Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 2.แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (ว30107)

2.แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (ว30107)

Published by Rawat Yukerd, 2021-07-04 03:52:07

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (ว30107) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา จัดทำโดย นายเรวัตร อยู่เกิด

Search

Read the Text Version

1

ก สารบัญ หน้า สารบัญ.............................................................................................................................................................. ก แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง หนว่ ยพืน้ ฐานของสง่ิ มชี วี ิต....................................................................................3 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การลำเลียงสารผา่ นเย่อื หุ้มเซลล์ ..........................................................................8 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง การลำเลยี งสารโดยการสร้างเวสเิ คิล .................................................................13 แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โครงสรา้ งของไต และหนว่ ยไต ..........................................................................19 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง การผลติ ปัสสาวะของมนุษย์...............................................................................24 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง กลไกการรักษาดลุ ยภาพน้ำ และแร่ธาตใุ นรา่ งกาย............................................29 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง การรักษาดุลยภาพกรด - เบสของเลือด.............................................................34 แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง การรักษาดลุ ยภาพอุณหภมู ิภายในร่างกาย........................................................39 แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง โครงสร้างระบบภมู ิคุ้มกนั และกลไกการต่อต้านสิ่งแปลกปลอม........................45 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง ภมู คิ ุ้มกนั ก่อเอง และภมู คิ ุ้มกนั รบั มา.................................................................49 แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ปจั จยั ภายนอกที่มีผลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช ...............................................56 แผนการจัดการเรยี นรู้ เร่อื ง ฮอร์โมนพืช........................................................................................................61 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง การตอบสนองต่อส่ิงเร้าของพืช..........................................................................66 แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง โครโมโซม ยนี แอลลีล จีโนไทป์ และฟีโนไทป์...................................................72 แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง กฎของความนา่ จะเป็น และกฎแหง่ การแยก.....................................................77 แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอ่ื ง การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมนอกเหนอื กฎเมนเดล.................................86 แผนการจดั การเรียนรู้ เรือ่ ง ไบโอมบนบก .....................................................................................................96 แผนการจัดการเรียนรู้ เร่อื ง ไบโอมในนำ้ และระบบนิเวศในนำ้ ................................................................... 101 แผนการจดั การเรยี นรู้ เรื่อง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสิง่ มีชีวติ กับปัจจัยทางชีวภาพ ....................................... 106 แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โซอ่ าหารและสายใยอาหาร ............................................................................ 112 แผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง พรี ะมดิ ทางนเิ วศวิทยา.................................................................................... 118 แผนการจัดการเรียนรู้ เรอื่ ง การเปลีย่ นแปลงแทนท่ขี องระบบนเิ วศ.......................................................... 123 แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง ทรพั ยากรธรรมชาติ........................................................................................ 129

ข สารบญั หน้า ภาคผนวก ก แบบประเมินผลการเรยี นรู้..................................................................................................... 136 เกณฑ์ประเมนิ ทักษะการสรา้ งผงั กราฟกิ โดยใช้เกณฑก์ ารประเมินแบบรบู ริคส์ .................................... 137 เกณฑ์การประเมนิ การสรุปบทเรยี น โดยใชเ้ กณฑ์การประเมนิ แบบรูบริคส์ ............................................ 139 เกณฑ์ประเมินทักษะการสร้างโปสเตอร์ โดยใชเ้ กณฑ์การประเมินแบบรบู รคิ ส์ ...................................... 140 เกณฑก์ ารประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ด้านความมุ่งมนั่ ในการทำงาน .......................................... 141 เกณฑ์ประเมินทักษะการทำงานเปน็ กลมุ่ โดยใช้เกณฑก์ ารประเมนิ แบบรบู ริคส์ .................................... 142

1 บันทกึ ข้อความ ส่วนราชการ โรงเรยี นสรรพยาวิทยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชยั นาท ๑๗๑๕๐ ท่ี วันท่ี เดอื น พ.ศ. 2563 เร่ือง ขออนญุ าตใช้แผนการสอนรายวิชาวทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ รหัสวิชา ว30107 เรยี น ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนสรรพยาวทิ ยา ตามที่ข้าพเจ้า นายเรวัตร อยู่เกิด ตำแหน่ง ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอน ภาคการศึกษาต้น ประจำปีการศึกษา 2563 รายวิชาวิทยาศาสตรช์ วี ภาพ รหัสวชิ า ว30107 ในการนี้เพื่อให้การจัดการเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล พัฒนาผู้เรียนให้มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนสงู ข้นึ และเปน็ ไปตามเจตนารมณข์ องหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐานพทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) ข้าพเจ้าจึงได้จัดเตรียมการจัดการเรียนการสอนตามกระบวนการ และหลักวิชา โดยดำเนินการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงขออนุญาตใช้แผน การจัดการเรียนรู้ ดังรายละเอียดทแ่ี นบมาพรอ้ มนี้ จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดพิจารณา (นายเรวตั ร อย่เู กดิ ) ตำแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความคดิ เห็นหัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (นางศริ ลิ ักษณ์ ไทยพงษธ์ นาพร) หัวหนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

2 ความคิดเห็นรองผู้อำนวยการโรงเรียน .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (นางสาวเครือวลั ล์ เที่ยงพลับ) รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนสรรพยาวทิ ยา ความคดิ เหน็ ผู้อำนวยการโรงเรยี น .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. (นายสมชาย บษุ บงค์) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นสรรพยาวิทยา

โรงเรียนสรร กลุ่มสาระการเรยี แผนการจัดการเรยี นรู้ เรอื่ ง ภาคการศึกษาตน้ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/พ, 4/1 และ4/2 สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว1.2 เขา้ ใจสมบตั ิของสง่ิ มชี ีวิต หน่วยพื้นฐานของสง่ิ มชี ีวิต การลำเลียงสาร ของพืชท่ที ำงานสมั พันธก์ นั รวมทัง้ นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ม.4/1 อธิบายโครงสร้าง และสมบตั ิของเยื่อหุ้มเซลลท์ ่ีสมั พันธก์ บั กา

3 รพยาวิทยา ยนรู้วิทยาศาสตร์ หนว่ ยพื้นฐานของสง่ิ มชี ีวิต รายวิชา วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ ว30107 ผู้สอน นายเรวัตร อยู่เกดิ รเขา้ และออกจากเซลล์ ความสมั พันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ขี องอวยั วะต่าง ๆ ารลำเลียงสาร และเปรียบเทยี บการลำเลยี งสารผา่ นเย่อื หุ้มเซลล์แบบต่าง ๆ

วัตถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ ด้านความร(ู้ K) ข้นั ระบปุ ญั หา 1. ระบุโครงสรา้ ง เซลล์มโี ครงสร้างพ้ืนฐานแบ่งได้เป็น 3 ส่วน 1. ครูให้นักเร พื้นฐานของเซลล์ได้ ใหญ่ ๆ คอื Organ System (K) 1. ส่วนที่ห่อหุ้มเซลล์ ได้แก่ เยื่อหุ้มเซลล์ ประเด็นในการชม (Cell Membrane) และ ผนังเซลล์(Cell 1.1 หน่วยท 2. จำแนกบทบาท Wall) (รา่ งกายของสง่ิ ม และหนา้ ท่ีของ 1.1 เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell membrane) 1.2 หน่วยทีเ่ โครงสรา้ งพน้ื ฐาน ประกอบไปด้วยสารจำพวกลิพิดและ 1.3 เซลล์ที ของเซลลไ์ ด้(P) โปรตีน ลพิ ดิ สว่ นใหญ่เปน็ สารพวกฟอสลิพิด บริเวณมีลกั ษณะ เรียงตัวกันเป็น 2 ชั้น และมีคอเลสเตอรอล 3. ทำงานรว่ มกัน แทรกอยู่ในบางบริเวณด้วย ส่วนใหญ่โปรตนี 2. จากนนั้ ครรู ะ เป็นกลุ่มได้ (A) จะแทรกและเกาะติดอยู่ทั่วไป นอกจากน้ียัง 2.1 นักเรียน พบสารจำพวกคาร์โบไฮเดรตด้วย เยื่อหุ้ม ของเซลล์ประกอบ เซลล์เปน็ เย่ือ บาง ๆ ลอ้ มรอบไซโทพลาสซมึ 2.2 นักเรี ความสำคัญอยา่ ง มีสมบตั ิเปน็ เย่อื เลือกผา่ น คำถามสำคญั โค 1.2 ผนังเซลล์ (Cell wall) เป็นโครงสร้างที่อยู่ชั้นนอกห่อหุ้มเยื่อหุ้ม ขน้ั แสวงหาสาร เซลล์อีกชั้นหนึ่งประกอบด้วยสารจำพวก 1. ครูแจกรูปภ คาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนใหญ่ เช่น เซลลูโลส ให้นักเรียนสังเก เป็นต้น พบในเซลล์ของพืชทกุ ชนิด สิ่งมีชีวติ ระหว่างเซลล์พชื แ

4 กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรียนรู้ 1. สอื่ พาวเวอร์ 1. ประเมินการอธบิ าย รียนชมวีดิทัศน์ เรื่อง Cell Tissue พอ้ ย เรื่อง ระบุโครงสรา้ งพื้นฐานของ Organism (สิ่งเร้า) โดยกำหนด โครงสรา้ งพ้ืนฐาน เซลล์และการเปรยี บเทียบ มวีดิทัศน์ ดังน้ี (สังเกต) ของเซลลแ์ ละสว่ น ความแตกตา่ งระหวา่ งเยือ่ ที่ใหญ่ที่สุดของสิ่งมีชีวิตคืออะไร ห่อหมุ้ เซลล์ หุ้มเซลลแ์ ละผนังเซลล์โดย มชี ีวิต) 2. ใบงาน เรอ่ื ง ใชแ้ บบประเมนิ ชนิ้ งาน โครงสรา้ งพ้นื ฐาน 2. ประเมินความม่งุ มัน่ ใน เลก็ ทีส่ ดุ ของสงิ่ มีวติ คืออะไร (เซลล)์ ของเซลลแ์ ละสว่ น การทำงานโดยใช้แบบ ่อยู่ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตแต่ละ หอ่ หุ้มเซลล์ ประเมินความมุ่งมั่นในการ ะเหมอื นกันหรอื ไม่ อย่างไร ทำงาน ะบุคำถามสำคญั ดงั น้ี (สงสัย) นทราบหรือไม่ว่าโครงสร้างพื้นฐาน บไปด้วยอะไรบา้ ง ย น ค ิ ด ว ่ า โ ค ร ง ส ร ้ า ง พ ื ้ น ฐ า น มี งไรกับเซลล์ ครงสร้างพ้ืนฐานของเซลล์คอื อะไร รสนเทศ ภาพเซลล์พืชและเซลล์สัตว์อย่างง่าย กตและเปรียบเทียบความแตกต่าง และเซลลส์ ัตว์ (วเิ คราะห์)

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ เซลล์เดียว ราและแบคทีเรียบางชนิดทำ หนา้ ท่ปี ้องกันและให้ความแขง็ แรง 2. ไซโทพลาสซมึ (Cytoplasm) เป็นส่วนที่อยู่ภายในเซลล์ทั้งหมดยกเว้น นิวเคลียส มีลักษณะเป็นของเหลวซึ่งมี ภาพท่ี 1 ภาพแ โครงสร้างเล็ก ๆ ที่เรียกว่าออร์แกเนลล์ จากน้ันใชค้ ำถาม กระจายอยู่ทั่วไป ออร์แกเนลล์มีหลายชนิด เช่น ไรโบโซม(Ribosome) ไมโทคอนเดรีย 1.1 จากภาพ ( Mitochondria) ค ล อ โ ร พ ล า ส ต์ และเซลล์ใดคือเ (Chloroplast) แวควิ โอล(Vacuole) ซึง่ ออร์ เซลล์สตั ว์ดา้ นซ้าย แกเนลล์เหลา่ น้ีกท็ ำหนา้ ทแ่ี ตกตา่ งกันไป 1.2 จากภาพ 3. นิวเคลียส (Nucleus) สัตว์มีโรงสร้างใด นิวเคลียสมีรูปร่างค่อนข้างกลมและมีเย่ือ หุม้ นิวเคลียส(Nuclear Membrane) ภายใน membrane), ไซ นวิ เคลียส(Nucle นิวเคลียสมีสารพันธุกรรมที่เรียกวา่ ดีเอ็นเอ (DNA) 1.3 นักเรียน พนื้ ฐานของเซลล 2. ครูให้นักเรีย ด้านทักษะกระบวนการ (P) พื้นฐานของเซล 1. ความสามารถในการในการส่ือสาร ประเด็นในการสืบ (เขียนผังกราฟฟกิ ) 2.1 โครงสร้า 2. ความสามารถในการคดิ อะไรบ้าง แตล่ ะโ

5 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรียนรู้ แสดงเซลล์พชื และเซลลส์ ัตวอ์ ย่างงา่ ย ม ดังนี้ พนักเรียนคิดว่าเซลล์ใดคือเซลล์พืช เซลล์สัตว์ (เซลล์พืชด้านขวา และ ย) พนักเรียนคิดว่าเซลล์พืชและเซลล์ ดเหมือนกันบ้าง (เยื่อหุ้มเซลล์(Cell ซโทพลาสซึม(Cytoplasm) และ eus)) นคิดว่าเราจะสามารถแบ่งโครงสร้าง ล์ออกได้เปน็ กีส่ ว่ น อะไรบา้ ง ยนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับโครงสร้าง ลล์จากอินเทอร์เน็ต โดยกำหนด บคน้ ดังนี้ (วางแผน) างพื้นฐานของเซลล์ประกอบไปด้วย โครงสรา้ งมีลกั ษณะสำคัญอย่างไร

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ 2.2 โครงสร (การวเิ คราะห)์ ช่วยเสริมสร้างค 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ เซลล์ (กระบวนการกลุม่ ) ขน้ั สร้างความร 4. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. ครูให้นักเรีย (-) ด้านข้างจากนั้น 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี สืบค้นข้อมูลโดย (สบื ค้นขอ้ มูลทางอินเทอรเ์ นต็ ) ความรู้ประมาณ 2. ครูแจกใบงา ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) ใหน้ กั เรียนทกุ คน ทักษะกระบวนการทำงานเปน็ กลุม่ งานทีค่ รูแจกใหใ้ ห 3. ครูนำนักเร พ้ืนฐานของเซลล เวอรพ์ ้อย เร่ือง โ ข้ันสือ่ สาร 1. ครูให้นักเร กราฟฟิกสรุป เร ในสมุดบันทึกส่ว กราฟฟกิ ที่ไดเ้ ปน็

6 กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ้างใดที่อยู่ด้านนอกสุดของเซลล์ ความแข็งแรงและรักษารูปร่างของ รู้ ยนจับกลุ่มกับกลุ่มที่นั่งติดกันทาง นแลกเปลี่ยนความรู้ที่ได้จากการ ยกำหนดเวลาให้พูดคุยแลกเปลี่ยน 3 นาที าน เรอ่ื ง โครงสรา้ งพนื้ ฐานของเซลล์ น โดยใหน้ ักเรยี นตอบคำถามลงในใบ ห้ครบถว้ น (สอ่ื ความหมาย) ียนสรุปความรู้เกี่ยวกับโครงสร้าง ล์และส่วนห่อหุ้มเซลล์ โดยใช้สื่อพาว โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ (สรปุ ) รียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสร้างผัง รื่อง โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ ลง วนตัวของตนเอง โดยแนวทางของผัง นดังนี้

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ภาพที่ 3 ภาพแสด ขน้ั ตอบแทนส 1. ครูมอบหมา แบบจำลองของเ โครงสร้าง/องค หน้าที่ เพื่อใช้เป็น นกั เรยี นคนอนื่ ๆ เร่อื งเซลล์ของตัว

7 กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ ดงแนวทางผังกราฟฟิก เรื่อง โครงสรา้ ง พ้ืนฐานของเซลล์ สังคม ายให้นักเรียนจบกลุ่มกันเพื่อสร้าง เซลล์จากดินน้ำมัน พร้อมทั้งระบุ ์ประกอบต่าง ๆ ภายในเซลล์และ นสื่อการจัดการเรยี นการสอนให้แก่ ๆ และเพือ่ เป็นการเน้นย้ำความเข้าใจ วนักเรยี นเอง

โรงเรียนสรร กลุม่ สาระการเรีย แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง กา ภาคการศกึ ษาต้น ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/พ, 4/1 และ4/2 สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ มาตรฐาน ว1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสงิ่ มชี วี ิต หนว่ ยพ้นื ฐานของสิง่ มีชวี ติ การลำเลียงสาร ของพชื ท่ีทำงานสมั พันธก์ ัน รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตวั ช้วี ัด ม.4/1 อธบิ ายโครงสรา้ ง และสมบัตขิ องเยอื่ หมุ้ เซลล์ท่ีสัมพันธ์กบั กา

8 รพยาวทิ ยา ยนรู้วิทยาศาสตร์ ารลำเลยี งสารผ่านเยอื่ หุม้ เซลล์ รายวชิ า วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ ว 30107 ผสู้ อน นายเรวัตร อยูเ่ กดิ รเขา้ และออกจากเซลล์ ความสมั พันธข์ องโครงสร้าง และหน้าทีข่ องอวัยวะต่าง ๆ ารลำเลียงสาร และเปรยี บเทียบการลำเลียงสารผ่านเยื่อหมุ้ เซลล์แบบตา่ ง ๆ

วัตถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรียนรู้ นักเรียนสามารถ ดา้ นความร(ู้ K) ขนั้ ระบปุ ญั หา 1. ระบุประเภท การลำเลียงสารผ่านเซลล์ แบ่งออกเป็น 1. ครูใหน้ ักเรยี ของการลำเลยี งสาร 2 ประเภท ดงั นี้ demonstration ผ่านเยอื่ หมุ้ เซลล์ได้ 1. การลำเลยี งสารผา่ นเย่ือหุ้มเซลล์ ประเด็นในการศึก (K) 2. การลำเลียงสารโดยการสร้างถุงจาก 1.1 ไข่ที่แช่อ 2. อธิบายลกั ษณะ เย่ือหุ้มเซลล์ ไม่มสี ีมีลักษณะเป สำคญั ของการ ลำเลียงสารผ่านเยอื่ 1. การลำเลยี งสารผา่ นเยื่อหมุ้ เซลล์ 1.2 น ั ก เ ร ี ย 1.1การลำเลยี งแบบไม่ใชพ้ ลังงาน เปล่ียนแปลงไปใน หุ้มเซลล์แต่ละ 2. จากนั้นครนู ประเภทได้ (K) (Passive transport) เกิดขนึ้ เม่อื มี 2.1 นักเรียน 3. เปรียบเทยี บ ความแตกต่างระหว่างความเข้มข้นของสาร ท่เี กี่ยวข้องกับกา ความแตกต่างของ ภายนอกกับภายในเซลล์ สารจะเคล่อื นท่ีจาก คำถามสำคัญ ก การลำเลยี งสารผ่าน ด้านที่มีความเข้มข้นสูงไปยังด้านที่มี ประเภท เยือ่ ห้มุ เซลลแ์ ตล่ ะ ความเขม้ ขน้ ตำ่ โดยให้นักเรียน ประเภทได้ (P) การแพร่ (Diffusion) เป็นการเคลื่อนท่ี ประจำรายวิชาขอ 4. เปน็ ผมู้ ีความ ของอนุภาคสารจากบริเวณที่มีความเข้มข้น ข้นั แสวงหาสาร 1. ครแู บ่งนกั เร มุ่งม่นั ในการทำงาน ของสารสูงไปยังบริเวณที่มีความเข้มข้นของ 6-7 คน จากนั้นใ (A) สารต่ำ ทำกิจกรรม ดงั น้ี 1.1 บกี เกอร์บ 1.2 หลอดหย

9 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ 1. วดี ิทัศน์ เรอ่ื ง 1. ประเมนิ การระบุ ยนชมวดี ิทศั น์ เรอ่ื ง Osmosis Osmosis ประเภทของการลำเลียงสาร n with the raw egg โดยกำหน ด demonstration ผา่ นเยือ่ หุ้มเซลล์, การ กษา ดงั น้ี (สงิ่ เร้าและสงั เกต) with the raw อธิบายลกั ษณะสำคัญและ อยู่ในสารสีน้ำตาลและสารละลายท่ี egg การเปรยี บเทียบความ ปล่ียนแปลงไปอยา่ งไรบ้าง 2. วดี ทิ ัศน์ เรื่อง แตกตา่ งของการลำเลียงสาร ย น ค ิ ด ว ่ า เ พ ร าะ เ หต ุ ใ ด ไ ข่จึง Diffusion, ผา่ นเยอ่ื หุม้ เซลล์แบบตา่ ง ๆ นลักษณะดังกลา่ ว Facilitated โดยใช้แบบประเมนิ ช้ินงาน นำเขา้ สคู่ ำถามสำคญั ดังนี้ Diffusion & 2. ประเมินการทำงาน นทราบหรือไม่ว่ากระบวนการใดบ้าง Active รว่ มกันเปน็ กลุ่มโดยใช้แบบ ารเคล่ือนทขี่ องสารผ่านเขา้ ออกเซลล์ Transport- ประเมินทกั ษะกระบวนการ การลำเลียงสารผ่านเข้าออกเซลล์มกี ่ี Movement กลมุ่ across the Cell นคาดคะเนคำตอบลงในสมุดบันทึก Membrane องตนเอง (สงสยั และสมมตฐิ าน) 3. บตั รขอ้ ความ รสนเทศ 4. รปู ภาพการ 3. ประเมนิ ความมงุ่ มั่นใน รยี นออกเป็น 4 กลุ่ม จำนวนกลมุ่ ละ ลำเลียงสารผ่าน การทำงานโดยใช้แบบ ให้นักเรยี นออกมารบั อุปกรณใ์ นการ เยือ่ หุ้มเซลล์แบบ ประเมินความมุง่ ม่นั ในการ (วางแผน) ต่าง ๆ ทำงาน บรรจุน้ำกลัน่ 50 มลิ ลลิ ติ ร ยด

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ การแพร่แบบฟาซลิ ิเทต 1.3 สผี สมอา (Facilitated diffusion) เป็นการแพร่ 2. ครูให้นักเรีย ของสารท่ไี ม่สามารถแพร่ผา่ นเย่ือหุ้มเซลล์ได้ ผสมอาหารพร้อ กำหนดให้นักเรีย โดยตรง ต้องเคลื่อนผ่านช่องโปรตีนหรือ ของน้ำสีภายหล โปรตีนตัวพาภายในเยื่อหุ้มเซลล์ การแพร่ กลน่ั แบบฟาซิลิเทตมีอัตราการแพร่เร็วกว่าการ 3. จากนั้นครใู ช แพร่แบบธรรมดาหลายเท่าตัวและเป็น 3.1 น้ำสีผสม กระบวนการที่มีความจำเพาะต่อสารชนิดใด ภายในนำ้ กลัน่ อย 4. ครูให้นักเร ชนิดหนง่ึ Facilitated Di 1.2การลำเ ลียงแ บ บ ใ ช้พ ลั ง ง า น (Active transport) เป็นการลำเลียงสาร Movement acr ผ่านเยื่อหุ้มเซลล์จากบริเวณที่มีความเข้มข้น กำหนดประเด็นใ 4.1 จากวีดิท ต่ำไปสู่บริเวณที่มีความเข้มข้นสูง โดยอาศัย หุ้มเซลลแ์ บง่ ออก พลงั งานจากการสลายสารอาหารมาใช้ 4.2 ให้นักเร โมเลกลุ สารแต่ละ หรอื ไม่ อยา่ งไร พร้อมทั้งบันท ประจำรายวิชาขอ

10 กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ าหารชนิดนำ้ 5. ใบงาน เรื่อง ยนดำเนินกิจกรรมโดยทำการหยดสี การลำเลียงสาร อมทั้งสังเกตการเปลี่ยนแปลง โดย ผา่ นเยือ่ หุ้มเซลล์ ยนสังเกตลักษณะการเปลี่ยนแปลง แบบต่าง ๆ ลังจากหยดลงในบีกเกอร์ที่บรรจุน้ำ 6. บกี เกอร์ 7. หลอดหยด ช้คำถาม ดังนี้ 8. สีผสมอาหาร มอาหารมีทิศทางในการเคลื่อนที่ ชนดิ นำ้ ยา่ งไร 9. ส่ือพาวเวอร์ รียนชมวีดิทัศน์ เรื่อง Diffusion, พอ้ ย เรื่อง การ iffusion & Active Transport- ลำเลียงสารเข้า ross the Cell Membrane โ ด ย ออกเซลล์ ในการศกึ ษา ดังนี้ (วางแผน) ทัศน์ การเคลื่อนที่ของสารผ่านเย่ือ กเปน็ กป่ี ระเภท รียนสังเกตทิศทางการเคลื่อนที่ของ ะประเภทว่าเหมือน หรือแตกตา่ งกัน ทึกข้อมูลที่ได้ลงในสมุดจดบันทึก องตนเอง

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 5. ครูให้นักเร ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) กิจกรรม ดงั นี้ 1. ความสามารถในการในการส่ือสาร 5.1 บัตรข้อค (การพดู การเขยี น) ผ่านเยื่อหุ้มเซลลแ์ 2. ความสามารถในการคิด (การสังเกต วเิ คราะห์) 5.2 รูปภาพ 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ เซลล์แบบต่าง ๆ (กระบวนการกลุ่ม) 6. ครูให้นักเรีย 4. ความสามารถในการแก้ปญั หา ถูกต้อง โดยกำหน (-) 6.1 ทศิ ทางแ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี แตล่ ะประเภท (การสืบคน้ ข้อมูลจากอนิ เทอร์เน็ต) 7. ครูให้นักเร ขอ้ ความ และวีดทิ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) กันอย่างไร จาก มงุ่ มั่นในการทำงาน นกั เรียนคิดวา่ ถกู สมุดบันทึกอีกคร ข้ันสรา้ งความร 1. ครูให้นักเรีย A3 ที่ครแู จกให้ โ ในผังกราฟฟกิ ดัง

11 กจิ กรรมการเรียนรู้ สือ่ และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ รียนออกมารับอุปกรณ์ในการทำ ความแสดงข้อมูลการลำเลียงสาร แบบต่าง ๆ แสดงการลำเลียงสารผ่านเยื่อหุ้ม ยนจับคู่บัตรข้อความกับรูปภาพให้ นดประเดน็ ในการสบื คน้ ดังนี้ และลกั ษณะสำคัญในการลำเลยี งสาร รียนเปรียบเทียบข้อมูลจากบัตร ทศั น์ วา่ มคี วามเหมือนหรอื แตกต่าง กนั้นให้นักเรียนสรุปเป็นข้อมูลที่ กตอ้ งและครบถ้วนสมบูรณ์ท่ีสุดลงใน ร้ัง (วิเคราะห)์ รู้ ยนสร้างผังกราฟฟิกลงในกระดาษ โดยกำหนดประเด็นที่จะตอ้ งปรากฎ งนี้

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 1.1 ประเภท เซลล์ 1.2 ลักษณะ ประเภท (สื่อควา 2. ครูสรุปความ เรอื่ ง การลำเลียง ขน้ั ส่ือสาร 1. ครูให้นักเร กราฟฟิกของหลุ่ม ขน้ั ตอบแทนสัง 1. ครูให้นักเร ถูกต้องและสวย เพือ่ ให้นักเรียนแต

12 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ การเรียนรู้ ทของการลำเลียงสารผ่านเยื่อหุ้ม ะสำคัญของการลำเลียงสารแต่ละ ามหมาย) มรู้ที่ถูกต้องโดยใช้สื่อพาวเวอร์พอ้ ย งสารผ่านเยือ่ หุ้มเซลล์ (สรปุ ) รียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผัง มตนเองทบ่ี รเิ วณหน้าช้นั เรียน งคม รียนร่วมกันคัดเลือกผังกราฟฟิกท่ี ยงามที่สุดติดแสดงภายในห้องเรียน ตล่ ะคนได้ศกึ ษาข้อมลู ท่ีถูกต้อง

โรงเรียนสรร กลุ่มสาระการเรีย แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง การล ภาคการศึกษาตน้ ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 4/พ, 4/1 และ4/2 สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว1.2 เข้าใจสมบตั ขิ องสิง่ มีชวี ติ หน่วยพ้นื ฐานของส่ิงมชี ีวิต การลำเลียงสาร ของพืชทท่ี ำงานสัมพันธก์ ัน รวมท้งั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์ ตวั ช้วี ัด ม.4/1 อธิบายโครงสร้าง และสมบัติของเยอ่ื หมุ้ เซลลท์ ่ีสมั พนั ธ์กับกา

13 รพยาวิทยา ยนรูว้ ิทยาศาสตร์ ลำเลียงสารโดยการสรา้ งเวสิเคลิ รายวชิ า วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ ว30107 ผู้สอน นายเรวัตร อย่เู กิด รเข้า และออกจากเซลล์ ความสมั พันธข์ องโครงสรา้ ง และหนา้ ท่ขี องอวัยวะต่าง ๆ ารลำเลียงสาร และเปรยี บเทยี บการลำเลยี งสารผา่ นเยือ่ ห้มุ เซลลแ์ บบตา่ ง ๆ

วตั ถุประสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ดา้ นความรู้(K) ข้ันระบุปญั หา นักเรียนสามารถ การลำเลยี งสารโดยการสรา้ งถงุ จากเย่อื หุ้ม 1. ครูแสดงภาพ 1. ระบุประเภท เซลล์ เยื่อหุ้มเซลล์มีลิพิดเป็นองค์ประกอบ สารผ่านเยื่อหุ้ม ของการลำเลยี งสาร ทำให้เยื่อหุ้มสามารถคอดหรือหลุดออกเป็น สรา้ งถงุ จากเย่ือห โดยการสร้างถุงจาก เยอ่ื ห้มุ เซลล์ได้ (K) เวสิเคิล ทำให้สามารถลำเลียงสารเข้าหรือ 2. อธบิ ายลักษณะ ออกจากเซลล์ได้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท สำคัญของการ คือ 2.1 เอกโซไซโทซิส (Exocytosis) เปน็ ลำเลยี งสารโดยการ การลำเลียงสารขนาดใหญ่ออกจากเซลล์ใน ภาพที่ 1 ภาพเปรยี สร้างถุงจากเย่ือหมุ้ รูปของเวสเิ คลิ และการลำเลียง เซลลไ์ ด้ (K) จากนนั้ ครใู ชค้ ำ 3. เปรยี บเทยี บ 2.2 เอนโดไซโทซิส (Endocytosis) 1.1 จากภาพ ความแตกต่างของ เป็นการลำเลียงสารขนาดใหญ่เข้าสู่เซลล์ แดงและโมเลกุลส การลำเลียงสารโดย กลไกการลำเลียง ได้แก่ หรือไม่ อย่างไร การสรา้ งถุงจากเยอ่ื ฟาโกไซโทซสิ (Phagocytosis) เป็นการ เคลื่อนที่ผ่านเยื่อ หมุ้ เซลล์ แตล่ ะ ลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์โดยยื่นไซโทพลาซึม เขียวต้องมีการเ ประเภทได้ (P) ออกมาล้อมอนุภาคของสารที่มีขนาดใหญใ่ น ลำเลยี งเขา้ สเู่ ซลล 4. เป็นผูม้ ีความ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน รปู ของแวควิ โอล (การกินของเซลล์) 1.2 การลำเล (A) พิโนไซโทซิส (Pinocytosis) เป็นการ (3 ประเภท ได้แ ลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์โดยเว้าเยื่อหุ้มเซลล์ และการลำเลยี งส

14 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ 1. วีดิทัศน์ เรอ่ื ง 1. ประเมินการระบุ พเปรียบเทียบระหว่างการลำเลียง Osmosis ประเภทของการลำเลยี งสาร เซลล์และการลำเลียงสารโดยการ demonstration ผา่ นเย่อื หมุ้ เซลล์, การ หมุ้ เซลล์ (ส่ิงเร้า) with the raw อธิบายลักษณะสำคัญและ egg การเปรียบเทยี บความ 2. วดี ิทัศน์ เรือ่ ง แตกต่างของการลำเลียงสาร Diffusion, ผา่ นเยื่อหมุ้ เซลลแ์ บบต่าง ๆ Facilitated โดยใชแ้ บบประเมนิ ชิน้ งาน ยบเทียบการลำเลียงสารผ่านเยอื่ ห้มุ เซลล์ Diffusion & 2. ประเมนิ การทำงาน งสารโดยการสรา้ งถุงจากเยื่อหมุ้ เซลล์ Active ร่วมกนั เปน็ กลุ่มโดยใช้แบบ ำถาม ดังน้ี (สังเกต) Transport- ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการ พนักเรยี นคดิ ว่าการลำเลยี งโมเลกุลสี Movement กลุ่ม สีเขียว ใชว้ ิธกี ารลำเลียงแตกต่างกัน across the Cell 3. ประเมนิ ความมงุ่ มั่นใน (แตกต่างกัน โมเลกุลสีแดงสามารถ Membrane การทำงานโดยใช้แบบ อหุ้มเซลล์ได้โดยตรง ส่วนโมเลกุลสี 3. บัตรขอ้ ความ ประเมนิ ความมงุ่ มน่ั ในการ เข้าไปอยู่ในถุงก่อนจึงจะสามารถ 4. รปู ภาพการ ทำงาน ล์ได้) ลำเลียงสารผา่ น ลยี งสารผ่านเย่ือหุ้มเซลลม์ ีกี่ประเภท เยอ่ื ห้มุ เซลลแ์ บบ แก่ การแพร่ การแพร่แบบฟาซิลิเทต ตา่ ง ๆ สารโดยใชพ้ ลังงาน)

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ เข้าข้างในจนกลายเป็นถุงเล็กๆและหลุดเข้า 2. จากนัน้ ครรู ะ ไปในไซโทพลาซึม “นักเรียนทราบ การนำสารเข้าสู่เซลล์โดยอาศัยตัวรับ สรา้ งถงุ จากเย่อื ห (receptor mediated endocytosis) โดยให้นักเรียน ประจำรายวชิ าขอ เป็นการลำเลียงสารเข้าสู่เซลล์โดยอาศัย คำถามสำคัญ ก โปรตีนตัวรับบนเยื่อหุ้มเซลล์จับกับสารแล้ว เย่อื หมุ้ เซลลม์ กี ป่ี จึงเว้าส่วนของเยือ่ หุ้มเซลล์เข้าสูเ่ ซลล์ สารท่ี ขนั้ แสวงหาสาร ถูกลำเลียงเข้าสู่เซลล์ด้วยวิธีนี้จะต้องมี ความจำเพาะกับโปรตีนตัวรับที่อยู่บน 1. ครูแบ่งนักเร คน จากนั้นให้น เยื่อหุม้ เซลล์ อุปกรณใ์ นการทำ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1.1 รูปภาพแ 1. ความสามารถในการในการสอื่ สาร ถงุ จากเย่อื หุ้มเซล (การพดู การเขียน) 2. ความสามารถในการคดิ (การสังเกต วิเคราะห)์ 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ (กระบวนการกลุ่ม) 4. ความสามารถในการแก้ปญั หา ภาพท่ี 2 ภาพแสด (-) ห

15 กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ ะบุคำถามสำคัญ ดังนี้ 5. ใบงาน เรื่อง บหรือไม่ว่าการลำเลียงสารโดยการ การลำเลยี งสาร หุม้ เซลลม์ กี ีป่ ระเภท อะไรบ้าง” ผ่านเย่อื หุ้มเซลล์ นคาดคะเนคำตอบลงในสมุดบันทึก แบบตา่ ง ๆ องตนเอง (สงสยั และสมมติฐาน) 6. บีกเกอร์ การลำเลียงสารโดยการสร้างถุงจาก 7. หลอดหยด ประเภท อะไรบ้าง 8. สีผสมอาหาร รสนเทศ ชนดิ นำ้ รียนออกเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 9. ส่อื พาวเวอร์ นักเรียนตัวแทนกลุ่มออกมารับ พอ้ ย เรอื่ ง การ ำกจิ กรรม ดังน้ี ลำเลียงสารเข้า แสดงการลำเลียงสารโดยการสร้าง ออกเซลล์ ลล์แต่ละประเภท ดงการลำเลยี งสารโดยการสรา้ งถงุ จากเยอื่ หุ้มเซลล์แต่ละประเภท

วตั ถปุ ระสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ 1.2 ใบความร 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ถุงจากเย่ือห้มุ เซล (การสบื ค้นข้อมูลจากอนิ เทอรเ์ นต็ ) 1.3 กระดาษ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) 1.4 ปากกาส มุ่งมัน่ ในการทำงาน 2. ครูให้นักเรีย เปรียบเทียบควา โดยการสร้างถุงจ นักเรียนเขียนร เตรียมให้ (วิเครา 3. ครูให้นักเรีย สารโดยการสร้าง ครูเตรียมให้ และ การสืบคน้ ดงั น้ี ( 3.1 การลำเล เซลล์ แบ่งออกเป 3.2 การลำเ แตกต่างกันหรือไ ให้นักเรียนบ รายวชิ าของตนเอ

16 กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรียนรู้ รู้ เร่อื ง การลำเลียงสารโดยการสรา้ ง ลล์ ษ A3 สี ยนแต่ละกลุ่มร่วมกันสังเกต และ ามแตกต่างระหว่างการลำเลียงสาร จากเยื่อหุ้มเซลล์แต่ละแบบ โดยให้ ระบุความแตกต่างลงในภาพที่ครู าะห)์ ยนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการลำเลียง งถุงจากเยื่อหุ้มเซลล์จากใบความรู้ท่ี ะอนิ เทอรเ์ นต็ โดยกำหนดประเดน็ ใน (วางแผน) ลียงสารโดยการสร้างถุงจากเยื่อหุ้ม ป็นกี่ประเภท อะไรบา้ ง เลียงสารแต่ละประเภทมีความ ไม่ อย่างไร บันทึกข้อมูลที่ได้ลงในสมุดประจำ อง

วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ ขั้นสรา้ งความร 1. ครูให้นักเร กราฟฟิกลงในก กำหนดประเด็นท 1.1 ประเภท จากเยอื่ หมุ้ เซลล์ 1.2 ลักษณะ สร้างถงุ จากเย่ือห 2. ครูสรุปความ เรื่อง การลำเลีย เซลล์ (สรุป) ขัน้ สอื่ สาร 1. ครูให้นักเรีย ระหว่างการลำเล เซลลแ์ ต่ละแบบต 2. ครูให้นักเรีย ประเภทและลักษ การสร้างถุงจาก เรยี น

17 กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ รู้ รียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสร้างผัง กระดาษ A3 ที่ครูเตรียมให้ โดย ทจ่ี ะตอ้ งปรากฎในผังกราฟฟกิ ดังน้ี ทของการลำเลียงสารโดยการสร้างถุง สำคัญของการลำเลียงสารโดยการ หมุ้ เซลล์ (สอื่ ความหมาย) มรู้ที่ถูกต้องโดยใช้สื่อพาวเวอร์พอ้ ย ยงสารโดยการสร้างถุงจากเยื่อหุ้ม ยนแตล่ ะกลุ่มนำเสนอความแตกต่าง ลียงสารโดยการสร้างถุงจากเยื่อหุ้ม ตามความคดิ เห็นของกลุ่มตนเอง ยนออกมานำเสนอผังกราฟฟิกแสดง ษณะสำคัญของการลำเลียงสารโดย กเยื่อหุ้มเซลล์ ด้วยวาจาที่หน้าช้ัน

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ ขน้ั ตอบแทนสัง 1. ครูให้นักเร ถกู ตอ้ งท่ีสุดตดิ แส แต่ละคนไดศ้ ึกษา 2. ครูมอบหม ลำเลียงสารผ่านเข

18 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ งคม รียนร่วมกันคัดเลือกผังกราฟฟิกที่ สดงภายในหอ้ งเรียน เพื่อใหน้ กั เรียน าข้อมลู ทีถ่ ูกตอ้ ง มายให้นักเรียนทำใบงาน เรื่อง การ ข้าออกเซลล์

โรงเรยี นสรร กลมุ่ สาระการเรยี แผนการจดั การเรียนรู้ เรือ่ ง โค ภาคการศกึ ษาต้น ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4/พ, 4/1 และ4/2 สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ มาตรฐาน ว1.2 เข้าใจสมบัตขิ องส่ิงมีชวี ติ หน่วยพื้นฐานของส่งิ มีชวี ิต การลำเลียงสาร ของพืชที่ทำงานสมั พนั ธ์กัน รวมทั้งนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชี้วัด ม.4/2 อธบิ ายการควบคุมดุลยภาพของน้ำ และสารในเลอื ดโดยการท

19 รพยาวิทยา ยนรูว้ ิทยาศาสตร์ ครงสร้างของไต และหนว่ ยไต รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ ว 30107 ผู้สอน นายเรวัตร อยูเ่ กิด รเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าท่ขี องอวยั วะต่าง ๆ ทำงานของไต

วัตถปุ ระสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก เรียนรู้ นกั เรยี นสามารถ ด้านความรู(้ K) ข้ันระบุปัญหา 1. ระบุตำแหน่ง การรักษาดุลยภาพของน้ำและแร่ธาตุใน 1. ครูกระตนุ้ คว โครงสรา้ งของไตได้ มนษุ ย์ บทเรยี นโดยการต (K) ไต เป็นอวยั วะทีส่ ำคัญในการรักษา ดุลย 1.1 นกั เรยี นท 2. ระบตุ ำแหน่ง ภาพของน้ำและสารตา่ ง ๆ ในร่างกาย เราไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง โครงสรา้ งภายใน ภายในเนื้อไตแต่ละข้างประกอบไปด้วย อาหาร) หน่วยไตได้ (K) ห น ่ ว ย ย ่ อ ย ท ี ่ เ ร ี ย ก ว ่ า ห น ่ ว ย ไ ต 1.2 นกั เรียนค 3. เปน็ ผมู้ ีความ (Nephron)เลอื ดเขา้ สไู่ ตผ่านทางหลอดเลือด บ้างหรือไม่ ถา้ หา ม่งุ มัน่ ในการทำงาน รีนัลอาร์เตอรี ซึ่งแตกแขนงเป็นกลุ่มของ รูปแบบใด (มี เหง (A) หลอดเลือดฝอยเรียกว่า โกลเมอรูลัส 2. จากนัน้ ครแู ส (Glomerulus) น้ำเลือดและโมเลกลุ ของสาร รา่ งกายไดร้ ับใน 1 ต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำเลือดจะออกจากโกล (สงั เกต และสงสัย เมอรูลัสเข้าสู่โบว์แมนแคปซูล(Bowman’s 2.1 นกั เรยี นท capsule) ไปสู่ท่อหน่วยไต ส่วนเซลล์เม็ด กบั การกำจัดน้ำค เลือดและอนุภาคท่ีมีขนาดใหญ่จะไม่ออกจาก 2.2 อวยั วะด หลอดเลือดฝอยของเหลวที่ผ่านเข้าสู่ท่อ คำถามสำคัญ โ หน่วยไตสว่ นหนึ่งจะถูกดูดกลับสู่หลอดเลือด หนว่ ยไตเป็นอยา่ ส่วนท่ีไม่ถูกดดู กลบั จะไหลผา่ นท่อหน่วยไตไป ยังท่อปัสสาวะในกระบวนการดูดกลับที่ท่อ หน่วยไต น้ำและโมเลกุลของสารของสารท่ี ร่างกายตอ้ งการ เชน่ กลโู คสและกรดอะมิโน

20 กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ 1. บตั รคำแสดง 1. ประเมนิ การระบุ วามสนใจเพอ่ื นำนกั เรียนเขา้ สู่ โครงสร้างของไต ตำแหนง่ โครงสรา้ งของไต ตง้ั คำถาม ดังน้ี (สิ่งเร้า) และหนว่ ยไต และหนว่ ยไตโดยใช้แบบ ทราบหรอื ไม่ว่าน้ำเข้าสรู่ ่างกายของ 2. กาวยาง ประเมนิ ช้นิ งาน ง (การดมื่ เคร่ืองดื่ม, การรับประทาน 3. รูปภาพไต 2. ประเมนิ การทำงาน และหนว่ ยไต รว่ มกนั เปน็ กลมุ่ โดยใชแ้ บบ คดิ ว่าร่างกายมกี ารกำจัดน้ำออก 4. กระดาษ A3 ประเมินทักษะกระบวนการ ากมนี ำ้ ทร่ี ่างกายกำจดั ออกจะอยูใ่ น 5. วดี ิทัศน์ เรื่อง กลุ่ม งอื ปัสสาวะ) ไต : หน่วยไต และ 3. ประเมินความม่งุ มนั่ ใน สดงภาพปริมาณน้ำโดยเฉลยี่ ที่ การผลิตปสั สาวะ การทำงานโดยใช้แบบ 1 วัน (สิง่ เรา้ ) แล้วใช้คำถาม ดังนี้ 6. สอ่ื พาวเวอร์ ประเมนิ ความมุ่งมนั่ ในการ ย) พ้อย เรื่อง การ ทำงาน ทราบหรอื ไมว่ า่ อวัยวะทเี่ กีย่ วข้อง ลำเลียงสารเขา้ คอื อวยั วะใด ออกเซลล์ ดังกล่าวมีลกั ษณะสำคญั อย่างไร โครงสร้าง และลักษณะสำคัญของ างไร

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ จะลำเลียงผ่านเซลล์ท่อหน่วยไตกลับเข้าสู่ ข้นั แสวงหาสาร หลอดเลือดฝอยของเสียจากกระบวนการเม 1. ครูแบ่งนักเร แทบอลิซมึ เชน่ ยูเรีย รวมท้ังสารท่ีร่างกายมี 6-7 คน จากนั้นใ มากเกินความจำเป็นและต้องขับออก เช่น ทำกจิ กรรม ดงั นี้ โซเดยี มไอออนและคลอไรด์ 1.1 บตั รคำแ ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) 1.2 กาวยาง 1. ความสามารถในการในการสอ่ื สาร 1.3 รปู ภาพไ 1.4 กระดาษ (การพดู การเขยี น) 1.5 แบบบัน 2. ความสามารถในการคดิ (การสงั เกต วเิ คราะห)์ และหน่วยไต 2. ครูให้นักเรีย 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต (กระบวนการกลมุ่ ) และการผลิตปสั ส วดี ิทศั น์ ดงั น้ี (วา 4. ความสามารถในการแก้ปญั หา (-) 2.1 โครงสรา้ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 2.2 โครงสร้า (-) 3. หลังจากชม จับคู่ระหว่างบัตร ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) ไต และหน่วยไตใ มุ่งม่ันในการทำงาน

21 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ และอปุ กรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรียนรู้ รสนเทศ รยี นออกเป็น 4 กลุ่ม จำนวนกลมุ่ ละ ให้นักเรียนออกมารับอุปกรณ์ในการ (วางแผน) แสดงโครงสร้างของไต และหนว่ ยไต ไต และหนว่ ยไต ษ A3 นทึกกิจกรรม เรื่อง โครงสร้างของไต ยนชมวีดิทัศน์ เรื่อง ไต : หน่วยไต สาวะ โดยกำหนดประเด็นในการชม างแผน) างของไตมอี ะไรบา้ ง างของหนว่ ยไตมอี ะไรบา้ ง มวีดทิ ัศนเ์ รียบร้อยแล้วครใู หน้ ักเรียน รคำ กับตำแหน่งของโครงสร้างของ ใหถ้ กู ต้อง (วเิ คราะห)์

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ ขัน้ สรา้ งความร 1. ครูให้นักเรีย ในแบบบันทึก ความหมาย) 2. จากนั้นครูแ ถูกต้องโดยใช้สื่อ ภาพน้ำและแร่ธา ขัน้ ส่อื สาร 1. ครูให้นักเรีย การส่งต่อกระดา เวยี นไปตามเข็มน เฉพาะกลมุ่ ขึน้ เม บริเวณใดที่มีก สัญลกั ษณล์ งบนบ ขั้นตอบแทนสัง 1. ครใู ห้นกั เรีย กับไต และหน่ว สืบค้น ดังนี้

22 กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ รู้ ยนแต่ละกลุ่มร่วมกันตอบคำถามลง กกิจกรรมที่ครูเตรียมให้ (ส่ือ และนักเรียนร่วมกันสรุป ความรู้ที่ อพาวเวอร์พ้อย เรื่อง การรักษาดุลย าตุในมนษุ ย์ (สรุป) ยนแต่ละกลุ่มแลกเปลี่ยนเรียนรู้โดย าษที่มีการจับคู่บัตรคำ และรูปภาพ นาฬิกา ให้ 1 กลุม่ กำหนดสัญลักษณ์ มื่อกระดาษของกลมุ่ อืน่ เวยี นมาถงึ ให้ การจับคู่เหมือนกันให้มีการวาด บริเวณน้นั งคม ยนสบื ค้นขอ้ มูลโรคทมี่ ีความเกี่ยวขอ้ ง วยไต โดยกำหนดประเด็นในการ

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 1.1 อาการขอ 1.2 พฤตกิ รร 1.3 การรักษ 1.4 การป้องก 2. จัดกระทำ จากนั้นออกมาน หนา้ ห้องเรยี น หร

23 กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือและอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ องโรค รมเสี่ยง ษา กนั ตนเอง ำข้อมูลลงในกระดาษฟลิปชาร์ต นำเสนอ และติดผลงานไว้ที่บริเวณ รือภายในโรงเรยี น

โรงเรยี นสรร กลมุ่ สาระการเรีย แผนการจดั การเรียนรู้ เรือ่ ง ภาคการศึกษาตน้ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4/พ, 4/1 และ4/2 สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ มาตรฐาน ว1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสิง่ มีชีวิต หนว่ ยพนื้ ฐานของสง่ิ มีชวี ติ การลำเลยี งสาร ของพืชท่ีทำงานสัมพันธ์กัน รวมทั้งนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ตวั ชี้วัด ม.4/2 อธบิ ายการควบคุมดุลยภาพของน้ำ และสารในเลอื ดโดยการท

24 รพยาวทิ ยา ยนรู้วิทยาศาสตร์ การผลิตปัสสาวะของมนษุ ย์ รายวิชา วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ ว30107 ผู้สอน นายเรวัตร อยูเ่ กิด รเข้า และออกจากเซลล์ ความสัมพนั ธข์ องโครงสรา้ ง และหน้าท่ขี องอวยั วะต่าง ๆ ทำงานของไต

วัตถุประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก เรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ดา้ นความรู้(K) ขน้ั ระบุปญั หา 1. อธบิ ายกลไก การทำงานของหน่วยไตเริ่มจากเลือดไหล 1. ครูแสดงภา ของการสร้าง ผ่านหลอดเลือดรนี ลั อาร์เตอรี ซึ่งนำเลือดเข้า (ส่ิงเร้าและสังเกต ปัสสาวะได้ (K) ส่ไู ต และผา่ นหลอดเลือดท่ีนำเลือดท่ีนำเลือด 2. เปรียบเทียบ เข้าสู่โกลเมอรูลัส ที่ยริเวรโกลเมอรูลัสสาร ความแตกตา่ งของ ขนาดเล็ก และแร่ธาตุส่วนหนึ่งจะถูกกรองที่ กลไกในการสร้าง โกลเมอรูลัส และผนังของโบวแมนส์แคปซูล ปสั สาวะได(้ P) ส่วนสารที่มีขนาดใหญ่จะยังคงอยู่ในเลือด ภาพท่ี 1 ภาพ 3. เปน็ ผมู้ ีความ ของเหลวที่กรองได้จะไหลผ่านไปยังท่อของ จากนัน้ ครูใชค้ ำ มุง่ ม่นั ในการทำงาน 1.1 จากภาพ (A) หน่วยไตซึ่งบริเวณนี้สารท่ีมีประโยชน์ต่อ ร่างกายจะถูกดดู กลับหมด เช่น กลูโคส กรด พลาสติกคืออะไร ของนักเรียน โด แอมโิ น และดดู กลับบางสว่ น เชน่ น้ำ ไอออน ปัสสาวะ) ต่าง ๆ บางกรณีเซลล์ท่อหนว่ ยไตจะหลั่งสาร บางชนิดที่ได้จากหลอดเลือดเข้าสู่ท่อของ 1.2 นักเรียน อวยั วะใดในร่างก หน่วยไต ของเหลวที่ได้จะถูกขับออกจาก รา่ งกายผ่านทางท่อรวเปน็ ปัสสาวะ แล้วเข้าสู่ (ไต) 1.3 นักเรียน กรวยไต ท่อไต และสะสมในกระเพาะ ปัสสาวะกอ่ นท่จี ะขบั ออกนอกรา่ งกาย กระบวนการอยา่ พลาสตกิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook