Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3. แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชาชีววิทยา 1 (ว30251)

3. แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชาชีววิทยา 1 (ว30251)

Published by Rawat Yukerd, 2021-07-04 04:00:37

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 1 (ว30251) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา จัดทำโดย นายเรวัตร อยู่เกิด

Search

Read the Text Version

1

ก สารบญั หน้า สารบัญ.............................................................................................................................................................. ก แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง สมบตั ขิ องส่งิ มชี วี ิต ...............................................................................................3 แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง อะตอม ธาตุ สารประกอบ และนำ้ .......................................................................7 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง คารโ์ บไฮเดรต....................................................................................................15 แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง โปรตนี ...............................................................................................................20 แผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง ลพิ ิด...................................................................................................................25 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง กรดนิวคลีอีก .....................................................................................................29 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง โครงสร้างพืน้ ฐานของเซลลแ์ ละสว่ นห่อห้มุ เซลล์ ...............................................35 แผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง ออรแ์ กเนลลท์ ไี่ ม่มีเย่ือหมุ้ ..................................................................................41 แผนการจดั การเรยี นรู้ เร่ือง ออร์แกเนลลท์ มี่ เี ย่ือหุ้มช้นั เดยี ว .........................................................................46 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง ออรแ์ กเนลลท์ ่ีมีเยอื่ หุ้มสองชน้ั และนิวเคลียส ....................................................51 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง กล้องจลุ ทรรศน์.................................................................................................56 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การลำเลียงสารผา่ นเยอ่ื หมุ้ เซลล์ .......................................................................62 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง การลำเลียงสารโดยการสร้างถุงจากเย่ือห้มุ เซลล์...............................................66 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง การออสโมซิส....................................................................................................72 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การหายใจระดบั เซลล์ (Glycolysis and Acetyl CoA)....................................77 แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การหายใจระดบั เซลล์ (Kreb’s Cycle).............................................................83 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง การหายใจระดบั เซลล์ (Electron Transport)..................................................88 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การหายใจระดับเซลลแ์ บบไมใ่ ช้ออกซเิ จน.........................................................95 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง การแบ่งเซลล์.................................................................................................. 100 แผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง การแบ่งเซลลแ์ บบไมโทซิส ............................................................................. 108 แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง การแบง่ ไซไทพลาสซมึ และการแบง่ เซลล์ไมโอซสิ I......................................... 115 แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การแบง่ เซลล์ไมโอซิส II .................................................................................. 122 ภาคผนวก ก แบบประเมินผลการเรยี นรู้..................................................................................................... 124 เกณฑป์ ระเมินทกั ษะการสรา้ งผงั กราฟกิ โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ .................................... 125 เกณฑก์ ารประเมินการสรปุ บทเรยี น โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ ............................................ 127 เกณฑ์ประเมนิ ทักษะการสรา้ งโปสเตอร์ โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรบู ริคส์ ...................................... 128 เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคด์ า้ นความมงุ่ ม่ันในการทำงาน .......................................... 129 เกณฑป์ ระเมินทักษะการทำงานเป็นกล่มุ โดยใช้เกณฑ์การประเมนิ แบบรบู รคิ ส์ .................................... 130

1 บันทกึ ขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นสรรพยาวิทยา อำเภอสรรพยา จังหวดั ชัยนาท ๑๗๑๕๐ ท่ี วันท่ี เดอื น พ.ศ. 2563 เร่ือง ขออนุญาตใช้แผนการสอนรายวิชาชวี วทิ ยา1 รหัสวชิ า ว30251 เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียนสรรพยาวทิ ยา ตามที่ข้าพเจ้า นายเรวัตร อยู่เกิด ตำแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอน ภาคการศึกษาต้น ประจำปีการศึกษา 2563 รายวชิ าชีววทิ ยา1 รหัสวิชา ว30251 ในการนี้เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล พัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนสูงข้ึน และเปน็ ไปตามเจตนารมณข์ องหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐานพทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ข้าพเจ้าจึงได้จัดเตรยี มการจัดการเรียนการสอนตามกระบวนการ และหลักวิชา โดยดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงขออนุญาตใช้แผน การจัดการเรยี นรู้ ดงั รายละเอยี ดทีแ่ นบมาพร้อมน้ี จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดพจิ ารณา (นายเรวัตร อยู่เกดิ ) ตำแหน่ง ครู กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ความคดิ เหน็ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (นางศริ ลิ กั ษณ์ ไทยพงษธ์ นาพร) หวั หน้ากลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

2 ความคิดเหน็ รองผู้อำนวยการโรงเรียน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (นางสาวเครือวัลล์ เท่ียงพลับ) รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียนสรรพยาวทิ ยา ความคดิ เหน็ ผ้อู ำนวยการโรงเรียน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (นายสมชาย บุษบงค์) ผู้อำนวยการโรงเรียนสรรพยาวทิ ยา

โรงเรียนสรร กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทย แผนการจดั การเรียนรู้ เร ภาคการศกึ ษาต้น ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 1. เข้าใจธรรมชาติของส่งิ มีชีวิต การศึกษาชวี วิทยา และ ผลการเรียนรู้ ของส่ิงมีชีวิต กลอ้ งจุลทรรศน์ โครงสรา้ ง และหนา้ ที่ของ เซลล์ ม.4/1 อธิบาย และสรุปสมบัตทิ ่ีสำคัญของสิ่งมชี วี ติ และ

3 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รอ่ื ง สมบัตขิ องส่ิงมีชวี ิต รายวิชา ว30251 ชีววทิ ยา 1 ผู้สอน นายเรวตั ร อยเู่ กิด ะวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ สารทเี่ ปน็ องคป์ ระกอบของส่งิ มีชีวติ ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ งเซลล์ การลำเลยี งสารเข้า และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับ ะความสัมพันธข์ องการจดั ระบบในส่งิ มีชีวติ ที่ทำให้ส่ิงมชี วี ติ สามารถดำรงอยู่ได้

วัตถุประสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถ ดา้ นความร้(ู K) ข้นั ระบุปญั หา 1. ระบุสมบัติของ สมบัตขิ องสง่ิ มีชวี ิต 1. ครูให้นักเ ส่ิงมีชีวติ ได้ (K) 1. สิ่งมีชีวิตต้องมีการสืบพันธ์ุ เป็น สิ่งไม่มีชีวิต โดย 2. จดั จำแนก กระบวนการเพิ่มจำนวนชนิดพันธ์ุ เดียวกัน ภาพสิ่งมีชีวิตที่อ ส่ิงมีชวี ติ และ เพื่อรักษาเผ่าพันธุ์ไว้ โดยการถ่ายทอด เป็นสิง่ มีชวี ติ (ส่ิง ส่ิงไมม่ ชี ีวิตพรอ้ มทัง้ ลักษณะทางพนั ธุกรรมจากรนุ่ หน่งึ ไปสู่อีกนุ่น ระบุเหตุผลในการ หนง่ึ จัดจำแนกได้ (P) 2. สงิ่ มีชีวติ ตอ้ งการสารอาหารและพลงั งาน 3. ทำงานรว่ มกัน ในอาหารมีสารอาหารช่วยเสริมสร้างให้ เป็นกลุ่มได้ (A) ร่างกายเจริญเติบโต นอกจากนั้นสารอาหาร เหลา่ น้ีบางชนิดสลายแลว้ ให้พลงั งานเพ่ือการ ทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ 3. สิ่งมีชีวิตมีการเจริญเติบโต มีอายุขัย และขนาดที่จำกัด การเจริญเติบโตของ สง่ิ มีชวี ิตเกดิ จากการทเ่ี ซลลม์ ีการเพิ่มจำนวน ภาพท่ี 1 ภาพสิง่ ม มีการเพิ่มขนาด มีการเปลี่ยนแปลงไปทำ เปน็ ส่งิ มีชวี ติ หนา้ ท่เี ฉพาะ และมีการรวมกลุ่มกันของเซลล์ เพื่อเจริญไปเป็นเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ จากน้นั ครูใชค้ ำ เมื่อสิ่งมีชีวติ เจริญเติบโตไปได้ระยะหน่ึงกจ็ ะ 1.1 ภาพใดบ ตายไป อายุของสิง่ มชี ีวิตตัง้ แต่เกิดจนกระทั่ง และต้นไม้) ตายจะเรียกว่าอายุขัย

4 กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ 1. กระดาษ A3 1. ระบุสมบตั ิของส่งิ มีชวี ติ เรียนสังเกตภาพสิ่งมีชีวิตและ 2. ปากกาสี จากการจดบันทกึ ลงในสมุด ภาพที่ครูให้นักเรียนสังเกตนั้นเป็น 3. สื่อพาวเวอร์ ประจำรายวิชา และการทำ อยู่ในท่าทางที่สื่อถึงสมบัติของการ พอ้ ย เรื่อง ใบงาน เร่อื ง ลักษณะของ งเรา้ ) คณุ สมบตั ขิ อง ส่ิงมชี ีวติ และการศกึ ษา สิง่ มชี ีวติ ชีววิทยา 4. ใบงาน เรอ่ื ง 2. ประเมนิ การจัดจำแนก ลกั ษณะของ สิ่งมีชีวิตและสงิ่ ไมม่ ีชีวิต สิ่งมชี ีวติ และ และการระบเุ หตุผลในการ การศึกษา จัดจำแนกส่ิงมีชวี ติ และ ชีววิทยา สง่ิ ไมม่ ชี ีวติ จากการ ทำใบงาน เร่ือง ลักษณะ ของสิ่งมชี วิ ติ และการศึกษา ชีววทิ ยา มีชวี ิตท่อี ยูใ่ นท่าทางที่ส่อื ถึงสมบัติของการ 3. ประเมินทกั ษะการ ทำงานกลมุ่ โดยใช้แบบ ำถาม ดังน้ี (สงั เกต) ประเมินทกั ษะการทำงาน บา้ งเปน็ ภาพของส่ิงมชี ีวิต (สงิ โต เป็ด กล่มุ

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ 4. สิ่งมีชีวิตมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้า เป็น 1.2 นักเรียน การแสดงออกของสิง่ มีชีวิตเพอื่ ตอบสนองต่อ เป็นสิ่งมีชีวิต หร สิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โดยสิ่งเร้ามี สืบพนั ธไ์ุ ด้) ท้งั สิง่ เรา้ ภายในและสงิ่ เร้าภายนอก 1.3 นกั เรียนท 5. สิ่งมีชีวิตมีการรักษาดุลยภาพร่างกาย อะไรบา้ ง สภาพแวดล้อมภายในร่างกาย เช่น อุณหภูมิ คำถามสำคัญ คุณ ร่างกาย ปริมาณนำ้ คา่ pH เป็นส่ิงทที่ ำใหก้ าร ขัน้ แสวงหาสาร ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตเป็นไป 1. ครูแบ่งนัก อย่างปกติ ถ้าหากเกิดการเปลี่ยนแปลง 5 คน จากนั้นคร สภาพแวดล้อมภายในร่างกายก็อาจจะ ประกอบไปดว้ ย ก่อใหเ้ กิดอนั ตรายข้ึน 1.1 กระดาษ 6. สิ่งมีชีวิตมีลักษณะจำเพาะ สิ่งมีชีวิตแต่ ละชนิดจะมีลักษณะจำเพาะของตัวเอง 1.2 ปากกาส อาจจะเป็นรูปร่าง ขนาด ความสูง สี ซึ่งจะ 2. ครูให้นักเรีย แสดงออกเป็นลักษณะจำเพาะของสิ่งมีชีวิต และสืบค้นข้อม นนั้ ดงั ต่อไปน้ี (วเิ ครา 7. สิ่งมีชีวิตมีการจัดระบบ เป็นการ 2.1 คุณสมบตั จัดระบบจากหน่วยที่เล็กที่สุดก็คือเซลล์ไป จนกระทั่งเป็นสิ่งมีชีวิต หรือแม้กระท่ังเป็น จากนั้นบันทึก กระดาษ A3 ท่ีค สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวก็มีการจัดระบบของออร์ แกเนลลใ์ นการทำหน้าที่ตา่ ง ๆ

5 กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ นทราบได้อย่างไรว่าสิ่งที่อยู่ในภาพ รือไม่มีชีวิต (หายใจได้ เคลื่อนที่ได้ ทราบหรือไมว่ ่าสมบตั ิของสิ่งมีชีวิตมี ณสมบัติของสง่ิ มีชวี ิต มอี ะไรบา้ ง รสนเทศ กเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ รูแจกอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมซ่ึง (วางแผน) ษ A3 สี ยนแต่ละกลุ่มร่วมกันระดมความคิด มูลจากอินเตอร์เน็ท ในประเด็น าะห)์ ตขิ องสิ่งมชี ีวิตมีอะไรบา้ ง กข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นลงใน ครูแจกให้

วตั ถปุ ระสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก เรียนรู้ ข้นั สร้างความร ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ครูและนักเร การระดมความค 1. ความสามารถในการในการส่ือสาร ประเด็นที่เกี่ยว (การพดู ) (สือ่ ความหมาย) 2. ความสามารถในการคิด 2. ครูสรุปควา สิ่งมีชีวิต โดยใช (การวิเคราะห์) ของสงิ่ มชี ีวิต (สร 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ ขั้นสอ่ื สาร (กระบวนการกล่มุ ) 1. ครูให้ตัวแทน 4. ความสามารถในการแกป้ ญั หา คุณสมบัติของสิ่ง (-) ลงบนกระดานไว ขน้ั ตอบแทนสัง 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. ครมู อบหมา (สืบค้นข้อมูลทางอนิ เทอร์เนท็ ) จาการทำกิจกร คำถามในใบงาน ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) การศกึ ษาชีววิทย ทักษะกระบวนการทำงานเป็นกลมุ่

6 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ รู้ รียนร่วมกันอภิปรายข้อมูลที่ได้จาก คิดและสืบค้นจากอินเทอร์เน็ต ใน วข้องกับคุณสมบัติของสิ่งมีชีวิต ามรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับสมบัติของ ช้สื่อพาวเวอร์พ้อย เรื่อง คุณสมบัติ รุป) นนักเรียนแต่ละกลุ่ม ออกมาเขียน งมีชีวิตที่กลุม่ ของตนเองไดส้ ืบค้นมา วทบ์ อร์ดภายในหอ้ งเรียน งคม ายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนนำความรู้ที่ได้ รรมการเรียนการสอนมาใช้ตอบ น เรื่อง ลักษณะของสิ่งมีชิวิตและ ยา

โรงเรียนสรร กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทย แผนการจดั การเรียนรู้ เรอื่ ง อะต ภาคการศกึ ษาตน้ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 1. เข้าใจธรรมชาติของส่งิ มชี ีวิต การศกึ ษาชวี วทิ ยา และ ผลการเรียนรู้ ของสิ่งมีชีวิต กล้องจลุ ทรรศน์ โครงสร้าง และหน้าทข่ี อง เซลล์ ม.4/1 อธิบาย และสรปุ สมบัตทิ ส่ี ำคัญของสง่ิ มีชีวิต และ ม.4/3 สืบค้นข้อมูล อธิบายเกี่ยวกับสมบัติของน้ำ แ ความสำคญั ตอ่ ร่างกายส่งิ มีชวี ิต

7 รพยาวิทยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตอม ธาตุ สารประกอบ และน้ำ รายวชิ า ว30251 ชวี วิทยา 1 ผู้สอน นายเรวัตร อยเู่ กดิ ะวธิ กี ารทางวิทยาศาสตร์ สารทีเ่ ปน็ องคป์ ระกอบของสง่ิ มีชวี ติ ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ งเซลล์ การลำเลยี งสารเข้า และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับ ะความสัมพันธ์ของการจัดระบบในสิ่งมชี วี ติ ทที่ ำให้สิ่งมีชวี ิตสามารถดำรงอยู่ได้ และบอกความสำคัญของน้ำที่มีต่อสิ่งมีชีวิต และยกตัวอย่างธาตุชนิดต่าง ๆ ที่มี

วัตถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ นกั เรียนสามารถ ดา้ นความรู(้ K) ข้นั นำ 1. อธิบายเกยี่ วกบั อะตอม คือ หน่วยพืน้ ฐานของสสาร 1. ครูแสดงภาพก อะตอม ธาตุ และ ประกอบด้วยโปรตอน (proton) นิวตรอน เลก็ ไปหน่วยใหญ สารประกอบได้ (K) (neutron) อยู่ในนิวเคลียส และอิเล็กตรอน 1.1 หนว่ ยท่เี ล็ก 2. ยกตัวอย่างและ บอกความสำคญั (electron) เคลื่อนที่อยู่รอบ ๆ โดยโปรตอน 1.2 นกั เรยี นคิด มีประจุไฟฟ้าเป็นบวก อิเล็กตรอนมีประจุ ศึกษาเคมีในสง่ิ มชี ของธาตุชนิดต่าง ๆ ต่อส่งิ มีชีวิตได้ (K) ไฟฟ้าเป็นลบ และนิวตรอนไมม่ ปี ระจุไฟฟา้ 2. ครูระบุคำถาม ธาตุ คือ สารบริสุทธิ์ที่ประกอบดว้ ย 2.1 อะตอม ธา 3. อธบิ าย โครงสรา้ งและ ธาตุหรือสารชนิดเดียว ไม่สามารถแยกหรือ ความสำคัญอย่าง สมบตั ิของน้ำได้ (K) สลายออกเป็นสารอ่ืนได้ 2.2 มีธาตหุ รือส 4. บอก ความสำคัญของน้ำ สารประกอบ คือ สารชนิดใหม่เป็น ดำรงชีวิต ที่มีต่อสิง่ มชี ีวติ ได้ สารบริสุทธิ์ที่ประกอบด้วยอะตอมของธาตุ 3. ครูใหน้ ักเรียนค (K) ตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมารวมกัน ด้วยแรงยึด ข้ันสอน เหนี่ยวทางเคมี 1. ครูแสดงภาพอ พันธะเคมี คือ แรงที่ใช้ยึดเหนี่ยว 1.1 เชื่อ ระหว่างอะตอมของธาตุไว้ด้วยกัน จากการ ทเ่ี ห็น เป็นโครงส ยึดเหนี่ยวกนั ของอะตอมและรวมไปถึงแรงที่ 1.2 อะต ยึดโมเลกุลต่าง ๆ ทำให้เกิดสารหลาย ประเภทซึ่งเป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต

8 กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ การจดั ระบบในสิ่งมชี ีวติ จากหนว่ ย 1. สื่อพาวเวอร์ 1. ประเมนิ ผลการอธบิ าย ญ่ จากน้นั ใชค้ ำถาม กท่ีสดุ ของการจดั ระบบคืออะไร พอ้ ย เรอ่ื ง ยกตัวอยา่ ง และ ดว่าเพราะเหตใุ ด เราจงึ จำเป็นต้อง อะตอม ธาตุ และ ความสำคัญของอะตอม ชวี ิต สารประกอบ ธาตุ และสารประกอบ จาก 2. ส่ือพาวเวอร์ แบบประเมนิ ใบงาน/แบบ พ้อยเรือ่ ง นำ้ บันทึกกิจกรรม มสำคัญ ดงั นี้ 2. ประเมนิ การอธิบาย โครงสร้าง สมบตั ิ าตุ และสารประกอบ เกีย่ วขอ้ งและมี และความสำคัญของนำ้ จาก งไรต่อส่งิ มีชวี ติ แบบประเมนิ ใบงาน/แบบ บนั ทกึ กิจกรรม สารประกอบใดบ้างท่ีสำคัญต่อการ คาดคะเนคำตอบของคำถามสำคัญ อะตอม จากนั้นใช้คำถามดังนี้ อมโยงกับวิชาเคมี โครงสร้างอะตอม สร้างแบบใด ตอมมอี งค์ประกอบอย่างไร

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ลิพิด กรด นิวคลีอกิ และนำ้ น้ำ ประกอบด้วยอะตอมของธาตุ ไฮโดรเจน และออกซิเจน สูตรเคมี คือ H2O เ ป ็ น โ ม เ ล ก ุ ล ม ี ข ั ้ว ( polar molecule) เนื่องจากอิเล็กตรอนคู่ร่วมพันธะอยู่บริเวณ อะตอมออกซิเจน 1.3 องค การยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของ ทางไฟฟ้าอยา่ งไร น้ำ ยึดเหนี่ยวด้วยพันธะไฮโดรเจน ระหว่าง จากนั้น อะตอมของไฮโดรเจนกับอะตอมของ นิวเคลียส เลขมว ออกซเิ จน เวเลนซอ์ เิ ล็กตรอ สมบัติของน้ำและความสำคัญของ 2. ครูแสดงภาพ นำ้ ต่อสงิ่ มชี วี ติ ได้แก่ จากนนั้ ใชค้ ำถาม 1. การเป็นตัวทำละลายในส่งิ ชวี ิต 2. สารที่มีสมบัติ hydrophilic และ hydrophobic 3. น้ำกบั ความเป็นกรดเบส

9 กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรียนรู้ ค์ประกอบของอะตอม มีคุณสมบัติ ร นครูทบทวนความรู้เรื่อง สัญลักษณ์ วล เลขอะตอม ระดับพลังงาน และ อน พจำลองของธาตุและสารประกอบ มดังนี้

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 4. น้ำมีความจุความร้อนจำเพาะสูง ทำให้สามารถดูดซับพลังงานความร้อนได้ดี ส่ิงมชี ีวติ ทมี่ ีน้ำในตัวมาก อุณหภูมิในร่างกาย จงึ คอ่ นเปล่ียนแปลงได้นอ้ ย 5. น้ำกับแรงโคฮีชันและแรงแอดฮี ชัน เกี่ยวข้องกับการลำเลียงน้ำภายในท่อ ลำเลยี งน้ำและแรธ่ าตุ (xylem) ของพชื ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 2.1 หากวงกลม 1. ความสามารถในการในการสื่อสาร นักเรียนสามา (การพูด) สารประกอบ แล และสารประกอบ 2. ความสามารถในการคดิ (การวเิ คราะห์) จากคำตอบขอ ความหมายของข 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต (กระบวนการกลุ่ม) 4. ความสามารถในการแก้ปญั หา (-) 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี (สืบคน้ ข้อมลู ทางอนิ เทอรเ์ นท็ )

10 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรียนรู้ มหนึ่งสีแทนอะตอมหนึ่งอะตอม ารถให้ความหมายของธาตุและ ละบอกความแตกต่างระหว่างธาตุ บไดห้ รอื ไม่ อย่างไร องนักเรียน ครูนำอภิปรายถึง ของธาตุและสารประกอบ

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 3. ครอู ธบิ ายเพิม่ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) มุ่งม่ันในการทำงาน พันธะเคมี คือ พ ออนิก จากนน้ั ใช 3.2 การเกิดพัน เวเลนซ์อเิ ลก็ ตรอ จากคำตอบของน ของพนั ธะพนั ธะโ

11 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ มเติม เรื่อง พนั ธะเคมี โดยแสดงภาพ พันธะโคเวเลนต์ และพันธะพันธะไอ ชค้ ำถาม ดังน้ี 3.1 จากภาพวงกลมสี คืออะไร นธะทั้ง 2 ชนิด เกี่ยวข้องกับและ อนหรอื ไม่ อย่างไร นักเรียน ครูนำอภิปรายถึงลักษณะ โคเวเลนต์ และพันธะพนั ธะไอออนิก

วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ จากนั้นเพิ่มเติมเ เหนย่ี วระหว่างโม 4. ครูสรุปว่าจาก รวมไปถงึ แรงทีย่ ึด ประเภทซึ่งเป็น คารโ์ บไฮเดรต โป 5. ครูทบทวนควา บทบาทและความ 6. ครูแสดงภาพโ ดังน้ี 6.1 โมเ อะไรบ้าง

12 กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ เรื่องพันธะไฮโดรเจน ซึ่งเป็นแรงยึด มเลกลุ กการยึดเหนี่ยวกันของอะตอมและ ดโมเลกุลตา่ ง ๆ ทำให้เกดิ สารหลาย นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต เช่น ปรตนี ลพิ ิด กรดนิวคลอี ิก และน้ำ ามรเู้ ดมิ ของนกั เรียนด้วยการให้ระบุ มสำคญั ของนำ้ ที่มีต่อร่างกาย โครงสร้างของน้ำ จากนั้นใช้คำถาม เลกุลของน้ำ ประกอบด้วยธาตุ

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ 6.2 อ ะ ออกซิเจน เชื่อมก 6.3 จาก สมั พนั ธอ์ ยา่ งไรก จากนั้น โมเลกุลของน้ำ ระหวา่ งโมเลกุลข 7. ครอู ธบิ ายเพิ่ม สำคัญไดแ้ ก่ น้ำก มีสมบัติ hydro ความเป็นกรดเบ รอ้ น น้ำกบั แรงโค ขนั้ สรปุ 1. ครูและนักเรีย ประเด็นสำคญั ดัง 1.1 อะตอม ธาต 1.2 ยกตัวอย่าง ต่าง ๆ ต่อสิง่ มีชวี 1.3 โครงสร้างแล 1.4 ความสำคัญ

13 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ ะตอมของธาตุไฮโดรเจนและ กนั ด้วยพันธะอะไร กตำแหน่งของเวเลนซ์อิเล็กตรอน กับสภาพขวั้ ของโมเลกลุ นครูอภิปรายสรุปเรื่องโครงสร้าง และเพิ่มเติมเรื่องแรงยึดเหนี่ยว ของนำ้ มเตมิ เรือ่ งสมบัตขิ องน้ำ ตามประเด็น กับการเปน็ ตัวทำละลาย น้ำกับสารที่ ophilic และ hydrophobic น้ำกับ บส น้ำกับการดูดซับพลังงานความ คฮีชันและแรงแอดฮีชัน ยนร่วมกันสรุปความรู้ด้วยวาจา ใน งนี้ ตุ และสารประกอบ งและบอกความสำคัญของธาตุชนิด วิต ละสมบัติของน้ำ ญของนำ้ ท่ีมตี อ่ สง่ิ มชี ีวติ

วตั ถปุ ระสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก เรียนรู้ 2. ครูให้นักเรีย เอกสารประกอบ

14 กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ นทำตัวอย่างข้อสอบระดับชาติใน บการเรยี น

โรงเรยี นสรร กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทย แผนการจัดการเรยี นร ภาคการศกึ ษาตน้ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 1. เขา้ ใจธรรมชาติของสงิ่ มีชีวิต การศกึ ษาชวี วิทยา และ ผลการเรยี นรู้ ของสง่ิ มชี ีวิต กลอ้ งจลุ ทรรศน์ โครงสรา้ ง และหน้าท่ีของ เซลล์ ม.4/4 สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ ายโครงสรา้ งของคารโ์ บไฮเดรต

15 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รู้ เร่ือง คารโ์ บไฮเดรต รายวิชา ว30251 ชวี วิทยา 1 ผู้สอน นายเรวัตร อยเู่ กิด ะวิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ สารทเี่ ปน็ องคป์ ระกอบของส่ิงมีชวี ติ ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ งเซลล์ การลำเลียงสารเขา้ และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับ ต ระบุกลมุ่ ของคารโ์ บไฮเดรต รวมทง้ั ความสำคญั ของคารโ์ บไฮเดรตท่ีมตี ่อสิง่ มีชีวติ

วัตถุประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ นักเรียนสามารถ ดา้ นความรู(้ K) ขนั้ ระบปุ ญั หา 1. อธิบายลักษณะ คาร์โบไฮเดรตเป็นสารชีวโมเลกุลท่ี 1. ครูให้นกั เรยี โดยทวั่ ไปของ ประกอบไปด้วยทธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน ดงั น้ี (สิง่ เร้า) คารโ์ บไฮเดรตได้ (K) และออกซิเจน มีอัตราส่วนของอะตอม 1.1 ร ู ป ภ า 2. จัดจำแนก ไฮโดรเจนต่อออกซิเจนเท่ากับ 2:1 และมี คารโ์ บไฮเดรต ประเภทพร้อมทง้ั สูตรโมเลกุลท่ัวไปเป็น Cx(H2O)x โดย X มีค่า 1.2 รปู ภาพแ ระบุเกณฑใ์ นการจดั ตั้งแต่ 3 ขึ้นไป คาร์โบไฮเดรตที่เรารู้จัก คือ 1.3 รปู ภาพแ จำแนก น้ำตาลชนิดต่าง ๆ และแป้ง สามารถแบ่ง โดยกำหนดให คาร์โบไฮเดรตได้ (P) คาร์โบไฮเดรตออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ตาม สารกลุ่มคาร์โบไ 3. ทำงานรว่ มกนั ขนาดของโมเลกุล คอื มอโนแซคคาไรด์, โอลิ กลุ่มไขมัน และส เปน็ กลุ่มได้ (A) โกแซคคาไรด์ และพอลิแซคคาไรด์ กลมุ่ โปรตนี 1. มอโนแซคคาไรด์ เป็นคาร์โบไฮเดรตที่มี 2. จากภาพคร ขนาดโมเลกุลเล็กที่สุด มีรสหวาน ละลายได้ ๆ โดยอาศัยควา ใน น ้ำ โมเลก ุลขอ งมอโนแซคคาไรด์ และหมู่ฟงั ก์ชัน (ส ประกอบด้วยคาร์บอนตัง้ แต่ 3-7 อะตอม แต่ 3. เมื่อนักเรียน ในธรรมชาติมักพบมอโนแซคคาไรด์ที่มี แล้ว ครูใชค้ ำถาม คาร์บอน 5-6 อะตอม เช่น ไรโบส, กลูโคส, 3.1 สาร หม ฟรักโทส และกาแลกโทส คาร์โบไฮเดรต โ 2. โอลิโกแซคคาไรด์ ประกอบด้วยมอโน หมายเลข 1,3,4 แซคคาไรด์ตั้งแต่ 2-10 โมเลกุลจับกันด้วย สารหมายเลข พันธะ ไกลโคซิดิก โดยโอลิโกแซคคาไรด์ที่มี หมายเลข 2,7 แ โมโนแซคคาไรด์จับกัน 2 โมเลกุล จะเรียก

16 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ 1. รปู ภาพแสดง 1. ประเมนิ การอธิบาย ยนรับอุปกรณท์ ี่ใช้ในการทำกิจกรรม สูตรโครงสร้าง ลักษณะโดยท่วั ไปของ ของคารโ์ บไฮเดรต คาร์โบไฮเดรตจากการจด พ แ ส ด ง ส ู ต ร โ ค ร ง ส ร ้ า ง ข อ ง , โปรตีน และ บันทกึ ลงในสมดุ ประจำ ไขมนั รายวิชา และแบบประเมนิ แสดงสตู รโครงสรา้ งของโปรตนี 2. กระดาษ A3 ใบงาน/แบบบันทกึ กจิ กรรม แสดงสตู รโครงสรา้ งของไขมัน 3. บตั รคำระบุ 2. ประเมินการ. จัด ห้สารหมายเลข 1,3,4 และ5 เป็น ประเภทของ จำแนกประเภทพรอ้ มท้งั ไฮเดรต สารหมายเลข 6 เป็นสาร คารโ์ บไฮเดรต ระบุเกณฑใ์ นการจัดจำแนก สารหมายเลข 2,7 และ8 เป็นสาร 4. สือ่ พาวเวอร์ คารโ์ บไฮเดรต จากการ พอ้ ย เร่ือง ทำกิจกรรมในช้นั เรียน รูให้นักเรียนร่วมกันจัดกลุ่มภาพต่าง คาร์โบไฮเดรต 3. ประเมินทักษะการ ามรู้เดิมในเรื่องของสารชีวโมเลกุล ทำงานกลมุ่ โดยใช้แบบ สังเกต) ประเมินทกั ษะการทำงาน นร่วมกันจัดกลุ่มสารเสร็จเรียบร้อย กล่มุ มดงั น้ี (สังเกต) มายเลขใดบ้างที่จัดเป็นสาร โปรตีน และไขมัน ตามลำดับ (สาร 4 และ5 เป็นสารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต 6 เป็นสารกลุ่มไขมัน และสาร และ8 เป็นสารกลมุ่ โปรตนี )

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ว่า ไดแซคคาไรด์ ซึ่งไดแซคคาไรด์ที่สำคัญ 3.2 นักเรียน ไดแ้ ก่ นำ้ ตาลซูโครส, มอลโทส และแลกโทส เป็นสารกลุ่มคา 3. พอลิแซคคาไรด์ เกิดจากมอโนแซคคา (คำตอบมีได้หลา ไรดต์ งั้ แต่ 11 ถงึ 1,000 โมเลกลุ ต่อกันเปน็ ที่ว่าอาศัยการสัง สายยาว พอลแิ ซคคาไรด์จะแตกต่างกันตาม โครงสร้างทางเคม มอโนเมอรท์ ่ีเปน็ องค์ประกอบ บางชนิดมอโน 3.3 นักเรียน เมอร์ต่อกันเป็นสายยาวตรง บางชนิดมีการ 4 และ5 ท่ีจัดเปน็ แตกกิ่งกา้ นสาขา ละหมายเลขมีคว - แป้ง เป็นพอลแิ ซคคาไรด์ที่เก็บสะสมใน (สงสัยและสมมตฐิ พืช โครงสรา้ งแบง่ ออกเปน็ 2 รูปแบบคือ อะ คำถามสำคัญ ล ไมโลส ประกอบด้วยกลูโคสเรียงต่อเป็นสาย อะไร สามารถแ ยาว และอะไมโลเพกทินเป็นส่วนที่เกิดการ ประเภท แตกกิ่งกา้ นสาขา - ไกลโคเจน เป็นพอลิแซคคาไรด์ที่เกบ็ ไว้ ข้ันแสวงหาสาร ในเซลล์สตั ว์ ประกอบดว้ ยกลูโคสตอ่ เป็นสาย 1. ครูแบ่งนัก ยาวและแตกก่งิ กา้ นออกเปน็ สายสนั้ ๆ 5 คน จากนั้นคร ประกอบไปดว้ ย 1.1 กระดาษ 1.2 บัตรคำร ได้แก่ มอโนแซค แซคคาไรด์ 1.3 เทปกาว

17 กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ นทราบได้อย่างไรว่าสารหมายเลขใด าร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ากหลาย ครูนำนักเรยี นเข้าสู่คำตอบ งเกตจากหมูฟังก์ชันในรูปแสดงสูตร มีแบบตา่ ง ๆ) นทราบหรือไม่ว่าสารหมายเลข1, 3, นสารกล่มุ คารโ์ บไฮเดรตนน้ั สารแต่ วามเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ฐาน) ลักษณะสำคัญของคาร์โบไฮเดรตคือ แบ่งคาร์โบไฮเดรตออกได้เป็นกี่ รสนเทศ กเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ รูแจกอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมซ่ึง (วางแผน) ษ A3 ระบุประเภทของคาร์โบไฮเดรต คคาไรด์ โอลิโกแซคคาไรด์ และพอลิ

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ 2. ครูให้นักเรีย ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) ความแตกต่างระ ของสารเคมีในกล 1. ความสามารถในการในการสอื่ สาร ให้นักเรียนจัดกล (การพดู ) พร้อมทั้งระบุเกณ 2. ความสามารถในการคดิ ข้อมูลการจัดกลุ่ม ให้ (วิเคราะห์) (การวิเคราะห)์ 3. ครูให้นกั เรีย 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต คร้งั โดยการจัดก ให้ (กระบวนการกลุ่ม) 4. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ข้ันสร้างความร (-) 1. ครูให้นักเรีย ของตนเองในครั้ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี กลมุ่ และผลการจ (สืบคน้ ขอ้ มลู ทางอินเทอร์เน็ท) 2. จากนั้นครูน คาร์โบไฮเดรต ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) คารโ์ บไฮเดรต (ส ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ ขน้ั สอ่ื สาร 1. ครูเปดิ โอกา ข้อมลู ในกระดาษ

18 กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ยนแต่ละกลุ่มร่วมกันเปรียบเทียบ ะหว่างรูปภาพแสดงสูตรโครงสร้าง ลุ่มคาร์โบไฮเดรตแต่ละรูป จากนั้น ลุ่มตามความเข้าใจของกลุ่มตนเอง ณฑ์ในการจัดกลุ่ม พร้อมทั้งบันทึก มครั้งนี้ลงในกระดาษ A3 ที่ครูแจก ยนจัดกลุ่มของคาร์โบไฮเดรตใหม่อีก กลุ่มครัง้ นใี้ ห้คำนึงถงึ บตั รคำท่คี รแู จก รู้ ยนแต่ละกลุ่มนำเสนอการจัดกลุ่ม งแรก โดยระบุเกณฑ์ที่ใช้ในการจัด จัดกลุ่ม (สื่อความหมาย) นำสรุปความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ โดยใช้สื่อพาวเวอร์พ้อย เรื่อง สรปุ ) าสให้นักเรียนแตล่ พกลุ่มร่วมกันแกไ้ ข ษ A3

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ขั้นตอบแทนสัง 1. ครมู อบหมา จาการทำกิจกร คำถามในใบงาน

19 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ งคม ายใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนนำความรู้ท่ีได้ รรมการเรียนการสอนมาใช้ตอบ เร่อื ง คาร์โบไฮเดรต

โรงเรยี นสรร กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทย แผนการจดั การเรยี ภาคการศกึ ษาต้น ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 1. เขา้ ใจธรรมชาติของสิง่ มชี ีวติ การศกึ ษาชวี วทิ ยา และ ผลการเรียนรู้ ของส่ิงมีชีวิต กลอ้ งจุลทรรศน์ โครงสร้าง และหนา้ ทขี่ อง เซลล์ ม.4/5 สืบคน้ ข้อมูล อธิบายโครงสร้างของโปรตีน และค

20 รพยาวิทยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยนรู้ เรื่อง โปรตีน รายวชิ า ว30251 ชีววิทยา 1 ผูส้ อน นายเรวตั ร อยเู่ กดิ ะวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ สารที่เป็นองคป์ ระกอบของสิ่งมีชวี ิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ งเซลล์ การลำเลยี งสารเข้า และออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์ และการหายใจระดับ ความสำคญั ของโปรตีนท่มี ตี ่อสิง่ มชี วี ิต

วัตถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรียนรู้ นกั เรยี นสามารถ ดา้ นความร(ู้ K) ข้นั ระบปุ ัญหา 1. อธิบายลักษณะ โปรตีนประกอบด้วยอะตอมของธาตุ 1. ครูแสดงกิจ โดยท่ัวไปของ คาร์บอน ไฮโดรเจน ออกซิเจน และ จำพวกโปรตีน โปรตนี ได้ (K) ไนโตรเจน หน่วยยอ่ ยของโปรตนี คือกรดอะมิ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยว 2. เปรยี บเทยี บ โน โดยโครงสร้างพื้นฐานของกรดอะมิโนจะ โปรตีน (สงิ่ เรา้ ) ความแตกต่างของ ประกอบไปด้วยหมู่อะมิโน หมู่คาร์บอกซิล โปรตนี และกรดอะมิ นักโภชนาการแบ่งกรดอะมิโนออกเป็น 2 โนได้ (P) ชนิดตามความต้องการของร่างกาย ไดแ้ ก่ 3. ทำงานร่วมกนั - กรดอะมิโนจำเป็น เป็นกรดอะมิโนที่ไม่ เปน็ กลมุ่ ได้ (A) สามารถสงั เคราะห์ข้นึ เองได้ ภาพท่ี - กรดอะมิโนไม่จำเป็น เป็นกรดอะมิโนที่ ร่างกายสามารถสังเคราะหข์ น้ึ ไดเ้ อง ถ้านำกรดอะมิโน 2 โมเลกุลมาเชื่อมตอ่ กนั จะเกิดพันพันธะเพปไทด์ กรดอะมิโน 2 โมเลกุล เรียก ไดเพปไทด์ กรดอะมิโน 3 ภาพที่ 2 โมเลกุล เรยี ก ไตรเพปไทด์ และถา้ นำกรดอะ มิโนจำนวนมากมายมาเรียงต่อกันจะเรียก จากนน้ั ครใู ช้คำ สารทเ่ี กดิ ขึน้ ใหมน่ ้วี ่าพอลิเพปไทด์ และเม่ือมี 1.1 นักเรียน กลา้ มเนอ้ื มักจะร ขนาดใหญ่ขนึ้ กจ็ ะกลายเป็น โปรตีน นักชีวเคมีแบ่งโครงสร้างของโปรตีน 1.2 นักเรีย ออกเป็น 4 ระดับ คือ โครงสร้างปฐมภูมิ, ความสำคัญอย่าง

21 กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ 1. รูปภาพสูตร 1. ประเมนิ การอธบิ าย จกรรมที่ต้องรับประทานอาหาร โครงสรา้ งของ ลักษณะโดยทว่ั ไปของ เพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ, กรดอะมโิ น โปรตนี จากการจดบนั ทกึ ลง วข้องกับโปรตีน และอาหารจำพวก 2. รูปภาพ ในสมดุ ประจำรายวชิ า จาก โปรตีน แบบประเมนิ ใบงาน/แบบ 3. กระดาษ A3 บนั ทึกกจิ กรรม 4. ปากกาสี 2. ประเมินเปรยี บเทียบ 5. สอื่ พาวเวอร์ ความแตกตา่ งของโปรตนี พ้อย เรือ่ ง โปรตนี และกรดอะมโิ น จากการ 1 ภาพแสดงคนเลน่ กล้าม ทำกิจกรรมในช้นั เรียน 3. ประเมนิ ทักษะการ ทำงานกลมุ่ โดยใช้แบบ ประเมินทักษะการทำงาน กลุ่ม ภาพแสดงผลิตภณั ฑ์โปรตนี ำถามดงั น้ี นคิดว่าคนที่ต้องการให้ร่างกายมี รบั ประทานอาหารประเภทใด น ค ิ ด ว ่ า อ า ห า ร ก ล ุ ่ ม ด ั ง ก ล ่ า ว มี งไรตอ่ ร่างกาย(สังเกต)

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ โครงสร้างทุติยภูมิ, โครงสร้างตติยภูมิ และ 2. จากนั้นครูใช โครงสรา้ งจตรุ ภมู ิ หรือไม่ว่าโปรตีน ย่อย และความส ด้านทักษะกระบวนการ (P) สมมติฐาน) 1. ความสามารถในการในการสื่อสาร คำถามสำคัญ ลกั (การพูด) 2. ความสามารถในการคิด ขนั้ แสวงหาสาร (การวเิ คราะห์) 1. ครูแบ่งนัก 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ 5 คน จากนั้นคร (กระบวนการกลุ่ม) ประกอบไปดว้ ย 4. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1.1 รปู ภาพส (-) 1.2 รปู ภาพโ 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1.3 กระดาษ (สบื ค้นข้อมลู ทางอินเทอร์เน็ท) 1.4 ปากกาส ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) ทกั ษะกระบวนการทำงานเปน็ กลมุ่ ภาพที่ 3 ภ

22 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ ช้คำถามสำคัญ ดังน้ี นักเรียนทราบ นประกอบไปด้วยธาตุอะไร มีหน่วย สำคัญอย่างไรต่อร่างกาย (สงสัยและ กษณะสำคัญของโปรตนี คืออะไร รสนเทศ กเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละ รูแจกอุปกรณ์ในการทำกิจกรรมซึ่ง (วางแผน) สูตรโครงสรา้ งของกรดอะมิโน โปรตีน ษ A3 สี ภาพแสดงสตู รโครงสรา้ งโปรตีน

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ ภาพที่ 4 ภาพแ 2. ครูให้นักเรียน โครงสร้างของโปร มิโน โดยกำหน (วิเคราะห)์ 2.1 สูตรโค โครงสร้างของก อะไรบา้ ง 2.2 นักเรียน และสูตรโครงสร หรอื แตกต่างกนั ห 2.3 นกั เรียนส และกรดอะมิโนม ครูใหน้ ักเรียนบ บนกระดาษ A3

23 กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ แสดงสตู รโครงสรา้ งของกรดอะมโิ น นแต่ละกลุ่มสังเกตภาพแสดงสูตร รตนี และสูตรโครงสร้างของกรดอะ นดประเด็นในการศึกษา ดังนี้ รงสร้างของโปรตีน และสูตร กรดอะมิโนประกอบไปด้วยธาตุ นคิดว่าสูตรโครงสร้างของโปรตีน ร้างของกรดอะมิโนมีความเหมือน หรอื ไม่อย่างไร สามารถคาดเดาได้หรือไม่วา่ โปรตนี มีความสมั พันธ์กันอยา่ งไร บันทกึ ข้อมูลทไี ด้ในแต่บะประเด็นลง ท่คี รเู ตรียมไวใ้ ห้

วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ ขนั้ สร้างความร 1. ครสู มุ่ นกั เรีย คนนำเสนอข้อ ประเด็น โดยเปดิ สามารถให้ข้อเสน ขอ้ มลู หรอื หลักฐา 2. จากนั้นครูน โปรตนี โดยใชส้ ่ือ ข้นั ส่อื สาร 1. ครเู ปดิ โอกา หรือบันทีกข้อมูล กระดาษ A3 ขัน้ ตอบแทนสงั 1. ครมู อบหมา จาการทำกิจกร คำถามในใบงาน

24 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ รู้ ยนข้นึ มาจำนวน 3 คน โดยให้แต่ละ อมูลของกลุ่มตนเอง 1 คนต่อ 1 ดโอกาสให้กลุ่มทีไ่ ม่ไดน้ ำเสนอข้อมูล นอแนะ หรือโต้แย้งได้ แต่จะต้องมี านในการโตแ้ ย้ง (สือ่ ความหมาย) นำสรุปความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับ อพาวเวอรพ์ อ้ ย เรื่อง โปรตีน(สรปุ ) าสให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกันแก้ไข ลเพิ่มเติมจากที่ได้บันทึกไปแล้วใน งคม ายใหน้ กั เรยี นแต่ละคนนำความรู้ที่ได้ รรมการเรียนการสอนมาใช้ตอบ เรื่อง สารชีวโมเลกลุ

โรงเรยี นสรร กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทย แผนการจดั การเร ภาคการศึกษาตน้ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4/พ และ 4/1 สาระชวี วทิ ยา 1. เขา้ ใจธรรมชาติของส่งิ มชี ีวติ การศึกษาชีววทิ ยา และ ผลการเรยี นรู้ ของส่งิ มชี วี ิต กล้องจลุ ทรรศน์ โครงสร้าง และหน้าท่ีของ เซลล์ ม.4/6 สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสร้างของลพิ ดิ และควา

25 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รียนรู้ เรือ่ ง ลพิ ิด รายวิชา ว30251 ชีววทิ ยา 1 ผู้สอน นายเรวัตร อยู่เกิด ะวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์ สารท่เี ปน็ องคป์ ระกอบของสิ่งมีชวี ิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ งเซลล์ การลำเลยี งสารเข้า และออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับ ามสำคัญของลพิ ิดทม่ี ตี ่อสิ่งมชี วี ิต


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook