 4. ฝก การสมั ผัสเบา ๆ เพอื่ เดก็ จะไดจบั ดนิ สอเบา ๆ เพราะเดก็ จะจบั ดนิ สอแรงมาก 3. วิธีจัดกจิ กรรม 1. เชญิ ชวนเด็กมากับครนู ะคะ วนั นค้ี รูมีส่งิ ใหมนา สนใจใหท ํานะคะ 2. นําเด็กไปท่ีตอู ปุ กรณ แนะนําอปุ กรณย กใหด แู ละวางลง ครูเปดโอกาสใหเดก็ ไดเลือกอปุ กรณชวยกนั ถอื มาทโ่ี ตะ 3. เริ่มยกอปุ กรณต าง ๆ วางบนโตะ และบอกชื่ออุปกรณแตล ะอยาง 82 การจดั การเรยี นรูร ะดบั ปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
4. ใหเ ดก็ เทน้ําจากเหยือกใสจานลา งมอื โดยจุม ปลายนิว้ มอื ขวา แลวเช็ดผาเช็ดมืออยา งพิถีพิถนั และเรม่ิ ทํา มอื ซา ยดว ยเหมอื นกนั การกระตนุ ปลายนว้ิ เพอื่ ใหป ระสาทรบั รดู ขี น้ึ ครทู าํ ทงั้ สองมอื และใหเ ดก็ ทาํ ดว ย ทงั้ สองมอื เหมอื นกนั เสรจ็ แลวขยบั เหยือก ผาเชด็ มอื และจาน ไปอยทู ีด่ า นขวามอื สดุ เพ่อื ใหทาํ งานสะดวก 5. ครูนาํ เสนอกระดานขรขุ ระและเรียบ โดยใชมอื ซา ยจับขอบดานซา ยใหมัน่ คง ใชม ือขวาลบู ใหเดก็ ดูกอน ท้ัง 2 ดาน 2-3 รอบ ตอ ไปลูบไปพูดไปดว ยวา เรยี บ ขรขุ ระ 6. ครูสัมผสั อีกคร้งั 1-2 รอบ ตอ ไปจะพูดขณะสัมผสั เพ่ือจะสอนภาษา 3 ขัน้ ตอนไปดวย โดยใหสอนพูด เรยี บกอน เพือ่ ใหเดก็ สัมผัสไดจรงิ ๆ ครสู ลับดา นกระดาน 7. ครเู ปลีย่ นไปใชก ระดานแผน ท่ี 2 นํามาวางตรงหนาครูและใชผา ผูกตาก กอนจะผกู ตาใชก ระดาษทชิ ชูลอง กอนปดตา เพอื่ กนั การติดเชื้อโรคจากตา 8. ครูใชม อื ซา ยจับกระดานแผนที่ 2 ใหม่ันคง ใชน ิว้ ของมอื ขวาคือนิ้วชี้ นิว้ กลาง ลูบกระดาน ลูบ 2-3 ครง้ั แลว เร่ิมพดู ช่อื เรยี บ ขรขุ ระ และใหเดก็ กระทาํ บาง 9. ใหเด็กทาํ ไดต ามความพอใจ เสรจ็ แลวทาํ ความสะอาดจานลางมือเกบ็ เขา ที่ ภาษา ภาษาที่ใชช อ่ื กระดาน เรียบ และขรุขระ 4. การประเมินผล 1. ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมไดถูกตอ ง 2. บอกภาษาและเขา ใจความหมาย ชื่อของกระดานเรียบและขรขุ ระ 5. อายุ ประมาณ 3 ปขนึ้ ไป 83การจดั การเรยี นรรู ะดบั ปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมท่ี 11 แถบอณุ หภูมิ 1. ส่ือ/อุปกรณ กลอ งบรรจแุ ถบวตั ถุ 4 คู ท่ีมีคณุ สมบัตขิ องการนาํ ความรอนตา งกัน เชน ไม ใยสงั เคราะห หินออ น เหล็ก 2. วัตถุประสงค 1. การฝก ฝนประสาทรบั รูของอณุ หภูมิ 2. การแยกแยะอณุ หภมู ิ 3. วิธจี ัดกจิ กรรม 1. ครูเชญิ เด็กไปทชี่ ้นั วางอุปกรณ และแนะนําวา น่คี อื กลอ งแถบอณุ หภมู ิ 2. ครใู หเ ดก็ ถอื กลองแถบอุปกรณม าวางบนโตะ แลวนั่งลง ครูนง่ั ดา นขวาของเดก็ 3. ครูแนะนาํ แถบอุณหภมู ิในกลอ ง แลววางครั้งหนงึ่ ทางซาย คร้ังหน่งึ ทางขวามือ 4. ครูสาธิตการนําขอ มอื ทง้ั สองดา นทัง้ ดา นซายและขวาคว่าํ ขอมอื ลงแลวถูตรงหนาขาเหมอื นเขา เลก็ นอย 5. ครูใชข อมอื ถแู ลวมาวางบนแถบอุณหภมู ิ ขอมอื ซา ยสมั ผสั แผน ดา นซา ย 6. ขอมือขวาสัมผัสแถบทางดานขวามอื 7. ครูคอ ย ๆ จับคูก ันจากการสัมผสั ขา งบนเปน คอู ยางระมดั ระวัง 8. จบั คูเสรจ็ แลว ครมู าสัมผัสในแตล ะคู 9. ครูเชิญชวนเดก็ ปฏิบัตกิ ิจกรรม ระหวางเด็กปฏิบัติกจิ กรรม ครสู งั เกตหา ง ๆ เม่อื พบวาเด็กมคี วามสนใจท่ี จะปฏบิ ตั นิ อ ยลง ครจู ึงยตุ ิกจิ กรรม 10. เดก็ เกบ็ อุปกรณเขากลองใหเขา ท่ี เหมอื นเดิม แลวนาํ ไปเก็บไวท่ชี ้นั ทเี่ ดมิ 84 การจัดการเรียนรูระดบั ปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเลก็ โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
ภาษา ช่ือของอุปกรณ เชนไม แกว ผา สกั หลาด อลูมเิ นียม ไมก อ ก หินออน 4. การประเมนิ ผล 1. ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมไดถกู ตอง 2. บอกภาษาและเขา ใจความหมาย ชอื่ ของอปุ กรณ เชน ไม แกว ผา สกั หลาด อลูมิเนยี ม ไมก อก หินออน 5. อายุ 3 ขวบครึ่ง ถึง 4 ขวบ 85การจัดการเรยี นรูระดับปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมที่ 12 แถบนํา้ หนกั 1. ส่อื /อุปกรณ 1. กลอ งแถบน้าํ หนกั แบง เปน 3 ระดับดวยกนั ในกลอ ง ขัดมันหรอื ขดั เงา แตล ะชุดมีสีและนา้ํ หนกั ตา งกันคอื เบา = 20 กรมั กลาง = 30 กรัม หนัก = 40 กรัม 2. พรมหรอื เสอ่ื 1 ผนื 2. วตั ถปุ ระสงค การใชประสาทสมั ผสั แยกแยะน้ําหนกั 3. วธิ ีจดั กิจกรรม 1. ครเู ชิญเด็กไปทีช่ ้นั วางกลอ งแถบนํ้าหนกั 2. ครูใหเด็กถือกลอ งแถบน้ําหนกั วางไวท่โี ตะ ครูนัง่ ลงทางขวามือของเดก็ 3. ครูใหเ ด็กหยบิ แถบนา้ํ หนักมาวางบนโตะ 4. ครสู าธติ วธิ กี ารชง่ั นาํ้ หนกั โดยใชบ รเิ วณปลายนว้ิ มอื ทงั้ 4 นว้ิ ของมอื ขวาและมอื ซา ย มนี ว้ิ ชี้ นวิ้ กลาง นว้ิ นาง นิ้วกอ ย ถือแถบน้าํ หนัก 5. ครูสาธติ การเหยียดแขนตรงไปขา งหนา ยกมือขวาและมือซา ยขึน้ พอประมาณ โดยยกสลบั ขาข้นึ และลง เขาเหมอื นการคาดคะเนนา้ํ หนกั 6. ครูแยกแถบนํ้าหนักออกมาซอนรวมกัน ถานาํ้ หนกั ของแถบน้าํ หนักเทา กัน 86 การจัดการเรียนรรู ะดบั ปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
7. ครนู าํ แถบนา้ํ หนกั ท่ีวางซอ นเรียงกนั มาคละกันใหม 8. ครูนาํ ผามาปดตา แลว เชญิ ชวนใหเด็กปฏบิ ัตกิ ิจกรรม 9. ครูเปดผา ปด ตา แลวเชญิ ชวนใหเด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรม 10. ระหวา งทเ่ี ดก็ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ครสู งั เกตเดก็ ปฏบิ ตั หิ า ง ๆ เมอื่ พบวา เดก็ มคี วามสนใจนอ ยลง จงึ หยดุ กจิ กรรม ภาษา หนัก เบา กลาง กจิ กรรมตอ เนอ่ื ง ใหเ ดก็ ชัง่ น้าํ หนกั โดยจบั คู 1. หนกั ทีส่ ุด หนักปานกลาง 2. ปานกลาง เบาท่ีสดุ 4. การประเมินผล 1. ปฏิบตั ิกจิ กรรมไดถูกตอง 2. บอกภาษาและเขาใจความหมาย ช่ือแถบน้าํ หนักหนกั เบา กลาง 5. อายุ 3 ขวบครึ่ง ถึง 4 ขวบ 87การจัดการเรยี นรูระดับปฐมวัยในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
กจิ กรรมที่ 13 การจดั กลมุ 1. สื่อ/อุปกรณ 1. ถาดทีบ่ รรจุถวยเลก็ 3 ถว ย 2. ถวยที่ 1 บรรจกุ ระดมุ รูปกลบี ดอกไม 6 กลีบ 3. ถวยท่ี 2 บรรจุกระดมุ รปู กลีบดอกไม 6 กลบี 4. ถวยที่ 3 เปน ถว ยเปลา 5. ผาปด ตา 2. วตั ถุประสงค การพฒั นาประสาทกลามเน้อื 3. วิธจี ดั กิจกรรม 1. ครูเชญิ เด็กไปทช่ี ัน้ วางอุปกรณ แลว บอกเด็กวาวนั น้ีครูมีกิจกรรมทีส่ นกุ และต่ืนเตน มาเสนอนะคะ 2. ครคู ลํากระดุมรปู กลีบดอกไม 6 กลบี แตล ะเมด็ อยางละเอยี ดแลวสง ใหเ ด็กดูคร้งั ละ 1 เมด็ จนกวาจะ หมดถว ยที่ 1 3. ครหู ยิบกระดมุ รูปกลบี ดอกไม 4 กลีบแตล ะเม็ดขึน้ มาสํารวจโดยการคลําหยบิ จบั และใชสายตาสาํ รวจ แลว สงใหเดก็ ไดหยิบจับ คลาํ สาํ รวจ จนหมดถว ยที่ 2 4. ครนู ํากระดุมท้ัง 2 ถวย ใส ลงในถวยวา งเปลาถว ยท่ี 3 เหลอื ไวอยา งละ 1 เมด็ เปน แบบ 5. ครนู ําผาปด ตามาปด ตาแลวสัมผสั กระดุมแตล ะตัวถา มี 6 กลีบเอาไวในถวยท่ี 1 มี 4 กลีบเอาไวในถวยที่ 2 ครูทําแบบนี้จนกระดุมหมดถว ย แลว เปดยา ยยกมาออกมา 88 การจดั การเรยี นรูร ะดับปฐมวัยในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
6. ครสู าํ รวจดว ยสายตาวา กระดมุ 2 ถว ย นน้ั ทถ่ี กู สมั ผสั แลว แยกแยะถกู ตอ งหรอื ไมแ ลว ใหเ ดก็ ไดร ว มตรวจสอบ 7. ครเู ชิญชวนใหเด็กไดปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามความพอใจ 8. เดก็ สัมผัสเสรจ็ แลวเก็บอปุ กรณเขา ท่ี 9. ครูควรเปล่ยี นวตั ถุในถวยตามสมควร ภาษา การใหชอื่ ของวตั ถุทีน่ ํามาแยกประเภท เชน กระดุมรูปดอกไม 4. การประเมินผล 1. ปฏบิ ัติกิจกรรมไดถกู ตอง 2. บอกภาษาและเขาใจความหมาย ชื่อของวัตถุท่นี าํ มาแยกประเภท เชน กระดุม 5. อายุ 3 ขวบครึ่งถงึ 4 ขวบ 89การจัดการเรียนรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยใชแนวทางมอนเทสซอริ
กิจกรรมท่ี 14 กลอ งเสียง 1. ส่ือ/อปุ กรณ กลอ งสองกลองบรรจุกระบอกชุด แตล ะชุดมีจาํ นวน 6 กระบอก ชุดหนึ่งมีฝาสีแดงอกี ชุดหนงึ่ มฝี าสนี ํา้ เงิน เมอ่ื เขยากระบอกแตละอันจะมเี สยี งตางกันจากดงั จนคอยสดุ เสียงในกระบอก ชดุ แดงเปนคูกบั ชุดน้ําเงิน 2. วตั ถุประสงค 1. เพอ่ื พัฒนาโสตประสาทโดยฝก ใหเ ด็กรจู ักความแตกตางของเสยี ง 2. เตรียมความพรอ มสาํ หรับดนตรใี นอนาคต 3. วิธีจัดกจิ กรรม 1. ครเู ชิญเดก็ ไปท่ีวางชั้นอุปกรณแลวบอกวาน้คี อื กลอ งเสยี ง 2. เด็กถือกลองเสียงมาท่ีโตะ นัง่ บนเกาอ้ี ครนู ั่งทางขวามือของเดก็ 3. เด็กเปด กลองสแี ดงออกกอ น หรือนํ้าเงินกอนกไ็ ด 4. ครบู อกวธิ ีจับขวดออกมาโดยใชน้วิ ท้งั 5 นวิ้ มอื ขวาจบั สวนกลางของขวดแลว นาํ ขวดมาวางขางกลอ ง 5. ครเู ตรยี มเสยี งทีด่ ังทีส่ ดุ และเบาท่ีสดุ มาวางไว 6. ครูใหเ ด็กเขยา ขวดทีห่ ซู า ย 2 ครง้ั และหูขวา 2 ครั้ง โดยหมนุ ขวดที่ชเู ลอื กมาจากลมุ สีแดง 7. เมือ่ เด็กลองเขยา สีแดงแลว นําขวดวางไว แลวลองเขยาขวดสีน้ําเงนิ ใหเสยี งดงั เหมือนสแี ดง ถา เสียงดัง เหมอื นกันใหว างขวดสีแดงและสีนํ้าเงนิ คูกนั ถาเสยี งดังไมเหมือนกนั ใหแ ยกออกวางไวท างขวามือดานลา ง 8. ครูนําขวดสีแดงและสนี ้ําเงนิ มาคละกนั แลวใหเ ดก็ ปฏิบัตติ ามขอ 7 จนกวาจะหมด 90 การจัดการเรยี นรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรียนขนาดเลก็ โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
9. เมอ่ื หมดแลวครูและเดก็ รวมกนั ทดสอบเสียงอีกครง้ั หนง่ึ วาที่จบั คูเ อาไวเ สียงจะดงั เหมอื นกันหรือไม 10. ครูนําขวดสแี ดงและสนี ํ้าเงนิ มาคละกนั แลวเชิญชวนใหเ ดก็ ฝกปฏบิ ตั ริ ะหวา งท่ีเด็กปฏบิ ัตคิ รคู อยสงั เกต วาถาเดก็ มคี วามสนใจนอยลงก็หยุดกจิ กรรมแลว ใหเด็กนาํ ขวดใสก ลองเกบ็ เขาท่ีใหเหมือนเดิม แลว นาํ อปุ กรณไปวางไวท ่ี เดมิ ของครู การเตรียมอุปกรณ 1. ครูเลือกอปุ กรณ เบาสดุ ไปดงั สดุ 2. ครกู า X ไวท ีก่ ลอ งเพือ่ เปนสญั ลกั ษณเ สยี งดงั – คอ ย 3. เมอื่ เด็กนํามาใหเ อาวา งคกู นั 4. ครูเขยา ขวดสีแดง แลว บอกวา ใหไปเอาเสยี งดังกวานี้ 5. เมื่อเดก็ ตรวจสอบเสียงทตี่ อ งการแลวจงึ นํามาใหค รู 6. ครูปฏบิ ตั ิแบบนีไ้ ปเรอื่ ยๆ โดยใชคาํ สั่งดงั น้ี เบากวา น้ี ดังกวา นี้ เบาทส่ี ดุ 7. ครสู งั เกตเห็นวา เดก็ มคี วามสนใจนอยลงจงึ ยุตเิ กม กิจกรรมตอ เน่ือง การไลระดับเสียงจากเบาสดุ ไปดงั สุด การนําเสนอบทเรียน 1. ครเู ชิญเดก็ ไปทช่ี ั้นวางอปุ กรณ แลวบอกวานี้คอื กลองเสียง 2. ครนู ําขวด 6 ขวด สีแดงหรือนํ้าเงนิ กไ็ ด ใหเด็กฟงแลว แยกเอาไวโดยครูนําขวดมาคละกันกอ น 3. ใหเ ดก็ ดงั จากเบาสดุ ไปดงั สดุ แลว นาํ มาวางเรยี งกนั ความแนวนอน โดยเรยี งจากขวดทเ่ี บาสดุ ไปยงั ขวดทด่ี งั สดุ 4. เสรจ็ แลว ตรวจสอบการดงั เสยี งอีกครงั้ ภาษา ภาษา ดัง-เบา 4. การประเมินผล 1. ปฏิบัตกิ ิจกรรมไดถ กู ตอ ง 2. เดก็ สามารถตรวจสอบอปุ กรณไดดวยตนเอง 5. อายุ 3 ขวบครึง่ ถงึ 4 ขวบ 91การจดั การเรยี นรูระดบั ปฐมวยั ในโรงเรยี นขนาดเล็ก โดยใชแ นวทางมอนเทสซอริ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314