Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 6 (ว30256)

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 6 (ว30256)

Published by Rawat Yukerd, 2021-07-17 09:24:59

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาชีววิทยา 6 (ว30256) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา จัดทำโดย นายเรวัตร อยู่เกิด

Search

Read the Text Version

วตั ถปุ ระสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ 1. ครแู บง่ นกั เร มีนักเรียนจำนวน ตำแหนง่ ที่นงั่ มาอ 2. ครูให้นักเรีย โดยกำหนดประเด 2.1 ธาตุคาร อยา่ งไร 2.2 กระบวน ท่ีปรากฎอยู่ในวดี กระบวนการมรี าย โดยครูเปิดวีดิท รอบ ให้นักเรียน ลงในสมดุ บนั ทึกป 3. ครูแจกใบคว ให้นักเรยี นลองเป และข้อมูลจากใบ อยา่ งไร (วิเคราะห ข้นั สร้างความร

98 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สือ่ /แหลง่ การ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เรยี นรู้ รยี นออกเปน็ 5 กลมุ่ โดยแตล่ ะกลุ่ม น 5-6 คน จากน้ันให้นักเรียนย้าย อยู่เป็นกลมุ่ ตามท่ีครไู ดจ้ ดั ไวใ้ ห้ ยนชมวีดิทัศน์ เรื่อง Carbon Cycle ด็นที่จะศกึ ษา ดงั นี้ (วางแผน) ร์ บ อ น มี ค วา ม ส ำ คั ญ ต่ อ ส่ิ ง มี ชี วิ ต นการที่เกี่ยวข้องกับวัฏจักรคาร์บอน ดทิ ัศนม์ ีกระบวนการอะไรบา้ ง แตล่ ะ ยละเอยี ดเปน็ อย่างไร ทัศน์ให้นักเรียนชมทั้งส้ินจำนวน 2 นบันทึกข้อความจากการชมวีดิทัศน์ ประจำรายวิชา วามรู้ เร่ือง วฏั จักรคารบ์ อน จากน้ัน ปรยี บเทยี บข้อมลู จากการชมวีดทิ ัศน์ บความรู้ ว่าเหมือนหรือแตกต่างกัน ห)์ รู้

วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 1. ครูให้นักเรีย วฏั จักรคาร์บอนข 2. จากน้ันครูแ กลุ่มช่วยกันเขีย คาร์บอน พร้อม กระดานหนา้ หอ้ ง 3. ครูนำนักเรีย จักรคาร์บอน โด คาร์บอน (สรุป) ขน้ั สื่อสาร 1. ครูให้นักเรีย เก่ยี วกับวฏั จักรค ระบุว่าผลงานขอ หรอื ไม่ อยา่ งไร ขัน้ ตอบแทนส 1. ครูให้นักเร ระหว่างวัฏจักรค อธิบายเหตผุ ลปร ความสัมพันธ์กัน

99 กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ/แหล่งการ ประเมินผลการเรยี นรู้ เรียนรู้ ยนแต่ละกลุ่มสรุปความรู้เกี่ยวกับ ของกลมุ่ ตนเองลงในสมุด แจกกระดาษ A3 ให้นักเรียนแต่ละ ยนแผนผังสรุปข้ันตอนของวัฏจักร ท้ังให้แต่ละก ลุ่ม นำผลงานม าติดที่ งเรียน (สอื่ ความหมาย) ยนสรุปความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับวัฏ ดยใช้ส่ือพาวเวอร์พ้อย เรื่อง วัฏจักร ยนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อมูล คาร์บอนของกลุ่มตนเอง พร้อมทัง้ ให้ องกลุ่มตนเองนั้นถูกต้องครบถ้วน สงั คม รี ย น เ ขี ย น อ ธิ บ า ย ค ว า ม สั ม พั น ธ์ คาร์บอนกับภาวะโลกร้อน พร้อมท้ัง ระกอบว่าเพราะเหตุใดท้งั สองสิ่งจึงมี นและมนุษย์ควรทำลายสมดุลของ

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ วฏั จักรคาร์บอนห

100 กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือ/แหล่งการ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ หรือไม่ เรียนรู้

โรงเรยี นสรร กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ย แผนการจดั การเรียนรู้ เ ภาคการศกึ ษาปลาย ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6/พ และ 6/1 สาระชีววทิ ยา 5. เข้าใจแนวคิดเก่ยี วกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน แทนที่ของส่งิ มีชวี ิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพิม่ ของ ใช้ประโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปัญหา ผลการเรียนรู้ ม.6/3 สืบคน้ ขอ้ มูล และเขียนแผนภาพ เพอื่ อธิบายวัฏจักรไนโตรเจน

101 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เรอื่ ง วฏั จักรไนโตรเจน รายวชิ า ชีววิทยา6 ว30256 ผสู้ อน นายเรวัตร อยูเ่ กิด น และการหมนุ เวียนสารในระบบนเิ วศ ความหลากหลายของไบโอม การเปล่ยี นแปลง งประชากร ทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบท่ีเกิดจากการ น วัฏจักรกำมะถนั และวฎั จกั รฟอสฟอรัส

วัตถุประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ นกั เรียนสามารถ ดา้ นความร(ู้ K) ขั้นระบปุ ญั หา 1. อธิบาย 1. ครูแสดงภาพ กระบวนการใน วั ฏ จั ก ร ไน โต ร เจ น (Nitrogen cycle) วัฏจักรไนโตรเจนได้ ประกอบไปดว้ ย 4 กระบวนการ คอื ภาพที่ (K) • กระบวนการตรึงไนโตรเจน (Nitrogen จากน้ันครใู ช้คำ 2. เขียนแผนผัง 1.1 จากภาพ แสดงวัฏจกั ร fixation) เป็นการตรึงแก๊สไนโตรเจน(N2) ให้ จกั รของสารใด (ว ไนโตรเจนได้ (P) อยู่ในรูปแอมโมเนีย(NH3) โดยแบคทีเรียกลุ่ม 1.2 นักเรียน Nitrogen-fixing bacteria มี ก า ร ห มุ น เ ว 3. เปน็ ผ้มู ีความ (ไนโตรเจน ฟอสฟ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน • ก ร ะ บ ว น ก า ร แ อ ม โ ม นิ ฟิ เ ค ชั น (A) (Ammonification) เป็นการเปล่ียนแก๊ส 2. ครูแสดงแผ แอมโมเนียใหเ้ ปน็ แอมโมเนียมไอออน(NH4+) แก๊สในอากาศ (ส โดยอาศยั แบคทีเรียที่เรยี กว่า Ammonifying bacteria • กระบวนการไนตริฟิเคชนั (Nitrification) เปน็ การเปลย่ี นแอมโมเนียมไอออน(NH4+)ให้ เป็นไนไตรต์(NO2-)และไนเตรต(NO3-) ซ่ึงไน เตรตเป็นไนโตรเจนท่ีพืชสามารถนำไปใช้ได้ โดยอาศยั แบคทเี รยี กลุ่ม Nitrifying bacteria • ก ร ะ บ ว น ก า ร ดี ไ น ต ริ ฟิ เ ค ชั น (Denitrification) เป็นการเปลี่ยนไนเตรตให้ เป็นแก๊สไนโตรเจน(N2) ในบรรยากาศโดย อาศยั แบคทเี รยี กลุ่ม Denitrifying bacteria

102 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหลง่ การ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ พวัฏจักรคาร์บอน (สงิ่ เร้า) เรยี นรู้ 1. วีดิทศั น์ เรื่อง 1. ประเมินการอธิบาย Nitrogen cycle กระบวนการในฃวฏั จักร คาร์บอนและการเขยี น 2. ใบความรู้ แผนผังแสดงวฏั จกั ร เรื่อง วฏั จักร ไนโตรเจนโดยใช้แบบ ไนโตรเจน ประเมนิ ช้นิ งาน 3. สื่อพาวเวอร์ 2. ประเมนิ ความม่งุ มัน่ ใน 1 ภาพแสดงวฏั จักรคารบ์ อน พ้อย เรอ่ื ง วฏั จกั ร การทำงานโดยใชแ้ บบ ำถาม ดงั น้ี (สังเกต) ไนโตรเจน ประเมินความมงุ่ มนั่ ในการ พ นักเรียนทราบหรือไม่ว่าเป็นวัฏ ทำงาน วฏั จักรคาร์บอน) 4. กระดาษ A3 นคิดว่าในธรรมชาติมีธาตุใดอีกบ้างท่ี วี ย น ค ล้ า ย วั ฏ จั ก ร ค า ร์ บ อ น 5. ปากกาสี ฟอรสั ) ผนภูมิวงกลมเปรียบเทียมปริมาณ สิ่งเรา้ )

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ด้านทักษะกระบวนการ (P) ภาพที่ 2 แผนภูมิว 1. ความสามารถในการในการสือ่ สาร (การพดู การเขยี น) จากน้ันครูใชค้ ำ 2. ความสามารถในการคดิ 2.1 แก๊สใดท (การวเิ คราะห์) (แกส๊ ไนโตรเจน) 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ 2.2 นักเรียน (กระบวนการกลุม่ ) กับวฏั จกั รไนโตรเ 4. ความสามารถในการแกป้ ญั หา ครูเปิดโอกาสใ (-) จากน้ันบันทึกค 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี รายวิชา (สงสัยแล (-) ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) มงุ่ มน่ั ในการทำงาน คำถามสำคัญ ว การหมุนเวยี นอย

103 กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ/แหล่งการ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เรียนรู้ วงกลมเปรียบเทยี มปรมิ าณแกส๊ ในอากาศ ำถาม ดังนี้ (สังเกต) ท่ีมีปริมาณมากท่ีสุดในบรรยากาศ นคิดว่าแก๊สในบรรยากาศเกี่ยวข้อง เจนหรอื ไม่ อย่างไร ใ ห้ นั ก เรี ย น ล อ งค า ด ค ะเน ค ำ ต อ บ คำตอบดังกล่าวลงในสมุดประจำ ละตัง้ สมมติฐาน) วัฏจักรไนโตรเจนมีกระบวนการใน ยา่ งไรบ้าง

วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ขนั้ แสวงหาสา 1. ครูแบ่งนักเร มีนักเรียนจำนวน ตำแหนง่ ทนี่ ่งั มาอ 2. ครูให้นักเร Cycleโดยกำหนด 2.1 จากการ ในวัฏจกั รไนโตรเจ 2.2 กระบวน ละกระบวนการ อย่างไร โดยครูอาจเปิด 2 แต่ในรอบนี้คร สำคัญท่ีเกดิ ขน้ึ ใน 3. จากนั้นครูแ ใหแ้ กน่ กั เรียนศกึ ได้มาระหว่างกา ความรู้ว่าเหมือน แ ล้ ว ส รุ ป อ อ ก ม ตนเอง (วิเคราะห

104 กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื /แหล่งการ ประเมินผลการเรียนรู้ เรยี นรู้ ารสนเทศ รยี นออกเป็น 5 กลมุ่ โดยแต่ละกลุ่ม น 5-6 คน จากนั้นให้นักเรียนย้าย อยู่เปน็ กล่มุ ตามทีค่ รไู ด้จดั ไว้ให้ รียนชมวีดิทัศน์ เร่ือง Nitrogen ดประเด็นท่ีจะศกึ ษา ดงั น้ี (วางแผน) รชมวีดิทัศน์ กระบวนการสำคัญ จนมีก่กี ระบวนการ อะไรบ้าง นการที่เกดิ ข้นึ ในวัฏจกั รไนโตรเจนแต่ รทำให้ไนโตรเจนเปล่ียนแปลงไป ดวีดิทัศน์ให้นักเรียนชมซ้ำเป็นรอบท่ี รูอาจจะเลือกเปิดเฉพาะข้ันตอนท่ี นวัฏจกั รไนโตรเจน แจกใบความรู้เรื่องวัฏจักรไนโตรเจน กษา พรอ้ มทงั้ ให้เปรยี บเทียบข้อมลู ท่ี ารชมวีดิทัศน์และการศึกษาจากใบ นหรือแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร า เป็ น วั ฏ จั ก ร ไน โต ร เจ น ข อ ง ก ลุ่ ม ห์)

วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ข้ันสร้างความร 1. ครูแจกกระ ช่ ว ย กั น เ ขี ย น แ ไนโตรเจน พร้อม กระดานหน้าห้อง 2. ครูนำนักเรีย จักรไนโตรเจน โด ไนโตรเจน (สรุป) ข้ันสอื่ สาร 1. ครูให้นักเรีย เก่ียวกับวัฏจักรไ ให้ระบุว่าผลงาน หรอื ไม่ อยา่ งไร ขน้ั ตอบแทนส 1. ตอบคำถาม พืชตระกูลถ่ัวแล้ว นักเรียนคิดว่าส วัฏจักรไนโตรเจน

105 กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ การ ประเมินผลการเรยี นรู้ เรยี นรู้ รู้ ะดาษ A3 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม แผนผังสรุปข้ันตอนของวัฏจัก ร มท้ังให้แต่ละกลุ่มนำผลงานมาติดท่ี งเรยี น (ส่ือความหมาย) ยนสรุปความรู้ท่ีถูกต้องเกี่ยวกับวัฏ ดยใช้สื่อพาวเวอร์พ้อย เรื่อง วฏั จกั ร ) ยนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อมูล ไนโตรเจนของกลุ่มตนเอง พร้อมทั้ง นของกลุ่มตนเองน้ันถูกต้องครบถ้วน สังคม มว่าการที่มีการรณรงค์ให้มกี ารปลูก วไถกลบเพ่ือเป็นปุ๋ยสดให้แก่พ้ืนดิน สถ า ณ ก า รณ์ ดั งก ล่ า ว เกี่ ย วข้ อ งกั บ นหรอื ไม่ อยา่ งไร

โรงเรียนสรร กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทย แผนการจดั การเรยี นรู้ เ ภาคการศกึ ษาปลาย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/พ และ 6/1 สาระชวี วิทยา 5. เขา้ ใจแนวคิดเก่ยี วกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน แทนทีข่ องสง่ิ มีชวี ิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพิม่ ของ ใช้ประโยชน์ และแนวทางการแก้ไขปญั หา ผลการเรยี นรู้ ม.6/3 สืบค้นขอ้ มลู และเขยี นแผนภาพ เพ่อื อธบิ ายวฏั จักรไนโตรเจน

106 รพยาวทิ ยา ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี เรือ่ ง วฏั จักรฟอสฟอรัส รายวชิ า ชีววิทยา6 ว30256 ผสู้ อน นายเรวัตร อยเู่ กิด น และการหมนุ เวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปล่ยี นแปลง งประชากร ทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปญั หาและผลกระทบท่ีเกิดจากการ น วัฏจักรกำมะถัน และวัฎจักรฟอสฟอรัส

วัตถปุ ระสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ ด้านความรู้(K) ขัน้ ระบุปัญหา 1. อธบิ าย วัฏจักรฟอสฟอรัส(Phosphorus cycle) 1. ครูแสดงภ กระบวนการใน เร่ิมต้นจากหินฟอสเฟต ถูกน้ำชะฟอสเฟต ไนโตรเจน (สง่ิ เรา้ วฏั จกั รฟอสฟอรสั ได้ ออกมาสะสมในพื้นดินพืชจึงสามารถนำ (K) ฟอสเฟตไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์ด้วย แสงได้ เมื่อสัตว์มากินฟอสเฟตในพืชจึง 2. เขยี นแผนผงั ถา่ ยทอดเขา้ ส่ใู นร่างกายสัตว์ เมอื่ สัตว์ขบั ถา่ ย แสดงวัฏจักร หรือพืชและสัตว์ตายลง แบคทีเรยี และผู้ย่อย ฟอสฟอรสั ได้ (P) สลายจะสลายฟอสเฟตในซากพืชซากสัตวใ์ ห้ ภาพที่ เป็ น ส า ร ท่ี ล ะ ล า ย น้ ำ ได้ แ ล ะ พื ช ส า ม า ร ถ 3. เปน็ ผมู้ คี วาม นำไปใชไ้ ด้อกี คร้ัง นอกจากนั้นระบบนิเวศใน ม่งุ ม่นั ในการทำงาน น้ ำพื ช น้ ำก็ มี ก ารน ำฟ อ ต เฟ ส ไป ใช้ ใน (A) กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง สัตว์น้ำมา กินแล้วขับถ่ายออกมาหรือส่ิงมีชีวิตในน้ำตา ยลงฟอตเฟสเหล่าน้ีก็จะตกทับถมอยู่ใต้ท้อง ทะเลหมนุ เวียนไปใชต้ อ่ ไป ภาพท่ี 2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P) จากนนั้ ครูใชค้ ำ 1. ความสามารถในการในการสื่อสาร 1.1 จากภาพ (การพดู การเขียน)

107 กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื /แหลง่ การ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ เรยี นรู้ 1. วดี ทิ ัศน์ เรอื่ ง 1. ประเมินการอธิบาย าพวัฏจักรคาร์บอนและวัฏจักร The กระบวนการในฃวฏั จักร า) Phosphorus ฟอสเฟตและการเขยี น Cycle แผนผงั แสดงวัฏจักร ฟอสเฟตโดยใช้แบบ 2. ใบความรู้ ประเมินชน้ิ งาน เรอื่ ง วัฏจกั ร ฟอสเฟต 2. ประเมินความมุ่งมนั่ ใน 1 ภาพแสดงวัฏจักรคาร์บอน การทำงานโดยใช้แบบ 3. สือ่ พาวเวอร์ ประเมนิ ความมุ่งมน่ั ในการ พอ้ ย เร่ือง วัฏจกั ร ทำงาน ฟอสเฟต 4. กระดาษ A3 5. ปากกาสี 2 ภาพแสดงวฏั จกั รไนโตรเจน ำถาม ดังนี้ (สังเกต) พแสดงการหมุนเวียนของธาตุใดใน

วตั ถปุ ระสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ ระบบนเิ วศ (คาร 2. ความสามารถในการคิด 1.2 นักเรียน (การวิเคราะห)์ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต นเิ วศทีต่ ้องมกี าร (กระบวนการกลุ่ม) ไนโตรเจน (ฟอสเ 4. ความสามารถในการแก้ปัญหา (-) 1.3 นักเรียน 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี กระบวนการอย่า (-) หรือวฏั จักรไนโตร ครูเปิดโอกาสใ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A) คำถามดังกล่าวล มงุ่ มัน่ ในการทำงาน (สงสยั และสมมต คำถามสำคัญ ว การหมนุ เวยี นอย ข้ันแสวงหาสา 1. ครแู บ่งนักเร มีนักเรียนจำนวน ตำแหนง่ ท่นี ง่ั มาอ 2. ค รู ให้ นั ก Phosphorus Cy ดงั นี้ (วางแผน) 2.1 กระบวน อะไรบ้าง

108 กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อ/แหล่งการ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ เรียนรู้ รบ์ อนและไนโตรเจน) นคิดว่ายังมธี าตุอ่ืนอีกหรือไม่ในระบบ รหมุนเวียนเช่นเดียวกับคาร์บอนและ เฟต) นทราบหรือไม่ว่าวัฏจักรฟอสเฟตมี างไร แตกต่างจากวัฏจักรคาร์บอน รเจน หรือไม่อยา่ งไร ให้นักเรียนคาดคะเนคำตอบของ ลงในสมุดประจำรายวิชาของตนเอง ติฐาน) วัฏจักรฟอสฟอรัสมีกระบวนการใน ย่างไรบา้ ง ารสนเทศ รียนออกเปน็ 5 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่ม น 5-6 คน จากนั้นให้นักเรียนย้าย อยู่เปน็ กลุม่ ตามท่ีครูได้จดั ไวใ้ ห้ เรี ย น ช ม วี ดิ ทั ศ น์ เรื่ อ ง The ycle โดยกำหนดประเดน็ ท่ีจะศึกษา นการที่เกิดขึน้ ในวัฏจักรฟอสฟอรัสมี

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ 2.2 นักเรียน ห มุ น เ วี ย น ข อ ง ธ ไนโตรเจนและวัฏ โดยครูเปิดวีดิ 2 รอบ ให้นักเร ทศั น์ลงในสมุดบัน 3. ครูแจกใบค จากน้ันใหน้ ักเรีย วีดิทัศน์และข้อ แตกต่างกันอย่าง เป็นวฏั จกั รฟอสฟ ขน้ั สร้างความร 1. ครูแจกกระ ช่ ว ย กั น เ ขี ย น แ ฟอสฟอรสั พร้อม กระดานหน้าหอ้ ง 2. ครูนำนักเรีย จกั รฟอสฟอรัส โด ฟอสฟอรสั (สรปุ

109 กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื /แหลง่ การ ประเมินผลการเรยี นรู้ เรยี นรู้ นคิดว่าวัฏจักรฟอสฟ อรัส การ ธ า ตุ มี ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง จ า ก วั ฏ จั ก ร ฏจักรคารบ์ อน หรอื ไม่ อยา่ งไร ทั ศ น์ ให้ นั ก เรี ย นช ม ทั้ งส้ิ นจ ำ นวน รียนบันทึกข้อความจากการชมวีดิ นทึกประจำรายวิชา ความรู้ เรื่อง วัฏจักรฟอสฟอรัส ยนลองเปรียบเทียบข้อมูลจากการชม มูลจากใบความรู้ ว่าเหมือนหรือ งไร จากนั้นให้นักเรียนสรุปออกมา ฟอรัสของกล่มุ ตนเอง (วิเคราะห)์ รู้ ะดาษ A3 ให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม แผนผังสรุปขั้นตอนของวัฏจัก ร มท้ังให้แต่ละกลุ่มนำผลงานมาติดที่ งเรียน (ส่ือความหมาย) ยนสรุปความรู้ที่ถูกต้องเก่ียวกับวัฏ ดยใชส้ ือ่ พาวเวอรพ์ อ้ ย เร่อื ง วัฏจักร )

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ขน้ั ส่อื สาร 1. ครูให้นักเรีย เกี่ยวกบั วัฏจักรฟ ให้ ร ะ บุ ว่ า ผ ล ง า ฟอสฟอรสั ที่ถกู ต ขนั้ ตอบแทนส 1. ครูให้นักเ ฟอสฟอรัสทีถ่ ูกต ถ่ายรูปลงส่ือโซ ความรู้และตดิ แผ

110 กจิ กรรมการเรียนรู้ สือ่ /แหล่งการ ประเมินผลการเรยี นรู้ เรียนรู้ ยนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อมูล ฟอสฟอรัสของกลมุ่ ตนเอง พร้อมท้ัง น ข อ งก ลุ่ ม ต น เอ งนั้ น เป็ น วัฏ จั ก ร ต้องครบถว้ นหรือไม่ อยา่ งไร สงั คม รี ย น ร่ ว ม กั น ส ร้ า ง แ ผ น ผั ง วั ฏ จั ก ร ต้องลงในกระดาษฟลิปชาร์ทจากนั้น ซเช่ียลมีเดียเพื่อเป็นการเผยแพร่ ผนผงั นนั้ ไวท้ ่ีบริเวณหอ้ งเรยี น

โรงเรยี นสรร กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ย แผนการจัดการเรียน ภาคการศกึ ษาปลาย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/พ และ 6/1 สาระชวี วิทยา 5. เข้าใจแนวคดิ เกย่ี วกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน แทนทข่ี องสง่ิ มีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพมิ่ ของ ใช้ประโยชน์ และแนวทางการแก้ไขปัญหา ผลการเรียนรู้ ม.6/4 สบื คน้ ขอ้ มูล ยกตัวอยา่ ง และอธบิ ายลักษณะของ ไบโอม วัตถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้

111 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี นรู้ เรอ่ื ง ไบโอมบนบก รายวิชา ชวี วิทยา6 ว30256 ผ้สู อน นายเรวตั ร อยูเ่ กดิ น และการหมนุ เวียนสารในระบบนเิ วศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลีย่ นแปลง งประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปญั หาและผลกระทบท่ีเกิดจากการ มที่กระจายอยูต่ ามเขตภูมศิ าสตร์ตา่ ง ๆ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือและอุปกรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้

วตั ถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ นักเรียนสามารถ ดา้ นความร้(ู K) ข้ันระบุปญั หา 1. ระบุป ระเภ ท ไบโอมในน้ำ ที่พบเป็นองค์ประกอบหลัก 1. ครูแสดงภาพ ของไบโอมบนบกได้ ในไบโอสเฟียร์น้นั ประกอบดว้ ย ไบโอมแหล่ง (K) น้ำจืดและไบโอมแหล่งน้ำเค็ม และพ บ 2. ระบุบรเิ วณท่ีถูก กระจายอย่ทู ัว่ เขตภูมิศาสตรใ์ นโลกนี้ แบ่งตามไบโอม บน ไบโอมน้ำจดื โลกได้ (A) โดยทั่วไปประกอบด้วยแหล่งน้ำนิ่ง เช่น 3. มที กั ษะการ สระ หนองหรือบึง และทะเลสาบ กับแหล่ง น ำ เส น อ ห น้ าชั้ น นำ้ ไหลซึง่ ได้แก่ ธารนำ้ ไหลและแม่น้ำ เปน็ ตน้ เรยี น (P) ไบโอมแหลง่ นำ้ เคม็ ภาพท่ี 1 ภ ป ระก อ บ ด้ วย ท ะเล สาบ ท ะเล แล ะ จากนนั้ ใช้คำถา มหาสมุทร ซ่ึงพบในปริมาณมากมีถึงร้อยละ 1.1 จากภาพด 71 ของพื้นที่ผิวโลกและมีความลึกมาก โดย ใด บ้ า ง (ท ะ เ มีความลึกเฉลี่ยถึง 3,750 เมตร แหล่ง ทุ่งหญ้าสะวันนา น้ำเค็มจะแตกต่างกับแหล่งน้ำจืด โดยที่มีน้ำ อบอุ่น และป่าสน ขึน้ และนำ้ ลง เปน็ ปัจจัยทางกายภาพทสี่ ำคัญ 1.2 ไบโอมเห ระบบนิเวศในนำ้ บรเิ วณใด (บนบก แบ่งออกได้ตามลักษณะแหล่งท่ีเกิดได้เป็น 1.3 นักเรียนคดิ แหล่งน้ำจืด แหล่งนำ้ กร่อย และแหล่งน้ำเค็ม จะรวมกันเป็นโล การแบ่งแหล่งน้ำออกเป็นประเภทต่าง ๆ นี้ รวมกันของไบโอ

112 กจิ กรรมการเรียนรู้ สื่อและอุปกรณ์ ประเมินผลการเรยี นรู้ พไบโอมบนบกแบบต่าง ๆ การเรียนรู้ 1. วีดิทัศน์ เรื่อง 1. ประเมินการสร้างผัง ไบโอมบนบก กราฟฟิก โดยการใช้แบบ 2. ก ร ะ ด าษ ฟ ป ร ะ เมิ น ก า ร ส ร้ า ง ผั ง ลิปชาร์ท กราฟฟกิ 3. ปากกาสี 2. ประเมินประเมนิ ทักษะ 4. สื่อพาวเวอร์ การทำงานเปน็ กลุ่ม พ้อย เร่ือง ไบโอม โดยใชแ้ บบประเมินทักษะ บนบก การทำงานเป็นกลมุ่ ภาพแสดงไบโอมบนบกแบบตา่ ง ๆ าม ดังนี้ ดังกล่าว นักเรียนสังเกตเห็นไบโอม ล ท ร า ย ทุ่ ง ห ญ่ า เข ต อ บ อุ่ น า ทุนดรา ป่าดิบช้ืน ป่าผลัดใบเขต น) หล่าน้ีจัดเป็นไบโอมท่ีมีท่ีตั้งอยู่ใน ก) ดวา่ การที่สงิ่ แวดล้อมหรือธรรมชาติ ลกของสิ่งมีชีวิตได้นั้นเกิดจากการ อมบนบกอย่างเดียวหรือไม่ อย่างไร

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ นยิ มใช้ค่าความเค็มเป็นตวั กำหนด โดยทั่วไป (คำถามปลายเป แหล่งน้ำจืดจะมีเกลือน้อยกว่าร้อยละ 0.1 คำตอบที่ว่านอก หรือน้อยกว่าร้อยละ 1% และแหล่งน้ำเค็ม ส่งิ แวดล้อมหรอื ธ จะมีเกลือเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3.5 หรือ ของสง่ิ มชี ีวิตได้น้ัน 35% สำหรบั แหล่งน้ำกร่อยจะมีค่าความเค็ม 1.4 นักเรียนท อยู่ในช่วงกว้างและพบแปรผันในรอบวัน ไปด้วยไบโอมชน เน่ืองจากมีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงมาเก่ียวข้อง สำคญั อย่างไร ด้วย โดยทั่วไปจะมีค่าความเค็มน้อยกว่าค่า ขน้ั แสวงหาสาร ความเค็มของแหล่งน้ำเค็ม และระดับผิวน้ำ 1. ครูให้นักเรีย มักมคี ่าความเคม็ น้อยกวา่ ที่ระดับลกึ ลงไป โดยตั้งคำถามเพ ระบบนิเวศแหล่งนำ้ จดื ศึกษา ดงั น้ี แบ่งได้เป็นแหล่งน้ำน่ิงและแหล่งน้ำไหล 1.1 ไบโอมใน ระบบนิเวศแหล่งน้ำจืดท่ีเป็นแหล่งน้ำนิ่ง 1.2 ไบโอมใ สามารถแบ่งออกเป็น บริเวณ ต่าง ๆ 3 บริเวณ ได้แก่ บริเวณชายฝั่ง บริเวณผิวน้ำ อะไรบา้ ง และบริเวณนำ้ ชัน้ ลา่ ง 1.3 ระบบนิ ระบบนิเวศแหล่งน้ำจืดที่เป็นแหล่งน้ำไหล สามารถแบ่งออก 2 บริเวณ คือ บริเวณที่ นเิ วศถูกแบง่ ออก หลังจากชมวีด ตอบคำถามขา้ งต เป็นเกาะแก่งหรือบริเวณน้ำไหลเชี่ยว และ บริเวณท่ีเป็นแอ่งน้ำ โดยสิ่งมีชีวิตท่ีอาศัยอยู่

113 กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือและอุปกรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ ปิด ครูพยายามนำนักเรียนเข้าสู่ กจากจะมีไบโอมบนบกแล้ว การท่ี ธรรมชาตจิ ะรวมกันจนกลายเป็นโลก นจะต้องมีไบโอมในนำ้ ดว้ ย) ทราบหรือใม่ว่าไบโอมในน้ำประกอบ นิดใดบ้าง แต่ละชนิดมีลักษณะที่ รสนเทศ ยนศึกษาวีดิทัศน์ เร่ือง ไบโอมในน้ำ พ่ือกำหนดประเด็นท่ีจะให้นักเรียน นนำ้ แบง่ ออกเป็นก่ปี ระเภทอะไรบ้าง ในน้ำประกอบไปด้วยระบบนิเวศ เวศท่ีพบในไบโอมน้ำแต่ละระบบ กเป็นบรเิ วณยอ่ ย ๆ หรือไม่ อยา่ งไร ดิทัศน์เรียบร้อยแล้ว ครูสุ่มนักเรียน ต้น

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ในบริเวณแหล่งน้ำไหลต้องมีการปรับตัวเพ่ือ ขัน้ สร้างความร ความอยู่รอด บางชนดิ มีรปู ร่างเพรียวเพื่อลด 1. ครูแบ่งนัก ความต้านทานของกระแสน้ำ เช่น ปลาท่ีมี ประมาณ 7 คน รูปรา่ งแบนราบไปกับพื้นที่ผวิ นักเรยี นแต่ละกล ระบบนเิ วศแหลง่ น้ำกรอ่ ย 2. ครูให้นักเรีย เป็นบริเวณท่ีมีน้ำจืดและน้ำเค็มมาบรรจบ ความรู้เกี่ยวกับป กัน มักพบบริเวณปากแม่น้ำ ปากอ่าว และ นิเวศในน้ำ ลงใน ช่องแคบเป็นต้น นอกจากน้ีแหลง่ น้ำกร่อยยัง ข้นั สอื่ สาร เป็นบริเวณท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุ 1. ครูให้นักเรียน อาหารสูง ดังนั้นจึงพบสิ่งมีชีวิตหลากหลาย ของกลุ่มตนเองห ชนิดในบริเวณน้ี โดยเฉพาะสตั ว์น้ำท่ีมคี ่าทาง ประเภทของไบโอ เศรษฐกิจ เช่น ก้งุ หอย ปู ปลาตา่ ง ๆ ของระบบนิเวศใ ระบบนเิ วศแหลง่ น้ำเคม็ ระบบนเิ วศแตล่ ะ ได้แก่ทะเลและมหาสมุทร เป็นระบบนิเวศ 2. ครูและนัก ประเภทของไบโอ ขนาดใหญ่มีพื้นท่ีประมาณ 3 ใน 4 สว่ นของ ของระบบนิเวศใ ผิวโลก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 บริเวณ ระบบนิเวศแต่ละ คอื บรเิ วณชายฝง่ั ทะเล และบรเิ วณทะเลเปิด ส่อื พาวเวอรพ์ อ้ ย โดยบริเวณทะเลเปิดสามารถแบ่งออกเป็น 3. ครูเปิดโอก ประเด็นที่สนใจใ เขตต่าง ๆ ได้ 3 เขต คือ เขตท่ีแสงส่องถึง เขตท่มี แี สงน้อย และเขตที่ไมม่ แี สง

114 กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ รู้ กเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ จากนั้นแจกกระดาษฟลิปชาร์ทให้ ล่มุ ยนแต่ละกลุ่มทำแผนผังความคิดสรุป ประเภทของไบโอมในน้ำ และระบบ นกระดาษฟลปิ ชารท์ นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน หน้าชั้นเรียน โดยนำเสนอข้อมูลของ อมในน้ำ ระบบในน้ำ บริเวณต่าง ๆ ในน้ำ รวมถึงเกณฑ์ท่ีใช้ในการแบ่ง ะแห่งออกเปน็ บริเวณต่าง ๆ ก เรี ย น ร่ ว ม กั น อ ภิ ป ร า ย เกี่ ย ว กั บ อมในน้ำ ระบบในน้ำ บริเวณต่าง ๆ ในน้ำ รวมถึงเกณฑ์ที่ใช้ในการแบ่ง ะแห่งออกเป็นบริเวณต่าง ๆ โดยใช้ ย เร่ือง ไบโอมในน้ำ ก า ส ใ ห้ นั ก เ รี ย น ซั ก ถ า ม เกี่ ย ว กั บ ในเร่ืองของ ไบโอมในน้ำและระบบ

วตั ถปุ ระสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ นอกจากนั้นระบบนิเวศแหล่งน้ำเค็มอาจ นิเวศในน้ำ รวมถ แบ่งตามลักษณะพื้นผิวทางกายภาพได้เป็น แกไ้ ขงานของกลุม่ หาดหนิ หาดทราย และแนวปะการัง ขั้นตอบแทนสงั ค ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P) 1. ครูให้นักเรี 1. ความสามารถในการในการสอ่ื สาร ข้อมูลเกี่ยวกับป (การพดู การเขียน) นเิ วศในน้ำ ติดบร 2. ความสามารถในการคิด ข้อความร้ดู งั กล่าว (การวเิ คราะห์ สงั เคราะห)์ 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ (กระบวนการกลุ่ม) 4. ความสามารถในการแก้ปัญหา (-) 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (-) ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) มุ่งมนั่ ในการทำงาน

115 กจิ กรรมการเรียนรู้ สือ่ และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ถึงเปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม มตนเองให้เรยี บรอ้ ย คม ยนนำกระดาษฟลิปชาร์ทท่ีแสดง ประเภทของไบโอมในน้ำและระบบ รเิ วณห้องเรียนเพื่อเปน็ การเผยแพร่ วให้แกค่ นอืน่ ๆ ภายในโรงเรยี น

โรงเรยี นสรร กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทย แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอ่ื ง ไบ ภาคการศึกษาปลาย ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/พ และ 6/1 สาระชีววทิ ยา 5. เขา้ ใจแนวคดิ เกยี่ วกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน แทนท่ีของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพ่มิ ของ ใช้ประโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ผลการเรยี นรู้ ม.6/4 สืบคน้ ขอ้ มูล ยกตัวอยา่ ง และอธิบายลกั ษณะของ ไบโอม

116 รพยาวทิ ยา ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี บโอมในนำ้ และระบบนเิ วศในนำ้ รายวชิ า ชวี วิทยา6 ว30256 ผู้สอน นายเรวัตร อยู่เกิด น และการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปล่ียนแปลง งประชากร ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม ปญั หาและผลกระทบท่เี กดิ จากการ มทกี่ ระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตรต์ า่ ง ๆ

วัตถปุ ระสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรียนรู้ นกั เรียนสามารถ ดา้ นความรู้(K) ข้นั ระบุปญั หา 1. บอกประเภท ไบโอมในน้ำ ท่ีพบเป็นองค์ประกอบหลัก 1. ครแู สดงภาพ ของไบโอมในน้ำได้ ในไบโอสเฟียร์นัน้ ประกอบดว้ ย ไบโอมแหล่ง (K) น้ำจืดและไบโอมแหล่งน้ำเค็ม และพ บ 2. บ อก ป ระเภ ท กระจายอยทู่ ั่วเขตภมู ิศาสตรใ์ นโลกน้ี ของระบบนิเวศใน ไบโอมน้ำจืด นำ้ ได้ (K) โดยท่ัวไปประกอบด้วยแหล่งน้ำน่ิง เช่น 3. ระบุบริเวณท่ีถูก สระ หนองหรือบึง และทะเลสาบ กับแหล่ง แบ่งในระบบนิเวศ นำ้ ไหลซงึ่ ไดแ้ ก่ ธารนำ้ ไหลและแม่นำ้ เป็นตน้ ในน้ำแต่ละประเภท ไบโอมแหล่งนำ้ เคม็ ภาพท่ี 1 ภ ทำได้ (A ป ระก อ บ ด้ วย ท ะเล สาบ ท ะเล แล ะ จากน้นั ใช้คำถา 4. มีทักษะการ มหาสมุทร ซ่ึงพบในปริมาณมากมีถึงร้อยละ 1.1 จากภาพด น ำ เส น อ ห น้ าชั้ น 71 ของพื้นที่ผิวโลกและมีความลึกมาก โดย ใด บ้ า ง (ท ะ เ เรียน (P) มีความลึกเฉล่ียถึง 3,750 เมตร แหล่ง ทุ่งหญ้าสะวันนา น้ำเค็มจะแตกต่างกับแหล่งน้ำจืด โดยท่ีมีน้ำ อบอ่นุ และปา่ สน ข้ึนและนำ้ ลง เปน็ ปจั จัยทางกายภาพท่ีสำคัญ 1.2 ไบโอมเห ระบบนเิ วศในนำ้ แบ่งออกได้ตามลักษณะแหล่งที่เกิดได้เป็น บรเิ วณใด (บนบก แหล่งน้ำจืด แหล่งนำ้ กร่อย และแหล่งนำ้ เค็ม 1.3 นกั เรยี นคิด การแบ่งแหล่งน้ำออกเป็นประเภทต่าง ๆ นี้ จะรวมกันเป็นโล นยิ มใช้ค่าความเค็มเป็นตัวกำหนด โดยทว่ั ไป รวมกันของไบโอ

117 กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื และอุปกรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ พไบโอมบนบกแบบต่าง ๆ การเรยี นรู้ 1. วีดิทัศน์ เร่ือง 1. ป ระเมิน ก ารสร้างผัง ไบโอมในน้ำ กราฟฟิก โดยการใช้แบบ 2. ก ร ะ ด าษ ฟ ป ร ะ เมิ น ก า ร ส ร้ า ง ผั ง ลิปชารท์ กราฟฟิก 3. ปากกาสี 2. ประเมินประเมนิ ทักษะ 4. ส่ือพาวเวอร์ การทำงานเป็นกลมุ่ พ้อย เร่ือง ไบโอม โดยใช้แบบประเมินทกั ษะ ในนำ้ การทำงานเป็นกลุม่ ภาพแสดงไบโอมบนบกแบบตา่ ง ๆ าม ดังนี้ ดังกล่าว นักเรียนสังเกตเห็นไบโอม ล ท ร า ย ทุ่ ง ห ญ่ า เข ต อ บ อุ่ น า ทุนดรา ป่าดิบช้ืน ป่าผลัดใบเขต น) หล่าน้ีจัดเป็นไบโอมที่มีท่ีต้ังอยู่ใน ก) ดวา่ การทีส่ ิง่ แวดล้อมหรอื ธรรมชาติ ลกของสิ่งมีชีวิตได้น้ันเกิดจากการ อมบนบกอย่างเดียวหรือไม่ อย่างไร

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ แหล่งน้ำจืดจะมีเกลือน้อยกว่าร้อยละ 0.1 (คำถามปลายเป หรือน้อยกว่าร้อยละ 1% และแหล่งน้ำเค็ม คำตอบที่ว่านอก จะมีเกลือเฉลี่ยประมาณร้อยละ 3.5 หรือ ส่ิงแวดลอ้ มหรือธ 35% สำหรบั แหล่งน้ำกร่อยจะมคี ่าความเค็ม ของสง่ิ มชี วี ิตได้นน้ั อยู่ในช่วงกว้างและพบแปรผันในรอบวัน 1.4 นักเรียนท เนื่องจากมีกระแสน้ำข้ึนน้ำลงมาเกี่ยวข้อง ไปด้วยไบโอมชน ด้วย โดยท่ัวไปจะมีค่าความเค็มน้อยกว่าค่า สำคญั อยา่ งไร ความเค็มของแหล่งน้ำเค็ม และระดับผิวน้ำ ขั้นแสวงหาสาร มกั มคี า่ ความเคม็ น้อยกวา่ ท่ีระดบั ลึกลงไป 1. ครูให้นักเรีย ระบบนเิ วศแหลง่ นำ้ จดื โดยต้ังคำถามเพ แบ่งได้เป็นแหล่งน้ำนิ่งและแหล่งน้ำไหล ศึกษา ดังนี้ ระบบนิเวศแหล่งน้ำจืดท่ีเป็นแหล่งน้ำนิ่ง 1.1 ไบโอมใน สามารถแบ่งออกเป็น บริเวณ ต่าง ๆ 3 1.2 ไบโอมใ บริเวณ ได้แก่ บริเวณชายฝั่ง บริเวณผิวน้ำ อะไรบา้ ง และบรเิ วณน้ำชั้นล่าง 1.3 ระบบนิ ระบบนิเวศแหล่งน้ำจืดที่เป็นแหล่งน้ำไหล นิเวศถูกแบ่งออก สามารถแบ่งออก 2 บริเวณ คือ บริเวณที่ หลังจากชมวีด เป็นเกาะแก่งหรือบริเวณน้ำไหลเชี่ยว และ ตอบคำถามขา้ งต บริเวณท่ีเป็นแอ่งน้ำ โดยส่ิงมีชีวิตท่ีอาศัยอยู่ ในบริเวณแหล่งน้ำไหลต้องมีการปรับตัวเพื่อ ขั้นสร้างความร

118 กจิ กรรมการเรียนรู้ สือ่ และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรยี นรู้ ปิด ครูพยายามนำนักเรียนเข้าสู่ กจากจะมีไบโอมบนบกแล้ว การท่ี ธรรมชาติจะรวมกันจนกลายเป็นโลก นจะตอ้ งมีไบโอมในน้ำดว้ ย) ทราบหรือใม่ว่าไบโอมในน้ำประกอบ นิดใดบ้าง แต่ละชนิดมีลักษณะที่ รสนเทศ ยนศึกษาวีดิทัศน์ เร่ือง ไบโอมในน้ำ พ่ือกำหนดประเด็นท่ีจะให้นักเรียน นน้ำแบง่ ออกเปน็ ก่ีประเภทอะไรบ้าง ในน้ำประกอบไปด้วยระบบนิเวศ เวศท่ีพบในไบโอมน้ำแต่ละระบบ กเปน็ บรเิ วณย่อย ๆ หรือไม่ อยา่ งไร ดิทัศน์เรียบร้อยแล้ว ครูสุ่มนักเรียน ต้น รู้

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ ความอยู่รอด บางชนดิ มีรูปร่างเพรียวเพื่อลด 1. ครูแบ่งนัก ความต้านทานของกระแสน้ำ เช่น ปลาที่มี ประมาณ 7 คน รูปร่างแบนราบไปกบั พืน้ ทีผ่ ิว นักเรยี นแต่ละกล ระบบนเิ วศแหล่งนำ้ กร่อย 2. ครใู ห้นักเรยี เป็นบริเวณท่ีมีน้ำจืดและน้ำเค็มมาบรรจบ กัน มักพบบริเวณปากแม่น้ำ ปากอ่าว และ ความรู้เกี่ยวกับป นเิ วศในน้ำ ลงในก ชอ่ งแคบเป็นต้น นอกจากน้ีแหล่งนำ้ กร่อยยัง ขน้ั สอื่ สาร เป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ของธาตุ 1. ครูให้นักเรียน อาหารสูง ดังนั้นจึงพบส่ิงมีชีวิตหลากหลาย ของกลุ่มตนเองห ชนิดในบริเวณนี้ โดยเฉพาะสตั ว์น้ำที่มีค่าทาง ประเภทของไบโอ เศรษฐกจิ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาต่าง ๆ ของระบบนิเวศใ ระบบนเิ วศแหล่งนำ้ เค็ม ระบบนิเวศแตล่ ะ ได้แก่ทะเลและมหาสมุทร เป็นระบบนิเวศ 2. ครูและนัก ขนาดใหญม่ ีพื้นท่ีประมาณ 3 ใน 4 สว่ นของ ประเภทของไบโอ ผิวโลก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 บริเวณ ของระบบนิเวศใ คือ บริเวณชายฝ่งั ทะเล และบรเิ วณทะเลเปิด ระบบนิเวศแต่ละ โดยบริเวณทะเลเปิดสามารถแบ่งออกเป็น ส่ือพาวเวอร์พ้อย เขตต่าง ๆ ได้ 3 เขต คือ เขตที่แสงส่องถึง 3. ครูเปิดโอก เขตทมี่ ีแสงน้อย และเขตทไ่ี มม่ แี สง ประเด็นที่สนใจใ นอกจากน้ันระบบนิเวศแหล่งน้ำเค็มอาจ นิเวศในน้ำ รวมถ

119 กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ การเรียนรู้ กเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ จากนั้นแจกกระดาษฟลิปชาร์ทให้ ลุม่ ยนแต่ละกลมุ่ ทำแผนผังความคดิ สรุป ประเภทของไบโอมในน้ำ และระบบ นกระดาษฟลปิ ชาร์ท นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงาน หน้าชั้นเรียน โดยนำเสนอข้อมูลของ อมในน้ำ ระบบในน้ำ บริเวณต่าง ๆ ในน้ำ รวมถึงเกณฑ์ท่ีใช้ในการแบ่ง ะแห่งออกเปน็ บริเวณตา่ ง ๆ ก เรี ย น ร่ ว ม กั น อ ภิ ป ร า ย เก่ี ย ว กั บ อมในน้ำ ระบบในน้ำ บริเวณต่าง ๆ ในน้ำ รวมถึงเกณฑ์ท่ีใช้ในการแบ่ง ะแห่งออกเป็นบริเวณต่าง ๆ โดยใช้ ย เรื่อง ไบโอมในนำ้ ก า ส ใ ห้ นั ก เ รี ย น ซั ก ถ า ม เก่ี ย ว กั บ ในเร่ืองของ ไบโอมในน้ำและระบบ ถึงเปิดโอกาสให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม

วตั ถุประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ แบ่งตามลักษณะพื้นผิวทางกายภาพได้เป็น แก้ไขงานของกลมุ่ หาดหิน หาดทราย และแนวปะการัง ดา้ นทักษะกระบวนการ (P) ข้นั ตอบแทนสงั ค 1. ความสามารถในการในการสอื่ สาร 1. ครูให้นักเรี (การพูด การเขียน) ข้อมูลเกี่ยวกับป 2. ความสามารถในการคิด นิเวศในน้ำ ติดบร (การวเิ คราะห์ สงั เคราะห์) ข้อความรูด้ ังกลา่ ว 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ (กระบวนการกลุม่ ) 4. ความสามารถในการแกป้ ญั หา (-) 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี (-) ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) มุ่งมั่นในการทำงาน

120 กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื และอปุ กรณ์ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ มตนเองให้เรยี บรอ้ ย การเรียนรู้ คม ยนนำกระดาษฟลิปชาร์ทที่แสดง ประเภทของไบโอมในน้ำและระบบ รเิ วณห้องเรียนเพ่ือเปน็ การเผยแพร่ วใหแ้ ก่คนอืน่ ๆ ภายในโรงเรยี น

โรงเรียนสรร กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ย แผนการจัดการเรียนรู้ เรือ่ ง การเป ภาคการศกึ ษาปลาย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6/พ และ 6/1 สาระชีววทิ ยา 5. เขา้ ใจแนวคดิ เก่ยี วกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงาน แทนที่ของสิ่งมีชวี ิตในระบบนิเวศ ประชากรและรูปแบบการเพิ่มของ ใช้ประโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ผลการเรยี นรู้ ม.6/5 สืบค้นข้อมลู ยกตวั อย่าง อธบิ าย และเปรยี บเทียบการเปล่ีย

121 รพยาวิทยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปล่ียนแปลงแทนที่ของระบบนเิ วศ รายวชิ า ชีววิทยา6 ว30256 ผู้สอน นายเรวัตร อย่เู กิด น และการหมนุ เวียนสารในระบบนเิ วศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลย่ี นแปลง งประชากร ทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ปัญหาและผลกระทบทีเ่ กิดจากการ ยนแปลงแทนท่ีแบบปฐมภูมิ และการเปลี่ยนแปลงแทนที่ทตุ ิยภมู ิ

วัตถุประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก เรยี นรู้ นักเรยี นสามารถ ดา้ นความร้(ู K) ขน้ั ระบุปัญหา 1. อธบิ าย กระบวนการ การเปล่ียนแปลงแทนท่ีของระบบนิเวศ 1. ค รูให้ นั ก เ เปลย่ี นแปลงแทนท่ี ของระบบนิเวศได้ ( Ecological succession) เ ป็ น ก า ร (ส่ิงเร้า) จากนน้ั ใช (K) 2. เปรียบเทยี บ เปล่ยี นแปลงของสภาพแวดล้อมในบริเวณใด 1.1 นักเรียน ความแตกต่าง ระหวา่ ง บริเวณ หน่ึง ที่เม่ือเวลาผ่านไปเกิดการ ดังกลา่ ว (ไฟปา่ ) กระบวนการ เปลี่ยนแปลงแทนที่ เปลย่ี นแปลงของกลมุ่ สิ่งมีชีวติ เกิดขึน้ 1.2 นักเรียน แต่ละแบบได้ (P) 3. เปน็ ผูม้ ีความ การเปล่ียนแปลงแทนท่ีของระบบนิเวศ สภาพแวดล้อมบ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน (A) แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ได้แก่ อยา่ งไร (ตอบตาม การเปล่ียนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิ 1.3 นักเรียน ( Primary Succession) เ ป็ น ก า ร บริเวณดังกล่าวห เปลี่ยนแปลงแทนที่ที่เร่ิมจากบริเวณที่ไม่มี เดียวกันกับท่ีถูก สิ่งมีชีวิตมาก่อน เกิดการเปลี่ยนแปลงมี คดิ เหน็ ของนกั เรีย ส่ิงมีชีวิตอย่างต่อเน่ืองจนกระท่ังกลายเป็น 2. ครูแสดงค สังคมสมบูรณ์ (Climax community) และมี จากน้ันใชค้ ำถาม ความสมดุลซ่ึงจะใช้เวลาหลายสบิ ปีข้ึนไป 2.2 นักเรียน การเปล่ียนแปลงแทนท่ีแบบทุติยภูมิ เหตุการณ์ในวีดิท ( Secondary Succession) เ ป็ น ก า ร คดิ เหน็ ของนักเรยี เปลี่ยนแปลงแทนท่ีที่เกิดจากสิ่งมีชวี ิตเดิมถูก ครูเปิดโอกาสใ ทำลายไป แต่ในบริเวณนั้นยังคงมีส่ิงมีชีวิต การเปล่ียแปลง บางชนิดและสารอินทรีย์ท่ีส่ิงมีชีวิตต้องการ (สงสยั และสมมต

122 กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื และอุปกรณ์ ประเมินผลการเรียนรู้ การเรยี นรู้ 1. วดี ทิ ศั น์ เร่ือง 1. ประเมินการอธบิ าย เรีย น ช ม วี ดิ ทั ศ น์ เรื่อ ง ไฟ ป่ า ไฟป่า กระบวนการเปล่ียนแปลง ช้คำถาม ดงั น้ี (สังเกต) 2. ใบความรู้ แทนทขี่ องระบบนิเวศโดย นสังเกตเห็นเหตุการณ์ใดจากวีดิทัศน์ เรอ่ื ง การ ใชแ้ บบประเมินชิ้นงาน เปล่ียนแปลง 1. ประเมินการ นคิดว่าหลังจากไฟป่าดับไปแล้ว แทนที่ของระบบ เปรียบเทยี บความแตกตา่ ง บริเวณนั้นจะเปล่ียนแปลงไปหรือไม่ นเิ วศ ระหวา่ งกระบวนการ มความคดิ เห็นของนกั เรียน) 3. สอื่ พาวเวอร์ เปลี่ยนแปลงแทนท่ขี อง นคิดว่าส่ิงมีชีวิตชนิดแรกท่ีพบใน พ้อย เร่อื ง การ ระบบนิเวศแตล่ ะแบบโดย หลังจากเกิดไฟป่า จะเป็นสิ่งมีชีวิต เปล่ียนแปลง ใชแ้ บบประเมนิ ช้ินงาน กทำลายไปหรือไม่ (ตอบตามความ แทนทข่ี องระบบ 3. ประเมินความมงุ่ มั่นใน ยน) นิเวศ การทำงานโดยใชแ้ บบ ำว่า “การเปล่ียนแปลงแทนท่ี ” 4. แบบบนั ทกึ ประเมินความมงุ่ มั่นในการ มดงั น้ี กิจกรรม เร่ือง ทำงาน นคิดว่าคำดังกล่าวเก่ียวข้องกับ การเปล่ยี นแปลง ทัศน์หรอื ไม่ อย่างไร (ตอบตามความ แทนท่ีของระบบ ยน) นเิ วศ ให้นักเรียนต้ังคำถามเกี่ยวกับคำว่า 5. กระดาษ A3 แทนที่พร้อมทั้งคาดคะเนคำตอบ 6. ปากกาสี ติฐาน)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook