Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore EDUCON 2018

EDUCON 2018

Published by kawintec, 2018-06-24 04:32:19

Description: EDUCON 2018

Search

Read the Text Version

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น กวิน จติ ศักดิ์1* สรลั เจริญบุญ2 และกิตติ ทูลธรรม3 บทคัดยอ่ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าที่ ฝา่ ยทะเบยี น ของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัย เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแกน่ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จานวน 40 คน ได้มาโดย การสุ่มเลือก เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามความพึงพอใจ แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย รายละเอียดสถานภาพทั่วไปเก่ียวกับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจ เพื่อศึกษาระดบั ความพึงพอใจของนักศกึ ษาทม่ี ตี ่อการให้บรกิ ารของเจ้าหน้าท่ีฝา่ ยทะเบียน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี- ราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และข้อเสนอแนะเพ่ิมเติม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาร้อยละ การหาค่าเฉลี่ย การหาค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน โดยผลการวิจัยพบว่าความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าที่ ฝา่ ยทะเบยี น ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง ( ̅= 2.98, S.D.= 0.39) และมีความพึงพอใจแต่ละด้าน อยใู่ นระดับปานกลางทัง้ หมด โดยเรียงลาดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ย ( ̅) น้อยไปหามากได้แก่ ด้านบุคลิกภาพของเจ้าหน้าท่ี ( ̅= 2.98, S.D.= 1.06) ด้านสถานท่ี ( ̅= 3.08, S.D.= 0.97) และด้านการให้บริการ ( ̅= 3.10, S.D.= 0.98) ตามลาดบั แสดงให้เหน็ ว่านกั ศกึ ษาไม่เกดิ ความประทับใจในการใหบ้ รกิ ารของเจา้ หนา้ ทฝี่ ่ายทะเบยี นท้ัง 3 ด้าน คาสาคญั : ความพึงพอใจต่อเจา้ หนา้ ท่ีฝ่ายทะเบยี น 1คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแกน่ *Email : kawintec@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 140 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research aims study of student’s satisfaction of registration Officer of Rajamangala University of Technology Isan KhonKaen Campus. The sample selected by means of cluster random sampling were 40 students at Rajamangala University of Technology Isan, KhonKaen Campus. Faculty of technical education computer engineering derived through simple random sampling technique. The research instruments were questionnaire have 3 parts are general status of the respondents, satisfaction assessment questionnaire to study the level of student satisfaction toward the services of registration officer and suggestion. The statistics used in data analysis were percentage, mean, standard deviation. The results of the study showed that, in general, satisfaction assessment questionnaire to study the level of student satisfaction toward the services of registration officer were satisfied with the services at the moderate satisfaction level ( ̅= 2.98, S.D.= 0.39). When focusing on each particular aspect, it all the moderate satisfaction. The order of the mean ( ̅) is low, personality of the officer ( ̅= 2.98, S.D.= 1.06), location( ̅= 3.08, S.D.= 0.97), and service( ̅= 3.10, S.D.= 0.98) It shows that the students did not feel impressed with the services of registration officers. Key word : Satisfaction with the registration officer บทนา ฝ่ายทะเบียนได้รับผิดชอบดูแลการให้บริการแก่นักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยในการลงทะเบียนเรียนใน ทุกภาคเรียนที่เป็นไปตามระเบียบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (ว่าด้วยการเก็บเงินค่าบารุงการศึกษา และ ค่าธรรมเนียมการศึกษาระดับปริญญา 2549) โดยมีปริมาณนักศึกษาจานวนมากในทุกภาคเรียนที่ใช้บริการ จึงเกิด ความล่าช้าในการลงทะเบียน ส่งผลให้นักศึกษาไม่มีช่ือในใบลงทะเบียนรายวิชารวมไปถึงไม่มีรายช่ือในห้องสอบ ทาให้ เกิดความสนใจถึงการให้บริการของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ว่ามีความพึง พอใจตอ่ การบริการของเจ้าหนา้ ทฝ่ี ่ายทะเบยี นอยู่ในระดับใด โดยการใชแ้ บบสอบถามในการสารวจความพึงพอใจน้ี ทฤษฎีและงานวิจัยทเี่ กี่ยวขอ้ ง 1. ความหมาย แนวความคิด ทฤษฏี การวัดความพงึ พอใจ ความหมายของความพึงพอใจคือ ความรู้สึกของบุคคลในทางบวก ความสบายใจ หรือเป็น ความร้สู ึกท่พี อใจต่อส่งิ ท่ีทาให้เกิดความชอบ และเป็นความรู้สึกที่บรรลุถึงความต้องการ ที่เกิดจากความสมดุลหรือ ความสอดคล้องระหว่างสิ่งท่ีคาดหวังและสิ่งท่ีได้รับจริง หรือจากการที่ความต้องการได้รับการตอบสนอง หรือจาก ประสบการณ์ที่เขา้ ไปใชบ้ รกิ ารและประสบการณน์ นั้ ตามความคาดหวัง โดย วรูม กล่าวว่าทัศนคติและความพึงพอใจ ในสง่ิ หน่งึ สามารถใชแ้ ทนกันได้เพราะท้ังสองคานี้หมายถึง ผลที่ได้รับจากการที่บุคคลเข้าไปมีส่วนร่วมในสิ่งน้ัน ทัศนคติ ด้านบวกจะแสดงให้เห็นสภาพความพึงพอใจและทัศนคติด้านลบจะแสดงให้เห็นสภาพความไม่พึงพอใจน้ัน สามารถวัด ได้ 2 วิธที ี่นิยมใชก้ นั คอื การสมั ภาษณ์ และการใชแ้ บบสอบถาม---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 141 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 2. ความหมายของการใหบ้ รกิ าร พจนานุกรมฉบับเฉลิมพระเกียรติ พ.ศ.2530 ให้ความหมายของคาว่า “บริการ” หมายถึง “การปฏิบัติรับใช้ การให้ความสะดวกต่างๆ” ส่วนความหมายโดยท่ัวไปท่ีมักกล่าวถึงคือ การกระทาท่ีเปี่ยมไปด้วย ความช่วยเหลือ หรือการดาเนินการทเี่ ป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น 3. งานวิจยั ทเี่ กีย่ วข้อง สมหมาย เปียถนอม (2551) ทาการวิจัยเรื่องความพึงพอใจของนักศึกษาในการรับบริการจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือทราบความรู้สึกของนักศึกษาในการได้รับการบริการจาก มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ได้แบ่งผลการวิจัยออกเป็น 3 ด้าน คือ 1) การบริการด้านวิชาการ อยู่ในระดับปานกลาง ( ̅=3.24) 2) การบรกิ ารดา้ นกิจการนักศึกษา อยู่ในระดับปานกลาง ( ̅=3.28) 3) การบริการด้านอาคารสถานท่ีอยู่ใน ระดับปานกลาง ( ̅=3.02) วิธีการดาเนนิ การวิจยั 1. ประชากรกลุ่มตัวอยา่ ง นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น คณะครุศาสตร์- อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลราชมงคล อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ได้มาโดยการสุ่มเลือกจานวน 40 คน 2. เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการวิจยั เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามความพึงพอใจ แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย รายละเอยี ดสถานภาพทวั่ ไปเกย่ี วกบั ขอ้ มูลสว่ นบคุ คลของผูต้ อบแบบสอบถาม แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจ เพ่ือศึกษาระดับความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าท่ีฝ่ายทะเบียน ของมหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น และขอ้ เสนอแนะเพิ่มเตมิ 3. การเก็บรวมรวมข้อมูล การเก็บขอ้ มูลข้ันต้น จากปญั หาท่นี ักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขต ขอนแก่นได้รับผลกระทบ และการเก็บข้อมูลวิจัย โดยใช้แบบสอบถามความคิดเห็นท่ีสร้างข้ึนเพื่อเก็บข้อมูลจาก นกั ศกึ ษาโดยตรง 4. การวิเคราะหข์ ้อมูล 4.1 ใช้แบบประเมนิ แบบมาตราสว่ นประมาณคา่ (Rating scale) ตามวธิ ีของลเิ คิร์ท (Likert) มี 5ระดบั (บญุ ชม ศรีสะอาด,2545:41) ซ่ึงมีความหมายดงั นี้ 5 หมายถึง ปัจจยั ท่สี ง่ ผลมากทีส่ ดุ , 4 หมายถึง ปจั จัยทสี่ ง่ ผลมาก, 3 หมายถงึ ปจั จัยทสี่ ่งผลปานกลาง, 2 หมายถงึ ปัจจัยทส่ี ่งผลนอ้ ย, 1 หมายถงึ ปัจจยั ทสี่ ง่ ผลนอ้ ยทส่ี ดุ 4.2 สถติ ิท่ีใชใ้ นการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การหาคา่ ร้อยละ (ชศู รี วงศร์ ัตนะ 2541:40) ร้อยละ = (จานวนทต่ี ้องการหาร จานวนทง้ั หมด) 100% การหาคา่ เฉล่ีย (Mean) (ชูศรี วงศร์ ตั นะ 2541:40) ̅∑---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 142 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การหาคา่ ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน (ชศู รี วงศร์ ัตนะ 2541:40) S.D. = √N ∑X ∑X N Nผลการวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งเป็น 3 ส่วน สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยซึ่งประกอบไปด้วยรายละเอยี ดสถานภาพทั่วไปเก่ยี วกบั ขอ้ มูลส่วนบคุ คลของผู้ตอบแบบสอบถาม แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจเพ่ือศึกษาระดับความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าท่ีฝ่ายทะเบียน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ และขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เตมิ ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลมดี งั น้ี 4.1 รายละเอียดสถานภาพท่วั ไปเกย่ี วกับขอ้ มลู สว่ นบคุ คลของผตู้ อบแบบสอบถาม พบวา่ นักศกึ ษาทตี่ อบแบบสอบถามส่วนมากเปน็ เพศชายจานวน 22 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 55.00และเปน็ เพศหญงิ จานวน 18 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 45.00 4.2 ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของนักศกึ ษาทีม่ ีต่อการใหบ้ ริการของเจา้ หน้าท่ีฝ่ายทะเบียน โดยใชแ้ บบสอบถามประเมินความพึงพอใจมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale)5 ระดับ ซง่ึ สามารถสรุปผลได้ดังตอ่ ไปน้ีตารางท่ี 1 ค่าเฉลีย่ ( ̅) คา่ เบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.) และแปลความโดยแบง่ เปน็ ดา้ น ด้าน ̅ S.D. แปลความ 1.06 ปานกลาง1. ด้านบุคลกิ ภาพของเจ้าหน้าที่ 2.98 0.97 ปานกลาง 0.98 ปานกลาง2. ด้านสถานท่ี 3.08 1.00 ปานกลาง3. ดา้ นการให้บริการ 3.10 ภาพรวมเฉลยี่ 3.05 จากตารางท่ี 1 พบว่าในภาพรวมเฉล่ียนักศึกษามีความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการใหบ้ ริการของเจา้ หน้าท่ีฝ่ายทะเบียนแบง่ เปน็ ดา้ น อยูใ่ นระดับปานกลาง ( ̅= 3.05, S.D.= 1.00) เม่อื พิจารณาแต่ละด้านพบวา่ นักศึกษามีความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน อยู่ในระดับปานกลางทง้ั หมด โดยนักศกึ ษามีความพงึ พอใจอยู่ในระดับปานกลาง เรียงลาดับจากด้านท่ีมีค่าเฉลี่ย ( ̅) น้อยไปหามาก ได้แก่ ด้านบุคลิกภาพของเจ้าหน้าที่ ( ̅= 2.98, S.D.= 1.06) ด้านสถานที่( ̅= 3.08, S.D.= 0.97) และดา้ นการให้บรกิ าร ( ̅= 3.10, S.D.= 0.98) ตามลาดบั 4.3 ข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ ผลการวิจัยพบว่านกั ศกึ ษามีข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ คอื ตอ้ งการให้ฝ่ายทะเบียนมีการดาเนินงานที่รวดเรว็ มากขน้ึ และมสี หี น้าท่ยี ้มิ แย้ม แจม่ ใส---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 143 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== สรุปและการอภิปรายผล ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยได้แก่ นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งน้ีได้แก่นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ โดยการส่มุ เลือก จานวน 40 คน เครอื่ งมือท่ใี ช้ในการวิจัยไดแ้ ก่ แบบสอบถามความพึงพอใจ แบง่ เปน็ 3 ส่วน ดงั นี้ 1. รายละเอยี ดสถานภาพท่ัวไปเกย่ี วกับข้อมูลสว่ นบุคคลของผตู้ อบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเพศชายมากกว่าเพศหญิง ทั้งน้ีเน่ืองจากจานวน นักศึกษาคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่ลงทะเบียนเรียนในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 เปน็ เพศชายมากกวา่ เพศหญิง 2. แบบสอบถามประเมินความพึงพอใจเพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการ ใหบ้ รกิ ารของเจา้ หน้าทีฝ่ ่ายทะเบียน ของมหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น ผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาท่ีมีต่อการให้บริการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน โดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง ( ̅= 2.98, S.D.= 0.39) และมีความพึงพอใจแต่ละด้านอยู่ใน ระดับปานกลางทั้งหมด โดยเรียงลาดับจากข้อที่มีค่าเฉลี่ย ( ̅) น้อยไปหามากได้แก่ ด้านบุคลิกภาพของเจ้าหน้าที่ ( ̅= 2.98, S.D.= 1.06) ด้านสถานที่ ( ̅= 3.08, S.D.= 0.97) และด้านการให้บริการ ( ̅= 3.10, S.D.= 0.98) ตามลาดบั แสดงให้เหน็ ว่านกั ศกึ ษาไมเ่ กิดความประทบั ใจในการให้บรกิ ารของเจา้ หน้าทฝ่ี า่ ยทะเบยี นทงั้ 3 ดา้ น 3. ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ผลการประเมินพบว่านักศึกษามีข้อเสนอแนะเพ่ิมเติมคือ ต้องการให้ฝ่ายทะเบียนมีการ ดาเนนิ งานทร่ี วดเรว็ มากขึ้น และมสี หี น้าท่ียมิ้ แย้ม แจ่มใส จากผลการประเมนิ ความพึงพอใจของนกั ศกึ ษาทมี่ ตี ่อการให้บริการของเจ้าหน้าที่ฝ่าย ทะเบียนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น พบว่านักศึกษามีความพึงพอใจอยู่ในระดับ ต่าสุดคือ ด้านบุคลิกภาพของเจ้าหน้าท่ี ( ̅= 2.98, S.D.= 1.06) อยู่ในระดับปานกลาง แสดงให้เห็นว่านักศึกษาไม่ เกิดความประทับใจกบั การใหบ้ รกิ ารด้านบุคลกิ ภาพของเจ้าหนา้ ท่ี ซง่ึ สอดคล้องกับงานวิจัยของ วรรณวมิล จงจรวย สกลุ(2551) ท่ีใช้การตอนรับ ด้วยอัธยาศัยท่ีดี สุภาพยิ้มแย้มแจ่มใส่ เป็นตัววัดความพึงพอใจของนักศึกษาในการ บริการงานทะเบยี นและวดั ผล บรรณานุกรม ภานุเดช เพียงความสขุ (2558) ความพึงพอใจของนกั ศกึ ษาทม่ี ีตอ่ การใหบ้ รกิ ารของสานกั สง่ เสรมิ วชิ าการและ งานทะเบียนมหาวทิ ยาลัยราชภฏั อบุ ลราชธาน.ี รายงานการวจิ ยั มหาวิทยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธานี สนุ ทรี ศลิ ปะศร (2551) ความพงึ พอใจของนักศกึ ษาทใ่ี ชบ้ ริการศนู ยอ์ าหารมหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสุนนั ทา. รายงานการวจิ ยั มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนสนุ ันทา สมหมาย เปยี ถนอม (2551) ความรู้สึกของนักศกึ ษาในการได้รับการบริการจากมหาวทิ ยาลัยราชภฎั นครปฐม. รายงานการวิจยั มหาวทิ ยาลัยราชภฎั นครปฐม วรรณมลิ จงจรวยสกลุ (2551) ศึกษาความพึงพอใจของ นกั ศึกษาในการให้บริการของงาน ทะเบียนและวดั ผล. นนทบรุ ี: วทิ ยาลัยราชพฤกษ์ ชูศรี วงศ์รัตนะ (2541) เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย. (พิมพ์คร้งั ท่ี 8) กรุงเทพฯ: เทพเนรมติ รการพิมพ์ บญุ ชม ศรีสะอาด (2545) การวิจัยเบื้องต้น (พมิ พ์คร้งั ที่ 2) กรุงเทพฯ: สรุ วี าสาส์น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 144 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการ อาชีพ 3001-2001 ระหว่างผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายกับผู้ท่ีสาเร็จ การศึกษาระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ วทิ ยาลัยเทคนคิ อดุ รธานี A Comparison of Learning Achievement in Information Technology for Career Management 3001-2001 Between high school graduates and those who have completed a vocational certificate. Udon Thani Technical College บษุ บง เยน็ ยงิ่ 1 และกติ ติ ทลู ธรรม 2 บทคดั ย่อ การวิจัยคร้ังน้ีมีจุดประสงค์เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการ จัดการอาชีพ 3001-2001 ระหว่างผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายกับผู้ที่สาเร็จการศึกษาระดับ ประกาศนยี บตั รวิชาชีพ โดยมีกลุ่มตัวอย่างจากนักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) สาขาไฟฟ้า กาลัง 1/2 ที่สาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จานวน 13 คนและ นักศึกษาระดับช้ัน ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) สาขา ไฟฟ้าเครื่องเย็นและปรับอากาศ 1/6 ที่สาเร็จการศึกษาระดับ มัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 22 คน ท่ีลงทะเบียนเรียนในรายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ 3001-2001 ภาคเรียนที่ 2/2560 จานวน 35 คน เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบทดสอบหลังเรียน 50 ข้อ ผลการวิจัยพบว่าคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนของนักเรียนที่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายมี คะแนนเฉลี่ย 25.59 คิดเป็นร้อยละ 51.18 ส่วนนักเรียนที่สาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพมีคะแนน เฉล่ีย 25.92 คิดเป็นร้อยละ 51.84 ซ่ึงจะเห็นได้ว่าผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยในการสอบท้ังสองกลุ่ม พบว่ามี ผลสัมฤทธใ์ิ นการเรยี นอยู่ในระดบั ต่าเน่ืองจากเปน็ วชิ าคาบสุดท้ายในการเรียน นักศึกษาจึงต้องการกลับบ้านโดยเร็ว จึงรีบทาแบบทดสอบ และใช้เวลาในการทาแบบทดสอบน้อย ส่งผลให้ขาดการวิเคราะห์และการตรวจสอบความ ถกู ตอ้ ง คาสาคญั : เปรยี บเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น, 1คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น * Corresponding E-mail : Tom_loveke@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 145 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract The purpose of this research was to compare the learning achievement of information technology for career management 3001-2001. Between high school graduates and those who have completed a vocational certificate. The sample of students in the class Diploma (Diploma). Major power half a graduation certificate (vocational certificate) of 13 and Students Diploma (fighting. post.) electric fields and cold air-conditioning 1/6 to graduate high school with 22 people enrolled in the course. Information Technology Management Professional Semester 3001- 2001 2/2560 of 35 was used in this study. Posttest 50. The results showed that the test after the student graduates high school average score was 25.59 percent, 51.18 Students who graduate vocational averaging 25.92 percent, 51.84 is seen. the average achievement of the two groups. The results showed that students' achievement levels are low because of the period of study. Students want to return home soon, so hurry to take the quiz. And take the time to do a little testing. The lack of analysis and detection accuracy. Keywords : Comparison of Learning Achievement บทนา พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545และ (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. 2553 มาตรา 22 ระบไุ ว้ว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถอื ว่าผูเ้ รียนมคี วามสาคญั ทส่ี ดุ กระบวนการจดั การศกึ ษาต้องสง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและ เตม็ ตามศกั ยภาพ และมาตรา ๒๔ ระบวุ า่ การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ใหส้ ถานศึกษาและหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้องดาเนิน การ ดงั ตอ่ ไปน้ี จดั เน้ือหาสาระและกิจกรรมให้สอดคลอ้ งกับความสนใจและความถนดั ของผู้เรียน โดยคานึงถึงความ แตกตา่ งระหว่างบุคคล ฝกึ ทักษะ กระบวนการคดิ การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้ เพื่อปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหา จัดกิจกรรมให้ผูเ้ รยี นได้เรยี นรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทาได้ คิดเป็น ทา เป็น รักการอา่ นและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ อย่างได้ สัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมท่ีดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา ส่งเสริม สนับสนุนใหผ้ สู้ อนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดลอ้ ม ส่อื การเรยี น และอานวยความสะดวกเพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นเกดิ การ เรียนรแู้ ละมีความรอบรู้ รวมท้ังสามารถใช้การวิจัยเปน็ ส่วนหน่ึงของกระบวนการเรียนรู้ ท้ังน้ี ผู้สอนและผู้เรียนอาจ เรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่างๆ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ัน พื้นฐาน 2551 ไดก้ าหนดสมรรถนะสาคัญของผู้เรียนในด้านความสามารถในการคิด ว่าเป็นความสามารถในการคิด วิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารญาณ และการคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อนา ไปสกู่ ารสร้างองค์ความรูห้ รอื สารสนเทศ จากการเรียนการสอนในช้ันเรียน ผู้สอนพบว่านักศึกษามีความแตกต่างกันในการเรียนทฤษฎีและปฏิบัติ เนือ่ งจากนกั ศึกษาบางกลุม่ ทส่ี าเร็จการศกึ ษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมีการเรียนรู้ทางด้านทฤษฎีได้มากกว่า สว่ นนักศกึ ษาทีส่ าเร็จการศกึ ษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) มีการเรียนรู้ทางด้านปฏิบัติได้ดีกว่า ผู้วิจัย ได้สังเกตการเรยี นการสอนพบวา่ จากการทคี่ รผู ู้สอนได้ถ่ายทอดความรใู้ หน้ ักศึกษาในชน้ั เรยี นหลงั จากการสอนครไู ด้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 146 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ประเมนิ ผล โดยการมอบหมายใหท้ าใบงานแบบฝกึ หดั และแบบทดสอบ พบวา่ นกั ศกึ ษาบางคนไม่สามารถทาใบงาน แบบฝกึ หัด และทาขอ้ สอบได้ผ่านเกณฑ์ทีก่ าหนด ซงึ่ ปัญหาดังกล่าวเกิดจากความรู้พ้ืนฐานของนักศึกษามีไม่เท่ากัน นักศึกษาบางกลุ่มจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายทาให้มีความรู้พื้นฐานในด้านทฤษฎีมากกว่านักศึกษาที่จบ การศึกษาในระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชพี (ปวช.) ทาให้ส่งผลกระทบต่อผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น และทาให้นักศึกษา เกิดเจตคติที่ไม่ดีต่อการเรียน ผู้สอนจึงต้องการศึกษาว่าผลการเรียนรู้ในภาพรวมของนักศึกษาสองกลุ่มต่างกัน อย่างไรเพอ่ื ทจ่ี ะได้ปรบั พ้นื ฐานการเรียนร้ขู องนกั ศึกษาทงั้ สองกล่มุ ให้สามารถเรยี นรู้ไปในทศิ ทางเดยี วกัน จากการศึกษาขอ้ มลู ดังกลา่ ว ผู้วิจัยตอ้ งการเปรยี บเทยี บผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือการจัดการอาชีพ 3001-2001 ระหว่างผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายกับผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวชิ าชพี ของวทิ ยาลยั เทคนิคอุดรธานี ทฤษฎีและงานวิจยั ที่เกย่ี วขอ้ ง 1. ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นความสามารถของนักเรียนในด้านต่างๆ ซึ่งเกิดจากนักเรียนได้รับ ประสบการณ์จากกระบวนการเรียนการสอนของครู โดยครูต้องศึกษาแนวทางในการวัดและประเมินผล การสร้าง เครื่องมือวดั ให้มีคุณภาพนนั้ ได้มีผ้ใู หค้ วามหมายของผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนไวด้ งั น้ี สมพร เช้ือพันธ์ (2547, หน้า 53) สรุปว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ หมายถึง ความสามารถ ความสาเร็จและสมรรถภาพด้านต่างๆของผู้เรียนที่ได้จากการเรียนรู้อันเป็นผลมาจากการเรียนการ สอน การฝกึ ฝนหรอื ประสบการณข์ องแตล่ ะบุคคลซ่ึงสามารถวดั ไดจ้ ากการทดสอบด้วยวธิ กี ารตา่ งๆ พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และ พเยาว์ ยินดีสุข (2548, หน้า 125) กล่าวว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน หมายถงึ ขนาดของความสาเร็จทไ่ี ดจ้ ากกระบวนการเรยี นการสอน ปราณี กองจนิ ดา (2549,หนา้ 42) กล่าว่า ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน หมายถึง ความสามารถหรือ ผลสาเรจ็ ทีไ่ ดร้ บั จากกิจกรรมการเรยี นการสอนเป็นการเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมและประสบการณเ์ รียนรทู้ างดา้ นพทุ ธิ พสิ ยั จติ พิสยั และทกั ษะพิสยั และยงั ไดจ้ าแนกผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นไวต้ ามลกั ษณะของวัตถุประสงคข์ องการเรยี น การสอนท่ีแตกต่างกัน ดงั น้ันจงึ สรปุ ไดว้ ่าผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น หมายถงึ ผลที่เกิดจากกระบวนการเรียนการสอนทีจ่ ะ ทาใหน้ ักเรยี นเกดิ การเปลย่ี นแปลงพฤติกรรม และสามารถวดั ไดโ้ ดยการแสดงออกมาท้งั 3 ด้าน คอื ดา้ นพุทธิพสิ ัย ดา้ นจติ พสิ ยั และด้านทกั ษะพสิ ยั 2. แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น สมบรู ณ์ ตันยะ (2545 : 143) ไดใ้ หค้ วามหมายว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนเป็น แบบทดสอบท่ีใช้สาหรับวัดพฤติกรรมทางสมองของผู้เรียนว่ามีความรู้ ความสามารถใน เรื่องท่ีเรียนรู้มาแล้ว หรือ ได้รับการฝกึ ฝนอบรมมาแล้วมากนอ้ ยเพียงใด พชิ ติ ฤทธจ์ิ รญู (2544 : 98) กล่าวว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเป็น แบบทดสอบ ที่ใช้วัดความรู้ ทักษะ และความสามารถทางวิชาการท่ีผู้เรียนได้เรียนรู้มาแล้ว ว่า บรรลุผลสาเร็จตามจุดประสงค์ที่ กาหนดไวเ้ พยี งใด ดังนั้นสรุปได้ว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน คือแบบทดสอบท่ีใช้วัดความรู้ และ ทกั ษะความสามารถจากการเรียนร้ใู นอดีตหรอื ในสภาพปจั จุบนั ของแต่ละบุคคล 3. ประเภทของแบบทดสอบการวดั ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 147 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น แบ่งได้ 2 ประเภท คือ แบบทดสอบมาตรฐาน ซงึ่ สรา้ ง จากผเู้ ชยี่ วชาญด้านเนอื้ หาและด้านวัดผลการศกึ ษา มกี ารหาคุณภาพเปน็ อย่างดี สว่ นอกี ประเภทหนึ่ง คอื แบบทดสอบ ที่ครสู ร้างขึ้น เพอื่ ใช้ในการทดสอบในชั้นเรียน ในการออกแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนคาศพั ท์เพ่ือการ สอื่ สาร ผู้วจิ ยั ไดเ้ ลอื กแบบทดสอบที่ผวู้ จิ ัยสรา้ งข้นึ แบบปฏบิ ตั ิ ในการวัดความสามารถในการนาคาศพั ทไ์ ปใชใ้ นการ ส่ือสารด้านการการพูดและการเขียน และเลอื กแบบทดสอบแบบเขียนตอบทีจ่ ากัดคาตอบโดยการเลือกตอบจาก ตวั เลือกท่ีกาหนดให้ ในการวัดความรู้ความเขา้ ใจความหมายของคาศัพท์ และการนาคาศพั ทไ์ ปใช้ในการฟงั และการ อ่าน 4. การจดั การเรียนการสอน สมิทและราแกน (Smith & Ragan, 1999, pp. 125-126) ได้เสนอหลักในการพิจารณาว่า ควร ใช้ลักษณะการเรียนการสอนท่ีเน้นบทบาทของผู้เรียนหรือผู้สอนเป็นบทบาทนาในการเรียนการสอน โดยพิจารณา จากองคป์ ระกอบ 3 ดา้ น คอื ลักษณะของผเู้ รียน บรบิ ทการเรียนรู้และงานเพื่อการเรียนรู้ โดยพิจารณาทีละตัวแปร ดังนี้ ลักษณะของผู้เรียน ถ้าองค์ประกอบด้านอื่น ๆ เท่ากัน พบว่าผู้เรียนที่มีลักษณะต่อไปนี้ ได้แก่ ระดบั ความรเู้ ดิม ความถนัดทางการเรยี น กลวธิ ีการเรยี นรู้ และความใส่ใจในการเรียนรู้ ถ้ามีมาก ควรใช้วิธีที่ผู้เรียน เป็นผู้นาในการเรียนรู้ แต่ถ้าผู้เรียนมีลักษณะต่อไปน้ีคือ มีความวิตกกังวลมาก มีลักษณะ พึ่งพาปัจจัยภายนอกที่ สง่ ผลตอ่ ความสาเรจ็ หรอื ความลม้ เหลว เช่น การช่วยเหลือจากผู้อ่ืน ควรใช้วิธี ท่ีผู้สอนมีบทบาทนาในการเรียนการ สอน บริบทการเรียนรู้ ถ้าองค์ประกอบด้านอื่น ๆ เท่ากันพบว่า หากเวลาสาหรับการเรียนรู้ มีจากัด เป้าหมายการเรียนรู้มุ่งท่ีผลสัมฤทธิ์มากกว่าวิธีการเรียนรู้ ผู้เรียนทุกคนคาดหวังให้มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนผ่าน เกณฑ์ท่ีกาหนด ควรใช้วิธีท่ีผู้สอนมีบทบาทชี้นาในการเรียนการสอน แต่หากเป้าหมาย การเรียนรู้คือวิธีการเรียนรู้ ควรใช้วิธที ี่ผู้เรียนเป็นผมู้ ีบทบาทนาในการเรียนรู้ ภาระงานเพ่ือการเรยี นรู้ ถ้าองค์ประกอบด้านอ่ืน ๆ เทา่ กันพบว่า หากเปน็ ภาระงานที่ เน้นการ พัฒนาทักษะทางปัญญาระดบั สงู หรือทกั ษะการแก้ปญั หา ควรให้ผเู้ รยี นมีบทบาทนา หากปญั หา มคี วามซบั ซอ้ นมาก ผู้สอนควรเข้าไปมบี ทบาทชี้แนะช่วยเหลือ หากงานทีม่ อบหมายอาจทาให้เกดิ อันตรายแกร่ า่ งกาย กระทบต่อ อารมณ์ ความรสู้ ึก หรอื ตอ้ งใชส้ มรรถภาพระดบั สงู จาเปน็ ตอ้ งใหผ้ สู้ อน เขา้ ไปมบี ทบาทชนี้ าในการเรียนการ สอน อย่างไรก็ดี การจดั การเรยี นการสอนควรมุ่งเน้นให้ผเู้ รียนเป็นผู้มบี ทบาทนาให้มากทส่ี ดุ ยกเว้นหากมขี อ้ จากดั ดงั ท่ีกลา่ วมาแลว้ ทง้ั น้ีเพ่อื ใหผ้ เู้ รียนได้สร้างความรู้ ความเขา้ ใจ พัฒนาทักษะและมคี วาม เช่ือมั่นในศักยภาพการ เรียนรขู้ องตนเอง 5. งานวจิ ยั ท่เี กี่ยวข้อง การวจิ ัยเพ่อื พฒั นาการเรยี นการสอนในรายวชิ า ACT102 หลกั การบัญชขี ้นั ตน้ 2 มีวตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาระหว่างผู้ท่ีจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ กับระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและ เพ่ือเปรียบเทียบพัฒนาการ ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของผู้ท่ีจบ การศึกษาระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยมีกลุ่มตัวอย่างจากนักศึกษาสาขาวิชา การบัญชีคณะบัญชีมหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งลงทะเบียนเรียนวิชาหลักการบัญชีข้ันต้น 2 ในภาคการศึกษาท่ี 2 ปี การศึกษา 2555 จานวน 111 คน เครอ่ื งมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย (1) แผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ACT102 (2) แบบทดสอบวัดความรู้ก่อนเรียน (3) การทดสอบย่อยในเน้ือหาเร่ืองการตีราคาสินค้าคงเหลือ ที่ดิน อาคาร และอปุ กรณห์ นส้ี นิ และส่วนของเจ้าของ และ กจิ การอุตสาหกรรม โดยสถิตทิ ใ่ี ช้ได้แกจ่ านวน ร้อยละค่าเฉล่ีย เลขคณิต สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน และสถติ ิทดสอบที---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 148 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ผลการวิจัยพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาผู้ท่ีจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพกับนักศึกษาผู้ท่ีจบระดับ มัธยมศึกษาตอนปลายไม่แตกต่างกัน หรือมีความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสาคัญ ทางสถิติท่ีระดับ 0.05 เมื่อพิจารณาจากค่าเฉล่ีย ( ̅) แล้วพบว่า นักศึกษาผู้ที่จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉล่ียท่ี 2.46 ซึ่งสูงกว่านักศึกษาผู้ท่ีจบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายท่ีมีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนเฉลีย่ ที่ 2.30 วธิ ีการดาเนินการวิจยั 1. ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง ประชาการท่ีใช้ในการทาวิจัยในชั้นเรียน คือ นักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ที่เรียนในรายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ 3001-2001 ภาค เรียนท่ี 2/2560 จานวน 50 คน กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการทาวิจัยในชั้นเรียน คือ นักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตร วิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) สาขา ไฟฟ้าเคร่ืองเย็นและปรับอากาศ 1/6 ที่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 22 คน นักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) สาขา ไฟฟ้ากาลัง 1/2 ท่ีสาเร็จการศึกษา ระดับประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) จานวน 13 คน 2. เครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ในการวิจัย เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย จะเป็นแบบทดสอบหลังเรียน (Posttest) ท่ีสร้างข้ึนมาเพื่อวัดความรู้ และความเขา้ ใจของนักศึกษาหลงั เรียนในรายวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ โดยแบบทดสอบหลัง เรยี นจะเป็นแบบปรนัย มีท้งั หมด 50 ข้อ 3. การเก็บรวบรวมข้อมลู ผู้วิจัยไดน้ าแบบทดสอบหลังเรียนวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชีพจานวนท้ังหมด 50 ข้อ ให้ผู้ควบคุมการฝึกสอนหรืออาจารย์พ่ีเล้ียงได้ตรวจสอบความถูกต้องของแบบทดสอบแล้วนามาปรับปรุง แก้ไข เพ่ือที่จะนาไปหาผลสัมฤทธ์ิของนักศึกษา การเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบทดสอบหลังเรียน เพ่ือนามา เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ ระหว่างผู้ที่สาเร็จการศึกษา ระดับมธั ยมตอนปลายกับผู้ท่สี าเรจ็ การศกึ ษาระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ วทิ ยาลยั เทคนิคอุดรธานี 4. การวเิ คราะห์ข้อมลู หลังจากได้ทาการเก็บรวบรวมข้อมูล นามาตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์ที่กาหนดไว้และทาการ บันทกึ ข้อมลู แล้ว จึงได้นาคะแนนทไ่ี ดไ้ ปคานวณ เพ่ือวิเคราะห์ผลสมั ฤทธ์ิโดยใชค้ ่าเฉลี่ย ( ̅ : Mean) และหาค่าส่วน เบย่ี งเบนมาตรฐาน ผลการวิจัย จากการวจิ ยั เรอ่ื ง การเปรยี บเทียบผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ 3001-2001 ระว่างผู้ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายกับผู้ที่สาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ของวิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี การวิจัยครั้งนี้ใช้กลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขา ไฟฟ้าเครื่องเย็นและปรับอากาศ 1/6 ที่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 22 คน และนักศึกษาระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขา ไฟฟ้ากาลัง 1/2 ที่สาเร็จการศึกษาระดับ ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) จานวน 13 คน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 149 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== สถานภาพทวั่ ไปของกลุม่ ตัวอย่าง กล่มุ ตวั อย่างจากนักศึกษาระดับชนั้ ประกาศนียบัตรวชิ าชีพชน้ั สงู (ปวส.) สาขา ไฟฟ้าเคร่อื งเยน็ และปรับอากาศ 1/6 ท่ีสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 22 คน คิดเป็น ร้อยละ 62.86 และ นักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขา ไฟฟ้ากาลัง 1/2 ที่สาเร็จ การศกึ ษาระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) จานวน 13 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 37.14 รวมท้งั ส้นิ 35 คน สรุปและการอภิปรายผล คะแนนของนักศึกษาระดับมัธยมตอนปลายในแต่ละสัปดาห์ที่ผู้วิจัยได้ทาการวิจัยพบว่า ค่าคะแนนเฉล่ีย ของนักศกึ ษาทสี่ าเรจ็ การศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย คะแนนเตม็ 50 คะแนน นักศกึ ษาสอบได้คะแนนเฉลี่ย 25.59 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.18 มีนักศึกษาผ่านเกณฑ์จานวน 11 คน คิดเป็นร้อยละ 50 ของนักศึกษาทั้งหมด และ คะแนนของนกั ศกึ ษาระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพในแต่ละสัปดาห์ที่ผู้วิจัยได้ทาการวิจัยพบว่า ค่าคะแนนเฉลี่ยของ นักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพคะแนนเต็ม 50 คะแนน นักศึกษาสอบได้คะแนนเฉล่ีย 25.92 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 51.84 มีนักศึกษาผ่านเกณฑ์จานวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 69.23 ของนักศึกษา ท้ังหมด คา่ คะแนนเฉลี่ยของนักศึกษาท่ีสาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายกับนักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ซ่ึงนักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 25.59 และค่าเบีย่ งเบนมาตรฐานอยทู่ ่ี 3.034 คดิ เปน็ ร้อยละ 51.18 ส่วนนักศึกษาท่ีสาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตร วิชาชีพ มีค่าคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 25.92 และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานอยู่ที่ 2.396 คิดเป็นร้อยละ 51.84 ผลต่างของ ค่าเฉลี่ย เท่ากับ 0.33 ซึ่งนักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพมีค่าคะแนนเฉล่ียมากกว่า นักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย และนักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับมัธยมตอนปลายมีค่า เบ่ยี งเบนมาตรฐานมากกว่านกั ศกึ ษาสาเรจ็ การศึกษาระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ จากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเทคโนโลยีสาระสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ 3001-2001 ระหวา่ งผเู้ รยี นทีส่ าเรจ็ การศึกษาระดบั มธั ยมตอนปลายกับผูเ้ รียนที่สาเร็จการศกึ ษาระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ ซึ่ง นักศกึ ษาท่ีสาเรจ็ การศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย มีผู้ผ่านผ่านเกณฑ์ 11 คน ส่วนนักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ มีผู้ผ่านผ่านเกณฑ์ 9 คน โดยมีผู้ทดสอบจานวน 35 คน ผ่านการทดสอบวัดความรู้โดยใช้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ซ่ึงสอดคล้องกับสมมติฐานที่ตั้งไว้ พบว่านักศึกษาทั้งสองกลุ่ม แตกตา่ งกนั ไม่มากจึงแสดงไดว้ า่ วุฒิท่ีนกั ศกึ ษาสาเร็จการศกึ ษามาไมส่ ่งผลตอ่ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนในรายวชิ านี้ กติ ติกรรมประกาศ งานวิจัยฉบบั น้ไี ดด้ าเนนิ การจนเสร็จสน้ิ และประสบความสาเรจ็ ลลุ ว่ งมาด้วยดี โดย ได้รับการสนบั สนนุ และ ความอนเุ คราะห์จาก ผศ.กติ ติ ทูลธรรม และ ผศ.ดร.จารุวรรณ ทลู ธรรม อาจารย์นิเทศ อาจารยส์ มศักด์ิ คามะมลู ครพู เ่ี ลย้ี งและได้กรณุ าให้คาปรึกษา ชว่ ยเหลือ และช่วยตรวจสอบแกไ้ ขข้อบกพร่องต่างๆ จนรายงานการวจิ ัยในชนั้ เรยี นฉบบั นสี้ าเร็จไดอ้ ย่างสมบรู ณ์ และขอขอบคณุ นกั ศึกษาระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สูง ชัน้ ปที ่ี 1 แผนกวชิ า ไฟฟา้ กาลงั และไฟฟ้าเครอื่ งเย็นและปรบั อากาศ วทิ ยาลยั เทคนิคอดุ รธานี ปีการศึกษา 2560 ทใี่ หค้ วามร่วมมือใน การเป็นกลมุ่ ตวั อยา่ ง ทาให้ขา้ พเจา้ เก็บข้อมูลในการวจิ ยั นไี้ ดอ้ ย่างครบถ้วน ขอขอบพระคุณอาจารย์และเจ้าหน้าท่ีทุกคนในสาขาอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ที่ให้ คาปรึกษาตลอดเวลาในการทางานวิจยั---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 150 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ประโยชนแ์ ละคณุ ค่าอันพึงมีจากงานวิจยั ฉบบั น้ี ข้าพเจา้ ขอมอบใหเ้ ป็นกตัญญตุ าบชู าแด่ บดิ ามารดา ครู อาจารย์ตลอดจนผู้มีพระคณุ ทกุ ทา่ น บรรณานุกรม แววดาว บุญตา. 2558. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนและความพึง พอใจของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ช้ันปีท่ี 1 คณะช่างอุตสาหกรรม วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและ บริหารธุรกิจ ทจี่ ดั กจิ กรรมเรยี นแบบร่วมมือ. จิตรลดา วิวัฒน์เจริญวงศ์. 2556. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาระหว่างผู้ท่ีจบ การศกึ ษาระดับ ประกาศนียบัตรวชิ าชพี กับระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ในรายวชิ า ACT102 หลกั การ บัญชีขั้น ต้น 2 สาขาวิชาการบัญชี คณะบญั ชี มหาวิทยาลัยศรปี ทุม---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 151 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษาชั้นปีท่ี 1 และช้ันปีที่ 2 สาขา วศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล อีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ Factor examine achievement of Faculty of Education Computer Engineering of Rajamangala University of technology Isan 1N and 2N ศุภชัย ไอทา1* ฐติ มิ ากรณ์ แสงภักดี2 และมโี ชค ตง้ั ตระกูล3 บทคัดยอ่ งานวจิ ยั นมี้ วี ตั ถุประสงคเ์ พอ่ื ศกึ ษาผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นเฉลยี่ ของนกั ศกึ ษาช้นั ปที ่ี 1 และช้นั ปีที่ 2 สาขา วศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่นและ ศกึ ษาปัจจยั ทสี่ ่งผลต่อผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียนเฉล่ียของนักศึกษาตามองคป์ ระกอบการเรยี นรู้ 3 ด้านคือ ด้านผู้เรียน ดา้ นผูส้ อน ด้านสภาพแวดลอ้ ม ว่าปัจจัยในด้านใดส่งผลกระทบที่ทาให้นักศึกษาออกจากการเรียนก่อนจบหลักสูตร และทาให้จานวนนักศึกษาที่จบการเรียนไม่ตรงกับจานวนนักเรียนที่รับเข้า กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในงานวิจัยได้แก่ นักศึกษาชัน้ ปีท่ี 1 และชัน้ ปที ่ี 2 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอสี านวิทยาเขตขอนแก่น ท่ีมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยต่ากว่า 2.00 โดยมีเคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามความคิดเหน็ แบง่ เป็น 3 ตอน ประกอบด้วยไปดว้ ยตอนที่ 1 ขอ้ มูลทวั่ ไปของผู้ตอบแบบสอบถามความ คิดเห็น ตอนที่ 2 ความคิดเห็นเก่ียวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษา และตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะอื่นๆ วิเคราะห์ข้อมูลโดยสถิติการหาร้อยละ การหาค่าเฉลี่ย และการหาส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักศึกษาด้านผู้เรียนเป็นปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของนักศึกษามากท่ีสุด มีค่าเฉลี่ย ������ = 2.91 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน S.D. = 0.88 และการแปลผล เปน็ ปัจจัยท่ีส่งผลในระดบั ปานกลาง คาสาคัญ : ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น , องคป์ ระกอบการเรยี นรู้ , นักศึกษาออกจากการเรยี นก่อนจบหลกั สตู ร 1คณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสานวทิ ยาเขตขอนแก่น *E-mail : supachai.aita@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 152 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract The object of the study was to examine achievement of Faculty of Education Computer Engineering of Rajamangala University of technology Isan 1N and 2N including 3 way Student,Teacher and Environment A sample was selected from 1N and 2N students of Faculty of Education Computer Engineering of Rajamangala University of technology who has GPA lower 2.00 by survey information including 3 Part , first general status ,second Influencing factor to GPA,third suggestion It was used for data analysis data was analyzed using average and standard deviation. The findings showed, pointed out, revealed that GPA status is normal has average = 2.91 and S.D. = 0.88 when analyze from average we found the most influencing factor to study of students บทนา ตามท่ีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น มีการรับนักเรียนที่จบจากระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 และระดับช้ันประกาศนียบัตรชั้นสูง เพ่ือเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ทุกๆปี ในแต่ละปีรับ นักเรียนเขา้ เปน็ จานวนมาก และมีหลายรอบการรบั เข้า เชน่ รับเขา้ โดยวธิ รี ับตรง รับเขา้ โดยวธิ ีโควตานกั กฬี า โควตา เรียนดี และ รอบการประเมิน Portfolio ในแต่ละสาขาก็มีจานวนที่รับเข้าไม่เท่ากัน และในขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ก็ผลิตนักศึกษาท่ีจบหลักสูตรพร้อมเข้ารับปริญญาใน ทุกๆปี แต่จานวนนักศึกษาที่จบตามหลักสูตรกลับไม่ตรงกับจานวนของนักเรียนที่รับเข้ามา คือมีนักศึกษาท่ีจบตาม หลักสูตรในทุกๆปีมีจานวนที่น้อยกว่า จานวนนักเรียนท่ีรับเข้ามา ซ่ึงทาให้เป็นภาพรวมของศักยภาพของ มหาวทิ ยาลยั รวมถงึ อาจารย์ผ้สู อนในมหาวทิ ยาลยั อีกด้วย จากการศกึ ษาพบวา่ จานวนของนกั ศกึ ษาท่รี ับเขา้ เพ่อื ศึกษาในระดบั ปรญิ ญาตรี จะลดลงในช่วงท่ีนักศึกษา ศกึ ษาอย่ใู น ชนั้ ปที ่ี 1 และชั้นปที ่ี 2 เป็นสว่ นมากอาจเป็นเพราะสาเหตุ และปัจจัยตา่ งๆทท่ี าใหน้ กั ศึกษาออกจากการ เรียนกอ่ นจบหลักสูตร ซงึ่ เปน็ ปัญหาดงั กลา่ ว ดังนั้น ผู้จัดทางานวิจัยจึงได้เห็นความสาคัญของปัญหานี้ จึงได้จัดทางานวิจัยเรื่อง “ปัจจัยท่ีส่งผลต่อ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉล่ียของนักศึกษาช้ันปีที่ 1 และช้ันปีที่ 2 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์ อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแกน่ ขนึ้ มาเพื่อศกึ ษาปจั จยั ทส่ี ่งผลตอ่ ผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนเฉล่ยี ของนักศกึ ษา และปัจจัยใดเป็นสาเหตุที่ทาให้นักศึกษาออกจากการเรียนก่อนจบหลักสูตร ท่ีเป็น สาเหตุใหม้ หาวิทยาลยั ไมส่ ามารถผลิตนักศึกษาทจ่ี บตามหลกั สตู รได้ครบกับจานวนนักเรียนท่ีรับเข้าเพือ่ ศกึ ษา ทฤษฎีและงานวิจัยทเี่ กี่ยวขอ้ ง 1. ทฤษฎกี ารเรียนรูข้ อง การเย่ และบริกซ์ ไดแ้ บง่ ปจั จยั ท่ีส่งผลตอ่ การเรยี นรเู้ ป็น 2 ประเภท คอื 1.1 ปัจจัยภายนอก เป็นปัจจัยเดิมของการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง โดยการให้ส่ิงเร้าพร้อมกับให้ ผู้เรียนตอบสนองในส่ิงท่ีต้องการ ทาการทาซ้าคือการให้ผู้เรียนเรียนรู้โดยใช้สิ่งเร้าแล้วตอบสนอง หลาย ๆ ครั้งจน สามารถเรียนรูไ้ ดก้ ารใหก้ ารเสรมิ แรง คอื การเสรมิ กาลงั ใจให้เกิดความพอใจในการเรยี นรู้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 153 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 1.2 ปัจจัยภายใน เป็นส่ิงภายในที่ผู้ เรียนต้องมีเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ข้อเท็จจริงขณะเรียน ขณะนน้ั หรือระลึกจากทเ่ี คยเรียนมาแล้ว ทักษะทางปัญญาหมายถึง ความสามารถในการใช้ สมองเพื่อการเรียนรู้ โดยระลกึ จากประสบการณก์ ารเรียนรู้ที่ผา่ นมา ยุทธศาสตร์ หมายถึง สมรรถภาพที่ ควบคุมการเรียนรู้ ความต้ังใจ การจาและพฤติกรรมการคิดของมนุษย์เป็นกระบวนการทางาน ภายในสมองของมนุษย์ ผู้เรียนอาจได้รับแนวทาง ในขณะเรยี น 2. ทฤษฎเี กีย่ วกบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการศึกษา ความหมายของผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียน เป็นส่ิงที่ชี้ผลลัพธ์ ของการจดั การศึกษา ซ่ึงนอกจากจะเป็นเร่ืองการพัฒนาความรคู้ วามสามารถทางสตปิ ัญญาของผูเ้ รยี น แล้ว ยังแสดง ถึงคุณค่าของหลักสูตร การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ความรู้ความสามารถของ ครูผู้สอน และผู้บริหาร มีผู้ กลา่ วถึงความหมายของผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนไว้หลายทา่ น ดังน้ี 3.1 Good กล่าวว่าผลสมั ฤทธหิ์ มายถึง การทาใหเ้ สรจ็ (Accomplishment) หรือ ประสทิ ธภิ าพ ทางด้าน การกระทาในทกั ษะทีก่ าหนดให้หรอื ในด้านความรู้ ส่วนผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนหมายถึง การเข้าถึงความรู้ (Knowledge Attained) การพฒั นาทกั ษะในการเรยี น ซ่ึงอาจพจิ ารณาจากคะแนนสอบท่ีกาหนดให้คะแนนทไ่ี ดจ้ าก ครูมอบหมายงาน 4. งานวจิ ยั ท่เี กี่ยวขอ้ ง 4.1 กัญณัฐฐ์ เอื้อภราดร (2552) ได้ทาการศึกษาปัจจัยท่ีมีผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ระดับ มัธยมศึกษาปีที่ 5 และมัธยมศึกษาปีท่ี 6: กรณีศึกษา โรงเรียนพระแม่สกลสงเคราะห์ อาเภอบางบัวทอง จังหวัด นนทบุรี พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลให้ผู้เรียนมีการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน คือ เพศ ความคาดหวังใน การศึกษาต่อต่างกัน อาชีพผู้ปกครอง ทัศนคติต่อตนเอง ทัศนคติต่อเน้ือหาวิชาท่ีเรียน ทัศนคติต่อวิธีสอน ทัศนคติต่อวิธีการทางานของ นกั เรยี น ทศั นคตติ ่อสภาพแวดล้อมของโรงเรยี น การปรบั ตวั กับเพือ่ นและการปรับตัวกบั ครอบครวั 4.2 นิกสัน วังโพธ์ิ (2548) ได้ทาการศึกษาปัจจัยท่ีมีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา ภาษาองั กฤษของนักเรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนประถมศกึ ษาสังกัดสานักงานเขตพื้นที่ การศึกษาปทุมธานี พบว่าปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ประถมศึกษาสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาปทุมธานี คือ ปัจจัยด้านนักเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ได้แก่ 1. เพศ 2. แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธ์ิทางการเรียน3. อาชีพของ ผู้ปกครอง 4. รายได้ของผู้ปกครอง ส่วนปัจจัย ด้านห้องเรียนไมม่ ีอิทธพิ ลต่อผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี นวชิ า ภาษาองั กฤษ วิธีการดาเนนิ การวจิ ัย 1. ประชากรกลมุ่ ตัวอยา่ ง ประชากรได้แก่นักศึกษาช้ันปีท่ี 1 และชั้นปีท่ี 2 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์ อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่น จานวน 43 คน กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นกั ศึกษาชั้นปที ี่ 1 และชนั้ ปที ่ี 2 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสานวทิ ยาเขตขอนแกน่ ที่มีผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนเฉล่ีย ต่ากวา่ 2.00 จานวน 7 คน 2. เครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการวจิ ัย เครื่องมอื ท่ใี ช้ในการวิจยั ไดแ้ ก่ แบบสอบถามความคิดเหน็ แบง่ เปน็ 3 ตอน ประกอบดว้ ย ตอน ที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม ตอนที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักศึกษาสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 3 ด้านคือ ปัจจัยด้านผู้เรียน ปัจจัยด้านผู้สอน---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 154 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================ปัจจยั ดา้ นสภาพแวดลอ้ ม และตอนท่ี 3 ข้อเสนอแนะอนื่ ๆ โดยเครอ่ื งมือท่ีนามาใช้ผา่ นการประเมินความสอดคล้องของเน้ือหา และขอ้ คาถามจากผู้เชย่ี วชาญ 3. การเก็บรวมรวมขอ้ มลู การเก็บข้อมลู ข้นั ต้น เกบ็ จากนกั ศกึ ษาช้ันปที ี่ 1 และชัน้ ปีที่ 2 สาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสานวทิ ยาเขตขอนแก่น ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ียตา่ กวา่ 2.00 เก็บรวบรวมข้อมูลวจิ ยั ด้วยตนเองโดยแจกแบบสอบถามให้กลุม่ ตวั อยา่ งและนามาวเิ คราะหข์ ้อมูล 4. การวิเคราะหข์ ้อมูล ใช้แบบประเมินแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) ตามวิธีของริเคิร์ท (Likert) มี 5ระดับ นาคะแนนผลการประเมินแบบสอบถามความคิดเห็นมาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ย (x̅) และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) แล้วนาไปเปรยี บเทียบกบั เกณฑท์ ่ตี ้งั ไว้ ซึ่งแบ่งออกเปน็ 5 ชว่ ง ดงั น้ี ชว่ งคะแนน 4.51-5.00 หมายถึง เป็นปัจจยั ทส่ี ่งผลในระดบั มากที่สดุ ช่วงคะแนน 3.51-4.50 หมายถึง เปน็ ปจั จยั ทสี่ ่งผลในระดบั มาก ช่วงคะแนน 2.51-3.50 หมายถึง เป็นปัจจยั ทส่ี ่งผลในระดบั ปานกลาง ชว่ งคะแนน 1.51-2.50 หมายถงึ เป็นปัจจัยทสี่ ่งผลในระดบั น้อย ชว่ งคะแนน 1.00-1.50 หมายถึง มรี ะดับคณุ ภาพในระดับน้อยทส่ี ดุ 5. สถติ ิทใ่ี ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมูล การหาร้อยละ , การหาค่าเฉล่ีย (Mean) , การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (StandardDeviation)ผลการวิจัยการวเิ คราะหข์ อ้ มูลแบ่งเป็น 3 สว่ น สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัยซ่ึงประกอบไปด้วย ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม แบบสอบถามความคิดเห็นเก่ียวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแกน่ และข้อเสนอแนะอืน่ ๆ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลมดี งั น้ีข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม แบ่งเป็น 3 คาถาม ดังนี้ ระดับชั้นการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเป็นนักศึกษาที่อยู่ในระดับชั้นปีที่ 1 จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 71.43และนกั ศกึ ษาทอ่ี ยู่ในระดับชั้นปีท่ี 2 จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 28.57 เพศของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามเป็นนกั ศกึ ษาเพศชาย จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 90 และนักศึกษาเพศหญิง จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 10 และเกรดเฉลี่ยปัจจุบัน (GPA) ของผู้ตอบแบบสอบถามพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีเกรดเฉล่ียปัจจุบัน(GPA) 1.00 – 1.50 จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 10 และมีเกรดเฉลี่ยปัจจุบัน (GPA) 1.51 – 1.99 จานวน 6 คนคิดเปน็ รอ้ ยละ 90องคป์ รกอบการเรยี นรู้แบ่งออกเปน็ 3 ด้านคอื คอื ปจั จัยดา้ นผ้เู รยี น ปัจจัยดา้ นผู้สอน และปจั จยั ด้านสภาพแวดลอ้ ม สามารถหาคา่ เฉลีย่ (x̅) คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) ไดด้ งั แสดงดังตารางท่ี 1ตารางท่ี 1 ค่าเฉล่ยี (x̅) คา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน (S.D.) และแปลความโดยแบ่งเปน็ ด้าน ปจั จัย 3 ด้าน x̅ S.D. แปลผล1. ปจั จยั ด้านผเู้ รียน 2.91 0.88 ปานกลาง2. ปจั จยั ดา้ นผสู้ อน 2.04 0.37 นอ้ ย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 155 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================3. ปัจจยั ดา้ นสภาพแวดลอ้ ม 2.30 0.61 น้อย ภาพรวม 2.41 0.62 น้อย จากตารางท่ี 1 ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่น มากท่ีสุดคือ ปัจจัยด้านผู้เรียน (x̅ = 2.91 , S.D. = 0.88) รองลงมาคือ ปัจจัยด้านผู้สอน (x̅ = 2.04 , S.D. = 0.37) และปัจจัยด้านสภาพแวดลอ้ ม (x̅ = 2.30 , S.D. = 0.61) ตามลาดบัสรปุ และอภิปรายผล จากการวิจยั คร้ังน้มี วี ตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือศึกษาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นเฉลี่ยของนักศึกษาชั้นปีท่ี 1 และช้ันปีท่ี2 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี ราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่น ผู้วิจัยได้ทาการวิจัยโดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง คือนักศึกษาช้ันปีที่ 1 และชั้นปีท่ี 2 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่น และใช้แบบสอบถามความคิดเห็นเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลเพื่อวิจัยโดยเก็บข้อมูลด้วยตนเอง แบ่งออกเป็น 3 ตอนดงั นี้ ตอนที่ 1 สถานภาพท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม แบ่งออกเป็น 3 คาถาม 1. ระดับช้ันการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถามมนี ักศึกษาช้ันปีที่ 1 จานวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ71.43 นักศึกษาระดับชั้นปีท่ี 2 จานวน 2 คนคิดเป็นร้อยละ 28.57 รวมจานวน 7 คน 2. เพศของผู้ตอบแบบสอบถามความคิดเห็น เพศชาย จานวน 6 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 90 เพศหญิง จานวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 10 และ 3. เกรดเฉลี่ยปัจจุบันของผู้ตอบแบบสอบถามความคิดเห็น เกรดเฉลี่ย 1.00 – 1.51 จานวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 10 เกรดเฉลี่ย 1.51 – 1.99 จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 90 ตอนท่ี 2 ความคิดเห็นเก่ียวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา แบ่งออกเป็น 3ด้าน 1. ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนกั ศกึ ษาด้านผ้เู รยี น มคี า่ เฉลีย่ ท่ี 2.91 ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานท่ี 0.88 การแปลผลเป็นปัจจัยท่ีส่งผลในระดับปานกลาง 2. ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั ศกึ ษาด้านผูส้ อน มคี ่าเฉล่ียท่ี 2.04 สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐานที่ 0.37 การแปลผลเปน็ ปัจจัยที่ส่งผลในระดับน้อย 3.ความคดิ เหน็ ของผูต้ อบแบบสอบถามความคดิ เหน็ เกยี่ วกับปจั จัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั ศกึ ษาดา้ นสภาพแวดล้อม มคี ่าเฉลีย่ ที่ 2.30 สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐานท่ี 0.61 การแปลผลเปน็ ปัจจยั ทส่ี ่งผลในระดับนอ้ ย ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะอื่นๆ เป็นการสอบถามความคิดเห็นผู้ตอบแบบสอบถามที่เป็นปรายเปิดให้ผู้ตอบแบบสอบถามสามารถเสนอแนะหรือแนะนาอน่ื ๆได้นอกจากผูว้ จิ ยั ได้กาหนดไวผ้ ลปรากฏว่าไม่มีผู้ตอบแบบสอบถามคนใดเขยี นข้อเสนอแนะ จากสรุปผลการวิจัยปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ียของนักศึกษาระดับชั้นปีท่ี 1 และระดับช้นั ช้นั ปีท่ี 2 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสานวิทยาเขตขอนแก่น อภปิ รายผลได้ดังนี้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 156 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 2.1 ปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยของนักศึกษาตามองค์ประกอบการเรียนรู้ด้านผู้เรียน พบว่า ผู้เรียนไม่ศึกษาวัตถุประสงค์ของรายวิชา มีค่าเฉล่ียท่ี 4.29 ผู้เรียนไม่ทบทวนความรู้หลังจากเลิกเรียน มี คา่ เฉลี่ยที่ 4.29 เปน็ ปัจจัยท่ีสง่ ผลมากทส่ี ดุ และผเู้ รียนมโี รคประจาตัวมีค่าเฉลีย่ ท่ี 1.14 เป็นปัจจยั ที่น้อยทีส่ ดุ ในด้าน ผู้เรียน ในปจั จัยด้านผู้เรียนมคี ่าเฉลี่ย = 2.91 สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน = 0.88 การแปลผลเป็นปจั จัยทส่ี ่งผลในระดับ ปานกลาง 2.2 ปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนเฉลี่ยของนักศึกษาตามองค์ประกอบการเรียนรู้ด้านผู้สอน พบว่า อาจารยผ์ ้สู อนสว่ นใหญ่ใช้ภาษาในการสอนท่เี ข้าใจยาก มีค่าเฉล่ียที่ 2.86 เปน็ ปจั จยั ท่สี ่งผลมากทส่ี ดุ อาจารย์ ส่วนใหญไ่ มต่ งั่ ใจและไม่มสี มาธิในการสอน มคี า่ เฉลยี่ ที่ 1.57 และอาจารยส์ ่วนใหญ่ไม่เตรียมความพร้อมก่อนทาการ สอน มีค่าเฉลี่ยท่ี 1.57 เป็นปัจจัยท่ีน้อยที่สุดในด้านผู้สอน ในปัจจัยด้านผู้สอนมีค่าเฉล่ีย = 2.04 ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน = 0.37 การแปลผลเปน็ ปัจจัยทส่ี ่งผลในระดับนอ้ ย 2.3 ปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ียของนักศึกษาตามองค์ประกอบการเรียนรู้ด้าน สภาพแวดล้อม พบว่า มหาวิทยาลัยไม่มีส่ิงอานวยความสะดวก มีค่าเฉลี่ยท่ี 3.86 เป็นปัจจัยท่ีส่งผลมากท่ีสุด และ ห้องเรียนไม่มีส่ิงสนับสนุนอานวยการสอน มีค่าเฉลี่ยท่ี 1.71 เป็นปัจจัยท่ีน้อยที่สุดในด้านสภาพแวดล้อม ในด้าน สภาพแวดล้อมมีค่าเฉลย่ี = 2.30 สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน = 0.61 เมอื่ พิจารณาจากค่าเฉล่ียปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทั้ง 3 ด้าน พบว่าค่าเฉลี่ยปัจจัยท่ีส่งผล ต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านผู้เรียนมีค่าสูงสุด ซ่ึงหมายความว่าปัจจัยด้านผู้เรียนส่งผลกระทบมากที่สุดที่ทาให้ นกั ศึกษาออกจากการเรยี นก่อนจบหลกั สูตรและทาใหอ้ ัตราจานวนนักศึกษาที่จบตามหลักสูตรไม่ตรงกับจานวนของ นกั เรียนทรี่ ับเข้ามา ตามด้วยค่าเฉลี่ยปจั จยั ทีส่ ่งผลตอ่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นด้านสภาพแวดล้อมที่ส่งผลอันดับ 2 ที ทาใหน้ ักศึกษาออกจากการเรียนก่อนจบหลักสูตร และค่าเฉลี่ยปัจจัยท่ีส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านผู้สอน สง่ ผลให้นกั ศึกษาออกจากการเรยี นกอ่ นจบหลกั สตู รเป็นลาดับสุดท้าย ซง่ึ สอดคล้องกบั สมมตุ ิฐานของงานวจิ ัย บรรณานกุ รม นางพัชสุดา กัลป์ยาณวุฒิ. 2558. ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาระดับ ปวช. และ ระดบั ปวส. ของวิทยาลัยเทคโนโลยีพายพั และบรหิ ารธรุ กจิ , วิทยาลัยเทคโนโลยีพายัพและบริหารธุรกิจ กญั ณัฐฐ์ เอื้อภราดร. 2552. ปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อผลสัมฤทธท์ิ างการเรียนของนักเรียนมัธยมศึกษาปีท่ี 5 และมัธยมศึกษา ปีท่ี 6. ภาคนิพนธต์ ามหลกั สูตรศลิ ปศาสตรมหาบัณฑิต สถาบัน บณั ฑิตพฒั นบรหิ ารศาสตร.์ นกิ สนั วังโพธิ.์ (2548). ปัจจัยทม่ี อี ทิ ธพิ ลตอ่ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษา ปที ่ี 6 โรงเรียนประถมศึกษาสงั กดั ส านกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาปทมุ ธาน.ี วทิ ยานิพนธค์ รุศาสตรมหาบณั ฑิต บัณฑติ ศกึ ษา มหาวิทยาลยั ราชภฏั วไลยอลงกรณ์ ใน พระบรมราชูปถัมภ์ Good, Carter V. (1973). Dictionary of Education. New York: McGraw-Hill Book. การเย่ และบรกิ ซ์ (Gagne and Briggs, พรศรี พทุ ธานนท์, 2550: 6-10)---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 157 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ปัจจัยที่ส่งผลให้นักศึกษาหญิง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรม คอมพวิ เตอรข์ าดทักษะการซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ ประภาศิริ แซ่เลา้ 1* นฏกร พรหมจารย์2 และมโี ชค ตั้งตระกลู 3 บทคดั ยอ่ งานวจิ ัยนม้ี ีวัตถปุ ระสงคเ์ พ่อื สารวจปัจจัยท่ีส่งผลใหน้ ักศกึ ษาหญงิ คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม สาขา วศิ วกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาดทักษะในการซ่อมบารุงคอมพวิ เตอร์ กลมุ่ ตวั อยา่ งทีใ่ ชใ้ นการวิจยั ไดแ้ ก่ นกั ศกึ ษาหญงิ ชั้น ปที ี่ 4 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรม คอมพิวเตอร์ จานวน 16 คน เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการวจิ ัยคือ แบบสอบถาม ประกอบไปด้วย 3 ตอน ไดแ้ ก่ สถานภาพ ทว่ั ไป ปัจจยั ทส่ี ่งผลกระทบใหน้ กั ศึกษาหญิง คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวศิ วกรรมคอมพิวเตอร์ ขาดทกั ษะ การซ่อมบารงุ คอมพวิ เตอร์ และขอ้ เสนอแนะอืน่ ๆ เก่ยี วกับปจั จัยทสี่ ง่ ผลใหน้ ักศึกษาหญิงขาดทักษะการซ่อมบารงุ คอมพิวเตอร์ วเิ คราะห์ข้อมลู โดยใช้สถติ ิ การหาร้อยละ การหาค่าเฉลยี่ และการหาคา่ สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั พบวา่ ปจั จยั ท่สี ่งผลใหน้ กั ศกึ ษาหญิง คณะครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาด ทกั ษะในการซอ่ มบารงุ คอมพิวเตอร์มากทส่ี ดุ คือดา้ นความรพู้ น้ื ฐานทางดา้ นชา่ ง ̅ = 4.56 , SD = 0.51 โดยมี ค่าเฉลย่ี รวมท้ัง 4 ดา้ น ̅ = 3.73 , SD = 0.58 ซึ่งสอดคลอ้ งสมมุตฐิ านทีผ่ ู้วิจัยได้ตั้งไว้ คาสาคญั : ทักษะการซ่อมบารุง , การซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์ 1คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น *E-mail : isuroo_mook@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 158 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research is aimed to survey the factor that affect female students Faculty of Technical Education Computer Engineering lack of maintenance computer skills. The sampling this study ware registry 16 four-year female students Faculty of Technical Education Computer Engineering. The tools used for this research are questionnaire 3 parts are general status, factor that affect female students Faculty of Technical Education Computer Engineering lack of maintenance computer skills questionnaire and suggestion of factor that affect female students Faculty of Industrial Education Computer Engineering lack of maintenance computer skills. The statistics used include the percentage, Mean and Standard Deviation This research found that factor that affect female students Faculty of Technical Education Computer Engineering lack of maintenance computer skills most is basic knowledge in engineer (̅ = 4.56 , SD = 0.51) and Average ̅ = 3.73 , SD = 0.58 this is consistent with the assumptions set. Key word : maintenance computer skills, computer maintenance บทนา พระราชบัญญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี2) พ.ศ.2545 หมวด 4 แนว การจัดการศึกษา มาตรา 22 กาหนดไว้ว่า “การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความ สามารถในการ จัดการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนสาคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ ผู้เรียน สามารถพัฒนาตามธรรมชาตแิ ละเต็มศักยภาพ” (กระทรวงศกึ ษาธิการ,2545) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน ซง่ึ มที ้ังหมด 4 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตนครราชสีมา วิทยา เขตสุรินทร์ วิทยาเขตสกลนคร และวิทยาเขตขอนแก่น ซ่ึงในวิทยาเขตขอนแก่น ปัจจุบันเปิดสอน 3 คณะ ได้แก่ คณะวิศกรรมศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ และคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ซ่ึงสาขา วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ก็เป็นหนึ่งในสาขาของคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม โดยมีการจัดการเรียนการสอนเป็น 3 หมวด ได้แก่ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป หมวดวิชาทางการศึกษา และหมวดวิชาทางวิศวกรรม ซ่ึงรายวิชาเทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์ ก็เป็นหนง่ึ วชิ าในหมวดวชิ าทางวิศวกรรม และเป็นกลุ่มวิชาบังคับทางวิศวกรรม ซึ่งในการจัดกิจกรรม การเรียนการสอนในหัวข้อการซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ พบว่านักศึกษาหญิงส่วนใหญ่ขาดทักษะในการซ่อมบารุง คอมพิวเตอร์ ดงั นน้ั ผู้วิจัยเห็นควรศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลต่อการขาดทักษะในการซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ของนักศึกษา หญิง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และนาผลท่ีได้มาเป็นแนวทางในการวางแผน ปรับเปล่ียนวิธีการจัดการเรียนการสอนใหม่ เพื่อพัฒนาคุณภาพบัณฑิตของคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมให้ได้ตาม มาตรฐานทีก่ าหนดไว้ตอ่ ไป ทฤษฎแี ละงานวจิ ยั ท่เี กยี่ วขอ้ ง 1. การซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ข้อแนะนาในการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น การดูแล รกั ษาเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ท่ัวไป ควรต้ังเคร่ืองให้ห่างจากผนังไม่น้อยกว่า 15 ซ.ม. เพื่อให้อากาศถ่ายเทและลดความ ร้อนภายในเคร่ือง ไม่ควรต้ังเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ท่ีมีฝุ่นละอองมาก, อุณหภูมิไม่คงที่, มีแสงแดดส่อง , มีความชื้น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 159 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== สูง , มีการส่ันสะเทือนบ่อย , ใกล้กับแหล่งกาเนิดไฟฟ้าแรงสูงสนามแม่เหล็ก ไม่ควรวางสิ่งของไว้ปิดช่องระบาย อากาศของจอภาพและตัวเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ไม่ควรนาน้า กาแฟ หรือของเหลวอื่นๆ มาต้ังใกล้เคร่ือง เพราะสิ่ง เหล่าน้ีอาจทาให้เคร่ืองเสียหายได้ ไม่ควรเคลื่อนย้ายเคร่ืองคอมพิวเตอร์ หรือถอดสายใด ๆ ที่ต่อเช่ือมกับเครื่อง ขณะกาลังเปิดใช้งานอยู่ควรต่อเคร่ืองคอมพิวเตอร์กับ UPS หรือSTABILAZER หากกระแสไฟฟ้าไม่คงท่ี หากปิด เครอ่ื งคอมพิวเตอร์แล้วไม่ควรเปิดเครื่องโดยทันที ให้รอสักประมาณ 1 นาที จึงเปิดเคร่ืองใหม่ เพราะกระแสไฟฟ้า อาจทาให้เคร่ืองเสียง่าย ควรมีการติดต้ังโปรแกรมป้องกันไวรัส/สปายแวร์ และต้องอัพเดทฐานข้อมูลไวรัส (Signature Database) อยเู่ สมอ หากมีปญั หาเรือ่ งเครอื่ งคอมพวิ เตอร์ควรปรึกษาช่างผู้ชานาญก่อนดาเนินการด้วย ตนเอง 2. การสร้างแบบสอบถาม แบบสอบถาม เป็นรูปแบบของคาถามเป็นชุด ๆ ท่ีได้ถูกรวบรวมไว้อย่างมี หลักเกณฑ์และเป็นระบบ เพ่ือใช้วัดส่ิงท่ีผู้วิจัยต้องการจะวัดจากกลุ่มตัวอย่าง หรือประชากรเป้าหมายให้ได้มาซ่ึง ขอ้ เท็จจริงทั้งในอดีต ปัจจุบัน และการคาดคะเนเหตการณ์ในอนาคต แบบสอบถามประกอบด้วยรายการคาถามที่ สร้างอย่างประณีต เพื่อรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั ความคดิ เหน็ หรือขอ้ เทจ็ จริง โดยสง่ ให้กลุม่ ตวั อย่างตามความสมัครใจ การใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลน้ัน การสร้างคาถามเป็นงานที่สาคัญสาหรับผู้วิจัย เพราะว่าผู้วิจัยอาจไม่มีโอกาส ได้พบปะกับผู้ตอบแบบสอบถาม เพ่ืออธิบายความหมายต่าง ๆ ของข้อคาถามท่ี ต้องการเกบ็ รวบรวม 3. พฤติกรรมการเรียน หมายถึง การกระทา กจิ กรรม การตอบสนอง ปฏิกริ ยิ า หรอื วิธีการและเทคนคิ ในการเรียนของนักเรยี น ซึงมีจดุ มุ่งหมายเพือ พฒั นาความรู้ ทักษะ เจตคติ ให้บรรลุจุดประสงค์ทีกาหนดในวิชาต่าง ๆ โดยมีการแสดงออกอย่างสมาเสมอด้วยความพึงพอใจ และมานะพยายามทีจะพัฒนาการเรียนให้ดีข้ึน โดยไม่ย่อ ท้อตอ่ อุปสรรค 4. พฤติกรรมการสอน หมายถึง การกระทาที่ครูแสดงออกถึง ความพยายามในการจัดประสบการณ หรือสถานการณแวดลอม ตลอดจนกิจกรรมตาง ๆ ที่เก่ียวของกับการเรียนการสอน เพื่อกระตุนใหผูเรียนเกิดการ เรียนรูและเปล่ียนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่พึงประสงคจะเห็นไดวา พฤติกรรมการสอนของครูมีความสาคัญอยา งย่งิ ที่เปน็ ตัวบ่งชี้ถึงความสามารถของครูผูสอน ในการปฏิบัติภารกิจทางดานการเรียนการสอนหรือสภาพแวดลอม ของหองเรยี น และการมีสวนรวมปฏิสัมพันธระหวางครูกบั นักเรียนในการกระทากิจกรรมรวมกัน 5. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ทิพย์วรรณ สุขใจรุ่งวัฒนา (2553) ได้ทาการวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาปัจจัยที่ ส่งผลต่อพฤติกรรมการเรียนท่ีดีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 สังกัดสานักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริม การศึกษาเอกชน จังหวัดนครปฐม ผลการวิจัยสรุปได้ดังน้ี ระดับของพฤติกรรมการเรียนที่ดีของนักเรียน พบว่า นกั เรยี นมีพฤติกรรม การเรียนท่ีดีอยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางสังคมและปัจจัยทางจิตวิทยาเป็น ปจั จัย ทีส่ ง่ ผลตอ่ พฤติกรรมการเรยี นทด่ี ีของนกั เรยี น สามารถทานายพฤตกิ รรมการเรียนทด่ี ีของนกั เรียน พบวา่ การ ตระหนักรู้ด้านการเรียน บรรยากาศทางการเรียนและการสนับสนุนของครอบครัว ได้รับคัดเลือกเข้าสมการ เป็น ลาดับท่ี1 ลาดับท่ี2 และลาดับที่3 ตามลาดับ ตัวแปรทั้ง 3 ตัวนี้สามารถร่วมกันทานายพฤติกรรมการ เรียนท่ีดีร้อย ละ 41.3 พฤติกรรมการเรียนท่ีดีของนักเรียน เมื่อจาแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ขนาด โรงเรียน เกรดเฉลี่ย สะสม ระดับการศึกษาของบิดา ระดับการศึกษาของมารดา อาชีพของบิดา อาชีพ ของมารดา รายได้ต่อวันของ นักเรียน ไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อจาแนกตามเพศและรายได้เฉลี่ยของผู้ปกครอง พบว่า มีความแตกต่างกัน อย่างมี นยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดบั 0.05---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 160 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================วิธีการดาเนนิ การวิจัย 1. ประชากรกลมุ่ ตวั อยา่ ง ประชากร ได้แก่ นกั ศึกษาหญงิ คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษาหญิงชั้นปีที่4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ได้มาโดยเลือกแบบเจาะจงเน่ืองจากช่วงระยะเวลาในการเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างสอดคล้องกับช่วงเวลาในการทาวิจัยของผูว้ ิจยั จานวน 16 คน 2. เครอื่ งมือทใี่ ช้ในการวิจยั ได้แก่ แบบสอบถามความคิดเหน็ แบง่ เป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ตอนท่ี 1สถานภาพทว่ั ไป ตอนท่ี 2 แบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกบั ปัจจัยท่ีส่งผลกระทบให้นักศึกษาหญิง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ขาดทักษะการซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 4 ด้านคือ ด้านความรู้พื้นฐานทางด้านช่าง ด้านพฤติกรรมการเรียนภาคปฏิบัติ ด้านรูปแบบการสอนภาคปฏิบัติ ด้านส่ิงสนับสนุน การเรียนรู้ และตอนที่ 3 ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ โดยเคร่อื งมือท่นี ามาใช้ผ่านการประเมินความสอดคลอ้ งของเนื้อหา และข้อคาถามจากผเู้ ชยี่ วชาญ 3. การเก็บรวมรวมข้อมูล การเก็บข้อมูลข้ันต้น เก็บข้อมูลจากผลการเรียนในรายวิชาเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ การเก็บข้อมลู วิจยั เกบ็ ด้วยตยเองโดยแจกแบบสอบถามให้กลมุ่ ตวั อยา่ งและนามาวิเคราะหข์ อ้ มลู 4. การวเิ คราะห์ข้อมลู ใช้แบบประเมินแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) ตามวิธีของริเคิร์ท (Likert) มี 5ระดบั ซึง่ มคี วามหมายดงั น้ี 5 หมายถงึ เปน็ ปจั จยั มากที่สุด 4 หมายถงึ เปน็ ปัจจยั มาก 3 หมายถงึ เป็นปจั จยั ปานกลาง 2 หมายถึง เปน็ ปจั จัยนอ้ ย 1 หมายถึง เปน็ ปัจจัยน้อยทีส่ ดุ นาคะแนนผลการประเมินแบบสอบถามความคิดเห็น มาวิเคราะห์หาค่าเฉล่ีย (x̅) และค่าเบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) แลว้ นาไปเปรยี บเทียบกับเกณฑท์ ีต่ ัง้ ไว้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การหาร้อยละ, การหาค่าเฉลี่ย, การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการวิจยั การวิเคราะห์ข้อมูลแบ่งเป็น 3 ส่วนสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการวิจัย ซ่ึงประกอบไปด้วยสถานภาพทั่วไป แบบสอบถามความคิดเห็นเก่ียวกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้นักศึกษาหญิง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ขาดทักษะการซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์ และข้อเสนอแนะอื่นๆ เกี่ยวกับปจั จัยทีส่ ง่ ผลใหน้ กั ศกึ ษาหญงิ ขาดทักษะการซ่อมบารงุ คอมพวิ เตอร์ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลมีดังน้ี สภาพทว่ั ไป ระดบั วุฒกิ ารศึกษาทีจ่ บก่อนเข้าศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 62.5 และจบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 และผลการเรียนรายวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีผลการเรียนรายวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คือ D+จานวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 37.5 ลาดับรองลงมาผลการเรียนวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์คือ C จานวน 4 คน คิด---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 161 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================เป็นร้อยละ 25 ผลการเรยี นวชิ าเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์คือ C+ จานวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 12.5 และผลการเรียนระดับอน่ื ๆ ผลการเรยี นละ 1 คน รวม 4 คน คิดเป็นร้อยละ ลาดับสุดท้ายผลการเรียนวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์คือ A B+ B และ D จานวนเทา่ กันคือ 1 คนคิดเป็นรอ้ ยละ 25 ปัจจัยของผู้ตอบแบบสอบถามท้ัง 4 ด้านคือ คือ ด้านความรู้พ้ืนฐานทางด้านช่าง ด้านพฤติกรรมการเรียนภาคปฏบิ ัติ ดา้ นรปู แบบการสอนภาคปฏิบัติ และด้านส่ิงสนบั สนนุ การเรียนรู้ แสดงดงั ตารางที่ 1ตารางท่ี 1 ค่าเฉลย่ี (x̅) คา่ เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และแปลความโดยแบ่งเป็นดา้ น ด้าน x̅ S.D. แปลความ1. ด้านความรู้พ้นื ฐานทางด้านชา่ ง 4.56 0.51 ดมี าก 1.08 ดี2. ด้านพฤตกิ รรมการเรยี นภาคปฏิบัติ 3.69 0.96 พอใช้ 1.18 พอใช้3. ด้านรูปแบบการสอนภาคปฏบิ ตั ิ 3.44 0.58 ดี4. ดา้ นส่ิงสนับสนุนการเรยี นรู้ 3.25ภาพรวม 3.73 จากตารางที่ 1 ปัจจัยที่ส่งผลให้นักศึกษาหญิง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ขาดทกั ษะการซ่อมบารุงคอมพิวเตอร์มากทีส่ ดุ คอื ดา้ นความรพู้ นื้ ฐานทางด้านช่าง (x̅ = 4.56 , S.D. =0.51) รองลงมาคือ ด้านพฤติกรรมการเรียนภาคปฏิบัติ (x̅ = 3.69 , S.D. = 1.08) และด้านรูปแบบการสอนภาคปฏิบตั ิ (x̅ = 3.44 , S.D. = 0.96) ตามลาดบัสรปุ และอภปิ รายผล ประชากรท่ีใช้ในการวิจัยได้แก่ นักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม สาขาวิศวะกรรมคอมพวิ เตอร์ กลุ่มตัวอย่างทใี่ ช้ในการวจิ ัยครง้ั น้ีคือ นักศึกษาหญิงช้ันปีท่ี 4 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานวทิ ยาเขตขอนแก่น ได้มาโดยเลอื กแบบเจาะจงเน่อื งจากชว่ งระยะเวลาเหมาะสม จานวน 16 คน เคร่อื งมือที่ใชใ้ นการวิจยั คร้งั น้คี อื แบบสอบถามความพึงพอใจ ไดแ้ บง่ ของเป็น 3 ส่วน ดังน้ี 1. สถานภาพท่วั ไป ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มากกว่าระดับประกาศนียบตั รวชิ าชพี วิชาชพี และมผี ลการเรยี นรายวชิ าเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ คอื D+ 2. ผลการประเมนิ ปจั จัยทสี่ ง่ ผลกระทบให้นักศกึ ษาหญิง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพวิ เตอร์ ขาดทักษะการซอ่ มบารุงคอมพิวเตอร์ เมอื่ พจิ ารณาแตล่ ะด้านพบว่า ปัจจัยของผู้ตอบแบบสอบถามอยู่ในระดับน้อยทส่ี ดุ เม่อื พิจารณาเป็นรายด้านเรียงตามลาดับคือ ด้านความรู้พื้นฐาน (x̅ = 2.99) ด้านพฤติกรรมการเรยี นของนักศึกษาหญิง (x̅ = 3.15) ด้านผู้สอน (x̅ = 3.80) และด้านสนบั สนนุ การเรยี นรู้ (x̅ = 3.83) ตามลาดบั 3. ขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ เกยี่ วกบั ปจั จยั ที่สง่ ผลให้นกั ศึกษาหญงิ ขากทักษะในการซอ่ มบารงุ คอมพวิ เตอร์ ผูต้ อบแบบสอบถามส่วนใหญ่จบการศกึ ษาระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มากกวา่ ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพวิชาชพี และมีผลการเรยี นรายวชิ าเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ คอื D+ เน่ืองจากผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพท่ีไม่ใช่สาขาช่างอุตสาหกรรม จึงขาดทักษะเกี่ยวกับรายวิชาเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 162 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ผลการประเมินปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้นักศึกษาหญิง คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรม คอมพวิ เตอร์ ขาดทักษะการซอ่ มบารุงคอมพิวเตอร์ ปัจจัยที่มากท่สี ุดคือ ด้านความรู้พ้ืนฐานทางด้านช่าง (x̅ = 4.56 , S.D. = 0.51) มคี ่าเฉลี่ยอยใู่ นระดับดีมาก หมายถึงมีพฤติกรรมในระดับน้อยทสี่ ดุ บรรณานุกรม จติ ราภรณ์ พงษม์ าลี. 2550. การศกึ ษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสอนของครูกับความสามารถในการ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณของนเั รียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 6. ทิพย์วรรณ สุขใจรุ่งวัฒนา. 2553. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการเรียนท่ีดีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สงั กดั สานกั บรหิ ารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จงั หวดั นครปฐม. ศุภสิ รา เกยี รตสิ ันตสิ ุข และคณะ. (มปป). คู่มือดแู ลรกั ษาเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์เบอ้ื งต้น. ผศ.ดร.อรพิณ ศิริสัมพันธ์. 2550. การศึกษาพฤติกรรมการเรียนของนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศลิ ปากร. อุทุมพร จามรมาน (2544) แบบสอบถาม: การสรา้ งและการใช.้ พิมพค์ รั้งที่ 6. กรุงเทพฯ: ฟนั นพ่ี ลบั บชิ ชง่ิ จากัด.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 163 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ศึกษาผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้โดยวิธีสาธิตการเข้าหัว RJ-45 ในรายวิชาระบบ เครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ รหสั วชิ า 3128-2005 ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สูงปีท่ี 2 Student achievement of learning by demonstrating to the RJ-45 course in computer networking course code 3128-2005 Level Diploma Year 2 สภุ าดา ทองสมบัติ1* และกิตติ ทูลธรรม2 บทคดั ย่อ การวิจัยคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์การจัดการเรียนรู้แบบสาธิตการหัว RJ-45 ในรายวิชา ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3128-2005 โดยกลมุ่ ตวั อย่างท่ีใชใ้ นการทาวจิ ัยในช้ันเรยี น คือนักศึกษาระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูงปีท่ี 2 วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกอุดธานี แผนกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สาขา คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 จานวน 21 คน ท่ีได้มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบ เจาะจง โดยกลุ่มตวั อยา่ งท่เี ลอื กมาจะต้องเรยี นวิชาระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3128-2005 เคร่อื งมือที่ใช้ ในการวิจยั ครง้ั นีเ้ ปน็ แบบประเมินทักษะการปฏิบัติ และ แผนการดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนแบบสาธิต เพ่ือ วัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน สถติ พิ ื้นฐานในการทดสอบ คือ คะแนนรอ้ ยละ ค่าเฉล่ีย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานซ่ึง การใช้แผนการดาเนินกิจกรรมการสอนแบบสาธิต และแบบประเมินทักษะการเข้าหัว RJ-45 พบว่านักศึกษาผ่าน เกณฑ์มาตรฐานคิดเป็นร้อยละ 90.48 มีค่าเฉล่ียรวม 12.86 คะแนน และค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 1.31 เป็นไปตาม สมมติฐานท่ีตั้งไว้ นกั ศึกษามีผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนท่ีดีขึ้นจากการจดั การเรียนการสอนแบบสาธิตการเข้าหัว RJ-45 ในรายวชิ าระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ รหัสวชิ า 3128-2005 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2560 คาสาคัญ : การเขา้ หวั RJ-45 ผลสัมฤทธ์ทิ ักษะการปฏบิ ตั ิ การสอนแบบสาธิต 1 คณะครุศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วทิ ยาเขตขอนแก่น * Corresponding E-mail : Supada3030@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 164 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research aims to study the learning achievement demonstrates the RJ-45 course in computer networking course code 3128-2005 The samples used in the research in the classroom. Student's Diploma Year 2 Bachelor Kan Rd stopper Thani. Department of Computer Technology Computer Software 2nd semester 2560 academic year, 21 people were selected from a sample-specific. The sample will be selected to study computer networking course code 3128- 2005 were used in this research is to evaluate the practical skills and plan activities for teaching demonstration. For achievement Statistics based on test scores, percentage and standard deviation, which is used to plan activities for teaching demonstrations. And evaluation skills into the RJ-45 students passed the benchmark figure was 90.48 percent, with an average of 12. 86 points and a standard deviation of 1.31, according to the hypothesis. Student achievement has improved the teaching demonstration to the RJ-45 course in computer networking course code 3128-2005 level diploma 2nd year 2nd semester 2560 academic year. Keywords : The head of the RJ-45. Achievement skills. Teaching Demonstration . บทนา วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภเิ ษกอุดรธานี แผนกเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ สาขาคอมพวิ เตอรซ์ อฟตแ์ วร์ มีการเรียน การสอนรูปแบบการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พุทธศักราช 2546 รายวิชาระบบเครือข่าย คอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3128-2005 ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูงปีที่ 2 เน้ือหามีทั้งภาคทฤษฎีและ ภาคปฏิบัติ ส่วนของภาคปฏิบัติพบว่านักศึกษาไม่สามารถลงมือปฏิบัติงานได้เนื่องจากไม่มีทักษะ หรือ ความ เช่ียวชาญ ขณะทอี่ าจารย์ผสู้ อนอธบิ ายการใช้งานอุปกรณ์ และ ข้ันตอนการลงมือปฏิบัตินักศึกษาจะขาดความสนใจ ซ่งึ ปจั จบุ นั ในการมอบหมายงานภาคปฏิบตั ิยงั เปน็ รปู แบบของใบงานสง่ ผลให้นักศึกษาลงมือปฏิบัติได้ไม่ถูกต้อง และ ผิดข้ันตอน ในการจัดการเรยี นการสอนผู้สอนควรมีวิธีการสอนท่ีหลากหลาย เช่น การสอนให้นักศึกษาลงมือปฏิบัติ ตามวธิ ีสอนแบบสาธติ ของอาจารย์ผู้สอนทลี ะขน้ั ตอน รปู แบบการเรยี นการสอนแบบสาธิต คือวิธสี อนท่คี รมู ีหน้าทใ่ี นการวางแผนการเรียนการสอนเป็นส่วนใหญ่โดย มีการสาธติ หรือการปฏบิ ตั ิทาให้ดูเปน็ ตัวอยา่ ง นกั เรียนจะเกิดการเรียนรจู้ ากการสงั เกต การฟงั การปฏิบัติ ดังนั้นผู้จัดทาวิจัยจึงได้มีการ ศึกษาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรู้โดยวิธีการจัดการเรียนรู้ แบบสาธิตการเข้าหัว RJ-45 ในรายวิชาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูงปีที่ 2 แผนกเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ สาขาคอมพวิ เตอรซ์ อฟตแ์ วร์ วิทยาลยั เทคนคิ กาญจนาภิเษกอุดรธานี เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์จากการเรียนของนักศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูงปีท่ี 2 โดยวิธีการจัดการ เรยี นรู้แบบสาธิตการเข้าหัว RJ-45 ในรายวิชาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3128-2005 แผนกเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ สาขาคอมพวิ เตอรซ์ อฟตแ์ วร์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภเิ ษกอุดรธานี วัสดุ อปุ กรณ์ และวธิ ีการ หรอื วิธดี าเนนิ การวิจยั ประชากรทีใ่ ชน้ ักศึกษาเทคนคิ กาญจนาภเิ ษกอดุ รธานี แผนกเทคโนโลยคี อมพวิ เตอร์ สาขาคอมพวิ เตอรซ์ อฟต์แวร์---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 165 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ทลี่ งทะเบยี นเรยี นในรายวชิ าระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3128-2005 ภาคเรยี นท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพชนั้ สงู ปีที่ 2 จานวน 21 คน เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการ เคร่ืองมือที่ใชใ้ นการเกบ็ ข้อมลู 1 แผนการดาเนินกิจกรรมการเรียนการสอนแบบสาธิตหน่วยเรียนที่ 4 เร่ืองอุปกรณ์และสายเชื่อมต่อ ระบบเครอื ข่าย ในรายวิชาระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ รหสั วิชา 3128-2005 วธิ กี ารดาเนินการสรา้ งแผนดาเนินกจิ กรรมมดี งั ตอ่ ไปนี้ 1. กาหนดวัตถปุ ระสงคใ์ นการดาเนินกจิ กรรม 2. เปา้ หมายในการดาเนนิ กจิ กรรม 3. อปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการดาเนนิ กจิ กรรม 4. ขัน้ ตอนในการดาเนนิ กิจกรรม 5. เกณฑ์การวัดและการประเมินผลการดาเนินกิจกรรม 2 แบบประเมินทกั ษะปฏบิ ัติ การศกึ ษาผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นร้โู ดยวิธีการจดั การเรียนรแู้ บบสาธิตการเขา้ หัว RJ-45 ในรายวิชาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3128-2005 วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกอุดรธานี แผนกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ สาขาคอมพวิ เตอรซ์ อฟตแ์ วร์ ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพชัน้ สูงปที ี่ 2 โดยมวี ิธดี าเนนิ การสร้างดงั น้ี 1. ศึกษาเทคนคิ และวธิ ีการสร้างแบบประเมินทักษะปฏิบตั ิ จากแหลง่ ข้อมูลตา่ งๆ และงานวิจัยที่ เก่ียวขอ้ ง เพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการสรา้ งแบบประเมนิ ทกั ษะปฏบิ ัติ 2. รวบรวมข้อมูลท่ีจะใช้ในการสร้างแบบประเมินทักษะปฏิบัติ โดยศึกษาค้นคว้าจากหนังสือ เอกสาร และเว็บไซต์ตา่ งๆ ทเ่ี กี่ยวข้อง 3. สร้างแบบประเมินทักษะปฏบิ ตั ิใหส้ อดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ และแบง่ การให้คะแนนออกเป็น 3 สว่ นดังตอ่ ไปน้ี สว่ นที่ 1 ความถกู ต้องของสายแลน และการสง่ ขอ้ มลู เมอื่ เข้าหัว RJ-45 เสร็จ 1. ปลอกท่ีหุ้มสายออกโดยหา่ งจากสายประมาณ 1-1.5 นิว้ 2. ทาการจัดเรียงสายตามแบบมาตรฐานให้ถูกต้อง และตัดปลายให้เสมอกันโดยยาวเหลือ ประมาณคร่งึ นวิ้ 3. นาสายที่เรยี งไวแ้ ลว้ สอดเขา้ ทหี่ วั RJ-45 โดยควา่ ดา้ นที่มตี วั กดลงพรอ้ มกบั ดนั เข้าไปใหส้ าย แลนทุกเส้นติดกับขอบทองแดงของหวั RJ-45 4. บบี ดว้ ยคมี และกดใหแ้ นน่ จนมเี สยี งดังแกก๊ ค่อยปล่อยที่บบี คมี ออก 5. ทดสอบดว้ ยอุปกรณว์ ดั สญั ญาณไฟจะตอ้ งตดิ ทั้ง 8 ช่อง ส่วนท่ี 2 ระยะเวลาให้เวลาลงมือปฏิบัติการเข้าหัว R45 คนละ 5 นาที ถ้าเกินเวลาท่ีกาหนดคะแนนจะ ลดลง ส่วนที่ 3 ความสวยงามของการเข้าหวั สายแลน 1. มองดา้ นหน้าสายจะต้องถูกจดั เรยี งมคี วามถูกต้องและเป็นระเบยี บ 2. มองดา้ นขา้ งสายทุกเสน้ จะตอ้ งเสียบเขา้ ไปจนสดุ ระยะ หรอื ตดิ กบั ขอบทองแดงของหวั RJ-45 3. เปลอื กนอกของสายแลนจะต้องอยู่กง่ึ กลางระหวา่ งรทู ่เี สยี บของหัว RJ-45---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 166 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ผลการวิจยั แบบประเมินทักษะการปฏิบัติการเข้าหัว RJ-45 ในรายวิชาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3128- 2005 แบง่ ออกเป็น 3 สว่ น 1 คือความถูกต้องของการส่งข้อมูลนักศึกษาทาคะแนนเฉล่ียได้ 4.43 คะแนน 2 ความ สวยงามและการไร่เรียงสีตามแบบมาตรฐานทาคะแนนเฉล่ียได้ 4.00 คะแนน 3 ระยะเวลาในการลงมือปฏิบัติการ เข้าหัว RJ-45 ทาคะแนนเฉลี่ยได้ 4.48 คะแนน ซึ่งมีค่าเฉลี่ยรวมท้ังหมด 12.86 คะแนน มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.31 คะแนน จากนักศกึ ษาทั้งหมด 21 คน ผา่ นเกณฑ์มาตรฐานท้งั หมด 19 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 90.48 ของนักศึกษา ทัง้ หมด การอภิปรายผล จากการจัดการเรียนการสอนโดยวิธสี าธติ การเข้า RJ-45 ในรายวิชาระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา 3128-2005 มีผ้ทู ดสอบจานวน 21 คน มีความสอดคลอ้ งกบั สมมติฐานที่ตั้งไว้คือมีผลการเรียนเพ่ิมขึ้นมากกว่าเกิน ที่กาหนดรอ้ ยละ 80 ซง่ึ สามารถสรปุ ได้วา่ การจดั การเรียนการสอนโดยวิธกี ารสาธิตการเข้าหัว RJ-45 สามารถชว่ ยให้ ผูเ้ รียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นดขี นึ้ โดยการใชว้ ธิ ีการสาธติ ซ่ึงจะเปน็ วิธกี ารสอนท่ีครูเป็นผู้ปฏิบัติ หรือทาให้ดูเป็น ตัวอย่างทีละข้ันตอน และส่วนใหญ่การจัดการเรียนสอนจะขึ้นอยู่กับครูผู้สอน นักเรียนจะเกิดการเรียนรู้จากการ สังเกต การฟัง หรือการปฏิบัติตาม และมีความสอดคล้องจากงานวิจัยของคุณวัชระ อ่าเจริญ วิทยาลัยการอาชีพ วิเศษชัยชาญ แผนกวิชาช่างอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ได้มกี ารวิจัยในช้นั เรียนเร่อื ง การพัฒนาผลสมฤทธ์ิทางการเรียน เรือ่ งการ ใชง้ านมลั ติมิเตอร์แบบเข็ม โดยการสอนแบบสาธิตซง่ึ นักศกึ ษามีผลการเรียนทดี่ ขี ึน้ กติ ตกิ รรมประกาศ การทาวิจัยคร้ังน้ี สาเร็จลุล่วงไปด้วยความกรุณาอย่างย่ิงจากคณะอาจารย์นิเทศคณะครุศาสตร์ อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ผู้วิจัยรู้สึก ซาบซ้งึ ในความกรณุ าอย่างยิ่ง ขอกราบขอบพระคุณผู้อานวยการ เดชวิชัย พิมพ์โคตร คณะครูอาจารย์และนักศึกษา วิทยาลัยเทคนิค กาญจนาภเิ ษกอดุ รธานี ท่ีให้ความชว่ ยเหลือทกุ ดา้ นตลอดมา พร้อมทง้ั ให้ความร่วมมือในการทาวจิ ัยเปน็ อย่างดี ขอกรอบขอบพระคุณ ครอบครัว ที่ดูแลให้กาลังใจ และสนับสนุนส่งเสริมมาโดยตลอด และขอขอบคุณ กาลังใจพลังใจจากคนที่รกั ทุกคน คุณคา่ และประโยชน์อนั พงึ เกิดจากวิจยั ฉบบั น้ี ผวู้ จิ ัยขอมอบ เปน็ เครื่องสกั การะ บูชา พระคุณบดิ า มารดา และครูอาจารย์ทุกระดับการศึกษาของผู้วิจัยท่ีได้มีส่วนสาคัญในการวางรากฐานชีวิตและการศึกษาท่ีมีคุณภาพแก่ ผูว้ จิ ัยมาโดยตลอด บรรณานกุ รม ไพโรจน์ ตีรณธนากุล.2542. รายงานวจิ ัยเร่ือง ทกั ษะการปฏบิ ตั ิ. วัชระ อ่าเจรญิ .2552 รายงานวิจยั เรอ่ื ง เรอื่ งการใช้งานมัลตมิ ิเตอรแ์ บบเข็ม โดยการสอนแบบสาธติ . สมพร เช้ือพันธ.์ 2547. รายงานวจิ ัยเรอ่ื ง ความหมายของผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียน. อักฎากร คาโชตริ ส.2557. รายงานวจิ ยั เรื่อง การแกป้ ญั หานกั ศกึ ษาขาดทกั ษะการเข้าหัวเช่ือมต่อ RJ-45.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 167 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาชั้นประกาสนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ป1ี ในรายวชิ าคอมพวิ เตอรแ์ ละการบารุงรักษา 2204-2005 ระหว่างเรียนโดย ใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่มีการเช่ือต่อระบบเครือข่าย กับห้องปฏิบัติการที่ไม่มี ระบบเครือข่าย A Comparison of Academic Achievement of Professional Graduates (Vocational Certificate) in Computer and Maintenance Course 2204- 2005 during Computer-Based Computer Labs Study With no network lab. เถลิงศกั ดิ์ ช่างปรุง1* และจารวุ รรณ ทลู ธรรม2 บทคัดยอ่ การวิจัยครง้ั นี้เป็นการวิจัยเปรียบเทียบผมสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกหัดท้ายบทมีวัตถุประสงค์เพ่ือ เปรียบเทียบผมสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา คอมพิวเตอร์และการบารุงรักษาที่ใช้ห้องปฏิบัติการท่ีมีระบบเครือข่ายและไม่มีระบบเครือข่าย ผลการศึกษาพบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรียนของนักศึกษา ปวช.ปี1 ในรายวิชา คอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา ท่ีใช้ ห้องปฏิบัติการที่มีระบบเครือข่าย มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 48.85 จากคะแนนเต็ม 55 ค่าเบียนเบนมาตรฐานอยู่ที่ 5.61 คิด เป็นรอ้ ยละ 88.83 สว่ นนักศึกษาทใี่ ช้หอ้ งปฏบิ ตั กิ ารทไ่ี ม่มีระบบเครอื ขา่ ย มคี า่ เฉล่ยี อยูท่ ่ี 43.10 จากคะแนนเต็ม 55 ค่าเบียนเบนมาตรฐานอยู่ท่ี 12.24 คิดเป็นร้อยละ 78.37 ซึ่งมีผลคานวณค่าความต่างของร้อยละอยู่ท่ี 10.46 ซ่ึง สอดคล้องกับสมมตุ ิฐานทต่ี ั้งไว้ โดยนักศึกษาที่ใช้ห้องปฏิบัติการที่มีระบบเครือข่ายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่า เนื่องจากในการเรียนการสอนห้องท่ีมีระบบเครือข่ายจะสามรถค้นหาข้อมูลและดาวน์โหลดโปรแกรมมาใช้งานได้ ตามท่ีผู้สอนกาหนดไว้แต่ห้องที่ไม่มีระบบเครือข่ายจะต้องรอข้อมูลหรือโปรแกรมจากผู้สอนจึงทาให้นักศึกษาขาด ความกระตือรือร้นและทาให้นักศึกษาที่ใช้ห้องปฏิบัติการท่ีไม่มีระบบเครือข่ายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ากว่า นกั ศึกษาท่ีใช้ห้องปฏบิ ตั ิการที่มรี ะบบเครือข่าย คาสาคญั : เปรียบเทยี บผลสมั ฤทธิ์,การใช้หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์,ระบบเครอื ข่าย 1 คณะครุศาสตรอ์ ุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น * Corresponding E-mail : thaloengsak0751@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 168 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research is a comparative study of academic achievement using the final test. Aims to I compare students' academic achievement. Khon Kaen Vocational College Enrolled in Computer and Maintenance courses using labs with networking and no networking. The results of the study revealed that the post-learning achievement of the vocational students in year 1 In computer courses and maintenance Using a lab with networking. The mean score was 48.85, out of 55, the standard deviation was 5.61, or 88.83 percent. Students using non-network labs The median score was 43.10, with a standard deviation of 12.24, representing 78.37 percent. The percentage difference is 10.46, which corresponds to the set assumption. Students who use a networked lab have higher academic achievement because in the classroom, the network will search and download the program as instructed by the instructor. Non-networked students will have to wait for information or programs from their instructors, thus discouraging student enthusiasm and making students using non-networked labs have lower academic achievement than students using a systematic laboratory. network. Keywords : Compare results, Computer lab, Networking บทนา การพัฒนาการศกึ ษาของประเทศไทยในปัจจุบันได้ใชก้ ารศึกษาภายใต้กรอบประเทศไทย 4.0 สู่ศตวรรษที่ 21 โดยการฝึกให้ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง และครูผู้สอนจะเปน็ คนคอยให้คาแนะนาเปรียบเสมอื นเป็นพี่เลี้ยง มกี ารเรยี นการสอนแบบบรู ณาการสหวชิ าการ เชื่อมโยงความรู้กับจินตนาการ เปลี่ยนแปลงไปสู่รูปธรรมให้ผู้เรียนมี ทักษะท่ีต้องการ ซ่ึงการจัดการศึกษาต้องสร้างความพอใจให้ผู้เรียนและท้าท้ายสู่การสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้ ผู้เรียนอยากเรียน โดยการนาระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเข้ามามีส่วนร่วมในการเรียนการสอน ให้ผู้เรียนได้ศึกษา คน้ คว้าความรู้ตา่ งๆไดจ้ ากการใชง้ านอินเตอรเ์ น็ต การใช้อนิ เตอรเ์ น็ตสามารถทาให้ผู้เรียนติดต่อส่ือสารกับผู้คนท่ัวโลกได้อย่างรวดเร็ว และ สามารถสืบค้น ข้อมลู หรอื เผยแพร่ข้อมลู สารสนเทศจากทวั่ โลกได้ จึงทาให้เกิดการเรียนรู้ในรูปแบบการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตกับ กิจกรรมตามหลักสูตรเดิมที่มีอยู่ ทาให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและทาให้ผู้เรียนมีทักษะในด้านการคิดอย่างมีระบบ การคิดเชิงวเิ คราะห์ การวเิ คราะห์สืบคน้ การวเิ คราะหข์ ้อมูล การแกป้ ญั หา และการคดิ อย่างอิสระเป็นการสนับสนุน กระบวนการสหสาขาวิชาการ คือการนา เครือข่ายมาใช้เชื่อมโยงกับกิจกรรมการเรียนการสอนนั้น นักการศึกษา สามารถท่ีจะบรู ณาการการเรียนการสอนในวิชาตา่ งๆ เช่นคณิตศาสตร์ ภูมิศาสตร์ สังคม ภาษา วิทยาศาสตร์ ฯลฯ เข้าด้วยกันอินเทอร์เน็ตเม่ือนามาใช้ในการพัฒนาการศึกษาก็จะทาให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นแต่ในปัจจุบันระบบ เครือข่ายยังไม่ครอบคลุมสถานศกึ ษาทุกแหง่ ในประเทศไทยจึงทานกั เรยี นนักศึกษาทไ่ี ม่มอี ินเตอร์ใช้งานได้รับความรู้ ขา่ วสารที่น้อยลง วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่นได้มีการเรียนการสอนวิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษาในสาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ซ่ึงในการเรียนจะได้ใช้ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอนซึ่งจะมีนักศึกษาจานวน หลายกลมุ่ ท่เี รยี นในรายวชิ าน้ีและจะได้ใช้ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ภายในสาขาแต่ละห้องจะมีระบบเครือข่ายแต่---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 169 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== บางห้องจะไม่มรี ะบบเครือข่ายซึ่งนักศึกษาบางกลมุ่ จะได้เรียนในหอ้ งท่ีไมม่ ีระบบเครอื ข่ายซึง่ อาจจะทาให้นักศึกษาท่ี เรียนในหอ้ งท่ไี ม่มรี ะบบเครอื ขา่ ยมีปญั หาในการเรียนในบางหน่วยเรียน วัสดุ อุปกรณ์ และวธิ ีการ หรอื วธิ ีดาเนินการวจิ ยั เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบทดสอบ จานวน 4 บทเรียนโดยเลือกจากแบบทดสอบท่ีต้องใช้ อนิ เตอร์เน็ตในการค้นหาข้อมูลหรือดาวน์โหลดโปรแกรม ได้แก่ การประกอบคอมพิวเตอร์,การบารุงรักษาอุปกรณ์ คอมพวิ เตอร์,การตรวจหาและการกาจัดไวรสั ,การกคู้ นื ข้อมลู ด้วยโปรแกรม Recuva วิธีการศึกษา ศึกษาจากการทาแบบทดสอบในรายวิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา รหัสวิชา 2204-2005 ผลการวจิ ัย ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนหลังเรยี นของนักศึกษา ปวช.ป1ี ในรายวิชา คอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา ท่ีใช้ ห้องปฏิบัติการที่มีระบบเครือข่าย มีค่าเฉล่ียอยู่ที่ 48.85 จากคะแนนเต็ม 55 ค่าเบียนเบนมาตรฐานอยู่ท่ี 5.61 คิด เป็นร้อยละ 88.83 สว่ นนกั ศกึ ษาทใ่ี ชห้ ้องปฏบิ ตั กิ ารที่ไม่มรี ะบบเครอื ขา่ ย มีคา่ เฉลย่ี อยทู่ ่ี 43.10 จากคะแนนเต็ม 55 ค่าเบยี นเบนมาตรฐานอยู่ที่ 12.24 คิดเปน็ รอ้ ยละ 78.37 ซึ่งมผี ลคานวณคา่ ความต่างของรอ้ ยละอยู่ท่ี 10.46 การอภิปรายผล จากการเปรียบเทียบผมสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น ท่ีลงทะเบียนเรียนใน รายวิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษาท่ีใช้ห้องปฏิบัติการท่ีมีระบบเครือข่ายและไม่มีระบบเครือข่าย พบว่า นักศึกษาท่ีใช้ห้องปฏิบัติการที่มีระบบเครือข่ายมีผลการเรียนที่สูงกว่านักศึกษาที่ใช้ห้องปฏิบัติการท่ีไม่มีระบบ เครอื ข่ายซึ่งสอดคลอ้ งกบั สมมตุ ิฐานท่ีตั้งไว้ โดยนักศึกษาท่ีใช้ห้องปฏิบัติการท่ีมีระบบเครือข่ายมีผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียนสูงกวา่ เน่ืองจากในการเรียนการสอนห้องทีม่ รี ะบบเครอื ขา่ ยจะสามรถค้นหาข้อมูลและดาวน์โหลดโปรแกรมมา ใช้งานได้ตามที่ผู้สอนกาหนดไว้แต่ห้องท่ีไม่มีระบบเครือข่ายจะต้องรอข้อมูลหรือโ ปรแกรมจากผู้สอนจึงทาให้ นักศึกษาขาดความกระตือรือร้นและทาให้นักศึกษาท่ีใช้ห้องปฏิบัติการท่ีไม่มีระบบเครือข่ายมีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรยี นตา่ กว่านกั ศกึ ษาทใี่ ช้ห้องปฏิบตั กิ ารทม่ี ีระบบเครอื ขา่ ย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 170 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== กติ ตกิ รรมประกาศ การทาวิจัยครั้งน้ี สาเร็จลุล่วงไปด้วยความกรุณาอย่างย่ิงจากคณะอาจารย์นิเทศคณะครุศาสตร์ อุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพวิ เตอร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น และอาจารย์ อรรณพ ทองธรี กลุ อาจารยพ์ ่เี ลยี้ งประจาวชิ า ท่ีกรุณาใหค้ าปรึกษา แนะนาผูว้ จิ ยั รูส้ ึกซาบซง้ึ ในความกรุณาอยา่ งยงิ่ ขอกราบขอบพระคุณผู้อานวยการ นางนงเยาว์ กัลยาลักษณ์ คณะครูอาจารย์และนักศึกษาวิทยาลัย อาชวี ศึกษาขอนแกน่ ที่ให้ความชว่ ยเหลือทุกด้านตลอดมา พร้อมทงั้ ให้ความร่วมมอื ในการทาวจิ ยั เปน็ อย่างดี ขอกรอบขอบพระคุณ ครอบครัว ท่ีดูแลให้กาลังใจ และสนับสนุนส่งเสริมมาโดยตลอด และ ขอขอบคุณ เพ่ือน ๆ ทกุ คนทค่ี อยใหก้ าลงั แรงใจและคาปรึกษาตลอดมา คุณคา่ และประโยชน์อนั พงึ เกิดจากวจิ ยั ฉบับน้ี ผูว้ ิจัยขอมอบ เป็นเคร่ืองสกั การะ บูชา พระคณุ บดิ า มารดา และครูอาจารย์ทุกระดับการศึกษาของผู้วิจัยที่ได้มีส่วนสาคัญในการวางรากฐานชีวิตและการศึกษาท่ีมีคุณภาพแก่ ผู้วิจยั มาโดยตลอด บรรณานุกรม นางสาวณัฐพร จันทร์หอม. 2555. ปจั จยั ทีม่ ผี ลตอ่ การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ ของนกั ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบตั ร วิชาชีพ (ปวช.)กรณศี กึ ษา วทิ ยาลยั อาชีวศกึ ษาโปลีเทคนคิ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ วทิ ยาลยั อาชวี ศกึ ษาโปลเี ทคนคิ ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ. กลั ยารตั น์ สูงตวิ งค์. 2553. เปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนในการสืบค้นสารสนเทศจากอินเทอรเ์ น็ต ของนักเรยี นระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ท่ไี ดศ้ กึ ษาจากคู่มอื การสืบคน้ ท่ีจัดทาข้นึ กบั นักเรยี นทไ่ี ดร้ บั การฝึกอบรมด้วย เคร่ืองคอมพวิ เตอร์ มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 171 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนใน รายวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (3001-2001) The factors affecting students’absent behavior of Information Technology for Career Management (3001-2001) จรี ะภา ศรสี พุ ฒั น์1* และ จารุวรรณ ทูลธรรม2 บทคดั ย่อ การวิจัยในครั้งน้ี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยท่ีทาส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษาท่ี ลงทะเบียนเรยี นในรายวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชีพ (3000-2001) วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ภาค เรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 กลุ่มตัวอย่างนักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ท่ีลงทะเบียนเรียนใน รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ (3001-2001) วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศึกษา 2560 จานวน 6 คน ซึ่งไดม้ าจากการเลอื กแบบเจาะจง การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ค่าเฉล่ีย ร้อยละ และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า นักศึกษาท่ีลงทะเบียนเรียนในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการ จัดการอาชีพ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีเกรดเฉล่ียอยู่ในช่วง 2.01-2.50 อายุ 20-22 ปี ส่วนใหญ่พ่อแม่อยู่ร่วมกัน เดินทางมาเรียนด้วยรถจักรยานยนต์ นักศึกษาให้ความสาคัญกับปัจจัยที่เป็นสาเหตุปัญหาพฤติกรรมการขาดเรียน จาแนกได้ดงั นี้ อันดบั แรก คอื ด้านเพอ่ื น ลาดับท่ี 2 คือ ด้านตัวนักศึกษาเอง ลาดับที่ 3 คือ ด้านครอบครัว ลาดับท่ี 4 คือ ดา้ นครผู ู้สอน และลาดบั สดุ ท้าย คอื ด้านสง่ิ แวดล้อมและสงั คม คาสาคัญ : การขาดเรยี น, พฤตกิ รรมการขาดเรียน, การขาดเรยี นของนักศึกษา 1 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ * Corresponding E-mail : jeerapa2288@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 172 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research the purpose of this study was to investigate The factors affecting students’absent behavior of Information Technology for Career Management (3001-2001), Udonthani Technical College, Semester 2, Academic Year 2017. Registered in the course. Information Technology for Career Management (3001-2001), Udon Thani Technical College, Semester 2, Academic Year 2016, 6 persons, derived from a specific selection. Data were analyzed using percentage, standard deviation and standard deviation. The study indicated that Students enrolled in the Information Technology for Career Management Mostly male. The average grade is in the range of 2.01-2.50 age 20-22 years, most parents live together. Come to school with a motorcycle. Students focus on the factors that cause the problem of lack of learning. The first is the second friend is the student itself. The third is the fourth family is the teacher. And last but not least is the environment and society. Keywords : Research be absent, Research on absenteeism, Behavior Absenteeism บทนา การดูแลนกั ศึกษาเป็นหน้าท่ีของบุคคลหลายฝ่ายท่ีต้องช่วยกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาเก่ียวกับพฤติกรรม ของนักศึกษาในระหว่างท่ีเรียน เช่น ปัญหาการขาดเรียนของนักศึกษาที่ต้องมีการดูแลและตรวจสอบรายช่ือของ นกั ศกึ ษาก่อนเขา้ เรียนทุกคร้ัง หากพบว่ามีการขาดเรียนบ่อยคร้ังก็อาจจะส่งผลกระทบต่อนักศึกษาในกระบวนการ เรียนรู้ การสอบ และส่งผลกระทบถึง ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ วิทยาลัย ส่งผลกระทบต่อสังคม และเกิดปัญหาอ่ืนๆ ตามมาได้ในภายหลงั เช่น ปัญหายาเสพติด การยกพวกทะเลาะวิวาท การมั่วสุมในแหลง่ บนั เทงิ แหลง่ อบายมุขต่างๆ การตดิ เกมส์ และปญั หาการก้าวรา้ ว เป็นต้น จากปัญหาดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อนักศึกษาตามมา เช่น นักศึกษา เรียนไม่ทันเพ่ือนในช้ันเรียน การไม่มีคะแนนเก็บจากการส่งงานท่ีได้รับมอบหมาย หรือจากงานท่ีได้รับมอบหมาย ระหว่างเรยี น และการสอบกอ่ นเรยี นหลงั เรียน ส่งผลใหน้ กั ศกึ ษามผี ลสมั ฤทธใิ์ นการเรยี นตา่ การเรียนการสอนในรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชีพ รหัสวิชา 3001-2001 แบ่ง คะแนนออกเป็น 2 สว่ น คือ คะแนนที่ได้จากกระบวนการเรียนการสอน ซง่ึ คิดเป็นร้อยละ 80 ของคะแนนทั้งหมดได้ จากการเก็บคะแนนในการทาใบงานหรืองานท่ีได้รับมอบมายระหว่างเรียนรวมถึงการทดสอบก่อนเรียน-หลังเรียน และคะแนนจิตพิสัยคิดเป็นร้อยละ 20 ของคะแนนทั้งหมดได้จากการแต่งกาย ความรับผิดชอบ และการเข้าเรียน สม่าเสมอ หากนกั ศกึ ษาไมเ่ ข้าเรยี นจะส่งผลตอ่ คะแนนทัง้ สองสว่ น และทาใหค้ ะแนนไม่ผา่ นเกณฑ์ที่กาหนด จากปัญหาดังกลา่ ว ผวู้ ิจัยจึงต้องการศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษา รวมถึงสาเหตุ ของปญั หา เพื่อนาผลการวิจัยท่ไี ดม้ าเป็นแนวทางในการแกไ้ ขปญั หาการขาดเรียนของนักศึกษา และเป็นแนวทางใน การเรยี นการสอนในภาคเรียนถดั ไป วัสดุ อุปกรณ์ และวิธกี าร หรือวิธดี าเนนิ การวิจัย ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้คือ นักศึกษาระดับช้ันประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ที่ลงทะเบียนเรียนใน รายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ (3001-2001) วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 จานวน 6 คน ซึง่ ไดม้ าจากการเลือกแบบเจาะจง---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 173 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ สมุดบันทึกเวลาเรียน และ แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยท่ีส่งผลต่อ พฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษาที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ (3001-2001) วิทยาลยั เทคนิคอดุ รธานี ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 3 ตอน ได้แก่ ตอนท่ี 1 สถานภาพท่ัวไป / ข้อมูลเบื้องต้น ได้แก่ เพศ อายุ เกรดเฉลยี่ สถานภาพของบดิ ามารดา เดนิ ทางมาเรยี นโดยวิธีใด ตอนที่ 2 ข้อมูลปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการขาด เรยี นของนักศกึ ษาทีล่ งทะเบยี นในรายวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี (3001-2001) แบง่ ออกเป็น 5 ด้าน ดังน้ี ด้านครอบครัว ด้านครู ด้านเพ่ือน ด้านส่ิงแวดล้อมและสังคม ด้านตัวนักศึกษาเอง และ ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม วธิ กี ารศึกษา 1. ศึกษาจากเอกสารบนั ทกึ การเขา้ เรยี น (Teaching) การสังเกตนกั ศึกษาในขณะเรียนของ นกั ศึกษาท่ลี งทะเบียนเรียนในรายวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชพี (3001-2001) โดยเฝ้าสังเกต พฤติกรรมการมาเรยี นของนักศกึ ษาที่ขาดเรียนบ่อย 2. ศกึ ษาจากแบบสอบถามนกั ศึกษาในชั้นเรียน โดยแจกแบบสอบถามใหก้ ลุ่มนักศึกษาที่ ลงทะเบยี นเรยี นในรายวิชา เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (3001-2001) วิทยาลยั เทคนคิ อดุ รธานี ภาค เรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 เพือ่ เก็บข้อมูลทวั่ ไป ปจั จัยทสี่ ง่ ผลตอ่ พฤติกรรมการขาดเรียน และการแสดงความ คดิ เห็นของนกั ศึกษาต่อการขาดเรยี น 3. สรปุ ผลท่ีได้จากแบบสอบถาม โดยการนามาวเิ คราะห์ขอ้ มลู ทางสถิติ โดยใชโ้ ปรแกรม สาเรจ็ รูป SPSS เพือ่ ใหท้ ราบปัจจยั ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรยี นและความคดิ เห็นของนกั ศกึ ษา ผลการวิจยั การศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียนของนักศึกษาโดยใช้แบบสอบถามพบว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย มีเกรดเฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.01-2.50 อายุ 20-22 ปี ส่วนใหญ่พ่อแม่อยู่ร่วมกัน เดินทางมาเรียนด้วย รถจักรยานยนต์ นกั ศกึ ษาให้ความสาคัญกบั ปัจจัยท่ีเป็นสาเหตปุ ญั หาพฤติกรรมการขาดเรียน จาแนกได้ดังน้ี อันดับ แรก คอื ด้านเพอ่ื น มีค่าเฉลยี่ ( ̅) 3.50 แปลผลตามระดับความสาคัญอยู่ในระดับมาก ปัจจัยย่อยท่ีมีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ เพอื่ นในชัน้ เรียนไมม่ คี วามช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน 3.67 ลาดับท่ี 2 คอื ดา้ นตัวนักศึกษาเอง มีค่าเฉล่ีย ( ̅) 3.05 แปลผลตามระดบั ความสาคญั อยู่ในระดับปานกลาง ปัจจยั ยอ่ ยทมี่ ีค่าเฉลีย่ สงู สดุ คอื ร้สู ึกทอ้ ไมก่ ระตอื รอื รน้ ในการมา เรียน 3.83 ลาดับที่ 3 คือ ด้านครอบครัว มีค่าเฉลี่ย ( ̅) 2.73 แปลผลตามระดับความสาคัญอยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยยอ่ ยทีม่ ีคา่ เฉลี่ยสูงสดุ คือ ผปู้ กครองไมม่ ีเวลาว่างให้คาปรกึ ษาช้แี นะเก่ียวกับการเรยี น 3.83 ลาดบั ท่ี 4 คอื ด้าน ครูผู้สอน มีค่าเฉลี่ย ( ̅) 2.16 แปลผลตามระดับความสาคัญอยู่ในระดับน้อย ปัจจัยย่อยท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ เข้มงวดมากเกินไป 2.50 และลาดับสุดท้าย คือ ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม มีค่าเฉล่ีย ( ̅) 1.91 แปลผลตามระดับ ความสาคัญอยู่ในระดับน้อย ปจั จัยยอ่ ยทมี่ ีค่าเฉล่ยี สงู สุดคอื สภาพการจราจรในการเดนิ ทางมาวิทยาลยั 2.33 การอภปิ รายผล ด้านครอบครัว พบว่าปัจจัยด้านครอบครัว ท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียน คือ ผู้ปกครองไม่มีเวลาว่างให้ คาปรึกษาชีแ้ นะเกี่ยวกับการเรียน เพราะพ่อแม่ พ่ีน้องในครอบครวั มีผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของลูก หากไม่ได้ รับการดแู ลเอาใจใส่ หรือโดนบังคบั มากเกินไปจะทาให้เด็กมีความรู้สึกที่ดีต่อครอบครัวน้อยลงแล้วจะหันไปพึ่งผู้อื่น โดยเฉพาะเพอ่ื น---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 174 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ด้านครูผู้สอน พบว่าสาเหตุในปัจจัยด้านครูผู้สอน ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียน คือ เข้มงวดมากเกินไป หากครูดุ ขาดความเห็นใจ ขาดความเมตตา ทาให้เดก็ ไม่สบาย ขาดความอบอุ่น ไมอ่ ยากมาวทิ ยาลัย ด้านเพื่อน พบว่าสาเหตุในปัจจัยด้านเพื่อนท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียน คือ เพื่อนในชั้นเรียนไม่มีความ ช่วยเหลือซึง่ กันและกัน การคบเพื่อนตา่ งเพศ และนกั ศกึ ษาไมม่ เี พื่อนสนทิ เพราะเพอ่ื นมหี ลายประเภทถา้ คบเพ่อื นดี กจ็ ะชักนาไปในทางทีด่ ี แตถ่ า้ คบเพื่อนไมด่ ีกจ็ ะชักนากันขาดเรยี นเพอ่ื เทีย่ วเตร่หาความสนกุ สนานจากทอี่ ื่น ด้านส่ิงแวดล้อมและสังคม พบว่าสาเหตุในปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ท่ีส่งผลต่อพฤติกรรมการขาดเรียน มากทีส่ ดุ คือ สภาพการจราจรในการเดนิ ทางมาวทิ ยาลยั ด้านตัวนักศึกษาเอง พบว่าสาเหตุในปัจจัยด้านตัวนักศึกษาเองมากท่ีสุดคือ รู้สึกท้อไม่กระตือรือร้นในการมา เรียน การมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อการเรียน ทาให้นักศึกษาที่มีปัญหาพฤติกรรมทางการเรียน เช่น ไม่ชอบวิชาทีมีการ มอบหมายงานให้ทามาก เรียนไม่เข้าใจ และไมท่ างานสง่ จะทาใหผ้ ู้เรียนเกดิ ความท้อแท้เบ่ือหน่าย หมดกาลังใจ ซ่ึง ทาใหผ้ ลการเรียนตกตา่ กติ ตกิ รรมประกาศ การทาวจิ ัยครง้ั นี้ สาเรจ็ ลลุ ่วงไปด้วยความกรุณาอย่างย่งิ จาก ผศ.ดร.จารวุ รรณ ทูลธรรม และ ดร.กิตติ ทูลธรรม คณะอาจารย์นิเทศคณะครศุ าสตรอ์ ุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ขอบกราบชอบพระคณุ อาจารย์สมศักด์ิ คามะมูล อาจารย์พี่เลี้ยงประจาวิชา วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ที่กรุณา ให้คาปรึกษา แนะนา ช่วยเหลือตรวจแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เก่ียวกับการวิจัยมาโดยตลอด ผู้วิจัยรู้สึกซาบซ้ึงใน ความกรุณาอย่างยง่ิ ขอกราบขอบพระคณุ ผอู้ านวยการ ดร.สิทธิศกั ด์ิ ชาปฏิ คณะครูอาจารยแ์ ละนักศกึ ษาวทิ ยาลยั เทคนิคอุดรธานี ท่ี ให้ความชว่ ยเหลอื ทกุ ด้านตลอดมา พร้อมท้งั ให้ความรว่ มมอื ในการทาวิจัยเปน็ อยา่ งดี บรรณานุกรม จันทนา กาญจน์กมล. 2553. รายงานวิจยั เร่อื ง การปรบั พฤตกิ รรมของนกั ศกึ ษาที่ขาดเรยี นบอ่ ยวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีกับคุณภาพชวี ิต มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสุนนั ทาประจาภาคเรียนที่1/53. ณรงค์เดช อินอุทยั . 2550. รานงานวิจยั เรอ่ื ง การแก้ปญั หาการขาดเรยี นของนกั เรยี น ระดบั ชัน้ ปวช.2 แผนกวิชา ชา่ งอิเลก็ ทรอนิกส์รายวชิ าวงจรพัลซแ์ ละดิจิตอล ประจาภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2550 โดยใชว้ ิธกี าร เรียนแบบกลุม่ . มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2544. การจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 1). กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 175 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== รุ่งนภา ถมมา. 2555. การศึกษาพฤติกรรมการขาดเรียนในรายวิชาการบัญชีเบ้ืองต้น 2 ห้อง CD102 วิทยาลัย เทคโนโลยีพายพั และบริหารธรุ กิจ. วมิ ลศิริ ชานาญเวช. 2552. รายงานวิจยั เรอ่ื ง พฤตกิ รรมการเขา้ ชน้ั เรียนของนักศึกษาวิชากฎหมายครอบครัว.---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 176 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การปรับพฤติกรรมด้านความรับผิดชอบ วิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา ของ นักศกึ ษา ปวช.1/3 วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาขอนแก่น โดยใชแ้ บบประเมินพฤติกรรม Responsibility Adjustment Computer and maintenance Of students Vocational Certificate 1/3 Khon Kaen Vocational College Use behavioral assessment. อภิชาติ พงษา1* และจารวุ รรณ ทลู ธรรม2 บทคัดย่อ การวจิ ยั คร้ังนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อปรับพฤติกรรมด้านความรับผิดชอบ โดยกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ในคร้งั นเ้ี ป็นนักศึกษาใน วิทยาลัยอาชีวศึกษาขอนแก่น สาขา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ระดับช้ัน ปวช.1/3 ทั้งหมด 5 คน เคร่ืองมือท่ีใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี ผู้วิจัยได้ใช้แบบประเมินพฤติกรรมท่ีสร้างข้ึนเอง ผู้วิจัยเป็นผู้ดาเนินการประเมิน พฤติกรรมด้วยตนเองทั้งหมด การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติที่ใช้ ผู้วิจัยได้ดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรม Microsoft Excel เพื่อคานวณหาค่าสถิติ ได้แก่ ค่าร้อยละ และ ค่าเฉล่ีย ผลจากการประเมินพฤติกรรมด้านความ รับผิดชอบ ทั้ง 3 ด้าน ในภาพรวมพบว่าเป็นไปตามเกณฑ์สมมติฐานที่ตั้งไว้ คือ 80% ซ่ึง กลุ่มตัวอย่าง ได้คะแนน เฉลี่ยรวม 405.40 คะแนนจาก 500 คะแนน คิดเปน็ รอ้ ยละ 81.08 ยกเวน้ ดา้ นความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ได้คะแนน เฉลยี่ รวม 156.60 คะแนนจาก 200 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 78.30% ซ่ึงไม่ผ่านตามเกณฑส์ มมติฐานทีต่ ้งั ไว้ อาจเป็น ผลมาจาก การปลูกฝังจากการเรียนท่ีผ่านมาอาจจะไม่เน้นในเรื่องของการกระตุ้น ให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นใน การใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน และสภาพแวดล้อมทางด้านครอบครวั เนือ่ งจากกลุ่มตัวอย่างส่วนมาก เช่าหอพักจึงทาให้ ขาดการ ดูแลจากผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ซ่ึงสอดคล้องกับวิจัยที่เกี่ยวข้องของ บุศนีย์ ชัยมงคล .(2550) การวิจัยเพ่ือพัฒนา ความมีวินัยในตัวเองด้วยกิจกรรมการจัดเก็บของเล่น ประชากรคือ เด็กอนุบาล3 ซึ่งสื่อให้เห็นถึงการปลูกฝังวินัย ตัง้ แตว่ ัยเดก็ คาสาคญั : พฤติกรรมดา้ นความรับผดิ ชอบ,ประเมินพฤติกรรม 1 คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลอกี สาน วทิ ยาเขตขอนแกน่ * Corresponding E-mail : apichat0435@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 177 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research purpose To adjust the responsibility behavior.The target audience for this study was Khon Kaen Vocational College Business Computer Vocational Certificate. The instrument used in this research The researcher used self-generated behavioral assessment. Analysis of data and statistics used. The data were analyzed by using Microsoft Excel to calculate the statistics, ie percentage and mean. The results of the assessment of the three aspects of responsibility. Overall, it was found that the hypothesis was set 80% Sample The average score was 405.40, out of 500 points, or 81.08%.Except self-responsibility The average score was 156.60, out of 200, representing 78.30% Which did not meet the preset criteria. May be the result of Cultivating from the past may not be the focus of stimulation. The students are eager to learn. And the family environment. Because most of the sample rented a dormitory makes The lack of parental care closely. relevant research Busane Chaimongkol(2550). Research to develop self-discipline with toy storage activities. The population is kindergarten children3 The media has been disciplined since childhood. Keywords : Responsibility Behavior, Evaluate behavior บทนา ปัญหาการความรับผิดชอบเป็นปัญหาท่ีมาจากพฤติกรรมของนักเรียนที่เกิดข้ึนต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ปญั หานคี้ วรจะหาวิธีการแก้ไขให้ถูกต้อง และนามาปรับปรุงพฤติกรรมอันพึงประสงค์ของนักเรียนในชั่วโมง จึงเป็น หน้าที่ความรับผิดชอบของครูผู้สอนทุกคนที่จะแก้ไขปัญหาน้ีเพราะเป็นปัญหาท่ีทาให้เกิดปัญหาต่างๆ ในช้ันเรียน เช่น ทาให้เกิดการหยุดการสอนในช่วงหน่ึงเม่ือนักเรียนท่ีมาสายเดินเข้าในช้ันเรียนในขณะท่ีทุกคนกาลังเรียน และ เม่ือเข้าไปน่ังเรียนแล้วก็จะสอบถามเพ่ือนที่น่ังใกล้ว่า อาจารย์สอนอะไรบ้างทาให้เกิดการพูดคุยในเวลาเรียน บางครั้งครูผู้สอนต้องเร่ิมใหม่ทาให้นักเรียนที่ตั้งใจเรียนอยู่ก่อนเกิดความเบื่อหน่ายทาให้เสียเวลาในการเรียนการ สอน และปัญหาความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อ่ืน เช่น การใช้ห้องเรียน นักเรียนมักจะมีพฤติกรรม ไม่เก็บโต๊ะ เก้าอ้ี หรือไมป่ ิดคอมพิวเตอรท์ ่ตี วั เองเป็นคนใช้ ซ่งึ ทาใหส้ ง่ ผลตอ่ เพอื่ นร่วมห้องท่ตี ้องมารบั ผิดชอบหน้าท่ีแทน ผู้วิจัย จงึ เหน็ วา่ ปัญหาการดา้ นความรบั ผิดชอบเป็นปัญหาท่ีสาคัญอย่างยิ่งจึงได้นามาเป็นหัวข้อการวิจัยในภาคเรียนท่ี2 ปี การศกึ ษา 2560 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 น้ีผู้วิจัยได้ทาการสอนในวิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรักษา ของ นกั ศกึ ษาระดบั ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ ปีที่1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ห้อง 1/3 นักเรียนกลุ่มที่มีพฤติกรรมด้าน ความรบั ผิดชอบน้อย ซงึ่ มีพฤตกิ รรม เขา้ เรยี นสายประมาณ 10-15 นาที เปน็ ประจาต้งั แตช่ ่ัวโมงแรกของการทาการ เรยี นการสอน และ มคี วามรับผดิ ชอบในการใชห้ อ้ งเรียนนอ้ ย รวมไปถงึ ความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและผูอ้ น่ื นอ้ ย วนิดา ภาชนะสวุ รรณ (2550) ไดว้ ิจยั ในชน้ั เรียนเรื่องการปรบั ปรงุ พฤติกรรมการเขา้ ชัน้ เรยี นใหต้ รงตอ่ เวลา ของนักศึกษาชั้นปวช. 3/6 แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี วิชาระบบสื่อสารโทรคมนาคม ผลการวิจัยภายหลังจาการปรับพฤติกรรมการเข้าชั้นเรียนสายของนักศึกษากลุ่มดังกล่าว โดยใช้ข้อตกลงบาเพ็ญ ประโยชน์ กรณีมาสาย พบว่านกั ศึกษามพี ฤติกรรมการเข้าเรียนตรงต่อเวลามากขึ้น และถึงก่อนเวลา ประมาณ 3-5---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 178 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== นาที โดยขึ้นมานั่งรอหน้าห้องเรียน และอยู่ในความสงบไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น และในผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่ามีการพฒั นาไปในทางทีด่ ขี ้นึ จากความเปน็ มาและความสาคัญของปัญหา ผูว้ ิจัยซึ่งเปน็ ครูผู้สอนจึงนาปัญหานี้มาเพื่อหาแนวทางในการ แก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมด้านความรับผิดชอบ ผู้วิจัยจึงมีแนวคิดในการปรับพฤติกรรมด้านความรับผิดชอบ โดยใช้ แบบประเมินพฤตกิ รรม วสั ดุ อุปกรณ์ และวิธีการ หรอื วิธีดาเนินการวจิ ยั แบบประเมินพฤติกรรมความรบั ผิดชอบแบ่งออกเปน็ 3 ดา้ น ด้านการตรงต่อเวลา -เข้าเรยี นตรงเวลา -สง่ งานตามเวลาทีก่ าหนด -ปฏิบตั งิ านทไี่ ด้รบั มอบหมายภายในชวั่ โมงจนเสร็จสมบรู ณ์ ดา้ นความรับผิดชอบต่อตนเอง -มีอปุ กรณ์การเรยี นพรอ้ ม -ตดิ ตามงานอยา่ งสมา่ เสมอ -กระตอื รือร้น ขยันหม่นั เพยี รใฝเ่ รียน ใฝ่รู้ -ยอมรับการกระทาของตน ดา้ นความรับผิดชอบตอ่ ผอู้ น่ื -มคี วามซือ่ สัตยต์ อ่ ตนเองและผอู้ ่นื -รูจ้ ักใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ -มคี วามรบั ผดิ ชอบในการใช้ห้องเรียน ผลการวจิ ัย ตาราง ผลการวิจัย ค่าเฉลี่ยคะแนน และ ค่าร้อยละ ของกลุ่มตัวอย่างท้ัง 5 คน พฤติกรรมด้านความ รับผิดชอบ ท้ัง 3 ด้าน โดยกลุ่มตัวอย่างทั้ง 5 คนผ่านตามเกณฑ์สมมติฐานท่ีต้ังไว้ คิดเป็น 100% ผลวิเคราะห์ค่า คะแนนรวมเฉลีย่ เทา่ กับ 405.40 คะแนนจาก 500 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยละ 81.08 เรียงตามลาดบั คะแนน สูงทสี่ ดุ คอื---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 179 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 414 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.80 รองลงมา 405 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81 และ 404 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 80.80 การอภิปรายผล ผลจากการประเมินพฤตกิ รรมด้านความรับผดิ ชอบ ท้ัง 3 ดา้ น ในภาพรวมพบว่าเปน็ ไปตามเกณฑ์สมมตฐิ านทีต่ ั้ง ไว้ คอื 80% ซ่งึ กลมุ่ ตัวอย่าง ได้คะแนนเฉลี่ยรวม 405.40 คะแนนจาก 500 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 81.08 ยกเว้น ด้านความรบั ผิดชอบต่อตนเอง ได้คะแนนเฉล่ียรวม 156.60 คะแนนจาก 200 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 78.30% ซ่ึง ไมผ่ า่ นตามเกณฑ์สมมติฐานที่ต้ังไว้ อาจเป็นผลมาจาก การปลูกฝังจากการเรียนท่ีผ่านมาอาจจะไม่เน้นในเรื่องของ การกระตุ้น ให้ผเู้ รียนมีความกระตอื รือร้นในการใฝ่รู้ ใฝ่เรียน และสภาพแวดล้อมทางด้านครอบครัว เนื่องจากกลุ่ม ตัวอย่างส่วนมาก เช่าหอพักจึงทาให้ ขาดการดูแลจากผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด ซ่ึงสอดคล้องกับวิจัยท่ีเกี่ยวข้องของ บุศนีย์ ชยั มงคล .(2550) การวจิ ัยเพื่อพฒั นาความมวี นิ ยั ในตัวเองด้วยกิจกรรมการจดั เก็บของเล่น ประชากรคือ เด็ก อนุบาล3 ซง่ึ ส่ือใหเ้ หน็ ถึงการปลูกฝังวินยั ต้ังแตว่ ยั เด็ก บรรณานกุ รม พ่มุ พชาต.2550.รูปแบบการจดั ประสบการณ์สตอรี่ไลนเ์ พื่อเสริมสรา้ งพฤตกิ รรม เชงิ จริยธรรมของเดก็ ปฐมวยั . โรงเรียน อนบุ าลตราด บุศนีย์ ชัยมงคล.2550.การพัฒนาความมีวินัยในตนเองด้วยกิจกรรมการจัดเก็บของเล่น .โรงเรียน เทศบาล2 ( วัดศรี บุรีรัตนาราม ) ไฉไลศรี เพชรใต.้ 2552.การพฒั นา เยาวชน นกั เรยี น.โรงเรยี นอนบุ าลสกลนคร ฉันทนา ศรีภักดี.2554.การศึกษาระดับและเปรียบเทียบการ เปล่ียนแปลงพฤติกรรมความมีวินัยในตนเองของเด็ก ปฐมวยั .โรงเรียนบ้านบัวมล สุจติ รา สทิ ธไิ ทย.2553.เปรียบเทยี บพฤตกิ รรมความรับผดิ ชอบของเดก็ ปฐมวัยก่อนและระหว่างได้รบั การจัดกิจกรรม สถานการจาลอง.โรงเรยี นบ้านงวิ้---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 180 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ปัจจัยที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการศึกษาในรายวิชาแคลคูลัสพื้นฐานวิศวกรรม ของ นักศึกษาระดับปริญญาตรีช้ันปี่ที่ 1 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์ อุตสาหกรรม มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ในภาคเรียน ท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2559 วัชรวุฒิ เอ้ือไพบูลยท์ รัพย์1 จงลกั ษณ์ จลุ โนนยาง2 และจารุวรรณ ทลู ธรรม3 บทคดั ยอ่ งานวจิ ยั นี้มวี ตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษาหาปจั จยั ทส่ี ่งผลต่อผลสมั ฤทธิท์ างการศกึ ษาในรายวชิ าแคลคูลัสพื้นฐาน วิศวกรรม ของนักศึกษาระดับปริญญาตรีช้ันปี่ที่ 1 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแกน่ เนือ่ งจากในปจั จุบนั มนี ักศกึ ษาทม่ี ี ผลการเรียนอยู่ในระดับต่ากว่าเกณฑ์ท่ีก่าหนดจ่านวนมาก โดยการวิจัยในคร้ังมีกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักศึกษาระดับ ปรญิ ญาตรชี ั้นปที ี่ 1 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครศุ าสตร์อุตสาหกรรม จา่ นวน 15 คน ทม่ี ผี ลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนตา่ กวา่ C โดยมเี คร่ืองมอื เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในการเกบ็ ข้อมลู คือ แบบสอบถาม โดยผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถาม ขึ้น จากแนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง ได้แก่องค์ประกอบด้านการเรียนรู้ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านพฤติกรรม ผเู้ รียน ด้านพฤติกรรมผู้สอน ด้านเนื้อหา และด้านสิ่งสนับสนุนการเรียน โดยใช้สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลซ่ึงได้แก่ การหาค่าเฉล่ีย (Mean) และ การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ซ่ึงผลของการศึกษาพบว่า เป็นไปตามสมมติฐานของงานวิจัย คือ ปัจจัยด้านผู้เรียน มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา แสดงใหเห็นวา พฤติกรรมการเรียนเปนตัวแปรที่ส่าคัญยิ่งตอผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดังนั้น ผู้เรียนควรสร้างแรงจูงใจในการเรียน ใหแ้ กต่ นเองให้เพ่ิมมากขึ้น พร้อมกบั การพฒั นารูปแบบเน้ือหารายวิชาให้เพียงพอและเหมาะสมต่อผู้เรียน พร้อมท้ัง สภาพแวดลอ้ มทีเ่ หมาะสมกับการเรียนการสอน ซ่ึงท้ังน้ีต้องอาศัยด้านครูผู้สอนและครอบครัวเพื่อช่วยส่งเสริมและ พฒั นาผเู้ รียนให้มรี ะดบั พฤตกิ รรมและระดบั ทัศนคติต่อรายวิชาแคลคูลสั พื้นฐานวิศวกรรมให้เพ่ิมสงู มากขน้ึ คาสาคัญ : ปจั จัย, ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน, รายวิชาแคลคลู ัส 1คณะครศุ าสตรอ์ ตุ สาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแกน่ * Corresponding E-mail : benzvut@gmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 181 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research aims to study the factors that affect educational achievement in basic engineering calculus course. Of Undergraduates 1st year Computer Engineering. Faculty Rajamangala University of Technology Isan Bachelor At present, there are students. Grade levels below a certain threshold amount. The study in a sample. Undergraduates 1st year computer engineering. Faculty are 15 people with academic achievement, lower C, with tools that are used to store data by questionnaires, the researchers created a questionnaire. From theory and related research. 4 elements of learning, including the behavior of learners. Behavioral teaching content and the supporting classes. The statistics used to analyze the data, including average (Mean) and a standard deviation (Standard Deviation) The results of the study showed that according to the hypothesis of the research is to study the factors. Have an impact on educational achievement. The study shows that behavioral variables are critical to the achievement so. Students should create incentives for students to give himself up. Along with the development model Course provides sufficient and appropriate to learners.The right environment for teaching and learning.Which must rely on teachers and families to help promote and develop the students to a level of behavior and attitudes to basic engineering calculus course to add more. Keywords : Factors, achievement, calculus course บทนา ในปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน คณะครุศาสตร์อุตสสาหกรรม สาขาวิศวกรรม คอมพิวเตอร์ได้มีการจัดการเรียนการสอนวิชาแคลคูลัสพื้นฐานวิศวกรรมและพบว่ามีนักศึกษาท่ีมีผลการเรียนใน รายวิชาดังกล่าวต่ากว่าเกณฑ์ที่ก่าหนดมากกว่า 70% ดังนั้นผู้วิจัยจึงได้ท่าการศึกษาเพื่อหาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยพิจารณาจากองค์ประกอบด้านการเรียนรู้ 4 ด้านได้แก่ ด้านพฤติกรรมผู้เรียน พฤติกรรมด้านผู้สอน ด้านเนื้อหาและด้านสิ่งสนับสนุนการเรียน และน่าผลการวิจัยที่ได้ไปเป็นแนวทางในการ ปรบั ปรุงแกไ้ ขปญั หาและนา่ ไปพฒั นาดา้ นการเรยี นการสอนในรายวิชาแคลคูลัสพ้ืนฐานวิศวกรรมใหเ้ หมาะสมต่อไป วสั ดุ อุปกรณ์ และวธิ กี าร หรอื วิธดี าเนนิ การวจิ ยั เคร่ืองมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลการวิจัยคร้ังนี้ คือ แบบสอบถาม โดยผู้วิจัยได้สร้างแบบสอบถาม ขึ้นจากแนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับองค์ประกอบด้านการเรียนรู้ ด้านพฤติกรรมผู้เรียน พฤติกรรมด้านผู้สอน ด้านเน้ือหาและด้านส่ิงสนับสนุนการเรียน รวม 4 ด้าน โดยมีกลุ่มตัวอย่างการวิจัยคร้ังนี้ คือ นักศึกษาระดับปริญญาตรี ช้ันปีท่ี 1 สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม ที่ลงทะเบียนเรียน วิชาแคลคูลัสพื้นฐานวิศวกรรม ท่ีมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่ากว่า C จ่านวน 15 คน โดยใช้สถิติในการหาค่าเฉล่ีย (Mean) และการหาคา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้แบบประเมนิ มาตราสว่ นประมาณคา่---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 182 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018=====================================================================================================(Rating scale) ตามวธิ ีของลิเคิร์ท (Likert) แล้วน่าไปเปรียบเทียบกับเกณฑ์ท่ีต้ังไว้แบ่งออกเป็น 5 ช่วง (บุญชม ศรีสะอาด, 2543) ดงั นี้ชว่ งคะแนน 4.51-5.00 หมายถงึ พฤตกิ รรมในระดับดที ี่สุด/เหน็ ด้วยมากที่สดุชว่ งคะแนน 3.51-4.50 หมายถึง พฤติกรรมในระดบั ด/ี เหน็ ด้วยมากช่วงคะแนน 2.51-3.50 หมายถงึ พฤติกรรมในระดับพอใช้/เหน็ ดว้ ยปานกลางชว่ งคะแนน 1.51-2.50 หมายถงึ พฤตกิ รรมในระดบั ควรปรปั รุง/เหน็ ด้วยน้อยชว่ งคะแนน 1.00-1.50 หมายถึง พฤติกรรมในระดับไมผ่ ่านเกณฑ/์ ไม่เห็นด้วย(ก) แบบสอบถามหนา้ 1 (ข) แบบสอบถามหนา้ 2 รูปที่ 1 แสดงหน้าแบบสอบถามตารางที่ 1 ตัวอย่างการใชต้ ารางประกอบการอธบิ าย ค่าเฉล่ยี SD การแปลผล องค์ประกอบด้านการเรยี นรู้ 1.84 0.70 ควรปรบั ปรุงพฤติกรรมดา้ นผเู้ รยี น 4.24 0.49 ดีพฤตกิ รรมดา้ นผสู้ อน 3.64 0.63 ดีคววามคิดเหน็ ดา้ นเนือ้ หา 4.04 0.57 ดีความคิดเหน็ ด้านสง่ิ สนบั สนนุ การเรียนผลการวจิ ัย จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า ปัจจัยด้านผู้เรียน มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในรายวิชาแคลคูลัสพนื้ ฐานวศิ วกรรมของนกั ศกึ ษาสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครศุ าตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น มากที่สุด โดยมีค่า (M=1.84, SD = 0.70) ถูกจัดอยู่ในระดับควรปรับปรุง ด้านเนอ้ื หา จัดอยู่ในระดับดี (M=3.64, SD = 0.73) ด้านส่ิงสนับสนุนการสอน จัดอยู่ในระดับดี (M=4.04, SD = 0.57)และด้านผสู้ อน อยู่ในระดบั ดี (M=4.24, SD = 0.49) ตามล่าดบัการอภปิ รายผล ผลของการศึกษาพบว่าเป็นไปตามสมมติฐานของงานวิจัย คือ ปัจจัยด้านผู้เรียน ส่งผลต่อ ผลสัม ฤทธิ์ทางการศกึ ษาในรายวชิ าแคลคลู ัสพื้นฐานวิศวกรรม แสดงใหเห็นวาพฤติกรรมการเรียนเปนตัวแปรท่ีส่าคัญย่ิงตอผล---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 183 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== สัมฤทธ์ิทางการเรียนดังน้ัน ผู้เรียนควรสร้างแรงจูงใจในการเรียนให้แก่ตนเองให้เพ่ิมมากข้ึน พร้อมกับการพัฒนา รปู แบบเนือ้ หารายวชิ าให้เพยี งพอและเหมาะสมตอ่ ผู้เรียน พรอ้ มท้ังสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการเรียนการสอน ซ่ึงทั้งนี้ต้องอาศัยด้านครูผู้สอนและครอบครัวเพ่ือช่วยส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีระดับพฤติกรรมและระดับ ทัศนคติตอ่ รายวชิ าแคลคูลสั พ้นื ฐานวิศวกรรมใหเ้ พิ่มสงู มากขนึ้ บทสรปุ จากการศึกษาพบว่า ปัจจัยท่ีมีผลกระมบด้านการเรียนของนักศึกษาสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะครุ ศาสตรอ์ ตุ สาหกรรมมากทสี่ ุดและดา้ นเน้อื หา ด้านสง่ิ สนบั สนนุ การเรียนและด้านผู้สอนท่ีมีผลกระทบต่อผู้เรียนน้อย ที่สุด แต่อย่างไรก็ตามผลการอภิปรายนี้เป็นเพียงสมมติฐานเบื้องต้นท่ีได้จากการสัมภาษณ์นักศึกษากลุ่มตัวอย่าง เท่าน้ัน รวมถึงการกล่าวถึงมาตรฐานการจัดการเรียนการสอนระดับและการวิเคราะห์พฤติกรรมการเรียนของ นักศกึ ษา ผวู้ จิ ัยจา่ เป็นต้องรวบรวมขอ้ มลู เชิงคณุ ภาพเพิ่มเตมิ ในอนาคตสรุปประเดน็ และสาระสา่ คัญของการวิจยั บรรณานกุ รม พิชติ ฤทธ์จิ รูญ. (2548 :31) พฤติกรรมทางศกึ ษา และความสัมพันธร์ ะหวา่ งพฤตกิ รรมทางการศึกษากบั การประเมนิ เบนจามิน บลมู และคณะ (Bloom et al, 1956) ทฤษฎกี ารเรียนรู้ พิชิต ฤทธ์จิ รูญ. (2548 :37) การสร้างลักษณะนสิ ยั นภิ า เมธธาวชี ัย. (2536). การประเมนิ ผลการเรยี น. พิมพ์ครงั้ ที่ 2. กรงุ เทพฯ : สาถบนั ราชภฏั ธนบรุ ี บญุ ชม ศรีสะอาด. (2537). การพฒั นาการสอน. พมิ พ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ชมรมเดก็ สจุ ิรา สายนาค. 2556. การหาประสทิ ธภิ าพในการจัดการเรยี นการสอนโดยใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ รปู แบบ MIAP. (ออนไลน์). แหลง่ ทมี่ า ทม่ี า: ส่านกั งานเลขาธิการครุ สุ ภา, แบบแผนพฤติกรรมตาม จรรยาบรรณครู พ.ศ. 2539. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ครุ ุสภาลาดพร้าว: http://www.nkatc.svec.go.th/web/pictures/news/scannk002.pdf. 1 พฤศจิกายน 2558 , ฉลอง สวสั ดี และ ณรงค์ศักดิ์ โยธา.(2553).การศกึ ษาปัจจัยทีส่ ่งตอ่ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นวชิ าแคลคูลัส1 ส่าหรบั วิศวกรของนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลอสี าน.รายงานการวิจยั ฉบับสมบูรณ.์ โกมล ไพศาล.(2549). ปัจจยั เชิงสาเหตทุ ่ีมอี ิทธพิ ลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนกั ศกึ ษาระดับปรญิ ญาตรี โปรแกรมวิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั กลมุ่ รัตนโกสนิ ทร์.รายงานการ วิจยั ฉบับสมบรู ณ.์ มหาวิทยาลยั ราชภฎั สวนสุนนั ทา. เพียงพบ มนต์นวลปรางค์.(2546).การศึกษาปัจจยั ทส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ การเรยี นคณติ ศาสตรข์ องนักศกึ ษาสถาบนั ราช ภฏั เพชรบรุ วี ิทยาลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์. รายงานการวจิ ัยฉับบสมั บรณู .์ สถาบันราชภฏั เพชรบรุ ี วิทยาลงกรณใ์ นพระบรมราชปู ถัมภ.์---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 184 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== แก้ปัญหานักศึกษาท่ีไม่ผ่านเกณฑ์เรื่องการปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย ในรายวิชาการ ใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป โดยใช้ส่ือวิดีโอ YouTube บทเว็บไซต์ ของ นกั ศกึ ษาประกาศนียบตั รวชิ าชพี ช้ันสงู ปที ่ี 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียน ที่ 2 ปีการศึกษา 2560 วทิ ยาลยั เทคนคิ ศรีสะเกษ Resolve student problems that do not meet the criteria for multimedia slides. In the course of computer and software applications. By using video media, YouTube, the website of the 1st Diploma of Information Technology students, 2nd semester of academic year 2560, Sisaket Technical College ศกณุ ตลา ศรบี ุญเรือง1* และจักรกฤษณ์ ศรที อง2 บทคัดยอ่ การวิจัยคร้ังนี้มีจุดประสงค์เพ่ือแก้ปัญหานักศึกษาท่ีไม่ผ่านเกณฑ์เรื่องการปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย ใน รายวิชาการใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป โดยใช้ส่ือวิดีโอ YouTube บทเว็บไซต์ ของนักศึกษา ประกาศนยี บัตรวิชาชีพชั้นสูง ปีท่ี 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 กลุ่มตัวอย่าง ของการวิจัยคือ นักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปีท่ี 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปี การศกึ ษา 2560 วิทยาลยั เทคนิคศรีสะเกษ จานวนท้งั สิ้น 11 คน ไดม้ าโดยสุม่ แบบเจาะจง เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) สื่อวิดีโอ YouTube บนเว็บไซต์ เร่ืองการแทรกเสียงประกอบสไลด์ การแทรกไฟล์วิดีโอและการ แทรกเอฟเฟค็ ต์ให้กับงานนาเสนอที่เกี่ยวกับการปรบั แต่งสไลดด์ ้วยมัลติมีเดีย 2) แบบทดสอบเร่อื งการปรบั แตง่ สไลด์ ดว้ ยมัลติมีเดีย จานวน 8 ข้อ 3) เกณฑก์ ารวดั ผลสมั ฤทธ์ิ คะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยการเปรียบเทียบคะแนนความ แตกต่างระหว่างกอ่ นเรยี นและหลงั เรียนพบว่า ผลการทดสอบก่อนเรียนของนักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ต่า กว่าเกณฑ์ ส่วนหลังเรียนพบว่า ผลการทดสอบหลังจากศึกษาสื่อวิดีโอ YouTube บนเว็บไซต์ ได้ผลระดับคะแนน ผ่านเกณฑท์ ง้ั หมด 11 คนคดิ เปน็ ร้อยละ 100 จะเห็นได้ว่านักศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนผ่านเกณฑ์และสูงขึ้น กว่าก่อนศกึ ษาจากสอื่ วดิ โี อ YouTube บทเวบ็ ไซต์ ซึ่งเปน็ ไปตามสมมติฐานท่ตี ัง้ ไว้ คาสาคัญ : การแก้ไขปญั หาผลการเรยี นต่า,ผลการเรียนตา่ ,การแก้ไขปัญหาผลการเรยี นทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ์ 1คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน วิทยาเขตขอนแก่น * Corresponding E-mail : saguntala9999@hotmail.com---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 185 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== Abstract This research aims to solve the problem of students who do not pass the criterion of multimedia slides. In the course of computer and software applications. Using the YouTube video medium, the web page of the first year Diploma students in Information Technology, 2nd semester, academic year 2017. The sample of the research was: Year 1 Diploma in Information Technology Semester 2 Academic Year 2560 Sisaket Technical College A total of 11 individuals were randomly selected. Research tools include: 1) YouTube video media on slideshows Inserting video files and inserting effects into multimedia slideshows 2) Multimedia slideshows 8) 3) Grading criteria 10 points By comparison, the difference between pre and post-study scores was The results of the pre-test were lower than the post-test. The results of the study after the video media YouTube on the site has reached the threshold of 11 criteria, which is 100 percent. The achievement of the study was higher and higher than that of the previous study. The video content was based on the assumptions. Keywords : Low-grade, low-grade, problem-solving , บทนา วิชาการใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป เป็นวิชาหนึ่งในสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ี มุ่งเน้นให้นักศึกษามีทักษะและความสามารถใช้โปรแกรมระบบปฏิบัติการและโปรแกรมสาเร็จรูป ในการเรียน วิชาการใช้งานคอมพวิ เตอรแ์ ละโปรแกรมสาเรจ็ รปู ได้จดั ใหน้ ักศกึ ษาทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี นและหลงั เรยี น แต่จาก การท่ีผู้วิจัยได้ศึกษาและสังเกตจากการเข้าสอนในรายวิชาดังกล่าว พบว่ามีนักศึกษาบางส่วนไม่สามารถทา แบบทดสอบได้ตามท่คี รูกาหนด ในเรื่องการปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดียในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 โดยมี จานวนนักศึกษา 11 คน ที่ทาคะแนนแบบทดสอบไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กาหนด คือ ร้อยละ 60 ซ่ึงเร่ืองการปรับแต่ง สไลด์ด้วยมัลติมีเดีย มีความสาคัญมากในรายวิชานี้ หากนักศึกษาขาดความรู้ความเข้าใจและขาดทักษะในการ ประยุกต์ใช้การสรา้ งสรรคส์ อื่ มลั ตมิ เี ดยี ในการนาเสนองานจะทาใหผ้ ลงานของนักศึกษาขาดความน่าสนใจและทาให้ ไมส่ ามารถนาไปพฒั นาตอ่ ยอดองคค์ วามรใู้ นการเรียนอนั ส่งผลตอ่ การพฒั นาตวั ของนกั ศกึ ษาและสง่ ผลต่อผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนได้รวมทง้ั การปฏบิ ตั งิ านต่าง ๆ ภายในอนาคต ผู้วิจัยจึงได้สารวจหาสาเหตุ พบว่ามีนักศึกษาบางส่วนไม่สามารถทาแบบทดสอบได้ สาเหตุเกิดจาก นกั ศกึ ษาไม่รจู้ กั คาส่ังต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft PowerPoint ว่าใช้งานยังไง เช่น การแทรกวิดีโอ การแทรก เสียงประกอบสไลด์ การแทรกเอฟเฟ็คต์ให้กับงานนาเสนอ การปรับรูปแบบสไลด์การนาเสนอ และการทา ภาพเคลอื่ นไหวเปน็ ต้น ดังน้ันเพ่ือให้นักศึกษาสามารถใช้งานโปรแกรม Microsoft PowerPoint ในเร่ืองการปรับแต่งสไลด์ด้วย มัลตมิ เี ดียได้ ผ้วู จิ ัยจงึ ไดม้ อบหมายให้นกั ศกึ ษาทั้ง 11 คน ไปศกึ ษาจากสือ่ วิดโี อ YouTube บนเวบ็ ไซต์ ทผี่ วู้ ิจัยได้ จัดเตรียมไว้ให้กับนักศึกษา จากนั้นให้นักศึกษาท้ัง 11 คน มาทาแบบทดสอบใหม่อีกคร้ังเพื่อตรวจสอบผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนของผู้เรยี น วธิ ีดาเนนิ การวิจยั 1. เคร่อื งมอื ในการวิจัย---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 186 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== 1. ส่ือวิดีโอ YouTube บนเว็บไซต์ เร่ืองการแทรกเสียงประกอบสไลด์ การแทรกไฟล์วิดีโอและการแทรกเอฟ เฟค็ ต์ใหก้ ับงานนาเสนอท่ีเกี่ยวกับการปรับแตง่ สไลดด์ ้วยมัลติมีเดีย 2. แบบทดสอบ เรือ่ งการปรับแตง่ สไลดด์ ้วยมัลตมิ ีเดีย จานวน 8 ข้อ 3. เกณฑ์การวดั ผลสมั ฤทธิ์ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 2. การสรา้ งและพฒั นาเครือ่ งมอื ท่ีใชใ้ นการวิจัย 1 สื่อวิดีโอในการสอน เรื่อง การปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดียในโปรแกรม Microsoft PowerPoint มี ขัน้ ตอนดาเนนิ การดงั นี้ 1.1 ศึกษาหลักสูตรรายวิชาการใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรม รหัสวิชา 3900-0001 เร่ือง การ ปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint โดยกาหนดขอบเขตเนื้อหาที่ศึกษา คือ การแทรก เสียงประกอบสไลด์ การแทรกไฟล์วดิ ีโอการแทรกเอฟเฟ็กตใ์ หก้ ับงานนาเสนอ การนาเสนองาน 1.2 ศกึ ษาค้นควา้ รวบรวมเนอ้ื หา โดยศกึ ษาจากหนังสอื เรยี นและสอบถามผ้เู ช่ยี วชาญ 1.3 กาหนดโครงเรื่องของเนอื้ หา เรยี งลาดับความสาคัญของเนื้อหา 1.4 ศึกษาเก่ยี วกับสอ่ื วิดโี อในการสอน 1.5 นาส่ือวิดีโอในการสอน เรื่อง การปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint ไปใชก้ บั ประชากรกล่มุ ตัวอย่าง 2 การสร้างแบบทดสอบ 2.1 วเิ คราะหเ์ น้ือหา เรอ่ื งการปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลตมิ ีเดยี ในโปรแกรม Microsoft PowerPoint 2.2 สร้างแบบทดสอบในการวัดผลสัมฤทธ์ิ จานวน 11 ชุด ที่ครอบคลุมเน้ือหาและจุดประสงค์เชิง พฤตกิ รรม 2.3 นาแบบทดสอบไปใช้กับประชากรกลุ่มตวั อย่าง ผลการวจิ ยั จากการทาแบบทดสอบเพ่ือวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน เรื่องการแก้ปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ากว่า เกณฑใ์ นรายวชิ าการใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป หัวข้อเรื่องการปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย โดยใช้สื่อ วดิ โี อ YouTube บทเว็บไซต์ ของนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ปีท่ี 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาค เรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2560 จานวน 8 ข้อ 10 คะแนน ไดผ้ ลการเปรยี บเทียบคะแนนกอ่ นเรยี นและหลังเรียน ผลการทดสอบก่อนเรียน วชิ าการใช้งานโปรแกรมคอมพิวเตอรแ์ ละโปรแกรมสาเรจ็ รูป เรอื่ ง การแก้ปญั หา ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่ากว่าเกณฑ์ในรายวิชาการใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป หัวข้อเรื่องการ ปรบั แต่งสไลด์ดว้ ยมลั ตมิ ีเดีย โดยใช้สื่อวิดีโอ YouTube บทเว็บไซต์ ของนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง ปีที่ 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 ซึ่งจะเห็นได้ว่านักศึกษามีผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน ต่ากว่าเกณฑ์ ผลการทดสอบหลงั จากศกึ ษาส่ือวิดีโอ YouTube บนเว็บไซต์ เรื่องการปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย ของ นักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปีที่ 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2560 ได้ผลระดับคะแนนผ่านเกณฑ์ท้ังหมด 11 คนคิดเป็นร้อยละ 100 ซ่ึงจะเห็นได้ว่านักศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สงู ขึน้ กว่าก่อนศกึ ษาจากสอ่ื วิดีโอ YouTube บทเวบ็ ไซต์---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 187 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== การอภปิ รายผล ผลการทดสอบกอ่ นเรียน วิชาการใชง้ านโปรแกรมคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเรจ็ รูป เรอ่ื ง การแกป้ ญั หา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนต่ากว่าเกณฑ์ในรายวิชาการใช้งานคอมพิวเตอร์และโปรแกรมสาเร็จรูป หัวข้อเร่ืองการ ปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย โดยใช้สื่อวิดีโอ YouTube บทเว็บไซต์ ของนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปีที่ 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ซ่ึงจะเห็นได้ว่านักศึกษามีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรยี น ตา่ กวา่ เกณฑ์ ผลการทดสอบหลังจากนักศึกษาได้ศึกษาหัวข้อเรื่องการปรับแต่งสไลด์ด้วยมัลติมีเดีย โดยใช้สื่อวิดีโอ YouTube บนเว็บไซต์ในการสอน ของนักศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ปีที่ 1 สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ได้ผลระดับคะแนนผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 11 คนคิดเป็นร้อยละ 100 ซึ่งจะเห็นได้ว่า นักศึกษา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผ่านเกณฑ์และสูงขึ้นกว่าก่อนศึกษาจากสื่อวิดีโอ YouTube บทเว็บไซต์ ซึ่งเป็นไป ตามสมมตฐิ านท่ีตง้ั ไว้ กติ ตกิ รรมประกาศ วิจัยฉบับน้ีได้รับการช่วยเหลืออย่างดีย่ิงจาก อาจารย์จักรกฤษณ์ ศรีทอง อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัย ซึ่ง กรุณาให้คาแนะนาและถ่ายทอดความรู้ ตลอดจนควบคุมการทาวิจัยจนประสบความสาเร็จ ผู้ทาวิจัยขอกราบ ขอบพระคณุ เปน็ อย่างสงู ไว้ ณ โอกาส น้ี ขอกราบขอบพระคุณ ผศ.ดร.จารุวรรณ ทูลธรรม ที่กรุณาถ่ายทอดความรู้ ตลอดระยะเวลาใน การศึกษา รวมท้ังบุคคลที่ปรากฏตามรายการอ้างอิงท่ีผู้ทาวิจัยใช้อ้างอิงขอขอบพระคุณ อาจารย์นที จันทร์เทียม ทค่ี ่อยใหค้ าปรึกษาทางด้านขอ้ มลู และขอขอบคุณอาจารยแ์ ละเจ้าหน้าที่ทุกคนของสาขาวิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ศนู ย์กลางสถาศึกษาเทคนคิ ศรสี ะเกษที่ได้ใหค้ วามสะดวกต่างๆ ตลอดเวลาการทาวิจัย ประโยชนแ์ ละคณุ คา่ อนั พึงมจี ากวิจัยฉบับนี้ ผู้ทาวิจัยขอมอบเป็นกตัญญุตาบูชาแด่ บิดามารดา ครู อาจารยต์ ลอดจนผูม้ ีพระคุณทุกทา่ น บรรณานกุ รม กษุ ชา มูฮาหมดั และคณะ. 2559. การแทรกเสยี งแทรกวิดโี อ การแทรกเอฟเฟ็กต์ใหก้ ับงานนาเสนอ (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก URL: https://sites.google.com/site/powerpointknice/home (28 ธันวาคม 2560). ธรินี มณีศรี, 2555. “การพัฒนาสอื่ การสอนคอมพวิ เตอร์ช่วยสอนในรายวิชา IEG320 ความนา่ จะ เปน็ และสถิตสิ าหรบั วิศวกร”. มหาวทิ ยาลัยศรีปทุม. นันทนา สาเภา. 2559. ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน (ออนไลน)์ . เข้าถงึ ได้จาก URL: http://www.nana- bio.com/Research/image%20research/research%20work/Achievement/ Achievement01.html. (17 ธนั วาคม 2560). ประเสริฐ ลิ้นฤาษ,ี 2557. “การเปรยี บเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนโดยใช้สอื่ วดิ ีโอช่วยสอน เรื่อง การเขยี นภาพไอโซเมตริกเบอ้ื งตน้ สาหรับนักศึกษาสาขางานยานยนต”์ . วทิ ยาลยั เทคโนโลยีโปลเิ ทคนิคลานนา เชยี งใหม่. ย่งิ ยง บญุ ยง่ิ , 2557. “การเปรยี บเทยี บผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี นโดยใชส้ ่อื วีดีโอชว่ ยสอนเร่ือง การ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 188 RMUTI EDUCON 2018

Proceeding RMUTI Education Research Conference 2018===================================================================================================== ออมเงนิ วชิ าการเงินสว่ นบุคคล สาขาบญั ชีประกาศนยี บัตรวิชาชีพ ปีที่ 1 วิทยาลยั เทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนาเชยี งใหม่”. วิทยาลยั เทคโนโลยีโปลิเทคนิคลานนา เชยี งใหม่. สนั ติธาตแุ ละคณะ. 2552. แบบฝึกทักษะ (ออนไลน์). เข้าถงึ ได้จาก URL: http://oknation. nationtv.tv/blog/jib/2017/06/04/entry-1. (17 ธนั วาคม 2560). สทุ ติ า สนเส็ม. 2559. โปรเเกรม PowerPoint (ออนไลน์). เข้าถึงไดจ้ าก URL: http://sutita24. blogspot.com/2016/11/blog-post_27.html. (20 ธนั วาคม 2560). Piyadanai Wikein. 2559. สอ่ื วดี ทิ ศั น์ (ออนไลน์). เข้าถงึ ไดจ้ าก URL: https://krupiyadanai. wordpress.com. (22 ธันวาคม 2560).---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 189 RMUTI EDUCON 2018


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook